เขาหมุนรอบความรัก '★ Up : ตอนที่ 10 - 21 P. 4 - 5 27/02/18 [END]
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด

สนใจโฆษณาติดต่อ laopedcenter[at]hotmail.com คลิ๊กรายละเอียดที่ตำแหน่งว่างเลยครับ

สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด

ผู้เขียน หัวข้อ: เขาหมุนรอบความรัก '★ Up : ตอนที่ 10 - 21 P. 4 - 5 27/02/18 [END]  (อ่าน 141253 ครั้ง)

ออฟไลน์ MSeraph

  • This too shall pass
  • เป็ดDemeter
  • *
  • กระทู้: 1751
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +33/-3
เดาไม่ออกเลยว่านี่ชอบน้องไปแล้วรึยัง

ออฟไลน์ Mazaaki

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 15
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +3/-0
เอาใจช่วยนะจ๊ะพี่ดิน

ออฟไลน์ Chiffon_cake

  • เป็ดนักเขียน
  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 712
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +1544/-12





ตอนที่ 2






   กรุ๊ปไลน์ ‘สตาร์ FC’

   Din : ได้มาตัวหนึ่งแล้ว
   FUEN : ดีใจด้วยครับ!
   AOF : ฉลองเลยพี่
   TANG : ผมไม่ขออะไรมาก เลี้ยงชานมไข่มุกผมก็พอ
   CHOK : แหล่มๆๆ
   PHYSICS : แค่ตัวเดียว ทำมาเป็นคุย


   ผมเบะปากใส่จอหลังจากที่อ่านข้อความของไอ้สิกจบ ตอนนี้ผมกำลังอ่านข้อความในไลน์กรุ๊ปที่ไอ้ตัง เพื่อนฟืนเป็นคนสร้างขึ้นมา (ชื่อกรุ๊ปแม่งอย่างกับทีมฟุตบอล) มันใช้เวลาไม่นานก็สามารถดึงสมาชิกที่คุยกันเมื่อตอนกลางวันมาได้ครบ เพิ่งรู้ว่าไอ้โชคเองก็พอจะรู้จักเด็กกลุ่มนี้มาบ้างเพราะเคยเตะบอลด้วยกันเป็นครั้งคราว

   โชคมันบอกว่าแทนที่มันจะรู้จักกับเด็กกลุ่มนี้ มันควรจะรู้จักกับสตาร์มากกว่าเพราะมันปลื้มน้องเขามาก ผมก็เลยบอกมันไปว่า

   ‘ถึงมึงจะอยากรู้จัก แต่ไอ้พวกม. 5/1 ก็ไม่ยอมให้มึงรู้จักง่ายๆ อยู่ดี’

   ทันทีที่ผมพิมพ์ข้อความทำนองนี้ ฟืนก็กระหน่ำไลน์มายกใหญ่เรื่องที่ห้องม. 5/1 หวงสตาร์จนเกินเยียวยา ไอ้สิกเองก็เหมือนกัน มันบอกว่าตอนที่สตาร์เข้ามาจีบมันไอ้พวกนี้ก็จ้องมองคอยจะเอาเรื่องตลอด ไม่รู้ว่ามันเป็นห่วงเพื่อนหรือมันเป็นบ้า

   แสดงว่าผมไม่ได้โดนคนเดียวแฮะ ทุกคนที่เข้ามาหาสตาร์โดนกันหมดเลย

   คำว่าสมบัติห้องของพวกมันสำคัญอะไรขนาดนั้นกันหนอ

   ผมวางโทรศัพท์ลงจากนั้นก็หยิบโพสต์อิทที่มีลายมือของสตาร์มาจ้องมองดูอีกครั้ง มันเป็นคนที่มีลายมือเล็กๆ กลมๆ คล้ายผู้หญิงและน่าอ่านมากๆ ตอนนี้โพสต์อิทแม่งเริ่มยับเพราะผมเป็นคนไม่ค่อยผ่อนแรง เมื่อเห็นดังนั้นผมก็ลุกขึ้นมาจากเตียงเพื่อที่จะไปหาหนังสือมาสักเล่ม เปิดหน้าหนังสือ แล้วก็วางโพสต์อิทแปะเอาไว้ จากนั้นก็ปิดหนังสือ ป้องกันไม่ให้แม่งยับมากไปกว่านี้

   เดี๋ยว นี่กูทำอะไรอยู่ มันก็แค่โพสต์อิทของเด็กคนหนึ่งป่ะวะ กูจะอะไรนักหนาเนี่ย

   ผมปล่อยมันไว้อย่างนั้นและก็หยิบหนังสือขึ้นมาอ่าน พยายามอย่างยิ่งที่จะไม่คิดถึงใบหน้าขาวๆ กับเหล็กจัดสีฟ้าของใครบางคน

   ตลอดระยะเวลาหลายวันที่ผมได้คุยกับสตาร์เรื่องไอดีไลน์ ใบหน้าของมันก็แวบๆ เข้ามาในหัวของผมอยู่เรื่อย

   และวันนี้มันชัดเจนมากขึ้นกว่าทุกๆ วัน










   โรงเรียน

   เมื่อคืนกว่าผมจะได้นอนก็ปาเข้าไปเกือบตีหนึ่ง ผมเขียนตารางการสมัครพร้อมๆ กับตารางสอบออกมาแทบจะทุกมหา’ลัยที่ผมอยากเข้า พ่อกับแม่บอกผมว่าอนุญาตให้ผมเรียนเฉพาะในกทม.หรือไม่ก็รอบๆ กทม.เท่านั้น ต่างจังหวัดไม่อนุญาต เพราะงั้นแต่ละมอที่ผมเล็งเอาไว้จึงมีแต่การแข็งขันอย่างแท้จริง

   กูจะได้เรียนวิศวฯ สมดังใจปรารถนามั้ยวะ เฮ้อออออ

   “เป็นไรพี่”

   ผมสะดุ้งเฮือกเมื่อได้ยินเสียงคนทัก คนๆ นั้นก็คือเจ้าของโพสต์อิทที่ถูกหนังสือของผมทับให้แบนราบ!

   “มึง” ผมกระพริบตาก้มหน้ามองดูเด็กน้อยที่ตัวสูงเท่าคางของผมเอง วันนี้มันมาโรงเรียนพร้อมผมแฮะ ผมกำลังเดินเข้าไปในโรงเรียนครับแล้วบังเอิญเจอมันพอดี

   “ทำหน้าเหมือนมีเรื่องกังวล”

   “ไม่มีไร” ผมเลิกคิ้ว ก่อนที่จะแกล้งแหย่ “เสือกหรือไง”

   “โห โหดว่ะ ถามแค่นี้เอง”

   ผมแหย่แรงไปเหรอเนี่ย เฮ้ย ถึงแม้ว่าไอ้เด็กข้างหน้ามันจะไม่ได้ทำท่าคิดมากอะไรกับคำพูดผม แต่ผมกลับรู้สึกผิดไปหมดแล้ว
ใช้เวลาไตร่ตรองประมาณ 5 วินาทีถ้วน ผมคิดว่าผมคงผิดจริงนั่นแหละครับ ผมรีบเดินไปขวางหน้าสตาร์เอาไว้

   “โทษที กูหงุดหงิดนิดหน่อยอ่ะ” น้ำเสียงผมไม่ได้ง้องอน เพียงแต่เป็นประโยคบอกเล่าอย่างรักษามาดพี่ดินหัวหน้ากองร้อยเอาไว้

   “อืม”

   “ไม่อยากรู้แล้วเหรอว่าเรื่องอะไร”

   “ก็เดี๋ยวหาว่าเสือกอีกอ่ะ”

   มันรู้จักต่อปากต่อคำโว้ย ไอ้สตาร์ไม่ได้สนใจอะไรผมอีก ตั้งท่าจะเดินผ่านผมไปยังห้องเรียนของมัน

   “เดี๋ยวก่อน” ผมรั้งมันเอาไว้

   สตาร์หันมาพร้อมๆ กับทำหน้าสงสัยว่าผมมีอะไร

   “เรื่องนั้น...”

   “หืม?”

   “ก็เรื่องนั้นยังไงเล่า” ทำไมต้องทำเป็นไม่รู้ด้วยวะ ผมรู้สึกอายนิดหน่อยนะที่ต้องมาพูดอะไรแบบนี้

   “เรื่องไหนครับพี่”

   “ไอดีไลน์ไง”

   “...”

   “เมื่อวานกูได้มาตัวหนึ่งแล้ว วันนี้กูอยากได้อีกตัว”

   สตาร์มองผมก่อนที่มันจะถอนหายใจ “นึกว่าลืมไปแล้ว”

   “ลืมก็บ้า กูโดนท้ามานะ”

   “เพื่อนมันบอกผมว่าให้หาอะไรให้พี่ทำ ถ้าผมพอใจแล้วค่อยให้ไอดีตัวต่อไป”

   แม่ง ฟังแล้วโคตรเสียศักดิ์ศรี แต่เมื่อได้มองดูอีกฝ่ายที่มีใบหน้าขาวจิ้มลิ้มน่ารักเกินทน ผมคิดว่ามีอะไรบางอย่างในตัวผมบอกให้ผมอดทนต่อไป

   “แต่ตอนนี้ผมยังคิดไม่ออกเลย” รู้สึกอยากล้มหงายเงิบหลังจากที่ได้ยิน

   “มึงกวนตีนกูป่ะเนี่ย”

   “ผมยังคิดไม่ออกจริงๆ ครับ”

   “เออ จะไปไหนก็ไป”

   “ครับ”

   สตาร์ทำหน้ารับรู้แล้วเดินจากไป ปล่อยให้ผมมองมันพร้อมกับคิ้วที่ขมวดจนเป็นปม รู้สึกขัดหูขัดตาไปหมดกับการที่มันไม่ได้แสดงท่าทีสนใจเรื่องนี้เลย

   ผิดกับผม...

    เพราะเรื่องนี้มันกลายเป็นเป้าหมายหลักพอๆ กับเรื่องที่ผมต้องเข้าวิศวฯ ให้ได้

    ช่วยไม่ได้นี่หว่า ใครใช้ให้มึงมาอยู่ในหัวของกูตลอดเวลาแบบนี้ด้วยล่ะ









   “สวัสดีครับพี่ดิน”

   “พี่ดิน หวัดดีครับ”

   “พี่ดิน หวัดดีพี่”

   เสียงที่กำลังดังอยู่คือความเคยชินของผม ผมกับไอ้โชคกำลังเดินเปลี่ยนคาบเรียนไปเรียนวิชาศิลปะ ตลอดทางที่เดินไปตึกศิลปะจะมีนักเรียนรุ่นน้องยกมือไหว้เป็นระยะๆ เป็นบารมีที่ผมสั่งสมมาตั้งแต่ผมเรียนอยู่ม. 3 ผมเป็นเด็กกิจกรรมตั้งแต่ตอนนั้นและก็ทำมาเรื่อยๆ เพราะคิดว่าตัวเองทำได้ดีน่ะครับ

   “เฮ้ย นั่น ห้องน้องดาวนี่หว่า” ไอ้โชคชี้มือไปที่พวกเด็กม. 5 ที่กำลังปั้นงานศิลปะกันอยู่

   ผมกระพริบตาขณะมองเด็กที่มีออร่าที่สุดในนั้น “แล้วยังไง”

   “มึงไปตื๊อขอไอดีตัวที่สองดิ”

   “ไม่มีอารมณ์”

   “ไม่มีอารมณ์หรือมึงเสียใจที่น้องทำเป็นไม่ใส่ใจเมื่อเช้าวะ”

   ผมไม่น่าเล่าทุกอย่างให้มันฟังเลยว่ะ

   “เกิดอะไรขึ้นกับไอ้ดินคนที่อยากทำอะไรก็ทำวะ ตั้งแต่มึงคิดเรื่องน้องสตาร์นะ ความเป็นตัวมึงก็มีแต่จะลดลงไป”

   “ยังไง”

   “อย่างเช่นตอนมึงชอบน้องฟืน มึงเดินเข้าไปบอกน้องว่ามึงชอบน้อง ต่อหน้าผัวของน้อง”

   ไอ้โชคมันก็พูดความจริงเกินไปป่ะวะ มึงไม่ต้องพูดถึงเรื่องนี้ก็ได้เว้ยยย

   “พอมาเป็นน้องสตาร์ มึงดูไม่ชัดเจนไปเลย ไม่รู้มึงชอบมึงสนใจน้องจริงๆ หรือว่ามึงกำลังสนใจเรื่องที่มึงถูกท้า ขนาดกูเป็นเพื่อนมึงกูยังงงๆ เลยเนี่ยว่าตัวมึงคนเดิมหายไปไหน”

   “มึงนี่ก็เว่อร์” ผมด่ามัน “กูก็ต้องสนใจเรื่องที่กูถูกท้าสิ ถ้ากูสนใจน้องมันจริงๆ กูคงยอมรับกับมึงไปแล้ว”

   ไอ้โชคเลิกคิ้ว ในขณะที่ผมนั้นเริ่มอึกอัก มันเป็นเพื่อนไม่กี่คนที่ผมสามารถแสดงตัวตนออกไปได้โดยไม่ต้องปิดบังอะไร แต่ข้อเสียก็คือแม่งรู้ไส้รู้พุงของผมทุกอย่าง

   ผมสนใจแค่คำท้า ผมไม่ได้สนใจไอ้เด็กนั่น

   เสียงหัวเราะสดใสท่ามกลางเพื่อนๆ ที่เป็นยิ่งกว่าพ่อของมันทำเอาความคิดผมสะดุด รอยยิ้มของสตาร์ที่เต็มไปด้วยความบริสุทธิ์ผุดผ่องคล้ายกับไม่เคยอกหักมาก่อนนั่นมันทำให้ผมลังเล

   โว้ย เกิดอะไรขึ้นกับกูวะ

   ผมไม่ได้สนใจมัน

   จริงๆ นะ...

   “พี่ดินมาเว้ย”

   “พี่ดินๆ”

   ไอ้เด็กพวกนั้นที่กำลังปั้นดินเหนียวกันอย่างสนุกสนานหันมามองผมกับไอ้โชคกันหมดทุกคน ขอย้ำ ทุกคน มีกี่สิบคนก็มองมาหมดอ่ะ ผมผงะเล็กๆ ขณะที่ไอ้โชคนั้นโคตรที่จะตกใจ มันแสร้งทำเป็นเดินหนี ทำให้ผมต้องตกเป็นเป้าสายตาคนเดียว

   ไอ้สตาร์มองมาแล้ว มันกระพริบตาโตๆ ของมันตั้งหลายทีระหว่างที่มองผม

   ไม่มีทางเลือกแฮะ ผมจำเป็นต้องเดินเข้าไปหามันอย่าง (ทำเป็น) กล้าหาญท่ามกลางสายตาเพื่อนขี้หวงของมันทุกคน

   “มึงคิดออกยัง” ผมถามโต้งๆ

   สตาร์อ้าปากค้าง มองไปที่เพื่อนมันหลายคนอย่างหวาดๆ

   “เร็ว” ผมเร่งเร้า

   “ก็เอ่อ...”

   “ตอนกลางวันไอ้สตาร์มันอยากได้คนเลี้ยงข้าวครับพี่” ไอ้บู้ตอบแทน ใครหลายคนทำเสียงเห็นด้วย ในขณะที่สตาร์โวยวาย

   “ไม่เอา”

   “มึงต้องไปแดกข้าวกับกู” ผมพูดตัดปัญหา แล้วก็เดินหนีไป

   “คือว่า...”

   ผมไม่สนใจคำร้องของสตาร์ รู้สึกใจเต้นตุบๆ แปลกๆ คล้ายกับตอนที่ใจกล้าบ้าบิ่นไปส่งขนมให้ฟืนเมื่อไม่กี่เดือนก่อนยังไงยังงั้น

   ตอนนั้นผมชอบฟืน

   แต่ตอนนี้ผมชอบไอ้เด็กสตาร์นี่เหรอวะ

   บ้าน่า ไม่มีทาง
   








   พักกลางวัน

   แม้กระทั่งตอนนี้ผมก็ยังสะกดจิตตัวเองอยู่ว่าผมไม่ได้สนใจไอ้สตาร์ ถึงหัวผมจะคิดอย่างนั้นแต่เท้าผมพาผมมายังหน้าห้องม. 5/1 ซะงั้น ตอนนี้เป็นเวลา 12.15 น. แปลว่าคุณครูที่กำลังสอนอยู่ปล่อยเลตเป็นเวลา 15 นาทีแล้วครับ จากที่ผมเงี่ยหูฟังดู คุณครูยังพูดเนื้อหาที่เข้มข้นอยู่เลย

   แล้วจะปล่อยตอนไหนล่ะวะเนี่ย

   ผมรออีก 10 นาทีในที่สุดพวกเด็กห้องหนึ่งก็กรูกันออกมา พวกมันมองหน้าผมเหมือนรู้อยู่แล้วว่าผมจะมาเลยไม่คิดขัดขวางอะไร ผมมองอยู่นานก็ไม่เห็นไอ้สตาร์สักที จนผมตัดสินใจเดินเข้าไปในห้องนั้นเอง

   สตาร์อยู่คนเดียวในห้อง ในมือของเขากำลังปั่นงานอะไรบางอย่างอยู่ด้วยความเร็วขั้นเทพ

   “ไม่แดกข้าวเหรอ”

   มันเงยหน้าขึ้นมาแวบหนึ่งก่อนที่จะก้มลงไปใหม่

   “ผมลืมทำงานวิชานี้ครับ” สีหน้าอีกฝ่ายดูเป็นกังวล ซ้ายมือของมันคืองานของเพื่อน ส่วนขวามือของมันคืองานของมัน มันกำลัง Copy และก็ Paste โดยใช้ลายมือของตัวเอง หรือพูดง่ายๆ ก็คือลอก

   ผมมองมันอย่างเอ็นดู ใบหน้าของมันดูทั้งรีบทั้งกังวล

   “ส่งเมื่อไหร่”

   “ตอนบ่ายโมง”

   ผมชักเริ่มเครียดแทนมันขึ้นมา “อีกไม่กี่นาทีนี้แล้วอ่ะดิ” ลองเอื้อมมือไปจับชีทของเพื่อนมันดู “เช้ด อีกตั้งหลายหน้า”

   “ผมลอกทัน ถ้าพี่ไม่ชวนผมคุย”

   ไอ้เด็กนี่...ผมอ้าปากพะงาบๆ เตรียมที่จะด่าแต่เมื่อเห็นความตั้งใจของมันคำด่าของผมก็ถูกกลืนลงไปในคอ มันทั้งรีบและก็เครียดแถมเวลายังจำกัดอีกต่างหาก ผมไม่ควรจะรบกวนอะไรมันทั้งสิ้น

   แล้วแบบนี้ก็แปลว่ามันจะไม่ได้กินข้าวกลางวันน่ะสิ

   ผมปล่อยให้มันลอกงานของมันไปแบบนั้นก่อนที่จะออกจากห้องแล้วหายไปสักพัก กลับเข้ามาอีกทีพร้อมแซนวิช นมสดกล่องหนึ่ง และก็ขนมปีโป้ห้าอัน

   ผมวางทั้งหมดนั่นลงตรงหน้าของสตาร์ มันมองพร้อมๆ กับทำสีหน้าไม่อยากจะเชื่อใส่ผม

   “มึงคงไม่ได้ออกไปแดกข้าวแน่ๆ”

   “...”

   “ลอกงานต่อไปเถอะ เดี๋ยวไม่เสร็จ”

   สตาร์กระพริบตาปริบๆ ใส่ผมจากนั้นก็ก้มหน้าก้มตาลอกงานต่อ

   ทำไมผมรู้สึกหัวใจพองโตแปลกๆ วะ ทั้งๆ ที่ผมเป็นคนให้ ไม่ใช่คนรับ

   “แล้วพี่แดกข้าวหรือยังครับ” ดูมันใช้คำ ตกลงมึงจะสุภาพหรือจะหยาบ

   “ยัง” ผมรอมากินพร้อมมัน

   “อ้าว พี่ก็ออกไปแดกสิครับ”

   “มึงทำงานไปเหอะ ไม่ต้องเป็นห่วงกูหรอก”

   สตาร์ทำสีหน้าลำบากใจ แต่มันก็ไม่มีเวลามาต่อปากต่อคำกับผม มันทำงานด้วยความไวแสงของมันต่อไปในขณะที่ผมก็คอยแอบลอบมองมันไปเรื่อยๆ

   ริมฝีปากบางเป็นรูปกระจับสีแดง ดวงตากลมโตภายใต้ขนตายาวเป็นแพ ดวงหน้าขาวที่ขาวสม่ำเสมอเหมือนๆ กับผิวทั่วร่างกาย ผมสีดำขลับดูนุ่มละมุนน่าสัมผัส

   น้องดาวจัดว่าเด็ดเมื่อได้มองใกล้ๆ

   อืมมม...

   “เสร็จแล้ว!” สตาร์ร้องลั่นแล้วลุกขึ้นยืน “เดี๋ยวผมรีบเอางานไปส่งก่อนนะ”

   “เออๆ” ผมรับคำอย่างมึนๆ เพราะถูกขัดจังหวะการมองของสวยๆ งามๆ

   ก่อนจะออกจากห้องมันยังหันมาบอกผมอีกว่า “ขอบคุณสำหรับอาหารกลางวันนะครับ”

   “เอ่อ...อืม”







   
   บางทีคำถามที่ผมสงสัยในใจ ผมอาจจะได้คำตอบเร็วๆ นี้

   “เตะบอลป่ะเชี่ยดิน” เพื่อนในห้องคนหนึ่งถามผม

   “เอาดิ สัดโชค มึงเตะป่ะ”

   “เตะได้จนกว่าแม่จะมารับ”

   “เออๆ”

    บอกได้เลยว่าตอนนี้ผมกับเพื่อนในห้องสนิทกันมากจนไปไหนมาไหนด้วยกันแทบจะยกห้อง อย่าเพิ่งตกใจกันนะครับ พวกผมไม่ได้เดินกันไปเป็นกลุ่มๆ สามสิบสี่สิบคน แต่เพราะมีคนมาโรงเรียนน้อยมากต่างหาก พวกผมก็เลยไปไหนมาไหนด้วยกันแทบจะทุกคนน่ะ

   มันเป็นช่วงเวลาสุดท้ายของชีวิตมัธยมก็จริง แต่พวกเราก็ดันมีหน้าที่ที่จะต้องหาที่เรียนเพื่อก้าวเข้าสู่ชีวิตมหา’ลัย และนั่นก็อาจจะทำให้เราหลงลืมช่วงเวลาที่มีค่าอย่างช่วงนี้ไป ทิ้งเวลาที่จะได้อยู่กับเพื่อนและมีเหลืออยู่น้อยนิดไปทุ่มเทกับการอ่านหนังสือสอบตรงแทน คิดไปคิดมาก็น่าเสียดายอยู่นะครับ เพื่อนก็สำคัญ แต่อนาคตก็สำคัญอ่ะ

   เห็นผมมาโรงเรียนทุกวันแบบนี้ผมก็อ่านหนังสือทุกวันเหมือนกันนะครับ ช่วงเวลาที่ผมว่างผมก็อ่านหนังสือตลอด แต่ถ้าวันไหนมีอารมณ์อยากผ่อนคลาย ผมก็เลือกที่จะเตะบอลกับเพื่อนกับฝูงที่พอจะเหลืออยู่นี่แหละ

   ระหว่างที่กำลังเตะบอลจนเหงื่อไหลไคลย้อยอยู่นั่นเอง คนตัวเล็กๆ คนหนึ่งก็มายืนอยู่ริมสนามบอล บอลที่ผมควรเลี้ยงส่งต่อไปให้ไอ้โชคก็พลันชะงักเพราะร่างกายผมไม่วิ่งต่อ

   สตาร์ที่สะพายกระเป๋าเป้กำลังยืนมองผมอยู่ ท่าทางรีบๆ

   “พี่เตะอีกนานมั้ย”

   ผมเตะบอลทิ้งไปทางอื่น “กูเลิกเตะแล้ว”

   “เชี่ยดิน โดนหัวกู!”

   ผมไม่สนใจเสียงโวยวายของไอ้โชค ขณะเดินไปหยุดอยู่ตรงหน้าสตาร์

   “มีอะไร”

   สตาร์วางโพสต์อิทใส่ในมือผม ทันทีที่มันทำแบบนั้นก็ทำให้ผมนึกอะไรบางอย่างขึ้นมาได้

   ไอดีไลน์!

   “ทำไมไม่ทวง รู้ทั้งรู้อยู่ว่าตัวเองทำไปเพื่ออะไร” สตาร์พูดอย่างเร่งรีบแล้ววิ่งจากไป ทิ้งให้ผมถือโพสต์อิทด้วยสีหน้างุนงง ผมไม่ได้งงกับการกระทำของสตาร์ แต่งงว่าทำไมตัวเองถึงลืมเรื่องนี้ไปซะสนิท

   ที่ผมไม่ทวงไอดีไลน์จากสตาร์ อาจเป็นเพราะสิ่งที่ผมทำให้มัน ผมไม่ได้หวังอะไรเลยมั้ง

   ถ้างั้นก็แปลว่า...
   
   ไอดีไลน์ตัวที่ 2
   W
   ขอบคุณสำหรับอาหารกลางวันครับ แต่ทำไมต้องเป็นปีโป้?


   ...ผมชอบไอ้เด็กนั่นเข้าแล้วใช่มั้ย?

   เพราะผมลืมเรื่องคำท้าไปเลย






TBC*



เด็กๆ ใสจังเลยลูกกกกกก งือ

ออฟไลน์ -~iK@iZ_KunG~-

  • Tomorrow Never Die!!!
  • เป็ดHermes
  • *
  • กระทู้: 2231
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +220/-2
น้องดาวของพี่ดิน อิอิ
ได้มา 2 ตัวแล้ว สู้ๆ นะพี่ดิน
อีก 18 ตัวเอง ฮ่าๆๆ

ออฟไลน์ B52

  • เป็ดZeus
  • *
  • กระทู้: 13215
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +420/-26

ออฟไลน์ Tiffany

  • เป็ดHera
  • *
  • กระทู้: 1147
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +24/-0
เชียร์พี่ดิน

ออฟไลน์ Timber

  • เป็ดมัธยม
  • *
  • กระทู้: 112
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +3/-0
งุ้ยยย อยากอ่านอีก :ling1:

ออฟไลน์ colorofthewind21

  • เป็ดDemeter
  • *
  • กระทู้: 1645
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +31/-1
น้องดาวน่ารักกก

ออฟไลน์ lolli_candy99

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 57
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +1/-0
นุ้งงงงงงดาวววววววววววว น่ารักมากลูกกกกก ใจบางงง :hao7:

ออฟไลน์ areenart1984

  • เป็ดArtemis
  • *
  • กระทู้: 4805
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +167/-7
สู้ ๆ หลานดิน อีก 18 ตัวเอง  :กอด1:

CoMMuNiTY Of ThAiBoYsLoVE

ประกาศที่สำคัญ


ตั้งบอร์ดเรื่องสั้น ขึ้นมาใครจะโพสเรื่องสั้นให้มาโพสที่บอร์ดนี้ ถ้าเรื่องไหนไม่จบนานเกิน 3 เดือน จะทำการลบทิ้งทันที
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=2160.msg2894432#msg2894432



รวบรวมปรับปรุงกฏของเล้าและการลงนิยาย กรุณาเข้ามาอ่านก่อนลงนิยายนะครับ
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=459.0



สิ่งที่ "นักเขียน" ควรตรวจสอบเมื่อรวมเล่มกับสำนักพิมพ์
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=37631.0






ออฟไลน์ kredkaew26

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 88
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +5/-1
อ่าาาาาา หลังจากที่รอทุกเมื่อเชื่อวัน ในที่สุดก็มาาาาาาาาาาาาาา  อ้าาาาาพี่ดินรักน้องดาวไปแล้วชิมิ ^^  :hao3: :hao3: :mew4: :mew4:

ออฟไลน์ Rumraisin

  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 673
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +5/-0
พี่ดินเริ่มแล้ว สู้ๆนะคะอีกแค่18ตัวเอง  :pig4:

ออฟไลน์ PrimYJ

  • เป็ดEros
  • *
  • กระทู้: 3473
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +19/-3
พี่ดินสู้ๆนะ

ออฟไลน์ iceman555

  • เป็ดHades
  • *
  • กระทู้: 8196
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +149/-11

ออฟไลน์ boboman

  • เป็ดHera
  • *
  • กระทู้: 1189
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +33/-2
ความมุ้งมิ้งของเด็กมัธยมนี่มันดีจริงๆ :hao7:

ออฟไลน์ kobyp_lu

  • เป็ดมัธยม
  • *
  • กระทู้: 193
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +12/-0
น่ารัก  ความรักวัยเด็กน่ารักสมวัยจริงๆ 555555555 สู้ๆนะพี่ดิน  o13

ออฟไลน์ Chiffon_cake

  • เป็ดนักเขียน
  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 712
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +1544/-12





ตอนที่ 3





กรุ๊ปไลน์ ‘สตาร์ FC’

Din : พวกมึงคิดว่าที่กูทำอยู่เนี่ยกูทำไปเพราะอะไรวะ?
FUEN : พี่ชอบสตาร์ไง
AOF : พี่อาจจะว่างเกินไปหรือเปล่าครับ
TANG : พี่ไม่รู้แล้วผมจะรู้ได้ไงอ่ะ
CHOK : มึงชอบน้องเขาไงสัด
PHYSICS : ไม่รู้หรือไม่อยากยอมรับ?






คำตอบเชี่ยสิกแม่งทำผมของขึ้นทุกทีสิน่า แต่ก็ขึ้นนิดหน่อยครับไม่ถึงขนาดอยากบึ้มโทรศัพท์

วันนี้ผมมาโรงเรียนแต่เช้าตามเคย แต่มันผิดปกติก็ตรงที่คอผมดันชอบหันกลับไปมองหน้าโรงเรียนด้วยความอยากรู้ว่ามีรถหรูๆ ที่ผมเคยเห็นมาส่งใครบางคนมั้ย ไม่ว่าผมจะเดินวนไปวนมาแถวหน้าโรงเรียนให้รุ่นน้องไหว้นานแค่ไหน ไอ้รถหรูคันนั้นก็ไม่ยอมขับมาจอดสักที

หรือวันนี้มันจะมาสาย

หรือวันนี้มันจะไม่สบาย

“พี่ดิน” ฟืนไหว้ผมพร้อมเอ่ยคำทักทาย “ทำอะไรอยู่พี่ ทำไมทำท่าแปลกๆ อ่ะ”

การปรากฏตัวของน้องมักจะมาพร้อมกับแฟนของน้องเสมอ วันนี้ก็เหมือนกัน ไอ้สิกชอบมองผมเหมือนมันเป็นเจ้ากรรมนายเวรของผม และยิ่งฟืนทักผมทีไร ไอ้สิกก็มีความรุนแรงทางสายตาแบบทวีคูณมากขึ้นเรื่อยๆ

ผมไม่สนใจไอ้สิก แต่หันมาหาฟืนแทน

“รอเพื่อนอยู่น่ะ”

“รอเพื่อนหรือรอสตาร์” พูดจบฟืนก็ยิ้มตาหยี รอยยิ้มนั้นทำเอาไอ้สิกต้องจับตัวฟืนให้ไปหลบข้างหลังมัน

ไอ้ขี้หวงเอ๊ยยยยย

“ม.6 มีห้องคิงป่ะพี่” ไอ้สิกถามเสียงเรียบ

“มีดิ”

“แล้วพี่รู้มั้ยว่าห้องคิงบางวันก็มีเรียนตอนก่อนเข้าแถวด้วย”

ผมกระพริบตา จากนั้นผมก็ถึงบางอ้อ กูลืมนึกถึงเรื่องนี้ไปเลย!

“ไม่รู้เรื่องเล้ย แย่ๆ” สิกส่ายหน้า

“มึงว่าไงนะ” ผมชักโมโห นี่ผมปล่อยให้มันกวนประสาทผมเกินไปหรือเปล่าวะครับ ผมขยับเข้าไปใกล้ไอ้สิกคล้ายกับจะเอาเรื่อง แต่ฟืนเข้ามาขวางไว้ซะก่อน

“มึงเลิกกวนตีนพี่เขาสักที”

“กูไม่ได้กวนนะ กูพูดความจริง” เสียงที่ไอ้สิกใช้กับฟืนช่างแตกต่างจากตอนใช้กับผมมากจริงๆ

“มึงกวน กูเห็นอยู่”

“แต่ว่า...”

“ขอโทษพี่เขา”

“บ้าป่ะเนี่ย”

“อย่างน้อยพี่เขาก็เป็นรุ่นพี่เรานะเว้ย”

“เอ่อ...” ผมเอ่ยแทรกคู่รักตรงหน้าที่เริ่มจะทะเลาะกันเพราะผม “ไม่เป็นไรหรอกฟืน ไอ้สิกมันก็เป็นแบบนี้ สันดานมันแก้กันไม่ได้ง่ายๆ หรอก”

“โห ไอ้พี่ดิน พูดงี้ต่อยผมเลยดีกว่า” สิกทำท่าจะพุ่งเข้ามาใส่ผม แต่ฟืนใช้มือตัวเองดันหน้าแฟนให้ออกห่าง

“ผมพามันไปกินข้าวเช้าก่อนดีกว่าครับ สงสัยจะโมโหหิวอ่ะ”

“เออ รีบพามันไปเลย”

ฟืนทำสีหน้าขอโทษขอโพยขณะดันหลังแฟนขี้หึงของตัวเองให้เดินไปข้างหน้า ผมส่ายหน้าให้เด็กทั้งสองเบาๆ ก่อนจะหันไปมองดูตึกของพวกห้องคิงที่เรียนรวมกันตั้งแต่ ม.4 – ม.6

อย่างน้อยก็ได้รู้แล้วว่าตอนนี้สตาร์อยู่ไหน...









ก่อนเข้าแถว

“มึงเป็นเหี้ยไรของมึง”

ผมหันไปมองไอ้โชคที่เป็นคนถามด้วยแววตางุนงง “อะไรวะ”

“มึงเหมือนหมาถูกน้ำร้อนลวกอ่ะ ลุกลี้ลุกลนผิดปกติ” ไอ้โชคตั้งข้อสังเกต “และอีกอย่างหนึ่งนะ กูเห็นมึงมองไปที่ตึกห้องคิงโคตรบ่อย มีห่าอะไรป่ะเนี่ย”

ทำไมเพื่อนมันต้องรู้ทันด้วยวะ

“ยังไม่ได้เจอน้องดาวเหรอ”

ในเมื่อเพื่อนมันรู้ขนาดนี้แล้วก็ยอมรับกับมันไปเลยแล้วกัน “เออ”

“ยากตรงไหน มึงก็เดินไปหาดิ”

“น้องมันเรียนอยู่”

“ก็เดินไปส่องหน้าห้องไง เอามั้ย เดี๋ยวกูพาไป”

“เชี่ยโชค” ผมร้องลั่นทั้งๆ ที่เดินตามไอ้โชคที่ลากผมไปแล้ว “ถ้าน้องมันเห็นล่ะ”

“เห็นก็ดีดิ”

“...”

“น้องมันจะได้รู้ว่ามึงชอบ”

“กูไม่...” ให้ตาย แม้แต่จะเถียงว่าผมไม่ได้ชอบมันก็ยังเถียงไม่ออก ราวกับว่าตอนนี้ผมกำลังสับสนในตัวเองจนไม่สามารถยอมรับมันออกมาได้ตรงๆ

ไอ้โชคลากผมมาถึงหน้าตึกห้องคิงแล้ว แต่สิ่งที่เซอร์ไพรส์ตามมาหลังจากนั้นก็คือประตูห้อง ม.5/1 เปิดออกพอดี จากนั้นก็มีเด็กในห้องกรูกันออกมาคล้ายกับรีบเร่งไปให้ทันเข้าแถว

แล้วผมกับไอ้โชคมาทำเหี้ยอะไรกันตรงนี้เนี่ย

ระหว่างที่กำลังสับสนว่าจะเอาไงต่อ สายตาของผมก็ไปเห็นสตาร์พอดี มันกำลังยืนคุยกับเด็ก ม.6 ห้องคิงด้วยสีหน้ายิ้มๆ ท่าทางสนิทสนม

“เอ่อ...” ไอ้โชคมองภาพนั้นสลับกับมองผม “เชี่ยดินใจเย็นๆ นะ”

ผมไม่ได้ยินเสียงห้ามของไอ้โชคด้วยซ้ำ เท้าของผมพาผมมาหยุดยืนอยู่ตรงกลางระหว่างสตาร์กับไอ้เด็ก ม.6 คนนั้นเป็นที่เรียบร้อย เมื่อมันหันมาผมก็รู้ทันทีว่ามันเป็นใคร มันชื่อ ‘อาร์ต’ ครับ

ไอ้อาร์ตมองผมก่อนที่จะผงะ ผมใช้สายตาข่มขู่ให้มันไปไกลๆ ดูเหมือนมันจะคุยธุระกับสตาร์เสร็จแล้วมันจึงเดินหนีไป

“พี่ดินมีไรป่ะครับ” สตาร์เงยหน้าถามผม

นั่นสิ กูมีอะไรวะ อะไรสั่งให้กูมายืนตรงนี้ทั้งๆ ที่กูไม่ได้มีธุระอะไรด้วย

“คือ เอ่อ...” ผมต้องเอ๋อต่อหน้าไอ้เด็กคนนี้อีกนานแค่ไหน

“ไม่รีบไปเข้าแถวเหรอ”

“เรื่องนั้นน่ะ”

“ไอดีไลน์?”

“เออ”

“คือ...” สตาร์มองข้างหลังผมที่มีเด็กนักเรียนรีบวิ่งไปเข้าแถว ดูน้องมันรีบๆ แต่ก็ยังอยากให้คำตอบกับผม “จริงๆ แล้ว เรื่องนี้พวกบู้คิดกันเอง ผมไม่ได้คิดนะ มันบอกให้ผมมาบอกพี่ แต่ถ้าพี่ไม่อยากทำก็ไม่เป็นไร เพราะมันลำบากนิดหน่อย”

“เรื่องอะไรว่ามาดิ”

“ไปส่งผมเรียนพิเศษ”

ก็นึกว่าจะเรื่องอะไร “ไม่ลำบากหรอก มึงเรียนที่สยามใช่มั้ย”

“ครับ”

“เออ งั้นตอนเย็นเจอกันที่หน้าห้องมึงนะ”

“ผมเรียนเสร็จบ่ายสามนะครับวันนี้”

ตอนนั้นผมยังเตะบอลในวิชาพละอยู่มั้ง เอาไงดีวะ แต่ปากผมไปไวกว่าความคิด

“เออ บ่ายสามก็บ่ายสาม”

สตาร์มองผมอย่างทึ่งๆ ก่อนที่จะรีบวิ่งจากไป ไอ้โชคเดินเข้ามาสมทบกับผมพร้อมกับตบบ่า

“ทำไมบรรยากาศตอนน้องคุยกับไอ้อาร์ตกับตอนที่น้องคุยกับมึงถึงได้ต่างกันวะ”

“มึงหมายความว่ายังไง”

“สตาร์ไม่เห็นยิ้มตาหยีเหมือนตอนที่อยู่กับไอ้อาร์ตอ่ะ”

ผมจิ๊ปากใส่ไอ้โชค มันขยับตัวอย่างหวาดๆ เล็กน้อย ขณะที่ผมนั้นเริ่มรู้สึกว่ามีลูกไฟลูกเล็กๆ แผดเผาหัวใจของผม

รอยยิ้มตาหยีงั้นเหรอวะ...

โด่ มันจะไปยากอะไร แค่ไปจี้เอวไอ้สตาร์ให้ได้มันก็ยิ้มจนตาหยีแล้วป่ะวะ










ผมนั่งคิดเรื่องยิ้มตาหยีมาสักพักแล้ว ไม่ว่าจะผ่านคาบที่หนึ่ง คาบที่สอง และก็คาบที่สาม ผมก็ยังคิดวนๆ อยู่แบบนั้น

มันไม่ได้ง่ายแค่จี้เอวเลยเว้ยสัดดิน!

ต้องเท้าความก่อนว่าผมรู้จักไอ้เชี่ยอาร์ตแบบห่างๆ มันเรียนที่นี่มาตั้งแต่ ม.ต้น จึงเป็นคนเก่าคนแก่ที่คุ้นหน้าคุ้นตากันดี อาร์ตเป็นคนหน้าตาดี ถึงแม้จะไม่ได้มีหน้าตาระดับท็อปแบบไอ้สิก น้องฟืน หรือสตาร์ แต่ก็มีบางสิ่งบางอย่างที่ทำให้มันดูหล่อขึ้นมาก นั่นก็คือมันโคตรรวย!

ผมที่คลุกคลีอยู่กับข้อมูลนักเรียนโรงเรียนนี้มานานย่อมรู้ดีว่าใครรวยที่สุด ที่ต้องรู้ก็เพราะโรงเรียนผมเป็นโรงเรียนเก่าแก่ อีกทั้งยังมีธุรกิจหลากหลายครอบครัวที่เกื้อหนุนจุนเจือกันรุ่นต่อรุ่น ผมเคยเป็นสารวัตรนักเรียนเรื่องพวกนี้ไม่รู้ก็ไม่ได้ครับ เดี๋ยวจะไม่รู้ว่าบ้านนี้ไม่ถูกกับบ้านนี้ ทำไมลูกเขาชอบมีเรื่องกันบ่อยๆ โน่นนี่นั่น

คนที่รวยที่สุดในโรงเรียนผมชื่อว่า ‘ไอ้เนม’ อยู่ห้อง ม.5/3 เป็นเพื่อนของสิกกับฟืน ส่วนคนที่รวยรองมาก็คือไอ้เชี่ยอาร์ตนี่แหละ ความรวยทำให้มันดูหล่อเหนือกว่าพวกหน้าตาท็อปๆ นอกจากจะหล่อรวยแล้ว มันก็ยังเรียนเก่งอีกต่างหาก จึงไม่แปลกที่จะเห็นว่าคนที่มันควงแต่ละคนนั้นมีแต่แต่ท็อปของโรงเรียนทั้งนั้น

และถ้าสตาร์จะโดนมันควงก็ไม่ใช่สิ่งที่ผิดแปลกอะไร...เพราะอาร์ตมันเป็นเกย์

กึก

ดินสอไม้ในมือของผมหัก

“เชี่ยดิน” ไอ้โชคที่นั่งอยู่ข้างๆ อ้าปากค้าง “เป็นบ้าเหรอ อยู่ดีๆ ก็ทำลายดินสอ”

“วันนี้กูจะทำให้สตาร์ยิ้มจนตาหยีให้ได้!”

มันเลิกคิ้วมองผม ไอ้โชคเหลือบไปดูคุณครูที่กำลังสอนอยู่จากนั้นก็ขยับหน้าเข้ามาใกล้ “มึงยังไม่ลืมเรื่องนี้อีกเหรอ กูก็พูดไปอย่างนั้นเอง”

“กูคิดไปคิดมาแล้วมันรบกวนกูว่ะ”

“นี่มึงชอบน้องมันจริงๆ แล้วใช่มั้ยนี่”

“...”

“ไม่ใช่แค่ชอบแล้วมั้ง หลงใหลใช่ป่ะสัด”

“บ้าป่ะวะ”

“สัดดิน มึงกลายเป็นอะไรไปแล้วเนี่ย ตอนมึงชอบน้องฟืนมึงยอมรับกับกูตรงๆ นะ ไอ้คนตรงๆ คนนั้นหายไปไหนซะแล้วล่ะ”

“คือ...” ผมขยับตัวไปมาอย่างไม่รู้จะอธิบายยังไง “กูก็ยังสงสัยในตัวเองอยู่”

“มึงยังจะสงสัยอะไรอีก” ไอ้โชคชักหมดความอดทน

“...”

“ตั้งแต่มึงถามเรื่องสตาร์กับกูวันนั้นนะ มึงก็เอาแต่พูดเรื่องไอดีไลน์ของมันว่าสามพันจริงหรือเปล่า หน้าอย่างนั้นทำไมถึงมีไอดีไลน์ตัวละสามพัน มีคนเคยได้ไอดีไลน์น้องมันมั้ย โน่น นี่ และนั่น กูว่ามึงชอบน้องมันแล้วล่ะ มึงสนใจน้องมันมากด้วย แต่มึงไม่ยอมรับ”

“...”

“หนีใจตัวเองไปก็เหนื่อยเปล่าป่ะวะ กูว่ามึงยอมรับไปเลย ชีวิตง่ายกว่าเยอะ ไหนมึงเคยบอกว่าชีวิตนี้มันสั้นไง ชอบใครก็รีบไปบอกไม่ใช่เหรอ กูชอบมึงตอนนั้นมากกว่าตอนนี้นะ”

มันเทศนาซะจนผมขนลุก และยิ่งขนลุกหนักเข้าไปใหญ่เมื่อมันบอกว่ามันชอบผมตอนนั้นมากกว่า

คิดไรกับกูป่ะเพื่อน ไม่กลัวฟ้าผ่าเหรอ...

“อย่าเข้าใจผิดนะ กูปลื้มน้องสตาร์ก็จริงแต่กูชอบผู้หญิงเว้ย” ไอ้โชคขยับตัวออกห่างผม

“กูเคยอกหักจากน้องฟืน ตอนนั้นกูจีบน้องด้วยวิธีการห่ามๆ บอกไปตรงๆ แล้วมึงดูสิว่ามันลงท้ายยังไง”

“มันไม่เหมือนกันป่ะวะ” ไอ้โชคชักจะใส่อารมณ์มากขึ้น “ฟืนมันเกิดมาเพื่อได้กับเพื่อนตัวเองเว้ย มึงชอบน้องแต่น้องมีไอ้สิกอยู่แล้ว เพราะงั้นมึงจีบยังไงมึงก็นก แต่นี่คือสตาร์ ผู้โสดสนิทและก็เพิ่งอกหัก ยังไม่มีใครตีตราจองเอาไว้ ถ้ามึงกลัวว่ามึงจะเจ็บ กูก็เข้าใจนะ แต่กูอยากให้มึงลองนึกภาพตอนที่น้องสตาร์โดนไอ้หมาอาร์ตคาบไปแดก ถึงตอนนั้นมึงจะเจ็บมากกว่าตอนนี้หรือเปล่า ลองถามใจตัวเองดูนะครับผม”

แม่ง...แทงใจผมมากซะจนใจผมเป็นแผลเลือดกระฉูด

เมื่อตะกี้แค่ผมนึกภาพ ดินสอไม้ในมือผมก็หักแล้วอ่ะ เพราะงั้นคงไม่ต้องถามถึงความเจ็บหรอกมั้ง ผมคงจะมีมากกว่าความเจ็บอีกนั่นก็คือ...ความปรารถนาที่จะจับไอ้สองคนนั่นแยกออกจากกันซะ!

โชคดีที่ผมมีไอ้โชคเตือนสติ

พี่ดินคนที่เคยสับสนคนนั้นหายไปแล้ว

ผมคงตกหลุมที่น้องสตาร์มันขุดเอาไว้ซะแล้วล่ะครับ










บ่ายสาม

ผมโดดเรียนไปครึ่งคาบด้วยการบอกคุณครูวิชาพละว่าแม่มารับ (ใช้บุพการีอ้างไปอีกกู) ตอนนี้ผมมารอหน้าห้องของสตาร์เป็นที่เรียบร้อยแล้ว ตัวผมยังใส่ชุดพละอยู่เลย แต่รับรองได้ว่าไม่เหม็นเหงื่อครับ

ใช้เวลาไม่นานเด็กห้องนี้ก็เลิกเรียน ทุกอย่างดำเนินไปในแบบเดิมๆ นั่นก็คือพวกเพื่อนของสตาร์ออกมาก่อน พวกนั้นหันมามองผมกันแทบจะทุกคนด้วยสายตาเรียบๆ แกมเบื่อหน่ายนิดหน่อย และสตาร์ก็มักจะเป็นคนสุดท้ายที่ออกมาเสมอ

มันตกใจที่เห็นผมยืนอยู่หน้าห้อง

“มาจริงแฮะ” มันเอามือกุมอก “จริงจังไปป่ะครับพี่”

“อืม จริงจัง” ผมจะเริ่มเป็นตัวผมจริงๆ แล้วนะครับ “จะไปไงอ่ะ แท็กซี่หรือว่ารถไฟฟ้า”

“เฮ้อ” สตาร์ถอนหายใจแล้วเดินเข้ามาใกล้ผม ใกล้มากจนหัวของมันจะโดนตัวผมอยู่แล้ว ผมกระพริบตาปริบๆ มองดูคนตัวเล็กกว่าตรงหน้าพร้อมกลืนน้ำลาย “ผมบอกเพื่อนแล้วแต่เพื่อนไม่ฟัง พี่จะยกเลิกไม่ไปส่งผมก็ได้นะครับ”

“มึงหมายความว่ายังไง”

“วันนี้พ่อจะมารับ พ่อบอกจะขับรถผ่านแถวโรงเรียนพอดีก็เลยจะมารับผมไปส่งที่สยาม”

เอ่อ...พ่อเลยเหรอวะ ผมถึงกับอ้าปากค้างกันเลยทีเดียว

“เพื่อนบอกถ้าพี่กล้านั่งรถไปกับผม พี่ก็สมควรที่จะได้ไอดีไลน์อีกตัวของผม”

เชี่ยบู้ มึงเป็นคนคิดใช่มั้ย วันหลังมึงห้ามมาเดินแถวซอยบ้านกู ไม่งั้นมึงโดน!

ผมมองใบหน้าของสตาร์ที่ดูเกรงอกเกรงใจผม ก่อนจะทอดถอนใจ

“เอาไงก็เอา”

สตาร์ดูทึ่งมาก “โห พี่ทุ่มทุนว่ะ หลายเรื่องแล้วนะเนี่ย”

“ก็กูจริงจังไง”

“ขอบคุณนะพี่”

“มึงก็อย่าลืมทำตามที่บอกอ่ะ”

“ผมเคยบอกว่าอะไรเหรอ” สตาร์หยิบโทรศัพท์ขึ้นมาคล้ายกับจะโทรออกหาพ่อ

ไอดีไลน์นั่นเริ่มมีความหมายลดลงไปถนัดตาเมื่อผมนึกอะไรบางอย่างได้

“มึงบอกว่าจะอยู่เคียงข้างกูจนกว่าวันที่กูได้ไลน์มึงครบไง” นี่ต่างหากที่สำคัญกว่าอะไรทั้งหมด

สตาร์ที่แนบโทรศัพท์ใกล้หูพูดกับผม “แล้วตอนนี้ผมกำลังทำอะไรอยู่ล่ะ”

กร๊าวใจพี่มากน้องดาว...ถ้าน้องทำตามสัญญา อยู่ข้างๆ พี่ไปเรื่อยๆ พี่เชื่อว่าพี่มีโอกาสทำคะแนนเพื่อเอาหัวใจของน้องแล้วล่ะ
จริงของไอ้โชค การยอมรับหัวใจตัวเองมันเหนื่อยน้อยกว่าการหนีหัวใจตัวเองจริงๆ

จะเจ็บเหมือนเดิมซ้ำๆ ก็ช่างหัวมันแล้วตอนนี้...ชอบก็คือชอบ หนีใจตัวเองไปก็มีแต่จะเสียเวลาเปล่าๆ

เอาเวลาไปคอยแอบมองสตาร์ดีกว่า










บนรถ

กูมาทำอะไรที่นี่วะ ไอ้รถตู้หรูคันนั้นนั่นแหละครับคือพาหนะที่ผมโดยสารอยู่ในตอนนี้ ข้างหน้าของผมคือที่นั่งสองที่ที่มีที่หนึ่งถูกจับจอง คนที่นั่งอยู่ตรงนั้นคือพ่อของสตาร์ จริงๆ แล้วที่ข้างๆ พ่อสตาร์ว่างแต่สตาร์มันไม่นั่ง มันมานั่งข้างหลังเป็นเพื่อนผมแทน และดูเหมือนพ่อมันจะไม่ได้คิดเล็กคิดน้อยอะไรในเรื่องนี้ด้วย

ตลอดทางพ่อสตาร์เอาแต่คุยโทรศัพท์ขณะที่ผมเกร็งฉี่แทบราด ไม่รู้ทำไมผมถึงตัวสั่นนักหนาทั้งๆ ที่ผมคิดว่าตัวเองเป็นเด็กที่เข้าหาผู้ใหญ่ได้เก่ง

หรืออาจเป็นเพราะคนคนนี้คือพ่อของสตาร์วะ

“ชื่ออะไรนะ เมื่อตะกี้พ่อมัวแต่คุยโทรศัพท์” พ่อเริ่มชวนคุยหลังจากที่วางสายแล้ว

“เขาชื่อพี่ดินครับพ่อ เป็นรุ่นพี่ ม.6” สตาร์ตอบแทน

“หน้าตาหล่อดีนี่”

หลังจากที่ได้ยิน อาการเกร็งของผมก็หายไปประมาณสามเปอร์เซ็นต์จากเต็มร้อย อย่างน้อยเรื่องหน้าตากูก็ผ่านล่ะวะ

“ขอบคุณครับ”

“รู้จักกับสตาร์นานหรือยัง”

ผมมองหน้าสตาร์ที่กำลังเริ่มขำผม ทำไมเหรอ ผมตลกตรงไหนอ่ะ มีอะไรที่น่าหัวเราะเหรอวะ

“เมื่อไม่นานมานี้ครับ แต่ผมก็เคยเห็นน้องเขาที่โรงเรียน สตาร์เป็นคนเด่นมาก”

“งั้นเหรอ”

“...”

“แล้วคบกันนานหรือยัง”

คำพูดของพ่อทำเอาสตาร์ร้องลั่นรถ “พ่อ! ยังไม่ได้คบ!”

“ก็เห็นพามาให้พ่อดู”

“พี่เขาอาสาจะไปส่งต่างหาก”

“จริงอ่ะ” พ่อของสตาร์ถึงขั้นหันกลับมาจนผมต้องขยับตัว ทำให้มือของผมไปโดนมือของสตาร์ที่วางอยู่บนเบาะพอดี “คบกันในวัยนี้ก็น่ารักดีนะ”

ในที่สุดพ่อก็หันหน้าไป ผมถอนหายใจโล่งอก ขณะที่สตาร์นั้นเริ่มขำจนตาหยี ยิ่งมองหน้าผมมันก็ยิ่งขำ

เฮ้ย ตาหยีแล้ว นี่ไง! ไอ้โชค มึงมาดู! น้องมันยิ้มตาหยีกับกูแล้วโว้ยยย!

เสียดายที่หยิบโทรศัพท์ขึ้นมาถ่ายไม่ทัน

“ขำไรนักหนา” ผมทำปากขมุบขมิบด่ากลบเกลื่อนความเก้อกระดากของตัวเองที่ชอบรอยยิ้มนั้นของสตาร์

“ผมไม่เคยเห็นพี่ดินในมุมนี้มาก่อน”

“มุมอะไร”

“ก็มุมที่ดูหวาดๆ กลัวๆ อ่ะ ปกติเห็นชอบทำหน้าโหดๆ อยู่เรื่อยไม่ใช่เหรอ”

“มึงก็เลยขำเหรอ”

“ใช่ครับ”

“บ้าป่ะ”

สตาร์หัวเราะเบาๆ ก่อนที่จะขยับมือของตัวเองกลับไปวางบนตัก ผมเองก็เก็บมือของตัวเองเหมือนกัน เมื่อตะกี้ผมแอบแต๊ะอั๋งนิ้วมันไปนิดหนึ่ง

ทำไมแค่นี้กูก็รู้สึกฟินแล้ววะ...









สยาม

“ขอบคุณนะครับพ่อ”

“ขอบคุณนะครับ”

สตาร์กับผมบอกลาพ่อที่มาส่งถึงหน้าสยามกิตติ์ที่เป็นที่เรียนพิเศษของสตาร์ พ่อของมันสั่งคนรถขับรถจากไปแล้ว ตอนนี้จึงมีแค่ผมกับไอ้เด็ก ม.5/1 คนนี้

“หายใจสะดวกขึ้นบ้างป่ะพี่” สตาร์ถามยิ้มๆ

“เออ ขึ้นชื่อว่าพ่อก็น่ากลัวหมดอ่ะ โดยเฉพาะพ่อมึง” หากชอบลูกชายใครสักคน...แล้วพ่อคนนั้นขี้หวงล่ะก็ แม่งโคตรน่ากลัวเลย ผมขอบอก

“พ่อผมใจดีนะ”

“ถามจริง พ่อมึงเคยถามอะไรทำนองนี้กับคนอื่นบ้างมั้ย”

“...”

“ไม่สิ มึงเคยพาใครมาหาพ่อมึงแบบที่มึงกับกูทำหรือเปล่า” นี่ต่างหากคือสิ่งที่ผมควรถาม สตาร์มันเป็นเด็กไม่หยิ่ง แม้จะมีแต่เพื่อนๆ ห้องมันรุมล้อม แต่ก็ใช่ว่ามันจะไม่ได้ไปปฏิสัมพันธ์กับหนุ่มๆ คนไหน

“เคยครับ พี่อาร์ตเคยขอติดรถไปครั้งหนึ่ง”

ไอ้เชี่ยอาร์ตอีกแล้วเหรอ นี่กูหนีมึงมาจากโรงเรียนชื่อมึงก็ยังตามกูมาถึงนี่เลยเหรอ

“มึงกับไอ้อาร์ตนี่ยังไง” ถามด้วยอาการคิ้วกระตุก

“พี่เขาเป็นพี่รหัสของผม ก็เลยสนิทกัน”

“พี่รหัสอะไรของมึง” มีเรื่องแปลกๆ ในโรงเรียนที่กูไม่รู้อีกแล้ว

“ห้องคิงมีพี่รหัสน้องรหัสครับ ใช้เลขที่ประจำห้องนั่นแหละ ผมเลขที่สิบ พี่อาร์ตก็เลขที่สิบ”

“ก็เลยสนิทกันว่างั้น”

“ประมาณนั้น”

ผมรู้สึกขุ่นเคืองเล็กๆ จนหน้าบึ้งตึง รู้สึกเสียดายที่ตอนอยู่ในตำแหน่งสภานักเรียน ผมไม่ยอมล้มเลิกระบบพี่รหัส (เอาจริงๆ ถึงจะไม่มีเรื่องสตาร์ผมก็ไปเสือกกับชีวิตของพวกห้องคิงไม่ได้อยู่แล้ว)

“แล้วอย่างกูเนี่ย มึงจะเรียกกูว่าอะไร”

“ก็เรียกว่าพี่ดินไง พี่ถามอะไรของพี่” มันมองเหมือนผมโง่

“อย่างไอ้อาร์ตก็เป็นพี่รหัสของมึง แล้วกูอ่ะเป็นพี่อะไรของมึง”

“ก็เป็นรุ่นพี่” สตาร์เริ่มขมวดคิ้ว “พี่อยากได้ตำแหน่งอะไรของพี่วะ มันจะมีอะไรนอกเหนือจากรุ่นพี่อีกอ่ะ”

“มึงก็คิดดิ”

อีกฝ่ายเริ่มเกาหัว นี่ผมตั้งโจทย์ยากเกินไปเหรอ

“เรื่องเยอะจริงๆ” สตาร์ดึงโพสต์อิตออกมาเขียน จากนั้นก็ส่งมาให้ผม

ไอดีไลน์ตัวที่ 3
I
พี่คือพี่ดินคนเท่ของผมครับ


“พอใจยัง” สตาร์เลิกคิ้ว ขณะที่ผมอ่านสิ่งที่อยู่ในมือด้วยความอึ้ง

พี่ดินคนเท่...พี่ดินคนเท่...

ไอ้เหี้ย ดีใจมาก ถ้ากรี๊ดได้คงกรี๊ดไปแล้ว แต่นี่กรี๊ดไม่ได้ไง...เพราะผมเป็นคนเท่อยู่

“เออ พอใจ”

“...”

“ส่วนมึงก็คือน้องดาวของพี่ดินนะ รู้มั้ย”

“หา”

เรื่องอะไรจะอยู่ให้เด็กมันเห็นหน้าแดงๆ ของผมล่ะ ต้องรีบชิ่งก่อนที่น้องมันจะรู้ตัวว่าผมพูดอะไร

ท่าทางผมคงชอบเด็กคนนี้เข้าแล้วจริงๆ นั่นแหละครับ








TBC*



เด็กน้อยเอ๊ยยย 555

ออฟไลน์ boboman

  • เป็ดHera
  • *
  • กระทู้: 1189
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +33/-2
มีความมุ้งมิ้งสูงมาก  :hao7:
ตัลลั้กก จีบแบบใสๆ เขินๆ มาก 5555
พี่ดินยอมรับว่าชอบล้าว คึคึ
คุณพ่อดูท่าจะไฟเขียวให้ดินนะเนี่ย 55
รอตอนหน้าค่า

ออฟไลน์ areenart1984

  • เป็ดArtemis
  • *
  • กระทู้: 4805
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +167/-7
น้องดาวของพี่ดิน  เขินแฮะ  อีพี่ดินจะกล้าพูดต่อหน้าเพื่อนๆ ตัวเอง กับเพื่อน ๆ ของสตาร์หรือป่าวนะ  :-[

ออฟไลน์ Bffubbru

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 3
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +0/-0
น้องดาวว งื้มมมม น่ารักกก

CoMMuNiTY Of ThAiBoYsLoVE






ออฟไลน์ kredkaew26

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 88
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +5/-1
อ้ากกกกกกกกกกก "น้องดาวของพี่ดิน"  เขินนนนนนนนนนนวุ้ย  ^^   :-[ :-[ :-[

ออฟไลน์ aiyuki

  • รักแท้ไม่แบ่งแม้เพศพันธุ์
  • เป็ดAres
  • *
  • กระทู้: 2636
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +133/-6
น้องดาวววว

ออฟไลน์ B52

  • เป็ดZeus
  • *
  • กระทู้: 13215
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +420/-26
แหม  :hao3: น้องดาวของพี่ดิน

ออฟไลน์ cookie12ck

  • เป็ดมัธยม
  • *
  • กระทู้: 195
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +3/-0
อร้ายยยยยยยยย :ling1: :ling1: :ling1: :ling1: เขินแทนน้องดาว คริคริ

ออฟไลน์ Lemonlife

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 2
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +0/-0
 :m25:กระอักเลือด เฮือกกกกกก

ออฟไลน์ Chiffon_cake

  • เป็ดนักเขียน
  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 712
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +1544/-12





ตอนที่ 4





ผมเคยคิดเอาไว้ในใจว่าผมต้องการความรักในรูปแบบอย่างนั้นอย่างนี้ วาดฝันในสิ่งที่ผมปรารถนาและคิดว่ามันสวยงาม แต่พอความรักเกิดขึ้นจริงๆ มันไม่สามารถควบคุมได้ รักก็คือรัก ไม่มีรูปแบบตายตัว ไม่เป็นไปตามที่เราต้องการและอาจจะไม่ได้สวยงามเหมือนนิยายชวนฝัน แต่กลับมีความสุขเป็นบ้า

กรุ๊ปไลน์ ‘สตาร์ FC’

Din : สตาร์ของกู ใครยุ่งพ่องตาย
FUEN : โหดมาก 555
AOF : พ่องตาย แต่ผมไม่ตายใช่เปล่าครับ #วิ่ง
TANG : โคตรเท่ โคตรได้ใจ
CHOK : กูกล่อมสำเร็จแล้วสินะ
PHYSICS : ฟืนของผม ใครยุ่งพ่องก็ตายเหมือนกัน


ผมเริ่มจะชินกับไอ้สิกแล้วล่ะครับ มึงหวงไปเหอะ หวงไปเลย ไม่มีใครยุ่งกับของๆ มึงแล้วล่ะ ผมส่ายหน้าใส่โทรศัพท์เบาๆ ก่อนที่จะเปิดเว็บไซต์สมัครสอบรับตรงที่เว็บไซต์มหา’ลัยแห่งหนึ่ง

วันนี้ผมกับไอ้โชคนัดกันว่าจะไม่ไปโรงเรียน

ไม่ใช่ว่าผมไม่อยากทำตัวเป็นนักเรียนตัวอย่างนะครับ แต่เพื่อนในห้องมันไม่มีใครไปเลย อีกทั้งพวกคุณครูที่สอนผมวันนี้ก็พร้อมใจยกเลิกคลาสเรียนกันหมด เพราะงานก็สั่งไว้แล้ว เนื้อหาที่จะสอนก็เริ่มใกล้จะหมดแล้ว เอาเป็นว่าวันนี้รู้กันหมดทั้งคุณครู ทั้งนักเรียน ม.6/2 ว่าไม่มีใครไปโรงเรียน ผมก็เลยมีเวลามาสมัครสอบรับตรงอยู่นี่ไง

แม้จะเป็นการสมัครมหา’ลัยที่ไม่ใช่มหา’ลัยในฝั แต่เมื่อมีโอกาสก็อยากเพิ่มทางเลือกให้ตัวเองดูครับ ผมกำลังกรอกข้อมูลส่วนตัวอย่างเพลิดเพลินตลอดเช้า จนตอนนี้เวลาก็ปาเข้าไปเกือบสิบเอ็ดโมงแล้ว ใจของผมก็ลอยไปหาคนที่อยู่โรงเรียน

สตาร์จะเป็นไงบ้าง จะเรียนเป็นไง จะลืมทำการบ้านส่งมั้ย

ทั้งหมดทั้งมวลนั่นผมไม่สามารถรับรู้ได้เพราะผมไม่มีไลน์ของน้อง เมื่อไม่มีไลน์เบอร์จึงไม่ต้องพูดถึง ไอ้เชี่ยบู้คงป้องกันเรื่องนี้เอาไว้เป็นอย่างดีว่าถ้าผมมีเบอร์สตาร์ ผมก็ต้องมีไลน์ของน้องโดยอัตโนมัติ ซึ่งเด็กห้องฉลาดๆ อย่างมันคงไม่ยอมหรอก

ผมจึงได้แค่นั่งห่อเหี่ยว นึกถึงรอยยิ้มตาหยีของสตาร์ที่ทำเอาผมเพ้อมาถึงวันนี้

คิดไปคิดมา ถึงจะไม่มีไลน์ แต่โลกใบนี้ก็ยังมีเฟซบุ๊กอยู่นะครับ!

ผมรีบเข้าเฟซบุ๊กทันที ทั้งๆ ที่ไม่ได้เล่นมานานหลายเดือน แต่หลังจากที่พยายามเสิร์ชชื่อของสตาร์อย่างหนักหน่วงทั้งชื่อจริงและก็ชื่อเล่น ความจริงที่แสนโหดร้ายก็ได้คืบคลานเข้ามาหาผม

สตาร์ไม่เล่นเฟซบุ๊กว่ะ...

โอ้โห นี่มึงเป็นเด็กยุค 201X จริงๆ ป่ะเนี่ย

ผมที่สมัครสอบเสร็จแล้วแทนที่จะฟิน กลับต้องมานั่งเซ็งเพราะไม่สามารถติดต่อสตาร์ได้ แต่แล้วอะไรบางอย่างก็แวบเข้ามาในหัวผม

ถึงสตาร์จะไม่มีเฟซบุ๊ก แต่โลกนี้ก็ยังมีไอจีนี่หว่า!

เด็กรุ่นผมคงไม่มีใครไม่เล่นไอจีแล้วมั้ง (หรือถ้ามีก็เป็นส่วนน้อยแหละ) ไอจีสตาร์หาง่ายมากโคตรๆ แค่เข้าไอจีเด็ก ม.5 สักคนและก็กดดูคนที่มันติดตาม ไม่นานก็จะเจอชื่อของสตาร์ ผมกดฟอลโลว์ไปอย่างไม่ต้องคิด จากนั้นก็ไล่ดูรูปที่สตาร์เคยอัพเอาไว้
นี่มันอะไรกันวะ

ภาพวิว หมา แมว และก็หนังสือ

มีรูปสตาร์อยู่รูปเดียวนั่นก็คือรูปโพรไฟล์เล็กกระจิ๋วหลิว แถมยังเป็นรูปมันยืนมองเหม่ออยู่ริมทะเลไกลๆ อีก ทำไมคนหน้าตาสวยๆ ถึงไม่ชอบถ่ายรูปตัวเองลงไอจีวะ คนส่องแม่งโคตรเซ็ง

ใครรู้ตัวว่าจะโดนส่อง รบกวนอัพอะไรที่ทำให้คนส่องได้ชื่นใจหน่อยนะครับ

ผมกดไลค์รูปล่าสุดที่สตาร์โพสต์ไว้เมื่อห้าวันที่แล้ว เป็นรูปสยามยามค่ำคืนในแบบอาร์ตๆ นั่นแหละ ใช้เวลาไม่นานนักสตาร์ก็ฟอลโลว์ผมกลับ

เขาแอบเล่นโทรศัพท์ในเวลาเรียนด้วย!

ใจผมสั่นอยากทักไปทาง Direct message ของอินสตาแกรมมาก แต่ไม่เอาดีกว่า แค่น้องมันฟอลกลับก็เป็นเรื่องดีของผมในวันนี้แล้ว ผมไม่จำเป็นต้องโกงพวกไอ้บู้ ชอบเพื่อนเขาก็ต้องเคารพเขาครับ เรื่องนี้ผมคิดเอาเอง

ผมวางโทรศัพท์ลงก่อนจะเริ่มอ่านหนังสืออย่างตั้งใจ

แต่ก็...








สยาม เวลา 16.32 น.

ผมโผล่มาที่สยามตอนเย็นจนได้ แหะๆ #ยิ้มแห้ง สาเหตุมาจากไอ้เชี่ยโชคมันอัพไอจีสตอรี่ที่มีคำบรรยายว่า ‘สยามทัก’ ซึ่งแปลว่าใครอยู่สยามก็ช่วยทักมันหน่อย หรือไม่ก็ใครจะมาสยามก็จงโปรดรับรู้ว่ามันอยู่ที่นี่แล้ว ผมที่เผลอกดเข้าไปที่สตอรี่ของมันถูกมันบังคับให้มาหาที่สยาม มันบอกว่าอ่านหนังสือมาทั้งวันแล้วโคตรเครียด อยากหาไรแดก อยากผ่อนคลาย ผมที่รู้สึกเหมือนมันก็เลยออกมาที่นี่ มาเปิดหูเปิดตา พักผ่อนกายาและจิตใจ

แต่ความจริงคือ...ผมรู้ว่าวันนี้สตาร์จะมาเรียนพิเศษแถวนี้น่ะครับ เผื่อดวงดีได้เจอน้องอะไรประมาณนั้น

“กูว่ากูเลือกวิธีจีบสตาร์ผิดว่ะ” ผมระบายกับไอ้โชคที่กำลังกินสเต็กอยู่ฝั่งตรงข้ามอย่างหิวโหย “กูต้องทำทุกอย่างเพื่อให้ได้ไอดีไลน์น้อง แล้วเป็นไงทีนี้ ไอดีไลน์ก็ไม่มี เบอร์โทรศัพท์ก็ไม่มี มีแต่ไอจี!”

“อย่างน้อยมึงก็มีอะไรไว้คอยส่องนะ”

“มันอัพแต่รูปหมารูปแมว แถมรูปล่าสุดที่อัพคือห้าวันที่แล้ว”

“น้องมันก็เป็นคนแบบนี้แหละ ไม่ค่อยชอบถ่ายรูปตัวเองเท่าไหร่ ชอบถ่ายให้คนอื่น”

“...”

“กูเคยเห็นน้องถ่ายให้ไอ้สิกหนหนึ่ง รูปนั้นลงเพจเด็กไทยคิวต์บอยเลยนะเว้ย”

ผมรู้สึกขุ่นมัวเล็กๆ หลังจากที่ได้ยิน ไอ้การที่มีรูปลงเพจน่ะผมโดนโคตรบ่อยจนไม่รู้สึกอะไร แต่เรื่องที่ผมฟังแล้วของขึ้นก็คือสตาร์เคยถ่ายรูปให้ไอ้สิกเนี่ยแหละ

ทำไมกูไม่มีโมเมนต์นั้นบ้างวะ

“มึงไม่ต้องมาทำหน้าโมโห ตอนนั้นมึงก็วนๆ เวียนๆ อยู่แต่กับน้องฟืน”

“ไม่รู้ กูโมโหไปแล้ว”

“...”

“กูมีมิชชั่นใหม่อีกแล้วใช่มั้ย วันก่อนต้องทำทุกอย่างเพื่อให้น้องยิ้มจนตาหยี วันนี้กูก็ต้องทำทุกอย่างเพื่อให้น้องถ่ายรูปกู”

“คือเรื่องนี้กูไม่ได้ท้าอะไรมึงเลยเว้ย มึงต้องการของมึงเอง”

“ก็นั่นแหละ” ผมไม่เถียงแม่งสักคำ “แล้วจะทำไงให้มันมาถ่ายรูปกูล่ะ กูไม่รู้ด้วยซ้ำว่ามันอยู่ไหน มันเรียนพิเศษอยู่หรือเปล่ากูยังไม่รู้เลย ถ้าเป็นไปได้นะ กูอยากให้น้องมันเดินผ่านร้านนี้ เดี๋ยวนี้ ถ้าเจอกูจะวิ่งใส่เกียร์หมาเข้าไปหาเลย”

“ไอ้เหี้ย!” ไอ้โชคร้องลั่นดังมาก “มึงดู!”

มันชี้นิ้วไปที่ข้างนอกร้าน เด็กนักเรียนคนหนึ่งกำลังเดินผ่านร้านสเต็กนี้ไปอย่างหน้าตาเฉย มันกำลังเล่นโทรศัพท์อยู่

เป็นผมผมก็ตกใจว่ะ ก็นั่นมันสตาร์ คนที่ผมอยากให้เดินผ่านร้านนี้ และมันก็เดินผ่านร้านนี้จริงๆ

“วิ่งเลยไอ้เหี้ยดิน วิ่ง ไม่วิ่งพ่อมึงเป็นแมว มึงพูดแล้ว!”

ตัวผมพุ่งไปก่อนที่ไอ้โชคมันจะพูดซะอีก ใช้เวลาไม่นานผมก็มาขวางหน้าสตาร์เอาไว้แล้ว สตาร์ไม่ทันได้เงยหน้ามอง หัวของมันก็เลยชนเข้ากับอกผมเต็มๆ

แม่ง โคตรเอ๋อ

“ขอโทษครับ” พอมันเงยหน้าขึ้นมา มันก็ทำหน้าโล่งอก “ตกใจหมด คิดว่าไปชนคนอื่น”

“ทำไม ชนคนอื่นแล้วมันน่ากลัวมากกว่าชนกูงั้นเหรอ” ผมพยายามเก็บอาการหอบของตัวเองเอาไว้ เดี๋ยวแม่งจะรู้ว่าผมรีบมาหามันแค่ไหน

“ตอนแรกผมก็กลัวพี่นะ แต่ตอนนี้ผมไม่กลัวพี่แล้ว เพราะงั้นชนพี่ดีกว่าชนคนอื่นแน่นอน”

เอาวะ ไม่กลัวก็ดีกว่าเกลียดละกัน อย่างน้อยน้องมันก็ไม่ได้เกลียดผมล่ะ

“วันนี้ไม่ได้ไปโรงเรียนเหรอครับ” สตาร์มองดูสภาพผม “แต่งตัวซะหล่อเลย”

ใจกูมาเลย มันชมผมด้วยเว้ยยย นี่ขนาดหยิบเสื้อผ้ามาใส่แบบรีบๆ นะ

“หยุดอ่านหนังสืออยู่บ้านน่ะ ไอ้โชคชวนออกมาก็เลยมา”

“แล้วไหนล่ะครับพี่โชค”

เออว่ะ ลืมคิดเรื่องนี้ไปเลย “มันไปหาสาวแล้ว”

“อ๋อ” สตาร์หันมาดูโทรศัพท์ในมืออีกครั้ง ผมเห็นมันรีบกดออกจากอะไรบางอย่างคล้ายไอจี

“ส่องไอจีกูเหรอ” ผมจำรูปสามรูปล่าสุดของตัวเองได้อยู่นะ เมื่อตะกี้เห็นแวบๆ ในโทรศัพท์ของสตาร์

“ผมส่องของคนอื่น”

ผมไม่กล้ามั่นใจว่าสิ่งที่มันส่องอยู่คือไอจีของผมเอง ฉะนั้นผมจึงไม่เซ้าซี้มัน

“แล้วจะไปไหน”

“รอเรียนตอนห้าโมงเย็นครับ”

ตอนนี้ก็ใกล้จะห้าโมงเย็นแล้ว “เรียนไหน เดี๋ยวไปส่ง”

“พี่ ไม่เป็นไร”

“บอกมาว่าเรียนไหน เร็วๆ” ผมแกล้งขู่

“สยามกิตติ์”

มันยังคงกลัวคำขู่ของผมอยู่หน่อยๆ งั้นผมก็ขอใช้ให้เป็นประโยชน์ก็แล้วกัน ผมบุ้ยใบ้ให้สตาร์เดินนำหน้า จากนั้นผมก็เดินตามหลัง รู้สึกใจพองโตแบบแปลกๆ อาจเป็นเพราะวันนี้ผมคิดถึงมันมาทั้งวันแล้ว และในที่สุดผมก็ได้เห็นหน้ามันด้วย

โคตรโชคดีอ่ะ

“ตอนมึงเดิน มึงอย่าเดินไปด้วยและก็เล่นโทรศัพท์ไปด้วยดิ” ผมพูด “เดี๋ยวมึงก็ไปชนคนนั้นคนนี้เหมือนที่ชนกูหรอก”

“ผมชนประจำเลย”

“คนที่โดนมึงชนเขาไม่ว่ามึงเหรอ”

“เขาไม่ว่าครับ”

“...”

“แต่เขาขอเบอร์”

มันพูดไปเรื่อยๆ เหมือนเรื่องนี้เป็นความจริงที่ไม่มีวันตาย เดินชนคนอื่นแต่คนอื่นดันมาขอเบอร์เนี่ยนะ ถ้าไม่สวยจริงๆ ก็คงจะไม่โดนแบบที่มันโดน

กูยอม...

“เขาขอเอาไปทำอะไร”

“ไม่รู้ ขอเพื่อจะได้ถามถึงสุขภาพหัวของผมมั้งครับพี่” คนน่ารักก็กวนประสาทเป็นแฮะ สตาร์พูดด้วยตายิ้มๆ อย่างมีเสน่ห์

“แล้วมึงได้ให้ป่ะ”

“บ้า” สตาร์หัวเราะ “ผมให้สุ่มสี่สุ่มห้าไม่ได้ ถ้าเพื่อนรู้เดี๋ยวมันด่าตายห่า”

“กูถามอะไรอีกอย่าง” ผมได้โอกาสทั้งทีก็เลยขอซักไซ้หน่อยแล้วกัน “ทำไมพวกแม่งถึงหวงมึงขนาดนั้นวะ หวงมึงกันทุกคนเลยด้วย พวกมันไม่ได้เป็นบ้าใช่ป่ะ”

“ฮ่าๆๆ มันก็ปกติแหละพี่ อาจเป็นเพราะพ่อแม่ชอบเลี้ยงขนมพวกมันบ่อยมั้ง พวกมันก็เลยคิดว่าการดูแลผมให้ดีที่สุดเป็นการตอบแทนพ่อแม่ผม”

“เหรอวะ” ไม่เห็นจะสมเหตุสมผลเลย “มึงเคยได้ยินคำว่าสมบัติห้องมั้ย”

“ไม่เคยเลยพี่”

แสดงว่าพวกเชี่ยบู้แม่งตอแหลกับสตาร์แน่ๆ เอาเป็นว่ายังไงผมก็ไม่มีวันเข้าใจว่าทำไมพวกเด็ก ม.5/1 ต้องหวงสตาร์ เรื่องจริงก็คือมันหวงมากนั่นแหละ

ผมคอยลอบมองสตาร์จากใบหน้าทางด้านข้าง รู้สึกเหมือนเป็นแฟนมันทั้งๆ ที่ไม่ได้เป็น ได้เดินไปส่งมันเรียนพิเศษแบบนี้เป็นอะไรที่ดีกับใจอย่างแท้จริง ถ้าผมมีอำนาจ ผมอยากให้ทางเชื่อมบีทีเอสตรงสยามสแควร์วันนี้ยาวไปไม่มีที่สิ้นสุด ไม่อยากให้ถึงสยามกิตติ์ไวๆ เลย

“เออนี่” ผมชวนมันคุยอีก “ได้ข่าวว่ามึงถ่ายรูปสวย”

“ผมเหรอ” สตาร์หัวเราะ “เปล่าสักหน่อย”

“กูได้ยินมาอย่างนั้นจริงๆ”

“คนที่ผมถ่ายให้หล่อทุกคนมั้งครับ เขาก็เลยคิดว่าผมถ่ายสวยอ่ะ”

“ตอนนี้มึงมีกล้องป่ะ ไม่ดิ ถ่ายโทรศัพท์ดีกว่า ช่วยถ่ายให้กูหน่อย” ผมหยิบโทรศัพท์ออกมาจากกระเป๋ากางเกงแล้วส่งให้มัน

“เดี๋ยวๆ อะไรของพี่” สตาร์ดูงงมาก แต่ก็รับโทรศัพท์ของผมไปกดเข้ากล้อง “ตรงนี้เลยเหรอ”

ตรงนี้ที่มันว่าคือบริเวณด้านหน้าสยามสแควร์วัน “เออ”

สตาร์จ้องผมแป๊บหนึ่ง ก่อนที่จะขยับไปในมุมที่มันคิดว่าแสงดีที่สุด ผมหันไปตาม แทบไม่ต้องขยับตัวเลยตอนที่มันกดถ่าย

“ได้แล้ว” สตาร์คงจะขำๆ นิดหน่อยมั้ง “โห ไม่ต้องจัดเหี้ยไรมากพี่ก็หล่อว่ะ”

ชมอีกแล้ว...ชมกูอีกแล้ว ชมแล้วช่วยชอบกูด้วยครับ รับผิดชอบหน่อย

“เดี๋ยวกูอัพเลย”

“ไม่ต้องแท็กผมนะ”

“ทำไมกูจะแท็กไม่ได้” ผมเลิกคิ้ว “ก็มึงเป็นคนถ่าย”

“เดี๋ยวก็มีคนมาถามมากอีกอ่ะ”

สตาร์ถอนหายใจพร้อมกับเดินนำหน้าผมไป ผมหน้าบึ้งตึงนิดหน่อยแต่ก็เข้าใจมัน แค่ผมบุกไปขอไลน์มันถึงห้องก็เป็นข่าวดังไปทั่วโรงเรียนแล้ว มันคงไม่อยากโดนคนถามเรื่องผมมากล่ะมั้งครับ

ผมอัพรูปนั้นอย่างรวดเร็วพร้อมแคปชั่นสิ้นคิดที่สุดในโลกแต่แม่งโดนใจผมสุดๆ

‘คนสวยถ่ายให้โว้ย’

อีกไม่นานพวกเพื่อนแม่งก็จะมาถล่มเมนต์ว่าใครคือคนสวย กระเทยหรือเปล่า มึงมีกิ๊กแล้วเหรอ แล้วน้องคนนั่นล่ะ บลาๆๆ ตามประสาพวกว่างและก็ชอบแกล้งคนอื่น ยิ่งคิดผมก็ยิ่งเข้าใจว่าทำไมสตาร์ถึงบอกว่าไม่ต้องแท็กมัน เพราะถ้าแท็กนะ ไอ้พวกเพื่อนเหี้ยของผมคงแกล้งหนักมากกว่าที่ผมเพิ่งกล่าวไปแน่ๆ

“เฮ้ย” สตาร์ชะงักกึก ผมเดินชนไหล่มันอย่างไม่ได้ตั้งใจ

“มีไร” ผมถาม

แววตาของสตาร์ดูอึ้งๆ เมื่อมองเห็นภาพตรงหน้า ผมมองตามไป ภาพที่เห็นก็คือเด็กนักเรียนกลุ่มใหญ่และมาจากโรงเรียนที่คุ้นตาผมเป็นอย่างดี

โรงเรียนคู่อริ

ที่แย่ไปกว่านั้นก็คือคนที่เดินนำหน้าคือคนที่ผมไม่ชอบขี้หน้าที่สุดในโลกหล้านี้แล้ว มันชื่อว่า ‘ไอ้เรย์’ เป็นคนที่ใครหลายคนลงความเห็นว่าเป็นผมในเวอร์ชั่นแบด มันแต่งตัวผิดระเบียบตั้งแต่หัวจรดเท้า อีกทั้งทั่วร่างของมันก็มีเครื่องประดับระยิบระยับเต็มไปหมด ที่ผมไม่ชอบไม่ใช่เพราะการแต่งตัวมันหรอกครับ แต่มันชอบเข้าข้างเด็กนักเรียนโรงเรียนมันเวลาที่พวกมันมาหาเรื่องเด็กนักเรียนโรงเรียนผม

ผมกับมันเขม่นกันมากขึ้นทุกครั้งที่ใครในโรงเรียนมีเรื่องกัน ผมไม่เจอมันมานานมากแล้วเพราะช่วงนี้เหตุการณ์ระหว่างสองโรงเรียนค่อนข้างสงบ ทว่าการมาเจอมันที่สยามเป็นอะไรที่ผมเองก็ตกใจอยู่เหมือนกัน

มันยิ้ม แต่มันไม่ได้ยิ้มให้ผม มันยิ้มให้สตาร์

“ทำไมไม่รับสายพี่เลย” มันเดินเข้ามาแล้วแตะแขนสตาร์อย่างสนิทสนม

เดี๋ยวๆ กูของขึ้นเลย อะไรของมึงวะ!

ผมรีบดึงแขนสตาร์ให้มาหลบหลังผม จากนั้นก็จ้องหน้าไอ้เรย์เขม็ง

“ถอยไปเชี่ยดิน กูไม่อยากมีเรื่องกับมึงวันนี้” เรย์ชักสีหน้า

“นี่มันรุ่นน้องโรงเรียนกู”

“แล้วไง มันเป็นเด็กกู”

มันเป็นเด็กกู...

เด็กกู...

เด็ก...

คำพูดไอ้เรย์ทำเอาผมรู้สึกมึนงงไปชั่วขณะ เด็กไอ้เรย์คือสตาร์เนี่ยนะ ตัวท็อปของโรงเรียนคือเด็กไอ้เชี่ยเรย์ คู่อริตลอดกาลของผมเนี่ยนะ บ้าป่ะ ผมไม่มีวันเชื่ออย่างเด็ดขาด

สตาร์ใช้แผ่นหลังของผมรองเพื่อที่เขาจะเขียนอะไรบางอย่างอย่างรวดเร็ว ผมเดาว่าคงเป็นโพสต์อิตนั่นแหละ แต่ผมต้องสนใจไอ้เรย์ที่อยู่ตรงหน้านี้ก่อน

“กูไม่ได้คุยกับเด็กกูมานานมากแล้ว เพราะงั้นมึงถอยไป” ไอ้เรย์ผลักผมด้วยพละกำลังมหาศาลของมัน สตาร์ตัวเล็กลงไปเลยตอนที่มันพยายามหลบใบหน้าไอ้เรย์ที่ยื่นเข้าไปใกล้ “พี่ทักไปก็ไม่ตอบ ไม่น่ารักเลยนะ รู้มั้ยว่าพี่คิดถึง”

เสียงหัวเราะของเพื่อนๆ เรย์ยิ่งทำให้สตาร์ทำหน้าเหมือนใกล้จะร้องไห้

นี่มันชักจะยังไงๆ แล้ว ผมกำหมัดแน่น พร้อมมีเรื่องทุกเมื่อ ถึงแม้ว่าที่ตรงนี้จะมีคนเดินไปเดินมาเยอะก็ตาม

“ขอโทษครับ” สตาร์หงอยจนผมเจ็บที่หัวใจ

“ใกล้จะไปเรียนพิเศษแล้วสิใช่มั้ย งั้นเดี๋ยวพี่ไปส่ง” ไอ้เรย์หันไปบอกพรรคพวกให้แยกย้าย ซึ่งทุกคนก็ทำตามที่มันพูดอย่างง่ายดาย “สยามกิตติ์ใช่ป่ะ ไปกันเถอะ”

แม่งรู้อีกว่าสตาร์มีเรียนที่ไหน

ผมรู้สึกเหมือนเป็นหมาถูกทิ้งเลย...สตาร์มองผมอย่างลำบากใจแต่ก็ขยับตัวไปตามมือที่ไอ้เรย์มันดึงแขน

การยอมง่ายๆ มันไม่ใช่ผม ถึงแม้ว่าจะงง แต่ผมก็ไม่มีวันเป็นหมาให้ไอ้เชี่ยเรย์มันเหยียบหน้าแน่ๆ

“น้องมันมากับกู” ผมพูด ไปยืนขวางหน้าทั้งสองเอาไว้

เรย์มองผมอย่างรำคาญ “กูบอกแล้วใช่มั้ยว่ากูไม่อยากมีเรื่องกับมึงวันนี้”

“มึงมีเรื่องแน่ ถ้ามึงไม่ปล่อยมันอ่ะ”

ผมพูดจริงแน่ๆ ไอ้เรย์มองผมอย่างเกลียดขี้หน้าขั้นสุด มันหันไปหาสตาร์เพื่อขอความเห็น

“สตาร์จะไปกับใคร พี่หรือมัน เลือกดีๆ นะครับ”

เจ็บใจฉิบหาย สตาร์ทำสีหน้าลำบากใจทั้งๆ ที่มันไม่ใช่คำถามที่ยากเลย ไอ้เรย์มันตัวอันตราย คนทั้งโรงเรียนผมรู้ดีว่ามันคือคนที่ควรเดินหนีเมื่อเห็นหน้า แต่สตาร์กลับไม่สามารถตอบได้ว่าคนที่เขาควรไปด้วยก็คือผม ไม่ใช่เรย์

นี่มันแปลกๆ แล้วว่ะ

“ขอโทษนะครับพี่ดิน” สตาร์มีสีหน้ารู้สึกผิด ส่วนไอ้เรย์มันยิ้มเหมือนฟินจนขึ้นสวรรค์ไปแล้ว

“ได้ยินแล้วนะ เลิกขวางทางได้แล้ว” มันเตะเท้าผมอย่างแรง ผมต้องงอขาเพราะเจ็บจี๊ดไปหมด ทั้งสองคนเดินนำหน้าไปแล้ว แต่สตาร์ทิ้งอะไรบางอย่างไว้ให้ผม มันหล่นลงตรงหน้าผมที่กำลังยืนด้วยท่าแปลกๆ อยู่พอดี

กระดาษโพสต์อิตที่เป็นสัญญาใจของผมกับสตาร์

ไอดีไลน์ตัวที่ 4
N
พี่ดินช่วยผมด้วยครับ 


ผมเข้าใจแจ่มแจ้งในทันที สตาร์ไม่ได้เต็มใจจะไปกับไอ้เรย์ แต่สองคนนี้มีเบื้องลึกเบื้องหลังบางอย่างที่ผมต้องรู้ให้ได้

เคยได้ข่าวมาเหมือนกันว่าเรย์มันชอบเด็กในโรงเรียนผม ชอบมากถึงขนาดจีบอย่างจริงจังแบบไม่ใช้อำนาจมืดที่มันมี

ตอนนี้ผมรู้แล้วว่าเด็กโรงเรียนผมคนนั้นเป็นใคร...

ทำไมต้องคนนี้วะไอ้เหี้ยเอ๊ยยยยยยยยยย








TBC*








ออฟไลน์ Chiffon_cake

  • เป็ดนักเขียน
  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 712
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +1544/-12


ตอนที่ 5





กรุ๊ปไลน์ ‘สตาร์ของดิน ใครยุ่งพ่องตาย’

Din : ใครรู้เรื่องสตาร์กับไอ้เรย์ทักมา
FUEN : เรย์ไหน? เฮ้ย เรย์ที่โหดๆ ป่ะพี่ ทำไมเขามายุ่งกับสตาร์ล่ะ เฮ้ยๆๆ
AOF : แค่ได้ยินชื่อก็ขนลุกแล้ว บรื๋อ
TANG : ผมเคยเห็นว่าเขาเคยมาหาสตาร์แวบๆ แต่มาไม่กี่ครั้งมั้ง สงสัยกลัวเด็กโรงเรียนเราตื้บ
CHOK : เหี้ย เกิดไรขึ้นวะ
PHYSICS : ผมไม่รู้
PHYSICS : ฟืนมึงตอบไลน์กรุ๊ปได้ แต่ไม่ตอบไลน์กูคือไรวะ





ตอนผมอ่านจบผมวางโทรศัพท์ลงอย่างหงุดหงิด กรุ๊ปไลน์ (ผมแอบเปลี่ยนชื่อกรุ๊ปเอง) ที่บอกว่าจะช่วยแต่ไม่ได้ช่วยเหี้ยอะไรผมเลย เมื่อคืนผมคิดเรื่องนี้ซ้ำไปซ้ำมาจนนอนแทบไม่หลับ ไม่มีใครสามารถให้คำตอบผมได้ถ้าผมไม่ถามเรื่องนี้กับสตาร์ตรงๆ งั้นสินะ

ผมมาที่ห้อง ม.5/1 แต่เช้า วันนี้ผมทำหน้าโหดมากจนไม่มีใครกล้าเข้ามาพูดจายียวนผมแม้กระทั่งผู้นำอย่างไอ้เชี่ยบู้ มันมองผมอย่างหวาดๆ ตอนที่มันมาถึง ผมยืนกอดอกคุมเชิงยืนพิงโต๊ะครูอยู่ มองหน้าหาเรื่องเด็กห้องนี้แม่งทุกคนถ้าคนคนนั้นไม่ใช่สตาร์
ในที่สุดสตาร์ก็มา น้องมันชะงักค้างทันทีที่เห็นหน้าผม

“ใครไม่ใช่สตาร์ออกไปให้หมด” ผมทำเสียงวางอำนาจ คนที่กลัวผมต่างก็แข่งกันวิ่งออกจากห้อง บางคนที่ไม่ค่อยกลัวเท่าไหร่ก็เดินอย่างช้าๆ คอยหันกลับมามองราวกับต้องการเผือก โดยเฉพาะไอ้เชี่ยบู้ “เชี่ยบู้มึงรีบออกไป” มันสะดุ้งเพราะสีหน้าผมจริงจังมาก แล้วมันก็วิ่งออกไปจากห้อง

“พี่ดินมีไร” สตาร์ตกใจมาก ส่งสายตาขอความช่วยเหลือไปที่ไอ้บู้

“ไม่ต้องไปมองคนอื่น รู้มั้ยว่ามึงทำตัวมีปัญหากับกูนะ”

“ผมทำอะไร” อีกฝ่ายใกล้จะร้องไห้แล้ว เดี๋ยวก่อนนะ นี่ผมน่ากลัวเกินไปเหรอ

“หวะ วางกระเป๋าลงก่อน” น้ำเสียงของผมซอฟต์ลงไปเพราะไม่อยากให้สตาร์กลัว มันเดินไปวางกระเป๋าที่โต๊ะตัวเองช้าๆ จากนั้นก็หันมามองผม

“กูมีเรื่องจะถาม”

“...”

“คือว่า...”

โทรศัพท์ของผมดังขัดจังหวะขึ้นซะก่อน คนที่โทรมาหาคือ ‘ไอ้ธนัช’ เพื่อนในกลุ่มของผม มึงโทรมาทำซากอะไรตอนนี้วะ

“แป๊บ” ผมบอกสตาร์ก่อนที่จะกดรับสาย “มีเชี่ยไรธนัช”

[ดิน มึงได้สมัครโควตามอ C มั้ยวะ]

มอ C คือมอที่ผมกดสมัครเมื่อวาน “เออ ทำไมวะ”

[หมดเขตจ่ายตังค์ภายในยี่สิบสี่ชั่วโมงนะเว้ย มึงจ่ายยังวะ]

ช็อกแป๊บ “ยังว่ะ ตอนนี้กี่โมงแล้ว”

[จะแปดโมงแล้ว]

“เชี่ย กูสมัครไปตอนสิบเอ็ดโมงกว่ามั้ง”

[ถ้างั้นมึงก็ควรจะรีบแล้วเพื่อน]

“ห่าน กูไม่ได้พริ้นต์เหี้ยไรออกมาเลย”

[มึงเคยมีห้องสภาไว้นอนเล่นหรือไงวะ มึงก็ไปพริ้นต์ห้องนั้นดิ]

“เออๆๆ”

[รีบเลย วันนี้วันจ่ายตังค์วันสุดท้าย]

เวรกรรมจริงๆ ผมกดวางสายพร้อมกับทำสีหน้ากลัดกลุ้ม สตาร์มองผมอย่างฉงนสงสัยว่าผมเครียดกะทันหันทำไม

ทำไมต้องมีเรื่องน่าหงุดหงิดประดังประเดเข้ามาพร้อมกันด้วยวะ

“เอาไว้เดี๋ยวค่อยคุยกัน” ผมบอกปัดๆ อุตส่าห์มารอแต่เช้าแต่ก็ไม่ได้พูดอะไรด้วยเลยนี่มันช่างน่าเสียดาย ผมเดินออกไปนอกห้อง ตรงนั้นมีเด็กห้องสตาร์อยู่เต็มไปหมด พวกมันตัวแข็งทื่อทันทีที่ผมเดินออกไป

“พี่ดิน ตกลงพี่มีเรื่องอะไร” สตาร์วิ่งตามมา ผมดีใจนะที่เห็นมันกระตือรือร้นอยากรู้เรื่องของผม

“กูจะรีบไปจ่ายตังค์ค่าสมัครสอบ”

“ไปรถผมมั้ย พี่สมัยคงยังออกไปได้ไม่ไกล”

ผมอึ้งไปเล็กน้อย “แต่ว่า...”

“เดี๋ยวผมโทรให้” สตาร์หยิบโทรศัพท์ออกมาแล้ว ผมกระพริบตามองอีกฝ่ายอยู่ครู่หนึ่งก่อนตัดสินใจดึงแขนมันให้เดินไปกับผม ดึงต่อหน้าพวกห้องหนึ่งเลยนี่แหละ

ไม่มีใครเข้ามาขวาง มีแต่มองด้วยสายตางุนงงก็เท่านั้น ดีแล้วล่ะ ตอนนี้กูรีบ พวกมึงอย่าเพิ่งทำตัวเป็นพ่อสตาร์เชียว ส่วนสตาร์ไม่ได้ขัดขืนผม มันโอนอ่อนตามแรงผมโดยง่าย ระหว่างที่มันกำลังคุยโทรศัพท์ ใจของผมก็เต้นแรงไปหมด

มันจริงจังมากทั้งๆ ที่เป็นเรื่องของผม คนที่มันยังไม่มีใจให้

แต่แค่นี้แม่งก็ได้ใจผมแล้ว...

“พี่สมัยครับออกไปไกลจากโรงเรียนสตาร์มากหรือยังครับ พอดีสตาร์มีเรื่องด่วนมากอยากใช้รถ ครับ รบกวนกลับมารับสตาร์ได้มั้ย รับตรงไหนเหรอ” สตาร์เอียงหน้ามาถามผม ผมทำปากบอกไป “ตรงรั้วแถวๆ ประตูสามครับ ครับ รถติดเหรอครับ ไม่เป็นไรครับ แล้วเจอกันนะครับ ห้ามบอกพ่อนะ”

เสียงสตาร์หวานมากเมื่อมันแทนตัวเองว่าสตาร์กับผู้ใหญ่ ถ้ามีวันหนึ่งที่มันแทนตัวเองแบบนั้นกับผมบ้างคงจะดีไม่น้อย...ผมคงหลงมันมากจนกู่ไม่กลับ

“ตกลงได้มั้ย” ผมที่ทั้งรีบทั้งใจเต้นแรงเอ่ยถาม

“ได้ๆ”

“...”

“พี่จะพาผมปีนรั้วออกไปเหรอ”

“คงต้องเป็นอย่างนั้น ประตูโรงเรียนใกล้ปิดแล้ว มึงคิดว่าจะเดินหล่อๆ ออกไปข้างนอกได้เลยหรือไง”

“ครับ”

“มึงแน่ใจนะว่าจะโดดเรียนออกไปกับกูอ่ะ”

“พี่จะไปกับพี่สมัยคนเดียวเหรอ พี่สมัยเป็นคนรถบ้านผมนะ”

ผมไม่เถียงก็ได้ เพราะมีสตาร์ไปด้วยคือเรื่องดีมากสำหรับผม ระหว่างนี้มีนักเรียนเป็นจำนวนมากที่เริ่มเดินไปเข้าแถว แต่ผมกับสตาร์เดินไปในทางตรงกันข้าม ซึ่งนั่นก็คือห้องสภานักเรียน อดีตที่สิงสถิตของผม

ในห้องไม่มีคนอยู่เลย ผมรีบเดินไปยังคอมพิวเตอร์ตัวที่เคยใช้ฟืนทำงานให้ สตาร์เดินเข้ามาด้วยท่าทางขัดๆ เขินๆ มันเดินมาอยู่ข้างๆ ขณะที่ผมพยายามเปิดคอมให้ได้

“หวังว่าจะใช้รหัสเดิม” ผมพึมพำ

“รหัสคืออะไรครับ”

“เบอร์แฟนเก่ากู”

ผมตอบสั้นๆ ใช้เบอร์แฟนเก่าปลดล็อกเข้าไปในคอมของห้องสภาซึ่งก็เข้าไปได้ แสดงว่าไม่มีใครมาเปลี่ยน

“คอมโรงเรียนแต่ใช้รหัสเป็นเบอร์แฟนเก่าตัวเองเนี่ยนะ”

“อืม ก็กูใช้รหัสนี้มาตั้งนานแล้วอ่ะ” ผมพูดไปเข้าอินเตอร์เน็ตไป ผมเล่นคอมเป็นตั้งแต่เด็กก็จริง แต่เริ่มใช้รหัสสมัครนั่นสมัครนี่ก็ตอน ม.3 ตอนมีแฟนคนแรกผมก็เรียนชั้นประมาณนั้นนั่นแหละ

“แล้วคนในสภาคนอื่นๆ เขาก็รู้เบอร์แฟนเก่าพี่งี้เหรอ”

“เออดิ”

“ไม่มีใครโทรไปจีบเขาเหรอ”

“เขาเปลี่ยนเบอร์นานแล้ว”

ผมพูด ล็อกอินเข้าไปในเว็บไซต์มอ C เพื่อเข้าไปพริ้นต์ใบจ่ายเงิน สตาร์ยืนนิ่งๆ อยู่ใกล้ๆ โต๊ะคอม ระหว่างนั้นนั่นเองครูบูลด็อกซึ่งเป็นครูฝ่ายปกครองสุดโหดที่เป็นที่รู้จักดีของนักเรียนกำลังจะเดินผ่านมา ผมรีบคว้าตัวสตาร์ให้ลงมาหลบหลังโต๊ะคอม ขณะที่ผมเองก็ต้องหลบเหมือนกัน

สตาร์ทำตาโตจ้องผม ผมเองก็จ้องสตาร์ เราสองคนอยู่ใกล้กันมากระหว่างที่เรากำลังรอให้ครูบูลด็อกเดินผ่านไป

ตัวเด็กคนนี้มันหอมขนาดนี้เลยเหรอวะ

“พี่สนิทกับครูไม่ใช่เหรอ” สตาร์ถามแก้เก้อ บรรยากาศระหว่างเรามันทั้งลุ้นทั้ง...น่าใจสั่น เราอยู่ในห้องสภามืดๆ เงียบๆ กันแค่สองคนเท่านั้น อีกทั้งยังนั่งซ่อนกันอยู่ใต้โต๊ะ แม่งใกล้กันฉิบหาย

“ไม่ได้เป็นสารวัตรแล้ว ไม่สนิทแล้ว” ผมเองก็ตอบอย่างเก้อๆ เหมือนกัน

“แปลว่า...”

“ถ้าโดนจับได้ก็โดนลงโทษ มึงก็รู้ว่าครูเขาโหด ไม่ละเว้นใครหรอก”

สตาร์พ่นลม พยายามจะยืดคอขึ้นไปดู แต่ผมจับตัวมันเอาไว้ ไม่ต้องยืดตัวผมก็เห็น ตอนนี้ครูยังวนๆ เวียนๆ อยู่หน้าห้องสภาอยู่เลย

ลมหายใจของสตาร์กระทบกับอกตรงส่วนที่พ้นกระดุมคอเสื้อของผม หัวใจของผมเต้นแรงอีกครั้งหนึ่ง ผมพยายามควบคุมตัวเองไม่ให้จ้องเขม็งไปที่อีกฝ่าย เพราะกลัวจะอดใจไม่ไหว

ผมกลัวตัวเองปล้ำน้อง

คนบ้าอะไรยิ่งมองใกล้ๆ ก็ยิ่งขาว ขาวจนคนที่มองรู้สึกหมอง หน้ามันใสไร้สิว มีปากแดงฉ่ำ แถมตัวยังเล็กอีกต่างหาก นี่ถ้าจับพับเก็บกลับบ้านได้ผมทำไปแล้วนะเนี่ย แต่ทำไม่ได้ไง...ลูกเขามีพ่อมีแม่

แล้วเมื่อไหร่ครูบูลด็อกจะเดินไปที่อื่นสักทีล่ะครับ

“ทนแป๊บหนึ่ง” ผมพูดขณะกลืนน้ำลาย ไม่รู้บอกตัวเองหรือบอกสตาร์

สตาร์พยักหน้า มือของมันเอื้อมมาแตะหน้าผากผม

“แอร์ห้องนี้เย็น แต่ทำไมเหงื่อพี่ออกอ่ะ”

มันใสมากจนมันไม่รู้ว่าผมคิดอะไรอยู่ อยากจะสิ้นให้ดิ้นตาย เมื่อแตะเสร็จมันก็เช็ดเหงื่อนั้นบนเสื้อนักเรียนของผม สัมผัสของมันทำเอาผมลืมความกวนตีนในจุดนี้ไป นิ้วเล็กๆ นุ่มนิ่มนั่นแตะหน้าผากของผมด้วย รู้สึกอิจฉาหน้าผากตัวเองมากเลยแฮะ

แต่หน้าผากผมมันก็คือผมป่ะวะ ผมควรอิจฉาตัวเองดิ

สติผมหลุดลอยไปไหนหมดไม่รู้ อาจเป็นเพราะผมอยู่ใกล้คนที่มีเสน่ห์เหลือล้นอย่างสตาร์ก็เป็นได้

อยากลองใช้นิ้วแตะตรงอื่นดูมั้ย กูอนุญาตนะ

“เหงื่อมึงก็ออกนะ” ผมเนียนแตะบ้าง เหงื่อมันไม่ออกหรอกครับ ผมตอแหล

“เหรอ” ไอ้เด็กนั่นมันก็เสือกเชื่อ ยอมให้ผมแตะใหญ่เลย

ช่วงคืนกำไรให้แก่กูสินะ ผมแอบดีดหน้าผากมันเล็กน้อยพร้อมรอยยิ้ม สตาร์คลำหัวป้อย คงจะงงว่าตกลงว่ามันมีเหงื่อหรือผมทำร้ายหน้าผากมันกันแน่

กูไม่ได้ทำร้ายเว้ย กูแต๊ะอั๋ง...








รั้วโรงเรียน

ผมมองซ้ายมองขวาเป็นสิบๆ รอบเพื่อดูว่าทางสะดวกหรือไม่ สตาร์มีท่าทางกล้าๆ กลัวๆ กับรั้วสูงตรงหน้า ท่าทางเหมือนไม่เคยโดดเรียนมาทั้งชีวิต ผิดกับผมที่ถึงแม้ว่าจะมีตำแหน่งต่างๆ ในโรงเรียนมากมาย แต่กลับเคยโดดอยู่บ่อยครั้ง (อย่าไปบอกพวกน้องๆ ที่ปลื้มผมล่ะ)

“ปีนขึ้นไปเลยเดี๋ยวนี้”

“แต่ว่า...”

“แต่ว่าอะไร”

“ขาผมไม่ถึง”

ลืมไปว่ามันเตี้ย ผมส่ายหน้าเบาๆ ก่อนที่จับตัวมันอุ้มขึ้น

“เกาะรั้วไว้เลย”

ไม่มีเวลาคิดถึงเรื่องฟินอะไรทั้งนั้นครับ รู้แต่ว่าตัวของสตาร์เบาหวิวเหมาะกับการหิ้วกลับไปนอนที่บ้าน ผมกำลังอยู่ในสถานการณ์หน้าสิ่วหน้าขวาน สิ่งที่ผมสัมผัสได้มีเพียงสิ่งเดียวคือร่างสตาร์แม่งอ่อนปวกเปียกมาก ถ้าผมตั้งใจหักตัวมัน ตัวมันก็คงหักแน่ๆ
สตาร์ลงไปแล้ว ผมใช้เวลาปีนไม่ถึงนาทีผมก็กระโดดลงมาอีกฝั่งอย่างง่ายดาย

“โห ภาพพี่ดินนักเรียนตัวอย่างหายไปเลย” สตาร์รำพึง

“เออน่า” ผมตัดบท “ไหนล่ะพี่สมัย”

“สวัสดีครับ”

ผมหันไปตามเสียงพูด

เฮ้ยยยยยยยย นี่คือพี่สมัยเหรอ ทำไมหล่องี้!

เขาเหมือนคนอายุยี่สิบปลายๆ แต่ก็ยังหล่อ พี่เขาหล่อคมเข้มสไตล์ชายไทยน่ะครับ ที่สำคัญคือสูงมาก สูงกว่าผมอีก

“โทษทีครับพี่สมัยที่ช้า” สตาร์พูดอย่างสนิทสนม “ไปกันเลยมั้ยครับ”

ทำไมกูเคืองวะ...ทั้งๆ ที่เขาเป็นเจ้านายกับคนรถกันแท้ๆ

“คุณหนูอยากไปไหนครับ”

สตาร์หันมาถามผม ผมเลยบอกไปว่าไปธนาคาร TTT ที่มีสาขาอยู่ใกล้ที่สุด พี่สมัยบอกว่าต้องขับไปอีกสามแยกไฟแดงถึงจะถึงซึ่งมันก็ไกลมาก เดินไปไม่ได้แน่ๆ เขาเปิดประตูให้สตาร์ขึ้นรถ ผมตามขึ้นไปนั่งอย่างเกร็งๆ

สตาร์นั่งแทนที่พ่อของตัวเองเมื่อไม่กี่วันก่อน ผมนั่งข้างๆ เขา รู้สึกว่ารถของบ้านสตาร์กว้างกว่าเดิมทั้งๆ ที่มันก็รถคันเดิม

ผมลอบมองคนที่นั่งข้างๆ สลับกับมองพี่สมัย จากนั้นผมก็จ้องหน้าสตาร์ด้วยแววตาขุ่นๆ

“มีไรป่ะพี่”

“นี่คือคนรถบ้านมึงเหรอ” ผมถามเสียงแข็ง

“ครับ”

“ทำงานมานานยัง”

สตาร์นิ่งคิด “สามปีแล้วมั้ง”

“หา”

ถ้างั้นก็แปลว่าเห็นสตาร์ตั้งแต่มันอยู่ ม.ต้นอ่ะดิ ไอ้ความหึงที่ไม่ควรมีมันไหลบ่าเข้าสู่ตัวผม อาจเป็นเพราะพี่สมัยหล่อเกินไปหรือไม่ก็สตาร์มันน่าหวงเกินไป

ไม่รู้ล่ะ ผมหึงมั่วไปหมดนั่นแหละ

เข้าใจความรู้สึกไอ้สิกก็วันนี้...ที่ผ่านมากูขอโทษละกัน กูจะพยายามเดินห่างๆ ฟืนเข้าไว้

“เมื่อเช้าพี่ดินมีอะไรจะพูดกับผมเหรอ”

ตอนนี้สถานการณ์มันเปลี่ยนไปแล้ว ผมไม่รู้ว่าควรถามเรื่องนี้ต่อหน้าพี่สมัยหรือเปล่า เพราะไม่แน่ว่าพี่สมัยอาจจะเอาเรื่องที่ผมคุยบนรถไปบอกพ่อสตาร์ ซึ่งนั่นอาจจะเป็นปัญหาขึ้นมาได้

ผมเลือกที่จะส่ายหน้า

“มึงตอบเรื่องพี่สมัยมาก่อน” ผมกระซิบ

“พี่เขาทำไมครับ”

“เขาสนิทกับมึงมากมั้ย”

“ก็มากนะครับ ขับรถให้ผมตลอด”

ผมกลัวตัวเองของขึ้นมาก ข่มมันไว้ดิน ข่มไว้ ทำไมช่วงนี้มึงของขึ้นง่ายจังว้า

“เหมือนเป็นคนขับรถประจำตัวผมอ่ะ” สตาร์เล่าต่อ

“บ้านมึงมีคนขับรถกี่คนเนี่ย”

“พี่อยากรู้ไปทำไม”

“ตอบมาเหอะ”

สตาร์ทำหน้าหวาดๆ ผม อาจเป็นเพราะผมแกล้งทำสีหน้าโหดล่ะมั้ง “สี่ห้าคนนี้แหละครับ พี่สมัย ลุงสมคิด พี่บุญส่ง พี่เฉลิม ลุงตู่”

“ทุกคนหน้าเหมือนพี่สมัยมั้ย”

“ลุงสมคิดกับลุงตู่นี่ไม่เหมือนพี่สมัยแน่ๆ” สตาร์มองผมเหมือนผมโง่เสียเต็มประดา “พี่บุญส่งกับพี่เฉลิมย้ายมาจากบริษัทเดียวกันกับพี่สมัยครับ ไม่รู้ว่าหน้าคล้ายกันมั้ย แต่สูงๆ เหมือนกัน หุ่นเหมือนกัน”

บริษัทอะไรจะมีคนขับรถหล่อปานนี้ว้า

“วันหลังมึงก็บอกให้ลุงสมคิดกับลุงตู่มาขับรถให้มึงดิ”

“ทำไมอ่ะ”

“เออน่า”

“ไม่รู้จะบอกได้หรือเปล่านะครับ ลุงสองคนเป็นคนขับรถของพ่อ”

ผมเกาหัวที่มีแต่ผมเกรียนๆ ของตัวเอง รู้สึกจะเป็นประสาทตายยังไงก็ไม่รู้ ยิ่งมองดูพี่สมัยที่กำลังขับรถแบบไม่รู้สึกรู้สา ผมก็ยิ่งรู้สึกว่าตัวเองใกล้บ้าเข้าไปทุกที

ทั้งหึงทั้งหวงไปหมดแล้ว แม้จะรู้ว่าตัวเองยังไม่มีสิทธิ์ก็เถอะ

“กูสั่งมึงไม่ได้ใช่มั้ย” ผมทำเสียงเข้ม

“ก็ เอ่อ...” สตาร์กระพริบตาปริบๆ “เปลี่ยนคนขับรถเป็นเรื่องยากจริงๆ ครับ”

“เคยนั่งรถไฟฟ้ามาโรงเรียนเองมั้ย”

“น้อยครั้งมาก”

“วันหลังเดี๋ยวกูไปรับ”

“หา”

“ถ้ากูรู้จักบ้านมึงแล้วนะ”

ผมไม่รู้หรอกว่าเกิดอะไรขึ้นกับผมอ่ะ รู้แค่ว่าจะปล่อยให้พี่สมัยอยู่ใกล้สตาร์มากกว่านี้อีกไม่ได้ ผมรู้แค่นั้นจริงๆ

ผมมองไปที่พี่สมัยอย่างเอาเรื่อง เขามองผมทางกระจกหลังก่อนที่จะส่ายหน้าเบาๆ ไม่รู้ว่ารู้หรือเปล่าว่าผมคิดอะไรกับคุณหนูของเขา ถ้ารู้ก็ดีเหมือนกัน จะได้ไม่ต้องมายุ่ง

สตาร์ต้องชอบคนที่แก่กว่าแค่นิดนึงสิโว้ยยยยยยยยยยย แก่กว่าแค่หนึ่งปีไรงี้ ไม่ใช่หลายๆ ปีดิ








“วันนี้มึงไม่ต้องให้ไอดีไลน์อะไรกูหรอก กูควรให้มึงมากกว่า” ผมพูดกับสตาร์เมื่อผมจัดการโอนเงินให้มหา’ลัยเรียบร้อยแล้ว “มึงช่วยกูซะขนาดนี้ ขอบใจมึงมากนะ”

สตาร์ยิ้มมุมปาก “ที่ผมช่วยไม่ใช่เพราะผมอยากได้ไลน์พี่นะ”

มึงฆ่ากูด้วยคำพูดใช่มั้ยไอ้เด็กแสบ “ฟวย”

“พี่ไม่ต้องให้อะไรผมหรอก ตอนนี้ผมหิวมาก ก่อนเข้าไปเรียนเราไปหาอะไรกินได้มั้ยครับ”

“เด็กห้องคิงไม่อยากกลับโรงเรียนงั้นเหรอ”

“โดดๆ บ้างก็ได้ นักเรียนตัวอย่างอย่างพี่ยังโดดเลย”

สงสัยจะหิวจริง มันเอามือกุมท้องด้วย ผมส่ายหน้าเบาๆ ก่อนที่จะดันหลังมันไปที่ร้านแมคโดนัลด์ซึ่งอยู่แถวๆ นั้น

“มึงนั่งตรงนี้เดี๋ยวกูไปสั่งให้”

“เดี๋ยว รู้เหรอว่าผมอยากกินไร”

“มาแมคโดนัลด์ก็ต้องแดกเฟรนช์ฟรายด์สิ”

“ผมอยากกินบิ๊กแมคด้วย”

“ได้ เดี๋ยวจะไปซื้อให้”

จริงๆ แล้วผมไม่รู้หรอกว่าน้องมันชอบบิ๊กแมค พอมันพูดก็ดีเหมือนกันจะได้สั่งถูก ผมฝากหลักฐานการจ่ายเงินไว้กับสตาร์ แล้วค่อยตรงไปยังหน้าเคาน์เตอร์เพื่อสั่งอาหาร

ไม่รู้ตัวว่าสตาร์กำลังมองหลักฐานในมือด้วยสายตาภาคภูมิใจ มันแอบติดโพสต์อิตไว้กับกระดาษหลักฐานเอาไว้และผมเพิ่งมาเห็นทีหลัง

ไอดีไลน์ตัวที่ 5
K
ขอให้สอบติดนะครับ










“พี่สมัยขอบคุณมากนะครับที่มารับ”

“ถ้าเป็นคำสั่งผมยินดีทำตามทุกอย่างครับ”

ผมมองดูสตาร์ร่ำลาพี่สมัยด้วยสายตาขุ่นมัว มันเป็นสายตาที่ผมรู้ว่ามันเสียมารยาทแต่ผมก็ควบคุมตัวเองไม่ได้จริง ผมไหว้พี่สมัยประหลกๆ ก่อนจะเปลี่ยนสีหน้าเมื่อเห็นสตาร์เดินกลับมาหา

ตอแหลได้อีกกู...

“ขอบคุณสำหรับคำอวยพรในโพสต์อิตนะ”

“ต้องติดนะ ผมอุตส่าห์โดดเรียนพาไปจ่ายตังค์เลยนะเนี่ย” สตาร์ยิ้มโชว์เหล็กจัดฟัน

ผมรู้สึกชอบสตาร์มากขึ้นกว่าเดิมอีกครับ มันช่วยผมแก้ปัญหาในวันนี้แถมยังอยู่เคียงข้างผมอีกต่างหาก ปลื้มฉิบหาย

เราสองคนกำลังอยู่ระหว่างทางเข้าไปในโรงเรียน ผมพาสตาร์มายังประตูลับที่ติดกับทางขนขยะของโรงเรียน สตาร์ไม่ได้มีท่าทีรังเกียจอะไร เราสองคนเข้าไปได้โดยสวัสดิภาพ

“พี่ดินรักแฟนเก่ามากมั้ย” สตาร์ถาม

“ทำไมจู่ๆ ถึงได้ถาม”

“ถ้าทุกพาสเวิร์ดของพี่ดินจะเป็นเบอร์ของแฟนเก่าหมดทุกอัน เวลาพี่ดินพิมพ์เบอร์เขา พี่ดินคิดถึงเขามั้ย”

“ก็ไม่คิดถึงแล้วนะ เรียกว่านึกถึงมากกว่า”

“...”

“ถามแบบนี้หมายความว่าไง” ผมมองคนข้างๆ ด้วยนัยน์ตาล้อเลียน “สงสัยล่ะสิว่ากูลืมเขาแล้วหรือยัง”

“ถ้าสงสัยจะตอบมั้ยล่ะ”

เจ้าเล่ห์แฮะ ผมยิ้มน้อยๆ ก่อนที่จะพูด

“กูจีบคนใหม่อยู่ แปลว่ากูคงลืมคนเก่าไปแล้วล่ะ”

คำพูดผมสื่อความหมายมากๆ สตาร์กระพริบตาก่อนจะมองไปทางอื่น พวงแก้มของมันมีสีแดงซ่าน ผมควรจะมีเวลาปลื้มปริ่มกับอาการเขินของสตาร์มากกว่านี้ แต่ฟ้าช่างไม่เห็นอกเห็นใจผม

ผมได้ยินเสียงนกหวีดของครูบูลด็อก แล้วสตาร์ก็ดันหลังผมให้วิ่งหนีไป

“จะอยู่รับหน้าทำไม ก็หนีไปด้วยกันสิ”

“อดีตสารวัตรนักเรียนโดดเรียนคงไม่เท่เท่าไหร่ ให้เด็กห้องคิงจัดการเถอะครับ ครูปล่อยผมแน่”

“สตาร์”

“ไปเร็วพี่ดิน!”

มันต้องเป็นผมไม่ใช่เหรอที่ปกป้องมันอ่ะ ผมทำท่าวิ่งไปแต่ก็ไปได้ไม่ไกลนักเพราะเป็นห่วงสตาร์ ครูบูลด็อกจับคนตัวเล็กไว้ได้ทัน ผมไม่ได้ยินว่ามันแก้ตัวกับครูยังไง แต่ใช้เวลาไม่นานครูก็ปล่อยมันไป

เฮ้ย คำพูดของมันใช้ได้นี่หว่า

สตาร์เดินผ่านผมไปและก็แอบขยิบตาให้ผม การกระทำนั้นของมันเป็นอาวุธร้ายกาจอย่างเหลือเชื่อ ใจของผมเต้นแรงเพราะวิงค์นั้นของมันจนผมรู้สึกขยับมือไม้ไม่ถูก

สตาร์ขุดหลุมให้ลึกลงไปเพิ่มขึ้น เพื่อที่จะให้ผมซึ่งตกลงไปแล้วไม่มีวันหาทางขึ้นมาได้อีก

วันนี้น้องดาวช่างกร๊าวใจพี่จริงๆ!

กรุ๊ปไลน์ ‘สตาร์ของดิน ใครยุ่งพ่องตาย’

Din : คนขับรถบ้านสตาร์แม่งโคตรหล่อ กูเซ็ง
FUEN : ก็ปกติป่ะพี่
AOF : จริงดิ
TANG : บ้านสตาร์คัดหน้าตาคนเข้าทำงานเหรอ
CHOK : หวงก็บอก อย่ามาทำเป็นซงเป็นเซ็ง
PHYSICS : กลัวสู้เขาไม่ได้อ่ะเด๊.
..
Din : คนขับรถไม่จีบคุณหนูของบ้านหรอก
Din : ใช่มั้ยวะ
Din : เฮ้ย ทำไมไม่มีใครตอบกูล่ะ
Din : กูเครียดนะเว้ยยย
Din : พวกมึงตอบกูหน่อยดิ๊









TBC*








ออฟไลน์ Chiffon_cake

  • เป็ดนักเขียน
  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 712
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +1544/-12

ตอนที่ 6






วันนี้ผมมีเรียน ร.ด.

ปกติแล้วผมจะชอบเวลาที่ผมมีเรียน ร.ด.มาก อาจเป็นเพราะผมชอบใช้พละกำลังและก็ชอบเห็นรุ่นน้องอยู่ในระเบียบทหารก็เป็นได้ เพียงแต่ว่าวันนี้ผมกลับรู้สึกไม่ค่อยชอบเท่าไหร่ บทเรียนที่ครูฝึกถ่ายทอดให้มันเข้าหูซ้ายทะลุออกหูขวาของผม เพราะอะไรน่ะเหรอ

ก็เพราะสตาร์ไม่ได้เรียน ร.ด. ไงล่ะ

ตลอดเสาร์อาทิตย์และก็วันจันทร์ที่ผ่านมา ใจผมจะขาดเลยแหละผมสาบานได้ ผมไม่สามารถติดต่อสตาร์ได้เลย ทำได้แค่ส่องอินสตาแกรมของมัน (ซึ่งไม่เห็นอัพอะไรเพิ่มเลย) วันจันทร์ผมก็ไม่เห็นมันตลอดทั้งวัน ได้ข่าวมาว่าห้องคิงเริ่มเข้าสู่บรรยากาศการติวสอบไฟนอลอย่างจริงจัง (พวก ม.6 ห้อง 1 มันโม้ให้ฟัง แต่ไม่ใช่ไอ้อาร์ตนะครับ) การที่ได้ยินว่ากำลังจะมีสอบไฟนอล มันทำให้ผมนึกขึ้นได้ว่าหลังสอบไฟนอลปุ๊บ ผมก็ต้องเตรียมสอบอีกอย่างปั๊บเพื่อเอาคะแนนส่วนนี้ไปยื่นเข้ามอ C ที่ผมสมัครไว้

ฤดูกาลการสอบใกล้มาถึง แต่ฤดูกาลแห่งความคิดถึงมันมาอยู่กับผมตั้งนานแล้ว

แม่ง โคตรคิดถึงเลย

ผมเป็นหัวหน้ากองร้อยและก็เป็นหัวหน้าหมู่ 1 หมู่ของผมอยู่ติดกับพวกหมู่ 11 ที่เป็นหมู่ของพวก ม.5/1 เพื่อนของสตาร์ ตอนนี้ครูฝึกกำลังให้พวกเรานั่งอยู่ในร่ม ไม่รู้จะให้ทำอะไรต่อ แต่ไม่มีใครโอดครวญใดๆ ในเรื่องนี้ครับ ได้นั่งนิ่งๆ ในร่มนี่มันคือสวรรค์สูงสุดของการเรียน ร.ด. แล้ว

“พี่ดิน” เชี่ยบู้หัวหน้าหมู่ 11 ของ ม.5 เข้ามาคุยกับผม

“มีห่าไรบู้”

“พี่จริงจังกับสตาร์เพื่อนผมแล้วใช่ป่ะ”

“...”

“พี่ลืมฟืนแล้วใช่มั้ย”

“...”

“ผมเห็นพี่ไปกับสตาร์โคตรบ่อยเลย ตกลงยังไงแล้วอ่ะพี่”

ผมมองไอ้เชี่ยบู้อย่างไม่สบอารมณ์ อยากด่าว่าเสือก แต่เกรงใจสายตาของพวกเพื่อนสตาร์คนอื่นๆ ที่กำลังมองมาเหลือเกิน
อยากได้เขา ก็ต้องทำดีกับเพื่อนเขาไว้หน่อยใช่มั้ยครับ

“กูได้มาห้าตัวและกูก็อยากได้สิบห้าตัวที่เหลือด้วย มึงคิดว่ากูจริงจังพอมั้ยล่ะ” ผมพูดตรงๆ ตามสไตล์ “จริงๆ กูก็ไม่อยากได้ไอดีไลน์ห่าไรนี่ละ”

“แล้วพี่อยากได้อะไร”

“ใจมัน”

“เหยดโด้ โคตรคูล” ไอ้บู้ร้อง คนอื่นๆ ก็ร้องตามเป็นทำนองนี้

“มันได้แย็บๆ อะไรกับพวกมึงป่ะ แบบบ่นเรื่องกูอ่ะ” ไหนๆ ก็ไหนๆ แล้ว หลอกถามแม่งเลยก็แล้วกัน

ไอ้บู้ถอนหายใจ “ไม่เลย ผมเสียใจด้วยนะ”

เดี๋ยวนะไอ้สัด มึงบอกว่าเสียใจแต่ทำไมหน้ามึงไม่เห็นเสียใจด้วยเลยวะ

“นี่มึงกวนตีนกูใช่ป่ะ”

“ไม่ได้กวนตีนพี่ มันไม่ได้พูดอะไรจริงๆ”

“ถ้างั้นมึงบอกกูมาเรื่องมันกับไอ้สัดเรย์”

ไอ้บู้อ้าปากค้าง มองสบตาเพื่อนห้องหนึ่งของมัน สีหน้าของมันเปลี่ยนไปอย่างเห็นได้ชัด

“ตกลงยังไง”

“คือว่า...” ไอ้บู้เกาหัวที่ไม่ค่อยจะมีผมของมัน “ไอ้พี่เรย์มันก็ชอบสตาร์แหละ ก็มาตามจีบอ่ะ”

“แล้วทำไมสตาร์ต้องขอความช่วยเหลือจากกูวะ”

“...”

“คนตามจีบมัน มันไม่ชอบมันก็แค่ปฏิเสธ ทำไมต้องให้กูช่วย”

อีกฝ่ายถอนหายใจก่อนจะปั้นสีหน้าโหดใส่ผม “แทนที่พี่จะถามว่าทำไม พี่ทำไปเลยดีกว่า พี่ชอบเพื่อนผมไม่ใช่เหรอ มันขอความช่วยเหลือพี่ก็ต้องช่วยมันดิ”

กวนตีนฉิบหาย ผมไม่รู้จะด่าไอ้นี่ว่าไงอีกแล้ว

“กูช่วยอยู่แล้ว แต่กูก็อยากรู้เรื่อง”

“เดี๋ยวพี่ก็รู้เอง” ไอ้บู้ตัดบท “เดี๋ยวสตาร์มันคงจะเล่าให้พี่ฟังเอง ไม่มีอะไรมากหรอกพี่แต่มันก็น่าสงสาร”

“มึงหวงเพื่อนมึงฉิบหาย แต่ทำไมมึงดูไม่หวงเพื่อนมึงกับไอ้เรย์เลย” ผมด่าหลังจากที่เก็บกดเอาไว้มานาน เพราะคิดไปคิดมา มีแต่คนบอกผมว่าเรย์ตามจีบสตาร์นานแล้ว พวกเด็กห้องหนึ่งมันหวงสตาร์มากเลยไม่ใช่เหรอวะ ทำไมกับไอ้เรย์ดูไม่ค่อยหวงเลยล่ะ

“...”

“ไม่ทำหน้าที่เลยไอ้เหี้ยเอ๊ย” ขอด่าอีกหน่อยเหอะ ถ้าจะหวงเพื่อนกับคนอื่นก็หวงให้มันหมด ยกเว้นกูคนเดียว!

“ก็พวกผมกลัวไอ้พี่เรย์ พี่ดินสู้แม่งไหวก็สู้ไปดิ”

“ฟวย” ผมทำท่าจะเคาะกบาลไอ้บู้เพื่อสั่งสอน แต่ไอ้โชคที่นั่งอยู่ข้างหลังแม่งห้ามไว้

“ถ้ามันเอาไปฟ้องสตาร์ คะแนนมึงติดลบเลยนะ” โชคพูด

“มึงเป็นเด็กขี้ฟ้องมั้ย” ผมถามบู้

“ไม่ครับพี่”

“...”

“แต่ผมชอบเล่าเรื่องนั้นเรื่องนี้ให้เพื่อนผมฟัง และสตาร์ก็เป็นเพื่อนรักของผมซะด้วยสิ”

อยากจะเอาตีนยันหน้ามันจริงๆ ชาติที่แล้วเชี่ยบู้มันต้องเป็นเจ้ากรรมนายเวรของผมแหงๆ เลย มันกวนตีนผมได้ทุกอย่าง แต่ผมกลับทำไรมันไม่ได้เลยเพราะมันเป็นเพื่อนของสตาร์

ไอ้บู้มองไปที่ครูฝึกที่ยังคงไม่เดินมาเร็วๆ นี้ มันหยิบโทรศัพท์ของมันออกมาก่อนที่จะเข้ากล้องถ่ายรูป

“ทำห่าอะไร”

“ถ่ายรูปไงพี่”

“ถ่ายทำไม”

“จะลงไอจี” บู้ตอบ “สตาร์มันว่าง พี่ไม่อยากให้สตาร์มันเห็นพี่ในไอจีผมเหรอ”

คำว่าสตาร์ทำเอาผมใจอ่อนไปหมด ปกติผมไม่ค่อยชอบถ่ายรูปวันที่เรียน ร.ด. นะครับ เพราะสภาพผมจะทั้งผิวคล้ำทั้งสกปรก แต่ไอ้บู้มันใช้คำว่าสตาร์เข้ามาช่วย ผมก็เลยต้องยื่นหน้าเข้าไปในเฟรมอย่างช่วยไม่ได้

บู้มันถ่ายให้เห็นหมด ทั้งเพื่อนและก็ผม เมื่อได้รูปแล้วไอ้บู้ก็จัดการอัพอย่างรวดเร็ว

“แคปชั่นว่าไรดี”

“...”

“เอาเป็น ‘หล่อกว่าพี่ดินก็กูนี่แหละ’ ดีมั้ย”

“ไม่เอาดิวะ”

“ถ้างั้นเอาแบบนี้ดีมั้ย” บู้มันพิมพ์แล้วก็ยื่นโทรศัพท์มาให้ผมดู

‘มีคนคิดถึงมึงอ่ะ @starstaryu’

“เอาจริงเหรอ” ผมมองไอ้บู้เจือรอยยิ้ม

“จะกลัวอะไรเล่า” มันกดอัพเรียบร้อยแล้ว

“มึงแน่ใจนะว่าสตาร์มันจะเล่นไอจี”

“มันก็เล่นอยู่ทุกวันแค่มันไม่อัพรูป พี่ก็เล่นทุกวันไม่ใช่เหรอ”

“เออๆ เอาไงก็เอา”

รูปถูกอัพไปเรียบร้อยแล้ว หวังว่าคนที่ผมคิดถึงคนนั้นจะรับรู้ในสิ่งที่ผมส่งไปให้ ผมหวังว่าอย่างนั้นนะครับ










17.01 น.

ถึงบ้านแล้วโว้ยยยยยย

ไอ้เหี้ย เหนื่อยมาก เหนื่อยฉิบหาย ที่ครูฝึกให้พวกผมอยู่ในร่มก็เพราะมาจัดหนักเอาตอนท้ายนี่ไง สภาพผมตอนนี้เหมือนเพิ่งกลับจากสงครามทั้งๆ ที่ไม่ได้บาดเจ็บอะไรทั้งสิ้น อยากรู้จริงๆ ว่า ร.ด. โรงเรียนอื่นเรียนหนักเหมือนโรงเรียนผมมั้ย ทำไมบางที่ถึงไม่ต้องไปลุยโคลน แล้วทำไมโรงเรียนผมต้องโดน

บ่นไปก็เท่านั้นในเมื่อผมเรียนมาเป็นปีที่ 3 แล้ว ระหว่างที่ผมกำลังถอดรองเท้าอยู่หน้าบ้านนั่นเอง ฟืนก็มาปรากฏตัวอยู่ข้างๆ
ตกใจหมดเลย

“เชี่ย” ผมร้อง เอามือกุมอกอย่างหมดมาด ข้างๆ ฟืนคือไอ้สิกที่กำลังหน้าบึ้ง(ตามเคย) และคนที่อยู่ข้างหลังไอ้สิกเป็นอะไรที่เซอร์ไพรส์โคตรๆ สำหรับผม

เพราะคนคนนั้นก็คือสตาร์

เด็ก ม.5 สามคนมาทำอะไรบ้านผมวะ โดยเฉพาะสตาร์ แม่งควรเป็นคนที่มาบ้านผมคนสุดท้ายของโลกด้วยซ้ำในตอนนี้

ไอ้ห่า อะเมซิ่งมาก...แต่ก็ดีใจว่ะ

“มาทำไรบ้านกูวะ” ผมหันไปทางสิกกับฟืน “แล้วมึงสองคนไม่ไปเรียน ร.ด.หรือไง”

“ฟืนโดด ผมก็เลยโดด” สิกตอบ พวกมึงสองคนนี่เป็นอะไรที่สร้างความเจริญให้กับชาติบ้านเมืองดีแท้ 

“แล้วมึงล่ะ?” ผมตั้งใจหันมาถามสตาร์ สตาร์กำลังจะอ้าปากตอบแต่สิกตอบแทน

“สตาร์มันเหงา ฟืนก็เลยชวนมาเล่นที่บ้าน ทีนี้ที่บ้านฟืนไฟดับ น้ำไม่ไหล แม่ฟืนก็เลยไล่ให้มาอยู่บ้านพี่ดินก่อน”

“เฮ้ย มาอยู่กันหมดแบบนี้ขออนุญาตแม่กูยัง” ผมแกล้งโวยวายไปงั้น

“ไม่ต้องขอก็มาได้” สิกตอบแทนทุกคน “ยังไงแม่พี่ก็เอ็นดูไอ้ฟืนอยู่แล้ว เอ็นดูจนจะให้เป็นลูกสะใภ้เลยไม่ใช่หรือไง”

น้ำเสียงของสิกมีแววประชดประชันยังไงชอบกล เดี๋ยวก่อนนะ พวกมึงดราม่าอะไรเกี่ยวกับกูป่ะเนี่ย กูไม่ได้ยุ่งกับฟืนนานแล้วนะ
กูยุ่งกับคนหน้าตาน่ารักๆ ที่ยืนอยู่ข้างหลังพวกมึงสองคนต่างหากล่ะเฟ้ย

สตาร์ดูไม่ค่อยกล้ามองผมเท่าไหร่ เหมือนมันกำลังเขินผมยังไงยังงั้น ผมพอจะเข้าใจนะว่าทำไมมันเป็นแบบนี้

ก็เพราะรูปที่ไอ้เชี่ยบู้อัพลงไอจีนั่นยังไงล่ะ

“เห็นไอจีเชี่ยบู้แล้วใช่ป่ะ” ผมลองถามดู สตาร์พยักหน้าเบาๆ “ก็ตามนั้นแหละ”

พูดเสร็จผมก็รีบเดินเข้าบ้านไปเลย ผมไม่ทันสังเกตหรอกว่าสตาร์ทำหน้ายังไง แต่ที่แน่ๆ ผมเขินไปแล้ว และอาจจะกำลังเขินมากกว่าสตาร์ด้วย

โอ๊ยยยยยย ผมคงชอบมันเข้าไปมากแล้วจริงๆ








หลังจากที่อาบน้ำเสร็จ ผมก็คอยแอบดูเด็ก ม.5 ที่นั่งอยู่สวนหน้าบ้านทั้งสามคน ผมยังไม่เดินออกไป ไม่รู้เหมือนกันว่าทำไมตัวเองต้องมายืนเตรียมตัวเตรียมใจทั้งๆ ที่เป็นบ้านตัวเองแท้ๆ สตาร์ดูเข้ากับคู่สิกฟืนได้เป็นอย่างดี ไม่เหลือเยื่อใยที่เคยพันผูกว่าสามคนนี้เคยผ่านเรื่องวุ่นวายกันมายังไง

ไอ้สิกก็คือไอ้สิก แม่งมองแต่ฟืนไม่สนคนอื่น

ฟืนก็คือฟืน ชวนสตาร์คุยไปเรื่อยเพราะกลัวสตาร์อึดอัด

และสตาร์ก็คือสตาร์ ยิ้มหวานทำท่าน่ารักไปเรื่อยตามสไตล์

พวกแม่งมานั่งด้วยกัน 3 คนก็เป็นภาพที่น่ามองดี จะเรียกได้ว่าสามคนนี้เป็นตัวท็อปของเด็ก ม.5 โรงเรียนผมก็ได้ครับ

ผมกำลังจะเดินออกไปหาพวกมัน แต่แล้วก็มีอะไรบางอย่างที่ผมสะดุด เสียงออดที่ดังขึ้นที่ประตูหน้าบ้านทำให้ผมต้องเดินผ่านสามคนนั้นเพื่อที่จะไปเปิด

คนที่มาเป็นแขกอีกคนของบ้านผมก็คือคนที่ผมไม่ได้เห็นหน้ามานานแล้ว คนที่เป็นเจ้าของเบอร์โทรศัพท์ซึ่งเป็นพาสเวิร์ดของผมทุกอัน

‘หยก’

“ดิน” หยกที่สวยขึ้นกว่าเมื่อก่อนมากมายืนทำหน้าเศร้าที่หน้าบ้านผม “ว่างคุยกับหยกหรือเปล่า”

ผมสตันไปหลายวินาทีมาก เรื่องเลวร้ายที่หยกเคยทำไว้กับผมไหลบ่าเข้ามาสู่ใจผมทั้งหมด ความเจ็บปวดที่หยกทำไว้กับผมมันหนักหนาสาหัสเกินกว่าที่ผมจะมองหน้าเธอโดยที่ไม่รู้สึกอะไร

เธอคือแฟนคนแรกของผม และเธอก็เป็นคนที่ผมเคยให้ใจไปมากจนสูญเสียความเป็นตัวเอง พี่ดินที่น้องๆ ปลื้มหนักปลื้มหนาคนนั้นมีจุดอ่อนก็คือแฟนคนแรก และคนคนนั้นก็คือผู้หญิงคนนี้นี่แหละ

เธอกลับมาทำไมวะ ทั้งๆ ที่ออกไปจากชีวิตผมตั้งนานแล้ว

“จะคุยอะไรเหรอ”

“หยกจะมาขอโอกาส”

“...”

“กลับมาหาหยกได้มั้ย หยกคิดถึงดินนะ”

ไปเอามาจากไหนวะ ผมอ้าปากค้างไม่รู้จะพูดอะไรกับเธอ แต่แล้วเสียงเล็กๆ เสียงหนึ่งก็ดังแว่วมาขัดจังหวะผมซะก่อน

“สิก ฟืน กูกลับบ้านก่อนนะ”









[ไปบ้านเชี่ยดินมาใช่มั้ย]

“พี่เรย์รู้ได้ไง”

[สายพี่เยอะ ไม่ต้องคิดเรื่องนั้นหรอก]

“...”

[บอกแล้วใช่มั้ยว่าไอ้ดินมันเป็นเสือ มันก็แค่หาใครสักคนมาแทนที่คนที่มันเคยรักมาก]

“...”

[เด็กที่ชื่อฟืนก็เคยโดน]

“ผมคิดว่า...”

[เชื่อพี่]

“...”

[ดินมันก็แค่มายุ่งกับสตาร์เพราะต้องการใครสักคน มันไม่ได้ชอบสตาร์จริงๆ]

“...”

[มันไม่ได้ชอบสตาร์แบบที่พี่ชอบ]








บ้านผม เวลา 19.32 น.

แม่งเอ๊ย กูรู้สึกอยากเมาครั้งแรกในรอบหลายๆ เดือน

หยกกลับบ้านไปแล้ว แต่สิกกับฟืนมันยังอยู่ ผมนี่แหละบังคับให้ไอ้เด็กสองตัวนี้อยู่กับผมที่บ้าน เพราะถ้าผมอยู่คนเดียวผมคงคิดอะไรเกี่ยวกับเรื่องนี้ไม่ออกแน่ๆ

เพราะมันสองคนอยู่ในเหตุการณ์ ผมก็เลยเล่าทุกเรื่องเกี่ยวกับหยกให้พวกมันฟัง ทั้งสองคนจำได้ว่าผมกับหยกเคยเป็นคู่ที่ใครๆ ในโรงเรียนต่างก็อิจฉา หยกเป็นเหมือนดาวที่อยู่เกินเอื้อมของใครหลายคน แต่ผมสามารถเอื้อมถึงโดยที่ผมเป็นคนเข้าไปจีบก่อน จากนั้นหยกก็เล่นด้วย

ไอ้สิกมันบอกว่าตอนที่ผมจีบฟืน ผมจีบเหมือนผมไม่มีหยกในใจแล้ว ก็ใช่ไงล่ะ กูจะไปจีบฟืนทั้งๆ ที่กูมีคนในใจได้ไง แม่งบ้าป่ะวะ
 
“ถึงจะเป็นงั้นแต่สตาร์ก็เข้าใจผิดไปแล้ว” ไอ้สิกตอบผม “พี่นั่นแหละ หลายใจ”

“สิกมึง...” ผมทำท่าจะถีบมัน

“สตาร์คงช็อกอ่ะพี่ พี่ต้องทำอะไรสักอย่างก่อนที่เขาจะเข้าใจผิด” ฟืนค่อยๆ พูด “เรื่องผมสตาร์คงไม่ได้ติดใจอะไรแล้ว แต่เรื่องพี่หยก ผมว่ามันแปลกๆ อ่ะ”

“...”

“เพราะก่อนพี่ดินกลับมา สตาร์ก็ถามถึงพี่หยกกับพวกผมด้วย ตอนที่สตาร์ถาม ผมก็เลยนึกขึ้นได้ว่าพี่ดินเคยมีแฟน”

“พี่มันจีบจนมึงลืมนึกถึงเรื่องนั้นไปเลยใช่มั้ย” เชี่ยสิกกัดฟัน ไอ้สัดนี่ก็พร้อมจะหึงได้ทุกสถานการณ์จริงๆ มันหันมาหาผมพร้อมๆ กับพูดอย่างเบื่อหน่ายว่า “รีบๆ จีบสตาร์ให้ติดเลย จะได้เลิกยุ่งกับฟืนของผมสักที”

กูไม่ได้ยุ่งนานแล้วมั้ยสัด ผมเลิกสนใจไอ้สิกก่อนที่จะคิดมากในหลายๆ เรื่อง ทั้งเรื่องสตาร์และก็เรื่องหยก

ผมไม่เคยเห็นหยกในสภาพที่ย่ำแย่ขนาดนั้นมาก่อน

“วันก่อนสตาร์ก็ถามถึงแฟนเก่ากูว่ะ” ผมนึกไปถึงวันที่สตาร์พาผมออกไปจ่ายตังค์ค่าสมัครสอบ “เรื่องนี้คงติดอยู่ในใจมันน่าดูเลยใช่มั้ยวะ”

“คงงั้นแหละ” สิกเอามือลูบคาง “เหมือนมันกังวลมากเลย”

“เฮ้ย กูไม่ได้ติดต่อหยกมานานมากแล้วนะ เขาเพิ่งมาหากูวันนี้เนี่ย”

“สตาร์มันไปโดนใครเป่าหูอะไรมาเปล่า”

“ใครจะเป่าหูมันเรื่องกูวะ กูเคยมีศัตรูด้วยเหรอ”

สิกกับฟืนเลิกคิ้ว คล้ายกับต้องการให้ผมทบทวนคำถามของตัวเองใหม่ก่อนจะถาม

คนอย่างผมมีศัตรูอยู่มหาศาลล้านแปดเพราะต้องคอยเคลียร์กับคนที่มาหาเรื่องเด็กในโรงเรียน ถึงจะเป็นงั้นแต่ดูเหมือนจะมีอยู่คนหนึ่งที่น่าจะเป็นคนเป่าหูเรื่องของผมให้สตาร์ฟัง

ไอ้เชี่ยเรย์ไง จะใครซะอีก!

“สตาร์ฝากให้” ฟืนยื่นโพสต์อิตมาให้ผม “ผมกับสิกกลับก่อนนะ”

“เออ กลับไปได้ละ” ผมโบกมือไล่ สลัดความคิดหนักๆ ในหัวออกไป ก่อนที่จะก้มหน้าอ่านโพสต์อิตอย่างตั้งใจ

ไอดีไลน์ตัวที่ 6
L
มีคนคิดถึงพี่เหมือนกัน


เฮ้ยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยย

สตาร์ต้องเขียนก่อนที่มันจะได้ยินสิ่งที่ผมคุยกับหยกแน่ๆ เลย

น้องมันชัดเจนกับผมขนาดนี้ แล้วผมเพิ่งทำอะไรลงไปวะเนี่ย

งานเข้ามึงแล้วล่ะไอ้เชี่ยดิน...







TBC*




รู้สึกเบาสมองกว่าพี่ๆ มหา'ลัยเยอะ
คนอ่านคิดเหมือนเค้ามั้ย 555


ออฟไลน์ B52

  • เป็ดZeus
  • *
  • กระทู้: 13215
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +420/-26
 :heaven ปลื้มใจมาหลายตอน

ออฟไลน์ warin

  • รถไฟขบวนนั้น ได้แล่นผ่านไปแล้ว
  • เป็ดแสนดี
  • เป็ดDemeter
  • *
  • กระทู้: 1937
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +60/-1
    • -
ชอบมาก  ติดตาม  น่ารักมาก

 

สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด


สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด