[เรื่องสั้น] คนเนี๊ยะ!!!แฟนผม
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด

สนใจโฆษณาติดต่อ laopedcenter[at]hotmail.com คลิ๊กรายละเอียดที่ตำแหน่งว่างเลยครับ

สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด

ผู้เขียน หัวข้อ: [เรื่องสั้น] คนเนี๊ยะ!!!แฟนผม  (อ่าน 67587 ครั้ง)

tanuki

  • บุคคลทั่วไป
ข้อตกลงในการเข้ามาในเล้าเป็ดนะครับ กรุณาอ่านทุกคนนะครับ
เล้าแห่งนี้เป็นที่ที่คนชื่นชอบนิยาย boy's love หรือชายรักชาย หากใครหลงมาแล้วไม่ชอบ
กรุณากดกากบาทสีแดงมุมด้านขวาบนออกไปด้วยนะครับ

สรุปข้อสำคัญดังนี้

1.ห้ามละเมิดสิทธิส่วนตัวของคนแต่งและบุคคลในเรื่องทั้งหมด

2. ห้ามมิให้โพสต์ข้อความ รูปภาพ ใช้ลายเซ็นหรือรุปส่วนตัวหรือสื่อใดๆที่ก่อให้เกิดความขัดแย้ง ไม่แสดงความเคารพ, หมิ่นประมาท, หยาบคาย, เป็นที่รังเกียจ, ไม่เหมาะสม,ติดเรท x,ทำให้กระทู้กลายพันธ์,ไม่เกี่ยวพันกับนิยายที่ลง หรืออื่นๆที่ขัดต่อกฎหมาย,ห้ามโพสกระทู้ที่จะสร้างประเด็นความขัดแย้ง  ในเรื่อง การเมือง ศาสนา พระมหากษัตริย์  และสถาบันต่าง ๆ  รวมถึงกระทู้ที่จะสร้างความแตกแยก  ชวนวิวาท ของสมาชิกภายในเวปบอร์ด

3.การนำเรื่อง ข้อความ รูปภาพมาโพส หรือนำข้อความใดๆไปโพสที่นี่หรือที่อื่นๆ กรุณาพยายามติดต่อขออนุญาตเจ้าของเรื่องก่อนนะครับ

4.ห้ามแจกเบอร์ แลกเมล บอกเมล แลก msn บนบอร์ด
โดยเฉพาะการบอกเบอร์ หรือเมลของคนอื่นโดยที่เจ้าของไม่ยินยอม

เวป ไซต์ แห่งนี้เป็นเวปไซต์ส่วนบุคคลที่ได้รับความคุ้มครองจากกฏหมายภายในและระหว่าง ประเทศ การเข้าถึงข้อมูลใดๆบนเวปไซต์แห่งนี้โดยไม่ได้รับความยินยอมจากผู้ให้บริการ ถือว่าเป็นความผิดร้ายแรง

ข้อความใดๆก็ตามบนเวปไซต์แห่งนี้ เกิดจาการเขียนโดยสมาชิก และตีพิมพ์แบบอัตโนมัติ ผู้ดูแลเวปไซต์แห่งนี้ไม่จำเป็นต้องเห็นด้วย และไม่รับผิดชอบต่อข้อความใดๆ  โปรดใช้วิจารณญาณของท่านที่เข้าชม และ/หรือ ท่านผู้ปกครองในการให้ลูกหลานเข้าชม

++++++++++++++++++++++++++++++++++++

ยังจำภาพยนตร์ที่ตราตรึงในใจของใครหลายๆคนได้รึเปล่าครับ ? "แฟนฉัน" แล้วมันเกี่ยวไรกะเรื่อง "คนเนี๊ยะ!!!แฟนผม" อยากรู้ ? อยากรู้ก็อ่านสิคับ ไม่อ่านแล้วจะรุ้มั้ยว่ะนั่น (ตูจะชวนคนอ่านเค้างงทำไม)  o13 ตั้งหัวข้อไว้ว่าเรื่องสั้นแต่ทำไมเจือกยาวงี้ฟ่ะ เหอะๆ ชอบ ไม่ชอบ ยังไงก็อย่าลืมชี้แนะผมด้วยนะคร๊าบ...

๙๙๙๙๙๙๙๙๙๙๙๙๙๙๙๙
ติ๊ด ติ๊ด ติ๊ด ติ๊ด ...

 

  ถึงเสียงนาฬิกาปลุกจะดังลั่นไปสามบ้านเจ็ดบ้าน ดูเหมือนมันจะไม่ส่งผลกระทบใดๆต่อคนที่นอนหราอยู่บนเตียงได้เลยแม้แต่น้อย เผลอๆจะถูกขว้างออกไปนอกหน้าต่างซะด้วยซ้ำ เด็กชายยังคงแน่นิ่งอยู่ท่าเดิมต่อไปจนเสียงนาฬิกาปลุกเงียบไปเอง

 

   รถนักเรียนสีเหลืองเกือบหมอง มีสนิมขึ้นเล็กน้อย มาหยุดอยู่หน้าตึกแถวชั่วอึดตดหายเหม็น แต่ก็ไม่มีวี่แววว่าใครจะใช้บริการ เด็กชายหน้าตาหล่อเหลาก้าวขึ้นรถก่อนที่มันจะออกตัวเหลือไว้เพียงกลุ่มควันที่เป็นสาเหตุหนึ่งของภาวะโลกร้อน

 

“เกี๊ยววว~!!” เสียงที่คุ้นเคยดังขึ้นมาจากปลายเตียง ถึงมันจะดังสู้เจ้านาฬิกาปลุกของผมไม่ได้ ทำเอาเจ้าของชื่อที่กำลังนอนคว่ำหน้าแผ่อยู่บนเตียงอย่างมีความสุขวิ่งเข้าห้องน้ำแทบไม่ทัน

 

“ไอ่ลูกคนนี้ จะนอนกินบ้านกินเมืองไปถึงไหนกัน ตอนแม่เป็นเด็กไม่เห็นจะขี้เกียจขนาดนี้เลย มันไปได้เชื้อขี้เกียจจากใครมาเนี่ย ฉอดๆๆๆ” เสียงบ่นของผู้เป็นแม่เริ่มขึ้นเหมือนเช่นทุกวัน แต่มันก็ไม่ได้ซึมซับเข้าไปในสมองของเด็กชายที่ชื่อเกี๊ยวเล้ย

 

   แสงแดดที่สาดส่องผ่านผ้าม่านเข้ามาในห้องร่ำไรบอกให้รู้ว่าเลยเวลาตื่นนอนมามากแล้ว เด็กชายใช้ขันตักน้ำราดตั้งแต่หัวหนึ่งขัน ก่อนจะตักอีกขันเต็มๆรดช่วงไหล่ลงมาอีกที มือเล็กจับสบู่ถูตามลำตัวของตนเองอย่างลวกๆ ต่อด้วยน้ำประปาเต็มๆขันล้างฟองสบู่ออกจากตัว ชุดนักเรียนถูกสวมใส่ได้ไม่ยากนักในเวลาที่มีจำกัด

 

“พ่อๆ เร็ว เดี๋ยวไปไม่ทัน” เสียงที่ดูรีบร้อน เร่งเร้าผู้เป็นพ่อที่กำลังเข็นมอเตอไซด์คันเก่าออกประตูบ้านอย่างทุลักทุเล

 

“เป็นยังงี้ทุกที ตื่นสายแล้วก็มาเร่งพ่อแต่เช้า” เสียงผู้เป็นพ่อบ่นเป็นกระสัย ขณะสตารทรถคู่ใจที่อยู่คู่กันมาตั้งแต่สมัยพ่อแกยังหนุ่ม

 

“ไปๆ” พ่อเอ่ยแบบไม่สบอารมณ์นัก

 

“เร็ว พ่อ เร็ว” ร่างบางกระโดดซ้อนท้ายอย่างชำนาญ ก่อนที่รถมอเตอไซด์จะออกตัวไปตามเส้นทางอย่างใจเย็น

 

     กระแสลมที่พัดผ่านมาปะทะกับดวงหน้าหวานตามความเร็วของรถที่แล่นไปข้างหน้า ริ้วคิ้วบางที่เริ่มขมวดเข้าหากันด้วยความร้อนใจ ทางที่พ่อพาผมมามันไม่ใช่ทางไปโรงเรียน แต่มันเป็นทางลัดไปหารถโรงเรียนต่างหาก รถมอเตอไซด์คันเก่าแล่นออกมาจากซอยเล็กๆขับมาเลียบคูคลองที่เทศบาลขุดเอาไว้ แต่ก็ยังช้ากว่ารถโรงเรียนที่ยังนำหน้าอยู่อีกฟากของรถพ่อผม

   ผู้เป็นพ่อเร่งความเร็วขึ้นอีก ก่อนจะเลี้ยวรถข้ามสะพานไม้เล็กๆ รถสองคันที่เก่าไม่แพ้กัน จะต่างกันตรงที่ขนาดและจำนวนล้อขับไล่ตามกันจนทัน รถที่ขับนำอยู่ค่อยๆหยุดเหมือนจะรู้หน้าที่ เด็กชายรีบลงจากรถมอเตอไซด์ มือเล็กยกมือไว้ผู้เป็นพ่อลวกๆก่อนจะรีบวิ่งขึ้นรถนักเรียน

 

“เฮ๊ย ดูดิ ไอ่เกี๊ยวมันจ่ายค่ารถครึ่งเดียวรึไงว่ะ ถึงได้มาขึ้นรถกลางทางทุกวัน” เสียงทุ้มเอ่ยปนหัวเราะกับเด็กในสังกัดของมันอีกสองคนที่นั่งเรียงกันเต็มเบาะหลัง นั่นหัวหน้าเผ่าไอ่บอลแม่มันเปิดร้านขายของชำเด็กฝังตลาด ส่วนไอ่เตี้ยผิวขาวหน้าตาดีหน่อยชื่อโยลูกคุณกิมจ๊อเจ้าของร้านทองในตลาด ในมือมันคงจะเป็นเกมบอยรุ่นล่าสุดที่ผมไม่มีวันได้แตะ ไอ่แห้งนี้ก็อีกหนึ่งคนในสังกัดของไอ่บอลมัน หน้าตาตี๋ๆเชื้อสายจีนคงเป็นใครไม่ได้นอกจากไอ่เคนลูกเจ้าของกิจการส่งน้ำแข็ง

 

  ส่วนไอ่เห่ยที่ยืนอยู่ตรงนี้คงไม่ต้องบอกว่าเป็นใคร ส่วนสูงที่ต่ำกว่าเกณฑ์ตามมาตรฐานเด็กไทย หน้าตาสวนกระแสตัวแห้งๆผิวขาวผิดกับพ่อแม่ที่ไม่ขาวมาก ผมยังสงสัยว่าพ่อแอบไปกุ๊กกิ๊กกะคนข้างบ้านรึเปล่า หน้าตาถึงไม่เหมือนพ่อเหมือนแม่สักกะอย่าง แต่พ่อก็ยังยืนยันว่าคิ้วผมเหมือนปู่หน่อยหนึ่ง พ่อผมเป็นเจ้าของร้านบะหมี่เกี๊ยวที่สืบทอดมาจากบรรพบุรุษหลายต่อหลายรุ่นจนผมจำไม่ได้แล้ว ชื่อผมเลยไปคล้ายไอ่เกี๊ยวหมาของอาเฮียร้านข้างๆแบบไม่ได้ตั้งใจ ถึงผมจะเกิดทีหลังมันก็เหอะ ผมแกล้งมันทุกวิถีทางภาวนาให้มันตายเร็วๆ ใช่ว่าผมเป็นพวกใจบาปชอบฆ่าสัตว์ แต่ที่ผมโดนล้อมาจนถึงทุกวันนี้ก็เพราะมัน (แค้น)

 

ผมมองทีว่างข้างๆไอ่บอลเหมือนเจอลูกชิ้นปิ้ง 10 ไม้ไม่ก็ปาน จะให้ทนยืนจากนี้กว่าจะไปถึงโรงเรียนก็อีกหลายสิบโล มีหวังขาชากันพอดี แถมไปถึงยังต้องไปเข้าแถวอีก ที่นั่งในตอนนี้เลยเหมือนสินค้าลดราคาที่ค้างสต๊อกจะมีคนฆ่ากันตายเพราะแย่งกันซื้อของชิ้นเดียว

 

“ตรงนี้มีคนนั่งแล้วเว้ย” ไอ่บอลรีบเอากระเป๋านักเรียนของมันมาวางตอนเห็นว่าผมทำท่าว่าจะนั่ง

 

“บอล เมิงจองให้ใครนั่งว่ะ” ไอ่คุณชายโยเงยหน้าจากเกมกดในมือของมันมองลูกพี่อย่างไม่เข้าใจ

 

“เออ กูบอกว่ามีก็มีแล้วกัน” เสียงทุ้มที่แหบพร่าของเด็กวัยแตกเนื้อหนุ่มเอ่ยดัง จะไม่ให้มันตัวโตกว่าผมได้ไง ก็มันเล่นซ้ำชั้นมา 2 ปีแล้วนี่นา ตัวสูงปานยอดมะพร้าวกับแรงควายทึกๆอย่างมัน แค่สะกิดผมนิดเดียวก็รู้ผลแล้ว ผมเลยไม่อยากไปมีเรื่องกะมันเท่าไร

 

“ก็ให้มันนั่งๆไปเหอะ ถือว่าสงสารลูกหมามัน” น้ำเสียงนิ่งเรียบของไอ่เคนทำเอาผมเดือด มันพูดทั้งๆที่ไม่หันหน้ามามองด้วยซ้ำ สงสัยมันอยู่กับน้ำแข็งมากเกินไปถึงได้เย็นชาและก็ไร้ความรู้สึกแบบนี้ มือเล็กกำข้างลำตัวแน่นพยายามควบคุมอารมณ์ที่กำลังพุ่งพล่านด้วยโทสะผิดกับอากาศเย็นๆของเช้าที่สดชื่น

 

“หึหึ เพราะเมิงทำให้พวกกูต้องเข้าแถวสายทุกวัน กูไม่ให้เมิงนั่งใครจะทำไม” ดวงหน้าคมกรีดยิ้มอย่างมีชัยเยาะเย้ยคนตัวเล็กโดยมีคุณชายโยหัวเราะเป็นกำลังหนุนร่างสูง ส่วนไอ่เคนได้แต่มองออกไปนอกหน้าต่าง ไม่รู้มันดูอะไรนักหนา แค่พวกมันกระดิกตัวผมก็อยากจะเข้าไปซัดหน้าพวกมันให้หายซ่าสักหมัดสองหมัดโดยเฉพาะไอ่บอล!!!

 

  เป็นไงเป็นกันไปตายเอาดาบหน้าก็แล้วกันว่ะ ถ้าขืนผมยังยืนตรงนั้นต่อไปมีหวังผมได้แลกหมัดหรือไม่ก็กินหมัดกับมันแต่เช้าแน่ๆ เสียงหัวเราะดังไล่หลังผมสักพักจนพวกมันเลิกสนใจผมกันไปเอง

 

   และแล้วสวรรค์ก็เข้าข้างผม ข้างหน้ามีที่ว่างอยู่ที่หนึ่ง ผมรีบตรงรี่ไปเหมือนกับว่าจะมีใครมาแย่งไม่ใช่ก็ใกล้เคียง แต่ไอ่สิ่งที่ทำผมเกือบสะดุดก็ไอ่คนที่นั่งตรงนั้นมันเป็นอีกคนที่ผมไม่อยากเจอพอๆกะไอ่บอลกะลูกสมุนของมัน ไอ่โอมลูกเจ้าของร้านขายพระเครื่อง หน้าตาหล่อเหลา หุ่นนักกีฬา นิสัยนิ่งๆเงียบๆแต่ก็แสบใช่ย่อย ตอนเด็กผมยังจำได้อยู่เลยว่ามันนั่นแหละเป็นคนริเริ่มเรียกชื่อไอ่เกี๊ยว(หมาร้านอาเฮียที่อยู่ตรงกลางระหว่างร้านบะหมี่พ่อผมกะร้านพระเครื่องของพ่อมัน)ทำให้ผมเข้าใจผิดบ่อยๆว่ามันเรียกผม ถ้าไม่ติดอยู่ที่ว่าพ่อผมไปอุดหนุนพระเครื่อง(จาตุคาม)จนเป็นเพื่อนสนิทกันพ่อมันก็มากินบะหมี่เกี๊ยวร้านผมบ่อยๆ แถมร้านยังติดกันแค่คูหากั้นกลาง ทำให้ผมต้องเจอหน้ามันทุกวัน ผมงี้แทบจะบ้าตาย ผมเคยลองทำดีกะมันหลายทีเพราะว่าเด็กผู้ชายฝังศาลเจ้าก็มีแต่ผมกับมันเนี่ยแหละ สุดท้ายไม่วายที่ผมไม่มีใครคบจนได้ ส่วนมันน่ะเหรอแค่อยู่เฉยๆที่บ้านพวกเด็กฝังโน้น(ฝังตลาด)ก็แทบจะเอาราชรถมานิมนต์ขอให้มันไปเล่นบอลด้วยถึงบ้าน

 

“มีใครนั่งป่าวว่ะ” ผมถามมันก่อน ถึงผมจะไม่อยากนั่งข้างๆให้มันเสียราศีแต่ขาผมมันเรียกร้องเต็มที

 

“...” ไอ่นี่มันกวน... ถามแล้วก็ไม่ตอบ มองหน้าไม่เคยเห็นคนรึไงว่ะ แมร่ง มีไม่มีผมก็จะหน้าด้านนั่งแร่ะ

 

“ใครบอกให้นั่ง” เอ๊ะ ไอ่นี่ตอนถามก็ไม่บอก ทีจะนั่งเสือกมีอารมณ์มากวนอีก

 

“...” คราวนี้ผมเป็นฝ่ายเงียบบ้าง แล้วผมนั่งเบียดกะมันจนถึงโรงเรียน

 

 

ติ๊ด ติ๊ด ติ๊ด เวลา 8 นาฬิกา ประเทศ...

 

   เสียงเพลงที่คุ้นเคยทุกเช้าดังขึ้นพร้อมกับรถโรงเรียนที่เข้ามาจอดในโรงเรียนอย่างเฉียดฉิวพอดี นักเรียนที่ต่างตาลีตาเหลือกรีบเข้าไปอยู่ในแถวตามชั้นของตัวเองอย่างกระหืดกระหอบ ไอ่คนเตี้ยๆอย่างผมก็ต้องไปอยู่ข้างหน้าอยู่แล้ว ยังดีที่ผมสูงไล่เลี่ยกับไอ่คุณชายโย แต่ไหงผมได้ยืนอยู่หน้ามันทุกที

 

  เมื่อกิจกรรมยามเช้ากลางแสงแดดเสร็จ นักเรียนก็แยกย้ายเข้าห้องเรียนเพื่อเรียนตามปกติ หลังจากที่เพียรพยายามมาสองปีเต็มผมก็เรียนตามไอ่บอลทันจนได้มาอยู่ห้องเดียวกับมันเนี่ยแหละ ไม่รู้จะดีใจหรือเสียใจดี

 

“ไอ่โย เมื่อเช้ากูเห็นโคนันตอนใหม่ในกระเป๋าเมิง เอามาอ่านดิ” ร่างสูงเอ่ยกับลูกสมุนของตนแกมสั่ง

 

“เฮ๊ย เดี๋ยวครูมาแล้วตอนกลางวันค่อยอ่าน” ไอ่โยตอบปัดไป เพราะไม่ค่อยอยากให้ไอ่บอลยืมเท่าไร

 

“ไอ่เคนวันนี้มีเสบียงไรมั้งว่ะ” เมื่อไอ่คนข้างๆไม่ได้ดั่งใจ ร่างสูงจึงเปลี่ยนเป้าหมายมาหาคนที่นั่งข้างหลังตน

 

“...” เคนไม่ตอบอะไรเพียงแต่ยื่นขนมสองสามซองใส่มืออีกฝ่าย ไอ่บอลก็ไม่ลังเลที่จะฉีดซองแล้วหยิบขนมที่อยู่ด้านในกระแทกปากไม่ยั้ง ไม่เข้าใจจริงๆบ้านมันก็ขายของชำแล้วทำไมต้องไปขอขนมจากไอ่เคนด้วย

 

“โห ไอ่บอลเมิงกินหรือว่าเมิงสูบว่ะเนี่ย ไหงหนมหมดไวงี้ว่ะ” ไอ่คุณชายโยเอ่ยขึ้นเพราะว่ามันล้วงเข้าไปในซองขนมที่ไอ่บอลถืออยู่แต่ข้างในมันโล่งยิ่งกว่าสนามหญ้าหน้าตึกซะอีก

 

“ก็เมิงมัวแต่เล่นเกมเอง ช่วยไม่ได้ เด็กกำลังโตเว้ย” จริงของมัน ไอ่คุณชายโยก็มัวแต่ก้มหน้าก้มตาเล่นเกมใต้โต๊ะมัน ส่วนไอ่บอลเห็นมันสูบ เอ๊ย กิน เยอะขนาดนั้นหุ่นมันก็ยังเฟิร์มยังกะนักกีฬาสงสัยโดนแม่มันใช้ขนของเข้าร้านเยอะมั้ง

 

   แก๊งค์ไอ่บอลนั่งอยู่แถวหน้าได้ข่าวว่าปีนี้มันจะตั้งใจเรียนแล้วเลื่อนชั้นให้แม่มันภูมิใจให้ได้ ผมก็ขอให้มันทำได้จริงๆเหอะ ส่วนผมก็เลยต้องอพยพลงใต้มานั่งหลังห้อง ขืนเสนอหน้าไปนั่งใกล้ๆบาทามันมีหวังไม่รอดกลับบ้านแน่ๆ ถึงไอ่คนที่มันนั่งอยู่หน้าผมจะเป็นไอ่โอม คนที่ผมไม่ค่อยถูกโรคด้วยเท่าไรก็เถอะ

 

“Good morning นักเรียนทุกคน” เสียงอาจารย์ประจำวิชาที่ผมเกลียดที่สุดเดินเข้ามาห้อง ไอ่บอลนี่แทบยัดขนมไว้ใต้โต๊ะไม่ทัน แต่หลักฐานบางส่วนมันยังทำลายไม่หมด สังเกตได้จากปากของมันที่เคี้ยวตุ้ยๆอยู่

 

“Good morning teacher” เสียงนักเรียนในห้องพร้อมใจพูดพร้อมกัน ยานเนิบตามต้นฉบับที่ครูท่านอุตส่าห์สั่งสอนมา

 

“How are you?” คุณครูที่อายุแก่กว่าแม่ผมหลายสิบปีกล่าวแต่สำเนียงมันเพี้ยนๆไปเยอะเลย

 

“I’m fine thank you and you?" คราวนี้ประโยคยาวกว่าเดิมทั้งยานทั้งเนิบกว่าเก่า

 

“I’m fine. Sit down please” เสียงเลื่อนเก้าอี้เอี๊ยดอ๊าดดังขึ้น สมุดถูกเปิดพร้อมที่จะถูกขีดเขียนลงไป

 

“วันนี้เราจะเรียนเรื่อง present simple tense กันนะ” คุณครูเปิดหนังสือในมือ ก่อนจะขยับแว่นเหมือนกำลังจะจับผิดใครบางคนในห้อง

 

“ปิ๊ง ป่อง ประกาศ อาจารย์เกศินี อาจารย์วันเพ็ญ อาจารย์วิชิต ขอเชิญประชุมพร้อมกัน ณ ห้องประชุมเวลานี้ด้วย ประกาศ...” เสียงประกาศที่ดังก้องทั่วทั้งโรงเรียน ใครล่ะจะไม่ได้ยิน บังเอิญที่ว่าชื่อที่ประกาศตรงกับชื่ออาจารย์ที่เพิ่งเข้ามาในห้องผมไม่ถึง 5 นาทีก่อนหน้านี้

 

“เอ่อ ครูต้องไปประชุม ให้นักเรียนอ่านหนังสือกันไปก่อนนะ” อาจารย์ยิ้มแห้งๆแต่ดูน่ากลัวพิลึก

 

“ภาณุคอยจดชื่อเพื่อนที่คุยกันแล้วเอามาส่งครูนะ” คุณครูยืนสั่งเสียอยู่กับไอ่บอลศิษย์รักที่เจอหน้ากันมาตลอดสองปี (ปีนี้จะเป็นปีที่สาม)

 

“ครับ” เด็กหนุ่มตอบรับอย่างมุ่งมั่นพร้อมกับหยิบสมุดเล่มหนึ่งขึ้นมาวางบนโต๊ะและดินสอติดมือมาอีกหนึ่งแท่ง

 

   อาจารย์รีบเดินจากไปเพราะการประชุมที่มาได้ถูกเวลาจริงๆ

 

“เฮ๊ย ไอ่โยกูขอเล่นมั้งดิว่ะ” ไม่ทันที่ไอ่คุณชายโยจะทันได้พูดอะไร รู้ตัวอีกทีเกมบอยรุ่นล่าสุดที่แม่มันซื้อให้ก็ไปอยู่ในมือของไอ่บอลเรียบร้อยแล้ว

 

“อ้าว ไอ่เชี่ยบอล กูยังเล่นไม่เสร็จเอาม๊า” และแล้วสงครามเล็กๆระหว่างไอ่บอลกะไอ่คุณชายโยก็เริ่มขึ้นและจบลงอย่างรวดเร็ว แค่ไอ่บอลใช้มือดันหัวไอ่โยไว้มันก็ทำอะไรไม่ได้แล้ว ผมนั่งดูพวกมันเดี๋ยวทะเลาะเดี๋ยวดีกันจนน่าปวดหัว ไม่รู้มันอยู่กันได้ยังไง

 

“เกี๊ยวๆ” เสียงหวานๆของใครบางคนเรียกผมจากวังวนของตัวเอง

 

“มะ มีไรเหรอขิง” ผมหันไปมองคนที่นั่งข้างๆ จู่มันก็รู้สึกชาไปหมดทั้งตัวก็ขิง เด็กหญิงน่ารักหน้าตาจิ้มลิ้มที่ผมแอบหลงรักมาตั้งแต่ป.3 มาทักผมก่อน นี่มันไม่ใช่ฝันใช่มั้ย

 

“ขอยืมยางลบหน่อยได้มั้ย” เสียงแหลมเล็กที่ทำเอาผมใจสั่นทุกครั้ง

 

“ได้สิ” ผมรีบก้มไปควานหายางลบในกระเป๋าอย่างเอาเป็นเอาตาย

 

“อ๊ะ น...” (นี่ พูดไม่ทันจบ) ผมอยากจะจับไอ่โอมมาหักคอจิ้มน้ำพริกจริงๆเล้ย ก็ดูมันแย่งโอกาสทองของผมไปหน้าตาเฉย ผมมองไปทางมันอย่างกินเลือดกินเนื้อ แต่ดูมันไม่รู้สึกรู้สมอะไรสักนิด หนอย...ไอ่โอมจะดูถูกกันเกินไปหน่อยแล้วนะเว้ย นอกจากจะชอบแกล้งผมมันยังเป็นมารหัวใจของผมอีก

 

  นัยน์ตาคู่หวานมองไปรอบๆโรงอาหารหวังจะหาที่นั่งดีๆสักที่ แต่ทำไมวันนี้คนมันเยอะขนาดนี้ฟ่ะ จะได้แดรกข้าวกันมั้ยวันนี้ หลังจากเดินวนไปวนมาหลายรอบ เกี๊ยวก็เหลือบไปเห็นเก้าอี้ว่างอยู่ตัวหนึ่ง (ประมาณว่า มีสปอตไลท์ส่องเก้าอี้ตัวนั้นท่ามกลางฝูงชน) จะได้กินข้าวแร่ะโว้ย (มีน้ำตาเล็ด)

โครมมม~!!

"โอ๊ยย"  ไม่ทันจะได้นั่ง ผมก็ล้มก้นจ้ำเป้าไปกองอยู่ที่พื้นแร่ะ ไอ่หน้าไหนไม่รู้ดึงเก้าอี้ตอนที่ผมกำลังจะนั่งพอดี แต่ที่แน่ๆคนทั้งโรงอาหารมองมาที่ผม แถมยังหัวเราะเยาะ ผมก็ได้แต่เอามือปัดก้นอย่างเซ็งๆ ก่อนจะมองหาตัวการที่มันปองร้ายผม

"ไอ่เชี่ยโอม" ผมพูดเบาๆอยู่ในลำคอ ทั้งแค้นทั้งเจ็บ หิวก็หิว

"เอาเก้าอี้กูมา" ร่างบางเอ่ยหนักแน่น สายตามองร่างสูงอย่างไม่พอใจ

"เก้าอี้ของเมิงเหรอ ไม่เห็นมีชื่อเลยนี่"  ไอ่โอมมันพูดหน้าตาเฉย แถมยังทำท่าพลิกเก้าอี้ไปมา เหมือนกำลังหาอะไรบางอย่าง

"ก็กูมาก่อน กูจะนั่งตัวนี้ เอาม๊า" คราวนี้ผมฉวยโอกาสตอนที่มันเผลอกะจะดึงเก้าอี้ออกมาจากมือมัน

"ไปหาตัวอื่นนั่งไป๊"  ไหงไอ่นี่มันแรงเยอะขนาดนี้ ดึงทีผมแทบจะลอยไปกับเก้าอี้เลย แต่ผมไม่ยอมแพ้มันง่ายๆหรอก

"ไม่เว้ย กูจะนั่งตัวนี้" ผมรวบรวมแรงทั้งหมดที่มีดึงเก้าอี้พลาสติกอีกครั้ง

โครมม

"เฮ๊ย.." รอบที่สองของวันนี้ที่ผมไม่กองกะพื้น แต่คราวนี้มีเก้าอี้ที่ผมแย่งมาด้วยความยากลำบากอยู่ด้วย

"เฮ้อ อยากนั่งก็เชิญ" ร่างสูงเอ่ยอย่างเนือยๆ นี่ผมผิดด้วยเรอะที่อยากนั่งเก้าอี้กินข้าวกลางวันเนี่ย

"โอมๆ มานั่งตรงนี้ก็ได้" จะใครที่ไหนได้ ขิงกวักมือเรียกไอ่โอมออกนอกหน้าซะขนาดนั้น ผมไม่หล่อ ไม่หน้าตาดีอย่างมันก็แล้วไป

   มือเล็กกำช้อนในมือแน่นก่อนจะตักข้าวพูนๆยัดเข้าปากอย่างเอาเป็นเอาตายเพียงลำพัง ก็ผมมันไร้คนคบอยู่แล้วนี่ มันก็ต้องมานั่งกินข้าวคนเดียวยังงี้แหละ

  ไม่รู้ทำไมตลอดทางที่ผมเดินจะเอาจานไปเก็บ คนทั้งโรงอาหารมองผมแปลกๆแล้วก็หันไปหัวเราะคิกคักจนน่ารำคาญ เดินคนเดียวมันน่าขำตรงไหนฟ่ะ ซิบผมก็รูดแล้วนี่หว่า

"ฮ่าๆไอ่บอลเมิงดูก้นไอ่เกี๊ยวดิว่ะ" เสียงของไอ่คุณชายโยเอ่ยกับลูกพี่ของมัน ตอนที่ผมกำลังเดินผ่านสงสัยมันกลัวผมไม่ได้ยินก็พูดซะดังขนาดนั้น แล้วทำไมมันต้องมามองก้นผมด้วยเนี่ย

"ฮ่าๆๆ"  ไอ่บอลหัวเราะจนข้าวกระเด็นติดแก้มของไอ่คุณชายโยสองสามเม็ด ถ้าใครมองก้นผมแล้วหัวเราะขนาดนี้ ผมว่าผมจะลองไปสมัครเข้าคณะตลกกะเค้าดูบ้างแล้วแหละ

"เฮ๊ย" คนตัวเล็กร้องเสียงหลงไม่เป็นภาษา ก็ไอ่ขาวๆที่แบนติดหนืบกับกางเกงผมน่ะดิ หมากฝรั่งของใครว่ะ ไอ่ที่โดนหัวเราะน่ะไม่เท่าไร แต่เย็นนี้กลับบ้านไปผมโดนแม่บ่นอีกแน่ๆ ล้างเท่าไรมันก็ไม่ออกสักที ผมยังสงสัยว่ามันเป็นญาติฝ่ายไหนกับกาวตราช้างรึเปล่า

"บอกแล้วว่าให้ไปหาตัวอื่นนั่งก็ไม่เชื่อ"  ร่างสูงพึมพำกับตัวเองก่อนจะเผลออมยิ้ม

"ว่าไรนะโอม ขิงไม่ทันฟังง่ะ" เด็กหญิงแก้มแดงเอ่ยกับคนที่กำลังยิ้มจางๆ

"อ้อ ไม่มีไร" โอมแก้ตัว ก่อนจะตั้งหน้าตั้งตากินข้าวของตัวเองต่อไป

๙๙๙๙๙๙๙๙๙๙๙๙๙๙๙๙
Share This Topic To FaceBook
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 15-04-2009 20:21:32 โดย tanuki »

ออฟไลน์ dahlia

  • เป็ดแสนดี
  • เป็ดAphrodite
  • *
  • กระทู้: 4239
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +695/-4
Re: [เรื่องสั้น] คนเนี๊ยะ!!!แฟนผม
«ตอบ #1 เมื่อ15-04-2009 17:08:47 »

เขาบอกก็ไม่เชื่อ  :laugh:


+ เป็นกำลังใจให้นะ  ว่าแต่อย่าลืมเอากฎเล้าฯ เขามาแปะด้วยนะคะ

 :mc4:

mackerel

  • บุคคลทั่วไป
Re: [เรื่องสั้น] คนเนี๊ยะ!!!แฟนผม
«ตอบ #2 เมื่อ15-04-2009 17:19:06 »

มอบแต้ม+ ที่ 2 ให้เรื่องใหม่
**********
จะรอตอนต่อไปคร้าบบบ
 :pig4:

Koa-ka

  • บุคคลทั่วไป
Re: [เรื่องสั้น] คนเนี๊ยะ!!!แฟนผม
«ตอบ #3 เมื่อ15-04-2009 17:49:46 »

สรีสวั๊สดีปี๋ใหม่ครับ

น่ารักดีๆ เรื่องสั้นมาต่อจบเร็วๆนะครับ
+1 ให้คนแต่ง (แอะ หรือคนโพส)

ขอบคุณและจะติดตามครับ

jokirito

  • บุคคลทั่วไป
Re:
«ตอบ #4 เมื่อ15-04-2009 18:51:37 »

กฎบอร์ด กดปุ่มโมดิฟายแล้วย้ายไปไว้ก่อนเริ่มเรื่องจะดีกว่านะครับ

ออฟไลน์ woradach

  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 717
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +27/-1
Re: [เรื่องสั้น] คนเนี๊ยะ!!!แฟนผม
«ตอบ #5 เมื่อ15-04-2009 18:55:48 »

อุ๊ย ฮิฮิ เรื่องใหม่มาลง มาเมนต์ให้แล้วนะครับ ท่าทางจามันส์มีศึกชิงนางล่วย  :laugh:

patz

  • บุคคลทั่วไป
Re: [เรื่องสั้น] คนเนี๊ยะ!!!แฟนผม
«ตอบ #6 เมื่อ15-04-2009 19:08:32 »

มาลงชื่ออ่านเรื่องใหม่ด้วยคนครับผม  :L2:

ออฟไลน์ SecondaryTrauma

  • Today is a gift, that is why call ... "The Present"
  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 215
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +18/-0
Re: [เรื่องสั้น] คนเนี๊ยะ!!!แฟนผม
«ตอบ #7 เมื่อ15-04-2009 19:57:32 »

[size=120] 
โถ ........................................................................................... ส้วม

ทำไมชีวิตนายเกี๊ยวถึงรันทดได้ถึงเพียงนี้  :m15: :monkeysad: :sad11:
[/size]

wiwanana

  • บุคคลทั่วไป
Re: [เรื่องสั้น] คนเนี๊ยะ!!!แฟนผม
«ตอบ #8 เมื่อ15-04-2009 21:34:38 »

รู้สึกว่าพอร์ตของเรื่องมันคุ้นๆน่ะคร๊าบบบบ


อิอิอิอิอิอิ


ล้อเล่นน่า....ไม่ได้ว่าอะไรซักหน่อย


แค่มีมาให้อ่านก็ดีแล้ว :mc4: :mc4: :mc4: :mc4: :mc4:

BEta-K

  • บุคคลทั่วไป
Re: [เรื่องสั้น] คนเนี๊ยะ!!!แฟนผม
«ตอบ #9 เมื่อ15-04-2009 21:45:56 »

 :mc4: ต้อนรับเรื่องใหม่    :mc4:

จบแบบสมหวังน้า ไม่เอาเหมือนใน....

CoMMuNiTY Of ThAiBoYsLoVE

Re: [เรื่องสั้น] คนเนี๊ยะ!!!แฟนผม
« ตอบ #9 เมื่อ: 15-04-2009 21:45:56 »
ประกาศที่สำคัญ


ตั้งบอร์ดเรื่องสั้น ขึ้นมาใครจะโพสเรื่องสั้นให้มาโพสที่บอร์ดนี้ ถ้าเรื่องไหนไม่จบนานเกิน 3 เดือน จะทำการลบทิ้งทันที
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=2160.msg2894432#msg2894432



รวบรวมปรับปรุงกฏของเล้าและการลงนิยาย กรุณาเข้ามาอ่านก่อนลงนิยายนะครับ
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=459.0



สิ่งที่ "นักเขียน" ควรตรวจสอบเมื่อรวมเล่มกับสำนักพิมพ์
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=37631.0






changasa@hotmail.com

  • บุคคลทั่วไป
Re: [เรื่องสั้น] คนเนี๊ยะ!!!แฟนผม
«ตอบ #10 เมื่อ15-04-2009 22:26:24 »

 :mc4: ฉลองเรื่องใหม่ งิงิ

tanuki

  • บุคคลทั่วไป
Re: [เรื่องสั้น] คนเนี๊ยะ!!!แฟนผม
«ตอบ #11 เมื่อ15-04-2009 22:36:03 »

ตอน 2 วันหยุดชิว o18

“มองหาไร” คำพูดกวนๆปลุดออกมาจากริมฝีปากของโอม คนที่นั่งอยู่มองคนที่ยืนค้ำหัวตัวเองอย่างท้าทาย

 

“อ๊าว จะกินไรก็รีบๆสั่งมาดิว่ะ ถ้าไม่กินก็ออกไปเลย” เกี๊ยวตะคอกเบาอย่างไม่พอใจ  :angry2:

 
“ผัดกะเพรา” เสียงทุ้มเอ่ยสั้นๆราวกับเป็นเรื่องปกติ


“นี้มันร้านขายบะหมี่เกี๊ยวว้อย อยากแดรกผัดกะเพราก็ไปหาที่อื่นเลยไป๊” คนตัวเล็กตะคอกอีกครั้ง แต่ยังคงรักษาระดับเสียงไว้ให้เบาเพียงแค่สองคนได้ยิน ขืนตะโกนดังมีหวังโดนด่า มีที่ไหนบ้างไล่ลูกค้ากลางวันแสกๆ

 

“อืม ก็รู้นี่แล้วยังจะถามอีกทำไม” ร่างสูงเอ่ยขณะที่สายตาจับจ้องที่หนังสือการ์ตูนในมือ

 

   ร่างบางแยกเขี้ยวนิดๆ มือเล็กกำแน่นแบบไม่สบอารมณ์ ทำไมผมถึงซวยยังงี้ จันทร์-ศุกร์เจอหน้ากันที่โรงเรียนไม่พอ ไหงมันชอบมารังควานถึงที่ไม่เว้นวันหยุดราชการแบบนี้ด้วยฟร่ะ  จะมีใครที่ไหนได้ซะอีกหล่ะ นอกจากไอ่โอม

 

“พ่อหมี่เกี๊ยวที่หนึ่ง” เด็กหนุ่มร่างบางเอ่ยกับผู้เป็นพ่อ จะให้ทำไงได้เมื่อครอบครัวทีกิจการเป็นของตัวเอง บุคคลผู้เป็นลูกก็ต้องเตรียมตัวสืบทอดกิจการจากบรรพบุรุษต่อไป

 

“เช็คบิลโต๊ะสี่ด้วย” เสียงตะโกนดังตามหลัง แต่มันก็ยังดังไม่พอที่กลบเสียงอึกทึกในร้านได้ วันปกติคนก็เข้าร้านตลอดทั้งวันอยู่แล้ว ยิ่งเป็นวันหยุดแบบนี้ เรียกว่าแทบจะไม่ได้พักกันเลยทีเดียว

 

“60 บาทครับ” เกี๊ยวรับเงินจากลูกค้าก่อนที่จะลงมือเก็บกวาดถ้วยจานที่วางเกลื่อนตรงหน้า ผ้าชุบน้ำสีขาวถูกกดลงบนโต๊ะที่เลอะ สองสามรอบให้สะอาดพร้อมใช้เช่นเดิม

 

  ผู้คนผลัดเปลี่ยนกันเข้ามาในร้านอย่างไม่ขาดสาย ทำเอาคนตัวเล็กตัวเปียกโชกไปด้วยเหงื่อ พัดลมที่ติดอยู่ข้างฝาผนังก็ดูเหมือนจะช่วยอะไรไม่ได้สักเท่าไร เหงื่อเม็ดใสผุดขึ้นที่ดวงหน้าเล็กๆ พวงแก้มสีชมพูแดงระเรื่อเพราะความร้อนผสมกับการที่ร่างบางวิ่งไปวิ่งมา ทั้งเสิร์ฟ ทั้งเก็บโต๊ะ งานสารพัดอย่างตกเป็นหน้าที่ของเด็กหนุ่มอย่างเลี่ยงไม่ได้

 

“เอานี่ไปเสิร์ฟโต๊ะ 10” มือเล็กถือถ้วยบะหมี่ร้อนๆไว้ในมือ 4 ใบในคราวเดียวอย่างชำนาญ ใช้ว่ามันจะไม่ร้อน โครตร้อนเลยแหละ แต่สีหน้าของกลุ่มคนที่นั่งอยู่โต๊ะที่ว่านั้น ไม่ค่อยจะน่าพิสมัยเท่าไรนัก ผมยังสงสัยว่าลูกค้าส่วนใหญ่อดข้าวกันมา 3 วันก่อนจะมากินร้านผมรึไงก็ไม่รู้ ก็อย่างว่าแหละครับ ร้านผมมีทั้งขาประจำและขาจร จะให้สั่งแล้วได้เลยมันคงเป็นไปไม่ได้

 

   ร่างบางที่ยืนหอบเล็กๆอยู่หน้าหม้อน้ำร้อน ก่อนจะคว้าถ้วยบะหมี่หลายๆชามไว้ในมือ โดยไม่รู้ว่าว่าในร้านยังมีคนๆหนึ่งนั่งมองการกระทำนั้นตลอด ชายหนุ่มมองคนตัวเล็ก เสื้อยืดที่เปียกชุ่มแนบหลังเล็กๆกับผ้ากันเปื้อนเก่าๆดูต่างจาก เกี๊ยวที่เขาเจอทุกวันที่โรงเรียน ไอ่คนที่นั่งอยู่ข้างหลังห้อง ไม่ค่อยจะเอาถ่านเอาขี้เถ้ากะใครเค้าสักเรื่อง เห็นแบบนี้แล้วมันก็... ทำเอาร่างสูงอดยิ้มไม่ได้

 

“โต๊ะ 7” เด็กชายรับถ้วยบะหมี่ที่ร้อนยังกะน้ำมันหมูที่อยู่ในกระทะมาอย่างคล่องแคล่ว

 

“...” คนตัวเล็กกระแทกถ้วยบะหมี่วางตรงหน้าลูกค้าที่ไม่ค่อยชอบขี้หน้าแรงจนน้ำบะหมี่แทบหก โอมเงยหน้ามองร่างบางที่ถึงจะยืนอยู่แต่ก็สูงกว่าตอนที่ตัวเองนั่งไม่เท่าไรนัก

 

   นัยน์ตาคมที่จ้องมองดวงหน้าของคนตัวเล็กเหมือนจะหาเรื่อง ทำเอาเกี๊ยวเริ่มรู้สึกหวั่นๆไม่น้อย  ถ้าเกิดไอโอมมันลุกพรวดพราดขึ้นมาชกผม ผลมันก็เห็นๆกันอยู่ตั้ง แต่ยังไม่ได้ขึ้นสังเวียนแล้วล่ะ แต่ให้รู้ซะบ้างว่านี้ถิ่นใคร ยิ่งตอนบ่ายๆคนก็เริ่มบางตาลงไปแร่ะ ดูได้จากที่พ่อผมมันนั่งพักอยู่หน้าร้าน มันก็คงไม่กล้าทำอะไรผม สะใจจริงโว้ยยย

 

“มองหาไร แดรกดิ” ร่างบางเอ่ยกวนๆ พร้อมกับยักคิ้วให้กับคนที่นั่งอยู่อย่างมีชัย

 

“ขอน้ำ” คำพูดสั้นๆเหมือนจะเป็นเรื่องปกติ แต่ถ้ามันเป็นคำพูดที่มาจากปากของไอ่คนที่ผมไม่ชอบขี้หน้ามัน มันก็เหมือนกับเสียงแมงหวี่แมงวันที่ต่อมอยู่รอบหัวจนน่ารำคาญนั่นแหละ

 

“อยากแดรกน้ำใช่มั้ย” ผมกดน้ำเย็นใส่แก้วพลาสติกก่อนจะจุ่มมือลงไปในแก้ว ก็มือผมมันเล็กเรื่องแค่นี้สบายอยู่แล้ว จะหายาถ่ายท้องให้มันตอนนี้ก็คงไม่ทัน มือผมเนี่ยแหละยาถ่ายท้องอย่างดี เค็มๆมันๆแถมมีขี้ดินดำๆตามซอกเล็บเพิ่มรสชาติ อร่อยเหาะแน่งานนี้

 

“แดรกน้ำขี้มือกูก็แล้วกันนะ” คนตัวเล็กหัวเราะอย่างบ้าคลั่งกับตัวเอง ก่อนจะถือแก้วน้ำไปเสิร์ฟให้กับเจ้าของเสียงที่เอ่ยกับตนเมื่อกี้

 

“น้ำ” จะมาไม้ไหนอีกล่ะเนี่ย (โอมคิด) พลางมองหน้าใสๆที่เปื้อนยิ้มจนผิดสังเกต

 

“เฮ๊ย” อ้า...ตกหลุมพรางผมจนได้ เป็นไงล่ะ น้ำขี้มือกูอร่อยมั้ย

 

  ร่างเล็กที่กำลังหันหลังก้มหน้าก้มตาเช็ดโต๊ะที่อยู่ห่างจากโอมไม่กี่วา แอบยิ้มกรุ่มกริ่มด้วยความสะใจ

 

“เฮ๊ย ไอเกี๊ยว น้ำตาลหมด” อ้าว อะไรฟ่ะ นึกว่ามันแดรกน้ำขี้มือผมแล้วซะอีก กำลังรอเวลาที่มันจะลงไปชักดิ้นชักงออยู่กะพื้นแล้วเชียว

 

   ผมเลยจำใจต้องไปเติมน้ำตาลที่โต๊ะมัน เมื่อเช้าผมก็เติมเครื่องปรุงทุกโต๊ะแล้วนี่นา ไหงมันหมดไวจังแฮ่ะวันนี้  พอเติมน้ำตาลเสร็จผมก็นึกว่ามันยังไม่ได้ปรุง ที่ไหนได้มันก็นั่งกินต่อหน้าตาเฉย ยังงี้ไม่เรียกว่าแกล้งแล้วจะให้ผมคิดยังไง หน๊อย แต่ช่างเหอะ ถ้ามันได้กินน้ำ(ขี้มือ)ของผมแล้วจะรู้สึก

 

“อ้าว เฮ๊ย” ร่างสูงร้องเสียงหลงทำให้คนตัวเล็กมีความหวังอีกครั้ง หึหึ ให้รู้ซะบ้างว่าไผ่เป็นไผ่

 

“เฮ๊ย” เป็นผมเองที่ต้องแหกปากร้องเสียงหลงตามมัน ก็มีน้ำหกเลอะเทอะเต็มโต๊ะไอ่โอม ให้เดาคงเป็นน้ำขี้มือผมแน่ๆ ไอ่ที่ผมร้องไม่ใช่เพราะตกใจที่น้ำหก แต่ผิดหวังมากกว่าเพราะโอกาสที่ผมจะได้เอาคืนมันมีลิบหรี่ยิ่งกว่าการที่ผมจะตื่นเช้าทันขึ้นรถโรงเรียนนะเสะ

 

“โทษทีว่ะ” คำขอโทษที่ดูเหมือนจะเป็นคำเยาะเย้ยซะมากกว่า ผมน่ะเหรอก็ได้แต่ก้มหน้าก้มตาเช็ดน้ำที่หกอย่างหมดอาลัยตายอยาก แต่ที่น่าแปลกคือไอ่โอมช่วยผมเช็ดโต๊ะ คงสำนึกผิดที่ทำหก

 

   แต่ทำไมมันต้องมาจับมือผมด้วยเนี่ย ร่างบางมองคนตัวสูงอย่างไม่เข้าใจ ส่วนโอมที่เช็ดน้ำที่มันทำหกอย่างเอาเป็นเอาตายก็ทำเหมือนไม่มีไรเกิดขึ้น ถ้าไม่ติดว่าผมเป็นผู้ชาย ผมคงคิดว่ามันแอบหลอกแต๊ะอั่งผมไปนานแล้ว ผมก็งงแตกสิครับงานนี้

 

“อะ เอ่อ” เหมือนมันจะรู้ตัวถึงได้ยอมปล่อยมือผมสักที

 

“เดี๋ยวกูไปเอาน้ำมาให้ใหม่” ยังไงวันนี้ผมก็ต้องแกล้งมันให้ได้ ให้มันรู้ไปสิว่าผมไม่มีปัญญาแกล้งคนอื่น คราวนี้หวังว่ามันคงไม่เกิดซุ่มซ่ามอะไรขึ้นมาเป็นรอบที่สองแร่ะกัน

 

  แล้วผมก็ต้องมานั่งลุ้นว่าเมื่อไรมันจะกินน้ำ(ขี้มือ)ยังกะคนที่กำลังตรวจล็อตเตอรี่ไม่ใช่ก็ใกล้เคียงเลยล่ะ

 

“เกี๊ยวๆ มานี่หน่อย” มันจะเอาอะไรของมันอีกว่ะเนี่ย

 

“เออๆ เดี๋ยวแป๊บ” ผมตะโกนบอกมันอย่างเซ็งๆ ทั้งๆที่ไม่ได้มองเพราะกำลังเก็บจานโต๊ะ 4 อยู่

 

“มีไร” แขนเล็กบาดเหงื่อที่ไหลลงมาตามพวงแก้มอย่างเหนื่อยอ่อน ก่อนจะเอ่ยกับคนที่อยู่ตรงหน้า

 

“หือ อะไร” ไอ่นี้มันยังไงว่ะ เรียกผมแล้วยังมีหน้ามาถามว่าอะไรอีก ชักจะกวนบาทาไปแล้วนะเว้ย เดี๊ยวพ่อกระโดดก้านคอซะเลยนิ

 

“ก็ ตะกี้” แจ่มเลยครับ ผมรู้แล้วครับว่ามันเรียกใคร

 

“อ๊ะ กินซะ ไอ่เกี๊ยว” ร่างบางมองคนตัวสูงที่ส่งลูกชิ้นให้กับสัตว์โลกหลังเกรียนสีน้ำตาลที่สูงไม่ถึงเข่าตัวเองด้วยซ้ำ อีกแล้วเหรอเนี่ย นี่มันคิดจะแกล้งผมไปถึงไหนกันฟร่ะ

 

กรอดๆ  :serius2: :m31:

 

  คนตัวเล็กได้แต่กัดฟันกรอดอย่างไม่พอใจ มือเล็กกำแน่นด้วยความโมโห ต้องมีสักวันแหละน่าที่มันต้องโดนผมแกล้งจนร้องไห้ขี้มูกโป่งไปฟ้องแม่ คอยดูเหอะ

 

“อ๊าว ยืนบื้ออะไรอีกแหละ กินเสร็จแล้วจะเก็บตังค์มั้ย” ดูมัน ยังมีหน้ามาว่าผมอีก ไอ่นี่มันน่ากระทืบจริงๆให้ตายสิ :z6:

 

“20 บาท” เสียงหวานเอ่ยห้วนๆ ทำให้ร่างสูงเผลอยิ้ม เวลาผมแกล้งไอ่เกี๋ยวงอนมันสนุกกว่าตอนที่ไปเตะบอลก็ไอ่พวกฝังตลาดอีก เพราะงี้ผมถึงชอบแกล้งมันไงล่ะ (โอมคิด)

 

“...” คนตัวเล็กถึงธนบัตรสีเขียวที่ถูกยื่นมาให้แล้วยัดใส่กระเป๋าเอี๊ยมอย่างลวกๆ

 

“กินเสร็จแล้วก็รีบๆลุกไปดิว่ะ” ไม่รู้ว่าทำไมมันถึงชอบแกล้งผมนักหนา ถ้าไม่ได้แกล้งผมสักวันมันจะลงแดงรึไงฟ่ะ

 

   มือเล็กคว้าแก้วน้ำที่วางอยู่บนโต๊ะมากินเพื่อดับกระหายและความร้อนภายในจิตใจ

 

พรวด

 

   ทันทีที่น้ำเข้าไปในปากผมมันก็กลับออกมาทางเดิมแทบจะทันที ก็ทั้งเค็มทั้งขมแถมมีอะไรขุ่นๆอยู่ในแก้วด้วยผมงี้แทบหาน้ำสะอาดมาล้างปากไม่ทัน ก็นี่มันน้ำขี้มือของผมเองแหละ ทำไมมันต้องเป็นแบบนี้ทุกทีเลยน้า...จะแกล้งใครผมต้องโดนเองทุกที ทำไมไอ่โอมมันถึงดวงดีแล้วผมต้องโชคร้ายตลอดด้วย ไม่ย๊อมม~!!




“เกี๊ยวเอ๊ย... ไปซื้อบะหมี่เหลืองที่ร้านน้านวลให้พ่อที” ไม่ทันที่ผมจะได้ล้างท้องเสร็จ งานใหม่ก็เข้ามาอีกแล้ว ใช้แรงงานเด็ก ถ้าไม่ติดว่าเป็นพ่อนะ ผมฟ้องกรมแรงงานไปนานแล้ว พ่อนะพ่อ ยังงี้ทุกทีเล้ยย

 

“เอากี่ห่อง่ะ” เสียงหวานถามแบบขอไปที ไม่ใช่ว่าผมขี้เกียจอะไรหรอกนะ แต่ผมไม่อยากไปร้านนั่นนี่นา ก็มันเป็นร้านของแม่ไอ่บอลน่ะเดะ ผมคิดว่าวันนี้โชคร้ายที่ต้องเจอไอ่โอมตอนบ่าย ตกเย็นยังต้องไปเจอไอ่บอลแบบเลี่ยงไม่ได้อีก โอ้ว... พ่อจ๋าแม่จ๋าช่วยลูกช้างด้วย



“เอา 15 ห่อเลยแล้วกัน พรุ่งนี้วันอาทิตย์ซะด้วยสิ” พ่อพูดเหมือนกำลังใช้ความคิดก่อนจะควักเงินในกระเป๋าส่งให้ลูกชายที่ยืนไหล่ห่อทำหน้าละห้อยจนเห็นได้ชัด

 

“รีบๆกลับนะ จะได้มาช่วยพ่อเก็บร้าน แม่แกก็ไปหาป้าในเมืองคงดึกกว่าจะกลับ ช่วยพ่อหน่อยนะเกี๊ยว” ผู้เป็นพ่อกำชับน้ำเสียงเหนื่อยๆ

 

“ครับ” เด็กชายตอบรับอย่างว่าง่าย ก่อนจะเดินคอตกออกไปหน้าร้าน มือเล็กคว้ารถจักรยานคู่ใจก่อนจะกระโดดควบออกไปยังจุดหมายที่ไม่อยากให้ถึง

 

  ถึงผมจะเป็นเด็กเป็นเล็ก (การพนันเป็นสิ่งผิดกฎหมาย) แต่ผมพนันได้เลยว่าไอ่บอลมันต้องหาเรื่องแกล้งผมจนได้แหละน่า... แล้วยังงี้ผมจะมีชีวิตรอดกลับมาถึงบ้านมั้ยเนี่ย แค่คิดก็สยองแล้ว แต่..ถ้าผมไม่ช่วยพ่อแล้วใครจะช่วยล่ะ เงินทุกบาททุกสตางค์พ่อแม่ก็เอาไว้ใช้จุนเจือครอบครัว แล้วจะให้ผมเห็นแก่ตัวเพราะความขี้ขลาดของตัวเองไม่ได้หรอก เป็นไงเป็นกันว่ะ คงไม่ถึงตาย (มั้ง)

 

เอี๊ยดดด~!!

 

   รถจักรยานสีน้ำเงินดำค่อยๆถูกจอดไว้หน้าร้านขายของชำ คนตัวเล็กมองซ้ายมองขวาเหมือนกำลังเป็นผู้ร้ายหนีคดีไม่ก็ปาน ผมนี่แทบไม่ต้องมองหาเลยครับก็ไอ่คนที่ไม่อยากเจอมันดันยืนค้ำหัวอยู่หน้าร้านเป็นนางกวักตรงหน้าเลยนี่นา

 

“เมิงมาทำไม” เอาแล้วไง แค่ส่วนสูงมันก็กินขาด ใจดีสู้เสือละกันว่ะ o22

 

“มาซักผ้ามั้ง” ชริปหายแล้ว ผมลืมตัวติดนิสัยปากหมามาจากไอ่โอม แต่ตอนนี้ไอ่คนตรงหน้าผมมันไม่ใช่คนแล้ว ดูจากหน้าตามันยิ่งกว่ายมทูตที่ผมเคยดูในทีวีซะอีก

 

“ไอ่เชี่ยเกี๊ยว” มือหนาเอื้อมมากระชากคอเสื้อยืดสีมอๆของอีกฝ่ายอย่างรวดเร็วก่อนจะยื่นหน้าเข้าใกล้ขึ้นกว่าเดิม นัยน์ตาสีนิลที่ดุดันทำเอาคนตัวเล็กยืนนิ่งดั่งต้องมนต์สะกดเพราะความกลัว

 

“น้านวลค๊าบบ” คนตัวเล็กแหกปากลั่น บอลจึงรีบเอามือปิดปากเรียวแต่ก็ไม่ทันเสียแล้ว :เฮ้อ:

 

“อ้าว เกี๊ยว มาซื้ออะไรลูก” เจ้าของชื่อเดินออกมาจากในร้านกล่าวทักทายอย่างเป็นมิตรผิดกับไอ่ลูกชายราวฟ้ากะเหวจริงๆ ส่วนไอ่บอลนะเหรอ ถ้ามีรางวัลเนียนยอดเยี่ยมแห่งปี ผมคงยกให้มันที่ 1 เลยแหละ จากตะกี้ที่มันเกือบจะชกผมอยู่รอมร่อกลับมาเป็นโอบไหล่ แต่ก็ไม่วายตบหลังจนผมแทบจุกเหมือนกัน

 

“ไอ่เกี๊ยวมันจะมาซื้อของน่ะแม่ งั้นผมไปยกของหลังร้านก่อนนะ” ไอ่บอลทำหน้าเนียน ยิ้มฝืดๆมาทางผมแต่ก็ยังดูน่ากลัวอยู่ดี ตกท้ายด้วยการตบหัวผมเล่นเหมือนจะเบา แต่ไอ่หมอนี่มันมือหนักชริปเป๋งเลย

 

   คนตัวเล็กลูบหัวยุ่งๆของตัวเองให้เข้าที่ก่อนจะเดินตามผู้หญิงท่าทางใจดีรุ่นราวคราวดีกับแม่ตัวเองเข้าไปในร้าน โชคดีที่มีน้านวลอยู่ ไม่งั้นผมคงโดนไอ่บอลยำไม่เหลือซากแน่ๆ

 

“เอาหมี่เหลือง 15 ห่อ น้ำตาลทรายแดง 3 กิโลฯ แล้วก็ น้ำส้มสายชู 4 ขวดครับ น้ำปลา 6 ขวด” นัยน์ตาคู่หวานกวาดไปบนกระดาษแผ่นเล็กๆในมือที่พ่อจดรายการมาให้

 

“โห...รอบนี้มาซื้อเยอะเลย จะเอากลับบ้านไหวมั้ยเนี่ย” นั่นน่ะสิ ผมว่าพ่อต้องเข้าอะไรผิดแน่ๆเลย ปกติถ้าเป็นแม่ซื้อก็คงไม่มีปัญหาอะไรเพราะแม่เอามอไซด์มา แต่ผมเอาจักรยานมานะครับ ตะกร้าหน้ารถก็ไม่มีคงได้ปั่นไปปั่นมาหลายรอบแน่ๆเลย

 

“ไม่ไหวก็ต้องไหวแหละครับ” ผมก็ได้แต่ยืนยิ้มแห้งๆให้กับน้านวล

 

   จะว่าร้านน้านวลมันก็เป็นร้านขายของชำทั้งปลีกและส่ง เนื่องจากผมรู้จักกะไอ่บอลซึ่งผมก็ไม่ได้อยากรู้จักกะมันเท่าไรหรอกก็เลยส่งอนิสงค์ถึงพ่อแม่ผมด้วย เวลาที่มาซื้อของเข้าร้านน้านวลก็จะลดให้เยอะเลย น้านวลใจดีมากๆผิดกับไอ่บอลที่โหดยังกะซาตาน ผมนี่ล่ะสงสารน้าแกที่มีลูกนิสัยแย่ๆแบบนี้แถมเรียนซ้ำชั้นอีกต่างหาก แมร่ง ไอ่นี่มันเก่งแต่ใช้กำลังอย่างเดียวจริงๆ

 

    หลังจากไปเอากุ้งหอยปูปลา (เปรียบเทียบ) ของที่พ่อสั่งจนได้ครบทุกอย่างแล้วเล่นเอาผมเหงื่อท่วมอีกรอบ ก็กว่าจะหาของมาได้ครบแต่ละอย่างหนักๆทั้งนั้น แถมอยู่คนละทิศละทาง ตอนนี้ก็ปาเข้าไป 6 โมงกว่าแต่ไหงวันนี้มันมืดไวยังงี้ฟร่ะ ผมยังไม่อยากคิดเลย กว่าจะปั่นจักรยานกลับไปกลับมาเอาของจนหมด กว่าจะช่วยพ่อเก็บร้าน ผมไม่ได้นอนเที่ยงคืนเลยรึไงเนี่ย

 

“ขอบคุณครับ” พอจ่ายเงินเสร็จสรรพผมก็ทยอยยกของออกมาหน้าร้าน ในตลาดพ่อค้าแม่ค้าก็ทยอยเก็บของเก็บของเตรียมกลับบ้านกันหมดแล้ว

 

“เกี๊ยว น้าว่าเดี๋ยวให้บอลขับรถไปส่งดีกว่านะ” น้านวลลูบหัวผมเบาๆ

 

“อะ...อ้อ ไม่เป็นไรหรอกครับ” ผมก็ไม่อยากจะปฏิเสธน้ำใจของผู้ใหญ่เท่าไร แต่จะให้ไอ่บอลมันขับรถไปส่งผมที่บ้าน มีหวังผมโดนฆ่าหั่นศพหมกป่าข้างทางซะมากกว่า

 

“เถอะน่า ดึกดื่นๆ รถยิ่งเยอะอยู่ด้วย ถ้าโดนรถชนจะว่าไงล่ะ พ่อแม่เราจะเป็นห่วงรู้มั้ย” ยิ่งเห็นสีหน้าน้านวลที่เป็นห่วงผม มือที่ลูบหัวร่างบางอย่างเอ็นดู จะให้ผมเถียงยังไงล่ะครับ ผมยอมโดนรถชนตายดีกว่าให้ไอ่บอลขับรถมอไซด์ไปส่งที่บ้านนะครับน้านวล

 

“อะ เอ่อ” เสียงหวานเอ่ยในลำคอตะกุกตะกักขณะกำลังคิดหาข้อแก้ตัว

 

“บอลๆ ไปส่งเกี๊ยวที่บ้านหน่อยสิ” ผู้เป็นแม่ออกคำสั่งแต่ดูเหมือนจะเป็นการขอซะมากกว่า

 

“อะไรนะแม่ ทำไมไม่ให้ไอ่เกี๊ยวมันกลับเองล่ะ” เสียงทุ้มเอ่ยอย่างไม่พอใจ ก่อนจะเดินมายืนข้างๆผู้เป็นแม่ของตน มองคนตัวเล็กที่ยืนก้มหน้าอยู่

 

“ไม่เป็นไรหรอกครับ ผมกลับเองได้” ร่างบางพยายามตอบปัดๆ เผื่อว่าน้านวลจะยอมปล่อยผมให้กลับเอง จะให้ผมปั่นจักรยานไปมากี่สิบรอบผมก็ยอม ผมแทบจะไม่กล้าเงยหน้ามองไอ่บอลเล้ยย

 

“ไม่ได้ ให้บอลไปส่งนั่นแหละดีแล้ว” ผู้เป็นแม่ดันหลังลูกชายตัวเองออกไปหน้าร้านก่อนจะใช้ให้ยกของที่ใส่ตะกร้าหน้ารถได้ อีกส่วนหนึ่งก็ให้คนตัวเล็กเป็นคนถือ

 

“พรุ่งนี้ก็ค่อยมาเอาจักรยานก็ได้ เดี๋ยวน้าเก็บให้ ไม่ต้องห่วงนะ” ผมจำใจต้องรีบกระโดดซ้อนท้ายมอไซด์ของไอ่บอล ก็มันสตราทรถรอแล้วนี่ แถมยังทำหน้ายักษ์ใส่ผมอีก

 

“...” แล้วรอยยิ้มของน้านวลก็ค่อยๆหายลับไป ลาก่อนนะครับน้านวล แล้วผมจะมาใบ้หวยให้ ฮื่อๆ

 

 ผมนั่งตัวเกร็งอยู่ที่เบาะหลัง แถมยังต้องรักษาระยะห่างระหว่างผมกะไอ่บอลด้วย ขืนไปนั่งชิดมันไม่รู้มันจะหักคอผมไปจิ้มน้ำพริกกินรึเปล่า แต่ไอ่นี่ขับรถไวยิ่งกว่ารถไฟเหอะซะอีก ถึงผมจะไม่เคยนั่งรถไฟเหอะจริงๆก็ตามที ผมเดาว่ามันคงไม่ต่างกันเท่าไร

 

  มีเพียงแสงไฟถนนสีส้มที่คอยส่องตลอดระยะทางกับเสียงลมที่ปะทะมาเท่านั้น  แขนทั้งสองข้างของผมมันหนักอึ้ง อีกข้างก็มีน้ำตาล 3 กิโลฯ ส่วนอีกข้างก็ถือหมี่เหลืองเกือบ 10 ห่อ แถมยังต้องมานั่งซ้อนท้ายกะไอ่บอลอีก จะมีอะไรที่ทรมานผมได้มากกว่านี้อีกมั้ยเนี่ย

 

   สักพักความเร็วของรถก็ค่อยๆลดลงก็จะหยุดสนิทเพราะไอ่ไฟแดงที่อยู่ทุกสามแยกสี่แยกมันลอยเด่น จะว่าไประยะทางจากตลาดกับร้านผมมันก็ประมาณ 2-3 โล ผมเองก็ไม่รู้หรอก แต่ที่รู้ๆคือแขนผมมันพร้อมที่จะหลุดได้ทุกเมื่อแล้วตอนนี้

 

“ขยับเข้ามาใกล้ๆดิว่ะ เดี๋ยวแมร่งก็ตกรถตายกันพอดี กูไม่อยากแดรกข้าวต้มวันนี้โว้ย” จู่ๆไอ่บอลก็หันหน้ามาตะคอกใส่ผมฉอดๆตกลงมันห่วงผมรึมันแช่งผมกันแน่

 

  ผมก็เลยจำใจขยับเข้าไปหามันจากที่เว้นไว้ประมาณว่าคนที่สามมานั่งซ้อนตรงกลางยังได้ ก็ผมอยู่ในช่วงเว้นวรรคทางการเมืองนี่ครับ (เกี่ยวกัน?) นัยน์ตาคู่สวยจับจ้องแผ่นหลังที่อยู่ใต้เสื้อยืดสีขาวชุ่มเหงื่อเล็กน้อย จะว่าไปไอ่โอมมันก็เป็นคนหน้าตาไม่เลวร้ายอะไร แต่ที่นิสัยแย่ๆของมัน ไม่รู้ว่าไอ่โยกะไอ่เคนทนคบกะมันได้ยังไง อันที่จริงนิสัยมันก็ไม่ได้แย่อะไรมากมาย แต่ผมก็ไม่เข้าใจว่าทำไมมันชอบรุมหัวกันแกล้งผม ทั้งที่ความจริงแล้วผมอยากเป็นเพื่อนกับพวกมันซะด้วยซ้ำ

 

เอี๊ยดดดด

 

  ไม่ทันที่ผมจะได้คิดชื่นชมด้านที่ดีของมันเสร็จ ไอ่นี่ก็ทำผมเจ็บตัวเป็นครั้งที่ล้านๆแล้วมั้ง ก็มันเล่นหยุดกะทันหันจนหน้าผมกระแทกกะหลังมันอย่างจัง ไอ่ดั้งของผมที่มันไม่ค่อยมีอยู่แล้วไม่รู้จะยุบเข้าไปอีกรึเปล่า

 

“ไอ่เชี่ยบอล เมิงขับรถภาษาไรว่ะ” ร่างบางบ่นเป็นกระศัยขณะที่กำลังกระโดดลงจากรถหิ้วข้าวของที่หนักอึ้งวางไว้หน้าร้าน มือบางจับดั้งเล็กๆของตัวเองก่อนจะนวดเบาๆ ส่วนไอ่บอลตัวดีก็ช่วยยกของเข้าร้านทำหน้าเนียนตามแบบฉบับที่มันถนัด

 

“เมิงนั่งไม่ดีเองต่างหากล่ะ” อ้าว กลายเป็นว่าผมผิดใช่มั้ยเนี่ย

 

“อ้าวบอล มาส่งเกี๊ยวเหรอเนี่ย มาๆ เข้ามาในร้านก่อน” เฮ้อ แล้วผมก็ยังไม่เข้าใจถึงทุกวันนี้ว่าทำไมพ่อถึงต้องไปเอ็นดูมันด้วย

 

“ครับ น้าพงษ์ยังไม่ปิดร้านอีกเหรอ” หน็อย ไอ่นี่มันตีสนิทกะพ่อผม ก็เรื่องยังงี้มันถนัดนักนี่

 

“อืม ก็รอไอ่เกี๊ยวเนี่ยแหละ แล้วกินอะไรมารึยังล่ะ” คุยกันถูกปากถูกคอเลยนะ ไม่เอามันมาเป็นลูกแทนผมเลยล่ะพ่อ

 

  เกี๊ยวทำปากขมุบขมิบบ่นพึมพำกับตัวเองขณะยกของเข้าบ้าน

 

“ยังเลยครับ” เสียงทุ้มเอ่ย

 

“อืม งั้นก็อยู่กินข้าวด้วยกันก่อนสิ อุตส่าห์ขับรถมาส่งไอ่เกี๊ยวมันตั้งไกล” พ่อไปชวนมันกินข้าวด้วยทำไมเนี่ย ขืนได้กินข้าวร่วมโต๊ะเดียวกับมันผมคงกระเดือกข้าวไม่ลงแน่ๆ

 

“จะดีเหรอครับ” เหมือนคนตัวสูงจะลังเลเล็กน้อย

 

“พ่อ ก็ให้ไอ่บอลไปกินข้าวที่บ้านกะน้านวลดิ เดี๋ยวน้านวลรอนานจริงป่ะไอ่บอล” ร่างบางเอ่ยพร้อมกับยักคิ้วนิดๆ ที่แผนไล่ไอ่ตัวดีออกจากร้านกำลังจะสำเร็จ

 

“อืม เห็นแม่บอกว่าเย็นนี้จะไปธุระดึกๆจะกลับนะครับ กินที่นี้คงไม่เป็นไร” แพล๊ง ทำไมมันหน้าด้านยังงี้ฟ่ะ ไล่แล้วยังไม่ไปอีก

 

“งั้นดีเลย อยู่กินข้าวด้วยกันก่อนแล้วค่อยกลับนะ เกี๊ยว ไปยกกลับข้าวมา พ่อเตรียมไว้ในตู้กลับข้าวแล้ว” ประโยคแรกพ่อพูดกับไอ่บอลส่วนประโยคหลังพ่อพูดกับผม เห็นความแตกต่างมั้ยครับ รักกันดีไม่ขอน้านวลให้ไอ่บอลมาเป็นลูกบุญธรรมเลยล่ะ พ่อเนี่ย

 

“เดี๋ยวผมไปช่วยเกี๊ยวนะครับ” ร่างสูงเอ่ยเป็นเชิงขออนุญาตก่อนจะตามคนตัวเล็กเข้าไปในห้องครัว

 

“คนอะไรว่ะหน้าด้านชริปหน้าเลย ไล่แล้วยังไม่ไปอีก ชิ แบร่” ร่างบางที่กำลังบ่นพึมพำออกเสียงไม่ดังแต่ก็พอที่จะทำให้อีกคนที่ยืนอยู่ข้างหลังได้ยิน

 

“ว่าอะไรนะ” เสียงทุ้มเอ่ยดังจากข้างหลังทำให้คนตัวเล็กสะดุ้งเฮือก ก่อนจะค่อยๆหันไปมองต้นเสียงที่ติดกวนนิดๆ

 

“อะ เอ่อ เปล่านี่” ถึงจะเป็นการแก้ตัวน้ำขุ่นๆแต่ผมก็ไม่มีทางเลือกแล้ว เพราะตอนนี้ไอ่บอลมาเดินสามขุมเข้ามาใกล้ผมจนตั้งตัวไม่ติดเลย

 

“เหรอ ก็แล้วไป” เฮ้อ โล่งอก อย่างน้อยผมก็คงไม่ถูกอัดก๊อปปี้ติดกับกำแพงในห้องครัวบ้านตัวเองวันนี้ แต่ที่แปลกๆหรือผมอาจจะคิดไปเอง เหมือนว่ามันจะอมยิ้มอยู่หน่อยๆด้วยแฮ่ะ เป็นบ้าอะไรของมันขึ้นมาอีกเนี่ยเดี๋ยวดีเดี๋ยวร้าย

 

  มือถือจานข้าวกับหม้อหุงข้าว ส่วนไอ่บอลก็หยิบกลับข้าวเดินตามหลังมา เสี่ยวสันหลังยังไงไม่รู้วุ้ย... ผมเลยรีบจ้ำอ้าวเดินออกห่างมันให้เร็วที่สุด แต่ไอ่นี่ขามันยาว นับถือจริงๆเลย

 

“เฮ๊ย...” จะเป็นใครไม่ได้นอกจากผมที่แหกปากดังลั่นแบบนี้ได้

 

  เกือบจะรอดตัวเลยเชียว สุดท้ายมันก็หาเรื่องให้ผมเจ็บตัวจนได้ ก็เล่นเดินมาชนผมซะกระเด็นประตูทางออกก็แคบ อีกนิดเดียวผมก็เกือบเอาหน้าไปฟาดกับบานประตูแร่ะ โชคดีที่มีไอ่บอลคว้าคอเสื้อผมไว้ได้ทัน ผมว่าไม่หน้าฟาดกับบานประตูก็จะตายกับถูกคอเสื้อรัดคอจนขาดอากาศหายใจเนี่ยแหละ

 

“ซุ่มซ่ามจริงๆเลยนะเมิงเนี่ย” อืม เอาเป็นว่าผมผิดอีก เมิงไม่เคยผิดเลยใช่มั้ยเนี่ย ผมก็ได้แต่มองตามหลังมันเคืองๆ เจอขนาดนี้ผมก็คงไม่กล้าเสนอหน้าไปเดินนำมันหรอก ดีไม่ดีโดนมันสกัดขาล้มหัวโม่งโลกตายห่ากันพอดี

 

“เออ กูผิดเอง” เสียงหวานกระแทกประชดอย่างไม่พอใจ

 

   ผมรีบโซ้ยข้าวให้หมดเร็วที่สุดแบบกินข้าวเพียวๆไม่มีน้ำเลย ไอ่บอลมันจะได้รีบๆกลับบ้านไปผมจะได้ไม่ต้องมานั่งทนเห็นหน้ามัน เจอที่โรงเรียนผมก็จะคลั่งตายอยู่แล้ว วันนี้มันวันซวยอะไรกันฟร่ะเนี่ย

 

อะ แฮ่กๆๆ

 

  เป็นผลจากการที่ผมรีบโซ้ยข้าวไปหน่อยเลยสำลักอย่างที่อ่าน

 

“ค่อยๆกินดิว่ะ ทำตัวยังกะเด็กไปได้” ร่างสูงบ่นพร้อมกับส่งน้ำมาให้คนตัวเล็ก

 

“หิวมากเลยเหรอ พ่อขอโทษทีวันนี้ก็ยังไม่ได้กินข้าวทั้งวันคงหิวมากใช่มั้ยเนี่ย ค่อยๆกินนะไม่อิ่มก็เติมได้” ผู้เป็นพ่อเอ่ยก่อนจะลูบกลุ่มผมนุ่มนิ่มในมืออย่างห่วงใย อาจจะหิวที่ไม่ได้กินข้าวมาทั้งวันก็คนเข้าร้านตลอดแต่ที่ผมรีบยัดข้าวเพราะอยากให้ไอ่บอลรีบๆกลับบ้านมันไปต่างหากล่ะ

 

  ร่างสูงเผลอมองคนตัวเล็กที่กำลังกินน้ำจนหมดแก้ว รอยยิ้มจึงเกิดขึ้นที่ริมฝีปากเรียวอย่างไม่ได้ตั้งใจ

 

“เอ่อ น้าพงษ์ งั้นผมกลับบ้านก่อนนะครับ” ร่างสูงเอ่ยกับชายวัยกลางคนรุ่นเดียวกับพ่อตัวเอง

 

“อืม ขับรถดีๆนะ” ผมรอเวลานี้มานานแล้ว กว่ามันจะรู้ตัว แล้วผมก็ได้กินข้าวเย็นอย่างสงบสุขกับพ่อสองคนซะที

 

   กว่าผมจะได้นอนก็ปาไปห้าทุ่มกว่าแล้ววันนี้เหนื่อยกว่าทุกวันเพราะแม่ไม่อยู่และยังแถมต้องมาเจอไอ่สองหน่อนั่นเช้า-เย็นแบบนี้มันตัดกำลังผมดีเหลือเกิน พอหัวถึงหมอนปุบผมก็หลับชนิดที่ว่าไฟไหม้ผมคงโดนไฟครอกตายคาที่นอนเลยมั้งเนี่ย...

๙๙๙๙๙๙๙๙๙๙๙๙๙๙๙๙๙๙๙๙๙๙

changasa@hotmail.com

  • บุคคลทั่วไป
Re: [เรื่องสั้น] คนเนี๊ยะ!!!แฟนผม
«ตอบ #12 เมื่อ15-04-2009 22:46:34 »

 :z13: อ่ะนี่แน่ะ จิ้มคนแต่งซ้า งิงิ มาต่อเร็วดีจิงๆๆๆ

ออฟไลน์ RAKDEK_KA

  • เป็ดDemeter
  • *
  • กระทู้: 1798
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +88/-1
Re: [เรื่องสั้น] คนเนี๊ยะ!!!แฟนผม
«ตอบ #13 เมื่อ16-04-2009 00:33:50 »

โอ้  สั้นจัง
 :z1: :z1:

N19T

  • บุคคลทั่วไป
Re: [เรื่องสั้น] คนเนี๊ยะ!!!แฟนผม
«ตอบ #14 เมื่อ16-04-2009 00:53:09 »

ตอนที่คุณพ่อขับรถ มีเกี้ยวนั่งซ้อนท้าย ขับอ้อมตามรถโรงเรียน มันคล้ายๆ กับหนังเรื่อง แฟนฉัน จังค่ะ
แต่ไม่เป็นไร ไว้จะตามอ่านและตามคอมเมนต์เรื่อยๆ นะค่ะ

ออฟไลน์ [N]€ẃÿ{k}uñĢ

  • ~ῲเจ้าแม่Dramaῴ~
  • เป็ดแสนดี
  • เป็ดArtemis
  • *
  • กระทู้: 5186
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +740/-5
Re: [เรื่องสั้น] คนเนี๊ยะ!!!แฟนผม
«ตอบ #15 เมื่อ16-04-2009 05:15:07 »

 :mc4: :mc4: :mc4:
เจิมเรื่องใหม่คราบ อิๆ
+1 ให้เป็นกำลังใจ
อ่านแล้วแบบว่า เออ แฟนฉันจริงๆด้วย เหอะๆ
พออ่านไปเรื่อยๆจนจบตอน โอมคงต้องแอบชอบเกี๊ยวอยู่ชัวอะนะ
แต่ด้วยความที่แกล้งกันมาตลอดเลยไม่รู้จะทำไง
ที่เงียบเพราะอาย ที่ไม่อยากให้เข้าใกล้ เพราะกลัว
แล้วจะรออ่านตอนต่อนะคราบ ดูแล้วเรื่องนี้ถ้ามีเวลาเขียนเป็นเรื่องยาวได้สบายเลย

นิว

patz

  • บุคคลทั่วไป
Re: [เรื่องสั้น] คนเนี๊ยะ!!!แฟนผม
«ตอบ #16 เมื่อ16-04-2009 07:01:58 »

จะเชียร์ใครดีน้า.... เชียร์โอมหรือบอลดี  :z1:

ออฟไลน์ dahlia

  • เป็ดแสนดี
  • เป็ดAphrodite
  • *
  • กระทู้: 4239
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +695/-4
Re: [เรื่องสั้น] คนเนี๊ยะ!!!แฟนผม
«ตอบ #17 เมื่อ16-04-2009 10:05:05 »

หนูเกี๊ยว น่ารักได้อีกนะเนี่ย ชอบๆๆ  :-[

Black Angel

  • บุคคลทั่วไป
Re: [เรื่องสั้น] คนเนี๊ยะ!!!แฟนผม
«ตอบ #18 เมื่อ16-04-2009 10:06:04 »

 :sad11:

แหม รุมแกล้งกันจริง ๆ อ่ะ

 :sad11:

ออฟไลน์ sukie_moo

  • ปัจจุบัน คือ อดีตของอนาคต
  • เป็ดEros
  • *
  • กระทู้: 3488
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +457/-15
Re: [เรื่องสั้น] คนเนี๊ยะ!!!แฟนผม
«ตอบ #19 เมื่อ16-04-2009 10:26:44 »

สนุกดี

CoMMuNiTY Of ThAiBoYsLoVE

Re: [เรื่องสั้น] คนเนี๊ยะ!!!แฟนผม
« ตอบ #19 เมื่อ: 16-04-2009 10:26:44 »





tanuki

  • บุคคลทั่วไป
Re: [เรื่องสั้น] คนเนี๊ยะ!!!แฟนผม
«ตอบ #20 เมื่อ16-04-2009 14:39:04 »

ตอน 3 ตกปลา

ตึก ตึก ตึก
 
“อ้าว เกี๊ยวไปไหนแต่เช้าเนี่ย” เสียงของแม่ตะโกนตามหลังเล็กๆที่วิ่งสวนออกไป
 
“ไปก่อนนะแม่” คนตัวเล็กตอบทั้งๆที่ยังไม่ได้หันหน้ากลับมามองผู้เป็นแม่ที่ยืนเท้าเอวอยู่
 
“ไอ่ลูกคนนี้มันยังไงเนี่ย ทีตอนไปโรงเรียนไม่เห็นมันตื่นเช้ายังงี้เล้ยย” แม่บ่นเป็นกระสัย ส่วนพ่อก็ได้แต่ส่ายหัวเบาๆก่อนจะยกแก้วกาแฟร้อนๆขึ้นมาดื่ม สายตายังคงจับจ้องอยู่ที่หนังสือพิมพ์ในมือ
 
   ร่างบางกำลังกึ่งวิ่งกึ่งเดินไปตามถนนลาดยางที่ปราศจากรถแล่นผ่าน อากาศเย็นๆในตอนเช้าที่มีกระแสลมอ่อนๆพัดเฉื่อยปะทะสวนมา กลุ่มผมสีนิลที่ขยับเบาๆตามแรงลมเรียกความสดชื่นให้ร่างกายได้ไม่น้อย แต่ก็ไม่ได้ช่วยให้คนตัวเล็กที่เอาแต่จ้ำอ้าวเย็นลงได้เลย
 
“อย่าให้ไอ่บอลตื่นทีเถอะ สา...ธุ” เสียงหวานพึมพำ ริ้วคิ้วบางที่ขมวดเข้าหากันกับนัยน์ตาคู่หวานที่ดูกังวลอยู่ไม่น้อยทำให้คนตัวเล็กเร่งฝีเท้าขึ้นอีก
 
แฮ่กๆๆ
 
  คนตัวเล็กหอบแรง เหงื่อเม็ดใสผุดขึ้นตามดวงหน้าเนียนที่แดงกร่ำ สียืดสีฟ้าซีดเปียกชุ่มจนแนบกับแผ่นหลังเล็กๆของเกี๊ยว เรียวขาเล็กซ่อนอยู่ใต้กางเกงขาสั้นสีดำ กับเสียงรองเท้าแตะที่ดังเป็นจังหวะถี่เร็ว
 
“แฮ่กๆ” เสียงหอบเบาๆของเกี๊ยวที่กำลังก้มตัวงอ มือเล็กทั้งสองข้างทิ้งน้ำหนักเพื่อยันร่างกายไปที่เข่าของตัวเอง ก่อนจะจาบจ้วงอากาศเข้าไปเต็มปอด ในที่สุดผมก็มายืนอยู่ตรงหน้าร้านขายของชำในตลาดแล้ว
 
“อ้าวเกี๊ยว ทำไมวันนี้มาแต่เช้าเลย รอสายๆน้าก็กะจะให้เจ้าบอลมันเอาจักรยานไปส่งให้ที่บ้านอยู่แล้วเชียว” น้านวลรีบเดินออกมาจูงแขนเรียวเข้าไปในร้านอย่างเป็นห่วงเป็นใย
 
“คะ...คือ...ผม” ผมก็ไม่รู้ว่าจะแก้ตัวยังไงบวกกับตอนนี้ผมเหนื่อยจนพูดไม่ออกแล้ว
 
“อ่ะ กินน้ำกินท่าก่อน ดูซิ เหงื่อท่วมตัวยังกะลูกหมาตกน้ำเลย” น้านวลพูดไปยิ้มไป ก่อนจะส่งแก้วน้ำเย็นๆมาให้ผมสัมผัสอ่อนโยนบนหัวของผมทำให้ผมรู้สึกดีขึ้นมาก แล้วน้านวลก็เอาผ้าขนหนูมาเช็ดหน้าเช็ดตาให้ผม ไม่รู้ทำไมแม่ผมถึงไม่ใจดีเหมือนน้านวลมั้ง ปกติเห็นผมก็เห็นแม่บ่นตลอดศก
 
“ผมไปแล้วนะครับ” ร่างเล็กยกมือไหว้น้านวลก่อนจะรีบควบจักรยานของตนออกไป ขืนลีลาอยู่ที่นั่นนานๆไอ่บอลตื่นมาผมก็แย่สิครับ
 
“อ๊าว สงสัยจะหวงจักรยานจริงๆ” น้านวลเอ่ยพลางยิ้มพลาง สายตายังคงมองตามรถจักรยานที่หายลับไปในซอยที่อยู่ระหว่างตึกแถว
 
“ใครมาเหรอแม่” เสียงทุ้มงัวเงียเอ่ยขึ้นทำลายความเงียบ ก่อนจะอ้าปากหาววอดรับวันใหม่ เปลือกตาคมที่ปรือลงทำให้รู้ว่ายังไม่ตื่นดี
 
“เราน่ะ รีบไปอาบน้ำเลยแม่ทอดปลาไว้ให้ในตู้กลับข้าวน่ะ” น้านวลพูดก่อนจะดันหลังร่างสูงเข้าไปหลังร้าน
 
 พ่อค้าแม่ค้าต่างค่อยๆทยอยกันมาพร้อมๆกับข้าวสารอาหารแห้งผักจนไปถึงผลไม้นานาชนิดตามฤดูกาล จะว่าไปตลาดที่นี่มันก็ไม่ตั้งแต่ไม้จิ้มฟันยันตู้เย็นเลยนั่นแหละ บรรยากาศที่มีผู้คนมาจับจ่ายใช้สอยจนหนาตาเป็นเรื่องธรรมดา แต่ที่แปลกคือไอ่เด็กผู้ชายเกือบครึ่งค่อนโรงเรียนต้องมีพ่อแม่ทำงานที่ตลาดแห่งนี้ทุกคนละน่า...
 
“หวัดดีครับน้านวล ไอ่บอลอยู่มั้ยครับ” เสียงเจื้อยแจ้วของเด็กชายที่ความสูงไม่ทิ้งห่างจากคนที่เพิ่งมาก่อนหน้านี้กับเด็กหนุ่มร่างสูงทั้งสองคนรีบยกมือไหว้หญิงรุ่นราวคราวเดียวกะแม่ตัวเอง ในมือมีไม้ยาวๆกับเชือกสายบางๆระโยงระยางคล้ายกับเบ็ดตกปลา
 
“อยู่จ้า... เข้ามาในร้านกันก่อนสิ” เด็กหนุ่มสองคนเดินตามหลังน้านวลเข้าไปในร้าน “บอล!! เพื่อนมาหาน่ะลูก” ผู้เป็นแม่ตะโกนเรียกลูกชายที่กำลังอาบน้ำอยู่ในห้องน้ำ
 
“คร๊าบแม่ เดี๋ยวผมลงไป” บอลตะโกนตอบก่อนจะรีบตักน้ำประปาอีกสองสามขันทำความสะอาดร่างกายที่เต็มไปด้วยฟองสบู่
 
“พวกเมิงมาทำอะไรกันแต่เช้าว่ะเนี่ย” ร่างสูงเอ่ย ก่อนจะสวมเสื้อสีขาวที่มีโลโก้โค้กสีแดงขนาบหน้าหลังทำตัวเป็นสปอนเซอร์รายย่อยสนับสนุนน้ำอัดลมยี่ห้อดังไปโดยปริยาย
 
“พวกกูกะจะชวนเมิงไปตกปลาที่คลองหลังสวนมะพร้าวว่ะ เมิงจะไปป่ะ” เคนถามร่างสูงที่ยืนโด่อยู่ตรงหน้าภายในห้องนอนที่รกรุงรังไม่ต่างกับรังหนู
 
“อืมๆ ไปป่ะ” ไอ่คุณชายโยเสริมก่อนจะยัดไมโลแท่งเข้าปากจนเลอะแก้มทั้งสองข้าง
 
“กูไม่แน่ใจว่ะ ต้องช่วยแม่เอาของเข้าร้านก่อน แล้วพวกเมิงจะไปกันตอนไหนล่ะ” คนตัวสูงเอ่ย สายตาเลื่อนลอยอย่างคนใช้ความคิด
 
“พวกกูกะว่าจะไปหาไส้เดือนกันก่อนว่ะ” เคนตอบ
 
“อืม บ่ายๆเดี๋ยวกูตามไป พวกเมิงก็ตกปลากันไปก่อนแร่ะกัน” บอลนัดแนะ ก่อนจะหันไปมองไอ่โยที่นั่งเลียนิ้วตัวเอง ร่างสูงส่ายหัวเบาก่อนจะยิ้มแหยะๆ ในความ...ของลูกน้องตัวเอง
 
“เออๆ รีบไปแล้วกัน” เคนตอบปัดๆ สายตาที่เย็นชามองโยแล้วกรีดยิ้มที่มุมปากบางๆ มันยากที่จะมีใครเห็นไอ่เคนยิ้มได้เต็มปากเต็มคำต่อหน้าคนอื่น แต่ถ้าเป็นกับไอ่โย ไอ่บอลคงเห็นได้บ่อยๆ ถ้าใครโชคดีก็อาจจะได้ฟังมันหัวเราะ บ้านมันเป็นร้านส่งน้ำแข็งก็งี้
 
“ไส้เดือนหมดไม่รู้ด้วยนะเว้ย” โยเอ่ยดังก่อนจะลุกเดินออกไปจากห้องโดยมีเคนเดินตามหลังไปติดๆ
 
“รู้แล้วน่า” บอลใช้มือผลักหลังลูกสมุนทั้งหลายออกจากห้องนอนของตน
 
“เอ่อ ไอ่เคน แล้วจะไปหาไส้เดือนที่ไหนว่ะ” โยถามคนที่อยู่ตรงหน้าพร้อมกับใช้มือเกาหัวแกรกๆ ดวงหน้าเล็กเอียงเล็กน้อยอย่างคนสงสัย
 
“ตามกูมา” เคนแสยะยิ้มที่มุมปาก ไม่ใช่อะไรหรอกผมแค่ขำไอ่คราบไมโลที่ติดอยู่ตามแก้มไอ่โยมันก็เท่านั้น (เคนคิด) ทิ้งให้คนตัวเล็กเดินตามพร้อมกับความงุนงงต่อไป
 
   คนตัวสูงถือคันเบ็ดไว้ในมือ ขณะควบจักรยานออกไปตามเส้นทาง ต้นมะพร้าวที่สูงตระหง่านสองข้างทางสร้างความร่มรื่นไม่น้อย สายลมพัดเอื่อยเย็นสบายตอนสายๆ
 
“เมิงมองหน้ากูทำไมว่ะ” คนตัวเล็กถามอย่างหงุดหงิดที่เห็นร่างสูงจ้องหน้าตัวเองพลางหัวเราะ โยกอดอกอย่างไม่พอใจโดยที่ขาสองข้างยังคงทำหน้าที่ปั่นจักรยานต่อไปได้ดี
 
“....” ไม่มีเสียงตอบจากอีกฝ่ายมีเพียงแค่รอยยิ้มบางๆปรากฏอยู่ที่ใบหน้าของเคนเท่านั้น
 
“ถึงแล้ว” รกจักรยานสองคันค่อยจอดอยู่ที่หลังสวนดอกไม้แห่งหนึ่ง มันเป็นที่ๆไม่ค่อยมีคนเข้ามาย่างกรายเพราะเจ้าของสวนเป็นลุงที่ค่อนข้างจะดุเอาเรื่อง แถวนี้เลยมีตำนานว่าคุณลุงแกจับเด็กที่เข้ามาเหยียบดอกไม้ของแกแล้วเด็กคนนั้นก็หายสาบสูญไป จนเป็นที่ร่ำลือของเด็กฝังตลาดว่าลุงแกฆ่าเด็กเอาตับไตไส้พุงของเด็กไปกิน (ออกแนวซีอุย)
 
“มะ...เมิงแน่ใจนะว่าที่นี้” คนตัวเล็กรีบเดินมาจนชิดกับร่างสูงที่กำลังจัดการกับสายเบ็ดที่พันกันจนยุ่งเหยิง นัยน์ตายังคงมองไปรอบๆอย่างหวั่นๆ เมื่อคิดถึงเรื่องที่เคยได้ยินมา
 
“เอ่อน่า... ที่เนี่ยไส้เดือนโครตเยอะ” เคนหันหลังไปพูดกับโยที่ยืนเกาะเสื้อยืดตัวเองอยู่ด้านหลัง
 
   เคนยิ้มกริ่มแอบหัวเราะเบาๆอยู่ในลำคอทั้งขำที่ไอ่โยมันขี้กลัวแถมไอ่คราบไมโลนั่นอีก เรื่องลุงกินเด็กบ้าบออะไรนั้นมันจริงซะที่ไหนกันเล่า ลุงแกคงแค่ดุ คงไม่ได้กินเด็กอย่างที่ไอ่พวกนั้นพูดกันหรอกมั้ง ที่นี้ดินร่วนอุดมสมบูรณ์ขนาดนี้ ไส้เดือนมันก็ต้องมีเยอะแหละน่า
 
“เมิงขำอะไรนักหนาว่ะ คนยิ่งหวิวๆอยู่” โยทำท่าขนลุกขนพองก่อนจะส่งสายตาดุๆมาทางเคนที่ยิ้มกลั้นยิ้มอย่างทรมาน
 
“จะบอกให้ก็ได้” คนตัวสูงโน้มตัวลงก่อนจะเอื้อมมือไปสัมผัสพวงแก้มใส แต่ภายในใจมันเต้นรัวจนผิดปกติ
 
“หือ” ส่วนไอ่คนตัวเล็กก็ยืนทำตาแป๊วอย่างงงๆ นิ้วเรียวแตะที่พวงแก้มใสก่อนจะลูบเบาๆจนมีคราบเหนอะๆสีไม่ต่างกับดินโคลนติดออกมา ลมหายใจร้อนที่รดใส่กันทำเอาร่างสูงหัวใจเต้นโครมครามไม่เป็นจังหวะ ใบหน้ารู้สึกร้อนผ่าวจนบอกไม่ถูก
 
ผัวะ~!!
 
 มือเล็กกวาดไปในอากาศก่อนจะปะทะกับกลุ่มผมที่อยู่ห่างจากหน้าตัวเองไม่มากนักด้วยแรงที่หนักหน่วงเอาการ
 
“เฮ๊ย ไอ่โยเมิงตบหัวกูทำไมว่ะ” ร่างสูงลูบหัวตัวเองอย่างเคืองๆก่อนจะมองคนตัวเล็กแบบไม่เข้าใจ
 
“ไอ่เชี่ยเคน เห็นไมโลเปื้อนหน้ากูก็เพิ่งมาบอกเอาตอนนี้เนอะ ปล่อยให้กูขายหน้าคนทั้งตลาดเลยนะเมิง” มือเล็กที่เช็ดหน้าตัวเองอย่างเอาเป็นเอาตายกลับทำให้คราบไมโลยิ่งเลอะเข้าไปอีก
 
“ฮ่าๆๆๆ มานี่เดี๋ยวกูช่วย” มือหนาดึงข้อมือของอีกฝ่ายลงก่อนจะควักผ้าเช็ดหน้าในกระเป๋ากางเกงออกมาบรรจงเช็ดพวงแก้มใสอย่างเบามือ
 
“ระวังตัวไว้เหอะเมิง ทีใครทีมัน” ไม่วายคนตัวเล็กบ่นเป็นกระสัยจนลืมความกลัวไปชั่วขณะ
 
“รีบๆหาไส้เดือนเหอะว่ะ เดี๋ยวใครมาเห็นเข้าก็ซวยกันพอดี” เคนรีบเปลี่ยนเรื่องก่อนที่จะเผลอจ้องดวงหน้าเล็กที่กำลังโกรธนานไปมากกว่านี้
 
   เด็กชายทั้งสองเริ่มคุ้ยเขี่ยดินสีดำสนิทเพื่อหาสิ่งมีชีวิตที่อาศัยอยู่ภายใต้อย่างรีบร้อน ไม่นานถังพลาสติกว่างปล่าวที่ถือติดมือมาก็เต็มไปด้วยเศษดินและไส้เดือนหลายสิบตัวคลานยั้วเยี้ยเต็มไปหมด แนวกุหลาบที่เคยปักเรียงรายสวยงาม บางต้นตอนนี้ก็ล้มหมอบหน้าจมดินอยู่กับพื้นไปเรียบร้อยแล้ว
 
“นั่นใครน่ะ หยุดนะ” เสียงดุดันของชายวัยกลางคนดังก้องจนทำให้ร่างเล็กสะดุ้งเฮือก เด็กชายทั้งสองรีบหันไปมองตามต้นเสียงที่กำลังวิ่งใกล้เข้ามาทุกขณะ
 
“รีบเผ่นเหอะว่ะ” เคนคว้ามือเล็กก่อนจะออกวิ่งด้วยความเร็วไปหารถจักรยานที่จอดอยู่ไม่ห่างกัน
 
   รถสองคันออกตัวจากไปแบบเฉียดฉิว ทิ้งให้ลุงเจ้าของสวนด่าทออย่างอาฆาตที่เด็กชายทั้งสองบุกรุกเข้ามาในสวนของแกโดยไม่ได้รับอนุญาตแถมยังมาทำแปลงดอกไม้ของแกพังระเนระนาดอีกต่างหาก
 
“เกือบไม่รอดแน่ะ” โยพูดพร้อมกับหายใจหอบจากเหตุการณ์ที่เพิ่งเอาชีวิตรอดมาได้อย่างวุดหวิด
 
   เสียงหัวเราะของเด็กหนุ่มทั้งสองดังมาตามสายลมเย็นๆ บนถนนเลียบคูคลองที่ไร้รถสัญจรผ่านมาแถวนี้ ถือว่าเป็นถิ่นของพวกเด็กฝังตลาดเลยก็ว่าได้
 
....

“อะ...เอ่อ ไอ่โยกูขอตกปลาด้วยคนได้ป่ะ” เสียงหวานเอ่ยอย่างกล้าๆกลัวๆ สายตาสองคู่ที่กำลังจับจ้องมาทางตนยิ่งเพิ่มความกดดันกับคนตัวเล็กขึ้นไปอีก โยที่กำลังนั่งตกปลาอย่างเงียบๆกับเคนหันไปมองหน้ากันก่อนจะซุบซิบอะไรบางอย่าง
 
“อืม มาดิ” หลังจากที่ไอ่โยพูดเสร็จเท่านั้นแหละ ผมงี้แทบเหงื่อตกเลย นึกว่ามันจะไม่ให้ผมเล่นด้วยซะแล้ว
 
   วันนี้ผมไม่ได้กินอะไรผิดสำแดงมาหรอกครับ ที่ผมกล้าไปขอเล่นกับพวกมันก็เพราะว่าไม่มีไอ่บอล แล้วมันบังเอิญที่ว่าผมผ่านมาทางนี้แต่ที่แน่ๆ ผมแค่อยากมีใครสักคนที่เป็นเพื่อนกับผมบ้างก็เท่านั้น ผมไม่อยากมีความเหงาเป็นเพื่อนอีกต่อไปแล้ว
 
   โยยื่นคันเบ็ดที่เหลืออันสุดท้ายมาให้ร่างบางที่ยืนเก้ๆกังๆ ก็มันเป็นครั้งแรกของผมนี่นาที่จะได้เล่นสนุกๆอย่างคนอื่นเค้าบ้าง นัยน์ตาคู่สวยเบิกกว้างด้วยความตื่นเต้น ก่อนจะค่อยๆทิ้งตัวนั่งลงข้างๆกับเด็กชายที่ยื่นคันเบ็ดให้ตน
 
“เงียบๆหน่อยนะเว้ย เดี๋ยวปลาตื่นกันหมด” เด็กชายร่างเล็กออกคำสั่งพร้อมกับใช้นิ้วเรียวเตะที่ริมฝีปากบาง ก่อนจะส่งเสียงชู้วว์เบาๆเป็นการเตือน เกี๊ยวพยักหน้าแทนคำตอบ
 
   ร่างสูงที่นั่งอยู่อีกข้างของเด็กชายร่างบางได้แต่แอบมองผู้มาใหม่อย่างเคืองๆแต่สีหน้ายังคงเฉยชาเช่นเดิม ไม่มีใครรู้ว่าภายในใจของเขากำลังคิดอะไรอยู่ แม้แต่สายตาที่เย็นชาของเขาก็ไม่เคยเผยความหมายใดๆออกมาอย่างชัดเจนสักครั้ง
 
   ถึงเราจะนั่งกันเงียบๆ เอาแต่จ้องมองสิ่งที่ลอยเคว้งอยู่นิ่งๆบนผิวน้ำอย่างใจจดใจจ่อรอว่าทันทีที่มันขยับเมื่อไร ปลาก็ติดเบ็ดของเรา มันก็เท่านั้น ผ่านไปหลายชั่วโมงเราเริ่มพูดคุยกันมากขึ้น ผมหมายถึงผมกับไอ่โยน่ะ ส่วนไอ่เคนผมก็เห็นมันนั่งนิ่งๆตั้งแต่ผมมาแร่ะ
 
   ไส้เดือนตัวแล้วตัวเล่าถูกเกี่ยวที่ตะขอเล็กๆก่อนที่มันจะจมน้ำตายภายในไม่กี่นาทีต่อมา ผมโดนปลามันหลอกกินเหยื่อหลายต่อหลายครั้ง ไม่ใช่เฉพาะผมหรอก พวกไอ่โยไอ่เคนก็ด้วย จนถึงตอนนี้ก็ยังไม่มีใครจับปลาได้สักคน
 
“โธ่เว้ย ทำไมปลามันไม่ติดเบ็ดกูมั้งว่ะ” เสียงของเด็กชายร่างบางสบถดังอย่างหงุดหงิด เมื่อเห็นปลาขนาดสองนิ้วได้ติดเบ็ดของเคน ปลาตัวเล็กดิ้นพล่านอยู่ในกำมือใหญ่โดยมีคนตัวเล็กสองคนที่กำลังมุงดูมันอย่างสนอกสนใจ
 
“ปลาตัวเล็กนิดเดียวเอง กูจะตกปลาตัวใหญ่กว่าของเมิงให้ดู” โยพูดกับคนตัวสูงอย่างมุ่งมั่นก่อนจะทิ้งตัวลงนั่งอีกครั้ง นัยน์ตายังคงจับจ้องที่ปลายเบ็ดของตัวเองชนิดที่ไม่ละสายตาเลยทีเดียว เคนได้แต่ยิ้มบางๆอยู่ด้านหลังก่อนจะปล่อยปลาตัวน้อยกลับลงสู่ลำคลองอีกครั้ง (เหมือนบักเกี๊ยวเป็น ก ข ค.เลยวุ้ย คนเค้าจะสวีทกัน หึหึ)
 
  ความเงียบกลับมาอีกครั้ง แสงแดดอ่อนๆยามบ่าย พวกผมนั่งตกปลาอยู่ริมคลองใต้ต้นมะพร้าวที่เรียงรายเป็นแนวยาวหลายสิบต้น เป็นครั้งแรกที่ผมรู้สึกดีแบบที่ไม่เคยเป็นมาก่อน การที่มีเพื่อนมันรู้สึกดีแบบนี้เองน่ะเหรอ ผมก็เพิ่งจะรู้เหมือนกัน
 
 สักพักผมก็รู้สึกถึงเงาของใครบางคนแทบทับเงาของผมอยู่ ขออย่าให้เป็นคนๆนั้นทีเถอะ ต้องไม่ใช่ ไม่ใช่ไอ่บอลใช่มั้ย ร่างบางค่อยหันหลังไม่มองหาเจ้าของเงาที่ยืนค้ำหัวตัวเอง แต่ดวงอาทิตย์กลมๆมันส่องแสงแยงตาผม คนตัวเล็กกระพริบตาถี่ก่อนจะเพ่งสายตาตั้งแต่ขาจรดหัวของบุคคลแปลกหน้า สิ่งที่เห็นทำให้เกี๊ยวถึงกับผงะอ้าปากค้างเลยทีเดียว
 

tanuki

  • บุคคลทั่วไป
Re: [เรื่องสั้น] คนเนี๊ยะ!!!แฟนผม
«ตอบ #21 เมื่อ16-04-2009 14:40:52 »

“อ้าว ไอ่บอลมาแล้วเหรอว่ะ” โยทันผู้มาใหม่อย่างไม่ใส่ใจอะไร แต่นัยน์ตาคมที่ดุดันกลับมองไปที่เกี๊ยวจนทำให้รู้สึกอึกอัดจนบอกไม่ถูก
 
“ใครใช้ให้เมิงมาป้วนเปี้ยนแถวนี้ ห๊ะ” ร่างสูงตะคอกดังพร้อมกับกระชากคอเสื้อของร่างบางที่นั่งอยู่จนลุกขึ้นมาตามแรงดึง
 
“เฮ๊ย ไอ่บอลใจเย็นก่อนดิว่ะ” เคนห้ามแต่ดูเหมือนมันจะช่วยอะไรไม่ได้มากนัก
 
“กูให้มันอยู่ด้วยเองแหละ ก็กูสงสารมันนี่หว่า มันไม่มีเพื่อนเล่นเลยนะเว้ย” โยอธิบายทั้งๆที่คอเสื้อของผมยังอยู่ในกำมือของไอ่บอล
 
   ร่างสูงได้แต่ส่งสายตาที่เดือดดานไปมองลูกสมุนตัวเองอย่างไม่พอใจ จนไอ่โยเองก็เริ่มแสดงท่าทางสยองๆออกมาเล็กน้อย
 
“เอาเบ็ดกูมา” มือหนาผลักคนตัวเล็กจนล้มก้นจ้ำเบ้ากองอยู่กับพื้นก่อนจะเอ่ยน้ำเสียงทุ้มกระแทกดังจนดูน่ากลัว อารมณ์ยังงี้ทำให้ไอ่บอลกลายเป็นซาตานขัดกับหน้าตาราวกับเทพบุตรของมันเกือบตลอดเวลาที่มันเจอหน้าผม ผมก็ไม่เข้าใจว่าผมไปพลั้งมือฆ่าญาติฝ่ายไหนของมัน มันถึงได้เกลียดผมขนาดนี้ แต่ถึงจะยังงั้นก็เถอะผมก็ไม่เข้าใจตัวเองว่าทำไมในใจลึกๆผมก็ยังอยากเล่นกะพวกมันอยู่ดี
 
 ไอ่บอลกระชากคันเบ็ดที่โยมันเคยให้ผมแล้วเดินหันหลังไปโดยที่ไม่พูดอะไรอีก ถึงมันจะหนีออกไปนั่งตกปลาคนเดียวก็มันก็ไม่ไกลจากที่ผมกับไอ่โย ไอ่เคนเท่าไรนัก เรียกได้ว่ายังสามารถมองเห็นกันได้จากมุมนี้ ในเมื่อมันไม่อยากให้ผมอยู่ ผมคงไม่เสนอหน้าให้มันเกลียดผมไปมากกว่านี้
 
“เฮ๊ย ไปไหนว่ะ” โยรั้งข้อมือเล็กของคนที่กำลังจะลุก
 
“อะ เอ่อ กูจะกลับบ้าน” เสียงหวานตอบตะกุกตะกักอยู่ในลำคอ ผมพยายามสะบัดมือของไอ่โยแต่มันกลับยิ่งกำแน่นแถมยังดึงให้ผมนั่งลงไปอีกต่างหาก
 
“จะรีบกลับไปไหนว่ะ” ไอ่โยเผลอพูดดังจนคนที่นั่งอยู่ห่างออกไปหันมามองด้วยสายตาเคืองๆ แต่ไอ่โยมันคงไม่รู้สึกอะไรเพราะมันไม่เห็นแต่ผมเนี่ยสิเห็นไอ่บอลจากมุมนี้ชัดแจ๋วยิ่งกว่าเสาอากาศทีวีที่บ้านอีก
 
“คะ คือ...” ระหว่างที่ผมกำลังคิดหาข้อแก้ตัวอย่างกล้ำกลืน ใจหนึ่งก็อยากอยู่แต่อีกใจหนึ่งก็อยากหนีๆไปซะให้พ้น
 
“เงียบๆหน่อยดิว่ะ” เสียงตะโกนดังมาจากปากเรียว ร่างสูงที่กำลังนั่งตกปลาห่างกันประมาณ 10 ก้าวได้ บอลแสดงสีหน้าหงุดหงิดจนเห็นได้ชัด ทำให้ผมต้องจำใจนั่งลงไปที่เดิมข้างๆกับไอ่โยเหมือนเดิม
 
 ร่างบางนั่งเกร็งนิ่งอย่างกล้าๆกลัวๆ นัยน์ตาคู่สวยเหลือบไปเห็นสายตาคู่หนึ่งที่กำลังจับจ้องตนอยู่ สายตาของไอ่บอลที่มันมองผมแบบแปลกๆ ทำให้ผมรู้สึกเสียวสันหลังวาบยังไงก็ไม่รู้แฮ่ะ คนตัวเล็กรีบหลบสายตาคมอย่างหวาดหวั่น ผมนั่งกอดเข่าพยายามไม่มองไปทางไอ่บอล นี่มันคิดจะฆ่ากันทางสายตาเลยรึไงเนี่ย
 
“อ้าวเฮ๊ย ไอ่บอลตกปลาได้แล้วเว้ย” เสียงคนที่นั่งข้างๆผมตะโกนดังยังกะอยู่คนละอำเภอยังไงยังงั้น ทำเอาขี้หูผมเต้นระบำไม่เป็นจังหวะเลย
 
“ไอ่เชี่ยบอลเมิงเล่นของรึไงว่ะ เพิ่งมาแท้ๆเสือกตกปลาได้ตัวใหญ่กว่ากูอีก” ผมก็เพิ่งจะเห็นไอ่เคนพูดยาวๆก็วันนี้แหละ แต่ไอ่นี้มันหน้าตายด้านของจริง ขนาดบ่นยังหน้าเฉยๆเล้ยย
 
“เออ ขี้โกงนี่หว่า” เสียงแหลมเอ่ยสมทบอย่างเห็นด้วย ส่วนผมน่ะเหรอก็ได้แค่ยืนเงียบอยู่ไกลๆเท่านั้นแหละ
 
“กูระดับไหนแล้ว พวกเมิงไม่ต้องพูดมากเลย ไปหาไส้เดือนมาอีกดิ แมร่งไส้เดือนหมดถังแล้วเนี่ย” ร่างสูงบ่นเป็นกระสัยยังไม่วายใช้ลูกสมุนของตัวเองจนได้
 
   ผมเห็นไอ่โยทำหน้ามุ้ยเล็กน้อย ก่อนจะรับถังใส่ไส้เดือนไปโดยดี แล้วไอ่สองคนนั้นก็ควบจักรยานไปเฉยเลย อย่างว่านั้นแหละถ้าใครขัดคำสั่งของไอ่บอลขึ้นมา อาจจะไม่มีชีวิตรอดไปเจอหน้าพ่อหน้าแม่อีกเลยก็ได้
 
   อ้าวเฮ๊ย งั้นผมก็อยู่กะมันสองคนน่ะดิ ร่างบางที่นั่งอยู่มองตามรถจักรยานสองคันที่จากไปจนลับตาอย่างห่อเหี่ยว คอตก ไหล่บางห่อเข้าหากัน จนกระทั่งนัยน์ตาคู่หวานก็ไปสบตากับอีกคนที่เหลืออยู่เข้าอย่างจัง ผมรีบหันหน้าไปมองทางอื่นทั้งๆที่รู้ว่ามันยังจ้องผมอยู่ยังกับว่าผมทำอะไรผิดมางั้นแหละ จ้องอยู่ได้
 
   เวลาผ่านไปได้สักพักไอ่สองคนนั้นมันก็ไม่กลับมาสักที หน้าที่เฝ้าคันเบ็ดให้มันสองคนเลยตกเป็นของผมอย่างช่วยไม่ได้ แต่ดูเหมือนโชคจะเข้าข้างไอ่โยแล้ว สิ่งที่ลอยเคว้งนิ่งๆบนผิวน้ำเริ่มขยับและจมลงไปใต้น้ำ สงสัยปลาตัวนี้คงจะใหญ่น่าดู ถ้าไอ่โยกลับมาเห็นคงดีใจน่าดู ยิ่งคิดผมก็ยิ่งตื่นเต้น
 
   ถึงมันจะเป็นเบ็ดของไอ่โยแต่นี่ถือเป็นการตกปลาครั้งแรกของผมเหมือนกัน มือเล็กจับคันเบ็ดแน่นก่อนจะเริ่มหมุนตรงส่วนปลายเพื่อลากสิ่งมีชีวิตที่เคราะห์ร้ายเข้ามาอย่างใจเย็น ผมไม่เคยรู้เลยว่าในคลองนี้มันมีปลาตัวใหญ่ๆชนิดที่ว่าผมไม่มีแรงยกมันขึ้นมาจากน้ำได้เลย
 
เฮ๊ย... ตูมมมม
 
   คนตัวเล็กร้องเสียงหลงก่อนจะตกลงไปในคลอง เสียงน้ำกระเด็นทำให้คนที่นั่งอยู่ไม่ไกลกันมากนักรีบวิ่งมาดูด้วยความตกใจ ร่างบางที่กำลังดำผุดดำว่ายอยู่ในน้ำอย่างทุรนทุราย ไม่แม้แต่จะส่งเสียงขอร้องให้ช่วย ทั้งๆที่จะตายอยู่แล้วแท้ๆ
 
   บอลยืนดูอย่างลังเลก่อนจะที่ตัดสินใจถอดเสื้อยืดของตัวเองออกลงไปกองกับพื้น ร่างสูงกระโจนลงไปในน้ำก่อนจะว่ายเข้าไปคว้าเอวบางของคนที่หมดสติอยู่ในอ้อมแขน ร่างกายที่อ่อนปวกเปียกไม่ตอบสนองใดๆทั้งสิ้น ยิ่งทำให้คนตัวสูงกังวลขึ้นเรื่อยๆ
 
   เขาอุ้มคนตัวเล็กขึ้นมานอนบนริมคลอง มือหนาตบเบาๆที่พวงแก้มเนียนสองสามที แต่คนที่นอนอยู่ก็ไม่มีทีท่าว่าจะตื่นขึ้นมาต่อว่าเขาอย่างก่อน นี่ไอ่เกี๊ยวมันจะตาย... มันจะตายต่อหน้าผมไม่ได้ (บอลคิด)
 
   คนตัวสูงสูดหัวใจเข้าไปเต็มปอดก่อนจะค่อยโน้มตัวลงไปประกบริมฝีปากบางกับคนที่นอนอยู่ ตอนนี้เขาไม่สนอะไรอีก ขอแค่ได้ช่วยให้คนตรงหน้ามีชีวิตอยู่ เขาก็พร้อมที่จะยอมทำทุกอย่าง มันเป็นสิ่งที่ทุกคนจะทำอยู่แล้วถ้าคนตรงหน้าคุณกำลังจะตาย
 
   ริมฝีปากบางถูกสัมผัสหลายครั้งพร้อมกับออกซิเจนที่ถูกส่งผ่านเข้าไปครั้งแล้วครั้งเล่า มือหนากดไปที่หน้าอกบางด้วยแรงที่มีอยู่จนในที่สุด ร่างบางที่แน่นิ่งก็สำลักน้ำออกมา คนที่นอนอยู่เริ่มได้สติ
 
 มือเล็กดันแผงอกแกร่งที่เปลือกเปล่าอย่างหมดเรี่ยวแรง เป็นเพราะที่เขาตกน้ำทำให้เรี่ยวแรงที่เคยมีอยู่หดหายไปจนหมด
 
“เบ็ดมันเกี่ยวกับกิ่งไม้ก็ยังจะไปดึงอยู่ได้ เจ้าโง่เอ๊ย” ร่างสูงบ่นพึมพำแต่ก็ยังพอที่จะทำให้ร่างบางที่เปียกโชกได้ยิน
 
“อะ เอ่อ” ร่างบางมองคนตัวสูงที่กำลังสวมเสื้ออย่างไม่เข้าใจ ผิวกายขาวๆตรงหน้าถูกปิดบังด้วยเสื้อผ้าอีกครั้ง แล้วทำไมผมต้องไปหวั่นไหวอะไรกับมันด้วย ที่จริงเรียกว่าอิจฉามากกว่า เพราะอยากตัวโตอย่างมันบ้าง จะได้แข็งแรงไม่ต้องอ่อนแออยุ่แบบนี้
 
“ขะ ขอบใจที่เมิงช่วยกู” คนตัวเล็กเอ่ยแผ่วเบา ถ้ามันไม่ช่วยผมป่านี้ผมคงเป็นผีเฝ้าคลองนี้ไปนานแล้ว
 
“ไอ้สมองกลวงๆของเมิงหัดคิดอะไรเป็นบ้างมั้ย กูต้องซวยไปด้วยเลย” ผมล่ะงงกับมันจริงๆ เดี๋ยวดีเดี๋ยวร้ายจนผมปรับอารมณ์ตามไม่ถูก ถึงยังไงมันก็ได้ชื่อว่าเคยช่วยชีวิตผมไว้อยู่ดี
 
“ก็ กู...” จะให้ผมพูดอะไรได้อีกล่ะครับ ยังไงผมก็เป็นคนผิดตลอด ผมมองไอ่คนตัวสูงที่ยืนขยี้หัวตัวเองอย่างเซ็งๆ ร่างบางได้แต่ยืนก้มหน้า ร่างกายสั่นเทิ่มด้วยความหนาวที่เริ่มกัดกินร่างกายของเขาทีละน้อย
 
“ยืนบื้อทำไมอีกเล่า อยากลงไปว่ายน้ำเล่นอีกรึไง” ผมยังไม่เข้าใจว่าไอ่นี่มันสรรหาเรื่องมาว่าผมได้ตลอดเลยแหละน่า...
 
 แต่เมื่อกี้มันจูบผม ไม่ใช่สิ มันก็แค่หนึ่งในกระบวนการช่วยชีวิตคนตกน้ำก็เท่านั้น ทำไมผมต้องไปคิดวุ่นวายกับเรื่องนี้ด้วยนะ เป็นผมก็ต้องทำแบบนั้นอยู่แล้ว มันก็แค่ช่วยชีวิตผม ไม่มีอะไรเกินเลยกว่านั้น แค่ผายปอดธรรมดาๆ
 
   ผมปั่นจักรยานตามหลังไอ่บอลห่างๆ แยกข้างหน้าก็ถึงแยกไปทางบ้านผมแล้ว อีกนิดเดียวผมจะได้ไม่ต้องทนฟังมันด่ามันว่าผม ไม่ต้องเป็นตัวทำให้มันเดือดร้อนอีกแล้ว จู่ๆน้ำใสๆก็เริ่มเอ่อล้นออกจากนัยน์ตาคู่สวยอย่างไร้สาเหตุ แล้วทำไมผมต้องร้องไห้เพราะเรื่องแค่นี้ด้วย เกี๊ยวใช้แขนเล็กบาดน้ำตาตัวเองลวกๆแต่เหมือนจะยิ่งกระตุ้นให้น้ำตามันไหลออกมามากขึ้นอีก
 
เอี๊ยดดด
 
   เมื่อไรไม่รู้ที่รถจักรยานข้างหน้าของผมหยุดการเคลื่อนที่ แต่ไวเท่าสายตาและสติที่ผมเรียกกลับคืนมาได้ทันเวลา เพราะอีกนิดเดียวผมก็จะปั่นจักรยานเสยก้นรถของไอ่บอลมันอยู่ร่อมร่อแล้วเนี่ย
 
“ปั่นจักรยานภาษาอะไรของเมิงเนี่ย” เสียงไอ่บอลบ่นดังไปสามบ้านแปดบ้าน ผมก็มองหน้าอย่างงๆ แล้วอยู่ดีๆมันหยุดรถทำไมเองทำไมล่ะ
 
“ก็ เมิง” ไม่ทันที่ผมจะอ้าปากเถียงมัน ไอ่บอลก็ส่งสายตาราวกับซาตานมาทางผมจนคำพูดทั้งหมดมันจุกอยู่ที่คอ
 
“ไอ่บอล ไอ่เกี๊ยวเมิงไปทำอะไรมาว่ะเนี่ย” แล้วคำตอบก็ปรากฏอยู่ตรงหน้าเมื่อเห็นหน้าตาตื่นตูมของไอ่โยวิ่งมาหาผม
 
“อะ เอ่อ” เหมือนคำพูดทุกอย่างมันจะติดที่ปลายลิ้นแต่มันไม่รู้จะอธิบายว่ายังไง แต่ที่แปลกคือผมปั่นจักรยานตามไอ่บอลมาถึงที่บ้านมันเลยเหรอเนี่ย
 
“แล้วพวกเมิงมาทำอะไรที่นี่เนี่ย” ไอ่บอลคุยกับไอ่เคน นัยน์ตาคมมองคนตัวเล็กที่สั่นเบาๆด้วยหางตา
 
“กูกลับไปแมร่งไม่มีใครอยู่สักคน” เสียงไอ่เคนตอบแบบไร้อารมณ์ ตามด้วยเครื่องหมายเควสชั่นมาร์กเต็มหัว
 
“ก็มีไอ่โง่ที่ไหนไม่รู้ตกน้ำน่ะดิ กูเลยพลอยซวยไปด้วย” คนตัวสูงตอบกระแทกน้ำเสียง ทำให้ร่างบางรู้สึกผิดเข้าไปอีก
 
“เฮ๊ย ไอ่เกี๊ยวตกน้ำเหรอว่ะ เป็นไรมากมั้ยเนี่ย” ไอ่โยถามผมพร้อมเอามือเตะหน้าผากมนสวมรอยเป็นหมอชั่วคราว
 
 ผมได้แต่ส่ายหน้าเบาๆ ตอนนี้ผมก็แทบไม่มีแรงยืนอยู่แล้วครับ อยากกลับบ้านๆ
 
“กูกลับก่อนนะ” เสียงหวานเอ่ยเบาคนตัวเล็กที่กำลังจะควบจักรยานกลับอย่างเหนื่อยอ่อน ดวงหน้าหวานอิดโรยจนเห็นได้ชัด ขอบตาแดงกร่ำจนน่าสงสาร
 
“จะยืนยังไม่มีปัญญา ยังจะเสือกปั่นจักรยานเดี๋ยวก็รถชนตายหรอกเมิง” มือหนาคว้าแขนเล็กที่ร้อนอุ่นๆในมือด้วยกำลังที่เหนือกว่า
 
“...” ไม่รู้เรี่ยวแรงผมมันหายไปไหนหมด เหมือนโลกทั้งใบมันหมุนติ้วเร็วขึ้นเรื่อยๆ ผมได้แต่ฝืนร่างกายที่อ่อนแอนี้สะบัดแขนตัวเองให้หลุดจากการจับกุม
 
“เดี๋ยวกูไปส่งมันเอง เมิงไปเปลี่ยนเสื้อผ้าเหอะว่ะ” เสียงไอ่เคนพูดกับไอ่บอล
 
“ไม่เป็นไร กูกลับเอง” จะใครผมก็ไม่ให้ไปส่งหรอก ผมกลับเองดีที่สุด เสียงหวานแหบพร่าอย่างคนเป็นไข้
 
“ไม่ต้อง กูจะไปส่งมันเอง” เสียงทุ้มกล่าวอย่างหนักแน่น นัยน์ตาคมเหมือนจะเน้นย้ำคำพูดของตัวเองได้ดี
 
“งั้น พวกกูกลับก่อนแล้วกัน” ความรู้สึกหนักหน่วงที่แขนของผมมันมากขึ้นเรื่อยๆ นิ้วเล็กๆพยายามแกะมือหนาของอีกฝ่ายอย่างไร้หนทาง
 
“นะ...” ผมงัดไม้ตายสุดท้ายของผมขึ้นมา แต่ไม่ทันจะจะได้แหกปากเรียกน้านวล ริมฝีปากนุ่มๆถูกประกบปิดอีกครั้งอย่างจงใจ คนตัวเล็กดิ้นคลุกคลักอยู่ในอ้อมแขนแกร่ง รสเค็มๆที่ริมฝีปากทำให้ผมอยากจะกัดไอ่มือหนาๆของมันแต่ก็ทำไม่ได้ (ลุ้นอ่ะดิ ลุ้น)
 
“จำไว้เมิงเป็นหนี้ชีวิตกู งั้นห้ามขัดคำสั่งรู้มั้ย” เสียงทุ้มกระซิบข้างๆหู ย้ำให้รู้ว่าผมอยู่ในฐานะอะไร ดวงหน้าหวานได้แต่พยักหน้าเบาๆอย่างเชื่อฟัง แล้วมือหนาก็ค่อยๆคลายออกให้ริมฝีปากนุ่มเป็นอิสระอีกครั้ง
 
   แล้วผมก็เดินตามไอ่บอลจนไปถึงห้องๆหนึ่ง ถ้าไม่มีเตียงตรงกลางผมก็คงดูไม่ออกเลยว่ามันคือห้องนอน
 
“ไปอาบน้ำซะ แล้วกูจะไปส่งบ้าน” ไอ่บอลโยนเสื้อผ้าของมันมาให้ผมก่อนจะไล่ผมให้เข้าไปในห้องน้ำ
 
   ผมอาบน้ำช้ากว่าปกติที่เคย มันรู้สึกร้อนๆหนาวๆ แถมยังปวดหัวหนึบอีกต่างหาก ผมสวมเสื้อผ้าหลวมๆของไอ่บอล กางเกงที่ดูเหมือนจะเป็นกางเกงขาสั้นของมันก็ยาวเลยเข่าของผม เสื้อยืดที่ตัวใหญ่กว่าตัวผมหลายเท่าก็มันโตกว่าผมตั้งสองปี แถมหุ่นเฟิร์มๆอย่างมัน เมื่อเทียบกับไอ่แห้งอย่างผมผลก็เลยออกมาเป็นยังงี้ แต่ผมก็ต้องจำใจใส่อย่างเลี่ยงไม่ได้

๙๙๙๙๙๙๙๙๙๙๙๙๙๙๙๙๙๙๙๙

ออฟไลน์ DEMON3132

  • เป็ดแสนดี
  • เป็ดDemeter
  • *
  • กระทู้: 1704
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +170/-1
Re: [เรื่องสั้น] คนเนี๊ยะ!!!แฟนผม
«ตอบ #22 เมื่อ16-04-2009 15:05:38 »

 :z13: และ +1 เป็นกำลังใจให้น้อง Tanuki
ขอเข้ามาเจิมเรื่องใหม่ด้วยคนค่ะ
ดูเหมือนจะเป็นเรื่องใสในวัยเด็กนะคะ คงเป็นที่ชื่นชอบ
ของพวกพี่ ๆ ทั้งหลายเป็นอย่างดี ชอบค่ะ
จะรอตอนต่อไปนะคะ   :L2:
 

YO DEA

  • บุคคลทั่วไป
Re: [เรื่องสั้น] คนเนี๊ยะ!!!แฟนผม
«ตอบ #23 เมื่อ16-04-2009 15:09:46 »

 :กอด1:

มาอ่านแล้วครับบบ

ออฟไลน์ dahlia

  • เป็ดแสนดี
  • เป็ดAphrodite
  • *
  • กระทู้: 4239
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +695/-4
Re: [เรื่องสั้น] คนเนี๊ยะ!!!แฟนผม
«ตอบ #24 เมื่อ16-04-2009 16:06:13 »

สงสาร เกี๊ยว  :กอด1:

ส่วนเจ้าบอลนะ  :beat:

ออฟไลน์ ChiOln

  • เป็ดHermes
  • *
  • กระทู้: 2475
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +167/-3
Re: [เรื่องสั้น] คนเนี๊ยะ!!!แฟนผม
«ตอบ #25 เมื่อ16-04-2009 18:20:05 »

 :m15: :m15:

mackerel

  • บุคคลทั่วไป
Re: [เรื่องสั้น] คนเนี๊ยะ!!!แฟนผม
«ตอบ #26 เมื่อ16-04-2009 21:15:45 »

มอบแต้ม+ ที่ 7 ให้คร้าบ
**********
เรื่องน่ารักๆของวัยใสๆ อิอิ ชอบคร้าบ
บอลมาแรงกว่าโอมแล้ววววววว อิอิ
ขอบคุณคร้าบ  :pig4:

xiiiNG

  • บุคคลทั่วไป
Re: [เรื่องสั้น] คนเนี๊ยะ!!!แฟนผม
«ตอบ #27 เมื่อ16-04-2009 21:22:40 »

เรื่องนี้เคยอ่านที่ไหนหว่าาา

จำไม่ได้้อ่าาา

สนุกแต่ว่า เป็น งง ๆ พระเอกไม่ค่อยจะสนใจ นายเอก เล้ยยย

เหอๆ ๆ ๆ 

ออฟไลน์ ΩPRESTOΩ

  • เป็ดแสนดี
  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 352
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +149/-1
Re: [เรื่องสั้น] คนเนี๊ยะ!!!แฟนผม
«ตอบ #28 เมื่อ17-04-2009 08:16:15 »

สงสารเกี๊ยว

สงสารโอม..มัวแต่มอง
ก็มองต่อไป ๕๕

อิบอล  :beat:

changasa@hotmail.com

  • บุคคลทั่วไป
Re: [เรื่องสั้น] คนเนี๊ยะ!!!แฟนผม
«ตอบ #29 เมื่อ17-04-2009 12:53:10 »

 o13 โอ้วยอดมากกก จูบกานแล้ววววววววววววว เริดๆๆๆๆ

 

สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด


สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด