Bad Guy m y B o s s ✦ เจ้านาย ร้ายรัก ✦ CH27 [16|01|62] P13
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด

สนใจโฆษณาติดต่อ laopedcenter[at]hotmail.com คลิ๊กรายละเอียดที่ตำแหน่งว่างเลยครับ

สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด

ผู้เขียน หัวข้อ: Bad Guy m y B o s s ✦ เจ้านาย ร้ายรัก ✦ CH27 [16|01|62] P13  (อ่าน 75299 ครั้ง)

ออฟไลน์ puiiz

  • เป็ดEros
  • *
  • กระทู้: 3378
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +135/-4

ออฟไลน์ cavalli

  • เป็ดArtemis
  • *
  • กระทู้: 5358
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +195/-19
 :katai2-1:


สงสารใครดี

ออฟไลน์ 30267

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 37
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +1/-0
อื้อหืออ ธุรกิจจะโดนโกงไหมนี่ / ง้ออีกๆๆๆๆ

ออฟไลน์ DrSlump

  • เป็ดEros
  • *
  • กระทู้: 3360
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +104/-2

ออฟไลน์ masochism2018

  • เป็ดมหาวิทยาลัย
  • *
  • กระทู้: 428
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +59/-1
 ไม่ร้องน้าบอสสส ช่วงรับกรรม อดทนไปจ้า  :katai3:

ออฟไลน์ areenart1984

  • เป็ดArtemis
  • *
  • กระทู้: 4805
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +167/-7
เลขาคนใหม่เป็นสายให้ใครนะ อยากรู้ อยากรู้  :hao3:

ออฟไลน์ ammchun

  • Don't Worry,Be Happy
  • เป็ดHephaestus
  • *
  • กระทู้: 1389
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +54/-4
ุสนุกค่าาาา

ออฟไลน์ Leenboy

  • เป็ดEros
  • *
  • กระทู้: 3095
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +105/-2
สมน้ำหน้าเอรีสจร้า หมาหัวเน่าเต็มตัวแล้ว

ออฟไลน์ yowyow

  • เป็ดAphrodite
  • *
  • กระทู้: 4188
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +139/-7

ออฟไลน์ manami_01

  • เป็ดHera
  • *
  • กระทู้: 980
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +72/-1
อืมมมมมมม

ถ้าเอรีสชัดเจนกว่าเลิกเจ้าชู้แล้วหันมาจีบปัตถ์อย่างจริงจังตั้งแต่ที่รู้ตัวแรก ๆ ปัตถ์อาจจะไมาหนีไปแบบนร้

แล้วแบบนี้จะไปปัตถ์ที่นู้นหรือเปล่า แล้วผู้ช่วยคนใหม่นี่ยังไงแอบชอบบอสเหรอเล่นหูเล่นตาซะขนาดนี้น่ะ

CoMMuNiTY Of ThAiBoYsLoVE

ประกาศที่สำคัญ


ตั้งบอร์ดเรื่องสั้น ขึ้นมาใครจะโพสเรื่องสั้นให้มาโพสที่บอร์ดนี้ ถ้าเรื่องไหนไม่จบนานเกิน 3 เดือน จะทำการลบทิ้งทันที
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=2160.msg2894432#msg2894432



รวบรวมปรับปรุงกฏของเล้าและการลงนิยาย กรุณาเข้ามาอ่านก่อนลงนิยายนะครับ
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=459.0



สิ่งที่ "นักเขียน" ควรตรวจสอบเมื่อรวมเล่มกับสำนักพิมพ์
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=37631.0






ออฟไลน์ TachibanaRain

  • มาโกโตะเทนชิ
  • เป็ดHermes
  • *
  • กระทู้: 2402
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +76/-3
อิตาบอสง้ออยู่ดีๆไม่ใช่ไปเจอกันที่กระบี่เห็นอะไรบาดใจแล้วทำระเบิดลงอีกนะ

ว่าแล้วว่าฐิติต้องไม่มาดีแน่ๆ

ออฟไลน์ mild-dy

  • ☆ ทาสแมว ☆
  • เป็ดHades
  • *
  • กระทู้: 8893
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +389/-80

ออฟไลน์ joborcusier

  • เป็ดมัธยม
  • *
  • กระทู้: 194
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +0/-0
ปัตย์สู้ๆ ไปเริ่มต้นชีวิตใหม่555

ออฟไลน์ mystery Y

  • เป็ดApollo
  • *
  • กระทู้: 7677
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +585/-12
รอตอนต่อไป~

ออฟไลน์ anin

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 50
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +33/-2
Chapter 12

   78 missed call

    ปัถย์นั่งมองหน้าจอโทรศัพท์ที่แจ้งเตือนข้อความและสายที่ไม่ได้รับอยู่นานนับชั่วโมง ตั้งแต่ลงจากเครื่องแล้วเปิดโทรศัพท์อีกครั้ง เอรีสก็เพียรโทรหาเขาไม่หยุดหย่อน ก็หลายครั้งที่เกือบใจอ่อนจะกดรับ แต่ความยั้งคิดสั่งห้ามเขาเอาไว้ในเสี้ยววินาทีสุดท้าย

   ภายใต้สีหน้าอันเรียบสงบ ดูใจเย็น ได้ซุกซ่อนอารมณ์หลากหลายเอาไว้ แม้ข้อความเหล่านั้นจะไม่ได้ถูกเปิดอ่านโดยตรง แต่ทุกตัวอักษรก็ผ่านสายตาจากการแจ้งเตือนที่หน้าจอไม่มีตกหล่นแม้พยางค์เดียว

   ยิ่งอ่าน...ความรู้สึกหลากหลายประเดประดังเข้ามา

   ทั้งสิ้นหวัง คิดถึง และเป็นห่วง ตีกันจนยุ่งหยิงไปหมด

   ปัถย์ต้องทำในสิ่งที่ขัดกับใจตัวเองอย่างที่สุด นี่เขาใจร้ายกับตัวเองเกินไปหรือเปล่านะ   
   

   ‘ปัถย์... อย่าทำแบบนี้ เรายังคุยกันไม่รู้เรื่อง’
   ‘ฉันบอกว่าไม่ให้นายออกไง!!!’

   ขณะที่ปัถย์อ่านข้อความนี้จบ ใบหน้าหล่อคมเข้มผุดขึ้นมาในห้วงความทรงจำอันแสนแจ่มชัดอีกครั้ง

   เดาได้ว่าฝ่ายโน้นคงกำลังหงุดหงิดอยู่เป็นแน่ ถ้าเปลี่ยนข้อความมาเป็นคำพูดคงกำลังหน้าบูดและคำรามเสียงใส่ไปพร้อมกัน คิดไปก็เผลอยิ้ม แต่ใจลึกๆ กลับยิ้มไม่ออกมันทั้งเจ็บและจุกในอกเมื่อรู้ว่าไม่อาจไปยืนเคียงข้างเอรีสได้อีกแล้ว

   ภายในห้องพักของโรงแรมระดับกลางมีเพียงเสียงคลื่นดังผ่านมาแบบไกลๆ ประตูริมระเบียงเปิดไว้เพื่อรับลมทะเล และเจ้าตัวก็ถือโอกาสนั่งปักหลักที่เก้าอี้สนามริมระเบียง สายตาแฝงแววเศร้าเหม่อมองท้องฟ้าที่ไร้ดาวมีเพียงดวงจันทร์เกือบเต็มดวง

   ‘ปัถย์ นายอยู่ไหน’
   ‘อยากคุยด้วย รับสายที’
   ‘ได้โปรด...talk to me’

   มือที่ถือโทรศัพท์อยู่สั่นเทา ส่วนมืออีกข้างลูบหัวเข่าตัวเองไปมาด้วยอาการกระวนกระวาย

   ‘ถ้ายังไม่ยากคุยกัน ก็ตอบข้อความหน่อย’
   ‘คนดี... ฉันขอโทษ ขอร้องล่ะ คุยกันหน่อย’
   ‘ไม่อยากทำงานด้วยกันก็ได้ จะไม่บังคับ แต่ขอเถอะ อย่างเงียบไปแบบนี้ อย่าหายไป I can’t bear to be apart from you.’
   ‘You can’t deny what’s between us.’
   ‘You mean so much to me.’
   ‘Come back to me’
   
   ‘ฉันกำลังจะเป็นบ้าเพราะนาย ขอล่ะ... คุยกันเถอะ อย่าหายไปแบบนี้ บอกสิว่าฉันต้องทำยังไง?’

   ปัถย์อ่านข้อความนี้ในเวลาที่ล่วงเลยมาเกือบๆ จะตีหนึ่ง เอรีสก็ยังรัวพิมพ์ข้อความมาหาอย่างทรหดอดทน ถึงขนาดที่โทรศัพท์เจ้ากรรมทำท่าจะแฮงค์เพราะข้อความที่อเลิตเตือนไม่หยุด

   ปัถย์มองโทรศัพท์ในมือด้วยความลังเล...

   จังหวะเดียวกันนั้นเอรีสก็โทรเข้าอีกครั้ง ดวงตาที่ไร้กรอบแว่นสั่นระริกไม่ต่างไปจากฝ่ามือเลย ใจที่ว่าแข็งก็ดูจะอ่อนยวบยาบลงอีกหลายระดับ  ชายหนุ่มถอนใจแรงๆ ขยี้ผมขยี้หน้าหลายรอบเพื่อเรียกกำลังใจให้เข้มแข็ง

   สายเรียกเข้าถูกตัดไปอีกครั้ง ก่อนที่จะโทรซ้ำกลับเข้ามาใหม่ครั้งแล้วครั้งเล่า

   เมื่อปล่อยให้มันดังกว่าสิบครั้ง ...ปัถย์จึงรับสาย

   “นอนเถอะครับ ดึกแล้ว”

   ปัถย์พูดออกไปดื้อๆ โดยไร้ซึ่งการทักทาย เสียงที่ส่งออกไปก็ดูเย็นเฉียบไร้อารมณ์หวังจะให้คนปลายสายรู้ตัวว่าตอนนี้มันดึกเกินกว่าจะคุยกันแล้ว

   “อยู่ไหน” น้ำเสียงนั้นฟังดูกระตือรือร้น มีแววยินดีจนปัถย์รู้สึกได้

   “…ตีหนึ่งกว่าแล้ว ไปนอนนะครับ” พูดจบปัถย์ก็ทำท่าจะวางสาย

   “อย่าเพิ่งวางนะ ขอร้อง” อีกฝ่ายก็เหมือนจะรู้ใจ รีบร้องบอกเสียงพร่า “ตอบมาก่อนว่านายอยู่ไหน? ทำไมไม่กลับบ้าน อยู่กับใคร” คำถามพรั่งพรูยาวเหยียด แต่น้ำเสียงไร้วี่แววดุดันมีแต่ความเป็นห่วงกลับมาจนอีกฝ่ายรับรู้ได้

   “อยู่ต่างจังหวัดครับ มาหาเพื่อน”

   ปัถย์ยอมตอบตรงๆ ถ้าน้ำเสียงของเอรีสบ่งบอกถึงการคุกคามคาดคั้น ปัถย์ก็คงจะกดวางไปแล้ว แต่นี่เป็นความรู้สึกแบบว่าอยากรู้ผสมความห่วง ปัถย์เลยได้แต่ถอนใจ

   “กลับเมื่อไร”

   “ยังไม่แน่ใจครับ” ปัถย์ตอบส่งๆ

   “จะไปหาเดี๋ยวนี้เลย บอกมาว่าอยู่ที่ไหน”

   “อย่าเลยครับ... ผมมาหาเพื่อน สักพักก็กลับแล้ว” น้ำเสียงที่บอกว่าเอาจริงจนปัถย์รีบค้านเร็วๆ

   “สักพักนี่คือเมื่อไร?”

   “…”

   นอกจากไม่ตอบ ปัถย์ยังพ่นลมหายใจให้อีกฝ่าย เป็นเชิงบอกให้รู้ว่าเขาไม่อยากจะตอบคำถามนี้

   “งั้นก็บอกมาว่าอยู่ไหน แล้วทำไมไม่รับสาย ติดต่อไม่ได้แบบนี้เป็นห่วงรู้ไหม” น้ำเสียงเอรีสเริ่มอ่อนลง ยังนึกหวั่นๆ ว่าอีกฝั่งจะวางสายแล้วทำตัวหนีหายเข้ากลีบเมฆไปอีก ทีนี้เขาคงลงไปนอนดิ้นตายให้จริง “ข้อความก็ไม่ตอบ ฉันจะเป็นบ้าอยู่แล้ว”
 
   “คุณดื่มหรือครับ” ปัถย์รับรู้ความผิดปกติแม้เพียงน้อยนิดของเรีสได้

   “นิดหน่อย”

   “ดื่มข้างนอกหรือครับ?”

   “เปล่า อยู่บ้าน”

   พอได้ยินแบบนั้นปัถย์ก็รู้สึกสบายใจขึ้นมาหน่อย ยังไงก็เป็นห่วงกลัวอีกฝ่ายขับรถตอนสติไม่ครบถ้วน เกิดอุบัติเหตุมาอะไรๆ มันจะยุ่งไปกีนใหญ่

   “คุณควรไปพักผ่อน มีประชุมเช้านี่ครับ”

   ปัถย์เปลี่ยนจงใจเรื่องพูด ด้วยความเป็นคนความจำดีและรู้ตารางนัดของอีกฝ่าย ซึ่งปัถย์จำได้เลาๆ ว่าเอรีสมีประชุมตอนเช้าในช่วงต้นสัปดาห์ แล้วก็จำได้อีกว่าปลายสัปดาห์เอรีสมีมาประชุมที่กระบี่นี่... เขาเลยเลือกที่จะไม่บอกว่าตนอยู่ที่ไหน

   “…”

   ข้างเอรีสเงียบไปบ้าง อะไรต่างๆ ทั้งคำพูด ความรู้สึกต่างมันตีตื้นขึ้นมาเสียจนไม่รู้ว่าต้องพูดอะไรออกไปก่อน จะขอให้ปัถย์กลับมา ขอให้ปัถย์ให้โอกาส หรือบอกความรู้สึกส่วนลึกที่มี ก็ล้วนเปล่งออกไปเป็นคำไม่ได้ เหมือนกับว่าปากมันหนักลิ้นมันแข็งไปเสียงอย่างนั้น

   “...แค่นี้นะครับ”

   หลังจากวางสาย ปัถย์ก็เลือกที่จะเดินเข้าห้องแล้วโยนโทรศัพท์ไว้ที่มุมหนึ่งของเตียง แล้วไม่คิดหนกลับไปดูดำดูดีอีกครั้ง

   เห็นไหมๆๆๆๆ เขานี่แพ้ทางเอรีสของจริงเลย

   “บ้าเอ้ย! โว้ย”

   ปัถย์ก็ถึงกับสบถสาบานด่าตัวเองที่อดใจไม่ไหวเผลอรับสายเอรีสเข้าจนได้
   
      






++++++++++++++++++



   โรงแรม J จังหวัดกระบี่

   “ว่าไง ฟื้นจากความตายขึ้นมาแล้วก็ไฟแรงหรือไง” เอรีสหยอกเพื่อนรักแล้วก็ได้คำด่ามาแทนที่ จากการทักทายแบบแรงๆ แสดงได้ถึงความสนิทสนมที่ทั้งคู่มีต่อกัน

   “ไอ้นี่ นอกจากจะไม่สงสารเพื่อนแล้วยังจะมาปากหมาอีก” เจซีลูกครึ่งไทยอเมริกันผู้ที่นั่งอยู่บนรถเข็นทำหน้าบึ้ง ก่อนจะหยิบหมอนอิงที่อยู่ใกล้มือเหวี่ยงใส่เอรีสแรงๆ ใบหน้าหล่อเหลาแบบลูกผสมนิ่วหน้าอย่างไม่ค่อยสบอารมณ์สักเท่าไร

   “หายแล้วสิ! ออกฤทธิ์ออกเดชได้ขนาดนี้ เออก็ดี มัวนอนขี้เกียจอยู่หลายเดือนหุ้นบริษัทร่วงระนาว ถ้ามีแรงก็ลุกขึ้นมาทำงานได้แล้ว สงสารไอ้อินมันทำงานเป็นบ้าเป็นหลังอยุ่คนเดียว เห็นไหมซูบเอาๆ ถ้าเลี้ยงมันให้ลำบากระวังนะ เดี๋ยวมันกลับไปดีกับแฟนเก่าอีกรอบ แล้วมึงจะเสียใจ”

   เอรีสหันไปมอง อิน ที่อยู่ข้างๆ รายนั้นคลี่ยิ้มอ่อน

   เหตุที่เอรีสต้องเดินทางมาถึงกระบี่เกิดจากที่เจซี เจ้าของโครงการประสบอุบัติเหตุทางรถยนต์เมื่อหลายเดือนก่อน โครงการอาคารตึกระฟ้ากลางกรุง มูลค่าหลายพันล้านนี้เป็นที่จับตามองในแวววงอสังหาริมทรัพย์และการก่อสร้างจึงถูกพับเก็บไว้ชั่วคราว แต่ตอนนี้อาการของเจซีดีขึ้นมาก ทั้งคู่จึงถือโอกาสปรึกษาหารือและพูดคุยกันอีกครั้ง

   ด้วยเป็นโครงการใหญ่ กลุ่มลูกค้าที่เจซีเล็งไว้คือกลุ่มอภิมหาเศรษฐีจากตะวันออกกลางและยุโรปที่ต้องการเพนต์เฮาส์สุดหรูในมหานครกรุงเทพฯไว้สำหรับพักผ่อนหย่อนใจ เนื่องจากเขาและเจซีเป็นเพื่อนกันมานานอะไรๆ ก็คุยกันง่ายขึ้น แต่ธุรกิจก็คือธุรกิจ อย่างไรก็ตามเจซีก็ต้องรักษาผลประโยชน์ของตัวเองด้วยการหาคู่เปรียบเทียบในราคางานก่อสร้าง ซึ่งเอรีสก็พอจะเข้าใจและยินดีที่จะเข้าร่วมประมูลในช่องทางปกติโดยไม่ยอมใช้เส้นสาย

   “ลองไปสิ จะตามฆ่าทั้งคู่” เจซีพูดนิ่งๆ แต่แววตากลับเอาเรื่อง ดูก็รู้ว่าหวงแฟนตัวเองแค่ไหน ขนาดเพื่อนหยอกเล่นเจ้าตัวก็ควันออกหูเสียแล้ว

   “จะฆ่าเราเหรอ? พูดดีให้นะ ถ้าพูดไม่ดีจะหนีกลับกรุงเทพฯวันนี้เลย”

   อินได้ยินคำขู่แทนที่จะกลัว กลับยิ่งได้ทีแกล้งปั่นหัวอีกฝ่ายอย่างนึกสนุก เแถมยังกอดอกมองแฟนหนุ่มที่นั่งอยู่บนรถเข็นด้วยดวงตาดุๆ จนอีกฝ่ายถึงกับหน้าเสียไปในทันที

   “ไอ้ตริน มึง! เห็นไหมทะเลาะกันเลย” เจซีชักเสียงยิ่งดูหน้าง้ำกว่าเดิมอีกหลายเท่า

   “อะไร ไม่เกี่ยวกับกูเลย มึงหัวร้อนไปเอง หวงไม่เข้าเรื่อง”

   “ไว้ลองมีเมียเป็นของตัวเองก่อนเถอะ ถ้าไม่หวงหน้ามืดเหมือนกูให้ถีบ แล้วนี่...มึงมาคนเดียวเหรอ คุณปัถย์ล่ะ?”

   เจซีถามอย่างสงสัย ที่ผ่านมาที่ไหนมีเอรีส ตริน เบอร์ตัน ที่นั่นย่อมมีปัถย์เคียงข้างไปด้วยเสมอ แทบจะเรียกว่าเป็นเงาตามตัวก็ไม่ผิดนัก เขาเองยังนึกอิจฉาที่ปัถย์มีผู้ช่วยเก่งๆ ที่ทำอะไรก็คล่องก็รู้งานไปเสียหมด ที่มากกว่านั้นยังซื่อสัตย์และคอยเป็นหูเป็นตา เป็นขาเป็นแขนให้เอรีสไปในทุกๆเรื่อง

   “เขาลาออกไปแล้ว” เอรีสพูดนิ่งขรึม ท่าทางคุยหยอกเมื่อครู่เปลี่ยนไปทันตา

   เจซีรับฟัง ครั้นจะเอ่ยถ้ามก็เห็นสีหน้าไม่ใคร่สบอารมณ์ของเพื่อนก็เลยเก็บความอยากรู้อยากเห็นไปก่อน เดี๋ยวถ้าอยากเล่าเอรีสก็คงยอมเปิดปากเอง

   “มาเถอะ คุยเรื่องโปรเจคกันดีกว่า”

   “เออ ที่จริงมันก็ล่าช้าไปมากแล้ว ก็อยากจะเริ่มโครงการเร็วๆ ก็อยากเชิญมึงมาประกวดราคาด้วย”

   ทั้งเอรีสกับเจซีเข้าเรื่องธุรกิจกันในทันที นานกว่าชั่วโมงที่ทั้งคู่ต่างปรึกษาหารือ และสอบถามข้อมูลและเงื่อนไขต่างๆ แบบไม่ให้มีตกหล่น



   
   
   เอรีสเดินออกจากห้องรับรองแขกในเวลาห้าโมงเย็น โดยระหว่างนั้นฐิตินั่งรอผู้เป็นนายอยู่ที่ลอบบี้เพียงลำพัง เพียงเพราะเอรีสไม่ต้องการให้ผู้ช่วยคนนี้เข้ามาเกี่ยวข้องอย่างเต็มตัวกับโครงการที่เขากำลังจะเข้าร่วมประมูลสักเท่าไร

   จะว่าเพราะฐิติเป็นคนมาใหม่ก็เชิงเสียทีเดียว อย่างคราวปัถย์ก็หอบหิ้วไปคุยงานสำคัญๆ ด้วยแม้จะเพิ่งเริ่มเข้ามาทำงานเพียงสองวันแรก เจ้าตัวก็ยอมรับว่าคิดเปรียบเทียบฐิติกับปัถย์อยู่บ่อยครั้ง ไม่ว่าจะเรื่องงาน เรื่องการพูดจา แม้กระทั่งการชงกาแฟเขาก็ยังเอามาเปรียบเทียบ

   คิดแล้วก็ขำ แต่พอคิดอีกทีก็เจ็บ...

   แต่พอลองได้จับผิดและเปรียบเทียบ เอรีสจึงรู้สึกว่าบางอย่างในตัวฐิติดูแปลก ทั้งสายตา แววตา และภาษากาย เซ้นท์ส่วนตัวบอกว่าไม่ควรไว้ใจผู้ช่วยคนนี้

   ไม่ใช่อคติ แต่เป็นสัญชาตญาณ

   ตัวอย่างเช่นวันก่อนตอนฐิติเข้ามารับเอกสารปิดผนึกเพื่อส่งราคาราคางานประมูล ตอนนั้นเองที่สัญชาตญาณของเขาตื่นตัวและบอกว่าห้ามไว้ใจคนนี้

   “เย็นแล้ว เดี๋ยวหาอะไรกินก่อนแล้วค่อยแยกกันไปพักก็แล้วกัน” ผู้เป็นเจ้านายเปรยขึ้นแล้วเก็บซองเอกสารไว้ในเสื้อสูทก่อนเดินนำหน้าไปก่อน



   ร้านอาหารริมทะเลที่มีบรรยากาศเรียบง่ายกับวิวสวยๆ ใกล้กับโรงแรมที่เอรีสพักและมีนัดเจซีไว้คือที่หมายของคนทั้งคู่
 
   ฐิติแจ้งกับพนักต้อนรับ และขอให้จัดโต๊ะที่สามารถเห็นวิวริมหาดได้ ช่วงค่ำแบบนี้มีนักท่องเที่ยวเยอะพอควร ทีโต๊ะต่างๆ เต็มเกือบหมด แต่ทั้งคู่ได้โต๊ะมุมสุดของร้านเป็นโต๊ะเล็กที่นั่งได้เพียงสองคน ดูสะอาดสะอ้าน มีดอกกล้วยไม้ใส่แก้วเล็กๆ ไว้เพื่อประดับให้ดูเจริญอาหาร

   เมื่อมาถึงโต๊ะเพียงชั่ววินาที สายตาของเอรีสก็สะดุดเข้ากับใครบางคน...

   เอรีสเห็นปัถย์มาแต่ไกล แม้อีกฝ่ายจะหันมาให้เห็นแม้เพียงด้านข้าง แต่เขาก็จำได้แม่นยำว่าใครคนนี้คือคนที่เขาเฝ้าคิดถึง

   สิ่งแรกที่เขาอยากทำคือเดินเข้าไปกอดให้หายคิดถึง อย่างที่สองคือจัดการคนใจดำที่ทิ้งเขาไปดื้อๆ ให้หนำใจ

   นอกจากไปไม่ลา ซ้ำหนักก็ไม่ยอมรับสายที่เขาเพียรโทรหาทุกวี่วันอย่างน่าโมโหนั่นอีก ความคิดถึงกับความดีใจของเอรีสก็ดูจะขุ่นมัวลง เมื่อคนที่เขาอยากเจอหน้าจนแทบใจจะขาดยังดูดีมีความสุขไม่ได้ดูซึมเศร้าหงอยเหงาอย่างที่เขากำลังทุรนทุรายอยู่แบบเขา

   “คุณเอรีสจะสั่งอาหารเลยไหมครับ”

   ฐิติเอ่ยถามเบาๆ เพราะเมื่อเมนูอาหารจากเด็กเสริฟมาวางตรงหน้า ผู้เป็นเจ้านายกลับไม่มีทีท่าว่าจะสนใจ ดูเหมือนเจ้าตัวกำลังมุ่งความสนใจไปที่มุมหนึ่งภายในร้าน เขาจึงมองตามสายตานั้นแล้วก็เห็นว่าอดีตผู้ช่วยของเอรีสกำลังนั่งกินอาหารอยู่โดยมีเพื่อนอีกสองคนร่วมโตะด้วย

   "สั่งของคุณเถอะ อยากกินอะไรก็ตามสบาย เสร็จแล้วก็กลับไปเลยนะไม่ต้องรอผม” เอรีสปฏิเสธอย่างไม่แยแส

   จากที่ว่าหิวๆ ก่อนหน้าเป็นอันว่าพับเก็บไป เพราะการเจอคนที่เฝ้าคิดถึงด้วยความบังเอิญ

   แถมความบังเอิญที่ว่ายังมีใครก็ไม่รู้อีกคนที่ส่งสายตาวาววับมาให้ปัถย์ด้วยนี่สิถือสิ่งที่เขาไม่ชอบใจสักเท่าไร

   คิดดังนั้นเอรีสลุกขึ้นในทันใด ปล่อยให้ฐิตินั่งงงอยู่ที่โต๊ะอาหารเพียงละพัง เขาเดินดิ่งตรงไปที่โต๊ะนั้นและทักปัถย์ด้วยน้ำเสียงสุขุมเป็นทางการ

   “ปัถย์”

   ปัถย์เงยหน้ามองอย่างตกใจ ไม่คิดว่าจะมาเจอเอรีสที่นี่ ถึงแม้จะรู้ตารางนัดของเอรีสกับมิสเตอร์เจซีแต่ก็คิดว่าคนระดับนี้คงจะไปกินอาหารร้านหรูมากกว่าร้านธรรมดาๆ ริมหาด

   “ขอคุยหน่อยได้ไหม"

   “เออ...” ปัถย์หันไปมองชลนทีและครรชิต รู้สึกกระอักกระอ่วนใจไม่น้อยเพราะรู้ดีว่าเอรีสอาจไม่ใคร่ใจเย็นสักเท่าไร

   เอรีสเร่งรัดทางสายตา ไม่ยอมให้อีกฝ่ายบ่ายเบี่ยงหรือหลบเลี่ยงง่ายๆ อย่างแน่นอน

   “ขอตัวแป๊บนะ” ปัถย์เอ่ยเบาๆ ก่อนจะขอตัวลุกขึ้น

   “บอกเพื่อนไปว่าจะไปส่ง ไม่ต้องรอ” เอรีสขยับเข้าหาก่อนพำพำข้างหู พอปัถย์จะแย้งก็เจอสายตาดุๆ ส่งมาแทนที่

   คนที่พยายามหนีการติดต่อมาตลอดก็หวั่นๆ ว่าเอรีสจะของขึ้น แล้วบอกกับเพื่อนและรุ่นพี่เบาๆ สีหน้าก็ดูเกรงใจและปั้นยาก

   “เดี๋ยวผมกลับเองนะ พี่คิวกลับกับไอ้ทีไปก่อนได้เลยครับ เดี๋ยวผมเดินกลับเองใกล้ๆ”

   “เดี๋ยวพี่กับทีรอ ไม่เป็นไรตามสบาย” ครรชิตรีบบอก

   “ไม่เป็นไรครับพี่คิว คุณเอรีสคงจะมีธุระสำคัญ”

   “โอเค เอาตามนั้นก็ได้” ชลนทีพูดขึ้นบ้าง เห็นท่าแล้วว่าเพื่อนน่าจะมีเรื่องคุยกับอดีตเจ้านายอีกนานแน่นอน



   ทั้งคู่เดินเลี่ยงออกจากร้านไปยังชายหาดที่สงบเงียบ เสียงดนตรีคลอเบาลงจนเกือบนิ่งสนิททั้งคู่จึงหยุดเดินและยืนห่างกันราวสองเมตร

   ปัถย์มองไปที่ร่างสูงในชุดเรียบง่ายด้วยเสื้อเชิ้ตสีขาวเปิดกระดุมสามเม็ดกับกางเกงสีดำเนื้อดีทำให้เอรีสในมาดนักธุรกิจหนุ่มพันล้านกลายเป็นหนุ่มเจ้าเสน่ห์ไปในพริบตา

   ปัถย์ไม่ได้แสดงอาการรังเกียจหรือเดินหนีอย่างที่เอรีสกังวลไว้แต่แรก เจ้าตัวเพียงแค่ยอมออกมาคุยแบบคนโตๆ ที่มีเหตุผล

   “บังเอิญดีนะ ว่าไหม”

   ใช่สิ มันเป็นความบังเอิญที่น่าโมโห

   “…”

   ปัถย์นิ่งเงียบ ทำแค่เพียงยืนนิ่งมองออกไปจนสุดลูกหูลูกตา เสียงคลื่นซัดชายฝั่งเป็นระยะช่วยให้บรรยากาศของคนทั้งคู่ไม่เงียบเกินไปนัก กว่าห้านาทีที่ทั้งสองคนยืนเคียงข้างกันโดยไร้บทสนทนา เอรีสมองใบหน้าปัถย์ด้วยอารมณ์ที่ดีขึ้นกว่าเดิมมาก

   “เพื่อนที่ว่า ชลนที?" เอรีสไม่ปิดบังดวงตาคู่คมเขาจงใจจ้องอีกฝ่ายด้วยความโหยหา

   “ใช่ครับ ทีทำงานอยู่ที่นี่" ปัถย์อธิบายเสริมอีกนิด แต่ยังคงรักษาระยะไว้ ท่าทางดูเหินห่างกว่าที่ควรจะเป็น

   "ทำไมถึงติดต่อไม่ได้" เสียงที่ราบเรียบที่แฝงการตัดพ้อ ใบหน้าที่เคยดุดันมีแววสลดอยู่นิดๆ ถ้าจะลองสังเกตให้ดี “ข้อความก็ถามคำตอบคำ ใจคอไม่คิดจะติดต่อกันอีกแล้ว? จะตัดขาดกันไปเลยจริงๆ สินะ”

   หลังจากคืนก่อน ปัถย์ก็ไม่ได้รับสายอีก มีเพียงตอบข้อความไปสั้นๆ บ้างแค่สองสามครั้ง

   "ผมขอโทษ ที่ไม่รับโทรศัพท์เพราะยังไม่อยากทะเลาะกับคุณ"

   ปัถย์พูดตรงๆ เพราะรู้นิสัยเอาแต่ใจของเอรีสดีว่าหากรับก็คงได้โต้เถียงกันอีกยาว

   “ทำไมไม่คิดบ้างว่าฉันอาจมีเรื่องด่วน บางทีอาจใกล้ตายรอให้นายมาพาส่งหมอ มันอาจเป็นลมหายใจเฮือกสุดท้ายก็ได้” เอรีสพูดติดประชด แต่น้ำเสียงก็ไม่ได้ถึงขึ้นโมโหแบบจริงๆ จังๆ อะไร

   “คุณก็พูดไปเรื่อย ถ้าเป็นถึงขนาดนั้นจริงคุณคงไม่ปล่อยให้ตัวเองตายหรอกจริงไหม ไอ้ลมหายใจเฮือกสุดท้ายมันมีแค่ในหนังจีนกำลังภายใน” ปัถย์พูดอย่างอ่อนใจ ก็ดูเปรียบเทียบไปเสียโอเวอร์ไป แต่ฟังๆ แล้วก็เผลออมยิ้ม

   “สนุกไหม หนีมาเที่ยวแล้วปล่อยให้คนเป็นบ้าเน่ะ”

   “ไม่สนุกครับ แต่สบายใจกว่าต้องปั้นหน้าขึงขังแล้วเถียงกันทั้งวัน”

   “เวลาไม่เจอกันแล้วนายสบายใจ? ไม่คิดถึงเวลาที่ไม่เจอกันเลยหรือไง”

   “…”

   “แต่ฉันไม่สบายใจเลย ไม่มีนายอะไรรอบตัวฉันมันยุ่งเหยิงไปหมด” เอรีสบอกตามที่รู้สึก เจ้าตัวไม่รู้หรอกว่าปัถย์ฟังแล้วจะสงสารหรือสมเพชเขากันแน่ ก็คนที่เคยถูกปัถย์สปอยอย่างเขามีหรือจะทำตัวให้ชินเวลาที่อีกฝ่ายหายไป

   “อีกเดี๋ยวคุณก็ชิน”

   “สามปีที่มีนายคือสิ่งที่ฉันชิน” เอรีสล้วงกระเป๋ากางเกงพูดจบก็หันมาสบตาที่สวมแว่นอยู่ของปัถย์ “แต่ไม่กี่วันที่ไม่มีนายมันกำลังทำให้ฉันเครียดแทบบ้า”

   ปัถย์ฟังเงียบๆ และเริ่มเปลี่ยนเรื่องสนทนาไม่ให้ดูเป็นเรื่องส่วนตัวมากนัก ยิ่งเอรีสพูดเข้าเรื่องส่วนตัวมากเท่าไร ปัถย์ก็ยิ่งรู้สึกว่าตัวเองเจ็บปวดไม่แพ้กัน

   “งานเป็นยังไงบ้างครับ โครงการคอมเพล็กซ์xxx ส่งราคาไปแล้วใช่ไหมครับ มีอะไรติดขัดหรือเปล่าผมเห็นราคาคอสมันสูงเลยให้เขาปรับลงมาอีก ซับคอนแทกซ์ของเราราคายังสูงอยู่ผมลองต่อรองไปนะครับ อะไรที่พอลดได้ผมก็ให้ลด เพราะถ้ายืนราคาเก่าผมว่าคู่แข่งคงได้ไป” ปัถย์อดไม่ได้ที่จะถาม ก็ตอนที่เขาออกมาเขาทำเรื่องนี้ค้างไว้อยู่เลยนึกเป็นห่วงอย่างช่วยไม่ได้

   เอรีสที่ได้ฟังแล้วก็รู้สึกดี ยังไงๆ ปัถย์ก็ยังคงเป็นห่วงและรักษาผลประโยชน์ให้เขาอย่างเสมอต้นเสมอปลายเงินสักบาทถ้าลองเป็นของเขาปัถย์ไม่มีวันยอมให้กระเด็นออกจากกระเป๋าถ้าไม่ใช่รายจ่ายที่สมควรจะจ่าย

   “ส่งราคาไปแล้ว”

   “ออ ครับ”

   “ฉันไม่ได้หวังกับงานนี้”

   “ทำไมล่ะครับ มีอะไรติดขัด? ราคาที่ผมเบรคดาวออกมาแล้วลดลงได้อีกสิบเปอร์เซ็นเลยนะครับ” ปัถย์ไม่สบายใจ เขาไม่อยากให้เอรีสเสียผลประโยชน์ในทุกๆ เรื่อง

   เมื่อเห็นสีหน้าผู้ช่วยคนเก่งที่ดูเป็นเดือดเป็นร้อนเอรีสจึงอธิบายเพิ่มเติม เขาไม่อยากให้ปัถย์คิดมากถ้าเขาจะไม่ได้งานนี้
   “ก็ไม่ได้อยากได้งานนี้แต่แรกแล้ว”

   “มูลค่าสูงนะครับ”

   “ก็นายบอกว่าไม่ดีฉันก็เลยไม่เอา”

   “ไม่เห็นต้องทำแบบนี้เลย เสียโอกาสทางธุรกิจของบริษัทเปล่าๆ”

   “ฉันไม่ได้เห็นแก่เงินขนาดนั้นนะ ถ้านายบอกไม่อยากทำฉันก็ตามใจนาย” แววตาของเอรีสที่ส่งมาทำให้ปัถย์เจ็บปวด เอรีสจะมาฟังเขาทุกอย่างเหมือนเมื่อก่อนไม่ได้แล้ว แล้วเขาก็ไม่มีหน้าที่ดูแลความเป็นไปในชีวิตของเอรีสอีกแล้ว

   “…”

   “พักที่ไหน”

   “ใกล้ๆ ครับ”

   “กลับยังไง”

   “เดินไปได้ครับ ไม่ไกล”

   “จะเดินไปส่ง” เอรีสเสนอตัว แถมยังดันหลังปัถย์ให้เดินไปข้างหน้า

   “แล้วคุณฐิติล่ะครับ”

   ปัถย์หันมาถาม ชำเลือมองแขนข้างหนึ่งของเอรีสที่พสดวางอยู่บนบ่าแล้วพยายามขืนตัวออก

   “เขากลับเองได้ ไม่ต้องห่วงหรอก” พูดจบก็พากันเดินไปเรื่อยๆ จากชายหาดสู่ถนนเล็กๆ ที่เชื่อมต่อกับโรงแรมขนาดกลางที่ปัถย์พักอยู่

   “คนนั้นใคร?”

   จนแล้วจนรอดเอรีสก็ปล่อยความสงสัยไว้ไม่ได้ เลยถามออกไปเพราะขืนไม่พูดวันนี้นอนไม่หลับแน่ เขาไม่ใช่คนขี้หึงแบบไม่ลืมหูลืมตา แต่ก็ต้องบอกว่าหวงของอยู่ไม่หยอก ไอ้จะมาสนิทสนมแบบเพื่อนอะไรก็ได้ แต่ถ้าจะมาตั้งใจหว่านเสน่ห์ใส่ก็จะไม่ยอมหรอก

   “…รุ่นพี่น่ะครับ เป็นเจ้านายของทีด้วย”

   “เขาชอบนาย? ถ้ามองจากสายตากับท่าทาง ฉันไม่คิดว่าจะดูผิดนะ” สายตาเฉรยบคมกับความโชกโชนของเขาบอกในทันที

   ก็ดูแววตานั้นสิ

   ฮึ! ถ้าบอกไม่คิดอะไรก็ดูจะโลกสวยไปหน่อย นี่ถ้าไม่มีชลนทีอยู่ด้วยเขาคงจะคิดว่าปัถย์แอบหนีมาเที่ยวกับมันสองคน แล้วเขาอาจจะทำอะไรบ้าๆ ก็ได้

   “คง... เคยชอบมั้งครับ”

   ปัถย์ไม่เห็นประโยชน์ที่จะโกหก แต่ก็กึงรับกึ่งสู้ไม่อยากบอกว่าที่จริงครรชิตก็ยังแน่วแน่จะจีบตนตอไป

   “ว่าแล้วเชียว” เสียงเอรีสขึ้นจมูก นึกหวงขึ้นมาทันทีทันใดแต่ก็ไม่ได้โกรธคนตัวบางข้างๆ เพราะปัถย์ไม่ใช่พวกโลเลหรือชอบเล่นกับความสัมพันธ์ฉาบฉวย

   ปัถย์ขยับตัวออกจากวงแขนอีกฝ่ายที่พยายามกอดคอเขาไว้ แล้วเดินห่างไปอีกสองก้าวให้มีช่องว่างมากกว่าเก่า

   “ก็แค่รุ่นพี่ครับ” เจ้าตัวรีบย้ำอีกรอบไม่รู้ทำไมถึงไม่อยากให้เขาเข้าใจผิด

   “ช่างเถอะ แค่นายไม่ได้ชอบเขาก็พอ กับธีรนัยยังติดต่อกันหรือเปล่า”

   คำถามหลังเอรีสเสียงเข้มขึ้น เขาหยุดฝีเท้าแล้วหันมามองอีกฝ่ายอย่างจริงจัง ปัถย์เองก็ชะงักเท้าตาม อดไม่ได้ที่จะเอียงคอแสดงสีหน้าสงสัย และครั้งนี้เขาเลือกที่จะถามไปตรงๆ อย่างที่สงสัยมานานแสนนาน

   “พวกคุณมีอะไรกันครับ ผมไม่คิดว่าการที่คุณเกลียดคุณธีร์ออกนอกหน้าขนาดนั้นจะเป็นเพราะเรื่องขัดแย้งกันเล็กๆ น้อยๆ ผมผมทีครับผมอยากรู้”

   “นายรู้แค่ว่าไอ้ธีร์มันไม่ใช่คนดีเหมือนภาพที่มันสร้างก็พอ อย่าไว้ใจมัน คนอย่างมันแว้งกัดได้ทุกคน ไม่มีคำว่าญาติหรือเพื่อน จะมีก็แต่ความเห็นแก่ตัว เอาแต่ได้”

   “ผมยังไม่เข้าใจอยู่ดี”

   ในเมื่อเอรีสไม่ได้ขยายความหรืออธิบายอะไรๆ ให้กระจ่าง ปัถย์ก็เลยรู้สึกว่าตัวเองเลือกทางเดินไม่ถูก แม้เขาจะบอกตัดความสัมพันธ์กับธีรนัยไปแล้ว แต่ความเป็นเพื่อนก็ยังคงหลงเหลือมันจะตัดขาดโดยไม่เหลืออะไรไว้เลยก็ไม่น่าจะใช่

   “ไม่ต้องเข้าใจปัถย์ นายแค่เชื่อใจฉันก็พอ”

   “ผม... ไม่รู้ว่าเชื่อคุณได้ไหม”

   “เชื่อได้สิ นายเชื่อใจฉันได้ ฉันไม่เคยคิดทำร้ายนาย ไม่เคยสักครั้ง”

   “ครับ” แม้ปัถย์จะขานรับคำ แต่ในใจของเขากลับรู้สึกย่ำแย่เลวร้าย อารมณ์ด้านลบทำให้ใบหน้าหล่อเหลาดูหม่นหมองลงไปถนัดตา

   “ให้โอกาสฉัน”

   “…”

ออฟไลน์ ❣☾月亮☽❣

  • เป็ดApollo
  • *
  • กระทู้: 6773
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +264/-6
จะใจอ่อนแล้วเหรอ

ออฟไลน์ TachibanaRain

  • มาโกโตะเทนชิ
  • เป็ดHermes
  • *
  • กระทู้: 2402
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +76/-3
ฐิติกับธีรนัยคือคนที่ร่วมมือกันสินะ หวังว่าเอรีสจะรู้ตัวก่อนโดนหักหลังนะ

ออฟไลน์ sompong

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 355
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +4/-0
ยังไงดี สั่งสอนสักหน่อยจะได้สพนึกนะ 55

ออฟไลน์ mystery Y

  • เป็ดApollo
  • *
  • กระทู้: 7677
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +585/-12
มีต่ออีกไหมเนี่ย!?

ออฟไลน์ warin

  • รถไฟขบวนนั้น ได้แล่นผ่านไปแล้ว
  • เป็ดแสนดี
  • เป็ดDemeter
  • *
  • กระทู้: 1937
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +60/-1
    • -
ลุ้น  สงสารเอรีสมากกกก
ปัถย์  ใจอ่อนเถอะนะ

CoMMuNiTY Of ThAiBoYsLoVE






ออฟไลน์ fullfinale

  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 666
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +21/-0
ให้โอกาสเถอะ plssssssss  :L2:

ออฟไลน์ puiiz

  • เป็ดEros
  • *
  • กระทู้: 3378
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +135/-4

ออฟไลน์ BAKA

  • เป็ดแสนดี
  • เป็ดEros
  • *
  • กระทู้: 3025
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +66/-10
เอรีสก็เริ่มเอะใจกับคุณผู้ช่วยคนใหม่แล้ว หวังว่าจะจัดการอะไรๆ ได้ก่อนที่จะมีเรื่องไม่ดีเกิดขึ้นจริงๆนะเนี่ย

ออฟไลน์ DrSlump

  • เป็ดEros
  • *
  • กระทู้: 3360
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +104/-2

ออฟไลน์ masochism2018

  • เป็ดมหาวิทยาลัย
  • *
  • กระทู้: 428
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +59/-1
ปัถย์เย็นชามากเว่อ  :katai3:

ออฟไลน์ yowyow

  • เป็ดAphrodite
  • *
  • กระทู้: 4188
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +139/-7

ออฟไลน์ cavalli

  • เป็ดArtemis
  • *
  • กระทู้: 5358
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +195/-19

ออฟไลน์ areenart1984

  • เป็ดArtemis
  • *
  • กระทู้: 4805
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +167/-7
หันไปจัดการสายลับของบริษัทตัวเองก่อนดีไหม  :hao3:

ออฟไลน์ memozy

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 364
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +9/-0
รออยู่นะ  :katai2-1: :katai2-1: :katai2-1:

ออฟไลน์ Leenboy

  • เป็ดEros
  • *
  • กระทู้: 3095
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +105/-2
เริ่มสงสารเอรีสละ

 

สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด


สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด