ตอนที่ 14 : ด้วยกัน “เป็นอะไร” คีรินทร์นึกขำเมื่อเห็นอาการเกร็งของคนรัก ปิงส่งยิ้มแห้งๆ ให้เขา
“ผมไม่เคยมาบ้านคุณดาวกับคุณพงศ์เลยครับ ไม่เคยเจอพ่อกับแม่ของคุณคีรินทร์ด้วย”
“พ่อแม่ผมอยู่ต่างจังหวัดไม่ได้อยู่ที่นี่ ท่านอยากอยู่ในที่ๆ อากาศบริสุทธิ์ นานๆ ถึงเข้ามาเที่ยวหาหลานสักครั้ง"
"โธ่แล้วก็ไม่บอกผม"
"ก็คุณไม่ถามผมเอง" คีรินทร์พูดด้วยเสียงกลั้วหัวเราะ ยอมรับว่าเขาแกล้งคนรัก เวลาปิงตกใจน่ารักดี
"แกล้งผมนี่ครับ เล่นเอาผมตื่นเต้นจนนอนไม่หลับ แล้วดูผมแต่งตัว" ปิงก้มลงมองตัวเอง วันนี้เขามัดผมเรียบ ไม่มีหลุดออกมาสักเส้น เสื้อยืดแขนยาวผ้านุ่มสีขาวพอดีตัวสะอาดเรียบร้อย กางเกงยีนส์สีน้ำเงินเข้มใหม่เหมือนเพิ่งซื้อมา รองเท้าผ้าใบสีขาวสะอาดตา
"หล่อดี" คนขี้แกล้งมองเขาด้วยสายตาพอใจทำให้ปิงชะงัก
"คุณคีรินทร์ไม่ชอบตอนผมแต่งตัวเซอร์ๆ เหรอครับ"
"เปล่า" คีรินทร์รีบปฏิเสธ "แต่ผมชินตากับลุคนั้นของคุณ พอเห็นแบบนี้มันก็แปลกตาดี"
"นั่นสิครับผมยังไม่ชินตัวเองเลย" ปิงยิ้มกวนๆ เข้าใจในสิ่งที่คีรินทร์พูดแล้ว ก็คงเหมือนกับเขาเวลาเห็นคีรินทร์อยู่ในชุดสบายๆ ไม่เซ็ตผมแบบนี้
"มาแล้วเหรอ" คุณเพียงดาวยิ้มให้น้องสามีและลูกน้องที่เดินเข้ามาในบ้านพร้อมกับเด็กชายบลู "น้อยไปตามมาให้พี่หน่อยบอกว่าน้องบลูกับน้าปิงมาแล้ว" เพียงดาวบอกเด็กในบ้าน
"ค่ะคุณดาว"
"หิวกันหรือเปล่า ปิงทานข้าวเช้ามาหรือยัง พี่เตรียมของกินไว้ให้เพียบเลย"
"ยังไม่หิวครับ ผมกับบลูทานข้าวเช้ามาแล้ว” ปิงรีบปฏิเสธด้วยความเกรงใจ
“ปิงพี่ขออะไรอย่างสิ”
“ครับ” ปิงมองเจ้านายด้วยความสงสัย
“เราไม่ได้อยู่ที่บริษัท ไม่ต้องทำเหมือนพี่เป็นเจ้านายตลอดเวลาก็ได้”
“ผมทำไม่ได้หรอกครับ” ปิงปฏิเสธเสียงซื่อ ทำให้คุณเพียงดาวยิ้มกว้างพอใจกับท่าทางของชายหนุ่ม
“ได้สิ เพราะพี่ไม่ได้เป็นเจ้านายอย่างเดียว พี่กับพี่พงศ์ยังเป็นพี่ของแฟนเราด้วย อีกหน่อยก็เป็นครอบครัวเดียวกันจะมาเกร็งแบบนี้ไม่ได้”
“หึๆ” ปิงนึกหมั่นไส้คนหัวเราะชอบใจ เขาส่งยิ้มแหยๆ ให้คุณเพียงดาวแต่ส่งสายตาคาดโทษไปหาคีรินทร์
“คีรินทร์พาปิงชมบ้านสิ ปิงตามสบายเลยนะจ๊ะ เดี๋ยวเที่ยงมากินข้าวด้วยกัน”
“ขอบคุณครับ” ปิงยกมือไหว้คุณเพียงดาวอัตโนมัติ เมื่อเห็นเจ้านายเขม่นตามองเขาจึงหัวเราะออกมา “ผมจะพยายามครับ”
“ดีมาก”
เสียงเดินลงบันไดทำให้ทุกสายตาหันไปมอง เด็กชายมายกมือไหว้น้าปิง “สวัสดีครับ”
“มาจ๋า” เสียงเล็กๆ ดังขึ้น เด็กชายบลูที่ยังไม่ตื่นเต็มตาขยับตัวออกจากขาของน้าชายที่ยืนซบอยู่ ยิ้มกว้างเมื่อเห็นพี่ชายตัวโต
“มาไปบ้านอาไหม”
“ไปก็ได้ครับ”
ปิงหันไปมองคีรินทร์ เขาเข้าใจว่าอีกฝ่ายอยู่บ้านเดียวกับพี่ชายมาตลอด
“งั้นไปกัน เดี๋ยวเที่ยงผมพากลับมากินข้าวครับพี่ดาว”
“จ้ะ ไปเถอะ”
“คุณคีรินทร์ไม่ได้อยู่บ้านเดียวกับคุณพงศ์เหรอครับ” ปิงถามเมื่อพวกเขาเดินแยกออกมาแล้ว
“เปล่า โน่นบ้านผม”
ปิงมองตามมือของคีรินทร์ บ้านสีขาวหลังใหญ่อยู่ติดกับบ้านของคุณเพียงดาว
“พ่อผมคิดมาอย่างดี อยากให้ลูกๆ อยู่ใกล้กัน ท่านเลยซื้อบ้านไว้ตั้งแต่โครงการเริ่มสร้างทั้งหมดสามหลัง หลังที่ติดรั้วฝั่งโน้นของบ้านพี่พงศ์ก็ใช่” คีรินทร์ชี้มือไปอีกทาง
“สามเหรอครับ อีกหลังของใครครับ”
“ตอนนี้เป็นของพ่อแม่ผมเวลาท่านมาพักที่กรุงเทพฯ แต่จริงๆ พ่อผมเตรียมไว้ให้หลาน ท่านบอกว่าเป็นการซื้อที่ให้อยู่ติดกันไว้ก่อน ถึงตอนนั้นจะทุบสร้างใหม่หรือจะรีโนเวทค่อยว่ากัน”
“ดีจังเลยครับ” ปิงก็อยากทำได้แบบนี้เหมือนกันติดตรงเขาไม่มีเงิน
บ้านทั้งสามหลังมีประตูเปิดถึงกันโดยไม่ต้องอ้อมไปเข้าทางประตูหน้า คีรินทร์เปิดให้พวกเขาเดินผ่าน
“ผมเพิ่งย้ายกลับมาเลยยังไม่ได้เริ่มตกแต่งอะไร โชคดีไป”
“โชคดีเหรอครับ” ปิงเลิกคิ้ว
“ใช่ จะได้ไม่ต้องทำสองรอบให้คุณตัดสินใจไปเลย”
ปิงหน้าแดงก่ำเมื่อเข้าใจความหมายของอีกฝ่าย พวกเขาเพิ่งคบกันได้ไม่ถึงเดือน แต่คุณเพียงดาวและคีรินทร์ทำให้เขารู้สึกเหมือนเป็นส่วนหนึ่งของครอบครัว
“หึๆ”
“ห้ามหัวเราะครับผมเขิน”
“ฮ่าๆ” คีรินทร์หัวเราะชอบใจความตรงของอีกฝ่าย เขาวาดมือลงบนไหล่ของปิง ดึงให้เดินเข้าไปในตัวบ้าน
หลังจากคีรินทร์พาทัวร์รอบบ้านเสร็จ เขาชวนเด็กชายทั้งสองคนลงเล่นน้ำ วันนี้อากาศดี ไม่มีแดด ปิงเตรียมเสื้อผ้ามาอยู่แล้วตามคำบอกของคีรินทร์
คีรินทร์ปิดระบบของอ่างจากุชชี่เพื่อให้อ่างน้ำขนาดใหญ่ที่อยู่ติดกับสระว่ายน้ำกลายเป็นสระเด็กสำหรับเด็กชายตัวกลม หนูน้อยเล่นน้ำอย่างสนุกสนาน
“สนุกไหมครับบลู”
“ซาหนุกคับ” เด็กชายบลูยิ้มแป้นตอบอาคีรินทร์ เขาชอบมาก
“ถ้าชอบมาอยู่บ้านอาไหม” ปิงหยุดมือที่กำลังเช็ดน้ำออกจากหน้า หันไปสบตากับดวงตาเจ้าเล่ห์ของคนพูด
“งืม งืม” เด็กชายบลูทำหน้าคิดก่อนหันไปหาน้าชาย “น้าปิงมาเป่า คุณยายมาเป่า”
“มาสิครับ เดี๋ยวน้าปิงก็มา”
ปิงอ้าปากเก้อเมื่อมีคนชิงตอบแทนเขา “ใครจะมาครับผมไม่มา” คนถูกโมเมรีบปฏิเสธ
“ต้องมาอยู่แล้ว คุณเป็นแฟนผมก็ต้องมาอยู่ด้วยกัน”
“เป็นแฟนกาน” ลูกหมูตัวกลมยิ้มแฉ่ง
“ฮ่าๆ รู้ด้วยเหรอเรา” คีรินทร์หัวเราะชอบใจ
“ลู้ บูก๊ะเป็นแฟนมา ม่ายต้องปายหนาย อยู่ด้วยกาน”
เด็กชายมาสะดุ้งโหยง เมื่ออยู่ๆ ก็มีแฟนขึ้นมา แถมเป็นเจ้ากระปุกหมูตัวกลมเสียด้วย “ใช่ที่ไหนกระปุกหมูพูดจามั่วซั่ว”
"ก๊ะลอโตก่อน โตละจิบมาด้าย" เด็กชายตัวกลมยิ้มสดใส มันต้องใช่สิ
!!! เด็กชายมาหน้าแดงปนเขียว ตีหน้ายักษ์ใส่น้อง
"หึๆ รู้เหรอเราว่าจีบแปลว่าอะไร" คีรินทร์จับศีรษะกลมโยกเบาๆ
"ลู้ บูลู้ บูจำด้ายมาจ๋าบอก"
"ผมไม่เคยพูด" เด็กชายมาเถียงน้องขาดใจ เขาไม่เคยบอกให้กระปุกหมูจีบเสียหน่อย
"เล่าให้อาฟังหน่อยสิครับว่าพี่มาบอกว่ายังไง"
"มาจ๋าบอก ลินลินชอบน้าปิง ชอบละก็จิบ บูก๊ะชอบมาบูก๊ะเลยต้องจิบ"
"ฮ่าๆ" คีรินทร์หัวเราะดังลั่น มองปิงด้วยดวงตาเป็นประกาย อีกฝ่ายหน้าแดง เขินกับปวดหัวไปพร้อมกัน
"น้าปิงผมไม่ได้นินทานะครับ แต่ก็จำไม่ได้แล้วว่าคุยอะไรกับบลู"
"ไม่เป็นไรครับ" ปิงยิ้มให้เด็กชายมา
"แล้วทำไมต้องรอโต ทำไมบลูไม่จีบพี่มาตอนนี้เลย" คีรินทร์กำลังสนุกจึงซักต่อ
"มาบอก บูโตก่อนจะลู้เลื่อง"
"ฮ่าๆ " ในที่สุดคีรินทร์ก็เข้าใจ ที่แท้เด็กชายบลูฟังโน่นนิดฟังนี่หน่อยแล้วจับเอามารวมกัน เด็กหนอเด็ก
"มาลอก่อนน้าแป๊บเดี๋ยวบูก๊ะโตแย้ว เดี๋ยวจิบเยย เป็นแฟนกาน" เด็กชายบลูยิ้มแป้นให้พี่ชายตัวโต พี่ชายทำหน้าครึ่งยิ้มครึ่งบึ้งบอกไม่ถูกว่ากำลังโกรธหรือดีใจ
หมูน้อยตัวกลมเข้าใจในแบบของเขาเอง เขาชอบมาจ๋า มาจ๋าดุแต่ก็ใจดี อยู่กับมาจ๋าแล้วเขามีความสุข เด็กชายบลูอยากอยู่กับมาจ๋าก็เลยต้องจีบ จีบแล้วจะได้อยู่ด้วยกันเมื่อกี้อาคีรินทร์ก็พูด
"ช่างเถอะเดี๋ยวเราก็ลืม" เด็กชายมาถอนใจ เมื่อคิดได้ว่าเจ้าลูกหมูยังเด็กพูดไปอย่างนั้นเองพอโตขึ้นก็ลืม
"ม่ายลืม บูม่ายลืม" เด็กชายบลูส่ายหน้าจนผมกระจาย เขาจำได้
"เอาไงก็เอา" เด็กชายมาเลิกต่อล้อต่อเถียง ถึงไม่ลืมแต่พอโตก็จะเข้าใจ ถึงตอนนั้นเจ้ากระปุกหมูคงขำตัวเองน่าดู น่าอัดคลิปไว้แกล้งให้อายจริงๆ
"หนาวกันหรือยังครับ ขึ้นเลยไหม" ปิงถามเมื่อเห็นว่าผ่านมาชั่วโมงกว่าแล้วและใกล้เที่ยงเต็มที
"ม่ายหนาว" เด็กชายบลูรีบสั่นหน้า ทั้งที่มือไม้เริ่มซีด
"ขึ้นเลยก็ได้ครับน้าปิง" มาเห็นแบบเดียวกับที่ปิงเห็น ริมฝีปากของกระปุกหมูซีดจนขึ้นเป็นเส้น
“บูหยักเล่น” เด็กชายบลูหน้าหงอย ที่บ้านเขาไม่มีสระว่ายน้ำแบบนี้ นานๆ ถึงจะได้เล่นที
“อยากเล่นก็ตามใจ พี่จะขึ้นไปกินไก่ทอด”
“อู้” เจ้าลูกหมูตาโต “ไก่ทอดเหยอ”
“ใช่ อร่อยมาก” เด็กชายมาลากเสียงยาว ทำหน้าเป็นปลื้ม
“มาจ๋า บูหนาวแย้วขึ้นกาน”
เด็กชายมากลั้นยิ้ม เดี๋ยวนี้ขาจับทางเจ้ากระปุกหมูได้แล้ว ไม่ต้องพูดมากให้เหนื่อย
ปิงมองเด็กชายทั้งสองจูงมือกันขึ้นจากน้ำ เขานึกอยากให้บลูมีพี่ชายขึ้นมาจริงๆ เด็กชายคงมีความสุขมาก ทุกวันนี้อะไรก็พี่มา ติดมาก ส่วนหนึ่งก็เป็นเพราะเขาทำงานเด็กชายบลูจึงไม่มีเพื่อนเลย
• • • • • • • •
ปิงเช็ดผมออกมาจากห้องน้ำ เขาใช้เวลาได้ตามสบายเพราะเพียงดาวรับอาสาดูแลเด็กชายบลูให้
“มานี่ผมเป่าผมให้”
ปิงเดินตามคีรินทร์ไปยังที่นั่งริมหน้าต่าง ชายหนุ่มนั่งลงบนเก้าอี้ชี้ให้เขานั่งลงตรงหน้า ลมอุ่นๆ เป่ารดเส้นผม ปิงไม่รู้ว่าคีรินทร์เตรียมไว้ตอนไหน เขาหลับตาลงพิงหลังกับขาของคีรินทร์ปล่อยให้อีกฝ่ายจัดการ
“แห้งแล้ว มาผมมัดผมให้” มือของคีรินทร์ยื่นมาด้านข้างเขา ปิงลืมตาขึ้นหัวเราะเบาๆ
“ผมมัดเองดีกว่าครับ ไม่อยากเป็นนกยูง”
“นกยูง?”
“ผมไม่อยากรำแพนหางได้นี่ครับ”
“ฮ่าๆ” คีรินทร์หัวเราะเสียงดังเมื่อเข้าใจสิ่งที่ปิงพูด เขาชอบเวลาที่ได้อยู่กับปิง “เอาน่าเชื่อมือผมเถอะ”
“ไม่เชื่อครับผมโดนมาแล้ว”
“หึๆ แต่ควรให้ผมได้ฝึกนะเพราะผมมีแฟนผมยาว ผมจะได้ช่วยมัดให้แฟน” เจอประโยคนี้เข้าไปใครจะใจแข็งอยู่ได้ ปิงดึงหนังยางออกจากแขนส่งให้คีรินทร์
“มีพัฒนาการนะครับ คราวนี้คุณคีรินทร์ไม่ดึงหนังหัวผมแล้ว” ปิงเอ่ยชมเมื่อคีรินทร์มัดผมให้เขาเสร็จเรียบร้อย
“เมื่อไหร่จะเลิกเรียกผมว่าคุณคีรินทร์เสียที”
“ครับ?” ปิงหมุนตัว หันหน้าไปมองอีกฝ่าย
“เลิกเรียกผมแบบนั้นได้แล้ว ห่างเหินชะมัด”
“แล้วคุณคีรินทร์อยากให้ผมเรียกว่าอะไรครับ” ปิงถามเพราะเขาคิดไม่ออกจริงๆ
“ที่รัก”
!!!
“ฮ่าๆ” คีรินทร์วางมือลงบนศีรษะของปิง จับโยกเบาๆ ขำสีหนาของอีกฝ่าย “เรียกว่าพี่คีรินทร์” เสียงพูดทุ้มหูทำให้คีรินทร์หน้าแดง “ตกลงไหม”
“ผมยังไม่ค่อยชินเลยครับ” ปิงเสียงอ่อย ถึงจะเป็นแฟนกันแล้วเขาก็ยังรู้สึกว่าคีรินทร์เป็นเจ้านายด้วยอยู่ดี
“ถ้าอย่างนั้นผมจะทำให้คุณชินเอง”
ดวงตาของปิงเบิกกว้าง เมื่อมือของคีรินทร์จับคางเขาเชยขึ้น ก่อนริมฝีปากของอีกฝ่ายจะประทับลงมาบนริมฝีปากของเขา ดวงตาของปิงค่อยๆ หรี่ลง มือของเขาสั่นน้อยๆ สมองเริ่มพร่าเบลอ ความหวานซาบซ่านอยู่ที่ปลายลิ้น
“เรียกผมสิ” เสียงพูดชิดริมฝีปาก ปิงเผยอตาขึ้นน้อยๆ พูดด้วยเสียงแหบพร่า “คุณคีรินทร์”
“ผิดแล้ว” ริมฝีปากของเขาถูกรุกรานอีกครั้ง ความร้อนแผ่ไปทั่วร่างกาย
“อีกที”
“พี่คีรินทร์” ปิงแทบไม่มีแรง เสียงที่เรียกราวกับลอยมาจากที่ไกลแสนไกล
“เก่งมาก” ปิงอยากประท้วง ในเมื่อเขาเรียกถูกแล้วทำไมยังถูกจูบอีก แต่เขาไม่มีแรงมากพอจะยับยั้งและอันที่จริงเขาชอบสัมผัสที่คีรินทร์มอบให้
ปิงหายใจถี่เอาอากาศเข้าปอดเมื่อคีรินทร์ยอมปล่อยเขา ร่างผอมสูงตกอยู่ในอ้อมแขนของอีกฝ่าย คีรินทร์ซบหน้าลงบนผมของเขา
“ย้ายมาอยู่ด้วยกันเถอะ”
“อะไรนะครับ” ปิงผละหน้าออกเพื่อมองใบหน้าของคีรินทร์
“ผมอยากอยู่กับคุณ อยากใช้ชีวิตด้วยกัน”
“อยากทำมากกว่าจูบผมเหรอครับ” ปิงยิ้มกวน ซ่อนความอายไว้ภายใน ใครว่าเขาไม่เขินแต่มันอดแซวไม่ได้
“ฮ่าๆ” ร่างของเขาถูกรวบเข้าไปกอด ปิงถูกดึงขึ้นไปนั่งบนตักของคีรินทร์ แขนสองข้างกอดอยู่ที่เอวของเขา คางเกยไว้บนไหล่
“ใช่ พี่อยากทำมากกว่าจูบ”
ดวงตาของปิงเบิกกว้าง พยายามหันไปมองหน้า
“แปลกใจอะไร”
“คุณ..เอ๊ยพี่คีรินทร์เรียกตัวเองว่าอะไรนะครับ”
“พี่..พี่กับปิง”
รอยยิ้มของปิงค่อยๆ คลี่ออก ความสุขฉายชัดออกมาทางดวงตา “ผมชอบครับ ยุติธรรมดี”
“หึๆ ตัวแสบเอ๊ย” ริมฝีปากของเขาถูกปิดอีกครั้ง ปิงเลิกตกใจ เขาหลับตาลงปล่อยให้ความสุขเข้าครอบคลุม ปิงไม่เคยจิตนาการเรื่องความรักมาก่อน แต่ตอนนี้เขารู้แล้วว่ามันเป็นอย่างไร
อยู่ด้วยกันไปนานๆ นะครับพี่คีรินทร์
✪✣✤✥✦TBC✤✥✦✧✪
ตั้งแต่ตอนหน้าเป็นต้นไป จะเป็นเรื่องของเด็กๆ แล้วนะคะ
Darin ♥ FANPAGE Twitter :
primdarin