ช่าวดี...(มั้ง?)
จะมีถึงบทที่70กว่าๆ(มั้ง?)ครับ...
บทที่ 52
หลังจากเมฆินได้นอนพักจากอาการไข้ เพราะชนินทร์คอยเฝ้าไข้ให้ตลอดทั้งวัน
ชายหนุ่มเริ่มมีแรงออดอ้อนมากยิ่งขึ้น…
เมฆินนอนซมอยู่บนเตียงทั้งวัน ยังหาโอกาสคุยกับชนินทร์ที่ทำหน้าที่ดูแลเขาอย่างดีไม่ได้
ชายหนุ่มชันร่างสูงใหญ่ขึ้นนั่งพิงหมอน ชนินทร์เดินเข้ามาพร้อมกับอ่างน้ำอุ่นและผ้าขนหนู
ร่างบางชะงักเล็กน้อย เมฆินมองอีกฝ่ายลากเก้าอี้มานั่งข้างๆ
“ผมเตรียมอ่างน้ำสำหรับเช็ดตัวมาให้คุณ”
“…”
อ่างเล็กๆสีขาวมีน้ำอุ่นถูกนำมาวางไว้ข้างเตียง เมฆินมองกระพริบตาปริบๆ
“คุณกะจะให้ผมเช็ดเองเหรอครับ?”
คนเฝ้าไข้ตอบหน้าตาย เสียงเรียบ
“ใช่ซิ”
เมฆินเบ้ปากน้อยๆ ก่อนจะแสร้งทำเป็นซึมสำนึก ค่อยๆเคลื่อนร่างกายไปหยิบจับอะไรช้าๆราวกับปวดเมื่อยไร้เรี่ยวแรง
ชนินทร์ทนเห็นไม่ได้ คว้าอ่างน้ำมาวางบนตักก่อนอีกฝ่ายจะทำหลุดมือ
“มานี่ ผมจะเช็ดตัวให้...”
ชนินทร์ลงมือเช็ดตัว ลากผ้าชุบน้ำอุ่นๆไปตามเนื้อตัว ผิวสีเข้มของอีกฝ่ายที่เรียบตึง และเต็มไปด้วยมัดกล้ามแนบไปตามแผงอก แอ่งหน้าท้องแบนราบ…เกิดความเงียบงันขึ้น จนชนินทร์ทนไม่ไหว
“คุณหลับต่อดีมั้ย? จ้องผมแบบนี้…ผมทำงานไม่ได้”
“แต่ผมอยากมองคุณนี่…”
ชนินทร์ขมวดคิ้ว เม้มริมฝีปากแดง แต่ก็ไม่ต่อต้านหรือรำคาญอะไรอีก จนเช็ดตัวอีกฝ่ายเสร็จ
“คุณจะกินข้าวเลยหรือว่าจะนอนต่อ?”
“กินเลยครับ ผมชักหิวแล้ว”
ร่างบางหายออกไปนอกห้อง ปล่อยให้คนตัวใหญ่ฉีกยิ้มกว้างเหมือนคนบ้าตามลำพัง
กลับเข้ามาพร้อมกับข้าวต้มหมูหอมฉุย ชนินทร์ยื่นให้
“อ้าว? ผมนึกว่าคุณจะป้อน”
ชนินทร์เบิกตาโต
“เปล่า คุณน่ะแหละกินเอง อุตส่าห์ทำให้แล้ว”
เมฆินนึกขั้นได้ แกล้งนิ่วหน้า
“โธ่…แต่ แต่ว่าผมปวดหัว ช่วยผมหน่อยเถอะครับ...”
ชนินทร์ไม่แน่ใจว่าเขาพูดทีเล่นหรือทีจริง…นิ่งสักพัก ก่อนจะรับถาดข้าวต้มกลับมาวางบนตักตัวเองแทน นั่งลงข้างๆดั่งเดิม
ชนินทร์ไม่พูดอะไร ตักข้าวต้มร้อนๆเตรียมจ่อปาก
“เป่าก่อนซิครับ มันร้อนนะ”
“เอ๊ะ! ทำไมคุณเรื่องมากจัง”
“นะครับ ผม…ไม่มีแรงเลย”
ดังนั้นชนินทร์จึงต้องทำตาม เมฆินรับข้าวต้มอุ่นๆเข้าปาก ถือว่าเป็นอาหารมื้อแรกที่อร่อยที่สุดในชีวิตของเขา…
“เสร็จแล้วต้องกินยาด้วย จะได้หาย…”
“ครับ”
“จะได้ไปจากที่นี่เสียที...” งึมงำต่อท้ายเบาๆ
ชนินทร์เก็บของ กำลังจะลุก
เมฆินคว้าร่างบางไว้ทั้งตัว ดึงเข้ามากอด
“คุณ!”
“อยู่นิ่งๆซิครับ ผมขอกอดคุณหน่อย”
“จะบ้าเหรอ?! คุณ…คุณไม่ได้ไม่สบายจริงๆใช่มั้ยเนี้ย?”
เมฆินหัวเราะพริ้ว
“ไม่สบายน่ะเป็นจริงๆครับ แต่ตอนนี้ได้อาหารจากคุณแล้ว…กำลังเลยกลับมาเป็นเหมือนเดิม”
ชนินทร์เกร็งตัวแข็ง
“คุณ…แกล้งหลอกผมเหรอ ปล่อยเลยนะ!”
“อย่าเพิ่งซิ ผมก็แค่จะขอบคุณเท่านั้นเองครับ”
“ไม่ต้องขอบคุณ ผมก็แค่…เห็นใจคนใกล้ตายเมื่อคืน ไม่อยากให้ใครไปยืนหนาวตายหน้าบ้านนี้”
“งั้นตอนนี้ผมก็ใกล้ตาย…ตายเพราะเขาไม่รักผมเลย…”
ชนินทร์นิ่งงัน เบือนหน้าหนี ไม่ยอมสบตา
เมฆินซุกหน้าลงไปบนตัวอีกฝ่าย
“ผมขอโทษ…ผมขอโทษสำหรับทุกสิ่งทุกอย่าง”
“คุณ…ปล่อยผมเถอะ”
“ผมรู้…คุณบอกผมมาเถอะชนินทร์ ว่าคุณก็แคร์และยังเป็นห่วงผมอยู่”
“…เปล่า ใครบอกให้คุณไปยืนตากฝนเอง น่าจะให้หนาวตายไปซะก็ดี”
“ไม่จริง ผมเห็นสีหน้าคุณเมื่อคืนแล้ว…เวลาคุณช่วยผม คุณห่วงใยผมจริงๆ”
เมฆินเลื่อนมาสบสายตากับชนินทร์ ต่างฝ่ายต่างจ้องมอง…ไม่พูดอะไร
ฝ่ามือเล็กๆของชนินทร์ทาบอยู่บนแผงอกเปล่าเปลือย…ภายใต้กล้ามเนื้อกำยำมีบางสิ่งกำลังเต้นแรงโครมคราม…
มือใหญ่ข้างหนึ่งของเมฆินสอดเข้าไปยังโคนผมด้านหลังท้ายทอย ผ่อนแรงให้อีกฝ่ายเคลื่อนเข้ามาใกล้เรื่อยๆ…เรื่อยๆ จนปลายจมูกเกือบสัมผัสกันแล้วในที่สุด
เสียงทุ้มใหญ่เอ่ยราวกับ…เสียงที่เร่าร้อนดั่งเพลิงเผา
“แค่คำเดียว…คุณยกโทษให้ผม…นะครับ แค่คำเดียว…และผมจะยอมทำทุกอย่างเพื่อคุณ บอกว่าคุณก็รักผมเช่นกัน…”
ลมหายใจของชายหนุ่มหอบไม่เป็นจังหวะ ริมฝีปากบางๆแตะที่ข้างแก้มเนียน เจ้าของแก้มพริ้มตาหลับอย่างเผลอไผล ก่อนจะยอมให้เขากดจมูกลงมาตามก้านคอ ใช้ริมฝีปากคอยจูบ ขบเล็มความหอมหวานจากผิวขาวๆ…
ร่างเล็กเกาะบ่าแกร่งไว้ เพิ่งรู้ตัว…ว่ากำลังตกอยู่ในอ้อมกอดของเขา บนกายของเขา…
“อย่า…”
ชนินทร์สะดุ้ง ดึงตัวออกจากการเกาะกุมในที่สุด
เมฆินมองงงๆ เหมือนคนโดนค้อนปอนด์ทุบหนักๆ…
“ผม...ผมยังยืนยันคำเดิม กลับไปซะ…”
ร่างบางพรวดพาดออกไป ทว่าคราวนี้อดีตซาตานหนุ่มกลับนอนยิ้มบางอยู่บนเตียง ถอนหายใจ...
อย่างน้อย เจ้าตัวก็เริ่มมีความรู้สึกดีๆกับเขามากขึ้น ทำให้เมฆินไม่ต้องคาดหวังอย่างมืดมิดอีกต่อไป...
โปรดติดตามตอนต่อไป