[novel] นิทานชลาธล by Nat
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด

สนใจโฆษณาติดต่อ laopedcenter[at]hotmail.com คลิ๊กรายละเอียดที่ตำแหน่งว่างเลยครับ

สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด

ผู้เขียน หัวข้อ: [novel] นิทานชลาธล by Nat  (อ่าน 65902 ครั้ง)

abcd

  • บุคคลทั่วไป
Re: [novel] นิทานชลาธล by Nat
«ตอบ #60 เมื่อ21-01-2007 00:15:04 »

 :monkeysad: ช่ายๆการวิ่งหนีหัวใจตัวเองมานเหนื่อยยมากนะ

meemewkewkaw

  • บุคคลทั่วไป
Re: [novel] นิทานชลาธล by Nat
«ตอบ #61 เมื่อ21-01-2007 12:11:15 »

 :impress3:
ปลื้มจัง . . .

ว่าแต่ ถ้ากฤษเลิกหนี แล้วต้องทำยังไงต่อหว่า

ออฟไลน์ THIP

  • Global Moderator
  • เป็ดApollo
  • *
  • กระทู้: 7674
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +986/-10
Re: [novel] นิทานชลาธล by Nat
«ตอบ #62 เมื่อ21-01-2007 21:21:58 »

จากนี้เราจะไม่สนอะไรทั้งนั้นแล้ว เพราะเราเข้าใจแล้วว่าเราต้องการอะไร ธล เรารักนายนะ  :impress3:

ยังคิดไม่ออกเลยว่า อะไรที่จะทำให้กฤษต้องหนีไปอยู่กรุงเทพ ไม่ยอมกลับพิจิตรอีก  :monkeysad:  :monkeysad:  :monkeysad:

ออฟไลน์ ที่ปรึกษาไอทีขั้นต้น

  • Administrator
  • เป็ดApollo
  • *
  • กระทู้: 6853
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +1320/-22
Re: [novel] นิทานชลาธล by Nat
«ตอบ #63 เมื่อ22-01-2007 19:13:29 »

wee แน๊วววแน๋ววว  กล้าที่จะยอมรับความจริงเตอะ จะได้ไม่เสียใจภายหลัง
meemewkewkaw ก็ปล่อยให้เวลาหาหนทางแก้มันเองไงครับ
shell  บางครั้งเวลาทำอะไรลงไป ก็ไม่ได้คิดถึงผลที่จะตามมา

บทที่ 18

ชายหนุ่มกำลังช่วยลูกสาวของตนจัดกระเป๋าอย่างขมักเขม้น

“คุณพ่อคะ ให้ลิลี่ไปด้วยได้ไหมคะ” เด็กสาวถาม ชายหนุ่มพยักหน้ารับ

“ขอบคุณนะคะคุณพ่อ” เด็กสาวกล่าว ชายหนุ่มยิ้มรับ

“ลูกไปช่วยแม่เขาจัดกระเป๋าเถอะจ๊ะ ตรงนี้เดี๋ยวพ่อจัดการเอง” ชายหนุ่มพูด เด็กสาวพยักหน้ารับพลางวิ่งออกจากห้องไป ชายหนุ่มถอนหายใจยาว เขาเองกำลังจะกลับไปที่ที่เป็นจุดเริ่มต้นและเป็นจุดจบของทุกอย่าง ชายหนุ่มกำมือแน่น

“เอานะก็แค่ไปเที่ยวไม่กี่วันก็กลับแล้ว” ชายหนุ่มคิดแต่ในหัวของเขากลับมีเรื่องของชลาธลผุดขึ้นมาอีกจนได้...


หลังจากนั้นทั้งชลาธลและกฤษณาต่างก็ได้รู้ว่าจิ๋วต้องย้ายเมืองกลับไปที่กรุงเทพฯในวันถัดมา ทั้งสองไม่มีโอกาสแม้แต่จะบอกลาสักคำ

“เธอคงอยากจะมีความสุขในช่วงเวลาสุดท้ายละมั้ง” ชลาธลคิด กฤษณาส่ายหัวไปมา

“แบบนี้เนี่ยนะความสุข ถ้าบอกกันตรงๆก็จะพอเข้าใจหรอก” กฤษณาพูด ชลาธลยิ้มให้

“เพราะถ้าบอกตรงๆ นายก็จะเอาใจเธอเพราะเธอกำลังจะจากไปไงละ เธอคงอยากให้นายเป็นตัวของนายเองนะ” ชลาธลตอบ กฤษณาพยักหน้ารับ

“เฮ้อ แล้วทีนี้ตูจะทำยังไงดีละเนี่ย ใครจาติวให้ตูตอนสอบละเนี่ย” กฤษณาบ่น ชลาธลมองหน้ากฤษณาอย่างสงสัย

“อืม เวลาติวนี่เขาต้องทำยังไงบ้างหรอ” ชลาธลถาม กฤษณาเกาหัวแกรกๆ

“อืม จะอธิบายยังไงดีละ แบบก็เปิดหนังสือเอาอะไรเงี้ย พยายามศึกษาจากข้อความแล้วก็จำไปตอบอะไรประมาณนี้แหละ” กฤษณาพยายามอธิบายเท่าที่เขาจะทำได้ ชลาธลเบ้ปาก

“ทำไมหรอ นายมีเรื่องอะไรหรือเปล่า” กฤษณาถาม ชลาธลมองหน้า

“อืม คือ จิ๋วเขาทิ้งกระดาษไว้ให้นายนะ เขาบอกว่าให้นายเอาไปติวเองอะไรนี่แหละ เราก็เลยอยากรู้ไงว่าติวแล้วมันทำยังไง” ชลาธลตอบ กฤษณาตาโตขึ้นมาทันที

“พูดจริงดิ” กฤษณาถาม ชลาธลพยัหน้า

“อืม เขาบอกว่าให้เราเอาให้นายด้วยนะ” ชลาธลพูด กฤษณาอดยิ้มขึ้นมาไม่ได้จริงๆ

“จะว่าไปเขาก็ไม่ใช่คนเลวร้ายอะไรนักหรอกนะ” กฤษณาพูด ชลาธลพยักหน้า

“อืม ไม่หรอก เขาก็คงแค่อยากพยายามดูบ้างนะ” ชลาธลตอบ กฤษณาพยักหน้ารับ

“แต่ถ้าไม่ได้เธอ เราก็คงไม่มีวันได้เข้าใจตัวเองมากขึ้นหรอก ยังไงก็ต้องขอบใจเขาละนะ” กฤษณาตอบ ชลาธลเองก็พยักหน้ารับ

“ว่าแต่ฉีท เอ้ย กระดาษนั่นอยู่กับนายใช่ปะ” กฤษณาถาม ชลาธลพยักหน้ารับ

“ดี งั้นเราไปติวที่วัดดีกว่า เงียบๆดี” กฤษณาพูดชลาธลพยักหน้ารับ ก่อนที่ทั้งสองจะจับมือกันเดินกลับไปที่วัด กฤษณาใช้เวลาส่วนใหญ่ไปกับการอ่านหนังสือ แม้จะมีเสียสมาธิไปบ้างแต่ชลาธลก็ช่วยเป็นกำลังใจให้อยู่เสมอ จนกระทั่งการสอบนั้นสิ้นสุดลง

“เฮ้อ สอบเสร็จสักที” กฤษณาพูดพลางบิดร่างอย่างสบายอารมณ์ ชลาธลยิ้มให้

“หมายความว่าตอนนี้นายก็ว่างแล้วอะดิ” ชลาธลถาม กฤษณายิ้มเจ้าเล่ห์

“ใช่แล้ว แล้วเราจะแวะมาหานายทุกวันเลย” กฤษณาพูด ชลาธลยิ้มรับเขินๆ

“ต่อให้นายไม่มาก็จะบุกไปหาอยู่ดีนั่นแหละ” ชลาธลตอบ กฤษณาหัวเราะเบาๆพลางคล้องคอชลาธลไว้

“บุกมาสิจะต้อนรับให้อย่างดีเลย” กฤษณาตอบ ชลาธลยิ้มรับ

“เฮ้ย ร้อนจัง เราไปว่ายน้ำกันดีกว่าไหม” กฤษณาชวน ชลาธลพยักหน้าก่อนที่ทั้งสองจะไปที่บึง อากาศค่อยๆอุ่นขึ้นเรื่อยๆ เหล่าสัตว์น้อยใหญ่เริ่มออกหากิน ดอกไม้ต้นไม้ผลิดอกออกใบส่งกลิ่นหอมไปทั่ว กฤษณาและชลาธลเดินจับมือกันท่ามกล่างธรรมชาติอันงดงาม

“อืม นี่เราก็รู้จักกันมาก็เกือบๆจะสองปีแล้วสินะ” กฤษณาพูด ชลาธลยิ้ม

“แต่มันเหมือนกับเราพึ่งจะรู้จักกันได้ไม่นานเลยเนอะ” ชลาธลตอบ กฤษณาพยักหน้า

“เวลานี่มันผ่านไปเร็วจังเลยเนอะ” กฤษณาพูด ชลาธลพยักหน้าเห็นด้วย

“อืม เร็วมากจริงๆ” ชลาธลพูดพลางมองหน้ากฤษณา เขาบีบมือของกฤษณาแน่นเล็กน้อยก่อนจะสบตาเขา

“กฤษ คือ เราดีใจนะที่ได้รู้จักนาย แล้วเราก็มีความสุขมากเลยที่ได้อยู่ข้างๆนายแบบนี้ อืม นายจะว่าอะไรไหมถ้าเราจะขอถามอะไรสักอย่างนะ” ชลาธลพูด กฤษณามองหน้า

“ถามเรื่องอะไรหรอ” กฤษณาถาม ชลาธลถอนหายใจเล็กน้อย

“คือ อืม นายก็รู้ใช่ไหมว่าเราเป็นจระเข้ แล้วเราเองก็อยู่มาก็หลายปีมากแล้ว เราเห็นคนตายมาก็มาก คือ...” ชลาธลเงียบลงไป กฤษณาเองก็พอจะเข้าใจที่ชลาธลถามอยู่บ้างเหมือนกัน เขาจับมือของชลาธลเอาไว้แน่น

“ธล นายไม่ต้องคิดมากไปหรอกน่า อะไรมันก็ไม่แน่ไม่นอนอยู่แล้ว เกิด แก่ เจ็บ ตาย ของธรรมดาน่า” กฤษณาพูด ชลาธลพยักหน้า

“เรารู้ แต่ อืม พอเราแค่คิดว่าถ้าเกิดมันถึงเวลาของนายบ้าง เราจะทำใจได้ไหม ตลอดเวลาที่ผ่านมาเราไม่เคยคิดอะไรกับเรื่องนี้มาก่อนเลย ไม่ว่าจะแม่ ท่านไกร หรือ น้าวิมาลา เราก็ไม่เคยคิดว่ามันเป็นเรื่องน่าเศร้า แต่พอเราได้รู้จักกับนายเราถึงได้เริ่มเข้าใจว่ามันปวดร้าวแค่ไหนเมื่อเราต้องอยู่ห่างจากคนรัก และถ้าเกิดมันถึงเวลานั้นขึ้นมา เวลาที่นายไม่อาจกลับมาได้จริงๆเราจะทำยังไง” ชลาธลพูดเสียงสั่น กฤษณาดึงตัวชลาธลมากอดไว้

“นายอย่าพูดแบบนั้นสิ นายเองก็เคยอยู่ตัวคนเดียวมาได้ตั้งนานนี่นา” กฤษณาตอบ ชลาธลสะอื้นเล็กน้อย

“ตะ แต่ตอนนี้เรามีนายแล้ว กฤษ นายจะสัญญาได้ไหมว่านายจะไม่จากเราไปไหนนะ เราคงทำใจไม่ได้จริงๆนะ” ชลาธลปล่อยให้น้ำใสๆของเขาไหลรินออกมาจากตา กฤษณาลูบหัวของชลาธลเบาๆ

“เราเองก็อยากจะอยู่ข้างนายไปตลอดแบบนี้ แต่นายก็รู้ว่าเราเองก็มีเวลาของเรา นายก็มีเวลาของนาย แต่ธล อย่างน้อยๆตอนนี้เราก็รักนายและเราก็อยากจะทำเวลานี้ให้ดีที่สุดเพื่อไว้ว่าอนาคตข้างหน้า แม้ทุกอย่างจะเปลี่ยนไปแต่ใจของเราก็จะยังมีนายไม่เปลี่ยนแปลง” กฤษณาตอบ ชลาธลเงยหน้ามองกฤษณาตาชื้นๆ กฤษณาก้มลงจูบที่ปากของชลาธลอย่างแผ่วเบา ชลาธลตอบรับจูบของกฤษณาอย่างไม่ขัดขืน

“เราเองก็จะทำให้ดีที่สุดเหมือนกัน กฤษ” ชลาธลพูด แล้วทั้งสองก็มาถึงบึง สายลมเอื่อยๆพัดมากระทบใบหน้า เสียงนกการ้องประสานไปกับสายลมราวจะกล่อมให้เหล่าต้นไม้ได้พักผ่อน ชายหนุ่มทั้งสองถอดเสื้อออกพลางกระโดดลงน้ำไป

“วู้ ไม่ได้ว่ายน้ำมาตั้งนานแล้ว” กฤษณาบ่น ชลาธลยิ้มพลางลอยตัวในน้ำอย่างสบายใจ

“เฮ้ย ธล มาว่ายแข่งกันดีกว่า คราวนี้ไม่มีแพ้แน่ๆ” กฤษณาพูดอย่างมั่นใจ ทั้งๆที่ก็รู้ดีว่าไม่มีทางที่เขาจะเอาชนะชลาธลได้เลย

“นายจะแข่งไปทำไมกัน ในเมื่อนายก็รู้อยู่ว่าเราได้เปรียบกว่านายเรื่องนี้” ชลาธลถาม กฤษณาขมวดคิ้ว

“ไม่ได้หรอก เราไม่เคยแพ้ใครหลุดรุ่ยขนาดนี้ ยังไงๆก็ต้องแก้มือให้ได้ละ” กฤษณาพูด ชลาธลส่ายหัวเล็กน้อยแต่ก็ยอมเข้าแข่งด้วยโดยดี

“ใครว่ายไปถึงต้นตะเคียนได้ก่อนชนะนะ” กฤษณาร้อง ชลาธลพยักหน้า

“เอาละนะ หนึ่ง สอง สาม” กฤษณานับพลางออกแรงว่ายเต็มที่ เขามองเห็นชลาธลกวาดแขนไปมาอย่างเรื่อยๆไม่นานก็นำหน้าเขาไป กฤษณาจ้วงแขนตีขาสุดกำลังแต่ก็ไม่อาจเทียบกับความเร็วของชลาธลได้เลย แต่แล้วกฤษณาก็คิดแผนการอันชั่วร้ายออกมาได้

“อะ อ๊อก ชะ ช่วยด้วย ตระคริวกิน” กฤษณาแกล้งร้องพลางดิ้นไปมา ชลาธลได้ยินก็รีบพุ่งตัวกลับมาทันที

“กฤษ” ชลาธลพุ่งเข้ามาหา กฤษณาได้ทีรีบเกาะร่างของชลาธลเอาไว้

“ธล เราคิดว่าเราจะตายแล้ว” กฤษณาพูด ชลาธลตาตื่นๆเล็กน้อยเพราะที่ขาของชลาธลเหมือนมีอะไรบางอย่างมาดุ้นเอาไว้

“กะ กฤษ” ชลาธลพูดเสียงสั่นๆ กฤษณาได้ทีรีบพุ่งตัวออกไปทันที ชลาธลได้แต่ลอยตัวอยู่งงๆ กว่าเขาจะรู้ตัวว่าโดนหลอกกฤษณาก็ว่ายไปถึงต้นตะเคียนแล้ว

“เย้” กฤษณาร้องลั่น ชลาธลส่ายหัวไปมา

“เป็นไง ฮะๆ คราวนี้เราชนะนายแล้วนะ” กฤษณาข่มทับ ชลาธลทำหน้าเศร้าทันที กฤษณาถึงกับใจหล่นไปอยู่ที่ตาตุ่ม เขาว่ายน้ำกลับไปหาชลาธล

“ธล นายโกรธหรอ” กฤษณาพูด ชลาธลสะอื้นเล็กน้อย กฤษณาถึงกับพูดอะไรไม่ออกเลย

“เฮ้ย ธล เราแค่แหย่เล่นเองนะ เราขอโทษ” กฤษณาพูดพลางพยายามจะจับไหล่ของชลาธลไว้ แต่ชลาธลกลับสะบัดหน้าหนี

“เราเป็นห่วงนายนะรู้ไหม” ชลาธลร้อง กฤษณาก้มหน้า

“เราขอโทษนะ เราก็แค่จะแหย่เล่นเฉยๆเอง เราขอโทษนะธลนะ คืนดีกันนะ” กฤษณาอ้อนวอน ชลาธลหันหน้ามามองกฤษณาหน้าแดงก่ำ

“ใครทำอะไรไว้ก็รับผิดชอบด้วยสิ” ชลาธลตอบ กฤษณาก้มหน้า

“อะ อืม เรายินดีรับผิดทุกอย่างเลยนะ” กฤษณาตอบ ชลาธลแอบยิ้มที่มุมปากเล็กน้อย

“งั้นรับผิดชอบตรงนี้ด้วย” ชลาธลพูดพลางดึงมือของกฤษณามาจับที่ท่อนลำของเขาที่มันแข็งตัวตั้งเด่อยู่ใต้น้ำ กฤษณาตาลุก

“ธะ ธล” กฤษณาร้อง ชลาธลโผเข้าจูบปากของกฤษณาทันที เขาดูดลิ้นของกฤษณาเบาๆมือพลางลูบไล้ไปตามร่างของกฤษณา กฤษณาถึงกับร่างอ่อนระทวยเมื่อเจอกับจูบอันร้อนแรงของชลาธล

“ขึ้นฝั่งกันดีกว่า” กฤษณาร้อง โดยที่เขาแทบไม่ต้องรอชลาธลพาร่างของกฤษณากลับเข้าสู่ฟั่งอย่างรวดเร็ว ชลาธลว่างร่างของกฤษณาลงกับพื้นพลางก้มลงจูบปากอีกครั้ง ชลาธลดุ้นลิ้นเข้าไปในปากของกฤษณาพลางตวัดไปมา กฤษณาก็ดูดลิ้นของชลาธลสู้กลับมือพลางสัมผัสไปทั่วร่างที่แน่นกำยำไปด้วยกล้ามเนื้อ ชลาธลเลื่อนหัวของเขาลงไปซุกที่ซอกคอของกฤษณาพลางโลมเลียไปทั่ว ลิ้นแฉะๆนุ่มๆลากผ่านซอกคอทำให้กฤษณาถึงกับขนตั้งชันเป็นแนว

“อืม” กฤษณาครางในลำคอ ชลาธลขยับปากของเขาเลื่อนลงไปพรมจูบที่แผ่นอกของกฤษณา ชลาธลไซร้ปากอย่างช้าๆพลางเลื่อนไปที่หัวนมของกฤษณา ชลาธลเอาลิ้นวนไปรอบๆก่อนที่จะค่อยดูดมันอย่างเบาๆ ฟันของเขาขบที่ปลายในขณะที่ลิ้นก็สะบัดดิ้นไปมา กฤษณาถึงกับส่ายหน้าไปมาร้องครางด้วยความเสียว

“อะ อืมมม อ่า” กฤษณาร้อง ยิ่งเหมือนกระตุ้นอารมณ์ของชลาธลให้เพิ่มมากขึ้น ชลาธลเม้มปากเล่นหัวนมของกฤษณาอย่างเมามันส์ มือของเขาเลื่อนลงไปที่ท่อนลำของกฤษณาที่เริ่มจะแข็งตัวขึ้นช้าๆ ชลาธลเอานิ้วแตะที่หัวปลายที่มีน้ำเยิ้มออกมา ชลาธลวนนิ้วของเขาไปรอบๆ กฤษณาถึงกับตัวเกร็งไปทั้งร่าง

“อ่าา ธล ซีดดด เสียวว” กฤษณาร้อง ชลาธลเลื่อนปากของเขาจูบไปตามร่างของกฤษณา ผ่านหน้าท้องที่หกเกร็งจนกล้ามขึ้นเป็นลูกๆ ชลาธลลงลิ้นเลียอย่างช้าๆมือก็วนหัวปลายไปมา

“โอ้ ธล พอที เราเสียว” กฤษณาเริ่มครางหนักขึ้น ชลาธลพรมจูบผ่านกลุ่มขนลงเลื่อนผ่านร่องขาหนีบลงไปก่อนที่จะลากลิ้นมาโลมเลียที่พวงสวรรค์ของกฤษณา ลิ้นอันอุ่นนุ่มของชลาธลถูไถไปมากับถุงแฝด นิ้วของชลาธลก็ยังคงวนไปรอบๆหัวปลายจนน้ำเงี่ยนของกฤษณานั้นไหลเคลือบหัวเป็นมันวาว

“ซีดดด ธล อ่าาา” กฤษณาตัวเกร็ง ชลาธลลากลิ้นขึ้นไปที่โคน ลากผ่านเส้นสองสลึงพลางวนลิ้นไปรอบๆหัวปลายก่อนจะฉกลิ้นของเขาลงไปที่ร่องน้ำ กฤษณาดิ้นพล่านด้วยความเสียวซ่าน มือของเขาจับที่หัวของชลาธลพลางกดมันลงไป ปากของชลาธลครอบลงที่เสากระโดงของกฤษณา ชลาธลดูดท่อนของกฤษณาอย่างแรง ลิ้นพลางกระดกไปทั่วหัวปลาย

“อ่าาา ธล ซีด แรงๆเลย” กฤษณาร้องอย่างลืมตัว ชลาธลห่อปากแน่นพลางสูบปากเข้าออกขึ้นลงอย่างเป็นจังหวะ กฤษณาจับหัวของชลาธลพร้อมกับเด้งก้นสวนกลับขึ้นไปด้วย ชลาธลสูบปากขึ้นลงอย่างเอาเป็นเอาตาย กฤษณาแหงนหน้าร้องครางเสียงหลง

“ธล ระ เรามะ ไม่ไหวแล้ว ซีดด ออกแล้ว” กฤษณาร้องพลางพ่นน้ำรักของเขาเข้าเต็มปากของชลาธลทันที ชลาธลดื่มกลืนจนหมดเกลี้ยงแถมยังตามเลียต่อจนกฤษณานั้นต้องจับหัวของชลาธลยกออก

“พะ พอก่อน ไม่ไหวแล้ว” กฤษณาร้องพลางมองหน้าชลาธลที่ยิ้มอย่างมีชัย กฤษณาหายใจหอบแฮ่กๆ

“ร้ายนักนะ ใช้น้ำตาจระเข้หรือเนี่ย” กฤษณาพูดหอบแฮ่กๆ ชลาธลยิ้ม

“ก็เราเป็นจระเข้นี่นา” ชลาธลตอบ กฤษณาดึงหน้าของชลาธลขึ้นมา

“แล้วก็เป็นจระเข้ที่หื่นด้วย” กฤษณาพูดพลางดึงหน้าของชลาธลเข้ามาจูบ กลิ่นน้ำกามของเขากระตุ้นอารมณ์ของกฤษณาขึ้นมาอีกครั้ง เขาจับร่างของชลาธลกดลงที่พื้นพลางระดมจูบไปทั่วหน้า เขาหอมแก้มชลาธลทั้งซ้ายขวาพลางสูดกลิ่นกายเข้าไปอย่างเต็มปอด

“เมื่อกี้ทำเราเสียวแทบตายเลยนะ” กฤษณาพูดพลางเลื้อยไปขบติ่งหูของชลาธลเบาๆก่อนที่จะลากลิ้นเข้าไปฉกในรูหูของชลาธล

“อืม” ชลาธลคราง กฤษณาดูดเลียที่ใบหูของชลาธลอย่างแผ่วเบา

“เสียงนายยั่วเราดีจัง ครางดังๆนะที่รัก” กฤษณาพูดเสียงสั่น เขาเลื่อนลิ้นลงไปที่ซอกคอของชลาธลสลับกับจูบไปทั่ว

“อะ อ๋า” ชลาธลคราง กฤษณาหัวเราะในลำคอเบาๆ มือค่อยๆลูบไปตามร่างของชลาธลอย่างช้าๆ กฤษณาขยับหัวของเขาเลื่อนลงไปที่หน้าอกกว้างแกร่งของชลาธล กฤษณาดูดเม้มที่หัวนมของชลาธล ลิ้นของเขาวนไปโดยรอบสลับกับขบด้วยฟันเบาๆ ชลาธลหายใจหอบพลางดิ้นเร่าๆ

“อะ อืมม” ชลาธลร้อง กฤษณาเลื่อนมือลงไปที่ท่อนลำของชลาธล เขาจับมันกำพลางรูดขึ้นลงนิ้วชี้พลางลูบที่หัวปลายไปมา ชลาธลถึงกับบิดร่างด้วยความเสียวซ่าน

“อะ อ่าา” ชลาธลครางกระเซ่า กฤษณาพรมจูบลงไปตามร่างของชลาธล เขาจูบลงที่หน้าท้องแข็งเกร็งพลางลากลิ้นไปทั่ว ชลาธลถึงกับเกร็งท้องแข็ง กล้ามหน้าท้องเรียงตัวสวยยิ่งเพิ่มความกระสันต์ให้กับกฤษณา เขาไล่ลิ้นลงไปถึงท่อนลำของชลาธล กฤษณาก้มดูเสากระโดงของชลาธลที่ผงกหัวหงึกๆอย่างเชื้อเชิญ กฤษณาค่อยๆครอบปากลงไปอย่างช้าๆพลางดูดมันเบาๆ

“โอ้ กฤษ” ชลาธลร้อง กฤษณาค่อยๆกลืนท่อนลำของชลาธลพลางดูดเสียงดังจ๊วบจ๊าบ ลิ้นของเขาละเลงไปมาที่หัวปลาย ตวัดเอาน้ำหล่อเลี้ยงเข้าปากไป ชลาธลสีหน้าบิดเบี้ยวไปมาเมื่อเจอปากอุ่นๆของกฤษณา

“อะ อ่า กฤษ แรงๆหน่อย” ชลาธลร้อง กฤษณาห่อปากแน่นขึ้นพลางขยับหัวขึ้นลงไปมาเป็นกระบอกสูบ ชลาธลนอนดิ้นราวปลาถูกทุบ มือของกฤษณาเลื้อยลงไปที่ร่องสวรรค์ของชลาธล เขาเอานิ้วเขี่ยมันเบาๆ ชลาธลถึงกับแอ่นก้นยกเหนือพื้น

“กฤษ ยะ อย่า” ชลาธลร้อง แต่ยิ่งห้ามกลับเหมือนยิ่งยุ กฤษณาค่อยๆสอดนิ้วของเขาเข้าไปในรูสีแดงนั่นอย่างช้าๆ เขาควงนิ้วชี้เป็นวงกลมปากก็ดูดท่อนลำของชลาธลไม่ปล่อย

“โอ้ กฤษ ระ เราเสียว มะ มากเลย อ่า” ชลาธลครางไม่เป็นภาษา กฤษณาเพิ่มนิ้วกลางเข้าไปอีกนิ้วนึงพลางขยับเข้าออกอย่างช้าๆ สลับกับหมุนนิ้วของเขาไปมา ชลาธลเริ่มจะดิ้นหนี แต่กฤษณากลับจับเอวของเขาไว้ ชลาธลหายใจหอบ กระโปกหดตัว ร่องก้นของเขาตอดรัดนิ้วของกฤษณาแน่น

“กฤษ ระ เรามะ ไม่ไหว ละ แล้ววว โอ้ววว” ชลาธลครางเสียงหลงพลางพ่นน้ำราคีคาวเข้าปากกฤษณาไม่ยั้ง ชลาธลกระตุกสองสามทีพลางหายใจหอบ กฤษณาโลมเลียพลางกินน้ำรักของชลาธลจนหมดเกลี้ยง

“กฤษ พอ ก่อน กฤษ” ชลาธลร้องพลางพยายามดิ้นหนี แต่กฤษณากลับจับเอวของเขาไว้แน่นพลางตั้งหน้าตั้งตาดูดท่อนลำของชลาธลทั้งๆที่มันยังหดตัวอยู่อย่างนั้น ร่างของชลาธลหมดแรงจะต่อต้านลงทันใด

“อ่า กฤษ ระ เรา มะไม่ไหว ขะ ขอพักหน่อย อ่าา” ชลาลธลร้อง แต่กฤษณากลับละปากจากท่อนลำพลางลากลิ้นลงไปยังพวงไข่ กฤษณาตวัดลิ้นของเขาไปมาก่อนจะลากลิ้นลงไปที่ร่องสวรรค์สีแดง

“กฤษ” ชลาธลร้องขอเสียงกระเส่า กฤษณาจับขาของชลาธลยกขึ้นพาดบ่าแล้วจัดร่องของเขาให้ตรงกับปาก กฤษณาเอามือช่วยแหวกก้นของชลาธลออกพลันส่งลิ้นเข้าไปลูบที่ปากทาง ชลาธลดิ้นถอยหนี

“กฤษ ยะ อย่า” ชลาธลร้อง กฤษณาจับร่างของชลาธลไว้พลางละเลงลิ้นของเขาไปทั่ว เขาห่อลิ้นให้แข็งพลางแทงเข้าไปในรู ร่องของชลาธลตอดลิ้นกฤษณาตุ๊บๆ

“อ่า กฤษ ดีจัง” ชลาธลเริ่มผ่อนคลายมากขึ้น กฤษณาเอื้อมมือมารูดเสาของชลาธลอย่างเบามือ จนมันค่อยๆตั้งตัวแข็งปั๋งขึ้นมาอย่างช้าๆ ชลาธลหายใจหอบ

“โอ้ว กฤษ นายเก่งจัง ซีดดด” ชลาธลครางอย่างลืมตัว กฤษณาเล้าโล้มปากทางของชลาธลจนทั่ว ก่อนที่เขาจะถอนปากออกพลางค่อยๆกดนิ้วชี้กับนิ้วกลางของเขาเข้าไปแทน

“อ้า กฤษ พอเถอะ เอาเราได้แล้ว” ชลาธลร้องด้วยความต้องการ กฤษณาถอนนิ้วออกพลางลูบท่อนลำของเขาที่มันแข็งจนเส้นเลือดปูดโปน กฤษณาเอาหัวจ่อไปที่ร่องของชลาธล

“ซีดดด ธล มะ มันตอด” กฤษณาร้องเพราะร่องสวรรค์สีแดงนั้นตอดที่หัวของกฤษณาราวกับจะกลืนเข้าไปทั้งดุ้น กฤษณากัดฟันแน่นพลางค่อยๆดันท่อนของเขาให้ลึกเข้าไป

“โอ้วว แน่นจริงๆธล มันฟิตมาก ซีดด” กฤษณาร้องพลางหยุดพักหายใจ

“เอาเราทีกฤษ” ชลาธลร้อง กฤษณาดันท่อนของเขาเข้าไปลึกยิ่งขึ้นจนในที่สุดหมอยของกฤษณาก็ชิดกับก้นของชลาธล กฤษณาหายใจหอบ เหงื่อท่วมตัว

“ซีดด ธลเราไม่ไหวแล้ว เราเอานายเลยนะ” กฤษณาพูดพลางค่อยๆดึงท่อนของเขาออกมาเล็กน้อยก่อนจะกดมันกลับเข้าไป แล้วก็ถอนออกมาใหม่ให้มากกว่าเดิมก่อนจะสวนมันกลับไปอีกครั้ง กฤษณาสูบเข้าออกอย่างเนิบๆช้าๆ ชลาธลเริ่มดิ้นไปมา

“กฤษ นายเอาเก่งจัง เร็วอีกสิ” ชลาธลร้อง กฤษณาจับตัวชลาธลนอนตะแคงพลางยกขาเขาขึ้นข้างนึง กฤษณาล้มตัวลงไปจูบที่ไหล่ของชลาธล

“ได้ครับที่รัก เราจะทำให้นายมีความสุขสุดๆเลย” กฤษณาพูดจบเขาก็ขยับเอวเข้าออกเร็วขึ้น เสียงไข่กระทบหนังดังผั่บๆ กฤษณาขยับเอวไปพลางดูดเลียใบหูของชลาธลอย่างเร่าร้อน

“อ่า อ่า อ่า” ชลาธลร้องไปตามจังหวะกระแทกของกฤษณา พลันกฤษณาก็จับร่างของชลาธลนอนคว่ำลง เขายกก้นของชลาธลขึ้นเล็กน้อยก่อนที่จะเริ่มกระเต้าอีกครั้ง มือของกฤษณาก็รูดเสากระโดงของชลาธลไปตามจังหวะ

“เสียวไหมธล” กฤษณาพูดพลางหายใจหอบ

“สะ เสียวมากกฤษ อ่า เร็วๆเลยก็ได้” ชลาธลร้อง กฤษณาก้มลงเลียไปตามแผ่นหลังกว้างของชลาธล กฤษณาเร่งกระเต้าก้นของชลาธลแบบไม่ยั้ง มือสาวว่าวให้ชลาธลเป็นระวิง แต่ด้วยความที่ทั้งสองนั้นแตกไปก่อนหน้านี้จึงไม่มีท่าที่ว่าจะเสร็จง่ายๆ กฤษณานอนลง พลางจับตัวของชลาธลยกขึ้น เขาถอนท่อนลำออกมาพลางมองหน้าชลาธล

“ขย่มเลยธล” กฤษณาพูด ชลาธลหันหน้ามาทางกฤษณาพลางค่อยๆหย่อนตัวลงไปอย่างช้าๆ

“อ่าา” ชลาธลคราง ไม่นานเขาร่องของเขาก็ถูกอัดเข้าไปด้วยท่อนลำของกฤษณา ชลาธลเริ่มขยับก้นขึ้นลงช้าๆ กฤษณากระเต้าก้นสวนกลับไปเป็นจังหวะ

“โอ๊ย ร่องนายมันตอด ซีดด” กฤษณาคราง ชลาธลเริ่มเร่งความเร็วขึ้น เขาควบกฤษณาอย่างไม่ลืมหูลืมตา กฤษณาเด้งสวนเข้าออกตามไป ยิ่งเขาเห็นชลาธลนั่งสาวว่าวไปกระเด้งไปยิ่งกระตุ้นอารมณ์ของกฤษณากระเจิง กฤษณาชันเข่าขึ้นดันร่างของชลาธลลงมา ชลาธลจูบลงที่ปากของกฤษณา เขาดูดลิ้นกฤษณาอย่างร้อนแรง กฤษณาขยับเอวเข้าออกไม่ยั้ง

“ธล เราจะออกแล้วนะ” กฤษณาร้อง ร่างของเขาเกร็งไปทั่ว ชลาธลบดท่อนลำของเขาเข้ากับหน้าท้องเป็นลอนของกฤษณา

“เราก็จะไม่ไหวแล้วกฤษ” ชลาธลพูด ยังไม่ทันขาดคำร่องก้นของชลาธลก็บีบเสากระโดงของกฤษณาแน่นเข้า กฤษณาถอนออกมาครึ่งลำแล้วกดสวนเข้าไปพรวดเดียวมิดด้าม

“ออกแล้วธล อ่าาา” กฤษณาร้องอย่างหมดท่าพลางพ่นน้ำว่าวเข้าเต็มร่องก้นของชลาธล

“โอ้วว” ชลาธลร้อง น้ำรักของเขาพุ่งกระฉูดออกมาเลอะเต็มหน้าของของกฤษณา บางส่วนก็กระเด็นขึ้นไปโดนคาง ทั้งสอนนอนหายใจหอบอย่างเหนื่อยอ่อน ชลาธลซบลงที่อกของกฤษณา

“สุดยอดเลย” กฤษณาพูด ชลาธลยิ้มรับ

“อืม” ชลาธลตอบ ก่อนที่ทั้งสองจะนอนพึ่งร่างที่ใต้ต้นไม้ กฤษณาลูบผมของชลาธลไปมาอย่างเอ็นดู ชลาธลลูบหน้าอกของกฤษณาอย่างแผ่วเบา

“นายมีความสุขไหมกฤษ” ชลาธลถาม กฤษณาพยักหน้า

“สุขที่สุดเลยละ” กฤษณาตอบ ชลาธลเงยหน้ามองกฤษณา

“เราอยากทำแบบนี้กับนายตลอดไปจัง” ชลาธลพูด กฤษณาจูบลงที่หน้าผากของชลาธลเบาๆ

“นายทำได้เสมอแหละถ้านายต้องการ” กฤษณาตอบก่อนที่ทั้งสองจะประกบปากเข้าด้วยกัน

“ดูสิ” กฤษณาร้อง ชลาธลหันไปมองดูพระอาทิตย์ที่กำลังจะค่อยๆลับขอบฟ้าแสงสีส้มสะท้อนผิวน้ำเปล่งประกายราวขุมทองล้ำค่า กฤษณากอดร่างของชลาธลแน่นเข้า ชลาธลเองก็ซบลงที่อกกว้างของกฤษณา ชลาธลรู้สึกได้ถึงความอบอุ่นที่แผ่เข้ามาสู่ตัวเขา ชลาธลอยากหยุดเวลาของเขากับกฤษณาไว้ตรงนี้ตลอดกาลเสียเหลือเกิน แต่กฤษณาจำต้องกลับบ้าน

“นายมานอนบ้านเราอีกสิ” กฤษณาชวน ชลาธลส่ายหัว

“คงไม่ได้หรอก หลวงตาท่านบ่นแล้ว ท่านเขากลัวว่าเราจะทำอะไรพลาดไปนะ” ชลาธลพูด กฤษณาเบ้ปาก

“โถ่ หลวงตาอะ คิดมากจัง ก็มานอนหลายทีแล้วไม่เป็นเป็นไรเลยนี่นา” กฤษณาบ่น ชลาธลยิ้มแห้งๆรับ

“อืม เราก็เข้าใจหลวงตานะ อะไรมันก็เกิดขึ้นได้นี่นา แต่นายก็ปิดเทอมแล้วนี่ เราไว้เจอกันพรุ่งนี้ก็ได้นี่นา” ชลาธลกล่าว กฤษณาพยักหน้ารับ

“อืม ก็ได้ แล้วพรุ่งนี้เราจะไปหาแต่เช้าเลยนะ” กฤษณาพูด ชลาธลยิ้มรับก่อนที่ทั้งสองจะเดินกลับไปที่วัด และกฤษณาก็แยกตัวกลับบ้านไป

“แล้วเจอกันนะ” กฤษณาพูดพลางโบกมือให้ ชลาธลยืนแก้มแดงพลันเขาก็รีบหอมแก้มกฤษณาอย่างเร็วก่อนจะวิ่งกลับเข้าวัด

“ฝันดีนะครับ” ชลาธลร้อง กฤษณาเอามือจับแก้มของเขาเบาๆ

“อืม เช่นกัน” กฤษณาตอบก่อนจะเดินกลับบ้านด้วยความสุขกายสบายใจและหลับฝันดีอีกต่างหาก เช้าวันรุ่งขึ้นมา กฤษณาตื่นขึ้นมาก็รีบอาบน้ำแต่งตัวทานข้าวแล้วเผ่นไปหาชลาธลทันที พอกฤษณาเข้าไปที่วัดเขาก็พบหลวงตายุทกำลังยืนคุยธุระกับชายคนนึงอยู่


ออฟไลน์ ที่ปรึกษาไอทีขั้นต้น

  • Administrator
  • เป็ดApollo
  • *
  • กระทู้: 6853
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +1320/-22
Re: [novel] นิทานชลาธล by Nat
«ตอบ #64 เมื่อ22-01-2007 19:14:05 »

“สวัสดีครับหลวงตา” กฤษณาทักพลางยกมือไหว้

“มาแต่เช้าเลยนะ สอบเสร็จแล้วสิเอ็ง ดีไปช่วยไอ้ธลมันทำวัตรไป” หลวงตายุทสั่ง กฤษณาทำตาโต

“โห หลวงตามาถึงก็ให้ทำงานแต่เช้าเลยหรอ” กฤษณาแย้ง หลวงตายุทเขม่นใส่

“ก็เอ็งจะได้อยู่กับมันนานๆไง ไปได้แล้ว” หลวงตายุทพูด กฤษณาเบ้ปากแต่อย่างไรก็ตามเขาก็ยังดีใจที่ได้อยู่กับชลาธลอีกครั้ง กฤษณาเดินไปหลังกุฏิแล้วเขาก็พบชลาธลกำลังกวาดลานอยู่

“อรุณสวัสดิ์ครับ” ชลาธลทัก กฤษณายิ้มรับ

“อืม เป็นไงบ้างอะ ขยันแต่เช้าเลย ดูดิเราเลยโดนไปด้วยเลย” กฤษณาพูดพลางหยิบเอาไม้กวาดที่วางพาดไว้ที่ผนังวัดมากวาดข้างๆชลาธล

“ก็พอปิดเทอมเด็กวัดบางคนเขาก็กลับบ้านนะ เหลืออยู่ไม่มากหรอก” ชลาธลตอบพลางกวาดเศษใบไม้แห้งไปรวมๆกัน

“อืม นั่นสินะ ว่าแต่นายอยู่ที่นี่มาตั้งนานแล้ว แบบว่าไม่มีใครสงสัยบ้างหรอ” กฤษณาถาม ชลาธลยิ้มรับ

“อืม คาถาผนึกถ้ำทองนะไม่ได้ใช้แค่ปกคลุมร่างของเราเท่านั้นนะ มันยังใช้หลอกตาคนได้อีกด้วย ถ้าเราอยากให้ใครเห็นเราแก่ขึ้นหรือเด็กลงเราก็แค่ตั้งสมาธิท่องคาถาเขาก็จะเห็นเราแก่ขึ้นได้ แต่ปกติแล้วเราไม่ค่อยสุงสิงกับใครหรอก ก็เลยไม่ค่อยมีใครสังเกต” ชลาธลตอบ กฤษณาเริ่มนึกสนุกขึ้นมา

“หรอ นายทำให้เราเห็นนายตอนแก่ได้ไหมอะ” กฤษณาถาม ชลาธลมองหน้า

“อืม แก่แค่ไหนอะ” ชลาธลถามกลับ กฤษณาคิดอยู่เล็กน้อย

“เอาสัก เออ ยี่สิบกว่าๆอะ” กฤษณาพูด ชลาธลพยักหน้าพลางหลับตา ปากก็ขยับขมุบขมิบไปมา กฤษณารู้สึกระเคืองตาเล็กน้อยเขาขยี้ตาไปมาพลันมองมาที่ชลาธลเขาก็พบกับชายผิวสีน้ำผึ้งตัวใหญ่ อยู่ตรงหน้า เคราเขียวๆขึ้นโดยรอบ แขนและอกที่กำยำล่ำสันทำเอากฤษณาตาไม่กระพริบ

“โห เจ๋งอะ” กฤษณาร้อง เขากระพริบตาสองสามทีแล้วชลาธลก็กลับมาอยู่ในสภาพเดิม

“เจ๋งจังเลยอะ แหมนายตอนโตนี่โคตรเท่ห์เลย” กฤษณากล่าวชม ชลาธลถึงกับเขินหน้าแดงเล็กน้อย

“มะ ไม่สักหน่อย” ชลาธลพูด

“อืม แล้วปกตินายรูปร่างเป็นแบบนี้หรอหรือนายคิดเอาเอง” กฤษณาถาม ชลาธลส่ายหัว

“ถ้าใช้คาถาผนึกถ้ำทองแบบธรรมดาก็จะให้รูปร่างที่แท้จริงของจระเข้ตัวนั้นๆไปด้วยนะ แต่ท่านไกรเขาปรับแปลงคาถาให้เหมาะกับสถานการณ์นะ” ชลาธลกล่าว กฤษณาพยักหน้ารับหงึกๆ

“อืม ไกรทองนี่ก็ฉลาดไม่เบานะ” กฤษณาพูด ชลาธลพยักหน้า

“อืม ไม่งั้นเขาก็คงโดนพ่อชาละวันกินไปแล้วละมั้ง” ชลาธลตอบ กฤษณาก็หัวเราะพลางช่วยชลาธลกวาดใบไม้แห้งใส่ที่โกยขยะ

“อืม ว่าแต่นายละ เห็นว่าพ่อนายมีบ้านที่กรุงเทพฯด้วยนี่” ชลาธลถาม กฤษณาพยักหน้า

“อ๋อ ไม่ใช่ของพ่อเราหรอก ของแม่เราต่างหาก แม่เราเป็นคนกรุงเทพฯนะ แล้วก็มาเจอพ่อเราตอนเรียนมหาลัยนะ จากนั้นแม่เราเลยตามพ่อมาที่นี่แหละ” กฤษณากล่าว

“เขาว่ากรุงเทพฯสวยกว่าที่นี่จริงหรอ” ชลาธลถาม กฤษณาเบ้ปาก

“อืม ก็ดูทันสมัยดีอะนะ มีพวกรถยนต์อะไรเยอะดี มีรถแปลกๆเหมือนกัน ข้าวของก็แพงหูฉี่เลยอะ แถมยังอึดอัดด้วย อากาศไม่สดชื่นเท่าที่นี่หรอก” กฤษณาตอบ ชลาธลพยักหน้า

“นี่อย่าบอกนะว่านายไม่เคยลงกรุงเทพฯอะ” กฤษณาถาม ชลาธลยิ้มแห้งๆแต่ก็พยักหน้ารับ

“อืม เราไม่เคยลงหรอก หลวงตาท่านกลัวนะว่าเราอาจจะไปทำอะไรไม่ดีได้” ชลาธลตอบ กฤษณาเอามือทุบอกของเขา

“งั้นถ้าเราลงกรุงเทพฯเราจะชวนนายไปด้วยดีไหม” กฤษณาพูด ชลาธลมีสีหน้าไม่แน่ใจนัก

“จะดีหรอ แบบว่า พ่อนายไม่ว่าหรอ” ชลาธลถาม กฤษณายิ้ม

“ดีออก เราลงไปทีไรก็ไม่ค่อยมีอะไรทำเท่าไหร่เหมือนกัน ดีออกมีเพื่อนแล้วจะพาเที่ยว” กฤษณากล่าว ชลาธลยิ้มรับ

“อืม แต่ต้องขออนุญาตหลวงตาก่อนอะ” ชลาธลพูด กฤษณายิ้ม

“เอาน่า มีเราอยู่ด้วยคงไม่เป็นไรหรอก” กฤษณาตอบ ชลาธลก็ยิ้มรับ

“แล้วนายลงบ่อยปะ อืม พักนี้ก็ไม่เห็นนายลงไปเลยนี่นา” ชลาธลถาม กฤษณายิ้ม

“ก็เพราะอยู่ที่นี่แล้วมีความสุขกว่าเราจะลงไปทำไมกันละ” กฤษณาตอบ ชลาธลถึงกับเขินหน้าแดงเล็กน้อย

“แหม นายลงไปก็ได้นี่นา อยู่แต่กับเราเดี๋ยวก็เบื่อหรอก” ชลาธลพูด กฤษณากรอกตา

“ไม่เบื่อหรอก แค่เห็นหน้านายก็มีอารมณ์ทั้งวันแล้วละ” กฤษณาตอบ ชลาธลตาลุก

“นี่พูดแบบนี้ได้ไง ในวัดนะ” ชลาธลตอบ กฤษณาขมวดคิ้ว

“อารมณ์สนุกสนานนะ นายคิดอะไรเนี่ย” กฤษณาพูด ชลาธลแก้มแดง หูแดงแจ๋ราวลูกมะเดื่อ

“อะ แหม” ชลาธลถึงกับขัดเขินพูดอะไรไม่ออก กฤษณาหัวเราะร่า

“ฮ่า ฮ่า ฮ่า ล้อเล่นนะ แต่เรามีความสุขจริงๆนะที่ได้อยู่กับนายนะ ถ้าเลือกเราเลือกนายดีกว่า” กฤษณาตอบ ชลาธลพยักหน้ารับ

“อะ อืม ขอบใจนะ” ชลาธลพูด

“เอ้า เสร็จแล้วหรือยัง เสร็จแล้วมากินข้าวกัน” หลวงตายุทเดินเข้ามา กฤษณากับชลาธลกำลังทำความสะอาดห้องเก็บหอกสัตตะโลหะอยู่

“อะครับ จะเสร็จแล้วครับ” กฤษณาตอบ หลวงตายุทส่ายหัว

“เฮ้อ ถ้ามีไอ้ธลอยู่นี่ต่อให้เป็นอะไรเอ็งก็ทำได้หมดเลยนะไอ้กฤษ” หลวงตายุทแซว กฤษณายิ้มรับ

“อะแหม ก็มีกำลังใจดีอยู่ข้างๆนี่ครับหลวงตา” กฤษณาตอบ ชลาธลยิ้มรับเขินๆ หลวงตายุทส่ายหัวไปมา

“เอาเถอะๆ ทำนี่เสร็จแล้วก็มากินข้าวแล้วจะไปเที่ยวไหนก็ไปไป๊” หลวงตายุทพูด กฤษณายิ้มให้ชลาธลก่อนที่ทั้งสองจะตั้งหน้าตั้งตาทำความสะอาดห้องอย่างตั้งใจ หลังจากรับประทานอาหารเสร็จชลาธลกับกฤษณาก็ออกไปเดินย่อยอาหารนอกวัด

“เฮ้อ อยู่วัดนี่ก็ดีเนอะ มีอาหารกินเยอะแยะเลย” กฤษณาตอบพลางตบพุงตัวเองเบาๆ

“อืม แต่ส่วนใหญ่เราไม่ค่อยได้กินหรอก เพราะมันมักจะมีเนื้อสัตว์นะ” ชลาธลตอบ กฤษณาพยักหน้า

“นายกินไม่ได้สักนิดเลยหรอ” กฤษณาถาม ชลาธลมองหน้า

“นายก็เห็นแล้วนี่นา อืม อันที่จริงแค่กลิ่นเราก็จะบ้าแล้วละ ไม่รู้สิ พอได้กลิ่นเลือด กลิ่นเนื้อแล้วใจมันเต้นแรงแปลกๆนะ” ชลาธลตอบ กฤษณาพยักหน้า

“ก็ปกตินายก็เป็นสัตว์กินเนื้อนี่นะ เฮ้อ เห็นแบบนี้แล้วเราชักไม่อยากกินเนื้อแล้วสิ” กฤษณาพูด ชลาธลยิ้มให้

“นายกินเนื้อเพื่อเราเถอะ มันน่าสงสารนะพวกสัตว์ทั้งหลายที่อุตส่าห์สละตัวเองเพื่อให้เราอิ่มท้องนะ ถ้านายกินเนื้อเราก็จะได้อยู่ในร่างมนุษย์ตลอดไปไง” ชลาธลพูด กฤษณายิ้ม

“อืม นั่นสินะ แต่เราก็อยากให้นายได้ลิ้มลองเนื้อสัตว์ดูบ้างจัง” กฤษณาพูด ชลาธลส่ายหัว

“มันไม่สำคัญหรอก อีกอย่างเราว่ากินผักมันก็ไม่แย่เสียทีเดียวหรอก” ชลาธลตอบ กฤษณาพยักหน้ารับ

“นั่นดักแด้ มันกำลังจะกลายเป็นผีเสื้อ” ชลาธลชี้ไปที่พุ่มไม้ พลางดึงมือของกฤษณาไปดูใกล้ๆ ทั้งนั่งยองๆลงตรงพุ่มไม้ ดักแด้สีน้ำตาลค่อยๆมีปีกสีเหลืองแต้มดำปรากฏออกมา ร่างของผีเสื้อตัวน้อยค่อยๆดันตัวเองออกมาจากดักแด้นั่น มันเกาะดักแด้สีน้ำตาลแก่เอาไว้พลางสยายปีกของมันออกอย่างช้าๆ มันกระพือปีกขึ้นลงไปมาเพื่อให้ปีกของมันแห้ง กฤษณามองดูชลาธลที่จ้องมองผีเสื้ออย่างตื่นเต้น

“ถ้านี่นายไม่บอกว่านายเป็นจระเข้นี่เราไม่เชื่อนะเนี่ย ในความคิดของเราจระเข้ต้องเป็นสัตว์ที่ดุร้ายกินไม่เลือกหน้านะ แต่นี่นายกลับตื่นเต้นที่เห็นดักแด้กลายเป็นผีเสื้อเนี่ยนะ” กฤษณาพูดเปรยๆ ชลาธลยิ้ม

“จระเข้ก็เหมือนคนนั่นแหละ ไม่สิ ทุกอย่างมันก็ไม่ต่างกันเท่าไหร่หรอก มันมีทั้งส่วนที่ดีและไม่ดีปะปนกันไป จระเข้อาจทำร้ายมนุษย์ก็จริงแต่มันก็ทำเพื่อประทังชีวิตและบางทีป้องกันตัว มนุษย์เองก็พยายามช่วยเหลือเหล่าจระเข้ที่กำลังลำบากไม่ใช่หรอ เราว่าความดีมันก็เหมือนผีเสื้อละนะ ตอนแรกที่ทำนะคนอื่นก็มองเหมือนมันเป็นแค่หนอนน่าเกลียด แต่ถ้าเราไม่ยอมแพ้พยายามสั่งสมความดีนั้นไว้ สักวันความดีที่ใครเห็นว่าเป็นหนอนน่าเกลียดมันก็อาจจะกลายเป็นผีเสื้อแสนสวยเข้าสักวัน” ชลาธลพูด กฤษณามองหน้าชลาธลตาไม่กระพริบ

“ถ้าเราไม่คิดจะพยายามทำดีต่อไป ความดีของเรามันก็คงหยุดอยู่ที่แค่หนอนหน้าตาน่าเกลียดละนะ” ชลาธลตอบ กฤษณายิ้มรับ

“อืม” กฤษณาตอบสั้นๆ พลันผีเสื้อตัวนั้นก็กระพือปีกบินตัดหน้ากฤษณาไป ทั้งสองจ้องมองดูผีเสื้อตัวน้อยบินผ่านแสงอาทิตย์ที่ลอดมาตามใบไม้ มันกระพือปีกอันงดงามของมันไปมาบนท้องฟ้า กฤษณาและชลาธลจับมือกันแน่นพลางจ้องตากันและกัน ความรักของทั้งสองตอนนี้ได้เปลี่ยนแปลงจากหนอนธรรมดากลายเป็นผีเสื้อไปเป็นที่เรียบร้อยแล้ว

“กฤษ วันนี้ไปถ้ำทองกันไหม” ชลาธลถาม กฤษณาพยักหน้า

“เอาสิ จะว่าไปเราเองก็ยังช่วยนายเขียนชื่อขนมไม่เสร็จเลย” กฤษณาตอบ ชลาธลพยักหน้าพลางเดินไปที่บึง ทั้งสองต่างถอดเสื้อผ้าออก

“เออ เราขออย่างนึงได้ไหมกฤษ” ชลาธลหันมาถาม กฤษณายิ้ม

“อะไรหรอ” ชลาธลแก้มแดงเล็กน้อย

“เออ นายช่วยแบบ เอา เออ ของนายหลบๆไปหน่อยได้ปะ คือ แบบ มันทำเราว่ายน้ำไม่สะดวกอะ” ชลาธลพูดแก้มแดงๆ กฤษณาหัวเราะร่า

“อะไร เรานึกว่านายชอบเสียอีก” กฤษณาตอบ ชลาธลมองตาขวางๆ

“แหม ก็ไม่ได้บอกว่าเกลียดสักหน่อย แต่แค่แบบ อืม เรากลัวนายจะขาดใจก่อนนะ” ชลาธลตอบ กฤษณายิ้มรับ

“อืม จะระวังแล้วกัน” กฤษณาตอบ ชลาธลพยักหน้าแล้วกฤษณาก็เกาะไหล่ของชลาธลไว้หลวมๆก่อนที่ชลาธลจะกระโจนลงสู่ผิวน้ำ ชลาธลว่ายผ่านน้ำไปอย่างรวดเร็ว กฤษณากลั้นหายใจไว้อย่างเต็มกำลังส่วนชลาธลก็รีบว่ายไปยังถ้ำทองในไม่กี่อึดใจต่อมา ทั้งสองนั่งพักหายใจอยู่ที่ทางเข้า

“เฮ้อ เหนื่อยเหมือนกันนะเนี่ย” กฤษณาพูด ชลาธลยิ้ม

“ก็นายกลั้นหายใจในน้ำได้ไม่นานนี่นา” ชลาธลตอบ กฤษณาพยักหน้า

“อืมใช่ ตอนเราหานายตอนแรกคิดว่าจะตายเสียแล้ว” กฤษณาพูด ชลาธลมองหน้ากฤษณาอย่างงงๆ

“อ๋อ ก็ตอนที่นายวิ่งหนีไปไง เราก็คิดว่านายน่าจะอยู่ที่นี่เราเลยพยายามดำผุดดำโพล่แทบแย่ พอเจอมันก็อยู่เสียลึกมากเลย ตอนนั้นถ้าเราว่ายเข้าไปช้ากว่านี้หน่อยเราอาจจะไม่รอดก็ได้นะ” กฤษณาพูด ชลาธลตาลุกวาวเลย

“เราน่าจะเดาได้นะว่านายจะไปหาเราที่นั่น” ชลาธลพูด กฤษณายิ้ม

“ไม่เป็นไรหรอก เพราะต่อให้นายอยู่ที่ไหน ตอนนั้นเราก็บอกกับตัวเองแล้วว่าเราจะหายนายให้เจอให้ได้เลย” กฤษณาพูด ชลาธลพยักหน้ารับ

“อืม เราก็เชื่อว่านายต้องหาเราเจอ” ชลาธลตอบ

“ใช่และในที่สุดข้าก็หาแกเจอ” เสียงร้องคำรามน่าสะพรึงกลัวดังขึ้น ทั้งชลาธลและกฤษณาต่างหันหน้าไปพร้อมกัน ชายร่างผอมๆเดินเข้ามายังถ้ำทอง เขาสำรวจดูร่างของเขา

“มีถ้ำทองอีกแห่งซ่อนไว้ด้วยหรอเนี่ย ไม่น่าเชื่อ” ชายคนนั้นพูด

“แกมาทำอะไรที่นี่โขนราม” ชลาธลตอบพลางจ้องหน้าโขนรามเขม็ง กฤษณาพึ่งเคยจะเห็นโขนรามในร่างมนุษย์เป็นครั้งแรก ซึ่งมันก็ดูน่ากลัวไม่ต่างอะไรกับร่างจระเข้เท่าไหร่นัก

“ก็มาตามหาแกไง ท่านท้าว ข้ายอมรับไม่ได้เด็ดขาดที่คนอย่างแกขึ้นมาเป็นท้าว” โขนรามขู่ ชลาธลเอาตัวเข้ากันร่างของกฤษณาไว้

“การแต่งตั้งก็เป็นไปตามกฏของพญาจระเข้ทุกประการแล้ว เจ้าไม่มีสิทธิ์เปลี่ยนแปลงได้หรอก” ชลาธลตอบ โขนรามหัวเราะ

“ใช่ ข้าเปลี่ยนกฏไม่ได้ แต่ข้า ฆ่าเจ้าได้” โขนรามพูดพลางพุ่งร่างของมันเข้าใส่ชลาธลทันที...


“คุณพ่อคะ” เสียงของเด็กสาวปลุกชายหนุ่มให้ได้สติกลับมาชายหนุ่มหันกลับมามอง

“อะจ๊ะ มีอะไรหรือ” ชายหนุ่มถาม เด็กสาวมองหน้าชายหนุ่ม

“คือ คุณแม่บอกให้เอานี่ใส่ลงไปด้วยนะคะ” เด็กสาวพูดพลางยื่นเสื้อผ้ากองนึงส่งให้ ชายหนุ่มพยักหน้าพลางรับเสื้อมาจากเด็กสาว

“คุณพ่อเป็นอะไรหรือเปล่าคะ” เด็กสาวถาม ชายหนุ่มส่ายหัวไปมา

“ไม่นี่จ๊ะ ไปดูแม่เขาหน่อยสิว่าเขาต้องการอะไรอีกไหม” ชายหนุ่มกล่าว เด็กสาวพยักหน้าพลางวิ่งหายออกไปจากห้อง ชายหนุ่มถอนหายใจยาว

“ทำไมต้องเป็นแบบนี้ด้วยนะ” ชายหนุ่มรำพึงก่อนที่จะก้มหน้าก้มตาเก็บเสื้อของเขาต่อไป


ออฟไลน์ THIP

  • Global Moderator
  • เป็ดApollo
  • *
  • กระทู้: 7674
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +986/-10
Re: [novel] นิทานชลาธล by Nat
«ตอบ #65 เมื่อ22-01-2007 20:38:32 »

 :serius2:  :serius2:  :serius2:
จบตอนนี้ได้ไง มาต่อด่วนเลย อยากรู้โขนรามจะทำอะไร  :sad5:

ออฟไลน์ oaw_eang

  • Global Moderator
  • เป็ดHades
  • *
  • กระทู้: 8418
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +2122/-586
Re: [novel] นิทานชลาธล by Nat
«ตอบ #66 เมื่อ23-01-2007 10:07:46 »



สุดยอดแห่งจินตนาการแบบไทยๆ

มันส์เจงๆ  :like2:

meemewkewkaw

  • บุคคลทั่วไป
Re: [novel] นิทานชลาธล by Nat
«ตอบ #67 เมื่อ23-01-2007 15:00:33 »

ในที่สุดก็มีฉาก . . .  :haun1:

โขนรามจะทำอะไรของมันกันน๊า แก่แล้วไม่ทำตัวให้เป็นประโยชน์ ชิส์ๆๆ  :3125:

peang

  • บุคคลทั่วไป
Re: [novel] นิทานชลาธล by Nat
«ตอบ #68 เมื่อ23-01-2007 15:11:58 »

 :sad4:  ไม่เจง  ทำไมจบตอนแบบนี้อ่ะ  ทอ-รา-มาน แน่ๆเลย  มาต่อเลยน๊า  มาอย่างไวเลย  รอได้ไม่เกิน 2 วัน  หลังจากนั้น คงจะขาดใจตายแน่เรย  :sad5:

โขนรามก็นะ  แหมๆๆๆๆ  น่าจะถลกหนังมาทำกระเป๋าซะเจงๆเรย  วุ้ยๆๆๆๆ คนเค้าอุตสาห์ลุ้นๆให้มีฉากกุ๊กกิ๊กๆ ต่อในถ้ำทอง  :haun1: เสียรมณ์หมดเลยอ่า  :serius2:

ตอนหน้าคงมีฉากเศร้าแน่เรย ไม่เจง  ไม่อยากอ่านแบบเศร้าๆอ่ะ  ทำจายมะด้ายยยยยยยยย 

***ขอฉากกุ๊กกิ๊กๆ อีกซัก 2-3ฉากแล้วค่อยเศร้าได้มะเนี่ย  :interest:

ออฟไลน์ ที่ปรึกษาไอทีขั้นต้น

  • Administrator
  • เป็ดApollo
  • *
  • กระทู้: 6853
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +1320/-22
Re: [novel] นิทานชลาธล by Nat
«ตอบ #69 เมื่อ23-01-2007 20:04:14 »

shell ผมไม่ได้ตัดตอนเองน้า คิกคิก ยกความผิดทั้งหมดให้คนเขียน ความดีเก็บไว้คนเดียว คิกคิก(nat จะมาอ่านเจอป่าวหวา เอิ้กๆ)  :haun2:

oaw_eang  ตำนานจากอดีตคงมีส่วนจริง ส่วนแต่งเพิ่มปนกันไปนะผมว่า นี่ถ้าอดีตคนไทยยอมรับเรื่องแบบนี้
คงมีแนวนี้ออกมาบ้างแล้วเนอะ  :haun6:

meemewkewkaw  เหอะๆ รอฉากนี้อยู่อ่ะดิ คิกคิก คุณ nat เป็นคนที่เขียนฉากแบบนี้ได้ถึงอารมณ์มากๆ  มันต่างจากเรื่องเอ็กซ์ทั่วไป ยังไงผมก็อธิบายไม่ได้ รู้แต่ว่าเลือดพรุ่งปรี๊ด  :kikkik:

peang  อิอิ ท่าทางซาดิส เด่วเอาชลอ แทนชลาธลให้ไปละกัน ซาดิสพอกัน  ลองหาเอานะอยู่แถวๆบอร์ดนี่แหละ
:pigha2:

*******************************************************

บทที่ 19

“เอ้า เร็วๆเข้าเดี๋ยวช้าแล้วรถจะติดนะ” ชายหนุ่มเร่ง หญิงสาวก็รีบวิ่งขึ้นรถมาทันที

“ขอโทษทีคะ หาของฝากของคุณพ่อไม่เจอ” หญิงสาวพูด ชายหนุ่มส่ายหัว

“ก็บอกให้วางไว้ที่หัวเตียงก็ไม่เชื่อ” ชายหนุ่มบ่น หญิงสาวเบ้ปาก

“ก็แหม ขืนวางไว้ข้างนอกก็ละลายหมดสิคะ แช่ตู้เย็นไว้นะดีแล้ว” หญิงสาวตอบ ชายหนุ่มพยักหน้า

“ทุกคนครบนะ” ชายหนุ่มถาม

“ค่ะ ลิลี่อยู่กับหนูแล้วคะ” เด็กสาวตอบ ชายหนุ่มพยักหน้าพลางค่อยๆถอยรถออกจากบ้านไป

“เดี๋ยวลิลี่จะได้รู้จักกับคุณปู่แล้วนะ” หญิงสาวพูด เด็กน้อยยิ้มรับ

“คะ ลิลี่เองก็อยากเจอคุณปู่คะ” เด็กสาวตอบ ชายหนุ่มอดยิ้มตามไปด้วยไม่ได้ ตอนนี้เขากำลังมุ่งหน้ากลับไปที่ที่เขาห่างหายไปนานแสนนาน แต่ความทรงจำของเขาไม่เคยเลือนหายไปกับกาลเวลาเลย...


““ใช่ ข้าเปลี่ยนกฏไม่ได้ แต่ข้า ฆ่าเจ้าได้” โขนรามพูดพลางพุ่งร่างของมันเข้าใส่ชลาธลทันที ชลาธลเบี่ยงตัวพลางโอบร่างของกฤษณาเอาไว้ โขนรามต่อยเข้าที่กำแพงของถ้ำทอง หนังของแม่ชลาธลร่วงลงมากองที่พื้น พลันโขนรามก็หันมาต่อยชลาธลอีกครั้งแต่ชลาธลตั้งการ์ดรับไว้ได้

“ทำไมแกไม่พูดกันดีๆบ้างละ” ชลาธลร้อง โขนรามถอยออกมาตั้งหลัก

“จระเข้เขาไม่พูดกันหรอกเว้ย มันต้องกัดกันถึงจะถูก” โขนรามพูดจบก็พุ่งเข้าใส่ชลาธลอีกครั้ง ชลาธลหลบไปด้านข้างซ้าย เขาหันหน้าเขาหน้าโขนรามที่ยืนหันข้าางให้เขาพลางจับแขนซ้ายของโขนรามยกขึ้น ขาขวาของชลาธลกวาดไปที่เท้าของโขนรามพลางกดแขนซ้ายของโขนรามลง โขนรามที่โดนขัดขาก็เสียการทรงตัวประกอบกับแขนที่โดนกดลงทำให้ร่างของโขนรามกระแทกลงที่พื้นเสียงดังสนั่น

“ตึง” ชลาธลกดร่างของโขนรามเอาไว้

“ฝีมืดดีขึ้นนี่หว่า แบบนี้ค่อยน่าลุ้นหน่อยละเว้ย” โขนรามพูดขึ้นพลางยกขาขึ้นเตะมา ชลาธลปล่อยแขนของโขนรามเพื่อรับขาของโขนราม พลันโขนรามก็ใช้แขนของมันดันตัวเองลุกขึ้น ชลาธลถอยหลังมาเล็กน้อย โขนรามยิ้มแสยะ

“หึๆ ดูเหมือนว่าตลอดมาแกจะไม่ยอมแสดงความสามารถที่แท้จริงสินะ” โขนรามพูด ชลาธลไม่ตอบพลางจ้องตาโขนรามเขม็ง

“คราวนี้เอาจริงแล้วนะ” โขนรามพูดพลางวิ่งเข้าใส่ ชลาธลปล่อยหมัดตรงออกไปแต่ทันใดนั้นเองโขนรามก็ทรุดตัวลงกับพื้นพลางกวาดขาของมันไปโดยรอบ ชลาธลโดนสกัดขาจะล้ม ร่างของชลาธลเอนไปทางซ้ายฉับพลันมือขวาของโขนรามก็พุ่งกระแทกเข้าที่ซี่โครงของชลาธลอย่างจัง

“อ๊อก” ชลาธลกระอักเลือดเล็กน้อย โขนรามไม่ปล่อยโอกาสให้หลุดมือมันกระโดดตัวขึ้นเล็กน้อยพลางสะบัดขาของมันฟาดไปที่คางของชลาธลเต็มๆ ชลาธลหน้าหันเลือดกระเด็นเป็นสายและล้มลงที่พื้นเลือดกลบปาก

“อะไร ฝีมือเมื่อกี้ไปไหนแล้วละ” โขนรามพูดอย่างถ้าทาย ชลาธลค่อยๆดันตัวเองขึ้นมาช้าๆ

“อ๊อก” ชลาธลสำลักเลือดออกมาก้อนใหญ่ โขนรามเดินเข้ามาใกล้ชลาธล

“เดี๋ยวก็จบแล้วละนะไอ้หนู” โขนรามพูด ชลาธลยิ้ม

“ไม่ง่ายนักหรอกลุง” ชลาธลพูดฉับพลันเขาก็ยกแขนขวาขึ้นเสยคางของโขนรามเต็มๆ โขนรามที่ไม่ทันป้องกันตัวโดยเสยเข้าที่คางถึงกับหงายหลัง ชลาธลหันกลับไปพลางกำมือซ้ายแน่น เขาสะบัดแขนซ้ายใส่แก้มของโขนรามเต็มๆ โขนรามเซเล็กน้อย ชลาธลยกการ์ดสูงพลางสะบัดขาเตะเข้าที่ก้านคอของโขนราม ร่างของโขนรามปลิวกระเด็นไปชนกับกำแพงถ้ำ โขนรามลุกขึ้นมาอย่างช้าๆ

“ท่าอะไรของเอ็งวะ” โขนรามพูดพลางเช็ดเลือดที่มุมปาก

“มนุษย์เขาเรียกว่า มวยไทย นะ” ชลาธลตอบ พลางตั้งการ์ดสูง กฤษณามองดูชลาธลอย่างทึ่งๆ

“เชอะ มันก็ดีแต่ท่าสวยละวะ” โขนรามพูดพลางพุ่งเข้าใส่ชลาธลอีก ชลาธลจ้องโขนรามเขม็ง โขนรามปล่อยหมัดตรงออกมา ชลาธลก้มตัวหลบ เขากำมือทั้งสองข้างไว้แล้วพลันยกขึ้นพร้อมๆกัน กำปั้นทั้งสองกระแทกเข้าที่คางของโขนราม ชลาธลยืนขึ้นพลางหมุนตัวไปทางซ้ายโดยที่เขาตั้งแขนของเขาขนานไปกับพื้น ศอกขวาของชลาธลกระแทกเข้าที่ขมับของโขนรามเต็มๆ

“หะ หนุมานถวายแหวน ตามด้วยศอกกลับ” กฤษณาร้องอุทานด้วยความทึ่ง โขนรามโซซัดโซเซ พลันชลาธลที่ยืนหันหลังให้โขนรามก็พลิกตัวกลับไปทางขวาพลางสะบัดขาซ้ายเตะเข้าสีข้างของโขนรามเต็มๆ

“จระเข้ฟาดหาง” กฤษณาพูดชื่อท่า โขนรามล้มตัวลงกับพื้นพลางกระอักเลือดออกมาก้อนใหญ่

“แม่ง อยู่ในร่างนี้ทำอะไรไม่ถนัดเลย” โขนรามร้อง ชลาธลจ้องโขนรามตาไม่กระพริบ แล้วพลันโขนรามก็มองไปเห็นกฤษณาที่นั่งดูอยู่ห่างๆ โขนรามยิ้มแสยะพลางพุ่งเข้าใส่กฤษณา ชลาธลที่ไม่ทันระวังตัวจึงเผลอเรอปล่อยให้โขนรามเข้าใกล้กฤษณาได้ โขนรามแยกเขี้ยวหมายจะขย้ำคอของกฤษณา แต่ชลาธลเอาตัวมาขวางไว้ เขี้ยวของโขนรามงับเข้าที่ไหล่ของชลาธลเต็มๆ เลือดสีแดงไหลชุ่มออกมาเต็มปากของโขนราม

“อั๊ก” ชลาธลกัดฟัน โขนรามกระโดดถอยออกมาพลางหัวเราะร่า

“ฮะๆ ว่าแล้วว่าแกต้องเลือกปกป้องมนุษย์ก่อนแน่ๆ ดูสิว่าแกจะปกป้องมันไปได้แค่ไหน” โขนรามไม่พูดเปล่าพลางวิ่งเข้าใส่กฤษณา ชลาธลตั้งแขนสูง โขนรามออกหมัดตรงแต่มันกลับเลยผ่านตัวชลาธลไป ชลาธลทิ้งศอกหมายจะตัดแขนของโขนรามไม่ให้เข้าใกล้กฤษณา แต่เพราะชลาธลมัวแต่สนใจแขนข้างนั้น โขนรามรีบบิดตัวพลางสะบัดแขนอีกข้างเสยเข้าที่คางของชลาธลทันที

“โอกาสละ” โขนรามร้องมันจับแขนของชลาธลแล้วเหวี่ยงชลาธลกระเด็นออกไป ชลาธลกระแทกที่พื้นสองสามทีพลางพยายามยกตัวขึ้น โขนรามจับคอของกฤษณายกขึ้น

“ไอ้มนุษย์น่ารังเกียจนี่เกะกะจริงๆ” โขนรามร้อง

“ปล่อยตัวเขานะ” ชลาธลกระโจนพุ่งเข้าใส่โขนรามแต่โขนรามกลับเอาร่างของกฤษณามากันเอาไว้ ชลาธลหยุดการเคลื่อนไหวลงชั่วคราว โขนรามได้โอกาสมันรีบโยนกฤษณาออกไปข้างตัวพลางยกศอกเข้าใส่หน้าของชลาธลเต็มๆ เลือดไหลกระเซ็นออกมาจากจมูกและปากของชลาธล โขนรามต่อยเข้าที่กรามของชลาธลอีก ชลาธลล้มลงหายใจหอบ

“โอ๊ก” ชลาธลคายเลือดออกมากองใหญ่ โขนรามยิ้มแสยะ

“มัวแต่คิดจะปกป้องมนุษย์อยู่นั่นแหละ ทำไมวะ มนุษย์มันก็ไม่เห็นจะมีอะไรดีทำไมเราต้องไปแคร์อะไรมันด้วย” โขนรามถาม ชลาธลหายใจหอบ

“ก็เพราะมนุษย์นะ ก็เพราะมนุษย์ สอนให้เรารู้จักกับคำว่ารักนะสิ” ชลาธลตอบ โขนรามยกไหล่

“รักบ้า รักบออะไรก็แค่การสืบพันธุ์และว้า” โขนรามตอบ ชลาธลก้มลงมองดูที่พื้นของถ้ำทอง ผนังของมันมีรอยร้าวจากการต่อสู้ค่อนข้างมาก ชลาธลมองหน้ากฤษณาเหมือนเป็นสัญญาณ กฤษณาตาลุกเล็กน้อย

“ความรักมันมีค่ามากกว่านั้นอีก” ชลาธลตอบ โขนรามแยกเขี้ยว

“มันมีค่ามากกว่าชีวิตของแกหรือไง” โขนรามย้อน ชลาธลยิ้ม

“ก็มากกว่าชีวิตแกและก็ถ้ำนี้แล้วกัน” ชลาธลตอบ พลันเขาก็พุ่งตัวเขาไปกอดกฤษณาไว้

“ย้ากกกกกกกกกกกกก” ชลาธลร้องเสียงดังพลางต่อยไปที่พื้นถ้ำทันที พื้นถ้ำเริ่มมีรอยร้าวและรอยร้าวก็ไล่ไปตามผนังถ้ำทุกหนทุกแห่ง โขนรามมองดูไปรอบตัว ชลาธลไม่รอช้ารีบกระโจนร่างของเขาออกจากถ้ำพลางกอดตัวของกฤษณาเอาไว้แน่น โขนรามที่ไม่ทันระวังตัวก็โดนผนังถ้ำหล่นใส่เป็นจำนวนมาก ชลาธลกับกฤษณาหันกลับไปมองถ้ำทองที่ค่อยๆพังทลายลงต่อหน้าต่อตา กฤษณามองหน้าชลาธลที่ได้แต่มองดูถ้ำล้ำค่าของตนค่อยๆพังทลายกลายเป็นก้อนดิน

“ครืนนนน” เสียงดังสนั่นไปทั่ว แล้วจระเข้ตัวใหญ่ก็ทลายเศษหินและดินของถ้ำพุ่งเข้ามา ชลาธลพลักร่างของกฤษณาออกไป เจ้าจระเข้ยักษ์งับตัวของชลาธลเอาไว้ในปาก กฤษณาที่สุดจะกลั้นลมหายใจรีบโพล่ขึ้นไปเหนือน้ำทันที เขาโพล่ขึ้นมาหายใจหอบแฮ่กๆ

“ตู้ม” เสียงน้ำระเบิดดังขึ้นมา กฤษณามองดูร่างของชลาธลยังอยู่ในปากของจระเข้ยักษ์นั่น มือของชลาธลพยายามจะอ้าปากอันใหญ่โตของมันออกแต่ดูเหมือนจะไม่มีประโยชน์อะไรเท่าไหร่นัก

“กฤษ หนีไป” ชลาธลร้องพลางพยายามดันตัวเองออกมาแต่เจ้าจระเข้นั่นยิ่งสะบัดหัวของมันไปมา กฤษณาดัวยความตื่นตกใจจึงพยายามว่ายถอยห่างออกไป เขาว่ายไปได้สักพักพลางหันกลับมามอง ชลาธลกำลังดิ้นไปมาอย่างยากลำบาก เลือดเริ่มไหลออกมาจากปากของเจ้าจระเข้นั่น กฤษณามองดูชลาธลต่อสู้เพียงลำพัง เขากำหมัดแน่นพลางว่ายกลับไปหาชลาธลทันที

“ธล เรามาช่วยแล้ว” กฤษณาร้อง ชลาธลเหลือบหันกลับไปมองทันที

“ยะ อย่าเข้ามา โอ๊ย” ชลาธลร้อง กฤษณาจ้วงมืออย่างรวดเร็วเข้าไปใกล้ แต่พลันร่างของเขาเหมือนโดนอะไรสักอย่างกระแทกใส่

“อุ๊ก” หางของเจ้าจระเข้ยักษ์ฟาดเข้าตรงกลางท้องของกฤษณาเต็มแรง กฤษณาจุกจนเผลอกลั้นหายใจ เขากลืนน้ำเข้าไปอึกใหญ่

“กฤษ” ชลาธลร้องเสียงหลงพลางมองร่างของชายที่ตนรักค่อยๆจมลงสู่ผิวน้ำช้าๆ

“ปล่อย ข้านะ” ชลาธลคำรามกึกก้องพลางออกแรงดันปากใหญ่มหึมาของโขนรามออก ชลาธลดันมันจนเปิดกว้างพลางกระโดดออกมาจากปากของโขนราม ชลาธลพุ่งตัวฉิวไปอุ้มร่างของกฤษณาขึ้นมาทันที ชลาธลลากร่างที่เกือบไร้สติของกฤษณามาไว้บนฝั่ง กฤษณาเมื่อสูดอากาศเข้าไปได้ก็ไอค่อกแค่กสำลักน้ำออกมาก้อนใหญ่

“กฤษ นายไม่เป็นไรนะ” ชลาธลมองดูด้วยสายตาที่เป็นห่วง กฤษณามองหน้าชลาธล

“นะ นายเป็นอะไรหรือเปล่า” กฤษณาถาม ชลาธลลุกขึ้นยืนช้าๆพลางกำหมัดแน่น

“ไอ้โขนราม วันนี้แกเป็นศพแน่” ชลาธลคำราม ร่างของชลาธลเริ่มปรากฏอักขระสีแดงไล่ไปทั่วร่างของเขา อักขระทั้งหลายส่องแสงสีแดงสว่างจ้า ร่างผิวสีน้ำผึ้งค่อยๆถูกแทนที่ด้วยผิวหนังเป็นเกล็ดเต็มร่าง เล็บที่แหลมคมงอกยาวออกมา หางค่อยๆงอกยาวออกมาลากพื้น แววตาค่อยๆเปลี่ยนเป็นสีแดงสนิท ฟันที่งอกยาวออกมากลายเป็นเขี้ยวจำนวนมากมาย

“กรร กรร กรร” ชลาธลคำรามอยู่ในลำคอ พื้นหญ้าที่เขายืนอยู่เริ่มปรากฏรอยไหม้เพราะความร้อน

“ธะ ธล” กฤษณาพูดพลางมองร่างชลาธลที่เปลี่ยนเป็นครึ่งคนครึ่งจระเข้ ชลาธลหันหน้าเผชิญกับโขนราม ไอควันสีขาวๆพวยพุ่งออกจากปาก

“โฮกกก” ชลาธลคำรามพลางพุ่งร่างเข้าใส่ตัวโขนรามอย่างรวดเร็ว ชลาธลต่อปากของโขนรามเต็มแรงเสียดัง ปั้ง หน้าของโขนรามกระแทกกับผิวน้ำเสียงดังตูม แต่ชลาธลไม่ได้หยุดแค่นั้นเขาจับปากส่วนบนของโขนรามพลางยกมันขึ้น

“แค๊วก” เสียงของปากส่วนบนที่ชลาธลกระชากนั้นขาดหลุดออกจากกัน เลือดสีแดงไหลฉานไปทั่ว ชลาธลจับเข้าที่ขาซ้ายของโขนรามพลางดึงมันหลุดติดมือออกมาด้วย โขนรามที่ปากแหว่งออกไปไม่สามารถแม้แต่จะส่งเสียงร้องอันใดได้ ชลาธลจับหางของโขนรามพลางเหวี่ยงกระเด็นไปขึ้นฝั่งผ่านตัวของกฤษณาไปแบบเส้นยาแดงผ่าแปด ร่างของโขนรามดิ้นกระแด๊กๆเลือดไหลออกเป็นทาง ชลาธลกระโดดตามขึ้นมาบนบก เขาเดินย่างสามขุมตรงไปหาโขนรามทันที ตาของโขนรามเหลือบมามองชลาธลอย่างหวาดหวั่น ชลาธลพุ่งตรงไปหาโขนรามอย่างไม่รีรอ พลันเขายกมือขึ้นสูงแล้วก็เสียบเข้าทะลุร่างของโขนราม

“ฉัวะ” เสียงของมือชลาธลทะลุผ่านผิวหนังของโขนราม ชลาธลกระฉากมือของเขาออกมาพลางหยิบบางอย่างติดมือขึ้นมาด้วย หัวใจของโขนรามยังเต้นตุ๊บๆในมือของชลาธล กฤษณาจ้องมองชลาธลตาค้างๆ ร่างของเขาสั่นเทาด้วยความกลัว เขาไม่เคยเห็นชลาธลในสภาพแบบนี้มาก่อนเลย

“ธะ ธล” กฤษณาพูดด้วยปากที่สั่นเทา ชลาธลหันควับมาทางกฤษณา แววตาสีแดงเป็นประกาย อักขระที่เป็นผื่นปื้นยังคงส่องแสงอยู่รอบกาย ชลาธลก้าวเข้ามาหากฤษณาอย่างช้าๆ

“พรืด พรืด” เสียงลมหายใจของชลาธลวิ่งผ่านอากาศออกมาเป็นควันขาวโขมง ชลาธลเดินเข้ามาใกล้กฤษณาเรื่อยๆ แววตาสีแดงน่าสะพรึงกลัวและไม่เป็นมิตร ชลาธลไม่พูดพร่ำทำเพลงพลางยื่นมือมาจับคอของกฤษณาไว้พลางยกร่างของเขาขึ้น

“อ๊อก อ๊อก ธะ ธล อ๊อก” กฤษณาตาเหลือก เพราะชลาธลค่อยๆบีบมือของเขาแน่นเข้าทุกทีๆ กฤษณาเริ่มดิ้นไปมา มือพยายามจับที่แขนของชลาธล

“ธะ ธล” กฤษณาจะส่งเสียงแต่คอของเขากลับโดนบีบแน่น บนหัวของเขาเริ่มมีเส้นเลือดปูดโปน ชลาธลคำรามในลำคอเสียงดัง

“ไอํธล” เสียงของหลวงตายุทดังขึ้น ทั้งกฤษณาและชลาธลต่างหันไปมองหลวงตายุทที่ยืนหายใจหอบอยู่ไม่ไกลนัก ชลาธลปล่อยตัวกฤษณาลงกับพื้น กฤษณาถึงกับหายใจหอบเสียงดังพลางไอเป็นวรรคเป็นเวร

“กรร ครือออ” ชลาธลเดินถอยจากร่างของกฤษณาเซๆ เขามองดูมือของตัวเองอย่างสับสน

“แค่ก ธะ ธล แค่ก แค่ก” กฤษณาร้อง ชลาธลเอามือกุมหัวเอาไว้พลางส่งเสียงร้อง

“อ๊ากกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกก” ชลาธลร้องเสียงหลงพลางดิ้นพล่านไปทั่ว กฤษณาพยายามจะพยุงตัวลุกขึ้นแต่หัวที่หมุนติ้วไม่อาจทำให้เขาพยุงตัวเองขึ้นมาได้เลย ชลาธลมองหน้ากฤษณา และสิ่งที่กฤษณาเห็นก็คือน้ำตาที่ไหลออกมาจากดวงตาสีแดงก่ำ ชลาธลหันหลังพลางกระโดดหนีลงน้ำไป กฤษณาพยายามจะลุกขึ้นไปตามแต่ร่างของเขากลับล้มลงกับพื้น

“ธล ธล” กฤษณาร้องหลวงตายุทรีบเข้ามาประคองร่างของกฤษณาเอาไว้ทันที

“รีบกลับไปที่วัดก่อน” หลวงตายุทพูดพลางพยุงร่างของกฤษณาขึ้น

“ธะ ธล มะมันเกิดอะไรขึ้น” กฤษณาถามเสียงแหบ หลวงตายุทก้มหน้าลงอย่างเศร้าๆ

“ไอ้ธลกำลังจะกลายเป็นจระเข้” หลวงตายุทตอบ กฤษณาถึงกับอึ้งพูดอะไรไม่ออกไปชั่วคราว...


“พ่อไม่เปิดวิทยุหน่อยหรอ” เสียงของหญิงสาวดังขึ้น ชายหนุ่มสะดุ้ง

“อะจ๊ะ” เขาตอบพลางเอื้อมมือไปกดปุ่มที่เครื่องเสียงอย่างผิดๆถูกๆ หญิงสาวส่ายหัวพลางบิดที่ลูกบิดกลมๆพลันวิทยุก็เริ่มทำงาน ชายหนุ่มหลบหน้าด้วยความเขินอาย หญิงสาวส่ายหัวไปมาพลางวางมือบนไหล่ของชายหนุ่ม

“อย่าคิดมากเลยนะคะ” หญิงสาวพูดพลางหันหน้ากลับไปมองถนนหนทางอีกครั้ง ชายหนุ่มถอนหายใจเบาๆ

“ธล” ชายหนุ่มคิดอยู่ในใจ เพราะในสมองของเขาตอนนี้มีแต่ชื่อ ชลาธลเท่านั้นที่เด่นชัดในความทรงจำต่อให้นานแค่ไหนก็ตาม

« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 23-01-2007 20:06:32 โดย b|ueBoYhUb »

CoMMuNiTY Of ThAiBoYsLoVE

Re: [novel] นิทานชลาธล by Nat
« ตอบ #69 เมื่อ: 23-01-2007 20:04:14 »
ประกาศที่สำคัญ


ตั้งบอร์ดเรื่องสั้น ขึ้นมาใครจะโพสเรื่องสั้นให้มาโพสที่บอร์ดนี้ ถ้าเรื่องไหนไม่จบนานเกิน 3 เดือน จะทำการลบทิ้งทันที
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=2160.msg2894432#msg2894432



รวบรวมปรับปรุงกฏของเล้าและการลงนิยาย กรุณาเข้ามาอ่านก่อนลงนิยายนะครับ
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=459.0



สิ่งที่ "นักเขียน" ควรตรวจสอบเมื่อรวมเล่มกับสำนักพิมพ์
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=37631.0






ออฟไลน์ THIP

  • Global Moderator
  • เป็ดApollo
  • *
  • กระทู้: 7674
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +986/-10
Re: [novel] นิทานชลาธล by Nat
«ตอบ #70 เมื่อ23-01-2007 20:25:10 »

“ความรักมันมีค่ามากกว่านั้นอีก”  :monkeysad:  :monkeysad:
อย่าบอกนะว่าเพราะธลกลายเป็นจรเข้ พวกเขาถึงต้องจากกัน   :impress3:  :sad4:
นาทีนี้ เดาเรื่องไม่ออกแล้วววววววววว  :serius2:  :serius2:  :serius2:

wee

  • บุคคลทั่วไป
Re: [novel] นิทานชลาธล by Nat
«ตอบ #71 เมื่อ23-01-2007 23:58:15 »

เมื่อมีความโกรธเข้ามาครอบงำจิตใจ มักจะทำให้เหตุผล และความรัก ดูด้อยค่าลงเสมอ
แต่...เมื่อความโกรธผ่านไป  เรากลับต้องมาเสียใจ จากผลที่เรากระทำไปด้วยความโกรธนั้นเสมอ
ชลาธล...ก็คงเป็นอย่างนี้เช่นกัน  พอรู้สึกตัว ควบคุมตัวเองได้ คงเสียใจน่าดู ทีเดียว ที่เกือบทำร้ายคนที่ตนรัก...มากทึ่สุดไป
 :sad5: :sad5: :sad5:

meemewkewkaw

  • บุคคลทั่วไป
Re: [novel] นิทานชลาธล by Nat
«ตอบ #72 เมื่อ24-01-2007 02:12:46 »

ไหงเป็นงี้ไปได้อ่ะ . . .  :monkeysad:
อย่าบอกนะว่านี่จะเป็นครั้งสุดท้ายที่ธลกับกฤษได้เจอกัน
สงสารธลอ่ะ กลายร่างแล้วทำร้ายคนรัก พอรู้สึกตัวน้ำตาก็ไหล :monkeysad2:

peang

  • บุคคลทั่วไป
Re: [novel] นิทานชลาธล by Nat
«ตอบ #73 เมื่อ24-01-2007 09:33:40 »

 :pigha2:  ไม่เจง  ไหงกลายเป้นแบบนี้ไปได้   :monkeysad:  ธล หนีไปแบบนี้ แล้วฉากกุ๊กกิ๊กๆ ของช้านอยู่หนายเนี่ย  เอาฉากกุ๊กกิ๊กๆ มานะ เอามาเลย  :monkeycry2:

แต่สะใจมาก ธลดึงปากโขนรามซะแหว่ง (นึกถึงเรื่องคิงคองเลยอ่ะ ตอนสู้กับไดโนเสาร์.....คิงคองก็หักปากไดโนเสาร์เหมือนเลย)  แต่สะใจอีกรอบตรงที่ เอามือกระซวกลงไป ควักหัวใจออกมา  :laugh:  เป็นไงละไอ้โขนราม  ไม่รู้จักว่า ไผเป็นไผ  :laugh:

แอบหวังเล็กๆ ว่า กฤษ มาเยี่ยมบ้านครั้งนี้ คงจะได้เจอ ธล อีกนะ  :impress2:  ผู้เขียนคงไม่ใจร้ายให้มันจบแบบเศร้าๆ ใช่มะ  :impress2:   ถ้าจะเศร้า ขอฉากกุ๊กกิ๊กก่อนเศร้าด้วยน๊า....... :impress:

ออฟไลน์ ที่ปรึกษาไอทีขั้นต้น

  • Administrator
  • เป็ดApollo
  • *
  • กระทู้: 6853
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +1320/-22
Re: [novel] นิทานชลาธล by Nat
«ตอบ #74 เมื่อ24-01-2007 20:13:36 »

คิกคิก ใกล้จะจบแล้วนะครับ ใครจะเดาไรก็รีบๆๆเดานะครับ
***********************************************************

บทที่ 20

“พ่อจะเอาอะไรไหม” หญิงสาวถามพลางกำลังจะเดินเข้าไปในร้านขายของชำที่ปั้มน้ำมัน ชายหนุ่มส่ายหัวไปมา

“ไม่ละจ๊ะ ตามสบายเถอะ เดี๋ยวพ่ออยู่ดูรถเอง” ชายหนุ่มตอบ หญิงสาวพยักหน้าพลางจูงมือของเด็กหญิงตามเข้าไป ชายหนุ่มถอนหายใจยาว พลางแหงนหน้ามองท้องฟ้า ตอนนี้เขาหยุดพักเติมน้ำมัน ใจของชายหนุ่มเองก็อยากจะหยุดพักไม่แพ้กัน เพราะอีกไม่กี่ชั่วโมงข้างหน้าเขากำลังจะกลับไปสู่ที่ที่เขาเคยมีความสุขมาตลอด...


หลวงตายุทพยุงร่างของกฤษณากลับไปที่วัด กฤษณายังคงสับสนกับเรื่องที่เกิดขึ้น

“เอ็งไม่เป็นอะไรมากใช่ไหม” หลวงตายุทถาม กฤษณาส่ายหัว

“มะ ไม่เป็นไรครับหลวงตา ตะ แต่ว่ามันเกิดอะไรขึ้นกับธลครับ” กฤษณาถาม หลวงตายุทถอนหายใจยาว

“ข้าคงต้องให้เอ็งเล่าเรื่องราวก่อนละ” หลวงตายุทถาม กฤษณาจึงเริ่มเล่าเหตุการณ์ทั้งหมดให้หลวงตายุทฟัง หลวงตายุทส่ายหัวไปมา

“เฮ้อ ไอ้ธลเอ้ย” หลวงตายุทบ่น กฤษณาเริ่มมีสีหน้าที่ไม่สบายใจมากขึ้น

“หลวตาย ธลเขาเป็นอะไร ทำไมเขาถึงเป็นแบบนั้น แล้ว แล้ว...” กฤษณาเริ่มลนลานเรียบเรียงคำพูดไม่ถูก

“ใจเย็นๆไอ้กฤษ ข้ากำลังจะอธิบายให้เอ็งฟังอยู่นี่แหละ เอ็งก็รู้ใช่ไหมว่าไอ้ธลมันผนึกร่างของมันไว้ด้วยผนึกถ้ำทอง” หลวงตายุทพูด กฤษณาพยักหน้ารับ

“ผนึกถ้ำทองนะ ถ้าใช้กับจระเข้ธรรมดาอย่างแม่ของไอ้ธล มันก็จะส่งผลให้แค่เปลี่ยนร่างจระเข้ให้กลายเป็นคนได้ แต่กับไอ้ธลมันไม่ใช่แค่นั้น อย่างที่เอ็งรู้ไอ้ธลมันมีเลือดจระเข้อยู่ครึ่งนึง ร่างกายของมันทั้งหมดจึงไม่ใช่จระเข้และจิตใจของมันบางส่วนก็ไม่ใช่มนุษย์เช่นเดียวกัน มันคงไม่รู้ว่าผนึกถ้ำทองของมันจึงเป็นแบบพิเศษที่จะใช้สะกดความบ้าคลั่งของร่างจระเข้เอาไว้ ซึ่งไอ้ธลก็โดนสะกดไว้ตั้งแต่ข้ายังไม่เกิดเลยละมั้ง ร่างจระเข้ของมันจึงเหมือนโดนเก็บกดเอาไว้มานานแรมปี พอทีนี้มันโกรธที่ไอ้โขนรามมันทำร้ายเอ็ง บวกกับร่างนั้นที่เก็บสะสมความโกรธมานานหลายปี ไอ้ธลจึงขาดการควบคุมออกอาละวาดไปทั่ว ตอนแรกข้าคิดว่าถ้าไอ้ธลได้เข้าใกล้มนุษย์มากขึ้น หรือมีมนุษย์คนอื่นที่อยากอยู่ข้างเขามันจะช่วยบรรเทาความบ้าคลั่งของมันได้ แต่ดูเหมือนว่าข้าจะคิดผิดไปจริงๆ” หลวงตายุทถอนหายใจ กฤษณาได้แต่กำหมัดแน่น

“แล้วไม่มีทางช่วยธลเขาเลยหรอครับหลวงตา” กฤษณาถาม หลวงตายุทพยักหน้า

“ตอนนี้ผนึกยังไม่แตก ร่างของไอ้ธลยังคงเป็นครึ่งมนุษย์ครึ่งจระเข้อยู่ ถ้าจับมันมาใส่ผนึกได้ใหม่ก็อาจจะทำให้ธลอยู่ในร่างมนุษย์ได้อีกครั้ง” หลวงตายุทกล่าว กฤษณาตาลุกวาวด้วยความหวัง

“งั้นเราจะรออะไรอยู่ละหลวงตา เรารีบไปจับเขามาสิ” กฤษณาพูด หลวงตายุทมองหน้า

“ยังไงละ การจะใช้ผนึกถ้ำทองข้าต้องใช้เลือดเขียนอักขระลงบนร่างของมัน และตอนนี้ไอ้ธลมันอยู่ในสภาพบ้าคลั่ง เอ็งจะทำยังไงถึงจะให้ข้าเขียนอักขระลงบนร่างมันได้ละ” หลวงตายุทถาม กฤษณานิ่งเงียบไปชั่วคราว ปกติชลาธลก็มีแรงมากกว่ามนุษย์อยู่แล้ว ยิ่งอยู่ในสภาพบ้าคลั่งแบบนี้เขาจะทำร้ายใครต่อใครก็ได้ทั้งนั้นไม่เว้นแม้แต่ตัวของกฤษณาเอง

“ละ แล้ว เออ อืม หลวงตาไม่มีคาถาหยุดอะไรเขาไว้เลยหรอครับ” กฤษณาถาม หลวงตายส่ายหัว

“ข้าเองก็ไม่ใช่พรานจระเข้ที่เก่งกาจอะไรนักหรอกนะ อีกอย่างไอ้ธลปกติมันไม่เคยทำตัวมีปัญหาอยู่แล้ว คนรุ่นหลังๆจึงไม่มีการถ่ายทอดคาถาจำพวกนั้นเอาไว้สักเท่าไหร่ ข้าเองก็จำได้แต่คาถาผนึกเท่านั้น” หลวงตายุทพูด กฤษณาก้มหน้าพลางใช้ความคิด

“หลวงตา ผมจะหยุดธลเอง” กฤษณาพูด หลวงตายุททำตาโตใส่ทันที

“ไอ้บ้า เอ็งอยากตายหรือไงวะ เอ็งก็เห็นนี่มันบีบคอเอ็งกับมือมันเลยนะเว้ย” หลวงตายุทร้อง กฤษณาพยักหน้า

“ผมรู้หลวงตา แต่สุดท้ายแล้วเขาก็ยังปล่อยตัวผม ผมเชื่อว่าจิตใจที่เป็นมนุษย์ของธลยังต่อสู้อยู่ข้างใน ถ้าเป็นอย่างนั้นจริงผมก็อาจจะพอหยุดเขาได้บ้าง อีกอย่างผมเชื่อใจธลเพราะเขาจะไม่ทำร้ายผมแน่ๆ” กฤษณาพูดอย่างมั่นใจ หลวงตายุทมองดูแววตาอันแน่วแน่ของเด็กหนุ่ม หลวงตายุทยิ้มพลางผงกหัวเบาๆ

“ข้าคิดถูกจริงๆที่ให้ไอ้ธลคบกับเอ็ง เอาเถอะ แต่เราต้องมีการวางแผนให้ดีก่อนเพราะตอนนี้ไอ้ธลอยู่ไหนเราก็ไม่รู้” หลวงตาพูด

“กรี๊ดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดด” เสียงกรีดร้องดังสนั่น ทั้งหลวงตายุทและกฤษณาต่างรีบวิ่งออกไปดู ทั้งสองเห็นคนวิ่งหนีไปทั่วบ้างก็เข้ามาหลบในวัด ชายคนนึงวิ่งมากราบหลวงตายุทที่เท้า

“หลวงตาช่วยด้วยปีศาจจระเข้อาละวาด” ชายคนนั้นพูดปากสั่นเทา หลวงตายุทและกฤษณาต่างวิ่งออกไปดูข้างหน้าวัด กฤษณาตาค้าง ชลาธลในร่างจระเข้ยืนกำลังบีบคอหญิงสาวคนนึงพลางยกขึ้นสูง

“ธล หยุดนะ” กฤษณาร้องตะโกนอย่างไม่กลัว ชลาธลหันกลับมาจ้องกฤษณา ดวงตาสีแดงก่ำจ้องเขม็งมาที่เขา ชลาธลว่างร่างของหญิงสาวลงกับพื้นพลางกระโดนใส่ร่างของกฤษณา

“ไอ้กฤษ” หลวงตายุทร้อง กฤษณาถอยตัวเล็กน้อย แต่พลันร่างของชลาธลก็หยุดอยู่กลางทาง มือของเขาสั่งเกร็ง แววตาของชลาธลจับจ้องที่หน้าของกฤษณา

“กรรรรรรรรร อ๊ากกกกกกกกกกกก” ชลาธลร้องคำรามพลางกระโดดพุ่งตัวหายไปต่อหน้าต่อตา กฤษณาพยายามจะยื่นมือออกไปแต่ชลาธลก็หายไปจากตรงนั้นเสียแล้ว กฤษณากำมือแน่นพลางหันหน้าไปมองหลวงตายุท

“หลวงตา เรารีบไปหยุดธลดีกว่า ก่อนที่เขาจะทำอะไรไปมากกว่านี้” กฤษณาพูดด้วยสายตามุ่งมั่น หลวงตายุทยิ้ม

“ห้ามไปก็ไม่มีประโยชน์สินะ ตามข้ามา” หลวงตายุทพูดพลางเดินหันหลังกลับเข้าไปที่วัด กฤษณารีบเดินตามไปทันที หลวงตายุทเดินกลับไปที่ห้องเก็บหอกสัตตะโลหะ กฤษณาเข้าไปก็พบว่าที่ห้องนั้นมีอ่างน้ำขนาดใหญ่ตั้งเอาไว้อยู่ มันเป็นขันขนาดใหญ่สีทองหลวงตายุทเดินเข้าไปที่อ่างนั่น กฤษณาเดินตามหลวงตายุทเข้าไป

“นี่เป็นอ่างที่ข้าใช้ตามหาไอ้ธล ข้าลงยันต์ไว้ที่ตัวมันด้วย ถ้าผนึกจะแตกยันต์นี่จะบอกข้า แล้วข้าก็ใช้อ่างนี่แหละตามหาไอ้ธล” หลวงตายุทพูด กฤษณาก้มลงมองดูเขาก็ไม่พบอะไรนอกจากน้ำธรรมดา

“การจะตามหาไอ้ธลจำต้องใช้ความสัมพันธ์ ยิ่งสนิทกับมันมากเท่าไหร่ก็ยิ่งตามตัวของมันได้ง่ายขึ้นเท่านั้น เอาละยื่นมือมาสิ” หลวงตายุทกล่าว กฤษณายื่นมือขวาของเขาออกไป หลวงตายุทหยิบเอามีดสั้นเล่มเล็กออกมา

“ข้าต้องใช้เลือดของเจ้า อโหสิให้ด้วยนะ” หลวงตายุทกล่าว กฤษณาพยักหน้า หลวงตายุทจับมือขวาของกฤษณาเอาไว้พลางเอาปลายมีดจิ้มลงไปที่นิ้วชี้ หลวงตายุทกดแรงขึ้นจนกระทั่งเลือดสีแดงไหลออกจากนิ้วชี้ของกฤษณาเป็นทาง เลือดสีแดงหยดลงไปในอ่างสีทอง หลวงตายุทท่องคาถาขมุบขมิบ พลันน้ำในบ่อก็ค่อยๆปรากฏภาพของชลาธลช้าๆ กฤษณาก้มลงดูด้วยความทึ่ง

“ชัดเชียวนะ ท่าทางมันจะไว้ใจแกมากจริงๆ” หลวงตายุทพูดพลางก้มลงดูภาพที่ปรากฏในอ่าง ชลาธลวิ่งทำลายข้าวของไปตามถนนหนทาง แววตาสีแดงก่ำ ไอควันขาวๆลอยออกจากปาก กฤษณามองดูถนนพลันเขาก็นึกอะไรขึ้นมาได้

“ธลกำลังจะไปที่บึงสีไฟ” กฤษณาพูดพลางมองหน้าหลวงตายุท

“เฮ้ย ไอ้หมี ไอ้หมี” หลวงตาร้องตะโกน ไม่นานก็มีชายหนุ่มผิวดำตัวเล็กๆวิ่งเข้ามา

“ครับหลวงพ่อ” ชายหนุ่มคนนั้นพูด

“ไปเตรียมรถ เราจะไปที่บึงสีไฟ เดี๋ยวข้าขอเก็บของนิดหน่อย” หลวงตาพูด ชายหนุ่มพยักหน้าพลางวิ่งหายออกจากห้องไป หลวงตาเดินไปหยิบเอาสมุดเล่มเล็กๆออกมาจากตู้พร้อมกับเอามีดใส่ฝักก่อนที่จะเอาทุกอย่างใส่ในย่าม

“หลวงตาให้ผมไปด้วยนะ” กฤษณากล่าว หลวงตามองหน้ากฤษณาพลางถอนหายใจเบาๆ

“หยั่งกับข้าห้ามเอ็งได้ แต่ระวังตัวหน่อยก็แล้วกัน” หลวงตากำชับ กฤษณาพยักหน้ารับก่อนที่ทั้งสองจะวิ่งไปขึ้นรถ กฤษณามองดูไปตามถนนหนทางที่ถูกทำลายราวกับโดนไต้ฝุ่น บ้านเรือนที่มีรอยร้าวบางแห่งก็พังครืนลงมาไม่เป็นท่า ผู้คนบาดเจ็บนอนเกลื่อน กฤษณาแทบจะพูดอะไรไม่ออกกับสิ่งที่เขาเห็น หลวงตาจับไหล่ของเขาเอาไว้เบาๆ

“มันไม่ใช่ความผิดของเอ็งหรอก ไอ้ธลมันเก็บกดอารมณ์ของมันมานานเกินไป มันเลยเป็นแบบนี้แหละ” หลวงตายุทพูด กฤษณาส่ายหัว

“ผมไม่น่าฝืนตัวเองเลย ถ้าผมเชื่อเขาสักนิดธลคงไม่ต้องเป็นแบบนี้” กฤษณาตอบ หลวงตายุทส่ายหัว

“ต่อให้ไอ้โขนรามไม่ทำร้ายเอ็ง ผนึกของไอ้ธลก็ทานไม่อยู่เหมือนกันนั่นแหละ แค่ไอ้ธลมีจิตที่คิดจะต่อสู้มันก็มีผลต่ออารมณ์ของมันแล้วละ ยิ่งมันสู้นานเท่าไหร่ อารมณ์ของมันก็จะยิ่งพลุกพล่านมากขึ้น แบบนั้นจะยิ่งแย่กว่าเพราะถ้าผนึกทั้งหมดแตกออกแล้วไอ้ธลก็อาจหมดสิทธิ์อยู่ในร่างมนุษย์ไปตลอดกาล” หลวงตายุทปลอบ กฤษณาพยักหน้าพลางมองออกไปนอกหน้าต่าง

“เราจะต้องช่วยนายให้ได้ ธล” กฤษณาคิดอย่างมุ่งมั่นก่อนที่รถจะรีบวิ่งฉิวไปที่บึงสีไฟ พอใกล้ถึงต่างมีผู้คนวิ่งหนีกันจ้าละหวั่น บ้างก็กรีดร้องด้วยความหวาดกลัว บ้างก็หอบข้าวของวิ่งราวคนบ้า กฤษณากับหลวงตาลงจากรถพลางวิ่งสวนย้อนผู้คนกลับขึ้นไป

“อยู่นั่น” กฤษณาร้องพลางหันไปมองชลาธลที่ยืนร้องคำราม พลันชลาธลก็หันไปเห็นชายคนนึงที่กำลังยืนถ่ายรูปอยู่ ชลาธลไม่รอช้ากระโดดพุ่งร่างของเขาเข้าไปใกล้ทันที ชายคนนั้นไม่ทันระวังตัวเขาก้าวขาจะวิ่งหนีแต่พลันเขากลับสะดุดล้มลง ชลาธลจับขาของเขาไว้พลางเหวี่ยงออกไปสุดแรง ร่างของชายคนนั้นปลิวว่อนตกลงบ่อน้ำไปทันที ชลาธลไม่ได้หยุดแค่นั้น เขาสอดส่องไปรอบตัวแล้วเขาก็พบเด็กผู้หญิงยืนร้องไห้อยู่ ชลาธลย่างสามขุมเข้าไปใกล้พลางแยกเขี้ยวโง้งส่งเสียงคำรามอย่างน่าสะพรึงกลัว กฤษณาไม่รอช้าวิ่งเข้าไปใกล้ชลาธลทันที

“ธล อย่านะ” กฤษณาร้อง ชลาธลหันหัวมาขวับ กฤษณาหยุดทันทีที่ชลาธลหันมา ทั้งสองประจันหน้ากัน ชลาธลหายใจหอบแรง ควันสีขาวๆลอยออกมาจากปากของเขาเป็นไอ ดวงตาสีแดงสนิท กฤษณาใจเต้นเล็กน้อย

“ธล เรารู้ว่านายได้ยินเรานะ นายต้องอย่ายอมแพ้มันสิ” กฤษณาพูดต่อ ชลาธลพุ่งร่างเข้ามาพลางเอามือบีบคอของกฤษณาไว้ทันที ร่างของกฤษณาถูกยกตัวสูงขึ้นจากพื้น

“ธล นายต้องทำได้สิธล ตลอดเวลาที่ผ่านมานายก็ทำได้มาตลอดนี่” กฤษณาร้อง ชลาธลคำรามมือของเขาค่อยๆบีบที่คอของกฤษณาแน่นเข้าทุกที

“ธะ ธล” กฤษณาเริ่มดิ้น มือของชลาธลค่อยๆบีบคอของกฤษณาแน่นขึ้นทีละน้อย

“ธล เราเชื่อใจนายนะ” กฤษณากล่าว พลันมือของชลาธลก็สั่นกึกๆ เขาปล่อยร่างของกฤษณาร่วงลงที่พื้น

“อ๊ากกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกก” ชลาธลร้องพลางเอามือกุมหัวไว้ แล้วเขาก็กระโดดหนีไปอีก หลวงตายุทวิ่งเข้ามาพยุงร่างของกฤษณาขึ้น

“เอ็งจะบ้าหรือไงวะ วิ่งออกไปแบบนั้นนะ” หลวงตายุทดุ กฤษณามองหน้า

“หลวงตา ธลกำลังสู้อยู่จริงๆด้วย ผมว่าเขากำลังพยายามสู้กับจิตใจของเขาอยู่ และผมเชื่อว่าเขาต้องทำได้” กฤษณาตอบ หลวงตายุทพยักหน้า

“อย่าชักช้าเลย ตอนนี้ต้องรีบหาตัวมันก่อน” หลวงตายุทพูด

“แล้วเราต้องกลับไปดูที่อ่างอีกหรอครับ” กฤษณาถาม หลวงตายุทส่ายหัว

“ไม่จำเป็นหรอก ตามเสียงร้องไป” หลวงตายุทพูด พลันก็มีคนวิ่งออกมาพลางร้องเสียงหลง

“จระเข้ผีในพิพิทธภัณฑ์” ชายคนนึงกรีดร้อง หลวงตายุทมองหน้ากฤษณาพลางรีบวิ่งไปที่พิพิทธภัณฑ์ทันที พอทั้งสองไปถึงผู้คนต่างก็วิ่งหนีจ้าละหวั่น ชลาธลกำลังทุบต่อยอ่างปลาในนั้นแตกกระจายไปทั่ว น้ำในอ่างไหล่เจิ่งนองเต็มพื้นไปหมด ชายคนนึงสะดุดล้มลงเพราะลื่นน้ำ ชลาธลหันหัวไปทันทีพลางหยิบร่างของชายคนนั้นขึ้นมา กฤษณาจะก้าวขาแต่มือของหลวงตาก็ห้ามเอาไว้ หลวงตาหยิบเอาตุ๊กตาควายดินปั้นออกมาวางไว้ที่พื้น หลวงตายุทหลับตาพลางประนมมือเอาไว้ กฤษณามองดูตุ๊กตาดินปั้นค่อยๆขยายร่างขึ้น ตุ๊กตาตัวนั้นแม้จะมีรูปร่างลักษณะทุกอย่างเหมือนควายทุกประการ แต่มันกำลังยืนสองขาและที่อกของมันก็มีอักขระประหลาดติดไว้

“คะ ควายธนู” กฤษณาอุทานเบาๆ พลางหันไปมองหลวงตาที่ยืนสวดมนต์อย่างมีสมาธิ ควายธนูตัวนั้นจ้องไปที่ชลาธลพลางพุ่งร่างของมันเข้าใส่ ชลาธลปล่อยชายคนนั้นลงพลางตั้งการ์ดรับ ควายธนูต่อยเข้าที่แขนของชลาธลแต่ชลาธลนั้นตั้งการ์ดเอาไว้ได้ พลันชลาธลก็ยกขาขวาขึ้นเตะเข้าที่สีข้าง แต่ควายธนูตัวนั้นก็ยกแขนขึ้นตั้งรับ ชลาธลก้าวถอยออกมาตั้งการ์ด กฤษณาเหลือบมองดูหลวงตาที่ขมวดคิ้วแน่นพลางขยับปากขมุบขมิบไปมา ชลาธลเดินเข้าไปใกล้ช้าๆพลางออกหมัดขวาตรง ควายธนูเอียงตัวหลบพลางเอาเขาของมันขวิดเข้าที่ตัวของชลาธล

“ฮึ่ม” ชลาธลร้องพลางเอามือจับเขาทั้งสองข้างของควายธนูเอาไว้ ควายธนูพยายามดันร่างของมันเข้าไปเรื่อยๆแต่ชลาธลเองกลับจับเขาไว้แน่น

“ย๊ากก” ชลาธลร้องพลันเขาก็ยกร่างของควายธนูขึ้นตั้งทำมุมฉากกับพื้นก่อนที่จะฟาดร่างนั่นลงกระแทกกับพื้นเสียงดังสนั่น

“อ๊อก” หลวงตากระอักเลือดออกมากองใหญ่ แต่ก็ยังคงตั้งสมาธิอย่างแน่วแน่ ควายธนูสะบัดหัวไปมาอย่างแรง แต่ชลาธลก็ยังจับเขานั่นไว้ไม่ยอมปล่อย หลวงตาขมวดคิ้ว พลันควายธูนตัวนั้นก็ยกหัวขึ้น ร่างของกฤษณาลอยสูงขึ้น ควายธนูสะบัดหัวให้ร่างของชลาธลกระแทกเข้ากับต้นไม้ ต้นไม้ใหญ่หักโค่นลงทันที ร่างของชลาธลกระเด็นไปเล็กน้อย ชลาธลลุกขึ้นจ้องควายธนูตัวนั้นพลางส่งเสียงคำราม ชลาธลวิ่งเข้าใส่ควายธูนพลางออกหมัดซ้ายตรงทันที ควายธนูตั้งการ์ดรับแต่พลันมือขวาของชลาธลก็พุ่งเข้าสีข้างของควายธนูทันที แต่ควายธนูตัวนั้นเหมือนจะอ่านการเคลื่อนไหวออก มือซ้ายของมันรีบรัดมือขวาของชลาธลไว้ทันทีพลางล๊อกแขนของชลาธลเอาไว้ ชลาธลก้มเอาหัวกระแทกไปที่หัวของควายธนูทันที ร่างของควายธนูเซเล็กน้อยชลาธลสะบัดตัวพลางดึงมือขวาออกจากแขนของควายธนูแล้วสวนกลับด้วยศอก ร่างของควายธนูเดินโอนเอนเล็กน้อยชลาธลจับแขนของควายธนูเอาไว้พลางเหวี่ยงออกไปเต็มแรง ร่างของควายธนูปลิวละลิ่ว ชลาธลวิ่งไปอย่างรวดเร็ว ร่างของควายธนูปลิวลู่ลม ชลาธลที่ดักรออยู่ก่อนแล้วกระโดดหมุนตัวพลางสะบัดขาฟาดเข้าเต็มหน้าของควายธนู ร่างของควายธนูร่วงลงกับพื้น ชลาธลยกขาขึ้นสูงก่อนที่จะกระแทกมันลงไปที่หน้าของควายธนูตัวนั้น ทันทีที่ขาของชลาธลกระแทกลงไปร่างของควายธนูก็แตกเป็นชิ้นเล็กชิ้นน้อย หลวงตายุทสำรอกเลือดออกมาพลางทรุดลงกับพื้น กฤษณาประคองร่างของหลวงตายุทเอาไว้

“หลวงตา” กฤษณาร้อง หลวงตายุทหายใจหอบ

“มะ ไม่ไหว มันเก่งกว่าเดิมมากจริงๆ” หลวงตายุทพูด ชลาธลจ้องเขม็งมาที่ชายทั้งสอง ชลาธลคำรามในลำคอดังครือๆ กฤษณายืนขึ้นเอาตัวบังร่างของหลวงตายุทเอาไว้ ชลาธลพุ่งร่างเข้าหากฤษณาแทบจะในทันที มือที่มีเล็บแหลมคมกางชี้ไปที่หน้าของกฤษณา แต่ชายหนุ่มไม่ได้หลับตาหรือหนีแต่อย่างใด ชลาธลเข้ามาใกล้ร่างของกฤษณาเข้าทุกที กฤษณาจ้องไปที่ดวงตาของชลาธล เขาเชื่อมั่นว่าชลาธลต้องพยายามต่อสู้อยู่เป็นแน่

“เราจะไม่หนี” กฤษณาตั้งมั่น ร่างบ้าคลั่งของชลาธลเข้าใกล้ตัวกฤษณาทุกขณะแล้วพลันร่างของชลาธลก็หยุดลงมือที่จ่อหน้าของกฤษณานั้นสั่นไปมา ชลาธลกัดฟันพลางส่งเสียงร้องในลำคอ ชลาธลถอยเซเล็กน้อยพลางจ้องมือของตน ก่อนที่จะส่งเสียงร้องดังสนั่น

“โหกกกกกกกกกกกกก” ชลาธลคำรามพลางกระโดดหนีหายไปอีก กฤษณาหันไปดูหลวงตาที่ค่อยๆพยุงร่างของเขาลุกขึ้น กฤษณาจึงเข้าไปช่วยอีกแรง


ออฟไลน์ ที่ปรึกษาไอทีขั้นต้น

  • Administrator
  • เป็ดApollo
  • *
  • กระทู้: 6853
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +1320/-22
Re: [novel] นิทานชลาธล by Nat
«ตอบ #75 เมื่อ24-01-2007 20:14:10 »

“ไอ้ธลมันร้ายขึ้นมากจริงๆ แต่ดูเหมือนว่ามันจะพยายามสู้อย่างที่เอ็งพูดนั่นแหละ” หลวงตายุทกล่าว กฤษณาพยักหน้า

“หลวงตาครับ ผมจะล่อธลเอง ผมจะล่อเขาแล้วตอนนั้นหลวงตาก็รีบเขียนอักขระบนร่างของเขาแล้วกันนะครับ” กฤษณาพูด หลวงตามองหน้ากฤษณาอย่างไม่มั่นใจ แต่เขาเองก็คิดทางอื่นไม่ออกอีกแล้ว

“เอางั้นก็ได้ แต่เอ็งห้ามทำอะไรบุ่มบ่ามโดยเด็ดขาดนะ” หลวงตายุทกำชับ กฤษณาพยักหน้า

“แล้วมันจะไปไหนได้อีกวะ” หลวงตายุทถาม กฤษณาคิด

“ธลโพล่มาที่วัด ก่อนจะมาที่นี่ เขาทำลายพิพิทธภัณฑ์ หรือว่า...” กฤษณาตาลุกวาว

“หลวงตา ธลกำลังจะไปที่บ้านผม” กฤษณาพูดขึ้น หลวงตายุทเองก็ตกใจอยู่ไม่น้อยทั้งสองรีบวิ่งกลับไปที่รถ

“ไปที่บ้านผู้ใหญ่เร็วเข้า” หลวงตาพูด ชายหนุ่มผิวดำพยักหน้าก่อนที่จะเร่งขับรถออกไปทันที กฤษณาเริ่มวิตกกังวล

“ใจเย็นไอ้กฤษ เราอาจจะไปทัน” หลวงตายุทปลอบ กฤษณาได้แต่พยักหน้า เขาเริ่มรู้สึกเป็นห่วงพ่อแม่ของเขาขึ้นมาจับใจ ไม่นานนักกฤษณาก็มาถึงบ้านของเขา กฤษณารีบวิ่งเข้าไปในบ้านทันที

“พ่อครับ แม่ครับ” กฤษณาร้องพลางเดินไปทั่วบ้านแต่เขาก็ไม่เห็นใคร

“พ่อ แม่” กฤษณาร้องอีก ใจของเขาเต้นแรง น้ำตาจะไหลให้ได้

“อย่าเป็นแบบนี้นะ” กฤษณากัดฟันแน่นพลางตั้งหน้าตั้งตาหาพ่อแม่ของเขาต่อไป กฤษณาเดินไปที่ห้องนอน ห้องน้ำ ห้องรับแขก แทบจะทุกห้องในบ้านแต่เขาก็ไม่เห็นวี่แววของพ่อแม่ของเขาเลย กฤษณาแทบเข่าอ่อน

“ทำไม” กฤษณากัดฟันแน่นพลางเอามือทุบพื้นเสียงดัง

“กฤษ” เสียงของหญิงสาวดังขึ้น กฤษณาหันหน้ากลับไปแม่ของเขาก็วิ่งเข้ามากอดลูกชายของตนไว้ทันที

“โถ่กฤษ แม่ตกใจแทบแย่ แม่กับพ่อออกไปข้างนอกกลับมาทำไมบ้านเมืองเป็นอย่างนี้” แม่ของกฤษณาพูด กฤษณาถึงกับโล่งอก

“แล้วกฤษเป็นอะไรหรือเปล่าลูก แล้วคนอื่นๆหายไปไหนหมด” แม่ของกฤษณาซัก กฤษณาตั้งสติขึ้นมาได้ทันที

“แม่ครับ แม่อยู่ที่บ้านนี้ห้ามออกไปไหนนะครับ เดี๋ยวผมกลับมา” กฤษณาพูด หญิงสาวถึงกับขมวดคิ้ว

“ลูกจะไปไหนอีก ตอนนี้เกิดอะไรขึ้นกันแน่ ทำไมบ้านเมืองมันเละขนาดนี้ละลูก” ผู้เป็นแม่ซักถาม กฤษณาก้มหัวลงเล็กน้อย

“ตอนนี้ผมบอกอะไรไม่ได้แม่ และผมไม่มีเวลาแล้ว ผมต้องรีบไป แม่ไม่ต้องเป็นห่วงนะครับ ผมจะรีบกลับมา” กฤษณาพูดพลางรีบลุกขึ้นวิ่งไปทันที

“กฤษ เดี๋ยว ตากฤษ” แม่ของเขาร้องเรียก กฤษณารีบวิ่งออกไปที่หน้าบ้าน เขาก็พบว่าหลวงตากำลังคุยกับพ่อของเขาอยู่

“ไอ้กฤษ กลับเข้าบ้านไป” พ่อของเขาดุ

“อาตมาคงต้องขอยื้มตัวลูกของโยมไปก่อนนะ” หลวงตายุทพูด พ่อของกฤษณาขมวดคิ้ว

“หลวงพ่อจะเอาลูกผมไปทำอะไร แล้วหลวงพ่อยังไม่ได้ตอบผมเลยว่ามันเกิดอะไรขึ้นเนี่ย” พ่อของกฤษณาถามเป็นชุด

“พ่อครับ ตอนนี้เรายังตอบอะไรไม่ได้ แต่ผมสัญญาครับพ่อแล้วผมจะกลับมาพ่อไม่ต้องเป็นห่วงนะครับ ตอนนี้พ่อหลบอยู่ในบ้านก่อนเถอะครับ” กฤษณาพูด ผู้เป็นพ่อได้แต่ยืนงงๆ

“หลวงตาไปกันเถอะ” กฤษณาเร่งพลางวิ่งกลับขึ้นรถโดยที่ปล่อยให้พ่อของตนยังยืนสับสนอยู่

“เฮ้ย ไอ้กฤษ เดี๋ยว ไอ้กฤษ กลับมาก่อน” พ่อของเขาร้องตะโกนตามแต่กฤษณากับหลวงตาก็ขึ้นรถไปเสียแล้ว

“กลับไปที่วัด” กฤษณาพูด คนขับก็ทำหน้างงๆ

“ทำตามที่เขาบอก ไปที่วัดเร็ว” หลวงตาสั่ง ชายคนนั้นพยักหน้าพลางรีบออกรถกลับไปที่วัด หลวงตาหันมามองกฤษณา

“เอ็งคิดว่ามันจะกลับไปที่วัดหรอ” หลวงตาถาม กฤษณาส่ายหัว

“เปล่าครับ ธลน่ากลับไปที่บึงที่ผมเล่นกับเขาบ่อยๆ เขาไปทุกที่ที่ผมพาเขาไป เขาผ่านถนนที่ผมพาเขาไปเดินเล่น เขาบุกไปที่บึงสีไฟทีผมพาเขาไปเที่ยว ตอนแรกผมคิดว่าเขาจะไปที่บ้านผม แต่เขากลับไม่ไป ผมเลยคิดว่าบางทีเขาอาจจะกลับไปที่บึง” กฤษณาพูด หลวงตาพยักหน้ารับ แล้วไม่นานทั้งสองก็กลับมาที่วัด เนื่องจากเส้นทางจะไปยังบึงนั้นมีความเป็นป่าอยู่มากรถยนต์จึงไม่อาจเข้าไปได้ กฤษณาและหลวงตาจึงต้องเดินเท้าฝ่าเข้าไป

“หลวงตาครับผมจะล่อธลไว้เอง ส่วนหลวงตาก็อ้อมไปข้างหลัง ถ้าผมจับเขาได้เหมือนไหร่หลวงตาก็รีบเขียนคาถาทันทีเลยนะครับ” กฤษณาพูด หลวงตาถอนหายใจเบาๆพลางจับไหล่ของกฤษณาเอาไว้

“เอ็งอย่าเป็นอะไรนะเว้ย” หลวงตายุทกำชับ กฤษณาพยักหน้า

“ธลเขาไม่ทำร้ายผมหรอกครับผมมั่นใจ” กฤษณาตอบด้วยแววตาที่มุ่งมั่น หลวงตายุทหยิบมีดในย่ามส่งให้

“อย่างน้อยๆก็ป้องกันตัวไว้บ้าง มีดนี่เป็นมีดลงอาคม มันพอจะใช้สู้กับไอ้ธลได้บ้างละนะ” หลวงตายุทกล่าว กฤษณารับมีดมาไว้ในมือพลางพยักหน้า

“ครับ” กฤษณาขานรับ หลวงตายุทพยักหน้าก่อนที่ทั้งสองจะแยกกันไปคนละมุม กฤษณาเดินย่องเข้ามาอย่างช้าๆ

“กรรรร” เสียงคำรามของชลาธลดังสนั่น กฤษณาจ้องมองดูเขาก็พบว่าชลาธลกำลังกัดมือขวาของเขาจนเลือดไหลนองเป็นทาง กฤษณาไม่รีรอทันที

“ธล” กฤษณาออกไปยืนประจันหน้า ชลาธลหันหัวมาทางกฤษณาทันที แววตาที่ดุดัน ปากที่ยังคาบมือขวาของตนเอาไว้ เลือดสีแดงไหลท่วมเต็มปากของเขาไปหมด

“ธล เรารู้ว่านายกำลังพยายามอยู่ นายต้องใจเย็นๆนะ เดี๋ยวหลวงตาจะช่วยนายเองนะ” กฤษณาพูดพลางพยายามเดินเข้าไปใกล้ แต่ชลาธลกลับแยกเขี้ยวใส่ กฤษณาถอยตัวกลับเล็กน้อย แต่เขาก็ตั้งสติกลับมาได้

“ธล เราขอโทษนะที่ทำให้นายต้องเป็นแบบนี้ เราไม่เคยรู้มาก่อนเลยว่านายต้องลำบากแค่ไหน ธลเราไม่เคยเข้าใจอะไรนายเลยจริงๆ นายจะให้โอกาสเราอีกสักครั้งไหม” กฤษณาพูดต่อ ชลาธลยังคงจ้องมอง เสียงคำรามเริ่มเบาลง กฤษณาค่อยๆขยับร่างของเขาเข้าไปใกล้ชลาธลเรื่อยๆ

“ธล เราอยากรู้จักนายให้มากกว่านี้ เราอยากจะหัวเราะกับนาย ฟังเรื่องของนาย ว่ายน้ำเล่นกับนาย กินขนมกับนายอีก นะธล” กฤษณาพูด ชลาธลเริ่มส่ายหัวไปมา กฤษณาก้าวขาเข้าไปใกล้ขึ้นเรื่อยๆ

“ธล ไม่ต้องกลัวนะ เราไม่รังเกียจนายหรอก ที่เราต้องการก็คืออยู่ข้างนาย ธล เรา เรารักนายนะ” กฤษณากล่าวออกไป อีกนิดเดียวเขาจะเข้าใกล้ชลาธลได้แล้ว ชลาธลจ้องหน้ากฤษณาน้ำใสๆค่อยๆไหลอาบตาสีแดงของเขา กฤษณายื่นมือเข้าไปใกล้ชลาธลช้าๆ

“อ๊ากกกกกกกกกกกกกกกกกกกก” ชลาธลกรีดร้องเสียงดัง พลางสะบัดหัวไปมา ชลาธลจ้องหน้ากฤษณาเขม็งพลันยืดมือออกไปทันที

“ไอ้ธลหยุดนะ” หลวงตายุทออกมาจากที่กำบัง ชลาธลหันหลังกลับไปทันที โดยที่หลวงตายุทยังไม่ทันหยิบอะไรออกมา ชลาธลก็พุ่งร่างของเขาเข้าใส่หลวงตายุททันที ชลาธลกดร่างของหลวงตายุทลงกับพื้น กฤษณาตาลุกวาว

“ธล หยุดนะธล” กฤษณาร้องแต่ดูเหมือนชลาธลจะไม่สนใจอะไรทั้งนั้น เขาง้างมือยกขึ้นสูงพลางสะบัดมือลงไปอย่างรวดเร็ว แต่แล้วมือของชลาธลก็หยุดลงกระทันหัน ชลาธลทำจมูกฟุดฟิดไปมา ชลาธลหันกลับไปมองกฤษณา

“ได้กลิ่นไหมธล” กฤษณาพูด พลางแบมือที่มีเลือดสีแดงไหลอาบ กฤษณาเอามีดกรีดที่ฝ่ามือของตนไว้ ชลาธลลุกจากร่างของหลวงตายุทพลางเดินเข้าไปหากฤษณาพลางแยกเขี้ยวโง้ง

“นายไม่ได้กินเนื้อนุ่มๆมานานแค่ไหนแล้วละ” กฤษณายังคงพูดยั่วยวนชลาธลต่อไป ชลาธลเดินเข้าไปใกล้กฤษณามากขึ้นทุกที กฤษณาส่ายมือเปื้อนเลือดของเขาไปมาอย่างช้าๆ

“หอมดีไหม เลือดสดๆนะ” กฤษณาพูด ชลาธลอ้าปากกว้าง แขนขวาของเขาสันรัวระริก กฤษณาเหลือบมองหลวงตายุทเล็กน้อย เขาพยักหน้าให้หลวงตายุท

“ขอโทษนะธล” กฤษณาพูดพลางกระโดดโผเข้าใส่ร่างของชลาธลทันที กฤษณากดร่างของชลาธลลงกับพื้นพลางกอดร่างของชลาธลเอาไว้

“หลวงตาเร็วเข้า” กฤษณาร้อง ชลาธลเริ่มดิ้นเขาเอาปากงับเข้าที่ไหล่ของกฤษณาเต็มแรง

“มันไม่เจ็บเลยธล มันไม่เจ็บเลยสักนิดเมื่อเทียบกับสิ่งที่นายต้องเจอมาตลอด ธลนายจะกัดเราแรงแค่ไหนก็ได้ แต่เราอยากให้นายรู้ไว้ว่าเราไม่เคยรังเกียจนายเลยนะ ธลเรารักนายนะ” กฤษณาพูด ชลาธลกัดกฤษณาแรงเข้าตาสีแดงก่ำเริ่มมีน้ำใสๆไหลรินลงมาช้าๆ ร่างของชลาธลเริ่มดิ้นไปมาน้อยลง หลวงตายุทวิ่งเข้ามาพลางเอามีดกรีดที่นิ้วแล้วเขาก็เริ่มเขียนอักขระลงบนร่างของชลาธล

“กรรร โหกกกก อ๊ากกกกกกกกก” ชลาธลเริ่มดิ้นอีกครั้ง แต่กฤษณายังกอดร่างของชลาธลไว้แน่น ในหัวของกฤษณามีแต่ภาพอดีตของเขากับชลาธลอยู่เต็มหัว รอยยิ้มที่เขาไม่เคยลืมเลือน ขนมที่ชลาธลชอบกิน เวลาที่ชลาธลกอดเขาตอบกลับมาราวกับจะบอกว่าเขาจะดูแลกฤษณาตลอดไป กฤษณากอดร่างของชลาธลแน่นเข้าเพื่อบอกให้ชลาธลได้รู้ว่าเขาจะไม่มีวันหนีชลาธลไปไหน

“ถอยมาไอ้กฤษ” หลวงตายุทกล่าว กฤษณาค่อยๆคลายอ้อมกอดของเขาออก หลวงตารีบเขียนอักขระต่อไป กฤษณามองดูร่างของชลาธลที่เกร็งไปทั่วร่าง หลวงตายุทอ่านคาถาไปเรื่อยๆพลางขีดเขียนอักขระลงไปอย่างไม่หยุด หลวงตายุทเขียนอักขระไปจนทั่วร่างของชลาธล แววตาสีแดงค่อยๆจางลงช้าๆ เล็บและผิวหนังเริ่มค่อยๆหดหายไป พลันหลวงตายุทก็ตบมือนึงครั้ง

“อ๊ากกกกกกกกกกกกก” ชลาธลร้องเสียงดัง อักขระบนร่างของชลาธลเปล่งแสงสีทองออกมาก่อนจะค่อยๆจางลง ร่างของชลาธลน้อนแผ่อยู่บนบก

“รีบไปตักน้ำมาเร็ว เฮ้ย” หลวงตายุทร้องเพราะกฤษณาก้มลงพลางเอามือเปล่าจับร่างของชลาธลก่อนที่จะลากชลาธลลงไปในบึง ทันทีที่ร่างของชลาธลลงไปในบึงควันสีขาวก็ลอยฟุ้งพร้อมกับเสียงฉ่าดังสนั่น กฤษณาถอนหายใจหอบพลางมองดูมือของเขาที่เริ่มจะพุพองเพราะความร้อน

“ไอ้กฤษเอ็งเป็นอะไรมากไหม” หลวงตายุทก้มลงดูแผลของกฤษณาที่เกิดจากรอยกัดของชลาธล กฤษณาส่ายหัวเล็กน้อย

“มะ ไม่เป็นไรครับหลวงตา เดี๋ยวก็คงหายแล้ว” กฤษณาตอบ หลวงตายุทฉีกจีวรออกพลางพันแผลเอาไว้

“ห้ามเลือดเอาไว้ก่อนนะ” หลวงตายุทกล่าว กฤษณายกมือไหว้เป็นการขอบคุณ

“ขอบคุณนะครับหลวงตา” กฤษณาตอบ หลวงตายุทรับไหว้

“ข้าเองก็ต้องขอบใจเอ็งที่ช่วย” หลวงตายุทกล่าว

“จ๋อม แจ๋ม” เสียงน้ำกระเพื่อมดังขึ้น ทั้งกฤษณาและหลวงตายุทต่างหันไปมองที่บึง ควันสีขาวค่อยๆจางลงช้าๆ ร่างของชลาธลค่อยๆเดินเปลือยกายขึ้นมาอย่างช้าๆ

“ธล” กฤษณาพูดพลางมองร่างของชายผิวสีน้ำผึ้งร่างกำยำตรงหน้า ชลาธลน้ำตาไหลนองหน้า

“กฤษ” ชลาธลพูดพลางวิ่งเข้ามากอดร่างของกฤษณาเอาไว้

“กฤษ เราขอโทษ กฤษ ระ เราขอโทษ” ชลาธลพูดทั้งน้ำตา กฤษณาตบหลังของชลาธลเบาๆ

“มันจบแล้วธล มันจบแล้ว” กฤษณาตอบ ทั้งสองกอดร่างแน่นเข้า กฤษณาไม่เคยคิดมาก่อนเลยว่ากอดของชลาธลจะอบอุ่นได้เพียงนี้

“ระ เราควบคุมตัวเองไม่ได้เลยกฤษ มันเหมือนจะคอยสั่งแต่ให้เราทำลายทุกอย่าง” ชลาธลพูด กฤษณาลูบหลังชลาธลช้าๆ

“แต่นายก็พยายามนี่ เรารู้ว่านายสู้อยู่ข้างในแน่ๆ แล้วนายก็ทำได้ เราเชื่ออยู่แล้ว” กฤษณาตอบ ชลาธลสะอื้น

“เราขอโทษนะกฤษ” ชลาธลกล่าว กฤษณาส่ายหัว

“เราเองก็ขอโทษเหมือนกันที่ทำให้นายต้องเป็นแบบนี้” กฤษณาตอบ

“เอาละ กลับไปที่วัดกันได้แล้ว ยังมีอะไรต้องทำอีกเยอะนะเว้ย” หลวงตายุทกล่าว กฤษณาและชลาธลพยักหน้าก่อนที่จะค่อยๆลุกขึ้นอย่างช้าๆ ชลาธลมองดูไหล่ซ้ายของกฤษณาที่มีผ้าจีวรพันเอาไว้อยู่

“เรากัดนายจริงๆหรอ” ชลาธลถาม กฤษณาส่ายหัว

“ไม่เป็นไรหรอก เดี๋ยวก็หายแล้ว อย่าคิดมากเลยนะ” กฤษณาพูด ชลาธลวางมือบนแผลของกฤษณาเบาๆ

“เราขอโทษนะ” ชลาธลตอบ กฤษณาจับมือของชลาธลเอาไว้

“ไม่เลย เมื่อเที่ยบกับที่นายต้องเจอแล้วแผลแค่นี้จิ๊บจ๊อยน่า” กฤษณากล่าว ชลาธลยิ้มให้

“ขอบใจนะกฤษ” ชลาธลตอบ กฤษณาก็ยิ้มรับก่อนที่จะเดินตามหลวงตาไป ชลาธลมองดูที่มือของตน

“ธล แล้ว...” กฤษณาพูดอะไรไม่ออก ชลาธลจ้องมองดูมือของตอนที่มีเลือดสีแดงเปื้อนอยู่ กฤษณาตาค้างพลางมองดูที่มือขวาของเขา รอยแผลที่เกิดจากการกรีดยังคงมีเลือดสีแดงไหลออกมา ตาของชลาธลเบิกกว้าง ใจเขาเต้นแรง

“ธล” กฤษณาร้อง ตาของชลาธลเริ่มมีน้ำตาไหลออกมาจากทั้งสองตา พลันชลาธลก็คุกเข่าลงกับพื้น อักขระเริ่มส่องแสงสีแดงก่อนที่มันจะค่อยๆสลายไปอย่างช้าๆ ปากของชลาธลเริ่มยืดยาวขึ้นเรื่อยๆ ลำตัวที่ยืดออกพร้อมกับหางที่โพล่ออกมา มือของชลาธลหดลง ชลาธลมองดูใบหน้าของกฤษณาที่ตาลุกวาว

“กฤษ เรา ขอ...” ชลาธลไม่อาจพูดคำสุดท้ายได้หมดเพราะร่างของเขาได้แปรสภาพกลายเป็นจระเข้ตัวใหญ่ไปเสียแล้ว กฤษณามองดูจระเข้ตรงหน้าโดยไม่มีคำพูดใดๆ จระเข้สะบัดหน้าหนีก่อนจะรีบเดินอย่างรวดเร็วกลับลงน้ำไป กฤษณาได้สติขึ้นมาทันที

“ธะ ธล ธล ธลลลล” กฤษณาตะโกนพลางจะเดินตามไปแต่หลวงตายุทกลับจับร่างของกฤษณาไว้ กฤษณาเริ่มดิ้นไปมาน้ำเริ่มเอ่อล้นออกมาจากสองตา

“ธล ธล ธลลลลลลลลลลลลลลล” กฤษณาร้องตะโกนไล่หลังไปแต่ก็ไม่มีเสียงใดตอบกลับมา...


“คุณครับ คุณครับ คุณ” เสียงของพนักงานดังขึ้น ชายหนุ่มสะดุ้งเล็กน้อย

“อะครับ” ชายหนุ่มหันไปมอง

“ช่วยเซ็นรับด้วยครับ” พนักงานกล่าว ชายหนุ่มพยักหน้าพลางเซ็นชื่อของเขาลงในกระดาษตรงหน้า พนักงานฉีกกระดาษแผ่นนึงคืนให้ ชายหนุ่มรับมาพลางพยักหน้าเป็นเชิงขอบคุณ ชลายหนุ่มแหงนหน้ามองขึ้นฟ้าด้วยใจที่หดหู่

“ธล มันเป็นเพราะเราใช่ไหมที่ทำให้นายต้องเป็นแบบนี้” ชายหนุ่มพูดพลางวางมือลงบนไหล่ซ้ายของเขา ที่ยังคงมีรอยเขี้ยวของคนที่เขารักประทับอยู่ไม่จางหาย


wee

  • บุคคลทั่วไป
Re: [novel] นิทานชลาธล by Nat
«ตอบ #76 เมื่อ24-01-2007 20:42:32 »

โอ๊ย....ใจจะขาดอยู่แล้ว    :serius2:
ขอตอนต่อไปอย่างเร็วเลยน่ะ.... :like2:

ออฟไลน์ oaw_eang

  • Global Moderator
  • เป็ดHades
  • *
  • กระทู้: 8418
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +2122/-586
Re: [novel] นิทานชลาธล by Nat
«ตอบ #77 เมื่อ25-01-2007 07:31:37 »


 :o

เจ้ว่าแล้น

ทำไมมันบีบไข่ เฮ้ย! บีบใจอย่างนี้

ไม่ค่อยอยากจะอ่านต่อเลย

กลัวมันจาเศร้าแล้วเจ้จาจิตตก อะเคอะ  :monkeysad:

ออฟไลน์ THIP

  • Global Moderator
  • เป็ดApollo
  • *
  • กระทู้: 7674
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +986/-10
Re: [novel] นิทานชลาธล by Nat
«ตอบ #78 เมื่อ25-01-2007 08:32:35 »

 :monkeysad:  :monkeysad:  :monkeysad:
ธลกลายเป็นจรเข้ไปซะแล้ว
แล้วไงต่อล่ะ มาต่อด่วนเลยนะ  :serius2:  :serius2:

meemewkewkaw

  • บุคคลทั่วไป
Re: [novel] นิทานชลาธล by Nat
«ตอบ #79 เมื่อ25-01-2007 09:42:47 »

 :monkeycry2:
สงสารธลกับกฤษง่ะ . . .  :monkeysad:

CoMMuNiTY Of ThAiBoYsLoVE

Re: [novel] นิทานชลาธล by Nat
« ตอบ #79 เมื่อ: 25-01-2007 09:42:47 »





ออฟไลน์ ที่ปรึกษาไอทีขั้นต้น

  • Administrator
  • เป็ดApollo
  • *
  • กระทู้: 6853
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +1320/-22
Re: [novel] นิทานชลาธล by Nat
«ตอบ #80 เมื่อ25-01-2007 19:40:06 »

wee เอิ้กๆ เร็วพอปะ ใจร้อนจังไม่ทันก็เสร็จซะละ  :kikkik:
oaw_eang  อ่านอีกตอนเดียวเองครับ สมหวังอ่ะป่าวมะรู้ ลุ้นเอา  :like2:
shell อย่าไปเห็นจรเข้แถวบ้านเป็นธลนะ อันตรายมั๊กมั๊ก  :pigscare2:
meemewkewkaw  ขี้สงสารแบบนี้ไม่สงสารป๋มบ้างหรือก๊าบ
ไม่ต้องรักผมก็ได้ แค่สงสารก็ยังดี ขอแค่ให้ผมได้เห็นหน้าหมีบ้าง หือหือ   :monkeysad2:


บทที่ 21

“สวัสดีคะคุณพ่อ” หญิงสาวพูดพลางยกมือไหว้ชายชราตรงหน้า

“อ้าวๆ เออๆ เหนื่อยไหมมากินน้ำกินท่ากันก่อนสิ เฮ้ย เอาน้ำมารับแขกทีเว้ย” ชายชรากล่าว ชายหนุ่มเดินลงมาจากรถพลางแบกกระเป๋าลงมาด้วย

“ไอ้กฤษเอ็งไม่ต้องแบกเองหรอกน่า ให้คนอื่นเขาจัดการเถอะน่า” ชายชราพูด กฤษณาส่ายหัว

“ไม่เป็นไรครับพ่อ อีกอย่างมีกระเป๋าแค่ไม่กี่ใบเองครับ” กฤษณาพูด พ่อของกฤษณาพยักหน้า

“ตามใจแกแล้วกัน เอ้าๆ ขึ้นบ้านๆ” พ่อของกฤษณาตอบก่อนที่ทุกคนจะเดินขึ้นบ้านกันไป

“ต้องรบกวนคุณพ่ออีกแล้วละคะ” หญิงสาวพูด พ่อของกฤษณายิ้ม

“โอ๊ย ไม่รบกวนเลย มานะดีแล้วข้าจะได้มีเพื่อนคุย” พ่อของกฤษณาตอบ

“คุณปู่เหงาหรอคะ” เด็กหญิงพูด พ่อของกฤษณาพยักหน้า

“ก็ปู่คิดถึงหลานที่น่ารักนะสิจ๊ะ” พ่อของกฤษณาพูด เด็กหญิงพยักหน้า

“งั้นหนูจะอยู่คุยกับคุณปู่ทั้งวันเลย” เด็กหญิงตอบ พ่อของกฤษณายิ้มรับ

“โอ้ ดีเลยๆ ปู่มีเรื่องเล่าเยอะแยะเลยหลานเอ้ย” ชายชราตอบ เด็กหญิงตาลุกวาว

“จริงหรอคะ เรื่องของพี่ธลหรือเปล่าคะ” เด็กหญิงพูด ทุกคนในบ้านต่างเงียบสนิทกันไปชั่วขณะนึง กฤษณารีบเดินเข้ามาทันที

“ธล ลูกมีอะไรจะให้คุณปู่ไม่ใช่หรอ” กฤษณาพูด เด็กหญิงพยักหน้าพลางยื่นกล่องขนมส่งให้

“หนูทำมาให้คุณตาอะคะ คุณแม่ก็ช่วยหนูทำด้วยคะ” เด็กหญิงกล่าวเสียงใส พ่อของกฤษณารับกล่องนั่นมา

“โอ้ อะไรเนี่ย อะลัวงั้นหรอ น่ากินจัง เก่งจังเลยนะหลานปู่” พ่อของกฤษณากล่าวชมเด็กหญิงยิ้มแป้น

“เดี๋ยวผมเอาของไปเก็บในห้องก่อนนะพ่อ” กฤษณาพูดพลางแบกกระเป๋าขึ้นไปข้างบน เขาไม่ได้กลับมาที่บ้านหลังนี้มาเกือบสิบกว่าปีแล้วตั้งแต่เขาสอบติดมหาวิทยาลัยในกรุงเทพฯ กฤษณากลับขึ้นมาที่ห้องของเขา ห้องที่มีความหลังของครั้งก่อนอยู่เต็มแน่น ห้องที่เขาและชลาธลเคยนอนด้วยกัน ห้องที่ทั้งสองนั่งคุยกัน กินขนมด้วยกัน แต่บัดนี้มันมีเพียงแต่เขาคนเดียวเท่านั้นที่ยืนอยู่ในห้องว่างเปล่าแห่งนี้

“แกไปเล่าอะไรให้หลานฟัง” เสียงของพ่อกฤษณาดังขึ้น กฤษณาถอนหายใจ

“ก็แค่เล่านิทานนะครับพ่อ ไม่มีอะไรหรอก” กฤษณาตอบ พ่อของกฤษณาถอนหายใจยาว

“แกก็รู้กฏของเมืองดีนี่หว่า” พ่อของกฤษณาย้ำ กฤษณาพยักหน้า

“เอาน่าพ่อ ยัยธลก็ยังเด็กอยู่ อีกอย่างผมก็ไม่ได้เล่าทุกอย่างหรอกครับพ่อ” กฤษณาพูด พ่อของเขาถอนหายใจยาว

“ไม่ไหวเล้ยลูกคนนี้ แล้วจะอยู่นานแค่ไหนละ” พ่อเขาถาม กฤษณาส่ายหัว

“ไม่รู้เหมือนกันอะครับ ก็คงสักอาทิตย์สองอาทิตย์ละมั้งครับ ยัยธลเขาอยากอยู่กับคุณปู่นานๆ” กฤษณาพูด

“แล้วแกเลิกคิดมากได้หรือยัง” พ่อของเขาถาม กฤษณาไม่ตอบอะไร

“อย่าเครียดมากเลยน่า ไม่แน่ไว้อาจจะมีคนเลี้ยงดูเขาแล้วก็ได้นะ” พ่อของกฤษณากล่าว กฤษณาพยักหน้ารับไม่พูดอะไร

“ตามใจแกแล้วกัน เดี๋ยวเย็นๆแม่แกก็จะกลับมาแล้ว” พ่อของกฤษณากล่าวก่อนจะเดินออกจากห้องไป กฤษณาถอนหายใจยาว หลังจากที่ชลาธลนั้นเปลี่ยนร่างกลับไปเป็นจระเข้หลวงตาจำต้องเปิดเผยความจริงทั้งหมดให้คนทั้งเมืองฟัง แต่ที่เหนือความคาดหมายก็คือพ่อของกฤษณานั้นกลับยอมรับเรื่องนี้ได้

“ข้าก็ไม่เห็นว่าธลเขาจะเลวร้ายตรงไหน เขาช่วยเราจากจระเข้มาก็ตั้งมากมาย และแค่เขาทำผิดครั้งเดียวจะมาหาว่าเขาเป็นคนไม่ดี ข้าไม่ใจแคบขนาดนั้นหรอก” พ่อของกฤษณาพูดและประกาศให้ทุกคนในเมืองปิดเรื่องนี้เป็นความลับอย่างเข้มงวด กฤษณาเองก็พยายามออกตามหาชลาธลอยู่นานแต่เขาก็คว้าน้ำเหลวทุกครั้ง เขาไม่อาจรู้ได้เลยจริงๆว่าชลาธลนั้นหายตัวไปที่ไหน เขาติดต่อไปที่ฟาร์มจระเข้ทุกแห่ง เขาติดตามดูข่าวสารทุกวันแต่ก็ไม่มีข่าวของจระเข้ยักษ์เลย กฤษณาในตอนนั้นแทบจะเรียกได้ว่าไม่ต่างอะไรกับศพเดินได้เลยจริงๆ

“ไอ้กฤษ ถ้าเอ็งยังเป็นแบบนี้ เอ็งคิดว่าไอ้ธลมันจะดีใจหรือไง” หลวงตายุทคอยเตือนสติ

“แต่ธลกำลังรอผมอยู่ ผมต้องหาเขาให้เจอ” กฤษณายืนยัน

“ถ้าไอ้ธลมันรอเอ็งจริง มันจะหนีเอ็งไปทำไมเล่า ไอ้กฤษ คนเรามีพบก็ต้องมีจากเป็นของธรรมดา ทุกสรรพสิ่งล้วนเป็นอนิจจัง ไม่เที่ยงแท้แน่นอน เอ็งอย่าไปยึดติดอะไรกับมันมากเลยนะ” หลวงตายุทตักเตือน กฤษณาเองใช้เวลาทำใจอยู่หลายเดือนกว่าเขาจะเริ่มทำใจได้และสุดท้ายเขาก็ตัดสินใจเลือกมหาวิทยาลัยในกรุงเทพฯเผื่อว่าเขาอาจจะลืมชลาธลลงได้บ้าง กฤษณาใช้ชีวิตในสิ่งแวดล้อมใหม่ๆอย่างมีความสุขเรื่อยมา แม้ว่าบางครั้งเขาจะอดคิดถึงชลาธลไม่ได้แต่อย่างน้อยเขาก็ไม่เศร้าเหมือนแต่ก่อนเท่าใดนัก กฤษณามองไปรอบๆห้อง มีบางอย่างเปลี่ยนแปลงไปบ้าง เตียงถูกเปลียนใหม่เป็นเตียงที่ใหญ่ขึ้น โต๊ะหนังสือก็ถูกย้ายออกไป ของบางอย่างในห้องเขาถูกแทนที่ด้วยของสิ่งอื่น แต่ความทรงจำของเขายังคงฝั่งแน่นไม่เปลี่ยนแปลง

“ไม่เอาน่า โตได้แล้วไอ้กฤษ” กฤษณาเตือนสติตัวเองก่อนที่จะจัดของในกระเป๋า ตกเย็นบ้านของกฤษณาก็จัดเลี้ยงต้อนรับครอบครัวของเขาอย่างครื้นเครง

“หลานทานน้ำพริกหนุ่มดูสิจ๊ะ ย่าทำแบบไม่เผ็ดให้หลายโดยเฉพาะเลยนะ” หญิงชรากล่าว เด็กหญิงพยักหน้าพลางหยิบเอาแตงกวาจิ้มไปที่น้ำพริกสีขาวๆก่อนจะตักเข้าปากไปเคี้ยวในปากตุ้ยๆ

“อร่อยจังคะ” เด็กหญิงตอบ หญิงชรายิ้มพลางหันไปมองหญิงสาว

“ทานผักเก่งจริงๆนะ แม่ไม่เคยเห็นเด็กทานผักได้เก่งอย่างหนูธลเลย” หญิงชรากล่าว

“ก็ได้กฤษเขานะคะ แกชอบเรื่องของชลาธลมากๆ กฤษเขาก็เลยเอามาเป็นข้ออ้างถ้าเขากินผักเขาก็จะได้ฟังเรื่องของชลาธลนะคะ” หญิงสาวตอบ หญิงชราพยักหน้า พลางหันไปมองเด็กหญิงที่กำลังหยิบเอาแตงกวาอีกชิ้นเพื่อจิ้มกับน้ำพริก ก่อนที่จะหันกลับมามองหน้าหญิงสาว

“แล้ว เขาไม่เป็นอะไรใช่ไหม แม่หมายถึง เขาดูซึมๆไปหรือเปล่าเวลาที่เขาเล่าเรื่องนี้นะ” แม่ของกฤษณาถาม หญิงสาวคิด

“ก็มีเหม่อๆไปบ้างนะคะ แต่เขาสนิทกันขนาดนั้นมันก็น่าเศร้านี่คะ” หญิงสาวตอบ แม่ของกฤษณาพยักหน้าพลางยิ้มให้

“จ๊ะ มันน่าเศร้าเหมือนกัน ยังไงก็ฝากดูแลเจ้าลูกชายของแม่ด้วยนะ” แม่ของกฤษณาพูด หญิงสาวพยักหน้า

“คะ หนูจะพยายามคะ” หญิงสาวตอบ

“เออ แล้วเมื่อไหร่จะย่าจะได้อุ้มหลานชายบ้างละ” แม่ของกฤษณาถาม หญิงสาวถึงกับแก้มแดงเล็กน้อย

“อะ คือ ช่วงนี้กฤษเขายุ่งนะคะ อีกอย่างตอนนี้ยังมีค่าใช้จ่ายอีกเยอะแยะนะคะ” หญิงสาวพูด แม่ของกฤษณาเหล่ตา

“แหม ก็หนูเอาแต่ขี้อายแบบนี้ละสิ ทีตอนแต่งแรกๆปุ๊ปปั๊ปก็มีชลาธลออกมาละ” แม่ของกฤษณาแซว หญิงสาวยิ้มแก้มแดงๆ

“กะ ก็ แหม คือ มันพร้อมแล้วนี้คะ” หญิงสาวตอบ แม่ของกฤษณายิ้ม

“ของอย่างนี้นะฝ่ายหญิงก็ต้องช่วยเหลือเหมือนกัน แม่มีสูตรยาปลุกมังกรนะเพื่อเอาไปใช้” หญิงชราตอบ หญิงสาวตาลุก

“มะ ไม่ต้องหรอกคะคุณแม่ อะ คือ เดี๋ยวกฤษเขาก็พร้อมเองแหละคะ” หญิงสาวตอบอย่างเขินอาย หญิงชราหัวเราะเบาๆ

“น่า แล้วจะตั้งชื่อลูกชายว่าอะไรละ แหม น่าจะไว้มีลูกชายแล้วค่อยตั้งว่าชลาธลนะ” แม่ของกฤษณาถาม

“อืม เขาตั้งใจไว้ตั้งแต่รู้ตัวว่าหนูท้องแล้วละคะ ว่าไม่ว่าจะเป็นผู้หญิงหรือผู้ชายก็จะเรียกเขาว่าชลาธลนะคะ” หญิงสาวกล่าว แม่ของกฤษณาพยักหน้า

“แต่ยังไงก็รีบมีหน่อยนะ ย่าเองก็ไม่รู้จะอยู่ไปอีกนานแค่ไหน” แม่ของกฤษณาพูด หญิงสาวทำสีหน้าเป็นห่วงทันที

“คุณแม่อย่าพูดอย่างนั้นสิคะ” หญิงสาวกล่าว

“คุยอะไรกันหรือ” กฤษณาเดินเข้ามาทัก

“ก็แกนะสิไม่ขยันทำการบ้าน มัวแต่อ้างโน่นอ้างนี้แล้วเมื่อไหร่ฉันจะได้อุ้มหลานชายกับเขาบ้างละ” แม่ของกฤษณาพูด กฤษณาเบ้ปาก

“แม่ครับ ก็บอกแล้วไงครับว่าตอนนี้เรายังไม่พร้อม อีกอย่างยัยธลก็ยังเด็กอยู่ เอาไว้ให้แกโตพอที่จะเข้าใจอะไรกว่านี้หน่อยถึงตอนนั้นผมจะปั้มตั้งทีมฟุตบอลเอาเลยก็ได้นะ” กฤษณาตอบ หญิงสาวมองค้อนๆ

“แหม ทำเป็นพูดดี ตัวเองนั่นแหละชิงเสร็จก่อนทุกที” หญิงสาวตอบ กฤษณาถึงกับหน้าแดงขึ้นมา แม่ของกฤษณาหัวเราะร่า

“ก็แกนะไม่แข็งแรงเอาเสียเล้ย นี่ถ้าเป็นธลเขาคง...” หญิงชราหยุดพูดไปชั่วขณะเพราะรู้ตัวดีว่าตนเองนั้นพูดอะไรผิดไป

“แม่ว่าแม่ไปดูงานทางโน้นดีกว่า สัญญาแล้วนะ” แม่ของกฤษณาตอบพลางรีบลุกไปทันที กฤษณาก้มหน้าลงเล็กน้อย หญิงสาวตบที่บ่าของกฤษณาเบาๆ

“คุณแม่เขาคงไม่ได้ตั้งใจนะคะ อย่าไปคิดอะไรมากเลยนะคะ” หญิงสาวตอบ กฤษณายิ้มรับ

“จ๊ะ” เขาพูดพลางนั่งลงร่วมรับประทานอาหาร

“จะว่าไปนี่ก็แปดปีแล้วนะคะ วันเวลานี่ผ่านไปเร็วไม่รอใครจริงๆ” หญิงสาวพูด กฤษณาพยักหน้ารับพลางนึกถึงเหตุการณ์ต่างๆที่ผ่านเข้ามาในชีวิต เขาเจอกับเธอตอนที่เรียนมหาวิทยาลัยด้วยกันแล้วก็คบกันเรื่อยมา ทั้งสองตัดสินใจทำงานที่เดียวกันพอเริ่มตั้งตัวได้ทั้งฝ่ายพ่อแม่ของกฤษณาและพ่อแม่ของหญิงสาวจึงตกลงปลงใจให้ทั้งสองแต่งงานกัน

“คุณพ่อคะ พรุ่งนี้หนูอยากไปดูบึงอะคะ คุณพ่อพาหนูไปนะคะ” เด็กสาวกล่าว

“แม่ว่า ไปกับแม่ดีกว่านะจ๊ะ คุณพ่อเขาขับรถมาเหนื่อยทั้งวันแล้ว ให้เขาพักบ้าง” หญิงสาวแก้ตัวให้ แต่กฤษณาส่ายหัว

“ไม่เป็นไรจ๊ะ ไปดูก็ดีเหมือนกัน พ่อก็ไม่ได้ไปนานแล้ว” กฤษณาตอบ เด็กหญิงยิ้มแป้นพลางยกมืออย่างดีใจ

“เย้ เผื่อว่าคุณพ่อจะเจอพี่ธลด้วยไงคะ” เด็กหญิงพูด ชายหนุ่มพยักหน้า

“จ๊ะ” กฤษณาตอบสั้นๆ หญิงสาวได้แต่มองหน้ากฤษณาด้วยสายตาที่เป็นห่วง ตกเย็นคืนนั้นกฤษณาพาธลเข้านอนที่ห้องของเขาส่วนตนเองก็เข้าไปนอนที่ห้องที่พ่อของเขาสร้างให้เขากับภรรยา

“คุณไม่เป็นไรแน่นะคะ” หญิงสาวถาม กฤษณาส่ายหัวไปมา

“จ๊ะ มันถึงเวลาที่ผมควรจะเลิกหนีได้แล้ว” กฤษณาตอบ หญิงสาวพยักหน้ารับพลางซบลงที่ไหล่ของกฤษณา

“ถ้ามีอะไรให้ฉันพอจะช่วยได้ก็บอกนะคะ” หญิงสาวตอบ กฤษณาพยักหน้ารับพลางส่งยิ้มให้

“ขอบใจนะจ๊ะ” กฤษณาตอบ ก่อนที่ทั้งสองจะหลับไป เช้าวันรุ่งขึ้นกฤษณาแวะไปหาหลวงตายุทที่วัดพร้อมกับครอบครัวของเขา

“สวัสดีครับหลวงตา” กฤษณายกมือไหว้ พระสงฆ์ที่ชราภาพมากแล้ว

“เออ ไม่เจอกันนานเลยนะไอ้กฤษ ดูผอมไปเยอะเลยนะเอ็ง” หลวงตากล่าว กฤษณายิ้มพลางดันตัวลูกสาวของตนมาข้างหน้า

“สวัสดีคะหลวงตา” เด็กหญิงกล่าวพลางยกมือไหว้และถอนสายบัวอย่างเรียบร้อย หลวงตารับไหว้พลางยิ้มให้

“เรียบร้อยดีจริงๆเลย สงสัยจะได้เชื้อแม่มาดี” หลวงตายุทตอบ กฤษณามองหลวงตายุทค้อนๆ

“แหม พ่อก็สั่งสอนด้วยแหละหลวงตา” กฤษณาตอบ หลวงตายุทหัวเราะเบาๆ

“ฮ่า ฮ่า เออ เว้ยเข้ามาก่อน ข้ามีอะไรจะถามเอ็งเยอะแยะ” หลวงตายุทชวนก่อนที่ทั้งสามจะเดินขึ้นไปนั่งในกุฏิ

“อ๋อ งั้นเอ็งก็จะได้เลื่อนขั้นเร็วๆนี้แล้วสิ” หลวงตายุทถาม กฤษณาพยักหน้ารับ

“ครับ ก็ถ้าไม่มีปัญหาอะไรก็คงตามนั้นละครับ แล้วผมก็คิดว่าเราอาจจะมีลูกกันสักคน อืม อาจจะต้องรบกวนหลวงตาช่วยดูชื่อให้ด้วยนะครับ” กฤษณาพูด หลวงตายุทพยักหน้า

“เออ เว้ย ไม่มีปัญหา เอ็งจดฤกษ์มาแล้วกัน” หลวงตายุทกล่าว กฤษณาพยักหน้ารับ

“ข้าดีใจนะที่เอ็งเริ่มเข้าใจอะไรมากขึ้น” หลวงตายุทกล่าว กฤษณษาพยักหน้ารับอย่างเงียบๆ

“คุณพ่อคะ เราจะไปดูบึงกันได้หรือยังคะ” เด็กหญิงรบเร้า กฤษณามองหน้าหลวงตาก่อนจะพยักหน้ารับ

“จ๊ะ ไปกันดีกว่า” กฤษณาตอบก่อนที่เขาจะยกมือไหว้หลวงตาแล้วจูงมือเด็กหญิงเดินไปตามทาง บึงนั้นถูกห้ามไม่ให้รุกราน และได้มีการทำเจ้าที่และตั้งชื่อบึงนั้นว่า บึงชลาธล กฤษณาเดินดูเหล่าต้นไม้ตามทาง แม้จะเปลี่ยนไปบ้างแต่มันก็ยังคงเค้าเดิมเอาไว้ได้เกือบจะเต็มร้อย ไม่นานนักทั้งสามก็มาถึงบึงสวย แสงแดดสะท้อนผิวน้ำระยิบระยับ เหล่านกกาต่างส่งเสียงร้องเจื้อยแจ้ว

“สวยจังเลยคะ ใหญ่ด้วย” เด็กหญิงร้องอย่างตื่นเต้น

“เราไปดูใกล้ๆกันไหม” ชายหนุ่มถาม เด็กหญิงพยักหน้า กฤษณาจูงมือเด็กหญิงไปใกล้บึงมากขึ้น ทั้งสองเดินเลียบไปตามตลิ่ง สายลมเย็นๆพัดกระทบใบหน้าของกฤษณา นานแค่ไหนแล้วที่เขาไม่ได้รู้สึกแบบนี้ กลิ่นต้นไม้ใบหญ้าลอยติดจมูกเขาขึ้นมา กฤษณากำมือแน่น เขาจะต้องยอมรับความจริงเสียที

“จ๋อม แจ๋ม” กฤษณารีบหันไปข้างหลังทันทีแต่เขาก็ไม่เห็นอะไร

“จ๋อม แจ๋ม” เสียงน้ำดังขึ้นอีก กฤษณาก้มลงก็พบว่าลูกสาวของตนพยายามจะเอาเท้าแหย่ลงไปในน้ำ กฤษณาดึงมือของเด็กสาว

“อย่าสิลูก เดี๋ยวตกลงไปจะแย่นะ” กฤษณาพูดเสียงดังเล็กน้อย เด็กสาวดึงขาของตนกลับ

“ก็หนูอยากรู้ว่าพี่ธลอยู่ตรงนี้หรือเปล่าอะคะ” เด็กหญิงตอบ กฤษณาก้มลงพลางจับไหล่ของเด็กสาวเอาไว้

“ตอนนี้พี่ธลเขาคงกลับไปอยู่กับจระเข้ตัวอื่นๆแล้วละจ๊ะ เขาคงไม่กลับมาที่นี่อีกแล้วละ” กฤษณาพูด เด็กหญิงทำหน้าเศร้า

“ทำไมละคะ พี่ธลเขาไม่คิดถึงคุณพ่อเลยหรอคะ” เด็กหญิงถาม กฤษณาถอนหายใจเบาๆ

“บางครั้งคนเราก็มีหน้าที่ที่ไม่เหมือนกันละจ๊ะ พ่อต้องอยู่ทำหน้าที่ของคนที่นี่ ส่วนธลเขาก็ต้องทำหน้าที่ของจระเข้ในน้ำเหมือนกัน บางครั้งหน้าที่มันก็เลี่ยงไม่ได้จริงๆ” กฤษณาพูด เด็กหญิงมีสีหน้าสลดลง

“พี่ธลคงจะเหงาแย่เลย คุณพ่อไม่เหงาหรอคะ” เด็กหญิงถาม กฤษณาถอนหายใจเบาๆ

“ไม่หรอกจ๊ะ พ่อมีธลอยู่แล้วไง” กฤษณาพูด เด็กหญิงพยักหน้ารับ

“ไปหาแม่ไปอย่าวิ่งนะ” กฤษณากำชับ เด็กหญิงรีบเดินไปหาแม่ของตนที่กำลังเดินดูรอบบึงอยู่ไม่ห่าง กฤษณาส่ายหัวไปมา

“ทำไมเราไม่โตสักทีนะ” กฤษณาคิดอย่างหัวเสีย เขาพยายามมาเกือบสิบปีเพื่อที่จะก้าวเดินต่อไป แต่สุดท้ายแล้วเขาก็ไม่อาจลืมชลาธลได้เลย กฤษณามองไปที่บึงสุดลูกหูลูกตา บึงนี้มีความหลังของเขาและกฤษณาอยู่แน่นเต็ม ทั้งเรื่องฐานลับ ที่ที่เขาพบกันครั้งแรก และที่ที่พวกเขาพบกันเป็นครั้งสุดท้าย

“จ๋อม แจ๋ม” เสียงน้ำดังขึ้น

“ธลพ่อบอกแล้วว่า...” กฤษณาหยุดพูดเมื่อเขาเห็นลูกสาวของตนกำลังเดินกลับไปที่ป่าพร้อมกับภรรยาของเขา กฤษณาหันหลังกลับไป ถ้าเขาตาไม่ฟาดเขาเห็นหางจระเข้กำลังเลื้อยหายลงไปในบึง กฤษณารีบลุกขึ้นวิ่งไปทันที

“ธล” กฤษณาร้อง แต่หางนั้นก็จมน้ำหายไปอย่างรวดเร็ว กฤษณาถอนหายใจยาว

“หรือเราจะตาฟาด หูเพี้ยนไป” กฤษณาคิด แต่แล้วขาของเขาก็เหยียบเข้ากับอะไรสักอย่าง กฤษณาก้มลงดูเขาก็พบกับจี้เส้นนึง กฤษณาหยิบมันขึ้นมาดู มันเป็นจี้ที่ทำด้วยหนังจระเข้และจี้ตรงกลางก็เป็นเขี้ยวขนาดใหญ่

“หรือว่าจะเป็นสร้อยที่วิมาลามอบให้เลื่อมลายวรรณ สร้อยนี่คงจะลอยขึ้นมาจากถ้ำทองที่พังลงไปแล้ว” กฤษณาคิด พลางกำมันไว้ในมือ เขาจะปล่อยมันไปก็ไม่กล้าแต่จะเก็บไว้เขาก็กลัวที่จะทำใจไม่ได้

“คุณคะ แดดเริ่มแรงแล้วกลับกันดีกว่าคะ” หญิงสาวร้องทัก กฤษณารีบเอาสร้อยเส้นนั้นยัดกลับใส่เข้าไปในกระเป๋ากางเกงพลางรีบเดินกลับขึ้นไปทันที

“มีอะไรหรือเปล่าคะ” หญิงสาวถาม กฤษณาส่ายหัวไปมา

“ไม่มีอะไรจ๊ะ ไม่มี” กฤษณาตอบ หญิงสาวได้แต่พยักหน้ารับทั้งสามออกตระเวณไปทั่วเขตในเมือง กฤษณาต้องยอมรับว่าเขาทำใจได้ยากกว่าที่คิดจริงๆ เพราะทุกอย่างล้วนแต่จะให้เขารำลึกถึงชลาธลได้ทุกอย่าง มือของกฤษณากำจี้ในกระเป๋ากางเกงแน่น มันเหมือนเป็นของต่างหน้าชิ้นเดียวของชลาธลที่เขาจะหาได้จริงๆ ตกเย็นกฤษณาและครอบครัวขับรถกลับไปที่บ้านของเขาซึ่งแม่ของกฤษณาก็ทำข้าวซอยให้ทุกคนได้ทานกันอย่างอิ่มหนำ

“คุณไม่เป็นไรจริงๆนะคะ” หญิงสาวถาม หลังจากที่กฤษณาออกมาจากห้องน้ำแล้ว

“มะ ไม่นี่จ๊ะ” กฤษณาตอบ หญิงสาวถอนหายใจ

“เราคบกันตั้งแต่อยู่มหาลัยนะคะ ทำไมฉันจะดูไม่ออกละคะ” หญิงสาวตอบ กฤษณาถอนหายใจเบาๆ

“อืม ผมต้องยอมรับนะ ว่านี่มันยากกว่าที่ผมคิดไว้เสียอีก” กฤษณาพูด หญิงสาวโอบร่างของกฤษณาไว้หลวมๆ

“ฉันเชื่อว่าคุณต้องผ่านมันไปได้คะ ฉันยินดีจะช่วยคุณทุกอย่างเองนะคะ” หญิงสาวพูด กฤษณาพยักหน้ารับ

“ขอบใจนะจ๊ะ แต่ตอนนี้ผมง่วงละ ขอนอนก่อนดีกว่า” กฤษณาตอบพลางล้มตัวลงนอนแทบจะทันที แต่กระนั้นก็ตามกฤษณาก็ไม่อาจข่มตาลงไปได้ ความทรงจำของเขาและชลาธลผุดขึ้นมาเรื่อยๆอย่างไม่ยอมหยุด กฤษณาลุกขึ้นจากเตียงอย่างเหนื่อยอ่อน สุดท้ายแล้วเขาก็ไม่อาจห้ามใจตัวเองได้ กฤษณาย่องจากเตียงของเขาไปที่โต๊ะเขียนหนังสือ กฤษณาเปิดเกะอย่าแผ่วเบาพลางหยิบเอาจี้ที่เขาพบออกมา กฤษณาเปิดไฟหัวโต๊ะพลางพิจารณาสร้อยในมือของเขา หนังที่ตัดออกมาได้อย่างสวยงามเป็นเส้นตรง เขี้ยวที่ถูกเจาะด้วยอะไรสักอย่างถูกเส้นหนังร้อยผ่าน กฤษณามองดูอย่างทึ่งๆ

“วิมาลาทำสร้อยได้สวยขนาดนี้เลยหรอ” กฤษณาเริ่มคิดพลางนึงถึงสร้อยที่วิมาลาทำให้เลื่อมลายวรรณที่แปะอยู่ที่ผนังฐานลับของชลาธล กฤษณาตาลุกวาว

“สร้อยนี่ มันไม่ใช่ของวิมาลานี่” กฤษณาร้อง เพราะรูปจี้ที่วิมาลาทำให้เลื่อมลายวรรณนั้นแผ่นหนังมีขนาดที่ใหญ่กว่า และถูกตัดเป็นรูปคล้ายสามเหลี่ยมแต่สร้อยเส้นนี้กลับตัดออกเป็นเส้นตรงอย่างปรานีต กฤษณามือสั่นเทา


ออฟไลน์ ที่ปรึกษาไอทีขั้นต้น

  • Administrator
  • เป็ดApollo
  • *
  • กระทู้: 6853
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +1320/-22
Re: [novel] นิทานชลาธล by Nat
«ตอบ #81 เมื่อ25-01-2007 19:45:51 »

"นะ นี่หรือว่า” กฤษณาพยายามหยุดความคิดของเขาไว้ แต่เขาก็ไม่อาจจะทำมันได้เลย เขาจ้องไปทีจี้ในมือตาเขม็ง พลางหันหลังกลับไปมองร่างของหญิงสาวที่นอนอยู่บนเตียง กฤษณาไม่อาจตัดสินใจอะไรได้เลยจริงๆ เขาก้มลงมองดูสร้อยในมือพลางกำมันไว้แน่น กฤษณาลุกขึ้นจากโต๊ะพลางเดินอย่างเงียบกริบออกจากห้องไป กฤษณาเดินไปที่ห้องของลูกสาวของตน กฤษณาเปิดประตูอย่างแผ่วเบา เด็กหญิงนอนหลับอย่างเป็นสุข กฤษณามองดูสร้อยในมือของเขาอีกครั้ง เขาอยากจะเจอชลาธลอีกสักครั้งเหลือเกิน กฤษณาถอนหายใจยาวพลางเดินลงไปข้างล่าง เขายืนอยู่ตรงหน้าประตูบ้าน กฤษณายืนมองประตูอย่างใช้ความคิด เขาจะกลับไปหาชลาธล หรือ เขาควรจะลืมเรื่องทั้งหมดนี่ไปเสีย แต่ตลอดหลายสิบปีที่ผ่านมา เขาไม่เคยที่จะลืมชลาธลเลย อย่างมากตอนนี้เขาก็ทำได้แค่หลอกตัวเองว่าชลาธลนั้นจากเขาไปแล้ว แต่ยิ่งเขาได้เห็นสร้อยเส้นนี้มันเหมือนจุดประกายความหวังของเขาให้ลุกโชนขึ้นมาใหม่ กฤษณากำมือแน่น

“ขอแค่ครั้งนี้ครั้งเดียว” กฤษณาคิดอยู่ในใจพลันเขาก็เปิดประตูออกไป กฤษณาขึ้นรถไปที่วัดทันที กฤษณาขับรถไปอย่างช้าๆ ใจของเขาตื่นเต้นเสียเหลือเกิน ถ้าเขาเจอชลาธลจริงๆเขาจะพูดอะไรก่อนดี แล้วชลาธลจะเปลี่ยนไปแค่ไหน ชลาธลจะยังอยู่ในร่างของจระเข้หรือว่าเขาหาทางกลับมาใช้ร่างมนุษย์ได้แล้ว กฤษณาคิดอย่างคลุมคลือ แต่ก็ไม่ได้ทำให้เขาหยุดรถเลย กฤษณาขับมาจอดที่วัด เขาหยิบไฟฉายออกมาพลางเดินไปยังบึง กฤษณาก้าวขาสั่นๆ ในของเขาเต้นแรงไม่เป็นจังหวะ กฤษณาเดินไปอย่างช้าๆจนกระทั่งเขามาถึงบึงที่เงียบสงบ มีเพียงเสียงจิ้งหรีดส่งเสียงร้องในยามค่ำคืน แสงจันทร์เพ็ญสว่างสะท้อนผิวน้ำดูนวลตา กฤษณายืนมองไปที่บึงตรงหน้า

“ธล เรารู้ว่านายอยู่ตรงนั้นนะ” กฤษณาพูด แต่ก็ไม่มีเสียงใดตอบกลับมา กฤษณาสูดหายใจลึก

“นายเป็นคนเอาสิ่งนี้มาให้เราใช่ไหมธล นายทำมาให้เราใช่ไหม” กฤษณาพูด แต่ก็ยังไม่มีเสียงใดตอบกลับมา

“นายหายไปไหนกันตั้งสิบกว่าปี ทำไมนายไม่บอกเราสักคำ เราไม่กลัวหรอกนะว่านายจะเป็นจระเข้หรืออะไรก็ตาม เราแค่อยากให้นายรู้ว่า เรายังรักนายไม่เปลี่ยนแปลง ไม่ว่าจะนานแค่ไหนเราก็ไม่เคยลืมนายเลยนะ” กฤษณาพูด แต่ก็ยังไร้ซึ่งเสียงใดๆตอบกลับมา กฤษณากำมือแน่น

“ได้ ถ้านายต้องการอย่างนั้น เราจะตามหานายอีก เราจะหาจนกว่าเราจะเจอนายต่อให้มันต้องแลกกับชีวิตของเรา เราก็จะหายนาย” กฤษณาพูดจบ พลางถอดเสื้อของเขาออกทันที

“พอเถอะกฤษ” เสียงทุ้มเข้มดังขึ้น กฤษณาหันมองไปรอบตัว เสียงน้ำจ๋อมแจ๋มดังขึ้น กฤษณามองไปตรงหน้า เมฆค่อยๆลอยเคลื่อนตัวมาบดบังแสงจันทร์เอาไว้ กฤษณาเพ่งสายตาเข้าไปตรงหน้าของเขา มีวัตถุบางอย่างค่อยๆเคลื่อนไหวขึ้นมาบนบกอย่างช้าๆ กฤษณาจ้องมองดูเจ้าสิ่งนั้นค่อยๆขยับเข้ามาใกล้เขาทุกทีๆ ปากที่ยาวยื่นและมีฟันอันแหลมคม หางที่ยาวลากติดดินถูกไปกับพื้นดังครืดๆ ขาสั้นๆที่ค่อยๆพาร่างมหึมาของมันเข้ามาใกล้กฤษณาขึ้นเรื่อยๆ กฤษณามองดูร่างจระเข้ตรงหน้าอย่างไม่หวั่นกลัว พลันเมฆก็ค่อยๆเลื่อนตัวออกไป แสงจันทร์ส่องสว่างขึ้นช่วยให้กฤษณามองเห็นร่างจระเข้ตรงหน้าได้อย่างชัดเจน แต่แล้วร่างจระเข้นั่นก็ส่องแสงไปทั่วตัว กฤษณายกมือขึ้นป้องตาพลางหรี่มองดู ร่างของจระเข้ค่อยๆเปลี่ยนสภาพไปอย่างช้าๆ กฤษณามองดูตาไม่กระพริบ จนกระทั่งแสงนั่นค่อยๆจางลง กฤษณาตาค้างเล็กน้อย ร่างของชายผิวสีน้ำผึ้งเข้มกับร่างกายที่กำยำยืนอยู่ตรงหน้าเขา ไรหนวดเขียวๆปรากฏขึ้นโดยรอบทำเอากฤษณาแทบพูดอะไรไม่ออก

“ธะ ธล” กฤษณาพูด ชลาธลยิ้มรับ

“ไม่ได้เจอกันนานเลยนะกฤษ” ชลาธลกล่าว กฤษณาวิ่งโผเข้ากอดร่างของชลาธลเอาไว้ทันที

“ธล ทำไมละ ทำไมนายหายไป ทำไมนายไม่บอกเราสักหน่อยว่าเกิดอะไรขึ้น” กฤษณาพูด ชลาธลยืนนิ่ง

“กฤษ เราขอร้องละนายอย่าลำบากอะไรเพื่อเราอีกเลยนะ” ชลาธลพูด กฤษณามองหน้าชลาธล

“ทำไมนายพูดแบบนี้ละ เราก็บอกแล้วไงว่าทุกอย่างที่เราทำเราเต็มใจทำมันเพื่อนาย เราไม่เคยลำบากเลยแม้แต่น้อยนะธล” กฤษณายืนยัน ชลาธลก้มหน้า

“เรารู้ เราเองก็ดีใจที่นายตั้งใจทำทุกอย่างเพื่อเราขนาดนี้ แต่กฤษ นายก็เห็นนี่ว่าเรากับนายมันต่างกันเกินไป เราเป็นจระเข้ แต่นายเป็นคน แค่นี้มันก็ผิดมากพอแล้ว เราคงทนเห็นนายลำบากต่อไปไม่ไหวแล้วจริงๆ กฤษ เราขอร้องละ นายลืมเราเสียเถอะแล้วมีความสุขกับความจริงดีกว่านะ” ชลาธลตอบ กฤษณากำหมัดแน่น

“แล้วนายรู้ได้ยังไงว่าเรามีความสุข เราคิดถึงนายอยู่ทุกเมื่อเชื่อวัน เราอยากจะเจอนายอีกสักครั้งแต่นายกลับหายไปอย่างเนี้ย” กฤษณาแย้ง ชลาธลก้มหน้า

“เรารู้ เราเองก็อยากเจอนายมากเหมือนกันแต่...” ชลาธลพูดไม่จบเขาชี้นิ้วไปข้างหลัง กฤษณาหันหลังกลับไปเขาก็พบว่าภรรยากับลูกสาวของเขายืนอยู่พลางจ้องมองกฤษณา

“เราเป็นอดีตไปแล้วเรารู้ดี เราเองก็พยายามหาทางที่จะทำให้เรากลับมาอยู่กับนายให้ได้แต่กว่าเราจะรู้มันก็ช้าไปเสียแล้ว เราไม่คิดจะโกรธนายหรอกนะที่นายทำแบบนั้น อันที่จริงเราดีใจด้วยซ้ำที่นายมีอนาคตที่สดใส แค่นั้นเราก็ดีใจแล้วละ” ชลาธลตอบ กฤษณามองหน้าชลาธล

“ธล” กฤษณามองหน้า ชลาธลคว้าตัวกฤษณามากอดเอาไว้

“กฤษ เราดีใจจริงๆนะที่เราได้เจอนายอีก ของสิ่งนั้นเราอยากมอบให้นายเก็บไว้ เมื่อไหร่ที่นายต้องการเราแค่นายเรียกชื่อเรา เราจะมาหานายเสมอทุกเมื่อ ต่อให้นานแค่ไหนนายก็จะเป็นคนเดียวในใจของเราอย่างนี้ ตลอดไป” ชลาธลกล่าว กฤษณากำหมัดแน่น

“แล้วนายจะทำยังไงต่อไป” กฤษณาถาม ชลาธลจ้องหน้ากฤษณา

“เราคงกลับไปอยู่ที่แดนจระเข้ เราอยู่ในร่างมนุษย์นี่ได้ต่อเมื่อเราได้อาบแสงจันทร์เท่านั้น พอกลางวันเราก็จะกลับคืนเป็นจระเข้อีกครั้ง” ชลาธลพูด กฤษณามองดูสร้อยในมือพลางส่งคืนให้ ชลาธลตาลุกเล็กน้อย

“เราไม่ต้องการมันหรอก” กฤษณาพูด ชลาธลมีสีหน้าเศร้าเล็กน้อย

“อืม เราเข้าใจ ให้มันจบไปดีกว่า” ชลาธลตอบ กฤษณายิ้ม

“เพราะว่าเราจะไม่ยอมให้นายไปไหนได้อีก” กฤษณาพูด ชลาธลมองหน้ากฤษณางงๆ หญิงสาวเดินลงมาหากฤษณา

“พ่อของฉันเป็นเจ้าของฟาร์มจระเข้นะคะ แล้ว บ้านของเราก็อยู่ไม่ไกลจากที่นั่นมากนัก คือ กฤษ เขาขอร้องให้พ่อของฉันทำที่ไว้ให้กับเพื่อนที่เขารักที่สุดแม้ว่าเขาจะหาตัวเขาเจอหรือไม่ก็ตาม คือ อันที่จริงฉันกับเขาตัดสินใจแล้วละคะว่าจะให้คุณชลาธลเป็นพ่อทูนหัวให้กับลูกของฉันนะคะ” หญิงสาวพูด ชลาธลถึงกับอึ้งพูดอะไรไม่ออก กฤษณายิ้มให้

“ยังไงเราก็จะไม่ทิ้งนายอยู่แล้ว เราสัญญาไว้แล้วนี่นา” กฤษณาตอบ ชลาธลถึงกับน้ำตาไหลรินลงเป็นสาย เขาโผเข้ากอดกฤษณาเอาไว้

“นะ นายมันบ้าจริงๆเลย กฤษ ตะ แต่ แต่ เราก็รักนายที่สุดเลยนะ” ชลาธลพูด กฤษณากอดร่างของชลาธลไว้ในอ้อมแขน

“ยินดีต้อนรับกลับมานะเพื่อนรัก” กฤษณาพูด ชลาธลาร้องสะอื้นที่อกของกฤษณา

“พี่ธลหรอคะ” เด็กหญิงกล่าว ชลาธลก้มลงดู

“อ๋อ ขอแนะนำให้รู้จักนี่ชลาธลนะ ชลาธลลูกนี่พี่ชลาธลนะ” กฤษณาแนะนำตัว ชลาธลก้มลงมองดูเด็กหญิงตรงหน้า เด็กหญิงจับที่แก้มของชลาธลอย่างไม่เกรงกลัว

“พี่ธลจะมาอยู่กับหนูได้ไหมคะ” เด็กหญิงถาม ชลาธลมองหน้ากฤษณาพลางหันกลับมามองเด็กหญิง

“จ๊ะ พี่จะอยู่กับน้องนะ” ชลาธลตอบ เด็กหญิงเดินเข้าไปกอดร่างของชลาธลเอาไว้ ชลาธลไม่เคยรู้สึกอบอุ่นเท่านี้มาก่อนเลยในชีวิต เขามองหน้ากฤษณาที่ยืนยิ้มให้เขากฤษณาโอบไหล่ของภรรยาของเขาเอาไว้

“คุณรู้หรือ” กฤษณาถาม หญิงสาวหัวเราะคิกคักในลำคอ

“แหม ฉันเองก็รู้จักคุณมาเกือบสิบปีเหมือนกัน ทำไมจะไม่รู้ละคะ” หญิงสาวตอบ กฤษณาหอมแก้มหญิงสาวเข้าฟอดใหญ่

“ขอบใจนะจ๊ะ” กฤษณาตอบ พลันมองดูชลาธลที่จับร่างของลูกสาวของเขาขึ้นขี่คอ

“เย้ๆ” เด็กหญิงร้องอย่างดีใจ ชลาธลหันกลับไปมองกฤษณา

“แล้วเราจะกลับบ้านนายเมื่อไหร่ละ” ชลาธลถาม กฤษณาขมวดคิ้ว

“อะไรกัน เราพึ่งมาถึงเองนะ จะให้กลับเลยหรอ” กฤษณาแย้ง

“นะคะคุณพ่อ หนูอยากอวดบ้านใหม่ให้พี่ธล” เด็กหญิงตอบ กฤษณาเบ้ปาก

“อะไรเนี่ย นี่ลูกรักพ่อทูนหัวมากกว่าพ่อแล้วหรอ” กฤษณาย้อน

“ช่าย” ทั้งเด็กสาวและชลาธลตอบพร้อมกัน ก่อนที่ทั้งสองจะหัวเราะให้กัน

“พี่ธลคะ พี่ธลเล่านิทานให้ฟังอีกสิคะ” เด็กหญิงกล่าว ชลาธยิ้มพลางพยักหน้าให้

“จ๊ะ แล้วพี่จะเล่าให้ฟังนะ” ชลาธลกล่าวพลางเดินแบกร่างน้อยๆไปบนบ่าของเขา กาลเวลา ระยะทาง อาจเป็นอุปสรรค์ขวางกั้น หน้าที่ ความรับผิดชอบเหมือนกำแพงสูงที่เกินจะเอื้อม แต่ตราบใดที่มีจิตใจที่มั่นคง ต่อให้กำแพงจะสูงหนาสักเพียงใด ระยะทาง เวลาจะห่างกันเพียงไหน เราจะยังเชื่อมต่อถึงกันได้ เพราะความรักไม่มีกฏเกณฑ์ และความรักไม่มีวันสูญสลายไปกับกาลเวลา...

แล้วทุกคนก็อยู่ร่วมกันอย่างมีความสุขตราบชั่วกาลนาน

จบบริบูรณ์

****************************************************************************************

ขอบคุณมากๆเลยครับคุณ Nat สำหรับเรื่องราวดีๆอีกมากมาย
ที่ทำให้ผมมีความสุขเวลาอ่าน และตั้งแต่ขอเรื่องคนมาลง
คุณเป็นที่ทำให้ผมรู้สึกดีมากๆเลยตั้งแต่ขอเรื่องมาลง
แค่อยากแบ่งปันเรื่องดีๆให้เพื่อนเท่านั้นเอง ดีใจที่คุณ Nat เข้าใจ  :impress3:

ขอบคุณเพื่อนๆด้วยนะครับที่ช่วยติดตามเรื่องนี้
อ่านจบแล้วรบกวนคอมเม้นต์ให้คนเขียนหน่อยนะครับ
เขาจะได้มีกำลังใจเขียนเรื่องต่อไปมาให้อ่านกัน
ถ้าเยอะๆผมอาจจะขอเรื่องอื่นที่ยอดเยี่ยมไม่แพ้กันมาลงอีก
คุณ Nat เขียนไว้เป็นสิบๆอ่ะครับ ยอดเยี่ยมไม่แพ้เรื่องนี้เลย  :yeb:
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 25-01-2007 19:49:08 โดย b|ueBoYhUb »

ออฟไลน์ THIP

  • Global Moderator
  • เป็ดApollo
  • *
  • กระทู้: 7674
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +986/-10
Re: [novel] นิทานชลาธล by Nat
«ตอบ #82 เมื่อ25-01-2007 21:24:31 »

แล้วทุกคนก็อยู่ร่วมกันอย่างมีความสุขตราบชั่วกาลนาน  :impress3:  :like6:
จบได้อรรถรสนิทานจริง ๆ  :yeb:

เรื่องนี้ช่วงแรกออกแนวลึกลับ ผจญภัยหน่อย ๆ เหมือนฟังนิทานซักเรื่องหนึ่ง ช่วงต่อมาเริ่มมีมิตรภาพ ความรัก เข้ามาเกี่ยวข้องเริ่มมีกลิ่นอายของนิยายรักทั่ว ๆ ไป ในเรื่องแต่งให้เป็นการเล่าเรื่องผ่านตัวละครชื่อกฤษณาซึ่งมีครอบครัวแล้ว เป็นการบอกตอนจบของเรื่องกลาย ๆ ว่าเรื่องนี้คงเป็นความรักที่ไม่สมหวัง ดังนั้นเราอ่านไปก็ลุ้นไปว่าอะไรหนอที่ทำให้เกิดตอนจบแบบนี้ ทำให้สนุกและมีความสุขในทุก ๆ ตอนที่ได้อ่าน

ขอบคุณ คนแต่งที่แต่งเรื่องดี ๆ มาให้อ่าน จะคอยติดตามผลงานในเรื่องต่อ ๆ ไปนะคะ
ขอบคุณ คนโพสต์ที่หาเรื่องราวดี ๆ มาลงให้อ่าน
ขอบคุณมาก ๆ ค่ะ  :myeye:

wee

  • บุคคลทั่วไป
Re: [novel] นิทานชลาธล by Nat
«ตอบ #83 เมื่อ25-01-2007 23:04:03 »

เป็นเรื่องที่เราประทับใจมากเรื่องหนึ่งเลยน่ะ  :teach:
ขอบคุณสำหรับเรื่องที่สนุกมากกกก :yeb:

mokung

  • บุคคลทั่วไป
Re: [novel] นิทานชลาธล by Nat
«ตอบ #84 เมื่อ26-01-2007 05:06:34 »

ปราบปรื้ม ทราบซึ้ง   กินใจ  เปนที่สุด  ชอบๆๆๆมากๆ    :monkeysad:

คนเขียนเขียนได้ดีมาก.............สุดยอดๆๆๆ......ชอบจัง อยากอ่านเรื่องแบบนี้อีกอะ   :impress3:

peang

  • บุคคลทั่วไป
Re: [novel] นิทานชลาธล by Nat
«ตอบ #85 เมื่อ26-01-2007 09:46:42 »

 :impress2:  ขอบคุณจริงๆที่เอาเรื่องราวดีๆแบบนี้มาให้ได้อ่านกัน  มันคลายเครยีดได้  มันสร้างรอยยิ้มได้ แม้เวลาที่โดนเจ้านายดุ  มันทำให้ตาหน้าเคร่งเครยีดเสมือนว่า
     "ชั้นกำลังทำงานอยู่  อย่ามายุ่งกะชั้นนะยะ" มุขนี้ใช้บ่อย อิอิ :laugh:

เอาเป็นว่า ขอบคุณทั้งผู้เขียน ผู้เอาเรื่องมาลง  และจะขอบคุณมากขึ้น  ถ้าได้มีเรื่องราวดีๆแบบนี้ให้ได้อ่านกันเรื่อยๆๆๆๆๆๆ :monkeylove2:

****แต่แหม  ไอ้เราอุตสาห์หวังว่าจะมีฉากกุ๊กกิ๊กๆ   :haun6:อีกซัก ฉาก 2 ฉาก นะเนี่ย ผิดหวังหน่อยๆ แต่จบแบบสวยงามแบบนี้ ให้อภัยได้ค่ะ :yeb:

เก๋าดี

  • บุคคลทั่วไป
Re: [novel] นิทานชลาธล by Nat
«ตอบ #86 เมื่อ26-01-2007 10:10:32 »


โอวววว

จบแว้ววววว

ชอบคับ

ขอบคุณที่เอามาให้อ่านคับ

 :yeb: :yeb: :yeb: :yeb: :yeb:

meemewkewkaw

  • บุคคลทั่วไป
Re: [novel] นิทานชลาธล by Nat
«ตอบ #87 เมื่อ26-01-2007 14:39:38 »

จบแล้วอ่ะ ก่อนจะจบทำไมมันบีบใจยังงี้
. . . ต้องตามหาคนที่เรารัก แม้อาจไม่มีโอกาศที่จะได้เจอ . . .
  :impress3:

ขอบคุณคนแต่งนะครับที่ได้สร้างเรื่องดีๆขึ้นมา ให้คนอ่านทุกคนได้อ่าน
ขอบคุณคนโพสต์ด้วยครับ หากไม่มีคุณ ผมคงไม่ได้มีโอกาสได้อ่านเรื่องดีๆแบบเรื่องนี้
ขอบคุณมากๆครับ
ขอบคุณครับ
 :impress:


ปล.เพิ่งรู้นะเนี่ย เพ่บลูเรย์อยากเห็นหมี  :kikkik:

ออฟไลน์ oaw_eang

  • Global Moderator
  • เป็ดHades
  • *
  • กระทู้: 8418
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +2122/-586
Re: [novel] นิทานชลาธล by Nat
«ตอบ #88 เมื่อ27-01-2007 21:33:40 »


จบแล้วสินะ

จบพร้อมรอยยิ้มของเจ้

วิธีการเดินเรื่องแปลกใหม่ดี  น่าติดตาม

จินตนาการชนะเลิศศศศศศศศศศศศศศศศศศศศศศศศศศศศศศศศศศศ

มีความอบอุ่นลอยปะปนแทรกอยู่ในทุกระหว่างบรรทัด

ไม่เศร้า ไม่เหงา กลับอิ่มใจอยู่ลึกๆ ข้างใน

ประทับใจจริงๆ

ขอบใจทั้งสองคนเลยนะที่ทำให้เจ้ได้อ่านเรื่องนี้

ปล. ไปเอาเรื่องใหม่มาลงเร็วๆ เลย ตาบลู

ข้อคิดที่ได้จากเรื่องนี้...จงอย่าได้เที่ยวสาระแนไปตัดสินแทนชาวบ้านเค้าว่า...ความสุขของเค้าคืออะไร
เพราะบางที  ความสุขของเค้ามันแค่เรื่องง่ายๆ ไม่ยากมากมายอะไรขนาดที่เราคิด

เจ้จะจำเอาไว้คะ...

abcd

  • บุคคลทั่วไป
Re: [novel] นิทานชลาธล by Nat
«ตอบ #89 เมื่อ03-02-2007 05:17:24 »

ตามมาอ่านตอนจบแบบดีเลย์ :try2:

เรื่องนี้ก้อเป็นอีกเรื่องที่จบได้แบบประทับใจ แฝงข้อคิดและทรรศนคติดีๆพร้อมๆกับสอดแทรกนิทานพื้นบ้านไทยไปด้วย แปลกแหวกแนวดี 
ขอบคุณคุณนัทด้วยนะจ๊ะที่แต่งเรื่องราวดีๆแบบนี้ออกมาให้ได้อ่านกัน 
จะติดตามรอผลงานเรื่องอื่นๆต่อไปจ้า  :yeb:
 ขอบคุณเรย์ด้วยพ่อคนขยันโป๊ด   :myeye:

 

สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด


สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด