-ปลดล็อกให้ความรัก- ตัวอย่างตอนพิเศษ หนูด้วงรีวิว สารบัญหน้าแรกค่ะ 15/12/61
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด

สนใจโฆษณาติดต่อ laopedcenter[at]hotmail.com คลิ๊กรายละเอียดที่ตำแหน่งว่างเลยครับ

สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด

ผู้เขียน หัวข้อ: -ปลดล็อกให้ความรัก- ตัวอย่างตอนพิเศษ หนูด้วงรีวิว สารบัญหน้าแรกค่ะ 15/12/61  (อ่าน 116147 ครั้ง)

ออฟไลน์ chaoyui

  • เป็ดนักขาย
  • เป็ดHera
  • *
  • กระทู้: 1143
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +28/-3
ชอบยุงพยามากๆ ยุงโคตรเท่ ทีมยุงเด้อ :mew1:

ออฟไลน์ inspirer_bear

  • เป็ดHermes
  • *
  • กระทู้: 2021
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +206/-5
รออ่านต่อ  เราชอบบบ  คุณชายน้องสู้ๆนะ

ออฟไลน์ Loverouter

  • เป็ดมหาวิทยาลัย
  • *
  • กระทู้: 446
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +471/-12
กุญแจดอกที่ 3


เทียมฟ้าจัดเรียงเสื้อผ้าของตัวเองเก็บเข้าตู้เสื้อผ้าเรียบร้อยหลังจากที่อาบน้ำเสร็จแล้ว หันไปมองก็เห็นว่าเจ้าของห้องที่เทียมฟ้ามาอาศัยอยู่งีบหลับอยู่บนโซฟาตัวโปรดของเขาทั้งที่ยังไม่ได้อาบน้ำ เทียมฟ้าเดินมานั่งลงบนพื้นตรงหน้าโซฟาตัวยาวที่พญานอนหลับอยู่ก่อนตั้งคำถามในใจว่าทำไมนับตังค์ถึงเรียกพญาว่า ‘ลุง’ ทั้งที่หน้าตาของพญาไม่ได้ดูแก่สักหน่อย ตรงกันข้าม เทียมฟ้าคิดว่าพญาเป็นคนหน้าตาดีทีเดียว ไม่เช่นนั้นคงไม่มีใครต่อใครมาติดพันพญาหรอก ถึงดวงตาของพญาจะดูดุดันและเป็นคนพูดจาโผงผางแต่เทียมฟ้าว่าดวงตาคู่นี้มีอะไรน่าค้นหา ส่วนเรื่องคำพูดของพญานั้นเทียมฟ้าคิดว่าดีกว่าคนพูดจาดีแต่หน้าไหว้หลังหลอกตั้งเยอะ เทียมฟ้าพินิจมองไปที่ปากของพญาแล้วก็ลุกเดินไปที่กระเป๋าใบเล็กของตัวเอง หยิบของบางอย่างก่อนจะเดินกลับมานั่งที่เดิม

‘หลับสนิทแบบนี้คงไม่ตื่นหรอกเนอะ’

เทียมฟ้าถามตัวเองในใจก่อนจะเปิดฝากระปุกรูปไข่ที่หยิบมา จากนั้นมือเรียวเล็กก็ป้ายเนื้อลิปบาล์มในกระปุกมาทาที่ปากของพญาอย่างเบามือ เทียมฟ้าเห็นว่าปากของพญาดูแห้งอาจเพราะพญาสูบบุหรี่ นี่เป็นอีกข้อของพญาที่เทียมฟ้าตั้งข้อสังเกต พญาไม่เคยสูบบุหรี่ต่อหน้าคนอื่นเลย มันไม่มีความจำเป็นที่พญาจะต้องกลัวว่าใครจะมองไม่ดีเพราะพญาเป็นคนไม่สนใจคำพูดคนอื่นอยู่แล้ว แต่เทียมฟ้าคิดว่าที่พญาไม่สูบบุหรี่ต่อหน้าใครเพราะพญาไม่อยากให้ใครต้องมารับกลิ่นควันจากบุหรี่มากกว่า โดยเฉพาะถ้าหนูด้วงอยู่ด้วยพญาจะไม่สูบบุหรี่เลย นั่นเป็นสาเหตุให้เทียมฟ้าไม่ค่อยถือสาเวลาที่พญามีอาการหงุดหงิดใส่เทียมฟ้า พี่ชายของเทียมฟ้าก็เป็นแบบนี้เวลาที่อดบุหรี่ เมื่อเห็นพญาขยับตัวเทียมฟ้ารีบลุกเดินไปนอนที่เตียงของตัวเอง กลัวว่าถ้าพญาตื่นมาเห็นตัวเองนั่งจ้องหน้าอยู่คงจะโดนตะเพิดไปนอนที่อื่น เทียมฟ้านอนนิ่งไปพักใหญ่คนที่นอนบนโซฟาถึงได้ลืมตาขึ้นมาเพราะคิดว่าอีกฝ่ายหลับไปแล้ว

พญานั่งลูบริมฝีปากของตัวเองก่อนจะมองไปที่เทียมฟ้าและตั้งคำถามให้กับตัวเอง หากคนที่นอนตรงนั้นไม่ใช่เทียมฟ้าพญาจะยอมให้คนๆ นั้นนอนอยู่เฉยๆ แบบนี้ไหม ยิ่งมาแสดงความอ่อนโยนและเปิดเผยว่าชอบพญาอย่างตรงไปตรงมา พญาคงไม่ปล่อยให้คืนนี้ผ่านไปด้วยการนอนหลับแน่ พญาก็ไม่แน่ใจตัวเองเหมือนกันว่าที่ปล่อยเจ้ากระต่ายน้อยให้รอดจากฉลามอย่างเขาไปง่ายๆ เพราะบุคคลนั้นคือบุคคลต้องห้ามหรือเพราะหัวใจของตัวเองอ่อนแอเกินกว่าจะล่าเหยื่อได้เหมือนเดิมอีก เมื่อคิดแบบนี้พญาก็ลอบถอนหายใจออกมาก่อนจะแลบลิ้นเลียความมันวาวที่ติดอยู่บนริมฝีปากของตัวเอง

“ลิปอะไรของมันวะ เหนอะๆ กูก็นึกว่ามันจะมีรสชาติหวานๆ เหมือนตอนที่จูบมันซะอีก” พญาทำหน้าเหยเกเมื่อสัมผัสรสชาติของลิปบาล์มที่เทียมฟ้าทาให้ อันที่จริงพญาไม่ได้หลับเพียงแค่พักสายตา ไม่คิดว่าเทียมฟ้าจะใจกล้าลุกมาทาลิปให้ ทีแรกก็คิดว่าจะลุกมาโวยคนจุ้นจ้านสักหน่อย แต่เมื่อปลายนิ้วนุ่มๆ มาลูบไล้ที่ปากกลับทำให้พญานอนนิ่งเสียอย่างนั้น

“ก็น้องไม่ได้ใช้อันที่น้องทามาทาให้พี่ไง” เทียมฟ้าหันมาตอบ

“เฮ้ย! ยังไม่หลับเหรอวะ ตกใจหมด หลับไปเลยนะ” พญาสะดุ้งเพราะนึกว่าเทียมฟ้าหลับไปแล้ว พอเห็นเทียมฟ้าส่งยิ้มมาให้พญาถึงได้ชี้หน้าแล้วสั่งให้เทียมฟ้าหลับ

“ฝันดีนะครับพี่พญา” เทียมฟ้ายิ้มให้พญาอีกครั้งก่อนจะหันกลับไปนอนเหมือนเดิม

“ยิ้มมากๆ เดี๋ยวกูจับกินให้รู้แล้วรู้รอด” พญาแกล้งพูดดังๆ ให้เทียมฟ้าได้ยิน เมื่อเห็นเทียมฟ้าลนลานเอาผ้าห่มมาคลุมโปงพญาจึงหยิบผ้าขนหนูแล้วเดินเข้าห้องน้ำไปยืนยิ้มอยู่ลำพัง

...

ก้านกลับมาถึงบ้านก็พบว่าน้องชายของตัวเองกำลังตั้งวงกินเหล้าอยู่กับบรรดาเพื่อนของมัน น้องชายของก้านชอบคบเพื่อนที่ไม่เอาไหนจนแม่ต้องมาคอยระบายให้ก้านฟังเสมอ ยังดีที่น้องชายของก้านยังให้ความเคารพพี่ชายของตัวเอง เมื่อก้านตักเตือนอะไรก็ยังฟังและให้ความเกรงกลัวพี่ชายอยู่บ้างแม่ของก้านถึงได้เบาใจ แต่ช่วงเวลาที่ก้านไปรับใช้พญา น้องชายก็มักจะเฮตามพรรคพวกไป ก้านก็พยายามปลงและปล่อยๆ น้องชายไปบ้างเพราะเข้าใจว่ามันยังวัยรุ่น ถ้าบังคับมากไปอาจจะยิ่งทำให้เตลิดไปกันใหญ่ แต่สิ่งที่ก้านกำชับน้องชายเสมอคือเรื่องของยาเสพติด ซึ่ง ‘ก้อน’ น้องชายของก้านก็รับปากพี่ชายเป็นอย่างดีว่าจะไม่ยุ่งเกี่ยวกับยาเสพติดทุกประเภท

“พี่ก้าน ทำไมวันนี้พี่กลับดึกจัง” ไอ้ก้อนส่งเสียงอ้อแอ้ทักพี่ชาย ส่วนเพื่อนของมันก็หลบตาก้านกันทุกคนเพราะพวกมันกลัวพี่ชายของเพื่อนคนนี้

“กูกลับดึกขนาดนี้พวกมึงยังไม่เลิกกินเหล้ากันเลย ไปๆ กลับไปบ้านกันได้แล้ว พวกมึงยังเรียนหนังสือกันอยู่เลยนะ” สิ้นคำของก้านพวกเพื่อนของก้อนก็ทำท่าจะลุกไปกันหมด

“วันเกิดไอ้เชิดมันพี่ ผมเลยมาฉลองกัน พรุ่งนี้ก็วันหยุดเลยขอดึกหน่อยนะพี่ก้าน ผมไม่ได้ออกไปกินข้างนอกสักหน่อย ก็อยู่ในสายตาแม่” ก้อนรีบอธิบาย

“ตามใจ แต่อย่ากินจนขาดสติกันนะมึง แล้วก็อย่าส่งเสียงดังด้วย เกรงใจแม่บ้างนะก้อน”

“ครับผม!” ไอ้ก้อนลุกขึ้นมาตะเบ๊ะรับ ก้านจึงได้แต่ส่ายหน้าแล้วเดินเข้าบ้านไป

“ทำไมมึงไม่ชวนพี่มึงให้ไปทำงานให้นายหัวสุริยาวะไอ้ก้อน เขาเสนอเงินให้พี่ชายมึงเยอะกว่าที่นายพญาให้ตั้งเยอะ พี่จวบทำงานให้นายหัวสุริยาจนปลูกบ้านหลังโตให้แม่กับกูเลยมึง แถมพี่จวบยังให้เงินอาทิตย์กูเพิ่มอีก” เจนกระซิบถามเพื่อน

‘จวบ’ พี่ชายของเจนเคยมาทาบทามพี่ก้านให้ไปทำงานให้นายหัวสุริยา แต่พี่ก้านปฏิเสธทั้งที่เงินเดือนที่นายหัวสุริยาให้นั้นมากกว่าที่นายพญาให้เกือบสองเท่า ก้อนก็เคยถามพี่ชายว่าทำไมถึงไม่ไปทำงานที่ได้เงินมากกว่า แต่พี่ชายของก้อนไม่ตอบ ได้แต่สั่งห้ามไม่ให้ก้อนไปยุ่งกับจวบมากนัก ถ้าให้ก้อนคิดเอาเองก้อนก็เดาว่าเพราะนายหัวสุริยาทำงานผิดกฎหมายพี่ก้านจึงไม่อยากไปยุ่งเกี่ยว

“กูไม่รู้ กูไม่เคยยุ่งเรื่องของพี่ก้าน มา! พวกมึง กินเหล้าต่อดีกว่า หมดขวดนี้ก็แยกย้ายเว้ย” ก้อนชวนเพื่อนคนอื่นกินเหล้าต่อแต่ในใจก็นึกเสียดาย หากพี่ก้านยอมไปทำงานให้นายหัวสุริยาทุกคนในบ้านก็คงจะสบายมากกว่านี้     

...

พญาตื่นเช้ามาก็พบว่าเทียมฟ้าไม่อยู่บนเตียงนอนแล้ว เมื่อเขามองดูเวลาก็พบว่ามันเพิ่งจะเจ็ดโมงเช้าเท่านั้น อันที่จริงเขาก็อยากจะนอนต่ออีกสักหน่อย แต่เมื่อนึกว่าจะโดนหนูด้วงล้อว่าเขาตื่นสายกว่าพญาจึงจำต้องลุกมาอาบน้ำให้เรียบร้อยก่อนที่หนูด้วงจะมา

“ไอ้ก้าน ป่านนี้ทำไมหนูด้วงยังไม่มาอีกวะ” พญาเดินออกมาจากห้องนอน แต่เมื่อเห็นเพียงไอ้ก้านที่กำลังขนแฟ้มอะไรสักอย่างมาวางบนโต๊ะถึงได้เอ่ยถาม

“หนูด้วงมาตั้งนานแล้วครับ ตอนนี้อยู่กับคุณชายน้องที่ตลาดโน้น” ไอ้ก้านตอบนายของมัน

“สรุปว่ากูก็ตื่นสายกว่าหนูด้วงอยู่ดีใช่ไหมวะ แล้วมึงขนอะไรมาเยอะแยะ” พญาทำหน้าเซ็งที่ตื่นไม่ทันหนูด้วงอีกจนได้

“แฟ้มค่าเช่าร้านกับแผงในตลาด คุณชายน้องให้ก้านไปเอามาจากอีจุ๋ม กว่ามันจะยอมให้มานะก็ต้องลงมือลงไม้กัน” ก้านเล่าให้เจ้านายของมันฟัง

“เกิดอะไรขึ้น” พญาขมวดคิ้วถาม

“ก็อีจุ๋มมันโวยวายไม่ยอมให้คุณชายน้องมายุ่งงานมัน แล้วไอ้โจ้มันเข้าข้างน้าของมัน มันก็เลยตั้งใจหาเรื่องคุณชายน้องเต็มที่เลย คงแค้นที่โดนตบคราวก่อน” ไอ้ก้านเล่าอย่างออกรส

“แล้วไงต่อ มีใครเป็นอะไรรึเปล่าวะ” พญามีท่าทางตกใจจนไอ้ก้านนึกแปลกใจ แต่ไอ้ก้านไม่รู้ว่าท่าทางเป็นห่วงของนายพญาคือห่วงคุณชายน้องหรือห่วงไอ้โจ้

“ก้านไม่อยากเล่าเลย” ไอ้ก้านทำหน้าเจื่อนๆ

“ทำไม ตอนนี้คุณชายของมึงอยู่ไหน แล้วหนูด้วงล่ะ ทำไมมึงไม่ดูแลทั้งสองคนนั่นวะไอ้ก้าน มึงนะมึง ถ้าสองคนนั้นเป็นอะไรไปกูจะเตะมึง” พญาลุกพรวดเตรียมตัวจะไปตามหาเทียมฟ้ากับหนูด้วง แต่ไอ้ก้านรีบเรียกเอาไว้ก่อน

“นาย ฟังก่อน”

“อะไรของมึง”

“ที่ก้านบอกว่าไม่อยากเล่าคือ เด็กของนายโดนคุณชายน้องจัดการเสียอ่วมเลย ก้านไม่อยากให้นายโกรธคุณชายน้อง คุณชายน้องแค่ปกป้องตัวเอง ถึงจะปกป้องมากไปหน่อยก็เถอะ” ไอ้ก้านหัวเราะ

“อย่าบอกนะว่าไอ้โจ้แพ้คุณชายของมึง” พญาเลิกคิ้วขึ้นด้วยความประหลาดใจ

“ก็ใช่สินาย ใครจะไปคิดว่าตัวเล็กกระจิ๋วเดียวแบบคุณชายน้องจะโคตรเก่ง คาราเต้สายดำเชียวนะนาย หมุนตัวกลางอากาศ ฟาดขาไปที่ต้นคอให้โจ้ โอ้โห...นี่มันคุณชายน้อง ศิษย์เฉินหลงชัดๆ เลยนาย คนในตลาดนี่ปรบมือกันเกรียวกราวเลย” ไอ้ก้านเล่าพร้อมกับแสดงอาการปลาบปลื้มอย่างเห็นได้ชัด

“มึงเล่าซะกูดูเรียบร้อยไปเลยไอ้ก้าน คุณชายของมึงไปโดนตัวไหนมาวะถึงชอบความรุนแรงตลอด” พญานึกภาพตามแล้วลูบที่แขนของตัวเอง

“นาย ก้านว่านะ นางสิงห์ที่จะเคียงข้างเจ้าป่าอย่างนายต้องมีคุณสมบัติแบบคุณชายน้องนี่แหละ” ไอ้ก้านกระซิบนายของมัน

“เพ้อเจ้อ นางสิงห์อะไรของมึง ไปๆ มึงจะไปทำอะไรก็ไป” พญาไล่ลูกน้องคนสนิทก่อนจะเดินออกจากสำนักงานของตัวเองไป

“ว่าไอ้ก้านเพ้อเจ้อแต่ตัวเองก็เดินยิ้มออกไป ไอ้ก้านว่านายพญาเสร็จคุณชายหม่อมของไอ้ก้านแน่ๆ” ไอ้ก้านกระหยิ่มยิ้มย่องก่อนจะรีบเดินตามนายของมันออกไป


พญาเดินออกมาก็เห็นว่าร้านค้าในตลาดดูเป็นระเบียบมากขึ้น จากที่เคยวางของกันเกะกะเต็มหน้าร้านก็ดูเข้าที่เข้าทางมากขึ้นจนเห็นได้ชัด พอเดินไปถึงฝั่งตลาดสดก็เห็นเทียมฟ้ากับหนูด้วงกำลังแจกใบปลิวให้กับพ่อค้าแม่ค้าในตลาดกันอยู่ เมื่อพญาเดินเข้าไปหาหนูด้วงก็ยื่นใบปลิวให้พญาด้วย

“ยุงพะยาตื่นฉายก่าหนู” หนูด้วงพูดจบก็เดินไปแจกใบปลิวให้คนที่เดินผ่านไปผ่านมาต่อ

“ประชุมอะไร” พญาอ่านข้อความในใบปลิวก่อนจะถามเทียมฟ้า

“เรียกประชุมพ่อค้าแม่ค้าในตลาดครับ น้องสืบรู้มาว่ามีการเรียกเก็บส่วยส่วนเกินจากค่าเช่าร้าน ทำให้พ่อค้าแม่ค้าจำต้องขึ้นราคาสินค้าเพิ่มขึ้นเพื่อเอาไปเสียค่าส่วย แล้วเราก็ต้องกำหนดมาตรฐานให้กับพ่อค้าแม่ค้า ทั้งเรื่องราคา ความสะอาด คุณภาพสินค้า ตลาดของพี่เป็นตลาดใหญ่ คนในเมืองก็ยังมาซื้อของสดที่นี่กลับไป นักท่องเที่ยวส่วนใหญ่ก็จะมาซื้อของฝาก มาจับจ่ายที่นี่ เท่ากับว่าที่นี่เป็นหน้าเป็นตาของเกาะ พี่จะปล่อยให้เป็นแบบเดิมไม่ได้” เทียมฟ้าอธิบาย

“ก็ดี มึงจัดการเลย” พญาเห็นความตั้งใจของเทียมฟ้าก็ไม่อยากขัด

“ไม่ใช่น้อง พี่ต่างหากที่ต้องจัดการ” เทียมฟ้าจิ้มไปที่อกของพญา

“อะไร กูไม่พูดหรอก พูดไม่เป็น” พญารีบปฏิเสธ เกิดมาไม่เคยทำอะไรที่เป็นทางการขนาดนั้นมาก่อน

“เพื่อหนูด้วงนะครับ” เทียมฟ้าจี้จุดอ่อนของพญา

“เฮ้อ มึงนี่นะ เออ ก็ได้ กูต้องทำยังไงบ้าง”

“ก่อนอื่นพี่ต้องทำให้คนมาประชุมให้ได้ ส่วนที่เหลือเดี๋ยวน้องช่วยเอง” เทียมฟ้ามองใบปลิวที่ตัวเองแจกหล่นบนพื้นด้วยความอ่อนใจ มันแสดงถึงความไม่ใส่ใจและไม่ต้องการจะมาประชุมให้เสียเวลา ส่วนหนึ่งยังคงเกรงใจเจ๊จินแม่ของโจ้ที่ประกาศว่าจะไม่มาประชุม

“พวกมึงจงฟัง! วันจันทร์กูต้องการให้พวกมึงมาประชุม ใครไม่มาก็มารับเงินชดเชยจากกูได้เลย เพราะกูจะไล่ออกจากตลาดของกูให้หมด บอกต่อๆ กันด้วย กูเอาจริง” พญาตะโกนด้วยเสียงอันดังจนทั้งตลาดเงียบกริบไปหมด สักพักเดียวพ่อค้าแม่ค้าก็รีบมาขอใบปลิวจากเทียมฟ้าและหนูด้วงกันใหญ่

“บ๋อแบ๋” หนูด้วงทำมือให้เทียมฟ้าดูว่าใบปลิวหมดแล้ว

“พี่เก่งจัง วันจันทร์ทุกคนต้องมากันแน่” เทียมฟ้าชมพญา

“อย่าลืมนะ จันทร์นะโว้ย” พญาตะโกนซ้ำอีกครั้งก่อนจะแอบยืดอกนิดหน่อยพร้อมกับยกยิ้มที่มุมปากเพราะได้รับคำชม แต่แล้วก็แทบเข่าอ่อนเมื่อหนูด้วงเขย่ามือของพญาแล้วถาม

“จันไร” หนูด้วงอยากรู้ว่าจันทร์ที่พญาพูดถึงคืออะไรจึงถาม แต่คำถามดันไปพ้องเสียงกับคำด่าบางคำ พญาจึงสะดุ้งเพราะนึกว่าหลานด่า

“โธ่หนูด้วง ปกติพูดไม่ชัด พูดแต่อะได อะได ทำไมคราวนี้ถึงไม่พูดว่าจันทร์อะไดล่ะครับ” พญาอุ้มหนูด้วงขึ้นมาถาม

“จันทร์อะได” หนูด้วงเอียงคอถามอีกครั้ง

“จันทร์หมายถึงวัน วันจันทร์ อังคาร พุธไงครับ” พญาอธิบาย หนูด้วงทำตาปริบๆ มองพญาก่อนจะหันไปมองเทียมฟ้า

“หมายถึงชื่อ ทุกคนต้องมีชื่อ วันก็เหมือนกัน วันก็ต้องมีชื่อครับ อย่างวันนี้มีชื่อว่าวันเสาร์ พรุ่งนี้ก็มีชื่อว่าวันอาทิตย์” เทียมฟ้าอธิบายต่อ ถึงจะรู้ว่ามันอาจจะยากเกินไปที่เด็กอย่างหนูด้วงจะเข้าใจ แต่วัยเรียนรู้แบบนี้เดี๋ยวก็จะจำได้เอง

“หนูก็มีชื่อ มีฉองชื่อเยย หนูชื่อพะยัด แล้วก็ชื่อด้วน” หนูด้วงอวดชื่อจริงและชื่อเล่นของตัวเอง

“ฮ่าๆๆๆๆ” เสียงไอ้ก้านหัวเราะดังลั่นจนพญาแอบยกขามายันมันเบาๆ มันจึงรีบเอามืออุดปาก

“มึงไปเตรียมเรือที่จะไปตกหมึกเลยไอ้ก้าน” พญาเองก็อยากจะขำแต่ต้องกลั้นเอาไว้

“หนูด้วงชื่อพยัคฆ์ครับ ไม่ใช่พะยัด” เทียมฟ้าลูบผมหนูด้วงด้วยความเอ็นดู

“หนูก็อยากนั่นเรือ” หนูด้วงหันมาอ้อนพญาเมื่อเห็นพญาพูดถึงเรือ หนูด้วงตื่นเต้นและอยากนั่งเรือ

“ได้เลยครับ น้าจะพาหนูด้วงไปนั่งเรือด้วย” พญาหอมแก้มหลานชาย

“จะเอาหนูด้วงไปตกหมึกด้วยเหรอครับ” เทียมฟ้าถามด้วยความกังวลเพราะกิจกรรมมันไม่เหมาะกับเด็กเล็กอย่างหนูด้วงสักเท่าไหร่

“ไม่มีอะไรที่หลานต้องการแล้วกูให้ไม่ได้หรอก” พญามองหนูด้วงด้วยความรัก เทียมฟ้าเห็นแล้วก็อดยิ้มออกมาไม่ได้ ความอ่อนโยนจากผู้ชายห่ามๆ มันดูน่ารักในสายตาของเทียมฟ้า

“หนูด้วงเคยเห็นคนบ้าไหม ยิ้มตลอดเวลา” พญาแกล้งถามหนูด้วงเมื่อเห็นเทียมฟ้าเอาแต่มองมาแล้วก็ยิ้มไม่หุบ

“หนูไม่เคยเห็นคนบ้า” หนูด้วงส่ายหน้า

“นี่ไง ดูสิ” พญาชี้ไปที่เทียมฟ้า หนูด้วงมองเทียมฟ้าแล้วขมวดคิ้วก่อนจะหันมาจ้องพญา

“อาน้อนไม่บ้า อาน้อนใจดี ยุงพะยาไม่ว่าอาน้อน ขอโทดอาน้อนก่อน” หนูด้วงทำหน้ามุ่ย

“คือน้า คือ...” พญาหน้าจ๋อยเมื่อโดนหลานงอน

“ยุงพะยาไม่ได้ว่าอาน้องหรอกครับ ยุงพะยาล้อเล่น ดีกันเนอะ” เทียมฟ้าแก้แทนพญาก่อนจะยกนิ้วก้อยขึ้นมา หนูด้วงหันไปมองพญา พญาจึงจำต้องยกนิ้วก้อยของตัวเองมาเกี่ยวนิ้วก้อยของเทียมฟ้าด้วย

“ก้อได้ก้อได้ ดีกัน” หนูด้วงยอมยิ้มให้พญาแล้วยกนิ้วน้อยๆ ของตัวเองมาเกี่ยวด้วยเหมือนกัน

“มาหนูด้วง เดินเองนะครับ พี่พญา...น้องหิวแล้ว พี่ตังทำกับข้าวมาให้เยอะเลย กลับไปกินข้าวกันเถอะครับ” เทียมฟ้าช้อนตัวหนูด้วงมาจากพญาเพราะอยากให้หนูด้วงลงมาเดินเอง จากนั้นก็หันมาชวนพญากับก้านไปกินข้าวด้วยกัน เทียมฟ้าเดินจูงมือหนูด้วงนำไปพร้อมกับรอยยิ้มที่สดใสเช่นเคย

“ทำไมหนูด้วงรักมันมากกว่ากูอีกวะไอ้ก้าน” พญากระซิบถามก้านเบาๆ

“ใครๆ ก็รักคุณชายน้องทั้งนั้นแหละครับ ยกเว้นนาย” ไอ้ก้านตอบนายของมันก่อนจะเดินตามเทียมฟ้าไป

“ยกเว้นกูเหรอ” พญาพึมพำกับตัวเองก่อนจะเดินตามไปเช่นกัน

..

มีคุณกับนับตังค์มาถึงท่าเรือตามเวลานัดหมายที่จะไปตกหมึกด้วยกัน นับตังค์ยืนอ้าปากค้างเมื่อเห็นว่าเรือประมงที่พญาอาสาเป็นคนจัดหาเพื่อพาทุกคนออกไปตกหมึกมันคือเรือแบบไหน อาการของนับตังค์ไม่ต่างจากเทียมฟ้าที่ยืนทำตาปริบๆ มองเรือสลับกับมองหน้าของพญาที่ยืนยิ้มกริ่มด้วยความพึงพอใจที่ทำให้ทุกคนประหลาดใจได้

“ลุง นี่มันเรือตกหมึกบ้านลุงเหรอ” นับตังค์ถามทันทีที่สติกลับคืนมาจากเรือหรูตรงหน้า

“ทำไม มันเล็กไปเหรอ” พญาถาม

“นี่มันเรือยอร์ชชัดๆ” นับตังค์มองไปที่เรืออีกครั้ง

“เอาน่า มันตกหมึกได้ก็แล้วกัน อีกอย่างนะ หนูด้วงไปด้วยก็ต้องเอาเรือที่ปลอดภัยที่สุด เราจะค้างที่กลางทะเลสักสองคืนด้วยไง อาทิตย์นี้โรงเรียนสอนทำอาหารของน้องตังหยุดไม่ใช่เหรอ” พญาถาม

“ตังไม่ได้เอาเสื้อผ้ามาจะค้างตั้งสองคืนได้ยังไง” นับตังค์ส่ายหน้า

“พี่เตรียมมาแล้ว พญาโทรบอกพี่ว่าอยากให้เราไปฮันนิมูนกันที่กลางทะเล เขาอยากจะทำให้ตังประหลาดใจ” มีคุณเป็นฝ่ายตอบนับตังค์

“ขอบคุณนะลุง” นับตังค์อึ้งไปเล็กน้อยก่อนจะหันมาพูดกับพญา ที่นับตังค์ขอบคุณไม่ใช่เพราะเรือลำหรูกับโปรแกรมฮันนิมูนที่พญาจัดให้ แต่การที่พญาทำแบบนี้แปลว่าพญาอยากแสดงให้นับตังค์รู้ว่ายินดีกับความรักของนับตังค์กับมีคุณ พญาแสดงให้นับตังค์เห็นถึงสปิริตของตัวเองและการรักษามิตรภาพที่ดีเอาไว้

“เล็กน้อยเองอย่างเกรงใจ ไปกันเถอะ วันนี้ข้างขึ้นด้วย รับรองว่าหมึกชุก” พญาชวนทุกคนขึ้นเรือ

“เย้ๆ หนูจะได้นั่นเรือ ได้ตดหมึดด้วย เย้ๆ” หนูด้วงชูมือชูไม้ดีใจที่จะได้ลงเรือ ทุกคนพากันหัวเราะคำว่าตกหมึกของหนูด้วง ส่วนพญาเห็นหลานมีความสุขก็ดีใจ

เรือลำหรูของพญาเป็นเรือยอร์ชขนาดกลาง ด้านบนของเรือเป็นดาดฟ้า ไอ้ก้านเตรียมเตาบาบีคิวเอาไว้สำหรับย่างหมึกกับย่างของทะเลอื่นๆ กินกัน ส่วนท้ายเรือมีพื้นที่ให้นั่งตกหมึกได้อย่างสบาย ด้านในตกแต่งอย่างสวยงาม มีทั้งเฟอร์นิเจอร์และอุปกรณ์อำนวยความสะดวกครบครันราวกับยกโรงแรมขนาดย่อมมาไว้ในเรือ ปกติพญาจะใช้งานเรือลำนี้เวลาที่เบื่อบ้านและอยากอยู่คนเดียว พญาชอบออกไปนอนมองท้องฟ้าอยู่กลางทะเลที่เงียบสงบ แต่ระยะหลังมานี่พญาไม่เคยได้ใช้งานมัน จนมาถึงวันนี้เมื่อรู้ว่านับตังค์อยากไปตกหมึก เขาจึงสั่งให้ไอ้ก้านมาจัดการเตรียมทุกอย่างเอาไว้ให้พร้อมเพราะอยากให้เป็นของขวัญวันแต่งงานให้แก่นับตังค์กับมีคุณ

“สวยมากเลย” นับตังค์เอ่ยชมเมื่อเดินเข้ามาในเรือ พญาให้ก้านจัดห้องนอนเอาไว้ให้นับตังค์กับมีคุณ มีที่นอนเล็กๆ แต่หนานุ่มน่านอนอยู่ข้างเตียงเอาไว้สำหรับหนูด้วงด้วย

“แล้วนายกับคุณชายน้องนอนที่ไหนล่ะ” มีคุณถามพญา

“กูจะนอนที่ดาดฟ้า คุณชายน้องก็ให้นอนที่โซฟาด้านนอกนี้ได้ ส่วนไอ้ก้านมันนอนที่ห้องคนขับเรือ กูจัดความเป็นส่วนตัวให้แล้ว แต่ถ้าหนูด้วงนอนดึกมึงก็อดนะ” พญาไหวไหล่เล็กน้อย

“ไม่ต้องห่วงว่าผมจะไม่ได้เข้าหอกับตังหรอก เรื่องนั้นผมถนัด” มีคุณเกทับ นับตังค์เห็นแล้วก็ส่ายหน้าให้กับคู่กัดตลอดกาลอย่างมีคุณกับพญา ถึงจะชอบเกทับกันแต่นับตังค์รู้ว่าทั้งสองคนไม่ได้จริงจังอะไร

(มีต่อด้านล่างค่ะ)

V
V

« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 29-12-2017 21:54:15 โดย Loverouter »

ออฟไลน์ Loverouter

  • เป็ดมหาวิทยาลัย
  • *
  • กระทู้: 446
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +471/-12
(ต่อจากด้านบนค่ะ)


คืนนี้เป็นคืนข้างขึ้นอย่างที่พญาบอกเอาไว้จริงๆ พระจันทร์ส่องสว่างอย่างนี้เป็นที่รู้กันของนักตกหมึกว่าได้หมึกมากกว่าฟ้ามืดแน่นอน ไอ้ก้านเตรียมอุปกรณ์การตกหมึกเอาไว้ให้พร้อม เทียมฟ้าอาสาดูหนูด้วงให้ระหว่างที่ทุกคนกำลังเพลิดเพลินกับการตกหมึก ทุกครั้งที่ตกหมึกได้หนูด้วงจะตื่นเต้นและปรบมือดีใจ พญาเป็นคนที่ตกหมึกได้เยอะที่สุดจึงทำให้หนูด้วงชมไม่ขาดปาก สร้างความปลาบปลื้มให้พญาไม่น้อยเพราะนานๆ ทีจะมีอะไรที่ทำให้หลานชื่นชมได้ ไอ้ก้านเป็นคนเอาหมึกที่ทุกคนตกได้ไปย่างจนส่งกลิ่นหอมยั่วน้ำลายทุกคนบนเรือ หนูด้วงกินจนอิ่มท้องไม่นานก็นั่งสัปหงก เทียมฟ้าจึงพาหนูด้วงไปนอนก่อน ทิ้งให้มีคุณ นับตังค์และพญานั่งตกหมึกกันต่อ

“ลุงเป็นคนมีความสามารถนะ” นับตังค์หันมาพูดกับพญา

“เรื่องตกหมึกเหรอ พี่โตมากับทะเล เรื่องแค่นี้มันไม่ยากหรอก ไม่น่าจะเรียกว่าความสามารถเพราะลูกชาวเลก็ทำได้ทุกคน” พญาพูดไปตามจริงแม้จะดีใจที่นับตังค์ชม

“มันไม่ใช่แค่เรื่องตกหมึกหรอก ลุงมีความสามารถแต่แค่ไม่นำมันมาใช้แค่นั้นเอง”

“ไม่รู้สิ พี่ไม่รู้ว่าตัวเองมีความสามารถอะไร พ่อพี่เป็นคนเก่ง เก่งจนพี่ไม่รู้ว่าต้องทำอะไรอีก” พญาเหม่อมองไปเบื้องหน้าอย่างไร้จุดมุ่งหมาย

“ย่าของตัง พ่อของตัง แม่ของตังก็เป็นคนเก่ง เก่งมากด้วย ถ้าตังคิดอย่างลุงหนูด้วงคงลำบาก ในเมื่อเรามีคนเก่งให้เราดูเป็นตัวอย่างทำไมเราไม่เดินตามรอยเขา เลือกเรื่องดีๆ มาทำ ต่อไปหนูด้วงก็จะได้เดินตามรอยเรา ถ้าเป็นเมื่อก่อนลุงจะทำยังไงตังก็ไม่ยุ่งหรอก แต่นี่ลุงมีหนูด้วง เขาเข้ามาในชีวิตของพวกเราแล้ว เราน่าจะเป็นตัวอย่างให้เขา ตังเป็นอา ลุงเป็นน้า หนูด้วงเป็นอนาคตของครอบครัวเรา” นับตังค์อยากให้พญาได้คิด ถึงแม้ความเป็นจริงตัวเองจะดูแลหนูด้วงได้โดยไม่ต้องพึ่งพาใคร แต่พญาคือเพื่อนที่ดีคนหนึ่งของนับตังค์ ซ้ำยังถือว่าเป็นญาติ นับตังค์จึงอยากให้พญามีจุดมุ่งหมายในชีวิต

“ขอบใจที่ยังเห็นว่าพี่เป็นคนมีความสามารถนะ พี่จะพยายาม” พญารู้ว่านับตังค์หวังดี แต่ก็ยังคิดไม่ออกว่าตัวเองมีความสามารถอะไร

“ตังเอาปลาหมึกไปให้ก้านก่อน อยู่กันสองคนก็อย่าตีกันนะ” นับตังค์หยอกมีคุณกับพญา เมื่อนับตังค์ไปแล้วทั้งสองคนต่างก็นั่งตกหมึกไปเงียบๆ จนมีคุณได้ยินพญาถอนหายใจจึงหันไปมอง

“วันหนึ่งถ้านายเจอคนที่อยากปกป้องมากขึ้น นายจะค้นพบว่าตัวเองทำอะไรได้ทุกอย่างแม้ในเรื่องที่ไม่คิดว่าจะทำได้” มีคุณเป็นฝ่ายพูดกับพญาก่อน

“มึงบอกกูหน่อยว่ามึงทำอะไรที่มึงคิดว่าไม่น่าทำได้บ้าง” พญาเองก็อยากรู้ว่าความรักมันทำให้คนเปลี่ยนไปได้จริงรึเปล่า

“ผมทำข้าวต้มได้ทั้งที่ไม่เคยทำอาหารมาก่อนเพราะตังป่วยลุกมาทำกับข้าวเองไม่ได้ ผมขี่มอเตอร์ไซด์ได้ทั้งที่กลัวความเร็วเพียงเพราะตังอยากนั่งซ้อนท้ายผม ผมมีความฝันว่าจะได้ท่องเที่ยวไปทั่วแต่กลับละทิ้งสิ่งเหล่านั้นได้ขอแค่ได้อยู่กับตังและคนในครอบครัว ผมไม่ได้เปลี่ยนไปแต่มันแค่เปลี่ยนแปลงบางสิ่งเพื่อให้ชีวิตมันสมบูรณ์มากขึ้น” มีคุณพูดไปยิ้มไปเพราะรู้สึกมีความสุขกับชีวิตที่เป็นอยู่ พญาได้ฟังก็รับรู้ถึงความสุขของคนพูดเช่นกัน

“สำหรับกูคงต้องรอปาฏิหาริย์กว่าจะได้เจอคนนั้น มึงเจอแล้วก็รักษาเอาไว้ให้ดี น้องตังคือสมบัติของเกาะใบไม้ครามเลยนะโว้ย” พญาทำเป็นพูดติดตลก

“นินทาอะไรตัง” นับตังค์เดินกลับมาได้ยินชื่อของตัวเองจึงถาม

“ไม่ได้เรียกนินทา เรียกว่าบทสนทนาถึงบุคคลที่สามต่างหาก พี่ไปดีกว่า ขี้เกียจเป็นกอขอคอ” พญาอยากให้มีคุณกับนับตังค์ได้มีเวลาอยู่ด้วยกันสองต่อสองจึงจะหลีกทางให้ เมื่อเดินออกไปแล้วหันกลับไปมองก็เห็นว่าทั้งสองคนกำลังหยอกล้อกันอย่างมีความสุข พญาได้แต่ยิ้มและบอกกับตัวเองว่า

‘ความสามารถอันดับแรก’ ที่ตัวเองทำได้ก็คือการยอมรับความพ่ายแพ้ด้วยความเต็มใจนั่นเอง

พญาเดินกลับเข้ามาในเรือเพื่อตั้งใจมาดูว่าหนูด้วงนอนหลับสบายรึเปล่า เมื่อเปิดประตูห้องเข้าไปก็เห็นว่าเทียมฟ้านอนหลับตาหน้าซีดอยู่ข้างที่นอนของหนูด้วง ท่าทางของเทียมฟ้าดูไม่ดีจนพญาต้องเดินเข้าไปหา สักพักพญาก็หยิบโทรศัพท์ขึ้นมาโทรหาไอ้ก้าน

“ไอ้ก้าน กูสั่งให้มึงใช้มะนาวทำน้ำจิ้มปลาหมึก มึงใช้น้ำส้มสายชูรึเปล่าวะ ไม่ได้ใช้เหรอ ไม่มีอะไร แค่นี้นะ” พญากดวางสายก่อนจะนั่งลงข้างๆ เทียมฟ้าแล้วเอามือไปอังที่หน้าผาก เทียมฟ้าลืมตาขึ้นมามองพญาก่อนจะยิ้มบางๆ ให้

“น้องไม่ได้ปวดท้องหรอกครับ น้องเมาเรือ” เทียมฟ้าบอกให้พญารับรู้

“รู้ว่าเมาเรือทำไมไม่กินยาเมา” พญาถาม

“ถ้าน้องกินมันจะง่วงแล้วก็หลับเป็นตายเลย น้องไม่อยากหลับ”

“แล้วไง ไม่หลับก็มาทรมานแบบนี้”

“ไม่ได้ทรมานสักหน่อย”

“มีใครบอกไหมว่ามึงมันดื้อ”

“น้องไม่ได้ดื้อสักหน่อย ถ้าพี่ได้มาเที่ยวทะเลกับคนที่อยากมาด้วย พี่อยากหลับตลอดเวลาเหรอครับ”

“กูไม่รู้ว่าคนที่มึงอยากมาด้วยคือใคร แต่ถ้าเป็นกู มันคุ้มกันเหรอวะที่ต้องมานั่งพะอืดพะอมเวียนหัวแบบนี้”

“คุ้ม”

“เฮ้อ มึงนี่นะ” พญาส่ายหน้าให้กับความดื้ออย่างตรงไปตรงมาของคุณชายผู้มีสายเลือดสูงส่งคนนี้

“อ้าว คุณชายน้อง เป็นอะไร” นับตังค์กับมีคุณเดินเข้ามาในห้องเห็นเทียมฟ้าหน้าซีดก็ตกใจ

“น้องแค่เมาเรือครับ น้องไม่เป็นไรหรอก พี่ไปตกหมึกกันต่อเถอะครับ” เทียมฟ้ารู้สึกแย่ที่ทำให้ทุกคนต้องมาห่วง

“มึงจะไม่เป็นไรได้ไง ไปนอน ตกหมึกต่อคืนพรุ่งนี้ก็ได้ ใช่ไหมน้องตัง” พญาดุเทียมฟ้าก่อนจะหันไปถามนับตังค์

“ใช่ พี่จะกลับมาพักพอดี ตกได้เยอะแล้ว ลุงพาคุณชายน้องไปนอนเถอะ” นับตังค์จะกลับเข้ามาพักจริงๆ เพราะพรุ่งนี้ตั้งใจว่าจะลงไปดำน้ำตามที่พญาจัดโปรแกรมเอาไว้ให้

“ก็ได้ครับ” เทียมฟ้าลุกขึ้นมาแล้วเดินตามพญาออกไป

“พี่เห็นความเปลี่ยนแปลงไหม” นับตังค์หันมาถามคนรักหลังจากที่พญากับเทียมฟ้าออกไปแล้ว

“พญาบอกพี่ว่าปาฏิหาริย์เท่านั้นที่จะพาคนที่ใช่มาหาเขา สงสัยว่าปาฏิหาริย์จะเริ่มทำหน้าที่แล้วละมั๊ง” มีคุณสวมกอดนับตังค์เอาไว้ นับตังค์ฟังแล้วก็หวังว่าปาฏิหาริย์จะช่วยให้พญาได้รู้จักกับโลกอีกใบที่มีชื่อว่าความรักเสียที

พญาเห็นเทียมฟ้ายังมีอาการกระอักกระอ่วนจึงตัดสินใจพาเทียมฟ้าขึ้นมาบนดาดฟ้า คิดว่าถ้าลองมาสูดอากาศบริสุทธิ์ดูอาจจะทำให้ดีขึ้นบ้าง ยังโชคดีที่วันนี้คลื่นลมไม่แรงมาก ไม่เช่นนั้นคนเมาเรือง่ายอย่างเทียมฟ้าคงออกอาการมากกว่านี้

“ดีขึ้นยัง” พญาถามคนที่นั่งอยู่ข้างๆ ไอ้ก้านมันมาเอาฟูกมาปูให้พญาแค่อันเดียวเพราะไม่คิดว่าจะมีคนอื่นขึ้นมานอนด้วย พญากับเทียมฟ้าจึงจำต้องนั่งเบียดกันอยู่บนฟูกหนาท่ามกลางแสงจันทร์และดวงดาว

“ก็ยังเวียนหัวอยู่”

“เก่งทุกอย่าง ทั้งตบคน ทั้งจระเข้ฟาดหาง แต่เสือกเมาเรือ” พญานึกขำคนเก่งของไอ้ก้าน

“ไม่มีใครเก่งไปทุกอย่างหรอก” เทียมฟ้าหันมาเถียง

“หึ ถ้ามึงไม่เมาเรือมึงก็เก่งไปทุกอย่าง เช่น...เถียงเก่ง” พญาเพิ่งรู้สึกว่าการทำให้เทียมฟ้าหุบยิ้มเป็นเรื่องที่ยาก แม้จะแกล้งต่อว่าค่อนขอดยังไงหม่อมราชวงศ์เทียมฟ้าผู้นี้ก็ยังยิ้มได้เสมอ

“น้องถามอะไรพี่ได้ไหม”

“มึงเมาเรือจะพูดมากทำไม นอนๆ ไปซะ” พญาเห็นว่าเทียมฟ้ายังหน้าซีดเลยอยากให้นอนมากกว่า

“เวลาคุยแล้วจะลืมว่าตัวเองเมาเรือไง”

“เฮ้อ มึงนี่นะ เอ้า อยากถามอะไรก็ว่ามา”

“ทำไมพี่ถึงชอบทำอะไรที่อาพยนต์ไม่ชอบครับ” เทียมฟ้าถามคำถามที่พญาคาดไม่ถึง ตั้งแต่เกิดมาไม่เคยมีใครกล้ามาถามคำถามทำนองกับพญาเลยสักคน ยกเว้นเจ้ากระต่ายน้อยตัวนี้

“กูอยากให้พ่อเสียใจมั๊ง” พญานิ่งคิดอยู่สักพักถึงตอบ

“ทำไมเหรอครับ”

“ก็พ่อทำให้แม่กับพี่พยงค์ต้องเสียใจ พ่อของกูเจ้าชู้ไปเรื่อยทั้งที่ยังมีแม่ของกูอยู่ข้างกาย พ่อกดดันให้พี่พยงค์ต้องออกจากบ้านเพียงเพราะตัวเองไม่ชอบคนรักของพี่พยงค์ พ่อเอาความรู้สึกของตัวเองเป็นศูนย์กลางของจักรวาล พ่อทำให้คนที่กูรักจากกูไปหมด กูเลยอยากให้พ่อรู้ว่ายังมีคนที่จะไม่ยอมทำอะไรที่พ่อต้องการดูบ้าง”

เทียมฟ้าฟังแล้วเงียบไปนาน นานจนพญาต้องหันมามอง เขาเห็นเทียมฟ้านั่งกอดเข่าของตัวเอง ใบหน้าที่ไร้รอยยิ้มของคุณชายน้องผู้เพียบพร้อมทำให้พญาเดาไม่ถูกว่าฝ่ายนั้นกำลังคิดอะไร ถึงพญาจะบ่นเวลาเทียมฟ้าเอาแต่ยิ้ม แต่พอเห็นใบหน้าที่ไร้รอยยิ้มแบบนี้แล้วพญารู้สึกอึดอัดใจมากกว่า

“ถ้าไม่มีอะไรถามต่อกูจะนอนแล้วนะ” พญาเอนตัวลงไปนอนราบกับฟูกพร้อมกับเหม่อมองขึ้นไปบนท้องฟ้า

“ฝันดีครับพี่พญา” เทียมฟ้าเอนตัวลงนอนข้างๆ ในใจมีคำถามมากมายที่อยากจะถามพญา แต่เทียมฟ้าสัมผัสได้ถึงความเจ็บปวดที่ซ่อนอยู่ในซอกลึกของพญา เทียมฟ้าไม่รู้ว่าตัวเองจะได้รับโอกาสเดินเข้าไปถึงส่วนลึกนั้นไหม หวังจะเข้าไปโยนความรู้สึกเจ็บปวดนั้นออกให้หมดสิ้น คงเป็นความหวังที่ไกลตัวจนเกินไป

“สิ่งที่กูกลัวที่สุดคืออะไรรู้ไหม” พญาเอ่ยขึ้นมาท่ามกลางความเงียบ

“อะไรเหรอครับ”

“กูกลัวว่าตัวเองจะเหมือนพ่อ” พญาไม่คิดเหมือนกันว่าตัวเองจะพูดอะไรแบบนี้ให้เทียมฟ้าฟัง ปากก็บอกว่าตัวเองไม่ชอบการกระทำของพ่อ แต่พญาไม่เคยคบใครจริงจัง ทำให้คนที่มาหลงรักตัวเองเสียใจ เอาแต่ใจตัวเอง ซึ่งมันก็ไม่ต่างอะไรเลยกับสิ่งที่นายหัวพยนต์ทำเอาไว้

“ไม่เหมือนหรอกครับ อาพยนต์นอกใจผู้หญิงที่ตัดสินใจฝากชีวิตทั้งชีวิตเอาไว้กับท่าน มันเป็นสิ่งที่ผิด น้องเชื่อว่าหากพี่เจอคนที่พี่รักจริงๆ คนที่พี่ตัดสินใจใช้ชีวิตทั้งชีวิตกับเขา พี่จะไม่มีวันนอกใจและทำให้เขาเสียใจแน่นอน”

“ทำไมมึงถึงเชื่อมั่นกูขนาดนั้น มึงรู้ไหมกูทำให้คนร้องไห้มากี่คนแล้ว แต่กูไม่เคยร้องไห้ให้ใครเลย รักแท้คืออะไรกูไม่เคยรู้จัก” พญาอึ้งได้ยินเทียมฟ้าพูดก็ส่ายหน้าช้าๆ ไม่เคยมีใครเชื่อว่ารักแท้จะเกิดกับคนอย่างเขา แม้แต่ตัวเขาเอง

“มันต้องมีสักวันที่จะมีใครสักคน คนที่พี่จะเป็นฝ่ายร้องไห้หากต้องเสียเขาไป ถ้าถึงวันนั้นมาบอกน้องหน่อยนะครับว่าสิ่งที่น้องพูดเอาไว้มันไม่ผิด” เทียมฟ้าหันไปยิ้มให้พญาก่อนจะหันกลับไปมองท้องฟ้าเหมือนเดิม

“ยังเมาเรืออยู่ไหม” พญาถามขึ้นมาลอยๆ

“นิดหน่อยครับ”

“กูเคยได้ยินมาว่าถ้านอนราบกับพื้นเรือจะยิ่งเมา เรือมันโคลงเคลง”

“แล้วต้องทำยังไงครับ น้องไม่อยากอาเจียน” เทียมฟ้าเริ่มกังวลเพราะตอนนี้พยายามอดทนกับอาการคลื่นไส้อยู่

พญาไม่ได้ตอบแต่สอดมือเข้าไปที่ท้ายทอยของเทียมฟ้าแล้วออกแรงแขนดันตัวเทียมฟ้าให้พลิกมานอนซบอกของตัวเอง เทียมฟ้าตกใจกับการจู่โจมแบบสายฟ้าแลบของพญาแต่ก็ไม่กล้าขัดขืน เมื่อเห็นว่าพญาไม่ได้ทำอะไรมากไปกว่าโอบตัวของเทียมฟ้าเอาไว้ก็เลยระบายยิ้มออกมา มือที่เกร็งอยู่ข้างตัวก็ค่อยๆ เอื้อมมาวางบนอกของพญา เพิ่งรู้เหมือนกันว่าการนอนซบอกใครสักคนมันทำให้หายเมาเรือได้ด้วย

“กูแค่ไม่อยากให้หม่อมราชวงศ์อย่างมึงมาอ้วกแตกในเรือของกูหรอกนะถึงยอมเสียสละตัวให้มึงมาซบ อีกอย่างไอ้ก้านมันคงลืมเตรียมผ้าห่มให้กู ถ้าหนาวก็กอดกูได้ กูไม่ถือ”

“ขอบคุณครับ” เทียมฟ้าเลื่อนมือที่วางบนอกของพญาไปโอบตัวพญาเอาไว้แทน

“มึงยิ้มอยู่ใช่ไหม”

“เปล่า”

"ไม่จริง กูว่ามึงยิ้มอยู่”

“น้องไม่ได้ยิ้ม น้องกำลังจะหลับ”

“แต่กูว่ามึงยิ้มนะ ไหนดูดิ๊” พญาชะโงกมองหน้าของเทียมฟ้าแต่มองไม่เห็นเพราะใบหน้าของเทียมฟ้าซบที่อกของพญาอยู่ พญาเลยตัดสินใจเกี่ยวคางเทียมฟ้าขึ้นมาดู

“ก็น้องบอกแล้วว่าไม่ได้ยิ้ม” เทียมฟ้าไม่ได้ยิ้มจริงๆ พญาจึงจ้องจับผิดอีกอยู่สักพัก สุดท้ายเทียมฟ้าก็กลั้นไม่อยู่ระบายยิ้มออกมา

“เฮ้อ มึงนี่นะ กูกะแล้วว่ามึงต้องยิ้ม คิดจะโกหกกูเหรอ หึหึ” พญาแกล้งทำเสียงอ่อนใจก่อนจะหัวเราะที่จับผิดเทียมฟ้าได้

“พี่ก็ยิ้ม” พอเทียมฟ้าเถียงพญาถึงกับเอามือไปจับปากของตัวเอง พอเห็นว่าตัวเองก็ยิ้มจริงๆ อย่างที่โดนกล่าวหาจึงรีบหุบยิ้มแล้วกระชับกอดเทียมฟ้าเอาไว้

“หลับๆ ไปเลย พูดมากกูโยนลงทะเลให้ฉลามงาบซะดีไหม”

“ฝันดีครับพี่พญา”

พญานอนนิ่งๆ ไม่ได้โต้ตอบอะไรอีก จนได้ยินเสียงลมหายใจที่สม่ำเสมอของอีกฝ่ายจึงมั่นใจว่าคนในอ้อมกอดคงจะหลับไปแล้ว พญาแอบหัวเราะเบาๆ ก่อนจะนึกในใจว่า ‘ความสามารถอันดับที่สองของเขา’ ก็คือ ‘การกอด’ กอดของเขาสามารถกล่อมคนเมาเรือให้หลับได้โดยไม่อ้วกแตกชนิดที่ไม่ต้องพึ่งพายาแก้เมาเรือด้วยซ้ำไป

“ฝันดีเจ้ากระต่าย” พญาพูดกับเทียมฟ้าก่อนจะหลับตาลง

ท่ามกลางเสียงคลื่นที่สาดกระทบตัวเรือเป็นจังหวะ มันช่วยขับกล่อมให้พญาเริ่มหลับใหลตามคนในอ้อมกอดไป กลิ่นไอทะเลยามค่ำคืนช่วยให้รู้สึกผ่อนคลาย อุณหภูมิที่ต่ำลงทำให้ลมที่มาปะทะผิวกายเย็นลงกว่าตอนหัวค่ำ ทั้งสองร่างจึงหันมานอนสวมกอดกันโดยอัตโนมัติเพื่อเพิ่มความอบอุ่นให้แก่กัน

ไอ้ก้านที่ยืนแอบมองอยู่ก็ได้แต่ลอบยิ้ม ผ้าห่มในมือของมันคือผ้าห่มของนายพญา ผ้าผืนนี้ถูกมันแอบเอามาเก็บก่อนที่นายพญาจะขึ้นมาบนดาดฟ้า ตอนนี้นายพญาคงจะหลับแล้ว ไอ้ก้านจึงแอบย่องเอาผ้าห่มไปวางไว้ที่ปลายเท้า มันพยายามทำตัวให้เบาที่สุด เพราะขืนให้นายพญาจับได้ว่าขโมยผ้าห่มมาซ่อนเอาไว้ มันคงถูกถีบลงเรือให้เป็นเหยื่อปลาแน่ๆ   
 
โปรดติดตามตอนต่อไป


ลุงแกซึนจริงๆ แต่ก็น่ารักเนอะ 555 ว่าแต่ลิปมันเขียนยังไง ลิป หรือ ลิพ


[ทางไปเพจ Loverouter จิ้มเลย]
[ทางไปทวิต Loverouter จิ้มเลย]
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 29-12-2017 21:54:50 โดย Loverouter »

ออฟไลน์ B52

  • เป็ดZeus
  • *
  • กระทู้: 13216
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +420/-26

ออฟไลน์ silverspoon

  • เป็ดHermes
  • *
  • กระทู้: 2426
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +275/-12
มันทั้งอบอุ่นใจ ทั้งหวานปนขม สงสารพญา สงสารคุณชายน้อง bittersweet มากๆ

ออฟไลน์ pigarea

  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 748
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +20/-1
ไอ้ก้าน ริ​จะ​เป็น​กามเทพ​เหรอจ๊ะ

ออฟไลน์ darling

  • เป็ดแสนดี
  • เป็ดDemeter
  • *
  • กระทู้: 1741
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +96/-7
ลุงก็ทำตัวน่ารักกะเค้าเป็นเหมือนกันนะ  :กอด1:

ออฟไลน์ AeAng11

  • เป็ดมหาวิทยาลัย
  • *
  • กระทู้: 528
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +12/-0
ยุงพะยาน่ายักแย้ว

ออฟไลน์ ommanymontra

  • เป็ดEros
  • *
  • กระทู้: 3437
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +96/-0

CoMMuNiTY Of ThAiBoYsLoVE

ประกาศที่สำคัญ


ตั้งบอร์ดเรื่องสั้น ขึ้นมาใครจะโพสเรื่องสั้นให้มาโพสที่บอร์ดนี้ ถ้าเรื่องไหนไม่จบนานเกิน 3 เดือน จะทำการลบทิ้งทันที
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=2160.msg2894432#msg2894432



รวบรวมปรับปรุงกฏของเล้าและการลงนิยาย กรุณาเข้ามาอ่านก่อนลงนิยายนะครับ
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=459.0



สิ่งที่ "นักเขียน" ควรตรวจสอบเมื่อรวมเล่มกับสำนักพิมพ์
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=37631.0






ออฟไลน์ windy49

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 18
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +2/-0
ลุงพญากับคุณน้อง ตอนยิ้มไม่ยิ้ม นี่น่ารักกกกก :impress2:

ออฟไลน์ pui

  • เป็ดHermes
  • *
  • กระทู้: 2194
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +177/-3

ออฟไลน์ titansyui

  • เป็ดHermes
  • *
  • กระทู้: 2386
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +119/-0

ออฟไลน์ Snowermyhae

  • เป็ดAphrodite
  • *
  • กระทู้: 4015
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +97/-7
ชอบก้านมากค่ะ น่ารักและอยู่เป็น  :hao7:

ออฟไลน์ colorofthewind21

  • เป็ดDemeter
  • *
  • กระทู้: 1657
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +31/-1
ทั้งสองคนนี้นี่มาทำให้เราเขินตามได้ยังไง น่ารักเกินไปแล้วนะ ก้านของเจ้ทำดีมากจ้ะ

ออฟไลน์ MayA@TK

  • เป็ดArtemis
  • *
  • กระทู้: 4992
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +51/-7
ลุงเริ่มน่ารักแล้ว อยากให้ลุงน่ารักขึ้นเรื่อยๆ คุณชายน้องจะได้มีกำลังใจที่จะเป็นคนที่ทำให้ลุงรักด้วยใจจริง
หนูด้วงยังคงน่ารักเสมอ


 :pig4: :pig4: :pig4: :pig4: :pig4: :pig4:


ออฟไลน์ gookgik

  • เป็ดDemeter
  • *
  • กระทู้: 1966
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +341/-6
คู่นี้เวลาที่พูดจาดีๆ ดูน่ารักตะมุตะมิมาก  ก้านริจะเป็นกามเทพร่วมกับหนูด้วงด้วย

เห็นด้วยกับก้านว่า คุณชายน้องเหมาะจะเป็นนางสิงห์ของพญา เพราะเก่งทั้งบุ๊นและบู๊   และปาฏิหาริย์กำลังจะเริ่มทำหน้าที่ให้พญาได้เห็นโลกอีกใบที่ชื่อความรัก ความห่วงใย ความเข้าใจ ฯลฯ




« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 22-12-2017 10:05:07 โดย gookgik »

ออฟไลน์ stickyyrice

  • เป็ดHephaestus
  • *
  • กระทู้: 1509
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +40/-5
ลุงเริ่มละมุน 5555

ออฟไลน์ Al2iskiren

  • เป็ดDemeter
  • *
  • กระทู้: 1789
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +80/-3
ก้านเจ๋งมาก ปรบมือๆ :katai2-1:

ออฟไลน์ ❣☾月亮☽❣

  • เป็ดApollo
  • *
  • กระทู้: 6774
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +264/-6
ค้นพบการแก้เมาเรือแบบใหม่ อิอิ

CoMMuNiTY Of ThAiBoYsLoVE






ออฟไลน์ warin

  • รถไฟขบวนนั้น ได้แล่นผ่านไปแล้ว
  • เป็ดแสนดี
  • เป็ดDemeter
  • *
  • กระทู้: 1938
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +60/-1
    • -
หวานน่ารักมาก  ชอบค่ะ

ออฟไลน์ Loverouter

  • เป็ดมหาวิทยาลัย
  • *
  • กระทู้: 446
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +471/-12
กุญแจดอกที่ 4


นับตังค์แอบขำหนูด้วงที่กำลังเดินวนไปวนมาสลับกับการนั่งยองๆ แล้วเอียงคอมองคนสองคนที่นอนกอดกันอยู่บนดาดฟ้าเรือ ท่าทางเด็กน้อยวัยกำลังเรียนรู้คงกำลังคิดอะไรบางอย่างถึงได้ย่นคิ้วเข้าหากันแบบนั้น นับตังค์เห็นหนูด้วงเดินวนเป็นรอบที่สามแล้วจึงเดินเข้าไปหาแล้วตั้งคำถาม

“มองอะไร”

“หนูปลุดอาน้อนได้มั้ย” หนูด้วงเงยหน้ามาถามนับตังค์ก่อนจะเดินวนไปนั่งยองๆ ลงทางฝั่งเทียมฟ้า

“จะปลุกทำไม”

“หนูไม่อยาดให้อาน้อนตื่นฉาย” หนูด้วงยังคงทำหน้านิ่วคิ้วขมวด

“สายอะไรกันเพิ่งจะตีห้าเอง เราน่ะตื่นเช้าเกินไป”

“แต่หนูอยาดปลุดอาน้อน ยุงพะยากอดอาน้อนอยู่นั่นแหยะ”

“หวงอาน้องก็บอกมาเหอะเจ้าตัวแสบ อาน้องไม่สบายอยู่นะ” นับตังค์ส่ายหน้าขำเจ้าตัวเล็กที่ตอนนี้ติดเทียมฟ้าอย่างกับอะไรดี

“หนูต้อนตรวจอาน้อนก่อน อาน้องไม่ชาบาย” ว่าแล้วเจ้าตัวป่วนก็ลุกขึ้นยืน พยายามจะมองว่าตัวเองจะเข้าไปอยู่ตรงกลางได้อย่างไร สุดท้ายเด็กน้อยก็เดินมาทางฝั่งพญาแล้วล้มตัวนอนทับตัวพญาก่อนจะกลิ้งไปอยู่ตรงกลางระหว่างคนสองคน

“ด้วง!” นับตังค์จะห้ามก็ห้ามไม่ทันเพราะตอนนี้ทั้งพญาและเทียมฟ้าต่างก็ตกใจตื่นเมื่อโดนร่างกลมๆ กลิ้งไปทับ เมื่อทั้งสองคนรู้สึกตัวแล้วเห็นหนูด้วงกับนับตังค์มองอยู่ก็รีบคลายกอดออกจากกันโดยอัตโนมัติ เทียมฟ้าลุกมานั่งก่อนจะยิ้มแบบเขินๆ

“อาน้อนไม่ชาบาย หนูตวดให้” หนูด้วงซึ่งนอนหงายแอ้งแม้งอยู่ตรงกลางก็รีบชูมือขึ้นเพื่อจะอังที่หน้าผากของเทียมฟ้าให้ แต่ด้วยความที่แขนสั้นเทียมฟ้าจึงต้องโน้มตัวลงมาให้หน้าผากของตัวเองไปแตะโดนมือของเจ้าตัวป่วน

“อาน้องตัวร้อนไหมครับ” เทียมฟ้าถามหนูด้วง

“ตัวไม่ย้อนไปเย่นน้ำทะเยได้” คุณหมอด้วงวินิจฉัยให้เสร็จสรรพ

“คือ...พอดีเรือมันโคลงเคลง พี่กลัวคุณชายของน้องตังจะอ้วกเลยต้องช่วยปฐมพยาบาลเบื้องต้นให้” พญารีบอธิบายให้นับตังค์ฟังทั้งที่หน้าตายังดูไม่ตื่นดีเลยด้วยซ้ำ ส่วนเทียมฟ้าเมื่อเห็นพญารีบแก้ตัวเลยลุกขึ้นยืนเพราะไม่อยากให้อีกฝ่ายต้องลำบากใจ

“ขอโทษนะที่มาปลุก หนูด้วงร้องหาคุณชายตั้งแต่เช้า” นับตังค์อยากจะหยิกพญาให้เนื้อเขียว ไปกอดเขาทั้งคืนแล้วรีบแก้ตัวแบบนี้มันน่าโดนนัก

“หนูจะพาอาน้อนไปดูปลา” หนูด้วงรีบลุกขึ้นมายืนข้างเทียมฟ้าแล้วกระตุกชายเสื้อเบาๆ

“อาน้องว่ายน้ำไม่เป็นครับ อาน้องลงทะเลไม่ได้หรอก” เทียมฟ้าหน้าเจื่อนเพราะหนูด้วงมีสีหน้าผิดหวังเมื่อได้ยิน

“เดี๋ยวไปกับน้า น้าจะพาหนูด้วงไปดูปลาเองครับ” พญารีบเสนอตัวเพราะสงสารหลาน

“หนูอยาดให้อาน้อนไปด้วย”

“ไม่ดื้อสิด้วง เดี๋ยวไปว่ายน้ำกับแด๊ดก็ได้ มาเถอะ...ไปดูว่าแด๊ดตื่นรึยัง” นับตังค์ไม่อยากให้ด้วงงอแงเลยจะพาหนูด้วงลงไปข้างล่าง

“เดี๋ยวสายๆ พี่พาหนูด้วงกับคุณชายลงน้ำเอง เดี๋ยวให้ก้านมันขับเรือไปส่งพี่แถวที่น้ำตื้นๆ น้องตังจะได้ไปดำน้ำตามตารางที่พี่จัดให้ ใช่ไหมคุณชาย” พญาพูดกับนับตังค์ก่อนจะหันไปถามเทียมฟ้า เทียมฟ้าเห็นหนูด้วงมองก็เลยพยักหน้าให้ทั้งที่ใจยังกังวล

“เย้ๆ ไปดูปลาฉีฉ้มที่อาน้อนชอบ” หนูด้วงแสดงอาการดีใจเมื่อเห็นว่าเทียมฟ้ายอมลงทะเลไปด้วย

“งั้นก็ได้ อากาศเย็นจัง คุณชายลงไปนอนที่ห้องไหม พี่คุณน่าจะตื่นแล้วล่ะ” นับตังค์ถามเทียมฟ้า

“ไม่เป็นไรครับ น้องอยากดูพระอาทิตย์ขึ้น หนูด้วงอยู่กับอาน้องไหมครับ” เทียมฟ้ายังอยากให้นับตังค์มีเวลาอยู่กับมีคุณตามลำพังให้สมกับเป็นทริปที่มาฮันนิมูนกันเลยปฏิเสธไป

“หนูอยู่กับอาน้อนได้มั้ย” หนูด้วงทำหน้าอ้อนนับตังค์

“ก็ได้ก็ได้” นับตังค์ยีผมเจ้าตัวป่วนก่อนจะเดินกลับลงไปในเรือ

พอนับตังค์ไปแล้วพญาก็กระดิกนิ้วชี้ส่งสัญญาณบอกเทียมฟ้าว่าให้กลับมานั่งบนที่นอนแต่เทียมฟ้าทำเป็นไม่สนใจ พญากระดิกนิ้วแรงกว่าเดิมแต่ก็ยังไม่ได้ผล เมื่ออีกฝ่ายยังยืนเฉยก็เลยต้องเล่นใหญ่กว่าเดิมจนหนูด้วงเป็นฝ่ายที่มองมาแล้วก็ทำหน้าสงสัย

“ยุงพะยาออดกำลันกายนิ้วเหมือนปู่ช้วนเยย” หนูด้วงทำท่ากระดิกนิ้วชี้เลียนแบบพญา

“อ๋อ ครับ น้าปวดนิ้ว” พญาตอบหลานรักที่เอียงคอมองตัวเองด้วยความสงสัยก่อนจะหันไปทำหน้าดุใส่เทียมฟ้าที่ยืนกลั้นขำอยู่

“ยุงพะยาแก่เลยไม่ชาบาย ปวดนิ้วเหมือนปู่” หนูด้วงพูดจบก็ได้ยินเสียงเทียมฟ้าหัวเราะ หนูด้วงเห็นเลยทำเป็นขำตาม

“มึงมานั่งนี่เลย ให้ไว” พญาเค้นเสียงเรียกเทียมฟ้า อยากจะจัดการคนอกตัญญูคนนี้จริงๆ อุตส่าห์ให้ยืมอกซบนอนให้หายเมาเรือแท้ๆ ตอนนี้ทำมาเล่นตัวเรียกเท่าไหร่ก็ไม่ยอมมา

“น้องจะดูพระอาทิตย์ขึ้น” เทียมฟ้าส่ายหน้าปฏิเสธ

“ก็มาดูตรงนี้ ดื้อแบบนี้จะให้ไล่ออกจากงานไหม” พญาขู่

เทียมฟ้ายืนนิ่งอยู่สักพักก่อนจะยอมจูงมือหนูด้วงกลับไปนั่งบนฟูกนอน พญาคว้าหนูด้วงมานั่งตักแล้วดึงมือของเทียมฟ้าให้มานั่งใกล้ๆ จากนั้นก็เอาผ้าห่มผืนใหญ่ที่ไม่รู้ว่ามันมาอยู่ตรงนี้ตั้งแต่เมื่อไหร่มาคลุมตัวเองกับเทียมฟ้าเอาไว้ เมื่อเห็นว่าผ้าห่มยังคลุมไม่มิดเลยรั้งเอวของเทียมฟ้าให้ขยับมาชิดอีก สุดท้ายทั้งสามคนก็ได้รับไออุ่นจากผ้าห่มและไออุ่นจากร่างกายที่เบียดกันอยู่ด้านใน เสียงหัวเราะคิกคักของหนูด้วงบอกให้รู้ว่ากำลังสนุกกับกระโจมผ้าห่มอยู่

“ชอบไหม” พญาถามหลานรัก

“หนูชอบ ถ้ามีหมาป่ามาก็หยบในนี้เลย” หนูด้วงแกล้งผลุบศีรษะเข้าไปในผ้าห่มก่อนจะโผล่ออกมาใหม่แล้วหัวเราะสนุกสนาน

“มึงล่ะ ชอบไหม” พญากระซิบถามเทียมฟ้าหลังจากที่หนูด้วงผลุบเข้าไปในผ้าห่มอีกรอบ

“ไม่ชอบ” เทียมฟ้าตอบไปตรงๆ ซึ่งคำตอบทำให้พญาหน้าเสีย

“ทำไม”

“เดี๋ยวพี่ตังขึ้นมาพี่จะต้องหาข้อแก้ตัวอีก ลำบากพี่เปล่าๆ ให้น้องไปนั่งดูพระอาทิตย์ขึ้นตรงโน้นก็ได้” เทียมฟ้าเหม่อมองไปยังท้องฟ้าเบื้องหน้า

“งอนกูว่างั้น”

“น้องไม่ได้งอน”

“มึงงอน”

“น้องไม่ได้งอน”

“แต่มึงไม่ยิ้ม มึงงอน”

“น้องมีสิทธิ์งอนเหรอ” คราวนี้เทียมฟ้าหันมามองหน้าพญา

“หึ ไม่มี แล้วไม่ต้องมางอนกูเพราะกูง้อคนไม่เป็น” พญายักไหล่ เทียมฟ้าเลยไม่ตอบอะไรอีกแต่หันกลับไปมองทะเลเหมือนเดิม

“อาน้อน พะอาทิดขึ้นยัน” หนูด้วงโผล่หน้ามาถาม

“ยังครับ” เทียมฟ้าตอบหนูด้วง

“เมื่อไหร่พะอาทิดจะมา” หนูด้วงเริ่มเบื่อ

“เบื่อเหรอ งั้นมาร้องเพลงกันไหม” เทียมฟ้าถามหนูด้วง เมื่อเห็นหนูด้วงพยักหน้าจึงหันไปมองที่พญา

“มองทำไม มึงชวนมึงก็ร้องไปสิ”

“แต่น้องร้องเพลงไม่เพราะ”

“เอ้า! แล้วชวนหนูด้วงทำไมวะ”

“ก็หนูด้วงเบื่อ ใช่ไหมครับ” เทียมฟ้าหันมาขอแรงสนับสนุนจากเจ้าตัวเล็ก

“หนูอยาดฟันเพลน” หนูด้วงเงยหน้าไปพูดกับพญา พญาเลยก้มลงมาหอมหน้าผากหลานรักฟอดใหญ่

“ก็ได้ เอาเพลงอะไรดี” พญาใจอ่อนเพราะไม่อยากให้หลานผิดหวัง

“เอากีต้าร์ไหมนาย ไอ้ก้านหยิบติดมาด้วย” ไอ้ก้านโผล่หน้าออกมาจากบันไดพร้อมกับชูกีต้าร์ในมือ

“มึงนี่มันสัมภเวสีเรือเปล่าวะไอ้ก้าน ผลุบโผล่มาจนกูตกใจหมด เอามา” พญาทำเป็นบ่นลูกน้องไปอย่างนั้นทั้งที่นึกขอบคุณมันในใจ ถ้าให้ร้องเพลงแบบไม่มีกีต้าร์พญารู้สึกไม่ค่อยมั่นใจสักเท่าไหร่

“นี่ครับนาย” ไอ้ก้านส่งกีต้าร์ให้นายของมันก่อนจะผลุบหายไปอีกด้วยความรวดเร็ว

เทียมฟ้าพาหนูด้วงมานั่งที่ตักของตัวเองแล้วห่อตัวอยู่ในผ้าห่มกันสองคน ส่วนพญานั่งหันหน้าเข้าหาทั้งคู่ก่อนจะปรับจูนสายกีต้าร์ สักพักก็กระแอมเบาๆ แก้เขินเพราะน้อยคนนักที่จะรู้ว่าพญาเล่นกีต้าร์ได้ พญาไม่เคยเล่นให้ใครฟังนอกจากคนที่สนิทกันจริงๆ เมื่อเห็นเทียมฟ้าจ้องมองมาพญาก็ยักคิ้วให้ก่อนจะก้มลงมองกีต้าร์แล้วเริ่มบรรเลงเพลงโปรด

‘....ที่ดูเหมือนเก่งมันเป็นแค่การแสดง ที่แกล้งให้ดูแข็งแรงเพราะไม่ต้องการอ่อนแอให้ใครดู สิ่งที่ใครต่อใครก็รู้ ไม่ใช่ตัวจริงเลยสักนิด เป็นภาพลวงตาที่ไม่เคยมีใครเข้าใจ ใครจะรู้ว่าฉันก็เจ็บ ใครจะรู้ว่าฉันก็แพ้ ร้องไห้ในใจไม่มีใครดูแล เจ็บเองก็ต้องหายเอง ใครจะรู้ถึงความรู้สึกที่อยู่ลึกในใจของฉัน ที่มันร้อนเป็นไฟเพราะว่าใครกัน ที่ทำให้ตัวของฉันต้องเป็นคนแบบนี้ ขอเพียงสักคนที่เข้าใจกันก็พอ อยากขอเพียงสักคน ที่รักตัวตนที่ฉันนั้นเป็น สิ่งที่ใครต่อใครได้เห็น ไม่ใช่ตัวจริงเลยสักนิด เป็นภาพลวงตาที่ไม่เคยมีใครเข้าใจ ใครจะรู้ว่าฉันก็เจ็บ ใครจะรู้ว่าฉันก็แพ้ ร้องไห้ในใจไม่มีใครดูแล เจ็บเองก็ต้องหายเอง ใครจะรู้ถึงความรู้สึก ที่อยู่ลึกในใจของฉัน ที่มันร้อนเป็นไฟเพราะว่าใครกัน ที่ทำให้ตัวของฉันต้องเป็นคนแบบ จะมีใครบ้างไหม มีไหม...บนโลกใบนี้ ที่รักตัวฉันคนนี้และไม่ทอดทิ้งกันไป...’

พญายังคงก้มหน้าร้องเพลงโปรดจนจบถึงได้เงยหน้าขึ้นมา ที่เบื้องหน้าของพญาในตอนนี้มีเด็กน้อยนั่งคอพับคออ่อนดวงตาปรือปรอยเหมือนคนใกล้จะหลับอยู่บนตักของชายหนุ่มที่มักจะมีรอยยิ้มประดับบนใบหน้าเสมอ หากแต่ตอนนี้ดวงตาที่เคยเต็มไปด้วยความสดใสกลับมีหยาดน้ำตาเอ่อคลออยู่เต็มสองตา เมื่อเห็นว่าพญาจ้องมองมาเจ้าตัวถึงได้เงยหน้าขึ้นเพื่อไม่ให้น้ำตาร่วงหล่นใส่เด็กน้อยที่นั่งอยู่บนตัก พญาเอื้อมมือมาเช็ดน้ำตาให้ก่อนจะวางกีต้าร์ลงข้างตัว

“หลานกูกำลังจะเคลิ้มหลับ ขืนปล่อยให้น้ำตามึงหยดใส่หัวหลานกูได้ตื่นกันพอดี” พญาเช็ดน้ำตาให้เทียมฟ้าเสร็จแล้วก็ขยับกลับมานั่งข้างๆ

เทียมฟ้าเห็นว่าพญากลับมานั่งข้างๆ จึงคลี่ผ้าห่มออกก่อนจะตวัดไปคลุมตัวให้พญาด้วย ทั้งคู่ไม่ได้พูดอะไรกันอีกเอาแต่มองไปยังท้องฟ้าเบื้องหน้าที่เริ่มจะมีแสงสีส้มโผล่พ้นขึ้นมาจากเส้นขอบของผืนทะเลเล็กน้อย เจ้าตัวน้อยที่ตื่นตั้งแต่เช้าพอได้ลมเย็นๆ กับเสียงเพลงเพราะๆ ขับกล่อมจึงผล็อยหลับสนิทไปอีกครั้ง

“กูว่าน้ำตาไม่เหมาะกับมึงหรอก” พญาเอ่ยขึ้นมาท่ามกลางความเงียบ

“พี่ก็ต้องทำให้น้องยิ้มสิ” เทียมฟ้าตอบกลับไป

“มึงจะยิ้มหรือร้องไห้มันเกี่ยวกับกูด้วยว่ะ” พญาย้อนถาม

“ที่ดูเหมือนเก่งมันเป็นแค่การแสดง ที่แกล้งให้ดูแข็งแรงเพราะไม่ต้องการอ่อนแอให้ใครดู สิ่งที่ใครต่อใครก็รู้ ไม่ใช่ตัวจริงเลยสักนิด เป็นภาพลวงตาที่ไม่เคยมีใครเข้าใจ...” เทียมฟ้าไม่ได้ตอบคำถามของพญาแต่ร้องเพลงที่พญาร้องเมื่อครู่ขึ้นมาแทน พญานิ่งอึ้งไปครู่ใหญ่ก่อนจะหัวเราะออกมา

“มึงร้องเพลงได้ทุเรศจริงด้วย อย่าไปร้องให้ใครฟังอีกนะ ร้องให้กูฟังคนเดียวพอ กูสงสารคนอื่น” พญาไม่ได้มองหน้าของเทียมฟ้าเลยไม่รู้ว่าคนถูกติทำหน้ายังไง

“น้องยิ้มอยู่” เทียมฟ้าบอกกับพญาเมื่อได้ฟังคำตำหนิ เป็นคำตำหนิที่ทำให้เทียมฟ้าหุบยิ้มไม่ได้จนต้องบอกอีกฝ่าย

“บอกกูทำไม” พญาถามแต่ก็ยังไม่ยอมหันมามอง

“บอกเพราะพี่ไม่ยอมมองมา”

“อยากให้กูมองเหรอ ไหนบอกว่าไม่ต้องการอะไรจากกูไง”

“ถ้าน้องเปลี่ยนใจต้องการอะไรจากพี่ น้องทำได้ไหม น้องจะลองขอดูได้ไหม” คราวนี้พญาหันกลับมามองหน้าคนพูด รอยยิ้มยังคงประดับอยู่บนใบหน้านั้นแต่ดวงตาคู่นั้นมันทำให้พญาเดาไม่ออกว่าคนพูดรู้สึกอย่างที่พูดจริงหรือไม่

“ก็ลองดู” พญาตอบสั้นๆ ก่อนจะหันไปมองท้องฟ้าเช่นเดิม

เทียมฟ้าได้ยินก็อมยิ้ม ที่ผ่านมาเทียมฟ้ามักจะบอกตัวเองเสมอว่าอย่าได้คาดหวังที่จะเรียกร้องอะไรจากใครเพราะการผิดหวังมันเจ็บปวด แล้วน้ำตาที่เสียให้กับเพลงที่พญาร้องเมื่อครู่นี้ก็เพราะเนื้อหามันโดนใจ มันทำให้เทียมฟ้ารู้สึกว่าตัวเองเข้าใจพญามากขึ้น เทียมฟ้าอยากเป็นใครสักคนที่รักในตัวตนของพญาและจะไม่ทำให้พญาต้องเจ็บ เมื่ออยากได้โอกาสนั้นจึงกล้าที่จะถามพญาออกไป ในเมื่ออีกฝ่ายอนุญาตให้ลองดูได้มันทำให้เทียมฟ้ารู้สึกดีใจ นั่งชั่งใจอยู่นานในที่สุดเทียมฟ้าก็ตัดสินใจเอนศีรษะไปซบที่ไหล่ของอีกฝ่ายพร้อมกับมองดวงตะวันที่กำลังค่อยๆ โผล่พ้นขอบฟ้าขึ้นมา อันที่จริงดวงตะวันมันก็มีอยู่ดวงเดียวแต่ทำไมวันนี้เทียมฟ้าจึงคิดว่ามันสวยงามมากกว่าทุกวันก็ไม่รู้

..

หลังจากที่ทุกคนรับอาหารมื้อเช้าแบบง่ายๆ เสร็จแล้วก้านก็นำเรือมาส่งพญา เทียมฟ้าและหนูด้วงที่ชายหาดของเกาะวงรีก่อนจะพานับตังค์กับมีคุณออกไปยังจุดดำน้ำบริเวณแนวปะการังน้ำลึก ส่วนเกาะวงรีนี้เป็นเกาะขนาดเล็กเหมาะสำหรับคนเพิ่งหัดดำน้ำเพราะเป็นชายหาดน้ำตื้นที่มีเม็ดทรายสีขาวสะอาดตาและน้ำทะเลสีเขียวใส เกาะแห่งนี้ยังไม่เป็นที่รู้จักมากนักเลยไม่ค่อยมีคนพลุกพล่านสักเท่าไหร่ พญาจึงเลือกให้หนูด้วงมาเล่นน้ำทะเลที่นี่

“ทาครีมอะไรเยอะแยะวะ” พญาถามเทียมฟ้าที่กำลังนั่งทาครีมกันแดดให้หนูด้วง เห็นทาตั้งนานไม่เสร็จเสียทีจึงถามด้วยความสงสัย

“พี่ก็ต้องทานะ ผิวเสียหมด”

“งั้นมึงมาทาให้กูด้วย”

“ยุงพะยาพูดไม่เพราะ” หนูด้วงหันมาต่อว่า

“โทษๆ น้าลืมตัว น้าจะพูดเพราะๆ นะครับ” พญายิ้มแหยๆ เมื่อถูกหลานดุ

“หนูด้วงเล่นขุดทรายไปก่อนเดี๋ยวค่อยลงน้ำนะครับ ให้ครีมมันแห้งก่อนเนอะ” เทียมฟ้าส่งชุดของเล่นที่ใช้ก่อทรายให้กับหนูด้วง หนูด้วงรับมาแล้วเดินไปนั่งเล่นทรายไม่ไกลจากจุดที่ทั้งสองคนนั่งอยู่

“หึหึ ถ่วงเวลาล่ะสิ เป็นหมาบ้ารึเปล่าถึงกลัวน้ำ” พญาหัวเราะเยาะเทียมฟ้าที่ไม่กล้าลงไปเล่นน้ำทะเล

“น้องไม่ได้ถ่วงเวลาสักหน่อย”

“ถ่วง”

“ไม่ถ่วง”

“มึงถ่วง”

“หนูยำคาน” หนูด้วงหันมาบ่นเมื่อได้ยินพญากับเทียมฟ้าเถียงกันไม่หยุด

“ฮ่าๆ ตัวแค่นี้รู้จักรำคาญด้วยเว้ย” พญาหัวเราะชอบใจที่หลานรักทำหน้ามุ่ย ท่าทางของหนูด้วงดูน่ารักจนอดใจไม่ไหวต้องลุกไปหอมแก้มยุ้ยๆ ของเจ้าตัวเล็กก่อนจะกลับมาเอนตัวลงไปนอนชันแขนกับพื้นทรายเหมือนเดิมเพื่อให้เทียมฟ้าทาครีมให้

“จะทาครีมไหม” เทียมฟ้าถามพญา

“ก็นอนรออยู่ แล้วนั่งห่างแบบนั้นทาถนัดรึไง” พญาพยักหน้าให้เทียมฟ้าขยับมาใกล้ๆ เทียมฟ้าได้แต่ลอบยิ้มให้กับการวางมาดของพญา 

“พี่พญา! พี่พญาจริงด้วย”

เสียงร้องทักทำให้เทียมฟ้าชะงักมือแล้วเงยหน้าขึ้นไปมอง คนถูกเรียกก็หันไปมองเช่นกัน เจ้าของเสียงเรียกคือชายหนุ่มหน้าตาดีคนหนึ่งซึ่งกำลังแสดงท่าทางดีใจเป็นอย่างมากที่ได้เจอพญา

“ไม่คิดเลยว่าจะได้เจอพี่พญาที่นี่ เบลขอโทษนะครับที่ไม่ได้ติดต่อพี่เลยแต่เบลคิดถึงพี่มากๆ เลยนะ” เบลมัวแต่ดีใจที่ได้เจออดีตคนคุ้นเคยจนไม่ทันสังเกตว่ามีใครอีกคนนั่งอยู่กับพญาด้วย จนกระทั่งได้ยินเสียงใครคนนั้นเอ่ยขึ้นมา

“น้องขอตัวไปเล่นกับหนูด้วงก่อนนะครับ” เทียมฟ้าบอกกับพญาก่อนจะลุกไปนั่งเล่นกับหนูด้วง

“แฟนเหรอครับ” เบลถามพญา ซึ่งเทียมฟ้าก็ได้ยินคำถามนั้นเพราะนั่งอยู่ไม่ไกล

“ไม่ใช่ แล้วมากับใคร” พญาถามขึ้นมาบ้าง ส่วนเบลระบายยิ้มกว้างเมื่อได้รับคำตอบว่าคนที่มากับพญาไม่ใช่แฟน

“มากับเพื่อนครับ เบลอยากไปหาพี่ที่ตลาดแต่ไม่อยากมีปัญหากับโจ้” เบลถอนหายใจเมื่อเอ่ยถึงชื่อคนที่ทำให้เบลต้องเลิกติดต่อกับพญา

“กูได้ข่าวว่ามึงทะเลาะกัน”

“เบลไม่อยากพูดถึงแต่พี่รู้เอาไว้เถอะว่าโจ้มันร้ายกาจมาก” เบลไม่อยากพูดถึงอดีตที่อยากลืม มันเป็นเรื่องที่เลวร้ายที่สุดในชีวิต การที่เบลหนีหายไปไม่ใช่ยอมแพ้ไอ้โจ้ เบลแค่ถอยไปตั้งหลักแล้วคิดจะกลับไปเพื่อเอาชนะมันให้ได้ ความแค้นนี้เบลไม่มีวันลืม ช่วงเวลาที่หายไปเบลไปทำตัวเองให้ดูดี ยอมไปทำศัลยกรรมจนดูดีกว่าเดิมมาก ซึ่งดูจากสายตาพญาในตอนนี้ทำให้เบลรู้ว่าที่เบลลงทุนทำมามันได้ผล พญามองเบลเหมือนอยากจะกลืนกินเสียให้ได้

“ทำไมไม่มาบอกกูว่าโดนมันรังแก”

“เบลรู้ว่าพี่ไม่ชอบเรื่องปวดหัว ไม่ชอบให้ทะเลาะกัน แล้วตอนนั้นพี่ก็ดูจะชอบมันมาก เบลเลยคิดว่าเบลขอเป็นคนออกมาดีกว่า แต่พอเบลจากมาเบลก็รู้ว่าคนที่เบลรักและอยากเห็นหน้าทุกวันคือพี่ แต่พี่ก็ไม่เคยตามหาเบลเลย” เบลตัดพ้อด้วยความน้อยใจและเอื้อมมือไปจับที่มือของพญาพร้อมกับไล้ปลายนิ้วไปมาเบาๆ

“ก็มึงหนีไปเอง ต่อไปถ้ามันทำอะไรไม่ดีมาบอก แล้วตอนนี้มึงอยู่ที่ไหน” พญานึกสงสารเบลพอสมควร เขาเจอเบลในช่วงเวลาเดียวกับที่ได้เจอกับโจ้ ผู้ชายทั้งสองคนคือคนที่เขาเรียกหาบ่อยที่สุด ทั้งคู่จึงเหมือนคู่แข่งกัน แต่เบลเป็นคนหัวอ่อนและไม่ได้มีพรรคพวกเท่าโจ้จึงเป็นฝ่ายเสียเปรียบทุกครั้งเมื่อมีเรื่องกัน พญาถึงกับคาดโทษเอาไว้ว่าหากมีเรื่องกันอีกจะไล่ออกไปจากเกาะทั้งสองคน แต่จู่ๆ เบลก็ขาดการติดต่อไป พญาก็ไม่ได้สนใจที่จะตามหาเพราะนึกกว่าเบลน้อยใจแล้วหนีไปเอง เพิ่งจะรู้ว่าที่เบลหายไปเป็นเพราะโดนโจ้รังแก

“เบลไปอยู่กรุงเทพมา แต่ตอนเบลอยากกลับไปที่เกาะ เบลยังกลับไปได้ไหมครับ” เบลทำน้ำเสียงอ้อนพญา พญาเหลือบไปมองเทียมฟ้าแล้วเห็นว่าอีกฝ่ายนั่งก่อทรายกับหนูด้วงอยู่ ใบหน้ายังคงเต็มไปด้วยรอยยิ้มเหมือนเคย เทียมฟ้าทำเหมือนว่าไม่สนใจเบลที่กำลังทำท่าออดอ้อนพญาเลยสักนิด

“อยากมาก็มา”

“แต่เบลกลัวว่า...”

“เรื่องไอ้โจ้เดี๋ยวกูจัดการให้ ต่างคนต่างอยู่ เฮ้!..มึงจะไปไหน!” พญาพูดกับเบลอยู่ดีๆ ก็หันไปตะโกนถามเทียมฟ้าที่จูงมือหนูด้วงให้ลุกขึ้น เบลถึงกับต้องหันไปมองหน้าเทียมฟ้าอีกครั้งให้ชัดๆ จากที่ไม่คิดว่าผู้ชายคนนั้นเป็นคนสำคัญอะไรแต่ตอนนี้เบลต้องกลับมาคิดใหม่เพราะแม้พญาจะคุยอยู่กับตัวเองแต่สายตาดันไปจดจ่ออยู่กับผู้ชายคนนั้นแทบจะตลอดเวลา

“ไปเดินเล่นริมทะเล” เทียมฟ้าตอบพร้อมกับยิ้มให้เบล

“มานี่ก่อน” พญาออกคำสั่งแต่เทียมฟ้ายืนเฉย ทั้งคู่เล่นจ้องตากันอยู่พักใหญ่จนเบลต้องเอ่ยแทรกขึ้นมา

“ถ้าอย่างนั้นเบลขอตัวก่อน แล้วเบลจะโทรหาพี่พญานะครับ” เบลรู้ดีว่าเวลาแบบนี้ตัวเองควรทำยังไง จะเป็นคนที่ยืนเคียงข้างผู้ชายอย่างพญาต้องรู้วิธี เบลรู้ว่ามันยากแต่ยิ่งยากก็ยิ่งท้าทาย ก่อนไปเบลโน้มใบหน้าไปหอมแก้มของพญาแล้วทำหน้าเขินอาย พญาตกใจอยู่เหมือนกันที่โดนจู่โจมแต่พอเห็นเทียมฟ้าทำหน้านิ่งๆ ไม่ได้มีรอยยิ้มเหมือนเคยก็นึกขำ

“กูจะรอ” พญาพูดกับเบล เบลยิ้มหวานให้พญาก่อนจะหันมายิ้มให้เทียมฟ้า เมื่อเบลไปแล้วเทียมฟ้าก็จูงมือของหนูด้วงเดินไปที่ริมทะเล

“กูบอกให้มานี่ก่อน แนะ! ทำหูตึง งอนกูอะดิ ไม่ยิ้มแล้วเหรอคุณชาย ไหนยิ้มดิ๊ งอน งอน ฮ่าๆ” พญาเรียกเทียมฟ้าแต่อีกฝ่ายไม่สนใจพญาเลยต้องลุกเดินตามไปและพูดแหย่ให้เทียมฟ้าแสดงอาการโกรธออกมา

“อาน้อนงอนอะได” หนูด้วงเงยหน้าไปถามเมื่อได้ยินพญาล้อเทียมฟ้า

“อาน้องไม่ได้งอน อาน้องแค่ไม่อยากเป็นก้างขวางคอใคร”

“ก้านติดคอใคร” หนูด้วงทำตาโตเพราะปู่ช้วนเคยบอกว่าก้างติดคอมันเจ็บ

“อาน้องขี้งอน” พญากระซิบหนูด้วง

“น้องไม่ได้งอน” เทียมฟ้าเถียง

“มึงมันขี้งอนแล้วก็ดื้อ” พญาจิ้มไปที่หน้าผากของเทียมฟ้าเบาๆ เทียมฟ้าหยุดเถียงแต่ก็ยังไม่ยอมยิ้มเหมือนเคย

“หนูอยาดเย่นน้ำได้มั้ย” เมื่อเดินมาถึงริมทะเลหนูด้วงก็ออกอาการดีใจ กระโดดหลบฟองคลื่นแล้วอ้อนขอลงไปไปเล่นน้ำ

“พาหนูด้วงไปสิ” พญากอดอกแล้วยักคิ้วให้เทียมฟ้า

“หนูด้วงไปเล่นกับยุงพะยานะครับ” เทียมฟ้าปฏิเสธแม้ว่าน้ำทะเลบริเวณนี้จะตื้นก็ตาม พญาคว้ามือหนูด้วงมาจับแล้วพาก้าวลงในน้ำแต่เดินไปได้เพียงก้าวเดียวก็หันมาพร้อมกับยื่นมืออีกข้างไปที่เทียมฟ้า

“ลงมา”

“น้องไม่ลง”

“ลงมา”

“น้องไม่อยากเล่นน้ำ”

“อยู่กับกู กูไม่ปล่อยให้มึงจมหรอก” พญาบอกด้วยน้ำเสียงที่ดูจริงจัง เทียมฟ้ายืนนิ่งครู่หนึ่งแต่ในที่สุดก็ยอมวางมือของตัวเองบนมือของพญา พญายกยิ้มก่อนจะจับมือของเทียมฟ้าแล้วพาเดินลงไปในทะเล

พญาพาทั้งคู่ลงไปในน้ำทะเลลึกแค่ระดับอก หนูด้วงใส่เสื้อชูชีพเอาไว้และเล่นน้ำอย่างสนุกสนาน แม้เจ้าตัวเล็กจะกลืนน้ำทะเลไปหลายอึกแต่ก็ไม่มีทีท่าว่าจะเข็ด ส่วนเทียมฟ้าก็ได้แต่กอดแขนพญาเอาไว้แน่นด้วยความกลัว ขอขึ้นไปสวมเสื้อชูชีพก่อนแต่พญาไม่ยอมให้กลับขึ้นไป พอคลื่นสาดมาทีเทียมฟ้าก็กอดพญาทีเพราะกลัวว่าคลื่นจะซัดตัวเองจมน้ำหายไป นึกอายเหมือนกันที่เกาะพญาเป็นปลิงแบบนี้ หนูด้วงเป็นเด็กน้อยแท้ๆ ยังใจกล้ากว่า ส่วนพญาเมื่อคลื่นซัดมาก็ดึงเทียมฟ้ากับหนูด้วงมากอดแล้วหันหลังบังคลื่นให้ ซึ่งทุกอากัปกิริยาของทั้งสามคนอยู่ในสายตาของเบลตลอด

(มีต่อด้านล่างค่ะ)
V
V

« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 29-12-2017 21:55:14 โดย Loverouter »

ออฟไลน์ Loverouter

  • เป็ดมหาวิทยาลัย
  • *
  • กระทู้: 446
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +471/-12
(ต่อจากด้านบนค่ะ)


ทั้งสามคนเล่นน้ำกันจนบ่ายคล้อยพญาจึงชวนหนูด้วงขึ้นจากน้ำเพราะเกรงว่าจะไม่สบายไปเสียก่อน เนื่องจากบนเกาะนี้ไม่คนอยู่อาศัยและไม่มีร้านค้าใดๆ เทียมฟ้าทราบข้อมูลมาก่อนแล้วจึงเตรียมน้ำเปล่าติดมาหลายขวด เทียมฟ้าล้างหน้าล้างตัวให้หนูด้วงแล้วเปลี่ยนเสื้อผ้าให้ พญานึกชื่นชมความรอบคอบของเทียมฟ้าแต่ก็ไม่ได้เอ่ยชมออกไป พอแดดเริ่มแรงขึ้นจึงต้องย้ายข้าวของไปนั่งกันในที่ร่ม แม้แดดจะแรงแต่ลมทะเลก็พัดมาให้รู้สึกเย็นสบาย เมื่อหนูด้วงทานข้าวจนอิ่มเจ้าตัวเล็กก็เริ่มง่วงและหลับไปด้วยความเพลีย

“หายงอนยัง” พญายังนึกสนุกกับการแกล้งเทียมฟ้าอยู่

“น้องบอกแล้วว่าไม่ได้งอน”

“ไม่ได้งอนแล้วเดินหนีทำไม”

“ไม่ได้งอน แต่น้องก็ไม่จำเป็นต้องอยู่ในในที่ๆ ทำให้ตัวเองอึดอัด”

“หึ...กูรู้นะว่ามึงแอบฟังที่กูคุยกับเบล”

“ไม่ได้แอบฟังแต่เสียงมันลอยมาเข้าหูเอง”

“เห็นแบบนี้แล้วยังอยากจะชอบกูอีกไหม” พญาถาม

“น้องไม่ควรชอบพี่เหรอครับ” เทียมฟ้าถามกลับบ้าง

“กูไม่ใช่พระเอกหรอกนะ ถ้ามีละครสักเรื่องกูก็คือตัวร้าย พูดจาหยาบคาย อันธพาล เมียก็เยอะ ปัญหาก็แยะ งานการก็ไม่เก่งอะไรสักอย่าง ดีแต่ใช้เงิน” พญาพูดจบก็หัวเราะ

“แล้วพี่ไม่อยากเป็นพระเอกบ้างเหรอครับ” เทียมฟ้าย้อนถาม พญานิ่งคิดนิดหนึ่งก่อนจะตอบ

“ไม่อยาก”

“แต่พี่อาจจะเป็นพระเอกสำหรับใครบางคนไปแล้วก็ได้ อาจจะเป็นโจ้ เบล หรือใครอีกหลายคน”

“หึ...แล้วมึงล่ะ อยากให้กูเป็นอะไร”

“อยากให้พี่เป็นคนสำคัญ จะเป็นอะไรก็ได้ที่พี่อยากเป็น แต่พี่จะเป็นคนสำคัญ” เทียมฟ้าพูดออกมาจากใจพร้อมกับรอยยิ้มที่แต่งแต้มบนใบหน้าเหมือนทุกครั้งที่พญาเห็นจนชิน

พญาฟังแล้วไม่ได้พูดอะไรออกมาแต่เอี้ยวตัวมาจูบที่ริมฝีปากของเทียมฟ้าแทน คำหวานหรือคำยกยอพญาได้ฟังมาเป็นร้อยเป็นพันครั้งแต่ครั้งนี้มันทำให้รู้สึกแตกต่าง พญาไม่เคยเชื่อคำพูดหวานหูเหล่านั้นเพราะคิดว่ามันหาซื้อได้ด้วยเงิน แต่กับคุณชายผู้สูงศักดิ์คนนี้เงินคงไม่ใช่ปัจจัยสำคัญ เมื่อเงินไม่สำคัญการกระทำของเทียมฟ้าจึงสร้างความคลางแคลงใจให้กับพญา พญาอยากรู้ว่าหม่อมราชวงศ์เทียมฟ้าผู้นี้ต้องการอะไรจากตนกันแน่ พญาไม่เชื่อในความรักและไม่คิดว่าเทียมฟ้าจะรักตนเพราะตนไม่มีอะไรที่เหมาะสมกับอีกฝ่ายเลย แต่ถ้าอยากล้อเล่นกับความรู้สึกของพญา พญาก็อยากจะรู้ว่าสุดท้ายแล้วใครกันแน่ที่จะถูกล้อเล่น

“ถ้ากูเป็นคนสำคัญ กูจะทำอะไรได้ใช่ไหม” พญาถามหลังจากที่ถอนริมฝีปากออกมาจากอีกฝ่าย

“คนที่ไม่ใช่แฟน ทำแทนทุกเรื่องไม่ได้” เทียมฟ้าตอบออกมาเป็นเพลงจนพญาหลุดขำ

“เห็มไหม งอนกูแน่ๆ ฮ่าๆ” พญายังคงหัวเราะชอบใจเพราะรู้ว่าเทียมฟ้าประชดเรื่องที่ตัวเองบอกเบลไปว่าเทียมฟ้าไม่ใช่แฟน

“ถ้าน้องงอนพี่จะง้อไหม” เทียมฟ้าลองถามดู

“ไม่ กูง้อใครไม่เป็น”

“แต่พี่ง้อน้อง”

“กูไม่ได้ง้อ”

“พี่ง้อ”

“เอ๊ะ กูบอกว่าไม่ได้ง้อ”

“แต่พี่ไม่ยอมให้น้องขึ้นมาเอาชูชีพเพราะพี่อยากให้น้องกอดพี่”

“กู...กู...กูไม่ได้ง้อ กูแค่อยากแกล้งมึงต่างหาก” พญาเจอเทียมฟ้าย้อนจนไปต่อแทบไม่ถูก

“พี่ง้อน้อง” เทียมฟ้าจ้องหน้าพญาแล้วอมยิ้ม

“เออ มึงจะคิดอะไรก็เรื่องของมึงเถอะ กูนอนกอดหนูด้วงดีกว่า” พญารู้ว่าเถียงสู้ไม่ได้จึงแกล้งล้มตัวลงนอนกอดหนูด้วงเอาไว้แต่ก็แอบเหล่มองว่าเทียมฟ้าทำหน้ายังไง แล้วก็คาดไม่ผิด เทียมฟ้ากำลังยิ้มอยู่

“ยิ้มมากๆ ขากรรไกรค้างขึ้นมากูจะซ้ำให้” พญาขู่เบาๆ แต่ก็ไม่สามารถทำให้ทำให้รอยยิ้มนั้นจางหายไปจากใบหน้าของเทียมฟ้าได้ แต่คนขู่ก็ขู่ไปอย่างนั้นเพราะเจ้าตัวก็แอบลอบยิ้มไม่ต่างกัน

..

หลังจากกลับมาที่เรือกันครบทุกคนแล้วก้านก็จัดอาหารเย็นเอาไว้ให้พร้อม นับตังค์กลับมาเล่าเรื่องที่ได้เห็นใต้น้ำให้ทุกคนฟังด้วยความตื่นเต้น คนที่ตื่นเต้นที่สุดเห็นจะเป็นหนูด้วงที่ทำเสียงอู้หูและทำตาโตตลอดเวลาเหมือนได้ลงไปดำน้ำด้วย มีคุณเอ่ยขอบคุณพญาที่จัดการทุกอย่างให้เพราะนับตังค์และหนูด้วงดูจะมีความสุขกับการได้มาล่องเรือในครั้งนี้ พญายังคงวางมาดแล้วบอกกับมีคุณไปว่าไม่ต้องขอบคุณเพราะพญาตั้งใจทำให้นับตังค์ไม่ได้ทำเพื่อมีคุณ แต่ถึงอย่างนั้นมีคุณก็ยังกล่าวขอบคุณอีกครั้งแล้วทิ้งท้ายว่าขอให้พญาได้มีโอกาสมาฮันนิมูนกับคนที่ใช่เหมือนตัวเองกับนับตังค์บ้าง คนอื่นๆ ได้ยินทั้งสองคนคุยกันก็ได้แต่ขำ เป็นการแสดงมิตรภาพที่แฝงด้วยการเกทับกันตามสไตล์มีคุณกับพญาที่ไม่เคยเปลี่ยนเลย

“น้ำมะนาวครับคุณชายน้อง ไม่มีน้ำส้มสายชูสักหยด นายพญาย้ำสั่งไอ้ก้านหลายรอบไอ้ก้านไม่ลืมครับ” ก้านบอกกับเทียมฟ้าหลังจากที่เห็นอีกฝ่ายลังเลที่จะกินอาหารทะเลตรงหน้า 

“พูดมากไอ้ก้าน กูแค่ไม่อยากให้ใครมาป่วยจนต้องพาทุกคนกลับเข้าฝั่ง” พญารีบแก้ตัว

“ทำไมต้องปากแข็ง” นับตังค์ถามพญาเบาๆ เพราะไม่อยากให้เทียมฟ้าได้ยิน

“พี่ไม่ได้ปากแข็งสักหน่อย พี่พูดตามที่คิด”

“ระวังน้ำตาจะเช็ดหัวเข่า” นับตังค์ขู่ก่อนจะหันกลับไปฉีกปลาหมึกย่างให้หนูด้วง

“ยุงพะยากัดอาน้อนด้วย”

“แค่กๆๆๆๆ หนูด้วง! พูดอะไรแบบนั้นครับ” พญากำลังละเลียดดื่มไวน์พอได้ยินหนูด้วงพูดออกมาถึงกับสำลัก

“หนูฝันเห็นยุงพะยากัดอาน้อน ยุงพะยาเป็นหมาป่า กัดๆ อาน้อนก้อจัวหมาป่า วิ่งหนีๆ หนูก้อมาช่วยอาน้อน ต่อยหมาป่าตะเด็นเยย” หนูด้วงเล่าต่อทั้งที่ปลาหมึกเต็มปาก

“อ๋อ แค่ฝันเนอะ” พญายิ้มแหยๆ ก่อนจะกระดกไวน์เข้าปากเพราะรู้สึกทำตัวไม่ถูก ต่างจากเทียมฟ้าที่เอาแต่ยิ้มและนั่งก้มหน้าแกะปูแบบงกๆ เงิ่นๆ  พญาเห็นก็ทนไม่ได้แย่งปูในมือของเทียมฟ้ามาแกะให้

“ได้ข่าวว่าพรุ่งนี้ลุงจะเรียกพ่อค้าแม่ค้าในตลาดมาประชุมเหรอ เห็นพี่บ่าวมาบอกว่ามีการปฏิรูปตลาด” นับตังค์ถามพญาหลังจากที่ ‘ขมิ้น’ ซึ่งเป็นผู้ช่วยเชฟมาเล่าให้ฟัง

“ฝีมือคุณชายของน้องตัง ถามเขาดูสิ” พญาโบ้ยไปที่เทียมฟ้า

“ครับ น้องมาช่วยทำให้เป็นระบบก่อนที่จะต้องกลับ” พอได้ยินคำว่ากลับจากเทียมฟ้าพญาก็ชะงักไป

“คุณโชคดีนะที่ได้คนเก่งๆ มาช่วยงาน” มีคุณพูดกับพญา เขาพอจะรู้มาว่าเทียมฟ้าเรียนเก่งแต่ยังไม่ยอมไปทำงานที่ไหน การที่เลือกมาเริ่มงานบนเกาะเล็กๆ ก็ถือว่าเป็นโชคดีของพญา

“ยังไม่ต้องรีบชมหรอก จะช่วยตลอดรอดฝั่งหรือเปล่าก็ไม่รู้ ที่เกาะมันไม่ได้สบายเท่าเมืองกรุงขี้คร้านจะหนีกลับ” พญาค่อนขอด

“น้องจะอยู่จนกว่าพี่จะไล่กลับ ไม่หนีไปไหนง่ายๆ หรอกครับ” เทียมฟ้าแบ่งเนื้อปูที่พญาแกะให้ไปวางในจานของหนูด้วง

“ก็ดี” พญายักไหล่ก่อนจะหยิบปูมาแกะให้เทียมฟ้าอีก ซึ่งการกระทำของทั้งสองคนอยู่ในสายตาของนับตังค์ มีคุณและไอ้ก้านตลอด

ไอ้ก้านแอบเห็นว่านายของมันอารมณ์ดีและเริ่มนึกถึงการมีชีวิตที่ดีขึ้นอีกครั้ง ปกตินายไม่เคยยอมแกะปูให้ใครแบบนี้มาก่อนเลย นายไม่ชอบให้มือเปื้อนและเหม็นคาว เพราะฉะนั้นมันหมายถึงสิ่งดีๆ กำลังจะเกิดขึ้น  ก้านได้แต่หวังว่าคุณชายน้องจะทำให้นายของมันยิ้มได้แบบนี้ตลอดไป นายของมันเชื่อใจคนยากและไม่เคยคิดว่าจะมีใครมาจริงใจด้วย พอมีคุณตังเข้ามานายพญาก็เริ่มจะเปิดใจของตัวเองแต่สุดท้ายก็ต้องเจ็บปวดเพราะว่าคุณตังมีคนที่รักแล้ว ไอ้ก้านคิดว่านายพญาคงจะก่อกำแพงสูงกว่าเดิมเพราะไม่อยากต้องเจ็บปวดอีก จนกระทั่งได้เจอกับคุณชายน้อง ความหวังที่จะทำให้นายของไอ้ก้านยิ้มได้จึงเกิดขึ้นอีกครั้ง ยังมีอีกสิ่งหนึ่งที่ไอ้ก้านเฝ้าภาวนานั่นคือการขอให้คุณชายน้องมีความอดทนมากพอที่จะรอให้กำแพงในใจของนายพญาพังทลายลง

“ว่าแต่วันนี้ไม่เมาเรือแล้วเหรอคุณชาย” มีคุณถามเทียมฟ้า

“ได้ยาดี” นับตังค์เป็นฝ่ายตอบแทน พญาแทบจะสำลักไวน์อีกรอบ

“หนูตวดอาน้อนให้แย้ว อาน้อนหายแย้ว ไม่ต้อนกินยา” หนูด้วงสงสารเทียมฟ้าเพราะรู้ว่ายามันขม

“คุณหมอด้วงเก่งที่สุด” เทียมฟ้าชมหนูด้วงเพราะหนูด้วงช่วยเปลี่ยนเรื่องให้ หากโดนแซ็วบ่อยๆ เทียมฟ้าเกรงว่าตัวเองจะหุบยิ้มไม่ได้แล้วอาจจะทำให้พญาต่อว่าได้อีกว่าเป็นคนบ้ายิ้มได้ทั้งวัน

“ถ้าอย่างนั้นให้คุณชายน้องลงไปนอนในห้องกับนับตังค์และหนูด้วงก็ได้ เดี๋ยวพี่ออกมานอนที่โซฟาให้เอง วันนี้อากาศเย็น นอนบนดาดฟ้าจะป่วยเอาได้” มีคุณเสนอ

“ได้ไง ห้องนั้นเอาไว้ให้คู่แต่งงาน ไม่ต้องเปลี่ยนแปลงเลย นอนแบบเมื่อวานดีแล้ว” พญารีบแย้งทันที มีคุณหันไปสบตากับนับตังค์ก่อนจะหัวเราะออกมา

“ก็ได้ก็ได้ นอนแบบเดิมก็ได้ ทำไมต้องทำท่าตกใจแบบนั้นด้วยล่ะลุง” นับตังค์พูดแล้วก็หัวเราะอีก

“พี่แค่ไม่อยากให้ใครไปขัดความสุขของน้องตังต่างหาก” พญารีบแก้ตัวก่อนจะกระดกไวน์แก้เก้อ

“หนูง่วนแย้ว” พอท้องอิ่มเข้าหนังตาก็หย่อนจนได้ หนูด้วงเริ่มขยี้หูขยี้ตาแล้วโผไปหานับตังค์

“อิ่มแล้วเหมือนกัน งั้นแยกย้ายกันไปนอนดีกว่า” นับตังค์เองก็รู้สึกเพลียเพราะว่าวันนี้ลงไปดำน้ำนานพอสมควร

“ฝันดีนะครับพี่ตังพี่คุณ ฝันดีนะคุณหมอด้วง” เทียมฟ้าลูบที่ผมของหนูด้วงก่อนจะลุกขึ้นเตรียมเก็บของกินที่เหลืออยู่

“เดี๋ยวไอ้ก้านเก็บเองครับ นายกับคุณชายลงไปรอข้างล่างกันก่อนเถอะครับ” ก้านรีบมาแย่งเก็บจานชามในมือของเทียมฟ้า

พญาปล่อยให้ไอ้ก้านจัดการทุกอย่างส่วนตัวเองขอแยกตัวไปสูบบุหรี่ เทียมฟ้าลงไปสวมเสื้อให้หนาขึ้นเพราะรู้สึกว่าคืนนี้มันหนาวเย็นกว่าเมื่อวาน ไม่นานไอ้ก้านก็มาตามบอกว่าทำความสะอาดให้เรียบร้อยแล้ว เมื่อเทียมฟ้าขึ้นไปด้านบนก็เห็นว่าพื้นดาดฟ้ากลับมาสะอาดสะอ้านเหมือนเดิม แต่ที่แตกต่างจากเมื่อวานคือมีเตนท์นอนขนาดพอนอนกันสองคนถูกกางอยู่กลางดาดฟ้าเรือ ด้านในมีฟูกนอนหมอนผ้าห่มวางให้เสร็จสรรพ เทียมฟ้ามุดเข้าไปในเตนท์แล้วรู้สึกว่าที่นอนมันดูเล็กกว่าเมื่อวาน หากนอนกันสองคนก็ต้องนอนชิดกันชนิดที่หายใจรดต้นคอเลย

“เป็นอะไร” พญากลับขึ้นมาแล้วเห็นว่าเทียมฟ้าออกมายืนมองเตนท์นอนอยู่อย่างชั่งใจ

“น้องว่ามันแคบไป เดี๋ยวพี่นอนไม่สบาย น้องลงไปนอนข้างล่างก็ได้ครับ”

“ลองเข้าไปก่อน” พญามองไปที่เตนท์แล้วก็เห็นว่าขนาดมันไม่ได้เล็กอะไรขนาดนั้นแต่พอเข้ามานั่งในเตนท์กับเทียมฟ้าแล้วพญาก็รู้ทันทีว่าไอ้ก้านคงจัดการให้ขนาดของที่นอนมันเล็กลงแน่ๆ

“เห็นไหมว่ามันเล็ก”

“กูนอนได้ มึงทนไม่ได้ก็ลงไป” พญาทำเป็นไม่สนใจแล้วเอนตัวลงนอน

“ครับ” เทียมฟ้าทำท่าจะคลานออกไปจากเตนท์ พญารีบคว้าแขนเอาไว้

“ไหนว่าจะไม่หนีกูไปไหนไง”

“น้องแค่อยากให้พี่นอนสบาย”

“ก็กูบอกว่ากูนอนได้ไง”

เมื่อเทียมฟ้าเห็นว่าพญายังยืนยันว่านอนได้ก็เลยเอนตัวลงนอนข้างๆ พญา จากที่คิดว่าต้องนอนตากลมเหมือนเมื่อคืนเลยสวมเสื้อหนาวทับมาจนหนา เมื่อต้องมานอนเบียดกับพญาจึงรู้สึกว่าเสื้อที่สวมอยู่มันทำให้อึดอัด เทียมฟ้าตัดสินใจลุกขึ้นมาถอดเสื้อตัวนอกออก

“เฮ้ยๆ มึงจะทำอะไร” พญาเห็นเทียมฟ้าถอดเสื้อเลยร้องถาม

“น้องร้อน”

“มึงจะแก้ผ้านอนเหรอ” พญากลืนน้ำลายลงคอเพราะว่าเสื้อตัวในของเทียมฟ้ามันหลุดติดเสื้อตัวนอกออกมาด้วย เผยให้เห็นผิวขาวๆ กับยอดอกสีชมพูอันกระจิ๋วนั่นด้วย

“อ๊ะ!” เทียมฟ้าก้มลงมองก็ตกใจที่เสื้อตัวในหลุดติดออกมาด้วยเลยรีบดึงเสื้อตัวในออกจากเสื้อกันหนาว แต่ยังไม่ทันจะสวมใส่กลับพญาก็ดึงตัวเทียมฟ้าให้ลงมานอนเสียก่อน

“กูไม่ได้จะทำอะไร แค่อยากรู้ว่าหนาวเนื้อห่มเนื้อมันหายหนาวจริงรึเปล่า” พญาเนียนถอดเสื้อของตัวเองออกเหมือนกันก่อนจะสวมกอดเทียมฟ้าเอาไว้ เมื่อผิวที่เปลือยเปล่าได้สัมผัสบดเบียดกันไอร้อนจากร่างกายก็เริ่มสร้างความอบอุ่นให้คนทั้งคู่

“น้องว่า...” เทียมฟ้ารู้สึกเขินจนไม่กล้าสบตาของพญา ถึงพญาจะไม่ได้ทำอะไรมากไปกว่ากอดและถึงจะเปลื้องผ้าแค่ส่วนบนแต่เทียมฟ้าก็นึกเขินอยู่ดี

“เมื่อวานกูช่วยให้มึงหายเมาเรือ วันนี้กูก็ช่วยให้มึงหายหนาว มึงคิดแต่จะชมคุณหมอด้วงคนเดียวรึไง” พญาพูดแทรกขึ้นมาก่อน

“คุณหมอพญาเก่งจังครับ” เทียมฟ้าชมแล้วก็มุดหน้าหลบไปที่อกของพญา ความเย็นจากแก้มของเทียมฟ้าทำเอาพญาสะดุ้งเล็กน้อย ยิ่งเทียมฟ้าแอบระบายยิ้มริมฝีปากของเทียมฟ้าก็ไปสัมผัสกับผิวอกของพญาเต็มๆ

“มึงนอนเฉยๆ ไม่ต้องยิ้ม ยิ้มมากๆ เดี๋ยวมึงได้ร้องไห้” พญาบ่นอุบเพราะร่างกายมันชักมีปฏิกิริยาตอบสนองต่อสัมผัสที่ไม่ได้ตั้งใจของเทียมฟ้า

“ก็น้องหุบยิ้มไม่ได้นี่ครับ” เทียมฟ้านึกว่าพญาหงุดหงิดที่เทียมฟ้ายิ้มเลยเงยหน้าไปเถียง

“เฮ้อ มึงนี่นะ เถียงเก่งจริงๆ มา..กูจะช่วยให้มึงหุบยิ้มเอง” พญายิ้มอย่างอ่อนใจก่อนตะแคงตัวมาแล้วกลืนกินรอยยิ้มของเทียมฟ้าด้วยริมฝีปากของตัวเอง

พญาก็ไม่อยากจะยอมรับหรอกว่าชักจะเริ่มติดใจริมฝีปากนุ่มๆ ของคุณชายน้องเข้าให้แล้ว แต่มันหวานละมุนจนทำให้พญาอยากจะชิมบ่อยๆ โดยไม่รู้ตัว มารู้อีกทีก็ละสายตาจากริมฝีปากนี้ไม่ได้ ซ้ำยังห้ามตัวเองที่จะไม่จูบปากที่ชอบเถียงฉอดๆ นี้ไม่ได้เหมือนกัน ปกติถ้าลองได้จูบใครแล้วพญาไม่เคยหยุดอยู่แค่นั้น พญาไม่เคยหักห้ามความต้องการของตัวเองเพราะมองว่าการมีเพศสัมพันธ์อย่างง่ายดายไม่ใช่เรื่องผิด มันแค่ก็ธรรมชาติของสิ่งมีชีวิตที่จะปลดปล่อยและตอบสนองความสุขสมให้กับตัวเอง ถ้าต่างฝ่ายต่างสมยอมและป้องกันให้ดีก็ไม่มีอะไรเสียหาย แต่กับหม่อมราชวงศ์เทียมฟ้าแล้วพญาไม่กล้าทำอะไรที่มากไปกว่าจูบ ซึ่งพญายังตอบไม่ได้ว่าตัวเองกำลังกังวลเรื่องอะไร กลัวว่าจะโดนบิดาตำหนิที่อาจหาญไปเด็ดดอกฟ้า หรือกลัวว่าคนที่ตัวเองจูบอยู่ในตอนนี้อาจจะเป็นแค่คนที่ผ่านเข้ามาเพื่อลาจากกันไปในสักวัน

 
โปรดติดตามตอนต่อไป


สวัสดีปีใหม่ล่วงหน้าค่ะท่านผู้อ่าน ขอให้ทุกท่านได้พบเจอแต่สิ่งดีๆ และมีความสุขสมหวังในสิ่งที่ปรารถนานะคะ ขอบคุณที่ติดตามและแวะเวียนมาส่งกำลังใจให้เสมอมา อยู่ด้วยกันไปอีกหลายๆ ปีเลยเนอะ รักๆๆ

 :mc1:


[ทางไปเพจ Loverouter จิ้มเลย]
[ทางไปทวิต Loverouter จิ้มเลย]
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 29-12-2017 21:56:00 โดย Loverouter »

ออฟไลน์ ❣☾月亮☽❣

  • เป็ดApollo
  • *
  • กระทู้: 6774
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +264/-6
พี่พญานี่ยังไงน้อ ปากแข็งจริงๆ
แบบนี้ต้องบดปากบ่อยๆ
สวัสดีปีใหม่ล่วงหน้าค่ะ
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 06-01-2018 10:53:24 โดย ❣☾月亮☽❣ »

ออฟไลน์ Freja

  • เป็ดHermes
  • *
  • กระทู้: 2394
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +145/-4
หมั่นไส้คนปากหนักค่ะ 

ออฟไลน์ windy49

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 18
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +2/-0
เซ็ง ลุงพญาปากแข็ง :hao3:

ออฟไลน์ diltosscap

  • เป็ดมหาวิทยาลัย
  • *
  • กระทู้: 533
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +25/-1
ลุงญาของหนูด้วงเนียนมาก ทีมคุณชาย น้องน่ารัก

ออฟไลน์ titansyui

  • เป็ดHermes
  • *
  • กระทู้: 2386
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +119/-0

ออฟไลน์ B52

  • เป็ดZeus
  • *
  • กระทู้: 13216
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +420/-26
อจ่าทำให้คุณชายน้องเสียใจบ่อยๆสิ

ออฟไลน์ MmBb

  • เป็ดมัธยม
  • *
  • กระทู้: 180
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +4/-0
เป็นความผูกพันแบบค่อยเป็นค่อยไป ชอบจริงๆเลยค่ะ อีกสักพักลุงพญาเองนั่นแหละที่จะเป็นฝ่ายตามน้องล่ะทีนี้

 

สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด


สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด