Imprison 18: นอกสายตา
ขมวดคิ้ว...
ผิดรึไง..
หน้ามุ่ย..
แล้วทำไมล่ะว่ะ..
ตาขวาง..
หนักหัวใครละว้อยยยยยย
มองหน้าทำไม ไม่ได้ไม่พอใจ ไม่ได้หึง ไม่ได้อะไรทั้งนั้น... แค่หงุดหงิด เข้าใจมั้ย แค่หงุดหงิด
หงุดหงิดน่ะ หงุดหงิดแบบที่จะฆ่าคนได้อีกรอบ ชัดเจนมั้ย !!!!!!!
อย่ามาทำหน้าตาแบบนั้นใส่น่ะ ผมก็แค่หงุดหงิด ไม่เข้าใจ และไม่พอใจอย่างแรงกับพฤติกรรมที่บุคคลทั่วไปแสดงกับผมเท่านั้นเอง ผิดเรอะถ้าผมจะไม่ชอบที่พวกเขาทำเหมือนผม โง่ ซะเต็มประดา.. ทำเหมือนไอ้เนมเป็นแค่ ควาย ตัวนึง เป็นแค่เศษคนเศษเดน หรือว่าตัวห่าเหวอะไรสักอย่างที่คอยเกาะติดหลืบนิ้วเท้าพวกเขา เป็นตัวถ่วงความเจริญ ทำให้ผู้พบเจอหรืออยู่ใกล้ผมมีแต่ความซวย..
มันน่าหงุดหงิดชะมัด...
โอเค..หลังจากตอนที่แล้ว ผมไปว้ากใส่ไอ้คุณพี่ๆทั้งหลายที่เอาแต่อ้าปากด่าเนมฉอดๆ บอกว่าผมโง่อย่างนั้นฟายอย่างนี้ จนผมอดไม่ได้ ด่ากราดให้มันรู้กันซะบ้างแล้วไพล่ไปเจอไอ้คุณพี่โตที่พอมาถึงก็ไม่ฟังอะไรเลย เอาแต่ด่าๆๆๆๆๆ ด่าผมแล้วหันไปสวีตวิ้ดวิ้วกับแฟน จนตอนนี้ ผมไม่มีอารมณ์จะขอโทษขอโพยใครแล้ว..โดนด่ามาทุกวันนี่มันก็เครียดน่ะว้อยยยยย..
คิดแล้วก็ถอนหายใจฟึดฟัดเดินดุ่มๆไปยังโรงอาหารเพื่อกินข้าวเย็น...หน้าตาผมตอนนี้เป็นยังไงไม่รู้.รู้แต่คนที่มองเห็นต่างก็ขยับหนีเป็นแถว..อะไรว่ะครับ..ไม่ได้จะกินหัวใคร..แค่เกือบ..หึหึ..
“..ทำหน้าแบบนั้น..เดี๋ยวก็แก่เร็วหรอก...”เสียงนุ่มๆทักทำให้ผมหันไปมอง..อ้อ...พี่กันย์นี่เอง ยืนฉีกยิ้มให้ผมน้อยๆ หน้าตาที่เหมือนไม่รู้ทุกข์ร้อนนั่นทำให้ผมนึกหมั่นไส้ขึ้นมาวูบหนึ่ง..ก่อนอารมณ์เดือดๆจะเริ่มเย็นลง..เพราะรอยยิ้มนี้นั่นล่ะ..
“..ขอบคุณครับ..” ผมออกปากขอบคุณพลางยิ้มให้พี่กันย์น้อยๆ..รายนั้นก็ได้แต่ยิ้มรับ..พร้อมกับเดินไปนั่ง..หืม..ที่โต๊ะของ พวกลุงเกรียนแห่งเดอะ คุก คุก นี่เหมือนกัน..
...ผมหันไปมองคนข้างๆอย่างหวาดผวา..นี่อย่าบอกน่ะ..ว่าพี่จะแปรพักตร์ไปอยู่กับพวกนี้..ผมขอเถอะพี่..ให้คนดีๆหรืออย่างน้อยผมก็คิดว่าดี ได้มีเหลืออยู่ที่นี่บ้าง..
“..มาแล้วเหรอ?...” เสียงที่ทักกลับเป็นเสียงของเมฆ..ผมแอบขมวดคิ้ว ขณะที่นั่งลงบนโต๊ะเงียบๆ..แต่ก็ยังมีเสียงแซวบังเกิด..
“..ว่าไง ไอ้เนม..ได้ข่าวว่าตอนบ่ายปล่อยหมาเหรอว่ะ..”
“................” ผมหันไปมองหน้าคนพูดทันที..อย่าทัก..ตูยังเคืองอยู่..
“..อย่างนี้สิ ถึงจะสมกับอยู่แดนสิบสองหน่อย..เสือกอ่อนข้อทำตัวปะเหลาะให้พวกมันได้ใจ เลยรุมมึงกันใหญ่..เป็นไงล่ะพวกมึง..เจอไปกี่ดอกว่ะ..” คนพูด พูดไปก็กอดคอผมโยกไปโยกมา..เจ็บน่ะเว้ย.. ผมหันไปมองหน้าคนทำ.. หมอนี่..พี่เบิร์ด (ไม่ใช่ธงชัย)หนึ่งในพลพรรคของเฮียโตขาหย่ายยยย เหมือนกัน..แต่ผมเจอไม่บ่อย พี่แกอยู่คนละแดน..เจอกันแค่ตอนกินข้าวเท่านั้น..
“..โห....หยุดเลยมึง...ดูซิ...ไอ้กิตยังตกใจไม่หาย..โถๆๆๆ...ให้ตายยังไงมึงก็ไม่เจอน้อง...อุ๊ก....” ไอ้คุณพี่ทินว่า ทำท่าจะพล่ามเรื่องของชาวบ้านต่อ แต่โดนคุณพี่กิตสกัดดาวรุ่งโดยการซัดแขนศอกใส่ท้อง แล้วส่งสายตาเข้มๆใส่..จนต้องเงียบไป..เหอะ..สาสม..
“..สะใจ..ปากมากดีนัก...” คราวนี้พี่แม้กว่าพลาง หันหน้ามามองหน้าผม “..ถ้าคิดว่าแน่แล้วก็เอาตัวให้รอดแล้วกันน่ะมึง..ถ้าปากดีแล้วจากนี้ก็ช่วยตัวเองซะมั่งล่ะ..คราวนี้กุไม่คอยกันให้แล้วน่ะเว้ย..” ว่าพลางเอาส้อมมาชี้ๆชักๆตรงหน้าผม..เอ้อ...ครับพี่..เข้าใจว่าดูแลตัวเองมาตลอดเหอะ..ผมน่ะ...
“..เอาน่า..ยังไงก็เด็กเหี้ยพี่โตเว้ย..วันนี้เมียแกมาเยี่ยม..ท่าจะอารมณ์ดี..รอขอของกินดีกว่าว่ะ..”
“..ฮ่าๆๆ...ไม่มีใครมาเยี่ยมล่ะสิมึง..สมน้ำหน้า..” พี่เบิร์ดว่าพลางตบหัวผมเบาๆ..หยุดๆได้มั้ยว่ะ..เดี๋ยวก็องค์ลงอีกรอบหรอก
“..พูดยังกะมึงมีงั้นแหละสัด..อยู่มานานเข้าก็ค่อยๆหายไปแบบนี้ล่ะว่ะ..อิจฉาเหี้ยพี่โตชะมัด..มีเมียคอยมาเยี่ยมมาหาไม่ขาด..” คนพูดทำหน้าเคลิ้ม..แหยะ..น่าขนลุกว่ะ..
“..เออ...อิจฉาดิว่ะ..เมียเฮียแกออกจะสวย..”
“..สวยทั้งนอกคุกในคุกเลยว่ะ อิจฉา..คนหล่อก็เงี๊ยะ...” ไอ้คุณพี่เบิร์ดว่าพลางเหล่มองมาทางผม..แต่ไอ้เนมเบือนหน้าหนี..ไม่รับมุข..มีไรมั้ย..
“..ว่าไง..เมฆ....วันนี้เหี้ยพี่โตมีสาวมาเยี่ยมน่ะมึง...” รายนี้ก็แหย่ชาวบ้านเขาไปทั่ว พอผมไม่รับมุข เลยหันไปหยอกเมฆที่นั่งกินข้าว..เอ่อ...คุยอะไรกับพี่กันย์สองต่อสองไม่รู้..
“..แล้วไงว่ะ...” รายนี้ก็ตอกกลับแล้วนั่งกินข้าวต่อไม่สนใจ..นิ่งจนได้โล่..
“..ไอ้นี่...ไม่สนเรอะ...พอได้ใหม่ก็ลืมเก่างี้ล่ะว้า~~~ “ ผมฟังแล้วได้แต่รำคาญ..ไม่รู้จะพูดอะไรนักหนา..
“...เรื่องของกู..”
“..ปากหมาขึ้นทุกวันน่ะสัด...อ่าว..เหี้ยพี่โตมาแล้ว..”เสียงทักทายนั่นทำให้ผมเหลือบตาขึ้นไปมอง พบร่างสูงใหญ่เดินเข้ามา ใบหน้านั้นดูแช่มชื่นรื่นเริงจนผมเห็นแล้วอดหน้านิ่วไม่ได้ ยิ่งได้ยินเสียงลิ่วล้อพากันแซว เส้นอารมณ์ยิ่งกระตุกยิกๆ
..น่าหมั่นไส้ !!!
“..เหี้ยพี่โต...ได้ไรมามั่งอ่ะเฮีย...แบ่งน้องๆบ้างซิจ๊ะ..อย่าเม้มๆ...” ว่าแล้วก็แบมือขอแบบหน้าด้านๆ ผมมองหน้าคนพูด..ไอ้พี่เบิร์ดท่าจะไม่เคยตาย..
“...หลีก...ไอ้นกแสก..แกว่งปีกหาตีนเชียวมึง..” ว่าพลางใช้ฝ่าเท้ารุนหลังพี่เบิร์ดเบาๆ(ของพี่แกน่ะ)ให้ขยับลุกขึ้น...ซึ่งที่นั่งพี่เบิร์ดก็คือข้างๆผม...ไอ้เนมขยับห่างทันทีโดยไม่ต้องมีการรีรอ..ถึงไม่บอกก็จะขยับ..กุนอยแดก..อย่ามาใกล้เดี๋ยวมีมวย ฮึ่ย!!
“..แล้วตกลงได้ไรมาว้า...รึว่าเจ้กิ๊งเอากล้วยบวชชีมาให้ ฮ่าๆๆๆๆๆ “ ไอ้คุณพี่เบิร์ดนี่ถ้าไม่ทนตีนก็ท่าจะคุ้นเคยกันดี..เลยทักทายท้ากันอย่างไม่กลัวโดนอุ้มฆ่าแต่ประการใด..
“..เชี่ย....ปากหมาสัดๆ...”
“..ได้ไรมามั่งว่ะ เอามาแบ่งกุมั่งซิ อย่ามาใส่เบาท์น่ะเว้ย เดี๋ยวกุแช่งให้เจอลื่นซะนี่..”
“..อย่าเอาเรื่องของเมียมึงมาวัดกับแฟนกู...แล้วกิ้งก็ไม่ได้ฝากอะไรมาให้มึง..รอไปเหอะไอ้แสก!!..”
“..เชี่ยนี่..ทำหวง..เอออออ..เมียเมิงน่ะแสนดี เทพธิดาของแท้..” รายการแฉลากไล้เกิดขึ้นมาโดยไม่ได้ตั้งใจทำให้ทุกคนหูผึ่ง..ไอ้คุณพี่เบิร์ดนี่ท่าจะเคยรู้จักมักจีกับเชี่ยพี่โตแน่ๆ
“..ถึงจะมีผัวเลวๆแบบมึงก็ยังไม่ไปหาคนอื่น ..เป็นกูน่ะ..สวยแบบนั้นไปหาอาเสี่ยหล่อๆเลี้ยงซะยังจะดีกว่า..ไม่จมปลักคอยส่งข้าวส่งน้ำให้ขี้คุกอย่างมึงร๊อก...โด่...”
“..ไอ้สัด !!! อย่ามาลามปามเมียกูน่ะมึง..ไปไกลๆเลยเชี่ยเบิร์ด...วอนส้นตีน...” ลุกพรวดขึ้นด่าแล้วกระแทกตัวนั่งปึง ท่าทางไม่พอใจที่ไอ้คุณพี่เบิร์ดสามารถจากไปโดยไร้ร่องรอยตีนประทับส่วนใดในร่างกาย
“..หวงจริงเว้ยพี่โต...ทีกับไอ้น้องๆในนี้ล่ะทิ้งๆขว้างๆเชียว..ดูไอ้ตัวนี้สิ..มันร้องหาเฮียมาเป็นอาทิตย์แล้ว..สงสัยติดสัดว่ะ...” คำพูดนั้นของไอ้คุณพี่ทินทำเอาผมปื้ด...หันไปมองหน้าคนพูดทันมี..ทำยังกะกุเป็นหมาตัวเมีย..
ความหงุดหงิดของผมเริ่มปะทุอีกรอบเมื่อเห็นท่าทีหัวเราะขำนั่น..
พอนึกถึงคำพุดตอนเช้ากับท่าทีแบบนั้นแล้ว ยิ่งชวนโมโหเข้าไปใหญ่..
“..เหอะ....” ส่งสายตาเหยียดๆมาให้ มือนั่นก็ทำท่าจะตบวืดมาที่หัว..แต่ผมรีบเอนหลบ..ไม่ปล่อยให้โดน..
“...โห..มีหลบน่ะมึง..วันนี้ไอ้เนมมันขึ้นน่ะพี่..โวยด่าแว้ดๆเหมือนคนล่ะคนเชียว..”พี่แม้กว่าพลางทำหน้าล้อผมทันควัน..ทำหน้าบึ้งปากขมิบๆ...อ้อ..การที่ไอ้ควายตัวนี้ลุกขึ้นสู้บ้าง..มันน่าขำงั้นสิ..
ผมจ้องหน้าพี่แม้กที่ยังล้อตัวเองอยู่อย่างไม่สบอารมณ์..
มันน่าขำมากใช่ไหม?..ผมเป็นตัวตลกในสายตาทุกคนสิน่ะ..
....ไอ้คนที่เอาแต่นิ่งเงียบ..ยอมคนอื่นๆเสมอมา..พอลองลุกขึ้นมาปกป้องตัวเอง ก็เลยกลายเป็นควายใช่มั้ย?..
..ไม่เห็นผมเป็น คน ในสายตาบ้างรึไง?.
...ไม่คิดจะรับรู้หรือเห็นใจผมบ้างเหรอ..ว่าความรู้สึกของคนที่โดนเหยียบย่ำ ดูแคลน มันเป็นยังไง.
ทั้งที่ผมก็เป็นแค่คนธรรมดา..แค่คนธรรมดาๆที่มีรักมีเกลียด มีโมโหมีทุกข์ใจ..
..ผมก็เป็นคนเหมือนกับพวกเขา..
..ท่าทีล้อเลียนของพี่แม้กชะงักไปแล้ว..ท่าทางจะเห็นหน้าตาเครียดๆของผม.. ขณะที่ผมหันไปมองผู้ชายอีกคนที่มองมาด้วยแววตาเย้ยเยาะ..ในสายตาของคนๆนี้...ผมเป็นอะไรกันแน่น่ะ..
....จะใช่คน..ที่มีความรู้สึกต่างๆนาๆเหมือนกับเขารึเปล่า..
หรือเขามองผมต่ำกว่านั้น...
“..งั้นเหรอ?..” ว่าพลางง้างมือจะมาโถมใส่กบาลผมอีกรอบ ไอ้เนมตาวาวใส่ทันที ไม่ยอมแล้วเฟร้ย !!!..
“............” ผมยกมือขึ้นกั้นฝ่ามือที่จะประเคนลงบนหัวตัวเองอย่างรวดเร็ว จ้องสบสายตาเข้มๆที่มองมาอย่างไม่หลบ..ไม่ยอมต่อไปแล้ว..
“..ทำไมว่ะ...วันนี้นึกฮึดอะไรขึ้นมา..” ไอ้พี่โตว่าพลางเอามือข้างหนึ่งจับแขนผมไว้แน่น...
“...จะริอาจ...ขืนสู้กับกูงั้นเหรอ?..ไอ้อ่อน...”
“.........”
“..จะมีปัญญาได้ซักแค่ไหน..กุล่ะอยากรู้จริงๆ..”
“........”
“...เงียบทำไมว่ะ !!!..ทำไมไม่พูด !!!เงียบหาพ่อมึงเหรอไอ้ควา....”
“..ก็หุบปากซักทีสิว่ะ !!!! “ ตะโกนใส่ทันที..จะอะไรนักหนา เอาแต่พูดอยู่ได้ นี่ต้องพูดเรื่องเดิมซ้ำๆซากๆอีกรึไง..
“..พี่แม่งไม่เคยฟังใครพูดอะไรเลย..บ้ารึเปล่าเอาแต่พร่ำคนเดียวอยู่ได้ ไม่เหนื่อยบ้างรึไง?..” ผมว่าพลางจ้องหน้าไอ้คุณพี่โตอย่างเดือดดาล..
“..ผมแค่ตามหาพี่..อยากมีเรื่องขอโทษ..แต่เหอะ..”
ผมสถบกับตัวเอง..ไอ้เรื่องขอโทษขอโพย..คงไม่ต้องหรอก
“..มึงคิดว่าตัวเองเป็นใคร?..” คำถามนั้นมาจากคนที่ยืนจ้องหน้าผมด้วยแววตาวาวโรจน์น่ากลัว..
“..คิดว่าเป็นเทวดาเหรอว่ะกุถึงต้องฟังมึง..หน้าอย่างมึงมีอะไรจะพูด..”
“..........”
“..คำขอโทษของมึง..ใครอยากจะได้..มาตามกูงกๆ..กับแค่ไอ้คำพูดไร้สาระ..โง่ไม่มีสิ้นสุด..”
“...พี่พูดแบบนี้ได้ยังไง..ไอ้เรื่องขอโทษ ถึงพี่จะไม่ฟัง..ผมก็แต่อยากบอก..แล้วไงพี่มีสิทธิ์ไรมาด่าผมว่ะ..”ผมว่าทันทีที่ได้ฟังคำตอบรับอันสุดแสนจะไร้มารยาทนั่น..ไม่พอยังจะมาด่า เชี่ยพี่โตเลี้ยงหมาไว้ในปากเหรอว่ะ
“....ว่ากุไม่มิสิทธิ์เหรอ?..”
“....หรืออยากให้กูเตือนสติมึงอีกรอบ..ว่านี่มันคือที่ไหน..ว่าที่นี่..ใครใหญ่ที่สุด...”ว่าแล้วกอดอกมองหน้าผมด้วยแววตาเยาะเย้ยอย่างชัดเจน..แล้วแสยะยิ้ม..เป็นรอยยิ้มน่ารังเกียจที่สุด.ในสายตาของผม..
“..เหมือนกูจะเล่นกับมึงมากไปสิน่ะ..ถึงไม่สำนึกตัวซักที..เด็กใหม่อย่างมึง คงไม่รู้..ว่าการที่เข้ามาแล้วไม่มีใครคุ้มกะลาหัว..มันเป็นยังไง?..”
“..กุจะเสียสละเวลา..อธิบายอะไรๆให้มึงฟังแบบชัดเจนที่สุด..เป็นครั้งสุดท้าย..”
“..ที่นี่เป็นที่ของกู..คนแข็งแกร่งเท่านั้นถึงจะอยู่รอด..คนอ่อนแออย่างมึง มีแต่จะต้องถูกเอาตีนเหยียบ เห็นว่ากุอ่อนให้เลยคิดจะแข็งข้อ..มึงอยากลองก็เอาสิจะได้รู้...ว่า นรก..น่ะ..มันเป็นยังไง..”
“..ไอ้ควายที่คิดว่าที่นี่เป็นสนามเด็กเล่นแบบมึง..น่าจะลองมองความจริงได้แล้ว..ว่ามึง..เป็นแค่หมาตัวนึง..ในสายตากูเท่านั้น..”
“...........” ผมเม้มปากแน่น... มองไปยังใบหน้าของคนพูด..ที่ยังแสยะยิ้มยโสนั่น...กำมือจนแน่น..จนหมัดนี้สั่นระริก..อยากจะเหวี่ยงไปใส่ใบหน้านั้นสักที..เพราะผมเกลียดใบหน้านั้น..เกลียดสายตานั้นเหลือเกิน..
“..ถ้ามึงอยาก เจอของจริง..ก็ลองก้าวออกจากโต๊ะที่มึงนั่งสิ..เผื่อ หมาตัวนึง..มันจะมีค่าขึ้นมาในสายตาคนอื่นเขาบ้าง...”
...คำพูดนั้นทำให้ผมตัวชาวูบ..หันไปมองหน้าคนที่อยู่รอบโต๊ะ..
ประสานสายตาหลายๆคู่..ที่ต่างเบือนหลบ..ไม่ก็ชาเฉย..จนน่าตกใจ..
..ผมเงยหน้าไปสบตาของผู้ชายตรงหน้าอีกครั้ง..เขายังยิ้มเยาะ...ราวกับสมเพชผมเต็มประดา..
“..แค่นี้ก็น่าจะรู้ได้แล้ว..ว่ามึงน่ะ...ไม่มีใครเลยสักคน...”
...ใช่...
ผมเพิ่งรู้ในวันนี้เอง..ว่าผม...ไม่ใช่สิ่งที่เรียกได้ว่า คน ในสายตาของพวกเขาแม้แต่น้อย..
...ภาพของผู้ชายใจดี ที่คอยดูแลช่วยเหลือเรื่องนั้นเรื่องนี้..ถึงจะโหดจะเหี้ยม จะรุนแรงฉุนเฉียวยังไง..ก็ยังถือได้ว่าช่วยดูแลผมตลอดมา ตั้งแต่ย่างเท้าก้าวมาที่นี่..พรรคพวกที่เป็นรุ่นพี่ใจดี มีแต่เรื่องสนุกๆมาเล่าสู่กันฟัง คอยแนะนำเรื่องนั้นเรื่องนี้..ตลอดสองสามสัปดาห์ที่ผ่านมา..
...สิ่งเหล่านั้นค่อยๆพังทลายลงไปช้าๆ..
สายตาของพวกเขา..บอกว่าไม่มีผมอยู่..
นัยน์ตาที่เบือนหลบ..ท่าทางเฉยชา..บอกเลยว่าไม่มีใครอยู่ข้างผม..
...กระทั่ง...
..ผมสบตาของคนพูดคำนั้นช้าๆ...สายตาของเขาเหยียดหยาม รอยยิ้มสมเพชเวทนา..การกระทำของเขา..ทุกสิ่ง..ทุกอย่าง..
...ทำไปเพราะเห็นผมเป็นแค่หมาตัวนึง..?...
“..จะให้เห่าให้ฟังมั้ยล่ะ..?...”
.......Oh bad Guy!! รักร้ายๆของผู้ชายในคุก.......
ภาษาไทยในเรือนจำวันนี้ ขอเสนอ
ใส่เบาท์/บุ๊ยบุ่ย - แสร้งเป็นไม่ได้ยิน หรือทำเป็นไม่รู้เรื่อง โดยเฉพาะกรณีได้ของเยี่ยมจากญาติ เพราะเกรงว่าเพื่อนจะแบ่งของเยี่ยม
ลื่น/เล่นสเก๊ต/เหยียบเปลือกกล้วย/เล่นสกีน้ำแข็ง - ใช้เย้ยหยันผู้ต้องขังที่ภรรยาไปแต่งงานใหม่
ขึ้น - โกรธ
สาระน่ารู้ : กล้วยบวชชี..อาถรรพ์ที่นักโทษชายทุกคนไม่อยากเจอ
กล้วยบวชชี หรือกล้วยเชื่อม หรือผลิตภัณฑ์ต่างๆจากกล้วยนั้น จะเป็นของที่นักโทษชายที่มีแฟนหรือภรรยาอยู่ก่อนแล้วมาเข้าคุกไม่อยากได้รับเป็นของฝากจากแฟนหรือภรรยาของตนมากที่สุด เพราะถือว่าเป็นอาถรรพ์ โดยเฉพาะกล้วยบวชชี ว่ากันว่านักโทษคนใดที่แฟนมาเยี่ยมแล้วซื้อกล้วยบวชชีมาเป็นของฝาก ไม่นานแฟนสาวคนนั้นจะขอเลิกและไปมีแฟนใหม่.. ดังนั้น นักโทษทุกคนมักจะกำชับไม่ให้แฟนสาวของตนซื้อกล้วยบวชชีมาให้เป็นของฝาก
ที่มา : หนังสือ เรื่องเล่าจากห้องขัง
Talk..
“..จะให้เห่าให้ฟังมั้ยล่ะ..?...”
โห..เจ็บปวด..

บอกตามตรงว่าขนาดเป็นคนเขียนเอง พิมพ์มาถึงตรงนี้ยังเจ็บจี๊ดเลยเหอะ.. ในความคิดของไรท์เตอร์ ตอนนี้เนมชนะน่ะ..เพราะแค่ประโยคเดียว น็อกทุกคำพูดในตอนนี้ไปเลย..
แต่เรื่องราวของตอนนี้ ยังไงก็ไม่ชนะสิน่ะ..
พี่โตค่ะ..เชิญมึงทำตัวแบบนี้ต่อไป..ไว้ถึงเวลาเอาคืนเมื่อไหร่..จะซึ้งค่ะ...จะซึ้ง..
เอาเป็นว่าตอนนี้เพื่อจะให้น้องเนมของพวกเราโตขึ้น..บางทีการหักดิบก็เป็นอะไรที่เข้าท่าที่สุด..
...สิ่งที่เจอตอนนี้...ขอให้คิดว่าเพื่อให้เข้มแข็งขึ้นแล้วกันน่ะ..
ส่วนพี่โต..
รักเมียดีนี่เนอะ..ซักวันจะฝากกิ้งเอากล้วยบวชชีไปเยี่ยมค่ะ

เชิญตบอิพี่โตตามสบาย
// เจอฮุกกลับตัวใครตัวมันเน้อ..
ขอบคุณที่ติดตามค่ะ