❤ คุณคนเดียวกัน ❤ [ตอนที่ 27 End]★06/04/21★ P:19
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด

สนใจโฆษณาติดต่อ laopedcenter[at]hotmail.com คลิ๊กรายละเอียดที่ตำแหน่งว่างเลยครับ

สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด

ผู้เขียน หัวข้อ: ❤ คุณคนเดียวกัน ❤ [ตอนที่ 27 End]★06/04/21★ P:19  (อ่าน 132613 ครั้ง)

ออฟไลน์ DrSlump

  • เป็ดEros
  • *
  • กระทู้: 3360
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +104/-2
 :pig4: :pig4: :pig4:

จับคนซึนที่ยังไม่รู้ใจตัวเองได้หนึ่งนาย

ออฟไลน์ areenart1984

  • เป็ดArtemis
  • *
  • กระทู้: 4805
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +167/-7
ตอดเข้าไปอีก เรื่อย ๆ ใจเริ่มอ่อนแล้ว  :katai2-1:

ออฟไลน์ Chucream.nabi

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 315
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +6/-0
 :hao3: เริ่มคิดเกินเพื่อนแหละ

ออฟไลน์ O-RA DUNGPRANG

  • เป็ดDemeter
  • *
  • กระทู้: 1760
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +50/-5
อ้างถึง
“มึงจะแก้ตัวทำไมวะ ฮ่าๆ ทำอย่างกับผัวถูกเมียจับได้ว่ามีผู้หญิงอื่น”


ก็ใช่ใง ๆ  มันอาจไม่ใช่ตอนนี้แต่ก็เร็ว ๆ นี่แหละน่า  :z1:

ออฟไลน์ Jibbubu

  • เป็ดEros
  • *
  • กระทู้: 3385
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +77/-6
แน่ะ แอบหวั่นไหวแล้วล่ะซิ

ออฟไลน์ darin

  • เป็ดนักเขียน
  • เป็ดHera
  • *
  • กระทู้: 1088
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +2267/-46



ตอนที่ 13
รู้ตัว



-ภาคิน   กิตติวริศกุล-


ผมเก็บกระป๋องเบียร์ที่วางระเกะระกะอยู่บนโต๊ะในห้องนอน มองร่างที่นั่งเอนอยู่บนโซฟา ดวงตาที่ปิดสนิทบอกไม่ได้ว่าเจ้าตัวแค่พักสายตาหรือว่าหลับไปแล้วเพราะความเมา ถึงแม้ว่าอีกฝ่ายจะเตี้ยกว่าผม แต่ก็ไม่ใช่ผู้ชายบอบบาง ผมไม่เห็นทางอื่นนอกจากต้องปลุกขึ้นมา

“คิน” ผมเริ่มจากการเรียกชื่อ แต่นอกจากเสียงอืออาในลำคอแล้ว ไม่มีการเคลื่อนไหวใดๆ อีก ผมขยับเข้าไปใกล้อีกนิดเขย่าไหล่แรงๆ เจ้าของไหล่สะบัดหนีซุกหน้าเข้ากับมุมของโซฟา ผมถอนหายใจยาว คิดจะปล่อยให้อีกฝ่ายนอนอยู่ตรงนี้จนกว่าจะตื่นเอง แต่พอนึกได้ว่าเวลานอนผมมักปรับอุณหภูมิในห้องให้เย็นกว่าปกติก็ต้องเปลี่ยนใจ

ผมก้มตัวลง จับแขนที่เหมือนไร้เรี่ยวแรงขึ้นมาคล้องคอ มืออีกข้างจับอ้อมไปจับเอวไว้มั่น ก่อนออกแรงดึงให้ลุกขึ้นยืน ร่างที่ประคองโอนเอนเล็กน้อย ก่อนจะทิ้งตัวลงราวกับไร้กระดูก ผมประมาทแรงของอีกฝ่ายเกินไป จึงถูกล้มทับหงายหลังลงบนโซฟา มีร่างของคนเมาเกยอยู่บนตัว ศีรษะซุกอยู่ที่ซอกคอ

ผมได้กลิ่นแอลกอฮอล์จางๆ จากลมหายใจ รับรู้ถึงร่างกายหนักที่ทับอยู่บนตัว มือที่วางอยู่บนเอวอีกฝ่ายรับรู้ถึงจังหวะการหายใจเข้าออก ร่างกายขยับขึ้นลงช้าๆ 

“คิน” ผมเบี่ยงศีรษะหลบ เรียกเพื่อหวังให้อีกฝ่ายได้สติ แต่คล้ายว่าการกระทำของผมกำลังรบกวนการนอนอันแสนสุขของคนบนอก จึงขยับศีรษะไปมา การเคลื่อนไหวเช่นนี้ทำให้จมูกของอีกฝ่ายปัดโดนต้นคอของผมหลายครั้ง

ผมนอนนิ่งอยู่ครู่หนึ่ง ความรู้สึกแปลกแทรกซึมผ่านทุกอณูของร่างกาย ทำไมผมถึงไม่ทำในสิ่งที่ควรทำ ผมควรผลักหมอนี่ออกไปจะนอนกอดอยู่ทำไม

ความรู้สึกแปลกหนึ่งครั้งยังปล่อยให้ผ่านไปได้ แต่ความรู้สึกแปลกหลายๆ ครั้งทำให้ผมเริ่มฉุกคิด

เมื่อไหร่กันที่รอยยิ้มของคนอื่นทำให้ผมยิ้มตาม

เมื่อไหร่กันที่ผมเป็นห่วงใครสักคนจนลืมคิดถึงเรื่องอื่น

เมื่อไหร่กันนะที่การมีอยู่ของใครคนหนึ่งทำให้ผมมีความสุข
   
จู่ๆ ศีรษะที่ซบอยู่กับซอกคอก็ผงกขึ้นมา ดวงตาคล้ายคนครึ่งหลับครึ่งตื่น เสียงพูดง่วงงุน
   
"มึงเมาแล้วเหรอวะ"
   
ผมหลุดเสียงหัวเราะออกมา ดวงตาที่สบกับอีกฝ่ายกึ่งระอากึ่งขำ
   
"ตื่นแล้วก็ลุกขึ้น"
"ลุก?"  คนถามคล้ายไม่เข้าใจ ใช้สองมือคลำสะเปะสะปะบนอกผม คล้ายไม่แน่ใจว่าตัวเองนอนอยู่ที่ใด ผมตะปบมือของอีกฝ่ายให้อยู่นิ่ง

"มึงมานอนทำไมตรงนี้วะ"
   
ผมมองอีกฝ่ายด้วยสายตาเหลือเชื่อ อยากขำแต่ก็ขำไม่ออก  ใช้สองมือจับไหล่ดันให้คนครึ่งหลับครึ่งตื่นลุกขึ้นนั่ง ยังดีที่คราวนี้ยอมขยับ
   
"ไปนอนได้แล้ว" ผมสั่งเสียงเรียบ
   
"อืม" คนที่นั่งหลับตาลุกขึ้นยืน ผมถอนหายใจโล่งอก แต่เพียงครู่เดียวดวงตาก็เบิกกว้างขึ้น เมื่อร่างที่ลุกขึ้นเดินโงนเงนไปทิ้งตัวนอนหงายอยู่บนเตียงของผมอย่างถือสิทธิ์ราวกับเป็นห้องของตัวเอง

ผมถอนหายใจอย่างยอมจำนน เอาเถอะ ก็ยังดีที่ไม่ต้องประคองอีกฝ่ายไปส่งที่ห้องอย่างทุลักทุเล เมื่อคิดได้แบบนั้นผมจึงเดินเข้าห้องน้ำเพื่อทำธุระส่วนตัว ก่อนจะออกมาพบว่าทั้งเนื้อทั้งตัวของอีกฝ่ายเหลือเพียงบ๊อกเซอร์ตัวเดียวเท่านั้น คราวก่อนหมอนี่บอกว่ายังไงนะ 'ปกติก็นอนแบบนี้' ใช่ไหม เมาจนหัวทิ่มแล้วก็ยังไม่ลืมถอด

ผมก้าวขึ้นเตียง ดึงผ้าห่มที่วางอยู่ปลายเท้าขึ้นมาคลุม ดูให้แน่ใจว่าอีกฝ่ายจะไม่หนาวจึงล้มตัวลงนอน ไอร้อนจากร่างกายที่นอนอยู่ใต้ผ้าห่มผืนเดียวกันก่อความรู้สึกแปลก ผมจึงคิดจะขยับแขนที่แนบชิดกันอยู่ออก แต่ก็แค่คิดเพราะเสียดายความอบอุ่นที่ได้รับ ได้แต่ยกมืออีกข้างขึ้นลูบใบหน้า ความง่วงหายเป็นปลิดทิ้ง

มีคำถามเกิดขึ้นมากมายในหัวแต่ดันไม่กล้าหาคำตอบ เป็นห่วงเพราะอะไร ผมยังพอหาข้อแก้ตัวได้ง่าย แต่ทำไมเพียงแค่ใบหน้าเฉียดผ่านกันผมถึงรู้สึกอึดอัดในใจ คำถามข้อนี้ยากเกินไป

ผมมั่นใจว่าตัวเองชัดเจนเรื่องรสนิยมทางเพศ ที่ผ่านมาไม่เคยเกิดความรู้สึกแบบนี้กับเพศเดียวกันสักครั้ง ใช่ว่าคนอย่างผมจะไม่มีผู้ชายเข้ามาจีบ ที่น่ารักกว่าผู้หญิงก็เคยมี แต่หมอนี่..

ผมเหลือบสายตาไปมองแล้วได้แต่ถอนใจ หน้าตาถือว่าจีบสาวได้แม้ไม่หล่อจนสาวหลง รูปร่างตามแบบฉบับผู้ชายทั่วไป เรื่องตัวเล็กน่ารักตัดทิ้งไปได้เลย มองอย่างไรก็ไม่เร้าใจ แล้วทำไมถึงไม่อยากปล่อยมือ

'มึงชอบกู' ผมคิดถึงคำพูดของคินเมื่อไม่กี่วันที่ผ่านมา จู่ๆ ก็อดสงสัยขึ้นมาไม่ได้ว่า..หรือมันจะเป็นความจริง

• • • • •

"ตื่นแล้วเหรอ" เสียงทักดังขึ้นเมื่อผมเดินเข้าไปในห้องครัว ร่างที่ยืนอยู่หน้าเตามีเพียงกางเกงผ้าลินินทรงหลวมเกาะอยู่ที่สะโพก ผมไล่สายตาขึ้นช้าๆ มองแผ่นหลังเปล่าเปลือย ก่อนเสไปมองแก้วกาแฟที่วางอยู่บนโต๊ะอาหาร
   
"กูทำข้าวต้มหมูสับ มึงจะกินเลยไหม"
   
"อืม ปายยังไม่กลับเหรอ”
   
"ยัง บ่ายโน่นแหละ วันนี้มึงออกไปไหนหรือเปล่า"
   
“...” ผมหยุดคิด เดิมทีไม่มีแผนการณ์ใดอยู่ในหัว แต่ปายยังไม่กลับมา ผมไม่แน่ใจว่าควรอยู่บ้านกับหมอนี่สองคนหรือไม่
   
"ถ้าว่างมึงไปซื้อต้นไม้กับกูไหม" ความเงียบเมื่อครู่ของผมทำให้อีกฝ่ายเข้าใจว่าผมไม่ได้ไปไหน
   
"ต้นไม้?"
   
"อืม กูอยากได้ต้นไม้มาวางที่ระเบียงห้อง.." อีกฝ่ายพูดแล้วชะงักไป มองผมด้วยสายตาไม่แน่ใจ
   
"กูต้องถามมึงก่อนหรือเปล่าวะว่าวางต้นไม้ที่ระเบียงได้ไหม โทษที"
   
"อยากวางก็วาง อย่าเป็นต้นไม้ที่โตแล้วมีน้ำหนักมากเกินไปก็พอ" ผมเอ่ยปากอนุญาต
   
"ไม่หนัก กูอยากปลูกต้นโมก หอมดี"
   
"หอมดี?" ผมเลิกคิ้วขึ้นด้วยความแปลกใจ คำว่าหอมดีไม่เหมาะกับบุคลิกคนพูดเอาเสียเลย
   
"มองแบบนั้นอยากมีเรื่องแต่เช้าเหรอวะ" น้ำเสียงและสายตาหาเรื่องของอีกฝ่ายเป็นสิ่งที่ผมคุ้นเคยที่สุด คุ้นเคยจนเผลอยิ้มออกมา
   
"เมื่อคืนคุณแย่งเตียงผม แย่งผ้าห่มผม เช้านี้นอกจากไม่ขอโทษยังข่มขู่เจ้าของบ้านอีกเหรอ"
   
สีหน้าหาเรื่องเมื่อครู่ถูกแทนที่ด้วยรอยยิ้มกว้าง สีหน้าประจบเล็กน้อย ราวกับเมื่อครู่ไม่ได้หาเรื่องผมอยู่
   
"มึงนั่งเลยเดี๋ยวกูตักข้าวต้มให้ เสร็จแล้วจะได้รีบออกไปกัน ช้ากว่านี้เดี๋ยวร้อน"
   
“...”

เพราะมัวคุยเรื่องอื่น ผมจึงยังไม่ได้ปฏิเสธ มาถึงตอนนี้ก็ไม่ทันการแล้ว ได้แต่พยักหน้ารับรู้

• • • • •

"เดินดูอย่างอื่นก่อน จะกลับค่อยไปซื้อต้นไม้" คนนำทางหันมาบอก ผมพยักหน้ารับ เงยหน้าขึ้นมองท้องฟ้าที่แทบไม่มีเมฆบัง ดวงตาหรี่ลงเล็กน้อยเพื่อสู้กับแสงแดด อากาศค่อนข้างร้อน ทำให้รู้สึกอบอ้าว
   
"มึงมาเดินสวนจตุจักรบ่อยไหม"
   
"เคยมา" ผมตอบสั้นๆ แต่คนถามมองมาด้วยสายตารู้ทัน
   
"หมายถึงเคยมาแค่ครั้งเดียวหรือเปล่าวะ"
   
"..." ผมคิดว่าการปิดปากเงียบน่าจะดีที่สุด
   
"อยากดูอะไรไหมเดี๋ยวกูพาไป ที่นี่กูหลับตาเดินยังได้" คนพูดทำสีหน้าโอ้อวด รอยยิ้มคลี่ออกกว้าง
   
"หลับสิ"
   
!!
   
"หึ"
   
"กูสงสัยจริงๆ ว่ามึงรอดมาได้ยังไงถึงป่านนี้ คำพูดยังไม่เท่าไหร่ไอ้แบบนี้ใครก็พูดกัน แต่พอออกจากปากมึง น้ำเสียงมึง สายตาเหยียดๆ ของมึง แม่งน่ากระทึบ"
   
"ไม่รู้จริงเหรอว่าทำไม" ผมเลิกคิ้วขึ้น
   
“ไม่ต้องขุดหลุมล่อ มึงกะจะให้กูถามต่อว่าเพราะอะไร แล้วมึงก็จะตอบกูว่า..เพราะกูถูกกระทืบแทนมึงแล้วใช่ไหม "
   
"ฮ่าๆ" ผมปล่อยเสียงหัวเราะออกมา ขำสีหน้าที่สื่ออารมณ์ว่า ‘อย่านึกนะว่ากูไม่รู้’ ของอีกฝ่าย
   
"อยากหัวเราะก็หัวเราะไป แค่อย่าลืมว่ามึงรับปากกูแล้วว่าจะเลิกหาเรื่องมาให้กู"
   
"ตกลง" ผมชะงักเมื่อหลุดคำดังกล่าวออกไป ไม่ใช่เพราะเผลอตอบตกลง แต่เพราะเสียงที่พูดออกไปฟังดูอ่อนโยนและรักใคร่ แม้แต่สายตาที่มองอีกฝ่ายก็ยังเป็นเช่นนั้น
   
"ถ้ามีอีกนะมึง" มือที่ยื่นมาชี้หน้าผมมาพร้อมกับสายตาคาดโทษ โชคดีเหลือเกินที่อีกฝ่ายไม่รับรู้ถึงความเปลี่ยนแปลงเมื่อครู่
   
"คิน" เสียงเรียกดังมาแต่ไกล ดึงสายตาให้หันไปมองพร้อมกัน
   
"ของมึง" คนข้างๆ หันมายักคิ้วให้ "คนนี้กูเห็นอยู่กับมึงบ่อยๆ หรือว่าคนพิเศษวะ”
   
ผมไม่ทันได้ตอบคำถาม คนที่ถูกพูดถึงก็ก้าวมาหยุดตรงหน้าเสียก่อนพร้อมรอยยิ้ม
   
"ไม่คิดว่าจะเจอที่นี่ มาซื้อของเหรอ"
   
"อืม ฟ่างมาคนเดียวเหรอ" ฟ่างหรือข้าวฟ่างเรียนอยู่คณะอักษรฯ มหา'ลัยเดียวกัน เป็นสาวสวยที่ผมไปไหนมาไหนด้วยบ่อยครั้ง ฟ่างเป็นผู้หญิงฉลาด รู้จักการวางตัว รู้ว่าควรรุกเมื่อไหร่ถอยเมื่อไหร่ ทำให้ยิ่งมีเสน่ห์ สิ่งที่คินพูดก็ถือว่าไม่ผิด เพียงแต่ตอนนี้..
   
"มากับเพื่อน แต่เพื่อนกำลังจะกลับเพราะที่บ้านโทรมาตาม คนนี้..” ฟ่างเลี่ยนสายตาไปมองคนที่ยื่นข้างผม

“นึกออกแล้ว คู่คินคินนี่เอง” เสียงหัวเราะกังวานใส  “ถ้าฟ่างจำไม่ผิดคนนี้ก็ชื่อภาคินใช่ไหมคะ ตอนไปหาคินที่คณะมีคนบอกฟ่าง”
   
"ครับ ผมชื่อภาคินเหมือนกัน" คนข้างๆ ตอบกลับ สีหน้าและท่าทางเป็นมิตรอย่างยิ่ง ก่อนเบือนหน้ามาทางผม
   
"เดี๋ยวกูไปเองดีกว่า มึงจะได้เดินเป็นเพื่อนฟ่าง"

สายตาที่มองมาพยายามส่งสัญญาณว่า 'เต็มที่เลยมึง' กลับทำให้ผมรู้สึกหงุดหงิด
   
“เอาไว้เจอกันที่บะ..”

ผมไม่รอให้ตัวจุ้นจ้านพูดจบ

"หมอนี่จะซื้อต้นไม้ ผมต้องไปช่วยขน"   
   
“ตามสบายเลย งั้นฟ่างไปหาเพื่อนก่อนนะ เอาไว้ค่อยคุยกัน"
   
"ครับ" ผมส่งยิ้มให้ฟ่างแต่ดวงตายังไม่สามารถลบความหงุดหงิดออกได้ ผมคิดว่าฟ่างก็คงสังเกตเห็นเช่นกัน จึงไม่ได้รั้งผมไว้ มีแต่คนที่ซื่อบื้อที่สุดเท่านั้นที่มองเหมือนผมบ้าไปแล้ว
   
"มึงไม่ต้องเกรงใจกู ปกติกูก็มาเดินเองอยู่แล้ว" เมื่อฟ่างเดินห่างออกไปแล้วตัวจุ้นจ้านก็พูดขึ้น
   
"...." ผมตวัดสายตาบึ้งตึงไปหา ดวงตาคู่นั้นจึงเบิกกว้างขึ้น
   
" ฉิบ! หรือคนนี้มึงชิ่งแล้ววะ กูลืมคิด ขอโทษๆ”
   
เป็นอีกครั้งที่ผมรู้สึกถึงความแปลกของตัวเอง ระหว่างฟ่างกับคินเมื่อครู่ผมแทบไม่ต้องคิดเลย แต่นั่นยังไม่แปลกเท่าแค่อีกฝ่ายพูดเหมือนเห็นดีเห็นงามให้ผมไปกับคนอื่น ทำไมผมถึงหงุดหงิด โมโหขึ้นมา
   
"มึง" เห็นรอยยิ้มแห้งๆ กับดวงตาสำนึกผิดที่มองมา ทำเอาความหงุดหงิดที่มีหายเกลี้ยง ผมพ่นลมหายใจออกอย่างช้าๆ ดูเหมือนคำตอบจะชัดเจนขึ้นเรื่อยๆ หมอนี่กำลังทำให้ผมเพี้ยน
   
"ไปเถอะ" ผมยกมือขึ้นผลักหลังอีกฝ่ายเบาๆ เป็นสัญญาณให้ออกเดิน
   
• • • • •

"เรียบร้อย"
   
ผมมองต้นโมกสองกระถางที่วางอยู่บนระเบียง เจ้าของห้องย้ายไปย้ายมาอยู่พักใหญ่กว่าจะตัดสินใจได้ว่าจะวางตรงไหน
   
"ยืนอยู่ตรงนี้ยังได้กลิ่นเลย มึงลองดมดูสิ หอมไหม”
   
"จริงเหรอ" ผมชะโงกหน้าเข้าไปใกล้กับต้นไม้ เฉียดผ่านหน้าของคินไปนิดเดียว สูดลมหายใจเข้าลึกๆ
   
"หอมดี"
   
"มึงอยากได้ไหม"
   
"ไม่..ก็ดี" ผมเปลี่ยนคำพูด
   
"งั้นกูแบ่งให้ต้นหนึ่ง”
   
"ไม่ต้อง!" ผมรีบปฏิเสธ "ผมอยากได้สักห้าหกต้นจะปลูกในสวนด้วย"
   
"อ๋อ งั้นอาทิตย์หน้าให้กูไปซื้อเป็นเพื่อนไหม”
   
"อืม" ผมพยักหน้า

คินเป็นคนจำพวกปากร้ายแต่ใจดี เมื่อก่อนผมไม่เคยรู้ กระทั่งได้รู้จักกันมากขึ้นถึงได้เห็นนิสัยจริงๆ ของอีกฝ่าย จากที่เคยคิดว่าหมอนี่เป็นพวกขี้หงุดหงิด โผงผาง เอาแต่โวยวาย เพียงเวลาผ่านไปไม่นาน  ไม่ว่าอีกฝ่ายจะโวยวาย โผงผาง หรือพ่นคำหยาบออกมามากแค่ไหน ผมก็ไม่ขัดหูขัดตาอีกต่อไป ซ้ำยังมองว่าตลกดี บางครั้งถึงขนาดมองว่าหมอนี่น่ารัก
   
ผมทอดสายตาไปยังต้นโมกบนระเบียง กลิ่นหอมเย็นของมันลอยเข้าจมูก
   
ผมอยากได้ต้นโมกเหรอ?

เปล่าเลย ผมไม่รู้ด้วยซ้ำว่าทำไมถึงพูดคำว่าอยากได้ออกไป เหมือนคำพูดเหล่านั้นไม่ได้ผ่านสมอง แต่ผ่านอวัยวะที่อยู่ในอกแทน
   
ผมชอบต้นโมกเหรอ?
 
เปล่าเลย ผมแค่อยากใช้วันหยุดอาทิตย์หน้ากับหมอนี่อีกก็เท่านั้น
   
ผมพ่นลมหายใจออกอย่างคนปลงตก ก่อนเสียงหัวเราะเบาๆ จะแทนที่

ผมชอบหมอนี่ ยังมีอะไรต้องคิดอีก ผมคงเพี้ยนไปแล้วจริงๆ


:::: ♥ TBC ♥::::
  Darin ♥ FANPAGE
Twitter : primdarin





ออฟไลน์ silverspoon

  • เป็ดHermes
  • *
  • กระทู้: 2426
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +275/-12
เขิลเหลือเกินพ่อ  :katai5:

ออฟไลน์ ืืnanana21

  • เป็ดมัธยม
  • *
  • กระทู้: 116
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +2/-0
รุกเลยจ๊ะพ่อ
อย่าช้าาา

ออฟไลน์ Chucream.nabi

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 315
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +6/-0
 :hao7:เอาไงเธอ จะรุกจีบเลยมั้ย :katai2-1: :katai2-1: :katai2-1:

ออฟไลน์ DrSlump

  • เป็ดEros
  • *
  • กระทู้: 3360
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +104/-2
 :pig4: :pig4: :pig4:

เก่งจัง  รู้ใจตัวเองแล้ว

CoMMuNiTY Of ThAiBoYsLoVE

ประกาศที่สำคัญ


ตั้งบอร์ดเรื่องสั้น ขึ้นมาใครจะโพสเรื่องสั้นให้มาโพสที่บอร์ดนี้ ถ้าเรื่องไหนไม่จบนานเกิน 3 เดือน จะทำการลบทิ้งทันที
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=2160.msg2894432#msg2894432



รวบรวมปรับปรุงกฏของเล้าและการลงนิยาย กรุณาเข้ามาอ่านก่อนลงนิยายนะครับ
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=459.0



สิ่งที่ "นักเขียน" ควรตรวจสอบเมื่อรวมเล่มกับสำนักพิมพ์
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=37631.0






ออฟไลน์ arij-iris

  • เป็ดAres
  • *
  • กระทู้: 2904
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +30/-5
คินหนึ่งรู้ตัวแล้ว ส่วนอีกคินหนึ่ง....ยังคงซื่อบื้อต่อไปปป

ออฟไลน์ areenart1984

  • เป็ดArtemis
  • *
  • กระทู้: 4805
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +167/-7
แน่ใจนะว่าแค่ "ชอบ" ไม่มากไปกว่านี้  :hao3:

ออฟไลน์ kenghan

  • เป็ดHephaestus
  • *
  • กระทู้: 1440
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +96/-2
เขารู้ใจตัวเองแล้วอะ 

ออฟไลน์ O-RA DUNGPRANG

  • เป็ดDemeter
  • *
  • กระทู้: 1760
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +50/-5
 :mc4: ว้าว ว้าว ว้าว  :mc4: เขารู้ใจตัวเองแล้ว :mc4:

ออฟไลน์ Jibbubu

  • เป็ดEros
  • *
  • กระทู้: 3385
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +77/-6
เอาละอีกคนรู้ใจแล้ว ส่วนอีกคนก็ยัง...ซื่อบื้ออยู่ซินะ

ออฟไลน์ darin

  • เป็ดนักเขียน
  • เป็ดHera
  • *
  • กระทู้: 1088
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +2267/-46




ตอนที่ 14
แทรกซึม



หลังจากทานข้าวเที่ยงแล้วผมกับปายนั่งเล่นอยู่ใต้ตึกเพื่อฆ่าเวลาระหว่างรอเข้าเรียนตอนบ่าย โต๊ะที่ตั้งอยู่ใกล้เคียงถูกจับจองจนเต็ม ปายอ่านหนังสือในมืออย่างที่ชอบทำ ส่วนผมเป็นพวกเบื่อง่าย สมาธิสั้น หลังจากเลียนแบบปายอยู่ครู่หนึ่งก็เปลี่ยนใจนั่งคุยเล่นกับเพื่อนร่วมคณะแทน
   
"มึงรู้หรือยังว่าไอ้ปิงแอบชอบเด็กคณะอักษรฯ" เพื่อนคนหนึ่งเปิดประเด็นขึ้นมา
   
"ใครวะ" ผมหันไปมองเจ้าของนามว่าปิง เห็นอีกฝ่ายทำหน้าไม่รู้ไม่ชี้เหมือนไม่ยอมรับ จึงขยับตัวเข้าไปนั่งใกล้อีกนิด
   
"เดี๋ยวนี้ริอ่านมีความลับกับกูเหรอ" ผมยื่นเท้าไปถีบขาเพื่อนไม่หนักไม่เบา
   
"มึงฟังคำไอ้ศรด้วยเหรอ มันเคยพูดเรื่องจริงที่ไหน"
   
"มึงอยากให้กูบอกชื่อเลยไหม" คนถูกกล่าวหาร้อนตัว
   
"บอกมาเลยกูอยากรู้" ผมหันไปมองศร ใช้มือยันปิงไว้ไม่ให้ห้ามปราม
   
"ข้าวฟ่างไง ดาวอักษรปีเรา"
   
"หะ!" ผมตาเหลือก แม้แต่ปายที่ไม่สนใจฟังการสนทนายังเงยหน้าขึ้นมอง
   
"ข้าวฟ่างเด็กไอ้คินไม่ใช่เหรอวะ" ผมถามย้ำให้แน่ใจอีกครั้ง
   
"เออ คนนั้นแหละ"
   
"ไอ้ปิง มึงคิดอะไรอยู่วะ จะสู้เหรอ" ผมมองเพื่อนด้วยสายตาหลากหลาย
   
"เบาสิวะ!" ปิงลุกขึ้นใช้แขนล็อคคอผม บังคับให้เงียบ เห็นท่าทางเพื่อนแล้วยิ่งเพิ่มความขำให้กับผม พลันสายตาก็หันไปเห็นร่างสูงของใครบางคนกำลังเดินตรงมา ผมตาวาว รีบยกมือขึ้นโบกเรียกทันที
   
"ไอ้คิน ทางนี้"
   
ดูเหมือนปิงจะรู้ชะตากรรมของตัวเอง รีบยกมือขึ้นปิดปากผม อีกข้างยังล็อคอยู่ที่คอเหมือนเดิม
   
คนที่ถูกพูดถึงเดินเข้ามาใกล้ด้วยสีหน้าเย็นชา ดวงตาที่มองมาเล่นเอาขนแขนลุกเกรียว ดูเหมือนปิงเองก็รู้สึกเหมือนผม สังเกตจากอาการชะงักของอีกฝ่าย ยังไม่ทันพูดจามือข้างหนึ่งของคินก็ยื่นมากระชากมือของปิงที่ปิดปากผมออก ผมมองอีกฝ่ายด้วยสายตาสงสัย
   
"ผมมีเรื่องจะคุยด้วย"
   
"อ๋อ" ผมพยักหน้างงๆ ยังไม่ทันพูดอะไรต่อ สายตาเย็นเยือกของคินก็เปลี่ยนไปจ้องปิงแทน อีกฝ่ายทำหน้างงอยู่ครู่หนึ่งก่อนรีบปล่อยแขนที่ล็อคคอผมออก
   
"ตามมา"
   
ผมมองมือที่จับอยู่ที่ข้อมือ แม้จะกำได้ไม่รอบแต่ก็แข็งแรงพอจะบังคับผมให้ก้าวตามโดยไม่มีทางเลี่ยง ผมหันกลับไปมองปาย เห็นสายตาของเพื่อนมองตามมา มีรอยยิ้มขบขันติดอยู่ที่ริมฝีปากแต่ไม่พูดอะไร
   
ผมเดินตามแรงลากไปเรื่อยๆ รอแล้วรออีกแต่ร่างที่สูงกว่าก็ไม่พูดอะไรออกมาเสียที ผมจึงอดถามไม่ได้
   
"มีอะไรวะ มึงจะคุยอะไร"
   
"...."
   
"ความลับเหรอ?" ผมเดาจากการที่อีกฝ่ายดึงผมออกมาจากกลุ่มเพื่อน
   
"ผมหิว"
   
"หะ!" ผมอ้าปากค้าง ดวงตาเบิกโต อุตส่าห์เดาไปสารพัดแต่คำตอบสั้นๆ ที่ได้มาทำเอาพูดไม่ออก
   
"หิว?" ผมหยุดเดิน ถามซ้ำเหมือนไม่เชื่อหูตัวเอง
   
"อืม ไปกินข้าวเป็นเพื่อนหน่อย"
   
ผมยกแขนขึ้นมองนาฬิกา เห็นว่าเกือบบ่ายสองแล้วจึงขมวดคิ้วเข้าหากัน

"มึงยังไม่ได้กินอีกเหรอ แล้วจีนกับนาวีล่ะไปไหน"
   
"ยังไม่ได้กิน ไปเถอะ" คนพูดพูดจบก็เดินดุ่มๆ นำไป ปล่อยให้ผมยืนงงอยู่ครู่หนึ่งก่อนหัวเราะออกมา ทีแท้ก็ไม่มีเพื่อนกินข้าว ผมออกเดินเร็วๆ ตามไป พอทันอีกฝ่ายก็ยื่นมือไปกอดไหล่ พร้อมกับตบมือลงหนักๆ
   
"ไป เดี๋ยวกูไปกินเป็นเพื่อน" ผมพูดอย่างอารมณ์ดี สายตามองตรงไปข้างหน้า จึงไม่เห็นว่าใบหน้าบึ้งตึงของอีกฝ่ายตอนนี้มีรอยยิ้มจางๆ ปรากฏอยู่

   
"กูยังเหลืออีกวิชาหนึ่ง เลิกห้าโมงเย็น" ผมตักขนมหวานเข้าปาก คนตรงหน้าบอกว่าหิวแต่กลับหยุดกินไปนานแล้ว มีเพียงผมที่ยังไม่วางช้อน
   
"รอกลับพร้อมกัน"
   
"วันนี้มึงไม่มีเรียนแล้วไม่ใช่เหรอ" ผมถามอย่างข้องใจ จำได้ว่าทุกวันอังคารอีกฝ่ายมีเรียนแค่ครึ่งเช้า เป็นวันที่ผมกับปายต้องกลับบ้านเอง
   
"มีปัญหาเหรอ"
   
"ใครจะมีวะ สบายพวกกูสิไม่ว่า" ผมไม่ได้ซักต่อ มีรถกลับยังไงก็ต้องดีกว่าอยู่แล้ว
   
"เย็นนี้เวรกูทำอาหาร มึงจะสั่งอะไรไหม"
   
"อยากทานอะไร"
   
"ผมชะงักมือเงยหน้าขึ้นมอง รู้สึกไปเองหรือเปล่าว่าเสียงอีกฝ่ายเปลี่ยนเป็นอ่อนโยน
   
"ไม่มี มึงไม่เคยได้ยินเหรอคนทำมักไม่อยากกิน"
   
"งั้นก็ไม่ต้องทำ อยากทานอะไรก็โทรสั่ง"
   
ผมอ้าปากค้าง คล้ายมีคำพูดอยากถามอีกฝ่าย อึกๆ อักๆ สุดท้ายก็ไม่ได้ถามอะไร ได้แต่คิดในใจว่าพักนี้หมอนี่กินอะไรผิดสำแดงเข้าไปหรือเปล่าทำไมใจดีผิดปกติ เมื่อแรกที่พวกผมย้ายมา ไม่ใช่อีกฝ่ายหรือที่บอกเรื่องหน้าที่อย่างชัดเจน ผมกับปายเองก็สบายใจที่เป็นอย่างนั้น หากไม่ได้ทำอะไรเลยก็รุู้สึกกระดากใจ จึงเต็มใจทำอาหารกับทำความสะอาดบ้านเป็นอย่างดี
   
"ได้ เดี๋ยวกูจ่ายเอง" สุดท้ายก็พูดประโยคนี้ออกมา
   
"ไม่ต้องผมจ่ายเอง แค่สั่งที่ชอบทานมาก็พอ"
   
"อ๋อ..อืม" ผมพยักหน้า หลบสายตาอบอุ่นของอีกฝ่าย เกิดความรู้สึกหลากหลาย ที่มากที่สุดคือ..หมอนี่ไม่ได้กินอะไรผิดสำแดงเข้าไปจริงๆ ใช่ไหมวะ

• • • • •

ผมอ้าปากหาวแม้จะรู้สึกง่วงขึ้นมาบ้างแล้ว แต่เกมที่เล่นอยู่ก็ยังไม่อยากวางมือ สายตาเหลือบขึ้นมองนาฬิกาบนผนัง พอเห็นว่าเพิ่งสามทุ่มกว่าก็เบาใจ ยังเล่นได้อีกหลายชั่วโมง เสียงเคาะประตูห้องดังขึ้น ผมตะโกนบอกว่าให้เข้ามาได้
   
"เปลี่ยนผ้าปูที่นอนให้หน่อย"
   
"หือ?” ผมเงยหน้าขึ้นมอง “กูเพิ่งเปลี่ยนไปเมื่อสามวันก่อนเอง" ผมรีบบอกเผื่ออีกฝ่ายไม่รู้
   
"ผมทำน้ำหกใส่"
   
"อ๋อ" ผมพยักหน้ายอมวางโทรศัพท์ลง อีกฝ่ายหมุนตัวกลับไปโดยไม่รอ

   
ผมเดินเข้าไปหยิบผ้าปูที่นอนและปลอกหมอนชุดใหม่ออกมาจากห้องเสื้อผ้า เจ้าของห้องนั่งอยู่บนโซฟา สายตาจับจ้องมองจอโทรทัศน์ ผมอดมองตามไม่ได้ ถึงเห็นว่าอีกฝ่ายกำลังดูซีรีส์สืบสวนสอบสวนเรื่องหนึ่งอยู่ ในมือมีกระป๋องเบียร์ บนโต๊ะมีจานกับแกล้มหลายจาน
   
ผมเอาผ้าปูที่นอนที่เปื้อนออก ดีที่น้ำไม่ซึมลงบนที่นอนมากนัก เพียงใช้ผ้าซับและใช้ที่เป่าผมเป่าความร้อนครู่เดียวก็แห้งสนิท หลังจากผมเปลี่ยนผ้าปูที่นอนและปอกหมอนเข้าชุดเสร็จเรียบร้อย หันไปมอง สายตาเจ้าของห้องก็ยังจับจ้องอยู่ที่เดิม
   
เดิมผมคิดว่าจะเดินออกไป แต่พอเห็นเบียร์ในมืออีกฝ่ายก็อดกลืนน้ำลายไม่ได้ คล้ายรู้สึกคอแห้งขึ้นมา จึงเดินเข้าไปหา ทิ้งตัวลงนั่งบนโซฟาตัวเดียวกัน
   
"กูดูด้วย" ผมหันไปยิ้มให้เจ้าของห้อง สีหน้าประจบเอาใจ ดวงตาสีเข้มหันมามองก่อนหันกลับไปโดยไม่พูดอะไร แค่นี้ผมก็รู้แล้วว่าไม่ถูกไล่แน่นอน จึงหยิบกระป๋องเบียร์ขึ้นมาเปิด เอนหลังพิงเบาะด้วยความสบายใจ จึงไม่เห็นว่าใบหน้าของอีกฝ่ายมีรอยยิ้มฝุดขึ้นที่ริมฝีปาก
   
ซีรีส์เรื่องนี้สนุกกว่าที่คิด เผลอแป๊บเดียวเวลาก็เลยผ่านไปจนถึงห้าทุ่ม ผมเหลือบไปมองเจ้าของห้องด้วยสายตาเกรงใจ รู้ว่าดึกแล้วแต่ก็ยังอยากดูต่อ
   
"ห้าทุ่มแล้วมึงจะนอนเลยหรือเปล่า" ผมตัดสินใจถาม ในใจแอบมีความหวังเพราะปกติอีกฝ่ายจะเข้านอนประมาณเที่ยงคืนกว่า
   
"นอนเลย"
   
ผมพยายามกล้ำกลืนความผิดหวังลงไป พยักหน้ารับรู้ "เดี๋ยวกูเก็บโต๊ะเอง มึงไปแปรงฟันเถอะ"
   
ดวงตาสีเข้มมองผมนิ่งก่อนถามขึ้นมา "อยากดูต่อเหรอ"
   
“อยาก กำลังสนุกเลย”
   
"งั้นก็ย้ายไปที่เตียง"
   
"ได้" ผมรับคำด้วยสีหน้ายินดี ไม่ได้คิดอะไรทั้งสิ้น จัดการเก็บจานกับแกล้ม จากนั้นแวะไปห้องตัวเองเพื่อแปรงฟันล้างหน้าให้เรียบร้อย ก่อนกลับไปห้องของคิน
   
อีกฝ่ายขึ้นไปนั่งอยู่บนเตียงเรียบร้อยแล้ว เหลือที่ด้านในให้ผม แผ่นอกกว้างไม่มีเสื้อปิดบัง ผมมองด้วยควมรู้สึกอิจฉานิดๆ ถึงไม่อยากยอมรับก็ต้องยอมรับว่านอกจากดูแข็งแรงแล้วยังดูเซ็กซี่อีกด้วย
   
"จะมองอีกนานไหม" รอยยิ้มจุดขึ้นที่มุมปากของอีกฝ่าย ดวงตาเป็นประกาย
   
"หุ่นแบบมึงสาวหลงเยอะมากแน่" ผมไม่ได้หลบตา จึงเห็นสีหน้าแปลกๆ เมื่อได้ยินผมพูดคำว่าเยอะมาก คล้ายอีกฝ่ายอยากแก้ตัว
   
"ถามจริงเถอะมึงโชกโชนแค่ไหนวะ"
   
สีหน้าของอีกฝ่ายยิ่งประหลาดเข้าไปใหญ่ ผมขึ้นไปนั่งบนเตียง พิงหลังกับหมอน เหยียดขาออกยาว
   
"อยากให้สอนไหม" จู่ๆ คนพูดก็ชะโงกหน้ามาหา ผมเอนตัวหลบโดยอัตโนมัติ สบตากับดวงตาหาเรื่องคู่นั้น
   
"มึงจะอย่างว่ากับสาวให้กูดูเหรอวะ”
   
"..."
   
ผมกะพริบตาปริบๆ เมื่ออีกฝ่ายทำสีหน้าเหมือนไม่รู้จะทำยังไงกับผมดี สุดท้ายก็เอนตัวกลับไป
   
ผมหยิบรีโมทคอนโทรลขึ้นมากดเล่นต่อ สายตาจับจ้องอยู่บนหน้าจอ ได้ยินเสียงคนข้างๆ ขยับตัว ครู่เดียวอีกฝ่ายก็เอนตัวลงนอน
   
"จะนอนแล้วเหรอ" ผมถามพร้อมกับลดเสียงเบาลง
   
"ดูต่อเถอะไม่ต้องปิด"
   
ดูอยู่แล้ว แน่นอนว่านั่นเป็นคำพูดที่ผมพูดอยู่ในใจ
   
"อยู่ที่นี่เป็นยังไงบ้าง"
   
เอ๋? ผมหันไปมองคนถาม เห็นอีกฝ่ายสอดมือเข้าไปรองใต้ศีรษะ หันหน้ามาทางผม นึกแปลกใจว่าทำไมถึงถามแต่ก็ตอบออกไป
   
"ดีจนกูกับไอ้ปายเกรงใจ"
   
"ตั้งแต่พรุ่งจะมีแม่บ้านมาทำความสะอาดกับทำอาหาร"

"หะ!" ผมตาเหลือก หันไปหาอีกฝ่ายทั้งตัว "มึง..มึงจะให้พวกกูย้ายออกเหรอ" เสียงถามร้อนใจ
   
เจ้าของบ้านมองผมด้วยสายตาเหนื่อยใจ ก่อนจะดันตัวลุกขึ้นนั่ง จิ้มนิ้วมากลางหน้าผาก ผลักศีรษะผมไม่แรงนัก
   
"ในหัวมีแต่ขี้เลื่อยใช่ไหม"
   
"ขี้เลื่อยกับผีสิ" ผมไม่ยอมรับ
   
"แม่บ้านคนเก่าจะกลับมาทำงานตามเดิม มาถึงเก้าโมงเช้ากลับห้าโมงเย็น อยากทานอะไรก็บอกไป วันไหนออกเร็วก็ให้เขียนโน้ตทิ้งไว้"
   
"เดี๋ยว ขอกูทำความเข้าใจแป๊บหนึ่ง คือมึงกำลังจะบอกว่าต่อไปกูกับไอ้ปายไม่ต้องทำงานที่ตกลงกันไว้แล้ว"
   
"ใช่"
   
"แต่มึงยังให้กูกับไอ้ปายอยู่ที่นี่"
   
"ก็ใช่"
   
"ทำไมวะ"
   
"ไม่อยากอยู่?" คนพูดเลิกคิ้ว ดวงตาวาวววับ สีหน้าออกจะหาเรื่องอยู่นิดๆ
   
"จะมีครั้งไหนไหมที่มึงตอบกูตรงคำถาม" คราวนี้ถึงตาผมผลักหน้าผากอีกฝ่ายบ้าง ได้ยินเสียงหัวเราะหึๆ ดังในลำคอ
   
"อยากได้เหตุผลเหรอ" จู่ๆ ดวงตาที่มองมาก็ทอประกายแปลกๆ ริมฝีปากยกยิ้มเจ้าเล่ห์ ใบหน้ายื่นเข้ามาใกล้
   
"ไม่มี"
   
!!!
   
"หึๆ"
   
ผมได้แต่มองร่างที่เอนตัวลงนอน มือสอดเข้าไปใต้ศีรษะ ดวงตายังจับจ้องมาที่ใบหน้าของผม
   
"ผมจะนอนแล้ว"
   
"...."
   
"ถ้าไม่สบายใจที่ไม่ได้ทำอะไร งั้นมาขับรถให้ผม”
   
"ขับรถ?"
   
"ตั้งแต่พรุ่งนี้เลย"
   
ผมมองดวงตาที่ปิดลง รู้สึกเหมือนบางอย่างไม่ถูกต้องแต่ก็ไม่รู้ว่าอะไร คิดอยู่ครู่หนึ่งก็ยังคิดไม่ออก งั้นก็ช่างมันเถอะ แค่ขับรถให้ ดีเสียอีกต่อไปจะได้ประหยัดค่าเดินทาง ไม่ต้องเบียดกับคนอื่นบนรถเมล์ด้วย เมื่อคิดได้แบบนั้นผมก็หันกลับไปดูซีรีส์ต่อ เอนตัวพิงหมอนอย่างสบายใจ
   
เป็นอีกครั้งที่ผมไม่เห็นรอยยิ้มเจ้าเล่ห์บนใบหน้าของอีกฝ่าย


:::: ♥ TBC ♥::::
  Darin ♥ FANPAGE
Twitter : primdarin





« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 28-02-2020 22:31:43 โดย darin »

ออฟไลน์ ืืnanana21

  • เป็ดมัธยม
  • *
  • กระทู้: 116
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +2/-0
ยิ้มเยอะเลยนะคะภาคิน   กิตติวริศกุล​

ออฟไลน์ Chucream.nabi

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 315
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +6/-0
 :katai3: ฉันรู้นะ

ออฟไลน์ O-RA DUNGPRANG

  • เป็ดDemeter
  • *
  • กระทู้: 1760
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +50/-5
น้องคินโดนล่อลวงแล้ว  o18 o18 o18

ออฟไลน์ river

  • เป็ดHermes
  • *
  • กระทู้: 2398
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +231/-3
ร้ายจริงๆ

CoMMuNiTY Of ThAiBoYsLoVE






ออฟไลน์ arij-iris

  • เป็ดAres
  • *
  • กระทู้: 2904
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +30/-5
หนูภา หนูกำลังโดนล่อลวงอยู่นะะะะะ

ออฟไลน์ songte

  • เป็ดHephaestus
  • *
  • กระทู้: 1414
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +20/-1
คินเจ้าเล่ห์ขึ้นมาเชียวนะทีนี้ ภาจะรุ้ตัวตอนไหนลูก เนียนๆนอนเตียงเดียวกันมาสองครั้งละนะ

ออฟไลน์ Jibbubu

  • เป็ดEros
  • *
  • กระทู้: 3385
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +77/-6
น้องคินตามความเจ้าเล่ห์ของพี่คินไม่ทันแล้ว หุ หุ

ออฟไลน์ areenart1984

  • เป็ดArtemis
  • *
  • กระทู้: 4805
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +167/-7
รู้เขาหลอก ก็เต็มใจให้หลอก  o18

ออฟไลน์ kenghan

  • เป็ดHephaestus
  • *
  • กระทู้: 1440
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +96/-2
มาแบบนิ่งๆ แต่เจ้าเล่ห์ ไม่รอดแน่ๆ

ออฟไลน์ DrSlump

  • เป็ดEros
  • *
  • กระทู้: 3360
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +104/-2
 :pig4: :pig4: :pig4:

อยากจะแหมไปให้ถึงดาวอังคาร

ออฟไลน์ yunjae_yusoo_mi

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 61
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +7/-0
แหม แหม แหม แหมมมมมมมมมมมมมมมมมมมมมมมมมมมมมมมมมมมมมมมมมมมมมมมมมมมมมมมมมมมมมมมมมมมมมมมมมมมมมมมมมมมมมมมมมมมมมมมมม

ออฟไลน์ m.starlight

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 76
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +1/-0
ล่อลวงด้วยทุกอย่างแล้วจริงๆ  :hao3:

ออฟไลน์ darin

  • เป็ดนักเขียน
  • เป็ดHera
  • *
  • กระทู้: 1088
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +2267/-46


ตอนที่ 15
ความลับและคำสัญญา



-ปาย-

   
ผมรับรู้ได้ถึงเหงื่อที่ซึมออกมาบนใบหน้า ลำตัวสั่นสะท้าน กรอบรูปที่อยู่ในมือสั่นจนกลัวว่าจะร่วงหล่น ผมกะพริบตาสองสามครั้งเพื่อให้แน่ใจว่าสิ่งที่เห็นยังเป็นเช่นเดิม เมื่อครู่นี้ผมยังอยู่ในห้องนอนของตัวเอง นั่งทำงานที่ต้องส่งอาจารย์ด้วยอารมณ์แจ่มใส แต่เพราะหาพจนานุกรมของตัวเองไม่เจอ ไม่รู้เอาไปวางหรือลืมไว้ที่ไหน จึงเดินมายังห้องหนังสือเพื่อหยิบยืมไปสักเล่ม แต่ห้องที่เคยปราศจากรูปภาพ กลับมีกรอบรูปหนึ่งวางอยู่บนโต๊ะ เป็นรูปของภาคิน เจ้าของบ้านหลังนี้กับผู้ชายรูปร่างสูงใหญ่คนหนึ่งถ่ายคู่กัน ผมพยายามหายใจเข้าลึกๆ เพื่อประคองสติของตัวเองเอาไว้ วางกรอบรูปลงช้าๆ ก่อนเปลี่ยนใจหยิบขึ้นมาใหม่ ออกจากห้องเดินตรงไปยังห้องนอนของเพื่อนสนิท
   
ผมเปิดประตูเข้าไป มองร่างกึ่งนั่งกึ่งนอนเล่นเกมอยู่บนเตียง ดูเหมือนเพื่อนจะรับรู้ถึงความผิดปกติของผม จึงถามด้วยสีหน้าเป็นห่วง
   
"มีอะไรวะ"
   
ผมก้าวเข้าไปหา ยื่นกรอบรูปไปตรงหน้า "คนนี้ใคร รู้ไหมว่าเป็นอะไรกับคิน"
   
"คนไหน? อ๋อ อาของคิน ชื่ออะไรวะกูลืมไปแล้ว ชื่อ..จำได้แล้ว ชื่ออารุจ"

"อาเหรอ?" สีหน้าของผมยิ่งซีดเผือด
   
"ใช่ ไม่น่าเชื่อใช่ไหม ตอนแรกกูก็ไม่เชื่อนึกว่าพี่ชาย แต่ไอ้คินบอกว่าเป็นอา อายุห่างกันสิบปี"
   
"...."
   
"ที่อายุห่างกันไม่มากเพราะเป็นลูกของย่าเล็ก กูสงสัยว่าปู่ไอ้คินจะมีเมียเด็ก" ประโยคหลังพูดด้วยเสียงที่เบาลง
   
ผมลดสายตาลงมองรูปในกรอบ ยังรู้สึกได้ถึงความหวาดหวั่นในใจ
   
"มีอะไรหรือเปล่า ทำไมมึงดูแปลกๆ วะ"
   
ผมเงยหน้าขึ้นสบสายตาเป็นห่วงของเพื่อน ถอนหายใจซ้ำอีกครั้งก่อนนั่งลงบนเตียง

"มึงรู้จักอาของคินได้ยังไง เคยเห็นรูปนี้เหรอ" เมื่อก่อนผมเข้าไปทำความสะอาดห้องหนังสือบ่อยๆ แต่ไม่เคยเห็นสักครั้ง
   
"กูเคยเห็นครั้งแรกตอนมาช่วยทำความสะอาดบ้านให้ไอ้คิน ตอนนั้นเรายังไม่ได้ย้ายเข้ามา แล้วก็มาเห็นอีกทีเมื่อวาน ไอ้คินหยิบออกมาจากในลิ้นชัก กูเลยถามว่าเป็นใคร ถึงรู้ว่าเป็นอา"
   
"แบบนี้นี่เอง" เสียงของผมแผ่วเบา
   
"ตกลงมีอะไรวะ"
   
"กูจะย้ายออกจากที่นี่" ผมเงยหน้าขึ้นมองเพื่อน
   
"หะ!! มึงว่าอะไรนะ"
   
"กูจะย้ายออก"
   
" มึงใจเย็นๆ กูงงไปหมดแล้ว"
   
ผมหลบสายตาเพื่อนลงมองมือของตัวเอง ไร้ซึ่งถ้อยคำ
   
"ไอ้ปายกูรู้นิสัยมึงดี มึงไม่ใช่คนไม่มีเหตุผล กูไม่คิดจะห้ามถ้ามึงอยากไปกูก็จะไปด้วย แต่มึงต้องบอกกูก่อนว่ามันเรื่องอะไร"
   
ผมกลืนน้ำลายลงคอ นั่งนิ่งอยู่นาน ในที่สุดก็ถอนหายใจออกมา เงยหน้าขึ้นสบตากับเพื่อนรัก โดยไม่คิดจะหลบอีก
   
"มึงจำวันที่กูไปค้างกับเอ้ได้ไหม ที่พอกูกลับมาแล้วเป็นไข้"
   
"ค้างกับเอ้? อ๋อ กูจำได้แล้ว"
   
"อันที่จริงกูไม่ได้ไปหาเอ้ กู..กู.." ถึงจะตัดสินใจแล้วพอถึงเวลาผมก็พูดไม่ออก
   
"ไอ้ปายนี่กูเอง ไอ้คินเพื่อนสนิทมึงไง"
   
ผมหัวเราะในลำคอ แม้จะฝืดเฝื่อนอยู่บ้าง รับรู้ถึงสายตาจริงใจของเพื่อน
   
"กูรู้" ผมสูดลมหายใจเข้าลึกๆ ก่อนพูดต่อ
   
"ก่อนหน้านั้นมีบางเรื่องที่กูไม่แน่ใจ มันทำให้กูสับสนและอยากรู้"
   
"เรื่องอะไรวะ"
   
"กูคิดว่ากูชอบผู้ชาย" เมื่อคำพูดหลุดออกจากปากก็เหมือนภูเขาลูกใหญ่ที่อยู่ในอกถูกยกออกไปด้วย สายตาของคินเต็มไปด้วยความประหลาดใจ ตกใจแต่ไม่มีความรังเกียจอยู่ในนั้น มันทำให้ผมโล่งใจและมีสติมากขึ้น

"คืนนั้นกูเลยตัดสินใจไปเที่ยวร้านหนึ่ง เพราะเคยได้ยินมาว่าพวกที่ไม่ชอบผูกมัดชอบไปกัน"
   
"ไอ้ปาย!"

"กูแค่อยากพิสูจน์ความรู้สึกของตัวเอง ไมได้คิดไปไกลถึงเรื่องนั้น คิดแค่ว่าถ้าถูกผู้ชายจีบกูจะรู้สึกยังไง ถ้ากูจูบกับผู้ชายจะรู้สึกยังไง เพียงแต่.." ผมสูดลมหายใจเข้าลึกๆ ผุดรอยยิ้มเนือยขึ้นที่ริมฝีปาก
   
 "เพียงแต่กูไม่รู้ว่ากูจะถลำลึกจนมีความสันพันธ์กับผู้ชาย และยิ่งไม่รู้ว่าคนๆ นั้นคืออาของคิน"
   
"หะ!!!"
   
ผมมองสีหน้าของเพื่อนรัก จู่ๆ ก็ขำขึ้นมา เมื่อครู่ตอนที่ผมเห็นรูปก็คงมีสีหน้าประมาณนี้กระมัง เหมือนถูกผีหลอก
   
"ตอนนี้กูเชื่อแล้วว่าโลกมันกลมกว่าที่คิด" ผมพูดด้วยน้ำเสียงติดตลก แม้จะฝืดเฝื่อนอยู่มากก็ตาม
   
"แล้ว..แล้ว.."
   
ผมรู้ว่าเพื่อนจะถามอะไรจึงไม่รอให้อีกฝ่ายพูดจบ
 
"แค่คืนนั้นคืนเดียว กูรู้แค่ชื่อจนมาเห็นรูปวันนี้ ทีนี้มึงรู้หรือยังว่าทำไมกูถึงอยากย้ายออก เพราะกูไม่อยากเจอ กู.."
   
"มึงไม่ต้องพูดแล้วกูเข้าใจ แต่อาของคินก็ไม่เคยมาบ้านนี้เลยนี่หว่า”

“ถึงจะมีโอกาสเจอแค่หนึ่งในร้อยกูก็ไม่อยากเสี่ยง”

“ตกลง ย้ายก็ย้าย"
   
"มึงจะย้ายทำไมวะอยู่ที่นี่ก็ดีแล้ว"
   
"ได้ไงวะ ถ้าจะไปก็ต้องไปด้วยกัน"
   
ผมมองหน้าเพื่อนรัก พลันคิดไปถึงสายตาของใครบางคนขึ้นมา สายตาที่มองเพื่อนรักของผม
   
"ไอ้คิน มึงรังเกียจผู้ชายที่ชอบผู้ชายไหม" ผมจ้องตาเพื่อค้นหาคำตอบที่แท้จริง

   
"ทำไมพูดแบบนี้วะมึงพูดเหมือนไม่รู้จักกู มึงชอบแบบไหนก็ได้ทั้งนั้น มึงชอบผู้ชายคนไหนบอกกูมาเลยเดี๋ยวกูช่วยมึงเอง"
   
ผมหัวเราะขำท่าทางเอาจริงเอาจังของเพื่อน แอบคิดในใจว่าก็เพราะนิสัยมึงเป็นแบบนี้ไงถึงมีคนรักมึง
   
"ไม่ต้อง กูยังไม่ได้ชอบใคร กูแค่อยากรู้เท่านั้นว่ามึงคิดยังไงกับความรักแบบนี้"
   
"ความรักแบบไหนมันก็ดีทั้งนั้นไม่ใช่เหรอวะ แค่มั่นใจว่ารักกันก็พอ"
   
"อืม" ผมรับคำในลำคอ
   
"มึงจะย้ายเมื่อไหร่กูจะได้บอกไอ้คิน"
   
"อย่าเพิ่งบอก มีบางเรื่องที่กูต้องคิด"
   
"อะไร"
   
"เอาไว้กูจะบอก" ผมส่งยิ้มให้เพื่อน ดวงตาเป็นประกายที่มีเพียงผมคนเดียวเท่านั้นที่รู้ความหมาย

• • • • •

ผมมองร่างสูงที่นั่งอยู่ในห้องรับแขก จงใจเดินไปนั่งบนโซฟาตัวติดกัน ก้มหน้าลงอ่านหนังสือที่ถือติดมือมาด้วย ปล่อยให้เวลาผ่านไปครู่หนึ่งจึงเงยหน้าขึ้น
   
"รู้หรือยังว่าไอ้คินมีแฟนแล้ว เพิ่งจีบติด"
   
ผมมองสีหน้าตื่นตะลึงของอีกฝ่ายอย่างพอใจ หมัดฮุคไม่มีปี่มีขลุ่ยแบบนี้ได้ผลดีนัก
   
"หมอนั่น..รักใครเหรอ" น้ำเสียงคนพูดแหบพร่า
   
"มึงคิดยังไงกับไอ้คิน" ผมปล่อยหมัดต่อไปโดยไม่รอ
   
"..."
   
"บอกกูมาเถอะ"
   
"..."
   
ผมไม่เร่งเร้า ปล่อยให้อีกฝ่ายจมอยู่กับความคิดของตัวเอง เพียงครู่เดียวดวงตาสีเข้มก็เงยขึ้นมาสบตากับผมด้วย
   
"ผมชอบคิน"

"มึงแน่ใจแล้วเหรอ ไอ้คินเป็นผู้ชาย"
   
"นั่นสิ ทั้งที่เป็นผู้ชาย ทำไมผมถึงชอบหมอนั่นเข้าไปได้" คนพูดหัวเราะออกมา สีหน้าคล้ายจนใจ แต่สีหน้าแบบนี้แหละที่แสดงว่าเจ้าตัวยอมรับในสิ่งที่รู้สึก
   
 "วางใจเถอะ" ผมส่งยิ้มให้อีกฝ่าย "ถ้าไอ้คินเป็นผู้หญิงมึงก็ชอบเหมือนกัน" ผมคิดว่าคินเข้าใจคำพูดของผม  ตัวผมเองชอบผู้ชายไม่ชอบผู้หญิง แต่คินชอบที่คนไม่ใช่เพศ ความรักบนโลกนี้มีหลากหลายรูปแบบ ขอเพียงแค่เปิดใจที่จะเข้าใจก็พอ
   
"เอาเถอะ เรื่องที่มึงพูดวันนี้มั่นใจได้ว่าไอ้คินจะไม่รู้"
   
"ขอบใจ"

"ส่วนเรื่องที่ไอ้คินมีแฟน กูโกหก"
   
!!! คนตรงหน้านิ่งไปครู่หนึ่ง สีหน้าหลากหลายความรู้สึก
   
"โกหกเหรอ?"
   
"ใช่ ก่อนหน้านี้กูแค่สงสัยแต่กูอยากแน่ใจอีกนิดก่อนจะถามมึงตรงๆ"
   
"หึๆ ขนาดคุณยังดูออก แต่หมอนั่น..."
   
"ไม่รู้เหรอว่าไอ้คินเป็นพวกซื่อบื้อ" พอเห็นรอยยิ้มกว้างผมก็มั่นใจว่าอีกฝ่ายคิดเหมือนกัน
   
"ไอ้คินไม่เคยชอบผู้ชายและไม่รู้ด้วยว่าจะชอบได้ไหม" ผมเปลี่ยนน้ำเสียงเป็นจริงจัง
   
"ผมรู้"
   
"สัญญาได้ไหมถ้ามึงแน่ใจแล้วว่าไอ้คินไม่ได้คิดอะไรกับมึงจริงๆ มึงจะปล่อยมือ" ผมจ้องเข้าไปในดวงตาของอีกฝ่าย
   
"..."
   
"ถึงจะเพิ่งสนิทกันไม่นาน แต่มึงก็น่าจะดูออกว่าไอ้คินเป็นคนรักเพื่อนมาก ถ้ามึงไม่ยอมปล่อยมือเอง ไอ้คินจะลำบากใจ เพราะมันเห็นมึงเป็นเพื่อน"
   
"ผมสัญญา"
   
"กูเชื่อมึง เพราะกูก็เห็นมึงเป็นเพื่อนเหมือนกัน"
   
ดวงตาสีเข้มสบตากับผมนิ่ง ก่อนริมฝีปากจะคลี่ออกเป็นรอยยิ้ม สายตาที่ส่งมาแทนคำขอบคุณ
   
"โชคดีมึง" ผมพูดทิ้งท้ายก่อนลุกขึ้นยืน

• • • • •

"กลับมาแล้วเหรอ" ผมยิ้มเมื่อเห็นเพื่อนรักเปิดประตูเดินเข้ามาในห้อง
   
"อืม กูจะมาถามมึงเรื่องย้ายออก ว่ามึงตัดสินใจหรือยังว่าจะไปเมื่อไหร่"
   
"คิดแล้ว แต่กูมีอะไรจะถามมึงก่อน มึงต้องตอบกูตรงๆ"
   
"ว่ามาสิ"
   
ผมมองจนอีกฝ่ายนั่งลงบนเตียงแล้วจึงพูดขึ้น "มึงอยากย้ายไหม รู้สึกเฉยๆ ยังไงก็ได้หรือไม่อยากย้าย"
   
"ถ้าให้ตอบตรงๆ กูก็ชินกับที่นี่แล้วเลยรู้สึกเสียดายนิดหน่อย"
   
"แค่นั้น?"
   
"กูเป็นห่วงไอ้คินด้วย ไม่อยากให้มันอยู่คนเดียว เห็นมันทำเป็นไม่สนใครแบบนั้น มันขี้เหงาจะตาย"
   
ผมมองเพื่อนรักด้วยสายตาค้นคว้าโดยไม่พูดอะไร ทำให้อีกฝ่ายร้อนใจ
   
"แต่ถ้ามึงไปกูก็ไป ยังไงกูก็อยากไปกับมึงมากกว่า"
   
"ไม่ต้องแล้ว"
   
"หมายความว่ายังไงวะ"
   
"กูไม่ย้ายแล้ว"
   
"ไม่ย้าย!!"
   
"ใช่" ผมพยักหน้า
   
"ทำไมวะ"
   
"ทำไมงั้นเหรอ" ผมหลุบสายตาลงซ่อนรอยยิ้มเอาไว้ "เพราะกูก็เป็นเพื่อนไอ้คินเหมือนกัน สมควรทำอะไรเพื่อมันบ้าง"
   
"นั่นสิ กูก็เป็นห่วงมัน"
   
ผมลอบขำสีหน้าดีใจของเพื่อนรัก หรือใครบางคนอาจพอมีโอกาส
   
"แล้วเรื่องนั้น..." คินมองหน้าผมด้วยสายตาลังเล
   
"ก็เหมือนที่มึงบอก ตั้งแต่เรามาอยู่ก็ไม่เคยเจอหน้า" ตอนนั้นผมตกใจจนอยากหนีไปท่าเดียว แต่พอมีเวลาให้ใจสงบ ค่อยๆ คิด การอยู่ที่นี่มีข้อดีหลายข้อ ทั้งเรื่องคิน ทั้งเรื่องช่วยที่บ้านประหยัดค่าใช้จ่าย ผมตัดสินใจลองเสี่ยงดู  ถ้ามาจริงก็ค่อยย้ายออก
   
"มีงแน่ใจแล้วนะ"
   
"อืม" ผมพยักหน้า เมื่อตัดสินใจแล้วก็จะไม่ย้อนคิดอีก
   
"เฮ้ออ" ผมเห็นอาการถอนใจด้วยความโล่งอกของเพื่อนแล้วก็รู้ว่าตัวเองตัดสินใจได้ถูกต้องแล้ว ผมไม่ควรเห็นแก่ตัว ถ้าผมไปคินก็จะไปด้วย ถึงห้ามก็คงไม่ได้ผล แบบนี้ดีที่สุดแล้ว
   
"ว่าแต่.." คินหันมาจ้องหน้าผม
   
"อะไร"
   
"อาของไอ้คินหล่อดีนะมึงไม่สนเหรอ"
   
"..."
   
"ฮ่าๆ กูไปอาบน้ำก่อนโคตรร้อนเลย"
   
ไม่ทันให้ผมได้อ้าปาก หลังของเพื่อนรักก็ลับหายไปจากประตูแล้ว ผมถอนหายใจาเบาๆ อดคิดถึงใครบางคนไม่ได้ หน้าร้อนผ่าวเมื่อคิดถึงความอับอายที่เกิดขึ้น ขออย่าได้เจอกันอีกเลยเป็นดีที่สุด

:::: ♥ TBC ♥::::
**ปล. เรื่องของอารุจกับปายจะมีเป็นเรื่องแยกให้นะคะ แต่อยู่ในเล่มเดียวกัน ใช้ชื่อเรื่องว่า 'คุุณ.คนเดียวกัน'


  Darin ♥ FANPAGE
Twitter : primdarin






ออฟไลน์ silverspoon

  • เป็ดHermes
  • *
  • กระทู้: 2426
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +275/-12
ตื่นเต้นมากกก มีคู่ที่สอง กรีีดดด :ling1:

 

สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด


สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด