[story]"เล่าอีกนะ :: รักครั้งแรก :: รักคือ การเสียสละ
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด

สนใจโฆษณาติดต่อ laopedcenter[at]hotmail.com คลิ๊กรายละเอียดที่ตำแหน่งว่างเลยครับ

สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด

ผู้เขียน หัวข้อ: [story]"เล่าอีกนะ :: รักครั้งแรก :: รักคือ การเสียสละ  (อ่าน 84909 ครั้ง)

beta

  • บุคคลทั่วไป
ว๊าวๆ.........อยากอ่านต่อครับ มาต่อไวๆนะครับ

ออฟไลน์ ที่ปรึกษาไอทีขั้นต้น

  • Administrator
  • เป็ดApollo
  • *
  • กระทู้: 6853
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +1320/-22
ยิ่งอ่านยิ่งมาน
เร้าจายจัง

 :sad4: :sad4: :sad4:

suregirl

  • บุคคลทั่วไป
รีบมาต่ออย่างด่วนเลย  :pigangry2: ค้างคา

taebin7

  • บุคคลทั่วไป
จะรออ่านน๊า  ไบ๋บาย :yeb:

ออฟไลน์ Junrai_Hyper™

  • พูห์น้อยกลอยใจ
  • Global Moderator
  • เป็ดArtemis
  • *
  • กระทู้: 4842
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +777/-50
ตอนที่ 9

    ระหว่างอาบน้ำ ผมก้อคิดอะไรไปต่างๆนาๆ แต่ที่ผมคิดหนักที่สุดก้อคงเปนเรื่องที่ว่า

    “กุชอบมันรึเปล่าวะ”

    ...ตั้งแต่ตอนที่รู้จากแม่มันแล้วนะเว้ย แล้วหลังจากนั้นทำไมมึงต้องรู้สึกดีเวลาเจอหน้ามัน เวลาเหนรอยยิ้มมัน แล้วที่สำคัญ

    ทำไมมึงต้องหึงมันจากไอ้ชัยด้วยวะ...

    ไอ้บ้า กูไม่ได้หึงนะเว้ย กูแค่เกลียดหน้าไอ้ชัยมันเท่านั้นแหละ กุแค่ไม่ชอบที่แม่งทำตัว...

    ทำตัว ทำตัวเหี้ยไรล่ะ ทำตัวใกล้ชิดไอ้เบียร์มากกว่ามึงน่ะเรอะ นั่นแหละมึงหึงแล้วเว่ย ไอ้ต้น มึงชอบมันเข้าไปแล้วแหละ...

    ไอ้บ้า กูเปนผู้ชายนะเว้ย แถมกุยังชอบพลอยอยู่อีกต่างหาก จะไปชอบมันได้ไงวะ.. แต่ แต่ว่า แล้วทำไม... เว้ยยย อะไรวะเนี่ยย!!

    แม่งหมือนเปยบ้าอยู่คนเดียวเลยครับ แช่อยู่นั่นอ่ะจนไอ้บัยร์ตะโกนถามว่าเส็ดรึยัง เพราะผมอาบไปจะครึ่งชั่วโมงแล้ว

    “ช้าจังนะมึง กว่าจะออกมา อาบนานอย่างกับผู้หญิงแน่ะ” มันแซวผม หลังจากเดินออกมาจากห้องน้ำแล้ว

    “เออ กุขอโทษที่ปล่อยให้คนกลัวผีอย่างมึงนั่งเล่นกะรักยมคนเดียวนานไปหน่อย”

    “ไอ้ต้น!!” ว่าแล้วมันก้อรีบเขยิบเข้ามาใกล้ๆผมเลย

    “อะไรเมิงง กุล้อเล่น ถอยไปเลยไป กุจะแต่งตัว กุหนาว” แล้วผมก้อหยิบกางเกงขาสั้นมาใส่ ปกติผมก้อนอนถอดเสื้ออย่างนี้แหละครับ

    และเปิดแอร์ประมาณ 19 องศาด้วย

    “เออๆ กุขอโทหาบาสแปบ” แล้วมันก้อหยิบโทรศัพท์มาโทหาบาสครับ ผมก้อนั่งมองมันคุยโทรศัพท์ไป ใจก้อคิดอะไรไปเรื่อย

   (ก้อคิดเรื่องของมันนี่แหละ แม่งงง)

    ..........

    “อ้าว วางแล้วเรอะ ทำไมวางเร็วอ่ะ” ผมถามมัน เพราะเหนมันคุยไปได้แค่ประมาณ 5 นาทีเอง

    “ก้อเงี๊ยแหละ แม่ง เฮ้อออ กุเบื่อว่ะ ทำไมผู้หญิงมันเข้าใจยากอย่างนี้วะ” ว่าแล้วมันก้อหันมามองหน้าผม

    ผมเลยรีบหลบตามันหันไปดูทีวีเหมือนเดิม (กุเปนเหี้ยไรวะเนี่ยย)

    “ถามแม่มึงดูดิ่”

    “อ้าว ไอ้เชี่ยนี่ เออ แล้วกุโทหาแม่กุแล้วนะ มึงจะได้ไม่ต้องคะยั้นคะยอให้กุโทอยู่ได้”

    “อืม ก้อดีแล้ว” ตาผมยังดูทีวีอยู่ แต่ในหัวเนี่ย มันไม่ได้รับรู้อะไรในจอที่ฉายอยู่เลยแม้แต่นิดเดียว

    “เฮ้อออ เบื่อวะ... นี่ต้น เครากุขึ้นแล้วอ่ะ มีแหนบป่ะ”

    “มี เด๋วไปหามาให้ กุจำไม่ได้ว่าไปวางไว้ไหน” คือผมเปนคนชอบถอนเคราครับ ไม่ชอบโกน โกนทีไรสิวขึ้นทุกที

    แล้วเปนพวกมืออยู่ไม่สุขด้วยเลยชอบดึงชอบถอนเคราเล่น

    จนเคยถอนให้ไอ้เบียร์บ่อยๆ ตอนแรกมันก้อหาว่าบ้าที่ใช้วิธีถอน ไม่ยอมโกนเนี่ย แต่ไปไปมามามันก้อติดใจซะงั้นอ่ะ

    “เอ้า เอาไป” ผมโยนแหนบให้มันแล้วก้อนั่งลงดูทีวีต่อ (นั่งที่พื้นห้องนะครับ มันอยู่บนเตียง)

    “ไม่เอา”

    “อะไรไม่เอาวะมึง” ผมหันมามองหน้ามัน ไอ้เหี้ยนี่จะเรื่องมากอะไรอีกอ่ะ

    “ถอนให้กุหน่อยดิ่ ทีทุกครั้งยังถอนให้กุเลยอ่ะ”

    “หา เอ่อ เออๆๆ ก้อได้ แต่กุจะดูทีวีด้วยอ่ะ มึงลงมาข้างล่างนี่แล้วกัน” แล้วมันก้อยิ้มแป้นคลานลงมาหาผมข้างล่างแล้ว

    ไถลตัวมันมานอนหนุนหัวอยู่บนตักผมทันที...

    กุเปนเหี้ยไรวะ มือไม้สั่นจับแหนบแทบไม่อยู่ แม่งก้อนอนหนุนตักกันมากี่รอบแล้วก้อไม่รู้ แถมยังที่ รร ต่อหน้าคนหลาย 10 กุยังไม่เปนเหี้ยไรเลย

    แต่ตอนนี้... ใจมันเต้นเปนอีเกิลลี่เบอร์รี่เลยครับ... มันนอนหนุนตักผมแล้วแหงนหน้า หลับตาพริ้ม โอ๊ยยยยยยย ปากน่าจูบชิบหาย

    ตัวมันก้อขาว ปากก้อชมพู แถมยังหอมกลิ่นสบู่อีกต่างหาก

    “ถอนดีๆนะมึง ถ้ากุเจ็บ ไข่มึงแหว่งแน่”

    “ไอ้เหี้ยย มึงลุกเลยไป พูดแมวๆ” ผมพูดไปก้อถอนให้มันไป

    “นี่ไอ้ต้น” มันพึมพำขึ้นมา เพราะพูดไม่ถนัด ก้อโดนผมจับคางอยู่อย่างนั้น

    “อะไรวะ อย่าเพิ่งพูดดิ่ เด๋วก้อหนีบเนื้อหรอกมึง”

    “ที่มึงเคยพูดอ่ะ...” มันพูดนิดนึงแล้วก้อหยุดไป

    “อาไรของมึงวะ ไอ้เบียร์” ผมงงกะมันจริงๆ จะพูดแล้วก้อไม่พูดให้จบ...

    “เอ้าเส็ดแล้ว ลุก”

    “อือ ขี้เกียจอ่ะ กำลังเคลิ้มเลย” น่าน ดูมัน เฮ้ออ เอาวะ กะแค่นอนตัก แต่...

    “ถ้าจะนอน ก้อไปนอนบนเตียงเลยดิ่ ง่วงแล้วเหรอ” ผมพูดพร้อมกับเอามือลูบหัวมันเล่น

    “อืมมม... วันนี้เดินทางไกลมา เหนื่อย” มันพูด ทำเสียงแบบคนกำลังเคลิ้มสุดๆ แม่งโคตรน่า...

    “ไอ้เบียร์... มึงต้องดูแลตัวเองดีๆนะเว้ย เข้าใจป่าว” ผมบอกมัน มือก้อยังลูบหัวเกรียนๆของมันเล่นไปด้วย

    “อืมม... ทำไมวะ” ดูมันย้อน

    “อ้าว ร่างกายมึงเอง มึงก้อต้องดูแลดิ่ แล้วอีกอย่าง ถ้ามึงเปนไรไป แม่มึง ครอบครัวมึงจะเสียใจแค่ไหนวะ”

    “อืม” มันพูดแล้วเอามือมาจับมือผมให้หยุด “แล้วมึงล่ะ... จะเสียใจมั๊ย” ตอนนี้ตามันลืม จ้องหน้าผมแล้วครับ

    “อ่ะ เออ เสียใจดิ่ ถามอะไรบ้าๆน่ะมึง” ผมชักมือกลับ แล้วก้อเงยหน้าไปดูทีวีแทน... โอ๊ยยย โคตรเขินเลย เช็ดแม่ง!!

    “อืมม” แล้วมันก้อหลับตาลงเหมือนเดิม... จนเวลาผ่านไปประมาณ ครึ่งชั่วโมง ผมนะอยากจะหยุดเวลาเอาไว้แค่นี้จริงๆ

    ให้มันนอนอยู่บนตักผมไปอย่างนี้นานที่สุดเท่าที่จะเปนไปได้

    “ดูแลตัวเองนะเว้ย ไอ้เบียร์ เข้มแข็งไว้นะมึง... กูรักมึงนะ” ผมลูบหัวมันแล้วก้อกระซิบ เหมือนกับพูดคนเดียวน่ะครับ ไม่ได้ตั้งใจจะสื่อถึงมันหรอก

    “พูดจิงป่าว” มันพูดพร้อมกับยิ้มออกมา อ้าว!! มึงไม่ได้หลับหรอกเรอะ ไอ้ส้นตีนนน!!

    “อ่ะ อ่ะ ยังไม่หลับเรอะ นึกว่าหลับแล้ว” ผมตกใจจริงๆครับ เขินชิบหายเลยด้วย

    “ถ้าหลับแล้วจะได้ยินเรอะไง” มันยิ้มหวานอีกแล้ว

    “เออ ก้อกุรักมึงอ่ะ มึงเปนเพื่อนที่กุรักมากที่สุดตั้งแต่กูเกิดมาเลยนะเว้ย ถ้ามึง...” ผมยังพูดไม่ทันจบประโยค มันก้อพูดแทรกขึ้นมาว่า

    “ต้น กูรอคำนี้อีกครั้งมานานมากแล้วมึงรู้ป่าว คือ กูก้อไม่ได้ชอบผู้ชายรึชอบให้ผู้ชายมาบอกรักหรอกนะ

     แต่ว่า อย่างน้อยมึงก้อเปนคนแรกที่พูดคำนี้กับกูว่ะ” อ่อ อย่างนี้นี่เอง...

    “เออ ต่อไปนี้กุจะพูดให้มึงฟังบ่อยๆเลยก้อได้วะ 5555” ผมกลบเกลื่อน

    “ไม่ต้องก้อได้มึง พูดมากๆ จะอ้วก” ว่าแล้วมันก้อลุกขึ้น “เฮ้ออ กุง่วงว่ะ นอนกันเหอะ”

    “เออๆ นอนดิ่” ...มันไม่ได้ชอบผุ้ชาย... มันก้อบอกมาแล้วนี่หว่า มึงก้อไม่ได้ชอบผู้ชายเหมือนกันนี่ไอ้ต้น ก้อดีแล้วนิ แล้วทำไมมึงต้องรู้สึกเซ็งๆด้วยวะเนี่ย

    คืนนั้นผมกับมันก้อเลยเข้านอน มันน่ะคงหลับไปนานแล้วล่ะครับ แต่ผมนอนไม่หลับเลยยยย คิดถึงแต่ไอ้ตัวเหี้ยที่แม่งหลับอยู่ข้างๆกุเนี่ย โอ๊ยยย สับสนเว้ยย!!

    “ขอกอดทีดิ่” อ้าว!! มันยังไม่หลับนี่หว่า อยู่ดีๆหันมาบอกขอกอดกุซะงั้นอ่ะ

    “อ้าว ยังไม่หลับเหรอ” ผมถามมัน

    “อือ แอร์มึงหนาวอ่ะ มึงนอนถอดเสื้อได้ไงวะเนี่ย”

    “ก้อกุมีไอ้อ้วนมานอนเบียดอยู่ข้างๆกุเนี่ย จะหนาวอีกเหรอวะ 555”

    “ใครอ้วนมึง ของกุเนี่ยกำลังดี หล่อ...” ดูมันหลงตัวเอง “ไปใส่เสื้อเหอะต้น เดี๋ยวมึงจะไม่สบาย แล้วกูจะได้กอดได้ด้วย” อ้าวมึงห่วงกูหรือแขยงกูกันแน่วะ

    “เออๆ” แล้วผมก้อลุกไปสวมเสื้ออีกตัวนึง แล้วก้อล้มตัวลงมานอนข้างๆมัน โดยนอนหงายนะครับ มันก้อเข้ามซุกแล้วก้อกอดผม

    “มีแต่กระดูกว่ะมึงเนี่ย” มันว่าผม

    “กระดูกเหี้ยไร เขาเรียกกล้ามเว่ย กล้าม”

    “กล้ามหรือก้างวะ กอดไปไม่มีเหี้ยไรเลย”

    “เออ งั้นก้อไม่ต้องกอด กุก้ออึดอัด ใครจะไปอ้วนเหมือนมึงเล่า” กุปากไม่ตรงกับใจอีกแล้ววว
   
    แต่...ผิดคาดครับ มันเงียบ ไม่เถียงตอบผมเหมือนทุกทีแฮะ แต่มันก้อไม่ยอมปล่อยมือที่กอดผมนะ (ก้อยังดีวะ ที่มันไม่เลิกกอดจิงๆ อิอิ)…

   เลยกลายเปนกูยิ่งนอนไม่หลับยิ่งกว่าเดิมม -__-“

    “กุก้อรักมึงนะไอ้ต้น” แล้วมันก้อกอดผมแน่นขึ้นกว่าเดิม

    o__O”
............................................................................

forsaken

  • บุคคลทั่วไป
เขินแทน บอกรักกานแล้ว ฮิฮิ ... :-[

abcd

  • บุคคลทั่วไป
กะลังน่ารักเรยอ่ะ  :-[  ไม่อยากให้ถึงโหมดเศร้าเยย   :myeye:

Kimhan

  • บุคคลทั่วไป
อ่านแล้วอิน
   อินหลายเรื่อง
เพราะว่าเคยให้เพื่อนนอนตัก แล้วถอนหนวดแล้วก็เคราให้มัน
     เคยให้เพื่อนมาค้างที่ห้องเพื่อติวให้มัน
     เคยนอนกอดมัน
     ทำไมคล้ายกันจัง

  อยากบอก นายจังว่าเราคิดถึงอยู่นะ  :impress:

taebin7

  • บุคคลทั่วไป
น่ารักจังเลย  อ่านจบแล้วยังนั่งยิ้มเลย :laugh: บ้าไปแล้ว

tonsai_2520

  • บุคคลทั่วไป
          เอาไงดีหว่า . . . .

เรื่องนี้  อ่านเพราะชอบเรื่องเด็ก ๆ  แถมเด็กนั้นกวนซะด้วย
   
 

CoMMuNiTY Of ThAiBoYsLoVE

ประกาศที่สำคัญ


ตั้งบอร์ดเรื่องสั้น ขึ้นมาใครจะโพสเรื่องสั้นให้มาโพสที่บอร์ดนี้ ถ้าเรื่องไหนไม่จบนานเกิน 3 เดือน จะทำการลบทิ้งทันที
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=2160.msg2894432#msg2894432



รวบรวมปรับปรุงกฏของเล้าและการลงนิยาย กรุณาเข้ามาอ่านก่อนลงนิยายนะครับ
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=459.0



สิ่งที่ "นักเขียน" ควรตรวจสอบเมื่อรวมเล่มกับสำนักพิมพ์
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=37631.0






beta

  • บุคคลทั่วไป
เห้ยยยย กะลังสนุกเลยอ่ะ มาต่อไวๆนะค๊าบบบบ

ออฟไลน์ Junrai_Hyper™

  • พูห์น้อยกลอยใจ
  • Global Moderator
  • เป็ดArtemis
  • *
  • กระทู้: 4842
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +777/-50
          เอาไงดีหว่า . . . .

เรื่องนี้  อ่านเพราะชอบเรื่องเด็ก ๆ  แถมเด็กนั้นกวนซะด้วย
   
 

รักเด่ะว่างั้นคุณต้นสาย

คุก คุก คุก

สวัสดีครับ คุณปวีณา

พูห์ คนเลวก้อชอบเด่ะเหมือนกัน

ออฟไลน์ Junrai_Hyper™

  • พูห์น้อยกลอยใจ
  • Global Moderator
  • เป็ดArtemis
  • *
  • กระทู้: 4842
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +777/-50
ตอนที่ 10
[/b]


ผมตื่นขึ้นมากลางดึกประมาณ ตี2 ได้ หิวน้ำก้อเลยเดินลงมาที่ห้องครัว พอกลับขึ้นไปที่ห้อง ก้อเห็นไอ้เบียร์ยังหลับอุตุอยู่...

นี่เปนครั้งแรกที่ผมได้เหนหน้ามันตอนหลับนะครับ เพราะตอนมอ 2 มอ 3 ที่ไปเข้าค่ายลูกเสือกัน มันก้อไม่ได้ไป (ก้อแหงล่ะ)

มันหลับเหมือนเด็กๆเลย นอนตะแคง คุดคู้ตัว ตัวกลมๆของมันเลยดูยิ่งกลมเข้าไปใหญ่ ผมนั่งมองหน้ามันแล้วก้ออดยิ้มไม่ได้

“อือออออ... กี่โมงแล้วอ่ะ” มันตื่นแล้ว ถามผมเสียงงัวเงียๆ

“ตี 2 กว่า นอนไปเหอะ”

“แล้วเมิงง ลุกมาทำมายย อ่า” มันขยี้ตา ทำหน้าเบ้ๆ

“กุหิวน้ำ ลุกมาเอาน้ำ”

“เกนน ด้วยย ดี่~” มันขอกินน้ำด้วยครับ ผมเลยยื่นแก้วให้มัน พอมันกินเส็ด ก้อล้มตัวลงไปนอนต่อ

ผมเลยลุกขึ้นไปปิดไฟแล้วกำลังจะล้มตัวลงนอนต่อ ก้อเหลือบไปเหนนุ๊กากางเกงมันซะงั้นอ่ะ มันนอนดิ้นจนผ้าห่มมันหลุดๆลงไป...

แม่งโคตรตุงเลย นี่มันใส่กางเกงในนอนนี่หว่า (แต่กุอ่ะ ไม่ได้ใส่) แล้ววว นี่กุคิดอะไรอยู่เนี่ยยยย...

อย่างที่บอกนะครับ ว่าตอนนั้นผมไม่ได้มีอารมณ์อะไรกับผู้ชายเลยแม้แต่นิดเดียว แต่ทำไมตอนนั้นผมถึงได้ใจสั่นแปลกๆยังไงไม่รู้

“นอนKตุงแล้วมึง” ผมบอกมัน แล้วก้อล้มตัวลงนอนข้างๆมัน

“อืมมมม” มันงึมงำๆ แล้วก้อเอามือมาจับKมันให้เข้าที่ “ครายใช้ให้มองวะ กุอายย” แต่ตามันยังปิดอยู่

“เปล่า แค่สังเกตเหนมันเล็กๆแต่ดูแข็งๆ เลยข้องใจว่า นี่แข็งรึยัง ถ้ามึงแข็งแล้วก้อแปลว่าน้องมึงเล็กอ่ะดิ่”

มันพลิกตัวหันมามองหน้าผมแล้วพูดว่า

“ยังไม่แข็งเว้ย แค่กึ่มๆ แต่ตอนเนี๊ยมึงทำกุตื่นมันเลยแข็งหมดแล้ว”

“อุบาทว์ว่ะมึงเนี่ย ไปนอนไกลๆกุเลยนะ แขยง” น่านน ปากกุไม่ตรงกับใจอีกแล้วว...

แต่ตอนนั้นก้อยังไม่ได้คิดอยากจะมีอะไรกับมันจริงๆนะครับ ยังรับไม่ค่อยได้

“อืมๆ” แล้วมันก้อหลับต่อ ส่วนผมอ่ะ นอนKแข็งซะงั้นอ่ะ ไม่รู้เปนเหี้ยไร

ผมก้อนอนKแข็งไปอีกประมาณเกือบ ชม ได้ (ใครจะไปหลับลงวะเนี่ย)

อยู่ดีๆไอ้เบียร์มันก้อพลิกตัวมานอนกอดผมครับ แล้ววว ไอ้ตำแหน่งแขนมันที่มาพาดบนตัวผมเนี่ยยอยู่ต่ำกว่าสะดือนิดเดียว เกือบจะโดนหัวน้องกุแล้วว

ผมยิ่งตกใจใหญ่ ไอ้ครั้นจะยกมือมันออก ก้อไม่อยากปลุกมัน (หรือมึงไม่อยากพลาดโอกาสกันแน่วะ) สักพักมันก้อเอาขามาพาดผม แล้วยังซุกหน้าลงมาที่คอผมอีกนะ

แว้กกกกกกก...

กุขนลุกซู่...

เพราะไอ้ลมหายใจมันเนี่ย เสือกมาเป่าใส่หูผมด้วยดิ่

“อึ อึ๊ยย” ผมเผลอตัวครางออกมาเพราะแม่งโคตรเสียวววเลย ทั้งแขนทั้งขา ทั้งหูผม ไม่ไหวแล้วเว้ยยย...

สักพักมันก้อเริ่มขยับตัวอีกครั้ง แล้วมือของมัน ก้อเลยโดนKผมจังๆ ผมงี้สะดุ้งสุดตัวเลย

แต่คราวนี้ผมเริ่มขยับหนีแล้วครับ ไม่ไหวแล้ว ขืนเปนงี้กุไม่ได้นอนแน่ๆ หน้ากุเริ่มมืดแล้วนะเว้ย

พอผมขยับตัวจนมือมันหลุดจากKผมแล้ว มันก้อขยับตัวอีกครั้ง เปนนอนหงายครับ ผมก้อเลยกลับมานอนอีกครั้ง

แต่นอนตะแคงหันหลังให้มันแทน ทีนี้กุจะได้หลับสักที จนผมก้อเริ่มเคลิ้มๆ...

แม่งมากอดกุอีกและ!!

กุทนไม่ไหวแล้วเว้ย!!!

คราวนี้ผมหันหน้าไปหามันเลยครับ เผชิญหน้ากับสิ่งที่เรากลัว 555

แต่พอผมหันหน้าไป มือผมมันก้อเลยไปโดนเอาKมันเข้า เพราะถ้าไม่เอามือไปกอดมันเนี่ย มือผมก้อต้องวางพาดตัวไว้ใช่มั๊ยล่ะ

นั่นแหละ เลยไปเฉี่ยวๆโดนของมันเข้า มันยังไม่แข็งครับ นิ่มๆ แต่ผมไม่ได้จับนะ แค่มือไปโดนเฉยๆเลยไม่รู้ว่าจริงๆแล้วขนาดเท่าไหร่

แต่Kกุเนีย่ แข็งจนจะระเบิด

ตอนนี้ผมก้อไม่รุแล้วครับว่ามันหลับอยู่รึเปล่า มันจะตื่นมั๊ยเนี่ย แต่ผมเอามือไปจับของมันแล้ว

โคตรร ตื่นเต้นเลย

ทั้งเสียว ทั้งกลัวมันตื่น กลัวจะเสียเพื่อนก้อกลัว แต่... กุหน้ามืดแล้วเว้ยย

ตอนนั้นผมแค่เอามือไปกุมอยู่เฉยๆ ไม่ได้จับรูดๆอะไรหรอกนะครับ แต่สักพักมันก้อเริ่มแข็งขึ้นๆ จนล้นมือผม ผมก้อกะขนาดคร่าวๆ... ดูๆแล้ว... อืมม.... กูใหญ่กว่าว่ะ 55555 แอบดีใจนิดหน่อย หุหุหุ

ผมไม่อยากเสียเพื่อนครับ สุดท้ายก้อตัดสินใจ เอามือออก แล้วก้อกอดมันแทน แต่... ถ้าผมไม่เอาน้ำออกเนี่ย ผมนอนไม่หลับแน่ๆ เลยหอมแก้มมันไปทีนึง แล้วลุกเดินไปเข้าห้องน้ำ

ไม่ต้องถามหรอกนะว่าตอนว่าวนึกถึงเรื่องอะไร

หุหุ

แทบไม่ต้องนึกเลยอ่ะ ว่าวๆไปไม่ถึง 5 นาที ก้อออกแล้ว

พอสบายตัวผมก้อเดินออกจากห้องน้ำ แล้วก้อมองหน้ามันทีนึง แล้วจึงเข้านอน
.............................
“ปายไหนมาอีกอ่า” มันทักผมอีกแล้ว

“ไปเยี่ยว” เยี่ยวเหนียวอ่ะมึง มีไรป่ะ

“เหรอ สะบัดหมดดียัง”

“สาดนี่ มึงไม่ต้องมายุ่งกะKกุหรอกนะ รีบๆนอนไปไป๊” แล้วผมก้อล้มตัวลงบนเตียง หันหลังให้มันเหมือนเดิม

“ไม่ยุ่งได้ไงเล่า กุนอนไม่หลับแล้วน้า อย่าหนีเอาตัวรอดคนเดียวดิ่คับ” มันตะแคงตัวหันมาพูดกับผม แล้วมือมันก้อเอื้อมมาจับที่เป้าผมจังๆ

“เฮ้ยย” ผมตกใจครับ เลยหันหน้าไปหามัน ปากก้อเลยประกบเข้ากับปากผมพอดี บังเอิญชิบหายยังกะในหนัง

แต่ผมนึกว่ามันจะถอนปากออก มือมันกลับจับKผมแน่นกว่าเดิม เหมือนกลัวผมจะหนีไปไหน แล้วมันก้อเริ่มต้นจูบปากผมจริงๆแล้ว

“ไอ้เบียร์!!” พอปากผมหลุดออกมา ผมก้อถามมัน “นี่มึงจะทำ...”

ยังไม่ทันพูดจบ มันก้อเอามือผมไปวางไว้ที่เป้ากางเกงมันแล้ว แต่เอ๊ะ ไม่มีกางเกงในนี่หว่า... สงสัยแม่งแอบถอดตอนผมเข้าไปว่าวแน่ๆ

“ต้น กุรักมึงนะ” ผมตกใจโคตรๆ ทำอะไรไม่ถูกเลย แต่ว่า มันเองก้อไม่ได้ทำอะไรไปมากกว่านี้เหมือนกัน มันคงรอดูปฏิกิริยาผมก่อนด้วยมั๊ง

“อ่ะ เอ่อ กุ...” ผมพูดอะไรไม่ออก มันเหนผมไม่พูดอะไร มัน้ลยพลิกตัวหันกลับไปอีกข้าง หันหลังให้ผมแล้วพูดว่า

“กุขอโทษ กูไม่ได้ตั้งใจ”

“เฮ้ยเบียร์ กุไม่ได้ตั้งใจจะว่ามึง กุแค่... ไม่รู้เหมือนกัน กู...” ผมไม่รู้จริงๆว่าจะพูดว่ายังๆไง

“อืม กุเข้าใจ กุก้อเหมือนมึงนั่นแหละ” มันพลิกตัวกลับมานอนหงายแล้วครับ

 “กุก้อไม่รู้ตัวเองเหมือนกันว่ากุเปนอะไร กุไม่รู้ว่ากุรักมึงแบบไหนกันแน่... มึงเปนเพื่อนรักกูนะ กุขอร้องล่ะนะ อย่าเกลียดกูเลย” แล้วมันก้อหันหน้าหนีกลับไปอีกแล้วครับ...

“กุก้อเหมือนกันเบียร์… แต่ตอนนี้กุรู้แล้วว่ากุรักมึงแบบไหน” แล้วผมก้อกอดมันแล้วหอมแก้มมันครับ มันเลยหันกลับมาสบตาผม

“แล้วแบบไหนอ่ะ” มันยิ้ม

“แบบนี้ไง” ผมยิ้มตอบแล้วเอื้อมมือไปจับKมันที่หดลงไปหน่อยแล้วครับ แต่ยังไม่ทันจะหดลงไปหมดหรอก โดนมือผมเข้าไปก้อกลับมาสู้อีกที

มันยื่นหน้าเข้ามาจูบปากผมอีกครั้ง เราแลกลิ้นกันนานมาก ผมเพิ่งรู้ก้อคราวนี้แหละครับ ว่าการได้จูบกับคนที่เรารักแถมยังเป็นจูบแรกของรักแรกด้วย มันรู้สึกดียังไง

แล้วมันก้อเริ่มไซร้คอผม ไล่ลงไปเรื่อยๆ ผมงี้เสียวชิบหาย แล้วก้อเริ่มล่าลงไปที่หัวนม ตอนนี้มันจับผมนอนหงายอยู่ข้างล่างมันแล้ว มือมันก้อค่อยๆถอดเสื้อผมออกไปด้วย

“ซี้ดดด เบียร์ กุเสียว” ผมเผลอตัวครางออกมาไม่ได้ แต่มันไม่หยุดแค่นั้นสิ พอมันถอดเสื้อเส็ดมันก้อหันมาถอดกางเกงผมแทน Kผมมันก้อดีด ออกมา แข็งเด่อยู่ตรงหน้ามัน

“ใหญ่นี่หว่ามึง ใหญ่เกินตัวนะเนี่ย” ว่าแล้วมันก้อเอาปากมันครอบลงไป ผมงี้เย็นวาบบไปทั้งตัวและหัวK

“ซี๊ดดดส์ เบาๆดิ่ อาาาา”

ฟันมันโดนของผมบ้างแต่ว่า ผมไม่ค่อยเจ็บหรอกครับ เพราะผมขลิบแต่เด็ก มันเลยด้าน

มันค่อยๆใช้ลิ้นเลีย ไล่จากตรงโคนขึ้นมา จนถึงหัวแล้วเอาปลายลิ้นฉกตรงรูเยี่ยว ทำเอาผมงี้แอ่น

ทำไมมันเก่งอย่างนี้วะ ถึงจะโดนฟันมั่งก้อเหอะ

แม่งล่อซะน้ำเงี่ยผมเล็ดออกมาเต็มหัวK

“น้ำมึงเยอะจังว่ะต้น นี่ขนาดเอาออกไปแล้วนะเนี่ย”

“มึงรู้ได้ไงว่ากุเอาออกมาแล้ว”

“ก้อเยี่ยวเหี้ยไรล่อหายไปซะนาน”

เออกุยอมแพ้มึง มึงจับกุได้

คุยกันจบมันก้อหันไปดูดKผมต่อ แล้วก้อไล่ลงไปดูดไข่ผมด้วย จนมันหดทั้งเพราะแอร์แล้วก้อทั้งเสียว

“โอ๊ยยยย เบาๆหน่อย กุเสียว” ผมครางไปเอามือจับหัวมันไป

“พอและเมื่อย” มันพูดเส็ดก้อเงยหน้าขึ้นมาจูบปากผมต่อ ปากมันมีรสเค็มๆด้วยครับ

คราวนี้ผมก้อรู้แล้วว่า ต่อไปคือหน้าที่ผมแล้วสิ

ผมจึงจับมันถอดเสื้อออก แล้วเลียหัวนมมันเบาๆ สลับกันซ้ายที ขวาที มันมันร้องเสียงหลง แล้วก้อค่อยๆไล่ลงมาที่กางเกงขาสั้นของมัน แต่ผมยังไม่ถอดมันออก

ผมงับเข้าไปทั้งกางเกงของมันนี่แหละ

ผมใช้ลิ้นเลียจนกางเกงของมันเปียกชุ่มไปหมด

นึกภาพสิครับ กางเกงที่ใส่นอนมันก้อบางๆอยู่แล้ว ผมเลียจนเหนเป็นท่อนลำสีดำชัดเจน แล้วก้องับตรงหัวKมันเบาๆเปนระยะๆ

“โอ้ยย ซี้ดดด กุไม่ไหวแล้ว ต้น เอาออกมาเถอะ” ได้เลยมึง ผมจึงจัดการดึงกางเกงของมันลง Kมันเลยดีดออกมาตรงหน้าผม ผมไม่รอช้ารีบงับลงไปที่ส่วนหัว แล้วดูดแรงๆจนมันร้องออกมา

“โอ๊ยยยยยยยยย ไอ้ต้นน เบาๆ กุ สะเอี๋ยวว อ๊าาา” มันร้องครางเสียงกระเส่าไปหมดแล้ว

น้ำมันก้อเยิ้มตั้งแต่แต่อยู่ในกางเกงแล้วด้วย

ผมจัดการดุดให้มันไปสักพัก มันก้อไม่ไหวแล้ว

“ซี้ดดด ต้นกุไม่ไหวแล้วว่ะ” ผมจึงผละจากKมันแล้วขึ้นมานอนดูดปากข้างๆมันแทน

มือมันก้อชักว่าวของมันไป ผมก้อชักของผมไปด้วย จนมันทนไม่ไหว

“โอ๊ยยยย กุไม่ไหวแล้วต้น จะออกแล้วๆ” พูดจบน้ำมันก้อพรุ่งปรี๊ดออกมา เลอะมาถึงคางมันแน่ะครับ ผมเองก้อจะไปแล้วเหมือนกัน

“ซี้ดดด น้ำมึงพุ่งแรงจังวะ อาาา กุก้อจะออกแล้วๆ” แต่ไอ้เบียร์กลับปัดมือผมออกแล้ว ชักให้ผมแทน

“โอ๊ยย อกแล้ว เบียร์กุออกแล้ว” แล้วผมก้อน้ำแตกเปนรอบที่ 2 ครั้งนี้น้ำจึงมีไม่เยอะมากนัก

แต่มันยังไม่หยุดรีด K ผมครับ แถมยังเอานิ้วมาบี้ๆที่หัวKผมอีกต่างหาก

“โอ๊ยยๆๆๆๆๆ พอๆๆๆ เสียวชิบหายเลยยย อย่าแกล้งกูดิ่”

มันยิ้มหวานใส่ผม แล้วเราก้อจูบกันอีกครั้งก่อนลุกขึ้นไปล้างตัวกัน

พออยู่ในห้องน้ำผมกับมันก้อช่วยกันล้างตัวให้กัน ผมถึงได้เห็นของมันเต็มๆตาว่า หัวยังไม่เปิดเลยนี่หว่า แถม พูดตามตรง ว่าKมันสวยมากกก มีหนังหุ้มนี่มันน่ารักดีจริงๆ เหมือนของเด็กเลย

ผมยังแซวมันเลยว่าหัวยังปิด แถมยังเล็กอีกต่างหาก แม่มันจับจู๋มันสต๊าฟไว้ตั้งแต่ปอสี่หรอ 555 แล้วผมก้อแหย่มันจนมันแข็งอีกรอบ ลองรูดดูก้อรูดได้ไม่สุด ไม่เหมือนของกุเลย แม่งทั้งดำทั้งด้าน

มันก้อแซวผมเหมือนกัน ว่าเหมือนของเงาะซาไก (อันนั้นก้อเกินปายย) หลังจากอาบน้ำเส็ด เราก้อใส่เสื้อผ้านอนกอดกันยันเช้า... :)

.......................................


คือ... ผมเขียนเรื่องเซ็กส์ไม่เปนงะ

ตลกว่ะ ครั้งหน้ากุไม่เขียนแล้วว้อยย

ขออภัยถ้าอ่านแล้วเสือกขำแทนที่จะสยิวนะคับ

...

taebin7

  • บุคคลทั่วไป
 :try2:ตอนที่10 ออกแนวน่ากลัวมากๆ   

suregirl

  • บุคคลทั่วไป
รีบมาต่ออย่างไวเลยนะ  :pigangry2:

beta

  • บุคคลทั่วไป
สนุกดีครับ มาต่อไวๆนะครับ อิอิ

forsaken

  • บุคคลทั่วไป
 :-[ :-[ มีอารายกานแล้ว...
รออ่านตอนต่อไปดีก่า ฮิฮิ...

suregirl

  • บุคคลทั่วไป
ยังไม่มาต่ออีกเหยอ 3 วันแล้ว :impress:

ออฟไลน์ Junrai_Hyper™

  • พูห์น้อยกลอยใจ
  • Global Moderator
  • เป็ดArtemis
  • *
  • กระทู้: 4842
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +777/-50
   
ตอนที่ 11

    หลังจากคืนนั้น ผมกับไอ้เบียร์ก้อยังทำตัวปกติกันเหมือนเดิมครับ ไม่ได้สวีทไปมากกว่าเดิม หรือไม่ได้สู้หน้ากันไม่ติดแต่อย่างใด 
 
    ผมก้อยังโทหามันทุกคืน มันก้อมีโทมาหาผมบ้างเวลาผมกลับบ้าน ว่าถึงบ้านรึยัง...

    อยู่ที่ รร เราก้อเหมือนเดิมทุกอย่าง ไม่มีใครผิดสังเกตเราสองคนเลย จะมีวันหยุด เราก้อไปดูหนังกันสองคนบ้าง

   ไปเดินห้างบ้าง บางทีก้อเจอเพื่อนๆเหมือนกัน

    แต่ก้อไม่มีใครทักหรือแซวอะไรหรอกครับ ก้อมันรู้กันอยู่แล้วว่าผมสนิทกันอยู่แล้ว...

   แต่ว่าเราก้อไม่ได้ตกลงกันว่า กุกะมึงเปนแฟนกันนะ หรืออะไรพวกนี้หรอกนะครับ ซึ่งผมก้อไม่คิดจะพูดหรอก (อ้วก)...

   แหม สำหรับผมแล้วผมคิดว่า การกระทำสำคัญกว่าคำพูดใช่มั๊ยล่ะ

   เอาเปนว่า ผมเปนคนที่รู้ใจมันที่สุด ส่วนมันก้อรู้ผมดีที่สุด เท่านี้ก้อน่าจะพอแล้ว

    ส่วนเรื่องนัท ผู้หญิงที่มันชอบ มันก้อเลิกโทตามตื๊อเค้าแล้วล่ะ (เมิงก้อลองไม่เลิกดิ่ สาดด)

    ผมเองก้อห่างๆจากพลอยไปเหมือนกัน เอาเวลามาใช้ด้วยกันดีกว่า

    และสุดท้ายก้อถึงวันสุดท้ายของการสอบไฟนอลครับ วันนี้มีแค่ สอง วิชา เลยจะทำให้พวกผมสอบเส็ดตั้งแต่ ยังไม่เที่ยง

    แน่นอนว่า วันนี้พวกเพื่อนๆผมก้อนัดรวมกันไปเที่ยวแหง คิดว่าจะไปดูหนังกันอ่ะครับ...

    วันนี้ผมก้อมา รร ตั้งแต่เช้าเหมือนเดิม จนพอได้เวลาใกล้เขาแถว ผมก้อจะเดินเอากระเป๋าไปวางไว้หน้าห้องสอบ แต่...

    ทำไมไอ้เบียร์ยังไม่โทมาวะ สงสัยแม่งจะมาสายแหง... จะโทไปดีป่าววะ ไม่เอาดีกว่า ไม่อยากโทหาแม่ง กุเล่นตัว...

    จนเข้าแถว ผมก้อยังไม่เหนมันมา... จนเดินเข้าห้องสอบมันก้อยังไม่มา... จนอาจารย์เรียกเข้าสอบ มันก้อยังไม่มา...

    เฮ้ยย... นี่มันอะไรกันวะ

    เมื่อคืนโทไปหามัน แม่มันก้อรับบอกว่ามันนอนแล้ว ก้อเลยไม่ได้คุยกัน...

    พอสอบเส็ดวิชาแรก ผมก้อลองถามไอ้แบงค์ครับ ว่ามันรู้รึเปล่าว่าทำไมไอ้เบียร์ไม่มา เพราะเหนมันบ้านใกล้กัน

    มันก้อตอบผมว่าไม่รู้ ว่าจะโทถามมันเหมือนกันเนี่ย ผมเลยตัดสินใจบอกมัน.. กุโทเอง

    ไอ้เบียร์มันใช้ pct ครับ แต่ผมโทหามันกี่ทีๆ มันก้อไม่รับสาย... ผมเริ่มใจไม่ดีแล้วครับ (เสียไปหลายตังอยู่) มันเปนอะไรไปรึเปล่าวะ

    เพื่อนผมก้อเริ่มสงสัยกันใหญ่แล้ว ว่าทำไมมันไม่มา แต่ว่าคนที่จะสนใจจริงๆ ก้อมีแค่ไม่กี่คนหรอกนะครับ เพราะคนอื่นมันไม่รู้เรื่องร่างชัยของไอ้เบียร์กัน...

    พอสอบวิชาที่สองเส็ด ผมตัดสินใจโทเข้าบ้านครับ มีคนรับแล้วครับในที่สุด เปนคนใช้บ้านมันครับ พอผมขอสายเบียร์เท่านั้นแหละ
 
   คำตอบที่ผมได้ยินกลับมามันทำให้ผมถึงกับเข่าอ่อนเลยทีเดียว...

    คำตอบที่ผมได้กลับมาคือ เสียงร้องไห้ครับ...

    ไอ้เหี้ย มึงร้องไห้ทำไมวะ กุขอสายไอ้เบียร์ แล้วมึงจะร้องไห้ทำเหี้ยอะไรเนี่ย!

    ผมก้อถามพี่เขาว่า เกิดอะไรขึ้นครับ ทำไมมันไม่มาสอบ พี่เขาจึงตอบกลับมาว่า ไอ้เบียร์อาการทรุดหนัก ถูกหามส่งโรงพยาบาลตั้งแต่เมื่อคืน

    ตอนนี้พวกคนงานที่บ้านก้อยังไม่รู้เลยว่า มันเปนยังไงบ้าง เพราะยังไม่มีใครติดต่อกลับมาที่บ้านเลย...

    แค่นั้น ผมก้อวางหูไปแล้วครับ ผมแทบไม่ได้ยินอะไรเลยด้วยซ้ำ หลังจากคำพูดที่ว่า มันถูกหามส่งโรงบาลตั้งแต่เมื่อคืน...

    หลังจากวางโทรศัพท์ น้ำตาของผมมันก้อเริ่มไหลลงมาแล้ว... เพื่อนผมรีบเข้ามารุมถามกันใหญ่ว่าเกิดอะไรขึ้น

    ผมก้อบอกพวกมันไปตามที่ผมได้ยินมาครับ ตอนนี้ผมไม่แคร์แล้วล่ะ ว่าจะมีใครรู้ไม่รู้เรื่องของไอ้เบียร์บ้าง

    กูรู้แต่ว่า... คนที่กูรัก กำลังจะจากกูไปอีกแล้ว...

    เพื่อนผมหลายคนก้อตกใจมากที่ได้ยินข่าวนี้ มันช่างเหมือนไฟลามทุ่งจริงๆ...

    ทุกคนที่รู้จักไอ้เบียร์รู้เรื่องของมันภายในเวลาไม่ถึง ชม ระหว่างรอเข้าห้องสอบวิชาต่อไป

    เพื่อนผมหลายคนรวมทั้งไอ้แบงค์และไอ้ต่ายก้อเข้ามาปลอบผม ว่าอย่าคิดมาก มันอาจจะไม่เปนอะไรก้อได้ อย่าเพิ่งคิดไปเองเลย

    แต่หน้าไอ้ต่ายน่ะซีดเผือด ส่วนไอ้แบงค์ก้อตาแดงแล้วเหมือนกัน... นึกดูสิครับ หามส่งโรงพยาบาล...

    พ่อกับแม่ก้อไม่ได้ติดต่อที่บ้านเลยตั้งแต่เมื่อคืน... นี่มันเหี้ยอะไรกันเนี่ย!

    ผมเข้าสอบวิชาต่อไปอย่างไม่มีวิญญาณเหลืออยู่เลย ผมไม่รู้แม้แต่นิดเดียว ว่าผมกาอะไรลงไปบ้าง

    พอทำเส็ด ผมก้อตรงออกจาก รร ตั้งใจจะกลับบ้านทันที ผมไม่คิดจะอยู่รอใครแล้ว ไม่คิดจะรับรู้อะไรอีกทั้งนั้น

    ในหัวของผมมันมีอยู่เพียงอย่างเดียวก้อคือ

    ไอ้เบียร์... มึงเป็นยังไงบ้าง มึงจะเปนอะไรมั๊ย มึงจะจากกุไปมั๊ย มึงห้ามเปนอะไรนะเว้ย...

   แล้วน้ำตาของผมมันก้อไหลออกมาโดยที่ผมไม่สนใจจะหยุดมัน แล้วก้อไม่สนใจสายตาคนรอบข้างแล้วล่ะครับ

    ผมตั้งใจที่จะตรงกลับบ้านทันที แต่ว่าขาของผมมันไม่มีแรงจะก้าวเดินอีกต่อไปแล้ว...

    ที่ที่ผมหยุดแล้วทิ้งตัวลงนั่งบนพื้น คือ ลานจอดรถชั้นใต้ดินของห้างที่อยู่ใกล้ รร ผม ผู้คนเดินผ่านไปผ่านมา ผมก้อไม่สนใจใครทั้งนั้น

   ผมปิดโทรศัพท์ตั้งแต่ก่อนเข้าห้องสอบ แล้วตอนนี้ผมก้อยังไม่พร้อมที่จะเปิดมัน ผมไม่รู้ตัวว่าผมนั่งอยู่นานขนาดไหน

   จนเพื่อนผมกลุ่มใหญ่ เดินเข้ามาหาผม นำมาโดยไอ้ต่าย...

   พวกมันมาตามหาผมกันครับ...

   เออ กุก้อโง่นะ เสือกมาหยุดอยู่กลางทางระหว่าง รร กับทางเข้าห้าง...

    แต่ผมไม่มีอารมณ์จะคุยกับใครทั้งนั้นแล้ว ไอ้ต่ายจึงบอกให้ทุกคนกลับไปก่อน แต่มันกลับมานั่งอยู่ข้างๆผมแทน (แล้วทำไมมึงไม่ไปวะ)

   มันปล่อยให้ผมอยู่เงียบๆสักพักนึง จนผมรู้สึกดีขี้นแล้วเกรงใจมัน จึงบอกให้มันกลับไปก่อนเถอะ ผมไม่เปนไรแล้ว จะกลับบ้าน ไม่ต้องห่วงหรอก...

   ไอ้ต่ายจึงบอกกับผมว่า สิ่งที่สำคัญที่สุดคือกำลังใจที่แกจะมีให้มันนะ

    อย่าลืมว่าเมื่อไหร่ที่แกทิ้ง ‘สิ่งๆนั้น’ ไป นั่นเท่ากับแกทอดทิ้งมันไปแล้วจริงๆ...

    ผมหันมาแล้วยิ้มให้มัน แล้วจึงออกเดินกลับบ้านไป...

    ต่ายมันพูดถูกทุกอย่างครับ ทำไมผมต้องตีโพยตีพายด้วย มันไปโรงบาลเพื่อที่จะไป ‘รักษา’ ไม่ใช่เรอะ ไม่ใช่ว่ามันไปวัด เพื่อไป เผา สักหน่อย

    กุเองควรจะต้องเข้มแข็งไว้สิ แล้วรอข่าวจากแม่มัน ว่ามันเปนยังไงบ้าง ไม่ใช่ไปคิดแต่ในแง่ร้ายว่ามันจะจากเราไป...

    เราต้องเปนกำลังใจให้มันเสมอสิ ต้องเชื่อในตัวมัน มันแข็งแรงจะตาย มันต้องไม่ปนอะไรง่ายๆแน่นอน...

    แล้วถ้ามีอะไร แม่ไอ้เบียร์ต้องโทมาบอกกุแน่นอน หรืออย่างน้อยๆ... ไอ้แบงค์ก้อต้องรู้แล้วบอกกุแน่ๆล่ะวะ...

    แต่ผมไม่มีวันรู้เลยครับ ว่าไอ้ความแข็งแรงของมันเนี่ยแหละ ที่ทำให้เรื่องราวมันแย่ลงไปอีก...

...............

forsaken

  • บุคคลทั่วไป
 :impress: ลุ้น ๆ จะเปนไรมากป่าวไม่รู้...

CoMMuNiTY Of ThAiBoYsLoVE






suregirl

  • บุคคลทั่วไป
โหเพิ่งHappy อยู่เมื่อกี้ เข้าโหมดเศร้าอีกล่ะ ฮือ ๆๆ  :monkeysad:

taebin7

  • บุคคลทั่วไป

ออฟไลน์ Junrai_Hyper™

  • พูห์น้อยกลอยใจ
  • Global Moderator
  • เป็ดArtemis
  • *
  • กระทู้: 4842
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +777/-50
ตอนที่ 12
[/b]

หลังจากกลับถึงบ้าน ผมตัดสินใจโทหาไอ้ต่าย เพื่อบอกมันว่าผมกลับถึงบ้านโดนสวัสดิภาพแล้ว ไม่ต้องเปนห่วง แล้วก้อขอบใจมันมาก ผมไม่เปนอะไรแล้ว...

 อีกคนที่ผมโทหาคือ ไอ้แบงค์ เพื่อที่บอกมันว่าไม่เปนอะไรแล้ว แล้วถามมันด้วยว่า พอรู้เรื่องของไอ้เบียร์รึยัง (ตอนนั้นเปนเวลาประมาน บ่ายโมงนิดๆ)

มันก้อยังไม่รู้อะไรเหมือนกัน

แต่มันสัญญาว่า จะให้แม่มันลองสืบถามดูให้ เพราะแม่มันรู้จักกันครับ และมันจะโทมาบอกผมเปนคนแรกแน่ๆ...

พอวางโทรศัพท์ ผมก้อตัดสินใจแล้ว ว่าจะไม่เศร้า ไม่กระต่ายตื่นตูมไป มันช่างน่าอายจริงๆวันนี้ ที่ผมเปนไปซะขนาดนั้น...

ผมเลยตัดสินใจจะอาบน้ำนอนซักงีบ พักผ่อนสมองสักหน่อย ไหนๆก้อสอบเส็ดวันสุดท้ายแล้วนี่

แต่พอเดินขึ้นไปบนห้องเท่านั้นแหละ... ภาพทุกอย่างมันก้อพรั่งพรูเข้ามาหาผมจนตั้งตัวแทบไม่ติด...

นั่นเปนการมาบ้านผมครั้งแรกของไอ้เบียร์... แล้วมันจะเปนครั้งสุดท้ายมั๊ยวะ... ผมเริ่มสะอึกแล้ว

ผมมองไปยังหน้าทีวี ภาพที่มันนอนหลับตาพริ้มอยู่บนตักผม มันก้อหมุนเข้ามา

ใบหน้าของมัน ที่กำลังนอนหลับตาพริ้ม...

น้ำเสียงของมันที่พูดว่า กูก้อรักมึง

เสียงหัวเราะของมัน

ใบหน้ายามหลับของมัน

ความอบอุ่นที่มันกอดผมเอาไว้

ความรู้สึกดีๆ ที่ผมกับมันเคยมีให้กัน

ผมหยุดไม่ได้แล้ว... ผมหยุดร้องไห้ไม่ได้จริงๆ

ผมทำได้แค่ทิ้งตัวลงบนเตียง ซุกหน้าลงกับหมอน แล้วร้องไห้ออกมาดังๆเท่านั้น

.........

มีใครเคยเป็นเหมือนผมมั่งมั๊ยครับ

เวลาที่รู้สึกเศร้าสุดๆเนี่ย

ยิ่งเวลาพยายามจะทำใจกับมันไปด้วยแล้ว

แต่พอมีอะไรมากระทบเราหน่อยนึง

มันเหมือนจะยิ่งแย่ลงไปกว่าเดิมซะอีก

ใครจะรู้ว่า จริงๆแล้วผมเปนคนที่อ่อนไหวมากๆเลยนะครับ

และสิ่งที่ผมเกลียด และกลัวมากที่สุดก้อคือ

“การสูญเสีย”

ผมมักเลือกที่จะเปนฝ่ายเดินจากไป มากกว่าจะให้ใคร มาจากผมไป

ผมเลือกที่จะเจ็บและสูญเสีย มากกว่า จะให้ใครต้องมาสูญเสียสิ่งใดเพราะผม

.........

ผมโทษตัวเองทุกๆอย่าง

เพราะความเอาแต่ใจ

เพราะความเห็นแก่ตัวของผม

ที่ผมอยากให้มันมาที่บ้าน

ทั้งๆที่รู้ทั้งรู้ ว่าร่างกายมันเปนยังไง

ทั้งๆที่รู้ทั้งรู้ ว่าแม่มันเฝ้าคอยดูแลมันขนาดไหน

ทั้งๆที่รู้... ว่าเพื่อนคนไหนชวนมันไปเที่ยว มันก้อไม่เคยไปเลยด้วยซ้ำ

แต่กู... กูกลับเอาแต่ใจจะให้มันมาให้ได้

ถ้าแม่มันจะโกรธ จะเกลียดมึง... มันก้อสมควรแล้ว

ไอ้เหี้ยต้น!

...........

วันนั้น ผมร้องไห้จนหลับคาหมอน ทั้งชุดนักเรียนนั่นแหละ

ตื่นมาอีกทีก้อ บ่ายสี่กว่าๆแล้ว ใกล้ได้เวลาที่บ้านผมเริ่มจะกลับมากันแล้ว

ผมจึงลุกขึ้นไปอาบน้ำ แต่งตัวให้เรียบร้อย แล้วจึงลงมาหาอะไรกิน เพราะไม่ได้กินอะไรเลยตั้งแต่เที่ยง...

แล้วโทรศัพท์ผมก้อดัง

แม่ไอ้เบียร์โทมา!!

ผมรีบกดปุ่มรับทันที

“ฮัลโหล ครับ”

“ต้นเหรอลูก”

“ครับใช่ครับแม่ เบียร์เปนยังไงมั่งครับ” ผมรีบถามถึงมันก่อนเลย

“ใช่ต้นจริงๆด้วย ที่โทเข้าบ้านแม่เมื่อเช้าใช่มั๊ยลูก”

“เอ่ออ ครับ ผมเองครับ ขอโทษด้วยนะครับ”

“ไม่ต้องขอโทษหรอกลูก จะขอโทษทำไมล่ะ แม่สิต้องขอโทษที่ไม่ได้โทบอกต้นไวๆ เผอิญแม่ก้อยุ่งๆกันน่ะลูกนะ”

“ครับ ผมเข้าใจครับ ไม่ต้องขอโทษผมหรอกครับ... แล้วอาการมันเป็นยังไงบ้างครับ” ผมยังอยากรีบๆรู้อาการของมันจะแย่อยู่แล้ว

มือไม้ผมสั่นไปหมด กลัวคำตอบที่ผมจะได้ยินจริงๆ...

“... เบียร์เค้าไม่เปนอะไรหรอกลูก แต่ช่วงนี้ต้องนอนพักรักษาตัวที่โรงพยาบาลสักระยะ คงอาจจะตลอดช่วงปิดเทอมน่ะแหละ

เกร็ดเลือดเค้าลดลงเยอะ หมอต้องให้อยู่ในห้องปลอดเชื้อตลอด

ตอนนี้เค้าก้อฟื้นแล้ว แล้วก้อบอกให้แม่โทมาบอกต้นนี่แหละลูก เค้ากลัวต้นจะเปนห่วง”

แม่มันตอบผมมา หัวใจผมผองโตเลยครับ เพิ่งรู้นี่เองว่า เวลาคนเราดีใจจนตัวลอยมันเปนยังไง ผมงี้ทั้งดีใจ ทั้งโล่งใจ หลายๆๆอย่าง

“อ่อครับ แล้วตอนนี้มันอยู่ที่โรงพยาบาลไหนอ่ะครับ พวกผมไปเยี่ยมได้รึเปล่า” ผมใช้คำว่า พวกผม แฮะ

“ตอนนี้เค้าอยู่ที่โรงพยาบาลจุฬา แม่เพิ่งย้ายเค้ามาจากโรงพยาบาลประจำ มาที่นี่เค้ามีรักษาโรคนี้โดยเฉพาะ

ส่วนเรื่องมาเยี่ยม คงต้องรอสักพักนะลูก เพราะว่าเค้ายังอ่อนแออยู่มาก รอให้เค้าดีขึ้นกว่านี้อีกนิดนึง แล้วแม่จะโทไปบอกต้นเองนะ

แต่ว่า ต้นจะไปเยี่ยม ไปนั่งคุยกับเค้าคงไม่ได้นะ เพราะมันเปนห้องปลอดเชื้อ เราเข้าไปไม่ได้น่ะ”

โอ๊ยยย ผมไม่สนใจหรอกครับ ขอแค่ให้ได้เจอหน้ามัน ผมก้อดีใจแล้ว

“ครับ ได้ครับ งั้นเดี๋ยวผมโทบอกพวกไอ้แบงค์ก่อนนะครับ พวกมันก้อเปนห่วงเบียร์อยู่เหมือนกัน ขอบคุณๆคุณแม่มากๆนะครับ ที่โทบอกผม”

แล้วผมกับแม่มันก้อร่ำลากันสักพัก ผมก้อกดปุ่มโทหา ไอ้แบงค์และคนอื่นๆทันที เพื่อเล่าข่าวดีให้พวกมันฟัง...

จริงๆแล้ว ผมน่ะจำไม่ได้หรอกนะครับ ว่าไอ้เกร็ดเลือดน่ะ มันควรจะมีอยู่เท่าไหร่ แล้วไอ้เบียร์มันมีอยู่แค่ไหนบ้าง แม่งไม่รู้เปนห่าอะไร

ผมจำไม่เคยได้เลย ทั้งๆที่เพื่อนผมมันก้อคุยกันเรื่องนี้ออกบ่อยนะ -*-

ตอนนี้ผมรอที่จะได้ไปเจอหน้ามันไม่ไหวแล้วล่ะครับ

............

หลังจากนั้น ผมก้อโทหาไอ้เบียร์ทุกวันเลยครับ

คุยได้นานมั่ง สั้นมั่ง ผมก้อยังรู้สึกดีกว่าที่จะไม่โทหามันเลย... ผมไม่เอาแล้วล่ะครับ ที่ไม่ได้คุยกับมันคืนนึง

วันรุ่งขึ้นมันอาการทรุดหนักโดนหามไปอีกน่ะ ยังดีที่หมอเขาให้มันเอา pct เข้าไปในห้องได้ แต่มันนะ เรียกร้องให้แม่มันซื้อทีวีเข้าไปให้มันด้วย

ซึ่งแม่มันก้อยอมครับ แถมเกมที่มันอยากได้อีก เหนมั๊ยครับว่าแม่มันรักมันแค่ไหน... ผมเลยยิ่งรู้สึกไม่ดีเข้าไปอีก ที่ทำให้มัต้องเข้าโรงบาลแบบนี้

“เบียร์... กูขอโทษนะเว้ย” ผมตัดสินใจขอโทษมัน วันนึงที่ผมโทคุยกะมันอยู่

“เรื่องอะไรวะ”

“เอ่อ ที่กูบังคับให้มึงมาบ้านกูอ่ะ ถ้ามึงไม่มา อาการมึงก้อคงไม่ทรุดลงหรอก กุรู้ตัวดี ว่าต้นเหตุมันเปนเพราะกู...

แต่กูก้อยังไม่กล้าที่จะบอกแม่มึงตามตรงอยู่ดี กู... กูไม่รู้จะพูดยังไงว่ะ คือกูขอโทษนะเว้ย”

“ไอ้บ้า! ใครเขาบอกว่าเปนเพราะมึงวะ แม่กูเค้ายังไม่แม้แต่คิดด้วยซ้ำว่าเปนเพราะมึงน่ะ อย่างแรกเลยนะเว้ย

คือ มึงไม่ได้บังคับกู มึงคิดดูดีๆดิ๊ กูขอแม่กูไปเอง... สอง คือ ที่กูไม่สบายเนี่ย มันไม่ได้มาจากมึงเลยนะ กูเข้าโรงบาลมาตั้งตลอดสองปีกว่าแล้วนะ

มันเปนเรื่องธรรมดาสำหรับกูไปแล้ว อย่ามาโทษตัวเองได้ป่ะ กูไม่ชอบนะเว้ย มึงอยากให้กูโกรธมึงงั้นเหรอ ฮึ”

“เอ่ออ เออก้อได้” ผมยอมรับมันแต่โดยดี “ว่าแต่ เมื่อไหรมึงจะออกมาอ่ะ”

“ไม่รู้เหมือนกัน แม่กู... เขาก้อไม่ค่อยบอกกูหรอกว่ากูเปนยังไงบ้างแล้ว...” เสียงมันฟังดูแย่ๆครับ ผมเลยไม่อยากเซ้าซี้มันอีก

วันนั้น ผมจึงคุยกับมันแค่นั้นแล้วปล่อยให้มันไปนอนพักจะดีกว่า

หลังจากนั้นอีก 2 วันผมถึงมีเวลาไปเยี่ยมมันได้ คือ... ไปกับเพื่อนๆที่ห้องน่ะครับ ทั้งหมดก้อ 10 กว่าชีวิต เกือบทุกคนมาหามันเปนครั้งแรก

ยกเว้นไอ้เชี่ย ชัย ครับ (แม่งมาประมาณ 5 รอบแล้วมั๊ง)

ดังนั้นพวกผมทุกคนจึงเคลื่อนขบวนตามไอ้ชัยด้วยความหมั่นไส้ (อันนี้สงสัยจะกุคนเดียวรึเปล่า) พอขึ้นไปบนแผนกที่ไอ้เบียร์นอน ก้อเจอแม่มันและพี่มันครับ

พวกผมก้อไหว้ตามระเบียบ โดยที่ไอ้ชัยนี่ท่าทางซี้กับแม่และพี่ของไอ้เบียร์ซะเหลือเกิน

 (เอออ ไปเปนลูกบุญธรรมเค้าเลยมั๊ยล่ะ สาดด) ส่วนผมไม่ค่อยได้คุยกับแม่มันหรอกครับ ผมเปนคนขี้เกรงใจน่ะ...

ตามระเบียบแล้ว เค้าจะให้เข้าไปได้แค่ครั้งละ 3 คนครับ แล้วก้อต้องสวมชุดปลอดเชื่อ ต้องล้างมือ สวมถุงมืออะไรพวกนั้น แล้วก้อเอา pct แม่มันเข้าไปด้วย...

คือ พอเปิดประตูลิฟท์ออกมาเนี่ย มันจะเปนเหมือนห้องรับแขกเล็กๆอ่ะครับ แล้วขวามือก้อจะเปนเคาน์เตอร์ปกติอ่ะครับ

ไม่รู้เรียกว่าไร ที่มีพยาบาลทำงานอยู่ข้างหลังอ่ะนะ

 แต่ว่าจะเปนห้องปิดกระจกสนิทหมด แล้วก้อมีประตูกระจก พอมองเข้าไปจะเหนเปนทางเดินยาวๆ แล้วมีห้องหลายห้องอยู่แต่ละฟากของสองข้างทางด้วย...

ไอ้เบียร์ก้ออยู่ 1 ในห้องนั้นแหละครับ... พอพวกผม 3 คนแต่งตัวกันเรียบร้อยแล้วก้อ เดินเข้าไปริมสุดทางเดินขวามือก้อเปนห้องมัน

ตรงประตูก้อจะมีช่องกระจกพอมองเข้าไปได้

เพื่อนผมผู้หญิง 2 คนที่เข้าไปพร้อมผมก้อดีอกดีใจ คุยกับไอ้เบียร์ผ่าน pct กันใหญ่ ส่วนผมน่ะ กระจกยังไม่กล้ามองเลย ไม่รู้เปนเหี้ยไรครับ ตื่นเต้นตุ๊มต่อม

พอเพื่อนผม มันถอยออกมาให้ผมส่องมันบ้าง (ยังกะส่องสัตว์ในสวนสัตว์แน่ะ) แล้วก้อยื่นโทรศัพท์ให้

พอผมเหนสารรูปมัน ผมพูดจริงๆว่า ตกใจมาก...

มันผอมมากเลยครับ แก้มก้อดุตอบๆลงไป มันยิ้มอยู่ก้อจริงนะ

แต่ว่ามันยังดูโทรมอย่างเหนได้ชัดเลย (แต่ยังหล่ออยู่ดี) ผมเลยตัดสินใจไม่มองหน้ามัน แล้วคุยอย่างเดียวดีกว่า...

คุยกับมันไม่นานหรอกครับ เค้าให้แค่ครั้งละประมาณ 10 นาทีเอง ผมก้อออกไปแล้วให้เพื่อนกลุ่มอื่นเข้ามาเยี่ยมมันต่อ

....................

หลังจากไปเยี่มมมันวันนั้น ผมก้อยังมีไปกับเพื่อนสนิทผมอีก 2-3 ครั้งครับ

ทั้งๆที่รู้นะว่า... มันกำชับแม่มันไว้ตั้งแต่แรกแล้ว ว่าไม่ให้ใครมาเยี่ยม... โดยเฉพาะผม

เฮ้ออ นี่แหละนิสัยมัน วันนั้นหลังจากพวกผมกลับ มันก้อทะเลาะกับแม่มันเลย เพราะเพื่อนเสือกแห่ไปกันซะเยอะ...

มันไม่อยากให้ใครเห็นมันในสภาพแบบนี้นั่นเองแหละ อย่างที่ผมเคยบอกไว้ตั้งแต่แรกแล้วน่ะครับ

แล้วนี่ยิ่งกลายเปนรู้กันทั้งระดับชั้นว่า มอ4 ปีนี้ มีคนเปนมะเร็งเม็ดเลือดขาวหนึ่งคน มันยิ่งไม่ชอบใจใหญ่เลย...

ผมก้อง้อมันตั้งนาน บอกมันว่าไม่ให้มันคิดอะไรแบบนี้ ให้หัดยอมรับความหวังดีความเห้นใจจากผู้คนรอบข้างซะบ้าง ซึ่งมันก้อ...ไม่ฟังผมครับ แม่งดื้อ แถมยังห้ามผมไม่ให้ไปอีก กุเลยไปไง กุก้อดื้อนะเว้ย สาด

แต่ผมจำได้ว่า วันนั้นเปนครั้งสุดท้ายที่ผมจะได้ไปเยี่ยมมันครับ เพราะปิดเทอม1เนี่ย มันแปบเดียวเอง

แต่ไอ้เบียร์ก้อยังไม่รู้ว่าจะได้ออกจากโรงพยาบาลเมื่อไหร่...

“ฮัลโหล ต้นเหรอครับลูก วันนี้ต้นจะมาเยี่ยมน้องเบียร์รึเปล่า” แม่มันโทมาหาผมในตอนเช้าครับ

“อ๋อครับ ไปครับ เดี๋ยวไปกับเพื่อนอีก 2 คนครับ แม่จะเอาอะไรรึเปล่าครับ” ก้อคิดว่าแม่มันอยากได้อะไรมั๊ย จะได้ซื้อเข้าไปให้

“อ๋อ เปล่าหรอกลูก คือ... เบียร์เค้าบอกแม่ว่า ให้โทบอกไม่ให้ลูกต้นมาน่ะวันนี้” เอาอีกและ ไอ้ห่านี่ อะไรของมันวะ

“อ้าว ทำไมล่ะครับ”

“คือ... เค้ายังไม่อยากเจอหน้าใครน่ะ เค้า เอ่อ... ต้องอยู่โรงบาลต่อไปอีกสักพัก แล้วเค้าเสียใจที่ไม่ได้กลับไปโรงเรียนน่ะลูก”

“เอ่อ ครับ แล้วถ้างั้นมันก้อน่าจะให้พวกผมไปนะครับเนี่ย ถ้าเสียใจที่จะไม่ได้เจอเพื่อนที่ รร ล่ะก้อ” ผมล่ะงงกับความคิดมันจริงๆ

“แล้ว... ว่าแต่ ต้องอยู่อีกนานไหมล่ะครับ” ผมถามแม่มัน

“คือ...” แม่มันเงียบไปพักหนึ่ง “น้องเบียร์เค้า อาการทรุดลงน่ะลูก ยาที่หมอให้ไปช่วยรักษาอะไรไม่ได้เลย ร่างกายเค้าต่อต้านตลอด

หมอบอกว่า เปนเพราะร่างกายเค้าแข็งแรงเกินไป ต้องให้ยาที่มันแรงขึ้น แต่ว่าก้อยังไม่ได้ผล...”

น้ำเสียงแม่มันเริ่มแย่งลงแล้วครับ “... หมอเลยตัดสินใจจะให้เค้าเข้ารักษาโดยการปลูกถ่ายไขสันหลังน่ะ... แล้ว... คือ...” จ

นถึงตอนนี้ ผมฟังน้ำเสียงแม่มันคงเริ่มต้นจะร้องไห้แล้ว ผมยิ่งใจไม่ดีเข้าไปใหญ่

“ครับๆ ผมเข้าใจแล้วครับ เดี๋ยวผมโทบอกเพื่อนเองครับ ว่าไม่ไปกันแล้ว” เชี่ย... มันหมายความว่ายังไงวะ

“จ๊ะลูก แต่ว่า ต้นไม่ต้องบอกเพื่อนได้มั๊ยลูก ว่าทำไม”

“ครับ ได้ครับ แล้ว... คือ ถ้าปลูกถ่ายแล้ว มันจะหายมั๊ยครับ” ผมถามไปด้วยความไม่มั่นใจเลย... มันจะเปนอย่างที่ผมกลัวรึเปล่า..
.
“หมอบอกว่า 50-50 น่ะ เพราะงี้ น้องเบียร์เค้าถึง... เอ่อ... ไม่อยากเจอใครทั้งนั้นตอนนี้น่ะ แม่ก้อกำลังปลอบเค้าอยู่เหมือนกัน”

คำตอบของแม่มัน ทำเอาผมแทบทรุด...

50-50 เรอะ! บ้ารึเปล่า!! เท่าที่กูรู้มา ยังไม่เคยมีใครเปนโรคนี้ปลูกถ่ายแล้วหายเลยนะเว้ยยย!!

แค่การต้องปลูกถ่ายไขสันหลัง ก้อหมายความว่า ร่างชัยมันถึงขีดสุดแล้วด้วยซ้ำ!!!

อย่างนี้ผลลัพธ์มันจะเปนยังไงกัน! ตายช้ากับตายเร็วขึ้นเท่านั้นรึไง มันบ้าไปแล้วเหรอ นี่มันอะไรกัน!!

“แล้ว แล้วไม่มีวิธีอื่นแล้วเหรอครับ” ผมถามแม่มันด้วยน้ำเสียงที่พยายามควบคุมไม่ให้มันสั่นมากที่สุด

“ไม่จ้ะ แล้วเบียร์เค้าก้อเลือกที่จะทำเองด้วย เปนการตัดสินใจของเขา แม่ ก้อต้องทำตามที่เขาต้องการ”

แม่มันร้องไห้หนักขึ้นเรื่อยๆ ผมได้ยินเสียงผู้ชายปลอบอยู่ข้างๆ น่าจะเปนพ่อมัน

“ครับ... ครับ แม่ แต่ถ้าหลังจากนั้น... หลังจากมันทำเส็ดแล้ว ผม... ผมขอไปเยี่ยมมันนะครับ”

“ได้จ้ะลูก แล้วแม่จะโทไปบอกต้นนะ แค่นี้นะก่อนนะลูก แม่ต้องไปแล้ว”

“ครับ สวัสดีครับ”

โลกทั้งโลกมันเหมือนจะถล่มลงมาตรงหน้าผมเดี๋ยวนั้นเลย

น้ำตา ที่เคยสัญญากับมันไว้ ว่าจะไม่ให้มันไหลออกมาเพราะมันอีก ก้อไม่สามารถจะห้ามได้อีกแล้ว...

กูขอโทษนะเบียร์ กูผิดสัญญาที่ให้ไว้กับมึงอีกแล้ว...

กูขอโทษ

………..

โฮวววว์

พิมเอง

อ่านเอง

รีโพสเอง

ซึ้งเอง

T-T

วันนี้เจอมัน อยากเล่ามากกกกกกกกก

ไว้เล่าทีหลังเน้อออ

T-T

..................

suregirl

  • บุคคลทั่วไป

ออฟไลน์ ExecutioneR

  • จุ๊บ จู๊บบบบบ ~~ ♥
  • เป็ดนักเขียน
  • เป็ดAphrodite
  • *
  • กระทู้: 4243
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +1722/-40
    • FB Page
 :try2: เขินๆแฮะ

งานเขียนของตัวเองครั้งแรก ไม่ได้เรื่องเลยยย ไม่ชอบๆๆ  :serius2:

ขอบคุณทุกคนนะครับ คิดว่าเดี๋ยวเร็วๆนี้ผมคงเอาเรื่องใหม่ของผมมาลงให้ในเวบนี้ด้วยนะคับ   :-[

ปล. คิดถึงไอ้เบียร์  :impress:

taebin7

  • บุคคลทั่วไป

beta

  • บุคคลทั่วไป
ซึ้งมากครับ
มาโพสท์ต่อไวๆนะครับ

ออฟไลน์ Junrai_Hyper™

  • พูห์น้อยกลอยใจ
  • Global Moderator
  • เป็ดArtemis
  • *
  • กระทู้: 4842
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +777/-50
อ้าวววว เจ้าของเรื่องมาเองเลย

ขอบคุณ ExecutioneR  นะครับ สำหรับเรื่องดีๆ

จะติดตามผลงานต่อไปครับ :yeb:

ออฟไลน์ Junrai_Hyper™

  • พูห์น้อยกลอยใจ
  • Global Moderator
  • เป็ดArtemis
  • *
  • กระทู้: 4842
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +777/-50
ตอนที่ 13

เลขสวย

ข่าวเรื่องที่ไอ้เบียร์ต้องปลูกถ่ายไขสันหลังก้อแพร่ไปไวเหมือนกัน ทั้งๆที่ผมบอกเพื่อนแค่ 3 คนคือ ไอ้ต่าย ไอ้แบงค์แล้วก้อไอ้บาส เองนะ

แต่มันไม่มีความหมายอะไรอีกแล้วล่ะครับว่าใครจะรู้อะไรหรือไม่รู้อะไรบ้าง เพราะสิ่งที่สำคัญที่สุดคือ “ทุกคน” ล้วนแต่รักและเปนห่วงมันกันทั้งนั้น...

พวกเราทุกคน ทั้งเพื่อนในห้องและเพื่อนต่างห้อง... ทุกคนที่รู้จักมัน ต่างก้อร่วมกันภาวนาให้มันจะต้องหายดีและกลับมาอยู่กับพวกเราอีกครั้ง...

มึงรู้ตัวบ้างมั๊ยไอ้เบียร์... ว่าคนที่เค้ารักมึง มีอยู่มากมายถึงเพียงนี้เชียวนะเว้ย

มึงรู้บ้างมั๊ย... ว่ามีคนที่รอคอยการกลับมาของมึงอยู่มากขนาดไหน...

เพราะฉะนั้นมึงจะต้องหายดี แล้วกลับมาหาพวกกูนะ...

ผมเฝ้าคิดแต่เรื่องนี้ ทุกคืนๆ จนผมจะเป็นโรคประสาทไปจริงๆ ถ้าไม่ได้เพื่อนๆหลายคนให้คุยด้วย ผมคงแย่แน่ๆ

หลังจากเปิดเทอมอาทิตย์แรก พวกผมก้อซื้อสมุดเล่มหนาเล่มหนึ่งมา เพื่อให้เพื่อนๆทุกคนเขียนข้อความถึงไอ้เบียร์ เพื่อเปนกำลังใจให้มัน

เนื่องจากเราไปเยี่ยมพวกมันไม่ได้ (ทั้งที่มันไม่อยากให้ไป และ ร่างกายมันอ่อนแอมากด้วย)

ก้อมีแต่ไอ้ชัยนั่นแหละครับ ที่ไปหาแม่มันพี่มัน ที่โรงพยาบาลบ่อยๆ (ตอแหลนักนะมึง)... แต่ว่า...

กุจำไม่ได้ว่ากุเขียนไรลงไปอ่ะ

...แหะ...

แหมก้อมันนานมาแล้ว จริงๆที่นั่งเล่าอยู่นี่ก้อเพิ่งนึกขึ้นได้นะเนี่ย ว่ามีไอ้สมุดเล่มนั้นอยู่ด้วย...

แถมจำไม่ได้ด้วยอ่ะ ว่าเขียนไปรึเปล่า...

เพราะว่า คือ ผมเขินอ่ะ ถ้าจะต้องเขียนอะไรแบบนั้น ก้อเลยไม่แน่ใจว่าเขียอะไรลงไป...

แล้วนิสัยอย่างผมเนี่ย ให้ตายก้อจะมานั่งบรรยายว่า ...กุเปนห่วงมึงนะ รอคอยมึงกลับมา บลาบลาบลา...

อะไรหวานๆซึ้งๆจำพวกนั้นไม่เปนอ่ะ อย่างมากก้อคงประมาณ ...หายไวๆนะเว้ย... แค่นั้นแหละมั๊ง

เวลาผ่านไปประมาณ 2 อาทิตย์ ผมก้อได้ข่าวจากแม่ของมันว่า การปลูกถ่ายประสบความสำเร็จครับ

แต่ว่ายังต้องอยู่ดูอาการอีกสักพักหนึ่ง... พวกผมก้อดีในกันใหญ่ แล้วก้อแห่กันไปเยี่ยมมันกันอีก...

หลังจากนั้น เวลาผ่านไปอีกประมาณ 1 อาทิตย์ ผมได้มีโอกาสไปเยี่ยมมันที่โรงพยาบาลอีกครั้ง...

และครั้งนั้นก้อเปนครั้งสุดท้ายที่ผมจะได้ไปเยี่ยมมันแล้ว... เพราะว่า มันใกล้จะได้ออกจากโรงบาลแล้วครับ :)

วันนั้นผมไปกัน 4 คน และมีไอ้ชัยรออยู่ที่ โรงบาลแล้ว (ไอ้เชี่ยแม่งแรด) ผมก้อเข้าไปหามันผ่านช่องกระจกที่ประตูเหมือนเคย

“เฮ้ย เปนไงมั่งวะ จะได้ออกจากโรงบาลแล้วนี่...” ผมทักมัน... มันมีรูใหญ่ๆที่หน้าอกตั้ง 3 รู แน่ะครับ

“อืมม ก้อดีขึ้นว่ะ” เสียงมันยังคงฟังดูไม่ค่อยดีเหมือนเดิม

“ไม่เปนไรน่า ออกจากโรงบาลแล้ว จะได้กลับมาอยู่กับพวกกูไวๆไง” ผมยิ้ม

“เออ กูรู้แล้ว ก้อดีแหละ” มันยิ้มเศร้าๆ

“เปนไรป่าววะ ไอ้เบียร์” ผมเริ่มเครียดแล้วดิ่

“เปล่าหรอก” มันปฏิเสธ

“หรอ เออ งั้น... พวกกูไปก่อนนะ” ผมก้อลามัน แล้วพวกผม 3 คนก้อเดินออกมาหาแม่มัน (และไอ้ชัย) ข้างนอกห้อง

“แม่คะ แล้วเมื่อไหร่เบียร์จะได้ออกจากที่นี่ล่ะคะ คือหนูหมายถึงประมาณวันไหนเหรอคะ” เพื่อนผมที่มาด้วยกันถามแม่ไอ้เบียร์ครับ

“อีก 3 วันก้อได้กลับบ้านแล้วลูก” แม่มันตอบ

.

.

.

พวกผมคุยกับแม่มันอีกสักพัก ก้อกำลังจะขอตัวกลับ แม่มันเลยโทเข้าไปหาไอ้เบียร์เพื่อให้พวกผมบอกลามัน

เพื่อนผม 2 คนก้อบอกลามัน และผมเปนคนสุดท้าย (ไอ้ชัยยังไม่ลาครับ แม่ง จะ ยัง อยู่ ต่อ เปน เพื่อน แม่ ไอ้ เบียร์ . . . เ ฮ อ ะ )

“อืม เบียร์ กุกลับก่อนนะ”

“อืม... ต้น”

“หืม มีอะไร” ผมสงสัย

“มึงออกมาไกลๆจากพวกนั้นก่อนได้มั๊ย” ท่าทางมันมีเรื่องจะคุยกับผมแค่สองคนแฮะ

“อืม ออกมาแล้วเนี่ย มีอะไรวะ” ผมถามมันเสียงเครียด

“มึงรู้อะไรมั๊ย ว่า... จริงๆแล้วพวกที่เขาให้กลับบ้านได้... คือ ไม่มีประโยชน์ที่จะรักษาอีกต่อไปแล้วต่างหาก” มันพูดเสียงสั่นเลยครับ

“มึงว่าไงนะ หมายความว่าไงวะ มึงเอาอะไรมาพูด คิดมากน่าไอ้บ้า” ผมตกใจกับสิ่งที่ได้ยินมากๆ

“กูพูดจริงๆ คนที่อยู่ที่นี่ ห้องข้างๆกูนี่ ก้อกลับบ้านไป หลังจากกูเข้ามาไม่นาน แล้วเพิ่งตายเมื่อไม่กี่วันก่อนนี้เอง...

ไม่ใช่แค่เค้านะ แต่ทุกคนเลย ถ้ากลับไปแล้วเกิดอาการไม่ดีจะกลับมาอีกก้อได้ แต่ก้อเท่ากับมายืดเวลาตายออกไปอีกหน่อย

หรือไม่ก้อ มาตายที่นี่ แค่นั้นเอง...”... ผมแทบไม่เชื่อหูตัวเอง

“บ้าน่า มึงอย่าคิดมากสิ มึงอ่ะได้กลับไปบ้าน เพราะมึงหายแล้วต่างหาก (โรคนี้มันรักษาหายที่ไหนเล่า กูก้อรู้)

แม่มึงเขาก้อบอกว่ามึงดีขึ้นตั้งเยอะหลังจากเปลี่ยนถ่ายแล้วอ่ะ (จริงๆแล้วแม่มึงไม่ได้พูดหรอก) ถ้ามึงคิดอะไรบั่นทอนกำลังใจแบบนั้น

แล้วมันจะมีอะไรดีขึ้นเล่า อย่าคิดมากสิวะ (แต่กูอ่ะคิดไปแล้วเหมือนกัน)

มึงต้องดูแลตัวเองดีๆสิ มึงจำได้มั๊ยว่าเคยสัญญากับกูไว้แล้วนะ” ผมพยายามพูดกับมันด้วยน้ำเสียงที่ให้กำลังมากที่สุดเท่าที่ผมทำได้

“อืมม กูขอบใจนะต้น... แต่ว่าถ้ากูเปนอะไรไป มึง...”

“มึงจะไม่เปนอะไรไปทั้งนั้น เข้าใจมั๊ย!” ผมทำเสียงดุใส่มัน “กูต้องไปแล้วนะ เขาสงสัยแล้วว่ากุคุยอะไรกับมึง

ไว้มึงกลับไปบ้านแล้วกุจะไปเยี่ยมนะ เบียร์... กูรักมึงนะเว้ย”

“ขอบใจมากว่ะต้น มึงก้อเหมือนกันดูแลตัวเองด้วย กลับดีๆล่ะ รักมึง too 555 บ๊ายบายว่ะ”

“เออ บายคับ” แล้วผมก้อวาง เอา pct ไปคืนแม่มัน หลังจากนั้นพวกผม 3 คนก้อกลับบ้าน

แต่ผมตัดสินใจที่จะไม่เล่าเรื่องที่ผมคุยกับไอ้เบียร์ให้ใครฟังเด็ดขาด

.............

ปล. ลืมบอกว่า ที่มันตัดสกินเฮดเนี่ย ก้อเพราะว่าคนที่เปนโรคนี้เนี่ย ผม จะร่วงครับ

... จริงๆก้อ “ผมทุกเส้นในร่างกาย” นั่นแหละ

โอเค้

..............


ผมพยายามจะไม่ซีเรียสกับเรื่องที่มันเล่ามา... เพราะผมคิดว่า มันคงกำลังกังวลมากไปเองแหละ

เปนผมเองถ้าอยู่ในสภาพเดียวกับมัน ผมก้อคงกลัวและกังวลไปหมดทุกอย่างเหมือนกัน...

มึงหายแล้ว ถึงได้กลับบ้านนะเว้ยย ไอ้บ้า

ไอ้บ้า บ้าบ้าบ้าบ้า

หลังจากมันกลับบ้าน... ไม่สิต้องบอกว่า ก่อนที่มันจะกลับมาอยู่ที่บ้าน ที่บ้านมันมีการทำความสะอาดและฆ่าเชื้อครั้งใหญ่เลยครับ...

แล้วถ้ากูไปเยี่ยมมันเนี่ย กูจะกลายเปนตัวเชื้อโรคไปแพร่ให้มันมั๊ยเนี่ย

เรื่องงานการบ้านของมัน มันก้ออาศัยเพื่อนๆอย่างพวกผมแล้วก้อบรรดาอาจารย์ ให้ความเมตตามัน

ทำให้มันสามารถทำข้อสอบปลายภาคของเทอม 2 ได้ที่บ้าน โดยมีอาจารย์ท่านนึงมาคุมครับ

(แล้วก้ออาจารย์ท่านนี้แหละ ที่เปนคนคอยมาสอนหนังสือให้มันช่วงที่มันพักฟื้นอยู่ที่บ้านด้วย)

เวลาพวกผมไปเยี่ยมมัน มันก้อจะออกมาต้อนรับพวกผมที่ห้องคอมเหมือนเดิม

แต่ว่ามันต้องเอาผ้าปิดปากเอาไว้ตลอดเวลา และถ้ามีใครเปนหวัดแต่ (ยังเสือกอยากจะ) ไปเยี่ยมมัน ก้อจะต้องเอาผ้าปิดปากที่แม่มันให้มาใช้ด้วย

ร่างกายมันก้อแข็งแรงขึ้นเรื่อยๆ แต่โดยที่ยังอยู่ในเงื่อนไขเดิมคือ ห้ามโดนแดด ห้ามโดนฝุ่น ห้ามออกนอกบ้าน ห้ามนู่นห้ามี่ อีกสารพัด...

แต่ในที่สุดมันก้อมาเรียนกับ (พวก) ผมตอน เทอม 2 ได้ โดยที่แม่มันจริงๆก้อยังไม่ค่อยอยากให้มันมาหรอกครับ

แต่มันดื้ออยากจะมาให้ได้ แม่มันก้ออ่อนใจเลยยอมแพ้มันจนได้

มันไม่ชอบให้ร่างกายของมันอ่อนแอกว่าใครหรอกครับ เพราะงั้นบางทีแม่งก้อจะแอบไปเตะบอล ดูดบุหรี่บ้าง (อันหลังนี่โคตรเคืองเลย)

แล้วสุดท้ายมันก้อต้องเข้าโรงบาลอยู่อีก แต่ก้อไปรักษาไอ้พวกไข้หวัด (การเปนไข้สำหรับมันนี่อันตรายที่สุดแล้วครับ) ต่อมน้ำเหลืองโตอะไรเทือกนี้...

สรุปแล้ว ร่างกายของมัน หลังจากที่ปลูกถ่ายไขสันหลัง ผ่านคีโม การเจาะหน้าอก และอีกสารพัด... ก้อกำลังฟื้นตัวไปได้ด้วยดี :)

(ถึงจะต้องคอยดูแล และรักษาตัวเองอย่างดีตลอดก้อตาม) สำหรับใครที่เปนห่วงมัน ก้อไม่ต้องห่วงและนะครับ มันอ่ะแข็งแรงจะตายย

สงสัยชาติก่อนมันต้องทำบุญมาดีแน่ๆ...

(ไม่อยากทรมานคนอ่านที่กลัวว่ามันจะตาย... เอาเปนว่า ตอนนี้ มันยังไม่ตายละกันครับ)

แล้วมอ 4 ที่วุ่นวายของพวกผมก้อผ่านพ้นไป... แต่หารู้ไม่ว่า มอ 5 ที่วุ่นวายยิ่งกว่ากำลังจะมาถึง

ปล. ถึงเรื่องร่างกายของมันจะดีขึ้นเรื่อยๆ แต่ปัญหาของผมกับมันกลับไม่ได้มีแค่เรื่องสุขภาพของมันเท่านั้นน่ะสิ

โปรดติดตามตอนต่อไป... และต่อๆไป... และ ต่อ ต่อ ปายยยยย

ขอบคุณทุกท่านที่ใช้บริการ (-_-)

จบ part 1

.................

suregirl

  • บุคคลทั่วไป
ดีใจที่ได้ยินว่า ตอนนี้เบียร์ยังมีชีวิตอยู่
รีบมาต่อไว ไว อยากรู้มีอะไรเกิดขึ้น :confuse:

 

สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด


สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด