]|เรื่องไม่สั้นและไม่เล่า|[ กระดานดำหลังรั้วโรงเรียน ... ชาย (ภาค 2: เม้นแรก)
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด

สนใจโฆษณาติดต่อ laopedcenter[at]hotmail.com คลิ๊กรายละเอียดที่ตำแหน่งว่างเลยครับ

สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด

ผู้เขียน หัวข้อ: ]|เรื่องไม่สั้นและไม่เล่า|[ กระดานดำหลังรั้วโรงเรียน ... ชาย (ภาค 2: เม้นแรก)  (อ่าน 1555174 ครั้ง)

ออฟไลน์ [N]€ẃÿ{k}uñĢ

  • ~ῲเจ้าแม่Dramaῴ~
  • เป็ดแสนดี
  • เป็ดArtemis
  • *
  • กระทู้: 5186
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +740/-5
สวัสดีครับ
ตัวละครเยอะ แต่ก็จำกันได้หมดนะนี่
งานยุ่งก็ค่อยเขียนนิยายทีหลัง
ก็ได้ครับ (แต่ถ้ามาต่อ ต้องยาวๆนะ)
เรื่องนี้ เอาให้จนจบนะครับ หึหึ
ขอบคุณและจะติดตามครับ
แหม ผมก้อจบมาตั้ง 7 เรื่องนะครับ
 :z1:
แน่ใจหรอนั่นพี่ต้นี่พูดมา  o18


ออฟไลน์ ExecutioneR

  • จุ๊บ จู๊บบบบบ ~~ ♥
  • เป็ดนักเขียน
  • เป็ดAphrodite
  • *
  • กระทู้: 4243
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +1722/-40
    • FB Page
แน่ใจเส่ะ!!

รักครั้งแรก รักครั้งสอง รักครั้งสุดท้าย
ซี่รียส์ท้องฟ้ากับก้อนเมฆทั้ง สี่ ภาค (เวลาที่หยุด เวลาที่เดิน การเดินทาง แล้วก็ ขอบฟ้า)

เจ็ดสุดดๆ!!

อิอิ

 o13


ออฟไลน์ THIP

  • Global Moderator
  • เป็ดApollo
  • *
  • กระทู้: 7674
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +986/-10
^
^
^

จ้าจบมาเจ็ดเรื่องแล้ว
คิดว่าเรื่องนี้ก็คงจบละนะ


เพราะเด็กเยอะ  :z1: :z1:

ออฟไลน์ [N]€ẃÿ{k}uñĢ

  • ~ῲเจ้าแม่Dramaῴ~
  • เป็ดแสนดี
  • เป็ดArtemis
  • *
  • กระทู้: 5186
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +740/-5
^
^
^
จ้าจบมาเจ็ดเรื่องแล้ว
คิดว่าเรื่องนี้ก็คงจบละนะ
เพราะเด็กเยอะ  :z1: :z1:
นั่นสิเด็กเยอะจริงร๊ากเด็กจางเลยอะ  :z1: :z1:

three

  • บุคคลทั่วไป

ออฟไลน์ [N]€ẃÿ{k}uñĢ

  • ~ῲเจ้าแม่Dramaῴ~
  • เป็ดแสนดี
  • เป็ดArtemis
  • *
  • กระทู้: 5186
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +740/-5
 :z3: :z3: :z3:
พี่ต้นนะพี่ต้น นิว เห็นเปลี่ยนชื่อกระทู้คิดว่าจะอัพซะอีก  :เฮ้อ:

ออฟไลน์ THIP

  • Global Moderator
  • เป็ดApollo
  • *
  • กระทู้: 7674
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +986/-10

ออฟไลน์ ExecutioneR

  • จุ๊บ จู๊บบบบบ ~~ ♥
  • เป็ดนักเขียน
  • เป็ดAphrodite
  • *
  • กระทู้: 4243
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +1722/-40
    • FB Page

ออฟไลน์ ExecutioneR

  • จุ๊บ จู๊บบบบบ ~~ ♥
  • เป็ดนักเขียน
  • เป็ดAphrodite
  • *
  • กระทู้: 4243
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +1722/-40
    • FB Page
A 6


ในที่สุดผมก็ได้พบกับวายุและพ่อของเขาทั้งสองคน ทั้งสามคนเดินถือของตรงเข้ามาหาเราที่หน้าหอพักโดยมีพ่อ “คนหนึ่ง” ในสองคนนั้นที่หน้าตาดีมากๆเดินพยุงเขามาแบบหลวมๆ และพ่อ “อีกคน” เดินตามหลังมาอยู่ห่างๆพร้อมกับสัมภาระจำนวนหนึ่ง

“หวัดดีครับป๊า” นัทยกมือไหว้ผู้ชายข้างๆวายุ จากนั้นก็ไหว้เลยไปยังคนข้างหลังด้วยเช่นกัน “หวัดดีครับพ่อ”

ผมจึงยกมือขึ้นไหว้ทั้งสองคนตามนัทไปด้วย และเมื่อผมหันมาสบตากับวายุ เขาก็ส่งยิ้มให้ผมอย่างเป็นกันเอง

“หวัดดีครับ เป็นไงมั่งเรา สบายดีมั๊ย” คนที่นัทเรียกว่าป๊าปล่อยวายุออกจากวงแขนแล้วตบบ่านัทเบาๆ จากนั้นเขาก็หันมาหาผม “แล้วนี่น่ะเหรอเพื่อนใหม่ที่ยุเล่าให้ฟังในรถ”

“ครับ ชื่อนนท์ ไอ้ยุ นี่ไงนนท์ นนท์ ส่วนนี่ก็ป๊ากับพ่อของไอ้ยุ ชื่ออาเมฆกับพ่อกอล์ฟ”

“หวัดดีนนท์ โทษทีนะที่เราต้องมาอาศัยนอนเบียดดอยู่ด้วยแบบนี้” เขายิ้มให้ผมอีกแล้ว แต่จะว่าไปตั้งแต่ผมเห็นเขาเดินมานี่ผมก็ยังไม่เห็นเขาหยุดยิ้มเลยสักนาทีเดียวด้วยซ้ำ

“ไม่เป็นไร เราต่างหากที่เพิ่งมาอยู่ใหม่และมารบกวนนัทกับนายสองคนน่ะ”

“ไร้สาระน่า” ทั้งนัทและวายุพูดขึ้นพร้อมๆกัน จากนั้นทั้งคู่ก็หันไปมองหน้ากันแล้วหัวเราะออกมาเบาๆ

“เออ จะว่าไปแล้วพ่อเล็กล่ะครับ ไม่ได้มาด้วยเหรอ” นัทหันไปถามป๊าของวายุ

“อาซันน่ะเหรอ สงสัยจะยังอยู่บ้านอยู่เลยมั๊ง คงกำลังเคลียร์งานให้เสร็จก่อนที่อาสองคนต้องบินกลับไปอังกฤษน่ะนะ” อาเมฆตอบคำถามของนัทก่อนจะหันไปหาพ่อของวายุ “เฮ้ย ไอ้กอล์ฟ มึงมาพาลูกมึงไปทำเรื่องนอนหอก่อนดีกว่าว่ะ เดี๋ยวกูกับนัทแล้วก็นนท์เอาของขึ้นไปเก็บข้างบนให้เอง”

“ไอ้เหี้ย ทีงี้ล่ะมาสั่งกู แล้วใครวะเสือกทำมันขาแพลงน่ะ เอ้า ยุมากับพ่อก่อนมา ต้องทำไงมั่งวะ ลืมไปหมดแล้วด้วย”

“พ่อประสาห่าอะไรวะ ไม่รู้ว่ากระทั่งว่าทำเรื่องให้ลูกนอนหอต้องทำยังไง”

“ก็ประสาเดียวกับมึงนั่นแหละ ไอ้เมฆ”

“โอ๊ยย แล้วนี่พวกพ่อจะทะเลาะกันอีกนานมั๊ยครับ พอเลยๆ อายเค้ามั่งมั๊ยเนี่ย” วายุโวยขึ้น “คุณพ่ออ่ะมานี่เลย เดี๋ยวไปที่เคาน์เตอร์กับยุ ส่วนป๊าก็เอาของของยุขึ้นไปเก็บกับพวกไอ้นัทก่อนก็แล้วกัน แล้วเดี๋ยวค่อยลงมาหายุอีกที เข้าใจ๊”

อาเมฆหัวเราะแล้วขยี้หัวของวายุเบาๆ ส่วนพ่อกอล์ฟของยุก็เดินเข้ามาวางกระเป๋าอีกใบไว้บนพื้นแล้วพาวายุเดินเข้าไปในตึกตรงเคาน์เตอร์เดียวกับที่ผมกับแม่เพิ่งมาทำเรื่องกันเมื่อเช้า

นี่โชคดีนะที่นัทได้เล่าเรื่องของครอบครัวนี้ให้ผมฟังไปบ้างแล้ว ไม่อย่างนั้นผมคงงงจนจับต้นชนปลายอะไรไม่ถูกเลยแน่ๆ แต่อย่างหนึ่งที่ผมสามารถรู้สึกได้อย่างชัดเจนอย่างที่นัทบอกผมจริงๆนั่นก็คือ ความรักที่พวกเขาแสดงออกมาให้แก่กันและกันอย่างมากมายนั่นเอง ถึงแม้เมื่อครู่พ่อของวายุทั้งสองคนจะพูดจาหยอกล้อกันแรงๆ แต่ผมก็ไม่ได้รู้สึกถึงความบาดหมางหรือการถือสาในคำพูดของเพื่อนของตัวเองอย่างจริงจังเลยแม้แต่นิดเดียว โดยเฉพาะวายุเองที่ดูท่าทางผ่อนคลายและไม่รู้สึกอายกับการที่จะเรียกคนทั้งสองคนว่า “พ่อ” ต่อหน้าคนแปลกหน้าอย่างผมเลยแม้แต่น้อยด้วยเช่นกัน

แต่นึกๆดูมันก็คงจะน่าอิจฉาเหมือนกันนะที่เขามีพ่อถึงสามคน ในขณะที่ผมนั้นกลับไม่มีเลยแม้แต่คนเดียว........

หลังจากที่วายุทำเรื่องเข้าหอเสร็จเรียบร้อยแล้ว เราสามคนก็เดินไปส่งพ่อของวายุทั้งสองคนที่รถ ผมอดที่จะมองเขากับพ่อแท้ๆและป๊าของเขาสลับกันไม่ได้ เพราะถ้าจะให้เปรียบเทียบและไม่มีคนบอกผมก่อนล่ะก็ ผมคงจะคิดว่า “ป๊า” ของวายุนี่แหละที่เป็นพ่อแท้ๆของเขามากกว่าด้วยซ้ำ เพราะว่าไม่ใช่แค่เค้าโครงหน้าตาดีที่วายุดูเหมือนจะได้รับมาแล้ว เค้าสองคนยังมีรอยยิ้มที่คล้ายกันมากอีกด้วย แต่ว่าพอลองมองดูดีๆ ผมก็เห็นแววตาและโครงหน้าของพ่อแท้ๆของเขาในตัวของวายุด้วยเหมือนกัน แต่ต่างกันที่ว่าเป็นเค้าโครงที่เหมือนกันในแบบฉบับของคนผอมกับคน..... เอ่ออ คนท้วมๆหน่อยเท่านั้นเอง

“พรุ่งนี้เดินทางดีๆนะครับ พ่อกอล์ฟ อาเมฆ” นัทหันไปพูดกับผู้ใหญ่ทั้งสองคน

“อืมม พวกพ่อฝากดูแลไอ้ยุมันหน่อยก็แล้วกันนะ แล้วเดี๋ยวอีกสามสี่วันแม่มันก็คงกลับมาแล้วล่ะ”

“แล้วนัทกับเพื่อนอยากได้ของฝากอะไรมั๊ย เดี๋ยวพวกอาซื้อมาฝากจากอังกฤษ”

“โห ไม่ล่ะครับอาเมฆ ขอบคุณมากครับ”

“คุณพ่อ ป่ะป๊า” ยุเดินก้าวไปข้างหน้าก้าวหนึ่งแล้วยื่นมือทั้งสองข้างออกมา

อาเมฆกับพ่อกลอ์ฟหันไปมองหน้ากันแล้วยิ้ม ก่อนจะเดินตรงเข้ามาสวมกอดยุกันทีละคน โดยพ่อกอล์ฟเป็นคนเข้ามากอดวายุก่อนแล้วก็ตามด้วยอาเมฆ

“เดินทางดีๆนะครับ รู้ป่าว แล้วก็ดูแลตัวเองด้วย”

“ขี้อ้อนไม่เปลี่ยนเลยนะ” อาเมฆพูดหลังจากคลายยุออกจากวงแขนแล้ว

“ไม่รู้ล่ะ คืนนี้บอกให้พ่อเล็กโทรมาหายุด้วย เข้าใจป่าว”

“ครับๆ คุณลูก”

“คุณพ่อก็เหมือนกัน ไปสัมมนาอ่ะ ห้ามนอกใจแม่ รู้มั๊ย ไม่งั้นจะหาว่าไม่เตือน”

“เออน่า” พ่อกลอ์ฟหัวเราะเบาๆพร้อมกับเอากำปั้นขยี้ลงบนหัวของยุแรงๆ

“ไม่ต้องห่วงหรอกยุ พ่อแกมันไม่กล้าหรอก มีเมียดุอย่างแม่แกนะ ต่อให้เป็นป๊าหรือพ่อเล็กเองก็ยังไม่กล้าเลย”

ทั้งสามคนหัวเราะขึ้นพร้อมๆกัน จากนั้นพวกเขาก็บอกลากันอีกครั้งเป็นครั้งสุดท้ายก่อนที่ผู้ใหญ่ทั้งสองคนจะเข้าไปในรถแล้วสต๊าร์ทรถขึ้น จากนั้นรถก็ค่อยๆเคลื่อนตัวออกไปอย่างช้าๆ

“กูรู้สึกแปลกๆว่ะ นัท”

“ทำไมวะ ไอ้ยุ”

วายุยืนมองรถของพ่อวิ่งจากไปจนกระทั่งลับสายตา “ไม่รู้ดิ่ นับตั้งแต่ปู่เล็กเสียไปเมื่อครึ่งปีก่อน กูก็กลัวมาตลอดเลยว่ะ กูกลัวว่ากูจะเสียใครไปอีกอ่ะ แล้วนี่กลายเป็นพ่อแม่กูไม่มีใครอยู่บ้านเลยสักคน จู่ๆก็ต้องเดินทางไปนั่นไปนี่กันหมดทั้งบ้านเลย”

“ไอ้เหี้ย มึงอย่าคิดอย่างนั้นสิวะ” นัทเดินตรงเข้าไปโอบไหล่ของวายุแล้วเขย่าแรงๆด้วยความที่ลืมว่าเพื่อนเขากำลังเจ็บเท้าอยู่ ผมจึงรีบวิ่งเข้าไปประคองวายุที่เสียหลักจนกำลังจะล้มลงไปอีกข้างอย่างรวดเร็วแล้วก็รับเขาเอาไว้ในวงแขนได้ทัน

“เฮ้ย ไอ้ยุ! กูขอโทษ กูลืมไป” นัทรีบขอโทษ

“ไม่เป็นไร ไอ้เหี้ยนัท สาดดด” วายุประคองตัวขึ้นมายืนบนขาของตัวเองอีกครั้ง จากนั้นเขาก็หันมายิ้มให้กับผม “ขอบใจมากนนท์”

“ไม่เป็นไร ว่าแต่ไหวรึเปล่าน่ะ นัท นนท์ว่าเราพายุขึ้นห้องกันก่อนเหอะ ยุงเริ่มมาแล้วด้วยเนี่ย”

“ก็ดีเหมือนกัน แต่ว่าก่อนอื่น......” นัทหันไปดีดนิ้วลงบนหน้าผากของวายุเบาๆ “มึงอ่ะ เลิกคิดอะไรเหี้ยๆได้แล้วนะเว้ย ป่ะ ไปเหอะ ขึ้นห้องกัน”

เราสามคนเดินกลับเข้าไปในหอ ระหว่างทางสั้นๆนั้นทั้งนัทและวายุต่างก็เจอเพื่อนของตัวเองหลายคน ทำให้ผมต้องถูกแนะนำตัวอีกถึงสองครั้ง จนกระทั่งเมื่อเราขึ้นมาถึงบนห้องแล้ว วายุก็เป็นฝ่ายเปิดประเด็นขึ้น

“คืนนี้มึงสองคนนอนด้วยกันนะ กูขอนอนคนเดียว กูเจ็บตีน” เมื่อพูดจบเขาก็กระโดดขึ้นไปนอนคว่ำแผ่อยู่บนเตียงของนัททันที “อันนี้เตียงมึงใช่มะ ไอ้นัท กูจำลายผ้าปูที่นอนได้”

นัทหันมามองหน้าผมก่อนจะยักไหล่ให้ “แบบนั้นได้มั๊ยล่ะ นนท์ว่าไง”

“นนท์ไงก็ได้อยู่แล้ว แถมจริงๆแบบนั้นก็ดีแล้วล่ะ วายุจะได้นอนสบายๆด้วย”

“แต่ก่อนอื่นเลยเนี่ย มึงช่วยไปอาบน้ำก่อนได้ป่าววะ ไอ้ยุ มาถึงก็กระโดดขึ้นเตียงกูเลยเชียวนะมึง”

“ก็ได้วะ สาดด งั้นมึงมาช่วยกู ไอ้นัท กูอาบคนเดียวลำบากอ่ะ แถมกลัวลื่นด้วย” วายุค่อยๆดันตัวขึ้นจากเตียง

“งั้นมึงไปแก้ผ้าในห้องน้ำรอเลยไป เดี๋ยวกูตามเข้าไป”

ผมมองทั้งสองคนด้วยสายตาที่ทำให้วายุต้องหัวเราะออกมาเมื่อเขาหันมาสบตาเข้ากับผม

“อะไร นนท์ หรือนนท์จะเข้าไปอาบกับพวกเราด้วยกันเลยทีเดียว”

“เอ่ออ ไม่ดีกว่ามั๊ง เกรงใจว่ะครับ”

ยุยิ้มกว้างแล้วหัวเราะเบาๆ “เฮ้ย ไอ้นัท กูชอบนนท์ว่ะ ขี้อายดีด้วย น่ารักดี”

“กูก็บอกมึงแล้วไง” นัทหัวเราะเบาๆ

บทสนทนาของทั้งสองคนยิ่งทำให้ผมหน้าแดงมากขึ้นไปอีก

“พอเหอะว่ะ ยุ แค่นี้ความหน้าด้านของพวกเราก็ทำนนท์เค้าอายจะตายห่าอยู่แล้ว เดี๋ยวเค้าก็เข้าใจมึงผิดหรอก ยิ่งไอ้เจย์นี่ยิ่งแล้วใหญ่เลยวันนี้”

“อ้าว นี่ไปเจอไอ้เจย์มาแล้วด้วยเหรอ”

“อ้าว กูยังไม่ได้บอกมึงเหรอว่าวันนี้นนท์เค้าเจอทุกคนมาหมดแล้ว เหลือแค่มึงกับคริสเท่านั้นเอง”

“งี้กูว่าสงสัยนนท์คงต้องเข้ากับคริสได้ดีแหงๆเลยว่ะ ยิ่งขี้อายประมาณเดียวกันเลยด้วยเนี่ย” วายุถอดเสื้อของตัวเองออกเผยให้เห็นร่างกายที่ขาวเนียนและสมส่วนของตัวเอง “มาเร็ว นัท มึงมาช่วยกูเข้าห้องน้ำหน่อย ถ้ากูถอดตรงนี้เลยเดี๋ยวนนท์ใจแตกก่อนแน่นอน และมึงต้องมาเล่าให้กูฟังด้วยว่าวันนี้พวกมึงคุยอะไรกันมั่ง”

ทั้งสองคนเดินเข้าห้องน้ำไปพร้อมกับเสียงหัวเราะและเสียงพูดคุย จนกระทั่งเมื่อประตูถูกปิดลงผมก็แทบไม่ได้ยินเรื่องที่ทั้งสองคนคุยกันอีกเลย เหลือเพียงแค่ให้ผมจินตนาการว่าทั้งสองคนจะกำลังทำอะไรกันอยู่บ้างเท่านั้นเอง

“เฮ้ยย มึงเบาๆหน่อยสิวะ ไอ้เชี่ยนัท!” เสียงของวายุดังขึ้น ตามด้วยเสียงน้ำจากฝักบัวที่ไหลกระทบกับพื้นและผนังห้องน้ำ

ผมสะบัดภาพเปลือยของวายุที่มีนัทกำลังช่วยอาบน้ำให้ออกจากหัว แล้วจึงหยิบโทรศัพท์เดินออกไปยืนที่นอกระเบียงเพื่อโทรหาแม่

“เป๋นจะใดพ่องลูก เปื้อนเฮาเขาดีกับเฮาก่อ” แม่ผมถามขึ้นทันทีที่รับสาย

“ดีจั๊ดนักเลยครับแม่ นอกจากสามคนตี้แม่ปะเมื่อตอน ต๋อนนี้นนนท์ก่อเริ่มฮู้จักเปื้อนเพิ่มขึ้นแหมหลายคนแล้วตวย”

“ดีแล้วล่ะ แม่จะได้สบายใจ๋ ว่าแต่กิ๋นข้าวรึยังนิเฮา”

“เรียบร้อยแล้วครับ แล้วแม่ล่ะ กิ๋นอะหยังรึยัง”

“นี่แหละๆ นี่ๆ ต๋อนนี้หนูพลอยกับป้อแม่เปิ้นจะมากิ๋นข้าวกับแม่ตวยหนา นนท์คุยกับเปิ้นหน้อยละกั๋นนะ.......” จากนั้นผมก็ได้ยินเสียงของแม่หันไปเรียกพลอยให้มารับสายตามมาด้วยเสียงโทรศัพท์ถูกเปลี่ยนมือเล็กน้อย

“หวัดดี นนท์ เป็นไงมั่ง”

“ก็ดีอ่ะ ขอบใจมากนะพลอยที่อุตส่าห์มาอยู่เป็นเพื่อนแม่นนท์”

“ไม่เป็นไรหรอก ก็พลอยรับปากแล้วนี่นา แถมตอนนี้พ่อกับแม่พลอยก็อยู่ที่นี่ด้วยนะ แล้วว่าแต่เพื่อนใหม่เป็นไงมั่งล่ะ มีหล่อๆมั่งมั๊ย พลอยจำได้ว่าเพื่อนพลอยเคยบอกว่าที่นั่นเด็กหน้าตาดีหลายคนเลยนี่นา” พลอยหัวเราะคิกคักเบาๆ

“จะบ้าเหรอ นนท์ไม่ได้สนใจเรื่องนั้นเลยนะ”

“แต่เห็นคุณแม่นนท์บอกว่ารูมเมทนนท์ก็หน้าตาดีนี่นา ระวังตัวไว้ก็แล้วกัน นนท์ยิ่งน่ารักๆอยู่ด้วย”

โอ้โห เธอคนนี้ก็ช่างกล้าพูดจริงๆเลยแฮะ ไม่ว่าจะพูดเล่นหรือพูดจริงก็ตามเถอะนะ

“เอ้อ จริงสิ พลอย นนท์ขอพูดกับแม่อีกแป๊บนึงหน่อยนะ” ผมรีบเปลี่ยนเรื่อง

“ได้ๆ แป๊บนึงนะ”

“ว่าจะใด นนท์”

“นนท์ว่าจะบอกแม่อยู่น่ะครับว่าคืนนี้มีเปื้อนแหมคน ของนัทเปิ้นจะมานอนตวยล่ะ แล้วก่อคงนอนตวยแหมสักพักเลยล่ะ เพราะว่าเปิ้นข้อเท้าแพลง แล้วก่อปอดีป้อแม่เปิ้นไปต่างจังหวัดต่างประเทศกั๋นหมดเลย ก่อเลยบ่มีใผมาฮับมาส่งเปิ้นได้อ่ะครับ”

“อ๋ออ ก็บ่เห็นเป๋นอะหยังนิ กะว่านนท์อึดอัดรึเปล่าล่ะ ไขอยากปิ๊กบ้านเฮาก่อ”

“บ่ เป๋นหยังครับแม่ สบายมาก เพราะกู่คนก่อนิสัยดีๆ กั๋นตังนั้นเลย แหมอย่าง จะใดนนท์ก่อต้องปะหมู่เขาในห้องเฮียนอยู่แล้ว จะอี้ก่ออาจจะดีกว่าก่อได้”

แม่ผมหัวเราะเบาๆ “แล้วทีต๋อนแรกอู้ตรงข้ามจากนี้คนละเรื่องเลยเน้อ สงสัยจะติ๋ดใจ๋เปื้อนใหม่เหียละก๊า”

“โห แม่ก่อ” ผมรู้สึกเขินเล็กน้อยที่แม่พูดจี้ใจดำขึ้นมา

“เอาล่ะๆ ก่อดีแล้วล่ะ คืนนี้ก่อขะใจ๋นอนแล้วกั๋นเน้อ จะไปมัวก๊านอนคุยกับเปื้อนใหม่เพลินเน้อ วันพูกจะได้ตื่นไปโรงเรียนไหว เดียวจะปรับตั๋วบ่ตันเอา”

“ครับแม่” ผมคุยกับแม่อีกสักพักหนึ่งจากนั้นก็เปลี่ยนมาเป็นพลอย ผมคุยกับเธอออีกราวๆสิบนาที แล้วสุดท้ายผมก็บอกราตรีสวัสดิ์กับทั้งคู่ก่อนจะวางสายลง จากนั้นก็เดินกลับเข้าไปในห้องซึ่งนัทกับยุที่แต่งตัวใหม่เป็นชุดนอนกำลังนั่งคุยกันอยู่บนเตียงอยู่แล้ว

“อ้าว เสร็จแล้วเหรอ” ผมถาม

ทั้งสองคนมองหน้ากันแล้วก็หันมายิ้มให้ผม

“นนท์นั่นแหละ คุยกับแฟนเสร็จแล้วเหรอ” วายุเป็นคนถามผมกลับ

“เฮ้ย คุยกับแม่ แฟนบ้าอะไรเล่า” ผมเดินไปนั่งลงบนปลายเตียงเดียวกับที่ทั้งสองคนนั่งอยู่

“แต่เมื่อกี๊เราสองคนได้ยินอะไรแว่วๆว่า พลอยๆ อะไรนะ ใช่มะ ไอ้นัท”

“นั่นนะสิ” นัทพยักหน้าแล้วหันมายิ้มให้ผม “แล้วตอนแรกบอกไม่มีแฟนๆ”

“เฮ้ย นั่นก็เพื่อนข้างบ้าน เค้ามาอยู่เป็นเพื่อนแม่เฉยๆน่ะ แต่เดี๋ยวก่อน...... นี่ได้ยินที่เราออกไปคุยเมื่อกี๊ด้วยเหรอ”

“ได้ดิ่ ก็ไอ้ยุมันกะเผลกไปแอบฟังนนท์มาแป๊บนึง”

“เฮ้ย ไอ้สัตว์นัท!” ยุหยิบหมอนข้างตัวมาปาใส่นัท

“เอ๊า ก็เรื่องจริงนี่หว่า”

“พอเลยๆ พอทั้งคู่เลย ว่าแต่.......” ผมมองไปที่นัทกับยุสลับกัน “แล้วนี่เมื่อกี๊อาบน้ำแต่งตัวกันยังไงเนี่ย”

“อาบน้ำก็แก้ผ้าอาบดิ่ ถามได้” วายุหัวเราะอย่างรู้ทันความคิดผม “เราก็แค่ให้ไอ้นัทมันช่วยประคองช่วยระวังให้แค่นั้นเอง ไม่ได้ให้มันถึงขนาดต้องมาถูหลังฟอกสบู่ให้อะไรแบบนั้นหรอก ไม่ต้องคิดไปไกล”

“เฮ้ย ไอ้ยุ กูต้องไปเดินตรวจแล้วว่ะ ได้เวลาไปรายงานตัวแล้ว” นัทคว้านาฬิกาข้อมือขึ้นมาดูก่อนจะยืนขึ้น “นนท์คุยกับไอ้ยุไปก่อนก็แล้วกันนะ เดี๋ยวนัทกลับมา”

หลังจากนัทเดินออกจากห้องไป ผมกับวายุก็เริ่มทำความรู้จักกันจริงๆจังๆอีกครั้ง เขาเป็นคนที่อารมณ์ดีและยิ้มเก่งมาก เขามีบางสิ่งที่คล้ายกับนัทอยู่หลายอย่าง อย่างเช่นบรรยากาศของความเป็นมิตรและความที่ดูเป็นคนสบายๆ ที่ทำให้ผมรู้สึกสบายใจที่ได้อยู่ด้วยอย่างรวดเร็ว นอกจากนั้นผมยังรู้จากเขาอีกด้วยว่าเขาเองก็ชอบบาสเก็ตบอลเหมือนกัน แถมยังชอบทีมบาสทีมเดียวกับผมอีกด้วย ยิ่งเราได้พูดคุยกันมากขึ้นเท่าไหร่ ก็ยิ่งดูเหมือนกับว่าเรามีอะไรหลายๆอย่างคล้ายกันมากขึ้นเท่านั้น แต่เพียงสิ่งหนึ่งที่ดูว่าผมกับเขาออกจะแตกต่างกันมากที่สุดก็คือเรื่องของความขี้อายและความเก็บตัวนี่แหละ เพราะดูๆแล้วดูเหมือนว่าวายุจะแทบไม่มีนิสัยแบบนั้นอยู่ในตัวเลยแม้แต่น้อย หรืออย่างน้อยก็อาจจะพูดได้ว่าผมเองนั่นแหละที่ไม่ได้มีนิสัยอย่างเขาเลยจริงๆ เพราะอย่างในตอนนี้ผมเองก็ยังไม่กล้าและไม่แม้แต่คิดที่จะเล่าเรื่องของครอบครัวของผมให้ใครฟังได้อย่างที่เขาทำเลย

เราสองคนนั่งคุยกันไปเรื่อยๆจนกระทั่งโทรศัพท์มือถือของเขาดังขึ้น ผมจับใจความได้ว่านั่นก็คงเป็นคนหนึ่งในครอบครัวของเขานั่นเอง ผมจึงลุกขึ้นแล้วเดินออกไปยืนรอที่หน้าระเบียงจนกว่าเขาจะคุยเสร็จ จนกระทั่งเขาวางสายแล้ว เขาก็เดินออกมาตามผมให้กลับเข้าไปในห้องอีกครั้ง

“ขอโทษทีนะนนท์ เราเป็นคนคุยโทรศัพท์แต่กลับต้องให้นายออกมายืนรอนอกห้องซะงั้นอ่ะ” วายุพูดขณะที่กำลังเดินนำผมกลับเข้ามาในห้อง และเมื่อเดินมาถึงเตียงเค้าก็ล้มตังลงนอนทันที

“เฮ้ย ไม่เป็นไร ก็นายขาเจ็บนี่หว่า” ผมพูด จากนั้นก็นั่งลงบนเตียงอีกครั้ง “ว่าแต่แล้วอีกนานมั๊ยล่ะ ที่กว่านัทจะกลับมาน่ะ”

“ก็คงอีกราวๆไม่ถึงครึ่งชั่วโมงหรอกมั๊ง ไม่รู้สิ นี่มันไปมากี่นาทีแล้วล่ะ........” วายุหยิบมือถือตัวเองขึ้นมาดูเวลา “อืมมม อีกราวๆสิบนาทีก็คงจะกลับมาได้แล้วล่ะมั๊ง”

“อืมมๆ” ผมพยักหน้า

วายุมองหน้าผมแล้วยิ้ม “แล้วเป็นไงมั่งล่ะ”

“เรื่องอะไรอ่ะ”

“ก็เรื่องเพื่อนๆเราไง เมื่อกี๊ตอนอาบน้ำไอ้นัทมันเล่าให้ฟังแล้วล่ะว่านายไปเจอกับทุกคนมาหมดแล้วนี่ แล้วทุกคนดูท่าจะชอบนายกันหมดด้วย ว่าแต่นนท์เองนั่นแหละ คิดว่าพวกมันเป็นไงกันมั่ง”

“ก็ดีนะ นิสัยดีกันทุกคนเลย อย่างป๊อปนี่ก็ออกจะบ้าๆบอๆหน่อย ส่วนเจย์ก็.........”

“เป็นเกย์” วายุพูดต่อ

ผมหัวเราะ “เราตั้งใจจะพูดว่า ‘เปิดเผยดี’ มากกว่านะ แต่ไอ้ที่ว่าไปก็ถูก นอกนั้นทั้งตี๋เล็กกับเคนก็นิสัยดีอ่ะ คุยเก่งแล้วก็อารมณ์ดีเป็นกันเองโคตรๆทุกคนเลย”

วายุยิ้มให้ผมพร้อมด้วยแววตาที่เป็นประกาย “แล้วไอ้นัทล่ะ”

“อึ๊..... หมายความว่าไง”

“เปล่า ก็เราเห็นที่นายกับไอ้นัทเรียกชื่อแทนตัวเองกันว่านัทอย่างนั้นนนท์อย่างนี้แล้วก็เลยต้องถามขึ้นมาน่ะสิ ไอ้นัทอ่ะ มันไม่ค่อยจะเรียกใครแบบนั้นหรอกนะรู้ป่าว”

ผมหน้าแดง “ก็นัทเค้าบอกว่าเค้ายังไม่อยากเรียกมึงกูเหมือนที่คนอื่นๆเรียกน่ะ”

วายุพยักหน้า “แต่นนท์ก็น่ารักจริงๆนะ เสียดายที่ไม่รู้ว่าไอ้นัทมันเป็นเกย์รึเปล่านี่สิ ไม่งั้นจะยุให้จีบแล้วนะเนี่ย” เขาชันตัวขึ้นนั่งแล้วดึงผ้าห่มขึ้นมาคลุมตัวเอาไว้ “เสียดายที่นนท์เองก็มีแฟนไปซะและ”

“แล้ววายุล่ะมีแฟนรึยัง” ผมพยายามเบี่ยงเบนประเด็นให้ออกจากตัวเอง

“ม่ายอ่ะ ยังไม่สนใจเลย อยากอยู่กับเพื่อนๆแล้วก็ครอบครัวมากกว่า” เขาส่ายหน้า และตอนนั้นเองที่ประตูห้องของเราก็ถูกเปิดออก “ไอ้นัทเหรอ” วายุถามผม

“อืมม” ผมตอบหลังจากชะโงกไปมองหน้าประตูแล้ว

“ทำไรกันอยู่สองคน”

“คุยเล่นว่ะ ว่าแต่มึงเสร็จไวเหมือนกันนะวันนี้”

“อืม วันนี้มันเรียบร้อยกันดีน่ะ ไม่มีปัญหาอะไร” นัทเดินมาหยุดอยู่ที่เตียงของผมแล้วก็อ้าปากหาววอดพลางบิดขี้เกียจ “นนท์ นัทง่วงแล้วอ่ะ นนท์ง่วงยัง”

“ก็นิดนึงนะ ว่าแต่วายุจะนอนเลยมั๊ยล่ะ”

“อืม นอนเลยก็ได้ เดี๋ยวกูขอกินยาแก้ปวดก่อนแล้วก็จะนอนเลย”

“งั้นเราไปแปรงฟันก่อนแล้วกัน” ผมพูดพร้อมลุกขึ้นจากเตียงตรงไปยังห้องน้ำ

หลังจากผมแปรงฟันเสร็จแล้ว ทั้งนัทและวายุต่างก็นอนห่มผ้าอยู่บนเตียงของตัวเองเรียบร้อยกันหมดแล้ว ผมจึงเดินไปยังสวิตช์ไฟแล้วถามว่าจะให้ปิดไฟเลยรึเปล่า

“อืม ปิดได้เลย” นัทตอบกลับมา

แต่เมื่อผมกดปิดสวิตช์ไฟลงแล้วทั่วทั้งห้องก็ปกคลุมไปด้วยความมืดสนิทในทันที ผมพยายามเดินอย่างระมัดระวังไปยังเตียงของตัวเอง แต่ด้วยความที่ไม่คุ้นเคยและคุ้นที่ จึงทำให้ผมเตะเข้าที่ขอบเตียงเข้าอย่างจังและล้มตัวลงไปทับนัทที่กำลังนอนอยู่บนเตียงเข้าเต็มที่เลยอีกด้วย

“โอ๊ยย” ผมร้องออกมา

“เฮ้ย นนท์ เจ็บป่าว” นัทถาม

“ไม่เป็นไรๆ ไม่ได้แรงอะไรเท่าไหร่หรอก แต่แค่เจ็บแผลเดิมนิดหน่อยน่ะ” แผลที่ผมโดนเหยียบเท้าเมื่อตอนเย็นแสบจี๊ดขึ้นมาในทันที “แล้วนัทอ่ะ เจ็บป่าว นนท์ขอโทษที” ผมพยายามดันตัวขึ้น แต่ทว่า.......

“ไม่เป็นไร มานี่ มาตรงนี้” นัทดึงตัวผมให้ไปล้มตัวลงข้างๆเค้า “มานอนตรงนี้ นัทเบียดไปป่าว ถ้าเบียดไปก็บอกด้วยนะ”

“ไม่เป็นไร นัทเองก็นอนให้สบายเหอะ” ผมพยายามจัดที่ของตัวเองให้พอดีและไม่ไปเบียดนัทเข้า

“อ่ะแฮ่มม” วายุกระแอมขึ้นจากเตียงข้างๆ “มึงสองคนจะนอนกันได้รึยังครับ จะสวีทกันอีกนานมั๊ย”

“หุบปากเลยไอ้ยุ พูดจาอะไรเหี้ยๆ สาดด” นัทพูดขึ้น

คำพูดที่วายุพูดกับผมเมื่อตอนก่อนนัทจะกลับเข้าห้องมาเมื่อกี๊ดังก้องขึ้นในหัวของผมอีกครั้ง นี่นัทเขาจะคิดอะไรกับผมจริงๆรึเปล่านะ ไม่น่า คงเป็นไปไม่ได้หรอก เพราะว่านี่เราก็เพิ่งจะเจอกันได้แค่วันเดียวเท่านั้นเองนะ และเมื่อผมหันไปมองหน้าของนัท ถึงแม้ว่ามันจะมืด แต่ผมก็ต้องรู้สึกใจสั่นขึ้นมาในทันทีเมื่อเห็นว่าเขาเองก็กำลังนอนมองผมอยู่เหมือนกัน

“งั้นก็ฝันดีนะ นนท์” เขาพูดอย่างแผ่วเบาเพื่อให้ผมได้ยินเพียงคนเดียว

ดูท่าทางว่าชีวิตหลังรั้วโรงเรียนชายของผมครั้งนี้คงจะต้องมีเรื่องวุ่นวายอื่นๆนอกจากเรื่องเรียนเพิ่มเข้ามาด้วยแล้วแน่ๆล่ะสิทีนี้........

...........................................................


* ซับนรก :: ปะเมื่อตอน = เจอเมื่อตอนกลางวัน,  แหม = อีก,  ไขอยาก = อยาก (แล้วจะไขทำไมวะ),  กู่คน = ทุกคน, ขะใจ๋ = รีบ

ขอบคุณอีกครั้งสำหรับพี่กะป๋อมที่ช่วยแปลภาษากลางเป็นภาษาเหนือ และขอบคุณไอ้ทึ่มแสนดีที่ช่วยแปลภาษาเหนือให้กลับมาเป็นภาษากลางอีกครั้ง 55555

ออฟไลน์ [N]€ẃÿ{k}uñĢ

  • ~ῲเจ้าแม่Dramaῴ~
  • เป็ดแสนดี
  • เป็ดArtemis
  • *
  • กระทู้: 5186
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +740/-5
+1 ให้เลยอ่านแล้วชอบป๊าจังเลยอะ
แต่ที่แน่ๆตอนนี้ นนท์น่าร๊ากกกกก
ไม่รู้ว่าคืนนี้จะเป็นไงมาเล่าต่อด้วยละ อิๆ

CoMMuNiTY Of ThAiBoYsLoVE

ประกาศที่สำคัญ


ตั้งบอร์ดเรื่องสั้น ขึ้นมาใครจะโพสเรื่องสั้นให้มาโพสที่บอร์ดนี้ ถ้าเรื่องไหนไม่จบนานเกิน 3 เดือน จะทำการลบทิ้งทันที
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=2160.msg2894432#msg2894432



รวบรวมปรับปรุงกฏของเล้าและการลงนิยาย กรุณาเข้ามาอ่านก่อนลงนิยายนะครับ
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=459.0



สิ่งที่ "นักเขียน" ควรตรวจสอบเมื่อรวมเล่มกับสำนักพิมพ์
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=37631.0






ออฟไลน์ THIP

  • Global Moderator
  • เป็ดApollo
  • *
  • กระทู้: 7674
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +986/-10
^
^

แปลกันหลายทอดดีเนอะ  ทำไมไม่แบบวันสต็อปเซอร์วิสล่ะ ใช่บริการน้องทึ่มคนเดียวซะก็แล้ว


 :m20: :m20:

ออฟไลน์ ExecutioneR

  • จุ๊บ จู๊บบบบบ ~~ ♥
  • เป็ดนักเขียน
  • เป็ดAphrodite
  • *
  • กระทู้: 4243
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +1722/-40
    • FB Page
^
^

แปลกันหลายทอดดีเนอะ  ทำไมไม่แบบวันสต็อปเซอร์วิสล่ะ ใช่บริการน้องทึ่มคนเดียวซะก็แล้ว


 :m20: :m20:

ไอ้ทึ่มมันไม่เหนือเจียงใหม่อ่ะคับ เลยไม่ใช้บริการ อิอิ

แถม....... ไม่งั้นกว่าจะแปลนิยายจบคงตบกันตายก่อนเพราะทะเลาะกัน 5555


mantdash

  • บุคคลทั่วไป
มีซับด้วยแหะ แต่น่าจะมีวงเ้ล็บเลยเนอะ เหอๆ

ดูๆแล้วยุนี่เป็นคู่แข่งจริงๆด้วยแหะ ชัวร์ หุหุ  :z1:

+1ให้ครับ รักเด็กๆคร้าบ คนเขียนด้วยนะ o18

ออฟไลน์ l3iZal2l2e

  • เป็ดแสนดี
  • เป็ดHephaestus
  • *
  • กระทู้: 1549
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +103/-0
น้องนนท์ก่อบอกแม่เปิ้นไปเตอะ
ว่า แม่ท่าจะได้ลูกเขยล้ะ
ลูกเขยแม่ ก่อหล่อตวย ... บ่ะต้องเป๋นห่วงอะหยัง
(แล้วใครมันเป็นพระเอกว่ะ - -")
 :laugh:

จะเอา b-side อ้ะ
 :serius2:

speedboy

  • บุคคลทั่วไป

pae_tekung

  • บุคคลทั่วไป

blackberry2214

  • บุคคลทั่วไป

น้ำค้าง

  • บุคคลทั่วไป
หนุ่มน้อยน่ารักทั้งนั้น   :-[

คิดถึงเมฆจังนะ โผล่มานิดนึงก็ยังดี :กอด1:

ออฟไลน์ gargoyle

  • เป็ดนักเขียน
  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 307
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +668/-3
    • 8yearsago.g fanpage
ตั้งสมาคมบริโภค 'ไส้อั่ว' กันดีไหมคะ

อ๋า.... กระชุ่มกระชวย มีความสุข อุดมด้วยหนุ่มๆ

Koa-ka

  • บุคคลทั่วไป
สวัสดีครับ

ตอนเป็นคำเมือง เพื่อให้ผู้อ่านที่ไม่คุ้นได้เข้าใจ น่าจะวงเล็บเป็นภาษากลางสักหน่อยก็ดีครับ
รอตอนตื่นมา นนท์กะนัน นอนกอดกันอุ่นๆ :z1:
คิคิ

ยินดีจ๊าดนักครับ แล้วจะติ๊ดตามเน้อครับ

CoMMuNiTY Of ThAiBoYsLoVE






pae_tekung

  • บุคคลทั่วไป
ว๊ากกกกกก มีเมฆ ด้วย

อยากเจอซันด้วยอ่ะ

คนแต่งใจร้าย มาทั้งทีทำไมไม่มาเป็นแพ็คคู่ล่ะ............



รอตอนต่อปาย


ปล. ชอบหนุ่มลึกลับ ที่ทำแผลให้นนท์อ่ะ ท่าทางจะกวนมิใช่น้อย

andyus1

  • บุคคลทั่วไป
เหนด้วยกะรีบนทุกๆ อย่าง

โดยไม่มีข้อโต้แย้งใดๆ ทั้งสิ้น

ว่ะ ห้าๆๆๆๆ  :laugh:

yaoifan

  • บุคคลทั่วไป
ว๊ากกกกกก มีเมฆ ด้วย

อยากเจอซันด้วยอ่ะ

คนแต่งใจร้าย มาทั้งทีทำไมไม่มาเป็นแพ็คคู่ล่ะ............



รอตอนต่อปาย


ปล. ชอบหนุ่มลึกลับ ที่ทำแผลให้นนท์อ่ะ ท่าทางจะกวนมิใช่น้อย

ใช่แล้ว ทำไมมาเดี่ยวล่ะ ไม่ยอมนะ :z3:

ท้องฟ้า ต้องอยู่คู่ก้อนเมฆดิคร้าบบบบ

 :z13: :z13:


ออฟไลน์ TONG

  • เป็ดนักขาย
  • เป็ดAres
  • *
  • กระทู้: 2535
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +191/-4
แรงจังวันแรกก็นอนเตียงเดียวกันเลย

ท่าทางนนท์จะเสร็จนัทแน่ๆ

รอดูตอนเช้าค่ะ

ETOM

  • บุคคลทั่วไป

ออฟไลน์ nopkar

  • เป็ด indy
  • เป็ดHermes
  • *
  • กระทู้: 2159
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +163/-3
เนื่องจากเป็นคนรักเด็กก็เลยเข้ามาอ่านเรื่องนี้ด้วย  :-[


แต่ว่าเรื่องภาษาเหนือเนี่ย ก็ซับตอนท้ายสุดผมว่าก็ดีแล้วนะ เพราะถ้าจะให้แปลประโยคต่อประโยคก็คง งงงวย พอดู


รักเด็ก :-[

ออฟไลน์ ExecutioneR

  • จุ๊บ จู๊บบบบบ ~~ ♥
  • เป็ดนักเขียน
  • เป็ดAphrodite
  • *
  • กระทู้: 4243
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +1722/-40
    • FB Page
โทดทีครับ งานเยอะมากกกก

แต่แอบน้อยใจนะเนี่ย ไม่มีตคนดัน กลับมาอีกทีหากระทู้ตัวเองไม่เจอแล้ว 55555



ออฟไลน์ ExecutioneR

  • จุ๊บ จู๊บบบบบ ~~ ♥
  • เป็ดนักเขียน
  • เป็ดAphrodite
  • *
  • กระทู้: 4243
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +1722/-40
    • FB Page
A 7


เสียงของนาฬิกาปลุกที่ผมไม่คุ้นหูดังขึ้นที่บริเวณหัวเตียง ผมพลิกตัวหันไปยังหัวเตียงเพื่อจะคว้ามันมากดปิดเสียงลง แต่แล้วผมก็รู้สึกถึงบางอย่างที่ผิดแปลกไป บางอย่างที่ผมไม่คุ้นเคย........

“อืมมม...... หืออ” ผมต้องชะงักลง เพราะเมื่อผมพลิกตัวและเหยียดแขนออกไปนั้น มือของผมก็ไปสัมผัสเข้ากับบางสิ่งบางอย่าง...... หรือใครบางคนเข้า

“ฮึบบบบ” คนข้างๆผมเหยียดแขนขึ้นแล้วบิดขี้เกียจเบาๆก่อนที่จะเป็นฝ่ายเอื้อมมือไปปิดเสียงนาฬิกาปลุกลง “ตื่นแล้วเหรอนนท์ หลับสบายป่าว”

“อะ อื้ออ” ผมตอบนัทกลับไปพร้อมกับบิดขี้เกียจ พลางนึกสงสัยว่าทำไมเขาถึงมานอนอยู่บนเตียงของผมได้ ผมลุกขึ้นนั่งขยี้หัวตัวเอง พยายามนึกๆและค่อยๆเรียบเรียงความคิดในสมองของตัวเองซะใหม่พลางมองหน้าของนัทไปด้วย จนกระทั่งเขาลุกออกจากเตียงไปนั่นล่ะผมถึงได้คำตอบ

“อื๊อออ กี่โมงแล้ววะ” คนบนเตียงของนัทบิดขี้เกียจพลางดันตัวเองให้ลุกขึ้นนั่ง

“หกโมงตรง อีกเดี๋ยวออดปลุกก็จะดังแล้ว มึงไปใช้ห้องน้ำก่อนก็ได้ ไอ้ยุ”

ใช่แล้ว เมื่อคืนวายุ เพื่อนของนัทและเพื่อนใหม่ของผมต้องมานอนกับเราสองคนเพราะว่าเท้าเขาเจ็บนี่นา

“มึงสองคนไปทำอะไรให้เสร็จกันก่อนเหอะ กูเจ็บตีน เดี๋ยวกูรอทีหลังก็ได้........ แม่งง แล้วทำไมเช้าๆนี้แม่งต้องโคตรปวดแบบนี้เลยด้วยวะ” วายุพูดด้วยสีหน้าที่แสดงความเจ็บปวดออกมาพลางใช้มือลูบที่ข้อเท้าของตัวเองเบาๆ

“เออว่ะ กูก็ลืมไปว่ามึงกำลังเจ็บตีนอยู่” นัทเกาหัวเบาๆจากนั้นก็หันมาหาผม “งั้นนนท์ไปอาบน้ำก่อนเลยแล้วกัน เพราะเดี๋ยวนัทคงต้องช่วยไอ้ยุมันเข้าห้องน้ำอีกน่ะ”

ผมพยักหน้าแล้วค่อยๆลุกออกจากเตียง ปกติแล้วผมก็ไม่ใช่พวกชอบตอนเช้าเท่าไหร่อยู่แล้ว เพราะหลังจากที่ผมตื่นนอนตอนเช้าทีไร ผมจะรู้สึกว่าหัวสมองของผมมันจะทำงานช้ากว่าปกติไปสี่สิบเปอร์เซ็นต์เลยทีเดียว ผมค่อยๆลากตัวเองไปหยิบผ้าเช็ดตัวแล้วเดินเข้าห้องน้ำไปอย่างมึนๆ และใช้เวลาประมาณสิบห้านาทีในการอาบน้ำจนเสร็จเรียบร้อยแล้วก็พันผ้าเช็ดตัวออกมาข้างนอก เมื่อรู้สึกสดชื่นขึ้นบ้างแล้วและได้เห็นหน้านัทกับวายุอีกครั้ง ผมถึงเพิ่งนึกขึ้นได้จริงๆจังๆว่าตอนนี้ผมอยู่ที่ไหน วันนี้วันอะไร และอีกเดี๋ยวผมกำลังจะต้องทำอะไรต่อไป

“เป็นไง นนท์ พร้อมใส่ชุดนักเรียนใหม่รึยัง” วายุที่เดินกะเผลกๆตรงมายังหน้าห้องน้ำยิ้มให้ผม

จริงด้วย วันนี้เป็นวันแรกของการเริ่มต้นชีวิตใหม่ที่โรงเรียนใหม่ของผมแล้วนี่นา

“มึงรีบเข้าห้องน้ำไปเหอะ ไอ้ยุ กูจะได้อาบด้วย เดี๋ยวกูไปประชุมไม่ทัน” นัทเร่ง และประโยคนั้นของเขาก็ทำให้ผมตื่นเต็มตาขึ้นมาในทันที

“อาบพร้อมกันก็ได้ แต่มึงอย่าแอบจับจู๋จับตูดกูนะ ไอ้นัท ไม่งั้นกูกรี๊ดจริงๆด้วย” วายุหัวเราะก่อนจะเดินนำหน้านัทเข้าห้องน้ำไป

“ครวยยย” นัทหันไปชูนิ้วกลางใส่วายุพลางเดิมตามหลังเขาไปติดๆ “มึงนั่นแหละ อย่ามือซนเหมือนคราวก่อนก็แล้วกัน”จากนั้นทั้งสองคนก็หัวเราะออกมาแล้วก็ปิดประตูห้องน้ำลง

ผมรีบเช็ดตัวให้แห้ง และเดินไปหยิบชุดนักเรียนใหม่ของผมออกมาจากตู้เสื้อผ้า ผมหยุดยืนอยู่ที่หน้ากระจกแล้วส่องดูตัวเองกับชุดที่ถืออยู่ข้างๆครู่หนึ่ง ชุดนักเรียนของโรงเรียนแห่งนี้ก็เหมือนๆกันกับชุดนักเรียนเก่าของผม แต่จะต่างกันก็แค่ว่ากางเกงของที่นี่จะเป็นกางเกงสีน้ำเงินแทนที่จะเป็นสีดำ และที่เสื้อนักเรียนก็จะมีรหัสประจำตัวนักเรียนสีแดงปักเอาไว้ข้างใต้อักษรย่อของโรงเรียนด้วย

เมื่อสวมเสื้อผ้าชุดใหม่เสร็จแล้ว ผมก็ยืนมองดูตัวเองที่ดูแปลกตาไปเล็กน้อยในกระจกอยู่ครู่หนึ่งจนกระทั่งประตูห้องน้ำถูกเปิดออกมา

“อ้าว นนท์ วันนี้ใส่แขนยาวนะ” วายุพูดขึ้นเมื่อเห็นผมที่กำลังยืนอยู่หน้ากระจก จากนั้นเขาก็หันไปหานัท “มึงไม่ได้บอกเค้าเหรอวะ ไอ้นัท”

“เออ กูลืมไปว่ะ ขอโทษทีนนท์ นัทลืมบอกไปว่า ทุกๆวันจันทร์พวกเราจะต้องใส่เสื้อแขนยาวกางเกงขายาวนี่......” นัทพูดพร้อมกับเดินไปหยิบเสื้อแขนยาวสีขาวที่ตรงแขนเสื้อจากหัวไหล่ลงมามีแถบสีฟ้าอ่อนออกมาจากตู้เสื้อผ้าของผมแล้ววางมันพาดลงบนเตียง จากนั้นเขาก็หยิบเสื้อกั๊กสีน้ำตาลลายสก็อตที่เคยแขวนอยู่ข้างๆออกมาด้วย “อ่ะนี่ ใส่ไอ้นี่ทับด้วยอีกตัวถึงจะครบเซ็ท........ จริงสิ ว่าแต่ว่านนท์ผูกไทได้รึเปล่า”

ผมหน้าแดงแล้วห่ายหัวเบาๆ นี่ยังต้องมีเน็คไทอีกเหรอเนี่ย เพราะแค่นี้ผมก็คิดว่ามันก็ดูเว่อร์มากพอแล้วหรอกนะ

“ไม่เป็นไร เดี๋ยวไว้ทีหลังนัทจะสอนให้เอง แต่วันนี้เดี๋ยวนัทผูกให้ไปก่อนก็แล้วกัน ขอเวลานัทกะไอ้ยุแต่งตัวแป๊บนะ”

เราสามคนต่างคนต่างสวมเสื้อผ้าของตัวเองกันอย่างรวดเร็ว จะเว้นก็แต่วายุที่ดูจะงุ่มง่ามกว่าคนอื่นหน่อย และหลังจากที่เราสามคนต่างก็เสร็จเรียบร้อยแล้ว นัทก็หันมาหาผมพร้อมกับเนกไทสีน้ำเงินเข้มในมือ และมันก็ทำให้ผมต้องเผลอมองเขาด้วยสายตาทึ่งๆไปครู่นึงเลยทีเดียว เพราะว่าเขาดูดีเมื่ออยู่ในชุด “คุณหนู” นี่มากจริงๆ

“นี่เนกไทของมอต้นมันจะเป็นสีน้ำเงินเข้มแบบนี้แหละ ถ้าของเด็กมอหนึ่งก็จะมีขีดสีขาวหนึ่งขีด มอสองสองขีด ส่วนมอสามของเราก็จะเป็นขีดสามขีดตรงปลายนี่แหละ เห็นป่ะ” นัทอธิบาย และเมื่อเขาพูดจบก็มีเสียงกริ่งเสียงดังบาดหูดังขึ้นยาวราวๆห้าวินาที และเมื่อเสียงกริ่งนั้นดับลง นัทก็หันกลับมายิ้มให้ผมเหมือนเดิม “......และนั่นก็เป็นเสียงกริ่งปลุกให้นักเรียนตื่นตอนหกโมงครึ่งน่ะ”

“ดังสะใจดีมั๊ย เดี๋ยวอีกสิบห้านาทีก็ดังอีก และหลังจากนั้นก็ถึงคราวอาจารย์เวรเดินไล่เด็กแล้ว” วายุพูดเสริม

“อืม ช่ายย อ่ะนี่ กลับมาที่เนกไทของเราต่อ” นัทยิ้มให้ผม “แต่ถ้านนท์เห็นใครที่ใส่ชุดแบบเดียวกับเราแต่เป็นเนกไทสีดำก็รู้ไว้เลยนะว่านั่นน่ะคือนักเรียนมอปลาย”

“แล้วทำไมวันจันทร์ถึงจะต้องใส่ชุดนี้ด้วยล่ะ” ผมถาม

“เพราะว่าวันนี้ทุกระดับชั้นจะมีชั่วโมงประชุมน่ะ ของมอสามจะเป็นคาบแรก มอสองคาบสอง ส่วนมอหนึ่งคาบสาม ไล่ไปตามลำดับ” นัทอธิบายไปพลางผูกเนกไทให้ผมไปพลาง “อ่ะ เสร็จแล้ว ลองใส่ดูดิ๊ พอดีรึเปล่า”

“เฮ้ย ไอ้นัท มึงไม่รีบไปประชุมกรรมการนักเรียนก่อนรึไง เดี๋ยวก็ไม่ทันหรอก”

“เออว่ะ จริงด้วย” นัทก้มมองดูนาฬิกาข้อมือ “งั้นกูฝากมึงดูแลนนท์ด้วยแล้วกันนะไอ้ยุ กูต้องไปแล้ว”

“เออๆ มึงรีบไปเหอะ”

“งั้นเดี๋ยวเจอกันทีหลังเว้ย” นัทเดินไปคว้ากระเป๋านักเรียนของตัวเองขึ้นมาจากพื้นแล้วก็เดินมาหาผม “แล้วเดี๋ยวเจอกันนะนนท์”

ผมพยักหน้าตอบจังหวะเดียวกับที่นัทรีบเดินผ่านตัวผมตรงไปยังประตูห้องพอดี

“นัทไปไหนอ่ะ” ผมหันไปถามวายุ

“อ๋อ...... ไปทำหน้าที่กรรมการนักเรียนน่ะ” เขาหันมายิ้มให้ผม “ว่าแต่พร้อมมั๊ย ตื่นเต้นหรือกังวลอะไรรึเปล่า”

ผมส่ายหน้า “แต่ก็นะ....... คือ........ ไม่รู้ดิ่ ก็นิดนึงอ่ะนะ คือแบบเรารู้สึกไม่ค่อยชอบบรรยากาศแบบนี้เท่าไหร่อยู่แล้วน่ะ ไม่ค่อบชอบอะไรใหม่ๆสังคมใหม่ๆสถานที่ใหม่ๆแบบนี้เท่าไหร่อ่ะ มันรู้สึกเหมือนกับเราทำอะไรไม่ถูก ไม่รู้จักใครอะไรแบบนี้เลย แล้วก็ดูเป็นคนแปลกหน้าสำหรับคนอื่นด้วย”

“จะบ้าเหรอ” วายุหัวเราะ จากนั้นก็เดินเข้ามาจัดเนกไทของผมให้เรียบร้อย “นายก็รู้จักเพื่อนๆเราตั้งหลายคนแล้วไม่ใช่เหรอ ทั้งพวกไอ้เจย์ ไอ้ป๊อป เรา แล้วที่สำคัญก็ยังมีไอ้นัทอีกด้วย”

ผมพยักหน้า “แต่ถึงไงก็ตามนะ.......” ผมพูดอย่างกระอักกระอ่วนนิดหน่อย จากนั้นก็ก้มลงมองดูชุดของตัวเอง “ตลกรึเปล่าวะ”

วายุยิ้มแล้วส่ายหน้าเบาๆ “ไม่เลย ดูดีมากด้วยซ้ำ แรกๆมันก็คงไม่ชินแบบนี้แหละ แต่อีกหน่อยเดี๋ยวก็ชิน”

ผมพยักหน้ารับอีกครั้ง แต่แล้วก็นึกถึงเรื่องสำคัญเรื่องหนึ่งขึ้นมาได้ “เออจริงด้วย วายุ เรายังไม่มีหนังสือเรียนเลยนี่หว่า”

“อืมมม แล้วทำไงล่ะ ก่อนหน้านี้ตอนที่มาสมัครเรียนเค้าพูดอะไรไว้บ้างรึเปล่า”

ผมค่อยๆนึกย้อนกลับไป “อืมม อ๋ออ จำได้แล้ว เห็นอาจารย์เค้าบอกว่าจะมีคนเอามาให้ทีหลังน่ะนะ แต่นี่อีกไม่กี่ชั่วโมงมันก็จะเข้าเรียนแล้วนะ”

“ใจเย็นๆน่า ไม่ต้องตื่นเต้นไป ยังไงชั่วโมงแรกมันก็คาบประชุมอยู่แล้ว นนท์อาจจะได้หนังสือตอนนั้นก็ได้ หรือต่อให้ไม่ได้ นายก็นั่งดูหนังสือกับพวกเราคนนึงก่อนก็ได้นี่นา”

ผมพยักหน้ารับ “อืมม ก็คงงั้นแหละนะ”

“เอาล่ะ งั้นเราไปกันเหอะ ไปหาอะไรกินที่โรงอาหารกัน” วายุยิ้มแล้วก้มลงหยิบกระเป๋าของตัวเองขึ้นมา ส่วนผมเองก็หยิบกระเป๋าเปล่าๆของตัวเองขึ้นมาจากโต๊ะเขียนหนังสือด้วยเช่นกัน

ระหว่างทางที่เราลงจากตึกเราสองคนก็เจอกับเพื่อนของวายุมากมายหลายคน บางคนในนั้นก็เป็นเพื่อนห้องเดียวกับเราด้วย ผมจึงตกเป็นเป้าสนใจมากเป็นพิเศษในฐานะที่เป็นเด็กใหม่ที่เพิ่งย้ายเข้ามา จนกระทั่งเราเดินไปถึงโรงอาหารที่ยังไม่ค่อยมีคนมากนัก วายุก็เป็นคนแรกที่สังเกตเห็นเจย์กับเคนนั่งอยู่ตรงมุมหนึ่งของโต๊ะ เราสองคนจึงเดินเข้าไปนั่งกับพวกเขาทันที และอีกไม่กี่นาทีถัดมา ป๊อปกับตี๋เล็กก็เดินเข้ามานั่งร่วมกับพวกเรา ส่วนคนสุดท้ายที่มาถึงก็คือนัทนั่นเอง

เราเจ็ดคนเดินไปซื้อข้าวมานั่งกินและพูดคุยกัน ผมรู้สึกโชคดีและอุ่นใจมากทีเดียวที่ได้รู้จักคนพวกนี้ก่อนแล้วตั้งแต่เมื่อวาน เพราะการที่มีพวกเขาทุกคนอยู่ใกล้ๆแบบนี้ก็ช่วยทำให้ผมรู้สึกสบายใจกับการแปลกที่แปลกถิ่นขึ้นได้มาก

“กี่โมงแล้ววะ” ป๊อปถามขึ้น “ทำไมไอ้คริสยังไม่มาอีกเนี่ย”

“ก็นั่นดิ่ เจ็ดโมงจะสิบห้าแล้วเนี่ย” วายุตอบ

“นัทททททททททททททท!!”

เสียงเรียกชื่อนัทดังแหลมขึ้นทางซ้ายมือของผม ทำให้พวกเราทุกคนหันไปยังที่มาของเสียงพร้อมๆกันแทบจะในทันที ยกเว้นก็แต่นัทเพียงคงเดียวที่ยังคงนั่งก้มหน้าอยู่ที่เดิม

“มาแล้วไง อีเป้” เจย์หัวเราะเบาๆ “เฮ้ย นัท เมียมึงเรียกน่ะ”

นัทเงยหน้าขึ้นมามองหน้าเจย์แล้วขมุบขมิบปากออกมาว่า ‘ครวย’ จากนั้นเขาก็หันไปยิ้มให้กับผู้ที่กำลังวิ่งตรงเข้ามายังโต๊ะของพวกเรา “ไง เป้”

“ทำอะไรกันอยู่เหรอ อุ๊ย กินข้าวเหรอเนี่ย นัทกินกินอิ่มรึยังคะ”

“เอิ๊กกก” ป๊อปเรอออกมาเสียงดัง

“ว้ายยย ต่ำ! อีป๊อป กูไม่ได้ถามมึงนะคะ” คนที่ชื่อเป้หันมาแหวใส่ป๊อป

“ว้ายยย ตุ๊ด! อีเป้ พวกกูไม่ได้อยากคุยกับมึงนะคะ” ป๊อปพูดล้อเลียนทั้งท่าทางและนำเสียง ทำเอาทุกคนหัวเราะออกมาพร้อมๆกัน

“โอ๊ยยย อีเหี้ย เสียทีเกิดมาหล่อ ทำกูเสียอารมณ์แต่เช้าเลยนะมึง อีนี่”

“ว่าแต่มาคนเดียวเหรอ เป้ แล้วพวกไอ้ไทด์ล่ะ” นัทขัดขึ้น

“ก็นัดกันที่โรงอาหารนี่แหละ ทำไมเหรอ อย่าบอกนะว่านัทจะนอกใจเป้” เป้นั่งแทรกลงระหว่างผมกับนัทและกอดหมับเข้าที่คอของเขา ผมเห็นนัทพยายามเบี่ยงตัวออกอย่างชัดเจน แต่แล้วก็ดูเหมือนเป้จะสังเกตเห็นผมขึ้นมาจนได้ “อุ๊ยตาย ใครคะเนี่ย ไม่เคยเห็นหน้าเลย”

ผมไม่ได้พูดอะไรแต่แค่ยิ้มกับพยักหน้าตอบกลับไป แต่ว่าจู่ๆป๊อปก็พูดขึ้น “แฟนไอ้นัทมันน่ะ เมื่อคืนก็เพิ่งมานอนด้วยกันที่ห้องมัน”

“อร๊ายยยยยยยยยยยย!!!” เป้เอามือทาบอกแล้วกรี๊ดออกมาเสียงดัง “ไม่นะ กูไม่เชื่อมึงหรอกค่ะ อีป๊อป!”

บอกตามตรงว่าถ้าผู้หญิงมีกิริยาอย่างนี้ผมก็คงต้องพูดว่า “แรด” มากแล้ว แต่นี่คนที่ทำกลับเป็นผู้ชายหน้าเข้มๆคนหนึ่ง ผมก็เลยไม่สามารถที่จะสรรหาคำพูดไหนมาบรรยายสิ่งที่เห็นอยู่ได้เลยจริงๆ

“เออ ไม่จริงหรอก อย่าไปเชื่อมัน เป้ นนท์เป็นนักเรียนใหม่น่ะ เพิ่งย้ายมาและจะมาเรียนที่ห้องนัทตั้งแต่วันนี้เป็นวันแรก.......” นัทตอบ

“อ๋ออออ ถ้างั้นก็สวัสดีค่ะ ยินดีที่ได้รู้จักนะคะ ชื่อเป้ค่ะ น่ารักนะคะนนท์เนี่ย มีแฟนรึยังเอ่ย”

“แต่ที่เมื่อคืนนนท์มานอนเตียงเดียวกับนัทน่ะ ก็เรื่องจริงอยู่........” นัทพูดขึ้นมาลอยๆ ผมสังเกตเห็นเจย์ เคน กับป๊อปทำตาโตไปพร้อมๆกับเป้ที่กรี๊ดขึ้นมาอีกรอบ

“ไม่นะ ไม่จริง! คุณพระ!” เป้เอามือทาบอก “ไม่ไหว เป้ไม่ไหวแล้วค่ะ นัทคะ นัท........ นัทห้ามนอกใจเป้เด็ดขาดนะ โอวว พระเจ้า เป้ทนนั่งอยู่ระหว่างกลางของสองคนนี้ไม่ไหวแล้วค่ะ มันไม่ใช่ที่ของเรา ไม่ มันไม่ใช่ ลาล่ะค่ะ คนสวยขอไปทำใจ........” เมื่อพูดจบเขาก็ลุกขึ้นยืนแล้ววิ่งเหยาะๆจากไปแบบพริ้วๆ

“เป็นไงนนท์ แฟนคนแรกของไอ้นัท” เจย์หัวเราะ

“ไอ้เหี้ยเจย์ ไม่ขำนะ ไอ้สัตว์”

“อะไร นัท ร้อนตัวเหรอวะ กลัวนนท์เข้าใจผิดรึไง” ตี๋เล็กพูดขึ้นบ้าง

“ก็เออดิ่ สาด พวกมึงนี่หาเรื่องให้กูแล้วมั๊ยล่ะ”

“ว่าแต่เมื่อคืนมึงนอนเตียงเดียวกันจริงๆเหรอวะ” ป๊อปถาม

“ก็กูบอกพวกมึงแล้วไงว่าเมื่อคืนกูมานอนด้วย ก็ขากูเจ็บอ่ะ กูก็เลยให้พวกมันสองคนไปนอนด้วยกัน” วายุตอบ

“ก็แค่นั้นแหละ จบ โอเค๊” นัทชูมือขึ้นทั้งสองข้างเป็นสัญญาณบอกจบ

“อ้าว นั่นไง ไอ้คริสมานั่นแล้วนี่” เคนพูดขึ้น

ผมหันไปมองตรงที่เคนชี้แล้วก็เห็นเด็กผู้ชายคนหนึ่งกำลังเดินตรงเข้ามาหาพวกเรา เขาดูต่างจากคริสในความคิดของผมอยู่ค่อนข้างมากทีเดียว อันดับแรกเลยก็คือคริสคนนี้เป็นลูกครึ่งซะด้วย เขามีผมสีน้ำตาลเข้ม จมูกโด่งแบบฝรั่งแต่ก็ไม่ได้โด่งมากจนดูแปลกตา ผิวของเขาขาวเนียนต่างไปจากคนเอเชียและผิวขาวของเคนที่เป็นลูกครึ่งญี่ปุ่น และยิ่งต่างจากเจย์ที่เป็นลูกครึ่งเม็กซิโกเข้าไปใหญ่ เพราะว่าคริสนั้นตัวค่อนข้างเล็กทีเดียว ดูๆแล้วเขาดูจะสูงกว่าป๊อปแค่นิดหน่อยเท่านั้นเอง แต่ที่สำคัญก็คือนอกจากหน้าหล่อๆของเขาแล้ว คริสยังดูต่างจากเพื่อนคนอื่นๆในกลุ่มนี้ของเขาอย่างชัดเจน แต่ในตอนนี้ผมเองก็ยังไม่รู้เหมือนกันว่ามันคืออะไรและทำไมผมถึงได้รู้สึกแบบนั้น

“มานั่งนี่ดิ่ คริส” เจย์ขยับตัวเพื่อให้คริสนั่งข้างๆเขาได้

“ทำไมมาสายวะวันนี้” ป๊อปถาม

“ตื่นสายว่ะ” เขาตอบสั้นๆ จากนั้นก็หันมามองผมด้วยแววตาเป็นคำถาม

“คริส นี่นนท์ เด็กใหม่จะย้ายมาเรียนกับเราวันนี้ และอาทิตย์นี้เค้าก็นอนหอกับกูด้วย” นัทอธิบาย

“เค้าก็คงได้นั่งกับมึงแหละมั๊ง ที่นั่งข้างๆมึงว่างอยู่นิ” วายุพูด

คริสพยักหน้าจากนั้นก็หันมายิ้มแล้วผงกหัวให้ผมเบาๆทีหนึ่ง

“ไอ้คริสมันเด็กอัจฉริยะเลยนะเว้ยนนท์ เรียนอะไรไม่เข้าใจก็ถามมันได้ ไอ้เหี้ยนี่มันท็อปของโรงเรียนเราเลยนะจะบอกให้”

“มึงก็เว่อร์ไป ไอ้ป๊อป” คริสก้มหน้าแล้วยิ้มอายๆ

“เออ แล้วแว่นมึงล่ะ วันนี้ใส่คอนแทกเลนส์เหรอ คริส” ตี๋เล็กถาม ส่วนคริสก็พยักหน้าตอบ

“อย่างนี้ก็ดีนะ ดูแปลกตาดี กูชอบ”

“ให้มันน้อยๆหน่อยไอ้เจย์ เดี๋ยวกูจะเอาไปฟ้องพี่แจ๊ค” เคนพูด

พวกเรานั่งคุยกันอยู่อีกไม่นานเสียงเพลงเตือนให้ไปเข้าแถวก็ดังขึ้น เราทุกคนจึงลุกออกจากโรงอาหารและเดินไปยังลานหน้าเสาธง จากนั้นกิจกรรมหน้าเสาธงก็ดำเนินไปตามปกติไม่ต่างจากที่โรงเรียนเก่าของผมเท่าไหร่นัก โดยเป็นอีกครั้งที่ผมต้องตกเป็นเป้าสายตาและเป็นเป้าความสนใจจากทั้งนักเรียนในห้องเดียวกันและจากนักเรียนห้องข้างๆ จนกระทั่งนักเรียนทุกคนเคารพธงชาติเสร็จแล้ว ก็ถึงเวลาที่แต่ละระดับชั้นจะต้องแยกย้ายกันเดินไปขึ้นชั้นเรียนของตัวเอง ซึ่งนักเรียนชั้นมอสามก็ต้องแยกไปอีกทางหนึ่งเพื่อไปขึ้นหอประชุม

ในหอประชุม นักเรียนแต่ละห้องจะต้องนั่งเป็นแถวๆเรียงตามลำดับไล่ไปตั้งแต่ห้องหนึ่งถึงห้องสิบโดยที่พวกเราทั้งหมดหกคนก็นั่งอยู่ด้วยกันเหมือนเดิม โดยมีเคนกับเจย์ที่อยู่ห้องสี่มานั่งอยู่ข้างๆด้วย แต่หลังจากที่เราเพิ่งนั่งลงกันได้ไม่ทันไรก็มีอาจารย์ท่านหนึ่งเดินมายังห้องของเราและถามหาชื่อผมทำให้ผมต้องลุกออกจากแถวไป ผมถูกเรียกให้ไปพบกับอาจารย์หัวหน้าระดับมัธมยต้นในห้องเล็กๆห้องหนึ่งทางด้านหลังหอประชุม ซึ่งบังเอิญว่าอาจารย์คนนี้แกเป็นหัวหน้าฝ่ายปกครอง หัวหน้าระดับชั้นมอสาม และยังเป็นอาจารย์ที่ปรึกษาของห้องผมอีกด้วย

โอ ช่างโชคดีอะไรอย่างนี้นะ

อาจารย์ชัชวาลย์เป็นผู้ชายอายุราวๆสี่สิบปีที่ดูเป็นกันเองและผ่อนคลายมากกว่าที่ผมคิด แต่ในขณะเดียวกันผมก็คิดว่าเวลาที่เราได้อยู่ใกล้ชิดกับอาจารย์คนนี้แล้ว นักเรียนทุกคนต่างก็น่าจะเกิดความรู้สึกเช่นเดียวกันกับผมเหมือนๆกัน ซึ่งนั่นก็คือ เราจะสัมผัสและรู้สึกได้ถึงความน่าเกรงขาม ความเป็นคนเจ้าระเบียบ และรู้สึกว่าเราคงจะไม่อยากถูกอาจารย์คนนี้จับได้ว่าเราทำอะไรที่ผิดระเบียบลงไปอย่างแน่นอนด้วย

อาจารย์ชัชวาลย์อธิบายถึงกฎระเบียบต่างๆที่ผมจำเป็นต้องรู้ซึ่งผมก็รู้มาจากนัทเป็นส่วนมากแล้วให้ผมฟัง นอกจากนั้นก็ยังพูดถึงเรื่องของชมรมที่ผมต้องเลือก ซึ่งป๊อปกับนัทก็เคยบอกผมไปแล้วอีกเหมือนกัน ส่วนเรื่องสุดท้ายก็คือเรื่องของหนังสือเรียนที่ผมจะได้รับหลังจากหมดชั่วโมงประชุมนี้ไปแล้ว

“เอาล่ะ ก็เท่านี้แหละนะ มีคำถามอะไรรึเปล่า” อาจารย์ชัชถามปิดท้ายหลังจากที่เรานั่งคุย....... ไม่สิ หลังจากที่ผมนั่งฟังแกพูดมาได้ราวๆสิบห้านาที

ผมส่ายหน้า

“โอเค ถ้างั้นก็กลับไปเข้าแถวได้แล้ว เดี่ยวครูก็ต้องออกไปพูดหน้าชั้นด้วยเหมือนกัน”

ผมยกมือไหว้อาจารย์ แล้วก็เดินออกจากห้องกลับมานั่งตรงที่เก่าของตัวเอง ถัดจากนั้นไม่นานอาจารย์ชัชวาลย์ก็ออกมาพูดหน้าชั้นเรียนถัดจากอาจารย์คนก่อน จนกระทั่งเกือบจะหมดชั่วโมง นักเรียนทุกคนก็ถูกปล่อยให้ทยอยเดินออกจากหอประชุมกันไปทีละห้อง ผมเดินตามทุกคนไปยังห้องประจำของมอสามทับสามที่อาคารสี่ซึ่งค่อนข้างจะอยู่ไกลมากทีเดียว

เมื่อมาถึงห้องเรียน ผมก็ถูกพามานั่งลงที่โต๊ะว่างข้างๆคริสที่อยู่หน้าสุดของห้องในแถวติดกับริมหน้าต่าง โดยมีวายุกับนัทนั่งอยู่ทางด้านหลัง ส่วนตี๋เล็กกับป๊อปก็นั่งอยู่เกือบจะท้ายห้อง และหลังจากที่ผมเข้านั่งที่ปุ๊บ ผมก็ถูกนักเรียนคนอื่นในห้องเข้ามาห้อมล้อมแทบจะในทันที โดยเฉพาะกลุ่มที่ป๊อปเรียกว่า “แก๊งค์กะเทยหลังห้อง” ที่มีคนชื่อไทด์เป็นตัวนำที่ดูจะให้ความสนใจผมมากเป็นพิเศษ

“เฮ้ย นั่นมันไอ้โจรึเปล่าวะ” วายุพูดขึ้น ทำให้ทุกคนตรงนั้นหันไปมองยังหน้าห้องเป็นตาเดียวกัน

“อุ๊ยย จริงๆด้วย” ไทด์พูดขึ้นพร้อมกับลุกออกจากโต๊ะผมและเดินตรงไปยังประตูหน้าห้องทันที ผมพยายามจะมองว่าคนที่ชื่อโจนั้นเป็นใครและหน้าตาเป็นยังไง ทำไมใครๆถึงได้ดูให้ความสนใจเค้ากันนัก แต่ว่าผมก็มองไม่เห็นเพราะมีป๊อปที่นั่งอยู่บนโต๊ะผมบังอยู่ และพอผมเขยิบตัวจะมองดูก็ปรากฎว่าว่าไทด์ก็ดันไปยืนบังเขาอยู่ซะอีก

“มันมาทำอะไรห้องเราวะ” ตี๋เล็กถาม

“มึงถามกูแล้วกูจะถามใครวะ”

“ก็กูไม่ได้ถามมึง ไอ้ยุ กูก็แค่พูดขึ้นมาลอยๆ ไอ้ห่า”

“นนท์ค้าาา มีคนมาหาค่าาาา” ไทด์หันกลับเข้ามาในห้องแล้วตะโกนเรียกชื่อผม

ผมมองหน้าไทด์ที่กำลังกวักมือเรียกผมอย่างงงๆแล้วก็ลุกออกจากโต๊ะและเดินไปยังหน้าห้อง และตอนนั้นเองที่ผมเห็นว่าคนที่ชื่อโจนั้นหน้าตาเป็นยังไง

“อ้อ ชื่อนนท์เรอะ” คนที่ชื่อโจยิ้มที่มุมปากน้อยๆแล้วยื่นมัดสมุดหนังสือเรียนให้แก่ผม “ขาหายเจ็บรึยังล่ะ”

เขาก็คือคนที่ผมเห็นวิ่งอยู่รอบสนามเมื่อวานเย็น คนที่เดินชนผมที่หน้าลิฟต์ คนที่อุตส่าห์ทำแผลให้ผม และคนที่นอนอยู่ที่ห้อง 1208 นั่นเอง

“หายแล้ว...... ขอบใจมาก” ผมยื่นมือไปรับหนังสือและสมุดมาจากเขา

“อุ๊ยนี่รู้จักกันด้วยเหรอเนี่ย” ไทด์ถามขึ้น

โจหันไปมองไทด์ด้วยหางตาก่อนจะหมุนตัวเดินจากไป แต่แล้วเขาก็หยุดฝีเท้าลงแล้วก็หันมาหาผมอีกครั้งก่อนจะยิ้มที่มุมปากแล้วหัวเราะในลำคอเบาๆ

“อ้อ แล้วก็.........” เขามองตาผมนิ่งพร้อมด้วยรอยยิ้มที่ดูเหยียดๆพิกล “ชื่อ ‘ชาตินนท์’ เนี่ย โคตรเชยเลยว่ะ ไม่นึกว่าคนใช้ชื่อนี้จะมีหน้าตาแบบนี้นะเนี่ย”

“อ้าว อะ.........” ผมอ้าปากกำลังจะพูดบางอย่างกลับไปแต่ว่าเขาก็หันหลังเดินกลับไปก่อนเสียแล้ว


pae_tekung

  • บุคคลทั่วไป

ออฟไลน์ DEMON3132

  • เป็ดแสนดี
  • เป็ดDemeter
  • *
  • กระทู้: 1704
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +170/-1
+1 ให้น้องต้น ชอบจังภาษาคำเมือง เป็นภาษาที่มีสำเนียงเพราะนะคะ ชอบฟังมากโดยเฉพาะปู้ชายพูด

ยิ่งเป็นเด็ก ยิ่งชอบ เรื่องนี้เด็กผู้ชายเยอะดี ชอบอีกแล้ว อิ อิ .... ป้าน้ำลายไหลเลย....

 :pig4:

 

สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด


สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด