โทษทีครับ คนนี้ผมจองตั้งแต่ห้องคลอด ตอนที่ 35 [END] 20.10.2018
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด

สนใจโฆษณาติดต่อ laopedcenter[at]hotmail.com คลิ๊กรายละเอียดที่ตำแหน่งว่างเลยครับ

สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด

ผู้เขียน หัวข้อ: โทษทีครับ คนนี้ผมจองตั้งแต่ห้องคลอด ตอนที่ 35 [END] 20.10.2018  (อ่าน 28605 ครั้ง)

ออฟไลน์ aemmilicious

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 39
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +10/-2
ข้อตกลงในการเข้ามาในเล้าเป็ดนะครับ กรุณาอ่านทุกคนนะครับ
เล้าแห่งนี้เป็นที่ที่คนชื่นชอบนิยาย boy's love หรือชายรักชาย หากใครหลงมาแล้วไม่ชอบ
กรุณากดกากบาทสีแดงมุมด้านขวาบนออกไปด้วยนะครับ


ติดตามกฏเพิ่มเติมที่กระทู้นี้บ่อยๆ เมื่อมีการแก้ไขกฏจะแก้ไขที่กระทู้นี้นะครับ
http://www.thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=459.0

ประกาศทั่วไปติดตามอัพเดทกันที่นี่
http://www.thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=2160.0

ประกาศ กฎที่อื่นมีไว้แหก แต่ห้ามมาแหกที่นี่

1.ห้ามมิให้ละเมิดสิทธิส่วนตัวของคนแต่งและบุคคลในเรื่องทั้งหมด
การสนใจและชื่นชอบนิยายและเรื่องเล่าของคนในเรื่องควรมีขอบเขตที่จะไม่สร้างความเดือดร้อนให้เจ้าของเรื่อง เช่นเดียวกับเป็ดที่ตอนนี้ถูกรังควานตามหาตัวจากคนด้านต่างๆ จนตัดสินใจไม่เล่าเรื่องต่อ.........เนื่องจากบางเรื่องเป็นเรื่องเล่า.....................บางคนไม่ได้เปิดเผยตัวตน  เขาพอใจจะมีความสุขในที่เล็กๆแห่งนี้โดยไม่ได้ตั้งใจให้คนภายนอกได้รับรู้เรื่องราวแล้วนำไปพูดต่อ   เพราะปฎิเสธไม่ได้ว่าสังคมไม่ได้ยอมรับพวกเราสักเท่าไหร่

2.ห้ามมิให้โพสต์ข้อความ รูปภาพ ใช้ลายเซ็นหรือรุปส่วนตัวหรือสื่อใดๆที่ก่อให้เกิดความขัดแย้ง ไม่แสดงความเคารพ, หมิ่นประมาท,
หยาบคาย, เป็นที่รังเกียจ, ไม่เหมาะสม,ติดเรท x,ทำให้กระทู้กลายพันธ์,ไม่เกี่ยวพันกับนิยายที่ลง
หรืออื่นๆที่ขัดต่อกฎหมาย,ห้ามโพสกระทู้ที่จะสร้างประเด็นความขัดแย้ง  ในเรื่อง การเมือง ศาสนา พระมหากษัตริย์
และสถาบันต่าง ๆ  รวมถึงกระทู้ที่จะสร้างความแตกแยก  ชวนวิวาท ของสมาชิกภายในเวปบอร์ด
การกระทำเช่นนั้นอาจทำให้คุณแบนทันที และถาวร . หมายเลข IP ของทุกโพสต์จะถูกบันทึกเพื่อใช้เป็นหลักฐาน
ในความเป็นจริงเป็นไปได้ยากมากที่จะให้แต่ละคนมีความคิดเห็นตรงกันทั้งหมด   คนเรามากมายต่างความคิดต่างความเห็น เติบโตมาภายใต้ภาวะแวดล้อมต่างกันการแสดงความคิดเห็นที่แตกต่าง   จึงควรทำเพื่อให้เกิดความเข้าใจกัน แบ่งปันประสบการณ์และมิตรภาพเพื่ออาจเป็นประโยชน์ในการใช้ชีวิต  และไม่ว่าจะอย่างไรก็ควรเคารพในความคิดเห็นที่แตกต่างของบุคคลอื่นช่วยกันสร้างให้บอร์ดนี้มีแต่ความรักนะครับ   

เรื่องบางเรื่องอาจจะเป็นทั้งเรื่องแต่งหรือเรื่องเล่าใดๆก็ขอให้ระลึกเสมอว่า  อ่านเพื่อความบันเทิงและเก็บประสบการณ์ชีวิตที่คุณไม่ต้องไปเจอความเจ็บปวดเล่านั้นเองเพื่อเป็นข้อเตือนใจ สอนใจในการตัดสินใจใช้ชีวิต   จึงไม่ต้องพยายามสืบหาว่าเรื่องจริงหรือเรื่องแต่งส่วนการพูดคุยนั้น   ก็ประมาณอย่าทำให้กระทุ้กลายพันธุ์ห้ามเอาเรื่องส่วนตัวมาปรึกษาพูดคุยกันโดยที่ไม่เกี่ยวพันกับเรื่องในกระทู้นิยาย  ถ้าจะวิจารณ์หรือแสดงความคิดเห็นทุกคนมีสิทธิแต่ขอให้ไปตั้งกระทู้ที่บอร์ดอื่นที่ไม่ใช่ที่นี่นะครับ

3.การนำเรื่อง ข้อความ รูปภาพมาโพส หรือนำข้อความใดๆไปโพสที่อื่นๆ กรุณาพยายามติดต่อเจ้าของเรื่องเท่าที่จะทำได้หรือแจ้งมายังบอร์ดนี้ก่อนนะครับ  เนื่องจากเจ้าของเรื่องบางครั้งไม่ต้องการให้คนที่ไม่ได้ชื่นชอบนิยายชายรักชายเข้ามารับรู้  ลิขสิทธิ์ทั้งหมดเป็นของเจ้าของคนที่ทำขึ้นและเวปแห่งนี้นะครับ

4.ห้ามแจกเบอร์ แลกเมล บอกเมล แลก msn บนบอร์ด โดยเฉพาะการบอกเบอร์ หรือเมลของคนอื่นโดยที่เจ้าของไม่ยินยอมให้ส่งหรือติดต่อกันทางพีเอ็มจะปลอดภัยกว่าแล้วเมื่อมีการติดต่อสื่อสารกันให้พึงระวังถึงความปลอดภัย ความไม่น่าไว้ใจของผุ้คนทุกคนแม้จะมีชื่อเสียงในบอร์ดเป็นเรื่องส่วนตัวของแต่ละคนไป เพื่อลดความขัดแย้งภายในเล้า จึงไม่สนับสนุนให้มีการจีบกันในบอร์ดนะครับ

5.ห้ามจั่วหัวกระทู้ว่าเป็น “เรื่องเล่า” นักเขียนทุกคนอย่าโกหกคนอ่านว่าเป็นเรื่องจริงในกรณีแต่งเติมเพิ่มแม้แต่นิดเดียวให้ชี้แจงว่าเป็นเรื่องแต่งแม้จะแต่งเพิ่มขึ้นแค่ไม่ถึง 10 % ก็ตาม
เพราะแม้จะเป็นเรื่องที่เขียนจากเรื่องจริง เมื่อนำมาพิมพ์เป็นเรื่องผ่านตัวอักษร ย่อมเลี่ยงไม่ได้ที่จะมีการเพิ่มเติมเพื่อให้เกิดสีสันในเนื้อเรื่อง ทางเล้าถือว่านั่นคือการเพิ่มเติมเนื้อเรื่อง จึงไม่อนุญาตให้จั่วหัวกระทู้ว่าเป็น “เรื่องเล่า” แต่สามารถแจ้งว่าเป็น “นิยายที่อ้างอิงมาจากชีวิตจริง” ได้  มีคนมากกมายทะเลาะเสียความรู้สึกเพราะเรื่องนี้มามากแล้ว

6.การพูดคุยโต้ตอบระหว่างคนเขียนและคนอ่านนอกเรื่องนิยาย  ทำได้  แต่อย่าให้มากนัก เช่น คนเขียนโพสนิยายหนึ่งตอน ก็ควรตอบเพียงคอมเม้นต์เดียวก็พอแล้ว  โดยสามารถใช้ปุ่ม Insearch qoute  ได้    ถ้าจะพูดคุยกันมากขึ้นแนะนำให้ไปตั้งกระทู้ใหม่ที่ห้องพูดคุยทั่วไป และลงลิงค์จากนิยายไปยังกระทู้พูดคุยกับแฟนคลับนิยายในรีพลายแรกด้วยนะครับ เพราะการที่คนเขียนและแฟนคลับพูดคุยกันมากทำให้หานิยายที่จะอ่านยาก ไม่เจอ ลำบากกับคนที่ไม่ได้เข้ามาตามอ่านทุกวัน

7. การกดบวกให้เป็ดเหลือง
      7.1 นิยาย 1 ตอน  จะให้ขึ้น Top list แค่ 1 Reply เท่านั้น ถ้าขึ้นเกิน จะลบคะแนนออก เหลือเฉพาะ Reply ที่มีคะแนนสูงสุด
      7.2 นิยาย 1 เรื่อง จะให้ขึ้น Top list ไม่เกิน 3 Reply ถ้าเกิน จะลบคะแนนออก ให้เหลือ เฉพาะ Reply ที่มีคะแนนสูงสุด ลงมาตามลำดับ
      7.3 Post ในห้องอื่น ๆ ก็จะใช้ หลักการเดียวกันนี้ เช่นกัน ยกเว้น
            - 1 Reply ที่เกินมานั้น โมทั้งหลาย พิจารณาดูแล้วว่า ไม่เป็นการปั่นโหวต และเป็น Reply ที่น่าสนใจและเป็นที่ชื่นชอบจริง ๆ

8.Administrator และ moderator ของ forum นี้ มีสิทธิ์อ่าน, ลบ หรือแก้ไขทุกข้อความ. และ administrator, moderator หรือ webmaster ไม่สามารถรับผิดชอบต่อข้อความที่คุณได้แสดงความคิดเห็น (ยกเว้นว่าพวกเขาจะเป็นผู้โพสต์เอง).

9.คุณยินยอมให้ข้อมูลทุกอย่างของคุณถูกเก็บไว้ในฐานข้อมูล. ซึ่งข้อมูลเหล่านี้จะไม่ถูกเปิดเผยต่อผู้อื่นโดยไม่ได้รับการยินยอมจากคุณ .Webmaster, administrator และ moderator ไม่สามารถรับผิดชอบต่อการถูกเจาะข้อมูล แล้วนำไปสร้างความเดือดร้อนต่างๆ

10.ห้ามลงประกาศลิงค์โปรโมทเวป  โฆษณา หรือโปรโมทในเชิงธุรกิจใดๆ ทุกชนิด ลงได้เฉพาะในห้องซื้อขาย ในเมื่อแนะนำเวปอื่นที่บอร์ดเรา ก็ช่วยแนะนำบอร์ดเราโดยลงลิงค์บอร์ดเรา เวป http://www.thaiboyslove.com  ในบอร์ดที่ท่านแนะนำมาให้เราด้วย  เมื่อจำเป็นต้องแนะนำลิงค์ให้ส่งลิงค์กันทาง personal message หรือพีเอ็มแทนนะครับจะสะดวกกว่า ส่วนในกรณีอยากแนะนำสิ่งดีๆให้เพื่อนๆได้อ่านจริงๆนั้นพยายามลงให้ห้องซื้อขายซะ หรือถ้าม๊อดเดอเรเตอร์จะพิจารณาเป็นกรณีๆไป ถ้ารู้สึกว่าไม่ได้โปรโมทเวป แต่อยากแนะนำสิ่งดีๆให้เพื่อนด้วยใจจริงจะให้กระทู้นั้นคงอยู่ต่อไป

11.บอร์ดนิยายที่โพสจนจบแล้วมีไว้สำหรับนิยายที่โพสในบอร์ด boy's love จนจบแล้วเท่านั้น จึงจะถูกย้ายมาเก็บไว้ที่นี่ หาอ่านนิยายที่จบแล้ว หรือคนเขียนไม่ได้เขียนต่อ แต่โดยนัยแล้วถือว่าพล็อตเรื่องโดยรวมสมควรแก่การจบแล้ว หากนักเขียนท่านใดได้พิมพ์เล่มกับสำนักพิมพ์ ต้องการลบเรือ่งบางส่วนออก โดยเฉพาะไคลแม๊ก หรือตอนจบที่สำคัญ ให้แจ้ง moderator ย้ายนิยายของท่านสู่ห้องนิยายไม่จบ เพื่อที่หากระยะเวลาเกินหกเดือนแล้ว เราจะได้ทำการลบทิ้ง หรือท่านจะลบนิยายดังกล่าวทิ้งเสียก็ได้ เนื่องจากบอร์ดนี้เก็บเฉพาะนิยายที่จบแล้ว

บอร์ดนิยายที่ยังไม่มาต่อจนจบไว้สำหรับ
นิยายที่คนเขียนไม่ได้มาต่อนาน หายไปโดยไม่มีเหตุผลสมควร ไม่ได้แจ้งไว้หรือแจ้งแล้วก็ไม่มาต่อ 3 เดือน จะย้ายมาเก็บในนี้เมื่อครบหกเดือนจะทำการลบทิ้ง ส่วนเรื่องไหนที่จะต่อก็ต่อในนี้จนกว่าจะจบ แล้วถึงจะทำการย้ายไปสู่บอร์ดนิยายจบแล้วต่อไป

12.ห้ามนำเรื่องพิพาทต่างๆมาเคลียร์กันในบอร์ด

13.ผู้โพสนิยาย และเขียนนิยายกรุณาโพสให้จบ ตรวจสอบคำผิดก่อนนำมาลงด้วยครับ

14.ส่วนคนอ่านทุกท่าน เวลาอ่านนิยาย เรื่องที่คนเขียนเขียน  ก็ไม่ต้องไปอินมากนะครับ ให้เก็บเอาสิ่งดีๆ ประสบการณ์ ข้อคิดดีๆไปนะครับ

15. การนำรูปภาพ บทความ ฯลฯ มาลงในเวปบอร์ด  ควรจะให้เครดิตกับ...
(1) ผู้ที่เป็นต้นตอเจ้าของบทความหรือรูปภาพนั้นๆ
(2) เวปไซต์ต้นตอที่อ้างอิงถึง
....ในกรณีที่เป็นบทความที่ถูกอ้างอิงต่อมาจากเวปไซต์อื่นๆ
- ถ้ามีแหล่งต้นตอของเจ้าของบทความ  ให้โพสชื่อเจ้าของต้นตอของบทความหรือรูปภาพนั้นๆ  พร้อมทั้งเวปไซต์ที่อ้างอิง
  (กรณีนี้จะโพสอ้างอิงชื่อผู้โพสหรือเวปไซต์ที่เรานำมาหรือไม่ก็ได้ แต่ควรมั่นใจว่าชื่อต้นตอของที่มาถูกต้อง)
- ถ้าไม่สามารถหาชื่อต้นตอของรูปภาพหรือเวปไซต์ที่นำมาได้ ควรอ้างอิงชื่อผู้โพสและเวปไซต์จากแหล่งที่เรานำมาเสมอ
- ควรขออนุญาติเจ้าของภาพหรือเจ้าของบทความก่อนนำมาโพสค่ะ(ถ้าเป็นไปได้) ยกเว้นพวกเวปไซต์สาธารณะ เช่น  หนังสือพิมพ์ออนไลน์ ฯลฯ ที่เปิดให้คนทั่วไปได้อ่านเป็นสาธารณะ ก็นำมาโพสได้ แต่ให้อ้างอิงเจ้าของชื่อและแหล่งที่มาค่ะ
- ไม่ควรดัดแปลงหรือแก้ไขเครดิตที่ติดมากับรูปหรือบทความก่อนนำมาโพส
- ถ้าเป็น FW mail  ก็บอกไปเลยว่าเอามาจาก FW mail

16.นิยายเรื่องไหนที่คิดว่าเมื่อมีการรวมเล่มขายแล้วจะลบเนื้อเรื่องไม่ว่าบางส่วนหรือทั้งหมดออก กรุณาอย่าเอามาลงที่นี่ หรือสำหรับผู้ที่ขอนิยายจากนักเขียนอื่นมาลง ต้องมั่นใจว่าเรื่องนั้นจะไม่มีการลบเนื้อเรื่องไม่ว่าบางส่วนหรือทั้งหมดออกเมื่อมีการรวมเล่มขาย อนึ่ง เล้าไม่ได้ห้ามให้มีการรวมเล่มแต่อย่างใด สามารถรวมเล่มขายกันได้ แต่อยากให้เคารพกฎของเล้าด้วย เล้าเปิดโอกาสให้ทุกคน จะทำมาหากิน หรืออะไรก็ตามแต่ขอความร่วมมือด้วย เผื่อที่ทุกคนจะได้อยู่อย่างมีความสุข

17.ห้ามแจ้งที่หัวกระทู้เกี่ยวกับการจองหรือจัดพิมพ์หนังสือ แต่อนุโลมให้ขึ้นหัวกระทู้ว่า “แจ้งข่าวหน้า...” และลงลิงค์ที่ได้ตั้งเอาไว้ในแล้วในห้องซื้อขายลงในกระทู้นิยายแทน  ถ้านักเขียนต้องการประชาสัมพันธ์เกี่ยวกับการจอง หรือจัดพิมพ์หนังสือของตนเองผ่านกระทู้นิยายของตนเอง  นิยายเรื่องดังกล่าวจะต้องลงเนื้อหาจนจบก่อน (ไม่รวมตอนพิเศษ) จึงจะทำการประชาสัมพันธ์ในกระทู้นิยายได้ (ศึกษากฏการซื้อขายของเล้่าก่อน ด้วยนะคะ)
ว่าด้วยเรื่องการจะรวมเล่มนิยายขายในเล้า จะต้องมี ID ซื้อขายก่อน ถึงจะสามารถประกาศ ..แจ้งข่าว.. ที่บนหัวกระทู้ของนิยายได้ ในกรณีที่ รวมเล่มกับ สนพ. ที่มี  ID ซื้อขายของเล้าแล้ว นักเขียนก็สามารถใช้ หมายเลข  ID ของ สนพ. ลงแจ้งในหน้าที่มีเนื้อหารายละเอียดการสั่งจองนิยายได้

18.ใครจะโพสเรื่องสั้นให้มาโพสที่บอร์ดเรื่องสั้น ถ้าเรื่องไหนไม่จบนานเกิน 3 เดือน จะทำการลบทิ้งทันที  ส่วนเรื่องสั้นที่จบแล้วให้แก้ไขโพสแรก และต่อท้ายว่าจบแล้วจะได้ไม่ถูกลบทิ้งและจะเก็บไว้ที่บอร์ดเรื่องสั้นไม่ย้ายไปไหน   เช่นเดียวกับนิยายทุกเรื่องเมื่อจบให้แก้ไขโพสแรก และต่อท้ายว่าจบแล้ว จะได้ย้ายเข้าสู่บอร์ดนิยายจบแล้ว ไม่เช่นนั้นม๊อดอาจเข้าใจว่าไม่มาต่อนิยายนานเกินจะโดนลบทิ้งครับ

เอาข้อสำคัญก่อนนะครับเด่วอื่นๆจะทำมาเพิ่มครับเอิ้กๆหุหุ
admin
thaiboyslove.com.......................................                                                           

วันที่ 3 ธ.ค. 2551วันที่ 16 ก.ย. 2554 ได้เพิ่มกฏ ข้อที่ 7
วันที่ 21 ต.ค.2556 ได้ปรับปรุงกฏทั้งหมดเพื่อให้แก้ไข และติดตามได้ง่าย
วันที่ 11 พ.ย. 2557 เพิ่มเติมการลงเรื่องสั้นและการแจ้งว่านิยายจบแล้ว
วันที่ 4 ธ.ค. 2557 เพิ่มบอร์ดเรื่องสั้นจึงปรับปรุงกฏข้อ 18 เกี่ยวกับเรื่องสั้น และ เพิ่มเติมส่วนขยายของกฏข้อ 17



เวปไซต์แห่งนี้เป็นเวปไซต์ส่วนบุคคลที่ได้รับความคุ้มครองจากกฏหมายภายในและระหว่างประเทศ การเข้าถึงข้อมูลใดๆบนเวปไซต์แห่งนี้โดยไม่ได้รับความยินยอมจากผู้ให้บริการ ถือว่าเป็นความผิดร้ายแรง

ข้อความใดๆก็ตามบนเวปไซต์แห่งนี้ เกิดจาการเขียนโดยสมาชิก และตีพิมพ์แบบอัตโนมัติ ผู้ดูแลเวปไซต์แห่งนี้ไม่จำเป็นต้องเห็นด้วย และไม่รับผิดชอบต่อข้อความใดๆ  โปรดใช้วิจารณญาณของท่านที่เข้าชม และ/หรือ ท่านผู้ปกครองในการให้ลูกหลานเข้าชม
Share This Topic To FaceBook
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 20-10-2018 04:02:43 โดย aemmilicious »

ออฟไลน์ aemmilicious

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 39
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +10/-2
ตอนที่ 1 : บทนำ

"ทำไมขี้แยจังวะ แค่กูขู่ก็ตัวสั่นล่ะ" เสียงจากนักเลงขาใหญ่ประจำโรงเรียนอนุบาล

โธ่! ชีวิตนี่มันวันอะไรของกูกันนี่ ผมนั่งคิดอยู่ในใจ

แต่ก่อนอื่นใดผมคงต้องแนะนำตัวเองก่อน ผมชื่อ "หนึ่งนที" เรียกผมว่า "หนึ่ง" ก็ได้ครับ นักเรียนใหม่ประจำอนุบาลห้องตองคิง ห้องคิงที่ว่าแน่แล้ว เจอห้องตองคิงอย่างพวกผมไปคงจะเงียบเป็นหมาเหงา ผมกับเพื่อนในห้องเข้ากันได้ดีครับ เพราะเป็นเด็กเรียนเหมือนกัน เรียนเสร็จก็ไปติวด้วยกันตลอด อย่าดูหมิ่นเด็กอนุบาลอย่างพวกผวกผมน่ะครับ บางคนนี่สอบเทียบจนจะเข้ามหาลัยอยู่ล่ะ เรื่องมันเกิดตอนผมออกมาเข้าห้องน้ำแวบเดียวนี่แหละครับ ว่าแต่เด็กอนุบาลเค้ามีนักเลงกันแล้วรึครับ ผมงงมาก ผมขยับแว่นถามพวกนักเลงแก็งค์หมีป่า ชื่อกลุ่มพวกมึงน่ากลัวสัด กูกลัว

"มึงดูตรงไหนว่ากูตัวสั่น สมองมีแค่นี้รึไงมึง สรุปมาไถเงินใช่ไหม กูไม่ได้เอากระเป๋าตังก์มา ขอกูไปขี้แวบเดี๋ยวกูออกมา" ผมพูดจบพร้อมแหวกวงแก็งหมีป่าจะเดินออกไป

"พวกมึงนี่มันนิสัยไม่ดี พวกมึงต้องเจอคนอย่างกู" ผมหันหลังไปตามเสียงที่ได้ยิน เห็นไอ้บ้าที่ไหนก็ไม่รู้มายืนกอดอกเหยียบโต๊ะ ท่ามึงอย่างกับ Superman จะออกบิน บนหน้ามันมีพาสเตอร์ลาย Superman ติดอยู่ ผมมองมันพร้อมคิดในใจ มึงคนเดียวจะไปสู้มันห้าคนได้ยังไง ไอ้นี่แม่งบ้า ผมนึกในใจแล้วเดินไปเข้าห้องน้ำ ปล่อยให้พวกมันตีกันให้เสร็จแล้วค่อยมาเก็บศพ ว่าแต่ไอ้ Superman นั่นมันเป็นใครว่ะ เฮ้อ เดี๋ยวกูค่อยคิดละกันตอนนี้กูจะไม่ไหวล่ะ ห้องน้ำ ห้องน้ำอยู่ไหนพี่มาแล้ว

10 นาทีผ่านไป

โล่งล่ะกู ผมยืนล้างมือ พลางคิดเรื่องสอบอีกสามเดือนข้างหน้าว่ามันใกล้ตัวจนกลัวอ่านไม่ทัน จนลืมว่าผมต้องออกไปเก็บศพไอ้ Superman นั่นนี่หว่า

ผมเดินไปก็ยังเห็นมันยืนเก็กอยู่ท่าเดิม หน้ามันมีรอยช้ำเลือดออกนิดหน่อย เยด แก็งค์หมีป่ากูนี่แทบหมดสภาพนั่งร้องไห้ไม่ต่างกับเด็ก เออมันกับผมก็เด็กอนุบาลนี่หว่า ผมบ่นพลางนึกในใจ พอมันเห็นผมมันก็กระโดดลงมาหาผม ผมมองหน้ามันงงๆ ก่อนมันจะพูดออกมา

"มึงเป็นหนี้กูน่ะ" Superman กระหยิ่งยิ้มชื่นชมในความสามารถของตัวเอง

"หนี้อะไรของมึง" ผมถามมันด้วยความสงสัย

"อ้าวไอ้นี่ กูอุตสาห์ช่วยมึงน่ะ มันตั้งห้าคนตัวอย่างกับควาย มึงจะสู้มันได้ยังไง" มันพูดพร้อมกอดอกยกหน้าชื่นชมตัวเอง

"จริงๆ กูให้เงินไปนิดๆ หน่อยมันก็จบน่ะ ไม่ต้องเจ็บตัวแบบมึงด้วย"

"เออ จริงด้วยทำไมกูคิดไม่ได้" มันทำหน้าครุ่นคิดและตกใจเมื่อคิดได้

"........"

"เออ ไม่รู้แหละ มึงติดหนี้กูล่ะ เดี๋ยวกูไปคิดก่อนว่าจะให้มึงตอบแทนบุญคุณกูยังไง กูต้องไปก่อน กูมีนัดต่อยกับโรงเรียนข้างๆ แม่งแย่งขนมน้องกู กูชื่อ "สัตยา" น่ะ เรียกกู 'แทน' ก็ได้ เรียก'สัต' กูต่อย ไม่ต้องรั้งกูน่ะ กูรีบ บาย" มันพูดพร้อมโบกมือไหวๆ ใส่ตีนหมาวิ่งออกไป

โธ่ ไอ้สัต เอ๊ย สัตยา การเตรียมสอบของกูคงจะไม่ยุ่งเท่ามึง แม่งมีนัดตีโรงเรียนข้างๆ มึงเป็นเด็กอนุบาลที่พีกมากสัตยา กูนับถือมึงเลย........


...


บทนำมาแล้ว จะมีคนตามอ่านไหมนี่ ลุ้น ลุ้น               

Aemmilicious

ออฟไลน์ aemmilicious

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 39
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +10/-2
ตอนที่ 2 : จูบแรก

"หนึ่งงงงงง แต่งตัวเสร็จยังลูก มาทานเข้าเร็วววววววว"               

เสียงเรียกสุดรื่นเริงเช้านี้ของแม่ผม

ก่อนอื่นผมขอแนะนำครอบครัวผมก่อนครับ ผมอยู่กับแม่สองคนครับ เนื่องจากพ่อไปทำงานต่างประเทศสองสามเดือนถึงกลับมาที แต่อย่าคิดว่าผมเหงาหรือขาดความอบอุ่นนะครับ เพราะแม่ผมเลี้ยงดูผมอย่างเต็มที่ ผมค่อนข้างสนิทกับแม่ครับ แม่เลี้ยงดูเหมือนเพื่อนคุยกันได้ทุกอย่าง แม่เป็นคนรักสวยรักงาม หุ่นแม่ผมนี่เด็กสาววัยรุ่นยังอาย แม่รักหุ่นยิ่งกว่าอะไร น้ำหนักขึ้นมาขีดนึงแม่กรี๊ดแทบบ้านแตก พร้อมเข้าฟิตเนตอย่างบ้าคลั่ง การแต่งตัวนี่อย่าให้ผมพูดถึง พูดตรงๆ น่ะครับ ดาราบางคนยังต้องแต่งตามแม่ผมเลย แม่มีความสุขทุกครั้งที่มีคนชมว่าสวยครับ อยากได้อะไรชมแม่ผมสองสามทีแม่ผมก็ทุ่มไม่อั้นล่ะ

แต่ที่พีคที่สุดของแม่ผม คือแม่ผมเป็นสาววายครับ ตอนเด็กผมก็ไม่เข้าใจพึ่งมาเข้าใจตอนโตนี่แหละครับ แม่บอกว่าผู้ชายเกิดมาเพื่อคู่กัน ผู้หญิงเกิดมาเพื่อตามกรี๊ดผู้ชายที่คู่กันอีกที เฮ้ออออออ ผมเคยถามแม่นะครับ แม่ทำไมแต่งงานกับพ่อ แม่ตอบผมอย่างไม่ลังเล แม่อยากปกป้องพ่อ พ่อเป็นผู้ชายที่อ่อนแอที่ต้องการผู้ชายปกป้อง เมื่อพ่อไม่มีผู้ชายที่ปกป้องแม่ก็เลยต้องเปลี่ยนตัวเป็นสาววายที่แข็งแกร่งมาปกป้องพ่ออีกที วันนี้แม่ผมแต่งตัวจัดเต็มกว่าทุกวัน อาจเพราะวันนี้แม่ผมจะไปส่งผมที่โรงเรียนเองครับ

ระหว่างทางแม่ก็นั่งบ่นเรื่องซีรี่ย์วายเรื่องล่าสุดที่ดูให้ฟังตลอดทาง แต่ไม่น่าเบื่อนะ แม่ผมเป็นคนตลกคุยสนุกสักพักก็ถึงโรงเรียนล่ะครับ เวลาผ่านไปเร็วจริงๆ

"แม่หนึ่งไปล่ะครับ หวัดดีครับ" ผมยกมือไหว้ พร้อมจะเปิดประตูรถพร้อมจะวิ่งเข้าโรงเรียน

"เดี๋ยว!" 

"........" ผมหันกลับมาทำหน้าสงสัย

"ทำไมลูกเป็นคนแบบนี้ ลูกไม่รักแม่หรือทำไมเป็นคนแบบนี้" แม่ผมยกมือขึ้นปาดน้ำตาพูดเสียงสั่นเคลือ ผมทำหน้างงพร้อมนึกในใจว่ากูทำอะไรผิดว่ะแม่กูดราม่าเชียว           

"ลูกดูชุดการแต่งตัวของแม่วันนี้ ลูกคิดว่าแม่มาส่งลูกแค่ในรถรึ คนอื่นจะเสียใจแค่ไหนที่ไม่เห็นแฟชั่นของแม่ในวันนี้ แม่รู้ว่าแม่สวย แต่ลูกจะมาหวงแม่ไว้ดูคนเดียวไม่ได้ ป่ะ! แม่จะไปส่งที่ห้อง" 

นี่คือปกติของแม่ผมครับ ขอทุกคนเข้าใจด้วย

ทุกๆที่คือรันเวย์ เต็มที่ครับแม่ แม่ผมเดินอย่างมั่นใจทุกสายตาต่างจ้องมอง ผมชินล่ะครับ ผมเดินไปจนจะถึงห้องล่ะ แต่มีคนมายืนขวางข้างหน้าแม่ผมจน แม่ผมดึงมือผมที่เดินเหม่อถาม

"หนึ่ง เพื่อนลูกรึเปล่าลูก" ยังไม่ทันจะตอบมันก็ตอบแล้วครับ                           

"ใช่ฮะ ผมแทนฮะ หวัดดีฮะคุณแม่"

"ชื่อแทนรึลูก น่ารักจังไปค้างบ้านแม่ไหมลูก" เดี๋ยวนะครับแม่ แม่สนิมกับมันแล้วรึครับ

"แม่สวยจังเลยฮะ" อะ มึงมาถูกจุดล่ะ ไอ้สัตแทน

"ผมมองแวบแรกนึกว่านางฟ้านะฮะ" อืม คงสนิทกันล่ะกูว่า

"แม่มาส่งหนึ่งทุกวันรึเปล่าฮะ" เอ๊ะ! รึมึงจะเต๊าะแม่กู

"บางวันจ๊ะ ทำไมรึจ๊ะ" แม่ก้มลงนั่งพร้อมจับแก้มมันอย่างเอ็นดู มึงดูเชื่องไปล่ะไอ้แทน

"ถ้าผมคิดถึงคุณแม่จะทำยังไงล่ะฮะ" สรุปมึงเต๊าะแม่กูสินะ

"งั้นแม่ให้เบอร์โทร ไลน์ เฟส ไอจี แม่ไปดีไหม เอาที่อยู่ด้วยไหมลูก" ครบทุกช่องทางการติดต่อดีครับแม่

"จะดีรึครับ เดี๋ยวผมให้พี่ศักดิ์ เมมให้น่ะฮะ" มันหันไปพยักหน้าให้ผู้ชายที่ยืนอยู่ห่างข้างหลัง น่าจะเป็นคนขับรถน่ะ

"แม่งั้นผมไปเรียนก่อนน่ะครับ" ผมโบกมือให้แม่ก่อนเดินไปห้องเรียน

"เดี๋ยวรอกูด้วยดิ แม่ฮะผมไปน่ะฮะ แม่คือผู้หญิงที่สวยที่สุดที่ผมเคยเจอมาเลยฮะ"             

 

ผมมองหน้ามันแบบหมั่นไส้ แต่มันกลับยักคิ้วส่งมาให้ทีนึง แม่งน่ามั่นไส้สัด

"มึงจะจีบแม่กูรึ มึงเห็นกูยืนอยู่ข้างๆไหมถ้ามึงเห็นแสดงว่าแม่กูมีแฟนแล้วไม่งั้นจะมีกูออกมารึ"                   

"มึงจะบ้ารึ แม่มึงสวยขนาดนั้นใครจะกล้าจีบ" อ่ะแล้วแต่มึงเลยว่ะแทน

"ว่าแต่มึงจะเดินตามกูทำไมนี่ ไม่ไปเข้าห้องเรียนมึงล่ะ"

"อ้อ กูย้ายแล้ว กูอยู่ห้องเดียวกับมึง นั่งข้างมึงด้วยแหละ"

"ตลกล่ะมึง" ผมนึกขำในใจ ห้องตองคิงของกูไม่ใช่ใครจะเข้าได้ง่ายๆ ขนาดอัฉริยะอย่างกูยังยากเลย แล้วมึงจะเข้าไปได้ไง** **

ในห้องเรียน                ชิบหายล่ะแม่งเรียนห้องเดียวกับกูจริงๆ นั่งข้างกูด้วย ผมนึกบ่นในใจ

"หวัดดีเราชื่อแทน สัตยา นายชื่ออะไรล่ะ ยินดีที่ได้รู้จัก"               

มันพูดแบบขำสบายอารมณ์ 

"ไม่ตลกล่ะสัตแทน(กูตั้งชื่อใหม่ให้มึงล่ะ ชื่อเล่นชื่อจริงครบ) มึงบอกกูได้ไหม ว่ามึงทำยังไงถึงได้ย้ายห้อง"

"อ้อ กูไปบอกป๊าน่ะว่ากูอยากเรียนห้องเดียวกับมึง นั่งข้างมึง กูบอกป๊าว่าถ้าทำได้กูจะไปเรียนทุกวันไม่ไปตีกับใคร ป๊ากูเลยซื้อให้"

"ซื้อให้" ผมขมวดคิ้วเป็นเลขแปด คืออะไรของมึงว่ะแทน

"เออ ป๊าบอกเงินซื้อได้ทุกอย่างยกเว้นความรู้สึกคน กูต้องสร้างเอง แต่กูไม่รู้ว่าความฉลาดซื้อได้ด้วย กูย้ายมาอยู่ห้องตองคิง กูดูฉลาดขึ้นไหมว่ะหนึ่ง"  เจริญล่ะอนาคคบ้านเมืองกู     

"แล้วทำไมต้องมานั่งข้างกูด้วยล่ะ" "อ้าวก็มึงเป็นเพื่อนสนิทกู ทำไมกูต้องแยกจากมึงล่ะ” ตอนไหนมึง ตอนไหนที่มึงกับกูเรียกกันว่าสนิท อ่ะสัตแทนกูแล้วแต่มึงล่ะ กูไม่ยุ่งกับมึงล่ะ

ตั้งแต่วันนั้นโลกของผมแทบจะหมุนกลับหัว ทุกๆที่ที่มีผมก็ต้องมีมันจนเป็นเหงาตามตัว ผมต้องได้ยินคำพูดเดิมๆ จากมันทุกวัน

"หนึ่งไปไหนกูไปด้วย หนึ่งกินข้าวกัน หนึ่งไปฉี่ด้วย หนึ่งกินหนมไหม หนึ่ง หนึ่ง หนึ่ง หนึ่งงงงงง" โอยยยยย! กูจะบ้าและเป็นปกติทุกวันที่มันต้องเต๊าะแม่ผมหลังเลิกเรียน

"แม่ฮะแม่สวยจัง แม่เคยเป็นนางแบบไหมฮะ แม่คล้ายๆ ดาราในทีวีจังฮะ แม่กินอะไรถึงได้สวย ผมกินตามจะหน้าตาดีเหมือนแม่ไหมฮะ" ชมแม่กูแต่ละวันไม่มีซ้ำ นี่ถัาแม่มีลูกสาวคงจะยกให้มึงล่ะ แต่แม่บอกมึงจะขอกูแม่ก็จะยกให้ แม่กูบอกแค่คิดก็ฟินตามอารมณ์สาววายล่ะ

แทนในสายตาผมทีแรกผมคิดว่ามันเป็นพวกนักเลงหัวไม้ไม่มีใครกล้าอยู่ใกล้ แต่เท่าที่สัมผัสมันมามันเป็นคนดีครับ เพื่อนฝูงรักใคร่ รักมันทุกคน มันชอบช่วยเหลือคนอื่นรักเพื่อนฝูง ที่มันมีเรื่องส่วนมากก็ช่วยเหลือคนอื่นทั้งนั้น ผมไม่ได้รังเกียจมันนะ แค่รำคาญมันนิดหน่อยที่คอยเกาะติดผมไม่ห่างเหมือนเงาตามตัว จนคนติดเรียกชื่อ "แทนหนึ่ง" ติดกันคนเรียกทีต้องหันทั้งสองคนเพราะตัวติดกันตลอด แต่มันยังไม่ทวนบุญคุณที่จะให้ใช้หนี้มันนี่สงสัยลืม กูเนียนๆ ไปเลยน่ะแทน ไหนๆ มึงก็ลืมล่ะ

วันนี้เป็นวันสุดท้ายของเทอมครับ ในที่สุดผมก็จบชั้นอนุบาลล่ะ

"แทนวันนี้มึงเงียบๆ ไปน่ะเป็นไรไปว่ะ" ผมนั่งรอแม่มารับหลังเลิกเรียน แทนมันบอกจะมานั่งเป็นเพื่อนเผื่อใช้เวลาทุกนาทีให้มีค่า

"วันนี้มึงเป็นไรว่ะนั่งหน้าเศร้าทั้งวัน มึงมีอะไรปรึกษากูได้น่ะสัตแทน" มันร้องไห้ ร้องแบบสะอึกสะอื้นเลยครับ เหี้ยล่ะมึงอาการหนัก

"หนึ่งกูจะไม่เจอมึงแล้ว กูจะต้องไปเรียนที่ต่างประเทศ ป๊ากูให้ไปกูปฎิเสธไม่ได้กูยังเด็ก กูควรทำไงดี" มันพูดออกมาทั้งน้ำตา ไอ้แทนนี่เด็กชิบหาย ผมนึกในใจ

"บ้า ไอ้แทนดีจะตาย ได้เที่ยวด้วยเรียนด้วย กูยังอยากไปเลย" ผมปลอบใจมัน

"กูรู้ กูก็อยากไป"

"อ้าว! แล้วมึงจะร้องไห้ทำไมว่ะ"

"กู.... กูไม่อยากห่างมึง"

"................"

"มึงยังจำได้ไหม มึงยังติดหนี้บุญคุณกูอยู่ตอนที่กูช่วยมึงน่ะ" อ่ะ มันยังจำได้ กูนึกว่ามึงลืมล่ะ

"ได้สิมึง กูเห็นมึงไม่ทวง กูนึกว่ามึงลืมไปล่ะ ขอมาถือว่ากูให้ของขวัญมึงก่อนจาก อยากได้อะไรล่ะ เงินกูไม่มีนะ นอกนั้นอยากได้ไรว่ามาเลยมึง" เพื่อนจะจากผมก็ใจหาย ต้องตามใจมันหน่อย

"ทุกอย่างจริงๆน่ะ" มันถามย้ำ

"เอออออออออออ"

"งั้นกูขอมึงไว้ก่อนน่ะ ตอนนี้กูยังเด็ก กูสัญญากูจะกลับมารับสิ่งที่กูขอกับมึง"

"เออ ทำไมมันยากเย็นจังวะขอไรวะ" มันเลื่อนมากุมมือผม มึงจะขออะไรเนี่ยแทนมันยากเย็นจนต้องรวมความกล้าขนาดนี้เลยหรือว่ะ รีบขอกูลุ้นจนเยี่ยวจะราดล่ะ

"กูขอให้กูเป็นคนแรกสำหรับมึงทุกๆ อย่างได้ไหม"

"คนแรก อะไรคือคนแรกว่ะมึง"

"กูขอให้กูเป็นคนแรกที่มึงนึกถึง ไม่ว่ามึงทุกข์หรือสุขลำบากแค่ไหนกูจะอยู่เคียงข้างมึง แน่นอนกูอาจต้องห่างมึงไปสักพัก แต่กูสัญญากูจะกลับมาและอยู่ข้างมึงไม่ห่างไปไหน แม้มึงไล่กูก็ไม่ไป"

"อืมได้สิ" ผมรับปากอย่างงงๆ แม้คำขอมันจะแปลกๆ ตกลงกับมันไปก่อนล่ะกัน ไหนๆ มันจะไปล่ะ ว่าแต่แสงแฟลตรัวๆ ที่ไหนใครถ่ายรูปรึ

“แน่นอน กูจะเป็นคนรักคนแรกของมึง คนแรกที่กอดมึง จูบมึง มีอะไรกับมึง มึงเป็นของกูทุกอย่างน่ะ ตอนนี้กูยังเด็กเอาไว้กูโต กูจะมาเอาจากมึงน่ะ”

มันพูดจบพร้อมเอาปากมาประกบปากผมอย่างเขินอาย ไอ้สัตแทนกูช็อก กูงง กูทำอะไรไม่ถูก กูนั่งอึ้งแดกตาไม่กระพริบ มันเขินพร้อมวิ่งไปไม่ลืมหันมาตะโกนบอกก่อนไป

“รอกูน่ะ ไอ้หนึ่งกูจะกลับมา เมื่อกี้กูไม่จูบมึงน่ะ จูบมันต้องใส่ลิ้น กูแค่ทักทายตามแบบฝรั่งน่ะ กลับมากูจะสอนมึงจูบอีกที อย่าลืมกูน่ะ” ไอ้เหี้ยแทนกูช็อกกูค้าง มึงเด็กอนุบาลใช่ไหมมึง อีกอย่างกูมึงเด็กผู้ชายเหมือนกันมึงคิดอะไรอยู่

เวลาผ่านไปเร็วเหมือนโกหก

"หนึ่งงงงงง แต่งตัวเสร็จยังลูก มาทานเข้าเร็วววววววว"

เสียงเรียกสุดรื่นเริงอีกเช้านึงของแม่ผม วันนี้เป็นวันที่ผมภูมิใจอีกวันนึงครับ วันนี้เป็นวันแรกในรั้วมหาวิทยาลัยของผม ในที่สุดผมก็ได้เป็นนักศึกษาแพทย์อย่างที่หวัง แม้จะต้องนั่งเรียนนั่งติวจนแทบแดกชีทแทนข้าว แต่มันก็คุ้ม แต่คนที่ภูมิใจกว่าผมน่าจะเป็นแม่ผม เพราะแม่ผมแทบจะปิดซอยเลี้ยง เพราะแม่ผมยื่นคำขาดว่าผมต้องสอบติดมหาวิทยาลัยนี้เท่านั้น คณะอะไรก็ได้ถือว่าแม่ขอ แม่ผมไม่เคยขออะไรจากผมแค่เรื่องแค่นี้ทำไมจะทำให้ไม่ได้ ดีซะอีกเพราะมหาลัยนี้ใกล้บ้านและผมยังมีไอ้หวานกับไอ้ตือเพื่อนซี้เรียนด้วยกันอีก เรียกว่าไม่เหงากันเลยทีเดียว ผมแต่งตัวพร้อมลงมาอย่างไว วันนี้แม่จะไปส่งผมที่มอ.เอาฤกษ์เอาชัย ครับ

“โห! แม่วันนี้แม่จัดเต็มไปน่ะผมว่า”

แม่ผมอยู่ในชุดราตรียาวสีดำแนบเนื้อ อวดหุ่นสวยที่แม่ผมรักยิ่งชีพ ถามแม่ผมยังเหมือนเดิมไหม เหมือนเดิมทุกอย่างครับ หน้าตึงเป๊ะ วิทยาศาสตร์ช่วยแม่ผมไว้ได้ โบท็อกแน่นมากครับ

“แหมลูก วันนี้วันดีแม่ต้องเต็มที่ มาลูกมาให้แม่ถ่ายรูปหน่อย”

แม่เดินวนรอบตัวผม รัวแสงแฟลตอย่างกับปาปารัซซี่ ผมชินล่ะครับ แม่ทำอย่างนี้ทุกวันจนไม่รู้สึกอะไรล่ะ แรกๆ ก็เขินๆ คิดไปคิดมาก็ความสุขแม่อย่าไปขัดดีกว่า อีกอย่างผมหล่อ แม่ผมจับขัดสีฉะหวีวันซะจนลืมแว่นหนาๆ ของผมไปได้เลย แม้ผมจะไม่ได้หล่อเตะตา แต่ก็ชวนมองครับ พูดไปก็เหมือนอวยตัวเอง แต่ก็จริงนะครับ ผมถึงมอ. อย่างปลอดภัยกว่าจะขึ้นห้องได้ก็เกือบจะถึงเวลาเรียนคาบแรก ผมต้องเสียเวลาพาแม่เดินวนรอบคณะหนึ่งรอบกว่าจะขึ้นมาได้

“ไอ้เชี่ยหนึ่งทางนี้”

ไอ้ตือเพื่อนผมโบกมือไหวๆ อยู่ในห้อง ผมรีบไปนั่งข้างมันทันที ไม่ลืมมองหาไอ้หวานหญิงสาวคนเดียวของกลุ่ม

“หาไอ้หวานรึ มีรุ่นพี่เรียกมันไปน่ะ สงสัยแม่งเนื้อหอมตั้งแต่วันแรก”

เพื่อนสนิทผมมีอยู่สองคนครับ คนแรกคือไอ้ “ตือ” ครับ มันคืออัจฉริยะของผม มันสอบเข้ามาด้วยคะแนนอันดับหนึ่งครับ ไม่รู้มันทำได้ยังไง วันๆ ผมก็เห็นมันนั่งเล่นแต่เกมส์ กับเสือกเรื่องชาวบ้าน แม่งเรียนๆ หลับๆ ยังได้เต็ม เวลาสอบทีไรผมต้องให้มันติวทุกที กูอิฉามันสมองมึงมากไอ้ตือ

“ไอ้หนึ่งกว่าจะมาได้น่ะมึง กูว่าจะชวนแดกข้าวเหี้ยจริงๆ มึงสายแต่วันแรก อดแดกเลยแม่งเอ๊ย แล้วรุ่นพี่นั่นเรียกกูไปขอเบอร์ไม่ดูเบ้าหน้าตัวเองเลย กูสวยขนาดนี้จะคบมันรึ กูเก็บไว้ฉี่ดีกว่าป่ะ”

หญิงสาวหน้าสวยปากโคตรหมาคนนี้คือ “หวาน” ครับ สาวน้อยสวยระดับดาวมหาลัย ที่ไม่ได้ประกวดเพราะมันอ้างว่า พ่อแม่หวงค่อนข้างเคร่ง ร้องไห้กระสิกกระสิกจนรุ่นพี่ใจอ่อนไม่ต้องประกวด มันอ่อนหวานอ่อนโยนกับทุกคนครับ ถ้าอยู่ต่อหน้าคนอื่นแม่ง ใสซื่อ บอบบาง น่าทะนุทะนอม อยู่ต่อหน้าพวกผมแม่งเหี้ยปากหมาเหมือนเลี้ยงหมาเป็นฟาร์มในปาก กูละงงกับบุคลิกมึงจริงๆ หวานเอ๊ย ห่างกันไปนานเมาท์กันมันจนจะเข้าเรียนแล้วครับ ไลน์ผมก็ดังเป็นชื่อแปลกๆ ที่ผมไม่คุ้น

Tan:****เจอกันที่โรงอาหาร เดี๋ยวกูไปหา

“ใครว่ะ!”

ผมนั่งงงอยู่สักพัก อาจารย์เข้าพอดี ผมจึงปรับโหมดเป็นนักศึกษาแพทย์ที่ดี ผมต้องตั้งใจเรียนน่ะครับ คณะนี้ยากกกก สู้โว๊ยยยย

พักเที่ยงพอดี พวกผมไปกินข้าวกันที่โรงอาหารคณะ ด้านหน้าตึก โรงอาหารที่นี่จะแยกเป็นสองที่ครับ ด้านหน้าตึกผมจะเป็นของคณะแพทย์ วิทยากับอักษรครับ ส่วนด้านหลังจะเป็นของวิศวะ บริหารกับนิเทศศาสตร์ แยกตามทำเลที่ตั้งคณะ ขณะที่ผมกำลังเพลินเพลินกับข้าวมันไก่ ไอ้หวานอ้าปากค้างตำปูปลาร้าคาปาก

“เชดดดด หล่อเหี้ยๆ มดลูกกูสั่นเลย” หญิงเดียวในกลุ่มถึงกับร้องคราง ผมหันมองอย่างงงๆ

ภาพที่ผมเห็นคือ เด็กวิศวะใส่ช็อปเดินมากันสามคน ไอ้คนแรกมันก็หน้าตาดีน่ะ หล่ออย่างกับดารา ท่าจะเป็นหัวโจกของกลุ่ม เออ มันก็หล่อน่ะแต่มึงก็กรี๊ดกันเวอร์ไป โต๊ะโน่นกรี๊ดกันเหมือนน้ำร้อนลวก เดินมาทีคนแม่งหันมองกันทั้งโรงอาหาร แม่งปอป ผมไม่สนใจอะไรหันมาแดกข้าวมันไก่ต่อ สักพักสามคนนั้นก็มาหยุดที่โต๊ะผม ผมเงยหน้ามองอ้าปากจะยัดข้าวมันไก่เข้าปาก ยังไม่ทันจะ…..

ไอ้หล่อแม่งก็เอาปากมาจูบกับปากผมแถมยังสอดลิ้นมาควงต่อหน้าคนทั้งโรงอาหารให้ร้องฮือเป็นเสียงเดียวกัน ระหว่างที่ผมอึ้งแดกจนมันจูบจนหนำใจแล้วมันก็มากระซิบข้างหู
         “คิดถึงน่ะ”

........................................................

มาล่ะคะ ตอนแรกนั่งคิดพล็อตเรื่องอยู่สองวัน พยายามเขียนให้เนื้อเรื่องสมูทเข้ากันที่สุด ชอบไหม ติชมหน่อย เขียนนิยายไม่ใช่เรื่องง่ายจริงๆ

Aemmilicious

ออฟไลน์ aemmilicious

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 39
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +10/-2
ตอนที่ 3 : ลองเป็นแฟนคนแรก

ผลั๊ก!

เสียงชกจากมือของผมกระแทรกหน้าไอ้หล่อที่ขโมยจูบแรกผมไป แม่งเอ๊ย ยิ่งพูดยิ่งแค้น เงียบกริบทั้งโรงอาหาร ในใจผมคิดซวยล่ะกู

"กรี๊ดดดดด" เสียงไอ้หวานกรีดร้องอย่างโหยหวน ท่าทางมันจะตกใจน่ะครับ แต่เอ๊ะอย่างไอ้หวานรึจะตกใจ

"อีเหี้ย สลบแล้วมึง กูเอา กูเอา ตือ หนึ่ง มึงลากไปแถวนี้หน่อย มีป่าไหมว่ะ ลากไปหลังตึกก็ได้มึง กูอยากได้" หวานพูดพร้อมลุกขึ้นมาทำท่าจะลากไอ้บ้านี่ไปทำมิดีมิร้าย จนเพื่อนวิศวะมันหันมองหน้ากันเด๋อด่า จนไอ้ตือต้องเตือนสติหวาน

"หวาน หวานมึง คนเยอะ" ไอตือมันพูดแบบไม่มองหน้าหวาน ปากขมุบขมิบให้มันตั้งสติได้

"เหี้ยละกู" หวานอุทานเบาๆ พร้อมเล่นละครฉากใหญ่

"คุณพระ เลือดออก กรี๊ดดดด กรี๊ดดดด หวานกลัวเลือดจะเป็นลม รีบพาพี่เค้าไปห้องพยาบาลดีกว่าค่ะ เดี๋ยวหวานช่วยนำทาง" เพื่อนวิศวะมันช่วยกันพยุงออกไปพร้อมหวานที่นำทางออกไป มันสลบในหมัดเดียว หมัดผมก็หนักใช้ได้นี่หว่า

ผมไม่มีอารมณ์กินข้าวล่ะเลยเดินคอตกออกมาเรียนคาบบ่ายกับไอ้ตือสองคน แม่งวันแรกก็มีเรื่องล่ะ พลางบ่นกับไอ้ตือ

"เหี้ยล่ะกู เสือกไปมีเรื่องกับเด็กวิศวะ เกิดมันแค้นขึ้นมาดักตีกูทำไงว่ะ"

"มึงใจเย็นก่อน กูมีเพื่อนอยู่วิศวะ เดี๋ยวกูโทรถามให้ว่าเป็นใคร ถ้ามันจะหาเรื่องมึงก็เดี๋ยวให้มันช่วยเคลียร์ให้ ใจเย็นมึงกูรู้มึงตกใจเลยชกไป แต่ไอ้นั่นก็ผิด มันก็ผิดทั้งคู่ ดูๆ ไปก่อนมึง ถ้ายังไงเดี๋ยวเย็นนี้กูไปส่งมึงเอง"

"เออ ขอบใจว่ะเพื่อน" การมีเพื่อนแท้มันดีอย่างนี้นี่เองครับ ผมดีใจที่เพื่อนมันไม่ทิ้งยามที่เราคับขัน

ผมนั่งสงบจิตสงบใจในห้องสักพักก่อนเริ่มคาบบ่าย หวานก็ตามเข้ามาด้วยหน้าตาท่าทางอารมณ์เสียสุดๆ จะอ้าปากถามไอ้ตือแม่งก็ตัดหน้าไปล่ะ

"เป็นไรว่ะหวานน่าเครียดเชียว มันจะเอาเรื่องหรือว่ะ"

"เออ พวกนั้นแม่งเขี้ยวว่ะ"

"ยังไงว่ะ" ผมตือประสานเสียงด้วยความอยากรู้

"ก็แม่งกูเห็นมันสลบอยู่ กูก็ไม่ได้คิดอะไร กูก็ไหนๆ ล่ะกูลูบไข่มันก็ยังดีว่ะ กูเลยบอกให้เพื่อนมันไปเรียนก่อนเดี๋ยวกูเฝ้าให้ เพื่อนมันก็ไม่ยอมบอกไม่ไว้ใจ กูสวยบอบบางขนาดนี้กูไม่ปล้ำเพื่อนมันหรอก อย่างมากก็แค่อมป่ะ"

อะหวาน สรุปกูไม่ได้สาระอะไรจากมึง ขอโทษที่กูถามไปล่ะกัน ผมเลยทิ้งเรื่องอื่นนั่งเรียนต่ออย่างตั้งใจต่อไป เฮ้อออออ มันจะทำไรได้ ผมก็ชกมันไปแล้ว แต่ถ้าย้อนกับไปผมก็ทำอย่างนั้นอยู่ดี ปากผู้หญิงก็ยังไม่เคยสัมผัส ดันเสือกมีจูบแรกกับผู้ชายด้วยกัน ช่างเป็นความทรงจำที่ไม่น่าจำกับผู้ชายแบบผมซะเลย

"หนึ่งกูได้เรื่องล่ะ" ไอ้ตือพูดหน้าเครียดหลักเลิกเรียน

"ไอ้คนที่มึงต่อยน่ะเป็นเดือนวิศวะปีนี้ ชื่อ "แทน ศัตยา" อยู่ปีหนึ่ง เสือผู้หญิงตัวยง ฟันหญิงเรียบแทบจะเรียงตามตัวอักษรเลยมึง ไม่เคยคบใครเกินข้ามวัน หน้ามันดีคนเลยรู้จักมันเยอะ สาวๆ พร้อมถวายตัวให้ แต่มันไม่เคยมีเรื่องกับใครน่ะ มีมึงคนแรก แต่มึงไม่ต้องกลัวหรอกพวกแม่งเยอะ มันมาหาเรื่องก็นอนจมกองตีนมันได้เลยมึง ไม่ต้องคิดหนี"

สรุปมึงปลอบใจกูหรือยังไงว่ะตือ กูงง ชีวิตหนึ่งนที คงจะหาความสุขไม่ได้หลังจากนี้ คงต้องอยู่อย่างหวาดระแวงว่าจะโดนกระทืบสักวัน โธ่ ชีวิตนักศึกษาแพทย์ของกู แต่วันนี้กูก็รอดล่ะ ผมนั่งพูดกับตัวเองกระยิ่งยิ้มอยู่ในใจ เพราะวันนี้ไอ้ตือจะมาส่งบ้าน พลางนึกในใจอย่างน้อยวันนี้มึงก็ปลอดภัยล่ะหนึ่งนที แม้จะมีผวาบ้างเวลามีรถมอไซค์มาขนาบข้างบ้างแต่ไม่ได้กลัวน่ะ ครับแค่ขวัญอ่อน

ผมขับรถไม่เป็นครับ ต้องอาศัยคนอื่นขับให้ ว่าจะหัดหลายทีล่ะ แต่แม่ก็บอกเป็นห่วงเพราะผมชอบหลงทางอยู่บ่อยๆ แม่เลยให้นั่งแท็กซี่หรือให้เพื่อนมาส่งจะสะดวกกว่า ผมก็ยังไงก็ได้ครับวันนี้ตือเลยอาสามาส่ง ตือส่งผมถึงปากประตูรั้วบ้านแล้วครับ ผมดีใจอย่างออกนอกหน้า ผมโบกมือลามันหยอยๆ ยิ้มหวานส่งจนมันทัก รอดตีนแล้วอารมณ์ดีเลยน่ะมึง อย่างมันพูดครับ ยอมรับ ผมเดินกระโดดลั้นลาเข้าบ้าน แต่เอ๊ะเหมือนแม่จะมีแขก ผมเห็นรถสปอร์ตสีดำจอดอยู่ในโรงจอดรถด้านข้าง ผมเปิดประตูบ้านพร้อมมองหาแม่ แต่

“เหี้ย!” ผมอุทานมาดังลั่นพร้อมหน้าซีด ภาพที่ผมเห็นคือไอ้เด็กวิศวะที่ผมต่อยไปแม่งนั่งเสนอหน้าอยู่ที่โต๊ะกินข้าว หรือมันจะมาดักตีกูที่โต๊ะกินข้าวว่ะ แม่ก็อยู่ เอาไงดีว่ะ แม่งมองมาตาขวางเลย เอาว่ะใจดีสู้เสือเลยละกัน มีไรหันไปขว้ามีดแทงแม่งเลย มาถึงที่ก็ต้องสู้ล่ะกู

“หนึ่ง ยืนทำไรลูกมากินข้าวเร็ว นานๆ จะมีเพื่อนมากินข้าวที่บ้านมาเร็วลูก” แม่ทักอย่างอารมณ์ดี แม่มันจะมาตีลูกแม่ถึงบ้านน่ะ แม่อย่ามาใจดีกับมันสิ

“เพื่อน?”

“อ้าว ไม่ใช่เพื่อนลูกรึ แม่เห็นรออยู่หน้าบ้าน เห็นรอนานแล้วมาเลยชวนมาทานข้าวด้วย”

“ใช่ครับ สนิทเลย มากินข้าวกันเถอะครับ”

เอาก็เอาว่ะเพื่อนก็เพื่อน ผมนั่งข้างมันต่างคนต่างไม่พูดอะไร เงียบจนวังเวง หรือผมจะคว้ามีดมาแทงมันก่อน เปิดก่อนได้เปรียบ ผมคิดและยิ้มในใจ จนแม่ชวนไอ้แทนคุย

“ชื่อแทนใช่ไหมลูก เจอหนึ่งได้ไง แม่ไม่เคยเจอหน้า เจอกันที่มหาลัยรึลูก”

“ใช่ครับ หนึ่งเข้ามาทักผม แล้วขอผมเป็นเพื่อนน่ะครับ คงเห็นว่าผมหน้าตาดีเลยมาชวนคุย ผมว่าหนึ่งแอบชอบผมอยู่” เอาแล้วไงกู เล่นกูล่ะ

“บ้ามึง กูกับมึงก็เป็นเพื่อนสนิทกันไง คิดมากน่ะมึง เนอะ” ผมพูดพลางเอามือโอบไปหยึกหลังมันหนึ่งที อย่าน่ะมึง

“ผมล้อเล่นน่ะครับ ดูท่าแม่จะตกใจ” ดีมาก ว่าง่ายๆ น่ะไอ้แทน

“แม่ไม่ได้ตกใจลูก แม่ดีใจที่ลูกเป็นฝั่งเป็นฝา ลูกแม่จะมีแฟนเป็นผู้หญิงแม่ก็โอเค แต่ถ้ามีแฟนเป็นผู้ชายแม่จะฟินมากกกก อย่าล้อแม่เล่นบ่อยแม่คิด” เป็นไงแม่กู ช็อกไปเลยสิมึง เล่นกับใครไม่เล่น เจอตัวแม่สาววายไป งงเลยสิมึง   

จากนั้นมันก็คุยเรื่องมันสัพเพเหระ ไปเรื่อยอย่างสนิทสนมกับแม่ผม ยังไม่ลืมจะเต๊าะแม่กูก่อนกลับหนึ่งที

“แม่สวยจังเลยครับ นี่ถ้าไม่บอกว่าเป็นแม่หนึ่งผมนึกว่าน้องสาวน่ะครับ” อ่ะ มึงมาถูกทางล่ะ แต่ประโยคมึงคุ้นๆ เหมือนกูเคยได้ยินที่ไหนน่ะ

“งั้นเดี๋ยวหนึ่งไปส่งเพื่อนแวบน่ะครับแม่” ผมพูดเสร็จพร้อมลากมันที่โบกมือให้แม่ผมออกมา ผมลากมันมาคุยข้างรถ ไหนๆ ล่ะ เอาให้จบๆ ผมไม่อยากให้ใครเดือดร้อนจากเรื่องที่ผมสร้าง ลูกผู้ชายกล้าทำก็ต้องกล้ารับ

“สรุปมึงจะเอายังไง มึงมีเรื่องกับกูก็มาเอาเรื่องกับกูนี่ ทำไมต้องเอาแม่ก็มาเกี่ยวข้องด้วย” ผมพูดพลางกอดอกหน้าซีเรียส

“มึงคิดว่ากูถ่อมาบ้านมึง เพื่อจะตีมึงที่บ้านรึ มึงใช้อะไรคิด”

“ถ้าไม่ใช่แล้วจะให้คิดว่าไร มึงมาบ้านกูเพื่อให้กูดูแผลมึงรึ”

“สรุป มึงจำกูไม่ได้”

“ทำไมกูจะจำมึงไม่ได้ กูพึ่งต่อยมึงไปเมื่อเที่ยง มึงจะเอาไงว่ามา จะต่อยกูคืนรึยังไง” สมองไปหมดแล้วหรือไงมึง มันยิ้มอย่างเจ้าเลห์ที่มุมปาก มันต้องมีแผนชั่วแน่ๆ  ไม่น่าท้ามันเลยยยย

“มึงไม่อยากมีเรื่องใช่ไหม ได้กูจะไม่เอาเรื่อง แต่มึงต้องมีข้อแลกเปลี่ยน”

“ยังไง มึงจะเอาอะไร”

“มาเป็นแฟนกู” ผมทำหน้างง อะไรของมึงว่ะแทน

"เป็นแฟนมึง? ทำไมกูต้องเป็นแฟนมึงด้วย หรือมึงชอบผู้ชาย แต่กูชอบผู้หญิงน่ะโว้ย" แมนๆ อย่างผมมีรึจะไปเอาผู้ชายด้วยกัน แดกยาไม่เขย่าขวดล่ะ ไอ้แทน

"กูแค่เบื่อน่ะ ช่วงนี้ผู้หญิงแม่งชอบตามตื้อกู มีไรครั้งสองครั้งตามติดกูแจ มีแฟนเป็นผู้ชายซะ เผื่อผู้หญิงพวกนั้นจะตัดใจจากกูได้ กูปฏิเสธไม่ค่อยเก่งน่ะ ถือว่าช่วยๆ กันไปแล้วกันน่ะ" พูดเสร็จพลางตบไหล่ผมแปะๆ ประมาณช่วยๆกูหน่อย อย่างนี้มึงให้กูเป็นไม้กันหมามึงนี่ มึงนี่ก็เหี้ยไปฟันเค้าแล้วก็ทิ้ง

"ถ้ากูไม่ทำตามข้อตกลงมึงล่ะ" เรื่องไรกูจะยอมมึง

"มึงลองนับดูล่ะกัน ว่าวิศวะมีกี่ตีน" มึงคิดว่ากูไม่กล้าสู้ใช่ไหม ใช่มึงคิดถูก

"พรุ่งนี้กูมาเอาคำตอบ กูกลับล่ะ" ทิ้งให้กูยืนนับตีนวิศวะแล้วก็จากไป เวณกรรมอะไรของกูนี่ ชีวิตในรั้วมหาลัยใครบอกว่ารื่นเริง ชีวิตแสนเศร้าของหนึ่งนที** **

ผมตื่นเช้าด้วยสภาพเหมือนซากศพ นอนฝันว่าโดนรุมตีนวิศวะ เมื่อคืนช่างเหมือนจริงสัด จนต้องเช็กว่าหน้าจะมีรอยตีนรึเปล่า ว่าแต่จะถามมันว่าจูบกูทำไมก็ยังไม่ได้ถาม สังสัยตอนนั้นเมาตีนอยู่ ผมแต่งตัวลงมากินข้าวเช้าอย่าเซ็งๆ แต่ต้องตื่นเต็มตา เมื่อไอ้แทนมานั่งอยู่ที่โต๊ะกินข้าว เฮ้ออออ กูคงต้องตกลงสิน่ะ ไม่ทิ้งเวลาให้กูตัดสินใจเลย

“หนึ่ง ทำไมช้าจังลูก แทนมารอตั้งนานแล้ว มารีบกินข้าว แทนแม่ฝากไปส่งหนึ่งด้วยน่ะ  มาเร็วลูกรีบกินรีบไป”

“หนึ่งโทรไปขอร้องผมให้มารับน่ะครับ ผมเลยต้องมา สงสัยคิดไม่ซื่อกับผมน่ะครับ ว่าแต่เช้านี้แม่ดูสวยจังครับ ขนาดพึ่งตื่นนอนน่ะครับเนี่ย” เอาให้เต็มที่แทนกูเบื่อจะแก้ตัวล่ะ ถือว่าสร้างความฟินให้แม่กูช่วงเช้า ผมก้าวขึ้นรถมันอย่างเซ็ง มองมันเต๊าะแม่เช้านี้ก่อนนั่งรถไปพร้อมมัน

“มึงมีเรียนกี่โมง เอาตารางเรียนมึงมาให้กูพรุ่งนี้ด้วย กูมีเบอร์มึงล่ะ ส่งมาในไลน์ก็ได้ เดี๋ยวกูทักไป ได้ยินไหม”

“เออ กูรู้แล้ว” ผมนั่งเหม่อมองด้านข้างมาตลอดทาง มีแต่ความเงียบ เห็นหน้ามันก็เบื่อล่ะครับ ต้องไปเป็นไม้กันหมาให้มันอีก แต่เดี๋ยวผมต้องถามมันเรื่องจูบนี่

“แทน กูถามไรมึงหน่อยสิ อย่าโกรธกูน่ะ สรุปมึงจูบกูทำไม”

“ถ้ามึงจำไม่ได้ กูก็ไม่มีอะไรจะพูด กูแค่ทำตามสัญญา”

“สัญญาอะไรของมึง กูงง”

“หยุดพูดได้ล่ะ กูจะขับรถ ไม่หยุดกูจะจับมึงจูบในรถอีกทีล่ะ” เออ กูจะเงียบที่สุดในชีวิตกูเลยกูสัญญา


สรุปมันไม่ได้ส่งผมที่คณะแพทย์ แต่มันวนมาที่คณะวิศวะก่อน สรุปมึงให้กูเดินเองว่างั้น เออมึงสั่งไรกูก็ต้องทำ เหี้ยจริงๆ ชีวิตกู

“เออ กูไปคณะล่ะ” ผมพูดพลางเดินคอตกไปคณะอย่างผู้แพ้

“เดี๋ยว! ไปเจอเพื่อนกูก่อน เดี๋ยวกูแนะนำให้รู้จัก” มันพูดพลางดึงผมไปใต้ถุนคณะมัน เหี้ย นี่คือดงตีนในฝันกูใช่ไหมนี่ “แหมมึง มันจะหวานไปล่ะ พาเมียมาคณะ จูบกันเมื่อวานวันนี้ล่อกันซะแล้ว มาด้วยกันละ พึ่งได้กันเมื่อคืนรึไงมึง”

“ผู้หญิงฝาดหมดมหาลัยเลยหันไปฝาดผู้ชายว่างั้น เหลือที่ยืนให้กูบ้างครับ มือกูชักจนล้าแล้วกูต้องการตัวช่วย”   '

“แหมหมอ มันจูบไปทีเดียวหลงจนลืมตึกคณะเลยหรือครับ คณะแพทย์อยู่ด้านหน้าครับหรือเปลี่ยนใจมาเป็นสะใภ้วิศวะครับ” เสียงแซวจากแก็งค์เพื่อนมันครับ ผู้ชายมึงยังแซวขนาดนี้ ผู้หญิงมามึงจะขนาดไหนว่ะเนี่ย

“พอเลยพวกมึง เดี๋ยวนี้แซวผู้ชายแล้วเหรอว่ะ”  แทนกล่าวทักทายกลุ่มหน้าหม้อหูดำของมัน พลางดึงมือผมให้ไปนั่งข้างมัน

“มานี่มึง กูแนะนำเพื่อนให้มึงรู้จักก่อน นี่ไอ้กัน ไอ้โจ๊ก ไอ้หมอก อะพวกมึง นี่หนึ่ง หนึ่งนที กูพามาเปิดตัว” อะฮิ้ว โห่ร้องกันไป สนุกสนานกันเลยพวกมึง

สงสัยกันสิครับว่าเพื่อนไอ้แทนหน้าตายังไง เดี๋ยวผมจะอธิบายให้ฟัง คนแรกครับหน้าตาดีพอๆ กับไอ้แทน คารมดี นามว่า “กันต์” เหมาะกับการหุงต้มเป็นอย่างยิ่ง เพราะหน้าหม้อหูดำ แซวตั้งแต่ผู้หญิงวัยสามขวบยันแปดสิบ หมาตัวเมียนี่ยังไม่เว้น หื่นทั้งต่อหน้าและลับหลัง มึงแซวกู กูโกรธเว๊ย คนต่อไป “โจ๊ก” เถื่อนสมอยู่วิศวะ เดินผ่านตำรวจที่ไหนโดนตรวจฉี่เมื่อนั้น รอยสักเต็มแขน ปากหมาพอๆ กับไอ้หวาน แต่ดูหล่อเข้มดีน่ะครับ น่าจะถนัดเรื่องต่อยดี คนสุดท้าย “หมอก” พี่หมอกจะแก่กว่าทุกคนเพราะซิ่วมาจากอีกมหาลัยนึง ทำไมลดตัวมาครบพวกนี้ครับ พี่ควรเรียนแพทย์อะไรงี้ พี่อยู่ผิดคณะครับผมพูดเลย พี่หมอกท่าทางฉลาดกว่าเอาสมองทุกคนมารวมกัน ดูผู้ดีเกินกว่าพวกนี้ เลิกคบพวกนี้เถอะครับผมแนะนำ เอ๊ะ เพื่อนมันก็หล่อหน้าตาดีกันทุกคนน่ะครับ น่าจะเอาไปให้ไอ้หวานล่อลวง

คิดไปคิดมาก็จวนเกือบถึงเวลาเรียนล่ะ นักศึกษาแพทย์ไฟแรงอย่าผมต้องตั้งใจเรียนครับ สายโดนตัดคะแนนแน่ ผมโบกมือลาเพื่อนมัน ก่อนหันพยักหน้าให้มันทีนึงก่อนจะเดินออกไปเรียน

"มึงจะไปไหน"

"ไปคณะกูสิ กูมีเรียนตอนเก้าโมง" เอ้าไอ้นี่กูมาเรียนก็ต้องเรียนสิวะ มึงคิดว่ากูมาให้พวกมึงเต๊าะเล่นรึไง

"เดี๋ยวกูไปเรียนกับมึงด้วยจะได้รู้จักเพื่อนมึง กูว่าง กูมีเรียนตอนบ่าย" แล้วรีบมาหาพ่อมึงรึแทน

"ไม่เอาไอ้แทน มึงอยู่กับเพื่อนมึงนี่แหละ"

"มึงมีสิทธิ์เลือกรึ ไปขึ้นรถ" มึงรนหาที่เองน่ะไอ้แทน เดี๋ยวกูจะให้ไอ้หวานลากมึงไปข่มขืน เสร็จกูแน่ไอ้แทนฮิฮิฮิ หัวเราะอย่างชั่วร้าย เสร็จกูแน่แทนเอ๊ย


"ห้องไหนมึง"

"ขวามือข้างหน้านี้แหละ ถ้าเบื่อมึงอย่ามาบ่นน่ะเว้ย"

"เออพูดมากจริง" ผมยอมรับจริงๆ ครับว่าไอ้แทนมันหล่อ ผมเดินเข้าห้องตามหลังมัน ทุกสายตาจับจ้องมาที่มัน ขนาดมันใส่กางเกงยีนส์ขาดๆ กับเสื้อยืดขาวคอกลมทับด้วยเสื้อช็อปสีแดงของมันยังออร่าออกขนาดนี้ ก็ไม่แปลกที่ผู้หญิงทุกคนจะหลงมัน บางทีผมเป็นผู้ชายเองยังเคลิ้ม

"หวัดดีแทน มาทำไรน่ะ มาจีบสาวคณะแพทย์เหรอ" ผู้หญิงคนหนึ่งทักมัน เสน่ห์มันแรงใครๆ ก็รู้จักครับ ผมเดินมากับมันคนทักตลอดทาง

"เปล่า เรามาจีบว่าที่นายแพทย์น่ะ" มันพูดพลางหันหลังมาทางผม สายตาเสียดแทงเสียวสันหลังวาบเลยกู

ผมรีบเดินไปทางไอ้ตือไอ้หวาน ผมกะพริบตาบอกหวาน ด้วยความสนิทกันกระพริบตาแวบเดียวรู้งาน ผมเข้าไปคั่นกลางระหว่างตือกับหวาน ซึ่งไอ้แทนมาต้องนั่งข้างหวานเพราะตือมันนั่งสุดแถวแล้ว

"มีเรื่องไรว่ะมึง" ตือ ผู้อยากรู้ทุกเรื่อง ยกเว้นเรื่องตัวเอง

"เดี๋ยวกูเล่าให้ฟัง หวานเต็มที่อย่าให้กูผิดหวัง" หวานพยักหน้าพร้อมกระซิบบอกผมว่าถ้าได้ลูกชายจะบวชให้ ซึ้งใจกูจริงๆ ได้เกาะชายผ้าเหลืองลูกเพื่อน ถุยยยยย เสร็จกูแน่ไอ้แทน

"หวัดดีครับ ผมแทนครับ เมื่อวานเจอกันแล้วจำได้ไหมครับ นั่นตือ แล้วก็สาวสวยนี่คือหวานใช่ไหมครับ"

"ใช่ค่ะ เราหวานเอง เราไม่ค่อยชินกับผู้ชาย ยังไงถ้าเกร็งต้องขอโทษด้วย" แหม รัชดาลัยยังแพ้มึงเลยหวาน

"แหมจริงหรือครับ แต่เท่าที่ดูนี่ไม่น่าจะใช่นะครับ" เหี้ยล่ะ เหมือนมันจะรู้ทัน เอาไงไอ้หวานเอาไง

"คงจะเป็นข่าวลือนะคะ เกิดมาสวยบอบบางก็ลำบาก ไม่คุยก็หาว่าหยิ่ง คุยก็หาว่าให้ท่า ทำตัวลำบาก" หวานพูดพลางเอามือลูบต้นขาแทน เสร็จครับร้อยทั้งร้อยเจอท่านี้ไปไม่รอดครับ

"แหมอย่าว่าอย่างงั้นอย่างนี้เลยครับหวาน เรามันศีลเสมอกัน" มันพูดพลางยกมือหวานออก

"จริงๆ ลูบขาแทนก็ชอบน่ะ แต่แทนว่าหวานลูบยันไข่แทนก็ยังไม่เคลิ้ม เอาอย่างงี้ดีกว่าครับเดี๋ยวแทนแนะนำเพื่อนวิศวะหน้าตาดีไก่อ่อนให้หวานไว้เชือดเล่นดีกว่า ตอนนี้แทนอยากนั่งข้างหนึ่ง หวานแลกที่ให้หน่อยได้ไหมครับ" พูดเสร็จมันกระซิบข้างหูหวาน หัวเราะคิกคักกันอย่างมีเลศนัย หรือหวานมันจะแปรพรรค อย่าน่ะหวานกูเพื่อนมึงน่ะ

"หนึ่ง เรื่องผัวเมียกูไม่ยุ่ง ย้ายมานั่งข้างผัวมึงเร็ว" หวานไอ้เพื่อนเลว ไอ้คนขายเพื่อน เห็นผู้ชายดีกว่าทีมเวิร์ค ขนาดไอ้หวานยังแพ้คารมมึง กูจะเอาอะไรไปสู้

"แผนสูงเหมือนกันน่ะครับเมีย" "เมียพ่อมึงสิ มึงกับกูเป็นผัวเมียกันตอนไหน กูสิต้องเป็นผัวมึง มึงคิดว่ากูจะยอมให้มึงกดรึ แต่กูชอบผู้หญิงโว๊ย"

"มึงเป็นแฟนกูนะหนึ่ง มึงว่าคนที่เค้าเป็นแฟนกันนี่ ไม่เคยได้กัน ต้องนอนจับมือกันพาชมสวนดอกไม้หรือไง มึงลองถามหวานเพื่อนมึง"

"จริงแทน กูยืนยันได้" เสียงไอ้หวานแทรกเข้ามา เข้ากันได้เป็นปี่เป็นขลุ่ยจนมันจะมากไปแล้วหวานไอ้เพื่อนทรยศ

"นี่ตรงนั้นคุยอะไรกันน่ะ แล้วเด็กวิศวะตรงนั้นน่ะ หลงทางรึไงจ๊ะ ถึงมาเรียนที่นี่" เสียงอาจารย์หน้าชั้นตะโกนมาครับ ผมนั่งเงียบหันมาตั้งใจเรียนทันที แต่อย่าน่ะ ไอ้แทน อย่าาาาาา

"เปล่าครับ ผมมาฝากตัวเป็นเขยคณะแพทย์ฝากตัวด้วยน่ะครับ"

 ไอ้เหี้ยยยยยย ฮิววววว ทั้งห้องประสานเสียง ไอ้แทน ไอ้หน้าเงือก ไอ้ประจุไฟฟ้า ไอ้หน้าแลมตั้น หน้ามึงด้านหนาจนกูไม่รู้จะพูดยังไงล่ะ กูอายจนจะแทรกแผ่นดินหนี้อยู่แล้ว หันหน้าไปหาเพื่อน ไอ้ตือก็ทำหน้างงพร้อมเสือกเรื่องชาวบ้าน หันไปหาไอ้หวานก็ทำหน้าเคลิ้ม เหมือนนี่แหละไอดอลกู ไอ้คนทรยศ

............................................


น้องมาล่ะคะ มาช้าแต่น้องก็มา ขอบคุณทุกคำติชมน่ะคะ มันเป็นแรงใจให้เขียนต่อไปค่ะ พยายามจะเขียนนิยายให้ดีที่สุด นิยายของเราจะออกน่ารักและหื่นกามไปในเวลาเดียวกัน

เรื่องนึงที่ไม่เขียนแน่นอน คือแบบครอบครัวไม่ยอมรับฝ่ายใดฝ่ายนึงนี่ไม่มีแน่นอน ดราม่าเรื่องนี้จะไม่มีในนิยายเรื่องนี้แน่นอนค่ะ เธอฟินกันไหม

Aemmilicious

ออฟไลน์ aemmilicious

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 39
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +10/-2
ตอนที่ 4 : เปิดใจครั้งแรก

พักเที่ยงแทนที่จะได้อยู่สงบ ไอ้แทนมันก็ลากผมมานั่งกินข้าวที่โรงอาหารคณะมัน นั่งฟังแก็งเพื่อนมันเต๊าะสาวไปวันๆ พวกมึงนี่ชีวิตช่างรื่นเริงจริงๆ คณะมึงนี่อ่านหนังสือกันบ้างไหมนี่

"น้องครับ กินอะไรถึงได้สวยขนาดนี้ ขอเบอร์โทรได้ไหมครับ ถ้าไม่ได้เบอร์โทร เบอร์ห้องก็ได้ครับพี่อยากมีลูก" หม้อหูดำชั้นดี อย่างนี้ ไอ้กันแน่นอนครับ

"พี่ถนัดตีต่อย พร้อมปกป้องครับน้อง อยู่กับพี่ห่างไกลตีน แต่กวนน้องทุกคืนครับ" ฝ่าดงตีนขนาดนี้ ไอ้โจ๊กชัวร์

"น้องเรียนไม่เก่งพี่ช่วยติวได้น่ะครับ ถ้าตอบไม่ได้พี่จะตีให้ก้นลายเลยครับ" มึงเอากับเค้าด้วยใช่ไหมนี่ ไอ้พี่หมอก

"พอล่ะพวกมึง แดกข้าวได้ล่ะ" ไอ้แทนเตือนสติเพื่อนมัน แต่แปลกน่ะครับผู้หญิงที่โดนแซวไม่มีใครโกรธ กลับจะชอบใจด้วยซ้ำ หรือผู้หญิงชอบผู้ชายแนวเถื่อนๆ เลวๆ กัน หรือผมต้องจำไปทำบ้าง

"ว่าไงครับน้องหนึ่ง มีผัวปั๊บเกาะติดผัวปุ๊บ หลงเสน่ห์อะไรไอ้แทนมันครับ" กันหันมายักคิ้ว

"นั่นสิ แทนมันเล่นท่าไหนครับน้องหนึ่ง พี่ก็ทำได้ทุกท่าน่ะทำไม่ไม่มองพี่บ้างล่ะ" โจ๊กผสมโรง ร่วมด้วยช่วยกันว่างั้น

"หยุดแซวเมียกูเลย นั่งแดกข้าวไป อายุก็เท่ากันพวกมึงจะเรียกน้องทำไม เมียนี่ก็นั่งเฉยๆ ให้พวกมันแซวอยู่ได้ " สรุปกูผิดใช่ไหมไอ้แทน เออ ยังไงกูก็ผิด แม่ง

"เออ เมียเลิกเรียนกี่โมงเดี๋ยวผัวไปส่ง"

"ไม่เอาอ่ะมึง เดี๋ยวกูกลับกับตือ กูจะไปกินชาบูกับมันนัดไอ้หวานแล้วด้วย"

"ไปด้วยกันนี่แหละเดี๋ยวผัวไปด้วย ไปกันหมดนี่แหละ พวกมึงไปไหม หวานเพื่อนเมียกูสวยระดับดาวคณะเลยน่ะโว้ย" เฮฮฮฮฮฮฮฮฮฮฮฮฮฮ

"ฟาดเพื่อนเมียเพื่อนคือจุดมุ่งหมายของกู พี่ไปด้วยครับน้องหนึ่ง" ไอ้กันขัดหูรอตั้งหม้อล่ะครับ นี่คือข้อตกลงของมึงกับไอ้หวานใช่ไหมแทน มึงเอาเพื่อนไปถลกหนังให้ไอ้หวานถึงที่ ไอ้คนขายเพื่อน

"เออ แล้วแต่มึงล่ะกันแทน"

“เฮ้ย! พวกมึงออมแรงเว้ย เลิกแซว เก็บแรงไว้แซวน้องหวานกัน” กันเอ่ยกับเพื่อนพร้อมพยักหน้าเข้าใจซึ่งกันและกัน

"เดี๋ยวผัวโทรบอกแม่เมียก่อนล่ะกัน" ไอ้แทนบอกพร้อมลุกออกไปโทรศัพท์ ไอ้แทนอย่า มึงไปเอาเบอร์แม่กูมาจากไหน อย่าไอ้แทน อย่าโทรไปปลุกอารมณ์สาววายของแม่กู เดี๋ยวแม่กูจะฟิน

"เคครับแม่ ขอบคุณครับ แม่ยังสวยและใจดีเหมือนเดิมเลยน่ะครับ" ไม่ทันสิน่ะ เต๊าะแม่กูไปอีกหนึ่งดอก ชีวิตของหนึ่งนทีช่างเศร้านัก

หลังเลิกเรียนเราตกลังกันว่าจะแยกกันไปครับ เพื่อนไอ้แทนจะแยกไปอีกคันนึง เพราะเรียนเสร็จก่อน พวกนั้นจะไปแต่งหล่อต้อนรับหวานและไปจองร้านก่อน เพราะคณะผมเลิกเย็นกว่า ตือจะไปพร้อมหวาน ผมก็ว่าจะไปพร้อมเพื่อน ถ้าไม่ติดความเอาแต่ใจของไอ้แทนที่บอกยังไงก็จะไปพร้อมผม ไม่งั้นก็ไม่ไป เพื่อนมันมองตาผมอย่างกับหมาเหงา เพราะถ้ามันไม่ไปเพื่อนๆ มันก็ไม่ได้ไป ผมเลยต้องจำใจตกลง หวานกับตือไปก่อนล่ะครับ เห็นว่าจะอาบน้ำแต่งตัวใหม่ก่อนออกมา ว่าแต่แค่ไปกินชาบูทำไมต้องไปแต่งตัวใหม่ให้มันยุ่งยาก ว่าแต่ไอ้แทนไปไหนนี่ ผมต้องนั่งรอไอ้แทนที่ใต้ถุนคณะ ว่าจะไลน์ไปหามันแต่ก็ไม่มีไลน์ จำได้ว่ามันจะแอดมาก็ยังไม่เห็น สงสัยต้องขอมันแอด ผมนั่งรอพร้อมทบทวนบทเรียนที่พึ่งเรียนมาไปพลางๆ สักพักมันก็ไลน์มา

แทน ไม่ใช่แฟนแทนได้ทุกท่า: อยู่ไหนครับเมีย แทนมาแล้ว

Nueng: อยู่ที่ใต้ถุนตึกคณะ รอมึงอยู่เนี่ย มายังกูหิวแล้ว

แทน ไม่ใช่แฟนแทนได้ทุกท่า: แหมเมียครับ รอหน่อย เดี๋ยวให้กินผัวก่อน

Nueng: แดกได้ด้วยรึมึง กูจะท้องเสียไหม

แทน ไม่ใช่แฟนแทนได้ทุกท่า: ท้องไม่เสีย แต่จะจุกนิดหน่อย

ทำไมผมรู้สึกเขินๆ กับคำพูดมันว่ะ สงสัยไม่ชิน

Nueng: จุกพ่อมึงสิ แล้วชื่อไอดีเหี้ยไรของมึงนี่ ขายของว่างั้น

แทน ไม่ใช่แฟนแทนได้ทุกท่า: เมียไม่ชอบผัวเปลี่ยนให้

“แทน ไม่ใช่แฟนแทนได้ทุกท่า” ได้เปลี่ยนชื่อเป็น "แทน(หัวใจ)หนึ่ง"

ไอ้สัดแทนกูเขิน

Nueng: กูว่าใช้เชื่อเดิมดีกว่าว่ะมึง บอกสรรพคุณมึงดี สาวน่าจะชอบ

แทน(หัวใจ)หนึ่ง: ไม่อะ กูถึงล่ะรอแวบเดี๋ยวกูเดินไปรับ

ไอ้สัดแทนเปลี่ยนเรื่องแล้วทิ้งกูเลยน่ะ เดี๋ยวค่อยไปเฉ่งมันในรถ ผมเห็นมันแต่ไกลเลยครับ จริงๆ แทนมันเป็นคนหน้าตาดีครับ ไม่แปลกที่สาวๆ พร้อมพลีกายให้มัน แม้จะรู้ว่ามันแค่เอาเล่นๆแต่สาวๆ ส่วนใหญ่ก็พร้อมจะเป็นของเล่นของมัน มันดูแบดบอยหน่อยๆเจ้าเล่ห์ ยิ่งตอนนี้มันมาในชุดกางเกงยีนส์สีเข้มขาดๆ ของมันเสื้อยืดสีดำเข้ารูปพร้อมแจ็กเก็ตดำ มันยิ่งดูหล่อเทห์ จนสาวๆคณะผมตาค้างไม่เว้นแม้แต่ผมที่เป็นผู้ชายด้วยกันยังใจสั่น แทนแม่ง........

"อะไรมึง เห็นผัวหล่อตะลึงว่างั้น" ผมตกใจสะดุ้งหลังสิ้นเสียง เห็นมันหัวเราะมุมปากพร้อมยกมือเสยผมเก็กหน้าหล่อ แม่งน่าหมั่นไส้

"อะไรของมึงละเมอล่ะ เร็วกูหิว" ผมลุกจากโต๊ะเอื้อมจะหยิบของแต่ไม่ทันไอ้คุณแทนมันเอาไปถือเรียบร้อยล่ะก็ดีเหมือนกัน กูไม่ต้องถือเองสุภาพบุรุษเหลือเกินน่ะมึง

ผมกับมันเดินมาสักพักก็มีผู้หญิงคนนึงมาทักไอ้แทน แม่จ้าว ผู้หญิงคนนี้สวยชิบหาย แถมเนื้อนมไข่ ชุดนักศึกษารัดจนสงสัยว่าหายใจออกไหม แต่สวยครับ สวยเซ็กซี่ผมเห็นยังมองตาค้างใจสั่น

"โทษน่ะคะ ขอคุยกับแทนสองคนได้ไหมค่ะ" อ้าวลืม ผมมัวแต่มองนม เอ๊ยมองน้องเพลิน ผมหันหลังจะเดินออกแต่ไอ้แทนดึงมือผมไว้

"ไม่ต้องหรอก มีไรพูดตรงนี้เลยก็ได้" น้องเค้าทำหน้างอน ดูน่ารักยั่วยวนดีครับ จริตน้องเค้าทำเอาผมหวั่นไหว

"เก้าคิดถึงแทนน่ะ ตั้งแต่คืนนั้นแทนก็ไม่ติดต่อมาเลย คืนนี้แทนว่างไหม เดี๋ยวเก้าไปหาที่ห้อง" แหม น้องนอกจากเซ็กซ์ เอ็กซ์ยังใจกล้า ถ้าไม่ติดไอ้แทน พี่หนึ่งจะลากน้องไปปล้ำ

"ไม่ได้แล้วล่ะเก้า เราเลิกทำตัวแบบนั้นแล้ว"

"ทำไมล่ะ แทนมีแฟนแล้วรึ"

"เรายังไม่มีแฟน แต่เรามีเมียแล้ว" มันพูดพลางเอามือมาจับมือผม และมองหน้าอย่างหวานเย้ม ไอ้เหี้ย กูจะโดนตบไหมมึง ปล่อยกู

"แต่นั่นผู้ชายน่ะแทน เราไม่เชื่อหรอก"

"เราไม่ได้พูดเพื่อให้เก้าเชื่อ แต่คนๆนี้แทนจริงจัง เราไม่ต้องการทำให้เค้าเสียใจ ถ้าเราทำอะไรที่ผิดกับเก้าเราขอโทษ แต่เราเลิกทำแบบนั้นแล้วจริงๆ"

"โอเคแทนเราเข้าใจ เรารู้ว่าแทนไม่เคยจริงจังกับใคร แต่เราก็หวังน่ะ หวังว่าเราจะเป็นคนที่แทนรักบ้าง ขอโทษที่รบกวนน่ะ" น้องคนนั้นพูดเสียงสั่น ดูน่าสงสาร เธอมองผมด้วยสายตาที่ทั้งยินดีและอิจฉา จนทำให้ผมรู้สึกว่าผมเป็นคนที่โชคดีที่ได้แทนมา             


ผมกับแทนนั่งรถมาสักพักอย่างเงียบๆ ผมสงสัยอะไรหลายอย่างจนอดถามมันไม่ได้

"แทนกูถามอะไรหน่อยสิ"

"ว่าไงครับเมีย"

"ทำไมต้องเรียกกูว่าเมียด้วยนี่ มึงไม่คิดว่ากูจะเป็นผัวมึงบ้างรึ" มันหัวเราะตัวงอ แม่งกวนตีนกู

"หยุดทำให้กูอารมณ์เสียเลยมึง แทนกูถามอะไรมึงหน่อยสิ น้องคนนั้นเค้าสวยมากเลยน่ะมึงท่าทางนิสัยก็ดีทำไมมึงปฏิเสธน้องเค้าว่ะ กูเสียดายแทน"

“กูไม่ได้ชอบเค้า น้องแค่เสนอ กูก็แค่สนอง จบก็แยกกันไป” มันพูดพร้อมหยักไหล่ เหี้ยจริงๆ มึง

“น้องเค้าก็น่ารักดีนะโว้ย มึงก็ยังไม่มีใคร ทำไมไม่ลองคบกับน้องเค้าล่ะ” แทนชักสีหน้ามองหน้าผมด้วยสีหน้าจริงจัง แบบที่ผมไม่เคยเห็นมาก่อน สักพักมันก็ค่อยๆ คลายสีหน้า พร้อมถอนหายใจ

“กูมีคนที่กูชอบอยู่แล้ว” เอ๋ ผมทำหน้าตกใจ

“ใครน่ะมึง สวยไหม กูรู้จักป่ะ” “ก็สวยน่ะ แต่เค้าไม่รู้หรอกว่ากูชอบเค้าอยู่ นี่กูก็พยามยาม เต๊าะอยู่ทุกวัน วันๆ ก็เอาแต่กวนตีนกู มึงก็น่าจะรู้จักดีเลยแหละ” ใครว่ะ

ผมนั่งงงสักพักก็ถึงห้างข้างมหา’ลัย พอจอดรถปุ๊บผมแทบจะลอยตัวออกจากรถ หิวจนจะเป็นลมเลยครับ หิววววว

“เมียครับ ไม่ต้องรีบครับ เข้าไปได้กินแน่นอนครับพวกไอ้กันเตรียมต้มไว้ให้แล้วครับ”

“ฮอล ดีจัง” หน้าผมฟินสุดชีวิต รีบวิ่งเข้าห้างทิ้งผัว เอ๊ย ไอ้แทน โอ๊ยยยย ผมวิ่งไปชนอะไรบางอย่าง จนกระเด็น โอ๊ยเจ็บ

“เป็นไรไหมครับ” ผู้ชายน่าจะรุ่นราวเดียวกับผม พูดพร้อมยื่นมือมาดึงผมให้ลุกขึ้น

“ขอโทษที่ชนน่ะครับ ผมรีบไหนหน่อย ผมหิวน่ะ”

“55555 ไม่เป็นไรครับ มากับใครครับ” เออ สรุปคือต้องตอบใช่ไหม แล้วทำไมต้องถาม

“มากับเพื่…..”

“มากับผัว” ผมทำหน้างง มองหน้ากันพร้อมหันหลังตามเสียงที่ได้ยิน เชดดด ไอ้เหี้ยแทน มาไม่มาเปล่าพลางยืนทำหน้าหาตีน เก็กหล่อยืนพิงเสา ผัวอะไรของมึง

“ไม่…...” ผมส่ายหน้าพลางปฏิเสธ ไอ้แทนขัดแล้วเอามือมาโอบไหล่

“ถ้าไม่มีอะไรแล้ว ขอตัวน่ะครับ” มันพูดเสร็จพลางยิ้มให้ พร้อมลากผมไปเลย ไม่ใช่น่ะ ไม่ใช่

“เมียครับ เดี๋ยวนี้เมียหัดอ่อยผู้ชายรึครับ”

“อ่อย อะไรไอ้แทน กูแค่ขอบคุณเค้าที่ช่วย อ่อยทำไมผู้ชายเหมือนกัน มึงคิดว่ากูจะแจกเบอร์ให้เค้ารึ” อย่ามากวนตีนไอ้แทนกูกำลังหิว เดี๋ยวแดกหัวแม่ง

“แล้วได้ให้ไหมล่ะ” ผมขมวดคิ้ว หาเรื่องรึไงมึง ถึงร้านล่ะ กูไม่สนใจมึงล่ะ

ผมวิ่งเข้าร้านพร้อมมองหาพวกเพื่อนแทน

“น้องหนึ่ง ทางนี้” ผมวิ่งเข้าหาอาหาร ประดุจเจ้านายเคาะเรียก

“หูย น่ากินน่ะ กินเลยน่ะ” ผมนั่งปุ๊บ จ้วงปั๊บ ไม่สนหน้าใครทั้งนั้น หนึ่งหิว

“ไอ้แทน หน้าเป็นตูดมาเลยมึง เป็นไรว่ะ” กันถาม ทุกๆ คนพร้อมพยักหน้า

“ไม่รู้ใคร แม่งมาเตาะเมียกู แต่ช่างเถอะ เมียครับ หวานกับตือมายังครับ” เออ กูลืม ผมรีบไลน์หาเพื่อนในกลุ่ม

Nueng: อยู่ไหนล่ะมึง

หวาน**:** เออจอดรถล่ะ กูรอไอ้ตือมันแต่งตัวอยู่ แม่งแต่งนานกว่ากูอีก

Nueng: กูอยู่ในร้านล่ะ รีบมาหิวววววววว


“หวานกับตือถึงล่ะน่ะ กำลังจอดรถ” ผมเงยหน้ามามองเพื่อนๆ ไอ้แทนท่าทางตื่นเต้นกันใหญ่ ว่าแต่ทำไมทุกคนแต่งตัวดีกันจัง แถมกันยังใส่สูท แต่ละคนนี่แทบจะหลุดมาจากแคตตาล็อก

“ทำไมแต่งตัวดีกันจังล่ะ แค่มากินชาบูเนี๊ยะ” พูดพลางคีบหมูเข้าปากหนึ่งชิ้น ฮอล มีความสุขจัง

“อ้าว แทนไม่ได้บอกน้องรึว่าเดี๋ยวไปแดกเหล้ากระชับสายสัมพันธ์กันต่อ” พี่หมอกถามไอ้แทน ทำไมไม่บอกกูก่อน กูไม่เคยไป อีกอย่างกูลูกชายคนเดียว แม่กูไม่ให้ไปหรอกมึง แม่หวงกูจะตาย

“ถามไปเมียกูก็บอกว่าไม่ไปสิ นี่กูเลยถามว่าที่แม่ยายกู นอกจากสวยแม่ยายกูยังใจดี บอกให้ค้างบ้านกู ไม่ต้องส่งกลับ” แม่น่ะแม่ ทำไมทำงี้ หนึ่งโกรธ หนึ่งงอนล่ะ

“หนึ่ง” ผมหันหลังไปตามเสียง หวานตือมาล่ะ แต่งตัวกันมาซะเต็ม ล่อกูเป็นเด็กยกของเลยพวกมึง

“สวัสดีค่ะ หวานค่ะ นี่ตือ ชื่ออะไรกันบ้างค่ะ นี่เป็นการเจอเพื่อนต่างคณะครั้งแรก หวานอาจจะเขินๆ อายๆ หน่อยน่ะคะ หวานกลัว” ไม่ปล่อยเวลาให้รอช้าเลยน่ะไอ้หวาน เอาซะกูไม่ต้องแนะนำอะไรเลย

“ครับ ผมหมอกครับ ยินดีที่ได้รู้จักครับหวาน ตือ” คนนี้คงจะชืดไปสำหรับมึงหวานเชื่อกู

“ผม โจ๊กครับ หวานสวยจังครับ เล่นเอาผมเขินเลย หวัดดีตือด้วยครับ” คนนี้ ก็เบเบ กูรู้มึงไม่ชอบ

“ผมกันครับ เป็นคนขี้อาย ไม่ค่อยกล้าชวนคุยก่อน ยังไงชวนผมคุยหน่อยน่ะครับหวาน ตือด้วยน่ะครับ” แหม หวานคนนี้แหละมึงที่สูสีกับมึง กูแนะนำเลย

เหมือนหวานมันจะคิดแบบผม มันลงไปแทรกนั่งระหว่างกันกับโจ๊ก ดูท่ามันจะสนใจกันมาก มองตาเหมือนหมาป่าที่ล่าลูกแกะ เช่นเดียวกับสายตากันที่เหมือนหมาป่าในชุดแกะที่กำลังจะขยุ้มหมาป่าอีกที เฮ้ออออ แล้วแต่มึงว่ะหวาน หลุดจากหวานผมก็เป็นห่วงตือว่าจะเหงา แต่พอเห็นดูตือดูท่าคุยกับพี่หมอกอย่างออกรสชาติ ก็คงไม่มีไรต้องห่วง ผมนั่งกินต่ออย่างมีความสุข จนไอ้แทนยังเอ่ยถาม

“เมียครับไม่ต้องมีผู้ชาย แค่ของกินเมียก็ลืมผัวล่ะครับ” มันพูดพร้อมคีบหมูมาให้ ดีจัง ฮอล

“ขอบใจน่ะ อืม” มันเอามือมาดึงแก้มผม พร้อมยิ้มมุมปาก

พวกเรานั่งกินไปคุยกันไปอย่างสนุกสนาน จนลืมเวลาร้านใกล้ปิดแล้ว พวกเราเลยเช็กบิลและออกมานัดสถานที่เจอเป็นผับเปิดใหม่แถวๆ มหา’ลัย ผมมองดูทุกคนแต่งตัวเสร็จแล้วเหลือแต่ผมที่ยังใส่ชุดนักศึกษาอยู่ ก่อนออกจากร้าน ผมเลยเอ่ยถามแทนให้ไปช่วยเลือกซื้อชุดก่อนไปเที่ยว ให้คนอื่นนำไปก่อน ผมเดินออกมาร้านส่วนใหญ่ก็ปิดกันเกือบหมดแล้ว เลยต้องทำใจไปทั้งอย่างนี้ ไอ้แทนยังบอกไปอย่างนี้ดีแล้ว เรียบร้อยไม่เป็นจุดเด่นดี ผมเออ ยังไงก็ได้ ยังไงก็เปลี่ยนไม่ทันล่ะ ผมจึงรีบตามเพื่อนไป ผมนั่งไปสักพักแทนมันก็จอดรถหน้าเซเว่น

“จอดทำไมอ่ะ” อิ่มแล้วก็เริ่มง่วงล่ะ ครับ

“เดี๋ยวผัวไปซื้อของเอาไว้เผื่อเมียเมาแวบ เอาอะไรไหม” สงสัยไปซื้อยาแก้แฮ็งค์ อืมแทนก็เป็นคนดีน่ะ

“เอาลูกอมน่ะ อยากกินลูกอม” แทนพยักหน้า พร้อมออกไปซื้อของ

ทำไมนานจัง ผมนั่งหาวอยู่ในรถพร้อมชะเง้อมอง สักพักแทนก็มา

“ทำไมนานจังอ่ะ ง่วงล่ะเนี่ย” ผมพูดพลางแกะถุงกะจะอมลุกอมให้ตาสว่าง แต่ไม่ทันแกะลูกอมก็ต้องตื่นเต็มตากับของที่มันซื้อมา

“ซื้อมาทำไมล่ะมึง มึงซื้อมาทำไมนี่” ผมโวยวายเสียงดังลั่นรถ พร้อมเขย่าตัว จนมันหันหน้ามาขมวดคิ้วว่ากูทำไรผิด

“เผื่อเมียเมา ผัวต้องเตรียมไว้ก่อน”

“กูเมา แล้วเกี่ยวอะไรกันมึง มึงต้องซื้อยาแก้แฮ็งค์ให้กูสิ” มันมองหน้าผมอย่างระอา พร้อมถอนหายใจ

“เมียครับตื่นครับ เมียคิดว่าผัวเห็นเมียเมาจะต้องเช็ดตัวห่มผ้านอนรึครับ นี่ชีวิตจริงครับ มีโอกาศก็ต้องปล้ำครับเมีย ผัวไม่ใช่พระอิฐพระปูนครับ”

มันซื้อถุงยางมาสามกล่องกับสารหล่อลื่นอืกหนึ่งหลอดใหญ่ ถึงผับกูจะแดกแต่น้ำเปล่า ไม่มีกูจะออกมากรอกน้ำก๊อกไปแดกในผับ ฝันไปเถอะไอ้แทน

“ถ้าไม่ชอบไม่ต้องใส่ถุงก็ได้ครับเมีย ผัวตามใจเมีย” มันพูดพลางเอามือมาดึงแก้ม ผมมองหน้ามันอย่างเอื่อมระอา ไม่พูดอะไร นี่กูกำลังตกอยู่ในอันตราย  กูอยู่ในอันตราย


-------------------------------------

Aemmilicious

ออฟไลน์ aemmilicious

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 39
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +10/-2
ตอนที่ 5 : นอนด้วยกันครั้งแรก

"หยุดไอ้แทน อย่ามายืนใกล้กู" ผมมองหน้าพร้อมสะบัดมือไล่มัน มึงอย่าหวังว่าจะได้แอ้มกูแทน มึงออกไป

"โห อะไรน่ะ ผัวไม่ได้จะจับเมียปล้ำกลางผับซะหน่อยอะไรน่ะ" มันโวยวาย

"เออ นั่นแหละอย่าเข้ามา" กูอยู่ในอันตราย กูต้องระแวงมึงไว้ก่อนแทน

เรามาถึงผับกันล่ะครับ คนค่อนข้างเยอะ เพราะวันนี้เป็นวันศุกร์ ดีที่โจ๊กจองโต๊ะไว้ก่อนครับ เราเลยได้โต๊ะด้านใน แต่ก็ต้องยืนล้อมโต๊ะไป เพราะไม่มีเก้าอี้ เพราะเราอยู่ส่วนอินดอร์ เอาดอร์จะเป็นโซฟานั่งฟังเพลงไปด้วย ร้านหรูจัง ผมที่มาครั้งแรกก็ตื่นตาตื่นใจ เหมือนมาทัศนศึกษา พลางมองดูคนรอบข้างและเพื่อนๆ

"กัน หวานไม่เคยดื่มเหล้าน่ะคะ แค่เห็นหวานก็มึนๆ จะยืนไม่ไหวล่ะคะ ปกติเคยเห็นแต่ในรูป" หวานสาวหมั่นประจำคณะแพทย์ผู้อ่อนต่อโลก

"ผมก็พึ่งเคยมาครับ ทำไมมืดจังครับ ผมมองตอนกลางคืนไม่ค่อยเห็นด้วย ถ้าจับคลำอะไรผิดไปต้องขอโทษด้วยครับ"

กันหน่วยหม้อชั้นดีออกตัว ถ้าเปรียบคู่นี้เป็นมวย ก็จะเป็นคู่หยุดโลกที่ช่างดูสูสีเหลือเกิน กูอยากรู้จริงๆ ว่าใครจะชนะ แหมมึงสองคนช่างอ่อนต่อโลกจริงๆ เห็นแล้วก็ถอนหายใจ แต่ไอ้ตือกับพี่หมอกนี่ท่าทางจะคุยกันถูกคอ ดูคุยกันตลอด แต่ทำไมไอ้พี่หมอกมันดูเขินแปลกๆ สงสัยยังไม่ค่อยชินกัน แต่อย่าคิดว่าโจ๊กที่ไร้คู่จะหงอยน่ะครับที่นี่เป็นถิ่นเค้า เห็นเดินทักทายโต๊ะนั้นโต๊ะนี้อย่างสนิทสนม โดยรวมทุกๆคนก็สนุกสนานดีน่ะครับ ดีที่เพื่อนผมเข้ากันได้ ว่าแต่ทำไมต้องดีด้วย แต่เออน่ายังไงก็ได้เพื่อนเพิ่ม

"เมียครับดื่มอะไรหน่อยไหมครับ" แทนพูดพลางยื่นแก้วมา

"อะไรมึง จะวางยากูรึ อย่าคิดว่ากูจะหลงกล"

"โหยเมียเห็นผัวเป็นคนยังไง ยังไงไม่ได้กันตอนนี้ต่อไปก็ต้องได้กันอยู่ดีนะแหละ อย่างอนน่ะ" มึงอย่ามาทำหน้าใสซื่อใส่กูแทน กูหนึ่งนที ฉลาดไม่หลงกลมึงหรอก ผมหันไปหาหวานทีอยู่ข้างๆ แม่งไม่สนใจกูเลยสนแต่ไอ้กัน

"หวานแก้วมึงอะไรน่ะ กูกินได้ไหม" หวานหันหน้ามามองผมแวบนึงก่อนจะทำหน้าหงุดหงิด แล้วหันไปคุยกับกันต่อ

"หา เออได้ โค๊ก....." สิ้นเสียงผมยกกระดกหมดแก้ว กระหายน้ำมานานมัวแต่ระแวงไอ้แทน แทบไม่ได้แดกอะไร อืมอร่อยจัง ไม่หวานแสบคอเหมือนโค๊กทั่วไป

"หวาน มันคืออะไรน่ะ เอาอีกได้ป่ะวะมึง" หวานหันมาทำสายตาพิฆาตใส่ผม ประมาณหนึ่งกูล่าเหยื่ออยู่อย่างมากวนกู แต่ก็ส่งแก้วใหม่มาให้ ฮอลอร่อยจังเอาอีก เอาอีก เอาอีก

แต่ทำไมมันมึนจังว่ะ ผมถามไปถามหวาน

"หวานนนนนนน โค้กยี่ห้อไรว่ะ ทำไมมันมึนนนนนนนน"

"ไอ้หนึ่งมึงเมาแล้วหยุดพอเลย มันเหล้าผสมโค้ก"

ฉิบหายล่ะผมนึกในใจจากสติที่หลงเหลืออยู่ ตายกูหนึ่งเอ้ย ปากบอกว่าจะระวังไอ้แทน สุดท้ายมามอมเหล้าตัวเอง ใส่พานตัวเองไปให้มันเฉย ผมประคองสติและคิดหาวิธีสร่างเมาให้เร็วที่สุด ผมหันซ้ายขวาไอ้แทนไม่อยู่ปลอดภัย ผมรีบประครองตัวไปเข้าห้องน้ำ ล้างหน้าซะเผื่อจะดีขึ้น ผมเดินโซเซไปห้องน้ำ ระยะทางแค่นี้ ทำไมมันไกลจัง ผมเดินโซเซไปท่ามกลางเสียงเพลงผู้คนและความมืด ในใจคิดอย่างเดียวว่าต้องรอดจากเงื้อมมือไอ้แทนให้ได้ ผมเดินโซเซจนไปชนคนคนนึง ผมตั้งสติเอ่ยปากจะขอโทษเค้า แต่ยังไม่ทันเอ่ยปากพูด

“เอ๊ะ! เจอกันอีกแล้ว อิ่มแล้วรึครับ” ใครเรียกพี่หนึ่งน่ะ หน้าคุ้นๆ ผมดันตัวยืนขึ้น พลางจับหน้าคนข้างหน้าเพิ่งมอง

“อ้ออออออ คายยยยน่ะ” ไม่คุ้น ไม่รู้ พี่หนึ่งมึน

“อ้าว วันนี้ที่เราเจอกันที่ห้างไงครับ”

"ฮืม ใครน่ะ ที่ห้างงงงงง ใครน่ะ"

“นี่เมาล่ะสิ ไปนั่งพักก่อนไหมจะได้สร่างเมา” ผมพยักหน้า พลางเดินตามออกมานั่งรับลมตรงส่วนเอาท์ดอร์  พลางรับผ้าเย็นมาเช็ดหน้า พอรับลมเย็นก็พอได้สตินิดๆ  แต่ก็ยังมึนๆ อยู่ดี

“แฟนไปไหนล่ะนี่ ทำไมไม่มาดูแลล่ะครับ มีใครลากไปทำไงนี่ ยิ่งน่ารักอยู่ด้วย”

“แฟนนนนน ใครน่ะ ไม่มีน่ะ หนึ่งไม่มีแฟน” ใครแฟน พี่หนึ่งโสดและซิงด้วย

“อ้าว งี้ก็จีบได้สิ” จีบทำไมมึง ผู้ชายเหมือนกัน แม่งบ้าเหมือนไอ้แทน ผมทำหน้างง พร้อมเรอใส่

“จะกลับยังไงล่ะนี่ ขอโทรศัพท์ได้ไหม เดี๋ยวเราโทรตามเพื่อนให้ หรือให้เราไปส่งบ้าน”

“อืม บ้าน พี่หนึ่งจะกลับบ้าน” ผมพูดพลางยื่นโทรศัพท์ให้ แล้วหันมานอนต่อ ผมเห็นมันกดโทรศัพท์ไปมา ว่าแต่รู้ยังว่าจะโทรหาใคร

“เออ ลืมให้โทรหาใคร” น่ะ กูว่าล่ะ ครื๊ด ครื๊ด ครื๊ด เสียงโทรศัพย์สั่น น่ามีคนโทรเข้ามาพอดี ผมปิดเสียงไว้ตั้งแต่ตอนเรียน คงจะเป็นเพื่อนที่ตามหาผม มันเลยกดรับ

*(เมียครับ เมียอยู่ไหน นี่หาทั่วร้านแล้วนะ ไปอยู่ไหน หลบแทนหรือครับ)*

“เพื่อนคุณหนึ่งใช่ไหมครับ พอดีคุณหนึ่งเมา ผมเลยพามานั่งที่หน้าร้านน่ะครับ”   

*(ครับ เดี๋ยวผมรีบไป ขอบคุณครับ)*

อืม ผมตื่นขึ้นมาได้สติขึ้นมานิดหน่อยนั่งสะลึมสะลือ พยายามลืมตาแต่ตาก็หนักเกินกว่าจะลืม แต่ผมรู้ว่าผมกำลังอยู่ในรถกับไอ้แทนที่หันมายิ้มอย่างอ่อนโยน แค่นั้นผมก็วางใจ หลับตาลงอย่างสบายใจ

อืมมมมมมมมม ปวดหัวจังเลย ผมตื่นมาอย่างมึนงง โอยยยยย ปวดหัวจัง ที่นี่ที่ไหนนี่ ผมตื่นพยายามปรับสายตาให้มองสิ่งต่างได้ชัดเจน ที่ไหนน่ะ ภาพมันไม่ใช่ห้องผม ผมกุ้มดูตัวเอง ชุดที่ใส่ก็ไม่ใช่ชุดเดิม เกิดอะไรขึ้น ผมแทบจะร้องกรี๊ด เมื่อข้างๆ ที่นอนอยู่เป็นไอ้แทน ไม่มมมมมมมมม กูเสร็จมันแล้วรึนี่ ไหนใครบอกครั้งแรกเจ็บ ไม่เห็นจะเจ็บเลย หรือไอ้แทนฝีมือดี พี่หนึ่งไม่ซิงแล้ว

………แต่เดี๋ยว ไอ้แทนมันยังอยู่ชุดเดิม นอนสงบยิ้มพริ้ม น้ำก็ไม่อาบ ผ้าก็ไม่ห่มไม่หนาวรึไงมึง พอตั้งสติประมวณภาพเหตุการณ์ต่างๆ อืมมันคงจะไม่ได้ทำอะไรกู มึงก็เป็นคนดีเหมือนกันน่ะแทน  ดูแทนนอนยิ้มอย่างมีความสุขแล้วไม่กล้าปลุก ไปทำข้าวเช้าให้มันกินหน่อยล่ะกัน ถือว่าเป็นการตอบแทนบุญคุณมึงน่ะแทน ผมลุกขึ้นไม่ลืมที่จะห่มผ้าให้แทนที่นอนยิ้มอย่างมีความสุข

ขอบคุณน่ะแทนที่เป็นสุภาพบุรุษ ไม่ปล้ำกูตอนเมาอย่างที่มึงบอก ผมหันไม่หยิกแก้มมันทีนึง พร้อมเดินอย่างมีความสุขออกไปหาห้องครัว

-----------------------------------------


ความในใจแทน สัตยา Part 1 * *

*(ครับ เดี๋ยวผมรีบไป ขอบคุณครับ)*

ผมร้อนใจมากครับ ผมคอยมองหนึ่งตลอดไม่คลาดสายตา เพราะนี่เป็นครั้งแรกของหนึ่งที่มาเที่ยวกลางคืน ผมค่อนข้างห่วงเพราะเค้าไม่เคยมาเที่ยวผับแบบนี้ อีกอย่างผมเป็นคนขี้หึง ผมกลัวจะมีคนมาเตาะแฟนผม แม้ตอนนี้อาจจะเรียกเต็มปากไม่ได้ว่าแฟน แต่เชื่อเถอะครับหนึ่งไม่มีทางหลุดเงื้อมมือผมแน่นอน ผมไม่น่าออกไปคุยโทรศัพท์เลย พอดีแม่หนึ่งโทรมา ผมกลัวท่านเป็นห่วงเลยบอกท่านมาไม่ต้องรอ เดี๋ยวคืนนี้หนึ่งจะไปค้างที่ห้อง ผมไปแวบเดียวจริงๆ ครับ กลับมาแฟนผมหาย ผมร้อนใจมาก โทรหาเป็นสิบๆ สายก็ไม่มีคนรับ ผมเดินดูในห้องน้ำ ตามที่หวานบอกก็ไม่มี ผมร้อนใจมาก แต่ดีครับที่มีพลเมืองดีช่วยไว้

ผมรีบวิ่งมาหาหนึ่งที่หน้าร้าน แต่ต้องอึ้งเมื่อเห็นคนที่ช่วยแฟนผมไว้มันเป็นคนเดียวที่จะจีบแฟนผมที่ห้าง ผมจำหน้าได้อย่างดี ผมรีบเข้าไปหาหนึ่งพร้อมปัดมือมันที่โอบไหล่แฟนผมอยู่

“หนึ่ง หนึ่ง เป็นไรไหม” ผมเอามือตบหน้าเบาๆ เพื่อเรียกสติ

“อืม แทนนนนนน หนึ่งง่วง นอนนนนนนน นอนกันน่ะ” ไปกินเหล้าที่ไหนมานี่ กลิ่นหึ่งเชียว

“งั้นกลับกันเลยน่ะ” ผมกำลังพยุงหนึ่งลุกขึ้น

“ไม่คิดจะขอบคุณกันหน่อยรึ” ผมมองไปด้วยสีหน้าที่หงุดหงิด ผมเป็นผู้ชายเหมือนกัน ผมดูด้วยตาเปล่าก็รู้ว่าไอ้นี่มันชอบแฟนผม แต่ยังไงผมก็ต้องขอบคุณมัน ที่มันช่วยดูแลแฟนผม

“ขอบคุณครับที่ช่วยดูแลแฟนผม”

“เอ๊ะ! แต่หนึ่งบอกยังไม่มีแฟนนี่”

สรุปจะกวนตีนกูใช่ไหม ผมไม่ได้พูดอะไรครับ แม้จะอารมณ์เสียจนลมออกหู แต่แฟนผมต้องสำคัญกว่าอยู่แล้ว ผมพยุงหนึ่งขึ้นรถ พร้อมโทรบอกเพื่อนที่เหลือว่าจะกลับแล้ว เพื่อไม่ให้เพื่อนเป็นห่วง เฮ้อออออ ไปกินยังไงถึงเมาขนาดนี้นี่ หรือเมียผมตั้งใจจะอ่อยผมน่ะ ผมคิดพลางขับรถไป

“อืมมมมมมม ร้อนนนนนนน ไปไหนนนนนน”

ผมมองหน้าหนึ่งที่แดงกล่ำเพราะความเมา แต่อดขำไม่ได้ มันเมาน่ารักเหมือนเด็กดี จนผมต้องหอมแก้มไปฝอดใหญ่ คนอะไรน่ารักจัง ช่วยทำให้ผมคลายอารมณ์เสียจากไอ้หมอนั่นที่จะจีบเมียผมได้

“เมียครับ ถึงแล้วครับ”

ผมเรียก ก็ยังไม่ตื่น เรียกพร้อมเขย่าตัวก็ยังไม่ตื่น ผมไม่ได้ไปส่งหนึ่งที่บ้านครับ เนื่องจากดึกมากแล้ว ไม่อยากรบกวนคุณแม่หนึ่งให้รอ ผมเลยพาหนึ่งมานอนที่คอนโดผมแถวมหาลัย ไม่ห่างจากร้านเหล้านัก ผมพักอยู่ที่คอนโดคนเดียวครัว เพราะครอบครับผมอยู่ต่างประเทศหมด ผมเลยต้องอยู่คนเดียวเพราะต้องการเรียนต่อที่เมืองไทย แม่หนึ่งไม่ว่าอะไรครับที่หนึ่งมาค้าง ผมรู้จักกับแม่หนึ่งมานานแล้ว คุยกันเรียกว่าจะทุกวัน แม่หนึ่งเลยค่อนข้างไว้ใจผม

“เฮ้อ งั้นอุ้มน่ะครับเมีย”

หนึ่งไม่ตอบอะไรได้แต่อืมแล้วทำปากขมุบขมิบ หนึ่งตัวเล็กกว่าผมมาก เลยง่ายที่จะอุ้มครับ ผมกดลิฟท์ขึ้นชั้น 5 และวางตัวหนึ่งลงโดยให้ยืนพิงกอดเข้าหาตัวผม

“อืมหิวววววน่ะ อยากกินอืม งั้ม” นั่นไง เมียผมแทะไหล่ผมไปแล้ว นี่สรุปอยากโดนปล้ำใช่ไหมครับเมีย

ผมเปิดลิฟท์อุ้มหนึ่งไปวางไว้ที่โซฟา พร้อมเดินไปหาน้ำเย็นให้ดื่ม ถามผมว่าตื่นเต้นไหมที่แฟนมาค้างที่บ้านครั้งแรก ผมพูดได้เต็มปากเต็มคำครับว่าตื่นเต้น แต่แฟนมาสภาพนี้ ผมคิดเป็นห่วงอย่างเดียวครับ ผมเดินเอาน้ำเย็นมาที่โซฟา อ้าวหายไปไหนแล้ว

“เมียครับ ไปไหนครับ” ผมตะโกนเรียก แต่ไม่มีเสียงตอบรับ ผมเดินไปสักพักสังเกตเห็นมี ถุงเท้า เสื้อ กางเกง ถอดตามทาง ผมเดินตามไป

“เหี้ย!” ผมร้องเมื่อเห็นกางเกงในกองอยู่ สรุปนี่เมาหรือยั่วครับเมีย ผัวจะไม่ไหวแล้วน่ะครับ ผมได้ยินเสียงน้ำจากไหนห้องน้ำ ผมรีบเข้าไปดู คนเมานั่งอยู่ในอ่างอาบน้ำ พร้อมถือฝักบัวเปิดน้ำราดตัวเอง

“อืมมมมมมม ร้อนนนนนนน”

หนึ่งหันมายิ้มและหัวเราะ เฮ้อออออ เหมือนผมมีลูกจริงๆ ครับ ผมรีบปิดน้ำเอาผ้าขุนหนูเช็ดตัวและหัวให้ ผมตื่นเต้นมากครับเป็นครั้งแรกที่ผมเห็นทุกๆ ส่วนของแฟนผม ผมตื่นเต้นจนมือสั่น ทำอะไรไม่ถูก แต่ก็พยายามห้ามใจไม่ให้ทำอะไรเกินเลย

“ฮอล สบายจัง”

แฟนผมถึงกับเคลิ้มเมื่อมีคนเช็ดตัวแล้วแต่งตัวให้ ผมใส่กางเกงขาสั้นแบบมีหูรูดให้ เพราะตัวหนึ่งค่อนข้างเล็กกว่าผม พร้อมใส่เสื้อเสื้อเชิ้ตแขนยาว ซึ่งเสื้อผมตัวใหญ่กว่า พออยู่บนตัวหนึ่งไหล่จะตกข้างนึง เป็นภาพที่เซ็กซี่เกินกว่าจะห้ามใจ ผมใช้เวลานานมากกว่าจะลากคนเมามานอนบนเตียงได้ผมนี่แทบตาย ต้องกลั้นใจ ยับยั้งใจมากแค่ไหน ผมนั่งข้างเตียง มองคนที่ผมรักที่สุดนอนหลับฝันหวานอย่างสบายใจ ผมก้มไปหอมแก้มราตรีสวัสดิ์อย่างอ่อนโยน แต่ไม่ทันไรคนเมาไร้สติก็มาคว้าคอผมไปกอด

“จั๊กจี๋ อิอิอิอิ อืมอย่าเลียสิ เดียวพาไปเดินเล่น” เมียครับผัวไม่ใช่หมาครับ ผมอดขำ หยอกล้อคนเมาไม่ได้

“ถ้าไม่ไปเดินเล่นล่ะ” หนึ่งยิ้มพลางกอดผมแน่นกว่าเดิม

“อืม เดี๋ยวให้กินนม”

ตึงงงงงงงงง เสียสติที่ขาดลง ในใจผมตะโกนลั่น ไม่ไหวแล้วโว้ยยย ผมก้มลงไซร้ซอกคออย่างกระหาย ไม่ลืมที่จะดูดกดประทับรอยจูบลงบนซอกคอขาว มือพลางลูบไล้เข้าภายในเสื้อเชิร์ต อารมณ์ตอนนี้อะไรก็ฉุดไม่อยู่

“อืมมมม ร้อนนนน” หนึ่งครางออกมาเสียงสั่น ผมลูบไหล่แผ่นหลัง หน้าอกอย่างแผล่วเบา อืม เมียจ๋าผัวไม่ไหวแล้ว

“อืมมมม ร้อน จะนอนแล้ววววว”

"ผลั๊กกกกกก"

เสียงต่อยจากหมัดเมียสุดที่รัก ต่อยผัวทำไมอ่ะ ผมไม่ทันตั้งตัว โดนต่อยล้มจนตกเตียง อย่างนี้ใช่ไหมครับที่เค้าว่าอย่าถือคนบ้าอย่าว่าคนเมา แม้จะมึนเล็กน้อย หมัดหนักเหมือนเดิมน่ะครับเมีย แต่ความหื่นของผัวนั้นชนะทุกอย่าง ผมกระโดดลงค่อมตัวเมีย ยังไงคืนนี้เมียก็ไม่รอดแน่น อุตสาห์จะเป็นสุภาพบุรุษ ยังจะยั่วผัว เมียผิด เมียต้องรับผิดชอบ ผมขึ้นคล่อมพร้อมกดมือทั้งสองข้าง จนคนข้างล่างดิ้นไม่หลุด เสร็จแน่น ผมหัวเราะอย่างผู้ชนะ หมายหมั้นจะเข้าไปจูบไห้หายผยศ แต่ทันได้นั้น

“โอ๊ยยยยยยยย ทำผัวทำไมครับ”

หนึ่งเต๊ะเข้ามาที่แทนน้อยของผมอย่างเต็มแรง ผมจุกจนจะไม่ไหวล้มตัวงออยู่ข้างๆ โอย ไม่ไหวแล้วผมจะ…..

“บอกแล้วไงไม่เล่น ทีหลังไม่พาไปเดินเล่นแล้ว”

นั่นคือเสียงสุดท้ายที่ผมได้ยิน

แทน แทน แทน กินข้าวได้แล้ว ผมตื่นจากเสียงเรียกแต่เช้าตรู่ ผมลืมตาขึ้นมา อย่างแรกที่ผมเห็นคือหนึ่ง คนที่ผมรักที่สุด ว่าแต่ทำไมเช้าแล้ว

“ตื่นเร็ว หนึ่งทำข้าวเช้าไว้ให้ ไปกินกัน”

ผมยืนขึ้นเดินตามแรงดึงของคนข้างหน้า พลางนึกเสียดายเมื่อคืน เฮ้ออออออ ผมเดินมานั่งที่โต๊ะ พร้อมมองโจ๊กที่น่าจะมาจากซองสำเร็จในครัวหนึ่งนั่งยิ้มให้ผมอย่างสนิทใจ น่าแปลกที่เมื่อคืนเราไม่ได้มีอะไรกัน แต่หนึ่งดูเหมือนใกล้ชิด สนิทและรู้สึกปลอดภัยที่จะอยู่กับผมสองต่อสองมากขึ้น เอาน่า อย่างน้อยผมก็ก้าวหน้าไปอีกขั้น จะรีบร้อนไปทำไมล่ะครับ ในเมื่อยังไงหนึ่งก็ต้องเป็นของผมวันยังค่ำ

จบ ความในใจแทน สัตยา Part 1


-----------------------------


ตอนหน้ามาดูพาร์ทของหวานกัน ใครเสร็จใคร ใครโดนหลอกมารู้กันค่ะ

Aemmilicious

ออฟไลน์ พัดลม

  • เป็ดมหาวิทยาลัย
  • *
  • กระทู้: 542
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +23/-2
เด็กอนุบาลแถวไหนจะโหดแบบนี้

หน้ากลัวสัดๆ :z3:

ออฟไลน์ Jthida

  • เป็ดHephaestus
  • *
  • กระทู้: 1549
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +33/-3
มันเกี่ยวกับชื่อเรื่องยังไงอ่ะเนี้ย หรือต้องรอไปอีก

ออฟไลน์ muiko

  • เป็ดHera
  • *
  • กระทู้: 1089
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +98/-3
สรุป คือแทนไม่ได้เปงคนดี
แต่แทนน้อยมันจุก  :laugh: :m20:

ออฟไลน์ wanirahot

  • เป็ดมหาวิทยาลัย
  • *
  • กระทู้: 485
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +4/-1
ต้องยอมแทน เค้าจองของเค้ามานาน

CoMMuNiTY Of ThAiBoYsLoVE

ประกาศที่สำคัญ


ตั้งบอร์ดเรื่องสั้น ขึ้นมาใครจะโพสเรื่องสั้นให้มาโพสที่บอร์ดนี้ ถ้าเรื่องไหนไม่จบนานเกิน 3 เดือน จะทำการลบทิ้งทันที
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=2160.msg2894432#msg2894432



รวบรวมปรับปรุงกฏของเล้าและการลงนิยาย กรุณาเข้ามาอ่านก่อนลงนิยายนะครับ
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=459.0



สิ่งที่ "นักเขียน" ควรตรวจสอบเมื่อรวมเล่มกับสำนักพิมพ์
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=37631.0






ออฟไลน์ aemmilicious

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 39
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +10/-2
ตอนที่ 6 : หวาน & กัน Part 1

หวาน แนะนำตัว

สวัสดีค่ะ ก่อนอื่นพบเจอกันก็ต้องแนะนำตัว หญิงหนึ่งเดียวจาก เรื่องนี้ “หวาน กุลสตรี เกียรติสุวรรณ” ใครว่าเกิดเป็นหญิงนั้นง่ายค่ะ หวานต้องยอมรับตรงนี้ก่อนว่าหวานเป็นคนสวย ซึ่งจะปฎิเสธก็ไม่ได้เพราะสวยจริงๆ แต่เกิดเป็นผู้หญิงสวย โง่นิดๆ บอบบางหน่อยๆ ก็คงจะหาแฟนง่าย เพราะผู้ชายทุกคนอย่างปกป้องทะนุทนอม แต่เกิดเป็นผู้หญิงเก่งรู้ทันคน ฉลาดระดับ เกรด 4:00 จะหาแฟนก็คงยาก เพราะไม่ว่าใครเข้ามาก็อ่านเกมส์ออก และการพูดตรงที่บางครั้งที่ไอ้หนึ่งเรียกว่าปากหมา ก็คงจะหาแฟนยากเช่นกัน ฉะนั้นการแอบใสซื่อ คงจะเป็นตัวเลือกที่ดีในครั้งนี้ ผู้หญิงสวยใสๆ ใครก็ชอบจริงไหมค่ะ นี่แหละค่ะที่มาของหวาน Dangerous Woman หรือในชื่อไทยว่า สมหญิงดาวร้าย อย่างว่าแหละค่ะ มีคนทักไม่คุยก็หาว่าหยิ่ง คุยด้วยก็หาว่าให้ท่า หวานเบื่อ เห็นหวานรอบจัดขนาดนี้ แต่หวานยังโสดและซิงน่ะคะ จะให้ยอมใครง่ายๆ ได้ไงล่ะคะ อีกอย่างยังไม่เห็นใครที่พอจะเข้าตา มีแต่พวกเสือหรือไม่ก็จระเข้ทั้งนั้น ไม่ได้อยากเก็บความซิงไว้ชิงโชค ก็มันไม่มีที่ใช่นี่

----------------------------------- ** **
กัน แนะนำตัว

สวัสดีครับสาวๆ ผม “กัน กันตภัทร คีรีวงศ์” หนุ่มหล่ออารมณ์ดี หม้อหูดำชั้นดี ลูกเจ้าของโรงแรมที่มีสาขาทั่วไทยมากกว่า 50 แห่ง เป็นธรรมดาที่ใครๆ ต่างหมายปองผม อย่างว่าแหละครับ โปรไฟล์ดีขนาดนี้ ก็ไม่แปลกที่สาวๆ จะเข้าหา ผมก็ผู้ชายธรรมดาครับ ใครเสนอก็ต้องสนองเป็นธรรมดา แต่จะให้คบจริงจังไม่เอาหรอกครับ ผู้หญิงส่วนใหญ่ที่เข้ามาก็หวังเงินทองหรือรูปร่างหน้าตาของผมเท่านั้นแหละครับ ตอนนี้ผมยิ่งฮอตเนื่องจากไอ้แทนมีเมียเป็นตัวเป็นตนไปแหละ มันหลงเมียอย่างกับอะไรดี ไม่มีแลสาวอื่น ทำให้เหลือผมคนเดียวที่เป็นที่ต้องการของสาวๆ แต่เจอแบบเดิมๆ ทุกวันมันก็เบื่อ ไม่อยากได้โน่นก็อยากได้นี่ หึงหวงแสดงความเป็นเจ้าของยิ่งน่าเบื่อ ผมต้องการอะไรที่ไม่ใช่แบบเดิม มันต้องเร้าใจเท่านั้นและครับ

----------------------------------- ** **
กัน Part 1

วันนี้ไอ้แทนบอกจะพาผมมาแนะนำให้ผมรู้จักเพื่อนน้องหนึ่งเมียมัน บอกตรงๆ ตอนแรกผมก็เฉยๆ เบื่อๆ คิดว่าจะพักบ้าง ผู้หญิงที่เข้าหามันก็แบบเดิมๆ ไม่มีอะไรเร้าใจ ยิ่งไอ้แทนบอกสวยระดับดาวมหาลัย ผมนี่ยิ่งเฉยๆ ได้จนจะครบทุกคณะอยู่แล้ว แต่ผมมาติดตรงไอ้แทนมันกระซิบบอกผมว่า

“ผู้หญิงคนนี้ จะไม่ทำให้มึงจำไปจนตายแน่นอน กูรับรอง”

ในเมื่อเพื่อนยืนยัน ผมก็ต้องมาเจอสักหน่อย วันนี้ผมแต่ตัวจัดเต็มมากครับ ผมมาในชุดสีดำล้วนพร้อมสูทเข้ารูป อวดหุ่นที่มีเทรนด์เนอร์ควบคุมมาอย่างดี เรียกได้ว่าแบรนด์ทั้งตัว สาวไหนเห็นก็ต้องเหลียวมองครับ นั่นไงพูดไม่ทันขาดคำ โต๊ะข้างๆ มองมา ผมส่งยิ้มให้ไปทีนึงก็ละลายกันทั้งแทบ

“สวัสดีค่ะ หวานค่ะ นี่ตือ ชื่ออะไรกันบ้างค่ะ นี่เป็นการเจอเพื่อนต่างคณะครั้งแรก หวานอาจจะเขินๆ อายๆ หน่อยน่ะคะ หวานกลัว”

อ้าวมัวแต่เต๊าะโต๊ะข้างๆ หวานมาแล้วครับ ผมหันกลับไปมองแล้วต้องตะลึง หวานสวยมากครับ สวยจนไอ้นั่นผมแทบแข็ง หวานมาในชุดลูกไม้ขาวคลุมเข่า พร้อมเสื้อแจ็กเก็ตหนังสีดำคลุมไหล่ ผมยาวเป็นลอนเล็กๆ ดูหวานๆ ซ่อนเปรี้ยวนิดๆ สเป็กผมเลย แต่ผมดูยังไงก็ไม่น่าจะเขิน อายกับเพื่อนต่างคณะแบบที่ว่า นี่นั่งชิดผมจนจะขี่กันอยู่แหละ ผมอยากรู้จริงๆ ว่าผู้หญิงคนนี้คิดอะไรอยู่ เล่นตามเค้าไปหน่อยล่ะกัน

“ผมกันครับ เป็นคนขี้อาย ไม่ค่อยกล้าชวนคุยก่อน ยังไงชวนผมคุยหน่อยน่ะครับหวาน ตือด้วยน่ะครับ”

ดูเหมือนเธอจะเชื่อน่ะครับ หรือไม่เชื่อ เธอเป็นผู้หญิงคนแรกที่ผมอ่านเกมส์เธอไม่ออก ผมชักสนุกล่ะสิ ระหว่างทานอาหารร่วมกัน ผมได้คุยกันนิดๆ หน่อยๆ ครับ เนื่องจากมีเพื่อนอยู่รอบข้าง ไม่เป็นส่วนตัว ก็เลยคุยแต่เรื่องทั่วไป หวานดูเป็นผู้หญิงคุยเก่ง ฉลาด หวานตอบคำถามผมในแบบที่ที่ว่ายังไงมันก็ไม่ใช่ มันยิ่งทำให้ผมสงสัยและยิ่งสนใจเธอมากขึ้น

“ปกติหวานชอบไปเที่ยวไหนครับ ผมไม่ค่อยมีเพื่อนนะครับ เพื่อบางทีผมเหงาอาจจะขอไปด้วย”

“หวานก็เดินห้างบ้างน่ะคะ แต่จะไปกับตือหรือหนึ่งนี่แหละค่ะ หวานไม่ค่อยมีเพื่อนผู้ชาย หวานกลัวน่ะคะ ไม่ค่อยไว้ใจ”

แต่หวานครับเพื่อนสองคนที่หวานเอ่ยมาก็ผู้ชายหมดน่ะครับ แม้คนนึงเพื่อนผมมันจะจ้องจับทำเมียอยู่ แต่ก็ผู้ชายน่ะครับ บางครั้งก็ดูเหมือนอ่อยผม แต่ก็แกล้งทำเป็นไม่รู้ตัว มันยิ่งท้าทายผมมากครับ เรานัดกันว่าจะไปเที่ยวผับกันต่อ นี่จะเป็นโอกาสที่จะทำความรู้จักหวานมากขึ้น ไม่แน่หวานอาจจะเสร็จผมคืนนี้เลยก็ได้ ผมจะได้ปิดจ็อบได้ในวันเดียว สบายล่ะครับ พวกเรามาถึงกันค่อนข้างดึกครับ ดีที่พี่หมอกมันจองโต๊ะไว้แล้ว ไม่งั้นคงต้องขับวนหาร้านใหม่ ผมไม่รอช้าผมเข้าไปประกบหวานก่อน เหมือนเธอก็รอผมอยู่น่ะครับ

"กัน หวานไม่เคยดื่มเหล้าน่ะคะ แค่เห็นหวานก็มึนๆ จะยืนไม่ไหวล่ะคะ ปกติเคยเห็นแต่ในรูป" แหมใสซื่อมากครับหวาน

"ผมก็พึ่งเคยมาครับ ทำไมมืดจังครับ ผมมองตอนกลางคืนไม่ค่อยเห็นด้วย ถ้าจับคลำอะไรผิดไปต้องขอโทษด้วยครับ"

น่าจะสูสีนะครับแมทนี้ อย่างน้อยผมก็ออกตัวก่อน ในนี้มันมืดผมลูบคลำอะไรไปอย่าถือสาล่ะกันครับ ยิ่งคุยกับหวานผมว่าหวานเป็นคนน่ารักดีนะครับ หวานเป็นคนฉลาดทันคน แต่หวานคงไม่เคยเจอคนเหลี่ยมจัดเท่าผม บางครั้งผมเอามือไปจับแขนหวาน หวานก็ยิ้มอย่างเจ้าเหล่ เหมือนหมาป่าจะกินลูกแกะ ที่หารู้ไม่ว่านี่คือหมาป่าในชุดลูกแกะ ผมกับเธอต่างผลัดกันรุกรับอย่างสนุกสนาน ใช้ชั้นเชิงจนเวลาล่วงเลยไป แทนกับน้องหนึ่งกลับไปก่อนล่ะครับทิ้งเราที่เหลือชิ่งไปแล้ว เห็นบอกว่าน้องหนึ่งเมาแล้ว ก็น่าจะเมาแหละครับผมเห็นดื่มเข้าไปหายแก้วแล้ว ไม่เมาก็บ้าแล้ว คงถึงเวลาที่ต้องปิดจ็อบของผมกับหวานแล้วครับ ดูท่าหวานก็คิดเช่นเดียวกัน

“กันแก้วนั่นคืออะไรค่ะ หวานจิบไปอึกนึง หวานมึนมาก กันช่วยขับรถไปส่งบ้านหน่อยค่ะ”

ผมฟังหวานพูดเสร็จพลางหันไปดูแก้วที่หวานพึ่งวางลง แม้มันจะขาวเหมือนกัน แต่มันไม่มีฟองครับหวาน นั่นมันน้ำเปล่า ไม่ใช่เหล้าครับ ไหนๆ หวานก็อ่อยขนาดนี้แล้ว

“ครับ หวานเดินไหวไหมครับ เดี๋ยวผมช่วยพยุง”

“พี่หมอกผมกลับล่ะ เดี๋ยวพี่กลับกับน้องตือล่ะกัน ส่วนไอ้โจ๊กตัวใครตัวมันมึงอย่าแดกเยอะล่ะ” ผมกล่าวลาเพื่อนๆ ก่อนพยุงหวานมาถึงรถขึ้นรถ

“หวานครับ ให้ผมไปส่งที่ไหนครับ บ้านหวานอยู่ไหนครับ” ไม่มีเสียงตอบรับครับ

“หวาน หวานครับ” ก็ยังไม่ตอบ

“หวานครับ ถ้าไม่ตอบยังไงกันพาไปนอนโรงแรมที่บ้านกันนะครับ”

“ไม่ตอบถือว่าตกลงนะครับ”

ถ้าจะอ่อยขนาดนี้ผมก็ต้องสนองครับหวาน ผมขับรถไม่นานก็มาถึงโรงแรมผมเปิดรถพยักหน้าให้พนักงานครั้งนึงก็รู้งานครับ พนักงานจัดเตรียมห้องให้เรียบร้อย พร้อมวางถุงยางกับสารหล่อลื่นไว้ที่หัวเตียงให้เรียบร้อย ผมวางหวานลงบนเตียง รอสักพักก็ยังไม่ตื่น จนผมเบื่อที่จะเล่นเกมส์ล่ะครับ ผมเลยบอกหวานไปตรงๆ

“หวานครับ ตื่นได้ล่ะครับ กันรู้ว่าหวานไม่ได้เมา ถ้าหวานเขินหรืออายยังไง งั้นเดี๋ยวกันไปอาบน้ำก่อน ถ้าอายก็ปิดไฟน่ะครับ พนักงานวางของไว้ให้ตรงหัวเตียงแล้ว หวานคงรู้น่ะครับว่าต้องใช้ยังไง” 

มันก็มุกเดิมที่ผู้หญิงชอบใช้กัน ผมคงคาดหวังกับหวานมากเกินไป หวานก็คงไม่ต่างจากผู้หญิงพวกนั้น ผมอาบน้ำสักพักก็นุ่งผ้าเช็ดตัวออกมา ไฟในห้องได้ปิดหมดแล้วเหลือแต่ไปสลัวที่หัวเตียง หวานตื่นแล้วนั่งอยู่ตรงหัวเตียง ผมเดินไปหาหมายจะเข้าไปจูบแต่ต้องชะงักก่อน

“กันไปนอนบนเตียงก่อน เดี๋ยวหวานทำให้ ”

โอ้ว ใจกล้า ผมชอบจริงๆ ครับผู้หญิงแบบนี้ ผมลงนอนเอามือพาดไว้หลังหัวพลางมอง หวานบีบสารหล่อลื่นบีบใส่มือแล้วละเลงบนกล้ามท้องมันเย็นทำให้ผมเสียงสะท้าน หวานละเลงบนหน้าท้องหลังจากนั้น……. ผ่านไปเกือบห้านาที หวานก็ยังวนอยู่กับกล้ามท้อง มันไม่เหมือนเล้าโลมน่ะผมว่า มันเหมือนนวดกดจุด หรือเล้าโลม หรือนวด หวานไม่ปล่อยให้ผมสงสัยนานครับ

“หายปวดรึยัง หวานนวดให้ดีขึ้นไหม” ผมเงยหน้ามาทำหน้างงใส่หวาน

“นวด?"

"อ้าว ก็กันเอาเคาน์เตอร์เพน มาให้หวานนวดให้ไม่ใช่เหรอ หายปวดยัง” หวานเอียงหน้าทำไร้เดียงสาใส่ผม

“แล้วถุง……..”

“อ้อหวานเป่าให้แล้วกัน ว่าแต่กันจะเอาลูกโป่งไปทำอะไร”

ผมหันไปมองถุงยางที่บวมเป่งเป็นบอลลูนที่ข้างเตียงแล้วอดขำไม่ได้ ผมเห็นละอ่อนใจ จริงอย่างที่แทนมันบอกครับ หวานทำให้ผมจำจนไม่ลืมจริงๆ ส

รุปคืนนั้น เราต่างคนต่างนอนครับ ผมเปิดห้องนอนอีกห้องนึง หวานเป็นผู่หญิงที่น่าสนใจมาก จนผมไม่อยากทำลายความน่าสนใจนั้น ดูเป็นคนหลายอารมณ์ บางครั้งหวานก็ดูท้าทาย แต่บางครั้งหวานก็ดูไร้เดียงสาเหมือนเด็ก ผมชักสนุกแล้วล่ะครับ

-----------------------------------


**หวาน Part 1   **

“หึ หึ หึ”


----------------------------------- 


สรุปใครคือเหยื่อ ใครคือผู้ล่าค่ะ ใครจะชนะในแมทนี้ค่ะ ** **

Aemmilicious

ออฟไลน์ aemmilicious

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 39
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +10/-2
ตอนที่ 7 : เซอร์ไฟรส์ครั้งแรก

"ทานเยอะๆนะจ๊ะลูกเขยแม่"

"ครับแม่ เมื่อวานผมว่าแม่สวยแล้วทำไมวันนี้สวยกว่าเมื่อวานล่ะครับ ดูสวยขึ้นทุกวันเลย"

ผมกรอกตาบนกับประโยคพูดคุยระหว่างแม่ผมกับไอ้แทนที่ได้ยินทุกเช้าจนจะครบเดือนอยู่แล้วเกือบหนึ่งเดือนแล้วครับที่มันมากินข้าวเช้าที่บ้านผมขับรถรับส่งเช้าเย็น จนบางครั้งผมเองก็เคยชินที่ต้องโทรหามันทุกครั้งหลังเลิกเรียน ว่าแต่มานั่งเต๊าะแม่กูทุกวันมึงไม่เบื่อรึ ชมแม่กูสวยทุกวัน ดูแม่จะรักมึงมากกว่ากูอีก พี่หนึ่งคงจะเก่าแล้วชิมิ แม่ลำเอียง แต่เดี๋ยวน่ะ

"แม่ครับ ทำไมช่วงหลังไม่เห็นถ่ายรูปหนึ่งเหมือนก่อนเลย"

"พรวด" พอสิ้นคำพูดผมไอ้แทนพ่นน้ำออกมา มึงตกใจอะไร แม่ลูกเค้าคุยกัน

"อี้ ไอ้แทนสกปรกเป็นไรของมึง ว่าไงครับแม่"

"อ้อ คือออออ แม่...... แม่ว่าสายแล้วรีบไปเรียนกันดีกว่าไหมลูก"

"จริงครับ วันนี้แทนมีสอบเช้าด้วย ว่าจะรีบไปอ่านหนังสือก่อนสอบ"

มึงดูร้อนรนไปน่ะ ว่าแต่ มึงอ่านหนังสือกับเค้าด้วยรึไอ้แทน ปกติกูเห็นมึงว่างจะตาย เออไปก็ไป

               

ระหว่างทางผมมัวแต่นั่งกังวลกับการสอบที่กำลังจะมาถึงในอีกเดือนข้างหน้า พลางนั่งคิดอะไรไปเรื่อยเปื่อย ไอ้แทนแทนที่จะขับรถเฉยๆ ก็มาหยิกแก้มจับมือ เล่นมาตลอดทาง นิดๆ หน่อยก็เอา จนผมเองก็เริ่มชินไม่ว่าอะไร ไม่มีอะไรสึกหรอนี่ครับ

"เมียครับรู้ไหมวันนี้อะไร"

"ศุกร์ไงมึง"

"ไม่ใช่ครับ วันนี้วันอะไรครับ" 

"วันอะไร หรือไม่ใช่วันศุกร์" หรือกูหลงวัน

"ใช่ครับเมีย แต่วันศุกร์นี้มันพิเศษกว่าทุกศุกร์"

"พิเศษกว่าทุกศุกร์ ใส่ไข่สองฟองว่างั้น"

"กวนตีนผัวอีกแล้วนะครับเมีย"

มันฟึดฟัดทำหน้างอนก้มหน้าก้มตาขับรถต่อไป เอ๊า กูผิดอีกล่ะ วันอะไรรู้ก็ไม่บอกกูให้กูทาย ไอ้นี่นี่ มันงอนไม่มองหน้าผมจนส่งหน้าตึกก็ยังไม่สนใจ เบิ้ลเครื่องใส่แล้วทิ้งปริศนาไว้ให้กู นี่กูต้องง้อมึงใช่ไหมแทน

ผมมาเช้ากว่าปกติ เพื่อนผมยังไม่มีใครมา ผมทิ้งเรื่องแทนงีบสักนิดก่อนเรียนดีกว่า

"ไงหนึ่งมึง เพลียมาเลยน่ะมึง เดินตรงทางรึเปล่า" หวาน สาวหนึ่งเดียวปล่อยหมามาทักทาย

"อะไรของมึงหวาน" แม่งยิ้มมีเลสใน

"วันพิเศษอย่างนี้ ฟ้าเหลืองเลยสิมึง" หยุดเรื่องใต้สะดือมาคุยกับกูดีๆ หวาน

"วันพิเศษ หวานมึงได้ไอ้กันแล้วรึ" เอาซะหน่อยล่ะกันกู

"หยุดมึง เดี๋ยวแฟนคลับกูได้ยิน เรตติ้งกูตกหมด" ระหว่างที่เราสองคนกัดกันอย่างเมามันส์

"วันนี้วันเกิดแทน" อ้าวตือมาตอนไหน

"ทำไมมึงรู้ล่ะ" ผมกับหวานประสานเสียงด้วยความสงสัย

"เห็นพี่หมอกบ่นอยู่น่ะ"

พูดจบมันก็เดินหนีไปห้องน้ำ สรุปมึงไปสนิทกับไอ้พี่หมอกตอนไหน เรื่องคนอื่นนี่เสือกจริง เรื่องตัวเองมาเดินหนี

"ตายละหวานกูไม่รู้ มิน่าเมื่อเช้ามันถึงถามกู กูยังไม่หาของขวัญให้มันเลย"

"ไม่ต้องเตรียมมากมึง มึงไปหามันที่ห้อง แล้วแก้ผ้าเอาโบว์ติดหัว ที่เหลือเดี๋ยวไอ้แทนมันจัดการเอง" เออดี จะบ้ารึมึงกูไม่เคย แม่งแนะนำแต่ละอย่าง

"หวานเลิกเรียนแล้วพากูไปซื้อของขวัญหน่อยสิ"

"ไปกับไอ้ตือเลยมึง กูมีนัดกับไอ้กันตอนเย็น" โหย เห็นผู้ชายดีกว่าทีมเวิร์คจำไว้เลยมึง

"ได้ กูว่าจะไปซื้อของด้วย" โถ ตือพ่อพระของพี่หนึ่ง

"ขอบใจมึง" ผมหันหน้าไปค้อนหวาน ชิชิชิ ต้องรีบไลน์บอกไอ้แทนก่อน


Nueng: แทนวันนี้กูกลับเองน่ะ กูมีธุระตอนเย็น ** **

แทน(หัวใจ)หนึ่ง: ไมอ่ะครับเมีย

Nueng: กูมีธุระกับแม่กูน่ะ 2 นาทีผ่านไป

แทน(หัวใจ)หนึ่ง: อย่ามาโกหกผัว ผัวโทรเช็กแล้วแม่เมียบอกไม่มี เอาไงดีว่ะกู กูต้องเซอร์ไฟรส์มัน กูต้องโกหกให้เนียน ** **

Nueng: อ้อ กูมีทำแลปที่คณะน่ะ ** **

หนึ่ง(หัวใจ)แทน: กันกับหวานจะไปดูหนังกัน ทำไมโกหกผัวครับเมีย นอกใจผัวเหรอ

Nueng: กู.... เออกูมีธุระแค่นี้

ปิดเครื่องแม่งเลยเพิ่มความเนียนเก่งจริงๆ กูเนียนที่สุด


          ผมนั่งเรียนจนเสร็จรีบใส่ตีนหมาโกยมาห้างอย่างรวดเร็ว ไม่ได้มาซะนาน ผมตื่นตาตื่นใจกับของในห้าง อยากจะซื้อซะให้หมด โอ๊ะ รองเท้าคู่นั้นสวย

“ตือ กูซื้ออะไรให้ไอ้แทนดีว่ะ” อืมเอาไรดีว่ะ

“กูไม่รู้ว่ะ มึงลองนึกดูล่ะกันว่า แทนมันชอบอะไร เดี๋ยวกูไปซื้อของกูก่อนเสร็จเดี๋ยวกูโทรหา”

ผมพยักหน้า พร้อมมานั่งคิด ว่าไอ้แทนมันชอบอะไร เท่าที่นึกออก ผมก็เห็นมันชอบฟันหญิงไปทั่ว จะซื้อหนังโป๊ให้ก็คงจะไม่ดี หรือซื้อถุงยางไปให้มันใช้กับสาวๆ แต่ไม่ได้ เดี๋ยวมันเปลี่ยนใจมาใช้กับผมจะยุ่ง นอกจากเรื่องใต้สะดือ ผมก็ไม่เห็นแล้วครับว่ามันชอบอะไร มึงคนดีจริงๆ แทน

“อ้าว เจอกันอีกแล้ว มาทำไรครับ” ผมหันไปมองตามเสียงแล้วทำหน้างง นึกตั้งนาน

“อ้อ หวัดดีครับ” ผู้ชายที่ผมเคยเจอที่ห้างนี้ ที่ช่วยดูแลผมที่ผับนี่ ผมว่าจะขอบคุณซะหน่อย

“ขอบคุณน่ะครับที่ช่วยวันนั้น”

“อ้อครับ ทำไมขอบคุณเปล่าๆ ล่ะ เลี้ยงข้าวหน่อยได้เปล่าครับ” หืม? เอาครับกล้าขอก็กล้าให้

“ก็ได้ครับ แต่เอาง่ายๆ น่ะครับ พอดีเดี๋ยวผมมีธุระต่อ”         

ผมเดินมาสักพักมากินร้านอาหารญี่ปุ่น เป็นเซทข้าวหมูทอดครับ ฮอล น่ากินจัง ผมเลือกอาหารเสร็จก็นั่งรออาหารจนลืมคนที่มาทานด้วย

“หนึ่ง ใช่ไหมครับ ผม “บอส” ครับ เรียนที่ไหนครับปีไรครับ”

“อ้อครับ หนึ่งเรียนที่มอ x ครับ คณะแพทย์ศาสตร์ ปีหนึ่งครับ”

“อ้าว เรียนที่เดียวกันเลยครับ สงสัยต้องเรียกว่าน้องแล้วแหละครับ พี่อยู่ปีสองล่ะ”

“อ้อครับ”           

ไม่รู้จะคุยอะไรต่อครับ จากนั้นพี่เค้าก็ชวนคุยเรื่อยเปื่อย พี่บอสเค้าคุยเก่งครับ ผมนั่งฟังจนเพลินเลย ผมไม่เห็นพี่เค้าไม่มีทีท่าว่าจะจีบผมแบบที่ไอ้แทนมันบอกเลย จนอาหารมา น่ากินมากครับ

“ฮอล อร่อยจัง” ผมนั่งหน้าตาฟินอย่างสุดชีวิต พี่บอสมองขำๆ แต่ก็ไม่ว่าอะไร

ผมนั่งกินซักพักจนเสร็จ ผมจะจ่ายเงิน แต่พี่บอสปัดมือผมออก

“เดี๋ยวมื้อนี้พี่เลี้ยงก่อนล่ะกัน เดี๋ยวน้องหนึ่งค่อยเลี้ยงพี่”

“อ้าว ทำไมล่ะครับ ไหนบอกจะให้เลี้ยง ไม่ต้องเกรงใจหรอกครับ”

“พี่อยากมากินข้าวกับหนึ่งอีก เอาไว้หนึ่งค่อยเลี้ยงพี่ทีหลังล่ะกัน งั้น เดี๋ยวแยกกันเลยนะ พี่มีธุระต่อ”

ผมเกาหัวงงๆ สักพักไอ้พี่บอสก็จากไป สรุปคือยังไงของไอ้พี่บอสตอนแรกเหมือนมันจะมาหลอกแดกข้าวฟรี แต่สรุปเป็นผมที่ไปหลอกแดกพี่เค้าฟรี แต่ของฟรี อร่อยด้วย พี่หนึ่งชอบ

     ผมก้มมองดูนาฬิกาตายล่ะ จะทุ่มนึงล่ะ ผมต้องรีบแล้วครับ เดี่ยวผมต้องเอาของขวัญไปให้มันที่หออีก ผมเดินทั้งห้างผมก็นึกไม่ออกว่ามันชอบอะไร ทั้งที่ผมรู้จักมันมาเกือบเดือนแล้ว แต่ผมรู้เรื่องเกี่ยวกับมันน้อยมาก กลับเป็นมันซะอีกที่รู้ทุกเรื่องเกี่ยวกับผม รู้ดียิ่งกว่าผมรู้จักตัวเองซะอีก เอ๊ะ ผมซื้ออันนี้ดีกว่า มันน่าจะได้ใช้ อีกอย่างที่ไปห้องมันคราวที่แล้วผมเห็นมันยังไม่มี ผมเลือกพร้อมให้พนักงานติดโบว์ตรงกลางที่ของขวัญชิ้นนั้น และไม่ลืมที่จะซื้อเค้กให้มันอีกหนึ่งก้อน มันมาอยู่คนเดียวแบบนี้คงไม่มีใครซื้อให้มัน ผมนึกสนุกอยากเห็นหน้ามันตอนเซอร์ไฟรส์ ผมซื้อของเสร็จก็โทรหาตือ ตือซื้อของเสร็จพอดีบอกว่าให้เจอกันที่ Super Market ชั้นใต้ดิน เพราะตรงกับชั้นจอดรถพอดี ผมมองตือซื้อของพวกของสด พวกเนื้อ ผัก เหมือนจะไปทำสุกี้กิน ผมอดถามไม่ได้

“ตือ มึงซื้อไปแดกที่บ้านหรือว่ะ ดึกขนาดนี้ที่บ้านมึงไม่หิวแย่แล้วหรือว่ะ ขอโทษทีที่มาเสียเวลารอกู กูเกรงใจว่ะ”

“เปล่า มึง ไอ้พี่หมอกมันฝากซื้อน่ะ” ผมทำหน้างง

“แล้วมาฝากมึงซื้อทำไม มึงสนิทกับพี่เค้าเรอะ”

“พี่เค้าเป็นรุ่นพี่ที่โรงเรียนเก่าน่ะมึง ไม่คิดว่าจะมาเจอกันอีกเลยคุยกันถูกคอน่ะ”

“ไอ้พี่หมอกมันอยู่กับใครน่ะ นี่มันจะสองทุ่มแล้ว มันไม่ดึกไปเหรอมึง” พี่เค้าปล้ำมึงกูไม่ช่วยน่ะเว้ย

“เออ นี่มันจะสองทุ่มแล้วมึงไม่รีบเหรอไอ้หนึ่ง”

          ไอ้เหี้ย ลืม ผมคิดได้รีบเดินไปรถ รถก็ติดเหลือเกิน ผมใช้เวลาเกือบชั่วโมงกว่าจะถึงคอนโดไอ้แทน ผมโบกมือลาไอ้ตือ ผมรีบจนลืมถามเรื่องพี่หมอกต่อ แต่เอาไว้ค่อยถามล่ะกัน ไอ้ตือก็นั่งเงียบมาตลอดทางทั้งที่ปกติมันจะถามเรื่องผมตลอด สงสัยจะกลัวผมถามเรื่องไอ้พี่หมอกมั้ง พรุ่งนี้กูจะรวมหัวกับไอ้หวานสอบสวนมึงไอ้ตือ

------------------------
แทน Part

Nueng: กู.... เออกูมีธุระแค่นี้

          สิ้นจากข้อความนี้ ผมส่งไลน์ไปหายังไง หนึ่งก็ไม่อ่านครับ สงสัยจะเรียนอยู่ วันนี้ผมมีเรียนทั้งวันด้วย จะว่างอีกทีก็ช่วงเย็น จะไปดักรอก็ไม่ทันครับ เพราะวันนี้หนึ่งมันเลิกก่อนผมครึ่งชั่วโมง ผมรู้ทุกๆ อย่างเกี่ยวกับหนึ่งครับ ผมตามหนึ่งมานาน ผมใส่ใจทุกอย่าง แม้ว่าจะเป็นรายละเอียดเล็กๆ น้อยๆ ของคนที่ผมรัก ผมอยากให้เค้าอยู่อย่างมีความสุขเวลาที่อยู่กับผม ผมอยากให้เค้ารักและดูแลผมแบบไหน ผมก็จะทำแบบนั้นให้เค้าก่อนเสมอ ผมแสดงออกเสมอว่ารักและเห็นเค้าเป็นคนสำคัญ ทุกคนดูออก ยกเว้นตัวมันเอง คนที่ผมอยากให้รู้ที่สุด แต่มันกลับไม่รู้ซะนี่ ผมไม่โกรธน่ะครับที่หนึ่งจำวันเกิดผมไม่ได้ เพราะผมไม่เคยบอกและหนึ่งไม่เคยถาม แต่ผมอุตสาห์ใบ้ มันยังบอกว่าวันศุกร์ใสไข่ ผมน่าจะปล้ำมันในรถซะจะได้จำได้ เฮ้อออออ ผมนั่งถอนหายใจ รู้งี้บอกไปดีกว่าว่าเป็นวันเกิด ไม่งั้นเย็นนี้ผมคงได้ไปดินเนอร์ใต้แสงเทียนบรรยากาศโรแมนติกกันสองต่อสอง จิบวายเบาๆ พอหนึ่งมึนก็ปล้ำแม่งบนโต๊ะเลย เฮ้ออออออออ ผมถอนหายใจอีกที วันนี้เรียนเสร็จผมคงต้องกลับไปฉลองลำพังล่ะครับ เพราะชีวิตผมก็มีแต่หนึ่ง เรียนเสร็จผมก็ไปส่งมัน เรียกว่านอกจากเรียนที่เรียนกันคนล่ะคณะแล้ว ผมแทบจะอยู่ติดกับมันตลอดเวลา หรือผมจะย้ายไปเรียนแพทย์ดี คิดฟุ้งซ่านไปสักพักก็เลิกเรียนพอดี

ผมนั่งเล่นใต้ตึกคณะกับเพื่อนสักพักก็ขอตัวกลับ นานๆ กลับบ้านไวที พวกนั้นชวนผมไปแดกเหล้า ผมบอกเอาไว้คราวหน้าล่ะกัน ไม่ได้เจอหนึ่งผมก็ขอไปนอนคุยโทรศัพท์กันก็ยังดี ผมกลับมาที่ห้องราวสองทุ่ม มือถือหนึ่งยังคงไม่มีคนรับ สงสัยยุ่งอยู่ พอถึงห้องแล้วรู้สึกเหงาชอบกล วันเกิดทั้งที ถ้าผมยังอยู่ต่างประเทศกับที่บ้านอย่างน้อยป่านี้ที่บ้านก็เอาเค็กมาเป่ากันล่ะครับ แต่เมื่อผมเลือกที่จะกลับมาแล้ว ผมไม่เคยเสียใจที่ต้องห่างจากครอบครัวครับ เพราะหัวใจผมอยู่ที่นี่ ผมนอนเอินตัวลงบนโซฟาสักพักก็หลับไป

กริ๊งงงงงง กริ๊งงงงง

          เสียงกริ่งหน้าห้องดังผมตื่นมาอย่างมึนๆ พลางดูนาฬิกา นี่ก็เกือบสามทุ่มครึ่งล่ะ ใครมา สงสัยพวกไอ้กันโจ๊กไอ้พี่หมอกมันซื้อเหล้ามาแดกที่ห้อง ผมเดินไปเปิดประตูพร้อมจะกล่าวทักทายไอ้เพื่อนๆ ที่มาป่วนห้องผม

“เซอร์ไฟรส์ สุขสันต์วันเกิดไอ้แทน”

ผมอึ้งไปสักพัก ผมดีใจมากครับที่หนึ่งจำวันเกิดผมได้ ผมไม่รู้จะเอาคำไหนมาพูดแทนความรู็สึกนี้ ผมก้มลงไปกอดคนตัวเล็กด้านหน้า ผมอยากจะขอบคุณที่ไม่ทิ้งผมให้อยู่ลำพังในวันนี้

“ไอ้แทน อายเค้ามึง ทำเหี้ยไรนี่ ปล่อยกูเลย” ผมยิ้มให้พร้อมหยิกแก้มคนตัวเล็ก

“ไหนบอกวันศุกร์ใส่ไข่ไง มาทำไมน่ะ”

“แหมมึง ก็กูไม่รู้ กูขอโทษ มึงไม่เคยบอกกูน่ะ กูจะไปรู้ได้ไง” ผมดึงมันเข้ามากอดอีกที

“ขอบคุณน่ะครับเมียที่จำวันเกิดผัวได้”

“เออ ปล่อยกูเลย แต๊ะอั๋งกูอีกล่ะมึง ไปกินเค้กกัน”

มันดิ้น ไปมาพร้อมหน้าแดง หนึ่งมานั่งข้างในพร้อมเปิดกล่องเค้ก พร้อมทำสายตาตื่นเต้นมาหาผม

“ชอบไหมมึง กูเลือกตั้งนาน ให้เค้าเขียนหน้าเค้กมาให้ด้วย”

“ชอบครับเมีย”

“ว่าแต่มึงกินข้าวยัง โทรสั่งไก่มากินกันไหมมึง จะได้รีบเป่าเค้ก เดี๋ยวเลยวัน”

ผมโทรสั่งไก่เสร็จก็มานั่งคุยกับหนึ่งที่โต๊ะกินข้าว พร้อมกับมองหน้ามัน ดูมันเขินๆ อายๆ ยังไงชอบกล

“แทนกูมานั่งนึกดูแล้ว กูไม่รู้อะไรเกี่ยวกับมึงเลย กลับเป็นมึงซะอีกที่รู้ทุกเรื่องเกี่ยวกับกู”

“แหม เมียครับ เริ่มสนใจผัวแล้วซิ ถึงอยากได้รู้เรื่องของผัวน่ะ” ผมหัวเราะ มันทำหน้ากวนตีนกลับมา

“ถามสิครับเมีย เดี๋ยวผัวตอบทุกเรื่องเลย”

พอสิ้นประโยคนั้น หนึ่งก็ถามผมสารพัด เช่น ชอบกินไร ชอบหนังเรื่องอะไร เพลงอะไร ถนัดมือไหน จนถึงนอนยังไง ชอบนอนท่าไหน จนมาถึงคำถามที่ผมลำบากใจในการตอบ

“แทนมึงไปเมืองนอกตอนป. หนึ่งใช่ป่ะ”

“ครับเมีย”

“งั้นตอนอนุบาลมึงเรียนที่ไหนล่ะ”

------------------------

 

อยากได้ผู้ชายแบบแทน จะเอาคนนี้ คนนี้ คนนี้

Aemmilicious

ออฟไลน์ aemmilicious

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 39
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +10/-2
ตอนที่ 8 : ของขวัญชิ้นแรก

- แทน -

“งั้นตอนอนุบาลมึงเรียนที่ไหนล่ะ”

ผมอึ้งกับคำถามที่หนึ่งถาม ผมไม่อยากจะโกหก แต่ก็ยังไม่พร้อมที่จะพูดความจริงออกไป ผมควรทำยังไงดี

กริ๊ง กริ๊ง กริ๊ง ไก่ทอดมาส่งครับ

“เอ๊ะ ไก่มาแล้ว เดี๋ยวผัวไปเอาก่อนน่ะครับเมีย” รอดตัวไปครับรอบนี้

“อืม อืม อืม หิว” หนึ่งพยักหน้าอย่างว่าง่าย สงสัยหิวจริง           

ผมกับหนึ่งนั่งกินกันอย่างเอร็ดอร่อย และเป็นปกติของแฟนผมครับ เมื่อเห็นอาหารอยู่ตรงหน้า ก็ไม่สนใจอย่างอื่นแม้แต่ผม ก็ไม่สนใจ

“เมียครับค่อยๆ กินก็ได้ครับ ปากเลอะหมดแล้ว นี่ไก่สุกครับ ไม่ใช่ไก่ดิบ ไม่ต้องรีบครับไม่มีคนแย่ง” ผมพูดพลางเช็ดปากที่เลอะออกให้

“ทำไมด่ากูเป็นนกล่ะ” อ่ะ ถ้าคิดว่านกกินไก่ดิบนกก็นกครับ

“ฮอลลลลล อร่อยจัง รีบกิน เดี๋ยวเป่าเค้กกัน”

“เมียครับได้เป่าแน่ครับไม่ต้องรีบ”           

เวลาผ่านไปสักพักหนึ่งก็จัดการไก่หนึ่งถังใหญ่หมดอย่างรวดเร็ว ตัวก็เล็กกินแล้วเอาไปไว้ไหนนี่ ผมเก็บโต๊ะ ยังไม่ทันจะเสร็จหนึ่งก็ร้องโอดครวณ

“เป่าเค้ก เป่าเค็ก” ผมเอาเค้กออกมาวางหนึ่งอาสาปักเทียนให้อย่างตั้งใจ จนผมอดถามไม่ได้

“ทำไมต้องอยากเป่าเค็กด้วยครับเมีย”

“กูอยากเห็นมึงมีความสุขกับสิ่งที่กูทำให้ กูอยากให้มึงมีความสุขในวันเกิดของมึง”

หนึ่งพูดออกมาอย่างจริงใจ ตาดูเป็นประกาย แม้หนึ่งจะไม่ค่อยหวานกับผม แต่ผมรู้ครับว่าหนึ่งไม่เคยคิดร้ายกับใคร และจริงจังจริงใจกับทุกๆ อย่างที่ทำ

“แค่เมียมาอยู่ด้วยก็ดีใจแล้วครับ” ผมพูดพลางหยิกแก้มมันหนึ่งที

“อย่ามาน้ำเน่ารีบเป่ามึง อย่าลืมอธิฐานด้วย”           

หนึ่งจัดการร้องเพลงวัดเกิดแบบสามช่า จนจบ พร้อมเน้นย้ำให้ผมอธิฐาน ผมยังต้องการอะไรอีกล่ะ ในเมื่อสิ่งที่ผมต้องการที่สุดมาอยู่ตรงหน้าผมแล้ว ผมไม่ต้องการอะไรอีกแล้ว หลังจากเป่าเค้กเสร็จ หนึ่งก็ฟาดเค้กเข้าไปอีก จนมานอนตายอยู่บนโซฟา

“โอ๊ยยยย อิ่ม”

พูดเสร็จพลางหลับตาเหมือนจะนอนหลับ แล้วก็สะดุ้งลุกขึ้นมา มองผมด้วยสายตาเย้ายาน

“แทน กูมีของขวัญให้มึงด้วยน่ะ แต่มึงต้องทายก่อนว่ามันคืออะไร”

หนึ่งหัวเราะอย่างมีเลศนัย ผมดีใจครับ จริงๆ แค่เค้กก็พอแล้ว นี่มีของชวัญด้วย ส่งสัยที่ไม่ให้ผมไปส่งคงไปหาซื้อของขวัญนี่แหละครับ ผมลงไปนั่งที่โซฟา พร้อมเอามือโอบไปด้านหลัง สงสัยว่ามันคืออะไรนะ

“ถามได้สิบคำถามน่ะ ว่ามันคืออะไร” หนึ่งทำหน้าเจ้าเลห์ ผมพยักหน้าตกลง

“อืม ของขวัญที่ให้เป็นรูปทรงแบบไหนครับเมีย”

“อืมมมม มันก็เป็นแท่งๆ น่ะ จะเรียกว่าทรงอะไรดีล่ะ เอาว่ามันเป็นแท่งๆ” เอ๊ะอะไรน่ะ

“มันใช้ได้ไหมครับเมีย”

“ใช้ได้สิ”

“แล้วตอนใช้เป็นไงครับเมีย”

“ตอนใช้มึงก็จะมีเหงื่อออก ใช้มากใช้น้อยก็แล้วแต่มึงเลย ใช้มากมันก็จะขยายใหญ่ ใช้น้อยก็จะหดลง”

อะไรว่ะ เป็นแท่ง มีเหงื่อออกมา ยืดได้หดได้ ผมนั่งคิด

“ตอนใช้ ใช้ได้กี่คนครับ”

“คนเดียวก็ใช้ได้น่ะ แต่ถ้าสองคนก็จะสนุกพลัดกัน”

เอ๊ะ! เดี๋ยวน่ะ เป็นแท่ง ยืดได้หดได้ ตอนใช้มีเหงื่อ ใช้คนเดียวได้ สองคนพลัดกัน นี่อย่าบอกน่ะครับว่าหนึ่งจะพลีกายให้ผมเป็นของขวัญ ด้วยการเอาโบว์มาติดหัวตัวเองแล้วใส่พานมาถวายผมถึงที่ เมียช่างใจกล้วมากครับ ผัวชมเชย

“ตอนใช้เจ็บไหมครับ” ผมถามไปเขินไป

“อืม ครั้งแรกมึงก็จะปวดตัวหน่อยน่ะ ถ้าใช้มากไป แต่ถ้าใช้บ่อยๆ ร่างกายปรับสภาพได้ ก็ไม่น่าจะเจ็บ”

หืมมมมมมมมมมมม เมียจะเอาจนผัวเจ็บเลยหรือครับ

“อืมแล้วของใส่กล่องมาไหมครับเมีย”   

“ไม่อ่ะมึง ติดโบว์ก็ได้แล้ว” หนึ่งพูดพลางทำมือเป็นขนาดของของทรงแท่งๆ ว่าใส่กล่องลำบากแค่ไหน

“มีงจะปลดกระดุมทำไม” อ้าวลืมตัว ผมปลดกระดุมเตรียมรับของขวัญล่ะครับ

“อากาศมันร้อนน่ะ ไม่ทายละครับเมีย เอาของขวัญมาให้เลย ผัวอยากได้ล่ะ เดี๋ยวไปปิดไฟก่อน”

“ปิดทำไมล่ะ มันมืด กูชอบสว่าง สว่าง” เอ๊า ผัวกลัวเมียอาย เปิดไฟก็ได้ครับผัวก็อยากเห็นชัดๆ

“ไปให้ที่ห้องนอนได้ไหมครับเมีย แบบให้ปุ๊บใช้ปั๊บ”

“เออ นี่กูเห็นเป็นวันเกิดมึงน่ะเลยตามใจ เรื่องมากจริง”

หนึ่งพูดเสร็จพลางเดินนำจูงผมไปห้องนอน ทำไมวันนี้เมียรุกผัวจังครับ ผัวคงหล่อ เมียทนไม่ไหวใช่ไหม

“หลับตาก่อน” โอย เร็วครับเมียขึ้นมาค่อมผัวเลยครับ

“อ่ะ สุขสันวันเกิดนะแทน มีความสุขมากๆ น่ะมึง” สงสัยเมียตื่นเต้นตัวเย็นเชียว เดี๋ยวน่ะ ไม่ใช่ล่ะ ผมลืมตามาดูของที่อยู่ในมือ ทำหน้างง

“อะไรน่ะครับเมีย”

“อ้าว มึงไม่รู้จักรึไอ้แทน”

“เป็นแท่งๆ ตอนใช้มีเหงื่อ แข็งได้หดได้ ใช้มากเจ็บ”

ผมทวนประโยคที่มันพูด สงสัยล่ะสิครับว่าของขวัญคืออะไร มันคือ "ดัมเบล" ครับ งงล่ะสิครับ ว่าแข็งได้หดได้ยังไง ไปฟังหนึ่งอธิบายครับ

“อ้าว ก็มันเป็นแท่งๆ น่ะมึง แม้มันจะมีกลมๆ ตรงปลาย แต่มันก็เป็นแท่งน่ะมึง”

“เมียครับผัวไม่งงตรงไหนเลย ผัวงงตรงยืดได้หดได้ ยังไงครับ ผัวงง”

“อ้าวเวลามึงใช้บ่อยๆ กล้ามมึงก็ขยายใหญ่ขึ้น มึงไม่ใช้มันก็หดไง” เออจริง แต่เดี๋ยว

“ใช้แล้วปวดตัวคืออะไรครับเมีย”

“อ้าว มึงไม่เคยเป็นเหรอ มึงออกกำลังกายเยอะๆ ก็ปวดเมื่อยตัวเป็นของธรรมดา ฝึกบ่อยๆ จะได้ชินมึง ลองยกดูเลยไหม” 

ผมอยากจะร้องไห้ วันนี้คงไม่พ้นโลกสวยด้วยมือเราอีกแล้ว ผมนั่งอึ้งอยู่ที่เตียงสักพัก ไอ้กันก็ส่งไลน์มาหา ผมจึงวางของขวัญยืดได้หดได้ไปเปิดดู ** **

กัน: ไอ้แทน วันนี้กูไปดูหนังกับหวานมา รู้ไหมกูเจอใคร แต่กูไม่เล่าดีกว่าเดี๋ยวมึงไม่สบายใจ

กันมึงเปิดเรื่องมาขนาดนี้แล้ว ไอ้ห่า อย่ามา

แทน(หัวใจ)หนึ่ง: ไอ้ห่า เล่ามาขนาดนี้แล้ว เจอใครเร็วเลยมึง กูกำลังเซ็ง เพื่อกูจะบันเทิงขี้น

กัน: กูเจอน้องหนึ่ง แล้วแปลกตรงไหนมึงกูงง

แทน(หัวใจ)หนึ่ง: อ้อ หนึ่งคงไปซื้อของขวัญให้กูน่ะ แปลกตรงไหนมึง

กัน: มันแปลกตรงนี้

กันพิมพ์เสร็จพร้อมส่งรูปมา เป็นรูปหนึ่งนั่งทานข้าวในร้านอาหารก็น่ารักดี ถ้าอีกด้านจะไม่ใช่ผู้ชายที่เต๊าะแฟนผมที่ผับ

กัน: จะทำอะไรก็รีบทำซะมึง ก่อนหมาคาบไปแดก กูขี้เกียจมานั่งปลอบมึง

ผมโกรธจนหน้าเปลี่ยนสี พร้อมเดินตรงไปหาหนึ่งที่กำลังเล่นดัมเบลที่ยืดได้หดได้อยู่

“เมียครับ ผัวถามอะไรหน่อย วันนี้ไปไหนมา”

“ไปห้างซื้อของให้มึงไง ถามอะไรของมึงเนี่ย จ้องอย่างกับจะแดกกู”

“ไปกับใครครับเมีย”

“ตือไง หวานไปดูหนังกับไอ้กันไง ก็เลยไปกับตือ”

“แน่ใจรึครับ”

“เออ ทำไมเซ้าซี้จัง มีไรรึเปล่ามึง”

“นี่ใครครับ นี่ไม่ใช่ตือ” ผมพูดพลางส่งโทรศัพท์ไปให้หนึ่งดูรูป

“อ้อ พี่บอสน่ะ เจอกันที่ห้างทำไมรึ”

“พี่บอสเรียกกันดูสนิทสนมน่ะครับ ทำไมไปกินข้าวกันสองต่อสองครับเมีย”   

“ก็เลี้ยงขอบคุณเค้าที่ช่วยที่ผับไง”

“ทำไมต้องเลี้ยงครับ เมียแน่ใจน่ะ ไม่ได้นัดกันก่อน”

“อะไรของมึงนี่ พูดไม่รู้เรื่อง งั้นกูกลับล่ะ”

หนึ่งพูดพลางเดินออกจากห้องนอน แต่ผมดึงตัวหนึ่งลงบนเตียงพร้อมขึ้นค่อม

“เมียรู้ไหมครับว่าผัวหึง”

“หึงอะไรของมึง กู…...”

ผมไม่รอให้หนึ่งพูดจบ ผมเอามือบีบคางให้ปากเผยอออก พร้อมก้มลงไปจูบอย่างหนักหน่วง จนหนึ่งหายใจไม่ออกจึงปล่อยปาก

“ห้ามเมียไปกินข้าวกับคนอื่นอีก” หนึ่งดิ้นอย่างสุดแรง แต่ก็สู้แรงผมไม่ได้

“ทำไมกูต้องฟังมึงด้วย กูก็…...”

ผมก้มลงไปจูบอีกครั้งให้ลิ้นของผมได้สัมผัสรสหวานอย่างเต็มที่ หนึ่งเลิกดิ้นแล้วครับ พร้อมตอบรับจูบของผมอย่างดูดดื่ม

“เมียอย่าทำอย่างนี้อีกน่ะครับ ผัวไม่ชอบ”

“อืม” หนึ่งดูอ่อนระทวยกับรสจูบของผม ผมนอนมองหน้าหนึ่ง พร้อมเอามือลูบผม

“ปล่อยกูได้ยัง” หนึ่งเตรียมจะลุกขึ้น แต่.....

“เมียครับ ผัวหายโกรธเมียแล้ว แต่ผัวไม่ไหว มีไรกันน่ะครับ”

“เฮ้ยยยย”           

หนึ่งร้องเสียงหลง ใครจะไปทนไหวล่ะครับ เมียนอนอยู่บนเตียง ทับบดขยี้กันขนาดนี้ ขอน่ะครับ ผมก้มหลงไซร์ซอกคอหนึ่ง หนึ่งดิ้นหนักยิ่งกว่าครั้งแรก แต่ก็สู้แรงผมไม่ไหว ไหนๆ ทุกๆ อย่างเป็นใจนาดนี้ ความหื่นเข้าตาผมไม่สนใจอะไรทั้งนั้น ผมปลดกระดุมเสื้อหนึ่ง ลูบไร้บนเรือนร่างของหนึ่ง ทำไมเมียขาวจังครับ และแล้ววันที่ผมรอก็มาถึง…..

“ผัวขา” เอ๊ะ ทุกอย่างหยุดชงักลง ผมมองหน้าหนึ่งอย่างสงสัย เมียเรียกผัวทำไมครับ

“เมียเรียนมาทั้งวันเลย เมียตัวเหม็นเหงื่อ ไปอาบน้ำก่อนไหม อาบน้ำด้วยกัน เดี๋ยวเมียถูหลังให้ผัวด้วย เพื่อจะไปทำกันไหนห้องน้ำสักหนึ่งยก แล้วค่อยมาต่อที่เตียง เมียอยากได้หลายๆ ยก”

หืม ดีจังครับเมีย ผัวอยากได้ เมียดูยั่วยวน เซ็กซี่จังครับ

“เดี๋ยวผัวแก้ผ้ารอเมียในห้องน้ำเลยน่ะ เดี๋ยวเมียตามไป”

ผมนี่แทบใส่ตีนหมาโกยเข้าห้องน้ำ ผมนี่โชคดีจริงๆ มีเมียใจกล้า ชอบเรียกร้อง ครั้งเดียวไม่พอ ต้องการตั้งหลายยก ผมนั่งยิ้มแก้ผ้ารอเมียในห้องน้ำ สงสัยมีเซอร์ไฟรส์อีกล่ะ ว่าแต่ทำไมนานจัง

“เมียครับ อยู่ไหนครับ”           

ผมเดินไปหาไหนห้องนอนก็ไม่มี ผมจึงเดินออกมาที่ห้องรับแขกก็ไม่มี ห้องครัวก็ไม่มี หรือว่า เมียครับไม่เอาน่ะครับ ครั้งแรกเราจะ Outdoor ที่ระเบียงไม่ได้ แต่ตามใจเมียละกันครับ อ้าวไม่มีไปไหนล่ะ หรือจะอยู่ใต้เตียง ระหว่างที่ผมหาอยู่นั้น ไลน์ในเครื่องผมก็ดัง ผมหาไปพลางกดดูไป

หนึ่ง: แทนกูกลับก่อนน่ะ หมาที่บ้านกูป่วย ฮืออออออ

เมียครับบ้านเมียไม่ได้เลี้ยงหมาครับ โลกสวยด้วยมือเราอีกแล้วกู

-------------------------------
- หนึ่ง -

“เมียครับ ผัวหายโกรธเมียแล้ว แต่ผัวไม่ไหว มีไรกันน่ะครับ”

“เฮ้ยยยย”

ผมร้องเสียหลง ผมดิ้นสุดแรง แต่ก็สู้แรงไอ้แทนไม่ได้ ในใจผมคิด ตายแน่แล้ว นี่กูต้องโดนมันเอาแล้วหรือนี่ ผมยังไม่ได้เตรียมใจ อีกอย่างผมกับมันก็ไม่ได้เป็นอะไรกัน แต่เอ๊ะ ถ้ามันขอเป็นแฟนผมจะยอมไหมน่ะ เดี๋ยวน่ะนี่ไม่ใช่เวลามาคิด ไอ้แทนปล่อยกู วินาทีที่คิดว่าชีวิตคงไม่รอดจากเงื้อมมือไอ้แทนหน้าหวานก็ลอยมา ผมทำในสิ่งที่ไม่คิดว่าในชีวิตนี้จะทำ

“ผัวขา” เอ๊ะ มันหยุด

“เมียเรียนมาทั้งวันเลย เมียตัวเหม็นเหงื่อ ไปอาบน้ำก่อนไหม อาบน้ำด้วยกัน เดี๋ยวเมียถูหลังให้ผัวด้วย เพื่อจะไปทำกันไหนห้องน้ำสักหนึ่งยก แล้วค่อยมาต่อที่เตียง เมียอยากได้หลายๆ ยก”

ท่าทางมันจะเชื่อ ผมพูดพลางถอดเสื้อส่งสายตายั่วยานไปทางมัน

“เดี๋ยวผัวแก้ผ้า รอเมียในห้องน้ำเลยน่ะ เดี๋ยวเมียตามไป”

สิ้นคำพูดผม ไอ้แทนมันวิ่งจู๊ดเข้าห้องน้ำไปอย่างไว ผมไม่รอช้า รีบหยิบเสื้อวิ่งออกมาจากห้องไอ้แทนแบบไม่คิดชีวิต มายืนหอบอยู่ในลิฟท์ เกือบไปแล้วกู ไม่ได้การล่ะ กูต้องไม่มาห้องไอ้แทนอีก กูต้องไม่มาอีก ทันทีที่ขึ้นแท้กซี่ ผมก็ส่งไลน์ไปหามัน จะได้ไม่ต้องเป็นห่วง           

เฮ้อออ ผมนั่งอย่างสบายใจ พร้อมนั่งนึกในความเป็นแม่พระของหวาน ถ้าไม่เห็นหน้าหวานในช่วงวินาทีนั้น ผมก็คงไม่รอดจากเงื้อมมือไอ้แทน เอาไว้กูมีลูกชายจะให้บวชให้สักพรรษานึงน่ะมึง ไม่ดีกว่า กูมีลูกชายจะเอามาให้มึงเต๊าะเล่นแล้วกันหวาน มึงน่าจะชอบมากกว่า โถ หวานนางฟ้าน้อยๆ ของพี่หนึ่ง


--------------------------------------

เมื่อวิศวะโดนลูบคม ตอนหน้าวิศวะจะมาเอาคืนค่ะ

Aemmilicious

ออฟไลน์ aemmilicious

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 39
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +10/-2
ตอนที่ 09 : แฟนคนแรก

- แทน -

"น้องครับ เดินดีๆ ระวังสะดุดล้มจะได้แผล แต่ถ้าสะดุดรักรับรองจะได้น้องครับ พี่จะตั้งใจทำอย่างดีครับไม่ต้องห่วง" "น้องครับทานข้าวยังครับ ถ้าหิวรับวิศวะสักคนไหมครับ อาจไม่อิ่มแต่จุกแน่นอนครับ"

"เฮ้อออออ"     

ผมถอนหายใจท่ามกลางเสียงแซวของเพื่อนใต้ถุนตึกคณะ ถอนหายใจทำไมรึครับ เพราะตั้งแต่เรื่องหมาป่วยเมื่อวานผมยังไม่ได้คิดบัญชีกับไอ้หนึ่งเลย เมื่อเช้าผมแหกขี้ตาตื่นไปรับมันแต่เช้า แต่แม่งก็หนีออกมาเช้ากว่าผมอีก แม่บอกหนึ่งไปตั้งแต่ตีห้า บอกมีสอบเช้า มึงจะรีบไปช่วยยามเปิดตึกรึไงเมียครับ ผมไลน์ไปก็อ่านแต่ไม่ตอบ นี่กะตอนเย็นกะจะไปรอรับที่คณะ แล้วปล้ำแม่งบนรถเลยจะได้ไม่เสียเวลา จบ แต่ก็...

"เฮ้ออออออ"

ผมถอนหายใจอีกล่ะ อ้าว เหี้ย ไม่ใช่ล่ะกูยังไม่ได้ถอนหายใจเลย ผมหันไปมองข้างๆเห็นไอ้กัน นั่งถอนหายใจอย่างอ่อนล้า หน้าตามึงดูหมดหนทางกว่ากูอีกน่ะมึง เป็นเหี้ยไรวะเนี่ย

"ไอ้เหี้ยกัน เป็นไรว่ะมึง" มันหันมาหาผมทำหน้าเหนื่อยหน่ายใจ

"กูไม่รู้ว่าจะเล่าให้มึงฟังดีไหมว่ะ เฮ้ออออออ" เอาไอ้นี่

"พูดมาเถอะมึง มันยังมีอะไรที่เป็นความลับอีกมึงกับกูนี่ยังมีไรที่ต้องปิดปังกันอีกครับ" ดูมันทำท่าหนักใจ

"แทน กูเงี่ยน ช่วยกูด้วย"

"เหี้ย" ผมสะดุ้งตัวโหยงเอาตีนยันมันไปทีแม่งหงายหลัง

"ไอ้เหี้ยแทนฟังกูก่อนดิ" มันลุกมาปัดก้นแล้วนั่งที่เดิม

"เมื่อวานกูไปดูหนังกับหวานใช่ม่ะ กูก็ไม่ได้คิดอะไร กะไปดูหนังเฉยๆ แต่หวานแม่งเอาแต่ลูบต้นขากู ลูบตั้งแต่ต้นเรื่องยันท้ายเรื่อง ลูบแทบจะโดนไข่กูอยู่ล่ะ สับกับเอานมมาสีแขนกูไม่รู้ว่าตั้งใจหรือไม่ตั้งใจ จนกูน้ำจะแตกคาโรงอยู่ล่ะ กูนั่งนึกในใจวันนี้กูต้องเผด็จศึกหวานให้ได้ สักพักพอหนังหนังใกล้จบ หวานก็ขอไปเข้าห้องน้ำ กูก็ไม่ว่าอะไรจนหนังจบนี่ก็กูไม่ไหวล่ะ ยืนตัวงอล่ะกู หวานก็ยังไม่มา ผ่านไปครึ่งชั่วโมงก็ยังไม่มา กูก็เข้าใจว่าห้องน้ำคนเยอะต้องต่อแถว สักพักหวานไลน์มาหากู กูน้ำตาไหลพลาก"

"ทำไมว่ะมึง" ผม หมอก พี่โจ๊ก ประสานเสียง ลุ้นเหี้ยๆ

"หวานบอกหมาป่วยต้องรีบกลับ บอกกูถึงบ้านแล้วไม่ต้องห่วง"     

โถ กูว่าล่ะไอ้หนึ่งมันเอาแผนเอาตัวรอดนี้มาจากไหน ที่แท้ก็จากหวาน โถไอ้กันเพื่อนร่วมทุกข์ร่วมสุขไปกับกู แต่มึงน่าจะเจ็บกว่ากูน่ะ กูปลอบใจมึงล่ะกัน ผมหันไปตบไหล่มันเบาๆ

"พวกมึ่งแม่งเหี้ย"

กันหยุดโอนครวญ ผมหันไปตามเสียง หันไปหาไอ้โจ๊กที่นั่งแดกข้าวอยู่ เดี๋ยวมึงจะเจอตีนพวกกู ว่าแต่กูสามคนจะสู้ตีนมึงได้ไหม

"พวกมึงคบผู้หญิงทีพวกมึงก็คิดแต่จะหลอกฟันเค้า พอเจอผู้หญิงที่ไม่สนใจรูปร่างหน้าตาเงินทองพวกมึงหน่อยก็ทำอวดครวญ" เออจริง ผมกันพยักหน้า

"มึงอยากได้เค้า มึงก็ต้องจริงใจกับเค้าโว้ย ว่าพวกมึงจริงใจ จริงจังกับเค้ามากแค่ไหน"

พูดเสร็จแม่งก็เดินไปเก็บจาน ผมกับกันหันมามองหน้ากัน ความจริงใจได้ เดี๋ยวผัวจะแสดงให้เมียดูน่ะครับ ฮึบ     

วันนี้หนึ่งเลิกก่อนผมครับ เนื่องจากวันนี้ผมมีควิกหลังคาบเลยเลิกช้า แต่ผมได้ส่งไลน์ไปขู่มันล่ะครับ ว่าถ้ามันไม่กลับพร้อมผม ผมจะไปค้างกับมันที่บ้านแทน มันเลยยอมตกลงครับ เพราะรู้ว่าแม่มันชอบผม ผมยกข้ออ้างหน่อยก็ได้ค้างบ้านมันสบาย ผมมาจอดตรงหน้าคณะมันเรียบร้อยแล้วครับ และคิดว่าจะโชว์ความจริงใจกับมันด้วยการปล้ำมันในรถ แสดงว่าผมจริงใจแค่ไหน ผมจะปล้ำมันต่อหน้าทุกคน พร้อมให้ทุกคนเป็นพยานในการปล้ำครั้งนี้ เพราะปล้ำเสร็จผมจะรับผิดชอบเต็มที่ ผมล้อเล่นน่ะครับ ผมยังไม่รู้ว่าจะเอายังไงดี แต่คิดไปคิดมาก็ขำดี ระหว่างที่ผมกำลังคิดว่าจะเอายังไงดี ปล้ำเบาะหน้า มันก็จะลำบาก หรือเอาเบาะหลังง่ายดี ผมเหลือบตาไปด้านหลังเห็นหนึ่ง หวาน ตือ นั่งด้วยกัน แต่เดี๋ยว ไอ้นั่นมันไอ้พี่บอสอะไรนั่นนี่หว่า ไอ้เหี้ยนี่ เต๊าะเมียกู

---------------------------------------- 


- หนึ่ง -

“เฮ้ออออออ” 

ผมนั่งถอนหายใจหลังไอ้แทนมันส่งไลน์มาขู่ ว่าจะไปค้างที่บ้าน ผมจะรอดเงื้อมมือมันได้อีกกี่ครั้ง หรือจะยอมๆ มันไปให้สิ้นเรื่องสิ้นราว ไม่ได้สิ ยอมง่ายๆ ได้ไง ผมกับมันยังไม่ได้เป็นอะไรกัน อีกอย่างผมต้องเป็นฝ่ายรับให้มันนี่สิ ที่เป็นปัญหา เฮ้อ ผมกับตือหวาน ลงมานั่งกันหน้าตึกหลังเลิกเรียน พวกมันมานั่งรอไอ้แทนเป็นเพื่อน นั่งเมาท์กินขนมไปด้วย ตอนเรียนเนื่องจากคณะแพทย์เรียนค่อนข้างหนัก ต่างคนต่างตั้งใจเรียน ไม่ค่อยมีเวลาคุยกัน เลยมานั่งเมาท์กันให้หายยาก แต่เดี๋ยวน่ะ ผมกับตือยังมีเรื่องค้างกันอยู่

“ตือกูถามอะไรมึงหน่อยสิ”

“อะไรวะหนึ่ง” มันกำลังยุ่งกับการนั่งเม้าท์เรื่องชาวบ้านกับหวานอยู่

“สรุปเรื่องมึงกับพี่หมอกนี่ยังไงกันว่ะตือ กูอยากรู้”

ตือนิ่งสักพักแล้วหันไปเม้าท์กับหวานต่อ แต่ไอ้หวานไม่เล่นด้วย

“หยุดเรื่องชาวบ้านเลยไอ้ตือ เอาเรื่องที่ไอ้หนึ่งถามก่อน มึงไปสนิทกับพี่หมอกมันตอนไหน” 

ไอ้ตือทำหน้าลังเล

“ถ้ามึงไม่บอกกูจะกระทืบไข่มึง” ไอ้หวานโหดสัด หยุดก่อนมึงจะเกินหญิงไปล่ะหวาน

“คือ กูกับพี่เค้าตอนนี้ คือกูไม่รู้จะอธิบายยังไงว่ะ” ตือดูหน้างงงาย หวานเลยส่งตัวช่วย

“เป็นแฟนกันยัง” ตือพยักหน้า แต่ไม่พูดอะไร

“เชด ตือ มึงจะก้าวหน้าเร็วไปล่ะ ไอ้หนึ่งนี่ยังได้แค่เป็นไม้กันหมาให้ไอ้แทนอยู่เลย” หยุดพาดพิงกู กูอยู่ของกูดีๆ   

“วันนั้น กูเห็นมึงไปทำสุกี้กินกับไอ้พี่หมอก โทษทีว่ะ กูพามึงไปซื้อของจนดึกเลย มึงได้กลับบ้านกี่โมงว่ะ”

ผมกล่าวขอโทษมัน แต่คำตอบที่มันตอบกลับมาโคตรพีค

“คือกูไม่ได้กลับ”  หีมมมมมม ผมกับหวานประสานเสียง ตือก้มหน้ามองพื้น

“กูย้ายไปอยู่กับพี่หมอกเค้าแล้ว” โอยยยย กูจะเป็นลม อะไรมันจะเร็วปานนี้ มึงไม่กลับไอ้พี่หมอกมันปล้ำมึงรึ

“มึงได้กับไอ้พี่หมอกรึยัง” หวานความสอดรู้เรื่องชาวบ้านของมึงก็สูสีตือมันน่ะ

“อืม” ไอ้เหี้ยตือ มึงจะเร็วไปแล้ว ทำอะไรเกรงใจกูบ้าง มึงมันใจง่ายใจ เร็วด่วนได้ ไอ้เหี้ย แต่เดี๋ยวน่ะ กูสงสัย

“ครั้งแรก เจ็บไหมว่ะตือ” ไอ้หวาน ตือหันหน้าควับมามองที่ผม ไอ้เหี้ย

“ไม่ใช่น่ะ เว้ยมึง คือ กูแบบ….. กู….. เออ ก็ได้ ก็ได้ กูอยากรู้” ยอมรับไปเรื่องจะได้จบ

“มึงเตรียมตัวไว้เลยไอ้หนึ่งมึงคือรายถัดไป” หวานพูดพร้อมส่งสายตามึงตายแน่ ผมกลืนน้ำลายลงคอ

“ก็…...” ตือเตรียมตอบแต่โดนหวานขัดก่อน

“ไอ้หนึ่ง ดูคนนั้นสิ แม่งหล่อว่ะ มดลูกกูสั่นเลย”

หวานสะกิด โอยยยยย หวานมึงตั้งสติก่อน ขอกูฟังไอ้ตือก่อน ผมกำลังจะถามตือต่อแต่โดนขัดซะก่อน

 ** **

“สวัสดีครับ น้องหนึ่ง” เสียงใครเรียก ผมหันหลังไปตามเสียง อ้าว พี่บอสนี่

“อ้าวพี่บอส หวัดดีครับ เรียนที่นี่จริงดิ”

ผมมองที่เน็กไทพี่เค้า เนื่องจากคณะแพทย์ต้องแต่งตัวเรียบร้อยครับ เรียกว่าแต่งครบถูกระเบียบทั้งตัวครับ

“อ้าว เรียนคณะเดียวกันนี่พี่” ที่มหาลัยผมแยกจากสีของเน็กไทค์ครับ คณะแพทย์สีม่วงอ่อน

“ครับ ดีใจไหมที่เรียนคณะเดียวกัน” ทำไมกูต้องดีใจด้วยงง

“ก็ดีครับพี่” หวานถ้ามึงสะกิดกูขนาดนี้ ถีบกูเลยดีกว่า

“พี่บอสครับ นี่ตือ นี่หวานครับ หวานตือนี่ พี่บอสที่ช่วยตอนเมาที่ผับน่ะ”

หวานรีบลุกขึ้นมาจับมือพี่บอสอย่างงงๆ พี่บอสส่งสายตาสงสัยมาถามผม

“แหม หวานขอบคุณแทนหนึ่งด้วยน่ะคะ ไม่ได้พี่ช่วยคงแย่ ตอนนั้นถ้าหวานเมาพี่บอสคงช่วยหวานใช่ไหมค่ะ”

“เออ…. ครับ กลุ่มเพื่อนน้องหนึ่งดูร่าเริงดีจังน่ะ ดูแปลกใหม่ไม่ซ้ำใครดี” เอาแค่แปลกดีกว่าครับ

“พวกน้องได้ไปเข้าค่ายอาสาตอนปิดเทอมไหมครับ ปีนี้เราจะไปแถวหัวหินกัน ถือว่าไปช่วยชาวบ้านและเที่ยวทะเลไปในตัวด้วย”

“ไปค่ะพี่บอส นี่หวานก็ไม่รู้จะเลือกชุดว่ายน้ำแบบไหน พี่บอสพอจะว่างไปช่วยเลือกไหมค่ะ”

“ครับ ไปกันหมดนี่เลยไหมครับสามคน” เพล้งงงง เสียงหน้าหวานพี่แตก มึงก็รุกพี่เค้ามากเกินหวาน หวานดูตัวแข็งไป ไอ้พี่บอสแม่งเปลี่ยนเรื่องเลยครับ

“ไปหมดครับ มีคะแนนพิเศษด้วย ยังไงก็ต้องไปครับ” สิบคะแนนฟรีๆ ยังไงก็ต้องไปครับ

“เดี๋ยวพี่ขอนั่งด้วยน่ะครับ พอดีพี่รอเพื่อนอยู่นั่งคุยกันหลายๆ คนสนุกดี”

พี่บอสลงนั่งที่โต๊ะม้ายาวฝั่งผม หืม… โต๊ะตั้งกว้างนั่งสองคนทำไมเบียดจัง ผมหันข้างไปดู                       

“เหี้ย!” ผมอุทาน เมื่อเห็นว่าไอ้แทนมานั่งตรงกลางระหว่างผมกับไอ้พี่บอส

“นี่ผัวครับ ไม่ใช่เหี้ย ผัวมารับเมียกลับบ้านครับ” มันพูดเสียงเฉยชา พร้อมส่งสายตาอาฆาต ไปยังพี่บอส

“พี่บอส เดี๋ยวผมกลับก่อนน่ะครับ ตือหวานกูกลับล่ะ เดี๋ยวกูโทรหา”     

 ผมรีบลุกพร้อมดึงแขนไอ้แทนกลับบ้าน เดี๋ยวแม่งจะหาเรี่องแบบคราวที่แล้ว แต่แปลกนะครับที่คราวนี้แทนดูนิ่งสงบ ไม่โมโหโวยวายแบบคราวที่แล้ว ผมเข้ามานั่งในรถพร้อมมัน พร้อมเอ่ยประโยคให้มันสบายใจ

“พี่เค้าแค่มาทักทายเฉยๆ มึงเข้าใจกูน่ะ”

“ครับ”     

หลังจากสิ้นประโยคนั้น มันก็นิ่งเงียบไม่คุยเล่นมาตลอดทาง ผมก็ไม่กล้าชวนคุยกลัวมันโกรธ มัวแต่สนใจมองหน้ามันอยู่ รู้ตัวอีกทีรถก็มาจอดที่สวนสาธารณะ ที่ขับผ่านแทบทุกวัน  แทนเดินลงจากรถ พร้อมเอ่ยชวน

“ป่ะ ไปเดินเล่นกัน”

 …………………………………….. ** **
- แทน -     

 คุณคิดว่าการที่ผมเห็นหนึ่ง ยืนคุยกับไอ้พี่บอสอะไรนี่ ผมจะไม่หึงหรือ ใช่ ผมหึงมาก หึงจนควันออกหู แต่ผมจะโวยวายไม่ได้ ไม่งั้นก็ต้องงอนง้อกันไม่จบไม่สิ้น ผมต้องทำให้หนึ่งเป็นของผมซะก่อน ทีนี้ผมจะได้แสดงสิทธิ์ ความเป็นเจ้าของอย่างเต็มที่ จะได้ไม่ต้องมีใครมาเต๊าะแฟนผม ใช่ ผมต้องแสดงความจริงใจของผมกับหนึ่งอย่างที่ไอ้โจ๊กบอก ผมจะสารภาพรักกับหนึ่ง หนึ่งต้องเป็นของผม ของผมคนเดียวเท่านั้น ผมขับรถมาจอดที่สวนสาธารณะที่เราผ่านประจำ สวนตอนเย็นบรรยากาศเงียบสงบ มีคนมาวิ่ง ออกกำลังกายเดินเล่นบ้างประปราย อาจเป็นเพราะสวนนี้ไม่ได้ดังมากคนเลยไม่เยอะ ผมเดินจนมาสุดที่สระน้ำ ผมลงนั่งที่โต๊ะยาวข้างสระ

“แทนมึงอินดี้เหรอ มาเดินเล่นสวนสาธารณะ”

ผมมองกลับไปหาหนึ่งยิ้มมุมปากให้หนึ่งที ไม่ใช่เพราะผมโกรธมันเรื่องพี่บอส จึงเงียบไม่พูดอะไร แต่ผมกำลังตื่นเต้น นั่งเรียบเรียงคำพูดอยู่ในใจ เกิดมาไม่เคยสารภาพรักใคร มีแต่คนมาเสนอตัวก่อนทั้งนั้น นี่เป็นการสารภาพรักครั้งแรกของผม

“แทนมึงคงไม่จับกูกดน้ำที่นี่ใช่ไหม” หนึ่งมันทำสายตาเว้าวอนจนอดขำไม่ได้

“เปล่า หนึ่ง มึงรู้สึกอึดอัดไหม ที่อยู่กับกูน่ะ กูทำให้มึงลำบากใจรึเปล่า”

“ไม่นี่มึง ว่าแต่มึงมีไรป่ะ พูดจาแปลกๆ เรียกชื่อกูด้วย”

“หนึ่ง มึงรู้สึกยังไงกับกู” ผมพูดพลางหันหน้ามองสระที่พระอาทิตย์กำลังจะตกดิน

“ขอหอมหน่อยได้ไหมครับ น่ารักจังเลย”

แหม เมียครับ แค่ผัวถามแค่นี้เขิน จะปล้ำผัวซะล่ะ อะ หอมก็หอม เผลอผัวจะดูดปากให้ ผมหันหน้ากลับไป อ้าวหายไปไหนล่ะ หนึ่งหายจากเก้าอี้ ผมมองหาจนเห็นหนึ่ง เล่นกับหมาตัวเล็กขนปุยของคนที่ผ่านมาอยู่ด้านหลัง เมียครับ ช่วยสนใจผัวด้วยครับ ผมเดินไปลากมันกลับมานั่งที่โต๊ะ

“หนึ่ง กูซีเรียสอยู่ สนใจกูหน่อย”

“เออ เออ ก็มึงมัวแต่อ้ำอึ่งอยู่น่ะ มึงจะคุยเรื่องไร” เออ กูไม่อ้อมค้อมล่ะ กูเอาตรงๆ เลยล่ะกัน

“หนึ่ง กูรักมึง คบกับกูเป็นแฟนน่ะ” หนึ่งเงียบ ทำหน้าอึ้ง ผมไม่ปล่อยผ่าน

“มึง คิดยังไงกับกู ชอบกูบ้างไหม ถ้ามึงไม่ชอบกูก็บอกกูน่ะ กูจะไม่หนีไปไหน กูจะทำให้มึงชอบกูให้ได้ สุดท้ายถ้ากูทำยังไงมึงไม่ชอบ กูก็จะปล้า ปล้ำจนกว่ามึงจะชอบและตกลงเป็นแฟนกู”

หนึ่งยังคงไม่พูดอะไร แต่เหมือนมันเขินหน้าแดงเชียว

**“กูรู้มึงยังไม่เคยมีแฟนมาก่อน แต่ให้กูเป็นแฟนคนแรก และเป็นคนแรกของมึงทุกๆ อย่างได้ไหม กูอาจไม่ใช่คนดีอะไรมาก แต่กูสัญญากูจะมีมึงคนเดียว รักมึงคนเดียว มึงเป็นแฟนกูน่ะหนึ่ง”**

“มึงอย่าเอาแต่เงียบสิ”

“แทน กู…...”

“หนึ่งมึงอย่าพึ่งพูดอย่างอื่น ตอบกูก่อนจะเป็นแฟนกูได้ไหม”

“อืม”

หนึ่งก้มหน้าพร้อมเขินหน้าแดง ในที่สุดเวลาที่ผมรอคอยก็มาถึง ในที่สุดคนที่ผมรักที่สุดก็ตอบตกลงผม ผมดีใจโผเข้ากอดมัน จนหนึ่งตีแขน เพราะคนอื่นหันมามองผมจึงถอยออก แต่นั่งกุมมือหนึ่งไว้

“แทน กูไม่เคยมีแฟนมาก่อนมึงรู้ใช่ไหม” หนึ่งพูดเขินหน้าแดงก้มหน้าไปเขี่ยหญ้าที่พื้น

“กูไม่เคยคิดด้วยว่ากูจะมีแฟนเป็นมึง ที่เป็นผู้ชายเหมือนกัน แต่กูไม่รู้ว่าเริ่มเมื่อไหร่ ที่กูมองหาแต่มึง เคยชินที่ต้องอยู่ด้วยกันตลอด มึงเข้ามาแทรกในจิตใจกูเมื่อไหร่ไม่รู้ มึงทำให้กูหวั่นไหวโดยที่กูก็ไม่รู้ตัว กูไม่รู้กูจะทำตัวยังไง คนเป็นแฟนเค้าต้องทำยังไง วางตัวยังไง บ้างครั้งถ้ากูทำอะไรที่ผิดพลาดไป มึงสัญญาได้ไหมว่าจะไม่โกรธหรือทิ้งกูไป เมื่อกูให้ใจมึงเต็มที่แล้ว กูไม่อยากผิดหวัง กูอาจจะไม่ใช่แฟนที่ดี แต่กูจะพยายามรักมึงให้ดีที่สุด”

คำพูดหนึ่งอาจจะดูไม่สวยหรู เพราะพริ้งแต่มันมีความหมายกับผมมาก หนึ่งพูดออกมาอย่างจริงใจ ไม่มีกั๊ก ผมยิ้มด้วยความดีใจ

“ตอนนี้หนึ่งเป็นแฟนแทนแล้วน่ะ” ผมถามย้ำอีกทีเพื่อความแน่ใจ

“อืม” หนึ่งยิ้มแล้วพยักหน้า ผมลุกพรวดพร้อมดึงมือหนึ่ง

“งั้นกลับไปมหาลัยกับผัว ผัวจะไปกระทืบไอ้พี่บอส แม่งยุ่งกับเมียกู” ไอ้พี่บอสมึงไม่รอด มึงจมตีนกูแน่

“เฮ้ย ไอ้แทนมึงใจเย็นก่อนดิ มึงคิดว่าพี่บอส จะอยู่รอมึงไหม” เออ จริง งั้นมึงรอดตัวไปคราวหน้ากูจะเอาให้จมตีนเลย

“แทน กูขออะไรมึงอย่างนึงได้ไหม” หนึ่งพูดพร้อมดึงมือผมบิดไปมา

“อะไรครับเมีย” ผมลงนั่งข้าง

“คือ……..”

“พูดมาครับผัวรอฟังอยู่” มันต้องขอผมจูบ หอม หรือขึ้นคอนโดผมแน่นอนเขินอายขนาดนี้ เป็นแฟนปุ๊บได้กันปั๊บ

“คือ เรื่องอย่างว่ากูยังไม่พร้อม กูยังไม่เคย เอาไว้ก่อนน่ะมึง เอาไว้กูพร้อมกูจะบอก”

“ไม่ครับเมีย” ผมตอบปฎิเสธทันทีเมื่อหนึ่งพูดจบ

“อย่าที่ผัวเคยบอก มีโอกาสเมื่อไหร่ก็ต้องปล้ำ นี่ผัวก็คิดว่าจะปล้ำเมียในรถอยู่ นี่กูเริ่มจะมืดแล้ว ขับรถกลับบ้านกันดีกว่าครับอันตราย”

ผมพูดเสร็จพร้อมฉุดกระชากลากถูหนึ่งขึ้นรถ

“ไม่มมมมมมมมมมมมม”

เสียงกรี๊ดร้องประดุจจะโดนเฉียดของหนึ่ง แหม เสียงมันช่างไพเราะเพราะพริ้งซะจริงๆ

…………………………………….. ** **
- กัน -

“มึงต้องโชว์ความจริงใจให้เค้าดู” เสียงไอ้โจ๊กยังดังกึกก้องอยู่ในหู ได้ครับผมจะโชว์ความจริงใจให้หวานดู     

ผมนัดหวานว่าจะไปส่งบ้านครับ ตอนนี้ผมรอหวานอยู่ที่ลานจอดรถตรงคณะแพทย์ จริงๆ ผมจะไปรอที่หน้าคณะหวานเลยก็ได้ แต่ผมมีเรื่องจะคุยกับหวาน ผมเลยนัดหวานมาเจอที่ลานจอดรถ เงียบดีครับ ผมนั่งรอหวานสักพักผมก็เห็นหวานเดินมา ผมเลยลงมารอที่ด้านหลังรถ พร้อมเอาของหวานเก็บใส่ท้ายรถ

“หวานครับ กันมีอะไรจะบอกหวาน”

“ว่าไงค่ะกัน” หวานตอบเสียงหวาน ผมสูดลมหายใจฮึดสู้ ตื่นเต้นจัง ผมต้องพูดด้วยความจริงใจ ผมต้องพูดด้วยความจริงใจ

“หวานครับ กันขอโทษน่ะครับ แรกๆหวานอาจจะคิดว่ากันไม่จริงใจกับหวาน แต่กันบอกตรงนี้เลยครับหวานเข้าใจผิด จริงๆแล้วกันไม่เคยคบใครจริงจังเลยในชีวิต อาจจะเป็นเพราะทุกคนล้วนเข้ามาหากันเอง ด้วยหน้าตาหรือเงินทองของกัน กันเลยไม่รู้ว่าจะแสดงความจริงใจออกไปยังไง พอเจอหวานที่ไม่ได้สนใจในหน้าตาหรือเงินทองที่กันมี กันเลยทำตัวไม่ถูก แต่วันนี้กันจะพูด พูดสิ่งนึงที่ออกมาจากก้นลึกของจิตใจกัน หวานจะรับฟังมันได้ไหมครับ” หวานทำท่าเขินพยักหน้า

**“หวานครับ กันเงี่ยน หวานไปมีอะไรกับกันน่ะครับ”**

หวานทำหน้าอึ้ง และเงียบเหมือนช็อกไป สักพักหวานจึงได้สติ สักพักหวานเอามือมาคล้องคอผม ผมนึกในใจ สำเร็จ ทำไมมันง่ายแบบนี้ว่ะ ขอบคุณมากเพื่อนโจ๊ก ผมหลับตารอรับจูบแรกจากหวาน ทันได้นั้น

“โอ๊ยยยยย” หวานตีเข่าเข้ากันน้อยอย่างจัง จนผมตัวงอลงไปนอนกับพื้น

“แม่ง เสียเวลาจริงๆ ยังมองหน้า เดี๋ยวแม่เยียบไข่แตก”

หวานพูดเสร็จพร้อมถุยน้ำลายไปที่พื้นอย่างอารมณ์เสีย แล้วชี้หน้าผมแล้วเดินจากไป      นี่มันยังไม่จริงใจอีกหรือ ต้องจริงใจขนาดไหน หรือต้องให้ผมบอกเลยว่าจะเอาท่าไหนบ้าง ไอ้โจ๊กน่ะไอ้โจ๊ก กูไม่น่าเชื่อมึงเลย ลูกพ่อเป็นไงบ้าง แข็งใจไว้น่ะลูกพ่อจะพาไปส่งโรงบาล

----------------------------------------

น้องมาแล้ว ตอนนี้ใช้เวลาแต่สองวันแนะ หวังว่าคงชอบกันน่ะคะ

Aemmilicious

  ---------------------------------------- 


รบกวนแจ้งรายละเอียดและช่องทางการติดต่อน่ะคะ

แฮชแท็กของเรื่อง: #คนนี้ผมจองตั้งแต่ห้องคลอด #แทนหนึ่ง #หวานกัน #ตือหมอก

ช่องทางการติดต่อพูดคุยน่ะคะ

Facebook: **https://www.facebook.com/Aemmilicious/**

หรือค้นหาคำว่า Aemmilicious ค่ะ 

ออฟไลน์ aemmilicious

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 39
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +10/-2
ตอนที่ 10 : หมอก & ตือ Part 1 [Full Version with NC]

- หมอก -           

สวัสดีครับผม ”หมอก กรวิทย์ กุลเดช” พี่ใหญ่ประจำกลุ่ม ตอนนี้ศึกษาอยู่ทีมหาลัยx คณะวิศวะปี 1 งงกันสิครับว่าเป็นพี่ใหญ่ทำไมยังอยู่ปี1 ผมซิ่วมาจากอีกมหาลัยครับ เนื่องจากตอนนั้นผมยังไม่มีคณะที่ชอบ ด้วยคะแนนที่ดีผมจึงสามารถเลือกคณะไหนก็ได้ ผมเลยเลือกคณะนิติศาสตร์ตามสายอาชีพของพ่อผม ที่มหาลัยแถวชลบุรี แต่เรียนสักพักมันไม่ใช่ตัวผม ผมขี้เกียจเกินกว่าจะจดจำมาตราต่างๆ ได้หมด ผมจึงซิ่วมาเข้าวิศวะใหม่ที่นี่ มันดูเป็นตัวผมมากกว่า ถึงแม้ผมจะไม่ใช่คนเจ้าชู้แซวสาวไปเรื่อยๆ แบบเพื่อนคนอื่น แต่เราก็เข้ากันได้ดีครับ อาจจะด้วยนิสัยใจคอต่างๆ การเจอเพื่อนดีเป็นลาภอันประเสริฐครับ ผมมีแฟนแล้วครับ ผมสะดุดตาตั้งแต่ครั้งแรกที่เห็น เธอชื่อ “กิ๊ป” ครับ แม้เธอจะไม่สวยระดับดาวมหาลัย แต่เธอก็สวยมากในสายตาผม ผมตามจีบเธอเกือบสามเดือนกว่าจะได้เป็นแฟนกัน ผมรักและให้เกียรติเธอเสมอ ค่อยเป็นค่อยไป ผมรักเธอมากครับเธอเอาใจใส่เป็นคนขี้อ้อน แม้ว่าตอนนี้เราจะอยู่กันคนล่ะมหาลัย แต่ผมจะไปหาเธอทุกอาทิตย์ครับ เรียกว่าระยะทางไม่เป็นอุปสรรคต่อความรัก ไงครับเสียดายผมล่ะสิ     

---------------------------


- ตือ -

          สวัสดีครับ ผม "ตือ สุดที่รัก กันตนกุล" งงละซิว่าทำไมชื่อสุดที่รัก มันเป็นเพราะกว่าพ่อแม่ผมจะมีลูกนั้นแสนยากลำบาก จนพ่อแม่ผมตัดใจเรื่องการมีลูกแล้ว ผมจึงหลงมาเกิด ผมชอบชื่อนี้น่ะครับ อาจเป็นชื่อนี้ก็ได้ที่ทำให้ผมเป็นที่รักต่อเพื่อนและครอบครัว ผมโตมาโดยที่มีความรักความอบอุ่นของคนรอบข้างห้อมล้อม ผมขี้อ่อนและใส่ใจเอาใจใส่ทุกคน จนบางครั้ง หวานกับหนึ่งมันก็บอกว่าผมเสือก อาจจะเป็นเพราะผมใส่ใจมากเกินไปหรือเพราะผมเสือกจริงๆ ผมก็งงตัวเองเหมือนกัน ผมยังไม่มีแฟนครับ และคิดว่าคงไม่สามารถรักใครได้อีก         

 ความรักครั้งแรกและครั้งสุดท้ายของผมเกิดขึ้นตอนม. 1 ผมหลงรักรุ่นพี่ผู้ชายคนนึงที่ช่วยผมจากแก็งค์รีดไถหลังโรงเรียน ในตอนนั้นผมไม่รู้หรอกครับว่าอาการตกหลุมรักเป็นยังไง และผมก็ไม่เคยคิดว่าผมจะมีความรู้สึกแบบนั้นกับผู้ชาย ผมไม่รู้ว่าเมื่อไหร่ที่ผมเริ่มมองหาพี่เค้าในแถวหรือเวลาพักเที่ยง ไม่รู้เหตุผลว่าเพราะอะไรผมจึงแอบไปนั่งรอที่หน้าสนามบาสทุกวันเพียงต้องการเห็นพี่เค้าเดินผ่าน และเจ็บปวดทุกครั้งที่เห็นพี่เค้าเดินมากับแฟน บางครั้งผมก็ชอบเอาของกินแอบไปให้พี่เค้าใต้เกะโต๊ะเรียนพี่เค้า โดยที่ไม่ได้หวังอะไร กว่าจะรู้ว่าทุกๆ อย่างที่ผมทำมันเรียกว่าความรัก มันก็จมลึกในจิตใจจนถอนตัวไม่ขึ้น เวลาผ่านไปเป็นวัน เป็นเดือนเป็นปีมันก็ยังไม่มีอะไรเปลี่ยนแปลง กลับหยั่งรากลึกเกินกว่าจะถอนตัว แม้พี่เค้าจะไม่รู้จักผม แต่ผมก็ดีใจที่ได้ทำทุกๆ อย่างเพื่อเค้า จนผ่านเวลาผ่านมาเนิ่นนานจนเป็นวันสุดท้ายของการเรียนในระดับมัธยมต้น สามปีที่เฝ้ามองดูพี่เค้าห่างๆ วันนี้ผมจะสารภาพรักกับพี่เค้า ผมไม่รู้ว่าผลจะเป็นยังไง แต่มันเก็บเอาไว้ไม่ได้แล้ว ผมส่งขนมไปให้เหมือนเดิมในช่วงเช้าอย่างที่เคยทำ พร้อมกับเขียนโน๊ตนัดสถานที่นัดเจอช่วงหลังเลิกเรียน แม้พี่เค้าจะมาตามนัด แต่ทุกๆ อย่างก็ไม่เป็นอย่างที่ผมหวัง แม้ผมจะเสียใจ แต่พี่เค้าก็ปฎิเสธอย่างรักษาน้ำใจไม่รังเกียจที่ผมชอบพี่เค้า แต่พี่เค้ายังยืนยันว่าเรายังสามารถเป็นพี่เป็นน้องกันได้ แต่มันจะเป็นไปได้ยังไง เมื่อความรู้สึกที่ผมมีมันมากกว่านั้น

          ผมตัดสินใจไม่เรียนต่อที่โรงเรียนเดิมในช่วงม. ปลาย เพื่อจะตัดใจได้ง่ายขึ้น และไม่อยากให้พี่เค้าลำบากใจทุกครั้งที่เจอผม ออกมาเจอสังคมใหม่เพื่อให้ลืม แต่ควมจริงกลับตรงกันข้าม ผมกับยิ่งโหยหา ผมยังคงถามเพื่อนที่โรงเรียนเก่าเรื่องของพี่เค้ายังคงแอบส่องเฟสบุ๊คพี่เค้าประจำ ยังคงยินดีทุกครั้งที่พี่เค้ามีความสุข และเสียใจทุกครั้งที่พี่เค้าทุกข์ใจ จนพี่เค้าจบไปต่อมหาลัย ผมทราบแค่ว่าพี่เค้าไปเรียนมหาลัยแถวภาคตะวันออก ผมจึงเลิกติดตามพี่เค้า เพราะพี่เค้าห่างไกลจนเกินกว่าจะคว้า ผมเลือกเข้ามหาลัยที่ใกล้บ้านพร้อมกับเพื่อนอีกสองคนที่คณะแพทย์ และคิดว่าจะเริ่มต้นมองหาความรักครั้งใหม่ แต่ใครจะคิดว่าผมจะเจอพี่เค้าอีกครั้งในมหาลัยเดี๋ยวกับผม หลังจากที่ให้เพื่อนต่างคณะไปสืบเรื่องคนที่มาจูบหนึ่ง ผมดีใจที่เจอพี่เค้าอีกครั้ง แต่ไม่กล้าไปเจอหรือนัดพบ กลัวพี่เค้าจะลำบากใจ จนวันนี้ที่ดูเหมือนว่าเพื่อนเราสองคนจะลงเอยกัน จนต้องมีการเลี้ยงเพื่อกระชับมิตร ใจหนึ่งผมก็กลับ แต่อีกใจนึงก็อยากลองดูสักตั้ง ผมเคยเสียใจมาแล้วครั้งนึง ถ้าจะเจ็บอีกครั้งก็คงไม่หนักหนาอะไรหรอก จริงไหมครับ

------------------------------------------------


- หมอก -           

เฮ้อออออ ผมไม่รู้จะอธิบายหรือระบายความรู้สึกนี้ยังไง มันเจ็บจนอธิบายเป็นคำพูดไม่ได้ ทุกๆ อาทิตย์ผมจะไปหาแฟนผมที่มหาลัยเก่าผมทุกวันเสาร์-อาทิตย์ แต่ด้วยวันศุกร์ที่ผ่านมาเป็นวันเกิดของกิ๊ปแฟนผม ผมจึงโดดเรียนวันนั้นเพื่อไปเตรียมซื้อเค้กและของขวัญไปเซอร์ไฟร์เธอที่หอพัก เนื่องจากเป็นปีแรกที่เราได้ฉลองด้วยกัน ผมจึงอยากให้มันพิเศษหน่อย ซึ่งกิ๊ปโทรมาอ้อนให้ผมไปฉลองวันเกิดกับเธอ แต่ผมก็แกล้งบอกเธอว่าลาไม่ได้เพราะติดสอบ ผมใช้เวลาในการเลือกเค็กและของขวัญที่เธอชอบนานมาก เลือกแล้วเลือกอีก จนเรียกว่าเดินครบทั้งห้างกว่าจะเลือกได้ ผมเลือกเค้กรสวนิลาที่เธอชอบ และของขวัญที่เธอบ่นหนักหนาว่าอยากได้ จนเวลาล่วงเลยไปจนสองทุ่ม           

ผมจอดรถพร้อมควงกุญแจห้องอย่างอารมณ์ดี นึกถึงหน้าแฟนตอนดีใจ เธอคงถึงห้องล่ะครับ ผมเห็นไฟเปิดอยู่ ผมขึ้นลิฟท์และย่องเข้าไปเปิดอย่างใจเย็น เปิดประตูพร้อมจะเซอร์ไฟร์แฟน แต่ผมกลับต้องเซอร์ไฟร์มากกว่าที่เห็นเธอกำลังมีอะไรกับชายอื่น ผมอึ้งจนทำเค้กตกลงพื้น สมองว่างเปล่าจนคิดอะไรไม่ถูก อยากจะเข้าไปต่อยกระทืบให้มันตายคาตีน แต่ขาก็ไม่ยอมขยับ ความไว้ใจที่ผมมีให้มันศูนย์เปล่า ไม่ต้องมีคำแก้ตัวใดๆ เกิดขึ้น หลักฐานแน่นเกินกว่าจะปฎิเสธ ผมรักเธอมากเกินกว่าจะตัดใจ แม้คนอื่นจะมองว่าผมโง่ แต่ผมก็พร้อมให้อภัย ผมไม่โกรธแต่ผมอยากให้เธอเลิกกับผู้ชายคนอื่น ผมให้เธอเลือกว่าเธอจะอยู่กับใคร คนเราจะรักคนสองคนพร้อมกันไม่ได้ มันต้องได้แค่คนใดคนนึง แต่สุดท้ายผมก็ไม่เป็นคนที่ถูกเลือก ความจริงใจและความรักอย่างที่เต็มเปี่ยมที่ผมทำลงไปไม่มีค่า ไม่มีค่าพอให้เธอเลือกผม ผมกลับออกมาอย่างผู้แพ้ กระอักเจียนตายทั้งที่ไม่มีเลือด สมองว่างเปล่า รู้สึกตัวอีกทีก็มานั่งอยู่ร้ายชาบูกับไอ้แทน กัน โจ๊ก กับน้องหนึ่งแล้ว เนื่องจากผมเป็นพี่ใหญ่สุด ผมจึงไม่ได้เล่าเรื่องนี้ให้คนอื่นฟัง แต่อย่างน้อยการได้อยู่กับพวกมันก็น่าจะให้ผมลืมความเจ็บช้ำในใจได้ ตอนนี้เรากำลังนั่งรอหวานกับเพื่อนน้องหนึ่งอีกคนที่ผมไม่รู้ว่าชื่ออะไร ประกอบกับไม่ได้ใส่ใจ

“สวัสดีค่ะ หวานค่ะ นี่ตือ ชื่ออะไรกันบ้างค่ะ นี่เป็นการเจอเพื่อนต่างคณะครั้งแรก หวานอาจจะเขินๆ อายๆ หน่อยน่ะคะ หวานกลัว”           

ผมหันไปตามเสียง น้องหวานสวยอย่างที่ไอ้แทนมันการันตรีครับ แต่ผมไปสะดุดตากับน้องตือ ผมยังจำได้ดีที่น้องมาสารภาพรักกับผมตอนก่อนปิดเทอมม. 4 ผมปฎิเสธน้องเค้าไปและไม่เจอน้องหลังจากนั้นอีกเลย อาจเป็นเพราะน้องย้ายโรงเรียนหรืออะไรก็แล้วแต่ผมไม่ใส่ใจมากนัก

“สวัสดีครับพี่หมอก สบายดีหรือครับ”

มันพูดเสร็จแล้วก้มหน้ามองพื้น ทำไมโลกมันกลมอย่างนี้ ผมคงต้องทำตัวเป็นปกติ ลืมเรื่องเก่าๆ ไป ไอ้แทนดูมันจริงจังกับน้องหนึ่งมาก ไม่งั้นผมคงเข้าหน้าน้องไม่ติด

“สบายดีครับ น้องตือสบายดีไหมครับ ไม่เจอกันนานเลย”

“สบายดีครับ”

มันพูดเสร็จ พร้อมลงนั่งข้างผม เพราะหวานแทบจะไปนั่งบนตักไอ้กันล่ะครับ ท่าทางน้องหวานจะสนใจไอ้กัน เสร็จประโยคนั้นมันก็นั่งเงียบ ผมกลัวบรรยากาศมันกร่อย เลยชวนคุยเรื่องสับเพเหระทั่วไป ดูท่าน้องยังเขินอายผมอยู่แต่ผมก็ไม่ได้ใส่ใจอะไรมากครับ แผลผมยังสดอยู่เกินกว่าจะสนใจอะไรทั้งนั้น           

เสร็จจากร้านอาหารเราก็ไปต่อที่ผับแถวหน้ามหาลัยต่อ มาถึงก็ไม่ต้องพูดอะไรครับ ผมนี่ยกอย่างเดียว ผมเป็นพวกคอแข็ง แดกทั้งลังยังไม่มีอาการเมา ตือมันยังคงยืนอยู่ข้างผม แต่ผมไม่สนใจอะไรแล้วครับ อยากกินเหล้า น้องมันมองผมด้วยสายตาเป็นห่วงเป็นใย แต่ก็ไม่ได้พูดอะไร ผมชนแก้วกับไอ้โจ๊กทั้งคืน จนรู้ตัวอีกที ไอ้แทนกับน้องหนึ่งก็ขอตัวกลับแล้ว เพราะน้องหนึ่งเมามาก หวานตือก็ขอตัวกลับตามๆ กัน อ้าวแล้วผมจะกลับยังไง หันไปหาไอ้โจ๊ก ก็หายไปกับฝูงชนล่ะครับ ร้านนี้ถิ่นมัน จนตอนนี้เหลือผมอยู่ที่โต๊ะคนเดียว

“พี่หมอก เมามากแล้ว กลับเถอะครับเดี๋ยวตือไปส่ง” อ้าว ลืมเหลือมันอีกคน

“อืม” ผมพยักหน้าตกลง เดินออกแต่ ทำไมทางมันเบี้ยวอย่างนี้

“พี่หมอก เดี๋ยวตือประคอง”

มันพูดเสร็จพร้อมแบกปีกผมไปขึ้นรถมัน หลังจากผมขึ้นรถโดนแอร์เย็นๆ ก็เริ่มง่วง รู้ตัวอีกทีก็อยู่หน้าหอซะละ           

ผมอาศัยอยู่หอด้านนอกมหาลัยครับ เนื่องจากบ้านผมค่อนข้างเดินไกลและผมขี้เกียจตื่นเช้า หอนี้เงียบเป็นส่วนตัวดีครับ หอนี้ไม่ค่อยมีนักศึกษาอยู่เนื่องจากราคาค่อนข้างสูง ส่วนมากจะเป็นพนักงานออฟฟิตซะมากกว่า แต่สะอาดและเงียบ การรักษาความปลอดภัยห่างห่วง ของครบเรียกว่าเอามาแต่เสื้อผ้าเข้าอยู่ได้เลย ว่าแต่ทำไมมันมาถูกทั้งๆ ที่ผมไม่ได้บอก

“พี่หมอก ขึ้นห้องไหวไหมครับ เดี๋ยวตือช่วยพยุง”

ผมประคองตัวเองพร้อมการช่วยเหลือของตือจนถึงที่ประตูทางเข้าหอ พร้อมยื่นกุญแจกับกระเป๋าตังให้ตือ เพื่อหาคีย์การ์ดเข้าหอ ตือแบกผมขึ้นลิฟท์กดชั้นและไขประตูห้องถูกโดยที่ผมไม่ต้องบอก จนผมนึกสงสัย แต่รู้ตัวอีกทีผมก็โดนเหวี่ยงลงบนเตียงแล้ว

“พี่หมอกไหวไหมครับ อยากได้อะไรอีกไหมครับ” น้องตือ เปิดแอร์  ห่มผ้าให้เรียบร้อย เหลือนอนตบตูดกล่อมเท่านั้นที่ยังไม่ได้ทำ

“อืม… จะอ๊วก ตือพาพี่ไปห้องน้ำหน่อย”

ผมคงทำให้น้องตือประทับใจแล้วครับกับผู้ชายที่เค้าแอบชอบได้นั่งกอดชักโครกอ๊วก ช่างเป็นภาพที่หน้าประทับใจจริงๆ ผมอ๊วกเสร็จพร้อมโดนหิ้วมาที่เตียงหลับๆ ตื่นๆ มารู้ตัวอีกทีเมื่อมีผ้าชุบน้ำมาเช็ดตัว

“อ้าว… ยังไม่กลับอีกเหรอ” ผมพยายามตั้งสติ ถ่างตามามองมันที่กำลังนั่งเช็ดตัวให้อยู่

“ยังครับ ตือเป็นห่วง เดี๋ยวค่อยกลับก็ได้ครับ”

ผมยังคงอดสังสัยไม่ได้ แต่เมื่อแอลกอฮอล์เข้าปากก็กล้าพูดทุกอย่าง

“ตือยังชอบพี่อยู่เหรอ” ตืออึ้งไปหลังจากผมพูดจบ แต่ก็ยังเช็ดตัวตามแขนผมอยู่

“คือ…. ตือ”

“พี่ไม่ว่าอะไรหรอก ตอบพี่ตรงๆ”

“ครับ” ตือก้มหน้า หน้ามันแดงยันหู

“พี่ถามอะไรหน่อยสิ ทำไมตือรู้จักห้องพี่ ตือเคยแอบตามพี่มาที่ห้องรึ”

ตือไม่ตอบอะไร เอาแต่ก้มหน้าเช็ดตัวอย่างเดียว

“รู้สึกยังไงที่รักคนที่เค้าไม่รักเรา ไม่เสียใจเหรอที่เค้าไปกับคนอื่น ทำดีไปก็ไม่เห็นค่าจะทำไปทำไม”

ตือมองหน้า อ้ำอึ้ง จนหน้าเสีย

“พี่ไม่ว่าอะไรหรอกแค่อยากรู้ ในเมื่อสิ่งที่เราทำมันศูนย์เปล่าแล้วจะทำไปทำไม”

“ตือ….. อยากเห็นพี่มีความสุข ความสุขของพี่มันทำให้ตือมีความสุข แม้ไม่ได้ครอบครองก็ตาม”

ตือหันไปมองรูปของผมกับอดีตแฟนสดๆ ร้อนๆ

“แฟนพี่หมอกสวยดีนะครับ ท่าทางพี่จะรักเค้ามาก”

ผมถอนหายใจ ทำหน้าเหนื่อยหน่าย พร้อมมองหน้ามาทางตือ

“พี่เลิกกับเค้าแล้ว ตอนนี้พี่โสด ตือสนใจเป็นแฟนกับพี่ไหม”

ตือและทุกๆ คนฟังไม่ผิดครับ ผมกำลังขอตือเป็นแฟน ในเมื่อเป็นฝ่ายรักเค้าแล้วมันไม่ได้รับรักตอบ ผมก็จะเลือกคนที่รักผมดีกว่าเพราะผมจะได้ไม่ต้องเจ็บ ไม่ต้องแคร์ความรู้สึกใครอีก อยากเป็นผ่ายที่ตักตวงความรักบ้าง อย่าว่าผมเห็นแก่ตัวน่ะครับ

“หืม ตือว่าพี่หมอกเมามากแล้ว เดี๋ยวตือกลับก่อนดีกว่า” ตือลุกขึ้นจากขอบเตียง แต่ผมลุกและดึงมือตือไว้

“ตือพี่พูดจริง พี่ไม่ได้พูดเพราะพี่เมา มาเป็นแฟนกับพี่น่ะ” ตือก้มหน้าหูแดง พร้อมพยักหน้า

“ตกลงครับ” ตือหันมายิ้มพร้อมพยักหน้า

“ตือเป็นแฟนพี่แล้วน่ะ”           

ผมพูดเสร็จพร้อมก้มลงไปจูบพี่ปากของตือ แบบปากสัมผัสแตะปากสองสามครั้งแล้วปล่อย ก่อนจะแทรกลิ้นอุ่นพร้อมโอบกอบตือจากด้านหลัง รสจูบช่างหอมหวานและเมื่อเมา อารมณ์ทางเพศผมก็พุ่งสูงเกินต้านทาน ผมล้วงมือเข้าไปในใต้เสื้อตือลูบแผ่นหลังอย่างอ่อนโยน ตือตาโตพร้อมเอ่ยถาม

“พี่หมอก จะทำอะไรน่ะ”

“ก็ทำแบบที่คนเค้าเป็นแฟนทำกันไง”

ผมพูดเสร็จพร้อมไซร้ที่ซอกคอ ไม่ลืมที่จะประดับรอยจูบแสดงควมเป็นเจ้าของจนตือร้องครางในลำคอ           


ผมไม่สนใจในความถูกต้อง ไม่สนความเป็นจริง ว่าผมไม่เคยมีอะไรกับผู้ชายมาก่อน ผมไม่ต้องการที่จะเป็นคนที่ต้องเป็นฝ่ายที่ต้องรักคนอื่น ผมอยากแค่เป็นผ่ายที่ได้บ้าง แต่ถ้าคนหนึ่งแบกรักไว้เต็มบ่า แต่อีกคนไม่แคร์ความรู้สึกอีกคนมันจะเป็นยังไง ผมอยากจะรู้ถึงความรู้สึกนั้น ผมจูบแลกลิ้นอย่างดูดดื่ม แรกๆ ดูตือจะไม่เป็นเท่าไหร่ แต่ตอนนี้ตือกลับตอบรับผมอย่างดี

“ถอดเสื้อน่ะ”

ผมกระซิบข้างหูตือ พร้อมขึ้นค่อมไปปลดกระดุมเสื้อของตือ มองคนข้างล่างที่เขินอาย ผมไม่ลืมที่จะถอดเสื้อของตัวเอง พร้อมก้มลงไปกระซิบข้างหู

“ไม่ต้องกลัวน่ะครับ”

พร้อมจูบที่ดูดดื่ม สักพักผมก็ก้มลงมาไซร์ที่ซอกคออย่างแผ่วเบา พร้อมเอามือคลึงเม็ดเล็กๆ ที่หน้าอกของตืออย่างเบามือ จนได้ยืนเสียงครางผ่านลำคอ นั่นยิ่งทำให้อารมณ์ผมพุ่งขึ้น ผมก้มลงดูดหน้าอกของตือพร้อมทั้งใช้มืออีกข้างปลดกางเกงทั้งนอกในในคราเดียว ดูเหมือนตือจะอาย จนเอามือปิดส่วนตรงกลางไว้

“ไม่ต้องอายน่ะครับ ตือโป๊แล้ว เดี๋ยวพี่โป๊เป็นเพื่อน ตือถอดให้พี่หน่อยน่ะครับ”

ผมก้มลงไปนอน เอามือสอดใต้หัว พร้อมมองดูตือที่กำลังถอดกางเกงให้ผมอยู่ ตือค่อยถอดกางเกงผมออกอย่างช้าๆ และเขินอาย ดูตือจะตกใจกับขนาดของมันเล้กน้อย และลังเลที่จะทำยังไงต่อ

“ตือ ช่วยพี่หน่อย ใช้ปากให้พี่หน่อย”

ดูตือลังเลอยู่เล็กน้อย ก่อนที่จะก้มลงใช้ปากครอบลงตรงส่วนปลายของผม แม้จะไม่ชำนาญแต่ ดูตือก็ตั้งใจทำจนทำให้ผมเสียวสะท้านไปทั้งตัว จนผมต้องครางออกมา       

“อ้า…. ดีครับ ดี ลึกหน่อยครับ”

ผมเสียวจนจะไม่ไหว สักพักจึงจับตือกดลงบนเตียงพร้อมลุกขึ้นมาแทนที่

“พี่หมอก ตือ…. เบาๆ น่ะครับ”

ไม่ต้องบอกก็รู้ว่าตือไม่เคยครับ ผมรู้ผมเตรียมความพร้อมด้วยการใส่นิ้วแทรกซอนเค้าไปก่อนหนึ่งนิ้ว ตือสะดุ้งตัวเล็กน้อย ผมค้างไว้สักพัก จนแน่ใจว่าทุกอย่างโอเคแล้วจึงค่อยๆ เพิ่มจำนวนนิ้วให้เท่ากับขนาดของผม

“อืม…. พี่หมอก”

“เป็นไรครับคนดี บอกพี่สิ”

“อืม…พี่หมอกตือเสียว”

ความเขินอายคงหมดไปแล้ว ตอนนี้ตือกล้าพูดอารมณ์ความรู้สึกของตัวเองออกมา ตือพี่ก็จะไม่ไหวแล้วเหมือนกัน

“พี่จะใส่แล้วน่ะครับ อย่าเกร็งน่ะคนดี”

“เฮือก! อ๊า!!! พี่หมอก...อูย...อะ...อึ้ก...เสียว...สะ...เสียวตือเสียว...”

ตือร้องไม่ได้สับหลังจากผมกดลงไปทั้งหมดในคราเดียว

ผมแช่ค้างไว้จนเริ่มแน่ใจว่าทุกอย่างโอเคแล้วจึงค่อยๆ ขยับตัว พร้อมกับแกนกลางของตือขยับไปพร้อมกัน มันรัดแน่นจนผมแทบจะเสร็จทุกครั้งที่ขยับตัว ทั้งห้องไม่มีเสียงพูดใดๆ มีแต่เสียงกระแทกและครางของตือที่เป็นจังหวะเดียวกัน 

“อะอึ้ก...มะ...ไม่ไหว...พี่หมอก ตือจะ..จะแตก...แตก...แล้ว...จะ...”

“พร้อมกันน่ะครับ”

ผมขยับตัวอย่างรุนแรง ผมยอมรับครับผมก็เสียวจนจะไม่ไหว

“ฮ้า!!!! แตก...แตกแล้ว อื้ออออออ!”

สิ้นเสียง ผมก็เสร็จพร้อมตือ ปล่อยของเหลวอุ่นๆ ใส่ทางด้านหลังของตือ ผมก้มลงจูบตือก่อนโน้มตัวลงกอด ใช่ครับ ผมไม่ได้ใส่ถุงหรืออะไรทั้งนั้น เพราะผมรู้ว่าตือไม่เคยมีอะไรกับใครมาก่อน อีกอย่างผู้ชายด้วยกันก็คงไม่ท้องอยู่ดี ผมไม่สนใจอะไรทั้งนั้น ผมอยากรู้เหมือนกันว่าความรักที่ตือมีให้ผมจะมากสักแค่ไหน และตือจะยังรักผมไปอีกนานเท่าไหร่ มันมีจริงหรือครับความรักที่ไม่หวังให้อีกคนมารัก

อืมมมมมม ผมตื่นมาพร้อมอาการปวดหัวอย่างหนัก น่าแปลกที่วันนี้ผมได้กลิ่นอาหารเช้าที่วางอยู่บนโต๊ะกินข้าวสองที่

“พี่หมอก ตื่นแล้วเหรอมากินข้าว แล้วกินยาก่อนจะได้ไม่ปวดหัว หรือพี่หมอกจะอาบน้ำก่อน ตือรีดชุดนักศึกษาแขวนไว้ให้แล้วน่ะ”

การที่เป็นคนได้รับความรักมันดีอย่างนี้นี่เอง มันสัมผัสได้ถึงความอบอุ่นและความห่วงใยจากอีกคนที่ส่งให้ มันเป็นสิ่งที่ผมไม่เคยได้จากใคร

“ตือ… ย้ายมาอยู่กับพี่ไหม”** **

**----------------------------------------   **

มาแนะนำ Facebook ของนักเขียนค่ะ น้องเปิดบ้านน้องต้องพาลูกๆ มาแนะนำตัวก่อนค่ะ

น้อง: แทน หนึ่งมาแนะนำตัวกับแม่ๆ เค้าหน่อยลูก

แทน: แทน สัตยาครับ ฝากตัวด้วยครับ

หนึ่ง: หนึ่ง หนึ่งนที แพทศาสตร์ปีหนึ่ง สวัสดีทุกคนครับ

น้อง: มาทำไรกันค่ะวันนี้

แทน: มาเปิดตัวแฟนครับ ล่าสุดเราเป็นแฟนกันแล้วครับ

หนึ่ง: เฮ้ย ไอ้แทนมึงไม่ใช่ล่ะ มาฝากเพจนักเขียนครับ

น้อง: คิดยังไงกับอนาคตของเรื่องเราสองคนค่ะ

แทน: อีกสักพักก็คงได้กันแล้วครับ

หนึ่ง: ไอ้เหี้ยแทนหยุด ก็หวังแม่ๆ จะติดตามกันต่อไปน่ะครับ

น้อง: สุดท้าย อยากฝากอะไรไว้ไหมค่ะ

แทน: ขอได้กันในรถได้ไหมครับ นี่อยากลองมานานแล้ว

หนึ่ง: ไอ้เหี้ยแทน พอเลย กูกลับล่ะ ลาล่ะครับ

แทน: โหย เมียครับจะเขินทำไม อีกไม่กี่ตอนเราก็ได้กันแล้ว โอเคครับ เอาในห้องบนเตียงก็ได้ครับ

หนึ่ง: มันใช่ไหมมึง อย่าเข้ามาใกล้กู ออกไปเลยมึง

แทน: อะไรน่ะครับเมีย งอนทำไมล่ะครับ

น้อง: (อะกูเองล่ะกัน) ยังไงฝากเพจด้วยน่ะคะ ขอบคุณค่ะ


----------------------------------------


มาคลายปมครบทุกคู่แล้วน่ะคะ หวังว่าคงจะชอบกัน

Aemmilicious

----------------------------------------

รบกวนแจ้งรายละเอียดและช่องทางการติดต่อน่ะคะ

แฮชแท็กของเรื่อง: #คนนี้ผมจองตั้งแต่ห้องคลอด #แทนหนึ่ง #หวานกัน #ตือหมอก

ช่องทางการติดต่อพูดคุยน่ะคะ

Facebook: https://www.facebook.com/Aemmilicious/ หรือค้นหาคำว่า Aemmilicious ค่ะ


ออฟไลน์ aemmilicious

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 39
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +10/-2
ตอนที่ 11 : จุดอ่อนของแทน



วันนี้ผมตื่นเช้ากว่าปกติ เพราะผมตื่นเต้นกับสถานะแฟนน่ะรึครับ เปล่าเลยที่ต้องตื่นเช้าขนาดนี้เพราะแม่ผมเล่นใหญ่ จุดประทัดฉลองแก้บนที่ผมกับไอ้แทนได้เป็นแฟนกัน เมื่อเช้าไอ้แทนเลยต้องเปลี่ยนสถานะจากเพื่อนเป็นว่าที่ลูกเขยไปโดยปริยายเพราะแม่ผม คำก็ลูกเขยสองคำก็ว่าที่ลูกเขย ก่อนออกจากบ้านแม่ยังบอกมีแฟนแล้วไม่ต้องรีบกลับบ้าน ไปค้างที่อื่นกลับเช้าบ้างก็ไม่เป็นไร จนไอ้แทนต้องโผเข้าไปกอดแม่ผมเพื่อขอบคุณพร้อมเข้าไปเต๊าะแม่ผมอีกครั้งก่อนลา จะว่าไปสถานะแฟนมันก็ไม่แตกต่างจากเดิมสักเท่าไหร่ ไอ้แทนก็ยังทำตัวเหมือนเดิมไม่มีอะไรเปลี่ยนแปลง ดูแล้วมันน่าหมั่นไส้ชอบกล

"ยิ้มหน้าบานเลยน่ะมึงดีใจไรนักหนา"

"แม่เมียบอกให้กลับเช้าได้ผัวกำลังคิดอยูุ่ครับว่าจะเริ่มท่าไหนก่อน ที่ไหนดี บนเตียง โซฟาหรือในรถ นี่ยิ่งคิด ยิ่งปวดหัว"

มันพูดเสร็จผมสะบัดมือมันที่กุมมือผมออกแทบไม่ทัน

"อย่ามาใกล้กูแทน อย่าจ้องตากูกูอาจท้องได้ออกไปเลยไอ้แทน"

"เมียครับเมียไม่ใช่ปลากัดจ้องตาไม่ท้องครับอีกอย่างเมียไม่มีมดลูกครับ"

"เออ กูลืมตัว"

"นั่นหมายความว่ามีไรกันยังไงก็ไม่ท้องน่ะครับ ไหนๆ ก็ไหนๆ แล้วในรถเลยแล้วกันครับเมีย"

"หยุดเลยไอ้แทน อาทิตย์หน้าก็สอบล่ะ มึงควรจะเครียดเรื่องเรียนก่อนไหม"

"สบายครับเมีย เดี๋ยวค่อยให้ไอ้พี่หมอกติวให้ก็ได้แวบเดียวก็ทำได้ล่ะครับ"

มันทำท่ายักไหล่จนน่าหมั่นไส้ แหม มันจะมั่นใจในตัวเองมากเกินไปล่ะ ผมยังต้องอ่านตั้งหลายรอบกว่าจะจำได้ มันจะอัจฉริยะไปล่ะไอ้แทน

"ขี้โม้รึเปล่ามึง อย่ามา ดูหน้ามึงไม่ค่อยฉลาดน่ะแทน"

"เมียด่าผัวโง่ตรงๆ เลยดีกว่าครับ ถ้าไม่เชื่องั้น พนันกันป่ะ"

เรื่องเรียนผมไม่แพ้ใครแน่นอน สัญชาตญาณในการแข่งขันผมลุกโชน

"ได้"

"งั้นเรามาพนันกันครับเมีย ใครชนะจะขออะไรก็ได้หนึ่งอย่าง เมียรู้ใช่ไหมครับว่าผัวอยากได้อะไร"

แทนเรื่องที่มึงอยากได้ไม่สูงกว่าเข็มขัดแน่นอน ไม่ต้องอ้าปากก็เห็นลิ้นไก่ แต่ผมไม่มีทางแพ้แน่นอน

"ได้เกรดเฉลี่ยของเทอมนี้ใครสูงสุดคนนั้นชนะ"

"ตกลงครับเมีย ซ้อมร้องครางรอได้เลย"

ทำไมรู้สึกเสียวสันหลังวาบๆ ดูท่าไอ้แทนมันจะเอาจริง แต่อย่างที่บอกเรื่องเรียนผมไม่แพ้แน่นอน               

สักพักผมก็มาถึงตึกเรียนผมหันไปคว้ากระเป๋ากำลังจะรีบขึ้นตึกไปเรียน ยังไงผมต้องชนะ แต่ก็โดนไอ้แทนดึงมือรั้งไว้ก่อน

"อะไรมึง กะจะถ่วงเวลากลัวแพ้ว่างั้น"

“ฟอด” มันใช้มือดึงแขนผมเข้าไปหอมแก้มพร้อมกระซิบข้างหู

"ตั้งใจเรียนน่ะครับตอนเย็นผัวมารับไปเดทกัน"

          ผมยืนอยู่นิ่งจนรถไอ้แทนหายลับไปแล้ว จริงสิน่ะ ตอนนี้ผมกับมันเป็นแฟนกันแล้ว ผมไม่เคยมานั่งมองย้อนดูว่า แทนไม่เคยเปลี่ยน ไม่ว่าเราจะอยู่ในสถานะอะไร แทนก็ยังเป็นคนเดิมที่ดูแลเทคแคร์ผมอย่างที่เคยเป็น ไม่ใช่พึ่งเริ่มทำ แต่แทนทำอย่างนี้มาตั้งแต่ครั้งแรกที่เจอ ผมคนเดิมที่เคยมองข้ามทุกสิ่งทุกอย่างที่แทนทำให้คงหมดไปแล้ว เพราะทุกวันนี้ผมเขินและรู้สึกดีกับทุกเรื่องที่มันทำให้ จนผมมานั่งคิดว่าจะมีใครอีกไหมที่จะรักผมได้มากมายเท่านี้ ผมไม่เคยรู้สึกเสียใจที่มาคบแทนที่เป็นผู้ชายด้วยกัน ผมกลับมีความสุขที่มีมันมาอยู่เคียงข้างกัน แต่จะให้ยอมมันง่ายๆรึไม่มีทาง ว่าแล้วผมก็วิ่งจู๊ดเข้าห้องเรียนอย่างไว                     

ผมเปิดประตูห้องเรียนพร้อมมองหาหวานกับตือ ยังไม่ทันเอ่ยปากก็ต้องเจอกับหมาในปากของหวานก่อน

"ไงมึง มีผัวหน่อยเดินไม่ตรงทางเลยน่ะมึง"

"ไอ้เหี้ยหวานเบาๆสิมึง ผัวอะไรของมึง"

"มึงอย่ามา กูรู้มึงตกลงคบกันแล้ว"

"หืม มึงรู้ได้ไงว่ะหวาน"

"กรุ๊ปไลน์ไง" ตือพูดแทรกพร้อมยื่นมือถือมาให้ดู อ้าวเหี้ยล่ะ ทำไมกูไม่รู้

"ทำไมมีกรุ๊ปด้วย ทำไมกูไม่รู้เลย"

"เค้าก็ชวนมึงตั้งนานล่ะ ไม่ยอมกดเข้ากลุ่ม เล่นตัวว่างั้น"

"เฮ้ยมึง กูไม่รู้"           

พูดเสร็จพร้อมกดตกลงเข้ากลุ่ม ในกลุ่มมีครบทั้งกลุ่มผมกับกลุ่มแทน ผมไม่ลืมหยิบมือถือตือมากดดูข้อความที่คุยกันก่อนหน้าที่ผมจะเข้ากลุ่ม ส่วนมากก็จะคุยกันเรื่องทั่วไปจะหนักหน่อยก็ไอ้กันที่ง้อไอ้หวานอยู่ ท่าทางจะโกรธหรืองอนอะไรกันนี่แหล่ะ ไอ้แทนก็เข้ามาคุยบ้างแต่ไม่บ่อย ล่าสุดก็ไลน์มาบอกว่ามันกับผมคบกันแล้ว ผมเคยคิดว่าผู้ชายคบกันต้องหลบๆ ซ่อนไม่เปิดเผย แต่ผมไม่คิดว่าแทนมันจะเปิดเผยและให้เกียรติผมขนาดนี้ ทำให้ผมสบายใจในการคบหากันทั้งเพื่อนและครอบครัวผมก็โอเคกับเรื่องนี้ แต่ถ้าทางครอบครัวแทนรู้จะว่ายังไง ไม่ทันที่จะสงสัยอาจารย์ก็เข้าห้องล่ะครับพออาจารย์เข้าห้องทุกคนก็ตั้งใจเรียนกันอย่างอัตโนมัติอย่างที่บอกครับคณะผมเรียนยาก อีกอย่างวันนี้อาจารย์จะสรุปแนวข้อสอบที่จะออกด้วยผมต้องชนะไอ้แทนให้ได้ สู้ๆ           

อย่างที่บอกครับช่วงนี้ใกล้สอบแล้ว ฉะนั้นทุกๆ วิชานั้นเรียนกันแบบเน้นๆเกร็งข้อสอบกันแบบไม่ให้พลาด ยิ่งผมต้องแข่งกับไอ้แทนด้วย ผมยิ่งฟิตยิ่งกว่าเดิม ผมนี่เดินไปพักเที่ยงอย่างร่างไร้วิญญาณ หันไปมองเพื่อนก็เดินล่องลอยพอๆกัน รู้ตัวอีกทีก็ถึงโรงอาหารล่ะครับ เรากินกันตรงโรงอาหารกลางด้านหน้าคณะ ซึ่งแยกจากคณะของไอ้แทนเพราะด้วยทำเลที่ตั้งของตึก

"หนึ่ง เดี๋ยวมึงหาโต๊ะน่ะ เดี๋ยวกูกับตือไปซื้อข้าวให้ เอาไรมึง"

"เอาเหมือนมึงแหละ เดี๋ยวกูไปหาโต๊ะก่อน"

เนื่องจากพักเที่ยงพร้อมกันหมดโต๊ะเลยหายากหน่อย เอ๊ะตรงนั้นมีที่ว่าง

"โทษทีครับตรงนี้ว่างไหมครับ" เนื่องจากที่โรงอาหารเป็นม้านั่งแบบยาวเลยต้องแชร์กันครับ

"ว่างครับ อ้าวน้องหนึ่งนั่งเลยครับบังเอิญจัง"

"อ้าวพี่บอส หวัดดีครับ" ผมยกมือไหว้พร้อมกล่าวทักทาย

"นั่งเลยน้องหนึ่ง ดูเบลอๆ น่ะเราเรียนหนักไปป่ะเรา"

"พี่บอสครับสภาพเราสองคนก็ไม่ต่างกันน่ะครับ"

พี่บอสหัวเราะแฮะๆ สองที เป็นอันรู้กันครับ ไม่ว่าปีหนึ่งปีสอง เรียนกันจะเป็นบ้าอยู่แล้วครับ

ผมนั่งคุยกับพี่บอสสักพักเหมือนผมได้ยินเสียงไลน์จากมือถือแต่ก็ไม่ได้สนใจอะไรครับเดี๋ยวว่างค่อยเปิดดู พี่บอสแกอัธยาศัยดีครับ คุยสนุกเป็นที่รักของรุ่นพี่รุ่นน้องในคณะ พี่แกยังบอกแนวข้อสอบและจุดสำคัญที่จะออกแนวข้อสอบกับผมอีกด้วย สักพักหวานกับตือก็ตามมาสมทบ หวานยังไม่ลืมที่จะเข้าไปสีพี่บอส สรุปมึงจะเอาใครกันแน่หวานกูงง นี่ก็บริหารเสน่ห์ซะกูตามไม่ทันล่ะ

ผมว่างจากคุยจากพี่บอสจึงเปิดมือถือมาดู เห็นข้อความใหม่ในกลุ่มที่ผมพึงเข้าไป ซึ่งหวานได้ส่งภาพผมนั่งคุยกับพี่บอสอยู่ พร้อมข้อความที่เรียกตีนจากไอ้แทนอย่างมาก

“เมียมึงนอกใจว่ะแทน”

มิน่าล่ะเห็นมันหัวเราะคิกคักกับไอ้ตือตั้งแต่มาล่ะ นี่มึงตั้งใจหาตีนมาให้กูใช่ไหมหวาน ไอ้หนอนบ่อนไส้ ไม่ทันจะด่าไอ้หวาน ผมก็เสียวสันหลังวาบ สิ่งที่ผมคิดกำลังมาใช่ไหม ผมหันหลังไปเจอไอ้แทนกับเพื่อนกำลังส่งยิ้มหวานให้

“ว่าไงครับเมีย ห่างกันแวบเดียวนอกใจผัวซะละ” หน้าตาหาตีนมาเลยน่ะมึง

“อ้าวแทน มาไงนี่ กินข้าวยัง” ผมมองดูเหมือนชะตาไอ้พี่บอสมันจะขาด ผมสัมผัสได้

“ยังครับ เมียป้อนหน่อย” มันพูดเสร็จพร้อมมาลงนั่งคั่นกลางระหว่างผมกับไอ้พี่บอส มึงคิดว่ามึงตัวเล็กรึไงว่ะแทน จนพี่บอสหันมามอง มันยังไม่วายที่จะไปหาเรื่องพี่บอส

“สวัสดีครับ ผมแทนแฟนหนึ่งยินดีที่ได้รู้จักครับ”

แหม แทน มึงแนะนำซะไอ้พี่บอสกับเพื่อนมันตาค้างขนาดนี้ ไม่จูบกูโชว์เค้าเลยล่ะ

“แฟน?”

“ครับ ผมกับหนึ่งพึ่งตกลงคบกันเมื่อวาน หวังว่าพี่จะคอยสนับสนุนความรักของเราสองคนด้วยน่ะครับ”

แทนพูดพร้อมจ้องตาไอ้พี่บอสแทบจะกินเลือดกินเนื้อ จนผมต้องตบไหล่บอกให้ใจเย็นๆ

“อืม พี่จะเป็นแรงใจให้เราสองคนล่ะกัน ว่าแต่คนเป็นแฟนกันเลิกกันก็มีถมเทไปนี่ พี่ว่าพี่ก็มีสิทธิ์อยู่น่ะ ยังไงเดี๋ยวพี่ขึ้นเรียนก่อนล่ะกัน น้องหนึ่งก็เดี๋ยวเจอกันที่ค่ายอาสาน่ะ”           

ผมพยักหน้าพร้อมยกมือไหว้ ก่อนที่พี่บอสจะเดินจากไปไอ้แทนเอาแต่จ้องพี่เค้าจนสุดสายตา สักพักไอ้แทนก็หันมาสบตาเพื่อนมัน พร้อมส่งสายตา

“กระทืบ”

“เฮ้ย! ไอ้แทนมึงใจเย็นๆ ดิวะ จะไปกระทืบพี่บอสเค้าทำไม มึงนี่”

“เมียครับ เมียกำลังเข้าข้างคนอื่นอยู่น่ะครับ หรือเมียจะคบชู้”

“แทนมึงพูดเบาๆ หน่อย คนหันมาทั้งโรงอาหารล่ะ กูก็เห็นพี่บอสเค้าเป็นรุ่นพี่ มึงจะไปอะไรนักหนากับพี่เค้า”

"แต่มันไม่ได้คิดกับเมียเป็นรุ่นพี่รุ่นน้องนี่ครับ ผัวดูออก"           

เอาไงดีว่ะ เอาไงดี ผมไม่อยากให้ไอ้แทนมีเรื่องกับไอ้พี่บอส ยังไงไอ้พี่บอสมันก็รุ่นพี่ ไม่อยากให้ไอ้แทนมีศัตรูหรือมีเรื่องชกต่อยกับใคร ไอ้แทนกับเพื่อนกำลังจะลุกออกจากโต๊ะ ผมดึงมือมัน ** **

"แต่คนที่กูชอบ มีมึงคนเดียวน่ะ" ทุกอย่างหยุดนิ่ง แทนหันหลังกลับมามอง

"ว่าไงน่ะครับเมีย"

"แทนกูชอบมึงคนเดียวน่ะ กูไม่ได้คิดอะไรกับพี่บอส" แทนหันมายิ้มตาเป็นประกาย

"เอาก็เอาครับเมีย ปล้ำกลางโรงอาหารก็เอาครับ"

"หยุดเลยไอ้แทน" ได้ผลแฮะ แทนดูอารมณ์ดีขึ้นทำหน้าตาง้องแง้งอย่างกับเด็ก

"เอาเว้ย! ไอ้เหี้ยแทนแม่งจะเล่นหนังสดให้ดูแล้ว" กัน โจ๊ก พี่หมอกเชียร์กันสุดเสียง

"ป่ะ ไอ้กัน โจ๊ก พี่หมอกกลับ"

หืม ทำไมมึงบทจะอารมณ์ดีก็อารมณ์ดี ซะเหลือเกิน

"ไม่กินข้าวก่อนว่ะแทน รีบไปไหน"

"ผัวจะรีบไปอ่านหนังสือสอบ ผัวต้องชนะ"           

มันพูดเสร็จพร้อมกระชากคอเสื้อเพื่อนทั้งสามหายวับไปกับตา พร้อมกับทิ้งให้ผมงงว่าสรุปมันเกิดอะไรขึ้น

"ทำไมไอ้แทนมันหายโกรธเร็วจังว่ะ" ผมหันไปถามหวานกับตือ

"เพราะมึงไงไอ้หนึ่ง พูดหวานๆ ใส่ไอ้แทนหน่อยแม่งก็อ่อนระทวย" ไอ้หวานพูดเน้นวิชาการ

"จริงหนึ่ง พี่หมอกเคยบอกว่าจุดอ่อนจุดเดียวของไอ้แทนคือมึง" ตือเสริมทัพ

"จุดอ่อนของไอ้แทนคือกู” คืออะไรว่ะตือ กูงง อธิบายสิ คิ้วกูชนกันจะเป็นเลขแปดล่ะ

“มึงรู้ไหม พี่หมอกเคยเล่าให้กูฟังว่า มึงเป็นทุกๆ อย่างของไอ้แทนมัน คนเดียวที่ไอ้แทนจะยอมฟัง ทำตามคำสั่งมึงทุกอย่าง ให้มึงชี้นกเป็นนกชี้ไม้เป็นไม้ ต่อให้มึงสั่งให้ไอ้แทนไปตายแทนมึงมันก็ทำ ไอ้แทนมันรักมึงมากน่ะหนึ่ง แต่ก่อนมันอาจจะฟันผู้หญิงไม่เลือก แต่ไม่เคยมีใครคนไหนที่มันคบเป็นแฟนออกหน้าออกตาเหมือนมึง แทนมันเปลี่ยนตัวเองได้เพื่อมึงเสมอ เห็นพี่หมอกว่ามันพนันเรื่องสอบกับมึงไว้ นี่เห็นนัดจะมาติวกับพี่หมอกแหละ บอกมันจะเป็นท็อปของคณะมันให้ได้ ว่าแต่ไปพนันอะไรกับมัน”

“เหี้ย” ผมอุทานออกมา มีหวังผมต้องเสียสาว เอ๊ยเสียตัวให้มันเป็นแน่แท้ ถ้ามึงเอาจริงขนาดนี้ แต่เดี๋ยว

“หวานมึง มาเคลียร์กับกูก่อน กูเห็นน่ะมึง มึงไลน์ไปกะให้ไอ้แทนมา มึงจะให้ไอ้กันมาง้อมึงใช่ไหม ไอ้หนอนบ่อนไส้ ขายเพื่อน กูเห็นไอ้กันไม่ทันจะเอ่ยปากง้อ มึงก็บอกคืนดีก็ได้ มึงหายโกรธง่ายขนาดนี้ มึงจะงอนมันทำไม แถมใช้กูเป็นเครื่องมือ” ผมแกล้งร้องไห้กระสิกซบไหล่ตือ

“เออ ก็ตามที่มึงคิด” เหี้ยละหวานมึงยอมรับง่ายเกิ๊น

“ไอ้หนึ่ง งอนแฟนอย่างอนนาน เดี๋ยวแม่งไม่ง้อกูขึ้นมากูทำไง ให้กูไปตามง้อมันกลับรึ มารยาหญิงมึงยังต้องศึกษากูอีกเยอะ”

หวานลุกขึ้นหัวเราะแบบผู้ชนะ จนผมกับตือต้องหันมามองหน้าซึ่งกันและกัน สงสัยแม่งจะป่วย หรือแม่งเรียนจนเพี้ยน

จนหมดเวลาพัก พวกเราทั้งหมดจึงรีบใส่ตีนหมาขึ้นตึกอย่าไว เพื่อเข้าเรียนตัวถัดไป กริ๊งงง เสียงไลน์ดัง ผมจึงเปิดอ่านก่อนรีบวิ่งเข้าห้องเรียน ** **

แทน(หัวใจ)หนึ่ง: อย่างลืมนัดเดทตอนเย็นน่ะครับเมีย

 --------------------------------------------

 

น้องหายไปสองอาทิตย์ น้องต้องกราบขอโทษทุกคนด้วย อาทิตย์แรก น้องไปเที่ยวหัวหินมา กะไปพักผ่อนหาแรงบรรดาลใจในการเขียนใหม่ๆ เพราะเรื่องที่เขียนส่วนมากจะอ้างอิงเหตุการณ์จากตนเอง หรือเรื่องราวความรักต่างๆ ที่มาจากการเล่าของคนรอบข้าง ตอนนี้เจอเพื่อน ถามเพื่อนอย่างเดียว "มึงเล่าเรื่องความรักมึงให้ฟังหน่อยสิ" เพื่อจะหยิบส่วนนึงมาแต่งหรือแรงบรรดาลใจในการเขียนต่อๆ ไป กลับมากะจะเขียนสักตอนตั้งแต่จันทร์ แต่เวณกรรม เดินตกบันได เอ็นหัวเข่าอักเสษ นี่ก็คิดเออ ดีจะได้ไม่ต้องไปทำงาน จะเอาเวลามาเขียนนิยายต่อ สรุปกินยาแก้ปวด สามนาทีหลับ เลยนอนเป็นผักมาทั้งอาทิตย์ นี่ก็ยังเดินกระเพกอยู่ แต่เปลี่ยนยาเลยดีขึ้นหน่อย  ขอโทษคนที่รอน่ะคะ ตอนหน้าแทนหนึ่งเค้าจะไปเดท จู๋จี๋กันค่ะคุณ เอารูปหัวหินมาฝากด้วยน่ะ   

P.s. เสาร์ที่ผ่านมาเพื่อนไปสอนพิเศษที่มหาลัยเก่าที่จบมา เลยได้มีโอกาศเดินกระเพกไปหาแรงบรรดาลใจที่มอ. เฮ้อ กระเพกได้สามก้าวฝนก็ตก สะเทือนใจ

Aemmilicious

ออฟไลน์ aemmilicious

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 39
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +10/-2
ตอนที่ 12 : เดท เดท เดท

ตอนนี้เป็นเวลาเลิกเรียนแล้วครับ เวลาที่ผมน่าจะนั่งแดกข้าวอย่างสบายใจ แต่ไหนเลยผมต้องนั่งรอไอ้แทนที่หน้าตึกคนเดียว เลิกเรียนหันไปหาเพื่อนกะชวนมันมารอเป็นเพื่อนแม่งก็ทิ้งกู เห็นผู้ชายสำคัญกว่าเพื่อน หันไปหาหวานมันก็บอกมันมีนัดจะรีบไปเต๊าะไอ้กัน บอกจะทำให้มันเป็นลูกไก่ในกำมือจะบีบก็ตายจะคายก็รอด ไม่พอใจก็จะบีบไข่มันให้แตกแล้วกลับมาอย่างผู้ชนะ ไอ้ตือก็ทำตัวเป็นแม่ศรีเรือนต้องไปซักผ้าทำกับข้าวให้ไอ้พี่หมอก เอาใจจนไอ้พี่หมอกมันจะเป็นง่อยอยู่แหละ บ่นไปบ่นมาหันไปอีกทีแม่งมืดหมดล่ะ จะเหลือแค่ผมกับพี่ยามที่มองหน้ากันไปมาอยู่สองคน ไอ้แทนแม่งก็ยังไม่มา ส่งไลน์มาแค่ว่าจะมาสายหน่อย แล้วจะเลี้ยงข้าวเป็นการไถ่โทษ นี่ผมเห็นแก่ของฟรีล้วนๆ น่ะถึงยังนั่งรอมันอยู่ ไม่งั้นป่านี้กลับบ้านเปิดแอร์นอนตากไข่อ้อนแม่อยู่บ้านล่ะ แม่งไปไหนหิวจนกูจะออกไปแดกหญ้าตรงส่วนหย่อมหน้าตึกอยู่ล่ะ บีบมายองเนสลงไปแม่งน่าจะแดกได้ ไม่มีไขมันหุ่นดีสาวกรี๊ดพี่หนึ่งแน่ ผมนั่งเพ้อไปสักระยะไอ้แทนก็บีบแตรเรียก ผมกระโดดขึ้นรถส่ายหางให้เจ้านายแทบไม่ทัน จะบ้าเหรอ

"หิว หิว หิว กินข้าว กินข้าว กินข้าว" หิวโว้ยยยยยยย

"ขอมือหน่อย" อ่ะ ยื่นให้ ตากูลายไปหมดแหละแดกหัวมึงก่อนล่ะกัน ไอ้ส้นตีนนี่

"รีบขับรถไปเลยมึง อย่ามัวเล่นอยู่ เดี๋ยวกูจับแดกซะเลยนี่ มาก็ช้า จนมอจะปิดล่ะเนี่ย กูหน้าตาดีขนาดนี้โดนฉุดไปมึงจะทำยังไง"

"ผัวเป็นคนใจกว้าง จะถือว่าให้เมียไปหาประสบการณ์ ยิ่งเลอะยิ่งเยอะประสบการณ์ครับ"

"เลอะพ่อมึงสิ รีบเหยียบเลย กูหิวจะแดกมึงให้หมดตัวเลย"

“ถ้าจะกินผัว กัดไม่ได้น่ะครับเมีย แนะให้อมๆ ดูดๆ พอเป็นพิธีพอ ที่เหลือผัวจัดการเอง"               


ผมนั่งถอนหายใจอย่างหมดทางสู้ พร้อมหันหลังไปวางกระเป๋าที่เบาะหลัง แต่ต้องตกใจกับกองหนังสือหลังรถมัน มันมีหนังสืออยู่ในรถด้วยรึว่ะ ปกติกูเห็นแม่งมีแต่แผ่นซีดี ไอ้แทนมันชอบฟังเพลงครับ ส่วนมากรถมันจะเต็มไปด้วยซีดี จนจะไม่มีที่นั่งอยู่ล่ะ

"หนังสืออะไรอะมึงเต็มท้ายรถเลย"

  "อ้อ หนังสือเรียนไงครับเมีย พอดีพึ่งยืมที่ห้องสมุดมามีบางเล่มที่น่าจะต้องใช้ในการสอบน่ะครับ"         

 จริงจังแค่ไหน แค่ไหนเรียกจริงจัง ไม่ได้ล่ะถ้าผมชะล่าใจ ความสาวที่เก็บมา ไม่ใช่เว๊ย ความบริสุทธิ์ไร้มลทินของผมคงต้องแปดเปื้อนด้วยน้ำมือไอ้แทนเป็นแน่แท้ ว่าแล้วผมก็เอื้อมมือไปเปิดกระเป๋า น่าจะนั่งรถอีกสักพักทบทวนที่เรียนมาสักหน่อย

 "ทำไรครับเมีย"

 "กูว่าจะหยิบหนังสือมาอ่านสักหน่อยว่าแต่มึงหยุดเรียกกูว่าเมียสักทีได้ไหม มึงไม่คิดว่ากูจะเป็นฝ่ายรุกมึงบ้างรึไง"

 มันทำหน้างงเอียงคอทำคิ้วผูกโบว์ใส่ มึงกะแบ๊วว่างั้น

 "รุกคงไม่ได้ ถ้าลุกมานั่งนี่ ผัวโอเคครับ"         

 ผมถอนหายใจอีกเฮือกใหญ่ เถึยงมึงไปกูก็ไม่ชนะ หนังสงหนังสือไม่อ่านแม่งล่ะ หมดอารมณ์ ถือซะว่ากูต่อให้มึงก่อนล่ะกัน อีกอย่างกูคงอ่านไม่รู้เรื่อง เพราะไอ้แทนขับรถไปสักพักเอามือมาดึงแก้ม อีกสักพักเอามือมากุมมือผม เล่นปูไต่ พอติดไฟแดงก็เอามือสองข้างมาดึงหน้า ซื้อกูไปเล่นที่บ้านไหมมึง สนใจดูทางบ้าง ประกันชีวิตกูยังไม่ได้ทำ ปริญญากูยังไม่ได้ใช้ โปรดใช้สมาธิในการจับขี่ เหี้ยหิวววววววววว

          ผมแทบจะเหาะออกจากรถ หลังจากวนหาที่จอดรถเกือบยี่สิบนาทีกว่าจะได้ที่จอด จนผมแทบจะซื้อเฟรนด์ฟรายแม็คมานั่งแดกรอพรางๆ ระหว่างวนหาที่จอดรถ ทันทีที่ประตูเข้าห้างเปิดแอร์กระทบผิวหนัง โอ้สวรรค์ของพี่หนึ่ง

 "แทนเร็วดิมึง หิว หิว หิว กินข้าว กินข้าว กินข้าว กินไรดีมึง"

 "ผัวตามใจเมียครับ ทั้งเรื่องของกินและบนเตียง"

 "ไอ้ห่านี่ยังมีอารมณ์มาเต๊าะกู เดี๋ยวก็จับแดกหัวซะนี่"

 "หัวบนหรือหัวล่างครับเมีย" เฮ้อเออกูยอมมึงล่ะ

 "งั้นไปดูที่ชั้นหนึ่งล่ะกัน"         

 ผมพูดพร้อมวิ่งโกยอ้าวแบบไม่เห็นฝุ่น แต่ไอ้แทนแม่งก็ตามทันทั้งๆ ที่สูงพอๆกัน ผมเตี้ยกว่านิดหน่อยหรือแม่งขายาวกว่าพี่หนึ่ง สังสัยผมนอนบ่อยสันหลังเลยยาวช่วงขาเลยสั้นโธ่ชีวิต

 “กินไรดีล่ะมึง” เลือกไม่ถูกโว๊ยยยยย ร้านอาหารเยอะมากครับชั้นนี้ อยากแดกมันทุกร้าน หิว หิว หิว

 “ตามใจเมียครับ” พูดเสร็จไอ้แทนก็เอามือมากุมมือผม ผมทำหน้างงพร้อมแกะมือออก

 “ไม่เอามึง อย่ามาจับเดี๋ยวคนมอง ห้างนี้กูเดินบ่อยไม่หลงมึง”

 พี่หนึ่งเก่งพี่หนึ่งไม่หลงน่ะครับ ห้างนี้ปิดตาเดินก็ได้ครับนี่ถิ่นพี่หนึ่ง

 “เมียครับ ผัวไม่ได้กลัวเมียหลง ผัวกำลังสวีทกับเมียอยู่ครับ”

 สวีทอะไรของมึงแทน พูดเสร็จมันก็เอามือผมมาจับกุมมือแน่นกว่าเดิม แกะก็ไม่ออก หิวก็หิว ช่างแม่งล่ะ

 “ช่วยกูเลือกหน่อยสิกูเลือกไม่ถูก….เห้ย บอนชอนไม่มีคิว แดกบอนชอนน่ะ”

 พูดเสร็จผมก็ดึงแขนไอ้แทนเข้าร้าน ทักทายพนักงานพร้อมเข้านั่งโต๊ะอย่างรวดเร็ว

 “เมียครับปล่อยมือผัวแวบนึงครับ ผัวต้องนั่งตรงข้าม เดี๋ยวค่อยจับใหม่น่ะครับ”

 อ้าวเหี้ย ลืมตัว ผมนี่สะบัดมือออกแทบไม่ทัน แอบเห็นพนักงานขำเล็กๆ แต่

 “กินไรดี” ผมหิวครับ หิวเกินกว่าจะคิดอะไรออก ผมหันหน้าพนักงาน พร้อมสั่งอาหาร

 “เอาไก่ทอดส่วนสะโพก ไซค์ M สไปซ์ซี่ ข้าวญี่ปุ่น น้ำเอาชาบาร์เล่เย็นรีฟิว แล้วก็ต็อกโปกีชีสหนึ่งที่ครับ ขอบคุณครับ”

 “เมียใจเย็นน่ะครับ รอผัวแวบ” อ้าวกูลืม โทษที

 “ผมเอาซุปกิมจิครับ รบกวนเปลี่ยนไก่จากไซค์ M เป็น L ครับ แล้วก็เพิ่มข้าวญี่ปุ่นหนึ่งที่ครับ น้ำเหมือนกัน ขอบคุณครับ”

 พูดเสร็จพนักงานก็จากไปทิ้งไว้เพียงความหิวโหย ว่าแต่

 “แทน ทำไมมึงไม่สั่งไก่แยกกันล่ะ มาสั่งรวมกันทำไม”

 “เมียครับ สั่งรวมสั่งแยกยังไงผัวก็ต้องจ่ายอยู่ดี เพราะวันนี้ผัวเลี้ยง อีกอย่างสั่งชุดใหญ่มันถูกกว่าเยอะกว่า เมียไม่ได้มานั่งกินคนเดียวหรือกับเพื่อนน่ะครับ เราเป็นแฟนกันแล้ว เราสั่งร่วมกันได้ครับ ผัวเลี้ยงเมียได้ครับ นี่ถ้าเราได้กัน เราก็สนิทกันมากกว่าเพื่อนแล้วน่ะครับ”

 “แต่กูเกรงใจมึงว่ะแทน เดี๋ยวกูออกเองดีกว่า”

 “เมียครับ เราเป็นแฟนกัน ก็เหมือนเป็นคนคนเดียวกันแล้วน่ะครับ ทำไมต้องคิดมาก”

 “อืม แล้วแต่มึงแล้วกัน ยิ่งพูดยิ่งงง ยิ่งงงยิ่งหิว สมองไม่สั่งงานแดกก่อนแล้วกัน”

 “รบกวนเสิร์ฟอาหารค่ะ”

 เสียงสวรรค์ของพี่หนึ่ง ทันทีที่อาหารวางบนโต๊ะ ผมนี่แทบจะพุ่งเข้าใส่เลยครับ ฮอล อร่อยน่ะ

 “เมียครับ ค่อยๆ กินครับ สั่งไก่ทอดจะกินยังไงครับ แถวนี้ไม่มีบ่อ ลากลงไปกินในแก้วน้ำได้ไหมครับ”

 “อ้ายแทน กรูม่ายช่าย กระต่าย” ผมพูดทั้งที่อาหารยังเต็มปากอยู่ แม่งรบกวนคนกิน

 “ครับกระต่ายก็กระต่ายครับ ค่อยๆ ทานก็ได้ครับเมียไม่มีคนแย่ง”

 มันพูดเสร็จพร้อมเอามือมาเช็ดปาก แถมยิ้มเสน่ห์อีกหนึ่งที กูไม่เคลิ้มกับมึงหรอกไอ้แทนอย่ามาฝัน

 “ฮอลลลล ต็อกชีส ชีสเยอะจัง อร่อยอ่ะ ” ฟินเลยครับต็อกร้านนี้มากี่ครั้งผมสั่งทุกครั้ง

 “เมียครับ ผัวอยู่นี่ เมียยังจำผัวได้ไหมครับ ฮัลโหล เจอของกินทีไรเมียลืมผัวทุกที”

 พูดเสร็จพร้อมโบกมือไหวๆ อย่ามาเล่นน่ะมึง เดี๋ยวกูกระโดดกัดหู


 สิบนาทีผ่านไป……. ทำไมอิ่มจัง นี่ร้านอาหารหรือสมรภูมิรบ เหมือนพึ่งผ่านพ้นสงครามมา ฟินจัง ทำไมอิ่มเหลือเกิน ผมมองหน้าแทนที่กำลังหัวเราะท่าทางผมอยู่แต่ไร้ซึ่งเรี่ยวแรงที่จะต่อสู้จำต้องปล่อยมันไป

 “อิ่มยังครับเมีย ไปจองตั๋วหนังกัน”

 “ดูหนังด้วยเหรอ ทำไมป๋าจังวันนี้”         

 ผมแทบจะกระโดดออกมาจากร้าน  ยังไม่ลืมที่จะจูงมือไอ้แทนไม่ได้อยากสวีทอะไรหรอกครับ อยากดูหนังน่ะ ไม่ได้ดูนานแล้ว เราเลือกขึ้นลิฟท์ครับ เพราะโรงหนังอยู่ชั้นบนสุด ผมอิ่มและเดินไม่ไหว อิ่มเหมือนท้องจะแตก เฮ้ออออ หนังท้องตึงหนังตาเริ่มหย่อน ต้องมาเดินตามเสี่ย ไม่รู้เสี่ยแทนจะเลี้ยงอะไร

 “เมียอยากดูเรื่องอะไรครับ”

 แทนพาผมมาหยุดดูตรงที่ตารางหนังที่จะฉาย ไม่เห็นรู้จักสักเรื่องเลยว่ะ สภาพนี้เข้าโรงไม่ถึงห้านาทีก็จะหลับล่ะ

 “แล้วแต่มึงเลยแทน อยากดูเรื่องอะไรน่ะ”

 “งั้นเมียนั่งรอตรงนี้ก่อน เดี๋ยวผัวไปซื้อตั๋วแวบ”         

 ผมลงนั่งตรงโซฟาสีแดงยาวหน้าโรงหนัง ที่รอระหว่างนั่งเข้าโรง ไหนๆ โต๊ะก็นิ่ม แอร์ก็เย็นขอสักงีบล่ะกัน ว่าแล้วก็หลับตาพักสายตาสักนิด ไม่รู้ว่านานเท่าไหร่ รู้สึกตัวอีกทีตอนที่มีคนมาสะกิด

 "โทษน่ะครับ" ใครว่ะ ผมลืมตาขึ้นมาพร้อมเอามือปาดน้ำลาย ไม่รู้จัก คนที่มาสะกิดผมเป็นผู้ชายใส่ชุดนักศึกษาน่าจะรุ่นเดียวกับผม ไม่คุ้นหน้า

 "ครับมีไรรึเปล่าครับ"

 "ผมแม็กน่ะครับ จะเป็นไรไหมครับถ้าผมจะขอเบอร์กับไลน์หน่อย” ฮืม ใครว่ะ

 "โทษน่ะครับ เรารู้จักกันรึเปล่าครับ" งงใครว่ะ

 "พอดีผมเห็นคุณน่ารักดีน่ะครับ เลยอยากรู้จัก”

 เดี๋ยวเดี๋ยวน่ะ ผมมีเสน่ห์ต่อเพศเดียวกันตั้งแต่เมื่อไหร่ นี่มึงจะจีบกูไปทำไม ทุกๆ อย่างที่กูมีมึงก็มี ช็อกเกิดมาพึ่งเคยโดนผู้ชายขอเบอร์ ผมเกาหัวแบบงงๆ

 "เออคือผม......"

 "มีผัวแล้ว"

 ผมเสียวสันหลังแบบที่ไม่ต้องริวหรือเจนก็สัมผัสได้ ต้องมีพลังงานบางอย่างกำลังทำหน้าอัมหิตอยู่ด้านหลังเป็นใครไปไม่ได้นอกจากไอ้แทน เพิ่มเติมคือป็อปคอนขนาดใหญ่ โค้กสองแก้วใหญ่พร้อมตั๋วหนัง หันกลับมาอีกทีไอ้แม็กก็หายไปอย่างไร้ร่องรอย

 "สงสัยผัวต้องเอาเชือกคล้องคอเมียแล้วครับ มาห้างทีไรเมียโดนเต๊าะทุกทีเลยนี่ถ้าไม่ติดว่าถือของ ป่านี้ไอ้หน้าจืดนั่นจมตีนไปล่ะ"

 แหมแต้มบุญมันช่างสูงนัก สังสัยต้องให้มันมากราบไหว้ถังปอปคอร์นที่นี่ ที่ช่วยปกป้องรักษาให้รอดจากจีนไอ้แทนได้ แทนทำท่าหึดฟัดเล็กน้อย แต่ไม่โวยวายมากเหมือนครั้งก่อน

 "เมียครับ ไปรอข้างในดีกว่า ข้างในมีห้องรับรอง"

 ผมเดินตามไอ้แทนต้อยๆ พร้อมทั้งหยิบน้ำและปอปคอร์นในมือมันมากินไปพรางๆ

 "โหยทำไมหรูจังว่ะ มีห้องรับรองด้วย ป๋าจริงๆ เลยมึง”

 ผมเดินมองรอบๆ อย่างตั้งใจ ทำไมมันหรูอย่างนี้ จนอดสงสัยไม่ได้

 “แพงไหมว่ามึง กูเกรงใจ แชร์กันก็ได้น่ะมึง” “เมียคนเดียวผัวเลี้ยงได้ครับ”         

 ผมทำได้แค่เบะปากใส่มั่น ไหนๆ มันก็เลี้ยงแล้ว โรงที่ไอ้แทนจองเป็นโรงพรีเมี่ยม แบบแพงที่สุดครับ จะมีห้องรับรอง อาหารเสิร์ฟ มีสปาด้วย ให้สบายตัวก่อที่จะดูหนังว่างั้น แต่เรามาดูรอบดึกครับ สปาเลยปิดก่อน แต่ก็สามารถนำบัตรมาใช้ในคราวหน้าได้ แหมไอ้แทนนี่มันป๋าจริงๆ

 “สั่งอาหารว่างเลยไหมค่ะ”

 พนักงานพูดพร้อมยื่นเมนูให้เลือก โอ้โห มีหลายอย่างให้เลือกเลยครับ ผมเลือกเซ็ทขนม กินของคาวเสร็จก็ต้องตบด้วยขนมหวาน ไอ้แทนเลือกเซ็ทเครื่องดืมเป็นไวท์คู่กับแอลม่อน โอ้น่าลอง เดี๋ยวขอมันชิมหน่อยดีกว่า

 “รับเลยหรือรับในโรงดีค่ะ” ไอ้แทนหันมามองผมที่กำลังบดข้าวโพดอยู่

 “ในโรงดีกว่าครับ ขอบคุณครับ” ดีมาก กูแน่นไปหมดล่ะ รอกูย่อยแวบ         

 ผมนั่งรอสักพักก็ถึงเวลาเข้าโรง ปกติผมก็ไม่ค่อยได้ดูหนัง เพราะมันใช้เวลาค่อนข้างมาก อีกอย่างมาคนเดียวก็ดูแปลกๆ มีไอ้แทนก็ดีเหมือนกันครับมีเพื่อนทำโน่นทำนี่ด้วย แต่ไอ้โรงที่พิเศษแบบนี้พึ่งเคยครับ ผิดกับไอ้แทน ท่าทางจะพาสาวๆ มาบ่อย ผมเดินตามมาจนถึงโรงหนัง หรูหราสมราคา เพราะในโรงมีที่นั่งที่ผมนับแล้วคร่าวๆ ไม่น่าเกิน 20 ที่ เบาะจะนั่งได้แค่สองที่ครับ มีหมอนมีผ้าห่มพร้อมโต๊ะกลางไว้วางอาหารและเครื่องดื่ม ด้านหลังมีเบาะยกสูงกั้นให้อารมณ์ความเป็นส่วนตัวสุดๆ ผมลงนั่งกระโดดเย้งๆ

 “โหย นุ่มจังเลยอ่ะไอ้แทน ขอบคุณครับป๋า”

 “มากราบลงตรงอกป๋านี่” แหม วันนี้มึงจะอารมณ์ดีไปล่ะ รับมุกกูตลอด     

 ผมลงนั่งกึ่งนอนพร้อมเอาหมอนมาพึงหลังห่มผ้าเรียบร้อย ทันที่ที่นั่งพนักงานก็เอาอาหารที่เราสั่งไว้มาเสิร์ฟ แหม บริการดีกันจริงๆ โรงคนไม่เต็มน่ะครับ ส่วนมากจะมาเป็นคู่ๆ สวีทกันแทบมดจะขึ้นโรง บ่นสักพักหนังก็เริ่มฉาย หลังจากผมจัดการกับขนมเรียบร้อยจนอิ่ม ก็เลยเบนความสนใจไปที่ไวท์ของไอ้แทน

 “แทน กูขอชิมไวท์มึงหน่อยสิ”

 ผมไม่รอให้เจ้าตัวพยักหน้า หยิบมาดื่มอย่างสบายใจ

 “หวานจัง เติมอีกได้ไหมอ่ะ”

 รสมันหวานๆ ขมๆ อร่อยดีครับ ผมกระดกไปอีกสองแก้ว ก็เริ่มมึนๆ หนังท้องตึงหนังตาก็เริ่มหย่อน หนังอะไรไม่ดูแม่งแหละนอนดีกว่า คิดได้อย่างนั้นผมก็หลับตาห่มผ้า ไม่สนใจหนังที่ไอ้แทนเลือกมา         

 ผมหลับอย่างไม่สนใจหน้าอินหน้าพรหมที่ไหนทั้งนั้น ไม่รู้ว่ากรนรึเปล่า ตื่นขึ้นมาอีกที เพราะมือของไอ้แทนแม่งอย่างกับปลาหมึก ลูบคลำอาศัยกูช่วงหลับแม่งฉวยโอกาส

“ไอ้เหี้ยแทนหยุดเลยมึง โรงหนังมึงยังหื่นอีกเนอะ” ผมลุกขึ้นมาแกะมือกาวไอ้แทนเป็นพลันละวัน

 “หืม เมียครับ ใครเค้าก็ทำกัน”

 ผมถลึงตาใส่มัน แล้วหันไปรอบข้าง เออ จริงอย่าที่มันพูด เหี้ย! โต๊ะข้างหน้าแม่งดูดปากกันเอาเป็นเอาตาย

 “เออว่ะ ไอ้แทนแอบดูคู่ข้างหน้ากัน เค้าจูบกันแล้วว่ะ”

“จะไปดูเค้าทำไมล่ะครับ เราทำเองกันดีกว่า”         

พูดเสร็จมันก็จับหน้าผมเข้าหาเอียงหน้าลงมาจูบผมนี่ดิ้นพร่านเลยครับ แต่ไม่รู้ว่าเป็นเพราะบรรยากาศหรือเพราะไวท์ที่ดื่มเข้าไป ทำให้ผมขัดขืนสักพักก็ต้องคล้อยตามกับรสจูบของมัน มันช่างหอมหวานดั่งกับลูกอมบางครั้งก็เปรี้ยวซ่าเหมือนมะนาว จากตอนแรกที่ขัดขืนตอนนี้ผมกลับเคลิ้มรับจูบจากไอ้แทน ไม่รู้เมื่อไหร่ที่ผมเข้าไปโอบคอมัน แทนมันจูบสักพักก็ปล่อยออก พร้อมมองหน้าผม แต่กลับเป็นผมเองนี่แหละ ที่โน้มตัวขึ้นไปหาจูบมันอย่างโหยหา อาจจะเป็นเพราะเมาหรือบรรยากาศพาไป หรือมันเป็นเพราะรักที่ทำให้ผมโอนอ่อนตามมันอย่างง่ายดาย จูบครั้งแล้วครั้งเล่า มันช่างหวานและไม่เพียงพอสำหรับผม ไม่รู้ว่านานเท่าไหร่แล้ว แต่เราต่างจ้องมองตากัน จูบกันไปมาอย่างนั้น เหมือนผมตกอยู่ในห่วงอะไรสักอย่างหนึ่ง แทนผละปากออก

“เมียครับ”

ฮืม อะไรว่ะแทนบรรยากาศแม่งได้มาจูบต่อ ผมแหงนหน้าขึ้นกอดคอดึงมันมาจูบอีกครั้ง

“คือหนังจบแล้วครับเมีย” อืมช่างมันเถอะมึง กูหลับตั้งแต่ต้นเรื่องล่ะ มาต่อกันดีกว่า

“เมียครับ คือ…… พนักงานมารอเก็บโต๊ะแล้วครับ”

“เหี้ย” เหมือนสติเข้าร่างผมสะดุ้งลุกขึ้นมาดุดติดสปริง หันไปมองหน้าน้องพนักงานที่ก้มหน้าอย่างเขินอาย

“ไอ้แทน ทำไมมึงไม่บอกกู ขอโทษทีครับ”

ผมหันไปขอโทษน้องพนักงาน พี่หนึ่งขอโทษที่ให้รอ พี่หนึ่งขอโทษที่เล่นหนังสดให้ดู พี่หนึ่งเมาพี่หนึ่งจำไม่ได้

“อ้าว”

ไอ้เหี้ยแทนยังมาอ้าว ผมนี่รีบดึงมือมันออกจากโรงใส่ตีนหมากลับรถอย่างไว ยิ่งคิดก็ยิ่งอาย อายทั้งพนักงาน อายทั้งไอ้แทน นี่ผมเป็นฝ่่ายดึงมันมาจูบอีกต่างหาก อยากจะแทรกแผ่นดินหนี ผมรีบขึ้นรถปิดประตูอย่างไว

“เมียครับ ไม่มีคนขัดแล้ว มาต่อกันครับ” ผมเอามือดันหน้ามันแทบไม่ทัน

“พอเลยมึง กลับบ้านเลย พากูกลับบ้านเลย”         

หมดกันแล้วกูความแมนความคูลที่กูสร้างมา ทุกวันนี้สาวแตกจนมีผู้ชายมาจีบ รู้ถึงไหนอายถึงนั้น ไอ้ตัวต้นเหตุแม่งก็อารมณ์ดี มึงแม่งคิดไมซื่อมึงต้องวางแผนมา กูไม่ผิดกูจะโทษมึง

“แทน มึงคิดไม่ซื่อกับกูใชไหม มึงแอบใส่ยาในไวท์ใช่ไหม มึงวางแผนมาใช่ไหม"

ไอ้คนเจ้าเลห์ มึงผิด มึงคนเดียว กูถูกเสมอ “ฮืมมมม”

ไอ้แทนทำหน้าใสซื่อ เอียงหน้า 45 องศา แบ๊วใส่กูว่างั้น ไอ้เหี้ย         

เถียงมึงไปกูก็ไม่ชนะไม่ได้แหละ กลับบ้านไปกูจะอ่านหนังสือโต้รุ่งแม่ง ไม่งั้นกูต้องเสร็จมึงแน่ ไอ้แทนมึงไม่มีทางไอ้แอ้มกูแน่ แต่จูบมันก็ดีเหมือนกันน่ะ เฮ้ย! เหี้ยแหละ กูไปเอาความคิดแบบนี้มาจากไหน ไม่จริงไม่มมมมมมมมม!


------------------------------------------



**หิววววววววววววว **

Aemmilicious

ออฟไลน์ aemmilicious

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 39
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +10/-2
ตอนที่ 13 : สัตยาจอมวางแผน

หลังจากผ่านพ้นช่วงสอบมาได้ ผมนี่แทบจะตายคากองหนังสือเลยครับ ช่างเป็นสองอาทิตย์ที่โหดร้ายที่สุดในชีวิตนักศึกษาแพทย์ของผมเลยก็ว่าได้ ด้วยความตั้งใจที่อยากจะได้คะแนนสอบดีๆ บวกกลับความกลัวจะเสียตัวให้ไอ้แทน ผมนี่แทบจะสิงตัวอยู่แต่หอสมุดกับบ้านไอ้หวานเลยครับ เพราะบ้านมันอยู่ใกล้มอที่สุด ติวรวมกันใครไม่รู้ตรงไหนจะได้ช่วยกันได้ เรียกว่ารวมกันเราอยู่แยกกันอยู่เราตาย ฝ่ายไอ้แทนก็ไม่น้อยหน้า รวมตัวกันติวที่คอนโดไอ้พี่หมอกแทบไม่ออกมาเห็นเดือนเห็นตะวัน แทบจะต้มหนังสือแดกกันเลยทีเดียวยิ่งเห็นไอ้แทนฟิต ผมนี่ยิ่งต้องฟิตเพิ่มเป็นสองเท่าแพ้ไปโดนมันพรากความบริสุทธิ์ที่เก็บมานานแรมปีเป็นแน่แท้ ช่วงสอบเราแทบจะไม่ได้เจอกันเลยครับ เพราะต่างฝ่ายต่างยุ่ง จะมีคุยโทรศัพท์กันบ้างเล็กน้อย วีดีโอคอลนี่อย่าหวังเลยครับมันวีดีโอคอมาไม่พูดหื่นกามใส่แม่งก็บอกให้ผมเปิดโน่นเปิดโน่นนิดนี่หน่อยเพื่อขอกำลังใจในการสอบ จนหลังๆ ผมไม่รับแม่งเลยจบ 55555         

หลังจากสอบเสร็จกว่าจะรู้ผลก็เกือบเดือน นี่ก็ลุ้นจนตัวโก่ง แพ้มาผมก็ต้องขึ้นเขียงให้ไอ้แทน นี่ผมก็เริ่มตระเวนบนบานศาลกว่า จะถวายดอกไม้เจ็ดสีเจ็ดศอก รำแก้บนที่ไหนก็ว่ามาครับ ยังไงผมก็แพ้ไม่ได้         

ผมมีเวลานอนเป็นผักเป็นปลาอยู่ได้สองวัน ต้องแหกขี้ตาตื่นมามอตั้งแต่หกโมงเช้าเพื่อออกค่ายอาสาของคณะที่หัวหิน เพื่อออกไปช่วยเหลือสังคมและอีกส่วนนึงเพื่อกระชับความสัมพันธ์ระหว่างเพื่อนและรุ่นพี่รุ่นน้องในคณะ และตอนนี้เราก็มากันครบทุกคนแล้วก็เป็นหน้าที่ของพี่แอน รุ่นพี่สาวสวยดาวขณะผู้เป็นหัวหอกสำคัญกล่าวทักทายน้องๆ ก่อนแยกย้ายกันไปขึ้นรถของตัวเอง พี่แอนหยิบโทรโข่งพร้อมยืนบนโต๊ะหินอ่อน โถพี่แอนกูเตี้ย

"สวัสดีค่ะน้องๆวันนี้อย่างที่เรารู้กันเราจะไปออกค่ายอาสากัน เราจะไปเรียนรู้การทำงานอย่าจริงๆและพักผ่อนเชื่อมสัมพันธ์กันอย่างพี่น้องในคณะน้องๆ พร้อมกันไหมค่ะ"

"โอยอีแอน น้องมันจะเอาความพร้อมมาจากไหน อีเหี้ยกูยังง่วงเลย รีบๆแบ่งกลุ่มเลยกูจะได้ไปนอนในรถ"

เสียงจากพี่หนุ่ม ตุ๊ดร่างอ้วนอารมณ์ดีพี่ปีสี่

"เออพวกมึงนี่ เดี๋ยวเราแบ่งกลุ่มกันน่ะคะ กลุ่มล่ะ 10 คนรวม 7 กลุ่มน่ะ เดี๋ยวจะมีรุ่นพี่ดูแลกลุ่มล่ะหนึ่งคนน่ะคะ เอาค่ะ พี่ๆ ที่คุมน้องมารวมกันด้านหน้าหน่อย ระหว่างนี้น้องแบ่งกลุ่มได้เลยค่ะ"         

ผมตือหวานรวมกลุ่มกับเพื่อนอีก 4 คนด้านหน้ากลุ่มผมไม่ครบ 10 ครับ เป็นกลุ่มเกลือเศษแต่พี่ๆ ก็ไม่ว่าอะไร

"เอาละค่ะ เดี๋ยวน้องหัวแถวจับฉลากเลือกรุ่นพี่น่ะคะ จับแล้วอ่านชื่อรุ่นพี่ดังๆ น่ะคะ"

หลังจากนั้นหัวแถวก็จับฉลากเลือกรุ่นพี่เรื่อยๆรุ่นพี่ที่คุมก็จะเป็นรุ่นพี่ปีสูงกว่าผม กลุ่มผมมันเป็นกลุ่มเศษไม่มีโอกาสได้จับฉลาก เหลือใครก็ต้องเอาคนนั้นแต่ผมไม่ซีเรียสอยู่แล้วครับคณะเรารักใคร่กันดี ใครก็ได้ครับ

"เคค่ะ กลุ่มสุดท้ายไม่ต้องจับน่ะคะพี่จับให้เลย และพี่คนสุดท้ายคือ น้องบอสค่ะ"

"กรี๊ด อีเหี้ยกูจะเอา กูจะอยู่กลุ่มนี้" พี่หนุ่มร้องโหยหวน เออพี่ครับ พี่อยู่ปีสี่ครับ พี่ยังต้องการคนคุมอีกหรือครับ

"โอเคค่ะ เดี๋ยวให้รุ่นพี่แนะนำตัวแต่ล่ะกลุ่ม แล้วขึ้นรถเลยน่ะคะ พี่ง่วง"         

พี่แอนสั่งเสร็จพร้อมจิกหัวพี่หนุ่มลากขึ้นรถจากไป มือนึงกอดหมอนข้างเตรียมตัวนอน ว่าแต่พี่แอนกูเอาหมอนข้างมาทำไมครับ พี่ๆ แต่ละคนเดินไปหาแถวของตัวเองรวมถึงพี่บอสรุ่นพี่ที่คุมแถวของผมด้วยครับ

"สวัสดีครับ พี่ชื่อบอสน่ะครับ ปีสอง น้องๆ ทำตัวตามปกติน่ะครับ มีปัญหาอะไรมาบอกพี่ได้ อีกอย่างพี่โสดน่ะครับ ใครสนใจมาเต๊าะพี่ได้" พี่บอสยิ้มพร้อมเหล่มามอง

"อีเหี้ย กูเอา กูเอาตีหัวลากเข้าป่าให้กู"

จะมีใครเล่านอกจากหวาน FC พี่บอส มึงลืมไอ้กันไปไหมหวาน สติมึงประครองสตินิด

"เคครับ ไปขึ้นรถกันดีกว่าเดินตามพี่มาเลยครับ"         

ผมหันไปหิ้วกระเป๋าเป้พร้อมมองทางเพื่อน โอ้โหหวานมึงไปค้างคืนเดียวทำอย่างกับจะย้ายบ้าน มึงถือไหวไหมนั่น ดีที่กระเป๋ามันมีล้อลาก ไม่งั้นมึงจะถือยังไง

“น้องหนึ่งมาครับพี่ช่วยถือ”

พี่บอสยื่นมือมาช่วยถือเป้ที่มีเสื้อผ้าสองชุดของใช้อีกนิดหน่อย ว่าแต่กูหนักตรงไหน ไอ้พี่บอสเลยต้องมาช่วย พูดเสร็จพี่บอสก็ดึงเป้ผมเดินนำเอาไปเก็บใต้รถทัวร์เรียบร้อย

“แม่ง กูเกิดเป็นชะนีแถบจะไม่มีที่ยืน หรือกูดูบึกบึนแข็งแรงไป” อืม มึงมีเหตุผล

“หนึ่ง มึงบอกไอ้แทนยังว่ามาเข้าค่ายอาสา มันว่าไงบ้าง" ตือเอ่ยถามด้วยความเป็นห่วง

"บอกแล้วน่ะ"

"แล้วมันว่าไงบ้าง"

"ก็ไม่ว่าไรนี่ แค่บอกมันก็ไปเที่ยวกับเพื่อนมันเหมือนกัน"

"แล้วมึงได้บอกไหมว่าไอ้พี่บอสไปด้วย" น่าจะไม่ใช่ความเป็นห่วงล่ะ

"บอกทำไมล่ะมึง เดี๋ยวมันก็มาหาเรื่องไอ้พี่บอสอีก”

"กูว่าละ ปกติหมาตัวผู้มันยังไม่ให้เดินผ่านมึง นี้ไอ้พี่บอสทั้งคน"

“ไอ้แทนก็หวงมึงเว่อร์เหลือเกิน ไอ้พี่บอสนี่ก็รู้ว่าไอ้แทนห่วงมึงอย่างกับอะไร ยังมาเต๊าะมึง อย่างกับจะเอาหน้าเข้าหาตีนไอ้แทนอย่างนั้นแหละ มึงมีอะไรดีว่ะหนึ่ง” หวานถามพลางทำหน้าสงสัย

“กูจะรู้ไหม ถามไอ้พี่บอสมันดูสิ” ผมส่ายหน้าพร้อมเดินขึ้นรถ       

ผมตือหวานเดินขึ้นรถพร้อมหาที่นั่ง ตือนั่งกับหวานผมนั่งคนเดียวอีกด้านริมหน้าต่าง ยังไงเราเลือกนั่งแถวหลังสุด คนคงไม่เต็มและแล้วก็ถึงเวลารถออก         

พี่แอนก็ลุกขึ้นมาพูดถึงกิจกรรมคร่าวๆ ว่าเราจะไปช่วยกันสร้างห้องพยาบาลให้น้องพร้อมมอบอุปกรณ์และสอนวิธีการใช้ยาและอุปกรณ์ต่างๆ อย่างถูกต้อง ฟังสักพักด้วยความง่วงก็หลับไปส่วนคนอื่นๆ ก็ไม่ต่างกัน พี่แอนด้วยความห่วงน้อง เลยชิงหลับก่อนนอนกอดหมอนข้างพร้อมกรนใส่ไมค์ที่นอนกอดไว้แน่น เหมือนให้น้องนั่งสมาธิกำหนดลมหายใจตามพี่แอนก็ไม่ปาน ส่วนพี่บอยนอนขวางทางขึ้นลงที่พื้นสังสัยกลัวน้องหายและแล้วทุกคนก็หลับพร้อมหายใจตามจังหวะที่พี่แอนนำ สรุปนี่หลับหรือเมาค้างกันครับ

"น้องหนึ่งครับ ตื่นได้แล้วครับ"         

ผมค่อยๆ ลืมตาขึ้นด้วยแรงเขย่าตัว เหี้ย ผมนอนพิงไอ้พี่บอสตั้งแต่เมื่อไหร่ เหี้ยน้ำลายกูหยดใส่ไหล่พี่บอส

"โทษทีครับพี่ ทำไมพี่ไม่ปลุกผมล่ะ" มึงมานั่งตอนไหนนี่

"พี่เห็นน้องหนึ่งหลับอยู่เลยไม่กล้าปลุก เห็นหัวจะไปโขกกระจกอยู่ล่ะ พี่เลยดึงมาพิงไหล่ เป็นไงไหล่พี่นิ่มไหมครับ ส่วนอื่นพี่ก็นิ่มน่ะ"

ผมได้หัวเราะแฮะๆ อ้าวไปไหนกันหมดรถล่ะ ผมหันไปมองหาเพื่อน

"ถึงแล้วหรือครับ" ผมเกาหัวพร้อมถามพี่บอส

"อ้าวพี่ลืมบอกเดี๋ยวอีก 30 นาทีเราก็ถึงแล้ว ให้พักเข้าห้องน้ำล้างหน้ากันก่อน เดี๋ยวอีก 20 นาทีมาเจอกันที่รถน่ะ"

ผมพนักหน้ารับพร้อมวิ่งไปจัดการไอ้หวานกับไอ้ตือแม่งไม่ปลุกกู

"ไงมึง หลับสบายฝันเปียกเลยไหม" หวานส่งหมาในปากมาทักทาย

"ทำไมพวกมึงไม่ปลุกกูกันว่ะ" ไอ้ห่าพวกนี้นี่

"อ้าวกูเห็นบรรยากาศกำลังโรแมนติก ขี้เกียจขัดคอ แม่งมีโมเม้นท์" ตือสมทบ

"เออๆ กูขี้เกียจเถียงล่ะ ดีน่ะไอ้แทนไม่มา ไม่งั้นนแม่งลงไปต่อยกับพี่บอสล่ะ" ไอ้พี่บอสนี่ก็เตาะกูอยู่ได้         

ผมรีบเข้าห้องน้ำ ล้างหน้าให้ตื่น แล้วเราก็เข้าไปถล่มเซเว่นข้างหน้าให้ราบเป็นหน้ากอง หลังจากอิ่มพวกเราก็ขึ้นรถเตรียมตัวไปใช้แรงงานช่วยเหลือน้องๆ  ระหว่างทางก้กลับมาคึกคักอีกครั้ง จากการเล่นตลกคาเฟ่ของพี่แอนและพี่หนุ่ม         

สักพักนึงเราก็มาถึงสถานที่ที่เราจะสร้างห้องพยาบาลให้น้อง ในส่วนของตัวเรือนนั้นได้ทำเสร็จหมดแล้ว เรามาเพื่อทาสี นำยาและอุปกรณืต่างเข้าห้องพยาบาล ติดป้ายและทาสีด้านน้อง ซึ่งงานก็ผ่านไปอย่างเรียบร้อย ด้วยความร่วมมือร่วมใจกันจากเพื่อนๆ พี่ๆ ในคณะ ไม่นานนักห้องพยาบาลก็เสร็จพร้อมส่งมอบ ตอนทำก็เหนื่อยน่ะครับ แต่พอทำเสร็จก็ปลื้มใจน่ะครับที่ได้ช่วยเหลือแบ่งปันให้คนอื่นบ้าง น่าจะเป็นความภูมิใจของเราทุกคนที่ได้ลงมือช่วยเหลือน้องๆ ในครั้งนี้ กว่างานจะเสร็จแล้วส่งมอบของต่างๆ ให้น้องก็เกือบสามโมงเย็น พวกเราก็ได้บอกลาคุณครูและน้องๆ และขึ้นรถเตรียมเข้าห้องพัก รถแล่นออกมาสักพัก พี่แอนก็จับไมค์อธิบายกิจกรรมต่างที่เหลือก่อนเราเข้าพัก โดยตารางคร่าวๆ ถึงที่พักพักผ่อนกันตามอรรถยาศัย ห้องพักได้ห้องละสามคน จับเอากันเองเลย นอนชายหญิงรึชายๆ ก็แล้วแต่ตามสะดวก เพราะเราถือว่าเราเป็นพี่น้องกันหมด ไม่มีใครคิดมากเรื่องนี้ พร้อมนัดเจอกันอีกทีตอน หกโมงเย็นเพื่อทานข้าวและเล่นเกมส์กัน  ไม่นานนักรถก็จอดถึงรีสอร์ทที่พัก ที่พักเป็นรีสอร์ทที่พึ่งเปิดใหม่ครับ เราพักตึกด้านหลังจะเป็นสองตึกหันหลังเข้าหากัน ตรงกลางจะเป็นสนามและสระว่ายน้ำครับ เป็นรีสอร์ทที่พึ่งเปิดใหม่ ผมเดินลงมาพร้อมจะหยิบกระเป๋าแต่ไม่ทันไรไลน์ก็ดังขึ้น ผมเอากระเป๋าขึ้นบ่าพร้อม เอามือกดดูข้อความ** **

แทน (หัวใจ**) หนึ่ง:** เมียครับทำไรอยู่ครับ** **

Nueng: พึ่งถึงที่พัก ว่าไงมึง

แทน (หัวใจ) หนึ่ง**:** ทำไมเมียใส่กางเกงสั้นจังครับ

เนื่องจากมาทะเลผมเลยใส่ยีนส์ ขาสั้นมาครับ แต่มันก็ไม่ได้สั้นมากน่ะครับคลุมเข่า พร้อมใส่เสื้อเชิร์ตแขนสั้นลายดอกเข้ากับบรรยากาศทะเลสัด** **

Nueng: บ้ามึง นี่กูใส่กางเกงขายาวเสื้อคอเต่ามา กูกลัวดำ แม่งอำกู ไอ้แทนมึงจะรู้ได้ไง** **

แทน (หัวใจ) หนึ่ง**:** ถ้าเมียโกหกผัวบดปากโชว์น่ะครับ

ผมหันมองซ้ายมองขวาอย่างระวังตัว ไม่เห็นเงาของไอ้เถื่อนกลุ่มวิศวะอย่างไอ้แทนแถวนี้ อย่ามาโกหกกูน่ะมึง** **

Nueng: เออ กูจะให้มึงบดให้ปากบวมเลย         


เราเข้าไปเช็กอินสักพักก็แยกย้ายกันเข้าห้องครับ ผมตือหวานนอนรวมกันอยู่ห้องเดียวกัน ถึงห้องไอ้หวานก็นอนเลื้อยอยู่บนเตียง ตือก็กำลังอาของเก็บใส่ตู้ ผมเลยใช้เวลานี้ไปอาบน้ำก่อน จะได้ไม่เสียเวลา ไม่นานนักผมก็อาบเสร็จมานั่งเป่าผมสักครู่ จึงเดินไปมองที่ระเบียงด้านหลัง เราพักอยู่ชั้นสามครับ ได้ข่าวว่าเราเหมาทั้งสองหลังไว้เป็นของเราทั้งหมด 90% จะเหลืออีก 10% ที่เป็นของลูกค้าที่จองไว้ล่วงหน้าอยู่แล้ว เลยสนุกกันเต็มที่บางส่วนนอนกันเป็นศพอยู่บนห้อง บางส่วนก็ลงไปเล่นน้ำในสระส่วนกลางของตึก มองไปมองมาผมก็คิดถึงไอ้แทนน่ะครับ ถ้ามันมาเที่ยวด้วยกันก็คงสนุก ผมอาบน้ำจนตื่นเต็มที่ อยากลงไปเดินเล่น เลยเดินไปบอกเพื่อนพร้อมกดลิฟท์ลงมาชั้นล่าง ไม่ทันไรผมก็ได้ยินเสียงกรี๊ดจากพี่หนุ่ม อย่างโหยหวน ผมว่าพี่แกคงต้องเดือดร้อนหรือโดนน้ำร้อนลวกเป็นแน่แท้ ผมวิ่งไปจนสุดทาง ภาพที่ผมเห็นช่างเป็นภาพที่ไม่น่าดูนัก สภาพของพี่หนุ่มนั้นเปลี่ยนไปจนจำไม่ได้ เพราะตอนนี้พี่หนุ่มได้เปลี่ยนชุดเป็นบีกินนี่สีม่วงสด พร้อมเกยตื้นอยู่ริมสระ พร้อมกรี๊ดกราดกับผู้ชายกลุ่มใหญ่ที่อยู่ตรงหน้า

“กรี๊ด แซวพี่อีก พี่ชอบ”

โถ พี่หนุ่มกู น่าจะอยู่ในช่วงฤดูวางไข่ ดูระริกระรี้น่าดู ดิ้นจนไข่พี่หนุ่มแทบจะหลุมมาจากบีกินนี่ แต่ไอ้ผู้ชายที่กำลังให้พี่หนุ่มปลื้มนี่มันหน้าคุ้นๆ  ผมเลยเดินไปใกล้ๆ เพื่อดูหน้า

“เหี้ย!”

ผมอุทานมาดังเมื่อเห็นว่าข้างหน้าคือกลุ่มไอ้เถื่อนของไอ้แทน ทันใดนั้นคำพูดในหัวก็ลอยมา*** ***

***“เออ กูจะให้มึงบดให้ปากบวมเลย” ***

------------------------------
แทน Part         

คุณคิดหรือว่าผมจะปล่อยให้ไอ้หนึ่งไปออกค่ายค้างอ้างแรมกับไอ้พี่บอสอะไรนั้น แม้มันจะไม่ได้ไปกันสองคน แต่ผมก็หวงมันยิ่งกว่าจงอางหวงไข่ ในเมื่อไอ้พี่บอสมันจ้องจะงาบแฟนผม ผมโตแล้วน่ะครับ จะให้หึงหวงฟาดงวงฟาดงายิ่งเป็นไปไม่ได้ คนคลูๆ อย่างผมต้องวางแผนให้แยบยน ผมรู้ตั้งแต่ก่อนที่ผมจะขอหนึ่งคบเป็นแฟนแล้วครับว่าไอ้พี่บอสมันไปด้วย แต่จะให้ผมถามตรงๆ ก็ใช่เรื่อง คนคลูๆ แบบผมมันต้องมีชั้นเชิง

ในรถหลังจากดูหนังวันนั้น

“เมียครับ เมียไปออกค่ายกับที่คณะหรือครับ”

“อืม” “ไปวันไหนน่ะครับ”

“วันศุกร์เสาร์หลังสอบเสร็จสองวันน่ะ”

“เอ๋ พักที่ไหนน่ะครับเมีย”

“Ananda Resort & Spa น่ะ ทำไมรึ”

“เอะ นั่นอะไรน่ะ เหมือนนางฟ้า” ผมทำมือชี้ไปบนท้องฟ้า

“ไหนมึง กูเห็นแต่นกไหนนางฟ้ามึง ว่าแต่เมื่อกี้คุยถึงไหนล่ะ”

“หนังสนุกดีเนอะ”

“อืม ก็……...”         

แค่นี้ก็เรียบร้อย ผมก็ได้ทั้งวัน เวลาและสถานที่เรียบร้อย โดยที่ไอ้หนึ่งไม่รู้ตัว นี่สรุปมันบื้อหรือผมบ้ากันแน่ ถามขนาดนี้แม่งยังไม่ระแวงสงสัยอะไร นี่ถ้าผมขับเข้าม่านรูดบอกปวดฉี่มันจะเชื่อผมใช่ไหมครับ ผมกลับมาถึงคอนโดผมก็จัดการจองที่พักพร้อมไลน์ชวนเพื่อนในกลุมเรียบร้อย บอกไปพักผ่อนแก้เครียดกัน พร้อมเอ่ยออกค่าที่พักให้ ทุกๆ คนก็ยอมตกลงเป็นไม้กันหมาให้ผมอย่างดี มีเพื่อนไปสุขใจยิ่งกว่าไปลำพัง เผลอๆ ผมจะรวมหัวรวบหางหนึ่งก่อนผลสอบจะออกซะอีก ผมก็ว่าผมทำได้น่ะ แต่ผมก็ไม่มั่นใจว่าจะชนะคะแนนหนึ่งได้รึเปล่า         

หลังจากที่ผมส่งไอ้กันไปให้หวานเตาะเล่นแล้ว หวานก็เต็มใจช่วยเหลือผมทุกเรื่อง ไม่ใช่แค่ข้อมูลต่างๆ ของหนึ่งแต่หวานยังช่วยเป็นหูเป็นตาให้ผมด้วยว่ามีใครมาเกาะแกะยุ่งย่ามกับแฟนผมรึเปล่า ก็ผมหวงนี่ กว่าจะได้มาครองก็ใช้เวลาเป็นสิบปี จะปล่อยให้หลุดไปง่ายๆ ก็คงไม่ใช่ จริงๆ ผมก็ขับรถตามรถบัสที่มันมาเรื่อยนี่แหละ วินาทีที่รถจอดพักที่ปั้มและเห็นไอ้บาสแม่งมาแต๊ะอั๋งแฟนผมตอนหลับ ผมนี่แถบจะกระทืบแม่งให้จมตีน บังอาจมาเต๊าะแฟนกู แต่ผมต้องเก็บอารมณ์ฉุนเฉียวเอาไว้ เพื่อไม่ให้เสียงานใหญ่ที่เตรียมจะจับหนึ่งกดในคืนนี้ 5555 ไอ้หนึ่งเสร็จกูแน่ เมียจ๋าผัวมาแล้ววววววว


--------------------

เค้าจะได้กัน เค้าจะได้กันค่ะคู๊ณ** **

Aemmilicious

ออฟไลน์ aemmilicious

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 39
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +10/-2
ตอนที่ 14 : ป๊อกกี้

“เมียครับ คิดถึงจังเลย” ไอ้แทนพูดพร้อมจะเข้ามากอด ดีน่ะผมเอามือดันอกมันไว้ก่อน

“มาได้ไงไอ้แทน มึงตามกูมาเหรอ” มาถูกได้ไง ตามมาหรือยังไง

“เมียครับ ผัวมาเที่ยวกับเพื่อน แหมมันช่างบังเอิญจริงๆ” ใช่ๆ มันต้องบังเอิญ

“อ้าว กันมาถึงนานแล้วเหรอ นี่ก็คิดว่าจะหลงทางซะอีก ส่งแผนที่ไปได้รับไหม” หวานทักทายกัน พร้อมคนอื่นๆ

“สรุปยังไง ไอ้แทน ยังบังเอิญอยู่ไหม”

“ครับเมีย ผัวว่าน่าจะเป็นบุพเพ เราคงเป็นเนื้อคู่ของกันและกัน”

แม่งยังเอาสีข้างถู เถียงไปก็ไม่ชนะ เลิกกกกก

“อ้าว รู้จักกันรึค่ะ” คุยเพลินจนลืมพี่หนุ่มที่ทำท่ายั่วยวนอยู่ริมสระ

“ครับ นี่เมียครับ” ไอ้แทนพูดพร้อมชี้มาทางผม ซึ่งกำลังส่ายหน้าโบกมือสะบัดปฎิเสธพลวัน

“โอ๊ยยยยยย สวยๆ อึ๋มๆ อย่างพี่ทำไมไม่เอากันค่ะ แล้วเหลือใครโสดให้พี่บ้างค่ะ”

ทุกคนพร้อมใจกันชี้มือไปที่โจ๊ก มึงไม่รอดแน่

“กรี๊ดดดด คนนี้ก็ได้ พี่เอาหมด” พี่ถามมันรึยังครับ ว่ามันเอาด้วยไหม

“ไหนก็มาเที่ยวด้วยกันแล้ว พี่เรียนเชิญน้องๆ มาร่วมทานข้าวเล่นเกมส์ร่วมกันช่วงค่ำเลยน่ะคะ เผื่อน้องโจ๊กดูพี่ ไปนานๆ จะเห็นความสวยและงดงามของพี่ พี่ย้ำตรงนี้น่ะคะ พี่สายสวยไม่ใช่สายตลก พี่ขอตัวไปเดินรอบสระก่อนน่ะคะ ยังมีผู้ชายอีกมากที่ต้องการแซวพี่”

และแล้วพี่หนุ่มก็เดินไปอย่างทุกที่คือรันเวย์ เกือบสวยถ้าไม่ติดว่าพี่แกไปตกขอบสระตรงฝั่งโน่น พี่จะเดินสายสวยแล้วครับอีกนิดเดียว         

เหลือเวลาอีกชั่วโมงกว่าจะถึงเวลานัดทานเข้าและร่วมเล่นเกมส์ในช่วงค่ำ ผมเลยชวนกันเดินมาริมหาดที่อยู่ด้านในของโรงแรม เหมือนเป็นหาดส่วนตัวเลยครับ เงียบสงบไม่มีคน จะเห็นก็แต่คู่รักชาวเราที่เดินริมหาดเล่นกันเป็นคู่ๆ พอเดินมาถึงหาดทรายผมยืนสูดอากาศบริสุทธิ์สักพักหันมาอีกที ไอ้หวานก็เดินไปกับไอ้กันทางซ้าย พี่หมอกกับตือก็เดินแยกไปทางขวา โจ๊กนี่วิ่งไปอาสาทาครีมกันแดดให้สาวๆ ริมหาด แหม ชีวิตหนุ่มโสดมึงนี่ช่างน่าสำราญ รู้ตัวอีกทีเหลืออยู่กับไอ้แทน

“ทำไรกันดีว่ะ แทน”

“เดินจับมือริมหาด”

ไอ้แทนพูด พร้อมชี้มือ ไปทางไอ้ตือกับพี่หมอก แม่งเดินสวีท จูงมือถอดรองเท้าเดินเขี่ยน้ำ แม่งดูสวีท สักพักไอ้พี่หมอกแม่งแกล้งถีบไอ้ตือลงทะเล พร้อมนั่งขำอยู่ริมหาด อันนี้ถ้าเป็นกูมึงคงจับกูกดน้ำ

“ไม่เอามึง เดี๋ยวมึงถีบกูแบบไอ้พี่หมอก หรือแม่งจับกูถ่วงน้ำ” ไม่ ไม่ ไม่ ผมส่ายหน้า

“’งั้นวิ่งไล่จับ” ไอ้แทนพูดพร้อมชี้มือไปทางไอ้กันกับหวาน

“หวาน อย่าหนีน่ะ มาให้กันจับซะดีๆ”

“ไม่เอาค่ะ กัน หวานเบื่อล่ะ งั้นหวานจับกันบ้าง กันหนีน่ะ”         

อืม มันก็โอเคน่ะ ก็ดูสวีทดี แต่ถ้ามึงกับกูวิ่งด้วยกันคนจะคิดว่ามึงวิ่งราวกูไหม หน้ามึงยิ่งคล้ายโจรอยู่ คิดไปพลางดูไอ้หวาน สักพักไอ้หวานคงโกรธวิ่งไล่ไม่ทัน แม่งกระโดดถีบไอ้กันกลางลำตัว ขึ้นคล่อมจิกหัว พร้อมเอาหน้าไอ้กันกระแทกพื้นทราย

“เหี้ย” ไอ้แทนคงช็อคเมื่อเห็นร่างที่แท้จริงของหวาน ส่วนกูชินพูดเลย

“ผัวว่าไม่น่าจะโอเคน่ะ เราควรทำอะไรดี” อืม นั่นสิ ทำไรดีว่ะ ระหว่างที่ยืนคิดอยู่นั้น

“หมูกระทะกับเบียร์เย็นๆ สิเบบี๋” ผมกับแทนหันหลังไปเจอโจ๊กนั่งหน้าเตาพร้อมชูมือกับกระป๋องเบียร์ในมือ

“ใช่/ใช่”

ผมกับแทนพูดพร้อมกันพร้อมลงนั่งหน้าเตา โจ๊กรู้หน้าที่ส่งจาน, ช้อน, ตะเกียบ พร้อมเบียร์หนึ่งกระป๋องมาให้  ใช่นี่แหละใช่ที่สุดแล้ว ผมเหมาะกับการเดินทางสายกลางที่สุดแล้ว กลางวงหมูกระทะ ว่าแต่

“ชวน หวาน กัน ตือ พี่หมอกมากินด้วยสิ” ผมหันมองหาเพื่อน ไปไหนกันหมดว่ะ

“เมียจะชวนทำไมล่ะครับ ในเมื่อมันมานั่งอยู่ข้างเมียแล้ว”

อ้าว แม่งเร็วกว่ากูอีก สงสัยได้กลิ่นจมูกดีจริงพวกมึง

“หยุดพูดเลย รีบย่างกูหิว” ไอ้หวานสั่งเรียกสติ         

ว่าแต่หมูกระทะ เบียร์เย็นๆ ริมทะเลก็เข้ากันดีน่ะครับ จะให้ผมกับไอ้แทนหวานแบบคู่คนอื่นเค้าก็ไม่ไหว ว่าแต่ไอ้โจ๊กไปหาหมูกระทะมาจากไหน แต่ช่างเถอะ อาหารอร่อย บรรยากาศดีทีทะเลยามเย็น กับเพื่อนและคนรู้ใจ แค่นี้ก็มีความสุขแล้วครับ กินกันอื่มสักพัก เราก็นั่งคุยเรื่องนั้นเรื่องนี้ ฝั่งไอ้แทนก็เผาเพื่อนมัน ผมไม่น้อยหน้าก็เผาเพื่อนตัวเองกลับ เผลอแวบเดียวก็ถึงเวลานัดทานอาหาร สรุปพวกมึงยังแดกกันไหวใช่ไหม ตือ หวาน อย่าดูถูกครับ         

เนื่องจากคนเยอะ อาหารเลยเป็นแบบบุฟเฟ่ต์ อาหารเรียงยาวจากต้นทางจนสุดปลายทาง มีทั้งอาหารไทยอย่างก๋วยเตี๋ยว ข้าวราดแกง อาหารฝรั่ง ไม่ว่าจะสปาเก็ตตี้ สเต็ก อาหารจีน ซาลาเปา  ปิ๊งย่าง จนอาหารทะเล ขนม ผลไม้ เค้ก เดี๋ยวขอตัวไปกินกุ้งเผาแวบ และแล้วเราก็แยกไปคนล่ะทิศคนล่ะทาง ส่วนพวกไอ้แทนบอกเกรงใจจะตามมาตอนหลังในช่วงเล่นเกมส์ โทษครับไม่มีเวลาคุยแล้ว ไอ้หวานหยุดนั่งกุ้งกู         

โอยยยย ไม่ไหว ทุกอย่างหยุดนิ่ง ไม่ไหวอีกแล้วครับ อิ่มจนไม่มีแรงเดิน ว่าจะลงไปกลิ้งกับพื้น พี่หนุ่มกับพี่แอนก็นอนตายไปก่อนหน้ากูแล้ว ที่เหลือนี่นั่งหน้าแน่น ไม่ใช่แต่งหน้าแน่น นั่งหน้าแน่นกินจนจุก ไอ้หวานนี่แทบจะจมกองกุ้งอยู่หน้าซุ้มปิ๊งย่าง ไอ้ตือนี่ยังคลานไปตักเค็กกินได้ กูนับถือมึงมากตือ

“ใคร บอกกูสิใครออกความเห็นเรื่องแดกเป็นบุฟเฟ่ต์” พี่แอนประธานรุ่นโวยวาย

“มึงค่ะ อีแอน มึงเป็นคนออกความคิดเลยค่ะ ดูสิ ผู้ชายฝั่งโน่น แม่งอยากกินกู กูยังไม่มีแรงลุกไปให้มันกินเลย” ไหนว่ะพี่หนุ่มคนไหน ไม่เห็นจะมี พี่กูคิดเอง เออเองอีกล่ะ

“น้องๆ  เกมส์ต้องรอก่อนน่ะคะ สถานที่พร้อม แต่พี่ไม่พร้อม พี่ไปย่อยแล้วพี่จะกลับมา” พี่แอนลุกลากสังขารไปห้องน้ำ พี่หนุ่มแน่กว่ากลิ้งตามไปอย่างไร้เรี่ยวแรงเดิน ไหนพี่ว่ามาสายสวยไงครับ         

นี่พวกเราคงกินกุ้งกันหมดหาดแล้ว กุ้งคงต้องขาดตลาดไปอีกอาทิตย์กว่า ผมต้องการขอโทษแทนเพื่อนๆ ด้วย นั่งย่อยสักพัก แก๊งค์ไอ้เถื่อนก็มา อาบน้ำแต่งตัวมาซะหล่อมึงจะอ่อยใคร

“หวาน หวานต้องเลิกให้ได้น่ะครับ กันจะพาหวานไปหักดิบอดกุ้งที่ถ้ำกระบอก” อยู่ดีไม่ว่าดี หาเรื่องโดนตบด้วยจานกุ้งจริงๆ ไอ้กัน

“ไงครับเมีย คืนนี้จะมีแรงเหลือไหมครับ”

“คืนนี้ อะไร งง” พูดอะไรไม่รู้เรื่อง

“ก็คืนนี้เรานอนด้วยกันสองคน เมียจะให้ผัวทำคนเดียวไม่ได้น่ะครับ ยังไงเมียต้อง On Top ให้ผัวบ้าง”

“อะไรมึง กูนอนกับตือหวาน”

“เมียครับ หวานเป็นผู้หญิง มานอนรวมกับผู้ชายมันดูไม่ดี” โอยยยย นอนด้วยกันมาเท่าไหร่ล่ะ ตอนสอบนี่นอนเกยกันแทบจะได้เสีย

“แล้วหวานนอนกับใคร” ตอบกูมาในที่นี้ใครสาวบอกมา

“ก็กับกันนี่ไงค่ะ” กันลุกขึ้นแสดงจริตเกินหญิง กันนี่ เดี๋ยวจะให้ไปนอนกับหนุ่มมี่

“แล้วตือล่ะ” เออ กูนอนกับตือก็ได้

“ตือก็ต้องนอนกับพี่หมอก หรือเมียจะสวิง ก็ได้น่ะครับ”

เออ แม่งพวกนี้ทิ้งกูอีกล่ะ

“งั้นกูนอนกับโจ๊กก็ได้”

“หนึ่งครับ เข้าห้องโจ๊กชกท้องปล้ำเลยน่ะครับ ไม่ลีลาให้เสียเวลาแบบไอ้แทนแน่นอน”

หนีเสือปะจระเข้ชัดๆ แม่งทางไหนก็เสียตัว ไปกับโจ๊กกูโดนแน่ๆ ไปกับไอ้แทนกูยังมีทางรอด

“เออๆ กูนอนกับมึงก็ได้”

ไม่มีทางเลือก ผมจะสู้ สู้เผื่อความบริสุทธิ์ของตัวเอง จะสู้จนหลังผิงฝา เรื่องยังไม่เกิดเดี๋ยวค่อยว่า         

และแล้วก็ถึงเวลาเล่นเกมส์กระชับความสัมพันธ์ในหมู่เพื่อนพี่น้องนักศึกษาแพทย์ด้วยกัน พี่แอนก็สั่งให้แยกกลุ่มเป็นกลุ่มตามเดิมโดยมีพี่ที่เป็นหัวหน้ากลุ่มคอยเซ็กความเรียบร้อยข้างหน้า นี่ผมเกือบลืมไปแล้วว่าไอ้พี่บอสมาด้วย สงสัยพี่แกคงยุ่งกับเตรียมงานน่ะครับ เลยไม่เห็น ก่อนเริ่มเล่นเกมส์พวกรุ่นพี่ก็เอาสายข้อมือสีขาวมาผูกรับขวัญน้องๆ เรียกว่างานนี้พันกันจนเต็มข้อมือ พี่ๆ ก็เดินวนกันผูกข้อมือ พร้อมอวยพรน้องๆ ทุกๆ อย่างไปได้ดี พี่น้องรักไคร่ปรองดองกัน แต่มันจะติดอยู่ตรงอีตอนพี่บอสมาผูกข้อมือผมนี่แหละ

“น้องหนึ่งครับ พี่ขอให้น้องเรียนสำเร็จอย่างที่ตั้งใจน่ะครับ พี่อยากให้น้องมีแฟนที่ดี อย่าคบคนพาลอย่างวิศวะ ลองมาคบหมอด้วยกันน่าจะดีกว่าน่ะครับ อิอิ”

ผมได้แต่ยิ้มแฮะ พร้อมเสียวสันหลังกับสายตาอาฆาตของไอ้เถื่อนแก็งค์วิศวะอย่างไอ้แทน

“เฮ้ยมึง ถ้ากูกระทืบนักศึกษาแพทย์ ไม่น่าจะบาปเท่าไหร่ป่าวว่ะมึง อย่างน้อยมันน่าจะลุกมาปฐพยาบาลตัวเองได้ หรือไงว่ะ สงสัยต้องลองกระทืบดู”

ไอ้แทนปล่อยหมาออกมาฝูงใหญ่ พี่บอสหันควับไปพบตีน เอ๊ย ไอ้แทนก่อนจะยักไหล่แล้วเดินจากไป

“เอาล่ะคะ อาหารคงจะย่อยกันแล้ว เดี๋ยวเรามาเล่นเกมส์กันสักเล็กน้อยน่ะคะ ใครชนะมีของรางวัลจากพี่ๆ ให้ด้วย ไม่ต้องห่วงค่ะ ได้เล่นกันทุกคน เดี๋ยวจับคู่มาเล่นทีล่ะคู่น่ะคะ จนครบทั้งหมดห้าเกมส์พอดีค่ะ”

พี่แอนอธิบายเกมส์เล้กน้อย ก่อนพี่หนุ่มจะตบแย่งไมค์มาได้

“เอาล่ะคะ เดี๋ยวเรามีบรรดาผัวพี่จากคณะวิศวะมาเล่นเกมส์ด้วยน่ะคะ ยังไงไปอยู่ทีมน้องบอสล่ะกันค่ะจะได้ครบคู่ เชิญบรรดาผัวพี่เข้าทีมค่ะ” พี่หนุ่มกล่าวเชิญไอ้แทนและเดอะแก็งค์

          ทุกๆ คนจับคู่กันอย่างลงตัว พี่หมอกคู่ตือ หวานกับกัน ไอ้แทนคู่ผม เหลือแต่โจ๊กที่เป็นเศษ แต่ดูท่ามันจะกึ่งหลับกึ่งตื่น สงสัยแดกเบียร์ไปเยอะสลึมสลือเลยมึง เกมส์ดำเนินต่อไป เรื่อยๆ ทั้งเกม เดาเลข 1-100 ใบ้คำ อะไรต่างๆ ขนมาเล่นกันอย่างสนุกสนาน ผู้ชนะเกมส์นั้นๆ ก็จะได้ของขวัญของฝากจากพี่สต๊าฟนั้นๆ ไปครอบครอง กันกับหวานเล่นกินคุกกี้บนหน้า แพ้ไปอย่างน่าเสียดาย พี่หมอกตือเล่นบวกเลขเร็ว เห็นแค่เกมส์ก็รู้ว่าไอ้พี่หมอกชนะชัวร์ ได้ของรางวัลเป็นขนมมากล่องใหญ่ จนเหลือผมกับแทนเป็นคู่สุดท้าย

“เอาล่ะคะ”

“โอย อีแอนจะ เอาล่ะคะ อะไรนักหนาค่ะ อีดอก รีบๆ พูดเลยค่ะ” พี่หนุ่มดูตื่นเต้นเป็นพิเศษ

“ค่ะ เกมส์นี้เราอิงกระแสเกาหลีฟีเว่อร์กันหน่อยน่ะคะ เราเน้นอุปกรณ์และความยาว อย่าคิดลึกค่ะ งานนี้ไม่มีแซ่ มีแต่ป๊อกกี้ค่ะ” พี่แอนอธิบายเกมส์พร้อมชูป็อกกี้ในมือ

“น้องอาจจะไม่เข้าใจ พี่จะสาธิตให้ดูน่ะคะ ขอเบิกตัวผัวพี่น้องโจ๊กค่ะ” เสียงตบมือดังสนั่น ทุกคนต่างมองหาว่าที่ผัวพี่หนุ่ม ซึ่งไอ้เหี้ยแม่งหลับ จนไอ้พี่หนุ่มต้องมาดึงไป มึงตื่นยังว่ะ

“เกมส์เล่นแบบนี้น่ะคะ อีกฝ่ายต้องคาบป็อกกี้ไว้ อีกฝ่ายต้องกัดเข้าไปให้เหลือน้อยที่สุด พี่จะสาธิต พี่รอเวลานี้มานานแล้ว”         

พี่หนุ่มไม่รอช้ายัดป๊อกกี้ให้ไอ้โจ๊กคาบ ค่อยๆ เลื่อนปากกันเข้าไปใกล้ปากไอ้โจ๊ก เดชะบุญไม่รู้ด้วยกลิ่นปากพี่หนุ่มหรือบุญแต่ชาติปางไหนไอ้โจ๊กตื่นพอดี รอดปากพี่หนุ่มไปอย่างหวุดหวิด ไอ้โจ๊กบอกกูเสียวไข่วาบเลย เกือบจะเสียเอกราชให้ไอ้พี่หนุ่มซะแล้ว

“เกมส์นี้ของรางวัลของพี่เองค่ะ มาจากญี่ปุ่น” ผมหันขวับ โอยยยย อยากได้ ต้องเป็นตุ๊กตาหรือไม่ก็ขนมญี่ปุ่นแน่นๆ

“เมียอยากได้หรือครับ” ใครจะไม่อยากได้มึง ของฟรีมาจากญี่ปุ่นด้วย ผมพยักหน้าแต่ตายังมองค้างไปที่ของขวัญกล่องใหญ่ในมือพี่หนุ่ม

“เมียชนะแน่ ไว้ใจผัวเรื่องนี้ได้เลย” ผมทำสายตาซึ้งส่งหาแทน แทนพ่อพระตัวน้อยๆ

“เดี๋ยวเมียคาบไว้เฉยๆ น่ะครับ เดี๋ยวผัวขยับเอง” ผมพยักหน้าอย่างว่านอนสอนง่าย ไม่ได้สนใจไอ้แทน ก็ผมอยากได้ของนี่

“เอาล่ะคะ เมื่อพร้อมแล้ว เริ่มได้ค่ะ”         

พี่แอนให้สัญญาณเริ่มเกมส์ ในใจก็เชียร์ไอ้แทนว่าชนะให้ได้น่ะมึง กูฝากความหวังไว้ที่มึงน่ะ ผมลุ้นจนตัวโก่ง ไอ้แทนใกล้เข้ามาเรื่อย โอยยยยย ลุ้นจนเยี่ยวจะเหนียวแล้ว ผมเห็นระยะแคบลงมากเลยบอกไอ้แทนด้วยการสะกิดแขน พอแล้วมั๊งมึง แต่ไอ้แทนไม่หยุด เอามือมาโอบหลังพร้อมโน้มตัวผมให้หันหลังให้คนดู หมดไม่มีเหลือครับ ป๊อกกงป๊อกกี้ ไม่ต้องวงต้องวัดมันแล้ว แม่งยังไม่หนำใจ ยังลงลิ้นควงสว่านจนผมแถบเข้าอ่อน รู้ตัวอีกทีตอนพี่หนุ่มแซว

“โอยยย ไม่ต้องวงต้องวัดมันแล้วค่ะ เอาของรางวัลไปแล้วไปต่อที่ห้องน่ะคะ โอยยยย อิจฉา อีดอกแยก นอนค่ะ”         

พี่หนุ่มโยนของรางวัลให้ พร้อมบอกว่าเป็นที่นวดไหล่ ผมก็เฮ้อออออ จะเอามาทำไมที่หนวดไหล่ ทำไมไม่ซื้ออะไรที่มันชิคชิค แบบที่เค้าซื้อกัน กูคงตั้งความหวังกับไอ้พี่หนุ่มไว้มาก มัวแต่ห่วงของฟรีจนลืมด่าไอ้แทน

“แม่งไม่อายเค้าเหรอว่ะคนเยอะแยะ”

“ดีสิครับ คนจะได้รู้ว่าเมียมีเจ้าของแล้ว พวกหมามันจะได้ไม่คาบไป อีกอย่างเมียบอกจะให้บดจนปากบวม นี่ผัวก็บดจนเต็มที่ก็ยังไม่บวม มาครับมาบดอีกที”

“มึงว่ากูควรบอกพวกมันไหมว่าพวกกูยังอยู่ตรงนี้” อ้าวโจ๊กคงตื่นแล้ว

“กูว่าแม่งอยากเอาท์ดอร์ คงผิดที่พวกเราเอง กลับห้องกันเหอะว่า” กันร่วมด้วยช่วยกัน

“มันจะพกถุงยางมาไหมว่ะ พี่เป็นห่วง” พี่หมอกจะเอากับเค้าด้วยใช่ไหมครับ

“มันคงเล่นสดน่ะพี่ เห็นซ้อมท่ามาตั้งแต่เย็นล่ะ” โจ๊กพูดพร้อมแคะขี้มูกทำท่าดีดใส่ สกปรก

“เออ แยก”   

พูดเสร็จแม่งก็ทิ้งกูให้อยู่กับไอ้แทนจอมหื่นอยู่สองคน ไม่มีใครห่วงกูหรืออย่างไรมันจ้องจะงาบกูอยู่เนี่ย ไอ้ห่านี่ก็ลูบจนกูขนลุกไปทั้งตัวแล้ว แล้วคืนนี้กูจะรอดไหม ช่วยกูด้วย ซัมบอร์ดี้เฮ้วมี พรีสสสสส


---------------------------------------


หายไปนานเกือบหนึ่งเดือน ขอโทษด้วยค่ะ น้องป่วย น้องไม่ไหวจริง อาทิตย์แรกของเดือนน้องก็ตกบันได เอ็นหัวเข่าไปกระแทกกับโต๊ะ เดินไม่ได้ไปสองวัน เราก็เออ จะได้พักนอนเขียนนิยายอยู่บ้าน สรุปกินยาปุ๊บหลับเลยจ้า ยากินแล้วง่วงมาก ต้องนอนเป็นผักเป็นปลาเกือบอาทิตย์ ถัดมาอีกอาทิตย์ก็รู้สึกเป็นไข้ตอนกลางคืน มีไข้ขึ้นๆ ลงๆ เราก็คิดเดี๋ยวก็หายสรุปไม่หาย ไปตรวจหมอบอกเป็นเชื้อไวรัส จะหายเองภายในหนึ่งอาทิตย์ ถัดมาก้างติดคอจนคอบวมปวดร้าวไปอีกสองวัน ตอนนี้ขาก็ยังปวดอยู่แต่รู้สึกจะปวดมากขึ้นหลังจากหายไข้นี่ก็ว่าจะไปตรวจใหม่ อาทิตย์ถัดมาก็คงไม่เหมาะในการอัพก็เลยล่วงเลยมาปานชะนี้ เฮ้ออออ ดูแลสุขภาพกันด้วยน่ะคะ

รักที่สุด

Aemmilicious


ออฟไลน์ aemmilicious

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 39
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +10/-2
ตอนที่ 15 : เรื่องบนเตียง



หลังจากแยกย้ายกันเข้าห้อง ผมก็ได้พบความจริงว่าแก็งค์ไอ้หื่น นี่ไม่ได้เกรงจงเกรงใจอะไรหรอกครับเรื่องอาหารค่ำ กินฟรีแบบนี้ปกติแทบจะวิ่งเข้าใส่แดกกันไม่เกรงใจเจ้าภาพ แต่พวกไอ้แทนมันมาเตรียมห้องต่างหากล่ะครับ ห้องเดิมที่ผมอยู่ด้วยอีกฝั่งนึงตอนนี้เป็นของหวานกันเรียบร้อยแล้ว มันให้เหตุผลว่าหวานของเยอะย้ายลำบาก ตอนนี้ผมเลยมาอยู่อีกฝั่งนึงที่เป็นห้องพักของแก็งไอ้หื่นจองไว้ซึ่งจะกว้างกว่าอยู่ชั้นล่างมีสระว่ายน้ำส่วนตัว นี่คงเป็นห้องที่เหลืออีก10% ของลูกค้าที่จองไว้ล่วงหน้า ผมตือและพวกแทนจึงอยู่ติดกันทั้งสามห้อง ผมนอนห้องเดียวกับแทน ตือกับพี่หมอก จะเหลือแต่โจ๊กหนุ่มโสดเจ้าสำราญที่นอนเดียวดาย ซึ่งได้หายไปอย่างไร้ร่องรอย สงสัยกำลังหาคนมานอนด้วย ผมถอนหายใจอยู่ประตูหน้าห้อง

"เมียครับ แค่เข้าห้องไม่ได้ออกรบทำไมดูเครียดจัง"

"นี่ไม่ใช่ห้องนอนมึง สำหรับกูคือโรงเชือด กูกำลังคิดหาทางเอาตัวรอดอยู่”

ห้องนี้อาจสร้างความเจ็บปวดและพรากความบริสุทธิ์ของผม ผมพูดอย่างอ่อนแรงไร้แรงสู้ รู้สึกตัวร้อนๆ รุมๆ ชอบกล สงสัยเป็นเพราะมึงนี่แหละ

"เมียครับ ผัวรู้ว่าผัวน่าเอาเมียอาจจะอดใจไม่ไหว แต่ทำไมเมียชอบคิดเรื่องอย่างว่าเวลาอยู่กับผัวสองคนตลอดเลย นี่ผัวกะจะรอเมียพร้อมแล้วค่อยทำ กะจะนอนจับมือกันใสๆ"

มันพูดพร้อมเอียงคอ ใสๆ พ่อมึงสิเถียงกับมึงกูก็เหนื่อยแทนเข้าห้องแม่งล่ะ         

ผมเปิดเข้ามาเห็นภาพอย่างกับโรงเชือด มีกุหลาบโรยอยู่บนเตียงปรายเตียงมีผ้าขุนหนูคดเป็นรูปหัวใจ หัวเตียงยังมีถุงยางวางอยู่ นี่มึงเตรียมพร้อมมาก ผมยืนอื้งขาสั่น

"โอ๊ะ สงสัยโรงแรมจัดห้องผิด บอกพักสองคนเค้าคงคิดว่ามา Honey Moon น่ะครับ แย่งจริงๆเลยพรุ่งนี้ต้องไปต่อว่าหน่อยล่ะ"

พูดเสร็จแม่งก็ลงไปนั่งบนเตียงพร้อมตบเตียงเรียก ไอ้แทนมึง...

"แล้วถุงยางหัวเตียงคืออะไร"

"จริงๆการป้องกันเป็นเรื่องสำคัญน่ะครับ แต่ถ้าเมียไม่ชอบไม่ใส่ก็ได้ครับท้องยังไงผัวรับผิดชอบเองครับ"

พูดเสร็จแม่งก็ปาถุงยางไปมุมห้องแล้วหันมาตบเตียงต่อ จะไปขอความช่วยเหลือจากหวานตือ มันก็บอกว่าไม่โดนวันนี้วันหน้าก็ต้องโดนยังไงผมคงไม่หลุดรอดจากไอ้แทนเป็นแน่แท้ คิดมากไปก็ปวดหัวนี่ก็เริ่มปวดตงิดตงิด ว่าแล้วมาแกะของรางวัลที่ได้จากเล่นเกมส์ดีกว่า เห็นพี่หนุ่มบอกเป็นที่นวด เผื่อจะผ่อนคลาย ว่าแล้วผมก็สะบัดผ้าห่ม กุหลงกุหลาบปลิวว่อนไปหมดล่ะ ไอ้แทนจึงต้องไล่เก็บกวาดไปโดยปริยาย         

เมื่อนั่งบนเตียงผมก็ใจจดใจจ่อกับการแกะของรางวัลจนลืมไอ้แทนไปชั่วขณะ ซึ่งตอนนี้ได้ไปจัดเก็บกลีบกุหลาบจนเรียบร้อย แต่เอ๊ะ! นี่ไม่น่าจะใช่ที่นวดหลังน่ะ เหมือนเคยเห็นที่ไหนมาก่อนน่ะ ผมหยิบของออกมาพินิจพิจารณา

“เมียครับ ครั้งแรกก็มีของเล่นซะแล้ว ถูกใจผัวจริงๆ ครับ”

“ของเล่นอะไรของมึงว่ะแทน”

ไอ้แทนไม่ตอบ แต่เข้ามากดปุ่มที่เชื่อมกับอุปกรณ์นั้น ทันใดนั้น มันก็สั่นอย่างเอาเป็นเอาตาย กูว่าล่ะเคยเห็นที่ไหน ในหนังโป๊นี่เอง ไอ้ที่หนุ่มน่ะไอ้พี่หนุ่มแยกที่หนวดหลังกับไวเบรเตอร์ไม่ออก เก็บไว้กูก็ระแวง โยนเม่งลงสระหลังห้อง

“อ้าว เมียโยนลงสระทำไมละครับ ของดีๆ ยังไม่ได้ใช้เลย”

แทนถอนหายใจอย่างเสียดาย แค่มึงกูก็แทบจะตายคาอกล่ะ ยังจะเอาอุปกรณ์มาเล่นกับกูอีก โอ๊ยปวดหัว ไปอาบน้ำดีกว่า ผมเปิดตู้เสื้อผ้าออกมา เห็นได้ชัดว่าแทนเตรียมการไว้พร้อม เสื้อของผมกับแทนถูกจัดแขวนอยู่ในตู้อย่างเรียบร้อย แบ่งฝั่งแยกของใครของมันอย่างเป็นระเบียบ เอาวะ สู้มันไม่ได้ กูยอมๆ มันหน่อยล่ะกันมันทำขนาดนี้แหละ แต่ไม่สิหนึ่ง อย่าใจอ่อน เราต้องแข็งใจไว้ อย่าให้มันกระทำชำเราสิ หวงตัวหน่อยสิวะ ผมพลางหยิบเสื้อพร้อมผ้าขุนหนูจะเข้าไปอาบน้ำ แต่ต้องสะดุดเมื่อไอ้แทนกำลังถอดเสื้อและกำลังปลดตะขอกางเกงตัวเองอยู่

“ทำไรมึง ถอดเสื้อทำไม”

“อาบน้ำไงครับเมีย อาบพร้อมกัน ประหยัดน้ำดี เผื่อเมียถูหลังไม่ถึงผัวจะได้ช่วย”

“หยุด กูจะอาบคนเดียว หลังกูกูถูได้ น้ำมึงนอนโรงแรมไม่ต้องประหยัด เปิดทิ้งๆ ขว้างบ้างก็ไม่เป็นไร”

“เมียต้องลดการใช้พลังงานช่วยโลกน่ะครับ”

“ไม่”

ผมพูดเสร็จพร้อมวิ่งจู๊ดเข้าห้องน้ำ ปิดประตูได้อย่างชิวเชียด ไอ้แทนยังเคาะประตูห้องน้ำครางหงิงหงิงอยู่หน้าห้อง

“เมียครับ ถ้าเมียล้มในห้องน้ำจะทำไง ผัวเป็นห่วง”

ปล่อยกูนอนตายอยู่ในห้องน้ำอย่างสงบมึง อย่าได้คิดรบกวนกู         

อาบน้ำไปสักพัก สดชื่นดีครับ มันทำให้หัวปลอดโปร่งดี แต่ต้องมาชะงักตอนออกมาเห็นไอ้แทนนั่งหน้าคว่ำเป็นตูดนี่แหละ อะไรของมึงครับคุณชายแทน

“อะไรมึงแทน งอนกูรึ”

“เปล่าครับ ผัวแค่เสียดาย อยากอาบน้ำด้วยน่ะ”

พูดเสร็จแม่งนั่งคอตก เอาซะดราม่าเลยมึง

“ไป อาบน้ำไปมึง จะได้นอน”

“ก่อนนอน เมียเล่นเกมส์เป็นเพื่อนผัวหน่อยน่ะครับ”

ผมหาวฟอดใหญ่ เล่นเกมส์ไรว่ะ Rov รึ

“เออๆ รีบๆ ล่ะ กูง่วงแล้ว”

“จริงน่ะครับ”

“เออ”

“ห้ามเปลียนใจน่ะครับ”

ถามย้ำกูจัง เหมือนมีลางสังหรณ์ไม่ดี ถามซะหน่อยล่ะกัน

“เกมส์ไรมึง ในมือถือรึ”

“เปล่าครับ เล่นพลัดกันช่วยตัวเอง ใครแตกก่อนถือว่าแพ้ครับ อารมณ์ดีแล้ว ไปอาบน้ำดีกว่า”

เหี้ยแล้วไหมล่ะกู เกมส์เหี้ยไรของมันนี่ ผมรู้สึกตัวร้อนรุ่มๆ ขึ้นๆ ลงๆ ยังไงชอบกล ว่าจะลุกไปหยิบน้ำมาดื่ม แต่แล้วผมก็เคลิ้มหลับไป อย่างไร้เรี่ยวแรง

-----------------------------------------
แทน Part

          คุณคงคิดล่ะสิว่าผมจะปล้ำหนึ่งจับทำเมียในคืนนี้ คุณคิดผิด ผมต้องรักษาสัญญาเรื่องที่พนันกันเรื่องสอบ แม้ผมจะไม่มั่นใจเท่าไหร่ แต่ผมคิดว่าคะแนนผมไม่น้อยแน่นอน แต่ไม่รู้จะชนะรึเปล่า ถ้าแพ้เดี๋ยวค่อยจับมันปล้ำทีหลัง ความหวังสูงสุดของผมในตอนนี้ คือการเล่นช่วยตัวเองด้วยกัน หลังจากพลาดการอาบน้ำด้วยกันไปแล้ว ยังไงครั้งนี้ผมจะไม่พลาด นอนเตียงเดียวกันจะให้ไม่ลูบคลำคงเป็นไปไม่ได้ ผมไม่ใช่พระอิฐพระปูนน่ะครับ ตอนนี้ก็แข็งจนไม่รู้จะแข็งยังไงล่ะ อยู่ในห้องสองต่อสองกับแฟน เป็นคุณ คุณจะไม่มีอารมณ์หรือครับ ผมนี่รีบอาบน้ำแทบจะวิ่งผ่านน้ำ แต่ผมขัดทุกซอกทุกมุมน่ะครับ โดยเฉพาะตรงนั้น อิอิ เสื้อผงเสื้อผ้าไม่ต้องใส่ล่ะ ผมใส่เพียงเสื้อคลุมอาบน้ำเพียงตัวเดียว                     

ผมออกมาจากห้องน้ำ ก็เห็นหนึ่งนอนนิ่งอยู่บนเตียง โอ๊ะ เมียอ่อยผัวใช่ไหมครับ สงสัยอายไม่กล้าทำ แหม ผมก็ต้องคงเป็นฝ่ายเริ่มสิครับ งานถนัดเลย

“เมียครับ หลับแล้วหรือครับ หรืออ่อยผัวอยู่”

ไม่ขยับและไม่มีเสียงตอบรับ สงสัยแกล้งหลับชัวร์

“ถ้าเมียไม่ตอบ แสดงว่าเมียโอเคน่ะครับ ผัวจะเริ่มล่ะนะครับ” อิอิ ไม่ตอบสงสัยตื่นเต้น งั้นขอน่ะครับ

“งั้นผัวเริ่มล่ะนะ”         

ผมจึงค่อยใช้มือลูบจากปลายขาขึ้นด้านบน ผิวอุ่นๆ ของหนึ่งทำให้ผมตื่นเต้น จนอยากจะทำให้ร่างนี้แหลกคามือ หนึ่งยังคงนอนนิ่งไม่ตอบโต้ใดๆ สงสัยตื่นเต้นน่ะครับเลยแกล้งหลับ ผมไม่รอช้าผลิกตัวหนึ่งขึ้นมานอนหงายพร้อมขึ้นคล่อม บรรจงจูบอย่างแผ่วเบาลงที่ต้นคอ พร้อมล้วงมือลูบไร้ผิวกายขาวผ่องข้างในเสื้อ 

" อืม เสียวไหมครับ" 

หนึ่งยังไม่ตื่นและไม่มีทีท่าใดๆ จนผมสัมผัสได้ถึงความร้อนของผิวกายที่มันร้อนเกินคำอุ่น ผมเริ่มเขย่าตัวหนึ่งเผื่อเรียกสติ แต่ก็ไม่มีการขยับใดๆ ผมจึงเอามือแตะที่หน้าผาก ชิบหายล่ะ ตัวหนึ่งร้อนอย่างกับไฟ ผมไม่รอช้ารีบลุกขึ้นมาแต่งตัวอย่างลวกๆ พร้อมโทรหาโจ๊ก

"ว่าไงมึง ถึงสวรรค์ยังนึกถึงกูอีก"

"ถึงสวรรค์เหี้ยไรล่ะ หนึ่งป่วยตัวร้อนเป็นไฟเลย มึงรีบขับรถมารอรับกูที่หน้าห้อง รีบพาหนึ่งพาไปโรงบาลเลยเร็ว"         

ไม่นานนักโจ๊กก็มารับ ผมรีบอุ้มหนึ่งขึ้นรถ พร้อมมุ่งหน้าตรงไปโรงพยาบาลที่ใกล้ที่สุดจากการค้นหาของ Google map

"ใกล้ถึงรึยังว่ะโจ๊ก"

"มึงอย่าเร่งสิว่ะ นี่กูก็เหยียบเต็มที่ล่ะ หนึ่งเป็นไงบ้าง"

"ตัวร้อนมากเลย ยังไม่ได้สติ ถ้าหนึ่งเป็นไรไปกูจะอยู่ยังไง"

ผมกอดกระชับหนึ่งที่อยู่ในอ้อมแขนกระส่ำกระส่าย โวยวายอย่างคนไร้สติ ช่วงเวลาที่ผมรอคอยมาทั้งชีวิต จะจบสิ้นลงตรงนี้หรือ         

ไม่นานนักเราก็ถึงโรงพยาบาล โรงพยาบาลนี้เป็นโรงบาลเอกชนที่ใหญ่ที่สุดในแถบนั้น สงสัยแพงหูฉี่แน่ แต่เรื่องเงินไม่ใช่ปัญหาครับ ผมยอมเสียทุกอย่างเพื่อหนึ่ง โรงพยาบาลทำงานคุ้มราคาครับ แค่ผมอุ้มหนึ่งลงจากรถ พี่ๆ บุรุษก็ลากเตียงพร้อมวิ่งเข้าห้องฉุกเฉิน ผมวิ่งเกาะเตียง พร้อมตอบคำถามพี่ๆ พยาบาล

“เป็นอะไรมาครับ”

“ไม่ทราบเหมือนกันครับ อยู่ดีๆ ก็ตัวร้อนไม่ได้สติ”

“งั้นรอข้างนอกน่ะครับ ถึงมือหมอแล้วไม่ต้องกังวลน่ะครับ”         

ผมหยุดนิ่งอยู่หน้าห้องฉุกเฉิน ผมเบาใจส่วนนึงที่หนึ่งถึงมือหมอแล้ว แต่อีกใจหนึ่งผมก็ห่วงอาการของหนึ่งมาก ผมนั่งลุก นั่งลุกอย่างกระสับกระส่าย ไม่สนใจอะไรทั้งสิ้น จนสะดุ้งกับมือที่มาแตะที่บ่า

“ใจเย็นๆ น่ะมึง ถึงมือหมอแล้ว”

โจ๊กมันคงอยากให้กำลังใจผม ผมพยักหน้าพร้อมกลับไปนั่งเพื่อรอผลตรวจจากแพทย์ ทำไมมันนานขนาดนี้ เวลามันช่างผ่านไปช้าเหลือเกิน ผมนั่งรอจนแทบจะรอไม่ได้ กังวลทุกอย่างดีที่มีโจ๊กอยู่เป็นเพื่อน คอยดึงสติที่ขาดไปแล้วของผมกลับคืนมา สักพักหมอก็ออกมาจากห้องฉุกเฉิน

“หมอครับ หนึ่งเป็นไงบ้างครับ” ผมพูดพร้อมเขย่าแขนหมออย่างแรง

“ตอนนี้หมอยังไม่ทราบน่ะครับว่าคนไข้ป่วยเป็นอะไร แต่ไข้ค่อนข้างสูง แต่หมอให้น้ำเกลือกับยาลดไข้ไปแล้ว ยังไงต้องรอดูอาการสักคืนก่อนน่ะครับ แล้วค่อยรักษา จะได้รักษาได้ถูกจุด”

“ขอบคุณมากครับหมอ” ผมโล่งใจอย่างบอกไม่ถูก เข้าไปกอดไอ้โจ๊ก

“สบายใจแล้วน่ะมึง เดี๋ยวกูไปกรอกรายละเอียดคนไข้ให้มึงก่อน เดี๋ยวมึงรอรับหนึ่งที่นี่แหละ เดี๋ยวกูจัดการเรื่องห้องให้”

ผมพยักหน้าอย่างเข้าใจ รู้สึกดีที่ผมมีเพื่อนที่ดี การดูเพื่อนแท้ไม่แท้นี่คงต้องรอดูกันตอนลำบากนี่แหละครับ ผมรู้สึกขอบคุณมันอย่างมาก         

โจ๊กกลับไปเรียบร้อยแล้ว บอกจะไปเก็บของมาให้และแจ้งให้รุ่นพี่ของหนึ่งทราบจะได้ไม่ต้องเป็นห่วง พรุ่งนี้สายๆ มันจัดการเช็กเอาท์แล้วจะพาเพื่อนๆ มาเยี่ยมอีกที         

ผมนั่งอยู่ข้างเตียงกุมมือหนึ่งไม่ห่าง ถ้าหนึ่งเป็นอะไรไปผมจะทำยังไง ผมผิดที่ไม่สังเกตว่าหนึ่งป่วย ผมผิดที่ไม่ดูแลหนึ่งให้ดีให้หนึ่งป่วยได้ ทุกสิ่งทุกอย่างผมผิดเอง ผมนั่งกุมมือหนึ่งพร้อมนั่งดูอาการของหนึ่งว่ามีอะไรเปลี่ยนแปลงรึเปล่า แต่พยาบาลก็เข้ามาเช็กทุกๆ ชั่วโมง ทำให้ผมเบาใจได้มากขึ้น ไม่รู้ว่าเวลาผ่านไปเท่าไหร่ แต่ผมรู้อย่างเดียวว่าผมจะไม่เสียเวลาที่จะรักและดูแลหนึ่งอีกแล้ว การผิดพลาดเพียงครั้งเดียวอาจจะไม่มีโอกาสให้ผมแก้ตัว ผมรู้แล้วว่าทั้งชีวิตผมแลกเพื่อหนึ่งได้ และรู้ว่ารักหนึ่งแค่ไหน

“หนึ่ง แทนรักหนึ่งน่ะ”

-----------------------------


น้องกลับมาแล้ว น้องป่วย ป่วยจนไม่รู้น้องจะตายก่อนเขียนจบไหม นี่หาหมออาทิตย์เว้นอาทิตย์เลย ขาก็ยังเจ็บ ด้วยความที่เป็นที่เอ็นตรงหัวเข่า ทำให้หายช้ากว่าส่วนอื่น ไข้นี่เป็นอาทิตย์เว้นอาทิตย์ ล่าสุดพึ่งไปฉีดยามาเมื่อวันจันทร์ ไปตากฝนมาแวบเดียวจริงๆ ก็ป่วย รู้สึกร่างกายตัวเองอ่อนแอมาก ดูแลรักษาสุขภาพกันด้วยน่ะคะ

Aemmilicious

P.s. ตอนหน้าแทนหนึ่งจะเปิดใจซึ่งกันและกัน และเรื่องที่แทนรอ กำลังจะเกิดค่ะ

CoMMuNiTY Of ThAiBoYsLoVE






ออฟไลน์ aemmilicious

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 39
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +10/-2
ตอนที่ 16 : หวาน & กัน Part 2 : เพื่อนสนิทของหวาน

กัน Part

          กว่าผมจะง้อหวานคืนดีได้ ผมนี่แทบจะกระอักเลือดตาย กว่าหวานจะให้โอกาสผมอีกครั้ง ฉะนั้นหนนี้ผมจะไม่พลาด เรียกว่าผมเปลี่ยนตัวเองจากหน้ามือเป็นหลังตีน เอ๊ยจากหลังตีนเป็นหน้ามือ เอออะไรก็ช่างเถอะ ตอนนี้ผมเปลี่ยนไปแล้ว ลืมกันจอมเจ้าชู้หน้าหม้อคนเก่า พร้อมพายมือรับนิวกันได้แล้วครับ ทุกวันนี้แทบจะไม่มีสาวไหนโทรหาหรือไลน์หาผม ผมจัดการบล็อกทุกอย่างทุกช่องทางติดต่อ สองทุ่มนี่ก็เข้านอนแล้ว ผับบาร์นี่ลืมไปได้เลย แต่ถ้ามีนัดกับพวกเพื่อนๆ ก็ไปบ้างครับ หวานให้ความไว้ใจผมเต็มที่ ไม่เคยโทรตามหรือโทรจิกเวลาที่ผมออกไปเที่ยวข้างนอก ผมก็ไม่ทำตัวออกนอกลู่นอกทาง เพื่อจะไม่ทำลายความไว้ใจนั้น ทุกๆ อย่างที่ผมทำนั้น ก็เพื่อพิสูจน์ว่าผมจริงใจมากแค่ไหน หวานไม่เคยสั่งหรือบอกให้ผมทำอะไร ทุกๆ อย่างผมคิด ทำด้วยตัวเองล้วนๆ ผมจึงไม่รู้สึกอึดอัดที่ต้องเปลี่ยนแปลงตัวเอง แต่กลับรู้สึกดีที่หวานมีความสุข ท่าทางผมคงจะตกหลุมรักแล้วสิน่ะครับ         

ทันทีที่ผมรู้ว่าแทนมันชวนพวกผมไปเที่ยวหัวหินพร้อมกับพวกหวาน ผมก็เลยไลน์บอกหวานก่อน ต้องรายงานครับ** **

กันเอง นี่กันไง**:** หวานครับ เดี๋ยวกันไปเที่ยวหัวหินด้วยน่ะ เดี๋ยวเจอกันน่ะครับ ไอ้แทนจองโรงแรมแล้ว** **

หวานกว่าน้องนี้หาที่ไหน**:** กันหวานมีเรื่องสำคัญจะคุยด้วย

อ้าวอยู่ดีๆ ก็ดึงดราม่าซะงั้น กูได้ทำอะไรผิดไปไหมนี่** **

กันเอง นี่กันไง: อะไรหรือครับ** **

หวานกว่าน้องนี้หาที่ไหน**:** หวานว่าหวานพร้อมแล้ว หวานว่าวันที่เราไปหัวหิน “เรามีอะไรกันเถอะ”         

โอ้แม่จ้าว ผมแทบจะรำแก้บนเดินสายทั่วกรุง และแล้ววันนี้ที่รอคอยก็มาถึง ผมนี่จะเหี่ยวแห้งตายคามือตัวเองอยู่ร่อมร่อ ลืมนึกถึงเรื่องอย่างว่าจนจะเป็นกามตายด้านอยู่แล้ว แต่ผมก็ไม่ลืมห่วงความรู้สึกของหวาน

กันเอง นี่กันไง**:** หวานแน่ใจแล้วหรือครับ** **

หวานกว่าน้องนี้หาที่ไหน: อืม หวานว่าหวานแน่ใจแล้ว กันแค่นอนเฉยๆ เดี๋ยวหวานทำเอง

โอววววววววววว หวานใจกล้า หวานของกัน** **

กันเอง นี่กันไง**:** หวานทำเป็นหรือครับ

หวานกว่าน้องนี้หาที่ไหน**:** หวานปรึกษาเพื่อนล่ะคะ ไม่ต้องห่วงน่ะ         

เพื่อนหวาน หวานก็มีเพื่อนสนิทอยู่แค่สองคน ตือก็คงไม่เก่งขนาดสอนหวานได้ หนึ่งนี่ไอ้แทนก็ได้แต่ลูบๆ คลำๆ แล้วใครสอนหวานน่ะ ผมคิดอย่างสงสัย แต่ช่างเถอะ ผมกับหวานจะมีอะไรกันแล้วครับ อิอิ         

และแล้วก็ถึงวันและเวลาที่ผมรอคอย เวลามันช่างผ่านไปช้าซะเหลือเกิน แต่ยังไงวันนี้ก็มาถึงจนได้ ตอนนี้แทนกับไอ้พี่หมอกได้ขนของตือกับหนึ่งออกจากห้องเรียบร้อยแล้ว ทุกคนต่างจัดห้องเพื่อเตรียมเข้าสู่ยามค่ำคืนที่แสนโรแมนติก จะสบายหน่อยก็ไอ้โจ๊กที่ไม่ต้องเตรียมอะไรตามภาษาชายโสด ป่านี้คงหลับไปหลายตื่น จริงๆ ผมไม่ได้เตรียมอะไรเว่อร์วังเหมือนไอ้แทนมันหรอกครับ รายนั้นได้ข่าวให้โรงแรมจัดห้องไว้สำหรับคู่ฮันนีมูนเลยทีเดียว ผมแค่เอาของใช้ของผมเก็บที่ให้เรียบร้อย และก็แค่เอาถุงยางหนึ่งโหล ย้ำอีกทีน่ะครับ หนึ่งโหลใส่ไว้ตรงโต๊ะตรงหัวเตียงแค่นั้น ที่เหลือก็แค่ทำร่างกายให้ฟิต ว่าแล้วผมขอวิดพื้นสักร้อยทีก่อนน่ะครับ ยังไงเดี๋ยวเจอกันค่ำๆ หนึ่ง สอง สาม......

            ตอนนี้พวกเราแก็งชายโสดกลัดมัน จะบ้ารึ แก็งวิศวะที่เตรียมเผด็จศึกนักศึกษาแพทย์ก็พร้อมแล้วครับ เราเดินมายังห้องที่จัดเลี้ยงในคืนนี้ ลืมภาพนักศึกษาแพทย์ทึ่เคร่งเครียดใส่แว่นหนาๆ ไปน่ะครับ สภาพแต่ล่ะคนนี่เรียกว่าอื่มจนแทบจะท้องแตกกันแล้ว กินกันจนอาหารทะเลขาดตลาดไปอีกหลายอาทิตบ์ หวานก็ดูอิ่มจนจะไม่ไหว ผมเดินไปนั่งประกบข้างๆ หวานตลอด แต่หวานก็ไม่ค่อยสนใจผมเท่าไหร่ มัวแต่กดมือถือแชทกับใครตลอดเวลาเลย จนผมอดหึงไม่ได้ 

"หวาน คุยกับใครน่ะครับ"

"เพื่อนน่ะกัน หวานกำลังปรึกษาเรื่องคืนนี้อยู่"

หวานหน้าแดงเวลาที่พูดถึง"เรื่องนั้น"

พึ่งรู้น่ะครับว่าหวานก็มีมุมนี้ แหม จะหึงก็หึงไม่ลงครับ แต่เพื่อนหวานนี่ใครน่ะ ทำไมหวานถึงกล้าปรึกษาเรื่องนี้ อืมมมม

"เพื่อนหวานใครหรือครับ กันรู้จักไหมครับ"

"กันน่าจะรู้จักน่ะ ใครๆ ก็รู้จัก"

แสดงว่าไอ้นี่ต้องหน้าตาดีและอัธยาศัยดี คนถึงรู้จักมันเยอะ ใครว่ะ

"หวานสนิทกันมากเหรอครับ"

"ก็สนิทน่ะ ทุกๆ ครั้งที่หวานมีปัญหา ก็จะปรึกษาเค้าตลอด บางครั้งเค้าก็หาทางแก้ปัญหาให้ หรือสอนให้หวานรู้อะไรใหม่ๆ เสมอ เวลาหวานมีปัญหาเค้าคือคนแรกที่หวานนึกถึง"

จะว่าหึงมันก็ไม่เชิงน่ะครับ เพราะมันคงไม่ได้คิดอะไรเกินเลยกับหวาน ไม่งั้นมันคงไม่ให้คำปรึกษาเรื่องบนเตียงให้หวานมาทำกับผม แต่มันจะมีปัญหาตรงที่มันเป็นคนแรกที่หวานนึกถึงเมื่อมีปัญหาแทนที่จะนึกถึงผม ยิ่งคิดยิ่งอารมณ์เสีย แต่ผมก็ไม่ได้เก็บมาเป็นอารมณ์ เพราะเรื่องคืนนี้สำคัญกว่า

           

ตอนนี้ก็ถึงเวลาที่ทุกคนต้องแยกย้ายเข้าห้องนอนแล้ว คนอื่นๆ ได้เดินแยกออกไปอีกฝั่งนึง เพราะตึกของผมกับหวานอยู่อีกฝั่ง เราทั้งสองต่างตื่นเต้นจนไม่ได้พูดอะไร เดินจูงมือกันมาอย่างสบายอารมณ์จนรู้ตัวอีกที ก็มาหยุดตรงหน้าประตูห้องนอนแล้ว ผมไม่รอช้าเปิดประตูเข้ามา ผมรีบปิดประตูพร้อมเข้าไปกอดหวานจากด้านหลัง

"อืมกัน หวานตัวเหนียว เดี๋ยวหวานอาบน้ำก่อน"

"ไม่ต้องอาบหรอกแค่นี้หวานก็ตัวหอมจะแย่แล้ว"

"กัน อย่าลืมน่ะคะคืนนี้หวานจะรุกกันต้องนอนเฉยๆ"     

ฮืมมมมมมมม หวานจะรุกผม ครั้งแรกหวานก็จะรุกผมแล้ว หวานพูดเสร็จพร้อมเดินไปอาบน้ำ ปล่อยให้ผมค้างทั้งอารมณ์ล่ะอื่นๆ นั่งคิดว่าหวานจะรุกยังไงอยู่ปลายเตียง เวลาผ่านไปสักพักช่วงเวลาที่ผมรอคอยก็มาถึง ผมตื่นเต้นมาก มากที่สุดที่เคยตื่นเต้นมา อาจเป็นเพราะผมห่างมานานและนี่เป็นครั้งแรกของหวานและเป็นครั้งแรกที่ผมทำกับผู้หญิงที่ผมรัก

หวานขึ้นคร่อมผมพร้อมอ่านข้อความจากมือถืออย่างเคร่งครัด 

"ขึ้นคร่อมและจูบอย่างนุ่มนวล"

หวานอ่านเสร็จพร้อมทำตามที่อ่าน แต่หวานก็คือหวาน นี่คือครั้งแรกของหวาน หวานจูบผมเหมือนเด็กจูบกัน แค่ปากแตะปากแล้วผละออก ผมว่าหวานเป็นคนที่น่าสนใจและน่าค้นหามากสำหรับผมมันเป็นความแปลกใหม่ ที่ผมไม่เคยเจอมาก่อน ผมแอบขำเล็กแต่ก็ยอมให้หวานเป็นฝ่ายรุกต่อไป

"จากนั้นไซค์ซอกคอแล้วโอบกอดอีกฝ่าย"

จากนั้นหวานก็ทำตามที่อ่าน อืมมม มันก็เริ่มๆ ดี มีอารมณ์คล้อยตามแล้วสิครับ สักพักหวานก็หันมามองมือถืออีกครั้ง

"ปลดกระดุมพร้อมลูบไล้ผิวกายด้านใน"

อืมมาครับหวานกันพร้อมแล้ว มาลูบซะดีๆ ผมรอให้หวานมาลูบอย่างตั้งใจ แต่ทำไมทุกอย่างหยุดนิ่ง จนผมต้องลืมตาขึ้นมา

"เป็นไรครับหวาน"

"กัน..... ไม่มีกระดุม"

ฉิบหายล่ะ ผมดันใส่เสื้อยืด อ้าวทำไงล่ะทีนี้กู ผมลุกขึ้นเอาแขนดันด้านหลังขณะที่หวานนั่งทับด้านกลางตัวผมอยู่

"หวานให้กันไปเปลี่ยนเสื้อก่อนไหม" เวนจริงๆ กู ทำไมมึงไม่ใส่เสื้อเชิร์ต

"เดี๋ยวน่ะกัน หวานปรึกษาเพื่อนก่อน"

และวินาทีนั้นแหละครับที่ผมเห็นเพื่อนสนิทของหวาน ที่คงไม่ได้แก้ปัญหาให้แค่หวาน แต่คงแก้ให้ผมและทุกคนด้วย ชัดเลยครับ g-o-o-g-l-e. Google ผมเห็นหวานกำลังค้นหา "วิธีมีเซ็กส์ ผู้ชายใส่เสื้อยืด" ผมขำจนตัวหวานที่อยู่บนตัวผมสั่น จนหวานหันมามองค้อน

"ขำอะไรกัน" พูดเสร็จหวานก็ทำหน้าบู๊ นั่งกอดอก

"เปล่าครับ จริงๆ หวานไม่ต้องปรึกษาเพื่อนก็ได้น่ะ เราค่อยๆ ทำค่อยๆ เรียนรู้ไปพร้อมกันก็ได้ครับ"

"แต่หวานอยากเป็นฝ่ายรุกน่ะ อยากให้กันรู้ว่าหวานไม่ใช่ไก่อ่อน"

"งั้นเอางี้ครับหวาน หนนี้ให้กันเป็นฝ่ายรุกก่อนแล้วหวานค่อยเป็นฝ่ายรุกครั้งหลัง แต่เพื่อความสบายใจของหวานกันจะไม่บอกคนอื่นว่ากันเป็นฝ่ายรุก ถ้าใครถามกันจะบอกว่าหวานเป็นฝ่ายรุก โอเคไหมครับ"

หวานพยักหน้าตกลง ผมพูดตรงๆ ผมก็จะไม่ไหวแล้วครับ ผมรู้ครับว่านี่เป็นครั้งแรกของหวาน ผมจึงทำนุ่มนวลอ่อนโยนที่สุดเท่าที่อารมณ์จะอดกลั้นได้ ทุกๆ อย่างวิเศษสุดเท่าที่เลยมีมา           ผมตื่นมาอีกทีกลางดึก ผมมองหวานที่นอนกอดแขนผมหลับอย่างสบายใจ ผมรู้สึกขอบคุณและเห็นคุณค่าที่หวานมอบครั้งแรกของหวานกับผม ผมก้มลงหอมแก้ม พร้อมได้ยินเสียงหวานละเมอ

"เอากุ้งหนึ่งถาดแกะให้ด้วย"

สรุปนี่ยังไม่อิ่มใช่ไหม ผมก้มลงห่มผ้าให้หวานพร้อมกอดกระชับหวานเข้าไปในอ้อมแขนก่อนจะหลับฝันสู่นิทรา

"กัน กัน" ผมสะดุ้งตื่นเพราะเสียงเรียกและการเขย่าตัวของหวาน ผมสะดุ้งตัวขึ้นมา พร้อมหันไปถามหวานที่ทำหน้าซีด ต้องมีอะไรสักอย่างผิดปกติแน่ๆ

"หวานเป็นอะไร" ผมเข้าไปจับตัวหวานพร้อมหาสาเหตุที่ทำให้หวานตกใจถึงเพียงนี้

"กัน หวานทำไงดี"

"อะไร อะไรครับหวาน"

"หวาน ไม่เจ็บ ทำไมหวานไม่เจ็บเลย"

ผมช็อกค้างพร้อมงงในคำถามของหวาน

"เจ็บไงกัน.... มีแต่คนบอกครั้งแรกต้องเจ็บ แต่นี่หวานไม่เจ็บ ต้องมีอะไรผิดปกติแน่"

ถ้าผมบอกไปว่าผมเก่ง หวานคงจะด่าว่าผมเป็นผู้ชายใช้แล้ว มีตำหนิ ผ่านร้อนผ่านหนาวมาเยอะถึงได้เก่ง พูดไปแม่งก็เข้าตัวเปล่า เอางี้แล้วกันครับ

“สงสัยต้องมีอะไรผิดปกติแน่ๆ” หวานพยักหน้า ยิกๆ

“งั้นเรามาทำอีกรอบดีกว่า ค่อยๆ ทำจะได้รู้ว่าผิดพลาดตรงไหน”

ผมไม่รอให้หวานพยักหน้า รีบยกผ้าห่มมาคลุมโปลงคุกวงไหนทันที ไหนเมื่อทำไมดีก็ต้องทำใหม่สิ จริงไหมครับ

-------------------------------------


น้องกลับมาแล้ว น้องหายป่วยจากไข้ แต่น้องยังเจ็บขาอยู่เล็กน้อย เดินติดขัดเล็กน้อย แต่น้องก็ลากสังขารไปดูคอนเสิร์ตพี่เอ็ดมา ชอบเพลงนี้ดูอบอุ่นดี คิดถึงคนอ่านน่ะคะ หวังจะชอบกันน่ะคะ ตอนหน้าขอคั่นด้วย ตือ&หมอก น่ะคะ อยากให้ทุกๆ คู่พัฒนาความสัมพันธ์ไปพร้อมๆ กัน แม้หวาน & กันจะเป็นคู่ชายหญิงแต่ก็อยากให้ทุกคนเอ็นดูความตลกแบบหวานๆ น่ะคะ หวานมีคนดูแลแล้ว หมดห่วงไปอีกคู่ค่ะ กินยานอนล่ะคะ ยาแก้ปวดกล้ามเนื้อทำให้ง่วงมาก ปกติลงนิยายตอนตีสี่ นี่ลงเที่ยงคืนฟิตแค่ไหนถามใจเธอดู ฝากเฟสบุ๊คด้วยน่ะ เพื่อเปิดพรีหนังสือจะได้แจ้งข่าวกันง่ายน่ะ  รัก รัก รัก

รักที่สุด

Aemmilicious


ออฟไลน์ aemmilicious

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 39
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +10/-2
ตอนที่ 17 : หมอก & ตือ Part 2 : ขยับเข้ามาใกล้กัน

-ตือ-

          หลังจากช่วงสายที่โจ๊กมาบอกทุกคนว่าหนึ่งป่วย พวกเราทุกคนจึงรีบเก็บของพร้อมจะไปเยี่ยมที่โรงพยาบาล แต่ผมก็ไม่ลืมที่จะแจ้งพี่หนุ่มกับพี่แอนว่าเราจะแยกกลับต่างหากเพราะต้องการไปเยี่ยมหนึ่งก่อน กลับมาอีกทีว่าจะรีบเก็บของ แต่พี่หมอกก็เก็บของพร้อมขนขึ้นรถให้เรียบร้อย

"ของตือพี่เก็บให้เรียบร้อยแล้วน่ะ ป่ะ ไปขึ้นรถกันเถอะ" พูดเสร็จพี่หมอกก็จูงมือผมไปที่รถ         

ส่วนคนที่สงสัยว่าผมได้สวีทแบบคู่อื่นๆ ไหม ไม่ครับ มันไม่ได้สวีทแบบคู่อื่นๆ เพราะปกติเราก็สวีทกันทุกวันอยู่แล้ว เรียกว่าแทบจะทุกคืนอยู่แล้วจะดีกว่า พี่หมอกฟิตเหมือนกินไวอากร้าเช้าเย็น จะเว้นว่างบ้างก็วันที่ติดสอบหรือผมเหนื่อย ไม่พูดล่ะ เดี๋ยวจะมีคนมาหาว่าผมขี้อวด

            เรานั่งรถมาสักพักก็ถึงโรงพยาบาล อาการหนึ่งไม่มีอะไรน่าเป็นห่วงแล้ว แต่อาจจะยังไม่ฟื้นเนื่องจากไข้ก่อนหน้านี้ค่อนข้างสูง หมอจึงอยากให้นอนพักและให้อยู่โรงพยาบาลอีกสักสองสามวัน ประกอบกับหนึ่งยังไม่ฟื้นเนื่องจากความเหนื่อยอ่อนของร่างกายและยานอนหลับที่ให้ไป ผมมองดูแทนที่นั่งอยู่ข้างเตียงคอยกุมมือหนึ่งไม่ห่าง พลางคิดในใจว่าจะมีคนรักคนห่วงเราแบบนี้บ้างไหม แต่ยังไม่ทันจะคิดอะไร พี่หมอกก็เอามือมากุมมือผมพร้อมกระสิบข้างหู 

"ถ้าพี่ป่วยบ้าง ตือจะดูแลพี่ไหม"

ผมพยักหน้าแทนคำตอบ พร้อมหันไปมองพี่หมอกด้วยสายตาที่จริงจัง ต่อให้พี่หมอกไม่ป่วย ผมก็อยากดูแลเทคแคร์พี่หมอกอยู่แล้วล่ะ ไม่รู้ว่าเราจ้องตากันนานเท่าไหร่ แต่คงนานที่พอให้โจ๊กแซวได้

"จ้องตากันขนาดนี้ ไปเอากันในห้องน้ำ แล้วฝากครรภ์แผนกสูตินารีทางด้านโน่นเลยครับ"         

พี่หมอกเดินเข้าไปตบหัวโจ๊ก ทุกคนพร้อมใจกันขำ เมื่อมั่นใจว่าหนึ่งไม่เป็นอะไรแล้วก็ถึงเวลากลับ เนื่องจากเอารถมาคันเดียวเราทั้งหมดจึงต้องให้โจ๊กเป็นสาระถีขับรถไปส่ง ส่วนหนึ่งแทนนั้นจะนั่งเครื่องกลับเมื่อหนึ่งออกจากโรงพยาบาล เพื่อประหยัดเวลาและไม่ให้หนึ่งเหนื่อยมาก แทนโครตป๋า พูดเลยทุกอย่างแทนเซ็น แทนรูดกริ๊กเดียวทุกอย่างเรียบร้อย ขากลับพวกเราก็คุยกันตลอดทางแต่สักพักทุกคนก็หลับหมด รวมทั้งผมด้วยเนื่องจากเหนื่อยจากกิจกรรม ประกอบกับตื่นเช้า รู้ตัวอีกทีก็ถึงคอนโดพี่หมอกแล้ว ในช่วงใกล้ค่ำแล้ว ใช้เวลานานเหมือนกันน่ะนี่ 

"ตือ ตื่นได้แล้วครับ ถึงแล้ว" พี่หมอกพูดพร้อมเขย่าตัวผมตื่นมาอย่างสะลึมสะลือ

"อ้าว โจ๊กล่ะ"

"โอยรายนั้นมีสาวโทรมา แม่งรีบทิ้งรถ หนีขึ้นรถไฟฟ้าไปแล้ว รถมันยังทิ้ง ไม่รู้แม่งรีบอะไรนักหนา"

ผมพยักหน้าเข้าใจ พร้อมปรับสายตา ตาจะลืมไม่ขึ้นแล้วนี่ 

"ไหวไหม เดี๋ยวตือไปรอพี่หน้าตึกก่อน เดี๋ยวพี่ไปจอดรถแปบ"         

ผมพยักหน้าเข้าใจ สะพายเป้ตัวเอง กึ่งหลับกึ่งตื่นไปรอหน้าคอนโด พร้อมบิดขี้เกียจ หาวอีกสักรอบ แต่สายตาผมกลับไปสะดุดกับผู้หญิงอีกคนที่ยืนหน้าคอนโด ผู้หญิงคนนี้สวยมากครับ ผิวขาวอมชมพูดูเนียนทั้งตัว แม้จะไม่ขาวเหมือนกระดาษ แต่ก็ดูสวยสุขภาพดี ผมยาวสลวยน้ำตาลอ่อน หน้าหวานใครเห็นก็คงชอบดูน่าทะนุถนอม หันมาดูตัวเองแม่งโครตตรงกันข้าม น้อยใจในโชคชะตาหนัก ผมยืนรอสักพักพี่หมอกก็ขนของที่เหลือเดินตรงมา ผมโบกมือเตรียมจะตะโกนเรียก แต่ต้องหยุดชะงัก เพราะผู้หญิงข้างๆ ได้ตะโกนเรียกชื่อพี่หมอก พร้อมโผเข้ากอด

"กิ๊ฟเป็นอะไรกิ๊ฟ" พี่หมอกกอดตอบพร้อมถามด้วยความห่วงใย         

ไม่ต้องบอกผมก็รู้ว่าผู้หญิงคนนี้คือใคร "กิ๊ฟ" คือแฟนเก่าของพี่หมอก ทำไมผมรู้หรือครับ เพราะในตอนนั้นวันที่เรามีอะไรกัน กิ๊ฟคือชื่อที่พี่หมอกพร่ำเพล้อละเมอแล้วร้องไห้ออกมาตอนที่ผมหลับในอ้อมกอดของพี่หมอก

"กิ๊ฟเป็นอะไร ร้องไห้ทำไม" พี่หมอกเขย่าตัวพร้อมเอ่ยถามด้วยความห่วงใย         

สรุปที่ผมยืนอยู่ตรงนี้ มีสิทธิ์ที่จะทำอะไรได้บ้าง แสดงความเป็นเจ้าของ หึงหวง หรืออะไรที่ผมพอจะทำได้ ในเมื่อผมก็ไม่รู้ว่าตอนนี้ผมอยู่ในฐานะอะไร แฟนก็เรียกไม่เต็มปาก เพราะไม่เคยสักครั้งที่พี่หมอกจะพูดขอหรือบอกว่าเราเป็นแฟนกัน แม้ทุกอย่างมันดีมาก แต่ผมก็ไม่อยากจะคิดเข้าข้างตัวเอง ผมยืนนิ่งจนไม่รู้ว่าเวลาผ่านไปเท่าไหร่ แต่ภาพที่ผมเห็นคือคนสองคนที่รักและห่วงใยกันมาก สติล่องลอยไปเกินกว่าจะรู้สึกตัว

"เดี๋ยวเราไปหาที่คุยกันเงียบๆ ล่ะกัน ใจเย็นๆ ก่อนน่ะ เดี๋ยวหมอกช่วย"

ผมยืนมองภาพนั้นค้างอยู่อย่างนั้น จนใจสติเมื่อพี่หมอกยืนอยู่ตรงหน้า

"เดี๋ยวพี่ฝากตือเอาของขึ้นไปเก็บด้วยน่ะ" ผมพยักหน้าอย่างงงๆ มองภาพพี่หมอกเดินออกไป

"น้องรึค่ะหมอก"

"อืม" พูดเสร็จก็พากันขับรถออกไป         


ทำไมผมรู้สึกเจ็บทั้งๆ ที่ไม่มีบาดแผล เจ็บจนไม่มีแรงร้องออกมา ผมขึ้นห้องพร้อมนั่งเรียกสติที่ปลายเตียง ผมพูดได้คำเดียวว่าผมกลัว กลัวทุกอย่างจะเปลี่ยนไปไม่เหมือนเดิม ผมมีสิทธิ์ที่จะทำอะไรได้บ้าง ยิ่งคิดยิ่งฟุ้งซ่าน ผมจริงเก็บของออกจากกระเป๋า ซักผ้า ทำกับข้าว จนงานบ้านทุกๆ อย่างเสร็จ พี่หมอกก็ยังไม่กลับ มีเพียงไลน์ข้อความสั้นๆ ว่าจะกลับดึกหน่อย เวลาผ่านไปช้ามากจนผมเริ่มฟุ้งซ่าน นี่ก็เกือบจะตีหนึ่งแล้วพี่หมอกก็ยังไม่กลับมา จนผมอดที่ไม่ได้ที่จะโทรหา แต่ก็ปิดเครื่อง มีแต่ระบบฝากข้อความซึ่งผมก็ได้แต่กดวาง เพราะไม่รู้ว่าจะพูดอะไร สิ่งที่ผมกลัวที่สุดคือการที่ต้องเป็นตัวเลือก เมื่อมีคนสองคนที่พี่หมอกต้องเลือก ผมกลัวเหลือเกินที่จะต้องเป็นฝ่ายที่ไม่ถูกเลือก กลัวจะโดนปฏิเสธอีกเป็นครั้งที่สอง ผมนั่งรอพี่หมอกจนรุ่งสาง ผมคิดว่ามันนานเกินไปแล้วสำหรับการรอ มันเหมือนรู้คำตอบกลายๆ ผมคงต้องกลับไปอยู่จุดที่เคยยืนอยู่ ผมคงไม่กล้าฟังคำปฏิเสธอีกเป็นครั้งที่สอง มันจะเจ็บมากกว่าครั้งแรกมากเท่าไหร่ ถ้าเจ็บมากกว่าตอนนี้จะเจ็บมากไหม ผมไม่กล้าที่จะอยู่ในจุดนั้นจริงๆ ขอโทษที่ไม่กล้าพอ พอที่จะยอมรับความจริง


-------------------------------------------


-หมอก-

          ผมเห็นกิ๊ฟร้องไห้ฟูมฟาย ผมก็อดไม่ได้ที่จะไตร่ถาม ยิ่งเธอมาหาผมถึงนี่ แสดงว่าเรื่องนั้นต้องเกี่ยวกับผม หรือไม่ก็ต้องเป็นผมที่สามารถช่วยเหลือเธอได้ กิ๊ฟร้องไห้คร่ำควรกว่าจะได้สติ ผมก็ต้องนั่งปลอบที่ร้านกาแฟมาอย่างต่ำก็เกือบชั่วโมง

"กิ๊ฟโอเคแล้วน่ะ กิ๊ฟบอกหมอกได้รึยังว่าเป็นอะไร"

"กิ๊ฟทะเลาะกับเอกแฟนกิ๊ฟ"

แล้วมันเกี่ยวอะไรกับผม

"กิ๊ฟท้อง เอกไม่เชื่อว่าเป็นลูกเค้า เค้าหาว่าเป็นลูกหมอก กิ๊ฟควรทำยังไงดี"

มันจะเป็นลูกผมไปได้ยังไง ในเมื่อเราไม่ได้พบกันมานานหลายเดือนแล้ว ผมนั่งคิดแล้วก็โกรธไอ้เอก แม่งไม่ใช่ลูกผู้ชาย อยากกระทืบให้จมคาตีนนัก

"ทำไม มันถึงคิดว่าเป็นลูกหมอกล่ะ"

"เอกเห็นกิ๊ฟนั่งดูรูปหมอกอยู่เลยเค้าใจผิด"

และแล้วผมก็รู้สาเหตุ คงต้องเป็นผมที่ไปเคลียร์ให้รู้เรื่อง

"งั้นเดี๋ยวหมอกไปส่งกิ๊ฟน่ะ จะได้บอกได้คุยกันให้รู้เรื่อง"

"เดี๋ยวหมอก" กิ๊ฟพูดพร้อมรั้งมือผมไว้

"กิ๊ฟ..... กิ๊ฟยังรักหมอกน่ะ เรากลับมาคืนดีกันได้ไหม กิ๊ฟรู้แล้วว่าไม่มีใครรักกิ๊ฟและดูแลกิ๊ฟได้ดีเท่าหมอก"

ผมลงนั่งพร้อมคิดไตร่ตรองในตัวเอง ถ้ากิ๊ฟมาขอคืนดีในช่วงก่อนหน้านี้ ผมคงยินดีที่จะคืนดีแม้เธอท้องกับผู้ชายอื่นก็ตาม เพราะว่าผมรักกิ๊ฟมาก แต่ไม่รู้เมื่อไหร่ที่ความรู้สึกของผมเปลี่ยนไป ผมกลับไม่รู้สึกยินดีที่จะกลับมาคืนดีหรือเป็นแฟนกับกิ๊ฟ ผมกลับมีแค่ความรู้สึกห่วงใยในฐานะเพื่อนหรือคนรู้จักเท่านั้น

"กิ๊ฟ หมอกขอโทษ หมอกไม่ได้คิดอะไรกับกิ๊ฟแล้ว"

"ทำไมล่ะหมอก"

"คนเราจะเห็นค่าสิ่งที่เรามีอยู่ก็ต่อเมื่อเสียสิ่งนัันไปแล้ว กิ๊ฟทิ้งหมอกไปแล้ว ในวันที่หมอกอ่อนแอไม่เหลือใคร มีใครคนหนึ่งที่มองเห็นค่าของหมอก รักในตัวหมอกและรับได้แม้กระทั่งเรื่องแย่ๆ ของหมอก เค้ารอและอยู่เคียงข้างหมอก หมอกไม่อยากจะเสียคนที่เห็นค่า รักและทุ่มเททุกอย่างเพื่อหมอกไปเช่นกัน หวังว่ากิ๊ฟคงเข้าใจ"

กิ๊ฟยังคงร้องไห้ และพยักหน้าเข้าใจในสิ่งที่ผมพูด

"น้องคนนั้นใช่ไหม"

ผมยิ้มให้ พร้อมยกกาแฟขึ้นมาดื่ม

"น้องคนนั้นดูรักหมอกมากน่ะ แววตาที่หมอกมองน้องเค้าก็เต็มไปด้วยความสุข กิ๊ฟขอโทษน่ะที่เคยทำร้ายหมอก"

ผมกุมมือกิ๊ฟ ผมรู้สึกขอบคุณและไม่เสียดายเวลาที่ผ่านมา อย่างน้อยที่สุดการจากลาของเราก็ไม่ได้เกลียดจนไม่มองหน้ากัน มันยังคงเหลือมิตรภาพของความเป็นเพื่อนที่มีต่อกัน

กว่าผมจะเคลียร์เรื่องกิ๊ฟและขับรถกลับจากบางแสนก็เกือบแปดโมง ไม่รู้ว่าตือรอผมอยู่รึเปล่า ผมกังวลใจเล็กน้อยเพราะเลยเวลาที่บอกจะกลับไว้มาก แบตมือถือก็หมด สายชาร์ตในรถก็ไม่มี ทำได้เพียงรีบขับกลับให้เร็วที่สุด เมื่อผมกลับมาถึงห้องก็มีเพียงความว่างเปล่า ข้าวของจากกระเป๋าได้เก็บเข้าที่เรียบร้อย เสื้อผ้าทุกตัวซักตากเรียบร้อย เมื่อเปิดตู้เย็นก็มีอาหารแช่ไว้พร้อมป้ายระบุว่าเวฟกี่องศาและนาที ผมเหลือบไปเห็นโน๊ตหลังตู้เย็นว่าตือจะกลับบ้านซักพัก ผมเหนื่อยจนล้มนั่งบนขอบเตียง ทำไมปัญหามันเยอะจริงวันนี้ ผมว่าตือโกรธจึงกลับบ้านไป ในหัวของผมความคิดตีกันให้วุ่นวาย ผมควรจะปล่อยไปแบบนี้ หรือควรไปง้อตือดี ผมรักตือแล้วจริงๆ เหรอ หรือมันเป็นแค่ความผูกพันธ์ที่เข้ามาในช่วงผมอ่อนแอ และผมจะดีพอสำหรับตือจริงหรือ ดีพอที่จะให้ตือฝากชีวิตไว้กับผมไหม ระหว่างที่ผมคิดไตร่ตรองอยู่ ไลน์ก็ดังจากโทรศัพท์ที่ผมพึ่งชาร์ต มันเป็นไลน์จากกลุ่มเพื่อนของผมและตือ

....ตือออกจากกลุ่ม...

กันเอง นี่กันไง: อ้าวทำไมตือออกจากกลุ่มล่ะ

หวานกว่าน้องนี้หาไหน: มันโดนผู้ชายเลวๆ หักอกน่ะ แม่งไปคืนดีกับแฟนเก่า แม่งความสัมพันธ์ใหม่แม่งก็ไม่ชัดเจน

สองคนผัวเมียคงเตี๊ยมกันมา ดูมันไปก่อนล่ะกัน

กันเอง นี่กันไง: ใครหักอกตือน่ะ

หวานกว่าน้องนี้หาไหน: ไม่อยากบอกน่ะ บอกเป็นตัวย่อล่ะกัน ห.ม.อ.ก.  ใบ้แค่นี้น่ะอย่าถามอีก

มึงจะใบ้กันทำไมครับ

กันเอง นี่กันไง: แล้วตือเป็นไงบ้าง

หวานกว่าน้องนี้หาไหน: ตือก็เสียใจน่ะ แต่เข้มแข็งดี ตือบอกว่ารักคนที่เรารักแล้วมันเจ็บ รักคนที่เค้ารักเราดีกว่า วันนึงยังไงความดีของเค้าก็ต้องทำให้เรารักตอบอยู่ดี มันบอกมันเค้าใจความรู้สึกคนที่ถูกปฏิเสธว่ามันเจ็บยังไง เห็นมันบอกจะคบกับคนแรกที่สารภาพรักกับมันน่ะ

กันเอง นี่กันไง: คุยกันสองคน ทำไมมีคน Read สามคนกันงงมาก

หวานกว่าน้องนี้หาไหน: นั่นสิเบื่อไม่อยากพูดอะไรล่ะ (ปักหมุดส่งแผนที่บ้านตือ)


ทันทีที่ผมได้ยินอย่างนั้น ผมก็เข้าใจ ผมเองที่ไม่ชัดเจน ตือแสดงออกว่ารักและห่วงผมตลอดเวลา มีแต่ผมเองนี่แหละที่ไม่ชัดเจน ไม่เคยขอเป็นแฟนหรือบอกรัก คิดแต่ว่าการกระทำนั้นสำคัญกว่าคำพูดอยากจะดึงทึ้งหัวตัวเองนัก ว่าแล้วผมก็รีบขับรถไปตามแผนที่ที่หวานส่งมา อย่างน้อยผมก็ต้องไปพูดให้เข้าใจ ถ้าตือไม่ออกมาฟังผม ผมจะยืนรอตะโกนเรียกบอกรัก เอาให้แม่งเหมือนในละคร งานนี้ผมสู้ขาดใจ ฮึบ….

ผมถึงบ้านของตือแทบจะเป็นลมใส่ นี่บ้านหรือวังทำไมใหญ่ขนาดนี้ ถ้าบ้านมันจะใหญ่ขนาดนี้จะไปอยู่คอนโดแคบๆ กับผมทำไม แล้วไอ้ที่จะตะโกนเรียก ในละครกับชีวิตจริงแม่งโครตต่าง บ้านกับรั้วทำไมแม่งห่างขนาดนี้ ห่างกันจนแทบจะไกลลิบตา แล้วผมจะตะโกนยังไงให้ตือได้ยิน แถมหน้าบ้านยังมีเซอร์เคียวเฝ้า ถ้าอยู่บ้านแล้วสบายขนาดนี้จะไปอยู่กับผมคอยทำงานบ้านทำกับข้าวให้ผมทำไม ทำไมมีแต่ตือที่ต้องเสียสละตัวเองเพื่อผม ยิ่งคิดยิ่งโกรธตัวเอง คนดีๆ มารักทำไมปล่อยให้หลุดมือ ผมจะไม่ยอมแพ้แน่นอน ว่าแล้วผมก็ตรงดิ่งเข้าไปเจรจากับพี่เซอร์เคียว

"ขอโทษน่ะครับ ผมมาหาตือ"

"มาหาคุณหนูรึครับ นัดไว้ไหมครับ"

ชัดเลยครับไม่ผิดหลัง บ้านมันทำไมรวยอย่างนี้

"ไม่ได้นัดครับ บอกคุณหนู เอ๊ยตือได้ไหมครับว่าพี่หมอกมาหา"

"ได้ครับ รบกวนอย่าเกาะประตูน่ะครับ เดี๋ยวไฟช็อต

ผมนี่รีบเอามือออกแทบไม่ทัน ไอ้ที่คิดว่าจะปีนรั้วแสดงความจริงใจให้เหมือนโรมิโอกลับจูเลียตนี่คงไม่ต้องคิดน่ะครับ เดี๋ยวจะไหม้เกรียมซะก่อน ผมยืนรอสักพัก ก็ยังไม่ได้คำตอบอะไร มีแต่ผมกับพี่เซอร์เคียวที่จ้องตากันไปมาหวานเยิ้ม ประมาณมึงจับรั้วปุ๊บกูจะช็อตมึงปั๊บ กลัวแล้วครับพี่

ผมจึงต้องคิดแผนใหม่ ผมจะตะโกนยังไงให้ข้างในได้ยิน ลำพังเสียงผมอย่างเดียวคงไปไม่ถึง ผมคงต้องหาตัวช่วย ระหว่างที่คิดอยู่นั้น ผมก็ได้ยินเสียงรถรับซื้อของเก่าผ่านมา นี่แหละตัวช่วยผม ผมจะเอาเศษเหล็กมาต่อกันแล้วปืนข้ามรั้วไป จะบ้ารึ ผมรีบโบกรถซื้อของเก่า รถรีบจอดด้วยความดีใจ คนขับรีบลงมาต้อนรับผมอย่างไว

"ขายอะไรครับ"

"เปล่าครับพี่"

"อ้าว.... แล้วน้องโบกรถพี่ทำไม หรือน้องหาเรื่อง"

คนขับพับแขนเสื้อเตรียมมีเรื่อง ผมเห็นท่าไม่ดีเลยรีบควักแบงค์พันออกมา คนขับเปลี่ยนสีท่าท่าทางกลับมานอบน้อมตามเดิม

"ให้พี่ช่วยอะไรรึเปล่าครับ คุณหนู"

ได้ข่าวเมื่อตะกี้ยังจะต่อยกูอยู่เลย

"ผมขอยืมเครื่องเสียงพี่แวบนึง ผมให้พี่พันนึงเลย"

พี่คนขับรีบวิ่งกลับรถ แล้วส่งไมค์มาให้ผมทันที พร้อมรับเงินด้วยท่าทีนอบน้อม

ผมจับไมค์ พร้อมตั้งสมาธิ จะเขินมันก็เขิน จะอายแม่งก็โครตอาย แต่เอาว่ะยังไงก็ต้องสู้

"ตือ นี่พี่หมอกนะ"

เสียงดังจนคนแถวนั้นเริ่มมองมา แต่ผมก็ต้องสู้ ท่องไว้หมอก ด้านได้อายอด

"พี่ขอโทษที่ทำให้ตือเสียใจ ไม่ทำทุกอย่างให้ชัดเจน พี่สัญญาว่าจะไม่ทำอย่างนั้นอีก  ตือ.... พี่รักตือน่ะ ตือเป็นแฟนพี่น่ะ"

สิ้นเสียงผมก็มีเสียงเฮจากด้านหลัง ผมหันไปอีกที เจอคนยืนเชียร์เป็นสิบ บางคนก็ถือมือถืออัดคลิป ผมคงจะดังละครับงานนี้ ผมยังคงพูดต่อไป

"ตือรับรักพี่น่ะ"

"อืม"

ผมได้ยินเสียงดังจากข้างประตูรั้ว สักพักประตูก็เปิดพร้อมตือที่ลากกระเป๋าออกมา ผมรีบโผเข้ากอดตือ ในที่สุดผมก็ได้ตัวคนรักของผมกลับมา

"พอแล้วพี่หมอก ตืออาย คนบานเลย"

"อายทำไม พี่น่าจะอายมากกว่า พี่ไม่เคยทำแบบนี้กับใครเลย"

ผมกระชับสวมกอดให้แน่นขึ้นอีก กว่าจะได้สติก็ได้ยินเสียงเฮจากด้านหลัง เราลองคนโค้งให้ แล้วรีบจูงมือกันขึ้นรถอย่างไว โครตอายเลยครับ

ผมออกรถสักพัก แต่ยังคงกุมมือตือเอาไว้แน่น เห็นตือยิ้มทำท่าเขินแล้วผมอดถามไม่ได้

"ว่าไงแฟนพี่ เขินอะไรหือ"

"จริงๆ พี่หมอกไม่ต้องบอกรักตือต่อหน้าคนอื่นแบบนั้นก็ได้น่ะ ตือเขิน"

"ถ้าพี่ไม่ทำอย่างนั้น พี่จะได้ตัวแฟนพี่คืนไหม"

ตือเขินมากขึ้น บิดไปมา

"จริงๆ แค่พี่หมอกมาที่บ้าน ตือก็ยอมแล้ว"

"ฮืม"

ผมทำท่าตกใจ

"แต่พี่รอตือตั้งนาน ตือก็ไม่ออกมาเจอพี่"

"ตือเก็บของอยู่"

ชัดเลยครับ คนเจ้าเล่ห์ กว่ากันหวานคือตือแฟนผมนี่เอง รถติดไฟแดงพอดี

"เจ้าเลห์นักน่ะเรา"

ผมรีบขโมยจูบตือ มีหรือที่แฟนผมจะยอมง่ายๆ ผมยอมตกหลุมพลางคนเจ้าเล่ห์ คนนี้คนเดียวครับ สุดที่รักของผม

เฮ้ออออ ช่างเป็นเช้าวันใหม่ที่สดใส ผมนี่แทบไม่อยากตื่นแต่ต้องตื่นเพราะเสียงเตือนจากทั้งทางไลน์และเฟสบุ๊ค ผมจึงอดไม่ได้ที่จะเปิดดู ทางไลน์นั้นมีข้อความเกือบ 1,000 ข้อความ แต่มันพีกกว่าที่ทางเฟสบุ๊คมีเพื่อนขอแอดมากกว่า 1,000 คน และแจ้งเตือนกว่า 3,000 ผมคงดังแล้วใช่ไหม หรือเจอญาติที่สูญหาย ถึงแอดกันมาขนาดนี้ แต่ความสงสัยผมก็หายไป เมื่อผมเปิดกรุ๊ปไลน์ที่มี่ข้อความของกัน

กันเอง นี่กันไง: ดังใหญ่แล้วน่ะพี่หมอก

พร้อมแนบลิ้งค์


ผมกดเข้าไปดู ชัดเลยครับ มันเป็นคลิปที่ผมสภาพรักกับตือ ที่โฟสต์โดยเพจคิ้วบอยอะไรสักอย่าง พร้อมคอมเม้นท์ที่ทำให้ฟินกันทั่วหน้า ผมนึกสภาพ ผมคงจะโดนคนอื่นแซวจนลูกบวชแน่ๆ แต่ผมก็ดีใจน่ะครับ คนจะได้รู้ว่าตือมีเจ้าของแล้ว ผมจะได้ไม่ต้องตามหึงหวงแบบไอ้แทนมัน ผมปิดมือถือแล้วก้มลงไปหอมแก้มตือที่ยังนอนอยู่ อย่างน้อยก็คุ้มครับ เพราะการกระทำนั้นทำให้ผมได้สิ่งที่มีค่าที่สุดมา....

--------------------------------------------



น้องหายป่วยแล้ว แต่น้องยังเจ็บเอ็นหัวเข่านิดหน่อย คู่หมอกตือก็จะหวานๆ หน่อย ฟินกันไหมค่ะ ทุกคน ตอนหน้ามาดูคู่แทนหนึ่งกันบ้างค่ะ ความลับของแทนกำลังจะเปิดเผย

P.S. ขอบคุณทุกคอมเม้นท์น่ะคะ เวลาท้อแล้วคิดอะไรไม่ออก มานั่งอ่านก็สนุกดี ทำให้มีแรงใจในการเขียนมากขึ้น ขอบคุณค่ะ

รักที่สุด

Aemmilicious

****​​

ออฟไลน์ aemmilicious

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 39
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +10/-2
ตอนที่ 18 : I'm In Love

ผมลืมตาตื่นขึ้นมา กระทบกับแสงไฟแรงจ้าบนเพดาน จนต้องกระพริบตาหลายๆครั้งเพื่อปรับสายตา รู้สึกปวดเมื่อยตามตัวเล็กน้อย มองลงมาก็พบสายระโยงระยาน ผมก้มมองตัวเองสักพัก

  "ว่าไงลูก พื้นแล้วรึ"         

ผมหันไปตามเสียงก็พบกับแม่ที่นั่งอยู่ใกล้ และยังคงไม่ชินกับชุดในวันนี้ ที่ช่างดูหนาวจับใจ ทั้งโค้ทยาวบู้ทและผ้าพันคอขนสัตว์ พลางนึกในใจว่าแอร์ที่นี่คงจะหนาวดั่งขั้วโลก แม่ผมถึงได้เตรียมชุดมาพร้อมขนาดนี้

"แม่ครับ หนึ่งเป็นไรไป"

"หนึ่งป่วยลูก มีไข้สูง หมอสัญนิฐานว่า น่าจะติดเชื้อในกระแสเลือด แต่ตอนนี้ดีขึ้นแล้ว นี่ลูกหลับไปสามวันแล้วน่ะ"

ผมขยับตัวด้วยความปวดเมื่อย นี่ผมหลับไปถึงสามวันเลยหรือนี่ ผมนึกสงสารแม่ที่ต้องอดหลับอดนอนเฝ้าไข้ผม

"หนึ่งป่วยแม่คงต้องคอยเฝ้าตลอด ตอนนี้หนึ่งโอเคแล้ว แม่ไปพักเถอะครับ"

แม่หัวเราะ จนผมต้องมานั่งทวนว่าตัวเองพูดอะไรผิด

"เปล่าจ๊ะ แม่พึ่งมา ว่าแต่มีอะไรกินบ้าง"

แม่พูดเสร็จพลางเดินไปหาของเยี่ยมในตู้เย็น

"แม่ไม่เฝ้าหนึ่งแล้วใครเฝ้าล่ะ"

แม่อมยิ้มแล้วชี้มือไปที่โซฟา


ผมมองตามก็พบกับผู้ชายสภาพนอนคว่ำตายคาที่อยู่บนโซฟา เหมือนอดหลับอดนอนมาหลายคืน คุยกันดังขนาดนี้แม่งก็ไม่ตื่น หนวดเครารุงรังหรือเป็นโจรที่เข้ามาปล้นแล้วแม่ผมตีหัวสลบไป แต่หน้ามันคุ้น ผมมองหน้าไม่ชัดจนกระทั่งคนที่นอนคว่ำอยู่บนโซฟาพลิกตัวขึ้น

"แทน" ผมหลุดอุทานออกมา ดูจากสภาพแทนคงเหนื่อยมาก

"ใช่ลูก แทนพึ่งได้นอนตอนแม่มานี่แหละ"

ผมยังคงอึ้ง ไม่คิดว่าจะเป็นแทนที่ดูแลผมไม่ห่างยามผมป่วยไข้ หัวใจผมอ่อนยวบ มันเต็มไปด้วยความรักที่แทนมอบให้ ทุกสิ่งทุกอย่างที่แทนทำให้ผมมันมากจนผมสัมผัสได้ แต่ว่า....

"ตอนแรกแม่ก็นึกว่าแม่เป็นคนที่รักลูกมากที่สุดน่ะ แต่ตอนนี้คงมีคนรักหนึ่งมากกว่าแม่แล้วล่ะ" แม่พูดพลางเข้ามากอด

"แล้วเราล่ะ รักแทนเค้าบ้างรึยัง"

แม่ถามพลางส่งยิ้มมาที่ผม ผมยังคงเงียบทำหน้าหนักใจ แม่คงรู้ว่าผมคิดอะไรอยู่

"ถ้าตัดเรื่องเพศ ชายหญิงหรืออะไรก็แล้วแต่ แม่ถามหนึ่งอีกที ถ้ามีแค่หัวใจ หนึ่งรักแทนไหม"

"รักครับ" ผมตอบด้วยน้ำเสียงหนักแน่น แม่ยิ้มและนั่งกุมมือผมตรงเก้าอี้ข้างเตียง

"สิ่งที่แม่ต้องการจากลูกคือต้องให้ลูกมีความสุข แม่ไม่ได้สอนให้ลูกไม่แคร์ความถูกต้อง จริงอยู่ที่ชายต้องคู่กับหญิง แต่ใครเป็นคนกำหนดว่าความรักมีแค่ชายกับหญิงเท่านั้นที่เข้ากันได้ หรือคนเลือกที่จะมีแค่ชายกับหญิงเพียงเพราะอยากมีลูกสืบทอดสกุลแม่ไม่ต้องการมีหลานหรืออะไรทั้งนั้น แม่ไม่รู้ว่าจะอยู่ทันเห็นหลานโตมีความสุขรึเปล่า แต่แม่อยู่ทันที่จะเห็นลูกของแม่เติบโตและมีความสุข แม่แค่อยากเห็นหนึ่งมีความสุขและมีคนที่รักหนึ่งหมดหัวใจ" ผมฟังแม่พูดพร้อมมองแทนที่นอนอย่างหมดสภาพ

"อย่ากดความรู้สึกตัวเองลูก คนที่รักลูกหมดหัวใจอย่างแทนไม่ได้หากันง่ายๆ น่ะ อีกอย่างแทนก็รอหนึ่งมานานแล้ว"

"รอมานานแล้ว" ผมทำหน้างง

"อ้าว แทนยังไม่ได้บอกลูกรึ"

แม่พูดพร้อมพลางหยิบกระดาษออกมา แม่เขียนยิกๆ พร้อมยืนกระดาษมาให้

"งั้นเดี๋ยวลูกลองเข้าไปในไอจี หาชื่อตามนี้น่ะลูก แทนนี่ก็เหลือเกิน แทนที่จะบอกหนึ่งกลับทำให้ลูกไม่มั่นใจอยู่นี่แหละ"         

ไอจี ผมนั่งงงได้แค่สักพักแทนก็สะดุ้งตื่นพลวดขึ้นมา กูตกใจเลย อารมณ์ซึ้งกูหายหมด แทนรีบลุกมาจับตัวผม

"หนึ่งตื่นและเหรอ ปวดตรงไหนรึเปล่า อยากได้อะไรไหม"

สักหน่อยล่ะกันกู เห็นในละครชอบเล่นกัน

"คุณเป็นใครครับ" ผมแอบทำหน้างงเอียงคอทำใสซื่อ สักพักไอ้แทนดีดนิ้วลงหน้าผาก

"โอ๊ยยยย"

"ไม่ขำครับเมีย ท่าจะหายดีแล้ว จับขึงทำเมียซะดีไหม"

ว่าแล้วแม่งก็จะกระโดดขึ้นเตียง ดีน่ะที่มีแสงแฟสตมาขัดคอจนเราต้องหยุดไปหันดู

"แม่! แม่ยังไม่เลิกถ่ายรูปหนึ่งอีกหรือครับ"

"โมเม้นต์มันได้ลูกแม่ฟิน เดี๋ยวแม่ส่งให้น่ะแทน"

"ไปอาบน้ำป่ะแทน มึงสกปรกหนวดเฟลิ้มเลยมึง จนพยาบาลไม่กล้าเข้ามาดูกูล่ะกลัวมึงล้วงกระเป๋า"

"ปากดีขนาดนี้ บดปากโชว์แม่ยายดีไหมนี่ครับเมีย"         

แม่ผมเขินอายจนเอากล้องมาบังหน้า แต่เดี๋ยวน่ะ แม่ไม่ได้เขินนี่ครับ แม่แค่ตั้งกล้องรอ ท่าทางจะฟิน ทำไมแม่ไม่ช่วยลูกเลย ผมสู้รบตบมือสักพักจนต่างฝ่ายต่างเหนื่อยจนแทนลงไปนั่งที่โซฟาตามเดิม ส่วนแม่ผมก็รัวแฟลตจนกล้องค้างแล้วก็เลิกไปในที่สุด           

แทนเห็นว่าผมโอเคแล้วและมีแม่คอยดูแล จึงขอตัวไปอาบน้ำโกนหนวด แหมเป็นคนป่วยนี่มันดีจริงๆครับ มีแม่ปลอกแอปเปิ้ลให้กินด้วย งั่มมมมมมม 

"แม่ครับ หมอบอกว่าไงบ้างครับ" แทนเอ่ยถามหลังออกจากห้องน้ำ

"หมอบอกว่าดูอาการอีกวันนึง ยังไงแม่ฝากดูหนึ่งด้วยน่ะแทน"

"หืม แม่จะไปไหนอ่ะ" ผมพูดพร้อมเคี้ยวแอปเปิ้ลอย่างต่อเนื่อง

"ลูกเห็นชุดแม่ไหม" ผมพยักหน้า

"แม่ดูแปลกไปไหม"

"ไม่ครับ ปกติแม่ก็แต่งตัวเว่อร์แบบนี้อยู่แล้ว" ผมพูดพลางกินแอปเปิ้ลต่อ

"แม่จะถือว่าเป็นคำชมน่ะ อะเข้าเรื่อง แม่จะไปหาสามีแม่ที่อังกฤษ แม่จะส่งออก ในเมื่อลูกหายแล้วแม่ก็หมดห่วง งั้นแม่ไปล่ะ ยังไงแทนแม่ฝากหนึ่งสักสองอาทิตย์น่ะลูก บายยยยย"

พูดเสร็จแม่ก็พลางลุกขึ้นจับชุด ลากกระเป๋าเดินทางจากไป ท่ามกลางความมึนงง

"แม่เมียไปแล้วใช่ไหมครับ" แทนถามอย่างงงๆ

"เออ น่าจะน่ะ มึงว่าไง"

"น่าจะไปแล้วน่ะครับ"

เฮ้ออออ มาเร็วเครมเร็วแท้       

ตอนนี้ทั้งห้องมีแต่ความเงียบ ผมก็ยังคงกินต่อ แทนก็นั่งกดทีวีเลื่อนไปเลื่อนมา จนผมต้องเอ่ยเพื่อกำจัดความเงียบ ทำไมเขินจังว่ะ 

"แทนขอบคุณน่ะ ที่คอยดูแลกู ขอบคุณน่ะ"

"ไม่ต้องขอบคุณหรอกครับ"

โถ พ่อพระแทนทำบุญไม่หวังผล กูคงมองมึงผิดไป

"เก็บแรงไว้ขอบคุณบนเตียงตอนออกจากโรงบาลดีกว่า"

อะ กูขอถอนคำพูด

"ยังไงออกจากโรงบาลเมียคงไม่รอด เพราะต้องไปอยู่คอนโดผัว"

"ใครบอกมึง" ผมลุกขึ้นพร้อมทำหน้างอใส่ แม่งจะล่อลวงกูล่ะสิ กูไม่หลงกลมึงหรอกแทน

"แม่เมียไง พึ่งฝากฝังเมื่อกี้"

"กูจะไปยังไง กูไม่มีเสื้อผ้า ของใช้อะไรก็ไม่มี"

"นี่ไง แม่เมียเก็บมาให้แล้ว" แทนพูดพร้อมชี้นิ้วไปที่กระเป๋าเดินทางสองใบใหญ่ แม่น่ะแม่ ทำไมส่งเสริมให้ลูกไปตกอยู่ในอันตราย

"บ้านกูไม่มีคนเฝ้าน่ะมึง เดี๋ยวของหาย"

"ผัวจ้างยามไปเฝ้าให้แล้วครับ กลัวเมียไม่สบายใจเป็นห่วงบ้าน"

"กูเป็นห่วงหมาที่บ้านน่ะมึง ตัวที่กูบอกมึงว่าป่วยน่ะ ช่วงนี้แม่งเจ็บออดๆ แอดๆ"

"บ้านเมียไม่ได้เลี้ยงหมาครับ โกหกบดปากน่ะครับ"

"โว๊ย เออไปก็ไป" ผมคงหมดทางรอด ยอบรับในชะตากรรมอันโหดร้าย

           

ช่วงเย็นหมอมาตรวจอีกครั้ง อาการผมเป็นที่น่าพอใจ พรุ่งนี้ก็ออกจากโรงพยาบาลได้แล้ว แทนจึงรีบจัดการจองตั๋วเครื่องบิน เนื่องจากเราไม่มีรถและแทนไม่อยากให้ผมเหนื่อยจากการนั่งรถนานๆ เดี๋ยวจะป่วยอีก ทั้งนี้ทั้งนั้นไอ้แทนมันจ่ายหมด แหมป๋าจริงๆ             

ผมนั่งเบื่อตลอดการเดินทางเพราะมือถือผมแบตหมดตั้งแต่ก่อนเข้าโรงบาล เหมือนชีวิตแทบขาดใจ แต่เดี๋ยวถึงคอนโดไอ้แทนค่อยชาร์ต ได้แต่นั่งกินขนมบนเครื่องไปพลางๆ  แต่แค่อึดใจเดียวก็ถึงกรุงเทพล่ะ ผมกับแทนอยู่บนแท็กซี่แล้ว ผมมองดูวิวด้านข้างวิวที่คุ้นเคย แต่ผมกับคิดถึง นี่ก็เวลาบ่ายแก่ๆ แล้ว พระอาทิตย์กำลังคล้อยลงส่องประกายสีส้มแดงตัดกับทางด่วนที่พาดผ่าน แม้ไม่มีมือถือแต่การมีแทนร่วมทางด้วยก็สนุกไปอีกแบบ ถึงปากผมสองคนจะเอาแต่ทะเลาะกัน แต่แทนก็ดูแลผมไม่ห่าง จนทำให้ผมรู้สึกใจเต้นแปลกๆ สงสัยไอ้แทนเอายาอะไรใส่ให้กินตอนอยู่โรงบาลแน่ๆ แม่งไว้ใจไม่ได้ 

"เมียอยากทานไรครับ มื้อเย็นเดี๋ยวผัวทำให้"

"โม้ป่าวเนี่ยมึง ทำอาหารได้ด้วย" แทนส่ายหัวพร้อมยักคิ้วให้

"เก่งนี่ ขอมือหน่อย ทำไรได้อีกเนี่ย" แทนโน้มตัวเข้ามากระสิบข้างหู

"เรื่องบนเตียงก็เก่งน่ะครับ เห็นว่าดีเลยอยากให้ลองดูสักครั้ง" ผมรีบพลักตัวแทนออก แม่งมึงอายใครบ้างไหมนี่ พี่คนขับอย่าสนใจมันน่ะครับ ช่วงนี้มันอยู่ในฤดูผสมพันธุ์ ไอ้เหี้ยแทนกูอาย พี่เค้ายิ้มใหญ่เลย

นั่งสักพักก็ถึงคอนโด ผมกับแทนช่วยกันลากกระเป๋าขึ้นลิฟท์

"นี่ไม่เคยพาใครขึ้นมาค้างที่คอนโดเลยน่ะ"

แหมมึงจะบอกพากูมาค้างคนแรกว่างั้น ทำไมกูปลื้มๆ ว่ะแทน

"ปกติจะทนไม่ไหวเลี้ยวเข้าโรงแรมก่อนน่ะครับ กับเมียนี่ผัวอดทนมาก"

โถ! พ่อคุณ กูต้องขอบคุณมึงไหมแทน     

ถึงห้องเราสองคนก็ต่างคนต่างเก็บของ อยู่กับแทนก็สนุกดีน่ะครับ ไม่เหงาดี หรือผมจะหลงรักมันเข้าแล้ว ไม่ไม่ไม่ ผมนั่งเถียงกับตัวเองสักพักก็ได้กลิ่นหอมลอยมา หิวววว ผมเดินตามกลิ่นไปเรื่อย   

"อ้าวทำเป็นจริงด้วยว่ะแทน กูนึกว่ามึงโม้น่ะเนี่ย"

"ทำไมงั้นล่ะครับเมีย มาลองชิมเลย" แทนพูดพลางตักให้ชิมพร้อมเป่า แหมบริการดีจริงๆ

"กินได้จริงไหมมึง"

แทนไม่ตอบ แต่ยื่นช้อนพร้อมพยักหน้า เอาก็เอาว่ะ

"เออ อร่อยน่ะ ข้าวต้มใช่ไหม ทำไงอ่ะ"

"รสดีไงครับเมีย ใส่ปุ๊บปิดฝาปรุงเพิ่มนิดหน่อย" แทนพูดพร้อมโชว์หลักฐาน สรุปกูต้องชมมึงต่อไหมหรือยังไง

           

แม้จะเป็นอาหารง่ายๆ และเอ่อ....ก็อร่อยด้วยรสดี แต่ผมก็รู้สึกสุขใจที่มีแทนคอยดูแลอยู่ข้างๆ ผมคงเผลอใจรักแทนเข้าไปแล้ว ผมเคยคิดว่าจะดีแค่ไหนที่จะมีคนรักและคอยดูแลเรายามป่วยไข้ แต่เรื่องอย่างว่าผมยังไม่พร้อมจริงๆ ผมควรเอาตัวรอดยังไงดี ในเมื่ออีกฝ่ายแม่งกะขุนให้อ้วนแล้วรอเชือดผมอยู่เนี่ย แล้วผมก็ไม่รู้ผู้ชายกับผู้ชายแม่งทำกันยังไง หนังโป๊ก็เคยดูแต่ของผู้ชายกับผู้หญิง ระหว่างที่ผมนั่งงงอยู่บนโฟซาพลางจิ้มผลไม้ที่ไอ้แทนปลอกให้ อืมมันก็อร่อยดี สบายดีด้วย กินเสร็จไอ้แทนก็ลเางจาน จนผมแทบจะเป็นง่อยล่ะ หรือจะเป็นง่อยดี

"ป่ะ ไปอาบน้ำกัน"

อืม ให้มันอาบน้ำให้ก็ดีน่ะ สบายดี

"เฮ้ย! อาบอะไรของมึง ออกไปเลย"

"จะอายทำไมครับเมีย เห็นจนไม่รู้จะเห็นยังไงล่ะ"

"เห็นอะไร อย่ามา หน้ามึงโกหกมาก กูหวงเนื้อหวงตัวจะตาย"

"อ้าว อุตสาห์ทำดี ทำไมเมียไม่เห็นค่าละครับ อยู่โรงบาลอุตสาห์เช็ดตัวให้ทุกวัน นี่ผัวก็ถูทุกซอกทุกมุมสะอาดจะตาย"

หาาาาา ผมตะลึงตาค้าง แทนพูดพร้อมทำท่าประกอบ

"เออออออ.....ทำไมมึงไม่ให้พยาบาลเช็ด"

"อ้าว ผัวกลัวเมียอายพยาบาลน่ะครับ ก็เลยอาส่าห์เช็ดให้ ผัวผิดรึครับ คนอุตสาห์หวังดี"

พูดเสร็จแม่งกอดอกทำหน้าบี้ กูควรด่าหรือชื่นชมมึงดี ยังไม่ทันจะบอกอะไร ไอ้แทนก็เอ่ยประโยคที่กูแทบจะอยากตายตรงนี้

"ว่าแต่เมียมีไฝตรงนั้น เค้าว่าถ้ามีตรงนั้นจะเซ็กส์จัดจริงไหมครับ ผัวแค่อยากรู้น่ะเลยลองถามดู แฮะแฮะ"

นั่นคือคำยืนยันว่ามันคงเห็นหมดแล้วจริงๆ ไอ้แทนเอามีดมาแทงกูดีกว่าถ้ามึงจะถามกูแบบนี้

---------------------------------------------


กลับมาแล้ว ขอโทษที่ช้าค่ะ หายไปอาทิตย์นึง สิ้นปีงานเยอะแยะมากมาย คนอ่านไปเที่ยวไหนกันค่ะ เดินทางกันดีๆ น่ะ เดี๋ยวว่างจะมาลงให้อ่านอีกน่ะคะ เรื่องมาครึ่งทางล่ะค่ะ หลังจากนี้ก็จะหวานขึ้นเรื่อยๆ เตรียมเลี่ยนกันได้เลยค่ะ

Aemmilicious

ออฟไลน์ aemmilicious

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 39
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +10/-2
ตอนที่ 19 : ไอจี เบบี้

อืมมมมม ผมตื่นขึ้นมาบิดขี้เกียจบนเตียงนุ่มนิ่มในห้องไอ้แทน ดื่มด่ำกับชัยชนะเมื่อคืน แม่ไอ้แทนจะเจ้าเล่ห์แค่ไหน แต่ผมก็คือผู้ชนะผู้ได้ครอบครองเตียงและห้องนอนแต่เพียงผู้เดียว อยากรู้สิครับว่าผมรอดเงื้อมมือมันมาได้ยังไง ผมจะย้อนเวลากลับไปเล่าให้ฟัง 

"สรุปจะอาบน้ำด้วยกันไหมครับเมีย"

"แทน คือหนึ่งว่าห้องน้ำมันแค๊บแคบ เราสองคนเข้าไปก็คงจะอึดอัด แคบๆ อย่างนั้นคงทำได้ไม่กี่ท่า แทนเห็นด้วยไหม"

แทนพยักหน้าพร้อมปาดน้ำลาย

"งั้นหนึ่งว่า เอาอย่างนี้ดีกว่า แทนไปอาบน้ำก่อน แล้วมานอนรอตรงโซฟาห้องนั่งเล่น พื้นที่กว้างดี จะบนโต๊ะ ตู้ ระเบียง ยังไงก็ได้ตามใจแทนตกลงไหม"

พูดเสร็จไอ้แทนก็วิ่งเข้าห้องน้ำ พร้อมวิ่งออกมานอนรอบนโซฟาในเวลาไม่ถึงนาที

"งั้นหนึ่งไปอาบน้ำก่อนน่ะ"

แทนพยักหน้าหงิกๆ ผมส่งยิ้มหวานก่อนเดินเข้าห้องนอน พร้อมล็อกประตู เหมือนแทนมันจะไหวตัวทัน แต่ก็ไม่ทันล่ะครับ แหมมันจะทำเสียงหงิงๆ หน้าประตูแต่มึงก็พลาดแล้วแทนเอ๊ย           

ผมแค่นึกก็นั่งหัวเราะอย่างผู้ชนะ พลางมองนาฬิกาก็เกือบจะสิบโมงแล้ว ผมเดินออกมาจากห้อง พร้อมมองหาไอ้แทนก็ไม่พบแต่อย่างใด มีแต่เพียงโน้ตที่ติดไว้บนตู้เย็นว่าออกไปทำธุระ พร้อมบอกเวลาและองศาในการอุ่นอาหารเช้าที่แทนทำทิ้งไว้ในตู้เย็น แหม ช่างดูแลดีจริงๆ           

ผมนั่งทานข้าวที่อุ่นเสร็จเรียบร้อยที่เคาท์เตอร์ในห้องครัวพลางหยิบมือถือที่ชาร์ตเสร็จแล้ว กดมาเปิดเครื่อง ไม่ทันจะได้ทำอะไร เสียงแจ้งเตือนจากมือถือก็ดังสนั่นหวั่นไหว จากการแจ้งเตือนโปรแกรมต่างไม่ว่าจะเป็นเฟสบุคหรือไลน์ ผมค่อยๆ กดดูส่วนมากในเพสก็จะเป็นเพื่อนๆ ในคณะที่ถามเกี่ยวกับอาหารป่วย เนื่องจากว่างและเบื่อๆ ผมเลยไล่ตอบทุกคน จนครบ นั่งรอจนเบื่อ แดกขนมจนหมดตู้เย็น จนเหลือแต่ไก่ดิบ แม่งก็ยังไม่กลับ กดมือถือไปมา จนนึกได้ว่าแม่จดไอจีอะไรสักอย่างให้ บอกให้เข้าไปดูจะรู้อะไรมากขึ้น ด้วยความยากเสือกเรื่องแทนผมรีบวิ่งปรี่ไปห้องนอนลื้อคนจนเจอ สงสัยไอ้แทนแม่งแอบหลีสาวในไอจี พึ่งรู้ว่ามันมีไอจีด้วย นอกใจกูจะตัดแม่งให้เป็ดกิน นี่กูหึงมันรึ ไม่น่ามึงน่ะคิดมาก         

หลังจากที่เถียงกับตัวเองเสร็จ ก็กดเข้าไอจีเพื่อเสิร์จหาชื่อ Forever_N&T หรือมันขายรังนก สโลแกนแม่งได้ รอสัญญามือถือหมุนสักพักภาพไอจีก็ปรากฏ ภาพโปรไฟล์เป็น มือของคนสองคนจับมือกัน ซึ่งมืออีกข้างเป็นมือของไอ้แทนแน่แท้ เพราะผมจำแหวนที่นิ้วก้อยมันได้ แต่อีกข้างนี่ใคร ผมนึกสงสัยพร้อมเลื่อนดูคำบรรยายใต้รูปโปรไฟล์ Dedicate to my love. โอ้หวานจนเลี่ยน ผมเบ้ปากหนี ว่าละอย่างไอ้แทนมันคือเสือ แม่งคงซุกสาวไว้ แม่งปวดตรงหัวใจ ดีล่ะที่ผมไม่ไว้ใจแม่ง กูจะตัด ตัดจนไม่เหลือตอ จนผมเลื่อนมาดูรูปภาพในอัลบั้ม ผมงงเป็นไก่ตาแตก จนต้องกลับไปดูภาพ โปรไฟล์ใหม่ สรุปนี่ไอจีใคร ทำไมมันมีแต่รูปกู ในอัลบั้ม มีแต่รูปผมทั้งนั้น เลื่อนไปกี่ร้อยรูปก็มีแต่รูปผม ผมเริ่มไล่ดูจากรูปล่าสุด ซึ่งรูปวันนี้ที่ผมนอนอยู่บนเตียง ไอ้เหี้ย สรุปมึงมีกุญแจ แล้วทำไมไม่เข้ามาปล้ำกู พร้อมแคปชั่นใต้รูป

"นอนขี้เซาขนาดนี้ ปล้ำซะดีไหม"         

ผมจึงลุกขึ้นนั่ง พร้อมดูรูปทีละรูปพร้อมอ่านคำบรรยายใต้ภาพอย่างละเอียด ภาพเป็นรูปภาพผมในอิริยาบถต่างๆ นี่แทนมันมีภาพผมมากมายขนาดนี้เชียวหรือผมนั่งดูรูปต่างๆ พลางให้ย้อนถึงวันเวลาที่ผ่านมา มันมีเรื่องราวต่างๆ เกิดขึ้นมากมาย แทนเก็บรูปผมทุกวันและอัพวันล่ะหนึ่งรูป บรรยายถึงบรรยายกาศต่างๆ ที่ทำวันนั้น ไม่ว่าภาพนั้นหน้าตาผมจะเหี้ยแค่ไหน แม่งก็ลง 360 องศาให้กูสักครั้งแม่งก็ไม่เคย เหี้ยจริงๆ ภาพต่างๆ มันก็บรรยายเรื่องราวต่างๆ มากมาย และลงบันทึกสิ่งต่างๆ ที่ทำร่วมกันมาและเมื่อสิ่งนั้นเกิดขึ้นต้องมีครั้งแรกเสมอ เช่น เดินด้วยกันครั้งแรก กินข้าวด้วยกันครั้งแรก ดูหนังครั้งแรก ไปบ้านกันครั้งแรก จับมือกันครั้งแรก จูบกันครั้งแรก ทุกๆ อย่างมีวันที่บันทึกไว้เป็นความทรงจำให้นึกถึง เหมือนกับแทนรอที่จะทำสิ่งนั้นๆ ร่วมกันมานานแสนนาน ผมค่อยๆ ดูค่อยๆ เลื่อนมาจนถึงภาพที่ผมเจอมันครั้งแรกที่โรงอาหารคณะ พลางนั่งคิด แม่งคงเขียนไม่พ้นเจอกันครั้งแรก แต่แม่งเสือกเขียนโดนแฟนต่อยครั้งแรก กูหมดอารมณ์เลยแทน แม่งฟีวลิ่งกูกำลังได้ เกือบหลวมตัวให้มึงล่ะ แต่ความสงสัยของผมก็หมดไป เมื่อมันมีรูปก่อนหน้าที่เราเจอกัน ไม่ว่าจะตั้งแต่ผมสอบติดมหาลัย เรียนจบม.ปลาย เข้าค่าย โน่น นี่ นั่น ผมจึงเลื่อนมาเรื่อยๆ เหี้ย! ผมอุทานออกมาเสียงดัง ม. ปลายที่ว่าแน่แล้ว แม่งยังมีม. ต้น ตอนที่ผมยังใส่แว่นหนาเตอะ ผมเลื่อนๆ อ่านไปเรื่อยๆ บอกว่าวันนั้นผมทำอะไรบ้าง พร้อมลงวันที่เสร็จสับ บางรูปผมยัง ไม่มีเลย จำไม่ได้ด้วยซ้ำว่าไปทำอะไรมาในวันนั้น ผมเลื่อนมาเลื่อย ม.ต้นที่ว่าแน่ แม่มียังประถมตอนตัดผมเกรียน ไอ้เหี้ย ไปเอามาจากไหน นี่มันก่อนไอจีจะมีด้วยซ้ำ ภาพยังเป็นรูปถ่ายกล้องฟิล์มที่เหมือนแสกนมาอีกที ผมนั่งดูภาพเก่าๆ พร้อมอ่านข้อความใต้ภาพ เหมือนย้อนวันเวลาต่างๆ เหมือนได้ดูหนังเรื่องยาวที่เล่าชีวประวัติตัวเอง จนถึงภาพสุดท้าย ภาพที่ไม่ได้เป็นรูปผมคนเดียว ทั้งๆ ที่ทั้งไอจีนั้นมีแต่ภาพผม ในภาพน่าจะสักอนุบาลได้ เพราะผมยังมีผ้ากันเปื้อนติดอยู่เลย ข้างกายมีเด็กผู้ชายคนนึงที่คงซนหน้าดูเพราะมันยังมีพลาสเตอร์ลายการ์ตูน ผมไม่รอช้ารีบอ่านคำบรรยายพร้อมคำบรรยายใต้ภาพ** **

"การลาจากครั้งแรก และครั้งสุดท้าย"         

ผมเดาผิดมันไม่ใช่การเจอกันครั้งแรก ผมจำได้ทันทีนี่คือคนที่ผมพบเจอตอนอนุบาลไอ้บ้าคนนึงที่บอกชอบผม และสัญญาที่จะกลับมา มันขโมยจูบแรกของผมไป ทันทีที่นึกย้อนไป แม่งเหมือนเส้นผมบังภูเขา ทำไมผมจำมันไม่ได้ อาจเป็นเพราะมันเป็นแค่คำสัญญาของเด็กอนุบาลเกเรๆ คนนึง ใครคนนึงที่ไม่รู้ว่าจะยึดมั่นในคำสัญญาแบบเด็กๆ วันนั้น ใครจะคิดว่ามันจะกลับมา ภาพนี้มันทำให้ผมกระจ่าง ไม่กังวลหรือลังเลใดๆ ในความเจ้าชู้ของไอ้แทนอีกต่อไป เพราะมันยึดมั่นในคำสัญญา แม้มันจะเป็นคำสัญญาที่ไม่คิดจะจริงจัง แต่แทนก็มั่นคงในสัญญานั้น ผมอยากจะทึ้งหัวตัวเองนักที่จำแม่งไม่ได้ นั่งอยู่สักพักทำไมอยู่ดีๆ ทำไมรู้สึกเขินขึ้นมา อย่างกับเด็กสาวแรกรุ่น ยังไม่ทันได้หาคำตอบ ผมก็ได้ยินเสียงเปิดประตู ฉิบหาย ด้วยความตกใจผมจึงเอามือถือไปซ่อน (ไอ้เหี้ยจะซ่อนทำไม ปิดหน้าจอแม่งก็ไม่รู้แหละ ไม่รู้กูลน)

สักพักไอ้ตัวต้นปัญหาก็เข้ามา

"เมียทำไรครับ" แทนเดินเข้ามาหาผมยังห้องนอน

"ปวดฉี่น่ะ" เฮ้อรอดแล้วกู

"ฉี่ตรงหัวนอน" แทนพูดพร้อมชี้มือ เหี้ย ไม่ได้กูต้องไม่มีพิรุธ

"ไม่ใช่มึง กูกำลังจะไปเข้า" พูดเสร็จผมก็ลุกจะเดินไปห้องน้ำ แต่ต้องหยุดเพราะไอ้แทนดึงแขนอะไรของมึงอีกกกกกก

"เดี๋ยวน่ะครับเมีย ทำไมหน้าแดงๆ ตัวร้อนไหมครับ แหงนหน้าหน่อย" พูดเสร็จแม่งก็ดึงผมเข้าใกล้ๆใกล้อีก ใกล้อีก ผมเลย...

"หลับตาทำไมครับเมีย แค่วัดไข้" อ้าว เออโทษๆกูนึกว่าจะทำอย่างอื่น

"ว่าแต่เมียดูแปลกๆ น่ะครับมีอะไรรึเปล่า" เอ้า แม่งโคนันเข้าสิงห์มึงรึ

"แปลกตรงไหนมึง ปกติ....." ว่าแต่กูจะโหนเสียงสูงทำไม

"อืมเหรอครับ งั้นเดี๋ยวผัวไปโทรศัพท์......."

"ไม่มีมึง ไม่มีอะไรในมือถือทั้งนั้น กูไม่ได้เปิดดูอะไรเลย" ผมพูดพลางส่ายหน้า เห็นไอ้แทนหัวเราะ ในลำคอ หรือมันจะรู้แล้ว 

"จริงๆ เมียไม่น่าจะโกหกน่ะครับ" ฉิบหายล่ะกู

"มันก็เป็นปกติของผู้ชายน่ะครับ อีกอย่างเราก็เหมือนเป็นคนคนเดียวกัน เรื่องอย่างนี้เราช่วยกันได้" เดี๋ยวน่ะ

"เมียแอบดูหนังโป๊ใช่ไหมครับ หน้าถึงแดงขนาดนี้"

เฮ้อ กูคงตีค่าสมองมึงมากไปแทน

"เออ กูเงี่ยนน่ะมึงนอนโรงบาลมาหลายวัน ก็ต้องปลดปล่อยบ้าง"

"ทำไมไม่รอให้ผัวช่วย"

"ก็มึงไม่อยู่"

"ทำไมไม่เล่นด้วยกัน"

"มึงไม่อยู่"

"ทำไมไม่รอล่ะครับ"

"โว๊ยยยยยย กูจะขี้ล่ะ"

"ไม่ฉี่แล้วเหรอครับ"

"ฉี่ด้วยขี้ด้วย"

"เข้าไปด้วยได้ไหม เผื่อเล่นช่วยตัวเองกัน"       

กว่ากูจะรอดมาได้ นี่เถียงกันตั้งแต่ไม่ปวดจนนี่ปวดจนจะอั้นไปอยู่ล่ะ ผมตั้งสติสักพัก จึงเดินออกไปทำตัวให้ปกติ แต่ทำไมใจสั่น เดินออกมาจากห้องนอนก็เห็นไอ้แทนอยู่ในครัว 


"โหเมียครับถ้ากินเรียบขนาดนี้ไม่เทน้ำใส่แก้วแล้วลากไก่ดิบมากินในแก้วล่ะครับ"

"แทนหิวเหรอ หนึ่งขอโทษ เดี๋ยวหนึ่งไปซื้อของกินในซุปเปอร์ใต้ตึกให้ป่ะ" แทนเพิ่งมองพร้อมเข้ามาจับตัวดูหน้าหลัง ทำไมใจสั่น

"ผัวว่าเมียป่วยน่ะ ล้มในห้องน้ำ แล้วหัวฟาดชักโครกใช่ไหม ทำไมพูดเพราะ"

"โว๊ยยยย เออๆ กูแค่อยากพูดดีด้วย"

"ทำไมต้องพูดดีด้วย" แทนขมวดคิ้ว

"อ้าวไอ้เหี้ยนี่ สรุปมึงจะเอาไง สงสัยอะไรนักหนา มึงวิญญาณโคนันเข้าสิงห์รึ"

"เฮ้อ ได้เหี้ยมาตัว ค่อยสบายใจหน่อย ปกติ ปกติ" มึงออกมาต่อยกับกูตัวๆ ไอ้แทน ว่าแต่ทำไมกูต้องพูดสุภาพกับมันด้วย งงตัวเองนอนตายแม่งบนโซฟานี่แหละ ไอ้แทนยังคงรื้อค้นในครัวอยู่ 

"เค เดี๋ยวเราออกไปกินข้าวตอนเย็นแล้วค่อยแวะซื้อของในซุปเปอร์ล่ะกันน่ะ"

"โหยยย ป๋าอะ แดกไรล่ะมึง"

"ชาบูไงครับเมียได้อ่านไลน์เพื่อนบ้างไหมนี่ มัวแต่นั่งดูหนังโป๊" มึงจะยัดเยียดความหื่นให้กูให้ได้ใช่ไหม ว่าแต่อ่านอะไรของมึงงง

"อ้าวทำหน้าเป็นหมาสงสัยอีก ก็เพื่อนๆผัวกับเมียจะเลี้ยงฉลองที่เมียหายป่วยไง เพราะฉะนั้นงานนี้แดกฟรีครับเมีย" ผมลุกขึ้นตบมือพร้อมเพรียงกับไอ้แทน งานแดกฟรีนี่ขอให้บอกดีใจยิ่งกว่าถูกหวย แดกให้เรียบ นอนอดอยากมานาน เข้าร้านไหนเจ๊งร้านนั้นแน่

ผมกับแทนรีบสับกันอาบน้ำอย่างว่อง ไม่มีเถียงใครอาบก่อนอาบพร้อมกัน เรื่องแดกฟรีเราสามัคคี ทุกอย่างเป็นปกติ จะแปลกตรงที่ตัวผมเองนี่แหละ ทำไมเขินๆ ไอ้แทน ใจมันสั่น แต่ช่างเถอะ แดกฟรีต้องมาก่อน ผมก้าวขึ้นรถพร้อมแทนใจจดจ่อกับการกิน อยู่ดีๆ แทนก็โน้มตัวลงมาเหมือนจะกอด

"เฮ้ยยย" ผมร้องเสียงหลงหลับตาปี๋ จะทำไรก็รับทำ

"เมีย เมียครับ หลับตาทำไม"

"ทำเลยมึง จะทำไรก็รีบทำ"

"เสร็จแล้วครับเมีย ทำไมหน้าแดงๆ สรุปมีไข้ไหม" อะไรของมึง เสร็จอะไรของมึง

"สรุปทำอะไร ทำไมมันเสร็จเร็วจัง" ผมลืมพร้อมลืมตา ไม่เห็นทำให้ไรเลย จูบแม่งก็ไม่จูบ

"คาดเบ้ว" แทนพูดพร้อมทำหน้างง อ้าว กูก็นึกว่าจะทำอย่างอื่น

"วันนี้เมียดูแปลกๆ น่ะครับ พรุ่งนี้ไปตรวจหน่อยไหม"

"เห้ย ไม่เป็นไรปกติ" พูดเสร็จแม่งก็เอามือมาวัดไข้ ทำไมแอร์มันร้อนๆ ว่ะ

พอแทนแน่ใจว่าผมไม่มีไข้ก็ขับรถออกไปยังสถานที่นัดหมาย

เราสองคนต่างนั่งเงียบ แทนก็คงใช้สมาธิในการขับรถ เพราะรถค่อนข้างแน่นช่วงห้าโมงหกโมงก็งี้แหละครับ เพื่อทำลายความเงียบ หลอกถามอะไรมันหน่อยดีกว่า

"วันนี้ไปไหนมามึง ทำไมทิ้งให้กูอยู่คนเดียว"

"ไปจ่ายค่าน้ำ ค่าไฟ ค่าโน่นนี่นั้น เดี๋ยวมันตัดเมียจะเดือดร้อน" ดี๊ดี เป็นห่วงกูทุกลมหายใจ

"ทำไมครับ อยู่คนเดียวคิดถึงผัวรึ" คิดถึงสิ เฮ้ยไอ้เหี้ยไม่ใช่

"แทนกูไม่ยังค่อยรู้เรื่องของมึงเลย กูถามมึงได้ไหม" อย่าหาว่าผมไม่ใส่ใจน่ะครับ แต่ปกติเราก็เอาแต่ทะเลาะกัดกัน ผมเลยไม่ค่อยรู้เรื่องของมันมีแต่มันที่รู้เรื่องของผม แต่ก่อนก็สงสัยว่าแม่งรู้ได้ไง แต่ตอนนี้หายสงสัยล่ะครับ แดกหญ้ามานานหายโง่ล่ะครับ

"วันนี้มาแปลก เอาสิครับอยากรู้ไรล่ะ เรื่องบนเตียงไม่ตอบน่ะ เน้นปฏิบัติ ไม่เอาทฤษฎีน่ะครับ" โหหหห กูอุตสาห์อยากรู้

"แทนมึงชอบกินไร"

"กินข้าวครับ แดกหญ้าแม่งไม่ย่อย" ใจเย็นๆ ใจเย็นๆ

"ปกติเวลาว่างชอบทำไร"

"ชอบซ้อมท่าครับ เผื่อลงสนามกับเมียจะได้ไม่ลืม" อืม ดูเตรียมพร้อม ใจเย็นๆ ลูกใจเย็น

"ปกติชอบดูหนังแนวไหน"

"หนังโป๊น่ะครับ เอาไว้ฝึกท่าใหม่ สรุปมันเรียกแนวไหนน่ะครับ งง"

"โว๊ยยยไอ้แทนกูจริงจัง ตอบดีๆตอบดี" แม่งหาเรื่อง ดูดิ

"มึงเรียนที่อเมริกามากี่ปี"

"หืม ก็ตั้งแต่ป.1. น่ะครับ"

"เหรอ งั้นอนุบาลมึงเรียนที่ไหน"

"ก็เรียนโรงเรียนอนุบาลไงครับ"

"กูรู้ ไอ้แทนฟังดีๆ กูถามว่าที่ไหน"

"ที่ห้องเรียน" แทนทำหน้างงใส่

"ไอ้เหี้ยจะเอาใช่ไหม กูถามว่าที่ไหน"

"ที่ไหน คืออะไรครับงง"

"กูหมายถึงมึงเรียนที่ไทยรึ อเมริกา" อารมณ์กูชักขึ้น

"อ้าว! ถึงซะแล้ว ป่ะกินฟรี"

เออ อยู่ดีๆ แม่งก็ถึง ป่ะไปแดกฟรีกัน ผมสังเกตุมาหลายทีล่ะ แทนมันไม่เคยโกหกผม อันไหนที่มันจะไม่ตอบ แม่งก็เลี่ยงอย่างนี้ทุกที เอาไว้คราวหน้าค่อยเอาใหม่ล่ะกัน ก็มันหิวน่ะ

ผมเดินลงมาพร้อมมุ่งหน้าเข้าห้าง แต่กับถูกไอ้แทนกุมมือพร้อมยิ้มให้

"ป่ะ ไปกินข้าวกัน"

ผมไม่มีท่าทางขัดขืนใดๆ พร้อมเดินตามไปต้อยๆ ข้างในใจมันอบอุ่น ร้อนวูบวาบ จิตใจอ่อนไหว สั่นดั่งกลองรัว มันรู้สึกแปลก ผมแหงนมองหน้าไอ้แทน ใจมันก็สั่น ไอ้นั่นก็........ เหี้ย!


-----------------------------------------


กลับมาแล้ว ช่วงนี้งานยุ่งมากกกกกก ว่างปุ๊บมาปั๊บ สวัสดีปีใหม่ด้วยน่ะคะ ตอนแรกกะให้ทันคริสต์มาส แต่ไม่ทัน 5555 ขอให้คนอ่านทุกคนมีความสุขในวันปีใหม่น่ะคะ เที่ยวให้สนุกเดินทางปลอดภัยค่ะ

รักที่สุด

****Aemmilicious​

ออฟไลน์ aemmilicious

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 39
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +10/-2
ตอนที่ 20 : เสียตัวอย่างมีชั้นเชิง

ทันที่ที่ถึงร้านผมนี่แทบกระโดดเข้าตะคลุบอาหาร แต่ไอ้แทนแม่งขัด ดึงแขนไว้ก่อน ขัดกูจริงจริ๊ง

"เมียครับ นั่นหมู ไม่ใช่ไก่ แดกดิบไม่ได้ครับ" เออกูลืม     

ผมรีบเดินแทรกไปนั่งกับตือหวาน จับตะเกียบเตรียมพร้อม อีกด้านเป็น กันต์ โจ๊กและพี่หมอก เหลือไอ้แทนที่นั่งเก้าอี้เสริมตรงหัวโต๊ะ 

"แหมมึงสวีทไม่ได้เกรงใจคนโสดเลย" โจ๊กหนุ่มโฉด เอ๊ยโสดคนเดียวของโต๊ะ

"มึงไม่หาบ้างล่ะว่ะโจ๊ก มาอิจฉาคนอื่นอยู่ได้" แทนกล่าวทักทาย

"กูไม่มีเป็นตัวตน แต่ของกูไม่เคยขาดไม่แห้งแล้งเหมือนมึงน่ะครับ" โจ๊กตอบพร้อมหัวเราะ

"เอ้า พอพวกมึง ดีใจน่ะครับที่น้องหนึ่งหายแล้ว มือนี้พี่เลี้ยงกินให้เรียบครับ" พี่หมอกพ่อพระของผม ทุกคนตบมือเฮสามัคคีกันสุดก็เรื่องกินฟรีนี่แหละครับ           


ผมทักทายเพื่อนทุกคนเสร็จ แล้วก็พร้อมลงมือ เรื่องกินเรื่องใหญ่ แดกเสร็จค่อยว่ากัน ผมจ้วงสักพัก แดกไม่ลืมหูลืมตา จนเริ่มแน่น พลางวางตะเกียบ นั่งแน่นอยู่ลำพัง หันมองบรรยากาศเพื่อนๆ ทำไมมันเหม็นกลิ่นความรักแปลกๆ         

หันไปมองไอ้หวานกับกันต์ ปกติไอ้กันต์ก็เอาใจไอ้หวานอยู่แล้ว แต่นี่มันก็ยิ่งเอาใจเกินกว่าเหตุ หวานอยากได้อะไร กันต์ก็หยิบมาให้ บนสายพรานไม่มี แม่งก็วิ่งไปสั่งมาให้ จนไอ้หวานบอกจะเข้าห้องน้ำ แม่งก็แทบวิ่งเข้าไปฉี่แทน           

มาดูพี่หมอกกับตือ แต่ก่อนแม่งมีแต่ไอ้ตือตามพี่หมอกไม่ค่อยเห็นพี่หมอกมันสนใจอะไร เดี๋ยวนี้กลับเป็นพี่หมอกที่คอยเอาใจไอ้ตือ ดูแล้วมันยังไงยังไง นี่ถ้าพี่หมอกแม่งเคี้ยวให้ได้ นี่เคี้ยวให้ด้วย ไอ้ตือคงแค่กลืนลงคออย่างเดียว

"เมียครับ ปากเปรอะ" อืม มันต้องพอดีๆ พอดีแบบไอ้แทนนี่ ผมยื่นหน้าทำปากจู๋ให้เช็ด

"กินหมูนุ่มไหม แต่ร้อน เดี๋ยวผัวเป่าให้ก่อน" อืม เอาให้มันพอดีแบบนี้ ไอ้พวกนี้แม่งโอเว่อร์สัด เอาผักด้วยแทนแดกแต่หมูขาดไฟเบอร์ ผมนึกพลางเอามือชี้ไปที่ผัก ผัก ผักน่ะ

"โว๊ยยยยย อยากตาย กูพาตัวเองมาอยู่ตรงนี้ได้ยังไง แม่งบาดตาคนโสด" โจ๊กพูดไม่พูดเปล่า แม่งปาตะเกียบ ลำบากพนักงาน ต้องไปเอามาให้ใหม่ แม่งเล่นใหญ่ 

เราทั้งหกหันหน้ามองกัน หาว่าใครแม่งสวีท บ้า ทุกคนปกติ มึงน่ะผิดปกติโจ๊ก

"ใครสวีทว่ะ กูไม่เห็นมี" กันต์แย้ง

"อืม พี่ดูทุกคนก็ปกติน่ะ" พี่หมอกเสริม

"ไอ้โจ๊ก มึงดูหงุดหงิดแปลกๆ น่ะ เมนท์มึงมารึเปล่า"

จริงแทน ทุกคนพยักหน้า เห็นพร้อมต้องกันอย่างที่เห็น ไอ้โจ๊กทำหน้าหมดอะไรตายอยาก พร้อมยอมรับความผิดหนึ่งเสียงรึจะสู้หกเสียง         

เราตั้งหน้าตั้งตากินกันอย่างไม่ลดล่ะ พนักงานเดินเติมน้ำจิ้ม น้ำดื่ม จนเดินไม่ไหว เลยเอาโต๊ะมาตั้ง พร้อมวางทุกๆ อย่างให้เติมกันเองอย่างเต็มที่ เห็นพนักงานเดินบ่อยๆ ก็เกรงใจครับบอกตรงๆ นั่งกินไปคุยไปสักพักทุกอย่างก็หยุดนิ่ง เหลือเพียงหม้อเปล่าๆ ตรงหน้า ผมมองแต่ล่ะคนอิ่มจนแน่น อย่างไม่ต้องสงสัย

"กินของหวานกันไหมครับทุกคนพี่ไปตักให้" พี่หมอกมึงดูสภาพกูด้วย กูจะมีพื้นที่เหลือไหม

"ตือเอาวนิลาใส่นมเยอะๆ" แค่มึงกับพี่หมอกสองคนก็หวานจนจะเลี่ยนกันอยู่ล่ะ ยังจะใส่นม เห็นกลิ่นความรัก

"หนึ่งเอาไรไหมครับ" พี่หมอกมึงยังกล้าถามกู มึง....

"เอาเหมือนตือครับ ขอบคุณครับ"   

สงสัยกูต้องออกไปย่อย ผมยังไม่ลืมจะชวนตือกับหวานออกไปปรึกษาเรื่องไอ้แทน 

"หวาน ไปห้องน้ำเป็นเพื่อนกูหน่อย"

"หนึ่งนี่ไม่ใช่มัธยมปลายค่ะ จะชวนกูไปยืนฉี่ข้างๆ รึ"

"เออน่า ไปเป็นเพื่อนกูหน่อย ตือด้วย" ผมกระพริบตาส่งซิกถี่ๆ

"เค ตือไปด้วย" เรียบร้อยไปล่ะหนึ่งคน เหลือแต่มึงล่ะหวาน

"กระพริบตาหวานให้กูทำไม ขนลุกเพื่อนกันไม่กินกันเว้ย" หมดหนทาง ผมเลยกระทืบเท้ามันไปที

"โอ๊ย" ร้องซะลั่นเลยมึง

"เป็นไรครับหวานเรียกรถโรงพยาบาลไหม" มึงก็เล่นใหญ่ไปกันต์

"หวานปวดฉี่น่ะ ป๊วดปวด ปะ ห้องน้ำ" พูดเสร็จก็พร้อมใจกันลุกพรวดวิ่งไปห้องน้ำ

"สงสัยหวานจะปวดมากเดินตัวงอเลย" แหม กันต์มึงห๊วงหวงกันเนอะ ขี่คอตามหวานมาเลยไหมมึง

เดินมาสักพักผมก็มาหยุดตรงหน้าห้องน้ำ

"หวาน ตือ กูมีเรื่องจะปรึกษา"

"ทำไมไม่เข้าไปคุยในห้องน้ำ" หวานถาม

"หวานแต่นั่นมันห้องน้ำชาย"

"เออ ห้องน้ำชายสิดี กูอยากเข้ามานานล่ะ"

ยังไม่ทันจะห้ามอะไรหวานก็ก้าวพลวดเข้าไป พร้อมส่งเสียงทักทาย

"เชิญกันตามสบายน่ะคะ ถือว่ามาทัศนศึกษาล่ะกันค่ะ ไม่รบกวน"

มันจะรบกวนตรงประโยคมึงนี่แหละ เอาซะคนวิ่งออกจากห้องน้ำแทบจะไม่ทัน

"กูลองยืนฉี่ได้ไหมมึง" หวานหันมาถามความเห็น

"กูว่าฉี่ในห้องไหมมึง เอาไว้ตอนมึงเมาค่อยลอง"

"หวานพยักหน้าเห็นด้วย" โล่งเลยกู

ต่างคนต่างไปทำธุระ แล้วมาเจอกันตรงอ่างล้างมือ

"หวาน ตือ กูมีเรื่องจะปรึกษา" พูดเสร็จไม่ทันจะเข้าเรื่องหวานตอบกูเรียบร้อย

"ครั้งแรก ไม่เจ็บมากมึง กูว่ามึงต้องทนได้" หวาน อืม ขอบใจมึง ไม่ใช่โว้ย ผมส่ายหน้า

"อ้อ มึงก็ทำความสะอาดปกติมึง แต่อาจจะต้องใช้สายฉีดเข้าไป กูอธิบายไม่ถูก ลองหาใน google ดู" ตือ อันนี้ก็ไม่ใช่มึง

"หยุด ตั้งใจฟังกูอย่าพูดแทรก กูพูดไปพวกมึงอย่าตกใจกันน่ะโว้ย" เพื่อนทั้งสองพยักหน้าอย่างสอดรู้สอดเห็น สรุปห่วงกูชิมิ

"แทน มัน....มันรู้จักกูตามจีบกูมาตั้งแต่อนุบาล" ตกใจกันล่ะสิ ผมพูดเสร็จพลางดูกริยาของเพื่อน

"เออ แล้วยังไง รีบพูดกูจะไปแดกของหวาน ไอติมกูละลาย" หวานกูเพื่อนมึงน่ะ นี่เพื่อนไง

"ทำไมไม่ตกใจ"

"โอยยยย กูรู้ตั้งนานล่ะ" หวานพูดพลางแคะเล็บอย่างเซ็งๆ

"ตั้งแต่มันมาจีบมึงใหม่ๆ ล่ะ ไม่งั้นมันจะเข้าหามึงได้ง่ายๆ รึ กูเคยปล่อยให้ใครมายุ่งกับเพื่อนกูง่ายๆ ไหม คิดคิดคิด" เออ จริงทำไมกูไม่เอ๊ะใจ หวานเพื่อนเลว

"ทำไมไม่บอกกู"

"กูต้องบอกเหรอ" เออ ไอ้เหี้ยหวานต้องบอกกูสิ ปล่อยกูโง่ตั้งนาน

"สรุปมีไรตื่นเต้นกว่านี้ไหม" ไอ้หวานในเมื่อมึงเรียกหาความตื่นเต้น

"ไอ้แทนมันมีไอจี ในนั้นมีรูปกูตั้งแต่อนุบาล" ช็อก ช็อกล่ะสิ

"อืม เมื่อเช้ากูก็ไปคลิ๊กไลน์มา มันถ่ายรูปสวยเนอะ" ไม่ใช่ตือมึงอย่าเบี่ยงประเด็น

"มึงรู้ได้ยังไง"

"อืม พี่หมอกบอก นี่ก็คลิ๊กไลน์ให้ตลอด" ไอ้เหี้ยทำไมไม่มีใครบอกกู

"สรุปมึงมีอะไรที่มันใหม่ แล้วน่าตื่นเต้นกว่านี้ไหม"

อะไอ้เหี้ย เอาให้หมด

"ช่วงนี้กูรู้สึกแปลกๆ ว่ะ"

"แปลกยังไง"

"คือกูเห็นไอ้แทน แล้วกูมีอารมณ์แบบ...."

"โอ๊ยยยย แม่งกวนตีนขนาดนั้น เป็นกูก็อารมณ์เสีย ปกติ ปกติ" อย่าขัดกูได้ไหมว่ะหวาน

"คือกูเห็นแล้วกูแบบแข็ง" โอยยยย พูดแล้วกูก็อาย

"แข็งแบบอารมณ์กรี้ยวกราดงี้ ปกติมึง แทนแม่งชอบกวนตีนไง" ตือไปวิ่งเล่นกับหวานด้านโน่นเลยมึง

"โว๊ยยยย Kกูนี่แหละ เห็นไอ้แทนแล้วKกูแข็ง โอเคไหมเคลียร์"

"เออ นี่สิแปลกใหม่" หวานตบมืออย่างชื่นชม

"หนึ่งรู้สึกยังไงกับแทน" ตือถาม เป็นงานเป็นการ หวานมึงหยุดเล่นก่อน

"ก็อยู่ใกล้ แล้วใจมันสั่นๆ วูบวาบวูบวาบ"

"มึงเงี่ยนน่ะสิหนึ่ง เพื่อนกูจะเสียซิงแล้วโว๊ย" ตือหันหน้าไปจิปากใส่หวานเล็กน้อย

"หนึ่งแค่มีอารมณ์กับแทนน่ะ" ตือ ไอ้เหี้ยมันความหมายเดียวกับประโยคไอ้หวานเมื่อกี้ป่ะ ความหมายมัยเหมือนกันไหมว่ะ เหมือน รปภ กับเซอร์เคียว แต่เออกูจะหื่นก็ต้องหื่นแบบผู้ดี ขอบคุณมึงมากตือ

"แล้วแทนมันไม่ทำอะไรมึงรึ" หวานถามอย่างลุ้นสุดตัว

"มันก็บอกจะทำ แม่งก็แกล้งๆ แล้วมันก็ไป ไม่ทำไรสักที"

"ตายๆ เพื่อนกูรอผู้ชายมาลวนลาม อารมณ์เสียผู้ายไม่ลวนลาม ตาย ตายตาย" หวานส่ายหน้าอย่างระอา"

"ปล้ำแทนไหมหนึ่ง" ตือ กูน้ำตาจะไหล

"กูทำไม่เป็น" เหี้ยกูจะร้องไห้ในความอ่อนหัดของตัวเอง

"ถ้ามึงทำไมเป็น มึงก็ต้องอ่อยมัน ให้มันมาทำแทน" เออตั้งแต่มึงคุยมา มีอันนี้แหละที่กูเห็นด้วย

"บอกแทนตรงๆ มันง่ายกว่าหรือเปล่าหวาน" ตือเสนอทางเลือก

"ไม่ได้มึง เสียตัวทั้งทีมันต้องมีชั้นเชิง" แหม หวานกูเลือกคนไม่ผิดจริงๆ

"เดี๋ยวกูคิดวิธีให้ เดี๋ยวพวกเราออกไปแดกก่อนอยู่นานไม่ได้" หวานทำหน้าเคร่งเครียด

"เดี๋ยวไอ้แทนสงสัยใช่ไหม" แหมกูโง่มานาน ฉลาดล่ะกูทีนี้

"สงสัยเหี้ยไรล่ะมึง ป่านี้ไอติมกูละลายเป็นน้ำล่ะ แดกก่อนล่ะค่อยคิด ไปๆ"

กูจะร้องไห้.....           


ตอนนี้ทุกคนแยกย้ายกันเป็นที่เรียบร้อยแล้วครับ เพราะใกล้เวลาที่ห้างจะปิดล่ะ จะเหลือแต่ผมกับแทนที่ยังเลือกซื้อของในซุปเปอร์เพราะเป็นส่วนที่ปิดดึกกว่าส่วนอื่น เลือกซื้อของตอนนี้ก็ดีน่ะครับ คนน้อย เลือกเพลินดี ไอ้นี่ก็น่ากิน ไอ้นี่ก็น่าลอง ไอ้นี่ก็อร่อย เลือกไม่ถูกเว้ย ซื้อแม่งหมดเลย

"เมียครับ สติครับ ซุปเปอร์ไม่ย้ายหนี เอาไว้ซื้อคราวหน้าบ้างก็ได้ครับ ไม่ได้เอารถสิบล้อมา ใจเย็นหน่อยครับ"

"เลี้ยงไม่ไหวเหรอมึง กูจ่ายเองน่าอย่ากังวล" ผมตบอกตัวเอง ป๋ากว่ากูจะหาใครเทียบ

"เมียคนเดียวเลี้ยงไหวอยู่แล้วครับ แต่เมียแดกหมดน่ะครับ" บ้า มึง แม่งหน้าแดงๆ

"เอ้า ช่วยกันกินไง อยู่กันสองคน นี่ซื้อเผื่อกินกันสองคน กูทำไรคิดถึงมึงตลอดแทน" มึงคิดว่ากูซื้อไปแดกคนเดียวรึ บ้าน่าแต่กูแดกคนเดียวก็หมดน่ะ กูเป็นคนจิตใจดีคิดถึงมึงตลอด แม่งพอพูดงี้ไอ้แทนทำท่าเขินพร้อมยื่นบัตรมาให้รูด แม่งถ้ารู้อย่างงี้กูพูดนานล่ะ ป๋าจริงๆ สักพักหวานแม่งก็ไลน์มา


หวานกว่าน้องนี้หาที่ไหน: อยู่ไหนมึง

Nueng: ซุปเปอร์ชั้นล่าง

หวานกว่าน้องนี้จะหาไหน: ดี มากูจะสอนมึงอ่อยไอ้แทน

ผมอ่านวิธีอ่อยที่หวานส่งมาให้ มันจะดีเหรอว่ะแต่หวานบอกได้ผลมึงลองดู เออ เอาก็เอาว่ะ


วิธีที่ 1: ไร้เดียงสา อ่อนต่อโรคเหมือนไม่มีสมอง

หวานอธิบายสั้นว่า ผู้ชายส่วนมากชอบผู้หญิงแบบใสๆ แบ๊วๆ ไร้เดียงสา ไม่ประสีประสาเรื่องอย่างว่า แม้ผมจะแย้งว่า กูเป็นผู้ชาย แต่แม่งก็เถียงว่าไอ้แทนแม่งก็ฟันหญิงมาทั้งมหาลัยล่ะ เหลือแต่คณะบดีที่ยังไม่โดน เออจริง ต่อมึงหวานกูผิดเอง ไร้เดียงสาเหรอ อืมมมมม ทำไงว่ะ อ้อกูรู้ล่ะ โชคดีที่กูฉลาด หวานกูจัดให้ตั้งแต่ในซุปเปอร์เลยล่ะกัน 

ผมเดินทุกแผนก จนถึงแผนกเป้าหมาย ใช่ครับแผนกถุงยาง

"แทนอันนี้อะไรน่ะ" ผมพูดพลางหยิบกล่องถุงยางมากล่องนึง เป็นไงมึง แบ๊วพอไหม

"ถุงยางไงครับเมีย" แทนทำหน้างงใส่

"ถุงยางคืออะไร" ตาย มึง หลงกูตายแน่

"ถุงยางคือถุงยางครับเมีย" อึ้งล่ะซิมึง เจอใสๆ เป็นไง เป็นไง

"อืม แล้วมันใช้ยังไงล่ะ งง" เสร็จกู เดี๋ยวแม่งต้องชวนกูไปสอนวิธีใช้ชัวร์ ทำไมมันง่ายอย่างงี้

"รู้สึกมันมีวิธีใช้ด้านหลังน่ะครับ อ้อ ต้องซื้อน้ำเปล่าด้วย สักสองแพ็ก"

พูดเสร็จแม่งก็ทิ้งกูให้ค้างแล้วเดินไปหาน้ำเปล่า ปล่อยกูให้อ่านวิธีใช้  ทำไมทำกับกูอย่างงี้             

ผมนั่งรถมาอย่างเซ็งๆ พร้อมนั่งทบทวนวิธีที่หวานส่งมา ถึงห้องปุ๊บกูจะเริ่มปฏิบัติการทันที ไม่รอดแน่นแทนเอ้ยยยย

วิธีที่ 2: ยั่วยวนด้วยเนื้อหนังมังสา

 "มีคนเคยกล่าวไว้ว่าผู้ชายจะคิดเรื่องเพศทุก 5 นาที แต่ไอ้แทนน่าจะทุกๆ 5 วิ ฉะนั้นการที่มึงเปิดเนื้อตัวเผยเรือนร่าง ย่อมกระตุ้นอารมณ์ของอีกฝ่ายได้ดี ขี้คร้านมันจะทนไม่ได้กระโดดปล้ำมึง" โอยยยย แค่คิดเลือดกำเดากูก็แทบพุ่งกระชูด

ทันที่ถึงห้องวางของปุ๊บ ผมนี่รีบพุ่งไปอาบน้ำ พร้อมตะโกนขอยืมชุดไอ้แทนมาใส่ เจ้าตัวก็ดูไม่ว่าอะไรเสร็จ เสร็จกูแน่ๆ ผมรีบอาบน้ำขัดสีฉวีวันขัดตั้งแต่ซอกคอยันซอกไข่ โดนยังไงวันนี้ก็ต้องโดน กูเห็นในละครทำบ่อย แม่งสำเร็จทุกครั้ง แทนเสร็จกูแน่ ผมอาบน้ำจนมั่นใจว่าสะอาดทุกซอกทุกมุม ไม่ลืมฉีดน้ำหอม เอาให้แบบกลิ่นยั่วยวนนิด ผมรีบเช็ดหัวให้หมาดๆ กึ่งแห้งกึ่งเปียก พร้อมเอาเสื้อเชิร์ตไอ้แทนมาใส่ ผมเคยดูในละครเวลาผู้หญิงใส่เชิร์ตผู้ชายแล้วแบบไหล่ตกแม่งโครตเซ็กซี่ ลองทำดูเผื่อเวิร์ค โอยยยย แค่คิดก็เสียว ในเมื่อทุกอย่างเรียบร้อย ผมไม่รอช้า แทบจะเอาตีนถีบประตูพุ่งไปหาแทน ไหนว่ะ ผมมองหาไอ้แทนสักพัก เห็นกำลังง่วนกับการจัดของใส่ตู้เย็น ให้มันรู้ไปแทนว่ากูเอาชนะตู้เย็นไม่ได้         

ผมจัดเสื้อให้ไหล่ตกข้างนึง พร้อมเดินไปหาแทน ยังไม่ทันไร แทนแม่งก็จ้องตาไม่กระพริบ เป็นไงมึง อึ้ง อึ้งเลย

"เมียครับนี่ฉีดหรืออาบน้ำหอมครับ ทำไมฉุนขนาดนี้ แล้วนี่ฉีดน้ำหอมนอนรึครับ" อ้าว กูฉีดเยอะไปรึ มึงคิดว่ากูจะยอมแพ้ง่ายๆ รึ ผมรีบไปยืนใกล้ พร้อมสะบัดผมเล็ก ทำท่าใสๆ ยั่วยวนใส่ เสร็จ เสร็จกู

  "เมียครับ ทำไมไม่เช็ดผมให้แห้ง สะบัดผมทีพื้นเปียกหมดแล้ว ไปไดร์ผมให้แห้งเลย" แม่งไล่กูเข้าห้องเฉยเลย ใช่ครับ ผมแพ้ตู้เย็น แม่งสนใจตู้เย็นมากกว่ากู           

ผมไดร์ผม พร้อมคิดแผนการใหม่ ยังไงคืนนี้มึงก็ไม่รอดแทน

ผมเดินออกไปอีกที เมื่อมั่นใจว่าผมแห้งแล้ว แม่งมองผมแวบนึง แล้วจัดของต่อ กูกับผู้เย็นมึงเลือกใคร

"แทน หนึ่งหิวววว ขอนมแก้วนึง" กูคงต้องหาตัวช่วย

"โอยเมียครับ ที่แดกไปเอาไปเก็บไว้ไหนครับ หิวอีกแล้ว"

"เออน่า จะแดก เอามา กูวัยกำลังกิน กำลังนอน" ผมทำท่าจิปากเล็กน้อย แทนมันไม่ว่าอะไร เข้าแผนกู

"อุ๊ย.... นมหก เลอะหมดเลย" ผมพูดเสร็จพลางปดกระดุมเสื้อจนเกือบหมด แทนหันมามองตาค้าง เป็นไงมึงเจอของขาวอย่างกูไป มาปล้ำกูซะดีๆ

"แดกแค่นี้ยังหก คราวหน้าใส่ขวดนมให้ดูดดีไหมครับ" เหี้ยแทน มึงไม่อ่อนโยนกับกูน่ะ สัดเอ๊ย

"ไปล้างแล้วเปลี่ยนชุดเลยเดี๋ยวเหนียวตัว เดี๋ยวตรงนี้ผัวเช็ดเอง" แม่งไล่กูอีกแหละ มึงมันกามตายด้าน ผมเดินคอตกเข้าห้องพร้อมพิมพ์บอกหวานว่าแผนล้มเหลวเพียงใด หงุดหงิดเว๊ย

ผมจึงต้องพับโครงการ แล้วไปอาบน้ำอีกรอบ กูหมดอารมณ์จะยั่วมึงล่ะ ใส่แม่งขาสั้นเสื้อยืดเก่าๆ เป็นตัวของตัวเองสัด เดินมาคีบห่อขนมพร้อมหนังสือการ์ตูนหนึ่งเล่ม ทำตัวสบายตามที่มึงบอกเป๊ะออกมาเห็นแม่งจ้องแลปท็อป สงสัยแม่งเล่นเกมส์ มึงมันไม่อ่อนโยน เดินไปนอนตายตรงโซฟาหน้าทีวีละกันกู 

"เมียดูผลสอบยังครับ"

"ผลสอบ" อะไรงง ผมรีบเดินไปดูแลปท็อป

"ผัวได้คะแนนรวม 3.78 เมียได้เท่าไหร่" เอ๋ แทนมึงเรียนเก่งเหมือนกันนี่ เดี๋ยวน่ะ ผลสอบ ผลสอบ ใช่ผลสอบ แม่งเอ๊ยทำไมกูคิดไม่ได้

"อ้าวตายละ กูได้ 2.50 แม่งแพ้มึงเลย เดี๋ยวกูไปแก้ผ้ารอบนเตียงน่ะ แม่งแพ้ แย่แย่แย่ แต่ลูกผู้ชายต้องรักษาคำพูด" ผมเดินส่ายหัว เข้าไปห้องนอน แต่พอลับตา ห่าเอ๊ยยย ทำไมเสียตัวที มันง่ายแบบนี้ รู้งี้กูไม่ต้องไปยั่วมันให้เสียเวลา สบายใจ ผมเดินพลางร้องเพลงอย่างสบายอารมณ์


---------------------------------------------------------------------------

 ** **
Tan Part

หืม... ทำไมไม่ขัดขืน แถมยังดูอารมณ์ดีแปลกๆ ผมงงกับพฤติกรรมของหนึ่งมาก หรือแม่งเมานม แล้วไอ้คะแนน 2.50 นี่ คือเรื่องจริงหรืออะไร ผมคิดสักพักก็ต้องกดเข้าไลน์เห็นการแจ้งเตือนในกลุ่ม 


กันเอง นี่กันไง: เอาเงินมาเลยโจ๊กมึงแพ้

โจ๊ก เก้านิ้ว: โหยยย กูน่าจะพนันข้างน้องหนึ่ง กูไม่น่าเข้าข้างไอ้แทน ใครคิดว่าน้องหนึ่งจะได้ 3.99 อีก 0.01 จะเหลือไว้ทำไมครับ"

กันเอง นี่กันไง: เอาแรงไปคร่ำครวญที่อื่นมึง แพ้พนันก็ต้องจ่าย เอาเงินมา โอนมา ไม่รีบ พร้อมทิ้งเลขบัญชี

โจ๊ก เก้านิ้ว: สัดดดด เอ๊ย มีเพื่อนโง่ เสียใจ


หืมมมมมม?

-----------------------------------------------------

กลับมาแล้ว ขาดๆ หายๆ บ้างต้องขอโทษด้วย ด้วยงานอะไรต่างๆ     

จะพยายามเขียนให้ได้อาทิตย์ละตอนน่ะคะ

รักทุกคน Happy New Year ค่ะ

Aemmilicious

ออฟไลน์ aemmilicious

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 39
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +10/-2
ตอนที่ 21 : โซ่ แซ่ กุญแจมือ [Full Version With NC]

แทน

จะว่าไปช่วงนี้หนึ่งก็ดูแปลกๆ ทำตัวแปลกๆ หรือโกหกมีเรื่องอะไรปิดบังอยู่ อืมมมม ยิ่งคิดยิ่งสงสัย แล้วทำไมวันนี้ยอมง่ายจัง ปกติต้องแข็งขืน นี่ไม่รีบวิ่งไปแก้ผ้านอนรอแล้วรึ หรือไปทำอะไรผิดมา ไม่ได้ ไม่ได้ ต้องหาทางถามให้รู้เรื่อง ไอ้อยากมันก็อยาก แต่ยังไงต้องถามให้รู้เรื่อง แต่ถามดีๆ คงไม่ตอบ งั้นคงต้องวิธีนี้สินะ

  ผมเดินเข้าห้องนอนอย่างระมัดระวัง ไม่แน่มันอาจจะหลบหลังประตูตีหัวผมสลบแล้วนอนอย่างสบายใจก็เป็นได้ เจ้าเล่ห์แบบนี้ มีคนเดียวล่ะครับแฟนผม   

ผิดคาดหนึ่งนั่งรออย่างสงบอยู่ริมเตียง ดูลุกลี้ลุกลนชอบกล ไม่ได้ล่ะต้องเค้นให้รู้เรื่อง แล้วค่อยปล้ำยันเช้า อิอิ

"แทนมานี่ มานี่"

หนึ่งลุกขึ้นมาพร้อมดึงผมไปกอด ดูหนึ่งตัวสั้นๆ ประหม่า แต่ก็ยังทำใจกล้า

"ทำไมวันนี้ยอมง่ายจัง รู้ไหมครับจะเกิดอะไรขึ้น"

หนึ่งไม่พูดอะไรแต่พยักหน้าเข้าใจ ตบะก็จะแตก เรื่องค้างคาก็ต้องถาม แม่งเอ๊ยยยย เอาเลยล่ะกัน


ผมดันหนึ่งนอนลงบนเตียง ค่อยๆ คลายกอดให้หลวมขึ้น ดันคนข้างล่างลงนอนในท่าที่สบาย หนึ่งคงยังไม่ขัดขืนแถมคล้อยตามอย่างง่ายดาย ผมค่อยๆ ลูบเข้าไปใต้เสื้อ เพื่อสัมผัสผิวกายของหนึ่งช้าๆ หนึ่งเอ่ยเสียงครางเบาๆ ผมไม่รอช้าบรรจงจูบ สัมผัสริมฝีปากเบาๆ สองสามที ก่อนจะส่งลิ้นเข้าไปช่วงชิงรสหวานร้อนแรงภายในช่องปาก ผมจับมือหนึ่งข้างนึงขึ้นเหนือหัว ยังคงจูบอย่างไม่ลดล่ะ ลมหายใจของเราสองคนเริ่มหายใจติดขัด ผมเอื้อมมือไปกระเป๋าหลังกางเกงล้วงกุญแจมือมาคล้องมือข้างของหนึ่งอย่างนุ่มนวลพร้อมคล้องกุญแจกับหัวนอน เรียบร้อย โอยยยย เกือบตาย ลูกพ่อใจเย็นๆ ก่อนยังไงคืนนี้ได้แน่ลูก ยังไงหนึ่งมันหนีไม่รอดล่ะ ผมพูดปลอบใจแทนน้อยที่พร้อมรบเต็มที่

"เอ๋?" หนึ่งทำหน้าสงสัย

"เมียจะตอบได้ไหมครับ ว่าทำไมวันนี้ยอมง่ายๆ"

"เอ๋???????"

"ไปทำอะไรผิดมาไหม จะสารภาพไหม ทำไมยอมง่าย"

"เอ๋??????????"

"ถ้าพูดเอ๋อีกคำ เอาแซ่ตีนะ" ผมพูดขู่พลางเดินไปหาแซ่

"เอ๋???? เฮ้ยยยยไม่ใช่ ไอ้เหี้ยแทนมึงไปเอาของพวกนี้มาจากไหนอ่ะ ไอ้เหี้ย สาดิสต์รึไงมึง"

"โจ๊กซื้อมาฝากตอนไปญี่ป่นครับเมีย ไม่ชอบซาดิสต์ แต่ไม่ตอบก็คงต้องทำ"

ผมพูดพลางฟาดแซ่ลงบนพื้นเสียงดังสนั่นจนหนึ่งสะดุ้งลุกมานั่ง

"พี่แทนใจเย็นนะครับ น้องหนึ่งว่าเรามาคุยกันก่อนดีกว่า" หนึ่งทำใจดีสู้เสือ พร้อมทำท่าอ้อนวอน

"งั้น เมียก็ต้องตอบมาดีๆ ครับ ทำไมยอมง่ายๆ ไปทำอะไรผิดมาสารภาพมาซะดีๆ" ผมทำหน้าเคร่งครึม

"จริง กูก็ไม่เต็มใจหรอกมึง แต่กูแพ้พนันมึงไง กูเลยต้องจำใจยอม ลูกผู้ชายต้องรักษาคำพูดไงมึง ไม่งั้นกูจะยอมมึงง่ายๆ เหรอ"

"อย่ามาโกหก"

"เอ๋???" ทำไมวันนี้เอ๋หายครั้งจัง ผมถอนหายใจพร้อมยื่นไลน์สนทนาของเพื่อนในกลุ่มให้ดู

"เอ๋?????" คราวนี้เอ๋อย่างเดียวไม่พอ แม่งขึ้นเสียงสูงด้วย

"สรุปว่ายังไงครับเมีย อย่ามาโกหก" ขู่ไปแม่งก็ไม่กลัว สงสัยต้องเน้นอุปกรณ์

หนึ่งยังคงไม่ตอบแถมลุกขึ้นมาทำท่าแกะและกระชากกุญแจมือ กระชากแรงๆ แม่งไม่รู้จะขาดไหม ขาดไปเดี๋ยวเสียเรื่อง ต้องรีบจบเรื่อง ไอ้โจ๊กแม่งบอกซื้อมาจากร้านเซ็กทอยที่ญี่ปุ่น ไม่รู้แม่งจะทนทานขนาดไหน

"ไม่บอกใช่ไหมครับ"หนึ่งยังไงเงียบแข็งขืน ดีได้ครับ

"งั้นก็ต้องมาให้ครบ กุญแจมือ แซ่มาแล้ว ขาดอะไรน้าาาา อ้อเทียน ต้องมีเทียนสิน่ะครับ"

ผมพูดพลางเอื้อมมือไปหยิบเทียนไขอันเล็กที่ใช้จุดตอนไฟดับที่หัวเตียง

"พี่แทนครับ น้องหนึ่งว่าแค่นี้ก็พีกมากแล้ว พี่แทนอย่าเล่นเทียนดีกว่า เดี๋ยวไฟไหม้จะลำบาก" หนึ่งพูดปลอบพร้อมทำหน้าน่าสงสาร

"นั่นสีครับ เทียนแค่นี้ต้องมากังวลว่าไฟไหม้ไหม งั้นเอาอันใหญ่ดีกว่า จะได้รู้ว่าไฟไหม้ชัวร์ ไม่ต้องกังวลสบายใจ"

พูดเสร็จผมเอี้อมมือไปหยิบเทียนหอมบนหัวเตียงที่ขนาดแทบจะใกล้เคียงกับเทียนพรรษา แต่สั้นกว่ามาก อย่างน้อยก็ผ่อนคลายล่ะวะ นี่ผัวเป็นคนดีนะครับกลัวเมียเครียด

"เฮ้ยยยย ไอ้แทน มึงไม่อ่อนโยนกับกูนะ"

"เมียครับจะบอกหรือไม่บอก ว่าแต่ราดน้ำตาเทียนตรงไหนดีน้าาาา" 

"บอกแล้ว บอกแล้ว แทนมึงอย่านะ" เรียบร้อย

ผมดับเทียน พร้อมลากเก้าอี้มานั่งสอบสวนข้างเตียง

"สรุปเมียไปทำอะไรผิดมารึเปล่า" หนึ่งส่ายหัว

"โกหกอะไรอยู่ไหมครับ" หนึ่งก็ยังส่ายหัว

"สรุปมีอะไร ทำไมถึงทำตัวแปลกๆ"

"คือ.....กูจำได้แล้ว" หืม?

"จำอะไรได้ครับ"

"กูจำมึงได้แล้วแทน" อะไรงง

"ทำไมเมียพูดวกไปวนมา พูดไม่เคลียร์ จุดเทียนคุยล่ะกันสว่างดี"

ผมพูดพลางจะหันไปจุดเทียน แต่ต้องค้างเพราะคำพูดต่อมาของหนึ่ง

"กูจำมึงได้แล้ว ว่ามึงกับกูเคยเรียนด้วยกันตอนอนุบาล"

ผมตกใจแทบตกโต๊ะ เพราะหนึ่งไม่มีทีท่าว่าจะจำได้เลยแม้แต่น้อย อยู่ดีๆมาจำได้ ระลึกชาติได้ว่างั้น

"แล้วทำไมยอมง่ายๆ" ต่อให้หนึ่งนึกขึ้นได้ว่า เราเคยเรียนด้วยกันมา แต่นั่นก็ไม่ใช่เหตุผลที่หนึ่งจะยอมมีอะไรกับผมง่ายๆ เพราะหนึ่งไม่เคยมีท่าทีที่จะรักหรือห่วงใยผมมาก่อนอย่างที่เป็นอยู่ทุกวันนี้ มันต้องมีอะไรกว่านี้แน่นอน

"คือ...กู..."

"โอ๊ย ชักช้า หน้ามืด จุดเทียนโว๊ย"

"คือกูเห็นไอจีแล้ว" หืม ไอจีอะไร

"ไอจีอะไร" หรือว่า...

"ไอจีที่มึงสร้างให้กูนะ ที่มีแต่รูปกูนะ" ตายตายตาย ทำไมความลับที่ไม่เคยบอกทำไมมันรั่วไหลไปแค่วันเดียว

"รู้ได้ยังไงใครบอกครับ"

"แม่บอกตอนอยู่โรงพยาบาล.... พึ่งว่างเข้าไปดูวันนี้" พูดอยู่ดีๆ แม่งกูนั่งก้มหน้า เอามือจิ้มเตียง

เฮ้ออออ แม่ยายนะแม่ยาย เอาความลับมาเปิดหมดเลย กะจะแกล้งไปเรื่อยๆ สักหน่อยหมดกัน แต่ช่างเถอะครับไม่รู้วันนี้วันหน้าก็ต้องรู้อยู่ดี

"แล้วทำไมยอมง่าย.... เห็นรูปตัวเองแล้วมีอารมณ์งี้"

"ไม่ใช่มึง.... คือกู.....  แบบ....."

"แบบ?"

"คือกูไม่รู้จะบอกมึงยังไง คือกูเฮ้อ..... กูแบบ...."

"หน้ามืดอีกแล้วสิครับ ทำไมติดๆ ขัด จุดเทียนล่ะกันครับ"

"กูเห็นมึงแล้วกูมีอารมณ์นะ กูใจสั่นๆ ร้อนวูบวาบ อยากกอด อยากจูบอยากโดนลวนลาม" หนึ่งรีบพูดแล้วแม่งหน้าก็แดง หันไปจิ้มเตียงต่อ

ผมชะงักไปชั่วขณะ หลังจากได้ยินความในใจของหนึ่ง

"แล้วยังไงอีกครับเมีย" ผมวางเทียน พร้อมย้ายมากอดคนที่อยู่บนเตียง

"ถ้าทำแบบนี้แล้วใจสั่นไหม" ผมเอื้อมมือไปโอบกอด พร้อมส่งริมฝีปากเข้าไปประกบช้าๆ พร้อมสอดลิ้นใส่เข้าไปช่วงชิงความหวาน มันค่อยๆ เป็นค่อยๆ ไปช้าๆ ไม่รู้ว่านานเท่าไหร่ จนหนึ่งดิ้น เหมือนจะเรียกร้องลมหายใจ

"ทำแบบนี้ล่ะครับรู้สึกยังไง"

"อืม มันใจสั่นๆ....ร้อนวูบ...อยากได้อีก" พูดเสร็จแม่งก็หน้าแดง

ผมไม่รอช้ารีบกดคนข้างล่างลงกับเตียง ลากลิ้นเลียไปที่กกหู หนึ่งผวาโผเข้ากอด ผมจึงค่อยๆ ลากลิ้นช้า เข้าไปกดจูบแสดงความเป็นเจ้าของที่คอ จูบจนคอห้อเลือด หนึ่งสะดุ้งเล็กน้อย

"แล้วแบบนี้ละครับ รู้สึกยังไง"

หนึ่งเงียบ หน้าขึ้นสีแดงจนมองเห็นได้ชัด

"ไม่ตอบใช่ไหมครับ แสดงว่าไม่รู้สึกต้องทำอีกข้าง"

"เฮ้ยยยย... รู้สึกดีมึง มันแปลกๆ กูว่ากูแบบ" หนึ่งไม่พูดต่อ แต่ชี้มือไปที่หนึ่งน้อยที่แข็งสูสี กับแทนน้อย

ผมไม่รอช้ารีบดูดคอขาวเข้าให้ ประทับรอยไปอีกรอย

"อืม....  ตอบแล้วทำไมยังกัดคอกูอีก"

"คำตอบน่ารัก ต้องให้รางวัล"

ผมขึ้นคล่อมคนด้านล่าง พร้อมลุกขึ้นนั่งปลดกระดุมเสื้อเชิร์ตตัวเอง พลางมองคนด้านล่างที่มองมาอย่างกล้าๆ กลัวๆ ใจนึงก็อยากดูอีกใจนึงก็กลัวล่ะสิครับ

"แทน"

"ว่าไงครับเมีย" ผมก้มลงนอนทับพร้อมถอดเสื้อยืดของหนึ่งออก

"ขอโทษน่ะ ที่กูจำมึงไม่ได้ ขอโทษที่ทำให้มึงต้องรอนานขนาดนี้ คือ..." พูดเสร็จแม่งก็เขินเอง

"คืออะไรครับ"


"....หนึ่งรักแทนน่ะ"


สิ้นประโยค ผมเหมือนได้ยินเสียงพุจุดฉลองอยู่ด้านนอก อย่างกับช่วงปีใหม่ มันดั่งสนั่น สว่างไสวสวยงามจนไม่สามารถบรรยายออกมาเป็นคำพูด ทำให้ใจผมชุ่มชื้นหลังจากขาดน้ำมานาน และแล้ววันนี้ก็มาถึง วันที่คนที่ผมรักที่สุดรับรักและรักตอบกลับมา มันทำให้รู้ว่าความพยายามในหลายปีที่ผ่านมาไม่สูญเปล่า ผมก้มลงเลียซอกคอต่อ ลากมาเรื่อยๆ จนถึงยอดอก ผมก้มลงดูดจนหนึ่งแอ่นตัวขึ้นจึงขบลงไปเล็กน้อย ไม่ลืมที่จะใช้มือเขี่ยอีกข้าง สับไปมาจนคนได้ล่างหายใจหอบไม่ได้สับ จึงเปลี่ยนเลื้อยลงมาเรื่อยๆ จนถึงกางเกงขาสั้น เชือกผูกเอว ผมเอื้อมมือไปกระตุกเชือก แต่ต้องโดนมืออีกคนขัดก่อน

"แทนมึงไม่ปลดกุญแจมือหรือ" ผมนั่งคิดสักครู่ จึงตอบไปอย่างอ่อนโยน

"ไม่เอานะครับ เดี๋ยวเมียหนี" มาต่อครับ

"แล้วเมื่อไหร่จะปล่อย" ขัดกูจังครับเมีย

"เดี๋ยวเสร็จรอบหนึ่งก่อนค่อยปล่อย" อืม ทำไมผมฉลาดแบบนี้ มามา ต่อกันดีกว่าครับ

"มีหลายรอบเหรอ ทำไมมีหลายรอบเอารอบเดี๋ยว" เมียครับทำไมขัดผัวจัง รอบเดียวก็รอบเดียว เสร็จก็นับหนึ่งใหม่ อิอิ

"รอบเดียวก็รอบเดียวครับ" โอมมมม จงเชื่อกู จงเชื่อกู

"มึงต้องอ่อนโยนกับกูไม่ทำกูเจ็บนะ" โอยยยย กูจะไม่ไหวแล้ว

"ครับอ่อนโยนครับ" มา ต่อกันสักที

"แล้วไม่เจ็บล่ะ ไม่เจ็บด้วย"


ตึงงงงงง

เสียสติที่ขาดไปแล้ว ผมไม่พูดพร่ำทำเพลงดึงกางเกงหนึ่งพรวดเดียวหลุดทั้งกางเกงในกางเกงนอก เมียกระเถิบขึ้นหัวเตียง ผัวก็ตามไปติดๆ เอาจนหัวชนหัวเตียงจนไม่มีทางไปล่ะ มาต่อกันครับ 

ผมค่อยๆ เอามือจับแกนกลางค่อยๆ รูดขึ้นรูดลง พร้อมมองหน้าคนที่หมดทางสู้ ผมไม่ลืมกดนิ้วไปเล่นน้ำใสๆ ที่ออกมาบริเวณตรงหัว จนทำให้หนึ่งทนไม่ไหวส่งเสียงครางออกมาตลอดเวลา ผมค่อยๆ เคลื่อนมือช้าเร็วสลับกันไป ตามองหน้าคนบนเตียงที่บิดไปบิดมา อย่างตาไม่กระพริบ ช่างเป็นภาพประทับใจ ที่ผมรอมานานแสนนาน

"แทน....  พอ... กูจะไม่ไหวแล้ว" มีหรือครับที่คนจริงอย่างผมจะฟังเสียง ได้ยิ่งดังนั้นผมยิ่งเพิ่มความเร็ว จนคนข้างล่างดิ้นไปดิ้นมา จนตัวหนึ่งกระดุกพ่นน้าขาวขุ่นออกมา

หนึ่งนอนหอบหายใจรวยริน มีหรือที่คนจริงอย่างผมจะปล่อยผ่าน ผมเอามือด้านหนึ่งไปหยิบกระดาษเช็ดชู่บนหัวเตียงเผื่อเช็ดน้ำที่เปรอะเปื้อนบนตัวเมีย มือข้างหนึ่งหยิบเจลหล่อลื่น ทามือ อาศัยช่วงหนึ่งเหนื่อยหอบค่อยๆ ขยายช่องทางทีล่ะนิดทีล่ะนิด

"เหนื่อยๆ ไหมครับเมีย"

"อืม...." ไม่มีเสียงอื่นเล็ดรอดออกมานอกจากเสียงหอบ สรุปมึงหอบหรือมึงขาดน้ำครับเมีย

"เห็นไหมบอกแล้วว่าไม่เจ็บ" เช็ดไปด้วย คุยไปด้วย จนผมเริ่มแน่ใจว่ารูเริ่มขยายแล้วจึงเพิ่มนิ้วเจ้าไปอีก 1 นิ้ว อิอิ

"โอ๊ยยยยย.... เจ็บ"

"เป็นไรครับเมีย" ใสๆ ไปกู เผื่อรอด

"ทำไรมึงไอ้แทน เจ็บ"

"นี่ค่อยๆ แล้วน่ะครับเมีย"

"หยุดเลย ไอ้แทนหยุด"

"อ้าว ทำไมงี้ล่ะครับเมีย เมียมีความสุขแล้วจะไม่ช่วยผัวเหรอ"

"แต่มันเจ็บอ่ะแทน ช่วยอย่างอื่นได้ไหม" สักพักผมก็เห็นแสงสว่างรำไร

"งั้นทำอย่างอื่นก็ได้ครับ ไม่เจ็บด้วยสนุกด้วย"

"ทำอะไรมึง ท่าทางมึงชอบกล"

"งั้นเมียใช้ปากให้หน่อยได้ไหมครับ เดี๋ยวผัวแกะกุญแจมือให้ด้วย"

ผมเห็นท่าทางหนึ่งลังเลเล็กน้อย สงสัยต้องกระตุ้น

"ไม่เอาไม่เป็นไรครับ มาทำกันต่อดีกว่า"

"เออ เออก็ได้ บอกไว้ก่อนน่ะ กูทำไม่เป็นน่ะ"

"ไม่เป็นไรครับค่อย เรียนรู้กันไป" โอยยยยย กูฝันที่เป็นจริง เมียจะใช้ปากให้ ออกไปรถชนตายไม่เสียดายชีวิตล่ะ บรรลุทุกอย่าง

ผมเข้าไปปลดกุญแจมือ พร้อมเอาอีกข้างมาคล้องกับมือตัวเอง

"อ้าวไหนจะปล่อยไง"

"ไม่ได้ครับเดี๋ยวเมียหนี ยิ่งเจ้าเล่ห์อยู่" หนึ่งเบ้ปากแต่ก็ลุกมาทำอย่างโดยดี ผมลงไปนอนแทนที่ มองดูหนึ่งถอดกางเกงผมช้า ทั้งกางเกงนอก กางเกงใน จนแทนน้อยโผล่มาทักทาย

"โหยมึง มันจะเข้าไปได้ยังไง ใหญ่ขนาดนี้ มึงกะให้กูตายคาอกมึงรึ"

"เมียยังไม่ลอง จะรู้ได้ไงครับว่าเข้าได้ไม่ได้" หนึ่งถอนหายใจเล็กน้อย พลางนั่งก้มตัวลงกลางหว่างขาของผม พร้อมเอามือจับ โอ๊ยสวรรค์ แทนใกล้จะบรรลุแล้วครับ

"ไม่ทำได้ไหมมึง เอาไว้คราวหน้าไหมมึง" แหม ขนาดนี้ล่ะครับเมีย เดี๋ยวจับยัดปากซะเลย ไม่อ่อนยง อ่อนโยนแม่งล่ะ

"เห็นใจผัวหน่อยครับเมีย นี่แข็งจนจะตีปากเมียแตกอยู่ล่ะ ถือว่าช่วยๆ กัน" ผมทำหน้าอ้อนวอนดุจแมวในเรื่อง Shrek



ทันทีที่ริมฝีปากหนึ่งสัมผัสลงมา ผมเสียวจนบรรยายไม่ถูก ผมเสียวจนตัวเกร็งมือที่คล้องกุญแจต่างประสานมือกันอย่างเหนียวแน่น หนึ่งค่อยเลื่อนสักพักจนกลืนส่วนแกนกลางเข้าไปทั้งหมด ผมเสียวจนจะไม่ไหว แต่หนึ่งก็ค่อยๆ เลื่อนขึ้นเลื่อนลงช้า ดูหนึ่งพยายามอย่างมากที่จะไม่ให้ฟันโดนของของผม เวลาผ่านไปสักพักกับความพยายามที่น่ารักของหนึ่ง ผมเห็นแล้วทนไม่ได้

"พอเถอะครับ" โอยไม่ไหวแล้วครับ

"แต่มึงยังไม่เสร็จเลยน่ะ"

ผมไม่พูดพร่ำทำเพลง จับหนึ่งนอนด้านล่าง แทรกกลางลำตัว ทาเจวหล่อลื่น แทงพรวดไหนครั้งเดียว

"โอ๊ยยยยยยย ไอ้เหี้ยแทนเจ็บ ไหนบอกจะไม่ทำไง"

"เมียครับ ไม่มีสัจจะในหมู่โจรครับ ยังไงก็เข้าไปแล้ว เอาออกจะเจ็บกว่าเดิมเป็นสิบเท่าน่ะครับ" เห็นหนึ่งน้ำตาคลอแล้วมีความสุข สงสัยผมจะซาดิสต์

"แล้วกูต้องทำไงล่ะ" น้ำตาไหลเอ่อ แม่งเห็นน้ำตาเมียแล้วมีความสุขแท้

"ทนๆ เอาหน่อยน่ะครับแวบเดียวก็เสร็จ" ผมพูดปลอบพร้อมค่อยๆ ขยับตัวช้า

"อย่าเกร็งน่ะครับ ค่อยๆ หายใจลึกๆ" ผมค่อยๆ ขยับเข้าออกช้าๆ จนมั่นใจว่าหนึ่งปรับสภาพได้แล้วจึงเริ่มเร่งความเร็วขึ้น ผมเสียวจนจะทนไม่ไหว มีความสุขมากกว่าครั้งไหน โอยยย สุขจนจะสำลักความสุขตาย

"เฮ้ย ไอ้แทนทำไรน่ะ"

"เปลี่ยนท่าไงครับ มันจะทำให้เจ็บน้อยลง"

"จริงน่ะ"

"จริงครับ" แค่นั้นแหละครับ มีกี่ท่าผมงัดมาหมด ไม่ว่าโต๊ะ ตู้ หน้าต่าง ระเบียง ผมเก็บครบในคราเดียว

"ยังเจ็บอยู่ไหมครับ"

"มะมะไม่ไม่ล่ะ อ้าอ้าาา" โหยเมียสงสัยจะถึงสวรรค์มะรำมะร่อ ผมจึงกลับมาบนเตียงในท่าเบสิค รีบเร่งความเร็ว จนทนไม่ไหว ปล่อยของเหลว ไหลอุ่น เข้าไปด้านใน

พร้อมก้มลงจูบปากคนที่นอนหอบอยู่ด้านล่าง

"แทนรักหนึ่งน่ะ"

ท่าท่างคนด้านล่างจะเหนื่อยหอบจนหลับไหลไป ผมจึงต้องจัดการทำความสะอาดและใส่ชุดนอน ในที่สุดคืนนี้ผมก็ได้นอนกอดเมียแล้วโว๊ยยยย

---------------------------------------------------
หนึ่ง

ผมตื่นมากลางดึก ไม่รู้ว่าเวลาผ่านไปนานเท่าไหร่ หันมาดูเวลาก็เกือบจะตีสอง หันไปมองคนข้างหลังที่หลับตาพริ้มนอนกอดผมอย่างมีความสุข แม่งน่าหมั่นไส้ มีความสุขจริงๆ น่ะมึง แต่เอ๋ มันก็รู้สึกดีน่ะ ตอนแรกนึกว่าจะเจ็บมาก แต่มันก็เจ็บนิดๆ ไม่ได้มาก เออมันก็ดีเหมือนกันน่ะ แต่แทนแม่งโครตอึด คิดไปก็เท่านั้น ผมพลิกตัวจะเข้าห้องน้ำแต่ต้องสะดุดเพราะคนข้างหลังกระชับอ้อมกอดให้แน่นขึ้น

"เมียจะไปไหนครับ"

"ห้องน้ำมึง จะฝากกูฉี่เผื่อไหม"

"ตื่นมาก็ปากดีเลยนะครับเมีย เดี๋ยวช่วยพยุง" เอาตามมึงสบายเลยพ่อคุณได้กูไปแล้ว เทคแคร์กูหน่อย

ผมเข้าไปทำธุระในห้องน้ำสักครู่ ออกมาไอ้แทนยังยืนรอพยุงกลับเตียง

"แทนจริงๆ กูพูดตรงๆ นะ มันก็เจ็บ แต่ก็ไม่มากเหมือนที่คนอื่นบอกน่ะ กูเดินเองได้"

มันพยุงมาเสร็จก็จัดหมอนให้ โอยทำขนาดนี้อุ้มกูเลยไหมมึง ลงนอนเสร็จว่าจะหลับตานอน แต่....

"ทำไรมึง ถอดกางเกงทำไม"

"เมียไม่เจ็บ แสดงว่าทำต่อได้"

"เดี๋ยว เดี๋ยวววววว"

"ครั้งแรกคนเค้าบอกว่าเจ็บมาก เมียก็ต้องเจ็บมาก เดี๋ยวเมียจะคุยกับเค้าไม่รู้เรื่อง"

"แทน เดี๋ยวววว มึงงง"

"ใจเย็นๆ ครับ มันจะไม่เจ็บเท่าครั้งแรก อีกอย่างครั้งแรก ผัวลืมใช้ถุงยาง เราต้อง Safe Sex ครั้งแรกไม่นับ มาใช้ครั้งนี้ล่ะกันเนอะ"

"เนอะพ่อมึงสิแทน ไม่ ไม่ ไม่ โอ๊ย เบาๆ มึง โอ๊ยยยย ไอ้เหี้ยแทน โอ้ยยยย"

แค่นั้นก็ล่อซะสว่างคาตา เลวจริงๆ มึงไอ้แทน




-----------------------------------------


สวัสดีคนอ่านค่ะ ทั้งที่ตามอ่านกันมาและมาใหม่ ก่อนอื่นต้องขอขอบคุณเพจ "We Love Y Thai" ที่เอานิยายไปแชร์แนะนำให้คนอ่านกันน่ะคะ จริงๆ ตอนเริ่มต้นเขียนนี่ไม่ได้คิดอะไรเลย คิดแค่ว่าอยากเขียนในนิยายที่อยากอ่าน อยากให้คนมีความสุขกับการอ่านนิยายของเรา เขียนไปเขียนมาเราก็เริ่มหมดไฟ เนื่องจากเราไม่ใช่นักเขียนที่มีชื่อเสียงหรือเป็นคนที่คนรู้จักมากมายอะไร บางทีเขียนไปก็ไม่มีคนอ่านเท่าไหร่ แต่เราหลงรักตัวละครที่เราเขียน จึงพยายามหาไฟในการเขียนออกมาเรื่อยๆ บางครั้งเราเห็นเรื่องนั้นมีคนอ่านเยอะ คอมเม้นท์เยอะก็รู้สึกอิจฉา สำหรับเราขอแค่มีคนมาชมมาติบ้างเราก็พอใจแล้ว ให้รู้ว่างานที่เราเขียนไปยังมีคนเห็น ขอบคุณทุกคอมเม้นท์นะคะ มันทำให้มีแรงใจในการเขียนต่อไปค่ะ

รักที่สุด

Aemmilicious
P.s. ตอนหน้าโจ๊กบอกขอ Solo เดี่ยวสักตอนน่ะคะ

ออฟไลน์ areenart1984

  • เป็ดArtemis
  • *
  • กระทู้: 4825
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +167/-7
รอดูคู่โจ๊กจะเป็นใครนะ  :m22:

ออฟไลน์ KARMI

  • เป็ดHera
  • *
  • กระทู้: 920
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +61/-2

ออฟไลน์ fc_fic

  • เป็ดAres
  • *
  • กระทู้: 2598
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +84/-7

ออฟไลน์ naezapril

  • เป็ดมัธยม
  • *
  • กระทู้: 122
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +6/-1
สู้ๆ ติดตามอยู่จร้า

 

สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด


สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด