ร้าว (3)
หลังจากกลับมาจากโรงเรียนมาถึงบ้านในวันนี้ แป๋มก็หมกตัวอยู่แต่ในห้อง เขานั่งฟังเพลงที่เขาและหน่อยชอบซ้ำแล้วซ้ำเล่าอย่างไม่นึกเบื่อ เพลงที่มีเนื้อหาคล้ายกับชีวิตและเรื่องราวความรักของเขาและหน่อย เขากด Repeat ไฟลล์เพลงนี้ในคอมพิวเตอร์แล้วนั่งฟังเงียบๆแบบนี้มาเนิ่นนานจนไม่รู้ว่าเวลาผ่านไปนานแค่ไหนแล้ว ยิ่งฟังก็ยิ่งคิด น้ำตาก็ยิ่งไหล เขานึกถึงตัวเองในครั้งเก่า วันที่เขาไม่มีใครกับครอบครัวของเขาที่ไม่สมบูรณ์ หลายต่อหลายครั้งในวัยเยาว์ของแป๋ม ที่เขามักนั่งแอบร้องไห้คนเดียวด้วยความเหงาหงอย แล้ววันหนึ่งเขาก็ได้พบหน่อย คนที่มามอบความรัก มาคอยดูแล มาคอยใกล้ชิดส่งสัมผัสที่อบอุ่นให้ มาเติมเต็มบางส่วนที่ขาดหายไปในหัวใจเขา ผู้ที่มาทำให้ชีวิตเขามีความหมายมากขึ้น แต่.. นับแต่นี้.. สิ่งต่างๆแบบนั้น มันคงจะไม่เกิดขึ้นอีกแล้ว ความสัมพันธ์ของเขาและหน่อย คงจะห่างและร้างรากันไป ภาพความทรงจำครั้งเก่ามันผุดขึ้นมาในความคิดของแป๋มไม่ขาดสาย เขานึกแล้วสะเทือนใจเหลือเกิน มันจะไม่มีแบบนี้อีกแล้วจริงๆใช่ไหม?
ความคิดของแป๋มสะดุดลง เมื่อได้รับสัมผัสโอบกอดจากใครบางคนจากทางด้านหลัง
“ เพลงเพราะจริงๆ พี่ชอบเพลงนี้มากเลย ฟังแล้วมันเหมือนเรื่องราวของเรา 2 คน เหมือนกับว่า.. มันเป็นเพลงของเราทั้ง 2 คนเลยนะแป๋ม เอ๊ะ!! แล้วนี่.. แป๋มร้องไห้ทำไม? แป๋มมีอะไรไม่สบายใจแน่เลย บอกพี่ได้ไหม? ”
หน่อยนั่นเอง นี่เขามาเงียบๆตั้งแต่ตอนไหนกัน? แป๋มไม่รู้สึกตัวเลย อาจจะเป็นเพราะเขากำลังจมอยู่กับความคิดตัวเองกระมัง? หน่อยลูบหัวเขาอย่างอ่อนโยน เอานิ้วเกลี่ยน้ำตาบนใบหน้าแป๋ม เอ่ยถามเขาด้วยน้ำเสียงที่อบอุ่นและอาทร และกระชับกอดแน่นขึ้น
“ ไม่มีอะไรหรอก เพลงมันซึ้งๆน่ะ ฟังแล้วเคลิ้มๆเลยน้ำตาไหล แล้วนี่พี่เข้ามาตั้งแต่ตอนไหน? ผมไม่รู้สึกตัวเลย ”
“ ก็สักพักแล้วละ ขอโทษนะที่เข้ามาเงียบๆ ไม่ได้เคาะประตูก่อน พอดีพี่เห็นประตูเปิดแง้มไว้ เลยเดินเข้ามา ก็คิดถึงแป๋มนะ อยากเซอร์ไพร์สบางอย่างกับแป๋มด้วย แม่แป๋มบอกว่าแป๋มอยู่บนห้อง พี่ก็เลยขอขึ้นมาหา แป๋ม.. พี่คิดถึงมากเลยนะ ขอโทษนะแป๋มที่ช่วงก่อนพี่ยุ่งๆ เลยทำให้เราไม่ได้ค่อยคุยกันมาตั้งหลายวันแล้ว แล้วนี่พี่ก็คิดว่า.. แป๋มต้องร้องไห้แน่ๆ ไม่ใช่น้ำตาไหลเพราะเพลงซึ้งหรอก ตอนนี้แป๋มต้องกำลังมีเรื่องไม่สบายใจแน่เลย อย่าปิดพี่เลย พี่รู้นะ บอกพี่ได้ไหม? ว่ากำลังไม่สบายใจอะไร? ”
น้ำเสียงที่อ่อนโยน และท่าทีที่ดูห่วงใย มันยิ่งทำให้แป๋มสะเทือนใจและยาก.. ที่จะตัดใจได้จริงๆ
“ พี่อย่ามากอดผมแบบนี้เลย เดี๋ยวแม่ผมมาเห็นมันจะไม่ดีนะ ”
พูดจบแป๋มก็รีบผละออก เขาสังเกตุเห็นดูเหมือนว่าหน่อยจะหน้าเสียเล็กน้อย
“ ตอนนี้แม่แป็มอยู่ที่บ้านพี่ กำลังคุยกับแม่พี่อยู่ พี่คิดว่าคงอยู่คุยกันอีกนาน แต่ถ้าแป๋มกังวลเดี๋ยวพี่ไปล๊อคประตูก็ได้ ”
หน่อยเดินไปที่ประตูและกดล๊อค แล้วตรงเข้ามาสวมกอดแป๋มอีกครั้ง แต่แป๋มก็ผละออกอีก พร้อมกับเอ่ยว่า..
“ พี่หน่อย ผมว่าเราเลิกทำแบบนี้กันเถิด มันไม่ดีหรอกนะ พี่ลองคิดดู ถ้าผู้ใหญ่รู้จะเป็นอย่างไร เขาคงจะเสียใจมากนะ ที่ลูกมาทำตัวแบบนี้ ผมอายุ 16 เองนะ พี่เองก็แค่ 18 ยังเด็กด้วยกันทั้งคู่ มารักกันแบบนี้ มันดูไม่ค่อยเหมาะสมเท่าไรนะพี่ ผมไม่อยากทำอะไรแบบนี้แล้วละ ใช้ชีวิตที่ปกติเหมือนคนทั่วๆไปจะดีกว่านะ ผมว่า.. ผมจะเลิกเป็นแบบนี้แล้ว ”
“ แล้วนี่แป๋มเป็นอะรไ? โกรธอะไรพี่เหรอ? ทำไมแป๋มพูดแบบนี้ ของแบบนี้มันเลิกไม่ได้นะแป๋ม ไม่มีใครเลิกเป็นเกย์ได้แป๋มก็รู้นี่นา เราก็ต้องยอมรับความจริงในสิ่งที่เราเป็น จริงไหม? ”
“ แต่ผมว่าเลิกได้ ถ้าตั้งใจจริงๆ ”
“ มันเป็นการหลอกตัวเองนะแป๋ม ไม่เป็นการดีอะไรเลยที่จะทำแบบนั้น ”
“ ถึงอย่างไรก็ต้องพยายาม ผมว่า.. เราควรจะมีชีวิตที่ปกติได้แล้ว ไม่ควรเบี่ยงเบนอีกแล้ว ที่ผ่านมา ผมคิดว่ามันก็แค่อารมณ์ชั่ววูบของวัยรุ่นที่สนิทกันมาก ก็แค่นั้น มันไม่ได้เป็นความรักแบบจริงจังอะไรมากนักหรอก อีกหน่อยเราก็จะห่างๆกันไปเอง พอเถิดครับพี่ ผมอยากเลิกความสัมพันธ์แบบนี้แล้ว ”
“ พี่ไม่เข้าใจ อะไรทำให้แป๋มคิดแบบนี้ ทำไม.. พี่ผิดอะไร? ทำไมแป๋มถึงทำกับพี่แบบนี้ ”
หน่อยเสียงสั่นเครือ ดวงตาปริ่มด้วยน้ำตา เขาหยุดกลั้นสะอื้นแล้วเอ่ยต่อ
“ ก็ใช่.. พี่กับแป๋มต่างก็ยังเด็ก แต่เด็กมีความรักไม่ได้เหรอแป๋ม การรักกัน มันผิดตรงไหน? แป๋มลองคิดดู ที่ผ่านมา เราทำอะไรเสียหาย หรือว่าที่มันผิด ก็เพียงเพราะรักคนเพศเดียวกัน พี่อยากถามแป๋ม ตลอดเวลาที่ผ่านมา พี่กับแป๋มเคยทำอะไรนอกลู่นอกทางไหม? ความรักของเราแบบนี้ มันทำให้ชีวิตของเราตกต่ำลงไหม? พี่กลับคิดว่า มันดีเสียอีก มันเหมือนเป็นกำลังใจให้กันและกัน ทำให้ชีวิตมีความหวัง มันก็ใช่ ถ้าผู้ใหญ่รู้เขาก็คงรับไม่ได้เพราะเรายังเด็ก แต่เราไม่ได้ทำอะไรกันประเจิดประเจ้อนี่นา เราทำตัวเป็นเด็กดีมาโดยตลอด พี่ไม่เคยชักจูงแป๋มไปสู่สิ่งที่เลวร้าย ไม่เคยทำตัวเหลวแหลก ถ้าพ่อแม่รักเราจริงๆ เขาจะยอมรับเราตรงนี้ไม่ได้เพียงเพราะเราชอบผู้ชายแค่นี้เหรอแป๋ม? พี่ยังคิดเลยว่า สักวันที่พี่โตพอจะรับผิดชอบตัวเองได้ พี่จะพิสูจน์ตัวเองกับพ่อแม่ ว่าการที่พี่รักกับแป๋มแบบนี้ มันไม่ได้ทำให้ชีวิตพี่ตกต่ำและทำให้ใครเดือดร้อนเลย พี่คิดว่าพ่อแม่พี่น่าจะเข้าใจ สำหรับแป๋มอาจจะคิดว่าที่ผ่านมาคงแค่อารมณ์ชั่ววูบของวัยรุ่นที่สนิทกัน แต่สำหรับพี่ นี่มันคือความรักจริงๆของพี่ ใครบางคนที่พี่รักมาอย่างยาวนาน ไม่ใช่เพียงแค่วูบหนึ่งของอารมณ์ ซึ่งคนที่พี่รักคนนั้นก็คือ.. แป๋ม นะ ”
หน่อยพูดจบพร้อมน้ำตาที่ไหลพราก ดูเขาจะสะเทือนใจจริงๆ เขาสะอื้นจนตัวโยนและคงจะเจ็บปวดเป็นอย่างมาก แป๋มเห็นแบบนั้นก็รู้สึกใจหาย เขารู้สึกผิดที่ดูเหมือนกับเขาทำร้ายความรู้สึกหน่อยอย่างรุนแรง เขาเองก็รู้สึกสะเทือนใจไม่น้อย แต่ความคลางแคลงใจบางอย่าง ทำให้แป๋มเอ่ยออกมาว่า
“ พี่พูดมาก็มีเหตุผลนะ แต่ผมก็ไม่เข้าใจว่าพี่จะต้องการอะไรจากผมอีก เพราะจากเหตุผลของพี่ ก็ดูเหมือนกับว่า.. พี่ก็กำลังหลอกตัวเองเช่นกันจากการกระทำบางอย่างของพี่ ซึ่งมันดูค้านๆกับเหตุผลของพี่ที่บอกผมนะ ”
“ แป๋มพูดแบบนี้หมายความว่าอย่างไร? ”
“ พี่บอกเป็นเกย์เลิกไม่ได้ ไม่ควรหลอกตัวเอง แต่พี่หน่อยกลับมีแฟนแล้ว เป็นพี่ผู้หญิงสวยน่ารักมากด้วย พี่อย่าปฎิเสธเลย เพราะผมเห็นมากับตา แล้วพี่ยังจะต้องการอะไรจากไอ้เด็กโง่ๆอย่างผมอีก ”
แป๋มเอ่ยพร้อมกับสะอื้นน้ำตาไหลพราก เขารู้สึกเสียใจเหลือเกินกับภาพที่เห็นเมื่อวาน
“ แฟน? แป๋มเอาอะไรมาพูด ผู้หญิงคนไหนเป็นแฟนพี่? ”
“ ที่บีทูเอสไง เมื่อวาน พี่โกหกบอกว่ามีเรียน แต่จริงๆแล้วพี่ไปกับแฟน ”
“ นี่เองใช่ไหมที่แป๋มโกรธพี่ แป๋มคิดมากเกินไป จะบอกให้ก็ได้ นั่นนุชเพื่อนพี่เอง ไม่ใช่แฟน พี่ไม่เคยชอบผู้หญิงแบบแฟน สารภาพก็ได้จริงอยู่แรกๆนุชเขาชอบพี่ แต่พี่ก็ได้คุยกับเขาแล้วว่าพี่มีคนที่ชอบแล้ว ขอคบกันแบบเพื่อนก็พอ คงไม่ต้องบอกแป๋มก็น่าจะรู้ว่าคนที่พี่ชอบคือใคร? ตลอดเวลาที่ผ่านมา การแสดงออกที่พี่มีต่อแป๋ม มันน่าจะบอกทุกอย่างอยู่แล้ว ”
แป๋มได้ยินดังนั้น เขารู้สึกดีใจที่มันไม่ได้เป็นแบบที่เขาคิดจริงๆ แต่ก็ยังอดสงสัยบางอย่างไม่ได้
“ จริงเหรอพี่? แล้วทำไมพี่ต้องโกหกผมว่ามีเรียนด้วย ถ้าพี่บอกว่ามีธุระกับเพื่อน ผมก็คงไม่คิดมากแบบนี้หรอก ”
“ ไม่ได้โกหก จะมีเรียนจริงๆ แต่พอดีพี่ไม่รู้ว่าเขาจะยกเลิกกระทันหัน ”
“ แล้ว.. เอ่อ.. พี่ปิดโทรศัพท์ทำไม? ”
“ ไม่ได้ปิด โทรศัพท์แบทหมด ”
แป๋มได้ยินมาถึงตรงนี้ เขารู้สึกว่าตัวเองช่างโง่จริงๆ คิดมากมายไปได้ เขารู้สึกว่าตัวว่าเองผิดเต็มๆ ที่เอาแต่อารมณ์และขี้ใจน้อย หน่อยไขข้อสงสัยเขาได้อย่างมีเหตุผลทุกข้อ แต่เขาก็ยังสงสัยบางอย่างอยู่ จึงเอ่ยถามว่า..
“ แล้วทำไมตอนผมโทรไปหาตอนแรก ดูพี่รีบๆแปลกๆชอบกล พูดแปบเดียวรีบวางหูเลย ”
“ ตอนนั้นแบทกำลังจะหมด มันมีสัญญาณเตือนแล้ว เพื่อนพี่เอาโทรศัพท์ไปเล่นเกมส์จนแบทเกือบเกลี้ยง พอพี่รู้ว่าเขายกเลิกติว พี่ก็เลยคิดว่าจะรีบโทรไปนัดแป๋มใหม่ แต่มันก็โทรออกอีกไม่ได้แล้ว ความจริงพี่จะขอยืมโทรศัพท์เพื่อนโทรก็ได้ แต่พี่อยากจะทำของบางอย่างเซอร์ไพร์สแป๋ม ก็เลยชวนนุชไปซื้อกรอบรูป กับกระดาษปริ้นท์รูปจะเอามาทำของขวัญให้แป๋มที่บีทูเอส เพราะนุชเขาก็จะซื้อของทำงานส่งของเขาเหมือนกัน เอาเถิดนะแป๋ม พี่คิดว่าแป๋มคงจะตัดสินใจแล้วว่าจะเลิกจริงๆ ถ้ามันเป็นความต้องการของแป๋มที่จะยุติความสัมพันธ์แบบนี้พี่ก็ยอม เพราะสิ่งที่แป๋มพูดกับพี่ ดูเหมือนกับว่า แป๋มตั้งใจจะทำเช่นนั้นจริงๆ มันคงเป็นสิ่งที่แป๋มคิดว่าดีที่สุดสำหรับแป๋มแล้ว พี่ยอมนะแป๋มเพราะพี่รักแป๋ม ถึงแม้ว่าพี่จะเจ็บปวดจนแทบทนไม่ได้ก็ตาม พี่แทบทนไม่ได้จริงๆ แต่พี่อยากบอกแป๋มว่า.. พี่คงเลิกรักแป๋มไม่ได้ พี่ขอแค่เพียง แป๋มหลงเหลือความรู้สึกดีๆที่มีต่อกันบ้าง พูดคุยกับพี่บ้าง อย่าให้ถึงขนาดไม่มองหน้ากัน แค่นี้ก็พอ พี่คงไม่ขอมากไปใช่ไหม? ”
หน่อยพูดด้วยเสียงสั่นเครือด้วยความสะเทือนใจและเสียใจอย่างสุดซึ้ง เขาพยายามกลั้นสะอื้น แล้วหันไปหยิบของบางอย่าง
“ วันนี้พี่เอาของขวัญมาให้ มันอาจจะดูไม่มีราคาอะไร แต่มันเป็นสิ่งที่พี่ตั้งใจทำมาให้จริงๆ สุขสันต์วันเกิดนะแป๋ม แป๋มอายุครบ 16 แล้ว พี่ขอให้แป๋มได้พบแต่สิ่งที่ดีๆ มีความสุขตลอดไปนะแป๋ม ”
หน่อยพูดจบพร้อมกับส่งของขวัญให้ แป๋มไม่ได้สังเกตุเลยแต่แรกว่าหน่อยถือของอะไรมาด้วยตอนเข้ามาหาเขาเพราะเขามัวแต่กำลังซึมเศร้าอยู่นั่นเอง แป๋มหยิบมาเปิดดู ก็พบว่า มันเป็นรูปถ่ายตัวเขาที่หน่อยถ่ายให้ นำมาตกแต่งประดิษประดอยแนวศิลปะจนดูสวยงามแปลกตาด้วยฝีมืออันปราณีต มีข้อความอวยพรอยู่ที่มุมบนของภาพซึ่งเป็นการตกแต่งภาพจากโปรแกรมคอมพิวเตอร์แล้วปริ้นใส่กระดาษปริ้นรูปนำมาใส่กรอบรูปดูสวยงามมาก แป๋มนั่งมองของขวัญแล้วน้ำตาไหลพรากมันถูกใจเขามาก เขานึกตำหนิตัวเองที่ช่างโง่และร้ายกาจเหลือเกิน ทำร้ายจิตใจของคนที่เขารักได้ถึงขนาดนี้ เขานี่มันแย่จริงๆ ทำไม่ไม่เชื่อใจ เอาแต่อารมณ์ตัวเอง เขานึกแล้วไม่อยากให้อภัยตัวเองเลย เขารู้สึกตื้อ ตื้นตันจนพูดไม่ออก เขาโผเข้ากอดแน่นด้วยรู้สึกผิด อยากจะกล่าวขอบคุณสำหรับของขวัญ และพูดถ้อยคำต่างๆมากมายเพื่อเยียวยาจิตใจที่บอบช้ำของหน่อยจากการกระทำที่เชือดเฉือนของเขา แต่กลับพูดอะไรไม่ออก ทำได้เพียงซบหน้าสะอื้นอยู่เช่นนั้นจนน้ำตาเขาเปียกเสื้อหน่อยไปหมด
“ แป๋ม แป๋มตั้งใจแล้วว่าจะเลิกไม่ใช่เหรอ? ไม่ต้องทำขนาดนี้ก็ได้ มันยิ่งทำให้พี่ยากที่จะตัดใจนะแป๋ม พี่ขอแค่เพียงแป๋มมีเยื่อใยให้พี่บ้างก็พอ พี่ขอแค่นี้เท่านั้นเอง ”
“ ผมไม่เลิกแล้วพี่ ที่ผ่านมา มันดีอยู่แล้ว กลับมาเป็นเหมือนเดิมเถิดนะครับ พี่หน่อยครับ.. ผมขอโทษ ผมนี่มันโง่จริงๆ นี่ผมทำอะไรลงไป ผมเกือบจะทิ้งสิ่งที่สุดของผมไปแล้ว ผม.. ผม.. ”
แป๋มอยากจะพูดอะไรอีกมากมาย แต่.. เขาพูดต่อไม่ได้เสียแล้ว ทำได้เพียงซบหน้าสะอื้นน้ำตาไหลพรากอยู่เช่นนั้น หน่อยกระชับกอดแป๋ม เอามือลูบหัวเบาๆและไม่มีคำพูดคุยใดๆอีก ในยามนี้.. มีแค่เพียงเสียงสะอื้นเบาๆของคน 2 คน เสียงสะอื้นที่บ่งบอกถึงความเข้าใจกัน และเพลงจากเบาๆอันไพเราะเพลงนั้นที่เล่นซ้ำไปซ้ำมา บรรเลงอย่างต่อเนื่องจากคอมพิวเตอร์ที่แป๋มเปิดทิ้งไว้ บทเพลงที่มีเนื้อหาบอกเล่าถึงเรื่องราวความรักของหนุ่มน้อย 2 คน
. . . .
เพียงหนึ่งคำ
เดียวดายอ้างว้าง ท่ามกลางผู้คน
ไม่เคยสักหน จะพบกับแสงตะวัน
จนมาวันนี้ ที่เราได้พบกัน
ก็เหมือนว่าโลกของฉัน ได้แปรเปลี่ยนไป
คำเพียงหนึ่งคำ ของคนคนนี้
ได้ทำให้รู้ว่าชีวิตมีค่าเพียงใด
เธอเข้ามาหา เข้ามามอบหัวใจ
ฝากคำที่ฉัน นั้นเฝ้ารอคอยเรื่อยมา
คำรักแผ่ว แผ่ว
ฟังแล้วก็สั่น แค่นี้ใจฉัน
ก็ลอยไปสุดขอบฟ้า
คำนี้ที่บอก เรื่องจริงใช่ไหมที่พูดมา
ช่วยสบตาแล้ว บอกกันอีกสักที
คนเพียงหนึ่งคน แค่เธอเท่านั้น
จากคนอย่างฉัน จะฝันถึงทุกนาที
ใจเดียวของฉัน ด้วยรักที่ฉันมี
จากนี้จะมีให้เธอ เพียงผู้เดียว
คำรักแผ่ว แผ่ว
ฟังแล้วก็สั่น แค่นี้ใจฉัน
ก็ลอยไปสุดขอบฟ้า
คำนี้ที่บอก เรื่องจริงใช่ไหมที่พูดมา
ช่วยสบตาแล้ว บอกกันอีกสักที
คนเพียงหนึ่งคน แค่เธอเท่านั้น
จากคนอย่างฉัน จะฝันถึงทุกนาที
ใจเดียวของฉัน ด้วยรักที่ฉันมี
จากนี้จะมีให้เธอ เพียงผู้เดียว
จากนี้จะขอรักเธอเพียงผู้เดียว
*โปรดติดตามตอนต่อไปเร็วๆนี้ครับ^^