[story]"คำว่ารักของฉัน เคยส่งผ่านไปถึงเธอบ้างไหม" By Yo เองครับ
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด

สนใจโฆษณาติดต่อ laopedcenter[at]hotmail.com คลิ๊กรายละเอียดที่ตำแหน่งว่างเลยครับ

สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด

ผู้เขียน หัวข้อ: [story]"คำว่ารักของฉัน เคยส่งผ่านไปถึงเธอบ้างไหม" By Yo เองครับ  (อ่าน 102507 ครั้ง)

ออฟไลน์ มูมู่น้อย

  • Global Moderator
  • เป็ดAres
  • *
  • กระทู้: 2623
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +468/-12
รออ่านต่อด้วยคับ  พี่วิทย์ทำเสียเส้นหมดเลยค๊าบบบ  กะจะอ่านอะไรกุ๊กกิ๊ก ๆ ซะหน่อย  :haun6:

pim

  • บุคคลทั่วไป
หงะ  มีสายตาที่แอบมองด้วย

เฮ้ออ บูมคิดอะไรอยู่เนี่ย   
ถ้าชอบโย ทำไมต้องอ้อมค้อมด้วย  ไม่เข้าใจ

ออฟไลน์ ที่ปรึกษาไอทีขั้นต้น

  • Administrator
  • เป็ดApollo
  • *
  • กระทู้: 6853
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +1320/-22
ไม่พูดตรงๆแบบนี้แหละ ปัญหายิ่งตามมา
ตรงเกินไปบางทีก็ทำให้เรื่องง่ายเป็นเรื่องยาก
ตรงไหนคือพอดี  :really2:

meemewkewkaw

  • บุคคลทั่วไป
ตามอ่านอยู่ครับ แต่อ่านไม่ทันเลยอ่ะ :try2:

เหอๆงานเยอะเกิน อ่านไม่ทันซักที พึ่งอ่านได้ 2หน้าอ่ะ ขอโพสต์ก่อนล่ะกัน

เรื่องน่ารักดีนะครับ ลุ้นดีอ่ะ แอบมีน่ารักกุ๊กกิ๊กกันด้วย อิอิ อ่านไปก็จิ้นไป :like6:

เป็นกำลังใจให้นะครับ สู้ๆ :yeb:


ออฟไลน์ Junrai_Hyper™

  • พูห์น้อยกลอยใจ
  • Global Moderator
  • เป็ดArtemis
  • *
  • กระทู้: 4842
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +777/-50
" ตอนที่ 8"

ทันทีที่ผมเข้าบ้านไป พ่อกับแม่ผมก็เข้ามาทักทายและไถ่ถามอาการของคุณลุงกับผม

ผมได้เล่าเกี่ยวกับอาการของคุณลุงให้ฟังสักครู่นึง ผมก็ขอตัวขึ้นไปอาบน้ำนอน

“เออ โย เมื่อสักครู่นี้ ก่อนที่โยจะมา มีคนโทรมาหาลูกน่ะจ๊ะ แม่ถามชื่อก็ไม่ยอมบอก”แม่บอกผมขณะที่ผมกำลังจะก้าวขึ้นบันได
 
“ใครครับแม่ ใช่เพื่อนผมหรือเปล่า”ผมถามไปด้วยความสงสัยพลางนึกว่าเป็นพี่วิทย์ แต่มาคิดอีกทีพี่วิทย์ไม่รู้เบอร์บ้านผมนิ

“ไม่รู้สิจ๊ะ เสียงไม่คุ้นเลยเป็นผู้ชายน่ะ”แม่ตอบกลับมา

“หมู่นี้มีโทรศัพท์ลึกลับมาหาเราบ่อยเลยนะ ไปแอบแย่งแฟนใครหรือเปล่า”แม่ถามยิ้ม ๆ

“จะมีใครที่ไหนมาสนใจผมครับแม่ ผมขึ้นไปอาบน้ำดีกว่า”ผมตอบเลี่ยง ๆ แล้วเดินขึ้นไปบนห้อง

พอเข้าไปในห้องนอน ผมก็วางสัมภาระทุกอย่างลง แล้วหยิบโทรศัพท์ขึ้นมากดไปหาบูม เพื่อบอกว่าผมเดินทางมาถึงแล้ว

“ฮัลโหล บูมหรอ เราเองนะ”ผมพูด

“ทำไมหรอ โยมีอะไรรึเปล่า”บูมพูดด้วยน้ำเสียงห้วน ๆ ชอบกลจนผมชะงัก

“เออ เออ เปล่า พอดีเรามาถึงกรุงเทพฯแล้วน่ะ เราเลยโทรมาบอกนาย”ผมพูดตะกุกตะกักนิดหน่อย

“มาบอกเราทำไม มีอะไรอีกหรือเปล่า เรากำลังยุ่งอยู่”บูมตอบ

“เออ (เริ่มไปไม่เป็นซะแล้วสิเรา โกรธเราเรื่องอะไรก็ไม่รู้) เอ่อ คือ เรามีของมาฝากด้วยนะพรุ่งนี้จะเอาไปให้”ผมตอบแบบไม่รู้ว่าจะตอบอะไรดี

“ไม่ต้องหรอก ขอบใจ แค่นี้นะ”บูมพูดแล้ววางสายลงไป

งงสิครับท่าน ผมวางหูลงไปอย่าง งง ๆ ว่าตกลงมันเกิดอะไรกันขึ้น เมื่อวานยังดี ๆ กันอยู่เลย

ทำไมมาวันนี้บูมแปลกไปนะ ผมคิดพลางเสียงมือถือเตือนว่ามีข้อความก็ดังขึ้น

ถึงบ้านหรือยังครับน้องโย วันนี้พี่มีความสุขมาก ๆ เลย ที่ได้ทานข้าวกับน้องโย หลับฝันดีนะครับ.....พี่วิทย์

หลังจากอ่านข้อความจบ ผมก็อดนึกไม่ได้ว่า ทำไมการที่เรารักใครสักคนโดยที่เค้าไม่รักเราตอบมันช่างทรมานแบบนี้

เจ็บแบบซ้ำ ๆ เงียบ ๆ โดยที่ไม่มีใครรู้ หรือว่าการที่ถูกรักจะดีกว่านะ อย่างน้อยเค้าก็ไม่ทำให้เราต้องมาเจ็บแบบนี้

ผมคิดอยู่นาน แต่จนแล้วจนรอด ผมก็ยังคงสลัด บูม ออกจากหัวใจของผมไม่ได้อยู่ดี

ทำไมมันช่างเป็นความรักที่รุนแรงแบบนี้ ตัวผมเองก็ไม่เข้าใจ ผมคิดพลางเดินเข้าไปอาบน้ำอย่างเซ็ง ๆ แล้วก็ล้มตัวลงนอน....

ภาพชายหนุ่มสองคน ปรากฏขึ้นในความฝันของผม

ฝ่ายหนึ่งคือบูมชายหนุ่มคนที่ผมหลงรัก กำลังตะโกนอยู่ตรงหน้าผมว่า โทรมาทำไม มีอะไรไหม เรายุ่งอยู่ ด้วยสีหน้าที่ไม่เป็นมิตร

กับอีกชายหนึ่งเป็นพี่วิทย์คนที่เค้ามาหลงรักผม กำลังยิ้ม ๆ พลางยื่นดอกไม้มาให้ผมแล้วพูดว่า พี่มีความสุขมากจริง ๆ นะ ที่ได้อยู่กับโย

มันเป็นภาพที่หลอนจิตใจผมอยู่ไม่ใช่น้อยจนทำให้ผมต้องสะดุ้งตื่นขึ้นมาในกลางดึกคืนนั้น

โห คิดมาจนหลอนเลยหรอวะ ท่าจะเป็นเอามาแฮะ ผมคิดแล้วล้มตัวลงนอนอีกทีพลางคิดในใจ ตกลงจะเอายังไงดี

เช้าวันรุ่งขึ้นผมตื่นขึ้นมาด้วยความไม่สดชื่น ในใจมีแต่คำถามตลอดเวลา

ถ้าเป็นเมื่อก่อนผมคงจะไม่คิดมากแบบนี้ แต่ยิ่งนับวันที่ผมอยู่กับพี่วิทย์นานเข้า

ความดีที่พี่วิทย์ทำมันก็เริ่มที่จะรุกล้ำพื้นที่ว่างในใจผมเข้ามาได้ทุกที

อาจจะเป็นเพราะผมเองยังไม่แน่ใจในตัวบูมด้วยว่าเค้าจะมีใจให้ผมหรือเปล่า

แต่ที่แน่ๆ คือพี่วิทย์เค้าคอยเอาใจใส่ดูแลผมทุกอย่าง จนผมไม่กล้าที่จะปฏิเสธคำขอของพี่เค้าเลย

ผมแต่งตัวออกจากบ้านไปด้วยความเซ็ง ๆ แต่ก็ยังไม่ลืมที่จะเอาของที่ซื้อมาฝากไปให้กับเพื่อน ๆ รวมถึงบูมด้วย

ผมมองของฝากที่ผมซื้อให้บูมพลางคิดย้อนไปถึงตำนานของของฝากชิ้นนี้

เอ หรือว่ามันจะเป็นคำสาปนะ ผมคิดแล้วเดินไปขึ้นรถเพื่อไปมหาวิทยาลัย

ผมมาถึงมหาวิทยาลัย และเดินเข้าไปหาเพื่อน ๆ ที่ซุ้มหน้าตึกเรียน พลางยื่นของฝากให้กับ เพื่อน ๆ ทุกคน

“ไปเชียงใหม่ไม่มีชวนกันเลยนะ จะโดดก็โดด”ไอ้โบเริ่มกัดผมแล้วครับ

“เออใช่ ว่าจะไปแอ๋วดอยเจียงใหม่สักหน่อย เลยบ่ได้ไปเลย”ออฟจีบปากจีบคอสนับสนุน

“แล้วตกลงพวกแกจะเอาของฝากหรือเปล่าวะ พูดมาก”ผมพูดพลางทำท่าจะหยิบของฝากคืน

“ได้ไงวะ ให้มาแล้วไม่ให้คืนว้อยยยยย”กายพูดพลางทำท่าตลก

“เออ เออ เออ ล้อเล่น”ผมยิ้ม ขำ ๆท่าทีของไอ้กาย

“แล้วนี่อะไรเนี่ย ไหนดูสิ”โบเหลือบไปเห็นของฝากที่ผมซื้อให้บูมพลางจะหยิบออกมา

“เฮ้ย ไม่มีอะไร ไปเข้าเรียนกันเหอะ”ผมรีบปัดมือมันแล้วเดินนำไปที่ห้องเรียน

ส่วนพวกเพื่อนผมก็งง ๆ แต่ไม่คิดอะไรมาก นอกจากไอ้ตัวปัญหา (ก็ไอ้โบนั่นแหละครับ)

ผมเดินเข้าไปในห้องเรียนพลางส่งสายตามองหาบูม ซึ่งตอนนี้ผมเห็นว่าบูมเดินเข้าไปนั่งที่โต๊ะเรียนแถวหน้าห้อง

ผมรู้สึกแปลกใจมาก เพราะปกติกลุ่มของบูมจะนั่งท้าย ๆ หรือแค่มากก็ไม่เกินกลาง ๆ ห้องแต่ไหงวันนี้กลุ่มเค้าไปนั่งแถวหน้าสุดเลย

ผมเดินมาหยุด อยู่ตรงโต๊ะแถวกลาง ๆ ห้อง ถัดจากแถวที่บูมนั่งประมาณ 6 แถว ซึ่งเวลานั่งลงแล้ว มองไปข้างหน้าจะสามารถสังเกตพฤติกรรมของบูมได้

ผมเลือกที่นั่งด้านหลังบูมพอดี หลังจากนั้นเพื่อน ๆ ผม ก็ทยอย ๆ เข้ามานั่งตามผมอีกที

ตลอดระยะเวลาที่อาจารย์สอนผมสังเกตเห็นว่าวันนี้ทำไมบูมไม่ค่อยพูดไม่ค่อยคุยกับเพื่อน ๆ เลย ได้แต่นั่งยิ้ม เจือน ๆ ตลอดเวลา

ผมเอาแต่คิดว่าตกลงเค้าเป็นอะไรกันแน่นะ แพทหรือเปล่าผมก็ไม่แน่ใจ จนเลิกเรียนคาบเช้า

ผมกับกลุ่มเพื่อนก็เดินไปหาอะไรทานที่โรงอาหารเพื่อรอเรียนคาบบ่ายอีกที แต่แล้ว.....

“น้องโยยยยยยยยยยยย น้องโยยยยยยยยยยยยย”เสียงใครคนหนึ่งเรียกผมไว้ทำให้ผมต้องหันกลับไปมอง

เฮ้ยนั่นมัน พี่วิทย์นี่หว่า มาทำอะไรที่มหาวิทยาลัยผมเนี่ย

“หวัดดีครับน้องโย โชคดีจังที่วันนี้มาไม่เสียเที่ยวได้เจอน้องโยด้วย”พี่วิทย์เอ่ยทักหลังจากผมปล่อยให้เพื่อนผมแยกไปทานข้าวล่วงหน้ากันก่อน

“แล้วพี่มาทำอะไรที่นี่ล่ะครับ อย่าบอกนะว่ามาทำธุระที่นี่”ผมถามพลางพาพี่วิทย์ไปนั่งที่โต๊ะตัวหนึ่งระหว่างทางเดินไปโรงอาหาร

“อ๋อออ แหะ แหะ พี่ก็ มาหา..... เออมาหาเพื่อนพี่ไง ที่ชื่อโน้ตน่ะ”พี่วิทย์หัวเราะแห้ง ๆ กลบเกลื่อน

“แล้วพี่เจอเพื่อนพี่หรือยังครับ”ผมถาม

“ยังเลยเนี่ย พอดีมาเจอน้องโยซะก่อนไงเลยรีบวิ่งมาทัก เดี๋ยวน้องโยกจะหายไปซะก่อน”พี่วิทย์ตอบพลางยิ้ม ๆ เขิน ๆ

แต่แล้วก็เหมือนฟ้าไม่เป็นใจ กลุ่มของบูมดันเดินมาทางที่ผมกับพี่วิทย์กำลังนั่งคุยกันอยู่พอดี....

ผมเห็นบูมจ้องมายังผมกับพี่วิทย์ด้วยสีหน้าที่ราบเรียบจนหน้ากลัว แล้วเดินจากไป

แต่ผมในตอนนี้สิ เสียวสันหลัง ขนลุกไปหมดเลย ไม่รู้จะทำยังไงดีเพราะไม่สามารถหลบไปไหนได้ ได้แต่ก้มหน้าไม่กล้ามองเค้า

“น้องโย น้องโยครับ เป็นอะไรหรือเปล่าหน้าซีด ๆ พี่พาไปห้องพยาบาลไหม

หรือว่าหิวข้าว พี่นี่ก็แย่จริงตอนนี้มันพักเที่ยงนิ”พี่วิทย์พูดขึ้นหลังจากเห็นผมนิ่ง ๆ ไม่ค่อยพูด เอาแต่ก้มหน้า

“เปล่าครับพี่ ผมขอตัวไปทานข้าวกับเพื่อนก่อนนะครับ บายครับ”ผมตอบด้วยอารมณ์ที่บอกไม่ถูก แต่ที่แน่ใจตอนนี้หัวใจผมเริ่มเต้นช้า ลง ๆ ไปทุกที

“เดี๋ยวสิครับ วันนี้เลิกเรียนไปทานข้าวเป็นเพื่อนพี่ได้ไหม พี่จะได้แนะนำเพื่อนพี่ให้รู้จัก เผื่อเรามีอะไรไม่เข้าใจจะได้ถามไง”พี่วิทย์เสนอ

“ไม่ดีกว่าครับพี่ วันนี้ผมรู้สึกไม่ค่อยดีเลยอ่ะครับ คิดว่าจะรีบกลับ”ผมตอบพี่วิทย์ พลางมองไปยังกลุ่มบูมที่ตอนนี้เดินเข้าโรงอาหารไปแล้ว

“ถ้างั้นก็ได้ครับ กลับถึงบ้านอย่าลืมทานยานะ แล้วดึก ๆ พี่จะโทรหา”พี่วิทย์พูดอย่างห่วงใย

หลังจากนั้นผมก็ขอตัวเดินออกมา และเข้าไปในโรงอาหารเพื่อไปนั่งทานข้าวกับเพื่อน ๆ ผม

“เฮ้ย เดี๋ยวกินข้าวเสร็จเรากับกายจะไปทำธุระที่ห้างฟิวเจอร์นะ แล้วเจอกันในห้องเลยนะจองที่ให้ด้วย”โบบอกขณะที่พวกเรากำลังทานอาหารกันอยู่

“อืมมม ๆ ๆ ฉันก็ว่าจะไปเช็คเมล์ซะหน่อย คอมที่บ้านเสียยังไม่ได้เอาไปซ่อมเลย โยจะไปด้วยกันหรือเปล่า”ออฟถามผม

“เราขอตัวนะ ไม่ค่อยสบายว่ะ เราไปรอในห้องเรียนเลยแล้วกันนะ จะได้จองที่ไว้ให้ด้วย”ผมตอบกลับไปด้วยความรู้สึกที่แย่เอามาก ๆ ในตอนนี้

“เออ ไม่เป็นไร เดี๋ยวเราเช็คเมล์เสร็จแล้ว จะรีบตามไปนะ”ออฟบอกขณะมองเห็นสีหน้าที่ไม่สู้ดีของผม

“แล้วผู้ชายเมื่อตะกี้นี้ใครวะ โย น่ารักชิบเป๋งเลย”ไอ้โบถาม

“ใช่ ๆ ๆ รู้จักคนหน้าตาน่ารักแบบนี้แล้วปิดบังเพื่อนเลยนะ”ออฟสนับสนุน

“ไม่มีอะไรหรอก ลูกชายเพื่อนป้าเราเองที่อยู่เชียงใหม่น่ะเค้ามาทำธุระที่กรุงเทพ

พอดีเจอกันเลยทักทายกันตามปกติ”ผมอธิบายเหตุผลแต่ดูเหมือนจะไม่ค่อยมีคนเชื่อนะ

“จริงหรอ แค่ทักกันแค่นี้เองหรอ”โบกระแซะถามอีก

“เออ จริง ทำไมวะ หรือแกสนใจ ถ้าแกสนใจเราจะได้โทรไปฟ้อง....”แค่ผมเอ่ยแค่นี้ไอ้โบก็โบกไม้โบกมือแสดงความกลัวแฟนมันออกมาแล้วครับ

“55555 ไอ้ขี้ขลาด”ผมหัวเราะออกมาพร้อม ๆ กับพวกเพื่อน ๆ ผม

หลังจากทานข้าวเสร็จแล้ว พวกเราก็แยกย้ายกันไป มีผมกับออฟเดินไปทางตึกเรียน

แต่ออฟก็แยกออกไปทางห้องอินเตอร์เนต หลังจากที่ผมเดินแยกกับโบและกายไม่เท่าไหร่ ผมจึงเดินเข้าห้องไปคนเดียว

ผมเดินไปหาที่นั่งหลังห้องซึ่งตอนนี้ยังไม่มีใครมาเลยเพราะยังไม่ถึงเวลาเรียน

แต่ผมขี้เกียจออกไปข้างนอกเลยมานั่งรอเงียบ ๆ คนเดียวดีกว่า

“เป็นไง มีคนมาคอยรับคอยส่ง แถมมาเอาอกเอาใจกันอย่างงี้ ไม่อายคนอื่นบ้างหรือไง”เสียงชายหนุ่มดังขึ้นด้านหลังผมขณะที่ผมฟุบตัวลงนอนกับโต๊ะ

“ดูท่าเมื่อคืนจะเพลียมากนะ วันนี้เลยไม่มีเรี่ยวแรงเลยนิ วันนี้นัดกันไปไหนต่อล่ะ ระวังจะเพลียมากจนมามหาลัยไม่ได้นะ”

ผมเริ่มหันไปมองบูมซึ่งบัดนี้ดูจากสายตาที่เย็นชาแล้วทำให้ผมอดสงสัยไม่ได้ว่าเค้าไปโกรธผมเรื่องอะไร

“นายพูดถึงใครน่ะ”ผมเอ่ยถามด้วยความสงสัย

“ก็จะใครซะอีกล่ะ เมื่อวานแกล้งทำเป็นบอกว่าเลื่อนเที่ยวบิน แต่ที่ไหนได้ แอบไปจู๋จี๋กับผู้ชายที่สนามบิน”บูมพูดด้วยน้ำเสียงโกรธ

“เออ คือ เราอธิบายได้”ผมตอบกลับแต่ดูเหมือนบูมจะไม่ฟังผมเลยเอาแต่ถากถางผมสารพัด

“ไม่ต้องมาอธิบายหรอก เราเข้าใจว่านายเป็นคนยังไง ไม่ต้องมาแก้ตัวหรอก พฤติกรรมมันฟ้อง”บูมต่อว่าผม

“แล้วนายรู้ได้ไงว่าเราเป็นคนแบบไหน แล้วนายรู้ได้ไงว่าเรากลับมากับคนอีกคนนึง”ผมเอ่ยถามอย่างสุดจะกลั้น

“เรารู้ก็แล้วกันแหละ ต่อไปนี้นายไม่ต้องโทรมาหาเราอีกนะ

เราไม่อยากคบกับคนสำส่อนอย่างนาย เราไม่อยากมีพ่อสื่อแบบนายหรอก”บูมตอบโต้ออกมาด้วยเสียงที่รุนรงกว่าเดิม

“ได้เราจะไม่โทรไปหานายอีก ถ้าเรารู้ว่านายเป็นคนแบบนี้เราจะไม่......”ผมตวาดกับไปพร้อม ๆ กับน้ำตาที่ค่อย ๆ ไหลออกมาอย่างมากมายในเวลานี้

“จะไม่อะไร จะไม่ทำไม นายมันก็สำส่อนไปเรื่อยไม่ต้องมาแก้ตัวหรอก”บูมยังคงถากถางผมอยู่แต่สีหน้าเค้ากลับแสดงความตกใจนิด ๆ เมื่อเห็นผมร้องไห้

“เราจะได้ไม่แอบรักนายอีกต่อไปไง........ทำไมนะ ความรักที่เรามีให้นาย ไม่เคยส่งผ่านไปถึงนาย ให้นายได้รับรู้เลยหรอว่า ตลอดเวลาหัวใจเรามีแต่นายคนเดียว

แม้ว่านายจะให้เราเป็นพ่อสื่อระหว่างนายกับแพทแล้วเราก็ต้องมานั่งเจ็บปวด

แต่เราก็ยังเลือกที่จะรักนายต่อไป แม้ว่าเราจะต้องทนทุกข์มากแค่ไหนก็ตาม.....”ผมพูดออกมาอย่างไม่อายเพราะมันสุดที่จะทนแล้วครับ

น้ำตาที่ไหลออกมามากอยู่แล้วยิ่งไหลออกมามากขึ้นพร้อม ๆ กับร่างผมที่ค่อย ๆ ทรุดตัวลงอย่างช้า ๆ


“…………………” บูมอึ้งเลยครับ

“แต่จากนี้ไป ความรักที่เรามีให้นายมันได้ขาดสะบั้นลงพร้อม ๆ กับสัญญาที่เราเคยมีให้ไว้กับนาย”ผมพูดพร้อม ๆ กับลุกขึ้นมาอีกครั้งด้วยสีหน้าที่เรียบเฉย

ดูเหมือนว่าความทุกข์ที่ผมได้รับมันคงจะกลายเป็นพลังให้ผมกลับมาเข้มแข็งอีกครั้ง

“เราไม่ได้หมายความว่าอย่างนั้น”บูมเอ่ยขึ้นหลังจากอึ้งไปนาน

“ไม่ได้หมายความว่าแบบนั้น แต่การที่นายมาว่าเรา ว่าสำส่อน มักมากเนี่ยนะ”ผมตอบด้วยเสียงราบเรียบพลางเช็ดน้ำตา

“คือเรา เรา”บูมอึกอัก

“นายทำไม นายทำไมอีก”ผมตอบกลับไปด้วยน้ำเสียงดุดันในที

“เราก็ชอบนายเหมือนกัน ตลอดเวลาที่เราคุยกับนายเราพยายามที่จะบอกแล้วว่าเราชอบนาย แต่ปากมันสั่นไม่กล้าบอก”บูมพูดขึ้นมา

“อะไรนะ นายว่ายังไงนะ”ผมอึ้ง พูดไม่ถูกกับเหตุการณ์ตรงหน้า

“บูมเก่งนะที่ทำให้เราแทบจะเป็นบ้าได้เมื่อสักครู่นี้แล้วจู่ ๆ ก็มาทำให้เราสับสน นี่ตกลงนายกำลังทำอะไรของนายอยู่ แล้วแพทล่ะ แพทจะว่าไง

เราเห็นนายเดินจู๋จี๋กับแพทตอนวันที่นายนัดเราไปทานข้าว นายจะเอาแพทไปไว้ไหน”ผมพูดขำ ๆรู้สึกสมเพชตัวเอง

“เราขอโทษที่โกหกนาย จริง ๆ แล้ว เรากับแพทเป็นญาติกัน

เราไม่รู้ว่าจะเข้ามาทำความรู้จักนายได้ยังไง เราเลยต้องเอาเรื่องนี้ขึ้นมาอ้าง

แต่จริง ๆ แล้วเราชอบโยตั้งแต่แรกเห็นแล้วตอนปีหนึ่ง แต่เราไม่กล้าบอก

เพราะไม่แน่ใจว่านายจะเป็นเกย์หรือเปล่า จนมาตอนนี้เรามั่นใจแล้วเราเลยบอกให้นายรู้”บูมพูดพลางเอามือมาโอบไหล่ผมทั้งสองข้าง

“นายยกโทษให้เราได้ไหม”บูมถามผม

“...............................”ไม่มีเสียงตอบใด ๆ จากผม

เพราะตอนนี้ปากของผมกับบูมได้ผสานกันจนเหมือนกับเป็นหนึ่งเดียวกันแล้ว

“นายยังไม่บอกเลยนะ ว่านายจะยกโทษให้เราได้ไหม ได้ไหมครับ นะ นะ นะ นะ นะครับคนดีของบูม”เอาอีกแล้วครับ เจอลูกอ้อนทีไรผมใจอ่อนทุกทีเลย

“ไม่มีวันหรอก”ผมตอบยิ้ม ๆ

“โหหหหห ไรวะ ใจร้ายจัง โยใจร้ายอ่ะ”บูมทำหน้าเบ้

“ไม่มีวันหรอก นอกจากบูมจะยอมมาเป็นแฟนกับเราก่อน”ผมตอบยิ้ม ๆ

“ได้สิ ทำไมจะไม่ได้ล่ะ เย้ ๆ”บูมตะโกนอย่างดีใจ พลางจูบผมอีกครั้งหนึ่ง

“นี่เป็นคำสัญญาที่เราจะให้ไว้ว่าเราจะไม่มีวันรักใครอื่นนอกจากโยคนเดียว”บูมพูดได้ซึ้งมาก ๆๆๆๆๆๆๆ

“..........................”เขินสิครับ

“แล้วโยล่ะ ไม่ให้สัญญาเราบ้างหรอ”บูมเอ่ยทวงอย่างเด็ก ๆ

“เราไม่ต้องสัญญาหรอกเพราะตอนนี้หัวใจเราทั้งหมดมันได้กลายเป็นของบูมไปตั้งนานแล้ว”ผมพูดเขิน ๆ

“เราจะรักษาหัวใจของโยเอาไว้ด้วยหัวใจของเรา”บูมตอบพลางหมอที่แก้มผมหนึ่งที

“สัญญานะ”ผมเอ่ยถามเขิน ๆ

“ครับ สัญญา”บูมตอบด้วยความมั่นใจ

หลังจากที่เราสองคนสารภาพความในใจของกันและกันแล้ว

บูมก็เสนอความคิดที่จะพาผมออกไปเที่ยวข้างนอกเหมือนกับเป็นการไปเที่ยวครั้งแรกของเราในฐานะแฟน

ผมและบูมจึงโทรไปบอกเพื่อน ๆ ของพวกเราว่าติดธุระต้องรีบไป

จากนั้นเราสองคนก็เดินไปขึ้นรถของบูมและพากันออกมาจากมหาวิทยาลัย โดยมีสายตาเศร้า ๆ คู่นึงคอยมองตารถเราที่แล่นออกไป

จบตอนที่ 8 ขอบคุณครับที่ติดตาม หวังว่าตอนนี้คงทำให้ใครหลาย ๆ คนที่ตามเชียร์มีความสุขนะครับ

*************************************************************

][GobGab][                              มีเขาหรือมีหนอเอาให้แน่น้องถุง

มูมู่น้อย                                          อย่าเพิ่งรมณ์เสียมูมู่ ต้องตามต่อไปครับ

pim                                              พวกปากไม่ตรงกะใจอะครับ

b|ueB[o ] YhUb                        บางทีพูดตรงไปก้มีปัญหาได้นะหนูบลู

meemewkewkaw                  ขอบคุณสำหรับการติดตามครับ ค่อยๆ อ่านไปเรื่อยๆ นะครับ
 
                                                    ผมจะพยามลงวันละตอนแล้วกันครับ จะได้ตามกันทัน
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 13-12-2006 11:45:51 โดย หมูพูห์ »

ออฟไลน์ GoneOn

  • เป็ดแสนดี
  • เป็ดมัธยม
  • *
  • กระทู้: 128
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +16/-0
ในที่สุดก้อเข้าใจกันซะที   :-[

แล้วพี่วิทย์ทำไงล่ะทีนี้  :untrust:

จะรออ่านต่อนะ

gobgab

  • บุคคลทั่วไป
ในที่สุดโลกก็เข้าข้างโย................... :impress3:


“เราจะรักษาหัวใจของโยเอาไว้ด้วยหัวใจของเรา“


ถ้าคนเรารักษาหัวใจของกันและกันไว้ได้ตลอด...ก็คงดี :impress:


MyLoveMyBabe

  • บุคคลทั่วไป
มารายงานตัวครับผม :yeb:
เพิ่งมาเริ่มอ่านวันนี้ น่าติดตามอีกแล้วครับผม


ในที่สุดนายบูมก็พูดความในใจอกมา ดีใจด้วยนะครับ.......แต่ก็แอบสงสารพี่วิทยเหมือนกัน หัวอกเดียวกะโยตอนต้นเรื่องเลย เหอๆๆๆ :monkeysad2:


พี่วิทย์ค้าบบบ หันมาทางนี้ก็ได้ค้าบบบ อิอิ :haun6:

ออฟไลน์ มูมู่น้อย

  • Global Moderator
  • เป็ดAres
  • *
  • กระทู้: 2623
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +468/-12
โฮะ โฮะ สารภาพจนได้   ให้มันได้อย่างงี้สิน่า   ทำไมแต่ละเรื่องเวลาจะสารภาพรักกันแต่ละทีต้องมีเรื่องกดดันกันมาก่อน  แล้วก็มาระเบิดอารมณ์สารภาพรักกันแบบนี้ทู้กที  เรื่องไหนเรื่องนั้นเลย   แต่ก็ดี  มันส์ดี   :laugh:

รออ่านตอนเที่ยวกุ๊กกิ๊กๆ นะหมูพูห์   :interest:

Yo_angkrub

  • บุคคลทั่วไป
สวัสดีครับทุกท่าน ผม Yo ครับ ก่อนอื่นเลยขอขอบคุณ คุณหมูพูห์ที่นำเรื่องนี้มาโพสให้ที่บอร์ดนี้  :monkeysad2:...และต้องขอบคุณทุกท่านที่เข้ามาอ่านเรื่องนี้นะครับ  :myeye:

หวังว่าทุกท่านคงจะติดตามและอยู่เป็นเพื่อนกันไปจนจบเรื่องนะครับ... :impress:

ปล. ชอบหรือไม่ชอบยังไงติ-ชมกันได้นะครับ ขอบคุณทุกท่านครับ  :pigangry2: ล้อเล่นครับ ติ ได้ ชม ได้ครับ

Yo เองครับ  :yeb:

CoMMuNiTY Of ThAiBoYsLoVE

ประกาศที่สำคัญ


ตั้งบอร์ดเรื่องสั้น ขึ้นมาใครจะโพสเรื่องสั้นให้มาโพสที่บอร์ดนี้ ถ้าเรื่องไหนไม่จบนานเกิน 3 เดือน จะทำการลบทิ้งทันที
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=2160.msg2894432#msg2894432



รวบรวมปรับปรุงกฏของเล้าและการลงนิยาย กรุณาเข้ามาอ่านก่อนลงนิยายนะครับ
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=459.0



สิ่งที่ "นักเขียน" ควรตรวจสอบเมื่อรวมเล่มกับสำนักพิมพ์
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=37631.0






abcd

  • บุคคลทั่วไป
                                                    :yeb:   โอ้วววว    เจ้าของเรื่องมาปรากฎตัวแย้ววว :yeb:

ออฟไลน์ Junrai_Hyper™

  • พูห์น้อยกลอยใจ
  • Global Moderator
  • เป็ดArtemis
  • *
  • กระทู้: 4842
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +777/-50
 :seng2ped: ยินดีต้อนรับครับคุณโยเองครับ

ขอบคุณสำหรับเรื่องราวดีๆนะครับ

แวะมาทักทายกัรบ่อยๆ นะครับ

พูห์ :teach:


ปล.

โยหลายคนจัง :confuse:

สับสน :serius2:



ออฟไลน์ Junrai_Hyper™

  • พูห์น้อยกลอยใจ
  • Global Moderator
  • เป็ดArtemis
  • *
  • กระทู้: 4842
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +777/-50
"ตอนที่ 9"

บูมกับผมเราขับรถมากันเรื่อย ๆ ทีแรกบูมเสนอให้ไปดูหนังกันที่ฟิวเจอร์พาร์ค รังสิต

แต่ผมปฏิเสธด้วยเหตุว่าตอนนี้คนพลุกพล่านและที่สำคัญ ถ้าเจอ ไอ้โบกับ กายหรือเพื่อนกลุ่มของบูมละก็จบเหตุแน่ ๆ

เราเลยตกลงกันไปนั่งเล่นที่สวนหลวง ร 9 จะได้เลยไปทานข้าวที่สวนอาหาร ที่บูมเคยพาผมมาทานข้าวด้วยกัน จะได้รื้อฟื้นความหลังกันด้วย

เราสองคนเลยตกลงตามนั้น เพราะที่นั่นคนไม่พลุกพล่านดี และมีมุมสงบ ๆ ให้เราสองคนได้คุยอะไรต่อมิอะไรกันมากมาย
 
เมื่อรถมาจอดที่ยังที่จอดรถของสวนหลวง ร 9 แล้ว เราสองคนก็เดินกันไปเรื่อย ๆเพื่อหามุมสงบ ๆ นั่งคุยกัน

“แล้วตกลง พี่คนนั้นใครอ่ะโย บอกหน่อยดิ เราหึงนะครับ”บูมเริ่มก่อนเลยครับ

“อ๋อ พี่วิทย์ เค้าเป็นญาติของญาติเราที่เชียงใหม่อีกทีน่ะ พอดีเค้ามาทำธุระที่กรุงเทพไงเลยมาเจอกันไม่มีอะไรหรอก อย่าคิดมากสิ”

ผมพูดโกหกเพื่อไม่ให้สถานการณ์มันเลวร้าย เพราะ ความสัมพันธ์ของเราเพิ่งเริ่มจะดีเองอ่ะ

“โธ่...นึกว่ามีคนมาจีบโยซะอีก อุตส่าห์หึงแทบแย่ ดูดิเมื่อกลางวันยังไม่กินข้าวเลย กินข้าวไม่ลง ท้องร้องใหญ่เลยอ่ะ จับดูดิ”

บูมพูดพร้อมกับเอามือผมไปจับที่ท้อง (ท้องนะครับไม่ใช่อย่างอื่น)

“แล้วทำไมบูมไม่ถามเราล่ะ แต่ก็ดีนะ อย่างน้อยเรื่องนี้ก็ทำให้เราสองคนได้ใกล้ชิดกันมากขึ้น”ผมพูดพลางเอามือออกก่อนจะอดใจไม่ไหว

“แล้วทำไมโยต้องโกหกเราด้วยล่ะเรื่องเปลี่ยนไฟท์น่ะ เราอุตส่าห์ไปดักรอกะว่าจะได้เซอร์ไพล์

แต่ที่ไหนได้กลับเห็นโยเดินออกมากับผู้ชายคนนึง แถมยังมีการไปซื้อน้ำให้กันด้วย เราแทบจะทนไม่ไหวเดินเข้าไปเอาเรื่องแล้ว”บูมบอกในสิ่งที่ตัวเองเห็น

“ทีแรกเราก็จะไม่โกหกแล้วล่ะ แต่เรารู้สึกเกรงใจบูมไง ถ้าบูมเห็นว่าเรามากับคนอื่น เรากลัวว่าบูมจะคิดมาก และมองเราไม่ดีด้วย” ผมพยายามอธิบาย

“ถ้าโยบอกเราสักนิดเราคงไม่คิดมากหรอก แต่ที่ไหนได้......เฮ้ออ...ช่างมันเหอะ แค่เราสองคนได้เป็นแฟนกันก็พอแล้วเนอะ”บูมพูดยิ้มๆ

“อืมมม....แต่เราสองคนจะทำยังไงต่อไปดีล่ะ เวลาที่เราสองคนอยู่มหาวิทยาลัยคงจะแปลกนะที่อยู่ดี ๆ เราสองคนก็มาสนิทกันแบบนี้”ผมเริ่มวิตก

“ไม่เป็นไรหรอก อย่าคิดมากสิ หรือว่าโยอายที่จะมาเป็นแฟนเรา”บูมเริ่มไม่ค่อยพอใจ

“ใครอาย เราดีใจซะอีกที่พิชิตใจหนุ่มหล่อประจำคณะได้ 555555”ผมพูดจบบูมก็ยิ้มออกมา

“5555555 แต่เดี๋ยวต้องหาทางให้กลุ่มของเราสองคนสนิทกันก่อน แล้วค่อยว่ากันทีหลัง”บูมเริ่มวางแผน

“อืมมม ก็ดีเหมือนกันนะเราสองคนจะได้ไม่ลำบากเวลาเจอกันไง”ผมสนับสนุน

“เรื่องนั้นไว้ทีหลังเหอะ แต่ตอนนี้อ่ะ โยคร๊าบบบ บูมหิวจังเลยอ่ะ

ไปซื้ออะไรรองท้องที่ เอสแอนด์พีก่อนดีไหม ทางนั้นน่ะ”บูมอ้อนพลางชี้ไปทางร้านเอสแอนด์พี่ที่อยู่ใน สวนหลวง ร 9

“ได้คร๊าบบบบ คุณบูมม”ผมพูดพลางหัวเราะในท่าทางของบูม

ผมกับบูมเดินไปซื้อขนมปังกันนิดหน่อยจากร้าน เอสแอนด์พี เพื่อนั่งกินรองท้องก่อนจะไปนั่งทานข้าวเย็นกัน

“ป้อนหน่อยดิ อ้า…..”บูมพูดพลางชี้ขนมปังมาที่ปากตัวเอง

“แมลงวันบินเข้าไปแล้ว ระวังเป็นอหิวาห์นะ”ผมพูดแหย่เล่น

“อะไรกัน แค่คบกันวันเดียวก็แช่งให้แฟนตายละ อยากเป็นหม้ายหรอ”บูมพูดบ่นเล็ก ๆ

“555555 ก็เห็นอ้าปากซะกว้างเลย อ๊ะนี่”ผมหยิบขนมปังป้อน (น่าจะเรียกว่ายัดมากกว่า)ไปที่ปากของบูม

“กินมือโยด้วยได้ป่าว หรือว่ากินทั้งตัวดี ยิ่งหิว ๆ อยู่”บูมพูดพลางยิ้มแบบเจ้าเล่ห์

“555555555555555”ผมหัวเราะเขิน ๆ

และแล้วเวลาที่มีความสุขของผมก็หมดไปเพราะ............

*******************************************

ออฟไลน์ ที่ปรึกษาไอทีขั้นต้น

  • Administrator
  • เป็ดApollo
  • *
  • กระทู้: 6853
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +1320/-22
ดีจายจังเห็นคุณโยตัวเป็นๆ  :o
ติดตามอ่านมานานแล้วครับ
ต้องขอบคุณพูห์ด้วยนะที่เอาเรื่องนี้มาฝากเพื่อนๆ
ไม่อยากให้เรื่องดีถูกลบไป
เพราะเก็บไว้บอร์ดนี้คงอยู่ได้นานหน่อย
 :interest:

gobgab

  • บุคคลทั่วไป
อย่าจบอย่างนี้ดิพี่พูห์................... :pigangry2:

อ้อ..........หวัดดีคุณโยเองด้วยนะคับ..........เรื่องนี้สนุกดี

ขอบคุณนะคับ..............ทั้ง 2 คนเลย :angellaugh2: :angellaugh2:

MyLoveMyBabe

  • บุคคลทั่วไป
โอ้ยย หวานแหวน กระนุ๋งกระนิ๋ง ได้ใจมากกกกก :like6:


น่ารักกันจังเลย...........เรื่องราวจะเป็นยังไงต่อไหนะ แอบลุ่นครับ มาต่อไวๆนะคร้าบบบบ :impress3:

ออฟไลน์ Junrai_Hyper™

  • พูห์น้อยกลอยใจ
  • Global Moderator
  • เป็ดArtemis
  • *
  • กระทู้: 4842
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +777/-50
“น้องโย!”เสียงพี่วิทย์ดุดันมากเลยครับ “ไหนบอกว่ามีเรียนไง ไป! กลับบ้านกับพี่เดี๋ยวนี้”พี่วิทย์มาจากไหนไม่รู้อยู่ดี ๆ ก็เดินเข้ามาหยุดอยู่ตรงหน้าผมกับบูม

“สวัสดีครับพี่ ผมชื่อบูมครับ เอ่อออ”บูมทักทายพี่วิทย์แบบหน้าเจือน ๆ เพราะนึกว่าพี่วิทย์เป็นญาติผมจริง ๆ

“นายจะเป็นใคร ผมไม่สนหรอก แต่นายไม่มีสิทธิ์มาชวนโยให้เสียคนโดยการมาเที่ยวที่ไร้สาระแบบนี้”พี่วิทย์หันไปตวาดบูมซึ่งทำหน้าจ๋อย ๆ

“…………..”บูมอึ้งพูดไม่ออกเลยครับ

“เอ่อคืออ พี่วิทย์ ผม”ผมกำลังจะแก้ตัว

“ไม่ต้องมาพูดเลย เราน่ะตัวดี อย่าให้พี่บอกเรื่องนี้กับคุณป้านะ”พี่วิทย์เอาคุณป้ามาขู่

จริง ๆ แล้ว ผมไม่กลัวคุณป้าหรอกครับ แต่ที่ผมกลัวก็คือ ถ้าพี่วิทย์หลุดออกมาว่าเป็นแค่ลูกเพื่อนป้าผมและยังมาแอบชอบผมอีกคราวนี้

ผมยังคิดไม่ออกเลยว่าจะแก้ตัวกับบูมยังไงดี ผมเลยต้องตามน้ำไปเรื่อย ๆ โหหหไม่น่าโกหกเลยเรา

“ไม่มีอะไรหรอกพี่ พี่วิทย์กลับไปก่อนเถอะ เดี๋ยวผมกับเพื่อนก็จะกลับแล้ว”ผมพูดพลางทำตาดุใส่พี่วิทย์เป็นเชิงปราม แต่ไม่ได้ผล

“ไม่ โยต้องกลับบ้านกับพี่เดี๋ยวนี้”พี่วิทย์ยังไม่ยอมเลิก

“เอ่อ คือพี่ครับ ผมอธิบายได้ครับ”บูมที่หายอึ้งแล้วเริ่มที่จะช่วยพูด

“นายไม่ต้องมาพูด”พี่วิทย์ตวาดบูม

“ไป! โย ถ้าไม่อยากให้อะไรมันยุ่งยากกว่านี้ ไปกับพี่ซะดี ๆ”พี่วิทย์พูดจบก็ลากข้อมือผมไปเลยครับ

“บูมแล้วคืนนี้เราจะโทรหานะ”ผมตะโกนบอกบูม

“เอออ ๆ ๆเราจะรอ”บูมบอก งง ๆ กับสิ่งที่เกิดขึ้น

พอพ้นจากบูมมาได้สักระยะ ผมก็เริ่มจะสะบัดข้อมือที่พี่วิทย์จูงผมไว้ แล้วตวาดพี่วิทย์กลับไป

“พี่วิทย์ทำอะไรน่ะ รู้ไหมว่าพี่วิทย์กำลังทำอะไรอยู่”ผมเริ่มทนไม่ไหว

“พี่...............”พี่วิทย์หน้าเริ่มเจือน ๆ ไป หลังจากเห็นผมเริ่มโมโห

“ทำไมพี่วิทย์ต้องมายุ่งวุ่นวายอะไรกับผมด้วย ผมไม่ได้เป็นอะไรกับพี่นะ ทำไมพี่มาทำแบบนี้”ผมเริ่มมีอารมณ์มากขึ้น

“คือ พี่.........”หน้าพี่วิทย์เริ่มเศร้าลง

“ถ้าพี่ยังทำอย่างวันนี้อีก เราสองคนไม่ต้องมาพูดกันเลย

ผมไม่ชอบ ผมจะกลับบ้านเอง ผมกลับละ”ผมพูดพลางจะเดินกลับแต่พี่วิทย์มาฉุดแขนผมไว้

“โย....โยไม่รู้ตัวเลยหรอว่า พี่แอบชอบโยมาตั้งแต่แรกเห็นแล้ว

ยิ่งพี่ได้พูดคุย ได้ใกล้ชิดกับน้องโยพี่ก็ยิ่งห้ามความรู้สึกของตัวเองไม่ได้ อย่าทำแบบนี้กับพี่เลยนะ”พี่วิทย์เริ่มทำท่าจะร้องไห้

“แต่ผมไม่ได้ชอบพี่นะ ผมชอบพี่วิทย์แค่ในฐานะพี่ชายเท่านั้นเอง”ผมตอบความจริงแม้จะทำให้พี่วิทย์เจ็บปวดก็ดีกว่ามานั่งทุกข์ทีหลัง

“ไม่เป็นไร แค่น้องโยให้โอกาสพี่ พี่มั่นใจว่าจะทำให้น้องโยมารักพี่ให้ได้ ขอแค่อย่าเกลียดพี่ก็พอ”พี่วิทย์พูดพลางดึงผมมากอด

“ผมมม...............”ใจอ่อนอีกแล้วเรา “ผมไม่ได้เกลียดพี่วิทย์หรอก แต่ว่าผม........”ผมกำลังจะพูดต่อแต่

“เฮ้ยยยย นายสองคนทำอะไรกัน กลางวันแสก ๆ”

เอาละสิครับ บูมเดินมาเห็นเข้าพอดี ผมกับพี่วิทย์เลยผละออกจากกัน (ผมเป็นฝ่ายดันตัวออกซะมากกว่า)

“หนอย ทีแรกก็บอกเป็นญาติทางป้า ไม่มีอะไรกัน ญาติที่ไหนเค้ามากอดกันอย่างนี้วะ ถูกแล้วที่กูเรียกมึงว่าสำส่อน”บูมพูดด้วยความโมโหจัด

“เฮ้ย มึงพูดอะไรเกรงใจโยเค้าบ้างนะ”พี่วิทย์ตวาดกลับไปอย่างฉุนเฉียว

“ทำไมกูต้องมาเกรงใจกับคนสำส่อนแบบนี้ด้วยวะ คล้อยหลังกูแป๊ปเดียวก็มาแอบกอดกับชู้”บูมสวนกลับไป

หลังจากนั้นพี่วิทย์ก็เดินเข้ามาชกบูมจนล้มลงไป ขณะที่พี่วิทย์กำลังเงื้อหมัดจะชกบูม ผมก็ตะโกนออกมา

“หยุด....หยุดได้แล้ว ....”ผมตะโกน

“พี่วิทย์กลับไปก่อนเดี๋ยวผมจะเคลียร์ทางนี้เอง”ผมรีบไปห้ามพี่วิทย์ แล้วรีบไล่พี่วิทย์กลับ

“ไปสิพี่ ถ้าพี่ยังอยากจะเจอผมอยู่”ผมเอาไม้ตายมาขู่

“ได้ ๆ ๆ แต่มึงจำไว้นะว่า น้องโยเค้าไม่ได้เป็นแบบที่มึงคิด

ถ้ามึงยังคิดแบบนี้อยู่ มึงก็ไม่สมควรจะได้เป็นเจ้าของหัวใจของน้องโย”พี่วิทย์พูดกับบูมแล้วเดินจากไป

ผมมาช่วยพยุงร่างที่ล้มลงของบูมให้ลุกขึ้นมายืน พลางหยิบผ้าเช็ดหน้ามาซับเลือดที่มุมปากให้บูม แต่เค้าก็สะบัดมือผมออกไป

“ไม่ต้อง”บูมพูดอย่างโมโห

“ไม่ต้องได้ยังไง มาเราเช็ดให้”ผมพูดด้วยน้ำเสียงอ่อนโยนพลางเอาผ้าไปเช็ดหน้าให้

“ทำไมนายทำกับเราแบบนี้ ไหนนายบอกว่ารักเราไง ทำไมนายทำแบบนี้”บูมพูดด้วยน้ำเสียงน้อยเนื้อต่ำใจ
 
“ทำไมนายต้องโกหกเรา นายนึกว่าเราโง่ใช่ไหมถึงทำแบบนี้”บูมพูดพลางน้ำตาชายหนุ่มก็เริ่มไหล

“บูมมม เรา....เราไม่ได้ตั้งใจ เราแค่ไม่อยากให้ความสัมพันธ์ของเราที่เพิ่งจะเริ่มดีต้องมีอันเป็นไปด้วยเรื่องไม่เป็นเรื่องแบบนี้ บูม...เราขอโทษ”ผมพูดด้วยน้ำเสียงที่สั่น

“นายคิดว่าทำแบบนี้แล้วถูกแล้วหรือ นายทำแบบนี้ นายดูถูกเราเกินไป นายตีค่าความรักของเราต่ำไป

เราคิดว่าเราสองคนยังไม่พร้อมที่จะเป็นแฟนกันหรอก ถ้านายยังคงคิดแบบนี้ และตีค่าความรักที่เรามีให้แบบนี้”บูมเช็ดน้ำตาและพูดด้วยน้ำเสียงราบเรียบ

“เอ่อ คือเราไม่รู้จะแก้ตัวยังไง แต่เราไม่เคยตีค่าความรักที่นายมีให้เราต่ำเลยนะ เราแค่แคร์ความรู้สึกนายเท่านั้นเอง”ผมพูดแก้ตัวด้วยน้ำเสียงเศร้า ๆ
 
“เอาละ พอ พอ พอ....หยุดแก้ตัวได้แล้ว เราคิดว่าเราสองคนต้องเริ่มมามองแล้วว่า ตกลงเราสองคนควรจะเป็นแฟนกันหรือเปล่า

ถ้านายยังไม่เชื่อใจเรา และทำให้เราเชื่อใจนายไม่ได้ เราก็ต้องจบกัน”บูมพูดด้วยน้ำเสียงจริงจัง

“แต่เรา...........เรารักบูมจริง ๆ นะ”ผมพูดด้วยน้ำเสียงเศร้า ๆ

“...........................”เงียบไม่มีเสียงตอบจากบูม

“ก็ได้ถ้าบูมยังไม่แน่ใจในความรักที่เรามีให้ เราจะพยายามทำให้บูมได้เห็นว่าเรารักบูมมากแค่ไหน

ไม่ว่าจะนานกี่ปีเราก็จะพยายาม อาจจะใช้เวลา หนึ่งปี สองปี หรือ สิบปี เราก็จะทำ ทำให้บูมเห็นว่า เราไม่เคยมีใครอื่นนอกจากบูมคนเดียว”ผมพูดด้วยน้ำเสียงจริงจัง

“ได้แล้วเราจะคอยดู ไปเราพานายไปส่งที่บ้าน”บูมพูดพลางเดินนำผมไปที่รถ

ตลอดทาง เราสองคนนั่งอยู่บนรถยนต์ที่แล่นไป โดยที่ไม่มีเสียงสนทนาเล็ดรอดออกมาแม้แต่นิดเดียว

มีเพียงผมคนเดียวที่แอบมองเวลาที่บูมขับรถ ส่วนบูมไม่แม้แต่เพียงมองกลับมาดูผมแม้กระทั้งตอนที่ผมกำลังจะเดินลงจากรถเพื่อเดินเข้าบ้านไป

“นี่บูมจะไม่เอ่ยลาเราเลยหรอ”ผมบอกอย่างน้อยใจ

“อืมม เจอกัน”บูมพูดสั้น ๆ

“ครับเจอกัน”ผมเดินคอตกเข้าบ้านไป

หลังจากที่กลับมาถึงบ้าน แม่ผมก็เรียกตัวผมไปนั่งคุยเพราะป้าผมที่อยู่ที่เชียงใหม่โทรทางไกลมาเพื่อให้ผมรีบขึ้นไปที่เชียงใหม่

แต่ไม่บอกเหตุผลว่าทำไม ผมรู้แค่ว่า มีเรื่องเร่งด่วน สำคัญมากทำให้ผมต้องรีบแพคกระเป๋าเพื่อเดินทางไปเชียงใหม่อีกครั้งนึง

จบตอนที่ 9 แล้วครับ ขอบคุณครับที่ติดตาม ช่วงนี้คงไม่ได้มาอัพเดททุกวันนะครับ เพราะติดธุระนิดหน่อย แต่ยังไงจะมาอัพให้บ่อย ๆ รับรองว่าไม่หายไปอย่างแน่นอนครับ

********************************************************

GoneOn                                         ต้องติดตามต่อไปครับ เรื่องมันเพิ่งเริ่มต้นเองครับ

][GobGab][                                   แต่ในโลกของความจริง จะมีสักกี่คู่ที่ทำได้ครับ/ มาต่อให้แล้วนะครับ

MyLoveMyBabe                        ขอบคุณสำหรับการติดตามนะครับ

มูมู่น้อย                                             ไอ้ตอนกุ๊กิ๊กนี้ มันแบบไหนเหรอครับ ผมไม่ค่อยรู้เรื่องอะครับ

Yo_angkrub                               ขอบคุณสำหรับเรื่องราวดีๆ แบบนี้นะครับ

[{ตะแน๋วกิ๋วกิ้ว}]                                :yeb:

หมูพูห์                                             ขอบคุณที่เอามาลง

b|ueB[o ]YhUb                         ขอบคุณที่สร้างคลับดีๆ ขึ้นมา

<<--Yาย_โO-->>                          แฝดคนละฝาหรือเปล่าครับ

gobgab

  • บุคคลทั่วไป

ถ้านายยังไม่เชื่อใจเรา และทำให้เราเชื่อใจนายไม่ได้ เราก็ต้องจบกัน”


จะมีสักกี่คู่ที่รักกันแล้วเชื่อใจกันจิงๆ  :impress:

เข้าโหมดเศร้าอีกแล้วคับ...........เพิ่งจาสุขได้ไม่นาน :impress3:

ออฟไลน์ มูมู่น้อย

  • Global Moderator
  • เป็ดAres
  • *
  • กระทู้: 2623
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +468/-12
หนุกดี หนุกดี  ชอบอ่านตอนใส่อารมณ์กัน  แรงดี  ว่างเมื่อไหร่มาต่อเรยค๊าบ หมูพูห์   :yeb:

MyLoveMyBabe

  • บุคคลทั่วไป
เพิ่งจะดีกันได้ไม่เท่าไหร่ ต้องมาเจออุปสรรคซะแล้ว  :monkeysad2:

รัก 3 เส้า  แบบนี้ ยังไงก้ต้องมีคนต้องเจ็บอย่างน้อยก็ 1 คน ....แย่จัง....


มาต่อเร็วๆนะครับ กำลัง อิน....

โดยเฉพาะประโยคนี้ "ถ้านายยังไม่เชื่อใจเรา และทำให้เราเชื่อใจนายไม่ได้ เราก็ต้องจบกัน”  ทำให้ผมต้องคิดทบทวนเรื่องของผมเหมือนกัน

CoMMuNiTY Of ThAiBoYsLoVE






ออฟไลน์ Junrai_Hyper™

  • พูห์น้อยกลอยใจ
  • Global Moderator
  • เป็ดArtemis
  • *
  • กระทู้: 4842
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +777/-50
"ตอนที่ 10"

หลังจากที่ผมรีบแพคกระเป๋าเสร็จและเดินลงมาข้างล่าง ผมก็เจอกับพี่วิทย์นั่งอยู่บนโซฟาและกำลังสนทนากับแม่ผมอยู่

“อ้าว พี่วิทย์มาได้ไงครับเนี่ย”ผมพูดพลางรู้สึกประหลาดใจขึ้นมาตะหงิด ๆ

“จ๊ะลูก พอดีป้าเค้าบอกว่าพี่วิทย์กำลังจะกลับไปที่เชียงใหม่เลยให้เราไปเชียงใหม่พร้อมพี่เค้าเลย”แม่ผมตอบแทนพี่วิทย์ ส่วนพี่วิทย์ก็พยักหน้ารับ

“บังเอิญจริง ๆ เลยนะครับ แล้วพี่ไม่อยู่ทำธุระต่อแล้วหรอครับ เห็นว่ามีธุระด่วนนี่ แต่นี่พี่เพิ่งมาได้ สองสามวันเองนะ”ผมถามอย่างไม่ค่อยไว้ใจกับสถานการณ์ตรงหน้าแล้วครับ

“พอดีพ่อพี่ไม่ค่อยสบายน่ะ เลยโทรมาให้พี่รีบกลับ เพราะว่าไม่มีคนช่วยดูแลรีสอร์ต”พี่วิทย์อธิบาย แต่ผมก็ไม่เชื่ออยู่ดี

“รีบไปเถอะจ๊ะ เดี๋ยวจะไม่ทันเครื่องนะ”แม่ผมบอกอย่างเป็นห่วง

“ครับแม่ งั้นผมไปแล้วนะครับ แล้วผมจะรีบกลับ”ผมเอ่ยลาแม่

“ผมลาแล้วครับ คุณน้า สวัสดีครับ”พี่วิทย์บอกลาแม่ผม

“โชคดีนะจ๊ะเด็ก ๆ”แม่ผมอวยพรพวกเราสองคน

“ขอบคุณครับ”พี่วิทย์ตอบพร้อมกับผม

ผมกับพี่วิทย์นั่งแท็กซี่ออกมาจากบ้านด้วยกัน โดยที่ผมไม่พูดกับพี่วิทย์เลยตลอดทาง

จะว่าผมโกรธพี่เค้าหรือ ก็เปล่า ผมไม่ได้โกรธเพียงแต่ไม่รู้จะคุยอะไรดี  และกำลังคิดหาหนทางทำให้ผมกับบูมกลับมาเป็นแบบเดิม

จนกระทั่งแท็กซี่มาถึงสนามบิน ผมกับพี่วิทย์ก็เดินลงมาและไปที่เคาน์เตอร์เช็คอินเพื่อที่จะได้ยื่นเอกสารขึ้นเครื่อง

“นี่โยจะไม่พูดกับพี่เลยเหรอครับ พี่ทำตัวหน้าเกลียดมากใช่ไหม โยถึงไม่ให้อภัยพี่”พี่วิทย์พูดขณะที่เราเดินออกจากเคาน์เตอร์เช็คอินเพื่อไปรอด้านใน

“เปล่าครับ ผมไม่ได้โกรธพี่วิทย์ ผมแค่เหนื่อยแค่นี้เอง”ผมตอบ

“ถ้าน้องโยไม่โกรธพี่นะ แล้วเรื่องทีพี่ถามน้องโยไว้ น้องโยจะว่ายังไงครับ”พี่วิทย์ถามอย่างตื่นเต้น

“เรื่องไหนครับ”ผมตอบทั้ง ๆ ที่รู้อยู่แก่ใจว่าพี่วิทย์ต้องการสื่อถึงอะไร

“ก็เรื่องที่พี่ชอบน้องโยไง จะเป็นไปได้ไหมที่น้องโยจะมารับรักพี่”พี่วิทย์ถามพลางจ้องหน้าผม

“เอาไว้ทีหลังเถอะครับพี่วิทย์ ผมเหนื่อยมามากแล้ว”ผมตอบไปอย่างเซ็ง ๆ

“ก็ได้ครับ ก็ได้ แต่พี่อยากให้น้องโยจำไว้ว่าพี่จะไม่ท้อแท้ แต่พี่จะทำให้น้องโยรักพี่ให้ได้คอยดู ไม่ว่าพี่จะทำวิธีไหนก็ตาม”พี่วิทย์พูดอย่างมั่นใจ จนผมเริ่มหวั่นใจ


หลังจากที่เรามาถึงเชียงใหม่ก็เกือบจะค่ำแล้ว วันนี้มีแต่รถของพี่วิทย์มารับ เพราะป้าผมต้องไปอยู่ดูแลลุงผมที่โรงพยาบาลเลยจะไปเจอผมที่บ้านเลย ผมเลยต้องอาศัยรถพี่วิทย์กลับบ้านของป้าผม

“นายทัด กลับไปก่อนนะ เดี๋ยวผมจะพาน้องเค้าไปเที่ยวในตัวเมืองหน่อย แล้วฝากบอกคุณพ่อด้วยว่าผมจะกลับดึก”พี่วิทย์หันไปสั่งนายทัดคนขับรถ พลางยื่นมือไปขอกุญแจจากคนขับรถ

“ได้ครับคุณวิทย์”นายทัดพูดพร้อมกับยื่นกุญแจรถให้และเดินออกไปนั่งรถกลับบ้านไป

“พี่วิทย์ผมยังไม่อยากไปไหน ผมอยากไปบ้านของคุณป้าแล้วครับ”ผมพูดกับพี่วิทย์ด้วยสีหน้าที่อ่อนแรงเป็นที่สุด

“ไปเถอะนะครับน้องโย ไปนั่งที่ร้านอาหารของเพื่อนพี่แป๊ปนึง ดีมากเลยนะ บรรยากาศดีเลยล่ะ”พี่วิทย์เอ่ยชวน

“คือผม.....................”ผมกำลังจะบอกปฏิเสธแต่

“น้องโยไปเป็นเพื่อนพี่หน่อยนะ นะครับ นะ นะ พี่ไม่อยากไปนั่งคนเดียว”พี่วิทย์ชวนด้วยน้ำเสียงอ้อน ๆ

“แต่................”

“ไม่มีแต่นะครับ นะ นะ นะ แค่ ชั่วโมงสองชั่วโมงเอง”พี่วิทย์รีบชิงพูดก่อนและรีบเดินนำหน้าไปเปิดประตูพลางฉุดผมขึ้นรถ

“แค่แป๊ปเดียวเองนะครับพี่”ผมพูดขณะนั่งในรถกับพี่วิทย์

“ครับ แล้วพี่จะรีบไปส่งเลยนะ”พี่วิทย์ยิ้มหน้าบาน

หลังจากที่เราออกจากสนามบินใช้เวลาประมาณ สิบห้านาที ก็มาถึงร้านอาหารของเพื่อนพี่วิทย์ (จริง ๆ แล้วต้องบอกว่าเป็นของพ่อของเพื่อนพี่วิทย์มากกว่า)

บรรยากาศน่านั่งจริง ๆครับ แถมมีดนตรีเบา ๆ มีฝรั่งค่อนข้างเยอะเลยครับ ผมกับพี่วิทย์ก็เดินเข้าไปในร้าน พี่วิทย์มองหาเพื่อนเค้าแล้วโบกมือทักทาย

“เฮ้ยยย ว่าไงวะไอ้วิทย์ แม่งตามเด็กไปกรุงเทพฯเชียวนะมึง ไหนวะดูหน่อยดิ๊ว่าเด็กมึงหน้าตาแบบไหน”เพื่อนพี่วิทย์ตะโกนทักทายพร้อมหันมาจ้องดูผม

“ไอ้ห่า พูดไปกูไปทำธุระโว๊ยยยย”พี่วิทย์พูดเสียงดุๆ

“เฮ้ยนี่หรอเด็กมึง ไม่เท่าไหร่เลยนี่หว่า 555555”

อ้าวเวร หน้าไม่หล่อแถมปากไม่ค่อยสร้างสรรค์อีก ผมคิด

“พี่ชื่อ จอห์น นะ เป็นเพื่อนไอ้วิทย์มัน ตามจีบมันมาหลายปีมันก็ไม่เอาจนต้องมาเป็นเพื่อนมันนี่แหละ แล้วน้องชื่ออะไรครับ”พี่จอห์นพูดกับผมพลางจ้องหน้าผม

“ผมชื่อโยครับ ผมไม่ได้เป็นเด็กใครนะ แล้วก็ไม่มีวันเป็นเด็กของพี่วิทย์ด้วย”ผมพูดอย่างอารมณ์ไม่ค่อยจะดี

“อย่าไปถือสามันเลยนะ น้องโย มันก็ปากแบบนี้แหละถึงไม่มีใครเอา”พี่วิทย์เอ่ยขอโทษแทนเพื่อน

“ไอ้ห่า ว่ากูซะเสียเลย แล้วน้องโยมีแฟนหรือยังครับเป็นแฟนกับพี่มะ”พี่จอห์นหันไปว่าพี่วิทย์แล้วหันมาบอกผม

“เฮ้ย คนนี้กูจองโว๊ยยย ไอ้ห่าหม้อไม่เลือกคนเลย”พี่วิทย์หันไปด่าเพื่อนเค้าที่กำลังจ้องผมอยู่

“ใครดีใครได้วะ”พี่จอห์นไม่สนใจกับคำด่าของพี่วิทย์

“เอ่อ.....คือว่า ผมขอตัวกลับบ้านดีกว่านะครับ พอดีผมเพิ่งเดินทางมา รู้สึกเพลีย ๆ พี่วิทย์กลับกันเถอะ ขอโทษนะครับพี่จอห์น”ผมเอ่ยขึ้นขณะรู้สึกกระอักกระอ่วนใจยังไงไม่รู้

“อ้าว....ยังไม่ได้นั่งทานข้าวกันเลย จะกลับแล้วหรอครับน้องโย เห็นมั้ยมึงทำให้กูอดกินข้าวกับน้องโยเลย เดี๋ยวพรุ่งนี้มึงเจอดีแน่ไอ้จอห์น”พี่วิทย์พูดกับผมพลางหันไปว่าพี่จอห์น

“วันหลังแวะมาเยี่ยมที่ร้านมั้งนะครับ น้องโย พี่จะได้คอยเทคแคร์และได้รู้จักกันมากขึ้น”พี่จอห์นพูดพลางยิ้มกรุมกริ่ม

“ครับ”ผมรับคำแบบเซ็ง ๆ “ก็ไหนว่ากูหน้าตาธรรมดา แล้วจะมาจีบกูทำไมวะ” ผมคิดในใจ

“ไปก่อนนะเว้ย เจอกัน มึงโดนแน่พรุ่งนี้ไอ้ตัวดี”พี่วิทย์เอ่ยลาด้วยน้ำเสียงไม่ค่อยสบอารมณ์

“555555555555 อย่างกับกูจะกลัว”พี่จอห์นหัวเราะชอบใจ

“ผมไปนะครับ”ผมเอ่ยลาพี่จอห์น แล้วเดินออกมากับพี่วิทย์เพื่อนนั่งรถกลับบ้าน

ขณะที่เรานั่งรถกลับบ้านป้าผม พี่วิทย์ก็เอาแต่จ้องมองผมไปสลับกับการดูทางไปขณะขับรถ แล้วพี่วิทย์ก็พูดขึ้นว่า

“โยเสน่ห์แรงนะ ดูดิ ไอ้จอห์นมันยังชอบเลย อย่างนี้พี่ต้องดูแลไม่ให้คลาดสายตาเลย”พี่วิทย์เอ่ยขึ้นมา

“ไม่หรอกครับพี่ พี่จอห์นเค้าล้อเล่นน่ะ”ผมตอบไปอย่างเซ็ง ๆ เหนื่อย ๆ

“ดูน้องโยเหนื่อยจังนะ มีอะไรหรือเปล่า”พี่วิทย์ถามอย่างเป็นห่วงหลังจากที่เห็นสีหน้าผมไม่ค่อยดี

“ไม่เป็นไรครับพี่แค่ผมรู้สึกเหนื่อย ๆ แค่นั้นเอง”ผมตอบเลี่ยง ๆ เพราะไม่อยากให้พี่เค้ารื้อฟื้นเรื่องเมื่อกลางวันนี้ออกมา

“งั้นกลับถึงบ้านก็พักผ่อนเยอะ ๆ นะครับ แล้วพรุ่งนี้พี่จะรับไปที่รีสอร์ทตอนเย็น”พี่วิทย์พูดพลางหันมามองหน้าผม

“ไปทำไมครับที่รีสอร์ท”ผมพูดอย่างสงสัย

“อ้าว คุณน้าอ้อไม่ได้บอกหรอครับว่า จะให้น้องโยไปช่วยดูแลรีสอร์ทเป็นเพื่อนพี่ไปพลาง ๆ ก่อนสัก สองอาทิตย์

เพราะคุณพ่อพี่กับคุณลุงไม่สบาย เลยไม่มีใครดูแล แล้วนี่ใกล้จะเป็นช่วง high season แล้ว

คุณพ่อพี่กะคุณลุง คุณป้าของน้องโย กลัวว่าพี่จะดูแลไม่ไหวเลยให้น้องโยมาช่วยไปพลาง ๆก่อน”พี่วิทย์อธิบาย

“ผมเนี่ยนะดูแล ตกลงนี่เป็นของต้องการของคุณลุง คุณป้าผมจริง ๆ หรือเปล่า”ผมตกใจ พลางมองหน้าพี่วิทย์อย่างรู้ทัน

“ก็.............”พี่วิทย์เห็นสายตาที่ผมมองแล้วพูดไม่ออก เลยบอกความจริงออกมา

“ก็พี่อยากอยู่กับน้องโยนี่ครับ อยู่รีสอร์ทคนเดียวมันเบื่อน่ะจะได้มีเพื่อนคุยด้วย เลยโกหกท่านไปว่าดูแลไม่ไหว ไม่งั้นพี่คงจะเหงาตายแน่เลย

ต้องไปอยู่เชียงรายคนเดียว”พี่วิทย์เฉลยออกมาแล้ว ว่าที่จริงก็เป็นแผนของพี่วิทย์นั่นเอง เพราะถ้าป้าผมพูดเหตุผลนี้ผมคงไม่รีบขึ้นมาที่เชียงใหม่หรอก

“พี่ไม่อยากอยู่คนเดียว พี่เลยให้ผมขาดเรียนตั้งสองอาทิตย์เนี่ยนะ”ผมพูดอย่างโมโหนิด ๆ

“ก็พี่..............”พี่วิทย์พูดไม่ออกเพราะพี่วิทย์ผิดจริง ๆ อ่ะครับ

“ผมก็นึกว่าคุณลุงเป็นอะไรซะอีก พี่วิทย์นะพี่วิทย์....ผมจะกลับพรุ่งนี้ละ”ผมเริ่มโมโห

“น้องโยเพิ่งมาเองอ่ะ นึกว่าพี่ขอร้องนะ นะครับ อยู่เป็นเพื่อนพี่สักอาทิตย์นะ แค่อาทิตย์เดียวเอง นะครับ นะ”พี่วิทย์อ้อน

“เฮ้อออ แค่อาทิตย์เดียวนะ ผมไม่อยากขาดเรียน”ผมเริ่มใจอ่อน เพราะมาคิดดูอีกทีรอให้เรื่องผมกับบูมเริ่มที่จะซาลงก่อนดีกว่า

ขืนผมไปตามง้อช่วงนี้ บูมก็คงจะยังไม่ให้อภัยผมหรอก ผมคิดอย่างงั้น

“ไชโย น้องโยใจดีจัง ขอหอมทีได้ป่ะ”พี่วิทย์ยิ้มอย่างดีใจพลางจะยื่นหน้ามาจูบผม

“เฮ้ยยย พี่วิทย์มากไป มากไป เดี๋ยวผมก็กลับพรุ่งนี้ซะเลย”ผมพูดพลางเอามือไปดันหน้าพี่วิทย์

“แต่พี่ต้องสัญญาว่าจะไม่ไปเที่ยวบอกใครว่าผมเป็นเด็กพี่ เพราะผมคิดกับพี่แค่พี่ชายแค่นั้น”ผมพูดทำให้พี่วิทย์ดูเศร้าลงอย่างชัดเจน

“ก็ได้ครับ แต่ยังไงพี่ก็จะไม่ท้อ พี่จะทำให้น้องโยเป็นของพี่ให้ได้ทั้งตัวและหัวใจ พี่สัญญา”พี่วิทย์พูดอย่างจริงจัง

ผมได้แต่ส่ายหน้าแล้วนั่งรถต่อไปอีกสักพักก็มาถึงบ้านของป้าผม ซึ่งป้าผมก็มายืนรอรับผมอยู่ที่หน้าประตูบ้าน เราทักทายกันนิดหน่อยแล้วผมก็ขอตัวขึ้นไปนอนเพราะผมรู้สึกเพลียมาก ๆ

ผมขึ้นมาบนห้องนอนแล้วหยิบเสื้อผ้าเพื่อเดินเข้าไปอาบน้ำ พออาบน้ำเสร็จผมก็ล้มตัวลงนอน ยังไม่ทันจะได้หลับ ก็มีเสียงโทรศัพท์ดังขึ้นซึ่งเป็นเบอร์แปลก ๆ ที่ผมไม่รู้จัก

“สวัสดีครับ ต้องการพูดกับใครครับ”ผมถามขณะรับสายโทรศัพท์

“เราแพทนะ พอดีวันเสาร์หน้าเป็นวันเกิดเรา โยอย่าลืมงานวันเกิดเราด้วยนะ”แพทพูดด้วยน้ำเสียงสดใส

“เออ หรอ แล้วแพทรู้เบอร์เราได้ยังไงล่ะ”ผมถามอย่างสงสัยเพราะแพทไม่เคยรู้เบอร์มือถือของผมเลย

“อ้อ เราก็โทรไปขอมาจากเพื่อนโยไง แล้วตกลงว่ายังไงล่ะ ไปงานวันเกิดเราได้ไหม”แพทแก้ตัวอย่างน่าสงสัยเพราะแพทก็ไม่มีเบอร์เพื่อนผมอีกเช่นกัน

“ไปสิ แต่แพท เอ่อ คือ...................”ผมจะถามว่าเอาเบอร์มาจากบูมหรือเปล่า หรือว่าบูมให้ถามให้แต่ผมก็หยุดความคิดไว้แค่นั้นเอง

“ดีใจจังเลย แล้วนี่โยอยู่ที่ไหนล่ะ พรุ่งนี้มีเรียนกับอาจารย์โหด(ฉายาอาจารย์ประจำคณะผม)นะ”แพทถามผม

“เราอยู่เชียงใหม่ อาทิตย์หน้าค่อยกลับพอดีเราติดธุระนิดหน่อย”ผมตอบกลับไปอย่างลืมตัว

เพราะถ้าบูมให้แพทโทรมาถามผม นั่นหมายความว่า ผมทำให้บูมเริ่มสงสัยอีกละ เพราะบูมรู้ว่าพี่วิทย์ก็อยู่ที่เชียงใหม่ด้วยเช่นกัน

“โยไปทำอะไรที่เชียงใหม่อ่ะ ตั้งอาทิตย์นึง”แพทตะโกนออกมาอย่างกับจะให้คนรอบข้างได้ยิน

“เอ่อ..........”ยังไม่ทันที่ผมจะบอกถึงเหตุผลเลยก็มีเสียงชายหนุ่มที่ผมคุ้นเคยดังขึ้นมา

“ไปทำอะไรที่เชียงใหม่ ทำไมนายทำแบบนี้ ไหนโยบอกว่าไม่มีอะไรกับมันไง หนีตามมันไปเลยหรอ”บูมถามมาเป็นชุดเลยครับ

“เอ่อ.... ไม่มีอะไรพอดีเราต้องมาช่วยป้าดูแลรีสอร์ทน่ะ ลุงเราไม่สบาย จริง ๆ นะ ถ้าไม่เชื่อ บูมจะมาที่เชียงใหม่ก็ได้”ผมแก้ตัว

“อย่าท้านะ”บูมบอก

“เราไม่ได้ทำอะไรผิดนี่ ทำไมต้องกลัวด้วย ดีซะอีกเราสองคนจะได้ปรับความเข้าใจกันไง”ผมพูดไปอย่างงั้นเพราะไม่คิดว่าบูมจะเอาจริงหรอก

“งั้นเราจองตั๋วพรุ่งนี้เลยมารับเราที่สนามบินด้วย”บูมบอกผม

“เฮ้ยยยยย จริงดิ!”ผมอุทานออกมาอย่างคาดไม่ถึง

“ตกใจอะไร หรือว่ามีอะไรปกปิดเราที่เชียงใหม่”บูมถามอย่างไม่พอใจ

“เปล่า เราแค่ดีใจที่บูมยกโทษให้เรา”ผมพูดกลบเกลื่อน

“ไม่ได้ยกโทษให้ แต่เราต้องตามไปควบคุมความประพฤติจำเลยที่นั่น”บูมตอบมาด้วยน้ำเสียงงอนนิด ๆ

“ถ้าตามมาควบคุมต้องตามมาดูในห้องนอนด้วยนะ นอนห้องเดียวกันเลยนะ นะ นะ นะ”ผมแหย่บูมอย่างอารมณ์ดีที่อย่างน้อยบูมก็ไม่ได้โกรธผมจริง ๆ

“ไม่ต้องทำมาเป็นพูดดี ยังมีคดีค้างเก่าอยู่เลยนะ”บูมพูดด้วยน้ำเสียงที่ดีขึ้นแล้ว

“นะ นะ นะ ไม่อยากนอนคนเดียวเลยอ่ะ”ผมอ้อนบูม

“555555”บูมหัวเราะแล้วครับ

“อยากให้มีคนมานอนหนุนตักแบบวันนั้นอีกอ่ะ”ผมพูดค่อย ๆ แบบเขินนิด ๆ

“ไม่ต้องมาพูดดีเลย ยังไม่ได้คิดบัญชีเลยนะ เที่ยวไปกอดใครต่อใคร ถ้าไปเชียงใหม่แล้วเจอแบบนั้นละก็ น่าดู!”บูมพูดอย่างหมั่นไส้

“ไม่กล้าแล้วครับ กลัวแล้วครับ...แต่ไม่มานอนด้วยกันจริง ๆ หรอ เดี๋ยวให้คนอื่นมานอนแทนนะ”

“ก็ลองดูสิ”บูมตะโกนออกมา

“ไม่อายแพทหรอ เค้ารู้กันหมดแล้วมั้งน่ะ”ผมถามบูมด้วยความสงสัย

“ก็เพราะเค้ารู้น่ะสิ เราถึงได้เลิกโมโหโยไง เพราะเราไปปรึกษาแพท แล้วแพทก็เลยช่วยพูดให้ ไม่งั้นไม่มีทาง”บูมบอกถึงสาเหตุที่ทำให้บูมเลิกโมโหผม

ขอบใจนะแพท ผมคิด “เออ แล้วนี่แพทไปไหนล่ะ”ผมถาม

“อ๋อ แฟนเค้ามารับเมื่อกี้เอง ไม่ได้ยินเราคุยกันหรอก”บูมบอก

“โหหหห คนเราวางแผนมาได้แนบเนียนมาก ต้มเราซะเปื่อยเลยนะ”ผมร้องออกมา

“55555555 ก็ใครใช้ให้มาเข้าทางล่ะ”บูมตอบ

“ก็ได้ ๆ เรายอมโดนต้ม แต่แค่ครั้งเดียวนะ”ผมตอบอย่างอารมณ์ดี

“แล้วเดี๋ยวเราจะโทรไปบอกเที่ยวบินกับเวลานะ เดี๋ยวเราต้องขับรถกลับบ้านละ เดี๋ยวโทรกลับไปใหม่นะครับ”

“อ้าว บูมยังไม่กลับบ้านอีกหรอ ดึกแล้วนะ”ผมถามอย่างสงสัย

“ก็ยังอ่ะดิ เรานั่งคุยกับแพทตั้งนาน กว่าจะรู้สึกดีขึ้นแล้วให้แพทโทรไปถามโยนั่นแหละ”บูมบอก

“ยังไงเราก็ขอโทษนะ เราสัญญาว่าเราจะไม่โกหกบูมอีก ด้วยเกียรติของลูกเสือสำรอง”ผมสัญญากับบูมพลางชูสองนิ้ว

“5555555 แค่ไม่โกหกเราก็พอแล้ว แล้วเดี๋ยวเราโทรไปหาอีกทีนะครับ บายครับ”บูมพูดจบก็วางสายโทรศัพท์

“ได้ ๆ บายครับ”

หลังจากที่คุยกับบูมเสร็จผมก็รู้สึกว่ากระปรี้กระเปร่าขึ้นมากะทันหัน คิดว่าน่าจะได้ยาดีมารักษาตรงจุด ตรงอาการพอดี

แต่พอมาคิดดูอีกที ผมก็เริ่มจะรู้สึกหวั่นใจ กับเหตุการณ์ที่กำลังจะมาถึง เพราะว่าบูมจะมาที่เชียงใหม่เพื่อมาเฝ้าผม พร้อม ๆ กับ พี่วิทย์ที่ยังคงตามจีบไม่เลิก

ไหนจะพี่จอห์นอีกซึ่งดูท่าจะตื้อไม่เลิกเช่นกัน ผมว่าตอนที่ผมไปเชียงรายผมคงจะอยู่ไม่เป็นสุขแน่ ๆ เลย

พอผมคิดได้แบบนั้นความสุขเมื่อสักครู่นี้ ก็เริ่มจะแปรเปลี่ยนเป็นความกลุ้มใจแทน ทำไมชีวิตผมมันต้องเป็นแบบนี้ด้วยวะเนี่ย ผมคิดในใจ..............

จบตอนที่ 10 แล้วนะครับ ขอบคุณที่ติดตามอ่าน และต้องขอโทษด้วยที่ทำให้รอ เพราะช่วงนี้มีธุระนิดหน่อย ยังไงก็จะพยายามมาอัพเดทให้นะครับ


*******************************************************
<<--Yาย_โO-->>                           เอาแบบนั้นเลยเหรอครับ


][GobGab][                                นั้นนะสิครับ ว่าแต่น้องถุงเชื่อได้มั้ยละครับ


MyLoveMyBabe                     เราต้องทำให้เขาเชื่อใจครับ และเราก็ต้องเชื่อใจในตัวเขาครับ ถ้ามีแต่หวาดระแวง รักมันคงต้องพังครับ

gobgab

  • บุคคลทั่วไป
คนรักกัน................มันโกรธกันไม่ลงจิงๆเนอะ......... :impress: :impress:

เอาใจช่วยหั้ยบูมและโยผ่านมันไปได้......... :impress2: :impress2:

ป.ล.........ตัวผมอ่ะเชื่อใจได้เสมอคับพี่พูห์ :haun5: :haun5:

ออฟไลน์ ~ScAreD:SAcreD~

  • เป็ดแสนดี
  • เป็ดDemeter
  • *
  • กระทู้: 1811
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +264/-2
เฮ้อ กว่าจะตามอ่านทัน

ไม่ค่อยได้เข้าก้องี้แหละ อ่านที เล่นเอาเหนื่อยเลย   :pigha2:

ความเชื่อใจเป็นสิ่งสำคัญจิงๆ เฮ้อ จะตามอ่านต่อไปเรื่อยๆนะคับ ชอบจัง

อย่าเศร้ามากเลยนะ  :monkeysad:

ป.ล. ถุงหยอดตลอดเลยนะ เชื่อใจได้หรอ เหอ เหอ :kikkik:


dokebi

  • บุคคลทั่วไป
 :monkeylove2: ตามอ่านทันแย้ว ชอบ ชอบ ชอบ จิงๆเยยครับ  :monkeylove2:

ขอบคุณ คุณ หมูพูห์ ด้วยกัฟ หนุกดดี


pim

  • บุคคลทั่วไป
อืมม ตัวละครดูวุ่นๆ กันจัง :o

จะมีเรื่องอีกปะเนี่ย
ว่าแล้วก็รอตอนต่อไป

MyLoveMyBabe

  • บุคคลทั่วไป
คนรักกัน................มันโกรธกันไม่ลงจิงๆเนอะ.........

ใช่จริงๆครับ คนรักกันโกรธกันไม่ลงจริงๆ ด้วย  งั้นที่ใครบางคนเค้ายังไม่ยอมคุยกับผมนี่ แสดงว่าว่าเค้าโกรธ แล้วเค้าไม่ได้รักเราหรือเปล่า :monkeycry2:

แต่ผมซิ แปบเดียวก้หายโกรธแล้วอ่ะ ทั้งๆที่เป็นความผิดมาจากเค้าแท้ๆๆ ฮืออๆๆ :monkeysad2:



มาพูดเรื่องของนายโยดีกว่า กำลังสนุกเลยครับ คนรักกำลังจะได้เจอกัน แถมมีตัวขัดขวางรออยู่....น่าลุ้นจริงๆๆเลยครับ มาต่อเร็วๆนะครับ :kikkik:
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 16-12-2006 10:53:43 โดย MyLoveMyBabe »

ออฟไลน์ Junrai_Hyper™

  • พูห์น้อยกลอยใจ
  • Global Moderator
  • เป็ดArtemis
  • *
  • กระทู้: 4842
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +777/-50
"ตอนที่ 11"

    เสียงนาฬิกาปลุกในตอนเช้าทำให้ผมตื่นขึ้นมาทั้ง ๆ ที่ผมเพิ่งจะหลับลงไปได้แค่ไม่กี่ชั่วโมง เพราะผมมัวแต่กังวลใจกับเหตุการณ์ที่กำลังจะเกิดขึ้นในวันนี้

   วันที่เรา 3 คน ผม บูม และ พี่วิทย์ต้องมาเผชิญหน้ากันอีกครั้ง ซึ่งผมเองก็ยังรู้สึกขยาดกับเหตุการณ์ที่เพิ่งจะผ่านพ้นไปได้ไม่นาน
 
    ทำให้ผมไม่สามารถข่มตานอนลงได้ เช้านี้ผมจึงรู้สึกไม่ค่อยแจ่มใสนัก ผมลุกขึ้นมาจากเตียง แล้วเดินไปเดินมาอย่างกับหนูติดจั่น พลางคิดหาทางออกว่าควรจะทำอย่างไรดี

     จนกระทั่งคุณป้าผมให้คนงานเดินขึ้นมาเคาะประตูเรียกให้ลงไปข้างล่าง ผมจึงเดินลงไปทั้ง ๆ ที่ยังไม่ได้อาบน้ำแต่งตัวเลย

    “จริงอ่ะ แล้วบูมบอกที่บ้านแล้วหรอว่าจะมาที่เชียงใหม่”ผมถาม

    “บอกแล้ว แต่ไม่ได้บอกเหตุผลหรอก เพราะเค้าไม่ถามเราอยู่แล้ว เราเลยเฉย ๆ”บูมอธิบาย

    “อืมมม ก็ดีนะ แล้วนี่บูมเตรียมตัวหรือยัง ที่จะต้องมานอนห้องเราน่ะ”ผมถามอย่างเจ้าเล่ห์

    “เตรียมอะไรหรอ....แต่ว่า เออ โย เราพกถุงยางไปแค่ 3 โหลพอไหม หรือว่าเอาไปสัก 5 โหลดี”บูมพูดไปหัวเราะไป

    “จะฆ่ากันหรอไงเนี่ย 5555”ผมแกล้งแซว

    “ล้อเล่น แต่ถ้าให้เราไปนอนจริง ๆ ก็ดีนะ ให้เราไปนอนด้วยคนดิ นะ นะ นะ นะ นะ”บูมเริ่มอ้อน

    “555 ไว้มาก่อนเถอะ แล้วค่อยมาขอ..... รีบไปได้แล้วเดี๋ยวตกเครื่องนะ”ผมขำกับท่าทีการอ้อนของบูม

    “คร๊าบบบบบบ ผม แฟนที่เคารพ”บูมตอบ

    “555 แล้วเจอกันนะครับ เดินทางปลอดภัยนะ เราจะรอ”ผมเอ่ยลา

    “คร๊าบบบบบ จะรีบไปให้ไว ๆ เลย บายครับผม”บูมพูดจบก็วางโทรศัพท์ไป

    หลังจากที่บูมวางโทรศัพท์ไปแล้ว ผมก็เดินไปหยิบเสื้อผ้าเพื่อเข้าไปอาบน้ำ ขณะที่ผมกำลังอาบน้ำก็ได้ยินเสียงเตือนว่ามีข้อความเข้ามา ผมก็ไม่ได้สนใจอะไร

    รอจนกระทั่งอาบน้ำเสร็จก็ใส่ชุดคลุมอาบน้ำเดินมาหยิบโทรศัพท์เพื่อกดอ่านข้อความ

    ดีใจจังได้อยู่กับน้องโย ที่เชียงราย ตั้งอาทิตย์นึง อยากให้ถึงเวลานั้นเร็ว ๆ จัง คิดถึงนะครับ ..... พี่วิทย์

    ผมอ่านข้อความพร้อมกับรู้สึกกังวลกับสิ่งที่กำลังจะเกิดขึ้น เพราะผมไม่สามารถคาดเดาได้เลยว่าจะเกิดอะไรขึ้นกันแน่

    แต่ที่แน่ ๆ ผมคงจะไม่ยอมให้ความสัมพันธ์ระหว่างผมกับบูมต้องมีอันเป็นไปหรอกครับ เพราะผมรู้ตัวผมเองดีว่า ผมต้องการใคร

    แต่ที่ผมกังวลคือ อารมณ์ของบูมที่ค่อนข้างจะรุนแรง และความดีของพี่วิทย์ที่ผมไม่สามารถที่จะปฏิเสธได้ว่าในบางขณะก็ทำให้ผมหวั่นไหวได้เช่นกัน คิดแล้วก็กลุ้ม

    ผมจึงทิ้งโทรศัพท์ลงบนเตียงและเดินกลับเข้าไปแต่งตัวอีกครั้งนึง

    หลังจากที่ผมแต่งตัวเสร็จ ผมก็นั่งมองดูนาฬิกาอย่างใจจดใจจ่อ จนคิดว่าได้เวลาแล้วผมก็เดินลงไปข้างล่างเพื่อบอก ตาน้อยคนขับรถให้ไปส่งผมที่สนามบิน

    ตลอดทางที่ผมนั่งรถไปสนามบินผมพยายามคิดหาวิธีที่จะอธิบายเหตุการณ์ต่าง ๆที่กำลังจะเกิดขึ้นให้บูมฟัง ผมคิดแล้วคิดอีก ก็ไม่รู้ว่าจะพูดยังไงดี

    จนในที่สุดผมก็ตัดสินใจที่จะบอกความจริงไปตรง ๆ ดีกว่า เพราะผมเพิ่งจะสัญญากับบูมไว้ว่าจะไม่โกหก คิดได้แบบนั้นแล้วผมก็โล่งใจในระดับนึงครับ

    พอรถผมมาถึงสนามบิน ผมก็ลงจากรถ และสั่งให้คนขับรถกลับไปเลย เพราะผมจะนั่งรถไปที่โรงพยาบาลกับบูมเองตามลำพัง เพื่อที่เราจะได้มีเวลาคุยกันอย่างเป็นการส่วนตัว

    หลังจากนั้นผมก็ไปยืนรอบูมตรงช่องทางออกของสนามบิน ผมรอสักประมาณเกือบครึ่งชั่วโมงเห็นจะได้

    ผมก็เห็นชายหนุ่มใส่แว่นกันแดดสีดำในชุดเสื้อเชิ้ตสีดำ กับกางเกงยีนส์ เดินยิ้มออกมาจากช่องทางออก

    ผมแทบจะเดินตรงเข้าไปกอดให้สมกับความคิดถึง แต่ก็คงทำได้แค่เพียงโบกมือทักทายธรรมดา เพื่อเป็นการไม่น่าเกลียดจนเกินไปนัก

    “โห ทำไมหอบของมาเยอะแบบนี้ล่ะ นึกว่าจะมาอยู่สักปีนึง”ผมแซวบูมพร้อม ๆ กับจะช่วยขนกระเป๋า

    “ก็เราตัดสินใจกะทันหันน่ะ เลยยัด ๆ มา เห็นอะไรได้ก็คว้ามาเลย”บูมพูดอาย ๆ

    “แล้วใครใช้ให้มาล่ะ เดี๋ยวอาทิตย์หน้าเราก็กลับแล้ว”ผมพูดยิ้ม ๆ

    “ไม่ได้หรอก เดี๋ยวมีคนมาจีบโย เราก็แย่สิ เพิ่งจะเป็นแฟนกันได้ไม่กี่วันเอง”บูมพูดพลางเอื้อมมือมาจับมือผมเพื่อที่จะจูง

    “ทำอะไรน่ะ ไม่อายเค้าหรอที่นี่สนามบินนะ”ผมรีบบอกและมองไปรอบ ๆ

    “อายทำไมก็คนเป็นแฟนกันนี่ ดีซะอีกจะได้ไม่มีใครกล้ามาจีบโยไง”บูมไม่สนใจคำพูดผมกลับยังคงจูงมือผมอยู่ จนผมรู้สึกอบอุ่นใจกับการกระทำของชายหนุ่มที่ผมเฝ้าหลงรักอยู่ตรงหน้า

    “ตามใจ”ผมพูดยิ้ม ๆ

    เราเดินออกมาจากสนามบิน แล้วโบกรถแท็กซี่เพื่อไปทานข้าวกลางวันกันก่อนที่จะไปที่โรงพยาบาลเพื่อเจอกับคุณป้าผม คุณลุงผม และก็พี่วิทย์ด้วย เฮ้อออออ กลุ้ม

    เรามานั่งทานอาหารที่ร้านอาหารแห่งนึงไม่ไกลจากสนามบินมากนัก หลังจากที่ผมกับบูมสั่งอาหารเสร็จ และบริกรก็เดินจากไป ผมก็เริ่มที่จะเล่าความจริงที่ผมได้ตัดสินใจที่จะเล่าให้บูมฟัง

    “เออ บูม คือเราต้องไปทำงานที่เชียงรายแทนคุณลุงเราน่ะ บูมไปด้วยกันนะ”ผมเริ่มบทสนทนา

    “อืมม ก็ไปดิ ยังไงเราก็มาหาโยอยู่แล้ว แฟนไปไหนเราก็ตามไปทุกที่แหละ”บูมพูดไปดูดน้ำไป

    “แต่..............”ผมอึกอัก

    “แต่อะไร มีอะไรอ๊ะป่าว เห็นอึกอักตั้งแต่เมื่อกี้ละ”บูมพูด

    “คือว่า พี่วิทย์ บูมจำพี่วิทย์ได้ใช่ไหม”ผมถาม

    “ทำไมจะไม่ได้ ไอ้น่าจืดที่จะมาแย่งโยไปจากเราไง มันทำไม”บูมพูดอย่างเคียดแค้น

    “คือเราต้องไปทำงานร่วมกับเค้าน่ะ แต่ถ้าบูมว่าเราไม่สมควรไป เราไม่ไปก็ได้นะ”ผมรีบออกตัวไว้ก่อน

    “...............................”เงียบครับ บูมเงียบเหมือนกำลังจะคิดอะไรอยู่

    “ว่าไงอ่ะ”ผมถามต่อ

    “ก็ไปดิ แต่มีข้อแม้ว่า เราต้องไปกับโยทุกที่นะ และ เราต้องนอนห้องเดียวกับโยด้วยเพราะเราไม่ไว้ใจมัน”บูมบอกพลาง หยุดเพราะ บริกร เริ่มนำอาหารมาเสิร์ฟ

    “ได้ แต่บูมแน่ใจนะว่าจะนอนห้องเดียวกันน่ะ .... 555… เราชอบละเมอตอนกลางคืนนะ”ผมแกล้งพูดไปเรื่องอื่นพลางยิ้มอย่างเจ้าเล่ห์

    “555 ดีสิ เราจะได้ทำให้โยหายละเมอเลย กลายมาเป็นร้องแทน”บูมหัวเราะชอบใจ

    “555 ว่าแต่บูมไม่ว่าเราจริง ๆ นะ เรื่องพี่วิทย์น่ะ”ผมถามเพื่อความแน่ใจ

    “ไม่ว่าหรอก แต่ถ้าโยไปคลุกคลี อี๋อ๋อ กับมันละก้อน่าดู”บูมพูดด้วยแววตาดุดัน

    ทันใดนั้นสิ่งที่เราไม่คาดคิดก็เกิดขึ้น จากเสียงที่เราไม่ค่อยจะคุ้นจากทางด้านหลังของเรา

    “โยยยย น้องโยใช่ไหมครับ จำพี่ได้หรือเปล่า พี่จอห์นเพื่อนไอ้วิทย์ไง”เสียงชายหนุ่มตะโกนมาจากทางด้านหลังผม

    “เอ่อออ คือ จำได้ครับพี่ พี่จอห์นสวัสดีครับ มาได้ยังไงครับเนี่ย”ผมเอ่ยทักตามมารยาท แต่ก็แอบดูพฤติกรรมของบูมที่ตอนนี้เริ่มไม่ค่อยปกติละ

    “พี่มีอะไรกับแฟนผมหรือเปล่าครับ”บูมเน้นคำว่าแฟนจนสังเกตได้

    “อ้าว น้องโยมีแฟนแล้วหรอ น่ารักดีนิ แล้วแฟนน้องโยชื่ออะไรครับ”พี่จอห์นไม่สนใจในสิ่งที่บูมพูดแล้วหันมาถามผมเหมือนกับเป็นการยั่วบูม

    “เอ่อ ชื่อบูมครับพี่”ผมรู้สึกอึดอัดมาก อยากให้พี่จอห์นไปพ้น ๆ

    “อ๋อ น้องบูม เอ่อ ว่าแต่ น้องบูมครับจะว่าอะไรไหม ถ้าพี่จะขอจีบน้องโยอีกคน”พี่จอห์นพูดหน้าตาเฉยเลย

    “ผมไม่มีญาติที่เชียงใหม่ครับ เลยไม่ได้เป็นน้องใคร แล้วเรื่องแฟน ถ้าพี่คิดว่าพี่จีบได้ก็เชิญเลยครับ

    แต่คงจะหมดหวังแล้วล่ะ เพราะเราสองคนเป็นมากกว่าแฟนกันแล้ว”บูมพูดโกหกหน้าตาเฉยเลยครับ ผมได้แต่มองตาปริบ ๆ

    “ไม่เป็นไรครับ พี่ไม่ถือ ขอแค่ให้น้องโยยอมรับพี่ก็พอ”พี่จอห์นยังคงยั่วบูมต่อไป

    “เอ่ออ คือ พี่จอห์น คือว่า ผมกับเพื่อนจะกลับแล้วครับ แล้วเจอกันนะครับ”ผมพูดพลางเรียกคนมาเก็บเงิน

    “อ้าวเพิ่งเจอกันเอง ทำไมรีบไปล่ะ พี่ไปส่งไหมครับ”พี่จอห์นพูดยิ้ม ๆ

    “ไม่ต้อง พวกเรากลับเองได้”พอบูมพูดจบก็วางเงินแล้วฉุดผมออกไปพรอ้มกับกระเป๋าจากร้านทันที

    หลังจากที่เราเดินออกจากร้านมาได้สักระยะนึง บูมก็ปล่อยมือผมแล้วหันมาตวาดใส่ผมทันที

    “ทำไมโย บอกไอ้นั่นว่าเราเป็นแค่เพื่อนกัน ทำไม ทำไมเป็นแฟนเรามันน่าอายมากใช่ไหม”บูมเริ่มระเบิดอารมณ์ใส่ผม

    “เปล่าคือเราแค่ไม่อยากเรื่องมันบานปลายมากไปกว่านี้”ผมเริ่มอธิบาย

    “โดยการบอกไอ้หมอนั่นว่า เราเป็นแค่เพื่อนกัน เพื่อที่มันจะได้มีโอกาสใช่ไหม ขนาดเราบอกมันว่าเราเป็นมากกว่าแฟนมันยังหน้าด้านบอกไม่สนเลย”บูมเริ่มพูดเสียงดังขึ้น

    “บูมเลิกโมโหได้ไหม พี่จอห์นเค้าก็เป็นแบบนี้แหละ เค้าแค่อยากยั่วบูมแค่นั้นเอง”ผมรีบอธิบาย

    “ดูโย สนิทสนมกับมันจนรู้ถึงนิสัย สันดานของมันเลยนะ นี่ดีนะที่เราขึ้นมาที่เชียงใหม่ ไม่อย่างงั้น..........”เอาอีกละครับ ผมก็ไม่เข้าใจทำไมบูมถึงขี้หึงแบบนี้

    “บูมอย่าคิดมากสิ เราไม่ได้สนิทกับใครทั้งนั้นแหละ เราอยากสนิทแค่กับบูมคนเดียวเท่านั้น นะ นะ นะ อย่าโมโหนะ นะครับคนดี นะครับ นะ โอ๋ ๆ ๆ แต่ช้าแต่”

     ผมอ้อนพลางทำมือทำไม้คล้าย กับ โอ๋เด็ก ๆ

    “หึ ให้จริงเหอะ”บูมเริ่มหายโมโห

    “จริงสิ เราชอบบูมคนเดียวจริง ๆ ชอบมานานแล้วด้วย แล้วก็จะยังคงชอบแบบนี้ไปเรื่อย ๆ”ผมพูดอย่างจริงจัง

    “จริง ๆ นะ”บูมเริ่มอารมณ์ดีขึ้น

    “จริงสิครับ นะ นะ นะ ไม่โกรธนะ”ผมเริ่มเอาวิธีแบบบูมมาใช้บ้างซึ่งก็ได้ผลเพราะบูมหัวเราะออกมา

    “ไม่โกรธก็ได้ แต่กับพี่วิทย์โยต้องบอกจากปากโยเองนะว่าเป็นแฟนเรา”เอาละสิครับหาเรื่องลำบากใจมาให้ผมอีกแล้ว “ว่าไงได้ไหม”บูมเริ่มคะยั้นคะยอ

    “อืมมม ๆๆ แฟนว่าไงก็ว่าตามนั้นแหละ”ผมตอบอย่างไม่ค่อยสบายใจนะ

    หลังจากนั้นเราก็นั่งรถเพื่อไปยังโรงพยาบาลที่คุณลุงของผมนอนพักรักษาตัวอยู่ ตลอดทางผมเอาแต่คิดว่านี่ขนาดแค่พี่จอห์น ผมยังเอาตัวเกือบไม่รอด แล้วถ้าเป็นพี่วิทย์ล่ะ ผมคงจะแย่กว่านี้มาก
 
     ผมคิดอยู่ในใจอย่างกังวล และแล้วรถก็มาจอดที่หน้าโรงพยาบาลที่คุณลุงผมอยู่ เราสองคนก้าวลงมาจากรถ

    ผมมองไปยังตึกเบื้องหน้าอย่างอึดอัด และกลุ้มใจอย่างมาก

   จนกระทั้งเราสองคนเดินขึ้นไปจนถึงหน้าห้องของคุณลุงผม และเปิดประตูห้องเข้าไป.............

    จบตอนที่ 11 แล้วครับ ขอบคุณที่ติดตามผลงานของผมนะครับ


   *********************************************************************

    ][GobGab][                              ใช่ครับ คนรักกัน มันโกรธกันไม่ลงจริง ถึงแม้ว่าจะทำผิดมากมายแค่ไหน เราก็ให้อภัยคนที่เรารักได้เสมอ


   Pompparazzi                            ว่าแต่น้องถุง คุณป้อมละครับ เชื่อใจได้หรือเปล่าครับ

   
   ๐๐หมาน้อยไม่กลัวฝน๐๐                ขอบคุณสำหรับการติดตามครับ


   pim                                               ต้องดูกันไปเรื่อยๆ ครับ ยังไม่ถึงครึ่งของภาคหนึ่งเลยครับ


   MyLoveMyBabe                     โกรธ แล้วไม่คุย ไม่ได้หมายความว่าไม่รักนะครับ

Tantalum

  • บุคคลทั่วไป
จุดเชื่อมต่อของเรื่องตอนต่อไป อยู่ที่ประตูห้องโรงพยาบาล 555+

หลังจากเปิดประตู จะเกิดไรขึ้นนะ หุหุ

ออฟไลน์ ที่ปรึกษาไอทีขั้นต้น

  • Administrator
  • เป็ดApollo
  • *
  • กระทู้: 6853
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +1320/-22
มีหึง เมื่อไหร่จะมีคนตามหึงแบบนี้บ้างหนอ เอิ้กๆ

meemewkewkaw

  • บุคคลทั่วไป
อ่านทันแล้วววววววววว. . .เย้!!!
ชอบอ่ะ บูมน่าร้ากกกกกกกกกกกกกกกก
ช้อบชอบคนขี้หึง ตั้งกะมีแฟนมาจนอายุป่านนี้
ยังไม่เคยมีใครหึงใส่แบบนี้เลยอ่า อยากได้แบบบูมบ้างจัง
จะเอาๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆ
รีบมาต่อนะครับ
สู้ๆ :yeb:

 

สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด


สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด