[เรื่องเล่า/สั้นๆ] แอบรัก (ก็ต้องสู้) ...
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด

สนใจโฆษณาติดต่อ laopedcenter[at]hotmail.com คลิ๊กรายละเอียดที่ตำแหน่งว่างเลยครับ

สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด

ผู้เขียน หัวข้อ: [เรื่องเล่า/สั้นๆ] แอบรัก (ก็ต้องสู้) ...  (อ่าน 129291 ครั้ง)

ออฟไลน์ nana

  • 아주마 애기 두명 ㅋㅋ
  • เป็ดAres
  • *
  • กระทู้: 2759
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +138/-2
แล้วก็มีคนแทรกเข้ามาจนได้  รอๆๆๆๆๆๆค่ะ :impress2:

ออฟไลน์ mist

  • เป็ดArtemis
  • *
  • กระทู้: 4505
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +263/-3
ในที่สุดก็มีตัวเร่งปฏิกริยาเข้ามา  :impress2:

ออฟไลน์ [N]€ẃÿ{k}uñĢ

  • ~ῲเจ้าแม่Dramaῴ~
  • เป็ดแสนดี
  • เป็ดArtemis
  • *
  • กระทู้: 5186
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +740/-5
งานนี้ชักสนุกละสิ แล้วจะรอน๊าอิๆ

~Kalianeko~

  • บุคคลทั่วไป
อ้าวววว

ปิงเอ้ยยยย   ระวังจะเสียโฟนให้เป้ไปไม่รู้ตัวนะ


alpha

  • บุคคลทั่วไป
มาต่อแล้วอ่ะฮะ งานยุ่งตั้งแต่เมื่อคืนแล้วววว  2 ทุ่มจนถึงตอนนี้ยังไม่ได้นอนเลย  :m15:

มาต่อตอนที่กั๊กไว้แล้วนะคับ
internet ที่ห้องก็เพิ่งหายไม่สบาย แหะๆ  :z2:



ขอบคุณทุก rep นะฮะ  ดีใจที่มีคนตามอ่านคับ  กลุ่มเล็กๆ แต่แค่นี้ก็พอแล้วฮะ   :m1: :m1: :m1: จุ๊บบบ จุ๊บบบบบ






ตอนที่ 5.2 ตัวแปร
   
   อยู่ดีๆ ก็มีมือมาแตะที่บ่า ผมสะดุ้งนิดนึง หันหลังกลับไป

   “อ้าวเป้”



   “เป็นไงมั่ง.. พ่อคนขี้วีน”  ...ผมอายจนหน้าแดง

   “นายมาทำอะไรเหรอ”

   “ก็เมื่อกี้เดินไปดูหนังสือ เห็นนายเดินออกมาจากร้านพอดี ก็เลยมาทัก”



   ผมอึกอัก อยากรู้ว่าไอ้ปิงมันเป็นยังไงบ้าง แต่ดูเหมือนอีกฝ่ายจะรู้ทัน

   “ไอ้ปิงโมโหใหญ่ โวยวายแล้วก็กลับบ้านไปแล้ว” เป้พูดพร้อมกับยิ้ม ... อะไรกันนะ ผู้ชายคนนี้ยิ้มได้ตลอดเลยหรือไง

   “เฮ้อ” ผมถอนหายใจเฮือกใหญ่

   “รีบกลับป่ะ เดินเล่นกันก่อนไหม”

   “อ..อื้อ  ได้สิ  เราไม่รีบหรอก”
   



   หลังจากนั้น ผมกับเป้ก็ออกเดินจากป้ายรถเมล์ไปเรื่อยตามถนนในสยาม

   “สยามนี่เดินบ่อยๆ ก็น่าเบื่อเน๊อะ คนเยอะแต่ว่าไม่ค่อยมีอะไร” เป้บ่น

   “งั้นไปที่อื่นกันไหม”

   “ที่ไหนล่ะ”




   ผมลากเป้ขึ้น BMW คันงามแล้วก็ขับออกจากสยาม
   “นายกินข้าวต้มข้างทางได้ป่ะ”

   “เฮ้ย ได้ดิ ทำไมถามอย่างนั้น”

   “ก็นายดูคุณหนูออก นึกว่าจะไม่อยากกิน”

   “ฮ่าๆๆ  จริงๆ แล้วได้กินไม่ค่อยบ่อยหรอก  ขับไปแถวไหนล่ะ  ชักอยากกินแล้ว”

   “ไป แถวธรรมศาสตร์ท่าพระจันทร์แล้วกัน มีร้านอร่อยอยู่”







   ตอนนั้นค่อนข้างดึกแล้ว ถนนโล่ง ขับแว๊บเดียวก็ถึง ตลกดีเหมือนกันขับรถซะหรูแต่กลับมาจอดกินข้าวต้มข้างทาง


   “ไข่เยี่ยวม้ากระเพรากรอบ  ไข่เจียวหมูสับ ต้มจืดเต้าหู้หมูสับใส่สาหร่ายเยอะๆๆๆ  หมูทอดกระเทียมขอกระเทียมเยอะๆๆๆ  และก็ข้าวเปล่าสองจาน”  ผมรัวเมนูยิบ

   “เอ่อ...  ท่าทางนายจะหิว”

   “โมโหแล้วต้องกินแก้เครียด”

   “ฮ่าๆๆๆ  งี้เดี๋ยวก็อ้วนตาย...  น่าสนุกดี  เราไม่ค่อยได้มากินร้านแบบนี้”

   “ร้านอย่างนี้แหละอร่อย   อร่อยกว่าร้านแพงๆ อีกนะ”






   “แล้วนายเรียนยากไหม”  เป้เริ่มชวนคุย

   “ไม่รู้แหะ ยากเหมือนกันมั้ง แต่เรายังอยู่แค่ปีหนึ่งไง ก็ยังร่าเริงได้  แล้วนายเป็นไงล่ะ”

   “เราเหรอ  โอ้ยย  มันจะไปยากอะไรก็แค่วาดรูปโน่นนี่”

   “ยากจะตาย เรางี้วาดรูปไม่ได้เรื่อง”







   ผมหยิบปากกาจากที่โต๊ะกับกระดาษทิชชู่มาวาดสัปปะรดลงไป

   “เนี่ย รูปวาดเรา ให้ทายว่าวาดอะไร”

   “เอ่อ...   สัปปะรดมั้ง”  ผมแหกตาดูภาพวาดอันทุเรศทุรังของตัวเอง ดูยังไงก็ไม่น่าจะมองเป็นสัปปะรดได้เลย

   “เฮ้ย นายทายถูกได้ไงอ่ะ”

   “ไม่รู้เหมือนกัน  เราเห็นนายวาดมีตาข่ายแล้วมีจุดตรงกลาง ก็เลยเดาเอาว่าน่าจะสัปปะรด”

   “แสดงว่าโชคช่วยนะเนี่ย”

   “ฮ่าๆๆ”





   กับข้าวมาเสิร์ฟ ผมจ้วงเลยครับท่าน ไม่สนหน้าอินทร์หน้าพรหมที่ไหน  เวลาอารมณ์เสีย ได้กินของอร่อยๆ แล้วจะดีขึ้นนะ ใครเป็นเหมือนผมบ้าง

   “โห อร่อยอย่างนายว่าจริงๆ” เป้ยิ้ม (อีกแล้ว)  เป้เป็นคนที่ยิ้มสวย เขาจะน่ารักขึ้นมากอีกหลายเท่าตอนที่ยิ้ม

   “งั้นวันหลัง เดี๋ยวเราพาไปที่อื่น  เรารู้จักร้านแนวนี้อีกเยอะแยะ”

   “จริงเหรอ   แล้วจะรอนะ”





   ผมกับเป้นั่งกินแว๊บเดียวก็หมด แม้ว่าจะดึกแล้วแต่อารมณ์มันค้างครับ ผมรู้สึกว่าได้เจอเพื่อนคุยที่ถูกคอ  คุยกับเป้แว๊บเดียวแต่เหมือนรู้จักกันมานาน  เพราะฉะนั้นแทนที่จะกลับบ้าน ผมกลับชวนเป้ไปต่อที่ร้านแถวถนนพระอาทิตย์

   คนในร้านไม่เยอะมาก เพราะตอนนั้นก็ห้าทุ่มกว่าแล้ว ผมสั่งตากิล่าเป็นเหยือกมาเพราะไม่อยากจะกินหนัก เดี๋ยว BMW คันงามจะเซถลาไปเสยตูดคันอื่น
   “กินเหล้าได้ไหมเนี่ย”

   “โอ้โห  เรื่องนี้  อย่าดูถูกนะ  เห็นแบบนี้แต่คอทองแดงเลยนา”


   ผมไม่เชื่อหรอกในตอนแรก แต่หลังจากเป้สั่งเบียร์มาเพิ่มอีกสี่ขวด ผมก็เข้าใจว่ามันพูดจริง พวกเราคุยกันไปเรื่อย ผมสังเกตว่าเป้หลีกเลี่ยงจะคุยเรื่องปิง อาจจะเพราะไม่อยากทำให้ผมเสียอารมณ์ จริงๆแล้วตอนนั้นคงไม่เป็นไรหรอก เพราะผมติดลมบนซะแล้ว  เป้เป็นคนคุยสนุกมาก ผมเรียนรู้ว่าเป้เป็นลูกชายคนสุดท้อง ซึ่งก็ไม่ประหลาดใจนักหรอก โหวงเฮ้งของมันเป็นเด็กที่ถูกประคบประหงมมาอย่างดี แต่เป้ก็เป็นคนดื้อเงียบ (นิสัยนี้คล้ายกับผมมากๆ)  คะแนนสอบเอนทรานซ์ของเป้ดีมาก (เจ้าตัวไม่ยอมบอก) ผมมารู้ทีหลังนี่ถึงกับหนาวเลย พ่อกับแม่อยากให้มันเรียนด้านเศรษฐศาสตร์ ในจำนวนพี่น้องเป้เรียนเก่งและก็เป็นเด็กดีที่สุด พี่ชายคนนึงเกเรมากจนพ่อจับส่งไปเรียนอังกฤษ  เป้ยืนกรานว่าอยากเรียนศิลปะมากกว่า สุดท้ายก็ไม่มีใครขัดใจได้ เป้ได้เรียนศิลปะสมใจ







   เหมือนเวลาผ่านไปแค่แว๊บเดียว  พนักงานร้านเดินเข้ามาบอกอย่างสุภาพว่าร้านกำลังจะปิด ผมกับเป้จ่ายเงิน ซึ่งจริงๆ แล้วคนที่แย่งจ่ายทั้งหมดเป็นเป้  อากาศด้านนอกเย็นสบาย มีลมอ่อนๆ พัดพาให้อากาศอบอ้าวคลายไปบ้าง  พวกเรากลับขึ้นมาบนพาหนะอีกครั้ง   ผมพูดคุยน้อยลง แต่ก็ไม่รู้สึกอึดอัด ซึ่งเป็นข้อสังเกตพิเศษของผมเลยนะ  คือผมมีหลักการว่า ถ้าผมอยู่กับใครโดยไม่ต้องคิดหาคำพูดมาคุยกันทำลายความเงียบ แล้วยังอยู่ได้โดยไม่รู้สึกอึดอัด นั่นแสดงว่าเขาคนนั้นสามารถเป็นเพื่อนสนิทของผมได้






   เป้เอื้อมมือไปเปิดเพลง ส่วนผมก็นั่งเหม่อมองออกไปด้านนอก คิดถึงปิง ผมก่ะว่าพรุ่งนี้จะไปขอโทษมัน




   เสียงคีย์บอร์ดจากบทเพลงคุ้นหูเพลงหนึ่งดังขึ้น





      อยู่กับตัวเองในวันที่เงียบเหงา ฉันเฝ้ามองเห็นผู้คน ที่คอยให้ไออุ่นกัน

   “โฟน...”
   “หือ?”   

      อยากจับมือใครก็มีแต่ตัวฉัน หมือนดังเดิมทุกๆวัน ฉันนั้นแทบขาดใจ


   “ ชอบปิงแล้วทำไมไม่บอกไปล่ะ”


      ทุกครั้งยังบอกตัวเอง หากแม้มีใครที่เดินเข้ามา มาเติมสิ่งที่ขาดหาย


   “....”   




      ฉันนั้นจะเก็บรักษา และขอสัญญา จะนานเท่าไหร่ ฉันจะไม่เปลี่ยนใจ



   “....”



      จะมีทางไหน ที่ทำให้ฉันค้นพบ คนดีของหัวใจ



   “ถ้าบอกแล้วต้องเสียไปล่ะ นายจะรับได้เหรอ”


   
   “... โฟนคิดว่าไงล่ะ  ถ้าชอบจริงๆ ควรจะบอกไปไหม”



      ได้เจอกับใครที่ฉันรัก อาจเพียงสักครั้งที่เราได้พบรักแท้เท่านี้ก็เพียงพอ
      กับคนหนึ่งคนที่อยากจะขอ







   “ก็คิดว่าน่าจะต้องบอกล่ะนะ   แต่เราก็กลัว  แล้วสมมุติถ้านายเป็นเราล่ะ นายจะทำยังไง”












      สิ่งหนึ่งในใจที่ยังจะตามหา ฉันว่ามันช่างมีค่า และคุ้มที่จะเจอะเจอ


   “เราก็คงกลัว แต่เราก็คงจะเสี่ยงดูล่ะมั้ง ยังไงก็ดีกว่าอยู่เฉยๆ จริงไหม”








      อาจเปลี่ยนคืนวันที่เป็นอยู่เสมอ ขอให้ฉันได้พบเธอ รักแท้ที่ตามหา




   “โฟน....”   



   “อะไรเหรอ”






      ทุกครั้งยังบอกตัวเอง หากแม้มีใครที่เดินเข้ามา มาเติมสิ่งที่ขาดหาย






   “เราพอจะมีโอกาสไหม  ถ้าเราจะบอกว่าเราชอบนาย”









      ฉันนั้นจะเก็บรักษา และขอสัญญา จะนานเท่าไหร่ ฉันจะไม่เปลี่ยนไป
      จะมีทางไหน ที่ทำให้ฉันค้นพบ คนดีของหัวใจ
      ได้เจอกับใครที่ฉันรัก อาจเพียงสักครั้งที่เราได้พบรักแท้เท่านี้ก็เพียงพอ
      กับคนหนึ่งคนที่อยากจะขอ

      จะมีทางไหน ที่ทำให้ฉันค้นพบ คนดีของหัวใจ
      ได้เจอกับใครที่ฉันรัก อาจเพียงสักครั้งที่เราได้พบรักแท้เท่านี้ก็เพียงพอ
      กับคนหนึ่งคนที่อยากจะขอ....................



ออฟไลน์ ● MaYa~Boy ●

  • ฉันมันคนขี้อิจฉา
  • เป็ดAphrodite
  • *
  • กระทู้: 3990
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +195/-2
มะรุมะตุ้มรุมรักโฟนเข้าแล้ว

ออฟไลน์ Poes

  • คนแรกของหัวใจ คนสุดท้ายของชีวิต
  • Administrator
  • เป็ดZeus
  • *
  • กระทู้: 11342
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +2405/-22
ว่าแล้วเป้มานต้องมาชอบโฟนแน่ๆ   o18

แต่เชียร์ ปิงอะ  :z2:

anna1234

  • บุคคลทั่วไป
เป็นคนดีอ่ะ ไม่เชียร์ใคร
ถ้าใช้มันก็ใช้อยู่วันค่ำ :z2:
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 06-12-2008 17:56:55 โดย ไต๋ »

dekchin

  • บุคคลทั่วไป
 :เฮ้อ: :เฮ้อ: :เฮ้อ:

ยังไงซันก็คิดว่าปิงก็ต้องชอบโฟนอยู่แน่ๆเลย

ดูก็รู้...ว่าปิงแคร์โฟนมากๆ

ออฟไลน์ YMP

  • เป็ดHera
  • *
  • กระทู้: 1062
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +82/-2
เรื่องน่ารัก ดำเนินเรื่องเรียบๆ แต่มีเสน่ห์  :L2:

CoMMuNiTY Of ThAiBoYsLoVE

ประกาศที่สำคัญ


ตั้งบอร์ดเรื่องสั้น ขึ้นมาใครจะโพสเรื่องสั้นให้มาโพสที่บอร์ดนี้ ถ้าเรื่องไหนไม่จบนานเกิน 3 เดือน จะทำการลบทิ้งทันที
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=2160.msg2894432#msg2894432



รวบรวมปรับปรุงกฏของเล้าและการลงนิยาย กรุณาเข้ามาอ่านก่อนลงนิยายนะครับ
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=459.0



สิ่งที่ "นักเขียน" ควรตรวจสอบเมื่อรวมเล่มกับสำนักพิมพ์
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=37631.0






ออฟไลน์ nana

  • 아주마 애기 두명 ㅋㅋ
  • เป็ดAres
  • *
  • กระทู้: 2759
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +138/-2

ออฟไลน์ mist

  • เป็ดArtemis
  • *
  • กระทู้: 4505
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +263/-3
เจ้าปิงมัวแต่ทำอะไรอยู่โฟนจะโดนจีบแล้วน้า :angry2:

pipechan

  • บุคคลทั่วไป

BeePed

  • บุคคลทั่วไป
แล้วก็รอตอนต่อไป
.
.
.
ถ้าเป้เป็นคนดี และปิงไม่ใช่เกย์ ก็รับรักเป้ไปเหอะ  :really2:

ออฟไลน์ mist

  • เป็ดArtemis
  • *
  • กระทู้: 4505
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +263/-3
เนื่องจากน้อง alpha ผู้เขียนไม่ค่อยสะดวกในการลงเรื่อง เลยรับอาสาเอามาลงให้จ้ะ


ตอนที่ 6 หวั่นไหว


   ผมปิดประตูห้อง เหวี่ยงกระเป๋าไปที่โต๊ะ แล้วนั่งแหมะลงบนเตียง

   นี่กูเพิ่งโดนบอกรัก..?





   หน้าของผมร้อนผ่าว...  หัวสมองขาวโผลนไปหมด ผมอธิบายความรู้สึกตอนนั้นไม่ถูกเลย มันเหมือนเอาส่วนผสมของหลายๆ อย่างมาเขย่ารวมกัน  และผมก็มึนงงติดอยู่ท่ามกลางความรู้สึกเหล่านั้น


   แต่ที่่ผมแน่ใจคือผมหวั่นไหว....

   ถ้านับกันดูแล้วเป้เป็นคนหน้าตาดีจัดๆ คนหนึ่ง  ความจริงผมเองก็ไม่ได้หน้าแย่หรอกนะ เพียงแต่นิสัยเงียบของผมทำให้ไม่เหมาะกับการออกงาน คนเลยไม่รู้จักผมนัก ไม่เหมือนปิงกับเป้ที่ทำงานคณะเยอะแยะ  แล้วอยู่ดีๆ คนหน้าตาดีคนนั้นก็มาบอกชอบ




   ใครที่เคยเหงามากๆ คงเข้าใจผมได้ดี
   
   ผมนั่งนิ่ง เสียงเครื่องปรับอากาศดังหึ่มเหมือนเป็นเสียงเบสที่ดังอยู่ตลอดเวลา มือคว้ากีต้าร์โปร่งขึ้นมาดีด ความจริงแล้วผมเล่นเครื่องดนตรีได้หลายอย่าง ทั้งคีย์บอร์ด กลอง เบส แต่ก็ไม่เคยฟอร์มวงเล่น  ผมมีเพลงที่แต่งเล่นๆ อยู่หลายเพลง จะเรียกว่าแต่งก็ไม่ได้เพราะคว้ากีต้าร์มาก็ดีดไปเรื่อยเปื่อย พอวันต่อมาก็ดีดซ้ำแล้วก็คิดท่อนต่อไปวันละนิดวันละหน่อย ไม่มีเนื้อเพลงมีแต่ตัวโน๊ตอย่างเดียว... เสียงตัวโน๊ตเศร้าๆ ถูกบรรเลงออกมาอย่างเหม่อลอย







   “เราพอจะมีโอกาสไหม  ถ้าเราจะบอกว่าเราชอบนาย”
   อยู่ดีๆ คำพูดของเป้ดังก้องสะท้อนไปมาในหัว




   ผมเคยมีคนมาบอกชอบด้วยนะ...
   ผมลืมบอกว่าโรงเรียนผมเป็นชายล้วนนะครับ ช่วงวันวาเลนไทน์ตอนม. 5  เนื่องจากนักเรียนทั้งหมดเป็นชาย ความน่าตื่นเต้นของวันวาเลนไทน์จึงลดทอนไปตามลำดับ ยกเว้นพวกที่มีแฟนอยู่นอกโรงเรียนที่มักจะโดดกันในวันนี้เสียส่วนใหญ่  ในเมื่อไม่มีใครจะให้กุหลาบ นักเรียนส่วนใหญ่จึงมอบกุหลาบให้กับอาจารย์ตัวเองครับ  น่ารักดี...  ผมกับปิงซื้อกุหลาบมาเป็นห่อใหญ่ แบกเข้าโรงเรียน ผมมีหน้าที่ถือห่อกุหลาบ ส่วนไอ้ปิงมีหน้าที่วิ่งไปฉอเลาะอาจารย์พร้อมกับยิ้มทะเล้นๆ แล้วก็ให้กุหลาบ บางคนที่สนิทๆ มันก็กอดแล้วให้รุ่นน้องแถวนั้นถ่ายรูปให้ ปิงมันเป็นคนน่าเอ็นดูแบบนี้แหละครับ ระหว่างทางที่เดินไอ้ปิงได้ดอกกุหลาบหลายดอกจากรุ่นน้องที่วิ่งมาให้ บางคนก็เอามาให้เพราะกวนตีน  แต่บางคนก็อายงุดๆ มาให้


   รุ่นน้องที่ชุมนุมผมคนนึงก็เอาดอกกุหลาบมาให้ผม “อ่าาา  ผมขอให้พี่โฟนกับพี่ปิง รักกันนานๆ ถือไอ้เท้ายอดทองตะบองยอดเพชรครับ หุหุ”

   ผมเลยตอบกลับมันไปด้วยความสนิทสนม “ถ้ากูได้ตะบองมาเมื่อไหร่ กูจะเอาไปฝากไปบนกะบาลมึงแล้วกันนะ”   ไอ้ปิงหัวเราะร่า

   คราวนี้พอขึ้นห้องเรียน ผมก็เจอเพื่อนต่างห้องคนนึงมาดักรอ “โฟน เราให้”  แล้วมันก็ยื่นช๊อคโกแลตมาให้กล่องเบ้อเริ่ม   ตรงหน้าชั้นเรียนเลยครับ คนกำลังเยอะๆ  เพื่อนๆ ผมโหเป่าปากกันใหญ่ ผมอายหน้าแดงแป๊ด ไม่รู้จะทำหน้ายังไง   ไอ้ปิงเดินยิ้มๆ เข้ามา






   “เฮ้ย นาย  นี่แฟนเรา  คิดจะแย่งงั้นเหรอไง”
   เพื่อนๆ ฮากันใหญ่  ผมขอบใจไอ้ปิงที่มากู้สถานการณ์หน้าสิ่วหน้าขวานให้ แต่่แย่ตรงที่หน้าผมไม่หายแดงสักทีจากคำพูดของมัน  หลังจากนั้นเพื่อนที่แอบชอบผมก็ไม่ปรากฎเข้ามาในชีวิตผมอีกเลย  (ไอ้ห่าปิงเอ๊ย   มึงไม่รักกูแล้วเสือกหวงก้าง)  แต่พูดไปพูดมาก็สงสารเพื่อนคนนั้นเหมือนกันนะครับ   ไอ้ปิงก็เล่นแรงเหลือเกิน



   เสียงเคาะประตูดึงผมกลับเข้าสู่ปัจจุบันที่กำลังสับสนและอ่อนไหวของผม

   ประตูถูกดึงเปิดออกเองโดยคนที่ผมไม่คิดว่าจะได้เจอในคืนนี้

   “ป.. ปิง   มาทำอะไร”
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 07-12-2008 11:24:26 โดย mist »

ออฟไลน์ mist

  • เป็ดArtemis
  • *
  • กระทู้: 4505
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +263/-3
ลงเอง เมนท์เอง อิอิ

โหยมะอยากบอกว่าค้างงงงงงงงงงงมั่ก ลงเองค้างเอง ทำกันได้ลงคอนะ  :m15:

anna1234

  • บุคคลทั่วไป
:jul3:
มาทำอะไร ก็มาทำให้ข้าวสานกลายเป็นข้าวสุขไง

 ก็มาปล่ำโพนหดิ ว๊ากกกกกกกกกกกกกกก

เป็นไงว่ะตูช่วงนี้ขยันให้เค้าปล่ำกันจังวุ้ย :haun4:
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 07-12-2008 12:10:06 โดย ไต๋ »

~Kalianeko~

  • บุคคลทั่วไป
บางทีรักคนที่เค้ารักเรามันก็ดีนะครับ


แต่ดูเหมือนปิงเองก้ไม่ใช่จะไม่คิดอะไรกับโฟนน้า   


แล้วปิงมาทะมายหว่า  ?


มาต่อเร็วๆล่ะคับ

marchmenlo

  • บุคคลทั่วไป
:a5: อ้าวเวง ปิงมาทำไมเนี๊ย เค้ากะลังอินเชียว  :serius2:

nez

  • บุคคลทั่วไป
อร๊ายยยยยยยยยยยยยยย


ปิงมาทำอะไรอ้ะ


ตายล่ะ เริ่มมีตัวเลือกแล้วนะ

รีบๆนะิปิง ลุ้นอยู่

CoMMuNiTY Of ThAiBoYsLoVE






ออฟไลน์ both^^

  • เป็ดแสนดี
  • เป็ดEros
  • *
  • กระทู้: 3133
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +730/-4
เราเชียร์เป้อ่ะ

ไม่รุ้ทำไม

ออฟไลน์ Poes

  • คนแรกของหัวใจ คนสุดท้ายของชีวิต
  • Administrator
  • เป็ดZeus
  • *
  • กระทู้: 11342
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +2405/-22
 :beat: ตบรีบน

เชียร์ปิง  :z2:

ค้างงงงงงงง เลยรีบมาต่อนะ  o18

ออฟไลน์ both^^

  • เป็ดแสนดี
  • เป็ดEros
  • *
  • กระทู้: 3133
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +730/-4
^
^
^

อารายนิ

ทำไมใจร้ายกะเค้าได้  ฮือออออออออออ

ออฟไลน์ ДηοηγМ

  • 出会えて、よかった
  • เป็ดมหาวิทยาลัย
  • *
  • กระทู้: 517
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +39/-1
เอ่อ  แบบว่า


ค้างได้อีก

 :serius2:

ปิงโผล่มาได้จังหวะมากมาย !!!!!!!!
แล้วจะเป็นไงต่อล่ะเนี่ย
โฟนบอกรักไปเลย  โลดดดด!!!!!!


มาต่อไวๆ น้าๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆ



เฮ้ออ  อารมณ์เหงา  เข้าใจสิ  เข้าใจดี  :เฮ้อ:

ออฟไลน์ zingiber

  • เป็ดมหาวิทยาลัย
  • *
  • กระทู้: 439
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +30/-4
ค้าง!!!!!! :serius2:
รีบมาต่อน๊าาา รออยู่ๆ

คิดว่าปิงก็มีใจละน่า แต่เพราะคำว่าเพื่อนกันตลอดไปไง ก็เลยต้องเก็บเอาไว้ ใช่มะๆ

ออฟไลน์ [N]€ẃÿ{k}uñĢ

  • ~ῲเจ้าแม่Dramaῴ~
  • เป็ดแสนดี
  • เป็ดArtemis
  • *
  • กระทู้: 5186
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +740/-5
สนุกมากมายงะ ชอบปิง อิๆ แล้วจะรออ่านน๊า

ออฟไลน์ nana

  • 아주마 애기 두명 ㅋㅋ
  • เป็ดAres
  • *
  • กระทู้: 2759
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +138/-2

แมววาย

  • บุคคลทั่วไป
เพื่อนก็ให้เป็นเพื่อนเหอะ   เชียร์เป้ เป้ เป้  :z3:

alpha

  • บุคคลทั่วไป
โหยย  งานเข้า งานยุ่ง เน็ตเจ๊งฮะ
แต่เอาตอนใหม่มาต่อให้แล้วครับ :m19:

ขอบคุณ คุณ Mist ที่ลงเรื่องให้นะฮะ  เดี๋ยวถ้าเน็ตเดี้ยงจะรบกวนอีกนะคับบ  จุ๊บๆ  :กอด1: :กอด1: :กอด1:





ตอนที่ 7 ตัดสินใจ


   ปิงไม่ตอบคำถาม แต่กระโดดขึ้นเตียงมาฟุบอยู่ข้างๆ ผม
   กลิ่นเหล้าอ่อนๆ ลอยมาแตะจมูก ปิงคงกินเหล้ามาไม่มากก็น้อย


   “มึงมาทำอะไรป่านนี้วะ” ผมถามเบาๆ

   “กูมาเพราะกูเข้าใจแล้วว่ามึงหึงกู” ปิงทำหน้าระรื่น ผมไม่รู้เหมือนกันว่าอยู่ดีๆ ทำไมมันถึงคิดแบบนั้น แม้จะเป็นเรื่องจริงก็ตาม แต่ผมก็ยังงงๆ อยู่ว่าปิงเข้าใจเรื่องแบบนี้ได้ยังไง




   “อ..อะไร  ใครหึงใคร  อย่ามามั่วนิ่ม” ผมกระอึกกระอั่กตอบ ไม่รู้ว่าหน้าตัวเองแดงหรือเปล่าแต่คงแดงมั้งเพราะแม้ว่าจะมืดแต่ใบหน้าของผมก็รู้สึกร้อนผ่าว

   “ใช่ป่ะล่ะ  ที่มึงทำขัดกันก็เพราะประชดกู” (กูว่ามันต้องผีเข้าแน่ๆ)

   “..อย่ามาเดามั่ว”

   “สัด จะปากแข็งทำไมวะ  มึงสนิทกับกูมาตั้งกี่สิบปีแค่นี้ทำไมกูจะไม่รู้” (ไอ้ตอแหล กูงอนมึงเรื่องแบบนี้มาล้านครั้งแล้วมั้ง  ไม่เห็นมึงจะล่วงรู้ อมอุโบสถมาพูดกูก็ไม่เชื่อว่ามึงจะตรัสรู้ชอบด้วยตัวเองว่ามึงรู้ว่ากูหึง)


   “ตอนที่มึงแหกปากเอ็ดตะโรที่ร้านนั้นไงล่ะที่มึงไม่รู้” ผมสวนกลับ หุหุ ใครจะยอมให้มันรุกฝ่ายเดียววะ






   ปิงเด้งขึ้นมานั่งจ้องหน้าผม ผมจ้องหน้าหล่อๆ ของมันกลับ (ที่บอกว่าหล่อเพราะว่ามันมืดหรอกน่า  มึงไม่ต้องดีใจนักไอ้ปิง)

   “นี่กวนตีนกูอยู่เหรออออ” ไอ้ปิงยื่นหน้าเข้ามาใกล้

   “เออออออ”
   “ตายซะเถอะมึง” แล้วมันก็มาจี้เอว  ผมบ้าจี้อ่ะ  แล้วปิงก็รู้หมดว่าผมจั๊กกะจี้ตรงไหน (ก็มีเอว แล้วก็คอ) ผมหัวเราะใหญ่ แต่ปากก็ด่ามัน “ไอ้เวร หยุดเดี๋ยวนี้นะ”



   พวกเราปล้ำกันพักใหญ่ ก่อนที่ตีนผมจะถีบอกไอ้ปิงลงไปกองก่ะพื้นได้ก็เกือบจะขาดใจตาย








   อยู่ดีๆ ไอ้ปิงก็ดึงผ้าห่ม แล้วก็มานอนหนุนตัก

   ไม่บ่อยที่ไอ้ปิงจะทำแบบนี้ ผมว่าอาจจะเป็นฤทธิ์ของแอลกอฮอล์ก็ได้ สมัยมัธยมไอ้ปิงแต๊ะอั๋งผมเสมอ เวลาอยู่ด้วยกันก็เอาหลังมาพิงบ้าง เดินกอดคอบ้าง   อย่างไรก็ตามนอนตักนี่ นานๆ มันจะทำสักที และทำทีไรใจผมก็เต้นโครม โครม ทุกทีรวมทั้งตอนนี้ด้วย



   “มึงจำเรื่อง ใครสักคนที่จะหยุดกูได้ป่ะ”

   “อะไรนะ!?” ผมปรับอารมณ์ไม่ทัน  เมื่อกี้ยังหัวเราะจะขาดใจอยู่เลย




   “อ้าว พูดเองทำไมลืมวะ  ที่มึงบอกให้กูหาไปเรื่อยๆ ถ้ากูเจอคนที่ใช่มันก็จะหยุดเองน่ะ”

   “อ๋อ อื้ม  ทำไมเหรอ”

   “ถ้ากูหาไม่เจอล่ะ หรือไม่กูขี้เกียจหาต่อล่ะ”

   “ทำไมล่ะ”

   “ก็ ไม่รู้ดิ  ทุกวันนี้กูก็มีความสุขดีอยู่แล้ว กูไม่รู้ทำไมต้องออกไปตามหาคนที่ใช่”

   “เจ้าชู้ตัวพ่ออย่างมึงนี่นะจะไม่คบใคร”

   “เอ๊าา  ไอ้นั่นก็ขำๆ  มึงก็รู้ว่ากูไม่ได้จริงจัง”

   “ไอ้เลว...”

   “นั่นไง กูไม่อยากเป็นไอ้เลวแล้ว กูว่ากูอยู่นิ่งๆ ก็ดี ไม่ต้องคบใคร ไม่ต้องวิ่งตามหาใคร กูว่าแค่กูก่ะมึงก็โอเคแล้วนะ มีมึงเป็นเพื่อนไปตลอดแบบนี้”




   ใครเคยเจ็บใจไหมครับ

   แปลกที่คำบางคำทำให้ความเจ็บปวดแล่นผ่านตรงหน้าอกได้ หลังจากเจ็บแล้วใจก็จะหวิว เหมือนส่วนหนึ่งของหัวใจมันโดนบั่นทอนออกไป แล้วน้ำหนักของใจก็น้อยลงไปเรื่อยๆ

   ‘เพื่อน’ ‘ตลอดไป’  งั้นเหรอวะปิง...  กูก็อยากเป็นเพื่อนให้มึงได้นะ...  กูก็ไม่ได้อยากเป็นแบบนี้หรอกนะ






   “ปิง... แล้วถ้ากูไม่อยู่ให้มึงแล้วล่ะ”    

   “....      ทำไมมึงพูดแบบนี้วะ   มึงจะไปไหน”

   “ก็...  สมมุติกูมีแฟนแล้ว กูต้องไปดูแลเขาอะไรแบบนี้”

   “เฮ้ย!!!!    มึงจีบใครอยู่คายออกมาเดี๋ยวนี้ไอ้โฟน”

   “สมมุติ เว้ย สมมุติ  นี่มึงโง่ขนาดไม่รู้จักคำว่าสมมุติเหรอวะ”

   “..  กูก็ไม่รู้ว่ะ   แต่กูไม่อยากให้มึงมีแฟนเลยนะ”

   “ไหนมึงบอกว่าให้กูหาแฟน”

   “ไม่รู้อ่ะ  กูหึงงงงงมึง”

   “กวนตีนและๆ ไปๆๆๆ ไปนอนเลยมึง ห้ามแย่งข้างในนะ” ผมกระโดดไปนอนชิดผนังก่อน ไอ้ปิงกับผมต่างคนต่างชอบนอนข้างใน โดยเฉพาะผม ไม่ใช่อะไรหรอกนะต่างคนต่างนอนดิ้น ไอ้ปิงเคยละเมอถีบผมกระเด็นตกเตียง ส่วนผมก็เคยตื่นมาแล้วก็เจอไอ้ปิงลงไปนอนกองกับพื้นเหมือนกัน











   ผมปิดตาลงแต่ทำยังไงก็ไม่หลับ ส่วนปิงนั้นนอนกรนคร่อกๆ ไปนานแล้ว แถมขโมยหมอนข้างผมไปกอดเสียแน่น  แสงแรกของวันใหม่เปลี่ยนผ้าม่านที่ดำมืดให้เรืองรองขึ้นมา ผมค่อยๆ เลื้อยออกจากเตียงเพราะไม่อยากให้ปิงตื่น หยืบกางเกงบอลมาสวมทับบ๊อกเซอร์แล้วก็ลงไปชั้นล่าง  เสียงคลิ๊กคอมพิวเตอร์กับเสียงคีย์บอร์ดยังดังก๊อกแก๊กออกมา   ผมโผล่หัวเข้าไปในห้องพี่สาว

   “เจ้ฟิว ยังไม่นอนอีกเหรอ”

   “จะเสร็จแล้วหว่ะ  แล้วนี่เคลียร์ก่ะปิงมันเรียบร้อยแล้วเหรอ”

   “เหมือนจะเคลียร์หว่ะเจ้  แต่ก็ไม่รู้เหมือนกัน ฮ่ะๆๆ”

   “เออๆ เข้าใจ  แล้วนี่จะไปไหน”

   “ไปเดินเล่น  เอาไรป่ะ”

   “ไม่เอาหว่ะ จะนอนแล้ว”







   ผมสวมร้องเท้าแตะแล้วก็เดินออกจากบ้าน    ดวงอาทิตย์สีส้มเพิ่งตื่นนอนลุกขึ้นจากขอบฟ้า อากาศเย็นจากตอนกลางคืนที่ต้องแสงแดดทำให้อบอุ่นอย่างประหลาด   คนค้าคนขายเริ่มตั้งร้านเตรียมรับความวุ่นวายของตลาดวันเสาร์กันแล้ว ผมเดินผ่านร้านขายปาท่องโก๋ที่สมัยเป็นเด็กประถมต้องซื้อกินเป็นประจำทุกวัน ตอนนั้นมีอาแปะคนนึงใจดีมากขายอยู่ ถ้าผมมาซื้อกับปิง แปะจะแถมให้อีกหลายตัวบอกว่ากินกันตั้งสองคนแค่สิบบาทจะอิ่มยังไง ตอนนี้แปะแก่ลงมากแล้วมาขายตอนเช้าไม่ไหว เลยให้ลูกชายแกมาขายแทน



   อะไร อะไร มันก็เปลี่ยนไป
   ผมซื้อปาท่องโก๋ มานิดหน่อยพร้อมกับหยิบเข้าปาก  รสชาติเปลี่ยนไปนิดหน่อยแต่ก็อร่อยดีเหมือนกัน  ผมก้าวขาเดินต่อไปเรื่อย คุณป้าแถวนั้นบางคนก็ร้องทัก พร้อมกับแปลกใจที่วันนี้ผมตื่นเช้าแถมยังมาโผล่แถวตลาด ส่วนใหญ่ก็ทักว่าโตขึ้นเยอะ หรือไม่ก็ถามข่าวของเจ้ฟิว

   อย่าแปลกใจนะครับถ้าผมไม่เคยพูดถึงเรื่องพ่อแม่ของผมเลย   พ่อกับแม่แยกทางกันตั้งแต่ผมยังเล็ก ผมโตมาได้อีกไม่เท่าไหร่แม่ผมก็ประสบอุบัติเหตุเสียชีวิต ส่วนพ่อนั้นผมเจอหน้าแบบนับครั้งได้   ยังไงก็ตามผมไม่เคยรู้สึกเป็นปมด้อยแต่ใด ผมอยู่ได้ โตมากับพี่สาว  มีญาติสนิทๆ คอยช่วยเหลือเรื่องเงินทองไม่เคยขาด  และก็มีเพื่อนชื่อปิง...

   ปิงอยู่กับผมมานานจนกลายเป็นส่วนหนึ่งของผมไปแล้ว ไม่ว่าจะอยู่ในฐานะไหนผมก็คงขาดปิงไปไม่ได้ ผมกับมันผูกพันธ์กันเกินกว่าที่ฝ่ายใดฝ่ายหนึ่งจะหายไปได้ ผมรู้ถึงข้อนี้ดี ผมเลยไม่กล้าบอก ผมคิดภาพตัวเองที่ต้องใช้ชีวิตอยู่โดยไม่มีมันไม่ไหว







   ปาท่องโก๋ อร่อยจริงๆ  และแม้ว่าผมจะชื่นชอบกลางคืนแต่แสงแดดยามเช้าก็ไม่เลวนักหรอก


   ผมตั้งสติแล้วก็หายใจเฮือกใหญ่เข้าปอด
   โทรศัพท์มือถือถูกกดเบอร์ของใครสักคนที่ทำให้ผมหวั่นไหว


   “เป้ เหรอตื่นหรือยัง”

   “อือออ  โฟนเหรอ ตื่นแล้ว.. เอ่อ จริงๆ ก็เพิ่งตื่นตอนนายโทรมาอ่ะ”

   “นอนต่อเถอะ  เราแค่จะโทรมาบอกว่าเรื่องเมื่อคืน  เราจะรับไว้พิจารณานะ”

   “จริงเหรอ  แปลว่านายอนุญาตให้จีบได้นะ” เสียงของเป้สดใสขึ้นมาเลย

   ผมเขินมาก แต่ก็ตอบเสียงเบาๆ ไป “อ.. อือ”







   บางทีผมก็ควรจะให้โอกาสตัวเองเสียบ้างนะ

« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 09-12-2008 08:25:40 โดย alpha »

ออฟไลน์ nana

  • 아주마 애기 두명 ㅋㅋ
  • เป็ดAres
  • *
  • กระทู้: 2759
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +138/-2
แล้วปิงจะทำยังงัย :sad4:

 

สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด


สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด