มาตามสัญญา วันละตอนครับ แต่เว้นวันพรุ่งนี้นะครับ ขอตัวไปเริงร่าที่เชียงใหม่ก่อน
เจอกันวันจันทร์ครับ พี่น้อง

***************************************************************
“ไงล่ะมึงลิ้นห้อยมาเลยนะ กูบอกให้รอกูก็ไม่เชื่อ” ต่อทักเอ็มที่ยืนหอบรอเขาอยู่หน้ามหาลัย
“เออนะ ไหนๆกูก็มาแล้วแต่เล่นเอาหอบเหมือนกันว่ะ”
“ยังไม่หายดีอ่ะดิเสียหมดเลยนะมึง” ต่อว่าพลางส่ายหัว
“เสียไรพูดดีๆนะโว้ย”
“ก็มึงเป็นเด็กที่นี่ซะเปล่า ไปอยู่กรุงเทพได้ไม่เท่าไหร่แค่กลับมาบ้านเกิดแค่เนี้ยเป็นไข้กุขำว่ะ”
“เออมึงทำเป็นเก่ง ไว้มึงกลับกรุงเทพเมื่อไหร่กูจะรอดูมึง”
“เชิญมึงตามสบายกูไม่ได้สำออยเหมือนมึง”
“งั้นพี่ต่อไปหาน้ำให้ผมกินหน่อยสินะๆผมไม่มีแรงเดินแล้วนะคร้าบพี่ต่อครับ” เอ็มทำท่ากระแซะต่อจนต่อมันถอยหนีแทบไม่ทัน
“มึงเพี้ยนอะไรอีกเนี่ยไอ้เอ็ม”
“ก็กูสำออยไงครับไอ้พี่ต่อ” เอ็มนึกขำขึ้นมาเมื่อเห็นต่อยืนทำหน้าเอ๋อ
“มึงนะมึงไปได้เรื่อยๆ เอากุญแจกูมาแล้วอยากไปไหนก้อไปกูรำคาญ”
“อ้าวเฮ้ยไงพูดงี้วะกูเสียใจนะมึง”
“พอเลยมึงไม่ต้องมาอำกูอีก”
“ก็กูหิวน้ำอ่ะ”
“แขนขามึงขาดหรือไงหากินเองดิ”
“แฮะๆเงินกูไม่เหลือแล้วจ่ายค่ายาไปหมดแล้ว กูถึงต้องเดินมาหามึงนี่ไง” เอ็มเอามือเกาหัวแก้เขิน
“ไอ้นี่มึงอำกูอีกป่าวเนี่ย”
“กูไม่อำแล้วคอกูแห้งจะเป็นผงอยู่แล้ว เหนื่อยนะมึงเดินมาไม่ใช่ใกล้ๆ”
“กูไม่น่ามาเจอมึงเลยจริงๆแค่ไอ้พีกูก็ปวดหัวจะแย่อยู่แล้ว”
“บ่นๆเออกูไปขอเขากินก็ได้วะ” เอ็มทำท่าจะเดินไปจริงแต่ต่อผลักอกเขาไว้
“แล้วมึงกินข้าวมายัง”
“มึงจะเลี้ยงกูเหรอ”
“ถือว่าทำบุญให้เด็กเร่ร่อนไปเดี๋ยวกูพาไป”
ต่อออกเดินนำไปก่อนเอ็มมองตามหลังยิ้มๆ
“เล่นกูแรงนะมึงหาว่ากูเป็นเด็กเร่ร่อนนี่นะมันถิ่นกู”
เอ็มเดินตามหลังต่อไปถึงแม้ว่าตอนนี้เขาจะไม่มีเงินติดตัว เอ็มก็ไม่ได้รู้สึกกลัวเลยซักนิด ก็นี่มันบ้านเกิดที่เขาอยู่มาตั้งแต่เด็กๆถึงแม้ว่าบ้านที่เขาอยู่จริงๆจะไกลออกไปจากที่นี่ร่วมสี่สิบโล แต่เขาก็คุ้นเคยที่นี่เป็นอย่างดี แค่ตัวเมืองเขาเข้าๆออกมาเป็นประจำอยู่แล้ว คนรู้จักก็เยอะเป็นตาสับประรดเว้นเสียแต่ว่าคนที่นี่จะจำเขาได้หรือเปล่า เมื่อเขาโตเป็นหนุ่มขนาดนี้แล้วไม่ใช่เด็กทะโมนที่คอยแกล้งใครไปทั่วเหมือนแต่ก่อนกับไอ้พีคู่ซี้ของเขา…
“แล้วมึงไม่กินอ่ะ” เอ็มเอ่ยถามเมื่อไม่เห็นต่อสั่งข้าวมากินดื่มแต่น้ำเท่านั้น
“กูอิ่มแล้วมึง รีบกินเหอะนี่มันจะค่ำแล้วนะบ้านมึงก็อยู่ซะไกลถึงบ้านมืดนะมึง”
“ไกลอะไรล่ะแค่นี้กูไม่กลัวนี่มันถิ่นเก่ากู”
“อ้าวถิ่นมึงแล้วมึงมาให้กูเลี้ยงข้าวทำเบื้อกไรล่ะ”
“ก็กูอยากให้มึงเลี้ยงผิดด้วยเหรอไอ้หน้าหล่อ”
“มึงนี่กะล่อนสุดยอดใครเป็นแฟนนี่ซวยตาย”
“กะล่อนแต่อ้อนเก่งนะครับ รับรองถ้าไอ้เอ็มจีบใครหลงทุกราย” เอ็มพูดไปพลางยักคิ้วหลิ่วตาจนต่อนึกหมั่นไส้
“แม่งโครตหลงตัวเองเลยว่ะ”
“เห็นมั๊ยขนาดมึงยังว่ากูหลงตัวเองเลย คนอื่นมันก็ต้องหลงกูเป็นธรรมดารวมทั้งมึงด้วย”
“ฝันเฟื่องแล้วมึงกูบอกแล้วไงว่าถือว่ากูทำบุญ”
“เอาเหอะๆมึงจะด่ากูเพื่อกลบเกลื่อนความรู้สึกมึงก็เอาเหอะ มึงอย่าเผลอจ้องตากูละกัน กูมองทะลุไปถึงหัวใจมึงแน่”
“มึงอย่ามาสำนวนกะกู กูไม่ใช่ผู้หญิงไม่ใช่เกย์ยากที่กูจะหลงคารมมึง”
“ยิ่งยากกูยิ่งชอบ เกิดมาไม่เคยจีบผู้ชายลองสักครั้งดีมั๊ยเนี่ยจะได้ไม่เสียชาติเกิด”
“หมอเขาฉีดยาอะไรให้มึงวะเนี่ย กูไม่คุยกะมึงแล้วเล่นเอากูขนลุกบ้าไปคนเดียวเหอะ มึงเอากุญแจกูมากูจะกลับห้องแล้วป่านนี้ไอ้พีมันคงถึงห้องแล้วมั้ง”
“อ่ะแน่ะรีบกลับไปรายงานตัวเลยนะมึง สามคนผัวเมียมันก็ไม่เลวนะเออกูไปด้วยดีกว่า”
เอ็มจะลุกขึ้นตามนึกชอบใจที่เห็นต่อมันยืนอึ้งก็ต่อมันกลับระแวงคิดไปต่างๆนาๆ เขาคิดว่าไอ้พีกะเอ็มมันต้องเป็นมากกว่าเพื่อนแน่นอน ท่าทางเขาคงต้องคุยกะไอ้พียกใหญ่ ถ้าไอ้พีมันเป็นเกย์จริงเขาก็คงต้องย้ายออกแน่ แต่พฤติกรรมยังไงไอ้พีมันก็ไม่ใช่เกย์แน่นอนส่วนไอ้เอ็มมันยากที่จะไว้ใจ
“มึงอยู่ห่างๆกูเลยนะ กูว่าแล้วท่าทางมึงแปลกๆตามกูมาถึงมหาลัย เอากุญแจกูมาเลยแล้วมึงไปไหนก็ไป”
“โอ้ย เจ็บว่ะ เจ็บมากๆโดนไล่ส่งพี่ต่อใจร้ายจังไม่ส่งสารเอ็มเหรอครับ อุตส่าห์ตามมาถึงนี่รู้งี้เมื่อคืนรวบรัดซะก็ดี ไม่น่าให้รอดมือไปเลยพูดแล้วเสียดายขอโอกาสอีกครั้งนะๆ”
“ไอ้บ้านี่แทนที่จะสำนึกดันมากระแดะอีก กูจะบอกไอ้พีว่ามึงน่ะเป็นเกย์คอยดูพีมันเลิกคบมึงแน่”