เรื่องนี้ไม่มีชื่อ โดย จิรัฎฐิติกานต์
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด

สนใจโฆษณาติดต่อ laopedcenter[at]hotmail.com คลิ๊กรายละเอียดที่ตำแหน่งว่างเลยครับ

สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด

ผู้เขียน หัวข้อ: เรื่องนี้ไม่มีชื่อ โดย จิรัฎฐิติกานต์  (อ่าน 69329 ครั้ง)

ออฟไลน์ ที่ปรึกษาไอทีขั้นต้น

  • Administrator
  • เป็ดApollo
  • *
  • กระทู้: 6853
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +1320/-22
Lucifer  อิอิ ใจเย็นครับ เด่วเดียร์ก็มา  :3063:

มูมู่น้อย  ความเป็นเด็กยังต้องเรียนรู้อะไรอีกมากในชีวิต  :3128:

hotdog หง่ะ สงสารคนเป็นด้วย  :pigscare2:

หุหุ สงสัยพูห์ของเราจะโดนใช้งานจนหัวปั่น อ่านไม่ทันก็บอกนะ
 :3061:

******************************************************

ตอนที่ 33
     
“กานต์ขอไม่เลือกใครได้มั้ยครับ กานต์ไม่เข้มแข็งพอ ไม่กล้าที่จะตัดใครไป ขอโทษนะ ที่อ่อนแอ”
      “กานต์ กานต์คิดว่าทำอย่างนี้แล้วทุกอย่างมันจะดีขึ้นหรอ”
      “ไม่รู้ดิ มันคงไม่มีทางไหนดีกว่านี้ แต่กานต์อยากจะบอกเบสนะ ว่าถึงยังงัยเบสก้อเป็นคนสำคัญที่สุดของกานต์นะครับ”
      “แล้วจะให้เบสทำยังงัยล่ะ”
      “ไม่ต้องหรอกครับ กานต์คงไม่กล้าขอ เพราะเท่านี้กานต์คงเป็นคนที่เห็นแก่ตัวมากพอแล้ว ขอให้โชคดีนะ”

      คนเราบางทีมันต้องใช้เวลาพอสมควร ในการที่คิดใคร่ครวญอะรัย การที่เราให้เขาใช้เวลาอยู่กับตัวเอง มันน่าจะเป็นวิธีที่ดีที่สุดในการแก้ไขปัญหาที่เกิดขึ้น

      ตอนบ่ายวันอาทิตย์ระมาที่บ้านพร้อมกับเพื่อนอีก 2 คน พอดีเตี่ยกะม้าไม่อยู่บ้านทั้งคู่ ชวนเข้ามานั่งดูทีวีในบ้าน ระหว่างที่เพื่อนระกำลังดูทีวีกันอยู่ก้อสะกิดระ แล้วกระซิบเบาๆ

      “ระขึ้นไปข้างบนกะกานต์หน่อยดิ”
      “ขึ้นไปทำอะรัยหรอ”
      “มีอะรัยอยากจะคุยกะระน่ะ ไปได้ป่าว”
      “แล้วไอ้พจน์กะไอ้หมีล่ะ”
      “เดี๋ยวบอกเอง พจน์ หมี เดี๋ยวกานต์ขอตัวระไปคุยอะรัยด้วยนิดหน่อยนะ ดูทีวีกันไปก่อนนะ”
      “เออ ไปเหอะ”

      ดูท่าทางแล้วมันคงไม่ได้สนใจอะรัยเท่าไหร่ พอดึงมือระลุกขึ้นแล้วเดินไปบนห้อง พอเข้าห้องได้ก้อนั่งลงที่โต๊ะญี่ปุ่นในห้อง

      “ระ กานต์คิดยังงัยกับระรู้มั้ย”
      “ไม่รู้ดิ กานต์ไม่เคยบอกระนี่ ระจะรู้ได้งัย”
      “อยากอยู่ข้างๆ อยากอด อยากนอนมองหน้าทุกวันงัย แต่ไม่รู้ว่าระจะเต็มใจรึป่าว”
      “ทำมัยถึงคิดว่าระจะไม่เต็มใจล่ะ”
      “อืมม์ เพราะกานต์ไม่ใช่คนที่ดีพอสำหรับใครมั้ง”
      “โห คิดมากไปป่าวเนี่ย”

      พูดไประก้อเอามือมาขยี้หัวผม วูบนั้น มันทำให้ผมนึกถึงไอ้ตั้มขึ้นมา สิ่งที่เราทำอยู่นี่มันดีแล้วหรอ ไม่รู้ดิ ทำอะรัยก้อได้ ขอแค่มีคนรัก มีคนใส่ใจ ถึงคนอื่นจะมองว่ายังงัยก้อช่าง รู้แค่ว่าจะทำทุกอย่างเพื่อให้ลืมไอ้ตั้มให้ได้ แต่ทำมัยยิ่งทำยิ่งเกลียดตัวเองมากขึ้นทุกที

      เคยมั้ยที่จะรู้สึกรังเกียจตัวเอง รู้สึกขยะแขยงตัวเอง เวลาอาบน้ำบางทีอาบไปร้องไห้ไป เหมือนตัวเองสกปรกมาก ทำยังงัยก้อไม่มีทางสะอาด แต่เมื่อเราเลือกทางนี้แล้ว ไม่มีทางไหนให้เราถอยแล้ว เมื่อเริ่มก้าวไปมีแต่ต้องเดินหน้าต่อไป ถึงต้องเจ็บก้อจะทำให้มันเจ็บบ้าง ไม่ว่าจะมากหรือจะน้อยกว่า

      “กานต์ เป็นรัยอ่ะเงียบเชียว ไม่สบายป่าว”
      “ป่าวหรอกครับ ระ กานต์คือว่า กานต์”
      “มีอะรัยก้อพูดมาดิ เราไม่ใช่คนอื่นนี่นา”
      “กานต์ไม่มีค่าพอให้ระมาใส่ใจหรอกนะ”
      “ทำมัยถึงคิดอย่างนั้นล่ะ กานต์สำคัญสำหรับระนะ”

      พูดเสร็จระหอมแก้มผม ทำมัยเวลาเราอยู่กับคนที่อยู่ตรงหน้า แต่กลับไปนึกถึงคนที่มันทำให้เราเจ็บตลอดเวลา วันและคืนที่ผ่านมามันวนเวียนอยู่ในหัวตลอดเวลาเลย

ตอนที่ 34
      พูดเสร็จระหอมแก้มผม และพยายามไซร้ที่ซอกคอ

      “อย่าระ กานต์ยังไม่พร้อมนะ”
      “ทำมัยล่ะ ขอเถอะนะ”
      “ระ ถ้ากานต์ยังพอมีค่าในสายตาระบ้าง อย่าพึ่งได้มั้ย แต่ถ้าระต้องการ ก้อโอเค กานต์จะได้รู้ว่าระต้องการแค่นั้น”
      “ป่าว อย่าคิดมากดิ ตามใจกานต์ละกัน ระรอได้”
      “ขอบคุณนะครับ ระน่ารักที่สุดเลย”

      ตอนนั้น คงเป็นเพราะอารมณ์วูบที่มันทำให้ผมนึกถึงไอ้ตั้มขึ้นมามั้ง ผมเลยไม่อยากที่จะมีอะรัยกับระ ความรู้สึกในตอนนั้นบอกไม่ถูกเหมือนกันว่าทำมัย รู้แต่ว่าอยากคิดใคร่ครวญให้ดีกว่านี้

      นั่งคุยกันสักพักก้อลงมาข้างล่าง เดี๋ยวระจะต้องกลับหอ เพราะตอนนั้นบ่ายจนจะเย็นอยู่แล้ว ไม่งั้นจะกลับช้าเกินไป เดินออกไปส่งระขึ้นรถ กลับเข้ามาพอดีโทรศัพท์ดังพอดี

      “ฮัลโหล หวัดดีครับ ขอสายใครครับ”
      “กานต์หรอ ปุ๊กนะ เย็นนี้ไปบ้านอั้มกันนะ”
      “เอาดิ ปุ๊กเอามอไซค์มานะ กานต์ขี้เกียจขี่รถที่บ้านออกไป”
      “โอเค ไว้เจอกันประมาณ 5 โมงนะ”
      “ได้ๆ จะรอนะ อย่าเลทมากนะ”

      อย่างน้อย การออกไปข้างนอกกับปุ๊ก มันก้อทำให้เรามีเวลาส่วนตัวน้อยลง มีเวลาคิดฟุ้งซ่านให้น้อยลง เป็นความจริงทีเดียวที่เขาบอกกันว่าอยู่คนเดียวนั้นให้ระวังความคิด เพราะความคิดคนเรานั้น มันไปไกลได้ง่าย เผลอแปปเดียวความคิดสามารถเตลิดไปได้ไกล ยิ่งเป็นคนคิดมากอย่างผมแล้ว ไม่ควรที่จะอยู่คนเดียวเลย

      วันนั้นอั้มอยู่บ้านกะเป้สองคนเท่านั้นเอง เพื่อนคนอื่นๆ ไม่ได้มาด้วย พออั้มชวนออกไปกินข้าว ปุ๊กเลยนั่งไปกะอั้ม ผมต้องไปกะเป้ รู้สึกไม่ค่อยดีเท่าไหร่ รู้สึกว่าเป้มันกวนประสาท อยู่ใกล้แล้วหงุดหงิด

      “พี่กานต์ เป็นรัยป่าวครับ หน้าตาไม่ค่อยดีเลย”
      “ป่าวหรอก ไม่มีอะรัย”
      “ผมทำอะรัยให้พี่ไม่พอใจป่าว”
      “ไม่รู้ดิ พี่ว่าเป้มองพี่แปลกๆน่ะ พี่ไม่ค่อยชอบ”
      “ผมอยากรู้จักพี่นี่ครับ”
      “นี่ก้อรู้จักแล้วงัย”
      “อยากรู้จักมากกว่านี้ได้ป่ะ”
     
      แปลกดี ดูท่าทางมันเงียบๆ ไม่น่าจะมาสนใจอะรัยเรานี่หว่า แต่ว่านะ มีคนคุยด้วยก้อดีกว่าอยู่เปล่าๆ มันจะคิดอะรัยเรื่องของมัน รู้แต่ว่าไม่อยากอยู่คนเดียวเท่านั้นเอง ความรู้สึกนี้จะมีใครเข้าใจบ้างนะ
**************************************************************


ตอนที่ 35
      “พี่กานต์ ปกติพี่กานต์เที่ยวบ่อยป่ะ”
      “ปกติหรอ พี่ไม่ค่อยเที่ยวบ่อยมากหรอกเบื่อน่ะ จะชอบนั่งกินเหล้าบ้านเพื่อนมากกว่า”
      “คืนนี้ พี่กินเหล้ากะพวกผมดิ ที่บ้านไอ้อั้มมันน่ะ”
      “กินเหล้ากะพวกนายเนี่ยนะ ไม่เอาอ่ะ”
      “โหพี่ป๊อดอ่ะดิ แสดงว่าคออ่อน”
      “เออ กินก้อได้วะ เดี๋ยวจะหาว่าไม่แน่”

   สรุปแล้วเลยต้องกินตามที่มันท้า โดยที่ปุ๊กมันทิ้งผมไว้ที่บ้านอั้ม พอกินเหล้าเสร็จค่อยให้เป้มันไปส่งผมกลับบ้าน ตอนระหว่างที่นั่งกินเหล้าผมเองก้อนั่งร้องไห้ไปด้วย

   ถ้าใครเคยเป็นจะเข้าใจ ว่าเหล้าเนี่ยมันเป็นตัวที่ทำให้คนเราเปลี่ยนนิสัยได้ บางคนพอเหล้าเข้าปากก้อเที่ยวกวนคนอื่นไปทั่ว บางคนเมาแล้วนั่งร้องไห้ บางคนเมาแล้วนั่งหัวเราะก้อมี เหมือนกับการระบายสิ่งที่อยู่ในใจออกมา

      “พี่กานต์เป็นรัยป่าว”
      “ไม่เป็นรัยหรอกเป้ พี่เครียดอะรัยนิดหน่อย”
      “เครียดหรอพี่ ผมช่วยพี่ได้นะ”
      “ช่วยอะรัยล่ะ ไม่มีใครช่วยพี่ได้หรอก เรื่องของพี่น่ะ”
      “นี่งัยพี่ ช่วยพี่ได้แน่” เป้มันหยิบยาเม็ดเล็ก สีส้มมาส่งให้
      “บ้าดิ พี่ไม่เอาหรอก มันไม่จำเป็น”
      “พี่ไม่แน่จริงนี่หว่า กะอีแค่นี้ กลัวติดหรอ มันไม่ติดง่ายขนาดนั้นหรอกน่า เชื่อผมดิ”
      “หึ บอกว่าไม่ก้อคือไม่”
      “ป๊อดว่ะ ทำไม่เป็นดิท่า”
      “เป้มึงว่าใครทำไม่เป็น เดี๋ยวกูทำให้มึงดูก้อได้”

   พอรับยามาจากมือเป้แล้วผมก้อเอาฟอยล์มาพับใส่ลงไป มือก้อรับหลอดจากไอ้เป้ จริงแล้วเรื่องแบบนี้ ผมเองก้อรู้พอสมควรเพราะเคยเห็นเพื่อนมันทำกัน แต่ไม่เคยคิดจะลองด้วยตัวเอง เพราะรู้สึกว่ามันไม่ดี

   ปื้ดแรกที่สูบเข้าไป ความรู้สึกมันบอกไม่ถูก รู้แต่ว่ากลิ่นมันหอม หวาน เหมือนช็อคโกแลต มันรู้สึกดีเหมือนกันนะ

      “ดีป่ะพี่ ถ้าเชื่อผมแต่แรกนะ”
      “อืมม์ ดีเหมือนกันแหละ”
      “เอาอีกตัวละกันนะพี่”

   ตอนนั้นไม่คิดจะปฏิเสธแล้วละครับ มันผสมกันทั้งเหล้าทั้งยา เป้มันบอกยังงัยก้อทำตามมันอย่างเดียว  มันรู้สึกเบาๆ มีความสุขที่สุดในตอนนั้น เป้จับมือผมบีบเบาๆ รู้สึกมันร้อนวูบวาบยังงัยก้อไม่รู้ ยานี้ผมไม่ค่อยเข้าใจเหมือนกันนะ ว่าทำมัย คนที่เล่นแต่ละคนอาการมันถึงไม่เหมือนกัน บางคนเล่นแล้วจะมีความต้องการมากขึ้น แต่บางคนมันก้อไม่สู้ไปเลย

      “พี่กานต์ขึ้นไปห้องข้างบนกันดีกว่านะ”
      “ไปดิ จะไปไหนก้อไป”
     
   ขณะที่เดินขึ้นข้างบนมือเป้มันก้ออยู่ไม่สุขแล้วตอนนั้น ผมเองก้อใช่จะยอมแพ้มันเมื่อไหร่ ล้วงเข้าไปในกางเกงมัน พอเข้าไปในห้องปุ๊ป เป้จัดการล็อกประตูทันที

สิ่งที่ทำไปตอนนั้นไม่ได้เกิดจากความตั้งใจเลย ถ้าย้อนกลับไปได้ คงไม่ทำลงไป เพราะความคิดชั่ววูบเท่านั้นเองที่ทำให้ตัดสินใจโง่ๆลงไป ทำให้เกิดเรื่องราวต่างๆตามมาอีกมากมายในชีวิต เจียนตายก้อเพราะเหตุจากวันนั้น

หลังจากมีอะรัยกันแล้วเป้ก้อพาผมไปส่งบ้าน ตอนนั้นรู้สึกว่ามันดีเหมือนกันนะ มันทำให้เราลืมอะรัยได้หลายอย่าง อยากลืมตลอดไป ไม่อยากจดจำอะรัยไว้อีก ถ้าลบความทรงจำง่ายเหมือนลบกระดาษ คงจะดี แต่เมื่อมีทางจะทำให้ลืมได้ แม้ไม่รู้ว่าจะนานแค่ไหน แต่ก้อพร้อมจะทำ เพื่อลืมสิ่งนั้นไปให้ได้ แค่นั้นเองที่ต้องการ
**************************************************************

ออฟไลน์ Lucifer

  • เป็ดHephaestus
  • *
  • กระทู้: 1288
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +46/-1
แหงะ  :pigscare2: :pigscare2: :pigscare2:


กานต์  :serius2:   :serius2:

(เชื่อดทิ้งซะดีมั๊ย ??? :pigangry2: :pigangry2:)

gobgab

  • บุคคลทั่วไป

ถ้าลบความทรงจำง่ายเหมือนลบกระดาษ คงจะดี แต่เมื่อมีทางจะทำให้ลืมได้ แม้ไม่รู้ว่าจะนานแค่ไหน
แต่ก้อพร้อมจะทำ เพื่อลืมสิ่งนั้นไปให้ได้ แค่นั้นเองที่ต้องการ


ทำไมคนเราถึงพยายามลืม  ทั้งๆที่รู้ว่าลืมเท่าไหร่ก็ลืมไม่ลง.......... :impress:

ออฟไลน์ Junrai_Hyper™

  • พูห์น้อยกลอยใจ
  • Global Moderator
  • เป็ดArtemis
  • *
  • กระทู้: 4842
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +777/-50
เหอเหอ

น่ากัวอะ

ไม่น่าเชื่อว่าความรักจะทำให้เป็นได้ขนาดนี้


ออฟไลน์ ที่ปรึกษาไอทีขั้นต้น

  • Administrator
  • เป็ดApollo
  • *
  • กระทู้: 6853
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +1320/-22
Lucifer โหงี้ใครเป็นแฟนมีหวัง.............  :pigscare2:
][GobGab][  ถ้าลืมได้ง่าย มันก็ไม่ใช่ความรักสินะครับ  :monkeysad:
น้องแม้ว  บางทีชีวิตจริง อาจเปลี่ยนคนให้กลายเป็นอีกคนไปเลยครับ  :monkeysad2:
..................................................

ตอนที่ 36
หลังจากวันนั้นมา ผมกับเป้มักจะไปไหนมาไหนด้วยกันบ่อยขึ้น แต่ก้อยังมีเวลาที่จะไปหาเบสกับเพชรได้ โดยที่ทั้งสองคนต่างยอมรับว่าผมคบอยู่กับทั้งคู่ ไม่นานก้อต้องสอบปลายภาค ตอนวันที่สอบเสร็จเพื่อนในห้องก้อนัดกันไปเที่ยวหัวหินอีก

“กานต์ ปีนี้มึงไปเที่ยวบ้านกูอีกป่ะ” เอ็ดถามผม
“ไม่ไปอ่ะ กูเบื่อเกาะแล้ว”
“ปีนี้กูจะพาไปเที่ยวที่น้ำตกป่าละอูนะ ไม่ได้ไปเกาะ”
“มันไปด้วยป่ะล่ะ ถ้ามันไป กูก้อไม่ไปแค่นั้นเอง”
“มันไหน อ๋อ มึงจะคิดอะรัยมากวะ”
“มึงไม่เข้าใจหรอก เอาเป็นว่าถ้ามันไป กูก้อไม่ไป”
“มันไม่ไปหรอก มันบอกว่ามันไม่ว่าง”
“เออ งั้นกูไป”

บางคนอาจจะคิดว่าเล่นตัว แต่ไม่ใช่หรอกครับ มันคงเป็นเพราะยังไม่พร้อมจะเจอมัน ในสถานที่อื่น ตอนเรียนน่ะ มันสามารถหลบเลี่ยงกันได้ แต่ถ้าไปเที่ยวอย่างนั้นแล้วจะหลบยังงัย ถ้าเจอแล้วเจ็บ ใครกันจะอยากเจอ

หลังสอบเสร็จก้อมาถึงวันที่จะไปหัวหิน พอผมไปถึงที่สถานีรถไฟพร้อมกับไอ้ดา สิ่งที่ผมเห็นทำให้ผมตัดสินใจหันหลังจะเดินกลับ แต่ไอ้เดียร์หันมาเห็นผมก่อนเลยวิ่งมาดึงไว้

“มึงจะไปไหน”
“กูจะกลับบ้าน กูบอกแล้วงัย ถ้ามันไป กูก้อไม่ไป”
“ไปเหอะนะ ถือว่ากูขอ”
“มึงรู้ว่ากูเจ็บ มึงยังจะให้กูทำอีกหรอ เดียร์”
“แล้วมึงจะหนีมันไปได้ตลอดหรอ มึงมั่นใจหรอว่าทำได้”
“ก้อได้ ถ้ามึงอยากให้กูทำกูก้อจะทำ”

ทำมัยจะต้องมาทนเห็นหน้ามันด้วยนะ ไม่อยากเห็น ไม่อยากเจอ ไม่อยากได้ยินเสียง เวลาที่ได้ยินเสียงหัวเราะของมัน รู้สึกมันบาดลงไปในใจ พอขึ้นไปบนรถไฟเลยเลือกที่นั่งที่ห่างจากมันมากที่สุด คงจะดีถ้าไม่ต้องเห็นหน้ามัน แค่อยู่ใกล้แค่นี้ก้อทรมานเจียนตายแล้ว

ช่วงนั้นผมเริ่มติดยาแล้ว เพราะเป้มันจะหามาให้เล่นทุกวัน ขนาดไปเที่ยวยังมีติดตัวไปด้วย นั่งคิดอะรัยเพลินๆ นึกขึ้นได้ว่ามีติดตัวมา เลยเข้าไปเล่นในห้องน้ำ ก้อดีนะทำให้ลืมไปได้ชั่วคราว

พอรถไฟถึงหัวหินแล้ว ก้อไปบ้านเอ็ดเอาของไปเก็บ ปีที่แล้วมาอย่างมีความสุข แต่ปีนี้มาพร้อมกับความทุกข์ ชีวิตคนเรามีอะรัยบ้างมั้ยที่มันแน่นอน ตอนนั้นตกลงกันว่าจะไปกินเหล้าที่ริมหาดหัวหินกันก่อน พรุ่งนี้ค่อยไปน้ำตกป่าละอูกัน ตอนที่ไปซื้อของก้อซื้อเหล้ามา 2 ขวดกลม ความรู้สึกตอนนั้นคืออยากเมา ให้ลืมมันลงให้ได้

ชายหาดหัวหินวันนั้นลมเย็นดี เอาเสื่อมาปูนั่งกินเหล้ากัน ทีแรกก้อกินปกติ ถ้าไม่เพราะเกิดเรื่องนั้นขึ้นมาก่อน

“กานต์ ขอคุยด้วยได้มัย”
“.....”
“กานต์ ตั้มขอโทษนะ”
“จะโกหกอะรัยอีกดีล่ะ ว่ามาสิ รอฟังอยู่”
“เป็นบ้าอะรัย ฟังบ้างดิ จะพูดกันดีๆได้มั้ย”
“ก้อบ้างัย กูบ้า กูโง่ ที่ไปเชื่อคำพูดของมึงนั่นแหละ”
“ทำมัยมึงไม่เคยฟังกูบ้าง” ตอนนั้นไอ้ตั้มมันเอามือมาจับไหล่ทั้งสองข้างของผมเขย่า
“กูเกลียดมึงงัย ได้ยินชัดมั้ย กูเกลียดมึง”
“แล้วที่ผ่านมาล่ะ ที่มึงเคยบอกกูล่ะ”
“หรอ กูเคยพูดอะรัยไป กูจำไม่ได้หรอก ก้อแค่เห็นว่ามึงหน้าตาดี กูอยากมีอะรัยด้วยก้อแค่นั้น คนอย่างกูไม่เคยมีหัวใจหรอก”
“กูไม่เชื่อ กูรู้ว่ามึงคิดยังงัย กูขอร้อง ฟังกูบ้างได้มั้ย”
“ปล่อยกู ถ้ามึงไม่ปล่อย กูหลุดได้เมื่อไหร่ กูจะกลับบ้านทันที”

ในที่สุกฃดมันต้องยอมปล่อยผม ทำมัยมันต้องทำอย่างนี้ด้วย มันจะให้เรารัก ให้เรารอมัน ทั้งที่มันเองไม่ได้มีแค่เรางั้นหรอ ทั้งที่มันโกหกเราตลอดงั้นหรอ ตอนนั้นเครียดมากเลยซัดออนเดอะร็อคตลอด พอเมาได้ที่ก้อนอนกลิ้งร้องไห้อยู่ตรงนั้น นึกแล้วยังทุเรศตัวเองไม่หาย เพื่อนๆชวนกลับไปนอนบ้านเอ็ด แต่ผมบอกว่าไม่กลับ ใครอยากกลับ ก้อกลับไป จะนอนที่ริมหาด สรุปเลยต้องนอนกันกลางแจ้ง

ช่วงประมาณตี2 มันยังไม่ยอมเลิกวุ่นวายอีก พยายามจะเข้ามาคุย แต่ตอนนั้นมีไอเดียร์กันไว้ให้เพราะเดียร์มันรู้ว่าผมจะไม่ไหวแล้ว พอทุกคนหลับหมดแล้ว ตอนนั้นผมนั่งกอดเข่ามองทะเลอยู่ ทะเลตอนกลางคืนนี่สวยดีนะ ดูแล้วมีความรู้สึกว่ามันลึก มันสงบ มันเย็น ถ้าได้อยู่ที่นั่นก้อคงดี คงไม่ต้องมาเจ็บปวดแบบนี้

ผมลุกขึ้น แล้วค่อยเดินลงไปในทะเล ความรู้สึกแรกตอนที่เท้าสัมผัสกับน้ำทะเลคือ น้ำเย็นจัง สบายดีจังเลย อยากหลับในที่ที่มันเย็นอย่างนี้จัง ระหว่างที่ผมเดินลงไปเรื่อยๆ ตอนนั้นถึงจะโดนเปลือกหอยบาดเท้า แต่ก้อไม่มีความรู้สึกอะรัยเลย ทำมัยน้ำตามันถึงไหลออกมานะ เดินลงไปเรื่อยๆสิ อยากพักไม่ใช่หรอ เดี๋ยวก้อจะได้พักแล้ว ผมเดินลงไปจนน้ำเริ่มถึงระดับมิดคาง
**************************************************************


hotdog

  • บุคคลทั่วไป
 :kikkik:  สงสัย อยากจะไหว้น้ำเล่น 

งี่เง่าจัง  ติดยาซะงั้น 

ออฟไลน์ มูมู่น้อย

  • Global Moderator
  • เป็ดAres
  • *
  • กระทู้: 2623
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +468/-12
หวังว่าตั้มคงมาช่วยกานต์ทันนะ   :monkeysad2:
อ่านแล้วรู้สึกว่าเดียร์เป็นเพื่อนที่ดีจัง  พยายามจะทำให้กานต์คืนดีกับตั้ม(รึเปล่า) อยากให้กานต์มีความสุขอ่ะ

แล้วเมื่อไหร่กานต์จะเข้มแข็งกว่านี้  มีเหตุผลกว่านี้น้า  ไม่มีใครทำร้ายเราได้หรอก นอกจากตัวเราเอง   :impress3:

รอเรย์น้า  มาต่อเรยย  :yeb:

ออฟไลน์ THIP

  • Global Moderator
  • เป็ดApollo
  • *
  • กระทู้: 7674
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +986/-10
หุหุ อ่านทันจนได้  :try2:
กานต์นี่เป็นคนประเภทรักมากแค้นมากจริง ๆ ยอมทำทุกอย่างเพื่อให้เขาเจ็บแม้แต่ทำลายตัวเอง  :sad4:
ทำไมน้า ไม่ยอมฟังคำอธิบายของตั๊มบ้างเลย  :serius2: ฟังแล้วค่อยตัดสินใจอีกทีก็ได้นี่นา  :monkeysad:

gobgab

  • บุคคลทั่วไป
รักมาก......ก็เจ็บมาก........แล้วก็ลืมไม่ได้..... :monkeysad:

ออฟไลน์ Junrai_Hyper™

  • พูห์น้อยกลอยใจ
  • Global Moderator
  • เป็ดArtemis
  • *
  • กระทู้: 4842
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +777/-50
ชักจะไปกันใหญ่แล้วววว

ทนไม่ไหวแล้วนะ

เมื่อไหร่กานต์จะเลิกประชดสักทีอะ

 :serius2: :serius2: :serius2: :serius2: :serius2:

CoMMuNiTY Of ThAiBoYsLoVE

ประกาศที่สำคัญ


ตั้งบอร์ดเรื่องสั้น ขึ้นมาใครจะโพสเรื่องสั้นให้มาโพสที่บอร์ดนี้ ถ้าเรื่องไหนไม่จบนานเกิน 3 เดือน จะทำการลบทิ้งทันที
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=2160.msg2894432#msg2894432



รวบรวมปรับปรุงกฏของเล้าและการลงนิยาย กรุณาเข้ามาอ่านก่อนลงนิยายนะครับ
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=459.0



สิ่งที่ "นักเขียน" ควรตรวจสอบเมื่อรวมเล่มกับสำนักพิมพ์
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=37631.0






ออฟไลน์ ที่ปรึกษาไอทีขั้นต้น

  • Administrator
  • เป็ดApollo
  • *
  • กระทู้: 6853
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +1320/-22
hotdog  บางทีคนเราก็เลือกหันหน้าหนีความจริงครับ  :impress3:
มูมู่น้อย  ถ้ามีเพื่อนตายสักคน ถึงแม้ไม่มีแฟนก็ถือว่าเกิดมาโชคดีแล้ว  :monkeysad:
shell  เป็นเรื่องแรกเลยที่ทิพย์พลาดขนาดนี้   :3063:
][GobGab][  แอบเจ็บกับใคร เล่าให้ฟังมั่งดิครับ  :haun2:
น้องแม้ว  เหมือนใครไม่รู้ ชอบประชด หุหุ  :pigha2:

*******************************************************************

ตอนที่ 37

   ตอนที่เดินไปจนน้ำถึงระดับคาง หูผมได้ยินเสียงพวกที่อยู่บนฝั่งโวยวายกัน แต่ไม่ได้สนใจอะรัยแล้ว รู้อย่างเดียว อยากไปให้พ้นๆ ความรู้สึกที่มันเจ็บปวดนี้เหลือเกิน ก่อนที่ผมจะเดินลงไปลึกมากกว่านั้น ก้อมีมือมาล็อกคอผมจากด้านหลัง เป็นไอ้เดียร์ที่ลงมา แล้วพยายามลากผมกลับเข้าฝั่ง ผมดิ้นขัดขืน พอเข้ามาใกล้ฝั่งอีกหน่อยไอ้พวกข้างบนมันเลยมาช่วยกันลากผมไปบนฝั่ง เลยยิ่งโวยวายพยายามจะลงไปอีก ไอ้เดียร์เลยชกหน้าผมไปทีนึง

      “มึงเป็นบ้าอะรัย ทำมัยทำโง่ๆอย่างนี้”
      “ปล่อยกู กูไม่อยากอยู่แล้ว”
      “มึงไม่รักตัวเองเลยรึงัย มึงถึงคิดบ้าๆอย่างนี้น่ะ”
      “รักดิ กูรักตัวกู รักมากจนกูไม่อยากเจ็บอีกต่อไปแล้ว มึงได้ยินมั้ย กูทรมานแค่ไหน มีใครเช้าใจกูมั้ย”
      “แล้วกูล่ะ มึงเคยคิดมั้ย กูรู้สึกยังงัยกับมึง มึงก้อรู้ มึงคิดว่าถ้ามึงทำอย่างนี้แล้วมีความสุข กูล่ะมึงเคยคิดถึงบ้างมั้ย”

   มีคำมากมายที่อยากจะพูดออกมา แต่ว่าสิ่งที่ออกมาในเวลานั้นมีแต่น้ำตากับเสียงสะอื้น ทำมัยคนที่รักเรา ดีกับเราขนาดนี้ ทำมัยเราถึงรักมันไม่ได้ ทำมัยใจที่มีถึงต้องให้มันเพียงคนเดียว

   บางคนอาจจะมองว่างี่เง่าที่ไม่ยอมฟังเหตุผลมันก่อน แต่ลองคิดดูเอาเถอะนะ ถ้าคนที่เรารัก เราเคยบอกเขาขอให้พูดความจริงกับเราทุกอย่างเรารับได้ทั้งนั้น และเขาก้อรับปากตกลงสัญญา แต่มาวันนึงกลับได้รู้ว่าเขาผิดสัญญา ถ้าคำสัญญาที่ให้กัน มันไม่มีค่า ไม่มีความหมายพอที่จะทำให้เขาระลึกถึงเลย

   ผิดด้วยหรือที่จะโกรธ ผิดด้วยหรือที่จะน้อยใจ ผิดด้วยหรือที่จะรู้สึกว่า เมื่อมันมีการโกหกครั้งที่หนึ่งได้ ใครจะกล้ารับประกัน ว่ามันจะไม่มีครั้งที่สอง ครั้งที่สามตามมาไม่รู้จบ ความรักที่มีให้มันไม่เคยหมดไปเลย แต่ขณะเดียวกันก้อไม่อยากเป็นคนโง่ ที่ไม่รู้อะรัยเลย

ถ้าวันนั้นไม่เปิดกระเป๋าไปเจอรูปแนน อีกกี่วันล่ะ ที่จะต้องเป็นคนโง่ ถูกปิดบังอยู่อย่างนั้น คำสัญญาสำหรับคนบางคน มันคงเป็นแค่ลมปาก ที่พัดมาและพร้อมจะผ่านไป ประโยชน์อะรัยกับการยึดถือ คนเราเจ็บครั้งที่หนึ่งเรียกว่าพลาด แต่ถ้าหากเจ็บซ้ำๆบ่อยมากเกินไป สมควรเรียกว่าโง่

ไม่มีใครอยากจะโง่ เราเองก้อเป็นคนหนึ่ง หากจะต้องเลือก ขอทรมานใจดีว่าที่จะยอมโง่ การที่รักใครสักคนจนหมดใจ แต่ถึงจะอยู่ใกล้ เราก้อไม่อยากจะให้มันเหมือนเดิมมันผิดด้วยหรือ เมื่อครั้งแรกเขาเองให้สัญญาว่าจะไม่โกหกปิดบังกัน แต่เขาเองเป็นคนที่ทำลายความไว้ใจนั้นลงไปแล้ว เมื่อหมดก้อคือหมด

   เวลานั้นได้แต่ร้องไห้กอดเดียร์เอาไว้ เดียร์เองก้อไม่ได้สนใจแล้วว่าเพื่อนจะมองด้วยความแปลกใจยังงัย เพราะไม่มีใครรู้เรื่องที่เดียร์ชอบผมเลยสักคน แม้แต่ไอ้ดาเอง

      “กลับไปเปลี่ยนเสื้อผ้า แล้วนอนเหอะนะ”
      “ไม่ไปได้มั้ยเดียร์ ตอนนี้กูไม่อยากไปไหนทั้งนั้น”
      “อืมม์ นอนตรงนี้ก้อได้ เดี๋ยวให้เอ็ดมันไปหาผ้ามาให้ห่มนะ”
      “ชอบใจนะ กู...รักมึงนะเพื่อน”
      “ถ้ารักกูจริง ห้ามทำอะรัยแบบเมื่อกี้อีกนะ”
      “มึงบอกให้มันเลิกยุ่งกะกูดิ ถ้ามันเลิกมาวุ่นวายกะชีวิตกู กูคงจะทำใจได้”
      “เออ เดี๋ยวกูจะบอกเอง”

   รู้สึกไม่ดีเหมือนกัน ที่ทำให้บรรยากาศในการมาเที่ยวครั้งนั้นมันต้องเสียไป พอวันรุ่งขึ้นไปเที่ยวกันที่น้ำตกป่าละอู ชอบมากเลย มีผีเสื้อเยอะมาก เวลาที่เล่นน้ำนะ พอได้กระโดดน้ำแล้วแหกปากตะโกน รู้สึกว่าดีเหมือนกัน หายเครียดดีพยายามร่าเริงเหมือนเมื่อวานนี้ไม่มีอะรัยเกิดขึ้น

ทีแรกเพื่อนมันก้อเกร็ง เดาอารมณ์เราไม่ถูก แต่พอมันเห็นเราบ้าปลดปล่อยอารมณ์เต็มที่ เลยสนุกสนานตามกันไป โดยที่ผมต้องทำเหมือนไอ้ตั้มไม่มีตัวตน เจ็บนะคนที่รัก อยู่ห่างแค่นี้ แต่ไม่สามารถคุยได้ ต้องคิดว่ามันเป็นเหมือนก้อนหินที่มีตัวตนอยู่ แต่เราไม่มีสาเหตุที่จะต้องไปใส่ใจ เท่านั้นเอง
*****************************************
ตอนที่ 38

   หลังหลับจากหัวหินเที่ยวนั้น ความรู้สึกที่อยู่ในใจยิ่งเปราะบางมากขึ้นทุกที จนกระทั่งวันหนึ่ง ระหว่างที่ลงช็อปทำงานผลัดในช่วงปิดเทอม ช่วงที่ปล่อยพักเที่ยงนั้นเอง

      “กานต์  มึงต้องคุยกะกูให้รู้เรื่องแล้วนะวันนี้น่ะ” ไอ้ตั้มกึ่งลากกึ่งจูงมือผมไปที่ม้าหินข้างบ้านพักอธิการ ตอนนั้นไม่อยากขัดขืนแล้ว เหนื่อยเหลือเกิน
     
      “กานต์ กูรักมึงนะ มึงเข้าใจกูบ้างมั้ย”
      “หรอตั้ม ถ้าตั้มรักกานต์จริงตั้งแต่ตอนนี้ ไปจนถึงเวลาเข้าช็อปช่วงบ่าย ตั้มพูดว่ารักกานต์ ห้ามหยุดนะ แล้วกานต์จะเชื่อ”
      “ได้ดิ ตั้มรักกานต์นะ ตั้มรักกานต์ ..........”

   รักหรอ ทำมัยคำนี้มันถึงทำให้เราเจ็บปวดจังนะ เจ็บที่ใจจังเลย จะทำยังงัยดี ความรู้สึกนี้มันถึงจะพ้นไปได้ มีความเจ็บไหนที่มันจะทำให้เราลืมความเจ็บนี้ได้บ้างนะ

   ระหว่างที่ตั้มพูดนั้น พอมันพูดว่ารักที่นึงผมก้อเอาเล็บนิ้วโป้งกรีดข้อมือตัวเองทีนึง เผื่อว่าความเจ็บนี้มันจะมากกว่าความเจ็บที่ใจ แต่มันยังไม่มากพอเลยนี่นา

      “ตั้ม พูดอีกดิ กานต์อยากได้ยินว่าตั้มรักกานต์ พูดอย่าหยุดนะ”

   ผมยิ้มให้มัน โดยที่มือที่ซุกอยู่ใต้โต๊ะ ก้อกรีดข้อมือตัวเองไปด้วย จากทีแรกที่เป็นรอยแดงๆ เริ่มมีเลือดไหลออกมาซิบๆ จนในที่สุดแขนข้างซ้ายของผมก้อเต็มไปด้วยเลือด

      “กานต์ มึงทำอะรัยวะ ไอ้ตั้มมึงพูดอะรัยกะมัน” ไอ้ดาก็เดินมาทางข้างหลังกับไอ้นนท์มันคว้าข้อมือผมดึงออก
      “ทำมัยมีอะรัย”
      “มึงดูข้อมือมันดิ มึงพูดอะรัยกะมันวะตั้ม”
      “กานต์ ทำมัยกานต์ทำอย่างนี้ละ”
      “ก้อมึงบอกว่ารักกู แต่คนที่มึงเลือกไม่ใช่กูนี่ เจ็บมั้ยล่ะกูอยากให้มึงเจ็บบ้างงัย”

   วันนั้นผมเล่นของไปประมาณ 4 ตัวตอนเช้าด้วย เลยทำให้ตัวเองไม่มีสติ บอกไม่ถูกเหมือนกันความรู้สึกในตอนนั้น ไอ้ดาพาผมไปห้องพยาบาลเพื่อทำแผล ตอนนั้นเหมือนร่างที่ไร้วิญญาณ ไม่อยากพูดไม่อยากคุยกับใคร

      “อากานต์ลื้อไปทำอะรัยมา ถึงต้องพันข้อมือ” พอม้าเจอหน้าก้อเริ่มบ่น เตี่ยดึงข้อมือไปเปิดผ้าพันแผลดู
      “นี่ลื้อติดยาหรอ เค้าเป๋ ทำมัยทำตัวอย่างนี้”
      “ลื้อเคยทำอะรัยให้ม้ากะเตี่ยสบายใจบ้างมั้ย ทำแต่เรื่อง ดีแต่ผลาญเงิน ลื้อนี่มันเลี้ยงเสียข้าวสุก”

   ทำมัยเวลามีอะรัยไม่เคยมีใครคิดจะปลอบเรามีแต่คนด่า เรานี่มันเลวจริงๆ ไม่เคยทำตัวให้เตี่ยกะม้าภูมิใจเลย เหมือนความในใจที่เก็บมานานมันระเบิดออกมา เพราะเก็บไว้ไม่ไหวแล้ว

      “เมื่อรู้ว่าอั๊วเกิดมาทำแต่เรื่องเดือดร้อน แล้วให้เกิดมาทำมัย ทำมัยไม่ฆ่าอั๊วให้ตายตั้งแต่ตอนที่เกิดล่ะ”
      “เพี๊ยะ.........”
      “เตี่ย ลื้อตบอั๊วหรอ”

   ตั้งแต่เกิดมาจนถึงวันนั้นไม่เคยเลยสักครั้งที่เตี่ยกับม้าจะตี ไม่เคยแม้แต่จะเงื้อมือขึ้นมา ในเมื่อไม่มีใครรักแล้วจะอยู่ทำมัย ผมวิ่งหนีขึ้นห้องตัวเอง หยิบขวดยาฆ่าแมลงที่บันไดขึ้นห้องไปด้วย

   เข้าไปในห้องไปนั่งร้องไห้ ตัดสินใจเมื่อไม่มีใครรักแล้วจะอยู่ต่อไปเพื่ออะรัย เลยหยิบกระดาษขึ้นมาเขียนจดหมาย

   กราบเท้าเตี่ยม้าที่เคารพ

      ชาตินี้กานต์รู้ตัวว่าเป็นคนเลว ไม่เคยทำให้เตี่ยกะม้าสบายใจ ต้องกราบขอโทษด้วย ที่ไม่ได้แทนคุณที่เลี้ยงดูมา เกิดชาติหน้าขอเป็นวัวควายทำงานใช้แรงแทนคุณ หรือขอเป็นหมาเฝ้าบ้าน ไม่กล้าขอเกิดเป็นลูกอีกต่อไป เพราะคงเลวเกินกว่าที่จะเกิดมาเป็นคนได้อีก
   
      เมื่อกานต์ตายไปแล้ว  ไม่ต้องทำพิธีอะรัยทั้งสิ้น ขอให้บอกเจ้ ให้เจ้เอาไปเผาเลยไม่ต้องสวด เงินที่อยู่ในธนาคารคงพอค่าโลงกับค่าถ่านค่าสัปเหร่อ เมื่อเผาแล้วกระดูกให้ลอยน้ำให้หมดห้ามเก็บเอาไว้ แค่ที่รบกวนเตี่ยม้ามาทุกวันนี้ก้อไม่รู้ว่าจะต้องเป็นวัวควายใช้หนี้อีกกี่ชาติ อย่าเอากระดูกมาเก็บให้รกบ้านเลย ส่วนเตี่ยม้าอย่าไปเผากานต์เลยนะ ในเมื่อกานต์เลว ไม่เคยทำให้สบายใจ เตี่ยม้าคงจะดีใจ ที่จะไม่ต้องมีคนเลวอย่างนี้อยู่ในบ้านอีกต่อไป

   หลังจากเขียนจดหมายเสร็จ ก้อหยิบขวดยาฆ่าแมลงมากรอกปากตัวเอง ครั้งแรกที่สัมผัสลิ้น รู้สึกว่ามีรสเปรี้ยว เมื่อมันลงถึงกระเพาะ ก้อขย้อนออกมาเอง ตอนนั้นตามองอะรัยมันกลายเป็นสีเหลืองไปหมดแล้ว น้ำลายเริ่มไหลออกมา นี่เรากำลังจะตายใช่มั้ยเนี่ย
*****************************************
 
 
 

ออฟไลน์ THIP

  • Global Moderator
  • เป็ดApollo
  • *
  • กระทู้: 7674
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +986/-10
ไม่รู้จะสงสารใครแล้วครับท่าน  :serius2:
ตั้ม ลึก ๆ แล้วคิดว่าตั้มคงมีคำอธิบายให้กานต์ ไม่อย่างนั้นคงไม่เซ้าซี้ขอพูดกับกานต์หรอก  :monkeysad2:
กานต์ คงจะเจ็บปวดมาก มากซะจนยอมทำทุกวิธีที่จะให้ตนเองหลุดพ้นจากความเจ็บนี้  :impress3:
เดียร์ เพื่อนรัก ฉันเป็นแค่เพื่อนรัก  :monkeycry2:
พ่อกับแม่ของกานต์ เมื่อลูกรักเปลี่ยนไป  :monkeysad:

ออฟไลน์ Junrai_Hyper™

  • พูห์น้อยกลอยใจ
  • Global Moderator
  • เป็ดArtemis
  • *
  • กระทู้: 4842
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +777/-50
ฮืออออ

ถ้ากานต์เป็นมีเหตุผล และฟังคนอื่นมากกว่านี้ ก็คงจะไม่เกิดเหตุการณ์แบบนี้อะ


rarmz

  • บุคคลทั่วไป
ทำไมต้องทำร้ายตัวเองด้วยอ่า


พุดอะไรไม่ออกคับ


RrMz`,,

hotdog

  • บุคคลทั่วไป
 :monkeysad: ความคิดดี   ยาฆ่าแมลง   

กำลังอยู่ในโหมดนี้พอดี   


เด๋วทนม่ายไหว   จะเอายาฆ่าแมลงกรอกปากเหมือนกัน 


เซงชีวิต   :monkeysad2:

ออฟไลน์ ที่ปรึกษาไอทีขั้นต้น

  • Administrator
  • เป็ดApollo
  • *
  • กระทู้: 6853
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +1320/-22
shell  คงเพราะเราไม่ยอมปล่อยวางกัน ของที่ไม่ใช่ของของเราก็อย่าไปฝืนมัน  :monkeysad2:
น้องแม้ว  มีอะไรก็ให้นึกถึงเสมอว่าถ้าเราเป็นเขา เพราะอะไรเราถึงทำ   :confuse:
RrMz`,, ช่วงเวลาที่เลวร้ายที่สุดให้นึกเสมอว่ายังมีคนที่รักเราและอยู่ใกล้เขาเหล่านั้นเอาไว้นะครับ  :3059:
hotdog  คงไม่ใช่ทุกคนจะโชคดีนะครับ อยากเป็นผู้แพ้หรือครับ มันอาจแก้ไขอะไรไม่ได้และทิ้งคนที่รักเราให้เจ็บปวด
เคยคิดจะทำอะไรเพื่อนคนที่รักเราบ้างไหมครับ หันมองดูคนที่เขาเจ็บปวดกว่าเรา เขายังยืนสู้ไม่ยอมแพ้มัน เวลาจะช่วยเยียวยาทุกอย่างได้นะครับ ค่อยๆคิดค่อยๆตัดสินใจ  :yeb:



************************************
ตอนที่ 39

   ตาเริ่มมองอะรัยมันกลายเป็นสีเหลืองไปหมดแล้ว น้ำลายไหลออกมา นี่เรากำลังจะตายใช่มั้ยเนี่ย ความคิดในตอนนั้นคือต้องพยายามไม่ดิ้น จะได้ไม่มีใครรู้ จะได้ตายสมใจเสียที

   แต่ว่าพึ่งรู้ในตอนนั้นเองว่าคนที่กินยา ไม่สามารถที่จะควบคุมร่างกายได้ เพราะทั้งที่ตั้งใจว่าจะไม่ดิ้น แต่ร่างกายกลับไม่สามารถควบคุมได้ ผมเริ่มชักและดิน ทำให้ขาไปฟาดโดนผนังห้องเสียงดังขี้นมาทีนึง

      “อากานต์ ลื้อทำรัย” เสียงม้าตะโกนถามขี้นมา ตอนนั้นไม่มีเสียงใดๆ ออกมาจากปากแล้ว มีแต่เสียงดังอ๊อกๆ อาม้าขึ้นมาทุบประตูห้องผม
      “กานต์ ลื้อเป็นรัย เฮีย ขึ้นมาข้างบนเร็ว อากานต์อีเป็นรัยไม่รู้ เร็วเฮีย”
      “กานต์เปิดประตูให้เตี่ยหน่อย อากานต์เปิดประตูสิ”
“เฮีย พังประตูสิ จะมัวเรียกทำมัยล่ะ”

   โครม พอเตี่ยกับม้าพังประตูเข้ามา ตอนนั้นผมถึงจะรู้ตัวแต่ไม่มีแรงที่จะทำอะรัยได้แล้ว รู้ทุกอย่างแต่ไม่สามารถแม้แต่จะพูดออกมาได้แต่ดิ้นทุรนทุรายอยู่บนพื้นห้อง

      “กานต์ ทำมัยลื้อทำยังงี้ ลื้อเป็นลูกเตี่ยนะ เตี่ยรักลื้อนะ”
      “เฮีย พาลูกส่งโรงพยาบาลสิ เร็วเข้า”

   ตอนนั้นเตี่ยอุ้มผมขึ้นพาลงมาที่รถ แล้วขับรถไปโรงพยาบาลโดยมีม้าคอยกอดผมร้องไห้ไปตลอดทาง ระหว่างทางหูผมได้ยินแต่เสียงทั้งเตี่ยกะม้าร้องไห้โทษตัวเองว่าเป็นสาเหตุที่ทำให้ผมตัดสินใจฆ่าตัวตาย

   พอไปถึงโรงพยาบาล ผมถูกนำเข้าห้องฉุกเฉิน พยาบาลเอาสายยางขนาดประมาณนิ้วก้อยทาเจลหล่อลื่นสอดเข้ามาทางจมูกผม ลงไปจนถึงกระเพาะ แล้วนำไซรินจ์ขนาดใหญ่มาต่อ เพื่อเทกรอกผงคาร์บอนละลายน้ำลงไป พอเต็มกระเพาะ ก้อเอาไซรินจ์ดูดออก ทำอยู่อย่างนั้นนานพอสมควรแต่ผมไม่แน่ใจว่านานแค่ไหน แต่ตอนนั้นเริ่มรู้สึกตัวดีขึ้น

   หมอให้ย้ายเข้าไปพักฟื้นในห้อง โดยอาการปัจจุบันไม่น่าเป็นห่วงแล้ว จะมีก้อแต่ต้องสังเกตอาการระยะยาว ว่ายาที่กินเข้าไปจะทำอันตรายตับได้มากแค่ไหน หมอบอกว่าโชคดีที่ส่งโรงพยาบาลไว ถ้าช้าอีกนิดเดียวถึงล้างท้องก้อไม่มีประโยชน์เพราะยาจะกัดทำลายอวัยวะภายใน

   ถึงจะรู้ตัวแล้ว ก้อยังไม่อยากคุยกับใครได้แต่นอนร้องไห้ จนสักพัก เจ้ลูกของตั่วแปะมาพร้อมกับตั่วอึ้ม

      “เจ็ก ซิ่ม เดี๋ยวลั้งคุยกะกานต์หน่อยนะ เจ็กกะซิ่มไปรอข้างนอกกะม้าก่อนนะ” เตี่ยกะม้าเลยออกไปข้างนอกพร้อมกะตั่วอึ้ม
      “กานต์ ลื้อทำยังงี้ทำมัย เจ้รู้แล้วเจ้รีบมาเลยนะเนี่ย”
      “........”
      “เจ้รู้นะว่าลื้อยังไม่อยากพูด แต่ยังงัยเจ้ก้อรับฟังลื้อได้ทุกอย่างนะ ตอนนี้เจ้ลื้อมันรู้แล้วทั้งคู่นะ มันกำลังนั่งรถลงมาจากกรุงเทพ เดี๋ยวอีกสักพักมันคงลงมาถึงทั้งคู่”
      “เจ้ ทำมัย ทำมัย ไม่มีใครรักอั๊วเลย มีแต่คนเกลียดอั๊ว แม้แต่คนที่อั๊วรัก มันยังทำให้อั๊วเจ็บ เจ้อั๊วเหนื่อย อั๊วไม่อยากอยู่แล้ว”

      เจ้ลั้งเข้ามากอดผมไว้ ผมร้องไห้เหมือนคนเสียสติ ความจริงผมคงเสียสติไปตั้งแต่ตอนที่ตัดสินใจทำอย่างนั้นลงไปแล้ว ผมเล่าเรื่องทุกอย่างระหว่างผมกะไอ้ตั้มให้เจ้ฟัง เจ้ไม่ว่าอะรัยมีแต่ปลอบใจ ผมว่าแกคงแปลกใจเหมือนกัน เพราะแกไม่เคยรู้มาก่อนว่าผมเป็นเกย์ ที่บ้านผมเองยังไม่รู้เลย มีแกคนแรกที่รู้

   เจ้ลั้งคุยกับผมสักพักแกก้อออกไปตามเตี่ยกะม้าเข้ามา เสร็จแล้วแกขอตัวกลับ หลังจากนั้นญาติๆก้อทยอยมาเยี่ยม จนประมาณทุ่มกว่าๆ พวกเพื่อนๆผมเริ่มมากัน พวกมันรู้เพราะไอ้ดาไปหาผมที่บ้าแล้วป้าที่อยู่บ้านตรงข้ามบอกมัน มันเลยรีบโทรตามเพื่อนให้มาหาผมที่โรงพยาบาล แต่ตอนนั้นผมเองยังพูดมากไม่ได้ มันรู้สึกว่าเหนื่อย และเจ็บคอมาก

   ประมาณ 2 ทุ่ม คนที่ผมไม่อยากเจอมากที่สุดมันก้อโผล่มา โดยที่มันตรงเข้ามากอดผม ต่อหน้าเตี่ยกะม้าและเพื่อนๆ ก่อนที่ผมจะทันพูดอะรัยออกมามันก้อพูดขึ้นมาก่อน

      “เตี่ยกับม้าออกไปข้างนอกก่อนได้มั้ยครับ ขอตั้มคุยกับกานต์หน่อย พวกมึงด้วยออกไปก่อน” เตี่ยกับม้ามองหน้ากัน แล้วเดินออกไปข้างนอก พวกเพื่อนๆผมก้อเดินตามออกไป

      “ทำมัย ทำมัยต้องทำแบบนี้ด้วย”
      “กูไม่อยากให้มึงลืมกูงัย กูจะทำให้มึงจำกูจนวันมึงตายงัย”
      “กูไม่ยอมหรอกนะ ถ้าจะไปก้อไปด้วยกัน” ตอนนั้นมันดึงข้อมือผมให้ลุกจากที่นอน
      “โอ๊ย จะพากูไปไหน”
      “มึงอยากตายไม่ใช่หรอ กูจะไปตายกะมึงงัย กูไม่ยอมเจ็บยู่คนเดียวหรอกนะ ถ้ามึงจะตายกูจะตายพร้อมมึงเดี๋ยวนี้”
      “ถ้ามึงตายแล้วแนนล่ะ”
      “เรื่องของแนน ถ้ากูตายแล้วแนนอยู่ไม่ได้ก้อเรื่องของมัน แต่กูอยู่ไม่ได้ถ้าไม่มีมึง มึงเข้าใจกูบ้างมั้ย” เป็นครั้งแรกที่ผมเห็นไอ้ตั้มร้องไห้ ที่ผ่านมาผมไม่เคยเห็นน้ำตาจากมันเลย สรุปแล้วความจริงคืออะรัยกันแน่ นี่ผมสับสนไปหมดแล้ว
*****************************************

ออฟไลน์ มูมู่น้อย

  • Global Moderator
  • เป็ดAres
  • *
  • กระทู้: 2623
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +468/-12
ก็ไม่เคยรู้เหตุผลของคนที่จะฆ่าตัวตายหรอกนะ  ไม่ว่าจะสาเหตุเพราะความรักหรือเพราะอะไร  แต่มันคงเกิดจากภาวะกดดัน  หดหู่  เป็นพวกโรคซึมเศร้าอ่ะ  ถ้าเป็นหนัก ๆ นานๆ เรื้อรัง  ก็ต้องใช้ยาแล้วก็หาจิตแพทย์ร่วมด้วย  คนที่ไม่เคยเป็นคงไม่รู้ว่ามันทรมานแค่ไหน  (ตรูก็ไม่เคยเป็นเหมือนกัน 555)  แต่เราว่ากานต์คงกำลังเป็นอยู่อะ   จิตวนเวียนหาทางออกด้วยตัวเองไม่เจอ  คิดซ้ำแล้วซ้ำเล่า  เศร้าแทน  :impress3:

ตั้มคงมีเหตุผลแหละ  แต่เหตุผลนั้นจะเข้าถึงใจกานต์รึเปล่า   :monkeysad:

รออ่านต่อคับ  :yeb:

rarmz

  • บุคคลทั่วไป
อ่านไปแล้วจะร้องไห้คับ
ผมอ่านแล้วคิดตามว่า คนที่เค้าเครียดมากๆแล้วหาทางออกไม่ได้ นอกจากว่า ตายๆไปดีกว่า
เค้าจะรุ้สึกยังไง เมื่อต้นเหตุของเรื่องทั้งหมด โผล่หน้ามาไห้เหน

เห้อออออออ ชีวิตน๊อออ ชีวิต - -*


รอ(ความหดหู่)อยุ่นะคับ

RrMz`,,

ออฟไลน์ Junrai_Hyper™

  • พูห์น้อยกลอยใจ
  • Global Moderator
  • เป็ดArtemis
  • *
  • กระทู้: 4842
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +777/-50
ความรักเหมือนโรคา บันดาลตาให้มืดมัว

แล้วมันจะเป็นยังงัยต่อไปอะ

 :serius2: :serius2: :serius2: :serius2:

ออฟไลน์ ที่ปรึกษาไอทีขั้นต้น

  • Administrator
  • เป็ดApollo
  • *
  • กระทู้: 6853
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +1320/-22
 มูมู่น้อย  มันคงเป็นความรู้สึกชั่ววูบเดียว แต่ถ้าย้อนเวลาได้มันอาจไม่เกิดขึ้น คิดถึงคนที่เขารักเรานะ เขาจะรู้สึกอย่างไรถ้าเราทำอย่างนั้น  :monkeysad:
RrMz`,,  ถ้าเราไม่ยอมแพ้ สักวันต้องมีมือของใครบางคนจูงเราไปพบกับความอบอุ่นนะครับ  :monkeylove2:
น้องแม้ว  ถ้าไม่เช่นนั้นโลกเราจะวุ่นวายขนาดนี้หรือ  :impress3:

***********************************************************************
ตอนที่ 40

   เป็นครั้งแรกที่เห็นตั้มร้องไห้ ทำมัยมันถึงต้องร้องไห้ด้วย ในเมื่อมันไม่ได้คิดว่าเราสำคัญที่สุดของมันนี่นา คนที่สำคัญกับมันที่สุดน่าจะเป็นคนนั้นมากกว่า แต่ทำมัยพอเห็นน้ำตามันแล้ว มันเห็นแล้วใจมันโหวงๆยังงัยก้อไม่รู้ ตอนนั้นเผลอเอามือไปเช็ดน้ำตาให้มัน เห็นน้ำตามันแล้วจะร้องไห้ตาม

      “ตั้ม อย่าร้องไห้ดิ กานต์ทนไม่ได้อย่าร้องไห้นะ กานต์ขอร้อง”
          “สัญญากับตั้ม อย่าทำอย่างนี้อีก ถ้ากานต์ไม่อยากเห็นตั้มร้องไห้”
      “ได้กานต์สัญญา กานต์จะไม่ทำอย่างนี้อีก”

   จนแล้วจนรอด ตั้มก้อไม่ยอมปริปากถึงสาเหตุที่ทำให้ต้องคบกับแนน แต่ในที่สุดผมจึงได้รู้จากไอ้นนท์ เพราะไอ้นนท์เป็นเพื่อนที่สนิทที่สุดของตั้ม มันจึงรู้เรื่องทุกอย่างตลอดมา มันบอกว่าพยายามที่จะพูดให้ผมฝังแล้ว แต่ผมไม่เคยฟังมันเลย

   เนื่องจากครอบครัวตั้ม เป็นครอบครัวที่ค่อนข้างเคร่งศาสนามาก ดังนั้นตั้มจึงถูกสอนมาแต่เด็กว่าผู้ชายต้องคู่กับผู้หญิง การมีเพศสัมพันธ์ก่อนที่จะมีการรับศีลกล่าว คือการแต่งงานอย่างถูกต้องนั้นถือว่าเป็นบาป ดังนั้นทุกครั้งที่มันมีอะรัยกับผม มันจะรู้สึกผิด และมักจะไปแก้บาปกับพ่ออธิการเป็นประจำ โดยที่คุณพ่อเองมักจะสอนมันเป็นประจำหลังจากที่มันแก้บาปแล้ว ว่าความรักไม่ใช่แค่การมีเพศสัมพันธ์ ความรักคือการผูกพันของใจสองใจมากกว่า

   เวลานั้นตั้มรู้สึกสับสน ทุกครั้งที่แก้บาปตั้มมักจะแอบร้องไห้ ที่ตั้มไปคบแนนนั้น เพราะว่าตั้มบอกว่ายังไม่แน่ใจว่าความรู้สึกที่มีให้ผมนั้นคืออะรัยกันแน่ โดยตั้มเองได้เล่าเรื่องผมให้แนนฟังด้วย จริงๆแล้ว ตั้มกับแนนเป็นเพื่อนกันมาตั้งนานแล้ว ตอนที่แนนรู้ ว่าผมรู้เรื่องและเริ่มทำอะรัยประชดตั้มนั้น

   แนนขอเลิกกับตั้ม แต่ตั้มบอกว่าถ้าแนนเลิกกับตั้ม ตั้มคงต้องคบกับผู้หญิงอื่นอยู่ดี ถ้าตั้มยังคบกับแนนต่อไป ตั้มยังสามารถที่จะคุยกับผมได้ ถ้าเป็นผู้หญิงคนอื่น เขาคงจะไม่ยอม

   พอได้ยินเรื่องทั้งหมดจากนนท์ ผมรู้สึกว่า นี่ผมทำอะรัยลงไปเนี่ย ที่ผมทำลงไปเพื่ออะรัย ทำเพื่อให้คนที่ผมรักต้องเจ็บ ทั้งที่เขาเจ็บขนาดไหน แต่เขาไม่เคยปริปาก เพราะไม่อยากให้ผมต้องมาทุกข์เพราะเขา แต่ผมเองกลับแปรเจตนาของเขาผิดไป

   ความรู้สึกตอนนั้นคือ เราเองใช่มั้ยที่ทำให้เรื่องมันเลวร้ายลงไปขนาดนี้ เราเองใช่มั้ยที่ผลักไสเขาให้ห่างออกไป เป็นเราเองที่ทำลายความรักของเราสองคน ถึงอยากจะกลับไปเหมือนเดิม ก้อคงทำไม่ได้ เพราะเราเลวมากเกินไป เราทำร้ายคนที่เรารักทั้งที่เขาพยายามทุกอย่าง เพื่อเรื่องของเรา ถ้าหันกลับไป เขาคงยินดี แต่ตัวเราเองไม่มีค่าพอที่จะได้รับความรู้สึกนั้นอีกแล้ว เขาดีมากเกินไปสำหรับเรา คงทำได้แค่ มองเวลาที่เขามีความสุข

   เมื่อเราก้าวพลาดไปแล้ว คงไม่กล้าที่จะหันกลับไป คงได้แต่ยินดีที่เขาจะได้พบคนที่ดีกว่าเรา
*****************************************
ตอนสุดท้ายแล้วนะครับ


*****************************************
ตอนที่ 41 (อวสาน)

   หลังจากที่ผมเข้าใจเรื่องทั้งหมดแล้ว ผมคุยกับตั้ม แต่ไม่เหมือนเดิมแล้ว เพราะตอนนี้ผมไม่ดีพอสำหรับมันแล้ว สิ่งต่างๆที่ผมทำลงไป ถึงมันจะไม่พูดถึง ผมเองรู้สึกไม่ดีเลย จนกระทั่งเมื่อใกล้ที่จะเรียนจบปวช.3

      “กานต์ เดี๋ยวกานต์ไปสอบที่พระนครเหนือด้วยกันมั้ย” ตั้มถามผมขึ้นมาในวันหนึ่ง
      “คงไม่ล่ะ”
      “อ้าว แล้วกานต์จะไปเรียนต่อที่ไหนล่ะ”
      “ไม่รู้ดิ แต่คงจะไม่เรียนช่างแล้วล่ะนะ”
      “ทำมัยถึงไม่เรียนล่ะ”
      “คือไม่อยากเรียนตั้งแต่แรกแล้วละ ตอนนี้เลยว่าจะเปลี่ยนสายเรียน”
      “นึกว่าจะได้ไปเรียนด้วยกันซะอีก”

   จะให้บอกได้ยังงัยครับ ว่าที่ผมไม่อยากเรียนช่างต่อเพราะว่าผมไม่อยากเจอมันอีกต่อไปอีก ถ้ายังต้องเจอมันอีก ผมคงตัดใจจากมันไม่ได้ เมื่อเราไม่ดีพอสำหรับเขาแล้ว ผมอยากห่างออกมาเพื่อที่จะไม่ต้องทรมานมากไปกว่านี้

   เมื่อเรียนจบปวช. ต่างคนต่างก้อมีทางเดินของตัวเอง ผมเองติดต่อกับตั้มบ้าง แต่ไม่ค่อยบ่อยมาก จนกระทั่งต่างคนต่างเรียนจบ วันหนึ่งที่ผมกลับมาที่บ้านม้าเอาการ์ดมาให้ผมเป็นการ์ดงานแต่ง พอเห็นชื่อที่อยู่หน้าการ์ด ทั้งที่ทำใจมาตั้งนานแล้ว แต่มันก้อยังรับไม่ค่อยได้ รู้สึกเสียใจอยู่เหมือนกัน

      “กานต์ มึงจะไปเป็นนักขับให้ตั้มมันป่าว”
      “กูก้อต้องไปดิ เพื่อนจะแต่งงานทั้งที กูจะไม่ไปได้งัย”
       “แล้วมึงจะไหวหรอ”
      “เป็นรัยจะไม่ไหว กูไม่ได้เป็นอะรัยนี่นา”

   วันที่ตั้มจะรับศีลกล่าวกับแนน ก้อคือการทำพิธีแต่งงานตามแบบศาสนาคริสต์ ผมต้องไปเป็นนักขับ คือนักร้องที่ร้องเพลงในโบสถ์ระหว่างพิธี ผมเตรียมใจมาแล้ว พยายามที่จะทำใจ เพลงเริ่มพิธีที่ผมร้องเนื้อเพลงคือ
     
“เรามาประชุมด้วยความยินดี
      ร่วมในพิธีที่พระเจ้านั้นโปรดประทาน
      เจ้าบ่าวเจ้าสาว เป็นกายเดียวกัน
      ร่วมจิตร่วมใจให้ถาวรสุขนิรันดร์
      เราจึงพากันร้องเพลงสรรเสริญ
      ขอให้ทั้งบ่าวสาวมีความสุขเจริญ
      ขอพระเป็นเจ้าให้เขาทั้งสอง
ได้อยู่คู่ครองตามโอวาทพระคริสต์เจ้า”

   ผมร้องไปด้วยความยากลำบาก ถึงจะทรมานใจยังงัย ก้อจะทนเพื่อเพื่อนที่เรารักมากที่สุด ในเมื่อวันนี้เป็นวันสำคัญของเขา สิ่งนี้คงเป็นสิ่งเดียวที่เราจะทำเพื่อเขาได้ พอร้องจบตอนนั้นไม่ไหวแล้ว ต้องขอตัวเข้าไปที่หลังพระแท่น บอกกับเพื่อนว่าไม่ค่อยสบายเหมือนจะอ้วก

   พอเข้าไปข้างหลังพระแท่น ผมร้องไห้ออกมา ระหว่างที่ผมร้องไห้ ไอ้นนท์เดินเข้ามาหาผม

      “ไหวป่ะกานต์ถ้าไม่ไหวไม่ต้องออกไปก้อได้นะ”
      “ไหวดิ วันนี้วันสำคัญของเพื่อนนะ จะทำให้เพื่อนไม่สบายใจได้งัย”ผมฝืนยิ้มตอบให้นนท์

   ในที่สุดมันก้อมาถึงตอนที่ผมไม่อยากให้มาถึงมากที่สุด คือตอนที่ทั้งคู่ปฏิญาณว่าจะรักกัน คำสัญญาที่กล่าว แหวนที่สวมลงไปบนมือของทั้งคู่ ทำมัยคนนั้นถึงไม่เป็นเรา คิดได้แค่เท่านั้นเอง ไม่สามารถคิดอย่างอื่นได้อีกแล้ว

   ทนเท่านั้นก้อแย่แล้วตกกลางคืนยังต้องไปงานเลี้ยงอีก ระหว่างที่นั่งกินเลี้ยงญาติไอ้ตั้มเดินมาหาผม ขอให้ขึ้นไปร้องเพลงบนเวที นี่มันวันอะรัย จะตายอยู่แล้ว จะต้องลากสังขารขึ้นไปร้องเพลงอีก

   เพลงที่ผมเลือกในวันนั้นเป็นเพลงที่ตรงกับใจผมมากที่สุด พูดง่ายๆว่าพออินโทรขึ้นทั้งเจ้าบ่าว เจ้าสาว และเพื่อนผมทุกคนมันหันมามองกันเป็นตาเดียวทั้งหมด

         วันที่เวียนเปลี่ยน วันที่เลยผ่าน รัก คงมั่น
เราไม่เคยห่าง เคียงคู่ชิดใกล้ ทุก เวลา
ยอมทิ้งความฝัน ยอมทุกทุกอย่าง ให้กันและกัน
เพียงได้เคียงข้าง เพียงได้ร่วมทาง โอ้ รักนิรันดร์
ก่อนเคย คิดว่ารักต้องอยู่ ด้วยกันตลอด
เติบโต จึงได้รู้ความจริง
หากเคียงชิดใกล้ (แต่เธอต้องทิ้งทุกอย่างเพื่อฉัน)
ประโยชน์ที่ใด (หากรักทำร้ายเธอเอง)
หากเดินแนบกาย (มีพลั้งต้องล้มลงเจ็บด้วยกัน)
ห่างเพียงนิดเดียว (ให้รักเป็นสายลมผ่าน ระหว่างเรา)
แบ่งที่ว่าง ตรงกลางไว้คอย
เพื่อให้เธอ ได้ตามหาฝัน ของเธอ
เรียนรู้รักอย่าง รู้คุณค่า ฝัน ไม่ไกล
บินไปตามทาง หาดวงตะวัน ที่ เธอต้องการ
ไม่มีฉุดรั้ง ไม่มีดึงดัน เรา เข้าใจ
รักยังแสนหวาน รักยังไม่เปลี่ยน เคียง คู่กัน
ก่อนเคย คิดว่ารักต้องอยู่ ด้วยกันตลอด
เติบโต จึงได้รู้ความจริง
หากเคียงชิดใกล้ (แต่เธอต้องทิ้งทุกอย่างเพื่อฉัน)
ประโยชน์ที่ใด (หากรักทำร้ายเธอเอง)
หากเดินแนบกาย (มีพลั้งต้องล้มลงเจ็บด้วยกัน)
ห่างเพียงนิดเดียว (ให้รักเป็นสายลมผ่าน ระหว่างเรา)
แบ่งที่ว่าง ตรงกลางไว้คอย เพื่อให้เรา ได้ตามหาฝัน
วันเวลาที่เรา ห่างไกล
ความเข้าใจ จะทำให้เราใกล้กัน
กลับกลาย เปลี่ยนเป็นพลัง
โว้วูโหว่หวูโว้
หากเคียงชิดใกล้ (แต่เธอต้องทิ้งทุกอย่างเพื่อฉัน)
ประโยชน์ที่ใด (หากรักทำร้ายเธอเอง)
หากเดินแนบกาย (มีพลั้งต้องล้มลงเจ็บด้วยกัน)
ห่างเพียงนิดเดียว (ให้รักเป็นสายลมผ่าน ระหว่างเรา)
หากเคียงชิดใกล้ (แต่เธอต้องทิ้งทุกอย่างเพื่อฉัน)
ประโยชน์ที่ใด (หากรักทำร้ายเธอเอง)
หากเดินแนบกาย (มีพลั้งต้องล้มลงเจ็บด้วยกัน)
ห่างเพียงนิดเดียว (ให้รักเป็นสายลมผ่าน ระหว่างเรา)
แบ่งที่ว่าง ตรงกลางไว้คอย
เพื่อให้เรา ได้ถึงดั่งฝัน ร่วมกัน

   ความรักไม่ต้องการการครอบครอง ขอเพียงรู้ว่าใจเราอยู่กับใคร และรู้ว่าใจใครอยู่กับเรา ถึงแม้ความเป็นจริงมันอาจจะไม่เป็นไปตามที่เราเคยฝันไว้ ขอแค่เราได้รัก และขอแค่เขารักเรา เท่านั้นเองที่ต้องการ
*****************************************
จบลงไปแล้วนะครับ ขอบคุณทุกท่านที่ติดตามมาตลอดนะครับ สำหรับชื่อเรื่องนะครับ ใครมีไอเดียอะรัยลองเสนอกันมานะครับ เพราะตอนนี้ยังไม่มีชื่อเลย และเดี๋ยวผมจะโพสเรื่องใหม่ต่อนะครับ เรื่องใหม่นี้จะเป็นเรื่องแต่งนะครับรบกวนช่วยติดตามต่อไปด้วยนะครับ รักทุกคนครับ


ไปเยี่ยมไดผมกันมั่งนะครับ
ไดอารี่ของจิรัฎฐิติกานต์
http://my.dek-d.com/sabishiikant/index.php
โดย จิรัฎฐิติกานต์
***********************************************

ขอขอบคุณสำหรับเรื่องที่ยอดเยี่ยมนี้ที่ให้เพื่อนๆได้เรียนรู้การใช้ชีวิตผ่านเรื่องราว
คอยเตือนสติ ไม่เดินทางผิด ดีกว่าต้องเจ็บปวดด้วยตัวเองนะครับ
 :yeb:

ขอบคุณเพื่อนๆที่คอยให้กำลังใจผมมาตลอดการโพสด้วยนะครับ
 :monkeycry2:


CoMMuNiTY Of ThAiBoYsLoVE






ออฟไลน์ THIP

  • Global Moderator
  • เป็ดApollo
  • *
  • กระทู้: 7674
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +986/-10
ความรักไม่ต้องการการครอบครอง ขอเพียงรู้ว่าใจเราอยู่กับใคร และรู้ว่าใจใครอยู่กับเรา ถึงแม้ความเป็นจริงมันอาจจะไม่เป็นไปตามที่เราเคยฝันไว้ ขอแค่เราได้รัก และขอแค่เขารักเรา เท่านั้นเองที่ต้องการ
 :impress3:  :impress3:  :impress3:

สิ่งที่เกิดขึ้นในวันนี้ คือผลของการกระทำในอดีต

ขอบคุณผู้แต่งสำหรับเรื่องราวดี ๆ ที่นำมาเขียนให้อ่านกันค่ะ และจะติดตามผลงานในเรื่องต่อ ๆ ไปค่ะขอบคุณคนโพสต์ที่เอามาลงให้ได้อ่านกัน

ขอบคุณมากค่ะ

ออฟไลน์ Junrai_Hyper™

  • พูห์น้อยกลอยใจ
  • Global Moderator
  • เป็ดArtemis
  • *
  • กระทู้: 4842
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +777/-50
จบแบบเศร้าอีกเรื่องหนึ่ง

ความรักมักมีความหมายสอนเราเสมอ

อยู่ที่เราพร้อมจะเรียนรู้ไปกับมันหรือเปล่า

 :monkeysad:

ขอบคุณ จิรัฎฐิติกานต์ สำหรับเรื่องราวดีๆ นะครับ

ขอบคุณเรย์ที่เอามาลงให้

ขอบคุณเซ็งเป็ดที่ทำให้เรารู้จักกัน


ออฟไลน์ มูมู่น้อย

  • Global Moderator
  • เป็ดAres
  • *
  • กระทู้: 2623
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +468/-12
ยินดีที่คนที่รักจะได้พบคนที่ดีกว่า... ดีแล้วละ  ถึงกานต์ไม่สมหวังแต่ก็ยังได้ความเป็นเพื่อนอยู่ดี  :impress3:

ขอบคุณผู้แต่ง  ขอบคุณเรย์ผู้โพส  สำหรับเรื่องราวดีดี  เป็นข้อคิดได้คะ  :yeb:

rarmz

  • บุคคลทั่วไป
ก็ใช่อยุ่ว่า รักไม่ใช่การครอบครอง แต่ถ้าหากเลือกได้ ทุกคนก้ออยากได้มันไม่ชั่ยหรอคับ?

จบเศร้าอีกเรื่อง เห้อออออออ ความรักทำไมของเราๆมันเปนแบบนี้เนี่ยะ?

แต่มันก้อสอนไห้เรารุ้จักใช้ชีวิตไม่ชั่ยหรอ?


ขอบคุนมากๆคับ สำหรับคุนจิรัฎฐิติกานต์ ที่ได้แบ่งปันเรื่องราว
ทำไห้ผมได้มุมมองความรักอีกแบบ
ถึงจะเศร้าแต่ก็ได้ข้อคิดหลายอย่างมากๆเลยคับ
ขอบคุนมากๆคับ

ขอบคุนทุกคนที่มีส่วนร่วม ไม่ว่าจะpost จะอ่าน จะreply etc.


ขอบคุนโลกนี้ที่ทำไห้เราได้เจอกัน

รออ่านเรื่องต่อไปนะคับ



ขอบคุนอีกครั้ง จากใจ



RrMz`,,

ps.เรื่องนี้เปน 1 ใน top ten ของผมแล้วล่ะ กินใจมากกกกกกกกกกก
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 01-02-2007 01:31:30 โดย RrMz`,, »

ออฟไลน์ ที่ปรึกษาไอทีขั้นต้น

  • Administrator
  • เป็ดApollo
  • *
  • กระทู้: 6853
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +1320/-22
เอาตอนพิเศษมาฝาก ที่ไม่ลงก่อนหน้านี้เพราะกัวสปอย คิกคิก
************************************

ตอนพิเศษ 1
เหตุการณืเกิดเมื่อวันที่ 14 กุมภา วันวาเลนไทน์ปีนี้ ไอ้เราก้อไม่รู้เป็นรัย วาเลนไทน์ทีไรมีเรื่องทุกปี
กะลังนั่งทำงานอยู่ พอดีโทรศัพท์มือถือดัง ก้อเลยกดรับยังไม่ทันดูเบอร์
"ฮัลโหล หวัดดีครับ"
"เออ เป็นงัยบ้าง"
พอได้ยินเสียงปุ๊ปรีบดูเบอร์ทันทีนึกว่าหูฝาด เพราะมันเป็นเสียงไอ้ตั้มอ่ะ ใช่จริงด้วยโทรมาทำมัยวะ
"ก้อดี มีอะรัยอ่ะ"
"ป่าวจะโทรมาแฮปปี้ วาเลนไทน์"
"เออ ขอบใจ แฮปปี้ด้วยละกัน"
"อ้าว แล้ววันนี้ไม่มีนัดที่ไหนหรอ"
"หึ ไม่มีอ่ะ กูจะต้องเคลียร์งาน เดี๋ยวมีประเมิน"
"กูถามรัยมึงหน่อยดิ"
"ถามรัยอ่ะ"
"ทำไม มึงไม่คบใครจริงจังสักทีวะ หรือยังหาคนดีสู้กูไม่ได้"
"โอ้โห :o ไอ้สันดาน มึงหลงตัวเองไปรึป่าว มึงเนี่ยนะดี"
"ไม่ดี มึงก้อต้องหาแฟนใหม่ไปแล้วดิ"
ระหว่างที่เถียงกันนั้น พอดีมีเสียงแนนแทรกเข้ามา คือว่ามันแต่งกะแนนนั่นแหละครับ มีลูกแล้วด้วย
"เดี๋ยวคืนนี้ให้ยืมตั้มควง หนึ่งคืนเอาป่าว"
"นี่ แนน แกน่ะรู้ตัวมั่ง ฉันน่ะเป็นหลวงนะเว้ย แกเป็นน้อย ฉันให้แกยืมใช้ ยังจะเอามาให้ฉันยืมอีก"
"จ้า ขอโทษจ้า คุณพี่"
หลังจากนั้นก้อไม่มีอะไรคุยกันเรื่อยเปื่อย แล้วก้อวางสาย
ทุกวันนี้ก้อยังคุยกะไอ้ตั้มอยู่ แต่มันก้อมีเมีย มีลูกไปแล้ว ลูกกำลังน่ารักด้วย 3 ขวบแล้ว
ไว้มีโอกาสจะมาลงตอนพิเศษให้อีกนะครับ
****************************************************

ปัจจุบันนี้เดียร์เค้าคงไปสบายแล้วนะครับ
เดียร์เสียชีวิตไปเมื่อ 6 ปีที่แล้วด้วยโรคเนื้องอกในสมอง
ผมเองอดคิดไม่ได้ว่าผมเป็นสาเหตุรึเปล่า
ตอนที่ยังเรียนปวช.ด้วยกัน ช่วงนั้นผมร้องไห้บ่อยมาก และเป็นไมเกรนด้วย
เดียร์คอยปลอบผมแต่มันเองก้อเครียดไปกับผมด้วย
มันมักจะบ่นปวดหัว แต่ไม่ยอมไปหาหมอ เป็นเอง หายเอง มันบอกงั้น
จนเรียนจบปวช. ผมเปลี่ยนสายเรียนไม่เรียนช่างไฟเพราะไม่อยากเจอ
มันเรียนปวส.ภาคค่ำกับเพื่อนๆ มีอยู่วันนึงมันฟุบลงไปตอนเรียน
เพื่อนพาส่งโรงพยาบาล หมอตรวจพบว่าเป็นเนื้องอกในสมอง
ถ้าไม่ผ่าตัดก้อเป็นเจ้าชายนิทรา ถ้าผ่าโอกาสรอด 50-50
แม่มันตัดสินใจผ่า แต่มันก้อไม่รอด
ตอนที่มันเสียไม่มีใครยอมบอกผมสักคน มันกลัวผมทำใจไม่ได้
ผมรู้วันที่เผามันพอดี ตอนนั้นผมโกรธเพื่อนมากที่ไม่บอก
"พวกมึงไม่อยากให้กูเห็นหน้ามันเป็นครั้งสุดท้ายใช่มั้ย"
ผมรีบไปที่วัดแต่ตอนที่ไปถึงแม่มันกำลังรอพระมาสุมธาตุอยู่
"กานต์ มาแล้วหรอลูก มาหาเดียร์สิ"
ตอนนั้นมันเหลือแค่กระดูกกองนึงเท่านั้นเอง
"พรมน้ำอบให้เดียร์มันหน่อยนะลูก"
ตอนนั้นผมพูดอะไรไม่ออกได้แต่ร้องไห้เอาน้ำอบพรมให้มัน
แล้วก้อเอาดอกมะลิกับดอกกุหลาบโปรยรวมกับกระดูกเดียร์ ทำไมมันถึงทิ้งผมไป มันบอกว่ามันรักผม
ทำไมผมไม่รักมันให้มากกว่านี้ ทำไมผมไม่ทำให้มันมีความสุขมากกว่านี้
นึกถึงวันนั้นทีไรผมอดร้องไห้ไม่ได้สักที
ขอโทษที่ทำให้เศร้านะครับ


********************************************

แถมกลอนจากแฟนคลับคุณจิรัฎฐิติกานต์
"ระหว่างคนที่เรารัก กับ คนที่รักเรา" เราควรจะเลือกใครดี
คนที่เรารัก.....คือคนที่ใช่สำหรับเรา
แต่บางครั้ง.....เรากลับรู้สึกว่าเขาไม่ใช่
คนที่เรารัก.....คือคนที่เราคิดว่าเรารู้จักเขาดี
แต่แท้จริงแล้ว....เรากลับไม่รู้จักเขาเลย
คนที่เรารัก......คือคนที่เราพร้อมจะเป็นผู้ให้
แต่สิ่งที่เราให้.....เขากลับไม่เคยมองเห็นสิ่งที่เราให้ไป
คนที่เรารัก........คือคนที่เราอยู่ด้วยเวลามีความสุข
แต่เวลาเราทุกข์.....เรากลับมองหาเขาไม่เจอ
คนที่เรารัก....คือคนที่เราใส่ใจทุกเวลา
แต่ที่แย่กว่าคือ..ตลอดมาเขาไม่ได้รักเรา
คนที่รักเรา.......คือคนที่เราเพียงมองผ่าน
แต่เขา.....กลับมองเราอย่างใส่ใจ
คนที่รักเรา.....คือคนที่เราไม่พยายามทำความรู้จัก
แต่เขา.....กลับพยายามทำความรู้จักเรา
คนที่รักเรา.....คือคนที่เราไม่เคยให้ความสำคัญมากมาย
แต่เขา.....กลับให้ในสิ่งที่ล้วนมีค่ามีความสำคัญกับเรา
คนที่รักเรา....คือคนที่เราไม่เคยเห็นหน้าเวลาสุข
แต่เวลาทุกข์....เขากลับเป็นเหมือนเงาคอยเฝ้าตาม
คนที่รักเรา.....คือคนที่เราไม่เคยนึกถึง
แต่มีสิ่งหนึ่ง....บอกให้รู้ว่า......เขารักเรา



ออฟไลน์ THIP

  • Global Moderator
  • เป็ดApollo
  • *
  • กระทู้: 7674
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +986/-10
 :monkeysad:  :monkeysad:  :monkeysad:
ขอให้เดียร์นอนหลับให้สบาย ลืมเสียเถิดความทุกข์ในโลกใบนี้ ฝันถึงแต่ความสุขชั่วนิรันดร์

 :sad4:


ออฟไลน์ Junrai_Hyper™

  • พูห์น้อยกลอยใจ
  • Global Moderator
  • เป็ดArtemis
  • *
  • กระทู้: 4842
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +777/-50
แงแงแง

เศร้าอีกจนได้

อารายกันเนี้ยะ :sad4: :sad4: :sad4: :sad4: :sad4:

ออฟไลน์ มูมู่น้อย

  • Global Moderator
  • เป็ดAres
  • *
  • กระทู้: 2623
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +468/-12
สงสารเดียร์  เพื่อนที่ดีที่สุดในโลก  :impress3:  :impress3:  :impress3:

ระหว่างคนที่เรารัก กับ คนที่รักเรา  ถ้าเลือกได้ทั้งคู่ก็คงดี  แต่ถ้าให้เลือก เลือกคนที่รักเราอะ คงมีความสุขกว่า...มั้ง   :monkeysad:

jammy

  • บุคคลทั่วไป
รักใช่ช่วงวัยรุ่นเรียกได้ว่าเป็นเรื่องของอารมณ์ล้วนๆเลยนะครับ   แต่ก็ไม่เป็นไรหรอกครับมันผ่านไปเเล้วเเก้ไขอะไรไม่ได้      สิ่งที่ทำได้ก็เพียงขอให้เรามีสติกับเรื่องในปัจจุบันให้มากที่สุดอย่าให้ประวัติศาสตร์มันซํารอยเดิมอีกก็พอแล้วละครับ :monkeysad2:

suregirl

  • บุคคลทั่วไป
เพิ่งได้อ่านเรื่องนี้เมื่อคืนนี้เอง รวดเดียวจบเลย (ไม่รู้พลาดเรื่องดีๆ แบบนี้ได้ไง)  :confuse:
เศร้ามาก น้ำตาไหลเลย รู้สึกว่าเรื่องนี้เศร้าที่สุด บรรยายไม่ถูกเลย
แต่ตอนนี้ทั้งหมดก็ยังติดต่อกันพูดคุยกัน ก็ดีค่ะ คำว่าเพื่อนมันยั่งยืนกว่า
แต่ก็ยิ่งเศร้าเมื่อรู้ว่าเดียร์เสียชีวิตไปแล้ว
สรุปว่าเรื่องนี้มันเศร้า จริง ๆ กินใจมาก   ฮือ ฮือ

 :monkeysad: :monkeysad2: :monkeysad:

 

สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด


สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด