❤ คุณคนเดียวกัน ❤ [ตอนที่ 27 End]★06/04/21★ P:19
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด

สนใจโฆษณาติดต่อ laopedcenter[at]hotmail.com คลิ๊กรายละเอียดที่ตำแหน่งว่างเลยครับ

สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด

ผู้เขียน หัวข้อ: ❤ คุณคนเดียวกัน ❤ [ตอนที่ 27 End]★06/04/21★ P:19  (อ่าน 132419 ครั้ง)

ออฟไลน์ kman2527

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 12
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +1/-0
รออยู่ครับ :impress2: :impress2: :impress2: :impress2: :impress2:

ออฟไลน์ darin

  • เป็ดนักเขียน
  • เป็ดHera
  • *
  • กระทู้: 1088
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +2267/-46



ขอโทษที่หายไปนานนะคะ ช่วงปลายปีของทุกปีเป็นช่วงที่งานยุ่งมากจริงๆ แทบไม่ได้ลืมหูลืมตา
เพื่อเคลียร์งานให้เสร็จก่อนปิดปีใหม่ (ซึ่งน่าจะเป็นอย่างนี้ทุกปี ><)
ขอโทษที่ไม่ได้ส่งข่าวนะคะ เพราะไม่แน่ใจว่าจะลงนิยายได้เมื่อไหร่ กับแอบหนีไปเที่ยวพักผ่อนช่วงปีใหม่มา
ตอนนี้กลับมาประจำการแล้วค่ะ พร้อมลงแบบรัวๆ มาก รับรองว่าได้อ่านกันอย่างจุใจยาวๆ ไปเลยค่ะ



ตอนที่ 9
ใกล้

   
ผมทิ้งตัวลงนั่งบนเตียงเมื่อของชิ้นสุดท้ายถูกเก็บเข้ากล่องเรียบร้อย สายตากวาดมองไปรอบๆ ห้องเผื่อว่าจะหลงลืมอะไร การย้ายที่อยู่เกิดขึ้นเร็วมากจนผมแปลกใจ ดูเหมือนทุกอย่างจะลงตัวอย่างง่ายดาย คุณป้าเจ้าของหออนุญาตให้พวกผมย้ายออกได้แม้จะแจ้งล่วงหน้าแค่เพียงสิบห้าวันก่อนสิ้นเดือน เพราะความเอ็นดูที่มีต่อปายเป็นทุนเดิม ประกอบกับมีคนจองคิวรอเข้าพักอยู่แล้วหลายคน จึงไม่ก่อให้เกิดผลประทบใดๆ กับทางหอพัก
   
เสียงเคาะประตูดังขึ้นก่อนปายจะเปิดเข้ามาเมื่อผมตะโกนบอกว่าไม่ได้ล็อคประตู ปายนั่งลงข้างผม มองมาด้วยสายตายิ้มๆ
   
"เสร็จแล้วเหรอ" ผมถามเมื่อเห็นปายเปลี่ยนเสื้อผ้าเรียบร้อย
   
"อืม แล้วนี่ทำไมยังไม่เสร็จ"
   
"มัวแต่ลังเลน่ะ"
   
"จนป่านนี้ยังลังเลอีกเหรอ" ปายหัวเราะเมื่อเห็นสีหน้ายุ่งยากใจของผม
   
"ไม่ใช่เรื่องนั้น" ผมหัวเราะตามปาย "ลังเลว่าขอชิ้นไหนจะเอาไปชิ้นไหนจะทิ้งน่ะเลยช้า แต่จะว่าไปแล้ว.." ผมถอนหายใจเบาๆ

"กังวลเหรอ"
   
"ก็นิดหน่อย" ผมยอมรับกับปายตรงๆ "เมื่อคืนมันอดคิดไม่ได้ว่าเราสนิทกันขนาดนั้นเลยเหรอวะ เอาจริงมันจะอึดอัดไหม ไอ้คินจะเห็นเราเป็นคนใช้หรือเปล่า กูอดคิดไปเรื่อยเปื่อยไม่ได้"
   
"จะคิดทำไม อยู่ได้ก็อยู่ อยู่ไม่ได้ก็ย้ายออก" ปายยังยืนยันคำเดิม
   
"มันก็ต้องอย่างนั้นอยู่แล้ว ถามจริงเถอะมึงไม่เคยคิดมากกับอะไรที่ตัดสินใจไปแล้วเลยเหรอวะ" ผมมองใบหน้าของปาย อีกฝ่ายยักไหล่ ใบหน้ายังคงปรากฎรอยยิ้ม
   
"มันก็มีคิดบ้างว่าตัดสินใจผิดไป แต่จะคิดมากทำไมในเมื่อมันทำไปแล้วย้อนกลับไม่ได้แล้ว ก็เอาไว้สอนตัวเองครั้งหน้าแทน"
   
ผมพยักหน้า สายตากวาดมองกระเป๋าเสื้อผ้าและกล่องของที่กองอยู่ตรงหน้า จริงอย่างที่ปายพูด ในเมื่อตัดสินใจไปแล้วจะมามัวกังวลอยู่ทำไม ไปแล้วเดี๋ยวก็รู้เอง

• • • • •

ผมยืนกะพริบตาปริบๆ เมื่อเห็นรถซีดานจอดเรียงกันสามคันที่หน้าหอพัก ร่างสูงของคิน จีนและนาวียืนคุยกันด้วยท่าทางสบายๆ แต่กลับเป็นจุดเด่นที่คนเดินผ่านไปผ่านมาต้องมอง มาสามคนผมยังเข้าใจแต่มาสามคันเลยเหรอ
   
“ไง” จีนส่งยิ้มมาให้เมื่อหันมาเห็นผมกับปาย
   
“มากันครบเลยเหรอวะ” ผมขยับเท้าเดินตรงไปหา อดหัวเราะไม่ได้
   
“กลัวรถคินขนของไม่พอ ฉันกับนาวีเลยมาช่วย”
   
“ขอบใจมาก แต่อันที่จริง..” ผมยิ้มแห้ง กลืนน้ำลายลงคอ
   
“มีอะไร” ดวงตาดุของร่างสูงที่ยืนอยู่ข้างจีนหรี่ลง ผมจึงรีบปฏิเสธทันที
   
“เปล่าๆ ไม่มีอะไร แค่จะบอกว่าของกูกับปายมีนิดเดียว รถคันเดียวก็ขนหมด กูเลยเกรงใจน่ะอุตส่าห์มากัน”
   
“นึกว่าเรื่องอะไร” นาวีขยับตัวขึ้นยืนตรง “ยังไงฉันกับจีนก็จะไปบ้านคินอยู่แล้ว แบบนี้ก็สะดวกดีจะได้แยกกันกลับเลย”
   
“งั้นก็แล้วไป ขอบใจมาก” ผมพูดด้วยความโล่งอก
   
“จะยืนคุยอีกนานไหม”

ผมหันไปมองเมื่อเสียงดุดังขึ้น อดหรี่ตามองอีกฝ่ายไม่ได้ เป็นคนดีหลอกให้ตายใจอยู่ไม่กี่วันนิสัยเดิมโผล่อีกแล้ว คิดผิดคิดถูกวะเนี่ยกู ผมบ่นในใจแต่ก็เดินนำทั้งหมดเข้าไปด้านใน
   
ผมกับปายขนของลงมาวางรอไว้ที่โถงด้านล่างหอพัก จะได้ไม่เสียเวลาในการขนย้าย เดินเข้าออกสองรอบของทั้งหมดก็ถูกขนไปไว้ในรถเรียบร้อยผมส่งสัญญาณให้ปายนั่งเบาะหน้าแต่จีนมาชิงตัวปายไปเสียก่อน ในรถจึงมีแค่ผมกับคนที่ทำหน้าเหมือนเบื่อโลกเต็มที เมื่ออดรนทนไม่ไหวตามประสาคนปากไว ผมจึงโพล่งออกมา
   
“ตอนตื่นเก็บชิ้นส่วนมาไม่ครบเหรอวะ”
   
“ชิ้นส่วนอะไร” สายตาดุเบนจากถนนหันมามองผม
   
“ก็มึงไง” ผมสบตาตรงๆ โดยไม่หลบ “มาไม่ครบสามสิบสองเหรอวะ”
   
คิ้วหนาขมวดเข้าหากัน ดูเหมือนอีกฝ่ายยังจับประเด็นคำพูดของผมไม่ได้
   
“จะถามว่ามึงลืมเอาปากมาเหรอก็เห็นยังพูดได้ หรือลืมเฉพาะรอยยิ้มไว้ที่บ้านวะ”
   
ริมฝีปากได้รูปขยับออกเล็กน้อย ดวงตาที่มองมาคล้ายเจ้าตัวกำลังขำ
   
“ผมมั่นใจว่าอวัยวะครบสามสิบสองไม่มีรอยยิ้มอยู่ในนั้น”
   
“ก็เอามานี่หว่า” ผมไม่สนคำถามสนแค่รอยยิ้มที่เพิ่งได้เห็น

“กูถามจริงๆ เถอะ ที่มึงทำหน้าบอกบุญไม่รับเพราะเพิ่งนึกได้ว่าตัดสินใจผิดที่ชวนพวกกูไปอยู่ด้วยหรือเปล่าวะ”
   
“ถ้าผมจำไม่ผิดคุณเป็นคนชวนผม”
   
ผมอึ้งไปเกินสิบห้าวินาทีเห็นจะได้ ที่น่าเจ็บใจคือมันดันเป็นเรื่องจริง หมอนี่ไม่ได้ชวน ผมเป็นคนเสนอตัวและหมอนี่แค่รับข้อเสนอเท่านั้น
   
“ตกลงมึงอยากเปลี่ยนใจ” ผมเลิกคิ้วขึ้นจ้องใบหน้าของอีกฝ่าย พูดด้วยน้ำเสียงจริงจัง
   
“ไม่ใช่คุณเหรอ”
   
“กู?” ผมชี้นิ้วเข้าหาตัวเอง คิ้วขมวดเข้าหากันช้าๆ “กูทำไมวะ”
   
เจ้าของใบหน้าเรียบเฉยเลือกที่จะไม่ตอบคำถามผม มีเพียงดวงตาสีเข้มที่จ้องมองมา
   
“เดี๋ยวนะ” ดวงตาของผมเบิกกว้างขึ้นเมื่อเดาบางอย่างขึ้นมาได้ “อย่าบอกว่าเมื่อกี้ตอนที่คุยกันที่หอ มึงนึกว่ากูจะเปลี่ยนใจ”
   
ผมเห็นอาการชะงักของอีกฝ่ายแม้เพียงเล็กน้อยก็ตาม ผมมองมันก่อนปล่อยเสียงหัวเราะออกมาลั่นรถ ความรู้สึกกังวลในใจหายไปทันที ผมยื่นมือไปตบลงบนไหล่หนา มองใบหน้าคมสันด้วยสายตาเอ็นดู
   
“กูไม่หนีไปไหนหรอกน่า มึงอย่ากังวลไปเลย”
   
ผมต้องกลั้นยิ้มสุดกำลังเมื่อเห็นดวงตาที่ลุกวาบขึ้น บอกไม่ได้ไม่ว่าเจ้าตัวกำลังเขินหรืออยากฆ่าผมกันแน่ แต่ถ้าให้ผมเดาผมคิดว่าคงเป็นอย่างหลังมากกว่า สงสัยว่าคำพูดของผมจะถูกใจอีกฝ่ายเป็นพิเศษ
   
“ฮ่าๆ กูล้อเล่น รู้น่าว่ามึงก็ไม่ได้ชอบหน้ากูขนาดนั้น” ผมเอื้อมมือไปตบลงบนต้นแขนแข็งแรง จู่ๆ ก็รู้สึกว่าตัวเองสบายใจ ไม่รู้สึกอึดอัดอีกต่อไป
   
“ยังไงกูก็ฝากเนื้อฝากตัวด้วยนะ มีอะไรมึงบอกกูตรงๆ ได้ กูจะพยายามเป็นเพื่อนร่วมบ้านที่ดี”
   
“อืม” มีเพียงเสียงตอบรับในลำคอ แต่ผมเริ่มชินกับอาการแบบนี้แล้ว จึงเพียงยักไหล่โดยไม่ใส่ใจ
   
“ว่าแต่..” ผมหยุดพูด มองอีกฝ่ายด้วยสีหน้าจริงจัง
   
“อะไร” น้ำเสียงติดรำคาญนิดๆ ที่ได้ยินกลับทำให้ผมขำมากกว่า
   
“มึงไม่คิดจะฝากเนื้อฝากตัวกับกูหน่อยเหรอ” ได้ผล ใบหน้าหล่อเหลาของอีกฝ่ายหันมามองผมทันที
   
“ทำไมผมต้องฝากตัวในเมื่อผมเป็นเจ้าของบ้าน แค่คุณทำหน้าที่ของคุณไปก็พอ”
   
“รู้แล้วน่า ทำความสะอาดบ้านกับทำอาหารให้มึงใช่ไหม ว่าแต่มึงนี่ใจร้ายไม่เปลี่ยนเลยนะ” ผมส่ายศีรษะ อดบ่นถึงคำพูดของอีกฝ่ายไม่ได้
   
“อย่างนั้นเหรอ” ริมฝีปากได้รูปยกขึ้น “ถ้าเป็นอย่างนั้นก็ดีสิ”
   
“หือ?” ผมแปลกใจกับสิ่งที่ได้ยินจนอดจ้องหน้าคนพูดด้วยสายตาประหลาดใจไม่ได้ แต่คงเพราะจ้องนานไปเสียงถอนหายใจจึงดังขึ้น
   
“คุณจะมองหน้าผมอีกนานไหม” ดวงตาสีน้ำตาลเข้มหันมาสบตา “หรือว่า..”
   
“อะไร” ผมเอนตัวหนีโดยไม่รู้ตัวเมื่อเห็นประกายวาบขึ้นในดวงตาที่มองมา น้ำเสียงที่ถามออกไปจึงแฝงไว้ด้วยความหวาดระแวง
   
“คุณชอบผม”
   
“ไอ้!!” ผมเด้งตัวกลับ แต่พอได้ยินเสียงหัวเราะในลำคอก็รีบเรียกสติของตัวเองคืนมาได้ ผมจะถูกยั่วโมโหง่ายๆ แบบนี้ไม่ได้
   
“เออรู้แล้ว แค่กูมองถนนก็พอใช่ไหม มองนิดมองหน่อยกูต้องชอบมึงเลยเหรอวะ ไม่หลงตัวเองไปหน่อยเหรอ” ผมหันหน้าไปมองถนน แต่ยังคงปะทะฝีปากกับอีกฝ่าย
   
“หึๆ”
   
ผมใช้หางตามองเมื่อได้ยินเสียงหัวเราะในลำคอ คิดว่าต้องเจอกับใบหน้าเย่อหยิ่งหรือไม่ก็เจอกับสายตาของผู้ชนะ แต่กลับต้องแปลกใจ เมื่อสีหน้าที่ผมเห็นเป็นสีหน้าของคนกำลังขำจริงๆ หรือพูดอีกอย่างก็คือเป็นสีหน้าของคนกำลังอารมณ์ดี  ผมมองอยู่เพียงครู่เดียวก่อนรีบหันกลับ ไม่อยากให้อีกฝ่ายรู้ตัวว่าผมเห็น เพราะไม่อยากให้มันหายไป

‘กูชอบเวลามึงยิ้ม’ สักวันผมจะบอกหมอนี่ด้วยคำพูดไม่ใช่แค่ในใจเหมือนตอนนี้

• • • • •

“ให้พวกกูนอนที่ไหน” ผมกับปายมองหน้าเจ้าของบ้าน เมื่อข้าวของถูกขนลงมากองรวมกันไว้ที่ห้องรับแขกเรียบร้อย
   
“ห้องไหนก็ได้แค่ไม่ติดห้องผมก็พอ”
   
“เต็มใจอย่างยิ่ง” ผมส่งยิ้มกว้างไปให้คุณเจ้าของบ้าน จะได้รู้ว่าผมก็ไม่ได้พิศวาสขนาดอยากไปนอนใกล้ๆ
   
“งั้นปายกับคินขึ้นไปดูห้องก่อน เดี๋ยวของจะช่วยขนขึ้นไปให้” จีนชี้ไปยังกองข้าวของที่วางอยู่บนพื้น พูดด้วยน้ำเสียงรื่นรมย์ ดูเหมือนการเถียงกันเล็กๆ น้อยๆ ของพวกผมคือเรื่องตลกของจีน
   
“ขอบใจว่ะ เสียดายจริงๆ” ประโยคหลังผมพูดขึ้นลอยๆ ไม่มองหน้าใครคนใดคนหนึ่ง
   
“เสียดายอะไร” ผมนึกว่าจะไม่มีใครถามแล้ว โชคดีที่นาวีพูดออกมา
   
“เสียใจที่จีนไม่ใช่เจ้าของบ้าน” ผมส่งยิ้มให้ก่อนเดินผ่านหน้าเจ้าของบ้านตัวจริงไป ได้ยินแค่เสียงหัวเราะของจีนดังตามหลังมา

   
หลังจากสำรวจห้องนอนจนครบ ผมกับปายลงความเห็นว่าเราเลือกห้องนอนเล็กสองห้องที่อยู่คนละฝากกับห้องนอนใหญ่ของเจ้าของบ้าน แม้ว่าจะมีห้องที่ดีกว่านั้นก็ตาม จีนกับนาวีช่วยขนข้าวของที่เหลือขึ้นมาให้จนครบ ผมกับปาแยกย้ายกันเก็บจนเกือบเสร็จ เมื่อนาวีขึ้นมาเรียกให้ลงไปด้านล่าง
   
อาหารและเครื่องดื่มถูกจัดวางเต็มโต๊ะ  ผมเผลอกลืนน้ำลายลงคอเพราะเพิ่งรู้สึกว่าตัวเองหิว
   
“นั่งสิ” จีนเรียกเมื่อเห็นพวกผมยังยืนอยู่ ผมพยักหน้าให้ปาย ก่อนดึงเก้าอี้ฝั่งตรงข้ามกับนาวีลงนั่ง ปายนั่งลงข้างผมตรงข้ามกับเจ้าของบ้านพอดี
   
ด้วยความหิวผมจึงทานมากกว่าพูด ปล่อยให้ที่เหลือคุยกันไป คอยพยักหน้าเห็นด้วย กับตอบคำถามสั้นๆ เมื่อมีใครพูดถึง หลังจากผ่านไปเกือบครึ่งชั่วโมงผมถึงวางช้อนลง
   
“คิน”
   
“...”
   
”ภา”
   
“กูเหรอ?” ผมเลิกคิ้วขึ้นมองหน้าจีน
   
“ใช่ ก็เรียกคินแล้วไม่หัน” ริมฝีปากของจีนยกยิ้ม เป็นชายหนุ่มที่มีใบหน้าที่น่ามองมาก
   
“โทษทีกูนึกว่ามึงเรียกไอ้คิน”
   
“เปล่า ผมคิดว่าน่าจะเป็นปัญหาอีกพักใหญ่ แต่เดี๋ยวก็คงชินกันเองว่าเรียกใคร”
   
“คงงั้นมั้ง แล้วมีอะไร”
   
“แค่จะฝากเพื่อนน่ะ” จีนยกมือขึ้นตบลงบนบ่าของเจ้าของบ้าน “จากวันนี้ฝากดูแลคินด้วยนะ”
   
ผมหันไปมองคนที่ถูกพูดถึงก่อนหันกลับมามองจีน
   
“ไม่มีปัญหา กูจะดูแลให้อย่างดี จะดูให้กินอิ่ม นอนหลับ พาอาบน้ำประแป้ง อ่านนิทานกล่อมนอนแถมให้ด้วยดีไหม”
   
ผมทำหน้าตายก่อนจะหัวเราะออกมาเมื่อได้ยินเสียงหัวเราะจีนกับนาวี ปายหันไปมองทางอื่นเพื่อกลั้นยิ้ม มีเพียงคนที่ถูกพูดถึงเท่านั้นที่ทำสีหน้าเหนื่อยหน่ายใจ
   
“ถ้าคิดจะทำแบบนั้นก็เก็บข้าวของกลับไป”
   
“เสียใจด้วย” ผมยักคิ้ว “มึงพลาดแล้วพลาดเลย คิดเหรอว่าไล่แล้วจะไป เห็นแบบนี้ไม่มีอะไรหนาไปกว่าหน้าของกูอีกแล้วแล้ว” ผมมองด้วยสายตากวนก่อนเปลี่ยนเป็นรอยยิ้ม และยิ่งยิ้มกว้างขึ้นเมื่อเห็นสีหน้าเหลืออดเหมือนอยากฟาดผมสักทีของเจ้าของบ้าน แหย่หมอนี่สนุกไม่เบา
   
“เอาน่า อย่าเพิ่งตีกันตั้งแต่วันแรก เหลือไว้ให้วันอื่นบ้าง” นาวีพูดด้วยน้ำเสียงกลั้วหัวเราะ ยกมือขึ้นห้ามทัพ ก่อนหันไปมองปาย
   
“ปายจะอยู่กับสองคนนี่ไหวเหรอ”
   
“แค่นี้สบายมาก ผมชินกับคินแล้วเพิ่มอีกสักคินก็คงไม่ต่างกันเท่าไหร่”
   
“นายจะบอกว่าสองคนนี้พอๆ กันใช่ไหม”
   
“ใช่ พอๆ กัน” ปายยิ้มกว้าง “ดื้อเป็นเด็กพอกัน”
   
ผมหันไปมองหน้าเพื่อนรักทันที แทบจะพร้อมๆ กับอีกคนที่เงยหน้าขึ้นมามองเช่นกัน ปายส่งยิ้มกว้างให้ผมกับภาคิน  นาวีรีบยื่นแก้วมาขอชนกับปายเพราะถูกใจในคำตอบ ผมกำลังจะอ้าปากค้านแต่จีนยื่นแก้วมาขอชนเสียก่อน ผมจึงต้องยกแก้วเบียร์ขึ้นดื่มแทน


การฉลองการย้ายบ้านของผมกับปายดำเนินไปจนถึงเวลายี่สิบสองนาฬิกา ก่อนที่จีนจะประกาศว่าได้เวลาแยกย้าย ผมลุกขึ้นเตรียมจะเก็บถ้วยชามบนโต๊ะ แต่จีนส่งสัญญาณให้ผมตามไป ผมจึงเดินตามไปเงียบๆ รอให้อีกฝ่ายพูดขึ้น

จีนหยุดยืนข้างประตูรถหันมามองผม

“ว่า?” ผมสบตากับจีน

“ผมฝากคินด้วย”

“อืม” ผมพยักหน้า

“ผมหมายความอย่างนั้นจริงๆ”

“อืม” ผมตอบรับแต่เผลอขมวดคิ้วเข้าหากัน เพราะแปลกใจกับสีหน้าจริงจังของจีน

“อย่าถอดใจกับคิน”

“หมายความว่ายังไงวะ” คิ้วของผมขมวดเข้าหากันมากขึ้น

“ผมรู้ว่าคินคงทำให้โมโหเอาง่ายๆ  อาจทำให้อยากเปลี่ยนใจย้ายออกเป็นสิบครั้ง แต่นี่เป็นครั้งแรกที่คินยอมให้ใครเข้าใกล้”

“ใกล้แล้วเหรอวะ” ผมเผลอหัวเราะออกมา เมื่อนึกถึงคำพูดแต่ละคำของคุณเจ้าของบ้าน

“เชื่อผมเถอะ”

ผมกระแอมออกมา รู้สึกผิดเล็กน้อยเมื่อเห็นสีหน้าจริงจังของจีน

“ช่วยเป็นเพื่อนกับคินได้ไหม”

“ได้สิวะ ได้อยู่แล้ว” ผมตอบรับคำขอ จีนจ้องตาผมก่อนริมฝีปากจะคลี่ออกเป็นรอยยิ้มบาง

“ขอบใจมาก”

“เออ” ผมพยักหน้าแม้จะไม่ค่อยเข้าใจเท่าไหร่นัก อดสงสัยไม่ได้ในเมื่อจีนกับนาวีก็เป็นเพื่อนที่ทั้งสนิทและรู้ใจ ทำไมจีนถึงมาขอผมเรื่องนี้

“ขอบใจ” จีนพูดซ้ำอีกครั้งก่อนเปิดประตูขึ้นรถ ผมยืนรอจนรถขับออกไปแล้วจึงหันกลับ เห็นปายยืนรออยู่ไม่ไกล

“อย่าถามกู กูได้ยินแต่กูก็ไม่แน่ใจเหมือนกันว่าทำไม” ปายชิงพูดขึ้นก่อน

“ฉลาดจริง มึงรู้ด้วยว่ากูจะถามอะไร” ผมยกมือขึ้นกอดบ่าของปาย พากันเดินตรงไปยังตัวบ้าน

“หรือไม่ก็..คงเพราะแบบนั้นมั้ง”
   
ผมหันไปมองหน้าปายก่อนมองตามสายตาของอีกฝ่าย ร่างสูงของภาคินยืนอยู่กลางห้องรับแขกกว้าง จู่ๆ ผมก็รู้สึกโหวงเหวงขึ้นมา รู้สึกว่าห้องรับแขกที่เห็นผ่านกระจกใสดูกว้างมาก มากจนรู้สึกถึงความเหงาของคนที่ยืนอยู่
   
ผมพ่นลมหายใจเบาๆ กระชับแขนที่กอดคอของปายให้แน่นขึ้น หันไปสบตากับเพื่อนรักด้วยรอยยิ้ม
   
“มาอยู่ที่นี่กันอย่างมีความสุขเถอะ เรา..ทั้งสามคนเลย”
   
“เอาสิ” ปายพนักหน้าพร้อมกับรอยยิ้ม ผมยิ้มตอบเพื่อนก่อนสายตาจะกลับไปหยุดที่ร่างสูงอีกครั้ง ดวงตาค่อยๆ อ่อนแสงลง
   
นายด้วยนะภาคิน มาอยู่อย่างมีความสุขกันเถอะ

   

:::: ♥ TBC ♥::::
  Darin ♥ FANPAGE
Twitter : primdarin





ออฟไลน์ diltosscap

  • เป็ดมหาวิทยาลัย
  • *
  • กระทู้: 533
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +25/-1
 ฝากความหวังไว้กับสองเพื่อนซี้ ภาคิน+ปาย อยากให้พวกเขาได้เพื่อนเพิ่ม น่ารักทั้งสองคน

รอติดตามผลงานนะคะ

ออฟไลน์ silverspoon

  • เป็ดHermes
  • *
  • กระทู้: 2426
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +275/-12
กำลังคิดถึงเลยค่ะ

ออฟไลน์ O-RA DUNGPRANG

  • เป็ดDemeter
  • *
  • กระทู้: 1783
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +50/-5
ขอให้เจอกับความสุขจริง ๆ ในเร็ววันนะคุณเจ้าของบ้าน :กอด1: :กอด1: :กอด1:

ออฟไลน์ PharS

  • เป็ดมหาวิทยาลัย
  • *
  • กระทู้: 588
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +26/-1
ขอบคุณนะคะ :pig4:

ออฟไลน์ cookie8009

  • เป็ดมัธยม
  • *
  • กระทู้: 109
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +7/-0
มาแล้ววววววววววววว

ออฟไลน์ areenart1984

  • เป็ดArtemis
  • *
  • กระทู้: 4825
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +167/-7
รอดูเด็กดื้อดวลกัน กรรมการปายทำหน้าที่ดี ๆ ล่ะ  :hao3:

ออฟไลน์ •♀NoM!_KunG♀•

  • *,*โสดสนิทศิษย์พยักหน้า*,*
  • เป็ดApollo
  • *
  • กระทู้: 7579
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +181/-8
เอ็นดู

ออฟไลน์ miikii

  • เป็ดDemeter
  • *
  • กระทู้: 1725
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +26/-1
คินทำได้

CoMMuNiTY Of ThAiBoYsLoVE

ประกาศที่สำคัญ


ตั้งบอร์ดเรื่องสั้น ขึ้นมาใครจะโพสเรื่องสั้นให้มาโพสที่บอร์ดนี้ ถ้าเรื่องไหนไม่จบนานเกิน 3 เดือน จะทำการลบทิ้งทันที
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=2160.msg2894432#msg2894432



รวบรวมปรับปรุงกฏของเล้าและการลงนิยาย กรุณาเข้ามาอ่านก่อนลงนิยายนะครับ
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=459.0



สิ่งที่ "นักเขียน" ควรตรวจสอบเมื่อรวมเล่มกับสำนักพิมพ์
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=37631.0






ออฟไลน์ DrSlump

  • เป็ดEros
  • *
  • กระทู้: 3382
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +104/-2
 :pig4: :pig4: :pig4:

 :pig2: back

ออฟไลน์ sailom_orn

  • เป็ดHera
  • *
  • กระทู้: 1054
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +16/-1

ออฟไลน์ mystery Y

  • เป็ดApollo
  • *
  • กระทู้: 7697
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +585/-12
กลับมาแล้ว~

ออฟไลน์ labelle

  • เป็ดAres
  • *
  • กระทู้: 2685
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +81/-0
คิดถึงจังเลยค่ะ แต่เห็นว่าจะมาต่อรัวๆ เราก็จะรออ่านรัวๆ นะคะ

เอ็นดูภาคินจังเลย อยู่บ้านคนเดียว เหงาหงอย
ไม่แสดงออกให้เห็น แต่มันต้องมีเคว้งบ้างล่ะ

อีกคินก็เป็นคนเฟรนด์ลี่ อารมณ์เปลี่ยนไปมาไว
ไม่ค่อยคิดไรมาก เป็นคนละขั้วกันที่พอดีและลงตัว

อย่างที่ปายบอก อยู่ไม่ได้ ก็ย้ายออก
แต่ก็อย่างที่จีนบอก อยู่เป็นเพื่อนคินด้วยนะ

ก็อยากเข้าใจเหมือนกันค่ะ รอเฉลยว่าทำไม
เพื่อนแบบไหน เป็นเพื่อนแท้ใช่ไหม

เอาใจช่วยคินกับปายนะคะ 5555

ออฟไลน์ Kelvin Degree

  • ถ้าวันนั้นเลือกที่จะเดินออกไป คงไม่เจ็บมาจนถึงทุกวันนี้...
  • เป็ดDemeter
  • *
  • กระทู้: 1700
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +57/-2
คงจะวุ่นวายน่าดู,,, 5555

ออฟไลน์ se7enayo

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 41
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +1/-0
กลับมาแล้วววววว คิดถึงมากๆเลยฮะ :mew1:

ออฟไลน์ lune

  • เป็ดแสนดี
  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 689
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +54/-2

ออฟไลน์ PrimYJ

  • เป็ดEros
  • *
  • กระทู้: 3494
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +19/-3
ไรท์กลับมาแล้วววววววว คิดถึงมากเลยค่ะ

ออฟไลน์ เป็ดอนุบาล

  • เป็ดHephaestus
  • *
  • กระทู้: 1405
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +25/-2
กลับมาแล้วสวย ดีใจจังเลยคะ คินvsคิน
รออ่านตอนต่อไปนะคะ

ออฟไลน์ darin

  • เป็ดนักเขียน
  • เป็ดHera
  • *
  • กระทู้: 1088
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +2267/-46


ตอนที่ 10
เป็นเพื่อน
   

“แม่งวันแรกก็ทิ้งกันแล้ว” ผมมองรถซีดานสีดำสนิทคันหรูที่จอดอยู่ลานจอดรถด้านหน้าคณะ นึกอยากหาอะไรไปสัมผัสล้อแม็กให้เป็นรอยเล่น เพราะอดคิดถึงใบหน้าเจ้าของรถไม่ได้
   
“เอาน่า แบบนี้ก็ดีแล้ว” ปายไม่มีอาการหงุดหงิดแม้แต่น้อย ดูเหมือนเจ้าตัวจะคิดว่ามันดีแล้วจริงๆ
   
“ดียังไงวะ เรียนคณะเดียวกัน มหา’ลัยเดียวกัน อยู่บ้านหลังเดียวกัน ชวนมาด้วยกันไม่ได้เหรอวะ เออถ้าบ้านอยู่ใกล้เท่าหอเก่ากูจะไม่บ่นสักคำ”
   
“ดีสิ” ปายหันมาสบตาผม “ถ้าไม่ชวนก็แปลว่าไม่สะดวก กูว่าดีกว่าไม่สะดวกแต่ฝืนชวน เราพึ่งพากันได้แต่มันไม่ควรเป็นหน้าที่”
   
“อันนั้นกูเข้าใจ แต่บอกกันสักคำจะตายหรือไงวะ” สิ่งที่ทำให้ผมหงุดหงิดมีเพียงเท่านี้
   
“ทำเหมือนมึงไม่รู้จักนิสัยคู่แฝดมึง”
   
“คู่แฝดอะไรของมึงแค่ชื่อเหมือนกัน มีคู่แฝดอย่างมันกูคงบ้าตายก่อน เดี๋ยวดีเดี๋ยวร้าย ใครจะไปตามอารมณ์ทันวะ”
   
“ไม่อยากลองตามหน่อยเหรอ”    

ผมมองรอยยิ้มเจ้าเล่ห์ของปายก่อนถอนหายใจออกมาดังๆ
   
“มึงลองเองเถอะ กูขอบาย” 
   
“หึๆ”
   
“ขำอะไรวะ” ผมกระชับกระเป๋าเป้บนไหล่ ดันหลังปายให้ออกเดินก่อนจะเข้าเรียนสาย
   
“ขำคนผีเข้าผีออกแต่ไม่รู้ตัวน่ะสิ”
   
“หมายถึงไอ้คิน?” ผมหันไปมองปาย คิ้วเลิกขึ้นเล็กน้อย
   
“ใช่ แต่ไม่ใช่คินโน้นนะกูหมายถึงมึง” ปายยื่นมือมาผลักศีรษะผม
   
“เดี๋ยว! กูผีเข้าผีออกตอนไหน”
   
“ก็ตอนที่มึงเดี๋ยวห่วงมันเดี๋ยวไม่ชอบขี้หน้ามันอยู่นี่ไง แล้วยังบอกว่าไม่ใช่แฝด กูเห็นคุ้มดีคุ้มร้ายพอกัน”
   
“ใครบอก กู..” ผมยกมือค้างเพราะปายเร่งฝีเท้าเดินนำไปพร้อมกับเสียงหัวเราะรู้ทัน ผมปล่อยมือลงด้วยท่าทางหงุดหงิด ไม่ใช่เพราะปายไม่รอฟังคำอธิบายของผม แต่เป็นเพราะผมรู้ดีแก่ใจว่าปายพูดถูกต้องทุกคำ

• • • • •

“ผมแวะไปอวยพรวันเกิดคุณปู่ที่บ้านแล้วก่อนมาเรียน”
   
ผมชะงักฝีเท้าเมื่อเห็นว่าใครยืนอยู่ จากคำพูดที่ได้ยินทำให้เดาได้ว่าทำไมเจ้าของบ้านจึงออกจากบ้านเร็ว
   
“เพื่ออะไรครับ หรือเพื่อให้ภรรยาของพ่อสบายใจที่เห็นผมไปร่วมงาน”
   
แรกทีเดียวผมคิดว่าจะเดินผ่าน แต่เมื่อได้ยินประโยคที่สองผมจึงตัดสินใจหมุนตัวกลับ เวลานี้ไม่ควรให้อีกฝ่ายเห็นผม
   
“คำว่าครอบครัว มันเคยมีอยู่ด้วยเหรอครับ”
   
เท้าที่กำลังก้าวเดินหยุดลง ผมอดหันกลับไปมองแผ่นหลังกว้างไม่ได้ แม้จะไม่เห็นหน้า แม้น้ำเสียงที่ได้ยินจะเฉยชา ราวกับไม่มีอารมณ์ใดแฝงอยู่ แต่ผมกลับรู้สึกว่าถ้อยคำนั้นเจ็บปวดยิ่งนัก จนผมอดถอนหายใจออกมาไม่ได้
   
ผมบังคับตัวเองให้ก้าวเดินต่อ ยกมือขึ้นทุบหน้าอกเบาๆ ราวกับมันจะช่วยให้ความรู้สึกหน่วงภายในจางหาย อดคิดไม่ได้ว่าผมซึ่งไม่มีความเกี่ยวข้องใดๆ ยังรู้สึกแบบนี้ แล้วเจ้าตัวจะรู้สึกอย่างไร

   
“ไม่ไปแล้วเหรอ” ปายมองผมด้วยสายตาแปลกใจเมื่อเห็นผมนั่งลงที่เดิม
   
“เดี๋ยวค่อยไป” ผมตอบสั้นๆ ปายจ้องหน้าผมก่อนละสายตาไปโดยไม่ถาม
   
“ปาย”
   
“หือ?”
   
“กูเพิ่งรู้ว่าครอบครัวกูมีความสุขฉิบหาย”
   
ปายเงยหน้าขึ้นมองผม จ้องนิ่งอยู่ครู่หนึ่งก่อนพยักหน้า
   
“แม่กูขี้บ่น พ่อกูชอบเล่าเรื่อง น้องสาวกูพูดมากจนปวดหัว อยู่ด้วยกันทีไรไม่เคยมีความเงียบสงบ แต่กูเพิ่งรู้ว่ามันดีจริงๆ ที่เป็นแบบนั้น”
   
“มึงนึกถึงคินอยู่เหรอ”
   
“อืม” ผมพยักหน้า ถอนหายใจออกมาเบาๆ อดมองไปยังทางเดินไม่ได้ แผ่นหลังที่เห็นเมื่อครู่ปรากฏขึ้นในความคิด มันจะแข็งแกร่งเหมือนที่เห็นหรือเปล่านะ
   
• • • • •

เสียงเปิดประตูบ้านดังขึ้น ผมเงยหน้าขึ้นมองนาฬิกามันบอกเวลาสามทุ่มตรงพอดี ร่างสูงชะงักเท้าเมื่อเห็นผมกับปายนั่งอยู่ในห้องรับแขก แม้ว่าสายตาจะสบกันแต่ไม่มีคำพูดใดๆ ให้ได้ยิน ดวงตาที่มองมาเฉยชาก่อนเจ้าของร่างจะเดินต่อไปราวกับผมกับปายเป็นอากาศธาตุ
   
“วันนี้อย่าถือสามันเลย” ผมพูดขึ้นเมื่อร่างสูงเดินลับหายไป
   
“มาแปลก ปกติมึงต้องเป็นคนโมโห โวยวายไม่ใช่เหรอ” ปายมองผมด้วยสายตายิ้มๆ
   
“คือมัน..คือว่า..” ผมไม่รู้จะพูดอะไรเลยได้แต่อึกอัก
   
“เกี่ยวกับเรื่องที่พูดวันนี้ใช่ไหม..ครอบครัว”
   
“อืม” ผมพยักหน้า
   
“เข้าใจแล้ว” ปายส่งยิ้มให้ผม “มึงไม่ต้องเล่าก็ได้ เป็นห่วงก็ขึ้นไปดูสิ”
   
“ใครห่วงมัน?” มันเผลอพูดเสียงดัง   

“หึๆ ไม่ห่วงก็ไม่ห่วง” ปายวางหมอนที่วางบนตักลงก่อนลุกขึ้นยืน
   
“เจ้าของบ้านคงไม่กินข้าวแล้ว งั้นกูขึ้นห้องเลยแล้วกัน”
   
“กูไปด้วย” ผมเดินตามปายขึ้นไปชั้นบนจนถึงหน้าห้องนอน
   
“พรุ่งนี้กูเป็นคนตื่นทำอาหารเช้าเอง มะรืนมึงค่อยทำ ผลัดกัน”
   
“ได้” ผมพยักหน้ารับ มองปายเดินเข้าห้องจนประตูปิดสนิท อดหันไปมองประตูห้องที่อยู่ห่างออกไปไม่ได้ มันเงียบจนไม่สบายใจ

• • • • •

-ภาคิน กิตติวริศกุล-

   
เสียงเคาะประตูห้องดังขึ้น ไม่ทันที่ผมจะเอ่ยปากอนุญาตหรือปฏิเสธ ประตูก็ถูกเปิดเข้ามา
   
“กูว่าแล้วแอลซีดีห้องมึงจอใหญ่กว่าห้องกู” เสียงพูดแบบไม่มีปี่มีขลุ่ยดังขึ้น เจ้าของเสียงเดินมาทิ้งตัวลงนั่งข้างผมบนเตียง วางกระป๋องเบียร์ที่ถือมาลงบนโต๊ะ ถือวิสาสะหยิบรีโมทขึ้นมาเปิดช่องหนังโดยไม่ถามไถ่
   
“เรื่องนี้สนุก มึงดูหรือยัง”
   
ผมมองหน้าคนพูดนิ่งโดยไม่ตอบ
   
“เบียร์ไหม?” ใบหน้าที่หันมาหาส่งยิ้มกว้าง พร้อมกับกระป๋องเบียร์ในมือที่ยื่นมาตรงหน้า โดยไม่รับรู้ถึงอารมณ์คุกรุ่นในดวงตาของผม
   
“ออกไปเถอะ”
   
“เอางั้นเหรอ” คนพูดพยักหน้าช้าๆ
   
“อืม”
   
“ไม่ออกไปได้ไหม” ดวงตาที่มองมาสบตากับผมโดยไม่หลบ
   
“อะไรนะ!”
   
“ช่วยอยู่เป็นเพื่อนกูหน่อยสิ”
   
“คิน” ผมเรียกชื่ออีกฝ่าย มองด้วยสายตาไม่เข้าใจ
   
“วันนี้กูไม่สบายใจนิดหน่อย แต่พรุ่งนี้ปายต้องตื่นเช้ามาทำอาหารกูเลยไม่อยากกวน มึงดูหนังเป็นเพื่อนกูได้ไหม กูไม่อยากอยู่คนเดียว”
   
“...”
   
“เบียร์” คินจับมือผมแบออกก่อนยัดกระป๋องเบียร์ใส่ ผมก้มลงมองราวกับไม่เคยเห็นมันมาก่อน ก่อนที่เสียงหัวเราะจะหลุดลอดออกมา
   
“ตกลง”
   
“ขอบใจ” กระป๋องเบียร์ถูกยื่นมาชนกับกระป๋องเบียร์ในมือผม ดวงตาที่มองมาไม่มีความเศร้าสักนิด กลับกันดวงตาคู่นั้นทำให้ผมรู้สึกสบายใจขึ้นโดยไม่รู้ตัว

   
เบียร์กระป๋องที่สามหมดลงเมื่อหนังเดินทางมาถึงตอนจบพอดี คินหยิบรีโมทขึ้นมากดปิด วางกระป๋องเบียร์ในมือลงบนโต๊ะข้างเตียง
   
“มึงมีแปรงสีฟันอันใหม่ไหม กูขี้เกียจเดินกลับไปแปรงที่ห้อง”
   
ผมสบตากับดวงตาที่มองมา “คุณจะอยู่ในห้องผมจนถึงเมื่อไหร่”
   
“ก็จนกว่ากูจะสบายใจ มึงตกลงอยู่เป็นเพื่อนกูแล้วอย่ากลับคำสิวะ”
   
“ผมไม่เห็นคุณไม่สบายใจตรงไหน”
   
“มึงมองไม่เห็นจริงๆ เหรอ” ใบหน้าของคินยื่นเข้ามาใกล้ ใกล้จนผมชะงัก
   
“..”
   
“เห็นไหม กูไม่ได้โกหก” ใบหน้านั้นถอยออกห่าง ริมฝีปากคลี่ออกเป็นรอยยิ้มกว้าง “บางทีความเป็นห่วงก็ทำให้เราไม่สบายใจได้”
   
“อะไรนะ” ประโยคหลังเบาจนผมได้ยินไม่ชัดเจน
   
“ไม่มีอะไร ตกลงมึงจะเอาแปรงอันใหม่ให้กูหรือให้กูใช้ของมึงเลย เพราะกูไม่ถือ”
   
“อยู่ในตู้ขวามือชั้นบน”
   
“ขวามือชั้นบน” คินทวนคำก่อนก้าวลงจากเตียง ผมมองตามแผ่นหลังกว้าง แปลกใจกับพฤติกรรมที่แปลกไปของอีกฝ่าย


“มึงง่วงหรือยัง”
   
ผมยืนมองคนถามที่นอนอยู่บนเตียง เพียงระยะเวลาไม่ถึงสิบห้านาทีที่ผมเข้าห้องน้ำ เจ้าของเสียงก็ยึดเตียงของผมไปเรียบร้อย
   
 “จะนอนแบบนั้นเหรอ”
   
“ทำไมวะ ปกติกูก็ใส่แบบนี้นอน” คินก้มลงมองตัวเอง ทั้งเนื้อทั้งตัวมีแค่บ๊อกเซอร์ที่ใส่อยู่ตัวเดียว
   
“คุณเคยใส่ชุดนอนนอน”
   
“เคยเหรอ?” คิ้วหนาขมวดเข้าหากัน “อ๋อ มึงหมายถึงคราวก่อนที่กูมาค้างที่นี่ใช่ไหม ตอนนั้นมันต้องรักษามารยาท แต่ตอนนี้เราอยู่บ้านเดียวกันแล้วเป็นตัวของตัวเองได้”
   
“งั้นก็กลับไปนอนห้องตัวเอง”
   
“ทำไมวะ ใส่อะไรนอนก็ไม่เห็นต่างกันตรงไหน มึงก็ใส่กางเกงตัวเดียวนอนเหมือนกัน”
   
ผมสบตากับคิน ดูจากความตั้งใจของอีกฝ่ายแล้วคงไม่ยอมกลับไปง่ายๆ บางครั้งหมอนี่ก็เหมือนเด็กดื้อ
   
“หัวเราะอะไร” ดวงตาที่มองมาคาดคั้นคำตอบ เมื่อผมเผลอหลุดเสียงหัวเราะออกมา
   
“ไม่มีอะไร” ผมเลิกผ้าห่มออก สอดตัวเข้าไปนอน รอให้อีกฝ่ายทำเหมือนกัน จึงเอื้อมมือไปปิดสวิตช์ไฟที่แผงควบคุม
   
“ไอ้คิน”
   
“หือ?” ผมเอียงศีรษะไปมอง คินพลิกตัวนอนตะแคงข้างหันมาทางผม
   
“...”
   
“เรียกทำไม”
   
“ห้องจะได้ไม่เงียบ”
   
“ถ้ามันไม่เงียบจะเรียนกว่านอนได้ยังไง”
   
“เหรอวะ” เสียงหัวเราะดังขึ้น
   
“ถ้ากูเรียกมึงไปเรื่อยๆ มึงจะหลับไหม”
   
“อย่าบอกว่าคุณเมา”
   
“สงสัยอยู่” ในแสงสลัวผมเห็นรอยยิ้มของคิน ก่อนที่เจ้าตัวจะพลิกกลับไปนอนหงาย
   
“...”
   
“แต่ถ้ากูเรียกมึงไปเรื่อยๆ มึงก็จะไม่เหงาใช่ไหม”
   
“...”
   
“ไอ้คิน”
   
“...”
   
“ฝันดีนะ”
   
“...”
   
“อืม” เสียงรับคำเบาอยู่ในลำคอ

แผ่นอกของคินเคลื่อนขึ้นลงสม่ำเสมอเป็นสัญญาณว่าอีกฝ่ายหลับสนิทไปแล้ว ผมหวนคิดถึงบทสนทนาทางโทรศัพท์ระหว่างผมกับพ่อ ผมยังจำความรู้สึกว่างเปล่าที่เกิดขึ้นได้ เพียงแต่ในตอนนี้ผมคิดว่ามันต่างออกไป หรือบางทีคนที่อยากให้ใครสักคนอยู่เป็นเพื่อนอาจจะเป็นผมเอง
   

ตุ๊บ!
   
แขนของคินพาดลงบนอก ก่อนที่ศีรษะจะขยับมาซบไหล่  ผมจับมือที่พาดอยู่ออก ดันให้อีกฝ่ายนอนหงาย แต่เพียงไม่กี่อึดใจก็กลับมาอยู่สภาพเดิม
   
ลมหายใจอุ่นๆ เป่ารด รับรู้ถึงความร้อนของผิวกายที่แนบชิด
   
“ผมว่าคุณเมา” เสียงพูดลอดออกจากลำคอ ก่อนริมฝีปากของผมจะถูกแทนที่ด้วยรอยยิ้มบาง ดวงตาตกลงมองใบหน้าที่ซุกอยู่แนบไหล่
   
“ขอบคุณ”
   
ในตอนนี้ หัวใจของผมอบอุ่นขึ้นแล้ว

   
:::: ♥ TBC ♥::::
  Darin ♥ FANPAGE
Twitter : primdarin






CoMMuNiTY Of ThAiBoYsLoVE






ออฟไลน์ ืืnanana21

  • เป็ดมัธยม
  • *
  • กระทู้: 116
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +2/-0
ละเมอกอดเขาอ่ะ​ ผิดผี​ๆ

ออฟไลน์ DrSlump

  • เป็ดEros
  • *
  • กระทู้: 3382
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +104/-2
 :pig4: :pig4: :pig4:

ฝาแฝดเขารู้ใจกันโนะ

ออฟไลน์ Chucream.nabi

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 315
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +6/-0

ออฟไลน์ O-RA DUNGPRANG

  • เป็ดDemeter
  • *
  • กระทู้: 1783
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +50/-5
เมื่อไรจะเปลี่ยนจะเรียก ไอ้คิน เป็นพี่คินกันนะ  :z1: :z1: :z1:

ออฟไลน์ river

  • เป็ดHermes
  • *
  • กระทู้: 2398
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +231/-3
น่ารักจริงเลยนะ

ออฟไลน์ iceman555

  • เป็ดHades
  • *
  • กระทู้: 8217
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +149/-11

ออฟไลน์ areenart1984

  • เป็ดArtemis
  • *
  • กระทู้: 4825
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +167/-7
2 คินเล่นอะไรกันเนี่ย เผลอแป๊ปเดียว ขึ้นนอนกอดกันบนเตียงซะแล้ว  o18

ออฟไลน์ •♀NoM!_KunG♀•

  • *,*โสดสนิทศิษย์พยักหน้า*,*
  • เป็ดApollo
  • *
  • กระทู้: 7579
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +181/-8
โอ้ยยยย อยากให้เรื่องนี้ทำซีรี่ย์ เอาเซฟกับจีแสดง 55555

ออฟไลน์ diltosscap

  • เป็ดมหาวิทยาลัย
  • *
  • กระทู้: 533
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +25/-1
ปายเป็นเพื่อนที่น่ารักมาก เพื่อนสนิท ที่รับรู้ความรู้สึกของเพื่อน มองหน้าก็รู้ใจ

ออฟไลน์ ommanymontra

  • เป็ดEros
  • *
  • กระทู้: 3437
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +96/-0

 

สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด


สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด