ตอนที่ 23 : รักษา
“ไทยสู้ๆ ไทยสู้ตาย” คนโปรดตะโกนเชียร์เพื่อนเสียงดังลั่น “มึงจะร้องทำเหี้ยอะไรวะ กูยังนั่งอยู่นี่!” ไทยนึกอยากตบกะโหลกเพื่อน โทษฐานที่แหกปาก พวกเขายังนั่งอยู่ข้างสนามบอล ไทยเพิ่งเปลี่ยนเสื้อผ้าเสร็จเรียบร้อย
“อ้าว มึงไม่ฉลาดจริงนี่หว่า” คนโปรดทำสีหน้าดูถูกเพื่อนรัก
“ตรงไหน” เมื่อตะวันยังมาไม่ถึง จึงไม่มีใครช่วยห้ามทัพ มีเพียงรหัสที่นั่งเล่นโทรศัพท์ไปเงียบๆ ไม่สนใจดูมวยคู่เอก
“ถ้ามึงอยู่ในสนาม กูร้องแทบตายมึงจะได้ยินเหรอ สนามกว้างอย่างกับอะไร กูจะร้องให้มึงฟัง ไม่ได้ร้องให้คนอื่นฟัง”
ไทยถึงกับหน้าเหวอ เถียงเพื่อนไม่ออก ได้ยินเสียงรหัสหัวเราะเบาๆ “เอาะเถอะ เอาที่มึงสบายใจ” ในที่สุดไทยก็ยอมแพ้ความคนโปรด
“เดี๋ยวพี่มา” รหัสลุกขึ้นยืน “สายฟ้าเอาของมาให้ มันขี้เกียจเข้ามาในสนาม รออยู่ที่รถ”
“ครับ” คนโปรดพยักหน้ารับรู้ ไม่ได้ตามออกไป
“ไทย!นั่นใครวะ”
“ไหน” ไทยมองตามมือของเพื่อน ที่ชี้ตรงไปในสนาม
“นั่นไง คนที่ใส่เสื้อเบอร์แปด กูเห็นสาวกรี๊ดกันจัง”
“อ๋อ ไอ้ปราบ”
“ปราบไหนวะ” คนโปรดนิ่วหน้า ไม่คุ้นชื่อที่เพื่อนบอก
“มันอยู่คณะวิทยาศาสตร์ อยู่ปีเดียวกับเรานี่แหละ เล่นกองหน้า”
“เท่ดีว่ะ หล่อด้วย”
“กูจะบอกพี่รหัสว่ามึงชมคนอื่น”
“ไอ้เหี้ย กูชมเฉยๆ ไหม ไม่ได้ชอบ อย่าจุดไฟเผาบ้านกู”
“ฮ่าๆ ได้ กูจะไว้ชีวิตมึงครั้งหนึ่ง อย่าเสือกชมไอ้ปราบอีก”
“ทำไมวะ ศัตรูคู่อาฆาตมึงเหรอ” คนโปรดทำสีหน้าตกใจ “หรือว่านิสัยไม่ดี แกล้งขัดขามึงตอนแข่งวะ”
“เปล่า นิสัยมันดีอยู่ เป็นพวกพูดน้อยต่อยหนัก อย่าไปเถียงกับมัน กูแค่หมั่นไส้มันนิดหน่อย เสือกดูดีกว่ากู ไม่งั้นกูได้เป็นกองหน้าไปแล้ว”
“ฮ่าๆ เขาไม่เรียกหมั่นไส้โว้ย เขาเรียกขี้อิจฉา ทำไมวะ สาวกรี๊ดหมอนี่หมดลืมมึงเหรอ”
“เออ” ไทยรับตามตรง
“ไทยเอ๊ยไทย” คนโปรดโคลงศีรษะ “มึงก็ดูดี จะว่าไปมึงหน้าตาหล่อเหลาที่สุดในกลุ่ม ถ้ามึงไม่เรื่องมากป่านนี้มึงมีแฟนไปนานแล้ว”
“ก็ถ้ามีแล้วชีวิตมันยุ่งยากขึ้น กูจะมีไปทำไมวะ” ไทยเคยคบกับผู้หญิงมาแล้วหลายคน แต่ส่วนใหญ่ไปกันไม่รอด หรือไม่ก็กลายเป็นเพื่อนกันโดยไม่รู้ตัว
“กูถึงบอกว่ามึงเรื่องมากไง นี่ก็ไม่เข้ากัน นี่ก็ไปด้วยกันไม่ได้ มึงต้องปรับตัวบ้างสิวะ”
“กูก็เป็นกูทำไมต้องปรับวะ ถ้าความรักหมายถึงการรวมกันเป็นหนึ่งเดียว กูก็คือเศษหนึ่งส่วนสองของเลขหนึ่งนั้น มันต้องมีสักคนสิวะที่พอดีกับกู คนที่อยู่ด้วยกันได้โดยไม่ต้องปรับอะไร”
คนโปรดทำหน้าคิด ใช้เวลาอยู่ครู่หนึ่งก่อนถอนใจออกมาดังๆ “มึงจะใช้ศัพท์ให้กูเข้าใจยากทำไมวะ มึงก็บอกสิว่ามึงไม่เต็มบาท มึงจะหาคนไม่เต็มบาทเหมือนมึงมาเติม จะได้ครบบาทพอดี พูดอย่างนี้ยังเข้าใจง่ายกว่าอีก”
“ไอ้นี่!” สุดท้ายสองเพื่อนซี้ก็คุยกันไม่จบ มีการใช้กำลังเกิดขึ้นจนได้
“ตะวันทางนี้” คนโปรดลุกขึ้นโบกไม้โบกมือ ออกท่าออกทางจนรหัสต้องดึงให้นั่งลง เพื่อไม่ให้รบกวนคนอื่นๆ ที่เชียร์อยู่ใกล้ๆ
“สวัสดีครับ” เด็กชายดลยกมือขึ้นไหว้พี่คนโปรดสุดหล่อกับพี่ยักษ์ใจดี
“ไม่ได้เจอกันตั้งนานหนูดลหล่อขึ้นเยอะเลย” คนโปรดยื่นมือไปหาตะวัน ขออุ้มหนูดล เด็กชายส่งมือให้ไม่มีอิดออด
“พี่คนโปรดสุดหล่อ” เด็กชายกอดไปรอบคอคนโปรด ยิ้มเอียงอาย
“นี่ตั้งใจจะพูดเพื่อให้หนูดลนึกคำนี้ออกใช่ไหม” ตะวันหัวเราะ แซ็วคนโปรด
“ตะวันอย่าพูดความจริง”
“พี่รหัส~” คนโปรดทำปากยื่น “นี่แฟนครับไม่ใช่คนอื่น”
“เป็ดๆ” หนูน้อยยกมือขึ้นจับปากพี่สุดหล่อ ยิ้มน้อยๆ ดูชอบมาก
“ฮ่าๆ” รหัสหัวเราะจนตัวเอนก่อนนึกได้ รีบยกมือขึ้นไหว้ร่างสูงที่ยืนอยู่ข้างตะวัน “สวัสดีครับพี่เมธ”
“สวัสดีครับ” คนโปรดค้อมศีรษะให้ เพราะติดอุ้มเด็กชายดลอยู่
“สวัสดีครับ” เมธยิ้มตอบ เขาสนิทกับกลุ่มของตะวันดีอยู่แล้ว
“พี่เมธนั่งก่อนครับ” รหัสเลื่อนตัวไปนั่งชิดริมเก้าอี้ไม้ตัวยาว เมธเลือกนั่งชิดริมอีกด้าน เหลือพื้นที่ตรงกลางไว้ให้คนโปรดกับตะวัน
“คนโปรดมานั่งเถอะ” ตะวันเรียกคนโปรด เมื่อเห็นสายตาคนที่นั่งอยู่รอบๆ มองเด็กชายดลด้วยความสนใจ เขาเกรงว่าเด็กชายจะกลัว ตะวันไม่อยากให้หนูน้อยกลับไปเป็นเหมือนเก่า เขาจึงอยากให้ค่อยเป็นค่อยไป
“อืม” คนโปรดเข้าใจสายตาของเพื่อน เขาเพิ่งเดินห่างออกมา คิดจะพาหนูน้อยไปยืนดูติดขอบสนาม
“เห็นพี่ไทยไหมครับ พี่ไทยใส่เสื้อเบอร์สิบ วิ่งอยู่ตรงโน้นไง” คนโปรดนั่งลง จับหนูน้อยให้นั่งลงบนตัก ชี้มือไปกลางสนาม เด็กชายดลนิ่วหน้าน้อยๆ พยายามมองอยู่นาน
“ดลไม่เห็นครับ”
“นี่ไง มองตามมือพี่คนโปรดนะ” หนูน้อยมองตาม จากซ้ายไปขวา จากขวาไปซ้าย และจากซ้ายไปขวาอีกครั้ง
“เห็นไหมครับ” คนโปรดก้มหน้าลงมองหนูน้อยที่อยู่บนตัก เด็กชายยิ้มแหยๆ ให้
“ดลเวียนหัว”
“ฉิบหาย!” คนโปรดตกใจจนเผลออุทาน รีบตะครุบปากตัวเองเมื่อนึกได้ หันไปส่งสายตาขอโทษขอโพยตะวันกับเมธ
“ดลมาหาพี่ดีกว่าครับ” รหัสอุ้มเด็กชายดลมาจากตักของคนโปรด เขาวางเด็กชายลงบนตัก หยิบกล้องที่วางบนกระเป๋ามากดจอภาพให้เด็กชายดู “นี่ไงครับพี่ไทย”
“พี่ไทย” เด็กชายยิ้มกว้าง เงยหน้าขึ้นมองพ่อด้วยความตื่นเต้น รหัสเลื่อนรูปไปช้าๆ ให้หนูน้อยได้ดูลีลาการเตะบอลของไทยที่เขาถ่ายไว้
“พี่รหัสขี้โกง” คนโปรดบ่นอุบ “เล่นใช้เทคโนโลยีหลอกล่อ”
“เปล่า พี่ใช้สมองต่างหาก ใครเขาบอกให้เด็กเล็กมองลงไปในสนาม คนก็เยอะ ไกลก็ไกล น้องจะมองเห็นได้ยังไง”
“แฟนผมเองครับ ฉลาดที่สุด” คนโปรดหันไปยิ้มให้เมธ ชายหนุ่มหัวเราะออกมาเบาๆ
“ไทยแข่งเมื่อไหร่ เผื่อพี่ว่างจะมาเชียร์”
“วันศุกร์ครับ ประมาณหกโมงเย็น” ตะวันเป็นคนตอบ
“ดลอยากมาดูพี่ไทยเตะบอลไหมครับ ถ้าอยากดูพ่อจะพามา” เมธพูดจบประโยค เสียงเฮ เสียงกรี๊ดก็ดังขึ้น เด็กชายดลสะดุ้งน้อยๆ เบียดตัวเข้ากับรหัส สายตาหวาดๆ มองไปยังคนเชียร์กลุ่มใหญ่ ตะวันกลั้นหายใจ นึกโทษตัวเองที่ชะล่าใจเกินไป พาหนูดลมาสถานที่แบบนี้
เสียงเฮหยุดแล้ว แต่เด็กชายดลไม่ยอมตอบ เขายังมองนิ่งไปทางสนามและกลุ่มคน เมื่อการการแข่งเรียกเสียงเฮได้อีกครั้ง หนูน้อยยกมือขึ้นน้อยๆ แล้วร้อง “เย่” ออกมา
ตะวันเผยอปากค้าง แม้แต่เมธยังแปลกใจ คนโปรดตาโตก่อนหัวเราะ เด็กชายหันไปมองพ่อ เมื่อเห็นว่าผู้ใหญ่ทุกคนมองมา จึงซุกหน้าเข้าหาอกของรหัสยิ้มขวยเขิน
“สนุกไหมครับ” รหัสกอดเด็กชายเอาไว้ ถามด้วยน้ำเสียงปกติ เขาไม่อยากให้หนูน้อยรู้สึกว่ามันเป็นเรื่องแปลก
“สนุกครับ เหมือนที่พ่อดูเลย” หนูน้อยเคยเห็นในโทรทัศน์ แต่ของจริงทำไมมันกว้างจัง เขาดูตามลูกบอลไม่ทัน แล้วก็ไม่เห็นพี่ไทยด้วย
“ถ้าอย่างนั้นพ่อพามาดูอีก ดลอยากมาไหมครับ”
“อยากครับ” หนูน้อยพยักหน้า
ตะวันยิ้มกว้าง ถอนใจอย่างโล่งอก หนูน้อยของเขาเก่งเหลือเกิน
“ถ้าอย่างนั้นพี่คนโปรดจะสอนเชียร์พี่ไทยเอง” คนโปรดตั้งท่าชูมือขึ้นทั้งสองข้าง
“เชียร์?” หนูน้อยเอียงคอมองพี่สุดหล่อ
“ให้กำลังใจไงครับ บอกให้พี่ไทยเล่นเก่งๆ เตะบอลเข้าประตูเลย”
“ดลจะเชียร์พี่ไทย” หนูน้อยมีแววตาตื่นเต้น มองคนโปรดด้วยความสนใจ
“เอาละนะ พี่ไทยสู้ๆ” คนโปรดร้องเพลงนำ
“พี่ไทยสู้ๆ” หนูน้อยร้องเสียงเบาในลำคอ สายตาจ้องมองคนโปรด
“พี่ไทยสู้ตาย”
“ไม่เอาครับ” หนูน้อยส่ายหน้า ไม่ยอมร้องตาม
“ไม่เอาอะไรครับ” คนโปรดมองด้วยสายตาสงสัย ไม่แน่ใจว่าตัวเองพูดอะไรผิดไปหรือไม่
“พี่ไทยไม่ตาย” หนูน้อยส่ายหน้า ไม่เอา เขารักพี่ไทย
คนสอนถึงกับหน้าเหวอ ก่อนหัวเราะออกมาเบาๆ หันไปมองเมธเพื่อขอความช่วยเหลือ เขาไม่รู้จะอธิบายอย่างไร
“พี่ไทยไม่เป็นไรครับลูก พี่คนโปรดหมายถึงให้พี่ไทยสู้สุดแรง แต่ร้องแค่พี่ไทยสู้ๆ ก็ได้ครับ”
หนูน้อยค่อยยิ้มออก เขายกมือขึ้นสองข้างเลียนแบบพี่คนโปรด ร้องออกมาเบาๆ “พี่ไทยสู้ๆ”
“พี่ไทยสู้ๆ” คนโปรดร้องตาม หลังจากนั้นเด็กหนึ่งผู้ใหญ่หนึ่งก็พากันร้องเพลงเชียร์อย่างสนุกนสนาน
ตะวันหันไปยิ้มให้เมธ หัวใจของเขาพองโต แค่เห็นดวงตาสดใสของหนูน้อยเขาก็มีความสุขมากแล้ว เด็กชายดลเติบโตขึ้นมากจริงๆ คนเก่งของพี่ตะวัน
“วันศุกร์พี่มาหาสักห้าโมงดีไหม ตะวันคงอยากไปถึงสนามเร็วหน่อย” ตะวันหันไปมองคนขับ เมธคิดถึงใจเขาเสมอ
“ไม่ต้องรีบก็ได้ครับ ผมไปนั่งรอที่สนามก่อนก็ได้ พี่เมธถึงแล้วค่อยโทรบอกผม หนูดลจะได้ไม่ต้องนั่งรอนาน”
“พี่ว่าลูกชอบนะ”
ตะวันหันไปมองเด็กชายดลที่หลับปุ๋ยอยู่บนเก้าอี้นั่งของเด็ก หนูน้อยสนุกกับการซ้อมแข่งมาก ไม่งอแงสักนิด
“ครับ วันนี้หนูดลเก่งมาก”
“พี่สบายใจขึ้นเยอะ รู้สึกชีวิตเบาขึ้น ความกังวลน้อยลง” เมธเล่าความรู้สึกของตัวเองให้ตะวันฟัง
“เพราะพี่เมธรักหนูดลมากไงครับ ถึงคอยกังวลและเป็นห่วง”
“ใช่ ดลคือลูกของพี่ แม้ไม่ใช่ทางสายเลือด แต่พี่คิดว่าแกคือลูกแท้ๆ พี่ผูกพันกับลูกมาก รักมากอย่างที่ตะวันพูด”
“มันเป็นพรหมลิขิตครับ”
“ตะวันก็เหมือนกัน” เมธละสายตาจากถนนไปมองตะวัน ดวงตาของเขาอ่อนโยน “ตะวันคือพรหมลิขิตสำหรับพี่”
ตะวันยิ้มอาย เขานึกย้อนถึงความบังเอิญที่เกิดขึ้น “ครับ ผมก็เชื่ออย่างนั้น”
“โชคชะตาหมุนให้เรามาเจอกัน แต่จากนี้พี่จะเป็นคนจับมือตะวันไว้ให้แน่นเอง” เมธส่งมือมาหา ตะวันหน้าแดงก่ำ รอยยิ้มเขินอาย แต่ดวงตาสว่างสดใส เขาวางมือลงบนมือของเมธ
“ครับ ผมก็จะไม่ปล่อยมือจากพี่เมธเหมือนกัน” ตะวันเชื่อในเรื่องของโชคชะตา แต่เขาก็เชื่อด้วยว่าการรักษามันไว้ให้ได้อยู่ที่เรา เมื่อพรหมลิขิตให้โอกาสเขาแล้ว ตะวันจะไม่ปล่อยให้หลุดลอยไป เขาจะรักษาไว้ให้ดีที่สุด
✪✣✤✥✦TBC✤✥✦✧✪
.
Darin ♥ FANPAGE Twitter :
primdarin