[นิยาย]***เรื่องรักต้องใช้ใจศึกษา......by aoikyosuke Update 15 กค 54 ตอนใหม่***
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด

สนใจโฆษณาติดต่อ laopedcenter[at]hotmail.com คลิ๊กรายละเอียดที่ตำแหน่งว่างเลยครับ

สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด

ผู้เขียน หัวข้อ: [นิยาย]***เรื่องรักต้องใช้ใจศึกษา......by aoikyosuke Update 15 กค 54 ตอนใหม่***  (อ่าน 78728 ครั้ง)

ออฟไลน์ kamui1972

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 278
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +186/-0
ข้อตกลงในการเข้ามาในเล้าเป็ดนะครับ กรุณาอ่านทุกคนนะครับ
เล้าแห่งนี้เป็นที่ที่คนชื่นชอบนิยาย boy's love หรือชายรักชาย หากใครหลงมาแล้วไม่ชอบ
กรุณากดกากบาทสีแดงมุมด้านขวาบนออกไปด้วยนะครับ

สรุปข้อสำคัญดังนี้

1.ห้ามละเมิดสิทธิส่วนตัวของคนแต่งและบุคคลในเรื่องทั้งหมด

2. ห้ามมิให้โพสต์ข้อความ รูปภาพ ใช้ลายเซ็นหรือรุปส่วนตัวหรือสื่อใดๆที่ก่อให้เกิดความขัดแย้ง ไม่แสดงความเคารพ, หมิ่นประมาท, หยาบคาย, เป็นที่รังเกียจ, ไม่เหมาะสม,ติดเรท x,ทำให้กระทู้กลายพันธ์,ไม่เกี่ยวพันกับนิยายที่ลง หรืออื่นๆที่ขัดต่อกฎหมาย,ห้ามโพสกระทู้ที่จะสร้างประเด็นความขัดแย้ง  ในเรื่อง การเมือง ศาสนา พระมหากษัตริย์  และสถาบันต่าง ๆ  รวมถึงกระทู้ที่จะสร้างความแตกแยก  ชวนวิวาท ของสมาชิกภายในเวปบอร์ด

3.การนำเรื่อง ข้อความ รูปภาพมาโพส หรือนำข้อความใดๆไปโพสที่นี่หรือที่อื่นๆ กรุณาพยายามติดต่อขออนุญาตเจ้าของเรื่องก่อนนะครับ

4.ห้ามแจกเบอร์ แลกเมล บอกเมล แลก msn บนบอร์ด
โดยเฉพาะการบอกเบอร์ หรือเมลของคนอื่นโดยที่เจ้าของไม่ยินยอม

เวป ไซต์ แห่งนี้เป็นเวปไซต์ส่วนบุคคลที่ได้รับความคุ้มครองจากกฏหมายภายในและระหว่าง ประเทศ การเข้าถึงข้อมูลใดๆบนเวปไซต์แห่งนี้โดยไม่ได้รับความยินยอมจากผู้ให้บริการ ถือว่าเป็นความผิดร้ายแรง

ข้อความใดๆก็ตามบนเวปไซต์แห่งนี้ เกิดจาการเขียนโดยสมาชิก และตีพิมพ์แบบอัตโนมัติ ผู้ดูแลเวปไซต์แห่งนี้ไม่จำเป็นต้องเห็นด้วย และไม่รับผิดชอบต่อข้อความใดๆ  โปรดใช้วิจารณญาณของท่านที่เข้าชม และ/หรือ ท่านผู้ปกครองในการให้ลูกหลานเข้าชม

กรุณาอ่านเพิ่มเติมที่นี่
http://www.thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=459.0


*************************************************************************************************

เอาเรื่องใหม่มาลงให้อ่านกันครับ ต้องขอบอกไว้ก่อนว่า เรื่องนี้ยังไม่จบนะครับ ท่าทางคุณเท็นยังไม่ได้ประทับร่างทรงนะครับ เลยยังเขียนอะไรต่อไม่ได้ ทราบแต่ว่าคุณเท็นจะเขียนเรื่องอะไรได้นั้น มันขึ้นกับอารมณ์อย่างมากครับ และคงยังไม่มีอะไร build อารมณ์หรือชักจูงได้เท่านั้นเอง ยังไงก็คงต้องรอต่อไปถ้ายังรักที่จะอ่านนิยายของคุณเท็นนะครับ ถึงแม้มันจะยังไม่จบอย่างสมบูรณ์ แต่เรื่องที่ลงไว้มันก็ไม่ได้ค้างคาจนไม่สามารถรอได้นะครับ อีกอย่างคือเห็นว่าเรื่องมันน่ารักดี อ่านสนุก เลยอยากให้คนอื่นๆมาลองอ่านบ้างเท่านั้น ใครที่เคยอ่านเรื่องนี้แล้วคงทราบว่าเรื่องนี้น่ารักจริงๆ นะ

ขอบคุณคุณ aoikyosuke หรือคุณเท็นสำหรับเรื่องดีๆที่อนุญาตให้เอามาลงในเวปนี้ครับ ความดีความชอบทั้งหลายที่จะได้รับมาของยกให้เจ้าของเรื่องทั้งหมดครับ  สนุกกับการอ่านนะครับ


*************************************************************************************************

เรื่องรักต้องใช้ใจศึกษา 1

แคนครับ…ผมชื่อว่าแคน
และขณะนี้ผมกำลังนั่งอยู่ท้ายรถมอเตอร์ไซด์เพื่อนสมัยมัธยมต้น

เขามีชื่อว่า สมชาย หรือ กระชายของเพื่อน ๆ
ปัจจุบันเขาคือนั่งซิ่งมอร์เตอร์ไซด์มือหนึ่งของตำบล
จะเรียกให้ถูกก็คือ คุณกระชายเป็นคนขับมอร์เตอร์ไซด์รับจ้าง สาเหตุก็อันเนื่องมาจาก
คุณกระชายผู้มีอันจะกิน ไม่ยอมเรียนต่อในชั้นมัธยมปลาย และไม่ยอมเข้าเรียนมหาวิทยาลัย ด้วยเหตุผลอันแสนเท่ห์ว่า

ขี้เกียจเรียน และใฝ่ฝันจะขับมอร์เตอร์ไซด์รับจ้างมาตั้งแต่เด็ก
หลังจากจบ มัธยมต้น นายกระชายจึงมาขับวินมอร์เตอร์ไซด์แบบเต็มตัว

ส่วนกระผม วัฒนา หรือ ไอ้แคนของเพื่อน ๆ ปัจจุบันนี้เป็นนักศึกษามหาวิทยาลัยมีชื่อ
ไม่ได้มุ่งมั่นจะเป็นมอร์เตอร์ไซด์รับจ้างเช่นคุณกระชายเขาแต่อย่างใด
ในรุ่นก็มีผมนี่ล่ะครับ ที่เรียนสูงที่สุด นอกนั้นเขาก็มีลูกมีเมียกันไปหมดแล้วล่ะครับ
เห็นทีจะเหลือไม่กี่คนที่ยังเป็นโสดกัน รวมทั้งกระชายเพื่อนรักนี้ด้วย

หลังจากที่พลัดพรากจากกันมานานแสนนาน แบบว่าลืมกันไปเลย กระผมนายแคนก็มีอันต้องกลับบ้านในช่วงปิดเทอม และในวันนี้ก็เป็นวันดีที่ได้พบเจอกับกระชายเพื่อนเก่า ที่ตัวดำแทบเป็นถ่าน ส่วนที่ขาวที่สุดเห็นทีจะเป็นลูกกะตาขาว และฟันของกระชายเพื่อนรักนั่นเอง

อันที่จริงผมกับไอ้กระชายก็ไม่ได้สนิทสนมอะไรกันหรอก สมัยเรียนน่ะ

เพราะผมมันเป็นเด็กเรียน เรียนอยู่หน้าห้อง นั่งฟังอาจารย์ สอบได้ที่ 1 ตลอด ส่วนคุณกระชายที่โหล่ของห้อง
สาเหตุอันเนื่องมาจาก คุณกระชาย ไม่เคยสนใจเรียนหนังสือหนังหา ยามว่างไปปีนต้นมะม่วงขโมยมะม่วงชาวบ้านเขาซะงั้น...อ่านหนังสือออกได้ก็นับ ว่าบุญโขแล้ว เรามิได้มีปฏิสัมพันธ์กันแต่อย่างใด
อยู่กันคนละสุดขั้วโลก เลยก็ว่าได้

แต่ ณ วันนี้ กระชายเพื่อนเก่า มันจำผมได้ครับ

และมันก็ส่งยิ้มฟันขาวมาแต่ไกล ก่อนจะทักทายผมที่หน้าปากซอยว่า

“เฮ้ย....นี่มันไอ้ปัญญาชนนี่หว่า..รับปริญญาหรือยังละเนี่ยเป็นเกียรติกับตำบลของเราจริง ๆ เลยเอ็งเอ้ย..”

พูดได้เพียงเท่านั้น กระชายเพื่อนรักก็พากระผมนายแคน ซ้อนมอร์เตอร์ด้วยลีลาผาดโผนมาส่งผมจนถึงบ้านได้
และก่อนจากไปกระชายเพื่อนรักก็บอกกับผมว่า
“เดี๋ยวเย็น ๆ จะมารับไปดักปลานะเอ็ง...ไอ้ปัญญาชน”

ผมยืนสะพายเป้ ในชุดนักศึกษา พร้อมกับหมาที่บ้านหลายตัวตามมากระโดดเลียแข้งเลียขาด้วยความคิดถึง
อย่างเหลือล้น กระผมนายแคนยังมิได้ กล่าวขอบคุณและบอกลา กระชายเพื่อนรักแต่ชาติปางก่อนแต่อย่างใด
มันก็ขับมอร์เตอร์ไซด์คู่ชีพสำหรับทำมาหากินของมันขับไปโลดแล้ว

ผมยังคงยืนเกาหัวด้วยความงุน งง

เอ่อ...เย็นนี้จะมารับไปดักปลา...แล้วกระผมนายแคนผู้เป็นปัญญาชนเกิดมา หม่อมพ่อหม่อมแม่ ไม่เคยให้ต้องไปทำอะไรที่ใช้แรงงานเลย จะไปดักปลากับกระชายอย่างนั้นหรือ

มาก็ไม่ไปหรอก...สนิทกันหรือก็เปล่า
แค่เคยเรียนด้วยกันแค่นั้น เหนื่อยจะตายห่าจะให้ไปดักปลา
ฝันไปเถอะเอ็งไอ้กระชาย ข้าขึ้นบ้านอาบน้ำนอนดีกว่า

ใครเขาฝันอยากเป็นมอร์เตอร์ไซด์รับจ้างกันล่ะวะ ใฝ่สูงเหลือเกิน

แล้วอย่างข้า นายแคนผู้เป็นปัญญาชนคนนี้น่ะหรือ จะไปคลุกคลีกับเอ็งไอ้กระชาย

ไอ้ชนชั้นใช้แรงงาน

TBC



*** ขออนุญาตแก้ไขคำห้อยท้ายของชื่อเรื่อง เพื่อลดความรุงรังของหัวข้อ  แต่หากผู้แต่งมีเรื่องแจ้งเพิ่มเติม ก็สามารถแก้ไขชื่อเรื่องได้ตามปกติค่ะ
 ทิพย์โมบอร์ดนิยาย

Share This Topic To FaceBook
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 15-07-2011 16:56:12 โดย kamui1972 »

ออฟไลน์ kamui1972

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 278
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +186/-0
เรื่องรักต้องใช้ใจศึกษา 2

"แม่...หวัดดี.." กระผมนายแคนลูกชายที่น่ารักและเป็นหน้าเป็นตาของวงศ์ตระกูล
เดินขึ้นบ้านมานอนแผ่หราอยู่กลางเรือน และไหว้คุณแม่บังเกิดเกล้า ก่อนจะเอาหัวไปหนุน
เคล้าคลออยู่บนตักของเสด็จแม่ อ้าว.. ก็คนมันติดแม่ล่ะค้าบ คุณ ยอมรับครับยอมรับ
แม่ผมนี่ครับ..แม่ที่ส่งเงินให้กินให้ใช้ ให้เที่ยวเตร่ได้อย่างมีความสุข
แม่ผมนี่ล่ะครับ สปอร์ตจริง ๆ ให้ตายเถอะ บอกให้ลูกชายเที่ยวเตร่กินเหล้าได้
แต่ต้องรู้จักขอบเขตไม่งั้นเสด็จแม่จะตามไปตบกบาล และบ้องหูผมด้วยความรักและห่วงใยทันที
ปิดเทอมแล้ว ก็ต้องกลับมานอนเล่นอยู่บ้านสบาย ๆ สักพัก หนุนตักแม่สักหน่อย
ผมนี่มันเป็นลูกชายที่น่ารักจริง ๆ หนอ แหม น่ายกย่องมอบโล่ลูกกตัญญูให้จริง ๆ

"อาบน้ำหรือยังแคน..ตัวเหนียวเหนอะหนะ..ไปอาบน้ำสิแล้วมากินข้าว..อ้อนแม่มาก ๆ ถามจริง
แคนอ้อนสาว ๆ อย่างนี้หรือเปล่าเนี่ย"

แม่ครับ แม่ สาว ๆ เหรอครับที่ยอดชายนายแคนคนนี้จะไปตามอ้อน ไม่มีล่ะครับ
มีแม่คนเดียวนี่แหละที่ผมจะอ้อน แม่นี่ดูท่าจะน้อยใจนะเนี่ย
ผมก็ได้แต่หัวเราะกับคำพูดของแม่ ก่อนจะลุกขึ้นโยนเป้ไว้ในห้องของตัวเอง
และเดินไปขุดเสื้อผ้าที่เสด็จแม่จัดเตรียมไว้รอลูกชายหัวแก้วหัวแหวนได้สวมใส่หลังอาบน้ำ
ว่าก็ว่าเถอะนะ ที่ไหน ๆ มันจะสุขเท่าที่บ้านเห็นทีจะไม่มีอีกแล้วล่ะนะ คุณ ๆ ว่าอย่างนั้นมั้ยล่ะ

"อาบน้ำเสร็จมากินข้าวนะแคน" หม่อมแม่ยังคงตะโกนเรียกลูกชายหัวแก้วหัวแหวนต่อไป
และกระผมก็มีอันต้องตอบรับกลับไปด้วยน้ำเสียงอันนอบน้อม ก่อนจะพาสังขารตัวเอง
อันเหนื่อยล้าจากการนั่งรถไฟ เป็นเวลาหลายชั่วโมงเพื่อกลับมาบ้านนั่นเอง ไปอาบน้ำอาบท่าในทันที

+++++++++++++++++++++++++++++++++++++
ง่วงนะครับคุณ คนเดินทางมาเหนื่อยแสนเหนื่อย ลมก็เย็นสบายขนาดนี้ หนังสือการ์ตูนก็มีอยู่หลายเล่มที่ซื้อติดมาตอนขึ้นรถไฟ
เอามาอ่านสิครับคุณ จะเก็บไว้เผาขยะเหรอ เปลที่ผูกไว้ใต้ถุนเรือน จะปล่อยทิ้งร้างหรืออย่างไร เห็นจะเป็นไปไม่ได้ล่ะครับ
เสร็จครับ...เสร็จบุคคลดีเด่นประจำตำบลอย่างผมล่ะครับ ผมก็นอนแกว่งเปลของผมไปเรื่อย นังทองเปลวหมาไทยหลังอานของแท้
นอนมองผมตาแป๋ว ก่อนจะพยายามเข้ามาแสดงความรักต่อเจ้าของอย่างผมจนผมอดจะต้องแสดงความรักความมีเมตตากับนังทองเปลวไม่ได้
คนดีมีเมตตาอย่างผมก็ยกเท้าขึ้นเตะป๊าบอัดเข้าช่วงตัวหมาสุดที่รักเต็ม แรง มันก็เลยวิ่งร้องเอ๋ง ๆ ขอบคุณผมไปซะไกล โอ้ มันคงจะรักเจ้าของมันมากขึ้นเยอะเลยนะเนี่ย

คราวนี้ทางก็สะดวกล่ะครับ ผมก็นอนเย็นสบายอยู่บนเปลญวณ แกว่งเปลไปเรื่อย ๆ นอนอ่านการ์ตูนอย่างมีความสุขขีสุขโข
ก่อนจะเผลอหลับไป ด้วยความเพลียและเหนื่อย ผมหลับไปนานเท่าไหร่ไม่รู้ มารู้ตัวอีกทีตอนที่มีอะไรมาแตะที่ข้างแก้ม พร้อมกับแรงเขย่าที่แขนหลายครั้ง

"ไอ้แคนไปดักปลากัน..ไอ้แคนตื่นเถอะเย็นแล้วไปดักปลากัน" เสียงสวรรค์ของใครกันวะมาปลุกเอาตอนหลับสบาย แม่งเดี๋ยวก็ลุกขึ้นเสยปลายคาง
ไปสักทีสองทีหรอก กระผมนายแคนปรือตาขึ้นช้า ๆ และเมื่อเห็นเป็นหน้าดำ ๆ เหมือนเปาบุ้นจิ้น โห่ ไม่ยักกะมีพระจันทร์เสี้ยวที่กลางหน้าผากแฮะ
ไอ้กระชายนี่หว่า อย่างนี้ต้องใช้แผนสองแกล้งหลับไม่ยอมตื่นดีกว่า ปลุกบ้าอะไรตอนนี้วะไม่รู้จักเวล่ำเวลา

"ไอ้แคนอย่าแกล้งหลับสิวะ..ไปดักปลากันเร็ว ... ไอ้แคนตื่น ๆ "

โธ่เว้ย..มันจะเซ้าซี้ไปถึงไหนวะเนี่ย คนจะหลับจะนอน จะให้ไปดักปลาบ้าบออะไรของมันวะ
ผมปรือตาขึ้นและทำหน้าหงุดหงิดสุดชีวิตให้มันรู้ว่า ผมรำคาญมัน ผมไม่ได้รำคาญมันแบบธรรมดา แต่ผมรำคาญไอ้กระชายแบบสุด ๆ
แม้แต่แม่ผมยังไม่อยากจะปลุกผมเวลานอนเลย แล้วไอ้กระชายมันเป็นใคร แน่มาจากไหนถึงมาปลุกผมไปทำเรื่องบ้า ๆ รบกวนเวลาหลับนอนของผมอย่างนี้

"ข้าจะนอน..อยากไปเอ็งก็ไปคนเดียวสิ จะนอนโว้ย จะนอน" คนหงุดหงิดบ้านอนน่ะคุณ ๆ รู้จักมั้ย เคยเป็นมั้ยอาการแบบนี้น่ะ ผมตวาดมันไป
สองสามคำมันก็หยุดเขย่า หยุดเรียก อาาาาาาาาาาา สวรรค์ครับ สวรรค์จริง ๆ สวรรค์กลับมาแล้ว ผมหลับตานอนได้อย่างมีความสุขต่อ
แต่เหมือนได้ยินเสียงพูดเบา ๆ ของไอ้กระชาย

"ไม่เป็นไรข้านั่งรอจนกว่าเอ็งจะตื่นไปดักปลากับข้าก็ได้"

เหอ เหอ เหอ ผมคงหูแว่วไป โดนด่าขนาดนี้ ใครจะหน้าด้านหน้าทนอยู่ล่ะครับ ผมคงง่วงจัดจนได้ยินเสียงแว่ว ๆ ของคุณกระชาย
มอร์เตอร์ไซด์วินรับจ้าง ความรู้แค่ ม. 3 เมื่อสาย ๆ ยอมซ้อนท้ายมากับมัน ก็นับว่าเป็นเกียรติกับวงศ์ตระกูลมันนักหนาแล้ว
แล้วก็อย่าหวังว่า กระผมนายแคนคนนี้จะสานสัมพันธไมตรีกับเพื่อนสมัย ม. ต้น ที่เรียนได้ที่โหล่ของห้องต่อไป
ผมยังคงนอนหลับตาอย่างมีความสุขที่สุดในโลก นอน นอน นอน หลับตาพริ้มอย่างมีความสุขเมื่อไม่มีมารผจญมาปลุกให้หงุดหงิดหัวใจ

"แคน...ข้ารอให้เอ็งตื่นก่อนก็ได้..แล้วเราสองคนไปดักปลากันนะ"

โธ่ ผมคงจะได้ยินเสียงแว่วมากไปจริง ๆ นะแหละ ผมไม่ได้ลืมตามาสนใจคำพูดงึมงำของไอ้กระชายเลยสักคำ แต่ได้ยินเสียงมันแว่ว ๆ เท่านั้น
รอไปเถอะนะ ไอ้กระชายเอ้ย ข้าคือนักนอนเอาสถิติโลกว่ะ ถึงเอ็งรอได้ ข้าก็ไม่ไปกับเอ็งหรอก อย่าฝันไปหน่อยเลยเอ็ง ไอ้กระชาย

TBC

ออฟไลน์ kamui1972

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 278
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +186/-0
เรื่องรักต้องใช้ใจศึกษา 3

กระผมนายแคนกำลังคิดว่าตัวเองไปออกค่ายอาสาอยู่หรือเปล่าเนี่ย
หลังจากตื่นนอนในเวลาเกือบเย็น ผมผู้นอนทำสถิติโลกก็ตื่นมาพบกับไอ้คุณกระชายที่นั่งเท้าคางมองผมอยู่บนแคร่ ไม้ไม่ห่างจากเปลที่ผมนอนสักเท่าไหร่ จะแกล้งหลับตามันก็กระแอมกระไอเสียงดัง ให้รู้ว่าข้ารู้นะว่าเอ็งจะแกล้งหลับอีกรอบ แหมไอ้กระชายเอ้ย ความรู้แค่ ม. 3 ดันเกิดจะฉลาดเกินหน้าที่การงานวินมอร์เตอร์ไซด์รับจ้างขึ้นมาอีก

“ไปเหอะแคน...ไปเหอะนะ..ลุกเถอะ...ข้ารอตั้งแต่บ่ายแล้ว..ขืนเอ็งแกล้ง หลับต่อข้าคงต้องเอาหมอนมุ้งมานอนรอแน่เลยแคน...ไปเหอะนะแคนนะ..ข้าขอร้อง ล่ะ”

ดูเอาเถอะ พอผมหรี่ตามองมันหน่อย ๆ มันเสือกตีหน้าโศกอารัมภบทต่าง ๆ นา ๆ ไปเรื่อยเปื่อย คนดี ๆ อย่างผมกลายเป็นคนเลว ๆ ของไอ้กระชายไปเสียฉิบ แล้วทำเสียงเข้า ญาติเอ็งเสียหรือไงวะ ทำเสียงซะโศก มีเพลงธรณีกรรแสงประกอบซะอีกเออนั่น เอาเข้าไป ทำหน้าเศร้าซึมเข้าไป โธ่เว้ย น่าเบื่อจริง ๆ ไปก็ได้วะ ตัดความรำคาญมันจะได้ไม่มาตามเซ้าซี้ผมอีก

กระผมนายแคนก็เลยต้องลุกพรวดพรวดยืนขึ้น สาง ๆ ผมเล็กน้อย ก่อนจะเดินไปล้างหน้าล้างตาให้สดชื่น
แล้วก็มายืนเท้าเอวมองไอ้กระชาย เพื่อนสมัย ม. ต้น ที่มีความฝันอยากเป็นวินมอร์เตอร์ไซด์ตั้งแต่เด็ก ๆ

“ไปครั้งเดียว .. แล้วคราวหน้าอย่ามาเซ้าซี้ข้าอีก..เข้าใจ๋..อยากบอกให้เอ็งรู้ไว้ว่ากะอีแค่ มาส่งข้าเมื่อตอนสายอย่ามาถือเป็นบุญคุณเอากับข้า แค่ขับมาส่งแค่นั้น จะสักกี่ตังค์กันเชียว”

แล้วไงล่ะ ผมก็พูดไปตามที่ใจคิดไง ผมเป็นคนอย่างนี้อ่ะ ปากก็เป็นแบบนี้ ใครจะทำไม ไม่พอใจก็ดี ผมจะได้ไม่ต้องมานั่งโมโหหงุดหงิดรำคาญอีก

นายกระชายเงยหน้ามองหน้าผมแล้วก็ทำหน้าแบบอึ้งสุดขีด ผมล่ะโคตรจะสะใจเลย คุณ ๆ เอ๋ย มันอ้าปากค้างเลยดูสินั่น แล้วมันก็ยืนขึ้น คว้าเสื้อวินมาใส่ แล้วก็บอกกับผมเสียงเรียบ ๆ แต่เชือดเข้าไปถึงหัวใจ

“เอ็งนะไอ้แคน....เคยดูถูกคนยังไงก็ไม่เคยเปลี่ยนเลย...ถ้าเป็นการรบกวน เอ็งมากขนาดนั้นเอ็งอย่าไปเลยดีกว่า..ข้าแค่คิดว่าเอ็งอาจจะเบื่ออยู่บ้านคน เดียว เลยอยากพาไปเที่ยวนั่นเที่ยวนี้ช่วงปิดเทอม....ไม่นึกว่าเอ็งจะคิดอย่างนี้
เอ็งไม่เคยเปลี่ยนจริง ๆ การศึกษามันไม่ช่วยให้นิสัยดูถูกคนของเอ็งลดลงบ้างเลยเนอะ”

อึ้งสิครับงานนี้ เป็นใครจะไม่อึ้งบ้างล่ะ เกิดมาไม่เคยโดนใครด่าตรง ๆ ขนาดนี้ ผมกำลังจะอ้าปากด่าไอ้กระชายกลับแต่มันหันมามองหน้าผมอีกครั้งด้วยใบหน้า เรียบเฉย ก่อนจะเดินไปสตาร์ทรถมอร์เตอร์ไซด์ ขับออกไปโดยไม่หันมามองหน้าผมอีกเลย แม่ง ไอ้กระชายเอ็งมันก็แค่ไอ้มอร์เตอร์ไซด์รับจ้างกระจอก กระจอก ยังมีหน้ามาด่าคนเรียนสูง ๆ อย่างข้าเหรอวะ เจอกันอีกที จะด่าให้เละเลย
ผมยืนหงุดหงิดหัวเสียกับไอ้กระชายอยู่อย่างนั้น แล้วก็เดินกระแทกเท้าปึงปังขึ้นบ้านจนแม่ของผมต้องหันหน้ามาถาม

“เป็นอะไรอีกแคน....นายช่างเขามาหาตั้งนานสองนานเห็นนั่งรอแคนเป็นชั่วโมงเขากลับไปแล้วเหรอ นายช่างน่ะ”

แม่ของผมหมายถึงใครกัน นายช่าง อย่าบอกนะว่าไอ้กระชายตัวดำนั่นน่ะ

“ใครอ่ะแม่..นายช่าง ไอ้บ้านั่นมันเป็นมอร์เตอร์ไซด์รับจ้าง นายช่งนายช่างอะไรกันล่ะแม่ ไอ้ชายไงแม่ที่แคนเคยเล่าให้ฟังที่มันสอบได้ที่โหล่ตอน ม. ต้นอ่ะ แม่จำมันไม่ได้เหรอ...”

กระผมนายแคนต้องรีบทบทวนความจำให้เสด็จแม่ซะหน่อย ก็ไอ้กระชายนี่ไงที่เล่าให้แม่ฟังอยู่บ่อย ๆ สมัยเรียน ประถม สมัยเรียน มัธยม แล้วไงล่ะ แม่ผมคงจะลืมแน่ ๆ ผมยังไม่เห็นลืมเลยไอ้กระชาย ไอ้วินมอร์เตอร์ไซด์รับจ้าง

“แม่ไม่ได้ความจำเสื่อมนะแคน ก็นายช่างนี่ไง เขามาดูเรื่องการซ่อมแซมเขื่อน แคนไม่รู้หรือไง นายช่างเขาก็ดีนะ ไม่เคยลืมท้องถิ่นเลย ได้ดิบได้ดีขนาดนั้น แกยังกลับมาพัฒนาหมู่บ้าน แคนก็ต้องทำให้ได้แบบนายช่างนะ ใคร ๆ เขาก็รักนายช่างกันทั้งนั้นแหละ ไม่เคยถือตัวเล้ย...บางทีเห็นแกไปขับมอร์เตอร์ไซด์ส่งคนแก่ไปวัด
ให้สตางค์แก แกก็ไม่เอา บอกว่าชอบขี่มอร์เตอร์ไซด์ เออ นายช่างนี่ก็แปลกดี แคนนี่โชคดีจริง ๆ มีเพื่อนอย่างนี้
ตอนที่แคนไม่อยู่ นายช่างยังมาส่งแม่ที่บ้านเลย ตอนแม่ไปวัดน่ะ ว่าง ๆ แคนชวนนายช่างมากินข้าวสิ “

เอ่อ....ปัจจุบันกระผมนายแคน ยืนเอ๋อเหมือนถูกอะไรตีเข้าที่กบาลหนัก ๆ หลายที ด้วยความมึนจนเห็นดาวหลายดวง

ไอ้กระชาย ผมไม่เคยสนใจมัน เพราะมันสอบได้ที่โหล่ของห้อง เพราะเอาแต่ไปปีนเก็บมะม่วง
ปัจจุบันมันเป็นนายช่าง มาพัฒนาหมู่บ้าน แม่บอกว่า มันเรียน มหาวิทยาลัยแค่สองปีครึ่ง เรียน ม. ปลาย
กศน. หนึ่งปี แล้วก็ไปสอบชิงทุนตอนจบ มหาวิทยาลัย ได้ไปเมืองนอก กลับมาใช้ทุนโดยเข้าไปเป็นเจ้าหน้าที่ของกระทรวงเกษตร และปัจจุบัน มันกลับมาพัฒนาหมู่บ้าน และ....

กระผมนายแคน ลงไปนอนหงายแอ้งแม้งอยู่กับพื้น และแทบจะน้ำลายฟูมปากตายด้วยความโมโห
ในขณะที่ผมยังต้องเรียนแพทย์อีกหลายปี ไอ้กระชายดันไปเป็นเจ้าหน้าที่กระทรวงเกษตรเรียบร้อยแล้ว

ผมอยากจะบ้าตาย

TBC

ออฟไลน์ kamui1972

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 278
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +186/-0
เรื่องรักต้องใช้ใจศึกษา 4

แคนไม่เคยเปลี่ยนเลยจริง ๆ เรียนหมอเนี่ย ต้องรู้สึกเห็นใจและห่วงใยผู้ป่วย ใจเย็น ๆ แล้วก็มีเมตตาไม่ใช่หรือ แต่แคน ก็ยังเป็นแคนเหมือนเดิม เคยดูถูกเขายังไงแคนก็ยังดูถูกอยู่อย่างนั้น สมัยเรียน อยากไปเล่นกับแคนบ้าง เพราะแคนน่ารักกว่าเด็กผู้หญิงในห้อง แต่แคนเรียนเก่ง และแคนไม่เคยสุงสิงกับใครเลย วัน ๆ เห็นอ่านแต่หนังสือ แล้วแคนก็เรียนได้ที่ 1 มาตลอด ชนิดที่คนได้ที่สองคะแนนห่างกันลิบลิ่ว

ส่วนเขานายสมชาย หรือกระชายของเพื่อน ๆ อยากจะไปเล่นกับแคนบ้าง แต่ก็เขิน ๆ อาย ๆ มาตลอด
เพราะแคนไม่ชอบเขา เคยได้ยินว่าแคนอยากกินมะม่วง ก็ไปเก็บมะม่วงมาให้ทุกวัน แต่ไม่เคยเอาไปให้แคน เพราะไม่รู้จะให้ยังไงดี แคนเป็นคนเรียนเก่ง แต่เขามีความฝันแค่อยากเป็นคนขับมอร์เตอร์ไซด์ และอยากจะพาแคนไปเที่ยวทุก ๆ ที่ ที่แคนอยากจะไป แคนไปเรียน ต่อ ม. ปลาย ในขณะที่เขาขับวินมอร์เตอร์ไซด์ไปเรื่อย ๆ

เหงาที่สุดที่แคนไม่ได้อยู่ที่นี่แล้ว แอบขับผ่านหน้าบ้านแคนบ่อย ๆ เหมือนที่คนเขาว่า ไม่เห็นหน้า เห็นหลังคาบ้านก็ยังดี นายกระชายคนนี้ก็เคยทำมาแล้ว แคนกลับมาบ้านแค่ช่วงปิดเทอม และไม่เคยไปสุงสิงกับใคร
กลับมาทีไรก็เห็นอยู่แต่บ้านทุกที ไม่เห็นจะเคยออกไปไหน นั่นยิ่งทำให้เขาพบแคนได้น้อยลงไปอีก
ตลอดหลายปีที่ผ่านมา เขาไม่ค่อยได้พบหน้ากับแคนอีกเลย เพราะหน้าที่ของตัวเองที่ต้องทำคือต้องไปให้ไกลให้เดินตามหลังแคนได้อย่าง ไม่อายใคร เรื่องราวของแคนเขาพอรู้อยู่บ้างจากการสอบถามจากคนรู้จักหลาย ๆ คน

เคยแม้กระทั่งไปหาแคนที่หน้ามหาวิทยาลัยก่อนจะไปเรียนที่ต่างประเทศ เพราะโชคดีสอบชิงทุนได้ อยากจะบอกแคน แต่ก็ไม่รู้จะบอกยังไง เลยไปเรียนต่อทั้ง ๆ ที่ไม่ได้บอกกันสักคำอย่างนั้น กลับมาอีกทีก็โชคดีได้งานทำตรงกับสายที่เรียนมาแต่ต้องมาใช้ทุนก่อน เขาก็เลยขอมาพัฒนาหมู่บ้านของตัวเอง ตามที่ได้รับมอบหมายมา

รู้ว่าแคนจะกลับมา ก็ไปรอรับ รอด้วยความตื่นเต้นว่าวันนี้จะได้พูดคุยกับแคนสักที หลังจากพยายามมาหลายปี
ตอนที่แคนยอมซ้อนท้ายมอร์เตอร์ไซด์ก็ดีใจมาก ตื่นเต้นจนพูดผิดพูดถูก ไม่รู้จะทักทายแคนยังไง

หวังว่าแคนจะพอจำกันได้บ้าง แล้วแคนก็จำกันได้จริง ๆ
แคน......แคนคนที่อยากเก็บมะม่วงให้กินตั้งแต่สมัย ม. ต้น แคนที่ไม่คิดฝันว่าจะก้าวมายืนข้างหลังและได้คุยกับแคนในวันหนึ่ง

แต่ให้ตายไปอีกสิบชาติ แคนก็ไม่เคยเลิกดูถูกเขาสักที
แล้วเขาเองก็ไปพูดกับแคนอย่างนั้น แคนคงจะโกรธมาก ป่านนี้แม้แต่หน้าเขาแคนก็คงไม่อยากมองแล้วล่ะมั้ง
สำหรับแคนเขาก็ยังเป็นได้แค่ไอ้บ้าเก็บมะม่วง สอบได้ที่โหล่ของห้องอยู่ดี

นายช่างสมชาย ผู้กุมหัวใจคนทั้งตำบล ขับมอร์เตอร์ไซด์ฝ่าลมไปเรื่อย ๆ และมาหยุดอยู่ที่กระท่อมที่ทำไว้เพื่อนอนพักเวลาเหนื่อย ๆ และเครียดจากการทำงาน

ข้าวหุงเสร็จแล้ว คิดว่าจะไปดักปลากับแคนแล้วก็จะได้นำมาทอดกิน เตรียมทำน้ำพริกทำอะไรไว้รอด้วยความตื่นเต้น ทำแกงส้มไว้ เพราะเคยถามจากแม่ของแคนว่าแคนชอบกินอะไร ก็เลยอยากให้แคนประทับใจบ้าง

ร่างสูงผิวคล้ามแดด ยืนมองกับข้าวและข้าวที่หุงไว้รอ ก่อนจะยิ้มเหยียดหยามตัวเอง ทอดกายลงนอนบนแคร่ไม้ไผ่หน้ากระท่อม นอนมองท้องฟ้าที่ค่อยเปลี่ยนรูปร่าง ตามที่จินตนาการ

พยายามแล้วที่จะมีความภาคภูมิเพื่อจะได้ไปยืนข้างหลัง หรือบางทีอาจมีหวังได้ยืนข้าง ๆ
ถึงแคนจดจำเขาได้แค่เป็นเพื่อนสมัย ม. ต้นก็ยังดี แต่สุดท้าย ไอ้กระชายคนนี้ ก็ยังเป็นแค่ไอ้กระชายเก็บมะม่วง สอบได้ที่โหล่ของห้องในความคิดของแคนอยู่ดี

+++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++

“นายช่าง ...แคนมันเอาแต่ใจ นายช่างอย่าไปถือสามันเลย..เห็นมันเรียนอย่างนั้น แต่ก็ยังเป็นเด็ก ๆ คิดอะไรเป็นเด็ก ๆ อยู่วันยังค่ำ ยังไงนายช่างก็ปราม ๆ แคนหน่อยเถอะค่ะ “

เสียงของผู้สูงวัยกว่าที่เอ่ยบอก หลังจากหิ้วปิ่นโตลงจากวัดแล้ว และขณะนี้นายช่างหนุ่มกำลังสตาร์ทรถรอจะไปส่งแม่ของคนที่แอบรักแอบชอบมานาน หลายปี

“อย่าพูดอย่างนั้นเลยครับ...แคนเขาโตแล้ว คิดอะไรได้มากมายกว่าผมตั้งเยอะ ... ผมมันแค่นายช่างคุมงานต๊อกต๋อยเทียบกับแคนไม่ได้หรอกครับ”
คำพูดที่แสนเกรงอกเกรงใจ กับท่าทางนอบน้อม ต่อผู้หลักผู้ใหญ่ ทำให้มารดาของนายแคนจอมหยิ่ง
อดจะชื่นชมในตัวของเพื่อนลูกชายคนนี้ไม่ได้ นายช่างดูเป็นผู้ใหญ่ จิตใจดี ชอบช่วยเหลือคน
แต่เจ้าแคน เรียนเก่งอย่างเดียว เอาแต่ใจเป็นที่หนึ่ง แล้วก็ยังเป็นเด็ก ๆ เข้ากับคนไม่ค่อยได้ไม่เหมือนนายช่างเพื่อนรุ่นเดียวกันคนนี้เลย ที่ไม่ว่าไปทางไหนก็มีแต่คนรักคนเอ็นดูทั้งนั้น

“นายช่างก็พูดเกินไป ...อย่างเจ้าแคนน่ะ ... เอาแต่ใจตัวเองเป็นอย่างเดียวแหละค่ะ...ไม่มีใครปรามอยู่แล้วเดี๋ยวนี้
นับวันจะยิ่งดื้อไปใหญ่”

ผู้ใหญ่กว่าเดินขึ้นมาซ้อนท้ายมอร์เตอร์ไซด์ของนายช่างหนุ่มเรียบร้อย แล้ว และร่างสูงผิวคล้ำแดด ก็พาผู้สูงวัยกว่าไปส่งจนถึงบ้าน และคงได้ถือโอกาสแอบมองหน้าลูกชายของเจ้าของบ้านสักหน่อยให้หายคิดถึง
แต่ดูเหมือนแคนที่ยื่นหน้ามาทางระเบียงว่ามีใครมา ก็รีบสะบัดหน้าหนีทันทีเมื่อเห็นว่าเป็นใคร

ก่อนจะลงมาช่วยมารดาหิ้วปิ่นโต โดยไม่เอ่ยทักทาย คนขับมาส่งเลยสักคำ

“ขอบคุณค่ะนายช่างที่มาส่งคนแก่....ยังไงขึ้นมากินน้ำกินท่าบนเรือนก่อนเถอะค่ะ...”
คำชวนแบบนี้ มีคำตอบเดียวคือห้ามปฏิเสธ มันถือเป็นธรรมเนียมไปแล้ว ร่างสูงส่งยิ้มอ่อนโยนให้กับมารดาของเพื่อนสมัย ม. ต้น โดยที่ไม่แม้แต่จะมองหน้าของคนที่ยืนหน้างออยู่เลยสักนิด เรื่องร่างสูงโปร่ง เดินลิ่วนำขึ้นบ้านแล้วยังกระแทกเท้าปึงปังจนคนเป็นมารดาต้องเอ็ดลูกชายไว้ นั่นแหละ นายแคนถึงได้สงบลงได้หน่อย
ก่อนจะไปยกขันน้ำลอยดอกมะลิ มายื่นให้คนที่เดินขึ้นมานั่งอยู่บนเฉลียงของเรือนทรงไทย แบบไม่เต็มใจนัก

“แคน....เสียมารยาท...นายช่างเขาอุตส่าห์มาส่งแม่นะ....แคนทำไมทำนิสัยอย่างนี้....นายช่างอย่าไปถือสาเลยนะคะ
เด็กคนนี้เอาแต่ใจเป็นอย่างเดียวแหละค่ะ...”

ดูสิ แม่อ่ะ ทำไมมาเผาลูกชายผู้เป็นตำนานของวงศ์ตระกูลอย่างนี้ล่ะ
กระผมนายแคน หน้างอหงิกเพราะถูกเสด็จแม่ต่อว่าต่อหน้าไอ้กระชาย นายช่างใหญ่
โธ่เอ้ย .... ก็แค่ดีกว่ามอร์เตอร์ไซด์รับจ้างหน่อยเดียวเอง อย่ามาทำเป็นกร่างหน่อยเลย

“คุยกันก่อนนะคะ....เดี๋ยวขอตัวไปเตรียมสำรับกับข้าวก่อนค่ะ นายช่างอยู่ทานข้าวด้วยกันนะคะ”

คุณแม่เดินไปแล้ว พร้อมกับที่ไอ้กระชายทำเหมือนเกรงอกเกรงใจพูดว่าอย่ารบกวนเลย อย่ารบกวนเลย
อยู่หลายครั้ง จนเสด็จแม่ต้องถามว่า

“นายช่างรังเกียจเหรอคะ” แค่นั้นแหละเห็นมั้ยล่ะไอ้กระชายนั่งอ้าปากพะงาบ พะงาบเลย
โธ่เอ้ย อยากกินข้าวบ้านข้าก็บอกมาเหอะ แม่ข้าทำกับข้าวอร่อยที่สุดในตำบลไม่อยากจะคุย กินแล้วเอ็งติดใจแน่ ๆ แล้วก็ต้องอยากกินอีก แต่เอ็งจะไปหาซื้อที่ไหนไม่ได้หรอกไอ้กระชายเอ้ย

เรือนร่างเล็กบางนั่งหน้างอหงิกไม่ได้พูดอะไรสักคำ มองต้นไม้ มองระเบียงไปเรื่อยเปื่อย
ไม่สนใจจะทักทายหรือพูดคุยกับคนตรงหน้าเลยสักคำ ก็ไม่มีอะไร เปล่าโกรธ ป่าวงอน ขอโทษก่อนสิ แล้วจะหายโกรธ

“หายโกรธหรือยังว่าที่คุณหมอ...เมื่อวานผมปากพล่อยไปหน่อย คุณหมอใจดีหายโกรธหรือยัง”

คำถามของคนมาง้อ ทำให้เรือนร่างบอบบางน่ารัก แต่นิสัยไม่น่ารัก ต้องหันมามองหน้า แถมยังทำตาขวางเข้าให้อีก ก่อนจะสะบัดหน้าหนีไปอีกทาง ไม่อยากจะใส่ใจ ทำกิริยาแง่งอนเหมือนอย่างกับสาว ๆ โดยที่ตัวเองก็ไม่ได้รู้สึกตัวเลย ว่าไอ้ท่าทางแบบนั้นไปเรียกรอยยิ้มให้กับร่างสูงผิวคล้ำแดดได้ทันที

“นักศึกษาแพทย์นี่เขางอนกันเป็นด้วยเนอะ...ข้าก็เพิ่งเคยเห็นนี่แหละ...แต่ก็ดูน่ารักดีนะ”

ดูมันพูดสิ ดูไอ้กระชายมันพูดสิ มันหาว่าผมเป็นนักศึกษาแพทย์ขี้งอนอ่ะ แง่ง แง่ง หงุดหงิดเว้ย
แล้วมันยังพูดไปยิ้มไปอีกอ่ะ ไอ้กระชาย เอ็ง เดี๋ยวเอ็งกับข้าได้เห็นดีกันแน่

“หุบปากเอ็งไปเลย....มาบ้านเขาแล้วยังมาพูดกระแหนะกระแหนเขาอีก.... รีบ ๆ กลับไปซะทีไป๊”
ผมด่ามันไปแล้ว หึ หึ หึ ด่าแบบผู้ดีนะครับ ไม่รู้ไอ้บ้ากระชายจะรู้หรือเปล่า คิดว่ามาส่งแม่ผมแล้วจะมาทวงบุญคุณหรือไงกัน นี่ถ้าไม่เพราะแม่บังคับให้ต้องนั่งคุยกับมันรอกินข้าวนะ ผมจะไปนอนเล่นที่เปลแล้วก็ทิ้งไอ้กระชายไว้นี่แหละ โดยไม่สนใจมันเลย แต่ที่ต้องทนนั่งคุยกับมัน เอ่อ จะเรียกให้ถูกคือด่าไอ้กระชายมากกว่า
อะไรก็ช่างเถอะ แต่เอาเป็นว่าไอ้กระชายมันขวางหูขวางตาผมก็เท่านั้นแหละ

“ไล่มาก ๆ แบบนี้แหละดี...เดี๋ยวมาหาทุกวันเลย…มาทุกวันให้คุณหมอเป็นบ้าตายไปเลย...ดู ซิคุณหมอจะจัดการคนไข้โรคจิตแบบผมยังไง...ระวังนะคุณหมอ คนไข้แบบนี้มีเยอะ....คุณหมอยิ่งสวย ๆ อยู่...เดี๋ยวจะหาว่าผมไม่เตือนนะ....”

ห๊า...ดูไอ้กระชายมันพูดสิ...ปากไอ้กระชาย ทำไมมันถึงได้ปากหมาแบบนี้...โอ้ยยยยยยยยยยย หงุดหงิด ผมยิ่งหงุดหงิด ยิ่งกว่าเก่า ขยับจะด่ามันอีกสักรอบ แล้วมันยังมาว่าผมสวยอีก ผมหล่อนะ ผมหล่อ ผมไม่ได้สวย
ไอ้พวกบ้า ข้าเกลียดเอ็งจริง ๆ ไอ้กระชาย ไอ้กระชายบ้า

“มาสิ...ข้าจะเอาอะไรขว้างหัวเอ็งทุกวันเลย....ให้หัวแตกตายไปเลย...ดูซิยังจะหน้าด้านมาอีกมั้ย”

มาเลยเรื่องทะเลาะน่ะ ข้าไอ้แคนคนนี้ไม่เคยแพ้ใครหรอก...โดยเฉพาะไอ้คนสอบได้ที่โหล่ของห้องอย่างเอ็งน่ะข้าไม่มีวันแพ้แน่ ๆ เลย...

“โห..คุณหมอทำไมดุจัง...เวลาไปรักษาสงสัยต้องฆ่าคนไข้ตายแน่ ๆ เลย...แบบนี้น่ากลัวจริง ๆ เลย ขนลุก”

โว้ยยยยยยยยย โมโห ทนไม่ไหวแล้ว ไอ้กระชาย ไอ้กระชาย เอ็งอย่าอยู่เลย ไอ้กระชายบ้า
ผมทำท่าเงื้อมือจะอัดเข้ากลางหลังไอ้กระชายด้วยความโมโหจนหยุดไม่อยู่ แต่ว่า...แต่ว่าไอ้กระชายมัน...มัน

“ทำไมขี้โมโหจัง โดนยั่วโมโหแค่นี้ก็โกรธแล้ว โมโหแบบนี้จะเป็นหมอได้ยังไง....หัดใจเย็นนับหนึ่งถึง สิบบ้างเป็นมั้ย”

งือ....ช่วยด้วยอ่ะ ช่วยด้วย ใครก็ได้ช่วยที ไอ้กระชายตัวดำมันล็อคแขนล็อคเอวผมไว้แน่นเลยอ่ะ ตอนที่ผมจะทุบมันอ่ะ แถมมันยังมาสั่งสอนผมเหมือนผมเป็นเด็กอีก เรื่องแค่นั้นใครก็รู้ ทำไมต้องมาสอนกันด้วย
ผมดิ้นสุดแรง เท่าที่แรงตัวเองจะดิ้นได้ แต่ไอ้กระชายไม่ยอมปล่อยเลย ฮือออออออออ ผมเจ็บแขนแล้วนะ
ไอ้กระชายบ้า ไอ้กระชายตัวดำ ผมเกลียดมันอ่ะ แงงงงงงงงงงงง

“ไอ้บ้าไอ้กระชาย....ข้าเกลียดเอ็ง...ปล่อยข้าเดี๋ยวนี้นะโว้ย...ปล่อยข้า”

ปากผมก็ร้องด่ามันไป ดิ้นก็ดิ้น แต่ตอนนี้ยิ่งดิ้นไอ้บ้ากระชายมันก็ล็อคผมมานั่งบนตักมันแล้วอ่ะ แง แง
ผมจะฆ่ามัน ผมจะฆ่าไอ้กระชายให้ตายเลย ถ้าผมหลุดไปได้นะ ฮือออออออออ

“อารมณ์เย็นลงแล้วจะปล่อย....อารมณ์เย็นหรือยังล่ะ......ว่าไงคุณหมอ”

ไอ้บ้ากระชาย ไอ้บ้ากระชาย มันมาพูดอยู่ข้างหูผมอ่ะ....ผมเกลียดที่สุดเลย มาพูดข้างหูเนี่ย
เพราะว่ามันทำให้ผมไม่มีแรงน่ะสิ....แย่แล้ว ไอ้กระชายมันจะรู้หรือเปล่าเนี่ย มือไม่มีแรงอีกแล้ว แขนขาอ่อนเลย ทำไงดี นี่หล่ะสาเหตุที่ผมเรียนหมอ เพราะผมจะได้มารักษาโรคถูกพูดตรงหลังหูแล้วไม่มีแรงยังไงล่ะ อาการกำเริบแล้วจะด่ายังไม่มีแรงเลย ขนลุกทั้งตัวอีกต่างหาก ทำงายดีอ๊า ผมจาเป็นลม

“แคน...อารมณ์เย็นแล้วสิเนี่ย...”

ผมไม่ได้หูฝาดหรอก ไอ้กระชายมันพูดกับผมแล้วก็ทำท่าจะปล่อยผมแล้วจริง ๆ นั่นไงล่ะ โอกาสมาถึงแล้ว
คราวนี้ล่ะ ตาผมแล้ว จะต่อยหน้าไอ้กระชายตัวดำให้ดูเป็นขวัญตาเดี๋ยวนี้แหละ

ผมกำลังจะหันหน้าไปชกปากไอ้กระชาย แต่ช้ากว่ามัน พอมันคว้าแขนผมกลับได้ มันก็ใช้อุบายเล่ห์เหลี่ยมของมัน หอมแก้มผมทันที

และขณะนี้ผมและไอ้กระชายกำลัง

..........


.........


.........


ผมกำลังงง ว่าโดนไอ้กระชายทำอะไร และมันก็คงงงกว่าผม เพราะมันไปอยู่อีกมุมของหน้าเฉลียงบ้านผม
ก่อนจะมองหน้าผมแบบตะลึง ตะลึง ตะลึง ตึง ตึง ตึง ตะลึง ตึงตึง

ผมรีบลุกขึ้นเดินออกไปจากหน้าเฉลียงบ้านทันที พร้อมกับที่ กุมแก้มข้างที่ถูกไอ้กระชายบ้าลวนลาม เดินออกไปทั้งน้ำตาเลยก็ว่าได้ ทิ้งไอ้บ้ากระชายไว้แบบนั้น ก่อนจะตะโกนบอกแม่ที่ทำกับข้าวอยู่

“แม่...แคนปวดหัวจะตายอยู่แล้ว....แคนไปนอนก่อนนะแม่”

แม่ตอบว่าอะไรผมไม่รู้...แต่ที่รู้คือผมเข้ามาอยู่ในห้องตัวเองและปิดประตูลงกลอนล็อคอย่างแน่นหนา

สิ่งที่ผมรับรู้ในทันทีคือ ผม นายวัฒนา หรือ แคน ถูกไอ้สมชาย เพื่อนที่เรียนได้ที่โหล่สมัย ม. ต้น
และผมก็ไม่ชอบมันมาก ๆ แต่วันนี้ แม้แต่แรงหนีจะเอาตัวรอดยังไม่มี อย่าว่าแต่ด่าทะเลาะกับมันเลย
แค่แรงจะต่อยหน้าแก้แค้นไอ้กระชายผมยังไม่มีเลย ผมได้แต่เดินหนีมานั่งร้องไห้ แง แง อยู่ในห้องคนเดียวแบบนี้ ทิ้งไอ้บ้ากระชายตัวดำ ให้นั่งอยู่ที่หน้าเฉลียงบ้าน ผมไม่สนหรอกว่าไอ้กระชายจะเป็นยังไง
แต่ตอนนี้ ผมไม่อยากเจอหน้ามันอีกเลย เนี่ยเหรอ คนดีของชาวบ้าน สิ่งที่ผมรู้ก็คือไอ้กระชายที่ผมเกลียดมันแกล้งผม ผมเกลียดไอ้กระชายตัวดำ ผมเกลียดมัน ผมเกลียดมัน

TBC

anna1234

  • บุคคลทั่วไป

ออฟไลน์ kit

  • เป็ดแสนดี
  • เป็ดHera
  • *
  • กระทู้: 1082
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +186/-3

86 + 1 = 87
ขอบคุณนะคะ คุณ kamui1972

ออฟไลน์ both^^

  • เป็ดแสนดี
  • เป็ดEros
  • *
  • กระทู้: 3133
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +730/-4
กรี๊ดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดด

ชอบๆ

ขอบคุณนะคะ

Koa-ka

  • บุคคลทั่วไป
สวัสดีครับ

เรื่องหมอๆอีกละ เรื่องหมอๆมันเยอะเนาะนี่ช่วงนี้ ท่าทางหมอจะท๊อปฮิตช่วงนี้  หุหุ

จะติดตามต่อเสมอครับ ให้กำลังใจครับผม

ออฟไลน์ M@nfaNG

  • ชีวิตคือการตรวจสอบ...
  • เป็ดแสนดี
  • เป็ดAphrodite
  • *
  • กระทู้: 4453
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +847/-18
เคยอ่านแล้วแต่ยังชอบอยู่ มาเชียร์คามุยค่ะ :really2:

christiyaturnm

  • บุคคลทั่วไป
 :z1:มาและ เข้าทำนอง พี่ขับน้องขี่...

เหอๆไม่เคยจะชายตาและมอไซดเลยนะ เจอแต่คนน่ากลัวๆทั้งนั้น :sad4:

CoMMuNiTY Of ThAiBoYsLoVE

ประกาศที่สำคัญ


ตั้งบอร์ดเรื่องสั้น ขึ้นมาใครจะโพสเรื่องสั้นให้มาโพสที่บอร์ดนี้ ถ้าเรื่องไหนไม่จบนานเกิน 3 เดือน จะทำการลบทิ้งทันที
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=2160.msg2894432#msg2894432



รวบรวมปรับปรุงกฏของเล้าและการลงนิยาย กรุณาเข้ามาอ่านก่อนลงนิยายนะครับ
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=459.0



สิ่งที่ "นักเขียน" ควรตรวจสอบเมื่อรวมเล่มกับสำนักพิมพ์
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=37631.0






three

  • บุคคลทั่วไป
ชอบอ่ะแนวๆพ่อแง่แม่งอนอ่ะครับชอบอ่ะ :กอด1:

ออฟไลน์ oaw_eang

  • Global Moderator
  • เป็ดHades
  • *
  • กระทู้: 8418
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +2122/-586

นิยายท่านเท็นอีกแล้ว

 :impress2: :impress2: :impress2:

kittyfun

  • บุคคลทั่วไป
เรื่องราวน่าสนุกมากค่ะ

ยังไงก็ขอขอบคุณทั้งคนเขียน

และคนเอามาโพสต์ให้อ่านนะคะ

ยังไงก็อย่าลืมมาต่อเร็วๆ นะคะ คนอ่านรออยู่ค่ะ

ออฟไลน์ kamui1972

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 278
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +186/-0
เรื่องรักต้องใช้ใจศึกษา 5

“อร่อยสิ...แตงโมสดน่ะ .. จะบอกให้แคนกลับบ้านบ่อย ๆ ก็ไม่ไหว เหนื่อยแย่ ไหนจะเรื่องเรียนอีก อะไรอีก”

หม่อมแม่บ่นนั่นนี่อีกแล้ว บ่นไปเรื่อย แต่ก็ชอบนะ มีความสุขที่สุดเลย
วันนี้ผมนอนเล่นที่เปล มีหนังสือสองสามเล่ม วางอยู่พอเอื้อมได้ถึง เสด็จแม่คนดี เลยถือจานแตงโมลงมาให้พร้อมกับมานั่งเย็บเสื้ออยู่ข้าง ๆ คุยนั่นคุยนี่ไปเรื่อยเปื่อยเลยเสด็จแม่ของผม ก็คิดถึงบ้านอยู่หรอกนะ แต่ว่าเรื่องเรียนก็แทบจะบ้าตายอยู่แล้ว ทั้งตำรา ทั้งท่อง ทั้งฝึกงาน แล้วก็อะไรอีกหลาย ๆ อย่างทำให้วัน ๆ ไม่ต้องทำอะไรอยู่แต่กับกองหนังสือแล้วก็ต้องทบทวนวิชาที่เรียน จนแทบจะอยากอ้วกออกมาเป็นวิชาที่เรียนอยู่แล้ว เครียดจนทนไม่ไหว ปิดเทอมคราวนี้เลยต้องกลับบ้านมาสักที มาอยู่ในที่ ที่สบายใจที่สุด มีความสุขที่สุดแล้วค่อยไปผจญกับการเรียนต่อ
เฮ่อ ชีวิตนักศึกษาแพทย์มันก็งี้แหละ เพื่อน ๆ ผมหลายคนบางทีมันเครียดมาก ๆ ไปยืนตะโกนอยู่กลางสนามฟุตบอลกันก็เคยมาแล้ว ส่วนผมน่ะเหรอ ต้องไปตีปิงปองบ้าง ตีให้มันหายบ้า
แล้วก็กลับมานั่งบ้ากันต่อ พวกผมน่ะไม่ได้เก็กขรึมตลอดเวลาเหมือนที่คุณ ๆ คิดกันหรอกน่ะ ติดจะติงต๊องกันด้วยซ้ำ สงสัยเรียนมากไปเลยเพี้ยนขนาดนี้ อยู่บ้านก็เลยอยากเอาแต่ใจตัวเอง อยากหงุดหงิด อยากโมโหอะไรเสด็จแม่ก็แสนจะเข้าใจบอกว่า ทำ ๆ ไปเถอะ แม่รับได้ ทุกอย่าง ต่อให้ลูกเล่นงิ้วแค่ไหน แม่ก็เข้าใจ เอาโล่ไปครับ คุณแม่ดีเด่น

ผมนอนกินแตงโมอย่างมีความสุข เย็นดีจังเลย อร่อย แล้วก็หวานด้วย แตงโมสด ๆ แบบนี้แหละที่ผมชอบที่สุด

“ใครเอามาให้อ่ะแม่...มางวดนี้แตงโมหวานดี..” กระผมนายแคนพ่นเม็ดแตงโมลงพื้นดินเต็มไปหมด แล้วก็กินต่อไปอย่างเอร็ดอร่อย ก็มันหวานจริง ๆ หวานฉ่ำชื่นใจ เหมาะกับน่าร้อนนี้จริง ๆ

“นายช่างเอามาให้เมื่อเช้า....มีชมพู่กับขนุนด้วยนะ...แกบอกว่าที่ บ้านออกเยอะปีนี้แกเลยเอามาฝาก...นี่แม่ก็แกะแล้วเอาไปแช่ไว้แล้ว...แคนไป กินสิ..”

กระผมนายแคน สำลักแตงโมที่กินทันที แล้วก็วางชิ้นแตงโมที่กัดค้างไว้ทิ้งไว้อย่างนั้น ก่อนจะทำหน้าเบ้ด้วยความเบื่อหน่าย ไอ้บ้ากระชายดำอีกแล้ว นี่ใจคอมันจะมาทุกวันจริง ๆ เหรอเนี่ย วันก่อนทำทุเรศมาหอมแก้มผมอีก วันก่อนโน้นนนนนนนนนน ไอ้กระชายดำมันก็เอาปลามาให้แม่ทำกับข้าว วันก่อนโน้นนนนนนนนอะไรอีกไม่รู้เอามาฝากสารพัด แล้วมันจะอะไรกับผมนักหนาเนี่ย น่าเบื่อน่ารำคาญจริง ๆ กลับบ้านคราวนี้อะไร อะไรก็ดีไปหมด เสียอย่างเดียว มีไอ้กระชายตัวดำมาก่อกวนให้ปวดหัวแค่นั้นเอง นี่ผมก็หลบหน้ามันหลายครั้งแล้วนะ ไม่ให้มันเจอ มันก็ยังอุตส่าห์มาอีกสงสัยอยากจะมาแกล้งแน่ ๆ เลย ผมยังยืนยันคำเดิมผมเกลียดไอ้กระชาย....ชัวร์ไม่มีมั่วนิ่ม

“อ้าวไม่กินแล้วเหรอแคน..เมื่อกี้เห็นบอกว่าอร่อยอยู่แท้ ๆ ลูกคนนี้นี่ยังไง เอาใจยากจริง “

เสด็จแม่ครับ เสด็จแม่บ่นอีกแล้ว ผมก็เลยนอนหัวเราะ ชอบครับชอบฟังแม่บ่น มันเพลินดี เหมือนมีใครมากล่อมให้นอนหลับอย่างสบายใจ ผมหยิบหนังสือขึ้นมาปิดหน้า เพราะความง่วงในยามบ่ายสายลมเย็น ๆ ยังพัดมาเรื่อย ๆ ให้คลายความร้อนลงบ้าง ผมอยากกลับบ้านบ่อย ๆ แบบนี้ทุกวันเลย แต่ผมก็ต้องกลับไปเรียนอีกอยู่ดี ไปจมอยู่กับตำราเล่ม หนา ๆ
ที่ผมทำก็อยากให้พ่อกับแม่ผมภูมิใจในตัวของลูกชายคนนี้ แล้วก็เพื่อจะได้รักษาโรคประหลาดของตัวเอง และได้ช่วยเหลือคนอื่นด้วย
สมัยเด็ก ๆ ผมเคยไปหาหมอ ผมจำได้ว่ากลัวมาก แต่คุณหมอใจดีคนนั้น ลูบหัวของผมเบา ๆ แล้วเป่าให้ก่อนรักษาบอกว่าไม่ต้องกลัว ผมไม่ได้รู้สึกเจ็บอีกเลย หลังจากคุณหมอเป่า ผมอยากเป็นอย่างนั้นบ้าง เป็นคนที่ช่วยเหลือคนได้ ทำให้คนที่อยู่ร่วมโลก คลายความเจ็บปวดลง อีกไม่นานผมจะได้ออกไปรักษาคนไข้แล้วจริง ๆ
ผมดีใจจังเลย ผมนอนหลับไปพร้อมกับรอยยิ้มและความฝันของตัวเอง มีความสุขจังเลยเนอะ

+++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++

วันนี้ การทำงานยังเป็นไปอย่างราบรื่นไม่มีอะไรติดขัด สั่งคนงานให้เอาหินมาลงไว้และช่วยกันกั้นเหล็กตรงแผงปูนกั้นไว้ได้แล้ว นับว่าเป็นการทำงานที่ทำได้ตามกำหนดจริง ๆ ดีแล้วที่แผนงานที่นั่งทำทั้งคืนใช้ได้ผล อย่างนี้งานก็คงเสร็จโดยไวแน่ ๆ

นายช่างสมชาย ยืนสั่งงานและบอกให้คนงานเก็บของออกก่อน เพราะความมืดเริ่มโรยตัวเข้ามาแล้ว
คนงานเองก็คงจะเหนื่อยต้องตากแดดทำงานกันทั้งวัน และไหนจะอยู่กันจนค่ำมืดขนาดนี้อีก

แล้วยังมีชาวบ้านมาช่วยกันขนหิน ขนทราย โดยไม่ต้องมีการว่าจ้างกัน ทุกคนมากันด้วยน้ำใจแท้ ๆ

“วันนี้พอแค่นี้ก่อนครับ....ขอบคุณมากครับ...” นายช่างสมชายของชาวบ้าน เดินมาไขกุญแจเปิดประตูรถกระบะที่จอดอยู่ และชาวบ้านก็ขึ้นมานั่งบนรถกันจนเต็มกระบะหลัง

“เบียดกันหน่อยนะครับ...รถผมมันแคบ...เขื่อนใกล้เสร็จแล้วแบบนี้พวกพี่ ๆ คงมีน้ำใช้อุดมสมบูรณ์แล้วครับคราวนี้”

ร่างสูงแกร่งหนายืนคุยกับชาวบ้านที่ยิ้มรับไปตาม ๆ กัน

“พวกเราต้องขอบคุณนายช่างแหละที่มาช่วยดูแลขนาดนี้...เป็นคนอื่นเขาก็ทำ ไปงั้น ทำแบบเช้าชามเย็นชาม ไม่มีใครเขาสนใจงานกันจริง ๆ หรอก “

หนึ่งในชาวบ้านที่นั่งอยู่ท้ายรถเอ่ยบอกกับร่างสูงนั้นที่ยืนยิ้ม เหนื่อยแสนเหนื่อยก็ทนได้ เป็นลูกบ้านนี้เกิดที่นี่ โตที่นี่ ก็อยากจะให้ทุกคนรู้สึกดีไปด้วย

“ผมลูกบ้านนี้นี่ครับ....ก็ผมมันไอ้กระชายที่เคยวิ่งเล่นในหมู่บ้านน่ะ ...ได้ทำอะไรได้บ้างผมก็ดีใจครับ” ร่างสูงนั้นยิ้มอย่างอ่อนโยน พูดคุยอย่างเป็นกันเอง สำหรับเขาแล้ว ยังไงเขาก็เป็นไอ้กระชายคนเดิมอยู่ดี ลุงป้าน้าอาทั้งนั้นที่มาช่วยกันซ่อมเขื่อน ถึงทุกคนจะเรียกเขานายช่างอย่างนั้น นายช่างอย่างนี้ แต่เขาก็ยังเป็นไอ้กระชายอยู่ดี จะให้เขาลืมกำพืดตัวเองได้ยังไง

ร่างสูงเดินไปสตาร์ทรถและขับออกไปพร้อมกับอมยิ้ม
ได้กลับบ้านซะที อยากไปหาแคนจะแย่แล้ว ไม่ได้เจอกันหลายวัน คิดถึงจังเลย ไม่รู้จะได้กินผลไม้ที่เขาเอาไปฝากบ้างหรือเปล่า แค่นึกถึงแก้มหอม ๆ ร่างนุ่มนิ่มนั้นก็ทำให้ยิ่งคิดถึงมากขึ้นอีก
เย็นป่านนี้ จะหาข้ออ้างอะไรไปหาดีนะ....เอาแบบว่าได้พูดคุยได้เห็นหน้า แล้วคุณหมอเขาไม่หนีน่ะ
วิธีไหนดี....คุณหมอก็ต้องรักษาสิ...รักษางั้นเหรอ...ได้ข้ออ้างแล้ว...
เดี๋ยวกระชายจะไปหาเดี๋ยวนี้แหละนะ...คุณหมอคนดี

ใบหน้าคม ยิ้มสดชื่น เมื่อนึกถึงจุดหมายที่จะไปในขณะนี้...คุณหมอครับ..หวังว่าจะทำให้ผมหายจาก โรคคิดถึงคุณหมอนี้ได้นะครับ คุณหมอของผม

+++++++++++++++++++++++++++++++++++

“แม่ใครมาอ่ะ....พ่อหรือเปล่า..ไหนพ่อบอกกลับเดือนหน้าไง ไปราชการไม่ใช่เหรอ”

กระผมนายแคน เดินมาดูว่าแม่คุยกับใครอยู่ ตรงหน้าบ้าน ก่อนที่แม่จะเดินเข้ามาโดยมีใครคนหนึ่งตามมาด้วย

“นายช่างมาหาแคนน่ะ...หาน้ำหาท่ามาให้นายช่างหน่อยสิแคน” ม่ายยยยยยยย ไอ้กระชายตัวดำ
วันนี้มันไม่ขับมอร์เตอร์ไซด์มา ถ้ามันขับมาผมจะจำเสียงรถของมันได้ แล้วก็หลบได้ทัน แต่คราวนี้มันดันเอารถกระบะมา ผมก็นึกว่าพ่อผมน่ะสิ ใครจะไปคิดว่าเป็นไอ้กระชายกันล่ะ ผมเดินกระแทกเท้าปึงปัง ไปยกขันน้ำมาวางให้ไอ้กระชาย ที่ขึ้นมานั่งหน้าดำอยู่บนบ้านของผม
เอ่อ ของพ่อแม่ผมก็ได้ ยังไงเขาก็ยกให้ลูกชายอย่างผมอยู่ดี บ้านของผมในอนาคตนั่นแหละ

แล้วดูมันสิ แหม ทำหน้าระริกระรี้จริงนะเอ็ง ผมละเบื่อมันจริง ๆ ผมเซ็งมันมากเลยนะไอ้กระชายบ้าเก็บมะม่วงนี่น่ะ

“มาคุยกับนายช่างเลยนะเราน่ะ.....เดี๋ยวเขาจะหาว่าเจ้าของบ้านนี้ไม่อยากต้อนรับเขา รู้มั้ย”

เสียงเสด็จแม่กระซิบบังคับผมให้คุยกับไอ้กระชายอีกแล้ว ผมเบื่อหน้ามันจะตาย แม่ยังให้ผมนั่งคุยกับมันอีก ไหนว่าจะตามใจยังไงล่ะ ลูกชายกำลังเครียดนะเสด็จแม่ กลับมาก่อนสิ เสด็จแม่

ดูสิ เสด็จแม่เดินเข้าครัวไปเตรียมสำรับกับข้าวอีกแล้ว ไอ้กระชายตัวดำหน้าด้าน มันต้องมากินข้าวที่บ้านผมอีกแล้วแน่ ๆ เลย แม่ผมก็เหลือเกิน เห็นเขาชมว่าทำกับข้าวอร่อย เลยเรียกไอ้กระชายให้กินข้าวด้วยประจำเลย ผมไม่อยากกินร่วมกับไอ้กระชายนี่นา เสด็จแม่ทำไมไม่เข้าใจกันมั่งเลยเนี่ย

“ข้ามาหาเอ็งเบื่อเหรอแคน” ดูคำถามมันดิ ถามมาได้ว่าเบื่อหรือเปล่า

“รู้ก็ดีว่ะ...ข้าเบื่อจริง ๆ แหละ...รู้อย่างนี้แล้วคราวหน้าจะมาอีกหรือเปล่าล่ะครับคุณกระชาย”

เป็นไงล่ะ คำตอบของผมอึ้งเลยสิไอ้กระชาย
แต่เอ๊ะ ทำไมมันยิ้มล่ะนั่น ไอ้บ้านี่มันประสาทกลับเหมือนกับสมองของมันจริง ๆ นั่นแหละ

“ดีแล้ว...เบื่อแบบนี้แหละดี...ฝึกความอดทนครับคุณหมอ เผื่อเจอคนไข้โรคจิต..ถือว่าซ้อมไว้ก่อนนะครับ”

ไอ้กระชายยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยย ผมอยากจะเอาขันน้ำคว่ำใส่หัวมัน มันมาอีกแล้ว
มาพูดจากวนประสาทอีกแล้ว หงุดหงิดเว้ย หงุดหงิด

“ถ้าจะมาหาข้าวกินฟรีนะ..ก็หัดพูดจาให้มันดี ๆ หน่อย กวนประสาทอยู่ได้..แล้วนี่คงไม่มีธุระอะไรมั้งว่างเหลือเกินนะ นายช่างใหญ่”

เป็นไงล่ะเอ็ง กวนมาข้าก็กวนกลับแบบนี้แหละ นี่ข้าไม่น่านั่งมอร์เตอร์ไซด์เอ็งตั้งแต่วันแรกเลย
ไม่รู้นี่หว่าว่าไอ้กระชายมันจะมาตามกวนประสาทขนาดนี้ ไม่ได้อยากคุยกับมันสักหน่อย
ชอบมายุ่งวุ่นวายจริง ๆ เห็นแล้วหงุดหงิดลูกกะตา

“คิดถึงคุณหมอน่ะครับ....เลยมาหา...ว่าจะมาให้เห็นหน้าสักหน่อยอาการจะได้หาย”

เฮ้ยยยยยยยยยยยยยย ผมแทบจะหัวทิ่ม เมื่อได้ยินคำพูดของไอ้กระชาย ล้อเล่นอะไรก็ให้มันมีขอบเขตบ้าง เห็นผมเป็นตัวอะไร มาล้อเล่นอยู่ได้ ทำมาพูดจาเหมือนกับจีบสาวอย่างนี้ เดี๋ยวก็ต่อยให้หน้าหงายเลย

“พูดจาให้มันดี ๆ หน่อย พูดอะไรเกรงใจกันบ้าง...ข้าไม่ใช่คนที่เอ็งจะมาพูดจาแบบนี้เล่นได้นะ”

ก็มันจริง นี่ ผมไม่ชอบจริง ๆ เป็นผู้ชายมีคนพูดแบบนี้คุณจะรู้สึกดีหรือไง แล้วยิ่งคนที่แสนจะรำคาญและเบื่อหน่ายไม่อยากจะพบจะเจออีก เป็นคุณล่ะคุณจะทำยังไง ผมกลับมาเป็นนักศึกษาแพทย์ใจเย็นแล้วครับตอนนี้ พยายามนับหนึ่งถึงสิบในใจ ผมไม่พอใจไอ้กระชายจริง ๆ นั่นแหละ
สงสัยจะเป็นตัวของตัวเองมากไป กลับมาเป็นนักศึกษาแพทย์แบบนี้ มันคงเกรงใจกันบ้าง

ร่างสูงขมวดคิ้วมุ่น ถอนหายใจยืดยาว ก็คิดถึงจริง ๆ ถึงได้มาหา แต่พอบอกว่าคิดถึง เจ้าตัวเขากลับหาว่ามาล้อเล่นซะอีก แถมซ้ำตอนนี้ดูเหมือนจะไม่พอใจมาก ๆ ซะด้วย จากที่เคยงอแงบ้าง
ทำท่าหงุดหงิดบ้าง ตอนนี้นิ่งเงียบไปแล้วจริง ๆ เผลอ ๆ คงจะโกรธมากจนไม่อยากจะพูดกับเขาแล้วมั้งเนี่ย แล้วจะให้จีบยังไงล่ะ มาหาก็แล้ว จีบก็แล้ว มีเวลาว่างนิดเดียวก็ขับรถผ่านให้เห็นหลังคาบ้านตลอด เจ้าตัวเขาก็ไม่อยากรับรู้ไม่ใส่ใจสักที
ไอ้กระชายมันดูเงียบ ๆ ไปแล้ว ดีแล้วแหละ ผมก็เบื่อพูดแล้วจริง ๆ ต่อปากต่อคำกับไอ้กระชายทีไรผมแพ้ทุกที ผมล่ะเบื่อจริง ๆ

“อาทิตย์นี้มาได้วันนี้วันเดียว เพราะต้องไปคุมงานทำสันเขื่อน คงไม่ได้มาหานานเลย แคนจะกลับไปเรียนเมื่อไหร่ล่ะ...”

มาแปลกอีกแล้วไอ้กระชาย เกิดบ้าอะไรทำหน้าขรึมขึ้นมาอีกล่ะเนี่ย แถมเงยหน้ามามองหน้าผมจริงจังแบบนั้นอีก จะมาไม่มาผมไม่ได้เดือดร้อนเลย ไม่มาสิดี ผมจะได้อยู่อย่างสงบ ๆ ซะที

“ต้นเดือนหน้า..หรือไม่แน่ก็จะกลับพรุ่งนี้เลย เบื่อคนแถวนี้ ชอบตามรังควาน”
เนี่ยแหละคำตอบของผม ไงล่ะไอ้กระชาย รู้หรือยังล่ะว่าข้าเบื่อเอ็งแค่ไหน รู้อย่างนี้รีบ ๆ ไปให้พ้นหน้าซะทีเถอะเบื่อจะแย่แล้ว

“คงคิดถึงแย่เลยเนอะ..”

เอ่อ....ไอ้กระชายมันทำหน้าเศร้า ๆ นะผมว่า แล้วมันก็ยิ้มแบบแห้ง ๆ ฝืน ๆ พิกล ก่อนจะก้มหน้าลงเงียบ ๆ ไปอีกพักใหญ่ เดี๋ยวก่อนนะ เมื่อกี้มันว่าอะไรนะ พอดีผมมองหน้ามันเพลินไม่ทันฟัง

“อะไรนะ...เอ็งพูดอีกทีสิ..ข้าฟังไม่ถนัด”

ผมป่าวหูตึง แต่ผมฟังไม่ถนัดจริง ๆ ก็มันพูดเสียงเบา ๆ แบบนั้น ใครจะไปได้ยินกันล่ะ
แล้วดูมันสิ ผมพูดแล้วมันยังเงียบอีก

“ไม่มีอะไรหรอก....กลับแล้วนะ..ขอโทษทีวันนี้มารบกวนซะดึกเชียว”

ไอ้กระชายมันทำไมต้องทำหน้าเศร้าขนาดนั้นล่ะ มันลุกขึ้นเดินไปหน้าครัว แล้วก็พูดอะไรกับแม่ผมสองสามคำ เห็นมันยกมือไหว้อย่างกับจะหาเสียง แน่ะ มันเดินลงบันไดบ้านผมไปแล้ว
และขับรถของมันออกไปด้วย

ดีแล้วแหละ แบบนี้ ผมจะได้อยู่ดีมีสุข ไม่ต้องมีมันตามมาทำให้ประสาทเสื่อมทุกวัน
ในที่สุด วันแห่งความสุขของผมก็กลับมาแล้ว ดีใจที่สุดเล้ย

TBC

ออฟไลน์ kamui1972

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 278
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +186/-0
เรื่องรักต้องใช้ใจศึกษา 6

“แม่..ไม่มีแตงโมกินเหรอ..ผลไม้ก็หมดแล้ว..แคนอยากกินอ่ะ..ทุกวันเห็นมีวันนี้ไม่มีแล้วเหรอ”

ก็สงสัยไง ผมสงสัย ทุกวันในตู้เย็นจะต้องมีจานแตงโม ไว้ให้ แตงโมที่หวานฉ่ำชื่นใจแล้วก็ชมพู่อีก
แล้วทำไมวันนี้มันไม่มีล่ะ แม่ลืมซื้อหรือไงกัน

“นายช่างไม่ได้มาหลายวันนี่...สงสัยหมดแล้วล่ะ”

อะไรนะ ผมยืนงงอีกแล้ว ก็ไหนแม่บอกว่าซื้อมาจากตลาดไง ผมถึงได้กินทุกวันอย่างเอร็ดอร่อยน่ะ
แล้วไหงแม่มากลับคำบอกว่าเป็นของไอ้กระชายตัวดำได้ล่ะเนี่ย แม่หลอกผมเหรอเนี่ย ทำไมแม่ทำกับลูกชายที่เป็นเกียรติกับวงศ์ตระกูลอย่างนี้ล่ะ

“ไหนแม่บอกว่าซื้อมาจากตลาดไงล่ะ แม่หลอกแคนเหรอ” ผมงอนแม่แล้วนะ เล่นมาโกหกเรื่องแบบนี้น่ะ

“ก็ถ้าบอกแคน แคนก็ไม่กินอีก นายช่างเขาก็ออกดี๊ดี แคนไปจงเกลียดจงชังอะไรเขานักหนากันแม่ไม่เข้าใจ
ลูกแม่เป็นคนไม่มีเหตุผลตั้งแต่เมื่อไหร่กันเนี่ย แล้วแบบนี้จะไปเป็นหมอได้ไง”

ไอ้กระชายอีกแล้ว เพราะไอ้กระชายคนเดียวทำให้ผมโดนแม่บ่น นี่มันไม่มาหลายวันยังมาทิ้งระเบิดไว้ให้ผมโดนแม่บ่นซะอีก ไอ้กระชายนะไอ้กระชาย ถ้าเอ็งมาบ้านข้า ข้าจะด่าเอ็งคอยดูสิ หลายวันมานี้บอกตรง ๆ
ผมโคตรมีความสุขเลย นอนกลางวันอ่านหนังสือทุกวัน แล้วก็กินแตงโม กินชมพู่ อย่างมีความสุข
เออ เออ แตงโมที่ไอ้กระชายตัวดำเอามาให้ผมกินนั่นแหละ เกลียดคนให้แต่ชอบของฝาก ไม่เห็นแปลกเลย
ตอนนี้ผมแสนจะสุขใจ แต่ชักเริ่มหงุดหงิดแล้ว เพราะอยากด่าไอ้กระชายตัวดำ โทษฐานที่มันมาทำให้ผมโดนแม่บ่น คอยดูนะ ถ้ามานะ จะต้องด่ามัน จริงสิ มันบอกว่าจะไม่มาบ้านผมสักหนึ่งอาทิตย์เพราะว่าเร่งซ่อมเขื่อนแล้วนี่มันก็ ปาเข้าไปหลายวันแล้วนะ แตงโมก็ไม่มีจะกินแล้ว มันหายไปไหนของมันกันนะ น่าแปลกจริง

หายไปไหนก็ช่างมันเถอะ แต่ผมง่วงแล้ว ขนหนังสือลงไปนอนเล่นที่เปลดีกว่า แต่ไม่มีแตงโมกิน เบื่อจังเลย
ถ้ามาแล้วไม่เอาแตงโมมาฝากนะ จะด่าให้เลย ก็แตงโมไร่ไอ้กระชายน่ะ มันหวานฉ่ำอร่อยที่สุด คราวนี้ถ้ามันมาก็ให้แม่ซื้อแตงโมจากไอ้กระชายก็ได้ เวลากินก็ไม่ต้องลำบากใจอีก ง่ายจะตายไป

ว่าแล้วผมก็ไปนอนดีกว่านะ ง่วงเต็มทีแล้ว

+++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++

คิดถึงแคนจังเลย ไม่ได้ไปหาตั้งหลายวัน ป่านนี้แคนจะคิดถึงกันบ้างหรือเปล่า คงไม่หรอก
ก็แคนน่ะไม่เคยชอบอะไรเขาเลยนี่นะ ไปหาทีไรก็ด่าทุกที แล้วอีกไม่นานแคนก็จะกลับไปเรียนแล้ว อีกไม่นานซ่อมเขื่อนเสร็จเขาก็ต้องกลับไปกระทรวงเหมือนกัน คงทำงานยุ่งมาก จนหาเวลาว่างไปเจอแคนยาก อีกอย่างก็รู้ว่าแคนเรียนหนักต้องอ่านหนังสือมากกว่าคนอื่นหลายเท่า ตอนนี้เป็นช่วงปิดเทอม แคนก็เลยได้เที่ยวเล่น
ทำตัวสบายสบายได้อย่างเต็มที่ นายช่างสมชายคนนี้คิดถึงแคนจะแย่ จะเข้าไปหาตั้งหลายวัน
แต่ไม่มีเวลาว่างเลยสักที ขนุนกับชมพู่กินได้พอดี เลยเก็บไปฝากซะเต็มถุง จะพอทำให้แคนไม่ด่าเขาได้บ้างมั้ยนะ
เอาไปฝากแล้วก็กลับ แค่นี้คงไม่เป็นไรล่ะมั้ง
เดี๋ยวตอนบ่าย ๆ ก็ค่อยขับรถขึ้นไปบนเขื่อนไปทำงานต่อก็คงพอทัน
ไมไหวหรอก อุตส่าห์ได้คุยกันแล้ว ไม่ได้เห็นหน้าแบบนี้จะตายเอาให้ได้ คิดถึงมากมายจะแย่อยู่แล้ว
ไปให้แคนด่าสักนิดก็คงดี จะได้กลับไปทำงานได้อย่างมีความสุข

ร่างสูงผิวคล้ำแดด นิ่งคิดขณะขับรถไปตลอดทาง คนมันรักนะ ก็เลยคิดถึง แล้วก็อยากเห็นหน้า
แม้คนที่คิดถึงจะไม่อยากเจอเขาสักเท่าไหร่ก็ตามที

+++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++

แม่ของแคนบอกว่าแคนนอนเล่นอยู่ที่เปล เวลาแคนหลับจะหลับไม่รู้เรื่องเลย แคนเป็นพวกหลับลึก
หลับแล้วปลุกยาก หลับได้หลับดี หลับนานหลับทน

นายช่างสมชายถึงได้เดินไปหาและก็เห็นแคนนอนเปลหลับไปแล้ว โดยมีหนังสือปิดหน้าอยู่

“เอาชมพู่มาฝากนะวันนี้แล้วก็มีขนุนด้วย...” ร่างสูงนั่งลงข้าง ๆ เปล และก็เอ่ยกระซิบบอกคนที่นอนหลับอยู่
ก่อนจะเอื้อมหยิบหนังสือที่เจ้าตัวเอาปิดหน้า และนำมาวางไว้บนแคร่ไม้ไผ่ที่อยู่ไม่ห่างจากเปล

“คิดถึงแคนจังเลยนะ...ไม่เจอกันหลายวันแล้ว...แคนคงไม่คิดถึงไอ้กระชายคนนี้หรอกใช่มั้ย”

นายช่างสมชายเอ่ยบอกกับคนที่นอนหลับแล้วก็หัวเราะออกมาเสียงเบา เมื่อคนตรงหน้ายังนอนนิ่งไม่รับรู้
อะไรเลย ขอโทษเถอะนะแคน ถ้าจะหาว่าลวนลามกัน ก็ขอโทษด้วย
ปลายจมูกโด่งแตะลงที่หน้าผากมนของคนที่นอนหลับอย่างอดใจไม่ไหว แล้วก็ยิ้มออกมาอย่างดีใจ

“ฝันดีนะแคน....ไปทำงานแล้วนะ”

น้ำเสียงทุ้มนุ่มแผ่วเบา เอ่ยบอกกับคนที่นอนอยู่และลุกเดินจากไปแล้ว

คิดว่าผมหลับเหรอ เปล่าหรอก ผมเปล่าหลับ ไอ้กระชายมันมาพูดอะไร ทำอะไรผมรู้หมดแหละ แต่ผมแกล้งหลับเพราะไม่อยากเจอหน้ามัน สัมผัสแผ่วนุ่มที่ได้รับ ทำให้ผมต้องยกมือขึ้นแตะหน้าผากของตัวเอง
โดนไอ้กระชายมันจูบหน้าผาก แต่รู้สึกว่าอบอุ่นดี และใจเต้นแบบแปลก ๆ เอ๊ะ...อย่างนี้มันเป็นผลกระทบจากอารมณ์และความรู้สึกที่จะมีส่วนเชื่อมโยง ไปถึงร่างกายนี่นา ผมต้องไปเปิดตำราดูแล้ว ว่าเราจะวิเคราะห์อาการนี้ว่าอย่างไรดี ผมหันหน้าไปมองไอ้กระชายที่เดินจากไปแล้วด้วยความไม่เข้าใจว่ามันจะมาหอมมา คิดถึงผมทำไม

แต่ที่แน่ ๆ วันนี้ผมมีผลไม้กินแล้ว เพราะไอ้กระชายตัวดำมันบอกว่ามันเอามาฝากผม ไปกินชมพู่ดีกว่า มีขนุนด้วยนี่ของชอบเลย แหมไอ้กระชายมาบ่อย ๆ ก็ดีนะ ผมจะได้มีผลไม้กินทุกวัน ถ้ามันไม่มาผมคงไม่มีผลไม้กินแน่ ๆ แล้ว....เพื่อนกันเขามีหอมหน้าผากกันด้วยเหรอ แล้วทำไมต้องมาบอกว่าคิดถึงกันด้วยล่ะ ไอ้กระชายนี่ท่าจะคบไม่ได้แล้ว ทำให้ผมต้องไปเปิดตำราหาอาการใจเต้นของตัวเองอีกต่างหาก น่าเบื่อจริง ๆ

TBC

ออฟไลน์ kamui1972

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 278
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +186/-0
เรื่องรักต้องใช้ใจศึกษา 7

วันนี้ไอ้กระชายไม่มาเหรอ เอ รอหลายวันแล้วนะ ไม่เห็นมาเลย เขื่อนมันต้องซ่อมกันนานขนาดนั้นเลยเหรอ
ทำไมมันไม่เห็นแวะมาหาเลยนะเดี๋ยวนี้ หายหัวไปไหนของมันหว่า ผมไม่รู้ว่าเป็นอะไรครับ พักนี้กระผมนายแคนผู้สร้างชื่อเสียงให้วงศ์ตระกูล ชะเง้อคอมองหารถของไอ้กระชายตัวดำบ่อย ๆ ไม่รู้สิ ผมไม่เคยรอมันนะ
ผมเบื่อมันจะตาย มันชอบมากวนประสาท หลายวันก่อน มันมาหอมหน้าผากผมแล้วก็บอกว่าคิดถึงผมอีกต่างหาก
มันทำให้ผมใจเต้นไม่ส่ำอยู่หลายวันเลย แล้วดูแม่สิ เอาแกงไปให้บ้านป้าผมตั้งนานสองนาน แม่นะแม่ไปไหนทีหายไปเป็นวัน ทิ้งลูกชายว่าที่หมอให้อยู่บ้านคนเดียว แบบนี้ ชักจะเบื่อแล้วนะ ไปวิ่งไล่เตะหมา หมามันก็วิ่งหนี ไม่เห็นสนุกเลย เอาข้าวให้มันกิน มันก็ร้องหงิง ๆ เดินหนีไปซะอีก แหม นังทองเปลว เตะไปทีสองที กลัวข้าถึงขนาดนี้เลยนะ ล้อเล่นนิดเดียวเอง ว่าแต่ไอ้กระชายมันหายไปนานนะ คิดถึงมันจะแย่แล้ว ไม่มาให้ด่าเลย
เอ่อ โทษทีผมหมายถึงว่าผมคิดถึง แตงโม ขนุน ชมพู่ แล้วก็ผลไม้ที่มันเอามาฝากต่างหากล่ะ อย่าเพิ่งเข้าใจผิด

อ่ะ...นั่นใช่รถของไอ้กระชายหรือเปล่า มันขับรถเข้ามาแล้ว ผมวิ่งไปรอด่ามันดีกว่าเนอะ ไม่มาตั้งหลายวันแน่ะ
เอาอะไรมาฝากผมบ้างหรือเปล่านะ อยากกินขนุน อยากกินขนุน

แคนมาแปลกนะวันนี้ มองหาอะไรก็ไม่รู้ แถมเดินไปที่ท้ายรถกระบะอีกต่างหากแล้วก็ เดินกลับมาทำหน้าเหงา ๆ
แล้วก็เดินมายืนจ้องหน้าผมเป็นนานสองนาน

“เอ็งหายไปไหนมาตั้งนานสองนาน ข้าไม่มีขนุนกินแล้ว ข้าอยากไปเที่ยวด้วยเอ็งบอกว่าจะพาข้าไปเที่ยวช่วงปิดเทอม ข้าอยากไปแล้ว ไปเอาขนุนที่ไร่เอ็งด้วยนะได้มั้ย”

สงสัยผมจะอยู่บ้านนานเกินไป เลยเบื่อ ๆ เซ็ง ๆ รถก็ไม่มีนี่จะไปเอาที่ไหนล่ะ พ่อขับรถไปราชการที่ไหนอีกก็ไม่รู้ กิน ๆ นอน ๆ อยู่กับบ้านนาน ๆ ชักเบื่อนี่ ก็ไอ้กระชายมันบอกเองว่าจะพาไปเที่ยว เป็นเพื่อนกันแบบนี้ก็ต้องหัดมีน้ำใจกันบ้างสิ หรือว่าจะไม่พาไปกันล่ะ เมื่อก่อนยอมรับว่าไม่อยากไปเที่ยวกับมัน แต่ตอนนี้เบื่อนี่นา อยากไปเที่ยวแล้วด้วย อยู่บ้านทุกวันเซ็งจะแย่

“วันนี้ต้องไปซ่อมเขื่อนต่อ ไว้เย็น ๆ ได้มั้ย เดี๋ยวมารับนะ”

โหย ดูคำตอบของไอ้กระชายดิ ผมละเซ็งเลย

“เขื่อนก็ไป ไปด้วยสิ..นะ..อยากไป..ข้าเบื่ออยู่บ้านแล้ว” ก็เบื่อจริง ๆ นี่ครับ ผมเบื่อ เบื้อ เบื่อจะแย่ แล้วทำไมไอ้กระชายมันต้องยิ้มขนาดนั้นด้วยล่ะ ยิ้มบ้าอะไรของมันกัน เห็นแล้วหงุดหงิด

“อ้อนเป็นด้วยนะ...คุณหมอ..แบบนี้เดี๋ยวก็ใจอ่อนกันพอดี..แต่ไม่เอาหรอก แดดมันร้อน เดี๋ยวไม่สบายจะแย่
เย็น ๆ นะ เย็น ๆ จะมารับจริง ๆ วันนี้เอาแตงโมที่ไร่มาให้ด้วยเดี๋ยวไปยกขึ้นบ้านให้นะ”

อะไรของมันไอ้กระชาย มันหาว่าผมอ้อน ท่าจะบ้า แล้วดูสิ มันเดินไปหยิบถุงใบใหญ่ที่ใส่แตงโมเดินขึ้นบ้านผมไปแล้ว นี่บ้านผมนะ ไม่ใช่บ้านมัน มาซะชินหรือไง ทำตัวอย่างกับเจ้าของบ้านแน่ะ

“ขอน้ำกินหน่อยได้มั้ย..คอแห้งจังเลย.” ผมเห็นนะว่ามันนั่งปาดเหงื่อ แล้วก็ลงไปนั่งอยู่บนชานบ้าน ขอน้ำก็ให้กินได้หรอกผมไม่ได้แล้งน้ำใจนี่ มันก็อุตส่าห์อุ้มแตงโม มาให้ถึงบนบ้าน ขอน้ำกิน ก็ไม่มีปัญหาหรอก ยังไงก็เพื่อนกัน ผมไม่ได้ใจดำซะหน่อย พอผมยื่นน้ำในขันให้ไอ้กระชาย มันก็ดื่มเอา ดื่ม เอา อย่างกับคนขาดน้ำอย่างนั้นแหละ แล้วมันก็หันมาขอบคุณผมด้วย เออดีนะ รู้จักขอบคุณด้วย ถ้าไม่ขอบคุณล่ะก็คราวหน้าผมไม่เอามาให้มันแล้ว น้ำเนิ้มอะไรเนี่ยอ่ะ

“ไปแล้วแคน...เดี๋ยวเย็น ๆ จะมารับไปเที่ยวนะ....ไปนอนกลางวันเอาแรงก่อนไป๊คุณหมอ”

ไอ้บ้ากระชาย ผมรุ่นเดียวกับมันนะ เรียนเก่งกว่ามันด้วย แล้วมันเรื่องอะไรที่มันจะต้องเอามือมาลูบหัวผมด้วยล่ะไอ้นิสัยไม่ดี ผมเดินหนีมันให้มันรู้ว่าผมไม่ชอบ มันก็เลยหัวเราะไปใหญ่ แล้วก็เดินลงบ้านไปแล้ว
ผมยืนดูมันเดินไปขึ้นรถ แล้วก็ขับออกไป

คอยดูเหอะ ถ้าไม่มารับนะ น่าดู

ผมต้องไปนอนเอาแรงไว้ก่อนแล้ว เดี๋ยวตอนเย็นจะได้ไปเที่ยว ให้หายเบื่อเล้ย

+++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++

แคนน่า รักได้ขนาดนี้ตั้งแต่เมื่อไหร่ เวลาพูดดี ๆ แบบนี้ยิ่งน่ารัก แคนยังมองเขาเป็น ไอ้บ้าเก็บมะม่วงสอบได้ที่โหล่เหมือนสมัยเรียนหรือเปล่านะ หรือว่ามองนายกระชายคนนี้ดีขึ้นบ้างหรือเปล่า อยากอยู่ใกล้ชิดแคนให้นาน ๆ กลัวว่าถ้าแคนกลับไปเรียนแล้ว จะยิ่งเจอกันได้น้อยลง จะเอาข้ออ้างอะไรไปหาล่ะ มาบ้านแคนแต่ละที
ก็ต้องอ้างว่าเอานั่นเอานี่มาฝาก เอามาฝากทุกวันก็กลัวแม่ของแคนจะสงสัย เพื่อนอะไรเอาของมาฝากได้ทุกวี่ทุกวัน กลัวผู้ใหญ่เขาจะมองว่าเขาคิดอะไรไม่ดีหรือเปล่า ช่างมันเถอะนะ เวลานี้ แค่ได้เห็นหน้าได้พูดคุยบ้างก็เพียงพอแล้วล่ะ สำหรับเขา แล้วเย็นนี้จะไปรับแคนไปเที่ยว จะต้องพาไปดักปลา จริงสิ พาไปนั่งเล่นที่ไร่ดีกว่า
กระท่อมที่ทำไว้ ต้องไปเก็บกวาดไว้ก่อน เผื่อแคนจะมานั่งเล่น

นายช่างสมชาย อารมณ์ดีเกินเหตุ และอารมณ์ดีเป็นพิเศษ ก็วันนี้ หลังจากทำงานตรากตรำมานานแล้วก็มีปัญหาหัวใจที่อยากจะเอาไว้ไปทายเล่นกับว่า ที่คุณหมอ ซะหน่อย โดยที่ไม่ได้รู้เลยว่า เจ้าตัวเขาไม่ได้เคยคิดอะไรกับตัวเองเลยสักนิดเดียว แค่อยากไปเที่ยวเล่นให้สนุกในช่วงปิดเทอมก็แค่นั้นเอง

+++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++

“เบื่อหรือยัง...” ดูเด่ะ ไอ้กระชายมันถามมาได้ว่าเบื่อหรือยัง ถามจริงเหอะ มันไม่มีลูกกะตาจะมองเหรอ ว่าผมเล่นน้ำสนุกแค่ไหน ไม่เห็นเหรอว่าผมสนุกอยู่ ไอ้บ้านี่กวนใจจริง ๆ

“มืดแล้วนะ...ขึ้นจากน้ำเถอะ...ตัวซีดหมดแล้ว”

โธ่โว้ย ได้ยินมั้ย ไอ้กระชายมันสั่งนั่นสั่งนี่อีกแล้ว นาน ๆ ทีจะได้มาเล่นน้ำตก ได้มาเที่ยวสนุก ๆ ไอ้กระชายก็ขัดจังหวะจริงเว้ย น่ารำคาญว่ะ

“อย่ายุ่งน่ะ จะกลับก็กลับไปก่อนไป๊...รำคาญว่ะ”

เป็นไงล่ะ ผมก็ด่ามันไปแล้ว ก๊า ก๊า ฮ่า ฮ่า ฮ่า หน้าจ๋อยเลยเอ็งไอ้กระชายตัวดำ นี่ถ้าเกิดว่ามืดกว่านี้สงสัยยิ่งตัวดำกว่านี้แน่ ถ้าไม่ยิงฟันสงสัยไม่เห็นหน้าไอ้กระชายแน่ ๆ เลย แค่คิดก็ขำแล้ว

“แคนขึ้นมาเดี๋ยวนี้....มืดแล้ว...อย่าให้ต้องพูดร่ำไร ทำตัวเป็นเด็ก ๆ ไปได้”

เฮ้ย ไอ้กระชายมันขึ้นเสียงกับผมอ่ะ อารายเนี่ย ผมไม่ใช่ลูกมันนะ มาทำโวยวายไปได้ โมโหเป็นนะเนี่ย
อะไรของมันวะ หือเหรอ ยุ่งมากใช่มั้ย ว่ายหนีมันไปไกล ๆ เลยดีกว่า ดูสิไอ้กระชายมันจะทำยังไง

“แคน...จะว่ายไปไหน...อย่าให้ต้องลงไปลากขึ้นมาจากน้ำนะ”

หูย กลัว กลั้ว กลัว จาตายแล้ว ทำเป็นเสียงเข้ม โห่ ฝันไปเหอะ ว่าข้าจะกลัวเอ็งไอ้กระชาย แน่จริงมาจับเองดิวะ ไอ้เห่ยตัวดำเอ้ย

ผมก็ว่ายหนีมันไปเรื่อย ๆ แต่ไอ้กระชายถอดรองเท้าถอดเสื้อแล้วก็โดดตามลงมาแล้ว แถมมันยังว่ายน้ำแบบติดเทอร์โบมาหาผมซะอีก แล้วนั่นดูมันเด่ะ มันลากผมอ่ะ ไอ้กระชาย เอ็งนึกว่าแน่มาจากไหนวะ สอบก็ได้ที่โหล่
อย่ามาทำเป็นกร่างนะเว้ย ผมเปิดสงครามกับไอ้กระชายด้วยการชักดิ้นชักงออยู่ในน้ำนั่นแหละ

แล้วก็ใช้มือสะบัดน้ำใส่หน้ามัน แต่ไอ้กระชายมันเล่นลากผมเข้าฝั่งแบบไม่สนใจเลยอ่ะ ผมโกรธแล้วนะ โกรธจริง ๆ นะเนี่ย ไอ้กระชาย ผมจะต่อยมันไอ้กระชาย ไอ้บ้าเอ้ย

ผมทำท่าจะต่อยมันแต่ไอ้กระชายมัน มัน มัน มัน

“แค่ก แค่ก แค่ก ไอ้กระชายเอ็งกล้ากดน้ำข้าเหรอวะ ไอ้...แค่ก แค่ก แค่ก”

ผมสำลักน้ำจะเป็นจะตาย กว่าจะหยุดดิ้น ขึ้นมาจากน้ำได้ แม่งโหดจริงเว้ย จะฆ่าให้ตายเลยใช่มั้ยเนี่ย ไอ้บ้าเอ้ย

“สั่งสอนคนรู้มาก...พูดแค่ปากไม่พอหรอก..น้ำวนรู้มั้ยตอนกลางคืนน่ะ...ถ้าจมน้ำไปจะทำยังไง...”

โห่ สั่งยังกะพ่อแน่ะ เชื่อเอ็งก็บ้าแหละ ผมทำท่าจะกระโดดลงน้ำไปอีกรอบ แต่ไอ้บ้ากระชายมันลากแขนเอาไว้
และดึงผมไปขึ้นรถ แถมยังจับผมโยนไปไว้บนเบาะทั้งที่ทั้งมันและผมก็เปียกกันยังกะลูกหมาตกน้ำนั่นแหละ

“หัดฟังคนอื่นพูดซะบ้าง....อย่านึกว่าตัวเองรู้ไปทุกเรื่อง เก่งไปทุกเรื่อง เข้าใจมั้ย”

โอ้โห เอ็ง ไอ้กระชาย สั่งสอนข้าฉอด ๆ เลยนะนั่น จะเหลือเหรอครับแบบนี้ ด่าเท่านั้นครับ ต้องด่าไอ้กระชายให้มันตายไปข้างหนึ่งเลย

“อย่ามาขึ้นเสียงกับข้านะ....เอ็งเก่งกว่าข้าตรงไหนกัน....เรียนก็ได้ ที่โหล่ เก็บแต่มะม่วง ข้าซะอีกสอบได้ที่ 1 ทุกเทอม เอ็งสอบได้ก็แต่ที่โหล่ ข้าไม่น่ามากับเอ็งเล้ย ไอ้บ้า ไอ้กระชาย ไอ้บ้า ข้าเกลียดเอ็งเว้ย “

โวยวายเข้าไปสิแคนน่ะ ดื้อก็ดื้อ หงุดหงิดก็เก่ง ขี้งอนอีกต่างหาก นี่เรียนหมอได้ยังไงกัน ไม่เข้าใจเลยจริง ๆ

นายช่างสมชายแทนที่จะมีทีท่าโมโห กลับนึกขำไปกับท่าทางของอีกฝ่ายซะอีก เนี่ยเหรอคนที่ได้ที่ 1 ของห้องทุกปีทุกเทอม เหมือนเด็ก ๆ เลย อายุเท่ากับเขาจริง ๆ เหรอเนี่ย ไม่อยากเชื่อเลย

“เอ็งหัวเราะทำไมไอ้กระชาย หัวเราะหาเรื่องข้าเหรอวะ...ไอ้บ้าเอ้ย ไอ้กระชาย เอ็งตายซะเถอะ”

นี่หรือคือคำพูดของว่าที่หมอในอนาคต ทำท่าจะโถมตัวเข้ากัดคอ นายช่างหนุ่ม และยังร้องแง้ว ๆ ทำท่าทางหงุดหงิด เหมือนเด็กไม่ได้ของเล่นงั้นแหละ

“คุณหมออยากรู้เหรอ...ว่าผมเหนือกว่าคุณหมอตรงไหน...” ร่างสูงพูดพร้อมกับดึงมือคนที่โถมตัวเข้าหาทำท่าจะต่อยเขาให้ได้ และก็หัวเราะเสียงเบากับท่าทาง ของอีกฝ่าย ดูเหมือนว่า ว่าที่คุณหมอเขากำลังงง จังหวะที่งงนี่แหละ คนที่มันสมองน้อยกว่า แต่แรงเยอะกว่า คงต้องสั่งสอนหน่อยแล้วมั้ง ว่าเขาเหนือกว่า แคนตรงไหน

TBC…..

PEAK

  • บุคคลทั่วไป
ว้าว ~!!!!    ชอบเรื่องนี้จังเลย  ....  สนุกมาก ๆ เลยอ่ะ

ขอบคุณนะครับ +1  เป็นกำลังใจให้  ...  ขยันโพสมากมาย  ^___^

ออฟไลน์ kamui1972

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 278
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +186/-0
เรื่องรักต้องใช้ใจศึกษา 8

ไอ้กระชายมันพูดแปลก ๆ คนยิ่งโมโห หงุดหงิดที่ไม่ได้เล่นน้ำอยู่ มันดันลากขึ้นจากน้ำแล้วเอามายัดไว้ในรถแบบนี้ ทำแบบนี้มันใช้ได้ที่ไหนวะ

ว่าที่คุณหมอ มองหน้าแบบหาเรื่องไอ้คนร่างสูงผิวคล้ำที่ดึงร่างเล็ก ๆ เนียนขาวของว่าที่คุณหมอเข้ามากอดรัดแน่นแล้วพูดคำพูดประสาท ประสาท ออกมา

"อยากรู้รึเปล่า ....... ว่าผมเหนือกว่าตรงไหน..ไหนตอบมาซิคุณหมอ"

งือ ไอ้ปัญญาอ่อน แล้วเนี่ยมันเป็นบ้าอะไรมากอดรัดกระผมนายแคนไว้แน่นกันวะเนี่ย กะจะกัดคอมันซะหน่อย ไอ้บ้ากระชายมันดันกอดแน่นซะอีก
ตัวยิ่งเปียก ๆ อยู่ไม่อยากแตะตัวกับมันหรอก เดี๋ยวสีผิวมันจะหยดมาโดน แล้วตัวผมจะมีสีผิวกระดำกระด่าง แล้วใครจะรับผิดชอบละเว้ย

"ไอ้กระชายเอ็งปล่อยข้านะเว้ย...อยากมีเรื่องเหรอ ห๊า..อยากมีเรื่องกับข้าเหรอ..ข้าจะเล่นน้ำต่อ ทำไม..เอ็งมีปัญหามากหรือไงวะ"

ดูเอาเถิด นี่หรือว่าที่หมอ ดื้อก็เท่านั้น งอแงก็เท่านั้น อยากให้สั่งสอนจะสั่งสอน ชอบยั่วอารมณ์ด้วยท่าทางน่ารักนั้นจริง ๆ เล้ย ว่าที่คุณหมอ
ปลายนิ้วเรียวแกร่ง อมยิ้มชอบใจในท่าทางหงุดหงิดฮึดฮัดของคนในอ้อมแขน ที่ทำท่าจะก้มลงมากัดคอของเขาให้ได้

อะไร คิดได้ไง .... สู้แรงไม่ได้ เลยจะกัดคออีกฝ่าย คุณหมอนะคุณหมอ

นายช่างสมชายหัวเราะขำกับท่าทางของคนที่ดิ้นขลุกขลักอยู่ในอ้อมแขน เนื้อตัวเนียนนิ่มผิวกายเนียนขาว ยิ่งเบียดเข้าหา ร่างกายแกร่งหนาเบื้องบนเปลือยเปล่า
โดยไม่ได้รู้เรื่องรู้ราวเลยสักนิด ว่ายิ่งเป็นการไปกระตุ้นความรู้สึกของร่างสูงนั้น
แถมซ้ำยังดิ้นรนไปมา ให้ร่างกายบดเบียดแนบเข้าหากันแน่นเข้าไปอีก

"แคน...อย่าดิ้น..." ถึงแม้จะห้ามไปแล้ว แต่คนหัวดื้อก็ยังไม่ยอมรับ คำว่ายอมแพ้ไม่เคยอยู่ในพจนานุกรม ฉบับ ว่าที่คุณหมอที่ชื่อแคน เลยสักนิด

จนร่างสูงนั้นทนไม่ไหว ต้องจับล็อคแขนเอาไว้ทั้งสองข้าง และทำท่าจะแตะปลายจมูกเข้าหาข้างแก้มเนียนนิ่มนั้น

เหยยยยยยยยยยยยย ไอ้กระชายมันจะทำอะไรของมันเนี่ย เอ๋อเลย อะ.... อะ.... อะ....อะ....ราย....ว๊า

นึกว่ามันจะหอมแก้ม เลยหลับตาซะแน่น เบี่ยงหน้าหลบ ที่ไหนได้ ไอ้บ้ากระชายมัน.....มัน ... มัน

มันเอามือของมันอีกข้าง มาดึงแก้มผมอ่ะ แง ไอ้บ้ากระชาย ผมไม่ใช่เด็กนะเว้ย มาดึงแก้มทำไมว๊า

แล้วมันยังดึงซ้ำ ๆ ทำหน้าหมั่นเขี้ยวอีกอ่ะ แล้วดูเด่ะ มันดึงมือผมรวบไว้ทั้งสองข้าง แล้วมันก็ตีมือผมอ่ะ
ดูมันเด่ะ จะแกะมือออก มันก็ตีใหญ่เลยอ๊า...แง ไอ้กระชายมันแกล้งโพ้มมมมมมม ไอ้กระชาย ไอ้บ้า

ไอ้กระชายตัวดำ มันจะเล่นบทคุณครูกะผมอ่ะ ฮืออออออออ

"เด็กดื้อนี่ต้องตีมือ...ตีแบบคุณครูสมพร...ที่เคยตีสมัยเรียน ประถมไง....เด็กดื้อจะได้หลาบจำ....ได้ที่ 1 ก็ต้องรู้จักฟังบ้าง
น้ำมันวน...จะมืดอยู่แล้ว แช่น้ำนาน ๆ เดี๋ยวก็เป็นหวัดกันพอดี เข้าใจมั้ยว่าเป็นห่วง ... หัดเข้าใจบ้าง
ว่าเพราะเป็นห่วงถึงได้ว่าแบบนั้น ....... รู้มั้ย "
เง่อออออ เอ่อ เอ่อ เอ่อ กระผมนายแคน ทำไมพยักหน้าหงึกหงักกับคำพูดของไอ้กระชาย ง่าย ๆ อย่างงั้นอ่ะ
มันเป็นปฏิกิริยาอัตโนมัติเมื่อโดนคุณครูสอน กระผมนายแคน ผู้เป็นอัจฉริยะศึกษาจะทำการเล็คเชอร์และเก็บข้อมูลไว้ในหัว
มันจะมีการรีเพลย์กลับอีกครั้ง เมื่อมีการสอบปลายภาคนั่นเอง เฮ้ยยยยยยยย แล้วผมไปพยักหน้าทำไมล่ะเนี่ย

แล้วไอ้กระชายมันก็ปล่อยมือ...แล้วมันก็ยิ้ม ..... แล้วมันก็พูดอะไรล่ะนั่น

"เข้าใจมั้ย"

"เข้าใจครับ"

เฮ้ย แล้วกระผมนายแคนไปพยักหน้าแล้วก็ตอบคำถามของไอ้กระชายทำไมเนี่ย ผม.....ยัง งง
นั่ง งง งง ทำหน้า งง งง มองไอ้กระชายแบบ งง งง

มันออกรถแล้ว แต่ผมยังงง

"มีแกงส้มผักที่ชอบ ให้ป้าทอดปลาไว้ให้แล้ว ... เดี๋ยวไปเปลี่ยนเสื้อที่กระท่อมก่อนนะ...แล้วเดี๋ยวพาไปเก็บชมพู่..ที่ท้ายไร่
ไปมั้ย...แต่ต้องกินข้าวก่อนนะ .. ถึงจะพาไป"

เอ่อ...ไอ้กระชายมันขับรถไป แล้วก็ร่ายอะไรไปยืดยาว มันหันหน้ามามองหน้ากระผมนายแคนแล้วก็เก็กหน้าขรึมต่อ
ผมเห็น ผมเห็นจริง ๆ ไอ้กระชายมันแกล้งเก็กหน้าขรึม ก็ผมเห็นมันแอบยิ้มอ่ะ

มือผมมันไวครับ .... ตีผัวะ เข้าให้ที่ต้นแขนของไอ้กระชาย เพื่อระบายความแค้น มันทำท่าเบี่ยงหลบเล็กน้อย
ก่อนจะขับรถกระบะลงมาตามถนนลูกรัง ที่ค่อนข้างลาดชันนั้น มันไม่ได้พูดอะไรแล้ว
ยังตั้งหน้าตั้งตาขับต่อไป แล้วผมจะไปทำอะไรได้ล่ะ

หิวครับ...ผมหิวข้าวแล้ว...ไอ้กระชายบอกว่ามันทำแกงส้มผักรวมแล้วก็มีปลาทอดด้วย
แล้วมันจะพาผมไปเก็บชมพู่ที่ท้ายไร่บ้านมัน....ของฟรีครับ....
ชมพู่เป็นกระสอบจากต้นสด ๆ หวาน ๆ กรอบอร่อย รอผมอยู่

เรื่องอะไรผมจะไปทะเลาะกับมันต่อล่ะ อดกินชมพู่กันพอดี ผมเป็นว่าที่หมอนะครับ ผมฉลาด ครับ ผมเป็นคนฉลาด

ใบหน้าน่ารัก ที่เคยงอหงิกเพราะนึกโมโหสารถีที่มุ่งหน้าขับรถลงจากเขา ทำตาชวนฝัน นึกไปถึง ชมพู่ลูกสีชมพู
หวาน กรอบ แล้วก็ยิ้มออกมาอย่างดีใจ
หัวสมองของคุณหมอ มีแต่เรื่องกิน และเรื่องเรียน อีกนานมั้ยหนอ

ความรู้สึกรักของนายช่างสมชายคนนี้จะเข้าไปแทรกในส่วนสมองและความรู้สึกของคุณหมอได้

นายช่างสมชายลอบมองใบหน้าของคนที่นั่งข้าง ๆ และยิ้มน้อยยิ้มใหญ่ ก็รู้ว่าเพราะอะไร
แค่อยากไปเที่ยว แค่อยากไปกินผลไม้

แค่นั้นเองนะ..... เขารู้ว่าแคนคิดแค่นั้น

แต่....มันก็ยังดีกว่าเมื่อก่อน ตรงที่ว่า ยังไงซะถึงแคนจะไม่ได้คิดอะไรกับเขาเลย
แต่เขาก็ใช้ข้ออ้างพาแคนไปเที่ยวนั่นเที่ยวนี่ได้จนหมดปิดเทอมนี้

แล้ว...พอเปิดเทอม....แคนต้องกลับไปเรียน...
เขาจะต้องอดทน ไม่ให้คิดถึงแคนให้มากนักอีกแล้วสินะ
กลับไปเรียนแล้ว....แคนจะนึกถึงคนพาไปเที่ยวคนนี้บ้างหรือเปล่า

จะรู้บ้างมั้ย ว่าความทรงจำในช่วงปิดเทอมที่แสนน่าเบื่อของแคน
กลายเป็นความทรงจำที่แสนมีค่าของไอ้กระชายตัวดำ
สอบได้ที่โหล่ของห้อง สมัย ม. ต้น คนนี้ไปซะแล้ว

TBC...

ออฟไลน์ kamui1972

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 278
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +186/-0
เรื่องรักต้องใช้ใจศึกษา 9

"แคนจะกลับไปเรียนต้นเดือนใช่มั้ย...ก็เหลืออีกไม่กี่วันแล้วนะ... ระหว่างนี้อยากไปเที่ยวไหนล่ะ แต่ต้องเย็น ๆ หน่อยนะ เพราะว่าต้องเก็บงานที่เขื่อนให้เรียบร้อยก่อน"

เอ้อละเหวย ไอ้กระชายมันใจดี แปลกเนอะ ผมว่ามันแปลก ๆ ไอ้กระชายเนี่ย มันชอบตีซี้ผม สงสัยว่ามันอยากจะได้ชื่อว่าเป็นเพื่อนกับคนที่สอบได้ที่ 1 สมัยม. ต้นแน่ ๆ

อ่ะ นิด ๆ หน่อย ๆ ถือซะว่า มันอยากทำชื่อเสียงกับวงศ์ตระกูล ผมจะเป็นเพื่อนกับมันก็ได้ นี่ผมสงสารมันนะเนี่ย ที่ไม่มีเพื่อน ผมนายแคนซึ่งเป็นคนดี มีเมตตา และเป็นว่าที่คุณหมอคนใหม่ ต้องประพฤติปฎิบัติตนในทางดีงาม สร้างภาพหน่อยว่าเป็น คนดี ก็ได้ ก็ได้ ผมจะยอมเป็นเพื่อนเฉพาะกิจให้ไอ้กระชายก็ได้

"อยากไปถล่ม ผลไม้ที่ไร่เอ็งปลูก ข้าจะเก็บทุกวันเลย เก็บให้เตียนโล่งไปเลย ได้ป่ะ กระชาย..."

นายช่างสมชายยืนอึ้งอยู่พักใหญ่ก่อนจะลงไปนั่งขำ อยากจะชักดิ้นชักงอตายซะให้ได้ แคนนะแคน จะทำตัวให้สมกับเป็นเด็กเรียนมาดขรึมหน่อยก็ไม่ได้
นี่อาร๊าย เหมือนกับเด็ก ๆ ไม่มีผิด อ้อนก็เท่านั้น งอแงก็เท่านั้น นี่เขามองแคนผิดไปจริง ๆ นึกว่าจะทำตัวเป็นคนนิ่ง ๆ เงียบ ๆ
อันที่จริงก็ไม่ได้รู้จักนิสัยใจคอที่แท้จริงของแคนมากนัก เมื่อก่อนได้แต่มองอยู่ห่าง ๆ แคนไม่ค่อยยิ้ม วัน ๆ เอาแต่อ่านหนังสือ
เป็นนักเรียนที่คุณครูให้การยอมรับเรื่องความขยันเรียนและความสามารถ ไม่มีใครเทียบแคนได้ ท่าทางนิ่ง ๆ เงียบเฉย
ไม่สนใจคนรอบข้าง เข้าหาได้ยาก ไอ้ท่าทางนั้นแหละที่เขาหลงใหล และอยากจะเข้าใกล้ กลัว ๆ เกรง ๆ อยู่ตลอดเวลาที่จะเข้าไปคุย
แต่ที่ไหนได้ ผ่านมาหลายปี พอได้รู้จักแคนจริง ๆ แคนกลับกลายเป็น......เป็น.....เป็น....ฮ่า ฮ่า ฮ่า ฮ่า เมื่อก่อนก็ว่าน่ารักแล้ว
นี่ยิ่งน่ารักเพิ่มขึ้นไปอีก แคนหนอแคน นี่รู้มั้ยเนี่ยว่าตัวเองน่ารักขนาดไหน

"เฮ้ย....เอ็ง...ไอ้กระชาย เอ็งหัวเราะทำไมวะ...ลุกขึ้นมาเลยนะเว้ย ไอ้กระชาย เอ็งหัวเราะทำไม..."

ดูมันสิ ไอ้กระชายมันต้องเป็นบ้าแน่ ๆ เลย ไม่น่าหลวมตัวมากับมันเลยให้ตายสิ แค่บอกว่าจะไปเก็บผลไม้ที่ไร่ของมัน
มันถึงกับนั่งขำจนน้ำตาเล็ด เดี๋ยวเหอะ จะเตะให้คอหลุดเลยไอ้กระชาย

"ก็....ก็...มันขำ..อะไรเนี่ยคุณหมอ...อยากเก็บผลไม้ขนาดนั้นเชียว....คุณหมอนะคุณหมอ..."

เง่อ ไอ้กระชายมันยังไม่หยุดขำอะ มันขำอะไรล่ะ ผมล่ะงงกับมันจริง ๆ พวกสมองเล็กเท่าเม็ดถั่วเขียวก็งี้แหละ คิดอะไรไม่มีเหตุผล
ชอบทำท่าทางบ้า ๆ บอ ๆ ผมล่ะรับไม่ได้จริง ๆ ดีนะที่ผมเกิดมามีสมองอันชาญฉลาด ไม่อย่างนั้นคงทำอะไรเพ้อเจ้อไม่มีเหตุผลแบบไอ้กระชายแน่ ๆ

"ป่ะ...หนาวแย่แล้ว..ปากสั่นแล้วนั่น...ไปอาบน้ำก่อน...เดี๋ยวพาไปเก็บชมพู่นะแคนนะ"

เหอะ ดูไอ้กระชายสิ มันเป็นบ้าอะไรของมัน ลงไปนั่งหัวเราะอย่างกับคนบ้า แล้วก็ลุกขึ้นมาตีหน้าขรึม เดินนำหน้าไปกระท่อมมันซะงั้น
บ้าป่าวเนี่ย สงสัยมันต้องบ้าแน่ ๆ เลย เฮ่อ อยู่กับพวกมนุษย์ไร้สาระก็งี้แหละ หาอะไรที่มันน่าศึกษาให้ได้สักนิดไม่มีเลย แย่มาก

"แคน...เอาผ้าข้าวม้าไปผลัดก่อนแล้วกัน เดี๋ยวซักเสื้อให้....แล้วเดี๋ยวค่อยขึ้นไปเอาชุดไปเปลี่ยนนะ" ร่างสูงนั้นส่งผ้าลายทาง เนื้อบางให้กับคน
ที่ทำหน้าตาน่ารักใส่แบบไม่รู้ตัวเลย คนรับก็รับมาแล้วจัดแจงผลัดเปลี่ยนกางเกงขาสามส่วนที่สวมใส่ออกหมดรวมทั้ง ชั้นในที่เปียกชื้น ก็ถูกปลดออกมาด้วย

เปลี่ยนผ้าอาบน้ำต่อหน้าต่อตา คนที่ส่งผ้าให้ และนายช่างสมชายก็ยืนตะลึงค้าง ........... แคน.........จะยั่วเหรอเนี่ย....
"เฮ้ย...กระชาย..ไม่ได้เอากางเกงในมาเปลี่ยนด้วยว่ะ..แต่ไม่เป็นไร..ช่างหัวมันเถอะ..เอาเสื้อผ้าเอ็งใส่ก็แล้วกันเนอะ"

เง่อ....แคนพูดอะไรน่ะ....แคนพูดอะไรของแคนกันน่ะ

ร่างสูงผิวคล้ำของนายช่างสมชาย ยืนมองคนที่ผลัดเปลี่ยนเสื้อผ้าต่อหน้าต่อตา ผิวเนียน ๆ เรือนร่างสมส่วน ที่เผยให้เห็นตรงหน้า
แทบทำให้เขาลมจับ ว่าที่คุณหมอเดินไปที่โอ่งน้ำ และก็ลงมืออาบน้ำอาบท่าต่อหน้าต่อตาเขา
และไม่สนใจด้วย ว่าคนที่ยืนตะลึงค้างนั้น จะมองตัวเองด้วยความรู้สึกแบบไหน

"เฮ้ย น้ำอุ่นดีว่ะ...ไอ้กระชายเอ็งมาอาบด้วยกันสิ...แหม สงสัยน้ำจะตากแดดตั้งแต่กลางวันเนอะ มันก็เลยอุ่นดีชะมัด"

แคน..............ยังคงพูดอะไรไปเรื่อยเปื่อย หัวเราะร่าเริงแจ่มใส เป็นปกติ

แต่นายช่างสมชายหรือไอ้กระชายตัวดำ ที่ว่าที่คุณหมอ ขยันเรียกนักหนา ต้องเงยหน้าขึ้นมองฟ้า แล้วก็หันหน้าหนีภาพที่อยากมองนั้น

ขอร้องเถอะแคน....อย่ายั่วกันซึ่ง ๆ หน้าอย่างนี้เลย ผมจะคลั่งเอาได้ง่าย ๆ นะแคน ขอร้องล่ะ อย่ายั่วกันอย่างนี้เลย

ว่าที่คุณหมอ ยังคงยกขันน้ำเทน้ำในตุ่มราดรดร่างกายตัวเอง และสะบัดผมเพราะน้ำเข้าตา หัวหูเปียกลู่ไปหมด
แถมยังร้องเพลงงำงัมไปเรื่อยเปื่อย อย่างมีความสุขซะอีก

ส่วนคนที่นั่งมองอยู่ก็ต้องเบือนหน้าหนีเป็นพัก ๆ จะให้หันหนีไปไหนได้ ในเมื่อกระท่อมเป็นเพิงไม้เล็ก ๆ แค่นั่ง
หันไปมองทิศไหน ก็มองเห็นคนอาบน้ำนั่นได้ง่าย ๆ แล้ว
ให้ตายเถอะแคน
อยากจะโดนปล้ำหรือไง
ถึงได้ยั่วกันแบบนี้

+++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++

"เฮ้ยกระชาย...ปลาทอดอร่อยดีว่ะ..กรอบดี แกงส้มก็ถูกใจข้าจริง ๆ นี่อยู่กรุงเทพข้าไปหากินของอร่อย ๆ แบบนี้ได้นะ
แต่บอกตรง ๆ วะ ไม่ถูกใจ กินข้าวแบบนี้ก็ดี กินบรรยากาศไปด้วย เนอะกระชายเนอะ"

อืม...แคนอยากจะพูดอะไรก็พูดไปเถอะนะ อยากพูดอะไรก็พูดไปเลย เต็มที่ไปเลยแคน
ออกนอกเรื่องไปไกล ๆ ยิ่งดี ไอ้กระชายคนนี้จะได้ไม่คิดอะไรอกุศลเลยเถิดไปอีก


แคนเคี้ยวข้าวในถาดสำรับ อย่างเอร็ดอร่อย ปากก็พูดนั่นพูดนี่ไปเรื่อย อย่างกับเด็ก ๆ

"แคน...เวลากินข้าวห้ามพูด..."

คนที่นั่งอยู่ฝั่งตรงข้ามเอ่ยบอกคนที่จ้อไม่เลิก และร่างนั้นก็หยุดเคี้ยวทันที

"ทำไมวะ...ข้าจะพูด...เอ็งนี่เป็นอะไรวะ เรื่องมากจริง ๆ ...กินข้าวก็ห้ามพูดหรือไง...บ้าป่าววะ..แค่ก แค่ก แค่ก"

นั่นไงล่ะ บอกแล้วไม่ทันขาดคำ เคยมีใครสอนแคนบ้างมั้ย ว่ากินข้าวแล้วห้ามพูดอะไรรัวเร็วแบบนี้
แล้วก็เคี้ยวข้าวเร็วชะมัด ปากก็ยังจะพูดในขณะที่มีข้าวอยู่เต็มปากอีก

"อ่ะ..น้ำ...บอกแล้วว่าอย่าพูด...เห็นมั้ย ไม่ทันขาดคำ..."

ดูไอ้กระชายเด่ะ ผมเบื่อ....มันชอบสอน..สอนอะไรก็ไม่รู้
แค่สำลักข้าวแค่นี้มันก็แค่บังเอิญ จะอะไรกันนักหนาวะ

"เป็นไง....หายหรือยัง...."

โห่ แม่งน่าเบื่ออีกแล้ว มีหน้าเอามือมาลูบหลังให้อีก อย่ามาถือเป็นบุญคุณนะ ใครอยากเป็นหนี้บุญคุณ คนสอบได้ที่โหล่ของห้องกันล่ะ

"เออ..หายแล้ว...."

แคน...ดื้อได้ใจมากเลย คนเขาบอกดี ๆ ยังจะกระชากเสียงใส่อีก แบบนี้มันน่านักนะ มันน่านัก

ถึงแม้ร่างสูงผิวคล้ำแดด จะนึกหมั่นไส้ร่างบางนั้นอยู่ในใจ แต่เพราะความน่ารักของเจ้าตัวกลับทำให้เขาหุบยิ้มไม่ลงเลย

"เฮ้ย....ไอ้กระชาย...ไหอะไรวะ....นั่นน่ะตรงเสาอ่ะ"

ตาไวจริงนะ ขนาดแอบไว้ข้างเสายังเห็นได้อีก

"สาโท....ทำไมเหรอ....พอดีชาวบ้านเขาหมักไว้ แล้วเขาเอามาให้ตอนไปซ่อมเขื่อน เขาบอกว่าได้ที่แล้ว กินได้ แต่ยังไม่ว่างกินสักที"

สาโท..........ไอ้กระชายบอกว่าสาโท....ของกินด้วย....แล้วก็หมักจากผลไม้ งั้นมันก็ต้องอร่อยน่ะสิ

"สาโทอะไร....." ผมแค่อยากรู้ว่ามันใช้อะไรหมัก ท่าทางจะอร่อยนะ เคยแอบแม่กินบ่อย ๆ มันหวาน ๆ ดี อร่อย
แต่กินมาก ๆ จะมึนหัว แต่นี่แม่ไม่อยู่....เข้าทางแหละแบบนี้
"สับปะรดน่ะ...เห็นว่าเอาสับปะรดหมัก .... " ตอบไปแล้วนายกระชายก็ค่อยมานั่งหน้าเครียด แคนยิ้มตาหวานเลย อย่าบอกนะว่าจะกินน่ะ
เป็นว่าที่หมอนะ จะกินของมึนเมาหรือไงกัน

คนตัวเล็กกว่าวางจานข้าวลงแล้ว และทำหน้ายิ้ม ๆ ใส่คนตัวสูง ก่อนจะเอ่ยเสียงอ่อนเสียงหวาน ผิดธรรมชาติ

"กินหน่อยดิ...นะ..เมื่อก่อนแอบแม่กิน...แต่แม่ข้าไม่อยู่....เอ็งก็นะ..เราเพื่อนกันนะเว้ยกระชาย...แค่นี้..ให้เพื่อนได้ใช่มั้ย"

เห็นมั้ยว่ากระผมนายแคนเป็นคนฉลาด.... รู้จักใช้ความเป็นเพื่อนรักแสนรักให้เป็นประโยชน์ แหม ผมไม่อยากจะเชื่อเลย
ว่าตอนนี้ผมรับไอ้กระชายเป็นเพื่อนด้วยใจจริง ๆ แต่ถ้ามันไม่ให้ผมกินสาโท หึ หึ หึ ผมจะตัดเพื่อนกับมันเดี๋ยวนี้
แล้วมันจะไม่มีหน้าไปพบกับบรรพบุรุษของมันได้แน่ ๆ เพราะว่ามันสร้างความเสื่อมเสียให้กับวงศ์ตระกูล

"กินเหรอ...จะกินเหรอ...แรงนะ...เขาหมักนานแล้ว...แคนกินไหวเหรอ"

โห่.........ไอ้กระชายดูถูกผมครับ แรงแค่ไหนกันวะ...กะอีแค่ผลไม้หมัก เป็นแอลกอฮอล์ อย่างมากก็แค่มึน ๆ
เอาน่ะ มีปัญญากลับบ้านได้หรอก

"กิน...เอามา....เอ็งอย่าขัดใจนะกระชาย...ไม่งั้นข้าเลิกคบเอ็งเป็นเพื่อนแน่ ๆ "

หึ หึ หึ มีหรือไอ้กระชายมันจะกล้าขัดใจกระผมนายแคนคนนี้ นั่นดูมันสิ มันรีบยกไหสาโทมาวางตรงหน้าผมทันที

แม่ครับ....แคนจะกินสาโท ณ บัดนี้นะแม่

อย่าด่าแคนเลย ก็แม่ห้ามแคนกินนี่นา แคนก็ต้องกินสิ ใช่มั้ยแม่ ฮ่า ฮ่า ฮ่า

+++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++

ทำไมว่าที่คุณหมอถึงนั่งเอนให้แผ่นหลังซบที่ไหล่กว้างของ ร่างสูงผิวคล้ำแดดนั้นได้ล่ะ แถมยังร้องเพลงอะไรไม่รู้ ร้องไม่เป็นเพลงเลย
แต่เจ้าตัวก็ยังร้องไม่เลิก ก่อนจะหันหน้าไปถามคนที่นั่งเงียบ ให้พิงหลัง ได้และนิ่งฟังเพลงที่แทบไม่เป็นเพลงนั้น

"ข้าร้องเพราะมั้ย...เนอะ...เอาอีกป่ะ...ข้าจะร้องต่อ"

แคนเริ่มพูดจาไม่รู้เรื่องแล้ว หลังจากซัดสาโทไปจนหมดไห บอกให้พอ ก็ยิ่งไม่พอ ทำหน้าตาทะเล้นใส่อีก
แล้วเป็นไงล่ะทีนี้ ชมพู่ก็ไม่ได้ไปเก็บ เมาแล้วแบบนี้ ถามว่าเมามั้ยก็บอกว่าไม่เมา

แล้วก็เลยเอนหลังพิงกับอกเขาไปซะอีก

"หนาวว่ะ...กอดหน่อยดิ....แอลกอฮอล์มันทำให้หายหนาว แต่ทำไมข้าหนาววะ....สงสัยข้าเมาแน่เลยเนอะกระชายเนอะ"

เรือนร่างเพรียวงาม ยิ่งเบียดแผ่นหลังเข้าหาไออุ่นของอกกว้าง และดึงมือของคนที่นั่งนิ่งให้มากอดรัดร่างกายตัวเองเอาไว้

ปากยังร้องเพลง หงุงหงิง หงุงหงิงไปเรื่อย และหัวเราะเป็นพัก ๆ ด้วย

หอมจังเลย....ขนาดกินเข้าไปขนาดนั้น เนื้อตัวเนียนนุ่มนั้นยังมีกลิ่นหอมที่ร่างสูงนั้นรับรู้ได้อีก หรือจะเป็นเพราะว่าเพิ่งอาบน้ำมา
ก็เลยมีกลิ่นหอม ๆ ของสบู่ ก็น่าจะเป็นไปได้

ร่างกายนี้ที่ไม่เคยคิดว่าจะได้กอด ได้สัมผัส แนบชิดขนาดนี้ โดยที่เจ้าตัวเต็มใจให้เขากอดซะอีก

ทำไมแคนช่างทำให้เขารู้สึกรักแคนมากขึ้นได้ทุกวันขนาดนี้หนอ

"ขอหอมแก้มหน่อยได้มั้ยแคน"

ร่างสูงกระซิบถามเสียงเบากับร่างในอ้อมแขน หลุดปากพูดไปแล้ว หวังว่าเจ้าตัวคงจะเมาจนไม่ได้ยินอะไรนะ ถ้าเกิดถามก็จะบอกว่า
ไม่ได้พูดอะไรทั้งนั้น แบบนี้คงพอไหว

"หอมเหรอ....เอา เอา หอม หอม ข้าหอมเอ็งด้วยดิ....แม่ข้าก็หอมข้าตอนเด็ก ๆ แต่โตมาแม่ข้าไม่ค่อยหอมข้าเลย..เอา เอา มาหอมกันกระชาย
ข้าชอบ...มาเร้ว กระชาย "
อะไรน่ะ....คนตัวนุ่มนิ่มในอ้อมแขน หันหน้ามาหานายช่างสมชายที่นั่งเงียบ อึ้งไปพักใหญ่
แล้วสิ่งที่แคนทำก็คือ

เงยหน้าขึ้น แล้วแตะปลายจมูกไปมาที่ข้างแก้มทั้งซ้าย ขวา ของร่างสูงนั้น ก่อนจะประคองศรีษะ ของร่างสูงไว้ และจรดปลายจมูกลงใบหนัก ๆ
ที่หน้าผากกว้างนั้น
ผละใบหน้าออก ก่อนจะนั่งยิ้มน้อยยิ้มใหญ่

"ตาเอ็งแล้วกระชาย...อ่ะ เดี๋ยวข้าหลับตา....เร็ว ๆ นะ....เอ็งชอบทำอะไรช้า ๆ น่าเบื่อ พวกได้ที่โหล่ก็งี้แหละ"

ใบหน้าเนียน หวานซึ้ง แหงนเงยใบหน้ารอรับสัมผัสของร่างสูงนั้น ปิดเปลือกตาลงอย่างเชื่องช้า
รอยยิ้มแจ่มใสจุดอยู่ที่มุมปากเล็ก ๆ สีแดงสดนั้น เหมือนรอคอยให้ใครสักคน ประทับริมฝีปากลงมาหา

"แคน....."

นายช่างสมชายพูดได้เพียงเท่านั้น หัวใจสั่นสะท้านไปหมด ไม่เคยคิดฝันว่าจะมีวันนี้ วันที่ได้สัมผัสเรือนร่างน่ารักนั้น
ใบหน้าคมโน้มลงมาหาคนที่หลับตาคอยอยู่ เมาก็เมา เขาไม่สนอะไรอีกแล้ว ขอแค่ตอนนี้ ขอเวลาที่แสนมีความสุขนี้ให้นานเท่านานด้วยเถิด
ได้โปรดล่ะ ขอให้เวลาแห่งความสุขยืดเยื้อออกไปอีกนานแสนนานด้วย

TBC....
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 17-12-2008 18:48:18 โดย kamui1972 »

ออฟไลน์ Sameejaejung

  • เป็ดนักขาย
  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 394
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +457/-17
มาต่อเร็วๆ นะคะ  :z1: :z1: :z1: :z1: :z1: :z1: :z1:

CoMMuNiTY Of ThAiBoYsLoVE






ออฟไลน์ M@nfaNG

  • ชีวิตคือการตรวจสอบ...
  • เป็ดแสนดี
  • เป็ดAphrodite
  • *
  • กระทู้: 4453
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +847/-18
ว๊ากกกก กำลังมันส์ คามุยหายไปไหน มาลงต่อเร้ววว :z1:

ISACBTMN

  • บุคคลทั่วไป
กำลังได้ที่ อิอิ

ออฟไลน์ both^^

  • เป็ดแสนดี
  • เป็ดEros
  • *
  • กระทู้: 3133
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +730/-4
เมาแล้วว่าง่ายวุ้ย

อ๊ายยยยยยยยย

Kipper

  • บุคคลทั่วไป
เอาแล้วไงว่าที่คุณหมอ.....มาวววววซะแร่ะ....

 :pig4: ครับ kamui1972

ออฟไลน์ kamui1972

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 278
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +186/-0
    เรื่องรักต้องใช้ใจศึกษา 10

    "กาชายยยยยยยย มันจั๊กจี๋อ่ะ...อย่าเอาหนวดมาโดนคอข้าเด่ะ...ไอ้กาชายยยย หึ หึ ฮ่า ฮ่า ฮ่า "

    ป่าวมาวน๊า ม่ายมายเจง ๆ อย่ามาหาว่ากระผมว่าที่คุณหมอเมานะ ไม่ได้เมาจริง ๆ ไม่เชื่อหรือไง
    จะนับเลขให้ดู 5 4 5 9 8 2 1 เย่ เย่ เห็นมั้ย นับเลขได้ แต่มันม่ายเรียงกันแค่น้านเอง
    แหมอัจฉริยะนับจะไปนับเหมือนคนธรรมดาด้ายงายน๊า เนอะ เนอะ ฮ่า ฮ่า ฮ่า

    "อือ...อยากกินอีกอยากกินสาโทอีก กาชาย ข้าอยากกิน อยากกิน น๊า กาชายน๊า อยากกิ๊น อยากกินแหละ"

    โอย จะตายเอานะแบบนี้ เล่นกระโดดลงมานอนทับไว้ทั้งตัวแบบนี้ แล้วยังเอาแก้มมาถูเข้ากับแผ่นอกกว้างของคนที่นอนนิ่งนั้นอีก
    แคนจะทำให้นายช่างสมชายเป็นบ้าตายหรือไง แค่คิดว่าจะหอมแก้มแค่นิดเดียว แต่พอเห็นริมฝีปากอิ่มหวานนั้นก็อดใจ
    ไม่อยู่ กำลังจะโน้มหน้าลงไปหา แคนดันลืมตาพรึ่บขึ้น แล้วหัวเราะ เล่นเอาร่างสูงนั้นทำอะไรแทบไม่ถูก
    แต่แทนที่แคนจะเข้าใจ ดันเอาแก้มมาชนกับจมูกของเขาซะได้ แล้วใครจะอดใจไหว เลยยิ่งหยอกเย้าที่ข้างแก้มเนียนใสนั้น
    อย่างหมั่นเขี้ยวในความน่ารักของร่างเพรียวบางนั้น แล้วแทนที่ว่าที่คุณหมอตัวแสบจะหยุดอยู่แค่นั้น ดันโถมตัวลงมา
    จนมานอนทับอยู่บนร่างของร่างสูงผิวคล้ำแดดนั้นไว้ทั้งตัวอีก แถมซ้ำยังออดอ้อน ทำท่าทางน่ารักจนร่างสูงนั้น
    ใกล้จะหมดความอดทนเต็มที ความรู้สึกหลาย ๆ อย่าง เริ่มส่อเค้าเหมือนฝนที่ตั้งเค้าดำทะมึนมาแต่ไกล

    "แคน...ลุกก่อนเร้ว...ลุกขึ้นก่อน...." ฝ่ามืออุ่นร้อนพยายามจะผลักให้ร่างนั้นลุกขึ้นนั่ง แต่เจ้าตัวกลับนอนนิ่งไปทั้งอย่างนั้น

    อะไรกัน ไหนว่าอยากกินสาโทอีก จู่ ๆ เงียบไปเฉยเลย แคนเป็นอะไรกันน่ะ

    ร่างสูงพยายามจะลุกขึ้น แล้วดันให้ร่างบนตัวเขา ลุกขึ้นตาม

    "อยากกินอีก...อือ...อยากกิน.."

    แคน....หลับเหรอเนี่ย เมาหลับไปแล้วเหรอเนี่ย ทำไมหลับง่ายหลับดายขนาดนี้น่ะ เมื่อกี้ยังร้องงอแงอยากกินอยู่เลยนี่
    แล้วนี่ทำไมมาหลับอยู่บนตัวเขาง่าย ๆ แบบนี้กันล่ะนี่ แคนนะแคน อย่าทำตัวให้น่ารักมากกว่านี้ได้มั้ยเนี่ย
    ร่างสูงนั้น ปล่อยร่างเพรียวบางให้เป็นอิสระ ทอดร่างหวานล้ำให้เอนกายลงนอน แล้วเขาก็เอนกายลงนอนเคียงข้าง
    เท้าแขนรองรับศรีษะของตัวเองไว้ข้างหนึ่ง และจับจ้องมองใบหน้าของคนนอนหลับ และยังร้องเพลงแบบไม่รู้เรื่องนั้นอีก

    "แคน....ทำไมน่ารักได้ขนาดนี้ล่ะ...หือ...ไหนลุกขึ้นมาบอกหน่อยสิ"

    มืออีกข้างของร่างสูง ดึงปลายจมูกเล็ก ๆ ของคนที่หลับตาร้องเพลงเล่นอย่างนึกเอ็นดู แล้วคนเมาก็ปัดมือเขาออกอย่างรำคาญเต็มทน
    หัวคิ้วขมวดยุ่งเข้าหากัน และเอ่ยด้วยน้ำเสียงหงุดหงิด ก่อนจะร้องเพลงไป หัวเราะไป ไม่ได้ปรือตาขึ้นมามองคนที่ทอดสายตามอง
    อย่างรักใคร่นั้นเลย

    "โอ้ย...อย่ามายุ่งได้มั้ย.. คนจะร้องเพลง..ไอ้บ้า"

    น้ำเสียงทุ้มหวาน เอ่ยบอกอย่างหงุดหงิด ก่อนจะร้องเพลงที่ฟังไม่รู้เรื่องนั้นต่อไป

    "ง่วงหรือยัง....เดี๋ยวจะพากลับบ้านแล้ว...ลุกไหวหรือเปล่า"

    ถึงแม้ว่าอยากให้เวลาที่มีความสุขอย่างนี้ทอดยาวไปอีกแสนนาน แต่นายช่างสมชายเองก็ปฏิเสธไม่ได้ว่า    บางทีแม่ของร่างที่เมาพับอยู่นี้คง
    จะนั่งคอยแคนด้วยความเป็นห่วงแล้วป่านนี้ ในเมื่อแคนเป็นลูกชายคนเดียว ออกมาเที่ยวเล่น    ดึกดื่นป่านนี้ คนเป็นแม่ก็คงต้องห่วงเป็นธรรมดา
    เขาคงต้องพาแคนไปส่งแล้วล่ะ ดึกป่านนี้แล้ว    แล้วก็ต้องขอโทษแม่ของแคนด้วย ที่พาเด็กดื้อหัวรั้น มากินของมึนเมา อาจจะโดนซักฟอก
    หน่อย    และคงโดนลดความน่าเชื่อถือลงไปแน่ ๆ เอาน่ะ ไม่เป็นไรหรอก แคนก็โตขนาดนี้แล้ว    เรื่องอย่างนี้ก็ไม่เสียหายอะไรมากมายนัก
    หรอกน่ะ เห็นทีคงต้องอุ้มแล้วล่ะมั้งแบบนี้ เมาพับไม่รู้เรื่องเลย

    "ม่ายอาว...อยากนอน..หือ..อยากนอน...อย่ามายุ่งนะ..โห่..โธ่เว้ย"

    อ๊ะ...ทำท่าจะช้อนร่างนั้นขึ้น ว่าที่คุณหมอเขาก็ดิ้นรนไม่ยอมให้อุ้ม แถมยังทำท่าทางเหมือนโดนขัดใจซะอีก
    แล้วก็ยังปรือตาตื่นขึ้น ทำหน้าเหมือนโกรธใครมาร้อยปีร้อยชาติด พอเขาทำท่าจะพูดอะไรสักอย่าง แคนก็ดึงให้เขาลงไปกอด
    แถมซ้ำยังซุกหน้าเข้าหาแผ่นอกกว้างนั้นอีก

    "แคนอยากนอน....ห้ามปลุกเลยนะ...นะ...อยากกินสาโทก็อยาก...แล้วก็อยากนอน..ง่วง.."

    ตายแน่แล้ว คืนนี้ นายช่างสมชายต้องตายเพราะความน่ารักของคนที่ซุกซบใบหน้าและก็ยังถูไถใบหน้าไปตามแผ่นอกของเขาเล่นอย่างนั้นแน่ ๆ
    ไอ้ท่าทางออดอ้อนออเซาะที่มันอะไรกันนะแคน ทำไมถึงทำแบบนี้เนี่ย

    "กอดหน่อย....หนาว...กาชายยยยยยยยยย กอด หน่อย กอดหน่อย ..เอาแขนมาให้หนุนหน่อยเร้วววว น๊า กาชายน๊าาาาาา"

    โธ่เอ้ย แคน....ทำไมทำตัวแบบนี้นะ มาอ้อนทำไมเนี่ย อ้อนทำไมกัน แคน อย่ามาอ้อนขนาดนี้นะ ผมจะทนไม่ไหวเอานะแคน

    แม้ว่าร่างสูงผิวคล้ำแดดนั้นจะพยายามช้อนร่างคนที่เหมือนได้สติเป็นพัก ๆ นั้นขึ้น เพื่อจะอุ้มได้ถนัด ๆ แต่เจ้าของร่าง
    กลับทำเสียงหงุดหงิดใส่ แล้วยังปรือตาขึ้น แล้วก็พูดจาออดอ้อนเขา อีก

    "กาชายเอ็งจายร้าย...ข้าอยากนอนอ่ะ...อยากนอนจริง ๆ นะ....ฮือออออออออ...เกลียดเอ็งแล้ว...อ้ายกาชายฮือ"

    โธ่เอ้ย แล้วร้องไห้แบบนี้ใครจะไปกล้าขัดใจกันล่ะ ร้องไม่ร้องเปล่า ยังพยายามจะกลิ้งตัวไปนอนที่ข้างเสาซะอีก
    จนนายช่างสมชายต้องดึงแขนไว้ไม่ให้กลิ้งหนีนั่นแหละ ว่าที่คุณหมอเขาถึงได้ ยอมนอนนิ่ง ๆ เงียบ ๆ ได้

    "โอ๋...โอ๋...นอนก็นอนนะ...อยากนอนก็นอนนะ...คนดี..ผมไม่แกล้งแล้ว...นอนนะ..นอนซะ"

    แล้วว่าที่คุณหมอ ก็ใช้แขนของนายช่างสมชาย เป็นหมอนหนุนนอนในคืนนั้น
    และใช้ความอบอุ่นของร่างกายที่กอดรัดร่างของตัวเองเอาไว้เป็นผ้าห่มสำหรับให้ความอบอุ่น

    คนกอดก็ลูบไล้ไปทั่วแผ่นหลังเนียนนั้น เหมือนผู้ใหญ่กล่อมเด็กให้นอนหลับ
    ใจจริงอยากทำอะไรให้เลยเถิด ยิ่งเห็นท่าทางน่ารักน่าใคร่ของคนในอ้อมกอดก็ไม่อยากหยุดตัวเอง
    แต่ในเวลานี้ เขาไม่ได้อยากครอบครองร่างกายของคน ๆ นี้เพียงอย่างเดียว สิ่งที่อยากได้ ก็คือหัวใจต่างหากล่ะ
    ทั้งที่อันที่จริง เขาจะหักหาญน้ำใจคนน่ารักในอ้อมแขนที่ไม่มีแรงต้านนี้ซะก็ได้
    แต่เขาก็ไม่คิดจะทำ

    ร่างสูงผิวคล้ำแดดนั้น แตะปลายจมูกที่หน้าผากมนเล็กนั้นเชื่องช้า และค่อยผละออก

    นอนด้วยกันก็ได้นะแคน คืนนี้ นอนด้วยกันกับแคนก็ได้
    แล้วจะกอดไว้ให้แคนไม่ต้องบ่นว่าหนาว ๆ อีกต่อไป
    สิ่งที่เขาไม่คิดจเเลยเถิดไปมากกว่าการนอนร่างนี้ไว้กอดน่ะเหรอ

    ไม่มีเหตุผลมากกมาย........ก็เพราะว่ารักน่ะสิ.......รักมาก......เลยอยากถนอมไว้นาน ๆ
    ไม่อยากให้เสียใจ ไม่อยากให้เกลียดกัน อยากให้เป็นแบบนี้ไปนาน ๆ
    อยากให้แคนอุ่นใจ และเชื่อใจในตัวของเขามากกว่านี้ มากจนวันหนึ่ง จะได้ก้าวข้ามผ่าน
    ความเป็นเพื่อนไป มากจนกระทั่งวันหนึ่ง แคนจะเปิดใจรับความรู้สึกเกินเพื่อนของเขาที่มีให้ได้
    ถึงแม้ว่า.........มันจะไม่มีวันนั้นเลยก็ตาม

    TBC....
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 17-12-2008 22:35:19 โดย kamui1972 »

ออฟไลน์ kamui1972

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 278
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +186/-0
เรื่องรักต้องใช้ใจศึกษา 11

เมื่อคืนหลับได้ไงวะ...เมานี่หว่า เออใช่ ๆ เมา ๆ

กระผมนายแคนผู้เป็นหน้าเป็นตาของวงศ์ตระกูล ด้วยวุฒิการศึกษากำลังจะจบปริญญาตรีในคณะแพทยศาสตร์
หึ หึ หึ ผมเก่งช่ายม้าย อิจฉาความเก่งผมล่ะสิ อย่า อย่า อย่าอิจฉาคนที่ดีเลิศประเสริฐศรีมีเมตตา เพราะผมเป็นคนดีของสังคม รุ่นน้องในคณะให้การเคารพ ที่สำคัญพ่อแม่มีความภาคภูมิใจในตัวผมอย่างล้นเหลือ หึ หึ หึ

แต่ว่า....สงสัยว่าทำไม เช้านี้พอรู้สึกตัว ผมมานอนกอดไอ้กระชายตัวดำได้ยังไง แต่อย่าตกใจไป เพราะแม้แต่ผมยังไม่ตกใจเลย ผมหนาวนี่ครับคู๊ณณณณณณณณร เช้านี้โดนกอดมันก็ต้องอุ่นน่ะสิ แล้วเรื่องอะไรผมจะต้องผละออกล่ะ นอนกอดไอ้กระชายแบบนี้แหละดี ผมชอบ ตัวมันอุ๊น อุ่น อุ่นกว่าผ้าห่มอีก แถมมันยังใช้แขนรองหัวผมไว้ให้ผมหนุนหัวอีก อะไรจะโชคดีปานน้านนนนนน ผมยังคงนอนซุกไอ้กระชายเล่น ไม่มีอะไรมากสาเหตุอย่างที่บอกเพราะว่ามันอุ่นนั่นเอง และคนชอบนอนอย่างผมมีหรือจะไม่ชอบแบบนี้ แหมเพื่อนกัน กอดกันบ้าง เฉย ๆ น่ะผู้ชายเหมือนกันคิดอะไรมาก ผมไม่เห็นคิดอะไรเลย เพราะฉะนั้น เมื่อแสนจะอุ่นสบายแบบนี้ หลับต่อดีกว่า คร่อกฟี้................

“อือ....สว่างแล้วนี่...กี่โมงแล้วเนี่ย...ต้องรีบไปเก็บงานด้วยวันนี้”

นายช่างสมชายร่างใหญ่ผิวคล้ำ ปรือตาตื่นขึ้น และเหลือบไปมองร่างในอ้อมแขนที่ยังหลับตาพริ้ม และซุกซบอยู่กับอกของเขา แคน.....เพิ่งได้เห็นหน้าแคนในระยะใกล้ชิด และชัดเจนแบบนี้ ทำไมนะ....ทำไมแม้กระทั่งหลับยังดูน่ารักขนาดนี้ก็ไม่รู้ ร่างสูงค่อยขยับกายขึ้น เอียงหน้ามองร่างน่ารักที่อยู่เคียงข้าง ลูบไล้เส้นผมนิ่มไปมา ก่อนจะแตะปลายจมูกเข้าหาแก้มเนียนใสนั้นเบา ๆ แต่ไม่ทันแตะก็ถูกมือของแคนยันเอาไว้เสียก่อน

“อย่าเอาหน้าเองมาใกล้เลยเดี๋ยวหนวดทิ่ม...ข้าไม่ชอบ”

แคน....เอ่ยเสียงเบา และยังคงซุกซบอยู่กับไหล่กว้างเหมือนเดิม.....แต่ตาไม่ได้ปรือขึ้นมองสักนิด
ว่านายช่างสมชาย ทำหน้าอย่างไร และทำอะไรไปบ้าง

“เอ่อ...แล้ว..แล้ว” ถึงแม้ร่างสูงผิวคล้ำแดดนั้นจะอยากพูดอะไรต่อ แต่ก็ถูกสกัดดาวรุ่งซะได้

“โอ้ย...เอ็งนี่น่ารำคาญ...ลุก ๆ ไปเลยไป๊คนจะหลับจะนอนขอซุกหน่อยก็ไม่ได้ .... น่ารำคาญว่ะ”

ว่าที่คุณหมอ เมื่อนอนต้องได้นอน เวลาอยากจะหลับต้องได้หลับ พวกปลุกยาก แบบนี้ จะไปเป็นหมอได้ยังไงแม้แต่นายช่างสมชายก็ไม่เข้าใจเหมือนกันว่า เพื่อน เขาคนนี้ เรียนแพทย์ได้อย่างไร นิสัยก็เด็กซะขนาดนี้
ทั้งดื้อทั้งรั้นห้ามอะไรก็ไม่ฟัง ต้องแสดงให้เห็นซะก่อน ต้องให้ตีต้องให้สอนถึงจะเข้าใจ และที่สำคัญ ใจเนี่ยร้อนมาก จะลดอุณหภูมิลงบ้างไม่ได้หรือยังไงกัน ถ้าเป็นหมอผ่าตัดคนไข้คงตายเพราะโดนแคนผ่าแน่ ๆ
คนขี้เซายังคงดึงชายเสื้อของนายช่างไว้แน่น แถมซ้ำยังซุกซบอย่างไม่เกรงใจใครซะอีก
แคนก็ยังเป็นแคน เอาแต่ใจอยู่เหมือนเดิม นี่เขาต้องรีบกลับบ้านไปอาบน้ำเปลี่ยนเสื้อผ้าเหมือนกันนะเนี่ย
แต่นี่ยังเช้าตรู่อยู่ ก็คงยังไม่เป็นไร ให้คนขี้เซา ซบอีกสักหน่อยแบบนี้ก็ท่าจะดีไม่น้อย

โอกาสใช่ว่าจะมาหาเขาง่าย ๆ นักหรอก

แคนนี่ก็แปลกบทจะอ้อนก็อ้อนซะจริง

บทจะงี่เง่า ทำยังไงก็งี่เง่า เล่นเอาเขาปวดหัวอยู่บ่อย ๆ ไม่รู้อะไรกันนักกันหนาสิน่า แคนเนี่ย

ฝ่ามืออุ่น ๆ แตะสัมผัสไปที่เส้นผมนุ่ม และลูบไล้เล่นอย่างเพลิดเพลิน โดยไม่ได้มองหน้าของอีกฝ่าย นอนยิ้มอยู่อย่างนั้น จะกระดิกตัวไปทางไหนก็ไม่ได้ เพราะแขนโดนแคนทับอยู่ จนชาไปทั้งแขน แถมขยับนิดเดียวเจ้าตัวเขาก็ทำเสียง อือ อา ในลำคอ ไม่พอใจไปซะอีก แล้วแบบนี้ เขาจะทำอะไรได้ นอกจากต้องพยายามนอนให้นิ่ง ๆ ไว้ เพื่อว่าที่คุณหมอจะได้ไม่ลุกขึ้นมาทำหน้ายุ่งเหยิง และด่าเขาด้วยความหงุดหงิดอีก

รอยยิ้มของร่างสูงช่างแสนสุขและสดชื่ในเช้าวันนี้ พร้อมกับกระชับอ้อมแขนให้แน่นขึ้น เพราะอยากให้ว่าที่คุณหมอได้นอนอีกสักหน่อย เป็นนาน และคงหมดเวลานอนแล้ว ถ้าเขาไม่ลุกขึ้นตอนนี้ต้องไปทำงานสายแน่ ๆ

“แคน...ตื่นเถอะ...เร็ว...เดี๋ยวต้องไปทำงานแล้ว...ตื่นเร็ว”

ฝ่ามืออุ่น ๆ แตะใบหน้าของร่างในอ้อมแขนและเขย่าให้คนนอนขี้เซารู้สึกตัวตื่นขึ้น

แต่สิ่งที่นายช่างเห็นก็คือ

แคนปรือตาตื่นขึ้นแล้วทำตาโตใส่เขา ก่อนจะหลับลงอีกครั้ง
ร่างสูงนั้นพยายามอีกหลายครั้ง แต่ก็เหมือนเดิม แคนจะทำตาโตใส่ ก่อนที่ตา โต ๆ จะเริ่มมองเขาแบบขวาง ๆ และหลับต่อ

โธ่เอ้ย ขืนเป็นแบบนี้เขาได้ไปทำงานสายแน่ ๆ จะปล่อยให้แคนเอาแต่ใจ แล้วทำให้เขาเสียงานแบบนี้ไม่ได้หรอก แคนเองก็เหมือนกัน ทำไมถึงได้เป็นคนแบบนี้นะ อะไรจะขี้เซาปานนั้น

“ตื่นเร็ว...ปลุกครั้งสุดท้ายแล้วนะ”

ร่างสูงขืนตัวลุกขึ้นและถูกดึงไว้ ก่อนที่ร่างโปร่งบางจะดึงแขนเขาไว้แน่น และเริ่มงอแง
“นอนก็ไม่ได้นอน....ปลุกอยู่ได้...ปวดหัวก็ปวดหัว...ปวดจะตายอยู่แล้ว ...ก็ยังปลุกอีก...ทำไมวะปล่อยทิ้งไว้นี่ก็ได้นี่หว่า เดี๋ยวก็หาทางกลับเองแหละ...น่ารำคาญ...น่าเบื่อ....เบื่อเว้ย....เบื่อ.. เบื่อ..เบื่อ”

แคนยังบ่นเขาอีกหลายประโยค ก่อนจะหันหน้าหนี ไปอีกทาง และทำท่าจะหลับต่อไปอีก

จนนายช่างอดใจไม่ไหวกับท่าทางของคนที่จะหลับอีกแล้วจนต้องแตะปลายจมูกหนัก ๆ ไปที่ข้างแก้มของอีกฝ่ายและถอนออกอย่างหมั่นเขี้ยว

มันอะไรกันนักกันหนาล่ะแคน กะอีแค่เรื่องตื่นนอนเนี่ย...ทำไมถึงได้งี่เง่าขนาดนี้กันล่ะ อยากจะรู้จริง ๆ

เพราะทำไปแล้วไม่ทันคิด มาคิดได้อีกที ก็ตอนที่คนที่นอนงัวเงียตื่นขึ้นเต็มตา และหันมาจ้องหน้าของร่างสูงที่หุบยิ้มไม่อยู่ ด้วยความตกใจ ก่อนจะลุกพรวดพราดขึ้นแบบรวดเร็วทันใจ ชนิดไม่น่าเชื่อว่าแคนจะทำได้

“ทำ...ทำอะไรวะ....”

ประโยคคำถามลอยลมกระทบเข้าโสตประสาทของร่างสูง ก่อนที่ร่างนั้นจะนึกได้ และถึงได้ชะงักนิ่ง มองที่ดวงตากลมโตที่มองเขาอย่างหวาด ๆ ก่อนจะลุกพรวดพราดขึ้นยืนขึ้นพร้อมกันด้วยใจระทึกไม่ต่างกัน

ต่างฝ่ายต่างเงียบไม่มีคำถามอะไรอีก

นายช่างสมชายเดินลงจากระท่อม โดยมีคนที่ตื่นเต็มตาแล้วลุกขึ้นเดินตามออกมาขึ้นรถ ต่างคนต่างเงียบ ต่างคนต่างนิ่ง แม้แต่หน้ายังไม่มองกันสักนิด

“เอ่อ.....เดี๋ยวไปส่งที่บ้านแคนก่อนแล้วกันนะ”

ร่างสูงนั้นเดินนำมาขึ้นรถ ก่อนจะพยายามทำตัวให้ปกติที่สุด เมื่อกี้จะหอมแก้มก็เห็นว่าผลักเขาออก ไม่ได้คิดอะไร พอหอมเข้าจริง ๆ ดันทำหน้าตกใจสุดขีดไปซะอีก ร่างสูงคิดว่าจะพูดอะไรต่อ ไม่ให้อีกฝ่ายต้องอึดอัดใจ ทั้งที่ตัวเองก็ไม่รู้จะพูดอะไรเหมือนกัน

“เหรอ...งั้น...งั้น....งั้นก็ไปสิ”

ว่าที่คุณหมอเอ่ยบอกก่อนจะไปนั่งเคียงข้างคนขับ นิ่งเงียบกันไปตลอดทาง

จนถึงบ้าน และเมื่อลงจากรถได้ ไม่มีคำพูดขอบคุณสักคำจากปากของแคนเลยสักคำ ลงจากรถได้ก็รีบวิ่งขึ้นบ้าน เข้าห้องปิดประตูลงกลอนแน่น และทิ้งตัวลงนอนบนเตียง แตะต้องข้างแก้มของตัวเองอย่างไม่รู้ตัว และซุกหน้าเข้ากับหมอน ด้วยหัวใจที่ยังคงเต้นระทึก ตลอดทางกลับบ้าน

“บ้าเอ้ย.....อัตราการเต้นของหัวใจ....เลือดสูบฉีด...อย่างรวดเร็ว...มันอยู่ในหนังสือเล่มไหนวะคุ้น ๆ นะเนี่ย”

แม้จะพยายามคิดถึงหนังสือที่เรียน คิดถึงแตงโมลูกฉ่ำ เย็นชื่นใจ

แต่สุดท้าย ทำมั้ย ทำไม ถึงมีแต่หน้าไอ้กระชายตัวดำนั่นลอยไปลอยมาเต็มไปหมดเลยล่ะเนี่ย

“โอ้ยยยยยยยยยย กลุ้มเว้ย”

แคนตะโกนเสียงดัง ซุกหน้าลงกับหมอน พยายามจะหลับ แต่เมื่อหลับตาอีกครั้ง ใบหน้าของเพื่อนสมัยเรียนม. ต้นที่สอบได้ที่โหล่ก็ยังคงลอยไปลอยมา ไม่ยอมหายไปซะที

TBC…..
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 17-12-2008 22:43:16 โดย kamui1972 »

ออฟไลน์ kamui1972

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 278
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +186/-0
เรื่องรักต้องใช้ใจศึกษา 12

"แคน...กินข้าวหรือยัง"

เป็นเวลาเย็นแล้วที่นายช่างสมชายที่เสร็จงานจากการซ่อมเขื่อนและขี่จักรยานยนต์มาหาว่าที่คุณหมอถึงบ้าน พร้อมกับชมพู่ถุงใหญ่
มาถึงก็พบว่า ร่างโปร่งบางนั้น นอนอยู่บนเปลที่ใต้ถุนเรือน พร้อมกับหนังสือเรียนอีกหลายเล่ม เขาจึงเข้าไปหา และหยุดนั่งคุยด้วย

ว่าที่คุณหมอ แกล้งหันหน้าไปอีกทาง ทำทีเป็นสนใจกับการอ่านหนังสือเล่มหนา ทั้งที่ในใจเต้นระทึก และแกล้งทำเป็นไม่สนใจคนที่มาเอ่ยทักทาย
เขาในยามเย็นนั้น

"กินชมพู่มั้ย...เอามาเยอะเลยนะ" ถึงแม้ร่างสูงผิวคล้ำแดด จะพยายามหาเรื่องมาคุยด้วยแต่ดูเหมือนว่า คนที่ทำทีเป็นอ่านหนังสือไม่มีทีท่าสนใจเลยสักนิด
จนเขาต้องลุกขึ้นยืน และหอบหิ้วเอาถุงใส่ชมพู่ถุงใหญ่ ทำท่าจะหอบไปเก็บให้จนถึงในครัวนั่นแหละ แคนถึงได้พูดกับเขา

"จะไปไหนน่ะ...."

เพราะเห็นว่า อีกคนไม่ได้ตื้อที่จะคุยต่อ ร่างโปร่งบางจึงได้ทะลึ่งตัวลุกขึ้นนั่ง และเรียกนายช่างสมชายเอาไว้
ก่อนจะรีบหลบสายตาที่จ้องมองมาด้วยท่าทางลุกลี้ลุกลน

ไม่รู้ว่าจะเรียกไว้ทำไม แต่รู้ว่าไม่อยากให้ไป แต่ก็ไม่รู้สาเหตุว่าเพราะอะไร พอเขามาหาทำทีเป็นไม่อยากคุยด้วย เวลาเขาจะไปกลับฉุดรั้งไว้ด้วยคำพูดซะอีก

ร่างสูงทรุดกายลงนั่งอีกครั้ง และส่งยิ้มให้ว่าที่คุณหมอที่เขาอยากจะฝากใจไว้ให้ ช่วยรักษาดูแลไปตลอดชีวิต

"คือหมายความว่า เอ่อ ฝนตก ๆ แบบนี้ จะมาทำไม...ทำไมไม่อยู่บ้านล่ะ เดี๋ยวเป็นหวัดกันพอดี"

ไม่รู้ว่าเพราะเป็นว่าที่คุณหมอหรือเปล่า แคนถึงได้พูดออกไปอย่างนั้น แล้วก็แทบจะตบปากตัวเอง เมื่อประมวลคำพูดแล้ว
มันเข้าข่ายเป็นห่วงเป็นใยร่างสูงที่นั่งอยู่ข้าง ๆ อยากจะแก้ตัวต่าง ๆ นา ๆ แต่ก็ไม่รู้จะแก้ตัวว่ายังไงดี

"ห่วงเหรอ...." นายช่างสมชายยิ้มแก้มแทบปริ แคนห่วงเขาหรอกหรือนี่ อย่างน้อยก็ห่วงล่ะ ไม่งั้นคงไม่สนใจหรอกว่าเขาจะป่วยไข้หรือเปล่า

"เปล่า...แต่ก็...ก็เป็นหมอไง...ก็ต้องคิดถึงสุขภาพของทุก ๆ คนแหละ เป็นธรรมดาแหละน่ะ...จะไปไหนก็ไปซะทีเถอะ...รำค้านนนนนนน รำคาญ"

ว่าแล้วร่างโปร่งบางก็ล้มตัวลงนอนอีก ทำทีเป็นไม่สนใจ คนที่นั่งอยู่ที่แคร่ไม้ไผ่ข้าง ๆ ทั้งที่แอบลอบมองใบหน้าของคนทีนั่งอยู่หลายครั้ง
และอยากจะมองให้นาน ๆ ไม่อยากให้หนีหายไปไหน แต่ก็ไม่ยอมที่จะรั้งไว้เลยสักนิด

บังเอิญสบตากันทีไร แคนก็แกล้งสะบัดหน้าหนี ไปสนใจกับการอ่านหนังสือเล่มหนาทันที ซึ่งหน้านั้นเปิดมานานกว่า 10 นาทีแล้วก็ไม่ได้เปิดไปหน้าไหนซะที
จะให้เปิดได้อย่างไร ในเมื่อใจของคนอ่านไม่ได้อยู่ที่ตัวอักษรบนหนังสือเลยสักนิด หลายครั้งที่ทำทีเป็นกวาดตามองตัวหนังสือ แล้วก็แอบลอบยิ้มกับตัวเอง
ด้วยความรู้สึกแปลก ๆ โดยมีหนังสือเล่มหนาเป็นกำแพงกั้นความรู้สึก เอาไว้ ไม่ให้ใคร ๆ ล่วงรู้ความคิดและความรู้สึกได้

"จะกลับแล้วนะ....เดี๋ยวดึก"

ร่างสูงลุกขึ้นยืนและถือถุงชมพู่เดินขึ้นเรือนเอาไปเก็บให้ที่ครัว โดยที่มีว่าที่คุณหมอชะเง้อมองตามคอแทบจะหลุด
พอเห็นว่านายช่างสมชายเดินลงจากเรือน และสตาร์ทรถจักรยานยนต์ขับออกไปจากบริเวณบ้าน ก็ลุกขึ้นนั่งหงอยเหงา
ก่อนจะเดินขึ้นเรือนไปหยิบชมพู่ในถุงล้างน้ำ และเอามานั่งกินอยู่ตรงบันไดบ้าน ครุ่นคิดอะไรหลาย ๆ อย่าง ที่หาคำตอบไม่ได้

ไม่รู้ว่าทำไมถึงไม่อยากพูดด้วย
แต่ก็ไม่อยากให้ไปไหน อยากให้อยู่ข้าง ๆ

ทั้งที่อีกคนก็เป็นแค่คนที่สอบได้ที่โหล่ของห้อง
คนอย่างเขาไม่ควรไปสนใจ หรือใส่ใจเลยสักนิด

แต่ก็รู้สึกเหงา เมื่อรู้ว่าอีกไม่นานจะต้องกลับไปเรียนแล้ว

และจะไม่ได้เห็นหน้าของคน ๆ นั้นอีก

ยิ่งคิดก็ยิ่งไม่เข้าใจ

ยิ่งหาคำตอบไม่ได้ก็ยิ่งกลุ้มใจจนอยากจะตะโกนให้สุดเสียง เพื่อคลายความเครียดที่สะสมนี้ออกไปให้หมด

ดวงตากลมโตทอดมองไปที่ประตูรั้วหน้าบ้าน แอบหวังลึก ๆ ว่านายช่างสมชายจะลืมอะไรไว้และกลับมาเอาของที่ลืมไว้

แคนไม่ทันได้คิดเลยสักนิด

ว่าสิ่งที่ร่างสูงผิวคล้ำแดดนั้นลืมเอาไว้ และอยากจะฝากให้เขาเก็บรักษา ก็คือหัวใจของนายช่างหนุ่มคน นั้นนั่นเอง

+++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++

"ลืมของเหรอ..." แทบจะในทันทีที่เห็นว่ามีใครโผล่พ้นเข้ามาในรั้วบ้านอีกครั้ง ร่างโปร่งบางตะโกนออกไปสุดเสียง
ก่อนจะรีบวิ่งลงบันไดบ้านมายืนรอคนที่เข้ามาในบริเวณบ้านและจอดรถจักรยานยนต์ไว้ ลงจากรถและมายืนอยู่เบื้องหน้าของร่างโปร่งบาง
ที่เงยหน้ามองใบหน้าคมนั้น โดยไม่รู้ตัวเองเลยว่าเผลอทำหน้ายิ้มแย้มเกินกว่าเหตุไปซะแล้ว และเรื่องอะไรที่จะต้องรีบร้อนลงมาหาขนาดนี้ด้วย

"เปล่าหรอก...คือ...จะกลับมาถามว่าพรุ่งนี้จะเอาอย่างอื่นมั้ย...จะเอาแตงโมมาให้"

เหตุผลไม่มี ก็เลยหาข้ออ้างกลับมาเห็นหน้าของว่าที่คุณหมอ ที่ไม่ได้สมเหตุสมผลเอาซะเลย แล้วก็ลุ้นคำตอบอยู่เป็นนานกว่าจะได้รับคำตอบ

"ก็ดี...มาแค่นี้ใช่มั้ย....งั้นรีบ ๆ กลับไปเลยไป๊..."

จากที่ยิ้ม...ก็หุบยิ้มกระทันหัน แคนไม่รู้เลยสักนิดว่าตัวเองคาดหวัง จะได้ยินคำพูดอื่น ๆ จากร่างสูงที่มายืนอยู่ตรงหน้า ที่มากกว่าการบอกว่าจะเอาแตงโมมาให้

"แล้ว...หายโกรธหรือยังเรื่องที่หอมแก้มเมื่อเช้า...."

จู่ ๆ ร่างสูงนั้นก็ตัดสินใจพูดสิ่งที่ทำให้เขารู้สึกผิดมาตลอดทั้งวัน พูดไปซะคงดีกว่าปล่อยให้แคนรู้สึกหงุดหงิดโมโห เขาแบบนี้
มันไม่เป็นผลดีเลยสักนิด ที่จะปล่อยให้คนที่เขารัก ต้องรู้สึกแย่ ๆ อยู่ตลอดเวลา
ถึงจะเขิน ๆ อยู่บ้าง แต่คิดว่า ว่าที่คุณหมอคงจะไม่ถือสาอะไรกับคนที่ถูกหาว่าเป็นแค่คนที่สอบไอ้ที่โหล่ของห้องสมัย ม. ต้นอย่างเขา

"ห๊า..อะไรนะ...พูดอะไรเนี่ย...นาย..พะ...พูดอะไรของนายกันเนี่ย"

ร่างโปร่งบาง รีบเดินหนี ทั้งที่พยายามจะลืมไปแล้ว แต่กลับนึกขึ้นมาได้เพราะคำถามของร่างสูงตรงหน้า สัมผัสอุ่น ๆ อ่อนโยน
ทำให้รู้สึกดีแบบสุด ๆก็จริง แต่ก็ไม่อยากให้ใครมารับรู้ด้วยเลยสักนิดว่าเขารู้สึกอย่างไร และคิดอะไรอยู่

"แคน...แคนเดี๋ยวก่อน...หายโกรธหรือยัง..แคน...อย่าเอาแต่เดินหนีสิ..แคน"

นายช่างสมชายรีบเดินตามร่างโปร่งบางที่เอาแต่เดินหนี เดินกลับเข้าไปที่เปลที่ผูกไว้ที่ใต้ถุนเรือน รีบคว้าหนังสือเล่มหนาเอามาบังหน้าของตัวเองไว้

"แคน....แคน...นี่เดี๋ยวสิ...คุยกันก่อน...ทำไมล่ะ..โกรธมั้ย...โกรธก็บอกว่าโกรธสิ..อย่าเดินหนีสิแคน..."

แม้ว่าจะตามมานั่งเผชิญหน้ากัน แต่คนนั่งที่เปลรีบคว้าหนังสือเล่มหนามาบังหน้าเอาไว้ ส่วน อีกคนก็พยายามตื้อจะคุยด้วย

แต่ว่าที่คุณหมอไม่ยอมที่จะลดหนังสือเล่มหนาที่ปิดบังใบหน้ามาคุยกันเลยสักนิด แม้จะเรียกซ้ำ ๆ หลายครั้ง
แต่ก็ยังเหมือนเดิม นอกจากประโยคที่บอกให้กลับไปได้แล้ว และบอกว่ารำคาญ ให้ไปห่าง ๆ แคนก็ไม่พูดหรือตอบคำถามเขาเลยสักนิด

สุดท้าย เขาก็ได้แต่ถอนใจ ยาว เพราะไม่รู้จะทำยังไงดี

คนที่หลบหน้าอยู่โดยใช้หนังสือเล่มหนาปิดบังใบหน้าไว้ แทบอยากจะร้องไห้ เมื่อได้ยินเสียงถอนหายใจของร่างสูงที่นั่งอยู่ตรงหน้า

หมอนี่คงเบื่อ.....ที่เขาเป็นแบบนี้ ...แต่เขาก็ไม่รู้จะทำยังไง

ไม่กล้าตอบ ไม่อยากสบตา

กลัวว่าคนตรงหน้าจะเห็นใบหน้าที่แดงก่ำ และความรู้สึกบ้า ๆ ที่เขาพยายามหาคำตอบว่ามันคือความรู้สึกอะไร รวมทั้งไม่อยากให้ใคร ๆ เห็นว่าเขา.....รู้สึกแย่แค่ไหน
ที่ตัวเองเป็นคนแบบนี้ แทนที่จะรั้งเอาไว้ แต่กลับไล่ให้ออกห่าง

"งั้น...กลับแล้วนะ...ไม่มาก่อกวนแล้ว.....ถ้าโกรธก็จะไม่มาให้เห็นหน้าอีกแล้วล่ะ..."

นายช่างสมชายกำลังจะลุกขึ้นยืน แต่สายตาก็เหลือบไปเห็นหยดน้ำที่หยดลงที่ขาของคนที่เอาหนังสือปิดบังใบหน้าอยู่

เขาพยายามจะเพ่งมองให้ชัด และ ก็ได้เห็นว่ามีหยดน้ำ หล่นตามลงมาอีก

แคน...........เป็นอะไร....

ฝ่ามือแกร่ง คว้าหนังสือเล่มหนาออกจากมือเล็ก ๆ ที่เขาสังเกตเห็นว่ามันเริ่มสั่นระริก ตั้งแต่ที่เขาบอกว่าจะไม่มาก่อกวนอีก

แม้ว่า ร่างโปร่งบางจะรีบคว้าหนังสือเอาไว้ แต่ก็ไม่ทันแล้ว

หัวใจของคนที่ได้เห็นใบหน้าเปื้อนน้ำตานั้นหล่นวูบในทันที ความรู้สึกผิด แล่นพล่านเข้าสู่หัวใจ กัดกร่อนจนรู้สึกเจ็บปวด
จนเขาทุรนทุรายแทบคลั่ง

นี่โกรธมากขนาดนี้เลยหรือ

เกลียดจนต้องร้องไห้เลยหรือ

ร่างสูงส่งหนังสือเล่มหนาคืนให้กับร่างโปร่งบาง

เดินจากไปอย่างช้า ๆ

โดยมีสายตาของคนที่เอ่ยปากไล่เขาให้ออกห่าง มองตามไปจนสุดสายตา

"ไอ้กระชาย...จะไปไหนก็ไปเลย...อย่ามาเข้าใกล้อีกนะ...ยังไงมะรืนนี้ฉันก็จะกลับแล้ว...ไม่อยากเห็นหน้าแกสักนิด
ไอ้คนสอบได้ที่โหล่ของห้อง...."

ปากพูดในสิ่งที่ใจไม่ได้คิด....สิ่งที่ใจคิด จนทำให้ต้องร้องไห้ก็คือ

ทำไมร่างสูงผิวคล้ำแดดต้องถอนใจยาวขนาดนั้นด้วย คงจะเบื่อเขามากเลยสินะ ถึงได้ทำอย่างนั้น
คงจะไม่กลับมาหาเขาอีกแล้วสิ....

ต่างคนต่างความคิด

ต่างคนต่างเข้าใจไปว่าอีกคนกำลังโกรธ

ในเมื่อความรู้สึกที่ไม่ถูกถ่ายทอดออกมาให้รับรู้ให้เข้าใจ

ถูกเก็บไว้อยู่อย่างนั้น

แล้วเมื่อไหร่กันที่ความรู้สึกจะสื่อไปถึงใจของอีกคน

TBC...

ออฟไลน์ HaLF333

  • เป็ดแสนดี
  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 635
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +57/-1
ยังไม่จบไม่เป็นไร รอได้เสมอค่ะ.. (อิอิ ดีใจออกนอกหน้า ได้อ่านอีกเรื่องง เย้ๆ):mc4:
ขอบคุณคามุยที่เอามาแบ่งปันนะคะ.. :man1:


คุณหมอแคน เอาแต่ใจสุดๆ แต่ก็น่ารักสุดๆ เหมือนกัน..
แต่ละอย่าง หึหึหึ น่าให้นายช่างจับกดจริ๊งจริงงงง..
โดนเฉพาะเวลาเมาๆ เนี่ย หึหึหึหึ สักวันไม่รอดแน่...

คุณหมอเริ่มมีใจโดยไม่รู้ตัว..
นายช่างอย่าเพิ่งท้อ..
ตื้ออีกนิด ง้ออีกหน่อย..
จูบซับน้ำตาคุณหมอเลยย..
 :impress2:

ขอบคุณคุณเท็นค่ะ.. :pig4:
มิตรรักแฟนนิยายจะรอตอนต่อไป..
 :z2:


mantdash

  • บุคคลทั่วไป
+1 ต้อนรับเรื่องใหม่ครับ  อ่านรวดเดียวปวดตาเลยอ่า

ออฟไลน์ kit

  • เป็ดแสนดี
  • เป็ดHera
  • *
  • กระทู้: 1082
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +186/-3

94 + 1 = 95
ขอบคุณนะคะ คุณ kamui1972


 

สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด


สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด