#ซอโซ่ล่ามธีร์
ด่านที่ 14
ความไม่แน่ใจ
ขี้ซุยบราเทอร์ได้เงินห้าหมื่นมานอนกอดหลังจากชนะที่หนึ่งของสายไปได้อย่างหวุดหวิด และนั่นเป็นเหตุให้ชาวเน็ตต่างลุกฮือ ตั้งกระทู้วิเคราะห์กันต่าง ๆ นานาว่าเพราะเหตุใดทีมที่ไม่เคยเล่นเข้ากันได้ถึงมาไกลขนาดนี้ ซึ่งหลัก ๆ ต่างก็เทใจให้กับน้องเด๋อ ด้วยแคปชั่นชวนให้มองบนไปจนถึงสวรรค์ว่า
‘น้องคือคนที่เข้าไปเชื่อมพี่ ๆ ให้เข้ากัน น้องโซ่คือเทวดาตัวน้อยของพวกเรา’เฟฟะฟาฟัวฟ้อยฝองฟวกเฟา (เลียนเสียง)มีคนแอบเซ็งอยู่ตรงนี้พอจะมีใครเหลียวมองบ้าง คะแนนครึ่งหนึ่งมาจากใครไหนพูด โด่ คำก็น้องโซ่ สองคำก็น้องโซ่ ใช่สิ ไอ้ธีร์มันเก่าแล้วนี่ เด็กมันยังใหม่ก็เห่อกันใหญ่เชียวนะ แต่พูดก็พูดเถอะ เอาจริงก็เถียงไม่ออกเพราะมันเป็นเรื่องที่ปฏิเสธไม่ได้ว่าน้องเด๋อสามารถตัดสินใจได้อย่างรวดเร็วและเฉียบขาดในสถานการณ์คับขัน จนเพื่อนร่วมทีมสามารถแยกย้ายกันไปทำหน้าที่ของตนเองได้โดยไม่ต้องพะวงว่าจะเกิดอะไรขึ้น เด็กนั่นอ่านเกมเก่ง ยิ้มเก่ง น่าเอ็นดูเก่ง
เซ็ง พอนึกถึงเด็กนั่นแล้วก็หมั่นไส้ ลองคิดดูดิว่าถ้าน้องเด๋อไม่ใช่คนน่ารักแล้วจะถูกรักไหม ก็ไม่ปะ?
แต่เดี๋ยวก่อนไอ้ชาย... ที่พูดไปทั้งหมดนั่นก็ไม่ต่างจากแฟนคลับกลุ่มนั้นไหม มึงจะชมน้องมันทำไม ไอ้ฉิบห๊าย!
กลับมาที่พระเอกตัวจริงก่อน ทำไมไม่มีใครเห็นความหล่อตอนนวดค้อนลงกลางกะโหลกเซอร์ไวเวอร์เรียงคน จังหวะนี่อย่างกะจับวาง แม่นเหมือนเอามือดีจากพระนครมาลงสนาม ฉายามือวางอันดับหนึ่งคนเหี้ยไม่ได้มาเพราะโชคช่วยนะเว้ย
เงินห้าหมื่นหารเท่า ๆ กันแต่พี่ตั้บมีความหยิ่งบอกไม่เอาเพราะอ้างว่าไม่ได้เป็นหนึ่งในส่วนที่พาทีมมาไกลได้ขนาดนี้ แต่สุดท้ายก็ต้องจำใจรับไปเพราะน้อง ๆ ในทีมไม่ยอม อย่างน้อยก็ให้เป็นของขวัญหลานที่ยังไม่เกิด
ไอ้แจ็คจัดการเอาใส่ซองขาวเรียบร้อย มองแวบแรกนึกว่าใบลาออกจากบริษัททำเกมที่มันบ่นเรื่องเจ้านายมาชาติเศษ มันบอกว่าจะเอาไปสอดไว้ในลิ้นชักน้องและไอ้แหลมก็เสริมว่าให้เขียนอะไรบนหน้าซองด้วย เดี๋ยวน้องมันเข้าใจผิดคิดว่าเป็นซองผ้าป่าแล้วจะโยนทิ้งลงถังขยะ
พวกเขารู้อยู่แล้วว่าไอ้แหลมจะเอาเงินไปทำอะไร แต่ทุกคนเลือกเบลอไม่สนใจแม้ว่าจะเอามาล้อให้มันอายเล่นก็ได้ ถ้ามองจากภายนอกคงไม่มีใครรู้ว่าไอ้เด็กเกรียนที่ดีแต่กวนตีนชาวบ้านได้ทำเรื่องบางอย่างซึ่งชวนให้อ้าปากหวอ ถึงจะไม่ได้แสดงออก แต่ธีร์ก็ภูมิใจในตัวไอ้แหลมจริง ๆ
ส่วนน้องเด๋อไม่รู้เอาเงินไปทำอะไร ไม่ได้ถาม เพราะแอบหน้าตึงอยู่เล็กน้อยถึงปานกลางซึ่งต้นเหตุก็ไม่ได้มาจากใครนอกจากตัวเขาเอง เรื่องมันมีอยู่ว่าธีร์กับคนอื่น ๆ กำลังซ้อมทีมกันเพื่อเตรียมแข่งนัดต่อไปในอีกหนึ่งเดือนข้างหน้า แต่ด้วยความที่พี่ตั้บไม่ว่าง จึงต้องหาคนมาเพิ่มอีกหนึ่งเพื่อให้ครบสี่คนในโหมดปกติ ซึ่งต่างจากตอนแข่งที่มีเพียงสามคนเท่านั้น
แล้วความบังเอิญก็เกิดขึ้นเมื่อแพรวดันทักมาถูกจังหวะพอดี เขารู้จักเด็กคนนี้ตั้งแต่สามปีก่อน แพรวเป็นผู้หญิงตัวเล็ก ๆ ผมสั้น จัดฟัน แต่ปากจัดและเกรียนแตกได้ใจจนกลายมาเป็นน้องสาวอีกคน ซึ่งช่วงแรก ๆ ก็โดนแฟนคลับของเขาเหน็บแนมอยู่บ้าง แต่ด้วยความไม่สนสี่สนแปดและคงความเป็นตัวเองได้เสมอต้นเสมอปลายของนาง แฟน ๆ จึงเลิกหึงเพราะเห็นชัดแล้วว่าแพรวแม่งบ้าจริง ไม่ได้เข้าหาผู้ชายเพื่อหวังผลอย่างที่ใคร ๆ ตราหน้าเอาไว้
หลายครั้งที่เบลเคยบอกว่า ‘ก่อนทำอะไรให้คิดเยอะ ๆ หน่อยสิ’ ซึ่งธีร์ก็พยักหน้ารับฟังตลอดแต่ก็ไม่คิดว่ามันจะมาเห็นผลชัดตอนที่เขาชวนเข้าแพรวมาเล่นด้วย ธีร์ถึงได้รู้ว่าหลังจากนี้ควรคิดให้เยอะ ๆ ก่อนทำอะไรบางอย่าง เพราะการซ้อมทีมต้องเปิดไมค์คุยกัน และเสียงอีน้องไม่เคยงุ้งงิ้งน่ารำคาญขนาดนี้กระทั่งมันเจ๊าะแจ๊ะกับน้องเด๋อออกหน้าออกตา
‘โซ่จ๋า เดี๋ยวแพรวไปฮีลให้นะ’
‘ขอบใจนะ ถ้าไม่ได้โซ่แพรวคงตายแน่เลย’
‘ตอนนี้หัวใจโซ่คงเต้นดังมากแน่เลย’แสบตาสัด ๆ กับบาเรียสีชมพูท่ามกลางสนามรบ ตอนได้ยินยอมรับว่าเลื่อยในมืออย่างสั่น ถ้าหัวใจน้องเด๋อจะเต้นดังก็เพราะฆาตกรอย่างเขาวิ่งเข้าไปใกล้ไงล่ะอีหนู
โดนเต๊าะขนาดนั้นก็ไม่พูดไม่จาด้วยนะ หัวเราะแห้ง ๆ เฉย ชอบใจมากเลยดิ และด้วยความหมั่นไส้ ปากที่เคี้ยวหมากฝรั่งก็ลั่นพูดออกไปจนต้องปล่อยให้ตัวละครยืนนิ่ง ๆ เพื่อทบทวนตัวเอง
‘นัดกันไปดูหนังเลยปะล่ะถ้าจะจีบกันขนาดนี้?’
ตัยห่า จากที่รู้จักแพรวมานาน ธีร์มั่นใจประมาณ 99.99% เลยว่าเข้าทางเด็ก
‘บ้าอะพี่ธีร์...’ใช่ พี่มึงมันบ้าไงแพรว เพราะงั้นเขิน ๆ พอเป็นพิธีแล้วเปลี่ยนไปเรื่องอื่นซะ
‘แต่หนังเรื่องจูบปิ๋มที่ริมบึงเข้าโรงแล้วนะ วันเสาร์นี้ไปดูด้วยกันไหมโซ่...’ ฟัค! ริมบึงลาบเป็ดอะไรกันล่ะหนังเลอะเทอะไร้สาระฉิบหาย อีกอย่างน้องเด๋อคงไม่อยากไปกับผู้หญิงที่เพิ่งคุยกันครั้งแรกหรอกนะเว้ย ถึงแม้ว่าเขาจะเคยหลุดปากเปิดทางให้ไปแล้ววันนั้น
‘เสาร์นี้เหรอครับ’ ช่าย เสาร์นี้แหละ ปฏิเสธไปเลย บอกว่าจะมาเล่นเพลย์โฟร์ที่ห้องพี่ธีร์
‘โอเคครับแพรว เราจะไปดูที่ไหนกันดีครับ’ฟ้าคคคคคคคคคคคคคคคคคคคคแพรวโคตรระริกระรี้ ไอ้แหลมก็โวยใหญ่เลยเพราะมันตามเต๊าะมานานแล้วแต่เด็กไม่เคยสน ด้วยความเป็นผู้ชายกาก ๆ และจีบทีเล่นทีจริงอยู่เรื่อยจึงทำให้แพรวไม่แลไอ้แหลม
และที่เล่าไปทั้งหมดมันเป็นเหตุผลที่ทำให้เขามายืนอยู่ตรงนี้... ลานพาร์คพารากอน
“ฟิวเจอร์อยู่ใกล้สุดนะรู้สึก” แหลมทำหน้าเหมือนคนพร้อมจะละลายตายไปกับแดดที่สาดแสงลงมาเหมือนอยากตอกหน้าให้รู้ว่าประเทศนี้จะไม่มีวันพบเจอฤดูหนาวตลอดไป งงใจว่าทำไมต้องมายืนอยู่ตรงนี้ทั้งที่บีทีเอสมีทางออกแบบเชื่อมเข้าห้างได้เลย
“เปลี่ยนบรรยากาศบ้างดิ เดินที่เดิมตลอดได้เบื่อตายห่า”
“จริงหรา บังเอิญเนอะที่วันนี้น้องแพรวกับไอ้โซ่ก็มา” แหลมเอาคางเกยไหล่รุ่นพี่พร้อมปั้นหน้าแป้นแล้นอ้อนมืออ้อนตีน ซึ่งคนถูกจับได้ก็ขมวดคิ้วพลางเอาลิ้นดันกระพุ้งแก้ม ล้วงมือเข้าไปในกระเป๋ากางเกงเหมือนไม่ได้สะทกสะท้านกับประโยคเมื่อครู่
“แล้วไง มันเดินพารากอนได้แค่สองคนเหรอ หรือพ่อใครซื้อไว้ กูจะมาเดินที่นี่วันนี้ใครจะทำไม?”
“ระวังเจอพี่เบลนะมึง ได้ข่าวว่าชอบเดินห้างทุกวันเสาร์”
“กูว่าไม่ ยังไงวันนี้เบลก็ต้องไปเอ็มควาเทียร์” แต่ถึงเจอจริง ๆ ธีร์ก็จะแกล้งตายทำเป็นไม่เห็น คิดแล้วก็เซ็ง เขายังจำความรู้สึกตอนเห็นรูปในเฟซบุ๊กที่ไอ้หน้าปลาจวดแถวไหนไม่รู้แท็กเบลไป
ทั้งโกรธทั้งเข้าใจว่าทำไมถึงออกมาเป็นอีท่านั้น เบลคงอยากลองคุยกับผู้ชายคนใหม่ที่ให้ในสิ่งที่เธอต้องการได้ หรือไม่ก็แค่เชื่อคำแนะนำของเพื่อน แต่ไม่ว่าจะด้วยเหตุผลอะไรที่ส่งผลให้มีการเปลี่ยนแปลงครั้งใหม่ เขาจะไม่สาดยัดเยียดเรื่องแย่ ๆ ใส่ทั้งที่รู้จักนิสัยเบลเป็นอย่างดี
ถึงจะหงุดหงิดหัวเสียอยู่บ้างก็ตาม
ทั้งคู่ยังคงเจ็บจากการเลิกรา แต่นั่นไม่ได้หมายความว่าเขาและเธอจะใช้ชีวิตต่อไปไม่ได้ ธีร์ยังคงหัวเราะ และนอนมองเพดานโง่ ๆ คิดเรื่องเดิม ๆ ซ้ำแล้วซ้ำเล่าก่อนจะหลับไป มันเป็นอย่างนั้นทุกวันและคงเป็นไปเรื่อย ๆ จนกว่าความรู้สึกจะจางลง ซึ่งการเยียวยาของเบลอาจจะเป็นการออกไปเที่ยวกับเพื่อน หรือลองออกไปเดทกับผู้ชาย แต่สำหรับธีร์แล้ว เขาต้องการอยู่กับเพื่อนฝูงและเกมที่ชอบ
“พี่ธีร์ กูถามจริงนะ”
“ว่า...?”
“ที่มาวันนี้เพราะมึงหวงไอ้โซ่ใช่ปะ?”
“หะ?!” คนถูกยิงคำถามเบิกตากว้างอย่างตกใจ คนพี่กับคนน้องสบตากันขณะที่บันไดเลื่อนค่อย ๆ เคลื่อนไปชั้นบน ก่อนแหลมจะก้าวออกไปก่อนเมื่อมาถึงชั้นสอง “หวงเชี่ยไรล่ะ วันนี้กูอยากมาเดินตากแอร์พารากอนจริง ๆ”
“กูยังพูดไม่จบเลย ดิ้นใหญ่เลยนะสัด” เด็กลูกครึ่งหรี่ตามองอย่างเอือมระอา พลางมองหน้าด้านข้างของรุ่นพี่ซึ่งดูผิดปกติไปอย่างเห็นได้ชัด “ที่ถามก็เพราะกูเป็นคนช่างสังเกตไง ตั้งแต่ฟอร์มทีมกันมึงก็ติดไอ้โซ่เหมือนเป็นติ่งน้องมันอะ”
“เลอะเทอะ มันก็เหมือนตอนกูอยู่กับพวกมึงนั่นแหละ”
“ตอนแรกกูก็คิดงั้นนะ แต่มึงเยอะอะพี่ธีร์” แหลมสวมวิญญาณโคนัน ยิ่งพี่มันทำท่ามีพิรุธอย่างนี้ก็ยิ่งมั่นใจในสิ่งที่คิดเข้าไปใหญ่
“เยอะยังไง ที่กูสร้างบอทในแชทให้แล้วก็แบนพวกปากผีในช่องมันน่ะเหรอ”
“อันนั้นก็ใช่ แต่มีอีก” แหลมยังคงฮุคไม่หยุด “อย่างเรื่องสกินชิพเงี้ย”
“กูก็ทำกับมึง ทำมานานแล้วด้วย” พี่ธีร์รีบกอดคอเขาเหมือนอยากยืนยันว่าไม่ใช่แค่ไอ้โซ่ที่เจอความผีห่าของพี่มัน เออ รู้เว้ยว่าพี่มันติดสกินชิพ ไม่งั้นพวกแฟนคลับคงไม่จิ้น #ธีร์แหลม กันโครม ๆ หรอก แต่บางอย่างมันก็ชวนให้คิดเกิ๊น
“พี่ธีร์ มึงไม่ใช่เด็ก ๆ ละนะ เรื่องนี้มึงน่าจะโปรกว่าคนอื่นด้วย”
“ไร” ทั้งคู่สบตากันทั้งที่ยังเดินไปข้างหน้า ก่อนชายหนุ่มตัวสูงจะคลายมือออกจากไหล่รุ่นน้องแล้วหันไปล้วงกระเป๋ากางเกงอย่างในทีแรก
“มึงออกอาการอะ คือตอนแรกกูก็ไม่คิดว่าจะเป็นแบบนี้หรอกเพราะมึงคบผู้หญิงมาทั้งชีวิต แต่ตอนนี้มึงเหมือนจะเริ่มสนใจไอ้โซ่อยู่เนือง ๆ”
“...”
ใบ้แดก ใช่ ใบ้แดกจริง ๆธีร์ใกล้จะอายุยี่สิบเจ็ดแล้ว และเบลก็ไม่ใช่ผู้หญิงคนแรกที่เข้ามาสอนให้รู้จักกับความรัก แต่ที่มันออกมาเป็นแบบนี้ก็เพราะเขายังไม่อยากเชื่อความรู้สึกตัวเองว่าจะเริ่มมองผู้ชายด้วยกัน มีเหตุผลหลายอย่างที่พร้อมจะรองรับว่าที่รู้สึกกับน้องเด๋อนั้นมันไม่ใช่
อกหัก อยู่คนเดียว เหงาก็จริงไง แต่ความน่าจะเป็นเรื่องมองผู้ชายด้วยกันมันก็ยังมีน้ำหนักไม่มากพอ เพราะถ้าเปลี่ยวจริงก็ต้องมองผู้หญิงเปล่าวะ แต่ก็นั่นแหละ มีคนทักมาดามใจมากมาย แต่สุดท้ายธีร์ก็ไม่ได้สนใจเธอเหล่านั้นสักคน
ถูกใจน้องเด๋อเพราะเล่นเกมเก่งและชอบอะไรเหมือนกัน และเรื่องความใส่ใจคนรอบข้างที่ไม่ใช่แค่เขาคนเดียวที่ได้รับ อันนี้เรื่องจริง จากที่อยู่ห่างกันจนเรียกได้ว่าคนแปลกหน้า แต่ความเป็นน้องเด๋อมันค่อย ๆ แทรกซึมเข้ามาในตัวตนของเขาจนกลายเป็นความสนิทใจ ธีร์ปล่อยให้ตนเองรู้สึกดีกับความรู้สึกเหล่านั้นมาสักพักใหญ่ แต่ก็พยายามห้ามตนเองให้หยุดความคิดแค่พี่น้อง
เขาไม่อยากยอมรับ ไม่สิ อันที่จริงธีร์ไม่กล้าที่จะยอมรับความรู้สึกนี้
เพราะคำว่า ‘รู้สึกผิด’ ต่อแฟนสาวที่เพิ่งเลิกกันไปได้ไม่นานมันค้ำคออยู่ เบลยังคงเสียใจซึ่งเขาเองก็เช่นกัน แต่ถึงอย่างนั้นมันก็ห้ามความรู้สึกดี ๆ ที่ก่อตัวเพิ่มขึ้นเรื่อย ๆ ไม่ได้เลย น้องเด๋อน่ารักเรี่ยราดเกินไป ยิ่งตอนหัวเราะจนตาหยี ตอนพูดออกมาเหมือนไม่คิดอะไรแต่สร้างพลังบวกให้กับใจคนฟังอย่างเขาน่ะ แม่งดีฉิบหายเลยความรู้สึกตอนนั้น
ตั้งแต่เมื่อไหร่กันที่การได้ยินเสียงมันไม่พอจนต้องหาเรื่องนัดเจอ ตั้งแต่เมื่อไหร่ที่หวงจนขมวดคิ้วแต่ปากหมา ๆ ก็เชียร์ให้น้องไปกับคนอื่น
“เงียบแบบนี้แสดงว่าใช่”
“หุบปากก่อน กูขอเวลาคิด”
“โหพี่มึง มาถึงพารากอนขนาดนี้กูว่าถ้าไม่ผ่านนิ้วหัวแม่ตีนก็ต้องใช้หัวเข่าคิดแล้วอะ”
“ไอ้ฉิบหาย แฟนทุกคนที่กูเคยคบเป็นผู้หญิงหมด แล้วกูก็เพิ่งเลิกกับเบลไปได้ไม่นาน โอเคไหม?” เขากดเสียงลงต่ำ พลางก้มหน้าลงอธิบายด้วยปากและภาษามือ ซึ่งนาทีนี้ต่อให้เขียนใส่กระดานดำใหญ่เท่าฝาบ้าน ไอ้แหลมก็คงไม่อินด้วย
“เออ แล้วกูก็ดีใจที่มึงยังมีความย้อนแย้งแบบนี้แทนที่จะเปิดตัวแกรนด์โอเพนนิ่งว่าชอบผู้ชายด้วยกัน ทั้งที่เลิกกับแฟนไปได้ไม่นาน”
“เวรเอ๊ย สรุปคือกูต้องงัดปากยอมรับใช่ไหมว่าอะไรเป็นอะไร?”
“ยังไม่ต้องก็ได้เพราะเดี๋ยวกูจะแกล้งทำเป็นไม่รู้ไม่เห็นให้ ด้วยการเอียงคอมองแล้วเอามือชกหัวตัวเองแบบนี้ ‘เอ๊ะ ไอ้เชี่ยพี่ธีร์เป็นอะไรกันนะ ทำไมมันอินกับไอ้โซ่แปลก ๆ เชี่ย ๆ งงเวอร์ พี่เรากับน้องใหม่โคตรซี้ปึ้กกันเลย’” รู้สึกคันตีนขึ้นมาเป็นเท่าตัวเพราะหันไปเห็นว่าไอ้เชี่ยแหลมกำลังทำท่าแบบที่พูดไม่มีผิด
“บางทีมันอาจจะเป็นความเอ็นดูเฉย ๆ” ธีร์ยังคงคิดไม่ตก ระบบสมองเริ่มรวนเพราะหาคำตอบที่แน่ชัดไม่ได้
“มึงไม่ต้องรีบหรอกพี่ กูเข้าใจมึงนะเว้ย” แหลมพยายามเขย่งขาเพื่อกอดคอรุ่นพี่ แทบจะเป็นครั้งแรกที่เขารู้สึกอยู่เหนือกว่าเพราะที่ผ่านมาพี่มันฉลาดให้เห็นตลอด แต่ดูตอนนี้สิ เดี๋ยวเห็นด้วย เดี๋ยวย้อนแย้งกับตัวเอง ตลกฉิบหาย
“ไม่รู้สึกแหย ๆ เหรอถ้าพี่มึงจะชอบผู้ชายด้วยกัน อันนี้สมมตินะ กูยังพูดได้ไม่เต็มปากว่าใช่หรือเปล่า”
“ตอนแรกก็ ‘ว้าว!’ อยู่อะ แต่พอคิดว่าถ้ามึงจะชอบใครสักคนที่เข้ากันได้ดี มันก็น่าจะมีความสุขกว่าการคบคนต่างเพศแต่ไปกันไม่รอดเปล่าวะ?”
นาน ๆ ครั้งถึงจะเห็นไอ้แหลมพูดจาเป็นผู้เป็นคน ธีร์มองหน้ารุ่นน้องพร้อมปรบมือสามครั้ง ก่อนจะชกมือกันอย่างรู้งาน
“กูหล่อใช่ปะ”
“เออ วันนี้กูยอม”
“เหย อย่าเพิ่งเครียดดิ ระหว่างนี้ก็ทบทวนตัวเองไปก่อนว่าอะไรเป็นยังไง กูไม่อยากให้มึงเอาเรื่องเพศมากดดันตัวเองอะ เพราะเดี๋ยวนี้สังคมเริ่มเปิดรับ LGBT แล้ว กูถึงกล้างัดปากถามมึงไงพี่”
“คนที่รับได้จริง ๆ ก็มี แต่คนที่พูดทั้งที่รับไม่ได้ก็เยอะ บางคนแค่ไม่อยากให้สังคมตราหน้าว่าเป็นคนใจแคบก็เลยออกตัวว่า ‘ฉันสนับสนุน LGBT นะ’ แต่พอเจอคู่เกย์ลงรูปกันก็ยี๊ บอกว่าขุดทองบ้างล่ะ เจอเลสเบี้ยน ทอมดี้ก็เพลินปาก บอกว่านิ้วเย็น ๆ หรือจะสู้เอ็นอุ่น ๆ คนเราแม่งมือถือสากปากถือศีล ยอมรับแต่ก็เหยียด”
“แล้วมึงสนับสนุนปะ” แหลมถามด้วยแววตาใสซื่อที่สุดเท่าที่เด็กกะโหลกคนนึงพึงจะทำได้
“เปล่า กูสนับสนุนตัวเอง” และพี่มันก็ตอบกลับมาอย่างมั่นหน้ามั่นโหนก
“ใจนึงกูก็อยากโลกสวย แนะนำให้มึงดราม่าเสียใจเรื่องพี่เบลไปอีกสักพัก แต่พอนึกขึ้นได้ว่าน้องแพรวจะล่อซื้อไอ้โซ่แล้ว กูก็เวทนามึงขึ้นมาทันทีเลย”
“ใช่ไง ถ้ากูยังหาคำตอบให้ตัวเองชัด ๆ ไม่ได้แล้วไปรู้ใจตัวเองทีหลังคงงานเข้าที่แท้”
“แต่มึงเป็นคนเซิ้งให้น้องแพรวชวนไอ้โซ่มาดูหนังนะได้ข่าว”
“ใช่ ปากหมา ๆ ของกูเองแหละ คอนเกรท”
“จะบอกพี่แจ็คกับพี่ตั้บปะ?” คนน้องกระแซะไหล่พร้อมยกมือขึ้นป้องปากราวกับกลัวว่าใครจะได้ยิน
“ยังอะ ไว้คบกันก่อนแล้วค่อยบอก”
“เอ้า ตอนแรกเสือกบอกไม่แน่ใจ แต่นี่มึงล้ำหน้าไปเรื่องคบแล้วนะพี่” แหลมขมวดคิ้วจนแทบเป็นเงื่อนตะกรุดเบ็ด
“กูแจงไว้เผื่ออนาคตไง โปรเพลย์เยอร์จะทำอะไรก็ต้องวางแผนก่อน” ชายหนุ่มรีบตอกกลับ เลิ่กลั่กกับสิ่งที่เพิ่งพูดไปก่อนจะกุมขมับตัวเอง “โอย กูเครียด”
“เครียดเรื่อง”
“ถ้ากูชอบไอ้โซ่จริง ๆ แล้วจะเป็นยังไง แบบ กูไม่เคยจินตนาการออกว่าถ้าความรู้สึกกูกับน้องพัฒนาไปไกลจนเป็นความรักมันจะออกมาเป็นอีท่าไหน กูยังคิดว่าตัวเองแค่เอ็นดูน้อง แต่กูก็อยากเจอ อยากมองหน้ามันนาน ๆ อะ กูไม่ได้งงนะว่าความรักเป็นยังไง แต่ก็นั่นแหละ ไอ้เหี้ย พูดวกไปวนมาจนงงเองแล้ว”
“สงสารอะ คือเครียดหนักมากจนดูทรงจะลืมไปว่าบางทีน้องมันอาจจะไม่เอามึง ต่อให้มึงจะรู้ใจตัวเองแล้ว”
รู้สึกเหมือนโดนลากไปกระทืบกลางห้าแยกลาดพร้าวท่ามกลางแสงแดดอันร้อนระอุ
“เออจริง”
“บุญบาป เผลอ ๆ ไอ้โซ่อาจจะสปาร์คกับแพรวก็ได้ เด็กม.หกใส ๆ เดี๋ยวก็มีนัดติวกันในห้อง คราวนี้ล่ะมึงเอ๊ย มีสอนน้องให้ลองรัก --” แหลมสะดุ้งเมื่อถูกรุ่นพี่เอามือตะปบปาก ตอนนี้สีหน้าพี่ธีร์อาการหนักกว่าคนเป็นมะเร็งระยะสุดท้าย ซึ่งบอกเลยว่า
สนุกจังโว้ยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยย“หนังกำลังจะเข้าในอีกสิบห้าหน้าที มึงคิดว่าแพรวอยากดูตัวอย่างหนังเปล่าวะ?”
“ไม่แน่ใจ ปกติกูคุยแต่เรื่องเกมกับสอนภาษาอังกฤษน้องมันผ่านสไกป์”
“งั้นลุยเลยปะ?”
“ลุยไร” สองพี่น้องหยุดยืนอีกครั้ง มองหน้ากันด้วยแววตาเกมเมอร์ที่บอกเจตนาให้อีกฝ่ายรู้ได้โดยไม่ต้องพูดว่ากำลังจะทำอะไร
“ไปช่วยไอ้โซ่จากห้องใต้ดินแล้วเอาไฟฉายส่องหน้าน้องแพรวสักดอก”
“...”
“หลังจากนี้มึงก็คิดดูเอาว่าจะพาไอ้โซ่ไปไหน ต้องทำอะไรถึงจะแยกความเอ็นดูออกจากความชอบให้ได้”
“แล้วถ้ามันชัดขึ้นกูจะกลายเป็นไอ้เหี้ยไปกว่านี้ไหม กูรู้สึกผิดกับเบลจริง ๆ พูดจากใจ”
“ก็คงมีบ้างแหละพี่มึง แต่ความรู้สึกมันเกิดขึ้นแล้วจะทำไงได้อะ ถ้าเกิดขึ้นตอนมึงยังคบกันอยู่ก็อีกเรื่อง แต่ตอนนี้มึงกับพี่เค้าจบกันแล้ว มึงกับพี่เบลมีสิทธิ์ที่จะไปชอบคนอื่นได้ แต่มันก็ยังแย่อยู่ดีใช่ปะละ ด้วยความรู้สึกผิดในใจมันทำให้มึงย้อนถามตัวเองว่าไม่รักพี่เบลแล้วเหรอทำไมถึงมีความลังเลชั่งใจว่าชอบคนอื่นหรือเปล่า”
“...”
“แต่คนเราไม่เหมือนกันอะ บางคนผ่านไปเป็นปีแล้วแต่ก็ยังลืมแฟนเก่าไม่ได้ จมอยู่กับความรู้สึกเดิม ๆ เหมือนกูเนี่ย เพราะอะไรรู้ปะ เพราะกูยังไม่เจอคนใหม่ที่ทำให้กูอยากเริ่มต้นด้วยไง แต่มึงมีอะพี่ธีร์ ถึงไอ้โซ่จะเป็นผู้ชายเหมือนกัน แต่งานนี้ก็ต้องวัดกันหน่อยแล้วว่ามึงชอบคนจากเปลือกนอกหรือว่าชอบจากจิตใจเขาจริง ๆ”
‘พี่ธีร์ครับ’“...”
“ไหน ๆ ก็เป็นไอ้เหี้ยมาทั้งชีวิตแล้ว คราวนี้จะเป็นอีกครั้งเพื่อความสุขระยะยาว กูว่ามันก็น่ายอมให้คนด่านะ” แหลมยักคิ้วพลางตบหลังรุ่นพี่เน้น ๆ ให้กำลังใจในแบบที่ตนเองไม่เคยได้พูดบ่อย ๆ
ทุกคนมีสิทธิ์ที่จะเริ่มต้นใหม่ เหมือนกับเกมที่เล่นไปจนตายเพราะพลาดระหว่างทาง ซึ่งตัวละครนั้นจำต้องกลับไปจุดเริ่มต้นเพื่อเริ่มเกมอีกครั้ง ระหว่างทางมันได้เรียนรู้ว่าจุดไหนปลอดภัยและจุดไหนอันตรายจนไม่ควรเสี่ยง จุดที่เคยพลาดจนทำให้ตายอยู่ตรงไหน รอบนี้ตัวละครจะกระโดดข้ามไปได้โดยไม่พลาดจุดเดิมอีก
แหลมคิดว่าความรักในแบบของเขามันเป็นแบบนี้
“มึงรู้สึกผิดกับพี่เบลต่อไปเหอะ แต่ระหว่างนี้ก็เรียนรู้ที่จะชอบไอ้โซ่ไปด้วย – กูหมายถึงถ้าแน่ใจแล้วน่ะนะ”
“...”
“ทุกคนต้องการเวลาหมดอะ ทั้งมึงที่ต้องถามตัวเอง ทั้งไอ้โซ่ที่ไม่รู้ว่าคิดอะไรไหม แล้วก็พี่เบลที่ควรจะเริ่มต้นใหม่กับผู้ชายที่พอดีกับเค้า”
ไอ้แหลมเคยมีแฟนอยู่แค่ไม่กี่คน เสือกโชว์เหนือสอนพี่อีก ไอ้เด็กนี่มันน่าเขกกะโหลกจริง ๆ ถ้าไม่ติดว่าคำพูดมันโดนใจคงลงมือไปแล้ว สิ่งที่ไอ้แหลมพูดมาทั้งหมดมันล้วนแต่เป็นสิ่งที่เขาอยากได้ยิน ธีร์อยากให้ใครสักคนบอกว่า ‘มึงสามารถเริ่มต้นใหม่ได้นะ มึงรู้สึกผิดกับเบลได้ แต่ก็อย่ามองข้ามความรู้สึกใหม่ ๆ ที่กำลังก่อตัวขึ้นล่ะ’
‘พี่ธีร์สุดยอด’
“...”
ธีร์จะไม่ฝังความรู้สึกเหล่านั้นไว้อีกต่อไปแล้ว ตั้งแต่วันนี้เขาจะพิสูจน์จนกว่าจะรู้ว่าสำหรับเด็กคนนั้นมันแค่ความเอ็นดู หรือว่าก้าวข้ามเป็นความชอบพอไปแล้ว
To be continuedคนสองคนพอเลิกกันแล้ว ถ้าคนไหนคนหนึ่งไปชอบคนอื่นหรือมีแฟนก่อน
คน ๆ นั้นจะถูกด่าว่า มุงนี่มันพี่ธีร์จริง ๆ !!!