▲เกมเมอร์และน้องเด๋อของเขา▲ #ซอโซ่ล่ามธีร์ (01/09/61)
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด

สนใจโฆษณาติดต่อ laopedcenter[at]hotmail.com คลิ๊กรายละเอียดที่ตำแหน่งว่างเลยครับ

สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด

ผู้เขียน หัวข้อ: ▲เกมเมอร์และน้องเด๋อของเขา▲ #ซอโซ่ล่ามธีร์ (01/09/61)  (อ่าน 223583 ครั้ง)

ออฟไลน์ ma-prang

  • เป็ดมหาวิทยาลัย
  • *
  • กระทู้: 473
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +18/-1
ฮืออออ มันดีต่อใจเราละเกินนนนนน
อิพี่ธีร์นี่น่ากลัวมาก ตามถึงห้อง 55555

//ติดเรื่องนี้แล้วววว

ออฟไลน์ ashbyipcet

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 243
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +9/-2
กดซับพร้อมโดเนทรัวๆว้ายยยคือทำไมดีแบบนี้ชะนีเบลเทนางไปเลยค่ะเนิร์ฟนางเยอะๆชวนน้องโซ่กับอิพี่ธีร์คุงไปเล่น Ow กันค่ะเปย์พร้อมคีย์เกม 2 ชะนีเปย์เองค่ะ  :hao3: :hao7: :hao7:

ออฟไลน์ พัดลม

  • เป็ดมหาวิทยาลัย
  • *
  • กระทู้: 542
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +23/-2
สนุกมากค่ะ มาต่อเร็วๆนะ

ออฟไลน์ Babelilong

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 305
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +7/-0
    • Facebook  เข้ามาขอเป็นเพือนได้เลย
 ติดตามมมมมมม. คือเราไม่ชอบเล่นเกมออนไลน์
เพราะเวลาเล่นจะมึนๆหัว แต่ชอบอ่านนิยายแนวเกมออนไลน์นะ มันลุ้นๆอ่ะ ชอบเรื่องนี้มากกก รอเด้อออออ :กอด1: :กอด1:

ออฟไลน์ Biwtymnr

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 1
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +1/-0
น่าร๊ากกกกกก ชอบๆ รออยู่นะ :katai2-1:

ออฟไลน์ QueenPedGabGab

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 311
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +31/-1
จะฟินนนนนนกว่านี้มากถ้าคุณพี่ธีร์เลิกกะแควนแร้ว

ออฟไลน์ หน่วยกล้าวาย

  • เป็ดมัธยม
  • *
  • กระทู้: 151
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +221/-0
#ซอโซ่ล่ามธีร์
ด่านที่ 5
Do you wanna join me?




“จะชวนไอ้โซ่เข้าทีม?”


เด็กหนุ่มสามคนเลือกนั่งเบียดกันมากกว่าจะส่งหน่วยกล้าตายไปเคียงข้างพี่ธีร์ จากที่นัดกันอย่างดีว่าจะกินบุฟเฟ่ต์แซลมอนแค่สาม แต่อยู่ ๆ ก็มีแขกไม่ได้รับเชิญโผล่มาเซอร์ไพรส์ให้กระอักกระอ่วนจนไม่มีใครกล้าคีบปลาเข้าปาก


“ใช่ อนุญาตไหมอาร์ม?”


“ผมอยู่นี่” เจ้าของชื่อชี้หน้าตัวเอง คนทักผิดจึงนั่งหน้าม้านสบตาค้างอยู่กับเด็กอีกคนที่ไม่ได้ชื่ออาร์ม แล้วมันชื่ออะไรวะ


“พี่ธีร์ตาเข”


“เงียบแล้วย้ายมานั่งตรงนี้” เขาถลึงตาคาดโทษน้องเด๋อที่มองด้วยสายตาต่อต้านตั้งแต่รู้ว่าเขาเสนอหน้ามาแจมปาร์ตี้แซลมอนด้วย


“มึงไปเลยไอ้โซ่”


“ทำไมต้องกูอะ...”


“ไม่ใช่มึงแล้วจะเป็นใครล่ะ ไป!” เจมส์ดันโซ่จนแทบตกเก้าอี้ม้านั่ง เด็กหนุ่มตัวผอมส่งสายตามองเพื่อนเหมือนอยากขอความเห็นใจปนก่นด่าที่ทำกันได้ลงคอ สุดท้ายเขาก็ต้องนั่งลงข้าง ๆ พี่ธีร์อย่างจำใจ


“ว่าไง เอาด้วยเปล่า?”


“โซ่ไม่เคยลงแข่งทัวร์เพราะไม่ได้คิดว่าจะไปแข่งกับใครน่ะครับ ที่เล่นก็เพราะว่าเกมมันสนุกเฉย ๆ” เสียงซื่อ ๆ กล่าวด้วยโทนเสียงปกติ พร้อมมองมาเหมือนอยากถามว่า ‘โซ่กินไปด้วย คุยไปด้วยได้ไหม?’


“แล้วทีมพี่ล่ะ?” อาร์มเลิกคิ้ว สบตากับรุ่นพี่อย่างหยั่งเชิง เขาก็อยากรู้เหมือนกันว่าผู้ชายคนนี้จะนิสัยห่วยแตกเหมือนที่ใคร ๆ ว่าไว้หรือไม่?


“คนนึงติดทหาร อีกคนเมียท้องเลยเหลืออยู่สองหน่อ”


“ถึงอยู่ครบก็ไม่เคยผ่านรอบสองไม่ใช่เหรอครับ แหะ ๆ” เจมส์คงอยากตายถึงกระตุกหนวดเสือด้วยประโยคนั้น โซ่จึงขยับปากพูดแบบไม่มีเสียงพร้อมทำมือประกอบเพื่อปรามเพื่อน


“เพราะงั้นพี่ถึงอยากได้น้องเด๋อมาเข้าทีมไง” คนกำลังกินแซลมอนเบิกตาโพลงอย่างตกใจเพราะถูกคนข้าง ๆ กอดคอจนศีรษะเซไปซบกับแผงอกกว้างโดยไม่ทันได้ตั้งตัว


พี่ธีร์เอาอีกแล้ว!!!
 

“...!!!” โซ่เอามือฟาดท่อนแขนแกร่งที่ไม่ได้แสดงความรุนแรงทางกายแต่หยาบคายกับใจ ธีร์ก้มลงมองคนที่เอาแต่ยัดแซลมอนกลบความกดดันจนทำให้แก้มทั้งสองข้างบวมป่อง อดใจไม่ไหวจึงเอานิ้วชี้จิ้มแก้มแฮมสเตอร์สูงร้อยเจ็ดสิบกลาง ๆ ให้หายมันเขี้ยว


“ตะกละว่ะน้องเด๋อ”


“พี่ครับ เพื่อนผมจะสำ -- เปล่าครับลมพัดเย็นดี” ห่วงเพื่อนไม่จบประโยคเจมส์ก็โค้งศีรษะเพราะสายตาเอาเรื่องของคนที่นั่งอยู่ฝั่งตรงข้าม เขาจำเป็นต้องสนใจแซลมอนมากกว่าความเป็นความตายของเพื่อน นักมวย WWE ยังเปิดโอกาสให้คู่ต่อสู้ตั้งหลักเลยนะสัด


“ผมเชื่อว่าถ้าได้ไอ้โซ่เข้าทีมพวกพี่คงไปได้ไกลกว่ารอบสอง แต่ผมอยากถามอะไรหน่อย” อาร์มเป็นคนเดียวที่กัดฟันยางทำเข้มสู้สายตาพี่ธีร์ได้ ซึ่งเจมส์ได้แต่ส่งใจไปให้เพื่อนพร้อมแอบชูนิ้วโป้งใต้โต๊ะ “ถ้าไปถึงรอบสุดท้าย นั่นหมายความว่าทุกคนต้องเห็นไอ้โซ่?”


“ก็ขึ้นอยู่กับว่าน้องเด๋อจะใส่หน้ากากเล่นเปล่า ถ้าโอเคก็ไม่ต้องกลัวอะไร ไม่มีใครบังคับให้เปิดโชว์อยู่แล้ว”


“นอกจากพี่ธีร์ก็คงไม่มีใครบังคับโซ่แล้วล่ะครับ”


“จะผูกใจเจ็บไปยันลูกบวชเลยถูกปะ?” เห็นน้องเด๋อเงียบ ๆ หงิม ๆ ก็ขี้แซะใช่เล่น


“มึงจะเอาไงโซ่?” เด็กหนุ่มตัวผอมมองเพื่อนทั้งสองที่คงคาดหวังว่าเขาจะปฏิเสธ “พวกกูไม่ห้ามนะ แต่ถ้าซ้อมทีมแล้วจะทำให้กระทบผลการเรียนเปล่า มึงลองคิดดี ๆ” ด้วยความที่ยังอยู่ในวัยเรียนและแต่ละวิชาก็ใช่ว่าจะได้เกรดมาง่าย ๆ อาร์มกลัวว่าเพื่อนจะเสียคนเพราะการซ้อมแข่งที่ต้องใช้เวลานานหลายชั่วโมง กว่าจะเลิกคงดึกดื่น ไอ้โซ่จะเอาเวลาไหนไปอ่านหนังสือแล้วนอนพักผ่อน


อาร์มกับเจมส์ก็ชอบเล่นเกม แต่ด้วยความที่ถูกเลี้ยงมาโดยให้ลำดับความสำคัญเรื่องเรียนเป็นอันดับแรก เรื่องเล่นเกมเป็นลำดับหลัง ๆ เขาจึงไม่ค่อยเห็นด้วยสักเท่าไหร่ถ้าหากว่าไอ้โซ่จะจริงจังกับเรื่องเกมจนเกินไป อีกอย่างบ้านมันก็ไม่ได้ขัดสนถึงขั้นจะพยายามเพื่อเงินรางวัลขนาดนั้นด้วย


“เรื่องซ้อมไม่มีปัญหา น้องเด๋อเล่นดีอยู่แล้ว พี่แค่อยากให้เข้าไปซ้อมกับทีมบ้างเพื่อให้เข้าขากัน” ธีร์นั่งกอดอก เอนหลังพิงกับพนักเก้าอี้ม้านั่ง พลางผายมือบอกให้เด็ก ๆ กินแซลมอนบนโต๊ะแทนที่จะนั่งทำหน้าเคร่งเครียดกับอีแค่เรื่องขี้ประติ๋ว


“หมายความว่าโซ่ไม่ต้องนอนดึก แล้วก็เล่นเกมอื่นได้ด้วยใช่ไหมครับ?” เด็กคนนี้คงกลัวว่าจะต้องจริงจังกับการแข่งจนปลีกเวลาไปเล่นเกมที่ชอบไม่ได้ ซึ่งแน่นอนว่าธีร์ไม่ใช่คนที่จะบังคับใครเพื่อตัวเองขนาดนั้น ถ้าไม่รวมเรื่องบังคับให้น้องเด๋อถอดหน้ากากหัวหมีน่ะนะ


เขาพยักหน้าเป็นคำตอบ เพิ่มรอยยิ้มให้เด็กผ่อนคลายหน่อย น้องถึงดูจะแฮปปี้ขึ้นมา


“แล้วถ้าไม่ได้เงินรางวัล พี่ธีร์จะเซ็งไหมครับ จะเครียดกว่าเดิมหรือเปล่า?” โซ่เคยดูแข่งทัวร์นาเมนท์ที่กล้องมักจะแพลนไปทางผู้ชนะก่อนเพื่อให้เห็นสีหน้าว่าคนเหล่านั้นมีความสุขแค่ไหน ก่อนจะหยุดที่ผู้แข่งขันที่ได้รับความพ่ายแพ้กลับไป สีหน้าทุกคนดูเซ็งมาก ๆ เลย


“เรื่องเซ็งอะเซ็งอยู่แล้ว ไม่มีใครอยากแพ้หรอกพอเป็นเรื่องแข่ง พี่ไม่ได้อยากได้เงินนะน้องเด๋อ แต่เพื่อนพี่มันจำเป็น คนนึงกำลังจะมีลูก อีกคนต้องส่งน้องเรียนหนังสือ ส่วนพี่จะได้ไม่ได้ก็ไม่มีปัญหาอยู่แล้ว” นี่เลย กูตอแหลสร้างดราม่าเรียกความสงสาร ขอโทษนะแจ็คที่กูไม่ได้เอาเรื่องบัตรคอนน้องมึงมาอ้าง แต่จังหวะนี้แม่งต้องได้


“โห... ต้องเตรียมเงินไว้เลี้ยงเด็กใช่ไหมครับ เป็นคุณพ่อที่พยายามมาก ๆ” น้องเด๋อทำตาโต และเขาก็พยักหน้าช้า ๆ พร้อมถอนหายใจแรง ๆ เหมือนว่าทุกข์ใจกับปัญหานี้เหลือเกิน


“ชีวิตคนเรามีต้นทุนไม่เท่ากันน่ะนะ เงินที่คนดูโดเนทให้พี่มันก็ไม่ยอมเอา บอกว่าจะชนะทัวร์ด้วยฝีมือตัวเองให้ได้อยู่นั่น ก็นะ ศักดิ์ศรีคนเรามันยากลึกหยั่งถึง” ธีร์หลับตาพลางกุมขมับ ก่อนจะค่อย ๆ ชำเลืองมองดูน้องเด๋อว่าตอนนี้กำลังมีท่าทีอย่างไร


หลุมของเขามันสูง ขาสั้น ๆ อย่างน้องเด๋อคงปีนขึ้นไม่ได้หรอกบอกแค่นี้


“อีกอย่างนะ ที่ทีมพี่ไปไม่ถึงไหนก็เพราะสามคนนั้นเล่นเข้าขากันไม่ได้ ถ้าได้น้องเด๋อเพิ่มมาอีกคน พี่คิดว่าแมตช์นั้นต้องมันส์โคตร ๆ แน่นอน” ตะล่อมไปก่อน จังหวะนี้ต้องหยอดให้หลงตายใจแล้วเหยียบความปากผีเอาไว้


ถ้าพูดถึงพวกพี่ตั้บตอนเล่นเกมนี้แล้วล่ะก็... พวกมันเล่นดีกันทุกคน แต่กลับไม่มีความเป็นทีมเวิร์กเลยสักนิด คนนึงเอาแต่ซ่อมเครื่องปั่นไฟ อีกสองคนวิ่งกวนตีนฆาตกร ทำเข้มจู๊กโชว์เหนือ แต่พอเจอฆาตกรสายแข็งฟาดกระหม่อมดากเข้าให้ ถึงกับวิ่งกุมท้องจนขิงไม่ออก


“แล้วถ้าโซ่เข้าไปแล้วทำให้ทีมแย่ลงล่ะครับ?”


“เราเคยเล่นกับไอ้แจ็คตั้งหลายครั้ง เข้ากับมันได้ก็ถือว่าผ่านแล้ว ถ้าติดขัดตรงไหนค่อยปรับกันอีกทีตอนซ้อมก็ได้เว้ย” ชายหนุ่มตัวสูงวางมือลงบนศีรษะทุยของคนที่กำลังก้มหน้าก้มตากิน ก่อนจะเปลี่ยนเป็นลูบผมเบา ๆ เขายังคงให้ร่างพี่ชายที่แสนดีทำหน้าที่แทนพี่ธีร์คนปากหมา เพื่อหว่านล้อมน้องทุกวิถีทาง


“งั้นลองดูก็ได้ครับ แต่ถ้าโซ่อึดอัดเมื่อไหร่โซ่ขอลาออกนะ โซ่ไม่อยากให้ใครต้องรู้สึกไม่ดีจนต้องทะเลาะกันน่ะครับ” เขาพยักหน้าตกลงเพราะเห็นด้วยกับความคิดน้องเด๋อ จากประสบการณ์ที่เคยเจอเองกับตัวตั้งแต่วัยมัธยม ธีร์ค่อนข้างเข็ดหลาบที่ต้องเป็นคนกลางเวลาคนในทีมทะเลาะกัน


คนหนึ่งเห็นดีเห็นงามอย่างหนึ่ง อีกคนเห็นอีกแบบ ต่างคนต่างเชื่อความรู้สึกตัวเอง จึงทำให้ทีมแตกได้อย่างง่ายดาย และนั่นคือเหตุผลของการมีตัวท็อปหลาย ๆ คนอยู่ในทีม




*




พี่ธีร์เป็นคนจ่ายค่าบุฟเฟ่ต์ให้เด็กสามคนแล้วยังพาไปนั่งกินของหวานอีก หลังจากนั้นบรรยากาศก็เริ่มดีขึ้น อาจเป็นเพราะพี่ธีร์ไม่ได้ขมวดคิ้ว มองหน้าเหมือนอยากกระชากคอเสื้อใครมาเขย่า พวกเขาจึงคุยเรื่องเกมกันได้อย่างออกรส จนคนวางท่าตั้งแต่แรกอย่างอาร์มถึงกับออกปากว่าจะแอดสตรีมไปเล่นกับพี่ธีร์


พอฟ้ามืดอาร์มกับเจมส์ก็กลับบ้าน ส่วนโซ่ยังอยู่ในเกมเซนเตอร์ มองพี่ธีร์ที่กำลังชู้ตบาสแข่งกับเวลา ลงบ้างพลาดบ้างแต่อย่างหลังค่อนข้างจะเกิดขึ้นบ่อยกว่า โซ่ประหลาดใจตอนเห็นพี่ธีร์อวยคะแนนตัวเองทั้งที่คะแนนค่อนข้างน้อยถ้าเทียบกับความเก่งตอนเล่นเกมอื่น


“โซ่คิดว่าพี่ธีร์จะหัวร้อนจนรีบไปแลกเหรียญมาเล่นใหม่ซะอีก”


“ทำไมถึงคิดแบบนั้น?” ชายหนุ่มเลิกคิ้วพลางเดินไปหยุดอยู่หน้าตู้คีบตุ๊กตา หยอดเหรียญลงไปพร้อมฮัมเพลงเดียวกับตู้ โซ่จึงคิดว่าพี่ธีร์คงถนัดคีบตุ๊กตามากกว่าโยนลูกบาสเข้าห่วงแน่ ๆ


“โซ่เป็นคนนอก ถ้ามองเผิน ๆ พี่ธีร์ก็ดูเป็นคนรักความเพอร์เฟ็กต์ในระดับนึงเลยล่ะครับ อย่างตอนที่เราเล่นกันครั้งแรก พี่ธีร์ยังตามหาโซ่เพื่อที่จะแก้เกมให้ได้เลย”


“ก็จริง แต่ก็ไม่ใช่กับทุกเรื่องหรอก” ชายหนุ่มหัวเราะ เขาไม่แปลกใจนักถ้าน้องเด๋อจะมองเห็นเขาเหมือนที่คนอื่นเห็น ธีร์รู้ตัวว่าตนเองเป็นอย่างที่ใครว่ากัน แต่ก็ไม่ใช่ทั้งหมด ซึ่งเขาไม่คิดจะไปอัดคลิปประกาศบอกให้คนทั้งโลกเข้าใจว่าแท้จริงแล้ว Thr33Gamer เป็นอย่างไร แต่ตอนนี้เขาเริ่มอยากจะอ้าปากบอกเด็กที่ถูกชะตากันแล้วว่า


‘นี่น้องเด๋อ ถึงพี่กระเสนอหน้าบุกไปหาถึงคอนโดน้องพร้อมกระชากหน้ากากออก แต่พี่เป็นคนดีนะ พี่ก็ให้เงินขอทาน แถมยังลุกให้คนแก่กับผู้หญิงนั่งด้วย เป็นไงล่ะ ประทับใจเลยใช่ไหม’


แต่เขาไม่ได้พูดออกไป เพราะกลัวไม่เท่ในสายตาเด็ก


“เวลาชนะแล้วมันเท่นะเว้ย เหมือนเอาไปอ้างกับตัวเองได้ว่า เฮ้ย กูชนะอีกแล้วนะ เก่งเปล่าล่ะ อะไรเทือก ๆ นั้น”


“ทำไมต้องอ้างกับตัวเองด้วยล่ะครับ?”


โซ่หลุดปากออกไปจนได้ ทั้งที่คิดว่าควรมีช่องว่างให้อีกฝ่ายเพื่อเรียนรู้กันและกัน เขาไม่อยากเป็นฝ่ายถามเซ้าซี้เพราะกลัวพี่ธีร์รำคาญ ถ้ารอให้อีกฝ่ายเล่าให้ฟังเองคงดีกว่าเป็นไหน ๆ เลย ถึงจะเล่นเกมด้วยกันทุกวันอีกทั้งยังเห็นตัวจริงกันเป็นวันแรก แต่คำว่า ‘ยังไม่สนิทกัน’ ยังคงเป็นกำแพงกระจกเล็ก ๆ ที่กั้นเขาเอาไว้อยู่


“ขอโทษนะครับ เพราะโซ่ชอบถามไร้สาระอยู่เรื่อย เป็นเหตุผลที่ว่าทำไมอาร์มกับเจมส์เลยว่าโซ่ซื่อบื้ออยู่บ่อย ๆ แหะ” เด็กหนุ่มตัวผอมยิ้มแห้ง เกาท้ายทอยแก้เก้อเพราะทำตัวไม่ถูก


ขนาดเพื่อนในคณะยังคุยกันแทบนับประโยคได้ เพราะฉะนั้นนอกจากอาร์มกับเจมส์ก็ไม่มีคนไหนเลยที่โซ่จะสนิทใจด้วย ดังนั้นการเริ่มต้นคุยกับพี่ธีร์เกี่ยวกับเรื่องอื่น ๆ โดยไม่ใช่เรื่องเกม จึงเป็นเรื่องยากสักหน่อยสำหรับเด็กมนุษย์สัมพันธ์แย่อย่างเขา ต่อไปโซ่จะคิดให้มาก ๆ ถ้าจะอยู่ทีมเดียวกันต้องรู้ว่าอะไรควรพูด อะไรควรเก็บไว้ในใจ


“คิดมากไปเปล่า?” เจ้าของเสียงทุ้มต่ำขมวดคิ้วมองก่อนจะหลุดขำออกมา ผู้ชายคนนั้นโน้มตัวลงบังคับปุ่มให้ที่คีบเคลื่อนไปหาตุ๊กตาหมูสีเหลืองแก้มแดงพร้อมเพ่งมองอย่างตั้งใจ “อยากรู้ก็ถามน่ะถูกแล้ว เพราะถ้ารอให้พี่เล่าเองก็ไม่รู้ว่าจะได้พูดเมื่อไหร่”


“ได้ใช่ไหมครับ ไม่โกรธนะ?” เสียงของโซ่เบาลงราวกับไม่แน่ใจ และการที่พี่ธีร์ละมือข้างหนึ่งขึ้นมายีผมเขาเบา ๆ เหมือนที่อาร์มกับเจมส์ชอบทำเป็นประจำ


“สัญญากันก่อนสิว่าถ้าเล่าแล้วจะไม่บอกคนอื่น”


“ถ้าพูดแบบนี้แสดงว่าต้องเป็นความลับแน่ ๆ เลย งั้นไม่เป็นไรนะครับ เดี๋ยวโซ่รอดีกว่า” ธีร์ชะงักพลางหันไปสบตากับคนข้าง ๆ เพื่ออ่านความรู้สึกผ่านทางสีหน้าว่าน้องเด๋อประชดหรือไม่ และเขาก็ได้รับคำตอบว่า


‘ไม่’


“อธิบายมาว่าทำไมถึงอยากรอ”


“โซ่คิดว่าความลับควรเล่าให้คนที่ไว้ใจฟังน่ะครับ ถ้าเกิดโซ่เล่าให้คนที่ยังไม่แน่ใจว่าเขามาดีหรือมาร้าย หลังจากนั้นโซ่คงกระวนกระวาย กลัวว่าเขาจะเอาไปเล่าต่อเมื่อไหร่ เพราะงั้นโซ่ถึงอยากให้พี่ธีร์ไว้ใจโซ่ก่อน ไม่ต้องรีบก็ได้ครับ” เจ้าเด็กนั่นพูดเป็นต่อยหอย น่าหงุดหงิดอยู่ไม่น้อยที่ธีร์ดันรู้สึกดีกับคำตอบซึ่งน้อยคนที่จะมีให้ เพราะไม่ว่าใครที่เข้าหาเขาก็มีแต่หวังผลประโยชน์ ทั้งเกาะกระแสหวังอยากดังในวงการเกม ไปจนถึงล้วงความลับไปด่าลับหลังเอาสนุกปาก


“ซื้อใจเก่ง ถ้าเป็นเกม Deceit* คงโดนยิงตายไปแล้ว” เขายักคิ้ว และการเห็นน้องเด๋อยิ้มก็เป็นสัญญาณดีว่าบทสนทนาที่เกิดขึ้นในตอนนี้ไม่ใช่เรื่องน่าอึดอัดเพราะมีคำว่าความลำเป็นหัวข้อหลัก



*เกม Deceit คือเกมที่จะมีผู้เล่นทั้งหมด 6 คน ใน 1 รอบจะมีผี 2 ตัวแฝงอยู่ และจะกลายร่างไล่ฆ่าคนตามช่วงเวลา ซึ่งผีทั้ง 2 ตัวต้องเนียนเข้ากับคนอื่นให้ได้ อย่าให้ถูกสงสัยว่าเป็นผี ทั้ง 6 คนจะระแวงและสังเกตคนรอบตัวอยู่ตลอดว่าใครเป็นผี และคนเหล่านั้นต้องยืนยันตัวเองว่าไม่ใช่ โดยการเปิดไมค์คุย ซึ่งคนเล่นเป็นผีอาจจะซื้อใจคนในทีมด้วยการทำประโยชน์ เช่น เอาฟิวส์ไปใส่ประตู ถือกล้องสโลว์ผี จึงเป็นเหตุของคำว่าซื้อใจ


“Deceit เป็นเกมเดียวที่โซ่เล่นไม่ได้ล่ะครับ มันยากเกินไป” เขาหุบยิ้มไม่ได้เพราะเด็กคนนี้ ก็น่าอยู่หรอก เพราะเกมนั้นต้องตอแหลเก่งถึงจะสนุก ถ้าโกหกไม่เป็นอย่างน้องเด๋อคงโดนรุมประชุมตีนตั้งแต่แรก


พอหาล็อกได้แล้วธีร์ก็ตัดสินใจคีบตุ๊กตา ทั้งคู่จ้องตู้แก้วอย่างลุ้น ๆ ระหว่างรอ ซึ่งเจ้าหมูอ้วนสีเหลืองก็ไม่แม้แต่จะติดแง่งที่คีบขึ้นมา


“เวร อีกแค่นิดเดียว”


“เอาใหม่เลยครับ เมื่อกี้พลาดนิดเดียวเอง” นิดเดียวมะเขืออะไรล่ะ


“เชื่อปะว่าตั้งแต่เกิดมาพี่ยังไม่เคยคีบตุ๊กตาได้เลยสักครั้ง”


“โห ไม่เชื่อหรอกครับ มันต้องมีสักครั้งที่พี่ธีร์คีบได้ โซ่รู้”


“จริง ๆ เห็นปะ พี่หลุดพูดความลับไปจนได้ ขู่เลยนะว่าห้ามเอาไปบอกใคร เดี๋ยวพี่ไม่หล่อ เข้าใจไหม?” ธีร์ชี้หน้าคนข้างตัวพลางกลอกตามองดูว่ามีใครแอบส่องอยู่แถวนี้หรือไม่


“ไม่เป็นไรครับ พี่ธีร์จะได้ตัวแรกก็วันนี้แหละ โซ่รับประกันเลย”  เด็กนี่ไปเอาความมั่นใจมาจากไหน แต่ดวงตาคู่นั้นที่มองมาก็ดูซื่อเกินกว่าจะหลอกให้เสียเงินสิบยี่สิบบาทเล่นว่ะ เขาจึงชูเหรียญขึ้นมาระดับปลายคาง ซึ่งน้องเด๋อก็พยักหน้ารัว ๆ เซิ้งให้เขาจัดเต็มอีกสักครั้ง เดี๋ยวได้รู้ว่าหมู่หรือจ่า


“ถ้าไม่ได้ต้องจ่ายคืนพี่สิบบาทนะเคปะ?”


“โซ่ให้ยี่สิบเลย พี่ธีร์ขยับขวาอีกนิดนึง”


“กี่ที”


“สักสองก็ได้ครับ”


“นี่ปะ?”


“ใช่ครับ แล้วก็ขึ้นบนอีกนิดนึง นั่นแหละครับ พอ ๆ”


ทั้งคู่ให้ความสนใจกับตุ๊กตาหมูสีเหลืองท่ามกลางเสียงเกมรถแข่งและเกมต่อสู้ จนศีรษะที่เคยอยู่ห่างเป็นช่วงแขนเริ่มขยับเข้าใกล้โดยไม่รู้ตัว โซ่วางมือลงบนกระจกใส เขาลุ้นอยู่ในใจขณะที่อีกฝ่ายกำลังพึมพำถึงความยากลำบากกับการเอาตุ๊กตาสักตัว พี่ธีร์เหมือนกลับไปเป็นเด็กอีกครั้ง เพียงเพราะสายตาคู่นั้นไม่ได้เต็มไปด้วยความเจ้าเล่ห์เหมือนตอนไลฟ์สตรีม หรือแม้แต่ตอนดึงหน้ากากเขาออก


พี่ธีร์มุมนี้น่าคบกว่าตอนคุยกันครั้งแรกเยอะเลย


“เข้!!!”


“โอ๊ะ!”


ในที่สุดหมูสีเหลืองก็ยอมมาอยู่กับพี่ธีร์จนได้ โซ่มองคนตัวโตที่ก้มลงหยิบตุ๊กตาขึ้นมาดูใกล้ ๆ ด้วยสายตาที่โซ่คิดว่าคงภูมิใจในตัวเองระดับหนึ่ง โซ่ทำตาโตอ้าปากหวอ ยกมือขึ้นปรบเบา ๆ พร้อมชูนิ้วโป้งให้คนที่กำลังเก๊กด้วยการเสยผมขึ้น


“เชี่ย คน ๆ นึงแม่งจะเก่งไปทุกอย่างจริง ๆ เหรอวะ เริ่มกลัวตัวเองแล้ว” โซ่ทำปากยื่น มองพี่ธีร์โหมดเดิมที่เขาไม่รู้ว่ากลับคืนร่างตั้งแต่เมื่อไหร่ “เอาไป พี่ให้”


เด็กหนุ่มตัวผอมมองเจ้าหมูสีเหลืองแก้มแดงที่คนตรงหน้ายื่นให้ ก่อนจะส่ายศีรษะปฏิเสธพร้อมดันมือแกร่งกลับไป “ตัวนี้ต้องเก็บไว้เองนะครับ มันเป็นตัวแรกของพี่ธีร์เลยนะ ขนาดเท่านี้วางบนชั้นหรือโต๊ะคอมกำลังดีเลย”


“มันไม่ได้พิเศษขนาดนั้นเปล่าหนู เรื่องอะไรจะเอาไปวางบนโต๊ะคอมระดับเทพของพี่ ของที่จะวางอยู่แถวนั้นได้ต้องเป็นฟิกเกอร์ราคาเป็นหมื่นเท่านั้น”


“งั้นโซ่เอาไปให้เด็ก” น้องเด๋อแย่งนังหมูน้อยไปจากมือเขาพร้อมตั้งท่าว่า ‘กูไปจริงแน่พี่’ เขาจึงรีบแย่งคืนพร้อมกอดไว้แนบอก


“พี่คีบได้ พี่ต้องเป็นคนตัดสินใจปะว่าพี่จะเอาไปให้ใคร?” เขาเลิกคิ้วมองหยั่งเชิง


“แต่พี่ธีร์ให้โซ่ โซ่ก็จะเอาไปให้เด็กครับ ตรงนู้น” ดูปากน้องเด๋อตอนยู่ลงตรงคำว่า ‘นู้น’ แล้วก็มันเขี้ยวอีกแล้ว อยากบีบปาก


“ไม่ได้ พี่เปลี่ยนใจแล้วว่าจะเก็บไว้เอง”


“โลเลจัง”


“อยากได้ก็คีบเองแล้วกัน แต่จะทำได้เร้อ?” เขาลูบหัวนังหมูสีเหลืองเหมือนว่ารักกันมาแต่ชาติปางไหน ก่อนที่น้องเด๋อจะเอานิ้วจิ้มตุ๊กตาในอ้อมกอดเขา และยิ้มเหมือนกับว่าเรื่องที่คุยกันมันไม่ได้ดูเป็นเด็กจนเกินไป


“โซ่จะเอาตัวที่สอง มาคราวหน้าพี่ธีร์คีบให้โซ่ด้วยนะครับ”


“...”


“ถือว่าเป็นการรับขวัญเด็กใหม่เข้าทีม แหะ”


เหมือนน้องเด๋อเกิดมาเพื่อให้คนทั้งโลกแกล้ง ไม่สิ ต้องใช้คำว่าเพื่อให้คนอย่างเขาแกล้งถึงจะถูก ธีร์เอาหมูสีเหลืองเขกศีรษะคนตรงหน้าเบา ๆ พร้อมกอดคอให้เดินออกไปด้วยกัน การละลายพฤติกรรมด้วยตู้คีบตุ๊กตาถือว่าได้ผล เมื่อเขาและคนข้าง ๆ เริ่มคุยกันได้อย่างสนิทใจโดยไม่ต้องคิดก่อนว่าควรพูดประโยคไหนถึงจะเข้าท่า


น้องเด๋อไม่ได้กลัวการสกินชิพของเขาแล้ว หมายถึงตอนนี้น่ะนะ แต่ถ้าผ่านคืนนี้ไปก็ไม่แน่ใจว่าจะกลับไปสร้างระยะห่างอีกหรือไม่ แต่โดยรวมถือว่าคุ้มค่าที่ถ่อหนังหน้าไปนั่งเฝ้าเป็นสโตกเกอร์อยู่หลายวัน


“โซ่ก็ไม่ได้ซีเรียสเรื่องถอดหน้ากากอะไรขนาดนั้นหรอกนะครับ อันที่จริงมันเป็นความรู้สึกช่วงแรก ๆ เพราะโซ่กลัวการเผชิญหน้ากับคนเยอะ ๆ แต่พอถึงตอนนี้โซ่คิดว่าโซ่ถอดออกก็ได้นะครับถ้ามันจะทำให้ยุ่งยากในอนาคต”


ธีร์จะสนิทกับเด็กคนนี้เหมือนที่สนิทกับไอ้แหลมหรือเปล่า นั่นเป็นเรื่องที่อนาคตเท่านั้นจะบอกได้


“ไม่ต้องถอดหรอก เดี๋ยวพี่จะไปหาหน้ากากมาใส่เป็นเพื่อนเอง”



เพราะมีแค่เขากับคนในทีมเท่านั้นที่จะมีสิทธิ์เห็นหน้าน้องเด๋อได้




To be continued

*หรี่ตามองแล้วหันไปเล่นเกมแข่งรถต่อ*




« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 11-01-2018 01:01:42 โดย หน่วยกล้าวาย »

ออฟไลน์ NuNam

  • เป็ดHephaestus
  • *
  • กระทู้: 1226
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +15/-3

ออฟไลน์ Leenboy

  • เป็ดEros
  • *
  • กระทู้: 3095
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +105/-2

ออฟไลน์ ichiichi

  • รักหม่ามี้นะคับ
  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 351
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +28/-5
อ่านละอยากเล่น DBD แต่ตอนนี้ติดFFXIV==

เรื่องนี้มันช่าง...ดีต่อใจคนชอบเล่นเกมจิมๆ

CoMMuNiTY Of ThAiBoYsLoVE

ประกาศที่สำคัญ


ตั้งบอร์ดเรื่องสั้น ขึ้นมาใครจะโพสเรื่องสั้นให้มาโพสที่บอร์ดนี้ ถ้าเรื่องไหนไม่จบนานเกิน 3 เดือน จะทำการลบทิ้งทันที
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=2160.msg2894432#msg2894432



รวบรวมปรับปรุงกฏของเล้าและการลงนิยาย กรุณาเข้ามาอ่านก่อนลงนิยายนะครับ
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=459.0



สิ่งที่ "นักเขียน" ควรตรวจสอบเมื่อรวมเล่มกับสำนักพิมพ์
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=37631.0






ออฟไลน์ nevergoodbye

  • เป็ดHephaestus
  • *
  • กระทู้: 1240
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +51/-2
พี่ธีร์ร้ายยยย มาทำโซ่หวั่นไหว แต่ตัวเองไม่ได้คิดอะไร

สงสัยว่าทำไมต้องมาสกินชิพขนาดนี้อะ ขี้อ่อยหรอพี่ธีร์~~

ปล.มุกที่แทรกมาฮามากค่ะ ขำมากก  :laugh:

ออฟไลน์ B52

  • เป็ดZeus
  • *
  • กระทู้: 13216
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +420/-26

ออฟไลน์ พัดลม

  • เป็ดมหาวิทยาลัย
  • *
  • กระทู้: 542
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +23/-2

ออฟไลน์ Pumpkin

  • เป็ดHera
  • *
  • กระทู้: 1185
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +163/-8
อ่านแล้วก็อยากเล่น DBD 555

ความจริงแล้วธีร์นี่ทุ่มทุนสร้างมากกกกกก อะไรจะต้องตามล่าขนาดนั้น  :mew5:

ออฟไลน์ buathongfin

  • เป็ดHephaestus
  • *
  • กระทู้: 1251
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +27/-3
มาขอเป็นติ่งน้องซอโซ่ค่ะ

ออฟไลน์ หน่วยกล้าวาย

  • เป็ดมัธยม
  • *
  • กระทู้: 151
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +221/-0
#ซอโซ่ล่ามธีร์
ด่านที่ 6
ไว้ใจโดยไม่รู้ตัว




ธีร์ไม่ได้ตั้งนาฬิกาปลุกมานานแค่ไหนแล้ว?


มันก็คงนานมากพอที่จะทำให้เบลงอนเรื่องนี้จนขี้เกียจพูด สำหรับผู้ชายอายุยี่สิบหกกว่า ๆ ที่มีงานเป็นการเล่นเกม เขาไม่อยากกดดันตัวเองด้วยเสียงน่ารำคาญแบบนั้นจึงไม่อยากให้นาฬิกาปลุกเข้ามาเป็นส่วนหนึ่งในชีวิต อยากนอนตอนไหนก็นอน กินอิ่มง่วงก็หลับ


แต่วันนี้ธีร์ตื่นเช้าเพราะเช้าวันเสาร์เป็นวันที่พวกกาก ๆ นัดกันไปรวมตัวที่ร้านพี่ตั้บ ทุกคนจะช่วยกันรีโนเวทร้านโดยไม่ต้องไปจ้างช่างที่ไหนนอกจากพวกช่างที่คุ้นหน้ากันเป็นอย่างดีคือช่างหัวแม่งนั่นเอง


ด้วยความที่รุ่นพี่เห่อลูกที่ใกล้จะเกิดในอีกไม่กี่เดือนข้างหน้า จึงยอมไปกดเงินจากตู้เอทีเอ็มออกมาซื้อสีราคาแพงไปทาผนังให้ดูสดใสสบายตาเมีย โดยมีไอ้แหลมคอยช่วยย้ายโต๊ะคอมตั้งแต่เมื่อคืนเพราะหอมันอยู่แถวนั้น ส่วนไอ้แจ็คน่าจะไปถึงก่อนล้านเปอร์เซ็นต์ เพราะในโลกนี้คงไม่มีใครสายเก่งไปกว่าเขาอีกแล้ว


ธีร์เป็นคนชอบแต่งตัว โดนด่าว่าขี้เก๊กมาตลอดชีวิต แต่จะให้ทำไงเขาก็แค่ยอมรับสิ่งที่พระเจ้าประทานมาให้ปะวะ รู้ตัวว่าหล่อก็แค่ทำให้หล่อมากขึ้น พวกที่ด่าว่า Thr33Gamer หลงตัวเองนั่นก็แค่อยากด่า มันไม่ได้รู้จริง เพราะถ้ารู้จริงต้องบอกว่าไม่ใช่แค่หลงตัวเองแต่พีเพิ่ลเกินครึ่งประเทศก็หลง



เชี่ย ความหล่อแม่งอันตรายจริง ๆ



วันนี้เขาใช้เวลาอาบน้ำไม่นานเหมือนทุกวัน ธีร์ใส่แค่เสื้อยืด กางเกงขาสั้น กับรองเท้าผ้าใบเก่า ๆ ที่พร้อมจะเลอะสีทุกชนิด เจ้าของร่างผอมสูงหยุดยืนอยู่หน้าโต๊ะเครื่องแป้ง หยิบหมวกขึ้นมาใส่แล้วเชยชมความหล่อตัวเองอยู่ในที ก่อนสายตาจะพลันไปเห็นตุ๊กตาหมูสีเหลืองแก้มแดง


ขายาวก้าวไปหยุดอยู่หน้าโต๊ะคอมซึ่งเป็นจุดเดียวที่สะอาดเมื่อหันไปรอบห้อง ชายหนุ่มมองความเด๋อด๋าของตุ๊กตาไม่มีแบรนด์ ไม่ได้มีชื่อเสียงจนเด็กจะต้องรู้จัก มันเป็นเพียงตุ๊กตาที่ถูกสั่งทำจำนวนมากในราคาแสนถูกเพื่อให้คนชอบท้าทายคีบเล่นเท่านั้น และนั่นก็รวมเขาด้วย


ธีร์เป็นคนเล่นเกมได้ดี แต่นั่นล้วนมาจากความพยายามล้วน ๆ หาใช่พรสวรรค์ไม่ กว่าจะเก่งได้เขาต้องฝึกเล่นเกมนั้น ๆ มากกว่าใคร ศึกษาข้อมูลเชิงลึก ไปจนถึงการจับทางเกมให้ถูก และได้ทำไกด์มากมายเพื่อให้คนอื่นนำไปใช้ แต่การชู้ตบาสแข่งกับเวลาหรือคีบตุ๊กตากลับเป็นเรื่องที่เขาไม่เคยเอาชนะได้เลย ส่วนหนึ่งเป็นเพราะระยะเวลาการฝึกที่ไม่ประติดประต่อกันด้วย


ถ่ายรูปตุ๊กตาหมูสีเหลืองตัวแรกในชีวิตโดยไม่ได้อัปลงไอจีเหมือนอย่างเคย ธีร์อยากเก็บมันไว้ในที่ ๆ เขาดูได้คนเดียว กับความสำเร็จเล็ก ๆ ที่คนทั่วไปคงคิดว่ามันเป็นเรื่องธรรมดา แต่ก็นั่นแหละ ความธรรมดาของคนอื่นคือความพิเศษสำหรับผู้ชายอย่างเขา



Derya MK12: พี่ธีร์ครับ โซ่ถึงจตุจักรแล้วล่ะ อันที่จริงให้โซ่นั่งรถเมล์ไปร้านพี่ตั้บเลยก็ได้นะครับ พี่ธีร์จะได้ไม่ต้องเหนื่อยนั่งรถวนมารับโซ่ มีแผนที่แล้ว โซ่นั่งไปถูกแน่นอนครับ :3



ความพิเศษของตุ๊กตาตัวแรกที่มาจากเด็กผู้ชายซื่อ ๆ คนนั้น



*




ธีร์นั่งแท็กซี่ไปรับน้องเด๋อ ใช้เวลาโดยรวมราว ๆ ครึ่งชั่วโมงเพราะความรถติดในประเทศกรุงเทพซึ่งมีประชากรอาศัยอยู่ประมาณแปดแสนล้านคนด้วยความรู้สึกของเขา และวันนี้ธีร์ก็ได้นั่งรถเมล์สาย 29 ในรอบหลายปี เพราะน้องเด๋อบอกว่า...


‘แท็กซี่มันแพง กว่าจะไปถึงคงเกือบสองร้อยเลย แล้วพี่ธีร์ก็จะโชว์ป๋าไม่ยอมให้โซ่หารด้วยเพราะงั้นเรานั่งรถเมล์กันดีกว่านะครับ’



นั่นแหละ เด็กมันรู้ทัน


มาถึงร้านพี่ตั้บตอนเกือบเก้าโมง สภาพร้านฝั่งผนังโล่งอย่างที่ไม่ได้เห็นมานานเพราะสามคนนั้นช่วยกันขนย้ายโต๊ะคอมมากองตรงกลาง


“ช้าไอ้สัด” เพื่อนสนิทโยนผ้ากันเปื้อนมาและเขาก็รับไว้ได้ด้วยมือเดียว


“พี่แจ็คก็ว่าไป นี่เช้าสุดในชีวิตพี่มันแล้วนะเว้ย โอ๊ะ ว่าแต่นั่นใครเอ่ย?” ไอ้แหลมยิ้มอ้อร้อ ชี้นิ้วมาทางน้องเด๋อที่ยืนยิ้มแห้ง ๆ พร้อมยกมือขึ้นระดับหัวไหล่ โบกมือทักทายอย่างกระอักกระอ่วนจนเขาคิดว่าควรทำอะไรสักอย่างก่อนเด็กจะระเบิดความขี้อายตาย


“นี่น้องเด๋อ”


“เห็นปะ กูทายถูก!” แหลมปรบมือหนึ่งครั้งพร้อมชี้นิ้วย้ำอย่างสะใจ ก่อนจะหน้าทิ่มแทบจูบพื้นเพราะถูกพี่ใหญ่ตบกระบาลเข้าให้


“มึงพูดตอนไหน”


“กูพูดในใจ”


“ไม่เห็นบอกว่าจะพามาด้วย” พี่ตั้บยืนมองน้องเด๋อตั้งแต่ปลายผมจรดรองเท้าผ้าใบ เหมือนกำลังแสกนกรรมแล้วอยู่ ๆ ก็เดินหายเข้าไปหลังร้านเหมือนวิญญาณผีที่ตายเพราะท้องแตกหลังกินบุฟเฟ่ต์


รุ่นพี่กลับมาพร้อมผ้ากันเปื้อนลายสีสันสดใสแซมกลีบลูกไม้ มันยืนสบตากับน้องเด๋ออยู่ชั่วอึดใจก่อนจะโยนให้ซึ่งน้องมันคงงงเป็นไก่ตาแตก “อันนี้ให้โซ่เหรอครับ...”


“ใช่ พอดีผ้ากันเปื้อนที่ซื้อมาไว้ทาสีมีอยู่แค่นี้ เหลือแต่ของเมียพี่ที่เอาไว้ทำกับข้าวอะ เอ็งน่าจะใส่ได้” เอ็งเลยนะ เหมือนหลุดมาจากยุคบางระจัน “โทษไอ้เชี่ยธีร์นะ ถ้ามันบอกว่าเอ็งจะมาพี่คงซื้อเผื่อแล้ว”


“อ๋อ ไม่เป็นไรเลยครับพี่ตั้บ เพราะโซ่น่ะ” เขาก้มลงมองความโลลิต้าในมือก่อนจะเงยหน้าขอความเห็นใจจากคนข้างตัว “จะขอแลกกับ --”


“That’s no no” ธีร์เอามือปิดปากน้องเด๋อพลางส่ายหน้า และทันทีที่เอามือออกเด็กมันก็ทำหน้าอึน คิ้วตก ก้มลงมองผ้ากันเปื้อนแม่บ้านร้อนรัก และพอหันไปทางไอ้แหลม น้องเด๋อก็รีบเอาผ้ากันเปื้อนปิดหน้าตัวเองทันทีที่เห็นว่ามันถือกล้องอยู่


“มนุษย์กล้องเหรอมึงอะ” โซ่ลดผ้ากันเปื้อนลงเล็กน้อยเพราะเสียงดังแป๊ะที่ดังก้องไปทั่วร้าน แล้วก็เห็นพี่แหลมยืนกุมศีรษะตัวเอง ก่อนจะสะบัดหน้าขึ้นจนผมสีน้ำตาลอ่อนกระจาย


“เชี่ยแม่งบุตรแห่งวันเพ็ญ หัวกูไม่ใช่ Creep* ป่านะสัด ตบเอาตบเอา สมองซีกขวาแทบเขย่าไหลลงไปตามหลอดลมแล้ว”



*Creep คือ มอนสเตอร์ในเกม MOBA (เกมแนวแบ่งเป็นสองทีม ชนะได้ด้วยการตีบ้านอีกฝ่ายจนแตก)



“วันเพ็ญ?” โซ่เลิกคิ้วอย่างสงสัย คนฟังอย่างพี่ตั้บ พี่แหลม จึงขำพรืดออกมาอย่างกลั้นไม่อยู่ แม้แต่พี่แจ็คที่ไม่เคยเปิดไมค์พูดในเกม ก็ยังเม้มปากแน่นขณะสบตากับพี่ธีร์ วันเพ็ญคืออะไรนะ?


“ชื่อแม่ไอ้ธีร์น่ะ”


“มึงไม่ต้องอธิบายก็ได้ไงเพื่อน” ทีอย่างนี้ล่ะสาระแนพูดเยอะ


“อ๋อ ชื่อแม่พี่ธีร์นั่นเอง เข้าใจแล้วล่ะครับ” นี่ก็พูดหน้าตาเฉย


“ตลกเหรอ เอาไปใส่เลยไป” เขาเอาผ้ากันเปื้อนของตัวเองยัดใส่อกน้อง ก่อนจะเอาความโลลิต้ามาใส่เสียเอง เล่นเอาเพื่อนผองถึงกับตาโตอ้าปากหวอ


“เข้... คิงคองแต่งสาว” <- ไอ้แหลม


“...ตากูบอดแน่ ๆ” <- ไอ้แจ็ค


“กูคงมองเมียใส่ผ้ากันเปื้อนผืนนี้ไม่ได้อีกต่อไป” <- พี่ตั้บ


“น่ารักมากเลยครับ พี่ธีร์ถ่ายรูปไหม เดี๋ยวโซ่ถ่ายให้” ชายหนุ่มหรี่ตามองคนที่กำลังเชยชมด้วยแววตาที่ไม่ได้เกินไปกว่าคำพูด คนอุตส่าห์ยอมอายแทนเพราะไม่อยากให้อึดอัดกับทีมตั้งแต่วันแรกที่เจอกัน แต่น้องเด๋อดันไปตามน้ำกับพวกมันเสียอย่างนั้น


“น่ารักแล้วทำไมไม่ใส่เอง หื้อ?” เขายีผมอีกฝ่ายแรง ๆ แต่น้องเด๋อกลับหัวเราะยิ้มตาปิดพร้อมจัดเผ้าผมให้เข้าที่


“โซ่ไม่ได้อยากน่ารักนี่ครับ แต่พี่ธีร์น่ารักได้ เพราะแฟนคลับพี่ธีร์ชอบ”


“คนหล่อใส่อะไรก็ดูดีเปล่าวะ เรื่องนี้รู้ตั้งแต่เกิด” เขากลบเกลื่อนด้วยความหลงตัวเองแล้วสวมผ้ากันเปื้อนให้ ซึ่งน้องเด๋อก็ยืนก้ม ๆ เงย ๆ พยายามผูกเชือกด้วยตัวเอง ธีร์จึงจับไหล่น้องพลิกหันหลังพร้อมผูกให้


“ข้าวใหม่ปลามันกว่ามึงอีกพี่” แหลมกระซิบพี่ตั้บทั้งที่ยังไม่ละสายตาจากทั้งคู่


“หึงเหรอจ๊ะเมียจ๋า”


“อู้ย ขนดากกูลุกพรึ่บพรั่บ” ไอ้หน้าลูกครึ่งทำหน้าเหยเก ลูบแขนแรง ๆ กับประโยคที่เขามักจะลั่นออกไปในไลฟ์ให้คนดูกรี๊ดเล่น แต่ไอ้แหลมไม่เคยชิน มันยังคงรับไม่ได้ที่ถูกจิ้นกับเขา


ที่ดูแลขนาดนี้ก็เพราะเป็นคนลากน้องเด๋อเข้าทีม ขืนปล่อยให้ไอ้พวกนี้แกล้งเด็กมันอาจหาเรื่องออกจากทีมได้ ซึ่งเขาไม่ยอมให้เป็นอย่างนั้นเด็ดขาด


“ลุยต่อเลยไหม?” พี่แจ็คเป็นคนเดียวที่ดึงทุกคนให้กลับไปสนใจประเด็นหลักในวันนี้  พี่ธีร์จึงหันหลังพร้อมหันมาหาเล็กน้อย


“ผูกเชือกให้พี่ที”


“ผูกให้พี่ธีร์” เจ้าของชื่อเลิกคิ้ว ชำเลืองมองศีรษะทุยของคนที่ยืนอยู่ข้างหลังแล้วก็หลุดยิ้มออกมากับการเล่นคำท่ามกลางเสียงโหวกเหวกของไอ้แหลม “โซ่ผูกแน่นเกินไปหรือเปล่าครับ?”


“ถ้าเป็นโซ่ต้องใช้คำว่าล่ามสิ”


“โดนเอาคืนจนได้...” ถ้าไม่คิดเข้าข้างจนเกินไป ธีร์คาดว่าน้องเด๋อคงแฮปปี้มากกว่าจะรู้สึกแย่ที่ได้เห็นหน้าพวกพี่ตั้บตัวเป็น ๆ ในวันนี้


“เร็วไปสิบปีนะหนู” พี่ธีร์ยักคิ้วแล้วเดินไปเอาแปรงลูกกลิ้ง กระป๋องสี และถุงมือ ก่อนจะเข้าไปคุยกับพี่ตั้บ น่าจะสักหนึ่งนาทีหรือน้อยกว่านั้นก็กลับมาหาเขาพร้อมอุปกรณ์


“เราจะทาสีเดิมกันเหรอครับ?”


“ใช่ ที่สามคนนั้นทาไปแล้วคือสีรองพื้นรอบแรก มันต้องทาสองรอบก่อนลงสีจริงน่ะ” ธีร์พาน้องไปตรงผนังมุมขวาสุดของร้านแล้วเอาเท้าเขี่ยหนังสือพิมพ์บนพื้นให้ชิดขอบมากที่สุด “อย่าให้เลอะออกนอกเทปที่ติดไว้นะ เป็นใช่ไหม?”


“เป็นครับ โซ่จะทาอย่างตั้งใจเลย” น้องเด๋อก้มหน้าก้มตาใส่ถุงมือแล้วจุ่มแปรงลูกกลิ้งลงไป ก่อนจะเริ่มละเลงสีขาวลงบนผนัง เขายืนดูอยู่ตรงนั้นให้แน่ใจว่าจะไหวหรือไม่ ซึ่งอีกฝ่ายก็ไม่ได้ทิ้งขี้ไว้ให้พวกเขาแก้งาน


“พี่มึง...” ไอ้แหลมย่องมาอย่างเปิดเผย มันชำเลืองมองน้องเด๋อจากด้านหลังก่อนจะลากเขาไปตรงผนังอีกฝั่งหนึ่ง “ไหน เรื่องเป็นยังไง เล่ามา”


“เล่าไรวะ?”


“ก็ที่มึงทำให้น้องมันยอมถอดหน้ากากไง ที่บอกว่าจะเล่าให้กูฟังวันนี้อะ เนี่ย ต่อมเสือกกูมันกระตุกตับ ๆๆๆ อย่างนี้” แหลมเอามือประกบกันอย่างทะลึ่ง เขาจึงมอบฝ่ามือเน้น ๆ ลงกลางกระบาลมันไปอีกหนึ่งที “โอย... หูวิ๊งเลยกู”


“ก็ไม่ยังไง กูแค่กระชากออกตอนทีเผลอ”


“เชี่ย มึงมันนรกแตกมากพี่” ไอ้หน้าลูกครึ่งทำหน้าเอือม ที่ไม่ได้เล่าให้ฟังในแชตก็เพราะอยากแกล้งให้ไอ้แหลมทุรนทุรายไปกับความเสือกเล่น ๆ “แล้วน้องมันไม่โวยวายเหรอวะ?”


“แน่นอนว่าไม่พลาด” ธีร์พยักหน้า


“กูล่ะยอม” แหลมส่ายศีรษะ ก่อนทั้งคู่จะหันไปดูความประณีตของเด็กใหม่ ซึ่งค่อนข้างเหนือความคาดหมายไปหน่อยเพราะตอนแรกเด็กคนนั้นแสดงออกเหมือนว่าทาสีไม่เป็น แต่พอเอาเข้าจริงก็ทาเนี๊ยบใช้ได้ “มึงไปบังคับอีท่าไหนไอ้โซ่ถึงยอมเข้าทีมด้วย?”


“กูมีวิธีแล้วกัน”


“พี่ มึงฟังกูนะ” แหลมวางมือลงบนไหล่กว้าง “มึงจะบังคับทุกคนในโลกไม่ได้นะเฮ้ย จริงอยู่ที่เบ้ามึงดี แต่นั่นก็ใช้ได้แค่กับผู้หญิงเปล่าวะ เด็กมันยิ่งหงิม ๆ กลัว ๆ มึงคงไม่ได้ไปบังคับมาหรอกใช่ไหม?”


“ไม่ได้บังคับ ไม่เชื่อมึงเดินไปถามดิ” ทั้งคู่สบตากันแล้วหันไปยังฝั่งตรงข้ามอีกครั้ง พอน้องเด๋อหันมาจึงรีบทำเป็นทาสีผนังราวกับไม่มีอะไรเกิดขึ้น 


“ถ้าเป็นกู ๆ แจ้งตำรวจจับมึงจริง ๆ อะ บุกไปหาถึงห้องเฉย น่ากลัวฉิบหาย”


“แต่กูไม่ได้มีเจตนาร้ายเปล่า? โอเค กูผิดเอง กูจะไม่ทำแบบนั้นอีก พอใจยัง?”


“เออ งั้นผ่านเรื่องนี้ไป” คนน้องหันหลังไปสังเกตลาดเลาเป็นระยะ “คราวนี้มาเรื่องสกินชิพ”


“อะไรอีก มึงนี่เรื่องเยอะนะแหลม”


“มึงไม่คิดว่าตัวเองถึงเนื้อถึงตัวเด็กมันเกินไปเหรอวะ ตั้งแต่เข้ามากูเห็นเดี๋ยวกอดคอ เดี๋ยวยีหัว”


“ทำไม ก็ผู้ชายด้วยกัน”


“มันก็ต้องสนิทกันก่อนไหมล่ะไอ้ฉิบหายเอ๋ย ยิ่งมึงบุกไปหาถึงห้องแถมประกาศกร้าวกลางไลฟ์อีกว่าจะขอคบ เป็นกูคงอายจนเอาคองัดดากหมาตาย”


“แต่เด็กมันไม่ตาย”


“เออ เรื่องมึ๊ง” แหลมขึ้นเสียงสูง ทำท่าง้างมือขึ้นจะนวดพี่สักดอกแล้วเดินหนีไปทั้งที่ยังสบตากันอยู่ รำคาญพี่ธีร์ชอบคิดอะไรน้อย ๆ สงสัยชินเพราะสกินชิพกับเขาบ่อย แต่นั่นก็ไม่ใช่เหตุผลที่มันจะเรื้อนใส่ใครก็ได้เปล่าวะ 



*



ต่อด้านล่างนะคะ <3
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 11-01-2018 01:03:03 โดย หน่วยกล้าวาย »

ออฟไลน์ หน่วยกล้าวาย

  • เป็ดมัธยม
  • *
  • กระทู้: 151
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +221/-0
*



การทาสีใช้เวลาไปนานหลายชั่วโมงกว่าจะเสร็จ ส่วนเรื่องสานสัมพันธ์ระหว่างเพื่อนร่วมทีมกับเด็กใหม่ก็ค่อนข้างไปได้ดี น้องเด๋อไม่ได้เงียบตอนถูกถาม และพวกนรกนั่นก็เล่าเรื่องตลกให้ฟังอยู่ตลอด บรรยากาศจึงค่อนข้างไปในแง่บวก


ตอนเย็นพี่ตั้บสั่งหมูกระทะมากินพร้อมบอกให้น้องเด๋ออยู่ด้วย และปาร์ตี้ลงพุงก็มีเหล้าเบียร์เข้ามาเพิ่มอรรถรสโดยเงินของพี่ใหญ่ที่เลี้ยงน้อง ๆ เพราะมาช่วยทาสีร้าน ซึ่งทุกคนก็เดาไม่ผิดเลยว่าเด็กหงิม ๆ อย่างน้องเด๋อคงไม่ดื่ม


โซ่ชนแก้วกระชับมิตรด้วยน้ำอัดลม และการวางแผนทีมก็เริ่มต้นขึ้นในช่วงเวลาถัดมา น้องเด๋อมีส่วนร่วมในการวางแผน ไม่ว่าจะเป็นการหลอกฆาตกรทีมฝั่งตรงข้าม หรือวิธีเข้าไปช่วยเพื่อนในจังหวะที่ฆาตกรต้องตัดสินใจในช่วงวินาทีสั้น ๆ


ยอมรับว่าธีร์ค่อนข้างแปลกใจกับแนวคิดของอีกฝ่ายที่เขาไม่เคยนึกถึง คิดไม่ผิดจริง ๆ ที่ชวนน้องเด๋อเข้าทีมเพื่อเติมเต็มรูโหว่ของ ‘ขี้ซุยบราเท่อ’ เด็กคนนี้อธิบายลักษณะนิสัยการเล่นของไอ้แจ็ค พี่ตั้บ และไอ้แหลมอย่างละเอียด พูดด้วยน้ำเสียงนอบน้อมไม่อวดตัวว่าเมื่อเป็นอย่างนั้นแล้วจะพลาดท่าอย่างไร


พอคุยกันไปได้สักพักไอ้แหลมก็เริ่มอินจัด ถึงได้ลุกขึ้นยืนพร้อมประกาศว่าจะเพลา DotA2 แล้วหันมาจริงจังกับเกมนี้เพื่อเป้าหมายอันยิ่งใหญ่


“น้ำแข็งหมดว่ะ”


“เดี๋ยวโซ่ไปซื้อให้เองครับ พวกพี่ ๆ นั่งกินกันต่อเลย” ทั้งสี่คนมองน้องเล็กอย่างเอ็นดู กับความสมัครใจที่พวกเขาเกี่ยงกันมาตลอดเพราะไม่อยากขาดตอน


“รักนะโซ่” แหลมปั้นหน้านิ่งทำมือเป็นรูปหัวใจ นี่สิตัวตายตัวแทนที่แท้จริง


“เซเว่นอยู่ไม่ไกลมาก ออกไปแล้วเลี้ยวขวา ตรงไปเรื่อย ๆ นะ”


“ได้ครับ รอแป๊บนึงนะเดี๋ยวโซ่รีบกลับมา” เขาลุกขึ้นพลางล้วงกระเป๋ากางเกง เอากระเป๋าเงินออกมาถือไว้ ก่อนจะถูกพี่ธีร์คว้าข้อมือทั้งที่ยังไม่ได้ก้าวไปไหน


“เอาออกมาตอนนี้เดี๋ยวก็โดนปล้นกลางทางหรอก”


“แถวนี้มีโจรด้วยเหรอครับ?” ได้ยินแล้วก็กลัว โซ่ชะเง้อมองทางที่มีแสงสว่างจากเสาไฟแค่บางจุดเท่านั้น พอฟ้ามืดแล้วให้บรรยากาศต่างจากตอนกลางวันไปเลยแฮะ


“เดี๋ยวพี่ไปด้วย” แหลมเอาศอกสะกิดพุงพี่ตั้บ ส่งซิกบอกให้ดูความผิดปกติที่ไม่เคยเกิดขึ้นกับใครในทีม แม้ว่าเขาจะสนิทกับพี่มันมากที่สุดก็ยังไม่เคยเป็นห่วงขนาดนี้


“ไม่เป็นไรครับ พี่ธีร์กินต่อกับพี่ ๆ เถอะนะ”


“จะไปเดินย่อย มีไรเปล่า?” ธีร์เลิกคิ้วสบตากับคนที่มองมาเหมือนอยากอ่านใจเขา แล้วน้องเด๋อก็ส่ายหน้าเป็นคำตอบ


“ไม่กล้ามีหรอกครับ คนโหด”


“เออ พูดง่าย ๆ โตไว ๆ” ธีร์เกาคางให้เป็นรางวัล ซึ่งน้องเด๋อก็เบี่ยงหน้าหลบพร้อมปัดมือเขาออก


“เอากุญ -- โอ๊ย!!!” ทั้งคู่หันไปทางซึมเศร้าแมนที่พูดยังไม่ทันจบก็แหกปากร้องขึ้นมาอย่างปริศนา


“มึงเป็นไรไอ้แจ็ค”


“รังมดอะดิ!” ถามเพื่อนแต่ไอ้ลูกครึ่งอีสานเสือกเสนอหน้าตอบแทน “กูบอกกี่ทีแล้วพี่ตั้บว่าให้เอาเชลไดรท์สเต้ดป้าดมาพ่นแถวนี้หน่อย เห็นไหมพี่แจ็คโดนมดกัดไข่เลย”


“...” คนถูกพาดพิงมองรุ่นน้องด้วยสายตาเคียดแค้นหลังจากถูกบีบไข่อย่างแรง ส่วนตุ้บตั้บได้แต่ชี้หน้าตัวเองแล้วเออออตามน้ำอย่างงง ๆ


“จะเอาอะไรเพิ่มก็โทรมาแล้วกัน”


“เออ รีบไปจะได้กลับมากินต่อ เดี๋ยวขาดตอน” แหลมทำมือปัด ๆ พอเห็นว่าสองคนนั้นเดินหายไปกับความมืดแล้วก็ตบโต๊ะม้าหินอ่อนอย่างเสียงดัง


“เป็นเชี่ยไร?” คนถูกถามแค่นหัวเราะ เด็กหนุ่มหน้าลูกครึ่งเสยผมขึ้นอย่างวางท่า ก่อนจะหันหน้าเข้าหารุ่นพี่ที่สาดคำถามใส่เขาอย่างหยาบคาย


“มึงจะให้พี่มันยืมรถทำไมวะพี่แจ็ค เดินคุยกันไปเรื่อย ๆ สิดี”


“แล้วขี่มอไซค์คุยกันมันไม่ดีตรงไหน?”


“พอเดินแล้วมันยืดเวลาได้ไง เนี่ย กูเบื่อพวกตกคณิตคำนวณ กลับไปเรียนใหม่เลยไป” แหลมส่ายหน้าหน่าย ๆ แล้วหันไปทางอีกคนที่แดกใหญ่เหมือนหิวมาจากไหน “เนอะพี่ตั้บ”


“ไรนะ”


“กูรู้แล้วว่าทำไมพวกมึงไม่เคยแข่งผ่านรอบสอง” แหลมจิ๊ปากรัวพลางมองรุ่นพี่ทั้งสองสลับกัน


“คิดอะไรอยู่สินะ” แจ็คพลิกหมูอย่างใจเย็น ก่อนจะมองนาฬิกาข้อมือ “กูรู้ว่ามึงไม่ชอบเบล แต่มันไม่ใช่เรื่องที่ต้องชงมันสองคนตามแฟนคลับหรอก”


“อ๋อ ไอ้ส้นตีนนี่มีแผนว่างั้น?!” รุ่นพี่สมองช้าถลึงตามองหลังจากได้คำตอบอย่างกระจ่าง


“เดี๋ยวนี้สังคมเรามันเปลี่ยนไปแล้วนะเว้ยพี่ LGBT อะรู้จักเปล่า?”


“แล้ว?” แจ็คเลิกคิ้วสบตากับคนน้องด้วยสีหน้าเรียบเฉย “ถึงมันจะทะเลาะกันบ่อย ถึงเบลจะงี่เง่าชอบอัพดราม่าในเฟซบุ๊ก แต่นั่นก็เป็นเพราะพี่มึงไม่ใส่ใจ”


“พี่กูพยายามใส่ใจแล้วแต่มันก็ไม่เคยพอเปล่าอะ พี่แจ็คก็รู้ว่าพี่เบลอยากให้พี่ธีร์เลิกเล่นเกม” นาน ๆ ทีแหลมจะกางปีกปกป้อง ไม่ต้องห่วงนะพี่ กูจะช่วยมึงเอง!!! “อะไรที่พยายามมาก ๆ มันเหนื่อยนะเว้ย”


ยกตัวอย่างโดยพี่ตั้บที่เคยปฏิญาณตนว่าจะลดความอ้วน แต่พอเห็นของแดกก็ยัดใส่ปากแบบไม่คิดชีวิตอะ


“นั่นก็เป็นเรื่องที่ไอ้ธีร์ต้องเลือกแล้วว่ามันจะเอายังไง ชีวิตมัน”


“ไม่โกรธพี่เบลบ้างเหรอวะพี่” แหลมเบะปาก รู้สึกใจสลายที่อีกฝ่ายไม่เห็นด้วย


“ไม่ได้โกรธ กูก็ไม่ชอบเบลเหมือนมึงนั่นแหละ แต่ถ้าไอ้ธีร์รักแฟนมัน เพื่อนอย่างกูกับมึงก็ทำได้แค่คอยดูอยู่ห่าง ๆ เปล่าวะ?” ตุ้บตั้บมองรุ่นน้องทั้งสองคนดีเบตกันอย่างสนุกสนาน ส่วนเขาไม่มีความเห็นอะไรทั้งนั้นเพราะได้เมียกับลูกแล้ว ชีวิตคอมพลีท


“แล้วถ้าสมมติวันนึงพี่ธีร์มันชอบคนอื่นอะ สมมตินะครับสมมติ...” แหลมเบาเสียงลง เขาจะไม่หยุดจนกว่าจะพอใจกับคำตอบจากซึมเศร้าแมนคนคม


“กูจะเลี้ยงหมูกระทะชุดใหญ่กับเหล้ากลมนึง”


พี่กูต้องแบบนี้สิวะ!!!




*




“พี่ธีร์มาร้านพี่ตั้บบ่อยไหมครับ?”


“อาทิตย์ละครั้งสองครั้งอะ ทำไม ติดใจอยากมาอีกเหรอ?” ธีร์มองคนข้างตัวขณะเดินไปด้วยกัน การเดินไปเซเว่นครั้งนี้มันช้าไปกว่าทุกครั้ง และเขาไม่ได้เร่งรีบอะไรนักถ้าจะได้รู้เรื่องเด็กคนนี้อีกสักหน่อย


“ก็อยากมาครับ แต่โซ่อยู่ไกลจากตรงนี้มากเลย กว่าจะมาถึงคงใช้เวลาประมาณชั่วโมงครึ่งเลยมั้งครับ” ธีร์หัวเราะในลำคอเบา ๆ พลางล้วงมือเข้าไปในกระเป๋ากางเกงขาสั้น การที่น้องเด๋ออยากมาอีกครั้งนั่นเรียกได้ว่าเป็นสัญญาณดี สงสัยติดใจความอัปปรีย์ของพี่ ๆ ทุกคนที่ปล่อยมาจนหมดก๊อกตั้งแต่คุยกันตัวเป็น ๆ วันแรก


“ถ้าเสาร์ไหนว่างก็มาเล่นด้วยกันดิ เล่นร้านเกมกับเล่นคนเดียวมันให้ความรู้สึกไม่เหมือนกันนะรู้เปล่า”


“สนุกจริงครับ โซ่เคยไปเล่นกับเพื่อนตอนอยู่ป.ห้าครับ ตอนนั้นโดนดุด้วย เพราะแม่ไม่ชอบให้โซ่เข้าร้านเกมน่ะครับ” ถ้าเป็นก่อนหน้านี้ธีร์คงสวนกลับไปทันทีว่า ‘ลูกแหง่’ แต่พอเป็นเรื่องเกมที่มีครอบครัวเข้ามาเกี่ยวด้วย เขาจึงหยุดคิดไปครู่หนึ่ง


“เหมือนกัน”


“ครับ?”


“พ่อแม่พี่ก็ไม่ชอบให้ไปร้านเกม ไม่ดิ ต้องบอกว่าไม่ชอบเกมเลยถึงจะถูก เรียกได้ว่าแอนตี้” ทั้งคู่มองหน้ากัน ก่อนน้องเด๋อจะทำตาโตโบกมือปัด ๆ ราวกับจะบอกเขาว่า...


“รอไว้ใจโซ่ก่อนค่อยเล่าก็ได้ครับ”


“ถ้าเป็นเรื่องที่บ้านพี่ธีร์ --”


เงียบ...


โซ่มองรอยยิ้มบนใบหน้าคนตัวโตที่เกิดขึ้นเพราะเขาทั้งสองคนพูดประโยคเหล่านั้นออกมาพร้อมกัน เด็กหนุ่มตัวผอมเกาท้ายทอยพลางมองถนนข้างหน้า ปล่อยให้ความเงียบทำงานอยู่ครู่หนึ่งโดยไม่รู้ว่าควรทำอย่างไรดี


โซ่เป็นคนซื่อบื้อก็จริง แต่วูบหนึ่งเขารู้สึกเหมือนว่าพี่ธีร์อาจจะกำลังรู้สึกแย่อยู่ก็ได้ สังเกตได้จากแววตาที่ต่างไปจากทุกครั้ง หรือบางทีมันอาจจะเป็นเขาที่คิดไปเอง?


“บ้านพี่เปิดร้านทองสองคูหาอยู่ในเยาวราช พ่อกับแม่ก็อยากให้พี่ทำร้านต่อหลังจากเรียนจบนั่นแหละ แต่พี่ไม่อยากทำก็เลยหาเรื่องไปต่อโทที่’เมกา เพื่อยืดเวลาไปตั้งหลักสักหน่อย”


ปกติธีร์ค่อนข้างเป็นคนปิดกั้นตัวเองพอสมควร อย่างตอนจะสนิทกับพวกไอ้แหลมได้ยังต้องใช้เวลาสักพักใหญ่กว่าจะเล่าเรื่องส่วนตัวให้ฟัง แต่สำหรับน้องเด๋อแล้ว... ธีร์ก็ไม่เข้าใจเหมือนกันว่าทำไม เพราะอีกฝ่ายเป็นคนพูดน้อย หรือเพราะโดนซื้อใจวันนั้นกันแน่


หรือเป็นเพราะส่วนหนึ่งธีร์ค่อนข้างเชื่อความรู้สึกตัวเองว่าเด็กคนนี้จะไม่หักหลัง เขาถึงได้ไม่อยากรอวันที่จะสนิทกันอย่างที่ควรเป็นตามกฎที่สร้างไว้ในใจ


“พอกลับไทยพ่อกับแม่ก็คุยกับพี่เรื่องกิจการที่บ้าน ตอนนั้นพี่เลยบอกเขาว่า ‘ธีร์จะเป็นนักกีฬา E-Sport แล้วถ้ามันไม่ยากจนเกินไป ธีร์ก็อยากให้ป๊ากับม๊าสนับสนุนเรื่องนี้’ ตอนนั้นพ่อโมโหมาก เพราะเขาคิดว่าปล่อยพี่เล่นเกมมาตลอดชีวิตแล้ว ทำไมพี่ถึงไม่ยอมหยุดทำตัวเป็นเด็กอีก แต่พี่เข้าใจนะ ยุคสมัยมันเปลี่ยนไปก็จริง แต่ความคิดคนไม่ได้ขับเคลื่อนไปตามหรอก” ธีร์ไหวไหล่อย่างไม่ยี่หระ ก่อนจะชะงักเพราะรู้สึกได้ว่าเสื้อมันตึง ๆ พอก้มลงก็เห็นว่าน้องเด๋อจับเสื้อเขาไว้ พร้อมมองมาด้วยแววตาที่เขาไม่อยากคิดเข้าข้างตัวเองนัก



ว่าเด็กคนนี้กำลังเป็นห่วง



“อะไร ทำหน้าแบบนั้นสงสารพี่หรือไง?”


“ไม่ใช่ความสงสารครับ แต่โซ่เป็นห่วง” เสียงน้องเบาหวิวคล้ายเสียงกระซิบ ธีร์ยิ้มขำพลางวางมือลงบนศีรษะทุยพร้อมยีเบา ๆ ก่อนจะสบตากันเพื่อบอกให้รู้ว่าเขาสบายดี


“พ่อโมโหใหญ่ บอกพี่ว่า ‘จะไปไหนก็ไป’ แล้วพี่ดันเป็นลูกที่เชื่อฟังคำพูดพ่อแม่ซะด้วยสิ ก็เลยขนของออกมาอยู่คอนโดป้าที่ตอนนี้แกไปอยู่อังกฤษกับผัว พี่อยากพิสูจน์ให้พวกเขาเห็นว่าพี่จะไม่มีทางอดตายเพราะเป็นนักกีฬา E-Sport”


“ไม่อดตายแน่นอนครับ โซ่มั่นใจ เดี๋ยวนี้วงการเกมมันขยายไปกว้างกว่าเมื่อก่อนมาก อย่างแข่งลีคในจีนโซ่เห็นมีนั่งฮอล์มาลงพรมแดงด้วยครับ บางคนนั่งมินิคูเปอร์เป็นขบวนเลย แฟนคลับก็รอจับมือข้างทางเต็มไปหมด อีกอย่างพี่ธีร์ก็เป็นคนเก่งมาก ๆ โซ่เชื่อว่าสักวันคุณพ่อคุณแม่พี่ธีร์ต้องเข้าใจแน่ ๆ แต่อาจจะต้องใช้เวลาหน่อยเพราะวงการเกมในไทยยังไม่โตเท่าที่นู่นครับ” น้องเด๋อรัวคำปลอบราวกับว่าถ้าไม่ได้พูดมันออกมาเดี๋ยวนี้เขาคงน้ำตาไหลเป็นโลหิตเพราะนึกถึงเรื่องทะเลาะกับที่บ้าน


“แน่นอน แต่อันดับแรกเราต้องชนะทีมในไทยให้ได้ก่อน แล้วหลังจากนั้นเราจะไปแข่งลีคกับชาวต่างชาติกัน”


“เราเหรอครับ?” คนอายุน้อยกว่ากระพริบตาปริบ ๆ โซ่ชี้หน้าตัวเองแล้วชี้แผงอกกว้างของอีกคน และคนพี่ก็ยิ้มให้พร้อมพยักหน้า


“ใช่ เราทุกคนจะไปถึงจุดนั้นด้วยกัน”





*





“ไงล่ะ ฝั่งกูนี่โคตรเนี๊ยบเหมือนจิตรกรมาเอง บอกให้เด็กร้านมึงรู้ด้วยนะว่าฝั่งนี้พี่ธีร์เป็นคนทา อา... กูควรทิ้งลายเซ็นไว้เป็น Easter Eggs ดีไหม?” พูดจบก็ไล้มือไปตามผนังที่ถูกทาด้วยสีลาย Momento สไตล์ล็อฟท์ ทำเอาร้านเกมที่เคยธรรมดา ๆ  ดูแพงขึ้นเป็นเท่าตัว


“รำคาญอะ” แหลมมองคนหลงตัวเองอย่างหน่าย ๆ และแจ็คกับตุ้บตั้บก็เห็นด้วย


“กราบกูซะสิพี่ตั้บ”


“ไอ้แหลม ยกขาหน้าขึ้นซิ”


“เอ้ากราบ... ถุ้ยยย” ไอ้เด็กขี้ตบมุกหันไปทางพี่ใหญ่


เสียงหัวเราะยังคงเกิดขึ้นได้เสมอเมื่ออยู่ด้วยกัน ทั้งห้าคนช่วยกันลากโต๊ะกับเก้าอี้ไปเรียงจุดเดิมพร้อมต่อสายไฟเรียบร้อยก่อนถึงเวลาที่จะแยกย้ายกันกลับบ้าน ตุ้บตั้บหันไปทางรุ่นน้องที่อยู่ด้านหลังพร้อมชูนิ้วหัวแม่มือ ซึ่งไอ้ธีร์กับไอ้แหลมก็เก๊กท่าไนกี้ใต้คาง ต่างจากไอ้แจ็คที่พยักหน้าครั้งเดียว กับไอ้โซ่ที่ยิ้มกว้างแล้วชูนิ้วชื่นชมร้านของเขา


“มึงว่าเจนจะชอบปะวะ?”


“ชอบดิ เจ๊กูไม่เรื่องมากเท่าแฟนพี่ธีร์หรอก”


“โยงเก่ง” ชายหนุ่มตัวสูงหรี่ตามองไอ้เด็กเกรียน แต่พอพูดถึงเบลแล้วเขาก็รีบเอามือถือขึ้นมาเปิดดู ก่อนจะพบข้อความตัดพ้อน้อยใจมากมายที่ใส่มาอย่างจัดเต็มว่าเขาเอาแต่อยู่กับเพื่อน ไม่สนใจว่าเธอจะเหงามากแค่ไหน “งานงอกแล้วกู”


“กำลังจะมีคนดราม่าลงเฟซในอีก 3 2 1”


“กูว่าอัปแล้ว ลงยี่สิบบาท” พอเห็นไอ้พี่แจ็คล้วงแบงก์ยับ ๆ ออกมาจากกระเป๋ากางเกงแหลมก็ยิ้มกริ่มที่รุ่นพี่คล้อยตาม


“กูลงด้วยยย”


“งั้นกลับไหมครับ เผื่อแฟนพี่ธีร์นั่งรออยู่”


“เปล่า พี่ไม่ได้อยู่ด้วยกัน” พูดจบก็หันไปทางเพื่อนร่วมทีม “งั้นกูกลับละ ไว้เจอกัน”


“เค โชคดีสำลีอุดจมูก”


“มึงคนแรกเลยเชี่ยแหลม” ธีร์ชี้หน้าคาดโทษไอ้เด็กเวรแล้วหันไปพยักหน้าบอกให้น้องเด๋อเดินออกไปด้วยกัน 


“พี่ธีร์ไม่ตอบไลน์แฟนหน่อยเหรอครับ อย่างน้อยเธอจะได้สบายใจ”


“ไม่มีอะไรทำให้เค้าสบายใจได้นอกจากพี่จะขอโทษแล้วร่ายความผิดให้เค้าฟังจนกว่าจะพอใจ ไว้ค่อยคุยทีหลังดีกว่า ถ้าตอบตอนนี้ยาวแน่ ๆ”


“อ๋อ... โอเคครับ” โซ่พยักหน้าช้า ๆ รู้สึกเป็นกังวลเพราะสีหน้าพี่ธีร์ไม่ค่อยสู้ดีสักเท่าไหร่


“กี่โมงแล้ว?”


“ตอนนี้...” โซ่มองนาฬิกาบนหน้าจอโทรศัพท์ “เที่ยงคืนยี่สิบหกนาทีแล้วครับ”


พี่ธีร์พยักหน้าแล้วเดินตรงไปเรื่อย ๆ จนถึงปากซอย ทั้งคู่หยุดยืนตรงฟุตปาธ รอไม่นานนักอีกฝ่ายก็โบกมือเรียกแท็กซี่ “พี่ธีร์ไปก่อนเลยนะ เดี๋ยวโซ่จะรอขึ้นคันถัดไปเองครับ”


“ขึ้นมา” ดวงตาคู่นั้นไม่ได้มองมาเชิงบังคับ แต่โซ่ก็ทำตัวไม่ถูกเพราะไม่รู้ว่าอีกฝ่ายกำลังคิดอะไร แต่สุดท้ายเขาก็เข้าไปนั่งเบาะหลังข้าง ๆ พี่ธีร์


“เดี๋ยวจอดหน้าเมืองเอกทีนะครับคุณลุง” เขาพูดกับคนขับแท็กซี่ แล้วหันไปมองคนข้างตัวที่กำลังเลื่อนแชตที่เต็มไปด้วยข้อความสีขาวเต็มไปหมด


“โซ่”


“อะ... ครับ?” สำหรับคนที่ได้ยินคำว่าน้องเด๋อมาตลอด ยอมรับว่าเขาตกใจไม่น้อยที่ได้ยินพี่ธีร์เรียกชื่อจริง แต่ทำไมเหงื่อมันต้องไหลออกมาตามฝ่ามือก็ไม่รู้


โซ่มองหน้าอีกคนจากด้านข้าง มองผ่านความมืดที่ทำให้เขาเดาไม่ออกว่าพี่ธีร์กำลังคิดอะไรอยู่ หงุดหงิดเพราะแฟนงอแงเหรอ ถ้าเขาบอกว่า ‘เธอก็แค่น้อยใจเฉย ๆ’ จะทำให้โมโหกว่าเดิมหรือเปล่านะ อาร์มเคยบอกว่าคนเมาจะกล้ารู้สึกในสิ่งที่จิตใต้สำนึกห้ามไม่ได้ เช่นส่งข้อความหาแฟนเก่า ตะโกนเสียงดัง ไปจนถึงการพูดทำร้ายจิตใจคนอื่น


ควรนั่งอยู่เงียบ ๆ เหมือนเดิมนั่นแหละถูกแล้ว ถ้าพี่ธีร์อารมณ์ดีขึ้นเดี๋ยวก็คงหายเอง ไม่แน่พอกลับไปถึงคอนโด ได้อาบน้ำเย็น ๆ ให้สดชื่น อารมณ์คุกรุ่นที่เป็นอยู่ก็อาจจะหายไปก็ได้ หรือไม่พี่ธีร์ก็อาจจะหายหงุดหงิดโดยคนที่ทำให้หงุดหงิด ก็ทั้งคู่เป็นแฟนกันนี่นะ



แต่... เป็นห่วงจัง



“คืนนี้ไปนอนกับพี่ไหม?”




To be continued


ทีมแม่น้องโซ่ต้องลุกขึ้นแล้ว ณ จุด นี้
#หยิบลูกซองขึ้นมาขัด

ขอบคุณสำหรับทุกคอมเมนต์เลยนะคะ แง เราดีใจมาก ๆ
เราอ่านของทุกคนเลย คอมเมนต์ของทุกคนเป็นกำลังใจที่ทำให้เราอัพได้ถี่ขนาดนี้
ขอบคุณมากเลยนะคะ <3

« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 11-01-2018 01:07:46 โดย หน่วยกล้าวาย »

ออฟไลน์ NuNam

  • เป็ดHephaestus
  • *
  • กระทู้: 1226
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +15/-3
เอาแล้วๆๆๆๆ พี่ธีร์คือร่ะ ชวนน้องไปนอนด้วย คิดไรกะน้องอะเปล่าเนี่ยยยย รอตอนต่อไปจร้า

เป็นกำลังใจให้นักเขียนนะคะ อยากบอกให้รู้ว่า ติดเรื่องนี้งอมแงม อ่านตอนละไม่ต่ำกว่า 2 รอบ กด F5 ตลอด เพื่อรอตอนใหม่
พอเจอว่าอัพ ก็ดีใจฝุดๆ ถ้ามาต่อได้ทุกวันคงดีค่ะ แต่เข้าใจนักเขียนนะคะ ว่าอาจมีภารกิจอื่นๆ เอาเป็นว่ารออ่านด้วยใจจดจ่อทุกวันค่ะ  :L2:

ออฟไลน์ k00_eng^^

  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 647
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +63/-2

ออฟไลน์ rsmrypngpth

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 65
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +0/-0
ลุกขึ้นแล้วคะ แล้วก็นั่งลงเหมือนเดิม

เสียดายน้องโซ่พ้นสภาพผู้เยาว์แล้ว
 เลยเป็นห่วงได้ไม่เต็มที่ น้องมีความคิดพอคะ
เราเชื่ออย่างนั้น

CoMMuNiTY Of ThAiBoYsLoVE






ออฟไลน์ nevergoodbye

  • เป็ดHephaestus
  • *
  • กระทู้: 1240
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +51/-2
พี่ธีร์อย่ามาอว้างงงง ถึงเนื้อถึงตัวขนาดนี้
คงต้องอยู่ทีมแม่น้องเด๋อและเตรียมปืนแล้วค่ะ!  :fire:

ปล.แอบคิดว่าตอนนี้ไม่ค่อยหวือหวาเลยน้าา แต่ดันมาพีคตรงพี่ธีร์ชวนน้องเด๋อไปนอนด้วยอีกก เยี่ยมมากค่ะเขียน  :laugh:
ปล.2 มาอัพทุกวันน้า เข้ามาดูทุกวันเลยนะ เหมือนช่วยชโลมจิตใจ  :กอด1:

ออฟไลน์ B52

  • เป็ดZeus
  • *
  • กระทู้: 13216
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +420/-26

ออฟไลน์ ma-prang

  • เป็ดมหาวิทยาลัย
  • *
  • กระทู้: 473
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +18/-1
หืออออออ อยู่ๆจะชวนน้องขึ้นห้องเลยเหรออออ

ออฟไลน์ คนคิ้วท์คิ้วท์

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 339
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +10/-1
พี่ธีร์คะะะะะ พี่กำลังพูดอะไรออกมา
ไปเคลียร์กับเบลด้วยสิ นี่เข้าใจปนไม่เข้าใจเบลนะ เราว่าเบลอ่ะมากไปหน่อย
ทีมน้องเด๋อจ้า

ออฟไลน์ Raccool

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 318
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +237/-2

ออฟไลน์ Raccool

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 318
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +237/-2
น้องโซ่อย่าไปกับมันลูกกกกกกก
ฮือออออ
ถ้าน้องโซ่เล่นเกมกับมี๊ มี๊จะยอมเป็นฆาตรกรที่ยืนจ้องให้น้องปั่นไฟและเปิดประตูหนีไป
จะแฮ็คระบบเกมแล้วเป็นฆาตรกรที่จับน้องโซ่อุ้มพาดบ่า เอาไปเลี้ยงดูในห้องใต้ดิน จะไม่แขวนน้องกับเสา
รักหนูขนาดนี้แล้ว มาอยู่กับแม่เถอะนะ อย่าไปกับอิพี่ธีร์ แง้  :ling1:

ออฟไลน์ Snowermyhae

  • เป็ดAphrodite
  • *
  • กระทู้: 4015
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +97/-7
ฮือออ เห็นผ่านๆมาพักนึง พอดีมีคนแนะนำมา เข้ามาแล้วไม่ผิดหวังเลยค่ะ เหมือนสานฝันคนชิปเกมเมอร์เวลาเล่นเกมด้วยกัน นิดนึงก็เอา 555555 อยากรู้เรื่องทางฝั่งผู้ชมทางบ้านหลังจากไลฟ์ดับไปวันนั้น พบไปกี่ศพคะ นี่ศพนึงแล้ว เขินมากกก น้องน่ารักจังเลยค่ะ ยิ่งตอนเห่าโฮ่ง อยากบีบมาก ขอเป็นแม่น้องอีกคนนะคะ เป็นกำลังใจให้ค่ะ  :mew1:

ออฟไลน์ hoihak

  • เป็ดมัธยม
  • *
  • กระทู้: 156
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +2/-1
อ่อยเว่อร์ 55555 สงสารแฟนพี่ธีร์เหมือนกันนะ

ออฟไลน์ Myrtle

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 5
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +1/-0
แอบแวะมาคอมเมนต์ค่ะ ฮือออ จะบอกว่าเราอินกับเรื่องแนวนี้มาก เพราะทุกวันนี้ก็ตามสตรีมเมอร์ แล้วยังดูแข่งเกมอีก ก็เลยอินมากกก
ปล.แอบสงสารแฟนพี่ธีร์อะ  :hao5:
ปล.2 DBDL ไม่น่าเป็นเกมที่แข่ง E-Sports ได้นะคะ ถ้าแข่งรายการเล็กๆได้อยู่ค่ะ แต่ลีคใหญ่ๆไม่มีน้า

ออฟไลน์ ♥►MAGNOLIA◄♥

  • เป็ดApollo
  • *
  • กระทู้: 7538
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +193/-11
เห็นด้วยว่า.......คู่รักที่ไม่เล่นเกมด้วยกัน
มีสิทธิ์เลิกกันได้ง่ายมากกกกกกกกกก
เพราะเกมจะฉุดรั้งคนเล่นเกมไว้

ธีร์ สนิทกับโซ่เร็วมาก
คงเพราะโซ่ ให้ความรู้สึกน่าแกล้งด้วย
       :L1: :L1: :L1:
  :pig4: :pig4: :pig4: :pig4:

 

สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด


สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด