.
.
.
ขอสักนิด รีพลายทำสะดุ้งค่ะ เอ่อ ทางเราไม่ได้มีเจตนาดอง(เเต่เมิงจงใจชิมิ...)
ช่วงนี้สอบย่อย หลายวิชาค่ะ ชีวิตเด็กมัธยม เอาเเน่ไม่ได้ T.T โปรดจงอภัยอิชั้นเถิดดดดด 
เเต่ก็ต้องขอบคุณที่ยังติดตามกันอยู่ เอาไป สองตอนเลยจ้า ^^
ปล.ป้าไรท์เตอร์ มิได้ไปรับประสบการณ์ตรงหรอกค่ะ เเต่ป้าแกป่วย อันเนื่องมาจากวัยที่สูงขึ้นเรื่อยๆ เห่อๆ
.
.
.
.
.
Imprison 6: นอน+เลื้อย!!!
ตามตารางเวลาการใช้ชีวิตประจำวันในเรือนจำแห่งนี้และทุกๆแห่งในประเทศไทย เมื่อถึงสามทุ่มตรงเปะๆก็เป็นเวลาที่ทางกรมราชทัณฑ์และสำนักทัณฑวิทยา ได้กำหนดไว้ในหนังสือ “คู่มือการใช้ชีวิตในเรือนจำ“ที่ผมได้รับเอกสารมาให้ศึกษากำหนดไว้ว่าเป็นเวลาปฎิบัติศาสนกิจก่อนนอน ซึ่งหมายถึงเมื่อทำเสร็จแล้วก็เป็นเวลานอนนั่นเอง ไอ้เอกสารที่ผมไม่ได้ภูมิใจแม้แต่น้อยที่ได้เอามาใช้ในชีวิตประจำวันตอนนี้กำลังอยู่ในมือผม พร้อมๆกับสายตาที่มองไปโดยรอบ....อืม...
...พบกับความจริงอย่างนึงเลยล่ะ..ว่ามัน...
ก็น่ะ...อย่าให้ผมพูดเลยว่ามันเป็นไง เอาเป็นว่ามันก็เหมือนๆกับเอกสารทางราชการส่วนใหญ่แล้วกันครับที่..ดูดี...และ...สวยงามน่ะนะ... เอาเป็นว่าพูดมากไม่ได้ครับ เดี๋ยวเจ้คนเขียนจะโดนซิวไป ’รับประสบการ์ณตรง‘แล้วนำมาถ่ายทอดให้ได้รู้กัน ซึ่งผมว่าเจ้แกคงไม่ปลื้มเท่าไหร่นัก..
ผลั่ว !!!
“มึงนั่งอ่านคู่มือลวงโลกนั่นทำห่าอะไรว่ะ !!! “ หมอนเน่าๆอันนึงเขวี้ยงมาใส่หัวผมเต็มๆพร้อมกับคำพูดไร้ซึ่งความเห็นใจมนุษยชาติเหมือนเดิม แต่..พี่ครับ..ไอ้ความหมายในประโยคนั่น...ประเดี๋ยวได้ซวยหมากันหมดหรอก..
“..เอ่อ..นี่ครับ...” ผมซึ่งไม่ได้อยู่ในฐานะที่จะมีปากเสียงรึอะไรกับคนๆนี้ได้เลยทำได้แต่ยื่นหมอนเน่าๆอันนั้นคืนเจ้าของ กำลังคิดอยู่เลยว่าจะบอก ‘ขอบคุณครับที่เขวี้ยงมา’ ดีรึเปล่า
“ แล้ว...” ผมมองไปรอบๆห้องขังที่มีคนอยู่ประมาณยี่สิบกว่าชีวิต บางคนนั่งจับกลุ่มคุยอะไรกันจ้อกแจ้กอยู่บางคนก็หันหน้าเข้าหามุม หลายคนเอาเศษผ้ามาปูทำท่าจะนอนกันแล้ว
“..อะไร..มึงน่ะ..ที่นอนโน่น..เห็นที่น้องใหม่มั้ย..เชิญเลยไป....” ไอ้คุณพี่โตว่าพลางหยิบเศษผ้าหนาๆมาปูมั่งพลางถีบผมไม่ให้ขวางทางผ้าที่ใช้ปูด้วยสีหน้าไม่เปลี่ยน...ผมก็ยืนทำหน้าเอ๋อๆงงๆต่อไปแต่ในใจกำลังเดือดปุด อยากกระโดดขาคู่ไซต์คิกใส่ไอ้คนแรมน้อยตรงนี้จริงว้อยยยยยยยยย
...เอาคนอื่นมาเป็นเมียแล้วไม่รับผิดชอบ...เห้ย !!! ไม่ช่ายๆ ..ทำคนอื่นเขาเสียหายแล้วไม่ดูแลให้ตลอดรอดฝั่งต่างหาก
“...ไอ้ห่านี่จะขวางอีกนานมั้ย?..มึงไปนอนหน้าสวมโว้ย..ไม่ต้องมาทำหน้าโง่ๆใส่กู....”ไอ้คุณพี่โตคนนี้นี่...ผมไปหลงคิดว่าเป็นคนใจดีคอยช่วยเหลือคนอื่นไปได้ยังไงกันน่ะ...
...ทั้งที่ความจริงแล้วมันโคตรเกรียนเลยน่ะเว้ยยยยยยยยยยยย...
หึหึ คราวนี้คงต้องทำความเข้าใจกันตัวเองซะใหม่ ว่าเกรียนจริงมันไม่ได้อยู่ในเกมส์ออนไลน์ แต่อยู่ในคุกต่างหาก..
เกรียนจริงๆด้วย...
ผมคิดพลางมองดูเส้นผมที่งอกออกจากหนังหัวไม่มากนักของคนตรงหน้า นี่สิน่ะ ของจริง เกรียนทั้งนิสัย และเกรียนทั้งลักษณะภายนอก..
คิดแล้วอยากให้ไอ้พวกเด็กเกรียน และติ่งหูทั้งหลายได้มาเห็นจริงๆ...
เอ่อ..แล้วพล่ามเรื่องเกรียนมาหลายบรรทัดแล้ว ตกลงไรท์เตอร์นี่มีความแค้นกับพวกนี้สิน่ะ เล่นซะเป็นคุ้งเป็นแควเลยว่ะเจ้
“...สาดนี่...มึงอย่ามาทำหน้าแบบนี้ใกล้ตีนกูได้มั้ย เดี๋ยวปั๊ดเหนี่ยว...” ไอ้คุณเกรียนตัวจริงยังพล่ามต่อไป ผมเริ่มรู้ล่ะ ว่าเวลาที่คุณพี่โตสุดที่รักของคนอ่าน(เชอะ)พูดมากจริงๆนี่ คงเป็นเวลาบ่นสิน่ะ
...เห็นแล้วอยากตบให้เกรียนแตกจริงๆ...
(เนม สันดานแกโผล่แล้วอ่ะ เก็บหางซะมั่ง/ นังปุ้ย)
“..ว่ะ !!! ยังมาทำเงียบอีก.อยากโดนรึไง...”
“..โหพี่..ใจเย็นๆ..เด็กใหม่ก็เงี้ยะ...” ไอ้คุณพี่โวยพยายามปลอบพร้อมรั้งปลายเท้าที่กำลังจะปฏิบัติการ์ณไว้อย่างยากลำบาก ส่วนผมก็ได้แต่หลบปลายตีนแบบเสียวๆ นี่สันดานพี่แกโผล่แล้วใช่มั้ย หล่อๆดูดีเป็นสุภาพบุรุษแค่ตอนสองตอน ก็เกรียนแตกแล้วสิน่ะ...ว่าแต่เจ้คนเขียน เลิกเหอะมุกนี้ ผมขี้เกียจเล่นว่ะ
“..มันไม่รู้น่า ตอนเย็นพี่ก็โอ๋มันปานนั้น คงได้ใจล่ะสิ...เห้ย !! ไอ้เนม...ไปนอนซะ..คืนนี้มึงต้องนอนตรงนั้นห้ามพูดมากห้ามเถียง ถึงเป็นเด็กพี่โตก็ไม่ได้รับการยกเว้นโว้ย “ บอกง่ายๆเลยก็ได้ว่าผมต้องไปนอนตรงนั้นจริงๆ..
ผมพยักหน้ารับพลางหลบตีนไอ้คุณพี่โตที่พุ่งมาหาอีกรอบอย่างแหยงๆ ท่ามกลางเสียงหัวเราะของคนในห้องขัง..ดูเอาเถอะ พระเอกบ้านไหนเขาถีบนางเอก เห้ย !! พระเอกอย่างผมมั่ง
เดินผ่านสารพัดตีนที่จะยื่นมากลั่นแกล้งแบบมึนๆ แต่เพราะผมไม่ใช่นางเอกบ้านทรายทอง ดาวพระศุกร์หรือจำเลยรักอะไรประมาณนั้นเลยไม่ได้จะมาร้องไห้กระซิก เท้าของผมเดินข้ามมั่ง ฝ่ามั่ง แอบเหยียบหัวแม่ตีนมั่งไปตามเรื่อง ก็ขนาดไอ้พระเอกเมื่อกี้มันยังถีบผมเลย จะหวังพึ่งอะไรอีกล่ะ..ชริ.(สรุปคือแกงอนสิน่ะ/ไม่ใช่ว้อยยยย )
“...............” ผมมายืนอยู่ ณ ที่นอนของตัวเองคืนนี้ หน้าห้องน้ำครับพื้นที่กว้างกว่าปกติเพราะไม่มีใครอยากใกล้ สภาพและกลิ่นนี่ทำเอาผมแทบจะเป็นลม ถ้าผมยังสามารถหลับได้ท่ามกลางกลิ่นแบบนี้เนี่ยคงไม่ใช่มนุษย์แล้วล่ะ
“...เป็นเด็กเชี่ยพี่โตแล้วคิดว่าใหญ่นักเรอะมึง..ระวังเผลอล่ะ..กุเสียบมึงแน่...” เสียงกระซิบสยองขวัญของใครสักคนข้างๆทำอาผมที่กำลังจมจ่อกับความสวยงามของสถานที่และกลิ่นหอมของอโรมาเธอรีพีได้สติ หันขวับมองคนพูด โอเค ถ้าจะขู่ฆ่าผมไม่ว่า..แต่...พอพูดถึงคำว่าเสียบนี่..จะลูบก้นผมไปหาพระแสงดาบคาบค่ายที่ไหนครับ...
“.....” ผมประดิษฐ์รอยยิ้มแบบเหยๆส่งไปให้พร้อมกับพลิ้วตูดหนีมือสุดสยองนั่นอย่างรวดเร็ว ผ้าห่มเน่าสุดที่เลิฟของผมยังอยู่ในมือ..สายตานักโทษหลายคนมองผ้าในมือผมแบบเหยียดๆ ปกติพวกที่มาใหม่คงมีแต่ของดีๆสิน่ะคงเพราะมันไม่ใช่ของใหม่มั้ง เลยมีแต่คนทำหน้าแบบนั้น แต่ผมกอดผ้าห่มน้องเน่าของตัวเองไว้แน่น ก้มหน้าหลีกหนีกลิ่นแห่งความจริงไปสู่อีกโลกหนึ่งอย่าสมบูรณ์แบบ...
...โลกที่มีพ่อ แม่ และน้องสาวของผมรออยู่...
...กลิ่นหอมไอแดด และกลิ่นของน้ำยาปรับผ้านุ่มที่คุ้นเคยทำให้ผมสบายใจอย่างประหลาด มันโอบล้อมราวกับว่านี่คือที่เดิมของเรา..
ผลั่ว !!!
หมอนแข็งๆปาใส่หัวผมอีกรอบ ทำเอาผมต้องหลุดจากความฝันอันแสนสวยงามอย่างช่วยไม่ได้ ตาของผมเริ่มออกอาการ ขวาง อย่างเห็นได้ชัด..
“...เผอิญว่ากูอยากได้ที่นอนมึงน่ะ..ลุกไปซะ...” ใครสักคน...ผู้ชายคนหนึ่งที่มีใบหน้าเหี้ยมๆหื่นๆ มองตรงมาทางผม คำพูดแรกออกจะน่าฟัง แต่ประโยคหลัง มันหาเรื่องกันชัดๆ..
“......” ผมกอดน้องเน่าไว้แนบอก ไม่พูดไม่จา แต่ท่าทางไม่ยอมแต่โดยดีทำเอาไอ้พี่คนนั้นมีสีหน้าโมโห กระชากเสื้อสีน้ำตาลเครื่องแบบประจำคุกแรงๆ จนหน้าแทบคว่ำ
“..อยากตายใช่มั้ย...”
“...ผม......” ผมเม้มปากแน่น แต่ไม่อยากให้ของไปเลยมันเป็นของที่แม่เย็บให้ มันสำคัญกับผม สำคัญจนไม่อยากยกให้ใครได้ไป
“...มึงอยากลองดีกับกูใช่มั้ย.ไอ้เด็กใหม่..”
ตุบ !!!
นึกว่าเป็นเสียงหมัด ผมเสียววูบจนต้องหลับตาปี๋ แต่ไม่ใช่มันเป็นหมอนอีกอันที่ผมคุ้นเคยดี และมาจากผู้ชายคนเดิมที่คงรู้กัน ทำไมใครๆชอบปาหมอนใส่หัวผมนักเนี่ย
“...ปล่อย....” ไอ้คุณพี่โตที่คงจะคืนฟอร์มเดิมแล้วนอนแผ่บนที่นอนของตัวเองที่เป็นฟูกสูง สายตาไม่ได้มองมาทางนี้เพียงแต่พูดลอยๆแต่ทำเอาเสียงจ้อกแจ้กเงียบกริบ..
“..เอ่อ....” มือที่กำคอเสื้อผมสั่นระริก แต่ยังไม่ยอมปล่อย มองผมสลับกับไอ้คุณพี่โตอย่างลังเล..
“..มึงจะทำอะไรเด็กกู ...ไอ้เก่ง....” ไอ้คุณพี่โตหันมาส่งสายตาเย็นยะเยือกใส่ผู้ชายคนนั้น น่ากลัวจนผมยังกลืนน้ำลายเอื้อก..
“...โทษทีพี่..นึกว่าไม่เอามันแล้ว..เห็นไล่มานี่ก็เลย....” ไอ้คนที่ชื่อเก่งแก้ตัวพลางปล่อยมืออกมาจากคอเสื้อของผมอย่างรวดเร็ว...
“...มันเป็นเด็กกู...ที่ไล่ไปนอนโน่นก็ตามธรรมเนียม..พรุ่งนี้มันก็จะย้ายที่..” ไอ้คุณพี่โตว่า พลางขยับเปลี่ยนท่าจากนอนเอาแขนหนุนหัวแผ่ไม่เกรงใจชาวบ้าน มาเป็นลุกขึ้นนั่งแล้วมองหน้าผมและผู้ชายอีกคนอย่างเฉียบขาด..
“...อย่าให้กูพูดอีกเป็นครั้งที่สอง...”
ทันทีที่พี่โตพูดเสร็จ ผู้ชายคนนั้นก็ตัวสั่นรีบลุกไปอย่างรวดเร็วเหลือเพียงผมที่กอดผ้าห่มน้องเน่าและทำหน้าเอ๋ออยู่ตามลำพัง ก่อนจะสังเกตเห็นหมอนของไอ้คุณพี่โตที่ตกอยู่ปลายเท้าจึงเอื้อมมือไปเก็บวางน้องเน่าลงและเดินเอาไปยื่นให้ พลางคิดว่าจะ ‘ขอบคุณครับที่เขวี้ยงมา‘จริงๆดีมั้ย
ผลั่ว !!!
ทันทีที่ยืนไปให้อ้าปากจะพูดอะไรซักอย่าง ครั้งที่สามภายในคืนเดียวและจากผู้ชายคนเดียวทำเอาผมเริ่มอารมณ์บูด อยากรู้จริงๆว่าหัวผมนี่กลายเป็นที่ซ้อมเป้าไปตั้งแต่เมื่อไหร่ นึกว่าเลิกเกรียนแล้ว..แต่ท่าจะเป็นไปไม่ได้สิน่ะ..
“..ไปได้แล้ว มายืนโง่อะไรแถวนี้..” ด่าผมแล้วตั้งท่าจะถีบส่งอีกรอบแต่ผมพลิ้วกายเดินออกมาก่อนแถมคราวนี้ยังมีแต่คนแหวกทางให้ราวกับโมเสสเดินฝ่าทะเลแดง แต่เปลี่ยนเป็น ไอ้เนมฝ่าทะเลตีนในคุก เท่านั้นเอง
“......” ผมกลับไปนั่งทำหน้ามึนบนผ้าปูนอนที่แม่เย็บให้ หมอนน้องเน่าและผ้าห่มน้องเน่าถูกนำมากอดมีเพียงสายตาแป๋วๆมองไปยังผู้ชายที่เอนตัวลงนอนอีกครั้ง ไม่วายปรายตามาทางผมพร้อมกับพูดออกมาอีกรอบ..
“ขยันทำหน้าโง่จริงๆน่ะมึง...” โอ้ยยยยยยย นี่เขาเรียกแอ๊บแบ้วคร้าบบบบบ
ขี้คร้านจะบอกเทรนด์ใหม่ของวัยรุ่นแถวสยามให้ลุงเกรียนผู้มีนิเวสสถานอยู่ในคุกฟัง ผมเลยได้แต่เอนตัวลงนอนช้าๆบนฟูกนอนบางๆที่แม่เย็บให้ ความแข็งของพื้นคอนกรีตแทรกเข้ามาจนแทบไม่รู้สึกเลยว่านอนอยู่บนผ้า กลิ่นเหม็นๆที่โชยมาทำเอาผมต้องเบือนหน้ามาอีกฝั่ง หลบศอกของคนที่นอนข้างๆ แล้วได้สบตากับไอ้คุณพี่โตที่อยู่อีกฝั่งแต่หันมาทางนี้พอดีแล้วชะงัก ก่อนจะเอาน้องเน่ามาคลุมหัวแบบไม่กลัวร้อน เพราะขี้เกียจจะได้ยินลุงแกบ่นว่าผมทำหน้าโง่ๆใส่อีก..
...ชิ....ก็บอกแล้วไงว่าแอ๊บแบ๊ว...
.......Oh bad Guy!! รักร้ายๆของผู้ชายในคุก.......
ขวับ....
ผมขมวดคิ้ว ขยับตัวไปทางซ้าย..
ขวับ...
แต่ก็ต้องหันมาทางขวาแทบไม่ทันเมื่อกลิ่นเหม็นๆโชยเข้าจมูก เอาน้องเน่าปิดไว้แทบไม่ทัน..
พรึ่บ...
ผมสะบัดผ้าห่มน้องเน่าแบบรำคาญไม่น้อย จะให้ไม่รำคาญได้ยังไงล่ะครับ ก็ยุงน่ะสิมันมาตอนผมทั่วตัวราวกับจะต้อนรับน้องใหม่ ทั้งที่คลุมผ้าห่มทั้งตัวก็ยังอุตส่าห์มุดมาจนได้ แถมอากาศในคุกนี่มันไม่ได้ติดแอร์คอนดิชั่นน่ะครับจะได้เย็นสบาย เพราะงั้นตอนนี้ ผมเลยอยู่ในสภาพเหงื่อแตกซ่กๆ คันคะเยอเกาไอ้แผลจากยุงกัดไปทั้งตัว อย่าถามเลยว่าได้หลับมั่งรึเปล่า ถึงจะไม่มียุงและอากาศก็ไม่ได้ร้อนบรรลัยก็หลับไม่ลงครับ เพราะไอ้คนข้างๆดันกรนใส่ผมซะดังสนั่นแบบนี้..
โว้ยยยยยยยยย..
ไอ้เนมแอบครวญครางในใจครับ บ่นแบบนันสตอป จะบ้าตายอยู่แล้ววววว.....
หมับ...
หือ???
วูบ....
เห้ย!!!
จู่ๆความรู้สึกบางอย่างก็เกิดขึ้นแบบไม่ทันตั้งตัว ผมรู้สึกหนักไปทั้งตัวเหมือนโดนใครทับ มือสากๆร้อนๆของใครไม่รู้สอดเข้ามาในผ้าห่มพลางดึงน้องเน่าออกจากตัวผมช้าๆ...
...ผมหลับตาปี๋ทันควัน...ไม่น่ะ..นี่ผมกำลัง...
..ผมกำลังโดนผีอำ !!!!
ฮือๆเขาว่าในคุกผีเยอะจริงๆด้วย เพราะผมไม่ได้ไหว้พระก่อนนอนใช่มั้ย เพราะผมมาใหม่ใช่มั้ย ผมเลยต้องโดนดีแบบนี้...
เฮือก !!!
คราวนี้ผมสะท้านเยือกไปทั้งตัว มือสากๆของผีตัวนั้นลากไปมาบนตัวผมสักพักก็สอดเข้าไปตรง...ตรง...
...กางเกง !!!!!
คราวนี้ไม่สนผีหน้าไหนทั้งนั้น ผมลืมตาพรึ่บขึ้นทันทีผีบ้านไหนกันมันมาลวนลามคนแบบนี้เนี่ย...แต่พอผมลืมตาขึ้น กลับเป็นผู้ชายคนหนึ่งนอนทับผมอยู่ในแสงสลัว เงาตะคุ่มนั้นไม่เห็นหน้าชัดเจน แต่ไม่ใช่ผีที่ผมกลัวพอตกใจจนจะอ้าปากร้อง มือหนากลับปิดปากผมไว้แน่น..
“...เงียบซะถ้าไม่อยากถูกหักคอตาย...” เสียงกระซิบนั้นเย็นยะเยือกชวนหนาวไขสันหลัง...แสงสลัวของไฟตรงทางเข้าทำให้ไม่สามารถเห็นรูปร่างหน้าตาชัดเจน ผมเห็นเพียงแววตามาดร้ายและท่าทีคุกคามเท่านั้น...
“ อื้อ....” ผมร้องออกมาเมื่อมือหนาอีกข้างลากลงไปตามสะโพก ผมเบิกตาโพลงร้องออกมาทันทีพยายามดิ้นอย่างสุดความสามารถ แต่แขนของผมกลับถูกหัวเข่าของหมอนี่กดเอาไว้
“...ฮื้อ...อื้อๆๆ..” ผมร้องในลำคออย่างอู้อี้พยายามดิ้นอย่างสุดความสามารถ ฝ่ามือนั้นลามไปถึงสะโพกแล้ว แรงบีบเค้นนั้นยิ่งแรงขึ้นชวนขยะแขยง..ผมยิ่งดิ้นแรงขึ้นๆ แต่ผมที่ได้รับก็ยังเหมือนเดิมไม่มีใครรู้สักคน
“..ฮื้อ !!!!! “ ผมร้องออกมาทันทีที่มือหนาแทรกเข้าไปถึงปากทางเข้าด้านหลัง พยายามเค้นแรงมาสู้อย่างจริงจังแต่เหมือนไม่มีผล น้ำตาเริ่มคลอเบ้า ไม่เอาน่ะ...ผมไม่อยากโดนปล้ำ ไม่อยากโดนข่มขืนในสภาพแบบนี้..ใครก็ได้..ใครก็ได้ช่วยด้วย...
“...มึงจะหุบปากดีๆหรืออยากให้กูปิดให้...” เสียงกระซิบชวนแขยงนั้นมาพร้อมกับริมฝีปากที่พยายามจาบจ้วงไปทั่วใบหน้า ผมหลับตาปี๋ เม้มปากแน่น สะบัดหน้าหนีอย่างขยะแขยง
..ไม่เอา...ใครก็ได้ช่วยด้วย...ไอ้พี่โตช่วยด้วย...
...โธ่เว้ยยยยยยย ถ้าให้โดนข่มขืนแบบนี้ สู้ไปเป็นเมียไอ้พี่โตไม่ดีกว่าเรอะ !!!
ผลั่ว !!!!!
หมอนเน่าๆอันเดิมปลิวฟ้าวมาถูกหัวไอ้หื่นที่คร่อมผมอย่างรวดเร็ว แม้จะรู้สึกว่าทำไมมันออกมาบ่อยนักแต่ก็ดีใจเหลือเดกินที่เห็นมัน พอๆกับร่างของใครสักคนเดินมาดึงไอ้หื่นนี่ออกจากตัวผมพร้อมกับชกหน้าจนมันกระแทกลงกับพื้น..
“..พะ...พี่....พี่โต....” ผมระล่ำระลักเสียงสั่นเมื่อเห็นหน้าของคนที่ช่วยชีวิต(เวอร์จิ้น)ตัวเอง ไอ้คุณพี่โตคว้าตัวผมมาใกล้พลางช่วยลูบหัวลูบหลังผมอย่างรวดเร็วจนผมอดสะอื้นในลำคอไม่ได้ ข้างหลังได้ยินเสียงสหบาทาผลั่วะผละไม่ขาดสาย ครั้นอยากจะไปร่วมวงแก้แค้น เขากลับลากผมออกมาก่อนพลางจูงมือพาเดินมายังที่นอนของตัวเอง...
ผมทรุดตัวนั่งลงบนฟูกของพี่แกที่สูงลิ่วแถมหนานุ่มกว่าอย่างเห็นได้ชัดด้วยความสบายตูด พอจะรู้ว่าตอนนี้คนทั้งห้องตื่นแล้ว แถมห้องข้างๆก็โผล่หน้ามาดูกันสลอน ไอ้พี่โตลูบหัวยุ่งๆของผมช้าๆเลยมาลูบหลังผมเบาๆ...ผมที่เพิ่งรู้ตัวว่าเนื้อตัวสั่นระริก...
“...ไม่เป็นไรแล้ว...ไม่ต้องร้องไห้...” ว่าพลางลูบแก้มผมเบาๆ ผมยกมือสั่นเทาลูบแก้มตัวเองช้าๆ...ไม่ยักรู้เหมือนกันว่าตัวเองร้องไห้ออกมาเมื่อไหร่ ขยี้ตาแรงๆมองฝ่าความมืดสลัวเลือนรางไปยังกลุ่มคนที่ยังรุมตื้บไอ้หื่นนั่นด้วยความเมามันส์อยู่อย่างเคียดแค้น
...คอยดูเถอะ..แค้นนี้ต้องชำระ
“...มีคนตื้บมันแทนแล้ว..ไม่ต้องทำหน้าแบบนั้นเลยน่ะมึง...” ไอ้คุณพี่โตว่าพลางขยี้หัวผมเหมือนเอ็นดู..ใช่ครับในสายตาคนอื่นมันคงเป็นความเอ็นดูอาดูรอย่างหาที่สุดมิได้แต่ความจริงจากผู้ถูกกระทำอย่างผม มันคือการตบหัวหลังจากลูบหลังชัดๆ
“........” ผมไม่พูดไม่จาได้แต่ลูบหัวตัวเองที่คงปูดเป็นลูกมานาวอย่างเคียดแค้นในใจ ซี้ดดดดดดด เจ็บเป็นบ้า ซาดิสต์สิน่ะ ซาดิสต์ใช่มั้ย?? ผมรู้ทัน..
“..หึ....ไม่พูดแต่แอบด่ากูในจะล่ะสิ..กูรู้หรอก...” เอ่อ...ครับ ไปแอบอ่านใจผมตอนไหน..
“........” ถึงจะรู้ แต่ผมก็แอ๊บเนียนไม่พูดต่อไป ใครจะทำไม..
ไอ้คุณพี่ทินเดินเอาผ้าห่มน้องเน่า หมอนน้องเน่า และจะเป็นที่นอนเน่าด้วยแน่นอนมาให้ผม พลางขยับที่นอนของตัวเองข้างๆไอ้คุณพี่โตให้ห่างออกไปพลางหันไปบอกคนอื่นขยับด้วย..
หือ???? อะไรกัน..
“...อย่างมึงนอนที่เดิมคงไม่พ้นโดนเสียบตูดอีก..เปลี่ยนมานอนที่นี่ล่ะดีแล้ว ส่วนที่นอนมึงให้ไอ้นั่นนอน..” ว่าพลางชี้ไปยังไอ้หื่นที่โดนตื้บ ผมมองตามก่อนจะเบิกตาค้าง นั่นมันไอ้คุณเก่งที่มาหาเรื่องผมเรื่องที่นอนนี่ โดนตีนรุมตื้บไม่พอยังถูกย้ายนิเวสสถานไปริมห้องน้ำอันเป็นที่เดิมของผมอีก ผมเบิ่งตามองคิดจะสงสาร แต่เปลี่ยนใจ...
....ใครบอกให้พ่อจะมาข่มขืนตูล่ะเฟ้ย...
“...ผมยังไม่ได้โดนเสียบตูดซะหน่อย...” เมื่อนึกได้เลยออกปากเถียง ยังไม่โดนว้อย แค่เกือบๆ...คิดแล้วยังขนลุกไม่หาย...
“..เออ..กูรู้..ก็ดูอยู่นี่...” พูดเสร็จผมก็หันไปมองหน้าทันที..นี่รอดูจนคนอื่นเกือนโดนแล้วไปช่วยเนี่ยน่ะ...สาบานเถอะว่าไอ้หมอนี่เป็นพระเอก...
“..สัด...อะไรๆ ไม่ต้องมามองหน้าช่วยไปแล้วยังจะมา...เอาผ้าปูนอนมึงมาปูได้แล้ว..จะได้หลับซักที เสียเวลาจริงๆ...” คำแรกสถบกับตัวเองเหมือนเสียทีที่ถูกจับไต๋ได้ แล้วเปลี่ยนมาทำหน้าเข้มสั่งผมทันควัน ผมหันไปมองหน้าอย่างเฉยชา..ทำเนียนสิน่ะ เนียนเปลี่ยนเรื่องไปซะฉิบ..
“..มึงจะปูไม่ปู เดี๋ยวลากไปยัดในห้องน้ำซะเลย...” ได้ทีก็ขู่ผมใหญ่ ไม่ได้รู้เลยใช่ไหมว่าความรู้สึกของผู้ชายที่เพิ่งจากบ้านมาแล้วเกือบโดนข่มขืนเนี่ยมันเป็นยังไง..
..เสียขวัญอยู่น่ะเฟ้ย !!! เข้าใจมั้ย..
“..............” แต่เพื่อความอยู่รอดของชีวิตและทรัพย์สิน ผมเลยได้แต่เออออไปตามเรื่อง เอื้อมมือไปเอาที่นอน(น้องเน่า)แสนจะบางของตัวเองไปปูข้างๆไอ้คุณพี่โต เห็นความแตกต่างของที่นอนแล้วอยากจะร้องไห้ขึ้นมาตงิดๆ ก่อนจะวางหมอน(น้องเน่า)แล้วกอดผ้าห่ม(น้องเน่า)แนบอกอีกครั้ง
“..เดี๋ยวก่อน....” จะนอนแล้วเพราะเห็นคนอื่นเขานอนกันหมด ไอ้คุณพี่โตก็คว้าแขนผมไว้แล้วออกแรงบีบแรงๆ ทำให้ผมต้องหันมาสบตา
“...ครับ?...”
“ แขนเป็นอะไร...” ถามพลางลูบรอยแดงเป็นปื้นบนแขนผมอย่างงงๆ ผมมองตาม ก่อนจะถอนใจไม่ใช่รอยที่ถูกบีบรึทารุณอะไรแต่เป็นแค่รอยยุงกัดเท่านั้นแหละครับ เพราะผมเป็นคนผิวขาวมันเลยเห็นชัดแค่นั้นเอง...
“..ยุงกัดน่ะครับ...” ผมตอบไปตามตรง..
“...อ้อ..นึกว่าเพราะโดนไอ้เก่งเลื้อยซะอีก...แล้วทำไมไม่เตรียมยาทาอะไรมาด้วยบ้าง..” บ่นๆพลางเอื้อมหยิบขวดโลชั่นกันยังมายื่นให้ผม ทำเอาผมทำตาโต ไม่นึกว่าพี่แกจะใจดีให้ใช้แต่พอจะเอื้อมมือเปิดขวด พี่โตแกกลับยื้อไว้แล้วเปิดฝาทาตรงแขนให้อย่างรวดเร็ว...
“..............” โดยไม่สนใจท่าทางงวยงงของผมเลยแม้แต่น้อย
ทาไปบ่นไปจนเสร็จ ไอ้ความแสบคันที่คอยรบกวนทุเลาลงมากแล้วก็ทำเอาผมเริ่มง่วง หนังตาแทบปิดคุณพี่โตเอาขวดยาทากันยุงไปเก็บพลางมองหน้าผมที่ตาเหลือแค่เสี้ยวแล้วถอนใจ กดหัวผมไปชนอกตัวเองดังตุบ..
“...ขอโทษที่ปล่อยให้มึงโดนเลื้อย..นอนซะแล้วอย่าโวยอะไรมาก พวกมันยังจ้องมึงอยู่...” กระซิบบอกให้ผมงงไปพลางดันผมลงไปนอนข้างๆ ไอ้เนมที่มึนไม่หายได้แต่คว้าผ้าห่มน้องเน่ามากอดแนบอก ให้ความอุ่นนุ่มและกลิ่นที่ผมรักปลอบประโลมหัวใจที่อ่อนล้าของตัวเอง..
..พลันรู้สึกได้ถึงแขนหนาที่พาดเอวทำเอาผมสะดุ้งเฮือก..
“ อย่ากลัว..ทำแบบนี้ไม่มีใครกล้ามาเลื้อยกับมึงอีกแน่...” ไอ้คุณพี่โตว่า ขณะที่ผมก็ขมวดคิ้ว..ไอ้เลื้อยนี่..มันคืออะไรกัน..
“...เลื้อยคืออะไรอ่ะ...” ผมเงยหน้าไปสบตาถามด้วยความอยากรู้
“..ก็อย่างที่มึงโดนวันนี้ไงไอ้โง่...” ว่าพลางทุบหัวผมอีกรอบ..และขอย้ำว่าไม่ได้เบาแม้แต่น้อย...ทำท่าจะเตะผมอีกทีแต่ผมไหวตัวทันงอตัวให้พ้นรัศมีเสียก่อน..
“..หึ...หลับซะไม่ต้องมาทำหน้าโง่ๆอวดชาวบ้านเขา..” บ่นใส่หัวผมไม่เลิก แต่ใจความนั้นชวนเคืองซะจริงๆ
..ก็บอกแล้วไง...ว่าแอ๊บแบ้ว..ไม่ได้โง่...
คิดพลางก้มหน้าซุกผ้าห่มน้องเน่าต่อ กลิ่นคุ้นเคยนั้นชวนให้ผมคิดถึงบ้านจนกระบอกตาร้อนผ่าว คงจะร้องไห้ออกมาแล้ว ถ้ามือหนาจะไม่ลูบเส้นผมบนหัวเบาๆอย่างปลอบประโลมจนผมสามารถหลับตาลงอย่างเป็นสุข...
ป้าบ !!!
“...ไอ้ขี้แยเอ้ย...” เสียงก่นดังขึ้นข้างหู พร้อมกับขาผมที่สั่นระริกเมื่อโดนเจาะยางเข้าให้..ไอ้ความซึ้งความนับถือที่เกิด
ขึ้นมันแทบจะลอยหายไปกับสายลม..
...สุดท้ายแล้ว..ผมก็ต้องโดนถีบจนได้สิน่ะ...
ชิ...จำไว้เลย...
.......Oh bad Guy!! รักร้ายๆของผู้ชายในคุก.......
ภาษาไทยในเรือนจำ วันนี้ขอเสนอ..
เลื้อย – การเข้าหานักโทษขณะหลับเพื่อมีเพศสัมพันธ์
เกือบโดนเลื้อยแล้วสิน่ะเนมเอ้ย...
ว่าแต่ตอนนี้นี่..
ไปหมดเลยสิน่ะ...
ทั้งสันดานนายเอก
ทั้งนิสัยพระเอก
สรุปคือพวกแกไม่มีใครเป็นคนดีกับเขาจริงๆหรอก เหอๆ