บทที่ 47
“คุณจะเดินตามผมทำไม?”
เมฆินเอาแต่เดินตามร่างบางต้อยๆ ไม่เหลือคราบซาตานหนุ่มผู้โหดร้ายอีกต่อไป…
แววตามองปรอยๆอ้อนวอน ชนินทร์พยายามไม่สบสายตาด้วย
“ก็…ผม ผมอยากขอโทษ”
“เลิกพูดคำนั้นซะที เก็บไอ้คำไร้ความหมายนั่นไว้เถอะ…แล้วก็เลิกตามผมตลอดเวลาแบบนี้ซะทีด้วย”
“แต่ผมอยากอยู่ใกล้ๆคุณ ชนินทร์…เรามาคุยกันเถอะ”
“ผมไม่มีเรื่องจะคุยกับคุณ”
“แต่ผมมี ขอร้องเถอะ อย่างน้อยเราสองคนก็…เคยมีความทรงจำร่วมกัน”
“ความทรงจำอันเลวร้ายน่ะซิ!”
“เปล่า” เมฆินจับต้นแขนให้หยุดเบาๆ ชนินทร์หันขวับ มองตรงที่มือหนาของเขาล็อคไว้ ทำให้เมฆินหน้าเจื่อนค่อยๆปล่อยมือลง
“ผมหมายถึง…เวลาที่เรารักกัน อย่าโกหกผมนะ…ว่าคุณไม่รู้สึกอะไร”
ชนินทร์หน้าแดงเรื่อขึ้นมาทันที
“ไม่เคยรู้สึกอะไร และจะไม่รู้สึกอะไรด้วยทั้งนั้น!”
“คุณโกหก ผมรู้…ว่าคุณก็หลงใหลในตัวผมเหมือนกัน”
“นี่คุณเมฑิน มันจะมากไปแล้วนะ!”
“แต่ผมรักคุณครับ ผมรักคุณนะคุณชนินทร์”
ร่างบางกัดริมฝีปากแน่น ส่งสายตาดุก็แล้ว ไล่ให้ไปก็แล้ว…เมฆินไม่มีทีท่าจะเลิกตามตื้อสักที
ชนินทร์เท้าสะเอว ถอนหายใจหนักๆ
“เอาล่ะ…ถ้าคุณยืนยันว่ารักผม บอกมาซิว่าผมเป็นคนยังไง?”
เมฆินอ้ำอึ้ง
“เอ่อ…”
“ผมชอบอะไร ไม่ชอบอะไร วันเกิดผมวันอะไร ผมชอบสีอะไรมากที่สุด ผมมีเพื่อนสนิทกี่คน ใครบ้าง ผมจบจากโรงเรียนไหน เคยมีชีวิตวัยเรียนยังไง…ของพื้นฐานแบบนี้ คุณรู้บ้างหรือเปล่า?”
เมฆินส่ายหน้าช้าๆ ความเจ็บปวดยอกเจ็บโพลงอก...
“นั่นก็เพราะคุณไม่เคยสนใจ คุณไม่เคยรู้ คุณมัวเอาแต่พยายามจะแก้แค้นผม จนเรื่องอื่นๆมันถูกบดบังไปหมดจากสายตาของคุณ ผมไม่เคยมีความสุขกับคุณหรอก…และคุณก็ไม่ได้รักผมด้วย คุณแค่…รู้สึกว่าขาดอะไรบางอย่างไป คุณเคยมีที่ระบายอารมณ์…คุณก็แค่อยากทำร้ายผมอีกซ้ำแล้วซ้ำเล่า…”
“ผม…ผมอยากทำให้คุณมีความสุข”
“งั้นก็กลับไปซะซิ”
เป็นครั้งแรกที่ชนินทร์ฉายแววตาแห่งความเจ็บปวดออกมา
เมฆินจำต้องปล่อยอีกฝ่ายไป โดยไม่รู้จะหาหนทางไหนต่อไปดี…
ทัตเทพเดินหน้ามุ่ยมาหาชนินทร์ตอนสายๆ
เดินผ่านคนร่างสูง…ที่มองตรงมาด้วยแววตาคาดหมายอะไรไม่ได้…เด็กหนุ่มรู้สึกหงุดหงิด หมั่นไส้ รู้สึกถูกข่มชั้นเชิงและเสียเปรียบนิดๆ
“อ้าวทัต…”
ชนินทร์เห็นก็ทักตามปกติ แม้จะตกใจเล็กน้อย
“พี่นินทำอะไรอยู่ครับ?”
ถามไม่วายเหลือบมองเมฆินด้วยหางตา ชายหนุ่มอย่างเมฆินสงบนิ่ง ยิ้มบางๆที่มุมปาก ไม่สะทกสะท้าน
“พี่กวาดบ้านอยู่ ทัตมีธุระอะไรกับพี่หรือเปล่า?”
“ผมต้องการคุยกับพี่นินครับ เป็นการส่วนตัว!”
“…ทัต มีอะไรก็คุยกับพี่ตรงนี้ได้ ไม่ต้องไปไหน”
“ใช่ ไม่ต้องไปไหน” เมฆินก้าวขึ้นมายืนเคียงข้างชนินทร์ตั้งแต่เมื่อไรไม่รู้ โอบกอดเอวคอดเข้าหา เจ้าตัวตกใจ แต่ยังไม่เท่าทัตเทพ
เด็กหนุ่มเบิกตากว้าง
“นั่นนายทำอะไรพี่นิน!?”
“ก็กอดแฟนฉันไง”
“พี่นินไม่ใช่แฟนของนาย!”
“รู้ได้ยังไง? ว่าเราสองคนไปถึงขั้นไหนกันแล้ว”
เมฆินตีสีหน้าเรียบเฉย ก้มลงมองหน้าชนินทร์ สบตา…ชนินทร์รู้จากแววตาวาว อมยิ้มแย้มหัวนั้นว่าชายหนุ่มกำลังนึกขันเยาะเย้ยทัตเทพอยู่ในใจ
“นี่คุณ…ปล่อยผม”
ชนินทร์สลัดตัว หนักแน่นพอที่จะหลุดออกมาจากอ้อมแขนแกร่งได้ เมฆินเสียหน้าเล็กน้อย
“ทัต ถ้ามีเรื่องจะพูดกับพี่ ก็พูดกันตรงนี้ได้…นายคนนี้เขาไม่เกี่ยวข้องอะไรกับพี่เลย ทางที่ดี…อย่าไปสนใจเขาดีกว่า”
“แต่พี่นินครับ” เด็กหนุ่มยังไม่ยอมแพ้ “พี่นินยอมได้ไง ให้หมอนี่ตามตอแย แค่ผมเห็น ผมก็แทบจะอ้วกแทนพี่นินอยู่แล้ว”
เมฆินเริ่มทนไม่ไหว กำหมัดแน่น แต่แค่ยังไม่ทำอะไรเพราะเห็นอีกฝ่ายเป็นเด็กวัยคะนอง
“ให้มันน้อยๆหน่อย! นายทัตเทพ”
“อะไร? แค่ปู่กับย่าต้องอนุญาตให้นายนอนร่วมชายคาเดียวกับฉัน ฉันก็รู้สึกแย่พออยู่แล้ว ถึงแม้จะเป็นห้องใต้ถุนก็เถอะ แต่อย่ามาอวดเบ่งแถวนี้ ให้มันรู้ซะบ้างว่าถิ่นใครถิ่นมัน”
เมฆินขยับปากจะพูด ชนินทร์ชิงตัดบทพูดขึ้นก่อน
“โอ๊ย! ทะเลาะกันอย่างจะเป็นเด็กไปได้ พอเดี๋ยวนี้”
“แล้วจะให้ผมทำยังไง รุ่นน้องคุณว่าผมเอาเองข้างเดียวแบบนี้”
“นายไม่ต้องมาพูดดี ฉันพูดความจริง นายมันไม่คู่ควรกับพี่นิน ไม่เลยสักนิด!”
เมฆินกอดอก
“แล้วเราจะตัดสินกันยังไงว่าคู่ควรหรือไม่?”
ทัตเทพยิ้มบาง
“แข่งผ่าฟืนเป็นไง? กล้ามั้ยล่ะ?”
“ได้!”
พอเห็นคนมีวุฒิภาวะสูงกว่าตกปากรับคำได้ง่ายดายแบบนั้น ชนินทร์ถึงกับร้องทัก
“นี่…พวกคุณหมายความว่าไงนะ?”
ทัตเทพรีบเสริม
“ไม่ต้องห่วงนะครับพี่นิน ผมจะเป็นคนไล่หมอนี่กลับไปที่ชอบๆของเขาเอง…พี่นินไม่ต้องกังวล ผมถูกปู่กับย่าใช้ให้ผ่าฟืนมาตั้งแต่เด็ก เรื่องแค่นี้สบายมาก”
ว่าแล้วร่างสูงโปร่งก็วิ่งลงไป เตรียมขอนไม้ ขวาน และท่อนไม้หนาๆหลายท่อน ซึ่งเตรียมไว้ใช้เป็นฟืนก่อกองไฟให้ความอบอุ่นยามค่ำคืน
“แต่…”
ไม่ทันเสียแล้ว ชนินทร์ไม่ทันเตือน…
เมฆินยืนกอดอกเอนตัวมาใกล้ชนินทร์ กระซิบเบาๆ
“รุ่นน้องของคุณท่าทางไม่ยอมแพ้แน่ๆ…ว่าแต่คุณอยากให้ผมเล่นยื้อหรือม้วนเดียวจบดี!”
ร่างสูงใหญ่เดินยืดกายเต็มความสูงลงไปยังลานหน้าบ้าน พร้อมรอยยิ้มกริ่ม…ก่อนจะถอดเสื้อออกเผยหุ่นหนาบึกบึนสง่างาม ทัตเทพแซว
“ถอดเสื้อ นึกว่าเป็นซุบเปอร์ฮีโร่แปลงร่างหรือไง? แต่ระวังหนาวนะ แล้วห้ามมาอ้างตอนเวลาแพ้ฉันด้วย”
“แล้วจะคอยดู”
ชนินทร์ไม่อยากทนดู เพราะรู้ทั้งรู้…ว่าใครจะชนะ
“พวกคุณอยากทำอะไรก็เชิญ ผมไม่ยุ่งด้วยหรอก”
ว่าแล้วร่างบางก็เดินปึงปังกลับเข้าบ้านไป
โปรดติดตามตอนต่อไป