สานฝันนิรันดร : ขอบคุณทุกคน
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด

สนใจโฆษณาติดต่อ laopedcenter[at]hotmail.com คลิ๊กรายละเอียดที่ตำแหน่งว่างเลยครับ

สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด

โพลล์

๑.   สนใจสั่งจอง
5 (55.6%)
๒.   ขอคิดดูก่อน
4 (44.4%)
๓.   ไม่สนใจ
0 (0%)

จำนวนผู้โหวตทั้งหมด: 5

ปิดการโหวต: 31-05-2012 00:47:21

ผู้เขียน หัวข้อ: สานฝันนิรันดร : ขอบคุณทุกคน  (อ่าน 210999 ครั้ง)

ออฟไลน์ M@nfaNG

  • ชีวิตคือการตรวจสอบ...
  • เป็ดแสนดี
  • เป็ดAphrodite
  • *
  • กระทู้: 4453
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +847/-18
นอนกลางวันออกแต่ตอนกลางคืน ขนาดแตะต้นไม้ยังสะท้าน อรึ๋ยยยย ลุ้นกันต่อไป

ออฟไลน์ jannie

  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 782
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +62/-0
สานฝันคงเป็นอมนุษย์....ติดใจภูริทัตจนต้องกลับมาอีกรอบ...

แล้วจะยังไงหนอ?

ออฟไลน์ บุหรง

  • เป็ดนักเขียน
  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 854
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +709/-3
    • My FB
บทที่ ๗

“สานฝัน” สเตฟานทวนคำ
“ใช่ ... สานฝัน ท่านชอบหรือไม่”  คำถามจากชายกลางคน
“เป็นชื่อที่ไพเราะ ขอบคุณที่ตั้งชื่อให้แก่ข้า”
“ท่านควรต้องขอบใจบุตรของข้าทั้งสอง ความจริงข้ามิใคร่ชอบชื่อนี้นัก มันดูเลื่อนลอยมิเข้มแข็งสมกับเป็นชื่อบุรุษ แต่ภรรยาข้ากลับว่าเหมาะแล้ว”
“ถ้าเช่นนั้นหากมีเวลา ข้าคงต้องไปขอบคุณด้วยตัวข้าเอง”
“ภรรยาข้าคงดีใจยิ่ง คงจะเอาพวกนางรำที่ฝึกไว้ออกมาร่ายรำ อวดให้ท่านชมเป็นแม่นมั่น ส่วนพวกเด็กๆก็ไม่ยอมหลับนอน เพราะนิทานที่ท่านเล่า”
“กระนั้นฤา” สเตฟานยิ้มละไม “ข้าชักอยากชมเสียเดี๋ยวนี้”
“งั้นจะช้าอยู่ไย ไปกันเสียบัดนี้ก็ยังได้”
“ดึกปานนี้แล้ว เด็กๆมิหลับไปแล้วหรือ เอาเป็นคืนพรุ่งนี้ ยามพระอาทิตย์ตกดิน ข้าจักไปเยือนยังเรือนท่าน”


“สานฝัน” เสียงเรียกเบาๆที่ข้างหู ดึงสเตฟานให้ออกมาจากความทรงจำในอดีต “คุณเป็นอะไรรึเปล่า ดูเหม่อๆนะ”
“ไม่หรอก ผมเพียงแต่คิดถึงคนที่ผมเคยเจอ ดูสิ ช่างร่ายรำได้งดงามจริงๆ” สเตฟานเบนสายตาไปที่การแสดงบนเวที
“อื้อ สวยดี ผมไม่ได้ดูอะไรไทยๆแบบนี้มานานแล้ว” ภูริทัตเปลี่ยนความสนใจกลับไปยังเวทีอีกคนหนึ่ง
“นาฎศิลป์ไทย อ่อนช้อย งดงาม ผมชื่นชมมานานแล้ว” สเตฟานพูดเบาๆ
ภูริทัตหันมามองที่สเตฟานอีกครั้งแล้วอมยิ้ม พลางเอื้อมมือไปจับมือคนข้างๆขึ้นมาบีบเบาๆ
“ในฐานะคนไทย ผมคงต้องปลื้มใจ ที่นาฎศิลป์ไทยเป็นที่ชื่นชอบของคนต่างชาติ จริงมั๊ยครับ”
สเตฟานไม่ตอบ แต่หันมายิ้มน้อยๆให้แล้วหันหน้ากลับไปดูการแสดงต่อ เมื่อไม่มีท่าทีใดๆ ภูริทัตก็เลยกุมมือนุ่มนั้นไว้ต่อไป แล้วหันไปดูการแสดงต่ออย่างอารมณ์ดี

“ดูสิ คนมองกันใหญ่เลย คุณเล่นใส่ชุดม่อฮ่อมมาแบบเนี๊ย” ภูริทัตพูดอย่างตลกๆ ขณะที่เดินอยู่บนถนน ย่านที่มีคนจีนอาศัยอยู่มากที่สุดในกรุงเทพฯ ซึ่งมีรถเข็นขายอาหาร และโต๊ะเก้าอี้สำหรับลูกค้า เรียงรายกันอยู่เป็นระยะๆ
“ผมว่าไม่ใช่หรอก” สเตฟานพูดขำๆ
“หรือคุณจะหาว่าพวกเค้ามองชุดสูทที่ผมใส่” ภูริทัตหยุดเดิน ทำให้สเตฟานต้องหยุดเดินไปด้วย
“คนเขามองเพราะผู้ชายสองคนเดินจูงมือกันต่างหาก แถมคนนึงเป็นคนไทยใส่สูท แต่คนที่เป็นฝรั่งกลับใส่ชุดม่อฮ่อม” สเตฟานพูดด้วยสีหน้าจริงจัง คำว่า ผู้ชายสองคนเดินจูงมือกัน ทำเอาภูริทัตหน้าแดงขึ้นมาเล็กน้อย
“กินอะไรกันดีล่ะ” ภูริทัตเปลี่ยนเรื่องทันที
“ผมไม่ค่อยหิวนัก แล้วแต่คุณก็แล้วกัน”
ภูริทัตอมยิ้ม แล้วพาสเตฟานเดินไปที่ร้านก๋วยจั๊บ สั่งมา๒ที่ทำหรับตนเองและสเตฟาน แล้วสั่งน้ำผลไม้ปั่นมา ๒ แก้วระหว่างท่านอาหาร ก็คุยกันถึงการแสดงที่เพิ่งจะดูจบมา
“ทำไมคุณทานน้อยจัง ไม่อร่อยเหรอครับ” ภูริทัตถามด้วยสีหน้าเป็นห่วง เมื่อเห็นว่าสเตฟานทานไปเพียงไม่กี่คำ ในขณะที่เขาทานจนหมดชาม “หรือว่ากินอะไรดึกๆแล้วกลัวอ้วน” สเตฟานถึงกับต้องกลั้นหัวเราะ เมื่อเห็นสีหน้าจริงจังของอีกฝ่าย
“เห็นคุณทานก็พอจะรู้ว่าอร่อยแค่ไหน ปรกติผมทานน้อยอยู่แล้ว อีกอย่างช่วงเวลานี้สำหรับผม เหมือนกับเพิ่งจะเป็นช่วงสายๆของวันเท่านั้นเอง”
“จริงสิ เห็นคุณอะไรนั่นเค้าบอกว่าคุณนอนหลับช่วงกลางวัน ปรกติคุณนอนกลางวันแล้วตื่นกลางคืนเหรอ”
“ใช่” สเตฟานตอบสั้นๆ สีหน้าหมองลง
“อย่าบอกนะว่าคุณเจตแลค ไม่หาย” ภูริทัตพูดพลางทำท่าคิด “ไม่น่านะ ตั้งแต่ผมเจอคุณที่โรงแรมก็เกือบเดือนแล้ว อาการไม่น่าจะนานขนาดนี้ ปรกติ ๒-๓ วันก็น่าจะหาย”
“ผมมีโรคประจำตัว” สเตฟานตอบพลางมองดูภูริทัตที่กำลังจ้องมองเหมือนรอคำอธิบาย “ผมแพ้แดด ผมถูกแสงแดดไม่ได้ เพียงแค่แสงแดดอ่อนๆ ก็ทำให้ผิวของผมไหม้เกรียมได้แล้ว”
“คุณเป็นมาตั้งแต่เกิดเหรอ” ใบหน้าของภูริทัตเต็มไปด้วยความห่วงใย
“เปล่าหรอก มันมีสาเหตุอื่น ผมก็เลยต้องใช้ชีวิตสวนทางกับคนปรกติ ผมนอนในขณะที่คนส่วนใหญ่ตื่น และผมตื่นในเวลานอนของคนเหล่านั้น”
“ผมว่าทำงานช่วงกลางคืนก็ดีนะ อย่างน้อยมันคงไม่ร้อนอบอ้าว รถก็ไม่ติดเหมือนตอนกลางวัน แต่มันก็ทำให้พลาดอะไรหลายๆอย่างเหมือนกัน”
“สำหรับผมมันเป็นเรื่องปรกติไปเสียแล้ว ถึงผมจะพลาดอะไรหลายๆอย่าง แต่ผมก็คิดว่าผมได้เห็น ได้สัมผัสอะไรหลายๆอย่าง ในสิ่งที่คนปรกติไม่ได้สัมผัสกับมัน”
“เหมือนคุณจะมีความสุขดีนะ กับการใช้ชีวิตกลางคืน”
“หากคุณเป็นอย่างผม ถึงเวลาหนึ่งก็จะยอมรับมันได้ และจะเริ่มชินกับมัน ในที่สุดคุณก็จะหาความสุขกับมันได้ เหมือนกับผมในตอนนี้”
“สานฝัน” ภูริทัตเรียกเบาๆ แต่ก็เก็บคำพูดไว้ไม่พูดออกมา เพราะยังไม่ค่อยแน่ใจว่า คนตรงหน้าคิดอย่างไรกับเขากันแน่
... สานฝัน ตอนนี้ผมก็มีความสุขที่ได้อยู่ใกล้คุณ ...

“ให้ผมไปส่งคุณที่ห้องได้มั๊ย” ภูริทัตถามขณะที่ยืนรอลิฟท์
“มาส่งผมแค่นี้ ผมก็เกรงใจแล้ว” สเตฟานตอบยิ้มๆ
“อย่างนั้น ถ้าผมโทรหาคุณอีก ผมจะบอกได้ยังไงว่าคุณอยู่ห้องไหน”
“บอกแค่ชื่อผมก็พอแล้ว แต่คงจะได้คุยกับทรงศักด์แทน คุณสามารถฝากเรื่องไว้กับเขาได้ ทุกเรื่องจะถึงผมแน่นอน ราตรีสวัสดิ์นะครับ” พูดจบก็เดินเข้าไปในลิฟท์ที่เพิ่งจะมาถึงพอดี
“เดี๋ยวครับ” ภูริทัตเอามือกั้นประตูลิฟท์ไว้ “คืนวันจันทร์ ผมจะมาหานะ”
“ครับ เจอกันวันจันทร์”
ภูริทัตเอามือที่กั้นประตูลิฟท์ออก และมองดูสเตฟานที่ยิ้มให้ จนประตูลิฟท์ปิดลง
“คุณภูริทัตครับ” เสียงเรียกดังขึ้น เมื่อหันไปก็พบกับทรงศักดิ์ “เดี๋ยวผมให้รถไปส่งนะครับ”
“ไปส่งเหรอครับ” ภูริทัตทวนคำ “ไม่เป็นไรหรอกครับ เดี๋ยวผมกลับเองได้”
“คุณเป็นเพื่อนของท่าน ให้ผมจัดรถไปส่งน่ะดีแล้วครับ ไม่อย่างนั้นท่านจะว่าผมได้”
“สานฝันสั่งไว้เหรอครับ” ภูริทัตยิ่งสงสัยมากขึ้น เพราะตั้งแต่เดินเข้าโรงแรมมา เขายังไม่เห็นทั้งสองคนพูดคุยกันเลย
“สานฝัน” คราวนี้ทรงศักดิ์ขมวดคิ้วบ้าง “คุณเรียกท่านว่า สานฝัน ท่านยอมให้คุณเรียกชื่อนี้เหรอครับ”
“อ้าว ทำไมล่ะครับ”
“ก็ชื่อนี้ท่านไม่ค่อยชอบให้ใครเรียก ท่านบอกว่ามันทำให้ท่านคิดถึงเพื่อนเก่า”
“เพื่อนเก่า ... ใครเหรอครับ”
“เหมือนจะเป็นลูกๆของเพื่อนท่านนะครับ ที่ตั้งชื่อนี้ให้ท่าน เป็นเพื่อนที่สนิทกับท่านมาก”
“เหรอ” ภูริทัตหันไปมองที่ลิฟท์ตัวที่สเตฟานเพิ่งจะเข้าไปเมื่อสักครู่ “เค้าไม่เคยเล่าให้ผมฟังเลย”
“ผมคิดว่า หากคบกันไปอีกสักระยะ ท่านคงเล่าอะไรให้คุณฟังมากขึ้น เพราะเท่าที่ผมจำได้ ท่านยังไม่เคยออกไปเที่ยวกับใครซ้ำเป็นครั้งที่สอง”
พอภูริทัตได้ยินก็ยิ้มออกมาได้
“ตกลงว่า ให้ผมจัดรถไปส่งนะครับ ไม่อย่างนั้นหากท่านถาม ผมก็ไม่ทราบจะตอบท่านยังไง”
ภูริทัตจึงยอมกลับบ้านด้วยรถของโรงแรม ที่ทรงศักดิ์จัดหาให้ แล้วก็นึกขึ้นมาได้ระหว่างทางว่า ทรงศักดิ์เรียกสานฝันหรือสเตฟานว่าท่านอยู่ตลอดเวลา ทั้งสองคนมีความสัมพันธ์กันแบบไหน ครั้งหน้าเขาอาจจะลองถามดู ... หากเขาไม่ลืม

ภูริทัตมองดูคนที่นอนหลับแนบใบหน้าอยู่กับแผ่นอกของเขา ด้วยความหลงใหลกึ่งเอ็นดู หน้าผากค่อนข้างกว้าง ดวงตาหลับสนิทจนมองเห็นแพขนตายาวงอนเป็นสีทอง สีเดียวกับเส้นผมที่ค่อนข้างนุ่ม สักพักร่างนั้นก็พลิกตัวนอนหงาย โดยที่ยังหนุนศรีษะไว้บนอกของเขา มือที่มีผิวขาวละเอียดไขว่คว้าเหมือนจะหาผ้าห่ม เขาจึงค่อยๆเลื่อนผ้าห่มมาคลุมอกที่เปลือยเปล่า พลางมองดูแก้มที่เป็นสีชมพู สีเดียวกับริมฝีปากบางที่ชวนให้เสพลิ้มความหอมหวาน ชายหนุ่มอดใจไม่ไหว ขยับตัวออกให้ศรีษะของสเตฟานเปลี่ยนไปหนุนอยู่ที่แขนของตน ก้มหน้าลงประทับริมฝีปากสีชมพู ขบเม้มแผ่วๆแล้วเริ่มแรงขึ้น
กริ๊งๆ ... กริ๊งๆ ...
เสียงดังขึ้นทำให้ภูริทัตสะดุ้งสุดตัว เมื่อลืมตาขึ้นก็พบว่านอนอยู่บนตียงของตนเอง และคนที่ประทับจูบอยู่เมื่อสักครู่ กลายเป็นหมอนที่ใช้หนุนนอนอยู่ประจำ เสียงที่ดังมาอย่างต่อเนื่อง จนต้องเอื้อมมือไปหยิบโทรศัพท์มือถือ ที่วางอยู่บนโต๊ะหัวเตียงขึ้นมาดูชื่อคนที่โทรเข้ามา ก่อนจะกดปุ่มรับสาย
“โทรมาทำไมแต่เช้าวะ” ภูริทัตกรอกเสียงลงไปอย่างอารมณ์เสีย
“เช้าบ้านเมิงเด๊ะ ตะวันจะตรงหัวอยู่แล้ว เพิ่งตื่นเหรอไงวะ”
“เออดิ ... กำลังฝันดีซะด้วย เอ็งมันขัดจังหวะจริงๆเลยนะ ไอ้สรรค์”
“ฝันว่าอะไรวะ” เสียงหัวเราะของรังสรรค์ดังเข้ามาตามสาย
“เรื่องขอกู ว่าแต่มีอะไรวะ”
“ว่างๆหว่ะ เลยว่าจะชวนออกมาเดินเล่น ไม่ก็ดูหนัง”
“ขี้เกียจหว่ะ วันนี้อยากนอน เดี๋ยวพรุ่งนี้ไม่มีแรงไปเคาท์ดาวน์”
“อะไรกันวะ เมื่อคืนไปทำอะไรมา วันนี้ถึงไม่มีแรง”
“แต่นอนดึกเว๊ย” ภูริทัตตอบไปแล้วก็ต้องอมยิ้ม
แล้วรังสรรค์ก็ชวนคุยต่อไปอีกยาว และนัดหมายกันไปเที่ยววันส่งท้ายปีเก่า ในวันพรุ่งนี้


ออฟไลน์ THIP

  • Global Moderator
  • เป็ดApollo
  • *
  • กระทู้: 7674
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +986/-10
สรุปแล้วแค่ฝันชิมิ  :z3: :z3:

ออฟไลน์ mist

  • เป็ดArtemis
  • *
  • กระทู้: 4505
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +263/-3
ทำไมไม่โทรมาช้ากว่านี้อีกหน่อย  :z3:

ออฟไลน์ ||WiTHOuT_YoU||

  • ที่รักของใครสักคน
  • เป็ดAres
  • *
  • กระทู้: 2633
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +170/-6
    • MoSHI
นั่นจิๆ ทำไมไม่โทรมาให้ช้ากว่านี้

กะลังจะถึงจุดสำคัญเลย ขัดใจวัยรุ่นอ่า

 :z3: :z3: :z3:

ออฟไลน์ M@nfaNG

  • ชีวิตคือการตรวจสอบ...
  • เป็ดแสนดี
  • เป็ดAphrodite
  • *
  • กระทู้: 4453
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +847/-18
ไม่น่าตื่นจากฝันเลย เสียดายจัง :z3:

ออฟไลน์ nana

  • 아주마 애기 두명 ㅋㅋ
  • เป็ดAres
  • *
  • กระทู้: 2759
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +138/-2
ฝันหรอกเหรอ นึกว่าใช่เร็วทันใจจริงๆ :z1:

ออฟไลน์ [N]€ẃÿ{k}uñĢ

  • ~ῲเจ้าแม่Dramaῴ~
  • เป็ดแสนดี
  • เป็ดArtemis
  • *
  • กระทู้: 5186
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +740/-5
 :z13:
จิ้ม นานา
มันจะโทรมาเพื่อ กำลังอินอยู่พอดีเลยอะ  :เฮ้อ:

ไฉไล

  • บุคคลทั่วไป
สเตฟาน แอบเข้าฝัน ภูริทัตเหรอเนี่ย...

แต่..เอ๊ะ หรือจะมาจริงๆหว่า  น่าคิดๆ อิอิ

CoMMuNiTY Of ThAiBoYsLoVE

ประกาศที่สำคัญ


ตั้งบอร์ดเรื่องสั้น ขึ้นมาใครจะโพสเรื่องสั้นให้มาโพสที่บอร์ดนี้ ถ้าเรื่องไหนไม่จบนานเกิน 3 เดือน จะทำการลบทิ้งทันที
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=2160.msg2894432#msg2894432



รวบรวมปรับปรุงกฏของเล้าและการลงนิยาย กรุณาเข้ามาอ่านก่อนลงนิยายนะครับ
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=459.0



สิ่งที่ "นักเขียน" ควรตรวจสอบเมื่อรวมเล่มกับสำนักพิมพ์
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=37631.0






ออฟไลน์ jannie

  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 782
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +62/-0
ภูริทัตเอาไปฝันถึงเลย...หุหุ ตอนแรกนึกว่าสลับตำแหน่งกันรึเปล่าหวา? (แบบว่าเห็นสเตฟานชอบนึกถึงตอนเจอภูริทัตตอนเด็กๆ บ่อยๆ)

ออฟไลน์ nana

  • 아주마 애기 두명 ㅋㅋ
  • เป็ดAres
  • *
  • กระทู้: 2759
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +138/-2
มารอค่ะ :3123:

ออฟไลน์ บุหรง

  • เป็ดนักเขียน
  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 854
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +709/-3
    • My FB
บทที่ ๘
รังสรรค์เดินเตร็ดเตร่มาจนถึงโรงแรมแห่งนั้น หลังจากที่ทานอาหารเย็นและดูหนังรอบค่ำ ก่อนจะตัดสินใจเดินเข้าไป ก็มองเห็นสเตฟานเดินออกมาจากประตูโรงแรม เสื้อโคตสีน้ำตาลอ่อนทำให้ผิวสีขาวดูสว่างขึ้น แล้วริมฝีปากบางสีชมพูก็เผยอยิ้มให้ เมื่อหันมาเห็นเขา รังสรรค์จึงเดินเข้าไปหา พร้อมกับทักทาย
“สวัสดีครับ คุณสเตฟาน”
“สวัสดีครับ ถ้าผมจำไม่ผิด คุณรังสรรค์ใช่ไหมครับ คุณรังสรรค์เพื่อนของทัต”
“ใช่ครับ ดีใจที่คุณจำผมได้ จะออกไปเที่ยวเหรอครับ”
“คืนนี้อากาศดี ผมก็เลยอยากออกไปเดินเล่น คุณล่ะ”
“ทีแรกผมว่าจะเข้าไปนั่งกินกาแฟข้างใน แต่พอเห็นคุณเดินออกมาก็เลยเปลี่ยนใจ ผมไปเดินเล่นด้วยคนได้รึเปล่าครับ”
“ยินดีครับ” สเตฟานตอบพร้อมกับรอยยิ้ม แล้วเดินนำออกไป โดยมีรังสรรค์เดินคู่กันไป
“นอนไม่หลับเหรอครับ ถึงต้องออกมาเดินเล่นดึกๆ”
“เปล่าหรอกครับ” ตอบแล้วก็หัวเราะเบาๆ “ผมเพิ่งตื่นเมื่อตอนพระอาทิตย์ตกดินนี่เอง”
“เพิ่งตื่น … นอนกลางวันเหรอครับ นอนมากๆระวังอ้วนนะครับ” คำเตือนนี้เหมือนจะเรียกเสียงหัวเราะมากขึ้นจากฝ่ายตรงข้าม รังสรรค์มองดูแล้วอดยิ้มไม่ได้ แล้วก็ต้องพูดออกไปอย่างที่ใจคิด “ดูคุณจะอารมณ์ดีทุกครั้งที่ได้เจอกัน”
“คงเพราะนอนกลางวันมากไป ผมเลยอารมณ์ดีเป็นพิเศษ” คราวนี้รังสรรค์หัวเราะขึ้นบ้าง
“ผมโดนย้อนซะหงายเลย”
“ว่าแต่คุณไปไหนมาหรือครับ”
“ก็ไม่มีอะไรมาก กินข้าว ดูหนัง แล้วก็กะว่าจะไปหาอะไรกินเบาๆก่อนจะกลับบ้าน”
“แล้วพรุ่งนี้ไม่ทำงานหรือครับ”
“อะไรกัน” คราวนี้รังสรรค์หยุดเดิน ทำให้สเตฟานหยุดเดินไปด้วยอีกคน “พรุ่งนี้วันส่งท้ายปีเก่า บริษัทไหนๆก็หยุดกันทั้งนั้นแหละครับ นี่ผมได้หยุดยาว ๔ วัน เพราะวันอังคารเป็นวันปีใหม่ กว่าจะทำงานก็วันพุธ”
“อ้อ ผมก็ลืมไป เพราะคืนพรุ่งนี้ผมยังต้องเล่นดนตรีเหมือนเดิม ไม่ได้หยุดเหมือนคนอื่นเขา” พูดแล้วสเตฟานก็ยักไหล่ แล้วหมุนตัวเดินต่อ รังสรรค์ก็ก้าวเดินตามไป
“แต่คุณก็คงไปฉลองกับครอบครัว หรือคนรักสินะครับ”
“ผมไม่มีครอบครัว ทุกคนจากผมไปหมดแล้ว” สเตฟานถอนหายใจ สีหน้าเศร้าลง
“ผมขอโทษ”
“ไม่เป็นไรหรอกครับ เรื่องมันก็นานมาแล้ว”
“แล้วคนรักล่ะครับ”
สเตฟานไม่ตอบ แต่ยิ้มเศร้าๆ แล้วก้าวเดินต่อไปอีก รังสรรค์ก็ก้าวเท้าเดินตาม
“คุณบอกว่าไปดูหนังมา เล่าให้ผมฟังบ้างได้ไหมครับ ว่าเป็นเรื่องราวเกี่ยวกับอะไร”
รังสรรค์จึงเล่าถึงหนังที่เขาเพิ่งจะไปดูมาเมื่อตอนเย็น ระหว่างที่เดินกันไปเรื่อยๆ จนไปถึงย่านบันเทิงของคนราตรี ทั้งสองชวนกันไปนั่งทานกาแฟภายในร้านกาแฟ ที่หน้าร้านเปิดกว้าง โต๊ะและเก้าอี้บางส่วนตั้งเลยจากภายในร้าน ออกไปอยู่บนทางเท้า แล้วนั่งคุยกันอยู่อีกครู่ใหญ่จนกาแฟในแก้วของรังสรรค์หมดลง
“ผมคงต้องกลับก่อนนะครับ เดี๋ยวพรุ่งนี้จะฉลองส่งท้ายปีเก่าไม่ไหว”
“ครับ” สเตฟานตอบสั้นๆ
รังสรรค์มองดูผิวหน้าที่เป็นสีขาวอมชมพู เหลือบมองดูกุหลาบดอกตูมสีชมพู ที่ปักอยู่ในแจกันเล็กๆบนโต๊ะ แล้วก็หยิบดอกกุหลาบขึ้นมาส่งให้เสตฟาน
“ผมว่ากุหลาบดอกนี้เหมาะกับคุณ สีของมันรับกับสีผิวคุณดี”
“ผมไม่ใช่สาวน้อยที่คุณควรมอบกุหลาบให้หรอกนะครับ” สเตฟานยิ้มขัน
“จะสาว หรือจะหนุ่ม หากผมพอใจ ผมก็มอบกุหลาบให้ได้”
รังสรรค์ยิ้มกรุ้มกริ่ม ถือดอกกุหลาบค้างไว้ตรงหน้า แต่สเตฟานก็ไม่รับไป จึงลุกขึ้นแล้วเดินเข้าไปเสียบดอกกุหลาบลงไปบนกระเป๋าเสื้อ ตรงบริเวณหน้าอกของเสื้อโคตสีน้ำตาลอ่อน
“ฝันดีนะครับ แล้ว เราคงมีโอกาสได้ออกมาเดินเล่นกันนานกว่านี้นะครับ”
โดยไม่รอคำตอบ รังสรรค์เดินออกไปจากร้านกาแฟ ทิ้งให้สเตฟานนั่งยิ้มด้วยความขบขันอยู่คนเดียว แล้วเขาก็ยกมือขึ้นหยิบดอกกุหลาบจากกระเป๋าเสื้อโคตออกมาถือไว้ ดอกกุหลาบตูมสีชมพูที่ดูสดใสราวกับเพิ่งตัดมาจากกิ่งก็เกิดการเปลี่ยนแปลง กลีบดอกที่ตึงแน่นค่อยๆแห้งลงอย่างช้าๆ สีชมพูอ่อนสดใสค่อยๆแปรเปลี่ยนเป็นสีน้ำตาล แล้วค่อยๆแห้งเหี่ยวหลุดจากขั้วทีละกลีบ จนเหลือเพียงขั้วดอกที่แห้งเหี่ยวอยู่ในมือของชายหนุ่ม และเมื่อเงยหน้าละสายตามาจากกุหลาบดอกนั้น ก็พบกับสายตาที่กำลังจ้องมองมาอย่างประหลาดใจ จากชายหนุ่มผิวขาว ร่างสันทัดที่ถือแก้วกาแฟยืนอยู่ตรงหน้าโต๊ะที่เขานั่งอยู่
“คุณสนใจกลของผมหรือครับ” สเตฟานถามชายหนุ่มคนนั้นพลางยิ้มให้
“กลเหรอครับ มันเหมือนว่าจู่ๆกุหลาบมันเหี่ยวลงทันทีที่คุณจับมัน” ชายหนุ่มขยับเก้าอี้แล้วนั่งลงตรงข้ามกับสเตฟาน
“มันเป็นมายากล”
“อย่างนั้นลองทำให้ผมดูอีกครั้งได้มั๊ยครับ” ชายหนุ่มพูดพลางหมุนตัวไปหยิบดอกกุหลาบ มาจากแจกันอีกโต๊ะหนึ่งส่งให้
สเตฟานยิ้มแล้วรับกุหลาบมาจากมือของชายหนุ่ม ทันทีที่นิ้วเรียวยาวสัมผัสก้านกุหลาบ กลีบสีชมพูสดใสพลันค่อยๆเปลี่ยนเป็นหมองซีด ผิวที่ตึงแน่นค่อยๆเหี่ยวย่น เปลี่ยนเป็นสีน้ำตาลทีละน้อย จนแห้งแล้วหลุดออกจากขั้วดอกทีละกลีบ จนเหลือเพียงขั้วดอกที่เหี่ยวแห้ง กับก้านที่มีสภาพไม่ต่างกัน
“คุณทำได้ยังไงน่ะ” ชายหนุ่มจ้องมองการเปลี่ยนแปลงของดอกกุหลาบอย่างตื่นเต้น ดวงตาแทบจะไม่กระพริบ
“ถ้าผมบอกออกไป มันก็ไม่เป็นกลสิครับ” สเตฟานพูดแล้วหัวเราะน้อยๆ
“คุณยังมีกลอื่นพอจะเล่นให้ผมดูอีกมั๊ยครับ”
“น่าเสียดาย ผมเรียนรู้มาเพียงอย่างเดียว” สเตฟานยักไหล่ แบมือออกทั้งสองข้าง
“แต่ผมมีกลให้คุณดู ถ้าคุณสนใจ ทานกาแฟแล้ว เราไปหาที่เงียบๆ ผมจะแสดงกลให้คุณดู”
“หวังว่ากลของคุณคงทำให้ผมตื่นเต้นได้ไม่น้อยกว่ากลของผมนะครับ” สเตฟานยิ้มให้ชายหนุ่มอย่างท้าทาย
................................................................
................................
“เออน่า บอกแล้วไงว่าจะไปช้าหน่อย” ภูริทัตพูดด้วยความรำคาญลงไปในโทรศัพท์มือถือ
“อย่าช้านักนะเว๊ย ขาดทุนไม่รู้ด้วย ข้าจะหารเท่ากันทุกคน” เสียงของรังสรรค์พูดกลั้วหัวเราะมาตามสาย
“เออๆ แต่นี้นะ แล้วไม่ต้องโทรตามนัก เดี๋ยวยั๊วะไม่ไปขึ้นมาอย่ามาบ่น”
“ถ้าไม่มากับพวกข้าก็ไม่ง้อนะเว๊ย หน้าอย่างเอ็งจะไปกับใครได้วะ”
“อ้าว ... พูดงี้เดี๋ยวชิ่งจริงๆนะเว๊ย ไม่ไปหาพวกเอ็ง ข้าจะได้ฉลองส่งท้ายปีเก่าต้อนรับปีใหม่ กับที่รักของข้า”
“ใครวะ” คราวนี้เสียงของรังสรรค์แผ่วเบาลง
“เดี่ยวก็รู้เว๊ย ฮ่าๆๆ” ภูริทัตพูดจบก็กดปุ่มวางสาย แล้วเดินยิ้มกริ่มเข้าประตูโรงแรมไป
เสียงเปียโนแผ่วพริ้วลอยอยู่ในอณูของอากาศ ภูริทัตมองไปยังผู้เล่น ซึ่งกำลังหันหน้ามาทางเขาพอดี เมื่อมองเห็นเขาสเตฟานก็ยิ้มให้ พลางพยักหน้าเป็นสัญญาณบอกให้หาที่นั่งก่อน ภูริทัตจึงเดินไปนั่งที่ชุดโซฟาซึ่งอยู่ห่างออกไปแต่ไม่ไกลนัก เพราะที่นั่งด้านเวทีมีคนนั่งอยู่เต็มแล้ว ภูริทัตสั่งกาแฟมานั่งจิบระหว่างนั่งรอ สายตาก็จับจ้องเรียวนิ้วที่เคลื่อนพรมไปตามคีย์บอร์ด เสียงเพลงอันนุ่มหูยิ่งทำให้เขาสบายใจ บทเพลงจบลงไปเพลงแล้วเพลงเล่า จนถึงเพลงสุดท้าย เมื่อการบรรเลงจบลง สเตฟานก้าวลงมาจากเวทีเตี้ยๆ แขกที่นั่งอยู่บนชุดโซฟาด้านหน้าทักทาย และชวนสเตฟานพูดคุยกันอยู่ครู่หนึ่ง สเตฟานพูดคุยกับแขกอีกหลายคน กว่าจะเดินมานั่งลงที่โซฟาตรงข้ามกับเขา
“แขกชอบคุณมากเลยนะ” น้ำเสียงแสดงออกถึงความไม่พอใจ จนสเตฟานยิ้มด้วยความขบขัน
“ขอโทษด้วยแล้วกันนะครับ ถ้าทำให้คุณรอนาน”
“รอน่ะผมรอได้ แต่ทำไมคุณต้องคุยกับแขกตั้งนานด้วย”
“พวกเขาเป็นแขกของทางโรงแรม” สเตฟานกลั้นหัวเราะ “ผมก็ต้องพูดคุยด้วยตามมารยาท”
“แค่นั้นจริงๆนะ” ภูริทัตคาดคั้น สเตฟานยิ้มแล้วพยักหน้า
“ว่าแต่คืนนี้คุณไม่ไปกับเพื่อนๆหรือครับ”
“ก็กำลังจะไปอยู่พอดี เห็นว่ามันใกล้ๆกัน ก็เลยจะมาชวนคุณไปด้วยกัน”
“จะดีหรือครับ”
“ดีแน่นอน ไม่มีใครหรอกครับ เพื่อนๆที่คุณเคยเจอแล้วทั้งนั้น ไปนะครับ” ภูริทัตเปลี่ยนสายตาเป็นเว้าวอน
“ที่ไหนล่ะครับ”
ภูริทัตบอกชื่อสถานที่ ซึ่งเป็นลานกว้างหน้าห้างสรรพสินค้าใหญ่ อยู่ไม่ไกลจากโรงแรมนัก
“ถ้าอย่างนั้นคุณไปก่อนก็ได้ครับ ท่าทางเพื่อนๆจะรอนานแล้ว เดี๋ยวผมไปเปลี่ยนชุดแล้วจะตามไป”
“ทำไมไม่ไปด้วยกันตอนนี้เลยล่ะ”
“คิดว่าที่นั่นคงไม่มีใครแต่งตัวแบบผมนะครับ แล้วถ้าเดินไปกับคุณแบบนี้ เดี๋ยวจะมีคนมองพวกเราแบบคืนวันนั้นอีก” สเตฟานก้มมองดูชุดสูทของตัวเอง แล้วเงยหน้ายิ้มให้ภูริทัต
ภูริทัตเองก็ก้มมองดูชุดเสื้อโปโลสีน้ำเงินสด กับกางเกงยีนส์ของตัวเอง แล้วเงยหน้าขึ้นมองสเตฟาน เมื่อทั้งสองคนสบตากัน ก็พากันหัวเราะออกมา
“ทำไมไม่ให้ผมไปนั่งรอคุณที่ห้องล่ะครับ” ภูริทัตพูดด้วยสายตาที่พยายามสื่อความหมายบางอย่าง
“ผมเกรงใจถ้าจะให้คุณต้องนั่งรอ คุณไปก่อนแล้วกันครับ แล้วผมจะตามไปภายใน ๑ ชั่วโมง”
“แต่ว่าคุณจะหาผมเจอได้ยังไง ที่นั่นคนเยอะแยะ”
“เจอสิ ... ยังไงผมก็หาคุณเจอแน่ ไม่ต้องห่วงหรอกครับ” สเตฟานพูดอย่างมั่นใจ จนแม้แต่ภูริทัตเองก็ยังแปลกใจในความมั่นใจนั้น

ออฟไลน์ THIP

  • Global Moderator
  • เป็ดApollo
  • *
  • กระทู้: 7674
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +986/-10
อ่านๆไป ทำไมสเตฟานดูสาวจังหว่า  :z3: :z3:

ออฟไลน์ nana

  • 아주마 애기 두명 ㅋㅋ
  • เป็ดAres
  • *
  • กระทู้: 2759
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +138/-2
หากันจนเจอ อิ อิ  :z1:

salemon

  • บุคคลทั่วไป
สเตฟาน เป็นแวมไพร์ป่ะค่ะ

พูดไรก่ำกึงตลอดเลย :o8:


ออฟไลน์ mist

  • เป็ดArtemis
  • *
  • กระทู้: 4505
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +263/-3
ยังไงก็หาเจอแน่ เหรอ อร๊ายยยยยยยยยยยยย  :-[

ออฟไลน์ dahlia

  • เป็ดแสนดี
  • เป็ดAphrodite
  • *
  • กระทู้: 4239
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +695/-4
ยังไงผมก็หาคุณเจอแน่ .......... แล้วเป็นคนที่ใช่ด้วยหรือเปล่า  :o8:

ออฟไลน์ [N]€ẃÿ{k}uñĢ

  • ~ῲเจ้าแม่Dramaῴ~
  • เป็ดแสนดี
  • เป็ดArtemis
  • *
  • กระทู้: 5186
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +740/-5
อ่านๆไป ทำไมสเตฟานดูสาวจังหว่า  :z3: :z3:
นั่นสิเห็นด้วยน่าติดตาทต่ออย่างแรง แหมแล้วชายหนุ่มเมื่อวานแสดงกลอะไรให้ดูน๊าอยากจะรู้จัง  :haun4:

ออฟไลน์ jannie

  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 782
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +62/-0
ดูดความมีชีวิตไปใช่มั้ยคะ?...แล้วคนที่เคยไปเที่ยวด้วยกันละ?? (แอบสยองเล็กๆ)

CoMMuNiTY Of ThAiBoYsLoVE






ไฉไล

  • บุคคลทั่วไป
“เจอสิ ... ยังไงผมก็หาคุณเจอแน่ ไม่ต้องห่วงหรอกครับ”
^
^
อร๊ายยยยย  หวานๆ   :-[



speedboy

  • บุคคลทั่วไป
รักทุกคนจัง..คร้าบ


 :oni2: :oni2: :oni2:

ออฟไลน์ [N]€ẃÿ{k}uñĢ

  • ~ῲเจ้าแม่Dramaῴ~
  • เป็ดแสนดี
  • เป็ดArtemis
  • *
  • กระทู้: 5186
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +740/-5
ขอให้มีความสุขในวันแห่งความรักมากๆนะคราบ

ออฟไลน์ YMP

  • เป็ดHera
  • *
  • กระทู้: 1062
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +82/-2
ให้เจ้าของกระทู้คร้าบ รับวาเลนไทน์ ฮึ๊บ ฮึ๊บ

ออฟไลน์ Poes

  • คนแรกของหัวใจ คนสุดท้ายของชีวิต
  • Administrator
  • เป็ดZeus
  • *
  • กระทู้: 11342
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +2405/-22
สเตฟานเป็นพวกดูดพลังชีวิตปะเนี่ย แถมเป็นอมตะด้วยมั้ย  :laugh: ลุ้นอีกแล้ว


ออฟไลน์ krappom

  • 人は誰でもそれぞれに悩みを抱えて生きる
  • เป็ดนักโพสมือดี
  • เป็ดApollo
  • *
  • กระทู้: 7395
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +1182/-23

ประมาณว่าหากันจนเจอ
 :o8:


ออฟไลน์ ||WiTHOuT_YoU||

  • ที่รักของใครสักคน
  • เป็ดAres
  • *
  • กระทู้: 2633
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +170/-6
    • MoSHI
 o22 o22 o22

หวังว่าคนที่โดนดูดชีวิตไปนี่คงไม่ถึงตายเหมือนดอกกุหลาบนะ

ไม่งั้นน่ากลัวมากเลยหละเนี่ย

 :o12: :o12: :o12:

ออฟไลน์ PoP~Pu

  • เป็ดDemeter
  • *
  • กระทู้: 1739
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +134/-5
สเตฟานแอบน่ากลัว o22
ลึกลับอีกแล้ว ก็ต้องลุ้นกันต่อปายยย

ออฟไลน์ pongsj

  • เป็ดแสนดี
  • เป็ดAthena
  • *
  • กระทู้: 6054
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +213/-9
แวมไพร์ๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆ

yaoifan

  • บุคคลทั่วไป
อ่านรวดเดียว ๕ ตอนโลด

ไม่อยากให้สานฝันเป็นแวมไพร์เลย เดี๋ยวภูริทัตจะกลัว(คนอ่านเริ่มกลัวแย้ว)

 :z13:คุณบุหรง

 

สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด


สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด