- Don't mess around เพื่อนครับอย่าเล่น - (เล่นครั้งที่ 6) - 21/3/61
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด

สนใจโฆษณาติดต่อ laopedcenter[at]hotmail.com คลิ๊กรายละเอียดที่ตำแหน่งว่างเลยครับ

สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด

ผู้เขียน หัวข้อ: - Don't mess around เพื่อนครับอย่าเล่น - (เล่นครั้งที่ 6) - 21/3/61  (อ่าน 2782 ครั้ง)

ออฟไลน์ somane

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 35
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +5/-0
ข้อตกลงในการเข้ามาในเล้าเป็ดนะครับ กรุณาอ่านทุกคนนะครับ
เล้าแห่งนี้เป็นที่ที่คนชื่นชอบนิยาย boy's love หรือชายรักชาย หากใครหลงมาแล้วไม่ชอบ
กรุณากดกากบาทสีแดงมุมด้านขวาบนออกไปด้วยนะครับ

สรุปข้อสำคัญดังนี้



1.ห้ามมิให้ละเมิดสิทธิส่วนตัวของคนแต่งและบุคคลในเรื่องทั้งหมด

2.ห้ามมิให้โพสต์ข้อความ รูปภาพ ใช้ลายเซ็นหรือรุปส่วนตัวหรือสื่อใดๆที่ก่อให้เกิดความขัดแย้ง ไม่แสดงความเคารพ, หมิ่นประมาท, หยาบคาย, เป็นที่รังเกียจ, ไม่เหมาะสม,ติดเรท x,ทำให้กระทู้กลายพันธ์,ไม่เกี่ยวพันกับนิยายที่ลง หรืออื่นๆที่ขัดต่อกฎหมาย, ห้ามโพสกระทู้ที่จะสร้างประเด็นความขัดแย้งสร้างความแตกแยก  ชวนวิวาท ของสมาชิกเล้าฯ ในเรื่องการเมือง เชื้อชาติ  เผ่าพันธุ์  ศาสนา และสถาบันต่าง ๆ  รวมถึงการตั้งชื่อเรื่องด้วยคำหยาบ คำไม่สุภาพ  ล่อแหลม และชี้เป้าให้เล้าฯ ถูกเพ่งเล็ง จากทางราชการ

3.การนำเรื่อง ข้อความ รูปภาพมาโพส หรือนำข้อความใดๆไปโพสที่นี่หรือที่อื่นๆ กรุณาพยายามติดต่อขออนุญาตเจ้าของเรื่องก่อนนะครับ

4.ห้ามแจกเบอร์ แลกเมล บอกเมล แลก msn บนบอร์ด โดยเฉพาะการบอกเบอร์ หรือเมลของคนอื่นโดยที่เจ้าตัวไม่ยินยอม

5.ขอให้นักเขียนทุกคนอย่าโกหกคนอ่านว่าเป็นเรื่องจริงในกรณีแต่งเติมเพิ่มแม้แต่นิดเดียว ถ้าเป็นเรื่องจริงก็ให้บอกว่าเรื่องจริง ถ้าเป็นเรื่องแต่งให้บอกว่าเรื่องแต่ง  ให้ชี้แจงว่าเป็นเรื่องแต่งแม้จะแต่งเพิ่มขึ้นแค่ไม่ถึง 10 % ก็ตามเพราะมีคนมากกมายทะเลาะเสียความรู้สึกเพราะเรื่องนี้มามากแล้ว

6. การพูดคุยโต้ตอบระหว่างคนเขียนและคนอ่านนอกเรื่องนิยาย  ทำได้  แต่อย่าให้มากนัก เช่น คนเขียนโพสนิยายหนึ่งตอน ก็ควรตอบเพียงคอมเม้นต์เดียวก็พอแล้ว  โดยสามารถใช้ปุ่ม Insearch qoute  ได้    ถ้าจะพูดคุยกันมากขึ้นแนะนำให้ไปตั้งกระทู้ใหม่ที่ห้องพูดคุยทั่วไป และลงลิงค์จากนิยายไปยังกระทู้พูดคุยกับแฟนคลับนิยายในรีพลายแรกด้วยนะครับ เพราะการที่คนเขียนและแฟนคลับพูดคุยกันมากทำให้หานิยายที่จะอ่านยาก ไม่เจอ ลำบากกับคนที่ไม่ได้เข้ามาตามอ่านทุกวัน

7. การกดบวกให้เป็ดเหลือง
      7.1 นิยาย 1 ตอน  จะให้ขึ้น Top list แค่ 1 Reply เท่านั้น ถ้าขึ้นเกิน จะลบคะแนนออก เหลือเฉพาะ Reply ที่มีคะแนนสูงสุด
      7.2 นิยาย 1 เรื่อง จะให้ขึ้น Top list ไม่เกิน 3 Reply ถ้าเกิน จะลบคะแนนออก ให้เหลือ เฉพาะ Reply ที่มีคะแนนสูงสุด ลงมาตามลำดับ
      7.3 Post ในห้องอื่น ๆ ก็จะใช้ หลักการเดียวกันนี้ เช่นกัน ยกเว้น
            - 1 Reply ที่เกินมานั้น โมฯทั้งหลาย พิจารณาดูแล้วว่า ไม่เป็นการปั่นโหวต และเป็น Reply ที่น่าสนใจและเป็นที่ชื่นชอบจริง ๆ

8.เมื่อนิยายจบแล้วให้แก้ไขหัวกระทู้ต่อท้ายว่าจบแล้ว


เวปไซต์แห่งนี้เป็นเวปไซต์ส่วนบุคคลที่ได้รับความคุ้มครองจากกฏหมายภายในและระหว่างประเทศ
การเข้าถึงข้อมูลใดๆบนเวปไซต์แห่งนี้โดยไม่ได้รับความยินยอมจากผู้ให้บริการ ถือว่าเป็นความผิดร้ายแรง

ข้อความใดๆก็ตามบนเวปไซต์แห่งนี้ เกิดจาการเขียนโดยสมาชิก และตีพิมพ์แบบอัตโนมัติ ผู้ดูแลเวปไซต์แห่งนี้ไม่จำเป็นต้องเห็นด้วย และไม่รับผิดชอบต่อข้อความใดๆ  โปรดใช้วิจารณญาณของท่านที่เข้าชม และ/หรือ ท่านผู้ปกครองในการให้ลูกหลานเข้าชม

กรุณาอ่านเพิ่มเติมที่นี่
http://www.thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=459.0






ความรักสำหรับผมมันเหมือนการแข่งรถ
มีแพ้กับชนะ มีสมหวังและเสียใจ
ยิ่งคุณเร็วมากเท่าไหร่อัตราการชนะและสมหวังจะยิ่งสูง
แต่ถ้าคุณเร็วและประมาทรับรองว่าคุณจะแพ้และเสียใจแถมด้วยรอยแผลอีกมากมายติดตัวกลับมา
ดังนั้นถ้าคุณวางแผนดี มีสติ ไม่ทะนงตัว คุณจะรอด…



------------------------------------------------------------------------------------------



วันนี้แดดแรงตอนกลางวันอากาศอบอ้าวแถมตอนเย็นเมฆยังก่อตัวอีกต่างหาก อากาศแบบนี้ใครๆก็รู้ว่าฝนต้องตกแน่นอน
ผมส่ายหัวให้กับสภาพอากาศช่วงหน้าฝนผมไม่ชอบมันเลย ผมเกลียดที่สุด มันเศร้าเหงาและเปียกปอนพอที่จะทำให้ไม่รู้ว่าสิ่งที่ไหลผ่านแก้มมันเป็นน้ำตาหรือว่าน้ำฝนกันแน่ฝนเป็นตัวช่วยที่ดีให้การอำพรางสิ่งที่น่าเศร้าแต่ก็เป็นตัวตอกย้ำวันวานที่ย่ำแย่ได้ดีเสมอ

ผมถอนหายใจอีกรอบ มองไปยังโรงรถเบื้องหน้าที่มีลูกรักผมจอดอยู่ ได้กลิ่นไอดินแล้วคาดว่าถ้าขับออกไปไม่เท่าไหร่ได้ตัวเปียกเข้าห้องแน่นอน

วันนี้ดันเอาบิ๊กไบค์มาซะด้วยสิแย่จริงๆทำอะไรไม่วางแผนเนี่ยดันลืมไปเลยว่าช่วงนี้เป็นฤดูฝน

ผมเลยหยิบโทรศัพท์ขึ้นมากดโทรออกหาเพื่อนสนิท

 “อยู่ไหน”

(อือ ข้าว อึก อ่าาา)

ชิบหาย ยกนาฬิกาขึ้นดูพึ่งจะสี่โมงเย็นนี่มึงไปล่อใครเขาอีกแล้ว

“ไอ้ข้าวอยู่ไหน!”

(อยู่โรงแรมมีไร) เสียงกระชากเลยวะ

“เสร็จยัง”

(เสร็จแล้ว มีไรก็พูดๆมา) ถามเสียงขุ่นป่นหอบ

ไม่ได้อยากขัดจังหวะแต่กูไม่อยากเปียกกลับหอเข้าใจไหมเพื่อน

“มารับหน่อย”

(เอารถไปไม่ใช่หรอ)

“ฝนมันจะตกกูไม่อยากเปียกกลับหอ”

(รออยู่นั่นแหละ)

ติ๊ด

พูดจบมันก็ตัดสายแต่ไม่วายทิ้งน้ำเสียงหงุดหงิดไว้ให้อีก

คบกับมันตั้งแต่ปี 1 นี่ปี 4 แล้วยังทำนิสัยแบบนี้ใส่กันอยู่ได้ชอบทำน้ำเสียงหงุดหงิดใส่เวลาโทรหา ไม่ใช่แค่เวลาที่ไปขัดจังหวะรักของมันหรอกนะทุกๆเวลาที่โทรหานั่นแหละ ผมไม่เข้าใจมันจริงๆ ผมจะโทรให้เพื่อนคนอื่นมารับก็ได้นะแต่ว่าไอ้ข้าวมันอยู่คอนโดเดียวกันไง

ซ่า

เหมือนฝนมันจะให้โอกาสผมในการหาทางรอดแล้วค่อยเทลงมา

ผมต้องขอบคุณไหม


------------------------------------------
วาร์ปมาเปิดเรื่องใหม่ไว้
อย่างใจร้อน เอาแค่น้ำจิ้มมาเสิร์ฟก่อนน๊า


 :o8: :o8:
Share This Topic To FaceBook
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 21-03-2018 16:38:14 โดย somane »

ออฟไลน์ kun

  • เป็ดAphrodite
  • *
  • กระทู้: 3592
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +122/-10
จิ้มๆๆๆๆก่อน อิอิ
รออ่าน

ออฟไลน์ ป่ามป๊ามป่ามปาม

  • เป็ดมหาวิทยาลัย
  • *
  • กระทู้: 482
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +12/-0
แอบรักเพื่อน??

ออฟไลน์ somane

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 35
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +5/-0
intro - 2



นั่งเล่นใต้ถุนอาคารกับน้องแมวได้สักพักรถสปอร์ตคันหรูสีแดงสดก็เคลื่อนเข้ามาจอดพร้อมกับคนขับที่มีร่มอยู่ในมือลงจากรถเดินมาหาผม

คิ้วเข้ม ผิวแทน สันกรามชัด ไม่รู้จะอธิบายสัณฐานยังไงเอาเป็นเป็นว่ามันสเปคสาวๆหนุ่มๆทุกคนแล้วกัน

“บอกแล้วไม่ฟัง” เดินมาถึงที่ผมยืนก็บ่นให้กันซะอย่างนั้น แต่ยังดีที่มันส่งร่มอีกคันให้ผม

“ครับพ่อครับ” ไม่อยากต่อล้อต่อเถียง ผมก็มีความผิดที่ไปขัดจังหวะสูงสุดของมันอยู่

 “วันนี้คนไหนวะ” ในวันฝนตกแบบนี้รถติดยาวผมเลยทำลายความเงียบโดยการถามคนข้างๆ

“นิเทศ”

“น้องหญิงหรอ”

“เออ งี่เง่าสัส”

“ไปขัดใจอะไรอีกละ”

“มารับมึงไง” เหมือนมันจะพูดให้ผมรู้สึกผิด

“ก็มึงบอกว่าเสร็จแล้ว”

“ถ้ากูไม่มาเดี๋ยวแม่งก็งอแง ยิ่งกว่าผู้หญิงอีกมึงอ่ะ แล้วเมื่อเช้ากูก็บอกว่าให้เอารถมาเองเป็นไงเสือกอยากหล่อเอามอไซค์มา กูว่าฝนมันน่าจะตกลงมาเลยไม่ต้องครึ้มหรอกมึงจะได้จำ” สาบานว่ามันเป็นแค่เพื่อนบ่นอย่างกับพ่อ

“กูเพื่อนมึงนะครับ บ่นชิบหาย”

“ยังไม่สำนึกอีกหรอ”

“ครับๆ พ่อครับ”

“ไอ้เชี่ยปาล์ม”

จ๊บ เรืยกแบบนี้ทีไรกวนตีนมันต่อไมได้ เดี๋ยวได้มีของแถมตามมา

“แดกข้าวไหม” มันถาม

“ไม่อะ ว่าจะลองทำทาร์ตแอบเปิ้ล” ผมเป็นคนชอบทำอาหารกับพวกขนมมากๆอาจเป็นเพราะที่บ้านเปิดร้านกาแฟชิวๆด้วยมั้ง “ชิมไหม” ผมยิ้ม

“เดี๋ยวดูก่อน”

“ไปเคลียร์กับหญิงละสิ”

“เปล่า รอมึงอ้อน”

“ปัญญาอ่อนละมึง ทำไมต้องอ้อนแดกไม่แดกกูไม่แคร์”

มันเป็นอย่างนี้ทุกทีสิน่า เวลาชวนไปชิมอาหารหรือขนมก็ชอบเล่นตัว

“เดี๋ยวไป จัดการเรื่องส่วนตัวก่อน”

“เออๆ อย่ารุนแรงละ ผู้หญิงต้องอ่อนโยน”

“ถ้าเป็นผู้ชายนี่จะทำอะไรก็ได้ใช่ป่ะ” มันยิ้มมุมปาก

“พูดไม่รู้เรื่องแล้วมึง” ผมพูดพร้อมผลักหัวมัน

“นิสัยอย่างมึง สงสัยชิบหายทำไมไม่มีแฟน”

“กูนิสัยดีละสิ ไม่ใช่ว่าไม่เคยมี แค่ตอนมาอยู่นี่แหละเพราะเบื่อวะเหมือนคบๆช่วงนี้เดี๋ยวเรียนจบก็ต้องแยกในความรู้สึกกูอะนะ เลยไม่อยากมี”

ไอ้ข้าวพยักหน้าไม่ออกความคิดเห็น

จริงๆ มันก็มีเหตุผลมากมายปนอยู่ด้วยอะนะ แต่ว่าตอนนี้ผมก็มีความสุขดี


ฝากเรื่องใหม่ด้วยน๊าาา
เรื่องนี้จะอัพตอนแรกวันอาทิตย์นะคะ
ขอบคุณที่ติดตามค่ะ

ปล.เรื่องเก่ายังไม่จบแต่ใจร้อน
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 21-02-2018 21:51:57 โดย somane »

ออฟไลน์ Januarysky

  • เป็ดมหาวิทยาลัย
  • *
  • กระทู้: 507
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +19/-0
บวกและเป็ดน้อยเป็นกำลังใจ
อยากอ่านๆๆๆ
เพื่อนจีบเพื่อน เค้าชอบบบบบบบบบบบบบบ
 :mew1: :mew1:

ออฟไลน์ shilyf

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 4
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +0/-0
 :katai2-1: :katai2-1:

รอคร้าาาา

ออฟไลน์ somane

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 35
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +5/-0
1


เช้านี้ไอ้ข้าวมันเมนส์มา

“กูโทรหามึงกี่ครั้ง ทำไมไม่รับ ทุบประตูกี่ที ทำไมไม่เปิด”

แค่คนไม่ได้เอาโทรศัพท์เข้าไปในห้องน้ำมันผิดมากไหม ปวดท้องรุนแรงจนออกมาเปิดประตูให้ไม่ได้ต้องโวยวายขนาดนี้และมึงโทรมา 20 สาย ทุบประตูห้องรัวยิ่งกว่ากลองชุด มึงบ้าไปแล้ว

“อย่าให้กูบอกแม่มึง”

นั่นไงว่าละต้องเอาแม่มาขู่ ไม่น่าพามันไปบ้าน

“กินข้าวเช้าไหม”

เห้ยยย เหนื่อย กูปรับอารมณ์ตามมึงไม่ทันเว้ย

“ทันที่ไหนละ”

“จำไว้ว่าไปไหนให้เอาโทรศัพท์ติดตัวไปด้วย”

นั่น ร่างพ่อกลับมาอีกแล้ว

ผมได้แต่เบะปากใส่มันอย่ามั่นไส้แล้วเดินไปขึ้นคร่อมรถตัวเอง

“ไปกับกูเลย” มันเดินมาใกล้ๆพูดใส่แล้วทำตาขวาง

ของเข้าหรือไง

“ไม่ๆ วันนี้จะเอาเล่มไปให้อาจารย์ตรวจ”

ฝนมันคงไม่ตกหรอกมั้งพึ่งตกไปเมื่อวันก่อนเอง

“ถ้าโทรตามให้กูไปรับ กูจะเอามีดกรีดยางรถมึง”

ดูปากมันสิ  ถ้าไม่เห็นว่ามันเคยเป็นที่พึ่งพายามยากละก็รับรองว่าล้อลูกรักของมันจะไม่ได้ประดับที่เดิมแน่

“ไอ้เลว พอ กูจะไม่ทันแล้ว เจอกันที่ม.” พูดจบผมก็ใส่หมวกกันน็อคแล้วสตาร์ทรถบิดสองสามทีพอเร่งเครื่องแล้วออกตัว โดยไม่สนใจเพื่อนหน้าหงิกที่ยืนอยู่


============


สมพรปากไอ้ข้าว ไอ้เพื่อนเลวมันเล่นของใช่ไหม

ฝนตก ตกหนักด้วยน้ำท่วมจนท่อระบายไม่ทันเลย

ผมโทรไปหาให้มันมารับ ได้ยินแต่เสียง หึ ตอบกลับมาแล้ววางสายไป ไม่รู้ว่ามันจะมารับไหม แต่ก็นั่งรอมาครึ่งชั่วโมงแล้ว

เบื่ออะ ฝนตก เลยหยิบโทรศัพท์ขึ้นมาเล่นไอจี อัพสตอรี่ฝนตกพร้อมแคปชั่นว่า อยากขับเจ็ทสกีในมอ

อัพเสร็จก็วาร์ปเข้าไปเล่นเฟสบุ๊คที่นานๆทีจะเข้าไปไถ ส่วนใหญ่หมกอยู่แต่ไอจีนี่แหละ

ครืด

ไอ้เพื่อนรักตอบกลับมาในสตอรี่ไอจี

Rizze : น้ำท่วมม.กูขับรถไปไม่ได้

ผมยิ้มมุมปากแล้วกดรูปหัวใจส่งให้มัน

มันก็เป็นอย่างเนี่ย ชอบว่าชอบบ่น สุดท้ายก็ยอมทำตามที่ขอทุกอย่าง

เห้ยยย เพื่อนรักจริงๆ

Rizze : ตอบกูด้วยครับจะตรัสรู้ไหมว่ามึงคิดอะไร ส่งแต่หัวใจมา

ทำเป็นเข้ม

Paaram : รออยู่ใต้ตึกเนี่ย ไม่เป็นไรฝนซา เดี๋ยวกูขับกลับเอง

บางทีมันก็ตามใจผมจนต้องเกรงใจบ้างอ่ะ

Rizze : ห้ามไปไหน ถ้าเกิดกูไปแล้วไม่เจอจะกรีดล้อมึงจริงๆด้วย

สวัสดีครับพ่อไม่เจอกันนานเลยนะ ถุยย ขู่เก่งชิบหาย

Paaram : เดี๋ยวนั่งเล่นกับเขี้ยวรอ

หมายถึงแมวที่ตึกนี่แหละครับ ตอนตอบไอ้ข้าวอยู่ตาเหล่ไปเห็นมันนั่งเลียขนอยู่ใต้เก้าอี้ข้างๆพอดี

ไอ้อ่านแล้วก็ส่งหัวใจกลับมา ผมเลยเก็บโทรศัพท์

เดินตรงเข้าไปนั่งเล่นกับไอ้เขี้ยวแมวสีดำสนิทแต่ตากลมโตสีเหลืองสวยน่ารักชิบหาย


=============


ผมว่าวันนี้คงไม่ได้กลับห้อง นั่งเล่นกับเขี้ยวจนมันรำคาญแล้วกลับมานั่งไถโทรศัพท์รอฝนหยุดมันก็ยังไม่หยุดตกแต่ยังดีที่มันเม็ดฝนไม่ใหญ่แล้ว

ยอมตัวเปียกก็ได้

หลังจากที่ยืนทำใจว่าจะตากฝนกลับแสงไฟรถก็สาดเข้าที่ตาเต็มๆ

ไอ้เชี่ย เปิดไฟสูงมาเชียว

ที่ด่าได้เนี่ยเพราะเจ้าของรถมันก็คือไอ้ข้าวนั่นแหละ

“น้ำแม่งขึ้นล้อเลย ทำไมปล่อยให้ท่อตันวะ” เดินลงจากรถมาหาผมพร้อมร่มในมือแต่ไม่ลืมที่จะบ่น

นี่ผมกลัวมันจะตายก่อนวัยนะ บ่นอยู่นั่นแหละบ่นไปแม่งทุกเรื่อง

“กูกะจะขับตากฝนกลับละ”

“ก็บอกให้รอก็รอสิวะ ถ้าไม่ให้รอเดี๋ยวโทรบอกเอง” แล้วจะทำหน้านิ่วคิ้วขมวดเสียงหงุดหงิดทำไม

“ครับๆ” ผมไม่ชอบเถียงใคร ตามๆเขาไปนั่นแหละ

“ขึ้นรถได้แล้ว”

ไม่พูดเปล่ามันเอื้อมมือมาฉวยเอากระเป๋าเป้ผมไปถือ

“ไม่ๆ ถือเอง”

“หือ กระเป๋าโคตรหนัก ตัวแคะขนาดนี้ทำเก่ง เอามา” ด่าผมอีกแล้วสุดท้ายมันก็ขโมยไปถือ เออตามใจมึง ถือให้แขนหักไปเลย อยากเป็นสุภาพบุรุษจนลืมไปเลยว่ากูก็เป็นผู้ชาย สูงแค่ 181 ทำข่ม ห่างกันแค่ 3 เซน เหอะ

 

“ไปกินปิ้งย่างกัน” ผมชวนเจ้าของรถที่นั่งอยู่

นี่ก็จะสองทุ่มแล้ว รถก็ติดน้ำย่อยในกระเพาะเริ่มทำงาน

“ไม่ล่ะ เหม็น”

“เอากูไปทิ้งไว้ที่ห้างใกล้ๆก็ได้”

“จะไปคนเดียว?”

“ใช่”

ไม่ง้อหรอกเว้ย

“ไม่คิดจะอ้อนกูอีกหน่อยหรือไง”

อ้อนหรอ คำนั้นมันเหมาะใช้กับผู้หญิงมากกว่านะ

“ไม่อยากขัดใจเพื่อน”

“แต่ที่มึงไม่อ้อนกูคือการขัดใจ”

ผมกรอกตาไปมาอย่างเซ็ง

เออ ผมมันพูดอะไรทำอะไรก็ผิดไปหมดละน่า

“ไปกินปิ้งย่างกันนะกูไม่มีเพื่อน”

“ไปก็ได้ สงสารลูกแมว” ไม่พูดเปล่ายังเอามือมาขยี้หัวผมเล่นอีก

ลูกแมวบ้านพ่อคุณข้าวสิครับ แล้วก็ชอบเล่นหัวอยู่เรื่อยเสียทรงหมด

“ผมยาวแล้ว” มันว่าขณะที่มือยังไม่ยอมปล่อยจากเส้นผมของผม

“ว่าจะไว้ยาว” แต่ไม่ถึงยาวกับมัดได้หรอก

“แล้วแต่ ถ้ามึงบ่นเจอกูบ่นกลับยิ่งกว่า”

ผมเบะปากใส่มันอย่าหมั่นไส้

ชอบทำตัวเหมือนพ่อจริงๆนะ ดีนะที่พ่อแท้ๆยังอยู่ไม่อย่างนั้นมันคงเข้ายึดครองละ


=============


“เอาแซลมอล 3 สามชั้น 5 เนื้อวัว 5 อืม...หอยแมลงภู่ 3 เอา…”

“เอาข้าวโพด 1 เห็ด 4 ดอกกระเจี๊ยบ 3 ผักสลัด 1 ตะกร้าครับ”

“เชี่ยข้าวกูยังสั่งไม่เสร็จเลยเว้ย”

“พอแล้ว มึงสั่งแต่ของไม่มีประโยชน์ แดกผักนี่”

ความที่มันขัดใจผมทำให้พนักงานรับออเดอร์ยกเครื่องจดปิดปากตัวเองแล้วยิ้ม มันทำผมอับอาย แค่ไม่ชอบกินผักมันผิดด้วยหรอ

แต่คิดว่าจะยอมแพ้หรือไง

“พี่ครับเอา…”

“น้ำเปล่า 1 น้ำแข็ง 2 แก้ว ครับ”

ผมก็อ้าปากค้างสิ ไอ้ข้าวรู้ไหมว่าเวลากินปิ้งย่างหรือชาบูอะไรก็ได้ที่เป็นบุฟเฟ่ต์กับผมห้ามขัดใจเด็ดขาด

...จากไปแล้ว พี่ที่รับออเดอร์เดินจากไปแล้วเหลือแต่รอยยิ้มกวนประสาทของคนตรงหน้า

“เอ้า หน้าบึ้งเลย ไม่พอเดี๋ยวสั่งใหม่ได้น่า มึงสั่งมาเหมือนจะเอาไปสร้างบ้านถ้ากินไม่หมดเสียดายของ”

ไม่ เรื่องกินสำคัญสำหรับผมมาก โดนขัดใจแล้วจะหงุดหงิดและตอนนี้ก็เริ่มมีมู้ดแล้วด้วย ถ้ายังไม่หยุดหัวเราะจนตาตี่ๆของมันปิดสนิทพร้อมกับรอยยิ้มกว้างจนเห็นฟันทุกซี่

ไม่น่าๆ ไม่น่าชวนมัน

รอไม่นานออเดอร์ที่สั่งไปทุกอย่างก็มาเสิร์ฟ ผมยิ้มแล้วแกะซองตะเกียบเตรียมลงมือรับน้องๆลงท้อง

ฮือ น้องๆวันนี้ถ้าใครขัดใจพี่จะกินน้องๆไม่อั้นประชดมัน

“กินผักซะบ้างจะได้โต”

ยังมีหน้ามาคีบเห็ดใส่จานกันอีก ผมเลยคีบเห็ดนั่นไปไว้ข้างๆจาน

“กิน” คำพูดสั้นๆแต่มีการบังคับอยู่ในที

ผมเหลือบตามองไอ้คนสั่งก่อนจะจำใจคีบเห็ดย่างเข้าปาก

แต่ก็นั่นแหละไอ้ข้าวน่าจะรู้ตัวว่าผมไม่ค่อยชอบกินผัก มันก็เลยจัดการของที่มันสั่งมาส่วนเห็ดชิ้นนั้นเลยเป็นชิ้นเดียวที่ผมกินเพราะที่เหลือจนหมดเวลากินผมทุ่มเทให้กับแซลมอลและเนื้อวัวย่างจนหมดไปหลายถาดและยังหมดไปหลายร้อย แต่โชคดีวันนี้พ่อเลี้ยง

ขอบคุณคร้าบบบ พ่อข้าว

 
TBC....

มาแล้ววๆๆๆๆ
อย่าขัดใจคุณปาล์ม ในเรื่องกินเด็ดขาด
ฝากเรื่องที่ 2 ของเรา ด้วยน๊า
ขอบคุณที่ติดตามคร้า
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 25-02-2018 14:39:59 โดย somane »

ออฟไลน์ somane

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 35
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +5/-0
2


 
เช้านี้ไอ้ข้าวเป็นหมา

“นี่ ทะเลาะกับน้องหญิงหรอ” คอตกเลยเพื่อนผม

ถึงไอ้ข้าวจะชอบเที่ยวหญิงแต่เห็นมีคนเนี่ย มันคบด้วยสองอาทิตย์กว่าแล้ว

“ใช่”

“เรื่อง”

“งี่เง่า”

“เพราะเขารักมึงมากๆไงแล้วมึงก็รักเขามากๆด้วย”

“ก็อาจจะใช่”

ตลอดสองอาทิตย์ไอ้ข้าวเอาแต่เพ้อถึงน้องหญิง ขาดกันไม่ได้แถมเดี๋ยวนี้ยังกล้าทิ้งผม กล้าปฏิเสธกันแล้ว

มันก็ดีนะที่รักแฟนแต่มันก็น่าน้อยใจที่บางทีก็ทิ้งกัน

“ไปขอโทษสิ”

“ให้กูขอโทษเรื่องอะไร”

“เอ้า ไอ้นี่ มึงทำให้เขางี่เง่าเรื่องอะไรมึงก็ไปคุยกับเขาสิวะ”

ผมไม่รู้หรอกว่าปัญหาที่ทำให้ทะเลาะกันคืออะไร ควรจะรีบคุยกันให้รู้เรื่องดีกว่าปล่อยให้ค้างคามาหลายวันจนสะสม

“รู้ดี”

เหอะ บอกมันยังไงก็ไม่เคยจะฟังแถมยังมาอวดเก่งใส่อีกนะ

“เดี๋ยวตบคว่ำ ถ้าหงอยมาอีก กูจะเอาอาหารหมายัดใส่ปากมึง”

“เออ เดี๋ยวกูไปเคลียร์กับหญิงก่อน”

“…”

“กูว่าคนนี้กูจริงจังวะ”

“อยากจะมีรักกับเขานานๆบ้าง”

“อืม…”

“…”

“ขอให้สมหวัง… แต่อย่าลืมกูแล้วกัน”

ไอ้ข้าวพยักหน้ารับรู้ ผมตบบ่าให้กำลังใจก่อนที่มันจะเดินออกจากห้องผมไป

ผมไม่รู้หรอกว่าความรู้สึกที่มีให้ไอ้ข้าวมันคืออะไรแต่ผมรู้ตัวอีกที ก็ไม่อยากให้มันหายไปไหนแล้ว

ในเมื่อมันจะลองมีความรักที่จริงจัง เพื่อนที่อยู่กับมันมานานตั้งแต่เข้าเรียนมหาลัยอย่างผมก็หวังได้แค่จะไม่ลืมกันก็เท่านั้น

 
============

 

“ฮิ้ววว สามวันก่อนอย่างกับหมาหงอย”  ไอ้แพงเพื่อนสนิทอีกคนที่พึ่งกลับมาจากญี่ปุ่นแซวไอ้ข้าวกับแฟนมันที่พากันควงแขนเดินเข้ามาในร้านสังสรรค์ประจำของพวกเรา

ผมเหลือบตาไปมองคู่มาใหม่ก่อนจะเทเหล้าครึ่งแก้วผสมกับโซดาคนให้เข้ากันแล้วกระดกลงคอรวดเดียว โดยไม่ใส่ใจว่าทั้งคู่นั้นจะนั่งลงตรงไหนของโต๊ะ

ผมออกจากความรู้สึกนี้ไม่ได้ มันเหมือนจะยินดีแต่ทุกครั้งที่เห็นผมอึดอัด

“ใจเย็นๆ ไอ้ปาล์มจะรีบเผาหัวไปไหน” ไอ้พายเพื่อนสนิทอีกคนที่เป็นฝาแฝดของไอ้แพงพูดขึ้น

“ไม่เมาหรอก” ไม่เมาจริงๆนะ ผมชำนาญมากในเรื่องนี้

“เออๆ ค่อยๆกินอย่ารีบไม่เจอกันนานพวกกูมีเรื่องเม้าท์เพียบ”

ผมพยักหน้าส่งๆให้ไอ้พาย และก็ชงเหล้าแก้วต่อไป

หมับ

“มึงเป็นอะไรหรือเปล่า” ไอ้ข้าวเอือมมือมาจับข้อมือผมไว้แน่นไม่ให้เทเหล้าลงแก้ว

ผมชะงักแล้วหันไปมองหน้ามัน

สายตาห่วงใยอีกแล้ว ผมไม่อยากเห็นเลยวะ ถ้าเป็นห่วงแล้วทำไมมันทิ้งผมวะ

“ไม่ๆ พึ่งส่งเล่มอาจารย์ผ่านเลยดีใจ” ข้อแก้ตัวก็งั้นๆ ผมหลบสายตามันแล้วเปลี่ยนถือขวดเหล้าด้วยมืออีกข้างที่ว่างแต่ก็ไม่พ้นโดนมือไอ้ข้าวตามมายึดไว้

“อะไรของมึงวะ!”ผมเสียงดัง

จะยุ่งอะไรนักหนา

“เฮ้ยๆ ใจเย็นๆไอ้ปาล์มมึงเมาแล้วหรอ” ไอ้แพงตกใจจนต้องรีบดึงมือไอ้ข้าวออกจากข้อมือผม

“อย่ามายุ่ง” ผมยังคงโวยไม่เลิกส่วนไอ้ข้างจ้องหน้าผมเขม็ง

คงจะงงละมั้งว่าทำไมถึงต้องเสียงดังใส่กัน

“มึงเสียงดังรู้ตัวไหม” ไอ้ข้าวถามเสียงเย็น

“รู้ แต่ไม่ต้องมายุ่งแค่นี้กูไม่เมาเข้าใจไหม”

“พี่ปาล์มคะ ใจเย็นเย็นๆ…”

ปึง

“หุบปากไปเลย อย่ามายุ่ง!” ผมวางขวดเหล้าลงบนโต๊ะดังลั่นจนคนทั้งร้านหันมามองแล้วชี้หน้าของน้องหญิงก่อนจะตะคอกใส่จนน้องหญิงน้ำตาคลอ

“ไอ้ปาล์มมึงเป็นห่าอะไร มาตะคอกใส่หญิงทำไมน้องแค่หวังดี” เป็นไอ้ข้าวที่ออกรับแทน

“ทั้งมึงและแฟนของมึงฟังไม่รู้เรื่องไง อย่ามายุ่ง”

ผมไม่รู้ผมจัดการอารมณ์ตัวเองไม่ต้องยิ่งเห็นไอ้ข้าวกอดแฟนของมันใจของผมเหมือนถูกบีบจนจะแตกอยู่แล้ว ทั้งๆที่เมื่อก่อนมันตามใจผมจะตายมันเข้าข้างผมทุกอย่าง

ตอนนี้ผมแยกแยะอะไรไม่ออกอีกแล้ว

ผมมองภาพตรงหน้าก่อนจะลุกออกจากโต๊ะไป เปิดปิดประตูหลังร้านด้วยแรงอารมณ์ก่อนจะเตะขวดน้ำให้ปลิวระบายในอารมณ์ตอนนี้

“สงบสติอารมณ์ก่อนไอ้ปาล์มมึงเป็นห่าอะไรวะ”

ไอ้พายตามออกมาแล้วเดินมานั่งข้างๆแล้วกอดคอผม

“กูไม่รู้ กูไม่ชอบ”

นอกจากไอ้ข้าว ก็มาไอ้พายนี่แหละที่สนิทกับผมที่สุด

“ไม่ชอบอะไร”

“ไม่ชอบไอ้ข้าว”

“…”

“ไม่ชอบน้องหญิงด้วย…ไม่ชอบแม่งทั้งคู่เลย”

แหมะ

ไม่ แค่นี้ทำไมน้ำตาผมต้องไหลด้วยวะ

“มึงขาดไอ้ข้าวไม่ได้ไง มึงอาจจะชอบมันไปแล้ว”

“กูไม่ได้ชอบมัน” ไม่ได้ชอบจริงๆ ผมรู้ตัวเองดี และเป็นคนยอมรับความรู้สึกตัวเองเสมอ

“เพราะความตามใจ ช่วยเหลือ และเข้าข้างมึงมาตลอดมันจะห้ามมีความรู้สึกดีๆไม่ได้หรอก”

“กูอาจจะแค่ติด ไม่ได้รักมัน กูแค่...น้อยใจ”

ผมคิดแบบนั้นจริงๆ ถ้าผมหายไปมันก็อาจจะแค่เป็นห่วง

“คิดดูดีๆ”

แต่ถ้ามันพาคนที่มันตั้งใจจะจริงจังด้วยมาแนะนำ ผมอาจจะไม่เป็นคนสำคัญสำหรับมันอีก

 

“พี่ขอโทษ” ผมเดินกลับมาที่โต๊ะอีกครั้งหลังจากไปสงบสติข้างนอกกับไอ้พาย

แล้วพูดขอโทษกับน้องหญิง

“ฮึก ไม่เป็นไรค่ะ” ยังไม่เลิกร้องไห้อีกหรอวะ

“ทีหลังจะทำอะไร คิดซะบ้างแยกแยะด้วยระหว่างเป็นห่วงกับเสือก”

ไอ้ข้าวพูดขึ้นมาเสียงเรียบและยังคงส่งสายตาไม่พอใจ

“กูขอโทษ” ผมบอกกับมันก่อนจะหมุนตัวเดินออกไปจากโต๊ะ

ผมจะกลับ อยู่ต่อก็ไม่สนุก

“เฮ้ย ไปไหนไอ้ปาล์ม” ไอ้แพงตะโกนตาม

“กลับ กูง่วง” ข้ออ้างปัญญาอ่อนอีกแล้ว

 

================

 

นับจากวันไอ้ข้าวก็ห่างจากผมไปเรื่อยๆ ทั้งๆที่อยู่ข้างห้องกันแต่ไม่เห็นวี่แววมันเลย อาจจะเป็นเพราะเหตุการณ์วันนั้นหรือติดแฟนหนัก ด้วยหรือเปล่าไม่รู้ ผมนอนถอนหายใจอยู่บนเตียง

แค่ผมจัดการอารมณ์ของตัวเองไม่ได้ถึงกลับทำให้มันเริ่มหายจากกิจวัตรของตัวเองเลยหรอ

ขอโทษไปแล้วนะเว้ย สำนึกผิดแล้วด้วย ทักไปขอโทษซ้ำแล้วก็ด้วย

“โว้ยย เอาใจยากชิบหาย”

เซ็ง เบื่อด้วย ออกไปหาไรทำดีกว่า

คิดได้ก็เด้งตัวออกจากเตียงหยิบกระเป๋าสตางค์กุญแจรถยนต์และกระเป๋ากล้องถ่ายรูป

สิ่งที่ช่วยระบายอารมณ์เบื่อของผมที่ดีที่สุดคือการถ่ายรูป

ช่วงนี้ไม่ต้องส่งเล่มอาจารย์มันว่างมากนักก็ไป อัมพวาแล้วกัน

ระหว่างลงลิฟต์ก็หยิบโทรศัพท์ขึ้นมาอัพสตอรี่อินสตราแกรม โดยการถ่ายแบบบูมเมอแรงที่ปลายรองเท้าตัวเอง แต่ไม่มีแคปชั่น ถ่ายเสร็จกดอัพเลย

รอไม่กี่อึดใจลิฟต์ก็เปิดออกถึงชั้นล่าง

ครืด ครืด

ผมหยิบโทรศัพท์ออกมาดูว่าใครโทรมา

พี่พิศ พี่รหัสผมเอง ชื่อเหมือนผู้หญิงนะแต่มันเป็นผู้ชายครับ มีเมีย เมียที่เป็นผู้ชายเหมือนกันอีก

“นึกยังไงโทรหาครับ” ส่งเสียงกวนตีนไป

(นึกอยากให้ช่วยงาน)

นึกถึงงานก็นึกถึงน้องรหัส คติพี่รหัสที่มีให้ผม

“เอาดิ กำลังเบื่อ”

(เห้ย เบื่อแบบนี้งานกูจะพังไหม)

“ไม่แน่” ผมแกล้งแหย่

(เอ้าๆ งานง่ายๆ มึงไปถ่ายรูปให้กูหน่อย)

“รูปไร รูปโป๊เซย์โน”

(ไม่กวนตีนพี่รหัสสักครั้งจะดิ้นหรอครับ)

ผมยิ้มอารมณ์ดีนิดๆ “ก็คิดถึงไง”

(ตอแหล สรุปจะทำให้ใช่ไหม ยังใช้ไลน์เดิมอยู่ป่ะ)

“ใช้ครับ จัดมาเลย”

( เดี๋ยวส่งข้อมูลให้ แต่บอกไว้ก่อนว่างานนี้เกี่ยวกับคน)

“นั่นไงรูปโป๊แน่ๆ”

(ไม่ใช่โว้ย ไอ้น้องเวรหมกมุ่นไรหนักหนามึงเนี่ย)

“ฮ่าๆๆ ครับๆจัดมาเลย มีทิปป่ะ”

(มีอยู่น่า มึงนี่งกชิบหายบ้านก็รวยกว่ากู รายละเอียดเดี๋ยวส่งให้ดู มีไรก็โทรหาหรือไม่ก็ทักมาก็ได้ แค่นี้นะทำงานก่อน)

“ครับๆ”

ติ๊ด

ตลอด เรียนจบไปแล้วก็ยังจะโทรมาขอความช่วยเหลือแบบลวกๆแล้ววางสายไป สมควรช่วยไหมเนี่ยพี่รหัสใคร

ผมส่ายหัวแล้วเก็บโทรศัพท์ลงกระเป๋ากางเกงก่อนจะเดินไปลานจอดรถ และขับรถตรงไปอัมพวาทันที ค้างสักคืนก็น่าจะดีเผื่อจะช่วยลดเรื่องน่าเบื่อลงได้บ้าง

 


TBC...
ไม่ให้นังข้าวเป็นพระเอกหรอก 555
ขอบคุณที่ติดตามคร้าาาาาาาาา

ออฟไลน์ somane

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 35
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +5/-0
3

 

ตอนนี้ผมยืนอยู่หน้าสตูดิโอคณะสถาปัตย์

งานที่พี่พิศขอให้ช่วยคือเป็นเบ้ให้เด็กสถาปัตย์

ไหนว่าถ่ายรูปไง กลายเป็นว่าต้องมาช่วยถือของให้ผู้ชายหน้าหล่อผิวขาวจัดหุ่นกำลังดีและเส้นผมสวยถูกมวยขึ้นไว้กลางหัวโดยมีดินสอสองบีปักไว้ที่มวยผมนั่น

โคตรติสท์เลย

แต่ไม่เข้าใจอยู่อย่าง พี่พิศไปสนิทกับเด็กสถาปัตย์ตอนไหน ตอนที่เรียนอยู่ก็เหมือนมีแต่จะไปหาเรื่องเขา

“ชื่ออะไร”

หุ้ย พูดได้วะ เดินตามมาตั้งนานไม่เห็นจะปริปาก ตอนที่บอกว่าพี่พิศส่งมาช่วยก็แค่พยักหน้าเข้าใจแล้วโยนอุปกรณ์ถ่ายรูปมาให้กันถือ

“ปาล์ม”

“อืม”

แค่นั้น ไม่คิดจะแนะนำชื่อตัวเองหน่อยหรือไงวะ เดาไม่ได้เลยว่าเป็นเพื่อนรุ่น รุ่นน้องหรือรุ่นพี่ หน้าโคตรเด็ก

“แล้วนายชื่ออะไร” ถามเองก็ได้วะ

“คีม”

“ห๊ะ คี” กวนตีนมันครับ อยากหยิ่งดีนัก

“คีม”

“อ่อ คีโมไหม”

ผมยิ้มกวนบาทาให้แต่มันคงไม่เห็นหรอกเพราะเดินนำหน้าผมอยู่

“กูเป็นพี่มึง ชื่อคีม ไม่ใช่คีโมชื่อปัญญาอ่อนนั่น” สายตาที่บ่งบอกว่าไม่เล่นด้วยส่งให้พร้อมกับน้ำเสียงติดจะหงุดหงิด

นี่สรุปพี่พิศส่งผมให้ช่วยคนหรือรูปปั้นวะ

“ขอโทษครับ แล้วเราจะไปถ่ายรูปที่ไหนหรอ”

“ดาวเดือน”

ถามว่าที่ไหน ไม่ได้ถามว่าใครโว้ย

แต่เดี๋ยวนะ ถ่ายรูปดาวเดือนอย่างนั้นหรอ

“ทุกคณะป่ะพี่”

“อืม”

แสดงว่าผมก็ต้องเจอน้องหญิงและดีไม่ดีอาจจะเจอไอ้ข้าว พอนึกว่าผมต้องเจอมันจะคุยอะไรดีวะ

 

ไม่ต้องถามพี่คีมผมก็ได้คำตอบละว่ามาถ่ายที่ไหน ที่คณะผมไง สตูดิโอที่สถาปัตย์ยืมไว้ คณะบริหารเนี่ย

ไม่เข้าใจทำไมพี่แกไม่ขับรถมา จะเดินให้เหงื่อท่วมทำไม

พูดดดดด

“ด่าอะไรกู”

เออ รู้ด้วย

“ทำไมไม่ขับรถมา”

“อ่อน”

“ว่าไงนะ จะหาเรื่องกันหรอพูดแบบนี้”

ลูกผู้ชายถูกพูดแบบนี้ใส่ก็หาเมียไม่ได้สิครับ

“ไปตั้งอุปกรณ์ได้แล้ว รำคาญ ไอ้พิศส่งตัวอะไรมาช่วยกูวะ”

อึ้งไปเลย นอกจากจะไม่สนใจที่พูดแล้วยังมาไล่กันอีก ผมสิต้องถามพี่พิศว่าให้มาช่วยตัวอะไร

ในขณะที่กำลังเซทสถานที่ถ่ายรูปทั้งๆที่ยังไม่รู้คอนเซ็ปงาน บรรดาดาวเดือนคณะต่างๆก็พากันเข้าออกประตูสตูดิโอกันเป็นว่าเล่นแต่ยังไม่มีวี่แววของคนที่ผมเฝ้ารอ

รอหรอ ไอ้ข้าวมันไม่ได้เป็นเดือนนี่จะรออะไรวะ

“พี่คีม”

ผมเดินมาเรียกพี่แกที่กำลังอ่านใบอะไรสักอย่างในมือหลังจากที่ผมเซทอุปกรณ์ถ่ายรูปเสร็จแล้ว

พี่คีมเปรยตามองผมนิดหน่อยประมาณว่ามีอะไร ก่อนจะหันกลับไปอ่านใบกระดาษนั่นเหมือนเดิม

เออ เว้ยผมปาล์มนะครับไม่ใช่ เจน ญาณทิพย์ จะได้รู้ว่าพี่คิดอะไรอยู่

“งานผมเรียบร้อยแล้ว มีอะไรให้ทำอีกไหม”

“กล้องมึงอยู่ไหน”

“ห๊ะ”

“น้องไอ้พิศมันเอ๋อหรอวะถึงชอบให้พูดอะไรซ้ำๆ”

อ้าว ผิดเฉย

ก็ไม่เข้าใจอะจู่ๆก็มาถามหากล้องกัน

“อยู่ที่รถ พี่ถามหาทำไม”

พี่คีมขมวดคิ้วยุ่ง “แล้วทำไมมึงไม่พกมา ไอ้พิศไม่ได้บอกหรือไงว่ามึงต้องถ่ายรูปหรือมันส่งรายละเอียดไม่ครบ” นั่นพูดประโยคๆเป็นด้วยเว้ย แต่นั่นไม่ใช่ประเด็น

“พี่พิศบอก แต่ผมไม่เห็นพี่ทวงอีกรอบเลย…”

“ต้องให้เขาบอกเขาสอนตลอดหรือไง เขาว่ายังไงก็ทำแบบนั้นไม่ใช่ต้องมารอให้บอกซ้ำแล้วพลาดมาใครถูกด่า มึงไง”

จุก จุกเลย เหมือนเจอพ่อคนที่สอง

พูดไม่ออกเถียงไม่ได้เลยครับ

“ถ้าไม่ใช้กล้องตัวเองมึงจะชินมือไหม งานมันจะมีปัญหาทีหลังอย่างน้อยใช้ของที่ตัวเองชินก็ยังป้องกันข้อผิดพลาดได้บ้าง ต้องมาเสียเวลาปรับกล้องใหม่ใช่เรื่องไหม สมองมีก็คิดสิวะ”

โอ้ย ไม่ไหวแล้ว เจ็บ แต่ละคำเจ็บมาก

“พี่ปาล์ม” เสียงผู้หญิงที่ไหนไม่รู้เรียกชื่อผม แต่มันเป็นเสียงสวรรค์มากๆที่รั้งไม่ให้พี่คีมสวดผมเยอะกว่านี้

นี่เลยหันไปมองตามเสียง

น้องหญิง

และข้างหลังกันนั้นคือเพื่อนรักที่ไม่ได้เจอหน้ากันมาหลายวัน

สายตาของมันมองมาที่ผมแวบเดียวก่อนที่จะเดินแยกออกไป

“ครับ” ผมหันไปตอบรับน้องหญิง

“ไม่เจอกันนานเลยนะค่ะ อ้าว พี่คีมสวัสดีค่ะ”

นอกจากจะทักผมแล้วยังทักพี่คีมที่ยืนทำหน้ายักษ์อยู่ข้างหลังผมด้วย

“พี่ปาล์มมาทำอะไรหรอค่ะ”

“ไอ้ปาล์มไปเซทกล้อง” นอกจากพี่แกจะไม่ตอบรับคำทักทายของน้องหญิงแล้วยังบอกเสียงเย็นใส่ผมอีกต่างหาก

“อ่า พี่ขอตัวก่อนนะครับ”

ผมบอกลาให้น้องหญิงก่อนที่จะแยกตัวออกไปทำตามที่พี่คีมบอก

ระหว่างทางที่เดินไปเซทกล้องจะผ่านห้องนั่งเล่นผมเห็นไอ้ข้าวนั่งเล่นโทรศัพท์อยู่ในนั้น

สองขาของผมหยุดก้าวเดินอยู่ที่หน้าประตูกำลังตัดสินใจว่าจะเข้าไปคุยกับมันดีไหม คิดทบทวนอีกทีผมต้องไปง้อมันหรอวะ ขอโทษก็พูดไปแล้ว เรื่องแค่นี้มันต้องเรื่องใหญ่เลยหรอวะถึงกับไม่คุยกันเลยหรือยังไง

เห้ยย ไม่เอาหรอกเรื่องแค่นี้มันยังโกรธก็งี่เง่ามากๆ

คิดได้แบบนั้นเลยหมุนตัวจะเดินไปเซทกล้องต่อแต่ประตูห้องนั่งเล่นถูกเปิดออกโดยฝีมือคนที่นั่งอยู่ข้างใน

ไอ้ข้าว เปิดประตูออกมาแล้วก้าวเท้ามาหาผม

“ยืนจ้องกูทำไม” มันถามเสียงเรียบ

“เปล่ากำลังนึกว่าจะทำอะไรต่อ”

“โกหกไม่เนียน”

เออ ไม่เคยโกหกเนียนหรอก

“กูไปทำงานก่อนละ”

“จะพูดอะไรก็พูดมารอฟังอยู่”

โห โคตรวางมาดคิดว่าใครจะไปง้อกัน หลงตัวเองชะมัด

“ไม่มี”

“แน่ใจ”

“เออ” ผมกอดอกตอบอย่างหนักแน่น

“งั้นก็ไม่ต้องมาให้เห็นหน้า”

ผมตาโตอ้าปากค้างไม่รู้จะพูดอะไรต่อ นี่มันจะตัดเพื่อนกับผมเพราะเรื่องปัญญาอ่อนจริงดิ

“เดี๋ยว กูขอโทษ”

เห็นว่าคบกันมานานหรอกนะ จะมาแตกเพราะเรื่องแบบนี้มันไม่ใช่

“…” มันไม่ตอบแต่เลิกคิ้วเป็นเชิงว่าจะพูดอะไรก็พูดมาให้หมดทีเดียว

หมั่นไส้ท่ามันจัง

“ตอนนั้นกูเมาและน้อยใจไง มึงไม่ตามใจกูแต่กูงี่เง่าเองแหละรู้อยู่ว่าแฟนมึงต้องมาก่อนแต่มึงเข้าใจไหมว่ามันเป็นความเคยชิน มึงทำให้กูเคยตัว”

ผมไม่สบตามันหลอก สู้หน้าไม่ไหวกับความรู้สึกแบบนี้สู้ไม่ไหวจริงๆ

เป็นผู้ชายแต่เสือกขี้น้อยใจเป็นหญิง ไอ้ปาล์ม เอ้ย

“โธ่เอ้ย ไอ้ลูกแมว” ไอ้ข้าวคลียิ้มกว้างแล้วเดินเข้าใกล้ๆก่อนจะขยี้หัวผม

“ลูกแมวอะไรของมึง” งงเลยครับจากอารมณ์มัวๆ ตอนนี้ดูกระจ่างขึ้นเฉย

“มึงไง เหมือนลูกแมวเวลาเจ้าของไม่เล่นด้วยแล้วหงอย”

“เอามืออกไปเลย” ยังจะขยี้ผม ไม่เลิกอีกนะ

แล้วมงลูกแมวอะไร มึงไม่ใช่เจ้าของกูเว้ย

“น่ะๆ อย่ามาแง้วๆใส่นะมีความผิดอยู่”

“เออ” แง้วๆเชี่ยไร เห็นกูเป็นผู้ชายอยู่ป่ะ

“ที่จริงกูไม่โกรธมึงหลอกแค่ดัดนิสัย แต่มันก็ใช้ได้นะหลายวันมานี่ได้เห็นแมวหงอย น่าสงสาร”

“ไอ้เลว มีความสุขมากงั้นสิ” กลายเป็นฉุนกึกเลย มาดัดนิสัยอะไรกันวะเล่นกับความรู้สึกคนไม่สนุกนะ

“เห้ยๆ ไม่โกรธนะ ขอโทษๆที่เล่นแรงไปหน่อยกูรู้ว่ามึงติดกูแต่ไม่คิดว่าจะเป็นหนักขนาดนี้ เอ้า เดี๋ยวพาไปเลี้ยง”

ไอ้ข้าวไอ้นิสัยไม่ดี ชอบเอาของกินมาล่อ

“พูดแล้วนะ คืนคำเป็นลูกหมา”

ผมโกรธมันไม่ลงหรอกเรื่องแบบนี้ ถึงจะมีอารมณ์บ้างตอนมันบอกว่าลองใจแต่แค่มันไม่คิดอะไรจริงๆผมก็ดีใจมากๆแล้ว

“เออ ถ้ามึงยังไม่เลิกตุ๊ดแตกมึงได้เป็นลูกหมาแน่” เสียงมันคุ้นๆนะครับ เลยหันหลังกลับไปมองตามเสียง

ชะอุ้ย เห็นคนหน้ายักษ์ยืนทำหน้าบึ้งอยู่

“พี่คีม”

“ทำตามที่กูสั่งเสร็จแล้วหรือไงถึงได้ มาอ้อล้อ”

“ อ่า ไอ้ข้าวกูไปเซทกล้องก่อนนะ”

ผมรีบหันไปบอกไอ้ข้าว ก่อนจะกันมายิ้มแห้งให้พี่คีม

ผมเห็นสายตาที่ไอ้ข้าวใช้มองพี่คีมรู้สึกถึงกระแสไฟส่งเสียงช็อตกัน อย่าตีกันนะเว้ย

ผมเลยเดินกลับไปจับแขนพี่คีมให้เดินตามมาด้วย ถ้าปล่อยไว้ต้องมีสงครามเย็นขนาดย่อมแน่ๆ ไม่ปลอดภัยๆ

ผมจับแขนพี่คีมแล้วเดินผ่านไอ้ข้าว สายตาที่ไอ้ข้าวมองตามผมมันมีความ ไม่พอใจ หงุดหงิด บ่นๆกันไป แต่ถึงอย่างนั้น สถานการณ์แบบนี้ก็ต้องเลือกพี่คีมไว้ก่อนเพราะว่าผมทำงานกับเขาอยู่


TBC...
เอะ หรือว่าจะเป็นพี่คีม
เพราะนังข้าวมันนิสัยไม่ดี 
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 07-03-2018 19:25:41 โดย somane »

ออฟไลน์ Januarysky

  • เป็ดมหาวิทยาลัย
  • *
  • กระทู้: 507
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +19/-0
พี่คีมมาได้จังหวะเป๊ะ
เริ่มร้อนล่ะซิครับเพื่อนข้าว
กดบวกและเป็ดให้พี่คีม
ชอบหนุ่มถาปัด ตัวสูง ผมยาว สายโหดด้วย อรั๊ยยยยย
 :mew3:

CoMMuNiTY Of ThAiBoYsLoVE

ประกาศที่สำคัญ


ตั้งบอร์ดเรื่องสั้น ขึ้นมาใครจะโพสเรื่องสั้นให้มาโพสที่บอร์ดนี้ ถ้าเรื่องไหนไม่จบนานเกิน 3 เดือน จะทำการลบทิ้งทันที
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=2160.msg2894432#msg2894432



รวบรวมปรับปรุงกฏของเล้าและการลงนิยาย กรุณาเข้ามาอ่านก่อนลงนิยายนะครับ
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=459.0



สิ่งที่ "นักเขียน" ควรตรวจสอบเมื่อรวมเล่มกับสำนักพิมพ์
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=37631.0






ออฟไลน์ somane

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 35
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +5/-0
4

 

ผมก็นึกว่างานที่พี่พิศให้ทำมีแค่วันเดียวแต่เปล่าเลยหนึ่งอาทิตย์เต็มๆ ยิ่งไปกว่านั้นจิตใจของผมมันเริ่มจะเป็นรูเพราะโดนยิงจากฝีปากพี่คีม

(แย่ ยิ่งทำงานยิ่งแย่ จบออกไปใครเขาจะจ้าง)

ช่วยผมด้วยครับ ปากเจ็บมากขนาดพูดกันผ่านทางโทรศัพท์ยังขนาดนี้ถ้าอยู่ต่อหน้ามีหวังลงไม้ลงมือด้วยแน่นอน

“พี่ท่านครับ ใจเย็นๆก่อนนะเดี๋ยวผมรีบหาไฟล์ให้” สาเหตุที่ทำให้ผมโดนคำร้ายกาจยิ่งกว่าพิษงูพ่นใส่คือพลาดเองทำไฟล์รูปหายมันก็สมควรโดนอะแต่อย่าด่าแรงขอร้องสำนึกไม่ทันจริงๆ

(อีก 10 นาทีถ้ากูไปถึงห้องมึงแล้วยังหาไม่เจอเตรียมตัวโดนพ่อมึงบ่นได้เลย)

ขู่เสร็จก็กดวางสายใส่ไปเลย

ไร้เยื่อใย ใจร้ายที่สุดในโลกล้านภาลัย คนซวยคือใครนายปาล์มนี่ไงจะใครละ

ถุยยย เอาพี่พิศมาขู่คิดว่าจะกลัวหรอ แล้วทำเป็นพูดว่าจะมาที่ห้องรู้จักหรือไง

ผมนั่งด่านั่งแช่งพี่คีมสลับพี่พิศกันไปคลิกหาไฟล์รูป เสิร์ชถามพี่กูว่าจะหาไฟล์งานที่หายไปได้ยังไง ก็มีหลายวิธีสิ่งอย่างให้เลือกศึกษาแล้วก็ลองคลิกๆตามเขาดู

“โป๊ะเช้ะ เจอแล้วโว้ยยยย”

กรี๊งงงงงงงงง

เสียงร้องแห่งความดีใจที่หางานเจอดังขึ้นพร้อมกับเสียงออดหน้าห้องผม

ใครวะ

เลยเดินไปดูตาแมว หูวว หล่อผมลากมาก ไม่ใช่ใครอะ พี่คีมไง

เชี่ย มาถูกได้ยังไง

ไม่เปิดดีเปล่าวะ

ก๊อกๆๆๆ

แหนะมีเคาะประตูด้วย

กรี๊งงงงงงงงงงงงงงงงงงงงงงง

อะจ้า มารัวๆเลย เปิดแล้วโว้ยยย

“สวัสดีครับ” หลังจากเปิดประตูก็ยิ้มกลบเกลื่อนความผิดจากหน้ามือเป็นอุ้งตีนเลย

สีหน้าเรียบเฉย แต่สายตานี่บ่งบอกว่าเหม็นเบื่อผมมาก

“ผมหางานเจอแล้ว”

ต้องรีบบอกก่อนจะได้ฟังเทศน์เพิ่มอีกหนึ่งกัณฑ์

“จะให้กูยืนตรงนี้อีกนานไหม” พี่แกจิ๊ปากขัดใจก่อนจะพูด

เอ้าา ขอโทษครับผมลืมๆ

“ครับๆ เชิญ” ยอมๆไปก่อนถ้าขัดใจผมอาจจะโดนมากกว่านี้

ผมเบี่ยงตัวหลบให้แขกที่ไม่ได้เชิญเข้าไปในห้องแต่แทนที่พี่คีมจะเดินไปนั่งโซฟา พี่แกเดินไปนั่งหน้าคอมผมซะอย่างนั้น

“กูนั่งนะ” เออยังดีที่มีมารยาทขอก่อนแต่โทษทีเถอะนั่งแล้วถึงบอกกัน

ครืดด ครืดด

เสียงสั่นจากโทรศัพท์ผมดังขึ้นก็เลยเดินไปดูว่าใครโทรมาก่อนจะมองพี่คีมที่นั่งคลิกอะไรไม่รู้ของแกอยู่แล้วกดรับสายก่อนจะเดินออกมาคุยที่ระเบียงห้อง

“ทำเขาท้องแล้วไง”

คนโทรมาเป็นไอ้ข้าว หลังจากที่ทำความเข้าใจกันแล้วไอ้ข้าวก็ยังติดแฟนเหมือนเดิมช่วงนี้ผมกับมันไม่ค่อยได้เจอหน้ากันเท่าไหร่แต่ก็ไม่รู้สึกแย่เท่าตอนที่ทะเลาะกัน

(ขอบคุณที่ทักทาย แต่กูไม่ต้องการคำกวนตีน) เสียงมันดูไม่อยู่ในอารมณ์ที่เล่นด้วยได้เลย

“มีอะไร”

(ว่างไหม)

ได้ยินแบบนั้นเลยหันไปมองพี่คีมที่ทำหน้าเครียดอยู่ ถ้าจะไม่น่าว่างพี่แกอาจจะยิงยาว

“ไม่อะ”

(ทำไม) ผมขมวดคิ้วกับน้ำเสียงของไอ้ข้าวที่ถาม มันดูเหมือนคนโดนขัดอารมณ์

“ทำงาน พี่คีมมาเช็คงานที่ห้องและคงต้องแก้กันยาว”

(ทำไมต้องมาทำที่ห้องมึง กูไม่ชอบหน้ามัน)

น่ะ ว่าแล้วไอ้ข้าวต้องไม่ชอบพี่คีม

“เออไม่ต้องรู้หรอก สรุปมีเรื่องอะไร” ขี้เกียจเล่ามันยาว

(กูไม่สำคัญแล้วสินะ)

โว้ยยย บ่าวอก ขอด่าเป็นภาษาเหนือ

จะมาน้อยใจอะไรวะมึงต่างหากที่ห่างกูไปแต่แรกคนน่าน้อยใจคือกูนี่

 “สรุปยังไง” อารมณ์เริ่มฉุนละ

(เดี๋ยวกูไปหาที่ห้องแค่นี้แหละ)

ติ๊ด

เออ เอาสิวันนี้มีคนวางสายใส่ไปแล้วสองคน ผมพูดไม่เข้าหูพวกเขาตรงไหนกัน

พอคุยกับไอ้ข้าวเสร็จก็เดินเอาโทรศัพท์ไปโยนทิ้งไว้บนเตียงนอนในห้องเพราะรู้สึกว่าเวลาทำงานกับพี่คีมไม่ควรสนใจอย่างอื่น เดี๋ยวเจอสายตาอาฆาตส่งมาขนาดคุยโทรศัพท์เมื่อกี้พี่แกหันมามองผมแค่ครั้งเดียวยังให้ความรู้สึกเสียวสันหลังวาบเลย

“เป็นไงบ้างพี่” ผมเดินไปยกเก้าอี้ที่โต๊ะกินข้าวมาวางข้างๆพี่คีมนั่งลงแล้วถาม

พี่แกหันมามองหน้าผมแวบหนึ่งก่อนจะหันไปสนใจหน้าคอมต่อ

พี่ครับทำงานด้วยกันมาเกือบหนึ่งอาทิตย์แล้วยังจะมาเฉยชาใส่กันกันอีกหรอ

ถ้าเกิดว่าผมฆ่าพี่คีมแล้วสับให้ละเอียดแบบหมูสับเอาไปทิ้งลงชักโครกกดให้มันลงท่อไปจะมีใครรู้ไหมวะ เลิกได้ไหมไอ้นิสัยทำหน้ารำคาญใส่กันเนี่ย

เห้อออออออออออออ

“กำลังเลือกรูปอยู่แต่ดูผ่านๆไม่มีที่ต้องแก้ ถ่ายใช้ได้แต่เดี๋ยวจะเลือกรูปไว้ให้มึงเก็บรายละเอียดของรูป มะรืนต้องส่งให้แต่ละสโมสรแล้ว”

หืม เหมือนจะรู้ว่าผมคิดไม่ดีด้วย พูดโคตรดีแถมยังชมกันแบบอ้อมๆอีกต่างหาก

“อ่า โอเคครับ” ผมตอบแค่นั้นแล้วก็นั่งเงียบๆดูพี่คีมเลือกรูปและให้คำแนะนำในการเก็บรายละเอียดของแต่ละรูป ผมเลยเอื้อมมือไปหยิบสมุดกับดินสอบนโต๊ะคอมมาจดตามคำแนะนำของพี่ท่าน พี่คีมแม่งทำงานละเอียดมากจุดที่พลาดเล็กน้อยก็ยังหาเจอ

“มองหน้าทำไม”

นั่น มองก็ไม่ได้

พรึ่บ

จู่ๆพี่คีมก็ลุกพรวดขึ้นมาแล้วโน้มหน้าตัวเองเข้ามาใกล้หน้าผม

เดี๋ยวๆ พี่เป็นอะไรเมารังสีจากคอมหรอ เอาหน้ามาใกล้ทำไม

“พะ พี่คีม” จะไม่เรียกชื่อพี่แกเสียงสะดุดเลยถ้าเกิดว่าไม่โน้มหน้าลงมาใกล้เรื่อยๆ

“ชอบกูหรอ”

ห๊า เหวอเลยครับเจอคำถามนี้ มองหน้าก็หาว่าชอบงั้นหรอ หลงตัวเองไปเปล่าครับ

ผมได้สติก่อนแล้วผลักพี่คีมให้ออกห่างก่อนจะลุกขึ้นยืน

“บ้าแล้วพี่ มองหน้าก็ไม่ได้”

“มองซะตาเยิ้ม”

ผมเนี่ยนะมองพี่ตาเยิ้ม “มองด้วยความชื่นชมต่างหาก” เออ ก็เห็นว่าเก่งเลยชมในใจแล้วมันไปออกที่ตาไง

“หึ” พี่คีมยิ้มมุมปาก “มันจะจริงอย่างที่มึงพูดหรือเปล่ากูไม่รู้ แต่กูสนใจมึงวะ”

เห้ยยย อย่ามาพูดแบบนี้ “ผมเริ่มกลัวพี่แล้วนะ” กลัวจริงๆนะ

“ฮ่าๆ หน้าแม่งเอ๋อสัส เหมือนแมวซินโดรมเลย”

“ปัญญาอ่อนแล้วพี่”

“มึงนั่นแหละปัญญาอ่อน เอ้า ทำตามที่กูบอกมึงไปนั่นแหละจะกลับแล้ว ทำเสร็จก็ส่งมาให้กูดูก่อนค่อยส่งให้สโมเขาอีกที”

พี่คีมบอกแล้วหันไปหยิบกุญแจรถของตัวเองที่วางอยู่หน้าคอมแล้วเดินผ่านผมไป แบบคนไร้ตัวตน

ดู้ แกล้งกันเสร็จก็เปลี่ยนเรื่องหลังจากนั้นก็เดินจากไป

ตามแต่สบายเลยครับพี่

“ปาล์ม อย่าลืมนัดของเรานะ” เสียงไอ้พี่คีมดังขึ้นมาอีกครั้ง

มันเป็นเสียงที่นุ่มและน่าฟัง ผมแปลกใจทำไมถึงพูดซะไพเราะหูเลยหันไปมองพี่คีมที่กำลังจะเดินออกจากห้องไป

เห็นพี่คีมหันหน้ามามองผมยิ้มมุมปากให้แต่สายตาที่ส่งมามันมีความเจ้าเล่ห์อยู่แถมยังมีคนยืนอยู่ที่หน้าประตู ผมเห็นไม่ชัดว่าเป็นใครเลยเดินไปหาพี่คีมใกล้ๆ ถึงรู้ว่าเป็นไอ้ข้าวยืนทำหน้านิ่งแววตาไม่พอใจจ้องพี่คีมอยู่

“ได้ยินที่พี่พูดไหม” โห แทนตัวเองว่าพี่ตอแหลมากครับ

“ครับๆ ผมไม่ลืม”

“ไปละ พายอร่อยมาก” ห๊ะ พายอะไรวะพี่ได้กินตอนไหนเมารังสีจากคอมจริงๆใช่ไหมเนี่ย

ไม่พูดเปล่าพี่คีมเอามือมาขยี้หัวผมก่อนจะหันไปส่งสายตาเยาะเย้ยให้ไอ้ข้าวแล้วเดินเฉียดไหล่มันออกไป

อ๋อ รู้แล้วพี่คีมไม่ได้เมารังสีจากคอมแต่ตั้งใจกวนตีนไอ้ข้าว

แต่เดี๋ยวนะเจอหน้ากันแค่ครั้งเดียวถึงกับไม่ถูกชะตากันขนาดนี้เลยหรอ

ปึง

พี่คีมเดินออกไปแล้วไอ้ข้าวก้าวเท้าเข้ามาในห้องผมแทนแล้วปิดประตูห้องดังด้วยความใส่อารมณ์

นั่นประตูห้องกูอย่ามารุนแรงถ้าพังขึ้นมามึงจ่ายนะเว้ย

ไอ้ข้าวไม่พูดอะไรและไม่ขยับตัวไปไหนยืนอยู่หน้าประตูที่พึ่งปิดลงแล้วจ้องหน้าผมนิ่ง

ผมจ้องหน้ามันกลับแล้วส่ายหัวก่อนจะเดินกลับมานั่งหน้าคอมเพื่อทำงานต่อ

งานเร่งแบบนี้ผมไม่มีเวลามาเล่นสงครามประสาทกับเพื่อนปัญญาอ่อนแบบมันหรอกนะ

“มีนัดกับมันหรอ” ไอ้ข้าวเดินตามผมมาแล้วหยุดยืนอยู่ข้างหลังเก้าอี้ที่ผมนั่งอยู่

“ใช่” ตอบไปแค่นั้น น้ำเสียงมันดูหงุดหงิดจริงๆนะเลยไม่อยากจะพูดอะไรมาก

“สนิทกับมันมากไหม” ไม่พูดเปล่าไอ้ข่าวมันเอามือมาค้ำโต๊ะคอมจากข้างหลังผมหรือง่ายคือมันเหมือนกอดผมจากข้างหลัง

เห้ย ไม่ใช่ละทำแบบนี้

“ข้าวมึงขยับออกไปเลย” ปล่อยมือจากเม้าท์ก่อนจะลุกขึ้นยืนแล้วหันไปมองหน้ามัน

เออ ว่ามาจะคุยอะไรก็ว่ามาอย่ามาทำแบบนี้มันเสียวสันหลัง

“เพราะกูไม่ใช่ไอ้นั่นใช่ไหมมึงถึงทำท่ารังเกียจ”

มันไปดูละครเรื่องไหนมาวะ

“ถ้าเกิดว่าจะมากวนตีนเชิญกลับไปห้องมึงเลยครับ ผมจะทำงาน” เชิญด้วยความสุภาพ

ทำไมช่วงนี้ความรู้สึกระหว่างผมกับไอ้ข้าวถึงได้อึดอัดวะทั้งๆที่เข้าใจกันแล้วแท้ๆ

“กูขอโทษ” ไอ้ข้าวถอยออกห่างแล้วเดินไปเปิดตู้เย็นหยิบกระป๋องน้ำอัดลมออกมาแกะยกขึ้นดื่มประหนึ่งว่านี่เป็นห้องตัวเอง

ครับห้องผมนี่มันสาธารณะจริงๆ

“เฮ้อ มีอะไรจะคุยกับกูก็ว่ามา” ผมถอนหายใจก่อนจะหันไปกดเซฟงานที่ทำค้างไว้ปิดหน้าจอคอมแล้วเดินมานั่งโซฟาหน้าโทรทัศน์

“ทะเลาะกับหญิงอีกแล้ว”

มันพูดแล้วเดินมานั่งโซฟาตัวเดียวกับผม

“เรื่องอะไรอีกละ” เบื่อจังครับ เอาเรื่องนี้มาพูดอีกแล้วหรอผมว่าตัวเองควรจะลงไปซื้ออาหารหมามาให้มันกินจริงๆอย่างที่เคยบอกไว้ครั้งที่แล้วนะ

“เข้าใจผิดคิดว่ากูมีกิ๊ก อธิบายก็แล้วให้เช็คโทรศัพท์ด้วยก็ไม่เชื่อทะเลาะใหญ่โตมากกูเบื่อ หญิงแม่งงี่เง่า”

“ต้องรอให้ใจเย็นแล้วมึงค่อยไปคุยสิ”

“กูว่าจะเลิก”

“เห้ย เดี๋ยวๆคนนี้มึงคุยมาเกือบเดือนแล้วนะจะเลิกเลยหรอ”

“กูว่ามันไม่ใช่วะ”

“...”

 “กูว่ากูคิดถึงใครอีกคนเวลาอยู่กับหญิง” มันหลบสายตาผมตอนที่พูดประโยคนั่นออกมา

“เหี้ยมากครับ แล้วจะเอายังไงต่อ”

“ไม่รู้ อาจจะเลิก”

“เลิกก็เลิกดีกว่าให้น้องเขาเจ็บ” ใจจริงก็อยากให้มันคิดเยอะๆกว่านี้อะ เรื่องแค่นี้เองมันต้องค่อยเป็นค่อยไปไม่ใช่ไม่ชอบแล้วจะเลิก แต่อีกใจก็สงสารน้องหญิงถ้าเกิดว่าน้องรู้ว่าในใจมันคิดถึงใครอีกคนคงเจ็บกว่าโดนจับได้ว่ามันแอบมีกิ๊ก

“อืม”

“แล้วคนที่มึงคิดถึงตอนอยู่กับหญิง เป็นใครวะ” นี่ใคร่รู้อย่างแรงเป็นไปได้ที่ไอ้ข้าวจะคิดถึงคนอื่นทั้งๆที่คบกับอีกคนอยู่

“…ปาล์ม”

“…”

“กูขาดมึงไม่ได้...”

 ไอ้ข้าวเงียบไปแล้วเม้มปาก

“กูชอบมึง”

คำพูดของมันทำเอาผมจ้องหน้ามันค้าง

ตลกแล้วครับเพื่อน ผมไม่เล่นด้วยนะแบบนี้





TBC.

มาแล้ววววว
ไอ้ข้าวกับพี่คีมมันนัดกันเล่นอะไร
กับความรู้สึกของนายปาล์มคะ
ถถถถถ น่าสงสาร
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 10-03-2018 19:36:34 โดย somane »

ออฟไลน์ somane

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 35
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +5/-0
5


หลังจากวันนั้นผมก็ไม่เจอไอ้ข้าวอีกตอนที่มันบอกว่าชอบผมเราต่างคนต่างเงียบยกเว้นแต่ใจของผมที่เต้นแรงมาก ไม่รู้ว่ามันแกล้งหรือว่าพูดจริงๆ จนถึงตอนนี้ก็ยังหาคำตอบไม่ได้

“ปาล์ม ช่วงนี้กูไม่เห็นไอ้ข้าวเลยวะ” พะแพงถามหลังจากที่เดินออกมาจากห้องอาจารย์ที่ปรึกษาแล้ว

“ติดเมียละมั้ง” พะพายตอบแทน

“ตามนั้นแหละ” ผมเสริม

ก็เห็นไอ้ข้าวว่าจะเลิกแต่นี้ยังเห็นอัพเฟสบุ๊คอัพสตอรี่ลงคู่กันอยู่เลย

ผมว่าไอ้ข้าวมันตอแหลละที่บอกว่าชอบผม มันชอบแกล้งชอบล้อเล่นกับความรู้สึกของผมมากกว่า

“แล้วนี่จะไหนต่อ” ผมถาม

“กลับห้องดิ เออ เย็นนี้ไปไหมงานเลี้ยงรุ่นได้ข่าวพี่พิศก็จะมาด้วย” ไอ้พายบอก

“ไปดิพี่พิศมาทั้งที คิดถึง” วันนี้มีงานเลี้ยงรุ่นบริหารเป็นรุ่นของพี่พิศนั่นแหละแต่ว่ารุ่นน้องจะไปร่วมก็ได้พี่ๆเขาเลี้ยง

“กูไม่ได้ไปวะพาเตี๋ยวไปหาหมอ ฝากดูไอ้พายด้วย” พะแพงบอก

เตี๋ยวที่มันหมายถึงคือแมวของมันครับ ไอ้แพงรักมากเพราะเจอไอ้เตี๋ยวสภาพโดนหมาไล่กัดจนเลือดโชกอยู่ข้างถนนเมื่อปีที่แล้ว

“กูโตแล้วครับดูแลตัวเองได้” ไอ้พายเบะปากใส่แฝดมัน

“ถ้าโทรให้กูไปรับจะสั่งป๊าตัดค่าขนมมึง”

“กลัวตายแหละ”

“หึ” ไอ้แพงแสยะยิ้มให้ไอ้พาย

“เออ ได้ๆเจอกันนะ” ผมตัดบทก่อนที่แฝดมันจะตีกัน

“แล้วจะให้กูไปรับเปล่า”

“เดี๋ยวเอารถไปเอง เป็นข้ออ้างไม่อยากเมา”

“เค เดี๋ยวเจอกันสองทุ่มร้านเดิม ไปละ”

ผมพยักหน้าแล้วยกมือขึ้นโบกลาไอ้แฝดแล้วเดินแยกที่รถของตัวเอง

เห้อ เบื่อจังเลยครับ พึ่งจะบ่ายสองเองแวะซุปเปอร์มาเกตแล้วซื้อของไปทำขนมระบายความเบื่อดีกว่า

ผมคิดได้แบบนั้นแล้วหยิบกุญแจรถยนต์ออกมาควงสบายอารมณ์

ครืด~

จนเดินมาถึงที่รถจอดก็หยิบโทรศัพท์ตัวเองขึ้นมาดูเพราะมันสั่นแจ้งเตือนข้อความ

Rizze : อยู่ไหน


ผมกดดูเป็นไอ้ข้าวส่งไลน์มาถาม ผมกรอกตาขึ้นบนอย่างเบื่อหน่ายก่อนจะกดล๊อกหน้าจอแล้วเก็บลงที่เดิมและก้าวขึ้นรถตัวเองแล้วขับออกไป

ไม่รู้ว่าเบื่อที่ไอ้ข้าวที่ไม่รู้มันเห็นผมเป็นตัวอะไรหรือว่าเบื่อที่ตัวเองตามใจมันเกินไปจนมันคิดอยากจะมาก็มาจะหายไปก็ไม่เห็นหางแบบนี้

ครืด ครืด

ขณะที่กำลังเลือกของจะทำขนมโทรศัพท์ผมสั่นอีกรอบแต่เป็นคนโทรเข้ามา

ไอ้ข้าวโทรมา ผมถอนหายใจก่อนจะกดรับ

“ว่าไง”

(อยู่ไหน)

เบื่อคำถามนี้จังเลย

“ห้าง”

(เย็นนี้ไปงานไหม)

“อืม”

(เดี๋ยวไปพร้อมกัน แค่นี้นะ)

ติ๊ด

จะพูดๆแล้วก็ตัดสายไปแบบนี้หรอวะ นิสัยมันเริ่มเสียแล้วจริงๆ

 


=============

 

ผมกลับมาถึงห้องด้วยข้างของที่ซื้อมาเต็มไม้เต็มมือเดินเอาไปวางไว้ที่เคาร์เตอร์แล้วเดินไปเปลี่ยนเสื้อผ้ามาลงมือทำคุกกี้หลังจากที่ตัดสินใจตั้งนานว่าจะทำอะไรดีบวกกับวันนี้จะได้เจอพี่พิศเพราะฉะนั้นทำคุกกี้นี่แหละเอาไปฝากพี่รหัสด้วย ใช้เวลาทำคุกกี้ไม่นานระหว่างรออบก็ไปอาบน้ำเตรียมตัวไปงาน ไม่รู้ว่าไอ้ข้าวจะมารับกี่โมงด้วยเลยแต่งตัวไว้รอทำทุกอย่างเสร็จก็หกโมงครึ่งก็นั่งๆนอนๆบนเตียงรู้สึกหิวก็เดินไปหยิบคุกกี้ที่ทำไว้มากินเล่นเบื่อบ้างก็เปิดเกมเล่นทำอะไรก็ได้ค่าเวลาไปก็เกือบจะสองทุ่ม ไอ้คนบอกจะมารับยังไม่โผล่หัวมา ผมเลยเดินไปหยิบกุญแจรถตัวเองเตรียมจะไปงาน ไม่คิดจะโทรไปถามมันด้วยอยากจะมาก็มาไม่อยากก็เรื่องของมันจะไม่สนใจอีกแล้ว

กริ๊งงงงงงงงงงงงงงง

เสียงออดห้องผมดังขึ้น

น่าจะมาแล้วมั้ง

เลยหยิบกระเป๋าตังและกล่องคุกกี้ออกมา

เปิดประตูออกมาก็เป็นไอ้ข้าวจริงๆนั่นแหละในสภาพที่แต่งตัวดูดีจัดกลิ่นน้ำหอมฟุ้ง

ผมหันไปมองหน้ามันนิดหน่อยก่อนจะล๊อกประตูห้องแล้วหมุนตัวเดินออกมาก่อนโดยไม่มีคำพูดสักคำ

ตลอดจนถึงร้านก็ยังไม่มีใครยอมปริปากพูดก่อน

บรรยากาศมันจะอึดอัดเกินไปแล้ว

“พี่พิศ สวัสดีครับนี่คุกกี้ผมทำมาฝาก” ผมยกมือไหว้พี่รหัสที่มาถึงก่อนแล้วและยื่นกล่องคุกกี้ให้

“ขอบใจน้องรหัส คิดถึงวะมากอดทีดิ” พี่พิศยิ้มแล้วรับของจากผมไป

แต่ผมก็ไม่ได้ให้พี่รหัสกอดแบบที่พี่ต้องการหรอกนะ แค่เดินไปนั่งข้างๆด้วยเท่านั้นและไอ้ข้าวก็ยังทำท่าเหมือนจะเดินมานั่งข้างผมแต่ไม่ทันอีกคนที่พอผมทิ้งตัวนั่งลงข้างพี่พิศเขาก็ทิ้งตัวนั่งข้างๆผมตามทันที

ผมเลยหันไปมองทำตาโตอ้าปากค้าง

เชี่ย พี่คีม

“มาไงพี่” ผมอดถามไม่ได้ มาได้ไงวะงานนี้มันเฉพาะบริหารนะ

“ขับรถมา” ผมรู้นะว่าพี่เข้าใจคำถามของผมแต่ทำไมต้องตอบกวนตีนด้วย

“แล้วแต่พี่อะ”

“โอ้ย ไม่เจอกันนานเป็นเด็กขี้งอนไปแล้วหรอวะ” พี่คีมยกมือขึ้นขยี้หัวผม “ไอ้พิศมันชวน กูเลยมา” แล้วก็ตอบดีๆสักที

ผมพยักหน้ารับรู้ พี่คีมยักคิ้วให้ผมหนึ่งทีแล้วหันไปหยิบแก้วมาชงเหล้าให้ตัวเอง ผมเลิกสนใจพี่คีมแล้วหันไปมองหน้าไอ้ข้าวที่แววตาบ่งบอกว่ากำลังไม่สบอารมณ์อย่างแรงแล้วเดินไม่พอใจไปนั่งข้างๆไอ้พาย

“มาแล้วหรอครับคุณข้าวหายหัวไปหลายวันเลยนะ” ไอ้พายยกแก้วให้ไอ้ข้าวแล้วถาม

“อืม” มันตอบแต่สายตาจ้องไปที่พี่คีมเขม็ง

“อืม อะไรของมึงวะเป็นไงกับน้องหญิงไปด้วยดีป่ะ”

“เลิกแล้ว” มันบอกด้วยท่าทางนิ่งๆแล้วย้ายสายตามามองผมแทน

“เชี่ย ไม่เห็นบอกเพื่อน ไอ้ปาล์มมึงรู้ไหม” ไอ้พายพูดกับไอ้ข้าวก่อนจะหันมาถามผม

ผมเลิกสบตาไอ้ข้าวแล้วเบนสายตาไปมองมือพี่คีมที่วางอยู่หน้าขาของผมสักพักก่อนจะเจ้าตัวจะย้ายกลับไปวางที่ขาตัวเอง แล้วผมถึงตอบไอ้พาย “ก็รู้ว่าจะเลิก แต่ไม่คิดว่าจะเลิกจริงๆ”

“อยากนี้เสือของเราโสดแล้วสิครับ มาๆชนๆ” ไอ้พายสรุปเอาเองแล้วยกแก้วชนกับไอ้ข้าว

ผมยกแก้วชนกับพี่รหัสไปหนึ่งทีแล้วกระดกดื่มจนหมดแก้วแล้วชงเพิ่มหันไปชนกับพี่คีมแล้วกระกดหมดแก้วอีกรอบก็ชงให้ตัวเองอีก แต่มันเอาอีกแล้วครับพวกขัดอารมณ์

หมับ

ไอ้ข้าวเอื้อมมือมาจับข้อมือผมข้างที่กำลังจะเทเหล้าลงแก้วจนแน่น

“พอแล้ว” มันบอก

“ชงทิ้งไว้เฉยๆ” ก็ตั้งใจไว้อย่างนั้นจริงๆ วันนี้จะไม่เมาที่ชนกับพี่เขาเมื่อกี้ก็เป็นการเคารพเท่านั้น

“ชงให้” มันปล่อยจากข้อมือผมแล้วเปลี่ยนจับขวดเหล้าแล้วเอามืออีกข้างมาเลื่อนแก้วเหล้าผมไปตรงหน้ามันแล้วจัดการชงแทนผมเสร็จสรรพ

ผมปล่อยให้มันจัดการตามใจ ถ้าไปขัดเดี๋ยวได้บรรยากาศแย่ๆมาแทนอีก

“น้องรัก ทำงานกับไอ้คีมเป็นยังไงบ้าง”

พี่พิศหันมาถามผมหลังจากที่ชนแก้วกับคนอื่นในวงครบแล้ว

“เอาตรงๆ โคตรปากหมา”

ผลัวะ

แรงตบไม่มากแต่ก็ทำเอาหน้าแทบคว่ำ ฝีมือคนตบหัวผมก็คนที่ผมด่าว่าปากหมาเมื่อกี้นั่นแหละ

“กูพี่มึง” พี่คีมบอกด้วยท่าทางสบายๆ

“ครับๆ ก็ปากหมาจริงๆอะ ปากเจ็บด้วย” ไม่เข็ดครับวันนี้พี่พิศอยู่ด้วยคงไม่กล้าทำอะไรผมไปมากกว่านี้หรอก

“แล้วอยากโดนปากกูสัมผัสจริงๆไหมละจะได้รู้ว่าเจ็บไม่เจ็บ” ไม่พูดเปล่ายักคิ้วกวนบาทาให้หนึ่งที

พี่ครับผมเป็นผู้ชายไม่ต้องมาพูดจาติดเรทเลย

“เฮ้ยๆ คีมเบาๆน้องกูมันใสใส ตามไม่ทัน”

ผมไม่ใสนะ รู้ด้วยว่าพี่คีมจัญไรแค่ไหนนอกจากปากเจ็บแล้ว

“ใสใสกับตอแหลนี่แยกให้ออก”

เอาเถอะครับอยากจะด่าอะไรก็ด่า ชินแล้วจริงๆผมละนึกสงสารแฟนพี่คีมจริงๆจะทนปากเจ็บแบบนี้ได้ไหมวะ

ผมส่ายหัวให้พี่คีมกับพี่พิศแล้วคว้าแก้วเหล้าขึ้นมาจิบหน่อยๆ

มองไปฝั่งตรงข้ามไอ้ข้าวไม่อยู่กับที่แล้วไม่รู้ว่าลุกหายไปตอนไหน

“พาย ไอ้ข้าวละ” ผมถาม

“ไปสูบบุหรี่”

ผมพยักหน้ารับรู้ก่อนจะลุกออกไปหาไอ้ข้าว

เดินออกมาหน้าร้านเห็นไอ้ข้าวยืนสูบบุหรี่อยู่แถวที่จดรถและมีผู้หญิงยืนอยู่ด้วย

ผมเดินเข้าไปใกล้ๆถึงได้รู้ว่าผู้หญิงคนนั้นเป็นน้องหญิงแล้วหยุดเดินหันหลังกลับเดินเข้าร้านตามเดิม

ไม่อยากจะยุ่งด้วยแล้ว การเป็นเพื่อนสนิทกันบอกกันทุกอย่างมันก็ดีนะแต่ถ้าการสนิทกันแล้วจะพูดจำทำอะไรก็ได้โดยไม่สนใจความรู้สึกของอีกฝ่ายผมว่าควรจะต้องมีการเตือนกันบ้างแล้วละ ก่อนที่สถานการณ์มันจะแย่ไปกว่านี้

 

หลังจากที่สังสรรค์กันเสร็จก็พากันแยกย้ายกันกลับพี่พิศเมาเละจนพี่คีมต้องพากลับไอ้พายก็ขับรถเองไม่ได้ต้องให้แฝดมันมารับก็โดนบ่นหูชากันไป เหลือแค่ผมกับไอ้ข้าวที่ยืนมองหน้ากันสักพักก่อนจะขึ้นรถกลับ

บรรยากาศเงียบอีกแล้วครับ

“กูเห็นน้องหญิง” ผมทนไม่ไหวทำลายความเงียบโดยการเปิดเรื่องที่มันค้างในใจ

“มาขอคืนดี” ไอ้ข้าวตอบแล้วหน้ายังมองตรงไปที่ถนน

“ดีกันไหม”

“ไม่ละ เลิกคือเลิก”

“อืม ก็ดีน้องเขาจะได้ไม่เจ็บ” ผมสงสารทุกคนที่มันบอกเลิกได้ยินมาว่าจบไม่ค่อยสวยเท่าไหร่

“ดีใจไหม”

ผมขมวดคิ้ว “ถามกูหรอ”

“คุยกันอยู่สองคน กูถามพวงมาลัยมั้ง”

มีเล่นมุก “ทำไมต้องดีใจวะ”

“กูจะได้สนใจแต่มึงไง หลังจากที่กูบอกว่าชอบมึงกูก็หายไปจนอาจทำให้มึงสับสน”

รู้ดีจังนะ

“กูเองก็สับสนเหมือนกันแต่ตอนนี้กูแน่ใจแล้วว่าชอบมึงจริงๆ วันนี้กูไม่ชอบเลยที่ไอ้พี่คีมอะไรนั่นเล่นหัวแล้วก็เอามือวางที่ขาของมึง กูหวง” มันพูดจบผมก็ทำได้แค่กระพริบตาฟังเงียบๆ แต่ในใจกลับเต้นแรง

ช่วยด้วยครับไอ้ข้าวมันเล่นกับความรู้สึกผมอีกแล้ว

“กูโคตรอึดอัดตอนขึ้นรถมามึงไม่คุยถึงคุยก็น้อยคำ ก็นึกว่ามึงจะเกลียดกูไปแล้ว”

ก็เกือบเกลียดนั่นแหละ

“กูจริงจังแล้วนะ เตรียมตัวให้ดี”

“อะ อะไรของมึง” งง เลยครับมาบอกให้เตรียมตัวอะไร

“…” มันเงียบไม่ตอบแล้วเลี้ยวรถเข้าไปจอดใต้คอนโดเมื่อถึงแล้วก็จอดรถนิ่งๆ ผมก็รอฟังมันจะตอบคำถามของผม

“ปาล์ม”

“ฟังอยู่” ตั้งใจฟังมากเนี่ยตอบสักทีสิวะเรียกทำไม

กูจูบมึงนะ

ไม่ใช่การขออนุญาตแต่มันเป็นคำบอกเล่า ยังไม่ทันได้อ้าปากพูดริมฝีปากสวยๆของมันก็แนบลงมาบนริมฝีปากของผม ไอ้ข้าวแตะค้างไว้แบบนั้นก่อนจะกดย้ำลงมาอีกสองสามรอบแล้วผละออก

ส่วนตัวผมนั่นหรอครับช็อกไปแล้ว 

ผมทำอะไรไม่ได้นอกจากนั่งนิ่งตัวแข็ง นี่คำตอบของมันหรอบอกให้ผมเตรียมตัวรับจูมของมันหรอ

จูบกูทำไมครับ กูเพื่อนมึงไม่สิ กูเป็นผู้ชายไอ้วอกกกกกก

“นิ่ม หอมด้วย” บ่นส้นตีนอะไรของมึง “จองแล้ว ห้ามปากนี้พูดกับผู้ชายคนอื่นโดยเฉพาะไอ้รุ่นพี่สถาปัตย์นั่น”

จองอะไรกูเป็นคน

“ไอ้เหี้ย!”

ปึง!

ด่ามันเสร็จก็ปิดประตูรถมันดังลั่นหลังจากได้สติว่าเมื่อกี้เกิดอะไรขึ้น

อายชิบหาย ร้อนที่แก้มด้วยแถมใจยังเต้นแรงอีก

อันตราย ไอ้ข้าวทำแบบนี่อันตรายต่อหัวใจผมเกิดไปแล้ว



TBC.
เอ้า ทำไมข้าวทำแบบนี้อ่ะ อิอิ
หายไปซะนานเลย มาแล้วคร้าาาา
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 20-03-2018 14:31:59 โดย somane »

ออฟไลน์ somane

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 35
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +5/-0
6

 

“ปาล์ม ตื่นได้แล้ว”

อือ เสียงใครมันดังอยู่ข้างหูวะ คนจะนอนรู้ไหมว่าเมื่อคืนกว่าจะได้นอนเกือบตี 5 เพราะมัวแต่หมกหมุ่นกับสิ่งที่ไอ้เพื่อนไม่รักดีมันทำกับผม

“ไอ้ปาล์มถ้าไม่ตื่นกูถีบนะ”

เชี้ย ใครวะ เข้าห้องผมมาได้ยังไง

ผลัก

ตุบ

“โอ้ย!” แม่งถีบจริงๆวะ

“เหี้ย!” ตกเตียงเลยเนี่ย ถีบโคตรแรง

“เออ เหี้ยก็เพื่อนมึงนี่แหละ”

ผมขมวดคิ้วแล้วค่อยๆกระพริบตามองคนที่อยู่อีกฝั่งของเตียง

“เห้ย ไอ้แฝดเข้ามาได้ไงเนี่ย” มาทั้งสองคนเลยครับ นี่ถ้าไม่รู้ว่ามันมีแฝดละก็นึกว่าผมตาลายเห็นคนเดียวเป็นสองคน

“เปิดประตูดิ” ไอ้พายบอกแล้วเอามือตบๆหมอนที่ผมหนุนนอนให้เข้าที่ก่อนจะเดินมาดึงผ้าห่มที่ผมนั่งทับอยู่กับพื้นออกแล้วพับเก็บโยนไว้บนที่นอน

เหมือนคุณชายเลยครับตื่นแล้วมีคนเก็บที่นอนให้ส่วนวิธีการปลุกอย่าไปเปรียบเทียบเลย พวกนี้แม่งป่าเถื่อน

“เดี๋ยว กวนตีนแล้ว”

“ไอ้ข้าวโทรตามพวกกูมาบอกว่ามึงไม่สบาย”

งงหนักเข้าไปใหญ่หลังจากที่ไอ้แพงบอก ผมเนี่ยนะไม่สบาย แล้วไอ้ข้าวจะมารู้ได้ยังไง

“กูสบายดีเถอะ”

“ก็จริง เข้ามาก็ได้ยินเสียงกรน” ไอ้แพงว่า

“ไปอาบน้ำไป ไอ้ห่านอนกินบ้านกินเมือง” ไอ้พายไล่

“กี่โมงเนี่ย”

“บ่ายสาม”

ชิบหาย

“อาบน้ำก่อน” ผมลุกจากพื้นแล้วเดินตรงไปเข้าห้องน้ำธุระแต่งตัวเสร็จเรียบร้อยแล้วเดินออกมาหาไอ้แฝดที่นั่งอยู่บนโซฟากำลังดูหนังกันอยู่

ผมมองแฝดแล้วขมวดคิ้วเพราะได้กลิ่นหอมเหมือนต้มแกงอะไรสักอย่างเลยหันไปมองตามกลิ่น เจอไอ้ข้าวกำลังปรุงน้ำแกงมันอยู่

มาทำไมวะไม่อยากเจอหน้า

“มาทำไมกัน” ผมถามอีกรอบแต่ตั้งใจจะถามไอ้ข้าวมากกว่า

“โทรมาก็ไม่รับ เป็นห่วงเลยโทรตามแฝดมาช่วยดู” ไอ้ข้าวเงยหน้าตอบผมแบบยิ้มๆ

“…” ไม่อยากคุยกันมัน

“มึงนอนกี่โมง” ไอ้พายถาม

“ตีห้า”

“ห๊ะ” ไอ้แฝดร้องพร้อมกันส่วนไอ้ข้าวไม่รู้สึกรู้สาอะไรก้มหน้าก้มตาปรุงน้ำแกงมันต่อไป

“นอนไม่หลับ”

“หึ” เสียงหัวเราะนั้นทำเอาผมหันขวับไปมองต้นเสียง

อย่ามาเย้ยกูไอ้ข้าว ฝีมือมึงนั่นแหละ

เหอะ มาฉวยโอกาสจูบกันแล้วยังมีหน้าโผล่มาให้เห็นอีกนะ เกลียดหน้ามันตอนนี้มากบอกเลย

“อย่างมึงหรอนอนไม่หลับ ทำไมไปเจออะไรมา” ไอ้แพงละความสนใจจากหนังแล้วหันหน้ามาสนใจถามผม

เรื่องเสือกให้บอก พะแพงพร้อมเสมอ

“เรื่องสาว เมื่อคืนมีสาวทักเฟสมาขอเบอร์”

อันนี้ไม่ได้โกหกครับมีจริงๆเลยเอามาอ้างได้  ถ้าบอกว่าเป็นอีกเรื่องละคงคุยกันยาวถึงตอนเช้า

“ตอแหล” ไอ้ข้าวส่งเสียงมา

อ่า ด่ากูว่าตอแหล

“เออ กูก็ว่า”

“ดูเปล่าละ”  ผมล้วงโทรศัพท์ออกมากดเข้าเมสเจอร์เฟสแล้วยื่นให้แฝดดู

“เชี่ย น้องน้ำ”

“จริงด้วย เอาป่ะถ้าไม่เอากูขอ”

ไอ้แฝดแย่งกันพูด น้องน้ำอะไรวะไม่เห็นรู้จัก

“ให้เบอร์เขาไปละ”

ผมโกหก ถ้าให้ไอ้แฝดไปละก็มีหวังแข่งกันจีบแน่นอนสงสารน้องเขา

ครืด

เสียงโทรศัพท์ผมสั่น

“เชี่ย น้องเขาทักมา” ไอ้พายพูดด้วยน้ำเสียงตื่นเต้น

“เอามา” ผมว่าแล้วยื่นมือไปหยิบโทรศัพท์ตัวเองจากมือไอ้พายมาเปิดดู

ทักมาจริงๆด้วยครับ ไม่รู้จักจริงๆนะ น้องน้ำอะไรเนี่ย

“เอ้า ไม่ตอบน้องเขาวะ” ไอ้พายโวย

“ไม่อ่ะ เดี๋ยวพวกมึงเสือก”

“งกเอ้ย” ไอ้พายว่าแล้วโยนหมอนบนโซฟาใส่ผม

ผมรับหมอนที่ไอ้พายโยนใส่แล้วโยนกลับไปหามันที่หันหน้าไปดูหนังแล้วก่อนจะเดินไปนั่งๆแฝด

“เออ แล้วนี่พวกมึงจะกลับได้ยัง” ไล่กันอย่างนี้แหละ

เด่นๆก็ไม่อยากเห็นไอ้คนที่กำลังวุ่นกับการทำอาหารนั่นแหละ

ดูมันดิหยิบจับของเหมือนห้องตัวเอง ผมไม่น่าเอากุญแจห้องให้มันเลยอ่ะ จะออกตามใจยังไงก็ได้

“ไอ้ปาล์ม พวกกูพึ่งมาถึงแล้งน้ำใจมากมาไล่กัน” ไอ้แพงโวย

“ก็เห็นแล้วนี่ว่าไม่ได้เป็นอะไร กลับไปได้แล้ว”

โดยเฉพาะมึงครับไอ้ข้าว ไปให้พ้นๆ

“ไอ้ข้าวกำลังทำกับข้าว จะมาไล่กันทำไมนิสัยแย่จังมึง” ไอ้แพงว่า

เออ คนผิดก็ผมนี่แหละ ตั้งแต่เจอหน้าก็ด่าเอาๆ

“เข้าห้องคนอื่นโดยที่เจ้าของไม่รู้นี่นิสัยแย่กว่าไหม” ผมพูดดังตั้งใจให้กระทบอีกคน

“ไอ้ปาล์ม วันนี้มึงแปลกๆนะไม่พอใจไอ้ข้าวจริงหรอวะ ปกติมันก็เข้าออกห้องมึงเหมือนห้องตัวเอง” ไอ้พายหันหน้ามาถามผมแบบจริงจัง

“เออ ไม่อยากเห็นหน้ามัน”

“ทะเลาะอะไรกันอีกละ”

ผมกรอกสายตาไปมาอย่างรำคาญ  ทะเลาะกันหรอเรื่องนี้ยิ่งกว่าทะเลาะกันอีก

“กูจูบมัน” จู่ๆไอ้ข้าวก็พูดขึ้นมา ผมหันไปมองหน้ามันแทบจะทันที

สีหน้ามันเรียบเฉยไม่แสดงอาการใดๆน้ำเสียงเรียบนิ่งพูดเหมือนเป็นเรื่องปกติ

“ห๊า!” ไอ้แฝดร้องเสียงดัง

ไอ้แพงหันไปกดหยุดเล่นหนังไว้แล้วหันมามองหน้าผมกับไอ้ข้าวสลับไปมา

“มึงอยากทะเลาะกับกูจริงๆใช่ไหม!” ผมพูดเสียงดัง

ใช่เรื่องไหมที่จะมาพูด นี่อุตส่าห์ว่าจะลืมไม่ถือสาแล้วนะ แม่ง

“กูจะจีบมัน”

ไอ้ข้าวไม่ได้ฟังที่ผมพูดแต่หันไปบอกกับไอ้แฝดแทน

“เฮ้ยๆ ใจเย็นๆนะเพื่อนมึงนะไอ้ข้าวไม่ใช่สาวที่ไหน” ไอ้พายเหมือนจะได้สติเลยพูดเรียนสติไอ้ข้าว

“ก็ไม่ใช่ กูชอบมันมานานแล้ว” ไอ้ข้าวปิดเตาแก๊สแล้วเดินมาหาพวกผมก่อนจะพูดขึ้น

“กูว่าแล้วแม่ง ต้องมีซัมติงกูมองพวกมึงมานานแล้วแต่ไม่คิดว่าจะเป็นแบบที่กูคิดเอาไว้” ไอ้แพงบอก

“มึงมันบ้า ออกไป!” ผมลุกขึ้นแล้วชี้หน้าไล่ไอ้ข้าว

ไม่รู้จะพูดอะไรต่อเลยมันพูดไม่ออก มันไม่ใช่เรื่องที่จะมาเถียงด้วย

ทำไมช่วงนี้ชีวิตผมต้องมาเจอเหตุการณ์น่าเบื่อแบบนี้ด้วย

“เมื่อวานแค่ให้เตรียมตัว วันนี้มาเตือน แต่วันต่อไปกูเอาจริง”

ไอ้ข้าวพูดแล้วยกยิ้มก่อนจะถอดผ้ากันเปื้อนพาดไว้พนักเก้าอี้กินข้าว หยิบกระเป๋าและกุญแจรถเดินออกจากห้องผมไป

ปึง

“แม่ง!” ผมตะโกนตามหลัง

“ไอ้ปาล์มใจเย็นๆ” ไอ้พายลุกขึ้นกดไหล่ผมให้นั่งลงแล้วบอกให้ใจเย็น

“ใจเย็นหรอ มึงคิดว่านี้เป็นเรื่องตลกหรอวะ มันเพื่อนกูนะเว้ย เพื่อนที่คบมาสี่ปีที่เมื่อวานมันบอกเลิกหญิงแล้ววันนี้มาบอกว่าชอบกูมันเห็นกูเป็นเพื่อนอยู่ไหม ไอ้ข้าวแม่งเสียสติไปแล้ว” ผมเองก็กำลังจะเสียสติเหมือนกัน

ที่ผมโวยวายใหญ่โต ทำท่าไม่พอใจเพราะ ผมไม่ชอบที่มันทำแบบนี้พึ่งเลิกกับแฟนแล้วจะหาตัวแทนมาช่วยเยียวยาจิตใจแบบประชดโดยการบอกชอบคนอื่นทันที มันไม่ใช่ ผมรู้ว่ามันยังรักน้องหญิงอยู่ถึงมันจะชอบมาบ่นว่าน้องเขางี่เง่าให้ฟังบ่อยๆแต่มันก็รักมากจนผมคิดว่ามันจะลงเอยกับน้องเขาและเมื่อวานก่อนที่ผมจะเดินออกมาหลังจากที่เห็นว่าไอ้ข้าวอยู่กับน้องหญิง ทั้งสองคนนั้นยังกอดแล้วจูบกันอยู่เลย

หึ เลิกหรอ ตัดใจหรอ จูบกับกอดตอบเขาขนาดนั้นนี่มันขัดแย้งกันเกินไปหน่อยไหม

ไอ้ข้าวมันแค่เสียสติตั้งหลักไม่ได้ก็เท่านั้น เห็นผมเป็นเพื่อนสนิทไงก็ใช้ความสนิทนี้มาตีความกลายเป็นอย่างอื่น

“มึงมันบ้าไอ้ข้าว” ผมยังไม่เลิกตะโกนตามหลังถึงแม้ประตูจะปิดสนิทไปนานแล้ว

“แล้วมึงจะทำยังไง” ไอ้พายถาม

“อยากจีบกูใช่ไหม ได้ กูจะสอนมันเองว่าเอาเรื่องความรู้สึกมาเล่นมันเป็นยังไง” หลังจากที่ผมพูดจบไอ้แฝดมันก็มองหน้ากันก่อนจะหันมามองผมอย่างเป็นห่วง

ไม่รู้ว่ามันจะจีบจริงๆหรือว่าประชดใครก็แล้วแต่ ผมนี่แหละจะสอนให้มันรู้จักโตเองในเมื่อมึงจะเล่นกูก็จะเล่นด้วย





TBC.
ตอนนี้มาสั้นๆ ค่ะ อยากจะเล่นอะไรก็เล่นกันไป
ไม่ห้าม ตามใจคุณปาล์มเขา เจ็บตัวมาก็อย่ามาว่าแล้วกัน


ประกาศนะคะ!!!
หยุดอัพนิยาย ยาวๆเลยนะเพราะว่าอยู่ในช่วงฝึกงานค่ะ
ประมาณ 6 เดือน
ขอบคุณที่ติดตามคร้า จุ๊บๆๆ

ออฟไลน์ shilyf

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 4
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +0/-0
กำลังสนุกเลย รอคร้าาาา งือออ
:mew2: :mew2:

ออฟไลน์ catka12

  • เป็ดมหาวิทยาลัย
  • *
  • กระทู้: 578
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +22/-0
 o13ชอบมากเลยค่ะ ... แต่แอบกังวลว่าจะมีมาม่าไหม  :mew2:

ออฟไลน์ Januarysky

  • เป็ดมหาวิทยาลัย
  • *
  • กระทู้: 507
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +19/-0
ข้าววววว
ทำไก่ตื่นแบบนี้ก็...
 :mew2:

ออฟไลน์ OoniceoO

  • เป็ดHera
  • *
  • กระทู้: 969
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +35/-2

 

สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด


สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด