ผมเดินออกมาจากห้องน้ำเนื้อตัวเปียกปอนแต่ก็ไม่ได้สนใจจะเช็ดแต่อย่างใด ในใจมันเหม่อซะจนแทบจะเดินขอบประตูไม่ก็ฝาชักโครกเสียหลายครั้ง
เฮียโกรธอะไร…
จนเมื่อโผล่พ้นออกมาจากห้องน้ำ ก็เห็นอีกฝ่ายเดินสวนกันเข้ามาเพื่ออาบน้ำเช่นเดียวกัน
“…เฮีย” ผมกำลังจะทักแต่สายตาก็เหลือบไปเห็นในมืออีกฝ่ายถือโทรศัพท์ของผมไว้ ด้วยความตั้งใจหรือไม่…เค้าวางมันลงบนโต๊ะหน้าห้องน้ำให้ผมได้เห็น ก่อนจะเดินสวนปิดประตูห้องน้ำดังปัง
ด้วยความตะหงิดใจเลยรีบไปหยิบโทรศัพท์มาดู… ไม่มีอะไรผิดแปลกนี่หว่า แล้วทำไมวะ มีอะไรเนี่ยยย คนหล่อปวดกบาลเว้ยยยย T_T เลยกดดูสักหน่อยเผื่อว่าจะมีอะไรแปลก…
แปลกๆ อย่าง…
ผมกดเข้าดูกล่องข้อความในมือถือ…
และพอได้เห็นเบอร์ล่าสุดที่ส่งเมสเสสเข้ามาเท่านั้นแหล่ะ หลังแทบหงาย ทั้งเหงื่อทั้งหยดน้ำพากันหยดติ๋งๆ ออกมาจากตัว มือสั่นๆ กดเพื่อดูว่าข้อความนั้นเป็นยังไงบ้าง….
‘ไม่ตอบข้อความพี่มั่งเลยน้า น้อยใจจังเลย แต่พี่ก็รู้ว่ากี้อ่านอยู่ คิดถึงนะครับ คืนนี้นอนหลับฝันดีฝันถึงพี่ด้วยนะ จุ๊บๆ’เชี้ยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยเอ้ยยยยยยยยยย!!ตายห่าละ แมร่งงงงงงงงงงง เพราะนี่แน่ๆ เลย ฮืออออออออ ตายๆๆ ไอ้เชี้ยพี่ที เอากรูตายแล้วแน่ๆ อ๊ากกกกก มึงจะส่งมาทำหอยไรฟะ!! แล้วเฮียต้องเห็นเข้าเรียบร้อยโลงศพมิกกี้แน่นอน เพราะดูจากเวลาที่ส่งมา เมื่อไม่กี่นาทีที่ผ่านมานี้เอง แล้วมันไม่ได้ขึ้นว่าเป็นข้อความใหม่ แสดงว่ามีคนเปิดดูไปแล้ว… ถ้าไม่ใช่เฮียจะเป็นผีที่ไหน
ฮือออออออ ศพไม่สวยแน่กรู T________T
ผมนั่งตัวซีด อ้าปากค้างอย่างคนเหม่อลอย ดวงตานิ่งเหม่อซะจนมันแทบจะเทรวมเข้าหากันเป็นดวงเดียวแล้ว… ทำไงดีวะ ทำไงดีวะ ทำไงดีวะ เครียดจนรู้สึกปวดหัวตุ๊บๆ เฮียจะเข้าใจผิดก็ไม่แปลก ไม่น่าเลยกรู ไม่น่าเล้ยยย
เมื่อไหร่เฮียจะอาบน้ำเสร็จเนี่ย ทนไม่ไหวแล้วนะ…
…แกร๊ก…
“ฮ…เฮีย คือว่า ผม…” อีกฝ่ายเดินผ่านไปเฉย เสียงเปิดปิดตู้เสื้อผ้าแรงดังปังทำเอาผมสะดุ้งตาม กลัว…กลัวชะมัด
“เฮีย… คือเรื่องเมสเสสอ่ะ”
อยู่ๆ คนตัวโตข้างหน้าก็หันมาควับทำเอาผงะซะตัวโยน สายตาเย็นชามองลงมาทำเอาผมขนลุกตั้งชัน แล้วอยู่ๆ ไม่รู้ทำไมหน้าก็ร้อนฉ่าขึ้นเสียดื้อๆ กระบอกตาเองก็ร้อนไปหมด…เสียงที่จะพูดก็หายไปซะทำเอาต้องสูดหายใจเข้าลึกๆ เพื่อเปล่งเสียงออกมา
“ผ…ผมไม่ได้ตั้งใจจะปิดบังนะ คือมันไม่มีอะไรจริงๆ แล้วนี่พี่เค้าก็เป็นรุ่นพี่ใหม่ที่บริษัท เพิ่งย้ายมาไม่กี่สัปดาห์ ผะ…ผมไม่ได้มีอะไรกะเค้าเลยจริงๆ กะ…ก็แค่คุยบ้าง แต่ผมไม่รู้เค้าไปเอาเบอร์ผมมาจากไหน แล้วผมก็ไม่เคยตอบข้อความกลับไปด้วย ผม…”
“แล้วเมื่อไหร่ถึงคิดจะบอก” เฮียไม่ปล่อยให้ผมที่พูดรัวแบบติดๆ ขัดๆ ได้จบประโยค น้ำเสียงนิ่งนั่นตัดกลับมาทำซะผมสะอึกไม่รู้ตัว
“….ก็ ก็เดี๋ยวจะบอกอยู่แล้วแหล่ะ”
“เดี๋ยวจะบอกน่ะเมื่อไหร่ จนให้ชั้นคนนี้โดนสวมเขารึไง!”
“เฮีย! ผมไม่เคยคิดจะทำอะไรแบบนั้นเลยนะ! ต…ตั้งแต่ตอนนั้นผมก็ไม่เคย… ฮึก ไม่เคยคิดจะชอบคนอื่นเลยนะ” ผมเริ่มสะอื้น ไม่ได้ตั้งใจจะขี้แยหรอกนะ แต่เพราะเป็นเรื่องที่เกี่ยวกับคนนี้ทีไร ต่อมแต๋วก็ชอบแตกทุกที น้ำตานี่ไหลยังกับสั่งได้
“แล้วชั้นจะเชื่อได้ยังไง…. หืม มิกกี้ ชั้นจะเชื่อได้ยังไงในเมื่อมันยังเป็นแบบนี้” อีกฝ่ายกระชากต้นแขนผมอย่างแรงแล้วบีบแน่นจนเจ็บไปหมด
“แล้วเฮียจะให้ผมทำยังไง! ให้บอกเค้าไปงั้นเหรอว่าผมมีแฟนแล้ว แฟนเป็นผู้ชายด้วย อย่ามายุ่ง! ผมก็…ก็แค่คิดว่าเดี๋ยวเค้าก็เลิกสนใจไปเอง มันก็แค่…แค่หมาหยอกไก่”
ผมอธิบายสิ่งที่ตัวเองรู้สึก ถึงแม้ที่แผนกส่วนใหญ่จะสงสัยเรื่องผมและเฮียมานาน แต่ก็ไม่มีใครเปิดปากถามเพราะไม่กล้า ผมเองก็รู้อยู่แก่ใจว่าทุกคนรู้สึกได้ว่าผมและเฮียไม่ใช่แค่พี่น้อง พี่น้องที่ไหนมีมารับมาส่ง บางทีก็มารับไปทานข้าวกลางวันด้วยกัน
แต่เพราะเราอยู่กันแบบพี่น้อง… เลยไม่มีใครสนใจที่จะอยากรู้มากนัก ที่สำคัญ ทุกคนต่างให้ความเคารพเฮียที่เป็นลูกค้าใหญ่ของบริษัท ยอมรับว่ามีคนมาชอบบ้าง มาจีบบ้างทั้งหญิงและชาย แต่ก็ไม่มีใครคิดตะลามปามมากเพราะรู้ว่าเฮียคอยตามเฝ้า
ผิดที่ไหน…. ก็ผิดที่ไอ้พี่ทีนั่นแหล่ะ โผล่มาจากไหนก็ไม่รู้แมร่งงง ไม่ดูตาม้าตาเรือ อาจจะเพราะมันยังไม่เคยเจอเฮียก็ได้ เลยยังเล่นไม่เลิก ให้ตายเถอะวะ
“หมามันหยอกไก่ ไก่ก็ยอมให้หมามันหยอกอยู่นั่นแหล่ะ…รู้มั้ยเพราะอะไร เพราะเผื่อหมามันฟลุ๊คได้ฟันไก่ยังไงล่ะ!”
“เฮีย!!” ผมตะโกนเสียงดัง ยกมือขึ้นผลักหน้าอกอีกฝ่ายอย่างแรงด้วยความโมโห เจ้าตัวเองก็คงจะรู้สึกได้ว่าพูดไม่ดีเกินไปเพราะหน้าเสียไปเล็กน้อย แต่ผมนี่สิ…เสียไปเยอะแล้ว
“….”
“เฮียคิดว่าผมเป็นคนยังไง! ผมจะยอมอ้าขาให้ใครเค้ามาเสียบง่ายๆ งั้นเหรอ ผมไม่ใช่เกย์นะเฮีย!! ผมไม่เคยคิดชอบผู้ชายคนไหน เกิดมาก็ไม่คิดว่าจะมีแฟนเป็นผู้ชาย! ทำไมเฮียต้องพูดอย่างนี้ด้วย!! ทุกวันนี้มันยังพิสูจน์ไม่พออีกเหรอ! ต้องให้ทำยังไง! ต่อไปนี้ก็ไม่ต้องออกไปไหน ไม่ต้องทำอะไร นอนรออยู่บ้านให้แฟนตัวเองกลับมาเสียบเอาเสียบเอางั้นสิ!”
ผมตะโกนออกไปสุดเสียง ตัวก็เริ่มยื้อยุดสะบัดเพื่อให้แขนตัวเองหลุดจากการจับกุม เสียงสั่นเพราะน้ำตาเริ่มไหลไม่หยุด ผมสูดน้ำมูกแรงๆ ก่อนจะไอออกมาตัวโยนเพราะสำลัก
“ไม่…ไม่ใช่ มิกกี้ ชั้นขอโทษ ชั้นไม่ได้หมายความว่าอย่างนั้น” สองมือหนาอุ่นนั่นบรรจงจับเข้าที่ต้นแขนผมทั้งสองข้าง ก่อนจะยื่นหน้าเข้ามาใกล้ๆ แต่ด้วยความที่ยังโมโหอยู่เลยเบนหน้าหนี
“ฮึก…เฮีย… ฮึก รักผมบ้างรึเปล่า” ผมเม้มปากแน่น น้ำตายังคงไหลไม่หยุดจนกระทั่งอีกฝ่ายเอื้อมมือมาปาดออกเบาๆ จนต้องย่นหน้าหนี
“ไม่รักแล้วจะโมโหแบบนี้เหรอ หืม? ไม่รักแล้วจะคลั่งแทบตายแบบนี้รึไงมิกกี้” ใจผมค่อยชื้นขึ้นมาเล็กน้อย หลังจากที่ตุ้มๆ ต่อมๆ อยู่นานแสนนาน
“แล้วทำไมไม่เข้าใจผม…”
“เฮ้อออ ไม่ใช่ไม่เข้าใจ แต่ชั้นหงุดหงิด เข้าใจมั้ย… ทำไมเรื่องแบบนี้ถึงไม่ยอมบอกกันบ้าง ถ้าเราบอกตั้งแต่แรกก็อาจไม่โมโหถึงขนาดนี้ก็ได้” เฮียน้ำเสียงอ่อนลงอย่างเห็นได้ชัด พร้อมกับดึงผมเข้าไปกอดใกล้ๆ แบบเนียนๆ
“ก็เพราะผมไม่อยากให้เฮียคิดมากอ่ะ แล้วที่สำคัญ… ผมไม่ได้ชอบเค้าด้วย ต่อให้เค้ามาจีบอะไรยังไงตบมือข้างเดียวมันก็ไม่ดังหรอก เฮียเคยพูดไม่ใช่เหรอ?”
“….ก็ใช่ แต่….เฮ้ออออ”
เราสองคนยืนกอดกันแบบนั้นอยู่สักพัก จนกระทั่งผมหายใจเป็นปกติและน้ำตาแห้งไปหมดแล้วนั่นแหล่ะ เฮียเองก็เหมือนจะอารมณ์เย็นลงแล้วเพราะเริ่มกอดผมและโยกตัวไปมาเหมือนปลอบเด็ก
“…ขอโทษนะ” เสียงกระซิบเบาๆ ที่ข้างหูทำเอาผมเผลอกอดรัดเข้าที่ลำตัวอีกฝ่ายแน่นเสียจนหน้าซุกลงอกหนานั่นจนไร้ที่ว่าง
น้ำตาเริ่มจะรื้นขึ้นมาอีกหน่อยแล้วเลยไม่สามารถที่จะพูดตอบออกไปได้ ทำเพียงส่ายหัวขึ้นลงเป็นการรับรู้ ก่อนจะซู๊ดดดดน้ำมูกอีกรอบแก้เขิน
“รักนะ…” โอ๊ย ตายๆๆ แค่คำขอโทษก็เล่นเอาลอยแล้ว ไอ้คำนี้อีกทำเอาผมขาไม่ติดพื้น ไม่ใช่อะไร… อยากจะกระโดดกอดไอ้คนตรงหน้านี้แล้วเกาะอยู่แบบนั้นไม่ปล่อยไปไหน
มือใหญ่เลื่อนใบหน้าผมให้ออกห่างจากซอกอก แล้วก้มลงมาประกบปากเบาๆ ผมเองก็เผยอปากเพื่อรับเอาไออุ่นนั่นเข้ามาด้วยเช่นกัน เราสองคนผลัดกันบดเบียดริมฝีปากกันเพียงเล็กน้อยอย่างอ่อนโยนก่อนที่เฮียจะค่อยๆ ผละออกไป…
“ห้ามดื้อ… ห้ามซน… ห้ามออกนอกลู่นอกทาง เข้าใจมั้ย?” ผมพยักหน้าหงึกๆ พร้อมกับสูดน้ำมูกที่ค้างอยู่ในรูจมูกทีนึง
“…ไม่เคยซักหน่อย” เถียงๆ ขอให้ได้เถียงหน่อยเถอะ เอิ้ก
“หึ กล้าพูดนะเรา”
“แหง่ะ” ผมปากเบ้เมื่อโดนมือหนานั่นดึงเพราะเผลอทำปากแบะเป็นเป็ด
“อ…อ่ะ เฮีย ขอไปใส่เสื้อก่อน หนาว” ก็อยู่ๆ กำลังง้องอนกันดีๆ แท้ๆ ไหงรู้สึกเหมือนชุดคลุมอาบน้ำโดนแหวกยังไงก็ไม่รู้แหะ
“อืมมม ไม่ต้องใส่หรอก เดี๋ยวก็ถอด” ซอกคอผมโดนจมูกโด่งนั่นฝังลงไป สูดดมแล้วดมเล่าจนนึกว่าเนื้อจะติดจมูกเฮียแกออกมาด้วยซะแล้ว -*-
“ไม่เอาแล้วอ่ะ เฮียใจร้าย ไม่ทำแล้ว” ผมงอแงพอเป็นพิธี (วุ้ย รู้สึกตัวเองตอแหลขึ้นทุกวัน วะฮ่าๆ)
“ไม่ได้หรอก เด็กดื้อต้องลงโทษให้เข็ด จะได้หลาบจำ”
ผมสะดุ้งเมื่อแก้มก้นโดนบีบอย่างแรง ไอ้เฮียเวอร์ชั่นหื่นมหากาฬมาแล้ววว T__T คืนนี้ท่าจะอีกยาวไกล สู้แค่ตายไอ้มิกกี้เอ้ยยยย
++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++
กี๊ดดดด โดนตัด

ยังไม่จบนะคะ ตอนหน้าสุดท้ายเพราะยังไม่มีการลงทัณท์
