**||I need a man||** หลง.ลุง [mpreg] Last Song [บทส่งท้าย] (13/06/61)
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด

สนใจโฆษณาติดต่อ laopedcenter[at]hotmail.com คลิ๊กรายละเอียดที่ตำแหน่งว่างเลยครับ

สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด

ผู้เขียน หัวข้อ: **||I need a man||** หลง.ลุง [mpreg] Last Song [บทส่งท้าย] (13/06/61)  (อ่าน 170560 ครั้ง)

ออฟไลน์ princeofdark

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 72
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +1/-0
Re: **||I need a man||** หลง.ลุง [mpreg] [Third Song] (2/12/60)
«ตอบ #30 เมื่อ03-12-2017 22:47:17 »

สนุกมากเลยค่า เป็นกำลังให้น้องดิมและคนเขียนค่า
พ่อแม่น้องดิมไม่น่าใจร้ายกับพี่ดาเลยเนอะ ไม่อยากคิดเลยว่าถ้าหนูดิมท้องจะเป็นยังไง
ส่วนลุงก็แซ่บมากเลยค่ะอิอิ

ออฟไลน์ Marymo

  • เป็ดมัธยม
  • *
  • กระทู้: 147
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +106/-2
    • Fanpage: ปิงปองโต้คลื่น
Re: **||I need a man||** หลง.ลุง [mpreg] [Fourth Song] (4/12/60)
«ตอบ #31 เมื่อ04-12-2017 20:12:07 »

Fourth Song










โลกใบนี้ยังรักเขาอยู่บ้างไหมนะ


‘เดี๋ยวเรื่องร้ายๆ มันก็ผ่านไป เหมือนควันเหนือถ้วยชาไง’


ใช่ เดี๋ยวมันก็ผ่านไป


‘ผ่านคืนมืดนี้ไปได้ เดี๋ยวก็เช้าแล้วนะ’


เดี๋ยวก็เช้าแล้ว อีกนิดเดียวก็จะเช้าแล้ว อดทนไว้


อดทนไว้เหมือนกับที่พี่ดาอดทนมาตลอด


“ดิม”


ใครเรียกเขากันนะ


“ดิม”


ความอบอุ่นที่โอบล้อมรอบตัวนี้คืออะไรกันนะ


อุ่นจัง สบายใจจัง


“ไม่ร้องแล้วนะเด็กดี ฉันอยู่ตรงนี้แล้ว”


ใครร้องกัน ไม่ใช่เขาแน่ๆ


‘ดิมของพี่เป็นคนเก่ง เพราะฉะนั้นห้ามร้องนะครับ ฮึบไว้เร็ว’


ใช่ ต้องฮึบไว้ เขาเป็นน้องดิมคนเก่งของพี่ดาเชียวนะ


“ตื่นเถอะนะคนดี ตื่นจากฝันร้ายสักที”


ตื่นเหรอ...ฝันเหรอ...


มิน่าล่ะถึงได้เจอกับพี่


...เพราะเป็นฝันนี่เอง...


ภาพแรกที่เห็นหลังจากลืมตาขึ้นมาคือเพดานห้องสีขาวคุ้นตา


คุ้นตาแต่กลับพร่าเลือนกว่าทุกวัน


คงเพราะน้ำเหนอะหนะที่ดวงตานี่ล่ะมั้ง


น้ำที่อยู่ในตาเรียกเหนอะหนะ แต่ลุงที่กอดเขาแน่นนี่น่ะเรียกหนัก


“ลุง ถอยไปเร็ว หนักจะแย่”


อ้อมแขนแกร่งยอมปล่อยตัวเขาให้เป็นอิสระ แต่เจ้าของใบหน้าคมคายยังเคล้าคลออยู่ไม่ห่างจากปลายจมูกเขาเท่าไหร่


“ฝันอะไร บอกได้ไหม”


นัยน์ตาคู่คมสบเข้ากับดวงตากลมโตของเด็กหนุ่มหวังถ่ายทอดความเป็นห่วงทั้งหมดให้อีกฝ่ายรับรู้ แต่สิ่งที่คนอายุน้อยกว่าเลือกจะทำคือการแสร้งหัวเราะ


ใบหน้าและเสียงหัวเราะนั้นฟังดูปกติ แต่แววตาเจ็บปวดของคนหัวเราะนั่นล่ะที่ทำให้เขารู้ว่าอีกคนกำลัง ‘ไม่ปกติ’


“ฝันว่าผมลุงกลายเป็นสีขาวทั้งหัวไงล่ะ”


ตัวเขาเองก็อยู่มาจนป่านนี้มีหรือจะดูไม่ออกว่าอีกฝ่ายกำลังมีเรื่องในใจ


ไม่ใช่แค่กำลัง แต่มีมาตลอดตั้งแต่วันแรกที่เจอกัน


“ปากคอเราะร้ายนักนะ”


คนถูกเอ็ดฉีกยิ้มบาง


นิ้วมือเรียวสวยไล้ไปตามใบหน้าของสูงวัยกว่า


“ลุงจะอยู่กับผมไปได้อีกนานแค่ไหนกันนะ”


ผ่านดวงตาคมมีเสน่ห์


“โลกนี้ใจร้ายกับผมจะตาย”


ผ่านจมูกโด่งๆ ได้รูป


“มันจะเหวี่ยงลุงออกจากชีวิตผมตอนไหนก็ไม่รู้”


นิ้วสวยหยุดเอาไว้ที่ริมฝีปากหนาของอีกฝ่ายแล้วหยุดพูดไปเสียเฉยๆ


“ฉันไม่ไปเสียอย่าง ใครก็เหวี่ยงฉันไปไม่ได้”


ใบหน้าคมคายกึ่งหวานของเด็กหนุ่มฉีกยิ้มร่า


“คนแก่หัวดื้อ”


“ไม่เท่าเด็กคนนี้หรอก”


ไม่พูดเปล่า ฝ่ามือใหญ่บีบปลายจมูกของอีกคนอย่างหมั่นเขี้ยว


พวกเขาสบตากันเงียบๆ ก่อนที่คนด้านบนจะโน้มตัวลงมาประทับจูบที่หน้าผากของเด็กใต้ร่าง


“ต่อให้โลกไม่รักเธอ รู้ไว้ว่าฉันรัก”


หัวใจเผลอเต้นผิดจังหวะไปกับคำพูดหนักแน่นของอีกฝ่าย ก่อนมันจะกลับมาสงบนิ่งตามเดิม


‘เชื่อได้แค่ไหนกัน’ นั่นเป็นคำถามที่วนเวียนอยู่ในหัวเขาทุกครั้งที่ได้ยินคำรักจากอีกฝ่าย


คุณปราณเป็นผู้ชายที่สมบูรณ์แบบ เป็นคนรวย เป็นคนหล่อ เป็นคนที่ใครต่อใครก็ต้องการ


เป็นคนที่ดีกว่าเขาทุกอย่าง เป็นคนที่เขาไม่คู่ควรด้วยเลยสักทาง


ความรักของพวกเขาดูไปทางไหนก็มีแต่อุปสรรค นอกจากช่องว่างระหว่างวัยที่ห่างกันสุดๆ จนดูเหมือนพ่อลูกแล้ว ยังมีอีกสิ่งที่แย่ยิ่งกว่า...


“วันนี้คุณจะไปงานเปิดตัวคอนโดของคุณธงชัยไหมครับ”


ใบหน้าสูงวัยเลิกคิ้วใส่เขา


“ถามทำไม”


“ก็พ่อบอกว่าวันนี้มีเลี้ยงรุ่นเพื่อนสมัยมัธยมนี่นา”


ใบหน้ามีเสน่ห์ยกยิ้มยั่วเย้า


“อยากรู้จังว่าระหว่างธุรกิจกับเพื่อน คุณปราณของผมจะเลือกอะไร”


ปราณ บุญสรนพ เป็นเพื่อนของพ่อ...เป็นเพื่อนสมัยมัธยมของพ่อ นายดนัย ไวยสมุทร


มีสามีเป็นเพื่อนของพ่อ


ไม่ต้องคิดถึงเรื่องที่ว่าจะอยู่ด้วยกันได้นานแค่ไหน เอาแค่เรื่องที่ว่าพ่อจะรับได้ไหมก็จบแล้ว


ตาแก่นั่นเป็นคนห่วงหน้าตาและชื่อเสียงมากกว่าสิ่งใดในโลก ขนาดพี่ดาท้องกับคนไม่มีชาติตระกูลยังโกรธขนาดนั้น แล้วนี่เขา...ลูกชายคนเดียวของตระกูลมามีอะไรกับเพื่อนสมัยมัธยมของตัวเอง


...ไม่ต้องเดาก็รู้ว่าสถานการณ์จะจบลงแบบไหน...


“ฉันไม่ไปงานเลี้ยงรุ่นมานานแล้ว”


เด็กหนุ่มยิ้มล้อเลียน


“ไม่ไปเพราะไม่ชอบงานเลี้ยงรุ่นหรือไม่ไปเพราะกลัวความแตกว่าแอบรักกับลูกชายเพื่อนตัวเองเหรอครับ”


“ดิม”


เสียงเรียกชื่อดุๆ ทำให้เด็กหนุ่มยอมจำนนในที่สุด


“โอเค ยอมแพ้ไม่ล้อแล้วก็ได้ ไปอาบน้ำดีกว่า”


พอพูดจบก็กลิ้งตัวหนีลงจากเตียงไปอย่างรวดเร็วราวกับแมวตัวน้อยๆ ทิ้งให้คนอายุมากหัวเราะร่วนอยู่บนเตียงตามลำพัง


ร่างกำยำของชายสูงวัยทิ้งตัวลงกับที่นอนแล้วปล่อยให้ความเงียบลากเขาด่ำดิ่งลงสู่ห้วงความคิดบางอย่าง


ภาพของเด็กหนุ่มที่เขาเจอเมื่อสามปีก่อนยังตรึงตา ยิ่งได้มาอยู่ด้วยกันยิ่งตรึงใจ


โลกส่วนตัวสูง สง่างาม และปราดเปรียว นั่นคือนิยามของเด็กคนนั้นทั้งหมด


ใบหน้ามีเสน่ห์คมคายไม่ได้เค้าของพ่อมาเลยสักนิด ถ้าให้เดาก็คงได้รูปหน้าแม่มา


ไม่รู้สิ เขาเองก็จำหน้าแม่ของเด็กคนนี้ไม่ได้แล้ว คลับคล้ายคลับคลาว่าจะเป็นลูกคุณหนูจากตระกูลอะไรสักอย่าง แต่เขาก็ไม่ใคร่ใส่ใจนัก


ดิมเป็นเด็กผู้ชายที่ไม่หล่อ ไม่หวาน ไม่ได้โดดเด่นจนเกินหน้าเกินตาใครแต่ดูรวมๆ แล้วมีเสน่ห์ยากจะละสายตา กริยามารยาทสง่างามสมเป็นคนที่ถูกฝึกสอนมาตั้งแต่เด็ก ความรู้ มันสมองก็เป็นเลิศ เกิดมาบนกองเงินกองทองแถมยังหาเงินเก่งกว่าใคร


หล่อ รวย ฉลาด เป็นคุณสมบัติของผู้ชายที่ผู้หญิงทุกคนต้องการ แต่เขาไม่ได้ต้องการเด็กคนนั้นเพราะเขามีลักษณะแบบนั้น


เขาต้องการแค่เด็กคนนั้น ต้องเป็นเด็กคนนั้นเท่านั้น


ต้องเป็นดิมเท่านั้นที่เขาจะรัก


ชายสูงวัยหลับตาลงช้าๆ


เขาไม่รู้ว่าเบื้องลึกเบื้องหลังของดิมเป็นมายังไง เพราะเจ้าตัวไม่เคยปริปากบอก ยิ่งเพื่อนของเขายิ่งแล้วใหญ่ ‘ดลนธี ไวยสมุทร’ เป็นผู้ชายที่เขาไม่ค่อยอยากจะสุงสิงด้วยสักเท่าไหร่ ไอ้เรื่องจะให้มานั่งคุยถึงชีวิตที่ผ่านมากันคงเป็นไปไม่ได้


“ทำไมต้องดลนธีนะ”


เจ้าของเสียงทุ้มต่ำพึมพำกับตัวเองไปพลางฟังเสียงน้ำจากฝักบัวที่ไหลกระทบร่างอีกคนในห้องน้ำไปพลาง


ดลนธี หัวโจกประจำรุ่น ก่อคดีทำร้ายร่างกายคนอื่นอยู่แทบตลอดเวลา แต่อาศัยความมีอิทธิพลของครอบครัวกลบข่าวฉาวมาได้ตลอด ตอนอยู่มศ.5 ก็ขับรถชนคนตายไปคนหนึ่ง แล้วก็ยัดเงินจนรอดคุกมาได้


ไม่อยากจะดองกับคนแบบนั้นเลยสักนิด


“ลุง ลุกจากเตียงแล้วไปอาบน้ำได้แล้ว”


ทันทีที่เปิดเปลือกตาขึ้น สิ่งแรกที่โฟกัสคือรอยยิ้มกว้างที่ส่งมาให้เขา ส่วนสิ่งถัดมาก็...


“คิดดีแล้วใช่ไหมที่ออกจากห้องน้ำมาด้วยสภาพนี้”


เด็กหนุ่มเลิกคิ้วเล็กน้อย


เลิกคิ้วในสภาพเปลือยท่อนบนและมีหยาดน้ำเกาะพรางพราว


ผิวขาวๆ มีหยดน้ำเกาะเป็นหย่อมๆ เหมือนคนไม่ตั้งใจเช็ดตัว กล้ามเนื้อสวยสมส่วนรับกับกระดูกที่โผล่ขึ้นมาถูกที่ถูกตำแหน่ง


ไม่บางเกินไป ไม่หนาเกินไป


...เย้ายวนกำลังดี...


ขนาดเขาอายุปูนนี้ยังหายใจหายคอไม่คล่อง ถ้าคนอื่นมาเห็นจะรู้สึกยังไงกัน


แต่ถึงแม้จะมีความรู้สึกอยากจับเจ้าแมวน้อยขังไว้ในบ้านมากแค่ไหนก็คงทำไม่ได้


“ลุง เลิกทำหน้าหื่นแล้วไปอาบน้ำได้แล้ว”


เพราะแมวน่ะ ทั้งเย่อหยิ่งและรักอิสระ


“ถ้าจะไม่อาบน้ำก็ลุกมาทำข้าวเช้าให้ผมสักทีสิ”


แถมยังเอาแต่ใจเป็นที่สุด


มนุษย์เราก็แปลก รู้ทั้งรู้ว่าแมวเป็นสิ่งมีชีวิตนิสัยเสีย แต่ไม่รู้ทำไมถึงยอมกลายเป็นทาสแมวอยู่ทุกที


เป็นคุณลุงที่มาชอบแมวเอาตอนนี้...ทำอะไรไม่เหมาะกับอายุเลยจริงๆ











ชั้นบนสุดของร้านอาหารกึ่งบาร์ที่คุณปราณเป็นเจ้าของ เดิมคือห้องรับรองสุดพรีเมี่ยมสำหรับแขกที่จ่ายหนักและสนิทสนมกับเจ้าของร้านเท่านั้น


ในห้องรับรองนี้แบ่งออกเป็นสองโซนหลักๆ หนึ่งคืนโซนห้องพักผ่อนซึ่งด้านในมีเตียงนอนและห้องน้ำครบครัน และสองคืนโซนด้านนอกซึ่งเป็นโซนสำหรับรับประทานอาหาร ซึ่งจะมีส่วนครัวเล็กๆ ให้สำหรับทำอาหารง่ายๆ


ไอ้ตอนแรกก็ตั้งใจจะเอาไว้ให้ลูกค้าที่อยากได้ห้องสำหรับโอกาสพิเศษอะไรทำนองนั้น แต่ไปๆ มาๆ ห้องก็ต้องปิดการจองลงเพราะถูกเด็กหนุ่มที่ไม่ยอมกลับบ้านกลับช่องเทคโอเวอร์ไป


“พักนี้ไม่กลับบ้านเลยเหรอ”


“อย่าทำให้ผมหงุดหงิดแต่เช้าสิลุง”


น้ำเสียงเซ็งๆ ของอีกฝ่ายทำให้คนที่ยืนหั่นผักต้องหัวเราะร่วน


“เบื่อบ้านอะไรขนาดนั้น”


“ไม่ได้เบื่อบ้านครับ”


มือเรียวสวยหยิบแครอทจากเขียงไปหนึ่งชิ้น


“ผมเบื่อคนในบ้านต่างหาก”


คำพูดนั้นทำให้คนกำลังหั่นผักเผลอชะงักไปอึดใจก่อนจะทำตัวเหมือนปกติ


น้อยครั้งที่เด็กคนนี้จะพูดถึงเรื่องตัวเอง ทุกครั้งที่เขาถาม เจ้าตัวกลับพยายามเบี่ยงประเด็นด้วยซ้ำไป แล้ววันนี้จู่ๆ ดัน...


“ที่ผมพูดเพราะผมเห็นว่าเราคบกันมานานแล้วนะคุณปราณ ถ้าผมไม่บอกอะไรคุณเลยมันก็ไม่แฟร์ใช่ไหมล่ะ”


เขาเงยหน้าขึ้นเพื่อมองหน้าอีกคน แล้วก็ต้องพบกับความจริงว่าอีกคนไม่ได้สนใจจะมองหน้าเขาแม้แต่น้อย


นิ้วเรียวสวยปาดน้ำสลัดที่เลอะตรงปากขวดแล้วใช้ลิ้นละเลียดชิมช้าๆ


“สามปีแล้วนะคุณปราณ นานเอาเรื่องเลย ไม่คิดงั้นเหรอ”


พอจบประโยคสุดท้ายจึงยอมหันกลับมาสบตากัน


สามปีที่คบกัน...นานจริงๆ


“คบมาสามปีแล้ว อยากจะดองไหมล่ะ”


“ดองเหรอ”


เด็กหนุ่มหัวเราะร่วน


“ใช้ศัพท์สมวัยจังเลยนะครับ”


“ปากดี”


“จริงเหรอครับ”


ไม่ว่าเปล่ายังเขย่งเท้าป้อนจูบให้เขาด้วย


ปลายลิ้นของอีกฝ่ายที่ลากไล้ไปริมฝีปากของเขาทำเอาแทบคลั่ง แต่ก็ต้องพยายามสะกดตัวเองไว้ก่อน วันนี้พวกเขามีงานบ่ายทั้งคู่ ถ้าเริ่มตอนนี้น่ากลัวจะต้องเบี้ยวงาน ชีวิตคงพินาศกันไปหมด


“ไม่เห็นจะดีเลยเห็นไหม ถ้าดีจริงลุงต้องสติหลุดไปแล้ว”


รอยยิ้มเจ้าเล่ห์นั้นทำให้ความอดทนขาดผึง


“วันนี้มีงานกี่โมง”


รอยยิ้มรู้ทันปรากฏบนใบหน้าของอีกฝ่าย


“อีกสามชั่วโมงครับ”


เจ้าแมวน้อยเลื่อนเครื่องครัวทั้งหมดไปไว้สุดปลายเคาน์เตอร์ก่อนจะดันตัวเองขึ้นไปนั่งไขว้ห้างด้วยท่าทางสง่างาม มือสองข้างค่อยๆ ปลดกระดุมเสื้ออย่างเชื่องช้า


“แต่ผมว่ารีบหน่อยก็ดีนะ...”


ไหปลาร้าสวยที่ค่อยๆ ปรากฏสู่สายตาทำเอาเขาหายใจไม่ทั่วท้อง


“เผื่อรถติด”


แมวเป็นสิ่งมีชีวิตที่โลกส่วนตัวสูง สง่างาม และปราดเปรียว


...แถมเย้ายวนยิ่งกว่าใคร...








***********************************************************************




พูดคุยกันได้ที่ #ปราณดิม หรือ #หลงลุง ใน twitter นะคะ





« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 27-12-2017 17:55:38 โดย Marymo »

ออฟไลน์ puiiz

  • เป็ดEros
  • *
  • กระทู้: 3378
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +135/-4
Re: **||I need a man||** หลง.ลุง [mpreg] [Fourth Song] (4/12/60)
«ตอบ #32 เมื่อ04-12-2017 20:40:35 »

 :impress2: :impress2:

ออฟไลน์ B52

  • เป็ดZeus
  • *
  • กระทู้: 13215
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +420/-26
Re: **||I need a man||** หลง.ลุง [mpreg] [Fourth Song] (4/12/60)
«ตอบ #33 เมื่อ04-12-2017 21:01:58 »

แหมะ เรียกเลือดดีจริง

ออฟไลน์ bearjunjun

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 62
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +2/-0
Re: **||I need a man||** หลง.ลุง [mpreg] [Fourth Song] (4/12/60)
«ตอบ #34 เมื่อ04-12-2017 21:46:55 »

งื้อออ คุณลุงทาสแมวที่แทททท้

ออฟไลน์ Snowermyhae

  • เป็ดAphrodite
  • *
  • กระทู้: 4014
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +97/-7
Re: **||I need a man||** หลง.ลุง [mpreg] [Fourth Song] (4/12/60)
«ตอบ #35 เมื่อ04-12-2017 22:42:44 »

ลุงปราณทาสแมว  :hao7:

ออฟไลน์ -.NF.-

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 84
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +0/-0
Re: **||I need a man||** หลง.ลุง [mpreg] [Fourth Song] (4/12/60)
«ตอบ #36 เมื่อ04-12-2017 23:19:14 »

โง้ยย อยากจับแมวฟัดแทนคุณลุงเลยยย

ออฟไลน์ beerby-witch

  • เป็ดมหาวิทยาลัย
  • *
  • กระทู้: 565
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +9/-2
Re: **||I need a man||** หลง.ลุง [mpreg] [Fourth Song] (4/12/60)
«ตอบ #37 เมื่อ05-12-2017 00:14:20 »

โอยยยยยย แซ่บทั้งคู่จริงๆ  :z3:

ออฟไลน์ แม้วธวัลหทัย

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 317
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +3/-1
Re: **||I need a man||** หลง.ลุง [mpreg] [Fourth Song] (4/12/60)
«ตอบ #38 เมื่อ05-12-2017 09:21:49 »

แลดูชีวิตของสองคนนี้จะไม่ง่ายเลย

ออฟไลน์ PrimYJ

  • เป็ดEros
  • *
  • กระทู้: 3473
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +19/-3
Re: **||I need a man||** หลง.ลุง [mpreg] [Fourth Song] (4/12/60)
«ตอบ #39 เมื่อ05-12-2017 10:11:40 »

 :katai2-1: :katai2-1:

CoMMuNiTY Of ThAiBoYsLoVE

Re: **||I need a man||** หลง.ลุง [mpreg] [Fourth Song] (4/12/60)
« ตอบ #39 เมื่อ: 05-12-2017 10:11:40 »
ประกาศที่สำคัญ


ตั้งบอร์ดเรื่องสั้น ขึ้นมาใครจะโพสเรื่องสั้นให้มาโพสที่บอร์ดนี้ ถ้าเรื่องไหนไม่จบนานเกิน 3 เดือน จะทำการลบทิ้งทันที
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=2160.msg2894432#msg2894432



รวบรวมปรับปรุงกฏของเล้าและการลงนิยาย กรุณาเข้ามาอ่านก่อนลงนิยายนะครับ
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=459.0



สิ่งที่ "นักเขียน" ควรตรวจสอบเมื่อรวมเล่มกับสำนักพิมพ์
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=37631.0






ออฟไลน์ Marymo

  • เป็ดมัธยม
  • *
  • กระทู้: 147
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +106/-2
    • Fanpage: ปิงปองโต้คลื่น
Re: **||I need a man||** หลง.ลุง [mpreg] [Fifth Song] (5/12/60)
«ตอบ #40 เมื่อ05-12-2017 19:49:20 »

Fifth Song









เขาไม่ชอบกรุงเทพ


ไม่ชอบอีกเลยหลังจากวันนั้น


-กริ้ง กริ้ง-


เสียงโทรศัพท์ที่ดังขึ้นทำให้เด็กหนุ่มหลุดออกจากภวังค์ ดวงตากลมเหลือบมองหน้าจอของอุปกรณ์เล็กจิ๋วที่อยู่ไม่ไกล


พอเห็นชื่อที่ขึ้นโชว์ หัวใจก็อึดอัดไปหมด


อยากหนี อยากหนีไปให้ไกลๆ


ทำได้ทีไหนกัน


มือบางกดปุ่มสมอลทอร์คที่หูเบาๆ


“สวัสดีครับพ่อ”


[แกไม่ได้ลืมงานของคุณธงชัยใช่ไหม]


เขาลอบถอนหายใจเบาๆ


น่ารำคาญ


“ไม่ลืมครับ ผมกำลังไป อีกสองแยกก็ถึงแล้ว”


[ดี]


เสียงทุ้มต่ำเยือกเย็นจากปลายสายทำให้ตัวเขาสั่นขึ้นมาอย่างไม่มีสาเหตุ


[อย่าทำให้ฉันผิดหวัง แล้วแกจะได้ทุกอย่างที่สมควรได้]


นั่นหมายความว่า ‘ถ้าทำให้ฉันผิดหวัง แกจะต้องเสียใจ’


มือสั่นเทาสองข้างกำพวงมาลัยแน่นจนน่ากลัวจะหลุดติดมือมา แต่เสียงของเขากลับราบเรียบเหมือนปกติ


“ไม่ต้องห่วงครับ ผมจะดูแลให้เรียบร้อย”


เขาตอบไปแค่นั้น


แล้วปลายสายก็ตัดไป


ความรู้สึกที่อัดแน่นอยู่ในอกนี่คืออะไรกัน มันทั้งอึดอัด ทั้งพลุ่งพล่านจนแยกไม่ออกว่าเป็นความกลัวหรือความโกรธ แต่ที่เขารู้แน่ๆ คือเขาไม่ชอบ เขาเกลียดความรู้สึกนี้


เขาไม่ชอบพ่อ เพราะพ่อทำให้เขามีความรู้สึกแบบนี้


มันอึดอัด มันเจ็บปวด ร้อนผ่าวไปทั้งอก


ไม่ชอบ...ไม่ชอบเลย


-ปี้น -


เสียงบีบแตรสั้นๆ จากรถคันข้างหลังดึงเขากลับสู่โลกแห่งความเป็นจริง ไฟเขียวที่โชว์หราอยู่บนไฟจราจรทำให้เขาต้องรีบเข้าเกียร์แล้วแตะคันเร่ง


การจราจรในกรุงเทพนั้นน่าเบื่อ ไฟแดงใช้เวลาหนึ่งชาติ ไฟเขียวใช้เวลาหนึ่งวิ รถราพวกนี้ก็มาจากไหนกันนักกันหนาก็ไม่รู้ จะขับผ่านสักแยกไปได้ใช้เวลาร่วมสิบยี่สิบนาที ที่ร้ายที่สุดคือเราไม่มีทางรู้เลยว่าวันไหน ช่วงไหน ถนนเส้นไหนจะติดหรือไม่ติด วันดีคืนดีพญาไทก็รถติดทั้งที่ปกติไม่ติด หรือวันดีคืนดีพระรามสี่ก็รถไม่ติดทั้งๆ ที่ปกติก็ติดอยู่ทุกวัน เสียอย่างนั้น


คนจะอยู่ในกรุงเทพให้มีความสุขได้ต้องเป็นคนมีดวง เพราะขืนเป็นคนดวงอับอย่างเขาก็ต้องมาผิดเวล่ำเวลาจนติดแหง็กอยู่บนถนนแบบนี้ล่ะ


โชคดีที่เขาเผื่อเวลามาดี ไม่งั้นคงต้องไปสายแน่


โชคดีที่ตาลุงนั่นทำเวลาดีเกินคาด


ดวงตากลมโตเหลือบมองรถสปอร์ตสีดำคันหรูที่จอดอยู่ด้านหลังผ่านกระจกมองหลังแล้วอมยิ้มบางๆ


ทั้งที่พวกเขาต้องไปงานเดียวกันแท้ๆ แต่กลับต้องขับรถแยกกันมาเพื่อไม่ให้น่าสงสัย


ลูกชายของดลนธี ไวยสมุทร ทายาทของตระกูลไวยสมุทร มางานกับ ปราณ บุญสรนพ เจ้าพ่ออสังหาริมทรัพย์ที่ยังดูเซ็กซี่แม้อายุจะปาเข้าเลขหกไปแล้ว


แค่เด็กอมมือยังรู้เลยว่าจะกลายเป็นข่าวใหญ่ขนาดไหน เพราะแบบนั้นเขาจึงขอแยกกันขับรถมาตั้งแต่ที่ร้าน


ถึงจะแยกกันมา แต่ตาลุงนั่นก็ขี้ห่วงเหลือเกิน ทั้งๆ ที่บอกไปแล้วว่าให้ไปเจอกันในงานเลยก็ได้ ก็ยังยืนยันจะขับรถตามหลังเขาให้ได้ ตัวเขานี่ก็บ้า แค่เพราะอีกฝ่ายพูดออกมาประโยคเดียวก็ยอมเขาเสียแล้ว


‘เป็นห่วง’


บ้าชะมัด


เด็กหนุ่มหัวเราะเบาๆ แล้วมองเงาสะท้อนของรถคุ้นตานั่นผ่านกระจกมองข้าง


ภายใต้ฟิล์มสีดำสนิทนั่น ตาลุงนั่นจะทำอะไรอยู่ก็ไม่มีใครรู้ ใบหน้ามีอายุแต่ยังหล่อเหลานั้นอาจจะหันไปหันมาเพื่อเช็คทรงผมเหมือนอย่างที่ชอบทำเวลาที่เขาขับรถแล้วอีกฝ่ายเป็นผู้โดยสาร หรืออาจจะนั่งฟังเพลงเก่าๆ ของ The Beatles ไม่ก็ฮัมเพลง ทรายกับทะเล ที่ตาลุงนั่นชอบนักหนา


ก็คงเป็นอะไรทำนองนั้นล่ะนะ


ว่าแล้วก็ขอแกล้งอีกคนสักหน่อยแล้วกัน


นิ้วเรียวปัดหน้าจอขนาดเล็กตรงคอนโซลหน้ารถอย่างสองสามวิ


“Call คุณปราณ”


สิ้นเสียงพูด สัญญาณรอสายก็ดังขึ้นที่สมอลทอร์คของเขา


เทคโนโลยีสมัยนี้มันรวดเร็วทันใจดีเหมือนกัน


[ว่าไง]


น้ำเสียงทุ้มต่ำที่ฟังดูเหนื่อยล้ากว่าปกติจากปลายสายเผลอทำให้เขานึกถึงเรื่องเมื่อเช้าเสียได้


หื่นกามจริงๆ เลยดนัย


“ไม่มีอะไรครับ แค่จะโทรมาขอบคุณที่อุตส่าห์บีบแตรบอกผม”


[เหม่ออะไรล่ะ บอกกี่ครั้งแล้วว่าเวลาขับรถต้องมีสติ]


“อย่าบ่นสิลุง พอดีพ่อโทรมาน่ะครับ”


ปลายสายเงียบไปเหมือนกำลังชั่งใจว่าควรจะพูดอะไรดี เขาเลยอาสาต่อบทสนทนาเอง


“หลังจากงานคุณธงชัย คุณมีงานที่ไหนต่อรึเปล่า”


[ไม่มีแล้ว]


“เยี่ยม งั้นไปหาอะไรดื่มกันไหม”


เขาได้ยินเสียงถอนหายใจ


[ฉันแก่แล้วนะเหมียวน้อย เมื่อเช้าเสียพลังงานไปเยอะ ขอกลับไปพักได้ไหม]


พอได้ยินเสียงเหนื่อยๆ ของอีกฝ่ายหัวใจมันก็เต้นระส่ำอย่างไม่มีสาเหตุ


เมื่อเช้าก็...เสียพลังงานเยอะจริงๆ ล่ะนะ


“โอเค งั้นกลับไปเปิดไวน์ที่ห้อง”


[ที่บ้าน]


ฮะ?


“บ้าน?”


[ใช่ วันนี้จะพาไปบ้านฉัน]


เด็กหนุ่มนิ่งคิดอย่างชั่งใจ


[ไม่ได้ไปนานแล้วไม่ใช่เหรอ ทุกคนเขาคิดถึงคุณหนูกันหมดแล้ว]


“เพ้อเจ้อน่ะลุง”


ถึงจะตอบออกไปแบบนั้น แต่ไม่รู้ทำไมใบหน้าถึงเห่อร้อนแปลกๆ


แม่บ้านของตาลุงเคยบอกว่า ‘คุณผู้ชาย’ ไม่เคยพาใครเข้าบ้านมาก่อน นอกจากภรรยาที่หย่ากันไป ก็มีแค่ ‘คุณหนู’ คนเดียว


มันเริ่มจากคุณป้าแม่บ้านนั่นล่ะ ทุกคนในบ้านหลังนั้นเลยเรียกเขาว่าคุณหนูกันหมด


...บ้าน...


แล้วหัวใจจะเต้นแรงทำไมกันนะ


[ไปนะ]


“อืม”


สุดท้ายก็จบลงแบบนี้จนได้
















เขาไม่ชอบงานเลี้ยง แต่มีคนเคยบอกว่าเขาเกิดมาเพื่อเข้าสังคม


...เกิดมาพร้อมกับพรสวรรค์ในการสร้างคอนเนคชั่นทางธุรกิจ...


ทันทีที่เข้าเดินเข้าไปในห้องจัดเลี้ยง สายตาทุกคู่ก็ปรายมองมาด้วยความสนอกสนใจ หนึ่งคือพวกที่สงสัยว่าเขาหายไปไหนจึงไม่เข้างานสังคมเสียนาน สองคือพวกที่รู้ว่าเขาเป็นลูกของดลนธี ไวยสมุทร เจ้าของกิจการอาหารแช่แข็งผู้มีชื่อเสียง และสามคือพวกสอดรู้สอดเห็น


“อ้าวดิม ไม่ได้เจอกันนานเชียว เป็นยังไงบ้าง”


เสียงร้องทักของชายหนุ่มคนหนึ่งทำให้เขาต้องหันไปยิ้มให้


ทรงผมเรียบแปล้ ใบหน้ากลม ดวงตาเล็ก ผิวขาวเหลือง ใส่สูทสั่งตัดจากร้านทั่วไป ข้างในใส่เชิ้ตขาวธรรมดาผูกด้วยไทสีแดงที่ทำจากผ้าไหม


คนๆ นี้ต้องเป็นคนที่สนิทกับเขาในระดับหนึ่งจึงได้กล้าเรียกชื่อจริง สำคัญคือมีชื่อเสียงพอตัวและเป็นคนไทยเชื้อสายจีน


คลับคล้ายคลับคลาว่าเคยมีเพื่อนแบบนี้อยู่...


...อ๋อ...


“สบายดี แล้วยศล่ะ เป็นไงบ้าง”


ใบหน้ากลมนั้นประดับด้วยรอยยิ้มกว้างทำให้เขารู้ว่าเขาพูดชื่อออกไปถูกคน


“ไม่ได้เจอกันนานมาก นึกว่าจะจำกันไม่ได้แล้วนะเนี่ย”


เขาแสร้งหัวเราะขำขันเหมือนไม่ได้ลืม


“ใครจะจำไม่ได้ ยศทั้งคนเลยนะ ตอนมัธยมต้นยังให้เราลอกการบ้านคณิตอยู่เลย”


เขานี่ล่ะที่จำไม่ได้


เมื่อเห็นว่าเขาไม่ได้ลืม อีกฝ่ายจึงมีท่าทีผ่อนคลายขึ้นเล็กน้อย


“เราแทบไม่ได้เจอเพื่อนเก่าๆ เลยล่ะ แต่ละคนก็แยกย้ายกันไปหมด แถมกิจการช่วงนี้ลำบากเลย เศรษฐกิจไม่ค่อยดีน่ะ ส่งออกได้น้อยกว่าปีที่แล้วเยอะมากจนน่าห่วงเลยล่ะ เราเลยไม่ค่อยได้ออกไปพบใครเท่าไหร่”


“ไม่เป็นไรหรอก ยศซะอย่าง เดี๋ยวก็ประคองกลับมาได้อยู่แล้ว”


เขาหมายความตามที่พูด เท่าที่จำได้ เขาคนๆ นี้เห็นมาตั้งแต่สมัยมัธยมต้น รู้ดีว่าเป็นคนเก่งและซื่อสัตย์ ยังไงก็ต้องกลับมายืนหยัดได้อย่างมั่นคง


“อ้าวดนัย ไม่เจอกันนานเลยนะครับ พักหลังไม่ค่อยออกงานเลยนะ”


แต่คนที่เข้ามาใหม่นี่ตรงข้ามอย่างสิ้นเชิง


ชายหนุ่มร่างสูงใหญ่ หน้าโครงฝรั่ง นัยน์ตาสีดำ ผมสีเข้มเซ็ตทรงเว็ทลุค เสื้อเชิ้ตติดกระดุมไม่ครบทุกเม็ด สูทสีน้ำเงินดูกึ่งผ่อนคลายกึ่งเป็นทางการ


“พอดีที่ร้านยุ่งๆ น่ะครับคุณเอก ผมก็เลยไม่ได้มาร่วมงานสังคมเลย”


“คุณดนัยนี่ดีนะ ทำธุรกิจมีความเสี่ยงน้อย ต่อให้ล้มก็ไม่เจ็บ ว่าแต่เมื่อไหร่จะมารับช่วงต่อที่บริษัทคุณพ่อล่ะครับ”


เสือก


“คงอีกสักพักเลยล่ะครับ ผมเองก็ยังต้องเรียนรู้งานอีกมาก”


“เหรอครับ ผมก็นึกว่าคุณดนัยจะเป็นพวกเหยียบขี้ไก่ไม่ฝ่อเสียอีก”


ใบหน้ามีเสน่ห์ฉีกยิ้มบาง


“คุณเอกก็ว่าไปนั่น อย่าเอาคนอื่นไปเทียบกับตัวเองสิครับ”


รอยยิ้มของอีกฝ่ายหุบลง เหลือไว้เพียงแววตาคมกริบดุร้าย


“ปากหมาเหมือนเดิมเลยนะดิม”


“ไม่เท่าคุณเอกหรอกครับ”


ฝ่ามือใหญ่รวบเอวเขาไปอยู่ในอ้อมกอด


“ฉันล่ะอยากขยี้นายลงใต้ร่างจะแย่”


เสียงกระซิบกระเส่าที่ข้างหูทำให้เด็กหนุ่มแสยะยิ้ม


กักขฬะ ไม่เจียมตัว


แต่ถึงอย่างนั้นเด็กหนุ่มก็ยังฉีกยิ้มพลางปรายตามองผ่านแผ่นหลังของคนที่โอบกอดเขาอยู่


นัยน์ตาดำสนิทของอีกคนกำลังมองมาด้วยแววตาไม่พอใจ


นัยน์ตาคมของตาลุงกำลังมองมาด้วยแววตาหงุดหงิดใจ


หึงแหง


...น่าสนุก...


มือเรียวแสร้งดันร่างใหญ่ของอีกคนเบาๆ


“ปล่อยผมนะครับ”


“แรงแค่นี้ คิดว่าจะผลักฉันออกไปได้เหรอ”


ไม่คิด เพราะไม่ได้ตั้งใจจะผลักออกไปแต่แรก เขาแค่แสร้งทำเป็นขัดขืนเพื่อส่งบทให้พระเอกขี่ม้าขาวเท่านั้นเอง


แต่โลกใบนี้มักไม่เห็นด้วยกับแผนของเขาอยู่เสมอ


“กรุณาปล่อยด้วยครับ”


น้ำเสียงคุ้นหูที่ไม่ยินมานานแสนนานทำให้เขาต้องหันขวับไปมองแล้วเผลออ้าปากค้างอย่างตกตะลึง


“ทีน/ไอ้ทีน”


เขากับไอ้เอกพูดชื่อของคนมาใหม่ออกมาแทบจะพร้อมกัน


ไม่ตกใจยังไงไหว ในเมื่อคนๆ นี้แทบจะหายไปจากแวดวงธุรกิจตลอดหลายปีที่ผ่านมา แล้วจู่ๆ...


“แล้วตกลงเอกจะปล่อยดิมได้รึยัง หรือจะต้องให้เราไปพูดออกไมค์”


เสียงท้วงจากอีกฝ่ายทำให้ไอ้ฝรั่งขี้นกยอมปล่อยเด็กหนุ่มออกจากวงแขนก่อนจะเดินกระฟัดกระเฟียดหายไป


โล่งใจก็ส่วนหนึ่ง หงุดหงิดที่ผิดแผนก็ส่วนหนึ่ง แต่ความรู้สึกพวกนั้นถูกความตกใจกลบไปจนหมด


“ทีน...มาได้ยังไง”


“นั่งรถมา”


“ทีน”


เสียงดุๆ ของเขาทำให้คู่สนทนาหัวเราะ


นัยน์ตาสีดำนั้นดูเป็นประกายยามจ้องมอง


“ไปหาที่เงียบๆ คุยกันดีไหม”


เด็กหนุ่มเหลือบมองคนที่อยู่ไกลๆ พลางยกยิ้ม


“ไปสิ”


เขายิ้มเพราะดวงตาคมที่ทอดมองมาทางเขาตลอดเวลา


มีใครไม่ชอบเวลามีคนเป็นห่วงบ้างล่ะ


เขาคนนึงล่ะที่ชอบ













กรุงเทพเป็นเมืองที่สวยในยามค่ำคืน


ระเบียงกว้างบนยอดตึกสูงทำให้ทิวทัศน์ที่เห็นสวยกว่าปกติ แสงไฟหลากสียามค่ำคืนปรากฏเป็นดวงๆ ลมเย็นๆ พัดปะทะร่างกายครั้งแล้วครั้งเล่าเคล้าคลอไปกับเสียงเพลงแจ๊สแผ่วๆ จากที่ไหนสักแห่ง


คงเป็นห้องจัดเลี้ยงสักที่ในโรงแรมนี้ล่ะมั้ง


“เราไม่ค่อยชอบเพลงแจ๊สเท่าไหร่”


คำพูดของคนข้างตัวทำให้เด็กหนุ่มกระตุกยิ้มมุมปาก


“แต่ผมชอบนะ”


ภาพของใครบางคนปรากฏขึ้นในหัว


เสียงครางกระเส่า ลมหายใจหนักๆ มัดกล้ามเนื้อสวยลื่นมือ ผมสีควันบุหรี่คลอเคลียอยู่ที่คอให้ความรู้สึกจั๊กจี้


หื่นกามจริงๆ เลยดนัย


“ดิมเจอพี่ดารึยัง”


ประโยคที่คิดเอาไว้แล้วว่ายังไงก็ต้องได้ยินจากอีกฝ่ายทำให้เขาอดถอนหายใจออกมายาวๆ ไม่ได้


ทีนเป็นเพื่อนสมัยมัธยมต้นของเขา เป็นคนที่เขาสนิทที่สุด ไว้ใจที่สุด รักที่สุด แต่จู่ๆ อีกฝ่ายก็ย้ายบ้านไปต่างจังหวัดตอนมัธยมปลาย ก็เลยกลายเป็นว่าห่างหายกันไปตั้งแต่ช่วงนั้น


มาเจอกันอีกทีก็ตอนที่เขาออกตามหาพี่ดา


ตอนนั้นเขาอ่อนไหวเกินไป เสียใจมากเกินไป ทั้งเรื่องพี่ดา ทั้งเรื่องแฟนเก่า ทั้งเรื่องผ่าตัดมดลูกที่เจ็บแทบขาดใจ ทุกอย่างมันประดังประเดเข้ามาจนเขาเสียหลักยึด


เพราะแบบนั้นเขาเลยเผลอเล่าเรื่องทุกอย่างให้อีกฝ่ายฟังจนหมดเปลือก


“ไม่ต้องห่วงหรอก เดี๋ยวก็เจอ”


“เมื่อไหร่ล่ะ?”


คู่สนทนาของเขาหลบตาไปเงียบๆ


บทสนทนาเงียบลง ส่งให้ต่างฝ่ายต่างจมจ่ออยู่กับความคิดของตัวเอง


“ขอโทษ ผมไม่ได้ตั้งใจจะว่าทีนหรอกนะ”


“ขอโทษเหมือนกันที่พูดอะไรไม่เข้าเรื่อง”


แล้วก็เงียบ


ความเงียบน่าอึดอัดที่ก่อตัวขึ้นระหว่างคนสองคนทำให้คนช่างพูดต้องหาทางทำอะไรสักอย่าง


“แล้ว...ช่วงนี้ทีนทำอะไรอยู่ล่ะ”


คนถูกถามอมยิ้มบางๆ แล้วทอดสายตามองออกไปยังทิวทัศน์ด้านนอก


“ก็เรื่อยๆ ล่ะ ทำงานวิศวะในบริษัทบ้านจัดสรร ไม่มีอะไรหวือหวาหรอก”


ก็สมกับเป็นคนๆ นี้ดี


“แล้วกิจการฟาร์มไม้ดอก ไม้ประดับที่บ้านล่ะ”


“ให้พี่ธามดูแลน่ะ พี่เขาจบเกษตรมา น่าจะทำได้ดีกว่าเรา”


ธาม พี่ชายของทีนเป็นเพื่อนสนิทคนนึงของพี่ดา


หนึ่งในชนชั้นกลางไม่กี่คนที่เป็นเพื่อนของทายาทตระกูลไวยสมุทร


พ่อของเขาเคยบอกเป็นทำนองว่า ตระกูลของทีนและพี่ธาม เป็นตระกูลของข้าราชการยศธรรมดาตั้งแต่ยุคร.5 ร.6 ไม่ใช่คนร่ำคนรวยแต่ก็นับว่าเป็นพวกมีอันจะกินอยู่ประมาณนึง ในแวดวงธุรกิจก็ไม่ใช่คนสลักสำคัญอะไร สู้เอาเวลาไปสนิทกับตระกูลอื่นน่าจะดีเสียกว่า


แต่ถึงอย่างนั้นพวกเขาก็ไม่เคยเลิกคบกัน


ทั้งทีนและพี่ธามเป็นหนึ่งในไม่กี่คนที่คบสองพี่น้องด้วยความจริงใจ น่าเสียดายที่หลังจากครอบครัวของทีนย้ายออกไปจากกรุงเทพ พวกเขาก็แทบไม่เคยเจอกันอีกเลย


พอมาเจอกันอีกทีก็ดันมีเรื่องขึ้นเสียได้


“แล้วดิมล่ะ ทำอะไรอยู่”


“เปิดร้านทำผมน่ะ”


เจ้าของร่างสูงโปร่งไม่ต่างจากเขาหัวเราะร่วน


“ก็เหมาะกับดิมดีนะ ทรงผมตอนมาเรียนสมัยก่อนโคตรเฟี้ยวเลย เราจำได้”


แล้วพวกเขาก็หัวเราะออกมาพร้อมกัน


นานแค่ไหนแล้วที่หัวใจของเขาไม่ได้พักผ่อนแบบนี้


“แล้วไปยังไงมายังไงถึงมางานคุณธงชัยได้ล่ะ”


ทีนหัวเราะเบาๆ


“ดิมคงลืมไปแล้วว่าลุงธงชัยเป็นลุงเขยของเรา”


...อ๋อ...จริงด้วย ลืมไปสนิทเลยสิ


เพราะแบบนั้นเลยหัวเราะแก้เก้อไปเบาๆ


คนข้างๆ หันมามองหน้าเขาด้วยรอยยิ้มกว้างก่อนจะเอื้อมมือมาโยกหัวเขาไปมาอย่างที่ชอบทำ


เมื่อก่อนเป็นยังไงก็ยังเป็นอย่างนั้นอยู่ตลอดเลยจริงๆ


“ดิม”


เสียงขรึมๆ ที่ดังแทรกขึ้นมาทำให้เด็กหนุ่มทั้งสองหยุดชะงักแล้วหันไปมองทางต้นเสียงพร้อมกัน


ทีนมีท่าทีงุนงงเล็กน้อย ในขณะที่อีกคนกลับกระตุกยิ้มบาง


คนขี้หึงมานู่นแล้ว


“คุณจักรอยากคุยด้วย”


เด็กหนุ่มหัวเราะ ‘ฮึๆ’ ในคอแล้วหันไปบอกลาเพื่อนเก่า


“แล้วเจอกันนะทีน”


“โอเค”


เขาหยุดโบกมือให้อีกฝ่ายเล็กน้อย ก่อนจะเดินกลับเข้ามาในตัวอาคารโดยมีอีกคนเดินตามหลังมาเงียบๆ


ไม่มีคำพูดบอกว่าให้ไปที่ไหน ไม่มีคำพูดบอกว่าผิดทาง


ก็จะบอกได้ยังไง ในเมื่อคุณจักรอะไรนั่นไม่รู้จักเขาสักหน่อย


ประตูห้องน้ำชายถูกผลักเข้าไปอย่างเชื่องช้า นัยน์ตากลมกวาดมองไปรอบๆ จนแน่ใจว่าไม่มีใครอยู่จึงถือวิสาสะเดินเข้าไปในห้องเก็บอุปกรณ์ทำความสะอาดแล้วคว้าเอาป้าย ‘อยู่ระหว่างทำความสะอาด’ ไปตั้งหน้าห้องน้ำเสียเสร็จสรรพ


คนสูงวัยกอดอกพิงกำแพงมองร่างเล็กๆ เคลื่อนที่ไปทางนู้นทีทางนี้อย่างคล่องแคล่วแล้วอดกระตุกยิ้มไม่ได้


ดูเจ้าแมวนั่นสิ เข้าใจหาวิธีง้อเขานักเชียว


-กริ้ก-


เสียงล็อกประตูทำให้ร่างหนาฉีกยิ้มอย่างพึงพอใจ


เอาเข้าจริงอายุเขาก็ไม่ใช่น้อยๆ แล้ว จริงๆ ก็ถึงวัยที่จะเข้าวัดทำบุญได้แล้วด้วยซ้ำ ไม่รู้จะพูดว่าโชคดีหรือโชคร้ายที่สมัยหนุ่มๆ เขาเป็นพวกอารมณ์ทางเพศสูงจนน่าตกใจ พอแก่ตัวลงก็อารมณ์ทางเพศก็ลดลงไปบ้าง แต่ก็ยังสูงมากเมื่อเทียบกับคนในวัยเดียวกัน


เพราะแบบนั้นเลยยังฟัดแมวน้อยได้อยู่ทุกวัน...วันละหลายๆ ครั้ง


“รู้ใช่ไหมว่าทำอะไรผิด”


ร่างสมส่วนตรงหน้าขยับเข้ามาใกล้จนสัมผัสได้ถึงลมหายใจที่รินรดลงที่ปลายคาง


“ผมก็มารอรับโทษแล้วนี่ไง”


นิ้วเรียวสวยกรีดเปิดให้เห็นของในอุ้งมือน้อยๆ


ซองโลหะเล็กๆ ทรงสี่เหลี่ยมจัตุรัสคุ้นตา


“เชิญลงโทษตามสบายเลยครับ”


“ถ้าฉันไม่อยากใช้ล่ะ”


คิ้วเรียวขมวดยุ่ง


“เราคุยกันจบไปแล้วนะคุณปราณ ผมยังไม่พร้อม”


“แล้วเมื่อไหร่จะพร้อม”


เด็กหนุ่มเม้มปากเงียบๆ แววตาปรากฏแววสับสนจนเขาสงสาร


เอาเถอะ พวกเขายังมีเวลาคุยเรื่องนี้กันอยู่ ตอนนี้ช่างมันก่อนแล้วกัน


ฝ่ามือใหญ่ทาบลงบนใบหน้าเล็กเบาๆ


“เมื่อเช้าเจ็บหลังไหม”


แววตาซุกซนนั่นทำให้หัวใจเขาเต้นรัว


“เจ็บครับ”


เรียวแขนเพรียวคล้องคอเขาไว้แล้วดึงเข้าไปหา


ปลายจมูกของพวกเขาสัมผัสกัน ริมฝีปากอยู่ห่างกันไม่ถึงคืบ


“แต่ผมชอบ”


 ริมฝีปากเล็กประทับรอยจูบลงที่ปลายคางของเขา


“ถามทำไมเหรอครับ”


เขายิ้ม


ไม่รู้ด้วยซ้ำว่าตัวเขาทำหน้าแบบไหนออกไป สิ่งเดียวที่รู้ในตอนนี้คือเขาต้องการ


เขาต้องการเจ้าแมวตรงหน้านี้ ตอนนี้


ต้องเป็นคนนี้เท่านั้น


“ก็ถามไว้ เผื่อต้องเรียกคนมาเอารถเพราะขับกลับไม่ไหว”


ในเมื่อขังเอาไว้ในกรงไม่ได้ ก็ต้องใส่ปลอกคอไว้


ต้องเลี้ยงด้วยความรักให้เคยตัวจนหนีไปไหนไม่ได้อีกเลย





***********************************************************************




พูดคุยกันได้ที่ #ปราณดิม หรือ #หลงลุง ใน twitter นะคะ





« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 27-12-2017 17:55:58 โดย Marymo »

ออฟไลน์ DESZCZ

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 362
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +3/-0
Re: **||I need a man||** หลง.ลุง [mpreg] [Fifth Song] (5/12/60)
«ตอบ #41 เมื่อ05-12-2017 20:14:25 »

เพิ่งเข้ามาอ่านก็รู้สึกได้ถึงความสนุก แม้จะดูดราม่าแต่ก็ยังจะอ่านต่อ :hao5:

ออฟไลน์ ♥►MAGNOLIA◄♥

  • เป็ดApollo
  • *
  • กระทู้: 7518
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +193/-11
Re: **||I need a man||** หลง.ลุง [mpreg] [Fifth Song] (5/12/60)
«ตอบ #42 เมื่อ05-12-2017 21:16:33 »

ใครกันนะ  :hao3:
ที่ทำให้ดิมเสียใจ
รักกันแล้วมาทิ้งกันไป
อย่าหวนกลับมาหาดิมอีกนะ

ดิม มีคนดูแลที่หวง ห่วง หึงแล้ว
แถมต้องการดูแลดิม อย่างจริงใจ
ปราณ ดิม  :กอด1: :กอด1: :กอด1:
       :L1: :L1: :L1:
  :pig4: :pig4: :pig4: :pig4:

ออฟไลน์ PrimYJ

  • เป็ดEros
  • *
  • กระทู้: 3473
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +19/-3
Re: **||I need a man||** หลง.ลุง [mpreg] [Fifth Song] (5/12/60)
«ตอบ #43 เมื่อ05-12-2017 22:49:43 »

 :hao7: :hao7:

ออฟไลน์ Jthida

  • เป็ดHephaestus
  • *
  • กระทู้: 1549
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +33/-3
Re: **||I need a man||** หลง.ลุง [mpreg] [Fifth Song] (5/12/60)
«ตอบ #44 เมื่อ05-12-2017 22:52:45 »

นึกภาพคนอายุ60เป็นพ่อคนแรกเกิดได้นะ แต่เวลาที่จะอยู่กับลูกกับเมียมันน้อยเนี้ยสิ ไม่ได้จะแช่งลุงนะ แต่ก็อดคิดไม่ได้จริงๆ

ออฟไลน์ masochism2018

  • เป็ดมหาวิทยาลัย
  • *
  • กระทู้: 428
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +59/-1
Re: **||I need a man||** หลง.ลุง [mpreg] [Fifth Song] (5/12/60)
«ตอบ #45 เมื่อ05-12-2017 23:05:39 »

มีปมม  :ling3:

ลุงหกสิบแล้วต้องรีบมีลูกแล้วล่ะ
เห็นใจลุงแกหน่อยนะดิม

ออฟไลน์ B52

  • เป็ดZeus
  • *
  • กระทู้: 13215
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +420/-26
Re: **||I need a man||** หลง.ลุง [mpreg] [Fifth Song] (5/12/60)
«ตอบ #46 เมื่อ05-12-2017 23:06:08 »

 :pig4:

ออฟไลน์ คนคิ้วท์คิ้วท์

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 339
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +10/-1
Re: **||I need a man||** หลง.ลุง [mpreg] [Fifth Song] (5/12/60)
«ตอบ #47 เมื่อ05-12-2017 23:38:26 »

มันแซ่บมาก ลุงดีมากกกกกก ชอบ เหมาะแก่สาวน้อยที่ชอบชายสูงวัยแซ่บๆอย่างนุ้ง
พ่อน้องดิมนี่ร้ายกาจมาก จะด่ามากกว่านี้ก็ไม่กล้า เฮ้อ เอาเป็นว่าไม่ดีอ่ะ หนีๆไปแล้วสร้างครอบครัวกับลุงเถ๊อะะะ

ออฟไลน์ แม้วธวัลหทัย

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 317
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +3/-1
Re: **||I need a man||** หลง.ลุง [mpreg] [Fifth Song] (5/12/60)
«ตอบ #48 เมื่อ06-12-2017 00:25:36 »

ทำไมยิ่งอ่านยิ่งปวดหน่วงๆ ที่หัวใจ

ออฟไลน์ drasil

  • เป็ดDemeter
  • *
  • กระทู้: 1690
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +95/-1
Re: **||I need a man||** หลง.ลุง [mpreg] [Fifth Song] (5/12/60)
«ตอบ #49 เมื่อ06-12-2017 04:09:30 »

โหววว คุณปราณ กร๊าวใจมากค่าา

CoMMuNiTY Of ThAiBoYsLoVE

Re: **||I need a man||** หลง.ลุง [mpreg] [Fifth Song] (5/12/60)
« ตอบ #49 เมื่อ: 06-12-2017 04:09:30 »





ออฟไลน์ darling

  • เป็ดแสนดี
  • เป็ดDemeter
  • *
  • กระทู้: 1741
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +96/-7
Re: **||I need a man||** หลง.ลุง [mpreg] [Fifth Song] (5/12/60)
«ตอบ #50 เมื่อ06-12-2017 11:59:47 »

ลุงรีบมีลูกนะ เดี่ยวจะแก่จนลูกเรียกปู่  :hao6:

ออฟไลน์ Jessiebier

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 357
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +8/-1
Re: **||I need a man||** หลง.ลุง [mpreg] [Fifth Song] (5/12/60)
«ตอบ #51 เมื่อ06-12-2017 13:08:19 »

 :katai5:ลุงปราณแซ่บมาก ดิมก็ยั่ว เรื่องนี้แซ่บจริงๆ :mew1: :mew1:

ออฟไลน์ pigarea

  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 748
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +20/-1
Re: **||I need a man||** หลง.ลุง [mpreg] [Fifth Song] (5/12/60)
«ตอบ #52 เมื่อ06-12-2017 16:55:57 »

ยกให้ลุงเป็นที่หนึ่ง ปาดหน้าเฮียอิ้วไปแล้วกันนะ โอ๊ย...รักลุงอ่ะ แซ่บมาก

ออฟไลน์ puiiz

  • เป็ดEros
  • *
  • กระทู้: 3378
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +135/-4
Re: **||I need a man||** หลง.ลุง [mpreg] [Fifth Song] (5/12/60)
«ตอบ #53 เมื่อ06-12-2017 22:22:34 »

 :pig4: :pig4:

ออฟไลน์ Snowermyhae

  • เป็ดAphrodite
  • *
  • กระทู้: 4014
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +97/-7
Re: **||I need a man||** หลง.ลุง [mpreg] [Fifth Song] (5/12/60)
«ตอบ #54 เมื่อ06-12-2017 22:38:52 »

ดูปมน้องน่าจะสาหัสมากเลยนะคะ เอาใจช่วย   :hao5:

ออฟไลน์ Marymo

  • เป็ดมัธยม
  • *
  • กระทู้: 147
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +106/-2
    • Fanpage: ปิงปองโต้คลื่น
Re: **||I need a man||** หลง.ลุง [mpreg] [Sixth Song] (7/12/60)
«ตอบ #55 เมื่อ07-12-2017 18:49:39 »

Sixth Song










เมื่อตอนเด็กๆ เขาเคยเป็นคนหลับยาก แค่เสียงก๊อกแก๊กของถุงที่โดนลมพักก็ทำให้เขานอนไม่หลับไปทั้งคืน แต่หลังจากเขาออกจากบ้านมาใช้ชีวิตตามลำพัง ปัญหาพวกนั้นก็หมดไป


ชีวิตที่ต้องเรียนตอนกลางวัน ทำงานอย่างหนักในตอนกลางคืน ทำให้เขาไม่มีกะจิตกะใจจะไปรำคาญอะไรได้อีก แค่มีเวลาให้ร่างกายพักผ่อนก็ถมเถแล้ว


ขอแค่ผ้าห่มอุ่นๆ กับหมอนนุ่มๆ ก็พอแล้ว จะเป็นที่ไหนก็ไม่สนทั้งนั้น ไม่ว่าจะเป็นบนโซฟาหรือบนรถเขาก็หลับได้ แต่เขาไม่ชอบนอนบนรถเท่าไหร่เพราะมันจะทำให้เขาเคยตัวและเผลอง่วงนอนเวลาขับรถ


ถึงจะพูดอย่างนั้นก็เถอะ...


แสงไฟถนนข้างทางดวงแล้วดวงเล่าที่วาบเข้ามาแล้วก็ผ่านไป...เข้ามาแล้วก็ผ่านไป ตัวรถเคลื่อนที่ไปข้างหน้าอย่างเงียบเชียบและรวดเร็ว


เงียบเพราะคนขับก็ไม่พูดอะไร คนที่นั่งข้างๆ เขาก็ไม่พูดอะไรออกมา


ไอ้คนขับน่ะพอเข้าใจว่าลูกน้องที่ไหนจะกล้าชวนเจ้านายคุย แต่ตาลุงข้างๆ เขานี่สิ...


“ง่วง”


เป็นเขาเองที่ตัดสินใจพูดออกมาก่อน


เขาไม่ชอบความเงียบเท่าไหร่ เพราะความเงียบมักดึงเขาเข้าสู่ห้วงความคิดที่เขาไม่ชอบ


ความคิดถึง...ความกลัว...ความอึดอัด


ความเงียบทำให้เขาหวนคิดถึงเรื่องในวันวาน


ความเงียบทำให้เขาจมจ่ออยู่กับเรื่องที่ผ่านมาแล้ว


น่ากลัวที่สุดคือความเงียบชอบทำให้เขารู้สึกคิดถึง


ความคิดถึงนั้นน่ากลัว เพราะเรารักคนที่อยู่ในห้วงของความคิด แต่เราไม่มีเขาอยู่ในสายตา ถ้าเขาอยู่กับเรา ความคิดของเราจะไปถึงเขา แต่พอเขาหายไป ความคิดของเราเลยไปไม่ถึง เขาไม่รู้ว่าเรารู้สึกยังไง เราก็ไม่รู้ว่าเขากำลังรู้สึกอะไร เราเลยอยากจะคิดให้ถึงเขา อยากให้ความคิดของเราไปให้ถึงคนๆ นั้น


เราเลยคิดถึง...เผื่อว่าสักวันความคิดของเรามันจะไปถึงคนไกล 


คิดถึง...ดิมคิดถึงพี่ดา


“ก็สมควร”


เสียงทุ้มๆ นั้นตอบกลับมาช้าพอสมควร วงแขนแกร่งโอบตัวเขาเข้าไปใกล้ๆ


อุ่น...ไออุ่นทำให้ความคิดถึงนั้นจางลงไปบ้าง


“ตะกละตะกราม”


เสียงบ่นพึมพำของเขาได้รับการตอบรับเป็นรอยจูบที่ประทับลงบนศีรษะ


“โทษตัวเองเถอะ”


มันไม่ใช่คำกล่าวโทษ


เขารู้ดีว่านั่นไม่ใช่คำกล่าวโทษ น้ำเสียงพึงพอใจกับอ้อมกอดอุ่นๆ ของอีกฝ่ายเป็นสิ่งยืนยันที่ชัดเจนว่าเขาไม่ได้โดนดุ


เผลอๆ จะโดนชมเสียมากกว่า


“นอนไปซะ”


เจ้าของอ้อมแขนนั้นดันให้ร่างของเขานอนเหยียดไปตามความยาวของเบาะ แล้วช้อนหัวเขาวางลงบนตักของตัวเองเสียเสร็จสรรพ


ก็ดีแล้ว เขาเองก็ไม่อยากเห็นดวงไฟพวกนั้นอีกแล้ว


ยิ่งเห็นก็ยิ่งคิดถึง


‘เวลารถแล่นเร็วๆ เราจะมองเห็นว่าดวงไฟมันผ่านมาแล้วก็ผ่านไปใช่ไหมล่ะ’


“เดี๋ยวกลับบ้านแล้วจะทายาให้นะ”


‘แต่จริงๆ แล้วดวงไฟพวกนั้นมันไม่ได้วิ่งไปไหนเลย ตัวเราต่างหากที่วิ่งจากมา’


ฝ่ามือใหญ่ลูบผมเขาเบาๆ


“นอนเถอะ”


‘ดิมจะวิ่งไปไกลแค่ไหน จะวิ่งเร็วแค่ไหนก็ได้ แต่ถ้าเจอเสาไฟต้นที่ชอบแล้วต้องหยุดนะ’


“ฝันดีนะเจ้าแมวน้อยของฉัน”


‘ถ้าเจอเสาไฟต้นที่ชอบแล้ว กอดมันเอาไว้ให้แน่นๆ นะ’


ต้องกอดเอาไว้


กอดเอาไว้ให้แน่นๆ










เขาติดหมอนข้าง


ติดมาตั้งแต่เด็กจนโต ทุกวันจะต้องตื่นมาในสภาพที่มีหมอนข้างอยู่ในอ้อมกอด แต่ช่วงสามปีให้หลังมานี้หมอนข้างของเขาเปลี่ยนไป


“ดิมตื่น”


หมอนข้างของเขาพูดได้


“ต้องกินข้าวให้ตรงเวลารู้ไหม ตื่นได้แล้ว”


บางครั้งหมอนข้างของเขาก็จู้จี้ขี้บ่น


“ถ้าไม่ตื่นจะอุ้มไปอาบน้ำแล้วนะ”


หมอนข้างของเขาเป็นพวกชอบหาคำขู่เด็กๆ มาขู่เขาเสมอ


“หนึ่ง”


อยากทำอะไรก็ทำเถอะ


“สอง”


เขายังนอนไม่เต็มอิ่มเลยด้วยซ้ำ


“สาม”


“เหวอ!”


นัยน์ตาสองข้างเบิกโพล่งเมื่อร่างทั้งร่างถูกยกขึ้นอย่างกะทันหัน ด้วยความรักตัวกลัวตาย แขนสองข้างของเขาจึงเกี่ยวกระหวัดเข้ากับลำคอแกร่งตามสัญชาตญาณ


ไม่ดีเลย...ท่านี้ไม่ดีเลย


ตาลุงนั่นไม่ได้คิดจะอุ้มจริงๆ อยู่แล้ว เป็นตัวเขาเองที่บ้าจี้กลัวจนเกินเรื่อง พอโดนยกตัวขึ้นหน่อยก็เลยคว้าอีกคนเข้ามาใกล้ด้วยความตกใจ เพราะแบบนั้นพวกเขาเลยอยู่ในสภาพที่ค่อนข้าง...ล่อแหลม


ตัวเขานั่งคุกเข่าอยู่เหนือตัวของอีกฝ่าย มือสองข้างคล้องเข้าที่ลำคอหนาในขณะที่มือของอีกฝ่ายก็ยึดเอวเขาไว้แน่น ใบหน้าห่างกันแค่คืบ ลมหายใจของต่างฝ่ายต่างรินรดลงบนจมูกของกันและกัน


ล่อแหลมสุดๆ


นัยน์ตาคมเป็นประกายวิบวับ


“อรุณสวัสดิ์”


เขายู่หน้าใส่


“เล่นพิเรนทร์น่ะลุง เดี๋ยวกระดูกกระเดี้ยวหักขึ้นมาทำยังไง”


รอยยิ้มกว้างปรากฏบนใบหน้าสูงวัย


“เป็นห่วงเหรอ”


“เออ”


แม้จะห้วนสั้นและติดหยาบคายไปสักหน่อย แต่คนสูงวัยก็ไม่คิดจะถือสาอะไร ตรงกันข้ามเสียอีก...


ริมฝีปากนั้นเคลื่อนเข้ามาใกล้ก่อนจะหยุดเพื่อดูว่าเขาเต็มใจหรือไม่ พอเห็นว่าเด็กหนุ่มไม่ได้มีท่าทีหลบหลีกจูบหอมหวานยามเช้าก็เริ่มต้นขึ้น


ฟันคมงับริมฝีปากบางเบาๆ ก่อนจะใช้ปลายลิ้นละเลียดปลอบโยน ปลายลิ้นของคนสองคนหยอกเย้ากันอยู่ชั่วครู่ก่อนจะโจนจ้วงเขาหากันเหมือนคนหิวโหย มือหนาลูบไปทั่วแผ่นหลังสมส่วนเรียกอุณหภูมิในร่างกายให้พุ่งเกินขีดจำกัด


แล้วทุกอย่างหลังจากนั้นมันก็เป็นไปอย่างเป็นธรรมชาติ


เรียวแขนนุ่มค้ำยันตัวเองขึ้นจากเตียง


แผ่นหลังเนียนถูกทาบทับ


เสียงครางกระเส่าต่ำๆ ดังขึ้นข้างหู


ร่างทั้งร่างสั่นคลอน ลำคอแห้งผาก นัยน์ตาสวยคลอไปด้วยของเหลวใส


...แล้วสติก็ถูกฉุดรั้งไปจนถึงจุดสูงสุด...


แสงแดดยามเช้าที่สาดส่องเข้ามาตามจังหวะพลิ้วไหวของผ้าม่านสีขาวสะอาดตาทำให้ดวงตาเขาพร่าเลือนจนจับโฟกัสอะไรไม่ได้


ไออุ่นจากร่างอีกคนทำให้ตัวเขาสั่นจนควบคุมไม่ได้


บ้าจริง


จังหวะถอดถอนตัวของอีกคนทำให้เขาเผลอขมวดคิ้วอย่างไม่รู้ตัว


เขาไม่ชอบจังหวะนี้เลยจริงๆ มันกระสันแต่กลับไม่สามารถเริ่มต้นใหม่ได้


มันดี แต่เขาก็ไม่ชอบ


“อาบน้ำไหม”


เรียวแขนกำยำดึงแผ่นหลังเขาที่นอนหมดแรงไปในอ้อมกอด


เสียงทุ้มนั้นยังติดหอบเล็กน้อย แต่ก็นับว่าเบาบางมากเมื่อเทียบกับเขา


น่าโมโหชะมัด


“ผมอยากแช่ตัว”


“ได้สิ”


“แต่ไม่อาบด้วยกันนะ”


อีกฝ่ายเงียบไปอึดใจ ถ้าให้เดาหน้าหล่อๆ นั่นคงขมวดคิ้วยุ่งด้วย


“ทำไม”


“ผมเหนื่อย”


“แค่อาบน้ำด้วยกันไม่ได้หมายความว่า...”


เด็กหนุ่มพลิกร่างตัวเองไปสบตากับอีกฝ่าย


“ไอ้ผมน่ะไม่ขัดข้องหรอกนะ แต่ตัวคุณนั่นล่ะที่เป็นปัญหา คุณห้ามตัวเองได้ไหมล่ะคุณปราณ”


ดวงตาคมกริบฉายแววยุ่งยากใจปนไม่พอใจ แต่เขาก็ไม่คิดจะยอมแล้วเหมือนกัน


เมื่อวานก็แล้ว เมื่อคืนก็แล้ว แล้วไหนจะเมื่อกี้นี้อีก บางทีเขาก็อดสงสัยไม่ได้ว่าสมัยที่ตาลุงนี่ยังมีอารมณ์ทางเพศเต็มเปี่ยมจะเป็นขนาดไหนกัน นี่ขนาดเจ้าตัวบอกว่าลดลงไปเยอะแล้วยังทำเอาเขายอมแพ้ ถ้ายังเป็นสมัยที่ยังมีหนุ่มแน่น สงสัยคงต้องได้เลิกกันเพราะเรื่องที่เขาทนไม่ไหวแหงๆ


ตาเฒ่าหื่นกามเอ๊ย


“โอเค ฉันยอมแพ้”


ตาลุงนั่นถอนหายใจเบาๆ


“งั้นฉันอาบน้ำก่อนแล้วกัน เสร็จแล้วจะมาเรียก”


“ดีล”


พอพูดจบ เขาก็ตวัดผ้าห่มผืนหน้ามาคลุมตัวแล้วหลับตาลงหวังนอนเอาแรงสักงีบ ไม่รู้ว่าวันนี้เขาต้องรับมือกับตาลุงยังไงบ้าง สู้เก็บพลังงานไว้ก่อนน่าจะดีกว่า


จู่ๆ ความอุ่นชื้นที่คุ้นเคยก็แนบลงบนแก้มแล้วผละออกไปเร็วๆ


ให้ตายสิตาลุงนั่น คนจะหลับจะนอน


ถึงจะพูดแบบนั้น แต่เขาก็ยอมนอนอมยิ้มโดยไม่ปริปากบ่นจนหลับไปอีกรอบอยู่ดี











“คุณหนูไม่มาเสียนาน ป้าล่ะคิดถึ๊ง คิดถึง”


“ผมก็คิดถึงป้าติ่งเหมือนกันคร้าบ ไม่เจอกันตั้งนาน คุณป้ายังสวยเหมือนเดิมเลยนะครับ”


“แหม ทำมาเป็นปากหวานกับคนแก่นะคะเนี่ย”


“แก่ที่ไหนกันครับ คุณป้ายังดูสาวอยู่เลย”


ดูเจ้าแมวน้อยนั่นสิ ฝีปากระดับเทพขนาดนั้น สมแล้วที่ใครๆ ในวงการธุรกิจก็ต่างพูดถึง


“ถ้าป้ายังสาว แสดงว่าคุณปราณก็ต้องยังหนุ่มสิคะ เพราะคุณปราณน่ะเด็กกว่าป้าตั้งสี่ห้าปีเลยนะ”


นัยน์ตาสวยที่ปรายมองมาฉายแววดื้อดึงก่อนจะหันกลับไปสบตาแม่บ้านของเขาด้วยแววตาสดใสเหมือนเดิม


“นี่คุณป้าแก่กว่าคุณปราณเหรอครับเนี่ย ถ้าไม่บอกเนี่ยไม่รู้เลยนะครับ”


“คุณดิมละก็”



เสียงหัวเราะของคนสองคนคลอกันเบาๆ ช่วยให้บรรยากาศห้องอาหารอบอุ่นสดใสจนเขาอดยิ้มตามไม่ได้


ก่อนจะมีเจ้าแมวน้อยชีวิตของเขามันว่างเปล่าจนน่าสมเพช บ้านหลังใหญ่บนเนื้อที่สองไร่แถบชานเมืองดูโดดเดี่ยวและว่างเปล่า ห้องอาหารที่มีโต๊ะยาวหรูหรารับกับเก้าอี้มีราคาครบชุดดูไร้ค่าเมื่อมีคนใช้งานแค่เขาคนเดียว


แต่ตอนนี้มันเปลี่ยนไปแล้ว...


“ดิม อ้าปาก”


เขาจ่อขนมปังทาเนยที่ถูกฉีกเป็นก้อนเล็กๆ พอดีคำเข้าที่ริมปากบาง


“ผมกินเองได้ครับ”


“ดิม”


ดวงตากลมหรี่ใส่อย่างไม่พอใจแต่ก็ยอมอ้าปากกินขนมปังเข้าไปแต่โดยดี


เด็กคนนั้นชอบทำทีเป็นเก่งไปอย่างนั้นเอง พอโดนตื้อโดนอ้อนเข้าหน่อยก็ยอมโอนอ่อนอย่างง่ายดาย


วิธีเลี้ยงแมวข้อที่หนึ่ง จงจัดการแมวดื้อด้วยความอ่อนโยน







***********************************************************************



พูดคุยกันได้ที่ #ปราณดิม หรือ #หลงลุง ใน twitter นะคะ



« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 08-12-2017 15:20:35 โดย Marymo »

ออฟไลน์ puiiz

  • เป็ดEros
  • *
  • กระทู้: 3378
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +135/-4
Re: **||I need a man||** หลง.ลุง [mpreg] [Sixth Song] (7/12/60)
«ตอบ #56 เมื่อ07-12-2017 20:51:02 »

 :pig4: :pig4:

ออฟไลน์ ♥►MAGNOLIA◄♥

  • เป็ดApollo
  • *
  • กระทู้: 7518
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +193/-11
Re: **||I need a man||** หลง.ลุง [mpreg] [Sixth Song] (7/12/60)
«ตอบ #57 เมื่อ07-12-2017 21:06:06 »

ต่างฝ่ายต่างเติมเต็มกัน  :mew1:

ปราณ เติมเต็มให้ดิม
ดิม ก็เติมเต็มให้ปราณ
ปราณ ดิม  :กอด1: :กอด1: :กอด1:

       :L1: :L1: :L1:
  :pig4: :pig4: :pig4: :pig4:

ออฟไลน์ คนคิ้วท์คิ้วท์

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 339
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +10/-1
Re: **||I need a man||** หลง.ลุง [mpreg] [Sixth Song] (7/12/60)
«ตอบ #58 เมื่อ07-12-2017 21:50:34 »

น่ารักอ่ะ เหมือนต่างฝ่ายต่างเติมเต็มกันอ่ะ

ออฟไลน์ Spenguin

  • เป็ดมัธยม
  • *
  • กระทู้: 173
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +1/-0
Re: **||I need a man||** หลง.ลุง [mpreg] [Sixth Song] (7/12/60)
«ตอบ #59 เมื่อ07-12-2017 23:45:14 »

 :L1: :pig4: :L1:

 

สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด


สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด