มันลั้นอ่ะ เด๊่ยวมาต่อเร็วๆแล้วกาน
บทที่ 53
คนป่วยออดอ้อนให้พยาบาลทั้งวัน จนชนินทร์เริ่มจับไต๋ได้
ถูกวางยาให้นอนหลับตั้งแต่หัวค่ำ ชนินทร์ถึงได้มีเวลาพัก
ไม่อยากเชื่อเลยเวลาคนอย่างนายเมฆิน...ซาตาน มัจจุราช ปีศาจร้ายกาจตนนั้น ที่เคยคิดทำลายชีวิตของเขา เมื่อยามเจ็บป่วยและง้องอน ออดอ้อนเหมือนเด็กชายตัวเล็กๆแบบนี้ จะให้ความรู้สึกที่แปลกประหลาด...ทั้งฉงนแปลกใจ หมั่นไส้ไอ้อาการทำตัวอ่อนแอ และขนลุกกับแววตาหวานๆยังไงชอบกล...
ออกมาสูดอากาศภายนอก อากาศเย็นสบาย ชนินทร์เร่งคลายความเครียดเค้นที่ต้องทนอยู่กับอดีต...มัจจุราชเพียงลำพังตลอดทั้งวัน ชายหนุ่มนั่งลงให้เวลาช่วงนี้ซึมซับความเป็นส่วนตัว พลางครุ่นคิดทบทวน
คิดยังไงก็หาหนทางออกไม่ได้...เขาไม่อยากกลับไปเผชิญความเจ็บปวดเจียนตายเยี่ยงนั้นอีกแล้ว...
ไม่เข้าใจตัวเองเหมือนกัน ทำไมนะ...ทำไมต้องยังมีเยื่อใย เยื่อใยบางๆที่ตัดให้ขาดแสนยาก...
บ้า...บ้าที่สุด ชนินทร์รำพึงในใจ...เขาคงต้องตายไปจากโลกนี้เท่านั้น ความเจ็บปวดไม่สบายใจเหล่านี้จะหายไป...
แม้ปัจจุบัน เขายังคงฝันร้าย...ผู้ชายคนนั้นตามมาหลอกหลอนแม้ในยามค่ำคืน...
แต่เพราะว่ารักน่ะซิ! ถึงได้กลัว...กลัวจนแทบอยากลืมทุกสิ่ง
ท่ามกลางความมืดสลัว ร่างสูงปรากฏขึ้นใกล้เข้ามา...
“พี่นิน...”
ทัตเทพหยุดนิ่งเหมือนจะรอคำตอบ ชนินทร์ขานรับ เขาจึงเข้ามานั่งใกล้ๆ
“ทัต...มีอะไรหรือเปล่า”
ทัตเทพนิ่งเงียบ
“เดี๋ยวนี้ทัตมาหา ต้องมีเรี่องด้วยเหรอ?”
ชนินทร์ตอบไม่ถูก จึงเงียบ
“นี่เขาอยู่มั้ย?...”
น้ำเสียงที่ถอดเบาหวิว เหินห่าง...
“แล้ว...ทัตมารบกวนเวลาหรือเปล่า?”
“ทัต มันไม่ใช่อย่างที่ทัตคิดนะ”
“ไม่ต้องโกหกผมหรอกครับพี่นิน...ผมรู้เรื่องทุกอย่างดีหมดแล้ว ถึงพี่วินไม่เล่าให้ผมฟังผมก็รู้และดูออก...ว่าพี่นินยังคิดกับเขาในฐานะไหน”
“พี่...”
“พี่คงคิดถึงเขามากซินะครับ...แต่พี่กับเขาทะเลาะกัน จนเป็นสาเหตุให้พี่นินหนีมาอยู่ที่นี่”
“ทัต เราน่ะเป็นเด็ก...อีกอย่าง จะไม่มีวันที่ใครได้รู้...ว่าพี่จำเป็นมากแค่ไหน ที่ต้องหนีมา...แบบนี้”
พยายามกลั้นน้ำตาไว้ จู่ๆ ก็มีมืออุ่นทาบทับลงมาบนหลังมือบาง...
“พี่จะหนีเขาไปอีกทำไมล่ะครับ...ในเมื่อเขาตามพี่มาถึงที่นี่”
“พี่ไม่รู้...” ชนินทร์ก้มหน้า หยาดน้ำตาร่วงพรู ชายหนุ่มเอ่ยเบาๆ “พี่สับสน...พี่...พี่เกลียดเขา พี่ไม่ได้รักเขาหรอกนะ...เพียงแต่ไม่รู้ทำไม...พี่คงใจอ่อนเองที่จะทำทุกอย่างให้มันเด็ดขาด พี่คงบ้าเองที่ชอบทนทุกข์ทรมานอยู่กับความเจ็บปวดแบบนี้”
เด็กหนุ่มเงียบไป ก่อนถอดหายใจ
“พี่นินก็รู้ใจตัวเองนี่ครับ ทำไมพี่นินยังต้องถือทิฐิอยู่ จะโกหกตัวเองไปเพื่ออะไร?”
ชนินทร์นิ่งเงียบอยู่ครู่หนึ่ง
“ทัตไม่รู้หรอกนะว่าพี่ต้องผ่าน ต้องเจออะไรมาบ้าง...มันไม่ใช่เจ็บง่ายแบบที่หายภายในสองสามวัน...”
“ครับ ผมเข้าใจ...ผมอาจจะไม่เข้าใจมากเท่าตัวพี่นินเอง...แต่พอถึงจุดหนึ่งที่ร่างกายเราไม่หลงเหลือเลือดให้ไหลรินจากบาดแผลแล้ว...เราไม่สามารถไปต่อ เราไม่สามารถกิน เดิน หรือใช้ชีวิตอยู่...ถ้าอย่างนั้นทำไมพี่นินไม่ลองดูล่ะครับ? ตราบเท่าที่เรายังมีลมหายใจ เรายังมีหัวใจให้ตัดสิน ทำไมเราไม่ยอมตัดความรู้สึกแย่ๆตรงนั้นออก แทนที่จะให้เราตายไป...และโลกนี้ก็จะลืมเราอย่างโหดร้าย”
“พูดมันง่าย...แต่แค่ชื่อก็บอก ให้พี่ตัดใจ พี่ต้องตัดใจตัวเอง...บางครั้งพี่อ่อนแอเกินกว่าจะทำได้นะทัต...”
“พี่นินครับ” เด็กหนุ่มยกมือบางของอีกฝ่ายขึ้นทาบอก “ก่อนที่จะเดินมาที่นี่ ผม...ผมตั้งใจว่ามีเรื่องจะมาบอกพี่นินครับ”
ชนินทร์มองดวงตากลมสุกใสนั้น ทั้งปวดใจและละอาย...
“ผมรักพี่นินครับ...แอบรักพี่นินตั้งแต่ครั้งแรกที่พบ ผมไม่รู้ตัวเลยว่าเพราะอะไร...พี่นินเป็นคนแรกที่ทำให้หัวใจของผมเต้นเร็ว เหมือนตอนนี้...เพียงแค่พี่มองผม ไม่ว่าจะด้วยสายตาแบบไหนก็ตาม...”
“ทัต...พี่คิดกับเราแค่น้อง...”
“ครับ ผมรู้ดี...นั่นไงถึงทำให้ผมพอเข้าใจความรู้สึกเจ็บที่พี่นินว่าได้บ้างแล้ว”
เด็กหนุ่มคลี่ยิ้มกว้าง ก่อนจะหัวเราะเบาๆ
“แต่พี่นินไม่ต้องคิดมากนะครับ ผมสบายมาก...ที่เป็นห่วงจริงๆก็คือนายยักษ์นั่นแหละ ไม่รู้จะชนะใจพี่นินได้หรือเปล่า”
“…”
...ทัตเทพเดินกลับไปนานแล้ว อากาศเริ่มหนาวขึ้น ชนินทร์ทนนั่งคิดฟุ้งซ่านต่อไปไม่ไหว ลุกขึ้นเข้าบ้านหาความอบอุ่น
ร่างสูงนอนบนเตียง นิ่งสงบ ลมหายใจสม่ำเสมอ...แสงจันทร์นวลผ่องลอดเข้ามา ชนินทร์ยืนมอง...
“ทำไมคุณเมฆิน...ทำไมคุณถึงมีอิทธิพลต่อผมมากมายขนาดนี้นะ!”
กระซิบเบาๆ ก่อนจะขดตัวลงนั่งที่พื้น ร้องไห้...
พรุ่งนี้...เขาสัญญา ว่าเรื่องทุกอย่างจะต้องจบลง!
TBC