My wife is a big boss เรื่องโดน katesnk
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด

สนใจโฆษณาติดต่อ laopedcenter[at]hotmail.com คลิ๊กรายละเอียดที่ตำแหน่งว่างเลยครับ

สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด

ผู้เขียน หัวข้อ: My wife is a big boss เรื่องโดน katesnk  (อ่าน 161676 ครั้ง)

ออฟไลน์ Junrai_Hyper™

  • พูห์น้อยกลอยใจ
  • Global Moderator
  • เป็ดArtemis
  • *
  • กระทู้: 4842
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +777/-50
หวานซ้าาาาาาาาาาาา

 :m10: :m10: :m10:

ออฟไลน์ Lucifer

  • เป็ดHephaestus
  • *
  • กระทู้: 1288
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +46/-1
อิจฉาวุ้ย  :m3: :m3:

ออฟไลน์ ที่ปรึกษาไอทีขั้นต้น

  • Administrator
  • เป็ดApollo
  • *
  • กระทู้: 6853
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +1320/-22
เสร็จแน่ เริ่มหลงกลไปทีละน้อย
 :m7: :m7: :m7: :m7:

ออฟไลน์ THIP

  • Global Moderator
  • เป็ดApollo
  • *
  • กระทู้: 7674
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +986/-10
หุหุ คนสองบุคลิก  :m14:  :m14:

ออฟไลน์ Lucifer

  • เป็ดHephaestus
  • *
  • กระทู้: 1288
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +46/-1
รอคับรอ  :impress: :impress:

ออฟไลน์ ที่ปรึกษาไอทีขั้นต้น

  • Administrator
  • เป็ดApollo
  • *
  • กระทู้: 6853
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +1320/-22
มาลงแทนครับ
*******************

บทที่ 9 ค่ำคืนของสองเรา


ผมให้กำลังใจเขา คุณเคลวินยิ้มแฉ่ง มองสบตาผม พลางพูดให้กำลังใจผมเช่นกัน

“ครับ ผมพยายามทำในสิ่งที่ไม่คุ้นเคย แต่ผมจะพยายามทำมันให้ได้ เคนเองก็เหมือนกันนะครับ บางทีเวลาที่เราทำงานหนัก มันอาจจะเหนื่อยหน่อย เพราะเราไม่คุ้นเคยกับมัน แต่ถ้าเคนมีความมุ่งมั่นตั้งใจจริง ยอมลำบาก พอเราเก่งแล้ว ทุกอย่างมันก็จะดูง่ายสำหรับเรานะครับ”

อยู่ดีๆหัวใจของผมก็รู้สึกอบอุ่นขึ้นมา เมื่อได้ยินคำพูดปลุกปลอบอารมณ์นั่นจากเขา ผมเริ่มที่จะปรับตัวได้ทีละนิดทีละหน่อยแล้วกับการเปลี่ยนแปลงไปมาของท่านประธานเคลวิน อยู่ในบริษัทเขาดุดัน เข้มงวดใส่ผม เพราะเขาสวมหัวโขนของผู้นำไว้

แต่เมื่ออยู่กับผมที่บ้านเช่านี้ เขากลายเป็นคนนุ่มนวลใจดีอย่างน่าประหลาด ถ้าหากว่าสิ่งที่เขาพูดเป็นความจริงว่าเขารักและหวังดีกับผม ก็เห็นจะต้องขอบคุณและตอบแทนความมีน้ำใจนี้บ้างล่ะ

“อาหารอร่อยมากเลยครับ ขอบคุณนะ สำหรับกับข้าวที่ทำให้ผมทานทุกมื้อ รู้สึกเกรงใจจังเลย ที่ต้องให้คุณเคลวินมาลำบากเพราะผมแบบนี้”

สิ่งที่ผมจะให้เขาได้ในขณะนี้ก็คือคำชมแบบจริงใจเท่านั้น ท่านประธานยิ้มกว้าง มองผมด้วยดวงตาหวานฉ่ำ ผมไม่อยากสบตาสีฟ้าวาววามคู่นั้นเลย แต่ไม่รู้เหตุใดถึงทำให้ผมมองจ้องดวงตาคู่นั้นของเขาโดยไม่ยอมหลบ

“ไม่ลำบากอะไรเลยครับ มันเป็นหน้าที่ของภรรยาที่ต้องทำให้สามีนี่ครับ และผมก็เต็มใจด้วย ไม่เหนื่อยอะไรเลย เคนต่างหากที่เหนื่อยกับการทำงานมาทั้งวัน ถึงบ้านก็ควรจะได้พักผ่อนบ้าง ผมอยากให้ช่วงเวลาที่คุณหลุดพ้นจากงานการอันเหนื่อยล้า เป็นช่วงเวลาที่คุณมีความสุขที่สุดครับ”

หวั่นไหวอีกแล้ว กับคำพูดและท่าทางที่จริงใจของเขา ไม่อยากให้เขาแสดงท่าทีแบบนี้เลย เพราะถึงอย่างไร ผมก็ไม่อาจจะรักเขาตอบได้ ผมต้องการความสัมพันธ์ระหว่างชายหญิง ไม่ใช่ชายกับชายแบบนี้

“ถ้าอร่อยก็ทานเยอะๆนะ”

เขาคะยั้นคะยอผมให้ทานเยอะๆ แต่ตัวเองกลับนั่งเฉย ผมเลยบอกให้เขาทานบ้าง

“ให้แต่ผมทาน แต่คุณเคลวินไม่ยอมทานเลย นี่ให้ผมเป็นหนูทดลองยาหรือเปล่า หรือว่าแอบใส่ยาพิษเอาไว้ กะฆ่าผมให้ตายใช่ไหม”

พอผมหลุดประโยคแซวเขาออกไป ท่านประธานฝรั่งตัวโตก็หัวเราะออกมาอย่างชอบใจ พลางบอกกับผมอย่างติดตลกพอกัน

“ผมไม่ใส่ยาพิษหรอกครับ ถ้าจะใส่ก็มีแค่ยาสั่ง “ให้คุณรักผม” เท่านั้นแหละ พอคุณทานเสร็จจะได้รับรักผมเสียที ที่จริงผมชอบมองเคนเวลาทานข้าวนะครับ เคนดูน่ารักดี”


--------------------
“อ๊ะ..อะไรกันครับ คนกินข้าวน่ารักตรงไหน ผมทำตลกให้คุณเห็นน่ะสิไม่ว่า จ้องเอาๆแบบนี้ผมเขินแย่สิครับ เล่นมีคนมองตลอดเวลาขณะกินข้าวน่ะ”

ผมต่อว่าต่อขาน

“ไม่นะ เคนน่ะน่ารักจริงๆ ที่จริง เคนทำอะไรก็น่ารักรู้ไหม ผมชอบจัง ท่าทางคุณซื่อๆเป็นธรรมชาติดี เวลาอายยิ่งน่ารักน่ะครับ”

คำชมเชิงเกี้ยวพาราสีนั่นทำให้ผมเขินหนักเข้าไปใหญ่ ภรรยาบ้าบออะไรมาพูดจากับสามีแบบนี้ ที่จริงมันต้องเป็นฝ่ายผู้ชายพูดกับผู้หญิงไม่ใช่เหรอ หรือว่าผมมันหัวโบราณเกินไปนะ แต่จะว่าไปเขาคงไม่รู้อะไรกับเรื่องทำนองนี้หรอก เพราะเขาเป็นฝรั่ง เป็นผู้ชายด้วย ไม่ใช่ผู้หญิงสักหน่อย

“ไม่เอาล่ะ ถ้าคุณไม่ทานด้วย ผมก็จะอิ่มละนะครับ กินคนเดียวในขณะที่อีกคนนั่งมองน่ะ มันดูแปลกๆน่ะครับ”

ทำท่ารวบช้อนเป็นเชิงว่ายุติการกิน ท่านประธานเห็นเข้าเท่านั้นก็ทำตาโต ร้องห้าม พลางอ้อนให้ผมทานต่อแล้วเขาจะทานเป็นเพื่อน แถมซ้ำยังตักข้าวเข้าปากให้ผมดูด้วยกลัวว่าผมจะไม่เชื่อว่าเขาทำจริง ผมลอบยิ้มให้กับตัวเอง แล้วก็ตัดข้าวเข้าปากต่อ

เรานั่งกินกันไปมองกันไป แต่ผมเชื่อว่าเราสองคนคิดกันไปคนละเรื่อง ผมไม่รู้ว่าใบหน้าที่เกลื่อนไปด้วยรอยยิ้มนั้นกำลังคิดอะไรอยู่ ขณะที่มองผมตาเชื่อม แต่สำหรับผมแล้ว ผมกำลังนึกเอ็นดูท่านประธานของผมอยู่

แปลกดีนะ เวลาอยู่ที่บ้านผมเกร็งแทบแย่เวลาอยู่กับเขา พอเวลาผ่านไปผมเริ่มผ่อนคลายขึ้น และรู้ว่า ในบ้านหลังนี้ผมสามารถที่จะเป็นใหญ่ได้ โดยที่หัวหน้าจอมดุของผมยินดีที่จะเป็นผู้ตาม ผมคิดด้วยความครึ้มอกครึ้มใจว่า คงมีสักวันที่ผมจะสามารถเอาคืนเขาได้บ้าง อยากโหดกับผมดีนัก อาจจะต้องแกล้งกลับคืนเสียบ้างเพื่อความสะใจ

“วันนี้เรากุ๊กกิ๊กกันหน่อยนะครับ”

หลังจากที่เขาจัดการทำความสะอาดทุกอย่างเรียบร้อยแล้ว ท่านประธานเคลวินก็ขึ้นมานั่งบนเตียงของผม และเริ่มอ้อนขอมีอะไรกัน แต่มีหรือที่ผมจะยอมตกลง

“ไม่นะครับ อย่าเลย ผมไม่ชอบ”

“ต้องลองทำดูหลายๆครั้งครับ เคนถึงจะรู้ว่าชอบหรือเปล่า อย่าเพิ่งปฏิเสธโดยไม่ยอมแม้แต่จะลองทำดูเลยนะครับ”

เขายังคงอ้อนต่อ คราวนี้ไม่ใช่แค่คำพูด แต่ยังขยับตัวเข้ามาใกล้ๆ และถือวิสาสะดึงผมมากอดไว้แนบแน่นในวงแขนของเขา

“วันนั้นก็ลองแล้วนี่ครับ ไม่เห็นจะอยากทำอีกเลย”

แย้งเขาออกไป หนเดียวก็น่าจะพอแล้ว อย่าให้มีครั้งสองครั้งสามเลย

“ก็วันนั้นเคนน่ะเมาแล้วอาจจะไม่รู้เรื่องนี่ครับ ตอนนี้ เคนยังไม่เมา ถ้าเราลองทำกันดูตอนนี้ เคนอาจจะชอบก็ได้นะครับ ผมรับรองว่าจะทำให้เคนมีความสุขแน่นอนครับ”

...........
ขายังอ้อนขอทำต่อ แต่ผมปฏิเสธพัลวัน

“ไม่ครับ ไม่ทำนะ”

“ทำไมละ ครับ”

ท่านประธานเคลวินเริ่มซุกซนมือไม้ลูบไล้ผมไปทั่วตัว จมูกก็เริ่มซุกไซ้

“ผมเหนื่อยนะครับ พรุ่งนี้ก็ต้องตื่นแต่เช้าอีก และผมก็ยังไม่หายระบมก้นเลย”

ใ ช้ไม้ตายอ้างว่าเหนื่อย และยังไม่หายเจ็บมาเป็นตัวขัดขวางการทำตามความประสงค์ของเขา ฝรั่งหน้าหล่อผละจากซอกคอของผม แล้วยกมือจับใบหน้าประคองให้มองสบตากับเขา

“ผมสัญญาว่าจะนุ่มนวลกับคุณไม่ให้คุณต้องเจ็บปวดน่ะครับ นะ นะ นะ ยอมเถอะ หลายวันแล้วที่เราไม่ได้มีอะไรกันเลย”

“แต่ว่า”

“นะครับ ผมคิดถึงคุณมากๆเลย”

“ก็เจอกันทุกวันนี่ครับ ทั้งที่ทำงานและที่บ้าน”

“แต่น้องชายของผมยังไม่ได้เจอกันกับน้องชายคุณเลยนะ เขาคิดถึงกันนี่ เคนอ่ะอย่าทรมานเขากันเลย ให้เขาได้พบกันเถอะ”

ว่าเข้าไปนั่น เหตุผลอะไรกันเนี่ย ใครยอมก็บ้าแล้ว

“ไม่เห็นจะรู้สึกแบบนั้นเลย ท่านประธานคิดไปเองหรือเปล่า”

“ถ้าเรียกผมว่าประธานอีก ผมจะสั่งแบบที่ท่านประธานสั่งเลยนะครับ ให้คุณยอมเป็นของผม ไม่งั้นผมจะไล่คุณออก”

“ก็เชิญไล่เลยสิ แบบนี้ผมไม่ทำหรอก”

ข ู่มานึกว่าจะกลัวเหรอ เจอผมทำหยิ่งใส่ เรื่องอะไรจะยอมคนที่ใช้อำนาจบาตรใหญ่ง่ายๆได้ไง คิดจะทำอะไรก็ทำได้งั้นหรือ ผมคนหนึ่งล่ะที่ไม่กลัว

“เรื่องอะไร ผมจะไล่คุณล่ะ แค่พูดไปงั้นเองแหละ ก็คุณน่ะ เอะอะอะไรก็ท่านประธาน ก็บอกแล้วไงว่าที่นี่ไม่มีหัวหน้าลูกน้อง มีแต่เราสองคนสามีภรรยาอยู่ด้วยกัน ผมไม่ชอบให้เคนเรียกผมด้วยตำแหน่งหน้าที่การงานแบบนั้น อยากให้เรียกชื่อผมเฉยๆ รู้สึกว่าจะเคยพูดกันแล้วนะครับเรื่องนี้ ทำไมยังเรียกผมว่าท่านประธานอยู่อีกล่ะ หรืออยากจะให้เรื่องของเรามันเป็นส่วนหนึ่งของงาน ผมทำแบบนั้นก็ได้นะ”

ท ่าทางเอาจริงเอาจังของเขา ทำให้ผมนึกกลัว อะไรกันหนักกันหนานะ กะอีแค่เรียกชื่อกับเรียกตำแหน่ง ก็เอามาเป็นประเด็นสำคัญ ช่างเอาแต่ใจตัวเองเสียจริงเลย แล้วยังคำขู่นั่นอีก มันเรื่องอะไรกันที่จะให้ความสัมพันธ์ระหว่างเราถูกนับเป็นส่วนหนึ่งของงาน ผมยังนึกไม่ออกเลยว่าถ้าเป็นอย่างนั้นจริงมันจะเกิดอะไรขึ้น ผมจะถูกเขาใช้อำนาจลวนลามเอาตามอำเภอใจหรือเปล่า

“ก็ได้ เรียกชื่อก็ได้ครับ คุณเคลวิน ผมเรียกชื่อคุณแล้ว ปล่อยผมไปเถอะนะครับ”
..............
 “จะดีมากกว่านี้ถ้าไม่มีคำว่าคุณต่อหน้าชื่อ”

เอาอีกล่ะ เรื่องมากอีกแล้ว

“ครับ เคลวิน ..ปล่อยผมเถอะ ผมจะนอนแล้วล่ะ”

“ก็เรากำลังจะนอนกันอยู่แล้วไม่ใช่หรือครับ แล้วผมก็จะนอนกับคุณด้วยอ่ะ”

ไม่พูดเปล่า เขากลับรุกเร้าผมด้วยมือและปากอีกครั้ง ผมพยายามผลักไสเขาเป็นพัลวัน

“ ก็ทำแบบนี้ ใครจะไปนอนได้เล่าครับ คุณ..เอ้อ...เคลวินก็อยู่เฉยๆได้ไหมครับ ผมจะได้นอนพักเอาแรงสักที ถ้าคุณจะนอนด้วย ก็ได้นะ ผมไม่ว่าหรอก ถ้านอนไม่สบาย คุณนอนบนเตียงก็ได้ เดี๋ยวผมไปนอนที่พื้นห้องเอง”

ผมข ยับตัวทำท่าจะลุกขึ้น เจตนาต้องกานจะหนีให้พ้นการลวนลามของเขา แต่ผมไม่อาจจะหลุดพ้นอ้อมกอดของคนตัวใหญ่อย่างเขาได้ เขารั้งตัวผมกลับลงมาใหม่แล้วก็กอดแน่น แนบหน้าเข้ามาใกล้ จนสัมผัสได้ถึงลมหายใจอุ่นๆของเขา

“ไม่นะ ไม่ให้ไปไหนทั้งนั้นล่ะ นอนอยู่ด้วยกันบนเตียงแบบนี้ดีกว่า ดีออก ผมชอบนะที่จะได้กอดเคนแบบนี้ แล้วก็ได้จูบกับเคนอีก”

ฝ รั่งตัวโตทำหน้าดื้อๆใส่ เขาไม่ยอมปล่อยผมให้หลุดจากอ้อมกอดของเขากลับรัดแน่น และระดมกอดจูบโดยไม่ยอมฟังเสียงห้าม ผมพยายามดิ้นหนี ปัดป้องตัวเองพัลวัน ไม่อยากจะศูนย์เสียเอกราชจากการรุกรานของข้าศึกอีกครั้ง

แต่ยิ่ง ดิ้นหนีเท่าไหร่ ก็ไม่อาจจะฝ่าวงล้อมไปได้ แม่ทัพนายนี้มีความเก่งฉกาจฉกรรจ์ แค่พลังฝ่ามือของเขาที่สัมผัสแตะต้องผิวเนื้อของผมก็ทำให้เกิดความรู้สึกวูบ วาบร้อนรุ่มไปทั้งตัว แล้วไหนจะจมูกและปากที่ปลุกสัญชาตญาณดิบในกายของผมให้ตื่นตัวขึ้นมาอีกล่ะ

ม ันเป็นอารมณ์เสน่หาที่เร่าร้อน บอกไม่ถูกว่าทำไมถึงได้รู้สึกเสียวซ่านเมื่อถูกผู้ชายด้วยกันโลมเล้า รู้แค่เพียงว่าในเวลาไม่นานนัก มือไม้ผมก็อ่อนแรง จากนั้นเสื้อผ้าก็หลุดลุ่ยออกจากตัว

มือไม้ปลาหมึกพัลวันลูบไล้อยู ่ทั่วกายผม ตั้งแต่ราวนม หน้าท้อง และต่ำลงไปกลางลำตัว หนูน้อยของผมอุ่นวาบเมื่อมือใหญ่ของเขาเกาะกุม ทันใดนั้นความรู้สึกผิดชอบชั่วดีก็เตือนสติให้ผมต้องหาทางเอาตัวรอดจากเหตุก ารณ์น่าหวาดเสียวต่อการเสียตัวครั้งนี้

“พอเถอะครับ ไม่...ไม่ทำนะครับ”

ร ้องห้ามออกไป แต่เสียงมันกระเส่า ไม่มีพลังพอจะหยุดยั้งเขาได้เลย เคนยังคงลูบไล้หยอกเอินน้องชายของผม จนเขาเติบโตแข็งแรงขึ้นเต็มมือของฝรั่งหนุ่ม

“อย่าดื้อเลยครับ มาถึงขั้นนี้แล้วนะ ผมไม่ยอมถอยง่ายๆหรอกครับ เคนเองก็พร้อมแล้วนี่นา จะหยุดมันซะเฉยๆทำไมล่ะ น่าเสียดายออกนะครับ”

้ำเสียงนั่นยั่วเย้า มือของเขายังไม่ยอมหยุดนิ่ง กลับนวดเฟ้นแรงขึ้น จนผมครางอือออกมาอย่างลืมตัว ถึงกระนั้น ผมก็ยังไม่อยากจะยอมรับความรู้สึกของตัวเอง

“แต่ว่าผมไม่อยากทำแบบนี้ครับ”
............
ป ฏิเสธเสียงหลง พยายามแกะมือของเขาออกจากการเกาะกุมร่างกายของผม แต่มือนั้นเหนียวหนึบมาก ไม่ยอมปล่อยแถมกระตุ้นน้องชายผมจนคึกคักหึกเหิม

“ ไม่เป็นไรครับ เดี๋ยวก็ชอบเองละนะ ของทุกอย่างมันต้องลองดูนะครับ ผมสัญญานะครับว่าค่ำคืนนี้ของเราจะเป็นค่ำคืนที่มีความสุขจริงๆ เคนก็อย่าฝืนหรือต่อต้านนะครับ ปล่อยให้ทุกอย่ามันเป็นไปตามธรรมชาติ ผ่านช่วงเวลานี้ไปแล้ว เคนค่อยบอกผมว่าชอบหรือเปล่า...”

น้ำเสียง ของเขาแผ่วเบา ขณะที่เขาค่อยๆเลื่อนตัวลงมา แล้วใช้ปากและจมูกวนเวียนซุกไซร้ดอมดมไปทั่วร่างกายผม จนกระทั่งถึงท้องน้อย แต่ก่อนที่เขาจะเลยไปถึงส่วนที่อยู่ต่ำลงไป ผมก็หยุดเขาไว้ก่อนด้วยการเอามือดันเขาออก แต่ทำได้แค่เพียงทำให้เขาเงยหน้าขึ้นมองผมเท่านั้น

“แล้วถ้าผมไม่ชอบล่ะ”

สิ่งที่ผมได้เป็นคำตอบจากคำถามนี้คือ รอยยิ้มแฝงความหมายจากเขา

“ถ้าฝีมือของผมมันแย่มาก จนไม่สามารถทำให้คุณชอบได้ ผมจะหยุด...ไม่ทำต่อไปอีกอ่ะครับ”

ค ำสัญญานี้เชื่อได้หรือเปล่านะ แต่ก็ยอมรับว่ามันมีผลอยู่บ้างเหมือนกัน เพราะมันทำให้ผมเลิกต่อต้านเขาเกือบในทันที ทว่าที่จริงแล้ว ผมหมดแรงที่จะขัดขืนเพราะการเล้าโลมของเขาต่างหาก ท่านประธานเคลวินนับว่าเป็นผู้ชายหนุ่มที่เก่งพอตัว เขาทำให้ผมเกิดอารมณ์วาบหวามถึงขีดสุด และก่อนที่จะทันได้รู้ตัว เขาก็แทรกร่างกายที่ใหญ่โตของเขา เข้ามาสู่เรือนร่างของผมเรียบร้อยแล้ว

เ จ็บจนจุกพูดไม่ออก คืนนั้นผมไม่รู้สึกอะไรเพราะเมา จึงไม่ได้รับรู้ว่าครั้งแรกของตัวเองที่ถูกเขาล่วงเกินมันรุนแรงแค่ไหน แต่ตอนนี้สติสัมปชัญญะของผมสมบูรณ์ดี จึงรับรู้ได้ถึงความเจ็บปวดที่ได้รับ ทว่ามันผสานกันกับความสุขแบบแปลกๆที่บอกไม่ถูก รู้แต่ว่าผมอยากให้ทุกอย่างมันดำเนินต่อไปจนกว่าจะสิ้นสุด ไม่อยากให้เขาทิ้งผมไว้กลางทางแบบค้างๆคาๆ

“ไปพร้อมๆกันนะครับที่รัก”

ร ่างของท่านประธานเคลวินเคลื่อนไหวอยู่บนร่างกายของผม สะโพกขยับอย่างรวดเร็วเป็นจังหวะทั้งนุ่มนวลและกระแทกกระทั้นในบางครั้ง เหงื่อเต็มกายเราทั้งสอง แต่เขากลับไม่มีทีท่าว่าจะเหน็ดเหนื่อยง่ายๆ

ต าสีฟ้าของเขาจับจ้องอยู่ที่ใบหน้าของผม มีรอยยิ้มให้กำลังใจส่งมาเป็นระยะ และแล้วเขาก็โน้มตัวเข้ามาหาผม พลางมอบจูบที่หวานล้ำให้ จากนั้นเขาก็กอดผมไว้แน่นพลางเคลื่อนไหวสะโพกถี่ยิบ ก่อนที่จะบดเบียดสะโพกของเขาอัดกับลำตัวส่วนนั้นของผมจนแทบจะไม่มีช่องว่างใ ห้แม้แต่อากาศแทรกเข้าไปได้

“อ๊า......”

ผมเผลอตัวร้องเสียงล ั่นเมื่อเขากระแทกร่างกายครั้งสุดท้าย ตัวเขาเกร็งกระตุก สายน้ำอุ่นๆมากมายหลั่งไหลเข้าไปในร่างของผม พร้อมๆกับที่ผมก็ปล่อยมันธารรักออกมาจนเลอะรดที่นอนของตัวเอง ท่านประธานเคลวินโอบกอดผมไว้แน่น หายใจหอบกระเส่า หลังจากที่อารมณ์ของเขาผ่อนคลายลง เขาก็เวียนจูบผมไปทั่วใบหน้าและลำคอ เมื่อหนำใจแล้วเขาก็ค่อยๆเอนตัวลงนอนข้างๆผมโดยยังโอบกอดผมไว้แนบแน่น

« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 31-07-2007 13:45:06 โดย b|ueBoYhUb »

ออฟไลน์ ที่ปรึกษาไอทีขั้นต้น

  • Administrator
  • เป็ดApollo
  • *
  • กระทู้: 6853
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +1320/-22
“อ๊า......”

ผ มเผลอตัวร้องเสียงลั่นเมื่อเขากระแทกร่างกายครั้งสุดท้าย ตัวเขาเกร็งกระตุก สายน้ำอุ่นๆมากมายหลั่งไหลเข้าไปในร่างของผม พร้อมๆกับที่ผมก็ปล่อยมันธารรักออกมาจนเลอะรดที่นอนของตัวเอง ท่านประธานเคลวินโอบกอดผมไว้แน่น หายใจหอบกระเส่า หลังจากที่อารมณ์ของเขาผ่อนคลายลง เขาก็เวียนจูบผมไปทั่วใบหน้าและลำคอ เมื่อหนำใจแล้วเขาก็ค่อยๆเอนตัวลงนอนข้างๆผมโดยยังโอบกอดผมไว้แนบแน่น

“มีความสุขไหมครับ”

เ ล่นถามกันแบบนี้เลยเหรอ ยอมรับได้ไงล่ะ เป็นตายยังไงผมก็ไม่บอกความจริงหรอก ขืนบอก เขาก็ต้องหามาเป็นข้ออ้างที่จะมีอะไรกับผมต่อไปอีกนะสิ

“ไม่ครับ ไม่ได้รู้สึกอะไร เฉยๆ ไม่ชอบด้วยครับ”

แกล้งโกหกเขาเพื่อเอาตัวรอดในครั้งต่อไป แต่มันคงไม่เนียนนัก เพราะผมไม่ถนัดพูดโกหกคนอื่น ท่านประธานเลยขมวดคิ้วสีทองเข้มอย่างสงสัย

“ แต่เสียงที่ผมได้ยินมาตลอดเกือบครึ่งชั่วโมงนั่น มันทำไมฟังแล้วดูเหมือนเสียงครวญครางด้วยความพึงพอใจล่ะครับ หรือว่าผมหูฟาด ไม่ก็ตีความผิดว่าคุณชอบอยากให้ทำอีก”

ช่างพูดได้จี้ ใจดำผมเหลือเกิน นึกโมโหตัวเองที่ครางซะดังลั่นขนาดนั้นจนเขาจับได้ว่าผมเองมีความสุข แต่ไหนๆก็โกหกแล้วก็ต้องดิ้นให้ตลอด

“ไม่ใช่สักหน่อย ผมเจ็บต่างหากล่ะ ก็ท่านป..เอ้อ เคลวินทำผมแรงมากจนผมเจ็บระบมไปหมด ผมก็ร้องครางออกมาอ่ะ”

“งั้นเหรอครับ ....ก็ได้ คุณไม่พอใจในสิ่งที่ผมทำ ถ้างั้นผมขอแก้มือแล้วกัน จะได้รู้กันไปเสียทีว่า ผมห่วยแตกจริงหรือเปล่า”

ไ ด้ไง ทำไมมาสรุปกันง่ายๆแบบนี้ล่ะ ไหนบอกว่าถ้าผมไม่ชอบจะเลิกทำไง ทำแบบนี้มันผิดคำพูดนี่นา เป็นถึงประธานบริษัทจะมาพูดจากลับกลอกแบบนี้ มันใช้ได้ที่ไหน

“อย่าละเมิดสัญญาสิครับ คุณบอกว่าถ้าผมไม่พอใจ คุณก็จะไม่ทำยังไงล่ะ นี่ผมก็บอกแล้วว่าผมไม่ชอบไม่พอใจ แล้วจะมาขอแก้มือได้ไง ผมไม่ยอมนะ”

“ผมไม่ได้บิดพลิ้วนะ ผมบอกว่าถ้าผมทำให้คุณชอบใจไม่ได้ ผมจะเลิก แต่ผมไม่ได้บอกนี่ครับว่าผมจะทำกี่ครั้ง”

“ขี้โกงนี่นา”

“ก็เคนอยากน่ารักทำไมล่ะ”

“นี่จะทำจริงหรือครับ อย่าเลยนะ ผมเหนื่อยนะครับ”

“ ถ้าเคนยังดื้อดึง ถูกปล้ำไม่รู้นะ แล้วอาจจะโดนทำทั้งคืนเลยล่ะ แต่ถ้ายอมดีๆผมอาจจะทำแค่ครั้งเดียว แล้วก็ไปนอน เคนอยากให้เป็นแบบไหนล่ะ”

“งั้นเอาแบบครั้งเดียวพอ”

พูดสวนออกไปเกือบจะเป็นเสียงตะโกน ท่านประธานเคลวินยิ้มกริ่มและกดผมลงกับเตียงใหม่

ออฟไลน์ Poes

  • คนแรกของหัวใจ คนสุดท้ายของชีวิต
  • Administrator
  • เป็ดZeus
  • *
  • กระทู้: 11342
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +2405/-22
ชักงง ใครเปงภรรยาใครเปงสามีกันหว่า ทำไมมันกลับกันล่ะ  :m28:  :m28:

ออฟไลน์ Lucifer

  • เป็ดHephaestus
  • *
  • กระทู้: 1288
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +46/-1
เหอเหอ ครั้งเดียวไม่พอ  :m10: :m10:
ขอบคุงพี่เรย์ที่มาลงให้นะค้าบบบ  o1 o1

ออฟไลน์ Junrai_Hyper™

  • พูห์น้อยกลอยใจ
  • Global Moderator
  • เป็ดArtemis
  • *
  • กระทู้: 4842
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +777/-50
ถ้าเป็นภรรยา แล้วได้กด

ขอเป็นภรรยาแล้วดันนะครับ เรย์ที่รัก

 :a11: :a11: :a11: :a11: :a11: :a11:

CoMMuNiTY Of ThAiBoYsLoVE

ประกาศที่สำคัญ


ตั้งบอร์ดเรื่องสั้น ขึ้นมาใครจะโพสเรื่องสั้นให้มาโพสที่บอร์ดนี้ ถ้าเรื่องไหนไม่จบนานเกิน 3 เดือน จะทำการลบทิ้งทันที
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=2160.msg2894432#msg2894432



รวบรวมปรับปรุงกฏของเล้าและการลงนิยาย กรุณาเข้ามาอ่านก่อนลงนิยายนะครับ
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=459.0



สิ่งที่ "นักเขียน" ควรตรวจสอบเมื่อรวมเล่มกับสำนักพิมพ์
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=37631.0






ออฟไลน์ THIP

  • Global Moderator
  • เป็ดApollo
  • *
  • กระทู้: 7674
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +986/-10

ออฟไลน์ ที่ปรึกษาไอทีขั้นต้น

  • Administrator
  • เป็ดApollo
  • *
  • กระทู้: 6853
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +1320/-22
สงสัยโลกเราจะแปลกประหลาดไปเรื่อยๆ กร๊าก
***************


 บทที่ 10

เ คนของผมหลับไปแล้ว หลังจากที่การมีอะไรกันครั้งที่สองในค่ำคืนนี้ของเขาผ่านไปอย่างทรมาน ผมกลั่นแกล้งเขาด้วยการปลุกเร้าอารมณ์เคนอย่างเต็มที่ จนไฟพิศวาสลุกโพลงแทบจะมอดไหม้สุดที่รักของผมให้หลอมละลาย แต่ผมก็รีรอไม่ยอมพาเคนไปถึงสวรรค์โดยง่าย หน่วงเหนี่ยวเวลาด้วยการเล้าโลมจนเขาเกิดความต้องการเต็มที่ ในเมื่อเคนบอกว่าไม่ชอบในสิ่งที่ผมทำกับเขา ผมก็เลยกลั่นแกล้งเสียให้เข็ดเพื่อพิสูจน์กันให้รู้ไปเลยว่าเคนมีอารมณ์ร่วม ไปด้วยหรือไม่
แล้วสิ่งที่ผมคิดไว้ก็เป็นความจริง เคนของผมตอบรับการเล้าโลมจากผม และร่วมไม้ร่วมมืออย่างดี แรกๆเขาก็ขัดขืนปกป้องตนเอง แต่พอผมเริ่มต้นไปได้สักพัก เขาก็ส่งเสียงครางกระเส่า ยิ่งผมรุกเร้ามากขึ้นเท่าไหร่ เคนก็ครวญครางและแสดงอาการให้รู้ว่าพร้อมสำหรับผมมากแค่ไหน เหมือนเขาเป็นเครื่องยนต์ที่สตาร์ทติดง่าย ออกตัวเร็ว และทะยานโลดแล่นไปสู่จุดหมาย
ปฏิกิริยาของเขาทำให้ผมรู้สึกพึงพอใจ อย่างน้อยๆร่างกายของเคนก็เปิดทางให้ผมแล้ว เหลือแต่จิตใจเท่านั้น ที่ผมจะต้องพยายามครอบครองให้ได้ ผมรักเขามาก ความรู้สึกมันเพิ่มพูนขึ้นทีละน้อยๆ ทุกวัน จนในที่สุด เคนก็มายึดครองพื้นที่ในหัวใจของผมเข้าไปเต็มๆร้อยเปอร์เซ็นต์ ไม่เหลือเผื่อแผ่ที่ให้คนอื่นอีกแล้ว ผมไม่อยากจะเสียเขาไปให้ใคร ดังนั้นผมจึงต้องพยายามทำทุกวิถีทางที่จะให้เคนยอมรับผมให้ได้ หากใช้วิธีปกติไม่ได้ผล ก็ต้องใช้เล่ห์กลกันบ้าง
“หลับเถอะนะครับ คนดี พรุ่งนี้คุณต้องเผชิญกับอะไรอีกตั้งมากมาย แต่อยากให้รู้ไว้ ว่าผมจะอยู่เคียงข้างคุณเสมอ”
ก ระซิบข้างหูคนที่กำลังนอนหลับเบาๆ ใบหน้าของเคนยิ้มน้อยๆ เหมือนคนที่มีความสุข และกำลังฝันดี ผมอดไม่ได้ที่จะพรมจูบไปทั่วไปหน้าห้าเหลี่ยมนั่น ใครว่าคนอีสานหน้าตาไม่ดีกันนะ อย่างน้อยก็เว้นเคนไว้คนหนึ่งล่ะ ถึงแม้หน้าตาเขาจะออกลูกทุ่ง ชนบทไปสักหน่อย แต่ก็เป็นหนุ่มชนบทที่หน้าตาดีเชียวล่ะ เพียงแต่ว่าดูมอซอไปนิด หากจับมาขัดสีฉวีวรรณ แต่งเนื้อแต่งตัวดีๆ กินอาหารที่มีประโยชน์ พักผ่อนอย่างเพียงพอ และบำรุงผิวพรรณบ้าง เขาจะเป็นหนุ่มทันสมัยที่ใครๆก็ต้องมองอย่างเหลียวหลังแน่นอน
เอาเถอะ ผมจะค่อยๆเปลี่ยนแปลงเขาไปทีละน้อย แต่ต้องไม่ให้เขาสูญเสียความเป็นตัวของตัวเอง ผมรู้ดีว่า คนอย่างเคนยังคงยึดติดอยู่กับความเคยชินแบบเก่าๆ และเขาค่อนข้างหยิ่งในศักดิ์ศรีพอตัว สิ่งที่ผมกำลังจะทำให้กับเขา เคนอาจจะยอมรับไม่ได้ และอาจจะถือโทษโกรธผมที่มาวุ่นวายกับชีวิตของเขา ทว่าสิ่งที่ผมจะทำนั้นมันมาจากความปรารถนาดี ที่อยากเห็นเขาดูดีกว่าเดิม ผมอยากช่วยพัฒนาทั้งในเรื่องความรู้ ความสามารถในการทำงาน ควบคู่กันไปกับการพัฒนาบุคลิกภาพด้วย ไม่ใช่ทำเพื่อเป็นหน้าเป็นตาให้ผม แต่ทำเพื่อตัวของเคนเอง คนเราต้องเติบโตก้าวหน้าขึ้น เพื่อความสำเร็จในชีวิต มีสิ่งเดียวที่ผมจะไม่ยอมเปลี่ยนแปลงในตัวของเคน คือความดีงามในหัวใจของเขา เพราะสิ่งนี้เป็นข้อเด่นในตัวของเคนอยู่แล้ว เพียงแต่ผมจะส่งเสริมให้มันดูดียิ่งขึ้นไปเรื่อยๆ เท่านี้ก็คงจะเพียงพอที่จะทำให้เคนมีชีวิตที่เปี่ยมสุขแล้ว
“ผมรักคุณนะครับ”
ผ มกระซิบอีกครั้งก่อนจะซุกตัวเข้าไปนอนข้างๆสุดที่รักของผม เคนขยับตัวเล็กน้อย จากนั้นก็พลิกตัวเข้ามาหา และโดยที่เคนเองอาจจะไม่รู้ตัว แขนข้างหนึ่งของเขาก็เหวี่ยงพาดมาบนตัวของผม และโอบกอดผมไว้หลวมๆ ผมรีบซุกเข้าไปแนบชิดเขามากยิ่งขึ้น ใบหน้าเราใกล้กันมากขนาดปลายจมูกแตะกัน ลมหายใจอุ่นๆของเขาที่ปล่อยออกมา ถูกผมสูดกลับเข้าไปในจมูก เหมือนว่าเราแลกอากาศหายใจของกันและกัน ผมเอาแขนโอบกอดตอบ จากนั้นก็ปล่อยตัวเองให้เข้าสู่ภวังค์แห่งการหลับไหลอย่างมีความสุข
ประม าณตีห้า ผมก็ตื่นจากการหลับไหล ผมมองคนที่นอนข้างกายซึ่งยังนอนนิ่งอยู่ งานที่ผมมอบหมายให้เขาทำแต่ละวันมันหนักมากจนเขากลับมาบ้านในสภาพเหนื่อยล้า ทุกที มาถึงก็สลบไสลดูน่าสงสาร แม้จะเห็นใจเขาเท่าไหร่ ผมก็ยอมอ่อนข้อให้เขาไม่ได้ ผมไม่อยากทำร้ายเคนทางอ้อม อยากให้เขาก้าวหน้าเพราะความสามารถของตัวเอง ไม่ใช่จากเส้นสาย อยากให้เขาเติบโตอย่างสง่างาม ไร้คำติฉินนินทา ผมจึงต้องเข้มงวดกับเขาให้มาก เพื่อฝึกให้เขาแข็งแกร่ง ได้แต่หวังว่าเคนจะมีความอดทนเพียงพอ ไม่ท้อแท้ไปเสียก่อน
...........
 ใ บหน้าของเคนยามไม่รู้สึกตัวนี่ช่างดูน่ารัก เป็นธรรมชาติเสียจริง ผมอดใจไม่ไหว ต้องก้มลงจูบที่หน้าผากและแก้มของเขา ที่จริงไม่อยากจะลุกเลย อยากนอนกอดเขาไว้แบบนี้ทั้งวัน แต่ภารกิจของแม่บ้านรออยู่ ผมต้องตื่นเช้าก่อนเขาเพื่อมาทำหน้าที่ภรรยาที่ดีคอยปรนนิบัติรับใช้ เคนตื่นขึ้นมา ต้องอาบน้ำ แต่งตัว ผมต้องเตรียมเสื้อผ้าให้เขา ซึ่งผมได้แอบเอาเสื้อผ้าของเคนไปให้คนรับใช้ที่บ้านซักรีดให้เรียบร้อยแล้ว ผมแค่เอามาแขวนไว้ให้ในตู้ และเอามาแขวนไว้ให้เขาใส่ไปทำงานเท่านั้น
ผ ้าขนหนูผืนใหม่เอี่ยมหอมกรุ่นนำไปวางพาดไว้ที่ราวผ้าในห้องน้ำ ผืนเก่าที่เขาใช้แล้วเมื่อคืนนี้ ผมเอามาใส่ในถุงดำรวมกับเสื้อผ้าที่ใส่แล้ว เพื่อที่จะเอากลับไปจัดการต่อที่บ้านของผม อาหารเช้าต้องจัดเตรียมเพื่อให้เคนได้ทานทุกวัน เขาจะได้มีเรี่ยวแรงสู้งานหนัก
ช่วงนี้ผมสังเกตเห็นว่าเคนไม่ลงไปทานข้ าวบ่อยๆ ทั้งๆที่มีเงินอยู่บ้าง แอบสอบถามจากเลขาของผม ก็ได้ยินว่าช่วงนี้สงสัยเคนคงกำลังมีปัญหาจากที่บ้าน เรื่องเงินทอง เขาคงเก็บเงินเพื่อส่งเสียคนทางโน้นแน่ ดังนั้นผมจึงต้องหาทางช่วยเหลือยอดรักของผม ไม่ให้อดข้าวตายเสียก่อน
จ ะชวนเขาไปกินข้าวกลางวันด้วยทุกมื้อ ก็ผิดวิสัยที่ประธานบริษัทจะพึงทำ ดีไม่ดี เคนอาจจะถูกนินทาว่าร้ายเอาก็ได้ และผมเองก็จะพลอยเสื่อมเสียไปด้วยในข้อหาลำเอียง หรืออาจจะมีคนคิดใกลหาว่าเคนเป็นเด็กของผมก็ได้ ซึ่งที่จริงมันก็เป็นแบบนั้น และผมไม่แคร์ด้วย ผมไม่สนใจใครอยู่แล้ว แต่ผมเกรงว่ามันจะมีผลกระทบต่อขวัญและกำลังใจพนักงานคนอื่นๆ และในท้ายสุดตัวเคนเองก็จะได้รับความเดือดร้อน
จะแอบเอาเงินยัดใส่กระเป๋ าเขา ก็กลัวเคนคิดมาก หาว่าผมดูถูกเขา ซื้อเขาด้วยเงิน พอดีพอร้ายเคนจะเกลียดขี้หน้าผม ไม่พูดด้วย ไม่ยอมให้ผมกุ๊กกิ๊กกับเขา และอาจจะรุนแรงถึงขึ้นลาออกจากงานไปเลย เพื่อหนีผม ถ้าเป็นอย่างนั้นผมคงคลั่งตายแน่
เมื่อคิดสารตะแล้ว ผมจึงคิดว่าการทำข้าวกล่องให้เคนไปทานที่ทำงาน จึงเป็นทางเลือกเดียวที่จะทำให้เขาประหยัดเงิน และสามารถส่งเสียคนทางบ้านได้ เมื่อวานนี้ผมให้คนขับรถแวะส่งผมที่ห้างสรรพสินค้า และผมก็เข้าไปซื้อของที่ซุปเปอร์มาเก็ต ซื้อทั้งของสดของแห้งเต็มคันรถ พอซื้อเสร็จ ก็นึกขึ้นได้ว่าที่บ้านเคนไม่มีตู้เย็น จะเก็บของสดได้อย่างไร ผมเลยแอบซื้อตู้เย็นขนาดไม่ใหญ่มาก มาไว้ในห้องของเคน พลางลุ้นระทึกว่าสามีของผมจะว่าไงบ้าง เมื่อเห็นเข้า เขาคงโกรธผมแน่ๆที่ซื้อของแบบนี้มาให้ แต่เมื่อวานนี้เคนกลับดึก พอมาถึงก็ถูกผมอ้อนขอมีอะไรด้วย เขาก็เลยไม่มีเวลาได้สำรวจความเปลี่ยนแปลงของห้องตัวเอง รอให้เขาตื่นขึ้นมาก่อนเถอะ คงได้โวยวายแน่ แต่ผมคงไม่อยู่ให้เขาเห็นหน้าแล้ว เพราะพอผมทำข้าวเช้า และข้าวกล่องสำหรับกินกลางวันให้เขาเสร็จ ผมก็ต้องรีบเผ่นกลับไปอาบน้ำเปลี่ยนเสื้อผ้าที่บ้าน ก่อนไปทำงาน
......................
 เ คยคิดอยากจะหอบเสื้อผ้ามาอยู่กับเคนเหมือนกัน แต่ข้าวของเครื่องใช้ผมมันเยอะแยะ ทั้งเสื้อผ้า พวกครีมบำรุงผิว และอุปกรณ์อำนวยความสะดวกต่างๆ หากผมขนมาทั้งหมด ห้องเคนคงคับแคบไปถนัดใจ สิ่งที่ผมพอจะทำได้ คือมานอนตอนเย็น และกลับไปในตอนเช้ามืด ที่จริงผมอยากจะอยู่กับเขาตลอดเวลา แต่ก็ติดขัดเรื่องสถานที่พักเท่านั้น หากเป็นไปได้ อยากอยู่ในที่ที่มันใหญ่กว่าเดิม แต่ในเมื่อเคนยังไม่มีเงินพอที่จะขยับขยายที่อยู่ใหม่ และผมก็ไม่กล้าซื้อบ้านหรือคอนโดให้กับเขา เราสองคนผัวเมียก็เลยต้องอยู่กันแบบนี้ไปก่อน
ผมคิดเอาเองว่า ความรักความเอาใจใส่ที่ผมมีให้กับเคน คงจะช่วยทำให้เขาเข้าใจในตัวผมได้เร็ววัน ผมอยากให้เราสองคนอยู่ด้วยกันอย่างมีความสุข ชีวิตของผมจะได้สมบูรณ์แบบเสียที ไม่ต้องไปงานแต่งงานของใครต่อใคร แล้วในใจก็อิจฉา อยากมีชีวิตคู่แบบคนอื่นเขาบ้าง หากผมและเคนไปกันได้ด้วยดี ผมก็จะมีครอบครัวเป็นของตัวเอง ซึ่งผมตั้งใจว่าผมจะทำหน้าที่ภรรยายอย่างดีที่สุดเพื่อสามีอันเป็นที่รักยิ่ งของผม
วันนี้ผมจะทำข้าวกล่องอะไรให้เขาไปทานดีหนอ ผมเรียนรู้วิธีการทำอาหารไทยมาบ้าง แต่ยังทำได้ไม่เยอะนัก อุตส่าห์ลงทุนซื้อตำราอาหารมาศึกษา และให้แม่ครัวที่บ้านช่วยสอนบางอย่าง มันก็พอที่จะทำกินได้ ผมอยากทำอาหารเป็นหลายๆอย่าง โดยเฉพาะอาหารอีสาน จะได้ทำให้เคนทานด้วย หากเขาได้กินอาหารที่เขาคุ้นลิ้นเขาน่าจะชอบ และอาจจะเผื่อแผ่ความชอบมาถึงผมด้วย
หลังจากหันรีหันขวางอยู่หน้าตู้เย็น ที่ซื้อใหม่ได้สักพัก ผมก็นึกออกว่าจะทำอาหารเช้าและอาหารกลางวันอะไรให้เคนทานดี อาหารเช้าง่ายๆนอกเหนือจากพวกแซนด์วิช ที่ผมทำให้เขาทานบ่อยๆแล้ว ก็คงจะเป็นข้าวผัดที่ผมพอจะทำได้ ในเวลาอันจำกัด วันนี้ผมให้เขาชิมข้าวผัดอเมริกันฝีมือของผมดีกว่า ไหนๆเขาก็ตกกระไดพลอยโจนเป็นเขยของคนอเมริกันแล้ว ก็ต้องหัดให้ชินกับอาหารฝรั่งเสียหน่อย ส่วนมื้อกลางวัน ผมค่อยทำอาหารไทยให้เขาทาน

......................
ห มูทอดกระเทียมพริกไทย ผัดบร๊อคโคลี่ใส่กุ้ง และแกงจืดผักกาดดองใส่กระดูกหมู คือชุดอาหารกลางวันที่ผมทำให้เขาทาน ผมเอาข้าวหอมมะลิที่หุงไว้คดใส่กล่องอาหารแล้วเอาหมู

ทอดกระเทียมพ ริกไทยวางในช่องสำหรับใส่กับข้าว และเอาฝาพลาสติกปิด ส่วนผัดบร๊อคโคลี่ ผมใส่กล่องเล็กๆแยกไว้ต่างหาก ถุงร้อนถูกนำมาใส่แกงจืด โชคดีที่ผมรอบคอบพอจะซื้อถุงร้อนมาเผื่อสำหรับใส่แกงไว้ให้เขาทานด้วย เพราะถ้าใส่กล่องมันอาจจะกระฉอกออกมาได้

ถุงผ้าซึ่งด้านในเป็นฉนวน เก็บความร้อนที่ผมซื้อมาจากซุปเปอร์มาเก็ตถูกนำมาใช้ใส่กล่องอาหารทั้งหมด เพื่อรักษาอุณหภูมิเอาไว้ เมื่อถึงตอนกลางวันเขาจะได้ทานอาหารที่ยังร้อนๆอยู่

ที่จริง ผมได้สั่งให้เจ้าหน้าที่ธุรการจัดซื้อเตาไมโครเวฟ มาวางไว้ให้พนักงานในแต่ละชั้นได้ใช้แล้ว ทุกคนสามารถนำอาหารมากินในที่ทำงานได้ แต่ต้องช่วยกันดูแลทำความสะอาด อย่าให้เกิดกลิ่นที่ไม่พึงประสงค์ หรือมีแมลงมาคอยรบกวน

สำหรับสามี สุดที่รักของผม ผมต้องดูแลเอาใจใส่เขามากกว่าคนอื่นๆ ผมไม่ให้เขาไปอุ่นข้าวกินเอง แต่จัดเตรียมทุกอย่างให้เรียบร้อย แค่เขาเปิดถุงเก็บความร้อน เอากล่องอาหารออกมา เขาก็ได้ข้าวร้อนๆพร้อมกับข้าวทานแล้ว

เพียงเวลาไม่นาน ผมก็จัดเตรียมทุกอย่างเสร็จเรียบร้อยแล้ว ผมเดินมาที่เตียง เคนยังคงหลับอยู่ ผมก้มลงจูบแก้มเขาจากนั้นก็ตัดใจถอยให้ห่างไกลจากเตียง แรงดึงดูดของคนที่นอนอยู่บนนั้นมันมากมายมหาศาลเหลือเกิน หากผมยังทู่ซี้ไม่รีบกลับที่พักของตัวเอง มีหวังผมได้กลับขึ้นเตียงใหม่ และปลุกคนที่นอนอยู่ให้ขึ้นมาทำกิจกรรมด้วยกัน ไม่ต้องไปทำงานการ หรือทำอะไรกันแล้ว

“จะกลับบ้านแล้วหรือครับ”

เสียงที่ดังข ึ้นจากปากของคนที่ผมคิดว่าเขากำลังนอนหลับสบาย ทำให้ผมชะงักเท้าที่กำลังจะก้าวไปยังประตู เมื่อหันไปมองก็เห็นเคนนอนตะแคงข้าง ศีรษะหนุนหมอน ตาจ้องผมอยู่ ผมอดใจไม่ไหว ย้อนกลับมาหาเขาที่เตียงตามเดิม ทรุดนั่งลงข้างๆ และเอื้อมมือไปลูบไล้แก้มเขาเบาๆ

“ผมต้องไปเปลี่ยนเสื้อผ้าน่ะครับ ไม่อยากกลับไปกลับมาแบบนี้เลย อยากอยู่กับเคน แล้วตื่นไป
ทำงานพร้อมๆกันมากกว่า”

น ี่เป็นความรู้สึกจากใจผมเลย อยากอยู่ใกล้ๆ ไม่อยากจากเคนไปไหนเลยแม้แต่น้อย ทำไมนะ ผมถึงได้รักเขามากมายแบบนี้ ทั้งๆที่เขาเองก็ไม่ได้มีทีท่าว่ามีจิตพิศวาสผมเลยแม้แต่น้อย มันคงเริ่มจากที่ผมรักความดีที่เขาทำ จนถลำลึกกลายเป็นความรักในตัวเขา ผมอยากให้เขารักผมบ้าง เราจะได้อยู่ด้วยกันทุกช่วงเวลา

“ไม่อยากให้ผมกลับใช่ไหมล่ะ คิดถึงผมล่ะสิ หรือว่าอยากกุ๊กกิ๊กกับผมอีก”

แ ค่แสร้งทำตาเจ้าชู้ใส่ และทำหน้าและเสียงให้ดูหื่นเล็กน้อย เคนก็ตาเหลือก รีบปฏิเสธปากคอสั่น ตาจ้องมองผมอย่างระแวดระวัง ดูน่าขำแกมน่าเอ็นดูยิ่งนัก จนผมไม่อยากไปทำงาน อยากนอนกกกอดกับเขาทั้งวันทั้งคืน

“ไม่ใช่เสียหน่อย”
.................
เ คนพูดเสียงอุบอิบ ถึงแม้ว่าผิวของเขาจะไม่ขาวมากเหมือนฝรั่งอย่างพวกผม แต่อย่างน้อย สีแดงจากเลือดที่ฉีดพล่านขึ้นมาที่ใบหน้า ก็ทำให้ผมรู้ว่าเขากำลังอายเพราะคิดตามคำพูดของผม

“เคนติดใจใช่ไหมครับ”

เ มื่อกี้ทำตาเจ้าชู้ใส่เขา คราวนี้ผมทำเสียงเจ้าชู้ใส่อีก เคนขยับตัวออกห่างจากผมไปทางด้านหลังเล็กน้อย ทำท่าเหมือนว่ากลัวผมจะทำมิดีมิร้าย ผมอดที่จะหัวเราะในใจไม่ได้ โธ่เอ๊ยพ่อกระต่ายน้อยขวัญอ่อน ตื่นกลัวง่ายเสียจริง ถึงอย่างไรก็หนีแม่หมียักษ์อย่างผมไปไม่ได้หรอก

“ไม่อ่ะครับ”

เ ขาส่ายหน้าปฏิเสธ จนผมเผ้ายุ่งไปหมด ผมยิ้มอย่างเจ้าเล่ห์เอื้อมมือไปจับไหล่เขา แสร้งทำเป็นว่าจะลวนลาม กริยาหื่นๆของผมคงจะทำให้สามีสุดที่รักรู้สึกกลัว เคนสบัดไหล่อย่างตกใจ แล้วรีบลุกขึ้นนั่งทันที

อารามรีบร้อน เลยทำให้ไม่ได้สังเกตเห็นว่าตัวเองไม่ได้สวมใส่อะไรสักชิ้น พอผวาลุก ผ้าห่มที่คลุมอกก็เลื่อนลงมากองอยู่ตรงสะโพกแบบหมิ่นๆ เผยให้เห็นขอบสามเหลี่ยมรูปตัววายกลางลำตัว ไรขนโผล่ขึ้นมาให้เห็นรำไรจากท้องน้อยถึงสะดือ

ร่างเกือบเปลือยของ เขาทำให้ผมตาพร่า เลือดกำเดาเกือบทะลัก ทั้งๆที่เห็นและได้สัมผัสด้วยมือและปากจนเกือบทุกซอกทุกมุมแล้ว แต่ผมก็ยังอยากลิ้มชิมรสเขาอีกอยู่ดี

“ยังจะกล้าพูดคำนี้อยู่อีกเห รอครับ ทั้งๆที่เมื่อคืนเคนตัวสั่นเป็นลูกนกอยู่ในอ้อมกอดของผม ครวญครางขอร้องให้ผมจัดการกับเคนโดยไว เพราะคุณจะขาดใจตายแล้ว อยากให้ผมเข้าไปอยู่ในตัวคุณ เป็นหนึ่งเดียวของกันและกัน

ผมเลยต้อ งยอมตามใจเคนของผม แต่กลับกลายเป็นว่าสิ่งที่ผมทำ เคนไม่รู้สึกชอบใจ หรือต้องให้ผมทบทวนความทรงจำให้เคนอีกดีครับ เผื่อเคนจะพึ่งตื่นนอน ยังงัวเงีย จำอะไรไม่ค่อยได้”

ไหนๆจะแกล้งคนปากแข็งแล้ว ก็ต้องทรมานให้เขายอมรับให้ได้ นอกจากผมจะทำหน้าหื่นใส่เขาแล้ว กริยาท่าทางของผมก็ไปตามด้วยเพื่อให้เนียนน่าเชื่อถือว่าผมจะทำกับเขาจริงๆ ผมโน้มตัวไปใกล้เขา เคนถอยกรูดไปจนติดผนัง โดยมีผมเคลื่อนตัวตามติด

“ไหนบอกว่าจะกลับบ้านไงครับ”

“ อีกสักครึ่งชั่วโมงค่อยกลับก็ได้ คนขับรถของผมเคยชินกับการรอคอยอยู่แล้ว อีกอย่างเช้ามืดแบบนี้รถไม่ติด ซิ่งแป๊บเดียวก็ถึงบ้าน ต่อเวลาอยู่กับสามีสักครึ่งชั่วโมง คงไม่ทำให้ไปบริษัทสายหรอกครับ”

ก ล่าวเสร็จก็โน้มตัวไปหาเขา จนหน้าใกล้กัน เคนเบือนหน้าหนีไม่มองผม ทำให้แก้มของเขาสัมผัสกับจมูกผมโดยบังเอิญ ผมสูดกลิ่นเนื้อหนุ่มเข้าไปเต็มปอด อา....มันช่างชื่นใจเสียจริง ขนาดตื่นนอนใหม่ๆ ยังไม่มีคราบน้ำลายบูดเปื้อนแก้มเลย เนื้อตัวเขาหอมจริงๆ

“แต่ผมจะไปสายนะครับ บ้านผมก็อยู่ไกลด้วย รถก็ติดอะครับ ไปจวนเจียนเวลาที่คุณกำหนดให้ผมเข้างานทุกที ผมไม่อยากโดนท่านประธานดุเอาอีก ยิ่งเป็นช่วงทดลองงานด้วย”

« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 02-08-2007 01:14:23 โดย b|ueBoYhUb »

ออฟไลน์ Poes

  • คนแรกของหัวใจ คนสุดท้ายของชีวิต
  • Administrator
  • เป็ดZeus
  • *
  • กระทู้: 11342
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +2405/-22
ยิ่งอ่านยิงมึน เคนเปงสามีแต่โดนทำเหมือนเปงภรรยา  :a6:  :a6:

มาต่อเร็วๆนะ  :m3:

ออฟไลน์ Lucifer

  • เป็ดHephaestus
  • *
  • กระทู้: 1288
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +46/-1
แม่บ้านสุดๆ  :m18: :m18:

ออฟไลน์ Junrai_Hyper™

  • พูห์น้อยกลอยใจ
  • Global Moderator
  • เป็ดArtemis
  • *
  • กระทู้: 4842
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +777/-50
อยากมีแบบนี้บ้างสักคนอะ

 :m17: :m17: :m17: :m17:

ออฟไลน์ THIP

  • Global Moderator
  • เป็ดApollo
  • *
  • กระทู้: 7674
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +986/-10
จะหาได้แบบนี้ที่ไหนหว่า  :m26:  :m26:

ออฟไลน์ ที่ปรึกษาไอทีขั้นต้น

  • Administrator
  • เป็ดApollo
  • *
  • กระทู้: 6853
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +1320/-22
รอต่อไปสักวันก็อาจจะโดนจับทำสามีบ้างนะเพื่อนๆ
 :m20:
*****************************

เคนของผมพูดซะน่าสงสารเชียว จริงอย่างที่เขาบอกนั่นแหละ ระยะทางระหว่างที่พักของเขาไปยังบริษัทมันห่างไกลกันพอสมควร แถมซ้ำยังรถติดอีกด้วย
ข้อดีเพียงอย่างเดียว คือราคาถูกเท่านั้น ห้องเช่าหรือบ้านพักในเมืองที่ใกล้สถานที่ทำงาน ราคาก็ค่อนข้างแพง คนที่ทำงานสร้างเนื้อสร้างตัวแบบเขาคงไม่มีปัญญาที่จะหาเงินมาจ่ายได้

รู้สึกคันปากยิบๆ อยากจะบอกออกไปเหลือเกินว่าผมยินดีช่วยออกค่าที่พักให้ แต่ก็ไม่อยากจะทำลายบรรยากาศยามเช้าที่ดูดี

หากผมพูดคำนั้นออกไป เคนอาจจะโกรธผมก็ได้ ผมเลยปิดปากเงียบไว้ และนึกวางแผนที่จะให้เขายอมย้ายไปอยู่กับผมด้วยความสมัครใจ

“แหม น่าเสียดายจัง เรายังไม่เคยมีอะไรกันตอนเช้าเลย บรรยากาศดีด้วย แต่ไม่เป็นไรหรอก เอาไว้วันหยุดก็ได้นี่นา ผมไม่ทำกับเคนเช้านี้ก็ได้ แต่เคนต้องสัญญาก่อนนะครับ ว่าถ้าเป็นวันหยุดแล้ว ต้องให้ผมกุ๊กกิ๊กด้วยนะ”

ต่อรองเพื่อให้ตัวเองได้เปรียบอีกแล้ว สงสัยผมคงติดนิสัยการออกไปเจรจาทางธุรกิจกับลูกค้ามากไปหน่อย จนเผลอเอามาใช้กับสุดที่รักของผมด้วย

ก็มันชินนี่นา ถ้าไม่ทำแบบนี้ ก็อดที่จะได้รับสิ่งดีๆให้กับตัวเองสิ ลองใครได้มาอยู่กับเคน ก็ต้องหาทางเจ้าเล่ห์เอากับเขาทั้งนั้น

ก็เคนของผมน่ะ น่ารัก น่ากินน้อยเสียเมื่อไหร่ ยิ่งอยู่ในสภาพเกือบเปลือยแบบนี้ ยิ่งเร้าใจเป็นที่สุด อยากจะเอื้อมมือไปกระชากผ้าห่มที่คลุมกายท่อนล่างเขานัก และลงมือใช้ปากมอบความรักให้กับเคน

สำหรับเขาแล้ว ผมไม่เคยนึกรังเกียจที่จะทำอะไรให้เคนเลย เขาเป็นสามีที่น่ารัก เขาสมควรได้รับสิ่งดีๆเหล่านั้น

โอ๊ย.....ผมจะควบคุมอารมณ์ตนเองไม่ไหวแล้วนะ รีบตกลงเร็วๆสิ ก่อนที่ผมจะอดใจไม่อยู่ และลงมือปล้ำคุณเสียตอนนี้ ผมตะโกนในใจ


“ทำไมผมต้องตกลงแบบนั้นกับท่าน เอ้อ...กับเคลวินด้วยล่ะครับ”

“เพราะถ้าไม่ตกลง เราจะกินอาหารเช้าที่ชื่อ “พิศวาสรุ่งอรุณ” กันทุกวันโดยไม่เว้นวันหยุดเลยครับ และผมเชื่อว่าถึงเคนไม่อยากกิน แต่ผมก็จะป้อนมันให้กับเคนจนคุณร่ำร้องขอกินมันด้วยตัวเองเลยครับ”

ไม่ได้ขู่นะ กะจะทำจริงๆด้วย ตอนนี้ ผมหน้ามืดด้วยความหื่นแล้ว ตาจ้องอยู่ที่ใบหน้าเอ๋อๆของเขา สลับกับท้องน้อยของเคน

พยายามจะจ้องทะลุผ้าเพื่อรู้ให้ได้ว่า ร่างกายของเคนภายใต้ผ้าห่ม มันตื่นตัวเหมือนของผมบ้างไหม น้องชายของผมมันอยากมาหาเคนใจจะขาด ตื่นเต้นจนดันกางเกงผม เจ็บไปหมดแล้ว

ดูเหมือนสิ่งที่ผมพูดจะได้ผล เคนคงกลัวว่าผมจะทำอย่างนั้นกับเขาจริงๆ เขาพยักหน้า และทำคอตก แก้มแดง คงจะอายที่ต้องตอบรับให้ผมกุ๊กกิ๊กกับเขาได้ในวันเสาร์และอาทิตย์ ทั้งๆที่เขาไม่อยากทำ

ผมหัวเราะอย่างร่าเริง ที่แผนการของผมสำเร็จทีละนิด อีกไม่นานผมคงได้ครอบครองหัวใจเขา เคนเป็นคนซื่อๆ จิตใจดี ขี้เกรงใจคน เวลาที่ผมทำอะไรเพื่อเขามากๆ เขาจะได้ใจอ่อนกับผม และยอมรับรักผมบ้าง

“เคนน่ารักจังเลย ผมรักคุณที่สุดเลยครับ”

.............................................


ออฟไลน์ ที่ปรึกษาไอทีขั้นต้น

  • Administrator
  • เป็ดApollo
  • *
  • กระทู้: 6853
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +1320/-22
บทที่ 11

ทันทีที่พูดประโยคนั้นจบ ท่านประธานเคลวินก็ผวาเข้ามากอดผมแน่น และระดมจูบไปทั่วใบหน้าของผม เบี่ยงหนียังไงก็ไม่พ้นจมูกและปากนั่น

ผมใช้สองมือยันหน้าอกของท่านประธาน ผลักให้ออกห่าง แต่เหมือนผลักหินผาที่ตั้งตระหง่านไม่มีทางขยับเขยื้อน

มือไม้ของเขายุ่มย่ามไปทั่วเนื้อตัวของผม และทำท่าว่าจะเลื่อนต่ำลงมา ยังร่างกายใต้ผ้าห่ม ผมรีบจับมือเขาเอาไว้ ก่อนที่เจ้าของจะพามันเลื่อนไปไกล

“สัญญาต้องเป็นสัญญานะครับ ลูกผู้ชายพูดคำไหนคำนั้น ห้ามเบี้ยวด้วย แล้วผมจะรอนะครับ พรุ่งนี้ก็วันศุกร์แล้วนะครับ อย่าลืมเสียล่ะ

ตอนนี้ผมไปก่อนนะครับ อาบน้ำทานข้าวแล้วรีบไปทำงานนะครับ ผมเตรียมทุกอย่างไว้เรียบร้อยแล้ว วันนี้มีอาหารเช้า และอาหารกลางวันให้ด้วยนะครับ อย่าไปสายนะ”

เขาสั่งเสียหลายอย่าง ผมได้แต่พยักหน้ารับคำ จากนั้นท่านประธานก็กอดผมแน่นๆอีกครั้ง และหอมแก้มผมฟ่อดใหญ่

ก่อนจะผละจากไป ผมถอนหายใจอย่างโล่งอก รีบผลุดลุกขึ้นจากเตียง และเดินไปดูที่หน้าต่างห้อง เห็นไฟท้ายรถของท่านประธานไวๆ ตอนเลี้ยวออกไปจากหน้าตึกห้องเช่าของผม

เหลียวมองนาฬิกาปลุกตรงหัวเตียง เกือบจะหกโมงแล้ว ผมเดินเข้าห้องน้ำเพื่อไปทำภารกิจประจำวัน

ผ้าขนหนูผืนสะอาดสะอ้านกลิ่นหอมแดดและน้ำยาปรับผ้านุ่ม วางรอท่าผมไว้เรียบร้อยแล้วในห้องน้ำ

ยาสีฟันบีบใส่แปรงวางไว้ตรงหน้ากระจก

ผมอดยิ้มให้กับการเตรียมทุกอย่างให้ผมไม่ได้ นี่เขาอยากเป็นภรรยาของผมขนาดนี้เลยหรือนี่ ดูไปก็น่ารักดีแฮะ

เวลาอ้อนๆ เอาอกเอาใจมันให้ความรู้สึกดีชะมัด เขาทำกับผมเหมือนกับว่าเป็นสามีของเขาจริงๆ นี่ถ้าเคลวินเป็นผู้หญิง ผมคงเทใจให้เขาไปแล้ว

อาบน้ำอาบท่าเสร็จแต่งตัวเรียบร้อย ผมก็นั่งลงรับประทานอาหารเช้าที่เคลวินทำให้ โน้ตเล็กๆที่วางไว้บนโต๊ะ บอกให้รู้ว่าเขาได้ทำอาหารกล่องเตรียมไว้ให้ผมทานตอนกลางวันด้วย

ผมรู้สึกตื้นตันใจอย่างบอกไม่ถูก กับความห่วงใยที่เขามีให้ มันช่างบังเอิญจริงๆ เพราะช่วงนี้ผมกำลังถังแตก ต้องเก็บเงินเพื่อส่งกลับไปให้ครอบครัวทางบ้าน เลยต้องใช้จ่ายอย่างกระเบียดกระเสียร

ถ้าเคลวินทำอาหารกลางวันให้ผมทานบ่อยๆ ก็สามารถประหยัดค่าอาหารกลางวันได้ถึงวันละ ห้าถึงหกสิบบาท เดือนหนึ่งก็ประหยัดไปได้เป็นพัน

ทานอาหารเสร็จ ผมเก็บถ้วยชามไปล้าง รู้สึกเหมือนว่าบางสิ่งบางอย่างมันเปลี่ยนไป มีอะไรใหม่ๆไม่คุ้นตาแปลกปลอมอยู่ในห้องเช่าของผม

หลังจากสำรวจตรวจตราดู ผมจึงเห็นตู้เย็นขนาดห้าคิวยังใหม่เอี่ยมอ่องตั้งอยู่บริเวณมุมหนึ่งของครัว นึกโกรธขึ้นมาทันที นี่เคลวินคงแอบไปซื้อมาแน่ๆ เห็นผมเป็นอะไร ทำไมเขาต้องมาทำแบบนี้กับผมด้วย ผมไม่ใช่เด็กเลี้ยงของเขานะ
.......................
“ท่านประธานครับ ผมมีอะไรจะพูดด้วยหน่อย”
ทันทีที่ฝ่าวิกฤตการจราจรไปถึงที่ทำงานได้ ผมก็แอบใช้โทรศัพท์ของพี่นนทรีโทรหาเขาทันที โชคดีที่เขารับสาย คงนึกว่าเป็นเลขาสุดสวย

พอได้ยินเสียงของผม เขาก็อึ้ง จากนั้นก็วางหูลง ผมโทรกลับไปใหม่ เขาก็ไม่ยอมรับ ผมซึ่งกำลังโมโหอยู่ก็เลยเดินกดลิฟท์ขึ้นไปยังเพนเฮ้าส์ส่วนที่ทำงานของเขาที่ชั้นบน

ยามรักษาความปลอดภัยปล่อยให้ผมเดินเข้าไปได้สบายๆ เพราะผมขึ้นมาหาเขาบ่อยๆเพื่อเอางานมานำเสนอ

ผมไม่หยุดเคาะประตูห้องเหมือนที่เคย อารามโกรธจัด ทำให้ผมเปิดประตูผลัวะเข้าไป สายตาหลายคู่จ้องมองผมกลับมา

หนึ่งในนั้นคือตาสีเขียวที่เจือไปด้วยโทสะกำลังมองมายังผมเขม็ง ผมกวาดตามองไปยังคนที่นั่งอยู่ในนั้นเร็วๆ ท่านประธานเคลวินนั่งอยู่หลังโต๊ะทำงานโดยมีคุณชาตรีอดีตเจ้านายเก่าของผม และผู้จัดการฝ่ายทรัพยากรบุคคลนั่งอยู่ด้วย

ดูเหมือนกำลังปรึกษาหารือเรื่องอะไรบางอย่าง พี่นนทรีก็นั่งอยู่ด้วย มิน่าผมไม่เห็นเธอตั้งแต่ตอนเช้าแล้ว ยังนึกอยู่ว่าทำไมมาสายจัง ไม่คิดว่าเธอมาเข้าร่วมประชุมกับเขาด้วย

ลืมไปว่าพี่นนทรีเป็นเลขา เวลามีประชุมจะขาดเธอได้อย่างไร ผมนั่นแหละที่ซื่อบื้อเอาแต่โมโหโทโสเอง


รู้สึกอับอายเหลือจะกล่าว ที่ทำอะไรโดยไม่ยั้งคิด ยิ่งเห็นเคลวินทำหน้าโกรธใส่ ผมก็ยิ่งใจเสีย นี่ผมทำเรื่องแย่ๆอีกแล้ว

ความโมโหทำให้ผมไม่ทันได้คิดให้รอบคอบ กระทำการไม่ไว้หน้าผู้เป็นนาย ไม่มีมารยาท เป็นตัวอย่างที่ไม่ดีของพนักงานคนอื่นๆ ไม่มีข้อแก้ตัวใดๆจริงๆกับความผิดครั้งนี้ของผม

ความตกใจที่ตนเองเผลอเข้าไปขัดจังหวะการประชุมที่สำคัญของพวกเขา ทำให้ผมกล่าวคำขอโทษทุกคนอย่างระล่ำระลัก และรีบถอยหลังออกจากห้องของท่านประธานเคลวินทันที

แล้วรีบกดลิฟท์ลงไปข้างล่าง พอถึงโต๊ะทำงาน ผมก็นั่งซบหน้าลงกับฝ่ามือ ความเครียดทำให้ผมไม่มีกระจิตกระใจทำงาน นั่งอยู่ในท่านั้น จนกระทั่งพี่นนทรีลงมาข้างล่าง

“วันนี้เป็นบ้าอะไรไปหรือเคน ถึงได้ทะเล่อทะล่าพรวดพราดเข้าห้องประธานแบบนั้น ทำยังกับไปโกรธกับใครมา หน้าตาบอกบุญไม่รับเลย”

พี่นนทรีเปิดฉากด้วยการตำหนิ ผมไม่เถียงเธอสักคำ ก็จะให้บอกว่าไงล่ะ ที่ผมแสดงกิริยาอาการแบบนั้นเป็นเพราะผมโกรธที่ท่านประธานซื้อตู้เย็นมาให้ผม แลกเปลี่ยนกับการล่วงเกิน ผมไม่ใช่คนเห็นแกเงินนะ ที่จะได้รอรับเศษเงินจากเขาแบบนั้น

“ผมขอโทษครับพี่ พอดีผมมีเรื่องรีบด่วนที่จะต้องแจ้งให้ท่านประธานทราบน่ะครับ”

“ถึงจะเร่งด่วนแค่ไหน ก็ต้องพิจารณาให้รอบคอบก่อน ว่าควรจะบอกให้ท่านรู้โดยวิธีใด ไม่ใช่ทำแบบนี้

ดีนะที่เป็นการประชุมกันภายใน ไม่มีแขกที่อื่นประชุมด้วย ไม่งั้นแย่แน่ๆ อาจจะเสียลูกค้าไปเลยก็ได้ ทีหลังทำอะไรก็ระมัดระวังก็แล้วกัน”

เลขาท่านประธานพูดสั่งสอน ผมรีบตกปากรับคำโดยไม่คิดจะโต้เถียง

“จะไม่ทำแบบนั้นอีกแล้วครับ”

...................
“ก็ดี ถ้างั้นจะบอกอะไรกับท่านประธานก็รีบไป”
“หะ..... หา”

ผมอุทานอย่างตกใจ รู้สึกขนหัวลุกขึ้นมาทันที ไปพบท่านประธานตอนนี้เนี่ยนะ คงต้องถูกด่ากลับมาแหงๆ ผมทำพลาดซะขนาดนั้น

“ไม่ต้องมาหาหรอก ตอนนี้ท่านประธานว่างแล้ว และเรียกให้เธอไปพบ รีบขึ้นไปเดี๋ยวนี้เลย ท่าทางท่านโมโหอยู่ด้วยนะ”

“แล้วผมไปตอนนี้จะดีหรือครับ สาเหตุที่ทำให้ท่านโมโหอาจจะมาจากผมก็ได้”

หวาดหวั่นใจอย่างไรพิกล ตอนแรกผมอยากจะเจอเคลวินเพื่อต่อว่าเรื่องที่เขาซื้อข้าวของมาให้ผม ทว่าตอนนี้ผมกลับอยากหลบหน้าเขา ไม่อยากจะไปพบสักเท่าไหร่
“ถ้าไม่ไปท่านยิ่งจะโมโหหนัก ไปโผล่หน้าให้ท่านเห็น ขัดจังหวะการประชุม ทำเหมือนมีเรื่องจะคุยด้วย แต่แล้วก็ไม่ไปเฉยๆซะงั้น คุณเคลวินคงไม่พอใจแน่ ดีไม่ดีเธออาจจะไม่ผ่านการทดลองงานเลยก็ได้”

เพราะคำขู่นั้นทีเดียวที่ทำให้ผมต้องระเห็จขึ้นมาบนชั้นเพนท์เฮาส์ของท่านประธานเคลวิน ขาแข้งมันแทบไม่อยากก้าว นึกหวาดหวั่นกลัวคนที่นั่งอยู่ในห้องทำงานหรูหรานั่น เขาคงจะตีหน้ายักษ์ใส่ผมตามฟอร์ม จากนั้นคำพูดถากถาง ตำหนิติเตียนก็จะตามมา คิดแล้วกลุ้ม ไม่อยากไปหาเขาตอนนี้เลย ความคิดที่จะต่อว่าเขามลายหายไป เหลือแต่ความกังวลใจเข้ามาแทน

ไม่น่าเล้ย นี่แหละคนเราเวลาที่ขาดสติทำอะไรโดยไม่ยั้งคิด ก็มักจะเดือดร้อนเพราะผลแห่งการกระทำของตัวเองอย่างนี้ หากผมรู้จักระงับอารมณ์เอาไว้ และรอเวลาจนกว่าเคลวินจะกลับบ้านค่อยโวยวายใส่เขาอีกที น่าจะดีกว่ามาใส่อารมณ์กับเขาในที่ทำงาน เพราะเท่ากับผมไม่ให้เกียรติหัวหน้าตนเอง สมควรจะได้รับโทษอย่างน้อยก็พักงาน

ในที่สุดสองขาก็พาผมมาหยุดยืนอยู่ที่หน้าห้องประธานเคลวินจนได้ ผมยืนนิ่งรวบรวมสติอารมณ์ที่แตกกระเจิงจากนั้นก็ยกมือขึ้นเคาะประตู บนชั้นทำงานของเคลวิน นอกจากยามที่อยู่ด้านนอกแล้ว จะไม่มีพนักงานแม้แต่เลขาอยู่บนชั้นบนนี้เลยแม้แต่คนเดียว ขนาดพี่นนนี่ซึ่งเป็นเลขาคนสนิทยังไม่ได้ทำงานใกล้ชิดบนชั้นนี้ แสดงว่าเขาเป็นคนที่มีความเป็นส่วนตัวสูงมากทีเดียว

“เข้ามาสิ”

เสียงห้วนมีอำนาจดังตอบมาจากภายใน มันทำให้ผมตัวลีบเล็กลงกว่าเดิม ผมหมุนลูกบิดประตู และเปิดเข้าไปอย่างช้าๆ ทันทีที่ร่างของผมโผล่พ้นเข้าประตูมา บานประตูก็ถูกผลักปิดโดยแรง จากนั้นร่างของผมก็ถูกดึงเข้าสู่อ้อมกอดแข็งแรงของใครคนหนึ่งทันที

ท่านประธานเคลวินมายืนดักรอผมอยู่หน้าประตู พอผมเข้ามาเขาก็ดึงตัวผมไปกอดแน่นแทบหายใจหายคอไม่ออก ตอนแรกผมตกใจมากที่ถูกจู่โจมแบบนี้สักพักก็เปลี่ยนมาเป็นงุนงง วันนี้ท่านประธานเป็นอะไรของเขานะ ทำไมเขาไม่รักษากฏกติกาของตัวเองที่ว่าจะไม่ลวนลามลูกน้องในที่ทำงาน และที่ทำกับผมอยู่นี่มันคืออะไร หรือจะอาศัยโอกาสนี้รังแกผม

......................
“เห็นแล้วใช่ไหมครับ”
เขาระล่ำระลักถามผม

“เห็น...เอ้อ..เห็นอะไรครับ”

“ก็ตู้เย็นนั่นน่ะ เคนมาหาผมเพื่อจะโวยวายเรื่องนี้ใช่ไหม”

ก็ใช่ ผมตั้งใจจะมาวีนใส่เขาที่แอบเอาตู้เย็นเข้าบ้านผมโดยไม่บอกกล่าว แต่ความตั้งใจนั้นมันเป็นเมื่อเช้า และมันได้หายไปเมื่อเห็นหน้ายักษ์กับตาดุๆสีเขียวนั่นตอนผมโผล่เข้าไปกลางวงประชุมพอดี ที่ผมมานี่ตั้งใจจะมาขอโทษเขาต่างหากที่ผมทำตัวไม่เหมาะสม แต่พอมาเจอเขามีทีท่าอ่อนลงแบบนี้ มันทำให้ผมมึนงง นึกไม่ออกว่าจะวางบทบาทตัวเองอย่างไรดี

“เอ้อ..ก็ใช่นะ ...แต่ว่า..ก็ไม่เชิง ...ผมแค่...แค่...”

พูดไม่ออกซะงั้น เฮ้อ การเปลี่ยนไปเปลี่ยนมาของท่านประธานเคลวินสร้างความสับสนให้ผมมากพอดู ตอนนี้ ผมควรจะแสดงอารมณ์อย่างไรดีล่ะ โกรธเขาต่อที่ทำเหมือนผมเป็นเด็กของเขาที่จะต้องมาเลี้ยงดูส่งเสียให้เงินให้ทอง ข้าวของแลกกับการนอนด้วย หรือควรจะขอโทษที่ทำตัวแย่ๆเมื่อเช้านี้ดีล่ะอย่างหลังก่อนดีไหมนะ เรื่องแรกค่อยไปคุยกันที่บ้านแล้วกัน

“ผมขอโทษนะ”

“ขอโทษครับ”

ทั้งผมและท่านประธานเคลวินพูดขึ้นมาพร้อมกัน เราต่างคนต่างมองหน้ากัน ผมมองเขาอย่างงงๆ ไม่เข้าใจว่าเขาจะมาขอโทษผมทำไม ผมต่างหากที่ควรจะเป็นฝ่ายขอโทษเขา

“ผมขอพูดก่อนแล้วกันนะ”

ท่านประธานดันตัวผมออก เอามือจับบ่าผมไว้ และจ้องมองผม สายตาที่มองมามีแววเว้าวอนอ่อนหวาน ไม่ดุดันเหมือนที่เคยเป็น

“ขอโทษที่ผมทำอะไรไปโดยพละการ โดยไม่ปรึกษากับคุณก่อน แต่ผมไม่ได้มีเจตนาร้ายอะไร ไม่ได้คิดว่าจะเอาข้าวของเหล่านี้มาซื้อคุณ เพียงแต่ว่าผมแค่อยากอำนวยความสะดวกให้คุณได้รับความสุขสบายนะครับ หากเรามีตู้เย็นเอาไว้เก็บอาหารสด เวลาที่ผมทำอาหารให้คุณทาน จะได้หาเครื่องปรุงได้ง่าย และไม่ต้องไปตลาดบ่อยๆครับ แถมยังสามารถแช่น้ำเย็น ทำน้ำแข็งเอาไว้ทานตอนกลับมาเหนื่อยๆ ไม่ต้องไปซื้อน้ำแข็งที่ไม่สะอาดมาทานน่ะครับ”

เอาล่ะสิ เล่นพูดขอโทษตัดหน้าแบบนี้ขึ้นมาก่อน ผมจะโกรธเขาลงอีกเหรอ ยิ่งเห็นแววตาจริงใจคู่นั้นมันทำให้หัวใจของผมกระตุก รู้สึกไหวหวั่นอย่างบอกไม่ถูก ท่านประธานทำเพื่อผม ไม่อยากให้ผมลำบาก วิธีการเขาอาจจะผิด แต่เจตนาของเขาคืออยากให้ผมสบาย เขาไม่ได้คิดเอาเปรียบเอาแต่ได้แม้แต่น้อย

“ยกโทษให้ผมได้ไหม”

“ถ้าสัญญาว่าจะไม่ทำแบบนี้อีก..ผมก็จะยกโทษให้ครับ”

.............................
เฮ้อ ....ในที่สุดก็พูดคำนั้นออกมา พูดออกไปแล้วก็อดรู้สึกเกร็งๆไม่ได้ กลัวจะถูกตอกหน้าหงายกลับมา ก็คนอย่างผมเป็นแค่เพียงลูกจ้างของบริษัทจะมีหน้าไปอภัยให้เจ้านายได้อย่างไร แต่จะว่าไป ผมไม่ได้ยกโทษให้เขาในฐานะเจ้านายลูกน้องกันนี่นา ผมยินยอมในฐานะสามีที่จะให้อภัยกับความผิดพลาดของภรรยาต่างหากล่ะ
เฮ้ย ....ผมคิดแบบนี้ได้อย่างไรกัน รู้สึกตกใจตัวเองเล็กน้อย นี่ผมคงไม่ได้เห็นดีเห็นงามกับการเป็นสามีของประธานบริษัทหรอกนะ ผมคงแค่เห็นใจที่เขาทำเพื่อผมเท่านั้น แต่ผมดันสับสนเอาไปปนกับเรื่องที่เขาพยายามยัดเยียดให้ผม ไม่ได้การล่ะ ขืนคิดไขว้เขวแบบนี้บ่อยๆ ผมคงต้องกลายพันธ์เป็นพวกเดียวกับเขาเสียแน่แท้

“ได้ครับ คราวหน้าถ้าจะซื้ออะไรเข้าบ้าน ผมจะถามเคนก่อนนะครับ”

เขาทำหน้าดีอกดีใจ จนเห็นได้ชัด รีบรับปากและ ยิ้มกว้างทำตาเยิ้มให้ผม คนตรงหน้าขณะนี้ แปรเปลี่ยนเป็นเคลวินภรรยาขี้อ้อนไม่ใช่เจ้านายจอมเฮี๊ยบอีกต่อไป

“ผมเองก็ต้องขอโทษท่านประธานด้วยนะครับ ที่เมื่อเช้าผมผลุนผลันเข้าไปขัดจังหวะแบบนั้น ผมไม่ได้ตั้งใจ แค่โมโหมากไปหน่อย พอเห็นตู้เย็นที่ผมไม่ได้ซื้อปรากฏอยู่ในห้อง ก็คิดมากว่าคุณดูถูกผม คิดว่าผมเป็นของเล่น คิดว่าคุณจะใช้เงินและสิ่งของฟาดหัวผมให้ยอมเป็นของคุณ เลยทำอะไรไม่คิด พอทำไปแล้วก็รู้สึกเสียใจ ตั้งใจว่าจะมาขอโทษ ไม่คิดว่า เอ้อ.....”

“ไม่คิดว่าผมจะขอโทษคุณด้วยใช่ไหมครับ”

ท่านประธานดักคอผม

“ครับ รู้สึกแปลกๆนิดหน่อย แต่ก็รู้สึกดีด้วยครับ ว่าท่านไม่ได้ใช้เงินซื้อผม แต่ทำเพื่อให้ผมมีความเป็นอยู่ดีขึ้น ผมขอบคุณมากครับ ท่านดีกับผมแบบนี้ ผมไม่รู้จะตอบแทนอย่างไรดีแล้ว”

“ถ้าในฐานะของภรรยา แค่เคนไม่รักเกียจสิ่งที่ผมทำ ผมก็ดีใจแล้ว”

“......”

ไหนบอกว่าจะไม่แสดงตัวตนแบบนี้ในที่ทำงานไง ทำตัวกลับไปกลับมาแบบนี้ผมงงนะ

“เอาล่ะ ...”

เสียงของท่านประธานเคลวินเข้มขึ้น ราวกับจะเดาใจผมออก

“ในฐานะของประธาน ผมขอสั่งคุณให้กลับไปทำงานเดี๋ยวนี้ เสียเวลากับเรื่องไร้สาระมามากพอแล้ว และต่อจากนี้ไปจะทำอะไรก็ให้ระมัดระวังบ้าง อย่าเอาแต่อารมณ์เป็นใหญ่ ไม่มีใครทนพนักงานแย่ๆที่เอาแต่โทสะแบบนี้ได้หลายๆครั้งหรอก....”

อะไรกันหวานใส่ผมอีกซักนิดไม่ได้หรือไง เล่นเปลี่ยนมาเป็นดุร้ายใจยักษ์แบบนี้ ผมก็กลัวจนหัวหดน่ะสิ บางทีผมก็นึกอยากให้ท่านประธานเคลวินเป็นภรรยาน่ารักแบบนี้ไปนานๆ เพราะเขาจะออดอ้อนทำตัวน่ารักไม่มีพิษมีภัยกับผม ไม่อยากให้เคลวินกลับมาเป็นประธานจอมโหดเลย ขี้เกียจระวังตัวทุกฝีก้าว เขาเอาแต่จะคอยเข้มงวดกับผมตลอด จนผมกลัวลนลานไปหมดแล้ว

................
“ ครั้งนี้ผมไม่เอาผิดคุณแล้วกัน เพราะว่าเป็นครั้งแรก และเป็นการรู้เท่าไม่ถึงการณ์ แต่อย่าให้เกิดซ้ำสองอีก มิฉะนั้นผมลงโทษคุณแน่ ไปทำงานทำการได้แล้ว”

สั่งเสร็จก็หันหลังกลับทิ้งให้ผมยืนเอ๋ออยู่หน้าประตู สักพักผมถึงได้สติ รีบลงลิฟท์ไปยังชั้นทำงานของตัวเองทันที
พี่นนทรีเงยหน้าขึ้นมองมาจากโต๊ะทำงานของเธอ

พ อเห็นหน้าของผมพี่สาวสุดสวยก็ส่งยิ้มมาให้ เธอคงสังเกตจากอาการของผมที่เดินลงมาด้วยท่าทีปกติ ไม่ตื่นกลัววิตกจริตเหมือนหลายๆครั้งที่ถูกเรียกตัวขึ้นไปพบกับเจ้านายใหญ่ก ็เลยวางใจไม่เรียกผมไปปลอบ

หลังจากขึ้นไปพบกับประธานเคลวินแล้ว วันนั้นทั้งวันผมก็ยุ่งอยู่กับงานจนหัวหมุนไปหมด ทำงานไปเพลินๆท้องก็ร้องจ๊อกขึ้นมา บ่งบอกว่าได้เวลาเติมพลังเข้าสู่ร่างกาย เมื่อผมเงยหน้าขึ้นก็พบว่าเพื่อนๆพนักงานออกไปทานข้าวกันหมดแล้ว เหลือผมนั่งอยู่เพียงลำพังคนเดียว

ผมค่อยๆเปิดถุงกระดาษที่ใส่ข้าว กล่องที่เคลวินเตรียมไว้ให้ เมื่อรูดซิบเปิดถุงผ้าเก็บความร้อนออกก็พบว่าอาหารที่เขาทำยังอุ่นๆอยู่ สีสันและกลิ่นของมันยั่วยวนใจให้ลิ้มลอง ในเวลาไม่นานนัก ผมก็จัดการเก็บกวาดทุกอย่างลงกระเพาะจนหมด รู้สึกอิ่มแปล้ขึ้นมาทันที

อยู่ๆผมก็รู้สึกเป็นสุขขึ้นมาอย่างบอกไม่ถูก และอาการของผมคงจะเป็นหนักมากจนไม่รู้ตัวเลยว่าพี่นนทรีเดินเข้ามาหาตั้งแต่เมื่อไหร่

เ ธอคงเรียกผม แต่ผมไม่ได้ยินมัวแต่เหม่อลอยคิดถึงใครบางคนที่เป็นคนเนรมิตอาหารอันโอชะมาใ ห้ผม พี่นนทรีต้องเรียกซ้ำหลายครั้ง เมื่อผมไม่ตอบ เธอจึงตีแขนผมอย่างแรง จนสะดุ้ง

“ใจลอยไปถึงไหนแล้ว คิดถึงแฟนอยู่ล่ะสิ”

“ฟะ ...แฟน เอ้อ อะไรกันครับ”

ทำท่างงจัด จนพี่นนทรีหัวเราะก๊าก พลางชี้มาที่กล่องข้าวที่ผมถือค้างอยู่

“ก็คนที่ทำอาหารมาให้กินนี่ไง เห็นนั่งยิ้มน้อยยิ้มใหญ่จ้องกล่องข้าวตั้งนาน”

ผ มถึงกับออกอาการเอ๋อ เมื่อได้ยินพี่นนทรีพูดแบบนั้น ยิ้มตอบเธอไปอย่างเขินๆ ปฏิเสธอย่างรวดเร็ว แล้วรีบลุกไปที่ห้องครัวเพื่อเอากล่องข้าวไปล้าง พลางครุ่นคิดถึงสิ่งที่พี่นนทรีพูด

ผมคิดถึงเขาจริงๆนะเหรอ ประธานเคลวินคนสองหน้านั่นนะ จะไปคิดถึงทำไมกัน แล้วเขาก็ไม่ใช่แฟนผมด้วย เขาเป็นแค่ประธานจอมหื่น โหดร้าย เอาแต่ใจตัว และชอบบังคับฝืนใจคนอื่น ใครรักลงก็บ้าแล้ว

ทำมาเป็นหวังดี เอาใจใส่ดูแล ทำอาหาร ซื้อโน่นซื้อนี่ให้ ไม่หวังอะไรตอบแทน ขอเพียงแค่ผมรักเขาบ้าง แล้วถ้าผมไม่รักเขาล่ะ เขาจะเลิกทำทุกอย่างเพื่อผมไหม ถ้าไม่คาดหวังในตัวผม แล้วจะมาเอาใจทุกอย่างทำไม

เรื่องข้าวของนั่ นก็เหมือนกัน แอบซื้อมาให้ผมทีละชิ้น ถ้าผมไม่ห้าม ก็คงทำกับห้องผมตามใจชอบเหมือนกับเป็นห้องของตนเอง ดีที่รับปากว่าจะถามผมก่อนไม่ทำอะไรโดยพลการ ไม่อย่างนั้นผมคงต้องมีเรื่องทะเลาะกับเขาอีกแน่.
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 03-08-2007 07:24:15 โดย b|ueBoYhUb »

ออฟไลน์ Lucifer

  • เป็ดHephaestus
  • *
  • กระทู้: 1288
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +46/-1
ใจอ่อนแล้วอ่ะเดะ  :m12: :m12:
รอฉากคืนวันศุกร์  :m10: :m10:

ออฟไลน์ THIP

  • Global Moderator
  • เป็ดApollo
  • *
  • กระทู้: 7674
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +986/-10
หุหุ ตกลงกลางวันร้าย กลางคืนกลายร่างเป็นนางซินใช่มะ  :m14:  :m14:

CoMMuNiTY Of ThAiBoYsLoVE






ออฟไลน์ Junrai_Hyper™

  • พูห์น้อยกลอยใจ
  • Global Moderator
  • เป็ดArtemis
  • *
  • กระทู้: 4842
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +777/-50
แล้วหมาป่าก็กลายร่างเป็นลูกแกะ

 :a11: :a11: :a11: :a11:

abcd

  • บุคคลทั่วไป
 :m22:   :m22:   :m22:   :m22:

ออฟไลน์ ที่ปรึกษาไอทีขั้นต้น

  • Administrator
  • เป็ดApollo
  • *
  • กระทู้: 6853
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +1320/-22
แอบดูไรท่านแน๋ว คอมหายเจ๊งหรือยัง
พร้อมกลับมาทำหน้าที่หรือยัง
คิกคิก
 :a10: :a10: :a10:
......................
บทที่ 12

โอ๊ย เอาอีกแล้ว ผมทำผิดพลาดจนได้ เคนคงไม่ให้อภัยผมอีกแล้ว อุตส่าห์รับปากเขาเป็นมั่นเป็นเหมาะว่าจะปรึกษาก่อนทุกครั้งก่อนจะทำอะไรเกี่ยวกับห้องของเขา แต่ผมก็ยับยั้งชั่งใจไม่ให้ซื้อข้าวของเข้าห้องของเคนไม่ได้

เรื่องของเรื่องก็คือ วันนี้ ผมดันมีธุระพูดคุยกับลูกค้ารายหนึ่ง เขาติดต่อทำธุรกิจโฆษณากับบริษัทในเครือของเรา โดยติดต่อผ่านเพื่อนของผมมา ผมจึงต้องพาพนักงานฝ่ายการตลาด และครีเอทีฟของบริษัทไปพบปะพูดคุยกับเขา

บังเอิญลูกค้าทำธุรกิจเกี่ยวกับเครื่องเรือน มีทั้งที่ทำจากไม้ยางพารา ไม้สัก และเหล็ก คุยไปคุยมาเกิดถูกคอกัน เขาตกลงทำโฆษณากับบริษัทของเรา และพาชมเครื่องเรือนของเขา ผมดันไปสะดุดใจเข้ากับชุดโต๊ะกินข้าวขนาดสองคนที่ดีไซน์สวยงาม มันทำให้ผมนึกถึงเคนทันที

นึกสภาพที่เคนต้องนั่งขัดสมาธิบนพื้นห้อง ทานข้าวบนโต๊ะพับ แล้วก็ให้สงสารเห็นใจ อยากให้เขาได้นั่งทานข้าวดีๆ และเผื่อว่าเวลาที่ผมร่วมวงทานข้าวกับเขาด้วย แล้วเกิดอยากจะโรแมนติกขึ้นมา มันจะได้มีอุปกรณ์ประกอบฉากที่ดูดีเพียบพร้อม

ด้วยความที่อยากเห็นเคนมีความสุข เลยทำให้ผมหยุดความคิดตัวเองไม่ได้ ตัดสินใจซื้อมา 1 ชุด แต่ก่อนหน้านั้น ผมก็ได้พยายามโทรติดต่อไปหาเคนตั้งสองครั้ง ทว่าติดต่อไม่ได้ สงสัยเคนจะไม่อยู่ที่โต๊ะ

มือถือเคนก็ไม่มี ทำให้ติดต่อลำบาก ผมไม่อยากรออีกแล้ว ภาพของเคนที่นั่งทานอาหารที่โต๊ะกินข้าวอย่างมีความสุข แวบไปแวบมาในหัวสมอง และกว่าจะรู้ตัวว่าผิดสัญญากับเขา ผมก็จ่ายเงินไปเรียบร้อยแล้ว โดยที่ผมแก้ต่างให้กับตัวเองว่า โทรไปบอกแล้ว แต่เคนไม่รับสายเอง

บอกให้พนักงานเอาของไปส่งตามที่อยู่ที่ให้ไว้แล้ว ผมก็ให้คนขับรถพาผมไปร้านจำหน่ายมือถือในห้างสรรพสินค้า เพื่อที่จะซื้อให้เคนสักเครื่องเคนจะได้เอาไว้โทรหาแม่และคนทางบ้านโดยไม่ต้องแอบใช้เครื่องของบริษัทโทรเรื่องส่วนตัว แล้วผมก็ยังสามารถโทรหาเขาได้ด้วย

พนักงานเอามือถือหลายรุ่น หลายสีมาให้ดู ผมเลือกที่มันสามารถเป็นได้ทั้งเครื่องโทรศัพท์ สามารถถ่ายรูปได้ และเป็นคอมพิวเตอร์ขนาดย่อมให้เขา เพื่อให้เขาสามารถบันทึกข้อมูลต่างๆ และเชื่อมต่ออินเตอร์เนตได้ด้วย ซึ่งเหมาะกับงานเลขาที่เคนทำอยู่ เวลาที่ต้องติดตามผมไปข้างนอก แล้วต้องการข้อมูลต่างๆ จะได้เรียกใช้โดยง่าย

มันอาจจะเป็นเครื่องมือที่ค่อนข้างซับซ้อนยุ่งยาก เคนอาจจะไม่สะดวกที่จะใช้มันในระยะเริ่มต้น แต่ฝึกหัดบ่อยๆก็คงใช้ได้ของ สนนราคาของมันก็แพงเอาการถ้าเทียบกับพนักงานกินเงินเดือนอย่างเขา แต่สำหรับผมแล้ว มันแทบไม่เหลือบ่ากว่าแรงที่จะซื้อให้คนที่ผมรัก

และแล้วเครดิตการ์ดของผมก็ถูกรูดอีกครั้ง ด้วยความเต็มอกเต็มใจของผม ชำระเงินเสร็จว่าจะกลับบ้าน แต่สองขาของผมก็พาเดินเข้ามาในร้านเสื้อสูทจนได้ อยู่ในนั้น 1 ชั่วโมง ตอนกลับผมได้เสื้อสูทมาอีกสองตัวเพื่อให้เคนสวมใส่เวลาออกงาน เขาจะได้ไม่ดูมอซอจนเกินไป ได้สูทแล้วผมก็ซื้อกางเกงให้เขาต่อ ขนาดรูปร่างของเคนอยู่ในสมองผม แค่มองไปยังราวที่แขวนเสื้อผ้า ผมก็กะเสื้อผ้าที่เหมาะสมกับตัวเขาได้แล้ว

   




 แผนกเครื่องกีฬา เป็นจุดมุ่งหมายต่อไปที่ผมเดินเลือกซื้อหาข้าวของให้กับเคน ผมตกลงใจที่จะซื้อจักรยานให้เขาคันหนึ่ง เพื่อใช้สำหรับขี่เวลาไปและกลับจากที่ทำงาน

เคนสามารถปั่นไปจอดไว้ตรงหน้าปากซอย ซึ่งทางเขตมาทำที่จอดรถไว้ให้ตรงทางเดินเท้า เวลากลับบ้านดึกๆ เคนจะได้มีรถกลับบ้านไม่ต้องพึ่งบริการรถแท็กซี่ให้เปลืองเงิน ที่จริงอยากซื้อรถให้เขาขับ แต่เคนก็ดันเป็นคนคิดมากเสียอีก จะลดลงเหลือแค่มอเตอร์ไซด์ เคนก็คงไม่ยอมอยู่ดี อีกอย่างก็อันตรายด้วย จักรยานจึงเหมาะสมที่สุด

กว่าผมจะออกจากห้าง ข้าวของฝากเคนก็เต็มไม้เต็มมือไปหมด คนขับรถของผมถูกเรียกให้มาช่วยกันขนของขึ้นรถ จักรยานถูกผูกติดไว้อย่างแน่นหนาตรงท้ายรถ เพราะเอาเข้ามาใส่ไว้ข้างในไม่ได้ มันดูตลกมากมาย ที่รถเก๋งคันใหญ่หรูหรา มีจักรยานแบบแม่บ้านห้อยท้าย

ผมร่าเริงลัลลาด้วยความสุขใจ ทว่าหลังจากไขกุญแจที่ผมขโมยของเขาเอาไปปั๊มเข้าห้องได้เรียบร้อย และหยิบข้าวของขึ้นมาดูอีกครั้ง ผมก็สำนึกได้ว่าตัวเองทำความผิดมหันต์ ที่ไม่แจ้งให้เคนทราบล่วงหน้า แล้วยิ่งเห็นชุดรับประทานอาหารที่ตามมาส่งในภายหลัง ผมก็ได้สติ และเริ่มกลุ้มขึ้นมาทันที

เมื่อเช้านี้ เคนเดินไปหาผมเพื่อจะอาละวาด เขาคงไม่พอใจมากที่ผมทำแบบนี้กับเขา เพื่อให้เคนสบายใจ ผมก็รับปากว่าจะปรึกษาเขาก่อนที่จะซื้ออะไรไป แต่ผมก็มาบิดพลิ้วสัญญาเสียเอง เคนกลับมาก็คงจะทะเลาะกับผมใหญ่ ผมจะทำยังไงดีละเนี่ย ความปรารถนาดีที่มีต่อเคนกำลังจะทำให้ผมต้องเผชิญกับความไม่พอใจของเขา และไม่รู้ว่าคราวนี้พายุจะลูกใหญ่ขนาดไหน

ผมไม่อยากให้เขาไม่สบายใจ เคนยิ่งคิดมากอยู่ด้วย ชอบคิดว่าผมเอาของเหล่านี้มาล่อเพื่อให้เขายอมเป็นของผม ซึ่งมันไม่เป็นความจริงเลย ผมรู้ว่าเคนมีความหยิ่งพอตัว ถึงเขาจะจน แต่เงินก็ซื้อเขาไม่ได้

ผมจึงพยายามใช้ใจเพื่อซื้อใจของเขา ทุกอย่างกำลังจะไปด้วยดีอยู่แล้ว เคนเริ่มอ่อนลงให้กับผมในเวลาที่เราอยู่ด้วยกันที่บ้าน ยอมตามใจให้ผมล่วงเกินเขาได้ แต่ผมก็กลัวว่าหากเมื่อไหร่ที่เคนนึกโกรธขึ้นมา เขาอาจจะไม่ยอมให้ผมแตะต้องตัวเขาแม้แต่ปลายก้อย

ยิ่งคิดก็ยิ่งกลุ้ม ในที่สุดผมก็ตัดสินใจโทรศัพท์ไปหาเคนที่ทำงาน แต่ก็ติดต่อเคนไม่ได้เช่นเดิม ผมเหลือบดูนาฬิกา มันเป็นเวลาเกือบสี่ทุ่มแล้ว เคนคงกำลังอยู่ในระหว่างเดินทางกลับบ้าน อีกไม่นานก็คงถึง

เพราะหากเคนกลับเลยเวลา เขาจะไม่มีรถเข้าบ้าน จากปากซอยใหญ่ มายังห้องเช่า ห่างกันไกลมาก หากรถหมดต้องเหมาแท็กซี่กลับอย่างเดียว ซึ่งเคนก็ไม่มีเงินพอ แต่หลังจากที่เขายอมรับจักรยานที่ผมซื้อให้ ต่อไปเขาก็ไม่ต้องพบกับความยากลำบากในการไปและกลับอีกแล้ว

............................................
 
   


 ระหว่างที่รอเคนกลับบ้าน ผมก็ทำอาหารให้เขาไปพลางพร้อมกับคิดหาหนทางจะทำให้เคนยกโทษให้ผม แต่มันก็มืดแปดด้านไปหมด อาหารเสร็จแล้ว แต่ผมยังไม่รู้จะคุยกับเขายังไงดี

ประตูห้องเช่าถูกไขจากด้านนอกในเวลาสี่ทุ่มครึ่ง เคนกลับมาแล้ว ทำงานมาเหนื่อยๆ แล้วมาเจอผมทำอะไรโดยพลการไม่เชื่อฟัง เขาคงจะโกรธจนไม่พูดกับผมแน่ ผมว้าวุ่นใจอย่างบอกไม่ถูก ไม่รู้ว่าเคนจะมีปฏิกิริยาอย่างไรกับผม หมางเมิน เย็นชา หรืออาละวาดใส่ ถ้าเป็นอย่างหลังผมพอรับมือได้ แต่ถ้าเป็นอย่างแรกผมต้องขาดใจตายแน่

ผมไม่มีเวลาได้คิดนาน เพราะเคนเข้ามาในห้องแล้ว เขาถอดรองเท้าวางเก็บไว้มุมหนึ่งของห้อง เนื่องจากยังไม่มีชั้นวางรองเท้าเป็นกิจลักษณะ ผมแอบคิดที่จะซื้อตู้มาใส่รองเท้าให้เขาอีกแล้ว หาเรื่องใส่ตัวจริงๆ หนนี้ยังไม่รู้ว่าจะรอดพ้นจากการถูกโกรธหรือเปล่า แต่มันช่วยไม่ได้นี่นา ก็ผมรักเคน และผมอยากให้เขามีความสุขเวลาที่อยู่กับผม

เวลาที่ผ่านไปแต่ละนาทีมันช่างเชื่องช้าเสียจริง ใจของผมร้อนรนอยากให้ทุกอย่างมันเคลียร์ให้จบ จะโกรธก็ไม่ว่าแต่ขออธิบายให้ฟังถึงความตั้งใจจริงของผมที่มีต่อเขา ดูเหมือนเคนจะยังไม่รู้ตัวว่าผมรอเขาอยู่

เขาไม่ได้เหลือบแลมาทางผมเลย จึงไม่ทันเห็นว่าผมยืนรองเขาอยู่ พอถอดรองเท้าเสร็จ เคนก็ยืนเอาหัวและลำตัวส่วนหนึ่งพิงผนังไว้ พลางหลับตาลง ดูท่าทางแล้วไม่น่าไว้ใจเลย ผมรู้สึกสังหรณ์ใจแปลกๆ ท่าทางของเคนเหนื่อยอ่อนมาก เหมือนคนไม่สบาย และก่อนที่จะตั้งตัวได้ทัน เคนก็ค่อยๆรูดลงมากองกับพื้น

“เคน ....เคนครับ ....เป็นอะไรน่ะ”

ความตกใจทำให้ผมรีบถลาไปหาเขา แต่เคนหมดสติไปแล้ว ผมจับตัวเคนเขย่า แล้วก็ต้องสะดุ้งเฮือก เมื่อสัมผัสความร้อนจากร่างกายสุดที่รักของผม ไข้หวัดคงเล่นงานเขาเสียแล้ว ผมช้อนร่างของเคนขึ้นมาอุ้มจากนั้นก็พาไปวางลงบนเตียง

คนขับรถของผมถูกตามให้ไปรับตัวหมอมาส่งที่บ้านเช่าของเคน ดึกขนาดนี้คงจะไม่มีหมอคนไหนสะดวกมาตรวจให้ นอกจากหมอที่ดูแลรักษาให้กับครอบครัวผม พวกเราจ้างหมอเพราะไม่ชอบที่จะไปนอนโรงพยาบาลกัน มีความรู้สึกว่านอนรักษาตัวอยู่กับบ้านสะดวกกว่า ยกเว้นแต่อาการหนัก จึงจะยอมไปให้หมอรักษาที่รพ.

หมอบอกว่าเคนป่วยเป็นไข้หวัดใหญ่ และมีอาการอ่อนเพลีย ควรจะพักผ่อนสักสองสามวันก็หาย ผมนึกโกรธตัวเองขึ้นมาอย่างจับใจ ที่เคนเป็นอย่างนี้ คงเพราะผมแน่ ผมใช้งานเขาอย่างหนัก บังคับให้ตื่นแต่เช้าเพื่อไปเรียนรู้งาน และกลับดึกๆเพื่อที่จะทำงานอย่างเต็มที่

ผมไม่ได้ให้เขาทำเพราะว่าตนเองเป็นเจ้านาย ต้องการเอาเปรียบลูกน้อง แต่มุมมองของผมคืออยากให้เคนเป็นงานไวไว ไม่อยากให้ใครดูถูกเขา จึงต้องเข้มงวดเอากับเคน หวังให้เขาสบายในวันข้างหน้า

สิ่งที่ผมทำ อาจจะดูโหดร้ายใจดำกับเคนไปเสียหน่อย จนเกินกว่าร่างกายเขาจะรับไหว ถึงผมไม่ได้ตั้งใจว่าจะให้ผลมันเป็นแบบนี้ แต่ผมก็หลีกเลี่ยงความารับผิดชอบไม่ได้ เคนป่วยเพราะทำงานหนักจนเหนื่อยล้า

ในฐานะหัวหน้าของเขาผมควรมีเมตตาให้เขาได้หยุดพักผ่อนเพื่อให้ร่างกายแข็งแรงกว่านี้แล้วค่อยกลับไปทำงานต่อ ส่วนหน้าที่ภรรยาของผมคือการต้องช่วยดูแลในยามป่วยไข้ เขาไม่เห็นใจผมตอนนี้ แล้วจะไปเห็นกันตอนไหนล่ะ ผมแอบคิดอย่างเจ้าเล่ห์ 
   



 มันเป็นความโชคดีบนความโชคร้าย ในขณะที่ผมกำลังกังวลใจว่าเคนจะโกรธผม ที่เจ้ากี้เจ้าการกับของในห้องเช่าของเขา

แต่พระเจ้าก็ช่วยให้เคนมาป่วยเสียก่อน ทำให้เขาไม่มีโอกาสได้เห็นว่ามีสิ่งแปลกปลอมอะไรในห้องแห่งนี้ หากผมดูแลเขาอย่างดี เวลาเขาฟื้นคืนสติ หายไข้แล้ว เขาอาจจะเห็นใจผม และไม่ดุด่าว่ากล่าวผมก็ได้

หมอกลับไปแล้ว ก่อนกลับเขาฉีดยาให้เคนที่สะโพก ผมแอบเคืองหมอนิดๆที่ได้เห็นก้นของเคน

พยายามข่มใจว่านี่เป็นการรักษาของหมอ หากผมมัวแต่คิดมาก เคนของผมคงไม่หายป่วยกันพอดี พอลับตาหมอ ผมก็ขึ้นไปนอนบนเตียง แล้วกอดเคนไว้แนบแน่น รู้สึกสงสารสุดที่รักของผมมาก

ไม่น่าเชื่อว่าเขาจะป่วยง่าย ดูท่าทางเป็นคนแข็งแรง อีกอย่างเป็นคนทางภาคอีสาน น่าจะทนทานสู้งานหนักนี่นา ไหงร่วงอย่างง่ายดายนักล่ะ

หรือว่าผมจะใช้งานเขาหนักจริงๆ แล้วเมื่อคืนวาน ผมยังฝืนไปมีอะไรกับเขาตั้งสองครั้ง มันอาจจะทำให้เขาพักผ่อนน้อย แล้วยังต้องไปเจองานหนัก เลยน็อคขึ้นมา

“ขอโทษนะครับ ที่ผมใช้คุณหนักมากไป คุณป่วยแบบนี้ ผมเองก็ทุกข์ใจ แต่ผมต้องฝืนใจดำ ใช้งานคุณมากมาย

ผมอยากให้คุณมีความก้าวหน้า ไม่ถูกใครดุว่า ตำหนิเอาว่าไร้ความสามารถ ทนอีกนิดนะคนดี อีกไม่นานหรอก คุณก็จะสามารถพิสูจน์ตัวเองให้ใครต่อใครเห็น ว่าคุณเก่งจริง”

ผมพูดคุยกับเขา ทั้งที่เคนยังสลบอยู่ ไม่อยากบอกตอนที่เขาฟื้นแล้ว เพราะกลัวว่าเขาจะเหลิง ได้ใจ และทำตัวเหลวไหลไม่ได้ความ แต่ผมก็รู้สึกอึดอัดใจ ถ้าไม่ได้พูดออกมา ยิ่งเห็นเคนป่วยแบบนี้ ผมก็เลยระบายสิ่งที่คิดออกไป

คนในอ้อมกอดของผมขยับตัวยุกยิก สักพัก เคนก็ลืมตาขึ้นมา เขามองผมด้วยสายตาว่างเปล่าในทีแรก เหมือนว่าเขากำลังงงอยู่ ว่าทำไมเขาถึงต้องมานอนในสภาพแบบนี้

ทั้งที่ความทรงจำล่าสุดคือเขากลับมาจากที่ทำงาน ผมเลยเล่าให้เขาฟังว่าเกิดอะไรขึ้น พอฟังจบสุดที่รักของผมก็ยิ้มให้ และกล่าวขอบคุณยกใหญ่ที่ผมช่วยตามหมอมาดูอาการเขา

“หิวข้าวไหมครับ ผมทำกับข้าวไว้เยอะแยะเลย”

“แล้วเคลวินล่ะครับ”

ไม่เลวเลย เรียกชื่อผมแทนคำว่าประธาน แถมน้ำเสียงนั่นก็เจือไปด้วยความห่วงใย ที่ถ้าไม่เห็นว่าป่วยอยู่นะ ผมจะปล้ำจูบเขาให้หายคิดถึงเลย

“ยังเลย รอเคนอยู่ เคนอยากทานเลยไหมครับ เดี๋ยวผมจะได้ยกมาให้ คุณป่วยอยู่ ทานตรงนี้ก็ได้ ไม่ต้องลุกไปหรอก”

“ไม่เป็นไรครับ ผมแค่ปวดหัว รู้สึกมึนๆนิดหน่อยแค่นั้น แต่ยังพอลุกไปทานข้าวไหว ทานตรงนี้ เดี๋ยวมันเลอะเตียง มดจะขึ้นเอา ไม่ต้องนอนกันพอดี”

โถ เป็นห่วงกลัวว่าจะนอนกันไม่ได้ เคนนี่น่ารักดีจริงๆ แต่ผมจำเป็นต้องโน้มน้าวใจให้เคนยอมกินที่นี่ ยังไม่อยากให้เขาเห็นชุดทานข้าวที่ตั้งแอบๆอยู่ตรงมุมครัว ม่านที่กั้นระหว่างส่วนที่เป็นที่นอนกับส่วนที่เป็นครัว พรางตาเอาไว้ได้อย่างดี 
   






 “ไม่เป็นไรครับ เราคงไม่ได้กินเลอะเทอะกันหรอก เดี๋ยวผมหยิบโต๊ะพับมากางแล้วเอาหนังสือพิมพ์ปูทับอีกทีก็เรียบร้อย ทานเสร็จ ก็รีบทำความสะอาด มดคงไม่ทันมาเยี่ยมห้องเราแน่ครับ เคนไม่ต้องกังวลหรอก นอนพักก่อนนะ เดี๋ยวผมจัดการเอง”

โดยไม่รอฟังคำทัดทานจากเขา ผมก็รีบเข้าไปในห้องครัว หยิบโต๊ะพับมากาง จากนั้นอาหารที่ทำไว้รอเคนก็ถูกลำเลียงมาตั้งบนโต๊ะ รวมถึงน้ำอุ่นสำหรับเคนด้วย

คนป่วยลุกจากเตียงมานั่งบนพื้น โดยที่ผมจัดให้เขานั่งหันหลังให้ครัว จะได้มองไม่เห็นขาโต๊ะที่โผล่พ้นชายผ้าม่านกั้นออกมา ผมตักข้าวให้เขา และช่วยตักกับใส่จาน เพื่อเบนความสนใจ

เคนตักข้าวไปสองสามคำแล้วก็วางช้อน ทำท่าว่ากินต่อไปไม่ได้ ผมรู้ดีว่ามันเป็นอาการของคนไข้ที่ปากจะขม ลิ้นขมไปหมด ทานอะไรก็ไม่อร่อย แต่ถ้าผมตามใจยอมให้เคนทานอย่างที่อยาก ร่างกายเขาก็คงไม่ไหว เพราะไม่มีอะไรตกถึงท้อง รายการบังคับกึ่งขอร้องกลายๆจึงเกิดขึ้น

“พยายามหน่อยนะครับ ฝืนใจทานสักนิดก็ยังดี ไม่งั้นจะเป็นหนัก ไปทำงานไม่ได้นะครับ”

“มันไม่อยากกินเลย มันผะอืดผะอมไม่อยากกินน่ะ”

เขาบอกผม ท่าทางเป็นอย่างที่ว่าจริงๆ ผมลังเลใจว่าจะดื้อดึงบังคับให้เขาทานดีหรือไม่ หรือว่าจะยอมตามใจปล่อยเขาไปนอนดี ทว่าผมไม่ต้องคิดนาม เพราะเขาเป็นฝ่ายตัดสินใจเอง

“อย่าทำหน้าตาแบบนั้นสิครับ ผมรู้ว่าคุณตั้งใจทำอาหารให้ผม และหากผมไม่ยอมทานมันก็จะเหลือทิ้ง เสียเวลาเปล่า เอางี้ ผมจะพยายามฝืนใจทานมันเท่าที่จะทำไหวนะครับ ถ้าไม่หมด ที่เหลือก็เก็บใส่ตู้เย็นไว้นะ ซื้อมาแล้วนี่ ยังไงก็ทำให้มันเกิดประโยชน์ซะ พรุ่งนี้ค่อยเอาอุ่นกินต่อก็แล้วกัน ผมอาจจะค่อยยังชั่วมากแล้วก็ได้”

น้ำเสียงพูดแหบแห้ง แต่ทว่ามันดูอ่อนโยนอย่างบอกไม่ถูก เขายอมฝืนกินข้าวเพื่อผม ซึ้งใจจริงๆเลย นี่แปลว่าเขาแคร์ความรู้สึกผมใช่ไหมเนี่ย

“ครับ งั้นผมจะทานเป็นเพื่อนคุณนะ”

อาหารค่ำมื้อนั้นผ่านไปอย่างมีความสุข ถึงแม้คนที่ทานอาหารด้วยกันกับผมจะเป็นคนป่วยก็ตาม แต่เขาก็ทำตัวน่ารัก พยายามที่จะรับประทานอาหารที่ผมทำให้ ผมตักกับใส่จานให้เขาเท่าไหร่

เขาก็ทานมันจนหมด พอเห็นผมเอาแต่นั่งจ้องไม่ทาน เขาก็ดุ ผมก็เลยต้องทานตาม ในที่สุดอาหารที่ทำไว้ก็หมดเกลี้ยง ผมหน้าบานยิ้มไม่ยอมหุบ หลังจากเอายาให้เคนทานแก้ไข้แล้ว ผมก็เก็บกวาดจานชามเอาไปล้าง

เสียงประตูห้องน้ำเปิด ตามมาด้วยเสียงโก่งคออาเจียน และเสียงกดน้ำ ทำให้ผมต้องละมือที่กำลังเช็ดถูจานชามให้แห้ง ผมตรงไปที่ห้องน้ำอย่างรีบร้อน ภาพที่เห็นคือ เคนนั่งพิงผนังห้องน้ำอย่างอ่อนแรง

อาหารที่ทานเมื่อสักครู่คงออกไปจนหมดพุงแล้ว เพราะผมเห็นน้ำในชักโครกหมุนคว้าง ผมปราดเข้าไปประคองเคนทันที คำแรกที่เขาพูดกับผมคือขอโทษ
..................................
 
   



 “แย่เลย คุณอุตส่าห์ทำกับข้าวให้ผมทาน มันออกไปหมดแล้ว”

ผมมองหน้าเคน นึกอยากร้องไห้ขึ้นมาทันที ดูสิ เคนทำเพื่อผมทั้งที่ร่างกายเขาไม่ยอมรับ ไม่ใช่ความผิดของเขาสักหน่อย ที่กินเข้าไปแล้วอ้วกออกมา เขาไม่สบายหนัก ผมต่างหากที่เอาแต่ใจตัวเองให้เขากินจนหมด รู้สึกสงสารเขาอย่างบอกไม่ถูกร่างของเคนถูกผมรวบเข้ามากอด ผมละล่ำละลักขอโทษขอโพยเขา

“ผมผิดเองครับ ที่พยายามยัดเยียดให้คุณทานเยอะแยะ คุณเลยอ้วกออกมา ผมน่าจะให้คุณกินแต่พอเหมาะ และพักผ่อนเยอะๆ คุณจะได้หายป่วย ผมนี่มันแย่จริงๆ”

“อย่าโทษตัวเองเลยครับ ผมเต็มใจที่จะทานมันจริงๆ แต่ผมอาจจะตะกละมากไปหน่อย เลยเป็นแบบนี้ ไม่เป็นไรนะครับ เอาไว้วันหลัง ตอนผมหายป่วยแล้ว ผมจะทานอาหารที่คุณทำให้จนหมดทุกมื้อเลยครับ”

เคนบอกผมด้วยน้ำเสียงอ่อนโยน แถมยังแสดงน้ำใจที่จะตอบแทนสิ่งที่ผมทำเพื่อเขาอีกด้วย มันทำให้ผมยิ่งปลื้มใจนัก ที่คนรักของผมห่วงความรู้สึกกันถึงเพียงนี้

“ขอบคุณครับ ผมดีใจนะ ที่ได้ยินคำนี้ มันทำให้ผมรู้สึกว่าตัวเองคิดถูก ที่ตัดสินใจเป็นภรรยาของคุณ เคนใจดีจริงๆ ไม่ถือโทษโกรธผมด้วย ต่อไปนี้ ผมจะระมัดระวัง ไม่เอาแต่ใจตัวเอง บังคับฝืนใจให้เคนทำอะไรอีกแล้วครับ”

ลั่นวาจาออกไปแบบนั้น เพราะผมตั้งใจแล้วว่าผมจะเลิกทำตามความต้องการของตนเองโดยไม่คำนึงถึงความรู้สึกของผู้อื่นเสียที ในงานผมอาจจะเผด็จการ เพราะความจำเป็นทำให้ผมต้องทำตัวแบบนั้น แต่เมื่อถึงบ้าน ผมควรจะเป็นภรรยาที่น่ารัก เชื่อฟังสามี จะทำตัวใหญ่กว่าเคนไม่ได้ ยิ่งสุดที่รักของผมดีกับผมเพียงใด ผมก็ควรดูแลเอาใจใส่เขามากเท่านั้น

“ไปนอนพักผ่อนดีกว่านะครับ จะได้หายไวๆ เดี๋ยวผมพาไปนะ”

ทันทีที่พูดจบ ผมก็ช้อนร่างของเคนขึ้นมาอุ้ม ถ้าเป็นยามปกติ เคนคงจะดิ้นหนี แต่นี่เขาป่วย อ่อนเปลี้ยเพลียแรง เลยยอมให้ผมพาไปนอนบนเตียงโดยง่าย

ผ้าห่มผืนบางทอจากไหมพรมถูกนำมาคลุมร่างที่หนาวสั่นของเคน นี่ก็เป็นอีกสิ่งหนึ่งที่ผมอยากจะเปลี่ยนแปลง ในเวลาแบบนี้เคนน่าจะมีผ้าห่มผืนหนามาช่วยขับไล่ความหนาวเหน็บ อีกไม่นานก็จะเข้าสู่ฤดูหนาว อากาศแถวนี้คงจะเย็นยะเยือกเพราะอยู่แถบชานเมือง การทำให้ร่างกายตัวเองอบอุ่นอยู่เสมอ จะช่วยทำให้เคนของผมห่างไกลจากโรคภัยไข้เจ็บ สงสัยผมคงต้องขออนุญาตเคนเปลี่ยนผ้าห่มให้เสียแล้ว ........................................
 
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 08-08-2007 08:08:21 โดย b|ueBoYhUb »

abcd

  • บุคคลทั่วไป
ยางม่ายพร้อมอ่า ขออู้อีกซักเดือนนึงน๊า  :m13:

ออฟไลน์ ที่ปรึกษาไอทีขั้นต้น

  • Administrator
  • เป็ดApollo
  • *
  • กระทู้: 6853
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +1320/-22
ยางม่ายพร้อมอ่า ขออู้อีกซักเดือนนึงน๊า  :m13:
:o :o :o :o

คอมเจ๊งหรือว่าประเทศไทยจะล่มจมเพราะคนไร้สมองอ่ะ
ตั้งเดือนหนึ่ง

ออฟไลน์ Poes

  • คนแรกของหัวใจ คนสุดท้ายของชีวิต
  • Administrator
  • เป็ดZeus
  • *
  • กระทู้: 11342
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +2405/-22
โห เรย์ดุอ่า   :m17:

จะเมนท์นิยายเจองี้ไปดีก่า  :m7:  :m7:

abcd

  • บุคคลทั่วไป
ง่ะ นานปายเย๋ออ  งั๊นๆๆๆอาทิตย์นุงได้ป่ะ  :m29:

ออฟไลน์ ที่ปรึกษาไอทีขั้นต้น

  • Administrator
  • เป็ดApollo
  • *
  • กระทู้: 6853
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +1320/-22
โห เรย์ดุอ่า   :m17:

จะเมนท์นิยายเจองี้ไปดีก่า  :m7:  :m7:

โทษทีครับ หนึ่งคงยังไม่รู้ว่าการเมืองไทยตอนนี้มันดูไม่มั่นคงหน่ะครับ
บ่นๆแค่นั้นเอง
 o14 o14 o14

abcd

  • บุคคลทั่วไป
โหยยย เรย์อาวการเมืองมาเกี่ยวก่าเราได้งายอ่า  :m15:

ออฟไลน์ Poes

  • คนแรกของหัวใจ คนสุดท้ายของชีวิต
  • Administrator
  • เป็ดZeus
  • *
  • กระทู้: 11342
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +2405/-22
การเมืองดุเดือดขนาดนั้นเลยเหรอ ถึงทำให้เรย์รมณ์ขึ้น

ว่าจะลางานมั่งสักเดือนจาได้ป่าวหว่า  :m17:

************************************************
เมนท์นิยายต่อ

เรื่องนี้พี่เคทต้องเขียนสลับคนแน่เรย ท่านประทานน่าจะเปงซะมีมากกว่านะ

นานเคนหน่ะเปงภรรยา  :a2:  :a2:

 

สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด


สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด