[MPREG]<กรงรักร้ายของนายซาตาน> [Ch.26-ตอนพิเศษ]-(22-03-2018)
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด

สนใจโฆษณาติดต่อ laopedcenter[at]hotmail.com คลิ๊กรายละเอียดที่ตำแหน่งว่างเลยครับ

สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด

ผู้เขียน หัวข้อ: [MPREG]<กรงรักร้ายของนายซาตาน> [Ch.26-ตอนพิเศษ]-(22-03-2018)  (อ่าน 63281 ครั้ง)

ออฟไลน์ ไมเลอร์

  • เป็ดมัธยม
  • *
  • กระทู้: 189
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +119/-6
ข้อตกลงในการเข้ามาในเล้าเป็ดนะครับ กรุณาอ่านทุกคนนะครับ
เล้าแห่งนี้เป็นที่ที่คนชื่นชอบนิยาย boy's love หรือชายรักชาย หากใครหลงมาแล้วไม่ชอบ
กรุณากดกากบาทสีแดงมุมด้านขวาบนออกไปด้วยนะครับ


ติดตามกฏเพิ่มเติมที่กระทู้นี้บ่อยๆ เมื่อมีการแก้ไขกฏจะแก้ไขที่กระทู้นี้นะครับ
http://www.thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=459.0

ประกาศทั่วไปติดตามอัพเดทกันที่นี่
http://www.thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=2160.0

ประกาศ กฎที่อื่นมีไว้แหก แต่ห้ามมาแหกที่นี่

1.ห้ามมิให้ละเมิดสิทธิ์ส่วนตัวของคนแต่งและบุคคลในเรื่องทั้งหมด
การสนใจและชื่นชอบนิยายและเรื่องเล่าของคนในเรื่องควรมีขอบเขตที่จะไม่สร้างความเดือดร้อนให้เจ้าของเรื่อง เช่นเดียวกับเป็ดที่ตอนนี้ถูกรังควานตามหาตัวจากคนด้านต่างๆ จนตัดสินใจไม่เล่าเรื่องต่อ.........เนื่องจากบางเรื่องเป็นเรื่องเล่า.....................บางคนไม่ได้เปิดเผยตัวตน  เขาพอใจจะมีความสุขในที่เล็กๆแห่งนี้โดยไม่ได้ตั้งใจให้คนภายนอกได้รับรู้เรื่องราวแล้วนำไปพูดต่อ   เพราะปฎิเสธไม่ได้ว่าสังคมไม่ได้ยอมรับพวกเราสักเท่าไหร่

2.ห้ามมิให้โพสต์ข้อความ รูปภาพ ใช้ลายเซ็นหรือรูปส่วนตัวหรือสื่อใดๆที่ก่อให้เกิดความขัดแย้ง ไม่แสดงความเคารพ
หมิ่นประมาท,
หยาบคาย, เป็นที่รังเกียจ, ไม่เหมาะสม,ติดเรท x,ทำให้กระทู้กลายพันธ์,ไม่เกี่ยวพันกับนิยายที่ลง
หรืออื่นๆที่ขัดต่อกฎหมาย,ห้ามโพสต์กระทู้ที่จะสร้างประเด็นความขัดแย้ง  ในเรื่อง การเมือง ศาสนา พระมหากษัตริย์
และสถาบันต่าง ๆ  รวมถึงกระทู้ที่จะสร้างความแตกแยก  ชวนวิวาท ของสมาชิกภายในเวปบอร์ด
การกระทำเช่นนั้นอาจทำให้คุณแบนทันที และถาวร . หมายเลข IP ของทุกโพสต์จะถูกบันทึกเพื่อใช้เป็นหลักฐาน
ในความเป็นจริงเป็นไปได้ยากมากที่จะให้แต่ละคนมีความคิดเห็นตรงกันทั้งหมด   คนเรามากมายต่างความคิดต่างความเห็น เติบโตมาภายใต้ภาวะแวดล้อมต่างกันการแสดงความคิดเห็นที่แตกต่าง   จึงควรทำเพื่อให้เกิดความเข้าใจกัน แบ่งปันประสบการณ์และมิตรภาพเพื่ออาจเป็นประโยชน์ในการใช้ชีวิต  และไม่ว่าจะอย่างไรก็ควรเคารพในความคิดเห็นที่แตกต่างของบุคคลอื่นช่วยกันสร้างให้บอร์ดนี้มีแต่ความรักนะครับ   

เรื่องบางเรื่องอาจจะเป็นทั้งเรื่องแต่งหรือเรื่องเล่าใดๆก็ขอให้ระลึกเสมอว่า  อ่านเพื่อความบันเทิงและเก็บประสบการณ์ชีวิตที่คุณไม่ต้องไปเจอความเจ็บปวดเล่านั้นเองเพื่อเป็นข้อเตือนใจ สอนใจในการตัดสินใจใช้ชีวิต   จึงไม่ต้องพยายามสืบหาว่าเรื่องจริงหรือเรื่องแต่งส่วนการพูดคุยนั้น   ก็ประมาณอย่าทำให้กระทู้กลายพันธุ์ห้ามเอาเรื่องส่วนตัวมาปรึกษาพูดคุยกันโดยที่ไม่เกี่ยวพันกับเรื่องในกระทู้นิยาย  ถ้าจะวิจารณ์หรือแสดงความคิดเห็นทุกคนมีสิทธิแต่ขอให้ไปตั้งกระทู้ที่บอร์ดอื่นที่ไม่ใช่ที่นี่นะครับ

3.การนำเรื่อง ข้อความ รูปภาพมาโพสต์ หรือนำข้อความใดๆไปโพสที่อื่นๆ กรุณาพยายามติดต่อเจ้าของเรื่องเท่าที่จะทำได้หรือแจ้งมายังบอร์ดนี้ก่อนนะครับ  เนื่องจากเจ้าของเรื่องบางครั้งไม่ต้องการให้คนที่ไม่ได้ชื่นชอบนิยายชายรักชายเข้ามารับรู้  ลิขสิทธิ์ทั้งหมดเป็นของเจ้าของคนที่ทำขึ้นและเว็บแห่งนี้นะครับ

4.ห้ามแจกเบอร์ แลกเมล์ บอกเมล์ แลก msn บนบอร์ด โดยเฉพาะการบอกเบอร์ หรือเมลของคนอื่นโดยที่เจ้าของไม่ยินยอมให้ส่งหรือติดต่อกันทางพีเอ็มจะปลอดภัยกว่าแล้วเมื่อมีการติดต่อสื่อสารกันให้พึงระวังถึงความปลอดภัย ความไม่น่าไว้ใจของผุ้คนทุกคนแม้จะมีชื่อเสียงในบอร์ดเป็นเรื่องส่วนตัวของแต่ละคนไป เพื่อลดความขัดแย้งภายในเล้า จึงไม่สนับสนุนให้มีการจีบกันในบอร์ดนะครับ

5.ห้ามจั่วหัวกระทู้ว่าเป็น “เรื่องเล่า” นักเขียนทุกคนอย่าโกหกคนอ่านว่าเป็นเรื่องจริงในกรณีแต่งเติมเพิ่มแม้แต่นิดเดียวให้ชี้แจงว่าเป็นเรื่องแต่งแม้จะแต่งเพิ่มขึ้นแค่ไม่ถึง 10 % ก็ตาม
เพราะแม้จะเป็นเรื่องที่เขียนจากเรื่องจริง เมื่อนำมาพิมพ์เป็นเรื่องผ่านตัวอักษร ย่อมเลี่ยงไม่ได้ที่จะมีการเพิ่มเติมเพื่อให้เกิดสีสันในเนื้อเรื่อง ทางเล้าถือว่านั่นคือการเพิ่มเติมเนื้อเรื่อง จึงไม่อนุญาตให้จั่วหัวกระทู้ว่าเป็น “เรื่องเล่า” แต่สามารถแจ้งว่าเป็น “นิยายที่อ้างอิงมาจากชีวิตจริง” ได้  มีคนมากกมายทะเลาะเสียความรู้สึกเพราะเรื่องนี้มามากแล้ว

6.การพูดคุยโต้ตอบระหว่างคนเขียนและคนอ่านนอกเรื่องนิยาย  ทำได้  แต่อย่าให้มากนัก เช่น คนเขียนโพสต์นิยายหนึ่งตอน ก็ควรตอบเพียงคอมเม้นต์เดียวก็พอแล้ว  โดยสามารถใช้ปุ่ม Insert quote ได้    ถ้าจะพูดคุยกันมากขึ้นแนะนำให้ไปตั้งกระทู้ใหม่ที่ห้องพูดคุยทั่วไป และลงลิงค์จากนิยายไปยังกระทู้พูดคุยกับแฟนคลับนิยายในรีพลายแรกด้วยนะครับ เพราะการที่คนเขียนและแฟนคลับพูดคุยกันมากทำให้หานิยายที่จะอ่านยาก ไม่เจอ ลำบากกับคนที่ไม่ได้เข้ามาตามอ่านทุกวัน

7. การกดบวกให้เป็ดเหลือง
      7.1 นิยาย 1 ตอน  จะให้ขึ้น Top list แค่ 1 Reply เท่านั้น ถ้าขึ้นเกิน จะลบคะแนนออก เหลือเฉพาะ Reply ที่มีคะแนนสูงสุด
      7.2 นิยาย 1 เรื่อง จะให้ขึ้น Top list ไม่เกิน 3 Reply ถ้าเกิน จะลบคะแนนออก ให้เหลือ เฉพาะ Reply ที่มีคะแนนสูงสุด ลงมาตามลำดับ
      7.3 Post ในห้องอื่น ๆ ก็จะใช้ หลักการเดียวกันนี้ เช่นกัน ยกเว้น
            - 1 Reply ที่เกินมานั้น โมทั้งหลาย พิจารณาดูแล้วว่า ไม่เป็นการปั่นโหวต และเป็น Reply ที่น่าสนใจและเป็นที่ชื่นชอบจริง ๆ

8.Administrator และ moderator ของ forum นี้ มีสิทธิ์อ่าน, ลบ หรือแก้ไขทุกข้อความ. และ administrator, moderator หรือ webmaster ไม่สามารถรับผิดชอบต่อข้อความที่คุณได้แสดงความคิดเห็น (ยกเว้นว่าพวกเขาจะเป็นผู้โพสต์เอง).

9.คุณยินยอมให้ข้อมูลทุกอย่างของคุณถูกเก็บไว้ในฐานข้อมูล. ซึ่งข้อมูลเหล่านี้จะไม่ถูกเปิดเผยต่อผู้อื่นโดยไม่ได้รับการยินยอมจากคุณ .Webmaster, administrator และ moderator ไม่สามารถรับผิดชอบต่อการถูกเจาะข้อมูล แล้วนำไปสร้างความเดือดร้อนต่างๆ

10.ห้ามลงประกาศลิงค์โปรโมทเวป  โฆษณา หรือโปรโมทในเชิงธุรกิจใดๆ ทุกชนิด ลงได้เฉพาะในห้องซื้อขาย ในเมื่อแนะนำเวปอื่นที่บอร์ดเรา ก็ช่วยแนะนำบอร์ดเราโดยลงลิงค์บอร์ดเรา เว็บ http://www.thaiboyslove.com  ในบอร์ดที่ท่านแนะนำมาให้เราด้วย  เมื่อจำเป็นต้องแนะนำลิงค์ให้ส่งลิงค์กันทาง personal message หรือพีเอ็มแทนนะครับจะสะดวกกว่า ส่วนในกรณีอยากแนะนำสิ่งดีๆให้เพื่อนๆได้อ่านจริงๆนั้นพยายามลงให้ห้องซื้อขายซะ หรือถ้าม้อดเดอเรเตอร์จะพิจารณาเป็นกรณีๆไป ถ้ารู้สึกว่าไม่ได้โปรโมทเว็บ แต่อยากแนะนำสิ่งดีๆให้เพื่อนด้วยใจจริงจะให้กระทู้นั้นคงอยู่ต่อไป

11.บอร์ดนิยายที่โพสต์จนจบแล้วมีไว้สำหรับนิยายที่โพสต์ในบอร์ด boy's love จนจบแล้วเท่านั้น จึงจะถูกย้ายมาเก็บไว้ที่นี่ หาอ่านนิยายที่จบแล้ว หรือคนเขียนไม่ได้เขียนต่อ แต่โดยนัยแล้วถือว่าพล็อตเรื่องโดยรวมสมควรแก่การจบแล้ว หากนักเขียนท่านใดได้พิมพ์เล่มกับสำนักพิมพ์ ต้องการลบเรื่องบางส่วนออก โดยเฉพาะไคลแม๊ก หรือตอนจบที่สำคัญ ให้แจ้ง moderator ย้ายนิยายของท่านสู่ห้องนิยายไม่จบ เพื่อที่หากระยะเวลาเกินหกเดือนแล้ว เราจะได้ทำการลบทิ้ง หรือท่านจะลบนิยายดังกล่าวทิ้งเสียก็ได้ เนื่องจากบอร์ดนี้เก็บเฉพาะนิยายที่จบแล้ว

บอร์ดนิยายที่ยังไม่มาต่อจนจบไว้สำหรับ
นิยายที่คนเขียนไม่ได้มาต่อนาน หายไปโดยไม่มีเหตุผลสมควร ไม่ได้แจ้งไว้หรือแจ้งแล้วก็ไม่มาต่อ 3 เดือน จะย้ายมาเก็บในนี้เมื่อครบหกเดือนจะทำการลบทิ้ง ส่วนเรื่องไหนที่จะต่อก็ต่อในนี้จนกว่าจะจบ แล้วถึงจะทำการย้ายไปสู่บอร์ดนิยายจบแล้วต่อไป

12.ห้ามนำเรื่องพิพาทต่างๆมาเคลียร์กันในบอร์ด

13.ผู้โพสต์นิยาย และเขียนนิยายกรุณาโพสต์ให้จบ ตรวจสอบคำผิดก่อนนำมาลงด้วยครับ

14.ส่วนคนอ่านทุกท่าน เวลาอ่านนิยาย เรื่องที่คนเขียนเขียน  ก็ไม่ต้องไปอินมากนะครับ ให้เก็บเอาสิ่งดีๆ ประสบการณ์ ข้อคิดดีๆไปนะครับ

15. การนำรูปภาพ บทความ ฯลฯ มาลงในเว็บบอร์ด  ควรจะให้เครดิตกับ... 
(1) ผู้ที่เป็นต้นตอเจ้าของบทความหรือรูปภาพนั้นๆ
(2) เว็บไซต์ต้นตอที่อ้างอิงถึง
....ในกรณีที่เป็นบทความที่ถูกอ้างอิงต่อมาจากเวปไซต์อื่นๆ
- ถ้ามีแหล่งต้นตอของเจ้าของบทความ  ให้โพสต์ชื่อเจ้าของต้นตอของบทความหรือรูปภาพนั้นๆ  พร้อมทั้งเว็บไซต์ที่อ้างอิง 
  (กรณีนี้จะโพสต์อ้างอิงชื่อผู้โพสต์หรือเว็บไซต์ที่เรานำมาหรือไม่ก็ได้ แต่ควรมั่นใจว่าชื่อต้นตอของที่มาถูกต้อง)
- ถ้าไม่สามารถหาชื่อต้นตอของรูปภาพหรือเว็บไซต์ที่นำมาได้ ควรอ้างอิงชื่อผู้โพสต์และเว็บไซต์จากแหล่งที่เรานำมาเสมอ
- ควรขออนุญาติเจ้าของภาพหรือเจ้าของบทความก่อนนำมาโพสต์ค่ะ(ถ้าเป็นไปได้) ยกเว้นพวกเว็บไซต์สาธารณะ เช่น  หนังสือพิมพ์ออนไลน์ ฯลฯ ที่เปิดให้คนทั่วไปได้อ่านเป็นสาธารณะ ก็นำมาโพสต์ได้ แต่ให้อ้างอิงเจ้าของชื่อและแหล่งที่มาค่ะ
- ไม่ควรดัดแปลงหรือแก้ไขเครดิตที่ติดมากับรูปหรือบทความก่อนนำมาโพสต์
- ถ้าเป็น FW mail  ก็บอกไปเลยว่าเอามาจาก FW mail

16.นิยายเรื่องไหนที่คิดว่าเมื่อมีการรวมเล่มขายแล้วจะลบเนื้อเรื่องไม่ว่าบางส่วนหรือทั้งหมดออก กรุณาอย่าเอามาลงที่นี่ หรือสำหรับผู้ที่ขอนิยายจากนักเขียนอื่นมาลง ต้องมั่นใจว่าเรื่องนั้นจะไม่มีการลบเนื้อเรื่องไม่ว่าบางส่วนหรือทั้งหมดออกเมื่อมีการรวมเล่มขาย อนึ่ง เล้าไม่ได้ห้ามให้มีการรวมเล่มแต่อย่างใด สามารถรวมเล่มขายกันได้ แต่อยากให้เคารพกฎของเล้าด้วย เล้าเปิดโอกาสให้ทุกคน จะทำมาหากิน หรืออะไรก็ตามแต่ขอความร่วมมือด้วย เผื่อที่ทุกคนจะได้อยู่อย่างมีความสุข

17.ห้ามแจ้งที่หัวกระทู้เกี่ยวกับการจองหรือจัดพิมพ์หนังสือ แต่อนุโลมให้ขึ้นหัวกระทู้ว่า “แจ้งข่าวหน้า...” และลงลิงค์ที่ได้ตั้งเอาไว้ในแล้วในห้องซื้อขายลงในกระทู้นิยายแทน  ถ้านักเขียนต้องการประชาสัมพันธ์เกี่ยวกับการจอง หรือจัดพิมพ์หนังสือของตนเองผ่านกระทู้นิยายของตนเอง  นิยายเรื่องดังกล่าวจะต้องลงเนื้อหาจนจบก่อน (ไม่รวมตอนพิเศษ) จึงจะทำการประชาสัมพันธ์ในกระทู้นิยายได้ (ศึกษากฎการซื้อขายของเล้าก่อน ด้วยนะคะ)
ว่าด้วยเรื่องการจะรวมเล่มนิยายขายในเล้า จะต้องมี ID ซื้อขายก่อน ถึงจะสามารถประกาศ ..แจ้งข่าว.. ที่บนหัวกระทู้ของนิยายได้ ในกรณีที่ รวมเล่มกับ สนพ. ที่มี  ID ซื้อขายของเล้าแล้ว นักเขียนก็สามารถใช้ หมายเลข  ID ของ สนพ. ลงแจ้งในหน้าที่มีเนื้อหารายละเอียดการสั่งจองนิยายได้

18.ใครจะโพสต์เรื่องสั้นให้มาโพสต์ที่บอร์ดเรื่องสั้น ถ้าเรื่องไหนไม่จบนานเกิน 3 เดือน จะทำการลบทิ้งทันที  ส่วนเรื่องสั้นที่จบแล้วให้แก้ไขโพสต์แรก และต่อท้ายว่าจบแล้วจะได้ไม่ถูกลบทิ้งและจะเก็บไว้ที่บอร์ดเรื่องสั้นไม่ย้ายไปไหน   เช่นเดียวกับนิยายทุกเรื่องเมื่อจบให้แก้ไขโพสต์แรก และต่อท้ายว่าจบแล้ว จะได้ย้ายเข้าสู่บอร์ดนิยายจบแล้ว ไม่เช่นนั้นม๊อดอาจเข้าใจว่าไม่มาต่อนิยายนานเกินจะโดนลบทิ้งครับ

เอาข้อสำคัญก่อนนะครับเด่วอื่นๆจะทำมาเพิ่มครับเอิ้กๆหุหุ
admin
thaiboyslove.com.......................................                                                           

วันที่ 3 ธ.ค. 2551วันที่ 16 ก.ย. 2554 ได้เพิ่มกฏ ข้อที่ 7
วันที่ 21 ต.ค.2556 ได้ปรับปรุงกฎทั้งหมดเพื่อให้แก้ไข และติดตามได้ง่าย
วันที่ 11 พ.ย. 2557 เพิ่มเติมการลงเรื่องสั้นและการแจ้งว่านิยายจบแล้ว
วันที่ 4 ธ.ค. 2557 เพิ่มบอร์ดเรื่องสั้นจึงปรับปรุงกฏข้อ 18 เกี่ยวกับเรื่องสั้น และ เพิ่มเติมส่วนขยายของกฏข้อ 17



เว็บไซต์แห่งนี้เป็นเว็บไซต์ส่วนบุคคลที่ได้รับความคุ้มครองจากกฎหมายภายในและระหว่างประเทศ การเข้าถึงข้อมูลใดๆบนเว็บไซต์แห่งนี้โดยไม่ได้รับความยินยอมจากผู้ให้บริการ ถือว่าเป็นความผิดร้ายแรง

ข้อความใดๆก็ตามบนเว็บไซต์แห่งนี้ เกิดจาการเขียนโดยสมาชิก และตีพิมพ์แบบอัตโนมัติ ผู้ดูแลเว็บไซต์แห่งนี้ไม่จำเป็นต้องเห็นด้วย และไม่รับผิดชอบต่อข้อความใดๆ  โปรดใช้วิจารณญาณของท่านที่เข้าชม และ/หรือ ท่านผู้ปกครองในการให้ลูกหลานเข้าชม

*****************************************************************************************

เปิดเรื่องใหม่ในนามปากกา 'ไมเลอร์' ครับ ฝากเนื้อฝากตัวด้วยนะครับ
Share This Topic To FaceBook
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 22-03-2018 20:59:08 โดย ไมเลอร์ »

ออฟไลน์ ไมเลอร์

  • เป็ดมัธยม
  • *
  • กระทู้: 189
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +119/-6
INTRODUCTION

"ดูแลตัวเองดีๆนะลูก" แก้วกานดาเอ่ยกับลูกชายหัวแก้วหัวแหวนพร้อมกับเข้าสวมกอดอย่างแนบแน่น
วันนี้ลูกชายของเธอกำลังจะเดินทางกลับประเทศสหรัฐอเมริกาหลังจากที่กลับมาเยี่ยมทางบ้านในช่วงซัมเมอร์

"ครับแม่ผมจะดูแลตัวเองดีๆ จะโทรกลับมาบ้านบ่อยๆจนแม่ต้องรำคาญเลยล่ะ" นภัทรเอ่ยกับผู้เป็นแม่ด้วยรอยยิ้มหวาน เขายอมรับว่าตอนนี้รู้สึกใจหายมากที่จะได้ห่างจากครอบครัวอีกครั้ง

"ทำให้ได้อย่างที่พูดล่ะกัน" แก้วกานดายิ้มให้ลูกชาย

"มาให้พ่อกอดหน่อยไอ้ลูกชาย" ทรงพลเอ่ยขึ้นหลังจากเห็นลูกชายและภรรยาร่ำลากันได้สักพัก เขาเองก็ใจหายไม่น้อยที่ลูกชายคนเล็กต้องห่างอกอีกครั้ง แต่ครั้งนี้ทรงพลกลับรู้สึกเป็นห่วงลูกมากเป็นพิเศษเขารู้สึกแบบนั้นไม่รู้ว่าทำไม

"ผมคงคิดถึงคุณพ่อมากๆเลยครับ" นภัทรเอ่ยขณะกำลังสวมกอดผู้เป็นพ่อ

"ถ้าถึงแล้วรีบโทรหาพ่อด้วยล่ะ"

"ครับพ่อ"

นภัทรผละจากอ้อมกอดของผู้เป็นพ่อแล้วก็หันไปยิ้มให้พี่ชายของตนที่กำลังยืนรออยู่ข้างๆ ไม่มีพี่ชายคนไหนบนโลกใบนี้ที่จะดีกับน้องชายได้เท่าคนนี้อีกแล้ว ตั้งแต่เด็กจนโตเขามีพี่ชายคนนี้คอยดูแลปกป้องมาตลอด ไม่เคยให้ใครมาแกล้งหรือทำร้ายได้เลย นั่นมันทำให้เขารักพี่ชายคนนี้มากที่สุด

"ตั้งใจเรียนล่ะภัทรบริษัทของเรารอการกลับมาของน้องอยู่นะ" นดลเอ่ยกับน้องชายพลางเอามือวางบนไหล่บางแล้วยิ้มให้

"แค่มีพี่ดลคนเดียวก็เพียงพอแล้วพี่ชายผมเก่งที่สุด" นภัทรเอ่ยชมพี่ชาย

"ไม่เก่งอย่างเดียวแถมยังหล่อด้วยนะจะบอกให้ ฮ่าๆ" นดลเอ่ยขำๆก่อนที่จะสวมกอดน้องชายสุดที่รัก น้องชายคนนี้เป็นคนที่อ่อนแอและมองโลกในแง่ดีในทุกๆเรื่อง นั่นทำให้เขารู้สึกเป็นห่วงน้องคนนี้ตลอดเวลาเพราะกลัวพวกมารสังคมจะใช้ความอ่อนโยนของนภัทรมาหลอกลวงหรือทำร้ายเอาได้

"หวังว่ากลับมาคราวหน้าผมจะได้มีพี่สะใภ้กับเค้าบ้างนะครับ"

"พี่จะพยายามหาให้ได้ละกัน ฮ่าๆๆ"

"หล่อแล้วอย่าเลือกมากเดี๋ยวจะขึ้นคานเอานะ" นภัทรเอ่ยแซวพี่ชาย

"ถ้าจะมีเดี๋ยวมันก็มาเองล่ะไอ้น้อง"

สนทนากันได้สักพักใหญ่ทั้งหมดก็ต้องกลับบ้านกันก่อนนั่นเพราะเหลือเวลาตั้งชั่วโมงเศษๆกว่าจะเครื่องจะออก

"ก่อนกลับเรามาเซลฟี่กันก่อนนะครับ" นภัทรเอ่ยขึ้นก่อนที่จวนจะถึงเวลากลับ

"มาเดี๋ยวพี่ถ่ายเอง" นดลเอ่ยแล้วก็รับโทรศัพท์มือถือจากน้องชายมาถ่ายรูปพร้อมกันทั้งสี่คน

"เดินทางปลอดภัยนะลูก" แก้วกานดาเอ่ยพร้อมกับโผกอดลูกชายอีกครั้ง

"พ่อไปล่ะ เดินทางปลอดภัยนะไอ้ลูกชาย"

"ครับพ่อ" นภัทรเอ่ยแล้วเปลี่ยนมาสวมกอดผู้เป็นพ่อแทน

"ไปล่ะภัทรดูและตัวเองดีๆ ถ้าขึ้นเครื่องแล้วโทรบอกพี่ด้วยนะ"

"ครับพี่ดล" นภัทรว่าแล้วก็ยิ้มให้พี่ชาย

หลังจากที่ทั้งสามคนกลับไปหมดแล้ว นภัทรก็ต้องนั่งรออีกเป็นเวลาชั่วโมงเศษ เขาจองเที่ยวบินรอบดึกจึงต้องให้พ่อกับแม่รวมถึงพี่ชายกลับบ้านก่อนนั่นเพราะหากรอให้ถึงเวลามันอาจจะดึกไป

อีกมุมหนึ่งของสนามบิน
"นายครับเจอเป้าหมายแล้ว" เสียงชายชุดดำกำลังคุยสายกับผู้เป็นเจ้านาย

"อย่าให้พลาดล่ะ" ปลายสายเอ่ยกับลูกน้องด้วยน้ำเสียงเยือกเย็น

"ผมจะไม่ทำให้นายผิดหวังแน่นอนครับ"

"ฉันจะรอที่เกาะพรุ่งนี้เช้าหวังว่าฉันจะได้เห็นผลงานดีๆของพวกแกนะ"

"ครับนาย"

สิ้นเสียงลูกน้อง 'เคลวิน' ก็วางสายแล้วแสยะยิ้มออกมา เขานั่งอยู่ที่โต๊ะทำงานภายในห้อง มันถึงเวลาแล้วที่เขาจะต้องเอาคืนพวกมันที่เคยทำลายชีวิตครอบครัวที่สมบูรณ์ของเขา พวกมันจะได้รู้ว่าความเจ็บปวดมันเป็นยังไง

"แล้วเจอกัน......นภัทร"


////////////////////////////////////////
ฝากเรื่องใหม่ไว้ด้วยนะครับ

ออฟไลน์ weedear

  • เป็ดHera
  • *
  • กระทู้: 1139
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +10/-4
ติดตามมมมมมมม

ออฟไลน์ azure

  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 772
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +37/-2
ตามมม :katai5:

ออฟไลน์ ไมเลอร์

  • เป็ดมัธยม
  • *
  • กระทู้: 189
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +119/-6
CHAPTER  1  เสียทั้งกายและใจ


@เกาะบลูซี
   เกาะบลูซีเป็นเกาะแฝดส่วนตัวของตระกูลเมอร์เรย์  ซึ่งเกาะพี่บลูซีคือเกาะที่มีขนาดใหญ่เป็นสองเท่าตัว  โดยจะเปิดโรงแรมระดับห้าดาวคอยต้อนรับลูกค้าทั้งชาวไทยและต่างประเทศ  ส่วนเกาะน้องบลูซีจะเป็นที่พักผ่อนส่วนตัวของผู้เป็นเจ้าของเกาะ

   คู่สามีภรรยานักธุรกิจชาวอังกฤษผู้ไร้ซึ่งทายาทสืบสกุล แต่เมื่อสิบหกปีก่อนหน้านี้พวกเขามาเที่ยวและหาทำเลเพื่อทำธุรกิจที่เมืองไทย  ได้เจอและถูกชะตากับเด็กน้อยกำพร้าคนหนึ่งชื่อ ‘วิน’ และได้รับอุปการะเป็นบุตรบุญธรรม  พาไปเลี้ยงดูและส่งเสียให้เรียนจนจบปริญญาโทที่ประเทศอังกฤษและได้ส่งมาบริหารโรงแรมที่เกาะส่วนตัวแห่งนี้  โดยนานๆทีจะมาที่เมืองไทยเพื่อมาเยี่ยมเยียนลูกชาย
 
   ตอนนี้เป็นเช้าของวันใหม่หลังจากที่นภัทรโดนลูกน้องของเคลวินจับตัวมาไว้ที่บ้านพักบนเนินเขาสูงด้านหนึ่งเป็นหน้าผาสูงชันส่วนทางออกมีทางเดียวและมีคนของเคลวินเฝ้ายามอยู่ตลอดเวลายากที่จะสามารถหนีออกไปได้  เขาถูกมัดมือมัดเท้าเอาไว้บนเตียงไม่สามารถที่จะขยับตัวได้เลยแม้แต่น้อย

   เสียงนกร้องในยามเช้าทำให้นภัทรค่อยๆลืมตาขึ้นมาอย่างช้าๆ  จากภาพที่เบลอๆค่อยๆชัดขึ้นเรื่อยๆตอนนี้เขาตื่นขึ้นมาในสถานที่ไม่คุ้นตา  นภัทรพยายามที่จะขยับตัวแต่มันแต่เขาก็ทำไม่ได้เพราะกำลังถูกมัดมือมัดเท้าเอาไว้ด้วยน้ำมือของโจรพวกนั้นที่มาดักจับตัวเขาเมื่อคืนนี้

   “นี่มันที่ไหนกัน” นภัทรเอ่ยออกมาเสียงเบา

   “มันอยู่ข้างในครับนาย”

   นภัทรได้ยินเสียงคนพูดดังมาจากข้างนอกเขาก็ต้องหลับตาลงแล้วนอนนิ่งๆเอาไว้ไม่ให้พวกมันรู้ว่าเขาได้รู้สึกตัวแล้ว
   “พวกมึงกลับไปที่โรงแรมก่อนเดี๋ยวที่นี่กูจัดการเอง”

   นภัทรนอนฟังเสียงของหนุ่มนิรนามที่กำลังสั่งลูกน้อง ทำไมนะเขาถึงรู้สึกคุ้นหูกับเสียงพูดนี้มากเหลือเกิน

   แอ๊ดดดดดด

   เสียงเปิดประตูดังขึ้นพร้อมกับเสียงเดินเข้ามาเรื่อยๆ ตอนนี้หัวใจของนภัทรเต้นแรงด้วยความกลัวแต่เขายังคงนอนนิ่งอยู่อย่างนั้น

   “ในที่สุดวันนี้ก็มาถึง หึหึ” เสียงเข้มของเคลวินเอ่ยออกมาพร้อมกับหัวเราะในลำคออย่างพอใจ

   “ลูกชายที่คนพวกแกรักนักรักหนาจะต้องย่อยยับด้วยน้ำมือของฉัน” ว่าแล้วเคลวินก็เอื้อมมือหนาไปเชยคางของร่างบางที่กำลังนอนนิ่งอยู่ แต่ไม่ทันไรเขาก็ต้องร้องออกมาเสียงดัง

   “โอ๊ย!!!! เหี้ยเอ้ย” เคลวินร้องเสียงดังด้วยความเจ็บปวดนั่นเพราะมือของเขาโดนร่างบางกัดจนต้องใช้มืออีกข้างบีบที่ปากบางจนนภัทรต้องยอมปล่อย

   “มึงกล้ามากที่กล้าทำกับกูแบบนี้” เคลวินเอ่ยเสียงแข็งด้วยความโมโห

   “ปะ…ปล่อยนะ” นภัทรเอ่ยพร้อมกับจ้องหน้าคนที่กำลังทำร้ายตัวเอง

   เมื่อเพ่งมองใบหน้าคมคายนั้นอย่างตั้งใจนภัทรก็ต้องยิ้มออกมาทั้งๆที่กำลังโดนบีบที่คางเรียวอยู่

   “พี่วิน…พี่วินใช่ไหม” นภัทรเอ่ยออกมาอย่างไม่มั่นใจ พร้อมกันนั้นน้ำตามันก็ไหลออกมาจากหางตาอย่างดีใจที่ได้เจอเขาอีกครั้ง  คนที่อยู่ในความทรงจำในวัยเด็กของเขาและไม่เคยลืมมาตลอด พี่วินที่เคยแสนดีและอ่อนโยนคอยปกป้องดูแลเขามาตลอด

   “กูไม่ใช่พี่วินของมึง  ไม่ต้องมาทำดีใจจนน้ำตาแตกกูไม่ใจอ่อนให้หรอก” เคลวินเอ่ยเสียงแข็งแล้วก็เอามือผลักใบหน้าของนภัทรจนล้มลงไปนอนที่เตียง

   “ทำไมพี่วินทำแบบนี้ พี่จับตัวผมมาทำไมอ่ะ” นภัทรเอ่ยถามด้วยความสงสัย

   “เพราะกูต้องการแก้แค้นพ่อกับแม่มึงไง ครอบครัวมึงแม่งเหี้ยโคตรๆ มึงต้องชดใช้เรื่องทั้งหมดที่เกิดขึ้น”

   “พ่อกับแม่ผมทำอะไร  ท่านทั้งสองรักพี่วินมาก  พี่ต้องเข้าใจผิดแน่ๆเลยครับ ปล่อยผมเถอะนะผมจะไปบอกท่านว่าผมเจอพี่แล้วท่านคงดีใจมาก” นภัทรเอ่ยพร้อมกับมองด้วยสายตาที่เว้าวอน

   “ปล่อยมึงไปให้โง่น่ะสิ มึงต้องอยู่ที่นี่จนกว่ากูจะทำให้มึงย่อยยับจนกูพอใจ  แล้วตอนนั้นกูถึงจะให้พ่อกับแม่มึงรู้ว่ามึงอยู่ที่นี่  และแน่นอนถึงตอนนั้นมึงคงไม่มีศักดิ์ศรีเหลือพอที่จะแบกหน้าไปเจอใครได้อีกแล้ว ฮ่าๆๆ” เคลวินหัวเราะออกมาด้วยความสะใจ

   “ทำไมพี่วินพูดแบบนี้ รู้ไหมว่าภัทรคิดถึงพี่วินมาตลอด  ไม่เคยลืมเลยแม้แต่วันเดียว พี่ยังจะทำร้ายผมได้ลงคออีกหรือ” นภัทรเงยหน้าขึ้นมาพูดกับคนตัวโตพร้อมกับร้องไห้ไปด้วย

   เขาจำได้ว่าตอนที่วินหายตัวออกไปจากบ้านนั้นเขาถามพ่อกับแม่ตลอดเวลาว่าวินหายไปไหน  แต่ก็ไม่ได้คำตอบจากท่านทั้งสองคน  พ่อกับแม่บอกเพียงแค่ว่าวินไปอยู่กับญาติที่ต่างจังหวัด  เขารู้แค่นั้นและก็ได้แต่เฝ้ามองที่ประตูรั้วบ้านมาตั้งแต่เด็กจนโต  เผื่อว่าวันหนึ่งวินจะกลับมาแต่จนแล้วจนรอดก็ไม่มีวี่แววของพี่ชายคนนั้น คนที่ดีกับเขามาตลอด

   “มึงอย่ามาพูดถึงอดีตกูลืมมันไปหมดแล้ว ไอ้วินคนนั้นมันได้ตายไปจากโลกนี้แล้วเหลือแต่กูคนที่ชื่อ ‘เคลวิน’ มึงมองหน้ากูไว้กูชื่อเคลวินไม่ได้ชื่อวินจำไว้ด้วย” เคลวินเอามือจิ้มไปที่หน้าผากของร่างบางจนศีรษะของเขาต้องโน้มเอนไปตามแรงของน้ำหนักมือ

   “ผมไม่เชื่อ! พี่วินยังเป็นคนเดิมใช่ไหม พี่วินคนที่ดีกับผม พี่วินคนที่เคยปกป้องผม คนนั้นยังอยู่นี่ใช่ไหมครับ ฮือๆๆ” นภัทรร้องไห้เสียงดังจนคนที่กำลังยืนดูอยู่นั้นเริ่มรำคาญ

   “หยุดร้อง ถ้ามึงไม่เชื่อกูจะทำให้มึงเชื่อเองว่ากูคนนี้ไม่ใช่ไอ้วินที่แสนดีของมึงอีกต่อไป” ว่าแล้วเคลวินก็นั่งลงข้างๆแล้วก็แก้มัดให้จนร่างบางเป็นอิสระ

   “พี่วินปล่อยผมแล้ว พี่วินคนเดิมของผมกลับมาแล้ว” นภัทรยิ้มออกมาอย่างดีใจแล้วก็รีบโผเข้าไปกอดคนที่เพิ่งจะแก้มัดให้
   เคลวินยิ้มที่มุมปากอย่างพอใจแล้วก็จับไหล่บางทั้งสองข้างให้ห่างจากตัว  แล้วจ้องหน้าก่อนที่จะยิ้มอย่างเจ้าเล่ห์จนทำให้นภัทรถึงกับกลัวรอยยิ้มนั่น

   “พร้อมรึยัง” เคลวินเอ่ยถาม

   “พะ…พร้อมอะไรครับ” นภัทรถามออกมาด้วยเสียงตะกุกตะกัก เขาเดาใจคนที่อยู่ตรงหน้าไม่ออกเลยจริงๆ แววตาที่ไร้ความปราณีบวกกับรอยยิ้มที่แสนจะโหดเหี้ยมนั้นมันช่างน่ากลัวมากเหลือเกิน

   “พร้อมที่จะเป็นเมียกูไง” ว่าแล้วเคลวินก็ผลักร่างบางลงแล้วคร่อมตัวไว้ทันที

   “ปล่อยผมนะพี่วิน บอกให้ปล่อยไง ฮึก ฮือๆๆ” นภัทรร้องไห้ออกมาเพราะความกลัว พี่วินที่เขาเคยรู้จักได้ตายไปจากโลกนี้แล้วจริงๆสินะ ตอนนี้เหลือแค่นายเคลวินคนที่ใจร้ายและโหดเหี้ยมเท่านั้น

   เคลวินฉีกเสื้อคอวีแขนยาวของนภัทรออกอย่างง่ายดายแล้วเขวี้ยงทิ้งอย่างไม่ใยดี  หลังจากนั้นก็ปลดตะขอกางเกงยีนส์ยี่ห้อดังออกจนร่างบางเหลือเพียงชั้นในสีขาวเพียงตัวเดียว

   “ปล่อยยยย ฮือๆๆ”

   นภัทรพยายามใช้เรี่ยวแรงทั้งหมดที่มีขัดขืนและต่อสู้  แต่นั่นไม่เป็นผลเพราะตัวของเคลวินแข็งแกร่งและบึกบึนเนื่องจากผ่านการเข้าฟิตเนสมาอย่างสม่ำเสมอ  จนทำให้รูปร่างของเขาเต็มไปด้วยกล้ามเนื้อเป็นมัดๆและกล้ามท้องที่เป็นลอนสวยงามจนน่าสัมผัส  แต่ในตอนนี้นภัทรกลับรู้สึกขยะแขยงร่างกายอันกำยำนี้เหลือเกิน

   “ร้องไห้ดังๆเลย ร้องออกมากูชอบเห็นความเสียใจ ความผิดหวังของมึง มันทำให้กูรู้สึกสะใจมาก ร้องออกมา!” เคลวินตะคอกใส่เสียงดังพร้อมกับระดมจูบไปทั่วใบหน้าสวยรูปไข่ และที่ผิวขาวอมชมพูดูสะอาดสะอ้านนั่นก็ทำให้เคลวินหลงไหลอย่างบอกไม่ถูก เขารู้สึกอิ่มเอมและรู้สึกสะใจไปพร้อมๆกัน

   “ไปตายซะไอ้เลว ฮือๆๆ” นภัทรสบถคำหยาบออกมาจนทำให้เคลวินยิ้มที่มุมปากอย่างพอใจ

   “ในที่สุดธาตุแท้มึงก็ออกมาแล้วสินะ ดี! มันจะได้สมน้ำสมเนื้อกับกูคืนนี้มึงได้เจอกูแน่” เคลวินเอ่ยก่อนที่จะโน้มใบหน้าลงไปจูบที่ริมฝีปากบากอย่างดูดดื่มและรุนแรง  จนร่างบางต้องใช้มือทั้งสองข้างทุบไปที่แผ่นหลังของคนตัวโตเพราะเจ็บที่ริมฝีปาก  น้ำตามันก็ไหลออกมาไม่หยุด เขาเกลียดคนๆนี้ทำไมพี่วินที่แสนดีในวัยเด็กของเขาถึงได้ป่าเถื่อนแบบนี้

   จ๊วบบบบบบ!!!!

   “อื้ออออ”

   ตอนนี้ทั้งสองร่างเปลือยเปล่าไม่มีอาภรณ์ปกคลุมเรืองร่างแม้แต่ชิ้นเดียว นภัทรอยู่ภายใต้อ้อมอกแกร่งโดยจำยอม  เขาไม่สามารถที่จะเคลื่อนไหวตามใจได้เลยแม้แต่น้อย คนที่คุมเกมส์นี้คือเคลวินคนเดียวเท่านั้น เขาประสานนิ้วมือเรียวแล้วตรึงไว้กับที่นอนนุ่ม

   “พร้อมที่จะเป็นเมียกูรึยัง” เคลวินยิ้มพร้อมกับทำหน้าหื่นใส่จนคนที่อยู่ใต้ร่างทนดูไม่ได้ถึงกับเอียงหน้าหนี

   “มองหน้ากู คนที่จะเป็นผัวมึงในอีกไม่ช้า” เคลวินสั่งแต่นภัทรยังคงนิ่งอยู่อย่างนั้นพร้อมกับน้ำใสๆที่มันไหลออกจากหางตาไม่ขาดสาย

   “มึงกล้าขัดคำสั่งกูเหรอห๊ะ” เขาปล่อยมือข้างหนึ่งแล้วเปลี่ยนมาบีบที่คางเรียวแทนเพื่อบังคับให้หันหน้ามามองที่เขา

   ถุย!!

   นภัทรได้ทีก็ถ่มน้ำลายใส่หน้าเคลวินทันที จนตอนนี้คนตัวโตหน้าแดงจัดเพราะความโกรธ

   เพี๊ยะ!!!!

   นภัทรหันหน้าไปตามแรงตบจนเลือดไหลออกมาที่มุมปาก นั่นยิ่งทำให้น้ำตามันยิ่งไหลพรุ่งพรูออกมาเพราะความเจ็บปวด

   “ไอ้เลว มึงจะทำอะไรก็รีบทำกูจะได้ไม่ต้องทนเห็นหน้ามึง ไม่ต้องทนอยู่ใกล้กับมึงแบบนี้” นภัทรพูดเสียงแข็งใส่

   “กูเอามึงแน่ แต่มึงคิดเหรอว่ากูจะเอามึงแค่ครั้งเดียว กูจะเอามึงจนกว่ากูจะพอใจ ฮ่าๆๆ” พูดแล้วเคลวินก็หัวเราะออกมาอย่างพอใจ

   “ไอ้เหี้ย ไอ้เลว มึงไปตายซะ กูเกลียดมึง!!” นภัทรตะโกนออกมาอย่างเหลืออดราวกับคนบ้า จนทำให้เคลวินต้องรวบตัวเอาไว้แล้วเบียดช่วงล่างไปที่หว่างขาของนภัทรแล้วแยกขาทั้งสองข้างออกจากัน  หลังจากนั้นก็จ่อแก่นกายแท่งใหญ่ที่แข็งได้ที่ถูไถไปที่ช่องทางหลังของร่างบางอย่างสนุกสนาน

   “เกลียดกูมากใช่ไหม ดี! กูจะทำให้มึงเกลียดกูกว่านี้อีก อ้าส์!!!!!” พูดจบแล้วเคลวินก็ยัดแก่นกายเข้าไปพรวดเดียวจนสุดทำให้ร่างบางถึงกับสะดุ้งทันที

   “โอ้ยยยยย!!! จะ….เจ็บ ไอ้เลว” นภัทรร้องออกมาเสียงดังด้วยความเจ็บปวด  เหมือนร่างกายของเขามันจะแตกออกเป็นเสี่ยงๆ นี่คือครั้งแรกของเขาและมันเป็นครั้งแรกที่สุดแสนจะอัปยศ

   “ร้องออกมาดังๆกูชอบ ฮ่าๆๆๆๆ” เคลวินหัวเราะเสียงดังด้วยความพอใจพร้อมกับขยับเอวไปด้วยไม่ให้ขาดช่วงเลยแม้แต่วินาทีเดียว

   เขาสอนบทรักและยัดเยียดแก่นกายเข้าไปในตัวร่างบางซ้ำแล้วซ้ำเล่า แต่ไม่มีวี่แววว่าเรี่ยวแรงของเขาจะหมดลงแต่อย่างใด  เขายังคงพอใจของเล่นชิ้นใหม่ที่สุดแสนจะพิเศษมันทั้งสุขสมและสะใจไปพร้อมๆกัน  และที่สำคัญเขาพอใจกับเสียงครางใต้ร่างนี้มากเป็นพิเศษจนไม่อยากจะหยุดมันเลยแม้แต่วินาทีเดียว

*_*_*_*_*_*



   “ฮึกๆๆ”

         หลังจากผ่านบทรักที่สุดแสนจะป่าเถื่อนหลายต่อหลายรอบ ตอนนี้นภัทรนอนกอดตัวเองเปลือยเปล่าอยู่บนเตียง  พร้อมกับร้องไห้ออกมาอย่างหนัก เขาไม่เคยเจอเรื่องร้ายๆแบบนี้มาก่อนและที่สำคัญคนที่ทำร้ายเขากลับเป็นคนในความทรงจำที่เขาเคยประทับใจอีกด้วย  แต่หลังจากนี้ไปมันคงไม่มีทางที่เขาจะกลับไปญาติดีกับคนแบบนั้นได้อีกแล้ว

   “ร้องซะให้พอเดี๋ยวมึงก็จะชินเอง” เคลวินที่กำลังนอนหายใจหอบเหนื่อยอยู่เปลี่ยนท่าทีมากอดร่างบางจากด้านหลังเอาไว้  แล้วระดมจูบไปที่ไหล่ขาวและลำคอ จนนภัทรรู้สึกสะอิดสะเอียนมากเหลือเกิน

   “อย่ามาแตะเนื้อต้องตัวกูอีกคนเลวอย่างมึงมันต่ำเกินกว่าที่จะมาทำแบบนี้กับกู” นภัทรเอ่ยออกมาเสียงแข็งแล้วขยับตัวออกไปห่างๆอย่างทุลักทุเลเพราะยังเจ็บที่ช่วงล่างมากเหลือเกิน

   “ใช่! คนต่ำๆอย่างกูนี่แหละเป็นผัวมึงแล้ว ฮ่าๆๆ” เคลวินเอ่ยพร้อมกับขยับตัวไปใกล้ๆ  แล้วเอื้อมมือไปเกี่ยวเอวร่างบางเอาไว้หลังจากนั้นก็ดึงเข้ามาแนบชิดกับร่างอันเปลือยเปล่าของตัวเอง

   “กูเกลียดมึงอย่ามาใช้คำนั้นกับกู” นภัทรพยายามขัดขืนแล้วพยุงตัวขึ้นเพื่อหาเสื้อผ้ามาใส่ แต่เสื้อเขาเพิ่งจะโดนคนตัวโตฉีกมันขาดไปแล้วจึงได้แต่เพียงใส่กางเกงเท่านั้น

   เคลวินมองร่างบางอย่างพอใจแล้วก็ลุกขึ้นนั่งบนเตียง

   “เดี๋ยวกูให้คนไปซื้อเสื้อผ้ามาให้รวมทั้งข้าวด้วยอยู่ในห้องนี้ห้ามออกไปไหนจนกว่ากูจะสั่ง”

   เคลวินเดินไปใส่กางเกงเช่นเดียวกันแล้วเอาเสื้อพาดไว้บนบ่า

   นภัทรยังคงนั่งกอดเข่าอยู่ที่มุมห้องไม่พูดไม่จา

   “ถ้ากูเห็นมึงไปเสนอหน้าข้างนอกรับรองมึงได้เจอดีแน่ ถ้าไม่เชื่อกันก็อย่าหาว่ากูไม่เตือน” เคลวินสั่งแล้วก็เดินออกมาไปจากห้องทันที

   เมื่อเห็นว่าคนตัวโตออกไปจากห้องแล้วก็รีบวิ่งไปล็อกห้องเอาไว้  อย่างน้อยมันก็ทำให้เขาอุ่นใจไปเปาะหนึ่งแล้วก็กลับมานั่งที่เดิม

   “พ่อครับ แม่ครับ ผมกลัวมากเหลือเกิน ฮือๆๆ”
นภัทรนั่งกอดเข่าก้มหน้าร้องไห้อยู่อย่างนั้นในตอนนี้เขาคิดถึงครอบครัวมากเหลือเกิน  สิ่งที่ได้เจอวันนี้มันช่างโหดร้ายเกินกว่าที่จะรับมันได้


        ต่อไปนี้คงไม่มีพี่วินอีกแล้วสินะ….ไม่มีอีกแล้ว


/////////////////////////////////////////////////////////////
ขอบคุณที่ติดตามนะครับ

ออฟไลน์ unicorncolour

  • เป็ดHera
  • *
  • กระทู้: 1006
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +6/-1
บวกเป็ดโล้ด  o13 ชอบแนวนี้  :impress2:

แนวโหด เถื่อน ตบจูบ และท้องได้   :hao3:

ตาม ตาม ตามจ้า  :mew1:

ออฟไลน์ ไมเลอร์

  • เป็ดมัธยม
  • *
  • กระทู้: 189
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +119/-6
CHAPTER  2  สถานะใหม่



   ปัง! ปัง! ปัง!

   “เปิดประตูเดี๋ยวนี้”

        เสียงทุบประตูดังขึ้นปลุกให้นภัทรที่กำลังนั่งกอดเข่าอยู่ที่มุมห้องตื่นขึ้นมา

   “ถ้าไม่เปิดกูจะพังเข้าไป” เสียงเคลวินดังมาจากด้านนอก  แต่นภัทรเองยังคงนั่งนิ่งไม่ขยับเลยแม้แต่น้อย เขารู้ดีว่ายังไงเคลวินก็เข้ามาได้อยู่ดีจะลุกหรือไม่ลุกไปเปิดประตูมันก็ไม่ต่างกัน

   “ได้มึงเจอกูแน่” สิ้นสียงของเคลวินประตูก็ดังขึ้นอีกครั้งและตอนนี้มันรุนแรงกว่าครั้งแรกมาก

   ปัง! เพล้ง!

   เสียงดังขึ้นจนทำให้นภัทรถึงกับสะดุ้ง เขารู้สึกหวาดกลัวกับเสียงนั่นแต่ก็ทำอะไรไม่ได้เหมือนเดิม

   “มึงกล้าดียังไงขัดคำสั่งกู ลุกขึ้นมา” เคลวินกระชากแขนร่างบางให้ลุกขึ้นมาอย่างทุลักทุเล

   “โอ๊ย! เจ็บ!”

   นภัทรเอ่ยเสียงลอดไรฟันออกมาด้วยความเจ็บปวด ทุกส่วนในร่างกายเขามันบอบช้ำมากเหลือเกินจากการกระทำที่ป่าเถื่อนของคนตัวโต

   “อย่ามาทำสำออย”

   “อย่ามาจับตัว” นภัทรเอ่ยแล้วถลึงตาใส่

   “ทำอย่างกับกูอยากถูกเนื้อต้องตัวมึงซะอย่างนั้นล่ะ”

   “ถ้าอย่างนั้นก็ปล่อยแล้วออกไปเดี๋ยวนี้” นภัทรยังคงต่อล้อต่อเถียงอย่างไม่ได้รู้สึกกลัวแต่อย่างใด

   “กูไปแน่ ถ้ามึงไม่อยากได้ของที่กูเอามาให้ กูก็จะเอามันกลับไป” ว่าแล้วเคลวินก็เดินไปหยิบถุงข้าวและเสื้อผ้าที่สั่งให้ลูกน้องซื้อมาจะเดินออกไปจากห้อง

   “เดี๋ยว! เอากลับคืนมากูอยากได้” นภัทรจำเป็นต้องยอมเอ่ยขอร้องนั่นเพราะตอนนี้รู้สึกหิวมากเนื่องจากยังไม่มีอะไรตกถึงท้องเลยตั้งแต่เมื่อวาน  แถมตอนนี้เขาก็มีแค่กางเกงยีนส์เพียงตัวเดียวที่ห้อหุ้มร่างกาย ตอนนี้เขาจะต้องไม่อ่อนแอให้นายนั่นเห็นและต้องมีแรงเพื่อที่จะหาทางออกไปจากที่นี่ให้ได้

   เคลวินโยนถุงเสื้อผ้าให้นภัทรพร้อมกับวางถุงข้าวไว้บนพื้นอย่างไม่ใส่ใจ

   “กินข้าวแล้วก็อาบน้ำเปลี่ยนเสื้อผ้าซะ กูให้เวลายี่สิบนาทีเสร็จแล้วออกไปหากูข้างนอกห้ามเลทเด็ดขาด” เคลวินสั่งก่อนที่จะเดินออกไป

   นภัทรเดินไปหยิบข้าวกล่องขึ้นมาแล้วก็รีบกินด้วยความหิวโหย ตั้งแต่เกิดมาชีวิตเขาไม่เคยตกต่ำขนาดนี้มาก่อน แต่พอนึกถึงครอบครัวขึ้นมามันก็ทำให้เขามีแรงฮึดสู้ขึ้นมาอีก  แต่สิ่งที่เขาต้องการรู้ตอนนี้คืออะไรเป็นสาเหตุที่ทำให้เคลวินเกลียดครอบครัวเขาขนาดนี้เขาต้องรู้ให้ได้

   “ผมคิดถึงพ่อกับแม่มากเหลือเกิน ผมต้องหาทางออกจากที่นี่ให้ได้”

   หลังจากที่นภัทรทานข้าวเสร็จเรียบร้อยแล้ว  ก็เข้าไปอาบน้ำชำระร่างกายให้สดชื่นแล้วเดินออกไปหาเคลวินตามคำสั่ง  ตอนนี้เขาต้องจำยอมทำทุกอย่างตามที่เคลวินสั่งนั่นเพราะเขารู้ว่าหากขัดใจจะเกิดอะไรขึ้นกับตัวเอง
   
   “ออกมาแล้วเหรอ” เคลวินเอ่ยถามพร้อมกับมองใบหน้าหวานที่กลับกลายเป็นใบหน้าบึ้งตึงไปซะแล้ว

   นี่เป็นครั้งแรกที่นภัทรได้เดินออกมาสูดบรรยากาศข้างนอกห้อง  เขาพบว่านอกจากบ้านพักหลังเล็กๆที่เขาเพิ่งจะออกมาแล้วนั้นก็ยังมีคฤหาสน์หลังใหญ่อยู่อีกฝั่ง โดยที่ฝั่งด้านหน้าคฤหาสน์ก็เป็นหน้าผาสูงชันที่เห็นวิวของท้องฟ้าและน้ำทะเลสุดลูกหูลูกตา ดูมุมไหนก็ไม่เห็นจะมีทางออกเลยแม้แต่ทางเดียว

   “มองหาทางหนีอยู่รึไง?” เคลวินเอ่ยถามเมื่อเห็นร่างบางมองซ้ายมองขวาโดยที่ไม่ได้สนใจเขาเลยแม้แต่น้อย

   “ปะ…เปล่า” นภัทรตอบขณะยืนอยู่

   “นั่งลงสิ” เคลวินสั่ง

   นภัทรได้ยินก็ยอมนั่งลงแต่โดยดี แต่ไม่ยอมมองหน้าคนที่กำลังสั่งเลยแม้แต่น้อย

   “มึงเห็นบ้านหลังนั้นไหม” เคลวินเอ่ยถามอีกครั้ง

   “เห็น ทำไม?” นภัทรหันไปมองแล้วตอบ

   “วันนี้ช่วงเย็นๆกูจะพามึงไปอยู่ที่นั่นเตรียมตัวให้พร้อม”

   “ทำไมต้องบอกด้วยล่ะถึงเวลามึงก็พากูไปเลยสิ ยังไงกูก็ทำอะไรไม่ได้อยู่แล้ว”  นภัทรเอ่ยเสียงแข็ง

   “มีหลายเรื่องที่มึงต้องรู้และปฏิบัติตามหากเข้าไปอยู่ที่นั่น” เคลวินเอ่ยพร้อมกับจิบน้ำชาไปด้วยอย่างสบายใจ

   “ก็ว่ามาสิ”

   “มึงไปอยู่ที่นั่นในฐานะคนใช้ มีหน้าที่คอยปรนนิบัติกูและทำงานร่วมกับคนอื่นๆโดยไม่มีข้อแม้และห้ามเกี่ยงงาน”
   ในใจตอนนี้นภัทรรู้สึกดีขึ้นมานิดหน่อยที่ไม่ได้อยู่อย่างโดดเดี่ยวอย่างที่เขาเข้าใจ  อย่างน้อยเขาอาจจะมีเพื่อนที่อาจจะช่วยให้ออกไปจากที่นี่ได้

   “ไม่มีปัญหา”

   “กูจะบอกไว้ก่อนว่า คนที่บ้านหลังนั้นล้วนแต่เป็นคนของกูและจงรักภักดิ์ดีกับกูทั้งนั้น มึงอย่าคิดว่าจะมีคนช่วยมึงออกไปจากที่นี่เพราะไม่งั้นมึงอาจจะไม่มีชีวิตรอดกลับไปหาครอบครัวมึงอีก  และอีกอย่างมึงต้องเรียกกูว่าคุณเคลวินอย่างที่คนอื่นๆเรียก ห้ามเรียกกูมึงเด็ดขาดไม่งั้นมึงโดนดีแน่”

   “มีอะไรจะสั่งอีกไหม” นภัทรทำหน้าเบื่อหน่าย

   “มี…คืนนี้เตรียมตัวไว้ด้วยล่ะ” เคลวินพูดแล้วยกยิ้มให้

   นภัทรได้ยินก็สะบัดหน้าหนีแล้วเดินเข้าไปในห้องทันที

   “ทำไมต้องเป็นแบบนี้ด้วยวะ” นภัทรนั่งลงบนเตียงแล้วก็เอามือทุบหมอนเพื่อระบายอารมณ์  เขาไม่รู้ว่าต้องทำยังไงดีถึงจะหลุดพ้นไปจากตรงนี้ได้

*-*-*-*-*-*-*-*-*-*-*-*-*


   “ป้าภาครับผมพาคนรับใช้คนใหม่มาฝากให้ป้าดูแลด้วย” เคลวินเอ่ยกับป้าภาซึ่งป็นแม่บ้านเก่าแก่ของที่นี่

   “ได้ค่ะคุณเคลวิน ไม่ทราบว่าจะให้พักที่ห้องไหนค่ะ” ป้าภาถามเพราะดูจากรูปร่างหน้าตาแล้วไอ้หนูคนนี้ไม่น่าจะใช่คนใช้ธรรมดาแน่ๆ หล่อนรู้สึกสงสัยเลยถามออกไป

   “ให้พักที่ห้องคนใช้ ป้าใช้งานได้เต็มที่เลยนะ” เคลวินบอกแล้วปรายตาไปมองคนที่ยืนอยู่ข้างๆ หลังจากนั้นก็เดินขึ้นไปชั้นบน

   นภัทรยิ้มให้ป้าภาแล้วก็ยกมือขึ้นไหว้อย่างนอบน้อม  อย่างน้อยการรู้จักสร้างสัมพันธไมตรีที่ดีเอาไว้น่าจะเป็นผลดีกับเขามากกว่า

   “ไหว้พระเถอะจ๊ะ ว่าแต่เอ็งชื่ออะไรล่ะ” ป้าภาเอ่ยถามพร้อมกับยิ้มให้

   “ผมชื่อนภัทรครับ เรียกผมว่าภัทรเฉยๆก็ได้ครับป้าภา” เขาพูดแล้วยิ้มให้

   “รูปร่างหน้าตาผิวพรรณไม่น่าเป็นคนใช้เลยดูสิ” ป้าภาเอ่ยพร้อมกับเข้ามาจับมือของนภัทรพลิกไปมา

   “เอ่อ…ขนาดนั้นเลยเหรอครับป้า  ยังไงซะตอนนี้ผมก็เป็นคนใช้แล้วคงไม่ต้องมีอะไรสงสัยแล้วมั้งครับ” นภัทรยิ้มให้

   “เดี๋ยวป้าจะพาเอ็งไปที่ห้องพักก่อนละกันเดี๋ยวค่อยแจงงานให้อีกที” ป้าภาบอก

   “ครับป้า”

   นภัทรเดินตามหลังป้าภาไปพร้อมกับสังเกตสิ่งต่างๆภายในบ้าน คฤหาสน์หลังนี้ใหญ่โตราวกับราชวัง แต่เขาไม่ยักเห็นคนพลุกพล่านเลยแม้แต่น้อย

   “นี่ห้องเอ็งนะ  ว่าแต่ไม่มีของใช้อะไรติดตัวมาเลยเหรอ” ป้าภาถาม

   นภัทรมองหน้าแล้วยิ้มแหยๆให้ ในวันที่เขาโดนจับตัวมานั้นของทุกอย่างมันอยู่ที่สนามบินทั้งหมดมีเพียงเสื้อผ้าและโทรศัพท์มือถือติดตัวมาก็เท่านั้น  แต่ช่างโชคร้ายที่โทรศัพท์มือถือเขากลับโดนพวกมันเอาไปซะอีก  คิดแล้วก็เจ็บใจมากเหลือเกิน

   “ถ้าอย่างนั้นเดี๋ยวป้าไปเอาของป้ามาให้ก่อนละกันแล้ววันหลังค่อยไปซื้อเอาเอง” ป้าภาบอก

   “แถวนี้มีร้านขายของด้วยเหรอป้า” นภัทรถามด้วยความสนใจ

   “บนเกาะนี้มันไม่มีหรอก ถ้าจะมีก็อีกเกาะโน่นนักท่องเที่ยวเยอะคุณเคลวินเลยเปิดให้คนมาเช่าพื้นที่ขายของ  แต่ถ้าจะไปก็ต้องแจ้งคุณเคลวินก่อนเดี๋ยวป้าไปเอาของมาให้เอ็งก่อนนะ” ป้าภาบอกแล้วก็เดินออกไปทันที

   นภัทรเปิดประตูเข้าไปในห้องแถวเล็กๆที่มีประมาณสิบกว่าห้องเรียงรายกันอยู่  เมื่อเปิดเข้าไปภายในห้องก็พบว่ามีเฟอร์นิเจอร์ครบครันไม่ว่าจะเป็นตู้ เตียง จะดีก็ตรงที่มีห้องน้ำในตัวนี่ล่ะที่ทำให้เขาพอจะอุ่นใจได้

   หลังจากนั้นนภัทรก็เดินออกมาจากห้องแล้วเดินไปดูรอบๆบริเวณนั้น  พื้นที่ขนาดใหญ่บนเนินเขาสูงแบบนี้ถ้าเดินหนีออกไปก็คงจะไม่รอดแน่ๆ และอีกอย่างเขาเองก็ไม่ชำนาญทางเขาต้องตีสนิทกับคนที่นี่เพื่อหาลู่ทางหนีออกไป ตอนนี้ในหัวของนภัทรคิดได้แค่นี้และน่าจะเป็นทางเดียวที่ดีที่สุดแล้ว

   “นายๆ มาใหม่เหรอ” เป็นเอกคนสวนของที่นี่เอ่ยทักทาย

   เอกเป็นหนุ่มใต้ผิวเข้มโครงหน้าคมคายได้รูปตามฉบับหนุ่มใต้แท้ๆ  เขาเดินถอดเสื้อแล้วเอาพาดบ่าไว้เผยให้เห็นเรือนกายอันกำยำหลังจากกลับมาจากทำงาน

   “เอ่อ…ครับผมมาใหม่” นภัทรตอบรับอย่างงงๆ พร้อมกับมองหน้าผู้ทักทาย

   “เราชื่อเอกเป็นคนสวนที่นี่ นายล่ะชื่ออะไร” เอกถามพร้อมกับยิ้มให้

   “เราชื่อภัทร ยินดีที่รู้จักนะ” นภัทรยิ้มให้

   “เช่นกันๆ อยู่ห้องนี้เหรอ” เอกชี้ไปที่ห้องพักห้องใหม่ของนภัทร

   “ใช่ๆ”

   “เฮ้ย ดีเลยจะได้มีเพื่อนคุย เราอยู่ห้องข้างๆนี่เอง” เอกบอกพร้อมกับแสดงสีหน้าท่าทางตื่นเต้น  นั่นเพราะที่นี่มีคนน้อยและส่วนมากจะเป็นผู้หญิงอีกต่างหาก เขาเลยแทบจะหาเพื่อนคุยไม่ได้เลย

   “จริงสิ ดีเลยเวลาเรามีอะไรสงสัยจะได้ถามเอก” นภัทรบอก

   “ได้เลยๆ เดี๋ยวเราเข้าไปอาบน้ำก่อนนะ เดี๋ยวช่วงเย็นๆเราไปกินข้าวด้วยกัน” ว่าแล้วเอกก็เดินยิ้มเข้าไปในห้องพักทันที
   นภัทรยืนยิ้มอยู่อย่างนั้นหลังจากที่ได้มีเพื่อนคุยทำให้เขารู้สึกว่าการอยู่ที่นี่มันไม่น่ากลัวอย่างที่คิด อย่างน้อยก็มีป้าภาและเอกที่เป็นคนนิสัยดีพอที่เขาจะคบหาได้  แต่ถึงกระนั้นตอนนี้เขายังคงไม่ไว้ใจใครที่นี่ได้ร้อยเปอร์เซ็นต์เพราะต่างก็เป็นลูกน้องของเคลวินทั้งนั้น

   “คิดจะเอาไอ้เอกเป็นผัวอีกคนรึไง”

   นภัทรหันไปมองยังต้นเสียงก็พบว่าเป็นเคลวินที่กำลังยืนมองดูเขาอยู่ เขามองหน้าเคลวินอย่างไม่สบอารมณ์แล้วก็หันหลังกลับเข้าไปในห้องทันที

   “จะไปไหนแค่นี้ทนฟังไม่ได่รึไง” เคลวินยังคงพูดจากวนใส่แล้วเอื้อมมือไปจับต้นแขนของร่างบางเอาไว้

   “ปล่อยเดี๋ยวนี้นะ” นภัทรพยายามสะบัดแขนเพื่อให้หลุดพ้นจากการเกาะกุม แต่นั่นทำให้เคลวินกลับรวบตัวของร่างบางมากอดไว้

   “ไม่ปล่อยผัวจะกอดเมียไม่ได้รึไง” เคลวินพยายามรวบตัวนภัทรเอาไว้แน่น

   “หยุดพูดอะไรต่ำๆ เดี๋ยวนี้ผมไม่ใช่เมียใครทั้งนั้น ปล่อยเดี๋ยวคนก็มาเห็นหรอก” นภัทรเอ่ยพร้อมกับมองไปรอบๆว่ามีใครอยู่แถวนี้หรือเปล่า

   “ใครเห็นก็ช่างมันที่นี่มันที่ของกูใครหน้าไหนจะกล้ามาหือ” เคลวินมองหน้าแผ่รังสีอัมหิตใส่

   นภัทรมองหน้าเคลวินแล้วก็เกิดอาการหมั่นไส้  จึงใช้เท้าเตะไปที่หน้าแข้งของอีกฝ่ายจนเคลวินเผลอปล่อยตัวเขา

   “โอ๊ย!! มึงกล้าเตะกูเหรอ”  เคลวินชี้หน้าคาดโทษพร้อมกับก้มเอามือไปลูบที่หน้าแข้งของตัวเอง ขณะเดียวกันนภัทรก็รีบวิ่งเข้าไปในห้อง

   “อย่าเข้ามา” นภัทรกำลังจะปิดประตูแต่โดนเคลวินจับไว้ได้ทัน  แล้วก็เบียดตัวเข้ามาในห้องได้สำเร็จ

   “ปิดประตูสิ อ้าวจะยืนบื้ออยู่ทำไมจะปิดไม่ใช่เหรอ” เคลวินทำหน้ากวนใส่

   “อยู่ในนี้คนเดียวละกัน” นภัทรเอ่ยก่อนที่จะเดินออกไป แต่เคลวินกลับคว้าตัวเอาไว้แล้วปิดประตูทันที

   เขาเหวี่ยงตัวร่างบางไปที่เตียงนอนแล้วล้มตัวทับร่างบางเอาไว้

   “คุณจะทำอะไรปล่อยผมเดี๋ยวนี้” นภัทรพยายามดิ้นเพื่อให้หลุดพ้นจากอ้อมอกแกร่ง

   “ในห้องนี้ก็ไม่เลวนะ” ว่าแล้วเคลวินก็ก้มหน้าลงไปลิ้มลองความหวานของริมฝีปากน้อยๆนั้นอย่างสนุกสนาน

   “อื้ออออ” นภัทรส่งเสียงครางในลำคอพร้อมกับใช้มือทั้งสองข้างดันที่อกแกร่งไว้

   จ๊วบ!!!!

   “อ่อยยยย” นภัทรยังคงส่งเสียงอ้อแอ้ออกมา เคลวินใช้มือข้างหนึ่งถลกเสื้อของร่างบางขึ้นจนเห็นยอดอกสีกลีบกุหลาบ เขาใช้มือสัมผัสมันเบาๆจนร่างบางรู้สึกสยิวไปทั่วร่าง

   “ห้ามร้องถ้าไม่อยากให้ไอ้เอกมันได้ยิน” เคลวินชี้หน้าก่อนที่จะก้มลงไปไซร้ที่ซอกคอขาวต่อ

   “เลว! อ๊ะ!”  นภัทรก่นด่าก่อนที่จะร้องเสียงหลงหลังจากที่โดนคนตัวโตใช้ลิ้นตวัดเลียวนที่ยอดอกสีชมพู

   เคลวินได้ยินเสียงร้องของร่างบางถึงกับยิ้มที่มุมปากอย่างพอใจก่อนที่จะเริ่มปฏิบัติการต่อ

   ก๊อก! ก๊อก! ก๊อก!

   “ภัทร…ป้าเอาของมาให้” เสียงป้าภาเอ่ยเรียกทำให้นภัทรเริ่มใจชื้นขึ้นมา

   “ครับป้าเดี๋ยวผมออกไปเดี๋ยวนี้ล่ะ”

   นภัทรได้ทีก็รีบตะโกนตอบกลับออกไป เขายิ้มให้เคลวินอย่างผู้ชนะที่ตอนนี้สามารถหยุดการกระทำของอีกฝ่ายได้  เคลวินจำต้องลุกขึ้นจากเตียงอย่างอารมณ์เสีย

   ส่วนนภัทรเองก็รีบจัดแจงเสื้อผ้าให้อยู่ในสภาพปกติแล้วก็รีบเดินไปเปิดประตูทันที

   “ขอบคุณนะครับป้า” นภัทรเปิดประตูแล้วรับของมา

   ส่วนป้าภาเองเห็นเคลวินยืนอยู่ในห้องก็ประหลาดใจที่เจ้านายนั้นมาอยู่ในห้องคนรับใช้คนใหม่  หล่อนนึกสงสัยว่าทำไมเคลวินถึงได้ลงมาคลุกคลีกับลูกจ้างถึงขนาดนี้  ทั้งๆที่ก่อนหน้านี้ก็ไม่เคยเลยที่จะย่างกรายเข้ามาบริเวณนี้ ส่วนมากจะเป็นการเรียกไปพบเสียมากกว่า

   “อ้าว! คุณเคลวินมาทำอะไรที่นี่คะ” ป้าภาถาม

   เคลวินเองก็ทำหน้าเหรอหราเพราะไม่รู้ว่าจะตอบแม่บ้านคนโปรดว่าอย่างไรดี

   “เอ่อ…ผมมาดูความเรียบร้อยของภัทรมันน่ะครับป้าภา  เดี๋ยวผมไปก่อนล่ะไม่มีอะไรแล้วนี่” เคลวินตอบพลางเอามือลูบที่หลังคอไปด้วย

   นภัทรเองก็ยืนยิ้มอยู่ในใจที่ตอนนี้คนตัวโตไม่สามารถทำอะไรเขาได้

   “ออค่ะ…คุณเคลวิน” ป้าภายิ้มให้

   ก่อนที่เคลวินจะเดินออกจากห้องก็ปรายตามองรางบาง  สายตาของเขาเหมือนคาดโทษเอาไว้แต่นภัทรเองกลับทำหน้าไม่รู้ไม่ชี้

   “ขาดเหลืออะไรบอกป้าได้นะ เดี๋ยวป้าไปเตรียมข้าวเย็นให้คุณเคลวินก่อน”

   “ป้ามีอะไรให้ผมช่วยไหมครับ”

   “เดี๋ยวเอ็งเตรียมข้าวของในห้องก่อนละกันเดี๋ยวตอนเย็นๆค่อยไปช่วยป้า” ป้าภาบอกแล้วก็ยิ้มให้

   “ก็ได้ครับ ขอบคุณป้ามากๆนะครับ” นภัทรยิ้มให้

        แล้วป้าภาก็เดินออกจากห้อง

   นภัทรจัดแจงของที่ป้าภานำมาให้เข้าตู้แล้วพลางคิดถึงเรื่องที่มันเกิดขึ้นไปด้วย  จริงๆแล้วในช่วงเวลานี้เขาควรจะต้องได้ไปใช้ชีวิตอย่างสุขสบายที่ต่างประเทศแล้ว  แต่ตอนนี้กลับโดนจับตัวมาที่นี่ซึ่งเขาเองก็ไม่รู้ว่ามันคือที่ไหน  แน่นอนว่าอีกไม่นานทางบ้านเขาจะต้องรู้อย่างแน่นอนว่าเขาหายตัวไปและจะต้องออกตามหาเขาอย่างแน่นอน

   “หวังว่าทุกคนคงจะตามหาผมจนเจอนะครับ ผมจะรอวันนั้น”

   นภัทรพูดเบาๆกับตัวเองพลางมองไปรอบๆห้องที่กำลังจะกลายเป็นที่พักพิงส่วนตัวนับต่อจากนี้ไป
   

///////////////////////////////////////////

ออฟไลน์ ซีเนียร์

  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 778
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +11/-0
ติดตามจ้า :L2:

ออฟไลน์ ไมเลอร์

  • เป็ดมัธยม
  • *
  • กระทู้: 189
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +119/-6
CHAPTER  3  ความจริง


   “คุณคะเมื่อเช้านี้เจ้าหน้าที่สนามบินโทรมาแจ้งว่ากระเป๋าของตาภัทรถูกวางทิ้งไว้ที่สนามบินค่ะ” แก้วกานดาเอ่ยกับสามีด้วยอาการตระหนกเพราะกำลังเป็นห่วงลูกชายคนเล็ก

   “ผมว่าแล้วไงนภัทรยังไม่โทรฯกลับมาเลย ตั้งแต่วันนั้นแถมโทรฯหายังไม่ติดอีก” ทรงพลเพิ่งกลับมาจากบริษัทก็ได้รับข่าวร้ายทันที

   “เราจะทำยังไงกันดีคะ”

   “แล้วนดลล่ะรู้เรื่องยัง”

   “ตอนนี้ตาดลไปขอดูกล้องวงจรปิดที่สนามบินค่ะ”

   “ใครที่มันกล้าทำร้ายลูกเรา ผมจะเล่นมันให้ถึงตายเลยคอยดู” ทรงพลเอ่ยด้วยสายตาที่โหดเหี้ยม

   “ฉันกลัวว่าลูกจะเราจะเป็นอะไรไปค่ะ ตาภัทรแกสู้คนซะที่ไหนกันอ่อนแอซะขนาดนั้น” แก้วกานดาเอ่ยอย่างลนลาน

   “เดี๋ยวรอ-นดล-ก่อนว่าเรื่องมันเป็นยังไง เราค่อยไปแจ้งความกัน”

   “ฉันภาวนาขออย่าให้ตาภัทรเป็นอะไรไปเลย”



   ไม่นานนัก-นดล-ก็เดินเข้ามา

   “ตาดลได้เรื่องว่าไงบ้างลูก”

   “ผมขอเปิดดูกล้องวงจรปิดที่สนามบินมาแล้วครับ น้องโดนลักพาตัวไปจริงๆ แต่ยังไม่รู้ว่าพวกมันเป็นใคร”

   แก้วกานดามองหน้าผู้เป็นสามีทันที

   “คุณเคยมีปัญหาทางธุรกิจกับใครไหม? เพราะตัวนภัทรเองฉันมั่นใจว่าลูกไม่มีทางมีเรื่องกับใครแน่นอน”

   “ผมไม่เคยมีปัญหากับใครเลยนะ” ทรงพลยืนยัน

   “ผมว่าเราต้องแจ้งความแล้วล่ะครับ ตอนนี้น้องก็หายตัวไปเกินยี่สิบสี่ชั่วโมงแล้วด้วย ผมกลัวว่าพวกมันจะทำร้ายน้อง” นดลเสนอความคิดเห็น

   “แต่พ่อว่ารอก่อน ถ้าเป็นการลักพาตัวมันต้องรู้ว่านภัทรเป็นใคร และอีกไม่นานมันจะต้องติดต่อกลับมาเพื่อยื่นข้อเสนออย่างแน่นอน” ทรงพลมั่นใจในความคิดของตัวเอง

   “เราจะนั่งรอกันอย่างนี้เหรอคะฉันทำใจไม่ได้ ฉันเป็นห่วงลูก” แก้วกานดาโวยวายเสียงดัง

   “ใครๆก็ห่วงลูกกันทั้งนั้นล่ะ คุณใจเย็นๆสิ” ทรงพลตวาดใส่จนทั้ง-นดล-และแก้วกานดาต่างก็เงียบทันที

   “เชื่อผมมันต้องโทรมาแน่ เปิดโทรศัพท์ไว้ตลอดละกัน ไม่ใครก็ใครในสามคนเรานี่ล่ะรอรับโทรศัพท์ได้เลย”

   “ถ้างั้นวันนี้ผมไม่เข้าบริษัทนะครับพ่อ ผมจะรอรับโทรศัพท์น้อง” นดลบอก

   “รออยู่นี่ทั้งสามคนนั่นล่ะ” ทรงพลเอ่ย

ทั้งสามคนนั่งเครียดกันอยู่ในห้องนั่งเล่นอย่างใจจดใจจ่อ โดยไม่มีใครเอ่ยอะไรออกมาเลยแม้แต่คำเดียว



@เกาะบลูซี

   “ป้าภาครับเรียก-นภัทร-ให้มาหาผมหน่อยตอนนี้เลย”

   “ได้ค่ะ...รอสักครู่นะคะคุณเคลวิน”

   ป้าภาเดินมาเรียกนภัทรที่กำลังล้างจานอยู่ในครัว

   “นภัทรวางมือก่อนคุณเคลวินเรียกให้ไปหาที่ห้องทำงาน” เมื่อได้ยินชื่อของอีกคนทำให้นภัทรถึงกับทำหน้าเซ็งขึ้นมาทันที

   “เค้ามีอะไรรึเปล่าครับป้า”

   “ป้าก็ไม่รู้เหมือนกันรีบไปเถอะเดี๋ยวคุณเค้าจะดุเอา”

   “ครับป้า”

   นภัทรรีบล้างมือแล้วเดินมาที่ห้องทำงานของเคลวินทันที

   ก๊อก! ก๊อก! ก๊อก!

   “เข้ามาแล้วล็อกประตูด้วย” เขาสั่ง แต่มีหรือที่-นภัทร-จะทำตาม เขาเพียงปิดประตูไว้เท่านั้นเพราะกลัวว่าอีกคนจะรังแกเหมือนครานั้นอีก

   “บอกให้ล็อกไงล่ะอย่าดื้อสิวะ” เคลวินสั่งอีกครั้งฟังจากเสียงประตู  เขาก็รู้แล้วว่าร่างบางไม่ได้ทำตามคำสั่งทั้งหมด

   นภัทรจำต้องเดินกลับไปล็อกลูกบิดประตูไว้แล้วเดินเข้ามาใหม่อีกครั้ง

   “นั่งลงสิ” เขาสั่ง เคลวินนั่งขาไขว่ห้างอยู่ที่เก้าอี้ด้วยสีหน้าสบายๆ

   นภัทรนั่งลงแล้วก้มหน้าทันที เขาไม่อยากแม้แต่จะเห็นหน้าคนใจร้ายคนนี้

   “อ่ะ”

   ปึก!

   เคลวินโยนโทรศัพท์มือถือของ-นภัทร-ลงบนโต๊ะเสียงดัง จนทำให้ร่างบางเงยหน้าขึ้นมาดู เมื่อเห็นโทรศัพท์มือถือของตัวเองนอนแอ้งแม้งอยู่บนโต๊ะก็ยิ้มออกมาทันที หรือว่าเคลวินจะปล่อยตัวเขาแล้ว

   “นี่พี่...” นภัทรลืมตัวไปจึงเปลี่ยนคำพูดใหม่อีกครั้ง “นี่คุณจะคืนให้ผมเหรอ?”

   “ใช่” เคลวินมองหน้า

   “ขอบคุณนะครับ” นภัทรรีบหยิบขึ้นมาแล้วก็เปิดเครื่องทันที

   “ไม่คิดว่ามันจะง่ายไปหน่อยเหรอที่กูคืนให้มึง” เขาตอบด้วยน้ำเสียงเย็นยะเยือก

   นภัทรหุบยิ้มแล้วมองหน้าอย่างไม่เข้าใจ

   “คุณมีแผนอะไรอีก”

   “ตอนนี้ที่บ้านมึงคงจะรู้แล้วล่ะว่ามึงหายตัวไป แต่กูว่ามันคงยังไม่กล้าโทรฯแจ้งความแน่เพราะกลัวมึงจะเป็นอันตราย กูจะให้มึงโทรฯหาที่บ้านสักหน่อย บอกพวกมันว่าตอนนี้มึงสบายดีอยู่กับผัวที่นี่” เขาเอ่ยด้วยสีหน้าเจ้าเล่ห์

   “ทำไมจะไม่กล้าแจ้งความล่ะลูกเค้าหายไปทั้งคน แน่นอนอีกไม่นานตำรวจก็จะมาจับคุณ รู้อย่างนี้แล้วก็รีบส่งตัวผมกลับบ้านเถอะ คุณจะได้ไม่ต้อง...” เขายังพูดไม่จบคนตัวสูงก็รีบพูดตัดบททันที

   “มึงคิดว่ากูกลัวขนาดนั้นเลยเหรอ ไม่งั้นกูไม่จับมึงมาอย่างนี้หรอก มึงคงไม่รู้สินะว่ากูมีอิทธิพลมากแค่ไหน กูอยากให้ที่บ้านมึงรู้ว่าความเจ็บปวดมันเป็นยังไง หึหึ” เขาแสยะยิ้มออกมา

   “ทำไมถึงเลวได้ขนาดนี้ แล้วตกลงพ่อกับแม่ผมทำอะไรให้คุณ ถึงต้องมาลงที่ผมอย่างนี้”

   “จริงๆกูก็ไม่แน่ใจหรอกว่าแม่มึงมีส่วนรู้เห็นไหม แต่พ่อของมึงนั่นล่ะตัวดี  ถ้าฆ่าได้กูก็จะฆ่าแต่ทำอย่างนั้นมันไม่สะใจหรอก  จับลูกมันมาทำเมียบำเรออย่างนี้สะใจกว่าเยอะเลย ฮ่าๆๆ มึงว่าไหม?”

   “คุณมันบ้าไปแล้ว ไอ้โรคจิต!” นภัทรพยายามจะวิ่งออกไปจากห้อง ในเมื่อเขาได้โทรศัพท์มือถือคืนมาแล้ว  ต้องหาทางโทรฯไปแจ้งความให้ได้

   เคลวินรีบลุกขึ้นไปคว้าตัวร่างบางแล้วรวบตัวไว้ “มึงคิดว่าจะหนีกูพ้นเหรอถ้ามึงอยากตายก็ออกไปเลย” เขาขู่ “รีบโทรฯไปหาที่บ้านมึงเดี๋ยวนี้ โทรสิวะ!” เขาตะคอกใส่เสียงดังจนร่างบางสั่นไปทั้งตัว

   “ปล่อยก่อนสิมันโทรไม่ได้เห็นไหม” นภัทรพยายามดิ้นไปมาในอ้อมแขนแกร่ง

   เคลวินปล่อยร่างบางทันทีแล้วจ้องมองทุกอิริยาบถ หลังจากนั้น-นภัทร-ก็กดเบอร์โทรฯออกหาพ่อของตัวเองทันที

   “ฮัลโล พ่อครับ”

   (“นั่นภัทรใช่ไหมลูก! ลูกอยู่ไหน ใครจับตัวลูกไปบอกพ่อมาพ่อจะรีบไปจัดการมันเดี๋ยวนี้”) ทรงพลรีบเอ่ยทันทีที่ได้ยินเสียงลูกชาย

   “ผมปลอดภัยดีแต่พ่อมาช่วยผมด้วยนะครับ ผมอยู่ที่....” นภัทรพูดยังไม่ทันจบเคลวินก็รีบแย่งโทรศัพท์มือถือไปก่อน

   “เอาคืนมาเดี๋ยวนี้นะ” นภัทรพยายามจะแย่ง

   “หยุด! แล้วนั่งลงเดี๋ยวนี้” เขาสั่ง

   นภัทรได้แต่ยอมนั่งลงตามคำสั่ง แล้วฟังสิ่งที่เคลวินจะเอ่ยกับพ่อของตัวเอง เขาก็อยากรู้เหมือนกันว่าแท้ที่จริงแล้วมันเกิดอะไรขึ้นกันแน่  ทำไมเคลวินถึงได้จงเกลียดจงชังครอบครัวเขาขนาดนี้

   “สวัสดีครับคุณอาสุดที่รัก” เคลวินพูดจากวนใส่

   (“มึงเป็นใคร มึงจับตัวลูกกูไว้ที่ไหนบอกมา กูมีเงินมึงต้องการเท่าไหร่กูก็จะให้”) ทรงพลรีบเอ่ยออกมา

   “โธ่ คุณอาครับอย่าเพิ่งรีบร้อนสิ เอ๊ะไม่สิต้องเรียกคุณพ่อตาสินะ เพราะตอนนี้ลูกชายของคุณพ่อเป็นเมียผมเรียบร้อยแล้ว หึหึ” เขาเอ่ยออกมาด้วยเสียงเย็นยะเยือก

   (“ไอ้สารเลวมึงทำอย่างนี้กับลูกกูได้ยังไง กูจะตามฆ่ามึงให้ได้”) ทรงพลพูดด้วยอารมณ์เดือนพล่าน ในที่สุดสิ่งที่เขากลัวก็เกิดขึ้น นภัทรไม่ได้ปกติเหมือนคนทั่วไป ลูกชายของเขาสามารถตั้งครรภ์ได้ เขาภาวนาอย่าให้นภัทรตั้งครรภ์เลยไม่งั้นมันจะเป็นตราบาปกับลูกเขาไปตลอดชีวิต

   “อย่าเพิ่งโมโหไปเลยครับคุณพ่อตา ผมเพิ่งจะเอามันไปครั้งเดียวเองนะ วันนี้ก็ว่าจะจัดอีกสักรอบให้มันหายอยาก ฮ่าๆ” เขาหัวเราะออกมาอย่างสะใจ

   (“มึงต้องการอะไรบอกกูมา เรามาตกลงกันดีๆ”) ทรงพลพยายามใจเย็นลง  เพื่อให้การเจรจามีผลดีมากขึ้น

   “ผมก็ต้องการลูกชายพ่อไงครับ ตอนนี้ก็สมหวังแล้ว เอาเป็นว่าคุณพ่อตาไม่ต้องห่วงนะครับผมจะทรมานลูกคุณพ่อให้มากๆ ให้สมกับที่คุณพ่อเคยทำให้คนอื่นต้องเจ็บปวดมาก่อน” เคลวินเค้นเสียงหนักขึ้นเมื่อนึกถึงเรื่องราวในอดีต

   (“หมายความว่าไงกูไม่เคยมีเรื่องกับใครมาก่อนมึงอย่ามามั่ว ถ้ากูรู้ว่ามึงอยู่ที่ไหนมึงตายแน่ ไอ้สัด!”)

   “มึงคงจำไม่ได้สินะเมื่อยี่สิบปีก่อนมึงทำอะไรใครไว้ มึงลองนึกดูสิ!” เคลวินเปลี่ยนสรรพนามทันทีเมื่ออารมณ์เริ่มเดือดขึ้น

   ทรงพลได้ยินก็นึกถึงเรื่องนั้นทันที เมื่อยี่สิบปีก่อนกับอุบัติเหตุที่ทำให้เพื่อนรักพร้อมกับภรรยาต้องจบชีวิตลงโดยมีเขาอยู่เบื้องหลังในการตายครั้งนี้ จะเหลือก็แค่เพียงลูกชายของทั้งสองที่หนีออกจากบ้านไป  หลังจากได้ยินเขาคุยโทรศัพท์พูดคุยเรื่องการจ้างวานตัดสายเบรครถในวันนั้น เมื่อเด็กชายรู้ตัวว่าเขาเห็นมันก็รีบวิ่งหนีออกไปจากบ้านแล้วไม่กลับเข้ามาอีกเลย  หรือว่าที่คนคุยสายด้วยจะเป็น ‘วิน’ เด็กชายคนนั้น  ลูกชายของเพื่อนที่เคยหนีออกจากบ้านไป

   (“มึงคือไอ้วิน?”) เขาถามออกมาอย่างไม่แน่ใจ

   “ความจำดีนี่”

   (“กูนึกว่ามึงจะตายห่าไปแล้วซะอีก”)

   “กูยังไม่ตายง่ายๆหรอก เพราะกูจะมาเอาคืนพวกมึงให้สาสมกับที่มึงฆ่าพ่อแม่กู นี่มันแค่เริ่มต้น”

   (“ถ้ามึงไม่คืนลูกมาให้กู กูจะเอาตำรวจลากคอมึงเข้าตะรางให้ได้คอยดู”) ทรงพลขู่

   “เอาสิ๊ ถ้าคิดว่าทำแล้วลูกชายมึงจะปลอดภัยก็เอาเลย กูรับรองว่าลูกมึงจะได้ทรมานก่อนตาย ถ้ามึงยังรักลูกอย่าแม้แต่จะคิด  มึงไม่ต้องห่วงหรอกกูจะให้มันติดต่อมึงไปเป็นระยะๆ  เพื่อให้พวกมึงรู้ว่าว่ามันยังมีชีวิตอยู่ เมื่อไหร่ที่กูเห็นมึงใกล้จะตายกูถึงจะให้มันกลับไปดูใจมึงละกัน ถ้ามึงยากเห็นหน้าลูกเร็วๆก็ให้รีบตายซะ”

   ตู๊ดๆๆๆ

   พูดจบเคลวินก็ตัดสายไป แล้วหันไปมองร่างบางที่กำลังนั่งร้องไห้อยู่บนโต๊ะ

   “มึงคงรู้แล้วสินะว่าพ่อมึงเลวขนาดไหน” เขาเดินเข้าไปเอามือหนาบีบที่ปลายคาง  แล้วออกแรงบีบจนร่างบางรู้สึกเจ็บ

   “ผมไม่เชื่อว่าพ่อจะทำอย่างนั้น” นภัทรจ้องหน้า

   “ถ้าไม่ใช่เรื่องจริงกูจะมาทำอย่างนี้กับมึงทำไม คิดสิๆ” เคลวินใช้นิ้วจิ้มไปที่หน้าผากของร่างบางจนศีรษะเหวี่ยงไปตามแรง

   “มันอาจจะเป็นเรื่องเข้าใจผิดก็ได้ครับพี่วิน ลองคิดดูอีกทีนะครับ” นภัทรพยายามพูดดีด้วยหวังว่าคนตัวโตจะใจอ่อน แต่ไม่มีทางที่จะทำให้ความแค้นในใจเขามันลดลงได้

   “มึงอย่ามาเรียกกูพี่ กูไม่มีทางนับญาติกับมึงหรอก กูไม่มีทางลืมวันนั้น หลังจากที่พ่อแม่กูรถคว่ำตายกูบังเอิญได้ยินพ่อมึงคุยโทรศัพท์บอกให้ไอ้คนที่ไปตัดสายเบรครถพ่อกูหนีไปกลบดาน และที่กูหนีมาเพราะมันจะเล่นงานกูอีกไง กูเลยต้องหนีหัวซุกหัวซุนออกมาจากบ้านของพ่อแม่กู  ที่พวกมึงใช้คุ้มกะลาหัวนอนอยู่ทุกวันนี้ แถมยังมีบริษัทที่พ่อกูสร้างมากับมืออีก กูไม่ฆ่าพวกมึงล้างตระกุลก็ดีเท่าไหร่แล้ว” เคลวินเอ่ยเรื่องราวในอดีตให้ร่างบางฟัง ในขณะใบหน้าเขาแดงก่ำด้วยความโกรธแค้น

   เคลวินจ้องหน้าร่างบางแล้วก็รู้สึกรำคาญ  ที่เห็นดวงดาแดงก่ำและเปียกชุ่มไปด้วยน้ำตา
 
   เพี๊ยะ!

   เขาใช้มือหนาฟาดไปที่แก้มขาวของร่างบางอย่างแรง จนใบหน้าแดงก่ำและสะบัดไปตามแรงตบ

   “อย่ามาสำออยต่อหน้ากู”

   “ฮึก ถ้าคุณทำอย่างนี้แล้วมันจะช่วยชดใช้เรื่องในอดีตได้ ผมก็จะอยู่ที่นี่ให้คุณทรมานจนกว่าคุณจะพอใจ” นภัทรนั่งน้ำตาซึม เขาไม่นึกเลยว่าพ่อของตัวเองจะกล้าทำกับเพื่อนรักได้ถึงขนาดนี้ พ่อที่แสนดีของเขากลับกลายเป็นคนที่เลวร้ายไปเสียแล้ว

   “แน่นอนมึงจะอยู่ให้กูเอาจนกว่าจะพอใจ และมึงอย่าคิดหนีเด็ดขาดเพราะไม่งั้นกูจะเล่นมึงให้หนักเลยคอยดู” เคลวินขู่

   “ตอนนี้ผมรู้และเข้าใจทุกอย่างแล้ว คุณจะทำอะไรกับผมก็เชิญแต่ขออย่างเดียว อย่ายุ่งกับครอบครัวผมได้ไหม ขอให้ทุกอย่างมันจบที่ผมคนเดียว” นภัทรพยายามพูด

   “ถ้ามึงอยู่ที่นี่กับกูรับรองว่ากูจะไม่ไปยุ่งกับครอบครัวมึงอีก” เคลวินสัญญา แต่ที่จริงแล้วในใจเขากลับไม่ได้คิดแบบนั้น เรื่องมันไม่ได้จบแค่ที่นภัทรอย่างแน่นอนนี่คือแค่น้ำจิ้มเท่านั้น

   “ผมไปได้รึยัง”

   “ไปได้ แต่เอามือถือมึงคืนมาก่อน”

   นภัทรจำใจยื่นโทรศัพท์มือถือคืนให้คนตัวโตแล้วเดินออกไป  เขาต้องเข้มแข็งให้ได้เพื่อทุกคนในครอบครัว  แต่อีกใจนึงก็รู้สึกเห็นใจเคลวินอยู่เหมือนกันที่เจอเรื่องร้ายๆนั่นตั้งแต่เด็ก เขาคงเก็บกดมากจริงๆถึงได้กลับมาเอาคืนครอบครัวเขาขนาดนี้ และเปลี่ยนไปเป็นคนละคนกับที่เขาเคยรู้จักในวัยเด็ก

   “เดี๋ยวก่อน!” เคลวินเอ่ยก่อนร่างบางจะก้าวขาพ้นจากประตูห้อง

   นภัทรหันหน้ากลับมามองอย่างสงสัย

   “คืนนี้สองทุ่มมาหากูที่ห้องด้วย” เขาสั่งก่อนจะก้มหน้าลงทำงานต่อ

   นภัทรเดินออกมาจากห้องด้วยน้ำตา เขาไม่นึกเลยว่าจะมาเจอทั้งเรื่องดีและร้ายในเวลาเดียวกันอย่างนี้  เรื่องดีก็คือเขาได้เจอคนที่เคยคิดถึงและโหยหามาตลอดตั้งแต่เด็กจนโต แต่เรื่องร้ายเขากลับได้รับรู้เรื่องราวราวของพ่อตัวเองที่เคยฆ่าคนมาก่อน ไม่ว่าจะยังไงก็ตามเขาจะพยายามทำใจอยู่ที่นี่ให้ได้  ถึงแม้ว่าจะโดนทำร้ายไม่ว่าจะร่างกายหรือจิตใจมากแค่ไหนก็ตาม

*-*-*-*-*-*-*-*-*-*-*
   


   “เป็นไปได้ยังไงคะคุณ!” แก้วกานดาเอ่ยกับสามีด้วยความสงสัย หล่อนไม่อยากจะเชื่อเลยว่าเด็กชายที่เธอเห็นมาตั้งแต่เด็ก และหนีออกจากบ้านไปไม่เคยหวนกลับมาที่นี่อีก เจอกันอีกครั้งก็จับตัวลูกชายคนเล็กของหล่อนไป

   “มันเป็นไปแล้ว มันคือไอ้วินคนนั้น” ทรงพลพูดด้วยสีหน้าเคร่งเครียด

   “แล้วทำไมวินต้องมาลักพาตัวน้องไปด้วยล่ะครับ ผมงงไปหมดแล้วเนี่ยเค้าแค้นอะไรเรานักหนา” นดลเอ่ยกับผู้เป็นพ่อ เขาเองก็ไม่เคยรู้เรื่องทั้งหมดมาก่อนเลย

   “จริงด้วยค่ะหรือว่าคุณไปทำอะไรไว้ บอกฉันมานะไม่งั้นวินมันคงไม่มาแก้แค้นเราแบบนี้หรอก” แก้วดานดาพยายามคาดคั้นผู้เป็นสามี จนทรงพลเริ่มราคาญ

   “หยุด! มันไม่มีอะไรทั้งนั้นล่ะ เรื่องมันจบมานานแล้วอย่าไปรื้อฟื้นมันขึ้นมาอีก ตอนนี้เราควรหาทางเอาตัวนภัทรกลับมาดีกว่าไหม” ทรงพลบอก

   “ใช่ค่ะ! เราควรรีบหาทางเอาตัวนภัทรกลับมา แต่ถ้าไม่รู้ต้นสายปลายเหตุเราก็ไม่มีทางที่จะได้ตัวนภัทรคืนมาง่ายๆแน่ ตอนนี้เราต้องแจ้งความแล้วล่ะ” หล่อนว่าแล้วรีบยกโทรศัพท์มือถือขึ้นมา

   “หยุดเดี๋ยวนี้! เราจะไม่แจ้งความเด็ดขาด มันขู่ว่าถ้าเรื่องถึงตำรวจมันจะทรมานลูกเรา”

   “โธ่! นภัทรลูกแม่ ฮือๆๆ แม่จะช่วยอะไรลูกไม่ได้เลยหรือนี่” เธอร้องไห้ร้องห่มเสียงดังจนแทบจะเป็นลม

   “คุณแม่ครับใจเย็นๆ เราค่อยคิดหาทางกัน ผมจะหาวิธีเอาตัวน้องมาให้ได้” นดลพยุงผู้เป็นแม่มานั่งที่โซฟา

   “ตอนนี้ที่พ่อห่วงมากก็มีเรื่องเดียวนั่นล่ะ” ทรงพลเปรยออกมากับลูกชาย

   “พ่อกลัวว่าน้องจะท้องหรือครับ” นดลถาม

   “ใช่ ถ้าเป็นอย่างนั้นพ่อกลัวว่าน้องจะรับตัวเองไม่ได้ เพราะเรายังไม่เคยบอกนภัทรมาก่อนว่าเค้าพิเศษกว่าผู้ชายทั่วไปนั่นคือสามารถตั้งท้องได้  ถ้ามันเป็นอย่างนั้นพ่อจะไม่มีวันให้มันได้เกิดมาลืมตาดูโลกใบนี้แน่ พ่อไม่มีทางให้เลือดเลวๆของมันมาแปดเปื้อนเราแน่”

   “มันอาจจะไม่ได้เป็นอย่างที่คุณพ่อคิดก็ได้นะครับ น้องคงไม่โชคร้ายขนาดนั้น”

   “พ่อก็หวังว่ามันจะเป็นแบบนั้น”

   ทรงพลแสดงสีหน้าเกรี้ยวกราดเมื่อนึกถึงคนที่กำลังจับตัวลูกชายคนเล็กไป เขาคิดแล้วว่ามันต้องมีวันนี้แต่ไม่นึกว่ามันจะเกิดกับลูกชายของตัวเองแทนที่จะเป็นเขาเอง

*-*-*-*-*-*-*-*-*-*-*-*-*
   
   

TBC.............

ออฟไลน์ weedear

  • เป็ดHera
  • *
  • กระทู้: 1139
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +10/-4
รอตอนตีอไปๆๆ

CoMMuNiTY Of ThAiBoYsLoVE

ประกาศที่สำคัญ


ตั้งบอร์ดเรื่องสั้น ขึ้นมาใครจะโพสเรื่องสั้นให้มาโพสที่บอร์ดนี้ ถ้าเรื่องไหนไม่จบนานเกิน 3 เดือน จะทำการลบทิ้งทันที
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=2160.msg2894432#msg2894432



รวบรวมปรับปรุงกฏของเล้าและการลงนิยาย กรุณาเข้ามาอ่านก่อนลงนิยายนะครับ
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=459.0



สิ่งที่ "นักเขียน" ควรตรวจสอบเมื่อรวมเล่มกับสำนักพิมพ์
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=37631.0






ออฟไลน์ azure

  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 772
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +37/-2
สรุปพ่อของภัทรเป็นคนฆ่าพ่อแม่พระเอกจริงๆเหรอเนี่ย :ling3:

ออฟไลน์ cavalli

  • เป็ดArtemis
  • *
  • กระทู้: 5378
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +195/-19

ออฟไลน์ areenart1984

  • เป็ดArtemis
  • *
  • กระทู้: 4825
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +167/-7
พ่อทำกรรม  ลูกรับกรรม ซวยเต็ม ๆ เลย หลานภัทร  :เฮ้อ:

ออฟไลน์ armize

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 95
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +3/-0

ออฟไลน์ ไมเลอร์

  • เป็ดมัธยม
  • *
  • กระทู้: 189
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +119/-6
CHAPTER  4 ซวยซ้ำซ้อน


   นภัทรยืนเหม่อขณะช่วยป้าภาล้างจานอยู่ในครัว ไม่น่าเชื่อเลยว่าหนุ่มนักเรียนนอกอย่างเขาจะต้องมาเป็นคนรับใช้ล้างจานงกๆอยู่อย่างนี้ แถมยังโดนย่ำยีสารพัดอีกต่างหาก เขาได้แต่หวังว่าความดีที่จะทำต่อจากนี้ไป  จะสามารถช่วยให้ความแค้นที่เคลวินมีมันลดน้อยลงไป เขาไม่มั่นใจว่ามันจะได้ผลหรือเปล่าแต่อย่างน้อยมันก็น่าจะดีกับครอบครัวของเขา ที่เคลวินสัญญาว่าจะไม่ไปยุ่งวุ่นวายด้วยอีก

   “ภัทร”

   “เจ้าภัทร!”

   ป้าภาเรียกเมื่อเห็นว่าหนุ่มน้อยหน้าหวานข้างๆกำลังยืนเหม่ออยู่

   “คะ...ครับป้าภา มีอะไรเหรอครับ” เมื่อสติกลับคืนมาเขาก็หันไปหาป้าภาทันที

   “เอ็งยืนเหม่ออะไรเนี่ย”

   “ผมก็คิดอะไรไปเรื่อยเปื่อยล่ะครับป้า”

   “ป้าถามเอ็งจริงๆนะ คุณเคลวินทำร้ายเอ็งมาเหรอ ดูหน้าเอ็งแดงๆเหมือนโดนตบมาเลย” ป้าภาถามด้วยความสงสัย หล่อนสังเกตที่ใบหน้าของนภัทรมีรอยแดงอยู่จนเห็นได้ชัด

   “ก็อย่างที่ป้าเข้าใจนั่นล่ะครับ ผมโอเคไม่เป็นไรครับป้า” เขายิ้ม

   “เอ็งพยายามอย่าไปทำอะไรให้คุณเค้าโมโหละกัน ป้าจะบอกให้นะคุณเคลวินน่ะถ้าดีก็ดีใจหาย แต่ถ้าร้ายก็สุดๆเหมือนกัน” ป้าภาแนะนำ

   “ครับป้าผมจะพยายาม”

   “ป้าอยากถามเอ็งหลายครั้งแล้วแต่ก็ไม่กล้า” ป้าภาทำหน้าอึกอักเหมือนคันปากอยากจะถามซะเต็มประดา

   “ป้าถามมาเถอะถ้าผมตอบได้ก็จะตอบ” เขามองหน้าแล้วยิ้มให้

   “นี่เอ็งโดนลักพาตัวมารึเปล่า เพราะดูท่าทางคุณเคลวิลจะไม่ชอบขี้หน้าเอ็งเลย แถมยังชอบทำร้ายๆใส่อยู่บ่อยๆอีกต่างหาก”

   “ใช่ครับผมโดนจับตัวมา แต่ผมคงไม่พยายามที่จะหนีออกไปหรอก ผมจะอยู่ที่นี่จนกว่าจะทำให้เค้าหายแค้นครอบครัวผม แต่ผมบอกป้าได้เท่านี้นะครับ”  เขาบอกด้วยสีหน้าเศร้าเมื่อเอ่ยถึงเรื่องนี้

   “ป้าว่าแล้วมันต้องเป็นอย่างนี้ เอาเป็นว่าถ้ามีอะไรให้ป้าช่วยก็บอก แต่ถ้ามันเป็นเรื่องที่คุณเคลวินสั่งมาป้าเองก็ช่วยเอ็งไม่ได้จริงๆนะ เอ็งเข้าใจป้านะ”

   “ขอบคุณครับป้า แค่ป้ามีน้ำใจกับผมก็ดีใจมากแล้ว ส่วนเรื่องนั้นถ้าเค้าจะทำอะไรกับผม ผมทำใจไว้แล้วล่ะ” เขายิ้มให้แต่เป็นยิ้มที่มีความทุกข์แฝงอยู่ในนั้น

   “สู้ๆละกันป้าก็ได้แต่เอาใจช่วย” ป้าภาให้กำลังใจเอามือจับที่ไหล่บางแล้วบีบเบาๆ

   ในระหว่างนั้นก็มีเสียงเล็กแหลมของใครบางคนเอ่ยแทรกขึ้นมา

   “ชีวิตน่าสงสารจังเลยเนาะ” ขวัญสาวใช้ในบ้านอีกคนเดินเข้ามาแล้วพูดประชดประชัน หล่อนไม่ชอบขี้หน้านภัทรเลย  นั่นเพราะหล่อนแอบเห็นร่างบางเข้าไปในห้องของเคลวินช่วงเวลาดึกๆดื่นๆอยู่บ่อยครั้ง  ถึงแม้ว่ามันจะเป็นคำสั่งของเคลวินเองก็ตาม  หล่อนแอบชอบเคลวินตั้งแต่ครั้งแรกที่เข้ามาเป็นสาวใช้ที่นี่ จนเวลาก็ล่วงเลยมาจะสองปีแล้ว  แต่ก็ไม่สามารถที่จะทำให้เคลวินสนใจหล่อนได้เลยแม้แต่น้อย  แต่กับนภัทรเองแม้เพิ่งจะมาอยู่ได้ไม่กี่วัน  กลับถูกเคลวินเรียกตัวเข้าไปในห้องซะอย่างนั้น ทำให้หล่อนเกลียดผู้ชายตัวเล็กๆคนนี้ซะเหลือเกิน

   “อะไรของมึงอีขวัญ” ป้าภาเอ่ยเมื่อเห็นท่าทีน่าหมั่นไส้ของหล่อน

   “เปล่าหนูก็แค่พูดลอยๆใครจะรับไปก็เชิญ” หล่อนยักไหล่เหมือนไม่ได้แคร์ผู้หญิงที่แก่คราวแม่เลยแม้แต่น้อย

   “มึงมันมักใหญ่ใฝ่สูง กูรู้นะว่ามึงหวังจะเป็นคุณนายของบ้านหลังนี้ กูจะบอกอะไรให้นะว่ามึงไม่มีทางหรอกโว้ย มึงลืมไปแล้วรึไงว่าคุณเคลวินน่ะมีคุณเมญ่าอยู่แล้ว จำใส่กะโหลกไว้ด้วยอีขวัญ” ป้าภาด่าฉอดๆพร้อมกับชี้หน้าไปด้วย

   “แล้วไงใครแคร์ถ้ายังไม่ได้แต่งงานจดทะเบียนก็ถือว่าฉันยังมีสิทธิ์”

   “ป้าอย่าไปพูดกับคนประเภทนี้เลยครับเสียเวลาเปล่าๆ” นภัทรเอ่ยกับป้าภาด้วยท่าทีสุภาพสมกับเติบโตมาในครอบครัวที่มีฐานะหน้าตาทางสังคมที่ดี

   “แกอย่ามาทำเป็นปากดี ฉันเห็นแกเข้าไปในห้องคุณเคลวินเกือบทุกวัน แกมันก็ไม่ได้ต่างจากฉันหรอกไอ้นภัทร” ขวัญว่า
   นภัทรได้แต่มองหน้าอย่างเหนื่อยใจ ตั้งแต่เข้ามาอยู่ที่นี่ขวัญไม่เคยมองเขาด้วยสายตาที่เป็นมิตรเลย ตอนแรกก็ยังงงๆ แต่ตอนนี้เขาพอจะรู้แล้วว่าเพราะอะไร

   “ฉันไม่เคยคิดอยากจะมาอยู่ที่นี่ด้วยซ้ำเธออย่ามาพูดแบบนั้น ถ้าเธออยากได้ก็เอาไปเลยแล้วก็บอกเค้าด้วยว่าอย่ามายุ่งกับฉัน”

   “ทำให้มันได้อย่างที่พูดละกัน แล้วฉันจะคอยดู” ขวัญถลึงตาใส่แล้วเดินออกไป

   “เอ็งอย่าไปใส่ใจมันเลยภัทร อีนี่มันเป็นอย่างนี้ตั้งแต่เข้ามาในบ้านหลังนี้แล้ว”

   “ครับป้าผมจะพยายามไม่ใส่ใจ”

   เขายิ้มให้ป้าภาก่อนจะลงมือล้างจานต่อให้เสร็จ

*-*-*-*-*-*-*-*-*-*-*


   หลังจากขวัญเดินหน้าบึ้งออกมาจากครัวหล่อนก็มาเจอกับภาพบาดตาทันที  เคลวินเดินมาพร้อมกับเมญ่า  โดยทั้งสองเดินควงแขนหยอกล้อกระหนุงกระหนิงเล่นกันอย่างสนุกสนาน

   “ขวัญมานี่ซิ” เคลวินกวักมือเรียกสาวใช้ให้เดินเข้าไปหา  ขวัญเห็นอย่างนั้นก็ยิ้มกว้างแล้วเดินเข้าไปทันที

   “บอกนภัทรเอาน้ำมาเสิร์ฟคุณเมญ่ากับฉันหน่อยสิ”

   “คือขวัญเอามาให้เองก็ได้นะคะ” เธออาสา

   “ฉันบอกว่าให้นภัทรเอามาก็ตามนั้น” เขาทำหน้าเข้มใส่เมื่อโดนสาวใช้ขัดใจ

   “ค่ะๆ เดี๋ยวขวัญจะไปบอกเดี๋ยวนี้” หล่อนหน้าเสียแล้วเดินเข้าไปในครัวทันที

   เมญ่าที่ยืนควงแขนอยู่นั้นหันมาเอ่ยกับชายหนุ่ม

   “นภัทรนี่คือคนใช้ใหม่ที่บ้านคุณเหรอคะเคลวิน” เมญ่าเอ่ยถาม เพราะหล่อนไม่เคยได้ยินชื่อมาก่อน

   “ครับเพิ่งรับมา” เขายิ้มให้

   “ออค่ะ” เธอตอบแค่นั้นไม่ได้ว่าอะไรต่อก่อนที่ทั้งสองจะเดินเข้าไปนั่งรอที่ห้องรับแขก



   ไม่นานหลังจากนั้นนภัทรก็เดินมาพร้อมกับถาดแก้วน้ำเย็น  เขาปรายตามองชายหนุ่มก่อนจะค่อยๆยกแก้วน้ำไปวางให้คนตัวโต หลังจากนั้นก็ยกไปวางให้เมญ่าอีกที แต่ด้วยความไม่ระวังทำให้แก้วน้ำหดรดบนกระโปรงของหญิงสาวจนเปียกชุ่ม

   “ว้าย! ทำไมแกสะเพร่าอย่างนี้” เมญ่าลุกขึ้นยืนแล้วร้องโวยวายเสียงดัง

   “ผมขอโทษครับ ผมไม่ได้ตั้งใจ” เขายกมือขึ้นไหว้ปรกๆ

   “นี่ขนาดไม่ได้ตั้งใจนะ ถ้าตั้งใจจะไม่รดบนหัวฉันเลยเหรอ!” หล่อนชี้หน้า

   “นี่คุณ...” เขาจะพูดต่อแต่โดนคนตัวโตพูดขัดไว้

   “กราบขอโทษคุณเมญ่าเดี๋ยวนี้” เคลวินเอ่ยเสียงเข้มพร้อมกับมองหน้าอย่างเย็นยะเยือก

   “ก็ผมไหว้ขอโทษแล้วไงครับ” นภัทรชักสีหน้าใส่อย่างไม่พอใจ นี่ไม่ใช่พ่อแม่เขาสักหน่อยทำไมจะต้องทำถึงขนาดนั้นด้วย

   “จะกราบไม่กราบ” เขาจ้องเขม็งมาที่ร่างบาง

   “ไม่!” นภัทรยังยืนยัน

   “จะเอาอย่างนั้นก็ได้ถ้ามึงไม่อยากโดนกูขังไว้ไม่ให้เห็นเดือนเห็นตะวันอีก ให้มึงเลือกเอาละกัน” เขาขู่

   นภัทรจ้องมองชายหนุ่มด้วยความโมโห แต่ก็จะยอมทำตามอย่างน้อยมันก็ดีกว่าโดนขัง  แค่คิดมันก็น่ากลัวมากเหลือเกิน  อีกอย่างอยู่ที่นี่เขาก็ไม่ได้มีศักดิ์ศรีอะไรเหลือแล้วจะกราบหรือไม่กราบก็คงเหมือนเดิม

   “ได้ผมจะยอมกราบ” เขาค่อยๆนั่งลงตรงหน้าเมญ่าแล้วก้มลงกราบด้วยน้ำตา เมื่อเงยหน้าขึ้นมาเขาก็จ้องมาชายหนุ่มอีกครั้งด้วยความน้อยเนื้อต่ำใจ

   เมญ่ายิ้มออกมาอย่างสะใจ ใครก็ตามที่ทำให้หล่อนไม่พอใจจะต้องโดนอย่างนี้ล่ะ

   “พอใจรึยังครับเมญ่า” ชายหนุ่มถาม

   “ก็โอเคค่ะ แต่วันหลังอย่าให้มีแบบนี้อีกนะฉันไม่พอแค่นี้แน่” หล่อนบอก

   “ได้ยินที่คุณเมญ่าบอกรึยัง” เคลวินถามย้ำ

   “ครับ ผมได้ยินและจะพยายามไม่สะเพร่าอีก” นภัทรยอมรับทุกอย่างแล้วก็เช็ดน้ำตาไปด้วย

   “ถ้างั้นผมขอตัวไปเอามาให้ใหม่นะครับ” เขาบอกแล้วหยิบแก้วน้ำที่มันหกขึ้นมาไว้บนถาด

   “เดี๋ยวเอามาให้ฉันใหม่ด้วย” เคลวินสั่ง แต่นภัทรกลับมองหน้าอย่างสงสัย นั่นเพราะแก้วน้ำที่เขาเพิ่งจะยกไปวางให้ยังคงอยู่ที่โต๊ะ

   “คุณจะเอาน้ำอะไรอีกครับ” เขาถามชายหนุ่ม

   เคลวิลยิ้มแล้วหยิบแก้วน้ำขึ้นมาก่อนจะสาดเข้าที่ใบหน้าของนภัทรทันที

   “อะไรกันเนี่ย! มันจะมากไปแล้วนะ!” นภัทรว่าพลางเอามือลูบที่ใบหน้าตัวเองไปด้วย

   “น้ำฉันมันหมดแล้วไปเอามาให้ใหม่หน่อยนะ” เคลวินยิ้มที่มุมปากอย่างพอใจ

   นภัทรได้แต่มองจ้องหน้าชายหนุ่มแต่ไม่สามารถพูดอะไรได้ ทุกอย่างมันจุกอยู่ในอก เขาต้องพยายามทำใจให้ได้ว่าอยู่ที่นี่ในฐานะอะไร ซึ่งมันไม่ใช่แค่คนรับใช้แต่มันคือนักโทษดีๆนั่นเอง

   “คุณโกรธแทนเมญ่าขนาดนั้นเลยเหรอคะเคลวิน เมญ่ารักคุณจังเลยค่ะ” หล่อนควงแขนแล้วเอ่ยออกมา

   “ใครทำคุณก็เหมือนทำผมเหมือนกัน”

   เขามองหน้านภัทรไปด้วย ส่วนร่างบางได้แต่ก้มเก็บแก้วใส่ถาดแล้วเดินออกมาทันที  เมื่อหันหลังมาแล้วเขาก็ปล่อยโฮออกมาด้วยความอัดอั้นตันใจ  แล้วเดินเข้าไปในครัวทันที

   “เอ็งร้องไห้ทำไมภัทร ใครทำอะไรเอ็ง” ป้าภากำลังหั่นผักอยู่เมื่อเห็นก็รีบเดินเข้ามาหาแล้วเอ่ยถามทันที

   “ฮึก ไม่มีอะไรครับป้า” เขาพยายามจะกลั้นน้ำตาเอาไว้ไม่ให้มันไหลออกมา

   “คุณเคลวินทำเอ็งใช่ไหม” ป้าภาถามอย่างรู้ทัน

   เขาพยักหน้าก่อนจะร้องไห้ออกมาอีกครั้ง เมื่อโดนป้าภาถาม

   “ทำไมถึงได้ทำกันขนาดนี้นะ”

   “ไม่เป็นไรครับป้า เดี๋ยวผมจะต้องเอาน้ำไปให้เค้าใหม่อีกรอบก่อน เค้าจะว่าผมช้าอีก” นภัทรบอกพร้อมกับเช็ดน้ำตาไปด้วย

   “มานี่ป้าเอาไปเอง” ป้าภาบอก

   “แต่....” เขาพยายามแย้ง

   “ไม่เป็นไรป้าเอาไปเอง  ส่วนเอ็งไปเปลี่ยนเสื้อก่อนเถอะเปียกไปหมดแล้วเนี่ย”

   “ขอบคุณมากครับป้า” เขายิ้มให้

   นภัทรรีบเดินกลับไปที่ห้องพักเพื่อไปเปลี่ยนเสื้อที่เปียกชุ่มไปด้วยน้ำ ก่อนจะเดินกลับเข้ามาใหม่อีกครั้งแล้วเจอขวัญยืนขวางอยู่ที่หน้าห้องครัวเหมือนหล่อนตั้งใจจะรอเขาซะอย่างนั้น

   “สมน้ำหน้าจังเลย” หล่อนพูดจาเยาะเย้ย

   “หลีก! ฉันจะเข้าไปทำงานต่อ”

   “ก็ไปเข้าไปสิ” หล่อนว่าแต่ก็ยังไม่ยอมเปิดทางให้

   นภัทรขี้เกียจต่อล้อต่อเถียงจึงพยายามเดินเบี่ยงตัวเข้ามา  แต่ก็โดนขวัญขัดขาเอาไว้ทำให้เขาต้องล้มลงหัวคะมำ

   “โอ๊ย! นี่เธอจะมากไปแล้วนะ” นภัทรมองแรงไปที่หญิงสาว  แต่เจ้าหล่อนกับเบ้ปากอย่างไม่แคร์เลยแม้แต่น้อย

   “แกล้มลงไปเองนะฉันไม่ได้ทำอะไรเลย ไปดีกว่า” หล่อนยิ้มเยาะก่อนจะเดินออกไปอย่างอารมณ์ดี

   “ทำไมคนบ้านนี้ถึงได้ใจคอโหดเหี้ยมกันอย่างนี้นะ”

          เขานั่งบ่นพลางค่อยๆนวดที่ข้อมือตัวเองไปด้วย “โอ๊ย! ทำไมปวดอย่างนี้เนี่ย”

         ไม่นานหลังจากนั้นป้าภาก็เดินเข้ามาเจอนภัทรนั่งอยู่ที่พื้น

         “อ้าวภัทรเอ็งเป็นอะไรไปอีกเนี่ย” หล่อนถามเสียงดัง

   “ผมหกล้มครับป้า” เขาทำหน้าเหยเกไปด้วยเพราะกำลังเจ็บที่ข้อมือ

   “นั่นข้อมือเอ็งเป็นอะไรมาให้ป้าดูซิ” หล่อนนั่งลงแล้วค่อยๆจับที่ข้อมือของร่างบาง

   “โอ๊ย! ป้าผมเจ็บ” เขาร้องออกมาเสียงดัง

   “สงสัยมันจะเคล็ด เดี๋ยวป้าเอายามาทาให้แล้ววันนี้เอ็งก็ไปพักผ่อนก่อนละกัน ถ้าฝืนเดี๋ยวมันจะหายช้าไปอีก เวรกรรมจริงๆเลย” หล่อนส่ายหน้าเบาๆเมื่อรับรู้สิ่งที่นภัทรโดนมาทั้งวัน

   “ป้าทำคนเดียวจะไหวเหรอครับ” เขาถามด้วยความเป็นห่วง

   “ห่วงตัวเองก่อนเถอะ ป้าอยู่ที่นี่มานานไม่ต้องห่วง พอดีล่ะจะเรียกอีขวัญมามันช่วยซะหน่อย เอาแต่แต่งตัวสวยอู้ไปวันๆ  อย่างกับคุณเคลวินจะชายตาแลมันซะอย่างนั้นล่ะฉันสมเพชมันจริงๆ”

   “ขอบคุณครับป้า”

   หลังจากนั้นป้าภาก็ไปหยิบยามาทาที่ข้อมอให้แล้วนภัทรก็เดินกลับไปที่ห้องพักอีกครั้ง วันนี้มันเป็นวันบ้าบ้ออะไรกันเนี่ย ทำไมเขาต้องเจอแต่คนใจร้ายอย่างนี้  ถ้าไม่มีป้าภาเขาจะอยู่ที่นี่ได้อย่างไรนะ นภัทรนั่งคิดในใจ ก่อนจะค่อยๆเอนหลังลงบนเตียงแล้วหลับตาลงเพื่อนอนพักผ่อน

*-*-*-*-*-*-*-*-*-*-*


   “เคลวินคะช่วงนี้โรงแรมคุณแขกเยอะเหมือนกันนะ ตอนที่เมญ่านั่งรอคุณที่ล็อบบี้เห็นมาเช็คอินกันเยอะแยะเชียว”

   “ครับช่วงนี้ไฮซีซั่น ส่วนมากจะเป็นนักท่องเที่ยวชาวจีน”

   “อย่างนี้คุณก็คงยุ่งมากเลยสิ ไหนจะเรื่องต้อนรับแขกไหนจะเรื่องการก่อสร้างตึกใหม่อีก”

         ตอนนี้ที่โรงแรมกำลังมีการสร้างตึกใหม่ เพื่อขยายพื้นที่ต้อนรับนักท่องเที่ยวที่เข้ามาเยอะขึ้นทุกปีๆ

   “ก็พอสมควรครับ”

   “ถ้ามีอะไรให้เมญ่าช่วยก็บอกนะคะ”

   “ครับผม” เขายิ้ม

   เคลวินมองเวลาที่นาฬิกาข้อมือเมื่อเห็นว่าเริ่มดึกแล้วก็เอ่ยกับหญิงสาวทันที

   “นี่ก็ดึกแล้วคุณจะกลับเลยไหมครับ”

   “คืนนี้เมญ่าขอนอนที่นี่นะคะ จะได้นวดผ่อนคลายให้คุณด้วยไง” หล่อนเขยิบเข้ามาชิดแล้วใช้นิวเรียวงามเกลี่ยที่บริเวณแผงอกแกร่งของชายหนุ่ม

   “ได้สิครับ สำหรับเมญ่าผมไม่มีปัญหาอยู่แล้ว” เขายิ้มพร้อมกับจับมือนั้นไว้แล้วยกขึ้นมาจุมพิตทันที

   “คุณนี่ไม่เคยขัดใจเมญ่าเลยสักครั้ง ไม่มีผู้ชายคนไหนดีเท่าคุณอีกแล้วนะเนี่ย” หล่อนว่าแล้วก็โน้มใบหน้าขึ้นไปหอมแก้มชายหนุ่มทันที

   “งั้นคืนนี้คุณก็ห้ามขัดใจผมนะ” เขาจ้องหญิงสาวด้วยสายตาหื่นแล้วยิ้มให้

   “แน่นอนค่ะเมญ่าจะตามใจคุณทุกอย่าง”

   ทั้งสองจ้องตากันอย่างหวานซึ้ง ใบหน้าที่เย้ายวนของเมญ่ามันปลุกความเป็นชายของเคลวินขึ้นมา  ก่อนที่เขาจะประกบจูบหล่อนหลังจากนั้นทั้งสองก็พากันไปต่อที่ห้องนอนของเคลวินทันที
*-*-*-*-*-*-*-*-*-*-*


////////////////////////
TBC.......................

ออฟไลน์ azure

  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 772
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +37/-2
เควิลกับเมญ่าเหมาะกันมาก :katai3:

ออฟไลน์ ไมเลอร์

  • เป็ดมัธยม
  • *
  • กระทู้: 189
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +119/-6
CHAPTER  5  ออกนอกกรง


   “คุณพ่อครับ” นดลเดินเข้าไปทักผู้เป็นพ่อขณะอยู่ในห้องทำงาน

   “ว่าไงนดล” ทรงพลหันไปมองลูกชาย เขากำลังนั่งครุ่นคิดถึงเรื่องราวต่างๆที่เกิดขึ้น ไม่ว่าจะเป็นเรื่องของลูกชายคนเล็กรวมถึงเรื่องราวในอดีตที่เคยทำไว้

   “คุณพ่อนั่งคิดเรื่องน้องอยู่เหรอครับ” เขาสังเกตเห็นสีหน้าของพ่อไม่ค่อยดีนัก

   “อืม พ่อคิดว่าจะหาทางช่วยน้องยังไงดี” เขาเอ่ย

   “พ่อครับ เรื่องน้องพ่อไม่ต้องเป็นห่วงเดี๋ยวผมจะเป็นคนจัดการเรื่องนี้เอง คุณพ่อไปจัดการงานที่บริษัทให้เรียบร้อยเถอะครับ เพราะอีกไม่กี่วันเห็นว่าจะมีผู้ถือหุ้นรายใหม่จากอเมริกามาเซ็นต์สัญญาไม่ใช่หรือครับ”

   “ใช่...โชคดีที่เราได้ผู้ถือหุ้นรายใหม่ที่มีเงินทุนหนา ต่อไปบริษัทเราก็จะมีเงินลงทุนมากขึ้นแล้วล่ะ หมดห่วงไปอีกเปาะ” ทรงพลเอ่ยกับลูกชาย

   ตอนนี้ที่บริษัทขาดทุนมาหลายปีติดต่อกันจนทำให้ทุนจม ไม่มีกำไรงอกเงยขึ้นมาเลย ส่วนรายจ่ายก็มีมากมายจนต้องหาผู้ถือหุ้นรายใหม่  มาช่วยสนับสนุนเงินทุนในการพัฒนาโรงงานและสินค้าให้ดีขึ้น และผู้ถือหุ้นรายใหม่ที่เป็นเศรษฐีชาวอเมริกัน  มีเงินทุนหนามากและรวยติดอันดับต้นๆของอเมริกาเลยทีเดียว

   “ดีแล้วล่ะครับโรงงานเราจะได้มีอะไรดีๆขึ้นมาบ้าง ผู้ถือหุ้นคนอื่นๆก็เริ่มบ่นๆกันแล้วผมกลัวว่าพวกเค้าจะขายหุ้นทิ้งพวกเราไปซะก่อน  ส่วนเรื่องน้องพ่อไม่ต้องห่วงผมมั่นใจว่าจะตามตัวน้องมาได้แน่นอน” นดลเอ่ยด้วยความมั่นใจ

   “ช่วงนี้พ่อฝากเรื่องน้องด้วยนะลูก ถ้าเรื่องผู้ถือหุ้นเสร็จเรียบร้อยแล้วพ่อก็จะมาช่วยอีกแรง”

   “ครับพ่อ”

   ตอนนี้เรื่องบริษัทก็กำลังคลี่คลายได้แล้ว  เหลือแค่เรื่องนภัทรที่นดลกำลังเป็นห่วง เขาได้แต่หวังว่าวินที่เขาเคยรู้จักในสมัยเด็กจะยังคงมีความอ่อนโยนหลงเหลืออยู่บ้าง จำได้ว่าตอนนั้นสองคนตัดติดกันตลอดอย่างกับคู่รัก  เขาหวังว่าวินจะยังคงไม่ลืมความสัมพันธ์ดีๆในสมัยเด็กหรอกนะ และอีกเรื่องหนึ่งที่เขาอยากรู้คือทำไมวินต้องแค้นครอบครัวเขาได้ถึงขนาดนี้  มันต้องมีเรื่องอะไรที่พ่อของตัวเองปิดบังไว้อย่างแน่นอน
*-*-*-*-*-*-*-*-*-*-*

   เย็นวันนี้เคลวินกลับมาทานข้าวที่บ้าน  ป้าภาและขวัญเตรียมสำรับไว้บนโต๊ะเรียบร้อยแล้ว  ก่อนะจะลงมือทานเขาก็มองหาร่างบางที่ปกติจะมายืนอยู่พร้อมกับป้าภาเป็นประจำ

   “คุณเคลวินมองหาใครหรือคะ” ป้าภาเอ่ยถาม

   “นี่นภัทรไปไหนทำไมไม่เห็นมาช่วยป้า”

   “ป้าให้มันไปพักเองค่ะ ตอนนี้มือมันเจ็บมันยกอะไรหนักๆไม่ค่อยได้”

   “แล้วไปทำอีท่าไหนล่ะ” เขาถาม

   “ภัทรมันหกล้มในครัวค่ะคุณเคลวิน”

   ขวัญที่ยืนอยู่ตรงนั้นก็ยิ้มอย่างสะใจที่ทำให้คนที่หล่อนเกลียดเจ็บตัวได้

   “อืม ถ้างั้นทุกคนไปเถอะ”

   เขาว่าแล้วก็ลงมือทานข้าวทันที  ในใจก็นึกเป็นห่วงร่างบางว่าจะเป็นอะไรมากหรือเปล่า


@ บ้านพักคนใช้

           “จันทร์เจ้าขาขอให้เขาคนนั้นกลับมาเป็นคนเดิมด้วยนะครับ” นภัทรเอ่ยเบาๆขณะนั่งอยู่ที่หน้าระเบียงห้องพัก ท่ามกลางเสียงซู่ซ่าจากน้ำทะเลที่ซัดคลื่นเข้ามากระทบฝั่ง  เขาจ้องมองไปยังท้องฟ้าที่มีพระจันทร์กำลังส่องแสงสว่างไสว  ท่ามกลางดวงดาวนับร้อยนับพันสุดลูกหูลูกตา  มองแล้วก็ทำให้รู้สึกสบายใจไปได้อีกเปาะหนึ่ง

         “มานั่งเพ้อฝันอะไรแถวนี้” เคลวินเดินเข้ามาหา

   “ไม่เกี่ยวกับคุณ” เขาเห็นหน้าคนตัวโตแล้วก็หมดอารมณ์ทันที จึงลุกขึ้นจะเดินเข้าไปในห้อง

   “เดี๋ยว!” เคลวินจับที่ข้อมือร่างบางไว้

   “โอ๊ย!” นภัทรร้องออกมาด้วยความเจ็บปวด แล้วมองหน้าคนตัวโตทันที

   “เจ็บจริงสินะกูนึกว่ามึงแกล้งเจ็บเพื่ออยากอู้งาน”

   “ปล่อยผมเจ็บ!”

   “ยิ่งเจ็บยิ่งดีกูยิ่งสะใจ เวลาเห็นหน้ามึงเจ็บกูนึกถึงหน้าพ่อมึงทันที โคตรสะใจเลยว่ะ” เขาพูดด้วยสีหน้าโหดเหี้ยม

   “ถ้าคุณทำแล้วมีความสุขก็ทำไป ผมบอกแล้วว่าจะอยู่ที่นี่เพื่อชดใช้ให้คุณ อย่าไปยุ่งกับครอบครัวผมตามสัญญาก็แล้วกัน” เขาบอก

   “ได้! กูสัญญา แต่ตอนนี้ถึงเวลาที่มึงต้องทำหน้าที่แล้ว” เขาปล่อยมือร่างบางแล้วอุ้มขึ้นในท่าเจ้าสาว

   “ผมทำอะไรไม่ได้แล้วนี่” นภัทรเอียงหน้าหนี ก่อนที่เคลวินจะอุ้มร่างบางเข้าในไปห้องพักทันที

   ปัง!

   เสียงปิดประตูดังขึ้งหลังจากนั้นร่างอันบอบบางก็ถูกโยนลงบนเตียง นภัทรได้แต่นั่งอยู่อย่างนั้นไม่แม้แต่จะมองหน้าคนตัวโตด้วยซ้ำ  เคลวินค่อยๆถอดเสื้อผ้าของตัวเองออกพร้อมกับมองหน้าร่างบางด้วยสายตาที่เหยียดหยาม ก่อนจะยืนล่อนจ้อนโดยมีเจ้าโลกที่กำลังกระดกขึ้นลงบ่งบอกว่าพร้อมใช้งาน

   “ยอมแบบนี้ก็ดีกูจะได้ไม่ต้องออกแรงเยอะ” เขาว่าแล้วก็ขึ้นไปบนเตียงคร่อมตัวร่างบางเอาไว้ ก่อนจะใช้มือหนาสัมผัสที่คางเรียวรั้งใบหน้าหวานให้หันมามองตัวเอง

   “จะทำอะไรก็รีบทำ คุณจะได้ออกไปจากที่นี่ซะที” นภัทรเอ่ยด้วยสีหน้าเรียบเฉย ตอนนี้เขาพอจะทำใจรองรับอารมณ์ของคนตัวโตได้แล้ว เขาจะไม่อ่อนแออย่างที่เคยเป็นมา เขาจะเข้มแข็งเพื่อรอวันที่จะได้กลับไปอยู่พร้อมหน้าพร้อมตากับครอบครัวอีกครั้ง

   “อยากมาขนาดนั้นเลยเหรอ ฮึ” เขาค่อยๆโน้มใบหน้าเข้ามาใกล้ๆ ก่อนจะคลอเคลียที่บริเวณพวงแก้ม ลมหายใจอุ่นๆของเคลวินเป่ารดทำให้ร่างบางขนลุกซู่ไปทั้งตัว คนตัวโตเห็นอย่างนั้นก็ยกยิ้มออกมาอย่างพอใจ

   นภัทรหลบตาลงทันทีที่คนตัวโตจ้องหน้า เมื่อไหร่เขาจะรีบทำให้มันจบๆไปซะทีนภัทรคิดในใจ

   เคลวินค่อยๆจุมพิตที่แก้มขาวไปเรื่อยๆพร้อมกันนั้นก็ปลดเปลื้องอาภรณ์ของร่างบางไปด้วย ตอนนี้ผิวขาวสว่างของร่างบางดึงดูดความสนใจของสายตาคมของเขา  ก่อนจะผลักร่างบางให้นอนราบลงบนเตียงแล้วประกบจูบทันที เขาตรึงข้อมือทั้งสองข้างเอาไว้บนเตียงจนทำให้ร่างบางถึงกับร้องออกมา

   “โอ้ย!” นภัทรจ้องหน้าคนตัวโตแล้วร้องออกมา จนเคลวินเองก็ชะงักไปนิดหน่อย เขาลืมไปว่าข้อมือของร่างบางกำลังเจ็บอยู่

   “โทษทีนะ” เขาปล่อยมือของร่างบางให้เป็นอิสระ ก่อนจะเอามือทั้งสองข้างสอดเข้าไปที่แผ่นหลังแล้วจ้องตาร่างบางอีกครั้ง

   “พี่วิน” เขาเผลอเอ่ยชื่อนี้ออกมา เมื่อจ้องเข้าไปลึกๆแล้วเขาเห็นวินอยู่ในนั้น เสียงเอ่ยขอโทษเมื่อสักครู่ทำให้นึกถึงเมื่อตอนยังเป็นเด็กที่วินเคยทำให้เขาหกล้มแล้วเอ่ยขอโทษ  สิ่งที่วินเคยทำร่วมกับเขามามันยังคงอยู่ในความทรงจำไม่เคยเลือนหาย

   “อย่าเรียกชื่อนั้นอีกกูไม่ชอบ” เขาบอกแค่นั้นก่อนจะประกบจูบทันที เขาบดริมฝีปากรุนแรงอย่างช่ำชอง ไม่นานนักก็สอดลิ้นเย็นเข้าไปในโพรงปากแล้วตวัดไปมาอย่างชำนิชำนาญ

   “อืม” เสียงครางในลำคอบ่งบอกถึงความพอใจของคนตัวโต

   เคลวินตักตวงความหวานที่ริมฝีปากเสร็จแล้ว  ก็เลื่อนใบหน้าคมลงมาที่ซอกคอขาวแล้วใช้ริมฝีปากดูดเม้มเพื่อประทับรอยแสดงความเป็นเจ้าของเอาไว้

   “อย่าทำ!” เข้าเอ่ยห้าม

   “มึงจะกลัวอะไร ใครๆที่นี่ก็รู้ว่ามึงน่ะเป็นของกูอยู่แล้ว” เคลวินบอกอย่างไม่ใส่ใจแล้วลงมือต่อ

   เขาต้องยอมรับความจริงสิ่งที่เคลวินพูด เพราะคนที่นี่รู้ดีว่าเขาเป็นทาสบำเรอกามให้เจ้าของคฤหาสน์หลังนี้ หลายครั้งก็รู้สึกอายที่ต้องมาทำอะไรอย่างนี้แต่ก็ทำอะไรไม่ได้แล้วจริงๆ

   “อ๊ะ!”

   นภัทรร้องเสียงหลงเมื่อคนตัวโตใช้ลินสากสัมผัสที่ยอดอกสีชมพูอ่อนจนเปียกชุ่มไปด้วยน้ำลาย หลังจากนั้นก็ใช้ปากครอบครองดูดเม้มสลับข้างไปมา จนร่างบางแอ่นอกรับสัมผัสนั้นอย่างช่วยไม่ได้

   “มึงนี่ไม่เคยทำให้กูเบื่อได้เลยจริงๆ” เขาว่าเสียงกระเส่าเมื่อเห็นท่าทียั่วยวนของร่างบางที่มันเผลอแสดงออกมาอย่างไม่ได้ตั้งใจ

   “ซี๊ดส์!”

   เคลวินสูดปากเสียงดังเมื่อเขาค่อยๆดันแก่นกายเข้าไปเรื่อยๆจนสุด ร่างบางเองก็ดิ้นพล่านไปมาด้วยความเจ็บปวดที่ช่องทางแต่มันแผ่สะท้านไปทั่วร่างกาย

   “อื้อ”

   นภัทรพยายามจะไม่ให้มีเสียงของตัวเองเล็ดลอดออกมา แต่มันก็ห้ามไม่ได้นั่นเพราะคนตัวโตเริ่มขยับแก่นกายเข้าออกจนมันรู้สึกเสียวซ่านมากเหลือเกิน

   เคลวินใช้ความชำนาญสอนบทรักให้กับร่างบาง เขาขยับเอวถี่รัวจนบั้นท้ายของร่างบางอยู่ไม่สุข อีกทั้งตอนนี้เขาเองก็ใช้ลิ้นสากสัมผัสเลียวนที่ยอดอกไปด้วย ส่วนร่างบางได้แต่นอนหลับตาพริ้มอยู่อย่างนั้น เคลวินเชยชมเรือนร่างอยู่นานจนตอนนี้ของเหลวในร่างกายเริ่มจะไหลมาจ่อที่ปลายแท่งร้อนแล้ว

   “อ๊ะ ซีดส์!”

        เคลวินส่งเสียงครวญครางออกมาเพราะตอนนี้ของเหลวพร้อมที่จะพุ่งออกมาแล้ว
        “อ้าๆๆ”  เขารัวบั้นท้ายอย่างกระหน่ำก่อนจะกระตุกอยู่หลายครั้ง  เมื่อน้ำรักพุ่งกระฉูดเข้าไปในตัวของร่างบางจนหมด
   นภัทรรู้สึกได้ถึงแรงพุ่งของของเหลวอุ่นที่มันยังคงคั่งค้างอยู่ในช่องทางของเขา เมื่อจบบทรักเคลวินก็นอนฟุบอยู่บนตัวร่างบาง  ก่อนจะระดมจูบไปทั่วราวกับว่ารู้สึกพอใจในตัวร่างบางมากเหลือเกิน แต่ตัวนภัทรเองกลับรู้สึกอึดอัดและคับแน่นที่ส่วนล่างมากเหลือเกิน

   “มึงอยากเสร็จไหมล่ะ” เขาว่าแล้วเอื้อมมือไปจับที่ส่วนกลางของร่างบางทันที

   “ไม่! คุณรีบออกไปเถอะ ผมจะพักผ่อน” ร่างบางบอกแล้วปัดมือออก

   “แต่กูอยากอีกว่ะ” เขารู้สึกยังไม่อิ่นเอมขณะที่แท่งร้อนที่อยู่ในช่องทางของร่างบางยังคงแข็งขันอยู่

   “ผมขอร้องล่ะคุณก็รู้แขนผมยังเจ็บอยู่” นภัทรพยายามขอร้อง

   “ก็ได้วะ!” เขาว่าก่อนะจะถอนแก่นกายออกโดยเร็วจนของเหลวสีขาวขุ่นค่อยๆไหลออกมา จนนภัทรเองก็รู้เสียววาบและผ่อนคลายมากขึ้น

   “.......” นภัทรได้แต่นอนหลับตาไม่ยอมมองหน้าคนตัวโต

   “พรุ่งนี้เช้าเตรียมตัวให้พร้อมกูจะพาไปหาหมอ” เขาบอก

   “อืม”

       นภัทรตอบเสียงสั้นๆทั้งที่ยังหลับตาอยู่ เพราะความเหนื่อยทำให้ไม่มีเรี่ยวแรงที่จะขยับเขยื้อนเลยแม้แต่น้อย ทุกครั้งที่มีอะไรกับเคลวินเขามักจะรุนแรงเสมอ บางวันก็เรียกเข้าไปหาที่ห้อง  บางวันก็ลงมาที่ห้องพักเขา แต่เคลวินไม่เคยจะป้องกันเลยแม้แต่ครั้งเดียว เขาเองก็กังวลว่าจะติดโรคกับคนตัวโตอยู่เหมือนกัน
*-*-*-*-*-*-*-*-*-*-*


   หลังจากทานข้าวเช้าเสร็จเรียบร้อยแล้ว  นภัทรมานั่งรอเคลวินที่หน้าบ้านตามที่เขาได้นัดเอาไว้  นี่ถือเป็นครั้งแรกที่เขาจะได้ออกไปนอกบริเวณพื้นที่คฤหาสน์หลังนี้

   “เดิมตามมา” เคลวินสั่งเมื่อเดินมาถึง

   นภัทรได้แต่มองหน้าแล้วเดินตามอย่างว่าง่าย

   “แล้วอย่าปากมากล่ะถ้าไม่อยากตาย กูพามึงไปหาหมอถือว่าเป็นบุญของมึงแล้ว” เขาสั่งอีกครั้ง

   “ครับ” ตอบสั้นๆก่อนจะขึ้นรถ 

        เคลวินออกรถไปทันทีหลังจากนั้น  นภัทรมองบรรยากาศสองข้างทางด้วยความตื่นตาตื่นใจ ที่นี่เป็นเกาะขนาดใหญ่แต่เขาไม่รู้ว่ามันชื่อเกาะอะไร อยู่ตรงไหนของประเทศไทย แต่ที่รู้คือมันเป็นเกาะที่สวยงามมาก

   ตอนนี้รถมาจอดที่หน้าศูนย์การแพทย์ประจำเกาะเรียบร้อยแล้ว ถึงแม้ว่าที่นี่จะเป็นศูนย์การแพทย์ขนาดไม่ใหญ่มาก  แต่ก็มีเครื่องมือทันที่สมัยและครบครัน นั่นเพราะเคลวินต้องการให้นักท่องเที่ยวมีความมั่นใจที่จะมาเที่ยวที่นี่มากขึ้น

   “ลงมาสินั่งบื้ออยู่ได้” เขาสั่งเมื่อเปิดประตูรถลงไปแล้วแต่ร่างบางกลับยังคงนั่งอยู่

   ร่างบางได้ยินก็รีบลงมาทันที  หลังจากนั้นเคลวินก็นำหน้าเดินเข้าข้างใน  ขณะเดินตามหลังคนตัวโตเขาสังเกตว่าพนักงานทั้งหมด ซึ่งส่วนมากจะเป็นพยาบาลต่างก็ยกมือขึ้นไหว้เขาตลอดทาง  จนมาถึงห้องตรวจห้องหนึ่งที่มี่แผ่นป้ายติดหน้าห้องว่า ‘นายแพทย์กิตติพงษ์ รัตนโชติสกุล’ เคลวินถือวิสาสะเปิดประตูเข้าไปโดยที่ไม่ได้เคาะประตูห้องเลยแม้แต่น้อย

   “กูมีคนไข้มาให้รักษา” เคลวินบอก ขณะนายแพทย์คนนั้นกำลังนั่งเขียนเอกสารอยู่บนโต๊ะ

   “มีมารยาทบ้างก็ได้นะครับไอ้คุณเคลวิน” นายแพทย์กิตติพงษ์หรือหมอพงษ์ ของคนทั่วไปที่เรียกกัน ที่จริงแล้วเขาเป็นเพื่อนกับเจ้าของโรงแรมแห่งนี้ พงษ์และเคลวินเรียนมหาวิทยาลัยเดียวกันที่ประเทศสหรัฐอเมริกา  เมื่อจบการศึกษาเขาก็ชวนเพื่อนมาเป็นแพทย์ประจำที่นี่ด้วยค่าตอบแทนที่สูงลิ่วพอสมควร

   “มึงเคยเห็นกูมีมารยาทกับมึงรึเปล่าล่ะ” เขาบอกหน้านิ่ง

   “ก็สันดานมึงเป็นแบบนั้น แล้วไหนล่ะคนป่วยมึง” พงษ์มองไปด้านหลังเคลวินแต่ก็ไม่มีใครเลยแม้แต่คนเดียว

   เคลวิลเองก็หันหลังกลับไปมองแต่ไม่เจอร่างบางก็ชักสีหน้าทันที

   “เฮ้ย! หรือว่ามันจะหนีไปแล้ววะ!” เขาพูดแล้วก็รีบวิ่งออกไปนอกห้องทันที

TBC...

ออฟไลน์ areenart1984

  • เป็ดArtemis
  • *
  • กระทู้: 4825
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +167/-7
สงสารภัทร เจอแต่คนนิสัยเลว ๆ ทั้งนั้น อ้อ.... เว้นป้าแกไว้สักคน  :katai1:

ออฟไลน์ ♥►MAGNOLIA◄♥

  • เป็ดApollo
  • *
  • กระทู้: 7538
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +193/-11
เจ้านายก็ข่มเหง  :fire:
สาวใช้ก็รังแก  :angry2:
ต่อไปน่าจะฆ่าภัทรแน่  :z6:
ความอิจฉา ริษยา และอยากได้เคลวิน นางทำได้แน่
เคลวิน ก็ก้แค้น แบบสะใจตัวเอง ทำเกินไปมั้ย  :katai1:
       :L1: :L1: :L1:
  :pig4: :pig4: :pig4: :pig4:


ออฟไลน์ ไมเลอร์

  • เป็ดมัธยม
  • *
  • กระทู้: 189
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +119/-6
CHAPTER 6 เพื่อนบ้าน


   เคลวินรีบเดินออกมาหน้าห้องก็เห็นร่างบางกำลังรอยืนอยู่  เขาถอนหายใจเสียงดังเพราะรู้สึกโล่งอกที่ร่างบางไม่ได้หนีอย่างที่คิดไว้

   “ทำไมไม่เข้าไปข้างใน!” เขาตวาดลั่น

   “ก็ผมนึกว่าคุณให้รอข้างนอกก่อนไง ใครจะไปรู้ล่ะ”
 
   “หน้าตาไม่น่าซื่อบื้อเลย เดินนำหน้าไปก่อนเลย” เขายืนรอให้ร่างบางเดินเข้าไปก่อน

   เมื่อเข้ามาในห้องตรวจแล้วร่างบางก็ยกมือขึ้นไหว้นายแพทย์ที่นั่งหล่อส่งยิ้มให้อยู่ที่โต๊ะ

   “สวัสดีครับคุณหมอ”

   “สวัสดีครับ เป็นอะไรมาไหนให้หมอดูหน่อย”

   “คือผมหกล้มแล้วปวดข้อมือครับหมอ”

   “ไหนให้หมอดูหน่อยสิ”

   ว่าแล้วนภัทรก็ยื่นมือให้คุณหมอตรวจดูทันที เคลวินเองที่นั่งอยู่เก้าอี้ข้างๆก็ปรายตามองมาเป็นระยะๆ

   “โอ๊ย! มันปวดครับหมอเบาๆ” นภัทรร้องออกมาเสียงดังขณะพงษ์จับที่ข้อมือเพื่อสังเกตอาการ

   “อย่ามาสำออย ที่นี่ไม่ใช่ที่บ้านกูนะโว้ย” เขาว่าให้ร่างบางอย่างหงุดหงิด

   “ไอ้คุณเคลวิน ผมรักษาคนไข้อยู่ครับอย่าเพิ่งมาเสือก ออกไปก่อนเลย” พงษ์เอ็ดให้เพื่อน
เมื่อได้ยินคุณหมอเอ่ยอย่างนั้นกับคนตัวโตนภัทรก็อดขำไม่ได้

   “ไม่โว้ย” เขาว่าแล้วก็นั่งทำหน้าไม่รู้ไม่ชี้อยู่ที่เดิม

   “ถ้าไม่ก็นั่งเป็นใบ้อยู่เฉยๆครับ” พงษ์สั่งก่อนจะหันไปหาร่างบางอีกครั้ง

   “ถ้าปวดขนาดนี้ลองไปเอ็กซ์เรย์ดูละกันนะครับ เดี๋ยวหมอจะให้พยาบาลพาไปเอ็กซ์เรย์”

   “ครับหมอ” เขายิ้มให้

   พงษ์กดโทรฯหาพยาบาลข้างนอก ระหว่างนั่งรอก็คุยกับนภัทรไปพลางๆ

   “ว่าแต่คนไข้ชื่ออะไรครับ หมอชื่อพงษ์นะ” เขาแนะนำตัว จริงๆก็มีข้อสงสัยหลายอย่างแต่เขาคงจะเอ่ยถามกับเพื่อนตัวเองมากกว่าจะคนที่อยู่ตรงหน้า

   “ผมชื่อ-นภัทร-ครับคุณหมอ เรียกสั้นๆว่าภัทรก็ได้” ร่างบางยิ้มให้

   “ยินดีที่รู้จักนะครับน้องภัทร”

   “เช่นกันครับคุณหมอ”

   ไม่นานพยาบาลก็เดินเข้ามาในห้อง

   “มาพอดีเลย พาคนไข้ไปเอ็กซ์เรย์ที่ข้อมือขวาให้ผมหน่อย เสร็จแล้วก็พากลับมาที่นี่นะครับ” เขาสั่งพยาบาลสาว

   “ค่ะคุณหมอ” หล่อนยิ้มให้พงษ์

   แต่ระหว่างนั้นเคลวินกลับพูดแทรกขึ้นมา

   “คุณพยาบาลรบกวนช่วยดูอย่าให้คลาดสายตานะครับ ไม่งั้นผมจะถือว่าเป็นความผิดคุณ” เขาสั่งพยาบาลไว้ เพราะยังกลัวว่าร่างบางจะคิดหนีแม้ว่าจะเคยสัญญาไว้แล้วก็ตาม

   “ค่ะคุณเคลวิน” หล่อนตอบ

   นภัทรมองหน้าคนตัวโตก่อนจะถอนหายใจเสียงดังอย่างเบื่อหน่าย เขาเองก็เคยบอกแล้วแต่ทำไมไม่เชื่อใจกันเลย นี่สินะนิสัยของโจรเขาคิดในใจ

   “ผมไม่หนีไปไหนหรอกน่า” เขาบอกแค่นั้นก่อนจะหันไปมองหน้าพยาบาลสาว

   “เชิญทางนี้เลยค่ะ” เธอยิ้มให้ร่างบางก่อนจะเดินนำหน้าไป

   เมื่อประตูห้องถูกปิดลงแล้ว  คุณหมอสุดหล่อก็หันไปจ้องมองเพื่อนตัวดีด้วยใบหน้าที่มีคำถามมากมาย

   “ใคร?”

   เป็นคำถามแรกที่เอ่ยออกมา เคลวินได้ยินก็ตอบอย่างไม่ใส่ใจ

   “เด็กกูเองเพิ่งไปลักพาตัวมา” เขาตอบตรงๆ

   “ไอ้เหี้ย! มึงไปเอาลูกเค้ามาทำอย่างนี้ได้ไงเนี่ย!” พงษ์ตะโกนด่าเพื่อนแต่เจ้าตัวกลับไม่ได้สะทกสะท้านเลยแม้แต่น้อย

   “กูมีเหตุผลน่า” เขาตอบ

   “แล้วมึงทำใช่ไหมรอยที่คอน้องเค้าน่ะ” พงษ์ถามต่อเพราะเขาสังเกตเห็นรอยแดงเป็นจ้ำๆที่บริเวณซอกคอขาวของร่างบาง

   “อืม เมื่อคืนนี่เอง” เขาตอบหน้าตาเฉย

   “กูดูตาเดียวก็รู้ว่าน้องเค้าไม่ได้เต็มใจมากับมึงเลย ระวังพ่อแม่เค้าจะแจ้งตำรวจมาจับมึงนะโว้ย กูเตือนด้วยความหวังดี”

   “ไม่มีทางเพราะกูรู้จักพ่อกับแม่มันดี พวกมันไม่กล้าแจ้งความแน่นอนกูมั่นใจ”

   “กูล่ะปวดกะบาลกับมึงจริงๆ เป็นผู้บริหารดีๆไม่ชอบเสือกอยากเป็นโจรซะงั้น” พงษ์ไม่รู้จะพูดยังไงให้เพื่อนของเขาคิดได้ จะสงสารก็แต่นภัทรที่คงจะคิดถึงบ้านน่าดู ลองได้อยู่ที่นี่แล้วเขารู้ได้เลยว่าไม่มีทางออกไปจากเกาะได้ง่ายๆแน่  ยกเว้นเคลวินจะเป็นคนพาออกไปซะเอง

   “ไม่ต้องห่วงเรื่องของกูหรอก กูรู้ว่ากำลังทำอะไร รับรองกูไม่ทำให้มันตายหรอกน่า เอาแค่ทรมานก็พอ หึๆ” เคลวินแสยะยิ้มออกมาอย่างสะใจ

   “ไอ้โรคจิตเอ๊ย! หรือว่ามึงหลงรักน้องเค้าแล้ว มึงไม่เคยได้ยินเหรอว่ารักแท้แพ้ใกล้ชิดน่ะ”

   “ไม่มีทางโว้ยคนอย่างกูไม่ได้หลงอะไรได้ง่ายๆขนาดนั้น” เคลวินพูดอย่างมั่นใจ

   “เออๆ กูจะคอยดูแต่กูขอร้องมึงไว้ละกันว่าอย่ารุนแรงกับน้องเค้ามาก ดูท่าทางน้องเค้าบอบบางน่าดู”

   “กูไม่รับปากโว้ยแต่จะรับไว้พิจารณาละกัน ฮ่าๆ” เขาพูดแล้วขำออกมา

   ระหว่างนั้นก็มีเสียงเคาะประตูดังขึ้น

   ก๊อก! ก๊อก! ก๊อก!

   พยาบาลสาวเดินเข้ามาพร้อมกับซองสีน้ำตาล ส่วนนภัทรก็เดินตามหลังมาติดๆ

   “นี่ผลเอ็กซ์เรย์ค่ะคุณหมอ”

   “ขอบคุณครับ เดี๋ยวคุณออกไปรอข้างนอกก่อนละกัน” เขาสั่งพยาบาล จริงๆแล้วถ้าเป็นคนไข้รายอื่นๆก็จะมีพยาบาลอยู่ในห้องด้วย  แต่นี่ถือว่าเป็นเคสพิเศษของเจ้าของเกาะจึงต้องให้ความเป็นส่วนตัวเป็นพิเศษ

   “เชิญนั่งครับน้องภัทร”

   “ขอบคุณครับ”

   นภัทรนั่งลงก่อนที่พงษ์จะเปิดซองแล้วดึงแผ่นฟิล์มขึ้นมาตรวจดูความผิดปกติ

   “อืม...ผลเอ็กซ์เรย์ไม่มีความผิดปกตินะครับ กระดูกไม่มีรอยร้าวถือว่าโชคดีมากๆ คงจะเป็นอาการข้อมือแพลงธรรมดานี่ล่ะครับ  คือเส้นเอ็นหรือกล้ามเนื้อที่ยึดอยู่รอบๆข้อต่อมีอาจมีการฉีกขาด ทำให้มีอาการปวดหรือเจ็บ พยายามอย่าเคลื่อนไหวข้อมือนะครับช่วงนี้ เดี๋ยวหมอจะสั่งยาให้ไปทาละกันเนาะ” พงษ์อธิบายให้นภัทรเข้าใจและบอกวิธีการปฏิบัติตัวที่ถูกต้อง

   “ขอบคุณครับคุณหมอ”

   “เอานี่ไว้ครับเผื่อได้ใช้” เขายื่นนามบัตรให้แล้วยิ้มให้หนุ่มน้อย

   “ขอบคุณครับ” นภัทรรับมาแล้วมองหน้าคุณหมอเหมือนมีคำถาม แต่เขาเองก็ได้แต่ยิ้มตอบ

   “เสร็จแล้วเชิญไปรับยาที่ห้องจ่ายยาข้างนอกเลยนะครับ”

   “ขอบคุณอีกครั้งนะครับคุณหมอ”

   “ยินดีครับ”

   “เสร็จแล้วใช่ป่ะจะได้กลับสักที” เคลวินยืนขึ้นบิดขี้เกียจไปมา

   “เสร็จแล้วครับเจ้านาย เชิญพาน้องภัทรไปรับยาด้านนอกได้เลย”

   “เออ ขอบใจละกัน ส่วนมึงตามกูมา” เขาเอ่ยกับเพื่อนก่อนจะหันไปตวาดใส่ร่างบางที่กำลังนั่งอยู่

   ก่อนออกจากห้องนภัทรก็ไม่ลืมที่จะยกมือขึ้นไหว้พงษ์อีกครั้ง

   นภัทรเดินตามหลังคนตัวโตออกจากห้องแต่จู่ๆคนข้างหน้าก็หยุดเดิน จนร่างบางเกือบจะเดินชนดีที่เขาตั้งสติได้ทันก่อนจะหยุดชะงักห่างจากคนตัวโตแค่ไม่กี่เซนฯ

   “มึงเดินนำหน้าไปเลยกูไม่ไว้ใจมึง” เขาบอก

   “คุณจะกลัวอ่ะไรล่ะในเมื่อคนที่นี่ก็คนของคุณทั้งนั้น” ร่างบางบอก ซึ่งมันคือความจริงแต่คนตัวโตก็ไม่วางใจอยู่ดี

   “กูไว้ใจตัวเองจบมะ” เขาบอกแค่นั่นก่อนจะดุนหลังร่างบางให้รีบเดินไป

   เมื่อรับยามาเรียบร้อยแล้วทั้งสองคนก็เดินมุ่งหน้าไปที่ลานจอดรถ  ก่อนจะถึงรถเพียงไม่กี่ก้าวเคลวินก็บังเอิญสังเกตเห็นวิศวกรหนุ่มที่มาคุมงานก่อสร้างตึกใหม่กำลังเดินมาพอดี

   “เข้าไปนั่งรอในรถก่อนเดี๋ยวกูมา” เขาบอกก่อนร่างบางจะเปิดประตูเข้าไปนั่งรอในรถ

   เคลวินเดินเข้าไปทักทายวิศวกรหนุ่มทันทีหลังจากนั้น

   “คุณกันต์!” เขาเอ่ยทักก่อนที่กันต์จะหยุดชะงัก

   “อ้าว! คุณเคลวิน มีอะไรรึเปล่าครับ”

   “เจอตัวคุณพอดีเลย ผมจะมาแจ้งคุณว่าเรามีประชุมเรื่องความคืบหน้าการก่อสร้างตึกน่ะครับ”

   “อ๋อ แล้วประชุมวันไหนครับผมจะได้เคลียร์งานรอ”

   “พรุ่งนี้บ่ายโมงที่ห้องประชุมใหญ่ของโรงแรมครับ”

   “ขอบคุณนะครับที่มาแจ้งด้วยตัวเองเลย” กันต์ตอบอย่างเกรงใจ

   “ไม่เป็นไรครับ ว่าแต่คุณไม่สบายรึเปล่า” เคลวินถาม

   “ใช่ครับ...พอดีผมเป็นหวัดมาหลายวันแล้วยังไม่หายซะทีเลยจะมาหาหมอซะหน่อย  แล้วคุณเคลวินล่ะครับไม่สบายหรือว่ามาธุระ”

   “เอ่อ...พอดีผมพาคนงานที่บ้านมาน่ะครับมันไม่สบาย”

   “แล้วอยู่ไหนล่ะครับไม่เห็นมีเลย” กันต์มองซ้ายมองขวาเพื่อหาคนที่เคลวินอ้างถึง

   “มันอยู่ในรถน่ะครับ เอาเป็นว่าเดี๋ยวผมไปก่อนละกันครับ แล้วเจอกันพรุ่งนี้”

   “ได้ๆครับ แล้วเจอกันพรุ่งนี้”

   ทั้งสองโบกมือลากันก่อนที่จะแยกย้าย เมื่อเคลวินขึ้นมาบนรถแล้วก็เห็นร่างบางนั่งหลับอยู่ ใบหน้าหวานนั้นเหมือนมีแรงดึงดูดให้เขาต้องจ้องมองอยู่อย่างนั้น ไม่นานภาพและเสียงในวัยเด็กก็ฉายขึ้นในหัว ‘พี่วินครับ น้องภัทรเอาขนมมาให้ / พี่วินครับ รอน้องภัทรด้วย’ ภาพและเสียงในความทรงจำทำให้เคลวินมองร่างบางด้วยสายตาที่อ่อนโยนขึ้น  ก่อนจะค่อยๆโน้มใบหน้าเข้าไปใกล้ๆ

   “ไม่” เมื่อได้สติเขาก็สะบัดหน้าไปมาเพื่อสลัดความคิดนั้นออกไป  ก่อนจะบึ่งรถกลับไปที่คฤหาสน์ทันที

*-*-*-*-*-*-*-*-*-*-*



@ เกาะเพิร์ล

   เกาะเพิร์ลเป็นเกาะส่วนตัวที่มีพื้นที่และขนาดใกล้เคียงกับเกาะบลูซี และเป็นแหล่งท่องเที่ยวทางธรรมชาติที่มีโรงแรมขนาดใหญ่ไม่ต่างกัน จะบอกว่าทั้งสองเกาะเป็นคู่แข่งกันก็ว่าได้ ‘อิทธิ จงกิจไพศาล’ ทายาทหนุ่มหล่อไฟแรงของนักธุรกิจดังในจังหวัด  เขามาบริหารที่นี่ได้เกือบสามปีแล้ว  และตอนนี้ผู้บริหารหนุ่มก็กำลังนอนพักผ่อนที่เตียงอาบแดดข้างสระว่ายน้ำ  พร้อมกับสวมแว่นกันแดดแบรนด์ดัง  ในรีสอร์ทส่วนตัวซึ่งอยู่ไม่ไกลจากโรงแรมมากนัก
 
   “นายครับ” ชายหนุ่มรูปร่างสันทัดในชุดดำสองคนเดินเข้ามาเอ่ยทักผู้เป็นเจ้านาย

   “ได้อะไรมาบ้าง” เขาเอ่ยถามพร้อมกับถอดแว่นกันแดดอก 

         เขาสั่งให้ลูกน้องทั้งสองคนไปสังเกตการณ์ที่เกาะบลูซี โดยเฉพาะเคลวินที่เขาให้จับตาดูทุกฝีเก้าเพื่อจ้องจะหาทางเล่นงาน ทั้งสองมีเรื่องบาดหมางกันเมื่อปลายปีที่แล้ว  ไม่ว่าจะเป็นเรื่องการแย่งลูกค้าและการรุกล้ำเขตน่านน้ำของกันและกัน

   ชายชุดดำยื่นกล้องถ่ายรูปให้ เขาเปิดดูเมื่อเห็นภาพในกล้องก็ขมวดคิ้วอย่างสงสัย  แล้วกดภาพดูไปเรื่อยๆ ก่อนจะซูมไปที่รูปๆหนึ่งเพื่อที่จะได้เห็นใบหน้าหวานนั้นชัดขึ้น

   “นี่ใคร?” อิทธิถามลูกน้องก่อนะยืนกล้องให้ดู

   “ผู้ชายหน้าหวานคนนี้น่าจะเป็นคนในบ้านของไอ้เคลวินครับนาย มันพามาหาหมอแล้วก็พากลับไปที่บ้านด้วย”

   “ไปสืบมาว่าผู้ชายหน้าหวานคนนี้เป็นใคร กูชักจะสนใจซะแล้วสิ” อิทธิยกยิ้มที่มุมปากพร้อมกับมองไปที่ใบหน้าหวานในกล้องด้วยความสนใจ

   “ครับนาย ขอเวลาอีกสักสองสามวัน เพราะตอนนี้ที่เกาะมันเข้มงวดเรื่องการเข้าออกมากเป็นพิเศษ”

   “ระวังตัวด้วยล่ะ”

   “ครับนาย”

   “ไปได้”

   เขานั่งดูรูปไปเรื่อยๆอีกครั้ง ทำไมเขาเห็นใบหน้าหวานครั้งแรกก็รู้สึกสนใจอย่างบอกไม่ถูก

   “ไม่ว่านายจะเป็นใครและเป็นอะไรกับไอ้เคลวิน ฉันก็จะเอานายมาเป็นของฉันให้ได้”

   เขาแสยะยิ้มออกมาก่อนจะวางกล้องถ่ายรูปลงที่โต๊ะไม้ข้างๆ  หยิบแก้วไวน์มาดื่มแล้วนอนอาบแดดต่อไปอย่างสบายใจ

*-*-*-*-*-*-*-*-*-*-*-*-*


TBC

////////////////////
อ่านแล้วช่วยคอมเมนท์กันด้วยนะคร้าบบ ขอบคุณครับ

CoMMuNiTY Of ThAiBoYsLoVE






ออฟไลน์ weedear

  • เป็ดHera
  • *
  • กระทู้: 1139
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +10/-4

ออฟไลน์ weedear

  • เป็ดHera
  • *
  • กระทู้: 1139
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +10/-4

ออฟไลน์ mystery Y

  • เป็ดApollo
  • *
  • กระทู้: 7697
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +585/-12

ออฟไลน์ areenart1984

  • เป็ดArtemis
  • *
  • กระทู้: 4825
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +167/-7
ขอให้หายไว ๆ นะหลานภัทร  :กอด1:

ออฟไลน์ ไมเลอร์

  • เป็ดมัธยม
  • *
  • กระทู้: 189
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +119/-6
CHAPTER

-7-

คลิปเด็ด




@ ศูนย์การแพทย์บลูซี


           “เชิญค่ะ”

          พยาบาลสาวสวยเอ่ยพร้อมกับคอยยืนเปิดประตูให้กับคนไข้หนุ่มหล่อ

            “ขอบคุณครับ” กันต์ยิ้มให้แล้วเดินเข้ามาข้างใน ก่อนที่พยาบาลสาวจะปิดประตูห้องตรวจแล้วเดินเข้ามายืนอยู่ข้างๆนายแพทย์

            “สวัสดีครับหมอ” กันต์ยิ้มให้นายแพทย์หนุ่มหน้าใสที่กำลังนั่งมองมาที่เขา


            “ทำไมปล่อยให้ตัวเองเป็นหวัดมาหลายวันขนาดนี้ล่ะครับ” พงษ์ถามคนไข้หนุ่มหล่อ เมื่อดูที่ใบซักประวัติคนไข้ก่อนเข้ามาในห้อง

            “ก็ผมคิดว่ามันจะหายเองได้ไงครับหมอ” กันต์บอกหน้าตาเฉย เขามีนิสัยกวนๆทำให้หลายคนที่เจอครั้งแรกอาจจะรู้สึกเหม็นขี้หน้า ไม่เว้นแม้กระทั่งนายแพทย์หนุ่มที่กำลังตรวจอาการเขาอยู่ในขณะนี้

            “หมอเห็นหลายรายแล้ว พูดแบบนี้แหละไม่กี่วันก็ได้เผาแล้ว” พงษ์ว่าให้ชายหนุ่ม

            กันต์ได้ยินก็ชักสีหน้าใส่คุณหมอหน้าหล่อทันที อยู่ดีๆก็มาแช่งกันซะอย่างนี้

            “อ้าวคุณหมอ! ทำไมพูดหมาๆอย่างนี้ล่ะครับ ผมมาที่นี่เพื่อให้หมอช่วยรักษานะไม่ใช่มาให้แช่งกัน”

            “คุณนั่นล่ะหยุดกวนตีนได้แล้ว  หมอไม่ได้แช่งแต่พูดความจริงคนไทยก็อย่างนี้ล่ะกว่าจะมาหาหมอได้ก็ต้องปล่อยให้ตัวเองเจ็บหนักก่อน  พออาการหนักขึ้นการรักษาก็ยากขึ้น พอผลการรักษาไม่เป็นอย่างที่หวังก็โทษหมอซะงั้น” พงษ์ว่า

             “นี่หมอเก็บกดมาจากไหนรึเปล่าครับเนี่ย” เขาไม่เคยเห็นหมอคนไหนขี้บ่นขนาดนี้มาก่อน

             “ถลกเสื้อขึ้นครับ” พงษ์ไม่ใส่ใจคำพูดของกันต์ ก่อนจะสั่งให้ถลกเสื้อขึ้นเพื่อที่จะใช้สเตธโธสโคปฟังเสียงการเต้นของหัวใจและปอด

            “เฮ้ย! หมอจะทำอะไรผมอ่ะ” กันต์ทำท่าตกใจพร้อมกับกอดตัวเองไว้

            “จะให้หมอตรวจรึเปล่าล่ะครับ ถ้าอยากหายก็ช่วยทำตามที่หมอสั่งด้วยครับ” พงษ์ชักสีหน้าใส่จริงๆแล้วคนเป็นหมอไม่ควรจะปฏิบัติต่อผู้ป่วยอย่างนี้  แต่เขาก็อดไม่ได้กับความกวนตีนของอีกฝ่าย

            “โอเคๆ จะทำอะไรก็ทำผมยอมหมดล่ะครับ” ว่าแล้วกันต์ก็ค่อยๆถลกเสื้อยืดขึ้นจนเลยกล้ามอกขึ้นไป  เผยให้เห็นหุ่นที่สมส่วนและกล้ามเนื้อแน่น พร้อมกับซิกแพ็คเป็นลอนๆที่หน้าท้อง  กันต์กระตุกที่กล้ามเนื้อหน้าอกสลับกันไปมาเพื่อกวนคุณหมอหน้าหล่อก่อนจะยิ้มกวนๆให้ “ตรวจเลยครับหมอ”

           พงษ์เห็นอย่างนั้นก็รู้สึกเหนื่อยใจกับคนไข้รายนี้มากเหลือเกิน ก่อนจะค่อยๆกดสเตธลงบนตัวของกันต์เพื่อสังเกตอาการ

           “คุณไม่จำเป็นจะต้องกระตักหัวนมคุณอย่างนั้นก็ได้มันรบกวนสมาธิหมอครับ” เขาพยายามพูดให้สุภาพเข้าไว้

            “จริงเร้อ...ผมเห็นที่อื่นไม่จำเป็นต้องให้ถอดขนาดนี้เลยหรือว่าหมออยากเห็นซิกแพ็คผมครับ” เขาว่าพลางจ้องใบหน้าขาวใสของคุณหมอหนุ่มอย่างสนใจ

            “การตรวจที่ถูกต้องมันต้องฟังเสียงจากตัวคนไข้โดยไม่ผ่านเสื้อผ้าครับ คุณอย่าคิดเข้าข้างตัวเองไปหน่อยเลยครับ เคสอื่นเยอะกว่านี้หมอก็เคยตรวจมาแล้วอยู่นิ่งๆ” เขาว่าแล้วก็ปลดสเตธออกจากหูก่อนจะคาดไว้ที่บริเวณลำคอเหมือนเดิม

            “เสร็จแล้วไม่มีอะไรผิดปกติ  นอกจากอาการปวดศีรษะ คัดจมูก น้ำมูกไหลตามที่ได้แจ้งพยาบาลไว้ก่อนหน้านี้ คุณมีอาการอย่างอื่นร่วมด้วยไหมครับ”

            “มีครับหมอ” กันต์พูดแล้วยกยิ้มอย่างมีเลศนัย

            “อาการอะไรครับ” พงษ์มองหน้ารอคำตอบ

            “ตอนนี้หัวใจผมเต้นแรงมากเลย ไม่รู้ว่าเป็นเพราะเจอหน้าหมอรึเปล่าครับ ช่วยตรวจดูอีกครั้งได้ไหมครับ” เขาถลกเสื้อยืดขึ้นอีกครั้งแล้วเอานิ้วจิ้มไปที่กลางยอดอกด้านซ้าย พร้อมกับยิ้มกวนๆให้จนพยาบาลที่ยืนอยู่นั้นกลั้นขำเอาไว้ไม่อยู่

            พงษ์ทำหน้าไม่ถูกเมื่อโดนคนไข้หน้าหล่อขี้กวนจู่โจมด้วยคำพูดอย่างไม่ทันตั้งตัวอย่างนี้

            “สงสัยหมอต้องเช็คสมองคนไข้ด้วยแล้วมั้งเนี่ย พูดจาเลอะเลือน เสร็จแล้วครับเชิญรับยาด้านนอก คุณพยาบาลครับเชิญคนไข้ออกไปข้างนอกด้วย” เขาสั่งก่อนจะก้มหน้าลงเขียนเอกสารบนโต๊ะ  โดยไม่ใส่ใจคนไข้หนุ่มหล่อที่อยู่ตรงหน้าเลยแม้แต่น้อย

            “เชิญทางนี้ค่ะ” พยาบาลสาวเดินไปเปิดประตูให้

            “ผมไปก่อนนะครับหมอ” เขายังกวนไม่เลิก

            “เชิญครับ หมอขอให้หายเร็วๆนะครับแล้วก็อย่าเจ็บอย่าป่วยอีก หมอขี้เกียจตรวจคนไข้ประเภทคุณ”

            “ยิ่งหมอพูดแบบนี้ผมยิ่งจะป่วยบ่อยๆ แล้วเจอกันครับ” กันต์ยักคิ้วเข้มแล้วยิ้มให้ก่อนจะเดินออกไป

            เมื่อเดินออกมาหน้าห้องตรวจแล้วเขาก็มองไปที่หน้าประตูห้องก่อนจะอ่านชื่อที่อยู่ในป้าย

            “นายแพทย์กิตติพงษ์ รัตนโชติสกุล ผมชักจะสนใจคุณแล้วสิคุณหมอหน้าหวาน” ว่าแล้วก็เดินไปรอรับยาที่ห้องจ่ายยาทันที
*-*-*-*-*-*-*-*-*-*-*-*



            หลังจากพักรักษาตัวอยู่เป็นอาทิตย์ตอนนี้ข้อมือของนภัทรก็หายเป็นปกติดีแล้ว วันนี้เขารู้สึกมีความสุขเป็นพิเศษนั่นเพราะ ‘หมูแดง’ เด็กชายตัวน้อยวัยห้าขวบหลานชายของป้าภา  ซึ่งจะมาอยู่ที่นี่เป็นประจำทุกวันหยุด       

            “หมูแดงของพี่คิดถึงจังเลยคร้าบบ” นภัทรว่าพร้อมกับเดินเข้าไปกอดเจ้าตัวน้อย  ที่นั่งจ้ำม่ำอยู่บนเก้าอี้ข้างๆป้าภาในครัว

            “พี่ภัทรมาแล้ววววว! หมูแดงคิดถึงพี่ภัทรมากๆเลยครับ” เจ้าตัวน้อยว่าพร้อมกับบรรจงหอมแก้มขาวๆของร่างบางด้วยความคิดถึง

            “พี่ก็คิดถึงหมูแดงมากๆเลย รอให้ถึงวันหยุดเร็วๆจะได้เจอหน้าเจ้าหนูน้อยคนนี้ไง” นภัทรเอามือบี้จมูกเจ้าตัวน้อยเล่นด้วยความมันเขี้ยว

            “มันนั่งบ่นหาเอ็งอยู่นี่ล่ะ พามันออกไปจากครัวหน่อยภัทร ป้าล่ะรำคาญมัน” ป้าภาว่าพลางเช็ดจานไปด้วย

            “ได้ครับป้า ผมกำลังตากผ้าอยู่พอดี เดี๋ยวพาหมูแดงออกไปด้วย” เขาบอกป้าภา

            “หมูแดงก็ไม่อยากอยู่ที่นี่กับยายไม่เห็นสนุกเลย ยิ่งพี่ขวัญหมูแดงยิ่งไม่ชอบ หน้าบูดตลอดเหมือนกินขี้มาเลยอ่ะครับ” เจ้าเด็กน้อยว่าให้จนขวัญที่ช่วยป้าภาเช็ดจานอยู่นั้นถึงกับถลึงตาใส่

            “หน็อย! เป็นเด็กเป็นเล็กมาทำเป็นปากดี เดี๋ยวแม่ตบให้เลย” ขวัญยกไม้ยกมือใส่

            “มึงอย่ามาทำเป็นด่าหลานกูเลยอีขวัญ ไอ้หมูแดงมันก็พูดถูกของมัน หน้าตาก็สะสวยแต่มึงน่ะชอบทำหน้าบูดหน้าบึ้งตลอด เด็กมันยังรู้เลย”

            “ป้าอ่ะฉันไม่ช่วยแล้วนะ” ขวัญว่าแล้วก็วางผ้าลง

            “มึงอย่านะวันนี้มึงเพิ่งจะทำการทำงาน อย่าให้กูต้องฟ้องคุณเคลวิน” ป้าภาขู่

            “ก็ได้ๆ รีบๆทำจะได้เสร็จซะที” หล่อนว่า

            นภัทรมองดูหญิงสาวก็อดที่จะสงสารขวัญไม่ได้ หล่อนมีดีที่ความสวยอย่างเดียวแต่จิตใจกลับไม่ได้สวยเหมือนหน้าตา ชอบอิจฉาคนอื่นและมีความทะเยอทะยานสูงเกินตัว ทำให้ความสวยของหล่อนมันไม่ได้มีประโยชน์อะไรเลย ถึงแม้ว่าเขาจะเคยเจ็บตัวเพราะขวัญมาแล้วแต่ก็ไม่ได้ฝังใจอะไร แต่ก็ไม่ได้ชะล่าใจกลับระวังตัวมากขึ้นกว่าเดิมเป็นเท่าตัวอีก

            “หมูแดงเราไปกันเถอะครับ” เขาจูงมือเจ้าตัวเล็กออกไปจากครัวไปตากผ้าที่หลังบ้านให้เสร็จ หลังจากปั่นมาเกือบครึ่งวันนั่นเพราะมีทั้งเสื้อผ้าของเคลวินและผ้าม่านที่ปลดออกมาเกือบทั่วทั้งบ้าน  กองเป็นพะเนินอยู่แต่ก็ยังดีที่เคลวินไม่ใจดำจนเกินไปยังให้ใช้เรื่องซักผ้าปั่นได้

            “เย้ๆ เหม็นขี้ๆ ไปดีกว่า” หมูแดงแลบลิ้นปลิ้นตาใส่ขวัญก่อนจะรีบวิ่งออกไปพร้อมกับนภัทร

            เมื่อออกมาข้างนอกแล้วนภัทรก็รีบพาเจ้าตัวน้อยมาที่ลานหลังบ้าน  ตอนนี้มีตะกร้าผ้าใบใหญ่หลายใบเตรียมพร้อมรอการผึ่งแดดให้แห้ง  ลานตากผ้าหลังบ้านจะเป็นลานโล่งสามารถมองเห็นท้องทะเลและท้องฟ้ากว้างสุดลูกหูลูกตา  เชือกถูกขึงไว้บนเสาสี่ถึงห้าเส้นเพื่อใช้เป็นราวตากผ้า นภัทรหยิบผ้าขึ้นมาพาดวางทีละตัวๆ โดยมีเจ้าตัวเล็กคอยหยิบจากตะกร้าส่งให้

            “พี่ภัทรจะอยู่ที่นี่นานไหมอ่ะครับ” อยู่ๆหมูแดงก็ถามขึ้นมาจนร่างบางถึงกับชะงักนิดหน่อย

            “ถ้าหมูแดงมาที่นี่บ่อยๆพี่ภัทรก็จะอยู่นานๆโอเคไหมครับ” เขายิ้มให้เจ้าตัวเล็ก

            “เย้ๆๆ หมูแดงจะมาทุกอาทิตย์เลยคร้าบบ อยู่กับพี่ภัทรสนุกดี” เจ้าตัวน้อยเอ่ยขึ้นด้วยท่าทีดีใจ

            “แล้วอย่าลืมเอาการบ้านมาทำด้วยนะ”

            “พี่ภัทรช่วยหมูแดงทำด้วยนะคร้าบบ”

            “ได้สิ...เดี๋ยวพี่ภัทรช่วยทำนะครับ” เขาย่อตัวให้สูงพอดีเจ้าตัวน้อยก่อนจะเอามือเรียวไปขยี้ผมเล่นอย่างเอ็นดู

            “คร้าบบบ” เจ้าตัวน้อยยิ้มจนตาหยี เห็นแล้วก็ทำให้เขาอยากมีเจ้าตัวน้อยอย่างนี้บ้างคงจะมีความสุขน่าดู  แต่มันคงเป็นไปไม่ได้แล้วเพราะศักดิ์ศรีความเป็นชายของเขา  มันได้ถูกทำลายด้วยน้ำมือของเจ้าของเกาะแห่งนี้ไปแล้ว

            ขณะที่นภัทรกำลังยืนตากผ้าอยู่นั้น เคลวินก็เดินค่อยๆเดินเข้ามาอย่างเงียบๆแล้วนั่งลงข้างๆเจ้าตัวเล็กก่อนจะส่งสัญญาณห้ามส่งเสียง  แล้วเป็นคนยื่นผ้าให้แทน

            “หมูแดงเหนื่อยยังครับ” ร่างบางเอ่ยพลางตากผ้าไปด้วย เมื่อไม่ได้ยินเสียงเจ้าตัวเล็กตอบกลับก็หันมามอง สิ่งที่เขาเห็นตอนนี้คือเคลวินกำลังนั่งยองๆอยู่ข้างหมูแดง

            “หมูแดงเหนื่อยแล้วครับ” เคลวินตอบแทนเจ้าตัวน้อย

            “นี่คุณผมกำลังถามหมูแดงไม่ได้ถามคุณซะหน่อย” นภัทรชักสีหน้าใส่

            “ก็กูจะตอบแทนหมูแดงแล้วจะทำไม” เขาทำหน้าไม่รู้ไม่ชี้แล้วหันไปเอ่ยกับหมูแดง “หมูแดงคงเหนื่อยมากสินะที่โดนคนใจร้ายใช้งานซะหนักเลย”

            “เปล่านะครับ หมูแดงเต็มใจช่วยพี่ภัทรสนุกดี” เจ้าตัวน้อยยิ้มให้ นภัทรได้ยินก็รู้สึกสะใจที่คำตอบของเด็กตัวเล็กๆ  ทำให้คนตัวโตถึงกับหน้าแตกเป็นเสี่ยงๆ

            “เห็นไหมล่ะอย่ามโนไปเองว่าคนอื่นเค้าจะคิดแบบคุณ”

            “ก็มึงใช้แรงงานเด็กนี่หว่า กูให้มึงทำคนเดียวเสือกให้หมูแดงมาช่วยซะงั้น” เขาว่า

            “ขนาดเด็กยังไม่ใจแคบอย่างคุณเลย ลองพิจารณาตัวเองบ้างก็ดีนะว่าเคยคิดดี ทำดีกับคนอื่นบ้างไหมก่อนจะว่าคนอื่น” ร่างบางว่าให้

            “อยู่ที่นี่สิ่งที่กูพูดคือสิ่งที่ถูกต้องทุกอย่างจำเอาไว้”

            ร่างบางได้ยินกลับไม่สนใจ แต่หันไปพูดกับหมูแดงแทน

            “หมูแดงจำไว้นะครับว่าอย่าเชื่อใจคนอื่นง่ายๆ คนบางคนดูแค่หน้าตาอาจจะเหมือนว่าเป็นคนจิตใจดีแต่แท้ที่จริงแล้วเค้าอาจจะไม่ได้ดีอย่างที่เราคิดก็ได้นะ” ร่างบางเอ่ยกับเจ้าตัวน้อยที่อยู่ตรงหน้า แต่แท้ที่จริงแล้วมันคือการพูดประชดประชันคนตัวโต ซึ่งเคลวินเองก็รู้ดีแต่ไม่อยากจะทำอะไรรุนแรงต่อหน้าเด็ก ใจจริงเขาอยากกระชากตัวร่างบางเข้ามาสำเร็จโทษซะให้เข็ดหลาบที่บังอาจมาต่อปากต่อคำกับเขา

            “หมูแดงจะเชื่อพี่ที่ภัทรพูดครับ” เจ้าเด็กน้อยพยักหน้าอย่างเชื่อฟัง ร่างบางทำเหมือนคนตัวโตเป็นธาตุเป็นอากาศที่ไม่มีตัวตนอยู่ตรงนั้น

            “ป่ะเราไปกันเถอะ” ร่างบางยื่นมือให้หมูแดงจับก่อนจะเดินออกไป

            “เดี๋ยว!” เคลวินรีบเอ่ยห้ามไว้ก่อน

            “มีอะไรอีกครับผมจะรีบไปเตรียมข้าวเย็นช่วยป้าภา” ร่างบางอ้าง

            “คืนนี้ขึ้นไปหากูด้วย” ร่างบางได้ยินก็ต้องถอนหายใจ

            “ครับ...แล้วผมจะขึ้นไป” ถึงแม้ว่าจะไม่สามารถเอาชนะร่างบางเรื่องเมื่อสักครู่ได้  แต่เขาก็สามารถเอาชนะร่างบางเรื่องนี้ได้อยู่ดี คิดแล้วก็ยกยิ้มที่มุมปากอย่างผู้มีชัย

            “พี่ภัทรขึ้นไปทำอะไรกับคุณท่านครับ” อยู่ๆเจ้าตัวน้อยก็เอ่ยถาม จนร่างบางถึงกับหน้าแดงก่ำขึ้นมาเพราะไม่รู้จะตอบคำถามยังไงดี

            “เอ่อ...พี่ภัทรไป...” เขาคิดหาคำพูดยังไม่ได้แต่คนตัวโตกลับชิงตอบก่อน

            “พี่ภัทรเค้าเข้าไปทำหน้าที่เมียที่ดีไงหมูแดง” เคลวินยักคิ้วให้ร่างบาง

            “อ้าว! พี่ภัทรเป็นเมียคุณท่านเหรอครับ” หมูแดงมองหน้าร่างบางอย่างงงๆ

            “คุณพูดอะไรออกมาเนี่ย เดี๋ยวเด็กก็เข้าใจผิดหรอก” เขาเอ็ดให้คนตัวโตแล้วหันไปเอ่ยกับหมูแดง “หมูแดงอย่าไปเชื่อคุณท่านนะครับ คุณท่านเค้าล้อเล่นพี่ภัทรขึ้นไปช่วยทำงานบ้านครับหมูแดง” ร่างบางนั่งลงตรงหน้าแล้วเอ่ยกับเจ้าตัวน้อยให้เข้าใจ

            “ครับหมูแดงเข้าใจแล้ว พี่ภัทรไปช่วยคุณท่านทำงานบ้าน” หมูแดงพูดแล้วยิ้มตาตี่

            “ดีมากครับ” นภัทรยิ้มให้แล้วเอามือลูบที่เรือนผมของเจ้าตัวน้อยอย่างเอ็นดู

            “มึงนี่ดูท่าจะเลี้ยงเด็กเก่งเนาะ กูทำให้สักคนเอาไหม?” เคลวินพูดขำๆ

            “คุณหยุดพูดได้แล้วแค่นี้หมูแดงก็สับสนจะแย่แล้ว” นภัทรหันไปเอ็ดให้คนตัวโต

            “ไปกันเถอะหมูแดง” ร่างบางยืนขึ้นแล้วจูงมือเจ้าตัวน้อยเข้าไปในบ้านทันที

            เคลวินมองตามหลังทั้งสองคนแล้วยิ้มออกมาอย่างไม่รู้ตัว  เวลานภัทรอยู่กับหมูแดงเขารับรู้ได้ถึงความเป็นแม่ในตัวนภัทร ถ้านภัทรเป็นผู้หญิงก็คงจะดี เขาจะทำให้นภัทรท้องไม่มีพ่อ ให้ไอ้พวกบ้านนั้นอับอายขายขี้หน้าชาวบ้านเค้าไปทั่ว แต่คืนนี้ล่ะเขาจะทำให้พวกมันรู้สึกเจ็บปวดไม่น้อยเลยทีเดียว
*-*-*-*-*-*-*-*-*-*-*



            “ยาย” เจ้าหมูแดงส่งเสียงร้องรีบวิ่งเข้ามาหายายในครัว โดยมีนภัทรเดินตามหลังมาติดๆ

            “ตะโกนมาเสียงดังเชียวไอ้เด็กคนนี้” ป้าภาเอ็ดหลานชายตัวน้อย

            “หมูแดงมีอะไรจะถามยาย” หมูแดงเดินมาเกาะแขนผู้เป็นยายแล้วทำหน้าเหมือนมีคำถามสงสัย

            “มีอะไรว่ามาสิยายรอฟังเอ็งอยู่เนี่ย” ป้าภายืนเอามือเท้าสะเอวมองดูหลานตัวน้อย

            “ทำไมคุณท่านบอกว่าพี่ภัทรเป็นเมียคุณท่าน แล้วคนเป็นเมียต้องทำยังไงบ้างอ่ะคร้าบบ” เจ้าหมูแดงทำหน้าสงสัย  ป้าภาได้ยินก็หันไปมองหน้านภัทรทันที  ตอนนี้ร่างบางทำหน้าไม่ถูกเมื่อได้ยินคำถามของเด็กชายตัวน้อย

            “เอ็งได้ยินมาจากไหน เป็นเด็กเป็นเล็กถามอะไรก็ไม่รู้ ถ้าเอ็งอยากรู้เวลากลับไปหาพ่อแม่เอ็งก็ถามมันดู” ป้าภาว่าให้หลาน

            “ก็หนูแดงสงสัยนี่นา” เจ้าตัวน้อยเกาศีรษะแกร็กๆ

            “ทำตัวเป็นคุณนายของบ้านนี้เข้าไปทุกวัน ระวังเถอะจะโดนคุณเคลวินเขี่ยลงมาเข้าสักวัน” ขวัญเบะปากใส่

            “เธอไม่ต้องมายุ่งเรื่องของฉันหรอกขวัญ อย่างน้อยฉันก็ได้สิ่งที่เธออยากได้แต่ไม่เคยได้” นภัทรตอบกลับ

            “ปากดีนักนะ” ขวัญยกมือขึ้นเตรียมจะตบ แต่นภัทรคว้าสากกะเบือบนโต๊ะทำกับข้าวไว้ได้แล้วยกขึ้นบ้าง

            “เอาสิ!” ทั้งสองมองหน้ากันอย่างไม่มีใครยอมใคร

            “โอ๊ย! พอกันทั้งสองคนรีบจัดโต๊ะให้คุณเคลวินเดี๋ยวนี้” ป้าภาตะโกนเสียงดังห้ามทั้งสองคน จนต่างคนต่างก็ยอมลดอารมณ์ให้อ่อนลง

            “ยายห้ามทำไมหมูแดงกำลังสนุกอยู่เลยคร้าบบ” หมูแดงยิ้มพร้อมกับปรบมือเสียงดัง

            “ไอ้นี่ก็อีกคน” ป้าภาชี้หน้าหลานชายตัวน้อย

            “หมูแดงเรามาช่วยยายเตรียมกับข้าวกันก่อนดีกว่าเนาะแล้วค่อยมาทานข้าวกัน” นภัทรรีบคว้าตัวหมูแดงเข้ากอดคอเอาไว้

            “คร้าบบบหมูแดงกำลังหิวพอดีเลย”





            หลังจากทั้งหมดเตรียมกับข้าวมื้อเย็นบนโต๊ะให้เคลวินเรียบร้อยแล้ว  ก็กลับมาทานข้าวกันในครัวหลังจากนั้นก็พากันกลับไปห้องพักของแต่ละคน  แต่วันนี้นภัทรไม่ได้จบการทำงานของวันเพียงแค่นั้น  เขาต้องขึ้นไปหาเคลวินตามคำสั่งอีก

            เมื่ออาบน้ำเปลี่ยนเสื้อผ้าเรียบร้อยแล้ว ร่างบางก็เดินออกจากห้องมุ่งตรงไปยังห้องนอนของเจ้าของคฤหาสน์หลังใหญ่  เมื่อถึงหน้าห้องแล้วนภัทรก็ถอนหายใจเฮือกใหญ่เพื่อรวบรวมสติก่อนจะค่อยๆเอื้อมมือไปเคาะประตูห้อง

            ก๊อก! ก๊อก! ก๊อก!

            ร่างบางเปิดประตูเข้าไปในห้องเหมือนทุกครั้ง เมื่อย่างกรายเข้าไปก็แปลกใจที่ไม่เห็นคนตัวโตนอนอยู่บนเตียงเหมือนทุกครั้ง จึงมองไปรอบๆเพื่อหาเจ้าของห้อง

            “คุณเคลวิน! คุณอยู่ไหน” นภัทรสอดส่องสายตาหาแต่ก็ไม่เจอ แต่ทันใดนั้นเขาก็ต้องตกใจเมื่อมีคนเข้ามาสวมกอดจากด้านหลัง

            “เฮ้ย! คุณเล่นอะไรเนี่ย ปล่อย!” นภัทรพยายามดิ้นไปมา ปกติแล้วมันไม่ใช่อย่างนี้ เคลวินไม่เคยต้องมาหลบๆซ่อนๆเล่นกันอย่างกับเด็ก

            “ไม่ปล่อย!” เขากอดร่างบางพร้อมกับพาเดินไปบนเตียง

            “ทำไมต้องทำอะไรอย่างนี้ด้วย”

            “มันจะได้ตื่นเต้นไง มึงไม่ชอบเหรอ” เคลวินว่าพร้อมกับใช้เชือกมัดมือร่างบางไว้กับหัวเตียง

            “อะไรกันเนี่ยทำไมต้องมัดด้วยไม่เอ้า!” ร่างบางพยายามดิ้นแต่ไม่อาจต้านแรงของคนตัวโตไปได้  จนตอนนี้มือทั้งสองข้างโดนมัดไว้กับหัวเตียงเรียบร้อยแล้ว

            “อยากเล่นอะไรสนุกๆมั๊ยจ๊ะ” คนตัวโตคร่อมตัวร่างบางเอาไว้

            “ไม่นะ! อย่าบอกนะว่าคุณเป็นพวกซาดิตส์วิตถาร” ร่างบางพยายามสะบัดมือทั้งสองข้างพร้อมกับดิ้นไปมาเพื่อให้เชือกหลุด

            “ไม่ใช่โว้ย มีอะไรที่น่าสนุกกว่านั้นอีกเยอะมึงดูนี่สิ” คนตัวโตยกโทรศัพท์มือถือของร่างบางที่ยึดไว้ขึ้นให้ดู

            “มือถือผมคุณคิดจะทำอะไร”

            “กูเคยบอกมึงแล้วไงว่ากูจะให้มึงโทรไปหาที่บ้านมึงเป็นระยะๆ เพื่อให้พวกมันรู้ว่ามึงยังอยู่ดีกินดีมีความสุข วันนี้กูก็เลยจะอัดคลิบสั้นๆส่งไปให้พวกมันดูซะหน่อย  ให้พวกมันรู้ว่ามึงมีความสุขมากกก” เคลวินเปิดเครื่องขึ้นมาแล้วเปิดกล้องเตรียมพร้อมที่จะอัดวิดีโอ

            “ไม่นะ! ผมขอร้องเถอนะอย่าทำอย่างนี้เลย ขอร้องล่ะ” ร่างบางพยายามอ้อนวอนขอร้อง แต่มีหรือที่คนตัวโตจะยอมใจอ่อน เพราะเขารู้ดีว่าถ้าคนบ้านนั้นได้ดูคลิปเด็ดๆนี้ดีไม่ดีอาจจะช็อคตายไปเลยก็เป็นได้ คิดแล้วก็ทำให้เขาสะใจมากเหลือเกิน

            “ยิ่งมึงอ้อนวอนขอร้องยิ่งดี พวกมันจะได้รู้ว่ามึงน่ะทรมานมากแค่ไหน หึๆ”

            ว่าแล้วคนตัวโตก็เริ่มจัดการกับร่างบางตามที่เขาต้องการพร้อมกับเริ่มบันทึกวิดีโอไปด้วย....
*-*-*-*-*-*-*-*-*-*-*

ออฟไลน์ areenart1984

  • เป็ดArtemis
  • *
  • กระทู้: 4825
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +167/-7
เลวของแท้จริง ๆ เลย คุณวินเนี้ย  o12

ออฟไลน์ weedear

  • เป็ดHera
  • *
  • กระทู้: 1139
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +10/-4

ออฟไลน์ mystery Y

  • เป็ดApollo
  • *
  • กระทู้: 7697
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +585/-12
เลวมากกก!!

ออฟไลน์ Leenboy

  • เป็ดEros
  • *
  • กระทู้: 3095
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +105/-2
จะรอดูวันที่พี่วินร้องไห้เช็ดหัวเข่า

ออฟไลน์ ไมเลอร์

  • เป็ดมัธยม
  • *
  • กระทู้: 189
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +119/-6
CHAPTER  8  สถานที่ลับ



            หลังจากสงครามแห่งกามารมณ์ได้จบลงไปแล้ว เคลวินก็คลายเชือกที่ข้อมือออกให้ ในขณะที่ร่างบางนั้นกำลังนอนหันหลังสะอึ้นไห้อยู่บนเตียง เขารู้สึกเจ็บปวดมากเหลือเกิน  เมื่อรู้ว่าครอบครัวของตัวเองจะได้เห็นคลิปอุบาทว์นั่น เมื่อไหร่เคลวินถึงจะพอใจสักที  ยิ่งคิดน้ำตามันก็ยิ่งไหลลงมาเป็นสายไม่ยอมหยุดเสียที

            “สะใจคุณพอรึยัง ฮึก” ร่างบางจ้องหน้าด้วยดวงตาที่แดงก่ำ  เนื่องจากจากการผ่านการร้องไห้มาอย่างหนัก

            “โคตรพอใจเลยว่ะ” เขาว่าพลางเกลี่ยที่แก้มขาวของร่างบางอย่างเบามือ แต่เจ้าตัวกลับสะบัดหน้าหนี

            “ดูคลิปเราไหม ไม่สิคลิปมึงโดนเอาเพราะมันเห็นแต่หน้ามึงคนเดียว ฮ่าๆ” เขาว่าพร้อมกับหัวเราะออกมาเสียงดังด้วยความสะใจ

            “ไอ้เลว! แค่นี้ยังไม่พอใจอีกเหรอ ทำไมต้องทำถึงขนาดนี้ด้วย ฮึก” ร่างบางตวาดแหวใส่

            “อย่ามาปากดีกับกู! มึงไม่มีทางหยุดกูได้หรอกจนกว่าพ่อของมึงจะตายกูถึงจะพอใจ แต่ก่อนตายกูอยากให้มันทรมานใจแทบขาดซะก่อน” เคลวินยิ้มเหี้ยม

            “เอามานี่!” ร่างบางพยายามแย่งโทรศัพท์มือถือคืนมา แต่คนตัวโตกลับยกขึ้นเหนือศีรษะ  ก่อนจะใช้มือหนาฟาดไปที่แก้มขาวอย่างแรง  จนร่างบางฟลุบลงที่เตียงแล้วก้มหน้าร้องไห้

            “มึงไม่มีทางหยุดกูได้หรอก” เขาว่าแล้วก็จัดการส่งข้อความนั้นไปให้ทรงพลทันที “เรียบร้อย...ตอนนี้ก็รอให้มันโทรกลับมา” เขาบอกร่างบาง ไม่นานนักก็มีสายโทรเข้าจากทรงพลอย่างที่เขาพูดจริงๆ

            Rrrrr….

            “ว่าไงครับคุณพ่อตา” เขาพูดจากวนใส่ อีกฝั่งเดือดจนน้ำตาแทบจะไหลเมื่อได้เห็นคลิปที่เพิ่งจะถูกส่งไป

            (“มึงทำอะไรลูกกู!”) ตอนนี้ทรงพลนั่งอยู่ในห้องทำงานที่บริษัท โชคดีที่แก้วกานดาไม่ได้อยู่ด้วยไม่งั้นหล่อนคงจะร้องไห้ร้องห่มจนอกแตกตายอย่างแน่นอน

            “อ้าว! คุณพ่อดูแล้วยังจะมาถามผมอีกเหรอครับ ไม่มีตารึไง!”

            (“ไอ้เหี้ย! กูไม่มีทางปล่อยมึงไว้แน่ กูจะตามฆ่ามึงไม่ว่าจะอยู่ที่ไหนก็ตาม”) เขาพูดด้วยความโมโห

            “โอ๊ยกลัวจังเลยครับ ก่อนมึงจะตามมาฆ่ากู  มึงช่วยไปตรวจวัดความดันของมึงก่อนนะ  ว่ามันสูงไปถึงไหนแล้วหลังจากได้ดูคลิป   ถ้าคิดถึงลูกชายหัวแก้วหัวแหวนมากนัก ก็ดูคลิปที่กูส่งให้ไปพลางๆก่อนละกัน ฮ่าๆ” เขาหัวเราะเยาะเย้ยคู่สาย

            (“ไอ้ระยำ!”) เขาสบถออกมาพร้อมกับทุบกำปั้นลงที่โต๊ะทำงานเสียงดัง

            “คุณพ่อครับไม่ต้องเป็นห่วงผมนะ ผมสบายดีครับ คุณพ่อไม่ต้องเล่นตามเกมส์มันนะ” ร่างบางตะโกนเสียงดังเพื่อให้ผู้เป็นพ่อที่อยู่ในสายได้ยิน

            (“นภัทรลูกพ่อ”) เขาเอ่ยเมื่อได้ยินเสียงลูกชาย

            “มึงอยากพูดกับลูกของมึงไหมล่ะ” เคลวินเอ่ยถาม

            (“ถ้ามึงยังมีความเป็นคนอยู่ให้นภัทรมาคุยกับกูเดี๋ยวนี้”) ทรงพลว่า

            “ได้! แต่มึงต้องอ้อนวอนขอร้องกูก่อน คุณวินครับผมขอพูดกับลูกชายหน่อยครับ มึงกล้าพูดไหมล่ะ” เคลวินยื่นข้อเสนอให้

            (“ไม่มีทาง...กูไม่มีทางอ้อนวอนขอร้องคนอย่างมึงหรอก”)

            “ศักดิ์ศรีมึงเยอะเหลือเกินนะ ไม่เป็นไรถ้ามึงไม่อยากพูดกับลูกชายมึงกูก็จะวางสายแค่นี้”

            (“เดี๋ยวก่อน!”) ในที่สุดเขาก็ห้ามความคิดถึงลูกชายไม่ไหว  จำต้องยอมลดทิฐิลง

            “ว่าไงหรือมึงจะยอม!”

            (“กูยอมแล้ว”) ทรงพลเอ่ย

            “ถ้างั้นก็ว่ามากูรอฟังอยู่” ทุกบทสนทนานภัทรได้ยินมาตลอดนั่นเพราะเคลวินเปิดลำโพงให้ได้ยินด้วย

            “คุณพ่ออย่านะครับ คุณพ่อไม่ต้องทำถึงขนาดนี้ก็ได้” ร่างบางตะโกนมา

            “มึงหุบปากเดี๋ยวนี้!” เขาชี้หน้าร่างบาง

            ทรงพลนั่งทำใจสักพักก่อนจะกรอกเสียงผ่านสายไป

            (“คุณเคลวินครับผมขอพูดกับลูกชาย...หน่อยครับ”) ประโยคที่เอ่ยออกมาเขาต้องฝืนใจมากเหลือเกิน ไม่เคยมีใครมาบังคับให้เขาทำอะไรอย่างนี้มาก่อนเลย

            นภัทรได้ยินก็น้ำตาไหลทันที เขาสงสารพ่อของตัวเอง พ่อของเขาเป็นผู้บริหารที่มีคนนับหน้าถือตามากมาย แต่ต้องมาขอร้องอ้อนวอนไอ้คนเลวที่อยู่ตรงหน้าเขา มันเป็นอะไรที่เขารับไม่ได้จริงๆ

            “มึงได้ยินสิ่งที่พ่อมึงพูดรึยัง พ่อมึงคงรักมึงมากสินะ กูคิดถูกแล้วที่จับตัวมึงมา ฮ่าๆ” เคลวินหัวเราะเสียงดังอย่างพอใจ ก่อนจะกรอกเสียงผ่านสายไป “โทษทีว่ะโทรศัพท์แบตจะหมดแล้วเอาไว้ครั้งหน้าละกันกูจะให้โอกาสมึงพูดใหม่ แค่นี้นะ” พูดจบเลควินก็วางสายไป

            ทางฝั่งทรงพลเมื่อได้ยินอย่างนั้นก็แทบกลั้นน้ำตาเอาไว้ไม่อยู่  ตอนนี้ดวงตาของเขาแดงก่ำเพราะแค้นมากเหลือเกิน เขาเสียเหลี่ยมให้ไอ้เด็กเมื่อวานซืนมันน่าโมโหนัก ตอนนี้เพลิงแค้นในใจทรงพลมันยิ่งปะทุขึ้นมาอีก  “กูจะส่งมึงไปอยู่กับพ่อแม่มึงให้ได้กูสัญญา” ทรงพลเค้นเสียงออกมาด้วยความเคียดแค้น

            เมื่อร่างบางได้ยินและได้เห็นสิ่งที่เคลวินทำกับพ่อของตัวเอง  ก็คว้าหมอนที่อยู่ข้างๆปาใส่คนตัวสูงทันที

            “ไอ้เลว! ทำไมถึงทำอย่างนี้ รู้ไหมคุณพ่อจะเสียใจแค่ไหน” ร่างบางไม่พูดเปล่ายังเข้าไปทุบตีคนตัวโตอีกต่างหาก

            “เสียใจสิยิ่งดี กูยิ่งสะใจ มึงเองหยุดได้แล้ว!” เคลวินพยายามรวบมือร่างบางเอาไว้ แล้วทุ่มตัวลงบนเตียงอีกครั้ง ก่อนจะจ้องหน้าอย่างเหลืออด “ถ้ามึงยังบ้าไม่เลิกกูจะส่งคนไปจัดการพ่อกับแม่มึง หรือมึงต้องการอย่างนั้น” เขาขู่

            “ไม่นะ อย่าทำอย่างนั้นเด็ดขาด ต่อไปผมจะไม่ดื้อกับคุณแล้วผมสัญญา” ร่างบางได้ยินสิ่งที่คนตัวโตพูดก็รีบเปลี่ยนท่าทีอ่อนลงทันที

            “ต้องให้กูขู่ใช่ไหม มึงถึงจะยอมเชื่อฟัง”

            “ต่อไปนี้ผมจะเชื่อฟังคุณทุกอย่าง ขอแค่อย่าไปทำร้ายคนในครอบครัวผมเลย ถ้าตายแทนได้ผมก็จะทำเพื่อชดใช้สิ่งที่คุณพ่อเคยทำไว้” ร่างบางเอ่ยด้วยสีหน้าจริงจัง

            “กูไม่ยอมให้มึงตายหรอก ถ้ามึงตายแล้วกูจะเอาอะไรต่อรองกับพวกมันล่ะ เอามึงมาเป็นที่ระบายอารมณ์มันสนุกกว่าเยอะมึงว่ามั้ย” เขาจ้องตาร่างบางก่อนจะใช้มือหนาลูบไล้ไปที่ไหล่บาง ผิวที่ขาวนวลเนียนลื่นมือ ทำให้คนตัวโตพอใจก่อนจะดึงผ้าห่มที่คลุมร่างออกจนเหลือเพียงเรือนร่างที่เปลือยเปล่า

            “มึงนี่ก็ยั่วกูดีเหลือเกินนะ”

            เคลวินไม่สามารถอดทนกับเรืองร่างอันยั่วยวนของร่างบางได้ จึงเริ่มบทรักอีกครั้งแม้เพิ่งจะผ่านพ้นไปไม่ถึงชั่วโมง  ร่างบางได้แต่จำยอมโดยไม่มีท่าทีอิดออดเลยแม้แต่น้อย  นั่นเพราะเขากลัวจะทำให้คนตัวโตโมโห   จนพาลคิดไปทำร้ายคนในครอบครัวของตนเอง บทรักมันเกิดขึ้นซ้ำแล้วซ้ำเล่าจนตอนนี้ร่างอันบอบบางเริ่มบอบช้ำไปทั่วทั้งร่าง
*-*-*-*-*-*-*-*-*-*-*



            วันนี้นดลเดินสายไปสืบข้อมูลของวินตลอดทั้งวัน  โดยมีเพียงแค่รูปถ่ายวัยเด็กใบเดียวที่ค้นได้ในบ้านเป็นจุดเริ่มต้น  เขาจำได้ว่าวินหนีออกจากบ้านในเมื่อตอนอายุได้เจ็ดขวบ แล้วก็ไม่กลับมาอีกเลยถึงตอนนี้ก็ผ่านมาหลายปี  เขาเองก็ยังมืดแปดด้านไม่รู้จะต้องเริ่มตรงจุดไหน  ทำได้เพียงไปขอดูประวัติอาชญกรจากทางเจ้าหน้าที่ตำรวจโดยใช้ชื่อและนามสกุลของในวัยเด็กวิน  แต่ก็ไม่มีข้อมูลว่าเคยมีประวัติต้องดคีมาก่อน เป้าหมายต่อไปก็คือสถานรับเลี้ยงเด็กกำพร้า เด็กน้อยอายุเท่านั้นจะไปไหนไม่ได้ถ้าไม่มีคนคอยช่วยเหลือเขาคิดอย่างนั้น ตอนนี้เขากำลังขับรถกลับบ้านพรุ่งนี้ค่อยว่ากันใหม่ ยังไงเขาจะต้องหาทางช่วยเหลือน้องชายสุดที่รักให้ได้ แต่ขณะขับรถอยู่ก็มีสายเข้ามาเขาจึงใส่หูฟังทันที

            “ว่าไงไอ้กันต์” เขาทักทายปลายสายด้วยน้ำเสียงที่เป็นกันเอง

            (“มึงทำเชี่ยอะไรอยู่ ไม่เห็นโทรหาเพื่อนฝูงมั่งเลย”) ปลายสายตะโกนแหวดเสียงดัง

            นดลและกันต์เป็นเพื่อนสนิทกันมาตั้งแต่มัธยม  ตอนนี้ก็ยังติดต่อและสนิทกันอยู่เหมือนเดิม  ถึงแม้ว่าเวลาจะผ่านมากี่ปีแล้วก็ตาม

            “กูขับรถอยู่ โทษทีว่ะช่วงนี้ที่บ้านกูมีเรื่องเลยไม่มีเวลาโทรหาใครเลย”

            (“มีเรื่องอะไรวะบอกกูได้ป่ะ”) กันต์ถามด้วยความอยากรู้อยากเห็น

            “กูเห็นว่ามึงเป็นเพื่อนสนิทกูนะ รู้แล้วมึงห้ามเอาเรื่องนี้ไปบอกใครเด็ดขาด” นดลบอกเพื่อน

            (“มันขนาดนั้นเลยเหรอวะ”) กันต์ถามด้วยความสงสัย

            “เออ ตอนนี้ที่บ้านกูไม่มีใครนอนหลับสนิทได้แม้แต่คืนเดียว เพราะน้องชายกูโดนลักพาตัว”

            (“โดนลักพาตัว! ใครวะกล้าทำกับน้องภัทรกูขนาดนั้น แล้วแจ้งความยัง?”) กันต์ได้ยินก็รู้สึกตกใจก่อนจะถามเพื่อนด้วยความเป็นห่วง

            “มึงไม่รู้จักหรอกว่ามันเป็นใครแต่กูรู้จักมันดี มันชื่อวินเป็นลูกชายเพื่อนพ่อกูเอง สมัยเด็กๆมันก็เคยอยู่ในบ้านหลังเดียวกับกูด้วย เรื่องแจ้งความตอนนี้ยังเพราะพวกกูกลัวว่ามันจะฆ่าภัทร”

            (“อ้าว! มันก็รู้จักคนในครอบครัวมึง แล้วมันจะทำไปเพื่ออะไรหรือว่าต้องการเงิน”)

            “มันไม่ได้ต้องการเงินหรอกมึงรู้แค่นี้พอ ตอนนี้กูกำลังแกะรอยมันอยู่ ดูท่าแล้วมันน่าจะไม่ธรรมดาแน่นอน”

            (”มีอะไรให้ช่วยก็บอกกูได้นะเพื่อน”)

            “ขอบใจมึงมาก ว่าแต่ตอนนี้มึงอยู่ที่ไหนวะ ทำไมกูได้ยินเสียงเหมือนคลื่นน้ำทะเล” นดลได้ยินเสียงคลื่นน้ำทะเลดังแทรกผ่านสายมาเป็นช่วงๆ

            (“ถูกแล้วกูนั่งอยู่ริมทะเลนี่ล่ะ กูมาทำงานที่นี่ได้สองอาทิตย์แล้ว”)

            “ที่นี่ของมึงมันคือที่ไหนล่ะกูจะรู้ไหม”

            (“กูอยู่พังงาโว้ย เป็นเกาะส่วนตัว เจ้าของโคตรรวยตอนนี้กำลังสร้างโรงแรมเพิ่มอีกหนึ่งตึก พ่อกูเลยส่งมาคุมงานที่นี่”)

            “ดีว่ะได้ทำงานไปด้วยเที่ยวไปด้วย  บรรยากาศที่นั่นคงจะดีน่าดู”

            (“ก็ดีว่ะแถมคนที่นี่ยังน่ารักอีกด้วย”) กันต์ว่าพลางคิดถึงใบหน้าคุณหมอหน้าหวาน  ที่เจอกันเมื่ออาทิตย์ก่อน

            “แหนะๆๆ มึงพูดอย่างนี้แสดงว่าเจอสาวถูกใจแล้วล่ะดิ” นดลแซวเพื่อน

            (“ไม่ใช่สาวหรอกว่ะแต่เป็นหนุ่มที่แม่งหน้าโคตรหวานและที่สำคัญโคตรกวนตีนอีกต่างหาก”) กันต์ยกยิ้มที่มุมปากเมื่อเอ่ยถึงอีกคน

            “มึงเปลี่ยนแนวแล้วไง?” นดลเอ่ยถามเพราะแต่ก่อนเขาเคยเห็นกันต์ควงแต่สาวๆทรงโตทั้งนั้น

            (“กูไม่รู้ว่ะเห็นครั้งแรกแล้วมันสปาร์คทันที ลองดูก็ไม่เสียหายชายได้ชายคือยอดชายมึงไม่เคยได้ยินเหรอวะ”)

            “เออ! กูก็ไม่ได้ว่าอะไรขอให้มึงได้เจาะไข่แดงเค้าละกันเพื่อน”

            (“ขอบใจว่ะอีกไม่นานแน่นอน ฮ่าๆ ถ้ามึงว่างๆก็แวะมาเยี่ยมเยียนกูบ้างนะเว้ย”)

            “เออๆ ถ้าว่างนะแต่ตอนนี้กูยังวุ่นๆอยู่เลย เอาไว้ถ้ามีโอกาสกูจะแวะไปหา”

            (“โอเค ขอให้มึงหาน้องภัทรให้เจอนะเว้ย กูเอาใจช่วยกูต้องวางสายไปดูงานก่อน”)

            “เคๆแล้วเจอกัน”

            นดลวางสายแล้วก็ตั้งใจบึ่งรถกลับไปที่บ้านทันที

            เมื่อล้อหมุนมาจอดที่หน้าบ้านเรียบร้อยแล้ว  นดลก็ลงมาจากรถแล้วโยนกุญแจให้คนขับรถขับไปจอด ส่วนตัวเองก็เดินเข้ามาในบ้าน  ตอนนี้ผู้เป็นแม่กำลังนั่งใจจดใจจ่อรอการกลับมาของเขา  ช่วงนี้แก้วกานดามักจะเข้าห้องพระสวดมนตร์อยู่บ่อยครั้ง  เพื่อทำสมาธิและขออธิษฐานให้ลูกชายคนเล็กแคล้วคลาดปลอดภัยจากอันตรายทั้งปวง

            “ตาดลได้ข่าวอะไรบ้างลูก” แก้วกานดาลุกขึ้นยืนแล้วรีบเดินเข้าไปหาลูกชาย

            “แม่ครับใจเย็นๆนั่งลงก่อน” นดลพยุงผู้เป็นแม่มานั่งที่โซฟาเหมือนเดิม

            “แม่ร้อนใจ อยากรู้ข่าวน้องเร็วๆ” แก้วกานดาเอ่ยกับลูกชาย

            “แม่ครับตอนนี้ยังไม่ได้ข้อมูลอะไรเพิ่มเลย แต่อีกไม่นานผมมั่นใจว่าเราจะตามตัวน้องเจอแน่นอน” นดลให้สัญญากับผู้เป็นแม่

            “นดลต้องช่วยน้องให้ได้นะลูก” เธอเอ่ยกับลูกชายด้วยสีหน้าที่ยังพอมีหวัง

            ระหว่างนั้นทรงพลก็เดินเข้ามาหลังกลับจากบริษัท เขาเห็นสองแม่ลูกนั่งอยู่ด้วยกันก็เดินเข้าไปหาทันที

            “วันนี้เป็นไงบ้างนดล” ทรงพลเอ่ยถามลูกชาย

            “ยังไม่มีอะไรคืบหน้าเลยครับพ่อ เดี๋ยวพรุ่งนี้ผมจะลองไปถามที่สถานรับเลี้ยงเด็กกำพร้าดูอีกที”

            “ยังไงก็รีบๆด้วยละกันพ่อเป็นห่วงน้อง ถ้าคุยกับแม่เสร็จแล้วขึ้นไปหาพ่อที่ห้องทำงานหน่อยนะ”

            “ครับพ่อ” 

            ทรงพลเดินขึ้นไปข้างบนทันทีหลังจากนั้น

            “แม่ครับผมขึ้นไปหาคุณพ่อก่อนนะครับ แม่อย่าคิดอะไรมากผมมั่นใจว่าจะต้องตามตัวน้องเจอเร็วๆนี้แน่นอน”

            เขาสัญญากับผู้เป็นแม่อีกครั้ง  ก่อนจะเดินขึ้นไปหาผู้เป็นพ่อที่ห้องทำงานทันที

            “พ่อครับมีอะไรรึเปล่า” นดลเดินเข้ามาแล้วเอ่ยถาม

            “วันนี้ไอ้วินมันติดต่อมา” เขาพูดด้วยสีหน้าไม่สู้ดีนัก จริงๆแล้วเขาไม่อยากให้นดลเห็นคลิปที่เคลวินส่งมาให้  แต่มันจำเป็นที่จะต้องให้ลูกชายได้รับรู้เพื่อที่จะทำให้นดลโกรธแค้นวินมากขึ้น และเพิ่มแรงจูงใจให้นดลหาทางตามตัวนภัทรกลับมาให้ได้เร็วที่สุด

            “มันว่าไงครับพ่อ!” นดลรีบเดินเข้ามาใกล้ๆ

            “มันส่งนี่มาให้พ่อดู แกดูเอาเองว่ามันทำอะไรน้องบ้าง” ทรงพลยื่นโทรศัพท์มือถือให้ลูกชายดู

            นดลเปิดดูคลิปแล้วก็ต้องเบิกตากว้างขึ้นมาทันที ดวงตาเริ่มแดงก่ำหลังจากนั้นน้ำใสๆมันก็ค่อยๆไหลลงมาเป็นสาย น้องชายสุดที่รักของเขาต้องโดนย่ำยีถึงเพียงนี้เลยเหรอเนี่ย  ตอนนี้ไฟแค้นในใจมันได้เริ่มปะทุขึ้นมาแล้ว เขาจะต้องเอาคืนไอ้คนที่มันย่ำยีน้องเขาให้มันสาสมถึงที่สุด

            “โธ่ นภัทรน้องพี่ ฮึก” นดลสะอึ้นไห้ออกมา “พี่จะจัดการมันแล้วพาน้องกลับมาให้ได้”

            “ตอนนี้มันเริ่มรุกเราหนักมากขึ้น เราต้องรีบหาที่อยู่มันให้ได้” ทรงพลเอ่ย

            “ครับพ่อผมจะเร่งจัดการเรื่องนี้ให้เร็วที่สุดเท่าที่จะทำได้”

            จากที่เป็นคนที่มีเหตุมีผลมาตลอดแต่ตอนนี้เขาไม่สนเหตุผลอะไรแล้ว  เขาไม่อยากรู้แล้วว่าวินทำแบบนี้ไปเพื่ออะไร แต่ตอนนี้เขาคิดเพียงว่าจะทำยังไงที่จะเอาคืนให้สาสมและพาตัวน้องชายสุดที่รักกลับมาให้ได้
*-*-*-*-*-*-*-*-*-*-*



            ตอนนี้เวลาก็ล่วงเลยมาเกือบจะสองเดือนแล้ว  นภัทรยังไม่เคยมีโอกาสได้ออกไปสัมผัสบรรยากาศข้างนอกคฤหาสน์หลังนี้เลยแม้แต่ครั้งเดียว  จะมีก็เพียงแค่ตอนที่เคลวินพาเขาไปหาหมอพงษ์ก็แค่นั้น  เขายังคงทำหน้าที่เมียบำเรอให้กับคนตัวโตอยู่เรื่อยๆ  โดยที่เคลวินเองก็ไม่มีท่าทีว่าจะหมดความเสน่หากับเรือนร่างของเขาเลยแม้แต่น้อย วันไหนที่เมญ่ามาค้างคืนนั่นแหละเป็นวันที่เขารู้สึกว่าตัวเองมีเวลาเป็นส่วนตัวมากที่สุด เพราะเคลวินจะไม่มายุ่งกับเขาเลยทั้งวัน

            วันนี้เมญ่ามาค้างคืนที่บ้านหลังนี้ ส่วนเคลวินเองก็ขลุกตัวอยู่กับเจ้าหล่อนทั้งวัน  ตอนนี้ร่างบางนั่งอยู่ที่หน้าห้องพักซึ่งเป็นที่ประจำ  การมานั่งอยู่ตรงนี้ทีไรมักจะทำให้เขาผ่อนคลายความเครียดได้ตลอดเวลา เมื่อแหงนมองดูดวงดาวบนท้องฟ้าทำให้เขารู้สึกว่าโลกมันก็ไม่ได้กว้างเลยสักนิด  ทุกคนยังคงอยู่ภายใต้หลังคาเดียวกัน  คิดอย่างนี้แล้วมันก็ทำให้คลายความคิดถึงครอบครัวไปได้บ้าง

            “ภัทร! มานั่งทำอะไรคนเดียวตรงนี้” เอกเดินออกมาจากห้องพักแล้วนั่งลงข้างๆ

            “นั่งดูดาวไปเรื่อยๆอ่ะ ก็เราออกไปไหนไม่ได้ไง  มีที่นี่ที่เดียวที่พอจะทำให้รู้สึกเหมือนไม่ถูกขังไว้”

            “ถามจริงอึดอัดมากไหม เราไม่เคยเห็นภัทรได้ออกไปจากนอกรั้วบ้านหลังนี้เลย” เอกมองหน้า ร่างบางเองก็หันมายิ้มให้

            “มากกก” เขาลากเสียงยาวก่อนจะแค่นหัวเราะออกมา “แต่จะทำยังไงได้ล่ะ”

            “เอางี้เรามีสถานที่ลับที่นึง เราชอบออกไปบ่อยๆ ภัทรอยากไปไหม” เอกถามก่อนที่ร่างบางจะพยักหน้ารับทันที

            “ไปๆ เราอยากไป” ร่างบางทำหน้าตื่นเต้นเมื่อได้รู้ว่ากำลังจะได้มีโอกาสไปเปิดหูเปิดตาข้างนอกบ้าง

            “เรื่องนี้เรารู้กันแค่สองคนนะ ห้ามให้ใครรู้เด็ดขาด” เอกบอก

            “โอเคเราสัญญา”

            “ตอนนี้ยังไม่ดึกมาก ยังพอมีเวลาถ้างั้นตามเรามา”

            ว่าแล้วนภัทรก็เดินตามชายหนุ่มไปทันที
*-*-*-*-*-*-*-*-*-*-*-*

 

สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด


สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด