#omegaverse #Alpha Omega สุดที่รักของปีศาจ ตอนพิเศษ บทที่4 {หน้า9} {4/4/61}
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด

สนใจโฆษณาติดต่อ laopedcenter[at]hotmail.com คลิ๊กรายละเอียดที่ตำแหน่งว่างเลยครับ

สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด

ผู้เขียน หัวข้อ: #omegaverse #Alpha Omega สุดที่รักของปีศาจ ตอนพิเศษ บทที่4 {หน้า9} {4/4/61}  (อ่าน 38279 ครั้ง)

ออฟไลน์ lucifer miumiu

  • เป็ดมัธยม
  • *
  • กระทู้: 152
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +147/-1


บทที่24

“ถ้าอย่างนั้นพวกเรากลับก่อนนะ” ดีทริชกับเซซิลบอกลา จากนั้นเอฟเว่นเดินไปยังจุดประจำเพื่อนั่งรอรถของที่บ้าน แต่ไม่คิดว่าจะพบมาเรี่ยนที่นั่น

“ได้อยู่กันตามลำพังซักทีนะ” มาเรี่ยนยิ้มนิดๆ เอฟเว่นตั้งใจเว้นระยะห่างระหว่างตัวเองกับฝ่ายนั้นไม่เดินเข้าไปใกล้

“ผมเคยถามเธอไปแล้วครั้งหนึ่งว่าเธอคบกับดีทริชอยู่อย่างนั้นหรือ คราวนี้ผมจะถามอีกครั้ง เธอคบหาเป็นคนรักกับดีทริชเลยปฏิเสธคำขอคบกันของผมใช่ไหม”

ก่อนหน้านั้นซักระยะหนึ่งแล้วมาเรี่ยนคิดว่าที่เอฟเว่นปฏิเสธตัวเองคงเป็นเพราะถูกวางตัวให้หมั้นกับคนอื่น แต่เพราะวันนี้ทั้งวันคนที่เขาชอบแสดงออกอย่างโจ่งแจ้งถึงความรักชอบในตัวคนที่ก่อนหน้านั้นอ้างเป็นเพื่อนสนิท

               การได้เห็นภาพบาดตาสร้างความหึงหวงเดือดดาลอย่างที่เขาไม่เคยเป็นมาก่อน มาเรี่ยนไม่ใช่คนโง่เอฟเว่นมีใจให้ตัวเองแน่นอน การที่ปฏิเสธเขาคงเป็นเพราะต้องถูกบังคับให้หมั้นกับคนอื่น อยากให้เขาตัดใจจนถึงกลับกล้าเล่นละครแย่ๆ แบบนี้มันน่าขย้ำให้เป็นชิ้นๆ นัก

               “เอ่อ...” เอฟเว่นอึดอัดอย่างบอกไม่ถูก เขาคิดไม่ทันในทีแรก หลังจากประเมินสถานการณ์ได้ก็รีบตอบคำถามทันที “ก่อนหน้านั้นฉันไม่รู้ใจตัวเอง การที่ปฏิเสธนายก็เพราะว่ารู้ตัวแล้วว่าชอบดีทริช”

               กล่าวจบก็ต้องสะท้านกายวาบ เพราะรอยยิ้มร้ายกาจของมาเรี่ยนฝ่ายนั้นไม่เคยแสดงสีหน้าแววตาอย่างนี้ให้เขาเห็นมาก่อน คงจะโกรธแน่ๆ ก็ดีถ้าเกลียดเขาได้มันจะดีที่สุด

               “ฉันขอตัวก่อนนะ” ต้องหนีไปให้พ้นจากที่นี่ยิ่งคุยกันนานจะยิ่งแย่ ระหว่างที่จะหันหลังหนีกลับถูกกระชากรั้งเข้าไปในอ้อมกอด เอฟเว่นตกใจลนลานตัวสั่นเทาเพราะแววตาเย็นชาของมาเรี่ยน

               “ผมจะให้โอกาสเธอตอบอีกที บอกสิว่าเธอชอบผม”

               “มะ...ไม่คนที่ฉันชอบคือดีทริช” เอฟเว่นหลบตาจึงไม่เห็นว่ามาเรี่ยนยิ่งนานยิ่งมีรอยยิ้มที่ดุร้าย

               ท่าทางดื้อแพ่งของเอฟเว่นมันทำให้มาเรี่ยนนึกอยากสั่งสอนให้เข็ดหลาบ อยากจะรู้เหมือนกันว่าจะทนหลอกตัวเองไปได้นานแค่ไหนกันแน่ แต่ถึงยืนยันว่าไม่รักเขาหรือโยเยปากแข็งกว่านี้ยังไงเสียก็หนีพ้นมือไปไม่ได้

               “ผมไม่มีวันเลิกชอบเธอ อยากให้รู้เอาไว้ และผมจะทำทุกวิถีทางเขี่ยคู่แข่งของผมออกไป” กล่าวจบมาเรี่ยนก็บังคับจุมพิตบนริมฝีปากเอฟเว่น เป็นจูบแผ่วๆ แต่สร้างความตะลึงงันให้คนถูกจูบได้ชะงัด

               “นายตั้งใจจะทำอะไรกับดีทริช..” เอฟเว่นถามเสียงสั่น

 มาเรี่ยนกระตุกยิ้มร้ายแบบจงใจ เขาจะทำอะไรได้ล่ะไม่ได้คิดจะทำอะไรอยู่แล้ว แค่จะแสดงให้ดีทริชเห็นชัดๆ ว่าเอฟเว่นเป็นของเขา แต่เพราะหงุดหงิดกับความดึงดันของคนที่ชอบดังนั้นจึงแกล้งแสดงท่าทางข่มขู่ให้กลัว

               “นั่นสิมีหลายวิธีนี่นา ดีทริชเองก็ฐานะยากจน อัลฟ่าจากตระกูลใหญ่อย่างผมจะเหยียบย่ำยังไงก็ไม่มีใครว่าอยู่แล้ว”

               “ย..อย่าทำอะไรทริชนะ ฉันขอร้อง” เอฟเว่นไม่นึกมาก่อนเลยว่าจะมีวันที่นึกกลัวมาเรี่ยนจับใจ

               “ถ้าอย่างนั้นก็มาเป็นคนรักของผมสิ”

               ไม่ได้ เอฟเว่นบอกกับตัวเอง ถ้าเกิดว่าดึงดันจะคบกันไปมีแต่จะต้องเจ็บด้วยกันทั้งคู่ ไม่ว่าดีทริชหรือมาเรี่ยนก็ไม่อยากให้ใครเสียใจทั้งนั้น ทำอย่างไรดี เขาตัดสินใจไม่ได้

               “ถ้าอย่างนั้นก็ตามใจ ไว้เธอคิดได้เมื่อไหร่ค่อยมาบอกผมก็แล้วกัน”

 มาเรี่ยนจากไปทิ้งให้เอฟเว่นยืนนิ่งงันอยู่แบบนั้น คนตัวเล็กจินตนาการถึงเรื่องร้ายกาจ แต่คนมีเกียรติอย่างมาเรี่ยนไม่น่าจะทำเรื่องพวกนั้นได้

               ยังไงก็แล้วแต่เขาจะทำทุกวิถีทางปกป้องดีทริชให้ได้ แต่ทำอย่างไรได้ล่ะเขาไม่มีเส้นสายในมือแค่คบหาเป็นเพื่อนกันยังต้องปิดบังท่านพ่อท่านแม่เอาไว้ เอฟเว่นคิดมากจนนอนไม่หลับเมื่อเช้าวันใหม่ก็ไปเรียนโดยไม่สามารถเลิกคิดถึงคำขู่ของมาเรี่ยนได้เลย

               “นายเหม่อลอยทั้งวันเลย” เอฟเว่นสะดุ้งสุดตัว พึ่งจะรู้ว่าเซซิลกับดีทริชจ้องมองมาที่เขาเป็นจุดเดียว

               “ขอโทษนะทริชเซซิลฉันอยากทานขนมที่ร้านฟีโอเร่น่ะ” แก้ตัวมั่วซั่วไปหมดเลย ไม่เป็นธรรมชาติซักนิด เอฟเว่นหัวเราะแฮะๆ

               “ดีเลยๆ ฉันก็อยากไปทานเหมือนกัน” เซซิลตบมือดังแปะๆ “เย็นนี้พวกเราไปกันนะ”

               “ก็ดีนะ แต่เอฟเว่นจะไปได้หรือเปล่า” ดีทริชตั้งคำถาม เพราะปกติรถรับส่งที่บ้านของเอฟเว่นจะมาตรงเวลาเสมอ

               “เอ่อ...” เอฟเว่นยิ้มเจื่อน ท่านพ่อคงไม่อนุญาติแน่ๆ “ท่านพ่อคงไม่ยอมให้เถลไถลนะสิ”

               “อืม...จริงๆ ตระกูลรูคน่าจะทำการค้ากับท่านพี่อยู่นะ เอางี้ดีกว่าฉันจะโทรไปขอร้องท่านพี่ให้โทรไปขออนุญาติท่านพ่อของนายเอง” พูดแล้วก็ลงมือทันที เซซิลต่อสายหาโนเอลบอกเรื่องที่ต้องการ

               “ขอบคุณนะคะท่านพี่ น้องรักท่านพี่เหลือเกิน” เซซิลวางสายหันมายิ้มแฉ่ง “ที่นี้เราก็รอเนอะ ลุ้นจังเลย”

               “จะว่าไปมีเซซิลไว้บังหน้าก็ดีเหมือนกัน เท่านี้เราก็ไปไหนมาไหนด้วยกันโดยไม่ต้องระแวงแล้วล่ะมั้ง”

 ดีทริชพึมพำ แต่เอฟเว่นไม่ได้คิดถึงเรื่องนี้เลยในใจกังวลแต่เรื่องของมาเรี่ยน ผ่านไปประมาณยี่สิบนาทีมือถือของเซซิลก็ดังขึ้น

               “ท่านพี่โทรมาแหนะ” เซซิลรับสายเสียงเจื้อยแจ้ว ดีทริชกับเอฟเว่นรอบทสรุป

               “สรุปว่าท่านพ่อของเอฟเว่นอนุญาตแล้วน้า” เอฟเว่นไม่อยากจะเชื่อ ท่านพ่อที่เข้มงวดคนนั้น ยอมให้เขาไปเถลไถลกับเพื่อนตอนเย็น

               “นายทำหน้าตลกจังเอฟเว่น” ดีทริชหัวเราะเหนี่ยวคอเพื่อนเข้าไปกอด “ต้องขอบคุณเซซิลนะที่ทำให้เราไปเที่ยวด้วยกันโดยไม่ต้องหลบซ่อน”

               “เอ๊ะหมายความว่าไงที่ต้องหลบซ่อน” เซซิลถามดีทริชตอบทันที

               “เรื่องมันยาวน่ะ เอาง่ายๆ ก็ฐานะทางครอบครัวต่างกัน เท่านั้นเอง”

               “อันนี้เข้าใจดีเลย ถ้าเกิดว่าฉันไม่รู้จักนิสัยใจคอดีทริชแล้วล่ะก็ ให้คบด้วยคงจะยากนะ”

               “อ้องั้นหรือ...” ดีทริชแสร้งตีหน้าบึ้ง เซซิลรีบเข้าไปออดอ้อนทันทีด้วยการเกาะแขน

               “อย่าพูดเรื่องนั้นดีกว่าน่า เสียอารมณ์เปล่าๆ เราสนใจแต่เรื่องไปเที่ยวหลังเลิกเรียนดีกว่า”

               “นั่นสิ...นั่นสินะ” เอฟเว่นพึมพำกับตัวเอง

 ดีทริชใช้สายตาวิเคราะห์จ้องมองเพื่อนสนิท ต้องมีอะไรซักอย่างแต่เลือกที่จะไม่ถาม เอฟเว่นเองถึงจะเห็นว่าขี้กลัวขี้กังวลแต่เวลาดื้อแพ่งขึ้นมาจะไม่ยอมลงให้ใครง่ายๆ

“จริงสิฉันต้องไปรายงานตัวที่ห้องสภานักเรียนแล้ว พวกนายสองคนไปเลือกชมรมกันได้แล้วนะ”

“อืมแล้วเจอกันนะทริช”

ดีทริชสาวเท้าไปยังห้องสภานักเรียนเมื่อไปถึง คนแรกที่ได้พบคือมาเรี่ยน

“ยังไม่มีใครมาหรือ” ดีทริชถาม

“ดูเหมือนว่ายังไม่มีใครมา”

“จะว่าไปเราสองคนเจอหน้ากันบ่อยตั้งแต่ชั้นประถมแล้วนะ ยังไงก็ขอบคุณที่นายช่วยฉันไว้คราวก่อนแล้วก็ฝากตัวด้วย”

“อืม..ผมก็ขอฝากตัวด้วยนะ” มาเรี่ยนยิ้มน้อยๆ

ทีแรกดีทริชนึกว่าอีกฝ่ายเป็นคนเย็นชากว่านี้ เพราะทุกครั้งที่เจอจะตีหน้านิ่งเป็นก้อนหินเสมอ แต่เวลานี้กลับรู้สึกว่ามาเรี่ยนเป็นคนที่เข้าถึงได้ง่ายกว่าที่คิด

จังหวะนั้นเสียงเรียกเข้ามือถือของเขาก็ดังขึ้น ดีทริชหยิบมาดูจึงพบว่าคนโทรมาคือโนเอล เจ้าบ้านี่พอซื้อมือถือให้ก็รีบใช้งานมันบ่อยๆ เลยทีเดียว

“ว่าไง”

<วันนี้จะไปทานขนมที่ฟีโอเร่กับพวกเซซิลสินะ>

“ยังจะถามอีกนายอนุญาติเองแท้ๆ “

<อยากให้ถึงวันหยุดของนายเร็วๆ จัง ฉันอยากเห็นหน้า>

°แต่ก็ต้องไปฝึกงานกับคาร์ลก่อนอยู่ดี นายต้องอดทนซักหน่อยนะ”

<อืม...ถ้าไม่ติดว่าอยากให้นายได้พัฒนาตัวเองฉันคงไม่ต้องทนทรมาณแบบนี้ ดีทริชไว้ขออนุญาตคุณแม่มาค้างที่คฤหาสน์ของฉัน บอกคุณแม่ว่ามาค้างบ้านเพื่อนดีไหมให้เซซิลไปขอให้>

“เอาแต่ใจนะ ฉันไม่ไปหรอกอยู่ใกล้กันมากเดี๋ยวนายจะทำเรื่องลามกเปล่าๆ ” ดีทริชไม่ได้ปิดบังสีหน้าอ่อนโยนยามที่คุยกับโนเอลเลย ดังนั้นทุกอย่างจึงอยู่ในสายตามาเรี่ยนตลอด

<ฉันให้สัญญากับนายแล้วนี่ มาเถอะนะหาเวลาว่างมานอนค้างที่บ้านฉัน มาบ่อยๆ>

“ไม่รับปากนะ เพราะว่าฉันต้องช่วยงานแม่ด้วย แค่นี้ก่อนนะเราคุยโทรศัพท์กันนานเกินไปแล้ว”

 ดีทริชวางสายแล้วยิ้มกับตัวเอง เขารู้สึกว่าทุกอย่างไปได้ด้วยดี ถึงแม้จะเจ็บใจตัวเองที่ปล่อยให้จิตใจถลำลึกชอบโนเอลอย่างง่ายดายก็ตาม

ถ้าเกิดว่าระหว่างเขากับโนเอลเป็นอย่างนี้ต่อไปเรื่อยๆ ก็คงดี

“เมื่อกี้คุยกับคนรักหรือ” มาเรี่ยนอมยิ้ม ดีทริชเลิกคิ้วไม่นึกว่าอีกฝ่ายจะสนใจเรื่องของคนอื่นด้วย ปกติใครๆ ก็เรียกกันว่าเจ้าชายน้ำแข็ง

“ก็ไม่เชิง เราคบหาดูใจกัน”

“ขอให้ความรักของนายกับคนรักยืนยงราบรื่นนะ ผมเอาใจช่วย”

 ดีทริชทำตาโต อวยพรให้มันก็ดีอยู่ แต่มาเรี่ยนกับเขายังไม่ถือว่าเป็นเพื่อนกัน อวยพรขนาดนี้ก็แปลกๆ นะ ทั้งอย่างนั้นเขารู้สึกดีกับคำพูดของอีกฝ่ายแล้วคาดหวังเหมือนกันเกี่ยวกับความสัมพันธ์แบบคนรักระหว่างเขากับโนเอล อยากให้มันราบรื่นและยืนยาว

คิดอยู่เหมือนกันว่าระยะเวลาสั้นๆ ตัวเองก็ถลำลึกไปกับโนเอลมากมายทีเดียว เพราะว่าได้รับความรักและเอาใจใส่เป็นอย่างดี

“ขอบใจนะ”

 ดีทริชรู้สึกว่ามาเรี่ยนน่าคบหาเป็นเพื่อนด้วย ยิ่งอีกฝ่ายเคยช่วยเหลือเขาเอาไว้มาก ดังนั้นจึงพร้อมสานสัมพันธ์ฉันมิตรกับมาเรี่ยน เริ่มต้นพูดคุยเรื่องสัพเพเหระรวมไปถึงเรื่องเรียน ระหว่างรอคนอื่นๆ ในสภานักเรียนมาถึง


คุยท้ายเรื่อง


ถ้ามีประโยคงงซ้ำๆ ไม่ต้องแปลกใจจะคะเราแต่งในมือถือแถมยังไม่ได้เกลาดีนัก

ออฟไลน์ shiroinu

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 308
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +17/-0
มาแล้วววว เอฟเว่น หนูอย่าปากแข็งสิลูก กล้าๆหน่อย มาเรี่ยนแอบร้าย ลุคดาร์กแจ่มมากค่ะลูก  :laugh: ตอนนี้โนเอลค่าตัวแพงแหะ

ออฟไลน์ แมวดำ

  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 784
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +20/-2
มาเรี่ยนงานดาร์ค :mew1:

ออฟไลน์ Kei

  • เป็ดมหาวิทยาลัย
  • *
  • กระทู้: 478
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +14/-1

ออฟไลน์ shoi_toei

  • เป็ดAphrodite
  • *
  • กระทู้: 4359
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +222/-26
มาเรี่ยนจะเปลี่ยนสายจากทุ้งมิ่งมาเป็นดาร์กโทนสินะ

ออฟไลน์ ทั่วหล้า

  • ไม่ช่างพูดแต่ช่างพิมพ์
  • เป็ดHera
  • *
  • กระทู้: 1049
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +114/-3
เอฟเว่นนี่ดื้อจัง
มาเรี่ยนเป็นใครทำไมท่านพ่อจะไม่อนุญาติถ้าจะคบกันน่ะ
อยากหยิกแขนจริงๆ

ทริชกับโนเอลไปได้ดีเลยแฮะ ดีๆ

ออฟไลน์ buathongfin

  • เป็ดHephaestus
  • *
  • กระทู้: 1244
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +27/-3
หนูเอฟจะเกรงอะไรขนาดนั้นจ้ะ ฮึ่ยอยากตบหัวเด็ก

ออฟไลน์ lucifer miumiu

  • เป็ดมัธยม
  • *
  • กระทู้: 152
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +147/-1
บทที่25

“เดี๋ยวฉันมานะ” โนเอลพูด ดีทริชพยักหน้าวันนี้พวกเขาสองคนมาเที่ยวเล่นด้วยกัน ตัวเขาอยากใช้เวลาอันหอมหวานให้มากที่สุดก่อนจะเริ่มแผนการที่แน่นอนว่าต้องทำร้ายจิตใจคนรัก โนเอลเดินกลับไปคุยโทรศัพท์บนรถส่วนตัว ทันทีที่อนุญาตคาร์ลก็รายงานความคืบหน้า

“เข้าใจล่ะ แม๊กซิมส่งคนไปป้วนเปี้ยนที่โรงเรียนของดีทริชสินะ”

ดูเหมือนว่าไม่แค่ป้วนเปี้ยนแต่ยังสืบประวัติส่วนตัวอีกด้วย คิดว่าเขาคงเริ่มที่จะทำตามวัฏจักรเดิมๆ ของตัวเองได้แล้ว เพื่อให้แม๊กซิมเลิกสนใจดีทริชเสียที

(นายจะบอกคุณดีทริชเรื่องท่านแม็กซิมไหมครับ)

“ไม่” โนเอลไม่ต้องการให้แผนการณ์รั่วไหล เพราะแม้ดีทริชจะโตเกินวัย แต่เด็กวัยนี้ยังควบคุมความรู้สึกไม่ได้ นอกจากนั้นการไม่รู้ย่อมแสดงปฏิกิริยาที่แท้จริงออกมาเท่ากับว่าไม่มีพิรุธให้แม็กซิมระแคะระคาย

หลังจากตัดสายไปโนเอลกลับไปยังร้านอาหารกลางแจ้งอีกหน บรรยากาศดนตรีเบาๆ ถูกเปลี่ยนเป็นทำนองป็อปแดนซ์ซึ่งเขาไม่ใคร่จะชอบนัก

“ขอโทษทีให้รอนะ” ดีทริชแค่พยักหน้าไม่ได้พูดคุยอะไรมากเพราะมัวแต่มองไอดอลชายวัยเดียวกันทั้งร้องทั้งเต้นบนเวที

“ชอบแบบนี้หรือ”

“เปล่าเลยเพียงแต่นักร้องคนนั้นเรียนที่เดียวกับฉันแถมเป็นโอเมก้าเหมือนกัน อีกอย่างเซซิลดูจะให้ความสนใจมากเชียวล่ะ”

โนเอลหรี่ตามองดูไอดอลวัยเดียวกับดีทริชบนเวที คิดอยู่ว่าจะเลือกคนแบบไหนมาบังหน้าแม็กซิมดี ถ้าเลือกไอดอลวัยเดียวกันก็น่าจะกระตุ้นให้พี่ชายต่างมารดาเชื่อถือไปพร้อมกับเหยียดหยามเขาได้อย่างเต็มที่

ได้ข่าวว่าฝ่ายนั้นดูถูกเยาะหยันว่าเขาเป็นโรคจิตพรากผู้เยาว์ การตอกย้ำมันแล้วเลื่อนฐานะนางบำเรอขึ้นไปอีกระดับคงทำให้แม็กซิมไม่รู้สึกสงสัยทั้งยังสะใจที่รสนิยมของเขาน่าสมเพชก็เป็นได้

แม้จะต้องการความสมจริงแต่ลึกๆ แล้วมีความกังวลท้วมท้น หากดีทริชโกรธจนไม่อยากพบหน้าเขาแล้วจะเป็นอย่างไรกันนะ

“ดีทริช” โนเอลกุมมือดีทริชที่วางบนโต๊ะ คนรักหันมายิ้มให้

“นายจะเชื่อไหมว่าฉันไม่เคยรักใครมาก่อนนอกจากนาย”

“หมายถึงในแบบคนรักใช่ไหม” โนเอลพยักหน้า

“งั้นก็เชื่อได้ครึ่งหนึ่งว่านายไม่ได้โกหก” นั่นก็เพราะว่าเป็นของแน่อยู่แล้วที่โนเอลจะรักเซซิลรักผู้ให้กำเนิด

“ดีทริชนายสามารถให้อภัยคนรักที่วางแผนหลอกลวงได้มากแค่ไหน” ดีทริชนิ่งคิด “ก็ขึ้นอยู่กับเจตนา พูดแบบนี้วางแผนอะไรไว้หรือไง”

โนเอลไม่ตอบเขาหยิบแหวนทองคำขาวประดับพลอยสีน้ำเงินออกมาจากกระเป๋าเสื้อ จับมือดีทริชอย่างนุ่มนวลแล้วสวมมันลงบนนิ้วนางช้างซ้าย

“นาย…” ดีทริชพูดไม่ออก อีกฝ่ายนัดเขามาเพื่อจะให้แหวนอย่างนั้นหรือ

“ไม่ว่าจะเกิดอะไรขึ้นอยากให้รู้ว่านายเป็นคนเดียวที่ทำให้ฉันรักและหลงใหลได้มากขนาดนี้”

“ก็คิดอยู่หรอกนะว่าสักวันท่านพี่ต้องทำแบบนี้” เซซิลพูดขึ้นเมื่อสังเกตุเห็นแหวนที่ถูกร้อยด้วยสายสร้อยบนคอขาวผ่องของดีทริช

“แหวนนี้เป็นแหวนที่ท่านพ่อมอบมันให้ท่านแม่ในวันแต่งงาน เป็นของรักของหวงและสมบัติสำคัญของท่านพี่” เซซิลกอดอกแล้วทำหน้ากระเง้ากระงอดเล็กน้อย

“ท่านพี่นีล่ะก็ทั้งที่ฉันเคยขอเอาไว้ว่าจะใช้ในวันแต่งงานของฉัน แต่ก็เอาเถอะถ้าเป็นดีทริชฉันยอมสละได้”

“แหวนวงนี้มันสำคัญขนาดนั้นเชียว” ดีทริชจับแหวนขึ้นมาคลึงในมือ

“แน่นอนสิเป็นของรักของท่านแม่ที่ตายไป แถมยังเป็นเครื่องหมายแสดงความรักที่ท่านพ่อมีต่อท่านแม่ ถึงแม้ว่าแม็กซิมมันจะชอบดูถูกเราว่าเป็นผลผลิตจากความเผลอเรอของท่านพ่อก็ตาม”

“แม็กซิมนี่ใคร”

“พี่ชายต่างแม่ เป็นคนเลวที่จ้องทำลายชีวิตเราสองพี่น้อง” เซซิลทำสีหน้าเคียดแค้นก่อนจะเปลี่ยนเป็นยิ้มแป้น “อย่าไปสนใจเลยเนอะเอฟเว่น” ทว่าเอฟเว่นกลับเหม่อ จนต้องเรียกอีกหน คนถูกทักสะดุ้ง

“เหม่ออีกแล้วนะ” เอฟเว่นหัวเราะแฮะๆ เพราะมัวแต่คิดเรื่องมาเรี่ยนจึงแทบไม่ได้ฟังทั้งคู่พูดกันเลย

“ดีทริช มีคนมารอนายแหนะ” เอฟเว่นขมวดคิ้วพอมองตามไปที่คนพูดก็พบมาเรี่ยนยืนอยู่

ระยะหลังมานี่เหมือนดีทริชกับมาเรี่ยนจะสนิทกันมาก ฝ่ายนั้นมารับเพื่อนของเขาไปห้องสภานักเรียนทุกครั้งจนเอฟเว่นอดคิดไปในทางร้ายไม่เลิก

ตั้งใจจะทำอะไรกันแน่นะมาเรี่ยน หรือว่าคิดจะทำดีให้ดีทริชตายใจ แต่ก็ผ่านมาเกือบเดือนแล้วเขาไม่เห็นมาเรี่ยนลงมือซักที

“ฉันไปก่อนนะมาเรี่ยนมารับแล้ว” ดีทริชเดินไปหามาเรี่ยน เซซิลทำหน้าบูดไม่พอใจ

“อีตามาเรี่ยน ครอสนี่ยังไง ทำไมต้องมารับดีทริชถึงที่ทุกวัน คงไม่ใช่ว่าแอบชอบทริชหรอกนะ”

ถ้าใช่เธอคงต้องเขี่ยไปให้พ้นทางของท่านพี่ เซซิลคิด

“อืม…ไม่รู้สิ” ในใจเต็มไปด้วยความเป็นห่วงดีทริช แต่ก็ถูกเซซิลลากไปห้องชมรมเสียก่อน หลังจากมาเรี่ยนมาตามดีทริชก็เดินเคียงคู่มาเรี่ยนไปยังห้องสภานักเรียนก็พบว่ายังไม่มีใครมา

“เรามาถึงก่อนใครอีกแล้ว” ดีทริชเดินนำเข้าไปในห้อง “เพราะความขยันของนายนั่นแหละเราถึงมาก่อนใครทุกที”

“คนที่ขยันจริงๆ คือนายมากกว่ามั้ง พวกรุ่นพี่ให้ทำงานไหนไม่เคยปฏิเสธเลย”

“นายเองก็เหมือนกัน อย่ามาว่าคนอื่น”

ระยะหลังมานี้ดีทริชสนิทกับมาเรี่ยนค่อนข้างมาก คือเรียกได้ว่าคุยกันถูกคอทุกอย่าง จนบางครั้งเผลอพูดเรื่องโนเอลไป

“แหวนนั่น คนรักให้มาสินะ”

“อ๋อ…อืม…” ดีทริชคลึงแหวนไปมา ยิ้มกับตัวเองคนเดียว

“นายคงเป็นคนสำคัญ ไม่อย่างนั้นเขาคงไม่ให้ของมีราคาขนาดนี้”

“นายคิดอย่างนั้นหรือ”

“ฉันได้ยินมาว่าเป็นของดูต่างหน้าแม่นี่”

“นายแอบฟังนานแล้วหรือ จากที่ไกลขนาดนั้น”

“เพราะเป็นแวมไพร์เลยหูดีกว่าคนทั่วไปน่ะสิ”

“อ้อฉันลืมไปเลยว่านายเป็นปีศาจ” เพราะมาเรี่ยนดูอ่อนโยนกว่าพวกปีศาจที่เป็นอัลฟาทั่วไป

“ถือเป็นคำชมได้ไหมนะ” มาเรี่ยนยิ้มก่อนจะเดินไปเปิดโทรทัศน์

“ดูข่าวแก้เบื่อไหมพวกรุ่นพี่คงไม่ว่าหรอก”

ข่าวในโทรทัศน์เป็นช่วงที่รายงานเกี่ยวกับวงการบันเทิงพอดี ดีทริชตั้งใจจะบอกให้มาเรี่ยนเปลี่ยนช่องถ้าไม่ติดว่าเห็นโนเอลอยู่ในนั้น

ภาพของโนเอลฉายแค่แวบเดียว ในข่าวเป็นงานแสดงเล็กๆ ของไอดอลวัยสิบสามที่ชื่อว่านานะเพื่อนร่วมโรงเรียนเดียวกัน

โนเอลสนใจเรื่องพวกนี้ด้วยหรือ จะว่าไปก็เป็นเวทีเปิดตัวสินค้าชนิดหนึ่งที่จ้างไอดอลไปสร้างความบันเทิง บางทีอาจเป็นคู่ค้าของโนเอล

“บางทีอาจจะแค่ไปเพราะงานก็ได้”

“นายรู้แค่ไหนกันนี่”

“หน้านิ่วคิ้วขมวดบอกชัดว่ากำลังหึง อีกอย่างอลองโซคนน้องมีพี่ชายคนเดียว ในข่าวก็ดันมีโนเอล อลองโซอีก ดังนั้นชัดเจนว่าคนรักของนายคือใคร”

“นายนี่มันน่าจะไปเป็นนักสืบนะ”

“เป็นคำชมสินะ” ดีทริชเบ้ปาก

“หน้าตาฉันเหมือนคนที่กำลังชมมากสินะ”

“นั่นสิ ดูแล้วก็ไม่น่าใช่”

สุดท้ายต่างคนก็ต่างยิ้มให้กัน ดีทริชลืมเรื่องที่โนเอลไปปรากฏตัวอยู่ในงานเปิดตัวสินค้าซึ่งมีไอดอลวัยเดียวกันไปเสียสนิท



คุยท้ายเรื่อง

แต่งในมือถือนี่คอดยากไปช่วยงานไกลอีก เฮ้อเหนื่อย

ออฟไลน์ แมวดำ

  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 784
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +20/-2
โอ้ยโนเอ๊ลลลลล

ออฟไลน์ shiroinu

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 308
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +17/-0
 :L1: :3123:  :กอด1: คนเขียนมาต่อไวมาก รัก :กอด1: โนเอลแย่แน่ๆ ดีทริชน่าจะเป็นคนตรงๆ รู้สึกไม่ชอบก็คงแสดงออกมาแน่ๆ เฮ้อ สร้างปัญหาให้ตัวเองชัดๆ แถมไม่รู้ว่านานะอะไรนั่นจะมาแสดงอิทธิฤทธิ์ใส่ดีทริชรึเปล่า แต่ยังไงหนูดีทริชก็สตรอง ไม่น่ายอมให้แกล้ง :laugh:

CoMMuNiTY Of ThAiBoYsLoVE

ประกาศที่สำคัญ


ตั้งบอร์ดเรื่องสั้น ขึ้นมาใครจะโพสเรื่องสั้นให้มาโพสที่บอร์ดนี้ ถ้าเรื่องไหนไม่จบนานเกิน 3 เดือน จะทำการลบทิ้งทันที
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=2160.msg2894432#msg2894432



รวบรวมปรับปรุงกฏของเล้าและการลงนิยาย กรุณาเข้ามาอ่านก่อนลงนิยายนะครับ
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=459.0



สิ่งที่ "นักเขียน" ควรตรวจสอบเมื่อรวมเล่มกับสำนักพิมพ์
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=37631.0






ออฟไลน์ shoi_toei

  • เป็ดAphrodite
  • *
  • กระทู้: 4359
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +222/-26
หาเรื่องแท้ ๆ นะคุณโนเอล

ออฟไลน์ Kei

  • เป็ดมหาวิทยาลัย
  • *
  • กระทู้: 478
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +14/-1

ออฟไลน์ PrimYJ

  • เป็ดEros
  • *
  • กระทู้: 3473
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +19/-3
เพิ่งได้เข้ามาอ่าน สนุกมากเลยค่ะ จะรออ่านตอนต่อไปนะคะ

ออฟไลน์ 14th-friedegg

  • เป็ดมัธยม
  • *
  • กระทู้: 178
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +7/-1
อรั้ยยยย
ติดตามคะ
กดสับตะไคร้อย่างแรง ชอบแนวพล๊อตเรื่องมากเลย

จะมาเม้นอ่านบ่อยๆนะคะ
เป็นกำลังใจให้รอย แต่ท่าทางจะต้องเป็นตัวยุ่งยากของโนแอลแน่เลย รอยท่าทางจะอยากดันให้ดีทริชนั่งบัลบัง

ออฟไลน์ lucifer miumiu

  • เป็ดมัธยม
  • *
  • กระทู้: 152
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +147/-1


บทที่26

การเป็นไอดอลไม่ใช่เรื่องง่ายนานะรู้ดียิ่งกว่าใคร เขาต้องฝึกฝนอย่างหนักทั้งยอมทำในสิ่งที่คนทั่วไปไม่คิดฝัน หนึ่งในนั้นคือการพลีกายให้ผู้หลักผู้ใหญ่เพื่อให้มีอำนาจและน้ำเงินสนับสนุน

“อ่า...ดี...ดีมาก นานะ” เจ้าของร่างท้วมร้องครางเสียงหลง นานะแม้จะรำคาญแต่ยังตั้งอกตั้งใจปรนเปรอด้วยปาก ไอดอลวัยใสถนัดเรื่องพวกนี้มาก

สมัยที่ยังอยู่ในบ้านเด็กกำพร้าก็มักถูกผู้ดูแลสั่งให้ทำแบบนี้เป็นประจำ นานะไม่รู้สึกรังเกียจเพราะทุกครั้งที่ทำแบบนี้ชีวิตเขาจะดีขึ้น ยกตัวอย่างเช่นการได้มาเป็นไอดอลนี่ไง

“ดี....อ้า ดีมากนานะ” ปากและลิ้นของนานะทำงานอย่างหนัก แต่การที่ตนเองปรนเปรอได้สุดยอดกว่าทุกวันเพราะจินตนาการถึงเทพบุตรผมเงินคนนั้น

ผู้ชายคนนั้นจ้องมองเขาตลอดการแสดงด้วยสายตาอันร้อนแรง หลังจากลงจากเวทีก็รีบหาข้อมูลเท่าที่จะหาได้และพบว่าเทพบุตรผมสีเงินเป็นคนใหญ่คนโตแถมมีชื่อไพเราะเพราะพริ้งอีกด้วย

โนเอล อลองโซคนนั้นสนใจเขา แค่คิดว่าจะได้กลืนกินฝ่ายนั้นด้วยปากก็น้ำลายสอเสียแล้ว นานะภาวนาให้คนคนนั้นวิ่งเข้ามาหา อัลฟ่ากับโอเมก้าเป็นของคู่กัน

 มั่นใจในความดึงดูดทางเพศของตัวเองคนระดับนี้ถ้าจับไว้ได้อยู่มือแค่ไอดอลอันดับหนึ่งของประเทศยังน้อยไป นอนกระดิกเท้าเฉยๆ เงินยังไหลมาเทมา

“อ้า...” เจ้าหมูสกปรกปลดปล่อยออกมาเสียที นานะกลืนกินเข้าไปจนหมดก่อนจะลุกขึ้นจัดแต่งเสื้อผ้า เจ้าอ้วนหัวล้านก็เช่นกัน

“เสียดายจริงที่วันนี้ทำถึงที่สุดไม่ได้ แต่วันนี้นายน่ารักมาก ไว้ฉันจะโทรมานัดใหม่แล้วกัน” นานะเบ้ปาก

เหม็นเบื่อไปได้ซักที หลังจากเจ้าอ้วนออกจากห้องไป ไม่นานนักผู้จัดการก็เข้ามาพร้อมช่อดอกไม้

“มีคนฝากมาให้แน่ะ นานะ” สีหน้าผู้จัดการดูระริกระรี้ “เดาสิว่าใคร”

“เล่นทายปัญหาหรือ” นานะหัวเราะอ้อร้อไม่สมวัยและไม่เสียเวลาคิดซักนิด “ถ้าไม่ใช่ของเทพบุตรผมเงินล่ะก็เอาไปโยนทิ้งขยะดีกว่า”

“งั้นนายควรจะรับไว้” ผู้จัดการยิ้มเจ้าเล่ห์ “ถ้าเกิดว่าได้ดีแล้วก็อย่าลืมคนที่คอยส่งเสริมนายมาตลอดอย่างฉันล่ะ”

นานะรับช่อดอกไม้หรูหรามา มีการ์ดข้อความด้วยไม่รอช้าหยิบมันขึ้นอ่าน มันเขียนว่า(โทรหาฉัน)ตามด้วยเบอร์ติดต่อ ไอดอลวัยใสเลียริมฝีปากตัวเองด้วยท่าทางยั่วยวน

“จะโทรไปหาเลยหรือ” ผู้จัดการส่วนตัวถาม

“แน่สิ...จะรอช้าทำไม เทพบุตรมาทอดสะพานทั้งที”

“นี่มันอะไรกันเนี่ย” เซซิลโยนนิตยาสารดาราที่ชื่นชอบลงตรงหน้าดีทริช

ข่าวที่ทำให้เซซิลเดือดดาลเกี่ยวกับการที่เหยี่ยวข่าวถ่ายภาพความบังเอิญซึ่งโนเอลไปโผล่หน้าในงานแสดงของนานะทุกที่ แถมไอ้นักเขียนข่าวบัดซบยังให้หัวข้อว่ามาเฟียใหญ่ตื้อรักไอดอล

เซซิลทั้งโกรธทั้งหงุดหงิดจนควันออกหู “ดีทริชต้องอย่าไปสนใจข่าวบ้าๆ นี่นะ ถ้านายไม่สำคัญท่านพี่ไม่มีทางยกแหวนของท่านแม่ให้หรอก”

หมู่นี้ท่านพี่ไม่ยอมกลับบ้านโทรไปก็ไม่รับ “วางใจเถอะนะทริชฉันจะทวงถามความจริงจากท่านพี่มาให้นายให้ได้”

ดีทริชเปิดนิตยาสารอ่านข้อความข่าว สีหน้าสงบนิ่งเยือกเย็น

“ถ้าโนเอลมีคนใหม่ฉันจะเป็นฝ่ายไปเอง”

“ไม่นะทริช ไม่ได้นะ ฉันไม่ยอมเด็ดขาด นายต้องสู้สิ ท่านพี่เป็นสมบัติของนายนะ”

ดีทริชยิ้มหยัน โนเอลไม่ใช่สมบัติของเขารู้ดีว่าไม่มีสิทธิและพลังพอจะเหนี่ยวรั้ง อีกอย่างคิดอยู่แล้วว่าคงมาถึงซักวันจึงไม่แปลกใจ ทั้งอย่างนั้นความอึดอัดใจที่เกิดขึ้นนี้มันช่างน่ารำคาญจริงๆ

“ทริชโทรหาท่านพี่เดี๋ยวนี้เลย” เซซิลคะยั้นคะยอ ในใจสับสนทั้งอยากโทรไปและไม่อยาก ติดต่อไปแล้วจะคุยอะไรล่ะ ตามจิกถามถึงความสัมพันธ์ระหว่างโนเอลกับไอดอลนั่นหรือ น่าสมเพชยังไงไม่รู้

“โถ่…ทริชชักช้าเอามือถือมานี่” เซซิลคว้าไปจากมือและต่อสายหาโนเอล เชื่อมั่นว่าถ้าเป็นดีทริชท่านพี่ต้องรับสาย

เสียงเรียกเข้าดังขึ้นระหว่างที่โนเอลปรนเปรอคู่ขาใหม่ซึ่งตั้งใจจะใช้มันหลอกล่อแม็กซิม

ระยะหลังนี้เขาทุ่มตื้อจีบทำตามนิสัยเดิมๆ สนใจคนใหม่ก็เขี่ยคนเก่าทิ้ง แบบนี้แม็กซิมจะละความสนใจจากดีทริชในเวลาไม่นาน

โนเอลมองดูเบอร์เรียกเข้าคนโทรมาคือดีทริชจึงรับสายขณะทอดมองไอดอลราคาถูกซื้อนั่นนี่ตามใจชอบ

(ดีใจที่นายโทรมานะ) ดีทริชรู้สึกว่าตัวเองอารมณ์ดีเมื่อได้ยินเสียงโนเอล

“ถามไปสิว่าทำอะไรอยู่ แล้วอยู่ที่ไหน” เซซิลกระซิบบงการ

“ใช่ว่าอยากจะโทรมาซักหน่อย เซซิลบังคับน่ะ”

(แต่ฉันดีใจนะ รักนะดีทริช) ดีทริชไม่รู้ตัวว่าตนเองยิ้มกว้างกว่าทุกที

“ตั้งใจทำงานนะ”

(อืม…)

ดีทริชวางสายไปเป็นจังหวะที่นานะเรียกโนเอลไปพอดี ชักจะเริ่มเบื่อหน่ายกับการต้องฝืนใจ

เอฟเว่นอมยิ้มไม่หุบเพราะว่าอาจารย์ที่ปรึกษาชมรมต้องการจะส่งงานของเขาเข้าประกวด

ภาพวาดหมู่เทวดาที่เอฟเว่นใช้ดีทริชกับเซซิลเป็นแบบต้องตาต้องใจใครหลายคนมันสร้างความภูมิใจมากมายเหลือเกิน

กลับไปต้องอวดให้ดีทริชกับเซซิลฟัง เอฟเว่นเดินเขย่งก้าวกระโดด สุดท้ายไม่ระวังตัวชนเข้ากับคนอื่นที่หัวมุม

“อ๊ะ…” ถูกคว้าเอาไว้จึงไม่ลงไปกอง คนที่ช่วยและเดินชนคือมาเรี่ยนทำเอาเอฟเว่นดีดตัวออกแทบไม่ทัน

“เธอคิดคำตอบไว้แล้วหรือยัง” มาเรี่ยนกระตุกยิ้มมุมปากเหมือนเสือร้าย ใจจริงไม่รีบร้อนอะไรเพราะทุกอย่างอยู่ในมือเขาแล้ว

“ฉัน…” เพราะความดีใจเรื่องภาพวาด จึงลืมเรื่องที่มาเรี่ยนหมายหัวดีทริชไปเสียสนิท

“ดีทริชเขาเห็นนายเป็นเพื่อน แต่นายกลับตั้งใจจะเล่นงานเขา ฉัน…”

เอฟเว่นสรรหาคำมาอธิบายความรู้สึกไม่ถูก มาเรี่ยนเหยียดยิ้มร้ายเดินเข้าหากดดันจนต้องถอยไปติดกำแพง

“เธอประเมินผมต่ำไปนะ ผมจะทำมากกว่ารังแกอีก จริงสิผมต้องไปหาดีทริชแล้ว”

มาเรี่ยนปล่อยให้เอฟเว่นยืนอึ้งก่อนจะวิ่งไล่ตามมาเรี่ยนไป

“หยุดก่อนเลิกวางแผนรังแกดีทริชเถอะนะ” คว้ามือของมาเรี่ยนเอาไว้

“หมายความว่าเธอจะยอมเป็นคนรักของผม”

“เอ้อ..คือ…” เอฟเว่นพูดไม่ออก เขาไม่อยากทำร้ายใคร แต่สุดท้ายตัดใจเลือกดีทริชเพื่อนสนิทที่แสนดี

“ถ้าฉันคบกับนาย นายต้องสัญญาว่าจะไม่ลงมือกับดีทริช”

“จูบผมสิ แล้วเราจะบรรลุสัญญา”

เอฟเว่นลนลานเพราะมาเรี่ยนหลับตาพริ้มรอคอยจูบ ใช้เวลาครุ่นคิดอยู่นานทีเดียวจึงตัดสินใจจุมพิตแผ่วๆ ร่างกายร้อนผ่าวด้วยความอับอาย

“เธอเป็นคนรักของผมแล้ว ดังนั้นเพื่อนสนิทของเธอก็สำคัญกับผม อันที่จริงผมกับดีทริชเราก็สนิทกันมากอยู่แล้ว” มาเรี่ยนดึงรั้งเอฟเว่นเข้าไปกอดก่อนจะหอมแก้มคนตัวเล็กกว่า

“ผมรักเธอมากนะ จนบางครั้งก็คิดว่าตัวเองไม่ปกติ เธอต้องรับผิดชอบที่ทำให้ผมเพี้ยนไป”

แบบนี้มันจะดีที่สุดหรือไม่เอฟเว่นไม่รู้ แค่ขอแค่ปกป้องดีทริชได้เขาก็พอใจแล้ว

เอฟเว่นปล่อยให้มาเรี่ยนไปรับดีทริชส่วนตัวเองรอจังหวะไม่ให้โผล่ไปพร้อมกัน

จะให้ดีทริชรู้ไม่ได้ว่าเขายอมคบกับมาเรี่ยนเพื่อป้องกันไม่ให้มาเรี่ยนลงมือกลั่นแกล้งดีทริช

เอฟเว่นรอให้ดีทริชไปห้องสภากับมาเรี่ยนเสียก่อนแล้วเข้าไปรับเซซิลไปชมรมวาดภาพ

“หายไปไหนมา” เซซิลกระเง้ากระงอด “รอนานมากเลยนะ”

เอฟเว่นรีบเล่าเรื่องที่ได้รับโอกาสส่งภาพไปประกวดเพื่อกลบเกลื่อนทันที

ขณะเดียวกันดีทริชสังเกตุได้ว่ามาเรี่ยนอารมณ์ดี ปกติจะไม่ค่อยแสดงสีหน้าเท่าไหร่ ถึงสนิทกันได้พักใหญ่แต่กับเขาใช่ว่าจะยิ้มอ่อนโยนให้เห็นแบบนี้

“นายมีเรื่องดีดีสินะ” ดีทริชถาม

“กลับกันนายกำลังอารมณ์เสียใช่ไหม”

“นายรู้อะไรดีๆ หรือไง” ดีทริชเหยียดยิ้ม ไม่แปลกใจความสามารถในการสืบค้นระดับสุนัขตำรวจของมาเรี่ยนอีกแล้ว

“นายต้องมั่นคงให้มาก ผมไม่รู้หรอกนะว่าอลองโซคนพี่ดีกับนายจริงใจกับนายมากแค่ไหน แต่ข่าวเปลี่ยนคู่ขาบ่อยของเขาเป็นมานานแล้ว คนบางคนถึงจะมีตัวจริงแต่ไม่ได้คิดจะเลิกเจ้าชู้ เพราะนายเป็นเพื่อนผมจึงอยากเตือนนายให้เผื่อใจเอาไว้บ้าง”

ดีทริชนิ่งงันเข้าใจว่ามาเรี่ยนหวังดีไม่ได้คิดเป็นอย่างอื่น

“ผมคิดว่านายไม่ใช่คนที่จะอดทนปล่อยให้คนรักมีคนอื่น ผมไม่ได้ดูผิดไปใช่ไหม”

“ใช่นายเดาถูกทุกอย่าง”

ดีทริชรับไม่ได้หากว่าคนที่รักจะมีคนอื่นโดยที่คบเขาไปพร้อมกัน

นายจะมีแค่ฉันคนเดียวหรือเปล่านะโนเอล

เป็นครั้งแรกเลยที่ส่งข้อความไปหาโนเอล คิดว่าตัวเองทำโง่ๆ แต่ร่างกายมันเคลื่อนไหวตามใจชอบ

ดีทริช: นายคงไม่ได้โกหกอะไรฉันอยู่ใช่ไหม

โนเอล: ยกตัวอย่างเช่น

ดีทริช: เช่นนายหมดรักฉันแล้ว

ดีทริชคิดว่าการที่อีกฝ่ายมีคนอื่นคือการหมดรัก ไม่อย่างนั้นจะปันใจไปได้อย่างไร

โนเอล: คนที่ฉันรักคือนายคนเดียว ไม่เคยคิดมีคนอื่น

ดีทริชไม่รู้ตัวว่าตนเองยิ้มจนมาเรี่ยนเอ่ยทัก “นายเองก็ยิ้มไม่หุบเหมือนกัน ผมจะไม่ถามนะว่าเพราะอะไร”

“ถึงถามก็ไม่บอก”

ดีทริชเก็บมือถือลงกระเป๋าก้าวเดินอย่างสบายๆ ไปห้องสภานักเรียนพร้อมมาเรี่ยน



คุยท้ายเรื่อง

เคยคิดจะเขียนncนะแต่สงสัยว่าคงตอนจบแน่ๆ เลย 5555

รอดีทริชกับเอฟเว่นโตวนไปนะคะ

เราอาจจะลืมระบุรายละเอียดแต่น้องขึ้นมต้นกันแล้วนะคะ
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 20-02-2018 04:59:57 โดย lucifer miumiu »

ออฟไลน์ shoi_toei

  • เป็ดAphrodite
  • *
  • กระทู้: 4359
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +222/-26
โนเอลลลล ควรคุยกับดีทริส นะ

ออฟไลน์ Chompoo reangkarn

  • เป็ดHera
  • *
  • กระทู้: 1089
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +33/-0
อยากให้ทุกคนเติบโตพ้นวัยประถม
เวลาเข้าฉากNC เวลาอ่านจะรู้สึกดีหน่อย
ไม่เป็นการพรากผู้เยาว์ก่อนวัยอันควร :katai2-1:

ออฟไลน์ lucifer miumiu

  • เป็ดมัธยม
  • *
  • กระทู้: 152
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +147/-1
อยากให้ทุกคนเติบโตพ้นวัยประถม
เวลาเข้าฉากNC เวลาอ่านจะรู้สึกดีหน่อย
ไม่เป็นการพรากผู้เยาว์ก่อนวัยอันควร :katai2-1:
เราอาจจะลืมเขียนลงไปแต่น้องขึ้นมต้นกันแล้วค่า

ออฟไลน์ PrimYJ

  • เป็ดEros
  • *
  • กระทู้: 3473
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +19/-3

ออฟไลน์ แมวดำ

  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 784
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +20/-2
นานะไรนั่นแรดสะด้วย :katai1:

CoMMuNiTY Of ThAiBoYsLoVE






ออฟไลน์ Kei

  • เป็ดมหาวิทยาลัย
  • *
  • กระทู้: 478
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +14/-1
เหมือนจะบอกแล้วนะว่าขึ้นมต้น รอนะ

ออฟไลน์ lucifer miumiu

  • เป็ดมัธยม
  • *
  • กระทู้: 152
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +147/-1


บทที่27

อาทิตย์หนึ่งเต็มๆ ที่เซซิลเอาแต่บ่นไม่หยุดว่าไม่ได้พบท่านพี่เลย ดีทริชต้องนั่งฟังแถมยังคอยปลอบ นอกจากนั้นเขาต้องพลอยรู้สึกไม่ดีไปด้วยเพราะข้อมูลเกี่ยวกับโนเอลที่เพิ่มมากขึ้นจากปากของเพื่อนสาว

“ดูนี่สิ” เซซิลโยนหนังสือนิตยาสารเล่มล่าสุดมาตรงหน้า “พวกเหยี่ยวข่าวถ่ายภาพท่านพี่กับนานะบังเอิญออกมาจากโรงแรมเดียวกัน

“แค่บังเอิญหรือเปล่า” ดีทริชคิดอย่างเป็นเหตุเป็นผลไม่รู้ว่าตั้งใจทำแบบนี้เพื่อนเตือนสติไม่ให้ตัวเองคิดฟุ้งซ่านหรือเปล่า

“แต่ถ้ามันเป็นอย่างที่ฉันคิดล่ะ ถ้าไอดอลราคาถูกนั่นตั้งใจดักเจอยั่วยวนท่านพี่ล่ะ” เซซิลกล่าวเสียงแหว ไม่เข้าใจดีทริชทำไมถึงยังนิ่งสงบอยู่ได้

“อันที่จริงจากในนิตยาสารเหมือนโนเอลเป็นฝ่ายไปตื้อมากกว่านะ” ดีทริชเปิดอ่านข่าวเกี่ยวกับนานะและโนเอล

ก่อนหน้านั้นโนเอลเคยพูดว่ารักเขาคนเดียวและไม่คิดมีคนอื่น ประโยคคำพูดเช่นนี้ทำให้ดีทริชเลือกจะไว้วางใจ ก็พวกเขาเป็นคนรักกัน หากเอาแต่หึงหวงไร้เหตุผลแบบนั้นแล้วเขาควรเลิกคบกันไปเสียดีกว่า

“ถ้าอย่างนั้นนายจะไม่ถามพี่ชายเลยหรือทริชว่าเรื่องมันเป็นยังไง”

ดีทริชนิ่งคิด ตามจริงเขากับโนเอลก็พึ่งคบหากันไม่เท่าไหร่ ทั้งอย่างนั้นกลับได้รับของสำคัญจากคนรักมา อดไม่ได้ที่จะจับแหวนซึ่งห้อยอยู่กับสร้อยคอคลึงไปมา เขาเลือกจะเชื่อใจถึงแม้นิตยาสารดาราชี้ให้เห็นเป็นอีกอย่าง

“ดีทริช มาเรี่ยนมารับแนะ”

เพื่อนร่วมห้องตะโกนเรียก พอหันไปพบว่าเอฟเว่นมาพร้อมกับมาเรี่ยน แปลกสองคนนี้มาพร้อมกันได้ยังไง แถมวันนี้ก็ไม่ได้จำเป็นต้องไปรวมตัวที่ห้องสภานักเรียน ดังนั้นการโผล่หน้ามาของอีกฝ่ายจึงนับว่าประหลาดไม่น้อย

“พอดีฉันได้เจอเอฟเว่นกลางทางเลยมาเจอนายด้วยกันเลย” ดีทริชเลิกคิ้วให้คนพูดอย่างมาเรี่ยน

“นายนอกจากเป็นนักสืบแล้วยังเป็นนักเดาใจด้วยหรือ ความสามารถรอบด้านไปมั้ง”

จากนั้นเบนสายตาไปหาเอฟเว่น เพื่อนสนิทสะดุ้งนิดๆ ดีทริชหรี่ตามองดูมาเรี่ยนกับเอฟเว่นสลับไปมา นี่เราพลาดอะไรไปหรือเปล่านะ

“จริงๆ ที่มานี่ว่าจะมาชวนไปดูงานนิทรรศการภาพวาด ได้ตั๋วจากคนรู้จักมาสี่ใบ คิดว่าไงดีทริช”

“นั่นสิอย่างน้อยคนแถวนี้สองคนก็สมควรที่จะไป” ดีทริชหมายถึงเอฟเว่นกับเซซิลที่อยู่ชมรมวาดภาพ

“ว่าไงเซซิล เอฟเว่นจะไปไหม” ดีทริชถาม

“ฉันยังไงก็ได้ ถ้าดีทริชกับเอฟเว่นไปฉันก็ไป” ถึงก่อนหน้านั้นจะไม่ชอบหน้ามาเรี่ยนแต่จากการสังเกตุดูดีทริชมาระยะหนึ่งเซซิลพบว่าไม่น่าจะมีปัญหาอะไรจึงเลิกเขม่นเจ้าหมอนี่ไปนานแล้ว

“เอฟเว่นล่ะ” ดีทริชกับเซซิลหันไปมองเอฟเว่น

“เธอจะไปใช่ไหม คงไม่ปฏิเสธคำชวนของผมสินะ”

 เอฟเว่นสีหน้าหม่นหมอง เหมือนไม่เต็มใจซักเท่าไหร่ เรียกได้ว่ากลัวดีทริชจะรู้ความจริงเรื่องที่เขาคบกับมาเรี่ยนเพื่อกันไม่ให้แกล้งเจ้าตัวนั่นเอง

ในขณะเดียวกันดีทริชกลับรู้สึกอย่างแรงกล้า คำพูดคำจาและสายตาคมกริบทว่าแฝงความเอ็นดูที่มาเรี่ยนทอดมองเอฟเว่น เจ้าหมอนี่ไม่เคยแสดงสีหน้าแววตาอย่างนี้กับใครให้เขาเห็นเลย

มาเรี่ยนกับเอฟเว่นคบกันอย่างนั้นหรือ? ดีทริชตัดสินใจจะเงียบเอาไว้ก่อน

“อื้อ...ฉันคิดว่าไปก็ดีเหมือนกัน” เอฟเว่นเสียงอ่อย

ดีทริชรู้สึกได้ว่าเอฟเว่นดูจะกลัวๆ มาเรี่ยน ดังนั้นตลอดเวลาที่อยู่ในงานนิทรรศการที่ทางโรงแรมจัดขึ้น จึงเอาใจใส่เพื่อนคนนี้และจับตาดูมาเรี่ยนไปพร้อมกัน เซซิลยังคงเป็นคนที่รู้สึกช้าแต่เห็นได้ชัดว่ามีบรรยากาศสีชมพูหม่นๆ ระหว่างทั้งสองคน

“ทริชไปห้องน้ำกันดีไหม” เอฟเว่นเอ่ยชวน

               ก็พอดีเลยดีทริชอยากอยู่สองคนกับมาเรี่ยน เขาต้องการจะถามอีกฝ่ายเกี่ยวกับเรื่องที่สงสัย

               “นายไปเถอะฉันยังไม่อยากไป”

               เอฟเว่นหน้าเสีย สงสารอยู่หรอกแต่ถ้าเสียโอกาสนี้ไปคงต้องรออีกสองวันเพราะพรุ่งนี้ก็เป็นวันหยุดแล้วด้วยสิ

               “งั้นฉันไปเป็นเพื่อนเองนะเอฟเว่น ไปกัน”

 เซซิลลากคนอยากเข้าห้องน้ำไป เอฟเว่นหันมามองดีทริชตลอดทาง เขาไม่อยากให้เพื่อนสนิทอยู่กับมาเรี่ยนสองต่อสอง ถึงจะได้รับคำสัญญาแล้วก็เถอะ

               “นี่เข้าห้องน้ำเสร็จแล้วช่วยไปซื้อน้ำมาด้วยนะ”

 ดีทริชตะโกน ตั้งใจจะถ่วงเวลาให้มากเพื่อจะคุยได้นานๆ ทว่ายังไม่ทันได้คุยก็เห็นคนคุ้นเคยแวบๆ โนเอลนั่นเอง ดีทริชเสียสมาธิเพราะคนที่มาด้วยคือนานะคนนั้น

“ตามไปดีไหม” มาเรี่ยนเห็นโนเอลกับไอดอลที่เป็นข่าวด้วยกันชัดเจนเขาเป็นแวมไพร์หูตาจมูกย่อมดีกว่าคนทั่วไปอยู่แล้ว

 คิดอยู่เหมือนกันว่าคาสโนว่าอย่างอลองโซคนพี่ถึงมีตัวจริงก็คงไม่พ้นแอบหาเศษหาเลยเป็นครั้งคราว แต่ที่คาดไม่ถึงคือการที่ดีทริชหลั่งน้ำตาต่อหน้า

“ดีทริช...”

 เสียงเรียกของมาเรี่ยนทำให้เขาสะดุ้ง ภาพบาดตาเมื่อครู่มันทำให้เขาเจ็บ ทั้งๆ ที่เคยมั่นใจว่าสามารถไปจากโนเอลได้ทันทีหากทราบความจริงเรื่องนอกใจ แต่พอประสบกับตัวกะทันหันดีทริชทำอะไรไม่ถูกแถมร้องไห้ออกมาอย่างน่าอาย

นี่เรารักโนเอลขนาดนี้เชียวหรือ อยากปฏิเสธความจริงแต่การต้องมาหลั่งน้ำตาเพื่อคนโกหกมันชัดเจนอยู่แล้ว

ขณะเดียวกันเอฟเว่นพยายามเร่งให้เซซิลรีบทำธุระให้เสร็จ เพื่อนสาวตัวดีเอาแต่ชวนเถลไถลระหว่างทางไม่เลิก กว่าจะกลับมาเจอดีทริชได้ก็นานโข ทว่าเมื่อมาถึงก็พบว่าเพื่อนสนิทร้องไห้ด้วยสีหน้าปวดร้าวอย่างที่สุด ดังนั้นจึงปรี่เข้าไปผลักมาเรี่ยนออกแล้วกางปีกปกป้อง

“นายทำอะไรทริชกันแน่มาเรี่ยน” เอฟเว่นยืนบังดีทริชจนมิด ท่าทางห้าวหาญพร้อมปกป้องเพื่อนมันทำให้มาเรี่ยนนับถือแต่ในขณะเดียวกันก็รู้สึกอิจฉาอย่างท้วมท้น

“เธอก็เห็นตำตาแล้วว่าผมทำอะไร” มาเรี่ยนจงใจกวนโมโห จุดประสงค์เพื่อให้เอฟเว่นปูดเรื่องระหว่างพวกเขาออกมาให้หมด

“นายผิดสัญญา นายสาบานแล้วว่าถ้าฉันยอมคบด้วย นายจะไม่รังแกดีทริช”

“พวกนายคบกันอยู่หรือ” เซซิลงุนงงไปหมด แถมดีทริชยังมาร้องไห้อีก ไม่รู้จะทำอะไรดีนอกจากใช้ผ้าเช็ดหน้าซับน้ำตาให้ดีทริช

“ฉันเกลียดตัวเองจริงๆ ที่รู้สึกชอบนาย คิดไม่ถึงเลยว่านายจะเป็นคนเลวร้ายแบบนี้”

“ผมเป็นคนเลวร้ายเพราะความคิดและการกระทำของเธอนั่นแหละ”

ยิ่งมาเรี่ยนโยนความผิดมาให้เอฟเว่นยิ่งควบคุมสติไม่อยู่ ลืมหมดสิ้นทั้งยางอายและเหตุผล

“ฉันผิดตรงไหน อย่ามาใส่ร้ายกันนะ”

“ผิดที่ชอบผมแต่ก็ยังโกหก เธอหลอกทั้งผมทั้งตัวเองมันทำให้พวกเราต่างเจ็บปวด”

“ที่ฉันทำลงไปทั้งหมดก็เพราะยังไงเราก็ไม่มีทางรักกันได้ ฉันมีคนที่ถูกวางตัวให้หมั้นด้วยอยู่แล้ว”

เอฟเว่นพูดความในใจออกไปจนหมด รู้สึกตัวอีกทีก็ไม่ทันเสียแล้ว คนตัวเล็กหันไปมองดูคนรอบตัวไม่ว่าจะดีทริชที่หยุดร้องไห้แล้วมองมาด้วยสายตาเป็นห่วง หรือแม้แต่เซซิลที่แววตาแฝงไว้ด้วยความเจ้าเล่ห์เพราะเจอเรื่องสนุก

“ก็ถ้าใจตรงกันก็คบกันไปสิ” เซซิลยืนเท้าเอวด้วยท่าทางก๋ากั่น

“แต่ว่า อีกหน่อยก็ต้องแยกกัน” เอฟเว่นเถียงเสียงอ่อย รู้สึกอับอายขายหน้าที่พ่นความลับไปจนหมด

“ทำไมล่ะ ถึงจะอยู่ด้วยกันทั้งชีวิตไม่ได้ แล้วทำไมไม่ใช้เวลาที่เหลืออยู่ให้คุ้มค่า จริงสิถึงจะถูกบังคับ แต่นายจะแอบคบหามาเรี่ยนอย่างลับๆ ต่อไปก็ได้นี่ นายมีสิทธิที่จะเลือก”

“ทำแบบนั้นมันเป็นการทรยศทั้งว่าที่สามีทั้งทำร้ายจิตใจมาเรี่ยนด้วย ฉันทำแบบนั้นไม่ได้หรอก”

“เป็นฉันจะไม่สนใจซักนิด เอฟเว่นนายเก็บเรื่องนี้ไว้นานเท่าไหร่แล้วนี่” เซซิลเดินเข้าไปกอด ดีทริชเองก็ส่งรอยยิ้มอ่อนโยนมาให้ เมื่อได้รับการปลอบโยนอย่างอบอุ่นน้ำตามันก็ไหลออกมาไม่รู้ตัว

“รักใครก็บอกว่ารักสิ นายจะคิดมากทำไม” ดีทริชลูบหัวเอฟเว่นปลอบโยน คนตัวเล็กยิ่งสะอึกสะอื้น

“เธอชอบผมไหม” มาเรี่ยนไม่ยอมเสียโอกาส เขาเลือกที่จะกระหน่ำตีให้แตก เอฟเว่นพยักหน้าแทนคำตอบขณะที่จมในอ้อมกอดของเซซิล

“ไปพูดกับมาเรี่ยนให้ดีๆ “ เซซิลผลักไสเขาไปตรงหน้ามาเรี่ยน เอฟเว่นเริ่มจะประหม่าเพราะพึ่งรู้ตัวว่า ผู้คนในนิทรรศการมองมาเป็นจุดเดียว

“ฉัน...ฉันอยากกลับบ้าน..” เอฟเว่นหันไปมองขอความช่วยเหลือจากดีทริช เพื่อนสนิททำเพียงยักไหล่

“บอกผมอีกทีสิว่าเธอรักผม แล้วต่อให้มีท่านพ่อของเธอหรือขวากหนามอีกเป็นร้อยผมก็พร้อมจะต่อสู้กับมัน”

“จริง...หรือ” เอฟเว่นมองเข้าไปในดวงตามุ่งมั่นของมาเรี่ยน ไฟในแววตาซึ่งลุกโชนทำให้รู้สึกเหมือนตกหลุมรักอีกครั้ง

เขาชอบมาเรี่ยนที่อ่อนโยนใจดี เวลาที่ฝ่ายนั้นดูแลดอกกุหลาบในแปลงอย่างทนุถนอมช่างอ่อนหวานเหลือเกิน และตอนนี้ดวงตาอันแน่วแน่มุ่งมั่นมันทำให้เขาเกิดความชอบพอมากยิ่งขึ้นไปอีก เชื่อมั่นว่าคนที่มีแววตาเช่นนี้จะสามารถทำทุกอย่างที่พูดออกมาได้แน่นอน

“ฉันชอบนาย ชอบมานานแล้ว” เมื่อได้ยินคำตอบมาเรี่ยนก็คุกเข่าลงตรงหน้าจับมือเอฟเว่นแล้วจุมพิตลงไปบนหลังมือ

ภาพน่ารักๆ ของทั้งคู่ทำให้คนในนิทรรศการตบมือให้ เอฟเว่นอับอายจนหน้าแดงไปหมด มาเรี่ยนจัดการลากคนตัวเล็กกว่าพาไปยังหน้าห้องรับรองของโรงแรมที่ไม่ห่างจากห้องจัดนิทรรศการ ที่นั่นพ่อบ้านตระกูลรูคซึ่งควรจะประจำการที่คฤหาสน์ยืนรออยู่

 “คุณหนู ท่านมาเรี่ยน นายท่านรออยู่แล้วขอรับ”

เอฟเว่นหน้าซีดเผือด ท่านพ่อรออยู่แล้ว คงไม่ใช่ว่ารู้เรื่องความสัมพันธ์ของเขากับมาเรี่ยนหมดแล้วจึงมาดักรอลงโทษเขาหรอกนะ

“ไม่ต้องกลัวนะ ผมจะอยู่ข้างๆ เธอ” มาเรี่ยนบีบมือเอฟเว่นเบาๆ

“ไปกันเถอะ” มาเรี่ยนเดินนำเอฟเว่นเข้าไปในห้องรับรอง ไม่รู้ว่าจะเกิดอะไรขึ้นบ้าง แต่เมื่อเข้าไปด้านในก็พบว่ามีสาวสวยคนหนึ่งนั่งอยู่กับท่านพ่อ

“มาพอดีเลย เท่านี้เราก็ตกลงเรื่องหมั้นหมายของเอฟเว่นกับมาเรี่ยนได้แล้วสินะคะ”

ท่านพ่อยิ้มให้สาวสวยคนนั้น เอฟเว่นมองท่านพ่อกับผู้หญิงคนนั้นสลับกันก่อนจะหันไปจ้องมองมาเรี่ยนด้วยสายตางงงัน

“ยังจะงงอะไรอีกล่ะ ผมพาท่านย่ามาขอหมั้นเธอเอาไว้ก่อน ขอโทษนะที่ปล่อยให้รอนาน”

ถึงแม้จะรู้ว่าเป็นเรื่องดีๆ แต่เอฟเว่นก็ยังงงงันจบต้นชนปลายไม่ถูก เขาไม่เข้าใจเลยไม่เข้าใจซักนิดว่าเกิดอะไรขึ้น



คุยท้ายเรื่อง

จะขอหายไปซักสามวันนะคะ ตั้งใจว่าจะรีบปั่นงานพิเศษซักหน่อย

ฝากแสดงความคิดเห็นให้กำลังใจกันบ้างนะคะ ขอบคุณค่า

ออฟไลน์ shiroinu

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 308
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +17/-0
  :serius2: ว่าแล้วเชียว นานะต้องตัวร้าย ได้กลิ่นตัวขี้อิจฉามาแต่ไกล เดี้ยวก็มาแนวเข้าข้างตัวเองว่าโนเอลชอบอีกล่ะสิ เชียร์ให้ดีทริชรู้แผนการโนเอลแล้วแกล้งกลับเลย o18 จู่ๆก็ทำอะไรไม่คิดให้รอบคอบ มันน่าจะมีวิธีอื่นป่ะะะ  :m31:
มาเรี่ยนกับเอฟเว่นเค้ากุ้งกิ้งกับมาก  :katai2-1: :impress2: ฉันชอบคู่นี้ ชงมาเยอะๆ ฮี่ๆ
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 20-02-2018 16:53:22 โดย shiroinu »

ออฟไลน์ owlseason

  • เป็ดมัธยม
  • *
  • กระทู้: 123
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +7/-0
ท่านมาเรียนนนนนนนน
ทำดีมากๆ ปรบมือ
 :-[


ออฟไลน์ Kei

  • เป็ดมหาวิทยาลัย
  • *
  • กระทู้: 478
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +14/-1
สองอารมระหว่างกิ๊ก๊าวกับสลด :katai1:

ออฟไลน์ loveview

  • เป็ดDemeter
  • *
  • กระทู้: 1912
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +87/-10
คือหลอกให้กลัวว่างั้น

ออฟไลน์ shoi_toei

  • เป็ดAphrodite
  • *
  • กระทู้: 4359
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +222/-26
เฮ้อออ สงสารดีทริส

ออฟไลน์ wanirahot

  • เป็ดมหาวิทยาลัย
  • *
  • กระทู้: 467
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +4/-1
คู่มาเรียนเอฟเว่น ดูดีแล้ว แล้วคู่พระเอกนางเอกนี่สิ

ออฟไลน์ แมวดำ

  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 784
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +20/-2
โอ๊ยยยดีทริส รีบมาต่อนะ

ออฟไลน์ PrimYJ

  • เป็ดEros
  • *
  • กระทู้: 3473
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +19/-3
มาเรี่ยนกับเอฟเว่นจะได้หมั้นกันแล้ว แต่ดีทริชกับโนเอลยังอึมครึมกันอยู่เลย

 

สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด


สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด