ตอนที่ 13 : เรื่องของใจ “เรียบร้อยไหม”
“ครับ คิดว่าข้อเท้าเคล็ด ไม่ต้องไปโรงพยาบาล” คูนตอบชลนทีหลังกลับลงมาเจออีกฝ่าย ที่นั่งรออยู่บริเวณล็อบบี้ของโรงแรมกับคุณสมฤดีหัวหน้าเซลล์ ในมือของชลนทีมีเอกสารปึกใหญ่ คูนเดาว่าน่าจะคุยเรื่องราคากันอยู่
“คุณคูนมาแล้วถ้าอย่างนั้นเราไปดูห้องอาหารต่อเลยไหมคะ ไม่ทราบว่าทางคุณชลทานข้าวเที่ยงมาหรือยังคะ”
“ยังครับ แต่ผมอยากดูให้เสร็จไปเลยมากกว่า” เดิมทีไตรรัตน์นัดทานข้าวไว้กับศิระหลังดูโรงแรมเสร็จเรียบร้อย ชลนนทีไม่แน่ใจว่าโปรแกรมยังเหมือนเดิมหรือเปล่า แต่ถ้าดูจากสถานการณ์เขาคิดว่าน่าจะแยกย้ายมากกว่า เพราะไตรรัตน์พาน้องสาวไปหาหมอ เอาไว้เสร็จแล้วเขาค่อยโทรเช็คกับศิระอีกที
“ได้ค่ะ แต่ถ้าคุณชลหิวบอกฤดีได้เลยนะคะ”
คูนมองสายตาและรอยยิ้มของเซลล์สาว เขาบอกได้คำเดียวว่าเจ้านายของเขาช่างเสน่ห์แรงเหลือเกิน งานนี้คุณตรีลักษณ์มีคู่แข่งเข้าให้แล้ว
“คุณสมฤดีครับ สักครู่ครับ” เสียงเรียกทำให้กลุ่มของพวกเขาหยุดเดิน ในมือชายหนุ่มมีเอกสารบางอย่างมาด้วย
“ขอตัวเดี๋ยวนะคะ”
“เชิญครับ” ชลนทีส่งยิ้มให้สมฤดีเป็นการบอกว่าคุยธุระได้ตามสบาย
“คุณชล”
ชลนทีหันไปมองเมื่อได้ยินเสียงเรียกเบาๆ ของคูน เขานิ่วหน้าเพราะเกิดความสงสัยว่าอีกฝ่ายจะเบาเสียงทำไม
“มีอะไร”
“ผมว่าคุณสมฤดีชอบคุณชล”
ชลนทีเบนสายตาไปทางหญิงสาวที่คูนพูดถึง เขายกยิ้มมุมปากแต่ไม่ตอบ ชายหนุ่มไม่อยากพูดให้หญิงสาวเสียหาย แม้เขาจะรู้สึกอย่างนั้นเช่นกันก็ตาม
“ยิ้มแบบนี้คุณชลก็คิดใช่ไหม”
“หึๆ” ชลนทียังเลือกที่จะไม่ตอบ
“คุณชลเนื้อหอมขนาดนี้เลยเหรอครับ” คูนทำสีหน้าแปลกใจปนตื่นเต้น ชลนทีหัวเราะออกมาเบาๆ เขานึกสนุกยื่นแขนไปตรงหน้าอีกฝ่าย
“อยากรู้ก็ดมดูสิ”
ชายหนุ่มคิดว่าเดี๋ยวอีกฝ่ายคงโวยวายว่าโดนเขาแหย่อีกแล้ว แต่คูนกลับใช้สองมือจับแขนเขาเอาไว้ แล้วโน้มหน้าลงไปดมจริงๆ ก่อนเงยหน้าขึ้นมามองเขา “ไม่เห็นหอมเลยครับ”
กลายเป็นชลนทีที่ยืนอึ้งเพราะคิดไม่ถึง ก่อนจะแหงนหน้าขึ้นหัวเราะเสียงดัง เพราะเขาขำมากจริงๆ
“ถามจริงๆ เถอะ คุณซื่อหรือตั้งใจกวนผมกันแน่”
“อืมม” คูนทำหน้าคิด “ผมว่าทั้งสองอย่าง แวบหนึ่งผมก็อยากลองดมจริงๆ อีกแวบผมก็รู้ว่าคุณชลตั้งใจแหย่ผมเลยกวนกลับซะเลย”
ชลนทียังหัวเราะอย่างต่อเนื่องเพราะคำตอบของอีกฝ่าย มีใครบ้างจะตอบว่าตั้งใจกวนเจ้านาย ก็คงมีแต่คูนนี่แหละมั้ง
“แล้วคุณชลสนใจคนไหนไหมครับ”
ชลนทีมองใบหน้าของคูน คล้ายมีบางอย่างดึงดูดเขาไม่ให้ละสายตา
“มีไหมครับ” คูนถามซ้ำ
“มี”
ชลนทีชะงัก เขาสะดุดคำตอบของตัวเอง เขาพูดออกไปโดยไม่รู้ตัว ระหว่างหญิงสาวทั้งสองชายหนุ่มมั่นใจว่าคำตอบของเขาคือไม่มี แต่ใบหน้าของคูนทำให้คำตอบของเขาเปลี่ยนไป
“เหรอครับ! คนไหนครับ เดี๋ยวผมช่วยเปิดทางให้เอง” คนพูดตื่นเต้น ทำท่าทางแข็งขันอยากช่วยเขา
ชลนทีขมวดคิ้วเข้าหากัน เขาจ้องมองใบหน้าของคูนนิ่ง สมองใช้ความคิดอย่างรวดเร็ว
“ขอโทษนะคะ เรียบร้อยแล้วค่ะ”
ชลนทีหันไปมองเซลล์สาวที่เดินกลับมาพอดี เขายิ้มให้อีกฝ่าย
“ไปกันเลยนะคะ”
“ครับ”
ชลนทีเดินตามสมฤดีไป โดยเลือกที่จะไม่ตอบคำถามของคูน อีกฝ่ายขยับเข้ามาเดินใกล้ๆ ใช้นิ้วสะกิดแขนของเขา ทำท่าบุ้ยใบ้ไปทางเซลล์สาวที่เดินอยู่ข้างหน้า เพื่อถามเขาว่าใช่คนนี้ไหม
ชลนทีมองดวงตาคู่นั้น เขายกยิ้มขึ้นที่มุมปาก พูดออกมาเบาๆ “ทำงานได้แล้ว”
“ครับ” คูนทำหน้าจ๋อย คงกลัวเขาไม่พอใจที่พูดเล่นในเวลางาน
ชลนทีรู้ดีว่าเขาตัดบทเพราะคำตอบที่เขาหามาได้คงไม่ใช่คำตอบที่คูนอยากรู้ ชายหนุ่มเหลือบสายตามองคนที่เดินอยู่ข้างกัน ก่อนเผลอตัวหัวเราะออกมาเบาๆ กำลังคิดว่าเขาจะโทษว่าเป็นความผิดของศิระได้ไหม ที่ให้เขามาผูกติดอยู่กับเด็กหนุ่มคนนี้ จนเกิดความรู้สึกขึ้นมา
เขาอาจจะยังไม่ถึงขั้นชอบ แต่เขาสนใจในตัวคูน นี่คือคำตอบที่ชลนทีหามาได้
• • • • • • • •
“ศิระจะสั่งอาหารขึ้นไปกินบนห้องอิน ยกเลิกนัดกับคุณไตรไปก่อน อินยังเดินไม่สะดวก”
“เหรอครับ งั้นเราขึ้นไปกินกับอินดีไหมครับ” คูนรีบเสนอ เขาอยากขึ้นไปดูเพื่อนอีกสักหน
“อย่าเลย รบกวนคนเจ็บเปล่าๆ แทนที่อินจะได้พัก”
“ก็จริงครับ” คูนพยักหน้า
“อยากไปนั่งดูสาวๆ ที่หาดไหม”
ตาของคูนลุกโพลงจนชลนทีขำ รีบตอบรับเขาแทบไม่ทัน
“ไปครับ ไป”
“อย่าลืมทำงานด้วย เราต้องมีกิจกรรมกลางแจ้งให้ตัวแทนจำหน่ายทำ ลองดูเรื่องสถานที่ เรื่องแดด เรื่องความเป็นไปได้ในการจัดกิจกรรมด้วย ไม่ใช่นั่งมองแต่สาวนุ่งบิกินี่”
“ของมันแน่อยู่แล้วครับ ผมทำงานเต็มที่ รับรอง”
“เชื่อได้แค่ไหน”
“ห้าสิบเปอร์เซ็นต์ก็พอครับ ผมมักน้อย” คนพูดยิ้มกว้าง สายตาทะเล้น
“หึๆ” ชลนทีหัวเราะอย่างอารมณ์ดี เขาชอบคำตอบซื่อๆ ไม่คิดโกหกของคูน
ชายหนุ่มเดินนำไปที่ชายหาด คูนเร่งฝีเท้าจนเดินทัน พวกเขาแยกกับหัวหน้าเซลล์แล้วเพราะชลนทีอยากกินข้าวกันเองมากกว่า พวกเขาจะได้ปรึกษาหารือเรื่องงานกันได้เต็มที่ รวมถึงเขาอยากมีเวลาอยู่กับคูนเพื่อให้แน่ใจในคำตอบของตัวเอง ก่อนที่จะคิดทำอะไรต่อไป
มันเป็นเรื่องเหลือเชื่อที่เขาคิดอย่างนั้นกับเด็กหนุ่มที่เดินอยู่เคียงข้าง แต่ในเมื่อคิดไปแล้ว ชลนทีก็จะไม่หาคำตอบว่าเพราะอะไร เขาอยากรู้มากกว่าว่าใช่อย่างที่คิดไหม จะได้รู้ว่าต้องทำอย่างไรต่อไป
“ผมว่าจัดให้ลูกค้านั่งกินข้าวริมชายหาดแบบนี้สักมื้อก็ดีนะครับ”
“ชอบเหรอ” ชลนทีถามอีกฝ่าย เขาพาคูนมานั่งกินข้าวที่ร้านอาหารริมหาดของโรงแรม มีทั้งโต๊ะในห้องกระจก และโต๊ะที่ตั้งอยู่บนชายหาด
“ครับ อีกอย่างตัวแทนจำหน่ายบางคนมาจากจังหวัดไกลๆ มาทะเลทั้งทีผมว่าน่าจะชอบบรรยากาศแบบนี้”
“อืม ก็ลองทำเสนอมา”
“ครับ” คูนตักอาหารเข้าปาก
“คิดยังไงกับเรื่องของศิระกับอิน”
“ครับ?” คูนเงยหน้าขึ้นมองเขาทันที สีหน้าดูแปลกใจไม่น้อยที่เขาถามถึงเรื่องนี้
“ผมแค่อยากรู้ว่าคุณมองยังไง”
คูนนิ่งไปครู่หนึ่ง สีหน้าใช้ความคิด “ผมไม่มีความคิดเห็นครับ”
“ตอบแบบนี้เพราะผมเป็นเจ้านายกับเป็นเพื่อนสนิทของศิระหรือเปล่า”
“เปล่าครับ ผมไม่มีความคิดเห็นจริงๆ มันเป็นเรื่องของคนสองคน”
“ไม่รู้สึกแปลกเหรอที่ผู้ชายสองคนมาชอบพอกัน” ชลนทีลองแหย่อีกฝ่าย เขาต้องแน่ใจก่อนว่าคูนคิดอย่างไรกับเรื่องนี้
“ไม่เห็นแปลกเลยครับ ความรักก็คือความรัก คนที่ชอบก็คือคนที่ชอบ แล้วถ้าคนที่ชอบคือคนที่ใช่ก็ยิ่งดีใหญ่ไม่ใช่เหรอครับ ที่คุณชลถามแบบนี้หรือเพราะไม่เห็นด้วยกับคู่นั้นครับ”
สายตาของคูนดูแปลกไป จริงจัง เหมือนขีดเส้นกั้นเขาออกห่าง จนชลนทีต้องรีบแก้ตัว
“เปล่า ผมแค่อยากรู้ว่าคูนจะช่วยศิระไหม ผมอยากให้เพื่อนสมหวัง”
“อ๋อ” คนพูดสีหน้าโล่งใจกลับมายิ้มได้เหมือนเดิม “ช่วยอยู่แล้วครับ ผมเชียร์ทั้งคู่นั่นแหละอยากให้มีความสุขกัน”
“แล้วคุณไม่อยากมีความสุขบ้างเหรอ”
คูนตักอาหารเข้าปากพอดี จึงใช้เวลาครู่หนึ่งก่อนจะตอบเขา
“อยากสิครับถามได้ แต่ก็นะ..” คูนมองไปรอบๆ “ยังไม่เห็นมีคนไหนส่งสายตาให้ผมเลย”
“อาจจะมีแต่คุณไม่รู้ก็ได้” ชลนทียิ้มอยู่ในหน้า ดวงตาเป็นประกาย
“ไหนครับ คนไหน” คูนหันไปมหันมา
“หึๆ”
“คุณชลแหย่ผมอีกแล้ว ผมรู้น่าว่านั่งกับคุณชลใครจะมองผม”
“ก็ดีแล้ว”
“อะไรนะครับ” เพราะมัวแต่ก้มหน้าลงตักกับข้าว คูนจึงได้ยินคำพูดของชลนทีไม่ถนัดหู
“ไม่มีอะไร”
“โอ๊ะ!” เสียงอุทานของคูน ทำให้ชลนทีขมวดคิ้วเข้าหากัน ยิ่งอีกฝ่ายก้มหัวลงต่ำยิ่งน่าสงสัย
“มีอะไร”
“คุณตรีมาครับ คุณชลอย่าเพิ่งหันไปให้คุณตรีหาไปก่อน ผมกลัวถามไม่ทัน”
“ถามอะไร”
“คุณชลสนใจคนไหนครับ ยังไม่ได้ตอบผมเลย ผมจะได้ช่วยเปิดทางให้ถูกคน”
“ไม่ต้อง ไม่ใช่ทั้งสองคน”
“อ้าว!” สีหน้าของคูนแปลกใจ “ก็คุณชลบอกผมว่ามี”
“ใช่ผมมี แต่ไม่ใช่ทั้งสองคน”
“อ๋อ” คูนพยักหน้า คงเป็นใครสักคนที่กรุงเทพฯ มั้ง “คุณตรีเห็นผมแล้วครับกำลังเดินมา”
“คูน”
“ครับ”
“ผมไม่อยากให้งานมีปัญหา ถ้าคุณช่วยกันคุณตรีให้ผมได้จะขอบคุณมาก”
“เป็นไม้กันหมะ..เอ่อ..กันคุณตรีใช่ไหมครับ” คูนยิ้มกว้าง “ได้อยู่แล้วครับ”
“ขอบใจ” ชลนทียกยิ้มมุมปาก มองอีกฝ่ายด้วยดวงตาพอใจ ไม่ต้องเปิดโอกาสให้ฉันหรอกเพราะฉันเปิดโอกาสให้ตัวเองเรียบร้อยแล้ว
“คุณชล” เสียงทักดังมาแต่ไกล
คูนมองชลนทีลุกขึ้นยืน ชายหนุ่มส่งยิ้มไปให้หญิงสาวก่อนเดินอ้อมโต๊ะมายืนรอฝั่งเดียวกับเขา ด้วยท่าทางของสุภาพบุรุษที่สละที่นั่งให้หญิงสาวนั่งคนเดียวสบายๆ แต่เขารู้ว่ามันไม่ใช่ เห็นอย่างนี้แล้วเขาคิดว่าชลนทีไม่เห็นจำเป็นต้องให้เขาช่วยก็ได้ เพราะเจ้าตัวเจ้าเล่ห์ออกปานนี้
“อาการดีขึ้นแล้วเหรอครับ” สีหน้ายิ้มแย้มกับเสียงทุ้มนุ่มฟังคล้ายคนพูดเป็นห่วง คูนกัดริมฝีปากแน่นเพื่อไม่ให้หลุดเสียงหัวเราะออกมาเพราะรู้ความหมายของอีกฝ่ายดี ดวงตาของตรีลักษณ์เบิกขึ้น ก่อนที่จะรีบนั่งลงราวกับร่างกายอ่อนแอเสียเต็มประดา ทั้งที่เมื่อครู่เพิ่งสับขาฉับๆ เดินตรงเข้ามาหาอยู่เลย
“ยังเจ็บอยู่เลยค่ะ ตรีมัวแต่ดีใจที่เจอคุณชลเลยลืมตัว ตอนนี้เจ็บมากกว่าเดิมอีก”
“ผมก็อยู่ในโรงแรมนี่แหละครับ ไม่ได้ไปไหน คุณตรีน่าจะพักก่อน” คนพูดยังยิ้ม
“ตรียังไม่ได้ทานข้าวเลยค่ะ รอมาทานกับคุณชล”
“ต้องขอโทษด้วยครับ” ชลนทีทำเสียงเหมือนคนรู้สึกผิด “ผมไม่ทราบว่าคุณตรีจะรอกินข้าวด้วย ผมนัดคุยเรื่องงานต่อตอนบ่ายสองโมงครึ่ง” ชลนทีพลิกข้อมือขึ้นดูนาฬิกา “คงไม่ทันแล้วครับ เอาไว้โอกาสหน้าผมคงได้แก้ตัว”
“ถ้านัดกับโรงแรมไม่เป็นไรค่ะให้รอได้เราเป็นลูกค้า”
“อย่าเลยครับผมเป็นคนทำงานเหมือนกัน รู้ดีว่าการถูกปล่อยให้รอเป็นยังไง ถ้าไม่เหลือบ่ากว่าแรงผมก็ไม่อยากผิดนัด”
สีหน้าของชลนทียังเต็มไปด้วยรอยยิ้ม คูนคิดว่าเขาควรจะศึกษาวิธีเอาไว้ แต่ก็สงสัยอีกว่าเขาจะเอาไปปฏิเสธใคร ในเมื่อไม่เห็นมีใครสนใจเขาสักคน
“คุณตรีจะทานเลยไหมครับผมจะได้เรียกพนักงานให้ แต่ผมคงต้องขอตัวแล้ว”
“ไม่ค่ะ” เสียงตอบสะบัดด้วยความเอาแต่ใจ ดูเหมือนหญิงสาวจะโกรธอยู่ไม่น้อย
“ถ้าอย่างนั้นเอาไว้เจอกันครับ”
“เดี๋ยวสิคะ! ตรีมาที่นี่ก็เพราะจะมาดูสถานที่จัดงาน ตรีไปด้วยค่ะ”
“คุณตรียังเจ็บขาอยู่ไม่ใช่เหรอครับ เห็นเมื่อครู่บอกผมว่ายังเจ็บอยู่มาก อย่าเดินเลยครับผมอยากให้พักมากกว่าเดี๋ยวทางผมจะดูแลให้อย่างดี ผมขอตัวก่อนครับ” ชลนทีลุกขึ้นยืน คูนจึงรีบลุกขึ้นตาม เขามองอาหารบนโต๊ะด้วยความเสียดาย กินไปได้ยังไม่ถึงครึ่ง
“เรามีนัดด้วยเหรอครับ” คูนถามหลังจากมั่นใจว่าพวกเขาเดินห่างออกมามากพอแล้ว
“ใช่”
“เหรอครับ” คูนขมวดคิ้ว พยายามนึกแต่เขามั่นใจว่าเขาลาเซลล์สาวแล้วเรียบร้อย
“ผมนัดกับคุณไม่ใช่เหรอ” ดวงตาคนพูดเป็นประกายเจ้าเล่ห์ปนขำ คูนเบิกตากว้างก่อนหัวเราะออกมา
“คุณชลเจ้าเล่ห์ชะมัด อย่างนี้ไม่เห็นต้องมีผมช่วยเลยครับ”
“ต้องมีสิ คูนอยู่กับผมจะช่วยได้มาก”
“ช่วยได้ก็ช่วยได้ครับแต่ผมยังไม่อิ่มเลย เสียดายอาหารด้วย แล้วเมื่อกี้เราไม่ต้องจ่ายเงินเหรอครับ”
“ไม่ต้อง ทางโรงแรมจัดการให้เราทุกอย่าง”
“ผมลืมไป คุณชลจะไปดูที่ไหนต่อครับ”
“ไปหาที่กินข้าวต่อดีไหม”
คูนยิ้มกว้าง เขาหัวเราะออกมาเบาๆ “คุณชลก็ยังหิวเหมือนกันใช่ไหม”
“ใช่” ชลนทีพยักหน้า
“ผมเข้าใจแล้ว ร้านเดิมกลัวไม่ได้กินเพราะต้องคอยระวังคนร่วมโต๊ะใช่ไหมครับ”
ชลนทีเบือนสายตาไปมองรอยยิ้มของคูน เขาพยักหน้าช้าๆ ดวงตาอ่อนแสงลง “ใช่ กินกับคนที่สบายใจกว่าดีที่สุด”
“ผมจะถือว่าเป็นคำชมนะ” คนพูดยิ้มกว้าง
“ผมชมจริงๆ”
“ขอบคุณครับ”
รอยยิ้มและสายตาที่ส่งให้เขาจริงใจ ชลนทีพยักหน้ารับก่อนเบือนสายตากลับมามองทางข้างหน้า มุมปากยกขึ้นเป็นรอยยิ้ม ดวงตาเป็นประกายเจ้าเล่ห์
เอาไว้สักวันนายจะรู้เองว่าฉันหมายความตามนั้นจริงๆ
✪✣✤✥✦TBC✤✥✦✧✪
Darin ♥ FANPAGE Twitter :
primdarin