ตอนที่ 8 : ความสามารถของกระปุกหมู“เจ้าตัวยุ่ง! ไปนั่งตรงโน้นเลยพี่จะทำการบ้าน” มาชี้มือไปยังปลายโซฟาตัวใหญ่ในห้องทำงานของคีรินทร์
“กานบ้านเหยอ” ดวงตากลมใสมองพี่ชายตัวโต “ซาหนุกเป่า”
“สนุกสิ สนุกมากกก” มาลากเสียงยาว เขานั่งทำการบ้านอยู่บนพรมในห้องทำงานของอาหนุ่ม หนังสือกับสมุดกองเต็มโต๊ะญี่ปุ่นที่คีรินทร์หามาวางให้ “เร็วๆ เอานิทานไปเปิดดูไป” มาหยิบหนังสือนิทานส่งให้เด็กชายบลูสองสามเล่ม
“บูน่างดู ม่ายกวนหลอบ”
“ก็เรามันดุ๊กดิ๊กไปมาอยู่ไม่สุขพี่ไม่มีสมาธิ”
“นิ่งเยย บูนิ่งเยย” เด็กชายบลูนั่งตัวแข็งแม้แต่หน้าก็ไม่ขยับ ขยับเพียงริมฝีปากเท่านั้น เด็กชายมาทนไม่ไหวหลุดเสียงหัวเราะออกมาเบาๆ
“กระปุกหมูเอ๊ย”
“ปุกหมูคืออาลาย”
“ไหนว่าจะไม่กวนพี่ทำการบ้าน”
“อุ๊บ” เด็กชายบลูเม้มปากเข้าหากัน ส่งยิ้มอ้อนๆ ไปเอาใจพี่ชาย
คีรินทร์หยุดมือจากงานที่ทำอยู่ เขามองเด็กชายทั้งสองด้วยรอยยิ้ม เจ้าตัวเล็กก็ติดพี่เหลือเกิน ส่วนหลานชายของเขาจะรู้ตัวไหมว่าเดี๋ยวนี้เริ่มทำตัวเป็นพี่ชายมากขึ้น คีรินทร์ไม่ทันสังเกตว่าเด็กชายทั้งสองคนเปลี่ยนสรรพนามที่ใช้เรียกตัวเองไปตั้งแต่เมื่อไหร่ ได้ยินอีกทีมาก็เรียกแทนตัวเองด้วยคำว่าพี่ ส่วนบลูก็เรียกชื่อตัวเองแทนคำว่าเราแล้ว
“บลูครับ” คีรินทร์เรียกเด็กชายตัวกลม หนูน้อยทำปากยู่ตาโต หันไปหันมาระหว่างโต๊ะทำงานเขากับพี่ชาย
“มาจ๋า ตอบด้ายเป่า”
คีรินทร์ยิ้มเอ็นดูเมื่อเจ้าตัวเล็กอ้อนพี่ชาย คนพี่ทำหน้าพิกลไม่รู้ว่าเอ็นดูหรืออยากฟาดน้องกันแน่
“ผู้ใหญ่เรียกก็ต้องตอบ”
“ค้าบ” เด็กชายบลูหันมายิ้มแป้นให้เขา ท่าทางจะโล่งอกไม่น้อยที่ไม่ต้องอยู่นิ่งๆ
“อยากไปเที่ยวไหมครับ”
“หยักคับ” เด็กชายตัวกลมรีบพยักหน้า
“อาคีรินทร์จะไปไหนเหรอครับ” มาพลอยสนใจไปด้วยอีกคน เขาใกล้เปิดเทอมแล้วยังไม่ค่อยได้ไปเที่ยวไหนเลยนอกจากไปทะเล
“อาจะชวนไปกินข้าวเย็นนี้ ดูนี่สิ” คีรินทร์หยิบแท็บเล็ตขึ้นมาเปิดหาบางอย่างก่อนเดินมานั่งร่วมวงกับหลานบนพรม
“อาจะชวนไปกินข้าวที่นี่เย็นนี้ สวยไหม” คีรินทร์หันแท็บเล็ตให้เด็กทั้งสองคนดู
“อู้ ฉวยย” เด็กชายบลูตาโต มองรูปที่คุณอาใจดีเลื่อนให้ดู เขาไม่รู้หรอกว่ามันคือที่ไหน รู้แต่ว่ามันมองเห็นตึกเยอะๆ เลย สวยมาก
“อยากไปไหมครับ”
“หยักคับ”
“เดี๋ยวอาจะชวนน้าปิงไป”
“คับ” เด็กชายรับคำ
“ถ้าน้าปิงไม่ไปบลูต้องช่วยอาชวนนะ บอกน้าปิงว่าบลูอยากไป ขนมที่นี่อร่อยมากอาอยากให้ไปลองชิม”
“อู้” เด็กชายบลูตาโต “หนมเยอะๆ เหยอ”
“ใช่ครับ มีเยอะเลย”
“ปายบูปาย” เด็กชายบลูตบมือ ตื่นเต้นที่จะได้ไปกินขนมอร่อยๆ แถมมีเยอะด้วย
“มาจับมือกัน เราต้องชวนน้าปิงไปให้ได้นะ”
“จาบมือ ปายกาน” เด็กชายบลูจับมือของลินลินที่ส่งมาให้ หนูน้อยยิ้มแป้นตาเยิ้มคิดถึงขนมอร่อยๆ
“อาคีรินทร์ชอบน้าปิงเหรอครับ”
“หือ?” คีรินทร์เบนสายตาจากเด็กชายบลูไปยังหลานชาย “ทำไมมาถึงคิดว่าเป็นแบบนั้น”
“ผมโตแล้วครับ เพื่อนผมมีแฟนตั้งหลายคน ฟังก็รู้ว่าอาคีรินทร์กำลังจีบน้าปิง ไม่งั้นอาจะชวนไปไหนมาไหนทำไม แถมให้กระปุกหมูช่วยด้วย”
“หึๆ” คีรินทร์ไม่ตอบหลานชาย
“อาชอบ เอ่อ. คือน้าปิงไม่ใช่ผู้หญิง” มากัดริมฝีปากตัวเอง เขาไม่กล้าถามตรงๆ ว่าอาชอบผู้ชายเหรอ
“อาชอบน้าปิง” คีรินทร์ขยับตัวนั่งขัดสมาธิ หันหน้าไปทางหลานชาย “สักวันถ้ามาชอบใครสักคน มาจะเข้าใจว่าความรักไม่มีเหตุผล เราคิดวิเคราะห์แยกแยะเหมือนเรียนวิทยาศาสตร์ไม่ได้ เราสั่งตัวเองไม่ได้ว่าเราต้องชอบคนนี้ ชอบเพศนี้ ทุกอย่างเป็นเรื่องของความรู้สึก มันจะบอกเราเองเมื่อเราเจอคนที่ถูกใจ”
“อาเลยจะจีบน้าปิงเหรอครับ”
“ใช่ มาคิดยังไง”
“ผมยังเด็กไม่ค่อยรู้เรื่องความรักหรอกครับ”
“หึๆ ไหนเมื่อกี้เราบอกอาว่าเราโตแล้ว”
“ผมหมายถึงโตพอจะรู้เรื่องรักๆ แต่ไม่โตพอจะเข้าใจเรื่องที่มันละเอียดอ่อนแบบที่อาคีรินทร์พูดถึงหรอกครับ เอาไว้สักวันผมคงเข้าใจสิ่งที่อาพูด”
“ใช่ สักวันมาจะเข้าใจในสิ่งที่อาพูด”
“งั้นผมเชียร์แล้วกันครับ ผมชอบน้าปิง อาเป็นแฟนกับน้าปิงก็ดี”
“ขอบใจมาก” คีรินทร์ยกมือขึ้นจับศีรษะหลานชายโยกไปมาเบาๆ เด็กชายมาเงยหน้าขึ้นยิ้มให้อาหนุ่ม
“ผมไปด้วยนะครับอา แม่ไม่เคยพาไปเลยผมอยากไป”
“ไปสิ เดี๋ยวอาขอแม่เราให้”
“ขอบคุณครับ”
• • • • • • • •
“ขออนุญาตครับ” ปิงเคาะประตูพอเป็นพิธี ตอนนี้คีรินทร์มีเลขาแล้วแต่เพราะเขาเข้าออกเป็นประจำจึงไม่จำเป็นต้องแจ้ง เว้นแต่กรณีที่คีรินทร์คุยงานหรือมีแขก เลขาที่นั่งหน้าห้องจะแจ้งเขาให้ทราบก่อนเดินผ่าน
“น้าปิง” เด็กชายบลูรีบคายหลอดดูดนมออก เดี๋ยวนี้เขาไม่ดื่มนมขวดแล้ว น้าปิงสอนให้ดื่มจากกล่องแทน
“อ้าวดื่มแล้วเหรอครับ” ปิงมักจะแวะมาดูหลานตอนบ่ายๆ เพื่อจัดการให้กินนมและนอนกลางวัน เด็กชายบลูเลี้ยงง่ายเขาจึงเบาใจเรื่องทำเสียงดังรบกวนคีรินทร์ หากคีรีนทร์มีประชุมหรือมีแขก เลขาก็จะพาไปส่งที่โต๊ะทำงานของเขา
“ผมเอาให้เอง”
“ขอบคุณครับ”
“ไม่เป็นไร หลานคุณก็เหมือนหลานผม” ปิงหันไปมองคนพูด ดวงตาที่มองเขาพราวระยับ
“ก็ขอบคุณอยู่ดีครับที่เอ็นดูบลู” ปิงเลือกใช้คำไม่ให้เรื่องเข้าหาตัวเอง เขารับรู้ได้ถึงความแปลกไปของคีรินทร์แต่เพราะไม่แน่ใจว่าอีกฝ่ายคิดจริงๆ หรือสนุกที่ได้แหย่ได้แกล้งเขา ปิงจึงทำเป็นไม่รับรู้เสียเพื่อความปลอดภัยของตัวเอง
“คุณมาก็ดี เย็นนี้ทำตัวให้ว่างนะผมจะพาไปกินข้าว”
“พาไปกินข้าว?”
“ใช่” ปิงนึกหมั่นไส้สีหน้าของคนพูด ทำเหมือนเขาถามอะไรประหลาด แล้วมันเป็นเรื่องปกติตรงไหนจู่ๆ ก็มาสั่งกัน ไม่ถามสักคำว่าเขาว่างไหม อยากไปหรือเปล่า
“ไม่เป็นไรครับผมเกรงใจ”
“ผมบอกบลูแล้วหลานอยากไป มาก็อยากไป ถ้าคุณไม่ไปก็อดกันหมด”
“แบบนี้มันมัดมือชกนี่ครับ” ปิงบ่นเบาๆ อยู่ในคอ
“นั่นก็ใช่อีก” คนทำรับหน้าตาเฉย “เอาน่าไปเถอะ สวยนะ ผมจะพาไปนั่งชมวิวกรุงเทพฯกัน”
“ทำอย่างกับหลอกเด็ก”
“เด็กก็หลอกแต่จะหลอกผู้ใหญ่ด้วย”
ปิงไม่สามารถสรรหาคำใดมาบรรยายความรู้สึกของเขาตอนนี้ได้ รู้แต่ว่าหมั่นไส้ดวงตาพราวๆ นั้นเหลือจะกล่าว “กินแถวนี้ก็ได้ครับ ไม่ต้องไปชมวิวหรอกมันแพง” ปิงปลงแล้วว่ายังไงเขาก็คงต้องไป
“ไม่ได้สิ ผมรับปากเด็กๆ แล้ว”
“ไม่ใช่วันเกิดใครไม่ใช่เหรอครับ ไม่ใช่วันพิเศษเสียหน่อย อย่าไปเลยครับผมกลัวเปลือง”
“ลินลินจิบน้าปิงงาย”
!!! ปิงหันขวับไปมองหน้าหลานชาย เจ้าตัวกลมยิ้มแป้นแล้นให้ เขาฟังอยู่เขารู้ ลินลินบอกว่าจะพาไปเที่ยว จะจีบน้าปิง
“เอ่อ..ผมพาเจ้าตัวยุ่งออกไปกินคุ้กกี้ที่ห้องพักผ่อนนะครับ” เป็นครั้งแรกที่มาอุ้มเจ้าลูกหมู เขาคว้าตัวกลมๆ ขึ้นอุ้มด้วยความรวดเร็ว เจ้าลูกหมูยังไม่วายพยายามคุยกับน้าชาย ก็เขารับปากลินลินแล้วนี่นาว่าจะช่วยพูด
“ลินลินชอบน้าปิง บูก๊ะชอบน้าปิง ปายกาน”
เสียงประตูห้องทำงานของคีรินทร์ปิดลง แต่ประโยคสุดท้ายของเด็กชายบลูคนที่ยังอยู่ในห้องได้ยินชัดเจน ปิงจ้องตากับเจ้านายคนใหม่ ก่อนที่อีกฝ่ายจะยกรอยยิ้มขึ้นที่มุมปาก
“ขอโทษแทนหลานด้วยนะครับ แกพูดจาไปตามประสาเด็ก ไม่ได้รู้เรื่องอะไร” ปิงเอ่ยขอโทษคีรินทร์เมื่อได้สติ
“บลูเป็นเด็กฉลาด ปิงน่าจะรู้ดี”
ปิงยืนนิ่ง เขากลืนน้ำลายลงคอช้าๆ “คุณคีรินทร์จะบอกว่าบลูพูดจริงเหรอครับ” ในที่สุดปิงก็ตัดสินใจถามออกไป เขาเอาแต่คิดถึงการกระทำของคีรินทร์ตั้งแต่อยู่หัวหินจนกลับมาถึงกรุงเทพฯ อาทิตย์ที่ผ่านมาทั้งอาทิตย์คีรินทร์พูดจากับเขาแปลกๆ วางตัวแปลกๆ มันทำให้เขาสับสน
“จริง ฉันชอบนาย” คนพูดเอนตัวพิงพนักเก้าอี้ด้วยท่าทางสบายๆ น้ำเสียงกลั้วหัวเราะ ดวงตาเป็นประกายวาววับ
“บอกกันง่ายๆ อย่างนี้เลยเหรอครับ”
“หึๆ ก็นายถามฉันเอง”
“นั่นสิครับ” ปิงยกมือขึ้นเกาหัว จู่ๆ เขาก็ไม่รู้ว่าควรพูดหรือทำอะไรต่อไป
“แล้ว?” คีรินทร์เอ่ยนำเมื่ออีกชายหนุ่มร่างผอมสูงไม่พูดอะไรต่อ
“ครับ?” ปิงเลิกคิ้วขึ้น เหมือนเจ้าตัวกำลังคิดอะไรเพลินๆ หรือไม่ก็งงอยู่
“แล้วนายคิดยังไง”
“อ๋อ ก็ดีครับ ขอบคุณครับ” คนพูดค้อมศีรษะให้เขา ทำเหมือนเจ้านายเรียกมาชมเรื่องงาน
“ฮ่าๆ” คีรินทร์หัวเราะเสียงดัง เขาขำท่าทางของปิงอย่างจริงจัง
“อย่าหัวเราะสิครับ จู่ๆ คุณมาบอกปุ๊บปั๊บจะให้ผมทำยังไง คุณเป็นเจ้านายจะให้ผมด่าเหรอ”
“พูดแบบนี้แปลว่าไม่ชอบใจอย่างนั้นเหรอ” คีรินทร์หยุดหัวเราะ ดวงตาของเขาหรี่ลงช้าๆ
“เปล่าครับแต่มันกะทันหันคุณจะให้ผมพูดอะไรครับ คุณเป็นผู้ชายผมเป็นผู้ชาย คุณไม่คิดบ้างเหรอครับว่าสถานการณ์มันอิหลักอิเหลื่อ”
“พูดตรงดี เอาเป็นว่าผมไม่เร่งรัด คุณใช้เวลาคิดตามสบาย”
“ขอบคุณครับ”
“ผมจองโต๊ะไว้หกโมงเย็น เราคงต้องออกจากนี่ตั้งแต่ห้าโมง”
“เดี๋ยวครับ! ไหนบอกให้เวลาผมคิด” ปิงโวยวาย ยังหายใจโล่งท้องไม่ถึงสิบวินาทีก็เอาอีกแล้ว
“คิดไปสิผมไม่ได้ว่าอะไร แต่ถ้าไม่กินสมองคุณจะคิดไม่ออก กองทัพต้องเดินด้วยท้องไม่เคยได้ยินเหรอ”
“เคยสิครับ แต่ผมเดินของผมเองได้”
“ผมหลอกล่อบลูเอาไว้แล้วคุณปฏิเสธผมยากแน่”
“ให้มันได้อย่างนี้” ปิงบ่นแบบตั้งใจให้อีกฝ่ายได้ยิน
“ตกลงว่า?”
“ผมไปทำงานดีกว่า”
“หึๆ”
“เกือบลืมครับ” ปิงหันกลับไปหาคีรินทร์อีกครั้ง “การตัดสินใจของผมไม่มีผลกับงานใช่ไหมครับ”
“ไม่มี ผมไม่ใช่คนแบบนั้น”
“ค่อยยังชั่ว” ปิงยิ้มกว้างออกมาได้
“แต่อย่าใจร้ายกับผมเลย ผมยังไม่อยากอกหัก”
“ก็ผมไม่ได้ชอบผู้ชายนี่ครับ”
“ไม่เป็นไร คุณชอบผมก็พอ”
!!!
“หึๆ”
“คุณเคยถูกสาวหักอกไหมครับ”
“ไม่เคย”
“งั้นอยากลองอกหักไหมครับ” ปิงยักคิ้ว จู่ๆ ก็รู้สึกเหมือนตัวเองถือไพ่เหนือกว่า” มีประสบการณ์ไว้จะได้คุยกับคนอื่นรู้เรื่อง”
“เดี๋ยวเถอะ”
“ฮ่าๆ “ ปิงรู้สึกผ่อนคลายขึ้นมาก แปลกที่พอได้รู้ว่ามันใช่อย่างที่คิดเขากลับโล่งอก เห็นทีต้องกลับไปถามตัวเองอีกครั้งว่าทำไมเขาถึงรู้สึกอย่างนั้น “ถ้าถามผมตอนนี้ผมยังไม่รู้ว่าจะชอบผู้ชายได้ไหม แต่ผมว่าคุณเป็นคนดี”
“ไม่เอาลูบหัวแล้วตบหลังนะ”
“ฮ่าๆ” ปิงหัวเราะชอบใจที่อีกฝ่ายรู้ทัน เขามองผู้ชายตรงหน้า ถามตัวเองว่าใจเต้นแรงไหมก็ไม่ รู้สึกโลกเป็นสีชมพูหรือเปล่าเขาว่ามันขาวปกติเลยล่ะ แต่ถามว่าทำไมถึงไม่ปฏิเสธออกไป ปิงตอบได้คำเดียวว่าเขาก็ไม่รู้เหมือนกัน
มันเป็นความรู้สึกสบายใจ ชอบใจที่ได้คุยกับคนๆ นี้ หมั่นไส้บ้าง เหม็นขี้หน้าบ้าง แต่รวมๆ แล้วมันสนุกมากกว่า ไม่ได้อึดอัดอย่างที่คิด เขาชอบบรรยากาศอย่างที่เป็น
“ไปทำงานเถอะ”
“ครับ”
“ปิง”
“ครับ”
“ผมชอบคุณ” น้ำเสียงและดวงตาที่มองมาจริงจัง จู่ๆ หัวใจของเขาก็เต้นผิดจังหวะแม้เพียงครู่เดียวก็ตาม
“ขอบคุณครับ”
“ผมอยากให้คุณได้ยินจากปากของผมเอง เสียดายที่เจ้าลูกหมูชิงตัดหน้าไปก่อน” คีรินทร์หัวเราะออกมาเบาๆ เมื่อคิดถึงเด็กชายบลู “แสบจริงๆ”
“หลานผมนี่ครับ” ปิงพูดด้วยสีหน้าภูมิใจ
“จะบอกว่าแสบพอกันทั้งน้าทั้งหลานใช่ไหม”
“จะบอกว่า...” ปิงแกล้งทิ้งระยะ เขาเดินตรงไปที่ประตู จับลูกบิดแล้วหันไปส่งยิ้มกวนๆ ให้เจ้านายคนใหม่ “คิดใหม่ก็ไม่สายนะครับ”
“อยากรู้ก็กลับมานี่”
“ฮ่า” ปิงเปิดประตูออกไป เขาหัวเราะอย่างอารมณ์ดี และได้ยินเสียงทุ้มหัวเราะดังลอดออกมาเช่นกัน จริงๆ แล้วมันก็ไม่แย่ เขาแปลกใจแต่ไม่ประหลาดใจ เพราะการกระทำอีกฝ่ายที่ผ่านมาจะถือว่าชัดเจนก็ได้ ได้รู้แบบนี้ก็ดีจะได้ไม่คาใจ ส่วนคำตอบนั้นเอาไว้ก่อนเถอะ ตอนนี้เขายังไม่ว่างงานเยอะเป็นบ้า
• • • • • • • •
“เอ้าคุ้กกี้” มาส่งจานคุ้กกี้ให้เด็กชายบลู เขาหยิบมาจากในโหลที่วางอยู่บนตู้
“ช็อกแลด” เด็กชายบลูยิ้มกว้าง มือป้อมๆ เอื้อมหยิบคุ้กกี้ส่งเข้าปากตัวเอง
“เรานี่มันยุ่งจริงๆ เลย ป่านนี้อาคีรินทร์จะเป็นยังไงบ้างก็ไม่รู้” มานั่งลงข้างเด็กชายตัวกลม อดบ่นไมได้
“บูม่ายยุ่ง”
“ยุ่งสิ ไปบอกน้าปิงได้ยังไงว่าอาคีรินทร์ชอบ”
“ก๊ะลินลินชอบ ลินลินบอกห้ายบูชวนน้าปิง”
“เฮ้อ เข้าใจอะไรกับเขาบ้างเนี่ยเจ้ากระปุกหมู”
“ปุกหมู” เด็กชายบลูพูดตามพี่ชายตัวโต ปากก็เคี้ยวตุ้ยๆ ไปด้วย
“อาคีรินทร์ชอบน้าปิง พอชอบก็ต้องค่อยๆ จีบ ไม่ใช่ไปบอกให้รู้ตัวแบบนั้น” เด็กชายมาบ่น เขารู้ว่าเจ้าตัวเล็กไม่เข้าใจแน่ แต่ก็อดบ่นเพราะความเป็นห่วงอาหนุ่มไม่ได้
“จิบเยย” เจ้าตัวยุ่งส่งยิ้มแป้นแล้นให้เขา
“เราทำยุ่งไว้แบบนั้นจะจีบยังไงล่ะ เฮ้อ” มาถอนใจเป็นครั้งที่สอง
“จิบด้าย บูก๊ะจิบมาเยย”
“หะ! เมื่อกี้พูดว่าอะไรนะพี่ฟังไม่ชัด”
“บูชอบมา ชอบละก๊ะต้องจิบ” เจ้าตัวยุ่งส่งยิ้มหวานให้เขา
“หึๆ เมื่อไหร่จะโตฮะเรา จะได้เข้าใจเหมือนคนอื่นเสียที” มายกมือขึ้นขยี้ผมนุ่มบนศีรษะของเจ้าตัวยุ่ง จะโกรธก็โกรธไม่ลง ดูทำหน้าเข้า ฟังเขาคุยกับอาคีรินทร์แล้วเอามาพูดเป็นตุเป็นตะ เจ้าตัวยุ่งเอ๊ย
“ไม่รู้ป่านนี้ข้างในจะเป็นยังไงบ้าง” มามองไปยังประตูห้องด้วยความเป็นห่วง เด็กชายบลูเงยหน้าขึ้นมองพี่ชายตัวโต เขาส่งยิ้มหวาน ท่องจำเอาไว้ในใจ มาบอกว่าโตก่อนถึงจีบได้ ต้องรอก่อนน้าบลู แป๊บเดียวเดี๋ยวก็โต
✪✣✤✥✦TBC✤✥✦✧✪
.
Darin ♥ FANPAGE Twitter :
primdarin