หลังคาติดกัน
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด

สนใจโฆษณาติดต่อ laopedcenter[at]hotmail.com คลิ๊กรายละเอียดที่ตำแหน่งว่างเลยครับ

สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด

ผู้เขียน หัวข้อ: หลังคาติดกัน  (อ่าน 74336 ครั้ง)

ออฟไลน์ dahlia

  • เป็ดแสนดี
  • เป็ดAphrodite
  • *
  • กระทู้: 4239
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +695/-4
พี่หน่อย ตื่นเต้นเพราะ แป๋ม เป็นตุ๊กตาหน้ารถ หรือเปล่า  :o8:

Pikachu

  • บุคคลทั่วไป
ขอขอบพระคุณ สำหรับคอมเม้นมากๆนะครับ^^

ผมโหวต +1 ให้กับพี่ๆ เพื่อนๆ เพื่อเป็นการขอบคุณนะครับ

*ติดตามตอนต่อไปได้เลยครับ วันนี้มีของแถมมาให้ด้วย

 :z10: :z10: :z10: :z10: :z10: :z10:

Pikachu

  • บุคคลทั่วไป

เพื่อน  (2)

เช้าตรู่ที่ท้องฟ้าโปร่ง อากาศแสนจะสดชื่น แป๋มมาถึงโรงเรียนแต่เช้าในวันนี้ เขาเดินตรงไปยังโรงอาหาร ตั้งใจว่าจะหาซื้อนมมาดื่มสักกล่อง ก่อนนำกระเป๋าเป้หนังสือไปเก็บที่ห้องเรียน ปกติช่วงเช้าก่อนมาโรงเรียนแป๋มจะกินอาหารเช้าง่ายๆที่แม่เขาเตรียมให้ทุกวันอยู่แล้ว แต่วันนี้เขามาถึงค่อนข้างเช้า เขาคิดว่า.. ถ้าไปที่ห้องในตอนนี้ เพื่อนๆเขาคงจะยังไม่มากัน เมื่อมาถึงโรงเรียนเขาจึงเดินดิ่งตรงมาที่โรงอาหารก่อน ขณะที่แป๋มกำลังเดินตรงไปยังโรงอาหาร เขาก็ได้ยินเสียงเอ่ยทักทาย
“ แป๋มๆ ”
แป๋มหันขวับไปตามเสียงเรียก แล้วเขาก็พบว่าเป็น.. นายนกเพื่อนสนิท
“ อ้าวนก ว่าไง? มาแต่เช้าเลยนะ ”
“ พอดีวันนี้ตื่นเช้าน่ะ เออ.. เห็นมึงกำลังเดินไปโรงอาหาร มึงจะซื้ออะไรกินเหรอ? บอกมาเดี๋ยวกูบริการ ”
“ มึงจะขอลอกการบ้านกูใช่ไหมไอ้นก มาฟอร์มเนี้ย กูรู้หรอก มิน่า.. มึงถึงมาแต่เช้า ”
“ ก็.. เออ.. แหมรู้ทัน แหะๆ ให้กูลอกหน่อยสิ กูทำไม่ค่อยได้ว่ะ ”
“ เออๆ มึงนี่จริงๆเลย โคตรจะขี้เกียจ เออ.. นี่กูกำลังจะไปซื้อนม แล้วมึงจะเอาไหม? ”
“ เอาก็ได้ ”
“ งั้นมึงก็จ่ายมาสิ ”
“ เอ้า..  เอาไป ”
“ อะไรกัน? แค่นี้เหรอ? ไม่พอหรอก เอามาอีก ”
“ อะไรวะแป๋ม นมขึ้นราคาแล้วเหรอวะ? ”
“ นมก็ราคาเท่าเดิมนั่นแหละ แต่มึงต้องจ่ายส่วนของกูมาด้วย ค่าลอกการบ้านไง เรื่องอะไรกูจะให้มึงลอกฟรีๆ หึหึ ”
“ โคตรงกเลยมึง ไอ้แป๋ม เออๆ เอาไป ห่านี่ ”
แป๋มรับเงินจากนกแล้วตรงไปซื้อนมกล่องสำหรับตัวเองและซื้อมาเผื่อนก เขานั่งดื่มจากกล่องมองดูนกลอกการบ้านเขาอยู่เงียบๆ ความจริง..แป๋มก็แค่.. อยากจะกวนๆเล่นไปอย่างนั้นเอง ก็แค่อยากจะแกล้งนายนกเล่น เพราะนกเป็นเพื่อนสนิทที่มักจะชอบเย้าแหย่กันแบบนี้เป็นประจำ จะว่าไป.. แป๋มก็มีเพื่อนที่ค่อนข้างสนิทหลายคน แต่กับนกดูจะเป็นเพื่อนที่สนิทที่สุด ทั้งคู่มักทำอะไรร่วมกัน ไปไหนต่อไหนด้วยกันแทบจะทุกครั้ง ทั้งแป๋มและนกเรียนร่วมกันมาตั้งแต่มัธยมต้น จวบจนมัธยมปลายก็เลือกเรียนสายวิชาเดียวกันและได้อยู่ห้องเดียวกัน การคบหากันมาอย่างยาวนานจึงทำให้ทั้งสองดูจะสนิทสนมกันเป็นพิเศษมากกว่าเพื่อนคนอื่นๆ นกมักไปเที่ยวเล่นที่บ้านแป๋มบ่อยๆ บางครั้งก็ไปทำรายงานที่บ้านแป๋ม เขาจึงพอจะรู้จักกับหน่อย และเคยพูดคุยกับหน่อยบ้าง แรกๆนกก็ไม่รู้ว่าแป๋มมีพฤติกรรมชอบผู้ชาย เพราะแป๋มจะมีบุคลิกที่มองไม่ออกเลย แต่นกก็เคยแอบสงสัยอยู่บ้างเมื่อเห็นความสนิทสนมที่ดูจะเป็นพิเศษของหน่อยและแป๋มในยามที่เขาไปบ้านแป๋ม จวบจนวันที่เขาได้เห็นอาการของแป๋มที่เห็นหน่อยเดินกับเพื่อนหญิงในวันนั้น ทุกอย่างมันจึงกระจ่างทั้งหมด เมื่อนกได้รู้ความจริงแบบนี้ เขาก็รู้สึกว่ามันก็ไม่น่าจะเสียหายอะไรถ้าเพื่อนรักจะมีพฤติกรรมชอบผู้ชายด้วยกัน ท่าทีและความสนิทสนมระหว่างเขาและแป๋มจึงเหมือนเดิมไม่เปลี่ยนแปลง อาจจะเป็นเพราะนกรักและแคร์แป๋ม เพราะคบหากับแป๋มมาเป็นเวลายาวนานก็เป็นได้ อีกทั้งตลอดเวลาที่ผ่านมา แป๋มไม่เคยมีท่าทีในลักษณะแอบหื่นกับเขาเลยแม้แต่ครั้งเดียว เขาจึงไม่รู้สึกแปลกแยกเท่าไรนัก เมื่อมารู้ความจริงว่าแป๋มเป็นแบบนี้ กระมัง?
หลังจากที่นกทำการบ้านเสร็จซึ่งก็ใกล้เวลาเข้าเรียนพอดี นกก็เอ่ยกับแป๋มว่า..
“ เออ.. แป๋ม วันนี้ไปนอนค้างบ้านกูไหม? ที่บ้านกูเขาไปต่างจังหวัดกันหมดเลย กูอยู่คนเดียวเอง กว่าเขาจะกลับกันก็วันอาทิตย์น่ะ แต่ว่า.. เอ่อ ถ้ามึงไม่ว่างไม่เป็นไรนะ เผื่อว่าวันหยุดมึงอาจจะอยากไปเที่ยวไหนๆกับพี่หน่อยเขา กูอยู่แบบเหงาๆคนเดียวก็ได้ ”
“ ทำไมมึงถึงพูดน่าสงสารแบบนี้ละนก ”
“ ก็กูเกรงใจไง ความจริงกูอยู่คนเดียวได้ ก็คงแค่เหงาๆหน่อย แต่ก็คิดว่าถ้ามีเพื่อนมาอยู่เป็นเพื่อนด้วยก็น่าจะดี ความจริง กูอยากจะบอกว่า.. จริงๆแล้วกูอยากให้มึงมานอนเป็นเพื่อนกูนะ กูอยู่คนเดียว กูกลัวผีว่ะ ”
“ ไอ้นก นั่นบ้านมึงเองนะ มึงอยู่มาตั้งแต่ตัวเท่าแย้ แล้วมึงจะกลัวอะไรวะ ”
“ ก็.. ทุกทีมีคนอยู่เต็มบ้านตลอดนี่นา พอมานึกว่าต้องมาอยู่คนเดียวแล้วมันโหวงๆว่ะ บ้านกูหลังตั้งใหญ่ มึงก็เห็นนี่ นะแป๋ม ช่วยกูที แต่กูก็เกรงใจมึงนะ แหะๆ ”
“ เออ แล้วกูถามหน่อย แล้วทำไมมึงไม่ไปกับเขาวะนก มึงยอมอยู่บ้านคนเดียวทำไม? ”
“ ก็เขาไปกันตั้งแต่วันนี้น่ะ ถ้ากูไป กูก็ต้องขาดเรียนวันนี้ กูไม่อยากขาดวันนี้ เพราะมันต้องส่งงานที่กูลอกมึงเมื่อกี้ไง กูกะว่า.. ยังไงซะ มึงต้องมาอยู่เป็นเพื่อนกูแน่นอน นะแป๋ม ช่วยกูที ”
“ เออ.. งั้นกูไป กูไปก็ได้นะนก งั้นตอนเย็นแวะบ้านกูก่อนนะ กูเปลี่ยนเสื้อผ้า แล้วจะได้เตรียมของไปนอนบ้านมึง ค่อยโทรบอกแม่กูตอนเย็นก็ได้ แม่กูเคยเห็นมึงมาบ้านกูบ่อยๆ ถ้ากูจะขอไปนอนบ้านมึง แม่กูคงไม่ว่าหรอก ”
“ เอาอย่างนั้นก็ได้แป๋ม ”

. . . .

ในเย็นวันนั้น กว่าจะมาถึงบ้านนกก็เย็นมากแล้ว พอมาถึงได้สักพักทั้งคู่ก็ช่วยกันทำกับข้าวกินกันในครัวบ้านของนก ด้วยว่า.. ทั้งคู่ต่างก็รู้สึกหิว เพราะในขณะนี้ก็ถึงเวลาอาหารเย็นแล้ว นกมัวง่วนอยู่กับการจัดเตรียมทำผัดกระเพรา ในขณะที่แป๋มกำลังจะเจียวไข่
“ นก ตะหลิวอยู่ไหน? กูจะเจียวไข่น่ะ หาไม่เจอว่ะ ”
“ เอ้า อยู่นี่ไง เฮ้ย!! แป๋ม ทำไมไข่มันดำงั้นวะ ”
“ กูเผลอใส่ซีอิ๊วดำว่ะ กูหยิบผิด ”
“ ไอ้แป๋ม ขวดซีอิ๊ว กับขวดน้ำปลามันคนละเรื่องเลยนะมึง มึงดูซิ.. อยู่เนี่ย เห็นไหม? แล้วใส่เข้าไปได้ยังไง ”
“ ก็ตอนกูหยิบกูไม่ได้ดูน่ะ พอเทลงไปแล้วมันเป็นซีอิ๊วว่ะ ก็กูไม่ค่อยคุ้นครัวบ้านมึงนี่ หาอะไรไม่ค่อยถูก น่า..กูว่าไม่เป็นไรหรอกนะไม่ค่อยดำมากหรอก ”
“ ไม่ค่อยดำห่าอะไร โคตรดำเลย มึงนี่จริงๆเลย ”
“ นก มึงก็อย่าบ่นสิวะ หรือว่าจะเอาทิ้งล่ะ? เสียดายนะ ไข่ตั้ง 3 ฟองแน่ะ กูว่าไม่เป็นไรหรอก แค่ดำนิดเดียวเอง ”
“ เออๆ เฮ้อ!! เดี๋ยวผัดกระเพรากูผัดเองแล้วกัน ตอนแรกกูเตรียมๆไว้ว่าจะให้มึงผัด เพราะเห็นว่ามึงจะเจียวไข่ กะว่าพอมึงเจียวเสร็จจะให้มึงทำต่อไปเลย ตอนนี้กูไม่ไว้ใจมึงแล้ว ขืนให้มึงผัดคงอร่อยตายห่าเลย ”
“ บ่นเข้าไปไอ้นก ก็กูทำกับช้าวไม่เก่งเหมือนมึงนี่นา อุตส่าห์ช่วยเจียวไข่ให้แล้วยังบ่นกูอีก รู้งี้กูนั่งเฉยๆรอกินก็ดีหรอก ”
หลังจากนั้นไม่นานนัก อาหารง่ายๆจากฝีมือของ 2 หนุ่มก็เรียบร้อยพร้อมรับประทาน ทั้งคู่จัดการกับอาหารที่อยู่ตรงหน้าพร้อมพูดคุยกันไปด้วยระหว่างรับประทานอาหารในมื้อนั้น
“ เออ.. นก ผัดกระเพรานี่กูว่ามันก็ไม่น่าจะทำยากนะ ที่ซื้อเขาทำไมมันถึงอร่อยวะ แต่ทำไมมึงทำถึงไม่อร่อยเลยล่ะ หา? โคตรห่วยว่ะ ฮ่าๆ รสชาติสุนัขไม่รับประทานเลย กูอุตส่าห์ชมว่ามึงทำกับข้าวเก่งแท้ๆ หึหึ ”
“ ไอ้ห่าแป๋ม มาว่ากูเสียเลย อย่างกับไข่เจียวของมึงอร่อยนักนี่ กูอุตส่าห์ผัดมึงให้กินมึงก็กินๆเข้าไปเหอะ ดีกว่าไปซื้อเขาเปลืองเงินเปล่าๆ ”
“ แหม.. ล้อเล่นทำเป็นใจน้อย กูก็พูดไปงั้นแหละ ความจริงรสชาติก็พอไหวว่ะ อร่อยนะนก กูก็แค่อยากแหย่มึงเล่นเท่านั้นเอง ก็มึงอยากมาว่ากูตอนกูทำไข่เจียวก่อนทำไม? มึงบ่นกูใหญ่เลยนะ เมื่อกี้ ”
“ ก็ไข่เจียวบ้านไหนเขาใส่ซีอิ๊วดำ มึงดูซิเนี่ย ดำปิ๊ดปี๋เลย ไหนมึงบอกว่าใส่ไปแค่นิดเดียวไง แต่กูว่ามึงเทพรวดไปเลยมากกว่า กลิ่นซีอิ๊วนี้หึ่งเลย ฮ่าๆ กูเห็นแล้วขำ ”
“ ก็รูขวดซีอิ๊วมันใหญ่ มันเลยออกเยอะมั๊ง ฮ่าๆๆ อร่อยไปอีกแบบ เหอะๆ ”
ทั้งคู่พูดคุยหยอกล้อกัน พร้อมรับประทานกันไป ไม่นานนัก อาหารมื้อนั้นก็เรียบร้อย จากนั้นก็ช่วยกันเก็บกวาดนำจานไปล้าง แป๋มรู้สึกว่า.. การได้มาทำอะไรแบบนี้กับนายนก มันก็สนุกดีเหมือนกัน หลังจากนั่งคุยเล่นและดูทีวีร่วมกันจนเห็นว่าไม่มีอะไรน่าสนใจจนมืดค่ำพอสมควร ทั้งคู่ก็ขึ้นไปยังห้องนอนของนก และผลัดเปลี่ยนกันไปอาบน้ำ..
หลังจากแป๋มอาบน้ำเสร็จ ก็เหลือบมองไปยังนกซึ่งอาบน้ำเสร็จไปก่อนนั่งอยู่ในในอริยาบถสบายๆ ด้วยกางเกงบอกเซอร์ ไม่ใส่เสื้อ ด้วยว่าอากาศค่อนข้างอบอ้าวในวันนี้กำลังนั่งอ่านการ์ตูนอยู่ เขาจึงหันมาเปิดอินเตอร์เน็ทเล่น ผ่านไปได้ครู่หนึ่ง เสียงโทรศัพท์มือถือของแป๋มก็ดังขึ้น เขาหยิบมาดูจึงเห็นว่าหน่อยโทรมา เขากดรับและโทรคุยเล่นกันได้สักพัก ก็กดวางหู ขณะที่แป๋มกำลังจะหันมาเล่นอินเตอร์เน็ทต่อ แป๋มเหลือบมองไปทางนายนกแบบไม่ตั้งใจ แล้วเขาก็แลเห็นบางอย่าง แป๋มรู้สึกขำในใจ และรู้สึกอยากจะเย้าแหย่นก จึงเอ่ยแซวเล่น
“ ไอ้นก มึงไปนุ่งกางเกงในไป๊ ปีกาจู๋มึงโผล่ออกมาสูดอากาศแน่ะ นั่งดีๆสิวะ ฮ่าๆ ”
นกได้ยินดังนั้นก็รู้สึกตัว จึงนั่งเรียบร้อยมากขึ้น แล้วจึงตอบกลับไปทันควันว่า..
“ ห่าแป๋ม ตาดีนักนะมึง กูขี้เกียจนุ่งเว๊ย เดี๋ยวก็นอนแล้ว กูก็สบายๆของกูแบบนี้แหละ เห็นก็เห็นไปสิ กูไม่อายมึงหรอก ”
“ หน้าด้านนักนะมึง ไม่อายกูเหรอ? งั้นมึงไม่แก้ผ้าไปเลยล่ะ ฮ่าๆ ”
“ ไม่อาววหรอก เดี๋ยวมึงปล้ำกู ”
“ โหย ไอ้นก อย่างกับกูพิศวาสมึงนักนี่ กูเห็นปีกาจู๋เหี่ยวๆของมึงแค่นี้ของกูก็ฝ่อไปหมดแล้ว ฮ่าๆ ”
“ ต่อปากต่อคำหน้าระรื่นเชียวนะมึง เมื่อกี้พี่หน่อยโทรมาละสิ เห็นคุยกันริกๆ หัวเราะคิกๆ แหม.. อารมณ์ดีใหญ่เชียวนะมึง เชอะ!! ”
“ ก็.. เออ มึงอิจฉากูละสิ ”
“ เมินเสียเถิดไอ้แป๋ม กูไม่ได้นิยมแบบดุ้นมึงหรอก เออ.. แป๋ม กูถามจริงๆ กูเห็นมึงกับพี่หน่อยท่าทางจะชอบกันมากๆแบบนี้ แล้วนี่มึงเคยสบึมกันหรือยังวะ? ”
“ ไอ้เชี่ยนก ทุเรศ ถามมาได้ มึงต้องให้กูฟันมึงทีนึงก่อนกูถึงจะบอก ห่านี่ ”
“ ฟันกูก่อนมึงถึงจะบอกเหรอ? งั้นกูไม่อยากรู้แล้วก็ได้ ”
“ อยากรู้หน่อยเหอะ มามะ มาให้กูฟันซะดีๆ ฮ่าๆ ”
“ ไหนมึงบอกว่า.. มึงเห็นปีกาจู๋ของกูแล้วของมึงฝ่อหมดไง ที่เงี้ยจะมาล่อกูซะแล้ว ”
“ ก็หลับหูหลับตากลั้นๆใจ ทำๆไปงั้นแหละ แปบเดียว เดี๋ยวก็เสร็จ อยากรู้ก็ต้องมีข้อแลกเปลี่ยนสิวะ หึหึ ”
“ เอาไว้วันหลังนะแป๋ม วันนี้กูท้องไม่ค่อยดี เหมือนๆจะท้องเสีย .... ไอ้เชี่ยแป๋ม ทุเรศมาก พูดมาได้ กูรับไม่ได้ ไอ้ห่า ”
“ แล้งมึงไม่ทุเรศหรือไงไอ้นก คำถามที่มึงถามกู กูรับได้เสียที่ไหน? ดันเสือกถามมาได้ เล่นเอากูหน้าเกือบหงาย จ้างให้กูก็ไม่บอกมึงหรอก ”
“ แหนะๆๆ หึหึ ขี้เกียจเถียงกับมึงแล้ว เถียงกับมึงกูเมื่อยปากเปลืองพลังงาน เออ.. แป๋มกูชักง่วงๆแล้ว นี่มึงจะนอนหรือยัง? เดี๋ยวกูจะลงไปปิดบ้านแล้ว ”
“ เออ กูก็ง่วงๆเหมือนกัน นอนก็ได้ ”
. . . .
ในคืนนั้น ทั้งคู่นอนเคียงกันบนเตียง คุยกันเบาๆในความมืดสลัว ช่วงหนึ่งของการสนทนา แป๋มได้เอ่ยขึ้นมาว่า..
“ นก.. มึงน่ะดีจริงๆเลยนะ ขนาดมึงรู้ว่ากูเป็นแบบนี้ มึงยังไม่รังเกียจกูเลย ยังสนิทกับกูเหมือนเดิมไม่เปลี่ยนแปลง กูดีใจนะที่ได้เป็นเพื่อนกับมึง มึงเป็นเพื่อนที่ดีจริงๆ กูรักมึงจริงๆเลยว่ะนก ”
“ ไม่ต้องมาทำพูดหวานมากหรอกไอ้แป๋ม เดี๋ยวกูก็เคลิบเคลิ้ม หลงเสน่ห์มึง เดี๋ยวกูก็เสร็จมึงตูดบานจนได้ ”
“ แหม มึงนี่ ฮ่าๆ ไอ้ห่านก กูจะพูดอะไรดีๆให้มึงบ้าง มึงก็มาทำเสียเรื่องหมด เล่นเอากูขำเลย กูไม่ได้นึกสยิวอะไรกับมึงนักหรอก จ้างกู 1000 นึงกูยังไม่อยากจะเอามึงเลย กูไม่อยากคุยกับมึงแล้ว นอนดีกว่า ”
จากนั้นทั้งคู่ก็ต่างคนต่างนอน และหลับไปในเวลาไม่นาน แต่แล้ว แป๋มก็ต้องดื่นมากลางดึกหลายต่อหลายครั้ง เพราะนายนก นอนดิ้นมาก มาก่าย มาทับ จนเขาอึดอัด เกือบตลอดคืน จนทำให้เขานอนหลับไม่ค่อยเต็มตานัก เขาอยู่เป็นเพื่อนนกต่ออีกวัน จนถึงสายๆวันของอาทิตย์ เขาก็กลับ เพราะอีกไม่นาน ครอบครัวของนกก็จะกลับมาแล้ว อีกทั้งแป๋มก็ต้องกลับไปเตรียมทำอะไรส่วนตัวของเขาบ้าง นกมาส่งเขาที่ป้ายรถประจำทาง ระหว่างรอรถ นกก็เอ่ยขึ้นว่า..
“ ขอบใจนะแป๋มที่มาอยู่เป็นเพื่อน แทนที่มึงจะได้อยู่กับพี่หน่อย มึงยังเสียสละมาอยู่เป็นเพื่อนกู ”
“ ไม่เป็นไรหรอก กูเจอพี่หน่อยทุกวันอยู่แล้ว บ้านอยู่ติดกันแค่นี้เอง มาค้างกับมึงก็สนุกดีนะ เออ.. กูไปก่อนนะ รถมาแล้ว แล้วเจอกันวันจันทร์นะนก ”
“ อืม.. โชคดีแป๋ม ”
แล้วแป๋มก็ขึ้นรถโดยสารเพื่อกลับมายังบ้านของเขาในสายๆของวันนั้น..

:laugh: :laugh: :laugh:

*โปรดติดตามตอนต่อไปเร็วๆนี้ครับ

มีของแถมมาให้ ข้างล่างครับ^^

Pikachu

  • บุคคลทั่วไป
พอดีได้ไปอ่านต้นฉบับเก่าๆของนิยายที่เคยเขียนร่วมกับ High_Wizard

ก็เลยคิดถึงตัวละครเก่าๆ จากนิยาย Robot เฮ้!! เขาคือหุ่นยนต์

http://www.thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=5241.0

ก็เลยเขียนตอนพิเศษที่จบในตอนเล่นๆน่ะครับ

ว่างๆแวะไปอ่านนิยายเต็มๆตามลิ้งข้างบนได้นะครับ

ลงจนจบบริบูรณ์แล้ว รับรองว่าสนุกมากครับ แฮ่ๆ^^

มาอ่านตอนพิเศษกันเล่นๆ เพลินๆได้เลยครับผม..


คือรัก..
( Robot เฮ้!! เขาคือหุ่นยนต์ ตอนพิเศษ )

“ ดูรูปอยู่หรือนัท? ”
นัทรู้สึกถึงใครบางคนโอบไหล่เขาจากทางด้านหลังและเอ่ยกับเขาด้วยน้ำเสียงที่คุ้นเคย ในขณะที่เขากำลังนั่งดูภาพเก่าๆจากอัลบั้มภาพ เขาละสายตาจากภาพถ่ายในครั้งอดีตในอัลบั้ม แล้วเหลือบตาขึ้นมองก็พบว่า.. เป็น เชน เคสเตอร์ นั่นเอง หนุ่มน้อยผมทอง ดวงตาสีเขียวมรกต กับโครงหน้าที่ดูหล่อเหลา
“ อืม.. เสียดายจังเลย มีภาพที่เราถ่ายคู่กับนิคไม่กี่ภาพเอง ”
“ นัทคงกำลังคิดถึงนิค? ”
“ ก็นิดหน่อยนะ เราก็แค่.. รู้สึกเสียดาย ที่ตอนนั้นเราน่าจะถ่ายรูปร่วมกันกับนิคให้มากกว่านี้ เพราะถึงในตอนนี้ มันไม่มีนิคอีกต่อไปแล้ว ”
เมื่อพูดมาถึงตรงนี้ นัทสังเกตเห็นเชนดูหน้าสลดไป เขาจึงเอ่ยขึ้นพร้อมกับตบไหล่เชนเบาๆเชิงปลอบใจ
“ ถึงตอนนี้จะไม่มีนิค แต่เราก็มีเชนนี่นา มันก็เหมือนกันนั่นแหละเชน ”
“ นัทคงรู้สึกแปลกแยกระหว่างเราในตอนนี้กับนิคในครั้งอดีต ”
“ เชนอย่าคิดมากสิ อย่าลืมนะ นิคกับเชนก็คนเดียวกัน มันจะแปลกแยกอะไร? เรื่องมันก็ผ่านมาตั้งปีกว่าแล้ว เราก็แค่คิดถึงภาพลักษณ์เก่าของนิคเท่านั้นเอง ”
“ บางครั้งเราก็ไม่รู้ว่าควรจะดีใจหรือเสียใจดีที่เราได้เป็นตัวเราแบบนี้ ในตอนนั้นเราอยากเป็นมนุษย์แบบนัท แต่พอเราได้มาเป็นมนุษย์จริงๆ เราก็สูญเสียสิ่งพิเศษไป ตอนนี้เราเป็นเพียงแค่คนธรรมดา ไม่มีโหมดอัจฉริยะที่มีพลังพิเศษ ที่จะคอยปกป้องดูแลนัทอีกต่อไปแล้ว ถ้านัทเกิดอันตรายขึ้นมา เราก็อาจจะช่วยเหลือนัทไม่ทัน ”
“ โธ่.. เขน เราอยากจะบอกนายว่า.. เป็นเชนในแบบอย่างนี้มันดีที่สุดแล้วนะ ถึงนายจะไม่มีพลังพิเศษอีกต่อไป แต่นายอย่าลืมสิ สมองของนายยังคงเป็นสมองกลที่สามารถจดจำสิ่งต่างๆได้อย่างแม่นยำมากกว่าสมองมนุษย์อย่างเรา แล้วมันก็ช่วยเราได้มาก นายลืมไปแล้วหรือ? ว่าในบางครั้ง นายยังช่วยอธิบายการเรียนต่างๆให้เราได้ เพราะนายบันทึกความทรงจำระหว่างเรียนได้อย่างแม่นยำ บางครั้งเราลืมๆเนื้อหาการเรียนบางอย่าง เรายังต้องอาศัยให้นายช่วยเราอยู่บ่อยๆไง จนถึงในตอนนี้ ความรู้สึกของเราที่มีต่อนาย มันไม่เคยแปลกแยกและเปลี่ยนแปลงไปเลยนะเชน เรายังรักเชน เคสเตอร์ หรือเจ้านิค ไอ้หุ่นซื่อบื้อ อยู่เหมือนเดิมนะ ”
เชนได้ยินนัทพูดเช่นนั้น ก็รู้สึกตื้นตัน ตลอดเวลาที่ผ่านมา เขากลัวเหลือเกินที่นัทจะยอมรับภาพลักษณ์ใหม่ของเขาแบบนี้ ไม่ได้ เพราะมันแตกต่างกันมากเหลือเกินกับในครั้งที่เขายังเป็นหุ่นยนต์ แม้ว่า.. การแสดงออกของนัทที่มีต่อเขาตลอดเวลาที่ผ่านมา มันก็เหมือนเดิมไม่เคยเปลื่ยนเลยก็ตาม แต่เขาก็ยังอดคิดไม่ได้เสมอๆ จากคำพูดของนัทเมื่อครู่ มันทำให้เขาแน่ใจและมั่นใจมากขึ้นแล้ว ว่านัทยังคงรู้สึกกับเขาเหมือนเดิมไม่เปลี่ยนแปลง เขารู้สึกตื้อ ล้นๆในใจ จนน้ำตาค่อยๆเอ่อ และรินไหลออกมา..
“ ขอบใจนะนัท นัทดีกับเราเสมอ เรารักนัทที่สุดเลย ”
“ แล้วนี่นายจะร้องไห้ทำไม เจ้าฝรั่งขี้แย เดี๋ยวนี้ต้องเปลี่ยนใหม่ จากไอ้หุ่นซื่อบื้อ มาเป็นฝรั่งขี้แยจริงไหม? หึหึ ”
นัทเอ่ยหยอกล้อแล้วดึงเชนเข้ามากอดพร้อมขยี้หัวเขาเบาๆแบบเย้าแหย่
“ ดึกแล้ว เข้านอนกันเถิดนะเชน พรุ่งนี้ต้องตื่นแต่เช้าไปโรงเรียนอีก ตอนนี้เราชักง่วงแล้วด้วย ”
“ เข้านอนก็ได้นัท เราก็ง่วงเหมือนกัน ”
แล้วทั้งคู่ก็เขานอนและนอนเคียงกันบนเตียง เตียงเดิมที่นอนร่วมกันมาเป็นเวลายาวนานจนถึงทุกวันนี้ แล้วนัทก็ดึงเชนเข้ามากอด พร้อมกับเอ่ยเบาๆในความมืดสลัว
“ นายหมอนข้าง มาขอกอดหน่อย ไม่งั้นเรานอนไม่หลับนะ เราติดหมอนข้างนะรู้ไหม? ”
แล้วนัทก็ดึงเชนหนุ่มน้อยต่างชาติที่แสนจะหล่อเหลาเข้ามาสวมกอด นัทยังคงเป็นนัท ที่ชอบจะนอนกอดเขาแบบนี้เสมอมานับแต่ครั้งที่เขายังคงเป็น นิค หุ่นน้อยสมองกล จวบจนเป็นเชนในแบบทุกวันนี้ไม่เคยเปลี่ยน เชนรู้สึกอบอุ่นและรักนัทมากมายเหลือเกิน เขาหลับตาพริ้มนอนอมยิ้มในอ้อมกอดของนัท แล้วทั้งคู่ก็เคลิ้มหลับไปในเวลาไล่เลี่ยกันของราตรีนั้น..
. . . .
ยามเย็นหลังเลิกเรียน ณ บริเวณห้องน้ำหลังตึกเรียนที่ค่อนข้างเงียบ เพราะได้ล่วงเลยเวลาเลิกเรียนมาพักใหญ่แล้ว
“ กล้วยๆ เลิกซ้อมร้องเพลงแล้วหรือ? ”
“ อ้าวต๋อง อืม..วันนี้เรา เลิกแล้ว แล้วนี่นายก็เลิกซ้อมบาสฯแล้วหรือ? ทำไมวันนี้เลิกเร็วจัง ทุกที.. เราเห็นนายเลิกทีหลังเราทุกครั้งเลยนี่นา ”
“ ก็วันนี้เลิกเร็วหน่อยน่ะ วันนี้เรากลับบ้านพร้อมกันนะ เดี๋ยวขอล้างหน้าแปบนึง ”
“ ได้ๆ ”
ระหว่างที่ต๋องกำลังล้างหน้า กล้วยก็เหลือบไปเห็นบางอย่างตรงบริเวณแขนของต๋อง เขารอจนต๋องล้างหน้าเสร็จ ก็เอ่ยถามต๋อง พร้อมกับจับแขนของต๋องยกขึ้นมาดู
“ ต๋องแขนนายไปโดนอะไรมาน่ะ ”
“ วันนี้ ซ้อมพลาดไปนิดนึง เราก็เลยขอเลิกก่อน ”
กล้วยลูบคลำบวิเวณแขนของต๋องที่บาดเจ็บด้วยสีหน้าห่วงใย
“ เจ็บไหมเนี่ย บวมช้ำเลย ”
“ ไม่เท่าไรหรอกกล้วย นิดหน่อยเอง ขอบใจนะที่เป็นห่วง ”
ต๋องเอ่ยตอบพร้อมกับสบตากล้วย เขาคิดอะไรอยู่ชั่วครู่ ก็เอ่ยถามขึ้นมาเบาๆ
“ กล้วย เราขอถามอะไรหน่อยได้ไหม? เราอยากให้นายตอบออกมาแบบจริงๆเลย นายอย่าโกรธเรานะ ถ้าเราถามแบบนี้ เราก็แค่.. อยากรู้จริงๆเท่านั้นแหละ ”
“ ก็ได้ ถามมาสิ ”
“ กล้วยชอบนัทใช่ไหม?
กล้วยได้ยินคำถาม ก็หลบสายตาต๋องอยู่ครู่หนึ่ง ก็เอ่ยตอบ
“ ใช่ เราชอบนัทมานานแล้ว ตั้งแต่ที่เพิ่งเริ่มรู้จักกันใหม่ๆ ”
กล้วยเห็นต๋องดูหน้าสลดไป เมื่อได้ยินคำตอบของเขา แต่เขาก็ได้เอ่ยต่อไปว่า
“ แต่.. นัทก็มีเชนแล้ว ดูเขาจะรักกันมากๆด้วย เราคงเข้าไปแทรกไม่ได้หรอก เพราะเราทั้ง 4 คนเป็นเพื่อนสนิทกัน เราก็คงแค่ ขอเก็บความรู้สึกดีๆแบบนี้ไว้ในใจคนเดียวก็พอ ”
ต๋องได้ยินคำตอบก็อึ้งไปอยู่ครู่หนึ่ง แล้วต๋องก็ตัดสินใจพูดบางอย่างออกมาจากความรู้สึกจริงๆจากใจเขา
“ กล้วย เราอยากจะบอกนายว่า.. เราชอบนายนะ บางครั้ง เราก็มีความรู้สึกเหมือนๆกับว่า นายพอจะมีใจให้เราบ้างเหมือนกัน ”
พูดจบต๋องก็เอามือของกล้วยมากุมไว้หลวมๆ พร้อมกับเอ่ยต่อว่า
“ มันจะพอเป็นไปได้ไหม? ถ้า.. เอ่อ เราจะลองมาคบกัน กล้วยคบกับต๋องได้ไหม? ”
กล้วยไม่ตอบว่ากระไร เขาหลบสายตาของต๋อง ก้มหน้านิ่งด้วยใบหน้าที่แดงระเรื่อด้วยความเขินอาย เขาพยักหน้าตอบรับเบาๆ พร้อมกับกุมมือของต๋องแน่นขึ้น
“ แหมๆ แอบมาจีบกันอยู่นี่เองนะเจ้าต๋องเจ้ากล้วย ไม่ยักรู้มาก่อนเลยว่านาย 2 คน ชอบกัน หึหึ ”
นัทเอ่ยเสียงดัง ทำให้ต๋องและกล้วยรีบผละออกจากกันในทันที แล้วต๋องก็รีบเอ่ยระล่ำระลักปกปิดความเขินอาย
“ อ้าวนัท เชน ยังไม่กลับกันอีกหรือ? เย็นมากแล้วนี่นา ทุกทีเห็นป่านนี้เห็นนาย 2 คนกลับกันไปแล้ว ”
“ ก็.. วันนี้ เรามัวหาหนังสืออ่านที่ห้องสมุด กะยืมไปอ่านเล่นที่บ้าน พอกำลังจะกลับ เจ้าเชนมันดันสะดุดท้องร่องหน้าโรงเรียน รองเท้าจมโคลนดำปี๋เลย ก็เลยพากันจะมาล้างรองเท้า แล้วก็มาเจอ.. เอ่อ.. แหนะๆๆ หึหึ ”
“ ต๋องกับกล้วยเป็นแฟนกันแน่เลยใช่ไหม? เมื่อกี้เราเห็นกุมมือกันแน่นเลย ”
เชนเอ่ยสมทบด้วยใบหน้ายิ้มแย้ม
“ ก็.. เอ่อ.. แหะๆ ”
ต๋องเอ่ยตอบได้แค่นั้นเพราะพูดไม่ออก ในขณะที่กล้วยเงียบนิ่งสนิทไม่พูดไม่จา เอาแต่ยืนก้มหน้าบิดไปบิดมาด้วยความประหม่าอาย นัทเห็นอาการก็ดูจะเข้าใจ ความจริงเขาเคยแอบสงสัยมานานแล้ว พอมาเห็นภาพเมื่อครู่ก็ดูออกทั้งหมด เขาไม่อยากเย้าแหย่อีกต่อไปด้วยว่าแอบยินดีด้วยในใจลึกๆ เขาจึงเอ่ยตัดบทด้วยทีท่าทะเล้นตามนิสัยเขา ขึ้นมาว่า
“ วันนี้อยู่พร้อมหน้ากัน 4 คนเลย งั้นเดี๋ยวไปกินน้ำแข็งใสกันนะ แล้วค่อยกลับบ้าน เดี๋ยวรอให้เชนมันล้างรองเท้าเสร็จก่อน เอ้า.. เชนมาล้างรองเท้าสิ นายนี่จริงๆ เบ๊อะไม่เคยเปลี่ยน ตอนเป็นเจ้านิคก็เดินเหยียบขี้หมา พอมาเป็นเชนก็ยังจะสะดุดท้องร่องรองเท้าจมโคลนอีก ดูสิ ดำปิ๊ดปี๋เลย ฮ่าๆ ”
กล้วย ต๋อง นัท เหลือบมองมาที่รองเท้าของเชนแล้วก็หัวเราะกันลั่น ในขณะที่เชนก้มหน้าก้มตาล้างรองเท้า ที่บริเวณก๊อกน้ำคร่ำเคร่งอยู่คนเดียว..

:laugh: :laugh: :laugh:
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 31-01-2009 20:33:45 โดย Pikachu »

High_Wizard

  • บุคคลทั่วไป
สบึม.........ฮาคำนี้จัง






เป็นกำลังใจให้นะครับ........แล้วมาลงต่อด้วยนะครับ

pickki_a

  • บุคคลทั่วไป
ูู^
^
^
 :mc4:
แทงผ่าน re บน จนถึงคนแต่ง
อ่านตอนพิเศษแล้วคิดถึงเรื่องเก่าจังอ่ะ

ออฟไลน์ dahlia

  • เป็ดแสนดี
  • เป็ดAphrodite
  • *
  • กระทู้: 4239
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +695/-4
เหตุผลของนก นี่น่าเห็นใจจริงๆๆๆ  :laugh:


ปล. เดี๋ยวตามไปอีกเรื่องนะคะ อ่านจากตอนพิเศษแล้วน่าสนใจ

namtaan

  • บุคคลทั่วไป
อ่านทันแล้วจ้า
เรื่องนี้น่ารักอ้ะ คนแต่งก้อขยันอัพด้วย
มีของแถมมาให้บ่อยๆอีก
บวก 1 ขอบคุณนะคะ :pig4:

andy_kwan

  • บุคคลทั่วไป
เรื่องนี้น่ารักดีนะ
แต่ป้าห่วงว่าสักวันหนึ่งพ่อแม่ของสองคนนี้รู้เรื่อง
คงจะระเบิดลงแน่ๆ
 :t3:

PEAK

  • บุคคลทั่วไป
ช่วยกันทำอาหารทานกัน  น่ารักดี  ....  ดีที่กินได้หมด  555

ขอบคุณคนเขียนนะครับ  ...  อ่านแล้วมีความสุขมากมาย

+1  เป็นกำลังใจ และ ขอบคุณที่ขยันโพส และนำตอนพิเศษมาให้ได้อ่านบ่อย ๆ ครับ ^__^

CoMMuNiTY Of ThAiBoYsLoVE

ประกาศที่สำคัญ


ตั้งบอร์ดเรื่องสั้น ขึ้นมาใครจะโพสเรื่องสั้นให้มาโพสที่บอร์ดนี้ ถ้าเรื่องไหนไม่จบนานเกิน 3 เดือน จะทำการลบทิ้งทันที
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=2160.msg2894432#msg2894432



รวบรวมปรับปรุงกฏของเล้าและการลงนิยาย กรุณาเข้ามาอ่านก่อนลงนิยายนะครับ
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=459.0



สิ่งที่ "นักเขียน" ควรตรวจสอบเมื่อรวมเล่มกับสำนักพิมพ์
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=37631.0






ออฟไลน์ [N]€ẃÿ{k}uñĢ

  • ~ῲเจ้าแม่Dramaῴ~
  • เป็ดแสนดี
  • เป็ดArtemis
  • *
  • กระทู้: 5186
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +740/-5
+1 ให้เลยอิๆ ขยันโพสต์จริงๆ ส่วนของแถมอะก็โดนใจ
อ่านตอนนี้แล้วเกือบจะคิดว่า นกมันจะมีใจให้แป๋มซะอีก  :เฮ้อ:
โล่งใจไปเปราะนึง
คิดถึงหน่อยจังงะตอนหน้าขอโผล่มาทั้งตอนนะ ไม่เอาแค่ชื่อที่โผล่ อิๆ
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 05-02-2009 01:08:27 โดย newykung »

nanalonely

  • บุคคลทั่วไป
ซี

เอาตอนพิเศษไปลงในเรื่องRobot เฮ้!!! เขาคือหุ่นยนต์ด้วยสิ

แล้วเขียนที่หัวหน้าแรก ว่าตอนพิเศษอัพวันไหนอ่ะ

เพื่อคนที่เคยอ่านเรื่องRobot เฮ้!!! เขาคือหุ่นยนต์

แต่ไม่ได้อ่านเรื่องนี้ เขาจะได้ตามเข้าไปอ่านนะ

ไม่งั้นคนที่ไม่ได้อ่านเรื่องนี้จะไม่รู้นะว่ามีตอนพิเศษ

Pikachu

  • บุคคลทั่วไป
^
^
^
ครับพี่ ขอบคุณครับ เดี๋ยวไปลง แหะๆ^^

- - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - -

ขอบคุณทุกคอมเม้นนะครับ พอดีวันนี้แวะเข้ามาดู

เดี๋ยวว่างๆลงต่อให้อีกครับผม^^

เรื่องนี้น่ารักดีนะ
แต่ป้าห่วงว่าสักวันหนึ่งพ่อแม่ของสองคนนี้รู้เรื่อง
คงจะระเบิดลงแน่ๆ
 :t3:

ขอบคุณมากครับป้า ไม่ต้องห่วงนะครับ ผมเขียนให้คลี่คลาย

อยากให้อ่านกันสบายๆครับผม ขอบคุณที่ชอบนะครับ^^
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 01-02-2009 22:23:52 โดย Pikachu »

ออฟไลน์ nOn†ღ

  • เป็ดแสนดี
  • เป็ดAphrodite
  • *
  • กระทู้: 4390
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +502/-6
กด+ ให้เป็นกำลังใจซี  ชอบตอนพิเศษจ้า

มาให้หายคิดถึงสี่หนุ่ม จาก Robotฯ เลย

 
 


Pikachu

  • บุคคลทั่วไป
ขอบคุณสำหรับคอมเม้นนะครับ
ผมโหวต+1ให้เพื่อเป็นการขอบคุณครับผม^^
มาติดตามตอนต่อไปกันได้เลยนะครับ.. หุหุ


หน่อย..

หน่อยนอนคิดอะไรเล่นๆอยู่เงียบๆคนเดียวอยู่ในห้องนอน หลังจากที่เขาช่วยพ่อของเขาเอาต้นไม้จากกระถางลงดินในสวนเล็กๆบริเวณหน้าบ้านเมื่อสักครู่ใหญ่ที่ผ่านมา เขารู้สึกว่า.. เวลาที่เจ้าแป๋มไม่อยู่แบบนี้มันดูเงียบๆชอบกล ทุกทีในวันหยุดถ้าเขาไม่ยุ่งวุ่นวายจนเกินไปนัก หรือถ้าเขาและแป๋มไม่ได้ออกไปไหนกัน แป๋มก็จะเข้ามาคลุกคลีในบ้านเขาแทบจะทั้งวัน จะมาช่วยพ่อของเขาทำนั่นทำนี่ตลอด เพราะพ่อของเขาเป็นคนชอบต้นไม้ ยามที่พ่อมีเวลาว่างก็มักจะจัดแต่ง ปลูกและดูแลต้นไม้ โดยมีเจ้าแป๋มมาคอยเป็นลูกมือเสมอ พ่อและแม่เขาดูจะเอ็นดูและชอบแป๋มไม่น้อยเลยนับแต่เด็กมาแล้วเพราะแป๋มดูจะออดอ้อนช่างพูดช่างคุยเหมือนน้องคนเล็กที่พ่อกับแม่อยากจะมีให้เขาแต่ไม่สามารถมีได้ เพราะแม่มีเขาเมื่ออายุค่อนข้างมากแล้ว นี่ถ้าพ่อแม่รู้ว่า.. จริงๆแล้วเขากับแป๋มเป็นแบบนี้กันจะเป็นไงบ้างหนอ? แต่คงจะไม่เป็นไรกระมัง? เพราะในบางครั้ง เขารู้สึกว่า.. สายตาของพ่อและแม่ ที่มองมายังเขาและแป๋ม ดูเหมือนกับว่า.. พ่อกับแม่จะล่วงรู้และดูออก เขาและแป๋มอาจจะดูสนิทสนมกันมากเกินไปจนพ่อกับแม่จับสังเกตุได้ จะเป็นแบบนั้นหรือเปล่า? เขาก็ไม่ค่อยแน่ใจนัก เพราะพ่อกับแม่ ไม่เคยพูดอะไรออกมาเลยเกี่ยวกับเรื่องของเขาและแป๋มในทำนองแบบนี้เลย สำหรับเขาดูจะไม่กังวลอะไรมากนัก แต่.. แป๋ม นี่สิ ดูเขาจะกลัวมากๆในเรื่องนี้ หลายต่อหลายครั้งที่แป๋มมักเอาเรื่องนี้มาพูดคุยกับเขาด้วยความกังวลใจ หน่อยยังจำบทสนทนา เมื่อครั้งล่าสุดที่เขาได้คุยกับแป๋มในเรื่องนี้ได้ดี..
. . . .
“ พี่หน่อย ผมว่าเรามาคบกันแบบนี้ไม่ค่อยดีเท่าไรเลยพี่ ผมกลัวจังเลย แต่ผมก็ไม่อยากจะเลิกกับพี่เลยนะ แต่ก็ผมไม่รู้จะทำไงดีเหมือนกัน ผมรู้สึกผิดและกลุ้มใจจริงๆเลยพี่หน่อย ”
“ แป๋มอย่าคิดมากสิ พี่ยังไม่ค่อยคิดอะไรมากเลย พี่ว่า.. มันไม่เห็นจะเสียหายตรงไหนเลยนะแป๋ม พี่กับแป๋มก็ไม่เคยทำอะไรประเจิดประเจ้อนี่นา รักกัน เข้าใจกันแบบนี้พี่ว่าดีออก มันเหมือนเป็นกำลังใจให้กัน อีกอย่างนะ เราได้เข้าใจกันแบบนี้ เราก็ไม่ต้องไปแสวงหาความรักจากที่ไหนอีก เพราะถ้าเกิดว่า.. เราไม่ได้รักกันแบบนี้ เราก็คงไปแสวงหาความรักแบบนี้จากคนอื่นอยู่ดีจริงไหม? และมันก็อาจจะเลยเถิดไม่เหมาะสมหลายๆอย่างไปมากกว่านี้อีกก็ได้นะแป๋ม  เพราะเราอาจจะไม่รู้จักเขาคนนั้นดีพอว่าความคิด จิตใจเขาเป็นแบบไหน? มันไม่เหมือนที่พี่รู้จักแป๋ม และแป๋มรู้จักพี่นะ เพราะเรารู้จักกันมาตั้งแต่เรายังเด็กแล้วนะแป๋ม ”
“ พี่พูดมาก็มีเหตุผล แต่ผู้ใหญ่เขาจะเข้าใจแบบนี้หรือเปล่า? พี่ลองคิดดู ถ้าพ่อแม่พี่รู้ เขาจะว่าอย่างไร? ”
“ พี่ว่า.. เขาคงไม่ว่าอะไรหรอกแป๋ม ก็พ่อแม่พี่ชอบแป๋มจะตาย แป๋มรู้ไหม? เวลาที่แป๋มไม่อยู่ พ่อแม่พี่จะพูดถึงแป๋มอยู่เรื่อย อย่างตอนที่แป๋มไปประจวบฯกับพ่อของแป๋มเป็นอาทิตย์ตอนปิดเทอมคราวก่อนน่ะ พ่อพี่ยังบ่นคิดถึงแป๋มเลย ยังพูดเลย ว่าแป๋มไม่อยู่ มันเงียบๆชอบกล คิดถึงไอ้แป๋มมัน ก็แป๋มคิดดูสิ แป๋มมาคลุกคลีอยู่ที่บ้านพี่ตั้งแต่เรายังเด็กๆกัน นี่มันกี่ปีมาแล้วละแป๋ม พี่คิดว่าพ่อแม่พี่น่ารู้นะแป๋ม เพราะบางที.. เราอาจจะดูสนิทสนมกันมากจนผิดปกติ พ่อแม่พี่เขาก็อาจจะรู้ก็ได้ พ่อแม่เลี้ยงเรามาเขาก็คงพอจะรู้ว่าเราเป็นอะไรยังไง? แต่เขาก็ไม่เคยพูดอะไรนะ คงเพราะเราไม่เคยทำอะไรน่าเกลียดนี่แป๋ม พี่ว่า.. พ่อแม่พี่อาจจะรู้และก็เข้าใจก็ได้ พี่คิดงั้นจริงๆ พี่เลยไม่ค่อยกลุ้มไงแป๋ม ”
“ จริงเหรอพี่.. เออ.. วันก่อนนะ ทำไมลุงเขาพูดกับผมแบบนี้ละพี่ อยู่ๆเขาก็พูดขึ้นมาว่า.. ไอ้แป๋มมันน่าจะเป็นผู้หญิงนะ แล้วเขาก็หันไปยิ้มๆกับพี่น่ะ ผมอายแทบแย่เลย ผมดูออกสาวเหรอพี่ ทำไมลุงเขาพูดแบบนี้ล่ะ ”
“ หึหึ ดูไม่ออกหรอกแป๋ม พ่อพี่เขาแหย่แป๋มเล่นน่ะ พ่อเขาคงอาจจะอยากได้แป๋มมาเป็นลูกสะไภ้ก็ได้มั๊ง ฮ่าๆ ”
“ พี่ยังจะมาขำอีก พี่จะบ้าเหรอ? ลูกสะไภ้บ้าอะไร ผู้ชายเป็นลูกสะไภ้ได้เหรอ? ผมกำลังซีเรียสนะจะบอกให้ แล้วพี่คิดว่า.. นี่เราจะโชคดีขนาดผู้ใหญ่เข้าใจเราในเรื่องที่เราคบกันแบบนี้ได้เหรอ? มันจะเป็นไปได้เหรอพี่ มันดูจะเวอร์ไปหน่อยไหม ผมว่า.. พี่คิดไปเองมากกว่า ”
“ เป็นไปได้สิแป๋ม ก็บอกแล้วไง พ่อแม่พี่เขารู้จักแป๋มมาตั้งแต่วันที่แป๋มมาช่วยพี่ย้ายของเข้าบ้าน ตั้งแต่แป๋มยังตัวกะเปี๊ยก ตอนนั้นเขายังบอกเลยว่า.. ไอ้เด็กคนนี้มันน่ารักดี มาช่วยขนของเหย็งๆเลย ฮ่าๆ พ่อแม่พี่เขาชอบแป๋มนะ แป๋มเองก็น่าจะรู้ พี่ว่า.. แป๋มอย่าไปคิดมากเลยน่า ”
“ เฮ้อ!! ถ้าพ่อแม่พี่ เป็นแบบที่พี่คิดจริงๆก็ดีนะสิ แต่ทีนี้แม่ผมล่ะ? เขาจะเข้าใจหรือเปล่า? ผมละกลัวจริงๆ บางทีมันก็อึดอัดนะพี่ ผมไม่อยากให้แม่เสียใจน่ะ สงสารแม่ บางทีผมก็อยากจะสารภาพกับแม่เลยนะพี่ แต่มันก็ไม่กล้า ”
ในตอนนั้นหน่อยได้แต่ลูบหัวแป๋มเบาๆเหมือนจะปลอบใจและให้กำลังใจ เขาทำได้เพียงแค่นี้และเขาก็ไม่อาจกล่าวอะไรได้อีก ในยามนี้เขาคิดว่า.. เขาเข้าใจความรู้สึกของแป๋มว่าคงกำลังกังวลใจและอึดอัดใจพอควร
. . . .
ความคิดของหน่อยสะดุดลง เมื่อเขามีความรู้สึกว่า.. ได้ยินเสียงแป๋มกลับมาแล้ว เขาแอบไปชำเลืองมองทางหน้าต่าง ก็เห็นว่าแป๋มกลับมาแล้วจริงๆและกำลังยืนคุยอยู่กับพ่อของเขาอยู่บริเวณหน้าบ้าน เขาคิดในใจว่า.. เดี๋ยวอีกสักพัก เจ้าแป๋มคงต้องขึ้นมาหาเขาแน่ เขาจึงไปเปิดประตูห้องแง้มๆไว้ แล้วแกล้งมานอนหลับอยู่บนเตียง ผ่านไปได้สักพักใหญ่ จนเขารู้สึกเคลิ้มๆเหมือนกำลังจะหลับจริงๆ แล้วก็ดูเหมือนกับว่า.. สิ่งที่หน่อยคาดการณ์ไว้จะเป็นจริงดังคาด แป๋มขึ้นมาหาหน่อยจริงๆ แป๋มแอบมองเข้ามาในห้องของหน่อย ก็เห็นว่าหน่อยกำลังหลับอยู่บนเตียง คราแรกเขาคิดว่าจะคาะประตูก่อน แต่แล้วก็เปลี่ยนความคิด เขาค่อยๆก้าวเข้ามาในห้อง ค่อยๆปิดประตูและกดล๊อคให้เสียงเบาที่สุด ดูเหมือนกับว่า.. หน่อยกำลังหลับสนิทไม่รู้สึกตัว แป๋มพิศมองใบหน้าหล่อคมคายของหน่อยแล้ว เขารู้สึกว่า.. หน่อยช่างเป็นคนที่หล่อเหลาเหลือเกิน หน่อยมีคมคิ้วเข้มกับขนตาที่ยาวงอนทำให้ดวงตาเขาดูหวานแต่คมคาย ใบหน้าเรียบเนียนใสไร้รอยตำหนิ ริมฝีปากที่อวบอิ่มแดงระเรื่อ ผิวกายสีเข้มแต่ไม่คล้ำมากแต่เนียนละมุนยามลูบไล้ รูปร่างสมส่วนแข็งแรงแบบคนที่สุขภาพดีอุดมไปด้วยเลือดฝาดและดูเข้มแข็ง เขาแอบมองนิ่งๆอยู่อย่างนั้นเนิ่นนานและรู้สึกชื่นชมในใจ แป๋มเกิดความคิดบางอย่าง แล้วแอบยิ้มคนเดียว เขาก้มลงหอมแก้มหน่อยเบาๆสูดดมกลิ่นหนุ่มของหน่อยอยู่ครู่หนึ่ง แป๋มรู้สึกว่า.. มันช่างรัญจวนใจน่าไหลหลงเหลือเกิน จนถึงในยามนี้ ก็ดูเหมือนกับว่า.. หน่อยก็ยังคงไม่รู้สึกตัว เขาจึงเอามือค่อยๆเลื้อย ไปที่.. ที่.. ที่.. จนใกล้ถึงตรงจุดนั้น และแล้ว..  หน่อยก็คว้าหมับที่มือแป๋มแล้วเอ่ยว่า
“ ทำอะไรน่ะแป๋ม? ”
“ เปล่านะ ”
“ เปล่าอะไร? พี่เห็นอยู่ ”
“ เห็นได้ไง ก็พี่หลับไม่ใช่เหรอ? ”
“ ไมได้หลับแต่แกล้งหลับ อยากจะรู้ว่าไอ้เด็กลามก มันจะทำอะไรบ้าง แล้วก็ได้เห็น หึหึ ”
“ แหะๆ ”
แป๋มยิ้มแหยๆ แล้วหัวเราะแก้เก้อ
“ แล้วเป็นไงบ้าง?  ไปค้างที่บ้านนก? ”
“ ก็ดีนะพี่ สงสารมันถ้าผมไม่ไปมันก็คงจะเหงาๆ เพราะต้องอยู่คนเดียวตั้งหลายวัน เพราะปกติบ้านมันคนเยอะ จะว่าไปตอนนี้ ผมก็รู้สึกเพลียๆหน่อยๆอยู่เหมือนกัน นอนไม่ค่อยเต็มตาน่ะ ”
“ เพลียๆ? ทำไมถึงเพลียเพราะนอนไม่เต็มตา? ”
หน่อยเอ่ยถามเสียงห้วน พร้อมกับแสดงสีหน้าแปลกๆ จนเห็นได้ชัด
“ พี่เนี่ย!! ผมรู้นะ.. ว่าพี่คิดอะไร? ไอ้นกมันเป็นเพื่อนผมนะ พี่จะบ้าเหรอ? ไม่ได้ทำอะไรกันแบบนั้นหรอก ”
“ พี่ยังไม่ได้พูดอะไรเลยนะแป๋ม ทำไมแป๋มพูดเหมือนร้อนตัวเลย หึหึ ”
“ ก็ใช่ พี่ไม่ได้พูด แต่สีหน้าพี่มันบอกว่าพี่คิดอะไร? หน้าพี่มันฟ้องออกมาเลย จริงไหมล่ะ? พี่นี่ถ้าจะบ้าไปแล้ว เหอะๆ ”
“ หึหึ เออ.. แล้วทำไมแป๋มถึงนอนไม่ค่อยเต็มตาล่ะ? นอนไม่ค่อยหลับเหรอ? ปกติพี่เห็นแป๋มเป็นคนหลับง่ายนี่นา ”
“ นกมันนอนดิ้นน่ะพี่ มันก่าย มันทับ มันเตะ มันถีบผมเกือบทั้งคืน มันนอนกลิ้งไปทั่วที่นอนเลย เล่นเอาผมเกือบตกเตียง เป็นอย่างนี้ทั้ง 2 คืนเลย จนเมื่อตอนใกล้เช้าวันนี้ ตอนนอนด้วยกัน ผมทนไม่ไหวแล้ว ถีบมันกลิ้ง กระเด็นไปเลย เหอะๆ ”
“ หึหึ ตลกดีนะ เจ้านกเนี่ย เคยเห็นมาเที่ยวบ้านแป๋มบ่อยๆ พี่ก็เคยคุยเล่นกับนก ก็ดูเจ้านกมันเป็นคนตลกๆแก่นๆน่ารักดีหน้าตามันก็น่ารักดีด้วย พี่ดูเหมือนกับแป๋มจะสนิทกับนกมากๆเลยนะ พี่ชอบดูเวลาแป๋มต่อปากต่อคำกับเจ้านก มันดูตลกมากๆเลย พี่ยังขำอยู่บ่อยๆ  ”
“ อืม.. ก็คงงั้นน่ะพี่ ก็คบกับมันมาตั้งแต่ม.1แล้ว มันเป็นชอบพูดกวนบาทาจะตาย ผมเถียงกับมันไม่อยากจะยอมมันหรอกนิสัยมันเป็นคนอย่างนั้นแหละ ปากมันก็แว๊ดๆ แต่จริงๆแล้วมันไม่มีอะไรหรอก เถียงกันแล้วก็ขำกัน หึหึ เอ้อ.. พี่ผมง่วงจังเลย ขนาดนั่งรถมายังหลับเกือบเลยป้ายแน่ะ ขอหลับกลางวันที่นี่แล้วกันนะพี่ ”
พูดจบแป๋มก็ล้มตัวลงนอนหนุนตักหน่อย หน่อยเอามือลูบเส้นผมของแป๋มเบาๆ ดูเหมือนว่าแป๋มจะชอบมาก เพียงชั่วไม่นาน แป๋มก็เคลิ้มแล้วก็หลับไป เขาคงจะกำลังง่วงจริงๆ หน่อยลอบมองดวงหน้าของแป๋มยามหลับแล้วอมยิ้ม เขารู้สึกว่า.. ดวงหน้ายามหลับของแป๋ม ดูอ่อนเยาว์และไร้เดียงสาเหมือนเด็กๆเหลือเกิน ดูน่ารักมากๆ เขานั่งลอบมองนิ่งๆอยู่เช่นนั้นจนรู้สึกเมื่อยขบเล็กน้อย แต่ไม่อยากขยับตัวด้วยเกรงว่าจะทำให้แป๋มจะตื่น เขาชอบมองแป๋มหลับแบบนี้ เขาเอานิ้วเกลี่ยแก้มใสๆที่เนียนลื่นของแป๋มด้วยความรักใคร่ แล้วยังคงจ้องมองดวงหน้าแป๋มอยู่เงียบๆเช่นนั้น ยิ่งมองก็ยิ่งคิดถึงเรื่องราวของเขาและแป๋ม และคืนที่เหมือนกับความฝัน คืนที่ได้รู้ว่าแป๋มมีหัวใจแบบเดียวกับเขา ในคืนครั้งที่เขาและแป๋มเพียงแค่สนิทกัน และยังไม่รับรู้ความในใจซึ่งกันและกัน การแสดงออกที่มีต่อกันในตอนนั้นยังคงแค่เหมือนเพื่อน เหมือนแป๋มเป็นน้อง ในราตรีนั้นแม่ของแป๋มไม่อยู่ และเขาก็ไปอยู่ ไปนอนเป็นเพื่อนแป๋มเหมือนดังเช่นเคยที่ผ่านมา เขาและแป๋มนอนเคียงกัน และเขาก็เกินที่จะห้ามใจที่จะเก็บงำแอบซ่อนความเสน่หาแป๋มอีกต่อไป ในคืนนั้น.. เขาตัดสินใจประกบริมฝีปากจูบแป๋มพลางคิดในใจว่า.. เป็นไงเป็นกัน ทนไม่ไหวแล้ว ถ้าแป๋มไม่ใช่ และไม่ได้มีใจให้กับเขาแบบนั้น ก็คงจะมองหน้ากันไม่ได้อีกเลย แต่แล้ว.. จากสัมผัส มันก็ทำให้เขาได้รับรู้ได้ในทันทีเลยว่า แป๋มก็รอคอยวันนี้มาเนิ่นนานแล้วเช่นกัน  ต่อจากนั้นทุกอย่างจึงดำเนินไปต่อจนถึงสุดสายป่านของอารมณ์ปรารถนาที่ชักพาไปและหัวใจที่หล่อหลอมเป็นหนึ่งเดียว นับแต่นั้น ความสัมพันธ์ของเขาและแป๋มก็รักและเข้าใจกันแบบที่เป็นดังเช่นทุกวันนี้..

“ หน่อย น้องแป๋ม ลงมากินขนมกันลูก ”
เสียงแม่ของหน่อยเรียกดังมาจากข้างล่าง หน่อยได้ยินดังนั้นก็ค่อยๆสะกิดปลุกแป๋ม
“ แป๋มๆ ตื่นเถิด ”
“ อืมมม.. มีอะไรเหรอพี่? ”
แป๋มลืมตาตื่นขึ้น แล้วเอ่ยถามด้วยน้ำเสียงงัวเงีย
“ แม่พี่เรียกกินขนมน่ะ เราลงไปข้างล่างกันเถิดนะ ไปกินขนมฝีมือแม่พี่ ”
“ อืม.. ครับ ”
แล้วทั้งคู่ ก็ออกจากห้อง เดินเคียงกันลงไปข้างล่าง
. . . .
“ แป๋มหลับอยู่เหรอลูก หน้าตายู่ยี่ ตาตุ่ยชียว ”
แม่ของหน่อยเอ่ยทักแป๋มด้วยใบหน้ายิ้มแย้มเมื่อทั้งคู่ลงมาถึง
“ ครับ ง่วงๆ ก็เลยงีบไปนิดนึงครับป้า แหะๆ ”
“ เอ้า มากินขนมกันลูก เอ้อ.. แป๋มขนมนี่ป้าทำเอง เพิ่งทำเสร็จเมื่อกี้เอง เอ้า.. นี่ป้าตักให้แล้ว ”
แป๋มนั่งลงและตักขนมเข้าปากและเขาก็รู้สึกว่า.. มันอร่อยจริงๆ
“ อร่อยจังเลย แป๋มกินขนมฝีมือป้าทีไรต้องขอเบิ้ลทุกทีเลย เพราะมันอร่อยจริงๆครับป้า ”
“ แม่ดูแป๋มสิครับ ทำปากหวานอ้อนปะเหลาะแม่ใหญ่เลย แหนะๆ หึหึ ”
“ ไม่ได้ปะเหลาะนะพี่หน่อย ขนมอร่อยจริงๆ ที่แป๋มซื้อเขากิน ยังไม่อร่อยแบบนี้เลยจริงๆนะครับป้า ”
“ ก็นั่นเขาทำขายนี่ลูก มันจะเหมือนที่เราทำกินเองเหรอ? เราทำกินเอง เราก็ใส่ทุกอย่างเต็มที่ อร่อยก็กินเยอะๆนะลูก ป้าทำตั้งเยอะแน่ะ เดี๋ยวแป๋มเอาไปฝากแม่แป๋มด้วยนะลูก ”
“ ขอบพระคุณครับป้า ”
สักพัก พ่อของหน่อยก็มาร่วมรับประทานขนมด้วยกัน แล้วทั้งหมดก็ร่วมรับประทานและพูดคุยกันอย่างอบอุ่นเป็นกันเอง หน่อยรู้สึกว่า.. มันดูจะเป็นยามบ่ายวันสุดสัปดาห์ที่อบอุ่นและแสนจะมีความสุข หน่อยอดคิดในใจไม่ได้ว่า.. ถ้าพ่อแม่เขาล่วงรู้ความจริงเรื่องเขาและแป๋ม และสามารถยอมรับแป๋มโดยไม่ตะขิดตะขวงใจ เหมือนดังที่เขาเคยคาดเดาไว้ มันก็คงจะเป็นเรื่องที่ดีไม่น้อย มันจะสามารถเป็นความจริง หรือจะเป็นได้แค่เพียงความฝันหนอ? หน่อยอยากรู้อนาคตของเขาและแป๋มเหลือเกิน..

:z1: :z1: :z1:

*โปรดติดตามตอนต่อไปเร็วๆนี้ครับ^^

( ภาพประกอบออกแบบโดย ~Pikachu~ สร้างสรรค์ภาพจากเกมส์ The Sims 2 และโปรแกรม Photoshop )
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 04-02-2009 17:46:44 โดย Pikachu »

ออฟไลน์ [N]€ẃÿ{k}uñĢ

  • ~ῲเจ้าแม่Dramaῴ~
  • เป็ดแสนดี
  • เป็ดArtemis
  • *
  • กระทู้: 5186
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +740/-5
:z13:
จิ้มพี่ซี
+1 คืนให้พี่ซี อิๆ
นิวว่า รูปที่เอามาลงอะเหมาะเหม่งมากมายงะ
แต่อยากบอกว่าตอนนี้ หน่อย กวนได้น่ารักมากมายอะ
อยากอ่านตอนต่อจังเลย ถ้าเป็นไปได้นะอยากให้พ่อแม่หน่อยรู้เรื่องจัง ไม่รู้เนื้อเรื่องจะไปยังไงต่อ
แล้วจะรออ่านต่อนคราบ
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 05-02-2009 01:09:25 โดย newykung »

namtaan

  • บุคคลทั่วไป
^
^
 :z13:จิ้มน้องนิว ทะลุไปถึงคนแต่ง
ตอนนี้น่ารักจังเลยค่ะ หวานนิดๆ ใสๆ ชอบๆๆๆๆๆ

บวก 1 ให้ด้วยนะคะ :L2:

High_Wizard

  • บุคคลทั่วไป
ตลกกันจังเลย พี่หน่อยและน้องแป๋ม ซีนี้แต่งได้น่ารักเหมือนเดิมเลยวะ







เป็นกำลังใจให้นะครับ........................แล้วมาลงต่ออีกนะครับ

andyus1

  • บุคคลทั่วไป
ขอหั้ยผ่านไปด้วยดีคร้าบบบ

เอาจัยช่วย สู้ๆๆๆๆ

รอตอนต่อปายคร้าบ

FOAM

  • บุคคลทั่วไป
น่ารักดีครับคู่นี้

CoMMuNiTY Of ThAiBoYsLoVE






nanalonely

  • บุคคลทั่วไป
น่าร๊ากกกกกก

ตอนต่อไปอยู่หน่ายยยน้องซี o11


ออฟไลน์ dahlia

  • เป็ดแสนดี
  • เป็ดAphrodite
  • *
  • กระทู้: 4239
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +695/-4
นั่นสินะ ถ้าผู้ใหญ่จะว่าอย่างไงมั้งเนี่ย

ว่าแต่ตอนต่อไปอยู่ไหนค่ะ

PEAK

  • บุคคลทั่วไป
ว้าว ~!!   พ่อ แม่ หน่อย  เอ็นดูแป๋มด้วย  ^__^  ดีจัง

ขอบคุณคนเขียนนะครับ

ใส่ใจคนอ่านมาก ~!   +1  เป็นกำลังใจให้ครับ

andy_kwan

  • บุคคลทั่วไป
น่ารักทั้งสองคนเลย ขอให้ทุกอย่างดำเนินไปด้วยดี
ป้าช่วยลุ้นจ๊ะ
 :t3:

ออฟไลน์ mist

  • เป็ดArtemis
  • *
  • กระทู้: 4505
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +263/-3
ยังน่ารักเหมือนเดิม  :impress2:

ออฟไลน์ nana

  • 아주마 애기 두명 ㅋㅋ
  • เป็ดAres
  • *
  • กระทู้: 2759
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +138/-2
ยังน่ารักกันเหมือนเดิม :กอด1:

ออฟไลน์ panpan

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 366
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +50/-2
พ่อแม่หน่อยน่าจะรับได้  แต่แม่แป๋มหล่ะ :เฮ้อ:

Pikachu

  • บุคคลทั่วไป
ขอบคุณสำหรับทุกคอมเม้นนะครับ^^
ผมขอโหวต+1ให้ทุกท่านเพื่อเป็นการขอบคุณนะครับ

วันนี้ผมมาลงตอนต่อให้ พร้อมกับของแถมอีก 1 เรื่อง
อ่านของแถมก่อนแล้วกันนะครับ
อย่าลืมฟังเพลงประกอบไปด้วย
เพลงเพราะๆเพลงนี้..
ที่ทำให้ผมเขียนเรื่องสั้นเรื่องนี้ขึ้นมา
เรื่องสั้นที่ขอมอบแด่ทุกท่านที่เคยแอบรักเพื่อนนะครับ


เพียงแค่นี้.. ก็พอ


รักเธอ แต่เธอไม่เคยรู้ ฉันรักเธออยู่ มากมายเท่าไร
แค่เพียง ได้เก็บเธอเอาไว้ ไว้ภายในใจ ของฉันตลอดมา
อยากบอกเธอในบางครั้ง แต่ฉันยังคงไม่กล้า
เพราะฉันกลัวจะเสียน้ำตา และอาจจะสูญเสียเธอไป

ได้ใกล้ชิดกับเธอก็พอ ได้แค่ขอมีเธอในใจ
แค่เพียงเธอไม่ร้างไกล เท่านี้ก็พอ

ได้แค่เพียงสบตาเท่านั้น  ได้แค่ฝันข้างเดียวเรื่อยไป
รู้คนเดียวอยู่ทั้งใจ ว่าฉันรักเธอ..

ห้ามใจเก็บกดอยู่อย่างนั้น ถึงแม้ว่ามัน อัดอั้นเพียงใด
ฉันกลัวถ้าบอกเธอออกไป แล้วเธอจะเปลี่ยน ไม่เหมือนที่ผ่านมา

อยากบอกเธอในบางครั้ง แต่ฉันยังคงไม่กล้า
เพราะฉันกลัวจะเสียน้ำตา และอาจจะสูญเสียเธอไป

ได้ใกล้ชิดกับเธอก็พอ ได้แค่ขอมีเธอในใจ
แค่เพียงเธอไม่ร้างไกล เท่านี้ก็พอ

ได้แค่เพียงสบตาเท่านั้น  ได้แค่ฝันข้างเดียวเรื่อยไป
รู้คนเดียวอยู่ทั้งใจ ว่าฉันรักเธอ..

และรักตลอดไป
และรักตลอดไป
. . . .

เพลงเพราะเหลือเกิน มันช่างตรงกับเรื่องราวและอารมณ์ของเขาในตอนนี้ทุกอย่าง พีทหลับตาฟังเพลงจากหูฟังที่ต่อมาจากเครื่องเล่นเพลง แล้วเขารู้สึก.. เคลิบเคลิ้มและดื่มด่ำไปกับเสียงเพลงอันไพเราะ จนทำให้อารมณ์ของเขาวูบวาบสั่นไหว น้ำตาเขาเริ่มซึมๆที่หน่วยตาและพาลจะไหลออกมา เขาปล่อยอารมณ์ให้ล่องลอยไปกับเสียงเพลง และจมไปกับภวังค์ความคิดตัวเองอยู่เช่นนั้น เนิ่นนาน..
“ ฟังเพลงอะไรอยู่? เคลิ้มใหญ่เลยนะพีท ”
น้ำเสียงที่คุ้นเคยเอ่ยทัก ทำให้พีทลืมตาขึ้นมองและรีบกรีดน้ำตาทิ้งในทันที เป็นแทนนั่นเอง แทนหย่อนกายลงนั่งข้างๆเขา พร้อมกับโอบไหล่ของเขาอย่างสนิทสนมคุ้นเคย
“ นี่พีทร้องไห้ด้วยเหรอ? มีอะไรเศร้าใจหรือเปล่า? ระบายออกมาก็ได้นะเพื่อน เผื่อนายจะได้สบายใจขึ้น ”
“ ไม่ได้ร้องไห้ ฟังเพลงแล้วมันเคลิ้มๆ น้ำตาเลยซึมๆน่ะ ไม่ได้เศร้าอะไรหรอกแทน ”
“ เพลงอะไรหนอ? ที่ทำนายให้เป็นแบบนี้ได้ ไหนขอฟังบ้างสิ ”
แทนพูดจบก็ฉวยหูฟังอีกข้างไปจากเขา แล้วก็นั่งเบียดเขาเข้ามาจนชิดมากขึ้นเพื่อร่วมฟังเพลงจากหูฟังอีกข้างด้วยกัน กายต่อกายแนบชิด พีทสัมผัสได้ถึงกลิ่นกายและลมหายใจอันอบอุ่นของแทน สัมผัสที่ชิดใกล้กันขนาดนี้.. มันทำให้พีททรมานใจเหลือเกิน เขารักแทนจนล้นในอก รักแบบนี้มาเนิ่นนานแล้ว แต่ก็ไม่อาจแสดงท่าทีมากกว่าความเป็นเพื่อนได้ คงได้แต่แอบซ่อนไว้ในใจเงียบๆ เพราะ.. เขากลัว กลัวเหลือเกิน ที่จะสูญเสียแทนและเขาคงมองหน้ากันไม่ได้อีกต่อไป ในยามนี้และเวลานี้ เขาอยากจะสนิทกับแทนแบบนี้ ได้อยู่ใกล้ๆกับแทนแบบนี้ แอบรักเงียบๆแบบนี้ต่อไป มันคงจะดีกว่าที่จะให้แทนรับได้รู้ความในใจ ความรู้สึกจริงๆของเขาที่มีต่อแทน เพราะมันอาจจะทำแทนให้รังเกียจเขา และทำให้ความรู้สึกดีๆต้องพังทลายลง ถ้าเป็นแบบนั้น.. เขาคง.. หัวใจแตกสลาย เขาลอบมองดวงหน้าของแทนที่กำลังหลับตาพริ้มฟังเพลงอย่างเคลิบเคลิ้ม แล้วมันยิ่งทำให้เขาหลงไหลแทนจนแทบจะอดใจไม่ไหว เขารู้สึก.. อยากเอาศีรษะไปซบไหล่กว้างที่ดูน่าอบอุ่นของแทนเหลือเกิน อยากสัมผัสกอดแทนอย่างแนบแน่น อยากสูดกลิ่นกายจากแผงอกของแทน อยาก.. ไม่.. ไม่.. เขาต้องไม่ทำเช่นนั้น เขาทำเช่นนั้นไม่ได้ เขาพยายามตัดใจ แล้วผลุดลุกขึ้นยืนในทันที
“ อ้าวพีท.. เป็นอะไรไป? นี่เราคงจะมาเบียดนายจนอึดอัดละสิ ขอโทษทีนะ ”
“ ปละ เปล่า ไม่ใช่แบบนั้น คือ คือว่า.. สงสัยว่า.. เราคงจะโดนมดกัดน่ะ เราก็เลยสะดุ้ง ”
“ อ่อ.. มิน่า นายถึงรีบลุกจนเราแปลกใจเลย อืม.. พีท เพลงนี้เพราะดีนะ ขนาดเราฟังครั้งแรกยังชอบเลย ”
“ ใช่.. เพลงเพราะมาก เพลงเก่าแล้ว แต่เราชอบมากๆเลย ความหมายก็ดีด้วย มันตรงใจเรามากๆ ”
“ ตรงใจพีทมากๆงั้นเหรอ? ”
แทนพูดแค่นั้นก็ปรายตามายังพีทแล้วยิ้มมุมปากแบบแปลกๆ พีทรู้สึกแปลกใจในรอยยิ้ม และคำพูดแปลกๆของแทน นี่เขาพูดอะไรผิดไปหรือเปล่า? ทำไมแทนมีท่าทีแปลกๆแบบนั้น เขายืนนิ่งงันอยู่เช่นนั้น จนแทนเอ่ยทำลายความเงียบขึ้นมา..
“ อืม.. พีท นี่ก็ใกล้วาเลนไทน์แล้ว นายคงเตรียมของให้กับคนที่นายชอบแล้วใช่ไหม? ”
“ ก็ เอ่อ.. ก็เตรียมแล้วนะ แต่กำลังคิดอยู่ว่าจะให้ดีไหม? ”
“ ทำไมล่ะพีท? ”
“ ก็ไม่รู้สิ เรา เอ่อ.. เรามาคิดๆดู เราว่า.. เราคงไม่ให้ดีกว่า เรากลัวเขาจะเสียความรู้สึกน่ะ เพราะ.. มันอาจจะเป็นเพราะ เราคงรักเขาข้างเดียว ”
“ เราว่า.. เขาคงไม่เสียความรู้สึกหรอก ถึงจะเป็นการรักเขาข้างเดียวก็ตามเถิด คนรับน่าดีใจด้วยซ้ำ ที่มีคนมามอบสิ่งที่สื่อถึงความรักให้ ถ้าพีทอยากจะให้ ก็ให้เขาเถิดนะ เราว่า.. คนรับคงอยากได้แน่ๆ ”
แทนพูดจบ ก็ยิ้มมุมปากแบบแปลกๆอีกแล้ว พีทรู้สึกงุนงงชอบกลในท่าทีแบบนั้นของแทน นี่แทนพูดอะไรของเขา มันฟังดูมีเลศนัยแปลกๆ เหมือนเขาจะรู้อะไรบางอย่าง เขาจะขยับจะเอ่ยถาม แต่ก็ไม่รู้จะพูดอะไรดี จึงได้แต่ยืนอ้ำอึ้งเช่นนั้นด้วยความงุนงงสงสัย แล้ว.. แทนก็เอ่ยขึ้น พร้อมกับส่งของบางอย่างมาให้เขา
“ เอ้อ.. พีท นี่เราเอาสมุดจดงานมาคืนนายน่ะ เราลอกในส่วนของวันที่เราขาดเรียนเสร็จแล้ว ขอบใจนะพีท ”
สมุดจดงาน? จริงสิ.. นี่เขาลืมไปเลย ว่าเขาได้สอดของบางอย่างเอาไว้ที่นั่น ของที่เขาเตรียมเอาไว้เพื่อที่จะแอบเอาไปให้แทนโดยไม่ให้แทนรู้ เขาคิดอยู่นานกว่าจะตัดสินใจทำแบบนี้ เขาคิดว่า.. แทนไม่น่าจะรู้ว่าเป็นใคร แทนอาจจะคิดว่าน่าจะเป็นเพียงคนที่แอบเขาชอบมาทำเซอร์ไพร์สเท่านั้น เขาก็ไม่รู้ว่าทำไมเขาจึงอยากทำอย่างนี้.. มันอาจะเป็นเพราะ อย่างน้อยๆ มันคงพอบบรรเทาความรู้สึกอัดอั้นในใจ ในความรักที่ต้องแบบซ่อนเช่นนี้ลงบ้างก็ได้บ้างกระมัง? ในวันก่อนเขาได้แวะซื้อการ์ดรูปหัวใจสีชมพูหวาน แล้วได้วานให้น้องสาวที่อยู่ข้างบ้านช่วยเขียนข้อความบางอย่างให้ ด้วยเพราะเขาเกรงว่า.. ถ้าเขาเขียนเองแทนน่าจะจำลายมือของเขาได้และรู้ว่าเป็นเขาแน่นอน ในข้อความนั้น ข้อความในใจที่เขาอยากสื่อถึงแทน เพื่อบรรเทาความรักจนล้นใจของเขาที่มีต่อแทนลงบ้างนั้น มันมีใจความว่า..

.. จากใครคนหนึ่ง
ซึ่ง.. รักแทนมากเหลือเกิน รักมากที่สุด และจะขอรักอย่างสุดหัวใจตลอดไป
ถึงแม้ว่ารักของเราที่มีต่อแทน จะเป็นดังเส้นขนาน ที่ไม่อาจมีวันมาบรรจบกันได้
แต่เราก็จะขอเก็บงำและแอบซ่อนความรู้สึกรักแทนแบบนี้ไว้กับหัวใจตัวเองตลอดกาล
สุขสันต์วันแห่งความรัก ขอให้แทนได้พบรักที่สมหวัง และมีความสุขตลอดไป ..

จากนั้นเขาก็สอดเอาไว้ในสมุดจดงาน จนเมื่อ.. เมื่อวานแทนมาขอยืมสมุด แล้วเขาก็ให้ไปโดยลืมไปว่าในนั้นมี.. การ์ดที่เขาเตรียมไว้ แล้วนี่.. แทนจะเห็นหรือเปล่า? แทนคงจะเห็นแน่ๆ มิน่าล่ะ แทนจึงพูด และแสดงท่าทีแปลกๆแบบนั้น เขายืนมองหน้าแทนดัวยหัวใจที่เต้นระทึก แทนหลบตาเขาเหมือนจะคิดอะไรบางอย่าง จากนั้น.. แทนก็หันมาสบตาเขา และเอ่ยบางอย่างออกมา..
“ พีท เอ่อ.. เราคบกับนายมาตั้งนาน  เราไม่ยักรู้มาก่อนเลย.. ว่านาย เอ่อ.. นายจะเป็น เกย์ ”
“ แทน นี่นาย? ”
พีทพูดได้แค่นั้น เขาก็ไม่อาจกล่าวอะไรได้อีก เพราะเขารู้สึกตกใจและหวาดกลัวเหลือเกิน นี่.. แทนรู้แล้ว แทนเห็นของสิ่งนั้นแล้ว ถ้าเป็นแบบนี้.. มันคงพังหมดแล้ว มันคงจะจบลงแค่นี้ เขาคงมองไม่อาจมองหน้าแทนได้อย่างสนิทใจอีกต่อไป
“ ขอโทษนะ ที่เราเสียมรรยาทแอบเปิดดู เราก็แค่อยากรู้ ว่านายชอบใคร แล้วเราก็ไม่นึกเลยว่า.. คนที่นายชอบจะเป็นเรา ”
“ แทน แล้วนี่นาย เอ่อ.. ที่เราเป็นแบบนี้ นายจะ.. เอ่อ เราขอโทษ เราพยายามแล้ว มันทรมานใจจริงๆนะแทน เราหลงรักมานานแล้วแต่เราก็พยายามอย่างที่สุดแล้ว.. ที่จะไม่..  เราไม่น่าเป็นแบบนี้เลย แล้วนี่.. นายรู้แบบนี้แล้ว นายก็คง.. คงจะเลิกคบกับเรา ใช่ไหม? ใช่ไหมแทน? นายคงรับไม่ได้? ”
พีทเอ่ยด้วยน้ำเสียงระล่ำระลัก ด้วยความประหวั่นพรั่นพรึง เขาตกประหม่า จนแทบเรียบเรียงคำพูดไม่ถูก ขอบตาเขาร้อนผ่าว น้ำตาเริ่มเอ่อเต็มหน่วยตา พีทจ้องมองแทนผ่านม่านน้ำตาที่คลอเต็มตาเพื่อรอคำตอบ แทนยืนเงียบอยู่ครู่หนึ่ง และเขาก็ไม่ได้ตอบคำถามนั้น แต่กลับเอ่ยออกมาว่า..
“ พีท.. การ์ดนั้นที่นายเตรียมไว้ ถ้านายอยากจะให้ก็ให้เถิดนะ เราอยากได้จริงๆนะพีท ความจริงเราก็รักนายนะ นายเป็นเพื่อนที่ดีที่สุดของเรา ที่เราคบหาได้อย่างสนิทใจตลอดมา แต่.. เมื่อเรามารู้ความจริงแบบนี้ ถึงแม้เราจะรักและแคร์นาย เราก็คงรักนายเกินกว่าคำว่าเพื่อนไม่ได้ เพราะเราไม่ได้เป็นเกย์ เข้าใจเราด้วยนะ ขอโทษนะพีท เราคงทำได้เพียงแค่นี้จริงๆ แต่.. เราก็คิดว่า.. เราสามารถเป็นเพื่อนที่ดีของนายได้ตลอดไปนะเพื่อน เราเป็นเพื่อนกันได้นะพีท นายคงเข้าใจเรานะ ”
พีทได้ยินคำพูดของแทนเช่นนั้น น้ำตาเขาก็ไหลรินอาบแก้มด้วยความตื้นตัน ถึงแม้ว่า.. มันจะเป็นความรักที่ไม่สมดังที่หวัง เป็นรักที่ไม่สามารถจะครอบครองเป็นเจ้าของหัวใจ แต่.. มิตรภาพและความรัก ความผูกพันฉันท์เพื่อนนั้นยังคงอยู่ ไม่แตกสลายไปเพราะความแปลกแยกในความรู้สึกที่แตกต่าง แค่แทนเข้าใจเขา ให้เขาได้แค่นี้ มันก็น่าจะเพียงพอแล้ว เพียงแค่นี้ ก็พอแล้ว เพียงพอแล้วจริงๆ แทนเดินมาโอบไหล่เขาเหมือนดังจะปลอบโยนด้วยสัมผัสแห่งมิตรภาพดังเดิม แล้วแทนก็เอ่ยกับเขาด้วยน้ำเสียงที่อบอุ่นและแววตาที่อาทรอย่างบริสุทธิ์ใจ
“ ร้องไห้ทำไม? ไปล้างหน้าแล้วกลับบ้านกันเถิด นี่ก็เย็นมากแล้ว อืม.. พีท เราชอบเพลงที่เราฟังเมื่อกี้นี้จังเลย เดี๋ยวว่างๆเราจะหาคอร์ดมาเล่นกีตาร์ให้นายฟังบ้าง มันอาจจะไม่เพราะเท่ากับนักร้อง แต่เราก็อยากจะเป็นคนร้องให้นายฟังนะ ”
“ ขอบใจนะแทน ขอบใจจริงๆ ที่นายเข้าใจเรา นายให้เราได้แค่นี้ สำหรับเรามันก็มากเกินพอแล้ว เราขอบใจจริงๆนะแทน ”
แทนยิ้มและไม่ตอบว่ากระไร เขาโอบไหล่พีทกระชับขึ้น แล้วทั้งคู่ก็พากันเดินช้าๆ จนค่อยๆลับตาไป ในยามเย็น ที่แสงอาทิตย์กำลังใกล้จะลับจากขอบฟ้า..

:m1: :m1: :m1:

*เชิญติดตาม " หลังคาติดกัน" ตอนต่อไปข้างล่างเลยครับผม
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 06-02-2009 18:57:52 โดย Pikachu »

Pikachu

  • บุคคลทั่วไป


แป๋ม..

แป๋มเลิกเรียนกลับมาถึงบ้านในวันนี้ ก็เห็นรถยนต์ของแม่เขาจอดอยู่ เขาก็อดรู้สึกแปลกใจไม่ได้ว่า.. ทำไมวันนี้แม่เขากลับมาเร็ว ปกติแม่เขาจะกลับค่ำๆเกือบทุกวัน บางครั้งในวันหยุดสุดสัปดาห์แม่ก็มักไม่ค่อยอยู่บ้าน บ่อยครั้งที่แม่ของเขามักต้องออกต่างจังหวัดครั้งละ 2-3 วัน เป็นประจำ น้อยครั้งมากที่แม่จะอยู่และไม่ได้ออกไปไหน แต่แม่ก็จะนั่งทำงานเงียบๆที่ห้องทำงานส่วนตัวของแม่ครั้งละนานๆเมื่อยามที่แม่อยู่บ้าน ดูเหมือนกับว่า.. แม่ของเขาจะงานยุ่งมากๆและทำงานหนักพอสมควร เพราะมันเป็นบริษัทเล็กๆของแม่เอง แม่จะออกไปทำงานในช่วงสายๆหรือเกือบๆเที่ยงหลังจากที่ดูแลทำงานบ้านเรียบร้อยแล้วทุกวัน แม่เขาคงจะเหนื่อยมากๆ บางครั้งเขาก็รู้สึกสงสารแม่ของเขาเหมือนกัน จริงอยู่ในวัยเด็ก เขาเคยรู้สึกเหงา ที่ดูเหมือนกับว่า.. แม่จะไม่ค่อยจะมีเวลาให้กับเขาเลย แต่เมื่อเติบโตมากขึ้น เขาก็เข้าใจ แม่พยายามทำทุกอย่าง เพื่อให้เขาได้มีความเป็นอยู่ที่สุขสบายเฉกเช่นทุกวันนี้ นับแต่วันที่แม่เลิกร้างกับพ่อซึ่งเขายังเด็กอยู่มากในขณะนั้น พ่อก็ได้จากไปใช้ชีวิตในต่างแดนในประเทศที่เป็นถิ่นกำเนิดของพ่อ ซึ่งนานๆครั้ง ที่พ่อของเขาจะมีโอกาสเดินทางมาเมืองไทยเพื่อมาหาเขา ซึ่งส่วนมากมักจะเป็นในช่วงที่เขาปิดภาคเรียน และพาเขาไปเที่ยวพักผ่อนต่างจังหวัดกันหลายๆวัน ตลอดเวลาที่ผ่านมา พ่อจะส่งค่าใช้จ่ายเกี่ยวกับตัวเขามาให้แม่ทุกเดือนไม่เคยขาด เขารู้ดีเสมอว่าพ่อรักและคิดถึงเขามาก เพราะพ่อมักจะโทรทางไกลจากต่างประเทศมาหาเขาบ่อยๆ คอยถามไถ่เรื่องความเป็นอยู่ การเรียนและต่างๆด้วยความห่วงใย บางครั้งก็ซื้อสิ่งของต่างๆส่งมาให้นานๆครั้ง จริงๆแล้ว.. ถ้าเลือกได้ เขาก็ไม่อยากให้ครอบครัวแตกแยกแบบนี้เลย แต่จะทำไงได้ บางครั้งเรื่องราวของผู้ใหญ่ ก็ยากที่จะเข้าใจเช่นกัน เขาเปิดประตูเข้ามาในบ้าน สอดส่ายสายตามองหากลับไม่เจอแม่ จึงเดินเข้ามาในครัวก็เห็นแม่ของเขากำลังทำอะไรง่วนอยู่ เขาจึงเอ่ยทักแม่ของเขาพร้อมกับยกมือไหว้..
“ สวัสดีครับแม่ ทำไมวันนี้แม่กลับเร็วจังครับ ”
“ อ้าวแป๋มมาแล้วเหรอลูก มาให้แม่หอมทีนึง ”
แม่ของแป๋มสวมกอด และหอมแก้มแป๋มเบาๆ แล้วเอ่ยขึ้นมาว่า
“ แม่ เหนื่อยๆ อยากจะพักบ้างน่ะลูก อยากจะอยู่จู๋จี๋กับลูกบ้างไมได้เหรอ? แล้วนี่หนูหิวไหม? ”
“ ไม่ค่อยหิวครับ พอดีแป๋มซื้อขนมกินมานิดหน่อยแล้วครับ แล้วนี่แม่กำลังทำกับข้าวเหรอครับ? ”
“ อืม.. แม่จะทำเนื้ออบให้หนูกินน่ะลูก ได้สูตรจากแม่พี่หน่อยเขามา ว่าจะทำมาตั้งนานแล้ว ก็ไม่ค่อยมีเวลา เออ.. พักนี้ แม่ไม่ค่อยเห็นพี่หน่อย เขามาเล่นมาคุยกับแป๋มเลย โกรธอะไรกันหรือเปล่าล่ะลูก? ”
“ เปล่าครับ พี่หน่อยเขายุ่งๆน่ะครับ เขาใกล้จะจบม.6แล้ว ก็เลยยุ่งๆเรื่องเรียน เรื่องเตรียมสอบ เรื่องเรียนต่อน่ะครับ ”
“ อ่อ เป็นอย่างนี้นี่เอง แม่ว่า.. หน่อยนี่เป็นเด็กดีน่ารักนะ ไม่เคยเหลวไหล ไม่เคยเกเรเลย เห็นหน่อยเป็นแบบนี้มาตั้งแต่เด็กๆแล้ว แม่เห็นแป๋มสนิทสนมคลุกคลีกับเขา แม่ก็เบาใจหมดห่วง คนเรานะลูก ถ้าคบหาคนที่ดี เขาก็จะชักนำเราไปสู่สิ่งที่ดีๆ เด็กดีๆเพื่อนดีๆสมัยนี้มีให้คบหาไม่เยอะนักนะลูก ยังไง.. ถ้าโกรธเคืองอะไรกันก็ให้อภัยกันนะ คอยถนอมน้ำใจกันไว้ คบหากันไว้ให้นานๆนะลูก ”
“ ครับแม่ ”
แป๋มตอบรับคำของแม่ แต่ก็อดแปลกใจลึกๆไม่ได้ว่า.. แทบทุกครั้งที่พูดคุยกับแม่ แม่จะพูดถึงพี่หน่อย และก็ชื่นชมเสมอแล้วยิ่งในวันนี้.. น้ำเสียง แววตาและคำพูดของแม่ที่พูดถึงพี่หน่อยทำให้เขารู้สึกแปลกๆชอบกล ในบางครั้ง.. เหมือนราวกับว่าแม่ล่วงรู้ถึงความสัมพันธ์ของเขาและพี่หน่อย มันจะจริงอย่างที่พี่หน่อยพูดหรือเปล่าหนอ? ที่พ่อแม่เลี้ยงเรามา ย่อมรู้ว่าลูกเป็นอะไรอย่างไร เขากับพี่หน่อยดูจะสนิทสนมกันจนดูเกินปกติมากเกินไปหรือเปล่า? แต่มันก็แปลก.. ถ้าแม่รู้จริงๆ ทำไมแม่ไม่เคยพูดอะไรทำร้ายจิตใจเขาเลย ไม่เคยแม่แต่ครั้งเดียว หลายครั้งที่เขารู้สึกกลัวมากๆ จนแทบอยากจะเลิกความสัมพันธ์กับหน่อยหลายต่อหลายครั้ง เพราะเขาไม่อยากให้แม่เสียใจ เพราะเขารักและแคร์แม่ของเขามากเหลือเกินแต่เขาก็ยากที่จะห้ามใจไม่ให้รักพี่หน่อยได้ พี่หน่อยดีกับเขาและรักเขามากเช่นกัน ความรักที่พี่หน่อยมีให้กับเขามันดูจริงจังและมั่นคงจริงๆ คนรูปหล่ออย่างพี่หน่อยมีคนมาติดพันเขามากมาย แต่ดูเขาจะไม่ใคร่สนใจใครเลย มาทุ่มเทความรักให้แต่เขาคนเดียว การกระทำและการแสดงออกที่พี่หน่อยมีต่อเขามันเป็นเช่นนี้ตลอดมา ในบางครั้งเขาก็รู้สึกอึดอัด จนแทบอยากจะสารภาพความจริงกับแม่ แต่ใจเขาก็ไม่กล้าพอ ทำได้แต่เพียง.. เอาความรู้สึกนี้ ระบายให้หน่อยฟังหลายต่อหลายครั้ง หน่อยก็ได้แต่ปลอบโยนและให้กำลังใจ พี่หน่อยมักหน่อยจะพูดเสมอว่า.. พ่อแม่พี่หน่อยน่าจะรู้เรื่องนี้และยอมรับแป๋มได้มานานแล้ว ความรักไม่ใช่เรื่องเสียหาย ถ้าเรารู้จักวางตัวในกรอบที่เหมาะสมตามวัย และไม่ทำให้ชีวิตเราเหลวแหลกและตกต่ำ ผู้ใหญ่ก็คงน่าที่จะเข้าใจ แต่แป๋มก็ไม่ปักใจเชื่อนัก เขายังพูดเสมอว่าพี่หน่อยคาดเดาไปเอง แต่มาลองนึกดู.. เท่าที่แป๋ม ลองลอบสังเกตุท่าทีที่พ่อแม่ของพี่หน่อยที่แสดงออกต่อเขา เขาก็เห็นว่า.. น่าจะเป็นเช่นที่พี่หน่อยพูดเช่นนั้นจริงๆ มันทำให้แป๋มเบาใจไปเรื่องหนึ่ง แต่.. สิ่งที่หนักใจเขาจริงๆในตอนนี้ก็คือ.. เรื่องแม่ของเขานี่เอง
แป๋มยืนมองแม่เขาทำกับข้าวเงียบๆอยู่ครู่หนึ่ง แม่เขาก็เอ่ยขึ้นมาว่า..
“ เออ.. แป๋ม พ่อเขาส่งของมาให้น่ะลูก อยู่ในห้องทำงานแม่ หนูไปเปิดดูสิ ”
“ เหรอครับ? หลายวันก่อนที่พ่อโทรมาหาแป๋ม พ่อก็บอกอยู่ว่าส่งของมาให้ ผมถามพ่อเท่าไรพ่อก็ไม่ยอมบอกว่าส่งอะไรมาให้รอดูเอาเอง แป๋มใจจดจ่อตื่นเต้นจะแย่ แล้วมาส่งถึงแล้วเหรอเนี่ย งั้นแป๋มไปเปิดดูก่อนนะครับ ”
แป๋มเดินเข้ามาในห้องทำงานของแม่ ซึ่งจริงๆแล้วมันก็คือบริเวญห้องรับแขก แต่กั้นแบ่งเป็นสัดส่วน ที่ซึ่งแม่ของเขามักจะนั่งทำงานตรงนี้เป็นประจำครั้งละนานๆ บนโต๊ะทำงานของแม่ แป๋มพบกล่องพัสดุขนาดใหญ่ตั้งอยู่ เขาจึงเปิดออกดูก็พบว่า.มีเสื้อยืดสีสวยสดใส สไตล์วัยรุ่นซึ่งสวยมาก 2-3 ตัว และขนมของกินแปลกๆอีกหอบใหญ่ เขารู้สึกถูกใจและดีใจมากจนแทบเก็บอาการไม่อยู่ เขาจึงรีบดิ่งไปหาแม่เขาในครัวทันที
“ แม่ครับ ถูกใจแป๋มมากเลย ดีใจจัง แหะๆ ”
“ พ่อเขาส่งอะไรมาให้ละลูก ”
“ เสื้อครับ สวยมากเลย คงจะราคาแพงทีเดียว เพราะยี่ห้อนี้ดีครับ แป๋มชอบ แล้วก็มีขนมอีกครับ เพียบเลย อิอิ เอ้อ.. แม่ครับ พ่อส่งของมากล่องใหญ่ขนาดนี้ คงเสียค่าส่งแพงมากเลยนะครับ ”
“ แพงสิลูกหลายเงินทีเดียวล่ะ แป๋มรู้ไหม? พ่อเขารักแป๋มมากนะลูก พ่อเขาถึงให้อะไรต่ออะไรแป๋มขนาดนี้ หนูอย่าไปโกรธพ่ออย่าเกลียดพ่อนะ ที่พ่อเขาไม่ได้อยู่กับเรา ทิ้งให้แป๋มอยู่กับแม่แค่ 2 คน พ่อน่ะมีพระคุณกับแป๋มนะ แม่อยากให้แป๋มสำนึกตรงนี้ไว้ตลอดเวลา จริงๆแล้ว ถ้าแม่เลือกได้ แม่ก็ไม่อยากให้สภาพครอบครัวเราเป็นแบบนี้ หรอก แต่ความเป็นจริงในชีวิตบางอย่างมันก็ไม่เป็นดังที่เราคาดหวัง และมันก็หลีกเลี่ยงไม่ได้จริงๆน่ะลูก แม่พยายามเต็มที่แล้วลูก ไม่อยากให้แป๋มรู้สึกเหมือนเด็กขาดความอบอุ่น แล้วแม่ก็คิดว่า.. พ่อเขาก็คงพยายามด้วยเช่นกัน ”
“ ความจริงมันก็มีบ้างที่แป๋มจะรู้สึกแบบนั้น แต่แป๋มเข้าใจครับแม่ แม่ไม่ต้องกังวลเรื่องนั้นหรอกนะครับ แม่ครับขนมที่พ่อส่งมาให้นี่มันเยอะมากๆเลย ผมเอาไปแบ่งให้พี่หน่อยกินบ้างได้ไหมครับ? ”
“ ทำไมจะไม่ได้ล่ะลูก ก็ขนมเป็นของแป๋มนี่นา ”
“ งั้นผมไปหาพี่หน่อยก่อนนะครับ เดี๋ยวมา เดี๋ยวมาจู๋จี๋กับแม่ แหะๆ ”
“ เออ.. แป๋ม ถ้าพี่หน่อยเขาว่างๆ ไม่ได้ยุ่งอะไรมาก ขอแรงเขามาช่วยขยับตู้เย็นให้แม่หน่อยนะ แม่อยากจะเลื่อนมันออกมาหน่อยนึงน่ะลูก ตู้เย็นมันท่าทางจะหนัก แป๋มกับแม่ 2 คน คงเอาไม่ไหว ”
“ ครับแม่ ”
แป๋มรับคำแล้วก็ตรงเข้าไปหอมแม่ของเขาฟอดใหญ่แบบประจบ บุคลิกของแป๋มเจะมีเป็นลักษณะเช่นนี้เสมอ ดูคล้ายกับขี้อ้อนกับผู้สูงวัยกว่า และดูคล้ายกับชอบที่จะสร้างไมตรีกับผู้มีวัยไล่เลี่ยกัน แป๋มจะเป็นแบบนี้กับทุกคนที่เขารู้สึกดีๆ เป็นดังราวกับว่า.. เขาจะต้องการความรักจากทุกคนที่เขารู้สึกดีและผูกไมตรีด้วย อาจจะเป็นเพราะ.. ชีวิตครอบครัวของแป๋มที่มีรอยร้าว กระมัง? จึงทำให้เขาโหยหาแต่ความรักและความอบอุ่นมาเพื่อมาเติมเต็มสิ่งที่ขาดหายไปในหัวใจ จากนั้น.. แป๋มก็หอบหิ้วขนมวิ่งตื๋อไปบ้านของหน่อยในทันที แม่เขาลอบมองแล้วอมยิ้มพร้อมกับส่ายหัวน้อยๆ แป๋ม หายเงียบไปจนพักใหญ่ๆ จวบจนแม่ของแป๋มทำกับข้าวเสร็จเรียบร้อยพอดี ก็เห็นแป๋มกับหน่อยเดินเคียงกันเข้ามาในบ้าน เมื่อเดินมาถึงหน่อยก็เอ่ยกับแม่ของแป๋มด้วยใบหน้ายิ้มแย้ม
“ วันนี้น้ากลับเร็วจังนะครับ ทุกทีหน่อยเห็นน้ากลับค่ำๆ ”
“ น้าเหนื่อยๆน่ะลูก ก็อยากจะพักบ้าง อยากอยู่กับเจ้าแป๋มมันมั่ง มันก็คงจะเหงาๆ ถึงชอบไปขลุก ไปกวนหน่อยตลอดเลย น้าขอบใจนะหน่อย ที่ช่วยดูแลแป๋ม บางครั้งก็มาอยู่เป็นเพื่อนเจ้าแป๋มเวลาที่น้าไม่อยู่ เป็นแบบนี้ตั้งแต่เจ้าแป๋มเด็กๆมาแล้ว บางทีน้าก็เกรงใจ พ่อแม่ของหน่อยอยู่เหมือนกันนะ ”
“ ไม่เป็นไรหรอกครับน้า หน่อยอยู่กับแป๋มก็สนุกดีครับ พ่อกับแม่ผมก็ชอบแป๋มจะตาย แป๋มเขาขี้อ้อนดีครับ แหะๆ แล้วนี่น้าจะให้หน่อยจะช่วยขยับตู้เย็นไปตรงไหนครับ? ”
“ เลื่อนออกมาตรงนี้หน่อยนึงน่ะจ้ะ เอ้า.. มา.. ช่วยกัน 3 คน ”
“ น้าไม่ต้องก็ได้ครับ หน่อยว่า.. หน่อยกับแป๋มพอไหวครับ เลื่อนมาตรงนี้นะครับ เอ้า.. แป๋ม เรามาช่วยกัน ฮึบ!! ”
หน่อยและแป๋มช่วยกันขยับตู้เย็น โดยมีแม่ของแป๋มคอยยืนประคองและบอกตำแหน่งอยู่ไม่ห่างนัก สักพักก็เรียบร้อยและเข้าที่เข้าทางดี
“ ขอบใจนะหน่อย แล้วนี่พ่อกับแม่ของหน่อยคงจะยังไม่กลับกันละสิ ”
“ ยังครับแต่เดี๋ยวอีกสักพักก็คงจะกลับแล้วละครับ ”
“ นี่น้าทำกับข้าวเพิ่งเสร็จ เดี๋ยวว่าจะกินข้าวกัน หน่อยก็มากินข้าวด้วยกันสิลูก ”
“ นั่นสิพี่หน่อย มากินข้าวด้วยกัน เห็นพี่บอกกำลังหิวๆนิดหน่อยแต่ขี้เกียจไปหาอะไรกินไม่ใช่เหรอ? เมื่อกี้ยังกินขนมของผมใหญ่เลยนี่นา หึหึ ”
“ ก็ได้ครับ แหะๆ ขอบคุณครับน้า ”
แล้วทั้งหมดก็ร่วมรับประทานอาหารเย็นกัน ระหว่างรับประทานอาหารแป๋มสังเกตุแววตาของแม่ที่มองมายังเขาและพี่หน่อยตลอดถึงการแสดงออกและการพูดคุยกันในระหว่างรับประทานอาหารร่วมกันในมื้อนั้น แล้วเขามีความรู้สึกเหมือนกับว่า แม่จะล่วงรู้ถึงความสัมพันธ์ของเขาและพี่หน่อยและแม่ก็ยอมรับ แม่รู้แน่ๆสายตาของแม่แบบนั้น แม่ยอมรับเรื่องเขาและพี่หน่อย เขารู้สึกเช่นนั้นจริงๆ เขาก็ไม่เข้าใจตัวเองว่าทำไมจึงรู้สึกเช่นนั้น แต่อย่างน้อย ถ้ามันเป็นไปตามความรู้สึกของเขาจริงๆแบบนี้ มันก็ทำให้เขารู้สึกกดดันน้อยลง มันทำให้เขาตั้งใจว่า.. เขาจะทำตัวให้ดี ไม่ทำให้แม่ผิดหวัง แล้วสักวัน.. เขาจะบอกกับแม่ สารภาพกับแม่ด้วยตัวเอง เพียงแค่.. ขอเวลาให้เขากล้าหาญขึ้นอีกสักนิด
ขอเวลาให้ผมอีกสักนิดนะครับแม่.. แป๋มบอกกับตัวเองอย่างนั้นเบาๆในใจ..

:oni2: :oni2: :oni2:

*โปรดติดตามตอนต่อไปเร็วๆนี้ครับ^^

High_Wizard

  • บุคคลทั่วไป
น่ารักเหมือนเดิมเลยซี ยังไงก็ให้แป๋มเขากล้าๆบอกแม่ซะทีนะ หึหึ ระเบิดได้ลงแน่ อ้อๆๆไม่ใช่ๆ แหะๆ




เป็นกำลังใจให้นะครับ..................................แล้วมาลงต่ออีกนะครับ

 

สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด


สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด