มิติเร้นรัก
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด

สนใจโฆษณาติดต่อ laopedcenter[at]hotmail.com คลิ๊กรายละเอียดที่ตำแหน่งว่างเลยครับ

สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด

ผู้เขียน หัวข้อ: มิติเร้นรัก  (อ่าน 97385 ครั้ง)

pickki_a

  • บุคคลทั่วไป
เศร้าได้อีกคับซี
มันเป็นความเหงา อย่าว่าแต่วิญญาณเลย คนมีชีวิตอยู่ก็เหงาเหมือนกัน
 :oo1:

ออฟไลน์ patee

  • เป็ดแสนดี
  • เป็ดAphrodite
  • *
  • กระทู้: 3732
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +276/-3
หวังว่าการปฏิบัติธรรมและนั่งสมาธิ

คงทำให้ชีวินได้พบกับเอ็มอีกสักครั้ง :m5:

namtaan

  • บุคคลทั่วไป
โฮะๆๆๆๆ
น้องซีค้าบ เบาๆในเรื่องความน่ากลัวจริงๆแหละ
แต่ว่าหนักหนาในเรื่องความคิดของวินนะเนี่ย
บรรยายได้ดีมากๆ เข้าถึงความคิด ความรู้สึกของชีวินเลย

ตอนหน้าการนั่งสมาธิจะเข้ามาเกี่ยวข้องกับการติดต่อกันของสองหนุ่มแน่ๆเลย ใช่มิ

นิดนึงค้าบซี คำนี้คับ  "ความรู้สึกที่อยากจะตระคองโอบกอดร่างที่กำลังนั่งสงบนิ่ง"
เลือกเลย ว่าจะใช้อะไร "ประคอง" หรือ "ตระกอง"
แต่ตามข้อความนี้ น่าจะเป็น "ตระกอง" มากกว่าเน้อ (หมายความว่าโอบหรือกอดไว้ในวงแขน) 
เช่น "ความรู้สึกที่อยากจะตระกองกอดร่างที่กำลังนั่งสงบนิ่ง" ค้าบ

บวก 1 ให้น้องซีเช่นเคยน้า

three

  • บุคคลทั่วไป
อะไรอ่ะทำบุญไปให้ตั้งเยอะยังจะค้างเติ้งในนั้นอีกเหรอพี่นานนะ :m15:

nithiwz

  • บุคคลทั่วไป
 :serius2: จะลงเอยยังไง หนอ คิดไม่ออกเลยจริงๆ  รอติดตามต่อคับ

Pikachu

  • บุคคลทั่วไป
ตอบคอมเม้นนะครับผม^^

เย้ !! ดีใจได้จิ้มคุณ pikachu ตามตลอดนะคะ  แต่จะเข้ามาได้เฉพาะตอนเย็น ๆ ถึงช่วงกลางคืน แต่จะคอยติดตาม
ทุกวันไม่ได้ขาด +1 ให้คุณ pikachu สำหรับความขยันที่มาลงให้อย่างต่อเนื่อง เป็นเรื่องแนวแปลกใหม่สำหรับ
คนอ่านจริง ๆ สงสารทั้งชีวินและเอ็มจริง ๆ รักกันแต่ต้องอยู่กันคนละมิติ แล้วเรื่องจะจบยังไงละ อย่าเศร้านะคะ
สงสารคนอ่านบ้างนะคะ  :pig4:
ตอบครับ : ขอบคุณมากครับที่ติดตามอ่านผลงานผมทั้งหมดเลย เรื่องจะจบอย่างไร? ลองติดตามต่อไปเรื่อยๆนะครับ อาจจะซาบซึ้ง หรือ.. ก็ได้นะครับ  อยากบอกจังเลย แต่กลัวไม่มีลุ้นนะครับแฮ่ๆ

โฮะๆๆๆๆ
น้องซีค้าบ เบาๆในเรื่องความน่ากลัวจริงๆแหละ
แต่ว่าหนักหนาในเรื่องความคิดของวินนะเนี่ย
บรรยายได้ดีมากๆ เข้าถึงความคิด ความรู้สึกของชีวินเลย

ตอนหน้าการนั่งสมาธิจะเข้ามาเกี่ยวข้องกับการติดต่อกันของสองหนุ่มแน่ๆเลย ใช่มิ

นิดนึงค้าบซี คำนี้คับ  "ความรู้สึกที่อยากจะตระคองโอบกอดร่างที่กำลังนั่งสงบนิ่ง"
เลือกเลย ว่าจะใช้อะไร "ประคอง" หรือ "ตระกอง"
แต่ตามข้อความนี้ น่าจะเป็น "ตระกอง" มากกว่าเน้อ (หมายความว่าโอบหรือกอดไว้ในวงแขน) 
เช่น "ความรู้สึกที่อยากจะตระกองกอดร่างที่กำลังนั่งสงบนิ่ง" ค้าบ

บวก 1 ให้น้องซีเช่นเคยน้า
ตอบครับ : ขอบคุณมากครับ ผมแก้ไขแล้วครับ พยายามระวังแล้วเชียว อิอิ ขอบคุณที่ช่วยขัดเกลาให้นะครับผม และขอขอบคุณที่ให้กำลังใจผมด้วยนะครับ แง่มๆ

ขอบคุณกอป ขอบคุณพี่PEAK ขอบคุณพี่nOn†ღ ขอบคุณพี่pickki_a และทุกคอมเม้นจากทุกท่านที่ให้ความสนใจในนิยายเรื่องนี้นะครับ ผมโหวต +1 ให้ทุกท่านเพื่อแสดงความขอบคุณนะครับ ติดตามตอนต่อของนิยายเรื่องนี้ได้เลยครับผม^^ หุหุ

Pikachu

  • บุคคลทั่วไป
ในตอนใหม่นี้ อาจจะดูแรงไปสักนิด แต่จำเป็นต้องแรง เพราะมีเหตุผลครับ ลองอ่านจนจบตอนนี้เลยนะครับ ขอใบ้ให้นิดหนึ่ง จะเป็นการปูทางไปสู่.. สู่อะไรหนอ? ตอนหน้าจะได้รับคำตอบทั้งหมดครับ แง่มๆ ^^ บอกใบ้เหมือนไม่ใบ้เลยเนอะ

อัศจรรย์ (1)


วันนี้เย็นมากแล้ว จนจวนเจียนได้เวลาปิดประตูโรงเรียนเต็มที ชีวินมัวอยู่ช่วยอาจารย์บรรณารักษ์ห้องสมุดตบแต่งบอร์ดที่ห้องสมุดประจำโรงเรียน เขามัวใช้เวลาเสียพักใหญ่ จนเมื่อทุกอย่างเรียบร้อยดี เขาจึงไหว้ร่ำลาอาจารย์ท่านนั้น จากนั้น เขาก็แวะมาล้างหน้าที่ห้องน้ำซึ่งในตอนนี้เงียบเชียบและไม่มีผู้คน เพื่อให้รู้สึกสดชื่นขึ้น และเตรียมตัวจะกลับบ้าน ระหว่างที่กำลังก้มหน้าล้างหน้าที่บริเวณอ่างล้างหน้าในห้องน้ำ ชีวินก็รู้สึกเจ็บแปลบที่บริเวณก้น มันรู้สึกเหมือนกับว่า.. มีใครบางคนเอานิ้วมาทิ่มที่ก้นเขาเต็มแรง เขารู้สึกเจ็บมากจนผงะ และอุทานด้วยความรู้สึกที่เจ็บปวดจนสุดบรรยาย
“ โอ๊ย!! ”
ชีวินชะงักการล้างหน้า แล้วหันไปมองที่มาของความเจ็บปวดที่เขาได้รับนั้นในทันที แล้วเขาก็พบว่า.. เขาโดนเอานิ้วทิ่มที่ก้นอย่างรุนแรงและหยาบคาย จากนายเอิร์ท จอมเกเรร้ายกาจ ที่ใครต่อใครไม่ใคร่อยากจะสุงสิงด้วย เพราะความก้าวร้าวและชอบที่จะข่มผู้ที่ดูจะด้อยกว่าด้วยความฮึกเหิมลำพอง ด้วยว่า.. เขามีร่างกายสูงใหญ่เกินวัย ที่ดูจะแข็งแรงกว่าใคร เขามักชอบที่จะแสดงท่ากร่างแบบนักเลง มันเป็นอุปนิสัยเลวๆของเขาที่ชอบทำแบบนั้น นายเอิร์ทเป็นนักเรียนชั้นเดียวกับชีวิน แต่อยู่ต่างห้อง เขาชอบที่จะแสดงท่าทีข่มชีวินอยู่เสมอเมื่อสบโอกาส เพราะชีวินดูจะเป็นคนที่มีบุคลิกนิ่งๆ ไม่ใคร่สุงสิงใครเท่าใดนัก นอกจากเพื่อนที่เขารู้สึกสนิทใจจริงๆด้วยเท่านั้น ชีวินจ้องมองนายเอิร์ทด้วยอารมณ์ที่เริ่มเกิดโทสะ และก็เห็นนายเอิร์ทกำลังลอยหน้าลอยตาด้วยท่าทีที่ยียวนและท้าทาย เขารู้สึกโกรธจนสุดจะระงับใจได้อีกต่อไป เขาตรงเข้าไปผลักอกนายเอิร์ทแล้วเอ่ยตะคอกใส่เสียงดัง เพราะเขารู้สึกว่า การที่นายเอิร์ทมาทำกับเขาแบบนี้ มันดูจะข่มกันมากจนเกินไปแล้ว ถึงชีวินจะเป็นเกย์ที่ดูจะรักสงบ แต่การมาคุกคามกันแบบนี้ เขาก็ยอมไม่ได้เช่นกัน
“ ไอ้เอิร์ท นี่มันเกินไปแล้วนะ ทำแบบนี้มันเจ็บนะโว๊ย แล้วเราไปทำอะไรให้นายนักหนา ถึงได้มาทำกับเราแบบนี้? ”
นายเอิร์ทรู้สึกตกใจกับท่าทีที่ดูดุดันของชีวิน เขาไม่คิดว่าคนบุคคลิกติ๋มๆแบบชีวิน จะกล้าขึ้นเสียงใส่เขาขนาดนี้ได้ เขารู้สึกเสียหน้าเป็นอย่างมาก จึงเอ่ยตะคอกกลับด้วยเสียงที่ดุดันไม่แพ้กันด้วยท่าทีที่ดูก้าวร้าว
“ อะไรวะ กูเล่นด้วยแค่นี้ มาตะคอกใส่กูเลยเหรอ? มึงรู้ไหมว่ากูเป็นใคร? ติ๋มๆแบบมึง บังอาจมากล้าหือกับกูเหรอ? เล่นด้วยนิดหน่อยแค่นี้ทำเป็นโวยวาย วอนซะแล้วนะมึงไอ้วิน ”
“ เล่นงั้นเหรอ? นี่นายเล่นเหี้ -ๆแบบนี้เหรอ? แล้วถ้าเราเล่นกับนายเหี้ - ๆแบบนี้บ้างล่ะ จะเป็นไง? ไอ้คนระยำ ”
“ หนอย มึงด่ากูเหรอ?ไอ้เหี้ - มึงนี่บังอาจมาก กูว่า.. เล่นแค่นี้กับมึงมันน้อยไปซะแล้ว อย่างมึงมันต้องเจอแบบนี้ ”
“ พลั่ก!! ”
“ อุ๊ป!! ”
กล่าวจบ นายเอิร์ทก็ชกเข้าที่ลิ้นปี่ของชีวินเต็มแรงโดยที่ชีวินมิได้ทันตั้งตัวเลย เขารู้สึกจุกจนตัวงอ แล้วทรุดลงไปนอนกุมท้องกับพื้นอย่างสิ้นเรี่ยวแรง นายเอิร์ทเห็นดังนั้นก็ยิ้มเหยียดด้วยความสะใจ ดูเหมือนความก้าวร้าวรุนแรงที่เขากระทำกับชีวินดูจะยังไม่ถึงใจเขา เขาจึงเตะเข้าที่ชายโครงชีวินเต็มแรงอีกครั้ง ชีวินรู้สึกเจ็บปวดและจุกจนพูดไม่ออก เขาสิ้นซึ่งเรี่ยวแรงที่จะตอบโต้กลับและป้องกันตนเองได้เลย นายเอิร์ทยังไม่หยุดแค่นั้น ดูเหมือน.. การที่เขาเห็นชีวินในสภาพนี้ มันยิ่งกระตุ้นให้เขาอยากจะกดขี่ชีวินให้จมดินมากขึ้นไปอีก เขาเกิดความคิดบางอย่าง เวลานี้เย็นมากแล้ว และก็คงไม่มีใครผ่านมาแถวนี้แน่นอน เขาคิดดังนั้น ก็เหยียดยิ้มมุมปากอย่างร้ายกาจ แล้วเขาก็ตรงไปปลดเข็มขัด และกระชากกางเกงนักเรียน พร้อมกับกางเกงในของชีวินออกอย่างดุดัน ซึ่งชีวินในตอนนี้ พยามยามที่จะขัดขืน แต่กลับถูกตุ๊ยท้องอย่างแรงอีกครั้ง จนจุกหนักขึ้นไปอีก ความเจ็บปวดและจุกเสียดที่เกิดขึ้นซ้ำอีกครั้ง ทำให้ชีวินไร้ซึ่งเรี่ยวแรงที่จะดิ้นรนและขัดขืนได้อีกต่อไป มีเพียงสติสัมปชัญญะของเขาเท่านั้นที่ยังคงอยู่ จนในที่สุด.. ชีวินเปล่าเปลือยตรงส่วนล่างอย่างกระจ่างตาไปทุกสัดส่วน นายเอิร์ทเห็นดังนั้น ก็แค่นหัวเราะแบบเย้ยหยันด้วยความสะใจ
“ หึหึ ไอ้วินเอ๋ย มึงนี่ก็ดูขาวดีนี่หว่า มึงไม่น่าเกิดมาเป็นผู้ชายเลย ขาวแบบนี้น่าจะเกิดเป็นผู้หญิงเสียมากกว่า ว่าแต่.. ของมึงก็ดูไม่เบาเหมือนกัน เห็นอ้อนแอ้นแบบนี้ นึกไม่ถึงเลยว่า.. จะใหญ่ หึหึ ”
กล่าวจบ นายเอิร์ทก็เอาเท้าเขี่ยอวัยวะเพศชีวินเล่นอย่างสุดแสนที่จะดูหยาบคาย จิตใจก้าวร้าวและต่ำทรามของเขามันยังไม่หมดเพียงแค่นั้น เขาตรงไปนั่งคุกเข่าข้างชีวิน แล้วจัดท่าทางให้ชีวินที่นอนอ่อนแรงด้วยความเจ็บปวดในขณะนั้น ให้ถ่างแข้ง ถ่างขา อ้าซ่าจนเผยให้เห็นส่วนลับของชีวินชัดๆอย่างกระจะตา แล้วก็ถลกเสื้อชีวินให้สูงขึ้นจนถึงราวนม มันเผยให้เห็นชีวินในร่างกึ่งเปลือยที่ขาวโพลนชัดเจนแบบเต็มๆ จากนั้น.. เขาก็กดถ่ายรูปชีวินที่กำลังนอนเปลือยส่วนล่างอยู่เช่นนั้นจากกล้องในโทรศัพท์มือถือของเขาในแบบที่เห็นชีวินทั้งตัวตลอดจนถึงส่วนนั้นของชีวินในทันที จนเมื่อเสร็จเรียบร้อย เขาก็เอ่ยสำทับแกมขู่กรรโชกกับชีวินว่า..
“ หึหึ ทีนี้กูก็มีรูปมึงแก้ผ้าแล้ว แก้ผ้าอ้าซ่าแบบได้ห็นกันจะจะสะใจไปเลย ต่อไป กูจะได้เอาไว้ขู่ไถเงินมึง ก็มึงลองไม่ให้กูสิ แน่นอนเลยว่า ใครๆทุกคนก็ต้องได้เห็นรูปมึงแก้ผ้าแบบนี้แน่นอน ยังไม่หมดแค่นั้น กูว่า.. กูจะเอารูปมึงไปโพสลงเน็ทด้วยดีไหมนะ มึงจะได้จำใส่กะโหลกของมึงไว้ ว่าอย่าเสือกมาซ่ากับกู ซ่ากับกูมันก็ต้องเจอแบบนี้แหละ ฮ่าๆ สะใจจริงโว๊ย ”
ชีวินได้ยินดังนั้นถึงน้ำตาไหลรินด้วยความเจ็บแค้น ทำไมมันจึงเลวได้ขนาดนั้น นี่เขาไปทำอะไรให้มันนักหนา มันจึงทำกับเขาขนาดนี้? นี่ถ้ามันทำเช่นนั้นจริงๆอย่างที่มันพูด แล้วเขาจะเอาหน้าไปไว้ที่ไหน? แล้วเขาจะไปกล้าสู้หน้าใครได้ ทำไมมันจึงคิดทำอะไรอุบาทว์กับเขาได้เพียงนี้ หลังจากที่นายเอิร์ทกล่าวจบ และกำลังจะตรวจสอบดูรูปที่ถ่ายชีวินไว้เมื่อครู่ และกำลังตั้งใจว่า.. จะถ่ายเพิ่มอีกสัก 2-3 รูป โดยตั้งใจจะให้มันดูอุบาทว์ลามกมากขึ้นกว่านี้อีก ทันใดนั้น.. ก็มีเสียงเรียกเข้าดังขึ้นที่โทรศัพท์ของนายเอิร์ท เขาตรวจสอบดูก็เห็นว่า.. เบอร์ที่โทรเข้ามาหาเขานั้น มันไม่โชว์เบอร์ให้รู้ว่าเป็นใคร? เขารู้สึกแปลกใจอยู่เหมือนกัน แต่ก็กดรับในทันที
“ ฮัลโหล.. ”
“ ไอ้เหี้- มึงบังอาจมาทำร้ายวิน มึงทำได้ถึงเพียงนี้ มึงนี่มันเลวมากๆ มึงลบรูปออกเดี๋ยวนี้เลย แล้วไสหัวมึงไปให้พ้น และอย่ามายุ่งกับวินอีก ไม่งั้นมึงได้เดือดร้อนแน่ ไอ้สั-ว์ ”
“ ไอ้สั-ว์ แล้วนี่มึงเป็นใคร? ถึงบังอาจมาขู่กู แน่จริงมึงก็ออกมาสิ เอาแต่หดหัวไม่กล้ามาสู้หน้าแล้วมาทำพูดขู่กูแบบนี้  คิดเหรอว่ากูจะกลัว? อย่างมึงนี่มันหน้าตัวเมียชัดๆ ”
“ มึงต่างหากที่หน้าตัวเมีย ลอบกัดทำเขาตอนเผลอ โคตรจะทุเรศ มึงอยากรู้เหรอว่ากูเป็นใคร? ก็ได้ กูอุตส่าห์เตือนแล้วมึงเสือกไม่ฟัง ยังจะมาทำกร่างอีก เก่งนักเหรอมึงน่ะ รู้แล้วอย่าหนาวนะ กูเป็นใครน่ะเหรอ? จะบอกให้ก็ได้ กูเป็นผี ผีที่คอยปกปักษ์ดูแลวิน ตอนนี้กูอยู่ตรงหน้ามึงแล้วไง อย่าบังอาจมาทำร้ายวินอีก คราวนี้มึงได้เดือดร้อนแน่ กูไม่ได้ขู่ แต่กูจะเล่นมึงจริงๆ จะเอาให้ปางตายเลยมึง ”
“ น่าขำ ผี งั้นเหรอ? มึงนึกว่ากูเป็นเด็กอมมือหรือไง? มาทำพูดขู่กูแบบนี้ นึกเหรอว่ากูจะเชื่อ อ่อนไปหน่อยแล้วมึง ”
ปากนายเอิร์ทก็ตอบไปแบบนั้น แต่ใจเขากลับเริ่มหวาดๆชอบกล จากคำพูดที่ได้ฟัง มันดูน่ากลัวจริงๆ เขาพยายามเหลียวมองเลิ่กลั่ก เขาคิดว่า.. ต้องมีใครแอบซ่อนตัวอยู่ และเห็นการกระทำต่างๆที่เขาทำกับชีวิน จึงพูดออกมาได้ตรงเหตุการณ์แบบนั้น แต่แล้ว.. เขากลับกลับไม่พบใครเลย สภาพห้องก็โล่งๆ ก็ดูจะไม่มีที่แอบซ่อนตัวได้ด้วยซ้ำ ในตอนนี้มีเพียงเขาและชีวินที่กำลังนอนกองอยู่กับพื้นอย่างเจ็บปวดและไร้ซึ่งเรี่ยวแรงเท่านั้น แล้วเสียงจากโทรศัพท์ก็ตอบกลับมาอีกว่า..
“ ไม่เชื่องั้นเหรอ? ถ้างั้น มึงลองกดดูรูปที่มึงถ่ายไว้เมื่อกี้สิ นั่นแหละกูเอง กูมาบังวินไว้ไม่ให้ได้เห็นอะไรตรงนั้น กดดูเลย แล้วมึงก็จะรู้ ว่ากูพูดจริง นั่นแหละ กูเอง กู.. เป็น ผี ที่กำลังพูดอยู่กับมึงตอนนี้ไง ไอ้ระยำ ไอ้สัตว์นรก หึหึ ”
นายเอิร์ทไม่ตอบว่ากระไร เขารีบกดดูรูปที่ถ่ายไว้เมื่อกี้ในทันที แล้ว.. เขาก็พบว่า.. ภาพของชีวินที่นอนเปลือยส่วนล่างที่เขาถ่ายไว้นั้น มันมี รูปใครบางคน ที่ดูโปร่งบางจนเหมือนโปร่งใส โผล่มากั้นบังตรงส่วนนั้นของชีวินจนมองไม่เห็น ถึงจะเป็นรูปคนที่ดูโปร่งใส แต่.. มันก็ดูชัดเจนมาก มันเห็นเป็นรูปใบหน้าคน ที่ดูดุร้ายและกำลังแสยะจนน่ากลัว ที่กำลังเขม้นมองมาทางเขาด้วยสีหน้าและแววตาที่เหมือนกับอยากจะเข้ามาขยี้เขาให้แหลกคามือ เขาเห็นดังนั้น.. ก็ตกใจสุดขีด เขานึกในใจว่า.. นี่มันโผล่มาตอนไหน? ตอนที่เขาถ่ายรูป ก็มีเพียงเขาและชีวิน แล้วนี่.. มันอะไร? มันต้องเป็น.. ใช่แน่แล้ว มันเป็นแบบที่.. คิดแน่ๆ เขารู้สึกหวาดกลัวจนสุดบรรยาย ขนลุกซู่จนตัวสั่น ถึงจะดูเป็นเหตุการณ์ที่ดูเหลือเชื่อ แต่เขาก็เชื่อแล้ว เชื่ออย่างสนิทใจ และกำลังกลัวจนจับขั้วหัวใจ เขารีบเหวี่ยงโทรศัพท์ที่มีรูปน่ากลัวนั้น ไปกระแทกผนังอย่างแรงจนแตกกระจายหลุดเป็นชิ้นๆ แล้วร้องลั่นเหมือนคนขาดสติ
“ ว๊ากกกกก!! ”
เขาเอ่ยร้องอย่างสุดเสียงด้วยความหวาดกลัว และแล้ว.. เขาก็รู้สึก.. หนาวยะเยือก มันเป็นความเยือกเย็นที่น่าขนลุกแผ่ซ่านไปทั่วตัวเขา มันเหมือนกับ.. เขากำลังถูก.. ความมืดมิดที่น่าหวาดหวั่น กำลังครอบงำปกคลุมเขาอย่างประสงค์ร้าย ความน่ากลัวอันมืดดำนั้น ดูเหมือนกำลังบีบคั้นจิตใจเขาอย่างหนักหน่วง จนเขาปวดหัวตุบๆ เหมือนดังหัวเขาแทบจะระเบิดออกเป็นเสี่ยงๆ ความหวาดกลัวของเขาเพิ่มทวีขึ้นจนถึงขีดสุดจนเกินที่สติของเขาในตอนนี้จะรับไหว แล้วมัน.. ก็ขาดผึงลง เขาวิ่งร้องลั่นออกไปเหมือนคนบ้า โดยมิได้สนใจสิ่งใดๆรอบตัวอีกเลย เขาวิ่งโซเซแบบคนไร้สติที่หาทิศทางไม่ถูก จนกระทั่ง เขาไปชนกับเสาเต็มแรงจนศีรษะแตก เลือดซึมออกมาในทันที แต่เขาก็หาได้สนใจไม่ เขายังคงวิ่งแบบเพ้อคลั่งเหมือนคนไม่มีสติอยู่เช่นนั้น โดยไม่รับรู้ความรู้สึกเจ็บปวดจากบาดแผลบนศีรษะที่กำลังมีเลือดซึมและค่อยๆไหลย้อยลงมาเลย เขาวิ่งร้องโวยวายอย่างเพ้อคลั่งจนหายลับตาไป ชีวินลอบมองเหตุการณ์ต่างๆที่เกิดขึ้นด้วยความประหลาดใจ แต่.. เขาก็พอจะเดาเหตุการณ์ออก ว่านี่มันเกิดอะไรขึ้น? มีใครบางคนมาช่วยเขา ใครผู้นั้น ผู้ซึ่งคงยังวนเวียนอยู่รอบตัวเขาโดยมิได้ห่างหายไปไหนนั่นเอง ใช่แน่แล้ว เขาเข้าใจทั้งหมดแล้ว แต่.. น่าแปลก ชีวินรับรู้แบบนี้แล้ว แต่ในเวลานี้เขากลับไม่รู้สึกหวาดกลัวใดๆเลย เขากลับรู้สึกตื้นตัน ที่รู้ว่า.. สิ่งนั้นยังคงอยู่กับเขา ยังคอยวนเวียนและคุ้มครองเขาอยู่นั่นเอง ความหวาดกลัวที่เคยมีต่อสิ่งเร้นลับ สิ่งนั้นที่เป็นดวงวิญญาณดวงนั้น.. ได้มลายหายสิ้นไปในทันที และแล้ว.. ทันใดนั้น.. ชีวินก็รู้สึกเย็นสบาย สัมผัสที่ดูจะอบอุ่นแบบนั้น กลับมาอีกแล้ว ความเจ็บปวดที่เกิดขึ้นกับตัวเขาหลังจากถูกประทุษร้ายโดยนายเอิร์ท มันหายไปอย่างน่าประหลาด เมื่อครู่เขายังรู้สึกเจ็บปวดและจุกจนไร้เรี่ยวแรงอยู่เลย แต่.. ในเวลานี้ กลับมีแต่ความรู้สึกเย็นสบายและผ่อนคลาย จนเมื่อ.. เขารู้สึกดีมากขึ้น เขาจึงหันไปหยิบกางเกงที่ถูกระชากไปจากตัวเขาขึ้นมาสวมจนเรียบร้อยดี เพียงชั่วเวลาไม่นานจากนั้น เขาก็เห็นพัฒน์ กำลังวิ่งกระหืดกระหอบตรงมายังเขาด้วยสีหน้าที่เต็มไปด้วยความห่วงใยและกังวล และเอ่ยกับเขาในทันที
“ วิน เกิดอะไรขึ้น? ”
“ ไม่มีอะไรหรอกพัฒน์ แล้วนี่ ทำไมนายยังไม่กลับอีก เราคิดว่านายกลับไปตั้งนานแล้วนะ ”
“ พอดี เรากำลังจะก้าวขึ้นรถ แล้วมัน.. สังหรณ์ใจบางอย่าง อะไรก็ไม่รู้ บอกไม่ถูกนะวิน เรารู้สึกแต่เพียงว่า เราต้องรีบมาที่นี่ ต้องมาให้เร็วที่สุด แล้วเราเลยรีบวิ่งมาเลย แล้วเมื่อกี้ เราเห็นไอ้เอิร์ทวิ่งร้องลั่นสวนออกไป นี่มันเกิดอะไรขึ้นเหรอวิน? ”
“ ก็.. ไม่มีอะไรมากหรอก ไอ้เลวนั่นมันมาหาเรื่องเรา ก็เลยมีเรื่องกันนิดหน่อยน่ะ ”
“ มันทำอะไรวิน บอกมา เดี๋ยวเราจะไปเอาคืนให้ แม่งเลวจริงๆ วินไม่ต้องกลัวนะ ”
“ ช่างเถิดพัฒน์ เรื่องมันจบไปแล้ว มันก็ได้รับสิ่งตอบแทนที่สาสมไปแล้ว ต่อแต่นี้ มันคงไม่กล้ามาตอแยกับเราอีกแล้วละ ดูสิ.. โทรศัพท์มันก็แตกกระจายเป็นชิ้นๆไปหมดแล้ว อยู่นั่นไง สมควรกับสิ่งที่มันก่อแล้ว ขอบใจนะพัฒน์ที่เป็นห่วง นายเป็นเพื่อนที่ดีจริงๆ ”
“ ไม่เป็นไรหรอกวิน เราเป็นเพื่อนกันนะ ว่าแต่.. นายทำได้ไง? ไอ้เอิร์ทมันตัวใหญ่แข็งแรงขนาดนั้น นายเล่นมันคืนได้ขนาดนี้เลยเหรอเนี่ย? เราเห็นมันวิ่งหน้าตาตื่นด้วยความกลัวจนหางจุกตูดเลย นายนี่สุดยอดเลยนะวิน ”
“ ก็แค่.. เอ่อ มี.. เอ่อ.. ไม่ใช่ๆ เราก็แค่.. ป้องกันตัวน่ะ ไม่มีอะไรมากหรอก ”
“ แล้วนี่.. เป็นอะไรมากไหม? นายเจ็บตรงไหนไหมวิน? ”
พัฒน์เข้ามาช่วยปัดเสื้อผ้าของชีวินที่ขมุกขมอมเลอะฝุ่นผงจากพื้นและลูบคลำตามตัววินด้วยความห่วงใยอย่างใกล้ชิด จนชีวินสัมผัสได้ถึงกลิ่นกายของพัฒน์ ดูมันช่างน่าอบอุ่นเหลือเกิน ทำไมหนอ? พัฒน์จึงดีกับเขาขนาดนี้? เขาอยากให้พัฒน์มีหัวใจแบบเดียวกับเขาเหลือเกิน ถ้าเป็นเช่นนั้นจริงๆ มันก็คงจะดีไม่น้อย เขาก็คงไม่ต้องพยายามห้ามใจไม่ให้หลงรักพัฒน์แบบในทุกวันนี้ แต่.. พัฒน์ก็คงไม่ได้เป็นแบบนั้นหรอก ตลอดเวลาที่ผ่านมา พัฒน์ไม่เคยมีทีท่ากับเขาในทางอื่นกับเขาเลยแม่แต่น้อย คงมีแค่เพียง ความเป็นเพื่อน เพียงเท่านั้น ชีวินคิดดังนั้นก็พยายามตัดใจ เขาหันไปโอบไหล่พัฒน์แล้วเอ่ยด้วยน้ำเสียงที่แสดงถึงความตื้นตัน
“ ไม่เป็นไรมากหรอก ขอบใจนะพัฒน์ ดูสิ นายเลยกลับเย็นเลย นี่ประตูจะปิดแล้วด้วย งั้นเรากลับกันเถิดนะพัฒน์ ”
“ อืม.. นายไม่เป็นอะไรมากก็ดีแล้ว ต่อไปพยายามอยู่ห่างๆไอ้เลวนั้นนะ ถ้ามันมาทำอะไรวินอีก วินต้องบอกเรานะ เราจะไปกระทืบมัน เราไม่กลัวมันหรอก ไปกันเถิดวิน  ”
จากนั้น.. ทั้งคู่ก็เดินเคียงกัน เพื่อตรงกลับบ้าน ระหว่างนั้น.. ชีวินนึกในใจว่า.. ดวงวิญญาณดวงนั้น คงได้ไปดลใจพัฒน์ให้รีบเข้ามาช่วยเขาใช่ไหมหนอ? มันเป็นแบบนั้นใช่ไหม? ถึงแม้จะไม่ทันเวลา แต่เขาก็อดดีใจลึกๆไม่ได้ว่า.. ถ้าพัฒน์มาทัน พัฒน์ก็อาจจะเจ็บตัวไปด้วย เพราะพัฒน์ก็คงจะไม่ยอมแน่ ถ้าอยู่ในสถาณการณ์แบบนั้น จริงอยู่ว่า.. 2 ต่อ 1 น่าที่จะดูเป็นต่อมากกว่า แต่.. มันก็คงหลีกเลี่ยงการเจ็บตัวไม่ได้เช่นกัน ดีแล้วละ ที่เป็นแบบนี้ อย่างน้อยๆวันนี้เขาก็ได้กลับบ้านพร้อมพัฒน์ ชีวินรู้สึกตื้นตันกับสิ่งนั้นที่ได้มาช่วยเขาไว้ จนเขาเผลอตัว เอ่ยพึมพำออกมาเบาๆกับตัวเอง..
“ พี่เอ็ม ขอบคุณนะครับ ”
“ นายพูดอะไรเหรอวิน? ”
ชีวินได้ยินเช่นนั้นก็รู้สึกตัว เขารู้สึกเก้อเขินนิดหน่อยที่เผลอตัวพูดอะไรพึมพำออกมา เขาจึงรีบเอ่ยแก้เก้อ แล้วก็รีบเบี่ยงเบนความสนใจพัฒน์ในทันที
“ ปละ เปล่า เราไม่ได้พูด นายคงจะหูแว่วกระมัง? ว่าแต่.. นี่นายจะรีบกลับไหม? ”
“ ก็ไม่ค่อยเท่าไรนะ ปกติเรากลับเย็นๆเกือบทุกวันอยู่แล้ว มีอะไรเหรอวิน? ”
“ ก็.. แบบว่า เรา เอ่อ.. อยากจะชวนนายไปเป็นเพื่อนเราหน่อย ที่วัดตรงนั้นน่ะ ไม่ไกลจากโรงเรียนเราหรอก ใช้เวลาไม่นานมากหรอก แค่เดี๋ยวเดียวเอง ได้ไหม? ”
“ ก็ได้นะ ว่าแต่.. วินจะไปวัดทำไม? ”
“ เราอยากไปขอบคุณ.. เอ๊ยๆ ไม่ใช่ๆ เราอยากไปไหว้พระหน่อยน่ะ วันนี้ดูเหมือนจะซวย ที่ดันไปเรื่องกับไอ้เอิร์ท อยากไปทำบุญสักนิดหน่อย เพื่อความสบายใจ ”
“ ได้สิวิน งั้นไปกันเลย ”
.
.
ณ บริเวณ ริมสระน้ำขนาดใหญ่อันดูร่มรื่นในละแวกใกล้เคียงกับโบสถ์ที่วัดแห่งนั้น ชีวินและพัฒน์แวะมานั่งคุยกันเล่นภายหลังจากที่ได้ทำการสักการะเรียบร้อยแล้ว ในช่วงหนึ่งของการสนทนา พัฒน์ก็เอ่ยถามชีวินด้วยน้ำเสียงที่เจือไปด้วยความประหลาดใจอยู่เล็กน้อย..
“ อืม.. วิน เราเห็นนายไปไหว้ตรงที่บรรจุอัฐิ อยู่เงียบๆพักหนึ่ง คนนั้น.. เขาเป็นญาตินายเหรอ? ”
“ ไม่ใช่หรอก.. เขาเป็นรุ่นพี่ที่เรานับถือน่ะ เขาเคยดีกับเรามากๆ เราไม่น่าที่จะ.. กะ กลัว.. เอ่อ.. ไม่มีอะไร? ”
พัฒน์ได้ยินเช่นนั้น ก็รู้สึกแปลกใจ นี่วินกำลังจะพูดอะไร? แล้วก็หยุดไว้เพียงแค่นั้น? เขาขยับจะเอ่ยถาม ชีวินเห็นดังนั้น ก็รีบกลบเกลื่อนความพลั้งเผลอของเขาในทันที ด้วยว่าเขาไม่อยากให้พัฒน์ได้รับรู้อะไรไปมากกว่านี้
“ เออ.. พัฒน์ วันนี้เย็นมากๆแล้ว ฟ้าใกล้มืดแล้วด้วย เรากลับกันเถิดนะ ขอบใจที่มาเป็นเพื่อนนะพัฒน์ ”
“ ไม่เป็นไรหรอก นานๆได้มาไหว้พระแบบนี้ก็ดีเหมือนกัน ”
แล้วทั้งคู่ก็เดินเคียงกันออกมาจากบริเวณนั้น ในยามเย็นของวันนั้น.. วันที่ชีวินได้พบกับความอัศจรรย์อีกครั้งในชีวิต..

********

*โปรดติดตามตอนต่อไปเร็วๆนี้ครับ ^^

*แก้แล้วครับพี่น้ำตาล ขอบคุณครับ^^
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 08-03-2009 09:50:14 โดย Pikachu »

ออฟไลน์ DEMON3132

  • เป็ดแสนดี
  • เป็ดDemeter
  • *
  • กระทู้: 1704
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +170/-1
ได้จิ้มคุณ Pikachu อีกแล้วค่ะ ตอนนี้ไม่แรงไปหรอกค่ะ สมใจคนอ่านต่างหาก คนทำเลวย่อมต้องได้รับผลตอบแทนที่ไม่ดี
บ้าง ดีจังที่เอ็มคอยอยู่ช่วยเหลือชีวิน ช่วยให้ตลอดนะคะ +1 ให้คนแต่งแล้วนะคะ จะรอตอนต่อไป  :pig4:

High_Wizard

  • บุคคลทั่วไป
ตอนแรกก็ใจเสียวแวบเลย.......นึกว่า มันจะมีอะไรร้ายๆๆอีกไหม แต่ก็โอเคที่มันจบลงแบบนี้





เป็นกำลังใจให้นะซี...........แล้วมาลงต่ออีกนะ

namtaan

  • บุคคลทั่วไป
o13 เยี่ยมจริงๆค้าบน้องซี บรรยายเรื่องได้ชัดเจนดีมาก เห็นภาพตามเลยนะ
ความแรงตอนนี้ไม่มาำกไม่มายพอสะใจคนอ่าน  :laugh:

แถมยังลุ้นเรื่องของพัฒน์กับวินอีก เอ๊ะๆๆๆ มันยังไง
พัฒน์ห่วงวินแค่ความรู้สึกของเพื่อนสนิทเท่านั้นหรือเปล่า
แต่ยังไงก้ออยากรู้เรื่องของเอ็มมากกว่าอยู่ดีนะ

ตอนนี้ขอแก้คำหนึ่งนะ "สบโอกาส" ไม่ใช่ "สพโอกาส" จ้า
แต่ขอชมตรงใช้คำว่า "ตบแต่ง"บอร์ด ใช้ได้ถูกต้องแล้วหละ เพราะคำนี้ใช้ผิดเป็น "ตกแต่ง" กันเยอะเลย

บวก 1 ให้น้องซีเช่นเคยจ้า  :กอด1:

CoMMuNiTY Of ThAiBoYsLoVE

ประกาศที่สำคัญ


ตั้งบอร์ดเรื่องสั้น ขึ้นมาใครจะโพสเรื่องสั้นให้มาโพสที่บอร์ดนี้ ถ้าเรื่องไหนไม่จบนานเกิน 3 เดือน จะทำการลบทิ้งทันที
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=2160.msg2894432#msg2894432



รวบรวมปรับปรุงกฏของเล้าและการลงนิยาย กรุณาเข้ามาอ่านก่อนลงนิยายนะครับ
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=459.0



สิ่งที่ "นักเขียน" ควรตรวจสอบเมื่อรวมเล่มกับสำนักพิมพ์
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=37631.0






PEAK

  • บุคคลทั่วไป
กับพัฒน์ นี้่ชักยังไงๆ แล้วจิ ^^  .... กับพี่เอ็มจะยังไงต่อ??  ...   เขียนได้สนุกน่าติดตามมาก ๆ เลย  o13

ขอบคุณนะครับ   :กอด1:

ออฟไลน์ patee

  • เป็ดแสนดี
  • เป็ดAphrodite
  • *
  • กระทู้: 3732
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +276/-3
มาให้กำลังใจคนแต่งค่ะ :pig4:

ออฟไลน์ dahlia

  • เป็ดแสนดี
  • เป็ดAphrodite
  • *
  • กระทู้: 4239
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +695/-4
อ่านแล้ว อิน ทุกที  สงสาร เอ็ม จัง   :monkeysad:

ออฟไลน์ [N]€ẃÿ{k}uñĢ

  • ~ῲเจ้าแม่Dramaῴ~
  • เป็ดแสนดี
  • เป็ดArtemis
  • *
  • กระทู้: 5186
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +740/-5
 :z2: :z2: :z2: :z2: :z2:
อ่านทันละ ซี
แหมไม่นึกว่าจะมาไม้นี้เลยนะเนี่ย อ่านแล้วน่าติดตามดีชอบ
ปล. ระวังเรื่องคำผิดหน่อยน๊า

pickki_a

  • บุคคลทั่วไป
มันก็สมควรอยู่หรอก โดนผีหลอก สะใจ  :laugh: :laugh:

nanalonely

  • บุคคลทั่วไป
เง้ออ ไม่ไหวแล้วอ่ะซี

แปะไว้ก่อนน๊า เดี๋ยวพรุ่งนี้มาอ่าน




ลุ้นอยู่ลึกๆ อยากให้มาเห็นกันเสียที แต่ก็นะ สงสารวินกับเอ็มจัง.......เป็นเราเราก็คิดแบบนี้ ทำแบบนี้ละ
เป็นกำลังใจให้นะซี............มาลงเร็วๆนะเว้ย
ปล. แหะๆ ขอบคุณ คุณพี่แนนมากนะครับ เดียวจะไปตัดแว่น(แว่นตาดำ) เหอะๆ

แว่นตาตำ !!

แล้วมันจะช่วยได้ไหมเนี่ยกอปปป เหอเหอ




ออฟไลน์ nOn†ღ

  • เป็ดแสนดี
  • เป็ดAphrodite
  • *
  • กระทู้: 4390
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +502/-6
อ้าววว วินมีใจกะพัฒน์  แล้วพี่เอ็มล่ะจะคู่กับใคร  :impress3:

ถึงพี่จะกลัวแต่ก็เชียร์พี่เอ็มน้า  :sad4:

Pikachu

  • บุคคลทั่วไป
สวัสดียามสายๆครับ วันนี้มาลงตอนใหม่ให้อีกแล้ว ก่อนอื่นขอขอบคุณ พี่น้ำตาล ที่คอยแนะนำคำที่ผิดพลาดให้ ผมได้แก้ไขแล้วครับและพี่ยังให้กำลังใจผมทุกครั้งเลยนะครับ ขอบคุณพี่supranee ที่ติดตามตลอดและเป็นกำลังใจให้ ขอบคุณกอปที่มาให้กำลังใจทุกครั้ง ขอบคุณพี่นิว ขอบคุณพี่แนน ขอบคุณพี่PEAK ขอบคุณพี่pickki_a ขอบคุณพี่nOn†ღ และขอบคุณทุกคอมเม้นจากทุกท่านครับ ผมโหวต+1 ให้เพื่อเป็นการขอบคุณนะครับ และขอขอบคุณทุกท่านที่แวะเวียนมาอ่านนะครับผม^^

จนในที่สุด.. ในตอนใหม่นี้ ทั้งคู่ก็ได้พบกันเสียที ทั้งยังเฉลยข้อสงสัยปลีกย่อยต่างๆตั้งแต่ต้นเรื่องด้วยครับ นิยายแนวแบบนี้ สำหรับผมเขียนยากจริงๆ กว่าจะได้แต่ละตอนใช้เวลานานมากๆ มันยากตรงการสื่ออารมณ์ และการบรรยายให้เห็นบรรยากาศและรู้สึกตาม เขียนเรื่องราวความรักแบบปกติทั่วไป ผมว่ายังง่ายกว่านี้เลย นี่คนกับผี สำหรับผมมันยากสุดๆเลยครับ แต่ผมก็พยายามเต็มที่แล้วนะครับ ผิดพลาดประการใด ขออภัยด้วยนะครับ แอบบ่นๆนิดหนึ่ง แง่มๆ ติดตามตอนต่อไปได้เลยครับผม^^ สำหรับในตอนหน้าจะได้เห็นการอยู่ร่วมกันของชีวินกับเอ็ม รวมทั้งการปูทางสู่ความหลังของเอ็มด้วยครับ คอยติดตามกันต่อไปนะครับผม

อัศจรรย์ (2)


ภายในห้องนอนของชีวินในยามค่ำของวันนั้น ที่หน้าคอมพิวเตอร์ ชีวินนั่งชั่งใจอยู่ครู่ใหญ่ เขาถามใจตัวเองให้แน่ใจอีกครั้ง ว่าความหวาดกลัวยังคงมีอยู่อีกไหม? คำตอบในใจคือ.. ความหวาดกลัวนั้น ได้สูญสลายไปจนหมดสิ้นแล้ว เขารู้แล้ว.. ว่าเขาไม่ควรที่จะกลัวสิ่งที่ดีแบบนั้น ดวงวิญญาณที่มีแต่ความปรารถนาดี คอยปกปักรักษาและอยู่เคียงข้างเขา ทำไม? เขาจะต้องกลัวในสิ่งซึ่ง.. นับว่า.. เป็นสิ่งที่สุดแสนจะพิเศษเช่นนั้น? จนในที่สุด.. เขาก็ตัดสินใจเปิดคอมพิวเตอร์ เปิดขึ้นมาอีกครั้งหลังจากที่เขาไม่ได้แตะต้องมานานร่วมเดือนนับจากวันนั้น.. วันที่เขาได้รับรู้ความจริงว่า.. เอ็ม นั้นไม่ใช่คน ถึงไม่ใช่คน ก็ไม่เห็นจะเป็นไร เขามิได้กังวลสิ่งใดอีกแล้ว เขาออนไลน์โปรแกรมแชต แล้วก็เฝ้ารอ เพียงชั่วเวลาไม่นาน ก็มีผู้มาทักเขาผ่านโปรแกรมแชตออนไลน์ เขาผู้นั้น.. ผู้ที่เคยพูดคุยกันด้วยความสนิทใจและความรู้สึกดีๆต่อกันมาเป็นเวลาช่วงหนึ่ง เขา.. ผู้นั้น ผู้ซึ่งชีวินกำลังเฝ้ารออยู่ในตอนนี้นั่นเอง..
“ วิน เราคิดถึงวินเหลือเกิน เราดีใจที่ได้คุยกับวินอีก ”
ชีวินเห็นดังนั้น.. เขารู้สึกตื่นเต้นยินดีเป็นอย่างยิ่ง เขารับพิมพ์ข้อความตอบกลับไปเกือบจะในทันที
“ เราก็คิดถึงเอ็มนะ คิดถึงมาโดยตลอด เราไม่ควรที่จะกลัวนาย เอ่อ..  พี่เลย พี่คงจะเป็นดวงวิญญาณของพี่เจ้าของอัฐินั้นใช่ไหม? ผมคิดว่า.. น่าที่จะเป็นเช่นนั้น ผมมั่นใจ ความรู้สึกบอกผมเช่นนั้น ”
“ ใช่ เป็นแบบที่วินคิด ”
เป็นแบบที่ชีวินคิดจริงๆ เขารู้สึกสงสัยเล็กน้อย ว่า.. ทำไมต้องเป็นเขา ทำไม..  เอ็มจึงตามเขามา เขาจึงพิมพ์ข้อความ เพื่อเอ่ยถาม แล้วส่งไปยังเอ็ม
“ แล้วทำไมพี่จึงตามผมมา? ทำไมจึงเป็นผม? ”
“ มันเป็นแรงอธิษฐานของวินไม่ใช่เหรอ? เพราะแรงอธิษฐานของวิน ที่ต้องการพบใครสักคน แรงอธิษฐานนั้น.. จึงทำให้พี่ได้พบวิน ที่พี่ตามวินมา ก็เพราะ.. พี่ชอบวิน ชอบตั้งแต่แรกที่ได้พบ ”
หลังจากชีวินอ่านคำตอบของเอ็มจบลง เขาก็พยายามนึกทบทวนความจำ แรงอธิษฐานงั้นหรือ? จริงสิ.. ในตอนนั้น.. เขารู้สึกเหงา จึงอยากได้พบใครสักคน อยากมีใครสักคนที่เข้าใจเขา เขาจึงเอ่ยอธิษฐานไปเช่นนั้น โดยที่เขาไม่เคยคิดเลยว่า.. ผู้ที่เขาได้พบ จะเป็นเช่นนี้.. ถ้าเช่นนั้น สิ่งต่างๆที่เกิดขึ้นกับเขาในช่วงนั้น สัมผัสอันวาบหวาม ความฝันอันแสนวาบหวิวนั้น มันคงจะ.. ไม่ใช่สิ่งที่เขาคิดไปเองอย่างแน่นอน มันคงจะเกิดขึ้นเพราะเอ็ม เพราะ.. มันดูแปลกประหลาดเกินกว่าจะเป็นสิ่งที่คิดไปเองได้ ชีวินมั่นใจเช่นนั้น เขากำลังที่จะพิมพ์ข้อความเพื่อเอ่ยถามถึงเรื่องนี้ผ่านโปรแกรมแชต แล้วชีวินก็เห็นเอ็มพิมพ์ข้อความส่งมาถึงเขาอีก ข้อความที่ตอบกลับมาราวกับว่า.. อ่านใจของเขาออก ว่าเขากำลังคิดเช่นไร? และตอบคำถามสิ่งที่เขากำลังสงสัย
“ นึกออกแล้วใช่ไหม? พี่ดีใจนะ ที่วินไม่กลัวพี่แล้ว พี่จึงสามารถมาคุยกับวินได้อีก แล้วก็.. ใช่ มันเป็นแบบที่วินคิด มันเป็นกระแสสัมผัสที่พี่ส่งให้วินเอง ก็มันเป็นความปรารถนาของวินที่ต้องการเช่นนั้นไม่ใช่เหรอ? ในเมื่อมันเป็นสิ่งที่ทำให้วิน มีความสุข พี่ก็ยินดีที่จะมอบให้ ”
“ พี่อ่านใจผมออกด้วย? เหลือเชื่อจริงๆ เหลือเชื่อที่สุดเลย ถ้าเป็นเช่นนั้น.. ถ้าเป็นแบบที่พี่บอก สัมผัสวาบหวามนั้นที่มาจากพี่ มันทำให้ผม.. ไม่เคยคิดเลยว่า.. นี่ผม ผม.. ผมจะต้องมาเสียความบริสุทธ์ให้กับ กับ.. เอ่อ.. เอ่อ.. ผี? ”
“ อย่าคิดเช่นนั้นเลย วินยังคงบริสุทธ์อยู่ วินยังไม่เคยเสียพรหมจรรย์ให้ใคร ไม่เคยทั้งชาย และหญิง ”
“ พี่หมายความว่าไง? ก็ในเมื่อ.. เอ่อ.. เราทำกันถึงขนาดนั้น ถึงขนาด.. แม้ในฝันเราก็ยัง..  แล้ว.. เอ่อ.. แบบนี้ ยังจะเรียกว่า.. ผม เอ่อ.. จะยังคงบริสุทธ์อยู่ได้อย่างไร? ”
“ วินฟังพี่นะ พี่คือดวงวิญญาณ เป็นเพียงกลุ่มพลังงานที่บางเบา ไม่มีตัวตน ไม่มีเลือดเนื้อ พี่ทำอะไรแบบนั้นไม่ได้หรอก แม้จะสัมผัสแตะต้องวิน ก็ยังทำไม่ได้เลย เราอยู่ต่างมิติกัน นอกเสียจากว่า.. วินจะเปิดใจ รับกระแสพลังจิตของพี่เท่านั้น วินจึงจะสามารถรับรู้ได้ ความรู้สึกถึงรสสัมผัสอันวาบหวามที่วินรู้สึก มันเป็นปรารถนาซ่อนเร้นในใจวิน และสร้างภาพจินตนานการออกมาแบบนั้นจนทำให้วินมีความสุข พี่เพียงแค่.. ส่งกระแสพลังแห่งความสุขไปให้ แล้ววินก็รับ แล้วมาสร้างภาพฝันด้วยตนเอง การที่วินมีความสุขสมอารมณ์หมาย มันเป็นความสุขที่มาจากตัวของวินเอง จากภาพฝัน และอารมณ์ถวิลหาของวินเอง แบบนี้วินจะเสียความบริสุทธ์ได้อย่าไงไร? ทีนี้วินเข้าใจหรือยัง? ”
ชีวินรับรู้เช่นนั้นก็รู้สึกมึนงงอยู่ครู่หนึ่ง มันเป็นสิ่งที่เหนือความคาดหมายจริงๆ แต่ในที่สุด.. ชีวินก็เข้าใจทุกอย่าง มันคงเป็นอย่างที่เอ็มบอกจริงๆ แต่แล้วทำไม? หลังจากนั้นมันจึงไม่เกิดขึ้นอีก แม้ว่า.. เขาจะถวิลหาสักเพียงไหนก็ตาม เขากำลังขยับจะถาม แต่.. เอ็มก็พิมพ์ตอบมาเกือบจะในทันที เอ็มอ่านใจเขาออกอีกแล้ว
“ พี่ไม่อยากทำเช่นนั้นอีก แม้จะเป็นปรารถนาของวินก็ตาม จริงอยู่ มันทำให้วินมีความสุข แต่.. พลังของพี่ มันครอบงำวิน จนทำให้วินสูญเสียการควบคุมตัวเอง เช่นครั้งที่วินตื่นขึ้นมาอย่างเปลือยเปล่า และครั้งที่เดินเหม่อลอยเปลือยเปล่าไปเข้าห้องน้ำ นั่นคือสิ่งที่วินได้เห็นแล้ว ว่ามันเช่นนั้นจริงๆ ถ้าพี่ยังคงส่งพลังแห่งความสุขอยู่เช่นนี้ตามที่วินต้องการ มันอาจจะเป็นผลร้ายต่อวินมากกว่า มันอาจจะทำให้วินได้พบกับเรื่องน่าอาย พี่ไม่อยากให้เป็นเช่นนั้น เพราะ.. พี่รักวิน รักวินเพราะ.. วินเป็นคนดี  มีจิตใจดีงาม พี่จึงคอยวนเวียนอยู่รอบกายวิน คอยปกปักรักษาวิน ”
ชีวินอ่านคำตอบที่เอ็มพิมพ์ถึงเขาจบลง เขาก็เข้าใจทุกอย่างหมดแล้ว บางสิ่ง.. มันเป็นดังที่เขาคิดจริงๆ ถ้าเช่นนั้น.. เอ็มก็มาช่วยเขาไว้เช่นที่เขาคิด สิ่งอัศจรรย์ที่ได้เกิดขึ้นเมื่อเย็น มันคือ.. ความช่วยเหลือของเอ็มที่ปรารถนาดีต่อเขาจริงๆ เขารู้สึกตื้นตันเหลือเกิน นี่ถ้าเอ็มไม่ช่วยเขาไว้ อะไรจะเกิดขึ้นหนอ?
“ เมื่อเย็น พี่ช่วยผม พี่ช่วยผมไว้ ขอบคุณมากนะครับพี่ ”
“ ไม่เป็นไรหรอก ตอบแทนวินแค่นี้ พี่ยังรู้สึกว่ามันน้อยไป มันเทียบไม่ได้เลยกับผลบุญกุศลที่วินหมั่นอุทิศมาให้พี่ ทำให้วิญญาณบาปของพี่บริสุทธ์และมีพลังมากขึ้น แต่.. พี่เสียดาย ที่พลังของพี่มันไม่มากพอที่จะหยุดยั้งเจ้าวายร้ายนั่นไม่ให้มาทำร้ายวินได้ พี่หยุดมันไม่ได้ในตอนนั้น จิตใจก้าวร้าวของมันกล้าแข็งมาก จนพี่ครอบงำจิตใจมันไม่ได้เลย จนเมื่อ.. พี่ต้องทำให้มันจิตตก เกิดความหวาดหวั่นเสียก่อน พี่จึงจะสามารถครอบงำมันได้ แต่.. มันก็สายไป ทำให้วินต้องมาเจ็บตัวหลายครั้งและต้องโดนมันทำสิ่งที่น่าอายน่าอดสูกับวินอีก พี่ต้องขอโทษจริงๆนะวิน ”
“ พี่อย่าคิดแบบนี้เลย ถึงอย่างไร? พี่ก็ได้ช่วยผมไว้ ถ้าพี่ไม่ช่วยผม ต่อไป.. ผมคงต้องตกเป็นเบี้ยล่างไอ้เลวนั่นตลอดไป มันคงเอาสิ่งที่มันทำกับผมไว้ มาคอยข่มขู่ผมอย่างแน่นอน แล้วพี่ก็ยังส่งพลังมาให้ผมอีก พลังที่ทำให้ผมหายจากความเจ็บปวด ผมรับสัมผัสพลังนั้นได้ และผมก็แน่ใจด้วยในตอนนั้น ว่าต้องมาจากพี่แน่นอน ยังไผมก็ต้องขอบคุณพี่มากนะครับ จริงสิ.. ผมมีความรู้สึกเหมือนกับว่า.. พี่อ่านใจผมออก บางครั้งสิ่งที่พี่พูดกับผม มันเหมือนกับว่า.. พี่รู้ว่าผมคิดอะไรอยู่? เป็นแบบนั้นใช่ไหม? ”
“ วินเข้าใจถูกแล้ว ดวงวิญญาณแบบพี่ สามารถทำอะไรแบบนั้นได้ สามารถรับรู้ความคิดอ่านของมนุษย์ผู้เปิดใจให้ได้ อีกทั้ง.. มิติที่พี่อยู่ในตอนนี้ มันไม่มีสิ่งใดให้คลางแคลงสงสัย ทุกอย่างล้วนมีคำตอบให้ทั้งหมด ถึงจิตวิญญาณแบบพี่ ดูจะมีอะไรที่พิเศษหลายอย่าง แต่พลังของดวงวิญญาณบาปแบบพี่ในตอนแรกนั้น ยังมีพลังไม่มากพอ ยังไม่สามารถสื่อสารกับมนุษย์แบบวินได้ ต้องอาศัยสิ่งสื่อสารของมนุษย์ โดยการใช้การสื่อสารผ่านสิ่งเหล่านี้ เป็นแบบที่วินกำลังคุยกับพี่แบบนี้ในช่วงแ รก จนถึงในตอนนี้ วิญญาณของพี่เริ่มจะบริสุทธ์และมีพลังมากขึ้นแล้ว พี่สามารถสื่อสารกับวินได้โดยไม่ต้องผ่านตัวกลางแบบนี้อีกแล้ว ขอเพียง วินเปิดใจ เราก็สมารถคุยกันทางจิตได้ แบบที่พี่กำลังเริ่มทำอยู่กับวินในตอนนี้ไง วินได้ยินเสียงพี่ไหม?  พี่กำลังคุยกับวินทางกระแสจิต ”
ตาของชีวินยังคงจับจ้องอยู่ที่หน้าจอคอมพิวเตอร์ เพื่อรอคอยคำตอบที่เอ็มพิมพ์ส่งมา แต่.. ไม่มีข้อความใดๆจากเอ็มอีก ชีวินรับรู้คำตอบทุกอย่างนั้น ได้จากเสียงที่ทุ้มกังวานอันแสนไพเราะของชายหนุ่ม เป็นเสียงที่ไม่ได้ยินจากหู แต่มันเหมือนกับว่า มันดังก้องอยู่ในหัวเขา นี่หรือ? คือการสื่อสารกันทางจิต เขาลองนึกคำพูดที่จะพูดกับเอ็ม แล้วก็ดูเหมือนกับว่า.. เอ็มได้ยินสิ่งที่เขาคิด และกำลังพูดคุยโต้ตอบกับเขา เป็นการพูดคุยในแบบที่มิได้เปล่งเสียงออกมาเลย
“ ได้ยิน ผมได้ยิน นี่เสียงพี่เหรอ? เสียงพี่เพราะจังเลย พี่คงจะรูปหล่อเหมือนที่ผมเห็นในฝันแน่ๆ ”
“ คงไม่ถึงขนาดนั้นหรอกวิน ที่วินเห็นในฝัน ที่ดูหล่อเหลาสมบูรณ์แบบเช่นนั้น มันมาจากจินตนาการของวิน รูปลักษณ์ของพี่เมื่อครั้งยังมีชีวิต ไม่ได้ดูสมบูรณ์งดงามขนาดนั้นหรอกวิน ”
“ ครับ ถึงพี่จะมีหน้าตาแบบไหน? มันไม่สำคัญสำหรับผมหรอก เพียงแค่.. ที่พี่ดีกับผมแบบนี้ มันก็ดีที่สุดสำหรับผมแล้ว ”
“ ขอบใจนะวิน ที่รู้สึกดีกับพี่แบบนี้ แล้วนี่.. วินอยากเห็นพี่ไหม? ยังอยากเห็นพี่อยู่อีกไหม? ”
“ อยากครับ ผมไม่กลัวพี่อีกแล้ว พี่สามารถปรากฏร่างให้ผมเห็นได้ใช่ไหม? ”
“ ไม่ได้หรอก มนุษย์ไม่สามารถมองเห็นดวงวิญญาณ ที่เป็นเป็นเพียงกลุ่มพลังงานที่บางเบาได้ ในตอนนั้น.. วินยังจำได้ไหม? ที่วินหวาดกลัว ตอนนั้นพี่พยายามรวบรวมพลังเพื่อปรากฏร่างให้วินเห็น แต่.. วินก็ไม่สามารถมองเห็น พี่จึงเข้าใจอย่างถ่องแท้แล้วว่า มนุษย์มิอาจมองเห็นจิตวิญญาณที่เป็นเพียงกลุ่มพลังงานแบบพี่ได้ นอกเสียจากว่า.. ”
“ นอกเสียจากว่า..? อะไรครับพี่เอ็ม ”
“ นอกเสียจากว่า.. มนุษย์ผู้นั้นมีสัมผัสพิเศษ หรือ สามารถสงบจิตให้มีสมาธิ ทำจิตให้นิ่งและรวมจิตมิให้วอกแวก เปิดใจรับรู้ ก็อาจจะพอมองเห็นได้ ถ้าเขาผู้นั้นมีพลังจิตกล้าแข็งพอ จนถึงในตอนนี้..  วินสามารถทำเช่นนั้นได้แล้ว วินฝึกสมาธิจนทำจิตให้สงบได้แล้ว มันไม่เหมือนในครั้งนั้น.. ครั้งที่วินไม่สามารถมองเห็นพี่ได้เลย ทั้งยังถูกกระแสสัมผัสแห่งความสุข ครอบงำจิตใจจนสูญเสียการควบคุมตนเอง แต่.. วินในตอนนี้ มีพลังจิตกล้าแข็งกว่าเก่าแล้ว มันเป็นเพราะ.. การฝึกสมาธิที่วินหมั่นทำมาโดยตลอดนับแต่วันนั้นจนถึงในตอนนี้.. ตอนนี้.. วินพร้อมไหม? ที่จะได้เห็นพี่? ”
“ พร้อมครับ ”
ชีวินตอบรับผ่านทางจิต ด้วยหัวใจที่ระทึกเพราะความตื่นเต้น เขาคิดในใจว่า.. นี่.. พี่เอ็ม จะมีรูปร่างหน้าตาเช่นใดหนอ?
“ ถ้าเช่นนั้น วินหลับตา ตั้งจิตให้สงบเป็นสมาธิ รวบรวมจิตให้เป็นหนึ่ง เมื่อรู้สึกว่า.. จิตใจของวินนิ่งและสงบแล้ว วินค่อยๆลืมตาขึ้นมองนะ ตอนนี้.. พี่อยู่ตรงหน้าวินนี่แล้ว.. ”
เมื่อชีวินรับรู้เช่นนั้น เขาก็หลับตาลง แล้วค่อยๆกำหนดจิต รวมจิตให้เป็นหนึ่ง แม้จะรู้สึกตื่นเต้นสักเพียงไหน? ชีวินก็สามารถทำจิตใจให้เกิดสมาธิได้ จวบจนเวลาผ่านไปครู่หนึ่ง จนเมื่อ.. ชีวินรู้สึกแล้ว ว่าเขาพร้อม เขาจึงค่อยๆลืมตาขึ้นอย่างช้าๆ และแล้ว.. ชีวินก็ได้เห็น ได้เห็นจริงๆ ได้เห็นสิ่งที่มหัศจรรย์ มันช่างเหลือเชื่อเหลือเกิน เขารู้สึกขนลุกชันไปทั่วร่าง มันไม่ได้มาจากความหวาดกลัวใดๆเลย แต่.. มันมาจากความรู้สึกปิติจนเต็มล้นในอก นี่หรือ.. คือพี่เอ็ม สิ่งที่อยู่ตรงหน้าเขานี่หรือ คือผู้ที่เขารอคอยที่จะได้พบ มันดุจดังความฝัน แม้จะไม่ใช่รูปลักษณ์ที่เป็นดังที่เขาจินตนาการ แต่นี่.. นี่คือ.. พี่เอ็มจริงๆ ชีวินน้ำตาไหลรินอาบแก้มด้วยความรู้สึก.. ยากที่จะบรรยาย..
.
.
.
.
.
รูปร่างที่ชีวินเห็น ช่างดูเด่นชัด ดุจดัง.. มนุษย์ผู้มีเลือดเนื้อ แม้จะดูโปร่งบางโปร่งใสเลือนรางไปสักหน่อย แต่ก็ดูชัดเจนเหลือเกิน ถึงแม้.. พี่เอ็มที่เขาได้เห็นในเวลานี้ จะไม่ดูงดงามสมบูรณ์พร้อมเหมือนดังที่เขาเคยฝันถึง แต่ในรูปลักษณ์เช่นนี้.. ก็ดูหล่อเหลาไม่เบา ในเรือนร่างที่ดูสูงโปร่ง ใบหน้าคมคาย เขาพลางนึกในใจว่า.. นี่.. พี่เอ็มเมื่อครั้งยังมีชีวิต หล่อเหลาขนาดนี้เชียวหรือ? ชีวินค่อยๆ เอื้อมมือไปสัมผัสร่างที่ดูโปร่งบางนั้น แล้วเขาก็รู้สึกว่า.. มันว่างเปล่า.. เขารู้สึกเหมือนกับว่า.. เขาไม่ได้สัมผัสถูกอะไรเลย แต่กระนั้น ภาพที่เห็นตรงหน้าก็ยังคงเด่นชัดอยู่เช่นนั้น หนุ่มรูปหล่อ ส่งยิ้มอย่างอบอุ่นมาให้ชีวิน พร้อมส่งกระแสจิตมาถึงชีวินเป็นคำพูดด้วยน้ำเสียงที่ฟังคล้าย.. น้ำเสียงที่สุดแสนจะนุ่มนวลและอ่อนโยน
“ เป็นไงวิน? นี่แหละพี่เอง วินคงได้เห็นแล้ว รูปลักษณ์ของพี่เมื่อครั้งมีชีวิต ”
“ พี่เอ็ม.. พี่หล่อเหลือเกิน ถึงแม้จะไม่เทียบเท่าในความฝันที่ผมเคยฝันถึง แต่.. ถึงกระนั้นก็ดูหล่อเหลามาก ผมดีใจที่ผมได้เห็น ได้เห็นพี่แบบนี้ มันช่าง.. มันช่างเหมือนกับความฝัน พี่ครับ ผมรักพี่.. รักพี่เหลือเกิน ผมอยากกอดพี่ ส่งกระแสพลังให้ผมรู้สึกแบบนั้นสักครั้งได้ไหม? ได้โปรดเถิดนะครับพี่เอ็ม ”
ชีวินส่งกระแสจิตตอบรับพร้อมอ้อนวอนด้วยน้ำตานองหน้าเพราะความตื้นตัน และโหยหาความอบอุ่นจากความรัก ความรักที่บริสุทธ์จากจิตใจ มิได้เคลือบแฝงด้วยกามารมณ์ใดๆเลย ร่างโปร่งบางนั้นส่งยิ้มอย่างอ่อนโยนให้ชีวิน และพยักหน้าเบาๆตอบรับคำขอของชีวิน ฉับพลัน.. ความรู้สึกเย็นสบายและอบอุ่นก็แผ่ซ่านทั่วร่างชีวิน เขาหลับตาพริ้ม และแล้ว.. ในมโนสำนึกของชีวิน เขาก็ได้เห็นและรู้สึกได้ เขาได้เห็นและรู้สึกถึง.. ร่างของเอ็ม ที่ดูมีเลือดเนื้อ ดูมีมีชีวิต และสัมผัสแตะต้องได้ราวกับมนุษย์จริงๆ กำลังตระกองกอดเขาอย่างอบอบอุ่น เอาปลายนิ้วเกลี่ยน้ำตาบนใบหน้าให้เขา และลูบส้นผมเขาเบาๆอย่างอ่อนโยน มันช่างเหมือนจริง เหมือนกับรู้สึกจริงๆ ได้รับสัมผัสแบบนี้จริงๆ มันเด่นชัดเหลือเกิน เขารู้สึกเช่นนั้นก็ยิ่งสะอื้นร่ำไห้ด้วยความตื้นตัน และเอ่อล้นไปด้วยความรู้สึกปิติ มันช่างอบอุ่นเหลือเกิน เขาอยากอยู่ในอ้อมกอด อยากซบอยู่กับอกอุ่นๆของพี่ชายคนนี้ พี่ชายที่แสนดี ผู้ที่ปรารถนาดีต่อเขาตลอดมา อยากอยู่ในอ้อมกอดแบบนี้ให้นานแสนนาน ขอเพียง.. ถ้าพอจะเป็นไปได้..  ถ้ามามารถเป็นไปได้จริงๆ เขาอยากให้คงอยู่เช่นนี้.. จนเป็นนิรันดร์..

********

*โปรดติดตามตอนต่อไปเร็วๆนี้ครับ^^

*แก้ไขตามที่พี่แนะนำแล้วครับพี่น้ำตาล ขอบคุณมากนะครับ^^
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 09-03-2009 10:25:26 โดย Pikachu »

ออฟไลน์ DEMON3132

  • เป็ดแสนดี
  • เป็ดDemeter
  • *
  • กระทู้: 1704
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +170/-1
+1 เป็นกำลังใจให้น้อง Pikachu นะคะ ภาษาที่เขียนสื่อออกมาทำให้คนอ่านเหมือนได้เข้าไปอยู่ร่วมในเหตุการณ์ด้วย
ชอบมากค่ะ รู้สึกอินไปด้วยเลย ขอบคุณที่แต่งเรื่องดี ๆ มาให้อ่าน ขอบคุณที่ขยันมาโพสต์ลงมิให้ขาดตอน จะติดตาม
เป็นกำลังให้ตลอดไปค่ะ  :pig4:

pickki_a

  • บุคคลทั่วไป
ซีบรรยายซะเห็นภาพเลยคับ
อบอุ่นดีคับผม
 :o8:

CoMMuNiTY Of ThAiBoYsLoVE






High_Wizard

  • บุคคลทั่วไป
ปลื้มดีจังเลยซี กอดกันๆ เหอะๆ







เป็นกำลังใจให้นะซี........แล้วมาลงต่ออีกนะเว้ย


ปล. แว่นตาดำ = รอยคล้ำใต้หนังตา....ผมใส่อยู่ตลอดเวลานะพี่แนน 555+

nanalonely

  • บุคคลทั่วไป
อบอุ่นจัง

 :o8:


กอปงั้นเราพวกเดียวกัน แว่นตาดำ!!! เฮ้อ แต่ที่จริงก็ไม่ค่อยอยากใส่เลยนะเนี่ย

ออฟไลน์ nOn†ღ

  • เป็ดแสนดี
  • เป็ดAphrodite
  • *
  • กระทู้: 4390
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +502/-6
ดีแล้วที่วินหายกลัวพี่เอ็ม ไม่งั้นพี่เอ็มคงน่าสงสารแย่

รออ่านตอนต่อไปจ้ะ  :3123:



namtaan

  • บุคคลทั่วไป
 :กอด1: น้องซี สำหรับทุกคำขอบคุณที่น้องซีมอบให้นะจ๊ะ
ชอบในส่วนที่ น้องซี มี คนแต่ง talks ก่อนเข้าเนื้อเรื่องจ้า
เหมือนสรุปสิ่งที่เราจะอ่านไว้ในข้อความสั้นๆ ไม่กี่ข้อความ และยังมีเกริ่นนำสู่ตอนต่อไปด้วย เจ๋งมาก
บวก 1 ไปก่อนเลยจ้า

ตอนนี้ยังคงรักษาเอกลักษณ์การเขียนเรื่องแบบที่น้องซีทำมาตลอดได้ดีเช่นเคยนะจ๊ะ
มีนิดนึงคือข้อความที่วินสื่อสารกับเอ็ม บางประโยคเป็นทางการไปหรือเปล่านะ
"...อย่างไรก็แล้วแต่.. พี่ก็ยังส่งพลังมาให้ผมอีก ..."
แต่ถ้าคิดว่าเป็นภาษาเขียน ที่วินเขียนให้เอ็มก้อพอลุ้่นหละ

ส่วนคำผิดเล็กน้อยจ้า เป็นคำที่มักสะกดกันผิดเช่นเคย น้่องซีใช้คำนี้สองที่ไม่เหมือนกัน
"...ดวงวิญญาณที่มีแต่ความปรารถนาดี คอยปกปักรักษาและอยู่เคียงข้างเขา..."
"...วินเป็นคนดี  มีจิตใจดีงาม พี่จึงคอยวนเวียนอยู่รอบกายวิน คอยปกปักษ์รักษาวิน..."

แล้วคำนี้ต้องสะกดยังไงกันหนอ

เฉลย

ปกปักรักษา นะจ๊ะ

ส่วนคำว่า "ปักษ์" แปลว่า ข้าง, ฝ่าย  เช่น ปรปักษ์ ปฏิปักษ์ ก้อคือศัตรูอยู่คนละข้างกัน
หรือ แปลอีกอย่าง ง่ายๆเลย แปลว่า ครึ่งเดือน ตัวอย่างเคยได้ยินใช่ปะจ๊ะ หนังสือรายปักษ์ ไง

แล้วจารออ่านตอนต่อไปนะค้าบบบบบบบบ

ออฟไลน์ dahlia

  • เป็ดแสนดี
  • เป็ดAphrodite
  • *
  • กระทู้: 4239
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +695/-4
ได้เจอกันแล้ว ดีใจๆๆๆ  :กอด1:

ออฟไลน์ patee

  • เป็ดแสนดี
  • เป็ดAphrodite
  • *
  • กระทู้: 3732
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +276/-3
อ่านแล้วรู้สึกอินไปกับคำบรรยายด้วยจริงๆ

ใช้ถ้อยคำในการบรรยายได้เห็นภาพเลย

Pikachu

  • บุคคลทั่วไป
ตอบคอมเม้นครับผม^^

+1 เป็นกำลังใจให้น้อง Pikachu นะคะ ภาษาที่เขียนสื่อออกมาทำให้คนอ่านเหมือนได้เข้าไปอยู่ร่วมในเหตุการณ์ด้วย
ชอบมากค่ะ รู้สึกอินไปด้วยเลย ขอบคุณที่แต่งเรื่องดี ๆ มาให้อ่าน ขอบคุณที่ขยันมาโพสต์ลงมิให้ขาดตอน จะติดตาม
เป็นกำลังให้ตลอดไปค่ะ  :pig4:
ตอบครับ : ดีใจมากครับที่ทำให้พี่รู้สึกเช่นนั้นได้ เคยคิดอยู่เหมือนกันว่าผมบรรยายมากไปไหม? แต่พอได้รับฟังความคิดเห็นแบบนี้ก็ยิ่งมีกำลังใจมากๆเลยครับ แง่มๆ

ซีบรรยายซะเห็นภาพเลยคับ
อบอุ่นดีคับผม
 :o8:

ตอบครับ : ครับ ดูจะเป็นการหักมุมอารมณ์ไปหน่อย จากช่วงแรกที่ดูสยองจนขนลุก พลิกกลับมาอบอุ่นเฉยเลย อิอิ ขอบคุณที่ชอบนะครับผม

ปลื้มดีจังเลยซี กอดกันๆ เหอะๆ







เป็นกำลังใจให้นะซี........แล้วมาลงต่ออีกนะเว้ย


ปล. แว่นตาดำ = รอยคล้ำใต้หนังตา....ผมใส่อยู่ตลอดเวลานะพี่แนน 555+
ตอบครับ : แหมๆ แอบปลื้มด้วยน้ากอป ความจริงตัวละครได้รักกันมันก็น่าปลื้มจริงๆด้วยแหละ หึหึ

อบอุ่นจัง

 :o8:


กอปงั้นเราพวกเดียวกัน แว่นตาดำ!!! เฮ้อ แต่ที่จริงก็ไม่ค่อยอยากใส่เลยนะเนี่ย

ตอบครับ : ครับพี่แนน ความรักทำให้รู้สึกอบอุ่นจริงๆด้วยครับ แง่มๆ

ดีแล้วที่วินหายกลัวพี่เอ็ม ไม่งั้นพี่เอ็มคงน่าสงสารแย่

รออ่านตอนต่อไปจ้ะ  :3123:



ตอบครับ : จากที่หายกลัว กลับกลายมาเป็นความรักเลยครับ ผมก็ทนสงสารพี่เอ็มไม่ไหว เลยให้เจอกันเสียที อิอิ

:กอด1: น้องซี สำหรับทุกคำขอบคุณที่น้องซีมอบให้นะจ๊ะ
ชอบในส่วนที่ น้องซี มี คนแต่ง talks ก่อนเข้าเนื้อเรื่องจ้า
เหมือนสรุปสิ่งที่เราจะอ่านไว้ในข้อความสั้นๆ ไม่กี่ข้อความ และยังมีเกริ่นนำสู่ตอนต่อไปด้วย เจ๋งมาก
บวก 1 ไปก่อนเลยจ้า

ตอนนี้ยังคงรักษาเอกลักษณ์การเขียนเรื่องแบบที่น้องซีทำมาตลอดได้ดีเช่นเคยนะจ๊ะ
มีนิดนึงคือข้อความที่วินสื่อสารกับเอ็ม บางประโยคเป็นทางการไปหรือเปล่านะ
"...อย่างไรก็แล้วแต่.. พี่ก็ยังส่งพลังมาให้ผมอีก ..."
แต่ถ้าคิดว่าเป็นภาษาเขียน ที่วินเขียนให้เอ็มก้อพอลุ้่นหละ

ส่วนคำผิดเล็กน้อยจ้า เป็นคำที่มักสะกดกันผิดเช่นเคย น้่องซีใช้คำนี้สองที่ไม่เหมือนกัน
"...ดวงวิญญาณที่มีแต่ความปรารถนาดี คอยปกปักรักษาและอยู่เคียงข้างเขา..."
"...วินเป็นคนดี  มีจิตใจดีงาม พี่จึงคอยวนเวียนอยู่รอบกายวิน คอยปกปักษ์รักษาวิน..."

แล้วคำนี้ต้องสะกดยังไงกันหนอ

เฉลย

ปกปักรักษา นะจ๊ะ

ส่วนคำว่า "ปักษ์" แปลว่า ข้าง, ฝ่าย  เช่น ปรปักษ์ ปฏิปักษ์ ก้อคือศัตรูอยู่คนละข้างกัน
หรือ แปลอีกอย่าง ง่ายๆเลย แปลว่า ครึ่งเดือน ตัวอย่างเคยได้ยินใช่ปะจ๊ะ หนังสือรายปักษ์ ไง

แล้วจารออ่านตอนต่อไปนะค้าบบบบบบบบ

ตอบครับ : ผมไม่นึกว่าพี่จะชอบการกล่าวนำก่อนเข้าสู่ตอนใหม่ด้วย อิอิ คือผมอยากให้รู้สึกเหมือนคนเขียนกำลังเล่าให้คนอ่านฟังน่ะครับ ไอเดียเฉิ่มๆของผมเอง แฮ่ๆ สำหรับข้อผิดพลาดที่พี่แนะนำ ผมแก้ไขหมดแล้ว ขอบคุณมากครับผม

ได้เจอกันแล้ว ดีใจๆๆๆ  :กอด1:
ตอบครับ : ทรมานคนอ่านมาหลายตอนเลย เลยให้ได้พบกันเสียทีเนอะๆ แฮ่ๆ^^

อ่านแล้วรู้สึกอินไปกับคำบรรยายด้วยจริงๆ

ใช้ถ้อยคำในการบรรยายได้เห็นภาพเลย
ตอบครับ : ขอบคุณครับ ตอนแรกผมคิดว่าผมบรรยายมากไปหรือเปล่า? แต่พอได้รับฟังความคิดเห็นก็ดีใจครับ ที่ทำให้รู้สึกตามได้ แง่มๆ

ขอบคุณความคิดเห็นจากพี่ๆทุกคอมเม้นมากนะครับ ผมขอแสดงความขอบคุณด้วยการ โหวต+1 สำหรับพี่ๆทุกคนเลยครับผม ติดตามตอนต่อไปกันได้เลยนะครับผม^^

Pikachu

  • บุคคลทั่วไป
ในตอนใหม่นี้.. ดูจะเบาๆลงบ้าง แต่.. ผมแอบสร้างประเด็นเรื่องราวของพี่เอ็มในช่วงต้นๆของตอนนี้ เพื่อปูทางไปสู่เรื่องราวความหลังของพี่เอ็มในครั้งอดีต แต่แหมเสียดายจัง ตอนท้ายลงต่อไม่พอว่าชีวินได้เห็นอะไร? เอาเป็นว่า.. ชีวินจะได้เห็นอะไรบ้าง? ลองติดตามในตอนหน้านะครับ ในวันนี้ ติดตามตอนต่อจากคราวที่แล้วได้เลยครับผม^^

ความรักต่างมิติ


หญิงวัยกลางคน ค่อยๆเช็ดทำความสะอาดแผ่นป้ายหินอ่อนที่สลักชื่อผู้เสียชีวิตที่ปิดทับช่องบรรจุอัฐิจนสะอาดเรียบร้อยดี แววตาแห้งผากกับสีหน้าที่เศร้าหมองของเธอ บ่งบอกถึงความทุกข์ระทมในจิตใจ เธอหวนรำลึกถึงการตัดสินใจที่ผิดพลาดในครั้งอดีตที่ก่อให้เกิดความสูญเสียครั้งใหญ่ ชีวิตที่มีเพียง 2 คนแม่ลูก จนถึงเวลานี้.. ลูกชายเพียงคนเดียวของเธอก็ได้จากไปนานแล้ว เพียงเพราะ.. ถ้าในตอนนั้น เธอเชื่อ.. เชื่อในสิ่งที่ลูกพูดโดยอมรับความจริง ไม่ใช่ทำไปเพราะหลอกตัวเองแบบนั้น โศกนาฎกรรมก็คงจะไม่เกิดขึ้น แต่.. จะทำอย่างไรได้ ทุกสิ่งที่เกิดขึ้น มันไม่สามารถกลับไปแก้ไขได้อีกแล้ว เธอเอ่ยรำพึงเบาๆกับตัวเอง เหมือนอยากจะกล่าวความในใจแก่บุตรชายผู้ล่วงลับไปแล้ว บุตรชายผู้ล่วงลับไป โดยที่เธอมิทันได้ดูใจในวาระสุดท้ายเลย..
“ เอ็ม แม่ขอโทษ แม่ผิดเอง มันเป็นความผิดของแม่เองที่ทนต่อความยากลำบากอีกต่อไปไมได้ ชีวิตครอบครัวที่ปราศจากพ่อของเอ็ม ทำให้แม่ต้องลำบากมาก ถ้าเพียงแม่อดทน ไม่ตัดสินใจแต่งงานใหม่โดยเลือกคนที่ดูดีแค่เปลือกนอกมาเป็นคู่ชีวิตคนใหม่ ที่มาทำให้ฐานะทางครอบครัวเราดีขึ้น เรื่องร้ายๆที่เกิดขึ้นกับเอ็มที่แม่ไม่เคยรู้มาก่อน มันก็คงจะไม่เกิดขึ้น แต่.. ถึงกระนั้น เมื่อความจริงปรากฏ แม่กลับไม่ยอมเชื่อลูก ทำให้ลูกต้องเสียใจ จนต้องหนีจากแม่ไป แม่เข้าใจแล้ว ว่าลูกต้องอยู่ในเจ็บปวดทุกข์ระทมขนาดไหน? ถึงแม้แม่จะเลิกร้างกับคนที่ทำให้ลูกต้องเจ็บปวดไปแล้ว แต่มันก็ดูจะสายเกินไป ขอโทษนะลูก ยกโทษให้แม่ด้วย จนถึงในวันนี้.. แม่ก็คงทำให้ลูกได้แค่เพียง ทำบุญอุทิศส่วนกุศลไปให้ อย่างน้อยๆ ก็เพื่อ.. เป็นการชดเชยในสิ่งเลวร้ายที่เกิดขึ้นแก่ลูก แม่คงทำได้เพียงแค่นี้ ”
เธอกรีดน้ำตาที่เอ่อซึมตรงหน่วยตาออกด้วยความเศร้าอาลัย จากนั้นเธอก็บรรจงเอาพวงมาลัยดอกไม้สดที่มีกลิ่นหอม คล้องบริเวณแผ่นป้ายหินอ่อนที่สลักชื่อบุตรชายเพียงคนเดียวของเธอ เธอยืนอาลัยอย่างเศร้าสร้อยอยู่ครู่หนึ่ง ก็เดินจากไปจนหายลับตาไปจากบริเวณนั้นในเวลาไม่นาน..
.
.
ดวงวิญญาณของเอ็มเฝ้ามองแม่ของเขาอยู่เช่นนั้นเงียบๆด้วยความเศร้า เขาเข้าใจความรู้สึกของแม่เขาดีทุกอย่าง แม่กำลังอยู่ในความเศร้าและเดียวดาย บ่อยครั้งที่เขามักไปวนเวียน ดูความเป็นไปในชีวิตของแม่ด้วยความห่วงใย เขาอยากจะปลอบประโลม แต่ก็มิอาจทำได้ กระแสจิตของเขา มิอาจส่งถึงแม่ของเขาได้เลย มันเป็นเวรกรรมของวิญญาณบาปเช่นเขา ที่ทำให้บุพการีต้องเสียใจอย่างร้ายแรง ถึงแม้.. แม่ของเขาจะหมั่นทำบุญอุทิศส่วนกุศลมาให้ เขาก็ได้รับบ้าง แต่.. ก็มิอาจได้รับอย่างเต็มเม็ดเต็มหน่วย บาปกรรมอันร้ายแรง ที่ปลิดชีวิตตนเองจนทำให้แม่ต้องเสียใจเช่นนี้ มันเป็นบาปอันใหญ่หลวง ที่ทำให้ดวงวิญญาณของเขามัวหมอง มีเพียง.. ชีวินเพียงคนเดียว เพียงคนเดียวเท่านั้น คำตอบจากมิติเร้นที่ไขข้อสงสัยเขาว่าทำไมเขาจึงได้พบชีวินมันเป็นเช่นนั้น ขอเพียงแค่.. ชีวิน มีจิตใจมุ่งมั่นที่จะช่วยเหลือเขาด้วยความจริงใจด้วยตัวของชีวินเอง มันก็พอที่พอจะทำให้วิญญาณมัวหมองของเขาใสสะอาดขึ้นได้ ถึงแม้จะมิอาจลบล้างบาปกรรมที่เขากระทำไว้ได้ แต่.. มันก็ทำให้วิญญาณเขา บริสุทธ์ใสสะอาดขึ้นได้บ้าง มันเป็นชะตาลิขิตจากชาติปางก่อน ที่เขาและชีวินเคยเกื้อหนุนกันมา จึงทำให้ได้มาพบกันอีกครั้งในชาติภพนี้ ได้พบในรูปแบบที่แม้จะต่างสถานะกันก็ตาม เขาล่องลอยลอบมองแม่ของเขาอยู่เช่นนั้น จนแม่เขาเดินหายลับตาไป จากนั้น.. ดวงวิญญาณของเขาล่องลอยขึ้นไป ล่องลอยเพื่อไปหาชีวิน ไปคอยวนเวียน และอยู่เคียงใกล้ เพื่ออาศัยพลังบุญบารมีของชีวิน และคอยดูแลปกปักรักษาชีวินด้วยเช่นกัน..
.
.
.
.
ชีวินส่งยิ้มอย่างอ่อนหวานให้กับเอ็มในระหว่างคาบเรียนที่เขากำลังเรียนอยู่ และเขาก็เห็นว่า.. เอ็มก็ส่งยิ้มตอบรับอย่างอ่อนโยนมาให้เช่นกัน เมื่อชีวินเห็นดังนั้น.. เขาจึงส่งกะแสจิตไปพูดคุยทักทายกับเอ็ม ที่กำลังล่องลอยอยู่ไม่ห่างจากเขาเท่าใดนัก อยู่ในละแวกห้องเรียนของชีวินนั่นเอง..
“ พี่เอ็ม.. วิชานี้ค่อนข้างหิน งั้น.. ผมขอตั้งใจเรียนก่อนนะ เดี๋ยวว่างๆผมค่อยคุยด้วย ”
“ ตามสบายเลยวิน ตั้งใจเรียนนะ จะคุยกับพี่เมื่อไรก็ได้ แต่.. ยกเว้นตอนที่วินกำลังสอบ ห้ามให้พี่ขอให้ช่วยบอกข้อสอบให้นะ แม้พี่จะสามารถทำได้ แต่.. พี่คงจะไม่ทำแบบนั้นแน่นอน ”
เอ็มตอบรับกระแสจิตของชีวินด้วยน้ำเสียงที่ฟังคล้ายจะเย้าแหย่ชีวินเล่น เพราะเขารู้ดีว่า.. ขีวินไม่ขอให้เขาทำเข่นนั้นแน่
“ โธ่.. พี่ก็.. ผมไม่ขอให้พี่ทำอะไรแบบนั้นให้ผมหรอก ไม่งั้น.. ผมจะตั้งใจเรียนทำไม? จริงไหม? ”
ชีวินส่งกระแสจิตตอบรับ แล้วก็ส่งยิ้มให้เอ็มอีกครั้ง ก่อนจะหันมาสนใจการเรียนต่อ..
.
.
จนถึงในเวลานี้.. ชีวินสามารถมองเห็นเอ็มได้ตลอดเวลาเมื่อรู้สึกอยากมองเห็น ทั้งยังสามารถส่งกระแสจิตพูดคุยสนทนากับเอ็มได้ทุกครั้งที่เขาต้องการ เขาสามารถควบคุมจิตใจให้นิ่งและเกิดสมาธิได้ดังใจปรารถนา การปฎิบัติธรรมและฝึกสมาธิของชีวินที่ทำมาอย่างต่อเนื่อง ส่งผลดีต่อเขามากมาย รวมถึงผลการเรียนที่ดีขึ้นจนน่าพอใจ เอ็มจะตามเขาไปทุกหนแห่งเสมอ และ.. คอยอยู่เคียงข้างเขาแทบจะตลอดเวลา แต่ก็มิได้รบกวนใดๆเลย เพียงเฝ้ามองและล่องลอยอยู่เช่นนั้น ในบางครั้ง.. ถ้าชีวินรู้สึกเบื่อๆ เขาก็จะส่งกระจิตพูดคุยกับเอ็มบ้าง และในทุกๆวัน เมื่อยามที่ชีวินมีเวลาเป็นส่วนตัว เขาก็มักจะคลอเคลียอยู่กับเอ็มทุกครั้ง สนทนาพูดคุยกันด้วยความรักความเข้าใจในกันและกัน มันเป็นความรักที่ทั้งคู่มีให้กันและกันจริงๆ น่าแปลก.. บ่อยครั้งที่ชีวินถามใจตนเอง ว่าเขารักเอ็มเช่นไรกันแน่ ถึงแม้รูปลักษณ์ของเอ็มจะดูต้องตาต้องใจเขามากมายเหลือเกิน จนถึงในวันนี้.. เขากลับมิได้ต้องการความสุขจากเพศรสทางกามารมณ์กับเอ็มอีกเลย ทั้งๆที่ เอ็มสามารถสนองให้เขาได้อย่างรู้สึกสมจริงดุจดังการกระทำที่เกิดขึ้นจริงๆก็ตาม ขอเพียงแค่ชีวินเอ่ยขอถึงความปรารถนานั้น เอ็มก็ยินดีและพร้อมที่จะส่งความสุขแบบนั้นให้เขาได้เสมอ แต่.. ชีวินกลับไม่ต้องการอย่างนั้น เขาพึงใจที่จะได้รัก ได้คลอเคลีย ได้มีผู้เข้าใจจิตใจและอยู่เคียงข้าง เติมเต็มความสุขความอบอุ่นใจที่เคยโหยหา เขาต้องการเพียงเท่านั้นจากเอ็มจริงๆ เพียงเท่านั้นเอง.. ชีวินก็มีความสุขที่สุดแล้ว ความรู้สึกอบอุ่นที่มีผู้เคียงข้างเขาเช่นนี้ มันทำให้ชีวินมีความสุข มีความสุขมากเสียจน.. เขาแทบไม่ต้องการสิ่งใดอีกแล้ว ขอเพียงแค่นี้.. ได้มีผู้ที่เข้าใจเขา ผู้ที่มาคอยเติมเต็มความรู้สึกดีๆให้ ถึงจะเป็นแค่เพียง.. ดวงวิญญาณ ชีวินก็มิได้รู้สึกแปลกแยกตรงนี้อีกเลย ตอนนี้.. ชีวินไม่รู้ตัวเลยว่า.. ท่าทีที่ดูแปลกไปของชีวิน มันได้อยู่ในสายตาของใครบางคน ผู้ซึ่ง.. คอยลอบมองชีวินอยู่แทบจะตลอดเวลาเช่นกัน ชีวินเริ่มรู้สึกตัว เมื่อได้ยินเสียงเอ่ยกระซิบถามเขาด้วยความประหลาดใจจากผู้ที่กำลังนั่งเรียนอยู่ใกล้ๆเขานั่นเอง
“ วินยิ้มให้ใคร? เรามองตามไปตรงหน้าต่างก็ไม่เห็นมีอะไรเลย นายนี่แปลกจริงๆ ”
“ ยิ้มให้ใคร? เปล่านี่.. เราแค่นึกอะไรเล่นๆ แล้วรู้สึกขำก็แค่นั้นเอง ไม่มีอะไรหรอกพัฒน์ ”
ชีวินกล่าวแก้ตัวเช่นนั้น เขาก็หันไปสนใจการเรียนต่อ ปล่อยให้พัฒน์ส่ายหัวน้อยๆด้วยความงุนงงในคำพูดแก้ตัวของชีวิน ซึ่งดูจะขัดๆกับสิ่งที่เขาลอบสังเกตอยู่ไม่น้อย ชีวินกำลังยิ้มให้ใครบางคนแน่ๆ พัฒน์พลางนึกในใจว่า.. นี่มันอะไรกัน? ทำไม ชีวินจึงดูแปลกๆเช่นนี้อยู่เสมอ ช่วงก่อนก็ดูจะเหงาๆและเศร้าสร้อยจนน่าเป็นห่วง แต่.. มาในระยะหลัง ก็ดูจะมีความสุขจนน่าแปลกใจ จริงสิ.. ทำไมเขาจึงต้องดูสนใจชีวินมากมายขนาดนี้? มันเพราะอะไรนะ ทำไม? เขาจึงรู้สึกแคร์และเป็นห่วงชีวินมากมายเหลือเกิน ทำไม? เขาจึงอดไม่ได้ ที่จะลอบมองดวงหน้าใสๆของชีวินยามที่ชีวินเผลอตัวบ่อยครั้ง? เขารู้สึกชอบที่จะทำเช่นนั้น ทำไมกัน? เขาพยายามคิดเช่นนั้นอยู่ครู่หนึ่ง ก็ดูจะหาคำตอบให้ตนเองไม่ได้ เขาจึงละความคิดนั้น แล้วหันไปสนใจการเรียนต่อในคาบเรียนนั้น..
.
.
.
ค่ำแล้ว.. ภายในห้องนอนของชีวิน ภายหลังจากที่ชีวินปฏิบัติภารกิจส่วนตัวเรียบร้อยและมีเวลาว่างแล้ว เขาก็นั่งหลับตาพริ้ม กำหนดจิตให้เกิดสมาธิ โดยมีดวงวิญญาณของเอ็มลอยวนเวียนอยู่เคียงใกล้ และกำลังส่งกระแสพลังแห่งความสุขและความรู้สึกสมจริงให้แก่ชีวิน จริงอยู่ว่า.. ทั้งคู่ต่างอยู่คนละมิติ การสัมผัสแตะต้องกันนั้น เป็นเรื่องที่เป็นไปไม่ได้อย่างแน่นอน แต่.. การเปิดใจ และสื่อกันทางจิต สามารถทำให้เกิดมโนภาพ และความรู้สึกที่เปรียบเสมือนทั้งคู่ปฏิบัติต่อกันด้วยความเป็นจริง ในเวลานี้.. ภาพในภวังค์ความคิดของชีวินกับความรู้สึกที่เสมือนจริงและแตะต้องได้นั้น ชีวินได้เห็นและรู้สึกเหมือนกำลังนั่งเคียงกับเอ็ม และเอ็มกำลังตระกองกอดเขาอยู่อย่างอบอุ่น ทั้งคู่กำลังสนทนากันด้วยความสุขใจ จากกระแสจิตที่กำลังสื่อสารถึงกันและกัน ประดุจดัง การพูดคุยกันอย่างปกติ เฉกเช่นมนุษย์ทั่วไป..
“ วิน พี่รักวินมากนะ ”
“ ผมก็รักพี่ครับ พี่เอ็ม ”
“ พี่อยู่กับความเดียวดายเป็นเวลานานแสนนาน พี่ดีใจนะ ที่ได้พบวินและได้มีวันนี้กับวิน วินเปรียบเสมือนมาเติมเต็มบางส่วนที่ขาดหายไปในชีวิตพี่ พี่มีความสุขและคลายความเหงาลงได้ก็เพราะวิน พี่รักวินเหลือเกิน ”
“ พี่เอ็มครับ พี่ก็เปรียบเสมือนมาเติมเต็มบางส่วนที่ผมโหยหามานานแสนนานแล้วเช่นกัน ผมอยากมีวันนี้กับใครสักคนมานานแสนนานแล้ว จนกระทั่ง.. ผมได้มาพบพี่ และผมก็ดีใจที่ได้มีวันนี้ ผมต้องขอโทษนะครับ ที่หวาดกลัวพี่ในช่วงแรก ผมไม่น่าที่จะเป็นเช่นนั้นเลย ไม่น่าเลยจริงๆ พี่คงรู้สึกเจ็บปวดและทุกข์ทรมานมาก ขอโทษจริงๆนะครับ ”
“ พี่เข้าใจนะวิน ไม่มีมนุษย์คนไหนที่จะไม่รู้สึกแบบวิน ถ้าต้องมาเจอเหตุการณ์แบบวินเช่นนั้น ไม่ต้องขอโทษหรอก มันไม่ใช่ความผิดของวินเลย พี่เองต่างหากที่ควรรู้สึกผิด ที่ทำให้วินต้องหวาดกลัวขนาดนั้น ”
“ อย่าคิดอะไรมากเลย ช่างมันเถิดนะครับพี่ จนถึงวันนี้.. ได้มีเวลาแบบนี้ มันเป็นช่วงเวลาที่ผมมีความสุขที่สุดแล้วครับ ขอบคุณความรู้สึกดีๆ สิ่งดีๆที่มีให้ผมเสมอมา มีให้ผม.. นับแต่.. ครั้งแรกที่เราได้พบกันเลย ผมมีความสุขจริงๆ ”
“ อืม.. แล้ววินยังต้องการความสุขสมตามอารมณ์ปรารถนาเหมือนในครั้งนั้นอีกไหม? พี่สามารถมอบให้วินได้นะ พี่สามารถมอบให้ได้อย่างสบายใจแล้ว พลังของพี่ มิอาจครอบงำจิตใจจนวินสูญเสียการควบคุมตนเองอีกต่อไปแล้ว ดวงจิตของวินกล้าแข็งมากพอแล้ว มันจะเป็นความสุขจากปรารถนาตามที่วินต้องการ ต้องการไหม? พี่จะส่งกระแสสัมผัสให้ ”
“ ไม่ต้องหรอกครับพี่ แค่พี่กอดผมไว้อยู่อย่างนี้ ผมก็มีความสุขที่สุดแล้ว ไม่ใช่ว่า.. ผมเห็นพี่เป็นเพียงดวงวิญญาณ แล้วรู้สึกแปลกแยกนะครับ ผมกลับมีความรู้สึกว่า.. ผมรักพี่ด้วยความบริสุทธ์ใจ ไม่ได้ต้องการความสุขทางกามรมณ์แบบนั้นจากพี่เลย มันเหมือนกับว่า.. ผมมีพี่ชายที่แสนดี ใจดีและอบอุ่น ที่เข้าใจผมทุกอย่างมาอยู่เคียงข้าง มันเป็นความรู้สึกที่เป็นความรักจริงๆที่ผมมีให้กับพี่จริงๆ ความรักที่ผมไม่ค่อยเข้าใจนัก แต่ผมก็มีความสุขครับ แค่นี้สำหรับผม ก็เพียงพอแล้ว ”
เอ็มได้ยินเช่นนั้นก็อมยิ้มละไม เขารู้สึกว่า.. ชีวินช่างมีจิตใจที่บริสุทธ์เหลือเกิน ช่างมีความรักที่บริสุทธ์ มิได้เคลือบแฝงซึ่งกามรมณ์ใดๆเลย เขาเข้าใจดีทุกอย่าง ชีวินไม่ใช่คู่แท้ของเขา คู่แท้ของชีวินนั้นมีอยู่แล้ว เพียงแต่ว่า.. เวลานี้มันยังไม่ถึงเวลาที่ชีวินจะได้รับรู้ถึงตัวตนของคู่แท้ของเขานั่นเอง เมื่อถึงเวลาอันเหมาะสม ซึ่งชะตาได้ลิขิตไว้แล้ว ชีวินก็จะได้พบเมื่อเวลานั้นมาถึงอย่างแน่นอน สำหรับตัวเขา เขารักชีวินไหม? คำตอบในความรู้สึกคือ.. รัก ความรักที่มีให้ชีวินอย่างบริสุทธ์ใจเช่นกัน รักอย่างปรารถนาดี และสามารถมอบทุกสิ่งที่ชีวินต้องการได้ เพียงแค่.. เขาสามารถทำได้ เขาก็ยินดีเสมอ ความเกี่ยวพัน ที่เกื้อหนุนกันมาแต่ชาติปางก่อน จนถึงในชาติภพนี้ คำตอบจากมิติเร้นในเรื่องที่เขาใคร่รู้ ได้เฉลยให้เขาได้รับรู้แล้วว่า.. ชีวินจะเป็นผู้ทำให้เขาได้พบคู่แท้ของเขาอีกครั้ง หลังจากที่ต้องพลัดพรากจากกัน ไม่ได้พบกันมาเป็นเวลายาวนาน ซึ่งเป็นเพราะเวรกรรมที่เขาได้ก่อขึ้นมาเองโดยรู้เท่าไม่ถึงการณ์เมื่อครั้งยังมีชีวิต เพราะการที่เขาต้องจบชีวิตลงก่อนเวลาที่กำหนด ทำให้เขาต้องค้างอยู่ในมิติเร้น มิติที่อยู่เหลื่อมระหว่างโลกแห่งวิญญาณและโลกมนุษย์ มิติที่ว่างเปล่าและเดียวดาย การที่ชีวินจะสามารถช่วยเขาได้ ก็ต้องเป็นการกระทำที่มาจากความตั้งใจจริงของชีวินเท่านั้น เขามิอาจกล่าวนำให้ชีวินช่วยเหลือเขาตามประสงค์เช่นนั้นได้ ถ้าทำเช่นนั้น.. ทุกสิ่งจะเปลี่ยนแปลงไปหมด จะอย่างไรก็แล้วแต่.. ณ เวลานี้ เอ็มก็มีความสุขอย่างเหลือแสนแล้ว ได้มีน้องชายที่สุดแสนจะน่ารักและมีจิตใจดีงามมาอยู่เคียงข้างเช่นนี้ ความเดียวดายที่เขาต้องประสบมาเป็นเวลาเนิ่นนาน ก็ดูจะเบาบางลงบ้างเพราะน้องชายน่ารักคนนี้นี่เอง เอ็มเอาปลายนิ้วเกลี่ยเส้นผมนุ่มสลวยของชีวินอย่างอ่อนโยนโดยมิได้กล่าวอะไรอีก ชีวินรู้สึกอบอุ่นและเคลิบเคลิ้มจนเอาศีษะมาซบที่ไหล่กว้างของเขา ดูเหมือน.. ชีวินจะชอบที่จะให้เขาปฎิบัติเช่นนั้นเหลือเกิน ครู่หนึ่ง.. ชีวินก็เหลือบขึ้นมามามองดวงหน้าเขาด้วยสีหน้าสนใจใคร่รู้ในบางเรื่อง แต่..เหมือนจะพยายามยั้งๆถึงสิ่งที่จะล่าวออกมา แต่เอ็มก็อ่านใจเขาออก และกล่าวว่า..
“ วินอยากรู้เรื่องราวของพี่ เมื่อครั้งยังมีชีวิตใช่ไหม? ”
“ ก็.. อยากครับ แต่.. ผมคิดว่า.. มันดูจะล้ำเส้นพี่จนเกินไปหน่อย แต่ผมก็ยังอยากรู้เหลือเกิน ว่าทำไม? มันมีสิ่งใดที่ทำให้พี่ต้องรู้สึกเจ็บปวด จนถึงขนาด.. เอ่อ.. ต้องฆ่าตัวตาย? แต่มันคงไม่ดีแน่.. มันคงต้องเป็นเรื่องที่เศร้ามากๆ มันอาจจะเป็นการไปกวนตะกอนเรื่องเลวร้ายในอดีตของพี่ จนทำให้พี่ต้องเศร้าใจ ผมคิดว่า.. ผมไม่ควรอยากรู้ดีกว่า ”
“ ไม่เป็นไรหรอกวิน เรื่องมันก็ผ่านมาแล้ว ถึงอย่างไร ก็กลับไปแก้ไขอะไรไม่ได้อีก เอาเถิด.. ถ้าวินอยากรู้ มันก็ไม่เห็นจะเป็นไร อย่างน้อยๆ เรื่องราวชีวิตของพี่ คงจะพอเป็นอุธาหรณ์ให้แก่วินได้บ้าง ”
“ ขอบคุณนะครับพี่ ”
“ ถ้าเช่นนั้น.. พี่จะส่งภาพนิมิตเรื่องราวครั้งอดีตของพี่เมื่อครั้งมีชีวิตให้วินได้เห็นนะ พี่สามารถทำได้ ตอนนี้พี่มีพลังมากพอที่จะทำเช่นนั้นได้แล้ว วินพร้อมหรือยัง? ”
“ พร้อมครับ ”
เมื่อชีวินกล่าวจบลง เอ็มก็เชยคางของชีวินขึ้นมา จากนั้น.. เขาก็เอาหน้าผากมาสัมผัสกับหน้าผากของชีวิน ซึ่งกำลังหลับตาพริ้ม รอคอยการมองเห็นภาพนิมิตนั้นด้วยความตื่นเต้น เมื่อหน้าผากของทั้งสองสัมผัสกัน ชีวินก็รู้สึกตัวเบาหวิว ดุจดังกำลังล่องลอยอยู่ในห้วงของกระแสธารแห่งความฝัน เขามองเห็นภาพรอบตัว ดูคล้าย.. เปล่งประกายแสงเป็นแสงสีรุ้งระยิบระยับจับตา.. ผิวกายรู้สึกเย็นวูบวาบ และร้อนผ่าวสลับกัน มันเป็นความรู้สึกที่แปลกประหลาดเหลือเกิน และแล้ว.. ในที่สุด แสงสีรุ้งที่ระยิบระยับรอบกาย ก็ได้มลายหายไป พลัน.. ก็มีแสงสว่างวาบเจิดจ้าขึ้นมาแทนที่ จนเมื่อ.. แสงสีขาวที่สว่างเจิดจ้านั้น ได้ราแสงลง ภาพนิมิตก็ได้บังเกิดขึ้น มันค่อยๆเลือนราง และแจ่มชัดขึ้นทีละน้อย และแล้ว.. เมื่อทุกอย่างแจ่มชัด สิ่งต่างๆรอบกายขีวินก็ปรากฏขึ้น มันดูเป็นเรื่องเป็นราว ราวกับว่า.. ชีวินได้อยู่ร่วมในเหตุการณ์ในครั้งอดีตนั้นจริงๆ ชีวินปรายตามองสภาพแวดล้อมรอบกายด้วยความรู้สึกที่เสมือนจริง แล้ว.. ชีวินก็ได้เห็น..

********

*โปรดติดตามตอนต่อไปเร็วๆนี้ครับ^^
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 12-03-2009 17:18:00 โดย Pikachu »

ออฟไลน์ DEMON3132

  • เป็ดแสนดี
  • เป็ดDemeter
  • *
  • กระทู้: 1704
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +170/-1
มาจิ้มคุณ Pikachu พร้อม +1 ให้นะคะ ยังสนุกเหมือนเดิมนะคะ น่าติดตาม เพราะอยากรู้ว่าเอ็มตายเพราะอะไร
น่าจะเป็นเรื่องที่เจ็บปวดพอสมควร จะต้องกลับไปเศร้าอีกแล้วใช่ไหมคะ  :impress3: :impress3:
จะรอตอนต่อไปนะคะ  :กอด1: เป็นกำลังใจให้น้องด้วยค่ะ

PEAK

  • บุคคลทั่วไป
WOW   บรรยายเรื่องได้ดี เห็นภาพ รู้สึกร่วมด้วยเลย  ... บวก 1 ให้เลย

ขอบคุณนะครับ  ...  อ่านแล้วมีความสุขมากครับ  :กอด1:

 

สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด


สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด