CHAPTER 10 ความจริงที่ต้องรับให้ได้
“ภัทรเอ็งไหวไหมวะ” ป้าภาเอ่ยถามพร้อมกับใช้มือลูบที่แผ่นหลังของร่างบางไปด้วย
“อ้วกกก!!!”
“หวะ...ไหวครับป้า” ร่างบางเอ่ยหลังจากขย้อนของเหลวในท้องออกมาจนหมด แล้วก็บ้วนปากจนสะอาด
“ป้าว่าเอ็งไปหาหมอดีไหมวะ เดี๋ยวป้าจะไปบอกคุณเคลวินให้”
“ไม่เป็นไรป้าผมโอเค” ร่างบางยิ้มให้แต่สีหน้ากลับแดงก่ำ มีน้ำตาซึมที่หางตาเล็กน้อย จากการขย้อนเจ้าของเหลวในท้องออกมาเมื่อสักครู่
“ถ้างั้นเอ็งไปพักผ่อนก่อนเถอะ เดี๋ยวจะทรุดหนักกว่านี้” ป้าภาบอก
“แต่ผมไหวจริงๆนะครับป้า” ร่างบางยังยืนยัน
“อย่ามาทำเป็นเก่ง ไปพักก่อนเถอะหายดีแล้วค่อยมาช่วยป้า”
“ขอบคุณครับป้า ถ้างั้นผมขอตัวกลับห้องพักก่อนนะครับ”
“ถ้ายังไม่หายดีก็อย่าฝืนมาล่ะ”
“ครับ เอ้อป้า แล้วหมูแดงล่ะ” เขาถามเมื่อไม่เห็นเจ้าตัวน้อย
“แม่มันมารับตั้งแต่เช้ามืดแล้ว เห็นว่าจะไปเที่ยวกัน” ป้าภาบอก
“อ๋อ” ร่างบางพยักหน้าเมื่อได้ยิน ก่อนจะหันไปหาป้าภาอีกครั้ง “วันนี้ขอบคุณป้ามากนะครับ ถ้าป้าไม่มาช่วยเรื่องก็คงไม่จบ”
“ไม่เป็นไรแต่คราวหลังจะทำอะไรก็ระวังอีขวัญมันด้วยล่ะ อีนี่มันร้ายกาจนัก” ป้าภาบอก
“ครับป้า ผมไปล่ะ”
พูดจบร่างบางก็เดินตรงไปยังห้องพักของตัวเองทันที พอมาถึงก็เอนหลังลงที่เตียงเพื่อที่จะนอนพักผ่อน ในใจก็คิดว่าทำไมอยู่ๆเขาถึงรู้สึกเหม็นกลิ่นน้ำหอมของเมญ่า จนต้องมีอาการคลื่นไส้อาเจียนหนักขนาดนี้ ทั้งๆที่แต่ก่อนเขาเองก็ยังเคยใช้น้ำหอมกลิ่นนี้ด้วยซ้ำ คิดแล้วก็ค่อยๆหลับตาลงจนหลับไปในที่สุด
หลังจากไปส่งเมญ่าที่ท่าเรือเรียบร้อยแล้ว เคลวินก็วนรถกลับมาที่บ้านอีกครั้ง เพราะในใจยังคงนึกเป็นห่วงร่างบางอยู่ตลอดเวลา เมื่อมาถึงบ้านก็เดินตรงไปที่ห้องครัวทันที
“อ้าว! คุณเคลวินกลับมาเร็วจังเลยค่ะ” ป้าภาเอ่ยถามเมื่อเห็นเจ้านายเดินเข้ามาในครัว
“พอดีผมลืมของครับป้า แล้วนภัทรล่ะไปไหน?” เขาว่าพลางปรายตามองหาร่างบางทั่วทั้งห้อง
“ป้าให้มันไปพักค่ะคุณเคลวิน” ป้าภาบอกแต่ในใจก็พอจะรู้ว่าเจ้านายหนุ่ม กำลังเป็นห่วงนภัทรมากแค่ไหน เพราะสีหน้าที่แสดงออกมามันฟ้องได้อย่างชัดเจน
“อ๋อ...ไม่มีอะไรแล้วป้าทำงานต่อเถอะ” ว่าแล้วก็เดินออกไป ตรงดิ่งไปยังห้องพักของร่างบางทันที โดยไม่ลืมที่จะหยิบกุญแจสำรองห้องพักคนงานไปด้วย
เคลวินเดินมาถึงหน้าห้องพักของร่างบางแล้วใช้กุญแจสำรองไขเข้าไป เขาค่อยๆแง้มประตูแล้วชะโงกหน้าเข้าไปดู ก็พบว่าร่างบางกำลังนอนหลับอยู่บนเตียง เมื่อเห็นอย่างนั้นก็ค่อยๆเดินเข้าไปอย่างเบาเสียง
เขายืนมองร่างบางด้วยสีหน้าที่เป็นห่วง ก่อนจะค่อยๆนั่งลงที่เตียงแล้วเอามือเกลี่ยไรผมของร่างบางออก เผยให้เห็นใบหน้ารียวรูปไข่ ผิวพรรรณขาวนวลเขียนและริมฝีปากหยักได้รูป ไม่ผิดเพี้ยนจากน้องภัทรในวัยเด็กที่เขาเคยรู้จัก เคลวินใช้มือหนาไปสัมผัสที่ริมฝีปากบางอย่างเบามือ ก่อนที่ร่างบางจะขยับตัวนิดหน่อย แล้วเอามือคนตัวสูงแนบที่แก้มขาวใสแล้วยิ้มออกมา มีหรือคนที่จิตใจแข็งดั่งหินอย่างเคลวินจะไม่อ่อนไหวตามเมื่อเห็นร้อยยิ้มนั่น เขาเองก็เผลอยิ้มออกมาเช่นกัน
“พ่อครับ พ่อใช่ไหม ผมคิดถึงพ่อ” ร่างบางละเมอออกมาเบาๆ พร้อมกับใช้แก้มขาวซุกไซร้ที่ฝ่ามือหนานั่นด้วยรอยยิ้ม
เมื่อได้ยินเช่นนั้นร่างสูงก็มีสีหน้าบึ้งตึงขึ้นมาทันที พร้อมกับดึงมือออกจากแก้มขาวนั้นโดยเร็ว เขาลืมตัวไปว่านี่คือลูกชายของศัตรู น้องภัทรคนนั้นได้ตายไปจากใจเขาแล้ว เคลวินได้แต่คิดหลอกตัวเองเมื่อนึกถึงความแค้นที่มันรอการสะสางอยู่
“นี่คุณ!” ร่างบางรู้สึกตัวก็เห็นคนตัวสูงนั่งอยู่ข้างๆจึงพยายามลุกขึ้นนั่ง
“ทำไม? ตกใจอะไรขนาดนั้น” ร่างสูงมองหน้าเคืองๆ
“ก็ตกใจสิคุณเข้ามาในห้องผมได้ยังไง” ร่างสูงไม่ตอบแต่กลับชูกุญแจสำรองขึ้นให้ดูพร้อมกับยกยิ้ม
“ที่นี่มันบ้านกู กูจะทำอะไรก็ได้ มึงลืมไปแล้วเหรอ” เคลวินเอ่ย
“ใช่ที่นี่มันบ้านของคุณ แต่ห้องนี้มันเป็นพื้นที่ส่วนตัวของผม คุณไม่มีสิทธิ์เข้ามาถ้าผมไม่อนุญาต”
“ทำไมกูต้องขออนุญาตมึงด้วย ขนาดตัวมึงเองกูยังไม่ต้องขออนุญาตเลย จะเอาเมื่อไหร่ก็ได้” ร่างสูงว่าพร้อมกับเอื้อมมือไปเชยคางเรียวไว้
“ต่ำ” ร่างบางว่าพร้อมกับสะบัดหน้าหนี
“แสดงว่ามึงเองก็ต่ำยิ่งกว่ากูอีก เพราะมึงโดนไอ้คนต่ำๆคนนี้เอาทุกคืน” ร่างสูงว่าให้พร้อมกับยกยิ้มอย่างสะใจ
“ออกไปจากห้องผมเดี๋ยวนี้ ออกไป! อ้วกกก” ร่างบางตวาดแหวใส่ก่อนที่ทุกอย่างในท้องมันจะดันขึ้นมาจุกที่ลำคอ จนร่างบางต้องวิ่งแจ้นไปที่ห้องน้ำ
เคลวินมีสีหน้าตกใจเล็กน้อยพร้อมกับเดินไปหาร่างบางในห้องน้ำ เขาได้แต่มองดูอยู่ห่างๆ
“นี่มึงยังไม่หายดีเหรอวะ”
“คุณไม่ต้องห่วงหรอกผมยังไม่ตายง่ายๆ ยังอยู่ให้คุณทรมานได้อีกนาน” ร่างบางหันมาเอ่ยกับคนตัวสูง ก่อนที่ของเหลวมันจะตีขึ้นมาที่ลำคออีกครั้ง
“อ้วกกก!!”
“กูว่ามึงไปหาหมอดีไหมวะ” เมื่อเห็นท่าไม่ดีคนตัวสูงก็เอ่ยขึ้นมา
“ไม่!คุณออกไปเถอะ”
“อ้วกจนไส้จะออกมาแล้วยังจะมาปากเก่งอีก” ร่างสูงดุ
“ไม่ต้องมายุ่งกับผม ออกไป!” ร่างบางตวาดแหวใส่
“มึงนี่นะ” เขาไม่ว่าเปล่าแต่เดินไปช้อนตัวร่างบางขึ้นในท่าเจ้าสาว ก่อนจะพาออกมาจากห้องน้ำ
“ทำอะไรเนี่ย! ปล่อยเดี๋ยวนี้นะ” ร่างบางว่าพลางใช้กำปั้นน้อยๆทุบไปที่แผงอกแกร่ง
“ก็มึงดื้อไงกูเลยต้องทำอย่างนี้ หยุดมือของมึงเดี๋ยวนี้ กูจะพาไปหาหมอ”
“ไม่เอาผมไม่ไป! ปล่อยผมลงเดี๋ยวนี้” ร่างบางยังดื้อ
“ถ้ามึงดิ้นอีกกูจะพามึงไปโยนทิ้งที่ทะเลเดี๋ยวนี้ล่ะ” คนตัวโตขู่ เมื่อได้ยินอย่างนั้นร่างบางก็นิ่งเงียบทันที
หลังจากนั้นคนตัวโตก็อุ้มร่างบางไปที่รถแล้วขับออกไปทันที
*-*-*-*-*-*-*-*-*-*-*-*
@ ศูนย์การแพทย์บลูซี
“คุณหมอคะคุณเคลวินมารอพบด้านนอกพร้อมกับคนไข้ที่ชื่อนภัทรค่ะ” พยาบาลสาวสวยเดินเข้ามาในห้องตรวจ ก่อนจะเอ่ยกับนายแพทย์ที่กำลังตรวจรักษาคนไข้รายหนึ่งอยู่
“บอกให้รอก่อนตอนนี้ผมติดคนไข้อยู่คิวสุดท้ายแล้วพอดี” พงษ์บอก
“ค่ะ”
ว่าแล้วพยาบาลก็เดินออกไปจากห้องทันที
“รอสักครู่นะคะคุณเคลวินตอนนี้คุณหมอติดคนไข้อยู่ แต่คงไม่นานค่ะเพราะเป็นคิวสุดท้ายแล้ว” เธอเดินเข้าไปหาเคลวินที่นั่งรออยู่ที่เก้าอี้ ส่วนร่างบางตอนนี้กำลังวัดความดัน พร้อมกับถูกซักประวัติอาการป่วยโดยพยาบาลอยู่ในห้องข้างๆ
“ครับไม่เป็นไร” เขาบอกแค่นั้นแต่ในใจกลับรู้สึกร้อนรนมาก เพราะอยากให้ร่างบางได้รับการตรวจเร็วๆ
ไม่นานนักคนที่เขากำลังเป็นห่วงก็เดินเข้ามานั่งข้างๆ
“เสร็จแล้ว?” คนตัวสูงมองหน้า
“อืม” ร่างบางตอบเสียงอ่อยๆ เพราะหมดแรงไปกับการอาเจียนก่อนหน้านี้
ระหว่างรอพยาบาลคนเดิมก็เดินเข้ามาหา
“เชิญด้านในได้เลยค่ะคุณหมอตรวจคนไข้เสร็จแล้ว” เธอบอกก่อนจะเดินนำหน้าไป
ภายในห้องตรวจ
“สวัสดีครับคุณหมอ” นภัทรยกมือไหว้
“สวัสดีครับน้องภัทรวันนี้เป็นอะไรมาเอ่ย” พงษ์เอ่ยถามพร้อมกับดูข้อมูลที่พยาบาลซักประวัติอาการมาก่อนหน้านี้
“คือผมคลื่นไส้อาเจียนแล้วก็เวียนศีรษะครับ น่าจะแพ้กลิ่นน้ำหอมของคุณเมญ่า” ร่างบางแจ้งอาการให้หมอฟัง
“หืม! แพ้น้ำหอม” พงษ์ทำหน้าสงสัย
“ครับผมได้กลิ่นน้ำหอมจากตัวคุณเมญ่าเมื่อเช้านี้ ก็รู้สึกเหม็นแล้วอาเจียนออกมา ทั้งๆที่ก่อนหน้านี้ผมก็เคยใช้น้ำหอมกลิ่นนี้นะครับ ก็ยังงงๆอยู่เหมือนกันว่าแพ้ได้ยังไง”
“หมอว่าไม่น่าจะแพ้นะครับถ้าเคยใช้” พงษ์ว่าพลางมองดูที่ใบซักประวัติก่อนจะเอ่ยขึ้นมาอีกรั้ง “อืม...น้ำหนักตัวน้องภัทรขึ้นมาเยอะเลยนะครับ ดูมีน้ำมีนวลขึ้นสงสัยไอ้เคลวินมันจะเลี้ยงดี” พงษ์เปรียบเทียบน้ำหนักจากครั้งก่อน แล้วก็มองคนไข้ที่นั่งอยู่ตรงหน้า
“มึงจะถามอะไรนักหนาวะ ตรวจแม่งให้หมดทุกอย่างเลยเอาให้ละเอียด” เคลวินที่นั่งร้อนใจอยู่เอ่ยขึ้นแทรก
“ผมกำลังตรวจคนไข้อยู่ครับ ผมเป็นหมอนะครับ กรุณาหุบปาก” พงษ์เอ่ยด้วยน้ำเสียงนิ่งๆ ก่อนจะส่งตายตาอำมหิตให้เพื่อน
“เออกูรู้ว่ามึงเป็นหมอแต่กูใจร้อนโว้ย อยากรู้ว่ามันเป็นอะไร” เคลวินเอ่ยอย่างลืมตัว ว่ากำลังแสดงออกถึงความเป็นห่วงร่างบางจนเห็นได้ชัด
“มึงห่วงน้องว่างั้น?” พงษ์เอ่ยถาม
“เปล่าใครห่วงมันวะ กูรีบกูมีธุระ” เคลวินทำหน้าเหรอหราเมื่อโดนจับผิดได้
“ถ้ารีบก็ไปก่อน ให้น้องภัทรอยู่กับกูที่นี่ก่อน” พงษ์ยื่นข้อเสนอให้
“ไม่โว้ยกูรอได้” เคลวินพูดหน้าตาเฉย
“มึงนี่นะ” พงษ์ส่ายหน้าไปมาอย่างเบื่อหน่ายกับนิสัยของเพื่อน
เมื่อปะทะฝีปากกับเพื่อนเสร็จเรียบร้อยแล้ว พงษ์ก็หันมาเอ่ยกับคนไข้ที่นั่งอยู่ตรงหน้า
“น้องภัทรเดี๋ยวเดินตามคุณพยาบาลไปนะครับ”
“ครับหมอ”
หลังจากนั้นพงษ์ก็เขียนเอกสารบางอย่างบนโต๊ะแล้วก็ยื่นให้กับพยาบาล
“พาคนไข้ไปตรวจตามที่ผมระบุไว้ให้ครบทุกอย่างนะครับ” เขายื่นเอกสารให้พยาบาล
เมื่อพยาบาลสาวมองดูแล้วก็ทำหน้าสงสัย “คุณหมอค่ะนี่มัน...” หล่อนมองหน้าพงษ์
“เอาตามนั้นครับรีบไปเถอะ” เขารีบพูดตัดบทก่อนจะพยักหน้าให้กับพยาบาล
“ค่ะๆ” หล่อนตอบรับก่อนจะหันไปเอ่ยกับร่างบาง “คนไข้เชิญด้านนี้ค่ะ”
ร่างบางเดินตามหลังพยาบาลไปอย่างว่าง่าย
พงษ์นั่งหน้านิ่วคิ้วขมวดมองเอกสารบนโต๊ะ ก่อนจะหันไปหาเพื่อนที่กำลังนั่งไขว่ห้างอยู่อย่างสบายใจ
“ไอ้เคลวินกูมีเรื่องจะถาม แล้วตอบก็ช่วยตอบตามความจริงด้วยนะครับ”
“มึงมีอะไรว่ามา”
“มึงมีอะไรกับน้องภัทรแล้วใช่ไหมวะ” พงษ์ทำหน้าจริงจัง
“เออ เอาบ่อยด้วย ทำไมมึงต้องทำหน้าจริงจังขนาดนั้นด้วยวะ” เคลวินตอบหน้าตาเฉย
“แล้วเวลามีอะไรกันมึงใส่ถุงยางป่ะ”
“ไม่...เอาสดๆ กูคิดว่ามันชอบนะ เห็นทำหน้าเสียวตลอดเลยเวลากูปล่อยใน” เขาพูดขำๆ แต่คุณหมอกลับไม่ขำด้วย
“ไอ้เหี้ย! มึงไม่กลัวน้องเค้าจะติดโรคจากมึงเหรอวะ” พงษ์ว่าให้เพื่อน แต่ในใจที่เขากังวลมันไม่ใช่เรื่องนี้
“กูน่ะสิที่ต้องกลัวติดโรคจากมัน เพราะเอากับคนอื่นกูก็ใส่ถุงตลอด แต่มันเป็นผู้ชายไงท้องไม่ได้กูก็เลยไม่ใส่สะใจดี” เคลวินบอกเพื่อนหน้าตาเฉย
“แค่นี้ล่ะ”
“อ้าว! กูนึกว่ามึงจะถามเจาะลึกอีกว่ากูเอากับมันท่าไหนบ้าง” เคลวินพูดติดตลก
“กูไม่ได้โรตจิตขนาดนั้นโว้ย มึงมีธุระก็ไปทำก่อนได้ กว่าน้องภัทรจะมาก็อีกนาน” พงษ์บอก
“ทำไมมึงถึงอยากให้กูไปจังวะไอ้นี่ กูอยู่ได้ขี้เกียจกลับมาอีกรอบ”
“เออๆก็แล้วแต่มึงละกัน”
พูดแค่นั้นต่างคนก็ต่างเงียบแล้วนั่งรอนภัทรกลับมา
ไม่นานนักโทรศัพท์มือถือของเคลวินก็มีเสียงดังขึ้น
Rrrrr….
“ว่าไงคุณนพ” เคลวินรับสาย
(“คุณเคลวินครับเกิดเรื่องขึ้นแล้วครับ”)
“เกิดอะไรขึ้น”
(“มีคนเจอกระเป๋าปริศนามาวางไว้ที่หน้าล็อบบี้โรงแรมครับ สงสัยว่าจะเป็นระเบิด ตอนนี้ได้แจ้งเจ้าหน้าที่ตำรวจเรียบร้อยแล้ว คุณเคลวินรีบมาเลยครับนักท่องเที่ยวแตกตื่นกันวุ่นวายมากครับ”)
“ได้ๆเดี๋ยวผมไปตอนนี้เลย” เขาเอ่ยแล้วรีบลุกขึ้นยืน หลังจากนั้นก็หันไปเอ่ยกับพงษ์
“มึงเกิดเรื่องที่โรงแรม เดี๋ยวกูไปก่อนนะเสร็จเรื่องแล้วจะมารับ ถ้าไงฝากมันด้วยนะ”
“โอเคมึงรีบไปเถอะ ทางนี้กูดูแลให้เอง” พงษ์บอกอย่างเข้าใจ
เมื่อพูดกับเพื่อนเสร็จเคลวินก็รีบเดินออกไปอย่างเร่งรีบ
ไม่นานหลังจากนั้นนภัทรและพยาบาลก็เดินเข้ามาในห้อง พยาบาลยื่นผลตรวจให้ด้วยสีหน้าแปลกๆ
“นี่ค่ะหมอผลการตรวจ” พยาบาลยื่นให้ พงษ์มองดูแวบหนึ่ก่อนจะหันไปหาพยาบาล
“คุณออกไปก่อนนะ ผมขอคุยกับคนไข้เป็นการส่วนตัว”
“ค่ะ” เธอพยักหน้าอย่างเข้าใจก่อนจะเดินออกไป
พงษ์นั่งอ่านผลตรวจอยู่ครู่หนึ่งก่อนจะเงยหน้าขึ้นไปมองร่าง ที่นั่งลุ้นรอผลการตรวจอยู่
“น้องภัทร” พงษ์เอ่ยก่อนจะถอนหายใจเสียงดัง เพราะกลัวว่าถ้าร่างบางรู้ผลอาจจะทำให้ช็อคได้
“ว่าไงครับหมอ ผลการตรวจเป็นยังไงบ้าง”
“ต้องบอกก่อนว่านี่ไม่ใช่ครั้งแรกที่มันเกิดเรื่องมหัศจรรย์อย่างนี้ขึ้น ตอนหมอเรียนที่อเมริกาก็เคยเกิดเคสอย่างนี้ขึ้นมาหลายเคสอยู่เหมือนกัน” เขาพยายามพูดให้ร่างบางเข้าใจก่อนจะบอกความจริง
“นี่หมอกำลังพูดถึงเรื่องอะไร ผมงงไปหมดแล้ว” ร่างบางทำหน้าสงสัย
“ถ้าหมอบอกรับปากได้ไหมว่าจะตั้งสติให้ได้” พงษ์บอก
“หมอผมเป็นอะไรกันแน่” ร่างบางเริ่มกลัวขึ้นมาว่าตัวเองจะเป็นโรคร้ายแรง
“น้องภัทรครับ...ผลการตรวจบอกว่าน้องภัทรกำลังตั้งครรภ์”
“นี่หมอบอกว่าผมท้องงั้นเหรอครับ หมอนี่ก็เป็นคนตลกนะ” ร่างบางเอ่ยพร้อมกับขำออกมา
“หมอไม่ได้พูดเล่นนะครับ น้องภัทรกำลังตั้งท้องได้สี่สัปดาห์แล้ว” พงษ์พูดด้วยสีหน้าจริงจัง
“จะ...จะเป็นไปได้ยังไงครับผมเป็นผู้ชายนะ” ร่างบางค่อยๆหุบยิ้มลงเมื่อได้รับคำยืนยันจากปากหมออีกครั้ง
“น้องภัทรเป็นผู้ชายที่พิเศษกว่าคนทั่วไปไงครับ น้องภัทรมีมดลูกสามารถตั้งครรภ์ได้ จริงๆแล้วทางพ่อหรือแม่ของน้องก็น่าจะรู้นะครับท่านไม่เคยบอกอะไรเลยหรือ?” พงษ์ถาม
“ไม่ครับ...ท่านไม่เคยบอกอะไรเกี่ยวกับเรื่องนี้เลย”
“แสดงว่าท่านคงอยากให้น้องภัทรใช้ชีวิตตามปกติของผู้ชายทั่วไป”
“หมอครับช่วยยืนยันอีกทีได้ไหมว่าผมไม่ได้หูฝาด” ร่างบางนั่งหน้าซีดอยู่บนเก้าอี้ ตอนนี้ในหัวมันรู้สึกสับสนไปหมด และพยายามคิดว่ามันเป็นแค่ฝันเท่านั้น
“หมอขอยืนยันครับว่าน้องภัทรกำลังท้อง”
สิ้นเสียงของพงษ์น้ำใสๆที่ดวงตาสวยก็ไหลลงมาเป็นสาย เขาทั้งตกใจ เสียใจ ดีใจและกลัว ความรู้สึกทั้งหมดมันตีกันจนร่างบางเริ่มเวียนหัว หลังจากนั้นภาพของคุณหมอที่อยู่ตรงหน้ามันก็ค่อยๆเลือนรางลงเรื่อยๆ ก่อนที่ทุกอย่างมันจะดับวูบไปในที่สุด...
*-*-*-*-*-*-*-*-*-*-*