✦ว่าด้วยเรื่องของพระรอง✦ภาคปลาย บทหนึ่ง P.25 14/01/66 อัพพ
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด

สนใจโฆษณาติดต่อ laopedcenter[at]hotmail.com คลิ๊กรายละเอียดที่ตำแหน่งว่างเลยครับ

สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด

ผู้เขียน หัวข้อ: ✦ว่าด้วยเรื่องของพระรอง✦ภาคปลาย บทหนึ่ง P.25 14/01/66 อัพพ  (อ่าน 179656 ครั้ง)

ออฟไลน์ arij-iris

  • เป็ดAres
  • *
  • กระทู้: 2922
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +30/-5
หึๆๆๆ ตอนนี้ก็แต่งได้น้าาาาา

ออฟไลน์ areenart1984

  • เป็ดArtemis
  • *
  • กระทู้: 4825
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +167/-7
หนูฟางปากเจ่อเลย น่าฉงฉานจริง ๆ เลย  :o11:

ออฟไลน์ puiiz

  • เป็ดEros
  • *
  • กระทู้: 3378
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +135/-4

ออฟไลน์ wanirahot

  • เป็ดมหาวิทยาลัย
  • *
  • กระทู้: 485
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +4/-1
ชอบมากเลยค่าาาา ขอซื้อหนังสือเลยได้เปล่าาาาาาาาาาา

ออฟไลน์ namngern

  • Flowers need to bloom
  • เป็ดDemeter
  • *
  • กระทู้: 1848
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +200/-2
สนุกมากกกกกก ช่วงนี้เรากำลังติดนิยายจีนอยู่พอดี มาเจอเรื่องนี้ทำเอาเราตื่นเต้นมากเลยค่ะ
ภาษาอ่านง่าย ไหลลื่น แถวเรื่องก็สนุก
ฮืออออ  ปลื้มใจจัง
เราจะรออ่านตอนต่อไปนะคะ
เป็นกำลังใจให้ค่าา

ออฟไลน์ ❣☾月亮☽❣

  • เป็ดApollo
  • *
  • กระทู้: 6774
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +264/-6
เขาควรหมั้นกันตอนนี้เลยค่ะเพราะว่า
1.พระเอกทั้งจับทั้งบีบจิ้งเฟยน้อยไปแล้ว แถมยังย่องเข้าหายามวิิกาลอีก ตั้งนานสองนาน เห็นน้องโป๊ด้วย ต้องรับผิดชอบนะ  :-[
2. รุ่นพ่อรับรู้เรื่องหมั้นมาก่อนแล้ว
3.ทั้งสองยังไม่มีคู่หมั้น
ขอบคุณคนแต่งค่ะ

ออฟไลน์ คนคิ้วท์คิ้วท์

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 339
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +10/-1
รอต่อน้า สนุกมากเลยจ้า

ออฟไลน์ nevergoodbye

  • เป็ดHephaestus
  • *
  • กระทู้: 1240
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +51/-2
ชอบบ แอบติดใจเรื่องที่พระเอกคล้ายกับคนที่จื่อฟางรู้จักด้วย  o18
จื่อฟางจะมีฮาเร็มมั้ย  :hao7:

ออฟไลน์ poppycake

  • เป็ดAres
  • *
  • กระทู้: 2670
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +119/-4
เด็กน้อยจื่อฟางน่าเอ็นดู
แต่เป๋อมากอ่ะ ตอนหน้าจะดีขึ้นไหมนะ 555555555

ออฟไลน์ naplatoo

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 249
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +20/-2
สนุกมากเลยค่ะ
ติดตามและเป็นกำลังใจให้คนแต่งนะคะ 
:katai2-1:

CoMMuNiTY Of ThAiBoYsLoVE

ประกาศที่สำคัญ


ตั้งบอร์ดเรื่องสั้น ขึ้นมาใครจะโพสเรื่องสั้นให้มาโพสที่บอร์ดนี้ ถ้าเรื่องไหนไม่จบนานเกิน 3 เดือน จะทำการลบทิ้งทันที
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=2160.msg2894432#msg2894432



รวบรวมปรับปรุงกฏของเล้าและการลงนิยาย กรุณาเข้ามาอ่านก่อนลงนิยายนะครับ
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=459.0



สิ่งที่ "นักเขียน" ควรตรวจสอบเมื่อรวมเล่มกับสำนักพิมพ์
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=37631.0






ออฟไลน์ qq_oo

  • เป็ดDemeter
  • *
  • กระทู้: 1749
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +143/-4
สนุกมากๆๆๆ รอๆๆตอนต่อไป

ออฟไลน์ manami_01

  • เป็ดHera
  • *
  • กระทู้: 980
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +72/-1
เมื่อไรพระนายจะชอยกัน?

อิคุณชายหลี่จะกลับมาป่วนเมื่อไรนะ

ออฟไลน์ ผายลม888

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 27
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +2/-1
ได้โปรด มาต่อเถอะคนเขียน เรารอเรื่องนี้ที่ท่าน้ำทุกวันเลย ชอบพล็อตแบบนี้ ชอบพระเอกแบบนี้ ชอบนิสัยนายเอกแบบนี้ ชอบวุ้ย เรื่องแนวจีนแบบตรงสเปคนี่หายากมากนะ เรารออออ

ออฟไลน์ JustWait

  • เป็ดEros
  • *
  • กระทู้: 3348
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +80/-4

ออฟไลน์ DuenTwinBII

  • ♥ “If you can't explain it simply, you don't understand it well enough.”♡
  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 369
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +624/-4
 บทหก: ลิขิตเอง

“ก็แค่เสิ่นฉินอี้หลอกพ่อเจ้าว่ามีหลานหน้าตางามมาก จนพ่อเจ้าอยากหมายหมั้นให้แต่งงานกับเจ้าอย่างไรล่ะ”

ไป๋อู่เหยียนได้ยินเสียงหัวเราะของใต้เท้าเฉินก็ทำให้เขานึกย้อนกลับไปเมื่อสิบเอ็ดปีก่อน วันที่ได้ช่วยชีวิตขุนนางจากเมืองหลวงสองคนจากโจรป่าที่ลอบดักทำร้ายระหว่างเดินทางมาท่องเที่ยวในเมืองหลานโจว เฉินฉางเซียงและเสิ่นฉินอี้ได้รับบาดเจ็บแต่ยังดีที่บาดแผลไม่ได้สาหัสมาก ไป๋อู่เหยียนจึงพาทั้งสองคนไปพักรักษาตัวที่จวนสกุลไป๋อย่างลับๆ เขาไม่รู้เบื้องลึกเบื้องหลังของขุนนางทั้งสองนัก แต่ก็รู้สึกว่าการลอบทำร้ายครั้งนี้ไม่ใช่เรื่องบังเอิญ หลานโจวไม่มีโจรออกปล้นมานานแล้ว การช่วยเหลือครั้งนั้นถือว่าเสี่ยงมาก สกุลไป๋หลายชั่วคนไม่คิดยุ่งเกี่ยวกับอำนาจ แม้จะเป็นสกุลคหบดีที่ร่ำรวยมีชื่อเสียงในเมืองหลานโจวก็ตาม ไป๋อู่เหยียนจึงต้องเก็บเรื่องนี้ไว้เป็นความลับ

เฉินฉางเซียงและเสิ่นฉินอี้พักอยู่ในเรือนเก่าที่ไม่ได้เปิดใช้นานแล้ว ถึงจะไม่สะดวกสบายแต่คนทั้งสองกลับไม่ปริปากบ่น ในยามนั้นเฉินฉางเซียงอายุห้าสิบสองปีใบหน้าอิ่มเอิบคล้ายใจดีแต่นิสัยกลับตรงกันข้าม สายตาดุรั้นแฝงความฉลาด แต่ไป๋อู่เหยียนสัมผัสได้ว่าคนผู้นี้มีจิตใจดี ส่วนเสิ่นฉินอี้อายุสี่สิบกว่าๆแต่ยังคล้ายคนหนุ่มทั้งยังมีใบหน้าหมดจดจนเขาแปลกใจ เขามีนิสัยเป็นกันเองไม่ถือยศถือตัวทำให้เข้ากับไป๋อู่เหยียนได้อย่างรวดเร็ว เสิ่นฉินอี้และเฉินฉางเซียงซาบซึ้งใจกับการช่วยเหลือของเขามาก

‘เจ้าอายุอานามเท่าใด คงไม่น้อยแล้วกระมัง’

‘ปีนี้ข้าก็ยี่สิบแปดแล้ว’ไป๋อู่เหยียนยังไม่เข้าใจนักว่าเสิ่นฉินอี้ถามเพราะเหตุใด

‘เจ้าคงมีบุตรแล้ว ข้ามีหลานหน้าตางดงามมากคนหนึ่ง…หากเจ้าได้เห็นต้องตกตะลึงเป็นแน่’ยามนั้นไป๋อู่เหยียนตื่นเต้นมากเพราะไม่คิดว่าเสิ่นฉินอี้จะเอ่ยถึงเรื่องนี้เพราะเขาเองก็มีบุตรชาย…สีหน้าของเสิ่นฉินอี้ดูมั่นใจกับความงามของหลานตนนัก

‘แต่น่าเสียดายที่หลานข้าอายุยังน้อย...เพิ่งครบเจ็ดขวบเมื่อปีนี้เอง'เสิ่นฉินอี้หัวเราะฮ่าๆเหมือนมีเรื่องน่าขบขัน เฉินฉางเซียงพลันหน้าตาดำคล้ำบูดบึ้งทันที

‘เจ้าสนุกนักหรือ! ไป๋อู่เหยียนเจ้าอย่าไปฟังคำเหลวไหลของเขานักเลย…’

‘หากเจ้าเจอหลานข้าแล้วยังยืนยันคำเดิม ข้ายินดีดองกับเจ้า'เสิ่นฉินอี้พูดขัดเฉินซางเซียน ยังคงหัวเราะไม่หยุด ไป๋อู่เหยียนจึงคิดว่าอีกฝ่ายแค่พูดล้อเล่นไปเท่านั้น อีกทั้งบุตรชายของเขาก็เพิ่งสิบเอ็ดขวบเท่านั้น แม้จะรู้ความเกินอายุก็เถอะ ไป๋อู่เหยียนเข้าใจดีที่เห็นเฉินฉางเซียงคล้ายไม่พอใจ จะอย่างไรเขานับได้ว่าเป็นคนแปลกหน้า พวกเขาใช้เวลาพักรักษาตัวอยู่ที่จวนสกุลไป๋อย่างเงียบๆอยู่สองอาทิตย์ เสิ่นฉินอี้และเฉินฉางเซียงไม่อยากรั้งอยู่นาน กลัวว่าเขาจะเจอเรื่องเดือดร้อนจึงรีบเดินทางกลับเมืองหลวง

‘หากมีวาสนาต่อกันย่อมต้องได้พบกับพวกท่านสองคนอีกแน่นอน’

ไป๋อู่เหยียนกล่าวไปเช่นนั้น แต่ผ่านไปไม่ถึงปีเขากลับได้รับข่าวว่าเสิ่นฉินอี้เสียชีวิตด้วยโรคประจำตัว ต่อมาไม่นานเฉินฉางเซียงก็ลาออกจากราชสำนักไปใช้ชีวิตเงียบๆอยู่ที่เสียนหยางเมืองที่อยู่ไม่ไกลจากฉางอัน ไป๋อู่เหยียนได้แต่ถอนหายใจอย่างปลงตกคงเป็นเรื่องในราชสำนักที่เขาไม่คิดยุ่งเกี่ยว ไป๋อู่เหยียนเคยได้ยินมาว่าสกุลเสิ่นเป็นขุนนางมาหลายรุ่น แต่เสิ่นฉินอี้กลับแปลกออกไป เขาแยกตัวออกมาตั้งตัวใหม่ด้วยความสามารถของตนเอง สร้างเรือนจนใหญ่โตทำให้เสิ่นฉินอี้กลายเป็นขุนนางที่มีอำนาจมากคนหนึ่ง จึงไม่ใช่เรื่องแปลกหากมีผู้ไม่หวังดีจงใจเล่นงาน สองปีถัดมาก็เกิดการเปลี่ยนแปลงในราชสำนัก ฮ่องเต้องค์ใหม่ขึ้นครองราชย์ สกุลหลี่กลับมามีอำนาจอีกครั้ง ไป๋อู่เหยียนจึงเลิกสนใจข่าวสารจากเมืองฉางอัน

ในวัยสามสิบปีสุขภาพของเขาเริ่มย่ำแย่ การจากไปของภรรยายิ่งทำให้เขาทุกข์ใจ ทุกปีเมืองหลานโจวมักได้รับผลกระทบจากพายุฝุ่นที่พัดเข้ามาเพราะอยู่ติดกับทะเลทรายโกบี แต่ปีนี้สุขภาพของเขาทรุดโทรมลงอย่างน่าใจหาย ในเมื่อภรรยาก็จากไปแล้วเขาจึงตัดสินใจย้ายไปยังฉางอันเมืองหลวงที่เจริญรุ่งเรืองทำให้เขาได้พบกับใต้เท้าเฉินอีกครั้ง ไม่พบกันนานหลายปีเฉินฉางเซียงเปลี่ยนไปราวคนละคน บุคลิกที่เคยดุดันแฝงความฉลาดหายไปเหลือเพียงตาแก่ร้ายกาจขี้บ่นเท่านั้น อีกประการสำคัญคือเขาได้รู้แล้วว่าถูกเสิ่นฉินอี้หลอก เพราะหลานหน้าตางดงามที่เสิ่นฉินอี้เคยพูดถึงกลับเป็นหลานชายหาใช่หลานสาวไม่ มิน่าเล่าคราวนั้นเสิ่นฉินอี้ถึงได้หัวเราะไม่หยุด ใต้เท้าเฉินถึงได้มีสีหน้าเหมือนกลืนลูกเหม็นลงคอ!

ไป๋อู่เหยียนนึกถึงเรื่องราวเก่าๆแล้วถอนหายใจออกมา เคยนึกว่าคงไม่มีเรื่องใดให้เกี่ยวข้องกับสกุลเสิ่นอีกแล้ว แต่ไม่คิดว่าเสิ่นจิ้งเฟยจะเป็นฝ่ายเข้ามาหาเรื่องเอง

ระหว่างนั้นไป๋ผูอวี้ยกถ้วยชาดื่มเงียบๆ นั่งฟังบิดาและใต้เท้าเฉินพูดคุยถึงเรื่องเก่า เรื่องที่หลานโจวและเรื่องของท่านปู่ของเสิ่นจิ้งเฟย เขาได้แต่ครุ่นคิดอยู่ในใจ เหตุใดท่านพ่อไม่เคยบอกกล่าวเรื่องนี้มาก่อน หรือท่านพ่อไม่อยากยุ่งเกี่ยวกับสกุลเสิ่น ไป๋ผูอวี้นึกถึงเรื่องวุ่นวายที่เสิ่นจิ้งเฟยก่อไว้ก็อดเห็นด้วยไม่ได้

จื่อฟางได้แต่นั่งทำหน้าไม่ถูก โชคดีแค่ไหนที่ไป๋อู่เหยียนไม่ได้ตอบตกลง ไม่เช่นนั้นคงกลายเป็นเรื่องตลกไปแล้ว เขาเหลือบมองไป๋ผูอวี้ที่นั่งอยู่อีกฝั่ง ใบหน้าของบุรุษหนุ่มยังคงเดิมคล้ายกับบทสนทนาเมื่อครู่ไม่เคยเกิดขึ้น จื่อฟางนึกอยากได้พรสวรรค์ในการทำหน้าตายบ้าง เขาไม่ชอบให้มีคนมาพูดชมเสิ่นจิ้งเฟยว่างดงาม ฟังแล้วขัดหูพิลึก

“คุณชายเสิ่น…”เสียงเรียกของไป๋ผูอวี้ทำให้เขารู้สึกตัว จื่อฟางกระพริบตา พบว่าใต้เท้าเฉินกับไป๋อู่เหยียนจ้องมองตนอยู่ 

“ท่านว่าอะไรนะ”เขาจมกับความคิดมากไปจนไม่ทันได้ฟังว่าเมื่อครู่ไป๋ผูอวี้พูดอะไร

“ข้าบอกว่าจะพาท่านออกไปชมสวน”ไป๋ผูอวี้กล่าวซ้ำด้วยน้ำเสียงนุ่มนวล

“อ้อ…”จื่อฟางปั้นยิ้มแต่ในใจกลับก่นว่า ‘ใครอยากไปกันหา!’ ตอนนี้เขาปวดเข่าจนไม่อยากเดินไปไหนแล้ว แต่เมื่อเห็นสายตาของใต้เท้าเฉิน เขาก็เข้าใจทันที คงมีเรื่องที่อยากคุยกับไป๋อู่เหยียนตามลำพัง

“เช่นนี้ก็ดี ตอนที่ข้าเข้ามายังคิดชมอยู่เลยว่าจวนของท่านตกแต่งได้เยี่ยมนัก”จื่อฟางหันไปเอ่ยชมกับไป๋อู่เหยียน ก่อนค้อมกายจากมา ไป๋ผูอวี้ยืนขึ้นด้วยท่าทางสงบ ในใจกลับรู้สึกขบขันเพราะเขามองออกว่าเสิ่นจิ้งเฟยไม่อยากลุกไปที่ใดแล้ว จื่อฟางแบกร่างปวดระบมเดินตามไป๋ผูอวี้ออกไปจากศาลา ที่เขาชมก็ไม่ถือว่าโกหกเสียทีเดียว ถึงแม้คฤหาสน์สกุลไป๋จะใหญ่สู้จวนสกุลเสิ่นไม่ได้ แต่บรรยากาศแตกต่างกันราวฟ้ากับเหว มองไปทางไหนก็เจอแต่ต้นไม้ดอกไม้เต็มไปหมด

ไป๋ผูอวี้เดินเอื่อยช้าเพราะรู้ว่าคุณชายเสิ่นถูกทำโทษมา พิจารณาจากรอยเปื้อนคงถูกสั่งให้นั่งคุกเข่ากระมัง เขาหันมองเสิ่นจิ้งเฟยที่แสดงสีหน้าบึงตึงอย่างไม่คิดปิดบัง ในมือของคุณชายถือพัดกระดาษวาดลวดลายกิ่งไผ่ ลายเส้นมีน้ำหนักอ่อนเบาดูแปลกตา ไป๋ผูอวี้ไม่คิดว่าจะได้เห็นคุณชายเสิ่นใช้พัดกระดาษธรรมดาๆเช่นนี้ ปกติเขาเห็นคุณชายชอบใช้พัดผ้าไหมชั้นดี ด้ามจับทำจากงาช้างและมักใช้ไม่ซ้ำกันคล้ายเป็นของประจำตัวที่เอาไว้โอ้อวดความอู้ฟู้ของตน

“ท่านคงไม่คิดพาข้าเดินชมสวนจริงๆหรอกกระมัง”จื่อฟางเอ่ยถามเมื่อเดินตามไป๋ผูอวี้มาได้สักพัก แต่เจ้าของร่างตรงหน้ากลับไม่ตอบเพียงแต่เดินไปตามทางปูหินช้า ๆ รอบด้านปลูกต้นหลิวสลับกับพุ่มดอกหมู่ตาน มองเห็นศาลาอยู่เบื้องหน้า ต้นไผ่เงินปลูกอยู่เป็นแนวให้ความรู้สึกสงบเช่นเดียวกับไป๋ผูอวี้ ชายเสื้อคลุมสีอ่อนสะบัดพลิ้วตามจังหวะก้าวเดิน จื่อฟางถอนหายใจอย่างโล่งอกคิดว่าต้องเดินจนขาลากเสียแล้ว!

“เชิญท่านตามสบาย”ไป๋ผูอวี้เอ่ยเสียงเบาแต่ก้องกังวานราวกับพูดอยู่ข้างหู จื่อฟางนั่งลงทันทีโอดครวญอยู่ในใจเมื่อมีอาการปวดกล้ามเนื้อ บรรยากาศรอบตัวเงียบสงบ สายลมอ่อนๆพัดต้องใบหน้าชวนให้ผ่อนคลาย

“กุ้ยตาน นำของว่างมาต้อนรับคุณชายเสิ่น”ไป๋ผูอวี้สั่งเมื่อเห็นบ่าวรับใช้ยกกาน้ำชาเข้ามาวางบนโต๊ะ บ่าวรับใช้รับคำเงียบๆแล้วจากไปอย่างว่องไว จื่อฟางเอ่ยชมอยู่ในใจ ตอนนี้เขาหิวมาก ๆ แค่ขนมเมื่อครู่ไม่พอยาไส้หรอก

“เว่ยหลงเล่า เขาเป็นเช่นไรบ้าง”จื่อฟางเอ่ยถาม นึกถึงเหตุการณ์เมื่อเช้า เขาเพิ่งเคยออกคำสั่งโบยตีคนเป็นครั้งแรก จึงทำให้รู้สึกไม่ค่อยสบายใจนัก ไป๋ผูอวี้รินน้ำชาใส่ถ้วยให้พอเป็นพิธี รู้สึกแปลกใจที่คุณชายเสิ่นถามถึงผู้ติดตามของตนเอง บางทีเขาควรชินกับพฤติกรรมที่เปลี่ยนไปของคุณชายผู้นี้ได้แล้ว

“เว่ยหลงแข็งแรงกว่าที่ท่านคิด บาดแผลมากกว่านี้เขาก็ผ่านมาแล้ว ท่านไม่ต้องห่วง เขาพักรักษาตัวไม่นานก็หาย”ไป๋ผูอวี้ตอบด้วยน้ำเสียงราบเรียบคล้ายไม่ใส่ใจ ก่อนเหลือบมองรอยเปื้อนบนเสื้อคลุมบริเวณหัวเข่าของเสิ่นจิ้งเฟยแล้วเอ่ยเสริม

“ห่วงตัวเองเถอะ”

“อะไรนะ”จื่อฟางทำหน้างง ไม่เข้าใจว่าไป๋ผูอวี้หมายถึงอะไร

“หัวเข่าของท่านเป็นอย่างไรบ้าง”ไป๋ผูอวี้ถาม เดินมานั่งข้างๆเขาอย่างรวดเร็วจนจื่อฟางไม่ทันได้ตั้งตัว

“ไม่เป็นไร”เขาตอบโกหก นึกสงสัยว่าไป๋ผูอวี้รู้ได้อย่างไรว่าเขาเจ็บหัวเข่า

“รู้ตัวหรือไม่ว่าท่านโกหกไม่เก่ง”ไป๋ผูอวี้พึมพำพลางเอื้อมมือไปจับบริเวณหัวเข่าของคุณชายตรงหน้า แค่เพียงเบาๆเท่านั้นแต่เสิ่นจิ้งเฟยกลับร้องลั่นเหมือนโดนเขาหักกระดูก ไป๋ผูอวี้เงยหน้ามองเด็กหนุ่มครู่หนึ่ง แววตานิ่งสงบจับจ้องอยู่ที่ใบหน้าของอีกฝ่าย มองเห็นรอยฟกช้ำและริมฝีปากบวมเจ่อของเสิ่นจิ้งเฟยแล้วรู้สึกขัดตาขึ้นมา

จื่อฟางถูกจ้องมองเสียจนหัวใจเต้นผิดจังหวะ ใบหน้าหล่อเหลาของไป๋ผูอวี้อยู่ใกล้มากเสียจนได้กลิ่นหอมอ่อนๆ สายตาของเขาเลื่อนมองไปที่ริมฝีปากได้รูปของไป๋ผูอวี้ คิดแล้วก็นึกเสียดายหากต้องปล่อยให้นางเอกอย่างฉินเซียงอินมาคว้าไป ใจจริงกลับรู้สึกไม่อยากให้พระเอกนางเอกลงเอยกันซักเท่าไหร่ หรือเขาควรทำอะไรสักอย่าง

“ขอข้าตรวจดูหน่อย”เสียงแผ่วเบาของไป๋ผูอวี้ดังอยู่ใกล้ๆ จื่อฟางได้สติก้มมองก็เห็นบุรุษหนุ่มกำลังเลิกชายเสื้อคลุมของตนจนเห็นชุดตัวกลาง เจ้านี่ตั้งใจจะดูหัวเข่าของเขาจริงๆน่ะเหรอ

“ท่านกังวลมากไปแล้ว”จื่อฟางแกล้งพูดเสียงนุ่ม มือของไป๋ผูอวี้หยุดชะงักทันทีคล้ายกับเพิ่งรู้ตัวว่าทำอะไรอยู่ ร่างตรงหน้าขยับไปนั่งตัวตรง สีหน้ายังคงเดิมแต่คิ้วขมวดมุ่นน้อยๆ จื่อฟางจัดเสื้อคลุมให้เรียบร้อย

“ยาที่ข้าให้ไปก็ใช้เสีย”ไป๋ผูอวี้เอ่ยเสียงราบเรียบ เมื่อครู่นี้เขาเผลอแสดงความสนใจมากไปหน่อย แม้กระทั่งตัวเขาเองยังแปลกใจ

“อืม”จื่อฟางพยักหน้าช้าๆ โลกนิยายที่หลุดเข้ามาเปลี่ยนไปแล้ว เขาสงสัยว่าคุณหนูฉินเริ่มงัดกลยุทธ์ใดออกมาหรือยัง จะได้จูบแรกจากไป๋ผูอวี้ตอนไหน ยิ่งคิดก็รู้สึกคันในใจแปลกๆ ใครจะพระเอกหรือนางเอกก็ช่างมันเถอะ ในเมื่อจื่อฟางเข้ามาในโลกนี้แล้ว ชะตาชีวิตของเสิ่นจิ้งเฟยจะเป็นอย่างไร เขาจะลิขิตเอง

“นี่ไป๋ผูอวี้ ข้าขอถามอะไรสักหน่อยได้หรือไม่”จื่อฟางเอ่ยถามเสียงนุ่มหูกว่าปกติ ไป๋ผูอวี้จึงระมัดระวังตัวเป็นพิเศษ

“ท่านมีเรื่องใด”

“ท่านคิดกับคุณหนูฉินเช่นไร”เขาถามตรงๆ อยากรู้ว่าตอนนี้ฉินเซียงอินเข้าไปอยู่ในใจของไป๋ผูอวี้ได้สักนิดหรือยัง บุรุษตรงหน้ากลับยกยิ้ม ทำให้จื่อฟางหัวใจกระตุกอีกรอบ คิดว่าดีแล้วที่ไป๋ผูอวี้ชอบทำหน้านิ่งเช่นนี้ไม่อย่างนั้นคงใจเต้นแรงบ่อยๆ

“แล้วท่านว่าอย่างไร?”ไป๋ผูอวี้ย้อนถาม คุณชายเสิ่นเอ่ยถึงเรื่องนี้แสดงว่ายังตัดใจจากนางไม่ลงอีกหรือ

“ข้าถามท่านก่อน”จื่อฟางกัดฟันกรอดๆ เรื่องอะไรคนผู้นี้ต้องมาย้อนถามเขาด้วย

“ท่านไม่ต้องคิดมาก ข้าเห็นนางเป็นเพียงน้องสาวคนหนึ่งเท่านั้น”เขาตอบ เรื่องของคุณหนูฉินแค่ท่านพ่อกับเว่ยหลงพูดถึงนางบ่อยๆเขาก็เบื่อหน่ายแล้ว

“เหตุใดข้าต้องคิดมากด้วย ข้าเคยบอกไปแล้วว่าไม่ได้ชอบนาง”ได้ยินอีกฝ่ายตอบเสียงเรียบ ไป๋ผูอวี้จึงปรายตามองก็พบว่าคุณชายรูปงามไม่ได้โกหกจริงๆ หรือข่าวที่ตนเคยได้ยินไม่ใช่เรื่องจริง สายตาของเสิ่นจิ้งเฟยจับจ้องมาที่ไป๋ผูอวี้จนทำให้รู้สึกอึดอัดเล็กน้อยจนเกิดอาการวางตัวไม่ถูก

“อ้อ ท่านไม่ได้ชอบคุณหนูฉิน หรือว่าท่านชอบหลี่ฮุ่ยจือ”ไป๋ผูอวี้พูดเพื่อเปลี่ยนบรรยากาศเท่านั้นและก็ได้ผล เสิ่นจิ้งเฟยสีหน้าเปลี่ยนทันทีเมื่อได้ยินชื่อของหลี่ฮุ่ยจือ

“ท่านล้อเล่นแล้ว”จื่อฟางนึกถึงเหตุการณ์ที่หอเหม่ยซิ่วแล้วขนลุกขึ้นมา พอดีกับบ่าวที่ชื่อกุ้ยตานนำซาลาเปาไส้เนื้อและขนมแป้งทอดไส้ผักมาวางบนโต๊ะ จื่อฟางจึงเลิกสนใจไป๋ผูอวี้ สูดกลิ่นหอมๆของอาหารตรงหน้าแต่ท้องของเขากลับส่งเสียงร้องออกมา ในศาลาอันเงียบสงบแค่เสียงเบาๆก็ถือว่าดังแล้ว

“ท่านคงจะหิวมากจริงๆ”ไป๋ผูอวี้หัวเราะอย่างไม่เกรงใจ มองคุณชายนั่งหน้าแดงก่ำ แต่ก็เห็นใจอีกร่างอยู่บ้างเพราะวันนี้เกิดเรื่องวุ่นวายตั้งแต่เช้า ไหนจะถูกทำโทษคุกเข่าอีก

จื่อฟางได้แต่สาปแช่งอยู่ในใจ จะต้องมีเรื่องน่าอายเกิดขึ้นต่อหน้าไป๋ผูอวี้ตลอด เขาคิดพลางหยิบซาลาเปามากัดคำเล็กๆ

“ข้าคิดว่าท่านกับข้าควรผูกมิตรกันดีกว่า ข้าเบื่อไปก่อกวนท่านแล้ว”จื่อฟางเอ่ยขึ้นหลังจากที่จัดการซาลาเปาไปสามลูก เขาควรผูกมิตรดีกว่าสร้างศัตรู อีกทั้งสกุลไป๋ก็ดูมีอะไรมากกว่าที่คิด ปู่ของเสิ่นจิ้งเฟยก็เคยรู้จักกับบิดาของไป๋ผูอวี้มาก่อน     

“ท่านออกปากต้องการผูกมิตรก่อนเช่นนี้ คงไม่มีเรื่องไหนทำให้ข้าแปลกใจได้อีกแล้วกระมัง”ไป๋ผูอวี้เอ่ยรอยยิ้มบางเบาปรากฏบนริมฝีปากเมื่อนึกไปถึงวันที่เขาตั้งใจซื้อขลุ่ยเซียงตี๋ให้คุณชายเสิ่นเป็นการผูกมิตร

“ไม่ดีหรือ อย่างน้อยๆท่านกับข้าก็เคยเกือบได้เป็นคู่หมั้นคู่หมายกันเชียวนะ”จื่อฟางเอ่ยเสริมด้วยน้ำเสียงหยอกล้อ อยากเห็นปฏิกิริยาของไป๋ผูอวี้ แต่ชายผู้นี้ไม่เหมือนหยางชวี เขาจึงผิดหวังเมื่อเห็นไป๋ผูอวี้เพียงแค่กระพริบตาก่อนก้มหน้าดื่มชาเท่านั้น ช่างเป็นคนจืดชืดเสียจริง 

“เรื่องนี้เป็นการพูดล้อเล่นของปู่ท่านเท่านั้น”ไป๋ผูอวี้ตอบเสียงเรียบ ในใจคิดว่าเสิ่นจิ้งเฟยคงโดนหมัดของเว่ยหลงจนสมองเพี้ยนไปแล้วแน่ถึงได้ใช้น้ำเสียงหยอกล้อกับเขาเช่นนี้

“กุ้ยตาน เจ้าเข้าไปในห้องนอนข้า นำขลุ่ยเซียงตี๋ในตู้ลิ้นชักที่สองมาให้ข้าที”ไป๋ผูอวี้เอ่ยสั่งบ่าวรับใช้ที่ยืนเฝ้าอยู่ห่างๆ กุ้ยตานพยักหน้ารับคำก่อนจากไปอย่างว่องไวเช่นเคย

“ขลุ่ยเลานั้นข้าตั้งใจซื้อให้ท่าน อยากให้ท่านรับไว้เป็นการผูกมิตร”ไป๋ผูอวี้กล่าวช้าๆ จื่อฟางไม่คิดว่าที่ไป๋ผูอวี้ซื้อขลุ่ยให้คราวนั้นมีความหมายเช่นนี้จึงได้แต่นั่งเงียบ ๆพลิกพัดกระดาษในมือเล่น

“พัดของท่านดูแปลกตาไปกว่าทุกที”ไป๋ผูอวี้เอ่ย จ้องมองพัดในมือของคุณชายเสิ่นอีกครั้ง

“แน่นอน ก็ข้าเป็นคนวาดเอง”จื่อฟางเอ่ยด้วยน้ำเสียงภูมิใจ ในที่สุดเขาก็มีเรื่องให้โอ้อวดแล้ว

“ไม่เคยได้ยินว่าท่านมีฝีมือด้านนี้ด้วย”ไป๋ผูอวี้เก็บสีหน้าประหลาดใจไว้ไม่อยู่

“ข้าเพิ่งฝึกได้ไม่นาน”จื่อฟางตอบกลับอย่างลื่นไหล คิดถึงพัดกระดาษอันที่เขาตั้งใจจะส่งให้ไป๋ผูอวี้ขึ้นมา เอาไว้มีจังหวะเหมาะๆค่อยมอบให้ก็แล้วกัน ไป๋ผูอวี้สำรวจมองคุณชายใบหน้าหมดจดอย่างละเอียด คิดในใจว่ามีเรื่องอีกเท่าใดกันที่ตนยังไม่ล่วงรู้ คุณชายเสิ่นเปรียบเสมือนหนังสือที่เขาอยากเปิดอ่าน ไม่ใช่สิ ไป๋ผูอวี้รีบไล่ความคิดไร้สาระออกไปทันที

“ข้าได้ยินมาว่าใต้เท้าเฉินมาสอนหนังสือให้ท่าน”บุรุษหนุ่มเปรย ข่าวลือนี้ได้ยินมาสักพักแล้ว เพราะเสนาบดีเสิ่นนั่งรถม้าไปจวนใต้เท้าเฉินอยู่หลายวัน

“ใช่แล้ว ท่านได้ยินมาจากไหนหรือ”จื่อฟางถามอย่างสงสัย ไม่คิดว่าข่าวลือจะไปเร็วถึงเพียงนี้

“โรงน้ำชาหลิวซื่อเป็นที่พบปะของผู้คน”ไป๋ผูอวี้ตอบเพียงเท่านี้เด็กหนุ่มก็เข้าใจแล้ว พูดง่ายๆคือเป็นสถานที่ไว้นินทาคนกระมัง กุ้ยตานปรากฏตัวอีกครั้งพร้อมนำขลุ่ยไม้ไผ่เรียบง่ายมาด้วย บ่าวรับใช้ส่งขลุ่ยเซียงตี๋ให้ผู้เป็นนายอย่างนอบน้อม ไป๋ผูอวี้รับมาหมุนในมือเล่นก้มมองอยู่ครู่หนึ่งก่อนส่งให้จื่อฟาง

“ข้าแปลกใจมาตลอดว่าเหตุใดท่านถึงสนใจขลุ่ยเลานี้”เขาเอ่ยถามอย่างข้องใจ ครั้งแรกที่เห็นว่าคุณชายเสิ่นอยากได้ขลุ่ยธรรมดาๆเลานี้จึงแปลกใจนักเพราะเสิ่นจิ้งเฟยชอบของหรูหรา

จื่อฟางไม่รู้ว่าเสิ่นจิ้งเฟยต้องการขลุ่ยเลานี้เพราะอะไร แต่เขาก็ตอบไปตามที่เห็น

“ขลุ่ยเซียงตี๋เป็นของชนเผ่าหนึ่ง ข้าเพียงแค่ชอบความธรรมดาเรียบง่ายของมันเท่านั้น”จื่อฟางรับขลุ่ยมาจากมือของไป๋ผูอวี้ จงใจให้ฝามือเนียนนุ่มสัมผัสกับหลังมือของอีกฝ่าย ไป๋ผูอวี้มองหน้าเขาด้วยใบหน้าปราศจากความรู้สึกราวกับท่อนไม้อย่างไรอย่างนั้น น่าสงสารฉินเซียงอินจริงๆ นางต้องอดทนมากเพียงไรเวลางัดกลยุทธ์สาวงามมาใช้แล้วเจอปฏิกิริยาท่อนไม้จากไป๋ผูอวี้เช่นนี้

“ท่านไม่ยอมบรรเลงกู่เจิงให้ข้าได้ฟัง แล้วถ้าเป็นขลุ่ยเซียงตี๋เล่า ท่านจะปฏิเสธอีกหรือไม่”ไป๋ผูอวี้หาเรื่องให้เขาอีกแล้ว คนผู้นี้ติดใจเรื่องเครื่องดนตรีอะไรนักหนา จื่อฟางก้มมองขลุ่ยในมือ เขาเคยเรียนพื้นฐานเป่าขลุ่ยมาบ้างแต่ก็หลายปีดีดักมาแล้ว หากเขาเป่าขลุ่ยจริงก็กลายเป็นตัวตลกไปอีกเปล่าๆ พูดถึงเป่าขลุ่ย…หากหมายถึงความหมายอื่นเขาก็พอได้อยู่ จื่อฟางไล่ความคิดสัปดนในหัวออกไป

“น่าเสียดายจริงๆไป๋ผูอวี้ หากข้าได้ขลุ่ยเซียงตี๋มาเมื่อหลายปีก่อนก็คงเป่าได้อยู่ แต่ยามนี้ข้าหมดความสนใจไปแล้ว บอกท่านตามตรง ข้าไม่มีความสามารถ”จื่อฟางปั้นแต่งคำปฏิเสธให้แนบเนียนที่สุด ไป๋ผูอวี้มองเขาอยู่ครู่หนึ่ง ไม่รู้ว่าคิดเรื่องใด

“คุณชายเสิ่น ข้าจะคอยดูว่าท่านจะหลีกเลี่ยงได้นานแค่ไหน”ไป๋ผูอวี้เอ่ยเบาๆ ทำเขาชาวาบไปทั้งตัว จื่อฟางพยายามปั้นหน้าไม่สะทกสะท้านกับคำพูดของอีกฝ่าย จนกระทั่งสาวใช้หน้าตาจิ้มลิ้มคนหนึ่งเดินเข้ามายอบกายคาราวะ

“เรียนคุณชายเสิ่น ใต้เท้าเฉินเรียกตัวท่านเจ้าค่ะ”เสียงของนางก้องกังวาน จื่อฟางพยักหน้ารับรู้ก่อนหันไปหาไป๋ผูอวี้ที่ยังคงใช้สายตามองสำรวจเขาอยู่

“ข้าขอตัวก่อน”

“รักษาตัวด้วยคุณชาย พบกันเร็วๆนี้”ไป๋ผูอวี้กล่าวพร้อมรอยยิ้มปริศนา จื่อฟางเลิกคิ้ว พบกันเร็วๆนี้หรือ? หมายความว่าอย่างไร เขารีบหมุนกายเดินตามสาวใช้ออกไป ถอนหายใจอย่างโล่งอกที่รอดพ้นจากสายตาของไป๋ผูอวี้มาได้ แต่ลางสังหรณ์ของเขาบอกว่าจะได้เจอกับไป๋ผูอวี้เร็วๆนี้อย่างที่เจ้าตัวพูดแน่นอน

« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 15-02-2019 10:29:56 โดย DuenTwinBII »

ออฟไลน์ DuenTwinBII

  • ♥ “If you can't explain it simply, you don't understand it well enough.”♡
  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 369
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +624/-4
     ~•~

“เจ้าเด็กโง่! ไปเรียนในสำนักได้อะไรมาบ้าง แค่ตีความกวีบทนี้ก็ทำไม่ได้ แล้วเจ้าจะสอบได้เช่นไร!”เสียงที่เต็มไปด้วยโทสะของใต้เท้าเฉินดังอยู่ในศาลา พร้อมกับเสียงหวดไม้เรียวไปที่หลังมือของเสิ่นจิ้งเฟยดังเพี๊ยะ บ่าวไพร่ในเรือนต่างก็คุ้นเคยไปเสียแล้ว เป็นเวลาห้าวันนับตั้งแต่ใต้เท้าเฉินมาสอนหนังสือ คุณชายก็ถูกฟาดไปนับครั้งไม่ถ้วน เสนาบดีเสิ่นทำอะไรไม่ได้เพราะเคยรับปากไว้แล้วว่าจะไม่ก้าวก่ายการสอนของเฉินฉางเซียง ยามที่ได้ยินเสียงบุตรชายร้องโอดโอยเขาจึงทำเป็นไม่ได้ยินซะ นับแต่ใต้เท้าเฉินเข้ามาพำนักอยู่ในเรือนรับรอง จวนสกุลเสิ่นก็ไม่เงียบเหงาอีกต่อไป

จื่อฟางถูหลังมือที่แสบร้อนไปมา จางต้าคอยฝนหมึกให้คุณชาย ได้แต่ทำตาแดงมองอยู่เงียบๆ เขาโดนตีจนมือบวมแดงไปหมดแล้ว ใต้เท้าเฉินโหดเหลือเกิน แต่ภาษาจีนโบราณต่างจากในปัจจุบัน ถึงจะสั้นกระชับและจำง่ายกว่าแต่เขาก็ต้องเริ่มนับหนึ่งใหม่แม้จะเคยศึกษาด้วยตัวเองมาบ้าง แต่ก็ใช่ว่าจะใช้คล่องได้ภายในเวลาอันสั้น

เฉินฉางเซียงได้แต่มองเสิ่นจิ้งเฟย “หากยังเป็นเช่นนี้เจ้าคิดจะทำสิ่งใดได้”จื่อฟางได้แต่กลืนคำว่า‘อยู่เฉยๆ’ลงคอ หากพูดออกไปมีหวังได้มือลายแน่

“ข้าไม่อยากเป็นขุนนาง”จะให้เขาเอาตัวไปหาเรื่องน่าปวดหัว อยู่ใกล้ฮ่องเต้ที่เปรียบเสมือนมังกรน่ะเหรอ ฝันไปเถอะ

“ข้าอยากเปิดกิจการ”เขาจบบัญชี เก่งวาดรูปก็คงพอได้กระมัง แต่เสิ่นมู่หยางจะยอมให้เขาทำหรือไม่ ยามนี้ก็ยังไม่มีเงินที่หาได้จากน้ำพักน้ำแรงของตัวเอง  คิดจะทำสิ่งใดไม่ใช่เรื่องง่าย

“แน่ล่ะ เจ้าเป็นเช่นนี้ คงได้กลายเป็นที่หัวร่อในราชสำนักเปล่าๆ เจ้าจะสอบผ่านได้หรือเปล่าก็ยังไม่รู้ด้วยซ้ำ”เฉินฉางเซียงส่ายศีรษะอย่างระอา ขมับปวดตุบๆจนเขาต้องพักดื่มน้ำดับอารมณ์ ว่าแต่เปิดกิจการอย่างนั้นหรือ?เสิ่นจิ้งเฟยที่ไม่เอาอะไรน่ะรึจะเปิดกิจการ ใต้เท้าเฉินไม่คิดว่าเสิ่นจิ้งเฟยจะมีพื้นฐานที่แย่ถึงเพียงนี้ คงต้องหวังแค่ให้เสิ่นจิ้งเฟยไปสอบระดับอำเภอเอาวุฒิบัณฑิตซิ่วไฉมาประดับก็พอ

เสิ่นมู่หยางเป็นถึงเสนาบดีกรมพิธีการ หน้าที่การจัดสอบเคอจวี่ก็อยู่ในความรับผิดชอบของตน หากคิดใช้เส้นสายช่วยบุตรชายก็ไม่ใช่เรื่องยาก แต่ระยะนี้เสิ่นมู่หยางโดนเพ่งเล็งเป็นพิเศษจึงกลัวว่าเรื่องนี้จะระแคะระคายไปถึงหูฮ่องเต้ อย่าว่าแต่ตัวเขาเลย สกุลเสิ่นก็คงไม่รอดแน่

จื่อฟางอยากร่ำไห้นัก ก้มหน้าอ่านปรัชญาขงจื้อตรงหน้าอย่างฝืนทน ความคิดโบราณๆพวกนี้ไม่เข้าหัวของเขาเลยสักนิด มีแต่เห็นแย้งมากกว่า เสิ่นมู่หยางเห็นบุตรชายถูกเคี่ยวกรำจนหน้าซีดเผือดก็เป็นกังวลขึ้นมา รอยช้ำบนใบหน้าของเสิ่นจิ้งเฟยเบาลงแล้ว แต่กลับได้รอยแดงบนหลังมือมาแทน ใต้เท้าเฉินคล้ายกับรู้ว่าเสิ่นมู่หยางเฝ้ามองอยู่จึงเปรยออกมาดังๆ

“ดั่งที่ขงจื้อกล่าวไว้ ฮ่องเต้ต้องทำหน้าที่ของฮ่องเต้ให้สมบูรณ์ ขุนนางต้องทำหน้าที่ขุนนางให้สมบูรณ์ บิดาก็ต้องทำหน้าที่บิดาให้สมบูรณ์ บุตรก็ทำหน้าที่บุตรให้สมบูรณ์…”

จื่อฟางได้แต่โอดครวญอยู่ในใจ ใต้เท้าเฉินมักจะชอบพ่นคำสอนขงจื้อออกมาเสมอเวลาที่เสิ่นมู่หยางคิดเข้ามายุ่ง หรือไม่ก็จะรำพึงถึงท่านปู่ผู้ล่วงลับให้เขาฟัง

“เฮ้อ เสิ่นฉินอี้คงร่ำไห้อยู่ในปรโลกกระมัง พ่อเจ้าก็เป็นขุนนาง แต่เจ้ากลับไม่ได้เรื่องเช่นนี้…”เฉินฉางเซียงถอนหายใจเป็นรอบที่ร้อย ถึงแม้เขาจะดุด่าเข้มงวดกับเจ้าเด็กไม่เอาไหนผู้นี้ แต่ก็เห็นเป็นหลานชายคนหนึ่งอยากให้ชีวิตประสบความรุ่งเรือง

“ใต้เท้าเฉินควรพักสักหน่อย”จื่อฟางเอ่ย เหลือบมองเฉินฉางเซียงที่ดูจะแก่มากกว่าเดิมไปอีกสิบปี ช่วยไม่ได้ที่เขาไม่ใช่คนยุคนี้และก็ไม่ได้เป็นคนฉลาด เขาเป็นเพียงคนธรรมดาๆคนหนึ่งเท่านั้น ในโลกปัจจุบันชีวิตก็จืดชืดนอกจากถูกบังคับเรียนในคณะที่ตนไม่ต้องการจะให้เขาทำสิ่งใด ลุกขึ้นมาทำการใหญ่อย่างในละครน่ะหรือ?เรื่องพวกนั้นอยู่เหนือความคิดของเขา จื่อฟางแค่ต้องการอยู่รอด 

“เสิ่นจิ้งเฟย เจ้าคิดว่าไป๋ผูอวี้เป็นคนเช่นไร”อยู่ ๆ ใต้เท้าเฉินเอ่ยถาม เด็กหนุ่มขมวดคิ้วทันที เหตุใดถึงถามขึ้นมาเล่า? แต่ใบหน้าที่มีริ้วรอยเหี่ยวย่นของใต้เท้าเฉินก็อ่านไม่ออกว่าคิดสิ่งใดอยู่ จื่อฟางเลือกใช้คำอย่างระมัดระวัง

“ก็…ข้าเห็นว่าเขาเป็นคนดีคนหนึ่งถึงแม้จะชอบทำหน้าไร้อารมณ์…”เขายังพูดไม่จบ ชายแก่ตรงหน้าก็โบกมือให้หยุด

“เจ้าชอบเขาหรือไม่”คำถามนี้ทำเอาจื่อฟางใจกระตุกวาบ

“ท่านถามอะไรเนี่ย ข้าจะชอบเขาได้อย่างไร ข้าเป็นบุรุษ เขาก็เป็นบุรุษ…โอ๊ย”จื่อฟางถูกเฉินฉางเซียงใช้ไม้เรียวตีมืออีกครั้ง ใต้เท้าเฉินตัวสั่นระริกด้วยความอดกลั้น

“คิดเหลวไหลอะไรของเจ้า ข้าไม่ได้หมายความเช่นนั้น!ข้าจะให้เขามาช่วยชี้แนะเจ้า เพราะเขาเคยผ่านการสอบระดับอำเภอได้อันดับหนึ่งมาก่อน ที่ข้าถามก็เพราะกลัวว่าเจ้าจะเข้ากับไป๋ผูอวี้ไม่ได้”เฉินฉางเซียงพูดจบก็หอบเล็กน้อย หากเขาสอนเด็กไม่เอาไหนนี่ทุกวันคงได้เป็นลมเพราะโมโหแน่ เขาเองก็ไม่แน่ใจเรื่องที่ให้ไป๋ผูอวี้มาช่วยสอนเสิ่นจิ้งเฟยเท่าไหร่ แต่บุตรชายของไป๋อู่เหยียนสอบได้บัณฑิตซิ่วไฉตั้งแต่อายุสิบแปดปี ฉลาดและเป็นที่ชื่นชอบของผู้คน หากเสิ่นจิ้งเฟยผูกมิตรไว้ก็เป็นเรื่องดี ครั้งล่าสุดที่เห็นทั้งสองคนก็ดูเข้ากันได้ดี แม้กระทั่งไป๋อู่เหยียนยังแปลกใจ

“ท่านว่าอะไรนะ”จื่อฟางเบิกตาโต คิดว่าตนหูฝาดไปแน่ๆ จะให้ไป๋ผูอวี้มาช่วยสอนหนังสือตนน่ะหรือ หากผู้คนได้ยินคงถูกหัวเราะเยสะ เขาหวนนึกไปถึงคำพูดที่ไป๋ผูอวี้เอ่ยไว้เมื่อคราวก่อน ‘พบกันเร็วๆนี้’อย่าบอกนะว่าใต้เท้าเฉินเตรียมการไว้ก่อนแล้ว

“เจ้าก็ได้ยินชัดสองหู หากเจ้าไม่อยากแพ้เขา ก็ต้องพยายามให้มากกว่านี้ เจ้าไม่จำเป็นต้องรับราชการก็ได้ แค่สอบเป็นซิ่วไฉให้ได้ก็พอ ผู้คนด้านนอกจะได้ไม่หัวเราะเยาะ”ถึงเฉินฉางเซียงจะอาศัยอยู่ที่เสียนหยาง แต่เรื่องเล่าลือของเสิ่นจิ้งเฟยก็ได้ยินผ่านหูมาบ้าง รับราชการคงยากเกินไปสำหรับเสิ่นจิ้งเฟยในตอนนี้ อีกทั้งยังมีคนผู้นั้น…เข้าไปในราชสำนักไม่ใช่ความคิดที่ดี

จื่อฟางอ้าปากหมายจะโต้เถียง แต่ก็คิดว่าควรเงียบไว้ เพราะเขาเป็นเช่นนั้นจริง แย้งไปก็เปล่าประโยชน์ ดูท่าใต้เท้าเฉินคงอยากให้เขาสอบให้ได้ แม้ว่าจะปวดหัวแต่ก็ต้องพยายามเสียหน่อย

“ท่านคุยกับเขาแล้ว?”จื่อฟางถาม

“อืม กับพ่อเจ้าข้าก็คุยแล้วเช่นกัน”เฉินฉางเซียงรู้ว่าที่เสิ่นมู่หยางมาขอให้ตนสอนหนังสือบุตรชายก็เพราะอยากให้เขาควบคุมพฤติกรรมของเสิ่นจิ้งเฟยด้วยส่วนหนึ่ง อีกประการคือเรื่องการสอบ วันที่เจ้ามู่หยางไปหาเขาที่จวน เจ้าตัวแค่พูดว่า

‘บุตรชายข้าไม่ได้ความ ขอท่านช่วยให้เขาสอบระดับอำเภอผ่านก็พอ’

วันนั้นเขาโมโหมากที่เสิ่นมู่หยางพูดจาไม่เข้าท่า เสิ่นจิ้งเฟยจะไม่ได้ความแค่ไหนกันเชียว เขาจะเข็นให้ได้ดีเอง เพราะอารมณ์โมโหเขาถึงตกปากรับคำไป แต่คิดไม่ถึงจริงๆว่าเสิ่นจิ้งเฟยจะเป็นถึงขนาดนี้

“ใต้เท้าเฉินอยากทำอะไรก็ทำเถอะ”ถึงอย่างไรจื่อฟางก็ทำอะไรไม่ได้อยู่แล้ว

“เจ้าไม่คิดเถียงหรือ”เฉินฉางเซียงเลิกคิ้วอย่างแปลกใจ

“ข้าเถียงได้ที่ไหนกัน”เขาพึมพำตีหน้าซื่อ

“หึ”เฉินฉางเซียงทำเสียงขึ้นจมูก “เจ้าไม่ต้องห่วง ข้าไม่ได้ให้เขามาสอนเจ้าทุกวัน วันนี้พอเท่านี้ก่อน ข้าเหนื่อยแล้ว”

จื่อฟางแทบร้องตะโกนรีบลุกเข้าไปช่วยประคองใต้เท้าเฉินให้ลุกยืนสะดวกๆ แต่เฉินฉางเซียงยกมือไล่ก่อนจะใช้ไม้เท้าค้ำยันเดินออกไปจากศาลาเอง จื่อฟางถอนหายใจ บิดตัวไปมาไล่ความปวดเมื่อย ทิ้งตัวนั่งลงให้จางต้าทุบไหล่ที่แข็งเกร็งให้ หยางชวีไม่ได้มาตามติดเขาเหมือนก่อนเพราะไม่อยากฟังใต้เท้าเฉินบ่น แต่เขารู้ดีว่าเจ้าคนหน้าตายนั่นก็วนเวียนอยู่ใกล้ๆนี่ล่ะ

“คุณชาย ท่านคิดสอบจริงๆหรือ”จางต้าเอ่ยถาม เขาไม่รู้หนังสือ แต่ก็พอจำได้ว่าการเรียนของคุณชายไม่แย่เท่านี้ หรือผ่านไปนานเข้าคุณชายก็ลืมหมดแล้ว

“ใต้เท้าเฉินกับท่านพ่ออยากให้ข้าสอบ ข้าไม่คิดเป็นขุนนาง แต่ก็จะทำเท่าที่ทำได้ก็แล้วกัน”จื่อฟางเอ่ยครุ่นคิด อย่างน้อยไปสอบให้เสิ่นมู่หยางสบายใจ เขาได้ยินมาว่าการสอบระดับอำเภอจะมีในอีกห้าเดือนข้างหน้า ห้าเดือน…พอคิดว่าต้องทนกับใต้เท้าเฉินไปอีกนานก็รู้สึกห่อเหี่ยวขึ้นมา โชคดีที่ไป๋ผูอวี้จะมาช่วยสอนหนังสือให้เขาอีกคน อย่างน้อยจะได้มีอาหารตาให้มองบ้าง จื่อฟางยกยิ้มอย่างนึกสนุก หากคุณหนูฉินใช้กลยุทธ์หญิงงามกับไป๋ผูอวี้ เขาก็จะใช้เช่นกัน ดูซิว่าผู้ใดจะชนะ แต่กลยุทธ์ของเขาเรียกง่ายๆว่าการอ่อยนั่นเอง

ไป๋ผูอวี้ ข้าอยากรู้ว่าเจ้าจะทำตัวเป็นท่อนไม้ได้นานแค่ไหนกันเชียว!



 
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 15-02-2019 10:30:20 โดย DuenTwinBII »

ออฟไลน์ คนคิ้วท์คิ้วท์

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 339
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +10/-1
รอนะ ลุยเต็มที่เลยจื่อฟาง

ออฟไลน์ ❣☾月亮☽❣

  • เป็ดApollo
  • *
  • กระทู้: 6774
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +264/-6
จื่อฟางเจ้าช่างร้ายนัก555สะใจ
กลยุทธอ่อยจะต้องได้ผลแน่นอน ขนาดว่าหัวเข่ายังเกือบโดนเปิดออกดูมาแล้ว
น้องจะต้องใช้พู่กันมัดใจชายแล้วล่ะงานนี้ 555

ออฟไลน์ ♥lvl♀‘O’Deal2♥

  • หานิยายถูกใจยากจัง!
  • เป็ดAres
  • *
  • กระทู้: 2665
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +176/-4
มารอจ้า ลุ้นขึ้นเรื่อยๆ

ออฟไลน์ pui

  • เป็ดHermes
  • *
  • กระทู้: 2194
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +177/-3
รอตอนต่อไปค่ะ^^

CoMMuNiTY Of ThAiBoYsLoVE






ออฟไลน์ JokerGirl

  • ∀Σ❤∀ΔΣ Forever^^
  • เป็ดAres
  • *
  • กระทู้: 2938
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +128/-3
เป็นหลานชายก็แต่งได้ค่ะท่านพ่อ :laugh:

ออฟไลน์ เสพศิลป์

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 278
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +14/-1
ยั่วเขาเองระวังเถอะ เฟยเอ๋อ โอ้ยแล้วใครจะจัดการไอแพนด้าหลินฮุ่ย ไดด้เนี้ยยยยยย ตำแหน่งสูงแท้

ออฟไลน์ puiiz

  • เป็ดEros
  • *
  • กระทู้: 3378
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +135/-4

ออฟไลน์ wanirahot

  • เป็ดมหาวิทยาลัย
  • *
  • กระทู้: 485
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +4/-1
อ้าวๆ จะไปอ่อยเขาซะแล้ววววว

ออฟไลน์ ANIKI.

  • 兄貴
  • เป็ดมัธยม
  • *
  • กระทู้: 190
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +24/-1
เดี๋ยวๆ มันถึงจุดที่จะไปอ่อยเขาเหรอจื้อฟางงง เอ็งชอบเขาหรือไงงง เอ็งตอบตัวเองก่อนเว้ยย ย

ออฟไลน์ ♥►MAGNOLIA◄♥

  • เป็ดApollo
  • *
  • กระทู้: 7538
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +193/-11
จื่อฟาง อ่อยไป๋ ไวๆเลย

ออฟไลน์ lnudeel

  • I wanna be a CAT!!
  • เป็ดHephaestus
  • *
  • กระทู้: 1466
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +31/-5

ออฟไลน์ areenart1984

  • เป็ดArtemis
  • *
  • กระทู้: 4825
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +167/-7
เหมือนจะมองเห็นภาพ อาจารย์จับมือลูกศิษย์ให้เขียนตาม  o18

ออฟไลน์ Pin_12442

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 248
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +11/-0
มาแว้วววววววว :katai4:

ออฟไลน์ poppycake

  • เป็ดAres
  • *
  • กระทู้: 2670
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +119/-4
ไปไปไป หว่านเสน่ห์แบบโก๊ะๆของเราให้ทั่นชายไป่แบบจัดหนักไปเล๊ยยยย
555555555

 

สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด


สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด