เมา(รัก)
เสียงน้ำดังอยู่นอกระเบียงบวกกับเสียงฮัมเพลงทำให้ผมอดที่จะเงยหน้าไปมองไอ้ตัวแสบไม่ได้ ตาก็มองแผ่นกระดาษสีครีมในมือพร้อมกับคิด… บอกตอนนี้ดีมั้ยนะ
ไม่ทันได้ตัดสินใจ เจ้าตัวก็เปิดประตูกระจกแล้วเดินเหยงเข้ามาในห้องเพราะไม่รู้ทำอีท่าไหนน้ำมันถึงเลอะขาไปหมดแบบนั้น มันเดินไปหยิบผ้าขนหนูมาเช็ดลวกๆ ตาก็มองผมไปด้วยแบบหวาดๆ คงประมาณกลัวโดนดุที่ทำพื้นเลอะ แต่ก็ทำหน้าแปลกใจแทนที่ผมไม่ได้ว่าอะไร แถมยังกวักมือเรียกหยอยๆ อีกต่างหาก
“ไรเฮีย…” ผมไม่ตอบ ได้แต่จับต้นแขนมันที่กำลังหย่อนตูดลงนั่นข้างๆ ให้เปลี่ยนมานั่งตรงกลางระหว่างขาแทน
ไอ้หนูมองตามแบบงงๆ แต่ก็ไม่ได้ทัดทาน มันยุกยิกนิดหน่อยก่อนจะนั่งลงตามสบายและเอนหลังพิงมากับแผงอกผม…
“มีไรอ่ะ?” อีกฝ่ายพูดขึ้น แล้วยกขาขั้นมาชันกับโซฟา แต่ก็ต้องรีบเอาลงเพราะโดนผมฟาดดังเพี๊ยะ
“สวยมั้ย?” ผมพูดพร้อมกับยื่นกระดาษแข็งรูปร่างเหมือนโบรชัวร์ที่จ้องมาตั้งนานขึ้นมาตรงหน้ามิกกี้ มันขมวดคิ้ว มองดูอยู่สักพัก
“ก็…สวยอ่ะ ทำไมเหรอ?”
“อืม…แต่ตรงหน้าบ้านว่าจะรื้อระเบียงออกแล้วทำสวนหินต่อน่าจะดีกว่า วันก่อนไปจตุจักรเห็นเรือนไม้สักเล็กๆ สวยดี ราคาแค่หมื่นห้า เอามาตั้งไว้นั่งตอนเย็นๆ ลมโกรกดีกว่ามั้ย? คิดว่าไง?” ผมพูดพลางชี้นิ้วลงประกอบด้วย ไม่ได้สนใจหน้าตางงงวยของไอ้มิกกี้แม้แต่น้อย
“…ก็ดี แล้วใครจะซื้ออ่ะ เฮียจะซื้อเหรอ?”
“อืม แล้วดูนี่… ที่จอดรถคงต้องทำใหม่ด้วย ต้องกว้างกว่านี้หน่อย ไม่งั้นเดี๋ยวมีคนถอยมาชน วุ่นวายทำสีใหม่อีก” ผมอธิบายไปเรื่อย อมยิ้มเล็กๆ เมื่อคิดถึงเหตุการณ์ที่เจ้าหนูมันถอยรถครูดกับเสาปูนในที่ลานจอด จนตอนนี้ผมแนะนำให้มันไปซื้อรถราคาถูกๆ มาขับดีกว่า… เห็นมินิแล้วเสียของชะมัด
“ดะ..เดี๋ยว เฮีย”
“ส่วนในบ้าน มีสามห้องนอน ไม่รู้เหมือนกันจะเอาไว้ทำอะไร ก็กะเป็นห้องนอนแขกกับห้องสำรองแยกกัน เผื่อว่าวันไหนป๊ากับม๊าจะมานอนด้วย”
“อะ…อือ เฮีย เดี๋ยวก่อน”
“ก่อนไปห้องครัว กับห้องนั่งเล่น ช่วยมาดูห้องนอนหน่อย ที่คิดไว้ก็จะเอาโทนสีขาวกับครีมเป็นหลัก เตียงคงเตียงเดิม เอ…หรือจะซื้อใหม่ดี เตียงนี่ก็เก่าแล้วด้วย ว่าไงดีล่ะ?”
“เฮียยยยยยยยยยยยย!!”
ผมหน้ายุ่งเพราะเสียงตะโกนของอีกฝ่ายมันเสียดเข้ามาในหู ก่อนจะหันไปมองเจ้าหนูแบบเคืองๆ แต่ไม่ทันได้ว่าอะไรมันก็รีบพูดสวนมาจนลิ้นแทบจะพันกันไปหมด
“เฮียพูดเรื่องไรเนี่ย??” มันถามหน้าตาตื่น
“อ้าว ก็บ้านไง”
“เฮียซื้อบ้านเหรอ!?” นี่มันถามกี่รอบแล้ววะเนี่ย
“อืม จ่ายเรียบร้อยแล้ว เหลือแค่ปรับแต่งตามใจเล็กน้อย ทำไม?”
ผมทำเป็นยักคิ้วข้างนึง แกล้งเย้าอีกฝ่ายไปงั้น ที่จริงเรื่องนี้ไม่ได้คิดแบบปัจจุบันทันด่วนหรอกนะครับ คิดมานานหลายเดือนแล้ว เพราะคอนโดนี้ผมซื้อเนื่องจากไม่คิดว่าจะให้ใครมาอยู่ด้วย ก็ทำงานและอยู่ใจกลางเมืองมันสะดวกดี …อะไรๆ มันเปลี่ยนไปก็ตั้งแต่มีใครบางคนก้าวเข้ามาวุ่นวายก่อกวนหัวใจและชีวิต ทำให้ไอ้ห้องที่เคยใหญ่ห้องนี้เล็กลงไปถนัดตา
ที่สำคัญ… ผมอยากให้เค้าอยู่สบายๆ และให้เรารู้สึกว่าเป็นเหมือน ‘ครอบครัว’ มากกว่าอยู่ในห้องสี่เหลี่ยมเล็กๆ แคบๆ แบบนี้
“งั้น…เฮียก็จะย้ายไปอยู่บ้าน?” ไอ้ตัวยุ่งถามเสียงค่อย
“ก็ใช่น่ะสิ”
“…แล้วผมล่ะ”
ไอ้หนูเม้มปาก คราวนี้ผมไม่ได้ตอบอะไรไปทั้งนั้น… ได้แต่นั่งนิ่ง อมยิ้มด้วยความเอ็นดู สองมือกอดกระชับร่างตรงหน้าให้แนบสนิทยิ่งขึ้น กลิ่นตัวอ่อนๆ ลอยมากระทบจมูกจนอดไม่ได้ที่จะกดลงกับแก้มเนียนนุ่มและสูดหายใจเข้าซะเต็มปอดให้ชื่นใจ
“ไม่ให้อยู่กับไอ้คนนี้แล้วจะให้ไปอยู่กับใคร หืม?” นั่นไงละ สงสัยอยากยิ้มแก้มแทบแตกเลยมั้ง แต่ท่าทางกำลังพยายามไม่แสดงออกว่าดีใจมาก หน้ามันเลยออกแนวจะยิ้มก็ไม่ใช่ จะขรึมก็ไม่เชิง พิลึกชอบกล

“แต่เดี๋ยวก่อน…” ผมรีบขัดเมื่ออีกฝ่ายอ้าปากจะพูดอะไรออกมา “ไม่ให้อยู่ฟรีหรอกนะ”
“ให้ผมช่วยผ่อนเหรอ เท่าไหร่อ่ะ?”
“เปล่า ชั้นจ่ายไปหมดแล้ว จะมาผงมาผ่อนอะไรล่ะ” ผมยิ้มให้กับท่าทาง งงๆ ของไอ้หนู
“งั้นต้องทำไรอ่ะ ตังค์ไม่มีนะ มีแต่ตัวกะหัวใจให้เธอ อะฮิ้ววว” ดูมันครับ เล่นเองตบเอง หน้าบางคงทำไม่ได้ แต่ก็รู้ว่ามันพูดไปงั้นแหล่ะเรื่องเงิน บัญชีผมกับมันถ้าเอามารวมกันก็อยู่สบายไปได้ถึงลูกถึงหลาน ปัญหามันแค่มีลูกมีหลานไม่ได้เท่านั้นแหล่ะ…
“ก็ไม่มีอะไรมาก ตอนนี้เหลือแค่ตกแต่งภายในบ้าน… ที่อยากให้แต่งใหม่ก็อย่างที่บอก สวนหน้าบ้าน ห้องครัว และห้องนอน ว่าจะจ้างมาออกแบบให้ซะหน่อย ว่าไง?” ผมยักคิ้วถาม พลางก้มลงสูดเอาความหอมจากไหล่น้อยๆ นั่นอีกรอบ
“โอ้ยยย ออกให้ใหม่ทั้งหลังเลยยังทำได้ มามะ น้องไม่ต้องพี่ลงมือเองงง” ว่าแล้วมันก็ดึงโบรชวร์จากในมือผมไป แล้วรบเร้าอยากไปดูสถานที่จริงซะวันนี้ให้ได้ จะทำไงล่ะครับ ก็ต้องทำตามน่ะสิ ผมเองก็อยากให้บ้านเสร็จและย้ายไปอยู่เต็มแก่แล้ว เจ้าหนูก็คงไม่ต่างกัน นู่น เต้นแร้งเต้นกาอยู่นู่น
“ผมรักเฮียนะ…” ไอ้มิกกี้เดินอ้อมมาข้างหลัง แล้วยกมือสวมกอดรอบคอผม ริมฝีปากพร่ำกระซิบบอกแล้วแนบลงกับแก้มสากของผมเสียหลายรอบ
“อืม… รักเหมือนกัน” ผมยิ้มตอบ
“ผมรักมากกว่า รัก รัก รัก รัก”
“หึหึ เด็กน้อยเอ้ย” ว่าแล้วก็รวบคอมันลงมาฟัดแก้มนิ่มซักที น่าหมั่นเขี้ยวชะมัด!
“ว่าแต่เฮีย….” ไอ้มิกกี้ทำเสียงอ่อย สองมือก็ยังคงกอดคอผมอยู่แบบนั้น เอาจมูกมาถูๆ กับเสื้อผมซะเละ
“อะไรอีกล่ะ อยากได้ไรอีก”
“เลี้ยงหมาด้วยนะ ผมอยากเลี้ยงบลูเธอร์เรียมานานแล้วอ่ะ นะ นะ นะ นะ”
“หมา?”
“ช่ายยยย ไอ้พันธุ์ที่มันเตี้ยๆ ล่ำๆ แล้วมีจุดสีดำตรงตาอ่ะ อยากเลี้ยงตั้งแต่ตอนเด็กล่ะ แต่ม๊าบอกว่ามันหน้าตาน่าเกลียด ไม่ยอมให้เลี้ยงซะที แต่ผมว่ามันเท่ห์ออก นะ นะ นะ เลี้ยงกันนะ”
ผมไม่ได้ตอบ แต่ก็นั่งคิดจนหน้าเครียด….
ให้ลิงเลี้ยงหมา จะรอดมั้ยวะ!?
++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++
ถ้าลิงมันน่าร๊ากกกขนาดนี้ ยังไงก้อยอมมม
