เรื่องเล่าจากอังกฤษกับชีวิตของผม ...
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด

สนใจโฆษณาติดต่อ laopedcenter[at]hotmail.com คลิ๊กรายละเอียดที่ตำแหน่งว่างเลยครับ

สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด

ผู้เขียน หัวข้อ: เรื่องเล่าจากอังกฤษกับชีวิตของผม ...  (อ่าน 180086 ครั้ง)

ออฟไลน์ [N]€ẃÿ{k}uñĢ

  • ~ῲเจ้าแม่Dramaῴ~
  • เป็ดแสนดี
  • เป็ดArtemis
  • *
  • กระทู้: 5186
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +740/-5
นนท์ น่ารักจัง แต่งอนบ่อยงะ

แล้วจะมารออ่านนะคราบ

ออฟไลน์ ผักกาด

  • เป็ดนักขาย
  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 44
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +4/-0

BeePed

  • บุคคลทั่วไป
ก็ชอบนะที่นนท์ดูแลดีขนาดนี้ ถ้าบริสุทธิ์ใจก็ไม่เป็นไร
แต่ถ้าคิดเกินเพื่อนเนี่ย
.
.
แฟนสาวนนท์ที่เมืองไทยจะทำยังไง
ไม่อยากให้เกิดกรณีรักสามเศร้าหรือรักแท้แพ้ใกล้ชิดเลยค่ะ  :sad11:

แฟนสาวเค้าไม่ผิดอะไรด้วยเลยอ่ะ

ออฟไลน์ nana

  • 아주마 애기 두명 ㅋㅋ
  • เป็ดAres
  • *
  • กระทู้: 2759
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +138/-2
ขยันงอนกันจริงๆ :laugh:

ออฟไลน์ M@nfaNG

  • ชีวิตคือการตรวจสอบ...
  • เป็ดแสนดี
  • เป็ดAphrodite
  • *
  • กระทู้: 4453
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +847/-18
ชอบนนท์ไปแล้วทำไงดีล่ะ :o8:

sooyuu

  • บุคคลทั่วไป
หูยยย นนท์นี้น่ารักนะเนี่ย คิดถึงกันตะหลอดดดด  o18
ไปเที่ยวยังมีกะใจหาของหายากมาฝากอ่าน อิอิ หลงนนท์เข้าแล้ว

อ่านมาสองตอนแล้ว ยังไม่รู้ว่า คนเล่าชื่อไรเลยอ่า บอกหน่อยได้ไหมเนี่ย 5555
หรือว่าเราอ่านข้าม ตกหล่นไปหวา อิอิ :z2:

ออฟไลน์ watermoonj

  • เป็ดนักขาย
  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 643
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +307/-1
เรื่องกดเงินต่างแดน เขียนบรรยายได้ละเอียดดี ได้สาระ  o13

มีเพื่อนช่วยเป็นห่วงเรื่องเงินอย่างนนท์นี่ดีจริงๆ น๊า  :กอด1:

ออฟไลน์ mist

  • เป็ดArtemis
  • *
  • กระทู้: 4505
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +263/-3
เป็นห่วงเป็นใยกันดีจัง  :impress2:

SunLoveMoon

  • บุคคลทั่วไป
น่ารัก
ดูแลกันดีมากๆ
นนท์ดูแล ใส่ใจในทุกๆเรื่องๆเลย
แบบนี้
ปล่อยไกลตาไม่ได้แล้วนะ
ระวัง คนแถวนี้ เขาจะลักพาตัว นนท์ :o8:
น่ารักมาก รักทั้งคู่เลย :L2:

ออฟไลน์ FÂntastic 1st™

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 354
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +13/-0
                                                     โอ้ว ม้ายๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆ

                                                      น่ารักมากมายเลยค้าบบบบ  :haun4:

CoMMuNiTY Of ThAiBoYsLoVE

ประกาศที่สำคัญ


ตั้งบอร์ดเรื่องสั้น ขึ้นมาใครจะโพสเรื่องสั้นให้มาโพสที่บอร์ดนี้ ถ้าเรื่องไหนไม่จบนานเกิน 3 เดือน จะทำการลบทิ้งทันที
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=2160.msg2894432#msg2894432



รวบรวมปรับปรุงกฏของเล้าและการลงนิยาย กรุณาเข้ามาอ่านก่อนลงนิยายนะครับ
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=459.0



สิ่งที่ "นักเขียน" ควรตรวจสอบเมื่อรวมเล่มกับสำนักพิมพ์
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=37631.0






คุณเพื่อน

  • บุคคลทั่วไป
ตอนที่ 3

วันนี้ ... ผมได้รับโทรศัพท์จากเพื่อนชื่อ ธีร์ ... เรารู้จักกันที่โรงเรียนสอนภาษาอังกฤษที่เมืองไทย
ธีร์มาอังกฤษก่อนผมประมาณ 1 ปี สมัยที่เรียนภาษาเราค่อนข้างสนิทกัน เพราะหลังเลิกเรียน
ก็มีโอกาสไปกินข้าวด้วยกันบ่อยๆ ธีร์ .. เป็นคนมนุษยสัมพันธ์ดีเยี่ยม ตลก เฮฮา ตอนที่ผมมาอังกฤษ
ช่วงแรก ๆ (ตอนนี้ก็เพิ่งอยู่มาได้ 3 เดือนเอง) ธีร์ก็โทรมาคุยด้วยบ่อย ๆ เวลาที่ผมไปเที่ยวที่ไหน
ผมก็มักจะเล่าให้ธีร์ฟังเสมอ เพื่อนที่นี่รู้จักธีร์
(แต่ไม่เคยเจอตัว) และธีร์ก็รู้จักเพื่อนที่นี่ (ทั้งที่ไม่เคยเจอกันเหมือนกัน)
   “เสาร์นี้ว่างมั๊ย ... จะมาหา” ธีร์ถามผม
   “ว่าง ... มาเลย ... จะค้างรึเปล่า นอนบ้านเราก็ได้เดี๋ยวบอกโฮสให้” ผมตอบเสียงกระตือรือร้น
ก็แน่ล่ะสิเพื่อนมาทั้งคน จะไม่ดีใจได้ยังไง
   “หา BB (Bed and Breakfast) แถว ๆ บ้านนายให้เราก็ได้ สะดวกกว่า” ธีร์ตอบ
 
วันเสาร์ ผมไปรอรับธีร์ที่สถานีรถไฟ ... พอเจอหน้ากัน ... ธีร์เดินเข้ามาจับไหล่แล้วพูดว่า
“ดีใจจังที่ได้เจอ”
   “หิวรึยัง ... เดี๋ยวพาไปกินข้าวร้านจีน ... อร่อยมาก” ผมบอก
แล้วผมก็พาไปทานอาหารกลางวันที่ร้านประจำของนักเรียน คือ ร้านเป่ยจิง นั่นเอง
ระหว่างที่กำลังรอสั่งอาหาร ... นนท์และกายก็เดินเข้าประตู้ร้านมา
   “นึกแล้วว่าต้องมาเจอกันที่นี่” กายทัก นนท์กับกายเดินมายืนที่โต๊ะ
ผมยิ้มให้แล้วแนะนำธีร์ให้ทุกคนรู้จัก
   “แล้วจะพาเพื่อนไปเที่ยวไหน” กายถาม
   “คงไป old town ล่ะมั้ง ... แล้วก็ชายหาด ไปด้วยกันมั๊ย” ผมตอบ
   “ไม่ดีกว่า นัดพวกฮิโรชิเล่นพลู แล้วก็กะจะเล่นเกมยิงไดโนเสาร์ซะหน่อย วันนี้เอาเหรียญมาเพียบ”
กายพูดพลางตบกระเป๋า
   “นั่งด้วยกันสิ” ผมพูดพลางลากเก้าอี้ให้นนท์ นนท์นั่งลงข้างผม ส่วนกายนั่งข้างธีร์
   ระหว่างรออาหารที่สั่ง พวกเราก็นั่งคุยกัน เสียงประตูร้านเปิด ... มีนักเรียนผู้หญิงคาดว่าจะเป็นฮ่องกงหรือไม่ก็ไต้หวันเดินเข้ามาในร้าน 2 คน (เดาจากที่พูดจีนและการแต่งตัว)
   “โคตรน่ารักเลยอะ” นนท์พูด แล้วหันไปสะกิดกายให้มองด้วย
   “อือ .. ก็โอ” กายหันไปมองแวบนึง แล้วหันมาจิบโค้กต่อ 
   “แบบนี้น่าจะขอเบอร์ ... กาย เมิงไปขอเบอร์สาวซิ” นนท์พูดแต่ตายังมองสาวไม่เลิก
หลังจากกำลังนั่งทานอาหารก็มีสาว ๆ เดินเข้ามาในร้านหลายคน
นนท์ก็จะแสดงอาการสนใจสาว ๆ ทุกครั้ง จนกายต้องเอ่ยปาก
   “วันนี้เมิงเป็นไรเนี่ย ... ตั้งแต่รู้จักเมิงมา ไม่เคยเห็นมองใคร” กายบ่น
ผมมองหน้านนท์ ... วันนี้นนท์แปลกจริง ๆ ด้วย ตั้งแต่รู้จักนนท์มา 3 เดือน นนท์ไม่เคยชมใครเลย
ไม่เคยมองผู้หญิงคนไหน ไม่เคยชมใครว่าน่ารัก ... ไม่เคยชมว่าใครสวย  ... ปกติต้องเป็นกายต่างหาก
ที่มักจะเหล่สาวไปทั่ว

หลังจากทานอาหารเสร็จ... ผมกับธีร์ก็แยกกับนนท์และกาย ... ผมพาธีร์ไปที่ Old Town เป็นย่านเมืองเก่า
ที่ผมเองก็ไม่เคยมาเหมือนกัน ... เราเข้าไปในร้าน antique shop (ร้านขายของเก่า) แล้วธีร์ก็ซื้อแผ่นไม้
ที่มีสลักข้อความเกี่ยวกับแม่ ... ธีร์บอกว่าคิดถึงแม่ อ่านแล้วน้ำตาจะไหล ... หลังจากเดินเล่นซื้อของ
และถ่ายรูปเรียบร้อยแล้ว ผมก็พาธีร์ไปทานอาหารเย็นที่บ้าน แคธี่ทำเนื้อแกะอบและมันฝรั่งอบ
พร้อมซ้อสแอปเปิ้ล เรานั่งทานอาหารกัน ก็มีแคธี่ ริต้า ผม และธีร์
เมื่อทานอาหารเรียบร้อยผมก็ไปส่งธีร์ที่ BB ที่จองไว้
   “เรามีไรจะให้” ธีร์ส่งของห่อเล็ก ๆ ให้ผม
“แกะดูสิ” ผมรับมาอย่างงงงง แล้วก็แกะห่อกระดาษสีน้ำตาลนั้นออก
   “ขอบใจมาก” ผมพูดยิ้ม ๆ มองกล่องเล็ก ๆ ในมือที่มีลักษณะคล้ายๆ กล่องไม้ขีด มีลวดลายสวยงาม และก็มีเครื่องดนตรีเล็ก ๆ ไขลานได้อยู่ข้างใน
   “เพลงเพราะจัง” ผมลองไขลาน ยกกล่องเล็ก ๆ ขึ้นมาแนบหูใกล้ ๆ เพื่อฟังเพลง
“เราจะเก็บไว้อย่างดีเลย ... เป็นที่ระลึก”
    “นึกแล้วว่านายต้องชอบ ... น่ารักเนอะ” ธีร์เอียงคอเอาหูมาแนบใกล้ ๆ กับกล่องเพลง
       “ซื้อจากร้าน antique shop ที่ old town เมื่อตอนกลางวันนั่นแหละ” ธีร์บอก

พอกลับไปถึงบ้าน ... ผมก็เจอริต้านั่งรออยู่ในห้องแล้ว ผมเอากล่องเพลงที่เพิ่งได้มาอวดริต้า
   “น่ารักมั๊ย ...”
   “น่ารักจัง ... เพลงเพราะมาก” ริต้าพูดพร้อมกับเอาหูมาแนบใกล้ กล่องดนตรี
   “อยากได้บ้าง ... ซื้อที่ไหน”
    “ร้าน antique shop ที่ old town น่ะ ... ธีร์ซื้อให้”
   “ธีร์ … เค้าหล่อดีนะ ... Nice Butt … ผู้ชายไทยนี่ Nice Butt กันทุกคน” ริต้าพูดยิ้ม ๆ   
“แถมยังสูงมากด้วย หุ่นดี ... นนท์กับธีร์ใครสูงกว่ากัน” ริต้ายังถามต่อ
   “นนท์มั้ง ... ธีร์น่าจะสูงซัก 183” ผมคาดคะเน
   “ผู้ชายไทยน่ารักเยอะแยะเลย ... อยากไปเมืองไทยบ้าง ... อยากมีแฟนเป็นคนไทย” ริต้ายังพูดต่อ
ไม่หยุดผมก็ได้นั่งแต่หัวเราะขำริต้า

เช้าวันอาทิตย์ ... ผมไปส่งธีร์ที่สถานีรถไฟ ... แล้วนัดหมายกันว่าวันเสาร์หน้าจะไปเจอกันที่ลอนดอนเพื่อไปดูเพล เรื่อง ‘The Phantom of the opera’ ผมบอกว่า... จะชวนนนท์ กาย และหนิง ไปด้วย
   “ดูกันหลาย ๆ คนสนุกดี ... แล้วจะพาไปกินเป็ดโฟร์ซีซั่น” ธีร์พูดก่อนขึ้นรถไฟ

เย็นวันศุกร์ผมกำลังเก็บข้าวของเพื่อเตรียมตัวไปลอนดอน โดยมีริต้านั่งอยู่ใกล้ ๆ
ส่วนนนท์กำลังนั่งดูทีวีอยู่อีกมุมหนึ่ง แต่ก็อยู่ในห้องเดียวกันนั่นแหละ
พรุ่งนี้นัดกับธีร์ว่าจะไปดูละครด้วยกันที่ลอนดอน ผมชวนหนิงกับกายแล้วแต่ไม่มีใครว่าง
นนท์บอกว่าจะไปด้วย นนท์บอกว่าอยากดูละคร เพราะหลังจากที่เคยไปต่อคิวเพื่อดู ‘มิสไซ่งอน’
กับเพื่อนของนนท์ที่ชื่อบีคราวก่อน นนท์ก็กลับมาศึกษาเรื่องเกี่ยวกับละครทำให้อยากดูบ้าง ...
   “จะไปกับนนท์ด้วยรึ” ริต้ากระซิบถามผม
   “ใช่สิ ...ไรเหรอ” ผมตอบริต้าด้วยเสียงระดับปกติ
   “ก็ไม่มีอะไร ... ชั้นแค่กังวล” ริต้ายังกระซิบกระซาบ
   “กังวลอะไร” ผมตอบริต้าด้วยเสียงระดับปกติเหมือนเดิม ไม่เข้าใจว่าริต้าจะกระซิบทำไม
   “คุณไม่กลัวนนท์จะ jealous เหรอ” ริต้าก็ยังคงกะซิบ (jealous = หึง)
   “ทำไมต้อง jealous ด้วยล่ะ” ก็ไม่เข้าใจจริง ๆ
   “คุณนี่ bad girl จริง ๆ” ริต้าพูด 
   “ยังไง ...” ผมสงสัย ก็ผมเป็นผู้ชายนะ จะ bad girl ได้ไง
   “ก็คุณจะให้ผู้ชายสองคนเจอกัน” ริต้าก้ยังคงกระซิบ แต่คราวนี้ผมรู้แล้วว่าทำไมริต้าต้องกระซิบ
            “จะบ้าเหรอ… เราเป็น best friend กัน เข้าใจมั๊ย best friend น่ะ” ผมตอบ คราวนี้กระซิบบ้าง
   “คุณแน่ใจนะ” ริต้าถาม
   “คอยดูละกัน ... จะพิสูจน์ให้ดู” ผมตอบริต้า คราวนี้กระซิบเหมือนกัน

หลังจากนั้นนนท์ก็ปิดทีวี เก็บของ ... แล้วบอกผมด้วยน้ำเสียงหงุดหงิดว่า
   “พรุ่งนี้ไม่ไปแล้วนะ”
   “ทำไมล่ะ” ผมถามทำหน้างง
   “ขี้เกียจ” นนท์ตอบขณะเดินลงบันไดมาชั้นล่าง ผมเดินตามมาส่งที่หน้าประตู
   “อยากดูไม่ใช่เหรอ” ผมถาม
   “ก็บอกว่าไม่อยากดูแล้วไง” นนท์ยังตอบผมด้วยเสียงหงุดหงิดเหมือนเดิม
   “เป็นไรรึเปล่าเนี่ย”
   นนท์เงียบไปแป๊บนึง แล้วก็พูดขึ้นมาว่า
   “นึกว่าเราไม่ได้ยินเหรอ”
   “เรื่องอะไร” ผมก็ยังงงไม่หาย (จะงงอะไรกันหนักกันหนา)
          “ก็เรื่องที่คุยกันน่ะ … ห้องเล็กแค่เนี่ย ... นึกว่าเราไม่ได้ยินรึไง”
   “ก็ไม่มีไร ทำไมต้องโกรธด้วยล่ะ” ผมพูดแล้วอธิบายว่าคุยอะไรกับริต้าบ้าง
            “ไม่ชอบให้ใครพูดถึงลับหลัง เข้าใจมั๊ย”
            “งั้นขอโทษนะ … พรุ่งนี้ไปลอนดอนด้วยกันเหมือนเดิมนะ”
           “ก็บอกแล้วไงว่าไม่อยากไปแล้ว ... เข้าใจมั๊ย” พูดจบนนท์ก็ปิดประตูบ้าน ...
ผมยืนนิ่งอยู่ตรงนั้นซักพัก ได้ยินเสียงฝีเท้าของนนท์เดินห่างออกไป ...
ผมเดินกลับไปที่ห้องยังเจอริต้านั่งอยู่ ริต้าถามผมว่านนท์เป็นอะไร ผมเล่าให้ริต้าฟัง ...
แล้วบอกว่าคราวนี้ผมไม่ผิด และจะไม่สนใจด้วย ใครจะทำอะไรก็ช่าง ยังไงพรุ่งนี้ผมก็จะไปลอนดอน

ตอนเช้าผมเดินไปที่สถานีรถไฟ ... ซื้อตั๋วและขึ้นไปนั่งรอบนรถไฟ อีก 10 นาทีรถไฟจะออกจากสถานี ...
ผมนึกถึงนนท์ ... ผมจะเจอนนท์บนรถไฟมั๊ย  เพราะนนท์รู้ว่าผมจะนั่งรถไฟขบวนไหน
ถ้าไม่มา ... แสดงว่านนท์ยังไม่หายโกรธ 
หรือว่าผมควรโทรหานนท์ ผมรู้นิสัยนนท์ดี ถ้าโทรไปหา ... นนท์น่าจะมา ... เอาไงดี
แต่ถ้าโทรไปแล้วนนท์ยังไม่หายโกรธ ผมก็เซ็งดิ ... คิดไปคิดมาจนได้เวลาที่รถไฟจะออกจากสถานี
สุดท้ายผมก็ไม่ได้โทรหานนท์ .... และนนท์ก็ไม่มา ............

มาถึงลอนดอน ... ธีร์มารับที่สถานีรถไฟ หลังจากไปทานอาหารจีนที่โซโห ... ผมโทรหานนท์
“ตอนนี้อยู่ที่โซโห ...” ผมบอกนนท์
นนท์เงียบไปแป๊บนึงแล้วพูดว่า
“ทำไมเมื่อเช้าไม่โทรหา ... เรารอให้นายโทรมา ... แต่งตัวรอด้วย ... ถ้าโทรมาก็จะไปด้วย”
“ก็กลัวนายยังไม่หายโกรธน่ะ … เลยไม่กล้าโทร นึกว่า ... ถ้าหายโกรธแล้วจะมารอที่สถานีรถไฟ …
นายก็มาตอนนี้สิ ละครยังไม่เล่น อีกตั้งนาน” ผมชวนนนท์
“ไว้คราวหลังละกัน ... จะกลับคืนนี้เลยรึเปล่า หรือว่าจะค้าง” นนท์ถาม
“ไม่รู้เหมือนกัน ... ถ้าไม่ดึกมากก็คงกลับมั้ง” ผมตอบ
“งั้น ... ถ้าจะกลับ ... โทรมาด้วยนะ ... จะไปรับ ...” นนท์บอก
“ได้ ... งั้นแค่นี้ก่อนนะ“ ผมบอก แล้วก็วางสาย ...... รู้สึกอารมณ์ดีขึ้น  ....
ออกจากตู้โทรศัพท์เจอธีร์รออยู่
“ต้องรายงานด้วยเหรอ ...” ธีร์พูดล้อ ๆ 
“ไม่มีอะไร ... ก็เมื่อวานทะเลาะกันนิดหน่อย ... เรื่องไม่เป็นเรื่องน่ะ … ตอนนี้เคลียร์แล้ว”
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 18-12-2008 00:35:14 โดย คุณเพื่อน »

SunLoveMoon

  • บุคคลทั่วไป
อืม
สงสาร นนท์อ่ะ  :m15:
ดูละครเสร็จแล้วรีบกลับมานะ
เด่ว นนท์เขาจะไปรอรับ  :-[

พีเอส.ริต้า น่ารักมาก

ออฟไลน์ Poes

  • คนแรกของหัวใจ คนสุดท้ายของชีวิต
  • Administrator
  • เป็ดZeus
  • *
  • กระทู้: 11342
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +2405/-22
สงสัยนนท์จะหึงอย่างริต้าร์ว่า  :z1:

sky-cafe

  • บุคคลทั่วไป
I don't know why ,but i think Non is really cute lol



ออฟไลน์ ï_Kiss_U♥

  • รักไม่ได้
  • เป็ดHera
  • *
  • กระทู้: 1132
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +97/-2
อ่ะ
มาต่ออีกแล้ว
มาๆๆ ตอนที่ 4 เลยย
รออยู่เน้อออออ  o18

yee

  • บุคคลทั่วไป
ชอบๆๆมาต่ออีกนะ

ออฟไลน์ ผักกาด

  • เป็ดนักขาย
  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 44
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +4/-0
ชักยังไงๆ แล้ว

 :z1:

ออฟไลน์ ||WiTHOuT_YoU||

  • ที่รักของใครสักคน
  • เป็ดAres
  • *
  • กระทู้: 2633
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +170/-6
    • MoSHI
มานมีกลิ่นแหม่งๆนะเนี่ย
 :z2: :z2: :z2:

sooyuu

  • บุคคลทั่วไป
โธ่ นนท์หึงแน่ๆ แต่ว่ายังปากแข็งอยู่
คุณเจ้าของเรื่องก็ เเอบไม่รู้เลยนะเนี่ย นนท์แสดงออกซะขนาดนั้น 5555
รีบกลับมาเร็วๆ นะ นนท์รอเป็นห่วงแน่แล้ว อิอิ
ยังไงก็เชียร์นนท์ซำเมออออออ :L2:

ออฟไลน์ M@nfaNG

  • ชีวิตคือการตรวจสอบ...
  • เป็ดแสนดี
  • เป็ดAphrodite
  • *
  • กระทู้: 4453
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +847/-18
นนท์น่ารักดีออก ขี้งอน อิอิ :o8:

CoMMuNiTY Of ThAiBoYsLoVE






ออฟไลน์ nana

  • 아주마 애기 두명 ㅋㅋ
  • เป็ดAres
  • *
  • กระทู้: 2759
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +138/-2
แค่เพื่อนจริงๆเหรอ :z1:

ken_krub

  • บุคคลทั่วไป
เป็นกำลังใจให้ครับ

Tantalum

  • บุคคลทั่วไป
ชอบ ๆ ซาบซึ้งกินใจดี หุหุ

BeePed

  • บุคคลทั่วไป
ชอบๆอ่ะ  :กอด1:
ยิ่งประโยคที่ริตาร์พูดว่า You're a bad girl ยิ่งชอบใหญ่  :z1:
.
.
.
อิฉัน อยากเป็น bad girl แบบนี้มั่งจังเลย :laugh:

ออฟไลน์ mist

  • เป็ดArtemis
  • *
  • กระทู้: 4505
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +263/-3
ความรู้สึกช้าจริง ๆ แอบสงสารเจ้านนท์มันหน่อย ๆ นะเนี่ย  :laugh:

ออฟไลน์ FÂntastic 1st™

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 354
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +13/-0
                                                จะเกิดศึกชิงนายรึเปล่าเนี้ย

                                                      นนท์ VS. ธีร์   :z6:

ออฟไลน์ oaw_eang

  • Global Moderator
  • เป็ดHades
  • *
  • กระทู้: 8418
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +2122/-586

อร๊ายๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆ

นนท์น่ารัก

ขอๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆ


แลกกะดอกไม้  :L2:

ปล. คิดถึง SoHo  อร๊ายยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยย 

muhan

  • บุคคลทั่วไป
บอกเค้าไปดิว่าเป็นเพื่อน...

เพื่อน(ที่เป็น)ผู้ชาย=บอยเฟรน :m20: :z2:

 :L2: :L2:

คุณเพื่อน

  • บุคคลทั่วไป

ขอขอบคุณผู้อ่านทุกคน และคอมเม้นทุกคอมเม้น
เป็นกำลังใจที่ดีเหลือเกิน

พวกคุณสุดยอดมาก




ตอนที่ 4

ธีร์ซื้อตั๋วละครเรียบร้อยแล้ว
โดยซื้อจากร้านขายตั๋วลดราคา (discount ticket) ซึ่งมีหลายร้านในบริเวณ Leister Square
ร้านพวกนี้จะขายตั๋วละครที่จะเล่นในวันนั้น ๆ ในราคาที่ถูกว่าครึ่ง
ผมเข้าใจว่าเป็นที่นั่งที่ค่อนข้างไกลราคาจึงค่อนข้างถูก
แต่การดูละครมันต้องดูภาพรวมๆ อยู่แล้ว นั่งห่างออกมาหน่อยก็น่าจะเห็นเวทีได้ทั้งเวทีอย่างชัดเจน

ละครเรื่อง The Phantom of the opera เป็นละครยอดฮิตเรื่องหนึ่งที่ (ครั้งหนึ่งในชีวิต)
จะต้องไปดูให้ได้ (อันนี้ผมคิดเอง ... คนอื่นอาจคิดถึงเรื่องอื่น ... แล้วแต่รสนิยม)
นอกจากฉากที่สวยงามเนื่องจากนำเอาโรงละคร มาทำเป็นเสมือนฉากหนึ่งของโรงโอเปร่า
สถานที่ที่ทำการแสดงก็สวยงามมาก เหมือนหลุดเข้าไปอยู่ในยุคโบราณเลยที่เดียว
(ใครมีโอกาสต้องมาดูให้ได้)
เพลงที่ใช้ในการแสดงก็ไพเราะมาก ... เรียกว่า ได้รับอรรถรสทั้งทางตาและทางหูครบ …

หลังจากดูละครจบก็เป็นเวลาเกือบห้าทุ่ม ....ไม่ทันรถไฟเที่ยวสุดท้ายแล้ว   
เลยตัดสินใจค้างที่ลอนดอนหนึ่งคืน ... แล้วพรุ่งนี้ค่อยกลับรถไฟเที่ยวเช้า ...
ผมคิดว่านนท์น่าจะหลับแล้ว ... ก็เลยไม่ได้โทรบอก

เช้าวันอาทิตย์ ... ผมตั้งใจว่าจะขึ้นรถไฟเที่ยว 9 โมงเช้า ... คิดว่าน่าจะถึงเมืองไม่เกินเที่ยง
... ถ้าซื้อตั๋วรถไฟเรียบร้อยแล้ว .... จะโทรหานนท์
ปรากฏว่า ... กว่าจะซื้อตั๋วเสร็จรถไฟก็ใกล้จะออกแล้ว ... ‘ไม่เป็นไรเดี๋ยวไปถึงค่อยโทรหาก็ได้’

ปกติรถไฟจะใช้เวลาเดินทางประมาณชั่วโมงครึ่ง
วันนี้ก็เป็นวันปกติวันหนึ่งเหมือนกัน
ไม่มี Engineering work หรือว่าการซ่อมแซมรางรถไฟ
เพราะโดยปกติวันอาทิตย์มักมีการซ่อมแซมรางรถไฟ
ถ้ามีการซ่อมที่สถานีไหน .. บางทีก็ต้องนั่งรถเมล์ ... ที่การรถไฟเตรียมไว้ให้
นั่งไปลงอีกสถานีนึง ... เพื่อต่อรถไฟอีกขบวนนึง ... ก็เป็นประสบการณ์ที่แปลกดี
แต่ก็มักจะเจออยู่เสมอ ๆ จนรู้สึกไม่ค่อยแปลก

รถไฟแล่นตามปกติ ...
อยู่ ๆ ... ก็รู้สึกว่ารถไฟมีการเบรกอย่างแรง …. เอี๊ยดดดดด ... ฉึกฉัก ฉึกฉัก ...
แล้วซักครู่รถไฟก็สงบนิ่งอยู่บนราง (เสียงอาจจะเหมือนรถไฟไทยมากไปหน่อยแต่ก็ประมาณนี้แหละ)
ไม่นาน ... ผู้ชาย (ฝรั่ง) วัยรุ่น วิ่งลงจากรถไฟ .. แล้วมีพนักงานรถไฟประมาณ 2-3 คน วิ่งไล่ตาม
วิ่งไล่กันอยู่ครู่หนึ่ง (คนบนรถไฟก็เดินไปยืนออกันอยู่ด้านเดียว ก็ด้านที่มองเห็นการไล่ล่ากันนั่นแหละ)
ซักพักพนักงานรถไฟก็จับชายคนนั้นได้ ...
คนบนรถไฟพูดกันเสียงดังจอแจ
‘เกิดอะไรขึ้นเนี่ย’ ผมคิด (เพราะไม่รู้จะคุยกับใคร)
แต่หลังจากได้ยินคนอื่นคุยกัน ... ก็พอจับใจความได้ว่า
มีคน (ก็คงเป็นผู้ชายฝรั่งวัยรุ่นที่โดนจับมานั่นแหละ) ดึงสัญญาณให้หยุดรถไฟ
สัญญาณให้หยุดรถไฟเหมือนเป็นเบรกฉุกเฉิน ... รถไฟก็เลยเบรกอย่างรุนแรงเพื่อหยุด …
คราวนี้จากที่คำนวณว่าน่าจะถึงเมืองก่อนเที่ยง ก็ไม่รู้ชะตากรรมแล้วว่าจะถึงกี่โมง

เสียงคนขับรถไฟประกาศว่าถ้าออกเดินทางได้เมื่อไหร่จะบอก
‘อย่างงี้ไม่ต้องบอกก็ได้ เพราะถ้าออกเดินทางได้ ... ก็รู้เองแหละ’ ผมคิดอีกเช่นเคย เพราะขี้เกียจคุยกับคนอื่น
เวลาผ่านไปนานเหมือนเป็นชาติ เพราะหลับแล้วตื่น .. ตื่นแล้วหลับ .. หลับแล้วตื่นใหม่ ..ไม่รู้กี่รอบ
ก็ยังไม่มีทีท่าว่า ... รถไฟจะมีการเคลื่อนขบวนแต่อย่างใด
เข้าใจ (ไปเอง) ว่า ที่ล่าช้ามากเพราะต้องมีการแก้ไขเวลาของขบวนรถไฟที่เกี่ยวข้องกันทั้งหมด
ถ้าขบวนหนึ่งหยุด ... ก็พลอยทำให้ขบวนอื่นต้องเลื่อนเวลาไปด้วย
จนกว่าจะได้เวลาที่เหมาะสมถึงจะเดินทางต่อได้ ...

ได้ยินคนอื่นคุยกันว่า .. ถ้ามีเหตุฉุกเฉินให้ดึงสัญญาณได้ ...
ผมอยากถาม ..ไอ้คนที่ดึงสัณญาณเหลือเกิน .. ว่ามันมีเรื่องฉุกเฉินอะไรนักหนา
และถ้ามันตอบไม่เข้าหู .. ผมก็จะเบิร์ดกะโหลกมันซักที ... โทษฐาน  ... ทำให้ผมเดือดร้อน
แต่คิดอีกทีมันก็เป็นประสบการณ์ที่หาไม่ได้บ่อยนักหรอก … เล่าให้ใครฟังน่าจะมีคนทึ่งหลายคน
ผมตั้งใจจะเก็บเรื่องนี้เป็นอีกเรื่องที่จะเล่าให้นนท์ฟัง ... นอกจากเรื่องละครที่สนุกมาก

รถไฟกลับถึงเมืองเกือบ 4 โมงเย็น ... พอลงจากรถไฟปุ๊บผมก็รีบวิ่ง ...... ตั้งใจจะวิ่งไปห้องน้ำ
เพราะปวดฉี่มาก ... ไม่ไหวแล้ว ... แต่ห้องน้ำปิด ... ‘โอ้ พระเจ้า’
ผมก็กะจะวิ่งไปเข้าที่บ้านแหละครับ
แต่เหลือบเห็นตู้โทรศัพท์ ... โทรหานนท์ซะหน่อย ‘have a quick chat’
ก็เลยแวะไปที่ตู้โทรศัพท์ทันที ... กดโทรศัพท์หานนท์
... สายไม่ว่าง ...
ลองอีกทีน่า ...
... สายก็ยังไม่ว่างเหมือนเดิม ...
ไม่เป็นไร ... กลับไปโทรที่บ้านก็ได้ เพราะตอนนี้ผม ... ไม่ไหวแล้ว ...

วิ่งสี่คูณร้อยกลับบ้าน ... อันที่จริงบ้านกับสถานีรถไฟก็ไม่ไกลกันเท่าไหร่
ถ้าเดินเล่น ๆ ก็ซัก 10 นาที
นาทีนี้ ... ผมวิ่งไปไม่เกิน 3 นาทีถึงบ้าน .. เจอริต้านั่งอยู่ที่ living room ก็ทักแค่ “Hi !”
แล้วก็กระโดดขึ้นชั้นสองเพื่อเข้าห้องน้ำ
...
เฮ้อ ... สบาย ... มิน่าล่ะ ... เค้าถึงเรียกว่าปลดทุกข์ ... ก็เพราะเวลาปวดแล้วมันมีทุกข์จริง ๆ
แล้วผมก็ค่อย ๆ เดินลงมาหาริต้าที่ชั้นล่าง ริต้าบอกว่า ... เมื่อหนึ่งนาทีที่แล้วนนท์โทรมา
(ช่วงที่ผมกำลังอยู่ในห้องน้ำ ... อะไรมันจะพอดีกันขนาดนี้)
“นนท์เค้าบอกว่าเค้าจำได้ว่าชั้นอยากดูหนังเรื่องนี้ ... เค้าเลยชวนชั้นไปดูหนัง ...
ชั้นก็เลยถามเค้าว่าให้ชวนคุณไปด้วยมั๊ย … เค้าถามว่าคุณกลับมาแล้วเหรอ ... ชั้นบอกว่ากลับมาแล้ว ...
นนท์บอกว่าเค้าไม่อยากดูหนังแล้ว ... แล้วเค้าก็วางหูไปเลย …” ริต้าพูดจบ เดินมาจับมือผม บอกว่า
“โทรหานนท์ซะ”
ผมคิดว่า วันนี้นอกจากซวยแล้ว … ก็เป็นความผิดของผมด้วย ถ้าผมโทรหานนท์
มันก็คงไม่เกิดเรื่องเข้าใจผิดกันแบบนี้ 

“ขอโทษนะ” ผมพูดหลังจากนนท์รับสาย แล้วก็เล่าเรื่องที่เกิดขึ้นทั้งหมดให้นนท์ฟัง ทั้งหมดจริง ๆ
และเป็นเรื่องจริงด้วย ถึงแม้เรื่องรถไฟจะไม่น่าเชื่อไปซักหน่อย
“รู้ตัวว่าผิดก็ดีแล้ว ... คราวหลังอย่าทำอีกนะ  ... เป็นห่วงรู้มั๊ย” นนท์พูด ... จะว่าไป ... ถึงนนท์เป็นคนที่
หงุดหงิดง่าย ขี้โมโห เอาแต่ใจ (เดาว่าเพราะเป็นลูกคนเดียว) ไม่มีเหตุผลบางที (หรือว่ามีแต่ผมไม่รู้เหตุผล)
แต่ก็หายเร็ว เพราะเวลาที่ผมขอโทษ เค้าก็หายง่าย ๆ ทุกที ซึ่งต่างจากผมมาก ผมไม่ค่อยโกรธใครหรอก
ถ้าโกรธก็ยาวล่ะ
“จะไม่ทำอีกแล้วค๊าบบบ … ถ้างั้นมาดูหนังกันนะ ...”
ตกลงว่า ... เย็นวันนั้น ริต้าก็ได้ดูหนังสมใจ ... โดยมีผมกับนนท์ไปด้วย ...

หลังจากดูหนังจบนนท์ก็เดินมาส่งผมกับริต้าที่บ้าน ... ก่อนขึ้นไปที่ห้อง
ผมทักทายกับแคธี่ และเล่าว่า ... เมื่อวานไปลอนดอนเพื่อดูละคร ...
แคธี่บอกว่ารู้แล้วเพราะเมื่อวาน ... นนท์มาที่บ้าน

“Poor Nont”  (แปลว่า นนท์ที่น่าสงสาร ... ไม่ได้แปลว่านนท์ที่ยากจนนะครับ ..
เพราะจริง ๆ นนท์ค่อนข้างรวย)
“เมื่อวานเค้านั่งดูหนังอยู่กับชั้นและริต้า (ดูหนัง series เรื่องโปรดของแคธี่) ...
พอได้ยินเสียงโทรศัพท์ทีไร ... เค้าก็จะถามว่าคุณโทรมารึเปล่า …
เผื่อว่าจะให้เค้าไปรับ  ... กว่านนท์จะกลับก็เกือบเที่ยงคืนแหนะ ...
เค้าบอกว่ารถไฟเที่ยวสุดท้ายมาถึงแล้ว ... คุณคงไม่กลับวันนี้” แคธี่พูดจบ ...
ผมก็หันไปมองหน้าริต้า ... ริต้าพยักหน้า ...
น้ำใส ๆ มันเอ่อออกมากลบลูกกะตาอีกแล้ว ... ผมไม่รู้ว่าเพราะอะไรกันแน่
แต่ที่แน่ๆ ผมรีบเดินลงไปที่ห้องข้างล่าง คว้าโทรศัพท์ขึ้นมากดเบอร์นนท์
หลังจากเสียงนนท์ตอบรับ ผมบอกนนท์ไปว่า
“ขอบคุณนะนนท์ ...”
“ไอ้เด็กติงต๊อง ... เป็นอะไรอีกล่ะ …” เสียงแสดงความอาทรดังมาตามสาย ...
น้ำเสียงคนเรานี่แสดงความอาทรได้ถึงเพียงนี้เลยหรือ
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 28-11-2008 23:35:40 โดย คุณเพื่อน »

ออฟไลน์ Poes

  • คนแรกของหัวใจ คนสุดท้ายของชีวิต
  • Administrator
  • เป็ดZeus
  • *
  • กระทู้: 11342
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +2405/-22
ยิ่งอ่าน ยิ่งชอบนนท์  :-[

 

สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด


สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด