Complete End 1
ผมนั่งหมุนปากกาในมือตัวเล่น ตาก็มองงานร่างตรงหน้า เหมือนหัวจะไม่ค่อยแล่นเท่าไหร่เลยแหะ… เอาเหอะ เดดไลน์ตั้งปลายอาทิตย์หน้า ตอนนี้ขอเอื่อยก่อนละกันวะ
ว่าแล้วก็เอนตัวลงกับเบาะพิงหลัง จากที่หมุนปากกาก็เปลี่ยนมาหมุนเก้าอี้เล่นแทน ตาแอบเหลือบไปมองห้องกระจกด้านขวามือ โอเค…ปลอดภัยโว้ย อาเจ๊มหาโหดไม่อยู่ สงกะสัยไปแอบอู้ที่ไหนแน่ๆ มีหน้ามาว่าตรูไม่ทำงานอีก ดูดู๊ดู
“ว่างนักรึไง?” มืออุ่นวางแปะลงบนที่ไหล่ เล่นเอาสะดุ้งเฮือก
“..สาดดดด ไอ้ต้าร์ เล่นเอากรูใจหายเลย นึกว่าแม่มา” ผมถอนหายใจด้วยความโล่งอก ไอ้ก้อนเนื้อสีแดงกลมๆ แทบจะกระเด้งออกมาดิ้นแด่วๆ บนโต๊ะ
“ขวัญเอ้ยยยขวัญมา มาให้ปลอบมามะ จุ๊บๆ” ไอ้ต้าร์เพื่อนร่วมงานยียวนกวนประสาททำท่าจะเข้ามากอดผมทั้งๆ ที่นั่งอยู่ แต่ก็โดนยันไว้ก่อน
“จุ๊บตรีนกรูก่อนละกัน”
“โห คนเรา…เสื่อมได้อีก” อีกฝ่ายหน้าง้ำ
“กรูเสื่อม มรึงก็ทรามแหล่ะวะ”
ไอ้ต้าร์ทำหน้าไม่ประสีประสากับคำด่า เหมือนจะภูมิใจลึกๆ ด้วยซะงั้น ผมเลยได้แต่ไล่มันไปทำธุระของมันไป ไม่เห็นรึไงว่ากรูกำลังอู้อยู่ แมร่ง กวนอยู่ได้ อยากพักใช้ความคิดอยู่กับตัวเองซักนาทีสองนาทีนี่ไม่ได้เลยรึไงว้า

ว่าไปนั่น นาทีสองนาทีไหงถึงเวลาเลิกงานซะงั้น สบายเลยตรู ขนของกลับบ้านดีกว่า ผมเก็บกระเป๋าแล้วลุกขึ้น ไอ้นัทมายืนรออยู่ที่หน้าห้องแล้ว มันมาจีบสาวสวยในแผนกผมครับ เลยทำเป็นมาขอติดรถผมกลับบ้านทุกวัน แผนสูงนะเมิงงง แต่ก็ว่าไปนั่น…ผมก็ทำแซวเนียนๆ ไปด้วยให้ชีวิตมีรสชาติ หุหุ
ขากลับผมวนรถขับไปส่งไอ้นัทที่บ้านมัน แล้วก็วนกลับมาบ้านตัวเอง มากินข้าวครับ… ผมทำกิจวัตรอย่างนี้ประจำแทบทุกวันตั้งแต่คนๆ นั้นจากไป เพราะอะไรน่ะเหรอ… เพราะไม่อยากกินข้าวคนเดียวไงล่ะ เวลาเผลอทำอาหารทีไร ก็ต้องทำเผื่อสองคนทุกที เวลากินก็ต้องจัดสำหรับสองที่ ตอนหลังมาสำเหนียกได้ว่าเปลืองเปล่าๆ เว้ยเฮ้ย กลับไปแดรกที่บ้านก็ได้วะ ทนฟังป๊ากับม๊าบ่นยังดีกว่ามานั่งหง่าวคนเดียวที่คอนโด
แต่ไม่รู้ทำไม ทุกวันผมก็ต้องกลับมานอนที่นี่…ที่เดิมทุกครั้ง
วันไหนที่เป็นวันธรรมดาก็จะนอนห้องตัวเองเพราะของต่างๆ เสื้อผ้าก็อยู่ที่นั่นส่วนใหญ่ มันสะดวกดีเวลาตื่นสายแล้วรีบใส่เสื้อผ้า ขับรถไปที่ทำงาน แต่ถ้าเป็นวันหยุดหรือช่วงที่ได้พักลองฮอลิเดย์หลังโปรเจ็คก็จะมานอนแผ่อยู่ห้องข้างๆ ถึงเจ้าของห้องไม่อยู่แล้ว แต่การได้เห็นข้าวของเครื่องใช้ที่คุ้นเคย… โต๊ะ เก้าอี้ โซฟา หรือแม้แต่เตียงที่กว้างชนิดกลิ้ง 4 ตลบยังไม่สุดขอบก็ทำให้อุ่นใจขึ้นอย่างบอกไม่ถูก
วันนี้ก็เหมือนกัน…ผมล้มตัวลงนอนบนเตียงกว้างหลังจากอาบน้ำสระผมเสร็จเรียบร้อย ปกติถ้าคนนั้นเค้าอยู่ด้วยคงไล่ไปเป่าผมให้เรียบร้อยก่อนขึ้นมานอน ช่างเถอะ อยากไม่อยู่เองนี่หว่า จะสนไปทำไมฟะ
ผ่านมา 3 ปีครึ่งแล้ว ทำยังไงก็ไม่ชิน… ถึงช่วงแรกๆ จะเหงาทรมานกว่านี้มากมายก็เถอะ ตอนนี้เริ่มที่จะทำความคุ้นเคยกับการอยู่ “คนเดียว” ได้แล้ว แต่พอได้ยินเสียง พอเค้าโทรมา… ไอ้ช่วงเวลาที่ใช้ความพยายามทั้งหมดก็พังทลายลงราวกับย้อนไปวันแรกที่เค้าจากไป
ผมกลายมาเป็น “เด็กน้อย” ทั้งๆ ที่อายุอานามตอนนี้ก็ไม่ได้เด็กสักเท่าไร เวลาอยู่ต่อหน้าคนอื่นก็ทำตัวปกติ บ้าๆ บอๆ ห่ามๆ ไปวันๆ แต่ไม่รู้ทำไม… กับเค้าเท่านั้นแหล่ะ ที่ผมอยากอ้อน อยากทำตัวงี่เง่า อยากเอาแต่ใจ อยากโดนดุ อยาก…อะไรดีล่ะ บอกไม่ถูกเหมือนกัน แต่แค่รู้สึกดีทุกครั้งที่เค้าคอยดูแลเอาใจใส่เท่านั้นเอง
รู้มั้ยทำไมผมถึงยอมให้เค้าไป ก็เพราะรู้ตัวว่าเรามันเด็กลงทุกวัน ไม่ได้อยากโตเป็นผู้ใหญ่อะไรมากมายหรอกนะ แต่แค่คิดว่าจะทำตัวแบบนี้ไปตลอดไม่ได้ก็เท่านั้น และถ้าเค้าอยู่ข้างๆ ผมไปตลอดก็คงจะไม่มีวันโตได้หรอก อยากที่จะตั้งใจเรียน มีจุดมุ่งหมาย และมีแรงผลักดันไปให้ถึงตรงจุดนั้น
เพราะฉะนั้น…ถ้าเค้าไม่อยู่ ผมคิดว่าคงเป็นกำลังให้ผมตั้งใจเรียนมากขึ้น เพื่อที่จะให้อีกฝ่ายภูมิใจ
แต่มันไม่ใช่แบบนี้โว้ยยยยยยยยยยยยยยยยยย!!
ให้ไกลกัน แต่ไม่ได้หมายถึงให้หายไปแบบนี้ด้วย!! แมร่งเอ้ยยยย ไอ้เฮียแมร่งหายไปไหนฟะ!! ไม่โทรมาหา 3 วันแล้วนะเว้ยยยย มันเกินไปแล้วนะ ฮึ่มมมมม
ผมนอนกลิ้งไปกลิ้งมามองโทรศัพท์ในมือ หาย…หายได้อีก
ที่จริงจะโทรไปก็ได้ เวลาตอนนี้ที่นู่นคงสายๆ แต่ไม่อยากจะโทรไปกวนเพราะไม่รู้ว่าอีกฝ่ายทำอะไรอยู่ เค้าต่างหากล่ะที่ต้องโทรมาหาผมเพราะรู้ว่าตารางทำงานของผมเป็นยังไง ตรงกันข้าม…งานของเค้าไม่แน่นอน บางทีก็ทำจนถึงเช้า บางทีแค่ครึ่งวันก็หมด จะไปตรัสรู้ได้ไงฟะว่าต้องโทรตอนไหนไม่โทรตอนไหน
โทรมาเด่ะ โทรมาเด่ะ โทรมาเด่ะ
ผมนอนจ้องมือถืออยู่อย่างงั้นราวกับกำลังส่งโทรจิตไปยังอีกซีกนึงของโลก ท่าจะบ้าไปแล้วกรู -*- ไม่ได้ผลด้วยว่ะ เออ ได้ผลก็บ้าแล้วไอ้มิกกี้ เมิงนี่เพี้ยนขึ้นทุกวัน
เฮ้อออออออออออ
ไหนวะ ไอ้คนที่ย้ำนักย้ำหนาว่าจะโทรหาบ่อยๆ ที่จริงก็บ่อยแหล่ะครับ โทรมาหาแทบจะทุกเช้าเย็น ตอนหลังๆ ผมเลยบอกว่าโทรมาแค่ตอนเย็นก็พอ ผมไม่เป็นไรหรอก ไม่ต้องเป็นห่วง ที่จริงเป็นห่วงเพราะกลัวทางนั้นเสียค่าโทรศัพท์เยอะมากกว่า คุยกันทีนึงก็เป็นชั่วโมง บทสนทนาก็ไม่มีอะไร เหมือนๆ เดิมคือผมเล่าชีวิตประจำวันให้ฟัง และตบท้ายด้วยคำด่าเหมือนเดิ้มมมม ทำไมไม่ทำอย่างงู้นบ้างล่ะ ทำไมกินเหล้าเยอะบ้างล่ะ ทำไมบลาๆ แบลๆ บลูๆ บ่นเป็นตาแก่ไปได้
ว่าไปนั่น….ผมก็ชอบฟังน่ะแหล่ะ ดีกว่าไม่มีคนมาบ่นให้เมื่อยหูละกัน
แล้วนี่หายไปไหนแล้วล่ะ ไอ้คนขี้บ่น…
โทรมาหาซักทีสิ…
คิดถึงแล้วนะ…
สุดท้ายผมก็ได้แต่ส่งเมสเสสไปว่ากูดไนท์และอรุณสวัสดิ์ เพราะมองดูน่าฬิกา ตี 1 กว่าแล้ว…พรุ่งนี้ต้องถ่อสังขารไปทำงานอีก ผมรักงานออกแบบนี่ก็จริง แต่กำลังใจหดหายแบบนี้ก็ทำเอาอยากเบี้ยวซะดื้อๆ เหมือนกัน
และแล้วก็เป็นอีกวันที่ได้แค่นอนกอดหมอนใบโตคนเดียว
ตอนเช้าผมตื่นขึ้นมาด้วยความงัวเงีย ปฏิกิริยาแรกคือควานหาโทรศัพท์ใต้หมอน กดปลดล็อก….แต่ก็ไร้วี่แวว ไม่มีมิสคอล ไม่มีแม้แต่เมสเสจ ทำไมวะ… ทำไมเนี่ยยยยยยยย
ปกติถ้าหายไปวันสองวันผมก็พอจะเข้าใจ อีกฝ่ายก็มักจะเมสเสจมาบอกว่ายุ่งนะช่วงนี้ วันนี้ไม่โทรหานะ ผมไม่ได้ต้องการอะไรมาก ไม่ได้อยากให้โทรหาตลอด ไม่ได้อยากให้รายงานว่าทำอะไรอยู่ ก็แค่เป็นห่วงว่ายังกินดีอยู่ดีรึเปล่าก็เท่านั้น เป็นไปได้ผมอยากแพ็คส่งของกินจากที่นี่ไปให้ทุกเดือนเลยด้วยซ้ำ แต่เค้าบอกว่าไม่ต้อง เปลืองเปล่าๆ เพราะที่นู่นก็มีครบเกือบหมดทุกอย่างแล้วล่ะ ที่สำคัญเค้าเป็นคนกินง่ายครับ มีอะไรก็กินเท่านั้น ก็นั่นแหล่ะที่ผมเป็นห่วง เพราะถ้าไม่มีก็ไม่กินไง
ผมนอนกลิ้งไปมาบนเตียงอยู่แบบนั้น มองดูนาฬิกา 7 โมงเช้าแล้ว อาบน้ำแต่งหล่ออีกนิดหน่อยก็ค่อยเข้าไปทำงาน จัดการโปรฯ ตัวเองให้เสร็จๆ ไปซะ เฮ้อออ ไม่มีอารมณ์เลยว่ะ
ระหว่างที่กำลังอาบน้ำอยู่นั้นใจก็คิดลอยไปไกล… รวมวันนี้ก็วันที่ 4 ที่ไม่ได้ยินเสียงไอ้เฮียบ้า เฮ้อออ ในหัวอยู่ๆ ก็แว่บขึ้นมา รึว่ามันนานเกินไปนะ… ต่อให้เรารักกันขนาดไหนแต่กับเรื่องระยะทางแล้วมันไม่ใช่ปัญหาเล็กๆ เลย
บางครั้งที่ผมเห็นคนเค้ารักกัน เดินด้วยกัน จับมือกัน คุยกันหนงหนิงแล้วก็อดน้อยใจไม่ได้
ทำไมจะไม่อยากล่ะ… เดินเที่ยวด้วยกัน กินข้าวด้วยกัน ดูหนังด้วยกัน นอนกอดกัน… พูดแล้วก็อดคิดถึงวันเก่าๆ ไม่ได้
ไม่รู้ว่าคิดถูกรึเปล่าที่ผมยอมปล่อยให้อีกฝ่ายไป
สำหรับผมแล้วเรื่องให้ไปมีคนอื่นคงเข็ดแล้วล่ะ เพราะรู้ว่าขาดเค้าไม่ได้จริงๆ แต่ไม่รู้ว่าเค้าน่ะสิ… ไปอยู่ที่นู่น บรรยากาศเดิมๆ ที่คุ้นเคย เจอคนมากมาย อาจจะไปเตะตาคนที่ดีกว่าผมก็ได้… คนที่น่ารัก ไม่เอาแต่ใจ ไม่งอแง ไม่วุ่นวาย
ก็เล่นหายไปแบบนี้จะไม่ให้คิดได้ไงล่ะ
ผู้หญิง…หรือผู้ชายคนนั้นตอนนี้อาจจะนอนกกกอดกับเฮียอยู่ก็ได้ เค้าออดอ้อนกัน เค้าจูบกัน เค้า….
โอ้ยยย เลิกคิดได้แล้วเว้ยไอ้มิกกี้!! นี่เพ้อขั้นหนักเลยนะเนี่ยกรู เป็นเอามากได้อีก -*- เมิงต้องเชื่อใจเฮียดิวะ ปกติถ้ามีอะไรเค้าก็ชอบพูดตรงๆ คงไม่มาทำเหมือนเราเป็นเมียเก็บหรอกวะ
เฮ้อออออออออออ
แล้วกรูจะถอนหายใจทำไมเนี่ย