-ปลดล็อกให้ความรัก- ตัวอย่างตอนพิเศษ หนูด้วงรีวิว สารบัญหน้าแรกค่ะ 15/12/61
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด

สนใจโฆษณาติดต่อ laopedcenter[at]hotmail.com คลิ๊กรายละเอียดที่ตำแหน่งว่างเลยครับ

สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด

ผู้เขียน หัวข้อ: -ปลดล็อกให้ความรัก- ตัวอย่างตอนพิเศษ หนูด้วงรีวิว สารบัญหน้าแรกค่ะ 15/12/61  (อ่าน 116435 ครั้ง)

ออฟไลน์ artit

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 381
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +12/-0

ออฟไลน์ beerby-witch

  • เป็ดมหาวิทยาลัย
  • *
  • กระทู้: 565
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +9/-2
เริ่มหวานกันแล้ว และกนูด้วงยังน่ารักเหมือนเดิม งืออออออ

ออฟไลน์ Readyaoi

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 212
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +3/-1
ความปมมม ขอให้ความรักทั้งคู่สมหวัง
คู่อื่นๆด้วยนะ

ออฟไลน์ colorofthewind21

  • เป็ดDemeter
  • *
  • กระทู้: 1645
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +31/-1
ขอให้หวานแบบนี้ตลอดไปปปปป อย่ามีเรื่องเข้ามาเลย

ออฟไลน์ labelle

  • เป็ดAres
  • *
  • กระทู้: 2664
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +81/-0
ใจบางไปอีกค่ะ เอาใจมาแลกใจนะคะคุณชายน้อง
พี่อยากจะให้แทบแย่ แต่รักษาฟอร์มนิดนึง

คุณชายน้องได้ใจพี่พญามากค่ะ
พี่ยอมน้องมาก หวงน้องมาก ห่วงน้องด้วย

หนูด้วงน่ารักมาก เด็กน้อยอะนะ
ตอนจะซื่อก็ซื่อซะ ถามมาทีคือมีเงิบ

โอบอุ้มเป็นเด็กดี น้องโตมาแบบมีคุณภาพจริงๆ

สงสารตวงนะ ไม่ผิดที่รัก แต่ผิดที่มาเจอคนที่มีคู่แข่งน่ากลัว

ออฟไลน์ Loverouter

  • เป็ดมหาวิทยาลัย
  • *
  • กระทู้: 446
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +471/-12
กุญแจดอกที่ 9


หลังจากที่ก้านไปส่งนายพญาและคณะที่สนามบินเป็นที่เรียบร้อยแล้วมันก็แวะไปธนาคารเพื่อเบิกเงินเอาไว้จัดการเรื่องต่างๆ ที่นายพญาสั่งเอาไว้ อันที่จริงนายพญาก็ชวนให้มันไปเที่ยวที่กรุงเทพด้วยกันแต่มันปฏิเสธเพราะไม่มีใครคอยอยู่ดูแลที่เกาะ ไหนจะต้องคุมคนงานที่มาต่อเติมสำนักงานให้นาย ไหนจะคอยสอดส่องพวกคนที่จ้องจะเข้ามาเอาผลประโยชน์บนเกาะใบไม้คราม อีกอย่างหนึ่งคือก้านอยากใช้เวลาช่วงปิดเกาะได้อยู่กับแม่และน้องของมันบ้าง

“พี่ก้าน คนอื่นเขาได้พักกันพี่ยังต้องมาทำงานอีกเหรอ” ก้อนถามพี่ชายหลังจากเสร็จธุระจากธนาคารแล้ว วันนี้พี่ชายของก้อนพาก้อนมาในตัวเมืองเพื่อซื้อของใช้กลับไปให้แม่ด้วย

“มันก็ไม่ได้หนักหนาอะไร เงินเดือนนายพญาก็ให้ตามปกติแล้วจะให้งอมืองอเท้ารับเงินมาเฉยๆ เหรอ” ก้านหันไปถามน้อง

“แต่ใครๆ เขาก็หยุดกัน ผมเห็นมีแต่พี่ที่ทุ่มเทจนไม่มีเวลาให้กับอย่างอื่น”

“ก้อน กูไม่รู้ว่ามึงไปเอาความเห็นแก่ตัวมาจากไหนนะ แต่จำเอาไว้ว่าถ้าไม่มีนายพญาเราทั้งครอบครัวไม่ได้สุขสบายอย่างวันนี้หรอก กูอาจจะต้องไปอยู่ในคุก มึงกับแม่อาจจะลำบากมากกว่านี้ มึงควรพอใจในสิ่งที่มีอยู่สิวะก้อน” ก้านถอนหายใจเพราะไม่รู้ว่าจะสั่งสอนยังไงให้น้องชายพอใจในสิ่งที่มีอยู่ในปัจจุบัน

“ผมก็รู้ว่านายของพี่มีบุญคุณกับครอบครัวของเรา ผมแค่มองในมุมของคนที่เป็นน้อง เห็นพี่ชายทำงานหนักแต่ได้เงินไม่คุ้มค่าแรงก็อดห่วงพี่ไม่ได้ อย่างวันหยุดช่วงปิดเกาะ แทนที่พี่จะได้พาแม่ไปเปิดหูเปิดตาอย่างคนอื่นบ้างแต่พี่ก็ต้องมาทำงานแทนนายของพี่ที่หนีไปเที่ยวแล้ว”

“เขาไม่ได้หนีเที่ยว เขามีสิทธิ์จะไป แล้วมึงไปเอามาจากไหนที่ว่ากูได้เงินน้อย” ก้านหันมาถามน้องชายด้วยสีหน้าจริงจังเมื่อเห็นว่าน้องชายพูดเรื่องนี้บ่อยเกินไป

“ก็พี่ได้ถึงห้าหมื่นไหมล่ะ พี่จวบยังได้ตั้งห้าหมื่น” ก้อนเปรียบเทียบเงินเดือนของจวบซึ่งเป็นพี่ชายของเพื่อนสนิทให้ก้านฟัง

“นี่มึงยังไปยุ่งกับพวกไอ้จวบอีกเหรอ กูบอกมึงแล้วใช่ไหมว่าไม่ให้ไปยุ่ง”

“ผมไม่ได้ไปยุ่งอะไร ก็แค่ฟังไอ้เจนมันเล่าให้ฟัง ชีวิตความเป็นอยู่ของมันก็ดีขึ้นมากเลยนะพี่ก้าน”

“มึงอยากให้กูไปส่งยาเสพติดเหรอไอ้ก้อน มึงอยากให้พี่ชายของมึงเป็นคนเลวเพื่อให้มึงสบายใช่ไหม มึงบอกกูมาจากใจสิว่ามึงยอมรับได้ถ้ากูจะโดนตำรวจยิงตายหรือโดนจับติดคุกตลอดชีวิต ถ้ามึงบอกว่ามึงรับได้กูจะลาออกไปทำงานให้นายหัวสุริยาวันนี้เลย” ก้านจ้องตาน้องชายของตัวเอง ไอ้ก้อนนิ่งอึ้งไปก่อนจะส่ายหน้า

“นายหัวสุริยาอาจจะไม่ได้ให้พี่ทำงานแบบนั้นก็ได้”

“นายหัวสุริยาไม่ใช่คนใจกว้างที่จะให้เงินใครเยอะๆ โดยไม่หวังสิ่งตอบแทนหรอกก้อน เขาเสนองานมาเพราะอยากให้กูช่วยส่งยาให้กับคนในเกาะ มึงอยากให้ญาติพี่น้องลูกหลานหรือคนคุ้นเคยของเราติดยาเหรอวะไอ้ก้อน ตอนนี้มึงมีบ้านอยู่ กินอิ่มนอนหลับ มีเงินรักษาโรค มันไม่พอเหรอวะ ถ้ามึงอยากมีเงินมากๆ ก็มาทำงาน เพราะมันไม่มีอะไรได้มาง่ายๆ และไม่มีใครให้อะไรมึงง่ายๆ เหมือนกัน ที่กูรักนายพญาไม่ใช่เพราะว่าเขามีบุญคุณกับกูอย่างเดียว แต่เขาให้ใจกู เขาไม่ยอมให้กูไปติดคุก ไม่ให้กูทำงานสกปรกเพราะกลัวว่าแม่ของเราจะลำบาก เขาเป็นห่วงกูมากกว่าคนที่เป็นน้องของกูอย่างมึงเสียอีก มึงไปคิดเอาเองนะว่ากูควรทำงานให้กับใคร” ก้านพูดออกไปแล้วก็ได้แต่หวังว่าคนที่เป็นน้องจะเข้าใจ

“ผมขอโทษ ผมมันเห็นแก่ตัวจริงๆ” ก้อนคอตกเมื่อทบทวนแล้วว่าตัวเองเห็นแก่เงินจนลืมนึกถึงความปลอดภัยของพี่ชายคนเดียวที่ดูแลมันราวกับเป็นพ่อคนที่สอง

“มึงมาช่วยนายพญาทำงานไหม มึงจะได้เห็นเองว่านายพญาเป็นคนยังไง”

“ก็ได้พี่ ผมจะมาช่วยงานพี่”

“กูดีใจนะที่มึงยังฟังกูบ้าง” ก้านตบบ่าน้องชาย

“พี่ก้านระวัง!” ก้อนผลักก้านให้ล้มลงเมื่อเห็นว่ามีใครบางคนเล็งปืนมาที่พี่ชายของตัวเอง

เสียงปืนดังขึ้นหนึ่งนัดก่อนจะได้ยินเสียงกรีดร้องจากผู้คนในบริเวณนั้น ก้านเห็นเลือดซึมออกมาจากไหล่ของก้อนก็รีบดึงน้องชายให้เข้ามาหลบที่แผงขายของที่ใกล้ที่สุดก่อนจะชะโงกหน้าไปดู คนร้ายที่สวมหมวกคลุมปิดบังใบหน้ากำลังเดินตรงมาที่มัน ก้านหยิบปืนพกขึ้นมาเตรียมรับมือแต่คนร้ายได้ยินเสียงรถตำรวจดังขึ้นมาก่อนมันจึงชะงักแล้ววิ่งหนีไปทางอื่น

“ทนหน่อย กูจะพามึงไปโรงพยาบาล” ก้านหันมาพูดกับน้องชาย

“ไม่เป็นไรพี่ แค่ถากๆ ใครมันคิดฆ่าพี่” ก้อนกุมแผลของตัวเองที่เริ่มปวดหนึบ ถึงจะเจ็บแต่ก้อนก็โล่งใจเพราะถ้าผลักพี่ชายของตัวเองให้ล้มลงจนพ้นวิถีกระสุนไม่ทันพี่ก้านคงโดนลูกปืนเข้าเต็มแผ่นหลังแน่

“กูไม่รู้ มึงไปโรงพยาบาลก่อนดีกว่า” ก้านประคองน้องชายขึ้นมา

“พี่ต้องระวังตัวด้วยนะ ผมกลัวว่ามันยังอยู่แถวนี้”

“ขอบใจมากนะก้อน มึงต้องมาเจ็บเพราะกู พวกไอ้หนอมกำลังมาแล้วไม่ต้องห่วง”

“ผมตายแทนพี่ได้นะพี่ก้าน”

“กูไม่ยอมให้มึงตายหรอกก้อน” ก้านซึ้งใจที่ได้รับรู้ว่าน้องชายเป็นห่วงตัวเองมากแค่ไหนแต่อีกใจก็กำลังโกรธแค้นคนที่ทำให้น้องชายของตัวเองต้องเจ็บ

ไม่นานตำรวจก็เข้ามาตรวจดูเหตุการณ์และพาก้อนขึ้นรถเพื่อไปส่งที่โรงพยาบาลก่อน ส่วนก้านเมื่อให้ปากคำกับตำรวจเรียบร้อยแล้วก็ตามไปดูน้องชายของตัวเอง ก้านคิดว่าคนที่ลอบทำร้ายมันไม่น่าจะเป็นพวกของนายหัวสุริยาเพราะต่อให้ตั้งตัวเป็นศัตรูกันอย่างไรนายหัวสุริยาก็ไม่กล้าที่ทำรุนแรงขนาดนี้ อย่างที่นายพญาโดนลอบยิงคราวก่อนก็เป็นฝีมือของนักเลงต่างถิ่นที่อยากลองดีกับนายพญาแต่ตอนนี้พวกมันก็ได้รับการสั่งสอนเป็นที่เรียบร้อยแล้ว พวกมันไม่น่าจะกล้ากลับมาเล่นงานนายพญาอีก ก้านนึกไม่ออกว่าใครกันที่บ้าบิ่นพกอาวุธเข้ามายิงคนในตัวเมืองที่มีคนเยอะๆ แบบนี้ ก้านไม่แน่ใจว่าคนที่มาลอบทำร้ายตั้งใจทำร้ายมันหรือตั้งใจจะมาทำร้ายนายพญาเพราะลำพังมันไม่ได้มีศัตรูที่ไหน โชคดีที่เหตุการณ์นี้เกิดขึ้นตอนนายพญาเดินทางไปแล้วแต่โชคร้ายที่มันดันพาน้องชายมาด้วยในวันนี้ ก้านสั่งห้ามลูกน้องไม่ให้โทรไปรายงานนายพญาเพราะไม่อยากให้นายพญาต้องเป็นกังวล มันจะต้องสืบให้ได้ความและจัดการทุกอย่างให้เรียบร้อยก่อนที่นายพญาและนายน้อยจะกลับมาที่เกาะ

...

นายหัวสุริยาหัวเสียเมื่อได้รับรายงานจากลูกน้องว่าไอ้ก้านโดนลอบทำร้าย เมื่อวางสายจากลูกน้องแล้วก็รีบต่อโทรศัพท์ไปหาหุ้นส่วนคนสำคัญที่นายหัวคิดว่าเป็นคนสั่งการเรื่องที่เกิดขึ้นในวันนี้

“คุณคิม ผมบอกคุณแล้วใช่ไหมว่าอย่าทำอะไรวู่วาม ผมรู้นะว่าเป็นฝีมือของคุณที่ไปทำร้ายคนของไอ้พญา”

“มัวแต่รอคุณธุรกิจของเราเลยไปไม่ถึงไหนเสียที คุณจะกลัวมันทำไม มันก็แค่ลูกน้องตัวกระจอก ตายไปสักคนเจ้านายมันจะได้รู้ว่าควรทำตัวยังไง”

“ที่นี่ไม่ใช่ประเทศของคุณที่คิดจะทำตัวเป็นมาเฟียยิงใครตามอำเภอใจได้หรอกนะคุณคิม ตระกูลภูมิเทพมันไม่ได้มีแค่เงิน พวกมันมีอิทธิพลมากกว่าที่คุณคิด ถ้าคุณอยากให้มันมาเป็นคู่ค้าของเราแต่ไปทำร้ายคนของมันแบบนี้ นอกจากมันจะไม่ร่วมมือ ดีไม่ดีเราจะพังเอาง่ายๆ ถ้าคุณยังคิดทำอะไรเอาแต่ใจผมขอถอนตัวดีกว่า” เมื่อนายหัวสุริยาเห็นว่าปลายสายไม่มีท่าทีร้อนใจและยังอวดเก่งเลยนึกหงุดหงิด เขาไม่อยากให้ชีวิตของตัวเองต้องมาพังเอาตอนแก่ ถ้าหุ้นส่วนชาวเกาหลียังทำตัวกร่างแบบนี้นายหัวสุริยาเห็นว่าคงไปกันไม่ได้แน่จึงขู่กลับ

“เอาเป็นว่าผมขอโทษก็แล้วกัน ต่อไปจะระวังตัวให้มากกว่านี้ แต่คุณก็อย่าช้าให้มันมากนัก นายใหญ่ของผมเขาใจร้อนกว่าผมเยอะ ถ้าเขาเกิดร้อนจนทนไม่ได้คุณคงรู้นะว่าคุณจะลำบากยังไง”

“ไม่ต้องมาขู่ผมหรอก ถ้าไม่มีผมพวกคุณก็ลำบากเหมือนกัน แค่นี้ก่อนนะ” นายหัวสุริยาวางสายด้วยความไม่พอใจที่โดนอีกฝ่ายข่มขู่แต่พอหันมาเห็นลูกชายยืนฟังอยู่ก็ตกใจเพราะคิดว่าตะวันนอนหลับอยู่

“พ่อ...พ่อคิดทำร้ายพี่พญาใช่ไหม แบบนี้ใช่ไหมพี่พญาถึงไม่ได้ยอมมาหาตวง” ตะวันเห็นพ่อออกมาคุยโทรศัพท์ที่ระเบียงห้องพักด้วยสีหน้าเคร่งเครียดจึงเดินมาแอบฟัง เมื่อได้ยินว่าคนของพญาโดนทำร้ายจึงเขย่าแขนบิดาเพื่อคาดคั้นเอาความจริง

“พ่อไม่ได้ทำอะไรเลย มันไม่มาหาแกเอง อย่ามาโทษพ่อ” นายหัวสุริยาที่หงุดหงิดอยู่เป็นทุนเดิมเมื่อโดนลูกชายคนเดียวต่อว่าจึงหมดความอดทน

“ไม่จริง พี่พญามาหาตวงทุกครั้งแต่พ่อก็ชอบทำให้พี่เขาไม่พอใจ พ่อช่วยชีวิตตวงทำไม ทำไมไม่ปล่อยให้ตวงตายจะได้ไม่ต้องทรมาน ให้ตวงตื่นมาหายใจแต่ก็ทำให้ตายทั้งเป็น พ่อทำแบบนี้กับตวงทำไม” ตะวันฟูมฟายด้วยความเสียใจ

“แกรู้ไหมว่ามันมีคนอื่นแล้ว มันมีความสุขบนความทุกข์ของแก ยังจะรักมันอีกเหรอ”

“ไม่จริง”

“จริง มันเปิดตัวให้ใครต่อใครรู้ มีแต่แกคนเดียวที่ไม่ยอมรับรู้อะไร”

“ไม่จริง ตวงเกลียดพ่อ ออกไป ตวงไม่อยากได้ยิน” ตะวันปิดหูและร้องไห้จนตัวสั่นเทา

“ไอ้จวบ! มึงพาคุณตวงไปนอนแล้วเฝ้าให้ดี ถ้าอาละวาดก็ให้หมอมาฉีดยานอนหลับจะได้ไม่บ้าบอถึงคนที่ไม่รักมันสักนิด” นายหัวสุริยาสั่งลูกน้องก่อนจะเดินออกจากห้องพักไปด้วยความโกรธ

“ครับนาย” จวบรับคำแล้วรีบเข้าไปประคองตะวันกลับเข้ามาในห้อง

“ไม่ ตวงจะไปหาพี่พญา ปล่อยกู ปล่อย” ตะวันพยายามดิ้นรนจนจวบแทบเอาไม่อยู่ พญาบาลเห็นท่าไม่ดีก็รีบเข้ามาช่วยจวบจับตัวตะวันแล้วพาไปนอนก่อนจะฉีดยาเพื่อระงับอาการคุ้มคลั่งของตะวัน ไม่นานตะวันก็หมดแรงแล้วหลับไปเพราะฤทธิ์ของยา

จวบได้แต่ส่ายหน้าแล้วก็ถอนหายใจที่ตะวันหมดฤทธิ์เสียได้ มันไม่เข้าใจนายหัวสุริยาสักเท่าไหร่ ต่อให้ไอ้พญามันไม่ยอมร่วมมือทำธุรกิจมืดด้วยก็ตามแต่การให้คุณตวงได้คบหากับไอ้พญาก็ถือได้ว่าคุณตวงจะสบายไปทั้งชีวิต ทำไมถึงต้องเลือกทำให้ลูกของตัวเองต้องเสียใจ อันที่จริงต่อให้นายหัวสุริยาไม่ไปยุ่งเกี่ยวกับคุณคิม ธุรกิจส่วนตัวของนายหัวก็อยู่ได้อย่างสบาย มันเองไม่ได้อยากจะทำงานสกปรกแต่เพื่อปากท้องของครอบครัวมันจึงจำต้องทำ คนที่เกิดมาเป็นได้แค่ลูกน้องอย่างมันคงเลือกอะไรมากไม่ได้ คงได้แต่ทำตามคำสั่งทั้งที่ไม่เข้าใจแบบนี้ต่อไปเท่านั้นเอง 

..

หลังจากลงเครื่องแล้วพญา เทียมฟ้าและโอบอุ้มก็ต้องแยกกับคณะของนับตังค์ หนูด้วงทำหน้าอาลัยอาวรณ์เมื่อรู้ตัวว่าต้องแยกกับเพื่อนใหม่อย่างพี่โอบอุ้ม จนพญาสัญญาว่าจะไปรับมาเที่ยวด้วยกันหนูด้วงถึงได้ยิ้มออกและให้พี่โอบอุ้มยืมน้องด้าวไปนอนกับพี่โอบอุ้มด้วย 

ทีแรกหม่อมเจ้าหญิงวิรงรองจะส่งรถมารอรับนัดดาและพญาที่สนามบินแต่เทียมฟ้าปฏิเสธเพราะว่าอยากจะพาพญากับโอบอุ้มขึ้นรถไฟฟ้ากลับเอง พญาไม่ได้ขัดใจทั้งที่ไม่ชอบไปเบียดเสียดกับผู้คนสักเท่าไหร่แต่ก็ไม่อยากให้เจ้ากระต่ายเสียน้ำใจที่อุตส่าห์นั่งบรรยายแผนการพาเที่ยวให้อย่างออกรสตั้งแต่ขึ้นเครื่องยันลงเครื่องเลยทีเดียว

ทั้งสามคนนั่งรถแท็กซี่จากสนามบินไปลงตรงจุดที่มีรถไฟฟ้า เมื่อเทียมฟ้าพาพญากับโอบอุ้มเข้ามาในรถไฟฟ้าแล้วก็ยิ้มแห้งๆ ให้พญาเพราะรู้ดีว่าพญาไม่ชอบคนเยอะๆ ส่วนโอบอุ้มเคยชินกับการโดยสารรถสาธารณะแล้วเมื่อเข้ามาในรถไฟฟ้าก็เดินหาที่เหมาะเจาะกับตัวเองพร้อมกับหยิบหูฟังมาใส่แล้วเปิดเพลงฟังด้วยความสบายใจ ผิดกับพญาที่กำลังทำหน้าเครียดเล็กน้อยที่ถูกผู้คนเบียดเสียดเข้ามาจนหายใจแทบไม่ออก เทียมฟ้าไม่คิดว่าคนจะเยอะขนาดนี้ พยายามจะกันคนไม่ให้เข้ามาเบียดพญาทั้งที่ตัวเองก็ตัวเล็กนิดเดียว จนกระทั่งรถไฟฟ้ามาถึงสถานีที่มีคนเข้ามาใช้บริการเยอะมากกว่าเดิม คราวนี้เทียมฟ้าแทบจมหายไปกับผู้คน

“ขอบคุณครับ” เทียมฟ้ากล่าวขอบคุณและยิ้มกว้างเมื่อพญาดึงให้มายืนพิงประตูรถไฟฟ้าอีกฝั่งพร้อมกับเอาแขนทั้งสองข้างคร่อมตัวเทียมฟ้าเอาไว้เพื่อไม่ให้ใครมาเบียด เมื่อรถเคลื่อนตัวเทียมฟ้าก็เกาะที่เอวของพญาเพื่อช่วยไม่ให้อีกฝ่ายเสียการทรงตัวเหมือนกัน

“มึงพากูมาขึ้นรถไฟฟ้าเพราะอยากให้กูโอบมึงแบบนี้ละสิ” พญาก้มลงไปกระซิบใกล้ๆ หูของเทียมฟ้า

“เปล่าสักหน่อย น้องแค่อยากให้พี่ได้เห็นอะไรแปลกใหม่”

“กูว่ามึงอยากให้กูโอบกอดมึงมากกว่า”

“ไม่ใช่”

“ใช่แน่ๆ เพราะมึงยิ้มจนปากกว้างไปถึงหัวลำโพงแล้ว”

“ไม่เห็นจะเกี่ยวเลย เมื่อคืนน้องไม่ได้พาพี่ขึ้นรถไฟฟ้าพี่ยังโอบน้องแน่นกว่านี้เลยนะ”

“เถียงเก่ง”

“มีคนแอบมองพี่ด้วย ดูสิ ยิ้มใหญ่เลย” เทียมฟ้าเห็นหญิงสาวสามสี่คนมองมาที่พญาแล้วก็ยิ้ม

“แสดงว่าเขาตาถึง”

“ของน้อง” เทียมฟ้าเปลี่ยนจากการเกาะเอวพญามาโอบเอาไว้แทน อาศัยว่ามีคนเบียดเข้ามาเลยรั้งเอวพญาให้ขยับมาชิดตัวจนใบหน้าของตัวเองซบกับอกของพญาได้

“แนะๆ มาแสดงความเป็นเจ้าของ ขออนุญาตกูยัง” พญายอมรับว่าแปลกใจที่เทียมฟ้าแสดงความรู้สึกออกมาตรงๆ ทั้งที่คนอย่างเทียมฟ้าน่าจะรักษาภาพพจน์ของความเป็นหม่อมราชวงศ์เอาไว้ ขนาดนับตังค์ที่ว่ารักมีคุณมากแต่ต่อหน้าสาธารณชนแบบนี้นับตังค์ไม่มีวันแสดงออกแบบเทียมฟ้าแน่ๆ นี่เป็นอีกข้อที่ทำให้กำแพงในใจของพญาค่อยๆ ถูกทำลายลงโดยที่ไม่ทันรู้ตัว

“ลงสถานีนี้เลยดีกว่าจะได้กินข้าวกันก่อน” เทียมฟ้าตัดสินใจพาพญากับโอบอุ้มลงสถานีที่อยู่ตรงกับทางเข้าห้างสรรพสินค้าพอดี

“แล้วไม่ต้องไปกินกับหม่อมป้าของมึงเหรอ” พญาถามเมื่อเห็นว่าเทียมฟ้าไม่ได้ทำตามแผนที่เล่าให้พญาฟัง

“กินตอนเย็นก็ได้ พี่อยากกินอาหารญี่ปุ่นหรือว่าอยากกินอะไรดีครับ” เทียมฟ้ายังไม่อยากกลับวังเพราะอยากให้พญาคลายความกังวลใจก่อน เทียมฟ้ารู้ดีว่าพญาอึดอัดที่จะต้องไปเจอกับครอบครัวของตัวเองแต่ก็ยังยอมมาด้วย แค่นี้ก็ทำให้เทียมฟ้าดีใจจนไม่รู้จะขอบคุณพญายังไงแล้ว การกระทำของพญามันทำให้เทียมฟ้ารับรู้ได้มากกว่าคำพูดเสียอีก

“เจ้าอุ้ม อยากกินอะไร” พญาคิดไม่ออกเลยหันมาถามโอบอุ้มแทน

“บะหมี่เกี๊ยวครับ” โอบอุ้มตอบไปตามตรง

“แล้วมันจะมีในห้างเหรอวะเจ้าอุ้ม” พญามองไปรอบๆ แล้วก็ขมวดคิ้ว

“อยากกินพี่จัดให้นะ” เทียมฟ้าเห็นว่าโอบอุ้มอยากกินจริงๆ เลยจะพาไปหาร้านบะหมี่เกี๊ยวที่แผนกขายอาหารของห้างแทน

นั่งกินไปได้สักพักพญาอ้างว่าจะไปเข้าห้องน้ำและให้เทียมฟ้ากับโอบอุ้มนั่งกินกันไปก่อน ส่วนเทียมฟ้านึกว่าพญาจะแอบไปสูบบุหรี่จึงยอมรออยู่กับโอบอุ้มทั้งที่ตัวเองก็อยากไปเข้าห้องน้ำเหมือนกัน แต่จริงๆ แล้วพญาคิดว่าไม่ควรไปหาหม่อมเจ้าหญิงวิรงรองมือเปล่าจึงคิดจะเดินหาของฝากไปฝากท่าน แต่พญาก็ไม่อยากให้เทียมฟ้ารู้เดี๋ยวรายนั้นจะเกรงใจและห้ามเขาอีก

พญาเดินวนไปดูกระเป๋าหลายยี่ห้อแต่ก็ไม่เห็นว่ามันจะสวยสักใบและก็ไม่รู้ว่าใบไหนถึงจะเหมาะกับผู้ใหญ่อย่างหม่อมป้าของเทียมฟ้า สุดท้ายก็ตัดสินใจเดินเข้าไปในร้านที่คิดว่าหรูหราที่สุดในห้าง แต่ยังไม่ทันที่พญาจะเอ่ยปากเรียกพนักงานก็ดันไปได้ยินหญิงสาวสองคนพูดคุยกัน พญาไม่ใช่คนยุ่งเรื่องของคนอื่นถ้าเรื่องนั้นไม่มีชื่อคนที่คุ้นเคยอยู่ในบทสนทนาด้วย

“เมื่อกี้เธอว่าใช่คุณชายน้องรึเปล่า ฉันว่าใช่นะ”

“ฉันก็ว่าใช่ สงสัยข่าวที่ลือกันออกมาจะจริงเพราะหน้าตาผิวพรรณดูไม่ขาวผ่องเหมือนแต่ก่อนเลยนะ เหมือนคนไปทำงานหนักมา”

“ฉันก็ไม่อยากจะเชื่อหรอกนะเพราะว่าแต่เดิมตระกูลนั้นเขารวยมาก แต่พ่อกับแม่ฉันก็ยืนยันว่าตอนนี้เหลือแต่เปลือกแล้ว ท่านพ่อของคุณชายน้องทำหนี้สินเอาไว้ก่อนตาย เหลือแต่บริษัทที่ยกให้ลูกๆ แต่ก็ใกล้จะถูกฟ้องยึดทรัพย์แล้วล่ะ แต่พอมาเห็นคุณชายน้องนั่งกินข้าวที่ฟาส์ทฟู๊ดแล้วฉันว่าข่าวคงจะจริง ปกติกินแต่ร้านหรูๆ”

“แม่ฉันก็บอกว่าแม่ของคุณชายน้องก็ไม่ยอมเอาคุณชายน้องไปดูแลเพราะไม่อยากรับผิดชอบเรื่องเงิน น่าสงสารนะ คนเคยมีเงิน”

“คนเคยมีมันจมไม่ลงหรอก ฉันรู้มาว่าท่านหญิงวิกับพี่ชายของคุณชายน้องกำลังผลักดันคุณชายน้องไปให้ท่านชายขิงกับเศรษฐีทางใต้ เป็นเจ้าของโรงแรมอะไรสักอย่างจำไม่ได้แล้ว แต่ไม่ว่าจะได้ลงเอยกับคนไหนก็สบายไปทั้งชาติ ต้องบอกว่าสบายไปทั้งตระกูลมากกว่า”

“แต่ท่านชายขิงเขาดูสาวจะตาย คุณชายน้องคงไม่เอาหรอก รายนั้นไม่ธรรมดานะ เลือกมากจะตาย”

“นั่นสิ ไม่รู้เศรษฐีทางใต้ที่ว่าร่ำรวยจะหน้าเป็นยังไงเนอะเธอ เธอว่าจะแก่ดำอ้วนลงพุงรึเปล่า ถ้าอย่างนั้นคุณชายน้องคงยอมรุกท่านชายขิงแน่เธอ ฮ่าๆ” สองสาวหัวเราะเรื่องที่พูดคุยอย่างสนุกปากโดยไม่ได้สังเกตว่าพญายืนฟังอยู่ตลอด

“ต้องการเลือกดูชิ้นไหนดีคะคุณ” พนักงานสาวเดินเข้ามาถามพญาเมื่อว่างจากการต้อนรับลูกค้าก่อนหน้าเสร็จเรียบร้อยแล้ว

“เอาของที่แพงที่สุดในร้าน” พญาพูดเสียงดังจนสองสาวหยุดการนินทาแล้วหันมามอง

“ได้เลยค่ะ รับสีไหนดีค่ะท่าน” พนักงานรีบกุลีกุจอเข้ามาต้อนรับพญาอย่างดีพร้อมกับเปลี่ยนสรรพนามให้เสร็จสรรพ

“สีไหนก็ได้ รับเงินสดใช่ไหม” พญาปลายตามองสองสาวที่ลอบมองพญาอยู่เช่นกัน

“รับค่ะท่าน ให้ห่อเลยไหมคะ”

“อืม” พญาพยักหน้าให้พนักงานสาวก่อนจะเดินวนไปดูกระเป๋าใบอื่น ในหัวก็คิดไปเรื่อยว่าเรื่องที่หญิงสาวทั้งสองคนนั้นพูดมาจะจริงเท็จแค่ไหน คราวที่ได้เจอหม่อมเจ้าหญิงวิรงรองท่านก็ยังดูดีและไม่มีทีท่าว่าจะอับจนแต่อย่างใด ส่วนเทียมฟ้าเองก็ไม่เห็นว่าจะแสดงอาการเดือดร้อนเรื่องเงินให้เขาเห็นเลยสักนิด มันอาจจะเป็นแค่ข่าวลือที่พวกสังคมชั้นสูงชอบเอามานินทากันแค่นั้น

“ใบนี้ก็สวยนะคะ” หนึ่งในสองสาวช่างนินทาเลียบเคียงมาใกล้พญาก่อนจะทำเป็นแนะนำ

“มันดำ”

“ใบนี้ก็ดีนะคะ สีขาว” หญิงสาวอีกคนรีบเข้ามาแนะนำเมื่อเห็นพญาหยิบเงินสดเป็นปึกออกมานับ

“มันดูแก่”

“ใบนี้ดูทันสมัยนะคะ”

“ไม่เอา ไม่สวย หิ้วแล้วจะดูลงพุง แก่ ดำ ดูลงพุง ไม่ชอบ” พญาตอบกลับพร้อมกับทำหน้านิ่งๆ

“เอ่อ...ดิฉันก็แค่ช่วยแนะนำ ถ้าไม่ชอบก็ต้องขอตัวก่อนนะคะ” หญิงสาวทั้งสองคนหน้าเจื่อนเพราะคิดว่าผู้ชายใจป้ำคนนี้คงได้ยินเรื่องที่เธอซุบซิบกันไว้ เธอไม่เข้าใจว่าอีกฝ่ายจะมาประชดเรื่องที่เธอคุยกันทำไมเพราะมันไม่ได้เกี่ยวกับเขาสักหน่อย ถึงจะดูมีเงินแต่เห็นหน้าตาเอาเรื่องของฝ่ายนั้นแล้วหญิงสาวทั้งสองคนคิดว่าไม่ไปทำความรู้จักคงจะดีกว่า

“กูเหยียบตีนมึงเอาไว้เหรอ” พญาถามตรงๆ

“เราไปกันเถอะ” หญิงสาวตกใจกับคำพูดหยาบคายของพญาจึงรีบดึงมือเพื่อนออกไปจากร้านทันที

พญาจ่ายเงินค่าของเรียบร้อยแล้วก็เดินกลับมาหาเทียมฟ้ากับโอบอุ้ม เขาเห็นเทียมฟ้ากับโอบอุ้มกำลังนั่งมองโทรศัพท์ด้วยกันเลยเดินเข้าไปยืนด้านหลังคนทั้งคู่ ภาพในจอโทรศัพท์คือภาพของหนูด้วงที่กำลังคุยจ้ออยู่จนเสียงดังลอดออกมา

“ยุงพะยามาแย้ว” หนูด้วงเห็นพญาผ่านจอโทรศัพท์เลยร้องเรียก เทียมฟ้ากับโอบอุ้มจึงหันไปดูก็เห็นว่าพญายืนอยู่ที่ด้านหลัง

“หนูด้วงบอกคิดถึงพี่ด้วย” เทียมฟ้ารีบส่งโทรศัพท์ให้พญา

“พรุ่งนี้น้าไปหาที่บ้านนะ น้าจะรับมาเที่ยว ดีไหม” พญาถามหลานรัก

“เย้ๆ พุ่นนี้ยุงพะยาจะมายับหนูไปเที่ยว หนูไปได้มั้ย” หนูด้วงชูไม้ชูมือดีใจก่อนจะหันไปถามใครบางคน สักพักนับตังค์ก็โผล่หน้าเข้ามาในจอโทรศัพท์ด้วย

“พรุ่งนี้ลุงกับคุณชายน้องกับน้องโอบต้องมาทำบุญบ้านขอตังก่อนค่อยพาหนูด้วงออกไป” นับตังค์พูดจบก็ฟัดแก้มหนูด้วงไปหนึ่งฟอดเพราะเพิ่งอาบน้ำให้เสร็จและปะแป้งจนแก้มเป็นสีขาว

“ตามนั้น แล้วเจอกันนะครับน้องตัง หนูด้วง” พญาโบกมือให้นับตังค์และหลานรัก

“แย้วเจอกันนะ ยุงห้ามดื้อกะอาน้อนนะ” หนูด้วงกำชับจนพญาเอามือไปโยกหัวของเทียมฟ้าเพราะรู้ว่าหนูด้วงต้องมีคนแถวนี้สอนให้พูดแน่

“แล้วเจอกันนะครับหนูด้วง” โอบอุ้มโบกมือให้หนูด้วงก่อนจะกดวางสาย

“พี่ไปไหนมา น้องปวดท้องจนรอพี่ไม่ไหว แต่น้องไม่เห็นพี่ที่ห้องน้ำเลย”

“ทั้งห้างมันมีห้องน้ำห้องเดียวรึไง” พญาถาม

“แล้วนั่นอะไรครับ” เทียมฟ้าชี้ไปยังถุงที่พญาถืออยู่

“ของฝากให้หม่อมป้าของมึง”

“ขอบคุณนะครับ” เทียมฟ้าเห็นความตั้งใจของพญาเลยไม่ได้พูดอะไรแต่ในใจก็ดีใจที่พญาอุตส่าห์ไปเดินเลือกของด้วยตัวเอง

“ไปกันเถอะ กูพร้อมเจอพี่ชายของมึง เอ่อ...กูหมายถึงครอบครัวของมึงแล้ว” พญาบอกกับเทียมฟ้า

“พี่ไม่ต้องกังวลนะ พี่เป็นคนสำคัญของน้อง ทุกคนจะเห็นพี่เป็นคนสำคัญเหมือนกัน” เทียมฟ้าเอื้อมมือไปจับมือของพญาเอาไว้แล้วบีบเบาๆ

“กูมีอะไรต้องให้กังวลเหรอ” พญาย้อนถามเทียมฟ้า เทียมฟ้าชะงักไปเล็กน้อยกับท่าทีแปลกๆ ของพญาก่อนจะส่ายหน้า

“ไม่มีครับ”

“มึงนั้นแหละ อย่ากังวล” พญาเห็นหน้าหงอยๆ ของเทียมฟ้าแล้วก็อดไม่ได้ที่จะกระชับมือกลับไปให้อีกฝ่ายรู้ว่าตัวเองไม่ได้เป็นอะไร เมื่อเห็นเทียมฟ้ายิ้มได้แล้วเขาก็ส่งถุงของให้โอบอุ้มช่วยถือแทนก่อนจะจูงมือเทียมฟ้าแล้วพาเดินออกไปด้วยกัน

(มีต่อด้านล่างค่ะ)
V
V

« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 08-02-2018 15:26:54 โดย Loverouter »

ออฟไลน์ Loverouter

  • เป็ดมหาวิทยาลัย
  • *
  • กระทู้: 446
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +471/-12
(ต่อจากด้านบนค่ะ)


รถแท็กซี่มาจอดส่งพญา เทียมฟ้าและโอบอุ้มอยู่ที่หน้าประตูรั้วไม้สีน้ำตาลเข้มที่ฉลุเป็นลายไทย เมื่อมีคนมาเปิดประตูรั้วให้พญาก็เห็นบ้านเรือนไทยทรงโบราณแท้ตั้งตระหง่านอยู่ด้านหลังสนามหญ้าที่มีบ่อบัวขนาดย่อมอยู่ที่กลางสนาม พญายอมรับว่า ‘วัง’ ของหม่อมเจ้าหญิงวิรงรองผิดไปจากที่คิดเอาไว้มาก เขาจินตนาการไปไกลว่าวังคงจะเป็นคฤหาสน์ขนาดใหญ่ที่ประดับไปด้วยรูปปั้นแพงๆ รั้วก็ต้องเป็นสีทองอร่าม ต้องมีบ่อน้ำพุใหญ่ๆ และมีไม้พุ่มประดับตกแต่งให้ดูอลังการ แต่วังที่เขาก้าวเข้ามานี้กลับเป็นแค่บ้านเรือนไทยขนาดกลาง สนามหญ้าและต้นไม้ก็ตกแต่งเรียบง่ายธรรมดาเหมือนบ้านสวนทั่วไป ยิ่งได้เดินเข้ามาด้านในแล้วยิ่งดูธรรมดาจนพญาต้องมองเทียมฟ้าอีกครั้งเพื่อให้แน่ใจว่าอีกฝ่ายพามาไม่ผิดบ้าน

“สงสัยท่านป้าจะอยู่หลังบ้าน” เทียมฟ้าพาพญากับโอบอุ้มขึ้นมานั่งรอที่โถงกลางเรือนซึ่งเป็นพื้นยกระดับให้สูงขึ้นมาจากทางเดิน ที่กลางโถงมีเพียงโต๊ะกลางที่ทำจากไม้สักตั้งเอาไว้ที่พื้นและมีเบาะบางๆ ให้รองนั่ง โต๊ะตู้ที่วางตามมุมบ้านก็เป็นเครื่องโบราณที่พญาเคยเห็นตามละครย้อนยุค จะว่าไปวังนี้แม้จะดูเก่าก็จริงแต่ก็ไม่ได้ดูทรุดโทรมแถมสะอาดเป็นระเบียบสมกับเป็นเป็นบ้านของผู้ดีอยู่เหมือนกัน

“กูพูดราชาศัพท์ไม่เป็น” พญากระซิบเทียมฟ้าเมื่อเห็นหม่อมเจ้าหญิงวิรงรองเดินมาแต่ไกล

“พูดธรรมดาได้เลยครับ” เทียมฟ้ายิ้มให้พญาก่อนจะเดินเข้าไปหาหม่อมเจ้าหญิงวิรงรอง

“มากันเสียที ไหว้พระเถอะพ่อคุณ” หม่อมเจ้าหญิงวิรงรองสวมกอดหลายชายสุดที่รักก่อนจะหันไปพูดกับพญาและโอบอุ้ม

“กระหม่อมขอประทานอภัยที่มารบกวนฝ่าบาท” พญาพยายามพูดช้าๆ ตามที่ได้ท่องมา

“รบกวนอะไร ฉันสิต้องขอบใจที่ช่วยดูแลคุณชายน้องเป็นอย่างดี แล้วก็ไม่ต้องพูดราชาศัพท์กับฉันหรอกพ่อพญา คิดเสียว่าฉันเป็นป้าของเธอนะ เอ้าเด็กๆ มายกกระเป๋าของแขกไปไว้ที่ห้องรับรองก่อน” หม่อมเจ้าหญิงวิรงรองพูดกับพญาอย่างเป็นกันเองก่อนจะหันไปสั่งเด็กรับใช้

“น้องโอบเป็นลูกบุญธรรมของพี่พญาค่ะท่านป้า เด็กที่น้องเล่าให้ท่านป้าฟัง” เทียมฟ้ารีบพยักหน้าให้โอบอุ้มเข้ามากราบหม่อมเจ้าหญิงวิรงรอง

“หน้าตาน่าเอ็นดูแท้ๆ ได้ข่าวว่าเรียนเก่งแล้วก็เป็นเด็กดีด้วย คงเป็นบุญที่ทำร่วมกันมาถึงได้มาเป็นพ่อลูกกัน” หม่อมเจ้าหญิงนึกเอ็นดูโอบอุ้ม

“งั้นคนที่จะได้อยู่ด้วยกันคือคนที่ทำบุญร่วมกันมาใช่ไหมคะท่านป้า” เทียมฟ้าถามหม่อมเจ้าหญิงวิรงรองแต่สายตากลับมองไปที่พญา

“ก็ใช่นะสิ ว่าแต่น่าเสียดายนะที่พ่อพยนต์ไม่ได้มาด้วย แต่ฉันก็ดีใจที่เขาเริ่มเข้าวัดเข้าวา อายุมากก็อย่างนี้ ละวางอะไรได้มากกว่าแต่ก่อน”

“พี่พญาซื้อของมาฝากท่านป้าด้วยนะคะ” เทียมฟ้ารีบบอกก่อนจะให้พญาถวายของฝากแก่หม่อมเจ้าวิรงรอง

“โธ่ ไม่เห็นต้องยุ่งยากเลยพ่อพญา แต่ก็ขอขอบใจนะที่อุตส่าห์นึกถึง” หม่อมเจ้าวิรงรองรับมาก่อนจะยิ้มให้พญา

“ท่านหญิงเพคะ คุณชายเอกให้คนเอาของมาส่งให้เรียบร้อยแล้วเพคะ ท่านชายให้ทูลท่านหญิงว่าจะมาร่วมเสวยกับท่านหญิงในตอนเย็นพร้อมกับคุณชายรองเพคะ” เด็กรับใช้เข้ามารายงานหม่อมเจ้าหญิงวิรองก่อนจะวางของที่พี่ชายของเทียมฟ้าให้คนเอามาส่งให้

“คุณชายเอกพี่ชายคนโตของคุณชายน้องเขารู้ว่าพ่อพญาชอบกีต้าร์ พอดีเพื่อนของเขาเปิดร้ายเครื่องดนตรี เขาเลยอยากให้เป็นของแทนคำขอบคุณที่พ่อพญาช่วยดูแลน้องชายของเขาให้” หม่อมเจ้าหญิงวิรงรองอธิบายเมื่อเห็นพญาทำหน้าประหลาดใจ ซึ่งพญาก็ประหลาดใจจริงๆ เรื่องที่เขาชอบกีต้าร์มีไม่กี่คนที่รู้ พญาเดาว่าเทียมฟ้าคงเล่าเรื่องนี้ให้พี่ชายของตัวเองฟัง

“คืออันที่จริงผมไม่ได้ทำอะไรเลย คุณชายน้องต่างหากที่ช่วยงานผม ไม่ต้องให้ของอะไรกับผมก็ได้ครับท่านหญิง” พญาบอกไม่ถูกว่าตอนนี้ตัวเองกำลังรู้สึกอย่างไร จากที่คิดว่าครอบครัวของเทียมฟ้าจะต้องเล่นแง่รังเกียจคนบ้านนอกไม่มีสกุลรุนชาติอย่างเขา แต่กลับกลายเป็นว่าเขาได้รับการต้อนรับจนเกินพอดี นั่นยิ่งทำให้พญาย้อนกลับไปคิดเรื่องที่ได้ยินจากสองสาวอีกครั้ง

“รับไว้เถอะครับ พี่เอกตั้งใจให้พี่” เทียมฟ้ายิ้มสดใส

“มากันเหนื่อยๆ คุณชายน้องพาพ่อพญากับหนูโอบไปพักให้หายเหนื่อยก่อนดีกว่า ถ้าได้เวลาอาหารเย็นป้าจะให้เด็กไปตาม พักให้สบายนะพ่อพญา คิดเสียว่าที่นี่เป็นเหมือนบ้านของพ่อพญาเอง”

“ขอบคุณมากครับท่านหญิง” พญายกมือไหว้หม่อมเจ้าหญิงวิรงรองก่อนจะเดินหิ้วกล่องกีต้าร์ตามเทียมฟ้าไปที่ห้องพัก

เทียมฟ้าพาพญากับโอบอุ้มมาที่เรือนหลังเล็กที่อยู่ด้านหลังเรือนใหญ่อีกที เรือนด้านหลังนี้ดูใหม่กว่าเรือนหน้าที่พญาเพิ่งเดินจากมา ดูแล้วน่าจะเป็นเรือนที่ถูกต่อเติมใหม่ ในตัวเรือนมีห้องนอนสองห้อง เทียมฟ้าพาโอบอุ้มพักห้องหนึ่งแล้วถึงพาพญามาพักอีกห้องหนึ่ง ห้องที่พญาพักมีเตียงสี่เสาและมีมุ้งคลุมรอบด้าน ไม่มีโทรทัศน์หรืออุปกรณ์อำนวยความสะดวกอะไรเลยนอกจากเตียงนอนเท่านั้น

“ห้องนอนสมชื่อจริงๆ” พญาพึมพำเบาๆ

“ห้องมันเล็กไปหน่อยนะครับ”

“แล้วมึงนอนที่ไหน”

“พี่อยากให้น้องนอนด้วยรึเปล่า”

“กูต่างหากที่ต้องถามว่ามึงอยากนอนกับกูรึเปล่า”

“อยาก”

“มึงเคยคิดก่อนตอบบ้างไหม” พญานึกขำที่เทียมฟ้าตอบตรงไปตรงมาเหมือนเดิมไม่เปลี่ยน

“อะไรที่ออกมาจากจากใจไม่ต้องคิดมากหรอกครับ”

“ก็ให้มันออกมาจากใจจริงๆ เถอะ แล้วท่านหญิงกับพี่ชายของมึงไม่ว่าเหรอที่มึงมานอนอยู่กับกู”

“ไม่มีใครว่าหรอกครับ”

“เขารับได้เหรอที่มึงชอบผู้ชาย”

“รับไม่ได้ก็ต้องรับครับ”

“พี่ชายมึงเป็นตำรวจไม่ใช่เหรอ กูจำได้ว่ามึงเคยบอกว่าเขาชอบดุและชอบบังคับมึง แล้วเขารับได้เหรอถ้ามึงจะมายุ่งกับคนอย่างกู” พญาลองถามดู อยากรู้ว่าเรื่องที่ได้ยินมามันจริงเท็จแค่ไหน

“น้องบอกพี่แล้วไงครับว่าพี่คือคนสำคัญของน้อง พี่เอกเขาไม่รังเกียจพี่หรอก ส่วนพี่รองเขาไม่ค่อยมาวุ่นวายกับน้อง ท่านป้าก็เห็นพี่เป็นเหมือนลูกหลาน พี่อย่าคิดมากเลยครับ”

“กูไม่ต้องคิดมากใช่ไหม” พญาย้อนถามเทียมฟ้า

“ครับ ไม่ต้องคิด ถ้าจะคิด คิดแค่ว่าจะรักน้องได้รึยัง” เทียมฟ้ายิ้มให้พญา

“มึงอยากได้ความรักจากกูจริงเหรอ มองตากูแล้วตอบมาตรงๆ” พญาเชยคางเทียมฟ้าขึ้นมาเพื่อให้อีกฝ่ายสบตาของตน

“พี่ดูไม่ออกเลยเหรอครับว่าน้องคิดยังไง” เทียมฟ้าถามออกไปด้วยน้ำเสียงที่ดูตัดพ้อ

“กูแค่อยากฟังจากปากของมึง”

“น้องอยากได้หัวใจของพี่ พี่บอกให้ใช้หัวใจแลกกัน น้องให้พี่ไปแล้วแต่พี่ไม่เคยเห็นเลย” เทียมฟ้าสบตาของพญาเผื่อว่าจะเจออะไรในนั้นบ้างแต่ว่ามันก็ดูว่างเปล่าจนเทียมฟ้าใจหาย เทียมฟ้ายิ้มให้พญาก่อนจะหันหลังให้เพราะรู้สึกอยากร้องไห้ขึ้นมาแต่ก็ไม่อยากให้พญาเห็น สุดท้ายพญาก็ขยับเข้าไปสวมกอดเทียมฟ้าเอาไว้แล้วก้มลงไปจูบที่ท้ายทอยของเทียมฟ้าเบาๆ

“มึงรู้ได้ไงว่ากูไม่เห็น”

“สายตาของพี่ว่างเปล่า”

“มึงเป็นจักษุแพทย์รึไง”

“พี่ไม่เคยบอกว่ารู้สึกยังไงกับน้องเลย”

“มึงต่างหากที่ไม่เคยเห็นเลย” พญาบ่นก่อนจะจับไหล่เทียมฟ้าให้หันมา

“น้องเห็น แต่น้องไม่รู้ว่าพี่ทำแบบนั้นเหมือนกับที่เคยทำกับคนอื่นๆ รึเปล่า”

“กูไม่เคยง้อใคร กูไม่เคยพาใครไปบ้าน กูไม่เคยต้องอดทนอะไรมากๆ เช่นไม่ทำอะไรใครที่มานอนเตียงเดียวกับกู กูไม่เคยต้องมาอธิบายอะไรยาวๆ แบบนี้กับใคร ก็มีแต่มึงเนี่ย มีแค่มึง” พญาจิ้มหน้าผากของเทียมฟ้าเบาๆ ด้วยความหงุดหงิดที่อีกฝ่ายน้อยใจไม่เข้าท่า

“พี่ง้อน้องคนเดียว”

“ถูก”

“พี่พาแค่น้องไปบ้าน”

“ใช่”

“พี่อยากมีอะไรกับน้องแต่แคร์น้องเลยอดทน”

“อืม”

“น้องเป็นคนสำคัญของพี่”

“ประมาณนั้น”

“พี่รักน้องแล้วใช่ไหม”

“เออ!”

“ดีจัง ดีจังเลย” เทียมฟ้าน้ำตาคลอก่อนจะโผไปกอดพญาจนอีกฝ่ายแทบเซล้ม

“เฮ้อ...มึงนี่นะ” พญาจูบที่ผมของเทียมฟ้าก่อนจะสวมกอดอีกฝ่ายกลับ พญาไม่รู้หรอกว่าสิ่งที่ได้ยินมาจะจริงหรือไม่จริง เอาเป็นว่าพญาจะเชื่อในสิ่งที่หัวใจบอก พญาเชื่อว่าเทียมฟ้ารักเขาจากหัวใจไม่ใช่เพราะเงินเหมือนคนอื่นๆ กำแพงที่เคยปิดกั้นมันพังลงด้วยน้ำมือของกระต่ายตัวเล็กๆ ที่มีพลังน้ำตาเป็นอาวุธ ปกติแล้วต่อให้ใครมาฟูมฟายกอดแข้งกอดขาแล้วบอกว่าจะตายตรงหน้าถ้าพญาไม่รักเขาก็ไม่เคยสน แต่แค่เจ้ากระต่ายตัวนี้ทำหน้าเศร้าๆ มีน้ำตาคลอเบ้าก็สามารถสั่นคลอนหัวใจของฉลามร้ายอย่างพญาได้อย่างง่ายดาย

“รักน้องคนเดียวนะ” เทียมฟ้าเงยหน้าขึ้นมาอ้อนพญา

“ได้คืบจะเอาศอก”

“ก็น้องหวงพี่”

“มึงเอาใจมึงมาแลกใจกูไปแล้ว ถ้าอยากได้ตัวกูมึงก็ต้องเอาตัวมาแลก” พญาพูดแล้วก็หัวเราะชอบใจที่หาเรื่องแกล้งเทียมฟ้าได้

“ยอม” เทียมฟ้าตอบแล้วก็ซุกหน้ากับอกของพญา

“เฮ้ย มึงนี่นะ ใจง่ายจริงๆ” พญาตกใจที่เทียมฟ้ายอมง่ายๆ ไม่เถียงเหมือนทุกที

“ก็น้องรักพี่ น้องยอมทุกอย่างเลย”

“กูจะบ้าตาย” พญาบ่นไปอย่างนั้นแต่ก็ยิ้มไม่หุบ รำคาญตัวเองอยู่เหมือนกันที่แพ้ทางเจ้าปิศาจกระต่ายตัวนี้บ่อยเกินไป นี่ถ้าไอ้ก้านมาเห็นมันคงล้อเขาแน่ว่าเขาเสียท่าให้คุณชายของมันจนได้ แต่จะทำยังไงได้ในเมื่อเขาแพ้ทางให้คุณชายน้องคนนี้เข้าแล้วจริงๆ

..

พญาทำตัวไม่ถูกเมื่อได้มานั่งทานอาหารเย็นรวมกับคนในครอบครัวของเทียมฟ้า อาหารชาววังหน้าตาน่ารับประทานถูกจัดเรียงวางเอาไว้เต็มโต๊ะ นอกจากหม่อมเจ้าวิรงรองแล้วยังมีพี่ชายของเทียมฟ้ารวมถึงครอบครัวของทั้งสองคนก็มากันครบ ทุกคนดูดีมีมารยาทจนพญาไม่กล้ากระดิกตัวหรือพูดอะไรออกไปเลยเพราะกลัวว่าจะเผลอพูดคำหยาบที่คุ้นปากออกไป หลายรอบที่เกือบเรียกเทียมฟ้าว่ามึง ดีที่คิดได้ทันจึงต้องเรียกคุณชายน้องจนเทียมฟ้าต้องกลั้นขำ

ส่วนเทียมฟ้าที่คอยตักกับข้าวให้พญาและแสดงออกอย่างเปิดเผยว่าพญาเป็นคนสำคัญไม่ได้ทำให้พญาลำบากใจเท่าพี่ชายทั้งสองคนของเทียมฟ้าก็คอยเอาใจพญาไม่ต่างกัน ทั้งคู่คอยชวนคุยและพูดชื่นชมพญาเรื่องที่พญาเป็นเจ้าของกิจการใหญ่โตทั้งที่อายุยังน้อยจนพญาเริ่มวางตัวไม่ถูกเพราะความจริงแล้วมันตรงกันข้ามกับคำชมทุกอย่าง พญาไม่รู้ว่าเทียมฟ้าพูดอะไรเกี่ยวกับตนให้คนในครอบครัวฟังบ้าง แต่ตัวตนของพญามันไม่ใช่อย่างที่พี่ชายของเทียมฟ้าเข้าใจเลยสักนิด เจ้าโอบเสียอีกที่วางตัวได้เหมาะสม แถมยังพูดภาษาอังกฤษตอบโต้พี่ชายทั้งสองคนของเทียมฟ้าอย่างเป็นกันเองและดูจะเข้ากับคนในครอบครัวของเทียมฟ้าได้มากกว่าเขาเยอะเลย แต่ในที่สุดความอึดอัดใจของพญาก็จบลงเมื่อการรับประทานอาหารมื้อเย็นนี้ได้เสร็จสิ้นเสียที พี่ชายทั้งสองคนของเทียมฟ้ากล่าวลาพญาก่อนจะบอกว่าทั้งคู่จะพาครอบครัวไปเที่ยวที่เกาะใบไม้ครามในช่วงที่เกาะเปิดแล้ว

“พี่ไม่สบายใจอะไรรึเปล่าครับ” เทียมฟ้าอาบน้ำเสร็จแล้วเห็นพญานอนเอามือก่ายหน้าผากอยู่บนตียงเลยเข้ามานั่งใกล้ๆ

“กูไม่ใช่คนเก่งคนดีอย่างที่คนในครอบครัวของมึงเข้าใจเลยนะ มึงไปพูดชมกูเอาไว้เหรอ”

“น้องพูดความจริง น้องไม่เคยยอพี่เกินความจริง”

“แต่ที่พี่ชายมึงชมกู มันไม่ใช่กูเลยนะ”

“พี่ไม่รู้ตัวเอง พี่เป็นคนเก่ง พี่ใจดี พี่เป็นคนมีน้ำใจ แต่พี่ชอบแสดงออกตรงกันข้ามกับความเป็นพี่ต่างหาก”

“จริงดิ มึงคิดแบบนั้นเหรอ”

“จริงครับ”

“กูจะเชื่อที่มึงพูดได้ไหม”

“ไม่เชื่อแฟนแล้วจะไปเชื่อใคร”

“อะได อะได ใครแฟนใคร” พญาแกล้งทำหน้าตกใจ

“ก็พี่รักน้องแล้วไง”

“รักมันเรื่องของจิตใจไม่ใช่เรื่องของสถานะ มึงขี้ตู่”

“อ้าว แล้วน้องต้องทำยังไงถึงจะได้เป็นแฟนพี่ล่ะครับ”

“ก็ต้องทำพิธีสถาปนาให้มึงก่อน” พญาตบหมอนที่วางอยู่ข้างๆ เพื่อบอกเป็นนัยๆ ว่าเทียมฟ้าต้องทำอย่างไร

“ตอนนี้เลยเหรอครับ” เทียมฟ้าหน้าแดงเมื่อรู้ว่าพิธีสถาปนาของพญาหมายถึงอะไร

“ตอนนี้แหละ” พญาทำหน้าเจ้าเล่ห์

“แต่กำแพงเรือนมันบางนะครับ น้องกลัวว่า..น้องโอบจะได้ยิน”

“มึงคิดอะไรเจ้ากระต่าย กูแค่จะนอนกอดมึงเท่านั้น มึงนี่นะ...หื่นสมกับเป็นกระต่ายจริงๆ ฮ่าๆ” พญาหัวเราะเสียงดังเมื่อได้แกล้งเทียมฟ้า ส่วนคนถูกแกล้งก็ทำหน้าเหวอก่อนจะลงไปนอนสวมกอดพญาเอาไว้จริงๆ

“ว่าจะยอมสักหน่อย” เทียมฟ้ากระซิบพญาเบาๆ จนพญาขนลุก

“ได้เหรอ กำแพงมันบางไม่ใช่เหรอวะ” พญาหยุดหัวเราะก่อนจะถามด้วยสีหน้าจริงจังเพราะชักจะมีอารมณ์คล้อยตามเมื่อโดนเทียมฟ้ามานอนเบียดร่างกายของตัวเองอยู่

“แต่พี่บอกแค่กอดก็พอไง” เทียมฟ้าพูดจบก็หัวเราะบ้าง พญาได้แต่ทำหน้าเซ็งเมื่อถูกเทียมฟ้าเอาคืน

“วันนี้แค่กอด แต่พรุ่งนี้ต้องสถาปนาแบบจัดเต็ม จากแฟนเป็นเมียเลย ไม่งั้นมึงอดเป็นทั้งแฟนทั้งเมีย เข้าใจ๊” พญาขู่

“เข้าใจแล้วครับ” เทียมฟ้าซุกหน้ากับอกของพญาก่อนจะยิ้มกว้างเพราะรู้สึกว่าตัวเองกำลังมีความสุขที่สุด

“อีกอย่างหนึ่งนะ มึงเป็นกระต่าย มึงกินผักได้ทุกอย่างยกเว้นขิง!” พญาทำเสียงหงุดหงิดเล็กน้อยจนเทียมฟ้าทำหน้างงเพราะไม่เข้าใจว่าพญาหมายถึงอะไร

“ครับ น้องไม่ชอบกินขิงอยู่แล้ว” เทียมฟ้าตอบไปงงๆ

พญาได้ยินคำตอบรับของเทียมฟ้าแล้วก็หัวเราะเบาๆ ด้วยความพึงพอใจ พลางคิดในใจว่าต่อไปนี้พญาจะรับผิดชอบชีวิตของเทียมฟ้าและครอบครัวเอง ขอแค่เทียมฟ้าให้ความจริงใจมาพญาก็พร้อมจะให้ทุกอย่างกับเทียมฟ้าเช่นกัน ท่านชายขิงข่าตะไคร้หรือจะมาสู้เจ้าทะเลแห่งเกาะใบไม่ครามได้ กระต่ายตัวนี้จะเป็นของพญาเท่านั้น จะต้องเป็นของพญาแต่เพียงผู้เดียว

โปรดติดตามตอนต่อไป


ขอบคุณที่ติดตามนะคะ ทีแรกนึกว่าจะได้อัพพรุ่งนี้แต่มีเวลาเลยรีบลงก่อน เดี๋ยวกลับมาทวนแก้คำผิดให้นะคะ
 

[ทางไปเพจ Loverouter จิ้มเลย]
[ทางไปทวิต Loverouter จิ้มเลย]
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 08-02-2018 15:27:24 โดย Loverouter »

ออฟไลน์ pui

  • เป็ดHermes
  • *
  • กระทู้: 2178
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +177/-3

ออฟไลน์ aorpp

  • เป็ดนักขาย
  • เป็ดHephaestus
  • *
  • กระทู้: 1274
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +250/-3
ตอนนี้ยุงพะยาของหนูด้วงราศีพระเอกจับวิบวับไปหมด แม๊นแมนค่ะ ดีเลยค่ะ รีบรับผิดชอบคุณชายน้องด่วนๆ

ออฟไลน์ noy

  • เป็ดHephaestus
  • *
  • กระทู้: 1212
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +189/-9
ขอบคุณคะ :L1: :L1: :L1:

CoMMuNiTY Of ThAiBoYsLoVE

ประกาศที่สำคัญ


ตั้งบอร์ดเรื่องสั้น ขึ้นมาใครจะโพสเรื่องสั้นให้มาโพสที่บอร์ดนี้ ถ้าเรื่องไหนไม่จบนานเกิน 3 เดือน จะทำการลบทิ้งทันที
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=2160.msg2894432#msg2894432



รวบรวมปรับปรุงกฏของเล้าและการลงนิยาย กรุณาเข้ามาอ่านก่อนลงนิยายนะครับ
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=459.0



สิ่งที่ "นักเขียน" ควรตรวจสอบเมื่อรวมเล่มกับสำนักพิมพ์
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=37631.0






ออฟไลน์ pigarea

  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 748
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +20/-1
เรางงตรง ห้ามกินขิง

เข้าใจแล้วววววว หมายถึงคุณชายขิง 555 อ่านเอง งงเอง
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 08-02-2018 15:31:37 โดย pigarea »

ออฟไลน์ MayA@TK

  • เป็ดArtemis
  • *
  • กระทู้: 4991
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +51/-7
เอาใจช่วยยุงพญา ทั้งศึกธุรกิจที่เริ่มเสียเลือดกันบ้างแล้วเล็กๆน้อยๆ
ทั้งศึกรักที่คาดว่าจะมีเข้ามาเมื่อโจ้รู้เรื่องลุงกับคุณชายน้องเป็นแฟนกัน

 :pig4: :pig4: :pig4: :pig4: :pig4:

ออฟไลน์ Loverouter

  • เป็ดมหาวิทยาลัย
  • *
  • กระทู้: 446
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +471/-12
เรางงตรง ห้ามกินขิง

ก็พญาไปได้ยินสองสาวที่นินทาว่าพี่ชายของคุณชายน้องจะให้คุณชายน้องไปคบกับท่านชายคนหนึ่งที่ชื่อ 'ขิง' ค่ะ พญาเลยหึงทุกอย่างที่มีคำว่า 'ขิง'
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 08-02-2018 15:27:59 โดย Loverouter »

ออฟไลน์ B52

  • เป็ดZeus
  • *
  • กระทู้: 13215
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +420/-26

ออฟไลน์ ❣☾月亮☽❣

  • เป็ดApollo
  • *
  • กระทู้: 6773
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +264/-6
ขอบคุณค่ะ  เอาใจช่วยนะคะ

ออฟไลน์ ommanymontra

  • เป็ดEros
  • *
  • กระทู้: 3433
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +96/-0

ออฟไลน์ darling

  • เป็ดแสนดี
  • เป็ดDemeter
  • *
  • กระทู้: 1741
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +96/-7
อิจฉายุงพญาได้แฟนเด็กน่ารัก  :-[

ออฟไลน์ jpjiraporn

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 60
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +1/-1
พญาน่ารัก.......รักคุณน้องมากๆนะ  :กอด1: :impress2: :z1:

ออฟไลน์ gookgik

  • เป็ดDemeter
  • *
  • กระทู้: 1966
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +341/-6
ดีใจกับก้านที่น้องชายเริ่มคิดได้แล้ว และยินดีที่จะไปช่วยพี่ชายทำงาน

สงสารตวง ที่เหมือนตายทั้งเป็นอย่างที่พูด  แต่ถ้าตวงคิดได้และเข้มแข็งขึ้น ตวงจะมีเพื่อนที่ดีอย่างคุณชายน้อง และพี่ชายที่คอยปกป้องอย่างพี่พญา 

คิดว่านายหัวสุริยาร้ายแล้วนะ ยังมีตัวร้ายมาเพิ่มอีก       ศึกรอบข้างของพญาเริ่มจู่โจมเข้ามาใกล้แล้ว เอาใจช่วยให้พญาและคนรอบข้างปลอดภัย

พี่พญาของน้องกระต่าย อดทนอดกลั้นไว้ก่อนนะ กำแพงห้องมันบาง สงสารคนในบ้านจะได้ยิน 555

ออฟไลน์ silverspoon

  • เป็ดHermes
  • *
  • กระทู้: 2426
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +275/-12
เริ่มมีการขัดผลประโยชน์และชู้สาวเข้มข้นมากขึ้นละ

ครอบครัวคุณชายน้องน่ารักสมเป็นผู้ดีของแท้ ไม่ดูถูกคนอื่น เหมือนในละครน้ำเน่าอ่ะ (คิดว่าผู้ดีจริงๆก็จะนิสัยประมาณนี้เเหละ)

CoMMuNiTY Of ThAiBoYsLoVE






ออฟไลน์ warin

  • รถไฟขบวนนั้น ได้แล่นผ่านไปแล้ว
  • เป็ดแสนดี
  • เป็ดDemeter
  • *
  • กระทู้: 1937
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +60/-1
    • -
พี่พญาไปไหนไม่รอดแล้ว  อิอิ  เข้าสู่ครอบครัวกระต่ายอย่างแท้จริง

ออฟไลน์ kunt

  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 700
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +42/-1
เอ้า ว่ากระต่ายใจง่าย ฉลามก็ง่ายไม่ต่างกัน  :hao3:

ออฟไลน์ colorofthewind21

  • เป็ดDemeter
  • *
  • กระทู้: 1645
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +31/-1
เอ้ารักกันแล้วจ้าาาาา ฉลองง

ออฟไลน์ Yara

  • เป็ดHermes
  • *
  • กระทู้: 2104
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +18/-2
ยอมแพ้กระต่ายแล้วใช่มั้ยนายพญา

ออฟไลน์ titansyui

  • เป็ดHermes
  • *
  • กระทู้: 2386
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +119/-0

ออฟไลน์ lizzii

  • เป็ดAthena
  • *
  • กระทู้: 6283
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +271/-2
ยุงพยาาาาา นายหัวชัดๆ

ออฟไลน์ snowboxs

  • เป็ดArtemis
  • *
  • กระทู้: 5445
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +124/-7
ได้มาอ่านเรื่องนี้ก็ปาไปตอนที่ 9 แล้ว
มาช้าดีกว่าไม่ได้อ่านเลยเนอะ

ยุงพยาใจอ่อนอ่อนกับกระต่ายซะแล้ว
อ่านไปหวิวไป กลัวอยู่ดีๆเจอมาม่าชามโต

ออฟไลน์ AeAng11

  • เป็ดมหาวิทยาลัย
  • *
  • กระทู้: 528
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +12/-0
เชื่อว่าครอบครัวอาน้องจะเข้าใจและเคารพกับการตัดสินใจของคุณชายน้องลุงพะยากับอาร้อนจะตับมือกันด้วยความรักและความเชื่อมั่นในกันและกันเพื่อผ่านอุปสรรคที่จะเข้ามาส่วนก้านความดีของก้านจะเป็นคัวนำพาให้น้องชายคิดได้อยากเห็นทุกคนมีความสุข

ออฟไลน์ Loverouter

  • เป็ดมหาวิทยาลัย
  • *
  • กระทู้: 446
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +471/-12
กุญแจดอกที่ 10


ไม่รู้ว่าเป็นเพราะรู้สึกแปลกที่หรือเพราะเจ้ากระต่ายมานอนกอดเขาแบบแทบจะสิงร่างกันแน่ที่ทำให้พญาหลับตาไม่ลงสักที ไม่แน่ใจว่าอีกฝ่ายหลับไปรึยังเพราะรายนั้นก็นอนนิ่งไม่ไหวติ่งเหมือนกัน จนกระทั่งเสียงท้องของพญาร้องประท้วงขึ้นมาท่ามกลางความเงียบเขาถึงได้รู้ว่าอีกฝ่ายยังนอนไม่หลับเหมือนกับเขา

“พี่หิวเหรอ”

“ก็นิดหน่อย มึงได้ยินด้วยเหรอ”

“ได้ยินสิครับ ห้องนี้มันเงียบจะตาย น้องว่าแล้วเชียวว่าพี่ต้องหิว เมื่อเย็นพี่ทานนิดเดียวเอง เดี๋ยวน้องไปหาอะไรในตู้เย็นให้พี่ทานนะครับ”

“ไม่เป็นไรหรอก กูทนได้”

“แล้วจะทนทำไมครับ” เทียมฟ้าเห็นว่าพญาไม่ห้ามแล้วจึงเดินไปจุดตะเกียงแล้วรีบเดินออกไปหาอะไรมาให้ทาน

พญาลุกขึ้นมานั่งแล้วมองไปที่ตะเกียงโบราณที่เทียมฟ้าเพิ่งจุดไฟเพิ่มความสว่างในห้อง เมื่อมองไปรอบๆ ห้องก็คิดว่าถ้าห้องนี้ไม่มีเครื่องปรับอากาศเขาคงนึกว่าตัวเองย้อนเวลากลับมาอยู่ในสมัยรุ่นปู่ย่าตาทวดแน่ โทรทัศน์อะไรก็ไม่มีสักเครื่อง เห็นเทียมฟ้าบอกว่าเรือนหลังเล็กนี้สร้างเอาไว้เพื่อเป็นเรือนรับรองแขกแต่พญาว่าน่าจะเป็นเรือนปฏิบัติธรรมมากกว่า  พญาไม่รู้ว่าบิดาของตัวเองรู้หรือไม่ว่าหม่อมเจ้าหญิงวิรงรองผู้มีพระคุณกำลังประสบปัญหาทางด้านการเงิน เขาก็ไม่อยากจะเชื่อถ้าไม่ได้มาเห็นกับตาว่าวังใหญ่โตในจินตนาการจะเป็นแค่เรือนไทยเก่าๆ ที่ตั้งบนพื้นที่ที่ไม่ได้กว้างอะไรมากนัก เครื่องใช้ไม้สอยก็แทบจะไม่มี ถึงมีก็ดูเก่า พญามั่นใจว่าหากนายหัวพยนต์รู้คงต้องรีบยื่นมือเข้ามาช่วยเหลือทันที แต่มาถึงตอนนี้คงไม่ต้องให้ถึงมือผู้เป็นบิดา พญาตั้งใจว่าหากตระกูลของเทียมฟ้ากำลังประสบปัญหาเขาจะเป็นคนแก้ปัญหานั้นให้เอง

 “น้องเอาไส้กรอกราดซอสมะเขือเทศมาให้ น้องแค่ลวกน้ำร้อนให้ เรือนนี้มีแค่ตู้เย็นเล็กๆ กับกระติกน้ำร้อนเองครับ ไม่มีไมโครเวฟ พี่ทานได้ไหม ถ้าไม่ได้หรือไม่อิ่มน้องจะไปหาอะไรในครัวเรือนใหญ่ให้นะครับ”

“แค่นี้ก็พอแล้ว มานั่งนี่สิ” พญาตบที่นอนข้างๆ ให้เทียมฟ้ามานั่ง

“น้องป้อนนะ” เทียมฟ้าลงไปนั่งข้างพญาพร้อมกับจิ้มไส้กรอกแล้วยื่นให้ เมื่อเห็นพญารับไส้กรอกไปกินแต่โดยดีก็โล่งใจ ตั้งแต่มาถึงเทียมฟ้าเห็นพญาเอาแต่มองสำรวจและทำหน้าเครียดๆ ตอนเย็นก็กินข้าวไปนิดเดียว เทียมฟ้าเกรงว่าพญาจะอึดอัดและอยากอยู่โรงแรมมากกว่าที่นี่

“วันนี้กูเห็นมึงกับพี่ชายคุยกัน เวลาคุยกับท่านป้า ทำไมมึงกับพี่ชายใช้คำว่านะคะเหมือนผู้หญิง” ทีแรกที่พญาเห็นเทียมฟ้าพูดนะคะยังแอบสงสัยว่าทำไมเทียมฟ้ากล้าทำตัวสาวแตกต่อหน้าหม่อมเจ้าวิรงรอง แต่พอเห็นพี่ชายทั้งสองคนของเทียมฟ้าก็พูดนะคะกับป้าของตัวเองเลยอยากรู้

“น้องก็ไม่รู้หรอก ก็ถูกให้พูดแบบนี้มาตั้งแต่จำความได้ เวลาพูดกับพระญาติที่เป็นสตรีที่ลำดับเดียวกับท่านป้าน้องก็พูดนะคะหรือค่ะด้วยเหมือนกัน”

“แบบนี้กูต้องพูดนะคะกับท่านป้าของมึงไหม”

“ไม่ต้องครับ เวลาจะตอบรับก็พูดว่ากระหม่อม แต่พี่ไม่ต้องพูดแบบนั้นหรอก ท่านป้าไม่ถือสาและคิดว่าสมัยนี้ทุกคนเท่าเทียมกันแล้วครับ”

“จะว่าไปมึงกับพี่ชายก็พูดกันเพราะดีนะ คงถูกฝึกกันมาตั้งแต่เด็ก แล้วมาเจอกูที่ชอบพูดคำหยาบใส่มึง มึงรับได้เหรอ หรือชอบฟัง” พญาถามตรงๆ

“ก็ไม่ชอบหรอก แต่น้องรู้ว่านี่คือตัวพี่ น้องก็ไม่ได้ทุกข์ใจอะไรถ้าต้องได้ยิน” เทียมฟ้าก็ตอบตรงๆ ส่วนคนฟังก็อึ้งไปเพราะคิดว่าเทียมฟ้าจะตอบเอาใจเหมือนคนอื่นๆ

“หมายความว่าถ้ากูพูดเพราะๆ ด้วยก็จะดีใจใช่ไหมล่ะ”

“พี่อยากให้หนูด้วงพูดกูมึงไหม”

“ก็ไม่...”

“ถ้าหนูด้วงพูดคำหยาบ พี่ก็ไม่ได้โกรธอะไรใช่ไหม”

“ก็ใช่”

“แต่ถ้าหนูด้วงไม่พูดคำหยาบก็จะน่ารักกว่าใช่ไหม”

“ก็ใช่”

“ก็ใช่” เทียมฟ้าย้อนคำตอบของตัวเองจากคำตอบของพญา

“มึงนี่นะ..” พญาหัวเราะที่ถูกเทียมฟ้าสั่งสอนแบบเชือดนิ่มๆ เข้าใจแล้วว่าทำไมไอ้ก้านมันถึงชื่นชมคุณชายของมันนัก เทียมฟ้ามักจะมีรอยยิ้มที่ทำให้อยู่ใกล้รู้สึกเย็นใจแต่ก็มีวิธีทำให้คนยอมทำตามง่ายๆ โดยไม่ต้องใช้คำพูดรุนแรงกับอีกฝ่ายเลย ต่างจากตัวเขาที่ชอบทำเสียงดังเอาไว้ก่อน ซึ่งผลลัพธ์ที่ได้อาจจะทำให้คนยอมเหมือนกันแต่จะต่างกันตรงที่การยอมนั้นไม่ใช่การเต็มใจ

“ขอโทษนะครับ น้องทำซอสมะเขือเทศเปื้อนปากพี่” เทียมฟ้าพูดจบก็ขยับตัวไปใกล้พญาแล้วโน้มใบหน้าไปหาอีกฝ่าย

พญาหายใจไม่ทั่วท้องเมื่อถูกเจ้ากระต่ายใช้ปลายลิ้นช่วยเช็ดคราบซอสมะเขือเทศให้ ที่ผ่านมาเขาจะเป็นฝ่ายจัดการเจ้ากระต่ายตัวแสบก่อน แต่วันนี้ไม่รู้เจ้ากระต่ายเกิดคึกอะไรถึงได้มายั่วเขาขนาดนี้

“รู้ไหมว่ากำลังหาเรื่องใส่ตัว” พญาถามหลังจากที่อีกฝ่ายมาปั่นป่วนแล้วกลับไปนั่งทำตาใสเหมือนเดิม

“ก็มือของน้องไม่ว่างเช็ดปากให้พี่นี่นา” เทียมฟ้ายกมือที่ถือจานข้างหนึ่งส่วนอีกข้างหนึ่งก็ถือส้อมที่จิ้มไส้กรอกคาอยู่ให้พญาดูว่าไม่ได้พูดเกินจริง

“เหมือนคุ้นๆ ว่าเคยได้ยินมึงพูดว่า..แล้วจะทนทำไมครับ...ใช่ไหม” พญาย้อนถามเพราะเริ่มคิดว่าตัวเองชักจะทนไม่ไหวแล้ว

“กินไส้กรอกต่อนะ” เทียมฟ้าทำไม่รู้ไม่ชี้ก่อนจะยื่นไส้กรอกไปให้พญาอีกครั้ง

“กูไม่อยากกินไส้กรอกแล้ว”

“อ้าว แล้วพี่อยากกินอะไร เดี๋ยวน้องไปดูในครัวใหญ่ให้ดีกว่า” เทียมฟ้าทำท่าจะลุกแต่โดนพญาดึงมือเอาไว้ก่อน

“อยาก กิน มึง” พญาเน้นทีละคำจนคนฟังหน้าแดง

“น้องเอาจานไปเก็บก่อนนะ” เทียมฟ้าตอบเสียงเบาเพราะเขินที่ถูกพญาจ้อง แม้จะเคยถูกจ้องบ่อยๆ แต่สายตาที่จ้องมองมาในตอนนี้มันทำให้เกิดความร้อนวูบวาบไปทั่วใบหน้า

พญาดึงจานจากมือของเทียมฟ้ามาถือไว้เองแล้วเอาลุกไปวางที่โต๊ะไม้เก่าๆ ที่ตั้งอยู่มุมห้อง จากนั้นเขาก็กลับมานั่งที่เดิมก่อนจะดึงมือของเทียมฟ้าให้ลุกขึ้นมายืนตรงหน้าของตัวเอง พญาจับที่คางของอีกฝ่ายเบาๆ นิ้วหัวแม่มือไล้ที่ริมฝีปากบางไปมาก่อนจะไล่ลงมาที่ลำคอขาวอย่างช้าๆ เมื่อปลายนิ้วเริ่มลากผ่านต่ำลงมาที่อก กระดุมเสื้อนอนของเทียมฟ้าก็หลุดออกจากกันอย่างง่ายดาย จนกระดุมเม็ดสุดท้ายแยกออกจากกันมือหนาคู่นั้นก็ลูบลงมาจับที่เอวของเทียมฟ้าก่อนจะรั้งให้เจ้าของเอวขยับเข้ามาจนชิดตน

เทียมฟ้าเผลอกลั้นลมหายใจเอาไว้เพราะสัมผัสที่อ่อนโยนแต่ให้ความเร้าร้อนนั้นกำลังทำให้ร่างกายปั่นป่วน เมื่อถูกอีกฝ่ายรั้งตัวให้เขาไปหาพร้อมกับเลื่อนมือมาบีบที่สะโพกเบาๆ เทียมฟ้าก็ต้องพรูลมหายใจที่กลั้นเอาไว้ออกมาจนหมด ไม่เพียงเท่านั้น เมื่อยอดอกของตัวเองถูกรุกรานเทียมฟ้าถึงกับต้องกัดริมฝีปากเอาไว้เพราะกลัวว่าจะส่งเสียงที่น่าอายออกไปให้โอบอุ้มได้ยิน อาการสะท้านจากการถูกเล้าโลมทำให้ขาทั้งสองข้างแทบไม่มีแรงจะยืน เทียมฟ้าทิ้งน้ำหนักไปที่อีกฝ่ายและโอบรัดศีรษะของพญาเอาไว้เป็นหลักยึด แต่คนขี้แกล้งอย่างพญาก็ยิ่งรุกเร้าตวัดชิมติ่งไตเล็กๆ คู่นั้นจนเทียมฟ้าทนไม่ไหวดันพญาให้หงายหลังไปและล้มลงไปนอนทาบทับ

พญาเห็นเทียมฟ้าโถมตัวลงมาก็รีบพลิกให้อีกฝ่ายไปอยู่ใต้ร่าง แสงไฟจากตะเกียงไหววูบเพราะทั้งสองร่างกำลังบดเบียดตัวกันไปมาด้วยความร้อนแรง ผ้าม่านที่คล้องไว้หลวมๆ ร่วงหล่นลงมาคลุมเตียงสี่เสาเนื่องจากการสั่นไหวไปมาของเตียง เสื้อผ้าของเทียมฟ้าและพญาถูกเจ้าตัวสะบัดออกจนร่างของทั้งคู่เปลือยเปล่า ร่างที่ใหญ่กว่ากำลังสำรวจผิวขาวเนียนไปทั่ว อยากตีตราจับจองแสดงความเป็นของไปทุกส่วน พายุอารมณ์ของพญาเริ่มไต่ขึ้นสูงเมื่อเจ้ากระต่ายตัวน้อยมีปฏิกิริยาตอบกลับอย่างที่เขาคาดไม่ถึง เขาร้อนแรงไปเท่าไหร่ดูเหมือนอีกฝ่ายจะร้อนแรงกลับมาเท่านั้น การกอดรัดบดเบียดสัมผัสร่างกายและแลกจุมพิตกันอย่างเร้าร้อนนั้นทำให้เตียงสี่เสาโบราณถึงกับโอนเอนไปมาตามแรงรุกรับของบุคคลทั้งสอง

“พี่...เสาเตียงมันไปกระแทกกำแพง น้องกลัวว่าน้องโอบจะได้ยิน” เทียมฟ้ากระซิบบอก

“จะให้ทน ทนไม่ได้แล้วนะ” พญาที่กำลังสาละวนอยู่แถวหน้าท้องของเทียมฟ้าก็เงยหน้าขึ้นมาพูดดักคอเอาไว้เพราะกลัวว่าอีกฝ่ายจะยุติไฟรักที่กำลังลุกโชน นึกโมโหเจ้าเตียงเก่าโบราณที่มันไม่แข็งแรงเอาเสียเลย

“ทำไงดีครับ” เทียมฟ้ารู้ว่าพญากำลังรู้สึกอย่างไรแต่ก็ไม่อยากให้เด็กอย่างโอบอุ้มได้ยิน

“รอเดี๋ยวนะ” พญายอมตัดใจจากผิวหอมๆ ของเจ้ากระต่ายชั่วคราวแล้วลุกออกมายืนที่หัวเตียงก่อนจะเอาหน้าแนบไปที่กำแพงไม้ด้านที่ติดกับห้องนอนของโอบอุ้มเพื่อฟังว่าคนที่อยู่อีกห้องหลับไปรึยัง

“พี่จะทำอะไรครับ” เทียมฟ้าถามด้วยความสงสัย

“ตั๊กแก! ตั๊ก ตั๊ก ตั๊กกกกกแก!” พญากำลังส่งเสียงเลียนแบบตุ๊กแก เลียนแบบได้เหมือนมากจนเทียมฟ้าถึงกับหลุดขำออกมาทันที พญายังคงส่งเสียงเลียนแบบตุ๊กแกอีกหลายครั้งก่อนจะเคาะกำแพงเป็นจังหวะให้เหมือนกับเสียงเสาเตียงกระแทกกำแพงเมื่อครู่

“น้อง! สงสัยพี่ต้องเคาะกำแพงบ่อยๆ ตุ๊กแกพวกนี้มันจะได้หนีไป ทำไมมันเยอะอย่างนี้นะ!” พญาตะโกนพูดกับเทียมฟ้าเพราะหวังให้เสียงนั้นได้ยินไปถึงอีกห้อง

เทียมฟ้ากลั้นขำจนหน้าแดง แต่แล้วก็ต้องมาหยุดขำเมื่อร่างกำยำเปลือยเปล่าของคนที่ทำให้ขำเดินกลับมาคร่อมทับร่างของตนเอาไว้ รอยยิ้มเจ้าเล่ห์ส่งมาพร้อมกับสายตาที่โลมเลียไปทั่วร่างของเทียมฟ้าทำให้เทียมฟ้าอายจนต้องเอียงหน้าหลบสายตานั้น นั่นยิ่งเปิดโอกาสให้ฉลามร้ายซุกจมูกไปที่ลำคอขาวแล้วคลอเคลียเบาๆ

“ตรงนี้ของพี่” พญาจูบไปที่ลำคออีกครั้งก่อนจะกระซิบบอก

“พี่ พี่แทนตัวเองว่าพี่ใช่ไหม” เทียมฟ้าได้ยินคำว่าพี่จากพญาหัวใจก็เต้นรัว ต้องถามซ้ำเพราะไม่อยากเชื่อหูตัวเอง

“ตรงนี้ก็ของพี่” พญาจูบไปทั่วใบหน้าของเทียมฟ้าแล้วมาอ้อยอิ่งที่ริมฝีปาก

“ของน้องเหมือนกัน” เทียมฟ้ายิ้มก่อนจะหอมไปทั่วใบหน้าของพญาบ้าง

“ตรงนี้ก็ของพี่” พญาขยับตัวลงมาบริเวณอกขาวเนียนก่อนจะใช้ปลายลิ้นอุ่นสากทำอาณาเขตตีตราจองจนเทียมฟ้าขนลุกไปหมด

“พี่...” เทียมฟ้าพรูลมหายใจและโอบกอดตัวของอีกฝ่าย

“ตรงนี้ก็ของพี่ ของพี่คนเดียว” พญาเลื่อนตัวลงไปจุดที่อ่อนไหวที่สุดของเจ้ากระต่าย

เทียมฟ้าสะดุ้งเล็กน้อย รู้สึกสั่นสะท้านซาบซ่านจนต้องเอ่ยเรียกพญาซ้ำๆ แทนการส่งเสียงน่าอายอย่างอื่น การครอบครองของอีกฝ่ายชำนาญเสียจนความสุขมันล้นทะลักออกมา หมอนนุ่มใบน้อยใหญ่ถูกเทียมฟ้าคว้ามากอดและขยำเพื่อลดทอนความทรมานที่กำลังเกิดขึ้น ความทรมานที่กำลังมาพร้อมกับความสุข เทียมฟ้าไม่แปลกใจเลยว่าทำไมใครๆ ก็ต้องยอมศิโรราบให้กับฉลามตัวนี้ ไม่ว่าจะถูกสัมผัสตรงไหนความสุขก็แผ่นซ่านตรงนั้นได้อย่างอัศจรรย์ใจ อารมณ์เพลิดเพลินดื่มด่ำในรสรักทำให้เทียมฟ้าไม่รู้ตัวด้วยซ้ำว่ากำลังจะตกเป็นของเจ้าแห่งทะเลอย่างเต็มตัวแล้ว

“เป็นของพี่ได้รึเปล่า”

“ครับ น้องเป็นของพี่คนเดียว” เสียงวอนขอจากเจ้าทะเลสั่นคลอนไปถึงหัวใจมีหรือที่เทียมฟ้าจะปฏิเสธ

เตียงสี่เสายังคงสั่นไหวตามแรงอารมณ์ของคนบนเตียง สองร่างทาบทับแนบสนิทจนเหมือนจะเป็นร่างเดียวกัน แม้เปลวไฟจากตะเกียงจะดับลงไปแล้วแต่ไฟรักของคู่รักข้าวใหม่ปลามันยังคงถูกจุดอย่างต่อเนื่องทั้งคืน พญาเพิ่งเข้าใจในวันนี้ว่าความสุขที่เกิดจากความใคร่และความสุขที่เกิดจากความรักมันแตกต่างกันอย่างไร การระบายอารมณ์ใคร่ให้เสร็จกับการอยากทำให้คนที่รักและตัวเองมีความสุขไปพร้อมกันนั้น แม้การกระทำจะไม่แตกต่างกันแต่ความรู้สึกมันต่างกันเหมือนฟ้ากับเหว

“น้อง...” พญาลองเรียกชื่ออีกฝ่ายดูหลังจากที่พายุแห่งรักผ่านพ้นไป เขาไม่รู้ว่าอีกฝ่ายจะหมดแรงจนหลับไปแล้วรึยัง

“ครับ” เทียมฟ้าตอบรับเสียงเบา ยอมรับว่าแรงในร่างกายโดนพญาขโมยเอาไปจนหมดแต่กลับนอนไม่หลับเพราะว่าความสุขมันปลุกให้หัวใจยังคงเต้นแรงอยู่ ความสุขที่เกิดขึ้นตั้งแต่สัมผัสแรกจนถึงช่วงเวลาที่พญานอนลูบผมให้เทียมฟ้าเบาๆ อย่างทะนุถนอมอยู่ในตอนนี้

“วันครบรอบทำบุญให้พ่อของน้อง พี่จัดการทุกอย่างให้เองนะ น้องแค่บอกมาว่าต้องการอะไรบ้าง” พญาตั้งใจเอาไว้แล้วตั้งแต่มาถึงแต่ก็กลัวหม่อมเจ้าวิรงรองจะไม่เข้าใจที่พญาเข้ามาข้องเกี่ยว พญาเลยเลือกที่จะพูดหลังจากที่ได้เทียมฟ้ามาเป็นคนรักอย่างเต็มตัวแล้ว หากเขาจะทำหน้าที่นี้ในฐานะแฟนของหลานก็คงจะไม่น่าเกลียดอะไร

“ไม่เป็นไรหรอกครับ”

“ให้พี่จัดการให้ อย่าดื้อ”

“แต่ว่า...”

“นะคะ” พญาลองพูดเลียนแบบเวลาที่เทียมฟ้าอ้อนท่านหญิงวิรงรองดูบ้าง ซึ่งมันคงได้ผลเพราะเจ้ากระต่ายถึงกับส่งเสียงหัวเราะออกมา

“พี่ พี่ต้องฝืนใจรึเปล่าที่ต้องพูดเพราะๆ กับน้อง” เทียมฟ้าพลิกตัวขึ้นมาเพราะอยากมองหน้าอีกฝ่ายแต่ความมืดก็ทำให้เห็นแค่เพียงเลือนรางเท่านั้น

“ฝืน”

“ถ้าอย่างนั้นพี่ไม่ต้อง...”

“แต่อยากทำ อยากเป็นคนดี” พญาพูดแทรกออกมาก่อนที่เทียมฟ้าจะพูดจบ

“ถึงพี่จะติดพูดโผงผางแต่ไม่ได้หมายความว่าพี่เป็นคนไม่ดีสักหน่อย”

“อยากเป็นคนดีมากกว่านั้น คนดีของหนูด้วง ของเจ้าอุ้ม แล้วก็ของน้องเท่านั้น”

“น้องรักพี่ ขอบคุณครับที่พยายามเพื่อน้อง” เทียมฟ้าขยับขึ้นไปจูบพญาด้วยความดีใจ จากที่ไม่เคยกล้าคาดหวังแต่ในตอนนี้เทียมฟ้าคิดว่ามันเกินกว่าที่หวังเอาไว้มาก

“อยากโดนอีกเหรอมายั่วอยู่ได้” พญาขำแต่ก็รู้สึกดีใจที่ได้เห็นท่าทางดีใจของเทียมฟ้า

“ตรงนี้เป็นของน้องและตรงนี้เป็นของพี่” เทียมฟ้าลูบที่อกข้างซ้ายของพญาก่อนจะจับมือของพญามาลูบที่หน้าอกข้างซ้ายของตัวเองบ้าง

“ใจแลกใจไปแล้ว ตัวแลกตัวไปแล้ว ต่อไปนี้มีปัญหาอะไรต้องบอกพี่นะ คือ..หมายถึงปัญหาของน้อง ของที่บ้านน้อง ของญาติน้อง ปัญหาอะไรก็ได้ บอกพี่มาพี่จะช่วยแก้ปัญหาให้”

“ถ้ารู้ว่ายอมพี่แล้วพี่จะรักน้องขนาดนี้ น้องยอมไปนานแล้ว” เทียมฟ้าพูดติดตลก

“อย่าพูดแบบนี้ พี่ไม่ได้เปลี่ยนตัวเองเพราะเซ็กส์ แต่แพ้ใจ แพ้ความดี แพ้ความรัก หลวงพี่เคยสอนว่าทำดีต้องได้ดีไง แต่เดี๋ยวต้องไปบอกหลวงพี่ใหม่ว่าทำดีแล้วได้เมียว่ะ ฮ่าๆ” พญาหัวเราะชอบใจในมุกของตัวเอง

“น้องรักพี่”

“รู้แล้ว”

“น้องรักพี่”

“ได้ยินแล้ว”

“น้องรักพี่”

“เออ รับรู้แล้ว”

“น้องรักพี่มากๆ”

“พี่ก็รักน้อง” พญารู้ดีว่าเทียมฟ้าอยากฟังคำนี้ ถ้าไม่พูดไปเห็นทีจะไม่ได้นอนอย่างสงบ

“เย้” เทียมฟ้าร้องออกมาด้วยความดีใจหลังจากที่ได้ยินคำที่ต้องการฟังเสียที

“เฮ้อ มึงนี่นะ เอ้ย น้องนี่นะ สงสัยจะยังไม่หมดแรง” พญาส่ายหน้าก่อนจะจับเจ้ากระต่ายตัวแสบให้เอนลงไปนอนเหมือนเดิมแล้วประทับจูบเพื่อไม่ให้อีกฝ่ายส่งเสียงดัง

เทียมฟ้าอยากจะร้องท้วงว่าตัวเองไม่มีแรงแล้ว แต่ในเมื่อหลวงพี่สอนว่าคนทำดีต้องได้ดี เทียมฟ้าก็เลยไม่อยากให้พี่พญาคนดีต้องผิดหวัง แล้วเตียงสี่เสาก็ต้องไหวไปมาอีกครั้งเพราะคนสองคนยังมีแรงบอกรักกันต่อแม้ตอนนี้ใกล้จะเช้าแล้วก็ตาม

ทั้งสองคนคงไม่รู้ว่ากำลังเป็นต้นเหตุที่ทำให้โอบอุ้มนอนตัวสั่นอยู่ใต้ผ้าห่มเพราะกลัวว่าตุ๊กแกจากห้องนอนของป๊าจะหนีมาอยู่ที่ห้องนอนของตนเอง ป๊าเล่นเคาะไล่ตุ๊กแกทั้งคืนแบบนี้แล้วตุ๊กแกตัวไหนจะกล้าอยู่ที่ห้องของป๊ากัน โอบอุ้มได้แต่เอาผ้าห่มมาคลุมตัวจนมิดให้แน่ใจว่าตุ๊กแกมันจะไม่สามารถลอดเข้ามาถึงตัวได้แล้วจึงได้สบายใจขึ้นมาเล็กน้อย แต่กว่าเจ้าตัวจะหลับลงได้ก็เล่นเอาเกือบเช้าอยู่เหมือนกัน

...

วันนี้ตระกูลมณีรัตน์ได้เชิญหม่อมเจ้าหญิงวิรงรองมาร่วมทำบุญบ้านทำบุญร้านและทำบุญให้กับบรรพบุรุษของตระกูลด้วย พญา เทียมฟ้า โอบอุ้มจึงได้เดินทางมาที่บ้านของนับตังค์พร้อมกับท่านหญิง หนูด้วงเห็นพี่โอบอุ้มมาก็ดีใจยกใหญ่ รีบชวนอีกฝ่ายไปดูของเล่นแปลกๆ ที่คุณปู่อัฐยกให้ หลวงพี่อนาทาโนหรือหลวงพี่เหรียญเงินก็เดินทางมาที่กรุงเทพตั้งแต่เมื่อคืน ท่านค้างที่วัดใกล้บ้านและเดินทางมาฉันภัตตาหารเช้าที่นี่ตามที่คุณย่าละม่อมนิมนต์ท่านไว้ ตอนนี้ครอบครัวมณีรัตน์จึงได้กลับมาอยู่กันแบบพร้อมหน้าพร้อมตา คนที่ดูสดชื่นอิ่มเอมที่สุดก็คงจะเป็นคุณย่าละม่อมผู้ที่เป็นศูนย์รวมของครอบครัว

ระหว่างงานบุญนับตังค์ก็แอบสังเกตพญาและคุณชายน้องไปด้วย มีหลายอย่างระหว่างสองคนนั้นที่ดูเปลี่ยนไปจนเห็นได้ชัด แต่นับตังค์คิดว่ามันเป็นการเปลี่ยนแปลงที่ดีที่ทำให้นับตังค์รู้สึกสบายใจ เมื่อทำบุญเสร็จและมีโอกาสได้อยู่ตามลำพังกับพญาสองต่อสอง นับตังค์จึงถามพญาแบบตรงไปตรงมาเรื่องความสัมพันธ์ของพญากับหม่อมราชวงศ์เทียมฟ้า พญาก็เล่าทุกอย่างไปตรงๆ เพราะนับตังค์ก็ยังเป็นคนสำคัญที่พญารู้สึกไว้ใจตั้งแต่วันแรกที่รู้จักจนถึงวันนี้

“โอ้โห เตียงสี่เสาเปลี่ยนชีวิตสินะ” นับตังค์เอ่ยแซ็วพญาทันทีที่ได้รู้ว่าพญาตกลงคบกับเทียมฟ้าแล้ว 

“เฮ้ย น้องตังรู้ได้ไงว่าพี่กับเจ้ากระต่ายทำแบบนั้นกัน” พญาไม่ได้เล่าเรื่องบนเตียงให้นับตังค์ฟัง แค่เล่าว่าเมื่อคืนได้นอนบนเตียงสี่เสาแต่นับตังค์ก็แซ็วเหมือนรู้ว่าเกิดอะไรขึ้นเมื่อคืนนี้

“ก็คอลุงมีรอย คุณชายน้องนี่ก็ร้อนแรงเหมือนกันนะ” นับตังค์ยักคิ้ว

“จริงดิ เวรเลย ใครเห็นบ้างเนี่ย” พญารีบยกปกเสื้อขึ้นมาปิดคอ

“ล้อเล่น เห็นลุงพูดจาดีๆ กับคุณชายก็รู้แล้วว่าคงมีอะไรเปลี่ยนแปลง ตังก็ดีใจนะที่ลุงมีคนอยู่ข้างๆ”

“ที่ผ่านมาพี่เป็นคนหยาบคายมากเลยใช่ไหม”

“มันไม่ใช่แบบนั้น ตังรู้ว่าลุงไม่ใช่คนหยาบกระด้างแต่ที่ทำแบบนั้นเพราะอยากป้องกันไม่ให้คนอื่นเข้ามาในพื้นที่ส่วนตัว ตังเชื่อว่าต่อให้ลุงหยาบคายกว่านี้คุณชายน้องก็รักลุงเพราะลุงไม่ใช่คนไม่ดี แต่ลุงเห็นแววตาเป็นประกายของคุณชายน้องไหมตอนที่ลุงพูดจาดีด้วย ทุกคนย่อมต้องการการให้เกียรติด้วยกันทั้งนั้นแหละ นี่ดีนะที่แฟนของลุงเป็นคุณชายน้อง ถ้าเป็นแฟนตังมาพูดกูมึงแบบนี้ได้ต่อยฟันหัก” นับตังค์พูดจบพญาก็ยิ้มแห้งๆ ก่อนจะอวยพรมีคุณในใจว่าขอให้อย่าเผลอพูดกูมึงกับนับตังค์เลย ถึงจะชอบขัดคอกับมีคุณแต่ถ้าเห็นมีคุณฟันร่วงหมดปากก็คงน่าสงสารไม่น้อย

“พี่ก็จะพยายามให้มากกว่านี้” พญาเองก็รู้ว่าแค่เรื่องคำพูดคำจามันไม่ได้เหลือบ่ากว่าแรงที่จะทำ ที่ผ่านมาเขาแค่ตั้งแง่กับเทียมฟ้าถึงได้ทำตัวโผงผางและหยาบกระด้างใส่อีกฝ่าย จากนี้ไปก็คงต้องพยายามไม่ให้ลืมตัวเพราะเขาก็อยากเห็นแววตาเป็นที่ประกายของเทียมฟ้าทุกวัน   

“แล้วที่ลุงว่ามีเรื่องจะปรึกษา เรื่องอะไร” นับตังค์เห็นท่าทางของพญาก็คิดว่าครั้งนี้คงเป็นความรักที่เกิดขึ้นในหัวใจของพญาจริงๆ นักเลงโตอย่างพญาเปลี่ยนแปลงเป็นคนละคนได้แบบที่เจ้าตัวเต็มใจและพร้อมที่จะทำก็แปลว่าเทียมฟ้าต้องกลายเป็นคนสำคัญของพญาเข้าแล้ว

“คืองี้..” พญากระซิบเรื่องที่ไปได้ยินมาให้นับตังค์ฟังอย่างละเอียดตั้งแต่ต้นจนจบ

“จริงเหรอ ไม่น่าจริงนะ แต่จะว่าไปก็น่าคิด เห็นแม่บอกว่าท่านหญิงอยากขายที่ดินที่ต่างจังหวัดหลายแปลงเลย แม่ยังบอกว่าจะซื้อเอาไว้เองเพราะเสียดาย” นับตังค์ฟังเรื่องฐานะของหม่อมเจ้าหญิงวิรงรองจากพญาแล้วก็เริ่มคิดตาม

“พี่อยากช่วย แต่พี่ไม่รู้จะเริ่มยังไง มันจะดูเสือก เอ้ย ดูยุ่งเรื่องของเขาไปไหม เอางี้นะ ถ้าเขาจะขายจริงๆ พี่อยากซื้อทั้งหมดเลย ให้คุณน้านับดาวช่วยจัดการให้พี่ได้ไหม”

“เอางี้ เดี๋ยวตังขอไปสืบก่อน ไม่ว่าจะจริงไม่จริงลุงก็ต้องดูแลคุณชายให้ดีนะ จะทำเหมือนกับที่เคยทำกับคนอื่นไม่ได้นะ”

“พี่รู้แล้ว คนนี้พี่จริงจัง มันคงใช่รักแหละ” เป็นครั้งแรกที่พญาพูดคำว่ารักอย่างเต็มปาก พญาไม่ได้เอ่ยคำนี้มานานมากแล้วจนไม่แน่ใจว่ารักในครั้งนี้จะเป็นรักอย่างที่ควรจะเป็นรึเปล่า

“ดีใจด้วยนะลุง” นับตังค์จับมือของพญาขึ้นมาบีบเบาๆ เพราะดีใจที่กำแพงของพญาได้ถูกทำลายลงเสียที

“ปล่อยมือได้แล้ว” มีคุณเดินเข้ามาเห็นพอดีก็ทำหน้าบึ้งใส่คนทั้งคู่

“พี่ไม่ต้องหึงแล้ว ลุงเขามีเจ้าของแล้วนะ” นับตังค์พูดไปยิ้มไปเพราะรู้สึกยินดี

“จริงดิ ดีใจด้วยนะ ดีใจมาก ดีใจสุดๆ” มีคุณเข้ามาดึงมือของนับตังค์ออกแล้วจับมือของพญาเอาไว้แทน แถมยังแสดงอาการดีใจจนออกนอกหน้าที่พญามีแฟนเป็นตัวเป็นตนเสียที

“เยอะไป ดีใจเยอะไปแล้ว ถึงกูจะมีแฟนแต่น้องตังคือที่หนึ่งในใจกูเสมอโว้ย” พญาทำหน้ากวนๆ ใส่มีคุณ

“อ้าวคุณชายน้อง มาตั้งแต่เมื่อไหร่” มีคุณแกล้งชะเง้อหน้าไปทางด้านหลังของพญา พญาสะดุ้งตกใจรีบหันไปดูตาม พอเห็นนับตังค์กับมีคุณหัวเราะจนตัวงอก็รู้ได้ทันทีว่าโดนสองคนนี้แกล้งเข้าให้แล้ว

“พี่ไปก่อนดีกว่า รำคาญคนบางคน กวนตีน” พญาทำเป็นพาลใส่มีคุณแก้เขินก่อนจะรีบเดินออกไปเพราะได้เวลาพาเทียมฟ้าและเด็กๆ ไปเที่ยวต่อ เมื่อพญาได้ปรึกษาเรื่องครอบครัวของเทียมฟ้ากับนับตังค์แล้วก็รู้สึกสบายใจขึ้นเพราะอย่างน้อยตัวเองก็จะมีนับตังค์คอยช่วยด้วยอีกแรง

(มีต่อด้านล่างค่ะ)
V
V

« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 13-02-2018 22:24:50 โดย Loverouter »

ออฟไลน์ Loverouter

  • เป็ดมหาวิทยาลัย
  • *
  • กระทู้: 446
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +471/-12
(ต่อจากด้านบนค่ะ)


รถตุ๊กๆ ขนาดเล็กที่บรรทุกผู้ใหญ่สองคนและเด็กอีกสองคนกำลังตระเวนไปทั่วกรุงเทพ ค่าจ้างเหมาวันที่ได้ทำให้เจ้าของรถรับจ้างยินดีเต็มใจให้บริการตามที่ผู้ว่าจ้างต้องการทุกอย่าง เสียงเจื้อยแจ้วของเด็กน้อยยังคงดังแข่งกับเสียงลมที่พัดตีจนผมของทุกคนยุ่งเหยิงไปตามๆ กัน แต่เพราะอยากให้หนูด้วงกับโอบอุ้มได้สัมผัสชีวิตที่ไม่คุ้นเคยดูบ้างพญาจึงยอมให้ผมเผ้าที่เคยจัดทรงเป็นระเบียบทุกวันพันกันจนไม่เหลือภาพนักเลงโตสุดเนี๊ยบอย่างที่คุ้นตาเลย

“นั่งตุ๊กๆ แต่มาเที่ยวห้างหรู มันย้อนแย้งไปไหมน้อง” พญาถามเทียมฟ้าหลังจากที่รถตุ๊กๆ พาทุกคนมาส่งที่หน้าห้างสรรพสินค้าขนาดใหญ่ใจกลางเมือง

“น้องจัดผมให้นะ” เทียมฟ้าไม่ได้ตอบแต่เดินเข้าไปจัดทรงผมที่โดนลมตีจนยุ่งให้กับพญา พญาอยากจะโน้มหน้าไปหอมแก้มขาวๆ แต่ก็เกรงใจหนูด้วงกับโอบอุ้มที่มองอยู่

“คืนนี้โอบขอไปนอนกับหนูด้วงได้ไหมครับป๊า น้าตังชวนโอบเอาไว้” โอบอุ้มถามพญาเสียงเบาเพราะกลัวพญาจะดุที่ไม่รู้จักเกรงใจนับตังค์

“เอาสิ แต่วันมะรืนมีงานทำบุญที่บ้านอาน้อง เราต้องกลับมานะ” พญาอนุญาตพลางส่งยิ้มอย่างมีเลศนัยไปให้เทียมฟ้าเพราะว่าคืนนี้คงไม่ต้องส่งเสียงตุ๊กแกอีกแล้ว

“ปี้โอดอุ้นจัวตุ๊ดแก บ้านขอนอาน้อนมีตุ๊ดแกตัวเบ้อเยิ่ม มันย้องตุ๊ดแก ตุ๊ดแก” หนูด้วงเล่าพลางทำตาโตเพื่อให้ทุกรับรู้ว่าตุ๊กแกมันน่ากลัวแค่ไหน

“เอ่อ...” เทียมฟ้าทำหน้าไม่ถูกแต่พญากกลับหัวเราะขำ

“ใช่ๆ เมื่อคืนยุงไล่ตุ๊กแกทั้งคืนเลย มันร้องน่ารำคาญ” พญาตีเนียนเล่าให้หนูด้วงฟัง หนูด้วงยิ่งทำตาโตหนักกว่าเก่า

“โอบได้ยินเสียงเหมือน...” โอบอุ้มทำหน้าเครียดๆ จนเทียมฟ้ากับพญาชะงักไป

“เหมือนอะไร” พญารีบถาม

“เหมือนเสียงลึกลับร้องเรียกชื่อป๊าเบาๆ ด้วยครับ” โอบอุ้มเดินเข้าไปกระซิบบอกพญาเพราะไม่อยากให้หนูด้วงกลัวตามไปด้วย

“อะได ปี้โอดอุ้นกาชิบหนูด้วย” หนูด้วงรีบกระตุกชายเสื้อโอบอุ้มด้วยความอยากรู้

“ฮ่าๆๆๆ ไร้สาระ ไม่มีอะไรหรอก ไปเถอะ เห็นอาน้องบอกว่าข้างในมีตู้ปลาใหญ่มาก อยากไปดูไหมครับหนูด้วง” พญาเปลี่ยนเรื่องก่อนที่จะโดนถามว่าเสียงลึกลับที่ว่ามาจากไหน

“เย้ๆ หนูจะไปดูปลา ปี้โอดอุ้นจะเป็นป้อปลา หนูจะเป็นแม่ปลา เย้ๆ” หนูด้วงได้ยินเรื่องปลาก็ลืมเรื่องที่สงสัยเสียสนิท รีบเข้าไปจูงมือโอบอุ้มให้เข้าไปในห้าง

“เห็นไหม น้องโอบได้ยินจนได้” เทียมฟ้ายืนหน้าแดงอยู่กับที่

“เอาน่า เมื่อคืนพี่ยอมเป็นตุ๊กแกไปแล้ว น้องก็ยอมเป็นเสียงลึกลับจากความมืดไปก่อนนะ แต่คืนนี้ทางโปร่ง เย้ๆ” พญาชูมือชูไม้ดีใจบ้างจนเทียมฟ้าอดขำไม่ได้

“พี่รอด้วย” เทียมฟ้าร้องเรียกพญาเพราะยังเดินเร็วไม่ค่อยถนัด มันไม่ได้เจ็บปวดจนเดินไม่ได้แต่ให้ขยับเร็วๆ ก็ยังรู้สึกถึงอาการเจ็บเล็กน้อยตรงบริเวณที่ยอมให้พญารุกล้ำเมื่อคืนที่ผ่านมา

“เจ็บเหรอ ไหวไหม” พญานึกตำหนิตัวเองที่ไม่ได้ถามอีกฝ่ายเพราะเห็นว่าเมื่อเช้าเทียมฟ้าดูสดใสและไม่มีอาการเจ็บปวดให้เห็น

“มันไม่ได้เจ็บมากแต่เดินเร็วมากไม่ได้” เทียมฟ้าเห็นสีหน้าที่ดูเป็นห่วงจากพญาอาการเจ็บก็ทุเลาเหมือนได้ยาดี

“จับมือพี่ เราจะค่อยๆ ไปพร้อมกัน” พญายื่นมือไปให้ เทียมฟ้าระบายยิ้มก่อนจะวางมือของตัวเองบนมือของพญา

“ครับ ค่อยๆ ไปพร้อมกัน” เทียมฟ้ากระชับมือของพญาก่อนจะพากันเดินตามหนูด้วงกับโอบอุ้มเข้าไปด้านใน

พญากับเทียมฟ้าเห็นหนูด้วงกับโอบอุ้มมีความสุขกับการได้เข้ามาดูอควาเรียมก็พลอยมีความสุขตามไปด้วย หนูด้วงดูจะชอบปลาและสัตว์ใต้ทะเลมากถึงขนาดอ้อนพญาว่าอยากใส่ชุดดำน้ำลงไปว่ายน้ำกับปลาเหมือนอย่างที่เจ้าหน้าที่กำลังลงไปให้อาหารปลาบ้าง พญาต้องอธิบายให้ฟังว่าหนูด้วงจะต้องโตก่อนถึงจะลงไปได้ หนูด้วงเลยสัญญาว่าจะกินข้าวทุกวันจะได้โตเร็วๆ

ส่วนเทียมฟ้ารู้สึกดีใจที่หนูด้วงไม่มีทีท่าว่าจะกลัวจมน้ำอย่างตนเอง แต่เรื่องที่ทำให้เทียมฟ้ายิ้มได้มากที่สุดก็คือการเปลี่ยนแปลงของพญา พญาดูอารมณ์ดีและพูดจาอ่อนโยนขึ้น เทียมฟ้าไม่ได้อยากเปลี่ยนตัวตนของพญาแต่ก็อยากให้พญาเป็นต้นแบบที่ดีของหนูด้วง เทียมฟ้ารู้ดีว่าหนูด้วงคือหัวใจของพญา การทำให้หนูด้วงภูมิใจเป็นสิ่งที่พญาต้องการมากที่สุด เทียมฟ้าก็อยากเป็นส่วนหนึ่งที่ช่วยให้ความต้องการของพญาเป็นจริง

“หนูด้วงมาหาน้าเร็ว เดี๋ยวพี่อุ้มจะทำอะไรให้ดู” พญาเรียกหนูด้วงให้มายืนอยู่ตรงหน้าบันไดเลื่อนหลังจากที่ออกมาจากอควาเรียมแล้ว จากนั้นก็หันกลับไปกระพริบตาให้โอบอุ้ม

“ปี้โอดอุ้นจะทำอะได” หนูด้วงเอียงคอถาม

“พี่อุ้มมีเวทมนตร์  เดี๋ยวพอหนูด้วงเดินไปตรงบันไดนะ พี่อุ้มจะเสกให้บันไดเลื่อนได้” พญากระซิบบอกหนูด้วงจบหนูด้วงก็ทำตาโตแล้วออกอาการตื่นเต้น

เผอิญว่าบันไดเลื่อนอันนี้เป็นบันไดเลื่อนอัตโนมัติ ต้องมีคนเดินผ่านตัวเซ็นเซอร์บันไดเลื่อนถึงจะทำงาน พญาเลยอยากทำให้หนูด้วงตื่นเต้นสักหน่อย เมื่อนัดแนะกับโอบอุ้มได้แล้วพญาก็จูงมือของหนูด้วงเดินไปใกล้ๆ บันได ระหว่างที่โอบอุ้มทำท่าเสกคาถาใส่บันไดเลื่อนเป็นจังหวะเดียวกับที่พญาจูงมือหนูด้วงเดินผ่านตัวเซ็นเซอร์ ทันใดนั้นบันไดเลื่อนก็ค่อยๆ เคลื่อนตัว หนูด้วงยืนตัวเกร็งแล้วหันมามองโอบอุ้มด้วยความตื่นเต้นอย่างที่สุด แววตาที่ดูชื่นชมโอบอุ้มกับรอยยิ้มที่กลั้นไม่มิดของหนูด้วงทำให้เทียมฟ้าอดยิ้มตามออกมาไม่ได้ เจ้าตัวน้อยค่อยๆ คลี่ยิ้มกว้างขึ้นเมื่อตัวเองเคลื่อนตัวสูงขึ้นไปทั้งที่ไม่ได้ก้าวขาเดิน จนกระทั่งมาถึงด้านบนสุดหนูด้วงถึงได้หัวเราะออกมาด้วยความสุข

“หนูยอยได้ บันไดก็ยอยได้ ปี้โอดอุ้นเก่นที่ฉุด หนูยักปี้โอดอุ้น” หนูด้วงเข้ามากอดโอบอุ้ม โอบอุ้มได้แต่เกาหัวด้วยความเขินและแอบรู้สึกผิดที่หลอกหนูด้วง

“แล้วไม่รักน้าเหรอ” พญารีบถามบ้าง

“หนูยักทุดคนแต่ยักปี้โอดอุ้นก่อน ปี้โอดอุ้นเก่น เฉกบันไดให้ยอยได้”

“คนที่เก่งจริงคือคนที่ไม่ดื้ออย่างหนูด้วงต่างหากครับ” โอบอุ้มนั่งคุกเข่าลงแล้วลูบผมหนูด้วงด้วยความเอ็นดู การมีน้องชายที่น่ารักและขี้อ้อนทำให้โอบอุ้มชักไม่อยากกลับไปเรียนที่อังกฤษแล้ว

“เย้ หนูเก่นที่ฉุด หนูไม่ดื้อ ปี้โอดอุ้นก้อต้อนยักหนู ยุงก็ต้อนยักหนู อาน้อนก็ต้อนยักหนู”

“รักจะแย่แล้ว มาให้น้าฟัดทีเถอะ” พญาอุ้มหนูด้วงขึ้นมาแล้วฟัดที่แก้มจนหนูด้วงหัวเราะร่วน

..

ผลของการพาหนูด้วงไปตะลุยเที่ยวมาตั้งแต่ครึ่งวันบ่ายและกว่าจะได้กลับมาถึงบ้านของนับตังค์ก็เกือบสองทุ่มนั้นทำให้เจ้าตัวเล็กหลับสนิทไม่ยอมตื่นด้วยความเพลีย โอบอุ้มเองก็ยืนสะลึมสะลือเพราะนอนหลับมาในรถแท็กซี่เช่นกัน มีคุณเป็นคนมาอุ้มหนูด้วงต่อจากพญาและพาโอบอุ้มเข้าบ้านไปก่อน นับตังค์อาสาจะไปส่งพญากับเทียมฟ้าที่วังเพราะทั้งคู่ไม่ได้เอารถส่วนตัวมา พญาปฏิเสธเพราะอยากพาเทียมฟ้าไปนั่งฟังเพลงด้วยกันก่อนนับตังค์จึงตามใจและขอตัวไปดูหนูด้วงพร้อมกำชับไม่ให้พญาดื่มหนักเพราะกลัวว่าจะพาเทียมฟ้ากลับไม่ถึงวัง

“พี่รู้ได้ไงว่าที่นี่น่านั่ง เพลงก็เพราะ อาหารก็อร่อย คนไม่พลุกพล่านด้วย” เทียมฟ้าถามหลังจากที่พญาพาเทียมฟ้ามานั่งฟังเพลงในห้องอาหารกึ่งผับเล็กๆ แห่งหนึ่ง แม้จะเล็กแต่ก็ตกแต่งได้สวยงาม ดนตรีก็ไพเราะ อาหารก็รสชาติดี เท่าที่สังเกตดูจะเห็นว่ามีแต่ผู้ชายเข้ามาที่นี่ทั้งนั้น มากันเป็นคู่เสียด้วย

“ถามมีคุณเอา” พญาตอบข้อข้องใจของเทียมฟ้า มีคุณเป็นแนะนำที่นี่และบอกว่าเป็นร้านของเพื่อน ที่สำคัญเป็นที่รู้กันว่าคนที่มาที่นี่ส่วนใหญ่แล้วจะเป็นกลุ่มชายรักชายแทบทั้งนั้น

“ดีกันแล้วเหรอ” เทียมฟ้าถามเพราะปกติพญากับมีคุณชอบขัดคอกันมากกว่าจะพูดกันดีๆ

“สงบศึกแล้ว”

“พี่ยังรักพี่ตังไหม” เทียมฟ้าตัดสินใจถาม

“รัก”

“.....”

“งอนพี่เหรอ” พญากระเซ้าถาม

“น้องไม่ได้งอน”

“แต่ดูเหมือนงอน”

“น้องแค่อิจฉา”

“อิจฉาอะไร”

“แค่รู้สึกว่าอิจฉาแต่อธิบายไม่ถูกครับ” เทียมฟ้ายิ้มให้พญา เขาไม่ได้น้อยใจหรืองอนแต่แค่สึกอิจฉาความรักที่พญามีให้นับตังค์ มันไม่ใช่การอยากดีเด่นกว่าแต่แค่อยากถูกพญารักนานๆ แบบที่พญารักนับตังค์บ้าง

“แล้วพี่ต้องทำยังไงน้องถึงจะหายอิจฉา”

“ไม่ต้องทำอะไรเลยครับ น้องแค่อิจฉาแต่ว่าไม่ได้งอนจริงๆ”

“น้องอยากอยู่สูงจนเกินเอื้อมแล้วให้พี่ได้แต่มองหรือว่าน้องอยากอยู่ข้างๆ อยู่ตรงที่พี่สามารถโอบกอดได้ทุกเวลา” พญาถามกลับ

“นั่นสิ น้องไม่อิจฉาพี่ตังแล้วเพราะน้องจะได้กอดพี่ทุกวัน” เทียมฟ้าฟังแล้วยิ้มได้ คนเราย่อมต้องมีคนที่อยู่ในใจเอาไว้ให้นึกถึงบ้าง แต่ถ้าเป็นคนที่อยู่ในใจและในอ้อมกอดด้วยมันคงดีที่สุด คิดแล้วเทียมฟ้าสวมกอดพญาโดยไม่สนใจว่าจะมีใครต่อใครมองมาหรือเปล่า

พญายิ้มเมื่อถูกเทียมฟ้ากอด เขาเองก็ไม่ได้สนใจว่าใครจะมองมา แต่ถึงจะไม่สนใจเขาก็ยังเลือกมุมที่ส่วนตัวที่สุดเพราะกลัวว่าเทียมฟ้าอาจจะอึดอัดใจหากมีคนรู้จักมาเห็น แต่ที่ไหนได้...เจ้ากระต่ายกลับมากอดมาอ้อนเขาโดยไม่แคร์อะไรเลยด้วยซ้ำ จะผิดมากไหมที่ลึกๆ แล้วเขาแอบดีใจที่ครอบครัวสูงส่งของเทียมฟ้ากำลังมีปัญหาเรื่องการเงิน มันทำให้พญารู้สึกว่าเทียมฟ้าไม่ได้ไกลจนเกินที่จะเอื้อมถึง มันทำให้พญารู้สึกถึงความเท่าเทียมและกล้าที่จะให้ความรักกับอีกฝ่าย ความกังวลใจที่คิดว่าเทียมฟ้าอาจจะเป็นนกที่บินอยู่สูงและพร้อมจะบินหนีหายไปในสักวันนั้นมันดูคลายลง พญาทำให้เทียมฟ้ามาอยู่ในอ้อมกอดได้แล้วก็ไม่คิดจะปล่อยให้อีกฝ่ายหนีหายไปได้อีก

“อย่าอิจฉาคนอื่นเลยน้องเพราะพี่จะทำให้คนอื่นเห็นว่าจุดที่น้องอยู่มันดีที่สุด”

“น้องรักพี่”

“เฮ้อ...เรานี่นะ บอกรอบที่ร้อยแล้วมั๊ง ต่อไปพูดคำว่ารักครั้งหนึ่งพี่จะจูบครั้งหนึ่ง” พญาไม่ได้ไม่ชอบฟังหรอก แต่มันทำหน้าไม่ถูกเวลาที่เจ้ากระต่ายพูดคำว่ารักแล้วส่งสายตาอ้อนๆ พร้อมกับรอยยิ้มหวานๆ มาให้ ใจมันสั่นๆ เหมือนจะเป็นลมทุกที

“น้องรักพี่”

พญาหัวเราะเบาๆ ก่อนจะเกี่ยวคางของเทียมฟ้าขึ้นมารับจูบตามคำที่ขู่เอาไว้ เพลงรักที่กำลังบรรเลงยิ่งสร้างบรรยากาศหวานแข่งกับรสจุมพิตที่พญากำลังมอบให้อีกฝ่าย อยากจะจูบให้มากกว่านี้แต่ก็ต้องอดใจเอาไว้ ที่ยังไม่อยากกลับวังเพราะสงสารเจ้ากระต่ายที่ยังเจ็บจากการรุกเร้าของตัวเอง แต่ดูท่าว่าเจ้ากระต่ายจะไม่สำนึกในความสงสารที่มอบให้ ฟังเพลงอยู่ดีๆ ก็มาหอมเขาบ้างมากอดเขาบ้าง บางทียังมาซุกซนลูบแผงอกเขาเล่นอีก พญาเรียกพนักงานมาคิดเงินทั้งที่เพิ่งจะดื่มไวน์ไปไม่กี่แก้ว เขาคิดว่าต้องกลับไปสั่งสอนเจ้ากระต่ายเสียที ต่อไปจะได้รู้ว่าอย่ามาแหย่ให้ฉลามของขึ้น

“รู้เอาไว้นะฉลามมันไม่มีขา เวลาขึ้นแล้วลงยากนะเจ้ากระต่าย” พญาพูดขู่แต่เทียมฟ้าก็ยิ้มหวานให้ พญาเลยต้องจูบเทียมฟ้าอีกครั้งเพราะอดใจไว้ไม่ไหวจริงๆ     

..

แม้ว่าแผลที่เกิดจากการโดนกระสุนปืนถากที่ไหล่จะไม่ใช่บาดแผลขนาดใหญ่แต่ก็ทำให้ก้อนต้องนอนพักค้างคืนที่โรงพยาบาลเพราะดันมีอาการไข้เข้ามาแทรก ก้านอยากให้น้องชายได้รับการรักษาจากคุณหมอจนแน่ใจว่าปลอดภัยจึงให้ก้อนอยู่ดูอาการต่อที่โรงพยาบาลอีกสักคืน ก้านโทรไปบอกแม่ว่าก้อนจะค้างกับก้านที่ตลาดเพราะอยากให้ก้อนอยู่ช่วยงานก่อน เขาจำต้องโกหกเพราะไม่อยากให้แม่เป็นกังวล

หลังจากที่ก้อนหลับแล้วก้านเลยจะออกมาหาอะไรกินเพราะยังไม่ได้กินอะไรตั้งแต่เย็น ระหว่างที่รอลิฟต์ขึ้นมารับสายตาก็เหลือบไปเห็นตะวันเดินหายเข้าไปทางบันไดหนีไฟพอดี ก้านยืนคิดอยู่นานในที่สุดก็ตัดสินใจเดินตามตะวันขึ้นไป เมื่อเห็นว่าตะวันกำลังปีนกำแพงดาดฟ้าก้านจึงรีบวิ่งเข้าไปคว้าตัวของตะวันเอาไว้จนทั้งคู่ล้มลงมานอนกองอยู่กับพื้น

“คิดจะทำอะไรคุณตวง” ก้านร้องถามทั้งที่รู้อยู่แก่ใจว่าตะวันกำลังจะทำร้ายตัวเอง

“พี่ก้าน พี่พญามาหาตวงแล้วใช่ไหม พี่พญาอยู่ไหน” ตะวันเห็นก้านก็ดีใจก่อนจะมองไปรอบๆ แต่แล้วก็พบกับความว่างเปล่า

“นายมีธุระเลยไม่ได้มา อันที่จริงนายคงไม่อยากมาเพราะคุณตวงผิดสัญญา”

“ก็...ก็พี่พญาไม่ยอมมาหาเลย” ตะวันเคยสัญญากับพญาเอาไว้ว่าจะไม่คิดฆ่าตัวตายอีก ตะวันพยายามแล้วที่จะทำให้ตัวเองดีขึ้นแต่เหมือนว่าจิตใจมันไม่รับฟังตะวันเลย

“คุณตวงก็รู้ว่านายไม่ชอบให้คุณตวงทำแบบนี้”

“พี่ก้าน ตวงต้องทำยังไงให้พี่พญากลับมาเป็นเหมือนเดิม ต้องทำยังไง” ตะวันร้องไห้เพราะรู้สึกหมดหนทาง การคิดฆ่าตัวตายในครั้งนี้ไม่ได้ทำเพื่อเรียกร้องอีกแล้ว แต่เพราะตะวันรู้สึกหมดหวัง หมดกำลังใจ รู้สึกว่าตัวเองไม่มีค่าและไม่มีใครสักคนรัก

“ให้ผมพูดอะไรไปตอนนี้คุณตวงก็คงไม่รับรู้หรอกเพราะคุณตวงยังไม่พร้อมจะรับฟังอะไรเลย ถ้าอยากรู้ว่าควรทำยังไง อยากได้ความคิดเห็นจากคนอื่น คุณตวงต้องพร้อมที่จะฟังคนอื่นก่อน”

“ตวงจะฟัง ตวงจะเชื่อพี่ก้าน พี่บอกตวงมาว่าตวงต้องทำยังไง” ตะวันรู้ดีว่าก้านไม่ใช่แค่ลูกน้องของพญาแต่ก้านคือเพื่อนที่พญาไว้ใจและให้ความสำคัญ ที่ผ่านมาก้านก็ดีกับตะวัน ตะวันโง่เองที่เคยทำตัวไม่ดีกับก้านเพราะเชื่อคำยุยงจากโจ้

“คุณตวงรักษาตัวเองให้แข็งแรงเร็วๆ อย่าเพิ่งคิดถึงนายมากกว่าตัวเอง คิดง่ายๆ คุณตวงยังไม่อยากจะรักตัวเองแล้วใครจะมาสนใจคุณตวง แค่นี้คุณตวงทำได้ไหม”

“ได้ ตวงจะทำ”

“เชื่อผมนะ อย่าทำร้ายตัวเองอีก” ก้านลุกขึ้นยืนแล้วส่งมือให้ตะวัน ตะวันรีบเช็ดน้ำตาแล้วจับมือของก้านเพื่อใช้เป็นหลักยึดให้ลุกขึ้นมาได้

“ถ้าตวงไม่สบายใจ ตวงโทรไปคุยกับพี่ก้านได้ไหม” อันที่จริงตะวันอยากจะคุยกับพญาแต่รู้ดีว่าอีกฝ่ายคงไม่ยอมรับโทรศัพท์ ขอแค่ได้คุยกับคนสนิทของพญาก็ยังดี อย่างน้อยก็จะได้รู้ว่าพญาเป็นอย่างไรบ้าง

“คุณตวงมีเบอร์ผมแล้ว ถ้าไม่สบายใจก็โทรมาได้ครับ” ก้านแค่ไม่อยากให้ผู้ชายคนนี้ต้องเป็นอะไรไป ไม่อยากให้นายพญาต้องมีเรื่องไม่สบายใจเพราะครั้งหนึ่งตะวันก็เคยช่วยนายพญาเอาไว้ไม่ให้ติดร่างแหเรื่องส่งยาเสพติด ก้านคิดแค่ว่าต้องให้กำลังใจกับตะวัน ให้ตะวันได้รักษาตัวเองให้หายดีจากโรคซึมเศร้าก่อน จากนั้นค่อยให้นายพญาเป็นคนตัดสินใจว่าจะทำยังไงต่อไป

“พี่ก้าน ตวงขอโทษด้วยนะที่คนของพ่อไปทำร้ายพี่” ตะวันรู้สึกผิดแทนบิดาของตัวเองจึงพูดไปโดยที่ไม่รู้เลยว่าอันที่จริงแล้วบิดาของตัวไม่ได้มีส่วนรู้เห็นด้วยเลย

“คุณตวงว่าอะไรนะครับ”

“โอ้ย”

“เอ่อ..ขอโทษทีครับ” ก้านโกรธกับเรื่องที่ได้รับรู้เลยเผลอบีบมือของตะวันอย่างแรงจนตะวันร้องออกมาเพราะเจ็บ ก่อนหน้านี้ก้านคิดว่าไม่น่าจะเป็นนายหัวสุริยาที่จ้างคนมาลอบยิงตัวเอง แต่สุดท้ายแล้วความจริงก็ปรากฏ นายหัวสุริยาก็เป็นคนทำให้น้องชายของเขาได้รับอันตรายและเฉียดความตายไปอย่างฉิวเฉียด 

“ตวงสัญญาว่าจะไม่ให้พ่อทำแบบนี้อีก อย่าบอกพี่พญานะครับ อย่าโกรธพ่อนะครับ”

“ครับ” ก้านมองหน้าตะวันด้วยสายตาที่ยากจะเดา

สักพักโทรศัพท์ของตะวันที่หล่นอยู่ที่พื้นก็ดังขึ้น ตะวันก้มลงไปหยิบขึ้นมาเพราะคิดว่าลูกน้องของพ่อคงโทรมาตามหาตัว แต่พอเปิดดูปรากฏว่ามันเป็นเสียงเตือนว่ามีคลิปวีดีโอถูกส่งมาทางข้อความจากเบอร์ที่ตะวันไม่รู้จัก เมื่อตะวันกดเปิดดูก็เห็นคลิปสั้นๆ ภาพที่เห็นทำให้มือของตะวันสั่นเทาจนโทรศัพท์ร่วงลงไปอยู่ที่พื้นตามเดิม อาการของตะวันทำให้ก้านแปลกใจเลยหยิบโทรศัพท์ขึ้นมาดู ภาพของนายพญากับคุณชายน้องที่กำลังจูบกันในผับกำลังปรากฏอยู่บนโทรศัพท์ของตะวันซ้ำไปซ้ำมา

“เฮ้ย คุณตวง!” ก้านทิ้งโทรศัพท์ลงพื้นก่อนจะคว้าตัวของตะวันเอาไว้เมื่ออีกฝ่ายทรุดตัวลงจนหัวเกือบไปกระแทกกับกำแพงของดาดฟ้า

“ไม่เหลือใครเลย ตวงรักษาพี่พญาเอาไว้ไม่ได้เอง พี่พญามีคนอื่นแล้ว หมดเวลาของตวงแล้ว ไม่มีแล้วพี่ก้าน ตวงจะรักตัวเองได้ไงเพราะตวงแปดเปื้อนไปแล้ว ตวงก็ไม่รู้ว่าไปนอนในเรือได้ยังไง ตวงไม่รู้จริงๆ ว่าทำไมให้คนอื่นที่ไม่ใช่พี่พญานอนกับตวงแบบนั้น ตวงไม่รู้เลย ไม่ได้ตั้งใจ ตวงมันไม่ดีแล้ว ไม่ดีพอแล้ว ใครจะมารักคนอย่างตวง” ตะวันไม่ได้ร้องไห้แต่พูดเพ้อเหมือนคนสิ้นหวังกับชีวิต หลังจากเหตุการณ์อันเลวร้ายที่สุดในชีวิตเกิดขึ้นในวันนั้นตะวันไม่เคยมีความสุขเลยที่ตัวเองยังมีลมหายใจ หวังแค่พี่พญาจะเข้าใจว่านั่นไม่ใช่สิ่งที่ตะวันตั้งใจให้เกิดขึ้น แต่ดูเหมือนจะไร้ประโยชน์ คำพูดของตะวันไร้ค่าและไม่มีความหมายให้ใครเชื่อถือ

“มันต้องมีคนรักคุณตวง แค่เลิกมองหาความรักจากคนเพียงคนเดียว” จากที่โกรธนายหัวสุริยาและชั่วความคิดหนึ่งอยากจะใช้ตะวันเพื่อแก้แค้นคนที่ทำให้น้องชายของตัวเองเจ็บ แต่พอมาเห็นสภาพของตะวันในตอนนี้ก้านกลับรู้สึกสงสารตะวันจับใจ

“ไม่มีหรอก ไม่มีใครรักตวงแล้ว ตวงไม่มีค่าให้ใครรักแล้ว” ตะวันยิ้มบางๆ เป็นรอยยิ้มที่ดูน่าสงสารที่สุดในสายตาของก้าน

ก้านไม่รู้ว่าอะไรมันดลใจให้ก้านทำแบบนี้ ก้านไม่ใช่เกย์ ไม่เคยมองผู้ชายคนไหนแล้วรู้สึกว่าอยากจะไปทำอะไรแบบนี้ด้วย อยู่กับนายพญามานาน เห็นนายพญามีอะไรกับผู้ชายด้วยกันมาก็หลายครั้งแต่ก็ไม่เคยมีครั้งไหนที่ทำให้ก้านอยากลองทำแบบนั้นบ้าง แต่ทำไมตอนนี้ก้านกลับจูบตะวัน จูบอยู่นานก่อนจะถอนริมฝีปากออกมาแล้วเช็ดน้ำตาให้อีกฝ่าย ส่วนตะวันมองก้านด้วยสายตาที่สับสนและไม่เข้าใจในการกระทำ แต่สุดท้ายก็เลือกที่จะสวมกอดก้านเพียงเพราะอยากมีใครสักคนให้ได้พักพิง


โปรดติดตามตอนต่อไป


ขอบคุณที่ติดตามนะคะ เตียงสี่เสาพลิกชีวิตจริงๆ นอกจากเป็นฉลามแล้วลุงแกยังซึนไปเป็นตุ๊กแกได้ด้วยนะคะ 5555

[ทางไปเพจ Loverouter จิ้มเลย]
[ทางไปทวิต Loverouter จิ้มเลย]
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 13-02-2018 20:48:03 โดย Loverouter »

 

สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด


สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด