ตอนที่ 8: ไม่ให้“คืนนี้พี่นอนด้วย” ฝุ่นร้องห้ามแต่ไม่ทัน ร่างสูงทิ้งตัวลงข้างลูกชาย พาดแขนมาเกือบโดนตัวเขา ฝุ่นมีห้องของตัวเองแต่เขาเลือกเข้ามานอนกับหนูน้อยโมเดลทุกคืน
“ดีเลยครับ คืนนี้ผมจะได้กลับไปนอนที่ห้อง” ฝุ่นลุกขึ้นนั่งเมื่อคิดได้ว่าเขาเป็นลูกจ้างไม่มีสิทธิห้ามเจ้าของบ้าน
“หนีพี่เหรอ” ฝุ่นสบตากับสายตารู้ทันของศิลา
“ไม่ได้หนีครับ ผมจะบอกตรงๆ เลยว่าถ้าพี่ศิลานอนห้องนี่ผมจะกลับไปนอนที่ห้อง”
“ลูกก็อยู่พี่จะทำอะไรได้”
“ก็ถ้าพี่ศิลาคิดว่าลูกก็อยู่จริงคงไม่มานอนหรอกครับ”
“หึๆ” นับวันศิลาก็ยิ่งชอบฝุ่นมากขึ้น โดยเฉพาะสมองของฝุ่น
“งั้นก็รับตรงๆ เลยก็ได้” ศิลาพูดเลียนแบบฝุ่น “ว่าอยากนอนห้องเดียวกับฝุ่น ได้เห็นหน้าจนหลับคงดี”
“หน้าผมไม่เหมือนยานอนหลับหรอกครับ”
“ใช่เหมือนว่าที่แฟนพี่มากกว่า”
“พี่ศิลา” ฝุ่นเรียกชื่ออีกฝ่ายอย่างเหลืออด
“ครับผม” คนขานรับสีห้ากรุ่มกริ่ม
“มาคุยกันหน่อยครับ” ฝุ่นหยิบแท็บเล็ตที่เชื่อมต่อกับกล้องในห้องของหนูน้อยโมเดลขึ้นมาถือ อีกมือจับแขนของศิลาดึงให้ลุกตาม
“คุยที่นี่ก็ได้”
“อย่าเลยครับผมไม่อยากให้โมเดลตื่นมาได้ยิน”
“แปลว่าเรื่องสำคัญงั้นไปห้องพี่กัน”
“พี่ศิลายังไม่หลับอย่าเพิ่งฝันครับ ห้องนั่งเล่นข้างล่างโน่น”
“เฮ้อ เบื่อคนรู้ทันชะมัด” ศิลาแกล้งถอนหายใจออกมาดังๆ แต่ก็ยอมลุกตามคนตัวเล็กกว่าแต่โดยดี
“ให้ผมได้พักหายใจหายคอบ้างเถอะครับรุกหนักเกินไปแล้ว” ฝุ่นไม่ให้เวลาอีกฝ่ายตั้งตัว เขาพูดขึ้นทันทีที่เดินถึงห้องนั่งเล่น
“ฮ่าๆ พี่นึกว่าเรื่องอะไร เรานี่มันตรงจริงๆ” ศิลาทิ้งตัวลงนั่งบนโซฟา เอนตัวพิงสบายๆ
“กับคนอย่างพี่ศิลาก็ต้องใช้วิธีนี้เท่านั้นแหละครับ ไม่อย่างนั้นมีเหรอจะยอมเข้าใจ อะไรก็เอาเป็นประโยชน์ของตัวเองหมด”
“แล้วฝุ่นกลัวอะไรครับ”
“ผมไม่ได้กลัว ผม..ผมแค่รำคาญนิดหน่อย” ฝุ่นรีบแก้ความเข้าใจของอีกฝ่าย
“ไม่ใช่ว่าฝุ่นกำลังหวั่นไหวเหรอ” คนพูดชะโงกหน้าเข้ามาใกล้ ยิ้มกริ่ม ดูพออกพอใจที่ทำให้เขาหน้าตาตื่นได้
“ใครจะไปหวั่นไหวครับ ผมบอกแล้วว่าผมไม่ชอบผู้ชายเจ้าชู้”
“พี่จีบฝุ่นคนเดียว”
“ส่วนคนอื่นจีบพี่ใช่ไหมครับ ผมรู้ทัน”
“หึๆ เรามันฉลาดเป็นกรด”
“ผมกำลังพูดจริงจังอยู่ครับ”
“พี่ก็จริงจัง พี่บอกแล้วว่าพี่รักฝุ่น คนชอบก็ต้องพยายามจีบไม่ใช่เหรอ”
“อย่าพูดคำนั้นพร่ำเพรื่อ เพราะมันยิ่งทำให้ผมไม่เชื่อในสิ่งที่พี่ศิลาพูดเข้าไปใหญ่”
“ฝุ่น” ศิลาขยับตัวขึ้นนั่งตัวตรง รอยยิ้มกริ่มหายไปเหลือเพียงสีหน้าจริงจัง
“พี่ไมได้พูดพร่ำเพรื่อแต่พี่รักฝุ่นจริง”
“เราเจอกันกี่วันครับ ถึงเดือนหรือยัง”
“ความรักมันมีเวลาด้วยเหรอ”
“สำหรับคนอื่นผมไม่รู้แต่สำหรับผมมี”
“พี่ต้องทำยังไงฝุ่นถึงจะเชื่อใจ”
“คำถามน่าสนใจดีครับ พี่ศิลาพูดถูกแล้วทำยังไงให้เชื่อใจไม่ใช่พูดยังไงให้เชื่อใจ”
“เรากำลังจะบอกพี่ว่า..” ศิลาหรี่ตาลงก่อนรอยยิ้มพรายจะจุดขึ้นที่ริมฝีปาก
“อยากให้พี่จัดการเคลียร์ตัวเองใช่ไหม”
“ผมไม่ได้พูดอะไร”
“หึๆ “ ศิลาเอื้อมมือไปดึงแขนฝุ่นฉุดให้ลงมานั่งด้วยกัน เขาชะโงกหน้าเข้าไปใกล้จนอีกฝ่ายต้องเอนตัวหนี “หึงพี่เหรอครับคนเก่ง”
“จะบ้าเหรอครับใครมันจะไปหึง”
“นั่งดีๆ “ ศิลาดึงฝุ่นให้กลับมานั่งหลังจากเจ้าตัวเอนหนีเขาจนไปติดมุมเบาะ
“ทีนี้ก็ฟังพี่ พี่ไม่รู้ว่าฝุ่นมองพี่ยังไงแต่พี่ไม่เคยบอกรักใครพร่ำเพรื่อ ไม่เคยนึกรักใครมานานแล้วจนมาเจอฝุ่นนี่แหละ”
“ทำไมถึงเป็นผมครับ” ฝุ่นอยากรู้ เพราะเขาไม่มีอะไรใกล้เคียงกับศิลาเลย
“ถ้าพี่ตอบได้ก็ดีสิ ไม่มีใครเลือกได้หรอกนะว่าฉันจะรักคนนี้ไม่รักคนนั้นเว้นแต่ชอบที่หน้าตา พี่รักฝุ่นเพราะสิ่งที่ฝุ่นเป็น รักในสิ่งที่ฝุ่นทำ ชอบที่จะได้อยู่ใกล้ๆ ได้ต่อล้อต่อเถียง ได้โดนฝุ่นดุด้วยเอ้า”
“ไม่ต้องอธิบายยาวก็ได้ครับ ผมรู้ว่าตัวเองไม่หล่อ”
“เห็นไหม พอพี่จริงจังบ้างเราก็พาออกทะเล แล้วมาหาว่าพี่ทำอะไรไม่จริงจัง” ฝุ่นเม้มปาก เขาไม่ได้ตั้งใจเสียหน่อย พูดมาแบบนั้นมันก็อดไม่ได้
“ก็ท่าทางพี่ศิลามันเป็นแบบนั้นนี่ครับ”
“อืม..” คนฟังทำท่าคิด ฝุ่นเริ่มรู้สึกตะครั่นตะครอ ดูไม่น่าไว้ใจแปลกๆ
“แปลว่าถ้าพี่ทำให้ฝุ่นเชื่อใจได้พี่ก็มีสิทธิใช่ไหม ไม่เกี่ยวกับผู้ชายผู้หญิงเกี่ยวแค่จริงใจไม่จริงใจ” นั่นไง! เขาคิดอยู่แล้วจากท่าทางของอีกฝ่ายว่ามันต้องไม่ดีกับเขาแน่
“รู้อย่างนี้ค่อยสบายใจหน่อย มีกำลังใจสู้อีกเยอะ”
“ผมไม่ได้หมายความอย่างนั้น”
“ถ้าไม่ใช่ฝุ่นจะสนใจทำไมครับว่าพี่จริงใจหรือเปล่า ยังไงมันก็เป็นไปไมได้อยู่แล้ว”
“ผม..ผม..”
“ผมง่วง ไปพี่พาไปนอน” ศิลาพูดแทนให้ก่อนคว้ามือของฝุ่นให้ลุกขึ้นยืน เขาขำจนตาพราว หรือเป็นเพราะแบบนี้เขาถึงชอบฝุ่น เด็กหนุ่มที่มีความคิด ฉลาดและซื่อตรง คนที่เดินหลงเข้ามาในโลกที่เต็มไปด้วยเล่ห์เหลี่ยมและคนไม่จริงใจต่อกันอย่างที่เขาต้องเผชิญ
ฝุ่นมองแผ่นหลังของคนที่เดินนำไปข้างหน้า เริ่มปลงกับชีวิต เขาน่าจะรู้ว่าความช่ำชองและโชกโชนมันต่างกัน ริอ่านไปต่อกรกับชายหนุ่มอย่างศิลา ผลมันก็คงต้องออกมาเป็นแบบนี้ รู้สึกตัวเองอ่อนหัดขึ้นมาทันใด ต่อไปคงต้องใจแข็งให้มาก
✪✣✤✥✦✣✤✥✦✧✪
ฝุ่นเลิกประท้วง เมื่อศิลาดื้อพาเขากับโมเดลมาบริษัทด้วยจนได้ ไม่รู้ตั้งแต่เมื่อไหร่ที่การนั่งรถสามคนกลายเป็นความเคยชินของเขาไปแล้ว
“ปู๊นๆ” หนูน้อยโมเดลชี้ออกไปนอกรถระหว่างจอดติดไฟแดง
“นั่นมันมอเตอร์ไซด์ลูกไม่ใช่รถไฟ” หนูน้อยโมเดลเอียงคอมองพ่อด้วยความสงสัย
“มอซายล้องงาย”
“พี่ศิลาตอบลูกสิครับ” ฝุ่นพูดด้วยน้ำเสียงปนหัวเราะ
“ขำ แกล้งพี่ได้ชอบใจใหญ่” ศิลาหันไปมองคนที่นั่งอมยิ้มอยู่ข้างๆ พอมองแล้วเขาก็พลอยยิ้มตามไปด้วย
“เร็วสิครับ หนูโมรออยู่”
“มันร้องบรื้นๆ ลูก”
“บื้น บื้น” หนูน้อยเลียนเสียงผู้เป็นพ่อ “คานนี้ล้องงาย” นิ้วเล็กๆ ชี้ไปยังรถเก๋งที่จอดอยู่ติดกัน
“หึๆ” ฝุ่นพยายามกลั้นหัวเราะเมื่อเห็นสีหน้าของศิลา “เด็กกำลังอยู่ในวัยเรียนรู้และจดจำนะครับ บอกอะไรไปก็เชื่ออย่างนั้นห้ามผิดเด็ดขาด”
“ร้องบรื้นๆ ”
“ม่ายช่าย บื้นบื้นมอซาย”
“ฝู่นน” คนพ่อเรียกชื่อเขาเสียน่าสงสาร ฝุ่นหลุดหัวเราะออกมาเพราะกลั้นไม่อยู่
“ฝุ่นตอบเลยพี่จะคอยฟัง” คนตัวโตพยายามเอาคืนเขาแต่ฝุ่นไม่กลัวหรอก เขามองไปข้างหน้าจุดยิ้มขึ้นที่มุมปากก่อนจะเอี้ยวตัวหันไปหาหนูน้อยโมเดล
“อาฝุ่นทำเสียงไม่เหมือนหรอกครับ เดี๋ยวโมรอฟังนะ ตั้งใจฟังดีๆ จะได้ยินเสียงเครื่องยนต์ของรถคันนี้ด้วยตัวเอง”
“ฟาง โมฟาง” เด็กชายโมเอียงหูไปทางกระจก เพียงครู่เดียวรถก็เริ่มเคลื่อนที่
“ฝุ่นโกงกันนี่นา” คนแพ้โวยวายราวกับเด็กเกเร
“โกงตรงไหนครับ หรือผมพูดผิด” ศิลาหันไปทำสีหน้าฝากไว้ก่อนแต่คนถูกคาดโทษไม่มีทีท่าจะกลัวเขาสักนิด
“บื้น บื้น”
“เห็นไหมพี่ถูกแล้ว” ศิลารีบบอกฝุ่นเมื่อหนูน้อยโมเดลทำเสียงรถออกมา “รถเสียงนี่ถูกแล้วลูก”
“มอซายล้องงาย”
“.....”
“ฮ่าๆ” ฝุ่นสุดจะกลั้นจริงๆ สมควรให้โดนบ้างจะได้รู้ว่าการสอนเด็กเล็กไม่ได้ง่ายอย่างที่คิด หนูน้อยถามคำถามทั้งวันซ้ำไปซ้ำมาตามแต่จะนึกได้
“พี่ยอมแพ้ ยกให้ฝุ่นตอบเลย” ศิลาไม่ได้ยอมแพ้แค่คำพูดแต่สีหน้าก็ยอมแพ้ด้วยเช่นกัน ยอมรับในความใจเย็นของฝุ่น เขาไม่เคยเห็นฝุ่นหงุดหงิดหรือแสดงท่าทางรำคาญออกมาสักครั้ง ค่อยบอกค่อยสอน มีรอยยิ้มให้กับโมเดลเสมอ ยิ่งคิดเรื่องของอีกฝ่ายมากเท่าไหร่ศิลาก็ได้คำตอบให้ตัวเองเพิ่มมากขึ้นเท่านั้น ว่าเพราะอะไรเขาถึงตกหลุมรักฝุ่นง่ายดายนัก
✪✣✤✥✦✣✤✥✦✧✪
“คุณฝุ่นครับ พี่ศิลาบอกว่าอีกสามสิบนาทีกลับเตรียมตัวได้เลย”
“ขอบคุณครับ” ฝุ่นเอ่ยขอบคุณชายหนุ่มที่เปิดประตูเข้ามาบอก เขาไม่ได้นั่งอยู่ในห้องทำงานของศิลา แต่อยู่ในห้องขนาดใหญ่ที่เตรียมไว้สำหรับโมเดลโดยเฉพาะ ฝุ่นเพิ่งรู้ว่ามีห้องนี้หลังจากศิลาพาเขามาบริษัทบ่อยขึ้น ชายหนุ่มบอกว่าช่วงไหนพี่เลี้ยงลาออกหรือถูกให้ออกก็ต้องพาลูกมาทำงานด้วยทุกวัน เช่นช่วงก่อนที่ฝุ่นจะเข้ามาทำงาน เพราะแบบนี้ศิลาถึงพาพวกเขามาด้วยได้ไม่ต้องกลัวว่าจะรบกวนการทำงาน
“พี่ฝุ่น” หน้าที่โผล่เข้ามามองทำให้ฝุ่นยิ้มกว้าง
“สวัสดีครับว่าน”
“ไม่เจอตั้งนาน” หนุ่มน้อยเดินเข้ามาในห้อง
“พี่มาบ่อยนะแต่ไม่เจอว่าน”
“ผมมีถ่ายละครเรื่องใหม่ไม่ค่อยได้เข้ามา” ว่านก้าวข้ามคอกกั้นเข้ามานั่งด้วย เมื่อก่อนฝุ่นเคยคิดว่าว่านน่าจะหยิ่งกว่านี้ ดูจากหน้าตาและท่าทางความจริงแล้วกลับไม่ใช่เลย
“เป็นคุณแม่สนุกไหม”
“เป็นพี่เลี้ยงครับ” ฝุ่นรีบแก้ให้
“ฮ่าๆ แน่ใจนะพี่ฝุ่น”
“ว่านหมายความว่ายังไง” ฝุ่นขมวดคิ้วมองหน้าเจ้าเล่ห์ของอีกฝ่าย
“โมเดลฟังเพลงไหม อาว่านเปิดให้ฟัง”
“ฟาง” หนูน้อยโมเดลพยักหน้า ว่านจึงหยิบโทรศัพท์มือถือออกจากกระเป๋า เสียบหูฟังลงไปในหูของเด็กน้อย แม้จะไม่พอดีแต่ก็ไม่หลุด
“อย่าเลยครับโมเดลยังเล็ก” ฝุ่นเอ่ยปากห้ามไม่อยากให้ใช้หูฟัง
“แป๊บเดียวพี่ฝุ่น ผมจะเปิดเบาๆ ไม่เป็นไรหรอก ผมว่าพี่ฝุ่นไม่อยากให้โมเดลได้ยินที่ผมพูดแน่”
“งั้นก็ได้ครับแต่อย่านาน”
“เรียบร้อย” ว่านเลือกเพลงบรรเลงก่อนวางโทรศัพท์ไว้ข้างๆ หนูน้อย
“พี่ศิลาเรียกผมไปคุยเมื่อกี้”
“ครับ”
“ว้า! ไม่สนุกเลย พี่ฝุ่นนี่ไม่มีความอยากรู้อยากเห็นกับใครเขาบ้างเลยเหรอ”
“อ้าว” ฝุ่นหน้าเหวอก่อนหัวเราะออกมาเมื่อรู้ว่าถูกแซว
“ก็ไม่มีอะไร พี่ศิลาแค่บอกผมว่าชอบพี่ฝุ่น”
“หะ!”
“ตกใจทำไม พี่ศิลาสารภาพกับพี่ฝุ่นแล้วไม่ใช่เหรอ”
“มันไม่ใช่เรื่องนั้นครับ คือ..” ฝุ่นไม่รู้ว่าจะพูดอย่างไร
“ทำไมต้องเอามาบอกผมใช่ไหม โธ่ไม่น่าถามพี่ฝุ่นก็เคยเห็นอยู่ ไม่โสดแล้วก็ต้องจบความสัมพันธ์แบบชั่วคราวสิ”
“ว่าน”
“พี่ฝุ่นไม่ต้องทำเสียงแบบนั้น ผมไม่ได้รู้สึกอะไรเสียหน่อย พี่ศิลาก็รู้ถึงคุยกับผมตรงๆ เฮ้อ ผมว่าพี่ฝุ่นต้องไม่รู้จักความสัมพันธ์ทางกายแน่เลยใช่ไหม”
“รู้สิครับ” ฝุ่นหน้าแดงขึ้นมาทันที
“หึๆ ให้มันจริงเถอะ ผมว่าไม่เคยมากกว่า”
“เปลี่ยนเรื่องคุยดีกว่าครับ” ฝุ่นเขินจนหนุ่มน้อยขำ
“พี่ฝุ่นนี่น่ารักจริงๆ ถ้าผมเป็นรุกนะแย่งไปแล้ว”
“น้องว่านนน”
“ฮ่าๆ แวะมาแซวแค่นี้แหละ เอาให้อยู่หมัดเลยนะพี่ฝุ่น ผมเชียร์” ว่านขยับไปหยิบหูฟังออกก่อนเก็บโทรศัพท์หย่อนลงกระเป๋า ยกมือขึ้นยีผมหนูน้อยโมเดลเบาๆ
“โมเดลต้องช่วยอาฝุ่นนะรู้ไหมอย่าให้พ่อรังแก”
“พ่อเกเลโมตีเยย” เด็กชายโมเดลฟาดมือไปในอากาศเบาๆ
“ดี อย่ายกอาฝุ่นให้พ่อนะ”
“ม่าย ม่ายห้าย ฝู่นของโม” เด็กชายตบหน้าอกตัวเองดังปุ๊กๆ
“น้องว่าน!”
“ฮ่าๆ ไปดีกว่า ขอเอาคืนพี่ศิลาแค่นี้แหละ พ่อหรือจะน่ารักสู้ลูกได้” ฝุ่นส่ายหัวเบาๆ แต่ด้วยรอยยิ้ม นึกอยากให้ว่านได้เจอกับคนดีๆ สักคน เขาชอบเด็กคนนี้
“โชคดีนะครับ”
“พี่ฝุ่นก็เหมือนกัน มีอะไรโทรหาผมได้นะอย่าลืม”
“ขอบคุณครับ”
✪✣✤✥✦✣✤✥✦✧✪
“ฝู่นน้างนิ” เด็กชายโมเดลชี้มือไปยังเบาะว่างข้างตัว เมื่ออาฝุ่นจัดการรัดเข็มขัดให้เขาเรียบร้อย
“เดี๋ยวอาฝุ่นนั่งข้างหน้ากับพ่อ” ศิลาหันไปบอกลูกชาย เขาขึ้นนั่งประจำที่คนขับแล้ว
“ม่ายอาว” เด็กชายไม่ยอมพ่อง่ายๆ ฝุ่นขำก็ขำ พอๆ กับที่หัวเราะไม่ออก
“เกิดอะไรขึ้นเหรอฝุ่น” ศิลามองหน้าฝุ่นงงๆ
“ไม่มีอะไรครับ”
“อืม งั้นก็ขึ้นรถมาเถอะจะได้รีบไปออก ช้ากว่านี้พี่กลัวรถติด”
“ครับ”
“ฝู่น” หนูน้อยโมเดลส่งสายตาอ้อน อยากให้นั่งด้วยกัน
“ได้ครับ เดี๋ยวอาฝุ่นอ้อมไปนั่งฝั่งโน้น”
“อ้าว ฝุ่นมานั่งข้างหน้าสิ”
“ม่ายย พ่อจาเกเล”
“หะ!”
“โมตีตีเยย”
“เฮ้ย!” ศิลาร้องเสียงหลง ไม่รู้ว่าลูกชายไปเอาความคิดมาจากไหน พอหันไปมองหน้าคนที่น่าจะรู้เรื่องก็เจอเข้ากับรอยยิ้มขำ
“ฝุ่นพี่งง”
“ไม่ต้องงงหรอกครับ มีคนเขาอยากแก้แค้นเล็กๆ น้อยๆ โทษฐานที่เจ้าชู้เอาไว้มากก็แค่นั้นเอง”
“ใคร?” ศิลานิ่วหน้าพยายามคิด
“หึๆ” ฝุ่นปล่อยให้อีกฝ่ายงงต่อไป เขาปิดประตูฝั่งหนูน้อยก่อนเดินอ้อมไปขึ้นรถอีกฝั่ง จนปิดประตูเรียบร้อยศิลาก็ยังทำหน้าข้องใจ
“ใครเหรอฝุ่น”
“มีเยอะเหรอครับ” เจอคำถามนี้เข้าไปศิลาได้แต่ยิ้มแหยๆ ไม่อยากรู้แล้วว่าใครพูดหรือเกิดอะไรขึ้น รีบทำหน้าที่สารถีขับรถให้ลูกชายกับว่าที่แม่ทูนหัวนั่ง
“โมเดล” เสียงเรียกเอาใจดังมาจากที่นั่งคนขับ หลังจากรถขับออกมาได้สักพักใหญ่
“ฮับ”
“อยากซื้อของเล่นไหมลูกเดี๋ยวพ่อพาไปซื้อ เอาชิ้นใหญ่ๆ เลย”
“ม่ายห้ายฝู่น”
“โมเดลลล”
“หึๆ”
✪✣✤✥✦TBC✤✥✦✧✪
Darin ♥ FANPAGE Twitter :
primdarin