***ปริศนาอักษรไขว้.....หัวใจยุ่งเหยิง by aoikyosuke***
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด

สนใจโฆษณาติดต่อ laopedcenter[at]hotmail.com คลิ๊กรายละเอียดที่ตำแหน่งว่างเลยครับ

สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด

ผู้เขียน หัวข้อ: ***ปริศนาอักษรไขว้.....หัวใจยุ่งเหยิง by aoikyosuke***  (อ่าน 111397 ครั้ง)

ISACBTMN

  • บุคคลทั่วไป
สนุกมากมาย

ชอบจังลงเยอะๆ อิอิ

ออฟไลน์ M@nfaNG

  • ชีวิตคือการตรวจสอบ...
  • เป็ดแสนดี
  • เป็ดAphrodite
  • *
  • กระทู้: 4453
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +847/-18
น่ารักทั้งสองคู่เลย อิอิ ชอบๆๆๆ :m1:

ออฟไลน์ kamui1972

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 278
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +186/-0
ปริศนาอักษรไขว้.....หัวใจยุ่งเหยิง 13

ตาหวาน.....หวานทั้งตัว...ใครนึกว่าหวานแค่ตากันล่ะ หวานทั้งตัวต่างหาก
ยิ่งเรียวปากช่างตะโกนโวยวายนั่นยิ่งหวาน ผิวแก้มเนียนใสไม่ต้องพูดถึงเลย ทั้งหอมทั้งนิ่ม
ไม่เสียแรงที่พยายามตามจีบ .... เด็กอะไร หวานได้ทั้งเนื้อทั้งตัว และมีรสชาติ เผ็ด ๆ มันส์ ๆ ประกอบด้วยอีกต่างหาก

ไม่รู้ว่าป่านนี้ จะเป็นยังไงบ้าง เด็กลืมง่าย คงนอนอ่านการ์ตูนสบายใจเฉิบไปแล้วมั้ง....ป่านนี้
หนุ่มร่างสูง จัดการเปลี่ยนเสื้อผ้าไปอยู่ในชุดธรรมดา และเดินยิ้มตลอดทางขึ้นตึก

ตาหวาน ตาหวาน...คิดถึงแต่ตาหวาน....อยากจะชิมให้หมดทั้งตัวเลย
อยากรู้นัก จะหวานมากกว่าที่เห็นมากแค่ไหน
ว่าแล้วก็โทรไปแหย่เล่นสักนิดดีกว่า

เอาไงดีน๊าาาาาาาาาา

ส่งข้อความไปหากก็แล้วกัน

อันนี้ดีกว่า

............คิดถึงตาหวานจังครับ.............

ร่างสูงอมยิ้มถูกใจ เมื่อข้อความถูกส่งไปเรียบร้อยแล้ว ตาหวานนี่แปลก พักนี้ยอมคุยกับโรคจิตด้วยนะ ทำเล่นไป

+++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++

"นี่.......ตอนนี้ฉันเสียพลังงานจากการต่อสู้น่ะ...อือใช่....มันเป็นร่างขั้นสุดยอด
ของฟรีสเซอร์ เรื่องดราก้อนบอล กระเทยแหละ เออ ใช่มันเป็นกระเทย..."

ตาหวานเอ๋อ....ไม่ร้องคาราโอเกะ ไม่ได้อ่านการ์ตูน ไม่ได้เล่นเกมส์ แต่เปลี่ยนมาคุยโทรศัพท์กับหนุ่มนิรนามโรคจิตแทน
หลังจากที่ปรึกษาปัญหาชีวิตกับไอ้แคปไม่ได้ เลยต้องเปิดโทรศัพท์มาคุยกับไอ้โรคจิตแก้กลุ้มไปพลาง ๆ ก่อน

"นี่...มาเจอกันหน่อยได้มั้ย...ฉันอยากเจอนายนะ...เอาการ์ตูนมาให้ด้วยได้มั้ย...ฉันจะรอ....แล้วเลี้ยงคาราโอเกะฉันด้วยนะ"

ตาหวานกดวางโทรศัพท์ไปแล้วอย่างหงอยเหงา วันนี้รู้สึกไม่สดชื่นเลย เหมือนกับว่าเสียพลังชีวิตไปมากโข จากนังกระเทยปลาคนนั้น
คิดบ้าอะไรขึ้นมาก็ไม่รู้ เลยนัดโรคจิตมาเจอ เอาน่ะ เป็นผู้ชายเหมือนกัน ไปในที่ที่มีคนมากมายก็พอแล้ว
ยิ่งคิดยิ่งซึม ยิ่งคิดยิ่งเศร้า นังปลาเน่าไม่มาหาไอ้แคปเลย นับตั้งแต่โดนกระเทยควายจูบไป ตาหวานก็เริ่มเกิดอาการแปลก ๆ
ไม่รู้สึกสนุกกับการเล่นเกมส์ อ่านการ์ตูนก็ไม่สนุก ใจมันพะวงคิดไปถึงแต่นังกระเทย หน้าประหลาดนั่นตลอด
กลัวมันจะมาหาไอ้แคป กลัวต้องปะทะคารมย์กับมัน แต่ก็ชะเง้อคอคอยรอมัน แต่อีกระเทยบ้ามันก็ไม่มา
ตาหวานอยู่ในโลกของเด็ก ยังไม่เข้าใจ ว่าอาการแบบนั้นเขาเรียกว่าคิดถึง

ตาหวานอาบน้ำแต่งตัวและเดินออกจากห้องไปอย่างเบื่อหน่าย

และไปยืนคอยโรคจิตก่อนเวลานัดที่หน้าร้านไอศกรีม

ยืนมองนาฬิกาไปมาหลายรอบ แล้วก็ไม่เห็นว่าไอ้โรคจิตจะมาหาสักที จนกระทั่งทนไม่ไหว ต้องเดินหนีเข้าไปกินไอศกรีมในร้าน
กินอย่างเซ็ง ๆ อะไร อะไร ก็เซ็งไปหมด น่าเบื่อชะมัด

"นังตาหวาน...ผัวไปไหนล่ะ"

ใครคนหนึ่งเอ่ยทักทาย และตาหวานก็เงยหน้าขึ้นมอง ด้วยความดีใจ นังปลาเน่า อีกระเทยบ้ามันมาแล้วเหรอ
แต่เมื่อเงยหน้าขึ้นกลับไม่เห็นใครคนหนึ่งที่หน้าเปื้อนสี แต่งหน้าอุบาทว์เหมือนไปเล่นงิ้วสักคน
แต่กลับกลายเป็นชายหนุ่มร่างสูง แต่งกายด้วยเสื้อผ้าธรรมดา แต่กลับทำให้คน ๆ นั้นดูดีขึ้นมาได้ไม่ยากนัก

นายแบบเขามาถ่ายแบบเหรอวะ...หรือว่าเขาทักคนผิด

ตาหวานหันซ้ายหันขวาเพื่อความแน่ใจ

"หล่อนแหละ...ทำไม..งงเหรอ"

ถึงคำพูดจะเป็นแบบกระเทย พูด แต่น้ำเสียงกลับเป็นปกติไม่ได้สะดีดสะดิ้งเลยสักนิด ร่างสูงนั้นนั่งลงอย่างช้า ๆ
ที่ฝั่งตรงข้าม และส่งยิ้มให้ เล่นเอาตาหวาน...เปลี่ยนเป็นตาค้าง ช้อนไอศกรีมในมือหล่นลงพื้น
เหมือนเอี้ยก้วยเลย เอี้ยก้วยที่อยู่ในการ์ตูนจีนเรื่อง มังกรหยกอ่ะ ขอลายเซ็นต์ดีมั้ยวะ

ตาหวานยังคงงง และก็พบว่าคน ๆ นั้น สั่งไอศกรีมมานั่งกิน และขอช้อนมาให้ตาหวานอีกคัน

"เป็นอะไร....ชอบแบบกระเทยเหรอ...เดี๋ยววันหลังมาแบบกระเทยแล้วกันนะ"

ปลาหัวเราะออกมา เมื่อเห็นท่าทางของคนที่นั่งตรงข้ามที่ยังจ้องมองเขาตาไม่กระพริบ

"หล่อจนตะลึงเลยหรือไง....หือ"

ปากก็พูดและมือก็เอื้อมมาจับที่มือของตาหวานเอาไว้ ให้มือเล็ก ๆ นั้น ตักไอติมในถ้วยขึ้นกิน เพราะใกล้จะละลายเต็มทีแล้ว

ตาหวานก้มมองไอศกรีม ที่เริ่มละลาย แล้วก็ไม่รู้จะพูดอะไรต่อดี รู้แต่ว่ามัน มัน ทำตัว ทำตัว ไม่ถูก....ถ้าเกิดว่า
เป็นนังกระเทยปลาเน่า จะกรีดร้องใส่หน้ามัน แล้วเอาไอศกรีมราดหัว ให้มันเต้นเร่า ๆ ให้หนำใจ แต่นี่กลายเป็น
หนุ่มร่างสูง ใบหน้าหล่อเหลา ดูดีมีชาติตระกูล ตาหวานเลยไม่กล้าจะพูดอะไรเลยสักคำ

"อ่ะ...หนังสือการ์ตูน..เอามาให้...เห็นหวานบอกอยากได้อยู่...เล่มนี้เขาไม่พิมพ์ออกมาแล้วนะ"

หนังสือในถุงกระดาษ ถูกเอามาวางไว้ให้ตรงหน้าคนที่ยังเงียบอยู่ และตาหวานถึงเพิ่งรู้ว่าอะไรเป็นอะไร ด้วยวิธีการเดาที่ไม่ยากนัก

"โรคจิต...........ที่มันส่งข้อความ...บ้า ๆ พวกนั้นมา...คือ..คือ..นายงั้นเหรอ..."

คำถามถูกตอบโดยวิธีการพยักหน้ายิ้ม ๆ

"ไอ้บ้า...แกนังกระเทยหน้างิ้ว ........... แกหลอกฉันเหรอ...."

น้ำเสียงแผ่วเบา เอ่ยออกมา มันดูสงบเรียบ ผิดจากที่ปลาคิดไว้

ช่วยไม่ได้ที่เกิดมาโง่......เลยโดนล้อเล่นอยู่เรื่อยโดยไม่รู้ตัว
ผิดที่อยู่แต่ในโลกของการอ่านหนังสือการ์ตูนไปวัน ๆ และเล่นเป็นแต่เกมส์ ร้องได้แต่คาราโอเกะ
แต่ไม่เคยร้องไห้ เพราะร้องไม่เป็น

คนอื่นเขาก็คงอยากเล่นเกมส์ด้วย...........เลยแกล้งเล่นสนุก ๆ เพราะเห็นว่าตาหวานเป็นเด็ก

วันนี้ปลาเตรียมใจมาฟัง เสียงร้องแบบแสบแก้วหูของตาหวานเต็มที่ รู้แน่ว่าเด็กคนนี้ คงจะโวยวาย
แล้วเอาอะไรมาตีหน้าเขา เขาจะได้ถือโอกาส ขโมยจูบสั่งสอนเด็กบ้านั่นอีกสักที
แต่ผิดถนัด

ตาหวาน ตักไอศกรีมเข้าปาก ด้วยความเร็ว ใบหน้าเรียบเฉยสนิท ก่อนจะหยิบเครื่องเล่นเพลง ออกมา
และอุดหูเอาไว้ เดินไปจ่ายเงินที่เคาร์เตอร์ ไม่สนใจจะหยิบหนังสือการ์ตูนหายากที่เขาเอามาให้เลย
ทำเหมือนไม่มีอะไรเกิดขึ้น จนหน้ายิ้ม ๆ ของร่างสูง ต้องหุบยิ้มกระทันหัน และเดินไปจ่ายค่าไอศกรีมก่อนจะวิ่งตามออกมาแทบไม่ทัน

"ตาหวาน...เดี๋ยวก่อน...หยุดก่อน...ตาหวาน"

แม้จะเรียกสักเท่าไหร่ ตาหวานก็ไม่ได้ยินอะไรเลย และยิ่งเพิ่มความดังของเสียงเพลงนั้นให้เพิ่มขึ้น
แม้ว่าร่างสูงนั้นจะฉุดแขนเอาไว้ แต่ตาหวานไม่ได้สะบัดหนี กลับเงยหน้ามองเจ้าของใบหน้าคมนั้น
ไม่มีคำพูดอะไรออกมาเลยสักคำ นอกจากความรู้สึกที่ปลาอ่านไม่ออกเลย ว่าเด็กคนนี้คิดอะไร
มันมีแต่ความว่างเปล่า ไม่มีแววโกรธ หรือแววเคียดแค้นอะไรทั้งสิ้น เหมือนไม่มีอะไรในดวงตาหวานซึ้งคู่นั้น

และในที่สุดเขาก็ต้องปล่อยเรียวแขนเล็กนั้นให้เป็นอิสระ ปล่อยให้เจ้าตัวเขาเดินจากไป เงียบ ๆ
โดยที่ไม่รู้ว่าจะใช้วิธีไหนมาง้อเด็กคนนี้ดี

กลเม็ดวิธีการร้อยแปด ที่เขาเคยใช้ง้อขอคืนดีคู่นอนของเขา ถูกประมวลเข้ามาในความคิด
ให้ดอกไม้ ออดอ้อน เอาใจ หรือจะทำยังไงดี แต่ที่รู้ ๆ วิธีการต่าง ๆ ไม่น่าใช้ได้กับตาหวานเลย
สักวิธีเดียว

ปลายังคงยืนนิ่งอยู่อย่างนั้น และกดโทรศัพท์โทรหาตาหวาน แต่ไม่มีสัญญาณตอบรับจากหมายเลขที่เรียกเข้าไปเลย
คงจะกลับห้องแน่ ๆ ไปดักรออธิบายที่หน้าห้องคงจะทัน

ร่างสูงโบกแท็กซี่แล้วบอกที่หมายที่จะไป

"ตาหวาน....ง้อง่าย ๆ หน่อยเถอะนะ..ง้อยาก..ฉันเองก็ลำบากใจไปด้วยนะ"

ความคิดที่ไม่มีความรับผิดชอบ ว่าอีกฝ่ายจะรู้สึกโกรธมากแค่ไหน ถูกประมวลผลในหัวของร่างสูง และแสดงออกมาเป็นคำพูด

ตาหวานไม่ใช่คนช่างโกรธ แต่เป็นแค่เด็กขี้โวยวายเท่านั้น
สิ่งที่ใครหลายคนไม่รู้เลยก็คือ
เด็กขี้โวยวายงี่เง่างอแงคนนั้น
เคยโกรธกับน้องชาย ตัวเอง และไม่เคยพูดกันอีกเลย นานถึงสามปี

นี่มันอะไรกัน...ทำไมเขาถึงปฏิเสธคู่นอนคนอื่น ๆ ไปหมด และเอาแต่คิดว่าจะเอาอะไรไปเลี้ยงแมวดี เลยมาเดิน
ซื้อของที่ซุเปอร์มาเก็ตแห่งนี้ ซื้อกับข้าวอะไรตั้งมากมาย ซื้อมาทำไมเยอะแยะ วินไม่เข้าใจว่าตัวเองกำลังทำอะไรอยู่
เมื่อก่อน ข้าวที่เอาไปให้แมว เป็นอาหารแมวชนิดเม็ด ไป ๆ มา ๆ เปลี่ยนเป็นอาหารแมวชนิดซอง เริ่มดีขึ้นมาหน่อย จากอาหารซองแบบนั้น
กลายเป็นข้าวกล่อง ที่มีกับข้าวเป็นปลาทอด ปลานึ่ง เวลาไม่นาน ข้าวกล่อง กลายเป็น ข้าวที่มีกับข้าว บางครั้งมีก๋วยเตี๋ยว มีข้าวหมกไก่ ไปโน่น
บางวันมีนม มีน้ำผลไม้ เป็นของแถมซะอีก และปัจจุบันมันพัฒนากลายเป็นปิ่นโตแบบเถา ที่มีกับข้าวหลายอย่าง รวมทั้งขนมหวาน หรือผลไม้เพิ่มเข้าไปด้วย

ปลาเคยถามว่าเขาจะเอาของกินไปไหนนักหนา เขาดันตอบว่าเอาไปเลี้ยงแมว และเพื่อนก็ทำหน้างง ๆ

วินเองก็ไม่เข้าใจว่าทำไมต้องเลี้ยงแมว แบบนี้ด้วย แมวที่เลี้ยงไว้ ขี้อ้อน จนอยากไปหาทุกวันเร็ว ๆ เพราะคิดถึง และอยากไปลูบหัวทุกวัน
วันก่อนตัวเล็กทำให้เขากลั้นยิ้มเอาไว้ไม่ไหว เมื่อเจ้าแมว มีหูงอกออกมา และมีกระดิ่งห้อยคอเสียงดังกรุ๋งกริ๋ง แมว ทำตาแป๋ว ๆ และคลอเคลียเล่นกับเขา
และเขาก็เห็นว่าแมวที่เลี้ยงน่ารักดี ตัวเล็กเป็นแมวของเขาคนเดียว

บางครั้งเดินสวนกันไปมา กับแคป ในชมรมว่ายน้ำหรือโรงอาหาร เขาก็อยากจะพูดคุยด้วย
แต่ตอนนั้นมันเหนือกฎที่ตั้งไว้ ทำให้เขาไม่สามารถที่จะไปพูดคุยอะไรกับแคปได้เลย

"ตาหวานอันนี้หละมั้ง...อันนี้น่ะอร่อย...กูเคยกิน มันเป็นช็อคโกแลตถั่วเว้ย"

เสียงของใครคนหนึ่งเอ่ยอยู่ที่ล็อคถัดไป และตาหวานก็เกิดความงง ไอ้แคปกินช็อคโกแลต แถมรู้อีกต่างหากว่าข้างในเป็นถั่ว
ไอ้โง่นี่ก็โง้ โง่ เขาเรียกอัลมอนด์ ไอ้แคปดันเรียกว่าถั่ว คนกินขนมเด็กอย่างตาหวานรู้ดี แค่มองซองก็รู้แล้วว่าอันไหนอร่อย

"กินตอนไหนวะ...ไม่ยักบอกกูเลย..." ตาหวานเอ่ยถามเพื่อน และแคปก็หันมายิ้มก่อนจะก้มหน้าลงมาบอกเพื่อนที่ข้างหูเสียงเบา

"เจ้าของกูซื้อให้กิน....อร่อยมากเลยมึง..อย่าเอ็ดไป"

แคปหัวเราะร่า ก่อนจะหยิบช็อคโกแลตแท่งใส่ตระกร้า เดินลากตาหวานให้เดินตามมาด้วยกันอย่างมีความสุข
เพื่อไปหาขนมกินที่ล็อคถัดไป

วิน...ยืนมองนิ่ง....

เขาลืมไป ว่าตาหวาน และแคปเป็นแฟนกัน.....ที่กระซิบกระซาบกันหวานแหววแบบนี้ก็เป็นเรื่องธรรมดาของคู่รัก

วินยกโทรศัพท์ขึ้นกดหาหมายเลขที่ยังปรากฎอยู่ในเครื่อง อย่างช้า ๆ

ก่อนจะกรอกเสียงลงไป

"เอ็กเหรอ......ว่างมั้ย...คืนนี้มาเจอกันหน่อยสิ....ไม่เจอกันนาน ๆ ก็คิดถึงนะสิ...หรือว่านายไม่คิดถึงฉันกันล่ะ"

วินหัวเราะอย่างเสแสร้ง พูดคุยกับเจ้าของหมายเลข ก่อนจะกดวางเมื่อนัดสถานที่นัดพบกันเรียบร้อยแล้ว

ร่างเพรียวบางนำของที่ซื้อไปเก็บที่ และเดินตัวเปล่า ไม่ซื้ออาหารที่จะเอาไปเลี้ยงแมว เหมือนเช่นทุกวัน

TBC.....

ออฟไลน์ kamui1972

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 278
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +186/-0
ปริศนาอักษรไขว้.....หัวใจยุ่งเหยิง 14

หิวจะตายอยู่แล้ว...นี่มันจะสี่ทุ่มแล้วนะ พี่วินนะพี่วิน ทิ้งแมวที่เลี้ยงแบบนี้ได้ยังไงไม่มีความรับผิดชอบเลย
วันทั้งวัน ยังไม่ได้กินอะไรเลย รออาหารจากพี่วิน จะเป็นลมอยู่แล้ว จนต้องควักยาดมมาดม
เพราะแทบจะทนกับความหิวไม่ไหว ดูสิ ฝนก็ตั้งเค้ามาแล้วด้วย
แต่รออีกนิดดีกว่า เดี๋ยวพี่วินคงจะมา ไม่น่าจะเบี้ยวหรอก

พี่วินก็รู้นี่นาว่าตัวเล็ก รอกินข้าวอยู่
ถ้าพี่วินไม่มาเขาคงต้องอดข้าวตายอยู่นี่แน่ ๆ เลย พี่วินนะพี่วิน
หิวจะตายอยู่แล้ว

แคปนั่งตบยุงและบิดไปบิดมา เพราะรอกินข้าว แต่เจ้าของดูท่าจะไม่ยอมมาสักที
ปล่อยให้แมวตัวนี้คอย แล้วคอยเล่า

แคปอดสงสัยตัวเองไม่ได้ ทั้งที่ไปซื้อของกินกับไอ้ตาหวานมากมาย
แต่เขาไม่อยากกินอะไรเลยและก็ไม่ได้แตะอะไรสักคำ
ทุกวันก็เป็นแบบนี้ กินข้าวที่พี่วินซื้อให้ โดยไม่ได้แตะอาหารอื่นเลยสักนิด
เป็นแบบนี้มาเป็นเดือนแล้ว พี่วินจะรู้หรือเปล่านะ

แคปรู้สึกหิวจนแสบไส้ หิวจนปวดท้อง
แต่วินก็ไม่มาซะที ชะเง้อคอ รอแล้วรอเล่า ก็ไม่มีวี่แววของพี่วิน
เขาต้องรออีกสักหน่อย เดี๋ยวพี่วินก็มา เดี๋ยวพี่วินคงจะมา แต่ยิ่งรอก็ไม่เห็นแม้แต่เงาของพี่วินเลย

แมว ยังนั่งรอเจ้าของที่เก้าอี้ตัวเก่า ด้วยความหวังว่าเจ้าของจะมาหา จะเอาข้าวมาให้กิน
แต่แคปลืมคิด ตอนนี้เขาเป็นแมวจรจัด บางครั้งก็ต้องทำตัวให้ชิน เวลาที่ไม่มีใครมาดูแลมาสนใจ

++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++

ฝนที่ตกอย่างไม่ลืมหูลืมตา ทำให้วินต้องรีบคว้าร่มรีบวิ่งออกจากห้อง ด้วยจิตใจพะว้าพะวง
เขาเพิ่งกลับจากการไปพบกับใครคนหนึ่งที่เป็นคนที่ชวนเขาอยู่บ่อย ๆ เพราะว่าร่างกายเข้ากันได้ดี
เขาจึงได้นัดเจอคน ๆ นั้น เพราะอีกฝ่ายไม่ได้เรียกร้องอะไรมากมาย
มีอะไรกันเรียบร้อยก็ต่างคนต่างแยกกันไป เขาคิดว่าวันนี้รู้สึกสนุกและสะใจที่สุด
ที่ได้แก้แค้นรุ่นน้องคนนั้น

แคปมีแฟนได้

เขาก็มีคู่นอนที่เข้ากันได้เหมือนกัน ยิ่งคิดยิ่งสะใจ ยิ่งคิดยิ่งอารมณ์ดี

แต่สุดท้ายไม่รู้ว่าทำไม เขาจึงเดินเข้าไปในร้านสะดวกซื้อและซื้อข้าวกล่องออกมาหนึ่งกล่อง
ให้พนักงานอุ่นให้เรียบร้อย และกางร่มเดินไปที่ใต้ต้นไม้หลังตึกที่ ๆ ตัวเล็กอยู่เป็นประจำ

ร่างเพรียวบางนั้นแค่นยิ้มออกมา อย่างนึกสมเพชตัวเอง ที่ไปเดินหาเจ้าแมวตัวนั้น
ทั้งที่ป่านนี้เจ้าหมอนั่นคงนอนหลับสบายอยู่บนเตียงนุ่ม ๆ และมีความสุขแล้ว
เขาสาบานกับตัวเอง
ถ้าเขามาแล้วไม่เจอรุ่นน้องที่เล่นเป็นแมวคนนั้น

ต่อไป เขาจะไม่มาที่นี่อีกเลย

เขารู้คำตอบดี ถึงได้มาให้เห็นกับตา ว่ามาแล้วยังไงก็ไม่มีทางเจอกับแคปแน่ ๆ
แล้วต่อไป เขาจะไม่สนใจเลี้ยงแมวอีก
จะไม่เอาความรู้สึกผูกพันธ์ไปมอบให้ใคร
เพราะนอกจากความขุ่นข้องหมองใจ และต้องเจ็บปวดซ้ำ ๆ แล้ว
เขาไม่เคยได้รับอะไรกลับมาเลย

++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++

ร่างที่นั่งอยู่ท่ามกลางสายฝนที่เทกระหน่ำในยามดึก ทำให้วิน ที่กำลังอมยิ้มเยาะหยันตัวเอง
ต้องยืนนิ่งอยู่อย่างนั้น
เมื่อเขาได้เห็นว่าใครคนหนึ่ง
กำลังกอดตัวเองด้วยความหนาวสั่นท่ามกลางสายฝน
คน ๆ นั้นกอดตัวเองไว้แน่น และเงยหน้ามองสายฝน พร้อมกับชะเง้อคอ เหมือนกับรอคอยใครสักคนอยู่

วิน รีบวิ่งเข้าไปหาด้วยความร้อนใจ ความห่วงใย ทวี ขึ้นอย่างห้ามไม่อยู่
และรีบเอาร่มไปกางให้กับร่างสูง ที่ค่อย ๆ เงยหน้าขึ้นมองเขา พร้อมกับส่งยิ้มแห้ง ๆ มาให้

แมวไม่ได้พูดอะไรออกมาสักคำ นอกจากแสดงท่าทางดีใจ ที่เห็นเจ้าของ แถมซ้ำยังกอดเอวบางนั้นแน่น
เพื่อหาไออุ่น

ความรู้สึกผิด แล่นเข้ามาในหัวใจ ก่อนจะกรัดกร่อนกำแพงสูงที่เคยตั้งตระกานให้ทลายลงอย่างช้า ๆ

"หิวจะตายอยู่แล้ว....ถ้าเจ้าของทิ้งไป ผมคงต้องตายแน่ ๆ "
ร่างสูงนั้นเงยหน้าขึ้นมองคนที่ยืนอยู่ และเอ่ยบอกออกมาเสียงสั่น
กัดฟันระงับอาการสั่นสะท้านของร่างกายเอาไว้ เพราะความหนาวเหน็บ

หัวหมุนไปหมด หิวจนเลิกหิว หิวจนแสบท้อง หิวจนหายหิวไปเลย

แต่แค่แมวได้เห็นหน้าเจ้าของ ก็ทำให้แมว มีความสุข ได้

ข้าวกล่องถูกแกะออกจากถุง โดยมีแมวถือร่มให้เจ้าของ

และเจ้าของค่อยตักข้าวป้อนแมวอย่างช้า ๆ ด้วยมือที่สั่นระริก พร้อมหยาดน้ำตาที่รินไหล

แมวที่เลี้ยงไว้ ไม่รู้ว่าเจ้าของเป็นอะไร รู้แต่ว่า เขาดีใจ ที่เจ้าของเอาข้าวมาให้กิน

แมวนั่งเคี้ยวข้าวตาแป๋ว ไม่ได้รู้เลยว่าเจ้าของแมว ผิดคำสัญญาไปหาใคร ๆ มาแล้ว ถึงได้กลับมาหาแมวที่ทนหนาวนั่งรอเจ้าของท่ามกลางสายฝนแบบนี้

ข้าวในกล่องที่เจ้าของป้อนให้ด้วย ความรู้สึกเจ็บปวดหัวใจอย่างถึงที่สุด ถูกป้อนเข้าปากแมวจนหมดเกลี้ยง

และเมื่อวางกล่องข้าวลง เจ้าของแมว ก็โผเข้ากอดแมวที่ตัวเองเลี้ยงไว้ ก่อนจะร้องไห้สะอีกสะอื้นด้วยความเสียใจ
ที่ทิ้งให้แมว ต้องตากฝน และหิวแทบตายแบบนี้

แคปไม่รู้ว่าพี่วินเป็นอะไร จู่ ๆ ก็โผเข้ามากอดเขาไว้แน่น
แล้วยังร้องไห้ไปด้วยอีก เขาทำให้พี่วินโกรธหรือเปล่า เขาก็ไม่รู้

เขาอยากจะกอดตอบก็กอดตอบได้แค่มือเดียว เพราะอีกมือ ถือร่มอยู่

พี่วิน เงยหน้าขึ้น และ แตะปลายจมูกเข้าหาที่ปลายจมูกของเขา

ก่อนจะเอ่ยบอกเสียงเบา ด้วยน้ำเสียงที่สั่นสะท้านจนระงับไว้ไม่อยู่

"ฉันผิดคำสัญญากับนายแล้วแคป....ฉันไปกับผู้ชายคนอื่น...ทิ้งให้นายต้องทนหิวข้าวและตากฝน
นายจะเลิกเป็นแมวของฉันวันนี้เลยก็ได้...เพราะฉันไม่มีค่าพอให้นายต้องมาเสียเวลาแบบนี้
ในอีกไม่ช้า..ไอ้คนมั่วไม่เลือกหน้าอย่างฉัน...คงไปกับคนอื่น ๆ อีกมากหน้าหลายตา และก็อาจ
ทิ้งให้นายนั่งหิวข้าวจนตายก็ได้....เพราะฉะนั้น....ต่อไปนายไม่ต้องเป็นแมวของฉันอีกแล้ว...
นายไปซะเถอะ.....นายไปซะ"

แคปไม่เข้าใจที่พี่วินพูด แต่เมื่อเห็นร่องรอย แดงช้ำที่ลำคอเนียนขาวนั้นเขาก็เข้าใจได้ในทันที

พี่วินสะบัดหนีเขา และลุกขึ้นยืนเตรียมจะก้าวเท้าหนีจากเขาไปแล้ว

ร่างสูงปล่อยให้น้ำตาไหลลงมาอย่างช้า ๆ ด้วยความร้าวรานหัวใจ

"พี่วิน....ถึงพี่วินจะไปไหน กับใคร ๆ อีก...แต่ผมจะไม่มีวันทิ้งพี่วินไปไหนอีกเลย
ถ้าผมต้องตายเพราะความหิว...ผมก็จะตายอยู่ที่นี่....ถ้าพี่วินไม่มา ผมก็จะรอ
ให้ผมรอไปอีกกี่ปีผมก็จะรอ....ถึงพี่วินไปกับใคร ๆ อีก ผมก็จะรอ...รอให้พี่วินเบื่อและรอวันที่พี่วินจะกลับมาหาผม
และเอาข้าวมาให้แมวตัวนี้กิน....."

ร่มถูกปล่อยให้ปลิวหายไป ท่ามกลางสายฝนที่โหมกระหน่ำ

พร้อมกับที่ร่างสูงนั้นกอดรัดเรือนร่างเพรียวบางที่ยืนอยู่ท่ามกลางสายฝนนิ่ง
แคปซบหน้ากับแผ่นหลังอบอุ่นนั้น และพร่ำพูดแต่ประโยคซ้ำ ๆ

"ผมรักพี่วิน...ถึงพี่วินมีใคร ๆ ผมก็รักพี่วิน...ถึงพี่วินไม่มา..ผมก็จะรอ..."

คำพูดที่ชาตินี้คนอย่างวิน ไม่เคยได้รับจากใคร และปราถนาอยากจะได้ยิน ถูกถ่ายทอดจากปากของแมวที่เขาเลี้ยงไว้
น้ำแข็งที่เคยเกาะกินหัวใจ ถูกละลายเพราะไออุ่นของคนที่ถ่ายทอดความรู้สึกมาให้

วินสะอื้นไห้เสียงเบา เขามันคนไม่มีค่า ที่จะให้แคปมารักได้หรอก แม้ปรารถนาจะมีใครสักคนที่รักและเข้าใจ

แต่แคปเป็นคนดีเกินไป ดีจนเขากลายเป็นของสกปรกที่ไม่คู่ควร และไม่อาจจะทำให้คนที่กอดเขาไว้แปดเปื้อนกับความโสมมของเขาไปด้วย

"ฉันไม่มีค่าพอให้นายมารักหรอก...ไม่มีค่าเลย...ฉันน่ารังเกียจ...ฉันมันน่ารังเกียจเกินไป....นายไปหาคนที่เขาดีกว่าฉันเถอะนะ...."

แม้ปากจะผลักไสให้คนที่ก้าวข้ามผ่านกำแพงมาได้ให้ออกห่าง แต่ในใจที่เคยเย็นชาของวินตอนนี้
มีแต่ความอบอุ่นลึกล้ำ เพราะถูกเติมเต็ม เขาไม่อยากครอบครองคนดี ๆ แบบนี้ไว้ แค่ได้รู้สึกว่ามีคนรัก
และรอคอย เพียงเท่านี้เขาก็พอใจแล้ว และไม่ได้หวังอย่างอื่นอีก

"พี่วิน..จะทิ้งผมจริง ๆ ด้วย....ดีแล้วพี่วิน...พี่วินทิ้งผมไปเลย...ไม่ว่ายังไงทุก ๆ วัน ผมจะนั่งรอพี่วินอยู่ตรงนี้
พี่วินไม่มา ผมก็จะไม่ไปไหนหรอกคอยดูสิ....พี่วินจะไปไหน ๆ กับใครก็ไปเถอะ...ทิ้งแมวจรจัดตัวนี้ให้หิวตายไปเล้ย"

เจ้าแมว งอแง เล่นแง่กับเจ้าของ จนทำให้วินรู้สึกอ่อนอกอ่อนใจ

แมวตัวโต เดินไปนั่งหน้างอร้องไห้สะอึกสะอื้นอยู่ที่เก้าอี้ม้าหิน แม้จะเรียกให้ลุกขึ้น แม้จะบอกให้ตัดใจแค่ไหน
เจ้าแมวจรจัดก็ไม่มีทีท่าจะยอมลุกสักที
จนในที่สุด วินเองที่เป็นฝ่ายทนเห็นอีกฝ่าย นั่งเปียกฝนหนาวสั่นนั้นไม่ไหว

"ตัวเล็ก...เมี้ยว...เมี้ยว..เมี้ยว...ไปกับเจ้าของเถอะนะ...เจ้าของจะหานมอุ่น ๆ แล้วก็จะหาเสื้อผ้าให้เปลี่ยน
นะตัวเล็กนะ....ตัวเล็กอย่าดื้อ ให้เจ้าของต้องเป็นห่วงมากกว่านี้เลย"

วินเดินเข้ามานั่งมอง เจ้าแมวขี้แยกว่าเขา ที่ยอมลุกยืนได้ และจับมือเขาไว้แน่นไม่ยอมปล่อย

วิน...ผู้ไม่เคยได้รับความรัก...คิดแต่วิธีกำจัดแมวจรจัดที่เดินตามหลังเขาต้อย ๆ

แม้จะดีใจมาก ที่มีใครสักคนมาให้ความห่วงใย

แต่สิ่งที่เขาคิดก็คือ ตัวเองไม่มีค่าพอ และไม่คู่ควรกับแคปเลยสักนิดเดียว

TBC...

mantdash

  • บุคคลทั่วไป
เหมียว เหมียว น่ารักมากมายครับ  :impress2: +1 ให้กับคนขยันครับ

ออฟไลน์ HaLF333

  • เป็ดแสนดี
  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 635
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +57/-1
มาอีกเรื่องแล้ว..
เย้ๆๆ  :mc4:


สงสารวินจัง สงสารแคปด้วย...
เปิดอกคุยกันไปเลยดีมั้ย..
เอาใจช่วย สู้ๆ..
 :L2:

คู่ของปลา-ตาหวาน..
เหมือนจะฮา แต่ท่าจะไม่ใช่แระ..
ปลาจอใช้วิธีไหนง้อตาหวานหนอ..
 :เฮ้อ:

+1 ขอบคุณคามุยจังค่ะ..
 :pig4:

ขอบคุณคุณเท็นด้วยค่ะ..
 :L1:

ออฟไลน์ kamui1972

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 278
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +186/-0
ปริศนาอักษรไขว้.....หัวใจยุ่งเหยิง 15

“วันนี้ไม่กลับนะ....กำลังตามง้อเด็กอยู่...วันนี้ถ้าไม่ออกมาคุยกันให้รู้เรื่องก็ว่าจะไม่กลับ...เด็กอะไรไม่รู้นะวิน
ดื้อชะมัด....เราตื้อมาเป็นชาติแล้ว...ไม่ยอมชอบเราขึ้นมาสักนิดเลย”

ปลานั่งบ่นกับเพื่อนอยู่ที่หน้าห้องของตาหวานก่อนจะวางโทรศัพท์และนั่ง คิด เขาหมดหนทางกับเด็กคนนี้แล้วจริง ๆ ไม่โมโห ไม่โวยวาย ซื้อขนมมาให้ ซื้อการ์ดกระดาษมาให้ พาไปร้องเพลง ตาหวานก็ไป....แต่..ทำเหมือนเขาเป็นอากาศ ทำอะไรก็ทำอยู่คนเดียว พอเขามาส่งที่ห้องเด็กคนนี้ก็เดินเข้าห้องล็อคประตู ทำเหมือนว่าเขาเป็นอากาศธาตุก็ไม่ปานขนาดเคาะประตูแบบกระหน่ำเหมือนเมื่อ ก่อนแล้ว แทนที่จะเปิด แต่คนข้างห้องดันเปิดประตูออกมาด่าเขาแทนตาหวานไปซะอย่างนั้น นี่เขาจะเป็นบ้าตายเพราะเด็กคนนี้อยู่แล้ว

พอแตะตัวเข้าหน่อย ถึงได้ทำเหมือนเห็นเขามีตัวตน แต่ไอ้แววตาที่แสดงออกมา ไม่บ่งบอกความรู้สึกว่าโกรธหรือเปล่า เขาก็ไม่สามารถรับรู้ได้ ว่าตาหวานรู้สึกแบบไหน

เคยคิดว่าจีบเด็ก จะง่าย เพราะเด็กไม่มีเล่ห์เหลี่ยม ตามผู้ใหญ่ไม่ทัน และก็คงเข้าหาได้ง่าย
แต่เด็กอย่างตาหวานนี่ เขาแทบอยากยกธงขาวยอมแพ้ ตั้งหลายรอบ

แล้วนี่เขาเป็นอะไรไปน่ะ....ถูกใจก็เลยลองจีบดูสนุก ๆ แค่นั้น ไป ๆ มา ๆ เกิดอยากเห็นหน้าทุกวัน หลัง ๆเริ่มหนัก ตั้งแต่ได้แตะไปนิดเดียว เขายิ่งอยากเข้าใกล้ไม่อยากให้ห่างตัว เด็กอะไรช่างไร้เดียงสาได้ร้ายกาจสุด ๆ
คนที่จะเป็นบ้าตายนี่มันเขาแล้วล่ะ

ตอนนี้เขาไม่ขออะไรเลย ขอแค่ให้ตาหวานพูดอะไรกับเขาสักประโยคก็ยังดี แต่นี่ทำเหมือนเขาไร้ตัวตนไปได้
ปลาเคยคิดว่าจะเลิกง้อตั้งหลายรอบ คนอย่างเขาน่ะหรือต้องมาตามง้อให้เด็กปากไม่สิ้นกลิ่นน้ำนมอย่างตาหวานยอม คืนดีด้วย นี่มันไม่ใช่ตัวเขาเลยสักนิด ยอมรับว่าชอบมาก เหมือนอยากเอาชนะ ไม่ได้ก็ต้องได้
ตอนแรกคิดว่าเล่น ๆ สนุก ๆ ถ้าได้ถือเป็นกำไร แต่ถ้าไม่ได้เขาก็ไม่ขาดทุน แต่นี่เขาขาดทุนย่อยยับเลยนะ
เพราะดันไปหลงเด็กบ้านั่นหัวปักหัวปำ จะเอายังไงต่อก็ยังไม่รู้ ง้อมาก ๆ ความอดทนก็ชักจะหมดเหมือนกัน

ร่างสูงนั้นส่ายหน้าด้วยความเบื่อหน่ายตัวเอง ก่อนจะลุกขึ้นยืนและก้าวออกจากหน้าห้อง ไปนั่งสูบบุหรี่อยู่ที่บันไดหนีไฟ และในเวลาไม่นาน เขาก็เห็นว่าเด็กบ้านั่นเปิดประตูห้องออกมา และทำหน้า.....

หน้าเศร้า ๆ เหมือนกับโมโห และไม่พอใจอะไรสักอย่าง และก็ยืนนิ่งอยู่อย่างนั้นเป็นนาน ก่อนจะถอนหายใจยาวและเดินลงไปที่ทางเดิน โดยมีร่างสูงแอบเดินตามไปเงียบ ๆ
โดยที่เจ้าตัวเขาไม่รู้เลย ว่ากำลังถูกเดินตามอยู่.......

ตาหวานเดินมุ่งหน้าไปร้านคาราโอเกะแบบหยอดเหรียญที่เจ้าตัวชอบไปเป็นประจำ

แต่แทนที่ตาหวานจะร้องเพลง กลับเดินเข้าไปเปิดเพลง แล้วก็ตะโกนด่าใครคนหนึ่ง

ปลาที่ยืนแอบฟังอยู่ได้ยินชัด จนกลั้นหัวเราะไว้ไม่อยู่

“ไอ้กระเทยบ้า...ไปตายซะ....เกลียดแก...ไอ้บ้าปลา..โว้ยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยย เกลียดโว้ยยยยยยยยยยยย
อ๊ากกกกกกกกกกกกกกกกกกก “

และอีกหลายร้อยคำด่าที่ทำให้ร่างสูงนั้นต้องนั่งหัวเราะเพราะความขำ

ตาหวาน.....เด็กบ้านี่...จะทำตัวน่ารักไปถึงไหนเนี่ย ที่ไม่พูดกับเขาทั้งวันก็เก็บกดเหมือนกันเหรอเนี่ย

แหม ตัวเขาเองก็นึกว่าไม่ได้รู้สึกอะไรซะอีก ที่ไหนได้ ..........ขำชะมัด ทั้งขำทั้งตลก
ไอ้ที่เคยรู้สึกหงุดหงิดโมโหอยู่ หายเป็นปลิดทิ้ง อย่างนี้มันต้องง้อต่อ....ปล่อยไปได้ไง เดี๋ยวคนอื่นก็มาเห็นความน่ารักของตาหวานกันพอดี

แล้วดูสิ อะไรของเขาอีกล่ะนั่น ตะโกนด่าจนหนำใจแล้วก็....ไอ้ท่าเต้นแปลก ๆ นั่นมันอะไรกัน โอ้ย...เขาคงหยุดขำไม่ได้แล้วเนี่ย...เด็กอาร๊าย ทำให้หัวเราะได้ไม่มีหยุดเลย ทำไมถึงได้ขำขนาดนี้นะเนี่ย

คนที่เป็นผู้ใหญ่กว่า แอบนั่งหัวเราะอยู่ในตู้คาราโอเกะอีกห้อง ที่สามารถมองเห็นอีกฝ่ายได้ลาง ๆ และถ้าตั้งใจฟังดี ๆ ก็จะได้ยินเสียงของห้อง ถัดไปที่เยื้องกันไม่ห่างมากนัก แล้ว.....หลังจากนั้นเด็กบ้านั่นก็.....

หยุดร้องเพลงโวยวาย และก็เปลี่ยนเป็นนั่งเงียบ ๆ ก้มหน้านิ่ง ทั้งที่เพลงที่เปิดมันดังสนั่นขนาดนั้น

ตาหวาน....กำลังยกมือขึ้นปาดน้ำตาของตัวเอง และเงยหน้าขึ้น เพื่อให้น้ำตาไหลกลับ

ก่อนจะนั่งซึมอยู่อย่างนั้น

ความตลกขบขัน กลายเป็นความสงสาร เขาไม่รู้ว่าเด็กบ้านั่นก็รู้สึกเสียใจ ร้องไห้เป็น
เรื่องที่ทำไว้มันไม่ได้หนักหนาสำหรับเขา แต่คนที่ถูกกระทำ คงจะรู้สึกแย่มาก เหมือนกับว่าเขาไปล้อเล่นกับตาหวานสนุก ๆ แล้วอยู่ดี ๆ เกิดอยากบอกอะไร เกิดอยากทำอะไรขึ้นมา ก็ทำตามใจตัวเอง
ก็เขาเองไม่ใช่เหรอ ที่ไปแกล้ง เด็กคนนั้น เล่น แกล้งจีบ เพราะนึกสนุก
แค่ง้อให้ตาหวานดีด้วย ไม่กี่สัปดาห์ก็ท้อซะแล้ว แบบนี้จะเรียกว่ารักจริงได้ยังไงกัน

รักจริงได้ไง.....

รักจริงงั้นเหรอ

ชอบน่ะก็ชอบอยู่

แต่ว่ารัก....เขารักไอ้เด็กเสียงแสบแก้วหู ขี้โวยวาย แล้วยัง สะสมการ์ดการ์ตูน วัน ๆ กินแต่ขนม ฟังแต่เพลง
ไม่เป็นโล้เป็นพายนั่นน่ะเหรอ

และมิหนำซ้ำเขายังรู้อีกว่า วัน ๆ เด็กบ้านั่นทำอะไร ไร้สาระบ้าง อีก
นี่...........เขาสนใจไปถึงชีวิตประจำวันของเด็กนั่นด้วยเหรอเนี่ย

เห็นทีจะปล่อยให้นั่งร้องไห้แบบนั้นไม่ไหวแล้ว.....ไม่ไหว จริง ๆ

ประตูห้องคาราโอเกะถูกเปิดออกแล้ว พร้อมกับเด็กแสบที่เดินออกมาอย่างเหงาหงอย

ร่างสูงเดินเข้าไปหา และจับข้อมือเล็ก ๆ นั้นไว้ทันที

แต่ตาหวานที่หันมามองหน้าเขา กลับทำหน้าเฉย.....
อย่านะ...อย่ามายั่วให้เขาโมโหหน่อยเลย
ทำเหมือนไม่โกรธ ทำเหมือนไม่ใส่ใจ ทำเหมือนไม่คิดอะไร แต่เมื่อกี้แอบร้องไห้อยู่เห็น ๆ

“ตาหวาน...เดี๋ยว...เดี๋ยวจะพาไปซื้อหนังสือการ์ตูนนะ....เพิ่ง...เพิ่ง ออกเล่มใหม่...แล้วเดี๋ยวจะพาไปเดินเที่ยว”

ปลาไม่รู้ว่าตัวเอง พูดบ้าอะไรออกไป เขาทำเหมือนกับว่าตาหวานเป็นเด็กอนุบาล พาไปเที่ยวเล่น พาไปกินขนม

เขาไม่รู้ว่าตาหวานก็ต้องใช้ความอดทนทุกวันเช่นกัน

และวัน ๆ ร่างนั้นก็เอาแต่คิดว่าไอ้บ้านี่เห็นว่าตัวเองเป็นเด็กจริง ๆ ด้วย
ชอบพาไปซื้อขนมกินบ้างล่ะ เอาของเล่นปัญญาอ่อนมาหลอกบ้างล่ะ แต่ละอย่างที่พาไป
ไปสวนสนุกอย่างงี้ พาไปซื้อหนังสือการ์ตูนอย่างงี้ แต่ละอย่าง แต่ละที่ที่พาไป เห็นตาหวานป็นเด็กอนุบาลหรือยังไงกัน.....ไม่ได้เด็กขนาดนั้นซะหน่อย ไอ้บ้านี่คิดอะไรของมัน
แล้วอย่างนี้จะไม่ให้โกรธได้ยังไง.....
พาไปกินข้าวใต้แสงเทียนน่ะ มีมั้ย

พาไปขับรถเล่น น่ะ มีมั้ย

พาไปดูหนังก็เคยพาไป แต่พาไปดูการ์ตูน แล้วตาหวานกำลังงอนอยู่ จะบอกว่าไม่ดูก็ไม่ได้อีก
ไอ้ปลาเน่าเอ้ย......

ก็...จริง ๆ ก็ชอบให้...ให้จูบ...ให้กอด....

แต่พอมองหน้าร่างสูงนั้นแล้ว หมอนั่นดันทำเหมือนรังเกียจ แล้วก็ไม่ยอมทำอะไรเลยสักนิด
คนไม่เคยทำ แทนที่จะสอน จะทำให้ชิน แต่นี่อะไร ทำเหมือนรังเกียจกันไปได้ โธ่เอ้ย

ร่างสูงนั้นไม่ได้รู้เลยว่าเด็กที่เขาจูงแขนเดินพามาด้วยกันหายโกรธเขาตั้งแต่วันแรกที่ซื้อขนมมาง้อแล้ว
และตอนนี้ไม่ได้โกรธ แต่งอน และกลัวเสียฟอร์ม
ก็เลยไม่ยอมพูดกับเขาแค่นั้น แต่ คนเป็นผู้ใหญ่ ก็คิดอะไรเป็นผู้ใหญ่ คิดอะไรสลับซับซ้อนไปหมด
ทั้งที่เด็ก คิดอะไรแค่นิดเดียว ไม่ต้องแปลค่า....แต่ผู้ใหญ่กลับไม่เข้าใจอะไรเลยซะอีก

ตาหวาน ปล่อยให้ร่างสูงนั้นเดินจูงแขนมาที่ร้านหนังสือการ์ตูน ปลาทำทีเป็นเลือกหนังสือ และเหมือนบังคับกลาย ๆ ให้ตาหวานเลือกด้วย แต่ร่างนั้นกลับหันมามองหน้าเขาแบบเซ็ง ๆ และเดินหนีออกจากร้านทันที
จะให้ซื้อบ้าอะไร หนังสือที่ออกสัปดาห์นี้น่ะ ซื้อไปหมดแล้ว เล่มใหม่ยังไม่เข้าเลย จะให้ซื้ออีกแล้วหรือไง

ทั้งที่เดินกลับไปด้วยกัน แต่เด็กก็งอนไม่เลิก

ไม่ได้นึกรังเกียจเลยสักนิด แต่ก็อายที่จะยอมรับว่าชอบตั้งแต่ถูกขโมยจูบแรกไปตั้งแต่ครั้งนั้น
ตาหวานเฝ้าแต่บอกตัวเองว่าเกลียด ว่าโมโห และไม่คิดอะไร แต่ทุกวันที่ปลาไม่มาหา เขาก็เหงา
และรอคอยจะได้เจอกัน

ร่างสูงรีบวิ่งตาม เด็กที่เอาเพลงมาอุดหูไม่ยอมฟังเขาพูดอีกแล้ว....ก็เป็นแบบนี้ทุกที
เป็นอยู่ทุกวัน...ไม่เคยฟัง ไม่เคยแสดงท่าทางอะไรออกมา จนเขาเดาไม่ถูกแล้ว ว่าตาหวานจะเอายังไงแน่
จะดีกับเขาหรือยัง หรือว่ายังโกรธอยู่

เดินมาด้วยกัน จนกระทั่งถึงหน้าห้องของตาหวาน ร่างนั้นก็ไขกุญแจห้อง ทำเหมือนเขาไม่มีตัวตนอยู่เช่นเคย

ก่อนที่ตาหวานจะเดินเข้าห้อง เขาจึงยื่นหนังสือให้หนึ่งเล่ม และมันถูกเก็บไว้ในถุงกระดาษ

ตาหวานก็รับหนังสือเขาเหมือนเคย ให้อะไรก็เอา ให้อะไรก็รับ แต่ไม่ยอมพูดกับเขาแค่นั้น

ปลาเดินจากไปแล้ว เมื่อตาหวานเดินเข้าห้อง และล็อคห้องไว้เรียบร้อย
ร่างบางเดินมานอนลงบนเตียง ด้วยความเบื่อหน่าย ก่อนจะแกะหนังสือออกมาจากถุงกระดาษ

ไม่พ้นการ์ตูนอีกนั่นแหละ ไม่รู้จะซื้อการ์ตูนให้ไปถึงไหน
แต่ครั้งนี้ตาหวานคิดผิด.....

เมื่อเห็นภาพสีหวานจากหนังสือเล่มสวย

......คุณครับ...อย่าร้องไห้....

เป็นชื่อหนังสือที่ร่างสูงนั้นส่งมาให้......ตาหวานที่กำลังเบื่อหน่าย กลับยิ้มออกมาด้วยความเขินอาย
บ้า....ซื้อหนังสือแบบนี้ให้ได้ยังไง...เป็นผู้ชายนะเว้ย...ซื้อหนังสือบ้า ๆ แบบนี้ให้อ่าน ใครอ่านก็บ้าล่ะวะ

ทั้งที่คิดอย่างนั้น

แต่คนบ้าอย่างตาหวาน ก็เปิดหนังสือเล่มนั้นอ่าน...อย่างเพลิดเพลิน พร้อมกับอมยิ้มเมื่ออ่านถึงหน้ากลางของหนังสือ

กระดาษแผ่นเล็ก ๆ ถูกดึงออกมาอ่าน

.....ตาหวานเด็กบ้า....เมื่อไหร่จะหายโกรธซะที....แง แง....

ร่างบางหัวเราะอย่างถูกใจ เมื่อท้ายกระดาษมีภาพการ์ตูนเป็นรูปปลาตัวเล็ก ๆ ที่ทำท่าร้องไห้อยู่

“หายโกรธตั้งนานแล้วไอ้บ้า....อยากไม่สังเกตเอง..สมน้ำหน้า..ช่วยไม่ได้”

ตาหวานนอนกลิ้งไปกลิ้งมา พร้อมกับอ่านข้อความนั้นซ้ำอีกหลายรอบ
อ่านหนังสือจนหมดจบเล่มแล้วก็อ่านซ้ำอีก

พรุ่งนี้ถ้าเกิดปลามาหาอีก..คราวนี้จะคุยกับปลา....
ตาหวานอมยิ้ม เมื่อนึกถึงความตั้งใจของตัวเอง และซุกหน้าลงกับหมอนหน้าแดงก่ำ รู้สึกเขิน ๆ เมื่อคิดถึงเรื่องของวันพรุ่งนี้ที่จะได้พูดกับร่างสูงนั้น หลังจากไม่ได้พูดไม่ได้ด่ากันมาตั้งนานสองนาน

TBC….

ออฟไลน์ kamui1972

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 278
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +186/-0
ปริศนาอักษรไขว้.....หัวใจยุ่งเหยิง 16

เขินนะเนี่ย มันเขิน ๆ ยังไง ก็ไม่รู้....พี่วินเอาเสื้อผ้ามาให้แคปเปลี่ยน หลังจากเขาอาบน้ำเสร็จเรียบร้อย และเข้ามาอยู่ในห้องของพี่วินแล้ว ปกติเป็นแมว แต่พอเป็นคนแล้ว จะเอายังไงดี อ้อนแบบแมวได้มั้ยเนี่ย

แคปนั่งครุ่นคิดไปมา กัดเล็บไปพลาง คิดไปพลาง พี่วินอาบน้ำเสร็จแล้ว และเดินสะบัดผมเปียก ๆ ออกมาจากห้องน้ำ ก่อนจะเดินมาหาร่างสูงที่นั่งกัดเล็บคิดอะไรเรื่อยเปื่อยอยู่

“หัวเปียก.....ไม่เช็ดให้แห้งเดี๋ยวก็เป็นหวัดตายกันพอดี” ผ้าขนหนูถูกนำมาโยนไว้ที่บ่าของร่างสูง ก่อนที่พี่วิน จะจัดการเช็ดผมให้กับแคป และแกล้งจับศรีษะนั้น ขยับไปมา อย่างนึกสนุก

“พี่วินเดี๋ยวหัวผมก็หลุดกันพอดีหรอก....”

แคปเอ่ยบอกกับวิน และคนเช็ดผมก็หัวเราะออกมา ก่อนจะจัดการเขย่าศรีษะของเขาหนักกว่าเก่าเล่นเอาแมวต้องรีบจับมือเย็นชื้น ของเจ้าของเอาไว้ ไม่ให้เขย่าหัวเขาได้อีก

“แอบจับมือเหรอ...รู้ทันนะ...ฝนตก ๆ แบบนี้ คิดจะทำอะไรแคป...คิดจะทำอะไร..ไหนบอกซิ”

วินส่งยิ้ม เย้ายวน มีความหมาย แต่ร่างสูงนั้นแทนที่จะรู้เรื่อง กลับทำหน้างง พี่วินทำไม ตาหยีงั้นล่ะ
หรือว่าตากฝนมากไป เลยรู้สึกไม่สบาย

แคปปล่อยมือของวินออกและเช็ดผมของตัวเองต่อไป สะบัดศรีษะอีกครั้ง และเป่าผมให้ผมที่หมาด ๆ แห้งจนไม่เหลือหยดน้ำอีก

วินมองเจ้าแมวที่เลี้ยงไว้ อย่างไม่เข้าใจ อันที่จริง ถ้าเขาพูดอะไรแบบนี้ คนอื่น ๆ ก็รู้ความหมายแล้ว
แต่เจ้าแมว กลับทำเหมือนไม่รู้เรื่องรู้ราว ไม่อยากมีอะไรด้วยหรอกเหรอ ก็ไหนว่ารักไง

มันก็ต้องมีเรื่องแบบนี้เป็นธรรมดา หรือว่าจะแกล้งไม่รู้ เพราะไม่แน่ใจหรือเปล่า

“แคป...หนาวมั้ย...นายไม่หนาวหรือไงกัน”

วินเริ่มลองแตะมือไปที่ไหล่กว้างนั้น เพื่อเป็นการทดสอบ และเจ้าแมวโง่ ก็หันมามองด้วยความสงสัย

“ถ้านอนกอดพี่วิน...ก็ท่าจะดี...เพราะพี่วินตัวอุ่น”

แคปเอ่ยบอก ตามที่ตัวเองคิด....
และร่างเพรียวบางนั้นก็เดินเข้าหา และโอบรัดลำคอแกร่งนั้นไว้แน่น

เจ้าแมว หันมาทำตาโต ก่อนจะส่งยิ้มให้คนที่เริ่มก่อน

“ขอแบ่งความอุ่นหน่อยนะ...” น้ำเสียงเชิญชวนยั่วยวนนั้น ไม่ได้ทำให้แคปรู้อะไรเลยสักนิด

นั่งกอดวินจนแน่น
กอดแน่น....เพราะคิดว่า วินคงจะหนาวจริง ๆ แล้วก็เอามือถูมือเล็ก ๆ นั้นไปมา เพื่อให้อุ่นมากขึ้น

วินเหลือบมองใบหน้าคมที่นั่งยิ้มแฉ่ง แล้วขมวดคิ้วด้วยความไม่เข้าใจ

แคปยังนั่งกอดเขาอยู่

ให้ความอบอุ่นกันจริง ๆ หรือเนี่ย.....ร่างเพรียวบางหัวเราะออกมา อย่างขบขัน
แมวบ้า.....เจ้าแมวเอ้ย เจ้าแมวแคป....

ทำไมใสซื่อขนาดนี้ล่ะหนอ....

แต่การนั่งกอดกันแบบนั้น กลับทำให้วินรู้สึกดีมาก อุ่นจริง ๆ นั่นแหละ
อุ่นทั้งกายอุ่นทั้งใจ

แคป....ไม่ได้คิดแต่จะครอบครองร่างกายของเขาเหมือนคนอื่น ๆ
ซ้ำยังมากอดให้ความอบอุ่นอีกต่างหาก ถึงไม่ได้ผูกพันร่างกายกัน แต่แบบนี้
มันก็ดีเหมือนกัน เป็นความรู้สึกที่ต้องสัมผัสด้วยใจเท่านั้น

แคปยังกระชับอ้อมกอดแน่น เมื่อวินหัวเราะจนตัวสั่น แต่เจ้าแมวดันคิดว่าเขาหนาวซะได้

“พี่วิน...หนาวมากเลยเหรอ....” แคปเอ่ยถาม และจ้องมองหน้าของวินที่ก้มหน้าตัวสั่น
ก่อนจะกระชับอ้อมแขนให้แน่นขึ้น....เพื่อถ่ายทอดความอบอุ่นให้

เรียวแขนเล็กบางของวิน ค่อยโอบรัดรอบเอวของคนที่กอดและเอนซบเข้ากับไหล่กว้างนั้น
อย่างสบายใจ....

ที่จริง....การไม่มีอะไรกัน....มันก็ไม่เห็นจะแย่เลย...แค่เพียงกอดกันแบบนี้ก็ทำให้วินมีความสุขแล้ว

“พี่วิน....แคปรักพี่วินจริง ๆ นะ....”
ร่างสูงที่กอดวินเอาไว้เอ่ยบอกออกมา นั่นยิ่งทำให้วินยิ้มได้มากขึ้น ก่อนที่ใบหน้าจะหมองเศร้าลง
เพราะคิดถึงเรื่องอดีตของตัวเองที่ผ่านมา

“เลิกตอนนี้ยังทันนะแคป.....ฉันให้โอกาสนาย.....ฉันไม่อยากให้นายต้องมาเสียใจภายหลัง”

วินเอ่ยบอกกับร่างนั้น และแคปก็หัวเราะเสียงเบา

“พี่วินแหละ....ผมไม่เก่งเรื่องนั้นเหมือนคนอื่น ๆ นะ...จะเบื่อผมซะก่อนล่ะสิไม่ว่า”

ร่างสูงเอ่ยบอก แถมซ้ำยังทำหน้ามุ่ย ให้ตายเถอะ เรื่องแบบนี้เขาไม่เป็นจริง ๆ ขาดความมั่นใจสุด ๆ
จะทำให้พอใจหรือเปล่าก็ไม่รู้.....ก็คนมันไม่รู้วิธีนี่นา....

ประโยคตัดพ้อนั้นยิ่งทำให้วินหัวเราะชอบใจ......ก่อนจะกระซิบบอกกับร่างสูงนั้นเสียงเบาเพราะอยากจะกลั่นแกล้งเจ้าแมวที่เรื่องไว้

“ของแบบนี้มันหัดกันได้.....”

แคปหน้าแดงจัด หลังได้ฟังประโยคนั้น และรีบหันหน้าไปทางอื่น เมื่อเห็นว่าพี่วินหัวเราะชอบใจ

โธ่...พี่วิน....คนยิ่งไม่เป็นอยู่....มาแกล้งกันซะได้

TBC…..

Kipper

  • บุคคลทั่วไป
 :z1: เอ่อ.....อ่านตอนนี้แล้วก็นึกสงสารแคป

แบบว่าอยากให้แคปได้เจอกะคนอื่นที่ไม่ใช่วินอ่ะ  แหะแหะ....

รู้สึกว่าวินคนที่มั่วไปทั่วแล้วนอนกับใครก็ได้ไม่คู่ควรกับแคปที่ใสซื่ออ่ะ...
 

 :m7:รีบไปดีกว่าตู  เดี๋ยวโดนถีบ :z6:

 :pig4: ครับ kamui1972
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 14-12-2008 14:03:40 โดย Kipper »

nanalonely

  • บุคคลทั่วไป
^

^

จิ้มมนต์ :กอด1:

ทะลุคามุย

คามุยแนนอ่านเรื่องที่บอกทันแล้วนะฮามากก

แต่ตอนนี้มันค้างงอาะ อยากอ่านต่อเร็ว

ทำยังไงดี :sad4:

CoMMuNiTY Of ThAiBoYsLoVE

ประกาศที่สำคัญ


ตั้งบอร์ดเรื่องสั้น ขึ้นมาใครจะโพสเรื่องสั้นให้มาโพสที่บอร์ดนี้ ถ้าเรื่องไหนไม่จบนานเกิน 3 เดือน จะทำการลบทิ้งทันที
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=2160.msg2894432#msg2894432



รวบรวมปรับปรุงกฏของเล้าและการลงนิยาย กรุณาเข้ามาอ่านก่อนลงนิยายนะครับ
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=459.0



สิ่งที่ "นักเขียน" ควรตรวจสอบเมื่อรวมเล่มกับสำนักพิมพ์
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=37631.0






toeyz12

  • บุคคลทั่วไป
เรื่องนี้เหมือนจะเคยอ่านแล้วอ่ะ   

สนุกมากๆๆๆ    o13 


ชอบคู่ปลาอ่ะ   น่ารักกๆๆ     :impress2:




 :pig4:  kamui1972  ที่เอามาลงให้อ่านนะ  , คุณเท็น ดว้ยย   :L2:


ออฟไลน์ kit

  • เป็ดแสนดี
  • เป็ดHera
  • *
  • กระทู้: 1082
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +186/-3

ขอบคุณนะคะ คุณ kamui1972


ISACBTMN

  • บุคคลทั่วไป
ชอบภาพการ์ตูนรูปปลาทำท่าร้องไห้อ่ะ นึกภาพตามเลยน่ารัก ๆ

ririmu

  • บุคคลทั่วไป
เรื่องน่ารัก & สนุก มากกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกก

แถมลงแบบต่อเนื่องอ่านทีจุใจค่ะ  o13

ทั้งคู่แคปกะคู่ตาหวาน น่ารักมาก ๆ ค่ะ

ขอบคุณทั้งคนแต่งและคนลงนะคะ  :impress2:



mantdash

  • บุคคลทั่วไป
อิอิ มาเม้นอีกรอบครับ  :impress2:

ออฟไลน์ M@nfaNG

  • ชีวิตคือการตรวจสอบ...
  • เป็ดแสนดี
  • เป็ดAphrodite
  • *
  • กระทู้: 4453
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +847/-18
อ่านอีกรอบก็ยังสนุกอยู่ดี :L2:

ออฟไลน์ LEO

  • เป็ดHera
  • *
  • กระทู้: 924
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +366/-3



...เป็นเรื่องแรกที่เมนท์ทันคุณคามุย...ลงต่อเนื่องดีครับ..ชอบ

...ขอบคุณครับ :pig4:

nez

  • บุคคลทั่วไป
น่าร้ากกกกกกกกกกกกกกก

ชอบทั้งสองคู่เลยทำไงดี

ตาหวานน่ารักมากอ่ะ  เปนใครก้อต้องหลงแหล่ะ


แคปสุดยอดดดดดดด

ซึ้งมากกกกกก  รักให้ดีๆนะ  น่ารักเกิ๊น

นอนหลับฝันดีเลย  อิอิ


ออฟไลน์ kamui1972

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 278
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +186/-0
ขอโทษด้วยครับ ที่มาต่อช้า ช่วงนี้วุ่นเรื่องงานนิดหน่อยนะครับ ต่อให้แล้วครับ

**************************************************************************************************

ปริศนาอักษรไขว้…..หัวใจยุ่งเหยิง 17

“พอดีลืมของที่จะให้อีกอย่างน่ะ เมื่อวานไปไขโหลมา ได้ไอ้นี่พอดีเลย...ตาหวานอาจจะชอบก็ได้นะเนี่ย”

ปลาเคาะประตูห้องเรียกตาหวานให้ออกมาพบอีกครั้ง ตอนแรกเขาจะกลับหอเลย แต่บังเอิญเดินไปได้ไม่นาน
แล้วฝนตกก็เลยต้องย้อนกลับมานั่นเอง เขาเคาะอยู่นานกว่าตาหวานจะเปิดประตูห้อง แล้วเจ้าตัวเขาก็ทำหน้าแปลก ๆ เหมือนกับว่า ยิ้มแต่ ปลาก็ไม่แน่ใจ เพราะว่าตาหวาน โกรธมานานแล้ว จู่ ๆ จะมาปุบปับดีด้วยมันก็เร็วเกินไป เขาเดินล้วงกระเป๋าแล้วเจอกับของเล่นที่เขาไปไขโหลมา เด็กบ้านี่อาจจะชอบก็ได้ เป็นแหวนที่หัวแหวนเป็นลูกปัดสี ๆ เขาก็หาเรื่องเอามาให้ไปงั้นแหละ ฝนตก ๆ แบบนี้ กลับหอได้ไง เปียกเละกันพอดี
แล้วอีกอย่าง วินเพิ่งโทรมาบอกว่าเอาแมวมาเลี้ยงในห้อง เขาก็เลยต้องทำความเข้าใจว่าแมวที่วินเลี้ยงเนี่ย
มันเป็นแมวตัวผู้ แล้วท่าทางจะขี้อ้อนน่าดู...ไม่พ้นตัวเล็กของวินแน่ ๆ เขาก็เลยสบายใจได้หน่อย ว่ามีคนเฝ้าห้อง
แล้วก็มีคนเก็บผ้าที่ตากไว้ จะกลับไปขัดจังหวะก็ใช่ที่ ไหน ๆ วินมันก็รักนักรักหนา ไม่เคยพาใครมาที่หอเลย
แสดงว่าคนนี้วินท่าจะรักจริง ๆ ล่ะมั้ง ถึงได้กล้า เขาก็เลยต้องหาที่นอนหละคืนนี้ แต่ตอนนี้อาศัยห้องตาหวานนั่งเล่นไปก่อนแล้วกันนะ

ตาหวานให้อะไรก็รับ แต่ไม่ยอมพูด คราวนี้ก็คงเหมือนเดิม

ร่างสูงนั้นดึงมือของตาหวานออกมาและสวมแหวนของเล่นในนิ้วนางข้างซ้ายของ ตาหวาน แต่ตาหวานก็ไม่ยักโวยวายแฮะ น่าแปลกจริง ๆ แถมยังยิ้ม ๆ อีกต่างหาก เออ นะ เด็กนี่เดาใจยากจริง ๆ

“เข้ามาก่อนมั้ย.....ฝนมันตกหนักอยู่ด้วย”

ปลาแทบจะเป็นบ้าตายด้วยความดีใจ เขาหูฝาดหรือเปล่า ตาหวานพูดแล้ว ให้แหวนของเล่นนี่ถึงกับพูดได้เลยเหรอเนี่ย แต่เขาก็ไม่ได้ถามอะไรออกไป นอกจากยิ้มกว้าง แล้วก็พยักหน้ารับเดินเข้าไปในห้องของตาหวาน

จับมือหน่อยก็ท่าจะดีนะ....

ปลาเอื้อมจับมือของตาหวานเอาไว้แน่น แล้วก็ทันได้เห็นแววไหววูบในดวงตาหวานซึ้งนั้น
เอ้ย....เป็นอะไรเนี่ย .... จับมือก็ไม่ว่าอะไรด้วย....ถ้าลองกอดจะเป็นไรมั้ยเนี่ย

ปลาที่ไม่เคยแตะต้องตาหวานเลย นอกจากมีลากแขนไปนั่นไปนี่บ้าง เพราะเห็นว่าตาหวานยังเด็กก็เลยไม่ได้แตะต้องเลยสักนิด แต่พอแตะเข้าจริง ๆ แบบนี้ แล้ว ทำไมมันตื่นเต้นขนาดนี้ได้ล่ะเนี่ย

แล้วไอ้ดวงตากลมโตหวานเชื่อมที่ช้อนขึ้นมองหน้าเขานั่นอีก นี่ตาหวานจะเอาไงเนี่ย
เด็กบ้านี่....ถ้าไม่โวยวายไม่ด่า ไม่โมโห เขาจะกอดแล้วก็จะจูบด้วยล่ะนะ

ปลาค่อยดึงร่างเล็ก ๆ ของตาหวานเข้ามากอดอย่างกลัว ๆ กล้า ๆ เอาน่ะ เดี๋ยวคงชกเองนั่นแหละ
ร้ายจะตายตาหวานน่ะ.....มีเหรอจะให้เขามากอดมาหอมง่าย ๆ แบบนี้น่ะ

แต่..ก็เป็นไปแล้ว ปลายืนยิ้มด้วยความไม่เข้าใจ แต่ก็รู้สึกดีมาก ที่เด็กบ้าตาหวานยืนให้เขากอดเล่นเฉยเลย
ไม่มีการโมโหซะด้วย เจ้าเด็กคนนี้นี่ จะยั่งเขาหรือเปล่าเนี่ย

“ไม่ด่าหน่อยเหรอตาหวาน....พอหล่อนไม่ด่าแบบนี้ฉันทำตัวไม่ถูกเลยนะยะ”

น้ำเสียงที่แกล้งล้อเลียนนั้นทำให้เขาโดนทุบหนัก ๆ ที่ไหล่กว้างจริง ๆ แต่ตาหวานก็ยืนให้เขากอด
นอกจากทุบไปหนึ่งครั้งก็ไม่เห็นพูดอะไรเลย เอ้อ แปลกดีแฮะ เมาช็อคโกแลตหรือไง ตาหวานเอ้ย ตาหวาน

“มันเจ็บนะ....เด็กอะไรร้ายกาจชะมัด...ทำให้เราพูดบ้าอยู่คนเดียวทุกวัน ไม่ยอมพูดกับเราเลย...พอบทจะพูดขึ้นมาก็ทำให้เรางงซะอีก.....ตกลงหายโกรธ หรือยังเนี่ย..หือ..ไหนบอกหน่อย...หล่อนหายโกรธหรือยังนังตาหวาน”

ท้ายประโยคนั้น ร่างสูงก็เลยโดนทุบเข้าให้อีกหลายครั้ง พร้อมกับเด็กตัวแสบ เม้มปากแน่น หน้าแดง แล้วสะบัดหน้าหนีเขาไปหยิบหนังสือการ์ตูน มาอ่านแล้ว ใส่หูฟัง ไม่ยอมสนใจเรื่องที่เขาพูดอีกเช่นเคย

เล่นเอาปลาเดาทางไม่ถูกว่าตาหวานจะเอายังไงกันแน่

“ตาหวาน....ตาหวาน...เด็กบ้า..เด็กอะไรแกล้งผู้ใหญ่.....ชอบทำให้ ผู้ใหญ่ทรมาน....ไม่พอใจก็ไม่บอก ไม่พอใจก็ไม่พูด.....เดี๋ยวก็จูบสั่งสอนซะเลยนี่...เด็กคนนี้...”

ร่างสูงเดินมานั่งลงที่เตียงข้าง ๆ ตาหวาน แล้วบ่นเสียงเบา ก่อนจะพยายามเอาคางเกยที่ไหล่เล็ก ๆ นั้น

แต่ตาหวานก็ทำทีเป็นไม่สนใจ

“เด็กอะไรก็ไม่รู้....แกล้งตลอดเลย....”

ปลายังคงพูดไปเรื่อย ๆ แต่ตาหวานก็ถอยห่างทำเป็นไม่สนใจ ทั้งที่ใบหน้าน่ารักเริ่มแดงก่ำ เพราะได้ยินชัดทุกประโยค....ใส่หูฟัง แต่ไม่ได้เปิดเพลง ยังไง ๆ ก็ได้ยินชัดเจนทุกประโยคเลยแหละ

“....ที่เต้นในร้านคาราโอเกะน่ะ...น่ารักดีนะ...วันหลังสอนหน่อยสิ..ไม่นึกว่าหวานจะเต้นเก่ง”

เท่านั้นแหละ ประโยคเดียว ทำให้ตาหวานถึงกับต้องหันไปมองร่างสูงนั้นด้วยความอาย
งั้น ที่เขาตะโกนด่าก็ได้ยินด้วยน่ะสิ......แล้วที่ร้องไห้ล่ะ..ก็เห็นด้วยงั้นเหรอ

“เห็นได้ไง....ไอ้บ้า....ออกไปเลยออกไปจากห้องเลย....ไปเดี๋ยวนี้เลยนะ”

ตาหวานถอดหูฟังออกแล้ว วางหนังสือการ์ตูนไว้บนโต๊ะหัวเตียง และดึงแขนร่างสูงนั้นให้ลุกขึ้น แต่ปลากลับไม่ยอมลุก จนสุดท้าย ก็เลยแกล้งไปนอนอยู่บนเตียงของตาหวาน แล้วก็หัวเราะอย่างชอบใจ เมื่อเห็นร่างนั้นกระฟัดกระเฟียดหงุดหงิด โมโห

“ดึงได้ก็ดึงสิ....อ่ะ...แรงเยอะมั้ยล่ะ .... แค่ดึงแขนแค่นี้ก็ไม่มีแรงแล้ว...จะไปทำอะไรไหวล่ะ”

ปลายิ่งแกล้งเด็กบ้านัยน์ตาหวานเชื่อมนั้นหนักเข้าไปอีก และตาหวานก็ได้โมโหจริง ๆ คราวนี้กระชากแขนของร่างสูงนั้นอย่างรุนแรง จนแขนแทบหลุด

“ทำไมจะทำไม่ได้...ของแค่นี้....”

ยิ่งดึงแขนของปลา ก็เหมือนกับว่าโดนดึงกลับ...มากขึ้นทุกที

ตาหวานไม่รู้ทันผู้ใหญ่ที่คิดจะแกล้ง สุดท้าย กลับถูกดึงจนเซถลาลงมานอนกับร่างสูงขี้แกล้งนั้นโดยไม่ตั้งใจ

คราวนี้เลยได้โกรธจริง ๆ แต่เพราะอ้อมแขนที่กอดรัดนั้นกลับทำให้ตาหวานรู้สึกแปลก ๆ ร้อนวูบวาบไปทั้งตัว
ตั้งใจจะสะบัดหนีร่างสูงนั้น แต่เมื่อหันไปเห็นแววตาวาบหวามที่มองมา กลับทำให้ตาหวานทำอะไรไม่ถูก
พยายามจะผละร่างออกจากอ้อมแขน แต่ก็ทำไม่ได้ สุดท้ายได้แต่เอียงหน้าหลบใบหน้าที่โน้มต่ำลงมา

และถูกประทับรอยจูบเข้าที่หน้าผากมนเนียนนั้น จากปลายจมูกโด่ง ที่หยอกเย้ากลั่นแกล้ง

“หวานไม่รู้หรอก...ว่ามีอย่างอื่นที่ทำแล้วเหนื่อยแทบตาย....แต่รู้สึกดีมาก ๆ รู้สึกดีสุด ๆ ด้วยนะ....แต่ไม่เอาดีกว่า
ไม่อยากสอน....เอาไว้โตเป็นผู้ใหญ่กว่านี้ก่อนดีกว่านะเด็กน้อย”

ปลาเอ่ยบอกเสียงเบาแล้วหัวเราะออกมา เมื่อถูกจ้องจากสายตาหวานเชื่อมนั้น

“รู้ได้ไงว่าเด็ก...อายุน้อยกว่านายแค่ปีเดียว.....ตัวเองแก่กว่าเขานักนี่....ไม่สอนอย่าสอนเลย..ไปหาคนสอนคนใหม่ก็ได้”

ร่างบางทำท่าจะลุกหนี แต่ถูกดึงลงมากอดเอาไว้อีกครั้ง

“เด็กบ้านี่.....คิดอะไรน่ะ..เพราะรักหรอกนะ.....ถึงไม่แตะถึงได้ปล่อยมาตลอด...หัดรู้บ้างว่าเพราะอยากถนอม
ถึงได้ให้เป็นเด็กอยู่อย่างนี้....แล้วจะไปให้ใครสอนน่ะ..ไม่ต้องเลย...เดี๋ยวสอนเอง...ขืนให้ใครสอนที่ไม่ใช่ฉัน
แล้วเดี๋ยวจะโดนหรอก.....อย่ามาดื้อกับผู้ใหญ่นะ...อ๊ะ”
จู่ ๆ ทั้งตาหวานทั้งปลา ก็ต้องรีบผละออกห่างจากกัน...เมื่อรับรู้ได้ว่าต่างฝ่าย ต่างพูดกันอ้อม ๆ ว่าพร้อมที่จะมีอะไรเกินเลยไปซะแล้ว

ร่างบางลุกขึ้นเดินหนี ออกห่างจากร่างสูง เมื่อรู้ตัวว่าตัวเองไปพูดจาให้ท่าเขา
พอกับที่ปลาเองก็ดันบอกรักเด็กบ้านี่ไปโดยไม่รู้ตัวซะแล้ว

“เอาร่มไปเลย.....แล้วกลับไปได้แล้ว....”

ตาหวานเดินไปค้นร่มมาให้กับร่างสูงนั้น ก่อนจะรีบเบี่ยงหน้าหลบ เมื่อร่างสูงนั้น ลุกขึ้นยืนแล้วทำท่าจะหอมแก้มของตัวเอง

“ไม่เอา...ฝนตก ๆ เดี๋ยวฟ้าร้อง....กลัว...อยู่กับตาหวานดีกว่า...ฟังเสียงหวานกรี๊ด...สนุกกว่า...เนอะ..เด็กอ่อนหัด”

ปลาหัวเราะลั่นและสงครามระหว่างเด็กกับผู้ใหญ่ก็เกิดขึ้นทันที
ตาหวานกระโดดเข้าหาร่างสูงนั้น แล้วชกหนัก ๆ ไปที่ไหล่ของร่างสูงหลายครั้งซ้ำกัน
อ๋อ...เด็กอ่อนหัดเหรอ....เดี๋ยวได้รู้แน่ไอ้ผู้ใหญ่บ้า....เด็กอ่อนหัด เคยต่อยมวยสมัครเล่นมาแล้ว

และสุดท้าย ก็เข้าสู่สถานการณ์เหมือนครั้งแรก เข้าจนได้

นักเทควันโด้ มหาวิทยาลัย รวบร่างของตาหวานเข้ามากอดไว้แน่นไม่ให้สู้ได้อีก
ก่อนจะกดริมฝีปากลงบนเรียวปากนุ่ม....เหมือนครั้งก่อน แต่คราวนี้ เขารู้สึกบางอย่างที่ต่างออกไป

เด็กบ้านี่หัวไวเกินไปแล้ว......จูบไปแค่ครั้งเดียว ครั้งนี้กล้าจูบตอบเขาด้วยสิเนี่ย ร้ายจริง ๆ

TBC….

ออฟไลน์ kamui1972

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 278
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +186/-0
ปริศนาอักษรไขว้.....หัวใจยุ่งเหยิง 18

ตาหวาน..ขืนทำแบบนี้เดี๋ยวก็ไม่ไหวกันพอดีหรอกนะ

เด็กบ้ากินขนม จำต้องหรี่ปรือตาขึ้น เมื่อถูกผลักให้ออกห่างอย่างช้า ๆ และร่างที่กำลังกอดอยู่ก็ปล่อยร่างกายของตัวเองเป็นอิสระ ภาพแรกที่เห็น คือคนตรงหน้ากำลังยิ้มให้ ก่อนจะหยิกแก้มเขาเล่น

“อะไรวะ...ให้สอนไม่สอนซะที....บอกแล้วว่าไม่ใช่เด็ก....เคยมีแฟนนะ เนี่ย...ไม่ใช่ไม่เคย....ตอนเรียนประถมเคยมีแฟนนะเฟ้ย...ตกลงจะเอาไงเนี่ย.. จะทำหรือไม่ทำ...อยากรู้แล้วนะ...ไม่สอนจะได้ไปหาคนสอนให้”

ตาหวานเด็กที่ช่างอยากรู้อยากเห็น ขืนตัวออกห่างร่างของอีกฝ่าย และนึกโมโหขึ้นมา โธ่เอ้ย นึกว่าเป็นเด็กอนุบาลหรือไงวะ ถึงจะรู้เรื่องพรรณอย่างว่านี่ไม่ได้ ไม่ได้ใสซื่อขนาดไม่รู้อะไรเลยนะ เป็นบ้าอะไรวัน ๆ ถึงได้ทำเหมือนเขาเป็นเด็กแบบนี้ ชอบซื้อขนมให้ ชอบซื้อการ์ดกระดาษให้ ชอบพาไปเล่นเกมส์ แล้วก็พาไปกินไอศกรีม

จีบบ้าอะไรวะ นี่พาน้องไปเที่ยวมากกว่า ไม่พาไปเที่ยวสวนสนุกมันซะเลยล่ะ จะได้เป็นเด็กจริง ๆ ไปเลย ดีมั้ย

“หวาน....เอาไว้โตกว่านี้ก่อน...นะ...”

นั่นไงล่ะ มาอีกแล้ว บอกให้โตกว่านี้อีกแล้ว บ้าป่าววะ อายุห่างกันแค่ปีเดียว ทีตัวเองเจนโลกเหลือเกิน ดี ไปหาเอาใหม่ก็ได้วะ ไม่ได้อยากได้พี่ชายนะเว้ย อยากได้แฟน อยากได้แฟนนนนนนนนนนนน

ตาหวานลุกขึ้นด้วยความโมโห และเมื่อร่างสูงนั้นลุกตามมาแตะแขนก็ยิ่งสะบัดหนี

“กินช็อคโกแลตมั้ย...จะได้อารมณ์ดี”

ดูสิ....ดูคำพูดที่เอาไว้พูดกับเขาสิ กินช็อคโกแลตมั้ย โอ้ย ทนไม่ไหวแล้วนะ

“ฉันไม่ได้เป็นเด็กขนาดนั้น....แล้วตกลงจะเอายังไง...ถ้าอยากได้น้อง ชาย.... ฉันไม่ได้อยากมีพี่ชาย...ถ้ายังให้เป็นน้องแบบนี้ก็พอเถอะ....ทำไมถึงไม่ อยากแตะ..ไม่อยากกอดเหมือนคนอื่นเขาบ้างหรือไง...นี่ตกลงนายจะมาจีบฉันเป็น แฟนหรือว่าจะใช้ฉันเป็นทางผ่านไปหาไอ้แคปกันแน่ล่ะ”

พูดจบตาหวานก็หาเพลงมาฟัง เปิดเสียงให้ดังที่สุด แล้วก็นั่งฟังเพลงจากเครื่องเล่นเพลงแบบพกพานั้นอยู่คนเดียว จะไม่ฟังอะไรอีก ไม่สนใจอะไรทั้งนั้น โมโห หงุดหงิด มีแต่ความรู้สึกแย่ ๆ เต็มไปหมด

“หวานฟังสิ.....หนีอีกแล้ว.....หวาน.....ฟังก่อน”

แม้ว่าปลาจะพยายามดึงดัน ให้อีกฝ่ายฟังคำพูดของเขาแต่ตาหวานก็ไม่ยอมเลย ไม่มองหน้า แล้วก็เดินหนี แถมซ้ำยังเอามืออุดหูให้เสียงเพลงนั้น กลบเสียงพูดไปจนหมด

ปลายืนถอนหายใจ แล้วก้าวเข้าไปกอดเอวบางนั้นแน่นจากด้านหลัง ซบหน้าเข้ากับไหล่บางนั้น แต่ตาหวานก็ไม่ฟังเขาพูดเลย

เป็นนาน กว่าจะยอมอยู่เฉย ๆ ให้เขาปลดหูฟังนั้นออกได้ แต่ก็ยังทำท่าเหมือนโมโหคนกอดอยู่นั่นเอง

“ไม่ใช่ว่าไม่อยากแตะหวานหรอกนะ....แต่ที่พี่ไม่เคยบอกหวานก็คือ..พี่ เคยมีคนอื่น ๆ มาเยอะ.....บางคนก็รักบางคนแม้ไม่ได้รักพี่ก็มีอะไรกับเขาได้.....ตั้งแต่ เจอหวาน...พี่สารภาพตรง ๆ ว่าไม่ได้คิดจะชอบหวานเลยสักนิดเดียว
แต่เพราะหวานเป็นคนแรกที่ยืนด่าพี่ด้วยท่าทางเบื่อสุด ๆ เหมือนพวกรับจ้างด่าเลย...พี่ก็ว่าตลกดีนะเด็กคนนี้”

ปลาพูดไปขำไป จนตาหวานต้องหันหน้ามามองด้วยความหงุดหงิด

“อ๋อเหรอ....ไม่คิดจีบกันเลยตั้งแต่แรกนะ...ใช้เป็นสะพานไปหาไอ้แคปใช่มั้ย..จะได้รู้ไว้”

ถ้อยคำแบบเด็ก ๆ ยิ่งทำให้ปลาอดขำไม่ได้

“ฟังก่อนสิ....ก็เพราะหวานเป็นแบบนี้....ตอนหลังพี่ถึงต้องมาหาทุกวัน...ไปไหนก็อยากซื้อนั่นซื้อนี่มาฝาก
อยากมาเห็นหน้า...อยากมาเจอตอนหวานทำตาโตและยิ้ม เมื่อพี่เอาขนมมาให้....เมื่อก่อนพี่ก็มีคนนั้นคนนี้ตั้งเยอะแยะแต่ตั้งแต่ มาหาหวานทุกวันแล้ว...พี่ก็ยังแปลกใจว่าหวานทำให้พี่คิดถึงแต่หวานได้ยังไง ...ทั้งที่เราก็เจอกันทุกวัน....แถมซ้ำกลับบ้านไปยังไม่พอ ยังอยากได้ยินเสียงหวานอีก.....แบบนี้หวานว่าพี่คิดกับหวานยังไงล่ะ....
ไหนบอกพี่หน่อยสิ....”

ถ้อยคำที่เอ่ยออกมาจากใจของปลา ทำให้ร่างที่ถูกกอดรู้สึกแปลก ๆ อย่างบอกไม่ถูก และร่างสูงแอบเหลือบมองเด็กตัวเล็กที่เขากอดไว้แน่นนั้น เขาก็ได้เห็นว่าตาหวานอมยิ้มแถมยังหันหน้าหนีไปอีกทางไม่มองเขาเลยสักนิด

    “พี่ ไม่อยากให้หวานคิดกับพี่ไม่ดี.....พี่ต้องบอกก่อนว่าชีวิตพี่มีคนนั้นคนนี้ เข้ามาเยอะแยะมากมาย...ถ้าพี่ทำอะไรบุ่มบ่ามไป... พี่ก็กลัวหวานคิดว่าพี่หวังผลอย่างอื่นเหมือนกันนะ.......จะแตะทีจะกอดที ....ตั้งแต่หน้าห้องวันก่อนโน้น.... หวานก็ทำให้พี่ตกใจจูบไปนิดเดียวเล่นทรุดลงไปกองแบบนั้นน่ะ ขืนทำบ่อย ๆ หวานช็อคตายไป พี่จะไปหาคนที่ทำให้พี่กินไม่ได้นอนไม่หลับชื่อตาหวานได้ที่ไหนกันอีกล่ะ ....ใช่มั้ย”

    ร่างในอ้อมแขนยืนนิ่งและแอบอมยิ้ม ไม่ยอมตอบอะไรเลย จนถูกหอมแก้มหนัก ๆ นั่นแหละถึงได้ตอบ

    “เร็ว....บอกก่อน...คิดยังไงกับพี่มั่งเนี่ย......ไม่เคยถามซะที.... เดี๋ยวกลายเป็นว่าคิดไปเองคนเดียวว่าหวานก็ชอบพี่เหมือนกัน....บอกก่อนเร้ว ...พี่ยังบอกนั่นบอกนี่หวานหมดแล้วนะเนี่ย.....”

    คราวนี้ปลาหันหน้าไปอีกทาง อ้อมมาอยู่ด้านที่ตาหวานหันหน้าไปทางนั้นอยู่...และเมื่อเขาขอคำตอบ
    ตาหวานก็เบี่ยงหน้าหลบอีก เนี่ยนะเหรอ คนที่บอกกับเขาว่า มามีอะไรกันเถอะ ...... เขาแตะไปแค่นี้ตาหวานยังอายขนาดนี้......รู้ตัวบ้างมั้ยเนี่ย....ขืนทำ มากกว่านี้คนที่แย่ไม่ใช่เขาหรอก....แต่จะเป็นคนที่บอกให้เขาสอนนั่นแหละ หวานที่บริสุทธิ์ใสซื่อแบบนี้จะไปหาได้ที่ไหนกันล่ะ.....ถ้าไม่ใช่เด็กบ้าคน นี้
    ไม่คิดเลยจริง ๆ ว่าจะมาชอบเด็กไม่ประสีประสาแบบนี้......รู้ตัวอีกทีก็ชอบไปแล้ว....หลังจาก ที่เขาไม่เคยชอบใครอีกเลย นอกจากแฟนคนแรก หลังจากนั้นก็เงียบสนิท พยายามจะมีก็พยายามแล้ว แต่สุดท้ายก็หาใครมาทำให้เขาใจสั่น มาทำให้เขาคิดถึง และมาทำให้เขาต้องทำตัวเป็นเด็ก ๆ แบบนี้ ไม่ได้เลย

    “ไม่บอกเหรอ.....หือ...ไม่บอกก็เรียกพี่ปลาสักคำก็ได้เนี่ย....ชอบให้ เรียกว่าพี่ปลา..พี่ปลา..แล้วก็เรียกตัวเองว่าหวานอย่างนั้นหวานอย่างนี้ ....ทำได้มั้ย...นะ...นิดเดียว....ไม่รักไม่ว่า...อ้อนหน่อยก็ดีนะหวานนะ”

    ร่างสูงนั้นเอ่ยบอก แล้วก็ยิ่งกอดรัดร่างของตาหวานแน่นยิ่งขึ้น และหัวเราะอย่างสนุกที่เห็นตาหวานเขิน ๆ เขาอยู่อย่างนี้

    “นะ....หวานนะ....เรียกพี่เดี๋ยวให้ช็อคโกแลตร้อยอัน....เอาป่ะ”

    และเพราะคำแซวนั้นแหละที่ทำให้ร่างบางหน้างอก่อนจะเอ่ยบอก

    “หวานไม่ใช่เด็กนะพี่ปลา....”

    แค่คำพูดเดียวจริง ๆ ที่ทำให้ร่างสูงหัวเราะอย่างพอใจ และก้มกระซิบบอกคนในอ้อมแขนเสียงเบา

    “เก่งมาก....งั้นเดี๋ยวจะสอนเรื่องนั้นภาคทฤษฎีให้ก่อนแล้วกัน....อย่าอายจนไม่กล้าให้สอนล่ะ”

    ปลาเอ่ยบอกและนั่นยิ่งทำให้ตาหวานรู้ว่า ตัวเองช่างกล้าไปท้าทาย ไม่รู้จักคำว่าอายเอาซะเลย จนมาโดนกอด โดนหอมแก้มแบบนี้แหละถึงได้เพิ่งรู้สึก ว่าถ้าถึงขั้นนั้น คงจะยิ่งทั้งอายทั้งเขินมากกว่านี้เป็นร้อยเท่าแน่ ๆ

    TBC….

CoMMuNiTY Of ThAiBoYsLoVE






ออฟไลน์ kamui1972

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 278
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +186/-0
ปริศนาอักษรไขว้.....หัวใจยุ่งเหยิง 19

“พี่วิน....นอน....กอดพี่วินได้มั้ย....แต่ว่า..ผมไม่ได้คิดอะไรไม่ดีนะ....ฝนมันตกแบบนี้ผมแค่คิดว่าพี่วินตัวเย็นจังเลยแค่นั้นเอง”

แคปละล่ำละลักพูด เมื่อเห็นท่าว่า คืนนี้อาจไม่ได้กลับ เลยโทรไปบอกตาหวานแล้ว และเจ้านั่นก็บอกว่าก็โอเค ไม่ได้ถามอะไรต่อ แปลกนะ ทุกทีไอ้หวานชอบแซวว่า หน้าอย่างมึงจะไปนอนห้องใครเขาได้ แต่ตอนนี้หน้าอย่างเขาก็มานั่งกอดพี่วินอยู่นี่ไงล่ะ ก้าวหน้าไปเยอะ อย่างไอ้หวานไม่มีทางเข้าใจหรอก
มันทำได้แค่กินขนมแล้วก็เล่นเกมส์ สะสมการ์ดกระดาษและหาเรื่องไถเงินเขาไปร้องคาราโอเกะ ได้แค่นั้นเองแหละไอ้หวานน่ะ......

“ก็ไม่ได้ว่าอะไร....กอดก็กอด..นาน ๆ นอนกอดแมวก็ท่าจะอุ่นดีเหมือนกัน....” แคปได้ยินเสียงวินพูดอย่างนั้น แต่เหมือนพี่วินหัวเราะนะ หัวเราะอะไรกันน่ะ......

“พี่วิน...แล้วรูมเมทของพี่วินเขาจะว่าอะไรมั้ย...ผมมานอนที่เนี่ย”

แคปมีสีหน้ากังวลเล็กน้อย ก็เขาไม่รู้ว่าพาร์ทเนอร์ของพี่วินเป็นคนยังไงนี่นา ชักอยากเห็นเหมือนกันว่าเป็นคนยังไง จะเป็นหนุ่มขี้เหงาเหมือนพี่วินหรือเปล่า อยากทำความรู้จักด้วยซะแล้ว วันหลังเผื่อมีอะไรจะได้ฝากดูแลพี่วินด้วย ไม่อยากให้พี่วินต้องเหงาแบบนี้อีก

แคปก็คิดนั่นคิดนี่ไปเรื่อย คิดด้วยความกังวล และเป็นห่วงพี่วินอยู่ตลอดเวลา ย้ายออกมาอยู่กับพี่วินเลยดีมั้ยนะ พี่วินจะได้ไม่เหงาอีก ที่สำคัญ หวง...เขาหวง ไม่อยากให้ไอ้หน้าไหนมาแตะพี่วินได้อีก
แต่ไม่กล้าบอก เดี๋ยวพี่วินหาว่าเขาจะผูกมัด แต่ว่า ก็มันหวงจริง ๆ นั่นแหละ

“ไม่กลับหรอก....เขาก็ไปหาแฟนน่ะสิ....เรามันคนไม่มีแฟนก็ต้องอยู่ตัวคนเดียวแบบนี้แหละ...นอนเถอะง่วง....”

วินเดินไปปิดไฟและเดินมาล้มตัวลงนอนข้าง ๆ แคป ที่ขยับเข้ามากอดเอวเขาไว้แน่นกระซิบเสียงเบาด้วยความอาย

“พี่วินเป็นแฟนผมนะ....แต่ผมเป็นแฟนพี่วินหรือเปล่าผมก็ไม่รู้”

หลังคำพูดนั้นวินได้ยินเหมือนเสียงหัวเราะแผ่วเบา แคปคงกำลังหน้าแดง แล้วก็คงจะเขิน ๆ อยู่
แค่คิด ก็เห็นภาพ แคปก็....ดูน่ารักดี ...เหมือนแมวตัวใหญ่
ลูบหัวเล่นพอไหว แล้วก็ออดอ้อนบ้างโดยที่ไม่รู้ตัว วินหัวเราะเสียงแผ่ว เขาไม่คิดว่าจะได้รับความอบอุ่นจากใครแบบนี้อีก ไม่อยากเชื่อ และไม่เคยคาดหวังเลยจริง ๆ

“แฟนพี่.....ต้องเก่ง ๆ เชี่ยว ๆ หน่อย ไม่งั้นเดี๋ยวไม่ถูกใจ......แบบแคปสงสัยจะไม่ไหว....ของแบบนี้เขาต้องใช้ เวลาสั่งสมประสบการณ์นะรู้หรือเปล่า”

วินแกล้งพูดเสียงเบาเล่นเอาแคปถึงกับถอนหายใจหนัก ๆ และถอยออกห่างทันที ก็คนมันทำไม่เป็น ไม่เคยทำ
จะรู้ได้ยังไง ครั้งนั้นที่มีอะไรกันพี่วินก็เป็นคนทำ เขาก็ได้แต่นอนหลับตา เรื่องเชี่ยวชาญน่ะเหรอ สิบชาติละมั้งกว่าจะเป็น

วินแอบลอบยิ้มขำ แมว งอนไปซะแล้ว แล้วดูเหมือนจะหมดความมั่นใจไปซะด้วย
ก็....คงต้อง...ทำเองล่ะมั้งแบบนี้ ไม่งั้นแคปก็คงกลัวไปอีกนาน....

ร่างเพรียวบางนั้น ดึงผ้าห่มมาคลุมจนมิด และเริ่มลากฝ่ามือไปตามลาดไหล่กว้าง ก่อนจะขึ้นไปคลอเคลียอยู่บนร่างสูงนั้นหยอกล้อกับร่างกายของอีกฝ่ายอย่าง เพลิดเพลิน

ร่างสูงเต็มไปด้วยกล้ามเนื้อเพราะการเล่นกีฬานอนเบิ่งตาตัวแข็งทื่อ เริ่มรับรู้ได้ว่าจะเกิดอะไรขึ้น หัวใจเต้นระทึก
เมื่อมืออุ่น ๆ ร้อน ๆ เริ่มลากไล้ไปตามร่างกายของเขาสอดมือเข้าไปในเสื้อก่อนจะ ทาบทับลูบไล้ไปบนแผ่นอกกว้าง และหยุดวนนิ้วที่ปลายยอดอก

“พี่วิน....พี่วิน....ทำอะไรน่ะ....”

แคปเอ่ยเสียงละล่ำละลั่ก จนร่างที่กำลังเพลิดเพลินอยู่กับร่างกายของเขา ต้องโผล่ศรีษะออกมาจากโปงผ้าและหัวเราะเสียงเบา ก่อนจะแตะริมฝีปากเข้าที่ปลายคางของคนที่นอนตัวแข็งไม่กล้ากระดุกกระดิก...

“ทำอะไรเหรอ....ก็.....ยั่ว...อยู่ไง....”

เสียงหัวเราะเชิญชวนนั้นยิ่งทำให้ร่างสูงระงับจิตใจไม่อยู่ คิดเตลิดเปิดเปิงไปเกินที่จะเรียกสติกลับมาได้ เมื่อร่างอุ่น ๆ ผิวเนื้อเนียนนิ่มเริ่มลากมือไปตามร่างกายที่ยังถูกห่อหุ้มไปด้วยผ้าเนื้อ หนา และเริ่มสอดฝ่ามือเข้าไปสัมผัสบางอย่างที่แข็งขืนเสียดสีเนื้อผ้าจนเขา รู้สึกเจ็บไปหมด และค่อยคลายความรู้สึกอึดอัดเมื่อบางอย่างของร่างกายออกมาพ้นเนื้อผ้า และขยับไปตามจังหวะมือของอีกฝ่าย

“อือ....พี่วิน....ผม...ผม....”

ร่างสูงแอ่นร่างขึ้นสูงบิดกายเร่า....เมื่อความรู้สึกบางอย่างแผ่ซ่านไป ทั่วร่างกาย อัดแน่นไปด้วยความรู้สึกที่ถูกรวมไว้ในส่วนนั้นเพียงส่วนเดียว

“แคป..........ตรงนี้รู้สึกแล้วเหรอ....เปล่าทำอะไรเลยนะ.....จับไปนิดเดียวเอง....”

คนที่ ช่างแสนยั่วยวนเอ่ยบอกและหัวเราะเสียงแผ่ว อย่างนึกสนุก ก็สนุกจริง ๆ บอกไม่ถูก รู้แต่ว่าปฏิกิริยาของร่างที่นอนตัวแข็งนี้ น่ายั่วเย้าและ เป็นธรรมชาติไม่เสแสร้งดี

เมื่อแกล้งหยุดมือและจัดการให้เจ้าสิ่งนั้นกลับไปอยู่ในเนื้อผ้าเหมือน เดิม วินก็รู้สึกเหมือนมีเสียงถอนหายใจหนัก ๆ เหมือนกับว่าบางอย่างไม่ได้ดั่งใจของแคป

ร่างเพรียวบาง ยกร่างขึ้นทาบทับร่างสูงไว้ทั้งหมด สลัดผ้าห่มออกไปจากร่างและเริ่มลงมือปลดเสื้อนอนของตัวเอง ดึงให้มือของอีกฝ่ายแตะสัมผัสที่ยอดอกสีแดงเข้ม ที่มันกำลังแข็งแน่น

มือใหม่อย่างแคปก็ทำตามโดยง่าย ลากมือไปตามที่มือเรียวยาวนั้น นำทางให้ก่อน....จนเข้ามาสัมผัสที่บางอย่างที่มีความรู้สึกไม่แพ้กัน

“อือออออ....ทำไงดี....เป็นเหมือนกันเลยนะ....จะให้ทำเองเหรอ....”

เสียงหวาน ๆ เอ่ยเสียงแผ่วออดอ้อน และทิ้งกายลงให้ร่างกายแนบชิดกันมากขึ้น
เรือนร่างแกร่งหนานั้น ไม่รู้ว่าจะทำยังไงต่อดี นอกจากเริ่มขยับกายแตะมือไปตามแผ่นหลังเนียน อย่างหลงใหล ในผิวกายเนียนนุ่ม อย่างไม่รู้ว่าจะทำอะไรได้มากกว่านี้

แคปอดจะคิดไม่ได้ว่าร่างกายของวิน มีใครแตะต้องไปบ้างแล้ว....ทำไมเขาถึงไม่เจอกับวินให้เร็วกว่านี้
เขาจะได้เป็นผู้ที่ครอบครองวินเพียงคนเดียว แต่ก็เท่านั้น เขาไม่ได้มาช้าไปเลยสักนิด ไม่ว่าที่ผ่านมาจะเป็นยังไงครั้งนี้เขาจะทำให้ดีที่สุด.....แม้ไม่เคยทำ.... ก็จะพยายาม.....ต่อจากนี้ไป เขาไม่มีวันให้ใครมาแตะต้องคนของเขาได้อีกแน่ ๆ จะถนอมจะรักษา ไม่ทำให้เสียใจอีกเลย

เรียนร่างเพรียวบาง ดึงให้ร่างสูงนั้น ลุกขึ้นตาม และเอนกายไปเบื้องหลังจนสุด.....สอนไม่ใช่เรื่องยาก
แต่อยากให้รู้ว่ามีอะไรด้วยเพราะว่ารักเพราะว่าชอบ ไม่ได้มีเพราะอยากมีเรื่องแบบนี้อย่างเดียว

“อือ....จริง ๆ ก็อยากยั่วยวนนะ....อยากทำเหมือนทำกับคนอื่น ๆ แต่ตอนนี้อยู่กับแคป...ไม่อยากทำอย่างนั้นเลย ทำไมฉันไม่เกิดมาแล้วเจอนายก่อนคนอื่น ๆ นะ....ฉันคงจะมีค่ามากกว่านี้แน่ ๆ เลย....”

ร่างนั้นยันกายขึ้นและกอดร่างสูงเอาไว้แน่น......เอ่ยบอกความรู้สึกทั้ง หมดที่มีออกมา และหัวเราะเสียงเบาเพราะรู้สึกสมเพชตัวเองเกินทน แบบนี้แคปยังคิดว่าเขามีค่าอยู่อีกเหรอ

“เมื่อกี้กะจะยั่วจริง ๆ แหละ...แต่ตอนนี้ไม่เอาแล้ว.....แต่ถ้าแคปจะทำก็ได้นะ.....จะสอน....ให้สอนก็จะสอน”

โธ่เอ้ยพี่วิน ทำไมมาพูดแบบนี้ล่ะ แล้วแบบนี้ใครจะทำ ไม่ทำหรอกนะแบบนี้ ไม่มีก็ได้เรื่องแบบนี้น่ะ

แคป....อยากจะตบหน้าตัวเองหลาย ๆ ครั้ง แต่ร่างกายมันก็ยังไม่สามารถสงบได้เลย เขาจะอดทน

“ไม่ทำก็...ก็ได้...ผม..ผมทนได้พี่วิน...เฮ่ออออออออ”

ร่างนั้นถอนใจยาวเหยียด จนวินที่กำลังเศร้า ๆ ต้องหัวเราะและปล่อยร่างสูงให้เป็นอิสระ

“โทษทีนะ ......ที่ลองใจ...แค่คิดว่านายจะเหมือนคนอื่น ๆ หรือเปล่า....ที่คิดจะอย่างว่าอย่างเดียว...แต่แบบนี้ใครจะปล่อยเจ้าแมวตัว นี้ไปได้ล่ะนะ ......... เจ้าของไม่ใจร้ายหรอกนะ ......... รู้มั้ย....เจ้าแมว”

วินหัวเราะและกลับมายั่วเจ้าแมวเล่นอีกครั้ง ไม่อ้อยอิ่งเหมือนครั้งแรก แต่ปลดเสื้อผ้าของร่างสูงด้วยความรวดเร็ว ก่อนจะปลดของตัวเองออกด้วย และแตะริมฝีปากเข้าหาริมฝีปากนุ่มอุ่นร้อนของอีกฝ่าย อย่างช่ำชอง

ก่อนจะลุกขึ้นยืนและค้นหาบางสิ่งที่สามารถใช้กับร่างกายของตัวเองได้

“พี่วิน...ทำ....ทำอะไรเหรอ...ผม....หัด..หัดทำเองก็ได้...แบบนั้นผมทำได้....จริง ๆ นะ”

ร่างเพรียวบางเปลือยเปล่า หัวเราะชอบใจ มองไม่เห็นหน้าแคปเลย สงสัยหน้าคงแดงมาก ไหนดูซิแดงมากหรือเปล่า

วิน ก้าวขึ้นมานั่งอยู่บนตักของร่างนั้นและใช้หน้าผากแตะหน้าผากของอีกฝ่ายเบา ๆ

“อย่าน่ะ....เดี๋ยวสอนเอง....อยู่เฉย ๆ เดี๋ยวก็เป็นไม่ยากหรอก....”

ร่างเพรียวบาง ก้มตัวลง แตะปลายลิ้นเข้าที่ส่วนแข็งขืนที่เริ่มเปียกชื้นและแข็งแน่นขึ้น

“อือ...ผมรู้สึกนะพี่วิน...ผม..ผมทำให้บ้างนะ...พี่วินนะ”

แคปพยายามจะทำเหมือนที่อีกฝ่ายทำ แต่ก็โดนห้ามไว้

“ไม่ต้องเลย...เดี๋ยวทำเอง.....อยู่เฉย ๆ ก่อน...กลัวไม่ได้ทำหรือไง....ชาตินี้ได้ทำแน่...ถ้าต่อไปลองไม่ทำสิ น่าดู”

แล้วใครมันจะไม่อายล่ะเล่นมาพูดกันโจ่งแจ้งแบบนี้ แคปแทบจะม้วนเป็นกุ้ง รู้สึกวูบวาบ นั่นก็อีกอย่าง เคลิ้มเลยทีเดียวล่ะ จนเมื่อจู่ ๆ ความร้อนรุ่มตึงแน่นก็ครอบทับลงมาบนร่างกายของเขาอย่างเชื่องช้าอย่างไม่ทัน ตั้งตัว
ความรู้สึกหลาย ๆ อย่างถูกถ่ายเทถึงกันจนหมด

เมื่อร่างกายหลอมละลายเข้าด้วยกัน ก็ไม่กล้าที่จะอายต่อ ก็พี่วินแกล้งนิ่งอยู่แบบนั้น ไม่ขยับเองก็ตายกันพอดี

จะขาดใจตายเพราะไฟสเน่หาน่ะสิ

“พี่วินอ่ะ...แกล้งเหรอ....อือ..ฮะ”

แคปสติกระเจิง ไม่ได้รู้สึกอายอีกแล้ว เมื่อรู้ว่าโดนแกล้ง ก็ต้องเอาคืนบ้าง ต้องทำให้พี่วินร้องครางบ้างให้ได้
เห็นชัดเลยว่าพี่วินแกล้งกัดฟัน ไม่ยอมเปล่งเสียงออกมา สักนิดเดียว

จนต้องเป็นฝ่ายทำเองบ้าง และแตะต้องร่างกายส่วนนั้นของพี่วินที่ความรู้สึกคงไม่แพ้เขาสักนิด
ถึงพอได้ยินเสียงที่อยากได้ยินบ้าง

“อือ....”

อีกแล้ว พี่วินแกล้งกัดฟันไม่ยอมส่งเสียงอีกแล้ว นี่ร่างกายเราผูกพันกันขนาดนี้แล้วนะ....แกล้งกันนี่นา

ร่างสูงนั้น รู้แล้วว่าต้องทำยังไงบ้าง พอเขาขยับจะได้ยินเสียงของวิน ที่สั่นสะท้าน ยิ่งเขาขยับมาก ก็ได้ยินเสียงทุ้มนุ่มหวานหูนั้นมาก แล้วใครจะหยุดล่ะ นอกจากต้องกดร่างของอีกฝ่ายไว้ และขยับกายไปพร้อม ๆ กัน

“แคป....ร้ายนักนะ....อ่ะ..อือ”

เสียงนุ่ม ๆ นั้นกระซิบแผ่วเบา และเริ่มปล่อยเสียงออกมามากขึ้น ร่างกายเริ่มประสานเร่งเร้ากันมากขึ้นจนแทบทนไม่ไหว

ต่างฝ่ายต่างช่วยกัน ให้จังหวะหนักหน่วงขึ้น แรงและเร็วขึ้นเรื่อย ๆ

“พี่วินจ๋า....พี่วิน...อือ....ขยับหน่อย...อ่ะ..อื้อ”

เรียวแขนแข็งแกร่งโอบรัดรอบเอวบาง และหยัดกายขึ้น ทั้งที่น้ำเสียงแสดงให้เห็นได้ชัดว่าทั้งหอบทั้งเหนื่อย แต่ก็ไม่อาจจะหยุดความรู้สึกไว้ได้ไหว จนสุดท้าย ร่างกายก็ทนกักเก็บความรู้สึกไว้ไม่ไหวอีกต่อไป พร้อมที่ร่างสูงร่างกายเกร็งแน่นสั่นสะท้าน ขยับมือต่ออีก ในไม่ช้า คนที่ช่วยควบคุมร่างกายเบื้องบนก็สุดจะกลั้นไว้เช่นกัน

“แมวโง่....อือ....อะ..อ๊า..”

หยาดหยดร่างกายถูกปลดปล่อยออกมาพร้อมกัน พร้อมกับที่ความเงียบสงบเริ่มเข้ามาครอบงำอีกครั้งหลังเสียงหอบหายใจหนัก ๆ เมื่อจุดสุดท้ายสิ้นสุด ต่างนิ่งเงียบไปไม่ได้เอ่ยอะไรออกมาอีกเลย จนเมื่อปรับลมหายใจให้เข้าที่ได้แล้ว บทสนทนาแรกจึงได้เริ่มขึ้น

“เหนื่อยชะมัด....นายทำแบบนี้ครั้งแรกจริง ๆ เหรอเนี่ย....ชักไม่อยากจะเชื่อซะแล้วสิ...”

โธ่พี่วิน...แซวกันได้ ....ก็ครูดีนี่นา....ลูกศิษย์ก็เลยเก่งเร็ว

“พี่วินอ่ะ....ทำไมต้องแซวกันด้วย...แล้ว...อย่างผมมันพอฝึกได้มั้ย...บอกหน่อยสิ”

แม้จะเพิ่งมาเขินอายตอนนี้แต่แคปก็ไม่วายถาม

และก็ได้คำตอบที่ทำให้ใจแป้วเลยทีเดียว

“ก็งั้น ๆ ....”

โห...เออเนอะ งั้น ๆ เนอะ.....คนอุตส่าห์ข่มความอายแทบตาย ตอบมาเลยนะว่างั้น ๆ

วงแขนแกร่งตกลงข้างตัวทันที หมดแรงเพราะเรื่องที่ผ่านมา ยังต้องมาหมดแรงเพราะคำพูดของพี่วินอีก

“แต่อนาคต...ท่าจะเก่งใช่ย่อยนะนาย....ห้ามไปฝึกกับใครไม่งั้นจะหาว่าไม่เตือน”

อีกครั้งที่หัวใจพองโต...ได้อีก

ร่างเพรียวบางที่อยากจะกกกอดไว้แสนนาน ลุกขึ้นถอนร่างกายออกไปแล้วอย่างรวดเร็ว

“อ๊ะ...อะไรกันล่ะเนี่ย...มีแต่ของนายเต็มไปหมด...ไม่ได้ทำบ้างหรือไง ...ขืนนายไม่ทำเองแล้วมาลงกับฉันตลอดแบบนี้ฉันจะล้างออกหมดได้ยังไงกันล่ะ เนี่ย”

คำพูดโจ่งแจ้ง ไม่ได้ปกปิดนั้นเล่นเอาแคป อายหนักกว่าเก่า ก็จะให้ไปทำกับใครล่ะค้าบ แหม พูดมาซะผมยิ่งอาย ๆ อยู่พี่วินก็แกล้งกันจัง

“ลุก...ไปอาบน้ำ...แล้วเดี๋ยวมานอนต่อ....”

วินดึงมือของอีกฝ่ายให้ลุกขึ้น ทั้งที่ร่างกายยังเปลือยเปล่าอยู่ ให้เดินเข้าห้องน้ำพร้อมกัน

แคปที่แสนจะอายจนไม่รู้จะทำยังไง ก็จำต้องยอมตาม อายที่จะเปิดไฟในห้องน้ำอาบน้ำด้วยกัน เพราะร่างกายของวินทำให้เขาตื่นตัวอีกครั้ง

“จะทำอีกเหรอนายนี่มันมีอารมณ์ง่ายซะจริง ........... พวกนักกีฬาก็งี้แหละ....พวกเก็บกด”

วินเอ่ยบอกก่อนจะยิ้มอย่างชอบใจ เมื่อแคปทำท่าจะเดินหนี เมื่อถูกสายตาโลมเลียของอีกฝ่าย พี่วินเล่นจ้องกันแบบนี้ ใครไม่อายกันบ้างล่ะ เคยโดนจ้องก็บ่อย แต่ไม่ใช่จ้องแบบทำหน้าตายั่วยวนชวนให้เตลิดอีกรอบแบบนี้

“เด็กน้อย....เขินเหลือเกินนะ...งั้นต้องทำให้หายเขิน”

วินเขย่งปลายเท้าขึ้นกระซิบที่ข้างแก้มของแคปเสียงเบา และหัวเราะอย่างพอใจ

“อีกรอบ...ไหวมั้ย...เหมียวววววววววววว”

น้ำเสียงยั่วยวนชวนหลงนั้น ทำให้แคปต้องระงับความอายเอาไว้ให้หมด แม้ใบหน้าจะแดงซ่านหัวใจจะเต้นระทึกแต่คราวนี้ ฝ่ายที่ก้มหน้าประทับริมฝีปากเข้าที่ริมฝีปากร้อน รุ่ม ช่างส่งเสียงยั่วยวนนั้น กลับกลายเป็นแคปแทน

“อือ....เริ่มเก่งแล้วนะเนี่ย......”

วินผละใบหน้าออกห่าง และหัวเราะเสียงใส ก่อนจะประทับริมฝีปากกลับเข้าไปใหม่อีกครั้ง

คราวนี้ จูบแบบเด็ก ๆ คงไม่ได้นะแคป....มันต้องแบบดีพคิส

แล้วนายจะรู้ว่า ลุกไม่ขึ้นเพราะเรื่องนั้นน่ะ มันมีจริง ๆ

แคปแมวน้อย....ติดบ่วงที่เจ้าของ ดักรอไว้แล้ว

เห็นท่าว่ากว่าจะเป็นงาน แคปคงสูญเสีย พละกำลังไปอีกมาก แต่ถ้าถามแคปมันก็คงยอมเสียนั่นแหละ
เพราะยังไงก็คุ้มเกินคุ้ม ได้ทั้งตัวได้ทั้งใจ แถมครูยังทั้งดีทั้งเก่งแบบนี้อีก ใครจะไม่รักไม่หลงกันล่ะ

TBC…

ออฟไลน์ kamui1972

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 278
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +186/-0
ปริศนาอักษรไขว้หัวใจยุ่งเหยิง 20

“หวาน....ตาหวานจริง ๆ นะเนี่ย”

ปลาที่นอนมองหน้าเด็กตัวแสบ เกลี่ยเส้นผมที่ปรกใบหน้าเนียนขาว นั้นออก

นอนคุยกันไปเรื่อยเปื่อย เรื่องนั้นเรื่องนี้ แล้วตาหวานก็เอานิ้วมาขูดเล่นที่หน้าอกเขา เพลินใหญ่เลยนะนั่น แถมบางทีก็หัวเราะในเรื่องโจ๊กทะลึ่ง ๆ ที่เขาเล่าให้ฟังซะอีก

สุดท้ายเห็นทำตาปรือ เหมือนจะหลับ
ตากลม ๆ โต ๆ หวานเชื่อมแม้ในยามปกติ คนอื่นไม่เห็นเป็นแบบนี้ แต่เด็กคนนี้กลับมีดวงตาเชิญชวนให้เข้าหา บางครั้งดูร้อนรน บางครั้งดูใสซื่อ ไม่เป็นพิษเป็นภัยกับใคร บุคลิกที่เหมือนเด็กตัวเล็ก ๆ นี่หรือเปล่า
ที่ทำให้เขาอยากอยู่ใกล้ ๆ เพราะว่าหวานไม่มีเล่ห์เหลี่ยมมารยาเหมือนคนอื่น ๆ แม้รู้ว่าตาหวานโกรธ แต่เขาก็ไม่รู้สึกว่ามันดูร้ายแรงนัก โกรธเพราะว่าโกรธ ไม่ใช่โกรธด้วยความเจ้าเล่ห์แกล้งให้เขาง้อ ความซื่อตรงแบบนี้ คงเป็นเสน่ห์อีกอย่างของเด็กคนนี้แน่ ๆ ที่ทำให้เขาหลงใหลได้มากขนาดนี้

“หวานตรงไหน....ไอ้แคปบอกว่าเหมือนตาปลาทองตาโปน ........ เซ็งจริง ๆ ทีมันตาตี่ ไม่เคยว่าสักคำ เบื่อเลย
นี่จะไปซื้อแว่นมาใส่แล้ว....ไม่ชอบเลยทุเรศว่ะ” ตาหวานนอนบ่นงึมงำจะหลับซะให้ได้ จนร่างสูงนั้นต้องลุกขึ้นยืนแล้วเดินไปปิดไฟ เมื่อเห็นว่าเด็กตัวเล็ก คงไม่อยากทนง่วงคุยกับเขาอีก

อากาศเย็น ชื้น
และความเงียบสงบในยามค่ำคืน

เงียบจนได้ยินเสียงฝนที่ตกลงมากระทบที่หน้าต่าง
เงียบจนได้ยินเสียงลมหายใจของกันและกัน

ร่างสูงดึงให้เด็กตัวแสบของเขา หนุนอยู่ที่แขนข้างขวา ดึงผ้าห่มมาคลุมให้
เจ้าตัวเล็ก พูดอะไรงึมงำอีกหลายประโยคจนจับใจความไม่ได้ และหลับไปในที่สุด

ปลานอนมองเพดานห้องในความมืดและยิ้มให้กับตัวเอง
เขาช่างมีความอดทนได้อย่างไม่น่าเชื่อ
เป็นครั้งแรกที่ได้นอนกอดใครสักคนแบบนี้ โดยที่ไม่ได้คิดอกุศลด้วย

อยากกอด อยากทำมากกว่านอนกอด แต่ไม่มีความคิดอยากหักหาญให้เกิดรอยแผล เขารักเด็กคนนี้ด้วยความบริสุทธิ์ใจจริง ๆ หรือนี่ แม้แต่ตัวเองยังไม่อยากจะเชื่อ คนอย่างเขา คนอย่างไอ้ปลา ที่ไม่ว่าหน้าไหนขอแค่อยากได้ก็ไม่สนว่าเป็นของ ๆ ใครคนนี้น่ะหรือ จะมีความรักที่บริสุทธิ์ได้เหมือนคนทั่วไปเขา

แถมคนที่ เขารัก กลับเป็นแค่เด็กที่ชอบทำตัวโวยวาย ไม่มีชั้นเชิง อารมณ์ร้อน ไม่มีตรงไหนที่เขาอยากได้เลยสักนิด แล้วทำไมเขาถึงรักได้ขนาดนี้นะ รักจนตามตื้อ รักจนยอมง้อ รักจนยอมทำในสิ่งที่ไม่เคยทำให้คนอื่น ๆ
ร่างสูงถอนใจยาว พร้อมกับยิ้มให้กับตัวเอง กอดกระชับร่างในอ้อมแขนให้แน่นขึ้น

และก้มกระซิบที่ข้างหูของเด็กตัวเล็กในอ้อมแขนเสียงเบา

“ฝันดีนะหวาน...ตื่นขึ้นมาจะซื้อการ์ดกระดาษใหม่ ๆ ให้อีกหลาย ๆ ใบ”

จบประโยคเขาได้ยินคนในอ้อมแขนบ่นเสียงงึมงำในลำคอ ทั้งที่ตอนแรกเขานึกว่าตาหวานหลับไปแล้วซะอีก

“ไม่ใช่เด็กนะพี่ปลา....ฝันดีเหมือนกันนะพี่....เลี่ยนมั้ย.....เลี่ยนยิ่งกว่ากินช็อกโกแลต 100 ชิ้นในคราวเดียวซะอีก”

ขนาดหลับไปแล้ว ยังมาหาว่าเขาพูดจาเลี่ยน ๆ ได้อีก จะมีมั้ย ใครที่เหมือนตาหวาน

ปลาหัวเราะกับประโยคนั้น และดึงแก้มของเจ้าตัวเล็กในอ้อมแขนอย่างหมั่นเขี้ยว
เล่นกับตาหวานสิ ช่างปากกล้า และน่ารักซะจริง ๆ

เรียวแขนอุ่นโอบกระชับร่างเล็กเข้าหาตัว นอนยิ้ม และครุ่นคิดอะไรไปเรื่อยเปื่อย คิดถึงวันนี้ คิดถึงวันพรุ่งนี้
คิดถึงวันถัด ๆ ไปของเขาและตาหวาน และคิดถึงอนาคตของเขาและเจ้าตัวเล็กนี่ด้วย

สุดท้าย ต่างฝ่ายต่างก็หลับใหลท่ามกลางอากาศเย็นชื้นเพราะสายฝนที่ยังคงกระหน่ำ แต่กลับอุ่นอวลไปด้วยความรู้สึกที่ซื่อตรงต่อกัน

ในค่ำคืนนั้น ตาหวานฝัน

ฝันว่าได้กินช็อคโกแลต 100 ชิ้น และมีการ์ดกระดาษแบบใหม่ ๆ ที่หายากอย่างที่อยากได้ด้วย
และคนที่แกะซองขนมและมอบให้เขา ไม่ใช่ใคร พี่ปลาของตาหวานนั่นเอง

TBC….

ออฟไลน์ kit

  • เป็ดแสนดี
  • เป็ดHera
  • *
  • กระทู้: 1082
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +186/-3

ขอบคุณนะคะ คุณ kamui1972


ririmu

  • บุคคลทั่วไป
มาต่อแบบจุใจอีกแล้ว ขอบคุณมากมายค่ะ  :pig4:


สาวบ้านนอก

  • บุคคลทั่วไป
เรื่องนี้น่ารักมากๆเลยชอบๆๆๆๆๆ ขอบคุณค่ะคุณคามุย :L2:

ออฟไลน์ kamui1972

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 278
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +186/-0
ปริศนาอักษรไขว้.....หัวใจยุ่งเหยิง 21

“พี่วินจ๋า...แคปอยากกินอันนี้”

แคปหนุ่มนักกีฬาว่ายน้ำ นั่งยิ้มน้อยยิ้มใหญ่ และชี้มือไปที่กุ้งทอดในกล่องข้าว ทั้งที่ในปากยังเคี้ยวไม่หมด
อาหารวันนี้เป็นข้าวกล่อง ที่ทำเองฝีมือของวิน ถึงจะกังวลใจไปบ้าง ว่าจะยังพอทำของแบบนี้ได้หรือเปล่า
หลังจากที่ไม่เคยแตะมานาน แต่พอเห็นว่าแมวที่เลี้ยงไว้เคี้ยวกุ้งอย่างเอร็ดอร่อย ก็ทำให้ใจชื้นขึ้นมาได้บ้าง

และใช้ส้อมจิ้มกุ้งทอดขึ้นมาป้อนใส่ปากให้กับคนที่นั่งกินอย่างเอร็ดอร่อยนั้น

“พี่วินเมื่อก่อนแคปกินยากมากเลยนะ...อะไรก็ไม่กินเลย...แต่ว่าพอพี่วิ นให้กินนั่นกินนี่ทำไมแคปถึงคิดว่ามันอร่อยก็ไม่รู้เนอะพี่วินเนอะ” มนุษย์ที่เคยเกลียดเกย์อย่างแรงจนถึงขนาดไม่เข้าใกล้ ปัจจุบัน ทั้งรักทั้งหลงคนที่ป้อนอาหารให้อย่างไม่น่าเชื่อ

“เป็นแมวพูดมากได้เหรอ.....”

แค่เสียงที่แกล้งเอ็ดนั้น ก็ทำให้แคปรีบเอามือปิดปากตัวเองและทำตาโตหันมามองหน้าคนที่ป้อนข้าว และก็ยิ้มแบบแหย ๆ ไม่กล้าพูดขึ้นมาทันที เล่นเอาพี่วินถึงกับหัวเราะเมื่อเห็นท่าทางอย่างนั้น

ที่บอกไม่ให้พูดก็เพราะว่า ถ้ากินข้าวแล้วพูดข้าวมันจะติดคอ เดี๋ยวคงได้สำลักตายกันพอดี
แต่ก็แค่แกล้งเอ็ดไปเท่านั้น เพราะเห็นว่า ถ้าแกล้งนั่นแกล้งนี่แล้วตัวเล็กจะทำหน้าซึม ๆ แต่พอลูบหัวไปแล้วก็จะกลับมายิ้มได้อีก เหมือนกับว่าอยากให้มีใครมาสนใจดูแล ตลอดเวลา

ตัวเล็กนั่งเคี้ยวข้าวอย่างเอร็ดอร่อย และชี้มือเลือกว่าจะกินอะไรก่อน พร้อมทั้งส่งยิ้มแสนสดใสออดอ้อนตลอดเวลา

“อื้อ อื้อ” ปากถูกห้ามพูด แต่ก็ยังส่งเสียงในลำคอ ว่าอยากได้ไก่ทอดที่อยู่ในกล่องเป็นอาหารคำต่อไป

พี่วินจึงใช้ส้อมจิ้มไก่ทอดป้อนให้ และก็ยกขวดน้ำดื่มให้แมวที่เลี้ยงไว้ดื่ม เพราะว่ามือของเจ้าแมวชี้นั่นชี้นี่ตามใจชอบอีกแล้ว

ยิ่งป้อนก็ยิ่งกิน ยิ่งกินก็ยิ่งป้อน ป้อนจนหมด ไม่เหลืออาหารในกล่องเลยสักนิด แล้วกล่องข้าวก็ถูกเก็บเข้าถุงผ้าวางไว้ข้าง ๆ ตัว โดยมีตัวเล็ก นั่งเอามือลูบพุง ด้วยความอิ่ม ก่อนจะสิ่งยิ้มหวานจ๋อยมาให้เจ้าของ
และเอนตัวลงนอน โดยใช้หน้าขาของเจ้าของเป็นหมอน หลับตาลงอย่างมีความสุข

“พี่วิน...เหมียว...เหมียว...เหมียว...”
มือที่กำแน่น ตะกุยไปที่มือของเจ้าของและดึงให้มาลูบที่เส้นผมของตัวเอง

ฝ่ามือเรียวสวยอบอุ่นถึงได้มาลูบไล้อยู่ที่เส้นผมของแมวที่เลี้ยงไว้ได้

ดวงตาคมหรี่ปรือและยิ้มอย่างมีความสุข
ไม่ต่างจากคนที่เคยคิดว่าไม่เคยมีใครรักตัวเองสักนิด มีแต่คนคิดแต่จะครอบครองร่างกาย และคอยหาผลประโยชน์จากร่างกายตัวเองตลอดเวลา

วินไม่เคยคิดว่าวันนี้ หัวใจที่เคยเคลือบไปด้วยน้ำแข็ง ไร้ซึ่งความรู้สึก จะเปิดรับให้ใครเข้าหาได้อีกครั้ง
ทั้งที่เคยคิดว่า ไม่ว่ายังไงก็จะไม่รักใครอีก

แต่สุดท้าย......ตัวเล็กก็เข้ามาหา
วันหนึ่งไม่เคยคิด.........ว่าจะมีคนรักที่รักกันจากใจจริง
แถมตัวเขาเองยังหลงลืมความรู้สึกเป็นสุขแบบนี้ไปแล้วด้วยซ้ำ
แต่วันนี้..........ก็ได้รับความรู้สึกนั้นอย่างเต็มเปี่ยม
จนไม่คิดว่าแย่ ๆ ว่าไม่มีใครรักไม่มีใครสนใจเขา เหมือนวันเก่า ๆ ที่ผ่านไป

เพราะคนที่หลับตาพริ้มอยู่นี่หรือไงนะ.........ถึงทำให้วินอยากจะลืมเรื่องเก่า ๆ ไปให้หมด และเริ่มต้นใหม่กับใครสักคน

“พี่วินจ๋า...อือ” ฝ่ามือเรียวสวยที่ลูบไล้เส้นผมนิ่มนั้น ถูกดึงเข้าไปซุกอยู่ที่คอแมวที่ทำท่าจะเคลิ้มหลับ แล้วก็โดนเจ้าแมว ดึงไปแตะที่ปลายจมูก หนึ่งครั้ง ก่อนจะถูกยกกลับให้ไปลูบไล้เส้นผมต่อ

“พี่วินหอม...มือก็หอม”

วินถึงกับหัวเราะออกมาอย่างนึกขำ...และดึงปลายจมูกโด่งนั้นเล่น ก่อนจะไล้ฝ่ามือไปที่เส้นผมของแมวอย่างอ่อนโยน

“เงียบนะ....บอกแล้วไงว่าเป็นแมว....ห้ามพูด......พูดอีกคำ...ไม่เลี้ยงแน่ ๆ “

น้ำเสียงดุ ๆ ทำให้เจ้าแมวทำหน้างอ ก่อนจะยิ้มออกมา เมื่อปรือตาขึ้นและเห็นเจ้าของกำลังยิ้ม
ถึงได้หรี่ตาลงและหลับตาได้อีกครั้ง

“เจ้าของดุจัง.....อย่างนี้แมวจะกล้าหือเหรอ...”

รอยยิ้มและความทุ่มเทจากใจทำให้ แคปได้ใจของวินไปครอง.......กว่าจะได้มาต้องใช้ความอดทนและหนักแน่นมากแค่ ไหน กว่าที่วินจะเปิดใจให้อย่างนี้ แคปไม่รู้ว่าตัวเองทำสำเร็จตอนไหน แต่จากนี้ไปจะไม่ทำให้พี่วิน
ต้องเหงาเหมือนที่ผ่าน ๆ มาอีกต่อไป

+++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++

“หวานอยากได้การ์ตูนเล่มใหม่หรือเปล่า..........เดี๋ยวไปซื้อกัน”

ปลาเอ่ยถามเด็กตัวเล็กที่เดินกินไอศกรีมโคนที่เขาซื้อให้อย่างเอร็ด อร่อย และก็ได้เห็นว่าตาหวานทำตาโตและหันมายิ้มให้ ก่อนจะรีบวิ่งนำหน้าไปที่ร้านขายหนังสือการ์ตูนทันที

“อันนี้ออกใหม่.....หวานยังไม่มีเล่มนี้เลย.....แต่เล่มนี้หวานมีแล้ว”

เด็กตัวเล็กอวดนั่นอวดนี่ กับผู้ปกครองมากกว่าจะเป็นแฟน....และก็คว้าหนังสือที่อยากได้ออกมาชูไว้ เหนือหัว ก่อนจะหัวเราะอย่างดีใจ ที่คว้าไว้ได้ก่อนหนังสือเล่มสุดท้ายจะหมดแผง
รีบตรงดิ่งไปจ่ายเงินค่าหนังสือการ์ตูนทันที

“ไม่ต้องจ่ายให้หวานแล้ว.........วันนี้หวานจะจ่ายเอง.....”

อันที่จริงก็เป็นเรื่องที่ถูกที่ควรแล้ว ที่ในเมื่ออยากอ่านก็ควรจะจ่ายค่าหนังสือเอง แต่พอพยายามค้นหาเงินในกระเป๋า ก็ถึงได้รู้ว่าในกระเป๋ากางเกง มีแต่เครื่องเล่นเอ็มพี สำหรับฟังเพลงเท่านั้น สุดท้ายจึงต้องหันมายิ้มแหย ๆ และจะเอาหนังสือกลับไปคืนที่เดิม อย่างเศร้าใจ

“ทำไมไม่เอาล่ะ......มีอะไรหรือเปล่า” ปลาเดินมาที่เด็กตัวเล็กที่นำหนังสือกลับมาวางไว้ที่เดิม และมองหนังสือที่อยากได้อย่างแสนเสียดาย

“ไม่เอา....ไม่อยากได้แล้ว....เดี๋ยววันหลังค่อยมาซื้อ....” ตาหวาน วางหนังสือไว้บนชั้นวาง ก่อนจะเดินออกจากร้านหนังสือ และหันไปมองก็ไม่พบว่ามีใครเดินตามหลังมา พี่ปลาหายไปไหนแล้ว
เมื่อกี้ยังเห็นเดินอยู่

และเวลาไม่นาน เมื่อหันหน้ากลับมาอีกครั้ง ก็เห็นว่าปลามายืนอยู่ตรงหน้าแล้ว จนตาหวานถึงกับสะดุ้ง

“เหวอ...ทำไมวิ่งมาเร็วจัง....ตกใจหมด...กลับเถอะพี่ปลา....หวานอยากกลับบ้านแล้ว”

มือเล็ก ๆ ดึงแขนของผู้ปกครองให้ออกเดิน และก็เห็นว่ามีถุงกระดาษใส่ของยื่นมาให้ตรงหน้า

“พี่ล่ะงงทำไมหวานไม่ซื้อ....อ่ะเล่มนี้พี่ซื้อมาอ่าน...แต่พี่ให้หวานยืมอ่านก่อนก็ได้..เดี๋ยววันหลังค่อยเอามาคืน”

ตาหวานรีบดึงหนังสือในถุงกระดาษออกมาดู และก็ยิ้มออกมา เมื่อเห็นว่าเป็นเล่มที่อยากได้

“ให้หวานยืมอ่านก่อนจริงเหรอ.....พี่เอาไปอ่านก่อนก็ได้นะ....อ่านจบแล้วเดี๋ยวหวานค่อยยืมต่อก็ได้”
ตาหวานเห็นแล้วอยากจะแกะหนังสืออ่านทันที แต่ว่าคงไม่ดีถ้าเจ้าของเขายังไม่ได้อ่านก่อนแล้วเอาของเขามา

“พี่ให้ยืมก่อนจริง ๆ พอดีพี่ยังขี้เกียจอ่านอยู่....เอาไว้หวานอ่านเสร็จแล้วค่อยเอามาคืนก็ได้”
ผู้ปกครองของตาหวาน ส่งยิ้มให้กับเด็กตัวเล็ก ที่ทำหน้าดีใจ อย่างเห็นได้ชัด

ยิ้มจนหน้าบาน ตาหวาน ๆ เลยยิ่งหวานซึ้งเข้าไปใหญ่

“ขอบคุณหรือยัง........ผู้ใหญ่ให้ยืมของน่ะ”
ปลาแกล้งแซวเด็กตัวเล็ก ที่ยิ่งไม่ยอมหุบยิ้ม เดินถือหนังสือยิ้มไปยิ้มมาจะรีบกลับบ้านอย่างเดียว

“อื้อ....ขอบคุณครับ...พี่ปลากลับบ้านกัน”

เด็กตัวเล็กของผู้ปกครอง ยกมือไหว้คนที่ให้ยืมของ และออกแรงลากแขนให้ร่างสูงนั้น รีบพากลับบ้านสักที
ปลาลอบมองใบหน้าน่ารักนั้นอย่างนึกขำตัวเอง

อยากจะหัวเราะให้บ้า เขาไม่เคยคิดว่าตัวเองจะมาหลงเด็กแบบนี้
เด็ก........
เด็กมากด้วย.....
เด็กจนเขาเองยังต้องทำตัวเป็นเด็กตามไปด้วย เหมือนกับเป็นผู้ปกครอง
เหมือนกับว่าไม่ใช่แฟนกันอย่างนั้นแหละ
แต่เขาก็ชอบแบบนี้ ชอบอย่างไม่เข้าใจตัวเองเลย....ว่าคนอย่างเขาที่เคยผ่านอะไรมาตั้งมากมาย
จะมาหลงใหลกับเด็กคนนี้...และทำอะไรแปลก ๆ อย่างที่ตัวเองไม่คิดว่าจะทำได้
ตาหวานเอ้ย ตาหวาน ...... ตาหวาน ....น่ารักจริง ๆ

TBC……

ออฟไลน์ kamui1972

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 278
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +186/-0
ปริศนาอักษรไขว้หัวใจยุ่งเหยิง 22

ตาหวาน ทำไมถึงเหมือนเด็กขนาดนี้นะ เด็กน่ารัก น่ารัก น่ารัก ดูยังไงก็น่ารัก

ปลานอนเท้าคางมองเด็กตัวเล็กที่ก้มหน้าก้มตาอ่านหนังสือการ์ตูนในมือ
บางครั้งทำหน้าเครียด บางครั้งก็ยิ้ม แล้วก็กลับมาเครียดอีก

ปลาลุกขึ้นนั่งและดึงให้เด็กตัวเล็กเอนร่างเข้ามาหา
ร่างเล็กบางนั้นใช้ไหล่ของเขาเป็นที่พิง และยืดขาอ่านหนังสืออย่างสบายใจเฉิบอยุ่บนเตียง

"หวาน หวาน หวาน หวาน ตาหวาน ตาหวาน "

ปลาโอบรัดรอบเอวบางไว้แน่น และกดปลายจมูกหนัก ๆ เข้าที่ข้างแก้มของตาหวานที่หันมามองหน้าเขาอย่างงง ๆ และถอดหูฟัง เพลงที่กำลังฟังออก หันหน้ามาถามด้วยความสงสัย

"หิวข้าวเหรอพี่ปลา...กินช็อคโกแลตก่อนมั้ย...."

มือเล็ก ๆ ค้นหาที่กระเป๋ากางเกงและหยิบช็อคโกแลตแท่งออกมา
วางหนังสือการ์ตูนลง ก่อนจะแกะห่อกระดาษออกและส่งให้ร่างสูงที่กอดรัดฟัดเหวี่ยงกับร่างกายตัวเองเล่น

"กินสิพี่ปลา..หวานให้" มือเล็ก ๆ ป้อนช็อคโกแลตแท่งใส่ปากของร่างสูงที่ยังกอดแน่นไม่ยอมปล่อย
แถมยังซุกปลายจมูกลงที่ซอกคอซะอีก

"จั๊กจี้จะตายไปพี่ปลา....." หนังสือการ์ตูนถูกเอามากางอีกครั้ง พร้อมกับดวงตากลมโตหวานซึ้งนั้นเริ่มกวาดสายตาไปตามหนังสือและทำหน้าหลาก หลายเหมือนเมื่อครู่

"หวาน....กินช็อคโกแลตมั้ย"

น้ำเสียงทุ้มนุ่มเอ่ยบอกเสียงอู้อี้ เคี้ยวช็อคโกแลตไปเรื่อย ๆ และเอ่ยถาม ร่างที่เขากอดเอาไว้ไม่ยอมปล่อย

"ไหนอ่ะ...กินหมดยังอ่ะ..เหลือให้หวานป่ะ"

ใบหน้าน่ารักหันมาถาม และก็ได้เห็นนัยน์ตาวาบหวามที่ทอดมองลงมาอย่างหวานซึ้ง

"กินมั้ย..." ช็อคโกแลตถูกกัดและเหลือไว้อีกครึ่งให้โผล่พ้นริมฝีปากออกมา
พร้อมกับที่ฝ่ามืออุ่น ๆ เริ่มลากไล้สัมผัสเข้าไปภายในผิวเนื้อเนียนละเอียดที่ถูกห่อหุ้มไว้ด้วยเสื้อยืดผืนหนา

"หวาน...หวาน...หวาน..ไม่..ไม่กินแล้วแหละ..พี่ ..พี่ปลา"

ร่างโปร่งบาง หยุดมืออุ่น ๆ เอาไว้ และก้มหน้าลงอย่างเขินอาย

ปกติไม่ได้เคยคิดถึงเรื่องนี้ ถึงจะเคยทำบ้าง ก็ไม่ถึงขนาดสัมผัสเนื้อตัวกันตรง ๆ แบบนี้

"ทำไมล่ะ..หวานบอกให้พี่หยุดสิ...แล้วแค่หวานจุ๊บพี่ทีเดียว พี่หยุดเลย"

น้ำเสียงอบอุ่นทอดเสียงแผ่ว ๆ และเอ่ยบอกกับร่างในอ้อมแขน
ใบหน้าน่ารักหันมาจ้องมองตอบตาโต

ตัดสินใจเพียงนิดเดียว ก็ใช้ริมฝีปากสัมผัสไปที่ริมฝีปากของร่างสูง แบบเขิน ๆ แล้วก็ผละออกห่าง
มาอยู่ในท่าเดิม

เสียงหัวเราะแผ่ว ๆ อยู่ที่ข้างหู ก่อนจะโอบรัดร่างเล็กบางเอาไว้อย่างทะนุถนอม
เขาจะแตะต้องร่างบางนี้เมื่อไหร่ก็ได้ แต่เขาไม่คิดจะทำเลยสักนิด
ตาหวาน เด็กตัวเล็กใสซื่อแบบนี้แหละคือสิ่งที่เขาปรารถนา ไม่เคยคิดจะทำให้แปดเปื้อนเลย
อยากให้สดใสน่ารัก อยู่เป็นที่รักของเขาแบบนี้นาน ๆ

"พี่รักหวานนะ...ร้ากกกกกกก..รัก..ทำไมรักขนาดนี้นะแปลกจังเลย...แล้วหวานรักพี่หรือเปล่า"

ใบหน้าคมยิ้มสดใส กระซิบถามร่างในอ้อมแขนเสียงแผ่ว และก็ได้รับคำตอบกลับมาเป็นการพยักหน้าซ้ำ ๆ

"ไม่เห็นรู้เรื่องเลย หวานบอกว่าหวานรักพี่ปลาก่อนสิ...พี่จะได้รู้นะหวานนะ"

ประโยคถัดมา มีผลให้ใบหน้าน่ารัก แดงซ่านขึ้นมาเพราะรู้สึกเหมือนกำลังโดนกลั่นแกล้งยังไงยังงั้น
ก็....ไม่เคยคิดว่าจะพูดอะไรแบบนี้เป็น
ไม่เคยคิด

ไม่เคยรู้ว่าต้องทำ
พอจะต้องพูด ก็รู้สึกว่ามันเขิน เขินจนทำตัวไม่ถูก

"ก็รัก...หวานก็รัก...."

เด็กตัวเล็ก ที่ก้มหน้าเอียงอาย อยู่ในอ้อมแขนของปลา และหลบสายตาหนีนั้น

กลายเป็นการไปกระตุ้นเร้าความรู้สึกของร่างสูงให้ตื่นขึ้นมาอย่างช่วยไม่ได้

"งั้นหวานต้องรีบกลับแล้วล่ะ....ตอนนี้เลยรู้มั้ย"

ร่างสูงลุกขึ้นยืนและดึงข้อมือเล็ก ๆ นั้นให้ลุกขึ้นมาจากเตียง
เขาชักไม่เป็นตัวของตัวเองแล้ว ขืนปล่อยไว้แบบนี้ ตาหวานต้องแย่แน่ ๆ

"ทำไมอ่ะ..หวานยังอ่านไม่จบเลย...เดี๋ยวก่อนสิ..."

เพราะไม่เข้าใจว่ากำลังจะเกิดอะไรขึ้น...
ทำไมต้องรีบ ทำไมต้องรีบขนาดนี้ด้วย มีอะไรหรือเปล่านะ
แต่พอเห็นดวงตาคมวาบหวามที่ทอดมองลงมาถึงได้รู้

"พี่ไม่รับรองความปลอดภัยนะ...ถ้าหวานยังอยู่น่ะ"

เหมือนลังเลที่จะพูด แต่ก็ต้องพูดออกไป เขาไม่ใช่พระอิฐพระปูน ถึงจะอดทนไปได้ตลอด

เด็กตัวเล็กที่ปลาหลงรักนักหนา
ยืนก้มหน้านิ่ง เข้าใจทุกประโยคนั้น
มีผลให้ใบหน้ายิ่งถูกย้อมไปด้วยสีเลือด และหัวใจเต้นระทึกอย่างไม่เคยเป็น
รับรู้ความหมายทั้งหมดนั้นทันที

เหมือนกับลังเล ครุ่นคิดตัดสินใจ
แต่ก็เพียงครู่เดียว ครั้งแรกคิดจะตัดสินใจหันหลังหนีหน้า

แต่ก็หันกลับมาและเดินมายืนอยู่ตรงหน้าร่างสูงที่ยืนนิ่งอยู่

ก่อนจะยกเรียวแขนขึ้นโอบรัดรอบลำคอแกร่ง และซุกใบหน้าลงกับอกกว้างอบอุ่นนั้น

"หวานไม่คิดว่าตัวเองจะต้องปลอดภัยไปตลอดนี่...พี่ปลานั่นแหละคิดว่าตัวเองจะปลอดภัยนักเหรอที่ปล่อยให้หวานมาอยู่ใกล้ ๆ อย่างนี้"

คำบอกกล่าว ทำให้ปลาหยุดนิ่ง และยกแขนขึ้นโอบรัดร่างเล็กบางในอ้อมแขน เด็กบ้านี่ กล้าท้าทายเขาเชียวนะ

"งั้น....ไหนดูซิ..ว่าใครจะไม่ปลอดภัยกันแน่"

เด็กตัวเล็กรู้สึกว่า ร่างกายของตัวเองลอยวูบขึ้นจากพื้น
เพราะกำลังถูกอุ้มมาวางลงบนเตียง

ดวงตาสองคู่สบกันนิ่ง

ต่างฝ่ายต่างอยากรู้ว่าใครกันแน่ ที่ไม่ปลอดภัย

TBC....

ออฟไลน์ kamui1972

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 278
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +186/-0
ปริศนาอักษรไขว้.....หัวใจยุ่งเหยิง 23

"หวาน..ปีนี้อายุเท่าไหร่.."

เสียงทุ้ม ๆ กระซิบถามร่างในอ้อมแขนที่ข้างใบหูเล็ก ๆ และก็ได้รับคำตอบเป็นเสียงหัวเราะแผ่ว ๆ ของเด็กตัวเล็กนั้น

"21 แล้ว กำลังจะ 22..พี่ปลาล่ะอายุเท่าไหร่"

ไม่มีคำตอบกลับมานอกจากเสียงหัวเราะเบา ๆ ของเจ้าของคำถาม
บางครั้งปลาก็เห็นตาหวานเป็นแค่เด็ก ประถม แต่พอแตะต้องเนื้อตัวแบบนี้ถึงได้รู้
ว่าไม่ใช่เด็กประถมจริง ๆ

"พี่อารมณ์รุนแรงนะ...ทำอะไรไปก็หยุดไม่ได้ด้วย...ถ้าทำอะไรไป..เด็กชายตาหวานจะทนได้หรือเปล่านะ..."

ปลาเอ่ยถามร่างในอ้อมแขนขณะที่ค่อย ๆ ปลดเสื้อออกจากร่างกายให้เด็กที่นอนมองเขาแก้มแดง ตาไม่กระพริบ

"ไม่หรอก...รู้จักหวานน้อยไปแล้ว...จะทำอะไรล่ะ..กอด..จูบ..หรือมากกว่านั้น...รู้มั้ยว่าหวานบันทึกไว้หมดแล้ว..เพราะฉะนั้น
อย่ามาคิดว่าหวานอ่อนหัดหน่อยเลย...หวานก็ผู้ชายนะค้าบบบบบบบบบ จะใสซื่ออะไรนักหนา...ช่ายม้ายยยยยยย"

เสียงใส ๆ ลากเสียงยาว ๆ ก่อนจะค่อยหรี่ตาลง เมื่อใบหน้าคมก้มลง แนบริมฝีปากคลอเคลียไปมาที่ข้างแก้ม และวกกลับมาที่ริมฝีปากอิ่มสีแดงสดนั้น และแตะประสานซ้ำ ๆ หลายครั้ง ก่อนจะคลึงเคล้นเคล้าคลึงและส่งปลายลิ้นนุ่มร้อนเข้าไปในริมฝีปากนิ่มหวาน
คู่สวยนั้น สอดประสานปลายลิ้นไปมา จงใจให้เด็กตัวเล็กกระหวัดปลายลิ้นพัวพันให้ได้ และก็ได้ผล เมื่อตาหวานปฏิบัติตามได้โดยเร็ว
เด็กอะไร สอนนิดเดียวจำได้หมดว่าต้องทำอะไรยังไงบ้าง ร้ายกาจจริง ๆ

"ปากดีจริงนะเรา..เด็กบ้านี่"

เสียงหัวเราะแผ่ว ๆ ของปลา ก่อนจะค่อยเสื้อผ้าออกจากร่างกายของตัวเอง และแตะต้องเนื้อตัวขาวผ่อง นวลเนียนทั้งตัวของร่าง
โปร่งบางเบื้องล่าง ที่ค่อยปรือตาขึ้นและส่งยิ้มหวานซึ้งมาให้

ฝ่ามือที่ลากไล้จากยอดอกสีแดงเข้ม คลึงเคล้าเล่น ก่อนจะก้มลงชิมรสความหวานนั้น ขบกัดเบา ๆ จนยอดอกสีเข็มแข็งขืนและไล้ปลายลิ้นลงมาตามสีข้าง ก่อนจะไล้ปลายลิ้น...เข้าหาหน้าท้องแบนราบ ฝังร่องรอยเอาไว้ จนเด่นชัด

"อือ...อ่ะ" เสียงใสครางแผ่ว ก่อนจะค่อยหยัดกายลุกขึ้น และเอนกายลงด้านข้าง เมื่อรับรู้ถึงอารมณ์ที่ไม่มั่นคงของตัวเอง
มือเล็ก ๆ ลูบไล้ฝ่ามือไปตามลาดไหล่กว้าง ก่อนจะค่อยหันศรีษะไปในทิศทางที่จะสามารถได้สัมผัสกับส่วนแข็งแกร่งของร่าง สูงนั้นได้อย่างถนัด

"หวานทำให้ด้วย...พี่ปลาขยับมาทางนี้สิ"

สิ่งที่ทำให้ปลา หนุ่มผู้เจนโลก ไม่เคยคาดคิดก็คือ เด็กตัวเล็ก ใสซื่อของเขา กล้าทำอะไรมากกว่าที่คิด อย่างไม่น่าเชื่อ

ถึงจะรู้สึกเขินอย่างไม่เคยเป็นมาก่อน แต่ร่างสูงนั้นก็เอนร่างลง...ให้ริมฝีปากร้อนรุ่มนั้นสัมผัสได้เช่นเดียวกับที่เขาทำ

"อ๊า..อือ.." เรียวลิ้นร้อน ๆ คลึงเคล้าไปที่แก่นกายแข็งขืนของร่างสูง เด็กบ้านี่เก่งเกินไปแล้ว..ไปฝึกมาจากไหนกัน
ถึงขนาดทำให้เขาร้องครางได้ นี่ก็คงไม่ธรรมดาซะแล้ว เขาชักจะประเมินเด็กคนนี้ผิดไป

เก่งนักนะ...

ตาหวานร้ายกาจ

เขาคงต้องเอาคืนให้เท่าตัวเลยล่ะ เดี๋ยวเสียชื่อกันพอดี

ร่างสูงหยัดกายขึ้น ดึงให้ร่างเล็กตาปรือนั้นลุกขึ้นตาม แก้มเนียนใสแดงปลั่ง ไล้ปลายลิ้นไปมาที่ริมฝีปาก ก่อนจะส่งยิ้มยั่วเย้ามาให้
ใบหน้าคมแสดงให้เห็นชัดเจนว่ากำลังตื่นตะลึงกับท่าทางยั่วยวนเกินคาด ของเด็กตัวเล็ก ที่เอาแต่สนใจกับของเด็กเล่น และกินขนมเด็ก ๆ ไปวัน ๆ

เขาแทบไม่อยากจะเชื่อเลย...ร้ายจริง ๆ เลยตาหวาน........

ทำอะไรได้มากอย่างไม่น่าเชื่อ

แม้กระทั่งสิ่งที่เขาไม่คิดว่าตาหวานจะทำ ร่างโปร่งบาง นัยน์ตาหวานซึ้งนั้นก็ทำได้ แถมยังกระพริบตามองเขาตาปริบ ๆ
เหมือนไม่มีอะไรเกิดขึ้นซะอีก ยั่วอย่างนี้จะปล่อยไปได้ยังไงกัน

"เดี๋ยวรอก่อนนะ...."

ส่วนแข็งขืนที่ชูชัน ตามแรงอารมณ์ปรากฎต่อสายตาเด็กร้ายกาจนั่น

ก่อนที่ปลาจะเอนร่างลง และแยกขาออกกว้าง จนเห็นสิ่งนั้นได้ชัด...

"ร้ายนักนะเรา..ไปหัดมาจากไหนกัน...ไม่ธรรมดาแล้วนะเราน่ะ"

น้ำเสียงทุ้มนุ่มเอ่ยบอกเสียงกระเส่า เมื่อริมฝีปากร้อนรุ่มของเด็กตัวเล็ก ค่อย ๆ ครอบครองร่างกายเขาเอาไว้ทั้งหมด
มือเล็ก ๆ คลึงเคล้นไปมาที่ส่วนปลาย และยังไล้เลียปลายลิ้นไม่หยุด จนร่างกายของปลาเกร็งแน่นไปทั้งร่าง

จนแทบจะปลดปล่อย

เรียวนิ้วแกร่ง เทชโลมบางสิ่งที่ปลายนิ้ว และกดแทรกเข้าไปภายในช่องทางที่บีบรัดปลายนิ้วของเขา

"อือ...อ่ะ.." เสียงหวานใสร้องครางแผ่ว ก่อนจะผละริมฝีปากออก และแหงนเงยใบหน้าขึ้น ส่งสายตายั่วยวนโดยที่เจ้าตัวไม่รู้เลยสักนิด
ว่าทำหน้ายังไงบ้าง และทำให้ปลารู้สึกอย่างไรในเวลานี้

ร่างสูงหยัดกายขึ้น และกดให้ร่างโปร่งบางเอนกายลงกับเตียงกว้าง

สองแขนแกร่ง สอดเข้ากับใต้เข่าของร่างบาง ก่อนจะยกร่างเล็กนั้นขึ้นสูง

จนเรียวขาเนียนสวย พาดอยู่ที่ลาดไหล่แข็งแกร่ง และค่อย ๆ กดร่างกายเข้าไปในช่องทางเล็กแคบนั้นอย่างเชื่องช้า
แต่ก็เข้าไปได้แค่ส่วนปลายเท่านั้น

"โอ้ย..เจ็บ..หวานเจ็บ...อื้อ"

น้ำเสียงหวานใสสั่นพร่า พร้อมกับที่หยาดน้ำตาคลอปริ่มอยู่ที่ขอบตาของร่างโปร่งบาง

ปลาไม่คิดว่าจะทำให้เด็กตัวเล็กของเขาต้องเจ็บ..ก็หลอกเขาซะจนตกใจ..แต่พอร่างกายเข้าไปสอดประสานอย่างนี้ถึงได้รู้
ช่องทางเล็กแคบบีบรัดแก่นกายเขาเอาไว้แน่น ไม่ยอมให้เขาแทรกกายเข้าไปได้ง่าย ๆ

แม้จะมีสิ่งที่ชโลมเปิดทางไว้ให้แล้ว ก็ไม่ได้มีอะไรดีขึ้นเลยสักนิด

ส่วนแข็งขืนนั้น ค่อยถอนออกจากช่องทางตึงแน่นนั้นอย่างเชื่องช้า ก่อนจะค่อย ๆ แทรกซ้ำเข้าไปอีกครั้ง

มือเล็ก ๆ จิกทึ้งผ้าปูที่นอนเอาไว้จนยับยู่ยี่ แหงนเงยใบหน้าขึ้น และขบกัดริมฝีปากตัวเองเอาไว้แน่น
ไม่ยินยอมให้บางสิ่งเข้าไปในร่างกายของตนเองเลยสักนิด

"หวาน..หายใจลึก ๆ ..อย่าเกร็งนะ..เด็กดี..หายใจเข้าลึก ๆ นะ"

ฝ่ามืออบอุ่นดึงมือเล็ก ๆ นั้นจากการจิกทึ้งผ้าปูที่นอนให้เข้ามาโอบรัดรอบลำคอแกร่งเอาไว้เป็นที่ยึดเหนี่ยว

หยาดน้ำใสคลอปริ่มที่ดวงตาหวานซึ้ง ก่อนจะค่อย ๆ หยดลงที่ข้างแก้ม พร้อมกับที่ร่างโปร่งบางสะอื้นไห้จนตัวโยน
จิกทึ้งปลายเล็บเข้าที่ลาดไหล่กว้าง เพื่อระบายความเจ็บปวด

ก็อ่านมาอย่างดี ศึกษามาอย่างดีแล้ว ว่าต้องทำยังไงบ้าง ที่จะทำให้อีกฝ่ายรู้สึกดี
พี่ปลาเป็นผู้ใหญ่คงจะคิดดูถูกเด็กที่ทำอะไรไม่เป็น ถึงได้ไปศึกษามา จะได้ไม่ขายหน้า
แต่พอถูกสอดกายเข้าหาแบบนี้

เหมือนกับว่าร่างกายจะแตกเป็นเสี่ยง ๆ ไม่เห็นเป็นอย่างที่อ่านมาเลยสักนิด
รู้สึกเจ็บ เจ็บจนแทบตาย ทรมานจนแทบจะทนไม่ไหวอยู่แล้ว

"หวาน..โอ๋..โอ๋..อย่าร้องนะคนดี..อย่าร้องเลยนะ"

จังหวะร่างกายเริ่มสอดประสานอย่างเชื่องช้า

เรือนร่างแข็งแกร่ง ลดลงแนบสนิทกับร่างบางทั้งร่าง และโอบรัดแผ่นหลังเล็กบางนั้นเอาไว้แน่น
กระซิบปลอบขวัญร่างในอ้อมแขนที่สั่นสะท้านไปตามแรงสะอื้น เป็นนานก่อนที่ตาหวานจะค่อยคลายความเจ็บปวดลงได้บ้าง

"พี่ทำเบา ๆ นะ..ไม่เจ็บนะเด็กดี..."

การปลอบขวัญเริ่มเป็นผลเมื่อช่องทางคับแคบที่บีบรัดร่างกายของแข็งแน่นนั้นเอาไว้ ค่อยคลายลง
และเริ่มยอมรับส่วนที่เข้าไปเข้าออกภายในร่างกาย...การสอดประสานร่างสองร่างอย่างเชื่องช้าค่อย ๆ ดำเนินไป อย่างแผ่วเบา

ปลายเล็บของร่างบางยังคงจิกทึ้งเข้ากับแผ่นหลังกว้างอยู่แต่ก็ไม่รุนแรงเท่ากับครั้งแรก
พร้อมกับที่เสียงสะอื้นไห้
ค่อยแปรเปลี่ยนเป็นเสียงหอบหายใจหนัก ๆ ตามอารมณ์ที่ถูกปลุกปั่นขึ้น

"อ่ะ..อะ..อือ"

เสียงหวาน ๆ ครางแผ่ว ขบกัดริมฝีปากตัวเองเอาไว้แน่น เมื่อความเจ็บปวดค่อยผ่อนคลายลง
แปรเปลี่ยเป็นความรู้สึกซาบซ่านเข้ามาแทนที่

ส่วนอ่อนไหวของร่างบาง เสียดสีไปที่หน้าท้องแกร่ง...
จนเริ่มชูชันขึ้น พร้อมกับหยาดหยดจากส่วนปลายค่อย ๆ หลั่งรินออกมาอย่างช้า ๆ

จังหวะร่างกายเชื่องช้านั้นค่อยเป็นไปในทิศทางเดียวกัน
ปลายจมูกโด่งระบายลมหายใจที่ฝืนทนเอาไว้ ก่อนจะช้อนสะโพกมนให้ลอยขึ้น

และก้าวเดินลงจากเตียง

เรียวแขนเล็กบาง กอดรัดรอบลำคอแกร่งเอาไว้แน่น

เมื่อรับรู้ถึงแรงเหวี่ยงขึ้นลง ยิ่งฝ่ามือแกร่งคลึงเคล้าสะโพกเนียนให้แทรกประสานเข้ากับร่างกายตามจังหวะมากเท่าไหร่

ดูเหมือนต่างฝ่ายต่างก็รับรู้ถึงความรู้สึกของกันและกัน

เรียวขาเนียนผ่อง โอบรัดที่รอบสะโพกแกร่ง..เกร็งร่างกายแน่น เป็นหลักยึดร่างเอาไว้

เสียงลมหายใจที่หอบหนักคละเคล้ากัน จนทำให้ทั้งเด็กที่อยากรู้อยากเห็น และคนสอน แทบจะทนต่อไปไม่ไหว

"อ๊า..พี่ปลา..หวานจะทนไม่ไหว...จะออกมาอยู่แล้ว.."

ส่วนแข็งขืนที่แทรกลึกถึงในสุดของช่องท่องคับแคบบีบรัด เสียดสีไปมากับช่องทางภายในจนแทบจะถึงที่สุดของอารมณ์

ก่อนที่ร่างสูงนั้นจะค่อยก้าวมาที่เตียงและปล่อยให้ร่างเล็กนั้นเอน กายลงบนเตียงกว้าง และปลาก็ตามเข้ามาสอดประสานร่างกายเข้าไปอีกครั้ง ไม่มีจังหวะไหนที่จะผละจากกันได้สักนิดเดียว

เรียวขาเนียนถูกยกขึ้นสูงให้พาดอยู่บนบ่ากว้าง พร้อมกับที่จังหวะรักเริ่มรุนแรงมากขึ้น

"อื้อ..อ่ะ....ง๊า..อ่ะ..อึก..."

สะโพกแกร่งเร่งจังหวะให้รวดเร็วขึ้นจนแทบจะหยุดหายใจ ร่างเล็กเนียนขาวเบื้องล่าง สั่นสะท้านไปตามแรงแห่งอารมณ์ที่โหมกระหน่ำ เสียงกรีดร้อง ครางเครือ ของตาหวานพร้อมกับการะปลดปล่อยหยาดหยดขุ่นข้นของร่างกายนั้นออกมาก่อน เมื่อสิ้นสุดความรู้สึกสุขสม

ลมหายใจที่หอบกระชั้น เหมือนเสียงสะอื้น...ยิ่งช่วยเร่ง ให้ร่างกายของปลาฝืนทนต่อไปอีกไม่ไหว
ช่วงจังหวะที่การแทรกสอดถึงที่สิ้นสุด

ส่วนที่สอดแทรกเอาไว้ ถูกปลดปล่อยออกมาในเวลาที่ไม่ต่างกันมากนัก เมื่อปลาอดทนต่อไปอีกไม่ไหว

ร่างสองร่างเกร็งแน่น ก่อนจะกระตุกกายซ้ำ อีกหลายครั้ง และปลดปล่อยหยาดหยดชีวิตออกมาจนหมด

"หวาน..เก่งจริง ๆ เลย...เด็กอะไรทำให้มีความสุขได้มากขนาดนี้เลยนะ..ไม่อยากจะเชื่อเลย อ่ะ..อื่อ"

ส่วนแข็งขืนที่อ่อนตัวลง ค่อย ๆ ถอนออกจากช่องทางที่บีบรัดห่อหุ้มร่างกายของร่างสูงเอาไว้
พร้อมกับที่หยาดหยดสีแดงสด ปนเปราะเปื้อนออกมากับหยดน้ำอุ่นสีขาวข้นนั้น

"อ่ะ..อือ..เจ็บจังเลย.."

เสียงบ่นงึมงำในลำคอ พร้อมกับที่ดวงตาหวานซึ้งปรือปรอย จ้องมองดวงตาคม ๆ นั้นอย่างขอความเห็นใจ

"จ่ะ..จ่ะ..เจ็บ..แต่เด็กดี..เก่งจังเลยนะ..ไม่อยากจะเชื่อเลย..ว่าจะเก่งขนาดนี้"

คำชมถูกบอกซ้ำแล้วซ้ำเล่า พร้อมกับที่ปลายจมูกโด่งแตะสัมผัสเข้าที่หน้าผากมนชื้นเหงื่อ
ใบหน้าน่ารักจึงค่อย ส่งยิ้มหวานหยาดเยิ้มมาให้

ร่างเล็กบางลอยขึ้นจากเตียงกว้าง เรียวแขนเล็กโอบรัดรอบลำคอแกร่งเอาไว้แน่น ดวงตากลมโตปรือปรอยเพราะความเหนื่อยอ่อนจ้องมองใบหน้าคมด้วยความสงสัย

"ไปล้างตัวกันนะ..เดี๋ยวจะได้มาพักผ่อน..เดี๋ยวพี่อาบน้ำให้หวานเอง"

จุดมุ่งหมายไม่ใช่แค่อาบน้ำ แต่เด็กแสนซื่ออย่างตาหวานคงไม่เข้าใจนัก ได้แต่พยักหน้าตาม
ก่อนที่จะรู้สึกว่าใบหน้าร้อนวูบขึ้นมา เมื่อรับรู้ถึงหยาดหยดที่หลั่งรินออกมาจากร่างกาย

"มันเลอะ...รู้มั้ย...เดี๋ยวทำให้หายเอง...นะ.."

นัยน์ตาคม ๆ ทอดมองอย่างหวานซึ้ง แต่เต็มไปด้วยแรงเสน่ห์หา

ร่างโปร่งบางซุกใบหน้าเข้ากับอกกว้าง และเพิ่งรู้สึกว่าใบหน้าร้อนวูบวาบขึ้นมาอย่างช่วยไม่ได้
และเพิ่งจะสำนึกว่าตัวเองได้ทำอะไรลงไปบ้าง

ยอมแล้วก็ต้องยอมให้ตลอด...ถ้าให้สอนแล้วก็ต้องให้สอนให้ตลอด

ทำยังไงได้ล่ะ....

ดวงตาคม ๆ ทอดมองร่างเล็กในอ้อมแขนอย่างแสนรัก และปรารถนา....

ว่าง่ายจริงนะ
เด็กอะไรว่านอนสอนง่าย.....และยังจำเก่งอีก...

สอนแล้วเก่งอย่างนี้

ต้องสอนให้เยอะ ๆ ซะแล้ว

จะได้จำได้เยอะ ๆ จะได้เก่ง ๆ

เด็กตัวเล็กถูกอุ้มเดินเข้าห้องน้ำ เพื่อชำระล้างร่างกาย และก็เพิ่งได้รู้ว่า ไม่ว่าที่ไหน ๆ ปลาก็สอนเรื่องอย่างนั้นให้ได้ทุกที่ทุกเวลา

TBC....

ririmu

  • บุคคลทั่วไป
 :jul1: มายมาก.............. :-[ :-[ :-[ :-[ :-[ :-[ :-[

เด็กน้อยเก่งมากมาย แคปสู้ไม่ได้เลยนะเนี๊ย.........

สงสัยพี่วินต้องเทรนเยอะ ๆ ซะแล้ว เหอ ๆๆ

Kipper

  • บุคคลทั่วไป

 

สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด


สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด