Imprison 19: ยอมจำนน
“..จะให้เห่าให้ฟังมั้ยล่ะ..?...” ผลั่ว !!!!!!!
เจ็บ....
...ผมหลับตาลงช้าๆ...ขณะที่รู้สึกว่าร่างของตัวเองถูกแรงกระแทกนั้นส่งให้ลงไปกองอยู่กับพื้น ริมฝีปากของผมช้าวูบ..จากนั้นก็เจ็บแปลบ..
หูผมได้ยินเสียงเอะอะ..เสียงตวาดโวยวาย..ขณะที่ตัวเองได้แต่นอนกลิ้งโค่โล่..ไม่ลุกไปไหน
แปะ....แปะ......
ผมยกมือลูบแก้มตัวเองที่แสบและเจ็บแปลบ..จากสายตาที่หรุบต่ำมองเห็นหยดเลือดสีเข้มไหลลงพื้น..เป็นดวงๆ..
ผมได้แต่แสยะยิ้ม..เงยหน้าไปมองคนที่ทำร้ายตัวเองอย่างชาชิน..
....ผมเห็นเขากำลังโมโหโกรธาอย่างที่เป็นบ่อยๆ เท้าทั้งสองข้างยังแล่นถลาจะมาทำร้ายร่างกายผม แต่ทว่าไม่อาจทำได้เพราะมีพรรคพวกลูกน้องหลายคนยื้อยุดเขาไว้ เสียงเอะอะห้ามปรามนั้นแว่วเข้าหู..เสียงนั้นไม่ได้ห้ามปรามเพราะความห่วงใย..ไม่ใช่หรอก...ก็แค่กลัวจะมีเรื่องราวใหญ่โตเพราะที่ๆผมอยู่มันคือโรงอาหาร ไม่ใช่ที่ลับตาอื่นๆ...
“...มึงปล่อย !!! “ เขาสลัดแขนพรรคพวกออกแล้วหันมามองหน้าผม..ผมที่ยังคงนั่งก้นจ้ำเบ้าอยู่บนพื้น มองสบตาเขาอย่างไม่หลบ..พี่โตสถบออกมาดังๆหลายคำ.ก่อนจะร้องบอกพรรคพวก..
“..มึงเอาตัวไอ้เหี้ยนี่ไปรับน้องหน่อยซิ...”
ก่อนจะแสยะยิ้มที่น่ารังเกียจนั้นมองมาที่ผมอีกครา...
ผมหลับตาลงเมื่อถูกหิ้วปีกออกมาจากโรงอาหารด้วยแขนของใครหลายคน ผมได้ยินเสียงผู้คุมเอะอะแต่ก็มีคนบอกแค่ว่าจะไปทำแผล..ผู้คุมจึงปล่อยไปเพราะเห็นพี่กันย์ยืนอยู่ด้วย..
...ผมเหลือบมองหน้าพี่กันย์ที่แสนใจดีเล็กน้อย..เขามองสบตาผมอย่างห่วงใย..แต่กลับนิ่ง ทำได้แค่มองตาม..
...เขายืนมองผมอยู่ตรงประตูโรงอาหาร..ยืนอยู่หลังผู้คุมที่ทำเพียงแค่เหลือบตามองแล้วเมินเฉย..
...อิทธิพล...
ผมเพิ่งซึ่งกับความหมายของคำนี้ ก็ในตอนนี้เอง..
ผลั่วะ !!! ตุ๊บ !! ตับ..ผลั่ว !!...
เจ็บ...ชา...
ร้อนไปทั้งตัว..แสบไปทั้งหน้า...
เลือดกำเดาของผมที่เคยหยดแหมะ บัดนี้มันเปรอะไปทั่ว ทั้งปากทั้งหน้า กระทั่งไหลย้อยไปตามลำตัวของผม...
สายตาที่พร่ามัวมองเห็นเพียงฝ่าเท้ามากมายที่รุมเข้ามา..ปรี่มาทำร้ายผมราวกับเจ็บแค้นแสนสาหัส..
ผมได้ยินเสียงหัวเราะเบาๆ...มันดังแผ่วเบา..แต่กลับชัดเจนยิ่งในสมองของผม..
....เสียงหัวเราะของคนๆนั้น..
คนที่ผมคิดว่าเขาเป็น..พี่ชาย...
...นับแต่ผมก้าวเข้ามาในคุก..ก้าวเข้ามาในที่แห่งนี้เป็นครั้งแรก ความหวั่นกลัว ความโดดเดี่ยวเปลี่ยวเหงาและความรวดร้าวในอกนั้นมีมากมาย..ผมกลัวทุกสิ่งทุกอย่าง หวาดหวั่นต่อทุกสิ่งที่เข้ามา กระทั่งภาพของพ่อเลี้ยงนอนจมกองเลือดยังหลอกหลอน..กลัวมันไปซะทุกอย่าง..
...แต่แล้วผมก็ได้เจอกับผู้ชายคนนั้น...เขาอาจจะไม่ใช่คนที่คอยเฝ้าประคบประหงม แต่อย่างไรเขาก็เข้ามาดูแลผม..ทำให้ผมไม่อยู่คนเดียว อย่างน้อยก็มีพี่..มีเพื่อน..ทำให้ผมนับถือเขาเหมือนพี่ชายคนหนึ่ง..
...พี่ชายที่ทำให้ผมสามารถใช้ชีวิตอยู่ในที่คุมขังอันแสนโหดร้ายได้
..มันสนุกหรือ..กับการที่ต้องมาอยู่ในที่ซึ่งไม่รู้จัก กับคนทีตัวเองไม่คุ้นเคย กระทั่งโดนจำกัดอิสรภาพ..ไม่ให้ออกไปไหนได้ตามชอบ..
...ชีวิตที่แสนน่ากลัวและสังคมอันมืดมนที่ผมต้องพบเจอ จากการกระทำที่เกิดจากบาปของผม..ความผิดของผม..
หากไม่มีเขา..ไม่มีพี่โตที่เข้ามา..ผมจะใช้ชีวิตในนี้แบบไหน..ผมก็ยังไม่รู้...
..ทั้งๆที่เป็นแบบนั้น..ทั้งๆที่คิดแบบนั้น...แต่ตอนนี้...
ผมรู้สึกเหมือนโดนตบหน้าเข้าจังเบ้อเร่อ..เจ็บแสบไปหมดราวกับว่าโดนน้ำกรดราดลงบนใบหน้า...
..เมื่อพบว่าที่แท้แล้ว..เขาไม่ได้มองผมเป็นคนด้วยซ้ำ..
“..ที่นี่เป็นที่ของกู..คนแข็งแกร่งเท่านั้นถึงจะอยู่รอด..คนอ่อนแออย่างมึง มีแต่จะต้องถูกเอาตีนเหยียบ..”
ตอนนี้...มันก็เป็นแบบนั้นนี่...
คิดแล้วก็อดขำไม่ได้...
“..เห้ยพี่...ไอ้นี่มันหัวเราะว่ะ...บ้าไปรึเปล่าว่ะ !!! “
“..ช่างหัวมัน...”
คำพูดนั้นทำให้ผมต้องหัวเราะอีกระลอก แล้วสำลักออกมาเมื่อถูกเตะเข้าที่ท้องจังเบ้อเร่อ...
..เจ็บ...
ผมจุกจนตัวงอ...
แต่เจ็บตัวยังไม่เท่าไหร่...เจ็บใจ..มันกลับทำให้เสียความรู้สึกมากกว่า..
....ผมได้แต่นิ่ง...พูดไปก็เท่านั้น..ร้องไปก็เปล่าประโยชน์..จะขอความเห็นใจจากคนที่ไม่เคยเห็นเราอยู่ในสายตาไปเพื่ออะไรกัน..
“...ตายรึยังว่ะพี่..”
ใครสักคนพูดออกมาแบบนั้น..ขณะที่ความเจ็บปวดซึ่งรุมเร้าดูจะเบาบาง..ลงบ้าง..
“..อึดเป็นแมงสาบแบบนี้คงไม่ตายหรอก..มึงไปเอาข้าวมาให้มันกินซิ..” คำพุดนั้นทำให้ผมงวยงงไม่น้อย..ผมหรี่ตามองร่างสูงใหญ่ที่ยืนค้ำหัว..เขายิ้มแสยะใส่ผมแบบที่ชอบทำ..แล้วก้มตัวลงมาหา..
“..อึก !!...” ผมครางออกมาเมื่อมือหนาบีบปลายคางแน่น..ผมขมวดคิ้ว..ก่อนจะสบตาคู่นั้น..ดวงตาสีเข้มที่บัดนี้วาววับไปด้วยแรงโทสะ..ก่อนจะเอ่ยเย้ยเยาะ..
“...ทั้งยิ้มทั้งหัวเราะ..ท่าจะชอบแบบนี้สิน่ะ...”
พี่โตเอื้อมมือรับจานข้าวที่ผมยังไม่ได้เตะมาจากใครคนหนึ่ง..เขาวางจานลงตรงหน้าผม...
ยิ้มให้ผม...รอยยิ้มบางๆ..ราวกับสุขสบายใจนักหนา..รอยยิ้มที่ผมเคยบ่นว่าไม่เคยได้มองมัน..
บัดนี้มันมาปรากฏอยู่ตรงหน้า..
พร้อมกับจานข้าวในมือของเขา..พี่โตยกจานข้าวขึ้นมาในระดับสายตาของผม..
...ก่อนจะเทมันลงบนพื้นช้าๆ..
“..ถ้าเป็นหมา..ก็ต้องกินแบบหมาได้ซิว่ะ..”
คำพูดนั้นทำให้ผมนิ่งเงียบ..ขณะที่คนพูดตบปากผมเบาๆ..แล้วออกแรงกดใบหน้าผมจ่อตรงจานข้าวที่ถูกเทลงบนพื้น..
...พื้นซีเมนต์หลังโรงอาหารที่แสนสกปรก..สถานที่ซึ่งเขาเคยพาผมมาดูการ”ทำงาน”ของเมฆ
...ผมมองกองอาหารที่เคยอยู๋บนจานของตัวเอง..
....มองสบตาคนที่เย้ยเยาะ...
ค่อยๆเอื้อมมือลงไปหยิบข้าวแดงที่กองอยู่บนพื้นปูนแข็งๆอย่างเชื่องช้า..เงยหน้าขึ้นมาสบตาคนพูด...
......ยิ้ม...แล้วกลืนมันเข้าปาก...
“..พอใจรึยัง?...”
ผลั่ว !!!!!!
ฝ่าเท้าหนักปลิวหวือมากระแทกท้องผมเต็มแรงจนผมต้องขย้อนของที่เพิ่งเอาเข้าปากออกมา เขาแตะผมแรงๆหลายครั้งพร้อมกับเสียงพ่นก่นด่าดังลั่น กระทั่งมีเสียงเอ็ดตะโรห้ามความเจ็บปวดนั้นถึงจะหายไปได้..
.... ผมหรี่ตามองผ่านดวงตาที่ปรือต่ำของตัวเอง..ยังเห็นจานข้าวกลิ้งโค่โร่..และเศษข้าวที่ผมขย้อนออกมา..พลันเสียงตะโกนเหมือนฟ้าผ่าก็ดังลั่นข้างหู
“..ถ้าชอบแดกนักก็กินเข้าไปให้หมด !!..อย่าให้เหลือน่ะมึง..ไอ้ทิน !! มึงเฝ้ามันเอาไว้..ถ้าไม่หมดก็ให้มันเลียซะ !!!! ...”
“............” ผมยิ้มรับคำพูดนั้นอย่างไร้คำพุดตอบโต้..กระทั่งเงาดำของคนหลายคนหายไปจากสถานที่นี้
..ผมจึงค่อยพยุงตัวขึ้นมานั่งอย่างยากลำบาก..สายตามัวพร่ามองเห็นร่องรอยการทำร้ายกระจายทั่วร่าง..ดีที่พวกเขาไม่ได้ใส่รองเท้า..ไม่อย่างนั้นแผลผมคงเยอะกว่านี่นับเท่าตัว..
ผมมองไปยังเศษข้าวที่กองอยู่บนพื้น..ความรู้สึกคลื่นเหียน อยากอาเจียนออกมาให้รู้แล้วรู้รอดยังตามมาหลอกหลอน..กระทั่งแค่คิด..ยังต้องขย้อนออกมาอีกรอบ..
“..แหวะ....” ผมก้มมองซากอาเจียนของตัวเอง..มันมีสีแดงๆปนติด..ไม่ใช่แค่เพราะสีของข้าว..แต่เป็นเพราะความเลือดที่คละคลุ้งทั่วปากของผมด้วยเช่นกัน..
..แต่ถึงจะรู้สึกรังเกียจและคลื่นเหียนแค่ไหน..ท้องของผมกลับส่งเสียงร้องลั่น....ทำให้ผมต้องเอื้อมมือที่สั่นระริกของตัวเองหยิบมันเข้าปาก...
..อยากให้กินแบบหมาสิน่ะ...
..อยากให้เป็นเหมือนหมาตัวนึงใช่ไหม?...
ขอบตาของผมร้อนผ่าว..ความรู้สึกพลุ้งพล่านอัดแน่นอยู่ภายในใจ..ริมฝีปากสั่นระริก..แต่กระนั้น..ขอบตาผมก็แห้งผาก..
...ผมไม่ต้องการจะร้องไห้ให้กับการกระทำแบบนี้...ไม่ต้องการจะร้องไห้ให้ใครเห็นอีกแล้ว...
“..พอได้แล้ว...มึงจะนั่งกินจนหมดเลยหรือไง...” เสียงทักเหนือหัวทำให้ผมชะงัก..บรรยากาศโดยรอบมืดสลัว..ผมจึงเห็นแค่เสี้ยวหน้าบางส่วน..แต่น้ำเสียงนั่น..ผมจำได้ว่ามันเป็นเสียงของใคร..
“..ก็ผมหิวนี่...” ตอบ..แต่ยิ้มไม่ออกเพราะเจ็บแปลบตรงมุมปาก..
“..เอานี่ไปกิน..” บอกพร้อมกับวางจานข้าวมาตรงหน้า ผมมองหน้าพี่เขาอีกรอบ..คนปากหมาหน้าด้านพูดจาไม่ดี..เพิ่งรู้ว่าใจดีเป็นกับเขาเหมือนกัน..
“..กินไปซะ...มึงนี่น้า...เล่นกับใครไม่เล่น..เสือกมาท้าเหี้ยพี่โตซะได้..” พี่ทินว่าพลางถอนใจเฮ้อให้ได้ยิน..ผมหยิบช้อน..ก้มกินข้าวตรงหน้าเงียบๆไม่ต่อปากต่อคำอะไร..
“..ทั้งที่กุว่าพี่เหี้ยนี่ใจดีกับมึงแล้วเชียว..” บ่นอยู่คนเดียวแล้วเงียบไป..คงรอให้ผมกินข้าวหมด..
“.เงียบทำไมว่ะ..เดี๋ยวกุก็ซัดมึงอีกซักรอบหรอก !!..” บ่นออกมาเมื่อผ่านไปได้ไม่นาน..จะทำก็ทำไปสิ..ผมจะค้านอะไรได้..
“...เจ็บ..ปาก....” ผมงึมงำตอบแล้วร้องซี้ด...เจ็บชะมัด..
“...สมอยู่หรอก...เสือกต่อปากต่อคำ...ทำไมมึงดื้องี้ว่ะ..เหี้ยพี่โตอุตส่าห์จะเลี้ยง..ก็เชื่องให้มันลากๆจูงๆไปเดี๋ยวก็สบายแล้ว...”เจ้าตัวว่าพลางถอนใจเฮือกๆ..
“..กินไปซะ..เดี๋ยวกุไปตามไอ้กันย์ให้..หายหัวไปไหนไม่รู้...” ว่าพลางลุกขึ้นปัดกางเกงลวกๆ..
“...ถ้ามีคนทำกับพี่แบบนี้..ทั้งที่รู้ว่าตัวเองเป็นหมา..ก็จะยอมงั้นเหรอ?...”พูดประโยคยาวๆนี่มันเจ็บชะมัด..
“..มึงรู้มั้ยไอ้เนม..” คนพูดก้มหน้ามามองหน้าผมออกปากสั่งสอนอย่างจริงจังเป็นครั้งแรก..
“..ในนี้...ไม่ว่าใครจะมองกูเป็นหมา..เป็นควาย..หรือเป็นคน..ขอแค่ที่มีชีวิตรอด..จะเป็นอะไรก็ไม่สำคัญหรอก...”
ผมยิ้มน้อยๆ..มองตามหลังพี่ทินที่เดินห่างออกไปท่ามกลางความมืดสลัวที่มาเยือน..
...ผมมันโง่เองสิน่ะที่ยังคิดจะมีศักดิ์ศรีอยู่บ้าง..
.. ท่ามกลางผู้คน ที่มองว่าผู้อื่นไม่ใช่ คน ..
“..ไอ้ควายที่คิดว่าที่นี่เป็นสนามเด็กเล่นแบบมึง..น่าจะลองมองความจริงได้แล้ว..ว่ามึง..เป็นแค่หมาตัวนึง..ในสายตากูเท่านั้น..”
คำพูดที่ดังขึ้นมาในหัวอีกรอบ..ทำให้ผมได้แต่แค่นหัวเราะ..แม้จะเจ็บทั้งปากและปวดหนึบในหัวใจ..
...เป็นแค่หมาตัวนึง...
..ผมก้มมองจานข้าวตรงหน้า...หยิบช้อนมาตักกินเป็นครั้งสุดท้าย..ก่อนจะเทมันรวมกับ “อาหารหมา” ก่อนหน้านี้..
...ถ้าอยากให้เป็นหมานัก...ก็จะเป็นให้ดู...
.......Oh bad Guy!! รักร้ายๆของผู้ชายในคุก.......
ไรท์เตอร์ไม่มีอะไรจะพูด...นอกจาก...
ปวดฟันว้อยยยย !!!!!!!
เจ็บปวดรวดร้าวทรมารเป็นที่สุด..นั่งสอบทั้งๆที่ปวดฟันนี่มันนรกแท้ๆเลยเชียว !!!..
ส่นเรื่องกินอาหารบนพื้นซีเมนต์แบบเนม...ไรท์เตอร์เคยทำค่ะ..ไปเข้าค่ายคุณธรรมตอนมอหนึ่ง กินเพราะทำผิด..ทำให้รุ่นพี่ต้องโดนลงโทษกินกันทั้งชั้นปีเลย..ยังจำได้ว่าความรู้สึกคอนนั้นมัน...สุดๆ..แค่ไหน...
แต่ในกรณีของเนม...เจ็บและขยะแขยงกว่าไรท์เตอร์หลายสิบเท่า
พี่โตค่ะ...
ไปตายซะเถอะเมิงงงง ...

ขอบคุณที่ติดตามค่ะ