รีพลายน้อยจัง จ๋งจั๋ยม่ายยู้ว่ามาลงภาคต่อให้แย้ว คิกคิก

************************************************************************************************
บทที่1 ตัดสินใจ หลายปากหลายคำของบรรดากองเชียร์ทำให้ผมหวั่นไหวมากเหมือนกัน แม้ว่าอีกห้าวันจะครบกำหนดหนึ่งปีที่ตกลงจะดูแลใจกันและกัน เช้าวันนั้นผมตื่นขึ้นมาตามปกติ มาดามก็ใจดี๊ ใจดี ให้ลางานสิบวัน
“ไปจัดการเรื่องของตัวเองให้เรียบร้อยแล้วกัน อย่ายืดเวลาไปนาน ไอ้น้องยอดโทรมาหาพี่ บ่นกับพี่ทุกวัน ว่าน้องเป้ใจร้าย ถามจริงเหอะ อีเรียมของพี่ เอามารยาเกย์เล่มไหนจับผู้ชายซะอยู่หมัดแบบนี้”
ผมหละแทบจะงอนเจ้านายเลยหละตอนนั้น มาดามนะมาดาม แล้วเช้าแห่งการนับเวลาย้อนหลังอีกห้าวันนั่นเอง คุณนายแสนดีกับพี่ปอแล้วก็ว่าที่พี่สะใภ้ผม พี่ดา แพทย์หญิงของโรงพยาบาลแห่งหนึ่ง ซึ่งจะแต่งงานกับไอ้พี่ปอพี่ชายผมปลายปีนี้หละครับ
“ ปัง ปัง ปัง”
ไอ้พี่ปอครับมันไม่ได้เคาะประตู แต่มันทุบประตูห้องผม แถมยังตะโกนลั่น
“ไอ้เป้ตื่นได้แล้วโว้ย แม่สุดที่รักมึงมาเยี่ยมแล้ว”
ไม่รู้ว่าห้องข้างๆเขาจะแช่งชักหักกระดูกพี่ชายผมมั่งหรือเปล่า ผลนะเหรอครับพี่ผมเลยโดนคุณนายแสนดี กับพี่ดาทุบไปคนละปั๊ก
“แม่ว่าน้องเป้ย้ายคนโดดีกว่านะ ที่นี่มันเล็กไป แม่ติดต่อคนมาเช่าเรียบร้อยแล้ว จำลูกคุณลุงปลัดได้มั้ย น้องมิ้นท์กับน้องมายด์ เขาจะมาเรียนพิเศษที่กรุงเทพช่วงปิดเทอม แล้วเขาจะเช่าห้องเอาไว้เลยเพราะถ้าน้องมิ้นท์น้องมายสอบเข้ามหาลัยไม่ได้ จะได้เรียนม.เอกชนใกล้คอนโดเรานี่หละ”
ผมนึกภาพเด็กผู้หญิงฝาแฝดที่ผมเห็นมาตั้งแต่ยังเล็ก ๆ ตายห่า.....นี่โตจะเข้ามหาลัยกันแล้วเรอะ ทำไมไวจัง นี่ผมเริ่มที่จะแก่จริงๆแล้วใช่มั้ยเนี่ย
“ย้ายๆ ไปเหอะว้า ไอ้เป้ พี่เห็นแม่แกโทรหาแกทุกวัน เพราะห่วงที่แกอยู่คนเดียวมาตั้งหลายปีแล้ว คราวนี้แม่จะได้ไม่ต้องโทรหาแกเปลืองค่าโทรศัพท์อีก”
“พี่ปออะ จะให้น้องเป้อยู่ที่ไหนหละ ไม่เอานะเป้ไม่ไปอยู่กับป้าจินตนานะ”
ผมพูดถึงพี่สาวคนโตของพ่อผมที่เปิดอพาร์ทเมนต์ให้เช่าอยู่ ย่านพัฒนาการ
“เรื่องมากวะ ก็ย้ายไปอยู่กับไอ้ยอดเลยไง คืนดีกันแล้วไม่ใช่เรอะ”
พี่ชายผมโพล่งออกมา ผมได้แต่เงียบกริบ
“แม่กับน้องยอดไปดูคอนดูมาแล้วอยู่ใกล้รถไฟฟ้า แถมสะดวกสบายมาก น้องยอดก็ว่าดี ไม่งั้นน้องเป้กับน้องยอดต้องไปอยู่บ้านของเราที่ซื้อเอาไว้ที่รังสิต แต่ต้องรออีกสองเดือนนะแม่จะได้บอกเลิกให้เขาเช่า”
“แม่ไม่ต้องไปตามใจมัน ย้ายพรุ่งนี้เลย ไอ้เป้วันนี้เก็บของเลยนะ เอาคอนโดนั่นหละ เอาไปแค่เสื้อผ้าก็อยู่ได้เลย เดี๋ยวปอกับไอ้ยอดจะจัดการติดต่อเรื่องคอนโดเอง แม่จัดการเรื่องไอ้น้องตัวดีนี่หละกัน”
“เอายังไงดีลูก ไปอยู่กับน้องยอดนะ”
ว่าแล้วคุณนายต้องมากล่อมผมแน่ๆเลย แถมช่วงปิดเทอมอย่างนี้ด้วยแม่ผมไม่ต้องไปสอนที่โรงเรียน ผมต้องวุ่นวายแน่ๆ เลย ผมคิดหนัก เพราะตามสัญญาที่ไว้ ก็ยังไม่ได้ว่าจะอยู่ด้วยกันซะหน่อยแค่คบดูๆกันหนึ่งปีก่อนแค่นั้นเอง…
“ตามใจแม่ละกัน”
“กูว่าแล้ว เห็นมั้ยแม่ ปอบอกแล้วว่าไอ้เป้เนี่ย มันก็อยากเข้าหอกะไอ้ยอดเหมือนกัน”
แล้ววันเริ่มโกลาหลของเป้ก็เริ่มขึ้นครับ การย้ายของจากบ้านที่อยู่มาสามปี คิดดูนะครับว่ามันจะเป็นภาระแค่ไหน คุณป้าเอนกประสงค์ถึงกับร้องไห้โฮ เมื่อรู้ข่าวการย้ายบ้านครั้งสำคัญ แล้วคนที่แจ้นมาช่วยหอบของคนแรกหลังจากที่คุณนายแสนดีนั่งดมยาดมเพราะเจอสมบัติลูกสุดที่รักเข้าไป คือนังต้องครับ
“กูอุตส่าห์ขาดงานมาช่วยมึงนะอีนี่ แต่ไอ้ผ้าขี้ริ้วนี่มึงยังจะเก็บเอาไว้อีกเหรอ”
นังต้องชูผ้าเช็ดหน้ากระดำกระด่างให้ผมดูแล้วมันทำท่าจะทิ้ง แต่ผมเข้าไปแย่งมันไว้ก่อน
“อี่นี่อย่าทิ้งนะมึง ผืนนี้กูเก็บไว้ตั้งแต่มอหนึ่ง”
ผ้าผืนนี้เป็นผ้าของไอ้หน้าขาวหละครับที่มันซับน้ำตาให้ผมตอนที่ผมต้องอยู่บ้านกับพี่ปอ เพราะพ่อแม่และพี่สาวผมเข้ากรุงเทพกันหมด ตอนนั้นไอ้หน้าขาว เอ้ย อีตาพี่ยอดก็มานั่งดูละครหลังข่าวเป็นเพื่อน ดูไปดูมาเป้รู้สึกสงสารนางเอกจนร้องไห้ออกมา อีตายอดเลยเอาผ้าเช็ดหน้าขะมุกขะมอมจากกระเป๋านักเรียนมาให้เช็ดน้ำตา จากนั้นมาก็เก็บเอาไว้จนถึงทุกวันนี้ แต่คิดว่ามันหายไปตั้งนานแล้วนะเนี่ย นังต้องดันมาเจอซะก่อน
“ โคมไฟนี่มึงยังจะเอาไปเหรอกูว่าให้คุณป้าเอนกประสงค์ไปเหอะ”
“อือ ตามใจมึงละกัน”
เสียงคนเคาะประตูป๊อกๆ ผมมองหน้ากับนังต้อง ใครหนอคือคนมาเคาะ ผมก็ส่องดูตรงตาแมวก่อน อ๊ะ มืดสนิท สงสัยคนข้างนอกเอามือปิดไว้
“ใครอะ”
ผมถามออกไป แต่เงียบครับ ไม่มีเสียงตอบรับจากหมายเลขที่ท่านเรียก
“เฮ้ย....ไม่ตอบไม่เปิดนะ”
ผมตะโกนออกไปด้วยความฉุน คนกะลังเหนื่อยๆ แถมมีกองสมบัติเต็มห้องรับแขก ยังมีคนมากวนประสาทอีก
“เดอะ ปิซ่า สิบเอ็ด สิบสองครับ”
เสียงห้าวทุ้มตอบมา ผมมองหน้านังต้อง
“มึงสั่งพิซซ่าเหรอ”
“สั่งกะผีไรหละ มึงก็รู้ว่ากูไม่ชอบกิน กูจะสั่งให้เสียเงินทำไม”
ผมเลยเปิดประตู ว่าจะฉะหน่อยว่าส่งผิดห้อง แต่ผมก็เจอกุหลาบแดงช่อหนึ่งตรงหน้า พร้อมกับหน้าขาวๆ ใสๆ ของคนคุ้นใจของผมยืนยิ้มเผล่ แถมตามด้วยคุณแม่ของอีตายอดอีกคน
“ไม่ขำเลยนะ”
ผมดึงดอกไม้จากมือของคนตรงหน้าหลังจากที่ทำความเคารพผู้อาวุโสกว่าแล้ว
“เห็นว่าชอบกุหลาบ เลยหามาให้ รู้งี้ซื้อดอกหน้าวัวมาให้ก็ดี”
“ไอ้พี่ยอด พูดงี้อยากตายใช่มั้ย”
ผมแทบจะเหวี่ยงกุหลาบช่อนั้นลงบนโต๊ะ หันไปเอาเรื่องกับคนยั่วโมโห
“ต้องว่าสงสัยคงอยู่ด้วยกันไม่ยืดหรอก เน๊าะคุณแม่ นี่ยังไม่ได้อยู่ด้วยกันยังมีแววทะเลาะกันแล้ว”
เสียงนังต้องมันคุยกับคุณนายแสนดีแว่วมาถึงหูผม ทำให้ผมเลิกคิดที่จะราวีฝ่ายนั้น
“คนจนมีสิทธิ์มั้ยครับ มีอะไรให้ทำไหมครับ คนจนมีสิทธิ์มั้ยครับ”
ไอ้คุณพี่ยอดร้องเพลงออกมา
“ถ้าจะช่วยก็เลิกร้องเพลง เลิกกวนโมโห แล้วช่วยกรุณาเก็บของมากองรวมไว้ก่อน ของแต่งบ้านไม่เอานะ เพราะน้องมิ้นท์น้องมายด์จะมาเช่าต่อ เก็บเฉพาะของส่วนตัว”
ไอ้หน้าขาวโค้งรับคำสั่งแล้วก็ตะโกนบอกคุณแม่ที่นั่งคุยอยู่กับคุณนายแสนดีอยู่อีกมุมหนึ่ง
“แม่ มาช่วยเก็บของส่วนตัวน้องเป้หน่อย แม่เก็บกางเกงในมานะ เดี๋ยวผมจะเก็บยกทรง”
คราวนี้ผมโกรธจริงๆ แล้ว เลยกะจะเข้าไปทุบให้ซักปั๊กใหญ่ๆ แต่ฝ่ายตรงข้ามผมก็ยักคิ้วเชิญชวนให้ราวีซะเหลือเกิน
“เข้ามาสิ จะได้หอมแก้มโชว์ต้องซะเลย”
“ไอ้พี่ยอดบ้า”
ผมได้แต่ด่ามันอยู่ไกลๆขณะที่เก็บของไปด้วย
“เป็นกูนะตรงเข้าไปแล้ว แล้วไม่ต้องมาหอมก่อนหรอก นังต้องนี่หละจะหอมโชว์ มึงหนะโง่ ทำไมกูไม่ได้แฟนน่าหอมแก้มงี้วะ”
“พี่บอยไง ออกจะหล่อ มึงก็จีบสิ”