]|เรื่องไม่สั้นและไม่เล่า|[ กระดานดำหลังรั้วโรงเรียน ... ชาย (ภาค 2: เม้นแรก)
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด

สนใจโฆษณาติดต่อ laopedcenter[at]hotmail.com คลิ๊กรายละเอียดที่ตำแหน่งว่างเลยครับ

สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด

ผู้เขียน หัวข้อ: ]|เรื่องไม่สั้นและไม่เล่า|[ กระดานดำหลังรั้วโรงเรียน ... ชาย (ภาค 2: เม้นแรก)  (อ่าน 1555304 ครั้ง)

ออฟไลน์ THIP

  • Global Moderator
  • เป็ดApollo
  • *
  • กระทู้: 7674
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +986/-10
อ่านคำเมืองจนปวดหัว  :really2: แน่จริงพูดลาวเด่ะ  :z2:

ออฟไลน์ ExecutioneR

  • จุ๊บ จู๊บบบบบ ~~ ♥
  • เป็ดนักเขียน
  • เป็ดAphrodite
  • *
  • กระทู้: 4243
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +1722/-40
    • FB Page
A 3


ตอนนี้นอกจากนัทแล้วผมก็รู้สึกชอบป๊อปขึ้นมาในทันทีเลยด้วยเช่นกัน เพราะทั้งนิสัยที่เป็นกันเองและความกวนของเขานี้ มันช่วยทำให้ผมลืมความกังวลที่จะไม่สามารถปรับตัวเข้ากับพวกลูกคุณหนูในโรงเรียนไฮโซแห่งนี้ได้ไปในทันที

“ไอ้ป๊อปมันเป็นนักกีฬาน่ะ ทั้งบาส ทั้งบอล แถมยังเป็นประธานชมรมกีฬาของมอต้นด้วย” นัทพูดให้ผมฟังขณะที่เรากำลังนั่งกินข้าวอยู่ในโรงอาหารด้านหลังอาคารเรียนของนักเรียนชั้นมอหนึ่ง ซึ่งตั้งอยู่ถัดจากสระว่ายน้ำ

“อ๋อออ มิน่าล่ะ” ผมพยักหน้า ส่วนนัทกับป๊อปก็มองหน้าผมด้วยสีหน้าเป็นเชิงคำถาม “คือเมื่อวานเราเข้าไปในห้องผอ.แล้วก็เห็นรูปคนๆนึงที่อยู่ทั้งในทีมบาสแล้วก็ทีมบอลด้วย และเมื่อเช้าพอเจอหน้านายเราก็เลยรู้สึกคุ้นๆว่าเคยเห็นที่ไหนมาก่อนไง”

“รูปนั่นเป็นรูปกู เอ๊ย เราตอนมอสองน่ะ” ป๊อปอธิบายหลังจากเริ่มตักข้าวจานที่สองใส่ปากไปพร้อมๆกัน “หมายถึงรูปตอนอยู่ทีมฟุตบอลน่ะนะ นั่นเป็นรูปที่เราได้ที่สามของการแข่งระดับมัธยมต้น ส่วนของทีมบาสนั่นโรงเรียนเราเพิ่งได้ที่สองเมื่อเดือนที่แล้วนี่เอง”

“โรงเรียนเรากิจกรรมเกี่ยวกับกีฬาจะค่อนข้างเยอะน่ะ นนท์” นัทพูดขึ้นบ้าง “เพราะมันเป็นโรงเรียนชายล้วนไง ก็เลยมีชมรมกีฬาต่างๆเยอะกว่าอย่างอื่นหน่อย แต่ส่วนมากก็จะมีพวก ว่ายน้ำ บาส บอล กรีฑา เทนนิส ปิงปอง แล้วก็แบดมินตัน ล่ะมั๊ง ที่จะดังหน่อยแล้วก็มีสมาชิกค่อนข้างเยอะกว่าชมรมกีฬาอื่นๆ”

“แล้วพวกศิลปการต่อสู้ล่ะ มึงลีมชมรมเทควันโดของตัวเองไปได้ยังไง” ป๊อปแย้ง

“เออใช่ นอกนั้นก็มีพวกศิลปะการต่อสู้อย่างที่ไอ้ป๊อปบอก เช่นยูโด คาราเต้ เทควันโด มวยสากลน่ะ แล้วก็มีชมรมเกี่ยวกับภาษา ศิลปะ วัฒนธรรม การละคร แล้วก็คณะกรรมการนักเรียนด้วย”

“โห เยอะโคตรเลยว่ะ” ผมมองทั้งสองคนแบบทึ่งๆ

“เดี๋ยวนายค่อยๆเลือกไปก็ได้ พรุ่งนี้นายน่าจะได้พบกับอาจารย์ชัช ที่ปรึกษาของระดับมัธยมต้นแล้วก็ของมอสามด้วยแน่ๆ อาจารย์เค้าคงจะบอกรายละเอียดนายอีกทีพรุ่งนี้นั่นแหละมั๊ง”

“แต่เราว่าเราขอฟังพวกนายอธิบายแบบนี้ก่อนเจอของจริงดีกว่าว่ะ พอถึงเวลาจริงๆจะได้ไม่รู้สึกงง เพราะตอนนี้เราก็เริ่มรู้สึกมึนๆขึ้นมานิดๆแล้ว”

“มึนอาฮาย ไม่เห็นมีอาฮายน่ามึนเฮยย” ป๊อปเงยหน้าขึ้นมาจากจานข้าวของตัวเองแล้วพูดทั้งๆอาหารเต็มปาก “หู่ฮมฮมอีฮาอ้อด้ายนะ เฮาดูแฮนายเอง”

“มึงแดกให้เสร็จก่อนแล้วค่อยพูด ไอ้ป๊อป”

ป๊อปพยักหน้าแล้วรีบกลืนข้าวลงคอ “เออ เมื่อกี๊กูพูดว่า อยู่ชมรมกีฬาก็ได้นะ เราดูแลนายเอง”

ผมหัวเราะเบาๆ “ขอบใจมาก ป๊อป ว่าแต่เราต้องตัดสินใจเมื่อไหร่ล่ะเนี่ย”

“ปกติเค้าจะให้เวลาหลังจากเปิดเทอมมาราวๆสองอาทิตย์นะ นายเองก็คงเหมือนกันแหละมั๊ง”

“ช่ายๆ” ป๊อปพยักหน้า “หรือจะไปอยู่คณะกรรมการนักเรียนกะไอ้นัทมันก็ได้นะ ไอ้เนี่ยมันหัวหน้าห้อง”

“อ้าว นัทเป็นหัวหน้าห้องเหรอเนี่ย” ผมหันไปมองนัทแบบทึ่งๆ แต่จะว่าไปเค้าก็ดูเหมาะกับตำแหน่งนี้ดีอยู่เหมือนกันหรอก “แต่จะว่าไป เมื่อกี๊เราว่าเราได้ยินว่านัทอยู่ชมรมเทควันโดไม่ใช่เหรอ”

“คือจริงๆแล้วนักเรียนจะเลือกอยู่กี่ชมรมก็ได้น่ะ แต่ไม่เกินสาม และต้องมีอย่างน้อยหนึ่ง”

“แต่ยกเว้นอย่างไอ้ป๊อปมัน เพราะคนที่จะสังกัด ‘ชมรมกีฬา’ ได้ จะต้องอยู่ในชมรมที่เป็นกีฬาชนิดอะไรก็ได้อย่างน้อยสามชมรม และต้องติดเป็นนักกีฬาในทีมจะตัวจริงหรือสำรองก็ได้อย่างน้อยสองชนิด ถึงจะมีสิทธิ์น่ะ”

“ช่ายๆ” ป๊อปเคี้ยวข้าวไปพยักหน้าไป

“ส่วนไอ้ป๊อปมันเคยติดตัวจริงทั้งบาส บอล แล้วก็วิ่งด้วย ตอนนี้มันก็เลยได้เป็นหัวหน้าชมรมกีฬาของฝั่งมัธยมต้นไปเลย”

“ช่ายๆ”

“ซึ่งข้อดีก็คือสำหรับพวกนักกีฬาเนี่ย อาจารย์เค้าจะมีคะแนนพิเศษช่วยเหลือให้น่ะ เพราะบางทีอาจจะต้องซ้อมเยอะจนเบียดเวลาเรียนหรือเวลาอ่านหนังสือไปบ้าง........”

“ช่ายๆ”

“ซึ่งก็เหมาะกับไอ้คนหัวทึบอย่างไอ้ควายป๊อปนี่ดีอยู่แล้ว เพราะมันน่ะเป็นประเภทสมองมีแต่มัดกล้ามเนื้อน่ะ”

“ช่ายๆ อึ๊” ป๊อปหันขวับมามองหน้านัททันที

“ยิ่งถ้าสร้างชื่อเสียงให้กับโรงเรียนได้ด้วยการคว้ารางวัลอะไรก็แล้วแต่มาได้นะ ผอ.แกยิ่งปลื้มใหญ่ แต่ไม่จำเป็นต้องเป็นชมรมเกี่ยวกับกีฬาอย่างเดียวหรอกนะ พวกชมรมวิชาการหรืออย่างอื่นก็เหมือนกัน”

ผมหัวเราะเบาๆ นึกขำที่สองคนนี้ชอบกัดกันอยู่ตลอดเวลา “แล้วอย่างอื่นล่ะ มีอีกมั๊ย”

“หมายถึงอะไรล่ะ ถ้าหมายถึงชมรมก็ยังมีอีกอยู่หรอก เช่นชมรมดนตรีสากล ชมรมดนตรีไทย ชมรมถ่ายภาพ อะไรพวกนี้น่ะ”

“แต่ชมรมกีฬาน่ะ มีสิทธิ์ได้รางวัลพิศวาสเพิ่มกว่าชมรมอื่นๆสูงสุดแล้ว” ป๊อปพูดเสริม “เอาแค่แข่งกีฬาสีในโรงเรียนแล้วได้รางวัล อาจารย์บางคนแกก็แจกคะแนนให้เด็กสีตัวเองแล้วเหมือนกัน”

“แต่ถ้ามึงไม่รู้จักอ่านหนังสือเลยซะมั่งมันก็ไม่ไหวนะ ไอ้ป๊อป”

“อุ๊” ป๊อปชะงัก “มึงอ่า พูดเหมือนไอ้ตี๋เปี๊ยบเลย”

“เออ กูสงสารมันที่ต้องมาคอยดูแลมึงเนี่ย ใกล้สอบทีไรมีงานต้องทำทีไร กูเห็นมันช่วยเข็นมึงจนหลังแทบหักทุกที”

“นัทกับป๊อปรู้จักกันมานานแล้วเหรอ” ผมถาม

“กู เอ๊ย เราสองคนอยู่ห้องเดียวกันมาตั้งแต่มอหนึ่งน่ะ แต่จริงๆแล้วโรงเรียนเราเค้าไม่มีระบบย้ายห้องอยู่แล้ว เพราะงั้นตั้งแต่มอหนึ่งยันมอสาม ทุกคนก็เลยจะได้อยู่ห้องเดียวด้วยกันไปตลอด” ป๊อปตอบ

“อ๋อ เพราะเราดูว่านายสองคนท่าทางจะสนิทกันดี”

ป๊อปกับนัทหันมามองหน้ากัน ก่อนที่ทั้งคู่จะหัวเราะออกมาเบาๆ

“จริงๆไม่ใช่แค่เราสองคนหรอก แต่ยังมีไอ้ตี๋เล็ก ไอ้ยุ แล้วก็ไอ้คริสอีกคน” ป๊อปนับนิ้ว “ไอ้สามคนนี้น่ะอยู่ด้วยกันกับพวกเราที่ห้องสามมาตั้งแต่แรกแล้ว แต่ถ้าพูดถึงเด็กห้องอื่นก็มีอีกสองคนที่สนิทๆกันก็คือไอ้เคนกับไอ้เจย์ห้องสี่น่ะ”

ผมพยักหน้า พยายามจำชื่อที่ป๊อปพูดออกมาเมื่อครู่นี้ให้ได้ทั้งหมด และในใจก็นึกจินตนาการถึงบรรดาคนเหล่านั้นไปด้วยว่าจะมีหน้าตาและนิสัยเป็นยังไง

“ไม่ต้องกังวลหรอก ทุกคนนิสัยดีๆกันทั้งนั้นแหละ” นัทพูดขึ้น “เดี๋ยวนนท์ก็ใกล้จะได้เจอกับพวกมันแล้ว”

จู่ๆป๊อปก็สะดุ้งแล้วหยิบมือถือที่กำลังส่งเสียงดังออกมาจากกระเป๋ากางเกงของตัวเอง “พูดปุ๊บไอ้ตี๋ก็โทรมาเลยเนี่ย” เขาพูดโดยที่ไม่จำเป็นต้องชำเลืองมองที่หน้าจอของโทรศัพท์เลยแม้แต่นิดเดียว “เฮ้ย กูขอตัวแป๊บนึงนะ”

ผมกับนัทพยักหน้าให้กับป๊อปที่กำลังลุกขึ้นจากเก้าอี้แล้วเดินตรงไปยังร้านขายน้ำพร้อมกับโทรศัพท์มือถือที่แนบอยู่ที่หูซ้ายของตัวเอง

ผมมองป๊อปเดินห่างออกไปจนไม่ได้สังเกตเห็นว่านัทกำลังมองอะไรอยู่ จริงๆแล้วป๊อปก็ถือว่าเป็นคนหน้าตาดีคนหนึ่งเลยทีเดียว ผิวสองสีของเขาก็รับกับโครงหน้า คิ้ว และดวงตาอันคมเข้มคู่นั้นของเขาได้อย่างพอดี แถมเขายังมีบุคลิกที่เป็นเอกลักษณ์และเป็นกันเองมากจนน่าแปลกใจเลยด้วย ผมมัวแต่คิดอะไรเรื่อยเปื่อยไปเรื่อยจนกระทั่งมารู้สึกตัวอีกทีก็ตอนที่ได้ยินเสียงของนัทพูดขึ้นแล้ว

“ขอโทษแทนไอ้ป๊อปด้วยนะ แม่งหยาบคายไปหน่อย”

“เฮ้ย ไม่หรอก เรื่องธรรมดา เรากลับชอบซะอีกนะ ดูเป็นกันเองและเป็นธรรมชาติดีออก”

“แต่นัททำแบบนั้นไม่ได้ว่ะ ยังไม่รู้สึกอยากพูดมึงกูกับนนท์ขนาดนั้น ที่สำคัญ เมื่อเช้าตอนนนท์พูดแทนชื่อตัวเองกับแม่นะ นัทว่ามันน่ารักดี” เขายิ้ม และนั่นก็ทำเอาผมรู้สึกอายไปเลยเหมือนกัน

“ปกตินัทไม่ได้แทนตัวเองว่า ‘นัท’ เวลาคุยกับพ่อแม่เหรอ”

“ไม่อ่ะ เรียกว่า ‘ผม’ มากกว่า ถูกสอนมาแบบนี้น่ะ แต่นัทไม่ค่อยชอบหรอก” พอมาถึงตอนนี้ผมก็เริ่มสังเกตถึงสรรพนามที่นัทใช้เรียกแทนตัวเองที่เริ่มเปลี่ยนไปแล้วด้วยเหมือนกัน หรือว่าผมจะคิดมากไปเองรึเปล่านะ “นนท์จะว่าไรป่าวถ้านัทอยากให้นนท์เรียกแทนตัวเองกับนัทว่านนท์เหมือนที่คุยกับแม่น่ะ”

เมื่อได้ยินอย่างนี้ ผมก็เริ่มรู้สึกแปลกๆขึ้นมาในทันที แต่ก็ไม่ใช่ความรู้สึกแย่ๆอะไรที่ผมไม่ชอบหรอกนะ ถ้าจะว่ากันตรงๆมันออกจะตรงกันข้ามเลยด้วยซ้ำไป “ก็ได้นี่ เพราะไงนนท์ก็ไม่ชินปากกับคำว่า ‘เรา’ เท่าไหร่อยู่แล้วเหมือนกัน” ผมยิ้มแล้วพยักหน้า “และนนท์เองก็ยังไม่อยากพูดมึงกูกับนัทด้วยเหมือนกันนั่นแหละ”

นัทยิ้มกว้าง จากนั้นสายตาของเขาก็เลื่อนจากใบหน้าของผมเลยไปยังด้านหลัง “อ้าว นั่นไง นัทบอกแล้วว่าอีกเดี๋ยวนนท์ก็จะได้เจอพวกมันแล้วจริงๆ” นัทยกมือขึ้นโบกทักทายคนที่กำลังเดินมาทางด้านหลังของผม ผมจึงหันกลับไปมองยังด้านหลังเพื่อดูว่าใครกำลังเดินมา

“ใครวะ นัท” เด็กหนุ่มตัวเล็กหน้าขาวใสเดินยิ้มตรงเข้ามาหาพวกเรา “แฟนมึงเหรอ”

นัทไม่ตอบแต่กลับชูนิ้วกลางให้ผู้มาถึงคนใหม่แทน “นนท์ นี่ไอ้เคนที่ไอ้ป๊อปเพิ่งพูดถึงเมื่อกี๊ไง ไอ้เคน นี่นนท์ เด็กใหม่ที่จะย้ายมาอยู่ห้องกูตั้งแต่พรุ่งนี้”

“อ๋ออ กูก็นึกว่าแฟนมึง นึกว่ามึงตัดสินใจได้แล้วซะอีก.....” เคนนั่งลงข้างๆผมแล้วหันมายิ้มให้ผม “หวัดดี นนท์”

ผมยิ้มแล้วพยักหน้าตอบกลับไป ผมมองหน้าเขาอย่างถี่ถ้วนอีกครั้งแล้วก็อดรู้สึกสะกิดใจไม่ได้ว่าเพื่อนกลุ่มเดียวกับนัทนี่จะมีแต่คนหน้าตาดีทุกคนเลยหรือไงนะ เคนมีผิวหน้าที่ขาวละเอียดมาก เขามีโครงหน้ารูปไข่ที่ออกกลมเล็กน้อย คิ้วที่ชี้บาง และเมื่อเอาดวงตากลมเล็กพอดีๆที่รับกับจมูกขนาดเล็กของเขานั้นมาบวกกับลักยิ้มเล็กๆที่มุมริมฝีปากซ้ายของเขาด้วยแล้วมันยิ่งทำให้เขาดูน่ารักขึ้นเป็นกองเลยทีเดียว

นี่ผมเพิ่งย่างเท้าเข้ามาในโรงเรียนนี้ได้ไม่ทันไรก็เริ่มจะมองผู้ชายที่กำลังจะมาเป็นเพื่อนผมทุกคนหน้าตาดีกันไปหมดแล้วหรือเนี่ย

เมื่อเคนนั่งลงข้างๆผมแล้ว ป๊อปก็เดินกลับมานั่งลงข้างๆนัทที่เดิมพร้อมกับน้ำส้มแก้วใหญ่ในมือ “อ้าว ไอ้ยุ่น มาแต่เมื่อไหร่วะ”

“เมื่อกี๊นี้เอง” เคนตอบกลับไป “ว่าแต่ตี๋เล็กอยู่ไหนวะ ไอ้ป๊อป มันยังไม่กลับมาอีกเหรอ”

“ยัง แต่กูเพิ่งวางสายจากมันเนี่ย มันบอกมันคงมาถึงราวๆสามสี่โมงน่ะ” ป๊อปดูดน้ำส้มของตัวเองอึกใหญ่ก่อนจะเรอออกมาเสียงดัง

“ทุเรศน่า ไอ้ป๊อป” นัทหันไปมองป๊อปด้วยหางตาเป็นเชิงตำหนิ

“ว่าแต่มึงไม่กลับไปเจอพ่อแล้วเหรอ เคน” ป๊อปถาม

เคนส่ายหน้า “เค้าเลื่อนกำหนดกลับจากญี่ปุ่นไปอีกว่ะ กูเลยกลับบ้านไปเก้อเลย วันนี้ก็เลยรีบกลับมาน่ะ อยู่บ้านแล้วรู้สึกเซ็งๆนิดหน่อย แต่ก็เหอะนะ เจอหน้ากันก็ใช่ว่าจะคุยกันรู้เรื่องนักหนา แถมปกติปีๆนึงกูก็ได้เจอหน้าเค้าแค่สองสามครั้งเองอยู่แล้วด้วย”

ผมมองเห็นแววตาเจ็บปวดลึกๆอยู่ในดวงตาคู่นั้นของเคนอย่างชัดเจน และจากคำพูดของเขามันก็ทำให้ผมหวนนึกถึงพ่อของผมขึ้นมาทันที

“นายไม่ค่อยได้เจอพ่อเหรอ” ผมตัดสินใจถามออกไป

เคนเงยหน้าขึ้นมามองหน้าผมแล้วส่ายหน้า “พ่อเราเป็นคนญี่ปุ่นน่ะ ทำงานอยู่ญี่ปุ่นซะส่วนมาก นานๆๆจะกลับมาไทยสักที ปีนึงเราได้เจอหน้าพ่อมากสุดก็สามครั้งเองมั๊ง แถมครั้งละไม่กี่วันด้วย เราก็เลยอยู่กับแม่แค่สองคนซะส่วนใหญ่ แต่ก็จะมีแม่นั่นแหละที่ได้บินไปหาพ่อเค้าที่ญี่ปุ่นได้บ้าง ส่วนเราก็เนี่ย.......” เคนผายมือไปรอบๆแล้วมาหยุดอยู่ที่ป๊อปกับนัท “ต้องมาติดอยู่ในโรงเรียนประจำกับไอ้พวกนี้นี่แหละ”

“เอาน่า ไอ้เคน พ่อแม่กูอ่ะอยู่ที่ประจวบนะเว้ย เสาร์อาทิตย์กูก็มีบ้านให้กลับไปอย่างพวกมึงซะเมื่อไหร่” ป๊อปพูด “ไอ้นัทเองก็เหมือนกันนั่นแหละ”

“แล้ว........ เอาไงต่อ” เคนถาม “พวกมึงจะทำอะไรกันต่อวะ”

ป๊อปส่ายหน้า “ไม่รู้ว่ะ”

“ตอนแรกกูว่ากูจะพานนท์เค้าเดินดูโรงเรียนน่ะ.........” นัทตอบ

“เออ ก็ดีดิ่ งั้นกูไปด้วย” เคนเสนอ

“แต่กูเปลี่ยนใจว่าจะกลับขึ้นห้องก่อนว่ะ เพราะมันร้อน บ่ายแก่ๆว่าจะค่อยออกมาอีกที”

“อ้าว ไอ้เหี้ย” เคนสบถก่อนจะหันไปหาป๊อป “แล้วมึงล่ะ เอาไง”

“กลับขึ้นห้องไปนอนมั๊ง” ป๊อปยักไหล่ “ว่าแต่ไอ้เจย์เมทมึงล่ะ”

“ไปดูหนังกับแฟนมันนู่น ไม่รู้จะกลับมาเมื่อไหร่เหมือนกัน” เคนตอบ

ผมนั่งฟังทั้งสามคนคุยกันว่าจะทำอะไรกันต่อได้พักหนึ่งโทรศัพท์มือถือของผมก็ดังขึ้น แม่นั่นเองที่โทรหาผม ผมกดปุ่มรับสายแล้วคุยกับแม่แค่สามสี่คำก่อนจะวางสายไปและหันไปเจอทุกคนกำลังมองผมอยู่เป็นตาเดียว

“แม่เรามาแล้วว่ะ เค้าบอกเค้าเอาผ้าปูที่นอนอะไรพวกนั้นมาให้แล้ว”

“นนท์นอนหอด้วยเหรอ” เคนถามผมด้วยสีหน้าประหลาดใจ

“อืม นอนกับนัทน่ะ แต่ก็แค่อาทิตย์เดียวนะ”

“ไปกันเหอะ เดี๋ยวแม่นนท์เค้าจะรอนาน” นัทพูดพร้อมกับลุกขึ้นยืน เราที่เหลืออีกสามคนจึงลุกขึ้นตามเขาพร้อมๆกัน

เมื่อเดินมาถึงที่หน้าหอซึ่งแม่ของผมก็ยืนถือสัมภาระรอผมอยู่แล้ว ผมจึงแนะนำแม่ให้รู้จักกับทั้งสามคน และผมก็สังเกตจากทั้งสีหน้าและแววตาของแม่ได้ทันทีเลยว่าแม่รู้สึกดีใจมากแค่ไหนที่ผมได้เพื่อนใหม่เร็วขนาดนี้ เพราะปกติแม่จะรู้ดีว่าถึงผมจะเข้ากับคนอื่นได้ง่าย แต่ในบางครั้งผมก็จะเป็นคนที่ค่อนข้างเงียบและเก็บตัวออกจากคนหรือสังคมใหม่ๆที่ผมไม่คุ้นเคยมาก่อนได้อย่างร้ายกาจทีเดียว

หลังจากนั้นผมกับนนท์ก็ช่วยกันขนของขึ้นมาไว้บนห้องของเรา ส่วนเคนกับป๊อปก็แยกตัวกลับไปที่ห้องของตัวเองก่อน เรานัดเจอกันอีกครั้งในเวลาประมาณสี่โมงเย็นที่บริเวณม้านั่งหลังห้องพยาบาล ซึ่งผมก็คงต้องให้นัทเป็นคนพาผมเดินอีกตามเคย

หลังจากที่ปูผ้าปูที่นอนลงบนเตียงของผมเสร็จ เราสองคนก็เห็นพ้องกันว่าการนอนสักงีบเป็นสิ่งที่เราต้องการมากที่สุด ถึงแม้ว่าผมจะหลับไปนิดหน่อยแล้วเมื่อตอนสายๆ แต่ว่าเมื่อตอนนั้นผมก็นอนลงไปเพราะความอ่อนเพลียและรู้สึกหลับไม่สนิทอย่างที่ควรจะเป็นเลยสักนิด ซึ่งนั่นก็คงเป็นเพราะความกังวล ความไม่คุ้นที่ และอื่นๆอีกมากมายนั่นเอง แต่ในตอนนี้ที่ผมรู้สึกสบายใจขึ้นมากแล้ว หลังจากที่นัทรูดม่านปิดจนห้องของเรามืดลงเหลือเพียงแสงสลัวๆที่ถูกกรองโดยผ้าม่านสีน้ำเงินเข้มลอดผ่านเข้ามาเท่านั้น ผมก็ผล็อยหลับลงไปแทบจะในทันที

เราสองคนตื่นขึ้นมาพร้อมๆกันอีกครั้งเมื่อเสียงนาฬิกาปลุกที่หัวเตียงของนัทดังขึ้น นัทเป็นคนแรกที่ลุกขึ้นเอามือมากดปิดเสียงมันซะแล้วลุกเดินไปเข้าห้องน้ำ ซึ่งเมื่อนัทเดินผ่านหน้าผมไปผมก็สังเกตเห็นด้วยดวงตาที่ยังเปิดไม่เต็มที่ว่าบริเวณเป้ากางเกงขาสั้นที่นัทใส่อยู่มันตุงออกมาจนผิดปกติ ผมเองก็ไม่รู้เหมือนกันว่านัทจะรู้ตัวหรือเปล่าว่าผมเห็นในสิ่งที่เพิ่งเห็นไป แต่ว่ามันก็ทำให้ผมรู้สึกตื่นเต้นและรู้สึกเขินอย่างไม่เคยเป็นมาก่อนจริงๆ ถึงก่อนหน้านี้ผมกับเพื่อนเก่าจะเคยแหย่เล่นหรือหยอกล้อเล่นกันอยู่บ้าง หรือแม้แต่แก้ผ้าเปลี่ยนเสื้อผ้าด้วยกันโดยเหลือกางเกงในเพียงตัวเดียวอยู่ต่อหน้ากันมาแล้วก็ยังเคย แต่นี่เป็นครั้งแรกที่ผมเคยเห็นของใครตอนแข็งตัวเต็มที่ต่อหน้าแบบนี้ และแถมยังเป็นของนัท คนที่ทั้งหน้าตา  บุคลิก และส่วนสูงทุกอย่างล้วนค่อนข้างจะเพอร์เฟกต์กว่าเพื่อนของผมคนไหนๆก่อนหน้านี้เลยด้วย

“นนท์จะอาบน้ำมั๊ย” นัทชะโงกหน้าออกมาจากหน้าห้องน้ำโดยคาบแปรงสีฟันไว้อยู่ในปาก

“ไม่อ่ะ” ผมส่ายหน้าโดยที่ยังคงขดตัวอยู่ข้างใต้ผ้าห่ม

“งั้นนัทวานนนท์ลุกขึ้นไปปิดแอร์ให้หน่อยสิ” นัทชี้ไปยังรีโมทแอร์ที่วางอยู่บนชั้นวางหนังสือข้างๆเตียงของเขา

ผมตอบรับและฉวยจังหวะที่นัทหันกลับเข้าไปในห้องน้ำลุกขึ้นเดินออกจากเตียงไปหยิบรีโมทแอร์มากดปิดลง แต่ก็ยังเร็วไม่ทันนัทที่หันกลับออกเห็นผมพร้อมกับน้องชายที่กำลังตื่นเต็มที่อยู่ใต้กางเกงของผมจนได้ ผมพยายามใช้ท่อนแขนของตัวเองบังมันเอาไว้แต่ก็ดูท่าทางจะซ่อนมันเอาไว้ไม่มิดหรือไม่เนียนเอาเสียเลย เพราะว่านัทเงยหน้าขึ้นมาสบตากับผมแล้วก็ยิ้มให้ผมเล็กน้อย

“เรื่องธรรมดาน่า ตอนตื่นก็แบบนี้ทุกคนแหละ ไม่เห็นน่าอายเลย”

ผมเดินกลับไปที่เตียงแล้วล้มตัวลงและดึงผ้าห่มขึ้นมาคลุมตัวเอง “ก็คนมันไม่ชินนี่หว่า ตั้งแต่เกิดมายังไม่เคยมีใครเห็นเลยนะ เพื่อนๆเก่าที่นู่นคบกนมากี่ปีๆก็ยังไม่เคยเลย”

“ก่อนนี้นนท์มาจากชายล้วนป่ะ” นัทถามพลางบ้วนปากไปด้วย

“หึ เปล่าหรอก โรงเรียนสหน่ะ”

“ถ้างั้น........” นัทเดินออกมาหยิบผ้าขนหนูผืนเล็กที่พาดอยู่บนขอบเก้าอี้ไปเช็ดปากแล้วยิ้มให้ผม ให้ตายสิ เวลาเขายิ้มนี่มันเป็นรอยยิ้มที่ยิ้มทั้งจากริมฝีปากและดวงตาเลยจริงๆ “อยู่ที่นี่ไปสักพักแล้วเดี๋ยวก็ชิน”



ออฟไลน์ ExecutioneR

  • จุ๊บ จู๊บบบบบ ~~ ♥
  • เป็ดนักเขียน
  • เป็ดAphrodite
  • *
  • กระทู้: 4243
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +1722/-40
    • FB Page

ผมตัดสินใจเปลี่ยนเรื่องคุยเป็นเรื่องอื่นแทน ถึงผมจะเคยคิดว่าผมไม่ใช่คนที่ขี้อายอะไรนักหนา แต่พอมาวันนี้ผมรู้ตัวแล้วเลยว่า จริงๆแล้วผมเป็นคนขี้อายกว่าที่ผมคิดมากขนาดไหน........

พอตกเวลาสามโมงครึ่งผมกับนัทก็เดินออกจากหอ เราเดินไปซื้อขนมและน้ำอัดลมที่เซเว่นหน้าหอ ก่อนจะเดินตัดลานจอดรถและโผล่ออกมายังสวนหย่อมที่พวกเรานัดกันเอาไว้ ขณะที่เดินมานัทก็จะคอยชี้บอกผมตลอดว่าทางซ้ายมือขวามือของเราคืออาคารอะไร และทางซ้ายมือของเราสองคนในตอนนี้ก็คืออาคารสี่เหลี่ยมชั้นเดียวขนาดกลางๆที่นัทบอกว่าคือห้องพยาบาลของฝั่งมอต้น และยังเป็นสถานที่ที่ป๊อปมาเยี่ยมเยียนใช้บริการบ่อยที่สุดในห้องด้วย

ถึงสวนแห่งนี้จะมีชื่อว่าสวนหย่อม แต่ขนาดของมันก็ไม่ได้เล็กตามชื่อของมันไปด้วยเลย นัทอธิบายว่า นอกจากตามซุ้ม ม้านั่ง หรือศาลาต่างๆที่กระจายอยู่ทั่วเขตตะวันออกหรือทางฝั่งมอต้นนี้แล้ว ที่นี่ก็เป็นสวนเพียงแห่งเดียวที่นักเรียนชั้นมอต้นจะได้ใช้เป็นที่พักผ่อน อ่านหนังสือ หรือโดยเฉพาะเด็กที่นอนหอก็มักจะอาศัยที่นี่เป็นที่เดินเล่นและพักผ่อนเปลี่ยนบรรยากาศโดยที่ไม่จำเป็นต้องเดินไปถึงสวนกลาง

ปรากฎว่าผมกับนัทนั้นคุยกันถูกคอมากกว่าที่เราสองคนคิดเอาไว้เสียอีก นอกจากเขาจะช่วยอธิบายถึงกฎระเบียบต่างๆของทั้งโรงเรียนและหอพักให้ผมฟังแล้ว เขายังช่วยอธิบายถึงการใช้ชีวิตภายในโรงเรียนนี้ให้อีกผมฟังอีกด้วย เราสองคนต่างฝ่ายต่างก็แลกเปลี่ยนข้อมูลส่วนตัวของเราทั้งคู่ให้อีกฝ่ายฟัง ถึงจะไม่ใช่ในทุกๆเรื่อง แต่เราก็กำลังทำความรู้จักกันได้อย่างดีมากและมากขึ้นเรื่อยๆ

นัทพาผมเดินเลยมาถึงบริเวณด้านหลังสนามฟุตบอลซึ่งอยู่ถัดจากสวนหย่อมเมื่อครู่ แต่แล้วจู่ๆเขาก็นึกขึ้นได้ว่าลืมโทรศัพท์มือถือทิ้งเอาไว้ในห้อง เขาจึงขอตัววิ่งกลับไปหยิบมันก่อนและบอกให้ผมนั่งรอเขาอยู่ที่ม้านั่งข้างๆสนามนี้ อีกไม่เกินสิบห้านาทีเขาจะรีบกลับมา

ผมเดินไปนั่งที่ม้านั่งที่ว่างอยู่ตัวหนึ่งตรงด้านข้างสนามฟุตบอลอย่างที่นัทบอก พอผมมองไปรอบๆก็เห็นว่าทางด้านหลังของผมคือหอประชุมขนาดใหญ่ และตึกสูงๆที่เลยถัดจากหอประชุมและโรงยิมไปอีกไกลๆนั่นก็คืออาคารหนึ่งที่ผมเพิ่งมาพบกับผู้อำนวยการเมื่อวานนี้นี่เอง

ในตอนนี้เมื่อเวลาผ่านพ้นไปเป็นตอนบ่ายแก่ๆพร้อมกับสภาพอากาศและบรรยากาศที่เริ่มร่มรื่นขึ้นเรื่อยๆ ผมก็สังเกตเห็นเด็กนักเรียนจำนวนหลายคนมากขึ้นกว่าเมื่อตอนที่ผมออกมากินข้าวกลางวันเยอะมากทีเดียว นักเรียนสองสามกลุ่มเล็กๆกำลังจับกลุ่มแบ่งพื้นที่เล่นบอลกันอยู่ในสนาม และมีนักเรียนอีกจำนวนไม่น้อยที่เริ่มออกเดินเล่นหรือพูดคุยกับเพื่อนๆของพวกเขา บ้างก็เดินไปคุยไป และบ้างก็มีอาหารถืออยู่ในมือกันคนละอย่างสองอย่าง ผมนั่งมองคนเหล่านั้นเดินผ่านไปผ่านมาจนกระทั่งสายตาของผมไปสะดุดอยู่กับที่เด็กคนหนึ่งที่กำลังวิ่งออกกำลังรอบสนามฟุตบอลอยู่เพียงลำพัง

เขาคนนี้ทำให้ผมนึกถึงป๊อปที่บอกว่าเขามีภาระที่จะต้องซ้อมวิ่งในเย็นนี้ได้ในทันที แต่ทว่าเขาคนนี้ก็แตกต่างจากป๊อปไปอย่างสิ้นเชิง อย่างแรกเลยที่เด่นชัดที่สุดก็คือเขาดูค่อนข้างสูงมาก และน่าจะสูงกว่าผมหรือนัทเสียอีกด้วยซ้ำ แถมเสื้อยืดสีขาวบางๆที่กำลังเปียกชุ่มไปด้วยเหงื่อนั้นมันก็ทำให้ผมต้องสะดุดตากับรูปร่างอันสมส่วนของเขา ดูๆแล้วเขาอาจจะอยู่ชั้นที่สูงกว่าผมอย่างเช่นมอสี่หรือมอห้าเลยก็เป็นได้ แต่ว่าถ้าจะพูดตรงๆหน้าของเขาก็ไม่ได้ดูแก่ถึงขนาดนั้น เพียงแต่เขามีร่างกายที่ค่อนข้างเตะตาและสูงใหญ่กว่านักเรียนชั้นมอต้นทั่วไปเท่านั้นเอง และที่ยิ่งไปกว่ารูปร่างของเขาที่สะดุดตาผมแล้ว ใบหน้าที่คมเข้มและผิวที่ขาวเนียนของเขานั้นก็สะดุดตาของผมในทันทีเลยด้วยเช่นเดียวกัน และผมเชื่อว่าไม่ใช่แค่ผมเพียงคนเดียวแน่นอนที่คิดอย่างนั้น เพราะเมื่อลองมองไปรอบๆผมก็เห็นเด็กๆหลายคนที่กำลังจับจ้องอยู่ที่เขาคนนั้นด้วยเหมือนเกัน

สามรอบ....... สี่รอบ....... เขายังคงวิ่งอยู่ด้วยความเร็วที่คงที่ และในฐานะที่ผมเองก็เคยเป็นนักกีฬามาเหมือนกัน ผมจึงบอกได้เลยว่าเขามีร่างกายที่แข็งแรงและมีปอดขนาดใหญ่มากทีเดียว จนกระทั่งเมื่อเข้าถึงรอบที่ห้า ผมก็ได้ยินเสียงเรียกชื่อของผมดังขึ้นจากทางด้านหลัง

“นนท์”

“อ้าว มาแล้วเหรอ” ผมหันไปหานัท

“มองอะไรอยู่” นัทหันไปมองยังทิศที่ผมกำลังมองอยู่เมื่อครู่

“ป่าวหรอก ก็ดูคนดูนั่นนี่ไปเรื่อยเปื่อยน่ะ” ผมลุกขึ้นยืน “แล้วเอาไงต่อ ไปที่ๆนัดพวกป๊อปเอาไว้เลยมั๊ย”

“ไม่ต้องแล้วล่ะ เพราะไอ้พวกนั้นน่ะ อยู่ตรงนู้นแล้ว” นัทชี้ไปยังกลุ่มคนสามคนที่อยู่ฝั่งตรงข้ามสนามฟุตบอลและกำลังเดินตรงมาทางพวกเรา มีอยู่สองคนในนั้นที่ผมยังไม่เคยเห็นหน้า และทั้งสองคนก็ช่างดูแตกต่างกันคนละแนวแบบสุดๆเลยทีเดียว

“เอ้า ไหว้เพื่อนใหม่มึงซะ ไอ้ตี๋เล็ก” ป๊อปพูดขึ้นเมื่อพวกเขาเดินมาถึงผมแล้ว

“ไหว้แม่มึงดีกว่ามั๊ง ไอ้ป๊อป” เด็กหนุ่มหน้าขาวตี๋สมชื่อหันไปทำตาขวางใส่ป๊อปแต่ก็ยังคงมีรอยยิ้มอยู่บนใบหน้า

“นนท์ นี่ไอ้ตี๋เล็ก ส่วนนี่เจย์” นัทชี้ไปยังชายหนุ่มร่างสูงใหญ่คมเข้ม ซึ่งท่าทางว่าน่าจะสูงถึงร้อยแปดสิบเลยทีเดียว แถมเขายังมีร่างกายที่กำยำมากจนดูน่าเกรงขามอีกด้วย เมื่อบวกกับโครงหน้าโดยรวมของเขาแล้ว ก็ทำให้ไม่ว่าจะดูยังไงๆก็ชวนให้รู้สึกว่าเขาคนนี้คงจะต้องเป็นลูกครึ่งแน่ๆ

“ไอ้เจย์น่ะถึงหน้ามันจะดุแต่มันเชื่อง ไม่ต้องห่วงหรอก” ป๊อปหัวเราะ “รับรองได้ว่ามันไม่กัด”

“เออ ปากกูมีไว้ดูดอย่างเดียวแต่ไม่ได้มีไว้กัด” เจย์หันไปหาป๊อป “แต่ตีนกูเนี่ยมีไว้เตะ มึงจะลองมั๊ย ไอ้ป๊อป”

ป๊อปรีบกระโดดหลบแล้วคว้าตัวตี๋เล็กมาเป็นเกราะกำบังทันที

“พวกมึง นี่นนท์ ที่กูเล่าให้ฟังเมื่อกี๊ไง” นัทพูดต่อเหมือนไม่มีอะไรเกิดขึ้น “ทุกคนตรงนี้นอนหอกันหมดทุกคนน่ะ นนท์ ส่วนคนที่เหลือเดี๋ยวนนท์คงจะได้เจอพรุ่งนี้แน่นอน”

ผมพยักหน้า “นัท ป๊อป เคน ตี๋เล็ก แล้วก็เจย์” ผมชี้แล้วเรียกชื่อไปพร้อมๆกันทีละคน “โอเคๆ จำได้ๆ”

“แต่ตอนนี้กูหิวแล้วว่ะ กูว่าเราไปหาอะไรกินกันก่อนเหอะ แล้วจะได้หาที่นั่งคุยกันดีๆด้วย เพราะตอนนี้กูชักอยากรู้เรื่องของไอ้เจย์กะแฟนมันแล้วด้วยว่ะว่าเป็นยังไงมั่ง” ตี๋เล็กหันไปหาเจย์ที่กำลังกลอกตาและทำหน้าเซ็งๆ

“แม่งจะมีอะไร ก็งอนๆกูเหมือนเดิมแหละ เรื่องมากชิบหาย พอกูบอกว่าจะมาหาพวกมึงนี่แม่งก็งอนเดินกลับหอไปเลย”

“เออๆ เอาไว้ค่อยคุยเว้ย ไปหาอะไรกินกันก่อนดีกว่า กูเองก็หิวแล้วเหมือนกัน และยิ่งเดี๋ยวกูต้องมาวิ่งใช้หนี้ขี้เกียจเมื่อเช้าอีกด้วย”

“เออ งั้นจะไปกินอะไรที่ไหนมึงนำเลยไอ้ป๊อป” เจย์พูด

จากนั้นป๊อปกับตี๋เล็กจึงเริ่มออกเดินนำพวกเราทุกคนออกไปจากบริเวณสนามบอล โดยมีเจย์กับเคนเดินตามหลัง และผมกับนัทเดินอยู่รั้งท้ายสุด ขณะที่เดินอยู่นั้น ทั้งเจย์แล้วก็เคนรวมทั้งตี๋เล็กก็หันมาพูดคุยกับผมเป็นระยะๆ ทำให้ผมรู้ว่าที่จริงแล้วเจย์เป็นลูกครึ่งไทยเม็กซิโก ซึ่งนั่นก็ตอบข้อสงสัยของผมได้ว่าทำไมเขาถึงได้ดูตัวใหญ่และดูแปลกไปจากเด็กคนๆอื่นอย่างชัดเจนมาถึงขนาดนี้ ส่วนตี๋เล็กก็เป็นคนจีนอย่างที่เห็นๆกันอยู่ และเคนเองก็เป็นลูกครึ่งญี่ปุ่นอย่างที่ผมรู้อยู่แล้ว มันทำให้ผมนึกถึงคำพูดของผู้อำนวยการได้ทันทีว่าผมจะต้องได้เจอกับเด็กๆนักเรียนหลากหลายเชื้อชาติอย่างแน่นอน

“ว่าไงนนท์ ในกลุ่มพวกเราเนี่ย ใครหล่อสุด” ป๊อปหันมาถามผมด้วยคำถามที่คาดไม่ถึง

“โห แล้วเราจะตอบว่าไงดีวะเนี่ย”

“อะไร ไม่ใช่เราหรอกเหรอเนี่ย” ป๊อปทำสีหน้าผิดหวัง

“อะไร มึงคิดจะนอกใจไอ้ตี๋เหรอวะ ไอ้ป๊อป” เจย์พูดขัดขึ้น

“เหี้ยและมึง ไอ้เจย์ ระวังเหอะมึง ทำเป็นแซวคนอื่น เดี๋ยวจะเอาตัวเองกะแฟนไม่รอดนะเว้ย” ตี๋เล็กหันมาสวนกลับใส่เจย์

“เหี้ย อย่าเพิ่งพูด กูเซ็ง อุตส่าห์พยายามจะลืมๆ” เจย์ทำท่าหงุดหงิด “แต่ก็ไม่เป็นไร เพราะตอนนี้กูมีเด็กใหม่แล้ว......”

“ใครวะ” เคนหันไปถาม

“ก็นี่ไง เดินอยู่นี่ไง” เจย์เดินเข้ามาโอบไหล่ผมเอาไว้ ทำเอาผมต้องสะดุ้ง

“สาดด มึงรู้จักชื่อจริงนามสกุลเค้ารึยังวะ จะมาทำม่อใส่เค้าเนี่ย” ตี๋เล็กหัวเราะเบาๆ

“มึงอย่ามาชักชวนนนท์ของกูเข้าวงการเดียวกับมึง ไอ้เจย์” นัทจับมือของเจย์ออกจากหัวไหล่ของผม

“เหอออ นนท์ของมึงเหรอ” ป๊อปทำตาโต

และตาของผมเองก็โตด้วยเหมือนกัน

“กูหมายถึงรูมเมทกู เพื่อนใหม่กูน่ะ ไอ้ควายป๊อป มึงอย่ามาตีความหมายกูผิด”

“โอๆ เข้าใจล่ะ” ป๊อปพยักหน้า “กูก็หลงคิดว่ามึงตัดสินใจเลือกได้สักทีแล้วซะอีกว่าจะเอายังไงกับชีวิต”

“สัตว์ ชีวิตกู กูยังไม่ได้ต้องการตัวช่วย มึงยังไม่ต้องเสนอและสนอง ไม่ต้องพยายามเป็นอาต๋อยไตรภพ”

“นี่พวกมึงจะเลิกพูดเรื่องพวกนี้ได้ยัง” ตี๋เล็กขัดขึ้น “เพราะกูรู้สึกว่านนท์กำลังหน้าแดงแล้วว่ะ”

“เฮ้ย เปล่าๆ” ผมรีบส่ายหน้าปฏิเสธ แต่จริงๆผมก็เริ่มรู้สึกเขินแปลกๆขึ้นมาแล้วจริงๆอย่างที่ตี๋เล็กสังเกตเห็นนั่นแหละ

“นนท์มาจากเชียงใหม่ใช่ป่ะ”

“ใช่” ผมพยักหน้าตอบเคน

“เด็กที่นั่นเค้าคงไม่เป็นแบบนี้กันเนอะ”

ผมยิ้มแล้วพยักหน้า “แล้วไม่ใช่โรงเรียนชายล้วนด้วยน่ะ เราเลยยังรู้สึกแปลกๆอยู่บ้างที่หันไปตรงไหนก็เจอแต่เด็กผู้ชายแถมยังคุยอะไรเปิดเผยกันขนาดนี้.........” ผมเหลือบมองไปที่เจย์โดยเฉพาะแว่บหนึ่ง

ทุกคนหันไปมองหน้ากันแล้วหัวเราะออกมาเบาๆ จากนั้นนัทก็หันมายิ้มให้กับผม “ก็บอกแล้วไง........”

“อยู่ๆไปเดี๋ยวก็ชิน” ป๊อป ตี๋เล็ก และเคนพูดประสานเสียงขึ้นมาพร้อมกันจากนั้นทุกคนก็ระเบิดเสียงหัวเราะออกมาพร้อมๆกัน




ออฟไลน์ ExecutioneR

  • จุ๊บ จู๊บบบบบ ~~ ♥
  • เป็ดนักเขียน
  • เป็ดAphrodite
  • *
  • กระทู้: 4243
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +1722/-40
    • FB Page

ขอเว้นระยะสักพักนะครับ อาจจะสองสามวัน เพราะงานเยอะมากกก
แต่ยังไงตอนนี้ก็ยาวสะใจแล้วอ่ะนะ
ขอบคุณทุกคนมากๆๆๆครับ

 :z1:

อ่านคำเมืองจนปวดหัว  :really2:


โทดพี่ป๋อมแป๋มครับ อิอิ :z2:


ออฟไลน์ [N]€ẃÿ{k}uñĢ

  • ~ῲเจ้าแม่Dramaῴ~
  • เป็ดแสนดี
  • เป็ดArtemis
  • *
  • กระทู้: 5186
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +740/-5
 o13 o13 o13
พี่ต้นยังคงรักษาระดับการบรรยายได้ดีอ่านแล้วเข้าใจกระชับไม่มากเกินไปอิๆ
อ่านๆไปแล้วรู้สึกว่านัทมันต้องแอบชอบ นนท์เลยเนี่ย อิๆก็ดูอย่างนี้ดิ
“แต่นัททำแบบนั้นไม่ได้ว่ะ ยังไม่รู้สึกอยากพูดมึงกูกับนนท์ขนาดนั้น ที่สำคัญ เมื่อเช้าตอนนนท์พูดแทนชื่อตัวเองกับแม่นะ นัทว่ามันน่ารักดี” เขายิ้ม และนั่นก็ทำเอาผมรู้สึกอายไปเลยเหมือนกัน
“ปกตินัทไม่ได้แทนตัวเองว่า ‘นัท’ เวลาคุยกับพ่อแม่เหรอ”
“ไม่อ่ะ เรียกว่า ‘ผม’ มากกว่า ถูกสอนมาแบบนี้น่ะ แต่นัทไม่ค่อยชอบหรอก” พอมาถึงตอนนี้ผมก็เริ่มสังเกตถึงสรรพนามที่นัทใช้เรียกแทนตัวเองที่เริ่มเปลี่ยนไปแล้วด้วยเหมือนกัน หรือว่าผมจะคิดมากไปเองรึเปล่านะ “นนท์จะว่าไรป่าวถ้านัทอยากให้นนท์เรียกแทนตัวเองกับนัทว่านนท์เหมือนที่คุยกับแม่น่ะ”

และก็
“ใครวะ” เคนหันไปถาม
“ก็นี่ไง เดินอยู่นี่ไง” เจย์เดินเข้ามาโอบไหล่ผมเอาไว้ ทำเอาผมต้องสะดุ้ง
“สาดด มึงรู้จักชื่อจริงนามสกุลเค้ารึยังวะ จะมาทำม่อใส่เค้าเนี่ย” ตี๋เล็กหัวเราะเบาๆ
“มึงอย่ามาชักชวนนนท์ของกูเข้าวงการเดียวกับมึง ไอ้เจย์” นัทจับมือของเจย์ออกจากหัวไหล่ของผม
“เหอออ นนท์ของมึงเหรอ” ป๊อปทำตาโต
และตาของผมเองก็โตด้วยเหมือนกัน
“กูหมายถึงรูมเมทกู เพื่อนใหม่กูน่ะ ไอ้ควายป๊อป มึงอย่ามาตีความหมายกูผิด”
“โอๆ เข้าใจล่ะ” ป๊อปพยักหน้า “กูก็หลงคิดว่ามึงตัดสินใจเลือกได้สักทีแล้วซะอีกว่าจะเอายังไงกับชีวิต”

แล้วจะรออ่านต่อนะคราบ 2-3 วันรอได้อิๆ
อ่านตอนนี้แล้วยังมะอยากพล่ามอะไรมากเทาไหร่เพราะตัวละครเอกยังมาไม่ครบ
แต่เท่าที่ดูๆแล้ว ตัวพระโผล่มาแล้วชัว ก็นายคนั้นไงที่สนามบอลอิๆ
เขาคนนี้ทำให้ผมนึกถึงป๊อปที่บอกว่าเขามีภาระที่จะต้องซ้อมวิ่งในเย็นนี้ได้ในทันที แต่ทว่าเขาคนนี้ก็แตกต่างจากป๊อปไปอย่างสิ้นเชิง อย่างแรกเลยที่เด่นชัดที่สุดก็คือเขาดูค่อนข้างสูงมาก และน่าจะสูงกว่าผมหรือนัทเสียอีกด้วยซ้ำ แถมเสื้อยืดสีขาวบางๆที่กำลังเปียกชุ่มไปด้วยเหงื่อนั้นมันก็ทำให้ผมต้องสะดุดตากับรูปร่างอันสมส่วนของเขา ดูๆแล้วเขาอาจจะอยู่ชั้นที่สูงกว่าผมอย่างเช่นมอสี่หรือมอห้าเลยก็เป็นได้ แต่ว่าถ้าจะพูดตรงๆหน้าของเขาก็ไม่ได้ดูแก่ถึงขนาดนั้น เพียงแต่เขามีร่างกายที่ค่อนข้างเตะตาและสูงใหญ่กว่านักเรียนชั้นมอต้นทั่วไปเท่านั้นเอง และที่ยิ่งไปกว่ารูปร่างของเขาที่สะดุดตาผมแล้ว ใบหน้าที่คมเข้มและผิวที่ขาวเนียนของเขานั้นก็สะดุดตาของผมในทันทีเลยด้วยเช่นเดียวกัน และผมเชื่อว่าไม่ใช่แค่ผมเพียงคนเดียวแน่นอนที่คิดอย่างนั้น เพราะเมื่อลองมองไปรอบๆผมก็เห็นเด็กๆหลายคนที่กำลังจับจ้องอยู่ที่เขาคนนั้นด้วยเหมือนเกัน
อย่างที่หลายๆคนบอกเด็กหนุ่มๆมากมายจริงๆท่าทางงานนี้คงจะเป็นเพื่อนกินเพื่อนซะแล้วสินะ อิๆ
มีประโยคนึงนิวอ่านแล้วแบบว่า
 :haun4: :haun4:
“ไอ้เจย์น่ะถึงหน้ามันจะดุแต่มันเชื่อง ไม่ต้องห่วงหรอก” ป๊อปหัวเราะ “รับรองได้ว่ามันไม่กัด”
“เออ ปากกูมีไว้ดูดอย่างเดียวแต่ไม่ได้มีไว้กัด”

นั่นสิดูดอย่างเดียวดูดไรหว่าอิๆ
อย่างอื่นคงต้องรออ่านดูต่อไป  :L2: :L2: :L2:

imageriz

  • บุคคลทั่วไป
 :z13: น้องนิว

ต้น แต่งได้ยาวได้ใจจริง ๆ  ส่วนน้องนิวก็เม้นท์ได้ยาวจริง  :laugh:

สนุกดีนะ  วัยใส ๆ  น่ารัก ๆ  เริ่มเขากลุ่มกันแล้ว สงสัยจากอยู่ประจำ
อาทิตย์เดียว จะกลายเป็นอยู่ยาวเลยละมั้งเนี๊ย

+1 ให้คนแต่นะ   :L2: :L2: :L2:

รออ่านตอนต่อไปนะ  ชอบเด็ก ๆ  :กอด1:

~•SAkurAIro•~

  • บุคคลทั่วไป

โย่วว ตอนใหม่มาแล้ววว

ยาวได้อีกอ่ะ  :กอด1:

คิดเหมือนกันว่านัทแอบชอบนนท์แน่เลยอ่ะ  :laugh:

มาลุ้นๆ ดุว่า จะมีใครเพื่มมาอีกก

รอตอนต่อไปงับบ

ออฟไลน์ gargoyle

  • เป็ดนักเขียน
  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 307
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +668/-3
    • 8yearsago.g fanpage
ม่วนจ๊าดดดนัก!

ปู้จายเต็มเรื่องเลย โฮะๆๆๆๆๆ หล่อๆทั้งน้าน มีความสุดแท้เน้อ

ออฟไลน์ l3iZal2l2e

  • เป็ดแสนดี
  • เป็ดHephaestus
  • *
  • กระทู้: 1549
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +103/-0
เห่อ ๆๆ ๆ ๆ
ลุ้นคู่น้องตี๋ กะ ไอ้ป๊อปดีก่า ๆๆ ๆ ๆๆ
 :laugh:

blackberry2214

  • บุคคลทั่วไป
ชอบตี๋เล็กอ่ะพี่ต้น


เปนโรคจิต ชอบคนชื่อตี๋ ไม่รุทำไม

5555+

CoMMuNiTY Of ThAiBoYsLoVE

ประกาศที่สำคัญ


ตั้งบอร์ดเรื่องสั้น ขึ้นมาใครจะโพสเรื่องสั้นให้มาโพสที่บอร์ดนี้ ถ้าเรื่องไหนไม่จบนานเกิน 3 เดือน จะทำการลบทิ้งทันที
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=2160.msg2894432#msg2894432



รวบรวมปรับปรุงกฏของเล้าและการลงนิยาย กรุณาเข้ามาอ่านก่อนลงนิยายนะครับ
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=459.0



สิ่งที่ "นักเขียน" ควรตรวจสอบเมื่อรวมเล่มกับสำนักพิมพ์
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=37631.0






ออฟไลน์ dahlia

  • เป็ดแสนดี
  • เป็ดAphrodite
  • *
  • กระทู้: 4239
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +695/-4
สนุกค่า มีแต่เด็กๆๆ ชอบ  :o8:

ออฟไลน์ krappom

  • 人は誰でもそれぞれに悩みを抱えて生きる
  • เป็ดนักโพสมือดี
  • เป็ดApollo
  • *
  • กระทู้: 7395
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +1182/-23

โทดพี่ป๋อมแป๋มครับ อิอิ :z2:


เกี่ยวม๊ายยยยยยยยยยยยยย
ปั๊ดเหนี่ยวเรยนิ

 :angry2:


mantdash

  • บุคคลทั่วไป
แหมๆๆๆ นนท์นี่ ช่างสังเกตจังเลยนะครับ

 :z1:


ดูๆแล้วจะเป็นเกย์ทั้งแก๊งไหมเนี่ย ส่อแววมากๆ เจย์อะไรนี่ก็ไปแล้วคนนึง (ใช่ป่าวอะ)
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 10-02-2009 00:36:12 โดย mantdash »

OhhO16

  • บุคคลทั่วไป
ชอบเด็กๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆ

 5555+

 

ออฟไลน์ -~iK@iZ_KunG~-

  • Tomorrow Never Die!!!
  • เป็ดHermes
  • *
  • กระทู้: 2231
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +220/-2




ชอบเด็กเหมือนกานครับ



เอิ๊ก ๆๆ




andy_kwan

  • บุคคลทั่วไป
ชมรมคนชอบกินเด็กออกมากันเยอะเลยนะ
เรื่องนี้ดูเหมือนจะเป็นน้องเตยกันทุกคน อิอิ :t3:

ออฟไลน์ IZE

  • เป็ดแสนดี
  • เป็ดArtemis
  • *
  • กระทู้: 4601
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +227/-3
เพื่อนกลุ่มนี้ ดู มีอะไรยังไงกันเนี่ย

โรงเรียนนี้น่าเข้าไปเรียนซะจริงๆๆเลย

ETOM

  • บุคคลทั่วไป
ตอกตรา........เอาไว้อ่านต่อ

dear1127

  • บุคคลทั่วไป
มารอตอนต่อไปครับ สนุกๆ :z2:

YO DEA

  • บุคคลทั่วไป

CoMMuNiTY Of ThAiBoYsLoVE






ออฟไลน์ ExecutioneR

  • จุ๊บ จู๊บบบบบ ~~ ♥
  • เป็ดนักเขียน
  • เป็ดAphrodite
  • *
  • กระทู้: 4243
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +1722/-40
    • FB Page
A 4


ผมชักรู้สึกชอบโรงเรียนนี้ขึ้นมาซะแล้วสิ ถึงวันนี้จะเพิ่งเป็นวันแรกที่ผมได้สัมผัสกับบรรยากาศของที่นี่ แต่ทั้งสถานที่และบรรดาเพื่อนๆใหม่ของผมก็ทำให้ผมรู้สึกประทับใจมากจริงๆ เราได้นั่งกินข้าวด้วยกัน คุยเล่นกันแค่ไม่ถึงหนึ่งชั่วโมง แต่เราก็รู้สึกสนิทสนมและคุ้นเคยกันมากจนสามารถแหย่เล่นล้อเล่นกันได้แล้วแทบทุกอย่าง รวมไปถึงสรรพนามในการเรียกชื่อของพวกเราที่เริ่มเปลี่ยนไปเป็นคำอื่นที่ทั้งผมและพวกเขาทุกคนต่างก็คุ้นปากมากกว่าแล้วด้วย

“มึงรู้เรื่องไอ้แซนด์กับไอ้ซีป่าววะ” เจย์พูดขึ้นกลางวงสนทนา

“ไอ้แฝดแซนด์กะแฝดซีอ่ะเหรอ” เคนถาม

“ใช่ๆ เมื่อวันก่อนกูได้ยินว่าแม่งทะเลาะกันแรงโคตรอ่ะ ไม่รู้มีเรื่องเหี้ยอะไร รู้สึกจะมีเรื่องกันตั้งแต่วันพฤหัสแล้วมั๊ง”

“มิน่า วันก่อนกูก็ถึงว่าทำไมไม่เห็นมันเดินด้วยกันเหมือนแต่ก่อน ตอนอยู่ในห้องก็ดูไอ้ซีมันเงียบๆไป” เคนพยักหน้าเบาๆ

“เหรอวะ แต่กูเห็นไอ้แซนด์มันก็ดูปกติดีนะ” ป๊อปหันไปทางตี๋เล็กแล้วพูดขึ้นเหมือนขอความเห็น “ก็เวลามันมาเล่นบอลกะกู กูก็ว่ามันปกตินะ แต่กูไม่ได้สังเกตไอ้ซีว่ะ”

“ก็ในห้องเรียนมึงก็เอาแต่หลับกับเหม่อ ไอ้ป๊อป” นัทพูด “มึงจะไปสังเกตเห็นอะไรอย่างอื่นมั่งมั๊ย”

ป๊อปมองตี๋เล็กกับนัทสลับกันแล้วก็หันมาทำหน้าเบ้ใส่ผม “นนท์ดูดี่ กูโดนรุมอีกแล้วง่า”

ผมหัวเราะเบาๆแล้วก็ส่ายหน้า

“แต่ที่แน่ๆ........” เจย์พูดต่ออีกครั้ง “กูมั่นใจและยังยืนยันว่าไอ้ซีมันจะต้องเป็นเกย์แน่ๆ”

“เอาอีกแล้วๆ เกย์ดาร์ไอ้เหี้ยเจย์เริ่มทำงานอีกและ” ตี๋เล็กส่ายหัวเบาๆ

“แล้วไอ้แซนด์.........” เคนหันไปมองหน้าเจย์

“ไม่รู้ว่ะ มันไม่ได้อยู่ห้องเดียวกะพวกเรานี่ กูก็ไม่รู้หรอก ต้องถามไอ้พวกห้องสามนู่น”

“ไม่ต้องมาถามกูเลยนะกูไม่รู้หรอก” ป๊อปออกตัว

“กูก็ไม่รู้เหมือนกัน”

“ส่วนกูไม่ได้สนใจว่ะ” นัทยักไหล่ “แต่จริงๆไอ้สองพี่น้องนี่มันสนิทกันออกจะตายไปนะ กูว่า”

“ก็นั่นแหละ กูถึงได้แปลกใจไงว่ามันจะผิดใจอะไรกันขนาดนั้น”

“เรื่องของพวกมันสองพี่น้องน่า มึงอย่าไปสนใจเลย” นัทส่ายหน้า “มึงไม่มีเรื่องอะไรจะคุยกันแล้วรึไงวะ”

“งั้นพวกมึงรู้เรื่องนี้รึเปล่า เห็นไอ้พวกกลุ่มนั้นมันว่ากันว่านังไทด์มันจะจีบไอ้โจนะ” ป๊อปหัวเราะ “กูล่ะฮาจริงๆ”

“ไอ้เหี้ยโจนี่นะ แม่งมีอะไรดีวะ” เจย์ทำสีหน้าไม่พอใจ

“เฮ้ย แต่กูว่ามันก็ยังดีกว่าคนอื่นๆอ่ะนะ” เคนออกความเห็น

“ไม่รู้ แต่กูก็ไม่ค่อยชอบมันอยู่ดี”

“หรือมึงชอบไอ้แม็กซ์”

“มึงอยากแดกตีนกูมั๊ย ไอ้ป๊อป พูดชื่อไอ้เหี้ยนั่นขึ้นมาให้กูได้ยินเนี่ย สาดแม่งงง” เจย์หันไปทำตาขวางใส่ป๊อป “แบบนั้นกูยอมเลือกไอ้โจดีกว่าว่ะ ไอ้นรกแม็กซ์นี่ไม่ไหวจริงๆ”

“แต่กูว่านะ ถ้าอีไทด์มันคิดจะจีบไอ้โจจริงๆอ่ะนะ สงสัยมันจะได้แดกตีนไอ้โจก่อนที่นิ้วมันจะทันได้แตะตะเข็บชายเสื้อแม่งซะอีกว่ะ” ตี๋เล็กหัวเราะ

“แต่ไอ้เชี่ยโจมันหน้าก็หล่อจริงๆอ่ะนะ กูว่ามันก็ดูดีกว่าคนอื่นๆอยู่เหมือนกัน” ป๊อปพูด ส่วนเคนก็พยักหน้าเห็นด้วย

“กูว่าในสายตากูมันก็ดูเงียบๆนะ ไม่ได้มีพิษภัยหรือไปกวนตีนอะไรใครเค้าเท่าไหร่นี่” นัทพูดขึ้นบ้าง โดยมีเคนพยักหน้าเห็นด้วยอีกครั้ง

“ถึงมันจะดูขวางๆโลกบ้างก็เหอะ”

“อืมมม” เคนพยักหน้าหงึกๆ

“อันนั้นกูเก็ห็นด้วยว่ะ ไอ้ตี๋” ป๊อปพูดขึ้นอีก “แต่คงเพราะมันเก่งกีฬาด้วยมั๊ง คนเลยอิจฉารึหมั่นไส้มันเยอะปนๆไปกับพวกที่ชอบมันตรงที่มันดูขรึมๆเงียบๆนั่นแหละ”

เคนพยักหน้าพร้อมทำเสียงอืมๆในลำคอเห็นด้วย จนเจย์ต้องหันมาทำตาดุใส่

“แต่กูไม่ได้อิจฉาหรือหมั่นไส้มันนะเว้ย เหี้ยย ไม่เห็นแม่งจะมีเหี้ยอะไรให้กูต้องอิจฉาเลย”

“เออๆ พวกกูรู้แล้วไอ้เจย์ แต่อย่างไอ้ป๊อปมันก็เก่งกีฬาจะตาย ไม่เห็นมีใครจะอิจฉาริษยามันเลยนี่หว่า”

“โธ่ ไอ้ตี๋ บ้าๆบอๆอย่างไอ้ป๊อปเนี่ย จะมีใครไปอิจฉามันวะ” นัทหัวเราะเบาๆ “ว่าแต่ตกลงพวกมึงจะออกจากเรื่องของไอ้โจได้รึยังเนี่ย ไม่มีอะไรจะคุยกันแล้วรึไงวะ”

“ถ้างั้นแล้วพวกไอ้วิทห้องสี่ล่ะ ตกลงมันจะย้ายชมรมรึเปล่า”

“อ๋อ จากชมรมศิลปะไปชมรมดนตรีอ่ะเหรอ อันนี้สงสัยต้องถามไอ้คริสว่ะ”

“สงสัยแม่งย้ายตามเมีย กูว่า”

“เออ พูดถึงเรื่องนี้แล้ว จะว่าไปกูได้ยินว่าไอ้เกอร์มันเลิกกับแฟนแล้วนะเว้ย”

“มึงว่าพี่มอสมีแฟนยังวะ”

“กูได้ยินว่าไอ้เป้าแม่งอกหักจากสาวโรงเรียนหญิงล้วนนั่นอีกแล้วนะเว้ย”

“ตกลงไอ้ไบรท์มันจะเอาไงกับไอ้บอสวะ พวกมึงมีใครรู้เรื่องรึเปล่า”

และอื่นๆอีกมากมายที่มีชื่อคนนั้นคนนี้ที่ผมไม่รู้จักสักนิดลอยข้ามหัวผมไปมา เจย์ ป๊อป ตี๋เล็ก และเคนต่างก็พูดถึงเรื่องราวความเป็นไปต่างๆของเพื่อนๆในโรงเรียนกันอย่างสนุกปาก จะมีก็แต่นัทที่มักจะนั่งฟังเฉยๆมากกว่าคนอื่น นานๆทีเขาก็จะออกความเห็นหรือพูดชื่อคนนั้นคนนี้ขึ้นมาบ้าง แต่ส่วนมากเขาก็จะนั่งมองแล้วหันมายิ้มให้ผมเป็นระยะๆมากกว่า ส่วนผมก็ได้แต่นั่งฟังเรื่องที่พวกเขาที่เหลือคุยกันอย่างไม่รู้เรื่องรู้ราวอะไรกับเค้าด้วยเลย

“ว่าแต่พรุ่งนี้นนท์จะนั่งตรงไหนกับใครวะ” ป๊อปพูดขึ้น

“คงนั่งกับไอ้คริสมั๊ง ก็ตรงนั้นมันว่างอยู่นี่หว่า”

“เฮ้ย ไอ้ตี๋” ป๊อปหันไปทำหน้าดุใส่ตี๋เล็ก “ไอ้คริสมันเด็กไอ้วายุมันนะเว้ยมึงงง”

“ทะลึ่งแล้วไอ้ป๊อป” นัทปราม “ไอ้ยุมันไม่ได้เป็นเกย์สักหน่อย และมันก็ไม่ได้มีอะไรกับไอ้คริสด้วย มึงนี่ชักจะไปกันใหญ่แล้ว”

“แหมๆๆๆ ออกตัวแทนเชียวนะมึง กลัวไอ้ยุโดนแย่งเหรอวะ เอ๊ะ หรือว่าจริงๆแล้วมึงหึงนนท์ อย่าบอกกูนะว่ามึงจะปลี่ยนใจและแลกที่จากที่เคยนั่งกับไอ้ยุมานั่งกับนนท์แทน”

ป๊าบบ! เสียงป๊อปโดนนัทตบหัวจนหน้าแทบคว่ำลงบนถ้วยโฟมใส่น้ำแข็งใส

“ทะลึ่งแล้วมึง ก็บอกแล้วไงว่าไอ้ยุมันไม่ได้เป็นเกย์ กูก็ไม่ได้เป็น มึงอย่ามาเพ้อเจ้อ”

“กูล้อเล่นน่าาา สาดด มึงอ่ะ มือหนัก” ป๊อปใช้มือลูบหลังหัวตัวเองเบาๆ “แต่ก็ไม่แน่นะ มึงรู้ได้ไงว่าไอ้ยุไม่เป็น เพราะพ่อมันก็..........”

ป๊าบบ! ป๊อปโดนนัทตบหัวเข้าอีกที

“มึงอย่าลามปามถึงพ่อแม่มัน ไอ้ป๊อป มึงก็รู้ว่ามันไม่ชอบ และกูเองก็ไม่ชอบด้วยเหมือนกัน ที่สำคัญนะ ถ้ามันรู้ว่ามึงพูดถึงพ่อมันแบบนี้ล่ะก็ กูว่ามึงได้โดนตีนมันแน่”

“และเผลอๆจะโดนตีนนัทก่อนด้วย” ตี๋เล็กตบหัวป๊อปเบาๆด้วยเช่นกัน “ปากมากไม่มีหูรูดนักมึง สมน้ำหน้า”

“เออๆกูขอโทษ” ป๊อปมองซ้ายมองขวาด้วยแววตาสำนึกผิดและสีหน้าเซ็งๆ “กูมันปากหมาเอง แต่พวกมึงก็รู้ว่ากูไม่ได้ตั้งใจอ่า กูเองก็ชอบพ่อของไอ้ยุเหมือนกันนั่นแหละ”

“เออ กูรู้ แต่คราวหลังระวังๆปากด้วยนะมึง กูก็ไม่ได้อยากจะว่าอะไรมึงหรอก แต่มึงอย่าได้ไปพูดให้ไอ้ยุมันได้ยินมึงพูดเรื่องแบบนั้นอีกเชียว” นัทพูดเสียงเข้ม

“เออ กูขอโทษๆ งั้นกูไปก่อนและกันเว้ย ไปวิ่งสงบสติอารมณ์ดีกว่า” ป๊อปลุกขึ้นยืน “เจอกันอีกทีค่ำๆเว้ย” จากนั้นเขาก็เดินออกจากโต๊ะหินอ่อนที่พวกเรานั่งอยู่ไปเลย

“แม่งงอน” ตี๋เล็กมองตามหลังป๊อปแล้วหันมาส่ายหน้าเบาๆ

“อ้าว แล้วมันจะเป็นไรมั๊ยเนี่ย” ผมพูดขึ้น

“ไม่เป็นไรหรอก มันเองก็รู้ตัวแหละ ไอ้นี่มันไม่ได้เป็นคนคิดมากอะไรกับเขาหรอก เดี๋ยวสักพักมันก็ลืมแล้ว”

“แต่กูว่ามึงตามมันไปหน่อยก็ดีว่ะ ตี๋เล็ก” นัทหันไปพูดกับตี๋เล็ก ตี๋เล็กมองหน้านัทครู่หนึ่งก่อนจะพยักหน้าแล้วก็ขอตัวลุกวิ่งเหยาะๆตามป๊อปไปอีกคน

“แล้วพวกมึงเอาไงต่อ” เจย์หันมาถามพวกเราทุกคนที่เหลือ

“กูก็ไม่รู้ว่ะ” เคนส่ายหน้า

“กูว่ากูจะกลับห้องก่อนว่ะ มีการบ้านที่ยังทำไม่เสร็จเลยด้วย และเดี๋ยวคืนนี้ไอ้ป๊อปมันก็ต้องมาเคาะที่ห้องกูอีกอ่ะ”

“แล้วมึงล่ะ เคน เอาไง จะไปที่ฝั่งนู้นกับกูป่าว”

“มึงจะไปหาพี่แจ๊คเหรอ...... อืมมม เออๆ ก็ได้วะ อยู่เฉยๆแม่งก็ไม่มีอะไรทำ”

“งั้นกูกับนนท์แยกกับพวกมึงตรงนี้เลยแล้วกันนะ เดี๋ยวกูจะพานนท์ไปเดินเล่นดูโรงเรียนอีกหน่อยก่อนด้วย”

หลังจากนั้นนัทก็พาผมเดินผ่านไปยังด้านหลังของโรงยิมรวม ซึ่งยิ่งเมื่อได้มามองดูอยู่ใกล้ๆก็ยิ่งเห็นถึงความใหญ่โตของมันได้อย่างชัดเจน ถัดมาเราสองคนก็เดินออกจากบริเวณสวนกลาง ข้ามถนนมุ่งตรงไปยังตึกหนึ่ง เดินตัดผ่านลานจอดรถ ลานว่างที่ใช้เคารพธงชาติ เดินทะลุใต้ตึกวิทย์ โผล่ไปยังอาคารเรียนของชั้นมอสามที่ผมต้องเริ่มมาเรียนพรุ่งนี้เป็นวันแรก จากนั้นเราสองคนก็วนกลับมายังโรงอาหารมอต้นที่ๆเราเพิ่งจะกินข้าวเที่ยงด้วยกันไปเมื่อตอนกลางวัน ซึ่งกว่าเราสองคนจะกลับมาถึงหน้าหอพักก็ใช้เวลาหมดไปแล้วกว่าสี่สิบนาทีเลยทีเดียว

“หกโมงกว่าแล้วยังไม่ได้ทำการบ้านเลย”

“เยอะเหรอ”

“เปล่าไม่เยอะหรอก เหลืออีกแค่นิดเดียวแหละ แต่ก็อย่างที่บอกไง เดี๋ยวคอยดูดิ่ พอประมาณทุ่มนึงไอ้ป๊อปก็เดินมาเคาะที่ห้องแล้ว”

“เออจะว่าไปที่นี่มีเวลาเข้านอนรึเปล่า หมายถึงว่าเวลาที่เด็กทุกคนในหอต้องเข้านอนพร้อมกันอะไรแบบนี้น่ะ”

“อืมม ก็ไม่เชิงหรอก คือที่นี่ค่อนข้างให้อิสระในการดูแลจัดการตัวเองมากน่ะ แต่กฎระเบียบมันก็เลยจะมากขึ้นตามไปด้วย ถ้าอย่างเรื่องตอนนอนก็คือ พอถึงเวลาสี่ทุ่มทุกคนก็จะต้องขึ้นห้องกันหมดแล้ว ทั้งดูทีวี ดูหนัง อ่านหนังสือ หรือเล่นคอม กิจกรรมทุกอย่างจะต้องหยุดหมด จนประมาณสี่ทุ่มครึ่ง รุ่นพี่มอสามกับมอสองที่เป็นคณะกรรมการก็ต้องเดินดูความเรียบร้อยของทุกๆชั้นเป็นครั้งสุดท้าย คือมองสองเช็คมอหนึ่ง ส่วนมอสามเช็คเด็กมอสองอีกทีน่ะ แล้วถ้าเจอห้องไหนเสียงดังก็ต้องเตือน บอกว่าถึงเวลานอนได้แล้ว หรือแม้แต่ลงโทษ แล้วก็ต้องรับเรื่องร้องเรียนต่างๆถ้าหากมี อะไรแบบนี้น่ะ แต่เอาจริงๆถ้าเกิดพวกมันจะไม่นอนกันก็เรื่องของมัน เพราะพอดึกกว่านี้อาจารย์เวรก็จะมาเดินตรวจเองอีกรอบ และคราวนี้ก็จะถึงคราวซวยของพวกมันจริงๆล่ะ เพราะอาจารย์แกมีกุญแจสำรองของทุกห้องพกติดตัวอยู่แล้ว”

ผมพยักหน้า “ซึ่งนัทก็ต้องไปเดินตรวจในคืนนี้ด้วยใช่มั๊ย”

“ใช่ ทุกคืนนั่นแหละ โดยเฉพาะวันอาทิตย์จะต้องตรวจเข้มกันหน่อย เพราะมันมักจะคึกกันเป็นพิเศษ”

“เหนื่อยแย่เลยว่ะ เนอะ”

“ไม่หรอก ก็อย่างที่บอกไงว่าที่นี่มันค่อนข้างเข้มมาก และส่วนมากทุกคนก็ชินกับการทำตัวตามกฏระเบียบอยู่แล้ว ก็เลยไม่ค่อยจะมีปัญหาอะไรมากมายนักหรอก เพราะถ้ามีเรื่องฝ่าฝืนกฎอะไรขึ้นมาล่ะก็ มันเป็นเรื่องใหญ่ไง” นัทอธิบายขณะเดินพาผมไปยังหน้าลิฟต์ “มีทั้งลงโทษทางวินัย พักการเรียน และไล่ออกก็มีมาแล้วหลายรายน่ะ”

ผมพยักหน้าอีกครั้ง “มิน่าเห็นในหนังสือคู่มือเค้าบอกว่าโรงเรียนนี้จะปลูกฝั่งวินัยที่เข้มงวดให้กับนักเรียนทุกคน”

“ใช่ เผลอๆอาจจะเคี่ยวพอๆกับเตรียมทหารเลยเชียวล่ะจะบอกให้” นัทพูดติดตลก

เสียงดังติ๊งดังขึ้นและประตูลิฟต์ก็เปิดออก เราสองคนก้าวเข้าไปข้างในพร้อมกับนักเรียนอีกสามคนแล้วก็ยืนกันอยู่เงียบๆ จนกระทั่งมาถึงชั้นแปดและทุกคนออกจากลิฟต์กันไปหมดแล้ว นัทก็เริ่มพูดขึ้นโดยไม่ได้มองหน้าผม

“นนท์มีแฟนป่ะ”

ผมหันไปมองหน้านัท “หึ เปล่า ยังไม่มีอ่ะ”

“แล้วเคยมีมะ” นัทหันมามองหน้าผม

“อืมม ก็เคยนะ ตอนยู่เชียงใหม่น่ะ” นัทพยักหน้า แล้วจากนั้นก็เกิดความเงียบขึ้นระหว่างเราสองคนอีกครั้ง จนเมื่อลิฟต์มาถึงชั้นสิบสอง และประตูลิฟต์เปิดออก ผมจึงตัดสินใจถามนัทกลับไปบ้าง “แล้วนัทล่ะ มีรึเคยมีรึเปล่า”

“ไม่อ่ะ” นัทส่ายหัวพร้อมกับเดินนำผมออกจากลิฟต์ “ไม่มีและไม่เคยมี”

“หน้าตาดีอย่างนัทน่ะนะ ไม่เคยมีแฟนเลยเหรอ” ผมแกล้งแหย่

นัทหัวเราะเบาๆ “นัทเนี่ยนะหน้าตาดี ไม่ใช่แล้วว่ะ...... แต่ถึงยังไง มันก็คงเป็นเพราะนัทไม่ได้สนใจด้วยล่ะมั๊ง”

“เหอออ” ผมทำเสียงประหลาดใจ “ไม่อยากมีเหรอ”

นัทใช้กุญแจไขประตูห้องแล้วหันมายิ้มให้ผมน้อยๆ “ไม่รู้สิ แต่ว่า.........”

“แต่อะไร” ผมถาม

“แต่ถึงบางทีจะรู้สึกว่าตัวเองยังเป็นเด็กอยู่และไม่ได้คิดสนใจเรื่องพวกนี้เท่าไหร่ แต่ก็นะ ไม่รู้ว่าทำไมเหมือนกันที่บางทีก็เคยรู้สึกเหมือนกับว่าเราก็กำลัง ‘รอคอย’ อยู่เหมือนกัน......” นัทยิ้มกว้างให้กับผมและมันก็ทำให้ผมต้องรู้สึกเขินให้กับรอยยิ้มนั้นโดยไม่มีสาเหตุทีเดียว

ให้ตายสิ นี่เค้าไม่รู้จริงๆหรือเนี่ยว่าตัวเองเป็นคนที่มีเสน่ห์มากขนาดไหน

หลังจากกลับถึงห้อง นัทก็ตรงไปนั่งทำการบ้านที่โต๊ะของตัวเองทันที ส่วนผมที่รู้สึกไม่อยากจะรบกวนเขาโดยการเปิดวิทยุหรือซีดี หรือไอ้ครั้นจะให้ไปนั่งดูทีวีคนเดียวที่ล็อบบี้หน้าลิฟต์หรือที่ห้องคอมม่อนชั้นล่าง ผมก็ไม่เอาอีกเช่นกัน ดังนั้นผมก็เลยตัดสินใจขอตัวออกไปเดินเล่นข้างนอกแถวๆบริเวณหอแทน และเพื่อที่ผมจะได้โทรกลับไปคุยกับแม่ด้วย

“อย่าไปไกลล่ะ เดี๋ยวจะหลง” นัทหันมาบอกผมพร้อมรอยยิ้มกวนๆก่อนที่ผมจะปิดประตูลง

ขณะที่ผมกำลังรอลิฟต์อยู่นั้น ผมก็หยิบมือถือขึ้นมาดูแล้วก็เห็นว่ามีข้อความที่ยังไม่ได้อ่านอยู่ข้อความหนึ่ง ตั้งแต่เมื่อไหร่กันนะ ผมนึกสงสัย เพราะว่าผมไม่รู้ตัวเลยแม้แต่นิดเดียว เมื่อผมกดเปิดดูก็เห็นว่ามันถูกส่งมาจากพลอยเพื่อบอกว่าคิดถึง เป็นเมสเสจฟอร์เวิร์ดธรรมดาๆ ผมจึงเลือกเอาเมสเสจที่เคยได้จากเพื่อนคนอื่นๆมาส่งคืนกลับไปให้เขาด้วยเหมือนกัน และในจังหวะที่ผมกำลังก้มมองดูและกดมือถือของตัวเองอยู่นั้น ผมก็ถูกคนที่เดินออกมาจากลิฟต์ชนเข้าให้อย่างจัง

“โอ๊ยย!” ผมร้องออกมาเพราะว่าผมถูกเขาคนนั้นเหยียบลงบนเท้าเข้าให้อย่างแรง

“เฮ้ย!” คนที่เพิ่งเดินออกมาจากลิฟต์ร้องออกมาพร้อมๆกันพร้อมกับเบี่ยงตัวหลบผมไปด้วย ทำให้เขาเซจนถลาไปทางด้านข้าง

มือของผมที่ถูกแขนของเขาชนก็สะบัดออกตามแรงกระแทกจนมือถือของผมลอยไปตกลงบนพื้น เสียงดังแคร้งดังขึ้นพร้อมกับฝาหลังและแบตเตอรี่ที่กระเด็นออกจากเครื่องไปคนละทิศละทาง

ผมก้มลงบนพื้นจะเก็บชิ้นส่วนมือถือของตัวเองขึ้นมา และเขาเองก็ทำแบบเดียวกันด้วยเช่นกัน ผมคว้าตัวเครื่องมือถือขึ้นมาและยืดตัวขึ้นยืน ส่วนเขาก็เงยหน้าขึ้นมายื่นฝาหลังและแบตเตอรี่คืนให้กับผมด้วยเช่นกัน

“โทษที เป็นอะไรรึเปล่า” เขาถามขณะที่ยืนขึ้น

“ไม่รู้สิ คงไม่เป็นไรหรอกมั๊ง คิดว่าคงไม่พังหรอก” ผมรับแบตเตอรี่คืนจากเขาแล้วก็เสียบมันกลับเข้าที่เดิม

“ไม่ได้หมายถึงมือถือ”

ผมเงยหน้าขึ้นมองเขาอย่างชัดๆเป็นครั้งแรกแล้วก็ต้องรู้สึกตกใจเล็กน้อยที่เห็นว่าเขาคนนี้ก็คือคนที่ผมเห็นวิ่งรอบสนามอยู่เมื่อครู่นี้นี่เอง หน้าของเขาแดงเล็กน้อย และเหงื่อที่เกาะอยู่ตามไรผม ใบหน้า และร่างกายของเขาก็ยังไม่แห้งดีเลยด้วย และที่สำคัญเมื่อผมลองมองดูเขาใกล้ๆแบบนี้แล้วผมก็ต้องรู้สึกว่า..........

แม่งงงง หล่อเป็นบ้าเลยว่ะ!

“เฮ้ย ได้ยินรึเปล่า”

ผมสะดุ้งเล็กน้อย “อะ อ๋อ เอ่อ ไม่เป็นไรหรอก”

“แน่ใจนะ” เขาถามย้ำ แต่จากนั้นสีหน้าของเขาก็เริ่มเปลี่ยนเป็นความสงสัยเล็กน้อย “ไม่คุ้นหน้าเลยนี่ อยู่มออะไรน่ะ”

“อ๋อ เราเพื่งย้ายมาใหม่น่ะ อยู่มอสาม”

เขาพยักหน้า จากนั้นก็ก้มลงมองดูที่เท้าของผม “ใส่รองเท้าแตะด้วยนี่หว่า ไม่เจ็บแน่นะ”

ผมก้มมองดูเท้าขวาของตัวเองและเห็นมันเป็นรอยแดงและรอยถลอกเล็กน้อย จะว่าไปมันก็ไม่ได้เล็กน้อยเท่าไหร่หรอกเพราะเมื่อกี๊ก็โดนเหยียบแล้วบิดไปแบบเต็มๆพอดู แถมยังรู้สึกแสบๆอยู่ด้วยเหมือนกัน แต่ผมก็ไม่ได้คิดว่ามันจะเป็นอะไรมากมายขนาดนั้น

“ไม่เป็นไรๆ เมื่อกี๊เราไม่ได้มองทางเองแหละ ขอโทษด้วยก็แล้วกัน”

เขามองหน้าผมนิ่งๆอยู่ครู่หนึ่งก่อนจะพยักหน้า “ถ้างั้นก็ตามใจ”

ผมพยักหน้าเบาๆ จากนั้นก็หันไปกดลิฟต์และลองเปิดมือถือของตัวเองดูว่ามันพังตรงไหนรึเปล่า และเมื่อผมลองหันกลับไปเหลือบมองดูเขาคนนั้นดูอีกทีก็ ผมไม่เห็นเขายืนอยู่ที่เดิมแล้ว เสียงฝีเท้าเบาๆที่กำลังเดินห่างออกไปบอกผมว่าเขาคงจะเดินกลับห้องของตัวเองไปแล้ว แต่ว่าเมื่อลิฟต์ขึ้นมาถึงชั้นสิบสองและกำลังจะเปิดประตูออก ผมก็ได้ยินเสียงของเขาดังขึ้นอีกครั้ง

“เดี๋ยว”

ผมหลบให้คนที่เดินออกจากลิฟต์เดินผ่านผมไปและหันกลับไปตามเสียงเรียก

“ตกลงมือถือพังรึเปล่า”

“ไม่นะ” ผมชูมือถือให้เขาดูว่ามันยังเปิดได้ตามปกติ “ไม่น่าจะมีปัญหาอะไร”

“ก็ดีแล้ว เกิดพังไปจะได้ไม่ต้องโทษว่าเป็นความผิดเรา” เขาเดินเข้ามาหาผมช้าๆ “แต่ถ้ามันพังไปจริงๆเราก็จะซื้อใช้ให้ใหม่”

“ไม่เป็นไรหรอก ขอบใจมาก”

เขานิ่วหน้า “ขอบใจเรื่องอะไร”

“เอ่ออ.........” ผมชะงักไปเล็กน้อย

“เออๆช่างมันเหอะ ว่าแต่.......” เขาก้มหน้าลง “เท้าน่ะ เลือดออกแล้วนะ”

ผมก้มมองดูที่เท้าตัวเองตามสายตาของเขาแล้วก็เห็นว่าตรงแผลถลอกเมื่อครู่เริ่มมีเลือดไหลออกมาซิบๆแล้วด้วยจริงๆ มิน่าล่ะว่าทำไมตอนนี้ผมถึงได้เริ่มรู้สึกแสบมากขึ้นกว่าเดิม

“มานี่สิ ไปทำแผลที่ห้องเราก่อน”

“ไม่เป็นไรหรอก แผลแค่นี้เอง”

“บอกให้มาก็มาเหอะน่า” เมื่อพูดจบเขาก็เดินนำหน้าผมไปเลย ทำให้ผมไม่เหลือทางเลือกอื่นนอกจากจะต้องยอมเดินตามเขาไปดีๆ

เขาเดินเลี้ยวไปทางฝั่งซ้ายและไปหยุดอยู่ที่หน้าห้องหมายเลข 1208a เขาล้วงหยิบกุญแจออกมาจากกระเป๋ากางเกงแล้วไขเข้าไปในห้อง

“เข้ามาสิ”

ผมเดินตามเขาเข้าไปข้างในห้อง ภายในห้องของเขาคนนี้ก็ไม่ได้ต่างจากห้องของนัทมากมายนัก แค่ตำแหน่งของโต๊ะเขียนหนังสือที่อยู่ต่างกันเท่านั้นเอง และอีกสิ่งหนึ่งที่ต่างกันอย่างเห็นได้ชัดเลยก็คือห้องๆนี้มีหนังสือวางอยู่บนชั้นเยอะมาก ไม่ว่าจะหนังสือเรียน หนังสือแปล นิยาย เรื่องสั้น และอื่นๆอีกมากมายที่ผมยังไม่ทันได้สังเกตอีก

“นั่งลงบนเตียงนั้นก่อนก็ได้” เขาหันมาชี้ไปยังเตียงที่ว่างอยู่ สงสัยว่าเขาเองก็คงจะนอนแค่คนเดียวเหมือนกับนัทแน่ๆ “ไปล้างเท้าก่อนไป เดี๋ยวขอหายาให้แป๊บ” เขาออกคำสั่งอีกครั้ง ก่อนจะหันไปเปิดลิ้นชักที่หัวเตียง

ผมยักไหล่ให้กับตัวเองเบาๆแล้วเดินไปล้างเท้าในห้องน้ำตามที่เขาบอก เมื่อน้ำเย็นๆสัมผัสโดนแผลของผม ผมก็ต้องนิ่วหน้าเพราะความแสบขึ้นมาทันที และเมื่อผมล้างแผลเสร็จแล้วผมก็เดินออกมานั่งลงบนเตียงอย่างเดิม

“อ่ะ เช็ดเท้าซะ” เขายื่นผ้าขนหนูผืนเล็กให้ แล้วนั่งลงบนเก้าอี้ที่ปลายเตียงตรงข้ามกันกับผมพอดี “แล้วยื่นเท้ามา จะทายาให้”

“เฮ้ย ไม่เป็นไร เราทำเองก็ได้”

“ก็บอกให้ยื่นเท้ามาไง มาเร็ว” เขาก้มลงยกเท้าผมขึ้นมาวางไว้บนตักของตัวเอง

“เฮ้ย ไม่เป็นไรจริงๆ เราเกรงใจว่ะ”

“ตีนก็ไม่เหม็นสักหน่อย จะอายทำไมวะ..... หรือว่าเป็นตาปลา” เขาพลิกเท้าผมดู “ก็ไม่เป็นนี่หว่า เล็บขบก็ไม่มี เล็บก็ไม่ยาว ขี้เล็บก็ไม่ดำ”

ผมเริ่มรู้สึกเขินขึ้นมาเล็กน้อย

“ถ้างั้นก็อยู่เฉยๆเหอะน่า” เขาพูดพร้อมกับเริ่มเช็ดแอลกอฮอลล์ลงบนแผลของผม ผมเลยต้องสะดุ้งออกมาเบาๆเพราะความแสบ และเห็นเขาเงยหน้าขึ้นมาอมยิ้มให้ผมเล็กน้อย เป็นรอยยิ้มแรกของเขาที่ผมเพิ่งได้เห็นซะด้วย จากนั้นเขาก็ก้มลงใช้สำลีชุบยาและทาลงบนแผลของผมอย่างช้าๆและเบามือจนเสร็จ “เอ้า เสร็จแล้ว”

“ขอบใจมาก”

“อืม งั้นก็ไปได้แล้วล่ะ เดี๋ยวเราจะอาบน้ำ” เขาลุกขึ้นยืน

อ้าว พอเสร็จปุ๊บก็ไล่กันปั๊บเลยเรอะเนี่ย

เขาหันมานิ่วหน้าใส่ผมเมื่อเห็นว่าผมยังคงนั่งไม่กระดุกกระดิกอยู่ที่เดิม “เอ้า ไปได้แล้ว หรือจะรอดูเราอาบน้ำด้วย”

ผมส่ายหน้า แล้วก็รีบลุกขึ้นยืน จากนั้นก็เดินไปใส่รองเท้าที่หน้าห้อง และขณะที่กำลังจะเปิดประตูห้องนั้นเขาก็พูดขึ้นมาอีกครั้ง

“อย่าลืมล็อกประตูให้ด้วยล่ะ”

สุดท้ายผมก็เดินออกมาจากห้องของเขาคนนั้นโดยที่ไม่รู้เลยว่าเขาชื่ออะไรและเป็นใครกันแน่ อีกทั้งยังรู้สึกงงๆเบลอๆกับพฤติกรรมของเขาอีกด้วย ดูท่าทางหมอนี่จะเป็นคนเอาแต่ใจไม่เบาเลยทีเดียว แต่ทำไมกันนะ ทั้งๆที่หมอนั่นทั้งทำท่าทางกวนตีนและหยาบกระด้างใส่ผมซะขนาดนั้น ผมกลับยังรู้สึกดีแบบแปลกๆและแอบมีรอยยิ้มน้อยๆอยู่บนหน้าของตัวเองได้แบบนี้

“ห้อง 1208” ผมหันกลับไปดูเลขห้องอีกครั้งแล้วพึมพำออกมากับตัวเองเบาๆ ถึงเขาจะเป็นใครที่ผมยังไม่รู้จักก็ตามเถอะ แต่อย่างน้อยๆหนุ่มแปลกหน้าไร้ชื่อคนนี้ก็ช่วยทำให้วันนี้ผมมีรอยยิ้มขึ้นมาได้อีกหนึ่งครั้ง และเป็นรอยยิ้มที่เกิดจากความรู้สึกบางอย่างที่ผมก็ยังไม่สามารถหาเหตุผลมาอธิบายให้กับตัวเองได้ด้วยเช่นกัน........

หรือบางทีมันอาจจะเป็นเพราะรอยยิ้มแรกและรอยยิ้มเดียวของเขานั้นที่ผมเพิ่งได้เห็นเมื่อครู่นั้นก็เป็นได้



ออฟไลน์ ExecutioneR

  • จุ๊บ จู๊บบบบบ ~~ ♥
  • เป็ดนักเขียน
  • เป็ดAphrodite
  • *
  • กระทู้: 4243
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +1722/-40
    • FB Page
เห็นคนอ่านเยอะ เลยไม่อยากให้รอกันนาน และเห็นเป็นตอนแรกๆด้วย  o18

แต่เดี๋ยวมึงเอ๊ยยยยยยย พอเริ่มลงทันตอนที่พิมพ์สต๊อกไว้ล่ะไอ้ต้นงานเข้าแน่  o22

555555555  :z3:





ออฟไลน์ IZE

  • เป็ดแสนดี
  • เป็ดArtemis
  • *
  • กระทู้: 4601
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +227/-3

น้ำค้าง

  • บุคคลทั่วไป
ถ้าพิมพ์ไม่ทันละก้อนะ ต้นรับผิดชอบด้วยล่ะ เพราะเริ่มติดหนุ่มๆ พวกนี้แล้ว อ่านแล้วขาดไม่ได้เลย จะขาดใจ

ออฟไลน์ [N]€ẃÿ{k}uñĢ

  • ~ῲเจ้าแม่Dramaῴ~
  • เป็ดแสนดี
  • เป็ดArtemis
  • *
  • กระทู้: 5186
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +740/-5
 o13 o13 o13
อ่านได้เรื่อยๆอีกเช่นเคน แอบมีงงๆตรงชื่อคนที่ถูกเอ๋ยถึงหน่อยถึงมันเยอะซะจนมะอยากจะจำ อิๆ
ส่วนอ่านตอนนี้แล้วบอกได่อย่างว่า ความรู้สึกดีๆที่ นนท์มีให้ กับหนุ่มห้อง 1208 นั่นนะดูท่าจะกลายเป็นรักในตอนหลัง
ถัาให้เดาเล่นสบายๆ หนุ่มห้อง 1208 มีนามว่า โจ ชัว คอนเฟิร์ม
ไปละแล้วจะรออ่านต่นะพี่ต้น
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 13-04-2009 18:13:19 โดย newykung »

mantdash

  • บุคคลทั่วไป
เอ้ะๆๆๆๆๆๆ ตัวเอกเยอะจริงด้วยครับ เดาไม่ถูกเลยแหะ ไม่เดาดีกว่า :laugh:

imageriz

  • บุคคลทั่วไป
มีแต่เด็ก ๆ  หน้าตาดี ๆ ทั้งนั้นเลย  :-[

ออฟไลน์ l3iZal2l2e

  • เป็ดแสนดี
  • เป็ดHephaestus
  • *
  • กระทู้: 1549
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +103/-0
ตัวละครเยอะจริงๆ
 :laugh:

ออฟไลน์ baddy

  • เป็ดแสนดี
  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 73
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +9/-0
vov สนุกจังเลยอ่ะ ปู้ชายเยอะมาก o13

YO DEA

  • บุคคลทั่วไป

 

สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด


สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด