"นั่นใครน่ะ ซึคิจัง?" เสียงใสปะปนหอบน้อย ๆ ตั้งคำถามขึ้นทันทีเมื่อได้ยินเสียง เป็นเสียงที่ไม่เบานัก เพราะมันถึงกับทำให้บานประตูใหญ่ถูกกระแทกจนสลักแทบหลุดออก
ประตูเปิดแล้ว แต่โซนที่นอนนั้นถูกออกแบบให้อยู่ลึกเข้าด้านใน ทำให้คนด้านนอกหน้าประตูมองไม่เห็นเตียงหรือแม้แต่ตัวคนถาม อิทสึกิพยายามเพ่งมองเข้าไปข้างใน ทว่ากลับมีคนมาขวางทางเขาไว้ไม่ให้เข้าไปได้
ชายหนุ่มผู้ถูกถามยังไม่ได้ตอบอะไร เพราะการมาอย่างกะทันหัน ทำให้ตัวเขาเองงุนงงเช่นกัน รับรู้แต่เพียงว่า ยังไงก็ให้คนแปลกหน้าผู้นี้เข้าไปในห้องตอนนี้ไม่ได้แน่ ๆ คนผู้นี้ถึงกับพังประตูเข้ามาด้วยความโกรธ ไม่ว่าจะเป็นใคร ก็ไม่น่าไว้ใจทั้งนั้น เขาจึงตัดสินใจเอาตัวเข้ามาขวางรับหน้าไว้ก่อน
ดวงตาคมมองลอดแว่นหนา จ้องมองแขกไม่ได้รับเชิญครู่หนึ่งด้วยสีหน้าประหลาดใจ ก่อนที่จะยิ้มกับตัวเองอย่างจำได้ คนเบื้องหน้าไม่ใช่คนแปลกหน้าสำหรับเขา เพราะเคยเห็นภาพถ่ายคู่ที่คานาเมะเคยนำมาให้ดูหลายต่อหลายครั้ง ด้วยความเห่อแฟนคนใหม่
"อืม...แค่คนเมาทุบประตูผิดห้องน่ะ" เขาตอบด้วยน้ำเสียงเกือบปกติเมื่อพอจะปะติดปะต่อเรื่องราวได้ ใบหน้าใต้แว่นมีรอยยิ้มน้อย ๆ
"ทำต่อไปเถอะ คานาเมะ เจ้านั่นไปแล้วล่ะ" พูดต่อง่าย ๆ ปล่อยให้คนที่หน้าห้อง งงงันกับท่าทางที่ผิดคาดนั้นเพียงคนเดียว
สีหน้าที่เต็มไปด้วยคำถาม แต่อิทสึกิก็ฉลาดพอที่จะหยุดยั้งคำถามลงโดยอัตโนมัติ เมื่อเห็นนิ้วเรียวยาวหยุดที่ริมฝีปากของอีกฝ่าย เชิงพยักเพยิดให้ตามเข้ามา ชายหนุ่มระงับอารมณ์โกรธได้อย่างรวดเร็ว โดยนิสัยที่เคยเยือกเย็นอยู่เสมอ เพราะรู้สึกได้ว่าในห้อง ไม่ได้เป็นอย่างที่เขาคาดคิด
คนที่เดินนำหน้ายังคงเป็นชายแปลกหน้าสวมแว่นคงแก่เรียน ที่เข้ามาในโรงแรมพร้อม ๆ กับคานาเมะ เขายังคงแต่งกายชุดสุภาพชุดเดิม ไม่ได้มีร่องรอยการร่วมกิจกรรมใด ๆ ทั้งสิ้น และเหมือนกับว่า ตอนที่ประตูเปิดออก คน ๆ นี้ จะกำลังนอนเสียบหูฟังเพลงอยู่บนโซฟา โดยไม่ได้สนใจในส่วนถัดไปของห้องมากนักด้วยซ้ำ
พอตั้งหลักได้ อิทสึกิก็ตัดสินใจก้าวตามเข้ามาอย่างเยือกเย็นกว่าเดิม แม้จะแปลกใจ แต่คล้ายกับว่า คนบนเตียงจะไม่รับรู้ต่อการเข้ามาของเขานัก
คำถามมากมายผุดขึ้นในใจ แต่ชายหนุ่มก็ยังคงเดินตามเข้าไป
โผล่พ้นจากโซนนั่งเล่นในห้องนั้น ก็เข้าสู่ส่วนห้องนอนที่อยู่ลึกเข้าไป ห้องนี้คล้ายกับห้องข้าง ๆ ที่เขาใช้แอบฟังอยู่เมื่อครู่ คือมีทั้งส่วนนั่งพักดูทีวี และโซนที่นอน กั้นสองฝั่งเป็นอิสระจากกัน ด้วยผ้าม่านหนาลงดิ้นทองดูหรูหรา กันเสียงได้ระดับหนึ่ง ราคาค่าห้องคงไม่เบาทีเดียว แต่ไม่น่าแปลกใจนัก สำหรับคนอย่างคานาเมะ ที่จะเลือกห้อง 'ที่ดีที่สุด' สำหรับทำกิจกรรมบนเตียง
พอแหวกม่านเข้ามาจึงจะเจอส่วนของห้องนอนจริง ๆ ซึ่งออกแบบไว้สำหรับกิจกรรม SM ไปในตัว แทบไม่ต้องดูชายหนุ่มก็จำได้ เพราะการออกแบบห้องนี้ ทำโดยเขาเอง เตียงกลางห้องขนาดคิงไซด์ มีเสาเหล็กแข็งแรงสี่ด้านยึดถึงเพดาน พร้อมโซ่คล้องห้อยไว้สำหรับใส่ล็อคทั้งแขนและขา หากแขกผู้ใช้ต้องการ รวมถึงมีอุปกรณ์มากมายใส่ตู้โชว์ด้านข้างพร้อมสรรพให้เช่ายืม ในราคาแพงลิบลิ่ว ทุกอย่างเป็นสินค้าชั้นเยี่ยม สำหรับแขกระดับวีไอพี สั่งตรงจากร้านของเขาเช่นกัน
ทว่าสิ่งที่สนใจ ไม่ใช่ตัวห้อง แต่เป็นคนบนเตียงต่างหาก
"อะ...อื้อ...อึ๊...." เสียงครางเบา ๆ เริ่มขึ้นอีก คนคุ้นตาบนเตียง ไม่ต้องเพ่งดูมากก็แน่ใจว่าเป็นใคร เขายังจำได้ดี ไม่ว่าจะน้ำเสียงเร่าร้อนปานจะหลอมละลายได้ หรือแม้กระทั่งร่างขาวนวลน่าลูบไล้ ผิวเนียนนุ่มคุ้นมือ ที่ไม่ได้สัมผัสมาหลายวันแล้ว ทั้ง ๆ ที่นอนเตียงเดียวกันอยู่ทุกคืนแท้ ๆ
มันช่างนานเหลือเกิน...
อิทสึกิกลืนน้ำลายลงคอที่แห้งผาก ภาพตรงหน้าตรึงเขาไว้ ร่างบอบบางเปลือยเปล่าบนเตียงนุ่ม มีผ้าสีดำสนิทผูกคาดดวงตา นั่นเป็นสาเหตุที่ทำให้คานาเมะไม่ล่วงรู้ถึงการมาของเขาเลย
ร่างกายที่ปั่นป่วนยังคงร่ำร้องต้องการมากกว่าเดิม แม้ไม่ได้เห็นว่าในยามนี้มีใครบางคนจับจ้องเรือนร่างตนอยู่ หมอนใบหนึ่งหนุนอยู่ด้านหลังให้การนอนอยู่ในท่ากึ่งนั่ง ชันเข่าขึ้นอ้าขาออกกว้าง มือข้างถนัดยังคงจับยึดของเล่นชิ้นหนึ่งแน่บแน่น พลางขยับเข้าออกไปมา ทุกคราที่ดันเข้าลึกเสียดสี เรียกเสียงหวานร่ำร้องแผ่วเบาเป็นระยะ สะโพกได้รูปขยับตามแทบจะกลืนกินทุกอย่างให้หมดสิ้นลง
ของเล่นชิ้นยาวสั่นไหวด้วยตัวเอง ขยับหมุนวนเชื่องช้าสลับเร็วตามปลายนิ้วบงการ ร่างกายที่ร้อนรุ่มสั่นสะท้าน ยากต้านทานแรงผลักดันจากเบื้องลึก ยิ่งกระตุ้นยิ่งสั่นไหว ยิ่งยากจะหยุด ทำได้เพียงขยับมันให้ไวขึ้นอีก ปลายเรียวยาวกดลึกแทรกเข้า ขยับครั้งใดภายในก็คล้ายสั่นไหวและบีบรัดกว่าเดิม สัมผัสปลุกเร้ารุนแรงชักนำให้สติแทบหลุดลอย ทำให้คนบนเตียงไม่รับรู้การเข้ามาของผู้ใดทั้งสิ้น ราวถูกละลอกคลื่นความปรารถนาสาดซัดจิตใจจนยากจะควบคุมไว้ได้
"อา...เข้ามา...ลึกอีก...." ริมฝีปากสีสดร่ำร้องกระเส่า กระวนกระวายคล้ายการเข้ามาเท่านี้ยังไม่อาจเติมเต็มให้เพียงพอ
ทั้งคู่หยุดยืนมองอยู่เบื้องหน้าครู่หนึ่งแล้ว อย่างเงียบเชียบ "ผมไม่ได้ทำอะไรเขานะ เขาทำของเขาเอง อย่าเข้าใจผิดล่ะ" คนด้านข้างที่นำพาเขาเข้ามากระซิบเบา ๆ พยักเพยิดไปที่คนบนเตียงอย่างจะบอกความนัยบางอย่าง ก่อนจะผละจากไป โดยไม่ได้สนใจกับภาพที่เห็นนัก ทิ้งให้ชายหนุ่มมาใหม่ ผู้ยังคงยืนตะลึงงันกับภาพที่เห็นไว้เพียงลำพัง
"อ๊า...!" ร่างกายกระตุกเฮือกเป็นพัก ๆ ดิ้นรนอย่างอึดอัดกว่าเดิม รู้สึกได้เต็มอกว่าความต้องการล้นเหลือของตนเองนั้น มีมากกว่าสิ่งที่ได้รับมากมายนัก ของเล่นชิ้นน้อยไม่อาจเทียบเคียงคน ๆ นั้น คนที่เฝ้าคิดถึงตลอดมาในช่วงหลายวันมานี้
ไม่พอจริง ๆ...
"อิ..." เสียงแผ่วเบาจนชายหนุ่มผู้ยืนมองอดใจไม่ไหว ต้องก้าวเข้าไปใกล้กว่าเดิม "อิทจัง..."
ดวงตาพริ้มหลับใต้ผ้าดำสนิทเริ่มครุ่นคิด จินตนาการไปทีละน้อย อยากให้มือตนนั้นเป็นมือของเขาคนนั้น... และการแทรกเข้ามาอย่างอบอุ่นอ่อนโยน ความอบอุ่นที่โหยหามาตลอด แต่ไม่ได้มา ความต้องการที่ไม่ได้รับการตอบสนอง มันทรมานนัก
เขาทนไม่ได้ที่มันจะเป็นเช่นนั้น... ไม่ได้จริง ๆ
แต่จะบอกสิ่งที่ต้องการไปตรง ๆ ก็ทำไม่ได้เช่นกัน
ได้แต่ปล่อยให้มันดำเนินต่อไปอย่างนี้...
แผ่นหลังชุ่มเหงื่อทิ้งตัวกลับไปยังผืนเตียงนุ่ม ไม่ว่าจะทำยังไง มันก็ไม่หายไป ความรู้สึกต้องการ ...ต้องการเขาคนนั้น
ต้องการมาก....
หายใจเข้าลึกก่อนจะปรับความแรงอีกครั้ง
ถ้ามันไม่รู้สึก ก็เอาให้มันแรง ๆ ไปเลย!
มืออีกข้างลูบไล้ร่างกายเนียนนุ่ม สะกิดแผ่วเบาที่ยอดอก นวดคลึงบีบรัดราวการเล้าโลมที่เคยได้รับ
เมื่อไหร่เขาคนนั้นจะกลับมา เมื่อไหร่มันจะเหมือนเดิม ...กลับมาทำแบบนี้ให้...ทำทุกอย่างที่ต้องการ โดยแทบไม่จำเป็นต้องระบุบอก ไม่ว่าจะแตะสัมผัสที่ส่วนไหน ร่างกายของเขาก็ตื่นตัว ก็ต้องการ และ...ได้รับการตอบสนองจนพอเพียง
มันเป็นแค่ความฝันแล้วใช่มั้ย... ถ้าต้องเป็นแบบนั้น เขาก็ไม่อยากจะลืมตาขึ้นมาอีก
ภาพชายหนุ่มในจินตนาการแทรกกายเข้าลึก ภาพที่ทับซ้อน แทนที่ของเล่นที่ล่วงล้ำ...
ของเล่น ที่ไร้ซึ่งชีวิตและจิตใจ ดวงตาที่ถูกปิดอย่างจงใจ ทำเพื่อให้เห็นภาพนั้นชัดเจนขึ้น แม้รู้ดีว่ามันไร้ประโยชน์
จะอย่างไร ก็ยังอยากนึกถึงอยู่ดี
รสสัมผัสที่ตราตรึง ยากลืมเลือนได้...
"อ๊า!! อิทจัง...อื้อ.....มากกว่านี้...ชั้นต้องการ...."
ของเล่นชิ้นน้อยสั่นไหวรุนแรงจนปั่นป่วน ร่างบอบบางเกร็งแน่นจนต้องหวีดร้องดังขึ้น เรือนร่างหอมหวานด้วยฟีโรโมนเข้มข้น แอ่นสะท้านยากระงับความแปรปรวนที่ได้รับ เล่นเอาคนจ้องมองชะงักค้างเคลิบเคลิ้มไม่รู้ตัว
"อา...อึ๊...!"
ร่างกายกระสับกระส่ายมากกว่าเดิม ความแรงระดับนี้ปกติแล้วเคยถูกอิทสึกิห้ามไว้ไม่ให้ใช้ เพราะมันแรงเกินไปสำหรับช่องทางละเอียดอ่อนเช่นนี้ แต่ในยามนี้ มันไม่ไหวแล้ว...
ความต้องการที่ล้นเอ่อ ยากจะหาสิ่งใดช่วยบรรเทา ไม่ว่าจะใช้ของเล่นอีกสักกี่ชิ้นก็ตาม
"อิทจัง...." ช่องทางคับแคบเริ่มเจ็บแปลบ การขยับที่รุนแรงหากไม่อาจกระตุ้นให้ไปถึง มันทรมานยิ่งกว่า แต่เขาก็หยุดมันไม่ได้ เมื่อไม่มีชายหนุ่มอยู่ด้วย เขาก็ยิ่งทรมานร่างกายตัวเอง ยิ่งทำยิ่งรุนแรงขึ้นโดยไม่รู้ตัว
มันมาก...มากจนควบคุมไม่ได้
ชายหนุ่มร่างเล็กที่อยู่อีกฝั่งของห้องถอนใจยาว หวังลึก ๆ ว่าอิทสึกิคงจะเข้าใจและช่วยเหลือคานาเมะได้ อารมณ์ความต้องการที่ล้นเหลือ ถ้าไม่ได้รับการปัดเป่า ในไม่ช้าก็อาจพลั้งเผลอทำร้ายตัวเองจนยากจะช่วยเหลือได้
และนั่นเป็นสาเหตุที่เขาต้องมานั่งฟัง นั่งถ้ำมองคานาเมะอยู่จนถึงตอนนี้ แม้ไม่ใช่รสนิยมเลย
แต่ก็เพราะเห็นใจ และเข้าใจตัวเพื่อนที่อยู่ด้วยกันมาตั้งแต่เล็กเป็นอย่างดี
"อิทจัง...อา.... อิท...อิทจัง... อื้อ......"
อิทสึกิฟังเสียงเรียกร้องนั้นซ้ำแล้วซ้ำเล่า เสียงเร่าร้อนที่เริ่มอ่อนแรง และเจ็บปวด ยังคงเรียกเพียงชื่อเขา ชายหนุ่มได้แต่มองอย่างรู้สึกผิด เพราะเขาให้ไม่พอจริง ๆ ใช่มั้ย
เขาไม่เคยรู้มาก่อนเลย ว่าสิ่งที่เขาทำ มันมีผลให้คานาเมะทรมานขนาดนี้ ยามกลับไปบ้านทุกครั้ง มีเพียงรอยยิ้มสดชื่นต้อนรับเขา ไม่แม้แต่จะร้องขอให้ช่วยผ่อนคลายให้ เขารู้...รู้ดีว่า คานาเมะเข้าใจเขา และไม่อยากรบกวน การที่เขาโหมงานหนัก ทำให้สุขภาพแย่ลงและถ้าฝืนทำกิจกรรมอีก เขาอาจจะไม่สบายได้
แต่ด้วยความที่เป็นคนปากแข็งและไม่ชอบบอกเล่าเรื่องของตนเอง ทีท่าราชินีเป็นเพียงเปลือกนอก ภายในที่อ่อนแอและบอบช้ำ...ไม่เคยเปิดเผยให้ใครรู้มาก่อน
ถ้าเพียงแต่เขาจะได้รู้ ว่าคานาเมะขาดเขาไม่ได้ถึงเพียงนี้
เขาก็คง...
น้ำตาใส ๆ ไหลจนผ้าปิดตาเปียกชุ่ม เสียงสะอึกสะอื้นเบาจนแทบจะเป็นเสียงกระซิบ คงไม่อยากให้ชายหนุ่มผู้มาด้วยได้ยิน แต่คนที่ยืนอยู่ใกล้ชิดอย่างอิทสึกิ ย่อมได้ยินอย่างชัดเจน เสียงสะอื้นพลางร้องเรียกชื่อเขา... ยังคงเรียกอยู่อย่างนั้น ร่ำร้องราวจะขาดใจ
มือที่ยื่นเข้าไป ปรับระดับแรงสั่นให้น้อยลงอย่างเบามือ ร่างบนเตียงสะดุ้งเฮือก รับรู้ว่ามีใครบางคนเข้ามาใกล้ จากแรงยุบตัวของเตียง คานาเมะขยับตัวถอยหนีแทบจะในทันที
"ซึคิจัง? อย่าเข้ามานะ ชั้นบอกแล้วไง ว่าจะทำเอง"
มือข้างนั้นลูบไหล่สั่นเทาราวจะปลอบโยน ดวงตาที่มีผ้าปิดยังคงมองไม่เห็นว่าใคร และด้วยความตกใจ จึงลืมเลือนกระทั่งเอามันออก เพราะรู้ดีว่าตอนนี้ ในห้องมีเพียงชายหนุ่มที่ตนชักชวนมาคนเดียวเท่านั้น
เสียงห้ามดังขึ้นอีกอย่างเด็ดขาด "ไม่นะ! ไม่ใช่อิทจัง...ไม่ได้!!!"
มือไม้ที่ขยับปัดป่ายป้องกัน ถูกรวบไว้เหนือศีรษะ ร่างหนักหนากดทับจนดิ้นไม่หลุด ริมฝีปากสีสดที่ร่ำร้องขัดขืน ถูกประกบปิดจนร้องไม่ได้ จูบที่แนบแน่นรุนแรงโหยหา รุกเร้าเข้าลึกด้วยปลายลิ้นชำนาญการ ร่างด้านล่างสะท้านเฮือก ก่อนจะเปลี่ยนเป็นเคลิบเคลิ้ม ยินยอมรับสัมผัสจากคนแปลกหน้าที่มองไม่เห็น หยิบยื่นให้โดยดี
มือแกร่งแข็งแรงที่จับยึดปล่อยข้อมือบางออกโดยง่าย ทั้งที่ยังสัมผัสกันด้วยปลายลิ้นไม่เลิกลา หากตอนนี้ไม่มีการต่อต้านแล้ว ร่างบอบบางบนเตียงขยับแขนที่เป็นอิสระ โอบรอบคออีกฝ่าย ยึดเกาะไว้แน่นกว่าเดิม พร้อมแลกจูบดูดดื่มตอบ ดวงตาที่มองไม่เห็น ยังคงชุ่มไปด้วยหยาดน้ำตา หากครั้งนี้เป็นอารมณ์ที่ต่างออกไป
เนิ่นนานกว่าริมฝีปากทั้งคู่จะผละจากกัน ปากแดงช้ำน้อย ๆ กลับประดับด้วยรอยยิ้ม เสียงพึมพำเบา ๆ เรียกหาอย่างยินดี
"อิทจัง…"
แค่รสเสน่หาจากการจูบเพียงเท่านี้ ก็จำได้ดีแล้วว่าใคร ไม่จำเป็นต้องบอกกล่าวใด ๆ ด้วยคำพูดด้วยซ้ำ
“ขอโทษ…” อิทสึกิพึมพำเบา ๆ ที่ข้างหู “ไม่รู้เลยว่าทำให้นายเป็นถึงขนาดนี้ ถ้าฉันรู้…”
คานาเมะเงียบไป ใบหน้าเนียนเบือนหลบ ทั้ง ๆ ที่ยังไม่ได้แกะผ้าผูกตาออก ราชินีหนุ่มรู้สึกเสียหน้าเล็กน้อย ที่ปรับตัวให้ดูมั่นอกมั่นใจแบบเดิมไม่ได้สักที ในตอนนี้ทำยังไง ใบหน้าที่เคยแต่ยิ้มหวานเป็นต่อ ก็ยังคงแปรเปลี่ยนเป็นแดงฉาน ถึงจะอยากวางท่าราชินี ก็ทำไม่ได้
อิทสึกิมองใบหน้างามที่เบนหลบไปอย่างเอ็นดู เขินแบบเด็ก ๆ อย่างงี้ก็เป็นด้วย ปกติแล้วราชินีของเขามีแต่สั่งและบงการ ถึงจะเป็นการถูกสั่งให้ทำตามด้วยความเต็มใจของเขาเองก็เถอะ แต่แบบนี้ก็น่ารักไปอีกแบบ ราวกับว่าปราการบางอย่างในใจของคานาเมะ โดนพังทลายลงบางส่วนแล้ว
มือเรียวยาวขยับจะดึงผ้าปิดตาออก หากโดนรวบไว้อีกครั้งโดยชายหนุ่มด้านบนอย่างไม่ยินยอม
“อ๊ะ อย่าสิ” เสียงห้ามไม่จริงจังนัก ดังมาจากหน้ามุ่ย ๆ ของคนงามพร้อมกับค้อนให้
“ปิดไว้แบบนี้แหละดีแล้ว” อิทสึกิกระซิบเบา ๆ ที่ข้างหู สร้างความรู้สึกวูบวาบอย่างประหลาดยามชิดใกล้ เพียงแค่ลมอุ่น ๆ เบา ๆ เป่าเข้ามา ร่างกายที่ขยับจะขัดขืน ก็เปลี่ยนเป็นอ่อนระทวย “มันตื่นเต้นดีออกไม่ใช่เหรอ?”
เขาขยับเข้าไปใกล้กว่าเดิม แล้วพูดต่อว่า
“ห้องนี้ ฉันออกแบบเองนั่นแหละ เลยรู้ดีว่า…” ว่าพลางหยิบปลอกแขนที่ซ่อนไว้อย่างแนบเนียนที่เสาหัวเตียงสองฝั่งขึ้นมา แล้วล็อคแขนบอบบางทีละข้างอย่างคล่องแคล่ว “…อะไรอยู่ตรงไหน และควรจะใช้มันยังไง”
TBC...
