นิยายรักผู้พิทักษ์สันติราษฎร์ - คดีรัก -
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด

สนใจโฆษณาติดต่อ laopedcenter[at]hotmail.com คลิ๊กรายละเอียดที่ตำแหน่งว่างเลยครับ

สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด

ผู้เขียน หัวข้อ: นิยายรักผู้พิทักษ์สันติราษฎร์ - คดีรัก -  (อ่าน 838324 ครั้ง)

ออฟไลน์ tatum1234

  • เป็ดHera
  • *
  • กระทู้: 952
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +195/-1
 :m13: ขอแบบห้าตอนรวดได้มะครับแบบว่าชอบมากอะคร๊าฟฟฟฟ

ออฟไลน์ pongsj

  • เป็ดแสนดี
  • เป็ดAthena
  • *
  • กระทู้: 6054
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +213/-9

jobisuka

  • บุคคลทั่วไป
นั่น ๆๆๆๆ ไปถึงอู่ แล้วจาโดนยั่วอาไรอีกป่าวเนี่ย :t2:

katawoot

  • บุคคลทั่วไป
รถไฟ เรือเมล์ ลิเก ตำรวจ ไว้ใจไม่ค่อยได้จำได้ป่ะที่โบราณเคยว่าไว้  :m23:
แต่ว่าคนเขียนเรื่องตำรวจ ไว้ใจได้ครับ ว่าไม่เคยหลอกใครเลย
 :m13:

ตำรวจเนี่ย เ่อ่อจะไว้ใจได้จริงๆหรือเจ้าคะ  o12

katawoot

  • บุคคลทั่วไป
บทที่ห้า
เริ่มต้นของความสัมพันธ์

พอพ้นสภาพจอแจของถนนในกรุงเทพฯ รถสปอร์ตสีแดงทะยานขึ้นทางด่วน ใช้ความเร็วปานกลาง ขับมุ่งหน้าตรงไปยังถนนรามอินทรา เมื่อลงทางด่วน อธิคมใช้เส้นทางซอยวัชรพลตรงไปอีกประมาณเจ็ดกิโลเมตร รถเริ่มบางตาเพราะขณะนี้กำลังมุ่งหน้าออกนอกเมือง สองข้างทางเป็นตึกแถวสลับกับทุ่งหญ้าคาโล่ง
อนุภาพสงสัยว่าจะต้องใช้เวลาเดินทางอีกนานเท่าใด ครั้งล่าสุดที่เขาถามนายตำรวจหนุ่ม อธิคมได้แต่พูดว่า “อีกไม่ไกลครับ อีกแป๊บเดียวก็ถึง”
บ่อยครั้งเข้า ชายหนุ่มเลยขี้เกียจจะสอบถามอีกเพราะคิดว่าคงจะได้คำตอบเหมือนเดิม
อนุภาพนึกฉุนอยู่ในใจว่า ทำไมอู่ซ่อมรถของเพื่อนที่รู้จักกันของอธิคมจึงอยู่ใกลนัก ชายหนุ่มเริ่มไม่แน่ใจว่าคิดถูกหรือคิดผิดที่ยอมเอารถไปซ่อมที่อู่นี้
...บางทีอาจจะไม่ใช่ความคิดที่ดีนัก หากจะต้องนึกถึงความสะดวกตอนมารับรถ...

ผ่านทุ่งหญ้ากว้างทางด้านซ้ายมือ อธิคมเริ่มชะลอรถ และเลี้ยวซ้ายเข้าไปในซอยเล็กๆ ขับรถตรงไปอีกประมาณสองกิโลเมตร สองข้างทางนั้นแทบไม่มีตึกแถวหรือร้านรวงทำธุรกิจอะไรเลย
 อนุภาพนึกอยู่ในใจว่าถ้าอธิคมจะเอาตัวมาฆ่าเหมือนอย่างที่พูดเล่นเมื่อตอนขึ้นรถ เขาก็คงจะสูญหายไปจากโลกนี้โดยที่ไม่มีใครรู้เรื่องรู้ราวเป็นแน่แท้
ขณะที่คิด ชายหนุ่มเผลอหันหน้าไปมองคนขับโดยไม่รู้สึกตัว
อธิคมพูดว่า  “ถึงแล้วครับ” เหมือนจะเข้าใจว่าอนุภาพหันหน้าไปถามว่า ‘เมื่อไหร่จะถึง’
เขาจอดรถหน้าอู่ซ่อมรถที่มีหลังคาโครงเหล็กสูงประมาณตึกสองชั้น อู่นี้ใหญ่พอสมควร ไม่น่าเชื่อว่านอกเมืองจะมีอู่ซ่อมรถใหญ่ขนาดนี้
เมื่อเดินเข้าไปข้างใน อนุภาพเห็นว่าอู่มีบริเวณกว้างใหญ่เกินคาด รถรอซ่อมจอดเรียงราย ทั้งรถเก๋ง รถตู้ เอ็สยูวี กระบะโฟรวิลล์ พนักงานหลายคนกำลังทำงานของตนอย่างขะมักเขม้น
อธิคมผายมือเชิญอนุภาพไปที่ห้องรับรองลูกค้าที่อยู่ทางด้านข้างใกล้กับห้องอบสี อนุภาพตรงลิ่วไปที่สำนักงาน เมื่อเปิดประตูเข้าไป พนักงานต้อนรับเชิญให้ทั้งสองนั่งรอผู้จัดการสักครู่ แล้วพูดว่า “เดี๋ยวเฮียมาค่ะ”
ไม่นานนัก ชายอายุสามสิบปลายๆ เดินเข้ามาแนะนำตัวเอง เฮียสูงประมาณร้อยเจ็ดสิบเซ็นติเมตร ผิวขาวซีด ดวงตายาวรีแบบคนไทยเชื้อสายจีน จมูกโด่งคม ปากบางเฉียบ สวมเสื้อยืดสีเทาลายขวางดำ กางเกงยีนส์สีซีด สวมสร้อยคอทองคำเส้นโต นาฬิกาข้อมือสีทองอร่าม
เฮียยิ้มกว้างทักทายต้อนรับอธิคมอย่างสนิทสนม “ว่าไงเฮีย ผมเอารถของ...” นายตำรวจหนุ่มเว้นวรรคชั่วครู่แล้วกล่าวต่อว่า “เพื่อน มาส่งซ่อมครับ พอดียืมท้ายรถเขาเป็นที่หยุดรถชั่วคราว” ทั้งสองหัวเราะอย่างเห็นขัน อนุภาพยังคงใบหน้าเรียบเฉย
อธิคมแนะนำให้อนุภาพรู้จักกับเฮียชัย “รับรองว่าผมซ่อมให้แหล่มเลย ไม่ต้องห่วง ช่างที่นี่ฝีมือเยี่ยม”
อนุภาพถามว่าจะใช้เวลานานเท่าไร เฮียตอบว่า “ไม่นานหรอกครับ เดี๋ยวทำให้เสร็จใสกิ๊กเลย”
อนุภาพสงสัย...รถซ่อมแล้วแหล่มและใสกิ๊กนี่มันเป็นยังไง เขาหวังว่ามันคงออกมาได้สวยเหมือนกับตอนที่ก่อนจะถูกยืมเป็นที่หยุดรถชั่วคราว อย่างที่คุณตำรวจเจ้าคารมกล่าว...
“อาทิตย์นึงได้ไม๊ครับเฮีย” เขาถาม
“โอ๊ยไม่นาน ไม่นานครับ”
สรุปแล้วอนุภาพไม่ได้รับคำตอบว่ากี่วัน หรือวันที่เท่าไหร่จะได้รับรถ คำตอบคือ “ไม่นาน” เหมือนตอนที่ได้รับคำตอบเมื่อครั้งถามอธิคมว่าเมื่อไหร่จะถึงอู่ว่า “แป๊บเดียวครับ”
เขาหวั่นใจ “แป๊บเดียว” หลายๆ ครั้งนี่รวมกันแล้วคงใช้เวลาพอสมควร
ขออย่าให้ “ไม่นาน” ของเฮียชัยมีหลายครั้งจนบวกรวมกันได้ระยะเวลามากขึ้นเหมือน “แป๊บเดียว” ของอธิคมเลย

หลังจากตกลงกันและเซ็นเอกสารเรียบร้อย อนุภาพรีบเดินออกมานอกสำนักงาน หยุดยืนที่ประตูรั้วของอู่ หันรีหันขวาง แล้วมองตรงไปเบื้องหน้าที่เป็นทุ่งโล่งว่างเปล่าเห็นอาคารพาณิชย์สีขาวอยู่ลิบๆ อธิคมเดินตามมาหยุดยืนข้างๆ
“ไม่รอเลย” เขาตัดพ้อ
อนุภาพหันไปถาม “ไม่เห็นมีแท็กซี่ผ่านมาซักคัน” เขาขมวดคิ้ว
อธิคมยิ้ม ตาจับจ้องอยู่ที่ใบหน้าขาวที่ตอนนี้แก้มเริ่มระเรื่อเพราะความร้อนอบอ้าว เหงื่อเม็ดเล็กๆ เกาะปรายจมูกโด่งคมจนเขาอยากเอื้อมมือไปเช็ด
“ซอยลึกขนาดนี้ไม่มีแท็กซี่มาหรอกครับ” เขาตอบเสียงเรียบๆ ดูไม่อนาทรร้อนใจ
“อ้าว แล้วนี่จะกลับกันยังไง อย่าบอกนะว่าต้องเดินไปจนถึงถนนใหญ่” อนุภาพประท้วง
“คงงั้นมั๊ง” อธิคมหุบยิ้ม ตีหน้าเซ็ง
อนุภาพถอนหายใจแรงๆ “แย่จริง รู้ยังงี้จ้างให้แท็กซี่ขับรถตามมารอรับเสียก็ดี”
อธิคมหัวเราะเบาๆ ตอบว่า “ล้อเล่นครับ เดี๋ยวมีราชรถมาเกย”
อนุภาพหันหน้าไปทำตาขวาง ผู้ชายคนนี้กวนอารมณ์ได้ดีจริงๆ
แต่เอาเถอะ รถก็ส่งอู่แล้ว ถ้าเดาไม่ผิด ‘ไม่นาน’ ของเอียชัยสักสองสาม ‘ไม่นาน’ บวกกัน ยังไงก็คงไม่เกินสองอาทิตย์ วันที่ 30 สิ้นเดือนเขาก็มารับรถแล้วก็จบกัน ไม่ต้องมาเสียประสาทกับคนตัวใหญ่มุขเยอะที่กำลังยืนยิ้มเผล่อยู่ข้างๆ
แต่อนุภาพไม่รู้เลยว่า “ไม่นาน” ของเฮียชัย ยังไม่ได้บวกกับ “อีกแป๊บเดียว” ของอธิคมไปอีกหลายต่อหลายครั้ง และเรื่องก็ไม่จบลงแค่ที่ว่ารถซ่อมเสร็จ
ทั้งสองยังมีอะไรที่ต้องเกี่ยวพันกันอีกมาก
...........................................

“ราชรถ” ของอธิคมคือโตโยต้าวีออสกลางเก่ากลางใหม่คันจิ๋วของอู่ขับโดยช่างหนุ่มวัยรุ่น อธิคมนั่งคุดคู้คู่กับคนขับ ตัวสูงใหญ่ของเขาเก้งก้าง ศรีษะติดเพดานรถ สองขายาวยกสูงพับเข่าเบียดชิดกับคอนโซลหน้ารถ เขาต้องถอยเบาะจนเกือบจะสุด เหมือนผู้ใหญ่ขึ้นไปนั่งรถเด็กเล่นที่สวนสนุกยังไงยังงั้น
อนุภาพอมยิ้มเล็กน้อย นึกขัน
อธิคมเหมือนมีตาข้างหลัง หันหน้ามามอง พลางขมวดคิ้วเหมือนจะปรามว่า “หัวเราะอะไรผม”
นักโฆษณาหนุ่มทำเป็นไม่สนใจ เมินหน้าออกไปมองนอกกระจก
ตลอดทางอนุภาพนั่งนิ่งเงียบบนเบาะหลัง ฟังอธิคมคุยเจื้อยแจ้วกับสารถีของราชรถ
ขณะนั้นเป็นเวลาเย็นแล้ว ท้องฟ้ามืดครึ้ม ฝนตั้งเค้าจะตก รถของอู่ส่งทั้งสองลงที่หน้าปากซอย แท็กซี่ที่ผ่านมาไม่ว่างสักคัน มีผู้โดยสารใช้บริการทั้งสิ้น
อธิคมยืนใกล้ๆ อนุภาพ ชะเง้อมองไปที่ถนนเพื่อจะเรียกแท็กซี่ อนุภาพยืนนิ่งตรงไม่กระดุกกระดิกทั้งที่ในใจรู้สึกกังวลว่าฝนกำลังจะตก
เขาจะทำยังไงดี เขาไม่อยากเปียกฝน เสื้อเชิ้ตสีขาวที่กำลังสวมอยู่นั้นเป็นผ้าบางๆ ไม่ได้ใส่เสื้อกล้ามข้างใน ถ้าเปียกฝนเสื้อจะแนบชิดผิวกาย...ผู้กองหนุ่มที่ยืนยิ้มกะลิ้มกะเหลี่ยอยู่ข้างๆ ก็ชอบจ้องมองเขาเหลือเกิน
ดูอธิคมไม่ร้อนใจ หรือว่าบุคลิกของเขาเป็นเช่นนี้ เขาสงสัยว่าผู้ชายคนนี้เคยกังวลอะไรหรือไม่...เวลาผ่านไปสิบห้านาที ไม่มีวี่แววว่าจะมีรถแท็กซี่ว่างผ่านมาสักคัน
“คุณหิวข้าวไม๊ครับ ผมว่าเราหาอะไรแถวนี้กินกันก่อนดีกว่า”
อนุภาพกระแทกเสียง “แถวๆ นี้เห็นมีแต่หญ้าคา จะให้กินอะไร” เขาประชด
อธิคมเงยหน้าหัวเราะเสียงดัง “คุณนี่ เข้าใจประชด เดินไปอีกสักหน่อยก็มีร้านค้าแล้ว แวะทานอะไรซะก่อน เพราะว่าถ้าเรียกรถแท็กซี่ได้กว่าจะถึงบ้านก็อีกนาน คงจะหิวใส้ขาดบนรถเสียก่อน เดี๋ยวจะหาว่าเลี้ยงดูปูเสื่อไม่ดี”
อนุภาพลังเล จริงอย่างที่เขาพูด ถ้าฝนตกลงมาระหว่างที่กำลังเดินไปร้านอาหารข้างหน้ากว่าจะได้รถแท็กซี่คงจะอีกครู่ใหญ่ๆ ช่วงฝนตกก็คงจะหาได้ยาก เพราะใครๆ คงจะเรียกแท๊กซี่กันแทบทุกคน...ฝนตกรถติด กว่าจะถึงบ้าน คงอีก ‘หลายแป๊บเดียว’
“ไม่ต้องห่วงครับ พอเริ่มค่ำเดี๋ยวมีแท็กซี่ ตอนนี้หกโมง เพิ่งเลิกงาน แท๊กซี่ไม่ว่างหรอก” อธิคมกล่าวเหมือนล่วงรู้ความคิดของอนุภาพ
ชายหนุ่มไม่ตอบ สาวเท้าเดินนำหน้าไปยังอาคารพาณิชย์เบื้องหน้าไกลออกไป...เท่าที่สายตามองเห็น ในใจก็คิดว่า…เดินไปเรื่อยๆ ก็ยังดีกว่ายืนเซ็งๆ อยู่ตรงนี้
อธิคมเดินตามมาช้าๆ ทอดน่องเอื่อยๆ เหมือนไม่เร่งรีบ เขายกโทรศัพท์ขึ้นมากดเบอร์คุย อนุภาพหันหน้าไปมอง ขมวดคิ้ว นึกฉุนคนตัวโตว่าเวลาอย่างนี้ยังจะมาเดินเล่นเรื่อยเปื่อยคุยโทรศัพท์อย่างสบายอารมณ์
นายตำรวจหนุ่มเร่งฝีเท้าก้าวยาวๆ ตามมาไม่มีกี่ก้าวก็ทันคนใจร้อน
“โทรเรื่องงานครับ ไม่ได้โทรเรื่องไร้สาระ” เขาบอก แล้วเดินลิ่วๆ นำหน้า
...ผู้ชายคนนี้อ่านใจคนได้หรือไงนะ...อนุภาพถอนหายใจ
ข้างทางเป็นทุ่งโล่ง ลมกระโชกแรง หอบเอาฝุ่นปลิวคลุ้ง เป็นสัญญาณว่าพายุฝนกำลังจะตกลงมาในอีกไม่ช้า อนุภาพรีบสาวเท้าก้าวเร็วขึ้น เพราะเห็นป้ายร้านเซเว่นอีเลฟเว่นที่อาคารข้างหน้า อนุภาพแซงหน้าอธิคม ตรงลิ่วไปที่รถเข็นขายก๋วยเตี๋ยว แล้วนั่งลงเพื่อเตรียมสั่งอาหาร
อธิคมเร่งฝีเท้าไม่กี่ก้าวก็ตามทัน
“คุณจะรีบไปไหน วัวหายรึยังไง” เขาถามประชด
อนุภาพไม่เข้าใจคำเปรียบเทียบ “วัวอะไรหาย”
อธิคมไม่ตอบแต่หัวเราะเสียงดัง ตาหยี อนุภาพมองเขาเหมือนเห็นสิ่งแปลกประหลาด
“ขำอะไรกัน...ผมหิวข้าว” อนุภาพเสียงเข้ม เริ่มหงุดหงิด
“อ้าว หิวก็สั่งสิครับ ไม่มีใครห้ามนี่นา”
ชายหนุ่มหันไปสั่งก๋วยเตี๋ยว “คุณป้าครับ ผมขอเส้นเล็กน้ำหนึ่งชามครับ”
อธิคมนึกในใจว่า “ทีพูดกับแม่ค้าล่ะเสียงเพราะเชียว แต่กับเราพูดเสียงแข็ง หมางเมิน”
“อ้าว จะทานคนเดียวเหรือครับ ไม่สั่งเผื่อผมรึยังไง”
 “คุณจะทานอะไรครับ” เขาถามเพื่อนร่วมโต๊ะตามมารยาท
“อะไรผมก็ทานได้ครับ ผมไม่ช่างเลือก”
อนุภาพยิ้มมีเลศนัยแล้วจึงสั่งเพิ่ม “เพิ่มเส้นใหญ่พิเศษอีกชามครับ ไม่ใส่ผัก เส้นกับหมูน้อยๆ น้ำเยอะๆ” เขาหันหน้ามายิ้มเยือกเย็น เอียงหน้า ท้าทาย
อธิคมยิ้มมุมปาก ไม่โต้แย้ง สายตาท้าท้ายเหมือนจะบอกว่า “ถ้าคุณกล้าสั่ง ผมก็กล้ากิน”
แม่ค้านำก๋วยเตี๋ยวสองชามมาเสิร์ฟ อนุภาพไม่ปรุงเครื่อง เขี่ยถั่วงอกออกจากเส้นก๋วยเตี๋ยวชามของตนช้าๆ ส่วนอีกชามเป็นก๋วยเตี๋ยวน้ำโหรงเหรง มีเส้นและหมูอยู่นิดเดียว น้ำซุปเต็มชาม อธิคมจ้องมอง ‘ก๋วยเตี๋ยวอัปลักษณ์’ แล้วเงยหน้ามองแม่ค้าหญิงวัยกลางคนร่างอวบที่ยืนทำหน้าเจื่อนๆ
“ไม่อิ่มสั่งเพิ่มได้นะค่ะคุณตำรวจ”
“ใจร้าย” อธิคมมองคนใจร้ายตรงหน้าอย่างตัดพ้อ แต่ก็คีบก๋วยเตี๋ยวเข้าปาก เคี้ยวตุ้ยๆ เหมือนเด็ก สลับกับเงยหน้าขึ้นมองอนุภาพเป็นครั้งคราวพร้อมกับส่งยิ้มให้
 เขาจัดการกับก๋วยเตี๋ยว ‘พิเศษ’ ชามนั้นอย่างรวดเร็วและสั่งเพิ่มอีกสองชามในคราวเดียว
“พี่ครับ ขอเส้นเล็กอีกสองชาม ใส่ ผัก เยอะ เยอะ” เขาเน้นเสียงท้ายประโยค แล้วหันกลับมามองอนุภาพอีกครั้ง
“คราวนี้ล่ะ ได้กินอร่อย”
ส่วนคนชอบแกล้งนั้นทานไปได้แค่ครึ่งชามก็รวบช้อน  อนุภาพมองไปถนนข้างหน้า ทำไม่สนใจว่านายตำรวจหนุ่มประชด
พออธิคมทานก๋วยเตี๋ยวหมดชามที่สาม ฝนก็เทกระหน่ำลงมาอย่างหนัก ทั้งสองเดินเข้าไปในร้านสะดวกซื้อ อนุภาพเดินอ้อยอิ่งเลือกขนมขบเคี้ยว โดยมีผู้กองจอมประชดเดินตามหลังใกล้ๆ
ชายหนุ่มหยุดยืนที่ชั้นวางขนม ตามองเหมือนจะพิจารณาอ่านฉลากข้างถุงเป็นนานสองนาน อธิคมยื่นหน้าเข้ามาใกล้เอ่ยว่า “เมื่อกี้ คุณก็ทานก๋วยเตี๋ยวไม่หมด มิน่า จะเก็บท้องไว้ทานขนมที่ไม่มีสารอาหารนี่เอง”
อนุภาพตอบโดยไม่หันหน้าไปมองว่า “ไม่อร่อย กินไม่ลง”
อธิคมตอบว่า “ที่ไม่อร่อยเพราะก๋วยเตี๋ยวไม่อร่อย หรือเพราะว่าต้องนั่งทานกับผมกันนะ”
อนุภาพทำเสียง “ฮึ” ในลำคอ แล้วก็หยิบช๊อคโกแล็ตหนึ่งถุง เดินไปที่พนักงานคิดเงิน
อธิคมหันไปหยิบเบียร์หนึ่งกระป๋องแล้วเดินตามไปที่เคาท์เตอร์ วางเบียร์ลงใกล้ๆ กับขนมของอนุภาพที่รอคิดเงินอยู่ “จ่ายรวมครับ”
อนุภาพหันขวับมามองผู้ชายตัวโตที่ถือวิสาสะให้เขาจ่ายเงินโดยไม่ขออนุญาติ
อธิคมก้มหน้าลงมอง ยิ้มบางๆ  “ตำรวจเงินเดือนน้อยครับ” เขารีบออกตัว
“อ๋อ เงินเดือนผ่อนแลนด์โรเวอร์” อนุภาพประชด หันไปบอกพนักงานว่า “จ่ายรวมกันแต่แยกถุงครับ”
อธิคมหัวเราะแล้วบอกพนักงานว่า “น้อง...ไม่ต้องใส่ถุง ลดขยะ ลดภาวะโลกร้อน”
อนุภาพพ่นลมหายใจออกมาช้าๆ พยายามสะกดอารมณ์ เขาบอกตัวเองว่า ต้องใจเย็น ไม่เช่นนั้น ชายหนุ่มตัวโตผู้รักธรรมชาติที่ยืนอยู่ข้างๆ ก็คงได้สนุกสนานกับการได้ยั่วเย้าเขาอยู่เรื่อยไป
เขาคว้าขนมของตัวเองแล้วเดินออกมายืนอยู่หน้าร้าน กอดอก มองสายฝนที่กำลังโปรยปราย ละอองฝนปลิวมาปะทะใบหน้าและแผ่นอกทำให้เสื้อเชิ้ทสีขาวของเขาเริ่มจะชื้น
...เมื่อไหร่ฝนจะหยุดตกนะ นี่คงอีกนานเกินชั่วโมงกว่าจะกลับถึงบ้าน...ชายหนุ่มเริ่มรู้สึกเย็นสะท้าน
 ขณะที่อยู่ในห้วงคำนึง  มือใหญ่แข็งแรงยื่นขวดน้ำมาตรงหน้า อนุภาพหันไปมอง... นายตำรวจหนุ่มยิ้มบางๆ “เดี๋ยวขนมติดคอ” เขาพูดเสียงเรียบ
ดูเอาเถอะ ไม่ว่าตอนไหน เขาก็ช่างสรรหาคำพูดมายั่วเย้าได้ไม่ขาด
“ไปยืนรอข้างในไม่ดีกว่าเหรอครับ”
อนุภาพไม่ตอบ ยังคงยืนนิ่งมองดูสายฝนที่กำลังโปรยปราย โดยหวังว่าฝนคงจะหยุดตกในอีกไม่นาน...แล้วแท๊กซี่ก็จะวิ่งผ่ามมา...แล้วจะได้กลับบ้าน...อาบน้ำอุ่น...นอนหลับอย่างสบาย
อธิคมเลิกกวน ปล่อยให้ชายหนุ่มยืนเงียบๆ เขายกเบียร์ขึ้นดื่มช้าๆ
เวลาผ่านไปร่วมครึ่งชั่วโมง ฝนเริ่มซา จนในที่สุดเหลือแต่ละอองฝนปรอยๆ
แท๊กซี่เขียวเหลืองมีไฟหน้ารถ “ว่าง” ชะลอตัว อธิคมวิ่งเหยาะๆ ไปที่ริมถนนโบกมือเรียก เปิดประตูบอกจุดหมายปลายทาง แล้วหันหน้ามาทางอนุภาพ พยักหน้าเรียกให้ไปขึ้นรถ
ชายหนุ่มวิ่งไปที่รถ...ได้กลับบ้านแล้ว

อธิคมเปิดประตูด้านหลังให้ อนุภาพยังยืนอยู่ไม่ยอมก้าวเข้าไป เขารู้ว่าอธิคมเปิดประตูให้เขาเข้าไปนั่งก่อน ทำเหมือนกับว่ากำลังเทคแคร์เขาอยู่
อธิคมเร่ง “เร็วสิครับ ฝนตก จะเปียกกันหมดแล้ว”
อนุภาพบอกว่า “ผมไม่ชอบนั่งฝั่งใน”
อธิคมรู้ทันว่าชายหนุ่มตั้งแง่อยู่เพราะอะไร ชายหนุ่มตรงหน้ากำลังขมวดคิ้วหน้าเข้ม...งอนเพราะเขาแกล้งเทคแคร์เหมือนผู้ชายทำกับผู้หญิง...
ละอองฝนโปรยปราย เสื้อสีขาวบางของอนุภาพเริ่มเปียกแนบเนื้อเผยให้เห็นผิวกายใต้เสื้อบางเด่นชัด อธิคมอมยิ้ม ก้าวขึ้นไปนั่งบนรถ อนุภาพตามเข้ามาแล้วปิดประตู นั่งชิดประตูรถด้านซ้าย กอดอกนิ่งเงียบ
ท่าทางคงหนาว อธิคมคิด เขาจึงขอให้คนขับลดแอร์ลง
เช่นเคย...อนุภาพนั่งนิ่งเงียบมองข้างทางไปเรื่อย หูฟังเสียงคุยกันระหว่างผู้กองหนุ่มกับคนขับ คิดอยู่ในใจว่า ...ผู้ชายคนนี้ช่างหาเรื่องคุยกับใครๆ ได้เสมอ... อธิคมกับคบขับเปลี่ยนเรื่องคุยไปเรื่อย จนรถเข้าเขตเมือง เลียบทางด่วนรามอินทรา-อาจณรงค์ ถึงซอยเอกมัย เลี้ยวขวาเข้าสุขุมวิทเพื่อตรงไปซอยสุขุมวิท 49 ที่เป็นซอยที่ทั้งสองอาศัยอยู่
เมื่อถึงกลางซอย อนุภาพบอกให้รถแท็กซี่จอดหน้าคอนโดสูง The Pacific Heights
อธิคมกล่าวราตรีสวัสดิ์ ถามอนุภาพว่า “พักที่นี่เหรอครับ”
อนุภาพพยักหน้าเตรียมตัวลง
“ผมนึกว่าคุณจำตึกผิด...ซอยมันมืด”
“ผมไม่เคยจำบ้านตัวเองผิด...ไม่ได้เมานะ” ชายหนุ่มลงจากรถ กล่าวขอบคุณตามมารยาท เขาเห็นแววตาขันๆ ของอธิคมเป็นประกายวิบวับ
ก่อนปิดประตูรถ เขาได้ยินเสียงจากตำรวจผู้ห่วงใยประชาชน “อาบน้ำอุ่น เช็ดหัวให้แห้งนะครับ เดี๋ยวเป็นหวัด”
อนุภาพยืนมองรถแท๊กซี่จนแน่ใจว่าลับสายตาแล้วเดินย้อนกลับไปตามถนนถัดไปอีกสามช่วงตึก
The Veranda Residence อาคารแฝดสูงเจ็ดชั้น ด้านหน้าเป็นลานจอดรถเล็กๆ ร่มรื่นด้วยต้นไม้เขียวขจีคือสถานที่พักที่แท้จริงของเขา คอนโดที่บอกให้แท๊กซี่จอดส่งเมื่อครู่เป็นแค่ที่พักหลอกๆ เพราะเขาไม่ต้องการให้อธิคมรู้ว่าพักที่ไหน 
ชายหนุ่มทักทาย รปภ. อย่างคุ้นเคยแล้วเดินเข้าไป  ในใจนึกถึงน้ำฝักบัวอุ่นๆ และเตียงนอนนุ่มๆ...
****************


anna1234

  • บุคคลทั่วไป
:m32: ลวดลายแท้น้อคุณตำรวจ

จะตามเค้าทันม่ายนะนายเอกของเรา อิอิ :t2:
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 28-10-2008 22:00:28 โดย ไต๋ »

Siri_nan

  • บุคคลทั่วไป

juuuno99

  • บุคคลทั่วไป
อ๊ากกกกกกกก :serius2: :serius2:

ทำไงดีเริ่มหลงผู้ชายในเครื่องแบบ(ตำรวจ)ซะแว้วววว

The Living River Ping

  • บุคคลทั่วไป
แหมคุณตำรวจอธิคมเนี่ย แพรวพราวซะจริงๆเลยนะ  :o8:

อ้างจาก: katawoot
แต่ว่าคนเขียนเรื่องตำรวจ ไว้ใจได้ครับ ว่าไม่เคยหลอกใครเลย

จริงเร้อ..อออ  :m12:

ออฟไลน์ krappom

  • 人は誰でもそれぞれに悩みを抱えて生きる
  • เป็ดนักโพสมือดี
  • เป็ดApollo
  • *
  • กระทู้: 7395
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +1182/-23

หลอกหลวงเ้จ้าพนักงานอย่างนี้มีความผิดนะอนุภาพ
ต้องโดนผู้กองลงโทษ

 :laugh:


CoMMuNiTY Of ThAiBoYsLoVE

ประกาศที่สำคัญ


ตั้งบอร์ดเรื่องสั้น ขึ้นมาใครจะโพสเรื่องสั้นให้มาโพสที่บอร์ดนี้ ถ้าเรื่องไหนไม่จบนานเกิน 3 เดือน จะทำการลบทิ้งทันที
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=2160.msg2894432#msg2894432



รวบรวมปรับปรุงกฏของเล้าและการลงนิยาย กรุณาเข้ามาอ่านก่อนลงนิยายนะครับ
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=459.0



สิ่งที่ "นักเขียน" ควรตรวจสอบเมื่อรวมเล่มกับสำนักพิมพ์
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=37631.0






ออฟไลน์ patee

  • เป็ดแสนดี
  • เป็ดAphrodite
  • *
  • กระทู้: 3732
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +276/-3
ชอบนะ ผู้กองเจ้าเล่ห์แต่น่ารัก

สนุกมาก   รออ่านตอนใหม่ค่ะ

ออฟไลน์ wan

  • เป็ดแสนดี
  • เป็ดAthena
  • *
  • กระทู้: 5575
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +643/-10
แค่เริ่มเรื่อง ก็ดูวุ่นวายกับการจีบเล่น ๆ ของนายตำรวจหนุ่ม

แต่สงสัย สุดท้าย นายตำรวจหนุ่มคงต้อง วุ่นวายกับการกันคนรอบข้าง

ของอนุภาพ ซะแล้ว เชื่อเหอะ กรรมมีจริง  มารอตอนต่อไปดีกว่า

ออฟไลน์ bellbomb

  • เป็ดแสนดี
  • เป็ดHephaestus
  • *
  • กระทู้: 1561
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +1261/-7
    • Bellbomb's Blog
อนุภาพนะอนุภาพ หลอกไปเท้อะ ไม่คิดมั่งเล้ยว่าผู้กองแกสืบหาที่อยู่ไม่ยากร้อก คนมันอยากจีบนี่นะ  :laugh:

คุณวุธลงถี่สะใจมากๆค่า  :m1:

speedboy

  • บุคคลทั่วไป

ออฟไลน์ Simply Blue

  • เป็ดนักโพสมือดี
  • เป็ดHera
  • *
  • กระทู้: 1107
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +120/-3
เออ ดูทันกันดีเนอะ 55555


+1 ให้ก่อนเลย ขยันได้ใจมากๆๆๆ

ออฟไลน์ pongsj

  • เป็ดแสนดี
  • เป็ดAthena
  • *
  • กระทู้: 6054
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +213/-9
ร้ายยยยยยยยยยยยยยยยยน่ะเนี่ย มีสับขาหลอกด้วย 555

DEVIL nures

  • บุคคลทั่วไป
 :m12: ผูกองนี่เล่เหลี่ยมแพรวพราวไม่เบาเลยนะเนี่ย :laugh:

 :m12: แล้วนุจะตามทันมั้ยเนี่ย :laugh:

bixzz

  • บุคคลทั่วไป
 :L2: กด +1 ให้พร้อมกับอ่านตอนที่ 5...สนุกจริงๆ ลูกเล่นแพรวพราวทันกันทั้งสองคนเลยนะครับ
รออ่านตอนต่อไปครับ


YO DEA

  • บุคคลทั่วไป

CoMMuNiTY Of ThAiBoYsLoVE






katawoot

  • บุคคลทั่วไป
ขอบคุณผู้อ่านทุกท่านสำหรับคำชมนะครับ อยากรู้จังว่าใครเพิ่งเคยอ่านเรื่องนี้เป็นครั้งแรกครับ คือเคยโพสที่อื่นมาบ้างแล้ว แต่อยากลองโพสที่นี่บ้างอ่ะครับ ไม่รู้ว่าจะมีคนชอบกันไม๊ เผื่อพิมพ์ออกมาเป็นเล่มแล้วจะได้ถือว่าเป็นการโฆษณาไปด้วย อิ อิ
KATAWOOT -คนที่เลิกเ้จ้าชู้แล้วล่ะ (และไม่เคยเจ้าเล่ห์หลอกใครเลย)  :o8:

บทที่ 6

เช้าวันถัดมา ตฤณมอบหมายงานใหม่ให้อนุภาพ เป็นโฆษณารถกระบะยอดนิยมอันดับต้นๆ ของประเทศที่เพิ่งจะออกรุ่นใหม่
“ผมรู้ว่าคุณงานยุ่ง แต่โปรเจ็คนี้เรามีเวลาไม่มาก คุณฤดีก็ท้องสี่เดือน เริ่มจะทำงานช้าลง ผมให้อยากให้คุณช่วย”
“แต่งานแบบนี้ไม่ใช่สโตล์ผม” อนุภาพแย้งเสียงเนือยๆ
“ผมรู้ว่าคุณไม่ชอบสไตล์แบบนี้ แต่ว่าผมมองไม่เห็นใครจริงๆ” เขาจ้องหน้าชายหนุ่มเหมือนจะอ้อนวอนแกมบังคับ...ตฤณรู้ว่างานโฆษณารูปแบบนี้อนุภาพไม่ถนัด
พักหลังๆ ตฤณมักจะมัดมืดชกอยู่บ่อยๆ อนุภาพเห็นใจฤดีที่คงไม่สะดวกถ้าต้องทำโปรเจ็คนี้ตอนกำลังเริ่มตั้งครรถ์ท้องแรก...อย่างน้อย...ฤดีก็เคยช่วยงานเขาหลายครั้ง
ตฤณอธิบายรายละเอียดเบื้องต้นให้อนุภาพไปตามงานจาก AE และให้สรุปแผนดำเนินการภายในสามวัน
“แต่ผมมีโฆษณาบัตรเครดิตต้องพรีเซ้นท์ต้นอาทิตย์หน้า” อนุภาพแย้ง
“ผมรู้ว่าคุณทำได้…You are the best”
ตฤณชม ใช้ไม้ตาย อนุภาพยิ้มรับคำแล้วกลับออกมารายงานสัมบัติ
“ชมแบบบังคับทางอ้อม ฮ่องเต้สั่ง สนมก็ต้องทำ” สมบัติจีบปากจีบคอ
 อนุภาพแย้ง “ผมไม่ใช่สนม”
“เออจริง ไม่ใช่สนม ลืมไป เขาอยากได้ยูเป็นฮองเฮา แต่ยูเล่นตัวเหลือเกิน ทำไมไม่เป็นเราวู๊ย...จะรีบพลีกายให้ฮ่องเต้” สมบัติหัวเราะเสียงระรื่น
“พี่บั๊ด เข้าเรื่องงานดีกว่า พูดเล่นอยู่ได้”
“เออ เออ งั้นบ่ายนี้เรียกประชุมเลยนะ concept ว่าไง” สมบัติเป็นงานเป็นการ
“ให้ภาพลักษณ์เข้าถึงประชาชน ทำประโยชน์ให้ส่วนรวม ตัวแสดงเป็นตำรวจใช้รถเป็นส่วนหนึ่งของชีวิตที่สร้างคุณค่าให้ท้องถิ่น ไม่ว่าจะอยู่ใกลเพียงใด ตำรวจไม่ย่อท้อ แม้นอกเวลาราชการก็ยังช่วยเหลือประชาชนในงานอื่นๆ นอกเหนือจากงานประจำ” อนุพาพอธิบายคร่าวๆ
“โอ้โห ให้กรอบมาอย่างนี้เลยเหรอ นี่ creative เราเลยไม่ต้องใช้ความคิดอะไร”
“มองอีกอย่างก็ดีนะพี่บั๊ด ประหยัดเวลาเราตั้งเยอะ ให้ concept ที่ชัดเจนมาขนาดนี้ ก็ทำได้ง่ายขึ้น ที่จริงรับงานต่อจากฤดี ท้องสี่เดือนอาจไม่ไหว เวลามีเหลือไม่มาก คุณตฤณให้ฤดีไปทำงานเบา”
“แล้วให้เราออกไปทำโฆษณาลูกทุ่ง” สมบัติไม่ค่อยชอบออกต่างจังหวัด เขาชอบงานโฆษณาที่ถ่ายทำในสตูดิโอ หรือในกรุงเทพฯ หรือชิ้นที่มีตัวแสดงเป็นนายแบบวัยรุ่นไม่ก็ใช้ดาราหน้าตาดี
ในช่วงบ่าย อนุภาพประชุมวางแผนกับทีมงาน พจนีย์กับอธิปดีใจที่จะได้ออกต่างจังหวัด สองคนนั้นชอบเที่ยว อาทิตย์ได้รับหน้าที่สำคัญ คือ ควานหานายแบบจากโมเดลลิ่งมาแสดงเป็นตำรวจ ชายหนุ่มรับหน้าที่แบบเนือยๆ “ทำไมผมได้รับงานยาก โมเดลลิ่งที่เราใช้ประจำมีแต่นายแบบสวยๆ ทั้งนั้น”
ทั้งหมดหัวเราะก๊าก เพราะเป็นประเด็นที่เอามาล้อกันจนเป็นเรื่องสนุกประจำบริษัท
“ไม่แน่นะ ถ้าไม่ได้จริงๆ เราอาจใช้ตำรวจจริงที่เราสนิทสนมอยู่” สมบัติจีบปากจีบคอพูดลอยหน้าลอยตา
เมื่อเลิกประชุม สมบัติกระซิบกระซาบอนุภาพ “นักแสดงตำรวจไม่ต้องหาใครที่ไหน ยูมีคนใกล้ตัวอยู่ จีบผู้กองเป็นนายแบบสิ แบบว่าแลกกับค่าซ่อมรถ ฮิ ฮิ ประหยัดกว่าตั้งเยอะ”
“เจ๊ เลิกล้อเล่นได้แล้ว”
“นี่อยากเห็นน่าผู้กองยอดรักจังเลย ว่าจะหล่อล่ำน่าหม่ำขนาดไหน ท่าทางคงจะคมเข้มไม่เบา ห้าวๆ แมนๆ เท่ๆ... ฮื่อ...” สมบัติทำท่าฝันหวานเดินล่องลอยออกไปจากห้องประชุม
อาทิตย์รีบเดินเข้ามาคุยกับอนุภาพ
“พี่นุครับ เย็นนี้ผมไปส่งไหมครับ เห็นว่ารถยังอยู่ที่อู่” ชายหนุ่มยิ้มกว้างอวดฟันขาว
“ไม่เป็นไรอาทิตย์ พี่นั่งแท็กซี่ไปเดี๋ยวเดียวถึง อาทิตย์ไม่ต้องลำบาก” อนุภาพยิ้ม เริ่มเดินออกจากห้องประชุม
อาทิตย์เดินตาม “ผมไปธุระที่ทองหล่อ นัดเพื่อนไว้ ผมไปส่งพี่ไม่เห็นลำบากเลย แค่นี้เอง ไม่ต้องเปลืองเงินค่าแท็กซี่”
“เดี๋ยวเพื่อนรอ” อนุภาพพยายามหาเหตุผล
“ไม่เป็นไรครับ ไม่ซีเรียส เพื่อนมันรอได้อยู่แล้ว นะครับ พี่นุ ผมอยากไปส่งพี่บ้าง” อาทิตย์รุก อนุภาพแปลกใจ วันนี้อาทิตย์ใจกล้ากว่าทุกครั้ง
อนุภาพนึกถึงคำพูดของสมบัติ “สงสารเด็กมัน ยูก็ทำบุญกับเด็กมันหน่อย ความสุขเล็กๆ น้อยๆ ของอาทิตย์”
อนุภาพรู้ว่าเขาปฏิเสธความหวังดีของอาทิตย์มามากแล้ว บางทีลองทำตามที่พี่บั๊ดแนะนำบ้างก็คงไม่เสียหาย แต่ใจหนึ่งเขากลัวอาทิตย์จะถลำลึกมากกว่านี้ว่าเขาเริ่มเปิดใจให้ เมื่อมีครั้งแรกก็มีครั้งที่สอง ครั้งที่สาม อาทิตย์อาจจะใจกล้ารุกคืบมากขึ้น
“หรือว่าพี่ไม่อยากให้ผมไปส่งจริงๆ” อาทิตย์ตัดพ้อ ตีหน้าเศร้า
“เปล่า พี่แค่ไม่อยากรบกวนใครเท่านั้นเอง” อนุภาพอธิบาย
“ไม่รบกวนหรอกครับ ผมแค่เห็นว่าไหนๆ ผมก็ไปทองหล่อ แล้วบ้านพี่ก็อยู่ถัดไปไม่กี่ซอย ผมก็เลย...” อาทิตย์ก้มหน้า
'อาทิตย์แกล้งตีหน้าเศร้า หรือเป็นจริงๆ' อนุภาพอดคิดไม่ได้ 'เอาเถอะทำบุญสักครั้ง อย่างที่พี่บั๊ดเพียรแนะนำ'
“งั้นก็ได้ แต่พี่ขอออกช้าซักสิบห้านาทีนะ” อนุภาพตัดสินใจ
“ครับๆ เดี๋ยวผมรีบไปเคลียร์งานก่อนนะครับ” อาทิตย์ระร่ำระรัก เปลี่ยนอารมณ์บนใบหน้า ยิ้มกว้างตาหยีเช่นเคย รีบเดินผลุนผลันกลับไปที่โต๊ะทำงาน
อนุภาพมองตามหลัง อาทิตย์เป็นชายหนุ่มที่น่ารัก จะว่าไปเขาไม่มีข้อบกพร่อง อาทิตย์ตั้งใจทำงาน เรียนรู้ได้เร็ว ทำทุกอย่างที่ได้รับมอบหมายได้อย่างมีประสิทธิภาพ อัธยาศัยดี รูปลักษณะภายนอกไม่มีที่ติ--หน้าตาหล่อเหลายิ่งกว่าดาราวัยรุ่นบางคน ผิวขาว คิ้วเข้ม จมูดโด่งคม สาวแท้และสาวเทียมคลั่งไคล้เขากันทั้งนั้น เขาแสดงออกอย่างแจ้งชัดว่าชอบอนุภาพ
...แต่ทำไมเขาไม่เคยมีความรู้สึกวูบวาบเอาเสียเลย...อนุภาพเฝ้าถามตัวเอง
………………………….

เลิกงานอนุภาพเดินออกมาจากห้อง สมบัติยืนรอใกล้ประตูทางออก ยิ้มน้อยยิ้มใหญ่
“แหมวันนี้ยูได้บุญเยอะนะ อาทิตย์กำลังปูพรมแดงรอหน้าบริษัทแล้วล่ะ ราชรถจอดเทียบอยู่โน่น” สมบัติบุ๊ยปากไปที่ลานจอดรถหน้าอาคาร
อาทิตย์ยืนรออยู่ข้างรถ หน้าตายิ้มแย้ม
“จะให้พ่อสุริยาน้อยมาช่วยถือของไหมอนุภาพ” สมบัติยังล้อเลียน
อนุภาพส่ายหน้า กล่าวอำลาเพื่อนรุ่นพี่แล้วเดินตรงไปที่ราชรถยี่ห้อเมอร์ซีเดสเบ็นซ์สีดำหรู
ฐานะที่บ้านของอาทิตย์มีอันจะกิน ไม่ต้องทำงานก็ดำรงชีวิตอยู่อย่างสะดวกสะบายเพราะคุณพ่อคุณแม่ตามใจลูกชายคนสุดท้องทุกอย่าง ‘ตี๋เข้ม’ อย่างอาทิตย์นั้นเป็นดาราได้สบายๆ แต่ชายหนุ่มต้องการหาประสบการณ์ทำงานด้วยตัวเอง เขาให้เหตุผลที่ทำงานที่บริษัทนี้เพราะว่า “ทุกคนดีกับผมเหลือเกิน”
แต่สมบัติเติม “โดยเฉพาะพี่นุ” แล้วหัวเราะคิกคัก
อาทิตย์บอกว่าเขาต้องการเก็บเกี่ยวประสบการณ์ เขาใฝ่ฝันว่าสักวันจะเป็นเจ้าของบริษัทโฆษณา

“พี่นุหิวข้าวไหมครับ” อาทิตย์ยิ้มกว้างตามแบบฉบับ
อานุภาพส่ายหน้าแล้วบอกว่าตอนเย็นทานแค่สลัด ทำทานเองที่บ้าน แล้วต้องทำงานต่อ
“พี่นุพักบ้างนะครับ ผมเป็นห่วง” อนุภาพกำลังคิดว่าอาทิตย์เริ่มกล้าขึ้นมากกว่าเดิม
บางทีให้อาทิตย์ไปส่งเย็นนี้อาจจะไม่ใช่ความคิดที่ดีนัก คราวต่อไป อาทิตย์ต้องเซ้าซี้เขาอีกแน่ อาจจะกล้าแสดงออกอะไรต่ออะไรมากกว่าเดิม แต่เอาเถอะ แค่ให้ไปส่ง ไม่ใช่เรื่องใหญ่มาก อย่างน้อยก็ไปส่งคอนโดหลอกๆ อย่างที่เขาทำกับผู้กองอธิคม
ผู้กองอธิคม...ภาพของนายตำรวจหนุ่มตัวดีผุดขึ้นในความคิด

อาทิตย์ชวนคุยตลอดทางที่ขับรถ ชายหนุ่มเป็นคนคุยเก่ง ถ้าเป็นเรื่องทั่วๆ ไป อนุภาพคุยกับอาทิตย์ได้ยาวและหัวเราะอย่างสนุกสนาน ส่วนมากเป็นเรื่องตลกจากการที่ทำงาน
เมื่อถึงทางแยกกลางซอย รถคันหรูของอาทิตย์ชะงัก เพราะเป็นจังหวะเดียวกับรถสปอร์ตบีเอ็มดับลิวสีบรอนซ์คันงามโผล่ออกมาทางด้านซ้าย เขาเหยียบเบรกตัวโก่งพร้อมๆ กับรถอีกคัน กันชนหน้าของรถหรูสองคันจ่อชิดกันฉิวเฉียด โชคดีที่ไม่ชน อาทิตย์ถอนหายใจ
อนุภาพหันไปมองรถคู่กรณีโดยสัญชาติญาณ
...ผู้กองอธิคม... เขาอุทานในใจ
ผู้ชายตัวโตคนนั้นในที่นั่งคนขับ ใส่เสื้อสีขาว ยิ้มกว้างให้ ยักคิ้วแผล่บ ทำหน้าทะเล้น
อนุภาพกระพริบตาช้าๆ แล้วหันหน้ากลับมามองตรงไปข้างหน้า อาทิตย์ก้มหัวให้เป็นการกล่าวขอบคุณแล้วพุ่งรถไปข้างหน้าอย่างรวดเร็ว
อนุภาพไม่รู้เลยว่านายตำรวจหนุ่มตีความหมายกิริยาของเขาว่า ‘ค้อน ทำเมิน ร้อนตัวที่เราเห็นว่ามากับหนุ่ม’
อนุภาพนึกถึงสมบัติ และคำแนะนำให้ ‘ทำบุญ’
เขาถอนหายใจเบาๆ ‘ทำบุญ’ วันนี้แทนที่จะได้บุญ กลับซวยจริงๆ เพราะเขารู้ว่านายตำรวจจอมกวนคนนั้นต้องเอาเหตุการณ์ที่เพิ่งเกิดขึ้นเมื่อครู่ที่ทางแยกไปยั่วเย้าเขาแน่ๆ
…. ...............

ทุกวันก่อนเที่ยง อนุภาพจะได้รับโทรศัพท์จากร้อยตำรวจเอกอธิคม โทรมารายงานถึงความคืบหน้าของการซ่อมรถ แล้วชวนเขาคุยเสียยืดยาวเรื่อง ‘อุบัติเหตุก็คืออุบัติเหตุ’
ผู้กองช่างพูดบอกชายหนุ่มว่า “อย่าคิดว่ารถผมชนท้ายรถคุณสิครับ ขอให้คิดว่ามันคืออุบัติเหตุ…ไม่งั้นมันทำให้ผมรู้สึกผิดนะครับ ทำให้คนอื่นทุกข์ บาปนะคุณ”
...ตกลงเขาผิดหรือนี่...อนุภาพถอนหายใจแทบทุกครั้งที่เถียงกันเรื่องรถ
“ถก...อย่าเรียกว่าเถียงเลยครับ” คนเจ้าปัญหาเคยให้เหตุผล แล้วการสนทนาก็จบลงด้วยคำถามที่ว่าไปทานข้าวที่ไหน กับใคร
“สรุปแล้ว คุณไปทานข้าวที่เดิมๆ กับคนเดิมๆ ทุกวันเลยหรือ” นายตำรวจหนุ่มตั้งคำถาม
อนุภาพบอก ถ้าทานข้าวที่ไหนแล้วอร่อย บรรยากาศดี มีความสุข ไม่มีคนกวนใจ เขาก็ไม่มีเหตุผลที่จะเปลี่ยน
“ว้า สรุปแล้ว ก๋วยเตี๋ยวหน้าเซเว่นคงไม่อร่อย”

วันนี้ก็เหมือนทุกวัน โทรศัพท์บนโต๊ะของเขาดังขึ้นประมาณสิบห้านาทีก่อนเที่ยงขณะที่อนุภาพกำลังวุ่นวายอยู่กับการเลือกรูปภาพของนายแบบ ร้อยตำรวจเอกอธิคมอยู่ในสาย น้ำเสียงรื่นเริงเช่นเคย เขาโทรมาสอบถามว่า อนุภาพเดินทางมาทำงานอย่างไร
“ผมกลัวว่าคุณจะเดินทางลำบาก” อนุภาพยังจำที่อธิคมพูดได้
“ขึ้นแท็กซี่ก็เปลืองเงินนะ แล้วขากลับมีคนไปส่งที่บ้านหรือเปล่าครับ...เราอยู่ซอยเดียวกัน คุณติดรถผมไปทำงานก็ได้ คิดราคาไม่แพง” เขาเสนอ
อธิคมวางสายไปแล้ว อนุภาพนั่งนิ่งมองโทรศัพท์ เสียงของนายตำรวจหนุ่มยังดังก้องอยู่ในหู ‘วันละสองร้อยบาทเอง ถ้าแวะหาอะไรทานก่อนกลับบ้าน ผมเป็นคนจ่ายก็ได้’...สองร้อยบาท...ค่าจ้างที่เขาคิดตอบแทนไปรับไปส่ง
ชายหนุ่มส่ายหน้า ทั้งฉุน ทั้งขำ...นี่เขาจะต้องคุยกับนายตำรวจคนนี้อีกนานเท่าไหร่...
--------------
อนุภาพลงจากแท๊กซี่ ก้าวฉับๆ เข้ามาในบริษัท เหงื่อผุดเต็มหน้า วันนี้อากาศร้อนกว่าปรกติ โชคร้ายนั่งแท๊กซี่ที่แอร์เกิดจะมาเสียกลางทาง ชายหนุ่มโยนวางแฟ้มงานลงบนโต๊ะ และตัดสินใจว่าจะต้องโทรไปสอบถามที่อู่ เขาอยากรู้ว่าจะได้รถเมื่อไหร่
“โหพี่ ยังไม่เสร็จหรอกครับ นี่แค่อาทิตย์เดียว ยังต้องดึงตัวถัง ต้องเคาะ ต้องขัดสี แล้วอีกตั้งหลายอย่าง มันใช้เวลานะพี่”
อนุภาพเร่ง “เร่งไม่ได้เหรอช่าง ผมจำเป็นต้องใช้รถ”
น้ำเสียงอีกฝ่ายเริ่มหงุดหงิด “ลูกค้าทุกคนต้องรีบทั้งนั้นพี่ ผมต้องทำตามคิว”
อนุภาพวางโทรศัพท์อย่างอ่อนใจ นึกถึงใบหน้ากวนๆ ของนายตำรวจหนุ่ม ถ้าไม่ถูกชนท้าย ก็ไม่ต้องมาอยู่ในสถานการณ์นี้ ไม่ต้องเอารถไปเข้าอู่ไกลแสนไกล
อนุภาพพาลนึกถึงอธิคมที่เกิดจะต้องขับรถมาชนท้ายเขา…
เหมือนจะรู้ว่าชายหนุ่มต้องการที่จะต่อว่า มือถือของเขาดังขึ้น ปลายเสียงคือจำเลยตัวดีนั่นเอง
“วันนี้ผมถามที่อู่ เขายังซ่อมรถไม่เสร็จเลย” อนุภาพได้ทีต่อว่า
“โถคุณ นี่เพิ่งอาทิตย์เดียว ไม่เสร็จเร็วขนาดนั้นหรอกครับ” นายตำรวจหนุ่มแก้ตัว
“ก็ไหนคุณว่าอู่นี้รู้จักกัน จะทำให้เป็นพิเศษ”
อธิคมหัวเราะแหะๆ “อู่เขาคงมีรถเข้ามาเยอะ ก็เลยเร่งงานไม่ค่อยได้
“ผู้กองพูดเหมือนที่อู่เมื่อกี้เลย ผมเพิ่งโทรไป เขาพูดเหมือนกันอย่างนี้ล่ะ” อนุภาพประชด กระแทกเสียง
อธิคมรีบออกตัว “ก็ผมเพิ่งคุยกับอู่เหมือนกันนี่ครับ เฮียชัยบอกว่าจะรีบทำให้”
อนุภาพกลับ “ถามเมื่อไหร่”
นายตำรวจผู้กลายเป็นจำเลย เกาหัว อ้ำอึ้งตอบเสียงอ่อยๆ “เมื่อวาน แต่คุณไม่ต้องห่วง ถ้ารถไม่เสร็จภายอาทิตย์นี้ ผมแวะรับคุณไปทำงานก็ได้ บริการฟรี”
“ขอให้จริงอย่างที่พูดเถอะ ผมไปทำงานเจ็ดโมงทุกวัน ผู้กองคงตี่นทัน” ชายหนุ่มประชด
“อ้าว มาหาว่าผมตื่นสาย” ปลายสายประท้วง “ตอนเช้าวันนั้นที่รถเราชนกัน…”
“คุณชนท้ายรถผม” อนุภาพแทรก แก้ไขคำพูดให้ถูก
“ครับๆ วันที่เกิดอุบัติเหตุผมชนท้ายคุณ…ตอนนั้นผมก็กำลังออกจากบ้านไปทำงานเหมือนกันนะครับ...เห็นไหม เราไปทำงานเช้าพอๆ กัน” เขาเน้นย้ำคำพูด ทำให้อนุภาพนึกขวาง...ใบหน้ายิ้มๆ ของเขาในมโนภาพทำให้ชายหนุ่มอดรู้สึกไม่ได้ว่าเขาจงใจล้อเลียน
“วันนั้นไม่ได้เรียกว่าเช้า วันที่คุณขับรถชนท้ายรถผม ผมไปทำงานสายกว่าปรกติ... แปดโมงสามสิบห้านาที” อนุภาพเน้นคำพูดเหมือนกัน
“อ๋อ ตื่นสาย” เขาทำเหมือนเข้าใจ
“ไม่ใช่ ผมเพียงแค่ออกไปทำงานสาย”
“คนออกไปทำงานสายก็หมายความว่าตื่นสายสิครับ” เขายังท้วง
“ไม่ใช่...” อนุภาพลืมตัว...นี่เขาต้องมาเถียงเรื่องนี้ทำไม...ชายหนุ่มเริ่มรู้สึกว่านายตำรวจจงใจพูดกวนอารมณ์
“เอาเถอะ ยังไงคุณก็มารับผมไปทำงานตอนเจ็ดโมงเช้าทุกวันไม่ได้หรอก ไม่ใช่เรื่องง่ายนะ” ชายหนุ่มตัดบท ปรามาสว่าคนท่าทางเจ้าสำราญขี้เล่นอย่างเขาคงดีแต่พูดเล่นสนุกสนาน
“อย่าท้าผมนะ ผมไปรับคุณได้เจ็ดโมงตรงเป๊ะทุกวันจนกว่ารถคุณจะเสร็จ ถ้าผมทำไม่ได้ ผมยอมเติมน้ำมันรถให้คุณเป็นเวลาหกเดือน พนันกันไหมล่ะ” ปลายสายท้า
อนุภาพกรอกตา ยิ่งคิดยิ่งเจ็บใจที่รถนายตำรวจไม่มีประกัน ถ้ามีประกันชั้นหนึ่ง ป่านนี้ทุกอย่างก็จบ--เขาเอารถเข้าศูนย์ ประกันจ่าย ถึงเวลาก็ไปรับรถ ศูนย์ซ่อมรถยี่ห้อของเขาอยู่ใกล้บ้าน บริการรวดเร็วเยี่ยมยอด
ชายหนุ่มอดบ่นไม่ได้ “รถของคุณก็หรู ไม่มีประกันได้ยังไง ถ้ามีประกัน ป่านนี้ผมเอารถเข้าอู่ของผมได้แล้ว อยู่ในซอยใกล้บ้าน ไปนั่งเฝ้าทุกวันยังได้”
อธิคมรีบแก้ตัว “รถมันขาดประกันครับ ผมงานยุ่งไม่ได้ต่อ ใครจะไปรู้ประกันขาดสองสามวันก่อนไปชนท้ายคุณ”
“ช่างเถอะ ถือว่าเป็นเวรกรรมของผม” อนุภาพถอนหายใจ
“ผมว่าเป็นฟ้าลิขิตมากกว่า” อธิคมไหลไปตามน้ำได้เรื่อยๆ
อนุภาพนึกภาพไปหน้านายตำรวจหนุ่มที่ทำหน้ายิ้มๆ อารมณ์ดีอยู่ตลอดเวลา บางครั้งเขานึกว่า...จะมีสักครั้งใหม่ที่อธิคมขมวดคิ้วทำหน้าดุ...เพราะทุกครั้งที่พบ นัยน์ตาคมกริบนั้นก็เหมือนจะยิ้มได้ ทุกครั้งที่เขายั่วเย้า นัยน์ตาคู่นั้นเต้นระริกเหมือนจะพูดได้แทนปาก…
“ฮัลโหล ฮัลโหล” เสียงจากปลายสายดังขึ้น
อนุภาพรู้สึกตัวหลังจากลืมตัวไปชั่วครู่ ชายหนุ่มนิ่งเงียบไปชั่วขณะ
“เอาอย่างนี้แล้วกัน คุณเขียนแผนที่ให้ผม แล้วต้นอาทิตย์หน้าผมจะตามไปเร่งที่อู่ ไปดูว่าทำไปถึงไหน เฮียชัยเขาคงเข้าใจผมบ้างล่ะ เขียนแผนที่แล้วส่งแฟกซ์มาที่...”
“คุณครับ ไม่ต้องขนาดนั้น แต่ถ้าคุณอยากไปดูจริง เดี๋ยวผมอาสาพาไป” นายตำรวจหนุ่มต่อรอง
“ถ้าอย่างนั้นไม่เป็นไร ผมจะโทรไปที่อู่ขอให้เขาส่งแผนที่มาก็ได้” อนุภาพไม่ง้อ
อธิคมรีบส่งเสียงมาตามสาย “เถอะน่าคุณ ผมพาไป สบายกว่าตั้งเยอะ ถึงจะมีแผนที่ แต่ถ้าหลงทางล่ะ แท๊กซี่ก็หาลำบาก จำไม่ได้เหรอ เกิดเจอฝนกลางทางแล้วเรียกแท็กซี่ไม่ได้ แท็กซี่พาหลง เดี๋ยวถูกลวงไปทำอะไรต่ออะไร ใครจะตามไปช่วย”
“บ้าเหรอ ผมเป็นผู้ชายนะ แท็กซี่จะมาทำยังงั้นได้ยังไง” อนุภาพฉุน
“ทำอะไร”
“ก็ทำอะไรอย่างที่คุณคิด...ทะลึ่ง” อนุภาพตอบ
“อ้าวคุณคิดทะลึ่งเหรอ...ผมหมายความว่าแท็กซี่ลวงไปปลดทรัพย์ ไปปล้นต่างหาก” อธิคมพูดเสียงจริงจัง “แล้วคุณคิดว่าอะไร”
อนุภาพหมดคำพูด “...”
อธิคมชักแม่น้ำทั้งห้ามาอธิบายจนอนุภาพอ่อนใจกับเหตุผลสารพัดที่ผู้ช่วยเหลือสันติราษฏร์ยกขึ้นอ้างเจื้อยแจ้วอยู่ในสายโทรศัพท์
...คิดไปคิดมาก็ดีเหมือนกัน ไม่ต้องเสียเงิน ไม่ต้องลำบาก นั่งรถไปอย่างเดียว แต่อาจต้องอดทนกับคารมคมคายของผู้ชายคนนี้สักหน่อย...
อนุภาพคิดไปหลายอย่าง จึงตกลงคิดเปรียบเทียบด้านบวกกับด้านลบแล้วก็เห็นว่าน่าจะเป็นการดีกว่าที่มีสารถีขับรถให้นั่ง
‘คนผิดก็ต้องรับผิดชอบสิ’
“ถ้ายังงั้น บ่ายวันเสาร์ก็แล้วกัน” อนุภาพนัดเวลา
อธิคมแย้ง “ผมว่า บ่ายวันทำงานดีกว่าครับ เพราะบ่ายวันเสาร์เร็วไป เมื่อวานนี้ งานที่เขาทำกับรถอาจจะยังไม่ก้าวหน้าไปถึงไหน”
แต่อนุภาพแย้งว่า “บ่ายวันทำงานผมยุ่ง จะให้ลางานไปที่อู่หรือยังไง”
อธิคมต่อรอง “ก็คุณออกจากออฟฟิสเร็วขึ้นสักชั่วโมง ไปถึงอู่ตอนห้าโมง อู่เขาปิดหกโมงเย็น มีเวลาทัน”
อนุภาพไม่อยากไปเวลาฉิวเฉียดอย่างนั้น เพราะขากลับหมายความว่าจะเป็นเวลาอาหารเย็นตอนหกโมง และนายตำรวจหนุ่มคงหาข้ออ้างชวนแวะทานข้าวและยื้อเวลากลับเข้าเมืองช้าเหมือนครั้งที่แล้ว
“คุณไม่ต้องห่วง คราวนี้เราไม่ติดฝนรอแท็กซี่อีกแล้ว เพราะเราขับรถไปเองนี่ครับ” อธิคมรีบดักคออย่างรู้ทัน “แล้วสัญญาว่าคราวนี้ผมเลี้ยงอาหารดีๆ รับรองไม่เลี้ยงแค่ก๋วยเตี๋ยวหน้าเซเว่น”
พิลึกคน อธิคมกำลังอ่านใจเขาอยู่...อนุภาพนึกในใจ
ในที่สุดนายตำรวจหนุ่มก็สรรหาเหตุผลมาอธิบายให้อนุภาพฟังจนชายหนุ่มอ่อนใจ ตกลงว่าจะไปที่อู่ด้วยกันบ่ายวันพุธ เขาต้องออกจากออฟฟิสก่อนเวลาชั่วโมงครึ่ง ตอนบ่ายสามโมง
ทั้งที่งานยุ่งแต่อนุภาพก็ต้องไป...ไปให้เห็นกับตา
******************

ขอบคุณครับที่อุตส่าห์อ่านจนจบตอน อ่านแล้วคิดถึงคนเขียนด้วยเน้อ


ออฟไลน์ ben~ya

  • เป็ดแสนดี
  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 853
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +54/-0


anna1234

  • บุคคลทั่วไป
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 29-10-2008 11:24:16 โดย ไต๋ »

three

  • บุคคลทั่วไป

Kipper

  • บุคคลทั่วไป
มาติดนิยายเรื่องนี้อีกเรื่องหนึ่งแล้ว  ดีจังมีนิยายดี ๆ ให้อ่านเรื่อย ๆ  ขอบคุณคนเขียนนะครับ :m1:

ranny

  • บุคคลทั่วไป
เข้ามารอ

เคยแอบเห็นที่บอร์ดอื่น

แต่ขี้เกียจหาแระ

มานั่งรอในเล้าดีกว่า

 :a11:


มาต่อไวๆ นะค้า :L2:

ออฟไลน์ krappom

  • 人は誰でもそれぞれに悩みを抱えて生きる
  • เป็ดนักโพสมือดี
  • เป็ดApollo
  • *
  • กระทู้: 7395
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +1182/-23

Lesses

  • บุคคลทั่วไป

minimai

  • บุคคลทั่วไป

 

สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด


สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด