My wife is a big boss เรื่องโดน katesnk
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด

สนใจโฆษณาติดต่อ laopedcenter[at]hotmail.com คลิ๊กรายละเอียดที่ตำแหน่งว่างเลยครับ

สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด

ผู้เขียน หัวข้อ: My wife is a big boss เรื่องโดน katesnk  (อ่าน 161732 ครั้ง)

tae

  • บุคคลทั่วไป
เชยจริงๆเลย เคนของผมเนี่ย ไม่เอาล่ะไม่เถียงกับเคนแล้ว อ้อ เคนครับ บอกแล้วไง ที่นี่ไม่มีท่านประธานเคลวิน มีแต่นายเคลวิน ภรรยาของคุณเคนครั บ เราไม่มีความต่างชั้นกันในบ้านของเรานะครับ”

“บ้านของเรา”

ผมทวนคำในใจ บ้านเช่าของผมต่างหาก อยู่ๆท่านประธานจะมาถือสิทธิ์ได้ไง

“ผะ ...ผม ทำ งะ งั้น ไม่ได้หรอกครับ ท่านเป็นเจ้านาย ผมเป็นลูกน้อง ผมไม่กล้าตีเสมอหรอก เอ้อ มันไม่ควรครับ”

“ไหนครับเจ้านาย เขาอยู่ที่ไหนกัน มองผมสิครับ ตอนนี้ผมเหมือนเจ้านาย หรือเปล่า”

...................................................

บทที่ 7 สามีสุดที่รักของผม

ผมย้อนถามเคน รู้สึกรำคาญนิดหน่อยที่เขาทำตัวห่างเหินกับผม แต่ก็พอจะเข้าใจว่า เขารู้สึกเกร็งเนื่องจากว่าเรามีความแตกต่างกันทางฐานะทางสังคม เขาอยู่ในฐานะลูกน้องใต้สังกัด และภาพที่ผมแสดงออกไปคือเจ้านายจอมโหด ที่เขาต้องตัวลีบ กลัวหงอเวลาเจอหน้ากันในที่ทำงาน

สิ่งที่ผมแสดงออกไปนั้น มันเป็นเพียงหัวโขนในฐานะของประธานบริษัทเท่านั้น ผมจำเป็นต้องเข้มงวดกับทุกคน แม้กับคนที่ผมรัก เพื่อให้พวกเขาทำงานได้อย่างถูกต้อง อันจะเป็นผลดีต่อบริษัท และตัวเขาเองในภายภาคหน้า

ถ้าบริษัทเจริญรุ่งเรืองมีกำไร พนักงานทุกฝ่ายที่ทำงานอย่างขันแข็งก็จะได้ผลตอบแทนคุ้มค่า ไม่ว่าจะเป็นเงินเดือน โบนัส หรือสวัสดิการต่างๆ

สำหรับเคน ผมจำเป็นต้องเข้มงวดกับเขาเป็นพิเศษ เพราะผมอยากให้เขาได้รับการบรรจุเร็วๆจะได้ไม่มีใครนินทาว่าร้ายเขา เขาเกือบจะถูกเลิกจ้าง เพราะปฏิบัติงานผิดพลาดมาโดยตลอด แต่ผมก็รับเขามาทำงานด้วย ผมคิดว่าเขามีความสามารถบางอย่าง แต่ที่หน่วยงานเดิมไม่ค้นพบ เลยทำให้ใช้งานเขาเปะปะ ไม่เป็นชิ้นเป็นอัน จนบางครั้งเขาเบลอเลยทำความเสียหายเกิดขึ้น แต่หากฝึกเขาเสียใหม่ แล้วจัดระเบียบการทำงานของเขาให้ดีขึ้น เขาก็น่าที่จะเป็นพนักงานที่มีฝีมือดีคนหนึ่ง

ที่สำคัญเขาเป็นคนมีคุณธรรมในหัวใจ เป็นคนที่เอื้ออาทรต่อคนรอบข้าง ผมอยากเห็นคนประเภทนี้ปะปนอยู่ในบริษัทผมบ้าง ไม่ใช่มีแต่คนที่แก่งแย่งแข่งขันจนไร้หัวใจ การก้าวไปสู่ความสำเร็จเป็นกลุ่ม ย่อมดีกว่าจะก้าวหน้าไปเพียงคนเดียว

เคนเองก็ต้องปรับตัวให้ได้ กับการเคี่ยวเข็ญของผม เพราะหากเขาทำงานพลาด เขาจะถูกตราหน้าว่าเป็นคนไร้น้ำยา ไม่มีฝีมือ ไม่เหมาะกับงานใหญ่ๆโตๆ คำนินทาว่าร้ายจะมาถึงหูเขามากยิ่งขึ้น และที่สำคัญพวกเขาจะมองว่าการตัดสินใจของประธานบริษัทผิดพลาดอย่างไม่น่าให้อภัย ที่เอาคนทำงานไม่เป็นมาร่วมงานด้วย

ถึงเขาจะเกลียดผมไปจนวันตาย ในฐานะเจ้านายใจร้าย แต่เมื่อถึงวันหนึ่งที่เขาประสบความสำเร็จในหน้าที่การงาน เขาจะจดจำผมได้ และเข้าใจในสิ่งที่ผมพยายามเคี่ยวเข็ญให้กับเขาทำ เมื่อวานนี้เป็นเพียงแค่เริ่มต้นเท่านั้น เขาจะต้องเจอหนักมากกว่านี้อีก

แต่นั่นมันเป็นตัวตนของผมในที่ทำงาน แต่สำหรับที่บ้าน ในครอบครัวที่มีคนที่เรารักอยู่ด้วย ผมก็อยากจะมีช่วงเวลาหวานๆให้กัน ผมรู้ตัวดีว่า ผมหลงรักเคนเข้าให้แล้ว ผมอยากอยู่กับเขา อยากเป็นเจ้าสาวของเขา อยากทำให้เขามีความสุข ถึงแม้ในที่ทำงานผมจะร้ายกาจกับเขา แต่เวลาอยู่บ้าน ผมตั้งใจจะทำดีๆกับเขาให้มากที่สุด

น่าสงสารที่เคนยังสับสนกับการเปลี่ยนไปเปลี่ยนมาของผม เขาคงไม่รู้จะรับมืออย่างไร จะทำตัวตีเสมอก็ใช่ที่ จะหงอใส่ตลอดเวลา ผมก็ไม่ชอบ อยากให้เขาทำตัวเข้มแข็งเป็นหัวหน้าครอบครัวเมื่ออยู่ในบ้าน มันอาจจะต้องใช้เวลาสักหน่อยเพื่อให้เคนเคยชินและปรับตัวได้



tae

  • บุคคลทั่วไป
“ผมขอย้ำนะครับ ในบ้านหลังนี้ มีผู้นำได้แค่คนเดียว คือคุณเท่านั้น คุณเป็นหัวหน้าครอบครัว ผมเป็นเพียงภรรยา เป็นเพียงผู้ตามนะครับ แล้วเราก็จะไม่คุยกันเรื่องงานดีไหมครับ”

ยื่นข้อเสนอไปแบบนั้น หวังว่าคงจะช่วยทำให้เขาสบายใจขึ้น อดนึกขำไม่ได้ ผมว่าจะเลิกเผด็จการ แต่เมื่อครู่นี้ ผมก็ทำอย่างกับว่าบ้านนี้เป็นของผม แล้วเคนเป็นลูกน้อง ที่ผมจะสั่งอะไรได้ตามใจคิด เห็นทีว่าแม้แต่ตัวผมเองก็คงจะต้องปรับตัวยกใหญ่เหมือนกัน

เขามองหน้าผมอย่างงงๆ ดูน่ารักมากเวลาเขาทำหน้าเอ๋อๆ ผมหลงรักท่าทางแบบนั้นจัง มันทำให้เขาดูเป็นคนซื่อๆที่น่าหลงใหลที่สุด มือไวตามใจคิด

ผมยื่นมือสองข้างออกมาประคองใบหน้าของเขา เราสองคนมองสบตากันนิ่งนาน จากนั้นใบหน้าของผมก็เคลื่อนเข้าหาใบหน้าของเขา เหมือนว่ามันมีแรงดึงดูดอะไรบางอย่าง ปากนุ่มของผมปิดลงบนปากของเขาเพื่อมอบจุมพิตที่เร่าร้อนให้

“เดียะ...เดี๋ยวก่อนนะครับ เมื่อกี้เข้าใจว่าผมกำลังพูดถึงให้ท่านประธานแต่งตัวให้เรียบร้อย ไม่ใช่ให้ท่านประธานมาจูบผมนะครับ”

สุดที่รักของผมต่อว่าต่อขานทันทีที่ผมถอนจูบจากเขา มือไม้ผลักไสผมเป็นพัลวัน นึกน้อยใจอยู่บ้างนิดหน่อย ที่เขาทำกับผมแบบนี้ แต่ผมพยายามเข้าใจว่าเขาไม่เคยชิน กับการอยู่ร่วมกันฉันท์สามีภรรยากับผู้ชาย แถมคนที่เป็นภรรยาตัวเองยังเป็นหัวหน้าโดยตรงอีกด้วย

“แหมไม่ต้องเขินหรอกนะครับ ก็เราเป็นสามีภรรยากันแล้ว เราก็ทำแบบนี้กันได้เป็นธรรมดานะครับ ส่วนเรื่องการแต่งกาย แต่งแบบนี้ถ้าเคนไม่ชอบ ผมจะเปลี่ยนก็ได้นะครับ ที่จริงน่ะ เห็นคุณกลับมาเหนื่อยๆ ก็อยากให้คุณกระชุ่มกระชวย ตื่นเต้นเร้าใจ หายเครียดได้บ้างน่ะครับ ไม่คิดว่ามันจะทำให้คุณไม่พอใจ”

“เอ้อ ...คือว่า...มันไม่ใช่อย่างนั้นหรอกครับ ท่านประธาน เพียงแต่มันดูแปลกๆ ผมไม่ชิน อีกอย่างการทำให้รู้สึกกระชุ่มกระชวย ไม่ต้องแต่งตัวแบบนี้มาก็ได้ครับ แทนที่จะหายเครียด ผมว่ามันกลับจะยิ่งทำให้ผมอาการหนักกว่าเดิมก็ได้ครับ ขอร้องละนะ อย่าทำให้ผมหัวใจจะวายมากกว่านี้เลยนะครับ”

“ว้า แย่จังเลยนะ ผมอุตส่าห์จะทำให้เคนอารมณ์ดี แต่ถ้ามันทำให้เคนรู้สึกวุ่นวายใจ ผมจะแต่งตัวให้เรียบร้อยก็ได้นะครับ”

รีบเอาใจเขาดีกว่า ไม่อยากให้เขา จะแต่งตัวแบบไหนดีหนอ เคนอ่ะ ผมอุตส่าห์ทำตัวเซ็กซี่ เพื่อที่จะยั่วให้เคนเกิดอารมณ์สักหน่อย เขากลับไม่ชอบใจอีก เอาใจยากจริงแฮะ แล้วผมต้องทำอย่างไรดีนี่ ถึงจะทำให้เขาเกิดอารมณ์ ถ้าต้องปล้ำกันบ่อยๆ คงไม่ไหว ไม่อยากให้เขาเสียความรู้สึกที่เขามีต่อตัวผมเลย
“ดีแล้วล่ะครับ ท่านประธาน..เอ้อ..เคลวิน..ผมว่าถ้าคุณใส่เสื้อผ้า มันน่าดูดีกว่าแต่งตัวโป๊ๆนะครับ คุณเป็นคนหุ่นดี หน้าตาหล่อเหลา ใส่อะไรก็ดูเหมาะสม เท่ห์ และสง่างามไปหมดละครับ”

tae

  • บุคคลทั่วไป


เฮ้นั่นมันคำชมผมใช่ไหมละนั่น เขาบอกว่าผมหล่อ หุ่นดี แต่งกายอะไรก็เท่ห์ คำพูดแบบนี้แสดงว่าเขาก็สังเกตเกี่ยวกับตัวผมบ้างแล้ว ดีใจจังที่อย่างน้อยผมก็อยู่ในสายตาของเขา

“ครับ ได้ครับ ถ้าหากนั่นเป็นสิ่งที่เคนชอบ ผมยินดีทำตามนะครับ”

เขายิ้มให้ผมหลังจากที่ผมรับปากว่าจะไม่แต่งตัวล่อแหลมอีกแล้ว ผมมองรอยยิ้มนั้นอย่างเพลิดเพลิน มันเป็นยิ้มที่เป็นธรรมชาติไม่มีอาการฝืนหรือเกร็งให้เห็น

“ผมทานข้าวอิ่มแล้วละครับ เดี๋ยวผมล้างจานเองนะ”

เคนรวบช้อน และตั้งท่าจะเอาจานชามไปเก็บ ผมรู้สึกปลื้มที่เขาช่างเป็นสามีที่มีน้ำใจเหลือเกิน ไม่ทิ้งภาระทำงานบ้านให้กับผู้เป็นภรรยา แต่เนื่องจากเขาเป็นหัวหน้าครอบครัว แล้ววันนี้ก็ทำงานหนักมาทั้งวัน ดังนั้นผมจะไม่ยอมให้เขาเหนื่อยอีกต่อไป เมื่อมาถึงบ้าน ต้องเป็นหน้าที่ของผมที่ต้องปรนนิบัติรับใช้ ดูแลให้เขามีความสุข ผมดึงจานจากมือเขากลับมาเบาๆ และพูดห้ามเขา

“ไม่เป็นไรครับ เคนมาเหนื่อยๆ ไปพักเถอะนะครับ เรื่องในบ้านผมจะจัดการเอง ไม่ต้องห่วงหรอก ผมเป็นภรรยา ผมมีหน้าที่ปรนนิบัติสามีให้มีความสุขน่ะครับ”

“อ่ะ ...เอ้อ...แต่ว่า...งั้นก็ได้ครับ”

ดูสิ คนอะไรก็ไม่รู้ แม้แต่ท่าทางเอ๋อๆ พูดจาติดอ่าง ก็ดูน่ารัก เขาคงงง วางตัวไม่ถูกที่ประธานบริษัทอย่างผมมาทำโน่นทำนี่ให้ แต่ในที่สุดก็ยอมให้ผมทำด้วยท่าทางเกรงใจ เห็นแล้วอดหวั่นไหวไม่ได้ อยากดึงเขามาจูบและกอดให้สาสมกับความคิดถึง แต่ก็ต้องระงับอารมณ์ไว้ก่อน เอาไว้จัดการทุกอย่างในบ้านให้เรียบร้อย แล้วค่อยไปขอกุ๊กกิ๊กกับเขาทีหลัง

ผมล้างจานเก็บกวาดบ้าน และเอาเสื้อผ้าของเคนใส่ถุงพลาสติกเก็บไว้ ผมกะจะเอาไปให้คนซักรีดให้ที่บ้าน รู้สึกสงสารที่เขาต้องนั่งซักเองกับมือ อยากซื้อเครื่องซักผ้าเอาไว้ให้เขาใช้ แต่ก็ไม่รู้ว่าจะไปวางไว้ตรงไหน เพราะห้องเช่าของเขามันคับแคบเสียเหลือเกิน แค่อยู่กันสองคน ผมกับเขา เดินไปเดินมาก็แทบจะชนกันตายแล้ว

ที่จริงผมอยากให้เขาย้ายไปอยู่กับผม หรือไม่ก็ซื้อห้องชุดให้เขาซักห้องหนึ่ง เพื่อที่เขาจะได้อยู่สบายขึ้น แต่เคนคงไม่มีทางรับของอะไรจากผมหรอก เคนของผมเป็นคนซื่อจะตาย เขาไม่ฉกฉวยผลประโยชน์เอาจากผมแน่นอน ไม่เหมือนผู้ชายหรือผู้หญิงอีกหลายคนที่พยายามจะเสนอตัวให้ผม เพียงเพื่อหวังจะอาศัยความร่ำรวยที่ผมมีอยู่เป็นสิ่งที่ทำให้พวกเขามีชีวิตความเป็นอยู่ที่ดีขึ้นกว่าเดิม

หลังจากทำหน้าที่ภรรยาที่ดีเก็บกวาดทำความสะอาดเรียบร้อยแล้ว ก็ได้เวลาสักทีที่จะปฏิบัติในเรื่องบนเตียง ผมเดินมาหาเขาที่เตียงนอน ก็พบว่าเคนของผมหลับไปแล้วด้วยความเหนื่อยอ่อน เขาอาบน้ำเปลี่ยนเป็นชุดนอนเรียบร้อย แล้วก็หลับในสภาพนอนคว่ำ เอียงหน้าแนบกับหมอน

ผมมองภาพนั้นด้วยความรู้สึกรักใคร่อย่างบอกไม่ถูก นี่เขาปฏิเสธผมหรือเชิญชวนกันแน่ ดูสิ ปากบอกไม่ แต่ทำมาเป็นนอนก้นงอนให้ผม มันน่าจับปล้ำทั้งๆที่หลับแบบนี้นัก ..ผมนึกมันเขี้ยวขึ้นมาในทันใด แต่ช้าก่อน ลักหลับมักไม่ค่อยได้อารมณ์ สู้ให้เคนของผมพร้อมก่อนดีกว่า


« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 24-07-2007 10:42:18 โดย b|ueBoYhUb »

tae

  • บุคคลทั่วไป
ผมล้มตัวลงนอนบนตัวเขาทางด้านหลัง แล้วกอดเขาไว้แน่น ดีใจจังเลยที่ได้นอนกับเคนของผม ถึงแม้ว่าวันนี้เราจะไม่ได้ทำอะไรกัน แต่ติดไว้ก่อนก็ได้ วันนี้สุดที่รักของผมเหนื่อยมาทั้งวัน เพราะต้องผจญกับงานหนัก เอาไว้พรุ่งนี้ผมค่อยอ้อนขอมีอะไรกับเขาอีก

“ขอแค่นอนกอดคุณแค่นี้ ผมก็มีความสุขแล้วครับ”

พูดออกไปด้วยเสียงอันดัง ด้วยหวังว่าถ้าเขายังหลับไม่สนิทคงจะได้ยินคำพูดของผม เตียงนอนของเขาเล็กแคบ แต่นั่นมันไม่เป็นอุปสรรคสำหรับผม ขอเพียงมีเขาอยู่ด้วยแค่นั้นก็เพียงพอสำหรับผมแล้ว

ความสุขที่ได้อยู่กับคนที่ตัวเองรัก ทำให้ผมฝัน ในฝันนั้น ผมได้สวมชุดสูทสีขาวบริสุทธิ์มีผ้าโปร่งคลุมหน้าเจ้าสาวขลิบริมด้วยลูกไม้ครอบอยู่ที่ศีรษะ ส่วนเจ้าบ่าวของผมใส่ชุดสูทสีขาวเช่นเดียวกัน ใบหน้าของเขาดูดีชวนมองยามยิ้มให้กับผม

เราต่างให้สัตย์สาบานต่อหน้าบาทหลวงที่มาทำพิธี และ ญาติสนิทมิตรสหายที่มาเป็นพยานแห่งความรักของเรา เคนสวมแหวนให้ผม และผมเองก็มีแหวนมอบให้เขาเช่นกัน จากนั้นเราก็จูบกันอย่างดูดดื่ม ช่างเป็นความฝันที่แสนหวานเสียนี่กะไร มันทำให้ผมไม่อยากตื่นขึ้นมาเลย อยากจะมีความสุขอยู่ในความฝันแบบนั้น

“โตขึ้นอยากเป็นอะไรหือเคลวิน”

น้ำเสียงที่เปี่ยมล้นไปด้วยความรักและเอ็นดูในตัวผมถามขึ้น เมื่อคราวที่คุณย่ามาเยี่ยมบ้าน

“อยากเป็นเจ้าสาวคับ”

ผมในวัย 4 ขวบตอบไปแบบนั้น

“หือ เจ้าน่ะหรือเคลวิน อยากเป็นเจ้าสาว ทำไมไม่อยากเป็นเจ้าบ่าวล่ะ”

คุณย่าถามด้วยความเอ็นดูปนขำ จำได้ว่าผมตอบออกไปอย่างมั่นอกมั่นใจว่า

“เพราะเป็นเจ้าสาวแล้วจะมีความสุขครับ”

มีเสียงหัวเราะดังมาจากคุณย่าของผม

“ไปได้ยินจากที่ไหนมาว่าเป็นเจ้าสาวแล้วจะมีความสุขน่ะ”

“จากคุณน้าคับ”

ตอนนั้นคุณน้าผมแต่งงานไปใหม่ๆ ผมเห็นเธอมีหน้าตาแจ่มใสสดชื่น ท่าทางจะความสุขมาก คุยถึงสามีของเธอไม่ยอมหยุด เธอเล่าให้ฟังบ่อยๆว่า สามีชาวไทยเอาอกเอาใจ และรักเธอมากแค่ไหน เขาทำให้เธอรู้สึกว่าชีวิตตัวเองมีค่า และเธอพยายามที่จะบอกกับทุกๆคนว่าสิ่งที่สำคัญที่สุดในชีวิตของเธอคือการได้แต่งงานกับผู้ชายไทยคนนั้น

“ยังอยากเป็นเจ้าสาวอีกหรือเปล่าเคลวิน”

ตอนที่ถูกถามนั้น ผมอายุได้ 9 ขวบแล้ว คนถามคือคุณน้าที่เป็นแรงบันดาลใจที่ทำให้ผมอยากกลายเป็นเจ้าสาว ถามผมด้วยความเอ็นดู เพราะเธอรับรู้มาตลอดว่าผมมุ่งมั่นแค่ไหนที่จะเป็นเจ้าสาวของใครบางคนให้ได้ แต่เธอไม่ได้ตำหนิอะไร เพราะคิดว่ามันเป็นแค่การคิดแผลงๆของเด็กซนๆคนหนึ่ง เมื่อโตขึ้นอาการอยากเป็นเจ้าสาวคงจะหายไปได้เอง เธอไม่เคยรู้เลยว่าผมเอาจริง

MyLoveMyBabe

  • บุคคลทั่วไป
อิอิ อยากเป็นเจ้าสาว  แปลกดี หุหุ แถมรุกอีกต่างหาก  o3


แต่ชอบครับ ว่าแต่ไมลงซ้ำๆกันอ่าครับ  ยังไงก้มาลงต่อนะคร๊าบบบบ o22

ออฟไลน์ THIP

  • Global Moderator
  • เป็ดApollo
  • *
  • กระทู้: 7674
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +986/-10
อย่างนี้พอจะเรียกว่า สาวรุกได้ป่าว  :laugh3:  :laugh3:

meeza31

  • บุคคลทั่วไป
ทำใมชอบลงตอนซำๆอ่าคับ งง  o1

สนุกดีแล้วมาต่อนะคับ  o1

ออฟไลน์ Poes

  • คนแรกของหัวใจ คนสุดท้ายของชีวิต
  • Administrator
  • เป็ดZeus
  • *
  • กระทู้: 11342
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +2405/-22
รออ่านต่อจ้า........ :teach:

ออฟไลน์ Junrai_Hyper™

  • พูห์น้อยกลอยใจ
  • Global Moderator
  • เป็ดArtemis
  • *
  • กระทู้: 4842
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +777/-50
อ่านแล้วงงๆ อะน้องเต้

มันซ้ำตอนต้นกันหลายตอนนะ

ปวดหมองงงงงงงงงง


abcd

  • บุคคลทั่วไป
 :confuse:  ท่านเต้มาววววอีกแล้วว บท 7 ลงไปแล้วจ้า ต้องต่อด้วยบท 8  โก๊ะเหมือนเราเยย อิอิ (มีเพื่อนแย้วว)  o3

CoMMuNiTY Of ThAiBoYsLoVE

ประกาศที่สำคัญ


ตั้งบอร์ดเรื่องสั้น ขึ้นมาใครจะโพสเรื่องสั้นให้มาโพสที่บอร์ดนี้ ถ้าเรื่องไหนไม่จบนานเกิน 3 เดือน จะทำการลบทิ้งทันที
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=2160.msg2894432#msg2894432



รวบรวมปรับปรุงกฏของเล้าและการลงนิยาย กรุณาเข้ามาอ่านก่อนลงนิยายนะครับ
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=459.0



สิ่งที่ "นักเขียน" ควรตรวจสอบเมื่อรวมเล่มกับสำนักพิมพ์
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=37631.0






katesnk

  • บุคคลทั่วไป
 o15 ขอบคุณคุณลุงเต้มากค่ะ แล้วก็ขอบคุณทุกๆคนที่ชอบนิยายเรื่องนี้ ค่ะ  :m1:

ออฟไลน์ Junrai_Hyper™

  • พูห์น้อยกลอยใจ
  • Global Moderator
  • เป็ดArtemis
  • *
  • กระทู้: 4842
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +777/-50
นึกว่าพี่เคทมาต่อซะแล้วววววว

เหอเหอ

 :m11: :m11: :m11:

ออฟไลน์ Lucifer

  • เป็ดHephaestus
  • *
  • กระทู้: 1288
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +46/-1
น่านจิๆ นึกว่าเจ้าของเรื่องมาต่อ  :m12: :m12:
ยังไงก็ขอบคุณสำหรับเรื่องราวดีๆ นะค้าบบ  o1 o1

katesnk

  • บุคคลทั่วไป
 :try2: อยากมาต่อให้เหมือนกัน แต่ว่ายุ่งๆอยู่เลยค่ะ อะฮือ :m15:

ออฟไลน์ Junrai_Hyper™

  • พูห์น้อยกลอยใจ
  • Global Moderator
  • เป็ดArtemis
  • *
  • กระทู้: 4842
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +777/-50
มะเปงรายครับ

รอได้ครับผม

 :m4: :m4: :m4: :m4:

ออฟไลน์ ที่ปรึกษาไอทีขั้นต้น

  • Administrator
  • เป็ดApollo
  • *
  • กระทู้: 6853
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +1320/-22
ดันรอแน๋วมาต่อ
เต้ท่าจะยุ่งๆ
 :m13: :m13: :m13:

abcd

  • บุคคลทั่วไป
งั๊นเราลงบท8ต่อเลยแล้วกันนะ  :m11: บทที่ลงแล้วซ้ำกันก็พยายามอ่านกันให้เข้าใจกันเอาเองนะจ๊ะ คึคึ

***********************************************************

บทที่ 8 ความพยายามที่รอผลสำเร็จ


“เคนครับ ตื่นได้แล้วนะ เช้าแล้ว รีบอาบน้ำแต่งตัวไปทำงานเถอะ ไปสายจะถูกดุเอาได้นะครับ”

เสียงกระซิบที่อบอุ่นนั่นดังอยู่ข้างหูของผม พร้อมๆกับที่ลมหายใจอุ่นๆเป่ารดอยู่แถวแก้มและลำคอ ปากนุ่มที่พูดอยู่เมื่อครู่นี้เปลี่ยนมาจูบซุกไซร้ที่ซอกคอของผมจนขนลุกซู่ไปหมด

ร่างกายถูกลูบไล้ ผมรู้สึกได้ถึงมือใหญ่ๆนุ่มนวลเคลื่อนที่ลงต่ำเข้ามาในกางเกงนอนของผมแล้วลูบไล้น้องชายตัวน้อยที่กำลังหลับใหลอยู่ให้ตื่นขึ้น

เมื่อทนคนรบกวนการนอนไม่ไหว ผมก็เลยต้องลืมตาตื่น แล้วหันไปมองคนที่กำลังซุกซนอยู่บนตัวผม สิ่งแรกที่เห็นคือรอยยิ้มหวานกับดวงตาสีฟ้าที่จ้องมองมาอย่างรักใคร่

“หกโมงกว่าแล้ว ลุกไปอาบน้ำได้แล้วครับ ผมทำอาหารเช้าไว้ให้ทานแล้วนะ”

ให้ตายเถอะ อยู่ดีๆผมก็รู้สึกจิตใจสงบอบอุ่นขึ้นมา เหมือนผมตื่นขึ้นมาในตอนเช้า และมีภรรยาที่แสนจะน่ารักมานัวเนียคอยปรนนิบัติพัดวี ชีวิตผมคงจะมีความสุขมากกว่านี้ หากว่าคนที่ปลุกผมเป็นหญิงสาวที่ผมหมายปองจากบ้านเกิด ไม่ใช่ท่านประธานสองหน้าแบบนี้

รอยยิ้มแจ่มใสนั้นทำให้ผมลังเลไม่แน่ใจกับตัวเอง ว่าควรจะผลักไสเขาไปให้ห่างตัว หรือควรจะดึงเขามากอดเพื่อขอบคุณเขา ความรู้สึกบางอย่างบอกว่าไม่ควรทำทั้งสองอย่าง จะทำเย็นชาใส่ก็ดูจะแล้งน้ำใจเกินไป

เพราะเขาอุตส่าห์ทำเพื่อผม แต่จะกอดตอบอย่างรักใคร่ก็เกรงจะทำให้เขาคิดเอาเองว่าผมเออออเห็นดีเห็นงามให้เขาทำกับผมแบบนี้ มันเป็นเรื่องที่ไม่ถูกต้อง

ผมกับเขาแตกต่างกันมากเกินไป เขาชอบผู้ชาย ผมชอบผู้หญิง เขารวย ผมจน เขาเป็นเจ้านาย ผมเป็นลูกน้อง ความที่เราไม่มีอะไรเทียบเคียงกันได้เลย

“ขอบคุณครับที่ช่วยปลุก”

บอกเขาพลางดึงมือท่านประธานออกจากการเกาะกุมน้องชายของผมเบาๆ เขาปล่อยมืออย่างเสียดาย แต่แล้วเขาก็ยิ้มให้ ผมลุกขึ้นนั่งอย่างรวดเร็วเพราะกลัวเขาจะลวนลามผมอีก

แต่เขาไม่ยอมหลบให้ ยังคงนั่งอยู่บนเตียงข้างๆเลยทำให้หน้าของผมปะทะกันกับหน้าของเขาพอดี เขายิ้มจนตาหยีเอาจมูกโด่งแอบมาสูดกลิ่นแก้มผมไปทีหนึ่ง ผมต้องเบี่ยงหน้าหลบ ได้ยินเสียงเขาหัวเราะเบาๆอย่างพึงพอใจ

“คราวหลังต้องตื่นไวมากกว่านี้นะครับที่รัก เพราะว่าบ้านคุณไกลจากที่ทำงาน ต้องไปหลายต่อ มันจะไปสายนะครับ”

คำเตือนของเขามันเป็นความหวังดีหรือตำหนิกันแน่นะ แต่พอมองตาสีฟ้าคู่นั้นแล้วก็เห็นแต่ความจริงใจ เขาคงไม่อยากให้ผมไปสายจนถูกเจ้านายดุด่าว่ากล่าว

“ครับ ผมจะพยายามครับ พอดีมันเหนื่อยนิดหน่อยครับ”





abcd

  • บุคคลทั่วไป
ตอบไปตามตรง งานหนักเมื่อวานทำให้ผมล้าจริงๆ ท่านประธานเคลวินยิ้มอย่างเข้าอกเข้าใจผม เขาเอาสองมือจับบ่าผมไว้ แล้วพูดกับผมด้วยเสียงอ่อนโยน

“ต้องพยายามเข้านะครับ ผมรู้ว่ามันอาจจะเหนื่อยหน่อยในช่วงแรกๆ เดี๋ยวพอทุกอย่างมันเข้าที่เข้าทางมันก็จะเหนื่อยน้อยลงนะครับ ผมเป็นกำลังใจให้คุณเสมอ ถ้ามีอะไรอึดอัดคับข้องใจก็ระบายให้ผมฟังได้เลยนะ เราสามีภรรยากันต้องแชร์ทุกข์สุขร่วมกันรู้ไหม”

อะไรกัน คำพูดนั่น หมายความว่าอย่างไรหรือ ฟังดูชอบกล ผมไปตกลงเป็นสามีภรรยากับเขาตั้งแต่เมื่อไหร่กัน มีแต่เขานั่นแหละทำผมแล้วก็โมเมเฉยเลย แถมซ้ำยังจะให้ผมแบ่งปันความรู้สึกร่วมกับเขาอีก มากเกินไปหน่อยหรือเปล่า แต่คำพูดนั่นดูอบอุ่นดีเหลือเกิน จริงสินะ ถ้าผมมีภรรยาของผมจริงๆ ไม่ใช่ภรรยาแบบถูกบีบบังคับแบบนี้ ผมคงจะบอกทุกสิ่งทุกอย่างให้เธอได้ร่วมรับรู้ ระหว่างเราจะไม่มีความรับต่อกัน เราจะเชื่อใจซึ่งกันและกันแบบที่ท่านประธานว่า แต่ถึงอย่างไรผมก็จะไม่มีวันบอกความคับข้องใจที่ผมมีอยู่ให้ท่านประธานทราบหรอก ก็เขาไม่ใช่ภรรยาผมนี่นา แถมซ้ำยังเป็นเจ้านายด้วย ขืนด่าตัวเขาให้ตัวเขาฟังก็ซวยน่ะสิ

“ผมไปอาบน้ำก่อนนะครับ สายแล้ว”

ตัดบทเพื่อเอาตัวรอดดีกว่า ผมลุกขึ้น ท่านประธานก็ลุกตาม แล้วเดินตามหลังผมไปยังห้องน้ำแต่ก่อนที่ผมจะก้าวเข้าไปในห้อง เขาก็ยื่นผ้าขนหนูผืนใหม่ สีขาวสะอาดตามาให้ ผมมองเขาอย่างงงๆ มันไม่ใช่ของผม ผ้าขาวม้าที่เคยใช้ มันไปอยู่ที่ไหนกันนะ สงสัยแอบเอาของผมไปทิ้งแน่ๆ นึกอายขึ้นมาเมื่อนึกได้ว่าเขาต้องเห็นรอยขาดของมันแน่ๆ ผมใช้มันมานานแล้วตั้งแต่ตอนมากรุงเทพใหม่ๆ ยังไม่อยากซื้อใหม่เพราะอยากเก็บเงินส่งไปบ้านให้มากที่สุด อีกอย่างผมก็อยู่คนเดียว ไม่ต้องอายใคร ไม่นึกว่าจะมีคนมาอยู่ด้วยแบบนี้

เขาคงรู้เท่าทันความคิดของผม จึงยิ้มให้ แล้วพูดเหมือนขอโทษกลายๆ ว่าเขาเข้าใจผิดเห็นว่ามันตกพาดอยู่กับพื้นเลยคิดว่าเป็นผ้าขี้ริ้วทั่วไปจึงเผลอเอาไปเช็ดถูบ้าน ไม่คิดว่าจะเป็นผ้าที่ผมใช้ประจำ แต่เขาก็ซื้อของใหม่มาให้ทดแทน ขอให้ผมรับมันเพื่อเป็นการไถ่โทษให้เขาด้วย

สิ่งที่เขาพูดมาทั้งหมดมันเป็นแค่ข้ออ้างเท่านั้นแหละ เขาคงตั้งใจจะซื้อผ้าขนหนูผืนใหม่มาให้ผมใช้ คงทนไม่ได้ที่เห็นผมนุ่งผ้าตูดขาด นึกโกรธและอายอยู่ในใจที่เขาทำเหมือนกับว่าดูถูกผมกลายๆแม้จะไม่ได้ตั้งใจก็ตาม ไหนว่ารักและชอบผมไง ทำไมถึงยอมรับในสิ่งที่ผมเป็นไม่ได้ แล้วทำไมต้องพยายามเปลี่ยนแปลงผมให้เป็นเหมือนกับสิ่งที่ตัวเองคุ้นเคย นี่รักชอบผม หรือพยายามทำเพื่อความสุขของตัวเองกันแน่ ไม่เคารพกันแบบนี้จะมาใช้ชีวิตร่วมกันได้ไง

พอคิดมาถึงตรงนี้ หน้าผมก็ร้อนวูบวาบ นี่ผมจะเป็นอะไรมากไปหรือเปล่า กับเรื่องผ้าขาวม้าขาดๆผืนเดียวต้องทำให้มันเรื่องมากไปได้ จะดูถูกหรือไม่ ผมก็ไม่อาจจะหนีความจริงพ้น ยังไงผมก็เป็นคนที่จนกว่าเขา สิ่งที่เขาหยิบยื่นให้อาจจะมาจากความปรารถนาดีก็ได้ ดูท่าทางของท่านประธานเคลวินไม่ใช่คนที่ชอบดูถูกคนอื่น ถ้าเขารังเกียจความยากจน เขาจะมาทนนอนห้องอุดอู้คับแคบทำไม เขาทำตัวกลมกลืนกับห้องเช่าของผมได้อย่างน่าทึ่งทีเดียว


abcd

  • บุคคลทั่วไป
เขาบอกว่าเขาทำไปเพราะรักผม แต่ผมไม่ได้รักเขาสักหน่อย จึงไม่ใช่เรื่องที่จะต้องไปคิดวุ่นวายให้รกสมองเลยนี่นา เขาจะทำในสิ่งที่ผมชอบหรือไม่เป็นเรื่องของเขา เขาจะชอบในสิ่งที่ผมทำหรือไม่ ก็ไม่เห็นจะต้องไปใส่ใจ ในเมื่อผมไม่ได้คาดหวังว่าจะเป็นแฟนกับเขา ผมก็ไม่เห็นจะต้องไปโกรธอะไรเขานี่ เขาก็เป็นแบบนี้แหละ ชอบทำอะไรตามใจตัวเองจนเคย เป็นนายใหญ่ชอบใช้อำนาจ นี่ก็คงเห็นผมจนเลยจะซื้อโน่นซื้อนี่ให้ แม้จะไม่ค่อยชอบเท่าไหร่ แต่ก็ถือซะว่าผู้ใหญ่ให้ของแล้วกัน
 
“ขอโทษนะถ้าหากผมจะทำให้เคนเข้าใจผิด แต่ผมไม่ได้ใช้เงินหรือของฟาดหัวให้เคนมารักผมนะครับ ผมเพียงแค่อยากให้เคนได้ใช้ของดีๆเท่านั้น แค่ห่วงคุณเท่านั้นเอง ถ้าหากเคนคิดมาก ผมก็ขอโทษแล้วกันนะครับ ต่อไปผมจะไม่ทำแบบนี้อีก อย่างไรก็ช่วยรับของนี้ไว้ก่อนนะครับ เพราะคุณต้องใช้มันเพื่ออาบน้ำไปทำงาน เดี๋ยวจะสายนะครับ”

น้ำเสียงเศร้าๆนั่นทำให้ผมจิตใจหวั่นไหวอีกแล้ว ว่าจะเฉยชาวางตัวกับเขาแค่เจ้านายกับลูกน้อง แต่ก็อดสงสารเขาไม่ได้ สงสัยเขาคงไม่ได้ตั้งใจจะดูถูกผมจริงๆน่ะแหละ ก็เขาพยายามบอกผมอยู่นี่นะ ว่าเขารักผม เขาคงต้องการเห็นผมมีความสุขนั่นเอง

โอ๊ย ยิ่งคิดยิ่งปวดหัว ขนาดอาบน้ำแล้วผมก็ยังคงคิดวุ่นวายอยู่ในหัวสมอง ตาสีฟ้าคู่นั้นดูมันเศร้าเหลือเกินตอนที่เห็นผมมองผ้าขนหนูสำหรับเช็ดตัวผืนที่ยื่นมาให้ เขาคงสะเทือนใจเมื่อเห็นความโกรธเคืองในแววตาของผม แม้จะเพียงนิดแต่คนฉลาดอย่างเขาคงรู้ทันว่าผมไม่พอใจที่เขาทำแบบนั้น ผมนี่ก็ช่างกะไร แยกไม่ออกหรือไงระหว่างความห่วงหาอาทรกับการดูถูกเหยียดหยาม ผมอาจจะคิดมากไปหน่อยเรื่องที่เขามาฝืนใจผมให้เป็นของเขา เลยทำให้เกิดอคติต่อท่านประธานขึ้นมา บางทีผมควรจะให้อภัยกับสิ่งที่เขาทำบ้าง อย่างน้อยสิ่งที่เขาทำลงไปหลายอย่างก็เพื่อผม มันเป็นสิ่งดีๆที่คนอย่างเขาไม่จำเป็นต้องใส่ใจทำให้เลย แค่มีเงิน มีอำนาจก็บันดาลทุกสิ่งได้แล้ว แต่นี่เขากลับยอมลดเกียรติศักดิ์ศรีมาปรนนิบัติรับใช้ โดยไม่ถือเนื้อถือตัว ถ้าไม่ได้ทำเพราะความรัก ก็ไม่รู้ว่าจะเรียกสิ่งนี้ว่าอะไรแล้ว

เสื้อผ้าของผมที่รีดเรียบร้อยแล้ว แขวนอยู่ที่ประตูตู้เสื้อผ้า ท่านประธานแอบเอาไปรีดมาตั้งแต่เมื่อไหร่ไม่รู้ ผมไม่ทันได้สังเกต กลับมาบ้านก็เหนื่อยจนพับ ไม่ได้สนใจอะไร หลับไปก่อนเขาทุกที ผมไม่รู้ว่าระหว่างนั้นท่านประธานทำอะไรบ้าง ตื่นมาตอนเช้าทุกอย่างก็ถูกจัดการเรียบร้อย ดูไปแล้วเขาก็น่ารักดี แม้จะแปลกๆไปนิดหน่อย กลางวันทำหน้าดุดันใส่ผม แต่ยามกลางคืนกลับอ่อนโยน ทำตัวเป็นแม่บ้านแม่เรือนดูแลผมอย่างไม่ขาดตกบกพร่อง จนบางครั้งผมเองก็วางตัวไม่ถูกจริงๆว่าควรจะทำตัวอย่างไรกับเขาดี ความรักที่เขามีต่อผมดูมันช่างน่ากลัวเหลือเกิน

แซนด์วิชอันโตน่าทานวางอยู่ในจานมีไส้กรอกกับแฮมและไข่ดาววางข้างๆ น้ำสะอาดรินอยู่เกือบเต็มแก้ว ช้อนส้อมและมีด ซึ่งแน่นอนไม่ใช่ของผม ถูกห่ออยู่ด้วยผ้าเช็ดปากสีขาวสะอาดตาซึ่งเป็นของแปลกปลอมอยู่ในบ้านของผม เขาคงซื้อมาไว้ให้ใช้ ถึงแม้จะรับปากว่าจะไม่ซื้อของชิ้นใหญ่ให้ แต่ของเล็กๆน้อยๆก็ถูกลอบเอามาวางกลมกลืนไปกับบ้านเช่าของผมทุกครั้ง

ออฟไลน์ Lucifer

  • เป็ดHephaestus
  • *
  • กระทู้: 1288
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +46/-1
มาต่อแล้วววว  :m11: :m11: :m11:
ขอบคุงพี่แน๋วมากๆ นะค้าบบบ  o14 o14

CoMMuNiTY Of ThAiBoYsLoVE






ออฟไลน์ Junrai_Hyper™

  • พูห์น้อยกลอยใจ
  • Global Moderator
  • เป็ดArtemis
  • *
  • กระทู้: 4842
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +777/-50
เฮ้ออออออออออออ

คิดถึงเคนใจจะขาดดดดดด

ขอบคุณคร้าบบบบ พี่แน๋ว

 :m11: :m11: :m11: :m11: :m11:

ออฟไลน์ THIP

  • Global Moderator
  • เป็ดApollo
  • *
  • กระทู้: 7674
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +986/-10
เย้ ได้อ่านต่อแล้ว  :m4:  :m4:  :m4:

meeza31

  • บุคคลทั่วไป
เยย นึกว่าจะไม่มาต่อซะแล้ว :m12:

ออฟไลน์ Poes

  • คนแรกของหัวใจ คนสุดท้ายของชีวิต
  • Administrator
  • เป็ดZeus
  • *
  • กระทู้: 11342
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +2405/-22
ในที่สุดก็ได้อ่านเรื่องนี้ต่อแล้ว  :m3:

ออฟไลน์ ที่ปรึกษาไอทีขั้นต้น

  • Administrator
  • เป็ดApollo
  • *
  • กระทู้: 6853
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +1320/-22
ยากต่อการยอมรับเสียจริงๆ
ไม่บ้าก็เมาแล้วท่านประธาน
 :m11: :m11: :m11:

abcd

  • บุคคลทั่วไป
ท่านประธานเคลวินไม่ได้อยู่ในห้องเช่าของผมแล้ว คงกลับไปบ้านไปเปลี่ยนเสื้อผ้าเพื่อไปทำงาน ทิ้งอาหารไว้ให้ผมดูต่างหน้า ผมยิ้มให้กับของที่เขาทำให้ผม โชคดีที่เรายังไม่เคยทานอาหารเช้าร่วมกันหลังจากตื่นนอนขึ้นมาเลย ไม่อย่างนั้นผมคงกระอักกระอ่วนใจวางหน้าไม่ถูกเป็นแน่

ผมลงมือทานอาหารที่เขาทำให้ ฝีมือการทำของเขาอร่อยใช้ได้ดีทีเดียว แม้จะเป็นอาหารง่ายๆก็ตาม ถึงแม้ว่าผมจะไม่เคยชินกับการทานอาหารแบบฝรั่ง แต่เมื่อมาอยู่ในเมืองหลวง อาหารประเภทนี้ผมคงหลีกเลี่ยงไม่ได้ อย่างไรก็ต้องพยายามให้เกิดความเคยชินเร็วๆ

วันนี้ผมไปทำงานแบบฉิวเฉียดเกือบจะไม่ทันเวลาที่เขากำหนดไว้ มาถึงก็ต้องมาเจอแฟ้มงานกองโตวางอยู่บนโต๊ะ พอถามพี่นนทรีก็ได้คำตอบว่าเป็นคำสั่งจากท่านประธานให้ผมศึกษางานทั้งหมดในเวลาสองวัน แล้วต้องทำรายงานและมานำเสนอให้ฟัง เพื่อดูว่าผมเข้าใจมากน้อยแค่ไหน
 
เลขาสุดสวยแสนจะใจดี เห็นว่าผมมีงานที่ต้องทำในสองวันนี้มากมาย เธอจึงไม่ให้ผมเรียนรู้งานในส่วนของเธอ แต่เลื่อนไปหลังจากนี้อีกสองวัน เพื่อให้ผมได้ปฏิบัติภารกิจให้เสร็จก่อน ผมรู้สึกซาบซึ้งกับความใจดีของเธอมาก ตั้งใจจะตอบแทนด้วยการเรียนรู้งานให้เป็นเร็วที่สุดเพื่อแบ่งเบาภาระของเธอ

ตั้งแต่ผมเข้ามาทำงานในบริษัทนี้ ผมพอจะมีเพื่อนอยู่บ้าง แต่ไม่มากนัก ส่วนใหญ่เป็นเพื่อนต่างฝ่ายมากกว่าเพื่อนที่อยู่แผนกเดียวกัน ที่เป็นแบบนี้ เพราะในแผนก เขามองผมเป็นเด็กช่วยงานของเขามากกว่า ก็จะเอาแต่สั่งให้ทำโน่นทำนี่ ความสัมพันธ์ที่มีจึงดูไม่ค่อยแนบแน่นเหมือนกับว่าผมถูกวางความสำคัญไว้เพียงแค่เด็กฝึกงานที่ต้องทำทุกอย่างให้พวกเขาเท่านั้น เลขาของท่านระธานจึงเป็นเพื่อนในแผนกเดียวกันคนแรกที่ผมมี และเธอก็ดีกับผมด้วย

อีก 10 นาที จะเป็นเวลา 10.00 นาฬิกา ตอนที่ผมได้รับคำสั่งจากหัวหน้าของผมคือท่านประธานให้ติดตามเขาออกไปข้างนอก ผมหันไปถามไถ่พี่นนทรีด้วยความงง ว่าทำไมผมต้องออกไปด้วย ในเมื่อเขาออกไปพูดคุยธุรกิจ น่าจะไปกับเลขามืออาชีพมากกว่าผมซึ่งเพิ่งพ้นจากคำว่าเด็กฝึกงานมาเป็นพนักงานทดลองงานได้ไม่กี่วัน ความรู้และประสบการณ์สำหรับงานใหญ่ๆยังไม่เคยมี ผมกลัวว่าจะไปทำพลาดให้ขายขี้หน้าอีก

เลขาแสนสวยให้กำลังใจผมว่า ไม่ต้องกลัวอะไรทั้งสิ้น สิ่งที่ผมควรจะทำคือ การที่ต้องพยายามแสดงให้คนอื่นเห็นถึงความสามารถที่ตัวผมมีอยู่ ทำให้ใครต่อใครรู้ว่าผมเก่งกาจเพียงใด ของแบบนี้มันเป็นภาพที่สร้างกันได้ ขอให้แสดงความมั่นใจออกมาเท่านั้น ก็จะไม่มีใครดูถูกผม อีกอย่างท่านประธานเป็นคนเลือกผม ย่อมเล็งเห็นแล้วว่าผมเหมาะสมกับงานนี้ และผมก็ไม่ควรทำให้ท่านผิดหวังด้วย เมื่อไม่อาจจะเลี่ยงได้ ผมจำต้องไปกับเขาตามลำพังสองคน

งานเจรจาธุรกิจที่ท่านประธานเคลวินพาผมไปเป็นงานที่เกือบจะเสร็จสมบูรณ์แล้ว เหลือเพียงขั้นตอนของการเซ็นต์สัญญาเท่านั้น ซึ่งปัญหาคือลูกค้าค่อนข้างที่จะตัดสินใจยากเพราะคุณแม่ของเขาซึ่งเป็นเจ้าของเงินยังมีทีท่าไม่พึงพอใจเงื่อนไขของสัญญาเท่าไหร่ จึงต้องมาเจรจากันใหม่ และครั้งนี้คุณแม่ของลูกค้าติดตามมาด้วย

abcd

  • บุคคลทั่วไป
ผมถึงบางอ้อทันทีเมื่อเห็นหน้าของคุณแม่ของลูกค้า เธอคือคนที่ผมเคยช่วยจากการเป็นลมหน้าห้องน้ำในคืนที่ผมถูกชวนให้ไปร่วมในงานแต่งงานของพี่นนทรีนั่นเอง ตอนแรกผมจำคุณป้าผู้ชราคนนั้นไม่ได้ เพราะวันนี้เธอแต่งกายดูดีภูมิฐานต่างจากวันที่ผมบังเอิญเจอเธอโดยสิ้นเชิง คุณป้าเป็นฝ่ายจำผมได้ก่อน เธอส่งยิ้มมาให้ แล้วทักทายผมเสียงดัง ผมต้องทบทวนความจำอยู่ชั่วครู่ถึงได้นึกออก

ไม่เคยนึกมาก่อนเลยว่าการที่ผมช่วยเหลือเพื่อนมนุษย์คนหนึ่งเพียงแค่เล็กน้อย กลับทำให้ชีวิตของผมเปลี่ยนแปลงไปในทิศทางที่ดีขึ้น การเจรจาวันนั้นผ่านไปด้วยความราบรื่น เพราะคุณป้าพึงพอใจในตัวของผม เธอกล่าวชื่นชมกับท่านประธานไม่ขาดปากว่าผมเป็นพนักงานที่องค์กรควรรักษาไว้ หากบริษัทมีคนอย่างผมก็จะทำให้องค์กรเจริญก้าวหน้า ผมเห็นท่านประธานยิ้มหน้าบานต่อคำชมที่ได้รับ ทว่าเวลาที่เขามองหน้าผมเขาเพียงแต่ยิ้มให้เล็กน้อยเท่านั้น แต่นั่นก็เพียงพอแล้ว ผมรู้สึกว่าตัวเองมีคุณค่าขึ้นมาทันที และเริ่มมีกำลังใจในการที่จะทำงานหนักต่อไป

เพื่อเป็นการฉลองการทำสัญญาซึ่งลูกค้าตกลงอย่างง่ายดายไม่น่าเชื่อ เพียงเพราะผมได้ช่วยเหลือคุณแม่ของเขาไว้ และคุณแม่ของเขาถูกชะตาในตัวผม ลูกค้าก็ขอเป็นเจ้ามือในการเลี้ยงอาหารกลางวันพวกเรา ประธานเคลวินไม่ปฏิเสธการชวนนั่น ทำให้ผมต้องติดหนึบนั่งทานข้าวร่วมวงไปกับเขาด้วย กว่าจะขอตัวเข้าบริษัทกันก็ปาเข้าไปเกือบบ่ายสอง

“รู้สึกอย่างไรบ้างคุณแคน สำหรับสิ่งที่เกิดขึ้นวันนี้”

อยู่ๆเขาก็ถามผมขึ้นมา ขณะที่เรานั่งรถไปด้วยกัน เราทั้งคู่นั่งใกล้กันอยู่ตรงเบาะด้านหลัง เป็นครั้งแรกที่ผมได้นั่งรถส่วนตัวที่มีคนขับให้แบบนี้

“ตื่นเต้นครับ ไม่คิดว่าทุกอย่างจะลงเอยได้อย่างง่ายๆ คุณแม่ของลูกค้าใจดีมากเลยครับ”

บอกไปอย่างเกร็งๆนิดหน่อย ถึงอย่างไรก็ยังไม่ชินกับการอยู่ต่อหน้าผู้ใหญ่อยู่ดี

“ส่วนหนึ่งผมก็ต้องยกให้เป็นความดีความชอบของคุณนะ ความมีน้ำใจของคุณช่วยทำให้เราได้งานนี้ บางทีเก่งอย่างเดียวมันไม่ได้หรอก เราจำเป็นต้องมีคุณธรรม และจิตใจที่งดงามด้วย”

เขาบอกผมเสียงเรียบ ก่อนจะเอ่ยประโยคต่อไปที่ทำให้หน้าที่ระรื่นของผมสลดลง

“แต่อย่าได้หลงระเริงดีใจไปจนทำให้ไม่ขยันมุ่งมั่นล่ะ จริงอยู่ว่าการมีภาพลักษณ์ซื่อใสเป็นสิ่งดี แต่เราก็ต้องไม่ดูเหมือนคนโง่ด้วย เราต้องฉลาด ทำงานอย่างมืออาชีพ คนถึงจะไว้ใจให้เราทำงานให้เขา ซื่อแต่เซอะ ก็ไม่ทันกินหรอก”

“ครับ ผมจะพยายามขยัน และทำงานให้เก่งขึ้นครับ”

ว่าผมหรือเปล่าไม่รู้ แต่มันน่าจะเป็นการดีสำหรับตัวเองที่รับเอาสิ่งนั้นมาเป็นภารกิจที่ผมต้องทำ ถึงอย่างการปรับปรุงตัวเองมันก็ดีสำหรับผม ความภูมิใจที่ได้รับในวันนี้ ไม่ได้ทำให้ผมย่อท้อ ถึงแม้ว่าท่านประธานหัวหน้าผม จะทำเป็นเข้มดุดันจริงจังใส่ก็ตาม

“ดีมาก เรียนรู้ทุกอย่างที่เป็นประสบการณ์ใหม่ๆ แรกๆอาจจะฝืนใจ แต่ตอนหลังจะชินไปเอง บางทีคุณอาจจะชอบมันก็ได้”

abcd

  • บุคคลทั่วไป
ประโยคนั่นมีความหมายอะไรแฝงอยู่หรือเปล่านะ ผมมองหน้าของท่านประธานแล้วหลบประกายตากล้าที่จ้องมองมานั่น เขาหวังอะไรที่ไกลกว่าเรื่องงานหรือเปล่า ประสบการณ์ใหม่ๆที่ว่านั่น หมายถึงการยอมรับการมีอยู่ของเขาในฐานะภรรยาของผมใช้ชีวิตคู่กับผู้ชายด้วยกัน หรือเปล่านะ ของแบบนี้ แม้ไม่เต็มใจจะลอง แต่เขาก็ยัดเยียดให้นี่นา หรือที่เขาบอกว่าในที่สุดผมจะชินและชอบมันไปเอง มันหมายถึงเรื่องอย่างว่าด้วย

จะบ้าตาย นี่ผมกลายเป็นคนคิดมาก ย้ำคิดย้ำทำไปตั้งแต่เมื่อไหร่กัน ไม่ได้การแล้ว ผมจะมัวมาคิดฟุ้งซ่าน กังวลใจไม่ได้แล้ว หน้าที่ของผมคือทำงาน ไม่ใช่มามัวคิดเรื่องรักใคร่ จดจ่อมากไปก็จะเสียการเสียงานเปล่าๆ เอาเป็นว่าเขาจะพูดไรมาก็ช่าง ถ้าไม่เกี่ยวกับงานการผมก็ไม่เห็นจะต้องไปสนใจนี่นา ปล่อยให้เขาพล่ามไปไม่มีใครสนใจเดี๋ยวก็เลิกไปเองนั่นแหละ

“เป็นไง ออกไปทำงานข้างนอกกับท่านประธานวันแรก ตื่นเต้นไหม”
พี่นนทรีถามผมทันทีที่เห็นหน้า

“โหย มากเลยล่ะครับ กลัวจะทำผิดทำพลาด แต่ทุกอย่างมันก็ผ่านไปด้วยดี ไปเจอคุณแม่ลูกค้าใจดีเข้าครับ เขาก็เลยยอมเซ็นต์สัญญาครับ เลยโล่งใจไปได้หน่อยครับ”

“อื้ม ดีแล้วล่ะ เริ่มต้นจากงานง่ายๆจะได้มีกำลังใจ คุณเคลวิน คงอยากจะให้เคนไปเรียนรู้งานในภาคสนามมั๊ง ก็จำๆเอาไว้แล้วกันว่าเวลาออกไปกับท่านประธานต้องทำอะไรบ้าง จะได้ไม่ต้องทำผิดพลาดให้เขาเห็น”

เธอบอกกล่าวกับผม จากนั้นก็หันไปทำงานต่อ ผมก็เลยไปง่วนอยู่กับการทำงานของตัวเองบ้าง กว่าจะได้เงยหน้าจากกองเอกสารก็ปาเข้าไปเกือบสองทุ่มแล้ว ได้เวลากลับบ้านสักที

ประธานเคลวินรอรับหน้าผมอยู่ที่บ้านตามเคย คราวนี้แต่งเนื้อแต่งตัวเรียบร้อยกว่าเดิม ใส่เสื้อกล้าม และกางเกงผ้ายืดมีผ้ากันเปื้อนคาดทับ เขายิ้มให้ผมอย่างอบอุ่น ดึงตัวผมไปกอดและจูบ ขืนตัวหนีอย่างไรก็ไม่พ้น จูบเสร็จก็ช่วยเอากระเป๋าเอกสารของผมไปเก็บ และยื่นผ้าขนหนูส่งให้เพื่อให้ผมไปอาบน้ำ ซึ่งด้วยความที่เหนื่อยล้าทำให้ผมทำตามอย่างว่าง่าย
กับข้าวร้อนๆควันฉุย วางอยู่บนโต๊ะพับที่กางออกมาสำหรับไว้ทานข้าว ผมมองจานไข่เจียวและผัดผักซึ่งหน้าตาแบบอาหารไทยอย่างทึ่ง นี่เขาหัดทำกับข้าวเพื่อให้ถูกปากคนไทยอย่างผมหรือนี่ ทำไมเขาถึงต้องมาทำดีกับผมด้วย นี่เขาอยากให้ผมยอมรับเขาจริงๆน่ะหรือ

“ผมลองทำอาหารไทยให้ทานครับ แต่ไม่รู้ว่าจะอร่อยถูกปากหรือเปล่า ทำง่ายๆไปก่อนนะครับ เพราะผมยังไม่ค่อยชินกับเครื่องปรุงอาหารแบบไทยๆ อาหารบางอย่างที่มีวิธีทำค่อนข้างยุ่งยากผมจะค่อยๆหัดไปทีหลังนะครับ”

ฝรั่งหน้าหล่อพูดไทยคล่องปร๋อ กำลังพูดให้ผมฟังด้วยน้ำเสียงนุ่มนวลถึงความพยายามทำอาหารไทยของตัวเอง ผมอดยิ้มให้กำลังใจเขาไม่ได้ พลางนึกว่า เวลาที่เขามีทีท่าสุภาพนุ่มนวลแบบนี้ ท่านประธานเคลวินก็ดูเป็นคนดีน่ารักน่าคบหาคนหนึ่งเหมือนกัน

“ถ้าพยายามไปเรื่อยๆคงทำได้เองนะครับ”

ออฟไลน์ Poes

  • คนแรกของหัวใจ คนสุดท้ายของชีวิต
  • Administrator
  • เป็ดZeus
  • *
  • กระทู้: 11342
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +2405/-22
เมื่อไหร่จายอมรับนะเคน  :m1:

ออฟไลน์ pongsj

  • เป็ดแสนดี
  • เป็ดAthena
  • *
  • กระทู้: 6054
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +213/-9
อิอิ ท่านประธาน 2 บุคลิก แบบอ่านข้ามตอนไปปรับอารมณ์ที ขำดี อิอิ

 

สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด


สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด